สมรรถนะอาชีพประจําหน วย · 13. เพื่อให สามารตัดเหล็กชิ้นงานตามที่แบบสั่งด

1

แผนการจัดการเรียนรู หนวยที่ 1 วิชา งานเครื่องมือกลเบ้ืองตน สอนสัปดาหที่ 1-2 ชื่อหนวย การตัดเหล็กชิ้นสวนเครื่องมือกล คาบรวม 8 ชั่วโมง

ชื่อเร่ือง การตัดเหล็กชิ้นสวนเครื่องมือกล จํานวนคาบ 8 ชั่วโมง

หัวขอเร่ือง ดานความรู

1. ลักษณะการตัดเหล็กดวยเครื่องเล่ือยกล 2. รูปรางหนาตัดของเหล็กเสนตาง ๆ 3. ชนิดของเครื่องเล่ือยกลตาง ๆ 4. สวนประกอบของเครื่องเล่ือยกลชนิดตาง ๆ และหนาท่ีการใช 5. กฎความปลอดภัยในการใชเครื่องเล่ือยกล 6. วิธีการใชเครื่องเล่ือยกลตาง ๆ 7. วิธีการจับเหล็กเสนรูปทรงตาง ๆ ดวยปากกาจับงาน 8. วิธีการบํารุงรกัษาเครื่องเล่ือยกล

ดานทกัษะ 9. ตัดเหล็กเสนดวยเครื่องเล่ือยกลตามที่แบบกําหนด

ดานคุณธรรม จริยธรรม / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 10.ปฏิบัติตนตามกฎระเบียบของสถานศึกษาและแผนกวิชา 11.ใชเครื่องเล่ือยกลและอุปกรณไดอยางถูกวิธีและปลอดภยั 12.ชวยกันประหยัดพลังงานโดยการปดสวิตชเครื่องจกัร ปดกอกน้ําและปดไฟฟาแสง

สวางภายในโรงงานและทําความสะอาดเครื่องมือเครื่องจักรหลังเลิกใชงานทุกครั้ง 13.ตัดเหล็กชิ้นงานตามที่แบบส่ังดวยความประหยดั

สาระสําคัญ งานตัดเหล็กชิ้นสวนเครื่องมือกลมีความสําคัญมาก เพราะหากนกัศึกษาตดัเหล็กใหไดตามท่ีแบบ

กําหนดจะทําใหไมส้ินเปลืองวัสดุและลดตนทนุการผลิต ดังนั้นนกัศกึษาจะตองมีความรู ความเขาใจ เกี่ยวกับลักษณะการตัดเหล็กดวยเครื่องเล่ือยกล รูปหนาตดัของเหล็กเสนตาง ๆ ชนิดของเครื่องเล่ือยกล สวนประกอบของเครื่องเล่ือยกลชนิดตาง ๆ และหนาท่ีการใช กฎความปลอดภัยในการใชเครื่องเครื่อง เล่ือยกลวิธีการใชเครื่องเล่ือยกล วิธีการจับเหล็กเสนรูปทรงตาง ๆ ดวยปากกาจับงาน วิธีการบํารุงรกัษา เครื่องเล่ือยกล และมีทักษะในการตัดเหล็กจากใบงาน เพือ่จะไดนําความรู ความเขาใจ และทกัษะไปใช ในการตัดเหล็กชิน้สวนอ่ืน ๆ ตอไป

2

สมรรถนะอาชีพประจําหนวย รูจักเครื่องเล่ือยกล และสามารถใชเครื่องเล่ือยกลตัดเหล็กเพ่ือสรางชิ้นสวนเครื่องมือกลตามความ

ตองการ

จุดประสงคการเรียนรู จุดประสงคทั่วไป / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพยีง

1. เพ่ือใหมีความรู ความขาใจเกี่ยวกับลักษณะการตัดเหล็กดวยเครื่องเล่ือยกล 2. เพ่ือใหรูจักชื่อรูปรางหนาตัดของเหล็กเสนตาง ๆ 3. เพ่ือใหรูจักชื่อชนดิของเครื่องเล่ือยกลตาง ๆ 4. เพ่ือใหรูจักชื่อสวนประกอบของเครื่องเล่ือยกลชนิดตาง ๆ และหนาท่ีการใช 5. เพ่ือใหบอกกฎความปลอดภัยในการใชเครื่องเล่ือยกล 6. เพ่ือใหมีความรู ความเขาใจวิธีการใชเครื่องเล่ือยกลตาง ๆ 7. เพ่ือใหมีความรู ความเขาใจวิธีการจับเหล็กเสนรูปทรงตาง ๆ ดวยปากกาจับงาน 8. เพ่ือใหบอกวิธีการบํารุงรักษาเครื่องเล่ือยกล 9. เพ่ือใหสามารถตัดเหล็กเสนดวยเครื่องเล่ือยกลตามที่แบบกําหนด 10. เพ่ือปฏิบัติตนตามกฎระเบียบของสถานศึกษาและแผนกวิชา 11. เพ่ือใหใชเครื่องเล่ือยกลและอุปกรณไดอยางถูกวิธีและปลอดภัย 12. เพ่ือใหชวยกนัประหยัดพลังงานโดยการปดสวติชเครื่องจักร ปดกอกน้ําและปดไฟฟา

แสงสวางภายในโรงงาน และทําความสะอาดเครื่องมือเครื่องจักรหลังเลิกใชงานทกุครั้ง 13. เพ่ือใหสามารตัดเหล็กชิ้นงานตามที่แบบส่ังดวยความประหยัด

จุดประสงคเชิงพฤติกรรม / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพยีง 1. อธิบายลักษณะการตัดเหล็กดวยเครื่องเล่ือยกลได 2. บอกชื่อรูปรางหนาตัดของเหล็กเสนตาง ๆได 3. บอกชื่อชนิดของเครื่องเล่ือยกลตาง ๆได 4. บอกชื่อสวนประกอบของเครื่องเล่ือยกลชนิดตาง ๆ และหนาท่ีการใชได 5. บอกกฎความปลอดภัยในการใชเครื่องเล่ือยกลได 6. อธิบายวิธีการใชเครื่องเล่ือยกลตาง ๆได 7. อธิบายวิธีการจับเหล็กเสนรูปทรงตาง ๆ ดวยปากกาจับงานได 8. บอกวิธีการบํารุงรักษาเครื่องเล่ือยกลได 9. ตัดเหล็กเสนดวยเครื่องเล่ือยกลตามที่แบบกําหนดได 10. ปฏิบัติตนตามกฎระเบียบของสถานศึกษาและแผนกวิชาได 11. ใชเครื่องเล่ือยกลและอุปกรณไดอยางถูกวิธีและปลอดภัยได

3

12. ชวยกันประหยัดพลังงานโดยการปดสวิตชเครื่องจกัร ปดกอกน้ําและปดไฟฟาแสง สวางภายในโรงงานและทําความสะอาดเครื่องมือเครื่องจักรหลังเลิกใชงานทกุครั้งได

13. ตัดเหล็กชิ้นงานตามที่แบบส่ังดวยความประหยดัได

เนื้อหาสาระการเรียนรู ดานความรู

1. ลักษณะการตัดเหล็กดวยเครื่องเล่ือยกล 2. รูปรางหนาตัดของเหล็กเสนตาง ๆ 3. ชนิดของเครื่องเล่ือยกลตาง ๆ 4. สวนประกอบของเครื่องเล่ือยกลชนิดตาง ๆ และหนาท่ีการใช 5. กฎความปลอดภัยในการใชเครื่องเล่ือยกล 6. วิธีการใชเครื่องเล่ือยกลตาง ๆ 7. วิธีการจับเหล็กเสนรูปทรงตาง ๆ ดวยปากกาจับงาน 8. วิธีการบํารุงรกัษาเครื่องเล่ือยกล

ดานทกัษะ 9. การตัดเหล็กเสนดวยเครื่องเล่ือยกลตามที่แบบกําหนด (ใบงานที่ 1/1 การตัดเหล็ก)

ดานคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณ / บูรณาการเศรษฐกจิพอเพียง 10. การปฏิบัติตนตามกฎระเบียบของสถานศึกษาและแผนกวิชา 11. การใชเครื่องเล่ือยกลและอุปกรณไดอยางถูกวิธีและปลอดภัย 12. การประหยดัพลังงานโดยการปดสวิตชเครื่องจกัร ปดกอกน้ํา และปดไฟฟาแสงสวาง

ภายในโรงงาน และทําความสะอาดเครื่องมือเครื่องจักรหลังเลิกใชงานทุกครั้ง 13. การตัดเหล็กชิน้งานตามที่แบบส่ังดวยความประหยัด

4

กระบวนการจัดการเรียนรู (ภาคทฤษฎี ) ใชกระบวนการเรียนรูแบบ MIAP กระบวนการสอนของครู กระบวรการเรียนรูของนกัศกึษา

ขั้นเตรียม (60 นาที) 1. เตรียมใบรายชื่อนกัศกึษา เอกสารประกอบการ เรียนการสอน แบบทดสอบกอนเรยีน 2. เตรียมคอมพิวเตอรNotebookเครื่องฉาย จอ 3. เตรียมตัวอยางชิ้นงาน วัสดุเหล็กตามใบงาน เครื่องเล่ือยกล บรรทัดเหล็ก

ขั้นเตรียม 1. เตรียมอุปกรณการเรียน เชน ปากกา สมุด และ เตรียมรางกาย

กระบวนการสอน 1. เนื่องจากเปนการสอนชั่วโมงแรก ครูแจง จุดประสงคการเรียนรูหนวยที่ 1 และวิธีการวดั และประเมินผลการเรียนรู (เวลา 15 นาที) 2. ทดสอบกอนเรียน 60 นาที ดวยแบบทดสอบ แบบเลือกตอบ)

ขั้นการสอน (จุดประสงคขอที่ 1 - 8 และ 10 - 13) 1. ขั้นนํา (Motivation) เวลา 5 นาที - นักศกึษาคนใดเคยตัดเหล็กดวยเครื่องเล่ือยกลมา บางแลว - นักศกึษาคนใดเคยเห็นเขาตดัเหล็กที่ไหนมาบาง - นักศกึษาคิดวาถาเราจะตองตดัเหล็กเราติดวาเรา จะทําไดหรือไม - ครูแจกเอกสารประกอบการเรยีน

2. ชั้นศึกษาขอมูล (Information) เวลา 40 นาที ครูอธิบายเนื้อหา ฉายรูปภาพจาก Power Point. ให นักศกึษาดูแตละหัวขอตามลําดับ ดังนี้ 1. ลักษณะการตัดเหล็กดวยเครื่องเล่ือยกล 2. รูปรางหนาตัดของเหล็กเสนตาง ๆ 3. ชนิดของเครื่องเล่ือยกลตาง ๆ

กระบวนการเรียน 1. รับทราบจุดประสงคการเรยีนรูหนวยที่ 1 และ วิธีการวดัและประเมินผล 2. ทําแบบทดสอบกอนเรียน

ขั้นการเรียน 1. ขั้นนํา (Motivation) - รับฟงและตอบคําถามขอท่ี 1

- รับฟงและตอบคําถามขอท่ี 2 - รับฟงและตอบคําถามขอท่ี 3 - รับเอกสารประกอบการเรียนคนละเลม

2. ชั้นศึกษาขอมูล (Information) - รับฟงครูอธิบายแตละหัวขอ และสอบถามหาก สงสัยขอหนึ่งขอใด

5

กระบวนการจัดการเรียนรู (ภาคทฤษฎี ตอ) ใชกระบวนการเรียนรูแบบ MIAP กระบวนการสอนของครู กระบวรการเรียนรูของนกัศกึษา

4. สวนประกอบของเครื่องเล่ือยกลชนิดตาง ๆ และหนาท่ีการใช 5. กฎความปลอดภัยในการใชเครื่องเล่ือยกล 6. วิธีการใชเครื่องเล่ือยกลตาง ๆ 7. วิธีการจับเหล็กเสนรูปทรงตางๆดวยปากกา จับงาน 8. วิธีการบํารุงรกัษาเครื่องเล่ือยกล

3. ขั้นพยายาม (Application) เวลา 10 นาที - ใหนกัศึกษาศกึษารายละเอียดเพิ่มเติมจากเอกสาร ประกอบการเรียน วิชางานเครื่องมือกลเบ้ืองตน ของ อ.วิโรจน สุวรรณรัตน เรื่อง การตัดเหล็ก (หนาที่ 18 – 39)

4. ขั้นสําเร็จผล (Progress) เวลา 30 นาที - ใหนกัศึกษาทกุคนทําแบบฝกหัดทายหนวยที่ 1 ในเอกสารประกอบการเรยีน เรื่อง การตัดเหล็ก (หนาที่ 44 – 49)

3. ขั้นพยายาม (Application) - อานทบทวนเนื้อหาอยางละเอียดจากเอกสาร ประกอบการเรียนวิชางานเครื่องมือกลเบ้ืองตน ของ อ.วิโรจน สุวรรณรัตน เรื่อง การตัดเหล็ก (หนาที่ 18 – 39)

4. ขั้นสําเร็จผล (Progress) - ทําแบบฝกหัดทายหนวยที่ 1 ในเอกสาร ประกอบการเรียน เรื่อง การตัดเหล็ก (หนาที่ 44 – 49)

6

กระบวนการจัดการเรียนรู (ภาคปฏบิัติ ) ใชกระบวนการเรียนรูแบบ MIAP กระบวนการสอนของครู กระบวรการเรียนรูของนกัศกึษา

ขั้นเตรียม (60 นาที) 1. เตรียมใบรายชื่อนกัศกึษา เอกสารประกอบการ เรียนการสอน แบบประเมินพฤติกรรมการเรียน 2. เตรียมเครื่องเล่ือยกล บรรทัดเหล็ก 3. เตรียมเหล็กเพลากลม เหล็กส่ีเหล่ียมจัตุรัส เหล็กส่ีเหล่ียมผืนผา

ขั้นเตรียม 1. เตรียมอุปกรณการเรียน เชน ปากกา สมุด และ เตรียมรางกาย 2. เอกสารประกอบการเรียน

กระบวนการสอน 1. ครูนํานกัศกึษาไปท่ีหนาเครื่องเล่ือยกล

ขั้นการสอน (จุดประสงคขอที่ 9) 1. ขั้นนํา (Motivation) เวลา 5 นาที - เครื่องเล่ือยกลตัวนี้ชื่ออะไร - เครื่องเล่ือยกลตัวนี้มีสวนประกอบอะไรบาง

2. ชั้นศึกษาขอมูล (Information) เวลา 15 นาที ครูชี้บอกชื่อสวนประกอบตาง ๆ ของเครื่องเล่ือย กลและหนาท่ีการใชงานแตละสวนประกอบ

3. ขั้นพยายาม (Application) เวลา 6 ชั่วโมง - ครูสาธิตขั้นตอนวิธกีารใชเครื่องเล่ือยกล - ครูสาธิตการตัดเหล็กใหนักศกึษาดู - ครใูหนักศกึษาทดลองใชเครื่องเล่ือยกล - ครใูหนักศกึษาทุกคนตดัเหล็กตามใบงานที่ 1/1 (ในเอกสารหนา 40 – 41)

4. ขั้นสําเร็จผล (Progress) เวลา 30 นาที - ประเมินผลใบงานที่ 1/1 (ในเอกสารหนา 42-43)

กระบวนการเรียน 1. นักศกึษาทกุคนพรอมกนัที่หนาเครื่องเล่ือยกล

ขั้นการเรียน 1. ขั้นนํา (Motivation) - รับฟงและตอบคําถามขอท่ี 1 - รับฟงและตอบคําถามขอท่ี 2

2. ชั้นศึกษาขอมูล (Information) - รับฟงครูแนะนํา และสอบถามหากสงสัย สวนประกอบสวนหนึ่งสวนใด

3. ขั้นพยายาม (Application) - ดูการสาธิตของครูผูสอน - ทดลองใชเครื่องเล่ือยกล - ตัดเหล็กตามใบงานที่ 1/1(ในเอกสารหนา 40-41)

4. ขั้นสําเร็จผล (Progress) - นําชิ้นงานตามใบงานที่ 1/1 ใหครูประเมิน ลงคะแนนในเอกสารหนา 42 และ 43

7

งานที่มอบหมาย และการวัดผลประเมินผล กอนเรียน

1. จัดเตรียมเอกสาร ส่ือการเรียนการสอน ตามหนวยที่ 1 2. ทําแบบทดสอบกอนเรียน วิชางานเครื่องมือกลเบ้ืองตน 3. ทําความเขาใจเกี่ยวกับจุดประสงคการเรียนรู ของหนวยที่ 1

ขณะเรียน 1. ปฏิบัติตามใบงานที่ 1/1 การตัดเหล็กเพลากลม ตัดเหล็กส่ีเหล่ียมจัตุรัส ตัดเหล็ก ส่ีเหล่ียมผืนผา

2. ดูตัวอยางช้ินงานจริงที่ตดัทาแลวเพื่อใชเปรียบเทียบ

หลังเรียน 1. ทําแบบทดสอบหลังหนวยที่ 1 2. ทําความสะอาดเครื่องมือ เครื่องจกัร และโรงฝกงาน

ผลงานหรือชิน้งานของนักศึกษา 1. เหล็กเพลากลมตามแบบ จํานวน 1 ชิ้น 2. เหล็กส่ีเหล่ียมจัตุรัสตามแบบ จํานวน 1 ชิ้น 3. เหล็กส่ีเหล่ียมผืนผาตามแบบ จํานวน 1 ชิ้น

สื่อการเรียนการสอน สื่อสิ่งพิมพ

1. เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชางานเครื่องมือกลเบ้ืองตน ของ อ.วิโรจน สุวรรณรัตน

2. แบบทดสอบกอนเรียน วิชางานเครื่องมือกลเบ้ืองตน แบบเลือกตอบ จํานวน 75 ขอ

สื่ออิเล็กทรอนิกส 1. Power Point. เรื่อง การตัดเหล็กชิ้นสวนเครื่องมือกล

สื่อของจริง 1. เครื่องเล่ือยกลแบบชัก 2. บรรทัดเหล็กขนาดความยาว 30 เซนติเมตร 3. ตัวอยางช้ินงานของจริง 3 อยางคือ เหล็กเพลากลม เหล็กส่ีเหล่ียมจัตุรัส เหล็กส่ีเหล่ียมผืนผา

8

แหลงการเรียนรู ในสถานศึกษา

1. หองสมุดวิทยาลัยเทคนิคราชบรุี 2. แผนกวิชาชางกลโรงงาน

นอกสถานศกึษา 1. ตามรานคาขายเหล็กทั่วไป และในโรงงานที่ทําเกี่ยวกับโลหะท้ังหลายในจังหวัดราชบุรี

การบูรณาการกบัรายวิชาอื่น ๆ 1. บูรณาการกับรายวิชาวัสดุชางเบื้องตน เรื่อง ชนิดและรูปรางและคุณสมบัติของวัสดุ ที่เปนโลหะ

2. บูรณาการกับรายวิชาการวัดละเอียด เรื่องการอานคาสเกลของบรรทัดเหล็ก 3. บูรณาการกับรายวิชาเขียนแบบเทคนคิ เรื่องการอานแบบ

การประเมินผลการเรียนรู หลักการประเมินผลการเรียนรู ประเมินผลกอนเรียน

1. ตรวจผลการทดสอบกอนเรียน

ประเมินผลขณะเรียน 1. สังเกตพฤติกรรมการเรียนรูและการฝกทกัษะการตดัเหล็ก 2. ตรวจวัดขนาดชิ้นงานตามใบงานที่ 1/1 การตัดเหล็กชิน้สวนเครื่องมือกล 3 ชิ้น

ประเมินผลหลังเรียน 1. ตรวจแบบทดสอบหลังหนวยที่ 1

ชิ้นงานของนักศึกษา บันทึกคะแนนจากใบงานที่ 1/1 และคะแนนผลการทดสอบหลังหนวยที่ 1 ลงในตารางแสดง

ความกาวหนา เพื่อใหนักศกึษาทราบผลการเรียนรูและฝกทักษะหนวยที่ 1

9

รายละเอียดการประเมินผลการเรียนรู จุดประสงคเชิงพฤติกรรม ขอที่ 1. อธิบายลักษณะการตัดเหล็กดวยเครื่องเล่ือยกลได

วิธีการประเมิน : ทดสอบ เคร่ืองมอื : แบบทดสอบ เกณฑการใหคะแนน : ตอบตรงกับหัวขอที่กําหนดไดถูก เชน ขอ ก ข ค ง หรือ จ เกณฑการตดัสินการผาน : ตอบถูกตรงกับขอที่กําหนดได 1 คะแนน หากตอบผิดได 0 คะแนน

จุดประสงคเชิงพฤติกรรม ขอที่ 2. บอกชื่อรูปรางหนาตัดของเหล็กเสนตาง ๆได วิธีการประเมิน : ทดสอบ เคร่ืองมอื : แบบทดสอบ เกณฑการใหคะแนน : ตอบตรงกับหัวขอที่กําหนดไดถูก เชน ขอ ก ข ค ง หรือ จ เกณฑการตดัสินการผาน : ตอบถูกตรงกับขอที่กําหนดได 1 คะแนน หากตอบผิดได 0 คะแนน

จุดประสงคเชิงพฤติกรรม ขอที่ 3. บอกชื่อชนิดของเครื่องเล่ือยกลตาง ๆได วิธีการประเมิน : ทดสอบ เคร่ืองมอื : แบบทดสอบ เกณฑการใหคะแนน : ตอบตรงกับหัวขอที่กําหนดไดถูก เชน ขอ ก ข ค ง หรือ จ เกณฑการตดัสินการผาน : ตอบถูกตรงกับขอที่กําหนดได 1 คะแนน หากตอบผิดได 0 คะแนน

จุดประสงคเชิงพฤติกรรม ขอที่ 4. บอกชื่อสวนประกอบของเครื่องเล่ือยกลชนิดตาง ๆ และหนาท่ี การใชได

วิธีการประเมิน : ทดสอบ เคร่ืองมอื : แบบทดสอบ เกณฑการใหคะแนน : ตอบตรงกับหัวขอที่กําหนดไดถูก เชน ขอ ก ข ค ง หรือ จ เกณฑการตดัสินการผาน : ตอบถูกตรงกับขอที่กําหนดได 1 คะแนน หากตอบผิดได 0 คะแนน

จุดประสงคเชิงพฤติกรรม ขอที่ 5. บอกกฎความปลอดภัยในการใชเครื่องเล่ือยกลได วิธีการประเมิน : ทดสอบ เคร่ืองมอื : แบบทดสอบ เกณฑการใหคะแนน : ตอบตรงกับหัวขอที่กําหนดไดถูก เชน ขอ ก ข ค ง หรือ จ เกณฑการตดัสินการผาน : ตอบถูกตรงกับขอที่กําหนดได 1 คะแนน หากตอบผิดได 0 คะแนน

10

จุดประสงคเชิงพฤติกรรม ขอที่ 6. อธิบายวิธีการใชเครื่องเล่ือยกลตาง ๆได วิธีการประเมิน : ทดสอบ เคร่ืองมอื : แบบทดสอบ เกณฑการใหคะแนน : ตอบตรงกับหัวขอที่กําหนดไดถูก เชน ขอ ก ข ค ง หรือ จ เกณฑการตดัสินการผาน : ตอบถูกตรงกับขอที่กําหนดได 1 คะแนน หากตอบผิดได 0 คะแนน

จุดประสงคเชิงพฤติกรรม ขอที่ 7. อธิบายวิธีการจับเหล็กเสนรูปทรงตาง ๆ ดวยปากกาจับงานได วิธีการประเมิน : ทดสอบ เคร่ืองมอื : แบบทดสอบ เกณฑการใหคะแนน : ตอบตรงกับหัวขอที่กําหนดไดถูก เชน ขอ ก ข ค ง หรือ จ เกณฑการตดัสินการผาน : ตอบถูกตรงกับขอที่กําหนดได 1 คะแนน หากตอบผิดได 0 คะแนน

จุดประสงคเชิงพฤติกรรม ขอที่ 8. บอกวิธีการบํารุงรักษาเครื่องเล่ือยกลได วิธีการประเมิน : ทดสอบ เคร่ืองมอื : แบบทดสอบ เกณฑการใหคะแนน : ตอบตรงกับหัวขอที่กําหนดไดถูก เชน ขอ ก ข ค ง หรือ จ เกณฑการตดัสินการผาน : ตอบถูกตรงกับขอที่กําหนดได 1 คะแนน หากตอบผิดได 0 คะแนน

จุดประสงคเชิงพฤติกรรม ขอที่ 9. ตัดเหล็กเสนดวยเครื่องเล่ือยกลตามที่แบบกําหนดได วิธีการประเมิน : ตรวจวดัขนาดชิ้นงานดวยบรรทัดเหล็ก เคร่ืองมอื : แบบประเมินใบงานที่ 1/1 เกณฑการใหคะแนน : ตัดเหล็กไดขนาดตามแบบได 5 คะแนน เกณฑการตดัสินการผาน : ผานระดับรอยละ 80

จุดประสงคเชิงพฤติกรรม ขอที่ 10. ปฏิบัติตนตามกฎระเบียบของสถานศึกษาและแผนกวิชา วิธีการประเมิน : สังเกตพฤติกรรม เคร่ืองมอื : แบบสังเกตพฤติกรรม เกณฑการใหคะแนน : ปฏิบัติตนตามกฎระเบียบของสถานศึกษาและแผนกวิชา 5 คะแนน เกณฑการตดัสินการผาน : ผานระดับรอยละ 80

11

จุดประสงคเชิงพฤติกรรม ขอที่ 11. ใชเครื่องเล่ือยกลและอุปกรณไดอยางถูกวิธีและปลอดภัย วิธีการประเมิน : สังเกตพฤติกรรม เคร่ืองมอื : แบบสังเกตพฤติกรรม เกณฑการใหคะแนน : ใชเครื่องเล่ือยกลและอุปกรณไดถูกวิธีและปลอดภัยได 5 คะแนน เกณฑการตดัสินการผาน : ผานระดับรอยละ 80

จุดประสงคเชิงพฤติกรรม ขอที่ 12. ชวยกันประหยัดพลังงานโดยการปดสวติชเครื่องจกัร ปดกอกน้ํา และปดไฟฟาแสงสวางภายในโรงงานและทําความสะอาดเครื่องมือ เครื่องจักรหลังเลิกใชงานทุกครั้ง

วิธีการประเมิน : สังเกตพฤติกรรม เคร่ืองมอื : แบบสังเกตพฤติกรรม เกณฑการใหคะแนน : หากปฏิบัติตามวัตถุประสงคได 5 คะแนน เกณฑการตดัสินการผาน : ผานระดับรอยละ 80

จุดประสงคเชิงพฤติกรรม ขอที่ 13. ตัดเหล็กชิ้นงานตามทีแ่บบส่ังดวยความประหยัด วิธีการประเมิน : สังเกตพฤติกรรม เคร่ืองมอื : แบบสังเกตพฤติกรรม เกณฑการใหคะแนน : ตัดเหล็กชิ้นงานตามที่แบบไดถูกตองได 5 คะแนน เกณฑการตดัสินการผาน : ผานระดับรอยละ 80

12

แบบทดสอบกอนเรียน วิชา งานเครื่องมือกลเบ้ืองตน รหัส 2100-100 ระดับชั้น ปวช.1 เครื่องมือกลและซอมบํารุง เวลา 90 นาที 75 คะแนน

คําสั่ง ใหนกัศกึษาเลือกคาํตอบที่คิดวาถูกตองที่สุดเพียงคําตอบเดียว แลวทําเครื่องหมาย (X) ลงใน กระดาษคําตอบ

1. เครื่องเล่ือยชนิดใดตอไปนี้สามารถเล่ือยฉลุงานเปนรูปโคงได 1. เครื่องเล่ือยชัก 2. เครื่องเล่ือยวงเดือน 3. เครื่องตัดใบตัดไฟเบอร 4. เครื่องเล่ือยสายพานแนวตั้ง 5. เครื่องเล่ือยสายพานแนวนอน

2. เครื่องจักรกลอะไรตอไปนี้เหมะสําหรับตัดเหล็กกลวงมากที่สุด 1. เครื่องเล่ือยวงเดือน 2. เครื่องตัดใบตัดไฟเบอร 3. เครื่องเล่ือยสายพานแนวตั้ง 4. เครื่องเล่ือยสายพานแนวนอน 5. เครื่องเล่ือยชักระบบไฮดรอลิกส

3. สวนประกอบใดของเครื่องเล่ือยกลแบบชักระบบไฮดรอลิกสที่ใชเปนตัวปอนตัดชิ้นงาน 1. ใบเล่ือย 2. โครงเล่ือย 3. เฟองสงกําลัง 4. สายพานและพูเลย 5. ชุดระบบไฮดรอลิกส

4. เครื่องเล่ือยกลชนิดใดการตัดชิ้นงานจะตองใชมือจับชิ้นงานกดและดนัปอนตัดจึงสามารถตัดงานได 1. เครื่องเล่ือยสายพานแนวตั้ง 2. เครื่องเล่ือยสายพานแนวนอน 3. เครื่องเล่ือยชักระบบไฮดรอลิกส 4. เครื่องเล่ือยชักใชแรงโนมถวง 5. เครื่องตัดใบตัดไฟเบอร

13

5. เครื่องเล่ือยกลชนิดใดมีหลักการทํางานแตกตางไปจากเครื่องเล่ือยกลชนิดอื่น 1. เครื่องเล่ือยกลแบบชักใชแรงโนมถวง 2. เครื่องเล่ือยกลแบบชักระบบไฮครอลิกส 3. เครื่องเล่ือนกลสายพานแนวนอน 4. เครื่องเล่ือยกลสายพานแนวตั้ง 5. เครื่องตัดใบตัดไฟเบอร

6. หลักความปลอดภัยในการใชเครื่องเล่ือยกลขอใดสําคัญนอยท่ีสุด 1. หยอดน้ํามันหลอล่ืนรางเล่ือนกอนตัดเหล็ก 2. ปรับใบเล่ือยหางจากผิวชิน้งานประมาณ 10 มม. 3. หมุนเกลียวปากกายดึจับงานใหแนนกอนตดัชิ้นงานทกุครั้ง 4. การตัดชิน้งานยาวๆตองใชตวัรองรับปลายชิ้นงานทกุครั้ง 5. เปดน้ําหลอเย็นชวยระบายความรอนใหใบเล่ือยขณะตัดงานทุกครั้ง

7. เครื่องเล่ือยกลชนิดใดขณะที่กําลังตัดชิน้งานจะตองระมดัระวังเปนพิเศษมากที่สุด 1. เครื่องตัดใบตัดไฟเบอร 2. เครื่องเล่ือยกลแบบชักใชแรงโนมถวง 3. เครื่องเล่ือยกลแบบชักระบบไฮดรอลิกส 4. เครื่องเล่ือยกลสายพานแนวตั้ง 5. เครื่องเล่ือยกลสายพานแนวนอน

8. ขอใดตอไปนี้เปนวิธีการบํารุงรกัษาเครื่องเล่ือยกลที่ดีที่สุด 1. ศึกษาวิธีการใชกอนตัดเหล็กดวยเครื่องเล่ือยกล 2. เปล่ียนน้ํามันหลอเย็นใหเครื่องเล่ือยเดือนละ 1 ครั้ง 3. หลังเลิกใชงานทุกวันตองทําความสะอาดเครื่องเล่ือยอยางดี 4. หยอดน้ํามันหลอล่ืนตรงรางเล่ือนกอนใชงานทกุวัน 5. ตรวจดูความพรอมเครื่องเล่ือยกอนตัดเหล็กทกุวนั

9. วิธีการใชเครื่องเล่ือยกลทุกชนดิขอใดตอไปนี้ทีต่องคํานงึมากที่สุด 1. ขณะใชเครื่องเล่ือยกลไมควรประมาท 2. จับชิ้นงานที่จะตัดใหแนนดวยปากกา 3. ปรับใบเล่ือยกลใหตึงกอนตดัเหล็กทุกครั้ง 4. เปดน้ําหลอเย็นชวยระบายความใหใบเล่ือยทุกครั้ง 5. ตัดชิ้นงานยาว ๆ ใหใชตัวรองรับปลายชิ้นงานทกุครั้ง

14

10. การจับชิ้นงานตัดเหล็กดวยปากกาจับงานของเครื่องเล่ือยกลขอใดจับชิ้นงานไมถูกหลักวิธี 1. การตัดเหล็กเสนกลมยาว ๆ ใหใชตัวรองรับปลายชิ้นงาน 2. การตัดเหล็กฉากใหหายสวนที่เปนมุมฉากขึ้นมาหาใบเล่ือย 3. การตัดเหล็กส่ีเหล่ียมผืนผาใหเอาหนาแบนนอนราบลง 4. การตัดเหล็กตัวยใูหคว่ําตัวยูลงกับปากกาจับงาน 5. การตัดเหล็กตัวไอใหตั้งตัวไอขึ้นหาใบเล่ือย

11. เครื่องเจียระไนทีใ่ชในการสรางชิ้นงานเครื่องมือกลมีกีช่นิด 1. มี 2 ชนิด 2. มี 3 ชนิด 3. มี 4 ชนิด 4. มี 5 ชนิด 5. มี 6 ชนิด

12. เครื่องเจียระไนชนิดใดเหมาะสําหรับใชลับมีดกลึงและลับคมตัดดอกสวานมากที่สุด 1. เครื่องเจียระไนราบ 2. เครื่องเจียระไนกลม 3. เครื่องเจียระไนดวยมือ 4. เครื่องเจียระไนตั้งโตะ 5. เครื่องเจียระไนตั้งพื้น

13. สวนประกอบใดของเครื่องเจียระไนตั้งพื้นมคีวามจําเปนในการใชงานนอยที่สุด 1. ลอหินเจียระไน 2. แทนรองรับงานเจียระไน 3. กระจกนิระภัยปองกนัเศษ 4. ถังน้ําหลอเย็นระบายความรอน 5. ฝาครอบลอหินดานขางท้ังสองดาน

14. ขอใดเปนหลักการทํางานของเครื่องเจียระไนตั้งพืน้ 1. ลอหินหมุนทวนเข็มนาฬิกาอยูกับท่ี ชิ้นงานเคลื่อนที่เขาไปหา 2. ลอหินหมุนตามเข็มนาฬิกาอยูกับท่ี ชิ้นงานเคล่ือนที่เขาไปหา 3. ลอหินหมุนตามเข็มนาฬิกาอยูกับท่ี ชิ้นงานเคล่ือนที่ซาย-ขวา 4. ลอหินหมุนทวนเข็มนาฬิกาอยูกับท่ี ชิ้นงานเคลื่อนที่ซาย-ขวา 5. ลอหินหมุนทวนเข็มนาฬิกาเคล่ือนที่ ชิ้นงานเคล่ือนที่ไป-มา

15

15. เพ่ือความปลอดภัยในการใชเครื่องเจียระไนขณะที่ลับมีดกลึง ขอใดควรปฏิบัติมากที่สุด 1. ปรับแทนรองรับงานหางจากผิวลอหิน 3-5 มม. กอนใช 2. ตรวจดูความพรอมใชงานเครื่องเจียระไนกอนใชทกุครัง้ 3. แตงผิวหนาลอหินทั้ง 2 ลอ กอนใชงานทกุครั้ง 4. เติมน้ําหลอเย็นใหเต็มถังกอนใชทุกครั้ง 5. เปดแสงสวางใหเพียงพอกอนใชงาน

16. ขอใดตอไปนี้ผูใชเครื่องเจียระไนเสร็จแลวควรปฏิบัติทกุวันใหเปนกิจนิสัยที่ดี 1. ตรวจความพรอมเครื่องเจียระไนกอนใชงานทกุวัน 2. แตงผิวหนาลอหินทั้ง 2 ลอใหเรียบกอนใชงานทกุวัน 3. ทําความสะอาดเครื่องเจียระไนหลังเลิกใชงานทุกวัน 4. เติมน้ําหลอเย็นใหเต็มถังกอนเจียระไนงานทกุวนั 5. ปรับแทนรองรับงานหาง 3-5 มม. กอนใชทกุวัน

17. ขอใดเปนวิธีการใชเครื่องเจียระไนที่ดีเพื่อใหเกิดความปลอดภัยมากที่สุด 1. ตรวจความพรอมเครื่องเจียระไนกอนใชงานทกุครั้ง 2. ทดลองหมุนลอหินเจียระไนกอนใชงานทกุครั้ง 3. ปรับแทนรองรับงานใหหาง 3-5 มม. กอนใช 4. เตรียมน้ําหลอเย็นใหเต็มถังกอนใชงานทกุครั้ง 5. ขอ 1 ขอ2 ขอ3 และขอ4 รวมกันทกุขอ

18. ในการลับมีดกลึงปาดหนาและมีดกลึงปอกผวิจะตองลับมุมหลบหลักที่สําคัญชื่ออะไรบาง 1. ลับมุมหลบขางมีด 2. มุมหลบหนามีด 3. มุมคายเศษเหล็ก 4. ตองลับมุมตาม ขอ 1 ขอ2 และขอ3 5. ตองลับมุมหลบขางมีดและมุมหลบหนามีดเทานั้น

19. มีดกลึงปาดหนาขวาและมีดกลึงปอกผิวขวา มีความหมายตรงกับขอใด 1. มีดกลึงจะเดนิปอนจากขวามือไปทางขวามือ 2. มีดกลึงจะเดนิปอนจากขวามือไปทางซายมือ 3. มีดกลึงปอนกลึงปาดหนาดวยมือขวา 4. มีดกลึงปอนปอกผิวดวยมือขวา 5. มีดกลึงคมตดัเอียงไปทางขวามือ

16

20. มีดกลึงปาดหนาและมีดกลึงปอกผิวมุมอะไรของมีดกลึงทั้งสองมีคามุมเทากันเสมอ 1. มุมหลบขางมีด 2. มุมคายเศษเหล็ก 3. มุมหลบปลายมีด 4. มุมหลบหนามีด 5. มุมเอียงขางมีด

21. ใบวัดมุมท่ีใชวดัมุมคมตัดของมีดกลึงมีสเกลบอกองศาไวกี่องศา 1. มี 45 องศา 2. มี 90 องศา 3. มี 180 องศา 4. มี 270 องศา 5. มี 360 องศา

22. ใบวัดมุมสามารถอานคาความละเอียดไดสูงสุดตรงตามขอใด 1. อานคาเปนองศา 2. อานคาเปนลิปดา 3. อานคาเปนมิลลิเมตร 4. อานคาเปนเซนติเมตร 5. อานคาเปนนิ้วหรือเมตร

23. สวนประกอบหลักของใบวดัมุมที่ใชวัดมุมมีดกลึงและวัดมุมดอกสวานมีอะไรบาง 1. ใบวัดมุม 2. กานวดัมุม 3. สกรูยึดใบวัดมุม 4. สเกลบอกองศา 5. มีทั้ง 4 อยางตามขอ1-4

24. ดอกสวานทีใ่ชงานกันอยูท่ัวไปมีมุมจิกรวมเทากับกี่องศา 1. มุมจิกรวมเทากับ 108 องศา 2. มุมจิกรวมเทากับ 118 องศา 3. มุมจิกรวมเทากับ 128 องศา 4. มุมจิกรวมเทากับ 138 องศา 5. มุมจิกรวมเทากับ 148 องศา

17

25. วิธีการลับดอกสวานทั่ว ๆ ไปขอความใดถูกตองที่สุด 1. จับดอกสวานใหคมตัดสูงกวาศูนยกลางลอหินเจียระไน 2. จับดอกสวานใหคมตัดต่ํากวาศนูยกลางลอหินเจียระไน 3. จับดอกลําตัวสวานใหอยูตรงกลางกับหนาลอหินเจียระไน 4. จับดอกสวานใหเอียงไปทางดานซายหนาลอหินเจียระไน 5. จับดอกสวานใหเอียงไปทางดานขวาหนาลอหินเจียระไน

26. เครื่องกลึงชนิดใดตอไปนี้เหมาะสําหรับฝกงานกลึงพื้นฐานใหกับนักศกึษามากที่สุด 1. เครื่องกลึงตั้ง 2. เครื่องกลึงปอม 3. เครื่องกลึงหนาจาน 4. เครื่องกลึง ซี เอ็น ซี 5. เครื่องกลึงยันศูนย

27. เครื่องกลึงชนิดใดเหมาะสําหรับกลึงชิ้นงานที่เหมือน ๆ กัน และกลึงครั้งละจํานวนมาก ๆ ไดดีที่สุด 1. เครื่องกลึงตั้ง 2. เครื่องกลึงปอม 3. เครื่องกลึง ซี เอ็น ซี 4. เครื่องกลึงยันศูนย 5. เครื่องกลึงหนาจาน

28. สวนประกอบหลักที่สําคญัของเครื่องกลึงยันศูนยมีทั้งหมดกี่สวน 1. มี 4 สวน 2. มี 5 สวน 3. มี 6 สวน 4. มี 7 สวน 5. มี 8 สวน

29. สวนประกอบยอยของชุดหัวเครื่องกลึงแบบยันศูนยทีต่องใชบอยมากในการกลึงแตละครั้ง 1. ตารางบอกความเร็ว 2. คันโยกเปล่ียนความเร็ว 3. ตัวหมุนเปล่ียนทิศทางการหมุนปอน 4. ชุดเฟองทดหัวเครื่องกลึง 5. เพลาหัวเครื่องกลึง

18

30. สวนประกอบใดตอไปนีไ้มใชสวนประกอบยอยของชดุหัวเครื่องกลึงแบบยันศนูย 1. เพลาหัวเครื่องกลึง 2. คันโยกเปล่ียนความเร็ว 3. ตารางบอกความเร็วรอบ 4. ชุดเฟองทดหัวเครื่อง 5. ชุดปอมมีดกลึง

31. สวนประกอบยอยใดของชุดแทนเล่ือนที่ใชในการหมุนปอนกลึงปอกผิวดวยมือ 1. มือหมุนแทนตัดขวาง 2. มือหมุนชุดแทนเล่ือน 3. มือหมุนแทนเล่ือนบน 4. มือหมุนปอมมีดกลึง 5. มือหมุนเปล่ียนทิศทาง

32. ชุดแทนเล่ือนบนของเครื่องกลึงแบบยันศูนยใชสําหรับทําอะไรเปนสวนสําคัญหลัก 1. ใชกลึงปาดหนา 2. ใชกลึงปอกผวิ 3. ใชกลึงเรียวส้ันๆ 4. ใชกลึงเกลียว 5. ใชกลึงตกรอง

33. แทนตัดขวางของเครื่องกลึงแบบยันศูนยใชสําหรับทําอะไรเปนสวนใหญ 1. ใชกลึงปาดหนา 2. ใชกลึงปอกผวิ 3. ใชกลึงเรียว 4. ใชกลึงเกลียว 5. ใชกลึงตกรอง

34. ชุดแทนเล่ือนบนของเครื่องกลึงแบบยันศูนยสามารถหมุนปรับองศาไดกี่องศา 1. ปรับได 45 องศา 2. ปรับได 90 องศา 3. ปรับได 180 องศา 4. ปรับได 270 องศา 5. ปรับได 360 องศา

19

35. สวนประกอบใดของชุดแทนเล่ือนของเครื่องกลึงแบบยันศูนยที่ไมสามารถเดินกลึงอัตโนมัติได 1. แครครอม 2. ชุดกลองเฟอง 3. ชุดแทนเล่ือน 4. แทนเล่ือนบน 5. แทนตัดขวาง

36. สวนประกอบใดไมใชสวนประกอบยอยของชุดทายแทนของเครื่องกลึงแบบยันศนูย 1. เพลาศูนยทาย 2. ศูนยหมุนเครื่องกลึง 3. ลําตัวศูนยทาย 4. แขนโยกล็อคศูนยทาย 5. มือหมุนเพลาศูนยทาย

37. ชุดทายแทนของเครื่องกลึงแบบยันศูนยมีหนาที่หลักในการทําอะไร 1. ใชจับชิ้นงานกลึง 2. ใชเจาะรูชิ้นงานกลึง 3. ใชประกอบกับศูนยหมนุ 4. ใชยันศูนยประคองชิ้นงานกลึง 5. ใชตั้งศูนยใหกับมดีกลึงกอนใชงาน

38. ชุดเกียรบอค(Gear box)ของเครื่องกลึงแบบยันศูนยมีไวสําหรับทําอะไรเปนสําคัญ 1. ใชปรับตั้งกลึงเรียว 2. ใช ปรับตั้งกลึงเกลียว 3. ใชปรับตั้งกลึงปอกผิว 4. ใชปรับตั้งกลึงปาดหนา 5. ใชปรับตั้งคากลึงอัตโนมตัิ

39. เพลานําของเครื่องกลึงแบบยันศูนยใชสําหรับทําอะไรโดยเฉพาะ 1. ใชสําหรับกลึงเกลียว 2. ใชสําหรับกลึงเรียว 3. ใชสําหรับกลึงปอก 4. ใชสําหรับกลึงปาดหนา 5. ใชสําหรับกลึงอัตโนมัติ

20

40. หัวจับของเครื่องกลึงแบบยันศูนยแบบใดที่สามารถจับชิ้นงานกลึงไดทกุรูปแบบ 1. จานพาแบบเดือย 2. หัวจับแบบ 3 จับฟนพรอม 3. หัวจับแบบ 4 จับฟนอิสระ 4. จานพาแบบรอง 5. หัวจับสวาน

41. ขอใดเปนหลักการทํางานของเครื่องกลึงแบบยันศูนย 1. ชิ้นงานหมุนอยูกับที่มดีกลึงเคล่ือนที่ 2. ชิ้นงานหมุนอยูกับที่มดีกลึงอยูกับท่ี 3. ชิ้นงานหมุนเคลื่อนที่มีดกลึงเคล่ือนที่ 4. ชิ้นงานหมุนตามมีดกลึงเคล่ือนที่หมุนทวน 5. ชิ้นงานอยูกับที่มีดกลึงเดินเคล่ือนที่ซาย-ขวา

42. เพ่ือความปลอดภัยในการใชเครื่องกลึงแบบยันศูนยในการกลึงชิ้นงานทุกครั้งขอใดสําคญัมากที่สุด 1. ศึกษาวิธีการใชกอนใชเครื่องกลึงยันศูนย 2. จับชิ้นงานใหไดศูนยกลางใหถูกตองตามวิธีการ 3. จับมีดกลึงใหปลายคมมีดไดศูนยกลางถูกตองตามวิธกีาร 4. ปรับความเรว็รอบใหถูกตองตามขนาดความโตชิ้นงาน 5. ทุกขอที่กลาวมามีความสําคัญเทาๆกันทกุขอ

43. วิธีการบํารุงรกัษาเครื่องกลึงแบบยันศนูยขอใดควรปฏิบัติในการใชเครื่องกลึงทกุ ๆ วัน 1. ทําความสะอาดเครื่องกลึงกอนใชงานทกุวัน 2. ทําความสะอาดหลังเลิกใชเครื่องกลึงทุกวัน 3. ตรวจความพรอมกอนใชเครื่องกลึงทกุวัน 4. หยอดน้ํามันหลอล่ืนกอนใชเครื่องกลึงทุกวัน 5. ปรับความเรว็รอบเครื่องกลึงใหถูกตองกอนใชทกุวัน

44. การกลึงชิ้นงานดวยเครื่องกลึงแบบยนัศูนยขอใดควรจะปฏิบัติกอนทุกครั้งทีใ่ชเครื่องกลึง 1. จับชิ้นงานกลึงกับหัวจับกอน 2. จับมีดกลึงกับปอมมีดกลึงกอน 3. เตรียมเครื่องมือเครื่องจกัรและวัสดุอุปกรณกอน 4. ปรับความเรว็รอบในการกลึงชิ้นงานใหถูกตองกอน 5. หยอดน้ํามันหลอล่ืนและทําความสะอาดเครื่องกลึงกอน

21

45. การปรับความเร็วรอบของเครื่องกลึงแบบยันศนูยในการกลึงปอกผิวชิน้งานจะตองปรับความเรว็ รอบตามขอใดจึงจะถูกตองที่สุด

1. ปรับความเรว็ตามความยาวชิน้งานกลึง 2. ปรับความเรว็ตามความโตของหัวจับ 3. ปรับความเรว็ตามขนาดของเครื่องกลึง 4. ปรับความเรว็ตามความโตของชิ้นงานกลึง 5. ปรับความเรว็ตามความเหมาะสมที่คิดเอง

46. ในการกลึงชิ้นงานที่มีขนาดเสนผาศูนยกลางโตเทากนันั้น ขอความตามขอใดถกูตองตามหลักการ ที่สุด

1. การกลึงปาดหนาใหใชความเร็วรอบสูงที่สุดของเครื่อง 2. การกลึงปอกผวิใหใชความเร็วรอบต่ําที่สุดของเครื่อง 3. การกลึงปาดหนาใหใชความเร็วรอบสูงกวาการกลึงปอกผิวได 4. การกลึงปาดหนาใหใชความเร็วรอบต่ําที่สุดของเครื่อง 5. การกลึงปอกผวิใหใชความเร็วรอบสูงที่สุดของเครื่อง

47. การกลึงปาดหนาชิ้นงานดวยเครื่องกลึงแบบยันศูนยสามารถกลึงไดตามขอใดจึงจะถูกตอง 1. กลึงจากจุดศูนยกลางช้ินงานออกมาหาขอบชิ้นงาน 2. กลึงจากขอบชิ้นงานเขาหาจุดศูนยกลางช้ินงาน 3. กลึงจากจุดศูนยกลางช้ินงานออกมาไดเทานั้น 4. กลึงจากขอบชิ้นงานเขาหาจุดศูนยกลางเทานั้น 5. สามารถกลึงปาดหนาไดตามขอ 1 และขอ 2

48. การจับมดีกลึงกับปอมมดีจะตองจับตามขอใดถูกตองตามหลักการจับมดีกลึงที่ดี 1. จับมีดกลึงใหปลายคมมีดไดศูนยกลางช้ินงานกลึงทุกครั้ง 2. จับมีดกลึงใหปลายคมมีดสูงกวาศูนยกลางช้ินงานกลึงทกุครั้ง 3. จับมีดกลึงใหปลายคมมีดต่ํากวาศนูยกลางช้ินงานกลึงทุกครั้ง 4. จับมีดกลึงใหปลายคมมีดยืน่ออกจากปอมมีดมากที่สุดทุกครั้ง 5. จับมีดกลึงใหปลายคมมีดยืน่ออกจากปอมมีดนอยท่ีสุดทุกครั้ง

49. การกลึงปาดหนาจะตองตั้งมุมขางมีดเอียงกับผิวหนาชิน้งานประมาณกี่องศาจึงจะดีที่สุด 1. ตั้งมุมหลบขางมีดเอียงประมาณ 10 องศา 2. ตั้งมุมหลบขางมีดเอียงประมาณ 15 องศา 3. ตั้งมุมหลบขางมีดเอียงประมาณ 20 องศา 4. ตั้งมุมหลบขางมีดเอียงประมาณ 30 องศา 5. ตั้งมุมหลบขางมีดเอียงประมาณ 45 องศา

22

50. การกลึงพิมพลายผิวชิน้งานจะตองตั้งผิวหนาลอดอกพมิพลายทํามุมกับผิวชิ้นงานกี่องศา 1. จะตองตั้งมุม 180 องศา 2. จะตองตั้งมุม 90 องศา 3. จะตองตั้งมุม 45 องศา 4. จะตองตั้งมุม 30 องศา 5. จะตองตั้งมุม 15 องศา

51. เครื่องไสชนิดใดที่เหมาะสมสําหรับฝกไสชิ้นงานขัน้พืน้ฐานใหกับนกัศึกษามากที่สุด 1. เครื่องไสตั้ง 2. เครื่องไสนอน 3. เครื่องไสขึ้นรูป 4. เครื่องไสเฟองตรง 5. เครื่องไสรองล่ิม

52. สวนประกอบใดของเครื่องไสแนวนอนที่เคล่ือนที่นํามดีไสเดินหนาและถอยกลับหลัง 1. Ram เครื่องไส 2. หัวเครื่องไส 3. โตะจับงานไส 4. รางเล่ือนเครื่องไส 5. ปากกาจับงานไส

53. ชุดหัวเครื่องไสแนวนอนสามารถปรับเอียงมุมตรงหัวเครื่องไสไดขางละกี่องศา 1. ปรับเอียงขางละ 15 องศา 2. ปรับเอียงขางละ 30 องศา 3. ปรับเอียงขางละ 45 องศา 4. ปรับเอียงขางละ 60 องศา 5. ปรับเอียงขางละ 90 องศา

54. สวนประกอบตามขอใดของชุดหัวเครื่องไสแนวนอนทาํหนาที่ชวยยกมีดไสขณะมีดไสชักกลับ 1. Feed Screw Handle. 2. Clapper Box. 3. Clapper Block. 4. Tool Slide. 5. Tool Post.

23

55. ชุดหัวเครื่องไสแนวนอนคลายกับชุดอะไรของเครื่องกลึงแบบยันศูนย 1. ชุดเกียรบอค 2. ชุดทายแทน 3. ชุดหัวเครื่อง 4. ชุดแทนเล่ือน 5. ชุดแทนเล่ือนบน

56. Ram ของเครื่องไสแนวนอนทําหนาที่หลักตามขอใดทีสุ่ด 1. นําชิ้นงานเคลื่อนที่ไปขางหนาอยางเดียว 2. นําชิ้นงานเคลื่อนที่ซาย-ขวา 3. นําชิ้นงานเคลื่อนที่หนาหลัง 4. นํามีดไสเคล่ือนที่หนา-หลัง 5. นํามีดไสเคล่ือนที่ขึ้น-ลง

57. เม่ือตองการปรับมีดไสใหสามารถไสตรงกับตําแหนงช้ินงานไดพอดจีะตองปรับสวนใดของ เครื่องไสแนวนอนจึงสามารถปรับมีดไสตามตองการได

1. ปรับท่ี Ram เครื่องไส 2. ปรับท่ีปากกาจับงานไส 3. ปรับท่ีหัวเครื่องไส 4. ปรับท่ีโตะงานไส 5. ปรับท่ีรางเล่ือนไส

58. หนาท่ีหลักของโตะงานไสของเครื่องไสแนวนอนใชสําหรับทําอะไรเปนสําคัญ 1. ใชจับยึดปากกาจับงาน 2. ใชจับยึดงานไสและปากกาจับงาน 3. ใชนําชิ้นงานไสเคล่ือนที่ซาย-ขวา 4. ใชนําชิ้นงานไสเคล่ือนที่หนา-หลัง 5. ใชนําชิ้นงานไสเคล่ือนที่ขึ้น-ลง

59. เพลาหมุนเล่ือนโตะงานไสของเครื่องไสแนวนอนทําหนาที่ตรงกับขอใดจึงจะถูกตอง 1. เพลาโตะงานไสตัวบนหมุนนําโตะงานไสเคล่ือนที่ซาย- ขวา 2. เพลาโตะงานไสตัวลางหมุนนําโตะงานไสเคล่ือนที่ขึน้- ลง 3. เพลาโตะงานไสตัวบนหมุนนําโตะงานไสเคล่ือนที่หนา- หลัง 4. เพลาโตะงานไสตัวลางหมุนนําโตะงานไสเคล่ือนที่หนา- หลัง 5. เพลาโตะงานไส 2 ตัว ทําหนาที่ตามขอ1 และขอ2

24

60. การทํางานของแขนโยกคลัตซของเครื่องไสแนวนอนตามขอใดที่ทําให Ram เคล่ือนที่ทํางานได 1. ยกแขนคลัตซขึ้นจากตัวเครื่องไส 2. กดแขนคลัตซเขาหาตวัเครื่องไส 3. ดึงแขนคลัตซออกจากตวัเครื่องไส 4. กดแขนคลัตซเขาหรือออกจากตวัเครื่องก็ได 5. ไมมีขอใดทีก่ลาวมาสามารถให Ram เคล่ือนที่ได

61. สวิตชเปด-ปดของเครื่องไสแนวนอนทําหนาที่หลักตรงกับขอใด 1. เปดสวิตชเครื่องไสใหมอเตอรหมุนทํางาน 2. เปดสวิตชเครื่องไสให Ram เคล่ือนที่ทํางาน 3. เปดสวิตชเครื่องไสใหเดินปอนไสชิ้นงาน 4. เปดสวิตชเครื่องไสใหโตะเครื่องไสเคล่ือนที่ 5. เปดสวิตชเครื่องไสใหชุดคลัตชหมุนทํางาน

62. หลักการทํางานของเครื่องไสแนวนอนตรงกับขอใด 1. Ram เครื่องไสเคล่ือนที่หนา-หลัง 2. มีดไสเคล่ือนที่ขึ้น-ลง 3. โตะงานไสเคล่ือนที่ซาย-ขวาและขึ้น-ลง 4. ขอ1 ขอ2 และขอ3 เปนหลักการทํางานของเครื่องไสนอน 5. ไมมีขอใดที่เปนหลักการของเครื่องไสนอนเลยแมแตขอเดียว

63. ขอใดตอไปนี้ไมควรกระทําเปนอยางยิ่งขณะไสช้ินงานดวยเครื่องไสแนวนอน 1. ใชแปรงปดเศษไสขณะเครื่องไสกําลังไสชิ้นงาน 2. ใชทอลมเปาเศษไสขณะเครื่องไสกําลังไสชิ้นงาน 3. กมหนาลงไปมองชิ้นงานตรงหนามีดไสขณะไสช้ินงาน 4. ปรับความเรว็เครื่องไสขณะมอเตอรกําลังหมุน 5. ปอนเดินไสอัตโนมัตขิณะ Ram เคล่ือนที่ทํางาน

64. การปรับระยะเพ่ือตั้งมีดไส เพื่อใหไสผิวชิ้นงานในแนวราบระยะการปรับขอใดปรับถูกตองที่สุด 1. ปรับระยะใหชวงหนามีดหางจากชิ้นงานประมาณ 10 มม. 2. ปรับระยะใหชวงหนามีดหางจากชิ้นงานประมาณ 20 มม. 3. ปรับระยะใหชวงหลังมีดหางจากชิน้งานประมาณ 20 มม. 4. ปรับระยะใหชวงหลังมีดหางจากชิน้งานประมาณ 30 มม. 5. ปรับระยะใหชวงหนามีดและชวงหลังมีดเทาไรก็ไดทั้งนั้น

25

65. หลักการปรับระยะชักและหลักการปรับระยะไสขอใดปฏิบัติถูกตองที่สุด 1. ปรับระยะไสใหปรับที่ Ram เครื่องไส 2. ปรับระยะชักใหปรับที่เพลาขางเครื่องไส 3. ปรับระยะชักใหยาวใหหมุนเพลาตามเข็มนาฬิกา 4. ปรับระยะชักใหส้ันใหหมุนเพลาทวนเข็มนาฬิกา 5. ที่บอกมาท้ังหมดเปนการปรับระยะชกัและระยะไสที่ถูกตอง

66. ตามโรงงานอุตสาหกรรม และตามโรงกลึงทั่ว ๆ ไปเครื่องเจาะชนิดใดที่นิยมใชงานกันมากที่สุด 1. เครื่องเจาะดวยมือ 2. เครื่องเจาะตั้งโตะอยางเดยีว 3. เครื่องเจาะตั้งพื้นอยางเดียว 4. เครื่องเจาะรัศมีอยางเดียว 5. เครื่องเจาะตั้งโตะและเครื่องเจาะตั้งพื้น

67. เครื่องเจาะชนิดใดที่สามารถเจาะรูชิน้งานซ่ึงวางอยูบริเวณรอบ ๆ เครื่องเจาะได 1. เครื่องเจาะรัศมี 2. เครื่องเจาะตั้งโตะ 3. เครื่องเจาะตั้งพื้น 4. เครื่องเจาะดวยมือ 5. เครื่องเจาะตั้งโตะและเครื่องเจาะตั้งพื้น

68. ตามหลักการใชเครื่องเจาะแบบตั้งโตะที่ถูกตอง จะตองใชกับดอกสวานขนาดความโตไมเกนิเทาไร 1. ไมเกินขนาด 12 มม. 2. ไมเกินขนาด 13 มม. 3. ไมเกินขนาด 14 มม. 4. ไมเกินขนาด 15 มม. 5. ไมเกินขนาด 16 มม.

69. เครื่องเจาะแบบตั้งพ้ืนสามารถใชกับดอกสวานกานเรียวตั้งแตขนาดเทาไรขึ้นไป 1. ขนาด 14 มม. ขึ้นไป 2. ขนาด 16 มม. ขึ้นไป 3. ขนาด 18 มม. ขึ้นไป 4. ขนาด 20 มม. ขึ้นไป 5. ขนาด 25 มม. ขึ้นไป

26

70. ขอความใดตอไปนี้เปนขอความที่ถูกตองที่สุด 1. เครื่องเจาะตั้งโตะใชกับดอกสวานกานตรงเทานัน้ 2. เครื่องเจาะตั้งพื้นใชกับดอกสวานกานเรยีวเทานัน้ 3. เครื่องเจาะตั้งโตะ ตั้งพื้น และรัศมี สามารถปรับใชกับดอกสวานไดทุกแบบ 4. เครื่องเจาะรัศมีใชกับดอกสวานกานเรียวเทานั้น 5. เครื่องเจาะดวยมือใชกับดอกสวานกานเรยีวเทานั้น

71. เครื่องเจาะชนิดใดโดยทั่วไปการสงกําลังจากมอเตอรไปยังเพลาเจาะดวยสายพานเทานัน้ 1. เครื่องเจาะรัศมี 2. เครื่องเจาะตั้งพื้น 3. เครื่องเจาะตั้งโตะ 4. เครื่องเจาะดวยมือ 5. เครื่องเจาะตั้งโตะและเครื่องเจาะตั้งพื้น

72. เครื่องเจาะรัศมีโดยทัว่ไปจะใชสําหรับเจาะชิ้นงานตามขอใดทีด่ีที่สุด 1. ใชเจาะชิ้นงานใหญเคล่ือนที่ยาก 2. ใชเจาะชิ้นงานเล็ก ๆ 3. ใชเจาะชิ้นงานกลม 4. ใชเจาะชื่นงานบาง 5. ใชเจาะพวกทองเหลือง

73. ขอใดตอไปนี้เปนหลักการทํางานของเครื่องเจาะโดยทัว่ไป 1. ชิ้นงานเคล่ือนที่ขึน้-ลง สวานอยูกับที่ 2. ชิ้นงานอยูกับที่ สวานหมุนเคล่ือนที่ขึน้- ลง 3. ชิ้นงานเคล่ือนที่ สวานก็เคล่ือนที่ 4. ชิ้นงานหมุนกับที่ สวานหมุนเคลื่อนที่ 5. ชิ้นงานหมุนกับที่ สวานเดินเคล่ือนที่

74. การเจาะชิ้นงานดวยเครื่องเจาะแบบตั้งโตะ และเครื่องเจาะแบบตั้งพื้นขอใดถกูตองที่สุด 1. มือซายจับชิ้นงานใหเล่ือนปอนเจาะ 2. มือขวาจับชิ้นงานใหเล่ือนปอนเจาะ 3. มือซายจับชิ้นงานมือขวาจับดอกสวาน 4. เมือขวาจับงานมือซายจับแขนปอนเจาะ 5. มือซายจับงานมือขวาหมุนแขนปอนเจาะ

27

75. การปรับความเร็วรอบของเครื่องเจาะแบบตั้งโตะ และการปรับความเร็วรอบของเครื่องเจาะแบบตั้ง พื้นจะตองใชหลักการปรับความเร็วรอบตามขอใดจึงถือวาถูกตองที่สุด

1. ปรับความเรว็ตามความเหมาะสม 2. ปรับความเรว็ตามชนดิของเครื่องเจาะ 3. ปรับความเรว็ตามขนาดของเครื่องเจาะ 4. ปรับความเรว็ตามขนาดความโตดอกสวาน 5. ปรับความเรว็ตามความโตของชิ้นงานเจาะ

...................................................................................................................................................................

28

เฉลยแบบทดสอบกอนเรียน วิชางานเคร่ืองมอืกลเบือ้งตน รหัสวิชา 2100-1007

ขอที่1 ตอบขอ 3 ขอที่26 ตอบขอ 2 ขอที่51 ตอบขอ 4 ขอที่2 ตอบขอ 3 ขอที่27 ตอบขอ 2 ขอที่52 ตอบขอ 4 ขอที่3 ตอบขอ 3 ขอที่28 ตอบขอ 2 ขอที่53 ตอบขอ 4 ขอที่4 ตอบขอ 3 ขอที่29 ตอบขอ 2 ขอที่54 ตอบขอ 4 ขอที่5 ตอบขอ 3 ขอที่30 ตอบขอ 2 ขอที่55 ตอบขอ 4 ขอที่6 ตอบขอ 3 ขอที่31 ตอบขอ 2 ขอที่56 ตอบขอ 4 ขอที่7 ตอบขอ 3 ขอที่32 ตอบขอ 2 ขอที่57 ตอบขอ 4 ขอที่8 ตอบขอ 3 ขอที่33 ตอบขอ 2 ขอที่58 ตอบขอ 4 ขอที่9 ตอบขอ 3 ขอที่34 ตอบขอ 2 ขอที่59 ตอบขอ 4 ขอที่10 ตอบขอ 3 ขอที่35 ตอบขอ 2 ขอที่60 ตอบขอ 4 ขอที่11 ตอบขอ 3 ขอที่36 ตอบขอ 2 ขอที่61 ตอบขอ 4 ขอที่12 ตอบขอ 3 ขอที่37 ตอบขอ 2 ขอที่62 ตอบขอ 4 ขอที่13 ตอบขอ 3 ขอที่38 ตอบขอ 2 ขอที่63 ตอบขอ 4 ขอที่14 ตอบขอ 3 ขอที่39 ตอบขอ 2 ขอที่64 ตอบขอ 4 ขอที่15 ตอบขอ 3 ขอที่40 ตอบขอ 2 ขอที่65 ตอบขอ 4 ขอที่16 ตอบขอ 3 ขอที่41 ตอบขอ 2 ขอที่66 ตอบขอ 4 ขอที่17 ตอบขอ 3 ขอที่42 ตอบขอ 2 ขอที่67 ตอบขอ 4 ขอที่18 ตอบขอ 3 ขอที่43 ตอบขอ 2 ขอที่68 ตอบขอ 4 ขอที่19 ตอบขอ 3 ขอที่44 ตอบขอ 2 ขอที่69 ตอบขอ 4 ขอที่20 ตอบขอ 3 ขอที่45 ตอบขอ 2 ขอที่70 ตอบขอ 4 ขอที่21 ตอบขอ 3 ขอที่46 ตอบขอ 2 ขอที่71 ตอบขอ 4 ขอที่22 ตอบขอ 3 ขอที่47 ตอบขอ 2 ขอที่72 ตอบขอ 4 ขอที่23 ตอบขอ 3 ขอที่48 ตอบขอ 2 ขอที่73 ตอบขอ 4 ขอที่24 ตอบขอ 3 ขอที่49 ตอบขอ 2 ขอที่74 ตอบขอ 4 ขอที่25 ตอบขอ 3 ขอที่50 ตอบขอ 2 ขอที่75 ตอบขอ 4

…………………………………………………………………………………………………..

29

ใบความรู หนวยที่ 1

เรื่อง การตัดเหล็ก

1. ลักษณะการตดัเหลก็ดวยเคร่ืองเลือ่ยกล การตัดเหล็กเสนดวยเครื่องเล่ือยกลจะมีลักษณะดังรูปดานลาง

ทิศทางการตัดเหล็ก ปากกาจับงาน

ทอน้ําหลอเย็น

เหล็กเสน

รูปที่ 1.1 แสดงการตัดเหล็กเสนดวยเล่ือยกล (ที่มา : ภาพถายโดยผูเรียบเรียง)

จากรูปที่ 1.1 เปนการแสดงการตัดเหล็กดวยเครื่องเล่ือยกลซ่ึงประกอบดวยเหล็กเสน เครื่องเล่ือย น้ําหลอเย็น และทิศทางการเล่ือยตัดเหล็ก

30

2. รูปทรงหนาตดัของเหลก็เสน เหล็กเสนที่มีจําหนายตามทองตลาดทั่วไปทีน่ํามาตัดเพื่อผลิตชิ้นสวนเครื่องมือกลจะมรีูปทรง

หนาตัดตาง ๆ ดังภาพ

1. เหล็กกลม 2. เหล็กส่ีเหล่ียมจัตุรัส 3. เหล็กส่ีเหล่ียมผืนผา 4. เหล็กหกเหล่ียม

5. เหล็กสามเหล่ียมดานเทา 6. เหล็กตัวไอ 7. เหล็กตัวยู 8. เหล็กฉาก

รูปที่ 1.2 แสดงรูปทรงหนาตัดของเหล็กเสนตางๆที่ใชสรางชิ้นสวนเครื่องมือกล (ที่มา : ภาพเขียนโดยผูเรียบเรียง)

จากรูปที่ 1.2 เปนภาพการมองผิวหนาตัดของเหล็กเสนที่มจีําหนายตามทองตลาดทั่ว ๆไป และ นํามาเล่ือยตัดดวยเครื่องเล่ือยกลตาง ๆ เพื่อใชสรางเปนชิ้นสวนเครื่องมือกลตอไป เชน 1.เหล็กกลม 2.เหล็กส่ีเหล่ียมจัตุรัส 3.เหล็กส่ีเหล่ียมผืนผา 4.เหล็กหกเหล่ียม 5.เหล็กสามเหล่ียมดานเทา 6.เหล็กรูป ตัวไอ 7.เหล็กรูปตัวยู และ 8.เหล็กฉาก

31

3. ชนิดของเคร่ืองเลือ่ยกล เครื่องเล่ือยกลที่ใชในการตัดเหล็กมีหลายชนิด และเครื่องเล่ือยกลทุกชนิดสามารถตัดเหล็ก

ตามรูปทรงตาง ๆ ได เครื่องเล่ือยกลแตละชนิดมีชื่อเรียกดังนี้ คือ เครื่องเล่ือยกลแบบชักแบบธรรมดา เครื่องเล่ือยกลแบบชักปอนตัดดวยระบบไฮดรอลิกส เครือ่งเล่ือยกลแบบสายพานแนวนอน เครื่องเล่ือย กลแบบสายพานแนวตั้ง เครื่องตัดเหล็กใบตัดเปนไฟเบอร เครื่องเล่ือยกลแตละชนิดจะมีรูปรางลักษณะ ดังรูปตอไปนี้

3.1 เคร่ืองเลื่อยกลแบบชกัธรรมดา เครื่องเล่ือยกลแบบชักธรรมดา เปนเครื่องเล่ือยกลที่ใชตามรานคาขายเหล็กเสนทั่วไปท่ีใช

ตัดเหล็กใหลูกคาเปนเครื่องเล่ือยกลที่ใชงานไดสะดวกรวดเร็วไมยุงยาก ลูกถวง

โครงเล่ือย

หนา เหล็กเสน

ใบเล่ือย

ปากกาจับงาน

รูปที่ 1.3 แสดงรูปรางลักษณะของเครือ่งเล่ือยกลแบบชักธรรมดา (ที่มา : ภาพถายโดยผูเรียบเรียง)

จากรูปที่ 1.3 เปนรูปรางลักษณะของเครื่องเล่ือยกลแบบชักธรรมดา ขณะตัดเหล็กใบเล่ือยจะกด ปอนตัดดวยแรงกดจากลูกถวงที่อยูดานบนโครงเล่ือย จับชิ้นงานดวยปากกาจับงาน ใบเล่ือยจะเคล่ือนที่ เดินหนาและถอยหลังตามโครงเล่ือย ฟนใบเล่ือยจะชี้มาดานหนา และจะเล่ือยตัดเนื้อเหล็กขณะที่เดนิมา ดานหนา ดังนั้นการประกอบใบเล่ือยจะตองประกอบใหฟนใบเล่ือยชี้ไปดานหนา

32

3.2 เคร่ืองเลื่อยกลแบบชกัปอนตดัดวยไฮดรอลกิส เครื่องเล่ือยกลแบบชักปอนตัดดวยระบบไฮดรอลิกส โดยทั่วไปจะใชในสถานศกึษาเพื่อ

ใชฝกใหนกัศึกษาใชในการตดัเหล็กเพ่ือสรางชิ้นสวนเครื่องมือกลตาง ๆ

ตําแหนงปอนตัดดวยระบบไฮดรอลิกส

รูปที่ 1.4 แสดงรูปรางลักษณะของเครื่องเล่ือยกลแบบชักปอนตัดดวยระบบไฮดรอลิกส (ที่มา : ภาพถายโดยผูเรียบเรียง)

ตําแหนงปอนตัดดวยระบบไฮดรอลิกส

รูปที่ 1.5 แสดงรูปรางลักษณะของเครื่องเล่ือยกลแบบชักปอนตัดดวยระบบไฮดรอลิกส (ที่มา : ภาพถายโดยผูเรียบเรยีง)

จากรูปที่ 1.4 เปนรูปรางลักษณะของเครื่องเล่ือยกลแบบชักปอนตัดดวยระบบไฮดรอลิกส สวน รูปที่ 1.5 เปนรูปรางลักษณะของเครื่องเล่ือยกลปอนตัดดวยระบบไฮดรอลิกส เครื่องเล่ือยกลทั้ง 2 แบบ จะปอนตัดงานดวยระบบไฮดรอลิกส ซ่ึงใชงานตามสถานศึกษาเปนสวนใหญใชสําหรับใหนักศกึษาฝก ตัดเหล็กเพ่ือนําไปสรางชิ้นสวนเครื่องมือกลตอไป

33

3.3 เคร่ืองเลื่อยกลแบบสายพานแนวนอน เครื่องเล่ือยกลแบบสายพานแนวนอน สวนใหญนยิมใชตามโรงงานอุตสาหกรรม และใช

ตามสถานศึกษาดวย เพราะสามารถใชตัดเหล็กไดสะดากรวดเร็ว ทิศทางการเดินของใบเล่ือยสายพาน

ใบเล่ือยสายพาน

รูปที่ 1.6 แสดงรูปรางลักษณะของเครื่องเล่ือยกลแบบสายพานแนวนอน (ที่มา : บริษัท เอ็กเซล แมชีน เทค จํากัด.)

จากรูปที่ 1.6 เปนรูปรางลักษณะของเครื่องเล่ือยกลแบบสายพานแนวนอน เปนเครื่องเล่ือยกลที่ เหมาะสําหรับตัดโลหะออน เชน ทองเหลือง อลูมีเนียม จะปอนตัดดวยระบบไฮดรอลิกส

3.4 เคร่ืองเลื่อยกลแบบสายพานแนวตั้ง เครื่องเล่ือยกลแบบสายพานแนวตั้ง เปนเครื่องเล่ือยที่นิยมใชตามโรงงานอุตสาหกรรม

และใชตามสถานศึกษาเชนกนั เพราะสามารถใชเล่ือยตัดเหล็กใหเปนเสนโคงไดคลายกับเล่ือยฉลุ

ทิศทางการเดินของใบเล่ือย

ใบเล่ือยสายพาน

ชิ้นงานเหล็กแผน

รูปที่ 1.7 แสดงรูปรางลักษณะของเครื่องเล่ือยกลแบบสายพานแนวตั้ง (ที่มา : ภาพถายโดยผูเรียบเรียง)

จากรูปที่ 1.7 เปนภาพเครื่องเล่ือยกลแบบสายพานแนวตั้ง เปนเครื่องเล่ือยที่สามารถเล่ือยเหล็ก แผนบาง ๆ ใหเปนรูปโคงตาง ๆ ไดเชนเดียวกับเล่ือยฉลุ การเดินปอนตัดตองใชมือกด และดันชิ้นงาน เขาไปหาใบเล่ือย การใชตองระวังอยาใหมือเขาไปโดนฟนเล่ือยจะเปนอันตรายได

34

3.5 เคร่ืองตดัเหล็กใบตัดไฟเบอร เครื่องตัดเหล็กใบตัดไฟเบอร เปนเครื่องตดัเหล็กที่นิยมใชตามโรงงาน หรือรานคาที่ทํางาน

เกี่ยวกับเหล็กดัด และโรงงานที่ทําเกี่ยวกับเหล็กทอ เพราะเครื่องตัดเหล็กใบตัดไฟเบอรใชตดัเหล็ก กลวงไดเปนอยางดีและรวดเรว็ เชน ตัดเหล็กทอประปา ตดัเหล็กทอเหล่ียมทั่วไปดังรูปดานลาง

ดามมือจับกดปอนตดั

สวิตซเปด-ปด

ใบตัดไฟเบอร

ปากกาจับงาน ช้ินงาน

รูปที่ 1.8 แสดงรูปรางลักษณะของเครื่องตัดเหล็กใบตดัไฟเบอร (ที่มา : ภาพถายโดยผูเรียบเรียง)

จากรูปที่ 1.8 เปนรูปรางลักษณะของเครื่องตดัเหล็กใบตดัไฟเบอรมีสวนประกอบตาง ๆ ดังรูป การปอนตดัเหล็กตองใชมือจับดามแลวกดลงใหใบตดัไฟเบอรตัดเหล็ก นิยมใชตัดเหล็กทอไมวาจะเปน ทอกลมหรือเหล่ียมสามารถตัดไดรวดเร็ว แตมขีอเสียคือจะมีเสียงดังและมีเศษประกายไฟออกมามาก

35

4. สวนประกอบของเคร่ืองเลื่อยกลชนดิตาง ๆ และหนาที่การใช เครื่องเล่ือยกลแตละชนิดจะมีสวนประกอบหลักทีค่ลายกัน และจะมีสวนประกอบยอยตางกนั

เล็กนอย สวนหนาท่ีการใชงานกจ็ะคลายกัน ดังตอไปนี้

4.1 เคร่ืองเลื่อยกลแบบชกัปอนตดัดวยระบบไฮดรอลิกส เครื่องเล่ือยกลชนิดนี้จะมีสวนประกอบหลายอยาง และสวนประกอบแตละอยางจะมีชื่อดัง

รูปดานลาง

2.ใบเล่ือย 1.โครงเล่ือย

3.ปากกาจับงาน 4.ตัวตั้งพกัโครงเล่ือย

6.สวิตชเปด-ปด 5.มือหมุนปากกาจับงาน

8.ตัวตั้งระยะชิ้นงาน 7.ทอน้ําหลอเย็น

10.เฟองทดสงกําลัง 9.ฐานเครื่องเล่ือย

12.พูเลย

13.สายพาน

14.มอเตอร 11.ชุดปอนระบบไฮดรอลิกส 15.ปมน้ําหลอเย็น

รูปที่ 1.9 แสดงสวนประกอบตางๆของเครื่องเล่ือยกลแบบชักปอนตัดดวยระบบไฮดรอลิกส (ที่มา : ภาพถายโดยผูเรียบเรียง)

จากรูปที่ 1.9 เปนสวนประกอบตาง ๆ ของเครื่องเล่ือยกลแบบชักปอนตัดดวยระบบ ไฮดรอลิกส สวนประกอบแตละสวนจะมีหนาที่การใชงาน ดังตารางที1่.1 ตอไปนี้

36

ตารางที่ 1.1 สวนประกอบของเครื่องเล่ือยกลแบบชักปอนตัดดวยระบบไฮดรอลิกสและหนาท่ีการใช ชื่อสวนประกอบ หนาที่การใชงาน

1. โครงเลือ่ย เปนตัวจับยดึใบเล่ือยใหเคล่ือนที่ไป-มา หนา-หลังขณะเล่ือยตัดชิ้นงาน 2. ใบเลื่อย เปนใบตัดในการตดัเหล็กเสนใหขาดจากกนั 3. ปากกาจับงาน เปนตัวจับชิน้งานที่เปนเหล็กเสนที่นํามาตดัเปนชิ้นงานตอไป 4. ตัวตั้งพักโครงเลื่อย เปนตัวรองรับพกัโครงเล่ือยหลังเลิกการใชงานแลว 5. มือหมุนปากกาจับงาน เปนแขนหมุนเกลียวปากกาจับชิน้งานเหล็กเสนที่นํามาตดั 6. สวิตชเปด-ปด เปนตัวเปด-ปด สวิตซใหโครงเล่ือยเคล่ือนที่ตัดชิ้นงาน 7. ทอน้ําหลอเย็น เปนทอใหน้ําหลอเย็นไหลผานมาหลอเย็นตรงรอยเล่ือยชิ้นงาน 8. ตัวตั้งระยะชิ้นงาน เปนตัวตั้งระยะความยาวชิน้งานที่ตองการตัดความยาวเทาๆกัน 9. ฐานเคร่ืองเลื่อย เปนตัวรองรับสวนตางๆของเครื่องเล่ือยทั้งหมด 10. เฟองทดสงกําลัง เปนตัวสงกําลังใหกับโครงเล่ือย ซ่ึงรับกําลังขับมาจากมอเตอร 11. ชุดปอนระบบไฮดรอลกิส เปนตัวหมุนปรับระบบไฮดรอลิกสใหโครงเล่ือยเล่ือนลง 12. พูเลย เปนสงกําลังและทดความเร็วรอบมาจากมอเตอร 13. สายพาน เปนตัวสงกําลังระหวางพูเลยตัวที่หนึ่งไปยังพูเลยตวัที่สอง

เพ่ือทดความเร็วในการหมุนลง 14. มอเตอร เปนตัวตนกําลังในการขับเคล่ือนใหโครงเล่ือยทํางาน 15. ปมน้ําหลอเย็น เปนตัวปมน้ําหลอเย็นจากถังมาชวยระบายความรอนระหวางใบเล่ือย

กับชิ้นงานขณะเล่ือยตัด

37

4.2 เคร่ืองเลื่อยกลแบบสายพานแนวนอน เครื่องเล่ือยกลแบบสายพานแนวนอนจะมีสวนประกอบหลายอยาง และสวนประกอบแต

ละอยางจะมีชื่อดังรูปดานลาง

3.ตัวปรับใบเล่ือย 1.โครงเล่ือย 2.สวิตชเปด-ปด 4.มอเตอร

5.ใบเล่ือยสายพาน 6.มือหมุนปากกาจับงาน

7.ตัวตั้งระยะความยาวชิ้นงาน 8.ปากกาจับชิ้นงาน 9.ฐานเครื่อง

รูปที่ 1.10 แสดงสวนประกอบตาง ๆ ของเครื่องเล่ือยกลแบบสายพานแนวนอน (ที่มา : บริษัท เอ็กเซล แมชีน เทค จํากดั.)

จากรูปที่ 1.10 เปนสวนประกอบตาง ๆ ของเครื่องเล่ือยกลแบบสายพานแนวนอน สวนประกอบ แตละสวนจะมีหนาทีก่ารใชงานดังตารางที่ 1.2 ตอไปนี้

ตารางที1่.2 สวนประกอบของเครื่องเล่ือยกลแบบสายพานแนวนอนและหนาท่ีการใช ชื่อสวนประกอบ หนาที่การใชงาน

1. โครงเลือ่ย เปนตัวประกอบใบเล่ือยสายพานใหหมุนเคล่ือนที่ 2. สวิตชเปด-ปด ใชเปด-ปดใหใบเล่ือยเดินหมุนเคล่ือนที่สํางาน 3. ตัวปรับใบเลื่อย เปนตัวหมุนปรับเล่ือนใหลอพูเลยปรับดึงใบเล่ือยสายพานใหตึง 4. มอเตอร เปนตัวตนกําลังหมุนพาใหใบเล่ือยเดินหมุนเคล่ือนที่ตดัเหล็กชิ้นงาน 5. ใบเลื่อยสายพาน เปนใบตัดใหเหล็กเสนขาดจากกัน 6. มือหมุนปากกาจับวาน เปนตัวหมุนเกลียวปากกาจับเหล็กทีจ่ะตัดดวยเล่ือยสายพานใหแนน 7. ตัวตั้งระยะชิ้นงาน เปนตัวตั้งระยะความยาวชิน้งานที่ตองการตัดความยาวเทาๆกัน 8. ปากกาจับชิ้นงาน เปนตัวจับชิน้งานที่เปนเหล็กเสนที่นํามาตดัเปนชิ้นงานตอไป

38

4.3 เคร่ืองเลื่อยกลแบบสายพานแนวตั้ง เครื่องเล่ือยกลแบบสายพานแนวตั้งจะมีสวนประกอบหลายอยาง และสวนประกอบแตละ

อยางจะมีชื่อดังรูปดานลาง

3.ชุดประคองใบเล่ือย 4.ใบเล่ือยสายพาน

1.ชุดตอใบเล่ือย 2. สวิตชเปด-ปด 5.โตะรองรับงาน

6.ชุดปรับความเรว็ใบเล่ือย

รูปที่ 1.11 แสดงสวนประกอบตาง ๆ ของเครื่องเล่ือยกลแบบสายพานแนวตั้ง (ที่มา : ภาพถายโดยผูเรียบเรียง)

จากรูปที่ 1.11 เปนสวนประกอบของเครื่องเล่ือยกลแบบสายพานแนวตั้ง สวนประกอบแตละ อยางจะมีหนาที่การใชงานดังตารางที1่.3 ตอไปนี้

ตารางที่ 1.3 สวนประกอบของเครื่องเล่ือยกลแบบสายพานแนวตั้งและหนาท่ีการใช ชื่อสวนประกอบ หนาที่การใชงาน

1. ชุดตอใบเลือ่ย ใชในการเช่ือมตอใบเล่ือยสายพานกรณีทีใ่บขาดจากกนั 2. สวิตชเปด-ปด เปนตัวเปด-ปดสวิตชใหใบเล่ือยหมุนเดินเล่ือยตัดชิน้งาน 3. ชุดประคองใบเลือ่ย เปนตัวประคองใบเล่ือยสายพายพานไมใหแกวงขณะเล่ือยตัดงาน 4. ใบเลื่อยสายพาน เปนใบตัดใชเล่ือยตัดชิ้นงานที่เปนเหล็กแผนบางๆ 5. โตะรองรับงาน เปนโตะรองรับชิ้นงานตัดเหล็กแผนของเครื่องเล่ือย 6. ชุดปรับความเร็วใบเลื่อย เปนชุดปรับความเร็วใบเล่ือยสายพานใหเดินเรว็หรือเดินชา

39

4.4 เคร่ืองตดัเหล็กใบตัดไฟเบอร เครื่องตัดเหล็กใบตัดไฟเบอรจะมีสวนประกอบหลายอยาง และสวนประกอบแตละอยาง

จะมีชื่อดังรูปดานลาง

1.มือจับเครื่องตัด

2.สวิตชเปด-ปด 6.ฝาครอบใบตดัไฟเบอร

3.มอเตอร

4.ปากกาจับงาน 7.ใบตัดไฟเบอร

5.ฐานเครื่องตัด รูปที่ 1.12 แสดงสวนประกอบของเครื่องตัดเหล็กใบตดัไฟเบอร

(ที่มา : บริษัท พาวเวอรเท็กซ จํากดั.) จากรูปที่ 1.12 เปนสวนประกอบตาง ๆ ของเครื่องตดัเหล็กใบตัดไฟเบอร สวนประกอบ

แตละสวนจะมีหนาทีก่ารใชงานดังตารางที1่.4 ตอไปนี้

ตารางที่ 1.4 สวนประกอบของเครื่องตดัเหล็กใบตัดไฟเบอรและหนาท่ีการใช ชื่อสวนประกอบ หนาที่การใชงาน

1. มือจับเคร่ืองตดั เปนมือจับใชสําหรับจับกดตดัชิ้นงาน 2. สวิตชเปด-ปด เปนตัวเปด-ปดสวิตชใหใบตดัไฟเบอรหมุนหรือหยุดตดัทํางาน 3. มอเตอร เปนตนกําลังในการหมุนขับใหใบตัดไฟเบอรหมุนตัดงาน 4. ปากกาจับงาน เปนตัวบีบจับชิน้งานกอนตัดไมใหเคล่ือนที่ 5. ฐานเคร่ืองตัด เปนฐานรองรับเครื่องตัดเหล็กใบตัดไฟเบอรทั้งหมด 6. ฝาครอบใบตัดไฟเบอร เปนฝาครอบใบตดัไฟเบอรไมใหประกายไฟกระเด็นเขาตา 7. ใบตดัไฟเบอร เปนใบตัดใชสําหรับตัดชิน้งาน

40

5. กฎความปลอดภัยในการใชเคร่ืองเลือ่ยกล เครื่องเล่ือยกลทุกชนิดหากใชดวยความประมาทไมระมัดระวัง ซ่ึงขาดความความรู ความเขาใจ

และขาดทักษะแลวจะทําใหเกดิอันตรายไดทุกเวลา ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในการใชเครื่องเล่ือยกล ทุกครั้งทกุชนดิ มีหลักในการใชเครื่องเล่ือยกลดังตอไปนี้

1. การใชเครื่องเล่ือยกลใหม ๆจะตองศกึษาวิธีการใชกอนเสมอจึงสามารถใชเครื่องเล่ือยกล นั้นได

2. การตัดเหล็กดวยเครื่องเล่ือยกลตาง ๆ จะตองแนใจวาไดจับชิ้นงานแนนเพียงพอแลวทุกครั้ง 3. กอนเปดสวิตชใหเครื่องเล่ือยกลแบบชักทํางานจะตองใหฟนของใบเล่ือยหางจากผวิชิ้นงาน

ประมาณ 10 มิลลิเมตร เพื่อปองกันไมใหใบเล่ือยสับลงบนผิวชิ้นงานจะทําใหใบเล่ือยหักได 4. การตัดเหล็กแผนบาง ๆ ดวยเครื่องเล่ือยสายพานแนวตั้ง การใชมือกดปอนตดัชิ้นงานตองทํา

ดวยความระมัดระวังไมเชนนั้นมืออาจล่ืนดนัไปโดนฟนใบเล่ือยที่กําลังหมุนตัดชิ้นงานมือขาดได 5. การตัดเหล็กทัว่ไปยกเวนเหล็กหลอดวยเครื่องเล่ือยกลแบบชักและแบบสายพานแนวนอน

ตองใชน้ําหลอเย็นชวยระบายความรอนทุกครั้ง 6. การเปดสวิตชใหเครื่องเล่ือยกลทํางานทกุครั้งใหผูใชเปดเอง หามใหคนอื่นเปดสวติชให

เพราะอาจเกิดอันตรายได 7. การปอนตดัดวยระบบไฮดรอลิกส ควรปอนตัดที่ละนอย ๆ เพื่อปองกันไมใหใบเล่ือยหัก 8. การตัดเหล็กเสนที่มคีวามยาวมาก ๆ ใหใชตวัรองรับช้ินงานมารองรับสวนปลายเหล็กเสนทุก

ครั้งเพ่ือปองกันใบเล่ือยหัก 9. การตัดเหล็กเสนรูปทรงตาง ๆ ตองจับชิ้นงานดวยปากกาจับงานใหถูกวิธี ไมเชนนั้นอาจทํา

ใหใบเล่ือยหักได 10. เหล็กเสนที่นํามาตัดหากสั้นกวาความกวางของปากกาจบังานหามตัดเด็จขาด เพราะจะทํา

ใหใบเล่ือยหักทันที 11. หากมีอันตรายเกิดขึน้กับนักศกึษาเนื่องจากการตดัเหล็กดวยเครื่องเล่ือยกลใหแจงครูผูสอน

ทราบทันทีไมควรปดบัง 12. กอนใชเครื่องเล่ือยกลตัดเหล็กเสนทุกชนดิตองมั่นใจวาสามารถใชเครื่องเล่ือยกลชนิดนั้น ๆ

ไดแนนอนและไมเกดิอันตราย

41

6. วิธีการใชเคร่ืองเลือ่ยกลชนิดตางๆ การใชเครื่องเล่ือยกลแตละชนิดมีวิธีการใชที่ถูกตองดังตอไปนี้ 6.1 วิธีการใชเคร่ืองเลือ่ยกลแบบชักปอนตดัดวยระบบไฮดดรอลกิส

6.1.1 การจับเหล็กเสนดวยปากกาจับงานของเคร่ืองเลือ่ยกลแบบชกั

เหล็กเสนชิ้นงาน

รูปที่ 1.13 แสดงวิธีการจับเหล็กเสนชิน้งานดวยปากกาจับงานกอนเล่ือย (ที่มา : ภาพถายโดยผูเรียบเรียง)

จากรูปที่ 1.13 เปนวิธีการจับเหล็กเสนชิ้นงานยาว ๆ ดวยปากกาจับงานโดยใชมือซายจับ เหล็กเสน สวนมือขวาจับมือหมุนปากกาจับงาน แลวคอย ๆ ขยับเหล็กเสนใหเล่ือนซาย-ขวา ตามความ ยาวที่ตองการ

6.1.2 การปรับใบเลื่อยลงใกลผิวงานกอนตัด

ตัวหมุนปรับไฮดรอลิกส

รูปที่ 1.14 แสดงวิธีการปรับโครงเล่ือยลงกอนตัดชิ้นงาน (ที่มา : ภาพถายโดยผูเรียบเรียง)

จากรูปที่ 1.14 เปนวิธีการปรับโครงเล่ือยลงเพื่อวัดตั้งระยะความยาวชิน้งานที่ตองการตดัโดย การปลดคนัพักโครงเล่ือยออกจากสลักแลวคอย ๆ หมุนปรบัปุมไฮดรอลิกสใหใบเล่ือยลงมาเกือบจะถึง ผิวชิ้นงาน แลวหมุนปุมล็อคไฮดรอลิกสใหแนนเพื่อใหโครงเล่ือยคางไว และใหฟนใบเล่ือยหางจาก ผิวชิ้นงานประมาณ 10 มิลลิเมตร

42

6.1.3 การวัดตั้งระยะความยาวของชิ้นงานกอนตดั

บรรทัดเหล็กวัดระยะ

รูปที่ 1.15 แสดงวิธีการวัดตั้งระยะความยาวของชิ้นงานกอนตดัดวยบรรทัดเหล็ก (ที่มา : ภาพถายโดยผูเรียบเรยีง)

จากรูปที่ 1.15 เปนวิธีการวัดตั้งระยะความยาวของชิ้นงานกอนเล่ือยตัดดวยบรรทัดเหล็ก วิธีการวดัระยะความยาว ใหสวนปลายของบรรทัดเหล็กไปชนกับดานขางของใบเล่ือย จากนั้นก็ขยับ เหล็กเสนชิ้นงานใหเล่ือนออกมาหรือขยับเขาใหไดความยาวตามท่ีแบบกําหนด

6.1.4 การหมุนขันเกลียวปากกาจับชิ้นงานใหแนนกอนตัด

หมุนปากกาจับงาน

รูปที่ 1.16 แสดงวิธีการหมุนขันเกลียวปากกาจบัชิ้นงานใหแนนกอนเล่ือยตัด (ที่มา : ภาพถายโดยผูเรียบเรียง)

จากรูปที่ 1.16 เปนวิธีการหมุนขนัเกลียวของปากกาจับงานเพื่อจับเหล็กเสนชิ้นงานกอนเล่ือย ตัดใหแนนที่สุด หากขันเกลียวไมแนนจะทําใหช้ินงานเคลือ่นที่จะทําใหใบเล่ือยหักทันที ดังนั้นในการ ตัดเหล็กเสนชิ้นงานทกุครั้งจะตองขนัเกลียวปากกาจับยึดชิน้งานใหแนนที่สุดกอนเล่ือยตัดเสมอ

43

6.1.5 การเปดสวิตซเพื่อใหเคร่ืองเลือ่ยทํางาน

สวิตชเปด-ปด

รูปที่ 1.17 แสดงวิธีการเปดสวติซใหเครื่องเล่ือยกลแบบชักทํางาน (ที่มา : ภาพถายโดยผูเรยีบเรียง)

จากรูปที่ 1.17 เปนวิธีการใชมือกดสวิตซตรงปุมสีดําเพื่อใหเครื่องเล่ือยแบบชักทํางาน เสร็จ แลวคอยจนกวาเล่ือยตัดเหล็กชิ้นงานขาดออกจากกันเครื่องจะหยุดทํางานเองโดยกลไกปดสวิตซ อัตโนมัต ิ

6.1.6 การยกโครงเลือ่ยขึ้นพักหลังจากตัดเหล็กชิ้นงานเสร็จแลว

แขนพักโครงเล่ือย

รูปที่ 1.18 แสดงการยกโครงเล่ือยขึ้นพักหลังจากตัดเหล็กชิน้งานเสร็จแลว (ที่มา : ภาพถายโดยผูเรียบเรียง)

จากรูปที่ 1.18 เปนวิธีการยกโครงเล่ือยขึ้นพกัหลังจากตัดเหล็กชิ้นงานเสร็จแลว โดยทีม่ือซาย จับโครงเล่ือย ใชมือขวาจับแขนตั้งพกัโครงเล่ือย แลวคอย ๆ ยกใหโครงเล่ือยขึ้นมาพกักับสลักเดือยพกั โครงเล่ือยกลแบบชัก

44

6.2 วิธีการใชเคร่ืองเลือ่ยกลแบบสายพานแนวนอน เครื่องเล่ือยกลแบบสายพานแนวนอนมีขัน้ตอนวิธีการใชดังตอไปนี้

สวิตซเปด-ปด ชิ้นงาน สวิตชปด-ปดระบบไฮดรอลิกส

ปากกาจับงาน

มือหมุนเกลียวปากกาจับงาน

รูปที่ 1.19 แสดงวิธีการตดัเหล็กชิ้นงานดวยเครื่องเล่ือยกลแบบสายพานแนวนอน (ที่มา : บริษัท เอ็กเซล แมชีน เทค จํากัด.)

จากรูปที่ 1.19 เปนลักษณะการเล่ือยตัดชิ้นงานดวยเครื่องเล่ือยกลแบบสายพานแนวนอน ซ่ึงมี ขั้นตอนการเล่ือยตัดเหล็กชิ้นงานดังตอไปนี ้

6.2.1 การจับเหล็กชิ้นงานดวยปากกาจับงาน ใชมือซายจับเหล็กเสนชิ้นงาน ใชมือขวาหมุน มือหมุนปากกาจับงานเคล่ือนที่เขา-ออกใหเหล็กสามารถขยับตัวเคล่ือนที่ได

6.2.2 การปรับใบเลื่อยลงใกลผิวงานกอนตัด ใหกดสวติชระบบไฮดรอลิกสกดใหโครงเล่ือย คอย ๆ เล่ือนลงใหใบเล่ือยเกือบจะถึงผิวชิ้นงาน

6.2.3 การวัดตั้งระยะความยาวของชิ้นงานกอนตดั ใชบรรทัดเหล็กตรวจวดัขนานความยาว ของชิ้นงานตามแบบโดยใชมือขวาจับบรรทัดเหล็กและใชมือซายคอย ๆ เล่ือนเหล็กเสนที่จะตัดเขา-ออก

6.2.4 การหมุนขันเกลียวปากกาจับชิ้นงานใหแนนกอนตัด ใชมือสองมือหมุนมือหมุน ปากกาจับงานใหแนนกอนเปดเครื่องใหใบเล่ือนหมาทํางาน

6.2.5 การเปดสวิตซเพื่อใหเคร่ืองเลือ่ยทํางาน ใชมือกดสวิตชปุมสีเขียวใหเครื่องเล่ือย ทํางานโดยใหใบเล่ือยหมุนเคลื่อนที่ตัดผวิชิ้นงานรอจนกวาใบเล่ือยจะตัดชิ้นงานขาดเครื่องจะหยดุ ทํางานเอง

6.2.6 การยกโครงเลือ่ยขึ้นพักหลังจากตัดเหล็กเสร็จแลว ใชมือกดสวติชระบบไฮดรอลิกส แลวโครงเล่ือยจะยกตัวขึ้นเอง

45

6.3 วิธีการใชเคร่ืองเลือ่ยกลแบบสายพานแนวตั้ง เครื่องเล่ือยสายพานแนวตั้งจะเล่ือยตัดชิ้นงานตางกับเครื่องเล่ือยสายพานแนวนอนตรงที่

เครื่องสายพานแนวตั้งใชเล่ือยชิ้นงานเหล็กแผนบาง ๆ และสามารถเล่ือยเปนเสนโคงเหมือนกับเล่ือยฉลุ เล่ือยกลแบบสายพานแนวตั้งมีวิธีการใชดังตอไปนี้

6.3.1 การเปดสวิตซใหเคร่ืองเลือ่ยกลแบบสายพานแนวตั้งทํางาน

สวิตชเปด-ปด

รูปที่ 1.20 แสดงวิธีการเปดสวติซใหใบเล่ือยเครื่องเล่ือยสายพานแนวตั้งเดินหมุนทํางาน (ที่มา : ภาพถายโดยผูเรียบเรียง)

จากรูปที่ 1.20 เปนตําแหนงการเปด-ปดสวิตซเครื่องเล่ือยกลแบบสายพานแนวตั้งใหใบเล่ือย สายพานเดินหมุนทํางาน ปุมเขียวใหใบเล่ือนเดินหมุนทํางาน ปุมแดงใหใบเล่ือยหยุดทํางาน

6.3.2 การเดนิปอนตดัชิ้นงานเหล็กแผนบาง ๆ ดวยมือ

ชิ้นงานเหล็กแผน

รูปที่ 1.21 แสดงวิธีการปอนตดัชิ้นงานแผนบางดวยมือ (ที่มา : ภาพถายโดยผูเรียบเรียง)

จากรูปที่ 1.21 เปนวิธีการปอนตัดชิน้งานเหล็กแผนบาง ๆ โดยใชมือ 2 มือจับชิ้นงานที่เปน เหล็กแผนบาง แลวกดและดันชิน้งานเขาหาใบเล่ือยตามทีแ่บบกําหนดจะเปนเสนตรงหรือเปนเสนโคง ก็ได

46

6.4 วิธีการใชเคร่ืองตัดเหลก็ใบตดัไฟเบอร เครื่องตัดเหล็กใบตัดไฟเบอรเปนเครื่องตัดเหล็กทอกลวง และสามารถตัดเหล็กตันกไ็ด

ขึ้นอยูกับผูใชงาน แตโดยทั่วไปจะนิยมใชตดัเหล็กทอกลวง เครื่องตัดเหล็กใบตัดไฟเบอรมีขัน้ตอน วิธีการใชดังตอไปนี ้

6.4.1 การจับเหล็กชิ้นงานกับปากกาจับงานกอนตดั

มือซายจับเหล็ก มือขวาปากกาจับงาน

รูปที่ 1.22 แสดงวิธีการจับชิน้งานดวยปากกาจบังานกับเครื่องตดัเหล็กใบตัดไฟเบอร (ที่มา : ภาพถายโดยผูเรียบเรียง)

จากรูปที่ 1.22 เปนวิธีการจับชิ้นงานดวยปากกาจับงานของเครื่องตัดเหล็กใบตัดไฟเบอร ใชมือ ซายจับเหล็กชิ้นงาน ใชมือขวาจับหมนุมือหมุนเกลียวปากกาจับงาน ใชมือซายขยับเหล็กชิ้นงานให เคล่ือนที่ซาย-ขวา ตามความยาวที่แบบกําหนด

6.4.2 การเปดสวิตซใหใบตดัไฟเบอรหมุนทํางาน

ใชนิ้วชีก้ดสวติชเปด-ปด

รูปที่ 1.23 แสดงวิธีการใชนิ้วชี้ เปด-ปดเครื่องตัดเหล็กใบตัดไฟเบอร (ที่มา : ภาพถายโดยผูเรียบเรียง)

จากรูปที่ 1.23 เปนวิธีการเปด-ปดสวิตชเครื่องตดัเหล็กใบตดัไฟเบอร การเปด-ปดสวิตซตองใช นิ้วชี้กดกระเดื่องสวิตชคางไว หรือเม่ือกดกระเดื่องใบตัดหมุนแลวใหกดปุมล็อคกระเดื่องคางไวก็ได

47

6.4.3 กดปอนตดัเหลก็ชิ้นงานดวยใบตดัไฟเบอร ใสแวนตาปองกันเศษโลหะ

รูปที่ 1.24 แสดงวิธีการใสแวนตาเพื่อปอนเศษดลหะเขาตาขณะตัดเหล็กดวยเครื่องตดัใบตัดไฟเบอร (ที่มา : ภาพถายโดยผูเรยีบเรียง)

จากรูปที่ 1.24 เปนวิธีการปองกันไมใหเศษโลหะเขาตาโดยการใสแวนตาปองกนัเศษโลหะ ขณะตดัเหล็กทุกครั้ง

ประกายไฟขณะตัดเหล็ก

รูปที่ 1.25 แสดงประกายไฟออกมาขณะตัดเหล็กดวยเครื่องตัดเหล็กใบตัดไฟเบอร (ที่มา : ภาพถายโดยผูเรียบเรียง)

จากรูปที่ 1.25 เปนประกายไฟท่ีเกดิจากการตัดเหล็ก ดังนัน้บริเวณที่ตดัเหล็กดวยเครื่องตัด ชนิดนี้หามมีน้ํามันไวไฟอยูใกลบริเวณเด็ดขาด เพราะไฟลุกจะไหมขึ้นมาได ตองใสแวนปองกันเศษ โลหะทุกครั้งที่ตดัเหล็ก

48

7. วิธีการจับเหล็กเสนรูปทรงตางๆดวยปากกาจับงาน กอนตัดเหล็กเสนรูปแบบหนาตัดตาง ๆ ตองรูวิธีการจับเหล็กเสนหนาตัดรูปทรงตาง ๆ อยางถูก

วิธีไมเชนนั้นการตัดเหล็กเสนดวยเครื่องเล่ือยกลอาจทําใหใบเล่ือยหักได และหนาตัดของชิ้นงานที่เล่ือย ออกมาจะไมไดฉาก ดงันั้นการตดัเหล็กทุกครั้งจะตองจับชิ้นงานตามรูปแบบที่ถูกตอง ดังรูปดานลาง

ชิ้นงาน ปากกาจับงานเครื่องเล่ือยกล

1. การจับเหล็กเสนแบน 2. การจับเหล็กเสนหกเหล่ียม

3. การจับเหล็กเสนส่ีเหล่ียม 4. การจับเหล็กเสนกลม

5. การจับเหล็กเสนตวัยู 6. การจับเหล็กเสนตวัไอ

7. การจับเหล็กเสนตวัที 8. การจับเหล็กเสนมุมฉาก

รูปที่ 1.26 แสดงวิธีการจับเหล็กเสนหนาตัดตาง ๆ ดวยปากกาจับงานของเครื่องเล่ือยกล (ที่มา : ภาพเขียนโดยผูเรียบเรียง)

จากรูปที่ 1.26 เปนวิธการจับเหล็กเสนดวยปากกาจับงานของเครื่องเล่ือยกลที่ถูกวิธีและ ปลอดภัย การจับชิน้งานรูปทรงตาง ๆ จะตองจับตามรูปแบบท่ีถูกตองทุกครั้งจึงจะปลอดภัยและใบเล่ือย จะไมหัก

49

8. วิธีการบํารุงรกัษาเคร่ืองเลือ่ยกล การบํารุงรกัษาเครื่องเล่ือยกลมีความจําเปนอยางมาก การบํารุงรักษาเปนการชวยยดือายุการใช

งานของเครื่องเล่ือยกลใหสามารถใชงานไดยาวนาน การบาํรุงรักษาเครื่องเล่ือยกลมีรายละเอียดดังนี้

หยอดน้ํามันหลอล่ืน

ตรวจความตึงใบเล่ือย

ตรวจปากกาจับงาน

รูปที่ 1.27 แสดงจุดที่ตองดูแลและบํารุงรักษาของเครื่องเล่ือยกล (ที่มา : ภาพถายโดยผูเรียบเรียง)

จากรูปที่ 1.27 เปนจุดที่ตองดูแลบํารุงรักษาเครื่องเล่ือยกล เพื่อใหเครื่องเล่ือยกลไดมีอายุการใช งานที่ยาวนาน และเพ่ือใหเครื่องเล่ือยกลคงสภาพเดิมอยูตลอดเวลามีวิธีการดูแลและบํารุงรักษาดังนี้

8.1 กอนใชเครื่องเล่ือยกลจะตองตรวจดคูวามพรอมของเครื่องเล่ือยวาสามารถใชงานไดหรือไม 8.2 กอนใชเครื่องเล่ือยกลทุกวันจะตองหยอดน้ํามนัหลอล่ืนตรงชิ้นสวนที่เคล่ือนที่สัมผัสกัน

เชน รางเล่ือนระหวางโครงเล่ือยกับตัวประคองของเครื่องเล่ือยชักเสมอ เพ่ือลดการสึกหรอขณะใชงาน 8.3 หากน้ําหลอเย็นเครื่องเล่ือยมีกล่ินเหม็นหรือไมสะอาดเพียงพอใหเปล่ียนน้ําหลอเย็นใหม 8.4 หลังเลิกใชงานเครื่องเล่ือยกลแลวทุกวนัตองทําความสะอาดอยางดีดวยแปรงและผาเสมอ 8.5 เครื่องเล่ือยกลแบบสายพานจะตองปรับใบเล่ือยสายพานใหตึงพอที่สามารถใชงานได 8.6 ใชน้ํามันหลอล่ืนทาที่ใบเล่ือยสายพานแนวตั้งกอนใชทกุครั้ง

50

9. สรุปหลักการสําคัญในการตัดเหลก็ดวยเคร่ืองเลื่อยกล ในการตัดเหล็กชิน้สวนดวยเครื่องเล่ือยกล มีหลักการสําคญัที่นักศกึษาจะตองรูและทําความ

ความเขาใจเพื่อนําหลักการไปใชในการตัดเหล็กดวยเครื่องเล่ือนกลดังตอไปนี้ 9.1 นักศกึษาจะตองรูจกัชนดิของเครื่องเล่ือยกลวามีเครื่องเล่ือยกลชนิดใดบางท่ีใชสําหรับตัด

เหล็ก 9.2 นักศกึษาจะตองรูจกัชื่อสวนประกอบตาง ๆ ของเครื่องเล่ือยกลชนิดนั้น ๆ วาสวนประกอบ

ของเครื่องเล่ือยกลแตละอยางมีไวสําหรับทําอะไร 9.3 นักศกึษาจะตองรูและเขาใจขัน้ตอนวิธีการใชเครื่องเล่ือนกลแตละชนิดวามีขัน้ตอน

วิธีการใชในการตัดเหล็กอยางไร 9.4 นักศกึษาจะตองรูกฎความปลอดภัยในการใชเครื่องเล่ือนกลแตละชนิดวาใชงานอยางไรจึง

ไมเกิดอันตราย 9.5 นักศกึษาจะตองรูจกัวิธกีารบํารุงรกัษาเครื่องเล่ือยกลแตละชนิดวามวีิธีการบํารุงรักษา

อยางไรเพื่อใหสามารถใชงานไดยาวนาน

รูจักชนดิ รูจักชื่อสวนประกอบ รูและเขาใจขั้นตอน ของเครื่องเล่ือยกล ของเครื่องเล่ือยกล วิธีการใชเครื่องเล่ือยกล

รูวิธีการบํารุงรักษา รูกฎความปลอดภัย เครื่องเล่ือยกล ในการใชเครื่องเล่ือยกล

รูปที่ 1.28 สรุปหลักการสําคัญในการตัดเหล็กดวยเครื่องเล่ือยกล (ที่มา : ภาพถายโดยผูเรียบเรียง)

จากรูปที่ 1.28 เปนการสรุปหลักการที่สําคัญที่นกัศึกษาจะตองมีความรูความเขาใจจึงจะ สามารถตัดเหล็กดวยเครื่องเล่ือยกลไดอยางถูกวิธีและปลอดภัย

51

ใบงานที่ 1/1 วิชา งานเครื่องมือกลเบ้ืองตน หนวยที่ 1 ชื่องาน การตัดเหลก็ชิ้นสวนเคร่ืองมือกล เวลา 1 ชั่วโมง

จุดประสงคที่คาดหวัง 1. นักศกึษาสามารถตัดเหล็กตามที่แบบกําหนดได 2. นักศกึษาสามารถใชเครื่องเล่ือยกลอยางถูกวิธีได 3. นักศกึษามกีิจนิสัยทีด่ีในการตัดเหล็กกับเครื่องเล่ือยกลได

คําสั่ง ใหนกัศกึษาตดัเหล็กกลม เหล็กส่ีเหล่ียมจัตุรัส และเหล็กส่ีเหล่ียมผืนผา ดวยเครื่องเล่ือยกล ใหไดขนาดความยาวตามที่แบบกําหนดอยางละ1 ชิ้น ดังรูปดานลาง

52

ขั้นตอนการตัดเหล็กใบงานที่ 1/1 ขั้นที่ 1 ขั้นเตรียมงาน

1. เตรียมเครื่องเล่ือยกลแบบชักระบบไฮดรอลิกส 2. เตรียมเหล็กเสนSt.37 ขนาดความโต 28 มม. 3. เตรียมเหล็กส่ีเหล่ียมจัตุรัสขนาด 25.4 x 25.4 มม. 4. เตรียมเหล็กส่ีเหล่ียมผืนผาขนาด 19 x 76 มม. 5. เตรียมบรรทัดเหล็กความยาว 30 มม.

ขั้นที่ 2 ขั้นการตดัเหล็ก 1. นําเหล็กชิ้นงานกลมขนาดความโต 28 มม.วางบนปากกาจับงานของเครื่องเล่ือยกล และใช แทนรองรับสวนปลายของเหล็กเสนดวย

2. ปรับใบเล่ือยลงมาใกลผิวงานใหหางจากผิวงานประมาณ 5 มม.เพ่ือเตรียมวัดขนาดความยาว 3. ปรับตั้งวัดระยะความยาวของชิ้นงานกลมใหไดความยาว 205 มม.วัดขนาดดวยบรรทัดเหล็ก 4. บีบจับชิ้นงานใหแนนดวยปากกาจับงานของเครื่องเล่ือยกล 5. เปดสวิตชใหเครื่องเล่ือยทํางานเพื่อใหใบเล่ือยตัดเหล็กจนกวาจะขาดจากกนั 6. ถอดชิ้นงานกลมออกแลวจับชิ้นงานสี่เหล่ียมจัตุรัสเขาไปแทน 7. ปรับตั้งวัดระยะความยาวชิน้งานส่ีเหล่ียมจัตุรัสใหไดความยาว 105 มม.ดวยบรรทัดเหล็ก 8. บีบจับชิ้นงานใหแนนดวยปากกาจับงานของเครื่องเล่ือยกล 9. เปดสวิตชใหเครื่องเล่ือยทํางานเพื่อใหใบเล่ือยตัดเหล็กจนกวาจะขาดจากกนั 10. ถอดชิ้นงานสี่เหล่ียมจัตุรัสออกแลวจับชิ้นงานสี่เหล่ียมผืนผาเขาไปแทน 11. ปรับตั้งวัดระยะความยาวของชิ้นงานส่ีเหล่ียมผืนผาใหไดความยาว 105 มม.ดวยบรรทดั

เหล็ก 12. บีบจับชิ้นงานใหแนนดวยปากกาจับงานของเครื่องเล่ือยกล 13. เปดสวิตชใหเครื่องเล่ือยทํางานเพื่อใหใบเล่ือยตัดเหล็กจนกวาจะขาดจากกัน

……………………………………………………………………………………………………………

53

แบบประเมินผลใบงานที่ 1/1 วิชา งานเครื่องมือกลเบ้ืองตน รหัสวิชา 2100-1007 หนวยที่ 1 ชื่องาน ตัดเหล็กกลมและตัดเหล็กเหลี่ยม 15 คะแนน

เกณฑการประเมินมี 5 ระดับ ระดับ 5 ตัดเหล็กไดดีมาก ตัดเหล็กผิดพลาดได ± 1 มม. ระดับ 4 ตัดเหล็กไดดี ตัดเหล็กผิดพลาดได ± 2 มม. ระดับ 3 ตัดเหล็กพอใชได ตัดเหล็กผิดพลาดได ± 3 มม. ระดับ 2 ตองตัดเหล็กใหม ตัดเหล็กผิดพลาดได ± 4 มม. ระดับ 1 ตัดเหล็กใชไมได ตัดเหล็กผิดพลาดได ± 5 มม.

ระดับคณุภาพ ที่ รายการประเมิน 5 4 3 2 1

1 ตัดเหล็กกลม ยาว 205 มม. 2 ตัดเหล็กส่ีเหล่ียมจัตุรัส ยาว 105 มม. 3 ตัดเหล็กส่ีเหล่ียมผืนผา ยาว 105 มม.

รวม รวมคะแนนทั้งหมด

ลงชื่อผูประเมิน ........................................................... วันที.่....... เดือน................ พ.ศ. 25........

เกณฑการตดัสินคุณภาพ ไดคะแนน 13 - 15 ดีมาก ไดคะแนน 10 - 12 ดี ไดคะแนน 7 - 9 ปานกลาง ไดคะแนน 4 - 6 พอใช ไดคะแนน 0 - 3 ตองปรับปรุง

54

แบบสังเกตพฤติกรรม วิชา งานเครื่องมือกลเบ้ืองตน รหัสวิชา 2100-1007 หนวยที่ 1 ชื่องาน ตัดเหล็กกลมและตัดเหล็กเหลี่ยม 20 คะแนน

เกณฑการประเมินมี 5 ระดับ ระดับ 5 มีพฤติกรรมดีมาก ระดับ 4 มีพฤติกรรมดี ระดับ 3 มีพฤติกรรมพอใชได ระดับ 2 ตองแนะนําส่ังสอนเพิ่มเติม ระดับ 1 มีพฤติกรรมใชไมได

ระดับคณุภาพ ที่ รายการประเมิน 5 4 3 2 1

1 เขาเรียนตรงตอเวลา 2 แตงกายถูกตองตามระเบียบของวิทยาลัย 3 ใชเครื่องมือและอุปกรณอยางถูกวิธี 4 เรียนและฝกปฏิบัติงานดวยความตั้งใจ

รวม รวมคะแนนทั้งหมด

ลงชื่อผูประเมิน ........................................................... วันที.่....... เดือน................ พ.ศ. 25........

เกณฑการตดัสินคุณภาพ ไดคะแนน 17 - 20 ดีมาก ไดคะแนน 13 - 16 ดี ไดคะแนน 9 - 12 ปานกลาง ไดคะแนน 5 - 8 พอใช ไดคะแนน 0 - 4 ตองปรับปรุง

55

แบบทดสอบทายหนวยที่ 1 วิชางานเครื่องมือกลเบ้ืองตน เรื่อง การตดัเหล็กชิ้นสวนเคร่ืองมอืกล คะแนนเต็ม 75 คะแนน

คําสั่ง ใหนกัศกึษาเขยีนตอบคําถามแตละขอลงในขอสอบดังตอไปนี้ขอยอยละ 1 คะแนน

ขอที่ 1. จงบอกชื่อรูปรางหนาตดัของเหล็กจากรูปภาพดานลาง (8 คะแนน)

1 …………..…. 2 ……………….. 3 …………………… 4 ……………………

5 ………………………. 6 ……………… 7 ………….…… 8 …………………

ขอที่ 2. จงบอกชื่อชนิดของเครื่องจักรกลจากรูปดานลาง (6 คะแนน)

1 ………………………………….. …………………………………. …………………..………………2 ……………………………………

3 …………………………………. …………………………………. ……………………………………4 ……………………………………

5 ………………………………….. …………………………………… ……………………………………..6 ……………………………………..

56

ขอที่ 3. จงบอกชื่อสวนประกอบของเครื่องเล่ือยกลจากรูปภาพดานลาง (15 คะแนน)

2……………….…. 1…………………

3…………..…………. 4……………………..

6…………….………. 5……………………….. 8………..………………. 7…………….……….

10……….………………. 9……………...………..

12……….…..

13…………...

14………..…. 11…………………………. 15……………………

ขอที่ 4. จงบอกชื่อสวนประกอบของเครื่องเล่ือยกลจากรูปภาพดานลาง ( 9 คะแนน)

3………………. 1………….….. 2………………… 4………….……..

5…………………. 6…………………….

7…………………………. 8……..…………… 9…………………………

57

ขอที่ 5. จงบอกชื่อสวนประกอบของเครื่องเล่ือยกลจากรูปภาพดานลาง ( 6 คะแนน)

3…………………………. 4…………………..………..

1……..………………….. 2……...………………….. 5…………………………….

6………...…………………..

ขอที่ 6. จงบอกชื่อสวนประกอบเครื่องเล่ือยกลจากรูปภาพดานลาง ( 7 คะแนน)

1 ………………………..

2……………………. 6………………………

3………………………

4……………………… 7………………………..

5…………………..

ขอที่ 7. จงบอกกฎความปลอดภัยในการใชเครื่องเล่ือยกลมา 5 ขอ ( 5 คะแนน) 1.................................................................................................................................................. 2................................................................................................................................................. 3................................................................................................................................................. 4................................................................................................................................................. 5.................................................................................................................................................

58

ขอที่ 8. จงอธิบายวิธีการจากรูปภาพดานลาง (6 คะแนน)

จากรูปเปนวิธีการ......................................................................................... ..................................................................................................................

จากรูปเปนวิธีการ..................................................... ....................................................................................

จากรูปเปนวิธีการ..................................................................................... ...................................................................................................

จากรูปเปนวิธีการ.................................................................................... ..................................................................................................

จากรูปเปนวิธีการ.................................................................................... ...................................................................................................

จากรูปเปนวิธีการ..................................................................................... ...................................................................................................

59


จากรูปเปนวิธีการ................................................................................. ...............................................................................................

จากรูปเปนวิธีการ................................................................................. ................................................................................................

จากรูปเปนวิธีการ.................................................................................. .................................................................................................

จากรูปเปนวิธีการ................................................................................. ................................................................................................

จากรูปเปนวิธีการ................................................................................. ..............................................................................................

60

ขอที่ 10. จงอธิบายวิธีการจากรูปดานลาง (8 คะแนน)

1 วิธีการ.................................................... 2 วิธีการ..........................................................

3 วิธีการ................................................... 4 วิธีการ.........................................................

5 วิธีการ................................................... 6 วิธีการ.........................................................

7 วิธีการ................................................. 8 วิธีการ.......................................................

61

เฉลยแบบทดสอบทายหนวย หนวยที่ 1

วิชางานเครื่องมือกลเบ้ืองตน เรื่อง การตดัเหล็กชิ้นสวนเคร่ืองมอืกล คะแนนเต็ม 75 คะแนน

ขอที่ 1. จงบอกชื่อรูปรางหนาตดัของเหล็กจากรูปดานลาง (8 คะแนน)

1. เหล็กกลม 2.เหล็กส่ีเหล่ียมจัตุรัส 3.เหล็กส่ีเหล่ียมผืนผา 4.เหล็กหกเหล่ียม

5.เหล็กสามเหล่ียมดานเทา 6.เหล็กตัวไอ 7.เหล็กตัวยู 8.เหล็กฉาก

ขอที่ 2. จงบอกชื่อชนิดของเครื่องจักรกลจากรูปดานลาง (6 คะแนน)

1.เครื่องชักแบบธรรมดาใชแรงโนมถวง

เครื่องเล่ือยชักปอนตัดดวยระบบ 2. ไฮดรอลิกส

3.เครื่องเล่ือยชักปอนตัดดวยระบบ ไฮดรอลิกส

เครื่องเล่ือยสายพานแนวนอน 4.

5.เครื่องเล่ือยสายพานแนวตั้ง

เครื่องตัดเหล็กใบตัดไฟเบอร 6.

62

ขอที่ 3. จงบอกชื่อสวนประกอบของเครื่องเล่ือยกลจากรูปดานลาง (15 คะแนน)

2.ใบเล่ือย 1.โครงเล่ือย

3.ปากกาจับงาน 4.ตัวพักโครงเล่ือย

6.สวิตชเปด-ปด 5.มือหมุนปากกาจับงาน

8.ตัวตั้งระยะชิ้นงาน 7.ทอน้ําหลอเย็น

10.เฟองทดสงกําลัง 9.ฐานเครื่องเล่ือย

12.พูเลย

13.สายพาน

14.มอเตอร 11.ตัวปรับปอนไฮดรอลิกส 15.ปมน้ําหลอเย็น

ขอที่ 4. จงบอกชื่อสวนประกอบของเครื่องเล่ือยกลจากรูปดานลาง ( 9 คะแนน)

3.มือหมุนปรับใบเล่ือย 1.โครงเล่ือย 2.สวิตชเปด-ปด 4.มอเตอร

5.ใบเล่ือย 6.มือหมุนปากกาจับงาน

7.ตัวตั้งระยะ 8.ปากกาจับงาน 9.ฐานเครื่องเล่ือย

63

ขอที่ 5. จงบอกชื่อสวนประกอบของเครื่องเล่ือยกลจากรูปดานลาง ( 6 คะแนน)

3.ชุดประคองใบเล่ือย 4.ใบเล่ือยสายพาน

1.ชุดตอใบเล่ือย 2.สวิตชเปด-ปด 5.โตะรองรับงาน

6.ชุดปรับความเรว็ใบเล่ือย

ขอที่ 6. จงบอกชื่อสวนประกอบเครื่องเล่ือยกลจากรูปดานลาง ( 7 คะแนน)

1.มือจับ

2.สวิตชเปด-ปด 6.ฝาครอบใบตดั

3.มอเตอร

4.ปากกาจับงาน 7.ใบตัดไฟเบอร

5.ฐานเครื่อง

ขอที่ 7. จงบอกกฎความปลอดภัยในการใชเครื่องเล่ือยกลมา 5 ขอ ( 5 คะแนน) 1. กอนตัดเหล็กดวยเครื่องเล่ือยกลจะตองแนใจวาไดจับชิ้นงานแนนเพียงพอแลวทุกครั้ง 2. กอนเล่ือยตัดชิ้นงานใหฟนเล่ือยหางจากผวิชิ้นงานประมาณ 10 มม.เพ่ือปองกันใบเล่ือยหัก 3. การตัดเหล็กเสนยาว ๆ ใหใชตัวรองรับช้ินงานมารองรับสวนปลายของช้ินงานทกุครั้ง 4. การตัดเหล็กเสนรูปทรงตาง ๆ ตองจับชิ้นงานใหถูกวิธีเพื่อปองกันใบเล่ือยหัก 5. เหล็กเสนที่นํามาตัดหากสั้นกวาความกวางของปากกาหามตัดเพราะจะทําใหใบเล่ือยหักทนัที

64


จากรูปเปนวิธีการเตรยีมจับชิ้นงานเล่ือย

จากรูปเปนวิธีการปรับโครงเล่ือยลงกอนเล่ือย

จากรูปเปนวิธีการวัดระยะชิ้นงานกอนเล่ือย

จากรูปเปนวิธีการขันเกลียวปากกาจับชิ้นงานใหแนน

จากรูปเปนวิธีการปดสวิตชใหใบเล่ือยทํางาน

จากรูปเปนวิธีการยกโครงเล่ือยขึ้นพักหลังจากตัดเหล็กเสร็จแลว

65


จากรูปเปนวิธีการเปดสวิตชใหใบเล่ือยหมุนทํางาน

จากรูปเปนวิธีการปอนเล่ือยชิ้นงาน

จากรูปเปนวิธีการจับชิ้นงานดวยปากกาจับงานกอนตัด

จากรูปเปนวิธีการกดสวติชใหใบตัดไฟเบอรหมุนกอนตัด

จากรูปเปนวิธีการปอนตดัชิ้นงานดวยเครื่องตดัใบตัดไฟเบอร

66

ขอที่ 10. จงอธิบายวิธีการจากรูปดานลาง (8 คะแนน)

1 วิธีการจับเหล็กแบนกอนเล่ือย 2 วิธีการจับเหล็กหกเหล่ียมกอนเล่ือย

3 วิธีการจับเหล็กส่ีเหล่ียมกอนเล่ือย 4 วิธีการจับเหล็กกลมกอนเล่ือย

5 วิธีการจับเหล็กตวัยกูอนเล่ือย 6 วิธีการจับเหล็กตวัไอกอนเล่ือย

7 วิธีการจับเหล็กตวัทีกอนเล่ือย 8 วิธีการจับเหล็กฉากกอนเล่ือย

67

บันทึกหลังการจัดการเรียนรู หนวยที่ 1 เร่ืองการตัดเหลก็ชิ้นสวนเคร่ืองมือกล

ผลการใชแผนการจัดเรียนรู 1. แผนการจดัการเรยีนรูทีก่ําหนดไวสามารถใชจดัการเรยีนรูไดทันตามเวลาท่ีกําหนดเปน

อยางไร …………………………………………………………………………………………………………..

2. สามารถนําไปใชจัดการเรียนรูไดครบตามกระบวนการเรียนการสอนเปนอยางไร ………………………………………………………………………………………………………….

ผลการเรียนรูของนกัศึกษา 1. นักศกึษาสวนใหความสนใจเปนอยางไร

…………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………….

2. คะแนนการทดสอบหลังเรียนหนวยการเรียนรูที่ 1 เปนอยางไร …………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………….

3. นักศกึษาแตละคนเปนอยางไร …………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………….

ผลการสอนของคร ู1. สอนเนื้อหาไดครบทุกกระบวนการอยางไร

………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………..

2. แผนการจดัการเรยีนรูและวิธกีารสอนทําใหผูสอนสอนไดอยางม่ันใจอยางไร ………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………..

3. ครูผูสอนมีวิธีการกระตุนนกัศึกษาใหมีสวนรวมในการเรียนการสอนอยางไร ………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………...……

Documents

สมรรถนะอาชีพประจําหน วย · 13. เพื่อให สามารตัดเหล็กชิ้นงานตามที่แบบสั่งด