Upload
others
View
4
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
�
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ทรงเป็นพระธิดาพระองค์แรกในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร์ อดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ประสูติเมื่อวันอาทิตย์
ที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๖ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษพระนามในสูจิบัตรเมื่อแรกประสูติ คือเมย์ ตามเดือนที่ประสูติ ทรงมีพระอนุชาซึ่ ง ต่ อ ม า เ ส ว ย ร า ช ส ม บั ติ เ ป็ นพระมหากษัตริย์ของประเทศไทยถึง๒ พระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พระประวัต ิสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
�
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระนามว่า หม่อมเจ้ากัลยาณิวัฒนา ต่อมา
เมื่อพ.ศ.๒๔๗๐พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๗ทรงสถาปนาเป็น
พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากัลยาณิวัฒนา เมื่อทรงเจริญพระชนมายุครบ ๖ รอบ ในปี
พ.ศ.๒๕๓๘พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า
โปรดกระหม่อม สถาปนาขึ้นเป็นเจ้าฟ้าต่างกรมฝ่ายใน โดยอนุโลมตามแบบอย่าง
โบราณราชประเพณี ทรงพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
�
ห ลั ง จ า กที่ พ ร ะ ธิ ด า ป ร ะ สู ติ ไ ด้ ไ ม่ น า น
สมเด็จพระบรมราชชนกได้ทรงย้ายจากกรุงลอนดอนไป
ประทับอยู่ที่เมืองบอสคัม ทางชายฝั่งทะเลด้านใต้ของ
ประเทศอังกฤษ สมเด็จฯ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาส
ราชนครินทร์ได้ประทับณประเทศอังกฤษจนพระชันษา
ประมาณ ๖ เดือน ในปลาย พ.ศ. ๒๔๖๖ ได้ตามเสด็จ
สมเด็จพระบรมชนกนาถและสมเด็จพระบรมราชชนนี
เสด็จกลับประเทศไทย เมื่อเสด็จถึงพระนคร สมเด็จ
พระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
ได้พระราชทานพระตำหนักใหญ่ของวังสระปทุมเป็นที่ประทับ โดยมีพระพี่เลี้ยงเนื่อง
จินตดุล พระสหายสนิทของสมเด็จพระบรมราชชนนี ระหว่างที่ทรงศึกษาวิชาพยาบาล
ที่ โรงพยาบาลศิริราช เป็นผู้อภิบาล ใน พ.ศ. ๒๔๖๘ ก็ได้ตามเสด็จสมเด็จ
พระบรมราชชนกและสมเด็จพระบรมราชชนนี ไปประเทศเยอรมนีและประเทศฝรั่งเศส
ณ ประเทศเยอรมนี พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล มีพระราชสมภพ
ใน พ.ศ. ๒๔๖๘ ต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๖๙ สมเด็จพระบรมราชชนกเสด็จกลับกรุงเทพฯ
พระองค์เดียว เพื่อร่วมในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จ
พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ระหว่างนั้น
สมเด็จพระบรมราชชนนีได้ทรงนำพระธิดา
และพระโอรสพระองค์แรกไปประทับ
ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
และทรงฝากให้อยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็ก
ชองโซเลย(Champ Soleil)อยู่หลายเดือนสมเด็จฯ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาส
ราชนครินทร์จึงทรงเริ่มรับสั่งภาษาฝรั่งเศส
ซึ่งต่อมาก็ทรงลืมหมด เมื่อเสด็จจากกัน
ไปแล้ว
�
ในปลายปี พ.ศ. ๒๔๖๙ สมเด็จพระบรม
ราชชนกได้ทรงนำครอบครัวไปประทับที่เมืองบอสตัน
(Boston ) ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อทรงศึกษาวิชาแพทยศาสตร์สมเด็จฯเจ้าฟ้าฯกรมหลวงนราธิวาส
ราชนครินทร์ทรงเริ่มศึกษาในระดับอนุบาลที่โรงเรียน
พาร์ค (Park School) พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระราชสมภพใน
พ.ศ.๒๔๗๑ณเมืองบอสตันนี้
ในปี พ.ศ. ๒๔๗๑ เมื่อสมเด็จพระบรมราชชนก
ทรงสำเร็จการศึกษาวิชาแพทยศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย
อาร์วาร์ด (Harvard) จึงได้ทรงนำครอบครัวกลับประเทศไทยและประทับณพระตำหนักใหญ่วังสระปทุม
สมเด็จฯ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ทรงเข้าศึกษาในระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนราชินี และ
ทรงศึกษาอยู่จนถึงพ.ศ.๒๔๗๖
ภายหลังจากที่สมเด็จพระบรมราชชนก
เสด็จสวรรคตใน พ.ศ. ๒๔๗๒ สมเด็จฯ เจ้าฟ้าฯ
กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ประทับอยู่ที่กรุงเทพฯ
ต่อไปอีกระยะหนึ่งจนถึง พ.ศ. ๒๔๗๖ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ทรงได้รับพระบรมราชานุญาต นำพระโอรส พระธิดาทั้ง ๓ พระองค์ ไปประทับ
ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สมเด็จฯ เจ้าฟ้าฯกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ได้ทรงเข้าศึกษาในซองโซเลย อีกครั้งหนึ่งเป็นเวลา ๒ เดือน แล้วจึงทรงเข้าศึกษา
ในโรงเรียนประถมศึกษาชื่อเมียร์มองต์ (Miremont) มีเรื่องเล่าขณะที่ทรงศึกษาที่เมียร์มองต์ว่า ครูอ่านเรื่องสั้น ๆ ให้ฟังแล้ว นักเรียนจะต้องเขียนเรื่องที่ได้ฟังส่งให้
ครูตรวจ ในระยะแรก ๆ ทรงเขียนได้เพียง ๑ บรรทัด จากเรื่องยาวที่ครูอ่านให้ฟัง
ประมาณครึ่งหน้ากระดาษและอีกครั้งหนึ่ง ครูให้เขียนประโยคเกี่ยวกับ TAON (ตัวเหลือบ)
�
ทรงเข้าพระทัย คิดว่า PAON (นกยูง) เพราะมีเสียงคล้ายกัน จึงทรงเขียนว่า“TOAN เป็นนกที่สวยงาม” หลังจากนั้นอีกประมาณ๒ปีก็ทรงเรียนร่วมกับนักเรียน
ชาวสวิสได้อย่างดีจนจบชั้นประถมศึกษา
พ.ศ. ๒๔๗๗ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประกาศ
สละราชสมบัติ และรัฐบาลได้อัญเชิญพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล
เสด็จขึ้นครองราชสมบัติสืบต่อมา หลังจากนั้นสมเด็จพระบรมราชชนนีทรงนำ
พระโอรสพระธิดาไปประทับที่บ้านซึ่งพระราชทานนามว่าวิลลาวัฒนา(Villa Vadhana)เมืองปุยยี ใกล้กับโลซานน์ พ.ศ. ๒๔๗๘ สมเด็จฯ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาส
ราชนครินทร์ทรงเข้าศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนสตรีชื่อ Ecole Suprieure de Jeunes Filles de la Ville de Lausanne ชั้นมัธยมในประเทศสวิตเซอร์แลนด์นับจากชั้น ๖ ๕ ๔ ๓ ๒ ๑ ทรงสามารถสอบเข้าชั้น ๕ ในระดับมัธยมศึกษานี้ได้
ทรงศึกษาภาษาเยอรมันและภาษาละตินด้วย
�
พ.ศ. ๒๔๘๑ ทรงย้ายไปศึกษาต่อที่เจนีวาในลักษณะของนักเรียนประจำที่
Lnternational School of Geneva ทรงสอบชั้นสูงสุดหลักสูตรระดับมัธยมศึกษา
ได้ดี เยี่ยมเป็นที่ ๑ ของโรงเรียนและเป็นที่ ๓ ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๕ ได้เสด็จเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยโลซานน์ในคณะวิทยาศาสตร์
สาขาวิชาเคมี ทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาตรี และได้รับ Diplome de Chimiste A เมื่อพ.ศ.๒๔๙๑ ในระหว่างที่ทรงศึกษาหลักสูตรวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยโลซานน์ ได้ทรง
เข้าศึกษาหลักสูตรของสังคมศาสตร์ Diplome de Sciences Sociales Pedagogiques อันประกอบด้วยวิชาต่าง ๆ ในสาขาวิชาการศึกษา วรรณคดี ปรัชญาและจิตวิทยา แม้เมื่อทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีสาขาวิชาเคมีแล้วก็ยังทรงศึกษา
วรรณคดีและปรัชญาต่อไปอีกด้วยความสนพระทัย
�
�
ความสนพระทัยในการกีฬา
สมเด็จฯ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาส
ราชนครินทร์ เมื่อทรงพระเยาว์ ทรงสนพระทัยและ
ทรงเล่นกีฬาหลายประเภท อาทิ กีฬาขี่ม้าข้ามเครื่อง
กีดขวางระหว่างที่ทรงศึกษาชั้นประถมในโรงเรียน
เมียร์มองต์ อาจารย์ใหญ่มีสถานที่เลี้ยงเด็กอยู่ใกล้ภูเขา
ก็ทรงเริ่ ม เล่นสกีแต่ ไม่สม่ ำ เสมอเพราะทรงห่วง
การศึกษาจนพระชนมายุประมาณ๑๖ชันษาจึงทรงสกี
อย่างจริงจัง ส่วนแบดมินตันนั้นได้ทรงตามเสด็จสมเด็จ
พระศรีนครินทราบรมราชชนนี นอกจากทรงร่วมเล่นแล้ว
ยังทรงสนับสนุนนักแบดมินตันหลายคนให้เข้าแข่งขัน
ระดับนานาชาติด้วย
�
ความสนพระทัยในการถ่ายภาพ
สมเด็จฯ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาส
ราชนครินทร์ ทรงสนพระทัยอย่างจริงจังในเรื่องการถ่ายภาพ
โดยที่ทรงเป็นผู้ใฝ่รู้ การใช้กล้องบันทึกภาพจึงมิใช่เพียง
เพื่อเก็บภาพไว้ดูเล่นเท่านั้น แต่จะเป็นการบันทึกภาพ
อย่างมีจุดมุ่งหมายทั้งในแง่ศิลปะและวิชาการ
ในการเสด็จเยือนโบราณสถานและสถานที่
สำคัญทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ทรงบันทึก
ภาพที่สนพระทัยด้วยพระองค์เองเสมอ ภาพที่ทรง
บันทึกไว้จะเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทรง
จัดทำพระนิพนธ์ในภายหลัง แม้การบันทึกภาพด้วยวีดิทัศน์
ของผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ในการทำข่าวเยือนเสด็จสถานที่
ต่าง ๆ ก็จะพระราชทานคำแนะนำแก่ผู้บันทึกภาพ
เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์และมีความหมายสอดคล้องกับคำบรรยาย
�0
ความสนพระทัย ในด้านการอ่านและการเขียน
สมเด็จฯ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ทรงสนพระทัยด้านการอ่านและการเขียน มาแต่ทรงพระเยาว์เมื่อทรงศึกษาในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ในโรงเรียนราชินี ได้ทรงอ่านหนังสือภาษาไทยเท่าที่จะทรงหาได้แต่ในเวลานั้นหนังสือสำหรับเด็กยังมีน้อยจึงทรงอ่านหนังสือพิมพ์ ทรงจำได้ว่าทรงอ่านเรื่องสำหรับเด็กเรื่องหนึ่งซึ่งต่อมาเมื่อเสด็จไปศึกษาที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็ทรงได้อ่านเรื่องเดียวกันนี้เป็นภาษาฝรั่งเศสคือเรื่องSANS FAMILLE ขณะทรงศึกษาในชั้นมัธยมศึกษา โดยเฉพาะที่โรงเรียนนานาชาติที่เจนีวาประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทรงอ่านหนังสือวรรณคดีมากด้วยทรงพบว่าการอ่านมีส่วนช่วยให้ภาษาฝรั่งเศสดีขึ้น เมื่อทรงงานเป็นอาจารย์วิชาภาษาฝรั่งเศส ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อศึกษาค้นคว้าด้านการสอน ได้ทรงอ่านหนังสือด้านภาษาศาสตร์
��
จำนวนมาก นอกจากนี้ยังทรงอ่านและศึกษาทางด้านศิลปวัฒนธรรม โบราณคดี
และประวัติศาสตร์มาโดยตลอดในการเสด็จเยือนประเทศต่างๆจะทรงแสวงหาหนังสือ
และเอกสารเกี่ยวกับประเทศนั้นมาศึกษาอย่างละเอียดก่อนเสมอ
ในด้านการเขียน เมื่อพระชนมายุประมาณ ๙ ชันษา ได้ทรงริเริ่มการออก
วารสาร “รื่นรมย์” โดยชักชวนให้พระสหายในวังสระปทุมเขียนเรื่อง ทรงทำหน้าที่
บรรณาธิการ และทรงเขียนบทความลงวารสารนี้ด้วย นอกจากนี้สมเด็จพระศรีนครินทรา
บรมราชชนนีก็ได้ทรงสนับสนุนให้ทรงอ่านนิทานภาษาอังกฤษและเรียบเรียงเรื่อง
เรื่องที่ต่อมาได้จัดพิมพ์แจกในงานวันพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีสวรินทิรา
บรมราชเทวี พระพันวัสสามาตุจฉาเจ้า วันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๕ คือ เรื่อง
“นิทานสำหรับเด็ก” ความสามารถด้านการนิพนธ์เป็นที่ประจักษ์จากผลงาน
อันประกอบด้วยพระนิพนธ์เกี่ยวกับพระราชวงศ์ ๑๑ เรื่อง พระนิพนธ์แปล ๓ เรื่อง
พระนิพนธ์สารคดีเชิงท่องเที่ยว๑๐เรื่องและพระนิพนธ์บทความทางวิชาการ๑เรื่อง
��
การทรงงาน
เมื่อสมเด็จฯ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จนิวัติประเทศไทย
ใน พ.ศ. ๒๔๙๓ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงทราบดีว่าพระธิดา
โปรดการเป็นครูมาแต่ทรงพระเยาว์ ได้รับสั่งแนะนำให้ทรงงานเป็นอาจารย์ จึงทรง
รับงานเป็นอาจารย์พิเศษสอนภาษาฝรั่งเศสที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทรงวิชาสนทนาภาษาฝรั่งเศส วิชาอารยธรรมฝรั่งเศส และวิชาวรรณคดีฝรั่งเศส นิสิต
ที่ได้มีโอกาสเป็นศิษย์ล้วนปีติยินดีในพระกรุณาธิคุณยิ่งนัก หลายคนรำลึกได้ว่าในวิชา
วรรณคดีฝรั่งเศสทรงสอนผลงานของ VICTOR HUGO นักประพันธ์เอกของโลก
สมเด็จฯ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงสอนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จนถึงพ.ศ.๒๕๐๑
ในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ขอ
พระราชทานพระกรุณาเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทรงรับงานสอน
และบริหาร โดยทรงเป็นหัวหน้าสาขาวิชาภาษาและวรรณคดีฝรั่งเศสและผู้อำนวยการ
ภาษาต่างประเทศ อันประกอบด้วยภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน ญี่ปุ่น จีน และรัสเซีย
สมเด็จฯ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงสอนวิชาภาษาและวรรณคดี
ฝรั่งเศสแก่นักศึกษาชั้นปีต่าง ๆ และทรงดูแลการสอนของอาจารย์ทั้งชาวไทยและ
��
ชาวต่างประเทศ นอกจากนี้ได้ทรงจัดทำหลักสูตรปริญญาตรีภาษาและวรรณคดี
ฝรั่งเศสจนสำเร็จในปี พ.ศ. ๒๕๑๖ เป็นหลักสูตรที่ผสมผสานความรู้ด้านภาษาและ
วรรณคดีฝรั่งเศสเข้าด้วยกันอย่างเหมาะสม
ใน ร ะหว่ า งที่ ท ร งปฏิ บั ติ ง าน
อาจารย์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั้น
คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ได้กราบทูลเชิญเป็นองค์บรรยายพิเศษ
ตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๕๑๕
เนื่องจากพระภารกิจด้านอื่น ๆ
เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ ในปี พ.ศ. ๒๕๑๙
จึงทรงลาออกจากตำแหน่งอาจารย์ประจำ
ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่ก็ยังเสด็จ
เป็นองค์บรรยายพิเศษต่อไปอีกนอกจากนั้น
ยั งทรงรั บ เป็นองค์บรรยายพิ เศษวิ ชา
ภาษาฝรั่งเศสในคณะวิทยาศาสตร์และ
อักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
อีกด้วย
ต่อมาเมื่อได้ทรงทราบปัญหา
ของคณะมนุษยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เรื่อง
การขาดแคลนอาจารย์ เพราะเป็นมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในจังหวัดห่างไกลและมีปัญหา
เรื่องความปลอดภัยก็ได้พระราชทานพระเมตตาเสด็จสอนวิชาภาษาฝรั่งเศสโดยประทับ
อยู่ในวิทยาเขตปัตตานีดังเช่นอาจารย์อื่นๆ
ระหว่างที่ทรงงานเป็นอาจารย์ ได้ทรงร่วมกิจกรรมทางวิชาการหลายด้าน
เช่น ทรงเป็นกรรมการสอบชิงทุน ก.พ. ไปศึกษาต่อต่างประเทศ ทรงเป็นประธาน
ออกข้อสอบภาษาฝรั่งเศสในการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยของรัฐ
��
ด้วยพระปรีชาญาณจากประสบการณ์ที่ทรงงานสอนภาษาฝรั่งเศสมาเป็น
ระยะเวลานานจึงทรงตระหนักถึงปัญหาความต่อเนื่องในการเรียนภาษาฝรั่งเศส
ระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษา ทรงริ เริ่มก่อตั้งสมาคมครูภาษาฝรั่งเศส
แห่งประเทศไทยขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๐ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการพบปะแลกเปลี่ยน
ประสบการณ์ การปรับปรุงวิธีการสอนทั้งระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษา
ทรงดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๐ จนถึง พ.ศ. ๒๕๒๔ จากนั้น
ก็ทรงดำรงตำแหน่งนายกกิตติมศักดิ์สมาคมฯ มาจนถึงปัจจุบัน ได้พระราชทาน
อนุเคราะห์แก่สมาคมฯ ในทุกทาง อาทิ ทรงสนับสนุนการจัดพิมพ์วารสารของสมาคม
เพื่อเผยแพร่ความรู้ใหม่ ๆ พระราชทานพระนิพนธ์บทความลงวารสาร ทรงส่งเสริม
ให้สมาชิกครูได้เข้ารับการสัมมนา ดูงานและศึกษาต่อเป็นต้น การเรียนการสอน
วิชาภาษาฝรั่งเศสและการวิจัยด้านภาษาฝรั่งเศสในประเทศไทยทั้งมัธยมศึกษาและ
ระดับอุดมศึกษาจึงเจริญรุดหน้าเป็นลำดับ
หลังจากที่ทรงปฏิบัติงานด้านการสอนมาจนถึงเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๒๑
ทรงได้รับการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานตำแหน่งศาสตราจารย์พิเศษ
ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
��
ความรอบรู้ทางด้านวิชาการและการอุทิศพระองค์เพื่อการศึกษาของ
สมเด็จฯ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นที่ประจักษ์ชัดทั้งในประเทศไทย
และต่างประเทศ มหาวิทยาลัยต่าง ๆ จึงได้ทูลเกล้าฯ ถวายดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
ในหลายสาขาวิชาและทรงได้รับการเทิดพระเกียรติจากรัฐบาลและองค์กรต่างประเทศ
หลายแห่ง อาทิ รัฐบาลฝรั่งเศสและองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม
แห่งสหประชาชาติ(UNESCO)
��
ค ว า ม ส น พ ร ะ ทั ย แ ล ะ
พระปรีชาสามารถทางด้านการศึกษา
ของสมเด็จฯ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวง
นราธิวาสราชนครินทร์ มิได้จำกัดอยู่
เฉพาะในแวดวงอุดมศึกษาเท่านั้น
ทรงตระหนักดีว่า การศึกษาระดับต้น
มี ค ว ามส ำคัญยิ่ ง ต่ อ ก า รพัฒน า
คุณภาพของประชากร ทั้งประเทศ
เมื่อมูลนิธิสมาคมสตรีอุดมศึกษา
แห่งประเทศไทยในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
จัดตั้ ง โครงการสอนการอ่านแก่ เด็กเล็กในชั้นเตรียมความพร้อมทั่ วประเทศ
ก็ได้พระราชทานความช่วยเหลือ โดยทรงรับเป็นผู้ดำเนินการทดลองอุปกรณ์การเรียน
ของมูลนิธิสมาคมฯ โดยทรงนำไปทดลองใช้ในระหว่างการตามเสด็จสมเด็จ
พระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จเยี่ยมและสงเคราะห์ราษฎรในท้องถิ่นทุรกันดาร
ในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทรงประเมินผลอุปกรณ์ วิเคราะห์ และแนะนำข้อแก้ไข
จนแล้วเสร็จตามโครงการ อาทิ อุปกรณ์ชุดไปโรงเรียน เสริมทักษะภาษาไทย ทรงนำ
ไปสาธิตและสอนตามโรงเรียนต่าง ๆ กว่า ๓๐ จังหวัด รับสั่งว่า เกมนี้ดี ข้อเสียมีน้อย
ถ้าไม่ดีคงไม่เสียเวลาทีละ๓ชั่วโมง
เมื่อพระภารกิจด้านอื่น ๆ เพิ่มขึ้น สมเด็จฯ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาส
ราชนครินทร์ จึงทรงลดงานสอนในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ แต่ก็ยังทรงพระราชทาน
พระอนุเคราะห์แก่สถาบันการศึกษาในกิจกรรมที่เกี่ยวกับงานวิชาการอย่างสม่ำเสมอ
เช่นการประชุมสัมมนาและการเสนอผลงานการวิจัย เป็นต้นความสนพระทัยที่มีต่อ
วิทยาการแขนงต่างๆมิได้ลดถอยลงแต่ประการใด
��
สมเด็จฯ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ทรงเป็นนักวิชาการและ
ทรงศึกษามาทางวิทยาศาสตร์จึงสนพระทัยโครงการจัดส่งเยาวชนไทยไปเข้าร่วมแข่งขัน
โอลิมปิกวิชาการตั้งแต่พ.ศ.๒๕๓๒มาจนถึงปัจจุบันการแข่งขันมีทั้งวิชาคณิตศาสตร์
ฟิสิกส์ เคมี คอมพิวเตอร์และชีววิทยา ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์และ
เงินจากทุนการกุศลสมเด็จย่าเพื่อช่วยเหลือ ด้วยทรงตระหนักว่าเยาวชนมีสติปัญญา
เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีความสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ ทรงติดตามความเคลื่อนไหว
ทุกขั้นตอนการแข่งขัน พระราชทานกำลังใจ และแสดงความยินดีด้วยทุกครั้งที่เยาวชนไทย
ได้รางวัลและใบประกาศเกียรติคุณเยาวชนที่ไปแข่งขัน คณาจารย์และผู้เกี่ยวข้อง
ได้รับพระกรุณาธิคุณเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ พระราชทานข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์
เช่น ทรงสนับสนุนให้จัดตั้งชมรมโอลิมปิกวิชาการ และพระราชทานเงินทุนสำหรับใช้
ในกิจการของชมรมด้วย
��
สมเด็จฯเจ้าฟ้าฯกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ทรงมีวิญญาณของความ
เป็นครูโดยแท้จริง นอกจากจะพระราชทานความรู้แล้วก็ยังได้ทรงอบรมมารยาทและ
ระเบียบวินัยแก่นิสิต นักศึกษา เพื่อให้เข้าสู่สังคมได้อย่างภาคภูมิ ทรงส่งเสริมและ
สนับสนุนศิษย์ให้เจริญก้าวหน้า พระราชทานความช่วยเหลือการแก้ปัญหาการศึกษา
ทั้งด้านวิชาการและทุนทรัพย์ ทั้งนี้มิได้ทรงต้องการสิ่งใดตอบแทน พระเกียรติคุณ
พระกรุณาธิคุณ และพระปรีชาญาณเป็นที่ประจักษ์แก่เหล่าครู นักเรียน นิสิต นักศึกษา
โดยทั่วกัน
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ทรงเป็นองค์ประธานกิตติมศักดิ์ องค์นายกกิตติมศักดิ์ องค์ประธาน รองประธาน
องค์อุปถัมภ์มูลนิธิสมาคมและทุนการกุศลต่างๆดังนี้
องค์ประธานกิตติมศักดิ์
๑. มูลนิธิกองทุนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
๒. มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ในพระบรมราชูปถัมภ์
๓. มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
องค์นายกกิตติมศักดิ์
๑. มูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
๒. สมาคมครูภาษาฝรั่งเศสแห่งประเทศไทย
๓. สมาคมคลังปัญญาอาวุโสแห่งประเทศไทย
๔. สมาคมฝรั่งเศสเชียงใหม่
๕. สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์
องค์ประธาน
๑. มูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย
๒. มูลนิธิหม่อมเจ้าหญิงบุญจิราธร(ชุมพล)จุฑาธุช
๓. กองทุนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเพื่อพัฒนาการพยาบาล
๔. มูลนิธิถันยรักษ์
��
๕. ศิริราชมูลนิธิ
๖. มูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษา
รองประธาน
๑. ทุนการกุศลสมเด็จย่า
องค์อุปถัมภ์
๑. มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม
๒. มูลนิธิเด็กโรคหัวใจในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
๓. มูลนิธิช่วยการสาธารณชุมชน
๔. มูลนิธิส่งเสริมสวัสดิภาพสตรีและเยาวชน
๕. มูลนิธิสตรีอุดมศึกษา
๖. ราชินีมูลนิธิ
๗. กองทุนสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี ในพระอุปถัมภ์สมเด็จ
พระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
๘. ศูนย์เนื้อเยื่อชีวภาพกรุงเทพฯคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
๙. สมาคมปราบวัณโรคเชียงใหม่
๑๐. ศูนย์เด็กอ่อนก่อนวัยเรียนณศูนย์รังสิตมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
๑๑. กองทุน“หม่อมเจ้าฟ้า”
๑๒. โรงเรียนวรนารีเฉลิมจังหวัดสงขลา
๑๓. สมาคมพยาบาลสาธารณสุขไทย
๑๔. มูลนิธิโลกสีเขียว
๑๕. มูลนิธิเพื่อโรงพยาบาลราชานุกูล
๑๖. สมาคมศิลปศาสตร์ธรรมศาสตร์
๑๗. มูลนิธิสงเคราะห์เด็กพิการทางสมองและปัญญา
๑๘. สมาคมนักเรียนเก่าสวิส
๑๙. โรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์
�0
๒๐. มูลนิธิโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน
๒๑. มูลนิธิโรงเรียนนันทบุรีวิทยาจังหวัดน่าน
๒๒. มูลนิธิกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
๒๓. มูลนิธิชีวิตพัฒนา
๒๔. สมาคมครูผู้สอนภาษาอังกฤษแห่งประเทศไทย
๒๕. มูลนิธิกาญจนาภิเษกจังหวัดน่าน
๒๖. มหาวิทยาลัยณิวัฒนา
๒๗. มูลนิธิพัฒนาเยาวสตรีภาคเหนือ
๒๘. มูลนิธิโรงพยาบาลเลิดสิน
๒๙. สโมสรโรตารีกรุงเทพ-บางลำพู
๓๐. พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีถ่ายภาพ
จากหนังสือ “เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์”สำนักเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติสำนักเลขาธิการ
คณะรัฐมนตรี จัดพิมพ์เผยแพร่เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมายุ ๘๐ พรรษา
วันที่๖พฤษภาคมพุทธศักราช๒๕๔๖
การทรงกรม
ใน พ.ศ. ๒๕๓๘ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงมี
พระราชดำริว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ซึ่งเป็นพระโสทรเชษฐภคินีเธอ
พระองค์เดียวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒ พระองค์ ด้วยทรงรับราชการ
สนองพระเดชพระคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ
อย่างอเนกอนันต์มาโดยลำดับ ทรงเป็นที่รักเทิดทูนของปวงประชาชนชาวไทยทั่วไป
จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนาพระอิสริยศักดิ์ขึ้นเป็น
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
เมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ ๖ รอบ
เป็นการเฉลิมพระเกียรติอย่างสูง
��
การสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระเกียรติยศพระบรมวงศ์ผู้ทรงทำ
คุณประโยชน์ต่อแผ่นดินและต่อพระราชวงศ์ให้“ทรงกรม” เป็นธรรมเนียมราชประเพณี
ที่มีมาแต่โบราณ เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จผ่าไอศูรย์
ราชสมบัติปราบดาภิเษกเป็นปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชจักรีวงศ์ ได้ทรงสถาปนา
พระอิสริยยศเจ้านายในพระราชวงศ์ ทรงตั้งเป็นต่างกรมตามชั้นซึ่งบัญญัติมาแต่ครั้ง
กรุงศรีอยุธยา มีผิดกันบ้างเพียงเล็กน้อย อาทิ ได้ทรงสถาปนาพระเจ้าพี่นางเธอ
สองพระองค์ คือ สมเด็จกรมพระยาสุดาวดี และสมเด็จกรมพระศรีสุดารักษ์ ในรัชกาล
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์
ทรงได้รับการเฉลิมพระเกียรติยศเป็นสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์
กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร ซึ่งต่อมาในรัชกาลที่ ๘ ทรงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จ
พระราชปิตุจฉาเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร
ตามพระราชประเพณีเฉลิมพระอิสริยยศเจ้านายแต่เดิมจะต้องประกอบพิธี
๒ ครั้ง คือ พิธีอภิเษก หมายถึง พิธีรดน้ำบนศีรษะ และพิธีรับกรม หมายถึง
พิธีรับสุพรรณบัฏต่อพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระสุพรรณบัฏนั้นเป็น
แผ่นทองคำจารึกพระนามเจ้านายพระองค์นั้นและมีใบกำกับพระสุพรรณบัฏเป็นอำนาจ
ในการตั้งเจ้ากรม ปลัดกรม และสมุห์บัญชี แต่เดิมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพระราชพิธีตามวังของเจ้านายที่ได้รับพระราชทาน
อิสริยยศนั้น เป็นเช่นนั้นจนกระทั่งถึงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้ทรงมีพระราชดำริว่าประเพณีการเสด็จฯ ไปพระราชทานพระสุพรรณบัฏถึงวังเจ้านาย
ดูกลับจะทำให้เจ้านายที่ได้กรมเดือดร้อนสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็นจึงทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าฯให้แก้ไขประเพณีการตั้งกรมเจ้านายในบางอย่างคือ
��
๑. โปรดเกล้าฯ ให้มีการตั้งกรมเนื่องในเวลามีงานมงคลราชพิธี เช่น
เฉลิมพระชนมพรรษา เป็นต้น ตั้งพระสุพรรณบัฏเจ้านายในมณฑลพระราชพิธีนั้น
ไม่ต้องมีงานสวดมนต์เลี้ยงพระที่วังอย่างแต่ก่อน
๒.ให้เจ้านายเสด็จเข้ามารับพระราชทานพระสุพรรณบัฏและให้อาลักษณ์
อ่านประกาศในท้องพระโรงและเสด็จออกเป็นการเต็มยศในงานนั้น
๓. เมื่อเสร็จการพระราชพิธีแล้วจึงให้พนักงานเชิญพระสุพรรณบัฏไป
ส่งมอบถวายที่วังในวันฤกษ์ตามที่เจ้านายพระองค์นั้นจะทรงกำหนด
เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวออกพระราชบัญญัติลักษณะ
เกณฑ์ทหารปล่อยพลเมืองจากสังกัดกรมต่าง ๆ ไปอยู่ในปกครองของเทศาภิบาล
ตามท้องที่ และให้บรรดาชายฉกรรจ์ทุกคนต้องรับราชการทหารชั่วคราวแทนขึ้นทะเบียน
เป็นเลกสังกัดอยู่ในกรมอย่างแต่ก่อน อย่างไรก็ดี การเฉลิมพระอิสริยยศเจ้านายก็มิได้
เลิกล้มไป ยังคงมีการเฉลิมพระนามและสถาปนาตามพระราชประเพณีตลอดมา
ทุกรัชกาลจนถึงรัชกาลปัจจุบัน
��
ประกาศ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี
จักรีนฤบดินทรสยามินทราธิราชบรมนาถบพิตร
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชดำริว่า
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา เป็นสมเด็จพระโสทรเชษฐภคินี
อันสนิทแต่พระองค์เดียวที่ได้ทรงร่วมสุขร่วมทุกข์กันมาแต่ยังทรงพระเยาว์ ทั้งเป็นผู้ที่
ทรงเคารพนับถือในฐานะที่ทรงมีอุปการคุณมาแต่หนหลัง ดังมีข้อความปรากฏอยู่ใน
ประกาศสถาปนาเป็นสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้า นั้นแล้ว ต่อมาสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ก็ยังใฝ่พระหฤทัยมั่นคงอยู่ มิได้ทอดทิ้งในอุปการกิจที่มี
แก่พระองค์ โดยเจตจำนงมุ่งหมายแต่จะให้ทรงพระเกษมสุข และทรงพระเจริญยิ่งด้วย
พระราชอิสริยยศในมไหศูรยสมบัติ โดยทรงปฏิบัติพระราชกิจแทนพระองค์ในหลายวาระ
และทรงรับเป็นธุระในการส่วนพระองค์สมเด็จพระบรมราชชนนีให้ดำเนินลุล่วงไปด้วย
ความเรียบร้อย ทั้งได้ปฏิบัติวัฏฐากสมเด็จพระบรมราชชนนีอย่างใกล้ชิดในที่ทุกสถาน
และรักษาพยาบาลในเมื่อทรงพระประชวรโดยมิได้มีความเบื่อหน่าย ย่อหย่อน ด้วยมี
พระประสงค์จะแบ่งเบาพระราชภาระ ทำให้ทรงคลายพระราชกังวลและวางพระราชหฤทัย
ในการส่วนสมเด็จพระบรมราชชนนีได้เป็นอันมาก
นอกจากนั้นสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ยังมีพระหฤทัย
เปี่ยมไปด้วยพระเมตตากรุณา ปรารถนาที่จะให้ประชาชนทุกชนชั้นได้มีวิชาความรู้
มีฐานะความเป็นอยู่และมีสุขภาพอนามัยที่ดีถ้วนหน้าจึงทรงพระอุสาหะรับเป็นอาจารย์
สอนอยู่ในสถาบันอุดมศึกษาต่าง ๆ โดยมิได้ทรงคิดเห็นแก่ความเหนื่อยยาก ทั้งทรง
รับเป็นธุระบริหารกองทุนการกุศลสมเด็จย่า ทรงเป็นประธานมูลนิธิโรคไตมาแต่แรกเริ่ม
และทรงรับมูลนิธิตลอดจนสมาคมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา การสังคมสงเคราะห์
และการสาธารณสุขไว้ในพระอุปถัมภ์อีกเป็นจำนวนมาก ได้ทรงปฏิบัติบริหารกองทุน
��
มูลนิธิ ที่ทรงเป็นประธานและบริหารอยู่โดยเต็มพระสติกำลังปรีชาสามารถ และได้
พระราชทานความช่วยเหลือนานัปการแก่มูลนิธิและสมาคมที่อยู่ในพระอุปถัมภ์ ทำให้
กิจการต่าง ๆ ของกองทุน มูลนิธิ และสมาคมเหล่านั้นดำเนินก้าวหน้ามาด้วยความมั่นคง
และก่อเกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างใหญ่หลวงพระเกียรติคุณด้านนี้
เป็นที่ประจักษ์เด่นชัด ด้วยเหตุนี้ สถาบันอุดมศึกษาในประเทศและองค์การ
ระหว่างประเทศมากแห่งจึงได้ถวายปริญญาดุษฎีกิตติมศักดิ์ในสาขาวิชาต่าง ๆ และ
เหรียญสดุดีพระเกียรติคุณ
มาบัดนี้ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ทรงเจริญด้วย
วัสสายุกาลวัยวุฒิ กอปรด้วยพระอัธยาศัยซื่อตรง ดำรงพระองค์มั่นอยู่ในสุจริตธรรม
สัมมาจารี มีความกตัญญูกตเวทีเป็นอย่างยิ่ง ทั้งทรงพระคุณแก่บ้านเมืองปรากฏอยู่
เป็นอเนกปริยาย สมควรที่จะได้สถาปนาพระอิสริยศักดิ์ให้สูงขึ้น โดยอนุโลมตาม
แบบอย่างโบราณราชประเพณี
จึงมีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งให้สถาปนาสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ขึ้นเป็นสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้าต่างกรมฝ่ายใน มีพระนามจารึก
ตามพระสุพรรณบัฏ ว่าสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส
ราชนครินทร์ ขอจงพระเจริญพระชนมายุ พรรณ สุข พล ปฏิภาณ คุณสารสมบัติ
สรรพสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลอิฐศุภผลธนสารสมบูรณ์ วรเกียรติคุณอดุลยยศปรากฏ
ยั่งยืนนานเทอญ
ประกาศ ณ วันที่ ๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๓๘ เป็นปีที่ ๕๐
ในรัชกาลปัจจุบัน
(ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๒ ตอนพิเศษ ๒๔ ง วันที่ ๖ พฤษภาคม
พ.ศ. ๒๕๓๘ หน้า ๑-๓)
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้ประกอบพระราชพิธีจารึกพระนามในพระสุพรรณบัฏ เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน
พ.ศ.๒๕๓๘ณพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามและเมื่อวันเสาร์ที่๖พฤษภาคม
��
พ.ศ. ๒๕๓๘ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกอบพระราชพิธีสถาปนา ณ พระบรม
มหาราชวังดังปรากฏในรายละเอียดดังนี้
วันเสาร์ที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๘
เวลา ๑๖.๒๙ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จ
พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธอ
พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา จากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ไปในการ
พระราชพิธีสถาปนาพระอิสริยศักดิ์และบำเพ็ญพระราชกุศลฉลองพระชนมายุ ๖ รอบ
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ณ พระที่นั่ งอมรินทรวินิจฉัย
ในพระบรมมหาราชวัง
ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงจุดธูปเครื่อง
นมัสการบูชาพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงจุดเทียน
พระมหามงคลเทียนเท่าพระองค์และธูปเทียนบูชาพระพุทธรูปเทวรูปพระเคราะห์แล้ว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประเคนพัดที่ระลึกฉลองพระชนมายุ ๖ รอบ สมเด็จ
พระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา แด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จ
พระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ ๗๓ รูป
แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์กองประกาศิต สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
อ่านประกาศพระบรมราชโองการสถาปนาพระอิสริยศักดิ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์จบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระราชทานน้ำพระมหาสังข์ และพระราชทานพระสุพรรณบัฏ ขณะนั้นพระสงฆ์๗๓ รูป
มีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นประธาน
เจริญชัยมงคลคาถา พราหมณ์เป่าสังข์ พนักงานแกว่งบัณเฑาะว์ ชาวพนักงานประโคม
ฆ้องชัย สังข์ แตร ดุริยางค์ แล้วพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ฉลองพระชนมายุ
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์จบแล้ว
��
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานอาราธนา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จ
พระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถวายพระธรรมเทศนา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรมสมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายกถวายพระธรรมเทศนาจบ
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใหส้มเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมเครื่องกัณฑ์เทศน์
และไทยธรรมถวายพระสงฆ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์
ถวายอนุโมทนาถวายอดิเรกถวายพระพรลาแล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส
ราชนครินทร์ สิ้นพระชนม์ เมื่อวันพุธที่ ๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑ และได้มี
พิธีพระราชทานเพลิงพระศพเมื่อวันเสาร์ที่๑๕พฤศจิกายนพ.ศ.๒๕๕๑
��