119
จอนิ โอโดเชา ครูภูมิปญญาไทย ปราชญนักสูแหงภูเขา สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาแหงชาติ

จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

  • Upload
    others

  • View
    7

  • Download
    0

Embed Size (px)

Citation preview

Page 1: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

จอน ิโอโดเชาครูภูมิปญญาไทยปราชญนักสูแหงภูเขา

สํ านักงานคณะกรรมการการศึกษาแหงชาติ

Page 2: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

คํ าน ํา

ภูมิปญญาและกระบวนการเรียนรูของคนไทยเปนสิ่งสํ าคัญที่สุด เปนขุมทรัพยทางปญญา อันเกิดจากการสั่งสมประสบการณที่ผานกระบวนการเรียนรู เลือกสรรและปรุงแตง พัฒนา และถายทอดสืบตอกันมา ใหสมดุลกับสภาพแวดลอมและเหมาะสมกับเวลาและยุคสมัย การถายทอดความรูการถายทอดภูมิปญญานั้น ลวนนํ ามาซึ่งกระบวนการเรียนรู อันเปนกระบวนการพัฒนาที่ส ําคัญที่ทํ าใหสังคมไทยอยูรอดและมีสันติสุขในการด ําเนินชวิีต

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกับนโยบายสงเสริมภูมิปญญาไทยในการจัดการศึกษา ซ่ึงนํ าเสนอโดยสํ านักงานคณะกรรมการการศึกษาแหงชาติ เมื่อวันที ่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ ที่ผานมา สํ านักงาน ฯ ไดดํ าเนินการใหมีการนํ านโยบายไปสูการปฏิบัติ โดยไดจัดท ําโครงการสงเสริมกิจกรรมการเรียนรูของครูภูมิปญญาไทย และคัดเลือกครูภูมิปญญาไทยขึ้น

เพื่อเปนการเผยแพรผลงาน องคความรูของครูภูมิปญญาไทยในแตละดานใหสังคมไดยอมรับและเห็นความสํ าคัญของครูภูมิปญญาเหลาน้ี สํ านักงาน ฯ ไดเชิญชวนผูสนใจทั้งนักวิชาการ นักเขียน และประชาชนโดยทั่วไป ใหเขามาศึกษาเน้ือหาสาระขององคความรู กระบวนการถายทอดองคความรู ผลกระทบขององคความรูครูภูมิปญญาไทยที่มีตอการศึกษาและชุมชน รวมทั้งวิธีการแกไขปญหา และใชภูมิปญญาในการดับรอนและแกวิกฤตของสังคมประเทศชาติในวงกวาง

นักเขียนไดเขาไปรวมศึกษาอยูกับครูภูมิปญญาไทย เพื่อซึมซับองคความรูของแตละทาน แลวนํ าเสนอแกนความรูและกระบวนการชีวิตในรูปแบบงานเขียนที่อานงาย เขาใจงาย เพื่อใหผูอาน ผูศึกษาทุกกลุมเปาหมายไดเขาถึงบทบาทของครูภูมิปญญาไทยที่มีความสํ าคัญตอการพัฒนาประเทศและครูภูมิปญญาไดมีการยอมรับจากสังคมอยางแทจริง

สํ าหรับครู จอน ิ โอโดเชา ครูภูมิปญญาไทยดานการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม น้ันสํ านักงานฯ ไดมอบหมายให ชมัยภร แสงกระจาง นักเขียนอิสระที่มีชื่อเสียงเปนผูถายทอดองคความรู ในช่ือจอน ิ โอโดเชา ปราชญนักสูแหงภูเขา ในหนังสือเลมนี้จะสะทอนใหเห็นการรวมกลุมกับชาวเขา ๑๓เผาในประเทศไทยในการดูแลรักษาปาไม ตนน้ํ า ลํ าธาร การบวชตนไมจ ํานวน ๕๐ ลานตน การทํ าเกษตรเชิงอนุรักษ บนดอยแมวาง จังหวัดเชียงใหม รวมทั้งการแกไขปญหาความทุกขยาก โดยการจัดต้ังธนาคารขาว รวมกับกลุมเครือขายเกษตรกรภาคเหนือจ ํานวน ๑๐๐ องคกร และกลุมอาชีพตาง ๆ อีกเปนจ ํานวนมาก

สํ านักงาน ฯ จึงหวังเปนอยางยิ่งวา เน้ือหาสาระในหนังสือเลมน้ีจะสามารถกระตุนสังคมไดรับรูถึงคุณคา ความเสียสละ และความดีงามของครูภูมิปญญาไทย ซึ่งองคความรูและภูมิปญญาที่ไดมีการสั่งสมจนตกผลึกของทานเหลาน้ีสามารถนํ ามาใชเพื่อประโยชนของการเรียนรูของสังคมไทยได

(นายรุง แกวแดง)เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาแหงชาติ

Page 3: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

จอน ิ โอโดเชา ปราชญนักสูแหงภูเขา ชมัยภร แสงกระจาง

บทท่ี ๑ หอมกล่ินปาบทท่ี ๒ มาจากดินบทท่ี ๓ ฟาส่ังบทท่ี ๔ เพลงชีวิตบทท่ี ๕ ขวัญบานบทท่ี ๖ ลางแลงบทที ๗ กาวกลาบทท่ี ๘ คนแปลกหนาบทท่ี ๙ หลังชัยชนะบทท่ี ๑๐ ทอใจบทท่ี ๑๑ แสงอรุณบทท่ี ๑๒ เผชิญหนาบทท่ี ๑๓ สองมือบทท่ี ๑๔ ชางบทท่ี ๑๕ เครือขายบทท่ี ๑๖ ฟนปญญาบทท่ี ๑๗ ไฟกับชีวิตบทท่ี ๑๘ คือจอนิบทสงทายบันทึกจากนักเขียนบรรณานุกรม

_______________

Page 4: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

จอนิ โอโดเชาปราชญนักสูแหงภูเขา

ชมัยภร แสงกระจาง

บทที่ ๑ หอมกล่ินปา

จอนิ โอโดเชา ออกมาตอนรับผูมาเยือนท่ีมาจากกรุงเทพฯอยางไมต่ืนเตนเทาใดนักเพราะในชวงสิบปหลังของชีวิต เขาคุนชินกับการมีผูมาเย่ียมเยือนจนรูสึกเปนเร่ืองธรรมดาเหมือนเปนสวนหน่ึงของกิจวัตรประจํ าวัน รีมู โอโดเชา ผูภรรยา และลูก ๆ ก็รูสึกเชนเดียวกันน้ัน แตในความคุนชินอันเปนธรรมดาน้ีไมกอใหเกิดความเฉยชาแตอยางใด จอนิและครอบครัวมีคุณสมบัติของเจาของบานชาวปกาเกอะญอท่ีดีเย่ียม น่ันคือ แขกมาถึงเรือนชานตองตอนรับเชนเดียวกับธรรมเนียมของคนไทย

บานเลขท่ี ๒๑ ของจอนิ อยูในหมูบานหนองเตา ตํ าบลแมวิน อํ าเภอแมวาง จังหวัดเชียงใหม เปนบานไมหลังใหญแตมีเรือนไมไผหลังเล็กอยูดานหลัง แมจะมีบานไมหลังใหญปลูกไวดานหนา แตก็เปนที่รูกันวา เรือนหลังนั้น จอนิ ปลูกขึ้นภายหลังไวใหลูกอยูและรับรองผูมาเยือน สวนเขาและภรรยายังคงอยูท่ีเรือนไมไผหลังเล็กดานหลังท่ีเปนเรือนหลังแรกของเขาและเปนเรือนศูนยกลางท่ีไมเพียงเช่ือมไมติดกับตัวบานหลังใหญเทาน้ัน แตยังเชื่อมใจของคนทั้งบานเอาไวดวยกันดวย

ณ เรือนเล็กหลังนี้เอง ท่ีเปนหองรับแขก หองนั่งเลน หองรับประทานอาหาร และหองสนทนาเรื่องชีวิตของจอนิกับครอบครัว และผูมาเยือน รีมู หรือท่ีผูมาเยือนมักเรียกกันวา”โม"อันมีความหมายวา “แม” ยกน้ํ าชาสมุนไพรพ้ืนบานมาตอนรับ กลิน่น้ํ าชาสมุนไพรหอมออน แตเมื่อจิบแลวจะติดใจในรสอันแปลกไมเหมือนใคร ในหองรับแขกอันอบอุนไปดวยกลิ่นอายไมไผและกระบุงกระจาดน้ี มีโทรทัศนขนาดย่ีสิบน้ิวอันดูแปลกปลอมต้ังอยูตรงหนาดวย ท่ีฐานเคร่ืองยังมีกลองกระดาษรองรับอยูคร่ึงหน่ึง โทรทัศนเครื่องแปลกปลอมนี้เองที่เปนอุปกรณอีกอยางหนึ่งส ําหรับการเรียนรูและตรวจสอบชีวิตของจอนิ

ลึกเขาไปในหองดานใน มองเห็นที่นอนและมุงหอยตลบอยู แตในขณะเดียวกันในหองนอนน้ันก็กลับกลายเปนหองครัวของบานไปดวย เพราะกระบระดินรูปส่ีเหล่ียมผืนผาท่ีมีเตาอังโลใหญสองเตาตั้งอยูก็ตั้งอยูขางที่นอนนั้นเอง เหนือเตากระบะดินข้ึนไปเปนช้ันไมโปรงลอยแขวนอยูคลายชิงชาใหญเหนือเตา สํ าหรับวางของแหงท่ีประสงคจะใหกรุนไฟและควันรมใหแหงไปในตัว อาทิ เนื้อสัตวตากแหง หอม กระเทียม พริก เปนตน

"ครัวอยูในหองนอน" หรือ"หองนอนอยูในครัว" วัฒนธรรมน้ีคนเมืองคงสะดุงตกใจและไมมีวันเขาใจเลย แตถาหากเขาเหลาน้ันไดสัมผัสอากาศของดอยสูงท่ีหนาวเย็นในระดับเลของศาตัวเดียวจนกระทั่งถึงศูนย เขาก็จะเรียนรูไดโดยไมตองบอกวา หองที่อบอุนที่สุดของบานก็คือหองนี้ หองที่เรียกกันวา หองเตาไฟ และหากเทียบกับบานฝร่ัง หองของจอนิหองนี้ก็คือหองที่

Page 5: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

มีเตาผิงน่ันเอง เพียงแตทํ าใหกระทัดรัดและสะดวกข้ึนโดยใชเตาผิงน้ันเปนเตาประกอบอาหารไปดวย

จอนิ เปนชายวัยกลางคน รูปรางสันทัด ผิวสองสี ผมตรง มีจุดเดนอยูท่ีแววตาอันอานโลกอยูตลอด ดวยความอยากเรียนรูโลกนี่เอง เขาจึงดูเปนคนไมปฏิเสธใคร หากแตชอบสังเกตและเรียนรูคนอ่ืน คุณลกัษณะเดนของจอนิ ที่เห็นไดตลอดเวลาคือความเปนคนตื่นตัว และพรอมจะถายทอดความรู คนท่ีไปเย่ียมเยือนจอนิ ถาสนใจเร่ืองปาเขาจริงแลว ทุกคนจะไดดูแผนที่แสดงลักษณะภูมิประเทศของอํ าเภอแมวาง จอนิปรารถนาอยางย่ิงท่ีจะเลาบอกกับทุกคนท่ีมาวาท่ีแผนดินบานเกิดของเขาน้ีมีปาท่ีอุดมสมบูรณเพียงใด และเขาและพวกเขาไดพยายามกันมากแคไหนในการท่ีจะพิทักษรักษาปาและตนน้ํ าเหลานี้ไว

เขาบอกวา พ้ืนท่ีในหมูบานหนองเตาของเขามีประมาณ ๘,๐๐๐ ไร เปนพ้ืนท่ีทํ ากิน๕๐๐ ไร เปนพ้ืนท่ีปาอนุรักษ ๔,๐๐๐ ไร ที่เหลืออีก ๓,๕๐๐ ไร เปนพ้ืนท่ีท่ีใชงานอ่ืน ๆ

การพูดแตเพียงปากหรือการใหดูเพียงแผนท่ีคงไมใชวิธีการท่ีดีนัก จอนิอยากใหคนท่ีมาเยือนไดรูจักและสัมผัสปาดวยตัวเอง เพ่ือจะไดเขาใจและเขาถึงความหมายของคํ าวา"ปา"อยางลึกซ้ึง คุยเร่ืองสัพเพเหระอีกพักหน่ึงตามประสาคนรูจักใหมท่ียังขัดเขิน เขาก็ออกปากชวนวา "ไปเตวปากันดีกวา" ทาทางผูชวนดีอกดีใจ ผูมาเยือนก็ดีอกดีใจท่ีไดเปล่ียนบรรยากาศจากท่ีนึกไมออกวาจะถามวาอะไรผูเลาจึงจะยอมเลา "เฮาบไดไปเตวปาน้ีมาปหน่ึงแลว.." ผูมาเยือนนึกตออยูในใจวา "สวนเฮาบไดเคยเตวเลย แมสักเตื้อ" รถคันเดิมพาคนชุดเดิม เพ่ิมจอนิ โอโดเชาอีกหน่ึงคนแลนไปตามทางสูปาท่ีไดรับการอธิบายวา เปนปาอนุรักษ ท่ีเคยมีพิธีกรรมการบวชปาตนท่ีหาสิบลานในวโรกาสท่ีพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวฯ ครองราชยเปนปท่ีหาสิบดวย รถแลนสูงข้ึนไปอีกบนเสนทางดินท่ีคอนขางขรุขระเพราะถูกทางน้ํ ากัดเซาะ เม่ือถึงปาท่ีหมาย ทันทีท่ีรถจอด จอนิ โอโดเชามีอาการกระปร้ีกระเปราราวกับวาไดเจอคนรักท่ีหางหายกันไปนาน นัยนตาสนิทน่ิงเปนประกาย พอลงจากรถได เขาเร่ิมช้ีท่ีตนไมตนแรกท่ีเห็น "ตนกอ" เขาบอกช่ือเปนภาษากลาง พลางหยิบลูกสีนํ้ าตาลเล็ก ๆข้ึนมาใหดู "น่ีเปนกอชนิดหน่ึง "ความจริงแลวกอมีตั้ง ๔๐ ชนิด" "ทํ าไมเยอะ" ผูมาเยือนบนออย ๆ "แลวพะตีรูจักหมดทุกตนม้ัย" พะต ีในภาษาปกาเกอะญอมีความหมายวา”ลุง” "หมดสิ.."จอนิตอบอยางม่ันใจกอนเดินนํ าเขาไปตามทางเดินเล็ก ๆ ท่ีทอดยาวไปสูปาใหญเบื้องหนา นับแตนาทีน้ันจอนิ โอโดเชา ก็ราวกับปลาคืนน้ํ า เขาชี้ชวนใหดูตนไมทั้งใหญและเล็กที่รายทางไมขาดปาก ราวกับวาตนไมเหลาน้ันคือเพ่ือนรักท่ีเขาจะตองแนะนํ าใหผูมาเยือนรูจัก แต

Page 6: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

ไมใชการแนะนํ าแบบคนเมืองแนะนํ าใหรูจักกันเพียงแคช่ือ ช่ือตนไมของจอนิไมมีความหมายเทาไรในความรูสึกของเขา เพราะบางคร้ังเขาก็จะจํ าช่ือไทยได บางคร้ังเขาก็จํ าไมได และชื่อที่บอกเปนภาษาปกาเกอะญอเขาก็บอกตามความเคยชิน ไมถึงขนาดจะบอกเพ่ือใหผูมาเยือนจดจํ า ส่ิงท่ีเขาพรอมจะแนะนํ าเพื่อนตนไมยิ่งกวาชื่อก็คือ ความหมายของตนไมน้ัน ๆที่มีตอวิถีชีวิต ไมเพียงแตชีวิตมนุษย หากแตเปนทุกชีวิตในโลกนี้ จอนิบอกวาปาท่ีมีความชุมช้ืนคอนขางสูง และมีเถาวัลย หรือมอส เฟรนเกาะตนไมมีความชุมช้ืนสูงจะเปน “ปาผูหญิง เกอเนอหมื่อ คือไมมันไมผลดัใบ”

"แลวปาผูชายเปนไงละ พะต"ี มีเสยีงถามจอนิหัวเราะ "เกอเนอพา..ปาคอนขางโปรง ปาผูชายไมมันผลัดใบ"ประโยคงาย ๆของเขาทํ าใหพลอยไดจินตนาการไปดวยวา ผูหญิงซ่ึงเปนผูใหความรม

เย็นใจเปนนิจ และเปนผูกอกํ าเนิดความอุดมสมบูรณของชีวิต จึงเทียบไดกับปาช้ืนท่ีไมผลัดใบในขณะท่ีผูชายมีความผันแปรและความเปล่ียนแปลงสูง จึงไดเปนไมผลัดใบ

เดินไปไดประมาณหน่ึงรอยเมตร จอนิก็หยุดช้ีใหดูทิวทัศนท่ีมองเห็นภูเขาเปนกอนเสาสามลกู เพ่ือช้ีใหดูความเหมาะเจาะของภูมิประเทศท่ีธรรมชาติจัดสรางไวให ราวกับจะบอกคนท่ีมาจากกรุงเทพฯวา นี่คือสิ่งที่ธรรมชาติไมไดจัดไวใหคนเมือง เลยไปอกีนิดหน่ึงทุกคนไดยินเสียงน้ํ าไหลซัดซา จอนิหยุดยืนฟง แลวหันมาพูดเปนล ํานํ ากวีภาษาปกาเกอะญอ

"……………..…………….."พอเห็นสีหนาของทุกคนงุนงง ก็หัวเราะอยางอารมณดีและแปลเปนภาษาไทยใหฟงชัด

เจนวา "น้ํ าไตจากผาไมยอมหยุดอายก็ไมเคยเบื่อเธอ"พอส้ินเสียงบทกวีภาคภาษาไทย ทุกคนก็รอง"โอโฮ"ออกมาพรอมกัน จอนิไดทีก็เลย

อธิบายตออยางคนเขาถึงธรรมชาติวา "น้ํ ามันดังเพราะมันอยูในชองท่ีพอดี พอเหมาะ มีบรรยากาศพอดี ถามันไปตกอยูท่ีอ่ืนก็จะไมดังอยางน้ี"

ไมเพียงแตใหความใสใจในทิวทัศนเทานั้น ตนไมและพืชพันธุแทบทุกชนิดท่ีผานเขามามาในครรลองสายตาของจอนิ เปนไดแสดงตัวใหประจักษแกตาคนเมืองทันที

“นั่นดอกแควพอ เนอะ รีมู เดอ นา เอาะ แคว พอ เนอะ โดะ ทอ เนอะ ญา วา บอ คนทองตองกินดอกแควพอ ลูกจะเกิดมาผิวขาวดี”

จอนิหยิบดอกแควพอรวง ๆ มาใหดู"น่ันดอกกระเจียวสีแดง เอาไปตมจ้ิมกับน้ํ าพริกได""น่ันลูกไขปู กินเลนได ถัดไปเปนตนตาเสือ""น่ีลูกจมูกโด"วาแลวจอนิก็เอาลูกไมนั้นวางแปะบนจมูกแบบตัวตลกของฝรั่งตนหญาชนิดหน่ึงข้ึนเปนดงงาม จอนิหันมาบอกวา "หญาคอมมิวนิสต" คนฟงหัวเราะ

แตจอนิเสริมวา"เม่ือกอนไมเคยมีนะ หญาแบบน้ี มันมีตอนท่ีนักศึกษามาอยูปา"

Page 7: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

พูดจบจอนิก็เอาใบไมอีกชนิดหน่ึงมาวางบนมือ แลวก็เอาอีกมือมือตบ มีเสียงดัง"เปาะ"กังวานไปในปา ทุกลีลาการเคลื่อนไหวของจอนิแคลวคลองวองไวและเริงรื่น จอนิพาขามตนไมท่ีลมขวางทางอยู เขาช้ีใหดูตนคลายปาลม บอกวาใบเอาไปตมและใชเสนใยทอผาได และใบกับกานกระทุงใหเกิดเปนเสียงดนตรี เปนของเลนของเด็ก ๆได

จอนิเดินเร็ว เริงราเหมือนใบไมท่ีปลิวลอยอยูในอากาศยามเชาดอกไมสีมวงดอกเล็ก ๆเห็นวับแวมอยูในดงหญา ลูกไมสีเขียวลักษณะเหมือนลูก

มะกอกบกหลนอยูบนซากใบไม รอยเกงท่ีขยุกขยุยอยูบนดิน ทุกอยางผานสายตาไปอยางรวดเร็ว จอนิเด็ดใบไมใบหน่ึงขย้ีสงมาใหดมท่ัวกัน แลววา "ถาเขาปาแลวนึกไมออกวาไกมันขี้แลวเปนยังไง ดมน่ี หญาขี้ไก" ใบไมท่ีจอนิสงให กลิ่นฉุน ๆมีรองรอยขี้ไกแตหอมกวาแบบสมุนไพร

"ถาไกท่ีเล้ียงมีรา ก็เอาใบนี้ไปโปะที่นอนไกเยอะ ๆ ราก็ตาย"จอนิบอกสรรพคุณเสร็จสรรพ

ไมเถาเลื้อย ๆ พาดพันขวางหนา มองไปเห็นหนามเล็ก ๆตามเถา "สตรอบอรี่ปา" จอนิบอก แลวก็ดึงมันใหพนทางเดิน แลวก็ช้ีใหดูหญาใบคมกริบท่ีสามารถบาดเน้ือไดเชนเดียวกับกับหญาคมบางทางตะวนัออก ชี้ใหดูเถามะลิเครือ แถมดวยการเปาใบไมเปนเสียงลูกเกง"ปบปบ"

จอนิไมเหนื่อยเลย ในขณะท่ีคนเดินตามเร่ิมหายใจถ่ี และรูสึกวาปอดใหญขึ้นในท่ีสุด จอนิก็พาเราเดินถึงลานท่ีมีการบวชตนไม มีตนไมสองสามตนท่ี"บวช"อยูใน

บริเวณน้ัน รวมท้ังตนท่ี๕๐ ลานดวย ซ่ึงเปนตนทะโล เม่ือถามวาทํ าไมจึงเลือกตนทะโล ก็ไดรับคํ าตอบจากจอนิวา

"เพราะมันเปนตนไมท่ีมีอยูท่ัวโลก ไมวาจะเดินทางไปท่ีไหนก็เห็นมัน เคยเห็นท่ีเนปาลอยูในน้ํ าแข็ง ในทะเลก็เคยเห็นมันอยูได"

ตนทะโลท่ีจอนิบอกวาทนนักหนาน้ัน ลํ าตนสูงใหญ อายุประมาณ ๕๐ ป รอบโคนตนมีผาจีวรสีเหลืองครํ่ าหมไว มีปายประกาศอยูขาง ๆยืนยันวา การบวชตนไมสองสามตนในบริเวณน้ันไมเพียงแตไดรับการยอมรับจากทางราชการตามปกติเทาน้ัน หากแตเปนโครงการท่ีเหนือกวาน้ัน คือจัดท ําข้ึนเพ่ือเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว ในวาระมหามงคลท่ีทรงครองราชยเปนปท่ี ๕๐

ท่ีบริเวณลานบวชปาน้ีเอง จอนิไดกระเทาะลูกกอใหผูทองปากินเลน ก็มีเสียงรองเกรียวกราววา แทลูกกอใหญชนิดนี้ก็คือลูกเกาลัดนั่นเอง

จอนิเรงเดินหนา ปากบอกวาจะพาไปดูท่ีท่ีลิงอยูบนหัวดอย ขณะเดินปา เขาช้ีใหดูรอยเหยียบของวัวควายที่ทํ าใหใบไมไมฟู ไฟไมไหมลาม ใหดูรอยเขี่ยของไกปา และชี้ใหดูรอยไหมของตนไมใหญตนหนึ่ง ที่เกิดขึ้นตั้งแตจอนิอายุไดเพียงสิบหา

คร้ันผานปาหญาสูงแคหนาอก จอนิก็ทองลํ านํ ากวีของปกาเกอะญออีก ๑ บท พรอมแปลเสร็จเรียบรอยวา

ทางเกาหญามันจะไมถมเลือนเพื่อนเกาก็จะไมหักหลังเพื่อน

Page 8: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

คํ าแปลของจอนิทํ าใหหลายคนตองกมลงดูทางท่ียืนอยู เพ่ือคนหาความเปนทางเกาท่ีมีอยูอยางเลือนลาง แตก็ยังมีอยางไมนาเช่ือ

ในท่ีสุด ก็ถึงหัวดอย ทาทางจอนิดีใจบนแตวา"ไมเคยเตวมาท่ีน่ี ๒ ปแลว"วาแลวก็พาเดินไปดูรอยหมูปา แลวก็รอยเลนดินของลิง เวลานอนก็นอนบนตนไม แตลิงยายที่ไปแลว เพราะสังเกตไดวาดินไมลื่นแลว จึงพอสรุปไดวา มันยายท่ีไปแลว

"มันไป ๆมา ๆ"เมื่อถึงหัวดอยแลว จอนิก็พาเดินกลับแตไมยอนรอยทางเกา หากกลับไตลงในหุบที่มี

ลํ าธารอยูเบ้ืองลาง แมเนินข้ึนและลงจะไมสูงมากนัก แตก็ถือวาชันมากสํ าหรับคนเมือง ดังน้ันจึงมีคนลมกนกระแทกจนได

จอนิเหลือบตามอง ๆแลวพูดยิ้ม ๆ "โอะ..ลมจริง ๆ"เสนทางเดินกลับวนกลับไปพบรอยทางเดินเดิม ระหวางทางจอนิเก็บใบไมใบหน่ึงมา

พับแลวใชเล็บจิกเปนรอย กอนเปดออกใหดูวา นี่คือของเลนของเด็กชาวปาอีกอยางหนึ่ง"ใครหยิกใบไมเปนลายไดสวยกวาเปนผูชนะ"เขายกใบไมชูข้ึน “ลายอะไร”“ใยแมงมุม”“ใช”จอนิวาหัวเราะเสียงใสท่ีงานประดิษฐดวยเล็บของเขาชัดเจน คนเมืองหยิบใบไม

จากตนเดียวกันมาหยิกบาง จอนิหัวเราะเม่ือเห็นลายท่ีทํ าดวยฝเล็บของคนเมืองดูขยุกขยิก

ดึกด่ืนคืนแรกของผูมาเยือนจอนิกางแผนท่ีและน่ังเลาเร่ืองปาและน้ํ าใหฟงอีก อากาศเย็นท่ีเพ่ิงมาเยือนเมืองเชียงใหมไดสองวันเยือกเย็นสมใจ เรื่องเลาของจอนิสนุกและเต็มไปดวยบรรยากาศของพ้ืนถ่ินชาวปกาเกอะญอ

จอนิบอกวา "นิทานของปกาเกอะญอมีหลายรอยเร่ือง""แลวพะตีชอบเรื่องไหนละ""ติลูลา"จอนิตอบแลวก็เลานิทานเรื่องติลูลาผูมีพละกํ าลงัมากใหฟงกาลคร้ังหน่ึงนานมาแลว มีผัวเมียคูหน่ึง แตงงานกันมานาน ไมมีลูก ก็อยากมีลูกมาก จน

กระท่ังอยูดวยกันไดเจ็ดวัน เจ็ดเดือน เจ็ดป ก็ไดลูกมาคนหน่ึง เปนลูกที่ทีพละก ําลงัมากฃเพราะตอนเกิดฝาบานพังไปเจ็ดแผน ตกลงในดินลึกลงไปเจ็ดศอก ตกใสหมู หมูตายไปตัวหนึ่ง พอก็ตองไปขุดข้ึนมา แลวตั้งชื่อใหวา “ติลูลา”

วันแรกติลูลากินนมแมมาก จนแมเหน่ือย แมก็ตองเอาหมูตัวที่มันตกใสใหกิน มันกินจุจนอายุสิบกวาป พอแมเลีย้งไมไหว แมบอกพอวา

“เอาไปฆาเถอะ”พอก็คิดวาจะเอาไปฆา พอก็จูงมือพาติลูลาไปที่หนึ่ง แลวบอกวา”คอยอยูท่ีน่ีนะ พอจะไป

เอากอนหินมาใหแม” ติลูกลาก็ยืนคอยพออยู พอก็ไปแบกกอนหินมากอนหนึ่ง กะจะเอามาทุมใสลูกใหตาย

Page 9: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

“ตุบ”พอทุมหินใส ติลูลานึกวาพอทุมให ก็รีบรับเอาไวทันที แลวแบกหินกลับบาน เอาไปให

แมตามที่พอบอก พอไปถึงบานก็วางกอนหินลง แตติลูลามีกํ าลงัมาก ก็เหมือนทุมกอนหินใสบาน บานก็พังไป พอแมก็ตองซอมแซมบานใหม

ตอมาพอก็พาติลูลาเขาไปในปาอีก แลวก็บอกวา “คอยอยูตรงนี้นะ พอจะไปหาฟนมาใหแม “

แลวพอก็ตั้งใจโคนตนไมใหญใสติลูลา ติลูลารับได ก็แบกตนไมกลับบานไปใหแม พอไปถึงบานก็ทุมตนไมใสบานใหแม บานพังก็ไปอีก พอก็ตองซอมบานอีก

พอแมก็เลยบอก “ลูกไปเถอะ ไปจากบาน”ติลูลาเสียใจ เขาก็ออกจากบาน เปาแกวเปนทํ านองวา“พอก็ไมรัก แมก็ไมรัก”เขาเดิน ๆไป เจอผูชายคนหน่ึงกํ าลังตกปลา เอาวัวทั้งตัวทํ าเหย่ือ ติลูลาเห็นวาทาทางจะ

เปนคนมีพละกํ าลงัมาก ก็ทาใหออกมาสูกัน ติลูลาก็บอกวา"ถาแกแพ แกตองไปกับเรา ถาเราแพ เราจะไปกับแก"ในท่ีสุด คนที่ตกเบ็ดคนนั้นก็แพติลูลา ตองไปกับติลูลาติลูลาเดินตอไปอีก ไปเจออีกคนกํ าลังแบกกอไผสามกอ บอกวา เจาเมืองใหเราแบกให ก็

แบกใหทุกวัน ติลูลาก็ทาใหตอสูกันอีกดวยประโยคเดิม คนแบกไผก็แพติลูลาอีก ก็ตองไปกับติลูลา ก็ไปเจอคนแบกชาง ติลูลาก็อยากจะข่ีชาง มันก็เลยแบกชางหนี ติลูลาทาทายแบบเดิม คนแบกชางก็แพติลูลาอีก ก็ตองไปกับติลูลา เปนอยางน้ีท้ังหมด ๗ คน ในจํ านวน ๗ คนน้ีมีอยูคนหน่ึง มีหนาอกลึกเปนกะทะ อีกคนหน่ึงก็มือยาว อีกคนหนึ่งหูกวางไดยินไกล อีกคนหนึ่งตัวเบากวานุนกระโดดไปในอากาศได อีกคนหนึ่งตัวรอนยิ่งกวาไฟ อีกคนหนึ่งหัวแหลมกวาเข็มคมกวามีด อีกคนหน่ึงใจเย็นกวาน้ํ า

ในท่ีสุดติลูลาก็ไดเพ่ือนท่ีมีความสามารถตาง ๆกัน และสามารถชวยกันทํ าอะไรไดตางๆกัน เวลาท่ีจะทํ าอะไร ก็ชวยกันทํ า

วันหน่ึง เม่ือไปจับปลา ติลูลากับเพื่อน ๆ จะไปจับปลา คนหัวแหลมก็ชวยออกความคิดวาจะทํ าอยางไร คนใจเย็นก็ชวยหามปรามใหคิดใหรอบคอบ คนตัวเบาก็กระโดดหายไปในอากาศคอยมองดูรอบ ๆ ติตูลามีแรงก็ก้ันน้ํ าตรงท่ีแมน้ํ าเมยกับแมน้ํ าสาละวินตัดกัน คนที่ตัวรอนก็ลงไปจนน้ํ าเดือด คนมือยาวก็เปนคนจับปลา คนที่หนาอกลึก ก็เอาปลามาไวท่ีหนาอก

ติลูลากับเพื่อน ๆกไ็ดปลามากินมากมาย เพราะมีเพ่ือนทํ าไดตางๆกัน”จอนิเลาจบแลวก็สรุปวา”คนเรา จะทํ าอะไรสักอยางตองหาเพื่อนฝูงใหไดครบ จะทํ าได

สํ าเร็จ ผมตีความใหมวา นิทานเร่ืองน้ีมันบอกถึงวา เย็นกวาน้ํ า นี่ก็คือ คนท่ีใจเย็น เบากวานุนก็คือคนที่โทรศัพท สื่อสารติดตอได คนท่ีคมกวามีด แหลมกวาเข็ม ก็พวกฉลาด คือถามีปญหาก็ตองใชคนหลาย ๆสวน ชวยกัน คนหูกวางก็ฟงอะไรไดลึกซึ้ง มือยาวก็นาจะเปนพวกทํ าอะไรได

Page 10: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

มาก คนหนาอกลึกก็นาจะมีฐานอาหาร มีขาวกิน นิทานปกาเกอะญอน่ีผมจะตีความไปตามแตละยุคแตละสมัย”

เสียงหัวเราะของจอนิดังกองไปในความมืด เขาสรุปขอคิดท่ีไดจากนิทานของเขาเองวา"คนเราตองมีเพื่อน ทํ าสิง่ใดก็จะประสบความสํ าเร็จ"แมสํ าเนียงพูดของจอนิในภาคภาษาไทยจะฟงไมชัดเจนเทาไหรนัก แตหัวใจและสมอง

ของเขาประสานกันไดอยางนาอัศจรรยใจ เขารูดีวาเขากํ าลังทํ างานท่ีย่ิงใหญเกินกวาจะทํ าคนเดียวได เขาจึงตองการเพื่อนผูมีพละกํ าลงัจากทุกดาน

ตอนดึกเม่ือเขาเห็นผูมาเยือนตาหร่ีลงและตัวส่ันเพราะหนาว จึงบอกงาย ๆวา"แคน้ีนะ คืนน้ีนอนกอน"ไฟในบานดับลงทุกดวง ประตูไมตองลงกลอน ฟามืดสนิทเพราะไมมีแสงไฟดวงใดท้ังส้ิน

บนผืนดิน มีแตเสียงหมาครางอ่ึด ๆ เปนบางคราว ลอมรอบตัวของผูที่อยูบนดอยหนองเตาคือความมืดสนิท แตบนฟากฟาโนนมีดวงดาวดวงหน่ึงทอแสงเปนประกาย ดาวแหงความหวังสํ าหรับโลกท่ีงดงามข้ึน

Page 11: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

บทที่๒ มาจากดิน

การเดินทัพเสนทางหน่ึงของทหารญ่ีปุนในชวงสงครามโลกคร้ังท่ีสอง คือการข้ึนบกทางภาคใตของประเทศไทย แลวเดินทัพข้ึนเหนือเพ่ือขยายการยึดครองไปออกทางประเทศพมานักรบจากดินแดนอาทิตยอุทัยรบกันอยางถวายชีวิตและไมยนระยอตอความยากลํ าบาก พวกเขาเดินทัพดวยเทาไปในทุกท่ีท่ีเขาประสงคจะไป ทางภาคตะวันตกและภาคเหนือของประเทศไทยที่ติดตอกับประเทศพมา จึงเปนเปาหมายสํ าคัญ ทุกแหงท่ีเขาเดินทัพผาน ยอมหมายถึงความตระหนกตกตื่น ความหวาดกลวั และตามมาดวยความขมข่ืน ทุกขยากและเจ็บปวดรวดราว ซึ่งเปนผลพิษพวงของสงครามที่เปนที่รูกันทั่วโลก

นอยคร้ังมากท่ีจะมีส่ิงดี ๆเกิดขึ้นภายใตคํ าวาสงครามในหมูบานยางตาด บนดอยแมวาง จังหวัดเชียงใหมก็เชนเดียวกัน ท่ีน่ีคนแหงสงครามท่ี

มีชื่อเรียกเปนภาษาอังกฤษวา “แจแปนนิส”ผานเขาไปเม่ือปลายป ๒๔๘๙ พวกเขาไดทิ้งริ้วรอยแหงความทรงจํ าเอาไวมากมาย ซึ่งแทบทั้งหมดคือความทุกขยากเดือดรอนอันเหลือคณานับ

แตในทามกลางวิกฤติการณอันเลวรายนั้น เด็กชายคนหนึ่งที่ถือกํ าเนิดข้ึนในวันท่ี ๒สิงหาคม ๒๔๘๙ ในบานเล็ก ๆหลังหนึ่งของชาวปกาเกอะญอ เปนธรรมเนียมของชาวปกาเกอะญอ ถือเอาเหตุการณในชวงเจ็ดวันที่ทารกคลอดมาตั้งชื่อ แมคนญ่ีปุนหรือแจแปนนิสจะมาเยือนอยางผูรุกรานถึงบานในชวงน้ัน แตชาวปกาเกอะญอก็ไมลืมความเชื่อที่วา วิญญาณของคนท่ีมาเกิด มากับคนท่ีมาบานในชวงน้ัน ดังน้ัน นาม”แจแปนนิส”จึงเปนช่ือของเด็กชาย แตเรียกดวยส ําเนียงของคนปกาเกอะญอคือ “แจแปนนิ” และเม่ืออายุได ๑๐ ขวบช่ือแจแปนนิ ก็ถูกขาราชการท่ีทํ าทะเบียนราษฎรเปล่ียนอยางเปนทางการใหเปน”จอนิ” ตามท่ีหูคนทํ าไดยินเชนน้ัน

ถาหากส่ิงท่ีปกาเกอะญอเช่ือเปนความจริง คือวิญญาณของคนท่ีมาเกิดมากับคนท่ีมาบานในชวงน้ัน ”แจแปนนิ” หรือ”จอนิ”ก็คงเปนส่ิงเดียวท่ีดีท่ีสุดท่ีมากับนักรบเลือดซามูไรคร้ังน้ัน

จอนิเปนลูกชายคนสุดทองในจํ านวนพี่นอง ๕ คน ท่ีเกิดข้ึนมาเพ่ือทดสอบความแข็งแกรงของเมล็ดพันธุนาม”มนุษย” สงครามโลกทํ าใหทั่วโลกขาดแคลน และหมูบานเล็ก ๆอยางยางตาดก็ไมพนภาวะเดียวกันน้ันไปได คนท้ังหมูบานยางตาดไมมีขาวจะกิน ซ้ํ ายังเกิดโรคทองรวงระบาดอกีดวย ครอบครัวชาวปกาเกอะญอโอโดเชาสูญเสียลูกชายคนโตเมื่อเด็กนอยอายุเพียงสองขวบ และะหลังจากน้ันไมนานลูกชายคนรองก็เสียชีวิตตามไป และตอมาเม่ือจอนิอายุไดเพียงแปดเดือน ผูเปนแมก็เสียชีวิตไปอีกคนหนึ่ง ในขณะท่ีพอ หรือนายดิปุนุ โอโดเชา ซึ่งติดยาฝนตั้งแตอายุ ๑๒ ก็อพยพไปอยูที่อื่น เพื่อไปทํ ามาหากิน โดยทิ้งลูกเล็กไวใหลูกคนโตเลี้ยงดู

จอนิ เลาวา“มีพี่สาวสองคนเลี้ยงดู พ่ีสาวไปชวยชาวบานทอผา ด ํานา แลกขาวมาเลี้ยงนอง บางที

พี่เองก็อด”

Page 12: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

แตดูเหมือนวา เมล็ดพันธุนามจอนิน้ีถูกกํ าหนดใหผานการทดสอบความแข็งแกรงของชีวิตอีกหลายขั้นตอน เพราะความอดยากยากจนน้ันเอง พ่ีสาวผูทุมเทแรงกายแรงใจเล้ียงนองราวกับลูกก็ตาบอด เพราะแพอาหาร ซ่ึงตามคํ าบอกเลาของจอนิบอกวา เกิดจากการกินหมูแลวตาบอด แตท่ีหนักย่ิงกวาน้ันก็คือ “ไมมีขาวกินดวย” จอนิย้ํ าวา “ย่ีสิบกวาครอบครัวในหมูบานไมมีขาวกินซักครอบครัวเดียว”

พี่สาวสองคนตายตามกันไปติด ๆ เหลือแตเพียงจอนิ เด็กชายวัยหาขวบที่ถูกทดสอบจากโลกแลววา เขาสมควรมีชีวิตอยู

เม่ือพ่ีสาวตายหมด ดิปุนุก็กลับมาเล้ียงลูกชายนอยอีกคร้ังหน่ึง แมจะมีท่ีนาอยูแปลงหนึ่งส ําหรับทํ ากิน แตพอผูติดยาฝนงอมแงมก็แบงขายไปแลวครึ่งหนึ่ง เหลืออีกครึ่งหนึ่งก็ใหเขาเชาทํ ากิน และเอาคาเชาน้ันมาหมดไปกันยาฝน สวนคากินอยูในวันหน่ึง ๆ พอกพ็ยายามไปรับจางทํ างานใชแรง

ตอนที่จอนิยังตัวเล็กอยู พอก็จะเอาเขาขี่คอ และพาไปในทุกท่ีท่ีรับจางทํ างาน เปนท่ีเวทนาแกผูพบเห็น เด็กชายจํ าสายตาท่ีเวทนา และเสียงที่พูดดูถูกดูแคลนพอไดฝงใจ

สองคนพอลูกอยูกันอยางยากลํ าบากมาหลายป จนจอนิเร่ิมโตข้ึนคืนหน่ึง เขาฝนวาแมมาหา แมท่ีเขาจดจํ าหนาไมได แตในฝนเขารูวาเปนแม ใบหนาของ

แมสวยหวาน แมย้ิมใหเขาอยางออนโยน แลวถามเขาวา“พี่ ๆกลับมากันหมดแลว เหลือลูกคนเดียว ลูกจะไมกลับมาชวยแมทางน้ีหรือ”จอนิมองดูแม แมเขาจะระลึกไมไดวาหนาตาแมเปนอยางไร แตเขาก็จํ ารสแหงความอบ

อุนของออมกอดแมไดดี ทํ าไมเขาจะไมอยากไปอยูกับแม นอกจากแมแลวเขาก็จะไดเจอพ่ีๆครบทุกคน ไมตองทุกขทรมานอยูกับพอติดยาฝน ตัวผอมท่ีดูไรแรงและเปนท่ีหัวเราะเยาะของคนท้ังหมูบาน แตเขาก็ไมรูวาอะไรดลใจอยูในฝน เพราะเขาตอบแมไปอยางชัดเจนวา

“ไมกลับ จะอยูเลี้ยงพอจนหัวหงอก”เขาสะดุงต่ืนข้ึนมาดวยความเสียใจท่ีไมไดอยูกับแม เขามองดูพอที่นอนอยูไมหางจาก

เขาดวยความรูสึกผูกพัน กล่ินยาฝน และกลิ่นเหม็นสาบตัวของพออบอวลอยูในตูบหลังนอยเขาก็ไมรูเหมือนกันวาทํ าไมเขาตอบแมไปเชนน้ัน แตเขาก็เขาใจได

เพราะพอไมมีใครเหลือสักคน

เมื่อจอนิอายุไดเกาขวบ เขาก็ออกไปรับจางเลี้ยงควายเพื่อชวยพอหาเงินเลี้ยงชีวิต เขามีหนาท่ีรับผิดชอบการดูแลควายคูหน่ึง

“ดูด ีๆนะ”เจาของควายส่ัง “ อยาใหเสือเอาไปกินละ”คนปกาเกอะญอเลี้ยงควายในปา สมัยน้ันปายังสมบูรณและมีสัตวปาชุกชุม เด็ก ๆเอา

ควายไปปลอยใหหาอาหารกินในปา แตตองคอยตามดูแลมิใหกลายไปเปนเหยื่อเสือชวงนี้เอง ท่ีเขาตองเรียนรูท่ีจะใชชีวิตกับผูอ่ืน เขาตองไปอาศัยอยูกับเจาของควาย และ

ไปเลี้ยงควายรวมกับเด็ก ๆคนอื่นๆ ที่เปนลูกของเจาของควายเอง เขามักถูกเด็กอื่นลอเลียน

Page 13: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

หรือรังแกอยูเสมอ เพราะเขาเปนเด็กท่ียากจน ไมมีบานเปนกํ าพราแม และพอก็ไมใชคนในหมูบาน หากมาจากสะเมิง

“ปาโพแคว”(ไอเด็กก ําพรา)น่ันเปนคํ าท่ีเขาไดยินเปนประจํ าเขาจํ าความรูสึกนอยเนื้อตํ่ าใจของตัวเองไมได จํ าไดแตความรูสึกวาตัวเองเปนคนตัวคน

เดียวไมมีเพื่อน และเขาอยากมีเพื่อน วันหน่ึง เขาดักหนูได มันเปนความต่ืนเตนในชีวิตของเขาเขาทํ าสิ่งที่ลูกผูชายตัวเล็ก ๆคนหน่ึงทํ าไดแลว เขาอยากจะวิ่งเอาหนูไปอวดพอที่บาน แตเย็นน้ีเขาไมกลบับาน

“เฮย ๆ ไอลูกกํ าพราดักหนูได” เสียงเพื่อน ๆเลียนลอเขา“วันพรุง เอามาแบงกันกินบาง” คนท่ีเปนหัวโจกพูดข้ึนเด็กชายจอนิพยักหนา รูสึกดีใจท่ีอยางนอยท่ีสุดหน่ึงในจํ านวนน้ีก็พูดกับเขาโดยไมได

เลียนลอ เขาเอาหนูกลับไปใหเจาของควายที่เขาอาศัยอยูดวย ทาทางเจาของควายดีใจ ชมเขาวา “จอนิ เกงนะ” ทํ าใหเขามีความสุขมากกวาคร้ังใด ภายใตหลังคาบานของคนอ่ืน เย็นน้ัน เขากินขาวเอร็ดอรอย ซ้ํ าวนัรุงข้ึน เขายังเอาเนื้อหนูกลับมาฝากเพื่อนดวย

อีกสองวันตอมา เขาทํ าไดดีกวาเดิมไปอีกเมื่อดักตัวตุนไดตัวหนึ่ง คราวน้ีเพ่ือนคนหน่ึงที่ตัวโตมาก บอกกับเขาวา

“เฮย ๆเอามาฮื้อเฮา”จอนิยกตัวตุนใหเพื่อนคนนั้นไป เขาคดิวาไมเปนไร อยางนอยเขาก็ไดรับการยอมรับ

มากข้ึน และเขาก็กํ าลงัจะมีเพ่ือนอีกไมกี่วันถัดมา เพื่อนคนที่เขาเคยใหตุนไปดักตุนไดบาง จอนิมองตาม ไมมีถอยคํ าใด

ๆจากปากเพ่ือนคนน้ันและวันรุงข้ึนก็ไมมีเน้ือตุนมาฝากจอนิ จอนิไดแตคิดอยูในใจวา”ไมเปนไร พรุงน้ีเราก็ดักไดอีก”

ในความรูสึกของเด็กชายจอนิ เขายินดีท่ีจะทํ าใหเพื่อนพอใจ เพราะมันเปนส่ิงเดียวท่ีทํ าใหเขาพบวาตัวเองมีความหมายมากกวาอยูคนเดียว เขาไมเคยโกรธเพื่อน ราวกับวาเขาเจียมตัวในความเปนเด็กผูยากไร ที่ไรทั้งขาวของเงินทอง และไรท้ังญาติเปนอยางดี

การไมไดกินตุนของเขาไมใชปญหาแตอยางใด เพราะเพียงแคเขามาเล้ียงควายและมีขาวกินกับพริกกับเกลือก็เปนที่สุดของชีวิตแลว ยามอยูกับพอ จะหาขาวลวน ๆกินสักครั้งก็ยังยาก สวนใหญก็เปนขาวปนหัวกลวยปา ขาวปนมันปา ขาวปนขาวโพด ปนกลอย และท่ีกินเปนประจํ าคือหัวกลวยปา หรือหยาปะลา

จอนิตอนควายเดินเร่ือยไปตามทาง เด็กสองสามคนเดินสวนมา ในมือมีโกกอ(คลายหนังสะติ๊ก) พวกนั้นคุยกันเสียงดัง ฟงดูสนุกสนาน พวกเขาไปไหนมาไหนกันเปนกลุม ยิงนกตกปลา และเท่ียวเลนไปตามปาอยางเปนอิสระเสรี

จอนิไดยินเสียงอึทาแมจูงควายเผือกพอจูงชางเผือก

Page 14: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

ขอไปกับแมดวยแมวาอยางไรขอไปกับพอดวยพอวาอยางไรบตองไปทํ าไมบตองไปคนในเมืองมันมีผีรายผีมันรองวา ตัวมะปอ (ตัวเอย พอเถอะ)

จอนิรูวาบททาน้ีเก่ียวกับการท่ีคนปกาเกอะญอถูกเกณฑไปเปนทาสเพ่ือสรางเมืองเชียงใหม เขาและเด็กผูชายสวนใหญจะจํ าทาบทน้ีได เพราะมันหมายถึงส่ิงท่ีอาจจะเกิดข้ึนในชีวิตของลูกผูชายในอนาคตได

เพื่อน ๆ อึทากันอยางสนุกสนาน ขณะท่ีเขากลับมีหนาท่ีราวกับเปนผูใหญคนหน่ึง จอนิถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ เขาไมรูตัวเลยวาไดแบกอะไรไวบนบาของเขาบาง

จอนิเลี้ยงควายครั้งละ ๒๐–๓๐ ตัวไดรับคาจางเปนรายป ปละ ๓๐ บาท ในปพ.ศ.๒๔๙๐ เศษ ๆ เงินจํ านวนน้ีนับวามากแลว ทุกคร้ังท่ีไดรับเงิน เขาก็จะไดกลบับาน ไดไปถึงตูบนอยหลังที่เขารูสึกอบอุนกวาตูบที่อยูกับคนอื่น แมวาพอจะคอยไดสนใจทุกขสุขของเขานักก็ตาม เขามองดูพอที่นอนดูดฝนตาสะลึมสะลือดวยความคุนชิน แตก็ไมนึกอยากทํ าหรือเปนอยางพอ แตถึงกระนั้น จอนิก็รูดีวา พอถึงเวลาที่เขาจะกลับไปเลี้ยงควาย พอก็จะมองตามเขาไปอยางพอมองลูก

อยางนอยท่ีสุด พอก็มีเขาคนเดียวเหมือนกันเด็กชายจอนิ ผูไรเพื่อนที่เปนคน มีเพ่ือนมากมายท่ีอยูรายรอบตัว ตนไมในปา ทองฟา

ดวงอาทิตย ดวงจันทร ดวงดาว กอนเมฆ สายน้ํ า ผืนดิน กอนหิน กอนกรวด ไปจนถึงสัตวนานาชนิดในทุงในปาท่ีบางเวลาเพ่ือนก็สละชีวิตมาเปนอาหารของเขา

พีหม่ือแม แมอุยนักเลานิทานประจํ าหมูบาน เปนอีกคนหนึ่งที่เขาถือวาเปนเพื่อนผูทํ าใหโลกวัยเด็กของเขาอบอุน หลังจากเก็บควายเขาคอก กินขาวอิ่มแลว เด็กชายจอนิจะออกเดินไปตามทางเดินในหมูบาน จนกระท่ังถึงบานไมไผหลังเล็ก ๆของนักเลานิทาน

พอไดยินเสียงฝเทาของเขา แมอุยก็จะเรียก“จอนิ..มาแลวหรือ”เขาก็จะเขาไปน่ังขาง ๆแมอุย บางทีก็มีเพ่ือนมารวมฟงนิทานดวย บางทีก็ไมมี แตแน

นอนท่ีสุด เขาเปนนักฟงท่ีดี แมอุยจะเลานิทานดวยน้ํ าเสียงออนเนิบ มีสารพัดเร่ือง แตมีอยูเรื่องหนึ่งที่เขาฟงแลวฟงเลาไมรูจักเบื่อก็คือ เร่ืองเจากํ าพรากับนกฟาจาวขาว ที่เปนเหมือนดวงดาวดวงแรกในชีวิตของเขา ดวงดาวที่สองนํ าหัวใจที่ออนลาดวงเล็ก ๆของเด็กชายจอนิ

“นานมาแลว ณ เมืองปกาเกอะญอ มีเจากํ าพรา(เจาะโพแคว)คนหน่ึงท่ีเจาเมืองไมชอบเปนอยางย่ิง เจาเมืองจึงกล่ันแกลงดวยการบอกเจากํ าพราวา “เจาะโพแควเอย ปน้ีเจาอยาไดทํ า

Page 15: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

ไรบนแผนดินของเรา ใหเจาไปทํ าไรบนแผนหินแผนผาเถิด” เจากํ าพราไดฟงก็คิดหนักวาจะทํ าอยางไรดี

ฝายเจาเมืองใหลูกนอง ๓๐ คนไปถางไร ระหวางทางไปจอพีหม่ือแม(แมอุย)คนหนึ่งติดอยูในดงหวาย หาทางออกไมเจอ พีหมือแมก็รองขอความชวยเหลือ

“ลูกหลานเอย…ชวยยายหนอยเถดิ..ยายหลงทางมา..ชวยดวย”มิไยท่ีพีหมือแมจะรองขอความฃวยเหลืออยางไรก็ไมมีใครชวย แถมยังวาแมอุยวา แก

เฒาปานน้ีแลวยังมาหาท่ีทํ ากินอีกสวนเจาก ําพราก็ผานมา เพราะจะมาท่ีบนหินทํ าไรตามท่ีเจาเมืองสัง่ พอเห็นพีหมือแมใน

ดงหวาย เขาก็ชวยถางดงหวายเอาแมอุยออกมา พีหมื่อแมที่ความจริงคือเทวดาปลอมตัวมา จึงถามเจากํ าพราวา “เจาะโพแควเอย เจาอยูกับใคร”

“อยูคนเดียว” เจากํ าพราตอบ แลวก็ชวนแมอุยไปอยูดวยบานของเจาะโพแควหลังเล็กมาก มีขาวเหลืออยูในถังเพียงเล็กนอย แมอุยเขยาถัง

ขาวสาร พลางรองวา “ข้ึนมาเถิด..ข้ึนมาเถิด” เขยาไปมาขาวก็ข้ึนเต็มถัง แมอุยจึงเทออกมาหุงทํ าอยางน้ีทุกวันขาวก็ไมหมด

เจาะโพแควไปเจอหินกอนหนึ่ง ไมกวางเทาใดนักเพราะเจาเมืองกํ าหนดท่ีทํ าไรไมใหกวาง จากน้ันก็ลักเอาดินของเจาเมืองมาเทบนหิน ตัดไมเปนทอนเพื่อกั้นดินไวไมใหไหลออกจากน้ันเอาก่ิงไมเล็ก ๆมาวางบนดินแลวเผาไฟ แปลงดินบนหินน้ันก็สามารถปลูกขาวได ๗ ตนเปนขาวเจา ๔ ตน ขาวเหนียว ๓ ตน ปลูกมันปลูกถั่วลงไปดวย ทุกอยางลวนงอกงามดี

เจากํ าพราเกรงวาดินบนหินจะถูกแดดเผาแหง จึงเอากระบอกไมไผใสน้ํ ามาวาง จากน้ันก็ผาดามเสียมหรือมงาโบมาวางไวบนกระบอกไมไผใหปลายช้ีข้ึนฟาทางดาวชางเพ่ือวาเวลาท่ีฝนตก น้ํ าจะไดไหลตามดามมงาโบมาลงกระบอกใหความชุมช้ืนแกผืนดิน

พอขาวที่ปลูกบนหินสุก ถึงเวลาเก็บเกี่ยว พีหม่ือแมตามเจากํ าพราไปตีขาว เอาเหลาและไขหน่ึงใบไปทํ าพิธี ปรากฏวาเจากํ าพราสามารถเก็บเก่ียวขาวไดถึง ๓ ยุง พีหมื่อแมจึงบอกกับเจากํ าพราวา ตนเปนเทวดาชื่อโถบีขา เปนจาวขาวอยูบนสวรรคโพน ถึงเวลาที่จะตองกลับสูสวรรคแลว จึงบอกเจากํ าพราวา เมื่อเก็บเกี่ยวและตีขาวแลว ใหทํ าพธีิกรรมโดยการฆาไกหน่ึงตัว เอาเผือก มัน ไมขาวหลาม ขาวตม ดอกไมเงิน ดอกไมทอง ไขตมแกะเปลือกแลว เอาท้ังหมดน้ีมาใสในถาดขาว พีหม่ือแมจะกินอยางละนิดหนอย เปนการสงโถบีขาข้ึนสวรรค

พีหม่ือแมโถบีขาบอกเจากํ าพราวา ทุกปเมื่อเผาไรแลวใหอธิษฐานถึงเรา เราจะลงมาชวย

เมื่อโถบีขา ขึ้นสวรรคไปแลว เจาเมืองก็มาถามเจากํ าพราวาดขาวเทาไหร เจาก ําพราก็ตอบไปตามจริง เจาเมืองกลาววา “ทํ าขาวนิดเดียวไดตั้ง ๓ ยุงรึ ง้ันปหนาใหเจาทํ าบนดิน เรทํ าบนหิน”

เจาเมืองใหคนไปหมายหินไวท้ังหมด เพ่ือท่ีจะทํ าไรตามท่ีเจากํ าพราบอก ฝายเจากํ าพราแมจะทํ าไรบนดิน ก็ยังกั้นที่ไวกลางไรเปนแปลงขาวเล็ก ๆปลูกขาวแม ๗ ตน จากน้ันก็น่ํ า

Page 16: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

ไร ปลูกขาวและพืชพันธุอื่นไปตามปกติ เม่ือเสร็จก็เอามงาโบศักด์ิสิทธ์ิวางบนกระบอกไมไผช้ีไปทิศดาวชางตามเคย

ปรากฏวาเจาเมืองไมไดขาวเลย ตองเอาควายเอาไขไปแลกขาวของเจากํ าพรา ในท่ีสุดก็ขอเจาก ําพรามาเปนเขยเสียเลย

จอนิหลบัตาลง เสียงของแมอุยแหบแหงแตอบอุนกลอมหัวใจดวงกรานชีวิตของเขาใหออนโยนลงทีละนอย ทีละนอย

นิทานเจากํ าพราน้ีเองท่ีชวยทะนุบํ ารุงจิตใจของเขาตอมาเมื่อพอของเขาแตงงานใหม ในสํ านึกลึก ๆจอนิรักพอและผูกพันกับพอเพียงใด ฟาดินเทาน้ันท่ีจะรู ความจริงพอก็รักเขาเพราะพอก็บอกกับเขาวาจะแตงงานใหม เด็กชายจอนิไมอยากใหพอแตงงานใหม เพราะเขาเคยฟงนิทานเรื่องแมเลี้ยงกับลูกเลี้ยงบอย ๆ ไมมีแมเลี้ยงคนไหนดีกับลูกเลี้ยงสักคน เมื่อพอบอกวาจะแตงงาน เขาก็ทะเลากับพอ จอนิเลาวา

“พอมีเมียใหม เราไมอยากใหพอมีเมียใหม ก็ทะเลาะกับพอ ขี่คอพอ จับหูพอ แตสูพอไมไหว ในท่ีสุดพอก็มีเมียใหม”

ดิปุนุสงสารลูกชายท่ีไมอยากไดแมใหม แตเขาก็อยากมีเมีย ดังน้ัน เขาจึงไมบอกจอนิวันผูกขอมือแตงงานของพอกับแมเลี้ยง จอนิก็ยังไปเลี้ยงควายตามปกต ิเขากลับมาถงึบานตอนเย็นจึงไดเห็นพอน่ังอยูกับผูหญิงท่ีจะมาเปนแมเล้ียง พอเห็นเขาก็รีบบอกวา

“จอนิ…แกมีหม่ืออาซอ(แมใหม)แลว”จอนิยืนตะลงึ เขาไมรูจะตอบโตพอทํ าอยางไร แมเล้ียงก็อยูบนบานแลว เขาจึงไดแต

เดินข้ึนบนบานหงอย ๆ ทุกขในหัวใจของเด็กชายจอนิ คนท่ีบอกแมในฝนวาจะเล้ียงพอจนหัวหงอก มีเพ่ิมข้ึนอีกอยางหน่ึงนับแตวันน้ัน

วันหน่ึง เม่ือเขากลับจากรับจางทํ าไรมาถึงบาน ดวยความหิวโหยเขาเดินตรงเขาไปในครัว เปดหมอดินข้ึนมาดู ไมพบขาวแมสักเม็ด เขามองดูเซอะบิเซ (ขันโตกไม) ไมมีน้ํ าพริกแมสักถวย

“ขาวหมดแลวรึ” เขาถามแมเล้ียง นางหนาบ้ึง พยักหนาใสเขาจอนิยืนงง คืนน้ันเขานอนท้ังท่ีไมมีขาวตกถึงทองสักเม็ด หลับไปแลวเขาก็ฝนวา ไดลุก

เดินเขาไปเปดหมอขาวดูอีกคร้ัง คราวน้ีเห็นขาวเต็มหมอ มองไปท่ีถาดไมก็เห็นน้ํ าพริกตั้งอยูเต็มถวย แถมยังมีผักจ้ิมวางอยูดวย เขาดีใจจนน้ํ าตาไหลรีบลงนั่งตักขาวกินเอา ๆ ดวยกลัวแมเลี้ยงจะออกมาเห็น เขากินขาวชามแลวชามเลา จนอิ่มถึงตองเรอออกมา พลันไดยินเสียงใครคนหนึ่งเรียกอยูแวว ๆ

เชาวันรุงข้ึน จอนิต่ืนข้ึนมาพรอมกับเสียงของแมเล้ียงท่ีดาทอเขาอยูล่ันบาน จอนิเอามือจับทองของตัวเอง มันแหงจบแทบติดกระดาน ไมไดอิ่มอยางในฝนแมสักนอย

Page 17: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

ขณะตักน้ํ าลางหนา จอนิคิดถึงพีหมื่อแม ทํ าไมหนอเทวดาจึงไมสงพีหม่ือแมมาหาเขาอยางเจากํ าพราบาง ขณะเดินลงจากเรือนจะไปไรน้ันเอง เขาก็ไดยินเสียงพอไอ มันเปนเสียงเดียวที่ทํ าใหเขารูสึกวาเขายังมีแรงยึดเหน่ียวอยูกับตูบหลังน้ีอยูบาง

วันน้ัน สิ่งเดียวที่เขาคิดขณะไปเลี้ยงควายคือ โตข้ึนเขาจะไมสูบฝน

Page 18: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

บทที่ ๓ ฟาส่ัง

แมจะไมชอบแมเล้ียงเพียงใด แตจอนิก็พลอยตื่นเตนไปดวยเมื่อแมเลี้ยงเริ่มตั้งทอง เขาสงสัยวานองเขาไปอยูในทองแมเลี้ยงไดอยางไร พอเปนคนใหค ําอธิบายแกเขา

“นองมาจากปลือนะ”เม่ือเห็นเขาทํ าหนางง พอก็อธิบายวา“โลกของผีไงละ เม่ือเฮามาเกิดในโลกจะเกอของเฮาน่ี ไมไดมีแตโลกเฮานะ มีโลกของผี

หรือปลืออยูดวย”“อยูตรงไหนนะ..ทํ าไมไมเห็นเลย”“เออ…”พอรอง “อยูขาง ๆนี่แหละ…หางกันแคกระพริบตานะ”จอนิลองกระพริบตาดูหลายครั้งแตก็ไมไดเห็นปลือที่พอวาเลย พอหัวเราะแลววา “ไมใช

วากระพริบตาแลวจะเห็นนะ”“แลวทํ าไงละ”“โอย..เร่ืองมันยาว พอก็บฮูเหมือนกัน ปูยาตายายบอกมาอีกทีวา มีหม่ือกาเขลอนะ

หรือเทวดาผูกํ าหนดแผนท่ีชีวิตนะ เทวดาจะสลักแผนที่ชีวิตเอาไวบนหนาผากของคน”จอนิเอามือข้ึนลูบหนาผาก“น่ีมีม้ัย พอ”พอสายหนา “คนมองไมเห็นหรอก”“เทวดาสลักไวบนหนาผากพอวาไงละ”“ก็สลักไววาจะอายุยืนยาวนะ ใครก็ตามท่ีหนีมาเกิดโดยไมผานหม่ือกาเขลอก็จะอายุส้ัน

กลับไปปลือก็ตองกลับไปโดยไมใหหมื่อกาเขลอรู”“อาว..”จอนิรอง “ง้ันแมกับพ่ีสาวเฮาก็หนีหม่ือกาเขลอมาเกิดนะสิ..”เมื่อเอยถึงแม พอหยุดพูดทันที อาจเปนเพราะแมเล้ียงน่ังมองอยูก็ได

เชาวันหน่ึง กอนออกไปเลี้ยงควาย จอนิไดยินพอพูดกับแมเลี้ยงวา “เมื่อคืนเฮาฝนวาผูเฒาเอาปนมาใหนะ”

เสียงแมเลี้ยงรอง“ไดลูกชายง้ันสิ” พอพยักหนา ทาทางยินดี จอนิรูสึกดีใจท่ีจะไดนองชายมาเลนดวย แตขณะเดียวกันเขา

ก็อยากไดนองสาวดวย เพราะคิดถึงพ่ีสาวท่ีตายจากไปนับแตแมเลี้ยงตั้งทอง จอนิสังเกตวาพอใจเย็นขึ้น มีอยูวันหน่ึง มีชาวบานมาหาเร่ือง

พอดวยเรื่องที่ไมเปนเรื่อง แตพอกลับใจเย็นไมยอมทะเลาะ พอเขาถามพอกไ็ดรับคํ าตอบวา“เมียกํ าลังทอง ไมอยากมีเรื่องกับใคร ผูเฒาสอนมา”

Page 19: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

ไมแตทะเลาะกับคนอ่ืนเทาน้ัน แมแตกับลูกเมียพอก็ใจเย็นขึ้น พอบอกกับจอนิวา “เวลาเมียทอง ผูชายชาวปกาเกอะญอจะตองไมดุดาลูกเมีย ไมทะเลาะกับใคร ไมเขาปาลาสัตว สวนเมียระหวางทองก็หามกินเน้ือเสือ หมี หมูปาโทน และเนื้อที่เสือกัดตาย”

จอนิอมย้ิม บานเขาไมคอยมีอะไรพวกน้ีกินอยูแลว“ลูกท่ีมาจากปลือจะไดเห็นตัวอยางท่ีดี”พอบอกจอนิแมเลี้ยงอุมทองอยูเกาเดือนจึงคลอดลูก วันคลอดพอใชใหจอนิไปตามหมอตํ าแยมาทัน

ทีท่ีแมเล้ียงบนเจ็บทอง จากน้ันพอก็เขาปาเหน็บพราไปตัดกระบอกไมไผ จอนิตามไปดวย เห็นพอฟนไมไผสามคร้ัง และยังหันมาบอกเขา

“ผูเฒาส่ังสอนกันมาวาใหฟนเพียงสามคร้ัง หามเกิน หามขาด”จากน้ันเขาก็เอากระบอกกลับมาบานใหหมอตํ าแยเตรียมไวไวใสสายสะดือลูกแมเลี้ยงเจ็บทองตั้งแตเชา กวาจะคลอดก็เปนตอนเย็น จอนิเห็นพอน่ังไมติดบาน เขาได

ยินเสียงแมเล้ียงรองครวญครางอยูหลายช่ัวโมง สลับกับเสียงหมอตํ าแยดุใหแมเล้ียงทํ าตามข้ันตอนของการคลอดลูกอยูเปนระยะ ๆ

กอนนองจะออกมา จอนิไดยินเสียงแมเล้ียงรองดัง แลวก็ไดยินเสียงเด็กทารกรอง“อุแว ๆ ๆ ๆ”พอผุดลุกขึ้นยืน“ลูกชาย”หมอตํ าแยบอกพอดีใจจนหนาแดงเมื่อหมอตํ าแยเอาสายสะดือลูกมาให พอก็เอาใสในกระบอกไมไผ(เดปอ) จากน้ันจึง

เอาผาผิดปากกระบอก มัดแนน เนื่องจากเปนเวลาบายคลอยแลว พอจึงแขวนกระบอกไวที่เสอะกี๊เตอหรือเสาไมไผที่ตั้งเตาไฟของบาน รอเก็บไวคืนหน่ึงกอนรุงเชาจะเอาไปแขวนท่ีปาเดปอ หรือปาขวัญชีวิต

เสียงหมอต ําแยบนพึมพํ า จอนิมองดูนองชายตัวแดงหนายน แลวจึงหันไปยิ้มใหพอที่ยืนมองอยู แมเล้ียงนอนหมดแรงอยูขางเตาไฟ เปนคร้ังแรกท่ีจอนิรูสึกดีกับแมเล้ียง เขาภาวนาใหเธอแข็งแรงดี และอยาจากลูกไปเหมือนท่ีแมของเขาจากเขาไป

คืนน้ัน จอนินอนกับพอ พอหลับสนิทเพราะความตื่นเตน พอใกลสาง จอนิต่ืนตามพอตอนที่มองลอดฝาไมไผออกไปเห็นขอบฟาสีทองราง ๆ พอรีบลุกขึ้นกระฉับกระเฉง ชวนเขาไปปาเดปอดวย

ปาเดปอ ซ่ึงเปนปาตนไมสายสะดือของหมูบาน ปาเดปอเปนปาแหงขวัญชีวิต สายสะดือของเด็กทุกคนที่หมอต ําแยตัดเมื่อทํ าคลอด จะถูกนํ าไปใสในกระบอกไมไผ และนํ าไปแขวนไวท่ีปาเดปอ สุดแลวแตวาใครจะเลือกแขวนไวที่ตนอะไร บางคนก็อาจจะแขวนไวท่ีตนไมที่มีลูกไวในนกกิน หรือบางคนก็ผูกไวที่ตนไมใหญที่ใหรมเงา หรือบางก็ผูกไวท่ีตนท่ีมีรูปทรงตรงแข็งแรงดี

Page 20: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

พอกับจอนิเดินถือกระบอกไมไผใสสายสะดือทารกนอยตรงไปยังปาเดปอ พอไปถึงปาเดปออันรมร่ืน ผูเปนพอก็ยืนมองหาตนไมท่ีเหมาะสมจะแขวนสายสะดือลูก บางตนใหญงามเห็นกระบอกยังแขวนอยูก็มี ไมอยากแขวนซ้ํ า ๆลงไปอีกเพราะรูสึกวามากแลว ในที่สุดก็เลือกไดตนเซบอ

“ขวัญนองอยูที่ตนนี้นะ”พอบอกกับจอนิแลวก็เอากระบอกขึ้นแขวน พอแขวนเสร็จก็หักกิ่งตนเซบอหนึ่งกิ่ง

จากน้ันก็ถือก่ิงไมน้ันกลับบาน พอถึงบานพอก็เอาไปแตะบันไดเสาบาน ฝาบานและหนาไมจากน้ันก็เอาก่ิงไมน้ันไปเก็บไวท่ีหัวนอน พอบอกกับจอนิวา น่ีคือประเพณีปฏิบัติของชาวปกาเกอะญอเวลามีลูก

พอยังบอกเขาอีกวา“น่ีถาแกไดนองสาว พอก็จะตองเก็บดอกไมมาแทน แลวก็เอาไปแตะที่เลาหมู ครก

กระเดื่อง เลาไก และอุปกรณทอผา”“แลวตอนเฮาเกิดละ”จอนิถามพอ พอเอาสายสะดือเฮาไปแขวนที่ตนอะไร”พอนิ่งเงียบไปพักหนึ่งจึงตอบเบาๆวา “ไมรู นาหาง ๆของแกเปนคนเอาไปแขวน”จอนิน่ิง เขารูสึกเสียใจนิด ๆที่พอไมไดทํ าใหเขาเหมือนทํ าใหนอง พอกลบเกลื่อนเรื่อง

เศรานิด ๆระหวางพอลูกโดยการเรียกเขาไปดูนองตัวแดงที่นอนดิ้นย็อกแย็กอยู“นองชื่อจอและ” พอบอกกับเขาอีกสิบหาวันตอมา เมื่อสายสะดือสวนที่ติดอยูที่ตัวจอและแหงและหลุดออกเรียบรอยแลว

จอนิตามพอไปท่ีปาเดปออีกคร้ังหน่ึง พอใชมือขวาหยิบกิ่งไมขวางกระบอกเดปอของลูกชายใหตกลงจากตนไม ทํ าอยูสองสามครั้งกระบอกจึงตกลง จากน้ันพอก็บนพึมพํ า แลวหันมาบอกจอนิวา

“พอเรียกขวัญนองที่ตกลงนั้นใหกลับไปบาน เพื่อไปอยูกับตัวนอง”จอนิเดินกลับบานพรอมพอดวยความรูสึกวา ขวัญของนองลอยตามมาติด ๆ

เม่ือเขาอายุไดประมาณ ๑๓–๑๔ ป หนาแลงรุนแรงไดมาเยือนหมูบาน เปนปท่ีพืชผลแหงไร อดอยากยากแคนกันท้ังหมูบาน พอกับเพ่ือนบานจํ านวนหน่ึงจึงพากันเดินทางไปท่ีวัดหลวง ตํ าบลขุนวิน ดวยเหตุผลงาย ๆ

“จะไดมีขาวกิน”จอนิตามพอไปดวย ท้ิงแมเล้ียงกับนองวัยหาขวบไวท่ีหมูบาน“ขาวจะไดพอกิน” พอบอกหากไมนับตอนเล็ก ๆ ท่ีเขาไปเย่ียมแมปาเม่ือตอนเล็ก ๆที่สะเมิงแลว คร้ังน้ีนับเปนคร้ัง

แรกที่จอนิไดออกนอกหมูบาน ไดเห็นวัด ตอนพนมมือไหว หนานหลวง(พระ)มองดูตัวแหง

Page 21: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

ๆของเขาแลวบนพึมพํ าทํ านองบนวาเขาตัวเล็ก แมเขาฟงไมคอยออกแตก็พอรูวาหนานหลวงเอ็นดูเขา

เขาไดแตมองดูหนานหลวงที่ใครเรียกวา “ครูบาอุนเรือน”ดวยความแปลกใจ หนานหลวงมีดวงตาที่ทํ าใหเขารูสึกสบายใจ ตางจากดวงตาของใครตอใครที่เขาเคยเห็นมากอน ดูคลายแมอุยนักเลานิทานอยูบาง แตมีประกายมากกวา ไมแหงแลง

เขาไดเขาไปเปนเด็กวัด มีหนาท่ีดูและทํ าความสะอาดกุฎิ กวาดใบไมท่ีลานวัด จริงๆพอเขาก็ตองทํ าดวยเพราะมาอาศัยวัดอยู แตสวนใหญจะเปนฝมือของเขา พอมักจะเปนคนช้ีใหเขาทํ ามากกวา เปนคร้ังแรกในชีวิตท่ีจอนิรูสึกวา ทุกวันเขาม่ันใจไดวาจะมีขาวกิน

จอนิกับพออยูที่วัดหลวงไดเพียงสามเดือนก็กลับมาอยูที่หมูบานอีก พอคิดอะไรในใจเขาไมไดถาม แตสํ าหรับจอนิเองแลว เขาดีใจท่ีพอพาเขากลับบาน เพราะที่วัดหลวงถึงจะกินอิ่มเพียงใด แตเขาก็ไมมีความสุขนัก เพราะเขาฟงภาษาเมืองเหนือออกบางไมออกบาง โชคดีที่เด็กวัดสวนใหญเปนเด็กปกาเกอะญอ

จอนิก็อดทนอยูกับพอเรื่อยมา เขาอยากจะฝนถึงแม ใหแมมาเรียกเขาไปอยูดวยอีกสักคร้ัง แตกลับไมฝนอีกเลย

โลกของจอนิมีความต่ืนเตนมากข้ึน เม่ือครูมาข้ึนมาถึงหมูบาน ครูมาเปนครูอยูท่ีโรงเรียนบานใหม วังผาปู และเปนคนท่ีชาวบานรูจักดี ครูมาพรอมเจาหนาท่ีอีก ๔-๕ คนจากอํ าเภอข้ึนมาทํ าทะเบียนบาน ผูใหญบานไดนัดชาวบานไวหนึ่งเดือนลวงหนาอยูแลว

คณะผูมาสํ ารวจตั้งที่ทํ าการท่ีบานผูชวยผูใหญบาน จอนิเห็นพอเอาเอกสารแผนหนึ่งยื่นใหครูมา เขาถามพอวา

“อะไรนะ”พอบอกวา เปนใบส ํารวจประชากรท่ีหนานหลวงคนหน่ึงเคยมาสํ ารวจและใหชาวบานไว

เม่ือสามปท่ีแลวพอพาแมเลี้ยง จอนิและจอและไปท่ีบานผูชวยผูใหญบาน จอนิตื่นเตนเมื่อไดไปนั่งตอ

หนาเจานาย เจานายหยิบเอาใบเอกสารของพอไปดู แลวก็เริ่มลงมือเขียนตัวหนังสือลงไปในกระดาษแผนหน่ึง เขาขานช่ือคนในบานทุกคน

“นายดิปุนุ โอโดเชา เจาบาน นางแจดู โอโดเชา ภรรยา เด็กชายจอนิ โอโดเชา บุตรชาย เด็กชายจอและ โอโดเชา บุตรชาย”

พอขานชื่อเสร็จ เจานายก็เขียนช่ือพวกเขาเปนภาษาไทยลงในกระดาษอีกแผนหน่ึง จอนิมองดูเสนปากกาท่ีลากไปตามแผนกระดาษดวยความมาดหมาย วันหน่ึง เขาจะตองเขียนภาษาไทยแบบท่ีเจานายเขียนน้ีใหได

เจานายเขียนทะเบียนบานเปน ๒ ใบ พอเขียนเสร็จ เจานายก็ใหเอกสารทะเบียนบานแกพอ ๑ ใบ สวนอีกใบหนึ่งเจานายเก็บไว

ครูมาและเจาหนาท่ีข้ึนมาคางอยูในหมูบานถึง ๘ วัน พอและชาวบานเรียกพวกเขาวา“เจานาย” เด็กชายจอนิฟงคํ าภาษาเมืองไมออกทั้งหมด แตก็พอเขาใจบาง เขาชอบไปเดิน

Page 22: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

ปวนเปยนอยูท่ีบานผูชวยผูใหญบาน ซ่ึงเปนท่ีทํ าการของคณะเจาหนาท่ี เพราะเขาสนใจการเขียนหนังสือของคนเหลานั้น ในความรูสึกของเขา น่ันคือส่ิงท่ีเขาปรารถนา การเปนผูรูหนังสือแตในตอนนั้นเขาก็คิดอยูอยางเดียววา เขาคงไมมีโอกาส

หลังจากน้ัน เจานายแบบเดียวกับครูมา แตไมใชคณะของครูมาข้ึนมาในหมูบานอีกบอยคร้ัง บางคร้ังก็ข้ึนมาเก็บภาษีฝน หรือข้ึนมารีดไถชาวบาน ครั้งหลัง ๆจอนิไมตื่นเตนอีกแลวเพราะเจานายทํ าใหเขาไมประทับใจ ตางจากครูมา ซ่ึงเปนขาราชการเหมือนกันแตกลับทํ าใหชาวปกาเกอะญออยางแทจริง ครูมาไมเคยทํ าตัวแตกตาง หากแตกลมกลืนและติดดินอยูกับชาวบาน แตเจานายพวกหลังจะตรงกันขาม

พวกเขาจะข้ีบน วางอ ํานาจ พอเดินมาถึงหมูบาน เขาก็จะทํ าทากระปลกกระเปล้ียแลวก็กนดาตาง ๆนานา ๆ ท่ีวากนดาท้ังท่ีจอนิฟงภาษาไทยออกบางไมออกบาง แตเสียงที่ไดยินน้ันกระดางหู และหนาตาของเจานายก็บอกไดวาอารมณไมดี

“คนไมเหมือนกัน”จอนิคิด เขาเปนคนชอบสังเกตคน ดังน้ัน เขาจึงมักมาวนเวียนเฝาดูเจานาย แตแลวเขา

กลับคนพบสิ่งที่ทํ าใหเขาไมชอบเจานาย เพราะเจานายมักทํ าเสียงดัง และทํ าหนาราวกับวาพวกปกาเกอะญอเปนคนที่นาดูถูกดูแคลน

“พวกยางโง”เขาไดยินคํ าน้ีบอย ๆ และรูดีวามันเปนคํ าดแูคลนชนเผาของเขาเขาก็ไมเขาใจวาทํ าไมพวกเขาจะตองถูกดาวาโง ในเมื่อตลอดเวลาที่อยูบนดอยสองวัน

หนึ่งคืนเต็ม ๆนั้น พวกเจานายก็ไดแสดงความโงตลอดเวลา แมแตจะกิน จะนอน จะเดินไปไหนมาไหน จอนิและชาวบานมักไดเห็นอะไรท่ี”ตลก” ๆจากเจานายเสมอ

เจานายทํ าหนาโงไมรูจักของกินท่ีแสนอรอยของชาวปกาเกอะญอ แตกลับทํ าหนาเหมือนจะอวก และโงไปกวาน้ันอีกเม่ือเห็นตนไมใบไมก็ไมรูจักวาตนอะไรเปนอะไร หลายคร้ังท่ีพวกเจานายเด็ดใบไมบางใบไปกินแลวก็ตองถมท้ิง เพราะมันไมใชใบไมท่ีกินได

เจานายมีปนมาดวย เย็นวันหน่ึงเจานายคนหน่ึงก็เอาท่ีติดตัวน้ันออกมายิงไกท่ีบานของพออุยคนหนึ่ง จอนิยืนมองอยูดวย ตอนท่ีเขายกปนข้ึนเล็งเขาไปในบานของพออุย

“ปง ๆ ๆ “ไกตัวหนึ่งลมลง ไกตัวอื่น ๆ รองเอิ๊กกะตาก ๆ กันเกรียวดวยความตกใจพออุยโผลหนาออกมาจากตูบ แตพอเห็นพวกเจานายยืนหัวเราะอยู เขาก็หดหนากลับ

ไป แตพวกเจานายกลับตะโกนเปนภาษาไทยดังล่ัน“เอาไกมาส.ิ.ไอยางโง”จอนิยืนงง เจานายไปยิงไกในบานของพออุยตาย แลวยังจะใหพออุยสงไกตายนั้นใหอีก

ชางเปนการทํ ารายจิตใจกันอยางย่ิงพออุยยืนนิ่งอยูพักหนึ่ง ในที่สุดก็เดินหงอย ๆ หยิบไกที่ตายแลวมาสงให ยังไมทันท่ีไก

จะถึงมือเจานาย ทันใดน้ันก็มีเสียงปนดังข้ึน อีกนัดหนึ่ง

Page 23: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

“ปง”ไกอีกตัวหนึ่งรวงลมลงเชนเดียวกับตัวแรกวันน้ัน พออุยเสียไกไปสองตัว ในขณะท่ีพวกเจานายเอาไกไปตมกินกับเหลา พออุย

กลับพกความแคนไวเต็มหัวใจ และคนที่ตองตมใหก็เปนปกาเกอะญออีกคนหนึ่ง

วันรุงข้ึน จอนิย่ิงตกใจใหญเม่ือเห็นเจานายคนเดิมเอาปนยิงหมูของปกาเกอะญออีกคนหน่ึง หมูโชครายตัวน้ีออกมาเดินอยูท่ีถนนหนาบาน และหากินเร่ือยไป ความจริงมันก็ไมไดเดินอยูตัวเดียว หากเดินกันอยูสี่หาตัว พอเจานายเดินผานคนหน่ึงก็พูดข้ึนดวยน้ํ าเสียงกลั้วหัวเราะ แตเขาฟงไมออก

ทันใดน้ันคนถือปนก็พูดบางส่ิงบางอยางข้ึนดวยเสียงอันดัง แลวก็ยิงหมูโชครายตัวนั้นลมลง จอนิรูสึกตกใจ เขาไมเขาใจวาทํ าไมเจานายตองกลัวหมูขนาดน้ันดวย ชาวบานเจาของหมูออกมายืนโวยวาย

“ยิงหมูทํ าไม ยิงทํ าไม”ทาทางเจานายไมพอใจ ชักสีหนาตึงขึงข้ึนทันที แลวคนหนึ่งก็พูดขึ้นหมูแกเรอะ..ทํ าไมมาเดินอยูท่ีถนนละ ขาก็นึกวาหมูปาสิ”แลวพวกเขาก็หัวเราะกันครืนเจาของหมูยืนทํ าตาปริบ ๆ ในท่ีสุดคนน้ันก็เสียหมูไปอีกจอนิกลบับานถามพอวา ทํ าไมชาวบานตองใหไกใหหมูเจานาย พอตอบวา “ไมใหไดยัง

ไงละ เขาเปนเจานาย ชาวบานไมใหก็เดือดรอนแน”ในท่ีสุด ชาวปกาเกอะญอคนที่เคยทํ าไกก็ตองมาทํ าหมูใหเจานาย ท่ีตมท่ีแกงก็ทํ าไป ท่ี

เหลือก็ทํ าเปนเน้ือตากแหงเก็บใสยามใหเจานายเอากลับลงไปท่ีพ้ืนราบ จอนิไมพอใจประโยคท่ีพอพดูถึงเจานายเปนอันมาก เขาเปนเจานาย ชาวบานไมใหเดือดรอนแน เจานายตางหากท่ีเปนผูมากอความเดือดรอนให มาเอาของของชาวบานไป ความมีอํ านาจลนฟาของพวกเจานายทํ าใหจอนิเกิดความรูสึกคับแคนใจ เขาโกรธตัวเองที่ไมรูภาษาไทยลึกพอ ทํ าใหไมสามารถอธิบายเหตุผลไดยาว ๆ เขาอยากจะเรียกรองความเปนธรรมใหชาวบานผูสูญเสีย ทั้งคนที่เสียไกและคนท่ีเสียหมู เพราะเขาเห็นแลววา พวกเจานายไมยุติธรรมกับพวกปกาเกอะญอ

คร้ังหน่ึง เมื่อยังเด็กจอนิเคยไดฟงแผนเสียงเพลงไทยที่บานของหมอเต็ะ คนไทยคนหนึ่งซึ่งชอบเปดแผนเสียงใหฟงและเก็บเงินคนฟง ความไพเราะของเสียงดนตรีทํ าใหเขาเกิดความรูสึกอยากรูวาเน้ือเพลงท่ีรองน้ันมีใจความวาอยางไร น่ันเปนอีกคร้ังท่ีเขาอยากเรียนรูภาษาไทย แตการเผชิญกบัปญหาชาวบานถูกเจานายกดข่ีคร้ังน้ี ทํ าใหเขาอยากเรียนรูภาษาไทยมากข้ึนไปอีก จนถึงระดับต้ังปณิธานวา เขาจะตองเรียนรูภาษาไทยใหได

จอนิเติบโตข้ึนเร่ือยๆ จนแลวจนรอดเขาก็ยังไมไดเรียนภาษาไทย พวกเจานายข้ึนมา

ในหมูบานอีกหลายคร้ัง พฤติกรรมของเจานายก็ยังเหมือนเดิม ดูถูกคนปกาเกอะญอ เรียกพวกเขาวา”ยางโง” และทุกคร้ังจะตองยิงไกและยิงหมูของชาวบานไปหุงตมกิน

Page 24: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

จอนิไมชอบใหพวกเจานายทํ าอยางน้ัน แตเขาก็ไมรูจะบอกพวกเจานายไดอยางไร เขานึกถึงค ําสอนจากผูเฒาท่ีเคยไดยิน

“ใครท่ีทํ าไมดีตอเรา ทํ าความลํ าบากใหเรา ฟาจะมองลงมาเห็นทุกส่ิงทุกอยางเอง พวกเราไมสามารถทํ าอะไรได เราตองยึดถือประเพณีความเชื่อของพอแมเราไว”

จอนิก็รอแตวา เม่ือไหรหนอฟาจะมองลงมาเห็นความผิดของพวกเจานายเหลาน้ีสักที

เม่ือจอนิอายุได ๑๗ ป มีความเปล่ียนแปลงเกิดข้ึนในหมูบาน วันหน่ึง มีบาทหลวงคนหน่ึงช่ือ เซกินน็อต อายุประมาณ ๔๐ ป เขามาเผยแพรศาสนา

“ผียักษขาว” เด็ก ๆตั้งสมญาใหบาทหลวงเมื่อเห็นผิวขาดเผือดและผมสีทองของเขาแตพออุยที่เปนปูของจอนินับถือพุทธ ไมพอใจตั้งชื่อใหบางวา

“ผีกระดูกขาว”เซกินน็อตมากับปกาเกอะญอซึ่งอยูหมูบานหวยตองแตมีญาติอยูที่หนองเตา เขา

สะพายขาวของมาพะรุงพะรัง ไปอยูที่บานญาติของปกาเกอะญอคนนั้น แลวจึงเปดวิทยุเทปใหชาวบานฟง ปน้ันประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๖ เคร่ืองเทปวิทยุเปนเทคโนโลย่ีใหมท่ีชาวบานไมเคยไดยินมากอน ทันทีท่ีเสียงลอยมาถึงหู ชาวบานก็แหกันไปฟงเทปมากมาย ซ้ํ ายังอาศัยท่ีเซกินนอตมีความรูทางการแพทย เวลาเจ็บไขไดปวย เซกินน็อตก็ตรวจรักษาใหดวย เขาสามารถพดูภาษาปกาเกอะญอไดดวย ดังน้ัน ไมนานนัก คนสวนใหญก็เรียกเขาวา “ปะโดะ”

บาทหลวงจะเปดเทปหรือไมก็เลาบอกเร่ืองอาณาจักรของพระผูเปนเจา ซ่ึงจะนํ าสันติสุขมายังทุกคนในโลก

จอนิซ่ึงกํ าลงัโตเปนหนุม และเริ่มสังเกตชีวิตไดมากขึ้น เขามองบาทหลวงดวยความแปลกใจ การเขามาอยางผูมีมากกวา และเปนผูให ทํ าใหจอนินึกถึงนิทานปกาเกอะญอ ชางตรงกับภาพท่ีเห็นตรงหนา

นิทานท่ีแมอุยเลาใหฟงเปนเร่ืองแรก ๆในวัยเด็ก ไหลผานเขามาในหัวของจอนิทันทีนิทานท่ีวา

แรกเร่ิมเดิมทีน้ัน มนุษยท้ังปวงเปนพ่ีนองกัน ปกาเกอะญอ(กะเหร่ียง)เปนพ่ีชายใหญ ฝร่ังผิวขาวเปนนองคนหน่ึง พระผูเปนเจาไดมอบแผนอักขระใหพี่นองทุกคน แตปกาเกอะญอทํ าของตนเองหาย ทํ าใหตองตกระกํ าลํ าบากมาจนทุกวนัน้ี ในต ํานานไดมีคํ าทํ านายวา นองผิวขาวจะนํ าแผนอักขระขามน้ํ าขามทะเลมามอบให ชีวิตของพี่ใหญจะดีขึ้นจอนิรูสึกวา เซกินนอตคือคนท่ีขามน้ํ าขามทะเลมา เขาจึงรูสึกดีดวยกับบาทหลวงคนน้ี

และท่ีทํ าใหเขาประทับใจมากข้ึนก็คือ คํ าพูดของบาทหลวงที่ทํ าใหเขาสะดุดคิด ทุกคร้ังท่ีชาวบานทํ าอะไรผิด ๆ เซกินน็อตจะพูดวา

“พวกเราทํ าไมถึงทํ าอะไรโง ๆ กอนจะทํ าอะไรตองคิดกอน โช รีมู ตา คิดเถอะ ๆ ๆ คิดด ีๆกอน“

Page 25: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

แตถึงกระนั้น จอนิก็ไมไดคิดจะนับถือศาสนาคริสต จนกระท่ังวันหน่ึง พอผูแมจะทํ าใหจอนิทุกขใจในหลายๆเร่ือง ไดแสดงใหจอนิเห็นวา เขารักลูกชายคนโตของเขาเพียงใด เขาบอกจอนิวาเขาตัดสินใจเขารีตนับถือศาสนาคริสต ดวยเหตุผลที่เขาบอกจอนิโดยตรงวา

“เผ่ือแกจะไดเรียนหนังสือ”

ในชวงน้ัน ชีวิตคนในหมูบานมีความสุขข้ึน คนเจ็บปวยมียากิน คนไมมีจะกินก็พอมีกินข้ึน บาทหลวงไป ๆมาระหวางหมูบาน ในท่ีสุด คนในหมูบานหลายคนก็เปล่ียนไปนับถือศาสนาคริสต คอทอลิก รวมทั้งพอของจอนิและเครือญาต ิ จอนิเปล่ียนไปนับถือศาสนาตามพอหัวใจของเขาตอนน้ันสํ านึกในบุญคุณของบาทหลวง ท่ีนํ าความหมายใหมมาสูชีวิตของเขา

ในปท่ีเขามีอายุสิบแปดน้ันเอง เขาและเพื่อนอีกสองคนตัดสินใจตามบาทหลวงเซกินน็อตไปสมัครเรียนหนังสือท่ีโรงเรียนแมปอน อํ าเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม

จอนิเรียนภาษาไทยอยูท่ีโรงเรียนแมปอนอยู ๘ เดือน โดยเรียนภาษาปกาเกอะญอ ๔เดือน และภาษาไทย ๔ เดือน จนอานและเขียนไดท้ังสองภาษา

ท่ีโรงเรียนน้ีเองท่ีไดเปดโลกของจอนิ โอโดเชาออกไปอีก นอกจากไดรูจัก พบเห็นเพ่ือนชาวปกาเกอะญอและชาวเผาอืน่ ๆท่ีมาเรียนหนังสือในโรงเรียนดวยกันประมาณ ๒๐๐ คนแลว จอนิยังไดรูวาโลกไมไดแคบแคประเทศไทย

เขาตื่นเตนเมื่อไดดูสไลดที่กลาวถึงนักลาอาณานิคมที่เปนคนผิวขาว และเดินทางไปครอบครองแผนดินของคนอื่นทั่วโลก จอนิเลาวา

“จํ าเรื่องอัฟริกาได กษัตริยของเขาขี่นกนะนกกระจอกเทศตัวใหญ กษตัริยของเรามีแตข่ีชางข่ีมาเนาะ..”

ความต่ืนเตนของจอนิอีกประการหน่ึงก็คือการไดเห็นวาชนเผาตาง ๆแบบเดียวกับเขาท่ีเปนชนสวนนอยของแผนดินน้ันมีอยูท่ัวโลก

“เร่ิมเห็นวามีเผาอ่ืน ๆอยูในโลกดวยนะ”การไดฟงบาทหลวงพูด หรือครูท่ีสอนภาษาพูด รวมท้ังเร่ืองการไดเรียนรูเร่ืองศาสนา

ทํ าใหจอนิรูสึกเหมือนตัวเองเปนถังใบใหญที่กํ าลงับรรจุกทุกส่ิงทุกอยางลงไปอยางกระหาย เขาเขาใจทาของชาติพันธุตัวเองมากข้ึน

เอาะ ระ เดอ ชีเอาะ โข เตอะ เอาะ บะ เดอ ซีในโลกน้ีท่ีคนกินเยอะก็ตายคนท่ีไมกินก็ตาย

ย่ิงคร้ังหน่ึง เขาไดดูหนังฝร่ัง และเห็นภาพโตะอาหารท่ีวางไวดวยอาหารนานาชนิดจนเต็มโตะ และคนเหลานั้นก็กินไปเพียงเล็กนอย เขาไมเคยนึกเลยวา ในโลกน้ีจะมีภาพชีวิตท่ีฟุมเฟอยเชนน้ันอยู แคมีกินพอทองอิ่มก็เปนสุดยอดของความใฝฝนของเขาแลว เขาบอกตัวเองวา เขาจะไมเปนพวกกินเยอะ เพราะเขาไมอยากตายเพราะสาเหตุน้ัน ในขณะเดียวกัน เขาก็

Page 26: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

ไมอยากเปนพวกท่ีไมมีอะไรจะกิน เพราะเปนประสบการณท่ีเขาเคยเฉียดใกลมากอนต้ังแตวัยเด็ก เพราะฉะน้ัน เขาก็ยังไมอยากตายเพราะไมมีกินเชนกัน เพราะเขารูวามันทรมานแคไหน

ทุกคร้ังท่ีเขาสวดภาวนา เขาจะบอกพระเจาเสมอวา“ผมขอแคใหอยูดี อยูสบายขอใหมีความคิดเฉลียวฉลาดและขอใหมีรางกายสมบูรณ”แตในขณะเดียวกันเขาก็สวดขอใหความยุติธรรมเกิดมีขึ้นดวย

Page 27: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

บทที่ ๔ เพลงชีวิต

ม่ือ เกอะ เซ ที โข เกอ สิวแบล บลอ แช ที เลอะ อะดิ๊ใกลสวางบนผืนน้ํ ามีหมอกนกนางแอนบินโฉบเฉ่ียวบนผิวน้ํ า

เชาวันแรกท่ี จอนิ โอโดเชา กลับมาหมูบานหนองเตา(ฟากติดแมน้ํ า) เขาต่ืนข้ึนมาดวยความรูสึกสดชื่น เขาเผลออึทาบทท่ีวาดวยนกนางแอนโดยไมรูตัว เขาไดมาอยูบานของเขาแลว บานท่ีมีผืนดิน ตนไม สายน้ํ า ภูเขา และทุกส่ิงทุกอยางซ่ึงมีความหมายตอจิตใจของเขาอยางย่ิง เขาลงจากบานเดินไปตามทางเดินเคีย้วคด ไปจนถึงปาเดปอ

จอนิรักปาเดปอ เพราะนอกจากจะเปนปาขวัญชีวิตขวัญวิญญาณของทุกคนในหมูบานแลว มันยังเปนปาท่ีใหความเย็นชุมช้ืนแกจิตใจเขาเปนท่ีสุด ปาเดปอโอบอุมขวัญของคนทั้งหมูบาน ในขณะเดียวกันคนท้ังหมูบานก็โอบอุมปาเดปอดวย

เขาเดินจากปาเดปอเร่ือยไป มองดูทุงนาและภูเขาซ่ึงเขาถือวาเปนของเขามาต้ังแตเด็กการจากไปเพียงแปดเดือนก็ทํ าใหหมูบานของเขาดูมีคาข้ึนอยางไมนาเช่ือ เขาเดินผานบานแมอุยคนแรกท่ีเคยมาฟงนิทานตอนเด็ก ๆ แมแมอุยจะตายไปแลว แตเขาก็รูสึกเหมือนไดยินเสียงเลาเนิบชา

นานมาแลว ณ เมืองปกาเกอะญอ มีเจาะโพแควคนหน่ึงท่ีเจาเมืองไมชอบ…..นิทานเร่ืองน้ีเองท่ีทํ าใหจอนิ อยากจะเปนเจาะโพแควท่ีปลูกขาวได แมแตบนหินจอนิมองไปท่ีแปลงนาท่ีอยูบนเนินเขา สีเขียวตองออนของใบขาวในนาไลรับกับสีเขียว

เขมของปาหัวนาท่ีสูงข้ึนไป เม่ือกอนตอนอยูหมูบานจอนิยังไมเห็นมันสวยเทาน้ี แตวันแรกของการกลับมา มันชางสวยจนนาพิศวง

“แผนดินของเรา ปกาเกอะญอ”จอนินึกถึงสมัยเด็ก ๆท่ีเพ่ือนคนหน่ึงเคยเขาไปตัดไมในปาหัวนาของเพ่ือนบาน และถูก

เจาของหัวนาไลตี“ไอพวกไมรูคุณปา”จอนิไดยินเพ่ือนถูกดาเชนน้ัน ตามประเพณี ชาวปกาเกอะญอทุกคนถาทํ านาทํ าไร ทุก

แปลงนาแปลงไรจะตองมีปาหัวนาของตัวเอง เพราะปาน้ันจะเก็บกักน้ํ าและความช้ืนทํ าใหนาหรือไรน้ันไดน้ํ าอดุมสมบูรณ เรื่องนี้คนปกาเกอะญอที่ทํ าไรทํ านารูดีกันทุกคน เพราะประเพณีน้ีพอแมผูแกผูเฒาส่ังสอนกันมานานแลว เด็กที่ไปตัดไมในปาหัวนาจึงถูกดาและไล

ตอนไปเรียนหนังสือท่ีแมปอน จอนิไมไดปลูกขาว ไมไดเก่ียวขาว เขารูสึกคิดถึง จึงตดัสินใจเดินเขาไปตามทางเล็ก ๆจนชิดแปลงนา มองลงไปเห็นตนซูเรโบ ไมน้ํ าตนยาวเกงกางทํ าหนาท่ีเปนพออุยขาวอยูในนา ผูเฒาบอกวา พออุยขาวซูเรโบ มีหนาท่ีเฝาไรใหเจาของ เวลาเจาของไรกลับบาน ซูเรโบก็จะรองไห เพราะหญาข้ึนแซม เวลาเจาของกลับมานา ซูเรโบก็จะดีใจ

Page 28: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

จอนิมองดูทาดีใจของตนซูเรโบท่ีไหวโอนไปมาอยางขํ า ๆ มันดีใจท่ีจอนิกลับมาหมูบานหนองเตาแลว

จากนาขาว จอนิเดินเร่ือยไปตามทาง เขารูสึกไดถึงความส ําคัญของขาวในชีวิตของชาวปกาเกอะญอ แนนอนท่ีสุด ในชีวิตจริง เขาตองกินขาว ชีวิตตองสัมพันธอยูกับขาว ถาไมมีขาว ชาวปกาเกอะญอจะกินอะไร มีนิทานหลายเร่ืองท่ีจอนิไดฟงตอนเด็ก ๆ ก็แลวลวนแตมีเรื่องของขาวเขาไปเกี่ยวของ แตมีอยูเร่ืองหน่ึงท่ีจอนิจํ าไดวา ขาวส ําคญัมาก แมอุยคนหนึ่งเลาใหฟง จอนิจํ าไมไดแลววาเปนแมอุยคนไหน เพราะจอนิแอบไปขอใหแมอุยเลานิทานใหฟงจนหมดนิทานเปนคน ๆไป เขาจํ าไดวา วันท่ีแมอุยเลานิทานเร่ืองน้ีใหเขาฟงน้ัน เปนวันท่ีเขาไมไดกินขาวพอดี

กาลคร้ังหน่ึง มีจาวขาวกับจาวเงิน สองคนเปนผัวเมียกัน ทั้งสองชอบทะเลาะถกเถียงกัน

“ฉันเปนจาวขาว ฉันใหญกวา” เมียวา“ฉันเปนจาวเงิน ฉันตองใหญกวา”ผัวเถียงตางฝายตางไมมีใครยอมแพ จาวขาวจึงหนีไปอยูท่ีขุนน้ํ าสาละวิน ขาวท่ี

อยูในบานก็หนีตามจาวขาวไปหมด ลูกของจาวขาวจาวเงินก็รองไหดวยความหิวจาวเงินเอาเงินแชน้ํ าใหลูกกิน ลูกกินไมอิ่มก็รองไหอีก

จาวเงินคนหาขาวในบาน พบขาวติดปลายไมกวนขาวอยูเล็กนอย ก็เอาฝนใหลูกกิน ลูกก็หยุดรอง ฝนหลายๆทีเขาขาวก็หมด ลูกก็รองไหอีก

จาวเงินแบกลูกข้ึนหลังไปตามแมน้ํ าสา ละวิน เจอปลาก็ถามไถปลาวาจะไปไหน ปลาตอบวาไปกินดอกขาวที่ขุนนํ้ าสาละวิน จาวเงินจึงตามปลาไปพบจาวขาวอยูท่ีน่ัน

“เม่ือสูวาสูเปนใหญแลวสูมาหาเราทํ าไม”จาวขาววาแลวก็หนีเขาไปอยูในถํ้ า

ถํ้ าท่ีขาวจาวไปอยูน้ันอยูในทะเล มีหินสองกอนปดอยู ท่ีปากถ้ํ ามีน้ํ าไหลมีไฟลุก นกคิบินตามจาวขาวไปกินขาว พอหินอาออก ปากถํ้ าเปดนกคิก็บินเขาไปกินขาว แลวปากถํ้ ากป็ด พอปากถํ้ าเปดอีกครั้ง นกคิก็บินออกมา นกคิกินขาวอยางมีความสุข

ฝายจาวเงินตามมาเห็นนกคิก็ถามวา“ทํ าไมเจาจึงดูมีความสุขนัก”นกคิก็บอกวา มีความสุขเพราะไดไปกินขาวในถํ้ าหลอเหมทะซา(เปนท่ี

สํ าคัญ ไมมีใครเขาไปได) จาวเงินจึงขอใหนกคิไปเอาขาวมาใหนกคิเขาไปในถํ้ า กินขาวเสร็จแลวก็จะคาบมาใหจาวเงิน แตคราวนี้บิน

ออกมาไมทัน โดนหินทับเหนียง ก็เลยเหนียงยานมาจนบัดน้ี พอหินเปดอาออกอีกท ีนกคิรีบบินตอ เอาขาวมาใหจาวเงินจนสํ าเร็จ

Page 29: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

จาวเงินก็เลยไดขาวจากนกคิน่ันเองมาเปนเช้ือปลูกใหคนมีขาวกินมาจนทุกวนัน้ีตอนโนน เขานอนฟงนิทานไปก็รูสึกรักขาวและหิวขาวไปดวย ตอนที่ลูกของจาวเงิน

รองไหเพราะไมมีขาวกินทํ าใหเขาตองนํ้ าตาซึม แตพอถึงตอนที่พอเอาปลายไมกวนขาวไปฝนใหกิน เขาก็แทบจะกลืนน้ํ าลาย

มาถึงวนัน้ี จอนิไมไดอดอยากขนาดน้ันแลว แตเขาก็จํ าความรูสึกรักและหิวโหยน้ันไดด ีโชคดีท่ีเขาไดครอบครัวรอบขาง ครอบครัวชาวบาน ครอบครัวปกาเกอะญอ ท่ียังมีแกใจดูแลเขา วาจางเขาในยามท่ีไมมีเงิน ใหขาวเขาในยามท่ีไมมีกิน แมจะทุกขยากบางแตเขาก็ผานมาไดดวยดี

จากวันท่ีจอนิเห็นใบขาวในนาเปนสีหลือง อีกไมกี่เดือนตอมาเขาก็เห็นรวงขาวสีเหลืองคอมหัวลงตํ่ าค ํานับแผนดิน แมจะไมใชขาวในนาของเขาเอง แตจอนิก็มีความสุขเมื่อไดเห็นคราวน้ีจอนิไปชวยชาวบานเก่ียวขาวดวย

ยามไปเก่ียวขาว หนุมสาวชาวปกาเกอะญอสนุกราวกับมีงานร่ืนเริง คนท้ังหมูบานลงแรงพรอมกัน นาแปลงสองแปลงใหญก็เกี่ยวเสร็จภายในวันสองวัน วันหน่ึงผานไป วันรุงข้ึนก็ยายไปเกี่ยวอีกแปลงหนึ่ง เสียงคุยกัน เสียงอึทาดังกองไปท้ังทองทุงนา หลังที่คอมลงคํ านับแผนดิน มือซายท่ีสัมผัสตนขาว และมือขวาที่เหนี่ยวเคียวเกี่ยวตัด มันคือเพลงแหงชีวิตที่จอนิลืมไมลงเลย

แดว เพอ เหล แบ เตอ ชอ เชหญื่อ เตอ มา แว เอาะ บะ เมตั๊กแตนปนฝายไมไดใสเสื้อหนูไมทํ านาแตไดกินขาว

พวกเกี่ยวขาวจะอึทาลอกัน เมื่อเห็นใครสักคนเกี่ยวขาวชาลง ๆ สวนใหญก็จะเปนคนหนุมสาวท่ีเพ่ิงเร่ิมจะรักกันชอบกัน พวกนี้จะอยูดวยกัน ผูฃายเปนคนเกี่ยวและผูหญิงเปนคนเก็บ ไมคอยไดพูดกัน เอาแตมองตากัน ผูชายก็เก่ียวขาวชาลง ๆจนคนอืน่ลํ้ าหนาไปหมด ผูหญิงก็เก็บขาวชา จนไดอยูกันสองตอสอง พวกที่เกี่ยวเสร็จไปกอนก็จะอึทาเพลงเกี้ยวพาราสีลอเลียน มีแตเสียงหัวเราะดังไปท่ัวทองทุงทองนา จอนิมองไปท่ีผูหญิงคนหน่ึงท่ีเขาหมายตา เธอเก่ียวขาวอยูหางจากเขาไปหลายแถว

พอพนฤดูเกี่ยวขาวแลว กอนจะเร่ิมฤดูกาลผลิตใหม ชาวไรก็จะทํ าพิธี””มัดมือเรียกขวัญ”เพื่อความเปนสิริมงคล และเปนการเรียกขวัญขาวใหกลับมาในไรขาวดวย เครื่องทํ าพิธีก็จะงายๆ มีดายสายสิญจนท่ีทํ าจากฝาย ขาวเบอะขาวตมที่ใสเมล็ดธัญพืชจากไร และผักจากปาชาวบานแทบท้ังหมูบานก็จะมาชุมนุมกัน ฮีโข ผูนํ าหมูบานดานจิตวิญญาณก็จะเปนคนมัดมือใหเจาของไร และคนอื่น ๆ

ฮีโขจะสวดพึมพํ าใหพรขณะผูกขอมือ“……………….ขวัญมาอยูกับตัวกับตนนะขวัญนะ”

Page 30: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

ความเชื่อเรื่องขวัญและวิญญาณของคนปกาเกอะญอกวางไกล ไมเพียงแตคนเทาน้ันท่ีมี”ขวัญ” หากคนปกาเกอะญอเชื่อวาขวัญแหงชีวิตนั้นมีอยูถึง ๓๗ แหง และในจํ านวนน้ีมีขวัญท่ีอยูในตัวมนุษยเพียง ๕ แหงเทาน้ันคือ ขวัญกระหมอม ขวัญมือขวา ขวัญมือซาย ขวัญเทาซายและขวัญเทาขวา ซึ่งลวนแตเปนขวัญในตํ าแหนงท่ีสํ าคัญ สมองไวคิดและมือเทาไวทํ างาน สวนขวัญที่เหลืออีก ๓๒ แหงอยูในขาวหนึ่งแหง คือขวัญขาว ที่เหลืออยูในสัตว มีทั้งสัตวเล็กและสัตวใหญ สัตวนํ้ าและสัตวบก ไดแก ในสัตวเลี้ยง คือขวัญหมา ในสัตวนํ้ าคือขวัญหอย ขวัญปลาขวัญเตา ขวัญปู ขวัญกุง ในสัตวครึ่งบกครึ่งนํ้ า คือขวัญเขียด ในแมลงคือ ขวัญจ้ิงหรีด ขวัญแมงมุม ขวัญตั๊กแตน ในสัตวเลื้อยคลานคือ ขวัญกิ้งกือ ขวัญจิ้งเหลน ขวัญตุกแก ขวัญตะกวดในสัตวปกคือ ขวัญไกปา ขวัญนก ขวัญนกเงือกปากขาว ขวัญนกเงือกปากทอง ในสัตวปาคือขวัญหนู ขวัญตุน ขวัญเมน ขวัญชะนี ขวัญเกง ขวัญกวาง ขวัญเลียงผา ขวัญหมูปา ขวัญหมีขวัญเสือ ขวัญแรด ขวัญกระทิง ขวัญชาง

สมัยเด็ก ๆ ที่ไดยินเรื่องขวัญชีวิตนี้ใหม ๆ จอนิเคยสงสัยวา ทํ าไมมันขวัญอยูในทุกอยางนะ แตพอโตขึ้น เขาก็มองเห็นชัดเจนข้ึนวา นี่คือชีวิตที่รายลอมคน คนและสัตวบานสัตวปาท่ีเปนอันหน่ึงอันเดียวกัน ขวัญชีวิตที่อยูในสัตวแทบทุกประเภทนี้ สอนใหคนปกาเกอะญอระมัดระวงั หากขวัญชีวิตของขาว หรือของใครคนใดคนหนึ่ง หรือของสัตวตัวใดตัวหนึ่งหายไปรวมท้ังการหายไปของตนไมท่ีเปนท่ีแขวนขวัญชีวิต ชาวปะกากะญอจะมีชีวิตอยูไมได

จอนิมองดูหมูบานดวยความรูสึกภาคภูมิใจท่ีเขาและชาวปะกากะญอมีความเช่ือเร่ืองน้ีเพราะไมเชนน้ันแลว ขวัญชีวิตทั้งหลายก็คงจะสูญหายไป และหมูบานของเขาก็คงจะไมรมเย็นและสงบเทาน้ี

พอถึงหนารอน จอนิชอบเดินปาคนเดียว ไปอยูทีละนาน ๆ เพื่อฟงเสียงปาพูดได เขาชอบเดินข้ึนเขา และไปไกลจนถึงดอยอินทนนท ท่ีมองจากหมูบานเห็นเปนภูเขาสีฟาคราม แตเม่ือเขาใกลกลับกลายเปนปาอุดมสมบูรณท่ีทํ าใหเขามีความสุขใจ

เขาไปเท่ียวในปาคร้ังใด ก็รูสึกจากภายในวา ส่ิงท่ีเขาไดเห็นตรงหนาแตกตางไปจากท่ีเขาไดเห็นเม่ือวัยเด็กมากข้ึนทุกวัน ในวัยเด็กตนไมจะสูงใหญ ใบหนา และรมเย็นชุมช้ืน แตในเพียงสิบกวาปใหหลัง ตนไมใหญของเขาก็ดูรอยหรอลงไป การทํ าไรหมุนเวียนอาจจะเปนปญหาหน่ึง เพราะคนมากข้ึน และการวนกลับมาก็ยังไมถึงรอบของมัน จอนิรูสึกเสียดายตนไมบางตนท่ีเขาเคยเห็น ปาบางปาท่ีเขาเคยเดินผาน มันหายไปไหน เขาไมอยากคนหาคํ าตอบ แตเขาตองการหยุดชะงักการหายของมันเอาไวในชวงท่ีปายังเปนสีเขียวใหเขาไดเห็นเต็มตาเชนน้ี

คร้ังหน่ึง จอนิเดินอยูในปา และไดยินเสียงปน เขารูดีวา มีคนยิงนก แตเขาไมรูวาเปนใคร จอนิไมชอบลาสัตว เขาระมัดระวังเร่ืองขวัญชีวิต แตเขารูดีวา วันหน่ึง เด็ก ๆที่เติบโตขึ้นมาใหมอาจไมเขาใจเร่ืองขวัญชีวิตเทาเขา

เขาเดินไปตามทางเดินเล็ก ๆจนกระท่ังไปหยุดอยูท่ีสะพานไมไผท่ีทอดขามน้ํ า นาทีท่ีตาเขามองเห็นสะพานไมไผน้ัน เขาก็นึกถึงทา(บทกวี)บทหน่ึงท่ีผูเฒาในหมูบานคนหน่ึงเคยขับ(อึทา)ใหเขาฟง

Page 31: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

หวา เตอ โบ คอ เตอ แถะ ท้ีบือ เตอ เผลอะ คอ เตอ แก สิไมไผล ําเดียวทอดขามน้ํ าไมไดขาวเปลือกเมล็ดเดียวตมเหลาไมได

บทกวีบทนี้เองที่ทํ าใหจอนิตระหนักชัดเจนย่ิงข้ึนในเร่ืองของความรวมมือของชุมชนเขารูสึกมุงม่ันมากข้ึน การไดไปเรียนท่ีโรงเรียนคริสต การไดเห็นโลกกวาง ทํ าใหหนุมนอยนามจอนิ รูชัดวาตนเองเปนผูที่มีโอกาสดีกวาคนอื่น ๆ ในหมูบานหลายรอยเทา ส่ิงท่ีเขาจะสามารถตอบแทนโชคชะตาท่ีแสนดีเชนน้ีไดก็นาจะเปนการชวยคนอ่ืนท่ีไมมีโอกาสดีเชนเขา และการชวยคนอื่น ๆ ก็ไมไดข้ึนอยูกับเขาเพียงคนเดียว หากแตข้ึนอยูกับชุมชนท้ังชุมชน ดังที่บทกวีวาไมไผล ําเดียวทอดขามน้ํ าไมได ขาเปลือกเมล็ดเดียวตมเหลาไมได

จอนิกลับจากปาคร้ังน้ันดวยความรูสึกวา เขามีงานใหญตองทํ า งานที่ตองดูแลรักษาขวัญชีวิตของหมูบานไวใหได ทาอีกบทหน่ึงของพออุยก็แลนเขามาในหัว

ตะ เก เลอะ เปอะ รี มู โอ ดิสิ่งที่ดีอยูที่แมเรามีอยูตะ เก เลอะ เปะ ปา โอ ดิสิ่งที่ดีอยูที่พอเรามีอยูเกอ ตอ เอะ เบอะ คือ อะ คลีแมรักษาเช้ือเผือกใหเกอ ตอ เอะ เปอะ นอย อะ คลีพอรักษาเช้ือมันใหเกอ ตอ เม แป เทาะ เชอะ ชีตะ ชิ หนา เก เบอะ เตอะ ชิรักษาใหครบสามสิบอยางจะยากแคนแคไหนก็ไมอดตาย

Page 32: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

บทที่ ๕ ขวัญบานเส เกอะ เชอะ โข โถ หลุย เปเสอ ญื่อ บะ นา ควิ โข เตอะ เปลนกเขาขันบนตอไมคิดถึงเธอจนผมหวีไมเรียบ

จอนิเปนหนุมเต็มตัวแลว เขาชอบผูหญิงตัวบางคางแหลมที่ชื่อ หนออิมู หรือท่ีเจาหนาที่ของรัฐผูเห็นวาชื่อเดิมเขียนยากเลยตั้งใหใหมวา “รีมู” เธอเกี่ยวดองกับเขาเล็กนอยตรงที่พออุยของเธอเปนลูกพี่ลูกนองกับแมอุยของเขา และนาของแมอุยของเธอก็ติดกับนาของพอเขาและเธอก็เปนกํ าพราแมเหมือนเขา เพราะแมของเธอตายตั้งแตเธออายุได ๓ ขวบ

เมื่อตอนที่จอนิยังเด็ก ๆ เขาเคยไปเล้ียงควายใหแมอุยของรีมู แมอุยชอบเขามากและบอกเขามาแตวัยเด็กวา

“จอนิตองเอาอีมูนะ”และเม่ือเขาโตเปนหนุมเขาก็ยังไดยินประโยคน้ีจากแมอุยของรีมูอีกหลายคร้ัง ทํ าใหเขา

มีกํ าลงัใจจนถึงขนาดคิดวา ถาเขาไดเงินรับจางมาเยอะ ๆ เขาจะซ้ือฝายมาใหเธอทอยามใหเขาแตจอนิก็ไดเพียงคิด ยังไมมีโอกาสทํ า เพราะเขากับรีมูมักไมคอยไดเจอกัน รีมูรับจางต ําขาวใหญาติพ่ีนองอยูในหมูบาน ในขณะท่ีเขารับจางทํ างานนอกหมูบาน แมวาจะชอบเธอเพียงใดก็ตามโอกาสท่ีจะเจอกันน้ันก็ยาก ซ้ํ าในตอนน้ันมีผูชายมาชอบรีมูพรอม ๆกับเขาอีกสามคน และเขาเปนคนท่ีจนท่ีสุด

วันหน่ึง หลังจากไปรับจางมงทํ าสวนฝนนอกหมูบาน จอนิก็เดินกลับบาน แตดวยความท่ีเส้ือผาของเขาเกาจนขาด ดูไมได เขาจึงอายท่ีจะเดินไปตามทางปกติ เพราะกลัวเจอผูหญิงสาวๆจะกลายเปนท่ีหัวเราะเยาะ จึงหลบจากทางเดินชาวบาน ไปเดินทางปา และออมออกมาทางนาหลังบาน เปนทางท่ีคิดแลววาไมมีใครเห็น ขณะกํ าลงัเดินอยูน้ัน เขามองไปไกลๆก็เห็นผูหญิงคนหน่ึงน่ังซักผาอยูริมน้ํ า จอนิหยุดชะงัก รีมูน่ันเอง เธอหันขางใหเขา และกํ าลงักมหนากมตาซักผา

จอนิกมลงมองเสื้อผาตัวเอง เขาอายผูหญิงในหมูบานและผูหญิงคนท่ีเขาอายมากท่ีสุดก็คือรีมู แตเขากลับมาเจอเธอในปา จอนิมองซายมองขวา ในที่สุดเขาก็คิดวา เขาจะตองหลบไปทางริมร้ัว แมจะออมหนอย แตเธอจะไดมองไมเห็น

จอนิเดินยอง ๆไป เพื่อไมใหเกิดเสียงดัง เขาพยายามไมเหยียบก่ิงไมหรือใบไมแหงเขาทํ าไดสบายจนรูสึกโลงใจ พอถึงริมร้ัวไมน้ันเขาก็เอามือจับไมดานบนไว โหนตัวเองขึ้นไปเพื่อจะกระโดดขาม เขาหันไปมองรีมูดวยใจระทึกและใจอาวรณ เขากํ าลังจะลับสายตาเธอไปแลว

“กร็อบ…โครม…โอย”สามเสียงนี้ดังตอเนื่องในในระดับใกลเคียงกัน แลวรางของจอนิก็ลงไปนอนแองแมงอยู

บนพ้ืนดิน ในทาน้ัน เขาอุตสาหมองไปเห็นสายตาของรีมูท่ีมองมา ทาทางเธอตกใจ เขารีบลุกข้ึนยืน

Page 33: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

ท้ังอายท้ังขํ าตัวเอง รีบเดินออกไปจากท่ีตรงน้ันโดยเร็ว เขาไมไดหันไปมองและก็ไมไดเห็นสายตาของเธออีก

ตอนน้ันจอนิไมรูหรอกวา รีมู”เอ็นดู”ผูชายใสเสื้อผาเกา ๆขาด ๆท่ีตกแปกลงมาจากร้ัวเพียงใด

อีกไมกี่วันตอมา จอนิก็ฝากฝายใหพอไปใหรีมู ทอยามให เปนธรรมเนียมของผูชายชาวปกากะญอท่ีจะมียามติดตัวเวลาไปไหนมาไหน และยามใบท่ีเขามีก็เกาขาดไมแพเส้ือผาของเขา ในขณะเดียวกันเขาก็อยากรูดวยวา รีมูมีใจกับเขาหรือไม ปรากฏวาเขาไดรับคํ าตอบท่ีนาพอใจเพราะรีมูทอยามกลับมาใหเขาในเวลาไมนาน ฝมือทอยามของรีมูตอนน้ันยังไมคอยดีนักเพราะเธอเพ่ิงเรียนทอ แตจอนิก็สะพายยามฝมือรีมูไปไหนมาไหนดวยความกระหย่ิมใจ

การท่ีรีมูยอมทอยามใหเขาเปนกํ าลงัใจอยางย่ิงของจอนิอีกหลายครั้งที่เขาไดเห็นรีมูและไดยินเธออึทาอีกบอยๆ เขาชอบฟงเสียงของเธอ มัน

ทํ าใหเขาเย็นใจ หลายคร้ังเขาเผลอทํ าเสียงตามเธอแตกระน้ัน เขายิ่งเห็นก็ยิ่งรูสึกวาเธอเหมือนดวงดาวที่อยูไกลบนฟากฟา

กวา ทอ ฉะ โพ ฉะ ซือ บือแล โอะ ฉะ แล โอะ เตอะ ถือมองข้ึนฟาเห็นดาวนอยตํ าขาวไปหาดาวไปหาไมถึงกวา ทอ ฉะ โพ ฉะ ทอ เมแล โอะ ฉะ แล โอะ เตอะ เซมองข้ึนฟาเห็นดาวหุงขาวไปหาดาว ไปหาไมได

รีมูทํ าใหเขานึกถึงแม ผูหญิงคนที่เขารักที่สุดแตไดอยูดวยนอยที่สุด แวบหน่ึงน้ันเขานึกถึงแมเลี้ยงของเขา แมเธอจะรังเกียจเขา แกลงเขา ทํ าใหเขาตองอดขาวอยูเสมอ แตเขาก็รูดีวา ที่เธอทํ าน้ันเพราะความยากจนและเพราะเธอรักลูกของเธอ คนปกาเกอะญอใหเกียรติและยกยองผูหญิงเสมอ จอนิยังจํ านิทานเก่ียวกับผูหญิงท่ีช่ือ หนอกาแข ไดดี

หนอกาแข เปนหญิงท่ีงามจนเล่ืองลือขจรไกล มีชายมากมายมาหมายปองนาง แตวานางน้ัน อยูในบานท่ีมีประตูถึงเจ็ดช้ัน แตละช้ันมีสุนัขท่ีดุรายเฝาอยู แมอุยผูเปนยายของหญิงงามไดมาผาฟนดักอยูกลางทาง เพื่อทดสอบบุรุษท่ีตองการพิชิตใจนาง

เม่ือมีชายผูหน่ึงผานมา แมอุยเปดซิ่นใหดูแลวถามวา “นี่อะไร” ผูชายคนนั้นก็ตอบดวยคํ าอันหมายถึงอวัยวะเพศของผูหญิง เปดเสื้อใหดู ผูชายน้ันก็ตอบวา นม แลวชายผูนั้นก็เดินทางตอไป จนถึงบานหนอกาแข ท่ีประตูแรกก็จะเจอหญิงงาม อางวาตนคือหนอกาแข แลวนอนกับชายคนน้ัน ต่ืนเชาข้ึนมาหญิงงามก็จะกลายเปนกวยไป ชายทุกคนที่ตอบค ําถามแมอุยอยางเดียวกันน้ีก็จะเจอแตหนอกาแขปลอมเสียทุกคน

Page 34: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

แลวก็มีชายคนหนึ่งตอบคํ าถามไดถูกใจแมอุย เมื่อเปดซิ่นใหดู เขาตอบวา “นี่คือแหลงเกิด ทางมาของผม” เมื่อเปดเสื้อ เจาหนุมก็ตอบวา “น่ีเปนที่กินอาหารของผมตอนเล็ก ๆ”

แมอุยมอบเข็มใหเลมหน่ึง ตํ าขาวปุก(ขาวเหนียวสุกนํ ามาตํ าเพื่อใหเหนียวมากข้ึน)ให แลวบอกวิธีการเขาถึงหนอกาแข เม่ือชายหนุมมาถึงประตูเจอหมาก็โยนขาวปุกเขาปากหมา เข้ียวหมาก็ติดขาวปุก ทํ าใหกัดไมได พอเจอหญิงงามที่บอกวาตนคือหนอกาแข ก็ใชเข็มแทง หนอกาแขก็กลายเปนกวยหนุมโชคดีผานไปไดท้ังเจ็ดประตู จึงพบหนอกาแขตัวจริง

ไมนาเชื่อเลยวา ในท่ีสุด คนท่ีทํ าใหเขามีกํ าลงัใจท่ีจะสูขอรีมูกลายเปนพอของเขาเองเพราะพอเปนพอส่ือประจํ าหมูบานดวย ผูชายสองคนที่ชอบรีมูตางมาขอใหพอไปเปนพอสื่อกับรีมูให พอมาบอกเขาทีหลังวา

“หนออิมูมันไมเอาสกัคน”จอนิสะดุง แตเขาก็ยังไมไดบอกพอ ในใจนึกวาโชคดีแคไหนที่รีมูไมเลือกสองคนนั้นพอพออุยของผูชายคนท่ีสามท่ีมาเจรจาใหพอไปเปนพอส่ือใหลงจากเรือนไป พอก็หัน

มาบอกเขาทันที“มันมาชอบหนออิมูอีกแลว”จอนิใจหาย ถาคราวน้ีรีมูเกิดตกลงข้ึนมา เขาจะสูญเสียเธอไปแนนอน เขาตัดสินใจบอก

กับพอทันที“เฮาก็ชอบมัน”พอสะดุง สักพักหน่ึงจึงหันมาถามเขาวา“แลวมันชอบแกหรือเปลา”เขาเลาใหพอฟงเร่ืองท่ีรีมูทอยามใหเขา และเขาก็ไมรูวาพอทํ าอยางไรกับการเปนพอส่ือ

คร้ังท่ีสาม ท่ีมีเขาและผูชายคูแขงตางหมูบานอีกหน่ึงคน เขารูแตเพียงวา รีมูตกลงเลอืกเขา ท้ังท่ีเขายากจนกวาใครเพ่ือน

รีมูถูกคัดคานอยางหนักจากญาติ โดยเฉพาะอยางย่ิงนาชายของเธอ แตเธอก็ไมเปลี่ยนใจ ไมเพียงแตเพราะเขาจนเทาน้ัน หากแตเพราะศาสนาท่ีตางกันดวย เน่ืองจากวาครอบครัวของรีมูยังนับถือศาสนาพุทธอยู ในขณะที่ครอบครัวของจอนิเปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสตแลวแตแนนอนที่สุด คนท่ีดีใจเปนท่ีสองรองจากรีมู ก็คือแมอุยของเธอ คนท่ีรักจอนิน่ันเอง

พอดิปุนุของจอนิชวยอะไรจอนิไมไดมากนัก จอนิจึงตองไปปรึกษาเซกินน็อตบาทหลวงผูเปดทางชีวิตใหมใหเขา

“ดีใจดวยนะ..จอนิ ” บาทหลวงวา “รีมูเปนผูหญิงฉลาด”“ฉลาดตรงไหน”จอนิสงสัย บาทหลวงไมรูจักรีมูสักหนอย“อาว..”บาทหลวงหัวเราะ”ตรงที่เลือกจอนิไง”

Page 35: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

คํ าพดูของเซกินน็อตทํ าใหจอนิอดหัวเราะไมได ความจริงชีวิตของเขา ก็ยังมีอะไรดีๆอยูเหมือนกัน อยางนอยก็บาทหลวงคนน้ีท่ีเปนมิตรกับเขาเสมอตนเสมอปลาย

พิธีแตงงานแบบชาวคริสตถูกจัดขึ้นที่หวยตอง ในวาระท่ีสังฆราชของชาวคริสตมาทํ าพิธีเปดโบสถแหงแรกที่นั่น และจอนิกับรีมูเปนคูแตงงานคูแรกท่ีลงไปแตงงานท่ีโบสถแหงใหมน้ัน เซกินน็อตเปนผูดูแลจอนิแมกระท่ังแหวนแตงงาน เขาก็เปนคนไปหามาให เปนพิธีแตงงานท่ีดูเรียบงายและศักด์ิสิทธ์ิในความรูสึกของจอนิเปนอยางย่ิง

“คุณจะรับผูหญิงคนนี้เปนภรรยาและซื่อสัตยตอเธอตลอดชีวิตหรือไม”“ครับ”น่ันเปนการรับคํ าท่ีจอนิม่ันใจวาทํ าไดแนนอน

ปท่ีแตงงานกับรีมู จอนิมีอายุ ๒๐ ปพอด ีเขาคือหนุมผูโชคดีคนน้ันท่ีหนอกาแขนามรีมูเลือก จอนิเลาวา รีมูเปนขวัญของบานอยางแทจริง เพราะตามปกติเม่ือสมัยเปนเด็กจอนิเปนคนที่เลี้ยงควาย แลวควายไมออกลูก ควายตัวเมียไมเคยทอง

“มีควายประมาณ ๒๐ ตัว เลี้ยงไป ๓ ปควายก็เหลือแคสิบกวาตัว ปหน่ึงไดเงิน ๓๐ บาทอายุประมาณ ๘-๙ ขวบ ตอมาพอไปอยูกับอีกคนหนึ่ง มีควาย ๒๐ กวาตัว เหลือแค ๒๐ กวาตัวผมเลี้ยงควายใหใคร ควายมันก็ฉิบหายไปหมดเลย ไมรูเปนยังไง”

แตสํ าหรับรีมู เธอเปนโชคดีในชีวิตของจอนิ เพราะเขาบอกวา “พอแตงเมียเทาน้ัน คืนน้ันควายออกลูกเลย”

อยูรวมบานดวยกันไมนานจอนิก็รูวาเขาไดผูหญิงฉลาดมาเปนเมีย นอกจากทํ างานบาน รีมูยังสามารถออกความคิดตางๆเก่ียวกับการดํ าเนินชีวิตไดดวย ความเปนผูหญิงพิเศษของรีมูทํ าใหจอนินึกถึงนิทานปกาเกอะญออีกเร่ืองหน่ึง

นิทานเลาวา ม่ืกอนน้ีหญิงกับฃายปกาเกอะญอทะเลาะกัน หญิงแยกไปอยูท่ีหน่ึง ชายไปอยูอีกท่ีหน่ึง ผูชายน้ันสรางบานไมไผโดยใชไผเปนลํ าวางเรียงบนหลังคาบาน เมื่อฝนตกลงมาก็รั่งลงได ขางฝายผูหญิงมีวิธีพลิกแพลง ผากระบอกไมไผออกเปนสองซีก วางควํ ่าหงายสลับซอนกันไป ฝนตกลงมาหลังคาก็ไมร่ัว

สวนในการทํ าไร ผูชายไปทํ าไรในปาใหญ ผูหญิงไปทํ าไรในปาไผ ผูหญิงไดขาวมากมาย ผูชายไมไดขาวเลย ผูชายเปนฝายแพ ตองยายมาอยูในหมูบานของผูหญิงผูหญิงปกาเกอะญอฉลาดจริง ๆ จอนินึก แมแตแมอุยที่เลาเรื่องนี้ใหเขาฟง ตอนเด็ก

ๆเขาเองยังนึกวา ทํ าไมไมสับกันนะ เลาใหผูชายเกงก็ไดน่ีนา พอเขาถามแมอุย แมอุยก็บอกวา นิทานน่ีเปล่ียนไมไดหรอก เพราะบรรพบุรุษของเราเลามาอยางน้ัน

Page 36: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

จอนิออกมาเดินอยูนอกบาน ย่ิงเดินไป ๆก็ยิ่งแปลกตาและยิ่งแปลกใจ เพราะสถานท่ีท่ีเขาเดินอยูน้ีไมใชทุงนาในหมูบานหนองเตาแนนอน แมจะดูเหมือน แตความรูสึกของเขาเหมือนมีใครกระซิบบอกวาไมใช ทันใดน้ัน เขาไดยินเสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากเบ้ืองหนา พอมองไปก็เห็นผูหญิงสาวสามคนเดินมาแตไกล จอนิเขมนมองเขาอยากรูเหมือนกันวาพวกเธอเปนใครเธอแตงชุด”เชวา”สีขาวสาวบริสุทธิ์ของปกาเกอะญอ พอเดินเขามาใกล หน่ึงในจํ านวนน้ันก็สงดอกไมดอกหนึ่งใหเขา………..

จอนิสะดุงตื่น เขาปรับสายตาจนเห็นเงาลาง ๆของมุง หันไปมองรีมูเห็นยังนอนหลับอยูฝนวามีผูหญิงสงดอกไมมาให จอนิเอย แกไดลูกสาวแนนอน เขาบนบอกตัวเองแลวก็ลมตัวลงนอนตออีกรอบหน่ึง ต่ืนเชามาเขาจึงบอกรีมูวา

“ลูกของเฮาจะเปนผูหญิงแนนอน”รีมูย้ิมรับความฝนของเขา เธออยากไดลูกสาวมาเปนเพื่อนแมเชนเดียวกัน ในท่ีสุดหนอ

อิมูก็ไดลูกสาวคนแรกที่มีชื่อวา “สามพอ”หรือ “หนอฮอลือ” หรือท่ีมีช่ือไทยสุดไพเราะวา “หอมลือ”

ลูกสาวคนแรกของจอนิกับรีมูเกิดในป ๒๕๑๐ และอีกสองปตอมาเขาก็ไดลูกสาวคนที่สองชื่อสุขเปง คราวน้ีรีมูเปนคนฝนวาไดดอกไม ในปถัดมารีมูต้ังทองลูกคนท่ีสาม จอนิรูทันทีวา เขาจะไดลูกชาย

สํ าหรับลูกชายคนแรกเขาฝนวา ไดเดินไปในปาใหญ ตนไมสะบัดใบทักทายเหมือนจะสงขาวบางอยาง ทันใดน้ัน ผูเฒาคนหน่ึงก็เดินออกมาสงปนส้ันกระบอกหน่ึงใหเขา ลูกชายคนแรกของเขาเกิดในเดือนพฤศจิกายน และมีชื่อวาพฤ

“ยอเอาเอง”จอนิหัวเราะราเม่ือเลาถึงลูกชายท่ีช่ือ “พฤ”ท่ีโตข้ึนกลายเปนกํ าลังสํ าคัญในการตอสูเพื่อรักษาปา “พฤยอมาจากพฤศจิกายน..แลวมันยังเกิดวันพฤหัสอีกดวย”

ครั้นลูกชายคนตอมาเกิด เขาก็ฝนวาไดปนอีก แตเปนปนยาว“เกิดวันพฤหัสอีกคนนี้ เฮาเลยตั้งชื่อวา”หัสชัย”จากลกูสาวสอง สูกชายสอง จอนิมีลูกกับรีมูอีกหาคน เปนผูชายอีกสามคือ รากทอง ศิว

กร และแสงทอง เปนผูหญิงอีกสองคือ ปน(หลาปา)และจรรยารักษ(หม่ือปอ) กอนไดลูกทุกคนเขายังฝนตามขนบ คือลูกชายฝนเห็นอาวุธมีดหรือปน ลูกสาวฝนเห็นสรอยคอเคร่ืองประดับ ยกเวนลูกชายคนที่ชื่อรากทอง เขาฝนวาไดทูรี (เพชร)

“เลยใหมันชื่อรากทอง รากตนไมท่ีเปนทองนะ”จอนิวา “คนน้ีเปนศิลปน ชอบวาดรูปชอบเรียนหนังสือ เกือบจบปริญญาตรีแลว” น้ํ าเสียงของจอนิเต็มไปดวยความภาคภูมิใจ

“มีลูกคนไหนชวยพะตีเร่ืองปาบาง”จอนิหัวเราะ“ชวยทุกคนเลย ทุกคนรู แตตอนนี้ที่เปนกํ าลังสํ าคัญสองคนก็คือ พฤกับแซวะ(ศิวกร)

สองคนน้ีสนใจปามาก”จอนิวาการไดมีลูกทํ าใหจอนิย่ิงซาบซ้ึงตรึงใจคํ าสอนของบรรพบุรุษ

หม่ือกาใหคนมาเกิดเปนสิบ

Page 37: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

หลายคนถูกสรางหลายแบบ

จอนิชวยรีมูเล้ียงลูกเพียง ๖ คนแรก จากน้ัน เม่ือเขามีภาระจํ าเปนในชีวิตที่ตองกาวออกจากบานไปชวยสังคม ภาระท้ังหมดของบานและการเล้ียงดูลูก ท้ังท่ีมีอยูแลว ๖ คนและท่ีเกิดมาอีก ๓ คนหลัง จึงตกอยูบนบาของรีมูท้ังหมด

ถาใครถามเร่ืองน้ี จอนิก็จะบอกวาบรรพบรุษเคยบอกไววาถาผูหญิงลุกข้ึนมารบเม่ือไหรศึกสงบเมื่อนั้นเพราะผูหญิงใชดาบ ทอผาหรือใช หนอทาแพะ รบ

เมื่อคนฟงทํ าหนาฉงน จอนิก็อธิบายวา หนอทาแพะเปนเครื่องมือทอผา เมื่อสิ่งที่ใชเปนอุปกรณในชีวิตกับส่ิงท่ีใชในการรบ ของผูหญิง เปนสิ่งเดียวกัน น่ันทํ าใหผูหญิงมีชีวิตที่สุขสงบได

ตอมาอกีหลายป เมื่อจอนิคุยกับใคร ๆและถูกถามวา“เพราะผูหญิงเกง พอบานจึงท้ิงบานไปอยางน้ันหรือ”ผูมาเยือนสงสัย จอนิตอบวา “เฮาบไดอยากท้ิงบานนะ…แตที่เฮาตองออกนอกบานไป ก็เพราะบานใหญ หมูบาน ปา

ภูเขา แมน้ํ า มันก็เปนบานของเฮา ถาบานใหญของเฮาพังพินาศไป บานหลังเล็กเฮาก็พังพินาศไปดวย”

Page 38: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

บทท่ี ๖ ลางแลง

จอนิยองไปในปาดวยฝเทาที่เงียบกริบ เขากํ าลังทํ าตัวราวกับวาเปนเปนสัตวปาตัวหนึ่งดวย เสียงที่ดังออกมาจากลํ าคอของเขาจึงฟงไมเปนภาษามนุษย ยิ่งเขาใกลเปาหมายเขาก็ยิ่งยองเงียบ จนในท่ีสุด เขาก็หยุด แลวคอย ๆ ลดตัวลงนอนราบกับพ้ืน มีแตเสียงใบไมดังกรอบยามที่เขาทาบตัวลงกับพื้นดิน ทุกอยางที่เคยเคลื่อนไหวตามเขา มาบัดน้ีหยุดสนิท

เขาเบิ่งตาลอดไปตามชองกิ่งไม แองพื้นดินกวางเรียบลื่นตรงหนาบัดนี้วางเปลา ไมมีแมแตเงาของหมูปา ตนไมท่ีมันใชไถถากท่ียังมีรอยโคลนติดอยูยืนสงบน่ิง รอยไถดูเกาคางมาแตวันโนนและวันโนน เขาเคยนึกเสมอวา แองดินเรียบลื่นนานอนเลน และตนไมชวนถูหลังเลนนี้เปนเสมือนโรงแรมกลางไพรของหมูปา ที่มีเจาของโรงแรมชื่อธรรมชาติเปนผูจัดการ หมูปาท่ีพอใจสภาพความสุขสบายนี้ก็จะมาพักอยูเสมอ และเขาก็ชอบมาแอบดูเสมอ แตมาวันนี้ โรงแรมของเขา ไมมีแขกมาพัก มันคงยายไปนอนโรงแรมอ่ืนท่ีมีบริการดีกวาน้ี

ปกาเกอะญอหนุมรูสึกเหงาตาและเหงาใจ เขาลุกขึ้นยืนและเดินเร่ือยไปในปา ทักทายใบไม ฟงเสียงน้ํ าตกลงจากผา และพูดแขงกับนก คนปกาเกอะญอรักธรรมชาติและมีชีวิตผูกพันอยูกับธรรมชาต ิ ไมเพียงแตคํ าสั่งสอนเรื่องขวัญชีวิตทั้ง ๓๗ ดวงท่ีมีอยูในคน สัตวและพืชเทาน้ัน จอนิจํ าไดวา นิทานเรื่องหนึ่งจากคนเฒาก็ไดเลาเรื่องคนกับสัตวพี่นองกัน

มีเรื่องเลาวา…ปกาเกอะญอมีพี่นองเจ็ดคน พี่นองทั้งเจ็ดคน แมตายไปและพอมีเมียใหม

เมียใหมของพอนั้นเปนผีรายที่ปลอมมาเปนคน ไดยุยงใหพอฆาลูกทิ้ง พอจึงเอาลูกไปลอยแพ ทวามียักษตนหนึ่งชวยพี่นองทั้งเจ็ดไวและเอาไปเลี้ยงเปนลูก เม่ือพี่นองทั้งเจ็ดเติบโตจึงคิดกลับมาแกแคน แตพี่หกคนแรกสูผีแมเลี้ยงไมได ถูกฆาตายหมดเหลือเพียงนองสุดทอง ไดรับค ําแนะนํ าจากแมปาซึ่งเปนเพื่อนของยักษใหเอาเขาใสหัวมาขวิดขณะที่นองคนสุดทองกํ าลังตอสูกับผีราย และจวนเจียนจะเสียทีน้ันเอง ก็ไดยินเสียงนกรองฟงเหมือนจะบอกวา

“นองหลาเอย (นองสุดทองเอย) ขวิดขะหลํ ามันเตอะ ขวิดเขาซายก็ตาย ขวิดเขาขวาก็ตาย “

นองสุดทองจึงทํ าตาม พอผีรายถูกขวิดตายแลว นองคนสุดทองก็เอาเขาออกจากหัวไมได ก็เลยกลายเปนวัวกระทิงไปจอนิไมเพียงแตชอบวาคนพี่นองกับสัตวเทานั้น แตเขารูสึกมีสวนรวมกับนิทานเร่ืองน้ี

ตรงท่ีแมตายไปและพอมีเมียใหม แถมยังเปนเมียใหมท่ีรายมากดวย เขารูสึกวา นิทานของคนเฒาชางเหมือนชีวิตของเขาเสียจริง

จากนิทานเร่ืองน้ีเอง คนปกาเกอะญอจึงมีความเชื่อวาเขาเปนพี่นองกับกระทิง เลากันวาเวลามีศัตรูมา คนปกาเกอะญอจะหนีเขาไปอยูในฝูงกระทิง วัวกระทิงจะไมท ําอะไรเพราะเปนพ่ี

Page 39: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

นองกัน และจะชวยขับไลศัตรูใหหนีไปอีกดวย คนปกาเกอะญอจึงไมยิงกระทิงสุมสี่สุมหา โดยเฉพาะอยางยิ่งประมาณเดือนตุลาคม ถึงพฤศจิกายน เพราะเปนชวงผสมพันธุ ยกเวนจํ าเปนจริงๆก็จะเลือกยิงตัวที่แกหรือพิการ ทั้งยังตองขออนุญาตผีกอน และยิงตัวเดียวก็ตองกินกันทั้งหมูบาน คือประมาณเดือนมีนาคม –เมษายน

สํ าหรับจอนิ เขาไมเพียงรูสึกวาเปนพี่นองกับกระทิงเทานั้น หากแตเขารูสึกเปนพี่นองกับสัตวทุกตัวในปา แมกระทั่งสัตวที่มีพิษเชน งู อาจเปนเพราะวาสัตวทุกตัวเปนสวนหนึ่งของปา และปาคือสิ่งที่รายลอมตัวเขาและเปนคุณแกเขา ดังน้ัน เขาจึงรูสึกเชนนั้นกับสัตวปาเหลานั้นดวย

จอนิหยุดยืนที่ปาเพิ่งฟนตัวใหม หรือที่เรียกกันวา ปาหนุม แตแลวก็รูสึกแปลกใจที่เห็นใบไมสีเหลืองรวงรายจากตนไมหลายตน

“จะลาบวชกันหรือไง” จอนิสงสัย

ปที่จอนิเริ่มรูสึกถึงความเปลี่ยนไปของธรรมชาติ เปนป ๒๕๑๖ ปท่ีครอบครัวของเขากํ าลังมีสีสัน ลูกสาวและลูกชายกํ าลงันารัก แตหมูบานยางตาดกลับไมนารักเสียแลว เพราะท้ังหมูบานกํ าลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง หากจอนิสามารถออกไปหาที่ยืนนอกโลกได และมองมายังหมูบาน เขาก็ประจักษแกใจดีวา เหตุที่หมูบานของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงน้ันมิไดมาจากการเปล่ียนแปลงภายในเลยแมแตนอย แตเพราะเขาออกไปยืนนอกโลกไมได และเขาเปนมนุษยตัวเล็ก ๆคนหนึ่งในหมูบาน เขาจึงเพียงยืนอยูที่ริมนาขาว และมองตนขาวที่เรียวเล็กอยางไมเขาใจ

จอนิจํ าไดด ีเมื่อเดือนเตอเล ตอนท่ีมัดมือเฮียกขวัญขาวน้ัน เขาก็รูสึกเหงา ๆ โดยไมรูวาทํ าไม คร้ันตอนที่ดอกเครือออนแยมสีชมพูออกมาในตอนเดือนเครือออนหรือเดือนทีแพะ เขาก็รูสึกแปลกใจวาดอกมันนอยผิดปกต ิ ตอนที่นํ่ าไรปลูกขาว ฝนก็ตกไมมากนัก จนใจเขาหาย ๆตอนทํ าพิธีเลี้ยงผีขุนหวย ฮีโขก็เลยทํ าเสียใหญโต แตแลวก็ชวยอะไรไมได แมตอมาจะเลี้ยงผีไฟผีหนองผีนํ้ ากันใหญ ก็ไมเปนผลอีก จนถึงเดือนลาคุ ฮีโขท่ีทํ าพิธีเฮียกขวัญรอบสองบนแลวบนอีกเพราะผลิตผลไมไดมากเทาที่เคย

เปนการทํ าไรทํ านาที่แหงแลงที่สุดในชีวิตของจอนิและชาวบานยางตาด เพราะน้ํ าแมตาดที่เคยไหลลงนํ้ าแมสะปอกนั้นเหือดแหงไปเสียแลว

“เกิดอะไรขึ้น” ญาติคนหนึ่งของจอนิบน “ผีน้ํ าทานโกรธเอาแลว”แมจอนิและเครือญาติของเขาจะนับถือคริสตศาสนา แตพวกเขาก็ไมเคยทอดทิ้งความ

เชื่อเรื่องผี ผีจะเปนผูดูและและควบคุมทุกอยางในชีวิต โดยเฉพาะอยางยิ่งผีที่สํ าคัญ ๆท่ีอยูในธรรมชาติ เชน ผีเจาที่ดิน ผีน้ํ า ผีหมูบาน

“ตองไหวผีปา ผีน้ํ า”ไมใชนาของจอนิเทานั้นที่ตนขาวเรียวเล็ก หากแตเกิดขึ้นกับตนขาวของคนทั้งหมูบาน

Page 40: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

ในขณะที่ชาวบานจัดเตรียมพิธีไหวผีนํ้ าน้ัน จอนิกลับนึกถึงหนังฝรั่งที่เขาเคยดู นึกถึงเหตุนึกถึงผลที่เขาไดรับการสั่งสอนมาจากบาทหลวง และนึกถึงแผนที่ที่เคยไดดูตอนเรียนหนังสือที่โรงเรียนแมปอน

ในเขตลุมน้ํ าแมวาง มีตนน้ํ าสายเล็กสายนอยไหลรวมกันเปนแมนํ้ าแมวาง เปนที่ตั้งของชุมชนนับรอยหมูบาน มีท้ังคนเมือง มง และปกาเกอะญอ หมูบานยางตาดของเขาเปนหน่ึงในจํ านวนนั้นดวย

หากเปนวันกอนจอนิคงเช่ือม่ันเทา ๆกับคนอื่นวา ผีน้ํ าและผีปาก็คงจะโกรธชาวบานและหากทํ าพิธีกรรมรวมกันแลวทุกอยางก็จะคลี่คลายไปเอง แตมาวันนี้จอนิเริ่มหวั่นไหว เขาไมแนใจวาผีน้ํ าจะชวยอะไรได เพราะเขาเริ่มรูสึกวาโลกนี้ม”ีผี”อื่น ๆ อีกมากมาย รวมทั้งผีฝรั่ง ผีคนเมือง ผีเจานาย ที่ลวนแลวแตมีอ ํานาจไมแพผีน้ํ า ผีเจาที่ดินของเขา

จอนิก็เดินเขาปาไปเงียบ ๆ เขารูสึกเหมือนปาสงสัญญาณบางอยางแกเขา เงียบวังเวงทั้งที่เขาเคยเดินเขาไปแลวชุมชื่นหัวใจ เสียงน้ํ าซาที่เขาเคยลอวา ดังราวกับเสียงผูชายรองไหเพราะอกหักหายไป ไดยินแตเสียงระริกกระซิกราวกับผูหญืงกํ าลงัรองไหคนเดียว ใบไมนอยลง ปาเหงาลง สัตวปาเงียบกริบ โรงแรมสัตวปาปดหมดทุกแหง เพราะบริการแยลงเสียแลว

จอนิรูสึกหดหูใจอยางบอกไมถูก ทาบทหนึ่งของบรรพบุรุษแลนขึ้นมาในหัวเลาะ เม เดอ เม พีกวนไฟ ไฟดับเลาะ ที เดอ ที ซิกวนน้ํ า น้ํ าแหง

ไฟและนํ้ ามีความหมายตอชีวิตของชาวปกาเกอะญอ ในขณะท่ีไฟเปนเคร่ืองมือที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการเตรียมพื้นที่ไร ระหวางการทํ าไรชาวปกาเกอะญอจึงมีพิธีเลี้ยงผีไฟเพื่อเปนการขอบคุณ ในขณะเดียวกัน ตนน้ํ าลํ าธารก็คือเปนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีผีน้ํ าคุมครองดูแลอยู ปกาเกอะญอจึงมีขอหามมิใหมนุษยไปรบกวนแหลงกํ าเนิดน้ํ า

“ตนน้ํ า” จอนินึก “ใครไปกวนตนน้ํ า”

นาทีนั้นเอง จอนินึกถึงผูเฒาสุละแฮท่ีภายหลังมาดองเปนญาติกับเขาเมื่อเขาแตงงานกับรีมู ผูเฒาอยูท่ีปาอีกฟากแมน้ํ าหวยตาด และเปนที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการอนุรักษปา ตั้งแตจอนิอายุได ๑๑ ขวบ ผูเฒาสุละแฮก็ขึ้นชื่อไปทั่วในเรื่องของการหวงปา อาศัยความเปนคนดุและเอาจริงเอาจัง ทํ าใหไมคอยมีใครไปยุงกับปาของแก

เมื่อสองสามปที่ผานมานี้เอง สุละแฮยิ่งขึ้นชื่อมากในเรื่องการอนุรักษปา ปาที่แกหวงมาแตวัยหนุมขยายเปน ๒๐๐ ถึง ๓๐๐ ไร ในขณะที่ปาที่อื่นเริ่มลดลง และมีการทํ าลายปามากขึ้นแตปาของสุละแฮกลับเขียวคร้ึม

จอนิตัดสินใจไปเยี่ยมสุละแฮเพื่อดูปาที่สามารถรักษาไวได จริงอยางท่ีเลาลือกันเพราะปาท่ีเขาเดินทางเขาไปน้ันหนาแนนและยังสมบูรณอยูมาก ที่เปนปาโปรงก็ตนโตงาม แตก็ยังชื้น

Page 41: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

เย็น มีไมกอ ไมเหียง ไมสนและกลวยปา จอนิชอบเรียกปาผูชาย (เกอเนอพา) บางตอนก็เปนปาครึ้มชื้นเย็น มีไมเถาวัลย มีมอส มีเฟรน จอนิเรียกวาปาผูหญิง(เกอเนอหมื่อ) เดิน ๆไปบางตอนก็เปนปาไผ (สะพอเบะกละ) บางก็เปนปากอ (โขซอแยกละ)

เขาเดินสวบ ๆเขาไปอีก ทันใดนั้นก็ไดยินเสียง“ใครหวา..มึงเขามาทํ าไม”จอนิยกมือขางหน่ึงข้ึน“ลุงสุละแฮ” เขาสงเสียงดังกังวานไปในปา “เฮาเอง”ลุงสุละแฮเดินออกมาจากท่ีซอน แกรองทักวา “ออ..จอนิ.. .ขาเกือบฟนแลวมั้ยละ”จอนิขํ า มองดูมีดยาวในมือสุละแฮ นี่เองที่ชาวบานเลาลือกันวา แกชอบไลดาไลฟนคนที่

เขามาตัดไมทํ าลายปาของแก“ดุจัง”จอนิแกลงวา“เออ..”สุละแฮรองเสียงดัง “ตองทํ าอยางน้ีแหละ ไมงั้นมันเอากันจนเหี้ยน”“เฮาก็มาดู ๆปาของลุง ปาทางฟากบานเฮาก็กํ าลังแย”จอนิกับสุละแฮน่ังคุยกันถึงเรื่องการรักษาปายืดยาว ชายชราผูพยายามยามรักษาปาพา

จอนิเดินดูปาจนทั่ว ปาใกลบานสุละแฮยังอุดมสมบูรณ เย็นนั้น จอนิกินขาวเย็นที่บานลุงจอนิไดขอสรุปซ้ํ าลงไปอีกวา“รักษาปาไวได ก็รักษาน้ํ าไวได”ตองทํ าอะไรสักอยางแลว จอนิบอกกับตัวเองขณะเดินทางกลับบาน

ชายชาวปกาเกอะญอสี่หาคนลวนแลวแตเปนเครือญาติของจอนิ เดินตามจอนิเขาปาไปทุกคนตองการรูวา เพราะเหตุใดนํ้ าจึงแหง พวกเขาไมมีความรูเทาจอนิ และก็ไมเดือดรอนมากนัก เพราะเขาก็ยังทํ านาทํ าไรได และมีขาวกิน แตมาวันนี้ เม่ือขาวในนาทํ าทาจะไมไดผลอุดมสมบูรณ เขาเริ่มไมเขาใจในสิ่งที่เกิดขึ้นและหวังเอาวาจอนิผูเรียนรูมากกวาพวกเขาอาจใหคํ าตอบได

พวกเขาเดินกันไปเงียบ ๆ มีแตเสียงฝเทาดังสวบ ๆ เปนจังหวะ ปญหาที่เกิดขึ้นทํ าใหการเดินปาคร้ังน้ีไมมีสีสันเหมือนเคย ไมมีใครอึทา ไมมีใครหยอกลอตะโกนถามกัน แมแตปาเองก็ดูราวกับพลอยรวมบรรยากาศไปดวย ตนไมในปาทั้งนอยใหญดูเหงาเงียบ แมแตนกสักตัวก็ไมไดยินเสียงรอง

“นกไปไหนหมด” จอนิต้ังคํ าถามอยูในใจ“ดูโนนสิ” พ่ีเมียของจอนิรอง พลางชี้ใหทุกคนดูบริเวณเบื้องหนา บริเวณนี้เคยเปนปา

อุดมสมบูรณมากอน แตบัดนี้ ตนไมใหญบางตนถูกตัดจนเหลือแตตอ จอนิเสยีใจ เพราะผูเฒาสอนเสมอวา

เนอ กลอ เส กลอ เหลอะ เตอ เกพะ เอ บิ เบ จอ เตอ เด

Page 42: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

จะตัดก่ิงไมอยาตัดใหหมดตองเหลือไวใหนกพญาไฟมาเกาะกิ่ง

ยิ่งเดินเขาใกลปาตนนํ้ า พวกจอนิก็ยิ่งพบความเสื่อมโทรม สีเหลืองของใบไม ความแหงผากของดินและความหอเหี่ยวของจิตใจ รวมกันเปนอารมณและความรูสึกของคนที่พากันไปคนหาความจริงในวันนั้น

นาทีน้ัน จอนิคิดถงึสุละแฮ ผูจุดประกายเรื่องการรักษาปาของเขามาแตวัยเด็ก“ตองใหปามันฟนตัวใหไดในเร็ววัน”จอนิบอกกับทุกคนที่ไปดวย แตขยักประโยคตอไปไวในใจ ประโยคที่เขาตั้งใจวาจะ

บอกรีมูเปนคนแรก เพราะเธอเปนคนเดียวท่ีจะเขาใจเขาดีที่สุด “เพื่อปา และเพื่อลูกของเรา”

ส่ิงท่ีจอนิชักชวนชาวบานทํ าเปนอันดับแรกคือการขยายพื้นที่ปาที่อุดมสมบูรณใหมาก

ข้ึน กํ าหนดพื้นที่ในการทํ าไรหมุนเวียนใหนอยลง และหามทํ าไรหมุนเวียนใกลบริเวณปาตนนํ้ าเราพ่ีนองท้ังหมูบานต้ังม่ันฟาถลมชวยกันยันไดดอ บ่ือ แง ซอ อิเหม เกลอมุ โข ลอ ปกอ ฉอ กอ เจอ

นั่นเปนบททาที่เขาใชเสมอในเวลาพูดคุยกัน คนหมูบานยางตาดจึงคอย ๆเคลื่อนขยายไกลปาลงมาทุกที จนในท่ีสุด เขาก็ไดมาอยูกันที่บานหนองเตา และอยูกันมาจนปจจุบัน

Page 43: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

บทท่ี ๗ กาวกลา

คืนแรกที่จอนินอนที่บานหนองเตา เขาฝนวายังนอนอยูที่บานเดิม ฝนถึงปาปาเดิม ทํ าใหเขาตื่นขึ้นมาสรุปวา

“ทุกสิ่งในโลกนี้เปนหนึ่งเดียวกัน”หนองเตาเปนพื้นที่อุดมสมบูรณ มีแองน้ํ าใหญและมีท่ีทํ ากิน จอนิจึงชอบเดินสํ ารวจ

พื้นที่ทุกตารางนิ้ว ราวกับมือของเด็กนอยที่สัมผัสรางกายของผูเปนพอแมดวยความรัก เขาเร่ิมคุนเคยกับกับปา และจํ าแนกปาตามลักษณะของปา ตรงไหนที่เลือกไวทํ าไรทํ านา คนที่มีลูกเปนหนุมเปนสาวก็สอนลูกทํ าไร พื้นที่ทํ าไรเรียกวา”ดูละ”สวนพื้นที่ที่เคยทํ าไรอยางที่เกา แตทิ้งรางไวตั้งใจจะใหเปนปาหวงหามเรียกวา”ดูตะ”

จอนิมองเห็นและหมายตาไววา ที่หมูบานหนองเตานี้ เขาจะตองพยายามทํ าใหการรักษาปาเกิดขึ้นใหได เพราะเขาเห็นแลววา การทํ าลายปาทํ าใหเกิดผลเชนไร

จอนิชอบไปยืนมองปา”เดหมื่อเออ” ซึ่งเปนปาท่ีมีลักษณะเปนเนินเล็ก ๆ มีนํ้ าลอมรอบและเปนบริเวณท่ีอยูใกลตนน้ํ า สวนบริเวณฮอสินาเด ใกลขุนแมสะปอก ชาวบานกํ าหนดใหเปนปา”ตาเดโดะ”ซึ่งเปนพี้นที่อยูระหวางเขาสองลูก มีปาทึบ ลักษณะนี้ถือวาเปนทางเดินของจิตวิญญาณบรรพบุรุษและทางเดินของผี เปนที่ตองหาม หามทํ าไรโดยเด็ดขาด

ตนป ๒๕๑๖ วันหน่ึง ชาวบานหวยคางและชาวบานหนองเตาก็ไดขาวเลาลือมาวา รัฐบาลมีโครงการทํ าเหมืองแรในหลายพื้นที่ ขณะน้ีไดเขามาต้ังโครงการเร่ิมขุดเจาะหาสายแรดีบุกแลว

“มันมาขุดเปนรู ๆ มันมาพังภูเขา” ชาวบานหวยคางคนหนึ่งบอก“มันเริ่มโคนตนไมแลวนะ”อีกคนวาพอไดยินวามันเริ่มโคนตนไมเทานั้น จอนิก็รูสึกรอนใจข้ึนมาทันที เขารูแลววาหมูบานที่

ไมมีปาเดือดรอนเชนไร“มันจะทํ าท่ีบานเฮาหรือเปลา”

ชาวบานคนน้ันตอบวา “เฮาไดยินเจานายคุยกันวามีหลายหมูบานดวยแหละ”คืนนั้นเองจอนิฝนวา เขาเดินไปตามถนน พบชายแปลกหนาคนหนึ่งไมใสเสื้อผาเดินอยู

ผูเชายคนน้ีมีหนวดเครารุงรัง ในฝนจอนิยังไมทันจะเอยทักทาย ผูชายคนน้ีก็ตรงเขามาทะเลาะกับจอนิทันที

คนแปลกหนานั้นพูดภาษาที่จอนิไมเขาใจ แตจอนิรูวาเขาต้ังใจมาทะเลาะกับจอนิโดยเฉพาะ จอนิตกใจตื่น…

เขาสงสัยวา ความฝนจะเปนความจริง

Page 44: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

จากน้ันอีกไมก่ีวัน ขณะเดินสํ ารวจพื้นที่ดวยความหวาดระแวงอยูนั้น จอนิก็เจอเขากับรูที่เห็นไดชัดวาเปนการขุดโดยฝมือของคน ไมใชรูเดียวหากแตมีหลายรูเหลากับคนขุดเจาะตั้งใจจะหาอะไรบางอยางที่อยูใตดิน “รูเหมืองแร” พอคิดได จอนินอนไมหลบัแทบท้ังคืน จอนิฝนวาไดตอสูกับคนแปลกหนาไมใสเสื้อผาคนนั้นทั้งคืน เขาเลาใหรีมูฟง รีมูยังบอกวา รัฐบาลนั่นแหละคือคนแปลกหนาไมใสเสื้อผาคนนั้น จอนิรอนใจ เขาจึงตั้งใจวาจะตองหาคนมาชวยเรื่องนี้ใหได เขาออกเดินทางไปยังแมปอน ตั้งใจไปหาบาทหลวงเซกินน็อต ไมเจอบาทหลวง แตกลับเจอกับครูคนหน่ึงที่เคยสอนหนังสือเขา ช่ือครูทิพย พอครูไดยินเรื่องที่เขาเลาใหฟง ครูก็พูดยาก ๆวา “มันเปนนโยบายของรัฐบาล” “แลวเฮาจะทํ ายังไง” ครูน่ิงไปพักหน่ึงจึงแนะนํ าเขาวา “เรื่องนี้ตองใหรัฐบาลยกเลิกนโยบาย” แมจอนิไมเขาใจชัดเจนนักวานโยบายคืออะไร แตเขาก็รูแนวาเจาส่ิงน้ีเองท่ีทํ าใหดินบานเขามีคนมาขุดเปนรู และในอนาคตก็จะมีคนมาตัดโคนตนไม และเขาคนเดียวก็คงไมสามารถชวยปาไวได นั่นก็หมายความวาเขาเองก็ไมสามารถชวยชาวบานไวไดดวย “ง้ันเฮาจะลงไปกรุงเทพฯ ไปขอรัฐบาลยกเลิกมัน” จอนิพูดออกไปแลว เห็นครูทํ าตาโตแบบตกใจแกมแปลกใจ “เอาจริงหรือเปลา จอนิ” ครูถามดวยนํ ้าเสียงเรียบ ๆ จอนิตอบกลับทันที” เอาจริงครับ” “ง้ันครูจะชวยจัดการให”ครูวาแลวก็ฃวยเขียนจดหมายรองเรียนเปนภาษาไทยใหตามที่จอนิบอก จากน้ัน จอนิก็ไปหาชาวบานใหลงชื่อเรียกรองรวมกัน รวมรายชื่อไดทั้งหมดประมาณ๔๐ ช่ือ เมื่อถามวาส ําเนาจดหมายฉบับท่ีเลาใหฟงน้ีมีไหม ก็ไดค ําตอบจากจอนิวา “หายไปแลว ไมรูหายไปไหน หายเร็ว ๆนี้แหละ” จอนิถือจดหมายรองเรียนน้ันไปหาเจาหนาท่ีประชาสงเคราะห และเจาหนาที่อ ําเภอเพื่อใหทางราชการดํ าเนินการอยางเปนลํ าดับขั้นตอน แตอาจเปนเพราะเรื่องราวของจอนิมีรายละเอียดที่แตกตางและเจาหนาที่ทางราชการเองตางก็ไมอยากเปนผูรับผิดชอบเปนผูตั้งเรื่องราวของชาวเขากลุมนี้เสนอขึ้นไป จึงมีใครคนหน่ึงแนะนํ าจอนิวา “น่ี..จอมพลถนอม นายกรัฐมนตรีนะจะมาทํ าพิธีที่สันปาตองอยูแลว เธอไปย่ืนจอมพลถนอมโดยตรงก็แลวกัน” คนแนะนํ าคนนั้น จอนิจํ าไมไดวาเปนใคร จํ าไมไดแมกระท่ังวาเขาแนะนํ าเพราะเขาสงสารหรือเพราะเขาอยากจะใหภาระพนไปจากเขา แตคํ าแนะนํ าของเขากลับทํ าใหจอนิมอง

Page 45: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

เห็นแสงสวาง จอนิไมกลัวคํ าวานายกรัฐมนตรี เขานึกถึงนิทานเร่ืองติลูลา บางทีผูแนะน ําเขาคนน้ี อาจจะเปนแบบเพื่อนของติลูลาคนใดคนหน่ึงก็เปนได จอนิตั้งใจมั่นวาจะตองสงจดหมายรองเรียนของเขาถึงนายกรัฐมนตรีใหจงไดหนาที่ของจอนิก็คือรวบรวมชาวบานใหไดมากท่ีสุด เพื่อรองเรียนใหถอนสัมปทานการทํ าแรดีบุกออกไปจากหมูบาน เขาบอกกับผูใหญบุเง ซึ่งเปนพี่เมียของเขาเอง ผูใหญบอกวา ไปเลยจอนิทํ าเลย เขาจึงเดินไปตามบานตาง ๆเพื่อขอรองชาวบานดวยตนเอง “ถาเฮาไมไปเพื่อหมูบานของเฮา แลวใครจะไป” การเดินตามบานตาง ๆของจอนิไดผล เพราะมีคนพรอมจะไปรวมรองเรียนกับเขาถงึ๒๐ คน จอนินัดกับครู และครูก็บอกไปทางนายอ ําเภออีกทีหนึ่ง ทุกอยางเปนไปอยางราบร่ืน เชาวันสํ าคัญวันหนึ่งของจอนิก็มาถึง เขาไปยืนรวมกับชาวบานที่มายืนรอตอนรับผูนํ าของประเทศ มองไปทางไหนก็เห็นแตคนยืนรอ นอกจากชาวบานแลวยังมีพวกเจานายแตงชุดสีกากียืนกันเปนแถว กับอีกพวกหนึ่งเปนต ํารวจที่คอยดุวาใหชาวบานยืนรอใหเปนระเบียบเรียบรอย จอนิรูสึกตื่นเตนเล็กนอย เขานึกกษัตริยอัฟริกาท่ีข่ีนกกระจอกเทศ เขาก็นึกขํ า ๆวาบางทีจอมพลถนอมอาจจะข่ีชางมาก็ได แตพอถึงเวลาเขาจริง ๆ ชางในความคิดค ํานึงของจอนิก็กลายเปนรถเกงสีดํ าเปนมันปลาบแลนเขามาชา ๆ พวกขาราชการยืนเขาแถวกันเรียบรอย จอนิรูสึกแปลกใจท่ีเห็น”เจานาย”ที่เขาเคยเห็นยืนดากราดบนเขาทํ าตัวงอเอามือกุมระหวางขา เปนภาพที่ตรงกันขามกับที่เขาเคยเห็นมาโดยสิ้นเชิง ตํ ารวจทหารที่มารักษาความปลอดภัยตะเบะกันพรึ่บพรั่บ เลยจากแถวขาราชการ จอมพลถนอมเดินมายังแถวชาวบานที่ยืนรออยู ผูหญิงคนหนึ่งที่ยืนอยูกอนจอนิ ถือชอดอกไมชอโต รีบกาวออกไปมอบชอดอกไม ชาวบานชายอีกกลุมหนึ่งเอาตะกราพืชผลออกไปมอบให จอนิยื่นหนามองเห็นจอมพลถนอมยิ้มใหคนที่มอบของให คนแลวคนเลา กลุมแลวกลุมเลา จอนิและชาวบานถูกจัดไวเปนกลุมหหลัง ๆ ยื่นมองดูจอมพลถนอมจนคอยาว เพราะกลัวเขาจะเดินมาไมถึง แตในที่สุด เสื้อผาปกาเกอะญออันเปนจุดเดนสะดุดตาของกลุมจอนิก็ทํ าใหผูนํ าของประเทศกาวเขามาอีก ใกลเขาเขามาทุกที

จอนิเอามือดันผูเฒาสองคนจากหมูบานที่เปนตัวแทนยื่นจดหมายรองเรียน ใคร ๆก็บอกกับเขาวา “ตองเอาคนแกจะไดดูนาเห็นใจ” ผูเฒายื่นมือออกไปขางหนา จดหมายรองเรียนในมือพลอยสั่นเทา จอนิรูสึกตื่นเตนนิด ๆ เส้ือสีแดงของชายชาวปกาเกอะญอทํ าใหตํ ารวจทหารที่เดินตามมามีทาทีขมึงตึงขึ้น คนที่เดินตามมาขาง ๆนายกรัฐมนตรีกระซิบกระซาบ จอนิไดยินแวว ๆ “พวกกะเหรี่ยงครับ ฯพณฯทาน” แมจะเปนเพียงเสียงเบา ๆ แตจอนิก็รูสึกไดทันทีถึงบรรยากาศสองประการที่เกิดข้ึนในขณะน้ัน บรรยากาศแรกเปนความแปลกแยกที่ดึงตัวเขาใหตางไปจากคนที่ยืนอยูโดยรอบ คลายกับวาเขาเปนอีกกลุมหน่ึงท่ีแตกตาง ๆคอนขางไปในทางที่ดอยกวาดวย แตในขณะเดียวกันคํ า

Page 46: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

เดียวกันนี้ก็กลับทํ าใหเกิดบรรยากาศที่นาสนใจขึ้นมาในฉับพลัน เพราะนัยนตาของนายกรัฐมนตรีเปนประกายสนใจ “มีอะไรรึ” จอนิไดยินคํ าภาษาไทยดังออกมาจากปากของนายกรัฐมนตรี เขาฟงออกแและเตรียมตอบประโยคท่ีตั้งใจไว แตยังไมทันที่เขาจะเอยออกมาใครคนหนึ่งที่ยืนอยูขาง ๆนายกรัฐมนตรีก็ชิงพูดขึ้น “พวกยางบานหนองเตายื่นหนังสือรองเรียนครับ” จอนิไมคอยชอบค ําวา”พวกยาง”เทาไหรนัก แตเขาไมมีทางเลือก นายกรัฐมนตรีถามอกีวา “เรื่องอะไรละ” ใครคนหน่ึงทํ าตาคาดคั้นใสผูเฒาที่อยูขางหนา ผูเฒาอกึอักไมอาจพูดเปนภาษาไทยจอนิผูมาเปนลามพลอยอึกอักไปดวย เขาไดยินแวว ๆเหมือนใครที่อยูรายลอมตะคอกเขาวา“ฯพณฯทานถาม ไมไดยินรึ” น่ันแหละจอนิจึงนึกไดวาเขามีหนาท่ีพูดแทนชาวบาน เขาจึงเปลงเสียงออกไปเปนภาษาไทย ภาษาไทยท่ีเขาไมถนัดนักแตเขาก็ม่ันใจวา นายกรัฐมนตรีนาจะฟงออก “เฮาชาวบานหนองเตา มารองเรียนทานนายกรัฐมนตรี ขอใหยกเลิกสัมปทานเหมืองแรดีบุกที่หนองเตา” เขาพูดจบแลว เห็นนายกรัฐมนตรีเลิกคิ้วเปนเชิงถาม เขารูทันทีวานายกรัฐมนตรีฟงเขาไมรูเร่ือง นายอํ าเภอซ่ึงยืนอยูไมหางนักรีบรายงาน “ราษฎรบานหนองเตาครับ กลัววาสัมปทานแรดีบุกจะทับท่ีทํ ากินครับผม” “ง้ันรึ”นายกรัฐมนตรีวา “พวกเฮาเดือดรอนมาก ตอนนี้ก็มีเจาหนาที่สัมปทานเขาไปขุดสํ ารวจดินเปนรู ๆแลว” “อือ”นายกรัฐมนตรีวา “เออถามันเดือดรอนอยางน้ี พวกเธอกลับไปฟงที่บาน ภายในเจ็ดวันจะรูเร่ือง…” จอนิรูสึกแปลกใจที่นายกรัฐมนตรีพูดกับเขาดีกวาพวกเจานายที่เขาไปในหมูบานมากมาย นายกรัฐมนตรีรับจดหมายท่ีผูเฒาย่ืนให สงใหคนที่เดินขาง ๆ แลวหันมาบอกกับจอนิวา“ไปคอยฟงผลนะ เจ็ดวันก็รูเร่ือง” นายกรัฐมนตรีเดินผานไปแลว จอนิไดยินเสียงกระซิบ”พวกยาง ๆ”กอนที่คณะผูนํ าจะเดินผานหนาไป เขาไมไดตามไปดูนายกรัฐมนตรีอีก หากแตเดินเตร็ดเตรอยูในงาน ใครคนหนึ่งบอกวา “นาจะไดผลนะ เพราะนายกรัฐมนตรีดูวาสนใจ”

แมเม่ือย่ืนหนังสือรองเรียนไปแลว จอนิก็ยังไมแนใจอะไรเทาไหร หลังจากน้ันอีกสามวันก็ไมไดเรื่องราวอะไร ไมมีใครสงขาวใด ๆมาทั้งสิ้น แตพอยางเขาวันที่เจ็ด จอนิก็ตะลึงงันเพราะมีชาวบานวิ่งมาบอกวาพวกเหมืองแรเตรียมยายขาวของขนยายเครื่องมือออกไปแลว

Page 47: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

“เฮาทํ าไดส ําเร็จ”จอนิบอกกับชาวบาน อีกไมกี่วันตอมา ทางอํ าเภอก็สงสํ าเนาจดหมายตอบหนังสือรองเรียนจากนายกรัฐมนตรีมาใหผูใหญบาน ผูใหญบานก็ดีอกดีใจใหญ เพราะช่ือเสียงครั้งนี้ตกอยูแกบานหนองเตาคนปกาเกอะญอจากบานหนองเตารองเรียนนายกรัฐมนตรีไดสํ าเร็จ จอนิรูสึกวาโลกนี้ชางควบคุมไดงายดายเหลือเกิน เพียงแคเดินขึ้นเขาลงเขาสักหนอย ขยันเขียนและขยันพูด เขาก็สามารถทํ าไดแลว เขาสามารถตอสูกับสิ่งรุกรานภายนอกไดแลว โดยไมตองใชมีดไลฟนคนแบบลุงสุละแฮ เพียงแตใชสมองคิดไตรตรอง หาคนชวย และใชมือเขียนจดหมาย จอนิรูสึกขอบคุณบาทหลวงที่เปดโลกใบใหญนี้ใหเขา และขอบคุณครูท่ีเขียนจดหมาย และขอบคุณเจาหนาท่ีราชการท่ีแนะนํ าใหเขายื่นหนังสือตอจอมพลถนอม ทุกคนเหลานี้ชวยใหการทํ างานคร้ังแรกสํ าหรับหมูบานของเขาสํ าเร็จลงดวยดี “เฮาจะต้ังเจาเปนผูชวย” ผูใหญบานบุเงบอก “เฮาก็ชวยอยูแลว..”จอนิวา “นั่นแหละ เฮาจะบอกใคร ๆวาเจาเปนผูชวยเฮา” งานของจอนิจึงมากข้ึนอีก เวลาที่จะชวยรีมูดูและลูกแทบจะไมเหลือ จอนิเลาถึงเรื่องนี้วา“ตอนนั้นผมไดใจเลยละ พอย่ืนเร่ืองถึงนายกรัฐมนตรีคร้ังแรกก็สํ าเร็จแลว ก็เลยไดใจ”

Page 48: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

บทท่ี ๘ คนแปลกหนา

แมจอนิจะเปล่ียนไปนับถือคริสตศาสนาตามพอและเครือญาติ แตในหมูบานก็ยังมีคนนับถือพุทธศาสนา และผีอยูเชนเดิม ในหมูบานจึงมีทั้งโบสถ วัด และมีฮีโขประกอบพิธีทางผีแตไมวาใครจะเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอะไร ความเชื่อเรื่องผีก็ดูจะฝงอยูในจิตใจของชาวปกาเกอะญอเสียแลว ดังน้ันไมวาจะทํ าบุญกับพระหรือสวดมนตภาวนากับพระเจา ชาวบานก็มักจะไหวผีควบคูกันไปดวย

เมื่อมีผูถามวา “คนปกาเกอะญอคนละศาสนาน่ีไมมีขัดแยงกนัเลยหรือคะ”“มีบาง”จอนิวา “ก็พูดกันวากันบาง แตไมเคยทะเลาะกันใหญโต”ภาพพระเดินบิณฑบาตในหมูบานหนองเตาและหยุดยืนคุยกับคนที่นับถือคริสตจึงเปน

เรื่องธรรมดา ในขณะเดียวกันภาพคนที่นับถือศาสนาทั้งสองศาสนาไหวผี หรือรวมอยูในพิธีกรรมไหวผีก็เปนเรื่องธรรมดาอีกเชนกัน

ไมมีคนแปลกหนาอยูในหมูบานหนองเตา เพราะทุกคนแทบจะเปนพี่นองกันหมด นานๆครั้งจะมีคนนอกหมูบานขึ้นมาคาขาย เปนแบบพอคาเร แตแลวจู ๆวันหนึ่ง ก็มีคนแปลกหนาคนหนึ่งขึ้นมา และเขามาอยูในหมูบานหนองเตาอยางเปนการถาวร

เขาจึงกลายเปนคนหน่ึง คนเดียวเทานั้นที่จอนิเห็นวา เปนคนแปลกแยกของหมูบาน ไมใชญาติและไมใชมิตร เขาคือพอคา นายทุนที่ขึ้นมาเปดรานคาอยูที่หมูบานหนองเตา ขายสินคาทุกอยางแบบรานเอนกประสงคทั่วไป

เขามีช่ือวา “เจกตั๊ง”รานคาเจกต๊ังต้ังอยูในหมูบานได เพราะเขามากับฮีโข(ผูนํ าทางจิตของชาวบาน) ฮีโข

คนนั้นติดฝน และอนุญาตใหเจ็กตั๊งเขามาอยูเพราะคิดวาการที่เจกตั้งขึ้นมาอยูดวยก็จะมีผลประโยชนเร่ืองฝนน่ันเอง

ทันทีท่ีเปดรานคา เจกตั๊งก็ดูดเงินจากบานหนองเตาไปราวกับมีการติดตั้งเครื่องสูบนํ้ าขนาดใหญ และมีสายดูดมหึมา หนองเตาก็คือหนองน้ํ าอนัอุดมสมบูรณท่ีชายแปลกหนาคนน้ีหยอนสินคาของเขาลงมาแทนเหยื่อลอ

หากรานคายอย ๆ แหงน้ีมีทุกอยางท่ีแบบท่ีมนุษยจํ าเปนตองใชในชีวิต จอนิก็คงไมเจ็บใจเทานี้ แตนี่ลวนมีสิ่งเกินความจํ าเปน จอนิไมชอบ แตจอนิไมพูด เขาไปรานคา แตใชเงินนอยที่สุด

สิ่งที่จอนิและชาวบานซื้อเปนประจํ าคือ ขาวสาร ยา บุหร่ี และอื่น ๆอีกมากมายที่จอนิเรียกวา “ของสะเปะสะปะ” ทั้งที่ของเหลานั้นแพงกวาซื้อขางลางถึงสามเทา

จอนิเคยนั่งอยูที่รานและสังเกตวา ใครมาซ้ืออะไร ผูชายพยายามทดลองยาสูบเกล็ดทองและพระจันทร ในขณะท่ีผูหญิงพยายามทดลองเครื่องตกแตงความงาม แปงทาหนา สบู จนแมกระท่ังสีทาปากทาแกม

Page 49: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

“รีมูอยาไปซ้ือนะ..”เขาเคยหามเมีย “ของฟุมเฟอย ผูหญิงปกาเกอะญอไมตองทาปากกับสีฝรั่งหรอก”

“ใช”รีมูหัวเราะ “เฮามีดอกกลวยปาสีเหลืองทาปากกับใบไมที่เอามาขยี้ทาแทนแปงฝุนก็พอแลว”

เสียงรีมูคลายประชดนิด ๆ แตจอนิรูดีวา รีมูไมไดต้ังใจขนาดน้ันจอนิเฝามองดูเจกตั๊งเขามาอยูในหมูบาน ตั้งแตเขาเปนหนุมนอย ๆจนกระท่ังแตงงาน

กับรีมู สถานการณในหมูบานก็ยังเหมือนเดิมคือเจกตั๊งรวยเอา ๆ และชาวบานจนลง ๆ จอนิยิ่งออกไปสูโลกภายนอกมาก เขาก็ยิ่งเห็นและรูเทาทันเลหกลตาง ๆ ของพอคาคนน้ี เขาเจ็บใจท่ีเจกตั๊งคนนี้เปนนายทุนที่ทํ าตัวเปนทากดูดเลือดชาวบานหนองเตาโดยชาวบานไมรูตัว

จอนิเลาวา“เวลามันใหยืมขาวนะ มันใหยืมถังหน่ึงก็ตองจายคืนมัน ๓ ถัง ถายืมเงิน ๑๐๐ บาทก็

ตองจายคืน ๓๐๐ บาท มันเอากํ าไรเปนสองรอยบาท”จอนิในวัยย่ีสิบเศษ ผูผานการเรียนรูโลกกวางมาจากโรงเรียนคริสตเริ่มแนะนํ าชาวบาน

จากรายหน่ึงสูอีกรายหน่ึง“แพงไป..เจกต๊ังเอาเปรียบเฮาน่ี” รายหน่ึงพยายามเอาคํ าของจอนิไปยืนยันเย็นวันนั้น ทุกคนในหมูบานไดยินเสียงปนดังมาจากรานเจกต๊ัง หลายคนวิ่งออกจาก

บานและตรงไปท่ีรานคา“มีอะไร ๆ”ชาวบานคนที่บอกกับเจกตั๊งวา เขาขอกูเงินแตเจกตั๊งคิดดอกแพงเกินไปยืนหนาซีดอยูที่

หนาราน มีเจกตั๊งถือปนยันจังกาอยูพอเฒาเดินเขาไปถาม“ทํ าไมละ”เจกตั๊งทํ าตายิบ ๆมองดูชาวบาน เชิดหนาข้ึนหย่ิง ๆ แลวถามเสียงดังกังวานวา“นี่รานของอั๊ว ใครจะซ้ือของอั๊ว กูเงินอั๊ว ก็ตองทํ าตามกติกาของอั๊ว”ชาวบานคอย ๆเลี่ยงไปจากรานทีละคน รวมทั้งคนที่ไปขอกูเงินดวย เขาเดินหนาเศรา

มาหาจอนิ และจอนิตองใหรีมูแบงขาวสารในครัวไปใหจอนิโกรธ แตเขาไมแสดงตัว ในใจของเขาคุนคิดอยูตลอดเวลาวา คนแบบนี้ไมสมควร

จะอยูในหมูบานคนท่ีแปลกท้ังหนาและแปลกท้ังชีวิต คนท่ีไมมีหัวใจเหมือนปกาเกอะญอ ไมสมควรอยูกับปกาเกอะญอ

คืนน้ัน จอนินอนฝนสับสนปนเปตลอดคืนอีกไมกี่วันตอมา จอนิก็ไดยินวา เจกตั๊งเอาปนไลยิงชาวบานคนหนึ่งที่ไปซื้อของ ชาว

บานวิ่งหนีกลับบาน เจกตั๊งก็เหิมเกริมถึงขนาดวิ่งไลไปจนจรดตีนบันไดบานของคนผูนั้น จอนิฟงเรื่องเลาครั้งนี้ดวยความเจ็บปวดขึ้นไปอีก

Page 50: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

จอนิในวัยหนุม เพิ่งเริ่มครอบครัวใหม แมจะโกรธปานใด แตเขาก็เปนหวงลูกและเมียเขากลัววาจะตายเสียตั้งแตลูกยังเล็ก ๆ ภาพท่ีเขาฝนถึงแมและแมถามเขาวา ทํ าไมไมไปอยูกับแม ยังติดอยูในความทรงจํ า หากเขาตายไป รีมูก็ตองเลี้ยงลูกอยูคนเดียว

เขานึกถึงทาบทหน่ึงข้ึนมาทันทีแล กือ หนอ แกล หม่ือ เตอ เกแกล หม่ือ เดาะ ชา ฮอ โข เบลอยาไปกับนางทางเสนใหญนะเพราะทางเสนใหญน้ันอาจล่ืนได

บทกวีบทน้ีเปนคํ าเตือนไมใหประมาท ทางเสนใหญอาจหมายถึงภารกิจการงานท่ีดูเปนเร่ืองงาย แตมีอันตรายแอบแฝงอยู

เขาจึงตองระมัดระวังการเดินทุกยางกาว จอนิจึงไมแสดงตัว หากแตเขาก็ยังพูดไปเรื่อย ๆ “เฮาไปเรียนกับบาทหลวงมานะ มีอะไรอีกหลายอยางท่ีเฮาไมรู เฮาจึงถูกเอาเปรียบเจกตั๊งคนนี้เอาเปรียบพวกเฮามากเกินไปแลว วิธีที่ดีที่สุดพยายามอยาไปซื้อของหรือเปนหนี้เจกตั๊ง”

คํ าขอรองของจอนิคงปฏิบัติไมไดงาย ๆสํ าหรับชาวบานที่แทบจะแขวนชีวิตไวกับรานคาทุกอยางไดมากอนและจายคืนทีหลังทั้งนั้น ดังน้ัน เจกตั๊งจึงยังคงขายของตอไป ยุงขาวของเจกตั๊งนั้นมีขนาดใหญโตมโหฬาร เพราะเวลาที่ชาวบานเอาขาวมาขายเจกตั๊งนั้น เจกต้ังรับซ้ือถังละ ๓ บาท แตเมื่อใครก็ตามมาซื้อขาวไปกินนั้น เจกตั๊งขายถังละ ๑๒ บาท หรือบางคร้ังอาจถึง ๑๕ บาท ดังน้ัน ขาวทุกถังที่เจกตั๊งซื้อจากชาวบาน เขาจึงไดก ําไรถึง ๔ เทา

ชาวบานยิ่งจน เจกตั๊งก็ยิ่งรวย ย่ิงพูดจอนิก็ย่ิงไดยินเร่ืองคนเปนหน้ี เขาก็ย่ิงหยุดไมไดชาวบานที่รูวาตัวเองถูกเอาเปรียบมีจํ านวนมากข้ึนเร่ือยๆ หนองเตาไมใชหมูบานใหญ และสวนใหญเปนญาติกัน ดังน้ัน ทุกคนจึงรูสึกโกรธท่ีถูกเอาเปรียบมากเกินไป

“เฮายอมบได”ใครสักคนหนึ่งเปนตัวตั้งตัวตี ออกโรงดวยเสียงอันดังกวาคนอื่น เพียงแคชั่วขามคืน

ตํ ารวจคนหนึ่งก็ขึ้นมาจนถึงหมูบานหนองเตา เด็กชายคนหนึ่งวิ่งมาบอกกับจอนิ“เจานายมาแลว เจานายมาแลว”“เจานายอะไร”“ตํ ารวจ”จอนิน่ิงเงียบ ตํ ารวจคือสัญญาณอันตรายที่ชัดเจนขึ้นไปอีก เจาหนาที่ของรัฐผูมีเคร่ือง

แบบและมีปนมานั่งอยูที่รานคา และพูดจาขมขูปกาเกอะญอทุกคนที่เขาไปในราน“แสบนักรึ พวกมึง พวกโง พวกควาย”หลายคนฟงภาษาไทยไมออก แตจอนิรู เจกตั๊งเหลือบมองจอนิ จอนิไมรูวาเขารูหรือ

เปลาวาจอนิเปนตัวตั้งตัวตี แตจอนิก็ไมเคยยืมเงินเจกตั๊ง และไมอยูในสถานะท่ีเจกต๊ังจะขมขูเอาตามใจ

Page 51: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

ตํ ารวจกลับลงไปแลว เจกตั๊งตะโกนดาชาวบานไปอีกหลายวัน จอนิจํ าค ําดานั้นไดเพราะมันลวนเปนคํ าท่ีทํ าใหเขาสะเทือนใจ

“ไอพวกยางพวกนี้มันโง มันขี้คราน ตอนนี้เราไมกลัว พวกมันอยูในอุงมือเราโมด..”จอนิรูสึกวา งานนี้ไมใชเรื่องเล็ก ๆ เสียแลว เขากลับบานสวดออนวอนพระเจา เขา

ไหวพระพุทธเจา ไหวผี ไหวเทวดา ไหวใครก็ไดที่อยูเหนือเขาขึ้นไป ขอใหชวยชาวบานหนองเตา ชวยใหเขาคิดออกดวยเถิด …

เทวดาหรือศาสดาองคไหนไดยินเขาไมรู เขารูแตวา ในเดือนนั้น โอกาสอันคาดไมถึง ก็ลอยมาตรงหนาเขาพอดี

“เจานาย”จากพื้นราบข้ึนมาอีกแลว แตคราวนี้เปนหนวยงานที่ชื่อวา เจาหนาท่ีประชาสงเคราะห ของกรมประชาสงเคราะห ซ่ึงรับผดิชอบเร่ืองของชาวเขาโดยตรง พอไดยินวาเจานายข้ึนมาเทาน้ัน จอนิก็ตัดสินใจไดในทันที

เขาเดินไปชวนเพื่อนบาน และญาติพี่นองรวมแลวเกือบสิบคน“ไปชวยกันรองหนอย…เราตองไลไอพอคานั่นไปใหได”นายทุนใหญทํ าเหมืองแร เขายังพาพวกไปรองเรียนรัฐมนตรีจนประสบความสํ าเร็จมา

แลว ประสาอะไรกับนายทุนเล็ก ๆคนหน่ึง การไดรับชัยชนะในคร้ังกอนทํ าใหจอนิรูสึกลํ าพองใจเขาจึงชวนชาวบานไปรวมตัวกันอีกคร้ัง

เจาหนาที่ประชาสงเคราะหมาอยูที่บานผูใหญ เขามาส ํารวจขอมูลชาวเขาเหมือนที่เคยมา มาดูแล มาถามทุกขสุข แมบางคร้ังจะดูเนือย ๆ แตก็เปนเจานายที่ดี

จอนิ รีบเขาไปปรึกษา โดยมีชาวบานนั่งอยูดวยหลายคน“ผมอยากใหชวยพวกเราหนอย”จอนิบอกกับเจาหนาที่ประชาสงเคราะหทาทางใจดีคน

น้ัน “ผมมีเรื่องจะปรึกษา”เจาหนาที่ประชาสงเคราะหคนนั้นหัวเราะ บอกกับจอนิวา“ผมไมไดดูแลพวกคุณนะ…ผมดูแลหมูบานอื่น วันนี้ขึ้นมาเที่ยว”ชาวบานทํ าหนาผิดหวัง ตางแยกยายกันกลับบาน จอนิรูสึกเสียใจ พระเจาเลนตลกกับ

เขาอีกแลวโดยการสงประชาสงเคราะหที่ไมไดรับผิดชอบหนองเตาขึ้นมา พระเจาไมตองการชวยเขาแกปญหาหรืออยางไร จอนินอนคิดตลอดคืนจนปวดหัว แตพอรุงเชาเขาก็ไดยินขาวใหมท่ีทํ าใหตื่นเตน

“เจานายคนน้ันทะเลาะกับเจกต๊ัง”“เรื่องอะไรละ”จอนิถาม“ไมรู..เจานายไปกินเหลาที่รานมัน”ตอนสาย ๆ เขาเดินไปหาเจานายประชาสงเคราะหที่บานผูใหญ เจานายบอกเขาวา

“เออ..เห็นใจ เอาจดหมายมาจะชวยเขียนให”จอนิดีใจจนเน้ือเตน ที่ตลกไปกวานั้นคือเจานายบอกเขาวา

Page 52: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

“นี่ที่ผมกลาเขียนให เพราะผมไมไดรับผิดชอบเขตคุณนะ..”จอนิมึนงง แตความดีใจทํ าใหเขาไมสนใจจะคิดวาทํ าไมเจานายจึงคดิแบบน้ัน

เจาหนาท่ีประชาสงเคราะหเขียนจดหมายรองเรียนใหจอนิและชาวบาน เปนจดหมายถึงนายกรัฐมนตรี ขอใหไลเจกตั๊งออกจากหมูบาน เพราะเปนพอคาคนกลางท่ีเอารัดเอาเปรียบชาวบาน โดยมีตํ ารวจที่ขึ้นมาชวยพอคาขมขูชาวบานก็ถูกระบุชื่อดวย โดยมีชาวบานหนองเตาหมูบานโดยรอบไดแก แมสะปอก ขุนวาง โปงลมแรง รวมลงช่ือดวยประมาณ ๒๐ คน

คราวน้ีจอนิรูดีวา นายกรัฐมนตรีไมมาเปดงานท่ีเชียงใหมอีกแลว เขาจึงยังนึกไมออกวาจะไปยื่นจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีไดที่ไหน เขานึกถึงนายอ ําเภอแตก็ไมคอยแนใจเทาไหรนักจนกระท่ังวันหน่ึง เขาฟงวิทยุกรมประชาสัมพันธ และไดยินเสียงของนักจัดรายการที่พูดเปนภาษาปกาเกอะญอ เขานึกออกทันทีวา เขาควรจะเริ่มตนที่ไหน

จอนิรวบรวมชาวบานไดกวา ๒๐ คนออกเดินทางไปสถานีวิทยุกรมประชาสัมพันธ ผูจัดรายการเคยเปนอดีตตํ ารวจตระเวนชายแดนและรูภาษาปกาเกอะญอเปนอยางดี ถึงระดับจัดรายการวิทยุเปนภาษาปกาเกอะญอได เขาออกมาตอนรับชาวปกาเกอะญอผูเดือดรอนอยางอบอุนและทํ าใหเปนขาวในวิทยุในเวลาอันรวดเร็ว แถมยังตอเนื่องไปเปนขาวลงในหนังสือพิมพทองถิ่นสองฉบับคือ หนังสือพิมพถิ่นไทย และหนังสือพิมพคนเมืองอีกดวย จอนิรูสึกวา ติลูลาของเขาคราวนี้มีเพื่อนมากเหลือเกิน

การรองเรียนของจอนิและชาวบานทํ าใหหนวยราชการโกลาหลกันใหญ ทุกหนวยท่ีรับผิดชอบตางรีบเขามาแกปญหา เพราะการรองเรียนของชาวเขาทํ าใหภาพของขาราชการเสียหายหลายหนวย โดยเฉพาะอยางย่ิงต ํารวจ มีการระบุช่ือดวย มีการต้ังคณะกรรมการข้ึนสอบสวนขอเท็จจริง จอนิและชาวบานตองไปใหการตอคณะกรรมการดังกลาว “เรื่องใหญเลย”จอนิวา “ฝนวาอะไรละคราวน้ี” จอนิหัวเราะ “ฝนวาควายชนกัน ควายชนกันใหญเลย นี่ละเรื่องคดีความ” วันแรกของการไปใหการที่กองกํ ากบัการตํ ารวจภูธรภาค ๕ ในเมืองเชียงใหม วันแรกของการไปใหการ ชาวบานหนองเตา ๒๐ คนรูสึกคึกคัก ตางรูสึกวาไดตอสูเพื่อประโยชนของสวนรวม ผูใหญบาน ผูนํ าหมูบานเปนหนึ่งใน ๒๐ คนนั้นดวย ทุกคนแตงตัวกันดวยเสื้อผาชุดที่ใหมท่ีสุด ออกเดินทางกันตั้งแตเชามืดประมาณตีสี่ ถึงบานกาดก็นอนท่ีน่ันหน่ึงวัน และเชาวันรุงขึ้นจึงขึ้นรถไปในเมือง หลังใหการเสร็จแลวก็นั่งรถขึ้นมาบานกาด และคางที่บานกาดกันอีกหนึ่งคืน แลวรุงเชาจึงเดินทางกลับหมูบาน เปนการเดินทางท่ีทรหดอดทนย่ิง “คาโดยสารรถก็คนละ ๖ บาทตอเที่ยว ไปกลับก็ ๑๒ บาทแลว” จอนิบอกดวยน้ํ าเสียงขํ า ๆ”ลํ าบากดวย เสียเงินดวย เดินทางคร้ังหน่ึงรับจางเล่ือยไมไดมา ๑๐๐ บาทก็หมด”

Page 53: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

“แตก็ทํ า” “ไมใช ก็ทํ า”จอนิวา “ตองทํ า” นอกจากน้ี พวกชาวบานหนองเตายังไดเผชิญกับปญหาใหม การแตงตัวและภาษาของพวกเขา ไมแปลกตาเทาไหรสํ าหรับคนภูเขาดวยกัน แตเมื่อคาราวานของพวกเขาเคลื่อนขบวนข้ึนรถ และลงมาเดินเรียงแถวอยูบนถนนคอนกรีตในเมืองเชียงใหม ใน พ.ศ. ๒๕๑๗ นับเปนภาพแปลกตาสํ าหรับชาวเมืองเชียงใหมเปนอยางยิ่ง

ทุกคนตื่นเตนกับทุกสิ่งทุกอยางที่เห็น มีจอนิคนเดียวที่ไมตื่นเตนและคอยบอกทุกคนวาควรจะทํ าอยางไร มีบางคนหงุดหงิดเม่ือมีคนหยุดดู บางคนกลัวและแทบไมอยากเดินตอ จอนิตองคอยใหกํ าลังใจ ดวยประโยคที่เขาเคยไดฟงมากอนตั้งแตสมัยเรียนกับบาทหลวง

“เฮาก็มีสองแขนสองมือเหมือนกับเขา”การพิจารณาสอบสวนของคณะกรรมการจบลงและมีรายละเอียดเปนอยางไรจอนิไมได

เห็นเอกสาร เขารูแตวา มีเจาหนาที่ตํ ารวจมาบอกกับเขาวา“จะสงเรื่องฟองศาลแพงให และจะตัง้ทนายให”จอนิเปนตัวแทนของผูเดือดรอน ส่ิงใดท่ีเปนการทํ าใหความเดือดรอนของพวกเขา

บรรเทาลง เขารับฟงและใหความรวมมือ ดังน้ัน เขาจึงตองขึ้น ๆลง ๆระหวางบานกับกองกํ ากับการตํ ารวจภูธรอยูหลายครั้งหลายหน การเดินทางท่ียากลํ าบาก และชีวิตที่ตองทํ ามาหากิน ทํ าใหเพื่อนบานจาก ๒๐ คน คอย ๆลดลง ๆจนเหลือจอนิกับเพื่อน ๒ คน และทายสุดเหลือจอนิเพียงคนเดียว

“เฮาไมไหวแลว…ขอโทษดวย”จอนิมองดูเพื่อนเดินออกจากบานไปอยางสะทอนใจ เขาก็อยากทํ าแบบเดียวกับเพื่อน

เพราะเขาก็ตองกินตองอยูไมตางกัน คาจางแรงงานรายวัน วันละสิบยี่สิบบาทก็ความหมายตอเขาเชนเดียวกัน บางครั้งเขาก็รูวารีมูกับลูกก็ตองการเงิน แตเขาก็ตองเลือกเอาวา เขาจะไปตอสูเพื่อความยุติธรรมของชีวิต หรือไปรับจางเอาคาแรง

ถาเขาไปทํ างานรับจาง เขาก็ไดคาแรงมา วันน้ีลูกกับเมียก็สบายข้ึนทันตาเห็น แตถาเขาไปตอสู วันน้ีลูกกับเมียอาจยากลํ าบาก แตเขาก็อาจจะไดชัยชนะ และวันขางหนาไมใชแตลูกเมียของเขาเทาน้ันท่ีสุขสบายข้ึนทันตาเห็น หากแตชาวบานหนองเตาก็จะสบายขึ้นทันตาเห็นดวย

จอนิจึงเลือกไปใหการท่ีอาจเปนชัยชนะของคนจํ านวนมาก แมวาครอบครัวเขาในวันน้ีจะตองยอมพายแพตอการกินดีอยูดีไปกอนก็ตาม รีมูอาจไมเห็นดวยเทาไหรนัก แตเธอก็ไมเคยคัดคาน จอนิรูแลววาเขาเลือกขวัญของบานถูกคน เขาจึงเดินลงจากเขาไปอยางเต็มใจ แมจะไปคนเดียวก็ตาม

ในท่ีสุด ชาวบานหนองเตาก็ชนะ เจกตั๊งตองยายออกจากหมูบาน และตํ ารวจคนน้ันถูกลงโทษตามระเบียบของทางราชการ ชาวบานหนองเตาดีอกดีใจ เจกตั๊งเสียอกเสียใจ จอนิไม

Page 54: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

ไดไปยืนดูภาพแหงชัยชนะ เขาไมตองการเปนศัตรูกับเจกตั๊ง แตเขาเปนศัตรูกับพฤติกรรมการเอารัดเอาเปรียบของเจกตั๊ง

“หลังจากน้ัน เจกตั๊งคนนั้นก็ออกจากหมูบานไปขายของอยูที่อื่น แตไมไดอยูที่บานหนองเตา”จอนิวา

“เคยเจอกันไหมคะ”“เจอ”จอนิตอบ“พูดกันม้ัย”จอนิพยักหนา “ก็พูดกันอยู แตในใจเขาจะคิดอะไรผมไมรู”“แตตอนนี้เขาตายไปแลว”“พะตีไปงานศพเขาหรือเปลา”“ไป”จอนิตอบ “เฮาถือวา เฮาทะเลาะกันเพราะมันเอาเปรียบเฮา ไมไดเปนเร่ืองสวนตัว”“ดีจัง”จอนิย้ิม “ตอนนี้อาจจะดี แตในอดีตแลวเฮาถือวามันเปนเรื่องเกาที่นาปวดหัวที่สุดครั้ง

หน่ึงในชีวิต”น่ันคือ คํ าพูดสรุปของปกาเกอะญอคนหนึ่งที่เกิดมาเพื่อที่จะเปนผูนํ าโดยแทจริง

Page 55: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

บทท่ี ๙ หลังชัยชนะ

ความสุขจากการไดชัยชนะคร้ังท่ีสองปรากฏอยูเพียงช่ัวครูช่ัวยาม เพราะผานไปไมถึงเดือนปญหาใหมก็ตามมา เปนปญหาที่แมคาดการณไวบางแลวแตจอนิก็นึกไมถึง เชาวันนั้นเขาเดินไปไรและสวนกับเพื่อนบานคนหนึ่ง ผูเปนที่รูกันวามีชีวิตขัดสน

“เพราะแกทีเดียว จอนิ”จอนิยืนงง“มีอะไรรึ”เขาถาม“แกทํ าใหเราลํ าบากไปกวาเดิม แกไปไลเจกตั๊งออกจากหมูบาน แลวแกมีปญญาใหฉัน

ยืมขาวม้ัยละ”จอนิพูดไมออก แตคนหมดหนทางก็ยังพูดตอ“เงินก็ไมใหยืม ขาวก็ไมมีใหยืม แกนึกวาแกเปนใครมาจากไหน มาไลเจกตั๊งออกไป

แลวปลอยใหพวกเฮาอด ๆอยาก ๆ”จอนิยังยืนน่ิงอยู“เฮาทํ าเพื่อคนสวนใหญ”เพื่อนบานผูอดโซหัวเราะจนเสียงหลง“คนสวนใหญ ออ น่ีนึกวามีฉันคนเดียวท่ีไมมีขาวจะกินรึ โนน แกเดินไปถามดูไดเลย มี

อีกหลายคนที่เขาก็คิดเหมือนฉันนี่แหละ…ไมรูวาแกมายุงทํ าไม “เพื่อนบานเดินหางออกไปแลว เสียงกนวาคอย ๆจางหายไปในอากาศ แตหัวใจของจอ

นิกลับปวดราวอยางไมเคยเปนมากอน เขายืนนิ่งอยูพักใหญกวาจะทํ าใจใหสงบกับสิ่งที่ไดยินไดไมใชเขาหรอกหรือที่เห็นวา ชาวบานถูกเอาเปรียบ ไมใชเขาหรอกหรือที่ตองไปออนวอนขอรองใหเจาหนาท่ีประชาสงเคราะห ชวยเขียนจดหมายให ไมใชเขาดอกหรือที่สูอดทนเดินทางดวยความยากล ําบาก นับแตนํ าจดหมายไปรองเรียน จนกระท่ังถึงการไปตอสูใหการ เขาซ่ึงสูจนแมเหลืออยูเพียงคนเดียว แตแลวเขากลับไดรับผลตอบแทนเชนนี้เองหรือ

จอนิเดินเร่ือยไปจนเขาไปในปาใหญ เขาตองการท่ีสงบเงียบสํ าหรับการครุนคิดไตรตรองถึงสิ่งที่กํ าลังเกิดขึ้น เดินไปสักพัก เขาก็นึกขํ าขึ้นมาวา น่ีถารีมูรูวา เขาถูกดาอยางไรเธอคงหัวเราะเยาะเขาแนนอน

ปาเกอเนอพาปรากฏอยูตรงหนา จอนิแหงนหนาขึ้นมองตนกอสูงใหญ เหมือนจะเรียกเอากํ าลังใจ แลวกมลงเก็บลูกกอขึ้นมากวางออกไปไกลสุดแรง เขาจะไมเปนเพียงลูกกอที่งอกอยูแคโคนตน แตจะตองเปนลูกกอที่กระเด็นไกล งอกและแผรมเงาใหเกิดเปนปาใหจงได

จอนิเผชิญกับปญหาที่ถูกกลาวหาวาไลนายทุนออกจากหมูบานอยูเงียบ ๆ แมจะเจ็บปวดเพียงใด แตเขาก็ไมเคยหันหลังใหปญหาของหมูบาน ชาวบานตองไปซ้ือขาวเจกตั๊งเพราะอะไร จอนิตั่งค ําถามกับตัวเองตลอดเวลา เพราะขาวท่ีทํ าเองไมพอกิน ใชหรือไม

Page 56: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

เชาวันหน่ึง ขณะเดินไปตามนาขาว พลางคิดวา ถาคนมีขาวกินไปตลอดป ก็ไมจํ าเปนตองใชเงิน อาหารผักหญาก็หาเอาได นกหนูปูปลาก็มีกิน ดังน้ัน หนทางเดียวก็คือ ตองปลูกขาวใหพอกินตลอดป ชาวบานหนองเตาในตอนนี้มีปญหาตองหยิบยืมเงินนายทุนก็เพราะมีขาวไมพอกิน

คนทํ านาไมพอกิน เพราะทํ านานอย ไดขาวนอย ดังน้ัน ถาบานแตหลังทํ านาใหมากข้ึนเก็บขาวใหกินไดตลอดป ก็จะไมเดือดรอนจนตองหยิบยืมเงินแนนอน

จอนิมองดูชาวบานที่มารวมตัวกันอยางมีความหวัง เขาพูดถึงเรื่องขาวไมพอกิน“เฮาถูกตอวาวาไลพอคาลงไปแลว ทํ าใหคนบานเฮาบมีขาวกิน”แมไมมีใครตอบวา”ใช”แตจอนิก็เห็นประกายบางอยางในดวงตาของคนที่แมเปนมิตรรัก“เฮาไมมีขาวกินเพราะเฮาเก็บขาวไวบพอ”ทุกคนน่ิงฟง“ผูเฒาสั่งสอนไว จํ าไดบ

บือ คลี โอ ด ิเตอ แยว จึตะ คิว นา เก สะ เตะ อะเมล็ดขาวเชื้อเหลือคนละหนึ่งกํ ามือขาวของแพงก็ไมตองเปนหวง”

“ถาเฮามีขาวพอกินตลอดป เฮาก็บตองเดือดฮอน พวกเฮาจึงจองทํ านาปลูกขาวใหมากข้ึน ทํ าคนเดียวบไหวก็ตองชวยกันทํ า ชวยกันลงแรง เฮาอยากใหพวกเฮาจํ าใสไจไววา เราตองทํ านาผูอื่นใหเหมือนนาของเรา นั่นแหละ เฮาจึงจะมีขาวกิน”

นัยนตาของบางคนอาจจะมีแววสงสัย จอนิจึงย้ํ าวา“เฮาตองพึ่งตัวเฮาเอง อยาไปหวังพึ่งพอคา”คราวน้ีจอนิเห็นหลายคนย้ิมออกมาแบบถูกใจนับแตวันที่จอนิเสนอความเห็นเปนตนมา ชาวบานก็ดูรวมใจกันมากขึ้น การรวมใจ

กันลงแรงทํ านาใหคนอื่นเราวกับเปนนาของตัวเอง นอกจากจะทํ าใหไดผลิตผลที่มากขึ้นกวาเดิมแลว ยังทํ าใหชาวบานหนองเตารักและผูกพันกันมากขึ้น คํ าครหาเสียดสีดาวาเร่ืองไลนายทุนออกไปคอยเบาบางลง แตจอนิก็รูดีวา สักวันหน่ึง ปญหาก็อาจจะเกิดขึ้นอีกได เพราะการทํ านาก็อาจจะไมไดผลผลิตมากทุกปเชนนี้

คืนหน่ึง จอนิฝนเห็นเคร่ืองบิน บินเขามาในหมูบาน จอนิเห็นมันบินฉวัดเฉวียนอยูอยางนากลัวอนัตราย

“หนีเร็ว ๆ “จอนิรองบอกคนอืน่ ๆแตแทนที่ทุกคนจะหนีมันอยางที่เขารองบอก ทุกคนกลับเดินเขาไปหามัน…จอนิสะดุงตื่น เขารูแลววา ฝนคราวนี้จะตองมีเรื่องไมดีเกิดขึ้นในหมูบาน เพียงแตเขา

ไมรูวาเปนอะไรเทาน้ัน เขาไดแตบนกับรีมูวา

Page 57: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

“เครื่องบินนี่มันตัวตัวอะไรหนอ”อีกไมถึงเจ็ดวันตอมา จอนิก็ไดคํ าตอบ เพราะเขาเดินลงไปที่หมูบานแมสะปอก และได

เห็นมันเขาเต็มตา มันกํ าลังไตขึ้นมาตามทางที่เขาเดิน และรองเสียงดังดวย“คะครืน ๆ ๆ ๆ”เจาเครื่องจักรกลมที่เรียกกันวารถแทร็คเตอรกํ าลังยกหนาของมันขึ้นและปาดดินออกไป

ท้ังสองขาง“คะครืน ๆ ๆ ๆ”จอนิยืนมองการทํ างานของรถไถดินอยูพักใหญ ภาพตนไมที่หักโคนตอหนาตอตาทํ าให

เขารูวา บัดน้ีมันไดมาถึงหมูบานของเขาแลวคนคุมรถไถที่ยืนอยูขางทาง บอกกับเขาวา“หลวงจะตัดถนนถึงหมูบานหนองเตาแลวนะ”จอนิพยักหนารับ เขาไมมีความสุขเม่ือไดยิน ภาพถนนในความรูสึกของเขาก็คือ ทางท่ี

แดดรอน ไมมีตนไม และมีหมาตายติดถนนอยู“เขาไมมีทางเลือก เพราะเขาไมไดขอใหมันมา” จอนิบนกับรีมูหงอย ๆตรงกันขามกับชาวบาน ทุกคนลวนตื่นเตนกับถนน หลายคน

เรียกมันวา“ความเจริญ…ความเจริญมาถึงหมูบานเราแลว” หนุม ๆหลายคนขยับตัวขยึกขยักคุยกันฟุงวา “คราวน้ีเฮาจะไดเขาเมืองเสียที” แลวก็ชายตาไปทางสาวๆ ในขณะท่ีสาว ๆเองก็ตื่นเตนพอกัน ผูใหญที่ทํ าไรทํ านาก็ตื่นเตนที่จะไดลงไปหาซื้อปุย น่ังรถมาจนถึงหมูบาน ไมตองลงรถแลวแบกเดินตอมายังหมูบาน ทุกคนตางวางโครงการใชถนนกันถวนหนา ไมมีใครแมสักคนท่ีจะรูวา พวกเขากํ าลงัจะถูกถนนใช

ยกเวนแตจอนิ โอโดเชา คร่ึงหน่ึงจอนิพอใจในความเปล่ียนแปลงท่ีอาจนํ าความสะดวกสบายมาสูหมูบาน แตอีก

ครึ่งหนึ่งของเขาก็คือความตระหนักในความเจริญอันนากลัวนี้ เขาไดยินเร่ืองถนนนํ าคนมาลาสัตวและตัดไมทํ าลายปามาเยอะแลว และเขากลัวเรื่องนี้มากที่สุด

เพียงไมกี่เดือน จอนิก็คนพบวา มีทางเดินเล็ก ๆเกิดขึ้นมากมายในปา และมีคนแปลกหนาเขามาในหมูบานมากจนนาตกใจ เขาเองก็ตองระมัดระวังตัวทุกคร้ังท่ีเขาไปเดินในปาเพราะเขาอาจถูกยิงตายได

ตนไมแตละตนท่ีรวมกันเปนปาดูเงียบเหงา เสียงนกหายไป จอนิเขาไปในปาแตละครั้งรูสึกราวกับวาเขาไดยินเสียงปารองไห ขวัญปา ๓๒ ขวญัเตลิดเปดเปงไปไหนบางเขากยั็งนึกไมออกเลย ผูเฒาหลายคนของหนองเตาหนาเศรา บนแตวา

“ผีปาจะตองลงโทษมัน”แตจนแลวจนรอด คนที่ถูกลงโทษก็กลายเปนสัตวปาและตนไมทุกครั้งไป

Page 58: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

วันที่จอนิเศราที่สุดคือวันที่เขาไดเห็นนายพรานปาชาวมงที่มากับเจานายลากเสือที่ถูกยิงตายขึ้นรถจี๊ปไปตอหนาตอตา

“เสือ”เด็ก ๆหลายคนรองดวยความตื่นเตน เพราะเขาไมเคยเห็นตัวมันมากอน แตจอนิกลับ

ไดยินเปนเสียงคร่ํ าครวญมีปกาเกอะญอบางคนในหมูบาน หาเงินไดดวยการนํ าทางพวกเจานายเขาไปในปา

ครั้นวันดีคืนดีก็มีรถแลนขึ้นมาตัดไมลงไปจนเต็มคันรถชวงหนึ่งที่จอนิทุกขใจมากท่ีสุดคือตอนที่เขาไดยินขาวจากชาวบานหมูบานอื่นบอกกัน

มาวา กระทิงเจ็ดตัวสุดทายของลุมแมวางที่ถือเปนพี่นองของปกาเกอะญอไดถูกคนเมืองมาลาไปแลว ไมนานนักหลังจากน้ัน เขาก็ทุกขหนักหนาสาหัสซ้ํ าสองเมื่อชะนีในปาอนุรักษของหมูบานถูกคนเมืองลาไปหมดส้ินเชนกัน

จอนิไมไดบอกใครวา เขารองไห เขานึกถึงทาบทเศราชะนีตายหน่ึงตัวปาเจ็ดช้ันเศราอาลัยขุนเขาเจ็ดเทือกตองวังเวงนกกกตายหน่ึงตัวไทรเจ็ดตนหมองหมนเงียบเหงาภูดอยเจ็ดเทือกเปลาเปลี่ยวเดียวดาย

จอนิบอกไมไดวาโกรธใคร รัฐบาลที่ตัดถนนเขามา คนเมืองท่ีมาลาสัตว เจานายที่มาดวย ชาวบานท่ีไมมีใครกลาไปหาม หรือโกรธตัวเองที่ไมทํ าอะไรสักอยางเพื่อชวยสัตวและปาถนนไดพาเอาสิ่งที่เรียกวาความเจริญเขามาทํ าลายชีวิตและวิญญาณของชาวปกาเกอะญอเสียจนยับเยิน

ทุกขของจอนิและชาวบานดูจะตอเนื่องไมหยุดหยอน ป ๒๕๑๘ รัฐบาลท่ีปกครองประเทศคอืรัฐบาลของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช รัฐบาลน้ีมี

นโยบายท่ีทํ าใหชนบททั่วประเทศตื่นเตนคึกคักก็คือ นโยบายเงินผัน คํ าท่ัวไปที่ชาวบานเรียกกันก็คือ ”เงินผันคึกฤทธิ์” เงินสวนนี้ลงมาถึงหมูบานจริง แตเมื่อลงมาถึงแลวกลับมีปญหาตางๆมากมาย แตละหมูบานก็มีปญหาตาง ๆกันไป ผูใหญบานหนองเตาก็พลอยเปนไปดวยจู ๆที่บานของผูใหญบานซึ่งเปนนาของรีมูก็กลายเปนรานคาแหงใหมแทนนายทุนเดิม ผูใหญบานมีเงินทุนไปซ้ือขาวมาใหชาวบานกูยืมได

“แพงกวารานเจกตั๊งอีก ยืม ๑๐ ถังตองจาย ๑๖ ถัง” ชาวบานคนหน่ึงบอกกับจอนิ“อยาไปเอาขาวมันสิ”จอนิวา“ขาวเฮายังไมเกี่ยวน่ี..เฮาไปเอาของผูใหญกอน”

Page 59: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

จอนิเฝามองผูใหญบานที่เกี่ยวดองเปนนาดวยความชํ้ าใจ ญาติคนนี้เคยตอสูดวยกันมาแตคร้ังไลนายทุนหนาเลือดลงไปจากหมูบาน แตพอถึงเวลากลับมาตั้งตัวเปนนายทุนหนาเลือดเสียเอง

จอนิครุนคิดอยางหนัก เขาไดเปลี่ยนจากการสูกับนายทุนคนแปลกหนา มาเปนสูกับนายทุนท่ีเปนญาติพ่ีนองแลว ครั้งกอนยังมีชาวบานยืนอยูขางเดียวกับเขาบาง แตคราวน้ีเขาตองจัดการอยางโดดเดี่ยว เพราะชาวบานก็ไมอยากตอสูกับผูใหญบาน

เรื่องการทํ าลายลางปาของคนเมืองและเจานายก็ทํ าเขาอับจนหาทางออกแทบไมไดอยูแลว พอมาเจอเขากับเร่ืองความโลภของผูใหญบานอีก เขาก็ย่ิงรูสึกมืดมน คืนหน่ึง เขาฝนวาผีหัวแดงมาบอกกับเขาวา

“นองชายจะชวยพี่ชายได”ต่ืนข้ึนมา จอนิจึงนึกไดวา บาทหลวงผูเปดโลกของเขาใหกวางออกตั้งแตวัยหนุม นาจะ

ชวยเขาไดในที่สุดเขาตัดสินใจเดินทางไปหาบาทหลวงเซกินน็อตอีกครั้งการเลือกไปคุยกับบาทหลวงถือเปนการเลือกทางออกที่ถูกตอง เพราะบาทหลวงทํ างาน

ใกลชิดกับเจาหนาที่ปราบปรามยาเสพติดแหงชาติ หรือ ป.ป.ส. การขอคํ าปรึกษาของจอนิสอดคลองกับการทํ างานดานการปราบปรามยาเสพติด จอนิตองการเงินทุนเพื่อใหชาวบานกูยืมขาว

“เฮาจะตัง้ธนาคารขาวของชาวบาน”บาทหลวงฟงเรื่องราวที่จอนิเลาใหฟงแลวสนับสนุนทันที“ไมยาก” บาทหลวงวา “ตอนนี้กํ าลังมีโครงการแจกขาวแลกกับการอดฝนกินยา”เขาเสนอแตงตั้งจอนิ โอโดเชา เปนกรรมการคนหนึ่งของหมูบานหวยตอง ป.ป.ส. ไดจัด

สรรงบประมาณใหหมูบานละ ๖,๐๐๐ บาทเพื่อเขาโครงการไมปลูกฝนกินยา หมูบานที่เขาโครงการดังกลาวของ ป.ป.ส.ไดแก หวยตอง แมโอมลอง ฮอด ขุนแปะ และแมวาง จอนิเปนกรรมการในสวนของต ําบลหวยตอง จึงไดแบงเงินมาไดสวนหน่ึง เพื่อมาตั้งธนาคารขาวที่หมูบาน โดยใหชาวบานยืมขาวในอัตรา ๑๐ ถังคืน ๑๒ ถัง

จอนิต้ังกรรมการหมูบานข้ึน และจัดตั้งธนาคารขาวของหมูบานขึ้นที่บานของเขาเอง ในฐานะที่เขาเปนหัวหนาชาวบานฝายแคธอลิค งานนี้ชาวบานพอใจ แตผูใหญบานไมพอใจ

จอนิเลาวา “นาก็โกรธน่ันแหละ“จอนิยอมใหญาติพ่ีนองโกรธ ยอมลํ าบากเดินทางไป ๆมา ๆ ดวยเรื่องที่จะทํ าใหชาว

บานมีขาวกินโดยไมถูกเอาเปรียบจนเกินไป ดวยเหตุผลที่เขาบอกงาย ๆซื่อ ๆวา“ทํ าไมเฮาทํ าแบบน้ี เพราะแตนอย ๆมาเฮาไมมีขาวกิน เฮายากจน ก็อยากชวยใหคนมี

ขาวกิน”ภาพของตัวเขาเองเมื่อครั้งเปนเด็กชายจอนิ อดม้ือกินม้ือยังอยูในความทรงจํ าของเขา

เสมอ มันฝงรากลึกจนแมเขาเองก็ไมเขาใจ

Page 60: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

บทท่ี ๑๐ ทอใจ

จอนิเปนมนุษย มีเลือดเนื้อ ชีวิตจิตใจและรูรอนรูหนวเชนเดียวกับคนอ่ืนๆ บางคร้ังบางอารมณเขาก็ถูกกระทบกระท่ังรุนแรงแตกลับไมรูสึกอะไร เพราะตอนน้ันเขามีแรงแกรงภายในพอจะทนทานได แตบางคร้ังเพียงแคคํ าพูดค ําเดียว หรือสายตาเพียงแวบเดียว จอนิก็รูสึกราวกับวาโลกถลมทลายลงมาเสียแลว

“เปนอะไรไปนะ..”รีมูเคยถามเขา “พักนี้พอหอมลือเหมือนผีบา”“ง้ันรึ” จอนิถามลอย ๆ“ใช..แมแตพฤมันยังไมอยากเขาใกลพอเลย”จอนิมองไปท่ีลูก คํ าพดูของรีมูสะเทือนใจเขา น่ีเขากํ าลังทํ ารายลกูเมีย ยิ่งมองดูลูกคน

เล็กท่ียังนอนอยูบนตักรีมู เขาก็ยิ่งเสียใจ มันคลายกับวา เขาทํ าอะไรไดไมถึงเปาหมายเสียทีมันคาง ๆคา ๆอารมณอยางไรบอกไมถูก

“ขอโทษนะ รีมู”จอนิบอกกับเมีย รีมูมองหนาเหมือนจะถามวาขอโทษเรื่องอะไร แตเธอก็คงรู เพราะ

เธอทํ าหนาเขาอกเขาใจแลวก็ไมไดพูดอะไรอีก จอนิรูสึกชุมช่ืนใจข้ึนมานิดหน่ึงดวยรูสึกวา เขายังมีโชคดีเหลือลํ้ าท่ีไดรีมูเปนเมีย

ตนป ๒๕๒๐ จอนิไดเปนผูแทนหมูบานหนองเตา เขารับการอบรมการสอนศาสนาผูนํ าคริสตัง ความที่เหนื่อยลามานานและไมไดรับผลตอบแทนที่นาพอใจเทาไหร จอนิจึงไปอบรมอยางคนไรหัวใจ

ปนั้นจอนิอายุได ๓๑ ป แมจะยังหนุมอยูมากแตเขากลับรูสึกเหมือนมาที่กรํ าศกึมานานเกินไป เขาจึงดูเงียบผิดปกติ

คุณวันชัย เจาหนาที่ศูนยสังคมพัฒนาของคณะกรรมการแคธอลิค ชายหนุมผูมีไฟแรงยืนอยูหนาหอง เขากํ าลังหยิบยกปญหาที่จอนิไมอยากฟงขึ้นมาพูด

“ตอนนี้สภาพแวดลอม ปาไม ตนน้ํ าลํ าธาร ถูกตัดถูกทํ าลาย สัตวปาถูกรังแกชีวิตของคนในชุมชนก็ลํ าบากมากขึ้น ถาเราเปนผูนํ าทางจิตวิญญาณใหพวกเขาเราจะชวยพวกเขาไดอยางไร…

ประการแรกทีเดียว เราทุมเทชีวิตของเราจนหมดชีวิต แตก็ไมไดผล ปาไมยังถูกทํ าลายตอไป ตนน้ํ าลํ าธารยังถูกทํ าลายตอไป สัตวปาถูกฆา ……

จอนินั่งอยูหลังหองสุด ถอยค ําของวิทยากรบาดเขาไปในจิตใจ เขากมหนาลงมองพื้นไมอยากสบตาใคร เห็นแตภาพตนเองเดินขึ้นเขาลงเขา และถูกตอวาจากชาวบาน จากผูใหญบาน….

Page 61: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

ผูสอนออกจากหองสอนไปแลว แตจอนิยังนั่งนิ่งไมเคลื่อนไหว เขาปลอยใหอารมณสงสารตัวเองเขาครอบงํ าจิตใจจนเออเต็ม

“จอนิเปนอะไรไป” เพื่อนรวมอบรมหันมาถาม “ไมสบายหรือเปลา” “เปลา”จอนิตอบทันควัน อันเปนการปดโอกาสใหกับผูถามโดยสิ้นเชิงบายวันน้ัน จอนิยังคงน่ังซึมอยูที่เกาอี้ เจาหนาที่สังคมพัฒนาคนเดิมเดินเขามาถาม“จอนิ..มีปญหาอะไรหริอเปลา”“ไมมี” เขาตอบ“มาคราวน้ีไมพูดเลยนะ”จอนิหันไปมองหนา คุณวันชัยกับเขาเคยคุยกันบอยๆ ต้ังแตสมัยเขาเทียวไปเทียวมา

ระหวางหมูบานกับแมปอน“มีปญหาอะไรหรือ หนักหนาม้ัย”ดูเหมือนวา คํ าวาหนักหนาจะไปสะกิดวิญญาณที่แบกทุกขของจอนิเขาเต็มแรง เขาหัน

มาบอกวา“หนักหนาสิ..”แลวเรื่องราวทั้งหลายก็ถูกระบายบออกมาราวกับนํ้ าไหล“เฮาไมไหวแลว..เฮาไมเอาแลว”จอนิวา “เฮาไมรูจะเรียกรองไปทํ าไม ไมรูจะเรียกรอง

เพื่อใคร ทํ าไปแลวมันก็เกิดขึ้นมาใหมเรื่อย ๆ ไมมีจบส้ิน จนเฮาแทบจะไมมีชีวิตเปนของตัวเองแลว เมียเฮา ลูกเฮา เฮาก็บไดดูแล”

“ไมไดมีจอนิคนเดียวนะท่ีเรียกรอง”เขาพูดไมทันจบ จอนิก็สวนข้ึน“ไมเอาแลว..”“ฟงกอนนะ จอนิ เราไมไดเปนมนุษยคนแรกท่ีตอสู การตอสูมีมานานกวาสองพันปแลว

ไดยินมั้ย” หนุมนักพัฒนาก็เริ่มมีอารมณเชนกัน“ไมเอาแลว…เฮาไมเอาแลว”“จอนิ”“ไมรูจะทํ าไปทํ าไม เฮาไมเอาแลว”“จอนิ”ไมรูเหมือนกันวา การที่มีคนมาฟงหรือความกดดันที่มีมาโดยตลอด อะไรจะเปนแรงสง

ใหเขายิ่งอยากตะโกนในทางที่ตรงกันขามกับคํ าปลอบ“ด”ีเสียงหนุมนักพัฒนารอง แลวก็เดินออกไปจากหอง จอนิไมไดสนใจวาใครจะไปไหน

เขาเหมือนลูกโปงที่ถูกปลอยลม ลมจะพุงออกไปคนละทางกับลูกโปงตลอดเวลาเสียงฝเทาเดินกลับมา“ปง”พระคัมภีรเลมหนาที่จอนิเคยเห็นบาทหลวงถืออานราวกับหนังสือศักดิ์สิทธิ์ก็ถูกโยน

โครมลงมาบนโตะตรงหนา

Page 62: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

“เอาไปอาน แลวจะรูวาการเรียกรองมีมากวาสองพันป แลวก็มีการบันทึกเปนลายลักษณอักษรดวย คุณไมใชคนแรกของโลกท่ีเรียกรองแนนอน”

จอนิตะลึงงัน พระคัมภีรศักดิ์สิทธิ์เลมหนาตกอยูตรงหนาเขา หนังสือที่เขาเคยเห็นวาเปนของพิเศษ สํ าหรับคนที่เปนครูผูสอน เปนนักบวชใชในพิธีกรรม บัดน้ีกลับถูกโยนไวตรงหนาเขา ความเปนปกาเกอะญอผูเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์และจิตวิญญาณของทุกสิ่งทํ าใหจิตใจของจอนิสั่นไหว

“อานดูส”ิจอนิไมกลาแมแตจะเอื้อมมือไปหยิบ“อานดูส ิอานดู อยานึกวาตัวเองเปนคนแรกในโลกที่ไดทํ าอยางน้ี มีคนอีกมากท่ีเขา

ผานการเรียกรองอันแสนสาหัสมาแลว และเรื่องของพวกขาก็บันทึกไวในพระคัมภีรแลว..”จอนิยังไมหายตกใจ“อานสิ..อานจริง ๆ อยาโกหกตัวเอง”หนุมนักพัฒนาผูนั้นยํ้ าอกีคร้ัง

ในท่ีสุด จอนิเอาพระคัมภีรเลมหน่ึงใสยามกลับบาน อารมณความรูสึกของเขาเปลี่ยนจากสิ้นหวังหมองเศรา เปนอารมณฉงนฉงายใครรูอีกคร้ัง หนุมนักพัฒนาคนนั้นไดปลุกบางสิ่งบางอยางที่มีอยูในตัวตนของเขาขึ้นมาไดอีกครั้ง

จอนิเปดพระคัมภีรหนาแรกเขาเร่ิมลงมืออานไปทีละหนา ๆ ๆ อานจนหลายคร้ังรีมูตองมายืนมองวาทํ าไมเขาจึงน่ิง

เฉยเชนน้ี ครั้งหน่ึงพฤพยายามคลานมาชวยอาน เขาไมไยดีลูกกลับหนีไปอานในที่ที่ลูกตามไปไมถึง

ยิ่งอานจอนิก็ยิ่งเห็น เขาไดรูวาโมเสสสูมาอยางไร พระเยซูตองเผชิญเหตุการณเลวรายอะไรบาง เปนเวลาหลายวัน กวาจอนิจะปดหนังสือลงได เขาอานทวนซ้ํ าไปมาตรงที่อยากอานในท่ีสุด เขาก็คนพบวา การตอสูของผูคนมีมาทุกยุคทุกสมัยจริง ๆอยางหนุมนักพัฒนาคนนั้นบอก

เชาวันหน่ึง เขาจึงตื่นขึ้นมาและรูสึกวา โลกกลับไปเปนของเขาเหมือนเดิม ท้ังท่ีปาก็ยังมีเสียงรองไห และชาวบานก็ยังถูกกดขี่ หากเขาเรียนรูวา สิ่งนี้มีและเขาตองตอสูตอไป

“เฮาอาจไมชนะท่ีหน่ึง แตเฮาตองชนะ”จอนิบอกตัวเองเงียบ ๆพฤและหัสชัยตะกายขึ้นมาบนตัก จอนิกอดลูกทั้งสองคนไวแนน กลิ่นตมหนอไมใสใส

ตะไครตนท่ีรีมูกํ าลังปรุงลอยมาแตะจมูก จอนิไมรูสึกโดดเดี่ยวอีกแลวเมอะ สะ เบอะ ชิ อะสะ แอหนอ ชิ อะ สะ ติ แม เด

Page 63: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

พริกขี้หนูเม็ดเล็กแตเผ็ดนางตวันอยแตใจหนักแนน

เขามีพริกข้ีหนูอีกหลายเม็ดอยูในบาน

Page 64: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

บทท่ี ๑๑ แสงอรุณ

ถนนขึ้นมาถึงบานแมสะปอกในป ๒๕๐๗–๒๕๐๘ และถึงบานหนองเตาในป ๒๕๑๗จอนิเฝาสังเกตวา ในชวงเวลาไมกี่ปที่ถนนเขามาสูหมูบาน ปาไมไดอันตรธานหายไปราวกับถูกสาป และดูคลายกับวารัฐบาลเองก็รูตัววาไดทํ าลายปาไปมาก จึงมีโครงการจากรัฐบาลผานกรมปาไมมาถึงหมูบานอีกครั้ง ในรูปของการอนุรักษและฟนฟูปาที่ถูกทํ าลายไป

ทํ าลายปาแลวปลูกปา สวนหนึ่งฟงดูคลายความคิดที่ถูกตองดีงาม แตอีกสวนหนึ่งก็ตองตั้งค ําถามวา แลวไปทํ าลายมันทํ าไมเลา จอนิสงสัย

จอนิเคยเดินไปดูกลาไมปาที่เจานายจางชาวบานปลูก ตนไมตนเล็ก ๆ ที่เกิดมาจากที่อื่น เมื่อถูกนํ ามาหยอดไวในหลุมท่ีแปลกท่ีแปลกอากาศ ไมชานานมันก็คอย ๆเหี่ยวเฉาตายไปบางตนก็ตายเสียตั้งแตยังไมทันปลูก

“ปลูกทํ าไมนะ”จอนิเคยแกลงถามคนปลูกคนปลูกหัวเราะ “บฮูเหมือนกัน”จอนิหัวเราะ“เฮาไดเงินนี่” เขาวา“เจานายก็คงไดเงิน”จอนินึกอยูในใจตนกลาไมเหลานั้นนอกจากจะออนแอแลว ยังเปนตนสนเหมือนกันหมด ซ่ึงชาวบาน

อยางจอนิเห็นวา“ปาท่ีมีตนไมชนิดเดียวกันไมเปนปา”จอนิมาเรียนรูภายหลังวา ความคิดของเขาตรงกับความเห็นของนักวิชาการที่วา การ

ปลูกปาท่ีเปนไมชนิดเดียวกัน ไมสามารถฟนฟูปาไดจริง เพราะไมมีความหลากหลายทางธรรมชาต ิแถมชนิดไมเชน สน กระถินณรงค ยูคาลิปตสั ยังไมสามารถฟนฟูพื้นที่ใหกลายเปนปาตนน้ํ าลํ าธารได

วันหน่ึง พวกเจานายหนวยปาไมก็เขามาในหมูบานหนองเตา เขาตรงไปที่บานผูใหญบาน จอนินั่งมองอยูอยางแปลกใจ เขาไมชอบใหพวกเจานายเขามาหรอก เพราะทุกคร้ังท่ีเจานายเขามาก็มักจะมีแตเรื่องเดือดรอน

พวกเจานายเขาไปบานผูใหญไดไมนาน ก็เดินกลับมาที่บานของจอนิ“จอนิ” เจานายคนใหญเรียกจอนิออกมาตอนรับแขก เรียกรีมูใหชงชาสมุนไพรมาบริการ พอนั่งไตถามทุกขสุขกัน

เรียบรอย เจานายก็บอกวา“ผมไปบานผูใหญบานมา เรามีโครงการปลูกปาไม เพื่ออนุรักษปา ฟนฟูปา เปน

นโยบายมาจากรัฐบาล เพื่อไมใหเกิดปญหา ในกรณีท่ีมีหมูบาน เราจะตองเขาไปขออนุญาตผูใหญบานกอน”

Page 65: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

จอนิเงียบ เขากลัวเหลือเกินวา เจานายจะบอกกับเขาวา ผูใหญบานอนุญาตใหพวกเขาปลูกปาไดแลว

“เราก็ไปมาแลว แตผูใหญบานกลับบอกวา ใหมาถามผูชวย”จอนิเกือบจะหัวเราะออกมา เขาไมรูในใจของบุเงวาคิดอยางไร เขารูสึกดีใจอยูวา บุเง

ยังไมอนุญาตเทานั้นเพียงพอแลว“เฮาเปนผูชวยนะ” จอนิวาเจานายหัวเราะ “คุณดังนี่ จอมพลถนอมคณุยังย่ืนจดหมายรองเรียนมาแลว ใชไหม”จอนิไมรับไมปฏิเสธ เขาไมอยากแสดงตนวาเขาเคยทํ าอะไรมาบาง จิตใจของเขาจด

จออยูกับค ําถามของเจานายที่ถามวา จะอนุญาตใหปลูกปาไหม“ผูใหญเขาไมมีอิทธิพลเหมือนคุณ เขาก็คงกลัวคุณจะพาชาวบานเดินขบวนประทวงนั่น

แหละ”จอนิเงียบอีก เขาไมเคยอยากเปนผูมีอิทธิพลเลย“ผมอนุญาตไดหรือ”จอนิถามกลับ“ไดสิ..”เจานายบอก หนาตาดูมีความหวังมากข้ึน“ผมเปนคนตัดสินใจแนหรือ” จอนิถามซ้ํ า“ใช” เจานายวาจอนิสูดลมหายใจเขาปอด เขารูแลววาเขาตัดสินใจอยางไร เรียบเรียงคํ าพูดเรียบรอย

แลวเขาจึงบอกกับเจานายผูมาถึงชานเรือนวา“ถาใหผมตัดสิน ผมขอบอกวา ไปปลูกที่บานอื่น อยามาปลูกที่บานผม”จบประโยคของเขา เจานายมีสีหนาเปล่ียนไป ทาทางไมพอใจเทาไหร แตจอนิไมพูดตอ

ไมไตถาม ไมเปดโอกาส เจานายจึงกลับไป หลังจากน้ัน จอนิจึงเดินไปถามผูใหญบุเง“ทํ าไมใหผมตัดสินใจละ”ผูใหญบุเงหัวเราะ “ผมกลัวผิด”“แลวผมไมผิดเรอะ”ผูใหญบุเงรีบตอบ “คุณเปนผูชวย ถึงผิดก็ผิดไมมาก”จอนินึกขํ า เขารูวาการตัดสินใจเรื่องไมใหรัฐปลูกปาครั้งนี้ของเขาถูกตอง แตความคิด

เห็นของผูใหญเกี่ยวกับหลักการในการทํ างานดูจะไมถูกตองเทาไหรนักดีเหมือนกัน จอนินึกอยูในใจ ไมเชนนั้น ปญหาก็จะเกิดมาอีกไมรูจบแตถึงกระนั้น ปญหาก็เกิดขึ้นอีกแบบไมรูจบอยูนั่นแลวสวนเจานายปาไมก็ยายท่ีปลูกปาจากหมูบานหนองเตาไปเปนหลังดอย

อีกไมกี่เดือนตอมา ผูใหญบุเงก็ประชุมลูกบาน “เฮาลาออก” เขาประกาศกอง นัยนตาของเขาตวัดมาทางจอนินิดหน่ึง ผูใหญบานถูก

กดดันดวยสถานการณหลายอยางมาตลอด เขารูแลววาเปนผูใหญบานกลุมบานหนองเตาที่มีจอ

Page 66: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

นิเปนหัวเรี่ยวหัวแรง เปนผูชวยและเปนผูคัดคานไปพรอมกันนั้น เปนเรื่องหนักหนาสาหัสทีเดียว

“ทํ าไมละ”จอนิถาม“เฮาไมอยากทํ า”บุเงบอก “มันเหน่ือยหลาย..ขัดแยงกับเจานาย ทะเลาะกับชาวบาน”จอนิจํ าไดวา เมื่อสี่ปกอน ตอนเลือกผูใหญบานบุเง การเลือกยังเปนไปแบบ”ผีเลือก”

เพราะคนปกาเกอะญอตอนน้ันยัง”เกร็ง”กับตํ าแหนงผูใหญบาน ไมมีใครอยากเปนผูใหญบาน ท่ีตองติดตอกับเจานายและตองรับผิดชอบอะไรหลาย ๆอยางท่ีไมรู

จอนิผูมีความรูมากที่สุดในหมูบาน แตออนวัยวุฒิเปนผูเสนอความคิด เม่ือคนไมรูจะเลือกอยางไร และใคร ๆก็ไมอยากเปน จอนิจึงจัดการให”ผีเลือก”

เขาเอากระบอกไมไผมาสามใบ เขียนชื่อคนสามคนใสกระดาษและแปะไวใตกระบอก ไมมีใครรูวากระบอกไหนเปนชื่อของใคร จากน้ันก็ใครอยากเลือกกระบอกไหนก็ไปหยอดกระดาษใสลงไปทีละคน ๆ คนเลือกก็ไมรูวาเลือกกระบอกไหนจะไดใคร และคนถูกเลือกก็ไมรูวาชื่อของตัวเองแปะอยูที่กระบอกไหน เปนการเลือกแบบ”ผีเลือก”จริง ๆ ฟาดินอยากใหใครไดเปน ชาวบานก็เส่ียงทายเอาเอง

ในปนั้นบุเง นาของลีมู ไดรับเลือกเปนผูใหญบาน เขาอยูมาจนถึงวันนี้ ปลายป ๒๕๒๐เขาลาออก

“ถึงเวลาอายจอนิเปนพอหลวงแลว” จอเกอะ คนหนุมรุนนองท่ีศรัทธาเขาบอกกับเขาดวยแววตามาดหมาย

อํ าเภอจัดการใหมีการเลือกต้ังผูใหญบานหมูท่ี ๔ ที่มีบานหนองเตา บานปากลวย บานหวยเกี๋ยง และบานโปงลมแรงอีกคร้ัง การเลือกแบบ”ผีเลือก”วันนี้ดูจะลาสมัยไปเสียแลว ชีวิตที่เปล่ียนไป พวกเขาไมไดเลิกนับถือผี แตวันนี้ผีไดสงคนที่ใหเขาควรเลือกมาแลว จอนิเสนอใหท่ีประชุมจัดการเลือกตั้งแบบเปดเผย ไมตองหยอดกระดาษ ไมตองกาในคูหา แตใหคนที่อยากเลือกแสดงตัวเปดเผยโดยการเดินไปตอแถวคนที่เขาตองการใหเปนผูใหญบาน ท่ีประชุมเห็นดวยกับขอเสนอของจอนิ

คนที่ถูกเสนอชื่อใหเปนผูใหญบานออกไปยืนขางหนา“คํ าเสา แฮดู จอนิ”คนสามคนถูกขานช่ือ“ใครจะเลือกใครก็ออกไปยืนตอแถวเลยนะ เชิญฮีโข กับพอหลวงบุเงเปนกรรมการนับ

คะแนน”ปลัดอ ําเภอผูมาจัดการการเลือกตั้งใหประกาศใครที่จะเลือกคนคนนั้นก็ลุกไปยืนตอแถวไดเลย ชางเปดเผย เรียบงายและตรงไปตรง

มาแบบชาวบาน ไมตองหนาไหวหลังหลอก และไมตองกลัวโกรธชาวบานคอย ๆทะยอยออกไปยืนตอแถวเปนสามแถว ญาติจอนิ ญาติคํ าเสา ญาติแฮดู

Page 67: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

แตจอนิไดญาติท่ีรวมทุกขรวมยากดวยกันเพ่ิมอีกยืดยาว กรรมการเร่ิมนับคะแนนตามลํ าดับ คํ าเสาได ๔๕ คะแนน แฮดูได ๔๗ คะแนน และมาถึงคะแนนของจอนิ

เสียงกรรมการนับคะแนน จอนิ หน่ึง สอง สาม สี ่หา หก เจ็ด แปด เกา สิบเอ็ด สิบสองสิบสาม สิบสี่ สิบหา สิบหก สิบเจ็ด สิบแปด สิบเกา ย่ีสิบ…

จอนิรูสึกใจเตนแรง แมเขาจะผานการตอสูท่ียากแสนยากมามาก แตการไดรับการยอมรับในหมูบานของตนเองก็เปนเรื่องที่อดตื่นเตนไมได

“สี่สิบเจ็ด…สี่สิบแปด…”มีเสียงคนฮือขึ้นทันที เพราะคะแนนของจอนิชนะคูแขงแลวหาสิบเอ็ด…หาสิบสอง..หาสิบสาม.หาสิบส่ี .หาสิบหา…ปลายป ๒๕๒๐ เด็กก ําพราของพีหม่ือแมไดเปนผูใหญบาน เม่ืออายุ ๓๑ ป เสียงปรบ

มือกราวใหญ จอนิมองไปเห็นมือชิกับจอเกอะ เพื่อนหนุมสองคนยืนยิ้มสวางอยูตรงหนา คร้ันมองเลยไปที่แถวคนเลือกตั้งทั้งหมด เขาพบวาผูที่เลือกเขาสวนใหญเปนผูหญิง และเขาเห็นรีมูยืนอยูในกลุมของแมบานเหลานั้นดวย

“เฮาขอบคุณพี่นองทุกคน” จอนิวา “พี่นองฮื้อผมเปน ผมก็จะเปน”จอนิวา“พอหลวงจอนิ โอโดเชา”มือชิ เพื่อนสนิทของเขาพูดขึ้นดัง ๆใหไดยินกันทั่ว จอนิย้ิม เขานึกถึงแม พอ และพี่

สาว หวงัวาคงจะมองเขามาจากบนฟา

บาของจอนิไมไดหนักข้ึนกวาเดิมเทาไหร เพราะเดิมเขาก็แบกหมูบานเอาไวบนบาอยูแลว เพียงแตครังนี้ มีการประกาศรับรองการแบกของเขาอยางเปนทางการ ดวยการใหเงินเดือนผูใหญบาน ๙๐๐ บาท

คืนแรกของการเปนผูใหญบาน จอนิฝนวา ไดตอสูกับผีราย เขาตอสูจนเหงื่อโซมตัว จอเกอะคนหนุมที่แสดงความยินดีกับเขาวิ่งเขามาชวยโดยการยิงธนูใสผี แตลูกธนูของจอเกอะกลับกลายเปนเม็ดถั่ว จอนิจึงตองออกแรงมากกวาเดิมไปอีก ใครตอใครที่มาชวยเขาลวนพายแพตอผี มีแตเขาเทานั้นที่เอาชนะผีได..ในที่สุดผีก็หันมาบอกกับเขาวา “เออ ตอไปหนองเตาคุณก็ตองดูแล เฮาไมเอาแลว เด็ก ๆ ผูเฒาผูแก คุณตองดูแล เฮามอบคุณทั้งหมดเลย” พูดจบผีก็หนีไปอยูดอย

จอนิสะดุงตื่น เขารูทันทีวา หนาที่ของพอหลวงไมใชธรรมดา เขานึกถึงจอเกอะที่ไปปรากฏอยูในฝน เด็กหนุมคนนี้มีจิตใจอุทิศเพื่อสวนรวมจริง ๆ แตเขายังออนเยาว ดังน้ัน ลูกธนูของเขาจึงกลายเปนเม็ดถ่ัวไป

เชาวันแรก จอนิต่ืนข้ึนมาฃวยลูกเมียทํ างานบาน รีมูตื่นแตเชาเหมือนทุก ๆวัน พฤกับหัสชัยต่ืนมาชวยแม สวนนอง ๆยังนอนหลับอยู ขณะยกหมอขาวข้ึนต้ังไฟ ทาวาดวยยามเชาบทที่จอนิชอบแวบเขามาในหัว

ม่ือ เกอะ เซ ที โข เกอ สิว

Page 68: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

แบล บลอ แช ที เลอะ อะ ดี๊ใกลสวางบนผืนนํ้ ามีหมอกนกนางแอนบินโฉบเฉ่ียวบนผิวน้ํ า

นับแตวันนี้ไปยามเชาของครอบครัวเขาก็อาจจะเปนยามเชาของคนอื่นมากไปยิ่งกวาเดิม โอกาสท่ีเขาจะเห็นรีมูในชุดเชซูสีดํ าปกดายแดงและลูกเดือย นุงซินปกาเกอะญอทํ างานบาน หรืออุมลูกก็จะนอยลงทุกที ในขณะเดียวกันโอกาสที่รีมูจะเห็นจอนิอยูบานเลนกับลูก ๆก็จะนอยลงทุกทีเชนกัน

“เปนพอหลวงแลวเฮาก็จะไมคอยไดอยูบาน”รีมูเงยหนาขึ้นยิ้มจนตาปด“ธรรมดาก็ไมคอยไดอยูบานอยูแลวนี่”จอนิหัวเราะ รูสึกเกรงใจท่ีเมียไมตอวาแมสักคํ า“รีมูเขาใจ” จอนิพูดสั้น ๆ เขารูสึกสบายใจ แลวเริ่มเลาความฝนใหรีมูฟง

เมื่อเปนผูใหญบาน จอนิมีลูกเพ่ิมจาก ๕ เปน ๙ คน และเขาไมไดชวยรีมูเลี้ยงลูกอีกเลยนี้เปนขอหนึ่งที่เขาออกจะเสียดายตอตัวเองและเสียใจตอรีมูไมนอย แตจอนิก็มีขอแกตัววาเขาตั้งใจเปนผูใหญบานจริง ๆ เพราะในการจัดการดูแลลูกบานน้ัน เขามองไปที่ความปรองดองของคนในหมูบานเปนอันดับแรก

นโยบายสองขอแรกของจอนิท่ีนํ าไปสูความปรองดองของคนในหมูบานคือขอแรก-เขาประกาศเปนขอกํ าหนดในหมูบานวา ถาใครทะเลาะกับใครตองคุยปรับความ

เขาใจกัน ๓ คร้ัง ในระยะเวลา ๓ เดือน ถายังปรับความเขาใจกันไมไดจึงมาหาผูใหญบานขอที่สอง-นโยบายชวยกันทํ านา เขาประกาศใหคนทํ านาทุกคนชวยกัน”ลงแขก”เหมือน

ในอดีต เพ่ือวาจะไดปลูกขาว เก็บขาวไดทันการและมีประสิทธิภาพ และเปนการสรางสมานฉันทขึ้นในหมูชาวบานดวย

จอนิบอกวา“นโยบายขอแรกทํ าใหเฮาไมตองฟงเร่ืองสะเปะสะปะ เรื่องไมเปนเร่ือง กรณีใหญ ๆจริง

ๆเทานั้นจึงจะมาถึงผูใหญบาน ทํ าใหมีเวลาที่จะไปดูแลเรื่องอื่นๆ สวนนโยบายขอที่สอง เฮาก็เอามาจากเร่ืองในอดีต ที่ชาวบานไมมีขาวกินตองไปกูยืมขาวนายทุน เม่ือเรามาชวยกันทํ านาเรามีธนาคารขาวสวนกลาง ขาวในธนาคารก็เพิ่มปริมาณมากข้ึนเร่ือย ๆ คนไมมีกินก็มากูยืมไดในอัตราไมสูงนัก คนทั้งหมูบานก็มีขาวพอกิน เชื่อไหม..”จอนิทํ าเสียงสูง “ป ๒๕๒๙..ขาวในหมูบานนี้เหลือกิน..”

ป ๒๕๒๙ คือปที่จอน ิโอโดเชา เปนผูใหญบานเปนปสุดทาย แตกวาจะถึงปน้ัน เขาตองตอสูกับความเปลี่ยนแปลงของหมูบานจนเลือดตาแทบกระเด็น !

Page 69: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

บทท่ี ๑๒ เผชิญหนา

ปญหาเร่ืองกรมปาไมปลูกปาทับท่ีชาวบานไมไดยุติลงงาย ๆ เม่ือจอนิเปนผูใหญบานแลว กรมปาไมก็ยังดํ าเนินการเร่ืองปลูกปาอยู โดยตั้งส ํานักงานปลูกปาชั่วคราวหนวยยอย มีคนงานเขาไปปลูกปาสนอยูในบริเวณปาหลังดอย อันเปนปารวมระหวางสามหมูบานคือหนองเตา หวยเกี๋ยงและโปงลมแรง แมหลังดอยจะไกลจากหมูบาน แตก็นํ าความเดือดรอนมาใหชาวบานอยูเนือง ๆ เพราะคนงานที่ขึ้นมาปลูกปา ชอบลอบขโมยฆาควายชาวบานกิน แตไมเคยจับได ไมมีหลักฐาน จอนิเองก็ไมสบายใจเร่ืองนี้อยู

บายวันหนึ่ง ชาวบานวิ่งมาบอกวา“พอหลวง ๆ พวกเฮาเห็นไอคนลักควายฆาควายได”“เออ..”“มันกํ าลังลากควายเฮาไปในปา พวกเฮาเห็นมันกะตาเลย”“ ด ีพวกไหน” จอนิถาม“พวกลูกจางปาไมนั่นแหละ”ชาวบานตอบ “ไอ….ไงละ”จอนิและชาวบานอีกจํ านวนหน่ึงรีบไปท่ีหนวยปลูกปายอยทันที จอนิไมตองการเผชิญ

หนา เขาจึงใหชาวบานซอนตัวอยูในปาบริเวณนั้นกอน“เจานายปาไม” จอนิรองเรียกกอน “เจานายปาไม”เงียบไมมีเสยีงตอบใด ๆจอนิมองดูรอบ ๆ ไมปรากฎการเคลื่อนไหวใด ๆ มีคนงานปาไมสองสามคนเดินไปมา

ทาทางไมตื่นเตนอะไร จอนิก็เย็นใจ“ผมมาขอถามอะไรหนอย”เสียงของจอนิเหมือนผูมาเย่ียมเยือนธรรมดา ใครคนหน่ึงคอย ๆปรากฏตัวขึ้น ตามมา

ดวยคนแวดลอมที่คอย ๆทะยอยกันโผลหนาออกมา“ใครนะ”เจานายปาไม คนที่ใหญที่สุดในหนวยปลูกปารองตะโกนถาม“ผมเอง..นายจอนิ โอโดเชา ผูใหญบานหนองเตา หมูส่ี”“ออ..”เจานายปาไมทํ าเสียงมีอํ านาจ “มีอะไรรึ”จอนิไมกลัวเสียงตํ่ าในลํ าคอนั้น เขาเริ่มเจรจาทันที“เออ..นี่ลูกนองคุณนะมาฆาควายชาวบานผมนะ”เจานายปาไม มองหนาจอนิเขม็ง เขารูจักจอนิและช่ือเสียงของจอนิดี แตดูเหมือนวา

ตอนนี้จอนิไมสนใจสายตาของเขา“ง้ันรึ” นัยนตาของเขาขุนนิด ๆ ทาทางไมพอใจเทาไหรนัก “มีอะไรละ”จอนิรีบเลาใหฟง ชาวบานสองคนที่ยืนขางเขารีบบอกชื่อแซของคนทํ าผดิสนับสนุน

“เฮาจํ ามันได”“แนรึ” เจานายปาไมถาม

Page 70: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

“แนนอนครับ”จอนิตอบเสียงหนักแนน“ผมตองจายเทาใด”เขาถามกลับจอนิน่ิงไปช่ัวครู ”สามพัน”เจานายปาไมเงียบไปพักใหญ จึงบอกกับจอนิวา“ผมขอคุยกับลูกนองกอนนะ”แลวเขาก็เดินลับหายเขาไปขางในเจานายปาไมกับลูกนองหายไปพักใหญ แลวกลับออกมาบอกกับจอนิวา“เออน่ี จอนิ ความจริงจะเปนลูกนองผมทํ าหรือเปลาก็ไมรูนะ”จอนิโกรธ เขารูแลววาเจานายก ําลังจะ”พลิกลิ้น”ท้ัง ๆท่ีเขาจับไดคาหนังคาเขา จอนิไม

กลัวคนพวกนี้ คนที่เปนเหมือนผีราย และไมทํ าในสิ่งที่ถูกตอง เขามองดูสีหนาที่ทํ าเหมือนไมรูเรื่องรูราวของเจานายปาไม แลวตัดสินใจในนาทีนั้นวา การตอสูครั้งนี้ตองใชวิธีของลูกผูชาย

จอนิจับมือของเจานายปาไมหมับเขาให ความกลาและความรวดเร็วทํ าใหปาไมตกใจเขาตัวสั่น จอนิตะโกนออกไปดวยเสียงอันดัง

“จะรับหรือไมรับนะ เมื่อกี้วารับ พอออกมาอีกทีก็บอกวาไมรับ มันยังไง บอกมานะวาจะรับหรือไมรับ “

เสียงของจอนิ คนจริงดังดวยพลังของความโกรธ เจานายปาไมตกใจ เขามองไปรอบ ๆ คลับคลายคลับคลาวาเห็นเงาคนในเงาตนไมอยูดวย พวกกะเหร่ียงน้ีไมไดมาคนเดียว เขาจะเสี่ยงแลกชีวิต หนาท่ีการงานของเขาดวยเงินสามพัน ดวยควายตัวเดียว ดวยคนงานโง ๆหนึ่งคน อยางน้ันหรือ ไมมีทาง

“วาไงละ”จอนิตะคอกอกีเจานายปาไมพยักหนา“ตกลง”เปนควายตัวแรกที่เจาของควายไดเงินชดใชสามพันบาท ทั้งที่ความจริงคนงานปาสน

ไดฆาควายชาวบานตายไปนับสิบตัว เพียงแตไมเคยจับไดเลยเทานั้นเรื่องที่ออกจะตื่นเตนก็เลยจบลงได โดยไมมีใครเสียเลือดเน้ือ ยกเวนแตเจาของควายที่

เสียควาย แมจะไดเงินชดใชมา ก็ใชวาเขาจะพอใจ

ตอมาอกีไมนาน ชาวบานหนองเตาของจอนิก็รวมตัวกับอีกสองหมูบานคือหวยเกี๋ยงและโปงลมแรง ซึ่งเดือดรอนเรื่องการปลูกปาทับที่ ไปเดินขบวนเรียกรองที่สํ านักงานปาไมหนวยโปงลมแรง

“สามดอยเขาลูกเดียวกัน ปาไมมาปลูกปาทับที่นะ” จอนิวา“รวมไดถึงแปดสิบคน”จอนิบอกวา ภาพชาวบาน ๘๐ คนถือปนแกปกันคนละกระบอก ดูนาขํ าและนากลัวไป

พรอมกัน ขบวนก็เดินกันไปแบบไมมีระเบียบเทาใดนัก การแตงเนื้อแตงตัวก็ดูขาด ๆเกา ๆเปนที่นาเวทนามากกวานากลัว จอนิเองก็ไมคอยชอบบรรยากาศที่คุมยากนี้เทาไรนัก แตเขาก็ไมมีทางเลือก

Page 71: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

“อยายิงปนสุมสี่สุมหาเนอ”จอนิบอก และใหบอกตอ ๆกันไป ตนขบวนก็ดูรับฟงดี แตพอถึงทายขบวนจอนิก็ไมรู

แลววาเปนอยางไรคนแปดสิบคนยืนกันอยูหนาอาคารคร่ึงตึกคร่ึงไม ความเหน็ดเหน่ือยเมื่อยลา และความ

หิวทํ าใหหลายคนหงุดหงิด กวาเจานายช้ันหัวหนาจะออกมา กวาจะพูดกันรูเรื่อง แมแตจอนิซ่ึงเห็นการเดินขบวนประทวงมาหลายคร้ังหลายหนก็ยังอดรูสึกไมไดวา ชา

“จะเอายังไวะ”“เมื่อไหรจะออกมาซักที”“ทนไมไหวแลวโวย”หลายคนเร่ิมตะโกนดา บนและทํ าเสียงดัง“พวกเฮา”จอนิรองตะโกน “อยูในระเบียบวินัยหนอย ไมเชนนั้นเขาจะหาวาพวกเฮาไมมี

ระเบียบ เขาอาจจะไมออกมาพูดดวย”“เบื่อ เบื่อ เบื่อ”มีเสียงตะโกนพรอมเพรียงกันจอนิเองก็อยากตะโกน แตเขาก็สูอุตสาหยกมือหามในท่ีสุด หัวหนาปาไมโปงลมแรงก็ออกมาเจรจาแตโดยดี “ผมจะรับเรื่องไวเสนอตอผู

ใหญอีกทีหนึ่ง พ่ีนองก็รูวาผมไมมีอํ านาจตัดสินใจในเรื่องนี้ ใจเย็นๆนะครับ..รับรองวาทุกอยางจะเรียบรอย ปาไมก็ไมอยากเห็นชาวบานเดือดรอนหรอกครับ”

“เฮ…”มีเสยีงปรบมือกราวใหญ“ด ีๆ” มีเสยีงตะโกนตามมา“พี่นองกลับบานเถอะครับ วางใจไดวาพวกเราจะเสนอเร่ืองใหพวกทานแนนอน”นั่นเปนประโยคสรุปที่หัวหนาปาไมโปงลมแรงพูดกอนที่ขบวนผูประทวงจะคอย ๆ

เคลื่อนออกจากบริเวณอาคารสํ านักงาน ใครหลายคนงง ๆ และเหนื่อยออน ยังฟงไมรูเร่ืองดวยซ้ํ าไป

“กลับ ๆ”ใครหลายคนบอกตอ ๆกัน แตก็มีใครอีกหลายคนรองวา “เฮายังไมกลับ เฮายังบไดค ําตอบ”

แตในที่สุดขบวนอันลาแรงก็คอย ๆ เดินตามกันมา ปนในมือดูหนักอึ้งเกินกํ าลงัรับ จอนิเดินอยูหนา เขาเงียบเพราะเหนื่อยและคิดหนัก รูสึกไมแนใจในค ําพดูของหัวหนาปาไมเทาไหรนัก ขบวนเคลื่อนออกมาไดเพียง ๕๐๐ เมตร จู ๆก็มีเสียงดังข้ึน

“ปง”หลายคนมอบลงโดยอัตโนมัติรวมทั้งเจาหนาที่ปาไมในบริเวณอาคารดวย“เฮย”จอนิรอง เขารูสึกตกใจ“ไผยิง”เขาถามแบบตกใจ“ยิงทํ าไม”

Page 72: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

ไมมีใครตอบคํ าของเขา หลายคนที่เขาเห็นพลอยหนาตาตกตื่นไปดวย“ระวังหนอยเนอ…ลูกปนบเขาใครออกใครนะ”ขบวนทํ าทาจะเคลื่อนตอ มีเสียงเอะอะมาดานหลัง พอหันไปมองจอนิก็ใจหายวาบ

พนักงานปาไม ซึ่งมีทั้งขาราชการและลูกจางก็คอยรายลอมเขามา หลายคนมีปนที่จอนิมองทีเดียวก็รูแลววา เปนปนที่มีประสิทธิภาพตางจากปนแกปของชาวบานไมรูกี่เทา หากใครสักคนหนึ่งยิงเขามา แนนอนท่ีสุด จอนิรูสึกเย็นยะเยือกไปทั้งตัว เมื่อนึกวาวินาทีนี้คือความเปนความตาย กาวพลาดแมแตเพียงนิดเดียวก็คือความสูญเสียท่ีประมาณไมไดของทั้งสองฝาย

“ใครยิง”เสียงปาไมคนหน่ึงตะโกนดังล่ัน ชาวบานถือปนยืนน่ิงกันไปหมด“ใครยิงกาวออกมาเดี๋ยวนี้”ไมมีใครแมสักคนกระดุกกระดิก จอนิลอบถอนหายใจดวยความโลงอก“ใครยิง”เสียงตะโกนดังออกมาจากอีกคนหน่ึง“ออกมา ๆ ๆ”มีเสียงตะโกนใหออกมาดังอยูรอบตัว แถมดวยปลายปนอันทรงประสิทธิภาพของปาไมั

ท่ีเตรียมพรอมจะทํ าลายลาง“จอนิ..”เสียงของเจานายปาไมดังกองจอนิไมสบายใจ เขากาวออกไปขางหนานิดหนึ่ง เขาพรอมที่จะตอสูใหชาวบานผูเหนื่อย

ยากมาดวยกัน“ผมก็ไมรูเหมือนกันวา ใครยิง”เจานายปาไมมีสีหนาไมพอใจ“แกเปนหัวหนา แกไมรูไดไงวาใครยิง”“จะรูไดยังไงเลาครับ คนตั้งแปดสิบคน”จอนิเถียง ปาไมทํ าทาฮึดฮัด“อยากไดคนไหนก็จับไปก็แลวกัน”จอนิบอกในท่ีสุดเจานายปาไมสายหัว เขาโกรธท้ังชาวบาน และโกรธท้ังจอนิ ผลของการเจรจาในวนั

น้ันจึงประเมินไดยากข้ึนไปอีก เพราะจอนิไมรูแลววาเจานายปาไมจะเสนอเรื่องที่เรียกรองใหตามสัญญาหรือไม

จอนิเองก็รูสึกเข็ดขบวนประทวงใหญที่คุมยาก

หลังจากน้ันไมนาน บายวันหน่ึง เด็กชายพฤกลับจากโรงเรียนแลว และกํ าลังนั่งแกวงขาเลนอยูที่ชานเรือน เขาอายุได ๙ ขวบและกํ าลังเรียนอยูชั้นประถมปที่ ๓ เขามองเห็นคนหลายคนเดินตรงมาที่บาน

“พอคราบ..”เขาเรียกพอเสียงดัง “มีคนมา”

Page 73: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

จอนิกํ าลังอานหนังสืออยูในบาน เขาปดหนังสือและเตรียมออกมาตอนรับ การมีแขกมาบานเปนเรื่องปกติของเขา เพราะตั้งแตเปนผูใหญบานเขามีคนมาหาไมวางเวน เสียงลูกชายตื่นเตนมากข้ึน เขาตะโกนยํ้ าวา

“มาหลายคนเลยครับ”จอนิก็ยังเห็นวาเปนเร่ืองธรรมดาเขาเดินออกมาหนาบาน แตแลวกลับสะดุงโหยงเมื่อเห็นภาพตรงหนา ชายฉกรรจ

จํ านวนเกินสิบคนกํ าลังเดินดาหนาเขามาในบริเวณบานของเขา ในมือของทุกคนมีอาวุธไมปนก็มีด จอนิรูทันทีวาไมใชเร่ืองธรรมดา แตเขาไมเคยกลัวเรื่องแบบนี้อยูแลว เขามองดูลูกชายท่ียืนมองอยูอยางกังวลนิด ๆ เด็กชายเบิกบานราเริงท่ีเห็นคนมามาก ลูก ๆของเขาก็เหมือนชาวปกาเกอะญอทั่วไปที่มีประเพณีใหตอนรับแขกที่มาถึงเรือนชานอยางดี เขาเกือบจะออกปากไลลูกใหไปที่อื่น แตพอนึกขึ้นไดวา ความเปนเด็กของพฤอาจชวยใหสถานการณดีขึ้น

“เชิญน่ัง ๆ ๆ”จอนิออกมาปากเชื้อเชิญ พอเขามาใกลเขาจึงเห็นถนัดตาวา พวกที่มาครั้งนี้ก็คือพวกคนงานและพนักงานปาไมที่มาปลูกปาสนทดแทนนั่นเอง

หัวหนาขบวนคือผูชวยปาไม หัวหนาโครงงานปาสนนั่นเอง คนสามคนท่ีเปนหัวหนาน่ังลงตามค ําเชิญ แตพวกที่ลอมบานอยูไมยอมนั่งดวย

“มีธุระอะไรหรือ เจานาย”จอนิใจดีสูเสือ เพราะน่ีคือบานของเขา“เรื่องควาย ๆ” หัวหนาซึ่งเปนคนหนุมตอบ น้ํ าเสียงและทาทีทํ าใหจอนิรูดีวา คํ าวา”

ควาย”ของเจานายมีความหมายมากกวา”ควาย”ธรรมดา“แกมาหาวาเราฆาควายชาวบานแกง้ันรึ”“อาว”จอนิรองอยางผิดคาด “เรื่องนี้เราตกลงกันไดแลวนี่ หมูเฮารับเงินมาแลวก็จบกัน

ไป”“จบไมได”เสียงคนหัวหนาดังกังวานกอง “วันน้ี มาพูดกันใหรูเร่ือง”จอนิยืนน่ิง เขากํ าลังใครครวญวาจะทํ าอยางไรดี การเจรจาเริ่มบานปลายข้ึนไปเร่ือย

ๆ มีคนท่ีเปนหัวหนาประมาณ ๓ คน นอกน้ันเปนพวกคนงาน ท้ังหมดมีประมาณ ๓๐ คน และเริ่มตีวงโอบลอมบานไว จอนิเปนหวงลูกเมีย

“พวกแกยังไปยิงปนที่ปาไมอีก แลวไปแลวทํ าไมตองยิง แกหยามน้ํ าหนาพวกปาไมน่ี”“เฮาบไดหยาม เฮาบฮูจริง ๆวาไผยิง”“จะฆากันนี่”จอนิเร่ิมโกรธ“พวกปาไมก็จะฆาพวกเฮาเหมือนกัน พวกปาไมก็ลอมพวกเฮาไปแลว เฮาบอกวาจับ

ไผไดก็จับไป พวกคุณไมจับไปเองนี่”“เลนลิ้นนี่หวา”หัวหนาปาไมตะโกน“เอามัน”มีเสียงตะโกนฮือดังขึ้น จอนิรูสึกโกรธ เขามองดูพฤ เด็กชายสบตาพอ เขารูวาพออยูใน

Page 74: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

สถานการณเลวราย เด็กชายกระโดดลงจากเรือนและวิ่งลับหายไป แวบแรกนั้นจอนิรูสึกโลงอกท่ีลูกชายไปพนจากสถานการณคับขัน แตอีกแวบหนึ่งตอมา เขากลับรูสึกวังเวง เขาไมมีใครและรูสึกเห็นแกตัวนิด ๆ ท่ีอยากใหลูกชายน่ังอยูกับเขาดวยในภาวะน้ัน รีมูกับลูกที่เหลือของเขาพากันไปไหนนะ ไมนาเช่ือเลยวาทุกคนจะท้ิงเขาไปหมด

“บานเมืองมีข่ือมีแป พวกคุณก็เปนพวกเจานาย เปนขาราชการ จะมาฆาคนเลน ๆไมไดหรอก”

“ใช”หัวหนาตะโกนสวน “บานเมืองมีขื่อมีแปพวกแกก็จะมาเที่ยวยิงปนฆาคนเลนไมไดเหมือนกัน”

“เรื่องนั้นเฮาก็บอกแลววาเปนเหตุสุดวิสัย เฮาบฮูจริง ๆ”เจาหัวหนาคนหนึ่งหัวเราะเสียงดัง “เรื่องฆาควายก็เปนเหตุสุดวิสัยเหมือนกัน เฮาบฮู”จอนิสะกดอารมณอีกคร้ัง“เรื่องฆาควายนั้นมีหลักฐาน พวกเฮาจับไดคาหนังคาเฮา พวกคุณจะวาบฮูไดยังไง

พวกคุณตองแยกสองเรื่องนี้ออกจากกันนะ”“ฮา ฮา ฮา”ปาไมถือวาพวกมากขมขูดวยเสียง”แยกไดยังไง มันเร่ืองเดียวกัน พอตาย

แลวมันก็ตายเหมือนกัน ยิงแลวมันก็ยิงเหมือนกัน”“ถาคุณพูดอยางน้ันพวกเฮาก็เหมือนกัน ตายเหมือนกัน เลือดออกเหมือนกัน”“แกทาทายรึ” เสียงดังขึ้น“บ”จอนิตอบ”เฮาไมอยากเห็นไผตาย”“ฮะ ถาวันพรุงน้ีมีพวกปาสนตายไปสักคน ก็พวกแกนั่นแหละฆา”“อาว”จอนิรอง “ถาอยางน้ันก็เหมือนกัน ถาพรุงนี้มีพวกหนองเตาตายไปสักคน เฮาก็

ถือวาพวกปาสนฆา”“ก็ได”คนหนุมกระแทกเสียงดัง “จํ าไวนะ”“งั้นพวกคุณก็กลับไปไดแลว”จอนิพูดเรียบ ๆ“ไมกลับ..”หัวหนาพวกปาสนเร่ิมตีรวนอีกคร้ัง จอนิรูสึกวาคนพวกนี้กํ าลังยั่วยุเขา และ

อยากใหเขาโกรธ เพราะถึงอยางไรเขาก็คนเดียวไมมีใครมาชวยอีก จอนิมองออกไปนอกถนนไมมีใครสักคนที่สนใจจะมาดูวาเกิดอะไรขึ้นที่บานของเขา นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับคนในหมูบานกันแน ทันใดน้ัน เขาเห็นเงาของคนเดินใกลเขามา คนตัวเล็กกับคนตัวใหญ มือชิเพื่อนรักของเขาน่ันเอง เดินมาพรอมกับจูงลูกชายของเขามาดวย เขารูไดในทันทีวา พฤวิ่งไปตามมือชิมา จอนิตืน้ตันในน้ํ าใจของลูกชายจนน้ํ าตาแทบไหล

สองคน คนหนึ่งตัวเล็กและอีกคนหนึ่งตัวใหญ เดินผานคนถือปนเหลานั้นเขามาหาเขาจอนิกล้ันหายใจ เขากลัวเหลือเกินวาขณะที่สองคนนั้นเดินผาน พวกปาไมที่กํ าลงัมืดหนาตาบอดจะจับเอาตัวเพื่อนหรือลูกชายของเขาเอาไว โชคดีที่สิ่งที่เขาคิดไมเกิดขึ้น มือชิและพฤจึงมานั่งอยูขาง ๆเขาในท่ีสุด

จอนิรูสึกมีกํ าลงัใจอยางประหลาด

Page 75: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

เขากวาดตามองไปที่คนงานที่ยืนอยูรายรอบ หลายคนเขารูจักดีเพราะเคยมาคลุกคลีตีโมงอยูท่ีบานเขาบอย ๆ เปนไปไดอยางไรกันที่คนที่เคยพูดคุยกับเขา เคยกินขาวบานเขา จะถือปนเดินเขามาคุกคามเขาถึงบาน จอนิมองหนาหัวหนาคนหนุม คนพวกน้ีมีความรู ถือตนวาตางจากเขา และมีผลประโยชนอยางนอยก็เงินเดือนของบริษัทที่รับจางปลูกปา แตพวกคนงานที่ยืนถือปนถือมีดอยูนั่นส ิชีวิตก็แทบจะไมตางจากพวกเขา ยากจน ตองดิ้นรนตอสูหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว เสื้อผาเกา ๆขาด ๆ บางคนก็อยูในหมูบานใกล ๆนี้เอง พวกนี้ไมมีความรู ไมไดเงินไมไดผลประโยชนใด ๆทั้งสิ้น แมเขาตายก็ไมเปนประโยชน จอนิรูสึกสงสาร เขาเองก็ไมตางจากคนพวกน้ีเลย หากเขาไมไดรับการศึกษา ไมไดตอสูมาจนวันนี้

จอนิไมสนใจคนหนุม เขาพูดดัง ๆใหคนงานไดยิน“คุณระวังตัวเองเนอ เปนลูกนองเขา รับจางเหมือนลุงเหมือนกัน แตตอนนี้กลับเปน

เครื่องมือรับใชหัวหนาไมกี่คน “คนงานเงียบ คนหนุมก็พลอยเงียบฟงไปดวย“คุณตองเขาใจตัวเองดวยเหมือนกัน คุณก็ทุกขยากเหมือนลุง ถาคุณวัวควายถูกขโมย

คุณจะสบายใจบ คุณลองคิดดูดี ๆ คุณมาทํ ากบัลุงอยางน้ีนะหรือ”จอนิเห็นความเคลื่อนไหวชัดเจน คนงานบางคนท่ีคุนเคยกับจอนิดีคอย ๆถอยออกไป

กอน จอนิพูดตอ เขาพยายามระมัดระวังเลือกแตถอยคํ าทีไมถึงกับระคายหู แตเปนถอยคํ าท่ีคุนๆ และแสดงความเปนจริง

ในท่ีสุด พวกลูกนองก็คอย ๆสลายไปทีละคนสองคน เหลือแตหัวหนา ๓ คน เห็นไดชัดวาคํ าพูดองจอนิทํ าใหเขาคลายความรูสึกรุนแรงลง เขาเปนคนมีการศึกษา บางทีเขาอาจจะละอายใจตอจอนิก็ได

จอนิพูดกับเขาตอ ไมไดรุกลํ้ ากาวราวแตช้ีแจงอยางคนท่ีเปนตอ“อะไร ๆ ก็โทษบานหนองเตา คุณทํ าอยางน้ีไดยังไง กฎหมายมีข่ือมีแป คุณจะมาใชกฎ

หมู มาฆาผม แนใจก็ฆาเลย”คนหนุมลดน้ํ าเสียงลง“ผมจะไปทํ าอยางน้ันไดยังไง ผมก็แคมาพูดกับพอหลวงเทานั้น ผมก็ไมอยากใหเรามี

อะไรไมเขาใจกัน”จอนิน่ิง ทุกอยางสงบลงแลว“ถาแคน้ัน ผมก็ไมวาอะไรหรอก”คนหนุมสรุปวา “งั้นก็ขอใหเลิกแลวตอกัน”จอนิย้ิม”ดีครับ”เขาพูดตอ ประโยคท่ีจอนิไมคาดฝนวาจะไดยิน “คราวนี้ถาควายเขาไป เราจะชวยดูแล

ให”น้ํ าเสียงของเขาไมไดเยาะเยยหรือแกลงพูด จอนิรูสึกดี ทุกอยางข้ึนตนอยางเลวรายแต

กลับลงจบอยางดี

Page 76: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

จอนิกมลงมองลูกชาย เขายังน่ังอยูขาง ๆ ทาทางต่ืนเตนยังไมหาย “ไปกันหมดแลวพอ”เสียงเล็ก ๆของลูกเขาทํ าใหจอนิตื้นตัน

มือชิบนพึมพํ า ทาทางยังตื่นเตนไมหาย จอนิมองหนาเพื่อนรวมตอสูในวันรายของเขาอยางขอบคุณ

“จํ าวันนี้ไวนะ”จอนิบอกลูกชายวัย ๙ ขวบเมื่อพฤโตขึ้น เขาจํ าภาพที่มีคนมาลอมบานในขณะเขานั่งอยูกับพอได และเขาบนแต

เพียงวา “ผมแปลกใจที่มีมือชิมาคนเดียว ทั้งที่พอเปนพอหลวง มีคนมาลอมบานตั้งเยอะแยะขนาดน้ีคนอ่ืน ๆก็เห็น”

จอนิน่ังฟงคํ าของพฤในวัยหนุมอยูดวย เขาพูดวา“เปนธรรมดา พอหลวงตองชวยคนอื่น มากกวาคนอื่นชวยพอหลวง”

Page 77: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

บทท่ี ๑๓ สองมือ

จอนิไมไดโกรธชาวบานที่ไมมาชวยเขาในยามที่เกิดวิกฤต หากแตเขากลับมองเห็นปญหาชัดเจนลงไปวา หากชาวบานไมชวยชุมชนดวย ตัวเขาเองคนเดียวก็คงไมสามารถชวยไดครั้งนี้เขาโชคดีที่บังเอิญคนงานปาไมสวนใหญเปนคนที่เขารูจัก หากเปนคนท่ีไมรูจักกันมากอนก็ไมแนใจวาเหตุการณจะจบลงอยางนี้หรือเปลา

ถึงเวลาแลวที่เขาไมควรจะรูคนเดียว คนแรกที่เขาใหความรูความเขาใจเรื่องปาและชุมชนก็คือ จอเกอะ คนหนุมที่ศรัทธาเขา พอเด็กหนุมรูวา มีพวกปาสนมาลอมบานเขา ก็เอาแตรองวา

“ทํ าไมไมไปบอกผม ผมไมรูเลยแลวก็หันมาขยี้หัวพฤแลวถามวา“พฤทํ าไมไมวิง่ไปบอกอา”พฤตอบวา “ก็เจอแตอามือชิน่ี”จอนิย้ิม ๆ เขานึกในใจวา ไมรูนะดีแลว เพราะคนหนุมอยางจอเกอะ เจอเขากับคนหนุม

สามคนน้ัน รวมเขาและมือชิซ่ึงยังไมแกดวย สามตอสาม ไมรูเหมือนกันวาจะเกิดอะไรขึ้น แตเขาคิดวา มันอาจจะลงจบไมเหมือนกัน

แตอยางไรก็ตาม การที่จอเกอะแสดงความกระตือรือรนทํ าใหจอนิมีกํ าลังใจ เขาจะเร่ิมตนจากคนที่รักปาดวยกันกอน มือชิ จอเกอะ แลวก็จะแฮ..แลวก็……

ไผเลมเดียวไมเปนแพขาวเมล็ดเดียวไมเปนเหลาคนคนเดียวไมเปนครอบครัว

ทาของบรรพบุรุษดงักองข้ึนในหัวใจของจอนิ

หลังจากมาลอมบานจอนิแลว เหตุการณตาง ๆก็เงียบสงบไป รัฐบาลยังเดินหนาปลูกปาไปเร่ือย แมจะไมไดเขามาปลูกปาในหมูบานหนองเตา แตก็ปลูกสนทั่วเขตลุมแมนํ้ าวางตอนบน ถึงป ๒๕๒๕ โครงการปลูกปาเพื่อทดแทนการปลูกฝนก็ดํ าเนินตอเนื่องมาไดหกป ตนสนอายุ ๖-๗ ปโตเขียวสะพรั่งไปทั้งเขา ชาวบานที่เคยรองวาเจานายปลูกไมทํ าลายปาก็เร่ิมหันมาชื่นชมปาสน เพราะบริเวณนั้นเดิมเปนเขาหัวโลนที่ชาวมงใชปลูกฝน

“เจานายเกงนะ สามารถปลูกปาบนเขาหัวโลนได”ชาวบานพูดกันไมมีใครรูวาเจานายหรือรัฐบาลใชเงินงบประมาณไปจํ านวนเทาใด และถาพวกเขารู เขา

ก็อาจจะตกใจแทบตายได เพราะเงินจํ านวนนั้น พวกเขาทั้งหมูบานเอามาแบงกันทุกครอบครัวใชกินอยูจนตายไปแลวมาเกิดใหมก็ยังใชไมหมด

จอนิมองดูปาสนอยางไมสบายใจนัก เพราะเขาไมเชื่อในปาที่มีไมพันธุเดียว

Page 78: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

“ไมใชปาหรอก”ปาสนที่รัฐบาลปลูกไมสรางความชุมชื้น ไมเปนปาและทํ าใหเกิดผลกระทบตอสภาพแวด

ลอม เพราะน้ํ าในแมน้ํ าลํ าธารเริ่มแหงลงเรื่อย ๆ จอนิกับชาวบานหนองเตาคุยกันถึงปญหานี้แทบทุกวัน

วันหน่ึง ขาวรายก็มาถึง“ไฟไหมปาสน”ชาวบานคนหนึ่งเดินมาบอก ในช่ัวเวลาเพียงไมก่ีช่ัวโมงปาสนบนภูเขาก็อันตรธานหาย

ไปกับไฟปา เขาหัวโลนลูกเดิมกลับมาปรากฏแกตาชาวบานอีกครั้งหน่ึง แตคราวนี้เปนภูเขาหัวโลนสีดํ า และมีควันเบาบาง

จอนิน่ิงคิด ปาหายไปอีกหน่ึงภูเขา และรัฐบาลก็พึ่งไมไดแลว

จอนิทํ างานหนักทางความคิด เขานึกถึงพระคัมภีรที่เคยอานเมื่อทอใจอีกคร้ัง เขาพยายามจะนํ าพระคัมภีรมาปรับใช พระคัมภีรไมใชสิ่งที่อยูแตบนหิ้ง หรือแตในโบสถ หากเปนสวนหน่ึงในการดํ าเนินชีวิต หมายถึงตัวเอง เพ่ือนบาน สังคม หรือแมกระท่ังชนเผา

เขาวา “ศาสนาหมายถึงชีวิต หมายถึงวิทยาศาสตร คนเราเดินไปขางหนาอยางเดียวไมได ตองเหลียวหลังยอนมองถึงความเปนมาของตัวเอง”

จอนิเริ่มยอนนึกถึงความเชื่อดั้งเดิมของชาวปกาเกอะญอ หรือ”ออแค” ซึ่งคือการนับถือผีคนปกาเกอะญอเชื่อวา มีผีคอยปกปกรักษาคน มีทั้งผีที่สถิตอยูในธรรมชาติ เชน ปาไม ตนน้ํ าลํ าธาร ที่นา ซึ่งเปนศูนยกลางความเชื่อของชุมชน และผีบรรพบุรุษ ซึ่งเปนศูนยกลางความเชื่อของครอบครัว และเครือญาติ

เขารูสึกวา สิ่งที่มีอยูในเผาพันธุของเขาตองมีความหมายตอการดํ าเนินชีวิตปจจุบันแนนอน เขานึกถึงนิทาน นึกถึงทาบทตาง ๆ ทุกอยางที่ประกอบกันขึ้นมาเปนคนปกาเกอะญอคนหน่ึง เขาทบทวนและไลเรียงอยางละเอียด

จอนินึกถึงทาบทหนึ่งที่เขาไดยินบอย ๆจากผูเฒาตา อี เจอะ เกอะ หลี ตะ ปกอตา อี เจอะ เกอะ ทา ตะ ปกอเกาะ ลอ ที คแก เตอะแฮ ลอเก็าะ สอ เปอะ จอ เตอะ แฮ ลอพลี ลอ บือ คลี จุย บวา บอตา โป เลอะ ชวา ออ หมา เลาะเราน้ี วาจาไมศักดิ์สิทธิ์เราน้ี วาจาไมสุภาพเรียกน้ํ าฝน น้ํ าฝนไมมาเรียกน้ํ าคาง น้ํ าคางไมมา

Page 79: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

หวานเมล็ดขาว จับดามเสียมสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยูที่พระเจาสั่งไว

วันรุงข้ึนจอนิ ประชุมชาวบาน เขาเร่ิมตนดวยการอึทาบทพระเจาส่ังไว“เฮาเปนมนุษยตัวเล็ก ๆ ส่ังธรรมชาติไมได แถมยังอยูใตอ ํานาจของเจานายที่มีอํ านาจ

ลนฟา เราก็เหมือนแมนกทรายในนิทาน“จอนิอางถึงนิทานเร่ืองแมนกทราย ที่มูเสาะ เพื่อนรวมตอสูเรื่องปาดวยกันจากหมูบานขางเคียงชอบเลาเสมอ

มีนกทรายตัวหน่ึง ตัวเล็กนิดเดียวสรางรังบนที่สูงบนตนไมไมได ตัวเล็กเกินไปจึงสรางรังในทราย จึงเรียกกันวา นกทราย อยูมาวันหนึ่งออกไข ๓ ใบ ฟกลูกได ๒ ตัว อีกใบหนึ่งไขมันลีบ ไมเปนตัว จึงเลี้ยงลูก ฟูมฟกลูกทั้งสองตัวเปนอยางดี

วันหน่ึง มีชางตัวหนึ่งเดินมาเกือบเหยียบลูกนกทรายทั้งสองตัว แมนกทรายขอรองชางอยาเหยียบลูก เพราะกลัวลูกจะตาย ชางบอกวา”นกทรายตัวเล็กนิดเดียว เหยียบไปก็ไมเห็นเปนไร” ชางวาแลวก็เหยียบทันที นกทรายตัวนี้ก็เสียใจ คิดถึงลูก ออกไขมา ๓ ใบ ฟกออกมาเปนตัวได ๒ ตัว เลี้ยงก็ทุกขยากแลวยังมาตายไปอีก

แมนกทรายรองไหไปตลอดทางข้ึนดอยลงดอย มีวันหน่ึงมาเจอนกกา นกกาถามวา “นกทราย เราเห็นมาหลายวนัแลว ไปไหนมาไหนก็รองไห เปนอะไร รองไหทํ าไม” แมนกทรายบอกวา”เราเสียใจ” นกกาถามวา “เสียใจทํ าไม” แมนกทรายตอบวา “เราจะทํ ารังบนตนไมสูงก็ทํ าไมไดเลยไขในทราย ไข ๓ ใบ ฟกลูกได ๒ ตัว ลูกยังบินไมได วันหนึ่งชางตัวหนึ่งเดินมาใกล เราขอรองวาอยาเหยียบลกูเราเลย ชางตัวน้ีไมยอมฟง เหยียบลูกเราทันที ลูกเราก็ตายไป” นกกาไดฟงก็บอกวา “ไมเปนไร เราจะชวย”

แมนกทรายไมรูวาแมนกกาจะชวยอยางไร เพราะชางตัวใหญเหลือเกิน เวลาผานไปนกกาก็ยังชวยไมได แมนกทรายยังรองไหเหมือนเดิม อยูมาวันหนึ่งไดเจอแมลงวันตัวหนึ่งแมลงวันถามวา “เราเห็นมาหลายวนัแลว เจามีแตรองไห มันสนุกนักหรือ” แมนกทรายตอบวา“เราจะไปสนุกท่ีไหน เราเสียใจตางหาก” แมลงวันถามวา “เสียใจทํ าไม” แมนกทรายจึงเลาเรื่องใหฟง แมลงวันรูสึกสงสารจึงบอกกับนางวาจะชวย ไมตองเสียใจ แตแมลงวันจะชวยเมื่อไหรยังไมรู แมนกทรายก็รองไหเสียใจเหมือนเดิม ขึ้นดอยก็รองไหลงดอยก็รองไหอยูอยางนั้น

อยูมาวันหน่ึงเจองูเขียวตัวหนึ่ง งูเขียวก็แปลกใจท่ีแมนกทรายรองไหไมยอมหยุด จึงถามวา ทํ าไมรองไหมากมาย มันสนุกนักหรือ แมนกทรายจึงเลาเรื่องชางเหยียบลูกของนางตายใหฟง งูเขียวสงสารจึงบอกวาจะชวย.ไมตองรองไห จนกระท่ังมาเจอกบ กบก็ถามเชนนั้นและก็บอกวาจะชวยเหมือนกัน

เวลาผานไปแมนกทรายรูสึกวาใคร ๆก็บอกวาจะชวย แตไมเห็นมีอะไรเกิดขึ้น แมนกทรายจึงรองไหเหมือนเดิม ไปที่ไหนก็รองไห ข้ึนดอยก็รองไห ลงดอยก็รองไห

จนกระท่ังวันหน่ึง นกกาไดมาพบชางตัวนั้น นึกถึงเรื่องที่แมนกทรายเคยเลาใหฟง จึงบินไปจิกตาชางทํ าใหชางตาเจ็บ เม่ือแมลงวันมาเจอจึงไปไขท่ีตาชางทํ าตาเปนหนองเนา จนตา

Page 80: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

บอดมองไมเห็นทั้งสองขาง ตอมาไดเจองูเขียว งูเขียวจึงรัดเขาท่ีขาชาง ตอนนี้ชางใจราย ขาก็เจ็บ ตาก็เจ็บ จึงชวยตัวเองไมได

อยูมาวันหน่ึง ชางเดินไปบนหนาผาสูง กบไปเจอชาง นึกถึงค ําสญัญาท่ีใหกับแมนกทรายได จึงไปซอนตัวอยูใตหนาผา สงเสียงรองดัง”ออบ ออบ “ ชางนึกวาขางหนามีน้ํ าก็เดินตามเสียงกบไปเรื่อย ๆ ลงไปเร่ือย ๆชางมองไมเห็น ขาก็เจ็บ ตาก็เจ็บ ในที่สุดก็ลื่นกลิ้งตกหนาผาหัวเปนหาง หางเปนหัว ตายในที่สุด

จอนิบอกวา“เฮาเปนคนตวัเลก็ เปนชาวบานท่ีไมมีอํ านาจ ไมมีเคร่ืองมือ ถูกรังแกเชนเดียวนางนก

ทราย นายทุนก็เหมือนชาง รัฐบาลก็เหมือนชาง ปาไมก็เหมือนชาง เฮาก็สูไปรองไหไปแบบของเฮา แพบาง ไดรับการรับฟงบาง รับเรื่องไวบาง ไมไดผลบาง ไดผลบาง วันหน่ึง ก็อาจจะสงผลสะเทือนไปถึงชางได แตที่สํ าคัญคือ สัตวที่แมนกทรายไปขอความชวยเหลือนั้น ก็เปนสัตวตัวเล็ก ๆเหมือนกัน ชาวบานกับชาวบาน หรือชาวบานกับคนทุกขยากดวยกัน เฮาตองชวยกันเองเฮาตองชวยตัวเอง แมวาตองใชนํ้ าตารองขอก็ตาม”

“เฮาตองชวยกัน เฮาตองชวยตัวเอง”“ของดีของเรา ออแคของเราเราตองชวยกันรักษาไว ใครนึกอะไรออก เรามาชวยกันร้ือ

ฟน ชวยกันนํ าไปปฏิบัติใหเปนจริง…”จอนิสรุปวา“แมปกาเกอะญอจะขัดสนทางวัตถ ุแตเฮาร่ํ ารวยทางวัฒนธรรม” และจบดวยประโยคท่ีทํ าใหปกาเกอะญอประทับใจ“สิ่งส ําคัญเหนือกวาอื่นใดทั้งหมด คือการรูจักตัวเอง และการรูจักปกาเกอะญอท่ีแทจริง”

ดอ บ่ือ แหว ขอ ฮี เหม คกูเบาะ ถอ เสอะ เกาะ เส เผลอะ ทูเราพ่ีนองต้ังหมูบานม่ันฟาถลมฃวยกันยันได

จอนิเอยคํ าทาของบรรพบุรุษ ทํ าใหชาวบานตื่นตัว เขาออกจากบานทุกวัน ออกคุยกับชาวบานอยางหนัก ตัวอยางความลมสลายจากหมูบานใกลเคียงทํ าใหพวกเขาตองเรงทํ างานจอนิเชื่อในความสัมพันธของสรรพสิ่ง เขาเช่ือวาคน ปา น้ํ า ธรรมชาติ สัมพันธกัน ปา น้ํ าธรรมชาติดี แตถาคนไมดี ส่ิงตาง ๆเหลานั้นก็ไมสามารถอยูได คนดี ปา น้ํ า ธรรมชาติ ไมดีคนก็อยูไมไดเชนกัน

ไมเพียงแตเรื่องปาและนํ้ าเทานั้นส ําหรับพอหลวงจอนิ โอโดเชา เพราะหนองเตาในพ.ศ.๒๕๒๘ น้ัน ยังตองเผชิญกับสิ่งที่เรียกความเจริญ(เชน ถนน ไฟฟา)ที่หลั่งไหลมาจากภายนอก และพาเอาปญหาเชน ความฟุมเฟอย ปญหายาเสพยติด และปญหาอื่น ๆอีกมากมาย

Page 81: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

จอนิเรียกสิ่งที่มาพรอมความเจริญเหลานี้วา ผีรายภายนอก เขาเปนคนเห็นโลกกวางและมีพ้ืนฐานทางวัฒนธรรมของหมูบานแข็งแกรง เมื่อประกอบสองสวนเขาดวยกัน จอนิจึงเปนคนที่สังเคราะหชีวิตและสังคมไดรวดเร็ว เขามองลํ้ าหนาไปคร่ึงหน่ึงเสมอ

“เฮาตองชวยกันสรางกฎหมูบาน”จอนิบอกกับชาวบาน ประสบการณของเขาไมใชเร่ืองราวชีวิตของบุคคลที่เปนเอกเทศ

หากแตชีวิตของเขาเกิดมาเพื่อชีวิตของคนอื่นและชีวิตของสิ่งอื่น เขาประชุมชาวบานบอยคร้ังชวยกันจัดระเบียบใหหมูบาน ทั้งทางจิตใจและทั้งทางสถานที่

ในท่ีสุด ในป ๒๕๒๘ หมูบานหนองเตาก็มีกฎหมูบานข้ึน ๑๒ ขอ จอนิใหคนเขียนข้ึนปายตัวโตติดไวหนาหมูบาน เพื่อใหคนภายในและภายนอกไดเห็นและปฏิบัติพรอมกันกฎของหมูบาน ๑๒ ขอคือ

ขอหนึ่ง หามยิงปนในหมูบาน โทษฝาฝนปรับ ๕๐๐ บาทขอสอง หามลักเล็กขโมยนอย โทษปรับไมต่ํ ากวา ๑๐๐ บาทขอสาม หามกอการทะเลาะวิวาทในหมูบาน โทษฝาฝนปรับไมตํ้ ากวา ๑,๐๐๐ บาทขอส่ี หามกระทํ าผิดประเพณีในหมูบาน โทษฝาฝนปรับไมตํ ่ากวา ๒,๐๐๐ บาทขอหา หามมีการซื้อขายยาเสพยติดภายในหมูบาน โทษปรับกวา ๕๐๐ บาท และ

ด ําเนินคดีตามกฎหมายขอหก หามตัดไมทํ าลายปาในเขตหมู ๔ โทษปรับไมต่ํ ากวา ๑,๐๐๐ บาท และดํ าเนิน

คดตีามกฎหมายขอเจ็ด หามช็อตปลาและใชยาเบื่อในเขตหมู ๔ โทษปรับไมตํ ่ากวา ๕๐๐ บาทและ

ด ําเนินคดีตามกฎหมายขอแปด หามหมูบานอื่นเขามาลาสัตวในเขตหมู ๔ โทษปรับไมต่ํ ากวา ๒,๐๐๐ บาทและ

ด ําเนินคดีตามกฎหมายขอเกา หามคนแปลกหนา ตางถิ่น หรือคนตางดาวเขามาอยูในหมูบาน มีโทษดํ าเนินด

คีตามกฎหมายขอสิบ หามซ้ือขายของผิดกฎหมายในหมูบาน มีโทษดํ าเนินคดีตามกฎหมายขอสิบเอ็ด หามทํ าลายสมบัติของทางราชการ และของสวนรวม ฝาฝนดํ าเนินคดีตาม

กฎหมายขอสิบสอง หามเลนการพนันทุกชนิดในหมูบาน โทษฝาฝนปรับไมตกวา ๕,๐๐๐ บาทกฎท้ัง ๑๒ ขอลวนมีที่มาและเหตุผล เขาพยายามทํ าดีที่สุดส ําหรับการควบคุมคนภาย

นอกและควบคุมคนภายใน ในขณะเดียวกัน ขอปฏิบัติตามความเชื่อดั้งเดิมก็ถูกน ํามาฟนฟูใชอีกครั้ง เชน การหามตัดตนไมบางชนิด ตนไมบางตนหามตัด เชนตนเขลอ ถือวามีเจาของอาศัยอยู เรียกวา”หม่ือกาเขลอ” เพราะฉะน้ัน ตนไมชนิดน้ีคนเปนหามนํ ามาใช หรือตนไมท่ีมีเถาวัลยพันลํ าตน หรือมีสัตวทํ ารังอยู หามนํ ามาสรางบานหรือยุงขาว ในความเปนจริงก็คือจะเกิดการทํ าลายธรรมชาติชีวิตสวนอื่นที่ไมไดนํ ามาใชประโยชนไปดวย

Page 82: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

การหามโคนตนไมใหญ หามโคนตนโพธิ์ ตนไทร ตนตะเคียน เพราะตนไมท้ังสามน้ีมีนางพญาสถิตอยู หากตัดโคนจะปวยไขหรือมีปญหาอยางใดอยางหน่ึงกับชีวิต

การเก็บของปาน ํากลับบาน ของปาเก็บไดแตตองกินในปา หามนํ ากลับบาน นํ ากลับบานไดเพียงปละหน่ึงคร้ัง หนอไมเก็บไดกอละ ๒ หนอ ไมไผตัดไดไมเกินกอละ ๒ ลํ า มากกวาสองจะไมดีกับผูเก็บ เปนการสรางบาปสรางกรรม หนอหวายหามนํ ากลับบาน ถานํ ากลับเสือจะตามมา ผักกุยชายปา หามนํ ากลับบาน ถานํ ากลับจะหลงทาง กลับไมถึงบาน หัวปลีปาหามเก็บกินในฤดูรอน ชะอมหามเก็บกินในฤดูฝน สมุนไพรหามเก็บเกินขนาด ถาเก็บเกินจะไมเปนยา

สวนสัตวที่หามลาคือ นกกก ชะนี นกแซงแซว งูเหลือม นกหัวขวาน นกกา นกนางแอนนกแตวแรว นกโพระดก นกทึดทือ นกเงือก นกกะฮัง นกพญาเหินดง นกแกว นกขุนทอง แรงนกหัวขวาน นกหัวหงอก เหยี่ยวกลางคืน

ขอหามเก่ียวกับน้ํ า คือ หามรบกวนตานํ้ าผุด หากรบกวนจะมีอันเปนโรคคอพอกหามทิ้งสิงโสโครก หรืออุจจาระ ปสสาวะลงแมน้ํ าลํ าคลอง ถาทํ าจะเจ็บปวยหรือมีปญหา

ชีวิตขอหามเกี่ยวกับการทํ าไรคือ หามทํ าไรในดูตะ ซึ่งเปนพื้นที่ปาสมบูรณหรือปาตนนํ้ าหรือในปาแนวกันลม หรือปาชา เพราะปาเหลานั้นสัมพันธกับชีวิตคน และหามทํ าไร

หนีบหมูบานและทายสุดเปนคํ าสั่งสอนของบรรพบุรุษท่ีถูกนํ ามาย้ํ าอกีคร้ังหน่ึง สํ าหรับชาวบาน

หนองเตา“รบกวนไฟ ไฟจะดับรบกวนน้ํ า น้ํ าจะแหงใชน้ํ า รักษาน้ํ าใชดิน รักษาดิน”

จอนิจะตองฝนวาเผชิญกับผีรายและเอาชนะผีรายอีกสักกี่ครั้งหนอ หนองเตาจึงจะยืนหยัดอยูได โดยไมลมสลาย

Page 83: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

บทท่ี ๑๔ ชาง

เขายืนอยูตรงหนาจอนิ ตัวสูงใหญเทาทะมึน โบกหูไปมาราวกับวาเปนพัดอันใหญ งวงยาวออนโยนแกวงไปมาตรงหนา จอนิยื่นมือไปสัมผัสผิวหนังหยาบเปนลายรอง เจาแหงสัตวปาผูนาเกรงขามชูงวงข้ึนนิดหน่ึงราวกับจะทักทาย

“โมวี..”จอนิเอยเสียงเบา ๆ เขาคิดถึงปูและนาของเขาที่เลี้ยงชางเมื่อสมัยที่เขายังเด็กข้ึนมาจับ

ใจ คร้ังกระโนนความปรารถนาจะอยูบนหลังชางดจูะเปนความใฝฝนสูงสุด ท่ีท่ีเขาจะน่ังไดอยางสงาผาเผยและมองเห็นทางขางหนาไดยาวไกล แตชีวิตที่ทุกขยากทํ าใหเขาไมมีโอกาสจะไดทํ าเชนนั้นนอยเต็มที แตวันนี้ เมื่อเลิกเปนผูใหญบานแลว เขาเลือกที่จะทํ าทัวรชาง อีกงานหนึ่งที่เขารูสึกพอใจ ป พ.ศ. ๒๕๓๐ เปนปท่ีจอนิ โอโดเชา ไมขอลงรับเลือกตั้งเปนผูใหญบานอีก แมชาวบานจํ านวนมากจะยังอยากใหเขาเปนตอก็ตาม เขาตอบปฏิเสธดวยเหตุผลงาย ๆวา

“ไมอยากเปนเผด็จการ..ใหคนอ่ืนเขาทํ างานบาง”“ไมเปนหวงหรือวา คนอื่นจะทํ าใหงานที่ทํ ามาลมเหลว”จอนิหัวเราะ “ผมก็ไมไดไปไหนน่ี ก็ยังอยูบานหนองเตา”“แลวทํ าไมจึงคิดทํ าทัวรชาง”จอนิหัวเราะ“ตั้งแตใหญมานี่ เฮามีใจกะชางมาตลอด และก็อยากรูเรื่องธุรกิจดวย”

จอนิ โอโดเชา เด็กก ําพราที่เติบโตเต็มตนจนมาเปนผูใหญบาน ไดผานการตอสูมากมายในวิถีทางชีวิต วันนี้ไดเลือกทํ างานอีกอยางหน่ึงซึ่งชวยใหเขาทํ าความเขาใจชีวิตท่ีจริงแทไดดีข้ึน เขาออกพูดคุยกับชาวบาน และหาผูรวมลงทุน

“ชางราคา ๙ หม่ืนบาทท่ีแมสะเรียงโนน”มีคนสงขาวมาบอก พวกเขาจึงรวบรวมเงินออกกันตามกํ าลังความสามารถในทางการ

เงิน เตรียมตัวเดินทางไปซื้อชางถึงที่นั่น กอนเดินทางหนึ่งวัน จอนิฝนวาตัวเองปนปายหนาผาสูงชัน และสามารถปนขึ้นไดสํ าเร็จ ตื่นเชามาเขาจึงบอกรีมูวา “เฮาซื้อชางทํ าไดส ําเร็จแน”

คนสิบสองคนเดินเทากันไปจนถึงแมสะเรียง และกลับมาพรอมกับชางหนึ่งตัวนาม“โมวี”

“ไมไดซื้อไดงาย ๆนะ “จอนิเลา “กอนจะซื้อชางตัวหนึ่งนี่นะ ตองศึกษารายละเอียด ชางมันมีหลายตระกูล ลวดลายของชางแตละตัวมันเยอะเหลือเกิน ตองดูเล็บเทา ตองดูงวง ตองดูปาก ตองดูหัว ดูหนาดูตา ดูหางดูตีน เยอะเลย”

“แลวพะตีชอบตรงไหนของมันละ ชางนะ”จอนิอมยิ้ม ตอบดวยนํ้ าเสียงขํ า ๆ “เฮาชอบงามันนะ”

Page 84: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

“ทํ าไมชอบงาละ”จอนิไมตอบคํ าถามแตกลับอธิบายวา “ผูเฒาบอกวา คนชอบงาชางนี่เปนคนชอบยาก

ลํ าบากนะ” พูดแลวเขาก็หัวเราะทํ าไมชอบงาตองยากล ําบาก” คนถามไมเขาใจ“ฮา ๆ”จอนิชอบใจ “ก็มันเอาออกหนาไปกอนน่ี ชนไปกอนเลย”“มินาละ..พะตีถึงชนไมหยุด”ฮา ฮา ฮา จอนิหัวเราะชอบใจ

เม่ือไดชางมาแลว จอนิก็ไปตระเวนดูทัวรชางและลองแพที่เปนที่นิยมของนักทองเที่ยวที่ทํ ากันอยูที่ปาอื่น ๆ จากน้ัน จึงมาวางแผนทํ าทัวรชางในปาแมวาง โดยเร่ิมจาก”โมวี”ตัวเดียว

ดวยความชํ านาญปาแมวางเปนทุนอยูแลว จอนิจึงสามารถจัดแผนที่การเดินทางไดแตกตางจากคนทํ าทัวรชางคนอื่น ๆ ท่ีมีอยูไมก่ีคนในสมัยน้ัน

ทํ าไดพักหนึ่ง จอนิก็รูแลววา เขาควรจะทํ าอยางไร เขารูวา ถานักทองเที่ยวมากับไกดนํ าเท่ียวหรือบริษัททัวร เขาไดราคานอยกวาที่เขาติดตอกับฝรั่งเองโดยตรง

จอนิเลาวา“ที่ติดตอเองก็มี อยางเฮาข่ีชางมา อยู ๆก็มาเจอฝรั่ง เฮาก็รอง “ฮะโหล” เฮาก็ไดละ เฮา

ก็จะถามเขาวา ยู ซี อีลีแฟนท เขาก็จะถามวา ฮาวมัช เฮาก็บอก ทรี ฮันเดรดบาท เฮาก็จะถามอีกวา ยู โก ทู วิลเลจ ทู แลวคาอื่น ๆมันก็จะฮ้ือมาเอง ฮะ..ฮะ พวกน้ีบางทีใหเปนพันก็มีหารอยก็มี”

จอนิทํ าทัวรในปาแมวางอยูพักหนึ่งจนมีชางถึงสิบตัว โดยไดพฤลูกชายโตที่เปนลูกคนท่ีสามเปนกํ าลังสํ าคัญในการจัดการ ในขณะเดียวกันจอนิก็ยังคงเปนวิทยากรใหศูนยสังคมพัฒนาของสภาแคธอลคิบางเปนคร้ังคราว ในหัวขอเกี่ยวกับธนาคารขาว ซ่ึงจอนิไดทํ าสํ าเร็จในชวงที่เปนผูใหญบาน

การทํ าธรุกิจของจอนิประสบความสํ าเร็จ หากวัดกันดวยรถกระบะเล็กหนึ่งคันที่จอนิไดมา และกลายเปนยานพาหนะท่ีใชขึ้นลงดอยมาจนปจจุบัน

“ตอนน้ันดาวนแสนหน่ึง ผอนสงเดือนละหกพันอีกสี่ป โอย..เหนื่อย”จอนิทํ าทัวรชางอยูจนถึงป ๒๕๓๖ จึงเลิกกิจการ แมการทํ าทัวรชางจะดูเหมือนเปนการ

หารายไดเพื่อเลี้ยงตัวเองของจอนิ แตลึกลงไปในหัวใจของจอนิ การไดอยูกับชางและการไดเดินอยูในปา ก็คือหนทางที่เขาเลือกเพื่ออยูใกลสิ่งที่เขารักและพอใจนั่นเอง

Page 85: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

บทท่ี ๑๕ เครือขาย

โลกของจอนินับวันมีแตจะกวางออกไปเร่ือย ๆ เดือนเมษายน ๒๕๓๖ จอนิขยายโลกของเขาออกสูการเรียกรองที่มีลักษณะเปนสากลมากขึ้น เขาแตงชุดเรียบงายของเขา ขับรถกระบะคันเล็กของเขาลงจากดอย และไปรวมประชุมสมัชชาชนเผาที่สถาบันราชภัฎเชียงใหมอํ าเภอเมือง เชียงใหม

หองประชุมอันโอโถงแหงน้ัน จอนิรูสึกดีอยางยิ่งเม่ือไดเห็นพี่นองทั้ง ๑๓ ชนเผา อันประกอบดวยมง เม่ียน(เยา) ลีซู(ลีซอ) ลาหู(มูเซอ) ปกาเกอะญอ (กะเหร่ียง) อาขา (อีกอ) ขมุปะหลอง มราบรี(ผีตองเหลือง) ชาวเล และซาไก หนาตาและสีสันสวยงามแสดงถึงทวงทํ านองพื้นถิ่นของแตละแหง จอนินึกไมถึงเหมือนกันวา คนแบบพวกเขาที่เดินทอม ๆ อยูตามภูเขาจะมีวันท่ีมาน่ังรวมประชุมกับคนท่ีใสสูทชุดสากลได

ในการประชุมคร้ังน้ี ท้ัง ๑๓ ชนเผาไดจับมือกนัเปนเครือขาย ดวยส ํานึกในความรมเย็นเปนสุขท่ีไดรับจากแผนดินไทย และพรอมจะใหความรวมมือกับรัฐบาลตามสิทธิหนาที่ของพลเมืองไทย ขอเพียงความมั่นใจจากรัฐบาลวายอมรับใหพวกเขามีตัวแทนรวมในการจัดทํ านโยบายและแผนพัฒนาสํ าหรับชนเผาตาง ๆ เพื่อใหชนเผาไดเสนอปญหาและทางเลือกในการพัฒนา ที่สอดคลองกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของแตละชนเผา

พวกเขายืนยันวา เม่ือชนเผาไดรับสิทธิการทํ ากินบนที่ดิน พวกเขาพรอมที่จะดูแลปาตนน้ํ าลํ าธาร พรอมที่จะทํ าเกษตรเชิงอนุรักษ และใหความรวมมือในการกํ าจัดยาเสพยติด ท้ังในดานการผลิตและการเสพย เม่ือชนเผาไดรับสิทธิการเปนพลเมืองไทยที่ถูกตอง พวกเขาก็พรอมที่จะรักษาสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย และการพัฒนาเพ่ือความย่ังยืนของประเทศ

จอนิไดรับเลือกเปนตัวแทนของชนเผาปกาเกอะญอ ในคณะกรรมการชนเผาในประเทศไทย เขาบอกวา

“ปญหาของชาวเขา ถาพูดเปนภาษาวิชาการก็คือ ชาวเขาเจออยู ๕ มิติ หมูบานท่ีปดก็เจอสภาพปญหาอยางหน่ึง หมูบานก่ึงปดกึง่เปด หมูบานเปดเต็มท่ี หมูบานที่แตกสลาย ตางก็เปนไปคนละแบบ หมูบานท่ีเผชิญสงครามก็มี ตามชายแดนไทย-พมา ชาวเขาตองปรับตัวทั้งขึ้นทั้งลอง ปญหาที่พบมากก็คือ เรื่องสัญชาต ิเร่ืองไมมีเอกสิทธ์ิจะอยูในท่ีดิน เร่ืองสัญชาต ิ มันเปนเขตอนุรักษ เขตปาสงวนไปหมด”

ไมเพียงแตปญหาชาวเขาเทานั้น จอนิยังมองไดไกลไปถึงปญหาทั้งหมด“ตอนนี้ถาผมมองในระดับกวาง การจะแกปญหาของชาวเขา ปญหาของคนพื้นราบก็

ตองแกดวย ผมวาคนสวนใหญเขาคิดเหมือนกันวาจะตองมีการกระจายการปกครองตัวเอง ซ่ึงก็คือการกระจายอํ านาจการตัดสินใจ ผมอยากใหมีตรงน้ี”

การไดสัมพันธกับผูคนกวางขวางขึ้น ทํ าใหแนวความคิดการอนุรักษปาขยายตัวออกจากกลุมเล็ก ๆ เปนเครือขายชุมชนปกาเกอะญอและมงในเขตตนนํ้ าแมวาง ดอยแมแจม และ

Page 86: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

ไหลลงมาตามลํ าหวยสูลุมมแมน้ํ าวาง เปนเครือขายอนุรักษแมนํ้ าวางกวา ๔๐ หมูบาน และในป๒๕๓๖ ไดมีการแบงกลุมหมูบานออกเปน ๓ กลุมคือ กลุมตนน้ํ า กลุมกลางน้ํ าและกลุมผูใชนํ า(ปลายน้ํ า)

จอนิไมไดมองอยางคนที่ยืนอยูที่มุมของตัวเองเทานั้น หากแตเขามองเห็นความสัมพันธของปญหาท้ังหมด เขายืนยันชัดเจนวา

“การอนุรักษธรรมชาติตองรักษาตั้งแตตนนํ้ าจนถึงปลายน้ํ า เพราะธรรมชาติมีความสัมพันธเกี่ยวของกันตั้งแตหัวดอยจนถึงทะเล เปรียบเสมือนชีวิตของคน เสนเลือดแตละเสน มือแขน ขา ลํ าตัว จะตองดูแลพรอมกันทั้งหมด สิ่งแวดลอมของคนกรุงเทพฯ คนกรุงเทพฯตองดูแลจะอาศัยคนอ่ืนมาดูแลไมได หากสวนหน่ึงดูแล สวนหน่ึงทํ าลาย ปญหาก็ยังเหมือนเดิม…พี่อยูตนน้ํ า นองอยูปลายน้ํ า แตเราอยูแทนกันไมได ไมวาจะอยูท่ีไหนก็ตาม มนุษยทุกคนเปนพี่นองกันหมด”

จอนิสรุปเชิงวิพากษวิจารณใหปญญาชนจากสวนกลางไดสะทอนใจวา“การอนุรักษธรรมชาตจึิงจํ าเปนที่จะตองอนุรักษทุกสวนใหเหมือนกับชีวิตคน ไมวาจะ

เปนปลายน้ํ า ตนน้ํ า กลางน้ํ า ทุกวันนี้การอนรักษทํ าแบบแยกสวนเหมือนเปนวัตถุชนิดหน่ึงแยกเปนปาไม เปนสัตว คนก็เกิดความไมเขาใจกัน งานนี้ไมใชเรื่องของเรา ในที่สุดก็ทะเลาะกันแลวก็ไปแกปญหากันแบบผักชีโรยหนา”

เขาย้ํ าแบบโวหารภาพพจนปกาเกอะญอวา“เม่ือเจ็บท่ีมือก็ตองรักษาท่ีมือ ไมไดคิดวาจะปวดถึงใจ เวลามองปญหาไมไดมองแบบ

องครวม”

โลกของจอนิเปดกวางออกไปจนสุดขอบฟา เมื่อเขาเปนหนึ่งในผูแทนชนเผาในประเทศไทยไปรวมประชุมชนพ้ืนเมืองท่ีประเทศเปรู ในโอกาสปพ้ืนเมืองของสหประชาชาติ ผูแทนอีกคนหนึ่งก็คือ ชาวอาขา ท่ีไดรับการศึกษาจากสหรัฐอมริกา และจอนิก็ไดอาศัยคนไทยเชื้อสายอาขาคนนี้เปนลามใหตลอดการประชุมดวย

เมื่อกลับมาจากการประกาศวา”ชนเผาทั้งโลกเปนพี่นองกัน” จอนิก็เจอกบัขาวรายปลายป พ.ศ. ๒๕๓๖

งานแตงงานของสามู จอและ (นองชายของจอนิ) และมือชิ (เพื่อนรักของจอนิ) กับสาวแหงหมูบานผาหมอนเพ่ิงจะผานไปไมนานนัก จอนิดีใจท่ีคนท่ีเขารักกํ าลังจะมีครอบครัว และจะไดใชชีวิตที่สมบูรณ แมพืธีกรรมในการแตงงานจะเปล่ียนไปกวาสมัยกอน แตจอนิก็ยังรูสึกดี

“จอนิ ๆ” มีเสียงเรียกเขาดังข้ึน พอเขาหันกลับไปก็เห็นจอและยืนอยู“อาว..”จอนิรอง “ทํ าไมกลับมานี่ละ…”จอและแตงงานกับสาวผาหมอนและเดินทางไปบานเมียแลว แตทํ าไมกลับมายืนอยูตรง

หนาเขาได“เจานายปาไมมันบใหเขา”

Page 87: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

“อะหยังนะ” จอนิรอง“เจานายปาไมบอกวา ที่ที่ผาหมอนบใชที่ท ํากินแลว เปนที่ของหลวง”จอนิงง จอและอธิบายตอ“เจานายบอกวา หลวงประกาศเปนที่อุทยานแหงชาติไปแลว คนท่ีอยูเดิมอยูได แตเฮา

เปนคนใหมเขาไปอยูไมได”“ไปอยูบานเมียก็บไดหือ” จอนิรอง“บได”จอและยืนยัน หนาตาหมนหมอง“เรื่องใหญแลว”อดีตพอหลวงแหงหมูบานหนองเตารองจอนิกับเพื่อนออกเดินทางหาความจริงกันอีกครั้ง แมจะเปนเพียงแคการเดินทางไปยัง

สํ านักงานปาไมจังหวัด เขาไดค ําตอบที่เจ็บปวดมาวา“จริง..ท่ีผาหมอนเปนอุทยานแหงชาติไปแลว”“แตพวกเขาอยูมากอนนะ”จอนิรองประทวง“ใช..”เจาหนาที่ขานรับ”คนที่ทํ ากินอยูแลว หลวงอนุญาตใหอยูได แตใครจะเขาไปอยู

ใหมไมได”“แมแตคนที่เขาแตงงานกันนี่นะ”“งั้นส”ิเจานายวา น้ํ าเสียงออกไปทางขํ า ๆ แตจอนิไมขํ าดวย“ทํ าไมเปนอยางน้ีละ ผมไมเขาใจ ท่ีเหลาน้ันชาวบานเขาอยูมากอน ทํ ากินแลวก็ดูแล

รักษาปามานานแลว จู ๆหลวงจะเอาไปไดอยางไร หลวงจะเอาไปทํ าอะไร”เจาหนาท่ีปาไมย้ิม ช้ีแจงวา ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ฉบับท่ี ๗ ได

กํ าหนดอัตราสวนการใชประโยชนพื้นที่ปาไมใหม เปนปาอนุรักษ ๒๕ % และปาเศรษฐกิจ ๑๕% ซ่ึงสลับสับเปล่ียนจากมติคณะรัฐมนตรีเดิม เม่ือ ๓ ธันวาคม ๒๕๒๘ ท่ีกํ าหนดใหปาอุรักษ๑๕ % และปาเศรษฐกิจ ๒๕ %

ดังน้ัน เมื่อมีการจัดชั้นลุมนํ้ าคณุภาพท่ัวประเทศ และมีการจํ าแนกการใชที่ดินและปาไมในพื้นที่ปาสงวนแหงชาติทั่วประเทศขึ้น ผลของการจํ าแนกน้ีทํ าใหพื่นที่อนุรักษขยายเพิ่มขึ้นจากเดิม ๒๖ ลานไร เปน ๘๘ ลานไร

“รัฐบาลทํ าอยางน้ีไมได”จอนิประกาศ “ชนเผาก็เปนคนไทยเหมือนกัน”เจาหนาที่ปาไมไมไดคัดคานค ําพูดของจอนิ เขาไดแตยิ้มแบบระมัดระวัง อาจเปนเพราะ

เขารูจักกิตติศัพทของจอนิดีจอนิเดินทางกลับบานดวยความรูสึกรวดราว โลกของเขาไมไดมีเพียงแคหมูบานหนอง

เตาแลว หากแตไดขยายขอบเขตออกไปถึงทุกชนเผาทั่วโลก ไมวาใครจะถูกยํ่ ายีเขาก็พลอยถูกย่ํ ายีไปดวย ปาท่ีทางการไทยจะยึดเปนอุทยานแหงชาติน้ัน เปนปาที่พี่นองชนเผาทํ ากินมากอนและไดชวยกันฟนฟูปามาแลว จู ๆทางการจะเอากฎหมายเขามาจัดการไดอยางไร

จอนิรูไดในทันทีนั้นวา เขาอยูเฉยไมไดแลว

Page 88: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

มีการพูดคุยกันถึงเรื่องอุทยานทับที่ทํ ากิน ในที่ประชุมเครือขาย จอนิเปนรองประธานเครือขายกลุมเกษตรกรภาคเหนือ โดยมีทวีศิลป ศรีเรืองเปนประธานเครือขาย

“ทางการใหยายไปอยูท่ีใด บางทีเพื่อตัดปญหา พวกเฮาอาจยายก็ได”ตัวแทนชนเผาคนหน่ึงเสนอ “เฮาก็บอยากไดชื่อวาเปนคนทํ าลายปา ไมเห็นแกชาติบานเมืองนะ”

“เฮาอยูเฮาก็รักษาปาอยูแลว” อีกคนหนึ่งแยง“เฮาตองหาขอมูลใหดีที่สุดกอน”ที่ประชุมถกเถียงกันอยางกวางขวาง แตไมอาจหาขอยุติได ในที่สุดคณะกรรมการเครือ

ขายตกลงพากันไปดูพื้นที่อพยพท่ีทางการเคยจัดการใหกับชาวเขาเผาเยา ลัวะ ลีซอและมูเซอโดยอพยพจากอุทยานแหงชาติดอยหลวง จังหวัดล ําปาง ยายลงมาอยูท่ีริมทางหลวงสายลํ าปาง-เชียงราย บานแมออ-ผาชอ

เมื่อถึงหมูบานเปาหมาย ทุกคนสลดใจกับดินลูกรังสีแดงกระดางที่เปนที่ตั้งของหมูบานอพยพใหม ทุกอยางดูโลงเตียนเปนสีเหลืองและสีแดง เจาของบานหลังใหมไมมีทาทีมีความสุขแมประกายตาจะตื่นเตนดีใจที่มีพวกชนเผาดวยกันไปเยี่ยมเยือนก็ตามที มีแตเพียงเสื้อผาที่บอกสีสันของชนเผาตนเองเทานั้นกระมังที่ดูวาจะมีความสุขกวาเจาของ เพราะมันทํ าใหโลกริมถนนแหงนั้นดูคลายโลกจํ าลองของชาวเขาชนเผาตาง ๆ

เด็กนอยคนหน่ึงยืนมองจอนิและกลุมผูมาเยือนอยางสนใจ ผูมาเยือนกมลงทักทาย เด็กนอยย้ิมอาย ๆ เม็ดผื่นที่แขนก็พลอยทักทายผูมาเยือนดวย เด็กนอยเกาเม็ดผื่นที่แขน

“เปนอะไรนะ…โอโฮ เม็ดเต็มเลย” ผูมาเยือนทักเด็กนอยย้ิมอาย ๆ“เปนอะไรนี่..”แขนถูกจับข้ึนมาพลิกดูผูใหญผูไรสีสันทางแววตาหันมาตอบใหดื้อ ๆ “เปนเม็ดคันนะ ท่ีน่ีน้ํ ามันคัน”“อาว..”จอนิรอง“อะไร ๆก็บดีทั้งนั้นแหละ..พ่ีนอง”ผูใหญคนนั้นบอก “เฮาอยูของเฮาบนดอยโนนก็ดีอยู

แลว แตหลวงบอกวาเฮาจะมีความผิดตามกฎหมาย ถาไมยายลงมา หลวงจะจับขังคุก”จอนิเมินหนาไปทางอื่น หัวใจรวมรูสึกในการถูกกดขี่เตนแรง จอนิรูทันทีวา เขาตัดสิน

ใจอยางไรในการแกปญหา”อุทยานทับท่ี”อีกไมกี่วันตอมา คณะที่ไปดูขอมูลที่อํ าเภอคลองลาน จังหวัดกํ าแพงเชร ก็มารายงานวา

ชาวบานท่ีอพยพมาจากอุทยานแหงชาติเขาแมวงก ก็ตกอยูในสถานะเดียวกับชาวบานที่บานแมออ-ผาชอ อาจจะรายกวาดวยซํ้ า เพราะชาวบานคลองลานอพยพมาแลว ๑๐ กวาป แตก็ยังไมมีท่ีดินทํ ากิน และไรการเหลยีวแลจากหนวยงานใด ๆของรัฐ

๒๗ มิถุนายน ๒๕๓๘ เกิดการชุมนุมประทวงของชาวบานในเขตตนนํ้ าภาคเหนือหลายเครือขาย ที่เคลื่อนตัวจากเชียงใหมสูลํ าพูน เปนชุมนุมประทวงท่ีใหญที่สุดตั้งแตจอนิเคยเขารวมมา เพราะจํ านวนคนกวาสองหมื่นคน และประทวงนานถึง ๗ วัน ๗ คืน และเปนการ

Page 89: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

ประทวงที่แสดงใหเห็นถึงการรวมพลังครั้งใหญของชนเผา เสื้อผาและสีสันทองถิ่นของชนเผาที่มองเห็นอยูในกลุมผูประทวงทํ าใหจอนิรูสึกวาโลกอยูแคมือเอื้อม

จอนิบอกวา“เจ็ดวันเจ็ดคืนที่เรานอนตากแดดตากฝน เวลากินไมไดกิน เวลานอนไมไดนอน ตอง

บันทึกไว”ในท่ีสุด นายประจวบ ไชยสาสน รัฐมนตรีวาการกระทรวงเกษตรและสหกรณในสมัยน้ัน

ซึ่งไดเดินทางมายังที่ชุมนุมประทวง ไดจัดใหมีการประชุมรวมกันระหวางรัฐมนตรีวาการกระทรวงเกษตรและสหกรณ ผูแทนราษฎรของจังหวัดเชียงใหมและลํ าพูน และกลุมราษฎรผูรองเรียน ในวันท่ี ๓ พฤษภาคม ๒๕๓๘ ที่ศาลากลางจังหวัดล ําพูน จอนิ โอโดเชา เปนหนึ่งในตัวแทนราษฎรท่ีเขารวมประชุมรวมน้ันดวย

ขอเสนอของราษฎรแบงออกเปน๕ ประเด็นคอื ประเด็นแรก ขอใหรัฐบาลชวยเหลือชาวบานที่ถูกอพยพออกจากเขตปาอนุรักษโดยเรงดวน

ประเด็นที่สอง ใหกันพื้นที่อยูอาศัย ท่ีทํ ากิน ปาชุมชนของชาวบานออกจากการประกาศเปนพี้นที่อุทยานเขตรักษาพันธุสัตวปา เขตหามลา รวมทั้งพื้นที่อนุรักษประเภทอื่น ๆและใหออกมติคณะรัฐมนตรีหรือกฎหมายรับรองสิทธิในที่อยูอาศัย ท่ีทํ ากิน ที่ปาชุมชนใหถูกตองตามกฎหมาย

ประเด็นท่ีสาม ใหระงับและเพิกถอนการออกเอกสารสิทธิ์ที่ไมถูกตองตามกฎหมาย ซ่ึงทับท่ีทํ ากิน ที่ปาชุมชุนของชาวบาน

ประเด็นที่สี่ เรงเสนอและพิจารณา พรบ.ปาชุมชนฉบับประชาชนประเด็นท่ีหา หากมีการแตงตั้งคณะกรรมการ เพื่อแกไขปญหาดังกลาว คณะกรรมการ

ที่แตงตั้งขึ้นจะตองประกอบไปดวยตัวแทนชาวบาน ขาราฃการประจํ า ขาราชการการเมือง นักวิชาการ องคกรพัฒนาเอกชน ในอัตราสวนที่เทาเทียมกัน และตองมีอํ านาจในการพิจารณาแกไขปญหาโดยตรง โดยมีการออกมตคิณะรัฐมนตรีรับรองคณะกรรมการชุดดังกลาว

ขอเสนอทั้งหาขอของราษฎรไดรับการสนองตอบจากรัฐมนตรีวาการกระทรวงเกษตรและสหกรณในสมัยน้ันเปนอยางดี ทุกประเด็นมีการรับปากจะดํ าเนินการ จะตรวจสอบ จะต้ังคณะกรรมการขึ้นตรวจสอบ ขึ้นดํ าเนินการ โดยมีกํ าหนดเวลาในการปฏิบัติงานดวย อาทิ การจัดสรรท่ีทํ ากินใหราษฎรมีการนัดไปดูพื้นที่ในวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๓๘ ท่ีบานผาชอ จังหวัดลํ าปาง หรือการชดเชยคาแรงงานของราษฏรที่ถูกอพยพออกจากที่ทํ ากินก็จะดํ าเนินการภายในเดือนพฤษภาคม ๒๕๓๘ เปนตน

จอนิ โอโดเชา หยิบปากกาขึ้นมาจรดตัวอักษรลงบนกระดาษอยางชา ๆ เขาลงลายมือชื่อเปนภาษาไทย จอนิ โอโดเชา แมเสนปากกาจะเชื่องชาไมทันใจ แมลายมือช่ือเขาจะไมเลนหางยาวเหมือนนายประจวบ ไชยสาสน รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย นายสมาน ชมพูเทพ สมาชิกสภาผูแทนราษฎรจังหวัดลํ าพูน หรือนายผอง เลงอี้ อธิบดีกรมปาไมสมัยน้ัน แตชื่อ

Page 90: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

ของเขา ราษฎหมูบานหนองเตา ที่เปนหนึ่งในสี่ของตัวแทนราษฎรก็ปรากฏอยูในหนาเดียวกันกับลายมือช่ือท่ีมีหางยาวเหลาน้ัน

เสนปากกาของจอนิดูราวกับตนหญาตนเล็ก ๆ ที่อยูใตตนไมใหญ แตเปนตนหญาตนเล็ก ๆท่ีม่ันใจและทรงพลัง

บันทึกราชการฉบับน้ันลงวันท่ี ๓ พฤษภาคม ๒๕๓๘ เปนการบันทึกทางประวัติศาสตรครั้งหนึ่งวา ตํ าแหนงแหงที่ของคนรากหญานั้นมีอยูจริง มีการถายสํ าเนาเอกสารบันทึกฉบับนี้แจกจายไปท่ัว ท่ีบานของจอนิ โอโดเชา ก็มีบันทึกฉบับน้ีอยูหลายชุด

“มันเปนผลแลว..”จอนิวา “หลังจากน้ันไมก่ีเดือนมันก็ยุบสภานะ ขอเสนอเฮาก็เลยเงียบไป”

“ทอใจม้ัย..พะต”ี“ทอไมได..”จอนิวา “ทํ าอะไรไปก็ตองอดทน คอย ๆไป…”วาแลวจอนิก็อึทาขึ้นมาบท

หน่ึงตุ แฮ สอ เกะ เดอ เกอะ เดอแกว แฮ สอ เกอะ เดอ เกอะ เดอปกา เม แฮ ซึ เตอะ กอ เชอธี เนอะ โข แล ตา ซเญอ ซเญอเนอะ พอ เลอะ ชญา โอ พเจอมีคนเปาเสียงเบาไกล ๆมีคนเปาแกว เสียงเบาไกล ๆแตใครรองเรียกหาอะไรคุณหาตองขานตอบไมกมหัวของตัวเองคอย ๆไปดอกไมสํ าหรับเธอยังรอคอย

“บรรพบุรุษของเฮาสอนมาอยางน้ี..เฮายังมีความหวังเสมอ..”นัยนตาของจอนิ โอโดเชา บงบอกถึงความเขาใจความเปลีย่นแปลงของโลก เขาใจชีวิต

และเขาใจตัวเอง

Page 91: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

บทท่ี ๑๖ ฟนปญญา

ดอ บือ แหว ชอ ฮี เหม คกูเบาะ ถอ เสอะ เถาะ เส เผลอะ ทูพ่ีนองต้ังบานพรอมใจเอาทองค ําฝงไวที่ตนไม

จอนิ โอโดเชา กลายเปนปกาเกอะญอที่โดดเดน เขาไดรับเชิญไปเปนวิทยากรเพ่ือบรรยาย หรือขึ้นเวทีเพื่ออภิปราย เสวนา เรื่องปาและน้ํ า ตลอดจนการใชชีวิตของชุมชนปกาเกอะญอมากกวา ๒๐๐ ครั้งในระยะเวลาประมาณ ๒๐ ป และไดรับเชิญใหไปประชุมในตางประเทศในฐานะตัวแทนชนเผานับเปน ๑๐ คร้ัง

จอนิบอกวา“ใครเชิญผมไปไหน มีคารถ มีขาวกิน มีท่ีหลับนอน ผมก็จะไป”เขามีเหตุผลวา“เรารูจักคน รูจักความคิด รูจักวัฒนธรรม ทํ าใหเรามีเพื่อนและรูจักตัวเองลึกซึ้งมากขึ้น”“พะตีไดเก็บเอกสารเวลาที่เขาเชิญไวบางหรือเปลา”จอนิรอง “ฮ่ือ..เก็บส.ิ.”“อยูไหนละ..ขอดูหนอย”เสียงจอนิหัวเราะหึ ๆ“โมมันเผาหมดแลว”“อาว..”“เออ..มันรกนะ เฮาก็ไมคอยเก็บเรียบรอย แลวก็ไมคอยไดอยูบาน โมไมรู วันหนึ่งก็เอา

ไปเผาหมด..เหลือแคนี้แหละ”จอนิ โอโดเชา ชี้ใหดูกองเอกสารที่วางอยูอยางไมเปนระเบียบนัก รวมทั้งชี้ใหดูโลอีก

สองสามโลและใบประกาศเกียรติคุณสองสามใบที่วางโชวไวในตู แตใสกุญแจแนนหนา ท่ีโดดเดนในจํ านวนนั้นก็คือ ป ๒๕๓๙ ไดรับการเชิดชูเกียรติจากคณะกรรมการคนดีศรีสังคม ใหเปนหนึ่งใน”คนดีศรีสังคม” ป ๒๕๓๙ ไดรับการประกาศเกียรติคุณใหเปนบุคคลผูมีวัฒนธรรมดีเดนทางดานวัฒนธรรม สาขาภูมิปญญา ของสํ านักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแหงฃาติ เม่ือป๒๕๔๐ และการประกาศใหเปนครูภูมิปญญาไทย สาขาการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดลอม(อนุรักษ) ของ สํ านักงานคณะกรรมการการศึกษาแหงชาติ ประจํ าป ๒๕๔๒

“ขังโลไวเลยนะ พะต”ี“ฮ่ือ” จอนิรับคํ าอยางไมสนใจเทาไหรนัก แตกลับสงรูปท่ีเปนอัลบั้มเล็ก ๆใหดู ราวกบั

จะเปนการยืนยันการเดินทางของเขา

Page 92: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

“น่ีไงชนเผาตอนท่ีเฮาไปญ่ีปุน ญ่ีปุนน่ีเฮาไปสองคร้ังนะ..ไปดูเร่ืองการใชน้ํ า การเก็บรักษาน้ํ า”

“น่ีไงตอนไปออสเตรเลีย..”“นี่มาเลเซีย..ไป ๒ คร้ัง”“อเมริกาใต..”“ฟลิปปนส..”จอนิเลาวา ครั้งแรกที่ขึ้นเครื่องบิน เม่ือเจาหนาที่บริการบนเครื่องบินถามจอนิวา

ตองการอาหารอะไร จอนิก็สั่งปลา“ฟช”ในใจเขาตอนนั้นนึกขํ า ๆวา ปลาเมื่ออยูบนเครื่องบินรสชาติจะเปนอยางไรหนอเม่ือพนักงานนํ าเอามาให จอนิก็ใชสอมเข่ียไปมาดูเน้ือปลา “อ..เหมือนกัน”จากนั้นก็

เอามีดตัด เอาสอมจิ้มใสปาก เมื่อลิ้นลิ้มรส จอนิก็หันไปบอกคนท่ีน่ังอยูขาง ๆวา“รสชาติเหมือนปลาที่บานหนองเตาเลย”คนที่ไปดวยหัวเราะ นึกวาจอนิพูดเลนตลก แตความจริงจอนิไมไดพูดเลน เขาเพียงแต

นึกข้ึนมาวา แทจริงแลวไมวาปลาจะมาจากท่ีไหนในโลก ก็คือรสชาติของปลาเหมือนกัน ผักที่พนักงานเอามาให ก็คือผักที่มีรสผักเหมือนที่บานหนองเตา เหมือนท่ีหมูบานอ่ืน ๆ จังหวัดอื่นๆในประเทศไทย จอนิเรียนรูวา แทจริงแลวสรรพสิ่งในโลกน้ีเปนหนึ่งเดียวกัน มีเหมือน ๆกันไมแตกตางกัน

ความเขาใจเร่ืองภาพรวมของสังคมโลกปรากฏชัดเจนในการแสดงทัศนะของจอนิ ในการอภิปรายคร้ังหน่ึงบนเวทีในงานคอนเสิรตสานใจคนรักปาเม่ือ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๓ เชียงใหมที่มีคนฟงจับจองสายตาตามทุกการเคลื่อนไหวของจอนิ เขากลาววา

“คิดไปคิดมา โลกมันกลม ๆแคน้ี มันอยูตรงไหนมันก็ตรงเดียวกัน ไมวาคนเล็กหรือคนใหญ ชนชั้นมีหรือชนชั้นจนก็ตองชวยกันเขาใจ ชวยกันดูแล”

และยังบอกอีกวา“ไมวาคนอยูในเมือง คนอยูทะเล คนอยูอากาศ คนอยูบนดอย คนอยูทุงนา คนอยูในตึก

จะอยูตรงไหนก็ตองกินนํ้ ากินอาหารตองเกี่ยวของกับปาตองเกี่ยวของกับสิ่งมีชีวิตรอบตัว เพราะคนปกาเกอะญอมีความเชื่อวา วิญญาณเรามี ๓๗ ตัว อยูที่ตัวเรา ๕ ตัว และอยูรอบ ๆเปนหอยเปนปูเปนปลาเปนส่ิงท่ีมีอยูรอบ ๆ ๓๒ ตัว เฮาเคยส ํารวจตัวเองหรือเปลาวาวิญญาณเราตัวไหนตายบาง ลุงอยูบนดอย พี่นองประมงตอสูที่ภาคใต ลุงวาเอ ปลาหมด เฮาก็ไมไดกินปลาเหมือนกัน แมอยูบนดอยเฮาก็กินปลาทู ถาไมกินปลาทูก็เปนคอพอก ก็ขาดไอโอดีน คนเราตองมีธาตุหลายตัวอยูในรางกาย ไมวาอยูในภูเขา ในตึก ในท่ีราบ ในใตทะเล ก็เกี่ยวของกับสิ่งมีชีวิตเพราะฉะน้ัน เราตองดูแลสิ่งมีชีวิตเกี่ยวของรอบตัวเรา”

การไดเจอคนที่เปนชนเผาดวยกัน ความแปลกแยกเมื่ออยูในสังคมใหญทํ าใหพวกเขาเขาใจกันไดเร็ว

Page 93: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

“หนาตาพวกชนเผานี่เหมือน ๆกันดวยนะ”จอนิวาพลางช้ีใหดูรูปในอัลบั้ม“ทาทางเขามีความสุขนะ พะต ีสงสัยจะรวย”จอนิหัวเราะ “อื๊อ” ทํ าเสียงคัดคาน “ไมหรอก…มันก็เหมือน ๆกัน”การเดินทางไปยังพบปะพี่นองชนเผาในตางประเทศทํ าใหจอนิไดขอสรุปวา ชนเผาทั่ว

โลกถูกกดขี่เหมือนกัน และมีปญหาเรื่องปาและเรื่องน้ํ า ตลอดจนที่ทํ ากินเหมือน ๆกันจอนิจํ าครั้งแรกบนเวทีอภิปรายใหญของสํ านักงานวัฒนธรรมแหงชาติที่กรุงเทพฯ ซ่ึงมี

คนเขารวมประชุมเปนพันคนได เขาตั้งค ําถามบนเวทีดวยถอยคํ าสํ าเนียงปกาเกอะญอและดวยแผนภูมิฝมือของเขาเองบนจอแผนกระดาษ

“ตอนน้ันเฮาเขียนภาพขนาดใหญ ขางหน่ึงหนาเปนภาพลูกเกษตรกรรม อีกขางหน่ึงเปนภาพลูกอุตสาหกรรม เฮาเขียนภาพลกูขางอุตสาหกรรมใหญมาก สวนลูกขางเกษตรกรรมน้ันเฮาเขียนขาก็ลีบ อะไรก็ลีบ ตาก็นอย ๆ เฮาก็เลยบอกวา นายกรัฐมนตรีนะ ถามีเงิน ๑๐๐บาท มันฮื้อลูกสองคนไมเทากัน ลูกชื่ออุตสาหกรรมใหเจ็ดสิบบาท ลูกเกษตรกรรมให ๓๐ บาทในที่สุดลูกเกษตรกรรมมันก็ผอมลง ๆ สิ…เฮาไมไดพูดแบบวิชาการ เฮาพูดแบบเฮา..”

นั่นเปนการขึ้นเวทีของจอนิ โอโดเชา เพ่ือประกาศสถานะของคนยากไรท่ีเขาลืมไมลง

การออกไปนอกประเทศไมไดท ําใหจอนิลืมบานตัวเอง ตรงกันขามเขากลับยิ่งหันมาใสใจบานเกิดเมืองนอน เมื่อเขาไมไดเปนผูใหญบานและไมไดทํ าทัวรชาง เขายิ่งมีเวลาคิดและใครครวญ จอนินึกถึงตัวเอง เขาเติบโตมาอยางแรนแคนในทางการเงิน แตเขาไมเคยแรนแคนในดานวัฒนธรรม ปกาเกอะญอเปนคนภูเขา มีวิถีชีวิตไมเหมือนคนพ้ืนราบ มีชีวิต มีปา มีภูเขา มีความเช่ือ มีความรัก ความผูกพันที่เปนลักษณะเฉพาะของชนเผา การใชชีวิตแบบปกาเกอะญอผานเขาสูชีวิตและจิตวิญญาณของเขาตั้งแตวัยเด็ก เขาไมมีวันลมืเลย

“ผมคิดวาเฮาก็ปลูกฝงไว แตจะไดแคไหนอยางไร เฮาก็เปรียบเทียบกับตอนเฮาเด็กๆนะ เฮาไดอะไร เฮาเห็นอะไร เฮาก็จํ าไวอยู พอเฒาเฮาก็ยังจํ าไดอยู เพราะฉะน้ัน ถาเฮาปลูกฝงไวตั้งแตยังเด็ก เขาก็จะไดจํ าได ไมมากก็นอย”

จอนิเลายอนหลังวา“ระยะหน่ึงรูสึกวามันขาดชวง ผูเฒากับเด็ก ๆมันสืบทอดไมทันกัน คือวาเด็ก ๆไปอยูที่

โรงเรียน ผูเฒาก็ทํ ามาหากินแบบผูเฒา เด็กก็อยูของมัน ตอกันไมคอยติด ลุงก็คุยกันหลายๆคนวาตองเอาเขาไปในหลักสูตรของโรงเรียนดวย เพื่อใหคุณครูรับรู เด็ก ๆก็รับรูไปดวย เพราะท่ีมันเรียนจากโรงเรียนมันเปนเร่ืองของคนเมืองท้ังน้ัน”

นั่นเปนที่มาของการจัดทํ าหลักสูตรวัฒนธรรมปกาเกอะญอและเสนอใหทางโรงเรียนจัดเขาไวในการเรียนการสอน

“ใหม ๆ ทะเลาะกัน ครูไมยอมจัดวันใหตามท่ีเฮาขอ”จอนิวา

Page 94: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

จนกระท่ังวันหน่ึง ศึกษานิเทศกนามวรอนงค เนตรสุภลักษณ ไดขึ้นมาถึงหนองเตาและพบปญหา จึงไดเกิดการประชุมศึกษานิเทศก คณะครูและคนในชุมชน ซึ่งแนนอนรวมจอนิดวยในท่ีสุด การพัฒนาหลักสูตรก็เริ่มตนขึ้นในรูปของโครงการวิจัยและพัฒนาองคกรชุมชนเพื่อการขยายการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยเริ่มจากเปาหมาย ๓ ลุมน้ํ าคือ ลุมนํ้ าแมวาง ลุมนํ้ าสามหม่ืนและลุมน้ํ าแมจัน ซึ่งตอมาเหลือเพียงลุมนํ้ าแมวางเทาน้ัน เพราะอีกสองลุมนํ้ าขอถอนตัวเน่ืองจากไมพรอม

บุคคลากรของชุมชนในลุมน้ํ าแมวางมีความสามารถในการประเมินและวิเคราะหตัวเองและนํ ามาแลกเปลี่ยนกับนักวิจัยภายนอกได การพัฒนาหลักสูตรจึงเริ่มจากการแลกเปลี่ยนพูดคุยกันโดยนํ าผูรูคนปกาเกอะญอมาจากพื้นที่ตาง ๆ กันเชน แมสะเรียง แมแจม สะเมิง จอมทองและใหผูรูเหลานั้นเลาบอกและจดบันทึกไว และแบงกันไปหาเพิ่มเติมในสวนที่ขาด

เนื้อหาหลักสูตรจะครอบคลุมถึงประวัติศาสตรและความเปนมาของชนเผาตามที่นิทานและตํ านานตาง ๆวาไว พิธีกรรมส ําคัญที่เกี่ยวของกับชีวิตทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว เครือญาติและชุมชน ระบบศีลธรรมและจริยธรรม ขอหามความเชื่อตาง ๆที่เปนจารีตประเพณี วิถีการผลิตแบบดั้งเดิม ความเชื่อและการปฏิบัติเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ รวมทั้งเร่ืองของการใชและรักษาทรัพยากรธรรมชาติ

นอกจากน้ียังมีเร่ืองราวท่ีเก่ียวกับการทํ านายอนาคตจากคํ าบอกเลา คํ าทาและจากนิทาน พิธีกรรมเสี่ยงทายตาง ๆความเช่ือทางศาสนาและการแสดงออกทางศิลปะ ไมวาจะเปนดนตรีดนตรี บทเพลง ตลอดจนวรรณกรรมคํ าทา นิทานและบทสวดในพิธกีรรมตางๆ

หลักสูตรวัฒนธรรมปกาเกอะญอเริ่มทดลองสอนครั้งแรกที่มอวาค ีจากน้ันก็ไดรับการบรรจุไวในแผนการเรียนการสอนของโรงเรียนบานหนองเตา ทุงหลวง ทุงยาวและหวยเกี๋ยงเม่ือป พ.ศ. ๒๕๓๙ โดยใหครูปกาเกอะญอเปนผูสอน

“เด็ก ๆ ตองแตงชุดปกาเกอะญอไปเรียนหนึ่งวันดวย…วันศุกร” จอนิวารีมูเอาผาที่ทอแลวออกมาอวด ไมใชผาทอฝมือผูเปนแม แตเปนฝมือของลูกสาวสอง

คนท่ียังเรียนช้ันประถมอยู“นี่ก็เปนสวนหนึ่งของหลักสูตร” จอนิเสริมการนํ าเอาหลักสูตรทางดานวัฒนธรรมเขาไปใสไวในแผนการเรียนการสอน ทํ าใหจอนิมี

โอกาสท ําโครงการปลูกฝงใหเยาวชนรักปา รักน้ํ าและรักหมูบาน โดยการจัดอบรมใหความรูตามสถานการณ มีการทํ าคายรักปารักนํ้ าสํ าหรับเยาวชนในชวงโรงเรียนหยุด โดยการพาเด็กๆเขาไปในปาเพื่อเรียนรูจักปา และเขาใจปา รวมท้ังการจัดทํ าคายตามสถานการณ เชน การจัดเด็กนักเรียนออกปฏิบัติทํ าแนวกันไฟปา เพื่อเรียนรูเรื่องการรักษาปาอยางมีจิตสํ านึก

จอนิเลาวา ครูใหญโรงเรียนบานหนองเตาสารภาพวา“ผมเปนครูมา ๓๐–๔๐ ป เร่ืองน้ีผมไมเคยรูเลยนะ”

Page 95: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

เม่ือครูใหญไดพานักเรียนเขาปาตามโครงการคายรักปารักน้ํ าสํ าหรับเยาวชนเพียงครั้งเดียว”ทัศนะคติเปลีย่นเลยนะ..กลายเปนคนสนใจเรื่องปาเรื่องนํ้ า ตอนนี้ทางโรงเรียนก็ใหความรวมมือทุกเร่ือง”

จอนิเลาอีกวา“ตอนที่ทํ าหลักสูตรวัฒนธรรมปกาเกอะญองาย ๆ มีพวกนักศึกษาที่ขึ้นมาหมูบานหนอง

เตา มาชวยเขียนรูปประกอบดวยนะ คนที่เปนหัวเรี่ยวหัวแรงเรื่องนี้ทางโรงเรียนก็ครูรัตนาภรณนันทบัณฑิต”

จอนิสงเอกสารที่เปนหลักสูตรวัฒนธรรมปกาเกอะญอใหดู พลางเปดใหดู “เห็นไหม มีเรื่องปาเดปอดวย..แตเอกสารชุดนี้เฮามีชุดเดียวนะ ใหใครไมไดแลว มีอาจารยอะไรไมรูท่ีเชียงใหมมาเอาของเฮาไป ทํ าวิทยานิพนธอะไรแลวก็หายวิ้วไปเลย แผนที่ปาของเฮาก็เหมือนกัน พวกเอ็นจีโอน่ีแหละเอาของเฮาไป บฮูเหมือนกันทํ าไมไมทํ าเอง”

มีเสียงหัวเราะครืน เพราะที่นั่งตาแปวฟงอยูก็มีเอ็นจีโอนอยๆอยูในการประชุมเชิงปฏิบัติการเร่ือง”ปญหาการศึกษาและฝกอบรมเด็กในชุมชนเขตภูเขา”

เม่ือ ๒๙ พฤศจิกายน -๑ ธันวาคม ๒๕๔๓ ท่ีเชียงใหม จอนิไดสรุปถึงเร่ืองการจัดทํ าหลักสูตรวัฒนธรรมปกาเกอะญอวา

“การเรียนรูของเราที่ผานมา มักจะมองไปขางหนาเพียงอยางเดียว แตความจริงแลวเราจะตองศึกษาทั้งอดีต ปจจุบัน และอนาคต การจัดการการศึกษาที่เปนอยูไมสามารถแกปญหาใหชาวบานได ขณะเดียวกันภาษาและวัฒนธรรมอันดีงามของชาวบานก็คอย ๆสูญหายไป ดวยความตระหนักถึงปญหาของคนในชุมชนบานหนองเตาดังกลาว ชุมชนจึงไดรวมกับองคกรของรัฐและเอกชนจัดทํ าหลักสูตรทองถิ่นขึ้นมา หลักสูตรน้ีเนนใหผูเรียนท่ีเปนชาวเขาในหมูบานรูจักชีวิตจริง รูจักปาและสภาพแวดลอม และมีความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมและประเพณีของทองถิ่น”

ไมเพียงแตจัดการใหเด็ก ๆไดเรียนรูวัฒนธรรมปกาเกอะญอเทานั้น จอนิยังเห็นการณไกล เขาเปนหวงวาวัฒนธรรมและภูมิปญญาปาเกอะญอจะสูกับวัฒนธรรมที่ขึ้นมาจากพื้นราบไมไหว เพราะสื่อโทรทัศนและสื่อวิทยุมีอิทธิพลที่ชัดเจนและกวางขวางมาก เม่ือคร้ังท่ีนํ าผูเฒาผูแกจากหมูบานตาง ๆมาแลกเปลี่ยนภูมิปญญากันจนเปนหลักสูตรวัฒนธรรมปกาเกอะญอนั้นเขายังคิดโครงการรวบรวมภูมิปญญาปะกาเกอะญอดังกลาวในรูปของการอัดเทปเก็บไวเปนหลักฐานตอไปในอนาคต

“มีพออุยแมอุยอยูในโครงการประมาณ ๔๐ คน น่ีกํ าลังเตรียมจะขอเงินจากสํ านักงานคณะกรรมการการศกึษาแหงชาติ..”

ในสายตาที่ยาวไกลของจอนิ โอโดเชา มีปาเปนหัวใจอยูเสมอ ใครก็ตามที่ขึ้นไปเยี่ยมเยียนจอนิ โอโดเชาถึงบานหนองเตาในป ๒๕๔๔ จะไดเห็นกอนอิฐดํ า ๆกอนหนึ่งวางอยูบนพื้นกระดานกลางหองดานหนาที่เปนเหมือนหองรับแขกของบาน

Page 96: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

“อิฐ”จอนิชี้ใหดูกอนดํ าๆน้ัน“อิฐด ําหรือพะตี เอามาทํ าอะไร”“เฮากํ าลังเผาอิฐ…ทวดของเฮามีความรูเรื่องเผาอิฐ..เฮาก็เลยลองทํ าด ูน่ีทํ าไดเปน

๓๐๐–๔๐๐ กอนแลว”“ออ”ผูมาเยือนงง นึกไมออกวาเรื่องปาเร่ืองนํ้ าของจอนิ โอโดเชาเกี่ยวของกับอิฐกอน

ด ําๆ น้ีตรงไหน แตทาตื่นเตนของจอนิทํ าใหคนเยี่ยมเยือนไมกลาขัดใจ ปลอยใหจอนิเลาถึงเรื่องการทํ าอิฐที่นาภาคภูมิใจของบรรพบุรุษไปพักใหญ

“ภูมิปญญาทองถ่ินนะ”ใครคนหนึ่งเสริมเพื่อเพิ่มความภูมิใจ จอนิย้ิมชอบใจอยูกันหลายช่ัวโมงแลว สายตาของจอนิมักจะจับอยูท่ีกอนอิฐน้ันเสมอ ในที่สุดผูมาเยือน

ก็อดรนทนไมได “พะตีทํ าอิฐทํ าไมนะ”จอนิ โอโดเชาหันมามองคนพูดเหมือนเห็นสิ่งแปลกประหลาดมาปรากฏอยูตรงหนา“โอ” จอนิรองดวยน้ํ าเสียงเหนือกวา” เฮาทํ าอิฐนี่เพื่ออนาคต คนลูกหลานเฮาขางหนาจะ

ไดมีความรู ใชภูมิปญญาของหมูบานเราเอง ปลูกสรางบานวันขางหนาจะไดไมตองใชไม ปาไมถูกทํ าลาย”

“โอ”ผูมาเยือนรองตาม แตระดับตํ่ ากวา“น่ีเฮาทํ าเพื่อลูกเพื่อหลานวันขางหนานะ”นัยนตาของจอนิ ยังเปนประกายเจิดจา แสดงถึงความหวังในชีวิตที่ไมเคยอับแสง ไมวา

จะเผชิญกับปญหาอุปสรรคใด ๆ

Page 97: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

บทท่ี ๑๗ ไฟกับชีวิต

จอนิ โอโดเชาเดินนํ าหนา เด็กชายเด็กหญิงวัยสิบขวบเศษเดินตามหลังมาเปนแถว มีเสียงหัวเราะคิกคัก บางครั้งก็มีทุบตีหยอกเอินกัน จอนิหันมายกมือหามเด็ก ๆ

“อยาทํ าเสียงดัง”เด็ก ๆเงียบเสียงลงทันใด“เดี๋ยวลุงจะพาดูบานลิง”นัยนตาสิบสองคูจองเปงลอดไปตามกิ่งไมมองตาม ไมวาจอนิจะชี้มือไปทางใด ไมวาจอ

นิจะเย้ืองกรายไปทางใด เด็ก ๆก็จะเดินตามราวกับแถวของลูกงูที่สายไปตามแมงู ความรมคร้ึมเย็นของปาทํ าใหทุกใบหนาสดช่ืน

“โนนลูกไมสีแดง”“น่ีใบไมสีมวง”“น่ันก่ิงไมสีขาว”มีอะไร ๆใหตื่นตาและตื่นเตนมากมาย จอนิ สอนเด็กเปาใบไม หยิกใบไม ดูลูกไม ทาย

ชื่อลูกไม เดายอดใบไม และเคารพคุณปูตนไม“นี่เห็นมั้ยตนนี้อายุมากหนา”“ก่ีป”เสียงเด็กนอยถามขึ้นทันควัน“โอ…ตนนี้แกกวาลุงอีก”“กี่ปละ”เสียงนั้นยังสงสัยอยู“ตนน้ีเจ็ดสิบป”จอนิตอบ“โอโฮ..”เด็ก ๆรองพรอมกัน“นี่แหละคุณปูตนไม”เด็ก ๆหัวเราะ “แลวตนโนนละ”มือเลก ๆชี้ไปยังอีกตนหนึ่งที่ผอมเรียวอยูหางออกไป“หาป”จอนิวา “ออนกวาหนูอีก”เด็กหญิงแหงนมองตนไมหาป “ทํ าไมสูงกวาหนูละ”“เพราะมันเปนตนไม”“นองตนไม” เสียงขานเรียกนั้นแจมใสจนจอนิอดยิ้มไมไดจอนิพาเดก็ ๆเดินเขาไปอีก “ปกาเกอะญอเรามีชีวิตที่สัมพันธกับปาตั้งแตเกิดจนตาย

เราอาศยัน้ํ าท่ีมาจากปา เราอาศยัอาหารท่ีมาจากปา เราอาศัยไมที่มาจากปา ตั้งแตเกิดวันแรกเราก็มีความสัมพันธกับปาแลว แลวจอนิก็เลาเรื่องปาเดปอใหเด็ก ๆฟง”

“เรามีปาผูหญิง เกอเนอหมื่อ ปาชุมชื้นตลอดป”เด็กผูหญิงหัวเราะกันคิกคัก“แลวเราก็มีปาผูชาย เกอเนอพา ปาโปรง”ถึงตาเด็กผูชายหัวเราะบาง

Page 98: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

จอนิพาเด็กเดินลึกเขาไปอีก พลางชี้ใหดูตนไมใหญที่มีเถาวัลยพาดพันไปมา“ปาสมบูรณตองมีเจ็ดชั้น” เด็กหันมามองหนาจอนิ “ชั้นที่หนึ่งก็จะเปนพืชและสัตวเล็ก

ๆ หนาดินก็จะมีเห็ดรา ไสเดือน จ้ิงหรีด”ถึงตอนนี้เด็กผูชายถองกันตึก ๆ “จ้ิงหรีด ๆ” เจาตัวนอยกระซิบกระซาบกัน “มีไสเดือน

ดวยแลวก็หัวเราะกันคิกๆ ในขณะที่เด็กผูหญิงรอง “อี”๊“ชั้นที่สอง เปนตนไมเล็กคลุมดิน..”มีเสียงถามกันวา “ตนอะไรละ..บานเธอมีมั้ย” มีเสียงตอบวา ไอที่เลื้อย ๆกระมัง พวก

เถาขี้กานะ”“ช้ันท่ีสาม เปนตนไมพุมเตี้ย ๆ”คราวนี้เด็กหญิงตางแยงกันเสนอความเห็น บานใคร ๆก็มี ไมพุมเตี้ย ๆ แตเด็กชายน่ิง

เงียบ เพราะไมชางสังเกต“ช้ันท่ีส่ี เปนตนไมใหญที่มีกิ่งกานแตกสาขามากมาย”คราวน้ีทุกคนช้ีไปท่ีตนไมใหญตรงหนา “น่ี ๆ ๆ”“ช้ันท่ีหา ตะไครน้ํ า”ตาของทุกคนมองไปที่โคนตนไมใหญเปนตาเดียว “มีม้ัย ๆ”“เยอะแยะไป ตะไครใคร ๆก็รูจัก”“ช้ันท่ีหก ดอกเอื้องและกาฝากทั้งหลาย”“หนูรูจักดอกเอื้อง ..ดอกสีเหลือง” เสียงขานรับน้ันแจมใส แตเด็กผูชายเกิดหม่ันไส “ผม

ก็รูจัก กะอีแคดอกเอื้อง”จอนิหัวเราะท่ีเด็กทะเลาะกัน “ฃ้ันท่ีเจ็ด เถาวัลย”พอพูดจบ เด็ก ๆก็ชี้มือไปที่เถาวัลยเล็ก ๆที่หอยอยู “น่ีไง ๆ”จอนิรูสึกวา ปติจนน้ํ าตาแทบไหล เด็ก ๆกับปา เด็ก ๆกับความรักที่กํ าลังจะกอเกิดมีขึ้น

ทีละนอย ๆ นับแตน้ีไป

โครงการทํ าคายรักปารักนํ้ าใหเยาวชนเกิดขึ้นตอเนื่องมาแลวเปนปที่สี่ เปนโครงการท่ีแตกออกมาจากเรียนหลักสูตรวัฒนธรรมปกาเกอะญอ โดยเร่ิมจากการจัดทํ าคาย พาเด็กๆบานหนองเตาเขาปาเพื่อศึกษาและทํ าความรูจักธรรมชาติของปา ทํ าใหเกิดความรักและความหวงแหนปา

“เม่ือมีปาก็มีน้ํ า เมื่อมีทั้งสองอยางชีวิตก็ไมแหงแลง”ป ๒๕๓๙ เปนปท่ีเร่ิมนํ าเอาหลกัสูตรวัฒนธรรมปกาเกอะญอมาใชในโรงเรียน และตอ

มาป ๒๕๔๐ เริ่มเกิดโครงการเขาคายทํ าแนวกันไฟกับเยาวชน โดยใหเยาวชนเขาปาจริง และรวมทํ าแนวกันไฟในชวงเดือนมกราคม หรือกุมภาพันธของทุกป

“เปนการใหปฏิบัติจริง ๆ ใหเขาไดสัมผัสกับปา แลวก็ไดลงมือแสดงความรักปาดวยตัวเอง คร้ังหน่ึง ๆ ก็มีเด็ก ๆมากันเปนรอย”

Page 99: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

“เด็ก ๆบานหนองเตาดูแลปาของบานหนองเตา”จอนิย้ิม“ความจริงเฮาดูแลปาของทุกคน แมมันจะอยูในเขตหนองเตานะ แตมันก็เปนปาของทุก

คน ถาไฟไหมปาเฮา ก็เทากับไหมปาของคนอื่นดวย โครงการเขาคายทํ าแนวกันไฟกับเยาวชนไมไดมีแตเฉพาะเด็ก ๆโรงเรียนบานหนองเตานะ ท่ีโรงเรียนบานกาดก็พานักเรียนมาเขาโครงการดวย ที่หนองเตาทํ ามาแลวสี่ป ที่บานกาดก็มาชวยทํ าสามปมาแลว เม่ือมกราคมท่ีผานมาน่ีนักเรียนมัธยมโรงเรียนบานกาดวิทยาคมมาท่ีบานลุงรอยย่ีสิบคน เพื่อเขาคายทํ าแนวกันไฟท่ีบานหนองเตา ”

“เปนความรวมมือระดับคนรุนใหมเลยนะ” จอนิสรุป” ไมเคยมีในประวัติศาสตร เพ่ิงจะมีสามปมาน้ี”

ปาเปนชีวิตของจอนิ โอโดเชาและชาวปกาเปอะญอทั้งมวล ตั้งแตเกิดมาจนลวงอายุเขา๕๕ ปน้ี มีเหตุการณในชีวิตมากมายที่จอนิตองตัดสินใจเลือกทํ าอยางใดอยางหนึ่ง และเขาก็เรียนรูวาเขาสามารถตัดสินไดไมผิดพลาดหรือผิดพลาดนอย แตมีอยูคร้ังหน่ึง เหตุการณหน่ึงท่ีเกิดขึ้นในชีวิตแลว จอนิตองหันกลับมาตัง้คํ าถามกับตัวเองวา สิ่งที่เขาเลือกทํ าน้ีถูกหรือผิด ควรหรือไมควร

ป ๒๕๔๐ แมไมมีใครตัดไมทํ าลายปาในชวงหลายปที่ผานมา แตความแหงแลงอยางรุนแรงก็เกิดข้ึน โดยเกิดจากการแปรปรวนของธรรมชาตเิอง จอนิและชาวบานเฝามองความแหงแลงน้ีอยางไมสบายใจ เพราะปาอุดมสมบูรณของเขาไดรับผลกระทบอยางเห็นไดชัด ตนไมหลายตนตายไป และปาแหงพรอมจะเกิดไฟปาไดทุกเม่ือ

ตนป นักเรียนยังคงเขาคายทํ าแนวกันไฟปาอยูเหมือนเดิม ทั้งชาวบานและเด็ก ๆรูวาปน้ีจะเปนปท่ีหนักหนาสาหัส ผูใหญบานก็จะประกาศเสียงตามสายนัดชาวบานมารวมตัวกันเพ่ือไปชวยกันทํ าแนวกันไฟ

“อยาลืมเอาขาวมาดวยเนอ”น่ันเปนธรรมเนียมปฏิบัติท่ีรูกันดี คณะกรรมการหมูบานไดรับเงินอุดหนุนสํ าหรับการ

ปองกันดูแลรักษาปาปละประมาณประมาณ ๒๐๐๐“สองพันบาท” คนฟงรองเสียงหลง“ชาวบานไปชวยกันทํ าแนวกันไฟหรือดับไฟปาคร้ังหน่ึง ๆก็ใชเงินประมาณ ๘๐๐ บาท”“แปดรอยบาท” คนฟงย่ิงรองเสียงหลงขึ้นไปอีก “เอาไปทํ าอะไรได”จอนิย้ิมขํ าเสียงคนมาเยือน “ซ้ือปลากระปอง”“หา”จอนิยิ้มอีก “ซ้ือปลากระปอง ชาวบานตางคนตางเอาขาวมาเอง แลวกรรมการหมูบาน

ก็เอาเงินสวนกลางน้ีไปซ้ือปลากระปองมาแจกเปนกับขาว…ไปกินกันตอนที่ไปชวยทํ าแนวกันไฟ”

Page 100: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

“ปลากระปองน่ีนะ”คนมาเยือนยังสงสัยอยูคราวน้ีจอนิสงสัยบาง “ทํ าไมละ ปลากระปองน่ีละ”คนมาเยือนจึงไดสติ“ชาวบานตางถือไมกวาดไปชวยกันทํ าแนวกันไฟ ก็คือ กวาดใบไมบริเวณรอบ ๆพ้ืนท่ี

ปา บางคนถือมีดดายและจอบไปดวยเผื่อตองถากถาง ชวยกันทํ าตามแตจะกํ าหนดจุดทํ าแนวกันไฟ ที่มีแนวกันไฟอยูเดิมก็ไปดูแลใหยังใชการได ท่ีกํ าหนดจุดใหทํ าข้ึนใหมก็ทํ า เด็ก ๆเยาวชนก็เขามาชวยท ําตรงน้ี พวกผูใหญก็ใหความรูเด็ก ๆไปพรอมกันดวย บางทีพออุยก็อึทาสอนเด็ก ๆ”

“นาสนุกนะ”จอนิมองหนาคนพูด“อือ..สนุก ถาเฮาทํ าแลวคุยกันไป อึทากันไป คนไปอยูรวม ๆกันเยอะ ๆก็สนุก ยกเวน

แตเวลาไฟไหม”คนฟงเงียบจอนิทบทวนภาพใหฟงอีกครั้ง“ปส่ีศูนย ปส่ีหน่ึง หนองเตาสูกับไฟเปนเดือน สูไมไหว ทุงหลวงนี่แหละไปเลย ไปเปน

หลายคันรถ ชวยกันสองวัน วันน้ีไปเอาแคน้ีมันยังไมดับ ยังไมตอ เหน่ือยแลวกลับมา เปล่ียนชุดใหม พรุงน้ีไปอีก ในที่สุดมันก็ดับ อยางนี้เปนตน

ในระยะยาวมันอาจจะไหมข้ึนมาอีกก็ได เพราะที่นี่มันเปนปาสน ติดเชื้องาย ใบสนน่ีมันสะสมกันเปนรอยป สองรอยป อาจจะลามเขามาตรงน้ัน ตรงนี้ คนอาจจะดับไมได เอาเครื่องบินมาก็ไมได มันตองหาวิธีอื่นไปดวย”

ไฟไหมปาอนุรักษบานหนองเตาป ๒๕๔๐ มีความหมายตอจอนิ โอโดเชาเปนอยางยิ่งเขาไมมีวันลมืภาพความทรงจํ าของวันนั้นไดเลย

จอนิถือไมกวาดกวาดลานบานเสียงดังแกรก ๆ เขาพยายามลากไมกวาดยาว ๆ เพื่อไมใหฝุนฟุงกระจาย ไกสองสามตัวเดินคุยเขี่ยอยูแถวนั้น จิตใจของจอนิทอดไปตามเสยีงไมกวาดแกรก แกรก

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังพื่บพั่บอยูทางดานหลัง จอนิหันขวับ ไกชนสีแดงสองตัวกํ าลังตีกันอยางเอาเปนเอาตาย

จอนิรอง “เฮย..” แลวเขาก็สะดุงตื่น ฝนไป ฝนไปอีกแลว ไกชนสีแดงสองตัว จอนิใจคอไมดี เขาบนใหรีมูฟงวา เฮาฝนวันเสารนะ กลัวไฟจะไหมบานนะ รีมูมองดูรอบ ๆบาน วันนั้นเธอเก็บของทั้งวัน

วันรุงข้ึน ผูใหญบานก็กระจายเสียงมาตามสาย “ ประกาศ ประกาศ พี่นองชาวหมูบานหนองเตา ขอใหมารวมตัวกันที่บานพอหลวง ไฟปาติดปาอนุรักษ ขอใหมาชวยกันดับไฟดวย”

Page 101: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

จอนิกับลกู ๆที่โตแลว หอมลือ ลูกคนโต พฤ ลูกคนท่ีสาม หัสชัย ลูกคนที่สีและหลาปาลูกคนที่เจ็ดที่เพิ่งเปนสาวพากันไปดับไฟ

จอนิออกจากบานทีหลัง ภาพที่เขาเห็นคือพฤเดินกอดคอพี่สาวคนโตออกจากบานไปเขายังนึกขํ าวา ลูกชายคนนี้มันรักพี่สาวของมันเสียจริง

ผูใหญบาน จอนิ และกรรมการหมูบาน เดินไปดูพื้นที่ที่ถูกไฟไหม จอนิเอาแผนท่ีท่ีทํ าขึ้นเองไปดวย แลวก็ชี้จุดที่ถูกไฟไหมใหทุกคนดู จากน้ัน จึงช้ีจุดท่ีตองทํ าแนวกันไฟดักใหคนกลุมหน่ึงไปทํ า

“ไฟมันไหมนากลัวมาก”จอนิเลา “มันลุกฮือ ๆ ๆ พรึบ ๆ พวกเราตองถอยกันไมเปนขบวน ตองไปตั้งหลักใหดีเชียวนะวาจะไปทํ าแนวกันไฟตั้งรับตรงไหน เฮาตองวางแผน น่ียะตรงนี้ตองปลอยใหไหมแลว ตรงนี้ขีดเสนทํ าแนวกันไฟดักไวเลย บางทีก็ตองชิงเผาใหไปเจอกันมันจะไดไมลามขามมา เขาเรียกเอาไฟดับไฟ เวลาดับไฟนี่ตองไว ตองทํ าทุกทาง ตองชวยกันจริง ๆ จะมาทํ าเลน ๆไมได พวกเอากิ่งไมตีไฟก็ตีกันพรึ่บ ๆ พวกทํ าแนวถากแนว ถางแนวก็ทํ ากันสวบ ๆสาก ๆ ไมไดเงยหนากันเลย กม ๆทํ า ๆกันอยูอยางนั้น แลวก็มีเสียงเฮย ๆ โอยโวย ๆ กันอยูตลอดเวลา มาแลว มาแลว เร็ว ๆ โนน น่ีๆ ไดยินกันจนหูอื้อ ท่ีหมดแรงนอนแผก็มี พอหมดเวรหมดวันกลับมาบานก็นอนหลับไมตื่นกันทีเดียว ที่ไปผลัดเวรก็ไปทํ ากันตอ โอยไผบเคยเจอไฟปา บฮูลึกซึ้งหรอกวามันขนาดไหน ตัวนี่เหม็นควันไฟไปสามวันเจ็ดวัน..”

เคยมีใครเจ็บใครตายเพราะไฟไหม“บอยไป หกลมหกลุก หัวปูดหัวโน พลาดไปโดนไมตีหัวก็มี..”“โธ..”จอนินั่งไปพักใหญ“ท่ีเกือบตายก็มี”ภาพที่จอนิไดยินไดฟงคอย ๆ ปรากฎข้ึนในความทรงจํ า พี่สาวกับนองชายคูที่จอนิวา

มันรักกันจริงวิ่งไปตีไฟดวยกันอยูในปาลึก“เฮาเขาไปทางน้ีนะ..”เสียงพฤตะโกนบอกเพื่อน“พี่ชวย”เสียงหอมลือวิ่งตามมา“ไมตองหรอก..เฮาคนเดียวก็ได”พฤหันไปบอกพี่“พี่ชวยดีกวา” หอมลือเอากิ่งไมในมือฟาด ๆ ลงไปตรงเสนสีสมที่เห็นเตนระริกอยูตรง

หนา “ไฟนี่มันนากลัวนะ พฤ” หอมลือบอกนองชาย “ไมเคยกลัวเราเลย”พฤหัวเราะ”พี่นี่พูดแปลก ไฟมันจะกลัวเราไดยังไง”“น่ันสิ” หอมลือก็รูสึกวาตัวเองพูดแปลกพฤฟาดกิ่งไมลงไปบาง พร่ึบ ๆ ๆมีลมหวนยอนอะไรไหลเขามาในปา ไฟที่เห็นเปนเสนระริกโหมขึ้นตรงหนา แรงเริงจน

ปะทะใบหนาของเด็กหนุม“โอะ..”เขารอง

Page 102: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

“ถอย ๆพี่สาววา “ทํ าไมมันโหมขึ้นมาละ”หอมลอืพูดไมทันขาดคํ า ไฟตรงหนาเธอก็โหมสูงข้ึนไปยิ่งกวาตรงหนานองชาย “โอย..”

หอมลือรอง“ถอย”เสียงนองชายตะโกนแลวรางของเธอก็ถูกกระชากโดยแรงจนเซถลาไปเบื้องหลัง

ที่เปนทางลาดลง“ทางน้ี ๆ”สองพี่นองวิ่งไปไปในทางที่คิดวาปลอดภัย“เร็ว ๆพีม่าทางน้ี”สองพี่นองวิ่งลากกันไป“เปร๊ียะ ๆ ๆ”พลันนั้นมีเสียงดังมาจากทางดานหนาที่ลาดลงไปนั้น“โอย”พฤรอง “เราถูกไฟลอม” หอมลือเขาออนลงทันใด“เร็วพี่..”พฤออกแรงดึงพี่สาว แตรางนั้นกลับหนักอึ้ง เสียงหอมลือสั่นสะทาน “พฤไป

เถอะ..พี่..ไม..ไหว..”หอมลือรูสึกเหมือนทั้งรางเปนหินไปในบัดดล ขางหนาก็ไฟ ขางหลังก็ไฟ นาทีน้ัน เธอ

นึกถึงพอ จอนิ โอโดเชาท่ีลูกภาคภูมิใจ นึกถึงแมรีมู โอโดเชา ดวงชีวิตของลูก….“ไปพี่..”เสียงพฤตะคอกอยูบนหัว หอมลือไมมีแรงแมแตจะยันกายข้ึนตามแรงดึงของ

นอง“พี่ไปไมไหวแลว..”“ไปพี่”เสียงพฤดังขึ้นอีก“พ่ีไม..”หอมลือพูดไดเพียงเทานั้น เสียงไฟก็ลั่นเปรี๊ยะเขาหู“ไม..”เสียงพฤตะโกนลั่นปา ตอนนั้นเองที่หอมลือรูสึกวารางของเธอถูกลากไปโดยที่เธอ

ชวยตัวเองไมได ไดยินแตเสียงนองชายรองวา“ผมจะทิ้งพี่ไดอยางไร ๆ ๆ”เสียงของพฤพูดซํ้ าๆกัน “ผมจะทิ้งพี่ไดอยางไร”แรงของพฤมีมากเทาไหรไมมีใครรู

จอนิเดินกระสับกระสายอยูตั้งแตหัวคํ่ า เขารูมาสองชั่วโมงแลววาลูกสาวคนโตและลูกชายคนแรกของเขาหายไป ชาวบานคนที่มาบอกกับเขามีสีหนาไมสูดี

“กลัวมันจะอยูตรงที่จุดไฟดักไฟ”หัวอกของจอนิสะเทือนสะทาน เขาไมไดพูดอะไรแมสักค ํา เขาหมดส้ินคํ าพูด รีมูเดิน

เขาไปในบานเงียบ เขามองตาม และรูวาเมียเดนิไปรองไห เสียงลูกสาวคนเล็กถามวา พี่พฤกับพี่หอมลือติดในไฟหรือแม รีมูก็ไมไดตอบแมสักคํ า

Page 103: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

“พวกชาวบานกํ าลังออกตามแลว..”คนมาสงขาวบอก จอนิน่ังลงสูบยาเงียบ ๆ เขาไมนาปลอยใหลูกสองคนไปดวยกันเลย

คนหนุมคนสาวยอมมีความหามเกินตัวเสมอ ลูกคงไมรูวาไดเผลอไปเลนกับไฟจริง ๆเขาแลวเสียงหัสชัยเอะอะกลับมาอีกคน จอนิไมพูดอะไร เขาน่ังอยูในความมืดเชนน้ัน ถาลูกสองคนเปนอะไรไป เขาจะท ําอยางไรดีหนอ…

จอนิมองไปรอบ ๆบาน นี่คือครอบครัวของเขา นี่คือชีวิตของเขา ยามเขาเหน่ือยมาจากปญหาท่ีรุมเราขางนอก พอกาวเทาเขาบาน เขาก็รูสึกวาหายเหน่ือย เพราะคนปลอบจิตของเขาอยูท่ีน่ี เมียที่ขยันขันแข็งและเปนเรี่ยวแรงใหเขาในทุกเรื่อง ลูกที่เปนความเริงราแมเพียงไดยินเสียง ลูกที่เปนกํ าลังใจและทํ าใหเขารูวาเขาไมไดเดินบนถนนสายนี้เพียงลํ าพัง

ถาลูกเปนอะไรไป..เพียงแคคิดจอนิก็เจ็บลึกลงไปในอกนี่เพราะเขาไดแสดงมาตลอดเวลาวา สวนรวมสํ าคัญยิ่งกวาสวนตน ลูกจึงตองไป

ประสบชะตากรรมเชนน้ี นี่เพราะลูกทํ าตามแบบท่ีเขาเปน นี่เพราะลูกเสียสละความสุขสวนตัวเพราะลูกอยากชวยเหลือสวนรวม ตามที่เขาบอกใคร ๆตอใครใหเปน เพราะเหตุนี้หรือเขาจึงตองสูญเสียลูกไป

น่ีถาลูกสองคนเปนอะไรไปจริง ๆ เขาเห็นทีจะตองเลิกเปนคนของสวนรวมไดแลว สวนรวมมาเอาสวนของเขาไปมากเกินไปแลว

มากเกินไปแลวจอนิดูดยาแดงวาบ ๆ ชั่วโมงแลวชั่วโมงเลา ในความมืดนั้นเองรีมูก็นั่งมองแสงไฟจาก

ปลาบบุหร่ีอยูดวยความเศราสองทุม สามทุม สี่ทุม หาทุม เท่ียงคืน ไมมีเสียงใด ๆ ในบานหลังท่ีเต็มไปดวยความ

เศราน้ี รีมูน้ํ าตาไหลรินอยูเงียบ ๆ ระยะเวลายิ่งยาวนานขึ้น ความหวังยิ่งหางไกลออกไปทุกทีทันใดน้ัน มีเสียงคนเดิน มีเสียงคนพูดกันดังมาจากขางหนา แสงไฟฉายคอยเคลื่อนเขา

มาใกล เขามาใกลจอนิผุดลุกข้ึนยืนพรอมกับรีมู หัวใจเตนแรงราวกับจะออกมานอกอก เงาของคนกลุม

นั้นเคลื่อนใกลเขามา จอนิยืนน่ิง รีมูถลันออกไปพลันน้ัน เขาไดยินเสียงที่คุนชินดังขึ้น“แม”พอไดยินเสียงหอมลือรองไห พรอมกับเสียงพฤรอง “เฮาเกือบตาย” จอนิก็ถอนหายใจ

อยางโลงอกพฤเลาเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดข้ึนใหพอฟง จนถึงตอนที่ออกแรงสุดชีวิตลากพี่สาวใหพน

ไฟ“บฮูวาแรงวาจากไหนเลย พอ”

Page 104: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

ภาพนั้นไมมีใครจารึกไวไดนอกจากดวงตาสวรรค เขาดั้นดนฟนฝาพาพี่สาวผานออกไปไดอยางไร ไมมีคนเห็น ไมมีคนรู ยกเวนแตเขาสองคนและผีฟาผีปาผีเขา

“ออกไปคนละทางเลย” พฤวา “บฮูวิ่งออกไปไดยังไง”ทันทีท่ีนองชายพาพ่ีสาวออกมาถึงจุดท่ีรูแนวา ปลอดภัย เด็กหนุมปลอยมือพี่สาวและ

ลมลงนอนแผบนพ้ืนดิน พ่ีสาวหันไปมอง เห็นน้ํ าตาเขาไหลเปนทางมาตามหางตา แสงในปาออนลงๆ พี่สาวคอย ๆยันตัวเองจากที่กองอยูอยางคนไรเรี่ยวแรงบนพื้นดิน ลุกขึ้นนั่งตัวตรงเธอเอื้อมมือไปจับมือนองชายขึ้นมากอดไวแลวรองไหโฮ

หอมลือซึ่งเนื้อตัวถลอกปอกเปด มีแผลเลือดออกไปทั้งตัว บอกพอแมทั้งนํ้ าตาวา“ถาไมไดนองชายคนน้ีเฮาตายไปแลว..”จอนิน่ิง เขาหันไปมองรีมู เห็นนํ้ าตาของคนเปนแมไหลลงมาตามรองแกม เปนคร้ังแรก

ที่จอนิรูสึกผิดตอครอบครัวอยางย่ิง

Page 105: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

บทท่ี ๑๘ คือจอนิ

ยามเชาท่ีบานหนองเตาเย็นเฉียบ หมอกบาง ๆลอยตัวอยูโดยทั่วไป ผูมาเยือนหอตัวดวยเส้ือกันหนาวตวัโครงเดินลงมาจากบันไดบาน หมาสามตัวกระดิกหางใหแขกอยางคุนเคยแซวะ หรือศิวกร ลูกชายคนท่ีหกซ่ึงเปนกํ าลังสํ าคัญในการรักษาปาอีกคนหน่ึงของจอนินั่งผิงไฟอยูหนาบาน เขายิ้มใหแขกของพอ ผูมาเยือนนั่งลงบนขอนไมหนาบาน

“หนาวนะ”ผูมาเยือนรํ าพึง“แซวะย้ิม”ไมมากหรอกครับ..บางปหนาวกวานี้เยอะ”แลวหนุมนอยก็เลาเร่ืองอากาศ

หนาวใหฟง สักพักหนึ่งเขาจึงยกขาตั้งเหล็กวางบนกองไฟ จากนั้นเดินไปยกกาใบใหญมาตั้งบนขาต้ัง แลวจึงไปยกเครื่องชากาแฟมาบริการผูมาเยือน

“เบ่ือบางม้ัย แซวะ ตองดูแลแขกพอไมหยุดไมหยอน”หนุมนอยหัวเราะ“ไมหรอกครับ…เราตองทํ าอยางนั้นอยูแลว ถาแขกมาถึงบานแลวไมไดกินขาว ไมไดกิน

น้ํ าเราจะรูสึกผิดมาก”จอนิออกมากวาดบานแกรก ๆ สักพักหนึ่งจึงตามมาสมทบ หมาตัวเล็กแตหนาแกเบียด

เขามาจนติดขาแยงเอาความอุนจากกองไฟ ผูมาเยือนเร่ิมถามคํ าถามอีก“เวลาพะตีไปคุยกับชนเผาในที่ตาง ๆ เจอไหมคนที่อึดสู”จอนิหัวเราะ”อือ มีอยู แตบางทีมันสูไมยาวนะ พอสูไประยะหน่ึงมันก็เหน่ือยลา”แลวพะตีทํ าไมสูไดยาวละ“อันนี้เฮาคิดวา ในโลกนี้เกิดมามันตองดิ้นรนไปจนหมดชีวิตเมื่อใดก็จบกัน”“คิดไดอยางไรคะ”“เพราะวาเฮาดูที่ประวัติศาสตรไงละ ชวงที่คริสตกะมุสลิมมันทะเลาะกัน พุทธกะฮินดูก็

ทะเลาะกัน ตั้งแตบัดนั้นมาจนบัดน้ี สองพันปหาพันป มันก็ยังทะเลาะกันอยู เพราะฉะน้ัน มันเปนจริงนะ แสดงวาในโลกนี้มันไมสิ้นสุด แลวอีกอยางหนึ่งเฮาเคยฝนวา โลกนี้มันมีนรกดวย มันมีสวรรคดวย เพราะฉะน้ัน เรื่องน้ีมันไมจบ มันตองตออายุของโลกอีกยาว โลกอายุเปนลาน ๆปนะ คนนะอายุรอยป มันก็แคนิดเดียวเอง เฮาเกิดขึ้นมานิดเดียวเอง ที่วาดิ้นรนตอสูยาวนะ มันก็นิดเดียวเองถาเทียบกับอายุของโลก ฮา ฮา..”

“อันน้ีอยูในพระคัมภีรหรือเปลา”“เอ..ไมไดอยูนะ เฮาคิดเอานะ จริง ๆมันก็เกิดมาจากตอนที่เฮาเปนผูใหญบาน แลวเฮาก็

คุยกับผูเฒาผูแก เฮาก็ไดมา ผูเฒาผูแกก็คุยก็บอกไว แตตัวเขาเองก็ไมรูวาที่เขาคุยน้ันมันมีอะไรเฮาเอามาคิดตอนะ ทุกวันนี้เฮาก็ยังคุยกับคนเฒาคนแกอยู มีอะไรสงสัยเฮาก็ไปคุยไปถาม แตละคนก็มีความช ํานาญไมเหมือนกันนะ…”

“แลวพะตีบันทึกไวอยางไร”

Page 106: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

“อือ..เฮาก็ไมรูจะบันทึกอยางไร ตอนนี้เฮาก็เลยบันทึกไวเปนทา..บทกวขีองบรรพบุรุษนะ คนอื่น ๆจะไดรูวาคนแกคนเฒาของปกาเกอะญอสอนกันมาอยางไร“

จอนิเดินไปหยิบหนังสือ”บันทึกค ําทา” ของจอนิ โอโดเชาที่กองทุนชุมชนคนรักปาจัดพิมพมาใหดู

“น่ีไง รวมคํ าทาเลมแรก”หนังสือปกออนเลมนั้นมีรูปวาดสีนํ้ าของจอนิ โอโดเชาในชุดเสื้อพื้นเมืองอยูบนหนาปก

มีคํ าของจอนิ โอโดเชา ผูบันทึกปรากฏโดดเดนดานหลังวา“การบานการเมืองเรียนดวยชีวิต ไมมีใครสอน ตองเจอเองสวนหน่ึง สังเกตเอาเองสวน

หน่ึง และคิดตออีกสวนหนึ่ง”แถมยังสงตนฉบับทาในรูปของเอกสารเอสี่ออกมาใหดูอีกปกหนึ่ง “นี่เปนรวมค ําทาเลม

สอง สํ านักพิมพเขากํ าลังจัดพิมพ..คราวนี้หนากวาเดิม”ตนฉบับเลมนั้นเปนฉบับสํ าหรับพิสูจนอักษร มีลายมือภาษาไทยโยเยของจอนิแกอยู

เปนบางตอน“ดีจังเลย”คนชมตนฉบับชอบใจจอนิรีบเสริม“ทาน่ีมันเปนคํ าสอนไปในตัว เปนค ํารองเลน เปนบันทึกชีวิตปกาเกอะญอ การรวบรวม

บทค ําทาน่ีก็เปนการวบรวมความรู ความเขาใจชีวิตของผูเฒาผูแกเขาไว”ผูมาเยือนมองดูทาทีกระตือรือรนตลอดเวลาของจอนิอยางแปลกใจ ผูชายคนนี้วัย ๕๕

แลว ทํ างานเพ่ือสวนรวมมารวมสามสิบปแลว แตดูเหมือนวาไฟแหงสวนรวมในดวงตาของเขาจะไมราแสงลงเลย

“นอกจากตอนที่ทอครั้งใหญ ตอนวัยหนุมโนนแลว ตอนหลังเวลาทํ างานพะตีเคยทออีกไหม”

จอนิหัวเราะ“อือ..ทอสิ..ทอเปนเตื้อ ๆ แตเฮาก็คิดวาเรื่องนี้มันตองเรียนรู เรื่องนี้มันไมจบ สถาน

การณมันเปล่ียนไปนะ บางทีเฮาทํ าอยางนั้นไมได เฮาก็ทํ าอยางน้ี อยางโนน ลองคิดลองเปล่ียนดู..บางทีก็ไปถาม ไปปรึกษาคนอื่นดู”

“เคยมีม้ัยท่ีวา เอาละ ไมเอาละ ไมสนใจชุมชนแลว ไมเอาแลว ลูกก็เกือบตายอะไรอยางน้ีเคยคิดม้ัย”

จอนิสั่นหัวทันที“ไม…เฮาคิดวา เฮาเกิดท่ีน่ี เฮาตองตายที่นี่ ลูกหลานเฮาตองอยูที่นี่ เกิดปญหาก็ไมเคย

คิดหยุดคิดเลิก อาจผอนสั้นผอนยาวบางอะไรทํ านองน้ี”“ลูกหลานหรือโม(รีมู)เคยบนบางมั้ย”“เออ…บน ๆ โมน่ีเคยบน ๆ บางทีเฮาก็ทอเหมือนกัน (หัวเราะ) แตเฮาก็คิดวาลูกหลาน

เฮาตองอยูตอนะ ถามัวแตฟงค ําบนมันก็ไมไดนะ ก็เลยฟงค ําบนบางไมฟงบาง(หัวเราะ)”

Page 107: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

รีมูน่ังฟงอยูย้ิม ในดวงตามีรอยยิ้มเขาใจจอนิยิ่งกวาใคร“ลูกหลานที่รับความคิดของพะตีในเรื่องการดูแลชุมชน”“ทุกคน ๆมันก็รับอยูแลว พฤกับแซวะก็ชวยมากหนอย..”แซวะเดินกลับมาพอดี ใบหนาที่ละมายคลายพอนั้นมีรอยย้ิม เปนยิ้มของคนหนุมคน

หนึ่งที่อยูในครอบครัวที่อบอุน และในชุมชนที่มีความสุข

ตอนกินขาวแลว รีมูถูกถามวา“เหน่ือยม้ัย เบ่ือม้ัยท่ีแตงงานกับจอนิ”“ชิน…”รีมูตอบ “พะตีบคอยอยูบานเปนสิบเปนซาวปแลว โมก็มีแตลูกนี่ละ แตหวงพะตี

เวลาที่หายไปนาน ๆ ไมรูวาเปนอะไรไปหรือเปลา”พอแดดเริ่มออก จอนิพาผูมาเยือนเดินไปตามถนนในหมูบาน ชี้ใหดูถนนตรอกซอก

ซอยในหมูบานท่ีตัดตรงเปนระเบียบในสมัยท่ีเขาเปนพอหลวง และชี้ใหดูถังประปาที่เก็บน้ํ าจากภูเขาเพื่อตอทอไปตามบานตาง ๆที่เกิดขึ้นในสมัยเขาเปนพอหลวงเชนกัน จนลูกสาวคนหน่ึงที่เกิดในตอนนั้นไดชื่อวา “หลาปา”เปนที่ระลึก จากน้ันก็พาเดินไปดูปาเล็ก ๆที่เปนปา”สวนตัว”ในเนื้อที่สองไรของเขา

“นี่ไงปาของเฮา…ตอนที่เฮาทํ าปาสวนตัวใหม ๆ คือปลอยทิ้งใหที่รกเปนปา ชาวบานหาวาเฮาบา มีคนนินทาวาเฮา แตตอมาอีกปหนึ่งก็มีเห็ดโคนขึ้นในที่ปาของเฮา คนวาน่ันยังมาขโมยเห็ดโคนเลย ฮา ฮา”

การที่ทุกคนกันที่ของตัวเองไวเปนปาจะชวยใหไมตองไปรุกรานปาใหญ ตัดไมทํ าบานทํ าฟนก็เอาจากตนไมในปาน้ี จอนิบอกวา

“คนที่มีสวนหนึ่งไร นาจะปลูกผสมผสานโดยมีไมธรรมชาติที่ใชสรางบานไดอยางนอยสองสามตน ถาเปนไปไดก็ตองมีนกมีหนู มีสิ่งมีชีวิตที่จะมีไดอยูในบานของเฮา เปนปาสวนตัวเปนสัตวสวนตัวที่มันชอบเรา คนบางคนนกอาจชอบ ไปอยูกับเขา เปนนกของเขาโดยไมตองขังกรง”

“อยาลืมตนไมทํ าฟน ตัดฟนพอเอาไปทํ าฟนแลวใหมันแตกขึ้นมาใหม แลวก็มาตัดไปทํ าฟนไดอีก “

“แหม..นาอิจฉาอยากมีปาสวนตัวบาง”“อาว..”จอนิรอง “ทํ าไมจะมีบได อยูกรุงเทพฯก็ทํ าได ก็ปลูกเทาที่มี ปลูกใสกระถางก็ได

ปลูกตนไมที่กินไดยิ่งดีใหญ”จอนิยิ้มเมื่อเห็นคนเมืองทํ าตาโต เขาอึทาบทหน่ึงข้ึน

“น้ํ าจะเสียแลว นางเอยดินจะเสียแลว นางเอยไกขันไมเปนเวลาแลว…”

Page 108: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

“แตกินแลวตองดูแลรักษาดวย“เขาย้ํ าวา “เอาะ ที เกอะ ตอ ที เอา กอ เกอะ ตอ กอ กินจากน้ํ ารักษาน้ํ า กินจากแผนดินรักษาแผนดิน”

“พะตีวางโครงการไวม้ัย จะทํ าอะไรบาง ภายในก่ีป”จอนิตอบหนักแนนและทันที“ทํ าตลอดชีวิต หยุดเมื่อไหรชีวิตก็หยุดเพราะปากับชีวิตเปนอันเดียวกัน เฮาเปนคนจน

ไมมีอาวุธ ไมมีอํ านาจ ไมมีเงินตรา เฮาเปนพวกที่ตะโกนไปเรื่อย ““ตะโกน ตะโกนอะไร”“อาว..ก็เฮาอยูในฐานะของคนขาลีบ รองใหคนพาไปหาพระเยซูเจา พระเยซูอยูที่ไหน

พระเยซูอยูท่ีไหน รองปาวไปเร่ือย คนแบบน้ีมีความเช่ือ ตอมาพระเยซูก็รักษาขาใหจนหาย เฮาวามีคนขาลีบประเภทน้ีอยู จะรองไปเร่ือย ๆ จะไดผลหรือไมไดผลยังไมรู เฮาก็เหมือนกับคนตาบอด อานหนังสือไมได พูดภาษาอังกฤษไมได จะเท่ียวไปไหนก็ไมมีสตางค นอกจากวาจะมีคนสงไป ไมวาจะไปที่ไหนเฮาก็จะรองไปเรื่อย ๆ รองไปตามหนาที่ของเฮา หนาที่ของคนขาลีบ คนตาบอด ทํ าใหดีที่สุด จะมีคนเห็นใจหรือเปลา เฮาวาพระเยซูก็คงเห็นใจ เฮาจะรองไปเร่ือย ๆ ลูกๆหลานเฮาก็คงจะเดินไดในซักวันหนึ่ง”

“พะตีนี่สมกับเปนปราชญแหงขุนเขาจริง ๆนะ”“อื๊อ”จอนิรอง”เฮาบไดเปนปราชญ เฮาเอาค ําผูเฒาผูแกที่พูดกันมานานแลว มาตีความ

ใหม ผูเฒาผูแกที่พูดกันมาก็เอามาจากผูเฒาผูแกอีกทีหนึ่ง ไมใชปญญาของใครคนใดคนหน่ึงเปนปญญาผีบอก ปญญาของสิ่งสูงสุด”

จอนิ โอโดเชา พาเดินดูภูมิปญญาท่ีอยูในน้ํ าในดินของชาวปกาเกอะญอเรื่อยไป แองนํ้ ารูปหนองเตาที่เขาภูมิใจ ตนไมใหญนอย ทุงนาสีทองที่มีผูคนลงแขกกันเกี่ยวขาวดูราวกับภาพเขียนของจิตรกรท่ีมักประดับอยูท่ีขางฝาในโรงแรมใหญ แลววนกลับไปผานหนาโรงเรียนที่มีเด็กนักเรียนหญิงในชุดเชวาสีขาวมอมแมม และเด็กชายในเสื้อสีแดงกํ าลังวิ่งเลนอยูกลางสนามอยางร่ืนเริง

“เราทํ าอะไร ๆ ก็เพื่อคนพวกนี้ทั้งนั้น”จอนิพาเดินวนจนกลับบานมาอีกครั้งหนึ่ง หองรับแขกดานหนาที่เปนชั้นลางของเรือน

หลังใหมเปดโลงรอคอยอยู จอนิพาผูมาเยือนไปนั่งสนทนาตอ หนังสือปาเจ็ดช้ัน ปญญาปราชญ ของกรรณิการ พรมเสาร และเบญจา ศิลารักษ ถูกหยิบข้ึนมา

“นี่พะตี..”ผูมาเยือนทํ าทาจริงจัง “เลมนี้เขาบอกวาอยางน้ีนะ เดี๋ยวจะอานใหพะตีฟง”ไมเพียงแตความเชื่อที่ตางกันของผูคนตางเผาพันธุเทานั้นที่สรางผลเสียตอการใช

ทรัพยากรรวมกัน ลูกหลานปกาเกอะญอเองทุกวันนี้ก็พูดกับผีไมรูเรื่องเหมือนบรรพชน ความกลัวตอสิ่งที่อยูเหนือธรรมชาติที่มองดวยตาเปลาไมเห็น จึงลดนอยถอยลงไป ผูเฒาตองนํ าเอาความรูมาสังเคราะหใหมใหอยูในรูปแบบท่ีเขากับยุคสมัย คุยกับลูกหลานรูเรื่อง นํ าความเช่ือวัฒนธรรม ประเพณีใหกลับมาในใจคนอีกครั้งหนึ่ง ภูมิปญญาชาวบานจึงตองปรับตัวเพื่อคงของามความดีใหลูกหลานยึดเปนหลักของชีวิต การตีความและการอธิบายใหมดวยเหตุผลจึงมี

Page 109: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

ความจํ าเปนอยางย่ิงสํ าหรับคนปกาเกอะญอรุนใหม และพะตจีอนิ โอโดเชาก็เปนผูเฒาปกาเกอะญอผูโดดเดนตรงที่สามารถเชื่อมโยงใหเห็นไดวา อะไรคือความคิดที่อยูเบื้องหลังพิธีกรรมแตละอยางและสอดคลองกับประเพณีความเชื่อของบรรพบุรุษอยางไร

“ใชม้ัย พะต”ีจอนิมองหนาคนถาม“บฮู…มันเปนเร่ืองของคนเขียน บใชเรื่องของผม ผมมีหนาที่ถายทอดแลวก็ตีความคํ า

ของผูเฒาใหเปนจริง แตคนจะมาตีความคํ าของผมอีกที ไมใชหนาที่ผมจะตีความ ฮา ฮา”เสียงหัวเราะของจอนิดังกองอยูในหองรับแขกเล็ก ๆหองนั้น

ผูมาเยือนหันไปมองภาพของชายชนเผา ใบหนาคลํ้ าน้ันเปนประกายสวางเพราะดวงตาอันเปนประกาย และฟนขาวเปนระเบียบ น่ีคือชายรากหญา น่ีคือชายยากไร เขาคือผลิตผลที่ดีที่สุดคนหนึ่งของชาวปกาเกอะญอ ของชนเผา

แมรางกายเขาจะไมโตใหญมีพละกํ าลังเหมือนติลูลาในนิทานที่เขาชอบ แตเขาก็มีพลังชีวิตอยูในตัวมากเหลือเกิน การเกิดบนภูเขาทํ าใหเขาอยูใกลฟา มีดวงตามองเห็นความกวางไกลของชีวิต การมีชีวิตอยูในตูบหลังนอย และดวยความยากไรอันแสนสาหัสทํ าใหเขาอยูติดดินและมีรางกายอันสัมผัสไดกับความเปนจริงของชีวิต และดวยความเปนของสองสิ่งที่ตรงกันขามนี้เอง จิตใจของเขาจึงกลมกลืนพรอมในความขัดแยงน้ัน

ถอยค ําของจอนิกองขึ้นมาในหูอีกคร้ัง“โลกอายุเปนลานๆ ป คนนะอายุรอยป มันก็แคนิดเดียว..”จอนิ โอโดเชาดิ้นรนตอสูชีวิตมาหาสิบหาปของชีวิต ในความไมพรอมสมบูรณของชีวิต

เขาทํ าอะไรใหมนุษยและสังคมไดมากกวาคนอีกจํ านวนมากท่ีประกาศตนเองวาทํ ามากหลายรอยเทา

เพราะเขาสูชีวิตดวยการเอาชีวิตบรรพบุรุษรวมดวยเพราะเขาสูชีวิตอยางคนเขาใจชีวิตเพราะเขาสูชีวิตอยางคนใจพรอมเพื่อคนอื่นเพราะเขาสูชีวิตและพรอมมอบชีวิตใหปาและแผนดินที่มีบุญคุณตอเขาวันนี้เขาจึงเปนนายจอนิ โอโดเชา ราษฎรไทยเต็มข้ันท่ียืดอกไดอยางภาคภูมิใจในผืน

แผนดินนี้

Page 110: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

บทสงทาย “นิทานเร่ืองน้ีสอนใหรูวา….”

กรุงเทพฯวันท่ี……….ถึง นอง ๆชุมชนคนรักปา

ในท่ีสุด พี่ก็เขียนสารคดีเชิงนวนิยายที่วาดวยประวัติชีวิตของพะตีจอนิ โอโดเชา เสร็จเรียบรอยแลว ทางสํ านักงานคณะกรรมการการศึกษาแหงชาตไิดจัดใหมีการนํ าเสนอผลงานเมื่อวันท่ี ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ ที่ผานมา โดยผลงานของพี่มีอาจารยวรอนงค เนตรสุภลักษณศึกษานิเทศกระดับ ๘ สํ านักงานการประถมศึกษาจังหวัดเชียงใหมเปนผูวิจารณ อาจารยวรอนงคเปนผูบุกเบิกเรื่องหลักสูตรวัฒนธรรมปาเกอะญอในเขตลุมนํ้ าแมวางมาตั้งแตตน โดยเฉพาะอยางยิ่งจุดเริ่มนั้นมาจากที่บานหนองเตาเลยทีเดียว ดังน้ัน ตองถือวา อาจารยวรอนงคเปนผูมีประสบการณโดยตรง ทานก็ไดกรุณาวิจารณขอบกพรองตาง ๆ รวมท้ังแนะนํ าใหพูดถึงเรื่องความเปนครูภูมิปญญาของพะตีใหมากอีกสักหนอย ในขณะเดียวกันบรรดาทานผูรูที่มารวมวิจารณผลงานประวัติครูภูมิปญญาทานอื่น ๆก็ไดกรุณาวิพากษวิจารณงานของพี่แถมใหดวยนับวาเปนประโยชนย่ิงทีเดียว และประเด็นที่เห็นตรงกันหมดก็คือ การเขียนประวัติครูภูมิปญญาสวนใหญยังไมไดใหภาพ”องคความรูของครูภูมิปญญา”แตละคนอยางชัดเจน

“มันอยูกระจัดกระจาย ตองอานอยางมีสติจึงจะสามารถรวบรวมได “ดร.ปญญา รุงเรืองหนึ่งในผูวิจารณทานวาของทานอยางน้ัน

พี่ฟงแลวก็เห็นดวย เราเขียนประวัติของครูภูมิปญญาเพ่ือยกยองเชิดชู”ภูมิปญญา”ท่ีครูแตละคนมี ดังน้ัน หากเราทํ าไมไดชัดจนก็อาจจะถือเปนความลมเหลว

“เพราะเปนผลงานท่ีจะนํ าไปศึกษาเพื่อเรียนรู ผมวานาจะใชแบบเดียวกับนิทานอีสปที่วา นิทานเรื่องนี้สอนใหรูวา” ดร.ปญญาพูดเสริมอีก

พี่เกิดความคิดสองสวางขึ้นมาทันที ถาพูดเปนภาษาเด็ก ๆก็คงวา” ปง” จริงของ ดร.ปญญา พี่เขียนผลงานเสร็จเรียบรอยแลว ตั้งอกตั้งใจวางโครงเรื่องและใชกลวิธีการนํ าเสนอแบบนวนิยายแลว หากตองร้ือออกมาเขียนใหมก็คงเปนเร่ืองใหญไมนอย และก็คงตองหาทางทํ าใหแนบเนียนไดยาก แตหากใชวิธี”นิทานเร่ืองน้ีสอนใหรูวา…”ก็จะเปนเชนเดียวกับบทสรุปของเรื่อง ที่กระจัดกระจายอยูตามที่ตาง ๆก็จะมารวมกัน ใครไมอยากอานวานิทานเรื่องนี้สอนวาอะไรก็ไมตองอาน ใครสติกระจัดกระจายไปแลวไมรูวานิทานเรื่องนี้บอกอะไรก็ตองอานสักหนอยเพื่อใหเขาใจกระจางแจงขึ้น

ขอบคุณ ดร.ปญญา รุงเรือง พ่ีเขาใจแลววาเขามีนักวจิารณเอาไวทํ าอะไรกลับมาที่เรื่องของพะตีจอนิของเรา หากเราจะข้ึนตนวา “นิทานเร่ืองน้ีสอนใหรูวา..”กับ

พะตีจอนิ เราก็คงตองเขียนใหมวา ประวัติชีวิตของพะตีจอนิ โอโดเชา สอนใหเรารูวา การเติบโตข้ึนเปน”ปราชญแหงขุนเขา”(ตามคํ าประกาศของคณะกรรมการ”คนดีศรีสังคม”) หรือการเปน

Page 111: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

“บุคคลผูมีผลงานดีเดนทางดานวัฒนธรรม”(ตามคํ าประกาศยกยองของคณะกรรมการวัฒนธรรมแหงชาต)ิ หรือการเปน”ครูภูมิปญญาไทย สาขาสิ่งแวดลอม”(ตามคํ าของคณะกรรมการการศึกษาแหงชาติ)ของจอนิ โอโดเชา ไมใชเกิดขึ้นเพราะหลนลงมาจากฟา หรือเพราะใครคนใดคนหน่ึงเห็นชอบ ไมใชเพราะเสนสายหรือความสงสารจากใครคนใดคนหน่ึง หากเปนเพราะตัวของพะตีจอนิ โอโดเชาเองที่เต็มไปดวยความพรอม ในดานตาง ๆ ตามท่ีนอง ๆเองที่เคยไปคลุกคลีตีโมงกับพะตีจอนิเองก็คงจะเคยเห็นอยูแลว

คุณสมบัติพื้นฐานของพะตีจอนิก็คือ การเปนคนในวฒันธรรมปกาเกอะญอ วัฒนธรรมประเภทท่ีสืบทอดความเช่ือกันทางวิธีมุขปาฐะ คือปากตอปาก คนปกาเกอะญอ เปนคนเคารพฟาดินและสิ่งแวดลอม ซ่ึงขอน้ีพะตีจอนิมีอยูในตัวตนโดยสมบูรณ

เขาไดรับสบืทอดมาจากการเล้ียงดแูละการเปนคนหน่ึงในชุมชน พะตีจอนิไดรับวัฒนธรรมมาแบบเดียวกับปกาเกอะญอทุกคนคือ รับผานทาง”นิทาน””ทา” และความฝน พะตีจอนิจะเอยอางถึง”ทา”บอยคร้ัง เพราะเขาเรียนรูวานี่คือความรู”ที่บรรพบุรุษของเขาสั่งสมมา เขาจึงเตรียมเก็บความรูเหลานี้โดยการถายทอดออกมาเปนลายลักษณอักษร เพื่อใหอยูเปนหลักเปนฐานตอไปในภายภาคหนา โดยเขาเลือกวิธีเก็บในรูปแบบของภาษาปกาเกอะญอและภาษาไทยไปพรอมกัน ดังบทกว”ีคํ าทา”เลมแรกของเขาที่ตีพิมพไปแลว และเลมที่สองก็ก ําลังจะตามมา

นิทานก็เชนเดียวกัน พะตีเรียนรูวา นิทานที่แมอุยพออุยทั้งหลายเลาใหฟงในวัยเด็กน้ันไมใชเพียงแคความบันเทิง หากมันเปนจิตวิญญานของชาวปกาเกอะญอที่จะตองเก็บรักษาไวใหลูกหลาน เขาจึงพยายามเลานิทานใหลูกหลานฟง หรือรวบรวมคนแกมาเลานิทานเพื่อเก็บไวใหลูกหลานในอนาคต ตามโครงการเรียนรูจากผูสูงวัยท่ีกํ าลังดํ าเนินการอยู

สวนความฝนนั้น สํ าหรับคนโดยทั่วไปแมจะดูเปนความเลื่อนลอยและไมสามารถควบคุมได แตดูหมือนวา สํ าหรับปกาเกอะญอแลว ความฝนคือชีวิตของเขา พะตีจอนิฝนบอยครั้งและแทบทุกครั้งฝนของเขาก็คือจิตสํ านึกของเขา เขาจึงฝนวาจะอยูเลี้ยงพอจนหัวหงอก หรือฝนวาสามารถยิงธนูไลผีรายได รวมท้ังฝนเปนสัญลักษณวาไดลูกหญิงชายและตรงตามน้ัน ความฝนเหลานี้สะทอนใหเห็นวา คนปกาเกอะญอที่มีจิตส ํานึกดี สามารถใชจิตส ํานึกนํ าทางได ซ่ึงพะตีจอนิก็ไดใชจิตสํ านึกที่ปรากฏในรูปความฝนของเขาเปนกํ าลังใจในการสูชีวิตไดดี

การเรียนรูทางวัฒนธรรมท่ีมาจากสามทางขางตนประสานเขากบัการเรียนรูจากการใชชีวิต ผานประเพณีและพิธีกรรมตาง ๆ ที่ลวนแตมีความหมายตอการใชชีวิตทั้งสิ้น พะตีจอนิเปนคนชางคิด และไวตอการเรียนรู ดังน้ัน จึงไมแปลกใจอะไรเลยท่ีเขาจะหาค ําตอบจากความเชื่อและพิธีกรรมตาง ๆไดอยางมีเหตุมีผล

หากถามวา องคความรูอะไรที่พะตีจอนิไดมา พี่ก็วา เปนความรูและความเขาใจเรื่องชีวิตและธรรมชาติและสิ่งแวดลอม คนปกาเกอะญอรักธรรมชาติและสิ่งแวดลอม พวกเขาเรียนรูวา ธรรมชาติ สิ่งแวดลอมและชีวิตเปนหน่ึงเดียวกัน ดังน้ัน การทํ าลายธรรมชาติ การทํ าลายสิ่งแวดลอมจึงเทากับการทํ าลายชีวิต แตการบอกตรง ๆก็คงไมสามารถทํ าใหคนทั้งชุมชนเขาใจได บรรพบุรุษของพวกเขาจึงใชวิธีการส่ังสอนหรือบอกตอกนัมาในรูปของพิธีกรรม

Page 112: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

ความฝน บททาและนิทาน ซึ่งสืบทอดกันตอ ๆมาดวย”ปาก” หรือที่นักวิชาการเรียกกันวาวิธีมุขปาฐะ คือเลาหรือขับล ํานํ าหรือสั่งสอนกันในบาน ไมมีการบันทึกไวเปนลายลักษณอักษร เพ่ิงมามีก็คราวนี้แหละที่พะตีจอนิและคนอื่น ๆรวมกันทํ าหลักสูตรวัฒนธรรมปกาเกอะญอขึ้นมา หรือพะตีจัดทํ าบันทึกคํ าทาขึ้นมา

นี่คือสวนที่นาจะเรียกกันวา “องคความรูเดิม” ของจอนิ โอโดเชา อาจจะฟงดยูากสักหนอยสํ าหรับคํ าน้ี แตมันก็คือคํ าเดียวกับที่พะตีบอกเสมอวา เขาไมไดคิดขึ้นเอง หากแตเขาเอามาจากผูเฒาที่สั่งสอนกันมา ปฏิบัติกันมาในหมูบาน

ในขณะเดียวกัน ถาหากมีเพียงองคความรูเดิม โดยไมปรับตัว พะตีจอนิก็อาจจะทํ าอะไรไดไมส ําเร็จเทาน้ี แตน่ีเพราะเขามี”องคความรูใหม”เขามาเสริมดวย หากพะตีจอนิ ไมไดเจอกับบาทหลวงเซกินน็อตผูเปน”ความรูใหม”ในชีวิต เขาก็อาจจะไมอาจหาญและสงางามเทานี้ การที่พะตีไดไปเรียนท่ีแมปอน เปนการเพิ่มความรูใหมที่สํ าคัญ ความรูในหองเรียนยังไมสํ าคัญเทาความรูที่ไดจากการเรียนรูโลกกวางที่เพิ่มขึ้น ฝรั่งอยางเซกินน็อต ไดเปดโลกแหงความเขาใจใหมใหพะตีมากมาย นอง ๆคงจะจํ าไดวาเวลาที่มีแขกขึ้นไปหาพะตีไมวาจะเปนไทยหรือฝรั่งพะตีไมเคยรูสึก”เกร็ง”หรือ”หงอ”แบบชาวบานโดยทั่วไป จํ าไดไหม ครั้งลาสุด ที่มีนักศึกษาปริญญาโทชาวอินเดียท่ีทํ าวทิยานิพนธเร่ืองการบริหารการจัดการเก่ียวกับการอนุรักษปาในเมืองไทยไปสัมภาษณ พะตียังฉีกหนาเขาเสียดวยการดักคอวา คํ าถามท่ีคุณถามมาน้ี คุณมีคํ าตอบอยูแลวนี่นา เราก็ยังหัวเราะกันครืนวา พะตีรายจริง ๆ แตนั่นแหละที่พี่มองเห็นก็คือวา พะตีไมกลัวใคร พื้นฐานความเสมอภาคของมนุษยที่ไดมาจากการเรียนรูจากเซกินน็อตและคนอื่น ๆเม่ือรวมเขากับการไดไปเปดหูเปดตาในตางประเทศ ผสานเขากับการเรียนรูดวยตนเองอยางการกระโดดลงไปตอสูกับความไมเปนธรรมตาง ๆ การรองเรียนตอเจาหนาท่ีของรัฐ หรือแมแตการทํ าเรื่องทัวรชาง ทํ าใหพะตี”แนน”ไปดวยความรูและความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น

ถามกันแบบเดิมอีกวา ตกลงองคความรูใหมที่พะตีไดมาคืออะไร ก็ตอบกันแบบซ่ือ ๆอีกนะวา พะตีไดเรียนรูเพิ่มเติมจากโลกภายนอกวา มนุษยเทาเทียมกันในความเปนชีวิต และการที่จะใหชีวิตดํ ารงอยูไดอยางงดงาม มนุษยจะตองมีวิธีการใชชีวิตที่สัมพันธกับธรรมชาติ สิ่งแวดลอมและคนอื่น ไมทํ าลายและไมทํ ารายกัน

นอง ๆก็คงเห็นเหมือนพี่วา พะตีจอนิ โอโดเชา ไดผนึกความรูใหมเขากับความรูเกาอยางมั่นใจ ยามอยูบนเวทีและพูดเรื่องสิ่งแวดลอมและชีวิตใหคนอื่นฟง เขาจึงสงางาม และนาเชื่อถือไมนอย แมวาแวบแรกที่เห็นบางคนอาจจะประเมินผิดพลาดเพราะเสื้อผาเครื่องแตงกายที่ดูตามสบายของพะตีก็ตามที พี่รับรองไดเลยวา ใครที่ไดฟงพะตีพูดสักครั้งสองครั้งก็จะรูสึก”ท่ึง”ในความคิดและถอยคํ าอันแสดงความ”ลุมลึก”และ”จริงใจ”

เมื่อรูและเรียนรูชีวิตแลวพะตีจอนิก็มิไดอยูเฉย ส่ิงท่ีทํ าใหพะตีจอนิไดช่ือวาเปนครูภูมิปญญาไทย สาขาสิ่งแวดลอม ก็คือ การถายทอดความรูนั้นไปสูคนอื่น ๆทั้งภายในชุมชนและภายนอกชุมชน การรวมสรางหลักสูตรวัฒนธรรมปกาเกอะญอและการลงไปเปนวิทยากรดวยตนเองในที่ตาง ๆนั้นเปนการอุทิศตนเพื่อการถายทอดความรูอยางเปนรูปธรรมอยูแลว

Page 113: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

การปรากฏตัวบนเวทีอภิปรายตาง ๆอยางไมมีเงื่อนไข (บางครั้งเดินทางไกลมาก และดวยความยากลํ าบาก) ก็คือการเผยแพร การถายทอดความรูที่เขามีสูสาธารณะอยางสัมผัสได ไดเห็น ไดยิน ไดฟง และมีการปฏิสัมพันธกันระหวางผูพูดและผูฟงดวย นาเสียดายท่ีพะตีจอนิไมใชคนประเภทวัตถุนิยม เขาจึงไมเคยเก็บขอมูลที่แสดงความสํ าคัญของตัวเขาเอาไวเลย การไปพูดตามที่ตาง ๆจึงไมไดรับการบันทึกไวในรูปของสถิติ หากแตไดรับการบันทึกไวในใจของพะตีจอนิเองวา “โอย ไปมามากแลว”

อยางไรก็ดี การถายทอดความรูที่สํ าคัญมากที่สุดของพะตีจอนิ ในความเห็นของพี่ก็คือการที่เขาใชตัวเองเปนแบบอยางชีวิตที่คนอื่นมาสามารถเรียนรูได จอนิใชตัวเขาเองและครอบครัวของเขาเปนแบบอยาง เขามีชีวิตครอบครัวที่ดูแลกันและกันเปนอยางดี รีมูเปนภรรยาที่อดทนและเปนแมที่เลี้ยงดูลูกทุกคนมาโดยไมมีปญหา ลูกทุกคนก็รักและผูกพันกับพอแม ท้ังยังเขาใจในส่ิงท่ีพอทํ า มีลูกซึ่งสามารถสืบทอดความคิดของเขาได เรื่องราวของพฤกับพอในวันที่ถูกปาไมลอม หรือเร่ืองที่พฤกับหอมลือเกือบตายในไฟ สะทอนภาพความรักความผูกพันในครอบครัวไดเปนอยางดี วันที่พฤกับหอมลือเลาเรื่องจะตายในไฟใหพี่ฟงนั้น ใครท่ีน่ังอยูดวยก็คงจํ าได พฤเลาไปก็กอดแมไป สวนหอมลือก็นั่งเยื้องอยูขาง ๆ กิริยาทาทางและอารมณความรูสึกขณะเลาเรื่องนั้นเต็มไปดวยสายสัมพันธทางอารมณที่เรามองออกวา ไมมีวันขาดออกจากกันไมวาวนัใด รวมทั้งสายตาของพะตีจอนิที่นั่งฟงอยูในวันนั้นดวย

ชาวบานหนองเตาที่อยูรวมเหตุการณทุกเหตุการณในวิกฤตชีวิตของคนหนองเตา ไมมีใครลืมพะตีจอนิได เพราะเขาเอาชีวิตของเขาอุทิศเพื่อการตอสูใหแกหมูบาน ใหแกปา น้ํ า และฟาท่ีเขารัก แบบอยางชีวิตเชนนี้คือตัวอยางสํ าหรับการเรียนรูท่ีดีเย่ียม แมแตเราผูเปนคนเมืองก็ยังอยากจะเอาแบบอยาง มาหาตนไมปลกู มาปรับปรุงสิ่งแวดลอม ตามที่พะตีวา

พะตีจอนิ โอโดเชา ไมใชเทวดาหรืออัศวินมาขาวที่จะลุกขึ้นมาแกปญหาสิ่งแวดลอมที่สะสมมายาวนานไดในพริบตา และเขาเองก็คงไมตองการเปนภาพ”ปฏิมา”เชนนั้น ไมเชนน้ันเขาคงไมกาวลงจากการเปนผูใหญบาน ดังน้ัน การรูจักตัวเอง การปลอยอ ํานาจที่อยูในมือใหคนอื่น รวมทั้งการสอนใหคนอื่นเรียนรูที่จะรับผิดชอบชีวิตและสังคม ลวนเปนสิ่งที่ทํ าใหภาพของพะตีจอนิ เปนตัวอยางที่มีชีวิตเลือดเนื้อ เปนจริงและจับตองได ไมเลื่อนลอยหรืออยูสูงเกินไป

นอง ๆที่เคยขึ้นไปหนองเตาบอย ๆ คงรูดีวา พะตีจอนิ มีอะไรท่ี”ตลก”อีกหลายอยางอยางท่ีมนุษยพึงมี บางอยางก็เปนเร่ือง”บกพรอง”บางอยางก็เปนเร่ืองกิเลสมนุษยโดยปกติธรรมดา แตขอบกพรองหรือกิเลสเหลานั้นเปนเรื่องที่มีอยูอยางเปนธรรมดาของมนุษย และผูเปนเจาของเองก็มิไดขยายมันใหใหญโตแตอยางใด ขอน้ี ย่ิงทํ าใหพะตีจอนิมีความเปนครูท่ีติดดินมากข้ึน

นอง ๆชุมชนคนรักปาท่ีรัก การไดรูจักกับพะตีจอนิ โอโดเชา เปนความสุขอยางยิ่งแลวแตการไดเรียนรูชีวิตของเขาอยางลึกซึ้งกลับเปนความสุขย่ิงกวา สุขตรงที่วา เราสามารถนํ าเอามาปรับใชกับชีวิตของเราไดเสมอ ท้ังในแงของการการเรียนรูในฐานะปจเจกชนคนหน่ึง หรือในฐานะผูนํ าชุมชน

Page 114: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

พี่อยากจะจบจดหมายฉบับนี้แบบนิทานอีสปวา นิทานเร่ืองน้ีสอนใหรูวา มนุษยนั้นตอใหตกอยูในความยากลํ าบากเดือดรอนสักเพียงใดก็ตาม หากมีความเขาใจชีวิตมากพอและพรอมท่ีจะเรียนรูชีวิต มนุษยก็สามารถที่จะแกไขปญหาตาง ๆในลุลวงไปได

พะตีจอนิ โอโดเชา คือตัวอยางของมนุษยหน่ึงในจํ านวนน้ัน จากพ่ีชมัยภร แสงกระจาง

@@@@@@@

Page 115: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

บันทึกจากคนเขียน

ฉันจบสารคดีเชิงนวนิยายเร่ือง”จอนิ โอโดเชา-ปราชญนักสูแหงภูเขา”ลงไปแลว พอเขียนจบก็รีบเขียนบันทึกจากคนเขียนทันที เพราะกลัวจะลืมความ”สด”และความ”ซานใจ”ที่ไดในการทํ างานชิ้นนี้ สองคนแรกที่ฉันอยากขอบคุณเปนอยางยิ่งก็คือ คุณกรรณิการ พรมเสาร และคุณเบญจา ศิลารักษ คนเขียน”ปาเจ็ดชั้น ปญญาปราชญ”เพราะหากดไมมีปาเจ็ดช้ัน ปญญาปราชญ ปานนี้ฉันก็ยังคงเขียนเร่ืองราวของพะตีจอนิไมสํ าเร็จ

ฉันยังจํ าไดวา วันแรกท่ีเผลอรับปากกับสํ านักงานคณะกรรมการการศึกษาแหงชาติวาจะเขียนประวัติพอหลวงจอนิ โอโดเชา เมื่อประมาณเดือนมิถุนายนปที่แลวนั้น ฉันยังไมรูจักแมสักนิดวาจอนิ โอโดเชาเปนใคร รูแตวาเลือกครูภูมิปญญาคนนี้เพราะเห็นคํ าวา “สาขาสิ่งแวดลอม” แตพอไดยินเจาหนาที่ของ สกศ.ทํ าหนาตายินดีแลวรองวา

“ดีคะ ฉันเลือกคนนี้นะดีแลว เขาอยูบนดอย หาตัวยาก”ฉันสะดุงโหยง นึกในใจวา กรรมอะไรอยางน้ี แถมหลังจากน้ันอีกสามเดือนฉันก็ไมได

ทํ าอะไรใหกาวหนาขึ้นเลย นอกจากไปซ้ือปาเจ็ดช้ัน ปญญาปราชญมาอาน เพราะเห็นขาวพอหลวงจอนิ โอโดเชาออกโทรทัศน จนกระท่ังถึงเดือนตุลาคม พอรูแนวาอยางไรก็ตองเขียน ฉันก็ตัดสินใจโทรศัพทหาคนเขียนปาเจ็ดชั้น ปญญาปราชญ นองทั้งสองก็ขานรับดวยดีชวนใหประทับใจ แตตอนนั้นฉันยังหวังวานองทั้งสองคนใดคนหนึ่งจะเปนคนรวมเขียน

แตพอฉันเดินทางข้ึนไปเชียงใหมก็รูวาฝนสลายเพราะนองสองคนมีงานยุงมาก และขอมูลที่มีในตอนเขียนปาเจ็ดชั้นก็คือปาเจ็ดชั้นที่เปนเลมนั่นแลว ฉันถามหาเทปนองก็ย้ิม ๆบอกวาไมมี ตะเกียกตะกายเท่ียวหาคนชวยเขียนไปท่ัว จนตอนหลังนนททํ าทาเหมือนจะมาชวยแตมีเง่ือนไขวาตองเขียนคนเดียว การณก็เลยกลับเปนวา ฉันตางหากที่ตองเขียนคนเดียว

เดือนพฤศจิกายนฉันกลับไปท่ีเชียงใหมอีกครั้ง คราวน้ีเตรียมพรอมข้ึนโดยการอานปาเจ็ดชั้นฯ และประวัติของพอหลวงจอนิในเลมเชิดชูเกียรติ คนดีศรีสังคม ป ๒๕๓๙ เรียบรอยแถมดวยการอาน ลิตเติ้ลทรี ของ ฟอรเรสต คาเตอร ที่นกแปลเสียอีกรอบหน่ึง เพื่อดูกลวิธีในการเขียน พอไปถึงนองอิ๋วพาขึ้นดอยในนามชุมชนคนรักปา น่ันเปนคร้ังแรกท่ีฉันไดเห็นพะตีจอนิ ไดไปจนถึงบานพะตีจอนิ และรูเลยวา งานที่จะทํ าไมใชเร่ืองงาย ๆ

การไดไปเท่ียวปากับพะตีจอนิที่ฉันลมลุกคลุกคลานเสียหลายคร้ังหลายหน แตก็ทํ าใหฉันไดรํ าลึกถึงตัวเองในวัยเด็ก แตขอมูลที่ไดอัดเทปมากรุงเทพฯก็เปนเพียงสวนนอย พอลงมือเขียนก็รูวาไมพอ แถมยังตองปรับหูกับเสียงภาษาไทยของพะตีจอนิอยูนาน

ฉันกลับขึ้นไปเชียงใหมอีกครั้งในเดือนธันวาคม ในงานสานใจคนรักปา จับตวัพะตีจอนิพูดคุยเสียสองสามชั่วโมงโดยมีพฤมานั่งเสริมดวย เปนการทํ างานที่ตื่นเตนดีแท พีะตีจอนิก็ไมถือตัวเลยแมแตนอย ยอมนั่งที่ลานจอดรถใหฉันซักถามจนกระทั่งถึงเวลาอภิปราย ฉันก็อัดเทปเอาไวใชอีก กลับมากรุงเทพฯฉันลงมือเขียนตออีก คราวนี้เขียนรวดเดียวยาว แตเร่ิมไมแนใจในวิธีการของตนเอง เพราะบางสวนฉันก็จินตนาการเอาเอง เนื่องจากจนมุมไมรูจะแสดงภาพใน

Page 116: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

เชิงนวนิยายอยางไร ไดพูดคุยกับอาจารยสุวรรณา เกรียงไกรเพ็ชร อาจารยที่คณะอักษรศาสตรจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยที่เคยเปนครูสอนกันมากอน และอาจารยก็เคยทํ าวิจัยเกี่ยวกับเรื่องของชนเผามากอน อาจารยบอกกับฉันวา

“เธอตองลืมไปเลยนะวา กํ าลังเขียนเรื่องพอหลวงจอนิ เธอตองเขียนเรื่องของตัวละครที่ช่ือจอนิ..”

นั่นแหละ ฉันก็จึงพอตั้งหลักได แลวก็ตั้งหนาตั้งตาเขียนไปจนถึง ๑๕ บทซึ่งใกลจบเต็มที จากน้ันก็ขึ้นเชียงใหมอีกครั้งเม่ือตนเดือนมีนาคม(วันกลับเคร่ืองบินระเบิดพอดี) คราวน้ีฉันขึ้นไปบานพะตีจอนิกับเกอ ออด และอนโดยอิ๋วเปนคนจัดการใหตามเคย

ไปคราวน้ี ฉันตั้งใจวาจะไปนอนบานพะตีจอนิสักสองคืน จะอานเรื่องใหพะตีฟงทั้งหมดแตพอถึงเวลาเขาจริง ๆ ฉันก็อานไดแคบทที่สอง พอถึงตอนที่พะตีฝนวาแมมาหาและถามวา ไมไปอยูกับแมหรือ พะตีก็ลุกพรวดพราดไปยืนสั่งขี้มูกอยูฟด ๆ ฉันก็นึกวาพะตีเปนหวัด สักพักใหญพะตีก็ทํ าเสียงอูอี้ตอบมาวา

“นึกถึงเรื่องเกา ๆแลวมันเศรา”นั่นแหละ ฉันถึงรูวาพะตีจอนิไปยืนรองไหนวนิยายท้ัง ๑๔ บทของฉันตองแกแทบทุกเหตุการณ เพราะจินตนาการของฉันล้ํ าหนา

พะตีจอนิไปมากเชน ฉันใหพะตีฝนถึงผีรายตาแดง พะตีก็บอกวาไมเอาหรอก เพราะตอนนั้นฝนวาเห็นงูเทานั้นเอง อะไรอยางน้ีเปนตน จนในที่สุดฉันก็คอนขางม่ันใจวา ไดแกขอมูลทุกจุดใหตรงกับความเปนจริง

ในเรื่องของภาษา ฉันบอกกับพะตีจอนิวา ฉันพยายามทํ าใหดูเปนภาษากลางมากเพราะฉันไมชํ านาญภาษาทองถิ่นมากนัก และขอสํ าคัญถาใสภาษาทองถิ่นมากก็อาจจะทํ าใหอานไมรูเรื่อง สวนในดานของชื่อคนที่เปนจริง ฉันพยายามไมใสชื่อของคนที่อาจทํ าใหเขาเสียหาย แตสํ าหรับคนที่ลงชื่อแลวเปนไปในทางบวก ฉันพยายามคงไว แตเช่ือวาบางทีอาจผิดพลาด เพราะพะตีเองก็มักจํ าไมคอยได สวนเรื่องขอมูลที่ตางกันจากเลมอื่นเชน อายุที่พะตีเปนผูใหญบานพี่สาวหรือพี่ชายที่เลี้ยงดูพะตี หรือวันเวลาที่ชุมนุมใหญในป ๒๕๓๘ ที่ลํ าพูนนั้นฉันไดแกไขใหตรงตามขอมูลที่ถูกตอง รวมทั้งค ําวาปกาเกอะญอ พะตีเปนคนขอใหใชวา “เกอะ”แทนคํ าวา”กะ”เพราะเสียงตรงกวา

กลับมากรุงเทพฯฉันก็แกและเขียนเรื่องของพะตีจอนิตอ แตงานที่มีเยอะอยูแลวทํ าใหทํ าไมไดตอเนื่องดังใจ ปาเจ็ดช้ัน ฯและประวัติในคนดีศรีสังคมก็ยังเปนเรื่องหลัก แตขอมูลใหมๆท่ีไดมาจากพะตีก็มีเปนจํ านวนไมนอย โดยเฉพาะอยางยิ่งเร่ืองที่พฤกับหอมลือเกือบจะตายในไฟ ฉันเขียนไปจินตนาการไปถงึชีวิตอันเต็มไปดวยความหมายของพะตีไป ชีวิตของเขาชางตื่นเตนมีสีสันเหมือนนวนิยายท่ีไมมีท่ีส้ินสุด หรือกลาวอีกทีก็คือนวนิยายมักจะเอามาจากชีวิตที่ตื่นเตนมีสีสันท่ีไมมีท่ีส้ินสุดอยางน้ีเอง

วันนี้ฉันเขียนนวนิยายเชิงสารคดี หรือสารคดีเชิงนวนิยายท่ีฉันไมรูแนจบลงแลว คิดเขาขางตัวเองแบบนักเขียนวาคงมีใครหลายคนรองไหเหมือนที่เจาของประวัติเขาเองก็รองไหมา

Page 117: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

แลว และเมื่อรองไหเสร็จ ฉันก็หวังจะใหเขารักปา รักสิ่งแวดลอมขึ้นอีกสักหนอย คนละหนอย ๆโลกนี้ก็จะดูดีไปเอง

เขียนเร่ืองน้ีจบแลว ฉันประทับใจปาและพะตีจอนิจนบอกไมถูก เขาสมกับท่ีไดรับการประกาศเกียรติใหเปนครูภูมิปญญาไทยจริง ๆ พะตีมีทุกขอของความเปนครูภูมิปญญาครบถวนคือ มีความจํ าเพาะกับทองถิ่น มีความเช่ือมโยงหรือบูรณาการสูง มีความเคารพผูอาวโุส เนนความสํ าคัญของจริยธรรมมากกวาวัตถุ มีวัฒนธรรมเปนฐาน และมีลักษณะพลวัต

เขาเปนคนท่ีหาไดยากในสังคมของเราอยางไรก็ตาม ถาหากฉันไมไดสํ านักงานคณะกรรมการการศึกษาแหงชาติ โดยดร.รุง

แกวแดง ขอรอง บังคับและวาจางใหเขียนแลว ฉันก็คงไมไดรูจักพะตีจอนิกับปา และก็จะไมไดเขียนสารคดีเชิงนวนิยายแบบเร่ืองน้ี (ที่ยังไมเคยเขียนมากอน)

ความสุขที่ไดเจอคนพิเศษของสังคม แตเปนคนสามัญทํ าใหฉันปลาบปลื้มใจ การไดรูจักพะตีจอนิ คือการไดรูจักโลกและชีวิตที่งดงามอีกรูปแบบหนึ่ง แมฉันจะทํ างานน้ีเม่ืออายุไมนอยแลว และการเขาไปหาขอมูลเปนความยากลํ าบากอยางย่ิง แตฉันก็ดีใจมากที่ไดทํ างานชิ้นน้ี เปนความสุขอีกแบบหนึ่งของการเขียนหนังสือที่ฉันลืมไมไดเลยในชีวิตนี้

ขอบคุณส ํานักงานคณะกรรมการการศึกษาแหงชาติอีกคร้ัง สวนพะตีจอนินั้นฉันขอบคุณเต็มหัวใจ

ชมัยภร แสงกระจาง๒๕ มีนาคม ๒๕๔๔

Page 118: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

บรรณานุกรม

กรรณิการ พรมเสาร เบญจา ศิลารักษ.ปาเจ็ดช้ัน ปญญาปราชญ .กรุงเทพฯ: มูลนิธิภูมิปญญา,๒๕๔๒เครือขายชาวบาน.เอกสารประกอบการสัมมนาโครงการบริหารจัดการทรัพยากรในพื้นที่ลุมนํ้ าโดยการมีสวนรวมของประชาชน,วันท่ี ๒๖–๒๗ ตุลาคม ๒๕๔๓จอนิ โอโดเชา.บันทึกค ํา”ทา”:เชียงใหม,กองทุนชุมชนรักปา มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ,๒๕๔๑ชัชวาลย ทองดีเลิศ.ดินแดนแหงทรัพยากร.สืบสานลานนา.จัดพิมพในวาระพิเศษ งานสืบสานลานนา ๓-๖ เมษายน ๒๕๔๐ดอกไผ.ทะโล ไมบังตาผี.สานใจคนรักปา.ฉบับหอมกล่ินปใหม,เลมที่ ๔๓ เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ๒๕๔๓ถาวร กัมพลกุล.ปกาเกอะญอ อนุรักษสิ่งแวดลอม.เสียงภูเขา.ปท่ี ๑ ฉบับท่ี ๔ สิงหาคม-ตุลาคม๒๕๓๔นันทา เบญจศิลารักษ ศุภมาส เบญจศิลารักษ.ละเมิดสิทธิคนบานปา คนชายขอบแผนดินไทย.เฃียงใหม:มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ,๒๕๔๒แนวคิดและทิศทาง.เอกสารประกอบการสัมมนา โครงการบริหารจัดการทรัพยากรในพื้นที่ลุมนํ้ าโดยการมีสวนรวมของประชาชน,วันท่ี ๒๖–๒๗ ตุลาคม ๒๕๔๓เบญจา ศิลารักษ.ดวงดาวทอผา จินตนาการในยุคจักรกล.สานใจคนรักปา,ฉบับเก็บความจริงมาเลา เลมท่ี ๔๑ เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ๒๕๔๓…………..ไรขาว วิถีแหงตนธาร.สืบสานลานนา.จัดพิมพในวาระพิเศษ งานสืบสานลานนา ๓–๖เมษายน ๒๕๔๐ปาไม-ท่ีดิน.เอกสารประกอบการสัมมนาโครงการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติโดยการมีสวนรวมของประฃาชน,วันที่ ๒๖–๒๗ ตุลาคม ๒๕๔๓พอเลปา(เขียน).กัลยา วีระศักดิ์ ยอดระบํ า (แปลและเรียบเรียง).คนปกากะญอ.กรุงเทพฯ:สํ านักพิมพสันผีเสื้อ,๒๕๓๓ฟอรเรสต คารเตอร(เขียน).กรรณิการ พรมเสาร (แปล) .ลิตเติ้ลทรี.กรุงเทพฯ:สํ านักพิมพมูลนิธิโกมล คีมทอง,๒๕๔๓เลาขานประสบการณ.สํ านักงานการประถมศกึษาจังหวัดเชียงใหม สํ านักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแหงชาติ ,๒๕๔๒วีระศักดิ์ ยอดระบํ า.วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับชาวเขา.เสียงภูเขา.ปท่ี ๒ ฉบับท่ี ๕ กรกฏาคม ๒๕๓๖แสงดาว ศรัทธามั่นและคนอื่น ๆ.สัญจรสูตนนํ้ า.เชียงใหม:โครงการตนน้ํ าตนชีวิต,๒๕๔๓สุรพงษ กองจันทึก.ตํ านานการเกิดของกะเหรี่ยง.เสียงภูเขา.ปท่ี ๑ ฉบับท่ี ๓ พฤษภาคม-กรกฎาคม ๒๕๓๔

Page 119: จอนิ โอ โดเชา ครูภูมิป ญญาไทย ป ...backoffice.onec.go.th/uploads/Book/926-file.pdf · 2018-01-25 · จอนิ โอ โดเชา

Auto.จอนิ โอโดเชา.สัมภาษณ.สานใจคนรักปา ฉบับฝนกลางฤดูแลง,เลมที่ ๔๔ เดือนมกราคม-กุมภาพันธ ๒๕๔๔