Upload
others
View
7
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
กลศึกเหนืออื่นใด
พลิกแพลงได้ ไม่คาดคิด
แพรวพราวด้วยปัญญา
ประยุกต์ ใช้ ไม่รู้จบ
บุญศักดิ์ แสงระวี
กลศึกพิสดารใน
จีน
อยากรู้เรื่อง
นึกถึง
นักแปลรางวัลสุรินทราชา จากสมาคมนักแปลและล่ามแห่งประเทศไทยนักเขียนรางวัลนราธิป จากสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย
กลศกึพสิดารในสามก๊ก
บุญศักดิ์ แสงระวี
กลศึกพิสดารในสามก๊กบุญศักดิ์ แสงระวี
พิมพ์ที่ : ฝ่ายโรงพิมพ์ บริษัท ตถาตา พับลิเคชั่น จ�ากัด โทรศัพท์ 0-2415-6797จัดจ�าหน่าย : สายส่งสุขภาพใจ บริษัท บุ๊ค ไทม์ จ�ากัด
214 ซ. พระรามที่ 2 ซอย 38 ถ. พระราม 2 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ 10150โทรศัพท์ 0-2415-2621, 0-2415-6507 โทรสาร 0-2416-7744
พิมพ์ครั้งที่ 1 : กุมภาพันธ์ 2557 จัดพิมพ์โดย : ส�านักพิมพ์สุขภาพใจ บริษัท ตถาตา พับลิเคชั่น จ�ากัด ประธานกรรมการบริหาร : บัญชา เฉลิมชัยกิจ กรรมการผู้จัดการ : โชนรังสี เฉลิมชัยกิจ คณะที่ปรึกษา : ถาวร สิกขโกศล, ประชา หุตานุวัตร, ผ่องศรี ลือพร้อมชัย, สงวนศรี ตรีเทพประติมา บรรณาธิการบริหาร : วรุตม์ ทองเชื้อ บรรณาธิการ : ขวัญชัย สันติสุขคงชัย เลขานุการคณะบรรณาธิการ : กนกพร ถ�้าโคนทอง ออกแบบปก : ณัฐพงษ์ ภาคีแพทย์ ศิลปกรรม : ประธี สุนทรธนศาสตร์ ฝ่ายการตลาด : อัคคณัฐ ชุมนุม, อรปราง อภิหิรัญวงศ์ ฝ่ายขาย : มนัญชยา ศิริวงษ์, อุดร ปัญญาชัย, นิธิวิทย์ วรสมภพพล ฝ่ายโรงพิมพ์ : ไพบูลย์ ชาคริยานนท์, จิรวรรณ พยาฆรินทรังกูร
แนะน�าเพิ่มเติมติดต่อ : [email protected], SukkhapabjaiPUB
ข้อมูลทางบรรณานุกรมของส�านักหอสมุดแห่งชาติบุญศักดิ์ แสงระวี. กลศึกพิสดารในสามก๊ก.-- กรุงเทพฯ : ตถาตา พับลิเคชั่น, 2557. 272 หน้า. 1. นวนิยายจีน--ประวัติและวิจารณ์. I. ชื่อเรื่อง.895.13009ISBN 978-616-7818-39-9
เปิดสงครามอย่างพิสดาร ขึ้นชื่อว่าการรบทัพจับศึก ไม่มีศึกใดท่ีชนะด้วยความบังเอิญ และไม่มีศึกใดที่รบ
กันอย่างปราศจากความคิด ไม่ว่าแม่ทัพ นายกอง ไปจนถึงทหารเลว ล้วนต้องอาศัยสติ
ปัญญาท�าสงครามทั้งสิ้น และหากผู้ท�าสงครามนั้น คว้าชัยชนะมาได้โดยมิต้องเสียก�าลัง
แรงพลหรือทรัพย์สินวัตถุเลย ก็นับได้ว่าเป็นผู้ยอดเยี่ยมยิ่งแห่งสมรภูมิ ดังที่ปรมาจารย์
แห่งการทหารซุนอู่(ซุนวู)กล่าวไว้ว่า
“การบญัชาทพัชัน้เอกคอืชนะด้วยอบุาย รองมาคอืชนะด้วยการทตู รองมาคอืชนะ
ด้วยการรบ เลวสุดคือการตีเมือง”
ถ้าถามว่าท�าอย่างไรให้ชนะด้วยอบุายตรงนีข้ึน้อยูก่บัการพลกิแพลงปรบัประยทุธ์
ใช้หันเหียนเล่ห์กลที่มีอยู่ร้อยแปดของผู้ท�าสงครามเองที่เรียกกันว่ากลศึกและจะยิ่งมี
ประสิทธิภาพมากขึ้นหากกลศึกน้ันเป็นไปอย่าง“พิสดาร”แล้วอะไรเล่าที่เรียกว่ากลศึก
พิสดาร
สามก๊กเป็นยคุหนึง่ทีแ่ผ่นดนิจนีเกดิการแบ่งออกเป็นสามก๊กสามเหล่าท�าสงคราม
ขับเคี่ยวกันเป็นเวลายาวนาน แน่นนอนว่า การท�าสงครามระหว่างก๊ก ต้องมีการชิงไหว
ชิงพริบอาศัยกลศึกเข้าห�้าหั่นศัตรูต่างก๊กให้พินาศย่อยยับไปและในกลศึกต่างๆที่ใช้มี
กลศึกพิสดารอยู่เป็นอันมากด้วยเหตุนี้กลศึกพิสดารในสามก๊กจึงเป็นความตั้งใจแสดง
ให้เห็นถึงความพิสดารในการสัประยุทธ์เหล่านั้นอาศัยเหตุการณ์เรื่องราวตอนต่างๆที่
ปรากฏในวรรณคดีชิ้นเอกนี้ และยังมีผู ้กล่าวถึงหรือใส่ใจมองอย่างละเอียดถี่ถ้วนอยู่
น้อยนักให้ได้รับมุมมองใหม่ๆที่แปลกแตกต่างออกไปอย่างกลศึกการดูหม่ินศัตรูใน
ด้านรวม การคาดคะเนข้าศึกสู่ชัยชนะ ไม่ประมาทศัตรูทางยุทธวิธี แผนแยกสลายข้าศึก
ฯลฯและอกีมากมายถงึ34กลยทุธ์ทีท่�าให้เข้าถงึกลศกึพสิดารได้อย่างเข้าใจและสามารถ
น�าไปต่อยอดปรับใช้ได้อย่างไม่อยากนัก
หากถามว่าผู้ที่อ่านสามก๊กสามจบคบไม่ได้จริงหรือคงตอบว่าที่คบไม่ได้เพราะ
คนผู้นั้นรู้จักเอากลศึกพิสดารในสามก๊ก มาปรับประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์กับตัว
แบบเอารัดเอาเปรียบโดยท่ีไม่มีผู้ใดรู้เท่าทันหรือคาดคิดได้มากกว่าก็หวังเพียงผู้ที่ได้อ่าน
หนังสือเล่มนี้แล้วจะน�าไปใช้ประโยชน์ในทางที่เจริญยิ่งๆด้วยกัน
ลั่นกลองออกศึก
สุขภาพใจ
หนังสือเล่มนี้ได้เลือกเอาเล่ห์กล หรือกลศึก หรือกลยุทธ์ หรือแผนศึกสุด
แท้แต่จะเรียกที่ยังไม่สู้จะมีใครสนใจพูดหรือเขียนถึงมารวบรวมไว้จ�านวนหนึ่งใน
สามก๊กแต่ละฝ่ายได้ใช้สิ่งเหล่านี้ไว้มากมาย
ทว่าการเดินเรื่องในสามก๊กก็เพียงพูดผ่านไปเรื่อยๆ มิได้เน้นให้เห็นหรือ
ช้ีไว้อย่างชัดเจน ว่ากลศึกที่ใช้นั้นมีชื่อเสียงเรียงนามว่าอย่างไร ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว
เล่ห์กลแต่ละอย่างล้วนมีชื่อของมันอยู่ทั้งสิ้น หนังสือเล่มนี้เป็นการทดลองให้ชื่อ
แก่เล่ห์กลเหล่านั้นแน่นอนว่าในสามก๊กมีการใช้สิ่งเหล่านี้มากมายตั้งแต่ตอนเริ่ม
ต้นจนถึงตอนจบ เป็นเรื่องสุดวิสัยที่สติปัญญาของคนคนเดียวสามารถจะท�าได้
ฉะนั้นในที่นี้จึงเพียงแต่น�าเอาที่เห็นดังที่กล่าวไว้ว่ามีการเขียนถึงพูดถึงน้อยหรือ
ไม่มีเลยมารวบรวมไว้จ�านวนหนึ่งเท่านั้น
หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นเพราะใคร่จะให้ผู้อ่านอ่านสนุก มิได้หวังจะให้เป็น
ประโยชน์ทางอื่นเลยอย่างไรก็ดีก็อาจจะมีผู้อ่านบางท่านน�าไปใช้เป็นประโยชน์
ในทางอื่นบ้าง เช่นในการปฏิบัติตนในธุรกิจหรืออื่น ๆ จนเกิดผลดีแก่ตน ก็ขอ
อนุโมทนาด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ด้วยความเคารพ
บุญศักดิ์ แสงระวี
มิถุนายน2556
ค�าน�าผู้เขียน
ชนะด้วยการรบพิสดาร
แผนกลซ้อนกล
มีความดีความชอบก็ต้องตกรางวัล
คุมโอรสสวรรค์เพื่อบัญชาเหล่าขุนนาง
รับผู้ยอมจ�านนคนแปรพักตร์
การคาดคะเนข้าศึกสู่ชัยชนะ
ซ่อนคมในฝัก
ดูหมิ่นศัตรูในด้านรวม
ไม่ประมาทศัตรูทางยุทธวิธี
ตัดเสบียงทั้งของคนของม้า
สมรสเพื่อการเมือง
ผลสามเยือนกระท่อมหญ้าของเล่าปี่
การใช้ก�าลังตามสถานการณ์
การโต้คารมอย่างแหลมคม
ศึกจารกรรม
แผนแยกสลายข้าศึก
ใช้ดินฟ้าอากาศให้เป็นประโยชน์
สารบญั
9172733414955626975839197
103111119127
รุกรบเมื่อไม่คาดคิด
ข้าศึกยโสให้เหิมเกริม
สลับแขกกลับเป็นเจ้าบ้าน
ใช้ความผิดพลาดของศัตรูได้ก็ชนะ
ลวงข้าศึกให้ตายใจ
รอการเปลี่ยนแปลงของข้าศึก
ถือโจมตีทางใจเป็นเอก
ล่อเสือออกจากถ�้า
บุกซ�้ายามอลหม่าน
ดักตีกลางทางระหว่างเคลื่อนพล
โจมตีด้วยเพลิง
รบหลังอิงน�้า
เสี่ยงเมื่อจ�าต้องเสี่ยง
เลือกใช้แม่ทัพก�าหนดแพ้ชนะ
จริงในเท็จเท็จในจริง
รู้เขารู้เรา
ยุทธศิลป์ไม่ตายตัว
135144153161169175185193200207215223231239249257266
เล่าปี่
ชนะด้วยการรบพิสดาร
เล่าปี่ได้ชื่อว่าเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ก่อตั้งแคว้นจ๊กก๊กนับเป็นคนส�าคัญ
คนหนึ่งในสามก๊ก
เล่าปี่ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกเมื่อโจรโพกผ้าเหลืองยกทัพมาตีเมืองอิวจิ๋ว
ซึ่งเล่าเอียงเป็นเจ้าเมืองและเจาเจ้งเป็นแม่กองทหารประจ�าเมืองเล่าเอียงปรึกษา
กับเจาเจ้งว่า“ก�าลังทหารในเมืองเราน้อยนักจ�าจะต้องป่าวประกาศให้วีรชนคน
กล้ามีปัญญามาสู้รบจับโจรมิให้เป็นภัยแก่บ้านเมืองสืบไป”
อันที่จริงโจรโพกผ้าเหลืองนั้นคือมวลชนชาวนาที่ก่อการลุกขึ้นสู้เพราะไม่
พอใจการปกครองของทางการ จึงมีชาวนามาเข้าร่วมด้วยเป็นจ�านวนมากจนเจ้า
หน้าที่บ้านเมืองเกรงขามเหลือก�าลังที่ทหารประจ�าเมืองจะประมือด้วยจึงต้องปิด
ประกาศหาคนมีฝีมือมาช่วยตามประตูเมือง
เล่าป่ีเป็นคนอ�าเภอตุน้ก้วนในเมอืงอวิจิว๋ความจรงิเป็นเชือ้พระวงศ์ราชวงศ์
ฮั่นที่ยังครองราชบัลลังก์อยู่ แต่ก็อยู่ปลายแถวสุดโต่งจนไม่มีใครรู้จักนอกจากตัว
เอง และไม่มีใครมาอุดหนุนเกื้อกูลให้ได้ดีสมฐานะ จึงได้แต่ทอเสื่อขายเลี้ยงปาก
เลี้ยงท้องเลี้ยงดูมารดาไปวันหนึ่งๆแต่ถึงจะสิ้นไร้ไม้ตอกเล่าปี่ก็คิดอยู่เสมอมา
ว่า ตนจะต้องได้เงยหน้าอ้าปากเป็นใหญ่เป็นโตสักวันหนึ่ง จึงเฝ้าคอยโอกาสนั้น
อยู่ตลอดเวลา
10กลศกึพสิดารในสามก๊ก
พร้อมๆกับการเปิดตัวเล่าปี่“สามก๊ก”ก็เปิดตัวกวนอูและเตียวหุยด้วย
ในวันที่เล่าเอียงปิดประกาศรับสมัครผู้ปราบโจรโพกผ้าเหลืองเล่าปี่ไปดูประกาศ
นั้นดูไปก็ถอนหายใจไปใคร่ครวญอยู่ว่าตนควรจะตัดสินใจอย่างไรดีเพราะนี่อาจ
เป็นโอกาสถีบตัวไปสู่จุดหมายที่ตนได้ตั้งหน้าตั้งตาคิดอยู่ทุกวันคืนก็เป็นได้
ขณะน้ันเองก็มีเสียงดังมาจากข้างหลังว่า “เป็นลูกผู้ชายไยจึงเอาแต่ถอน
หายใจไม่ช่วยกู้บ้านกู้เมือง”เล่าปี่หันไปดูเห็นเตียวหุยจึงสนทนาด้วยเป็นที่ถูกอก
ถูกใจของทั้งสองฝ่ายครั้นแล้วก็ชวนกันไปนั่งดื่มสุราที่ร้านปรึกษาหารือกันเรื่อง
กู้บ้านกู้เมืองระหว่างนั้นมีชายคนหนึ่งใบหน้าแดงเข็นรถมาหน้าร้านสั่งซื้อสุรา
พลางเร่งรัดว่า“เอามาเร็วๆเราจะรีบไปรับอาสากู้แผ่นดิน”
เล่าปี่และเตียวหุยรู้ว่าตนได้เจอผู้ร่วมอุดมการณ์ด้วยกันเข้าแล้ว จึงเชิญ
ให้มาร่วมโต๊ะดื่มสุราสนทนาร่วมมือกันคนคนนี้ชื่อกวนอูเมื่อสนทนากันไปก็รู้สึก
ว่าต่างต้องชะตาของกันและกันและคิดการอย่างเดียวกันเตียวหุยจึงเกิดความคิด
ที่ชี้ชะตากรรมของคนทั้งสามตั้งแต่บัดนั้นขึ้นว่า “เราทั้งสามคิดการต้องกัน เชิญ
ท่านทั้งสองไปที่บ้านเราดอกท้อหลังบ้านก�าลังบานสะพรั่งเป็นโอกาสดีท่ีเราสาม
คนน่าจะสาบานต่อเทพยดาฟ้าดินเป็นพี่น้องร่วมสาบานจนวันตายจะได้ร่วมกัน
คิดการใหญ่สืบไปในภายหน้า”เล่าปี่และกวนอูเห็นด้วย
ค�าสาบานในสามก๊กฉบบัเจ้าพระยาพระคลงั(หน)แปลไว้มดีงันี้“ข้าพเจ้า
เล่าปี่กวนอูเตียวหุยทั้งสามคนนี้อยู่ต่างเมืองวันนี้ได้มาพบกันจะตั้งสัตย์สาบาน
เป็นพี่น้องร่วมท้อง เป็นน�้าใจเดียวซื่อสัตย์ต่อกันสืบไปจนวันตาย จะได้ช่วยท�านุ
บ�ารุงแผ่นดินให้อยู่เย็นเป็นสุขถ้ามีภัยอันตรายสิ่งใดและรบศึกเสียทีข้าพเจ้ามิได้
ทิ้งกัน จะแก้กันกว่าจะตายทั้งสาม และความสัตย์น้ีข้าพเจ้าได้สาบานต่อหน้า
เทวดาทั้งปวงจงเป็นทิพย์พยาน ถ้าสืบไปภายหน้าข้าพเจ้าท้ังสามมิได้ซ่ือตรงต่อ
กันขอให้เทวดาสังหารผลาญชีวิตให้ประจักษ์แก่ตาโลก”
คิดตามอายุเล่าปี่อายุ29ในเวลานั้นจึงเป็นพี่ใหญ่ส่วนกวนอูเป็นน้องกลาง
เตียวหุยเป็นน้องเล็ก หลังจากนั้น พี่น้องทั้งสามก็รวบรวมผู้คนและศัสตราวุธได้
สามร้อยคิดสู ้กับโจรโพกผ้าเหลือง จึงพากันไปขอสมัครเป็นทหารกับเจาเจ้ง
11ชนะด้วยการรบพสิดาร
เจาเจ้งเป็นคนมีสายตาแหลมคมดูพี่น้องร่วมสาบานสามคนเห็นว่าน่าจะเป็นคนมี
ฝีมือทางเพลงอาวุธพอตัวเมื่อถามก็ได้ความจริงตามที่คิดจึงน�าตัวไปพบเล่าเอียง
เจ้าเมือง เล่าเอียงพอรู้ว่าเล่าปี่แซ่เดียวกันกับตน ซ�้ายังเป็นเช้ือพระวงศ์ด้วยก็ให้
ความสนิทสนมเป็นอันดีแต่งตั้งให้คนทั้งสามเป็นนายทหารช่วยเจาเจ้ง
เล่าปี่ กวนอู และเตียวหุยร่วมสาบานเป็นพ่ีน้องกันในสวนท้อ
12กลศกึพสิดารในสามก๊ก
ต่อมาไม่นาน โจรโพกผ้าเหลืองยกทัพมาตีตุ้นก้วน เล่าเอียงให้พี่น้องสาม
คนออกรบการรบที่ตุ้นก้วนยังไม่ทันปะทะกันมากเท่าใดขุนพลสองคนของโจรก็
ถกูฆ่าทพัโจรแตกกระเจงินบัเป็นผลงานชิน้แรกของการคดิการใหญ่ของสามพีน้่อง
ร่วมสาบานเล่าเอียงดีใจออกไปรับผู้ได้ชัยชนะกลับมา
รุ่งขึ้นเล่าเอียงก็ได้รับหนังสือจากสิบเกงเจ้าเมืองเฉงจิ๋วแจ้งขอความช่วย
เหลือมาว่ากองทัพโพกผ้าเหลืองยกมาล้อมเมืองเฉงจิ๋วด้วยก�าลังมหาศาลเกรงว่า
ตนจะต้านไม่อยู่ต้องเสียเมืองในไม่ช้า จึงขอก�าลังจากเล่าเอียงให้ส่งทหารไปช่วย
ด่วนเล่าเอียงจึงให้เจาเจ้งร่วมกับสามพี่น้องคุมทหารห้าพันรีบเดินทัพไปในทันที
กองทัพโพกผ้าเหลืองมีเป็นหมื่นเห็นมีทัพยกมาช่วยเฉงจิ๋วก็เข้าตีจ�านวน
ทหารของอิวจิ๋วน้อยกว่าเป็นอันมาก รับมือกับทัพโพกผ้าเหลืองไม่ไหวจึงต้องรีบ
ถอยทัพออกมาก่อน ในระหว่างทางที่ถอยออกมาหาที่ตั้งค่ายพักนั้น เล่าปี่ได้
ครุ่นคิดมาตลอดทางว่า ‘ก�าลังทหารเรามีเท่านี้ ไหนเลยจะรบ
ชนะได้ทว่าอย่างไรเสียก็ต้องหาทางเอาชนะให้ได้มิฉะนั้น
แล้วที่รบชนะครั้งแรกไปหยกๆก็จะหาความ
หมายอันใดมิได้ แต่จะท�าอย่างไรจึงจะรบ
ชนะได้เล่า’
เล่าปี่คิดแล้วคิดอีกต�ารายุทธศิลป์
ผ่านสายตามาก็มากพอสมควรมีส่วนไหน
เล่าที่พอจะช่วยให้ชนะคิดไปคิดมาทันใด
นั้นเองก็มีค�า ๆ หน่ึงแวบขึ้นมาในสมอง
“การศึกมิหน่ายเล่ห์” เล่าปี ่จึงได้คิดว่า
ล�าพังอาศัยก�าลังทหารแค่หยิบมือ เมื่อเทียบกับ
ข้าศึกมีแต่แพ้กับแพ้สถานเดียวถ้าไม่ใช้เล่ห์
กลดังค�าที่ผุดขึ้นมาในหัวคิดแล้ว ก็เลี่ยง
ความพ่ายแพ้ไม่พ้นแน่ แต่จะใช้
เล่ห์กลอะไรเล่าจงึจะเป็นผลให้ชนะ
13ชนะด้วยการรบพสิดาร
เมื่อคิดถึงตรงน้ี ใจของเล่าปี่ก็ประหวัดถึง ยุทธศิลป์ซุนจื่อ ขึ้นมาทันที
ซุนจื่อก็คือซุนอู่นักการทหารชื่อเสียงโด่งดังในสมัยปลายยุคชุนชิว (770-476 ปี
ก่อนคริสตกาล)เขาเขียนยุทธศิลป์ซุนจื่อไว้13บทถือเป็นต�ารายุทธศิลป์เล่ม
แรกสุดของโลกความยอดเยี่ยมของยุทธศิลป์เล่มนี้พระเจ้าไกเซอร์แห่งเยอรมนี
ถึงกับอุทานขึ้นเมื่อได้อ่านฉบับแปลหลังจากรบแพ้ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งว่า
“หากเราได้อ่านยุทธศิลป์ซุนจื่อมาก่อนหน้านี้เราก็มิต้องถึงกับสูญชาติ”
ในบทที่5ว่าด้วยพลานุภาพเขียนไว้ในต้นวรรคที่2ว่า
“อันการรบนั้นสู้ศึกด้วยรบสามัญชนะด้วยรบพิสดาร”
เล่าปี่จ�าความตรงนี้ได้แม่นย�าแต่อย่างไรที่ว่ารบพิสดารเล่าการรบในสมัย
นั้นโดยปกติแล้วทั้งสองฝ่ายน�าทัพมาเผชิญหน้ากันแล้วแยกทหารออกเป็นกอง
กลางปีกขวาปีกซ้ายเมื่อลั่นกลองรบทั้งสองฝ่ายก็เข้าประจัญบานกันซ่ึงหน้าฝ่าย
ใดมีทหารมากกว่าแข็งแกร่งกว่าก็ชนะไปฝ่ายที่มีทหารน้อยกว่าอ่อนแอกว่าจะ
รบชนะให้ได้นั้นยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาแต่ซุนอู่ชี้ให้เห็นว่าจะต้องใช้การรบ
พิสดาร
แต่การรบพิสดารคืออย่างไร
เล่าป่ีพยายามใช้หวัคดิทัง้หมดขบประเดน็นี้ค�าโบราณเคยกล่าวไว้ว่าความ
พยายามอยู่ที่ไหนความส�าเร็จอยู่ที่นั่นในที่สุดเล่าปี่ก็คิดออกในระหว่างการเดิน
ทัพกับการปะทะกับข้าศึกเล่าปี่สังเกตลักษณะภูมิประเทศเห็นว่าการรบพิสดาร
คงต้องตัดสินด้วยลักษณะของภูมิประเทศ จึงไปปรึกษากับเจาเจ้ง ซึ่งในเวลานั้น
เจาเจ้งก็วิตกในเรื่องนี้อยู่เช่นกันเมื่อปรึกษากันจนมีความเห็นเป็นเอกฉันท์แล้วก็
ให้กวนอูน�าทหารหนึ่งพันไปซุ่มอยู่ทางขวาของจุดที่ก�าหนดเป็นเขตซุ่มตี ส่วน
เตยีวหยุกน็�าทหารหน่ึงพันไปซุม่อยูท่างซ้ายเมือ่ได้ยนิเสยีงกลองรบลัน่เป็นสญัญาณ
เมื่อใดก็ให้ออกโจมตีขนาบข้าศึกทั้งซ้ายขวาในทันที
14กลศกึพสิดารในสามก๊ก
รุ่งเช้าเจาเจ้งกับเล่าปี่น�าทหารออกท้ารบเมื่อทัพโพกผ้าเหลืองน�าทัพออก
รบด้วยก็แสร้งรบแพ้ รบพลางถอยพลางให้ข้าศึกไล่ตามไปยังจุดก�าหนดการซุ่มตี
คร้ันแล้วเล่าปี่ก็สั่งให้ลั่นกลองสัญญาณทหารกวนอู เตียวหุยกรูกันออกมาขนาบ
ทหารข้าศึกทั้งสองข้างเจาเจ้งเล่าปี่ก็หวนกลับมารบอีกสิบเกงเจ้าเมืองเฉงจิ๋วก็
น�าทหารตกีระทบเข้ามาทางด้านหลังทหารโพกผา้เหลืองตกอยูใ่นวงล้อมบาดเจบ็
ล้มตายนับไม่ถ้วนที่เหลือก็แตกกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทางไม่เป็นอันสู้รบ
อีกต่อไป อันตรายของเฉงจ๋ิวก็มลายหายสูญไปในพริบตา สิบเกงดีใจนักจึงปูน
บ�าเหน็จรางวัลแก่ทหารของอิวจิ๋วอย่างเต็มที่
การรบพิสดารพูดง่ายๆก็คือวิธีรบที่ฝ่ายตรงข้ามมิได้คาดคิดและก็มิได้
มีแค่การซุ่มตีเพียงอย่างเดียว กองทัพโพกผ้าเหลืองรบชนะเล่าปี่ในการปะทะกัน
คร้ังแรกเพราะเห็นเล่าปี่มีทหารมาแค่ไม่กี่พันคนจึงรู้สึกว่าการรบชนะเล่าปี่ไม่ใช่
เรื่องยากเย็นอะไรนัก ส่วนเล่าปี่ก็สรุปบทเรียนจากการรบแพ้ครั้งแรก เค้นสมอง
หาวิธีเอาน้อยชนะมากจนพบ ใช้วิธีซุ่มตีที่ข้าศึกคิดไม่ถึง ท�าให้ทัพโพกผ้าเหลือง
ตกอยู่ในวงล้อมหมดหนทางที่จะสู้รบต่อไปต้องแตกพ่ายยับเยิน
ในสามก๊กการรบพิสดารมีมากมายหลายหลากสุดแต่ใครจะน�ามาใช้ให้
เป็นประโยชน์แก่ชัยชนะของตนเอง
การรบพิสดารในครั้งนี้นับเป็นก้าวแรกอันสวยงามของเล่าปี่ในเรื่องคิดการ
ใหญ่ส่งผลให้ชื่อเสียงเล่าปี่เริ่มเปล่งรัศมีขึ้นเป็นปฐมฤกษ์แม้จะไม่เจิดจ้านักก็ตาม
ยุทธศิลป์ซุนจื่อบทที่5พลานุภาพ
กลศึกพิสดารในสามก๊กหน้า13ชนะด้วยการรบพิสดาร
อันการรบนั้น
สู้ศึกด้วยรบสามัญ
ชนะด้วยรบพิสดาร
เตียวหุยปล่อยตัวเงียมหงัน
แผนกลซ้อนกล
ในเล่ห์กลของสามก๊ก การใช้กลซ้อนกลเป็นกลอุบายส�าคัญที่พบเห็น
มากที่สุด
เมื่อครั้งที่โจโฉรบกับลิโป้เพื่อชิงเมืองปักเอี้ยงก็ต้องกลของตันก๋งท่ีปรึกษา
คนส�าคัญของลิโป้ เมื่อเข้าเมืองปักเอี้ยงไปแล้ว ก็ถูกไฟคลอกทั้งกองทัพเสียหาย
พ่ายแพ้ยับเยินแม้แต่ตัวโจโฉเองเสื้อผ้าถูกไฟไหม้ต้องรีบถอดท้ิงหนวดเคราก็ไหม้
เกลี้ยงจนคิดไม่ถึงว่าที่แล้วมาที่คางของโจโฉมีหนวดเคราอยู่ไฟลวกแขนและมือ
แทบจะเอาชีวิตไม่รอด
เมือ่ถอยทพักลบัค่ายได้พวกบรวิารกเ็ข้ามาถามความเป็นไปในการรบโจโฉ
แทนที่จะเสียใจตีโพยตีพายกลุ้มอกกลุ้มใจเขากลับเงยหน้าขึ้นหัวเราะว่า“เราต้อง
กลอุบายของข้าศึกพ่ายแพ้มาต้องหาทางแก้แค้นเอาคืนให้จงได้”พวกขุนพลทั้ง
หลายต่างพากันเจ็บแค้นแทนเจ้านาย กุยแกนักวางแผนท่ีปรึกษาคนส�าคัญของ
โจโฉจึงว่า“ท่านจะคิดการอย่างไรก็จงเร่งท�าเถิดช้าไปเกลือกข้าศึกตั้งหลักได้แล้ว
การนั้นก็จะเสียเปล่า”
โจโฉจงึเผยแผนการของตนออกมา“เราตอ้งใช้กลซอ้นกลใชแ้ผนซ้อนแผน
วันน้ีลิโป้คิดฆ่าเราให้ตาย เราจงลอยเรือตามน�้า ป่าวร้องออกไปให้ท่ัวท้ังกองทัพ
ว่า เรากลับมาถึงค่ายก็สิ้นลมเพราะไฟเผา จงแต่งขาวไว้ทุกข์ให้เรา ลิโป้คงฉวย
18กลศกึพสิดารในสามก๊ก
โอกาสทีท่หารเราเศร้าโศกมเิป็นอนัสูร้บยกทพัมาตเีพือ่ซ�า้เตมิทพัเราอย่างแน่นอน
ทัพเราจะแยกย้ายกันไปซุ่มตามแถบภูเขาม้าเล้งรอทหารข้าศีกผ่านทางไปแล้วกึ่ง
หนึ่งก็ออกตีกระหนาบพร้อมกันทั้งหมด ลิโป้ก็จะตกอยู ่ในเงื้อมมือเราอย่าง
ง่ายดาย”
บรรดาขุนพลทั้งหลายเห็นด้วยกับแผนการของโจโฉ จึงสั่งให้ทหารทุกคน
แต่งขาวไว้ทุกข์ ร้องไห้คร�่าครวญอาลัยโจโฉ ธงทิวทั้งหลายทั่วค่ายก็กลายเป็น
สีขาวไปส้ิน ไม่เหลือสิ่งใดที่แสดงว่าเป็นกองทัพพร้อมรบเฉกเช่นเมื่อครั้งโจโฉยัง
มีชีวิตอยู่
ข่าวโจโฉตายไปถึงเมืองปักเอี้ยงในทันทีลิโป้ดีใจที่ขจัดโจโฉได้ส่วนตันก๋ง
ก็ปลาบปลื้มที่แผนลวงของตนส�าเร็จลงอย่างงดงามทั้งลิโป้และตันก๋งผู้ปรีชามิได้
คิดเคลือบแคลงระแวงสงสัยเลยว่าข่าวการตายของโจโฉเป็นกลซ้อนกลลิโป้เห็น
เป็นโอกาสจึงสั่งระดมทหารยกไปตีค่ายโจโฉอย่างไม่รอช้า
ทัพลิโป้ผ่านเขาม้าเล้งใกล้จะถึงค่ายโจโฉ ทันใดนั้นเองเสียงประทัดก็ดัง
กึกก้องไปทั้งหุบเขาทหารโจโฉที่ซุ่มคอยทีอยู่ก็โห่ร้องออกมาไล่ฆ่าฟันทหารลิโป้ที่
ไม่ทันจะเตรียมรับศึกบาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วนตะโกนบอกแก่กันว่า“โจโฉนาย
เราสั่งให้จับตัวลิโป้ให้ได้ใครจับตัวได้จะให้รางวัล”ลิโป้ตกใจว่าตนถูกโจโฉซ้อนกล
เอาเสียแล้ว จะกลับตัวก็ไม่ทัน เดชะบุญที่ลิโป้อาศัยฝีมือการรบเอาตัวรอดมาได้
แต่กต้็องเสียทหารไปมากมายเมือ่กลบัถงึเมอืงปักเอีย้งได้ลโิป้กร็กัษาเมอืงไว้อย่าง
มั่นคงแน่นหนาไม่ยอมออกรบอีก
แผนกลซ้อนกลของโจโฉแกล้งตายล่อให้ลิโป้มาตีค่าย ก็ได้แก้แค้นการถูก
ลวงให้ไปถูกไฟคลอกในเมืองปักเอี้ยงได้เป็นผลส�าเร็จสมใจ
แผนกลซ้อนกลอีกเรื่องหนึ่งในสามก๊ก ก็มีโจโฉเป็นตัวตั้งเช่นกัน แต่ใน
คราวนี้โจโฉกลับเป็นฝ่ายถูกซ้อนกลเข้าบ้างกล่าวคือเมื่อโจโฉรบกับเตียวสิ้วซึ่ง
เป็นหลานของเตียวเจขุนพลของต๋ังโต๊ะ เมื่อต๋ังโต๊ะถูกอ้องอุ้นกับลิโป้สมคบกัน
ก�าจัดเสีย เตียวเจหลบหนีไปตั้งตัวเป็นเจ้าเมืองล�าหยง เมื่อเตียวเจตาย เตียวสิ้ว
19แผนกลซ้อนกล
ก็รับช่วงต่อและตั้งตนเป็นอิสระไม่ขึ้นกับใคร โจโฉอยากได้เมืองล�าหยงจึงยกทัพ
มาตีเตียวสิ้วสู้โจโฉไม่ได้ก็หนีเข้ารักษาเมืองแข็งแรงอยู่โจโฉเข้าตีเมืองหลายครั้ง
ไม่ส�าเร็จก็ล้อมไว้พร้อมคิดหาอุบายตีเมืองให้ได้
เมื่อโจโฉคิดอุบายได้แล้วก็สั่งให้ทหารขนดินมาถมคูเมืองแล้วตัดไม้มาสุม
เป็นกองสูงขึ้น ๆ ที่ก�าแพงเพ่ือเป็นบันไดปีนเข้าตีเมือง ขณะเดียวกันก็ให้สร้าง
หอคอยสูงกว่าก�าแพงเมืองขึ้นเพื่อสังเกตความเป็นไปภายในแต่โจโฉมิได้ข้ึนไปอยู่
บนหอคอยด้วยตนเองกลับขี่ม้าเลียบก�าแพงไปรอบๆเมืองท�าท่าชมนกชมไม้อยู่
ถึงสามวัน
กาเซี่ยงที่ปรึกษาเตียวสิ้วเฝ้าดูการกระท�าของโจโฉอยู่บนเชิงเทินเห็นผิด
สังเกต สร้างหอคอยแล้วกลับมาขี่ม้าเล่นรอบเมือง จึงรีบแจ้งแก่เตียวสิ้วโดยเห็น
เป็นเรื่องน่าพิศวงว่า“ข้าพเจ้าอยู่บนเชิงเทินสังเกตเห็นโจโฉข่ีม้ารอบเมืองนานถึง
สามวันเป็นที่น่าสงสัยนักเมื่อไปถึงก�าแพงเมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ลอบสังเกต
ที่ก�าแพงเมือง ก�าแพงเมืองเราทางด้านนั้นก้อนอิฐมีสีต่างกันหลายอย่าง เพราะ
เกิดจากการซ่อมแซมหลายครั้งไม่สู้แข็งแรงนักอีกทั้งใบเสมาบนก�าแพงก็หักพังไป
ไม่น้อยนับเป็นจุดอ่อนของก�าแพงเมืองเราโจโฉคงคิดจะตีเข้าเมืองเราในทางนั้น
แต่กลับแสร้งถมคูเมืองท�าบันไดทางก�าแพงด้านตะวันตกเฉียงเหนือ เพื่อให้เรา
หลงกลส่งทหารส่วนใหญ่ไปรักษาทางนั้นในตอนกลางคืนก็จะส่งทหารปีนก�าแพง
ตะวันออกเฉียงใต้เข้ามาไม่ทันให้เรารู้ตัว”
เตียวสิ้วได้ฟังดังนั้นก็เห็นจริงจึงย้อนถามกาเซี่ยงว่า“ถ้าเป็นเช่นนั้นเรา
ควรจะท�าอย่างไรดี”
กาเซี่ยงจึงแนะน�าว่า“โจโฉเป็นคนเจ้าเล่ห์แสนกลแต่เมื่อกลแตกเสียแล้ว
ก็หาค่ามิได้ เมื่อโจโฉใช้เล่ห์กลเราก็จงใช้กลซ้อนกลตอบโต้ไปก็จะชนะโจโฉโดย
ไม่ทันรู้ตัวท่านจงให้ราษฎรที่อยู่ละแวกก�าแพงตะวันออกเฉียงใต้แต่งตัวเป็นทหาร
ส่งไปเฝ้าก�าแพงตะวันตกเฉียงเหนือทั้งหมดโจโฉเห็นก็คิดว่าเราเอาทหารไปรับศึก
ทางก�าแพงตะวันตกเฉียงเหนือเป็นส่วนใหญ่ก�าลังทางก�าแพงตะวันออกเฉียงใต้ก็
อ่อนแอจะปล้นชิงเอาก็ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือแต่ขณะเดียวกันเราก็ระดมทหาร
20กลศกึพสิดารในสามก๊ก
ให้เข้าไปซ่อนตัวอยู่ในบ้านราษฎรทางตะวัน
ออกเฉียงใต้รอเมื่อโจโฉน�าทหารปีนก�าแพง
เมืองเข้ามาแล้วก็จุดประทัดเป็นสัญญาณ
ทหารของเราที่ซ่อนตัวอยู่ก็ออกมารุม
ล้อมทหารโจโฉไว้ ฉะนี้แล้ว โจโฉก็
เหมือนลูกไก่ในก�ามือเราจะหลบหนีไป
ไหนได้”เตียวสิ้วได้ฟังก็ดีใจนักด�าเนิน
การตามแผนที่กาเซี่ยงแนะน�าไม่รอช้า
การณ์เป็นไปตามที่กาเซี่ยงคาด
คะเนเอาไว้ทหารสอดแนมของโจโฉรีบส่ง
ข่าวให้โจโฉรู้ในทันทีว่า เตียวสิ้วระดมทหาร
มารักษาก�าแพงตะวันตกเฉียงเหนือเป็นส่วนใหญ่
ทางตะวันออกเฉียงใต้ก็เบาบาง โจโฉกระหยิ่มใจนักที่
เตียวสิ้วต้องกลอุบายของตนคืนวันนั้นโจโฉลอบยกทัพใหญ่เข้าตีเมืองทางตะวัน
ออกเฉียงใต้ เมื่อทหารปีนขึ้นก�าแพงเมืองไปได้ก็ไม่ปรากฏว่ามีทหารข้าศึกรักษา
อยู่บนก�าแพงเมืองเลยสักคนในเมืองก็เงียบสงบเหมือนไม่มีผู้คนอยู่โจโฉได้ใจให้
ทหารเปิดประตูเมือง กองทัพใหญ่ที่ยกมาพรั่งพรูกันเข้าเมืองดุจกระแสน�้าหลาก
เบยีดเสยีดยดัเยยีดกนัเป็นอลหม่านโจโฉแน่ใจว่าตนเข้ายดึเมอืงล�าหยงได้แน่นอนแล้ว
ทันใดนั้นเอง เสียงประทัดก็ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ทหารเตียวสิ้วซ่ึงซุ่ม
ซ่อนตัวเงียบอยู่ก็โห่ร้องข่มขวัญทหารโจโฉที่นอนใจว่าเข้าเมืองมาได้ชนะแน่แล้ว
เดินเข้าเมืองมาสบายๆ ไม่ทันรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นก็ถูกทหารเตียวสิ้วไล่ฆ่าฟันบาด
เจ็บล้มตายเกลื่อนเมืองนับไม่ถ้วนต่างพากันแตกตื่นหนีตายกันชุลมุนคุมกระบวน
กันไม่ติดยิ่งทหารเตียวสิ้วร้องตะโกนให้หาตัวโจโฉมาฆ่าเสียก็ยิ่งตื่นตกใจท่ีเหยียบ
กันตายก็มากมาย พร้อมกันนั้น เตียวสิ้วก็ยกทัพตีกระหนาบเข้ามาทางด้านหลัง
อีกทหารโจโฉตกอยู่ในที่ล้อมหมดทางไป
21แผนกลซ้อนกล
โจโฉก�าลังปลาบปลื้มที่เข้าเมืองล�าหยงได้สมปรารถนาโดยไม่เสียทหารเลย
สักคนเดียวเห็นดังนั้นก็ตื่นจากภวังค์รู้ว่าตนเสียทีต้องกลของเตียวสิ้วเข้าแล้วจึง
สั่งให้ทหารรีบถอยออกจากเมืองส่วนตนเองควบม้ากลับหลังหันหนีออกนอกเมือง
ไปก่อนทหารโจโฉได้รับค�าสั่งเช่นนั้นก็หันหลังกลับวิ่งออกนอกเมืองตามโจโฉไป
จึงยิ่งเป็นโอกาสของทหารเตียวสิ้วให้ไล่เข่นฆ่าทหารโจโฉตามใจชอบ
โจโฉพาทหารที่เหลือหลบออกนอกเมืองมาได้หลายสิบลี้เห็นข้าศึกมิได้ไล่
ตามมากห็ยดุพกัตรวจก�าลงัทีเ่หลอืปรากฏว่าโจโฉเสยีทหารไปถงึห้าหมืน่นายส่วน
ยุทโธปกรณ์เสียหายไปสุดจะค�านวณ
กลซ้อนกลในสามก๊กมีมากมายหลายต่อหลายเรื่องถ้าวิเคราะห์ว่าเหตุใด
อุบายกลซ้อนกลจึงได้รับผลส�าเร็จอย่างง่ายดายก็จะเห็นว่ามีมูลเหตุส�าคัญอยู่ที่
ข้อหนึ่งฝ่ายที่วางแผนใช้กลอุบายเพื่อเอาชนะฝ่ายตรงข้ามนั้นย่อมคิดเอา
เองว่า กลอุบายของตนยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว ข้าศึกจะต้องถูกกลอุบายของตนเล่น
งานจนยับเยินอย่างแน่นอน ดังนั้น ในความคิดจึงมิได้ค�านึงถึงว่าข้าศึกอาจรู้ทัน
และใช้กลซ้อนกลเอาชนะตนแต่อย่างใดทั้งสิ้น เช่นเมื่อโจโฉต้องกลตันก๋งถูกไฟ
คลอกที่เมืองปักเอี้ยง ลิโป้และตันก๋งก็เชื่อข่าวการตายของโจโฉโดยไม่สงสัยเลย
เพราะเห็นว่ากลอุบายของตนไม่มีจุดอ่อน โจโฉตายเป็นเรื่องท่ีตนคาดคิดอยู่แล้ว
ว่าต้องเป็นเช่นนั้นด้วยเหตุนี้การฉวยโอกาสที่โจโฉตายเข้าปล้นค่ายก็เป็นเรื่องที่
แน่นอนแต่ลงท้ายกลับหลงกลโจโฉพ่ายแพ้กลับมาส่วนที่โจโฉตีเมืองล�าหยงทาง
ก�าแพงตะวันออกเฉียงใต้ก็เพราะคิดว่าเตียวสิ้วไม่รู้เจตนาของตนท่ีข่ีม้ารอบเมือง
ชมนกชมไม้ถึงสามวันไม่คิดว่าจะมีคนรู้ทันเจตนาของตนอย่างกาเซี่ยงจึงย่อยยับ
กลับมาอย่างเจ็บปวด
ข้อสอง ฝ่ายที่วางกลซ้อนกลนั้น ใช้ความเชื่อมั่นของฝ่ายตรงข้ามที่คิดว่า
ข้าศึกต้องกลเราแล้วอาศัยกลของข้าศึกคล้อยตามท�าให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจว่ากล
อุบายของตนส�าเร็จแล้วจริงครั้นแล้วก็ใช้กลอุบายที่ข้าศึกเข้าใจผิดตีตลบกลับไป
22กลศกึพสิดารในสามก๊ก
ท�าลายข้าศึกที่ยังหลับหูหลับตา หลงคิดว่ากลอุบายของตนประสบผลส�าเร็จอยู่
กว่าจะรู้ตัวว่ากลอุบายของตนล้มเหลวแล้วพวกแม่ทัพนายกองไม่ตายก็คางเหลือง
ไปตามๆกัน
ข้อสาม เงื่อนไขเบื้องต้นของการใช้กลซ้อนกล คือเข้าใจและสามารถยึด
กุมกลอุบายของฝ่ายตรงข้ามอย่างทะลุปรุโปร่งถ้าหากยังไม่สามารถเข้าถึงและรู้
กลฝ่ายตรงข้ามแต่ละขั้นตอนได้ก็ไม่ต้องพูดถึงการใช้กลซ้อนกลแต่ประการใดท้ัง
สิ้น โจโฉปล่อยข่าวการตายเพราะรู้ว่าแผนของลิโป้กับตันก๋งต้องการใช้ไฟคลอก
ตนให้ตายกาเซี่ยงคาดว่าโจโฉจะเข้าตีเมืองทางตะวันออกเฉียงใต้จึงปล่อยก�าแพง
เมืองทางนั้นให้ว่างไว้ไม่ป้องกันแผนกลซ้อนกลจึงส�าเร็จทั้งสองกรณี เพราะคาด
รู้กลลวงของฝ่ายตรงข้ามได้ถูกต้องตรงตามจริง
การใช้กลซ้อนกลอีกเรื่องหนึ่งที่นอกเหนือความคิดของคนท้ังหลายคือเมื่อ
คร้ังเตียวหุยรบกับเงียมหงันเพื่อชิงเมืองปากุ๋นครั้งนั้นเล่าเจี้ยงผู้ครองเขตแคว้น
แดนเอ๊กจิ๋วแทนเล่าเอียงผู้เป็นบิดาซึ่งหาชีวิตไม่แล้วให้เงียมหงันขุนพลเอกรักษา
เมืองปากุ๋น เตียวหุยรับค�าสั่งขงเบ้งให้ยกทัพล่วงหน้ามาตีเอ๊กจิ๋วคือแคว้นเสฉวน
เพื่อให้เล่าปี่มาตั้งหลักด�าเนินการตามแผนฟื้นฟูราชวงค์ฮั่นให้กลับคืนความยิ่งใหญ่
สืบไปอันเงียมหงันนี้แม้จะมีอายุมากแล้วแต่ยังแข็งแรงสามารถสู้ศึกได้ไม่เพลี่ยง
พล�า้จงึเป็นทีว่างใจแก่เล่าเจีย้งเมือ่เตยีวหยุยกทพัมาประชดิเมอืงกค็ดิออกรบด้วย
แต่มีผู้แนะน�าเงียมหงันว่า “เตียวหุยมีฝีมือเป็นที่เลื่องลืออยู่ เกรงว่าเมื่อออกรบ
ด้วยจะเสียที อีกประการหน่ึงเตียวหุยมาจากทางไกล นานไปเสบียงอาหารจะ
ขาดแคลนซ�้ายังเป็นคนโมโหร้ายเมื่อเราไม่ออกรบด้วยเตียวหุยก็จะโกรธข้ึงพาล
โบยตีทหารเพราะความโกรธที่ไม่ได้รบตีเมืองเราแตกได้ตามต้องการ” เงียมหงัน
คิดแล้วก็เห็นด้วยจึงตั้งรักษาเมืองสงบอยู่เตียวหุยท้ารบอยู่ทุกวันเงียมหงันก็เฉย
เสียรักษาเมืองไม่แยแสด้วย
อันที่จริงนั้นเตียวหุยเป็นคนหยาบเอาแต่ใช้ก�าลังไม่สู้จะยอมใช้หัวคิดหา
สติปัญญามิได้แต่ในหยาบก็มีละเอียดในละเอียดก็มีหยาบเตียวหุยอยู่กับขงเบ้ง
23แผนกลซ้อนกล
เล่าป่ีมาช้านานสตปัิญญาของคนทัง้สองค่อยๆ ซมึซาบเข้ามาในสมองของเตยีวหยุ
ไม่รู้ตัวเมื่อเงียมหงันไม่ยอมออกรบเตียวหุยจนปัญญาคิดแล้วคิดอีกว่าท�าอย่างไร
จึงจะได้เมืองปากุ๋นตามค�าสั่งขงเบ้ง จะใช้ก�าลังก็ไม่มีที่ใช้ จ�าจะต้องเลียนแบบ
ขงเบ้งกับพี่ใหญ่ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนตร์ก็เอาด้วยคาถา ในที่
สุดเตียวหุยก็คิดอุบายได้อย่างหนึ่งสั่งให้ทหารกระจายกันเข้าป่าไปตัดฟืนพร้อม
ทั้งสั่งให้หาทางลับเพื่อยกทัพเข้าตีเมือง
ฝ่ายเงียมหงนัเหน็เตียวหยุหยดุส่งทหารออกมาท้ารบหลายวนักลบัให้ทหาร
ไปเข้าป่าตัดฟืนเป็นที่ผิดปกติจึงจัดทหารแต่งตัวเป็นทหารเตียวหุยลอบออกจาก
เมืองไปสมทบกับทหารเตียวหุยที่เข้าป่าตัดฟืนพร้อมทั้งให้สืบว่าเตียวหุยคิดจะท�า
อะไร
ในวันนั้น เมื่อทหารเตียวหุยพร้อมทหารเงียมหงันท่ีปะปน
มาด้วยกลับเข้าค่าย เตียวหุยก็ท�าเป็นเสพสุรามึนเมา
กระทืบเท้าด้วยความโมโหว่า “ไอ้ขุนพลเฒ่าคนนี้
ร้ายนักปล่อยให้เราท้ารบเก้ออยู่เป็นหลายวันจับ
ได้เมื่อใดจะสับเสียให้แหลกคามือ”
ทันใดนั้น ทหารเตียวหุยหลายคนก็รายงาน
พร้อมกนัว่า“วนันีข้้าพเจ้าพบทางลบัเข้าเมอืง
ปากุ๋นได้ จงรีบส่งทหารเข้าตีเมืองปากุ๋นเถิด
อย่าให้ทหารในเมืองได้ทันรู้ตัว”
เตียวหุยแสร้งท�าเป็นดีใจตวาดว่า“เมื่อ
พวกเจ้าหาพบแล้วเหตุไฉนไม่รีบแจ้งแก่เรา”
ทหารเหล่านั้นก็ตอบว่า “พวกข้าพเจ้า
เพิ่งพบทางในวันนี้เอง”
เตยีวหยุจงึว่า“ถ้ากระนัน้เรากอ็ย่ารอช้า
เลยคืนนี้ยามสองรีบหุงข้าวกินให้อิ่มแล้วรีบไปตี
เมืองให้แตกเสียแต่ในคืนนี้ตามทางลับ”
24กลศกึพสิดารในสามก๊ก
ทหารเงียมหงันได้ข่าวดังนั้นก็รีบเล็ดลอดกลับไปรายงานให้เงียมหงันทราบ
เงียมหงันรู้ดังนั้นก็เตรียมกลซ้อนกลในทันทีเพราะทางลับเข้าเมืองนั้นไม่มีทหาร
เตียวหุยคงเข้าใจผิดจึงให้ทหารจัดกินข้าวเรียบร้อยตอนยามสามครั้นแล้วให้ไป
ซุ่มอยู่ตามทางในป่าที่ทัพเตียวหุยจะผ่านไปทางลับเมื่อได้ยินสัญญาณให้รีบออก
มารุมล้อมข้าศึกทันที แต่การณ์กลับตาลปัตร เตียวหุยเตรียมการล่วงหน้าเอาไว้
แล้วโดยซุม่ทหารอยูเ่ตม็ป่าก่อนยามสามทีแ่สร้งสัง่ทหารของตนให้ทหารเงยีมหงนั
ได้ยินกลับเป็นฝ่ายล้อมทหารเงียมหงันจนกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เงียมหงันไม่ทัน
จะยกง้าวขึน้สูก้ถ็กูเตยีวหยุรวบตวัเอาไว้ให้ทหารมดัแน่นหนาพากลบัเข้าค่ายเมอืง
ปากุ๋นแตก เตียวหุยจับเงียมหงันได้ แต่มิได้ดูแคลนในฐานะเชลยกลับแก้มัดให้
เกียรติเป็นผู้อาวุโสให้ความเคารพยกย่องเป็นอันดีจนท�าให้เงียมหงันสะเทือนใจ
ที่แพ้แล้วยังได้รับเกียรติสมเป็นชายชาติทหาร ครั้นได้สนทนาทราบเจตนารมณ์
ของเล่าปี่แล้วก็ยอมสวามิภักดิ์ด้วยเล่าปี่และพาเตียวหุยเข้ายึดด่านระหว่างทาง
ไปเสฉวนได้ถึง45ด่านโดยดาบมิต้องดึงออกจากฝักและเกาทัณฑ์ก็มิต้องข้ึนสาย
เลยแม้สักครั้ง
หลังศึก ขงเบ้งถึงกับออกปากชมเชย ว่าเตียวหุยใช้กลอุบายในคราวนี้
แยบยลนักเป็นบุญของนายเราที่ได้เสฉวนมาครองโดยไม่เสียทหารซ�้ายังได้ขุนพล
ผู้เก่งกล้าเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่ง ความดีความชอบของเตียวหุยคราวนี้นับว่าใหญ่
หลวงยิ่ง
อันธรรมเนียมศึกนั้น
ถ้าผู้ใดมีความดีความชอบ
ในการรบ ก็ควรจะปูนบ�าเหน็จ
รางวัลตามสมควร จะได้เป็น
ก�าลังใจสืบไปภายหน้า
กลศึกพิสดารในสามก๊กหน้า29มีความดีความชอบก็ต้องตกรางวัล
I S BN 978-616-7818-39-9
9 7 8 6 1 6 7 8 1 8 3 9 9
180.-
LA 0034 กลศึกพิสดารในสามก๊ก
www.booktime.co.thSukkhapabjaiPUB
บุญศักดิ์ แสงระวี
กลศึกพิสดารใน
ผลงานใหม่ล่าสุด
กลศึกพิสดารใน
ฉีกแนวกลศึกแห่งวรรณคดีเอกเรื่องเยี่ยมในส่วนที่ยังได้รับการวิเคราะห์และกล่าวถึงอยู่น้อยให้เห็นถึงความ “พิสดาร” ของการชิงชัยด้วยปัญญา
ตามแบบฉบับของนักเขียน
บุญศักดิ์ แสงระวีผู้ช่ำาชองพิชัยสงคราม