Upload
others
View
8
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
เมื่อวันที่25-27เมษายน2559ที่โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลินจ.ภูเก็ต
เทศบาลนครภูเก็ตร่วมกับสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และ
คุณภาพเยาวชน (สสค.) และธนาคารโลก จัดการประชุมเชิงปฏิบัติ
การเพื่อออกแบบพิมพ์เขียวการศึกษาเทศบาลนครภูเก็ต (Phuket
City’s Education Blueprint Design Lab) โดยมีประชาชนในพื้นที่
ตัวแทนจากภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมมากกว่า150คน วัตถุประสงค์
เพื่อนำข้อมูลด้านการศึกษาในสถานศึกษาของโรงเรียนและหน่วย
จัดการศึกษาในสังกัดเทศบาลนครภูเก็ตมากำหนดแผนพัฒนาการ
ศึกษาของเทศบาลในอีก4ปีข้างหน้า(2560-2563)
กิจกรรมในวันแรกเป็นการนำเสนอข้อมูลสถานการณ์การศึกษา
ของโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครภูเก็ตทั้ง 7 แห่งว่าสถานการณ์
ปัจจุบันเป็นอย่างไร มีความโดดเด่นหรือต้องยกระดับด้านใดบ้าง
ก่อนที ่จะช่วยกัน “ฝัน” ถึงอนาคตว่าจากสถานการณ์ปัจจุบัน
การศึกษาของเทศบาลนครภูเก็ตในอีก 4 ปีข้างหน้าจะเปลี่ยนแปลง
ไปในทางที่ดีขึ้นอย่างไร ใครต้องมีส่วนช่วยอย่างไรบ้างซึ่ง “ใคร”ที่
ว่านี้หมายรวมทุกคนในเทศบาลนครภูเก็ตไม่เฉพาะครูและผู้บริหาร
โรงเรียนเท่านั ้น กิจกรรมในวันที ่สองเป็นการช่วยกันคิดต่อถึง
ยุทธศาสตร์และแผนกิจกรรมว่าจะทำให้ “ฝัน” นั้นป็นจริงได้อย่างไร
กิจกรรมวันสุดท้ายจึงเป็นการนำเสนอร่างแผนงานและ “ให้
ข้อสังเกต” โดยผู้ทรงคุณวุฒิซึ ่งได้รับเกียรติจาก ศ.นพ.วิจารณ์
พานิช นายบัณฑูร ทองตัน ประธานสภาการศึกษาจังหวัดภูเก็ต
และนายสมหมาย ปาริจฉัตต์ รองประธาน บมจ.มติชน จากนั้น
จึงเป็นการปรับปรุงแผนขั้นสุดท้ายก่อนส่งมอบให้สำนักวิชาการและ
จาก “พิมพ์เขียวการศึกษาเทศบาลนครภูเก็ต” สู่ “แผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดภูเก็ต” พัฒนะพงษ์ สุขมะดัน
แผนบรรจุเข้าไว้ในแผนของเทศบาลเพื่อจัดทำแผนงบประมาณต่อไป
จุดเริ่มต้นของการจัดทำ Blueprint ดังกล่าวเริ่มจากคณะผู้วิจัย
มหาวิทยาลัยนเรศวรและ สสค. ศึกษาวิธีการจัดทำ School Report
Card ของประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งมีการเปรียบเทียบผลการดำเนิน
งานของแต่ละโรงเรียนกับเขตพื้นที่และประเทศ และวิธีการเปรียบ
เทียบผลการดำเนินงานของโรงเรียนในปีปัจจุบันเปรียบเทียบกับปี
ที่ผ่านมาของประเทศบราซิลซึ่งนับเป็นประเทศที่มีการพัฒนาด้าน
การศึกษาแบบก้าวกระโดดด้วยการใช้ข้อมูลสารสนเทศวางแผนการ
ศึกษาในระยะยาวจากนั้นคณะวิจัยจึงนำแนวทางดังกล่าวมาพัฒนา
เป็น“ชุดข้อมูล”และ“ระบบหลักประกันโอกาสทางการศึกษา”ให้
เป็นระบบข้อมูลที่มีการทำงานในระดับห้องเรียนที่มีการจัดเก็บข้อมูล
อย่างต่อเนื่อง เป็นเครื่องมือจัดการศึกษาของครูและผู้บริหารสถาน
ศึกษา โดยทำงานร่วมกับเทศบาลนครภูเก็ตและโรงเรียนในสังกัด
เทศบาลทั้ง 7 แห่งตลอดปีการศึกษา 2558 ความพยายามทำงาน
ร่วมกันในวันนั้นกลายมาเป็นข้อมูลตั้งต้นของ “การมีส่วนร่วม” ใน
การออกแบบพิมพ์เขียวการศึกษาเทศบาลนครภูเก็ตในระยะ 4 ปี ที่
ไม่ได้เป็นการทำแผนที่เกิดจากการ “ฝัน” ลอยๆ ดังนั้นการจัดทำ
พิมพ์เขียวด้านการศึกษาของเทศบาลนครภูเก็ตในครั้งนี้จึงถือเป็น
จุดเร่ิมต้นท่ีดีในการผลักดัน“การวางแผนพัฒนาการศึกษาบนพ้ืนฐาน
ของข้อมูล” หรือ Evidence-based Educational Planning สำหรับ
ประเทศไทยในอนาคต
ในช่วงท้ายของงานมีการทำพิธีลงนามความร่วมมือระหว่าง
โรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครภูเก็ตเพื่อร่วมเปิดข้อมูลสารสนเทศ
จั ง ห วั ด ป ฏิ รู ป ก า ร เ รี ย น รู้
เด่นในฉบับ.. • ข้อมูลสำหรับการจัดทำพิมพ์เขียวการศึก
ษา
เทศบาลนครภูเก็ต
• มุมมองสื่อกับการจัดทำพิมพ์เขียวการศึกษาภูเก็ต
• ติดตามความเคลื่อนไหวของจังหวัดปฏิรูปการเรียนรู้ที่
ABENetwork’sCorner
ฉบับที่
อ่านต่อหน้า4
วันที่ 16 พฤษภาคม 2559 22
2
ระบบหลักประกันโอกาสทางการศึกษาที ่ใช ้ในการจัดทำ
พิมพ์เขียวทางการศึกษาของเทศบาลนครภูเก็ต (Phuket Education
BlueprintWorkshop)เป็นระบบที่สนับสนุนการจัดเก็บข้อมูลการเรียน
การสอนในห้องเรียน ข้อมูลงานวิชาการ ข้อมูลทะเบียนนักเรียน
งบประมาณ และข้อมูลบุคลากร ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ถูกนำมาวิเคราะห์
จัดทำตัวชี้วัดด้านการศึกษา 3 ด้านในรายงานการดำเนินงานของ
โรงเรียน ได้แก่ (1) ตัวชี้วัดด้านโอกาส ได้แก่ จำนวนนักเรียน
ลงทะเบียนต่อประชากรในเขตพื้นที่ จำนวนนักเรียนพิการ จำนวน
นักเรียนยากจน(2)ตัวชี้วัดด้านคุณภาพ ได้แก่ร้อยละการเข้าเรียน
ของนักเรียนร้อยละนักเรียนที่ติด0/ร./มส.ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา
ใน 8 กลุ่มสาระ ผลการทดสอบ O-NET นักเรียนที่มีผลการเรียน
ต่ำกว่า 2.00 หรือติดวิทยาทัณฑ์ นักเรียนที่เกรดเฉลี่ยมากกว่า 3.00
และ (3)ตัวชี้วัดด้านประสิทธิภาพ ได้แก่ อัตราส่วนครูต่อนักเรียน
สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนเทียบกับงบประมาณ
ของโรงเรียน ซึ่งข้อมูลตัวชี้วัดเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในการตั้งเป้าหมาย
ในการพัฒนาโรงเรียน อาทิ อัตราการเข้าเรียนของนักเรียนต้อง
ไม่ต่ำกว่า 99% คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนทุกคน
มากกว่า90%ขึ้นไป
ในระหว่างการจัดเตรียมข้อมูลเพื ่อออกแบบพิมพ์เขียวด้าน
การศึกษาของเทศบาลนครภูเก็ตนั้น คณะวิจัยพบว่าข้อมูลบางด้าน
ในระบบนั้นเมื่อรวบรวมมาจัดทำเอกสารประกอบการทำแผนการ
ศึกษามีความไม่ถูกต้องอาทิข้อมูลบุคลากรและข้อมูลงบประมาณ
พัฒนาคน... พัฒนางาน
ดร.วรลักษณ์ คงเด่นฟ้า
ข้อมูลสำหรับการจัดทำพิมพ์เขียว การศึกษาเทศบาลนครภูเก็ต
ทั ้งนี ้เนื ่องจากการดำเนินงานของโครงการที ่ผ่านมานั ้นมีการใช้
ประโยชน์จากระบบเพียงข้อมูลการเรียนการสอนเท่านั้น เช่น การ
ส่งต่อข้อมูลการจัดการการเรียนการสอนระหว่างครูวิชาการและ
ครูผู้สอน การจัดทำสมุดพกนักเรียนเพื่อให้แก่นักเรียนและผู้ปกครอง
ซึ่งการใช้ประโยชน์ข้อมูลเหล่านี้จากระบบจะช่วยให้เกิดการตรวจ
สอบความถูกต้องของข้อมูลโดยภาคีต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ครูใน
ฝ่ายต่างๆ นักเรียน และผู้ปกครอง แต่ข้อมูลบุคลากรและข้อมูล
งบประมาณนั้นยังไม่มีการนำไปใช้ประโยชน์ทำให้ไม่มีการตรวจสอบ
ความถูกต้องมาก่อน ดังนั้น ข้อมูลที่จัดเก็บในระบบฐานข้อมูลต่างๆ
นั้นจะมีความถูกต้องได้ก็ต่อเมื่อมีผู้นำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ ซึ่งจะ
ทำให้ผู้นำเข้าข้อมูลมีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น
ในการทำ MOU ประกอบการจัดทำพิมพ์เขียวของเทศบาลนคร
ภูเก็ตผู้บริหารสถานศึกษาหลายท่านให้ความเห็นว่าข้อมูลตัวชี้วัด
เรื่อง ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา นั้นไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบ
ระหว่างโรงเรียนได้ เนื่องจากมาตรฐานการให้คะแนนและการตัด
เกรดของครูแต่ละโรงเรียนนั้นต่างกัน ซึ่งการขาดมาตรฐานกลาง
ดังกล่าวส่งผลให้ตัวชี้วัดที่มีพื้นฐานอยู่บนเรื่องของผลสัมฤทธิ์ทางการ
ศึกษาอาทินักเรียนที่มีผลการเรียนต่ำกว่า2.00หรือติดวิทยาทัณฑ์
นักเรียนที่เกรดเฉลี่ยมากกว่า 3.00 ร้อยละนักเรียนที่ติด 0/ร./มส.
ไม่สามารถเปรียบเทียบกันระหว่างโรงเรียนได้ ผู้บริหารสถานศึกษา
จึงเสนอแนะให้มีการจัดสอบด้วยข้อสอบกลางต่อไป แต่ที่น่าสังเกต
คือข้อมูลผลสัมฤทธิ์ที่แต่ละโรงเรียนประเมินกันเองนี้เป็นส่วนหนึ่งของ
เกณฑ์การศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของประเทศไทย ซึ่งข้อเสนอ
เหล่านี ้นับเป็นข้อมูลความรู ้ที ่จะนำมาพัฒนาระบบสารสนเทศนี้
ต่อไป
เทศบาลนครภูเก็ตเดินหน้าจัดทำพิมพ์เขียว
การศึกษานครภูเก็ตที่แรกของประเทศ ชี้วางแผน
บนฐานข้อมูล ป้องกันการมโน นักวิชาการ
เวิร์ลด แบงค์ยก “เวียดนาม” ใช้ระบบสารสนเทศ
ไต่ระดับพีซาสู่ลำดับ 17 ขณะเด็กประถมไทย
ร้อยละ 56 ขาดครูเฉลี่ยไม่ถึง 1 คน/ห้อง เพราะ
ขาดระบบจัดการข้อมูล พร้อมลงนามความร่วมมือ
โรงเรียนเทศบาลนครภูเก็ตเปิดข้อมูลแก้ปัญหา
ความเหลื่อมล้ำ
พาดหัวข่าวข้างต้นคงพอได้เห็นกันบ้างแล้วตามหน้า
ข่าว“การจัดทำพิมพ์เขียวการศึกษาของเทศบาลนครภูเก็ต”ซึ่ง
ร่วมกับสสค.และธนาคารโลก เมื่อวันที่ 25-27 เมษายน2559
ณ โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน จังหวัดภูเก็ต เนื้อข่าวคงขอให้ติดตาม
อ่านตามหน้าหนังสือพิมพ์ต่างๆ แต่ที ่อยากนำมาฝากกันใน
คอลัมน์นี ้ เป็นอีกหนึ ่งบรรยากาศของสื ่อมวลชนที ่สะท้อน
ความเห็นในการทำพิมพ์เขียวการศึกษาของเทศบาลนครภูเก็ต
ซึ่งนายสมหมาย ปาริจฉัตต์ รองประธาน
กรรมการ บมจ.มติชน ให้ข ้อคิดเห็นที ่
น่าสนใจไว้3ประเด็นคือ(1)กระบวนการ
จัดทำพิมพ์เขียว (2) สาระของพิมพ์เขียว
และ (3) การขับเคลื่อนพิมพ์เขียวที่จะจัด
ลำดับความสำคัญอย่างไรที ่เป็นการคิดใหญ่
ทำย่อยแต่ลึก
“ประเด็นแรกกระบวนการทำพิมพ์เขียวใช้กระบวนการ
ส่วนร่วมใช้แนวทางการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ให้เด็กเยาวชน
ได้มาร่วมแสดงออก เป็นการทำงานแนวราบในขณะที่วัฒนธรรม
แนวดิ่งดำรงอยู่ จังหวัดเชียงใหม่ใช้เวลา 2 ปีในการจัดทำแผน
แต่ภูเก็ตใช้วิธีเรียนลัด ในกระบวนการจัดทำพิมพ์เขียวนายก
เทศมนตรีและรองนายกเทศมนตรีอยู ่ร่วมตลอด ร่วมทำงาน
พร้อมผู้บริหารโรงเรียน เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม
ประเด็นสองสาระเนื้อหาเริ่มต้นจากข้อมูลที่เป็นความจริง
ซึ่งถือว่าถูกต้องที่คลี่ข้อมูลทั้งระดับบุคคล โรงเรียน เทศบาล
เกิดการสื ่อสารสาธารณะ ทำให้การประชาสัมพันธ์ถูกต้อง
เกิดการจัดการข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง จุดเน้นของวิสัยทัศน์
พิมพ์เขียวที ่เริ ่มด้วยความดี เด็กดีมีคุณธรรม เป็นตัวนำที ่
สอดคล้องกับวิกฤติของสังคม วิสัยทัศน์ที ่ทำขึ ้นครบถ้วน
มุมมองสื่อกับการจัดทำพิมพ์เขียวการศึกษาภูเก็ต
3
กนกวรรณ กลินณศักดิ์ นักวิชาการสื่อสาร สสค.
รณรงค์สื่อสาร จังหวัดปฏิรูปการเรียนรู้
กว้างขวางเกิดจากการมีส่วนร่วม ทุกกลุ่มให้น้ำหนักไปที่ครูซึ่ง
ตนเชื่อมั่นว่าเป็นคานงัดสำคัญ ถ้าเรามีฐานข้อมูลครู เด็กที่
ชัดเจนจะทำให้งานมีความสำเร็จได้ มาตรการที ่อยากเห็น
คือกระบวนการที่จะนำมาปลุกจิตวิญญาณความเป็นครูจะทำ
อย่างไร เป็นกระบวนการที ่ช ัดเจน เปลี ่ยนครูอำนาจเป็น
ครูอำนวยเราจะมีกระบวนการอย่างไรเปลี่ยนพฤติกรรมครูให้
เป็นแบบนี้ ให้พื้นที่แห่งความกลัวเป็นพื้นที่แห่งความรัก มีการ
พูดถึงวิชาโครงงานเป็นเครื่องมือ หวังยิ่งว่ากระบวนการนี้จะ
เป็นการพัฒนาครูและสร้างการเรียนรู้เด็กได้เป็นอย่างดี เป็นไป
ได้ไหมกระบวนการเพาะพันธุ์ปัญญาจะนำมาใช้กับครูโรงเรียน
เทศบาลทั้งหมด หรือครูสอนคิด หรือ model พัฒนาครูอื่นๆ ให้
ครูมีคุณธรรมจริยธรรม
ประเด็นที่สามกระบวนการขับเคลื่อน การสร้างเครือข่ายอยู่
ในระดับน่าภูมิใจ ฐานข้อมูลภูมิปัญญาชาวบ้านถ้ามีควรเติม
เข้าไป มีเวทีแสดงผลงานระยะ 1 ปีให้เห็นว่ามีความก้าวหน้า
เพียงใด หลักสูตรท้องถิ่น สถานศึกษาที่บูรณาการทุกกลุ่มสาระ
หวังว่าภูเก็ตจะเป็นสิงคโปร์ให้ได้ ด้วยขนาดพื้นที ่พอๆ กัน
แต่อาจจะลำบากสักหน่อยเพราะฐานงบประมาณและรายได้
จังหวัดถูกสูบเข้าส่วนกลางเกือบทั้งหมด”
ทั้งหมดนี้เป็นมุมมองของสื่อมวลชนอาวุโสที่คลุกคลีอยู่ใน
วงการศึกษาไทยมานับสิบปีร่วมสะท้อนการทำงานการศึกษา
ของเทศบาลนครภูเก็ตได้อย่างน่าสนใจ ส่วนผลลัพธ์ที่ได้เรียนรู้
อย่างน้อยก็คือ กระบวนการสร้างความเชื่อมั่นให้โรงเรียนใน
สังกัดเทศบาลนครภูเก็ตว่า การสื่อสารสาธารณะที่ถูกต้องจะ
สร้างการมีส่วนร่วมให้คนภูเก็ตเข้ามาช่วยลูกหลานได้อย่าง
โปร่งใส โดยเฉพาะการเปิดเผยข้อมูลสารสนเทศนั้น จะสร้าง
จริยธรรมให้ครูคืนสู่การยอมรับของสังคมได้อย่างเต็มภาคภูมิ
สมัครสมาชิก สสค. ดาวน์โหลดไฟล์จดหมายข่าว “สานปัญญา” ได้ที่ www.QLF.or.th
ติดตามข่าวสาร สสค. ที่ Quality Learning Foundation QLFThailand
แจ้งเปลี่ยนที่อยู่สมาชิก/สอบถาม โทร. 02-6191811
ต่อจาก หน้า 1
ABE Network’s Corner
สุราษฏร์ธานี: 26 เม.ย. 59 สุราษฎร์ธานี ได้ดำเนินการประชุมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การ
ศึกษาเชิงพื้นที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ. 2559-2563 โดยนายวงศศิริ พรหมชนะ ผู้ว่า
ราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับนายทนงศักดิ์ ทวีทอง นายกองค์การบริหารส่วน
จังหวัดสุราษฎร์ธานี และผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ข้อเสนอแนะร่างแผนยุทธศาสตร์การศึกษาฯ
และบูรณาการยุทธศาสตร์การศึกษาจ.สุราษฎร์ธานีกับการยุทธศาสตร์การศึกษาเชิงพื้นที่
จ.สุราษฎร์ธานี ไปพร้อมกันกับการขับเคลื่อนสมัชชาการศึกษาจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ ่ง
ปัจจุบันมีสมาชิกร่วม300คน
ตราด:2-3พ.ค.59ตราดจัดประชุม“แนวทางพัฒนากำลังคนเพื่อรองรับการพัฒนาเขต
เศรษฐกิจพิเศษและการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน” โดยได้รับเกียรติจากดร.กฤษณพงศ์
กีรติกร รองประธานกรรมการ สสค. ลงพื ้นที ่ เร ียนรู ้ก ับดร.ประธาน สุรกิจบวร
รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด และภาคประชาสังคมตราด อาทิ ประธานสภาหอการค้า
ประธานสภาอุตสาหกรรมนายกอบต.พร้อมแลกเปลี่ยนทัศนะการจัดการศึกษาเพื่อสัมมาชีพ
กับนายไพฑูรย์ พราหมณ์เกสร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชาด้วย
สุรินทร์:4พ.ค.59นายอรรถพร สิงหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมนายวินัย
ตรงจิตพิทักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ จัดประชุมคณะกรรมการการจัดการ
ศึกษาเชิงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ โดยนายไกรศักดิ์ วรทัต ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด
สุรินทร์ ในฐานะเลขานุการ คกก. ได้นำเสนอแผนยุทธศาสตร์ที่เกิดจากการระดมความคิดเห็นจากเวทีสมัชชาการศึกษาตำบล และ
เวทีสมัชชาการศึกษาจังหวัดสุรินทร์เพื่อนำสู่การจัดทำแผนการพัฒนาการศึกษาจังหวัดระหว่างวันที่10-12พ.ค.59
ทางการศึกษาแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในเด็กเยาวชนภูเก็ตเป็น
ครั้งแรก โดยมีเป้าหมายร่วมใน 2 ระดับ 1) เป้าหมายระหว่าง
โรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครภูเก็ต ซึ่งจะมีตัวชี้วัดตามพิมพ์เขียว
การศึกษาเทศบาลนครภูเก็ต และ 2) เป้าหมายเฉพาะของแต่ละ
โรงเรียน อาทิ อัตราการเข้าเรียน เพื่อใช้เป็นข้อตกลงในการจัดการ
ศึกษาเทศบาลนครภูเก็ตของสำนักการศึกษาในปี2560-2563
นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต
ซึ่งอยู่ร่วมกระบวนการทำแผนตลอดทั้ง 3 วันกล่าวสรุปแนวทาง
ความร่วมมือการพัฒนาการศึกษาของเทศบาลนครภูเก็ตใน 3 ด้าน
ได้แก่ 1) ผู้เรียน เน้นสร้างคุณลักษณะพึงประสงค์เป็นคนดี เก่ง
อยู ่ในพื ้นที ่ได้อย่างมีความสุข แข่งขันกับนานาชาติได้ 2) ครู
และบุคลากรการศึกษา เน้นพัฒนาคุณภาพชีวิตครู เพิ ่มโอกาส
ในการเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมที่ดีในการสอนและ3)ระบบการศึกษา
เทศบาลนครภูเก็ต เน้นเพิ่มโอกาสเด็กเยาวชนที่ขาดโอกาสให้ได้รับ
การศึกษา เพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพในการศึกษา ผ่านระบบ
สารสนเทศด้านการศึกษาที ่สนับสนุนการวางแผนและติดตาม
การจัดการศึกษาในโรงเรียนเทศบาล ควบคู่กับการสร้างเครือข่าย
ความร่วมมือของภาคประชาสังคม
“ที่ผ่านมาเทศบาลนครภูเก็ตได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยนเรศวร
และสสค.ในการจัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศทางการศึกษา เพื่อเป็น
กลไกสนับสนุนการวางแผนของเทศบาลที่จะช่วยเอ็กซเรย์เด็กเป็น
รายบุคคล ลดเวลาการทำงานของครูด้านงานเอกสารและเพิ ่ม
ประสิทธิภาพในการทำงาน ระบบฐานข้อมูลเหล่านี้จะถูกสนับสนุน
ข้อมูลพื้นฐานและสถานการณ์เพื่อร่วมออกแบบพิมพ์เขียวการศึกษา
นครภูเก็ตร่วมกัน”
นายบัณฑูร ทองตัน ประธานสภาการศึกษาจังหวัดภูเก็ต
กล่าวในตอนท้ายถึงการทำงานร่วมกันของสภาการศึกษาฯ กับ
เทศบาลนครภูเก็ตว่ามีการทำงานร่วมกันด้วยดีเสมอมาและแนวทาง
ของเทศบาลนครภูเก็ตในวันนี้จะมีการนำไปขยายผลกับโรงเรียนอื่น
ในจังหวัดภูเก็ตรวมถึงแผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดที่สภาการศึกษา
กำลังดำเนินการเพื่อสนับสนุน กศจ.และผู้ว่าราชการจังหวัดอยู่ใน
ขณะนี้
“ผลงานการทำ Blueprint ของเทศบาลนครภูเก็ตจะขยายไปสู่
โรงเรียนอื ่นในจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะระบบข้อมูลสารสนเทศ
ที่เทศบาลทำงานจริงจังเห็นผลเป็นรูปธรรม จากความสำเร็จนี้ สภา
การศึกษาจังหวัดภูเก็ตสามารถพัฒนาขยายผลต่อไปได้โดยเฉพาะ
การทำแผนพัฒนาการศึกษาจังหวัด ซึ ่งล่าสุด ผู ้ว ่าจะตั ้งสภา
การศึกษาเป็นหน่วยสนับสนุน กศจ. เพราะเห็นเราทำงานตั้งแต่ต้น
เราจึงเดินหน้างานได้เลย”