266

หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

  • Upload
    others

  • View
    10

  • Download
    0

Embed Size (px)

Citation preview

Page 1: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค
Page 2: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

หลักสูตร“โรงเรียนปลอดบุหร่ี” ฉบับ กิจกรรมการเรียนรู มุงสูการรณรงคเพ่ือการไมสูบบุหรี่ (20 ชัว่โมง)

โดย

เครือขายครูนักรณรงคเพื่อการไมสูบบุหรี่ (คมส.)

มูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหรี ่

ศูนยวิจัยและจัดการความรูเพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.)

ศูนยสรางสรรคครูมืออาชพี

สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสรางเสริมสุขภาพ (สสส.)

Page 3: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

หลักสตูรหลักสตูร““โรงเรียนปลอดบหุรี่โรงเรียนปลอดบหุรี่””

ฉบับ กิจกรรมการเรยีนรู มุงสูการรณรงคเพื่อการไมสูบบุหรี่ (20 ชั่วโมง)

ISBN 978-974-11-0757-5

เรียบเรียงโดย เครือขายครูนักรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี (คมส.)

ศูนยสรางสรรคครูมืออาชีพ

จัดพิมพโดย มูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี

ศูนยวิจัยและจัดการความรูเพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.)

สนับสนุนโดย สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสรางเสริมสุขภาพ (สสส.)

พิมพที่ เจริญดีมั่นคงการพิมพ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพ โทร.0-2457-2593

พิมพครั้งที่ 1 พฤษภาคม 2550

จํานวนพิมพ 1,200 เลม

Page 4: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

i

คํานิยม

เมื่อผมและทีมงานเริ่มทํางานรณรงคไมสูบบุหร่ีในป พ.ศ.2529 ผมรูสึกตื่นเตนมากที่ในสหรัฐอเมริกามีการตั้งเปาหมายวาจะทําให ช้ันเรียนปลอดบุหร่ีในป พ .ศ .2543 ดวยโครงการ “Smoke Free Class 2000” คิดงายๆ วา ถากําหนดใหโรงเรียนเปนเขตปลอดบุหร่ี และมีกฎหมายหามขายบุหร่ีแกเด็กที่มีอายุต่ํากวา 18 ป ก็จะไมมีใครสูบบุหร่ีในโรงเรียนอีก ยี่สิบปผานไป จึงพบสัจธรรมวามันไมใชเร่ืองงายๆ ที่จะทําใหโรงเรียนปลอดบุหร่ีจริงๆ มูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี จึงมีความยินดีมาก ที่มีการตั้งเครือขายครูนักรณรงคเพื่อ การไมสูบบุหร่ีขึ้น เพื่อสรางคานิยมและวัฒนธรรมใหมที่ไมสูบบุหร่ีในโรงเรียน การที่จะบรรลุวัตถุประสงคนี้ จําเปนที่จะตองทําใหนักเรียนรูถึงประเด็นของบุหร่ีกับสังคมและสุขภาพ สถิติพบวาคนที่รูเร่ืองบุหร่ีกับสังคมและสุขภาพยิ่งมากเทาไร โอกาสที่จะเขาไปเสพติดบุหร่ีก็ยิ่งนอยลงเทานั้น ความพยายามของคณะครูที่จัดทําหลักสูตร “โรงเรียนปลอดบุหร่ี” เพื่อประกอบการเรียนรูของนักเรียนฉบับนี้ จึงเปนเรื่องที่นาชื่นชม และสมควรสําหรับฝายที่เกี่ยวของในการใหการสนับสนุน หวังวาคูมือหลักสูตร “โรงเรียนปลอดบุหร่ี” จะเปนเครื่องมือในการทําใหโรงเรียนปลอดบุหร่ี เปนเปาหมายที่เปนไปไดจริงตามเจตนารมณของทุกๆ ฝายที่เกี่ยวของ เพื่อเด็กไทยจะรอดพนจากการเสพติดบุหรี่ หนึ่งในพฤติกรรมเสี่ยงที่สําคัญที่สุดของนักเรียน

ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงคเพือ่การไมสูบบหุรี่

Page 5: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

ii

คํานาํ

“การสรางภูมิคุมกันไมสูบบุหรี่ใหกับเด็กและเยาวชน” เปนสิ่งจําเปนอยางยิ่งทามกลางสังคมบริโภคนิยมและวัตถุนิยม ทั้งนี้เพราะเยาวชนเปนกลุมเปาหมายที่สําคัญของธุรกิจบุหร่ีที่มุงแสวงหากําไรโดยการเพิ่มนักสูบหนาใหมในกลุมเยาวชนอยางตอเนื่อง โรงเรียนนับเปนสถาบันสังคมที่มีสวนสําคัญอยางมากในการชวยสกัดกั้นอิทธิพลของธุรกิจบุหร่ีในการคุกคามวิถีชีวิตของเด็กและเยาวชน และเปนที่คาดหวังในการแสดงบทบาทพัฒนาทั้งดานสติปญญา อารมณ สังคมและจิตใจ และการปกปองเด็กและเยาวชนใหปลอดจากบุหร่ีทั้งในฐานะผูเสพและผูไดรับควันบุหร่ี

จําเปนอยางยิ่งที่จะตองกระตุน สงเสริมและสนับสนุนใหโรงเรียนแสดงบทบาทหนาที่ดังกลาว ซ่ึงการแสดงบทบาทหนาที่โดยการบูรณาการในหนาที่ประจําวันคือ การจัดการเรียนการสอนเปนทางเลือกหนึ่งของการมุงสรางโรงเรียนปลอดบุหร่ี และเพื่อเปนตัวชวยใหบุคลากรในสถาบันการศึกษาไดมีแนวทางและเครื่องมือในการจัดการเรียนการสอนเพื่อสรางโรงเรียนปลอดบุหร่ี ที่มีความสะดวกและงายตอการนําไปใช จึงไดมีการพัฒนา “หลักสูตรโรงเรียนปลอดบุหร่ี” ขึ้น โดยความคิดริเร่ิมและความรวมมือของหลายหนวยงาน ไดแก มูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี เครือขายครูนักรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี ศูนยสรางสรรคครูมืออาชีพ และศูนยวิจัยและจัดการความรูเพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.)

หลักสูตรโรงเรียนปลอดบุหร่ีเกิดขึ้นดวยความมุงมั่นของครูแกนนําของเครือขายครูฯ ที่ทุมเทและเสียสละเพื่อใหหลักสูตรสําเร็จลุลวง และไดรับการพัฒนาและประเมินผลตามหลักวิชาการโดยศูนยสรางสรรคครูมืออาชีพ และศูนยวิจัยและจัดการความรูเพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) และการสนับสนุนอยางเต็มที่ของมูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี ทั้งนี้เพราะทุกฝายตางใฝฝนที่จะใหเกิดโรงเรียนปลอดบุหร่ีและสังคมไทยปลอดบุหร่ีไดในอนาคตอันใกลนี้

หลักสูตรโรงเรียนปลอดบุหร่ีนี้ยังคงตองมีการนําไปใชและประเมินผลอยางเปนระบบและตอเนื่อง เพื่อปรับปรุงหลักสูตรใหดียิ่งขึ้น ขอบคุณทุกทานที่มีสวนรวมในการปฏิบัติภารกิจนี้ใหสําเร็จลุลวงเปนอยางดี ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตอบแทนความเสียสละและความมีน้ําใจดีของทุกคน

ผูชวยศาสตราจารย ดร.มณฑา เกงการพานิช

รองผูอํานวยการ ศจย. พฤษภาคม 2550

Page 6: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

iii

คณะกรรมการยกรางและพัฒนาหลักสูตร “โรงเรียนปลอดบุหรี่”

คณะที่ปรึกษาในการจัดทําและพัฒนาหลักสูตร

1. ศาสตราจารยเกยีรติคุณ นายแพทยประกติ วาทีสาธกกจิ มูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี 2. นางสาวบังอร ฤทธิภักดี เครือขายควบคุมการบริโภคยาสูบ แหงเอเชยีอาคเนย 3. ผูชวยศาสตราจารย ดร.มณฑา เกงการพานิช ศูนยวิจัยและจดัการความรูเพื่อการ ควบคุมยาสูบ (ศจย.) 4. นางสาวแสงเดือน สุวรรณรัศมี มูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี 5. ผูชวยศาสตราจารย ดร.ลักขณา เติมศิริกลุชัย ศูนยวิจัยและจดัการความรูเพื่อการ ควบคุมยาสูบ (ศจย.)

คณะครูผูยกรางและพัฒนาหลักสูตร

1. นายศุภรัตน ตันติเวชวงศ โรงเรียนสุวรรณสุทธารามวทิยา 2. นางสุวิมล จันทรเปรมปรุง โรงเรียนนวมนิทราชินูทิศ สตรีวิทยาพุทธมณฑล 3. นางอนงค พัวตระกูล โรงเรียนบางมดวิทยา "สีสุกหวาดจวนอุปถัมภ" 4. นางวราภรณ หงษดิลกกุล โรงเรียนรัตนโกสินทรสมโภชบางขุนเทยีน 5. นางพเยาว รุจิโรจนวงษ โรงเรียนสามพรานวิทยา 6. นางบุญตา มะหะเลา โรงเรียนนวมนิทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษานอมเกลา 7. นางภารดี แสงมณ ี โรงเรียนนวมนิทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษานอมเกลา 8. นางจันทรเจา รุงนาค โรงเรียนนวมนิทราชินูทิศ สตรีวิทยาพุทธมณฑล 9. นางมาลี เอี่ยมพร้ิง โรงเรียนนวมนิทราชินูทิศ สตรีวิทยาพุทธมณฑล 10. นางสาววรรณภา ทองสีไพล โรงเรียนบางมดวิทยา "สีสุกหวาดจวนอุปถัมภ" 11. นางสาวพรดี ลิมปรัตนากร โรงเรียนมัธยมวัดดุสิตาราม 12. นางจันทรพิมพ เหมือนทัพ โรงเรียนรัตนโกสินทรสมโภชบางขุนเทยีน 13. นางสาวยพุา สูตรเชี่ยวชาญ โรงเรียนราชวนิิตมัธยม 14. นางรัชนี ศรีเพ็ญ โรงเรียนราชวนิิตมัธยม 15. นายพิชัย ชมเพ็ญ โรงเรียนวัดปากน้ําวิทยาคม

Page 7: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

iv

คณะครูผูยกรางและพัฒนาหลักสูตร (ตอ)

16. นางวิไล มณีโชต ิ โรงเรียนวัดปากน้ําวิทยาคม 17. นางสาวฤดีวรรณ มาดีกลุ โรงเรียนวัดราชโอรส 18. ผศ.ภิญโญ ตาโนวัน โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย (ฝายมัธยม) 19. นางจารุวรรณ ตันจนัทรพงศ โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย (ฝายมัธยม) 20. นางสาวกญัจนี ศรีโสภา โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย (ฝายมัธยม) 21. นางอิ่มใจ ดีไสว โรงเรียนสามพรานวิทยา 22. นายสังเวยีน มณีจนัทร โรงเรียนชิโนรสวิทยาลัย 23. นายถนอม พิระขัมม โรงเรียนชิโนรสวิทยาลัย

24. นางเพ็ญทพิย มามาก โรงเรียนสุวรรณสุทธารามวทิยา

คณะทํางานสงัเคราะหและพัฒนาหลักสตูร

1. นางอารีรัตน วัฒนสิน ผูชวยกรรมการผูจัดการฝายวิชาการ ที่ปรึกษา บริษัท สํานักพิมพวัฒนาพานิช 2. นายปญญา ทรงเสรีย ผูอํานวยการศูนยสรางสรรคครูมืออาชีพ ประธาน 3. นายเศรษฐศิริ สายกระสุน กรรมการบริหารศูนยสรางสรรคครูมืออาชีพ กรรมการ 4. นายยุทธนา ทรงเสรีย กรรมการบริหารศูนยสรางสรรคครูมืออาชีพ กรรมการ 5. นายอังสุวัส ดิษยมาลย กรรมการบริหารศูนยสรางสรรคครูมืออาชีพ กรรมการ 6. นางสาวครอง ราศรี เลขานุการศูนยสรางสรรคครูมืออาชีพ เลขานุการ

ผูประสานงานพัฒนาหลักสูตร 1. นางสาวกนกวรรณ ชมเชย มูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี 2. นางสาวเพ็ญประภา ชิระกุล มูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี 3. นายสาโรจน นาคจ ู ศูนยวิจัยและจดัการความรูเพื่อการควบคมุยาสูบ (ศจย.) 4. นายณัฐพล เทศขยัน ศูนยวิจัยและจดัการความรูเพื่อการควบคมุยาสูบ (ศจย.)

Page 8: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

v

สารบัญ

หนา คํานํา i

คํานิยม ii

คณะกรรมการยกรางและพัฒนาหลักสูตร “โรงเรียนปลอดบุหร่ี” iii

สารบัญ v

ผังมโนทัศนสาระและมาตรฐานการเรียนรูชวงชั้น 1

การกําหนดผลการเรียนรูท่ีคาดหวัง 2

คําอธิบายรายวิชา “โรงเรียนปลอดบุหร่ี” 4

หนวยการเรียนรูรายวิชา “โรงเรียนปลอดบุหร่ี” 5

ผังมโนทัศนหนวยการเรียนรู 7

แผนการจัดการเรียนรูพิเศษ : การปฐมนิเทศ และการวิเคราะหผูเรียน 8

หนวยการเรียนรูท่ี 1 เร่ือง “รูจักบุหร่ีไว ปองกันภัยวันขางหนา” 23

แผนการจัดการเรียนรูที่ 1 เรื่อง “บุหรี่ตัวราย มาจากไหน” 25

แผนการจัดการเรียนรูที่ 2 เรื่อง “สารใดวาแรงฤทธิ์ ไมเทาสารพิษในบุหรี่” 33

แผนการจัดการเรียนรูที่ 3 เรื่อง “สุขภาพเริ่มทรุด เมื่อจุดบุหรี่” 46

แผนการจัดการเรียนรูที่ 4 เรื่อง “ออนแอทุกเมื่อ ความเช่ือที่ผิด จึงติดบุหรี่” 56

หนวยการเรียนรูท่ี 2 เร่ือง “บุหร่ีมีผลกระทบ เปนจุดจบของชีวิต” 75

แผนการจัดการเรียนรูที่ 5 เรื่อง “ดับบุหรี่กอนเสี่ยง หลีกเลี่ยงหายนะ” 77

แผนการจัดการเรียนรูที่ 6 เรื่อง “ผูหญิงสูบบุหรี่ มะเร็งก็มา ราศีก็เสื่อม” 90

แผนการจัดการเรียนรูที่ 7 เรื่อง “บานปลอดบุหรี่ ทุกชีวีมคีวามสุข” 99

แผนการจัดการเรียนรูที่ 8 เรื่อง “ยิ่งสูบยิ่งจน มืดมนทั้งชีวิต” 112

แผนการจัดการเรียนรูที่ 9 เรื่อง “บุหรี่คือมารราย ทําลายสังคม บมเพาะอาชญากร” 143

หนวยการเรียนรูท่ี 3 เร่ือง “กฎหมายคุมครอง เราตองรูทัน ดับควันบุหร่ี” 153

แผนการจัดการเรียนรูที่ 10 เรื่อง “รูกฎหมายควบคุมบุหรี่ พลเมืองดีชวยระวังภัย” 155

แผนการจัดการเรียนรูที่ 11 เรื่อง “สังคมจะไรควัน หากรูเทาทันบริษัทบุหรี”่ 166

แผนการจัดการเรียนรูที่ 12 เรื่อง “จะปลอดบุหรี่มือสอง ตองชวยคุมครองอยางทั่วถึง” 196

หนวยการเรียนรูท่ี 4 เร่ือง “ใชกลยุทธชั้นเซียน ชวยโรงเรียนใหปลอดบุหร่ี” 211

แผนการจัดการเรียนรูที่ 13 เรื่อง “คบเพื่อนดี ปลอดบุหรี่ตลอดชีวิต” 213

แผนการจัดการเรียนรูที่ 14 เรื่อง “เลิกบุหรี่อยางไร จึงชนะใจอยางยั่งยืน” 226

แผนการจัดการเรียนรูที่ 15 เรื่อง “ประสานใจ ใชปญญา พาโรงเรียนปลอดบุหรี่” 240

ภาคผนวก แบบประเมินผลการเรียนรู 253

Page 9: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

vi

หลักสูตร “โรงเรียนปลอดบุหร่ี”

ผังมโนทัศนสาระและมาตรฐานการเรียนรูชวงชั้นกลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา การกําหนดผลการเรียนรูที่คาดหวังโดยวิเคราะหความสอดคลองกับมาตรฐานการเรียนรู คําอธิบายรายวิชา “โรงเรียนปลอดบุหรี่” หนวยการเรียนรูรายวิชา “โรงเรียนปลอดบุหรี่” ชวงชั้นที่ 3 (ม.1 - 3) ผังมโนทัศนหนวยการเรียนรู

Page 10: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

1

ผังมโนทัศนสาระและมาตรฐานการเรียนรูชวงชั้นกลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชา “โรงเรียนปลอดบุหรี่” ชวงชัน้ท่ี 3 (ม.1-ม.3)

สาระที่ 2 : ชีวิตและครอบครัว สาระที่ 4 : การสรางเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการปองกันโรค

มาตรฐาน พ 2.1 เขาใจและเห็นคุ ณ ค า ข อ ง ชี วิ ต ค ร อบค รั ว เพศศึกษา และมีทักษะในการดําเนินชีวิต

สาระที่ 5 : ความปลอดภัยในชีวิต

มาตรฐาน พ 4.1 เห็นคุณคาและมีทักษะในการสรางเสริมสุขภาพ การดํารงสุขภาพ ก า รป อ ง กั น โ ร ค แล ะก า รสร า ง เ ส ริ มสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ

เจตคต ิ

มาตรฐานการเรียนรูชวงชั้น 2.เขาใจในคุณคาของความเปนเพื่อน ความเสมอภาคทางเพศส า ม า ร ถ ส ร า ง แ ล ะ รั ก ษ าสัมพันธภาพกับผูอื่น

ทักษะชีวิต คุณธรรม

โรงเรียนปลอดบุหรี่ สุขภาพดีอยางยั่งยืน

จริยธรรม

คานิยม

ทักษะสุขภาพ

ทักษะกระบวนการ

ความรู

มาตรฐานการเรียนรูชวงชั้น 1. วิเคราะหปจจัยและพฤติกรรมเสี่ยงตอสุขภาพ ความปลอดภัย และปฏิบัติตนไดถูกตองตามหลักของความปลอดภัย 2. เขาใจและเห็นคุณคาของกระบวนการสรางเสริมความปลอดภัยใหตนเอง ครอบครัว และชุมชน 3. ใชกลวิธีตางๆ ในการปองกันและหลีกเลี่ยงปจจัยเสี่ยงตอสุขภาพ 4. สามารถตัดสินใจและแกปญหาเมื่อเผชิญอันตรายและสถานการณที่คับขัน 5. ศึกษาวิเคราะหกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมผลิตภัณฑยาสูบและการรูเทาทันกลยุทธของบริษัทบุหร่ี * 6. มีกลยุทธและทักษะในการรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี ทั้งมาตรการการปองกันและการแกปญหา โดยมีเปาหมายใหโรงเรียนเปนเขตปลอดบุหร่ี *

มาตรฐานการเรียนรูชวงชั้น 1.วิเคราะหความเชื่อมโยงระหวางพฤติกรรมสุขภาพ การปองกันโรค และการดํารงสุขภาพ รวมทั้งรวมดูแลสุขภาพชุมชนสิ่งแวดลอม 2.วิ เคราะหอันตรายจากสารพิษท่ีมีผลตอสุขภาพของผูสูบบุหรี่และบุคคลใกลเคียง * 3.วิเคราะหปญหาของบุหรี่ท่ีมีผลกระทบตอบุคคล เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดลอม ดวยกระบวนการแกปญหาเชิงสรางสรรคอยางเปนระบบ * 4.มีทักษะการจัดการกับอารมณ ความเครียดและการฝกจิต 5.วางแผนและจัดเวลาในการออกกําลังกาย การพักผอน การสรางเสริมสมรรถภาพทางกาย การเขารวมกิจกรรมนันทนาการไดอยางเหมาะสม

มาตรฐาน พ 5.1 : ปองกันและหลีกเลี่ยงปจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงตอสุขภาพ อุบัติเหตุ การใชยา สารเสพติด และความรุนแรง

หมายเหตุ * มาตรฐานที่กําหนดเพิ่มเติมสําหรับรายวิชา “โรงเรียนปลอดบุหร่ี”

Page 11: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

2

การกําหนดผลการเรียนรูที่คาดหวัง โดยวิเคราะหความสอดคลองกับมาตรฐานการเรียนรู

กลุมสาระการเรียนรูสุขศกึษาและพลศึกษา

ลําดับท่ี ผลการเรียนรูท่ีคาดหวัง สาระการเรียนรู มาตรฐานการเรียนรูหลัก /

มาตรฐานชวงชั้น 1. รู เขาใจ และตระหนักในความจําเปนของการ

เรียนรูรายวิชา “โรงเรียนปลอดบุหร่ี” และมีสวนรวมในการวางแผนจัดการเรียนรู วิธีการการเรียนรู และการวัดประเมินผลตามสภาพจริงที่สอดคลองกับคุณลักษณะของผูเรียน

การปฐมนิ เ ทศและ การวิเคราะหผูเรียน

พ. 2.1 ขอ 2 พ. 4.1 ขอ 1-5 พ. 5.1 ขอ 1-6

2. รูและเขาใจประวัติความเปนมาของบุหร่ีและตระหนักในปญหาการสูบบุหร่ีในประเทศไทย

ประวัติความเปนมาของบุหร่ี

พ. 4.1 ขอ 1

3. รู เ ข า ใ จ แ ล ะ มี ทั ก ษ ะ ก ร ะ บ วนก า ร ใ น การทดลองหาสารพิษในควันบุหร่ีจนเกิดความตระหนักในพิษภัยของบุหร่ีที่มีตอชีวิตมนุษย

สารพิษในบุหร่ี พ. 4.1 ขอ 1-2

4. รู เขาใจ ตระหนักในพิษภัยและอันตรายของบุหร่ีที่มีตอสุขภาพของตนเอง และบุคคลขางเคียง

ผลกระทบของบุหร่ีตอสุขภาพ

พ. 4.1 ขอ 1

5. รู เขาใจ ตระหนักถึงสาเหตุปจจัยและความเชื่อของการสูบบุหร่ีที่มีอิทธิพลตอพฤติกรรมการสูบบุหร่ี

สาเหตุที่ทําใหติดบุหร่ี พ. 5.1 ขอ 1

6. รู เขาใจ และตระหนักในผลกระทบของการสูบบุหร่ีที่มีตอพฤติกรรมเสี่ยงดานอื่นๆ

ผลกระทบของบุหร่ีที่มีต อพฤติ ก ร รม เสี่ ย งอ่ืนๆ

พ. 5.1 ขอ 3

7. รู เขาใจ ตระหนักถึงผลกระทบและมีกระบวน การปองกันหรือปฏิเสธการสูบบุหร่ีของผูหญิง

ผลกระทบของบุหร่ีตอผูหญิงที่สูบบุหร่ี

พ. 4.1 ขอ 2-3 พ. 5.1 ขอ 1

8. รู เข าใจ ตระหนัก ถึงพิษภัยของบุห ร่ีที่มีผลกระทบตอครอบครัว และมีแนวทางปองกันผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอครอบครัวได

ผลกระทบของบุหร่ีตอครอบครัว

พ. 4.1 ขอ1, 3

Page 12: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

3

ลําดับท่ี ผลการเรียนรูท่ีคาดหวัง สาระการเรียนรู มาตรฐานการเรียนรูหลัก/

มาตรฐานชวงชั้น 9. รู เข าใจ ตระหนัก ถึงพิษภัยของบุห ร่ีที่มี

ผลกระทบตอเศรษฐกิจ ผลกระทบของบุหร่ีตอเศรษฐกิจ

พ. 4.1 ขอ 3 พ. 5.1 ขอ 1-3

10. รู เขาใจ ตระหนักถึงพิษภัยของบุหร่ี ใชก ร ะ บ วน ก า ร ป อ ง กั น แ ล ะ แ ก ไ ข ป ญห า ผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสังคม

ผลกระทบของบุหร่ีตอสังคม

พ. 4.1 ขอ 3 พ. 5.1 ขอ 1-3

11. รู เขาใจในสาระสําคัญของพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑยาสูบ พ.ศ.2535 และกฎหมายที่เกี่ยวของได

พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติค ว บ คุ ม ผ ลิ ต ภั ณ ฑยาสูบ พ.ศ. 2535

พ. 5.1 ขอ 2, 5

12. รูเทาทันกลยุทธของบริษัทบุหร่ีจากการศึกษาวิเคราะห และใชการคิดอยางมีวิจารณญาณในการดูแลปองกันตนเองและผู อ่ืนมิใหตกเปนเหยื่อของบริษัทบุหร่ี

การรู เท าทันกลยุทธของบริษัทบุหร่ี

พ. 5.1 ขอ 4 – 5

13. รูจักสถานที่สาธารณะที่เปนเขตปลอดบุหร่ีและมีวิธีการปกปองคุมครองสุขภาพของตนเองและผูอ่ืนใหปลอดจากควันบุหร่ีอยางสรางสรรค

พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติคุมครองสุขภาพของผูสูบบุหร่ี พ.ศ.2535

พ. 5.1 ขอ 2, 5

14. รู เขาใจในคุณคาของความเปนเพื่อน เลือกคบเพื่อนที่ดี และนําเพื่อนไปในทางสรางสรรคได

การคบเพื่อน พ. 2.1 ขอ 2

15. รูและเขาใจวิธีการเลิกสูบบุหร่ี สามารถนําไปใชกับตนเองและชวยเหลือผูอ่ืนในการเลิกสูบบุหร่ีได

วิธีการเลิกบุหร่ี พ. 4.1 ขอ 1 – 3 พ. 5.1 ขอ 2 -3,6

16. รู เขาใจ และมีทักษะในการจัดกิจกรรมรณรงคเพื่ อการไม สูบสุห ร่ีในโรงเรี ยนไดอย างมีประสิทธิภาพดวยความมุงมั่นและเกิดความภาคภูมิใจ

กิจกรรมรณรงค เพื่อก า ร ไ ม สู บ บุ ห ร่ี ใ นโรงเรียน

พ. 2.1 ขอ 2 พ. 4.1 ขอ 1– 5 พ. 5.1 ขอ 2 – 6

Page 13: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

4

คําอธิบายรายวิชา รายวิชาโรงเรียนปลอดบุหรี ่

กลุมสาระการเรียนรูสุขศกึษาและพลศึกษา (สาระการเรียนรูเพิ่มเติม)

ศึกษา คนควา สํารวจ วิเคราะห สังเคราะห ใชวิจารณญาณ และสรางสรรคผลงาน โดยใชทักษะกระบวนการและกระบวนการกลุม เกี่ยวกับประวัติความเปนมาของบุหร่ี สารพิษในบุหร่ี อันตรายของบุหร่ีที่มีตอสุขภาพของผูสูบและผูไดรับควันบุหร่ี สาเหตุที่ทําใหติดบุหร่ี ผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอพฤติกรรมเสี่ยงของเยาวชน ผูหญิง ครอบครัว เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดลอม กฎหมายควบคุมผลิตภัณฑยาสูบและคุมครองสุขภาพของผูไมสูบบุหร่ี กลยุทธของบริษัทบุหร่ี การเลือกคบเพื่อน วิ ธีการเลิกสูบบุหร่ี การรณรงคปองกันและแกไขปญหาเพื่อนําไปสู “โรงเรียนปลอดบุหร่ี” ดวยความตระหนัก รับผิดชอบตอสวนรวม เสียสละ เห็นคุณคาในตนเองและเกิดความภาคภูมิใจ

_________________________________

Page 14: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

5

หนวยการเรยีนรู รายวิชา “โรงเรียนปลอดบุหรี”่ ชวงชัน้ที่ 3 (ม.1 - 3)

กลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา (สาระการเรียนรูเพิ่มเติม) จํานวน 4 หนวยการเรียนรู เวลาเรียน 20 ช่ัวโมง

หนวย

การเรียนรูที่

ชื่อหนวย/ขอบขายสาระ

แผนที่/ กิจกรรม

ชื่อแผน/กิจกรรม

เวลาเรียน(ชั่วโมง)

มาตรฐานการเรียนรู/มาตรฐาน

ชวงชั้น - พิเศษ ก า ร ป ฐ ม นิ เ ท ศ แ ล ะ

การวิเคราะหผูเรียน

(1) พ 2.1 / ขอ 2 พ 4.1 / ขอ 1 - 5 พ 5.1 / ขอ 1 - 6

1 “รูจักบุหร่ีไว ปองกันภัยวันขางหนา” (ประวั ติ คว าม เป นมาส า ร พิ ษ ใ น บุ ห รี่ผลกระทบตอสุขภาพ สาเหตุท่ีทําใหติดบุหรี่)

1

2

3

4

• บุหรี่ตัวราย มาจากไหน

• สารใดวาแรงฤทธิ์ไมเทาสารพิษในบุหรี่

• สุ ข ภ า พ เ ริ่ ม ท รุ ด เมื่อจุดบุหรี่

• อ อ น แ อ ทุ ก เ มื่ อ ความเชื่อท่ีผิดจึงติดบุหรี่

1

1

1

1 (4)

พ 4.1 / ขอ 1 พ 4.1 / ขอ 1 - 2 พ 4.1 / ขอ 1 พ 5.1 / ขอ 1

2 “บุหร่ีมีผลกระทบ เปนจุดจบของชีวิต” (ผลกระทบของบุหรี่ท่ีมีตอพฤติกรรมเสี่ยงอื่นๆ ของเยาวชน ผลกระทบตอผู ห ญิง ครอบครั ว เศรษฐกิจ และสังคม)

5

6

7 8

9

• ดับบุหรี่ ก อน เสี่ ย งหลีกเลี่ยงหายนะ

• ผู ห ญิ ง สู บ บุ ห รี่ มะเร็งก็มาราศีก็เสื่อมบานปลอดบุหรี่

• ทุกชีวีมีความสุข • ยิ่งสูบ ยิ่งจน มืดมนท้ังชีวิต

• บุ ห รี่ คื อ ม า ร ร า ย ทํ า ล า ย สั ง ค ม บมเพาะอาชญากร

1

1

1 1

2 (6)

พ 5.1 / ขอ 3 พ. 4.1 /ขอ 2-3 พ 5.1 / ขอ 1 พ 4.1 / ขอ 1, 3 พ 4.1 /ขอ 3 พ 5.1 /ขอ 1 - 3 พ 4.1 / ขอ 3 พ 5.1 / ขอ 1 - 3

Page 15: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

6

หนวยการเรียนรูที ่

ชื่อหนวย/ขอบขายสาระ แผนที ่ ชื่อแผนการจัดการเรียนเวลาเรียน(ชั่วโมง)

มาตรฐานการเรียนรู/มาตรฐาน

ชวงชั้น 3 ก ฎ ห ม า ย คุ ม ค ร อ ง

เราตองรูทัน ดับควันบุหร่ี (กฎหมายเกี่ยวกับบุหรี่ พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑยาสูบ พ .ศ .2535 และการรูเทาทันกลยุทธของบ ริ ษั ท บุ ห รี่ พ . ร .บ .คุมครองสุขภาพของผูไมสูบบุหรี่ พ.ศ.2535)

10

11

12

• รู กฎหมายควบคุมบุหรี่ พลเมืองดีชวยระวังภัย

• สั ง ค ม จ ะ ไ ร ค วั น หากรู เทาทันบริษัทบุหรี่

• จะปลอดบุหรี่มือสอง ต อ งช ว ย คุ ม ค รอ งอยางทั่วถึง

1

1

2

(4)

พ 5.1 / ขอ 2,5 พ 5.1 / ขอ 3 - 5 พ 5.1 / ขอ 2,5

4 ใชกลยุทธชั้นเซียน ชวยโรงเรียนใหปลอดบุหร่ี (การคบเพื่อน วิธีการเลิกสูบบุหรี่ และกิจกรรมรณรงคเพื่อการไมสูบบุหรี่ในโรงเรียน)

13

14

15

• คบเพื่อนดี ปลอดบุหรี่ตลอดชีวิต

• เ ลิ ก บุ ห รี่ อ ย า ง ไ ร จึงชนะใจอยางยั่งยืน

• ประสานใจ ใชปญญาพาโรง เรี ยนปลอดบุหรี่

1

2

2

(5)

พ 2.1 / ขอ 2 พ 4.1 / ขอ 1 - 3 พ 5.1 / ขอ 2 - 3, 6 พ 2.1 / ขอ 2 พ 4.1 / ขอ 1 - 5 พ 5.1 / ขอ 2 - 6

รวม 4 หนวยการเรียนรู 16 แผนการจัดการเรียนรู เวลาเรียน 20 ชั่วโมง

Page 16: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

7

ผังมโนทัศน หนวยการเรยีนรู

รายวิชา “โรงเรียนปลอดบุหรี”่ ชวงชั้นที่ 3 (ม.1-3) จํานวน 4 หนวยการเรียนรู เวลาเรียน 20 ช่ัวโมง

หนวยท่ี 3 “กฎหมายคุมครอง

เราตองรูทัน ดับควันบุหร่ี”

4 ชม.

รายวิชา “โรงเรียนปลอดบุหร่ี” ชวงชั้นที่ 3 (ม.1-3)

20 ชม.

หนวยท่ี 1 รูจักบุหร่ีไว ปองกันภัย

วันขางหนา 4 ชม.

หนวยท่ี 2 “บุหร่ีมีผลกระทบ เปนจุดจบของชีวิต” 6 ชม.

หนวยท่ี 4 “ใชกลยุทธชั้นเซียนชวย

โรงเรียนใหปลอดบุหร่ี” 5 ชม.

แผนพิเศษ การปฐมนิเทศและการวิเคราะหผูเรียน 1 ชม. 15.ประสานใจ ใชปญญา พาโรงเรียนปลอดบุหรี่ (2 ชม.)

14. เลิกบุหรี่อยางไร จึงชนะใจอยางยั่งยืน (2 ชม.)

13. คบเพื่อนดี ปลอดบุหรี่ตลอดชีวิต (1ชม.)

5. ดับบุหรี่กอนเสี่ยง หลีกเลี่ยงหายนะ (1 ชม.)

12.จะปลอดบุหรี่มือสอง ตองชวยคุมครองอยางทั่วถึง (2 ชม.)

11.สังคมจะไรควัน หากรูเทาทันบริษัทบุหรี่ ( 1 ชม.)

10.รูกฎหมายควบคุมบุหรี่ พลเมืองดีชวยระวังภัย ( 1 ชม.)

7.บานปลอดบุหรี่ ทุกชีวีมีความสุข ( 1 ชม.)

6. หญิงสูบบุหรี่ มะเร็งก็มา ราศีก็เสื่อม (1 ชม.)

4.ออนแอทุกเมื่อ ความเชื่อที่ผิด จึงติดบุหรี่ (1ชม.)

3.สุขภาพเริ่มทรุด เมื่อจุดบุหรี่ (1 ชม.)

2.สารใดวาแรงฤทธิ์ ไมเทาสารพิษในบุหรี่ (1ชม.)

1.บุหรี่ตัวราย มาจากไหน (1 ชม.)

8.ยิ่งสูบ ยิ่งจน มืดมนทั้งชีวิต ( 1 ชม.)

9.บุหรี่คือมารราย ทําลายสังคม บมเพาะอาชญากร (2 ชม.)

Page 17: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

8

แผนการจัดการเรียนรูพิเศษ การปฐมนิเทศและการวิเคราะหผูเรียน

Page 18: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

9

กลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยีนปลอดบุหร่ี (สาระการเรียนรูเพิ่มเติม) ชวงชั้นที่ 3 (ม.1-ม.3)

แผนการจัดการเรียนรูพิเศษ เร่ือง “การปฐมนิเทศและการวิเคราะหผูเรียน” เวลา 1 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู (ที่กําหนดไวในรายวิชา “รายวิชาโรงเรียนปลอดบุหร่ี”) มาตรฐานหลัก พ 2.1 เขาใจและเห็นคุณคาของชีวิต ครอบครัว เพศศึกษา และมีทักษะใน การดําเนินชีวิต

มาตรฐานชวงชั้น ขอ 2 มาตรฐานหลัก พ 4.1 เห็นคุณคาและมีทักษะในการสรางเสริมสุขภาพ การดํารงสุขภาพ

การปองกันโรค และการสรางเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ มาตรฐานชวงชั้น ขอ 1-5 มาตรฐานหลัก พ 5.1 ปองกันและหลีกเลี่ยงปจจัยเส่ียง พฤติกรรมเสี่ยงตอสุขภาพ อุบัติเหตุ

การใชยา สารเสพติด และความรุนแรง มาตรฐานชวงชั้น ขอ 1-6

2. ผลการเรียนรูท่ีคาดหวัง รู เขาใจ และตระหนักในความจําเปนของการเรียนรูรายวิชา “โรงเรียนปลอดบุหร่ี” และมี สวนรวมในการวางแผนจดักจิกรรมการเรียนรู วิธีการเรียนรู และการวดัประเมินผลตามสภาพจริง ที่สอดคลองกับคุณลักษณะของผูเรียน 3. จุดประสงคการเรียนรู 3.1 แนะนําประวัติและคุณลักษณะของเพื่อน เพื่อการปรับตัวในการเรียนรูรวมกันไดอยางมีความสุข (ทักษะกระบวนการ-เจตคติ) 3.2 บอกลีลาการเรียนรูหรือวิธีการเรียนรูที่ตนเองถนัด และวิเคราะหจุดเดนจุดดอยของตนเองและของเพื่อนได (ทักษะกระบวนการ) 3.3 วิเคราะหวิจารณหนวยการเรียนรู พรอมทั้งกําหนดสาระและกิจกรรมที่ตองการเรียนรูเพิ่มเติมได (ความรู, ทักษะกระบวนการ)

3.4 บอกความคาดหวังและปจจัยแหงความสําเร็จในการพัฒนาโรงเรียนใหเปน “โรงเรียนปลอดบุหร่ี” ได (เจตคติ) 4. สาระการเรียนรู 4.1 การรูจักกันและการปรับตัวในการเรียนรูรวมกัน 4.2 วิธีการเรียนรู 4 รูปแบบไดแก นักวิเคราะห นักทฤษฎี นักกิจกรรม และนักปฏิบัติ 4.3 การกําหนดสาระการเรียนรู กิจกรรมการเรียนรูและการวัดประเมินผลตามสภาพจริง 4.4 ความคาดหวังและปจจัยแหงความสําเร็จของ “โรงเรียนปลอดบุหร่ี”

Page 19: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

10

5. สาระสําคัญ การรวมกันรณรงคใหโรงเรียนเปนเขตปลอดบุหร่ี เปนหนาที่ของทุกคนในโรงเรียนที่ จะเรียนรูและตระหนักในพิษภัยของบุหร่ี ผลกระทบดานตางๆ รวมทั้งการกอใหเกิดพฤติกรรมเสี่ยง การเขาใจกฎหมายที่เกี่ยวของและรูเทาทันบริษัทบุหร่ี นํามาสูการรวมกันรณรงคปองกัน และแกไขพฤติกรรมการสูบบุหร่ีในโรงเรียนไดอยางมีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืน จนสามารถบรรลุผลตามเปาหมายคือ “โรงเรียนปลอดบุหร่ี” ไดในที่สุด 6. กระบวนการเรียนรู

ขั้นนํา 6.1 ใหนักเรียนรวมกิจกรรม “จับคูรูใจเพื่อน” ตามใบงานที่ 1 โดยครูแจกกระดาษการดสี รูปหัวใจใหนักเรียนคนละ 1 ดวง แลวใหนักเรียนจับคูกันเพื่อสัมภาษณประวัติยอ เชน ช่ือจริง ช่ือเลน วันเกิด ครอบครัว วิชาที่ถนัดและไมถนัด และคติประจําใจ เปนตน พรอมทั้งบอกความรูสึกหรือประสบการณที่มีตอ “บุหร่ี” แลวใชปากกาวาดภาพการตูนหรือสัญลักษณของเพื่อน และบันทึกสิ่งที่สัมภาษณลงในการดรูปหัวใจ แลวนําการดรูปหัวใจมาจัดวางบนปายนิเทศหนาหองตามความคิด และจินตนาการอยางอิสระ ขั้นสอน 6.2 ครูช้ีแจงนักเรียนวา แผนการจัดการเรียนรูที่ 1 เร่ืองการปฐมนิเทศและการวิเคราะหผูเรียน มีความสําคัญในการที่ครูและนักเรียนมารวมกันวางแผนการจัดการเรียนรูใหสอดคลองกับคุณลักษณะและความตองการที่แทจริงของผูเรียนและใหเกิดประโยชนสูงสุดแกผูเรียน ดังนั้นในเบื้องตนครูจึงตอง “วิเคราะหผูเรียน” เพื่อทราบวานักเรียนมี “ลีลาการเรียนรู” หรือวิธีการเรียนรูแบบใดเพื่อครูและนักเรียนจะไดรวมกันปรับปรุงพัฒนาวิธีการเรียนรูในรายวิชา “โรงเรียนปลอดบุหร่ี” ใหสอดคลองกับผูเรียนมากขึ้น นักเรียนทุกคนทําใบงานที่ 2 แบบสํารวจลีลาการเรียนรูของนักเรียนพรอมทั้งสรุปคะแนนและ แปลความหมายเปนลีลาการเรียนรูหรือวิธีการเรียนรูตามความถนัดแบงเปน 4 กลุม ไดแก นักวิเคราะห นักทฤษฎี นักกิจกรรม และนักปฏิบัติ 6.3 นักเรียนรวมกันวิเคราะหคุณลักษณะของวิธีการเรียนรู 4 รูปแบบและสรุปรวมกันวา นักเรียนแตละกลุมจะสงเสริมจุดเดนและเติมเต็มจุดดอยของตนเองไดอยางไร โดยครูใหขอเสนอแนะเพิ่มเติม พรอมทั้งเก็บขอมูลผลการวิเคราะหผูเรียนเพื่อนําไปวางแผนการพัฒนาผูเรียนเปนรายกลุมและรายบุคคลตอไป 6.4 นักเรียนรวมกันปฏิบัติตามใบงานที่ 3 กิจกรรม เร่ือง “ภาพอะไรเอย” โดยรวมกันวิเคราะหตีความรูปภาพ พรอมวิพากษวิจารณ และทายชื่อหนวยการเรียนรู โดยระบุวาแตละหนวยการเรียนรูและทํากิจกรรมอะไรบาง เสร็จแลวครูเฉลยชื่อหนวยและสาระที่เรียน จากนั้นนักเรียนรวมกันระดม ความคิดเห็นในประเด็นตอไปนี้

Page 20: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

11

- ขอบขายสาระการเรียนรูสอดคลองและครอบคลุมกับสิ่งที่นักเรียนอยากรูหรือไมเพียงใด - วิธีการสอนของครู วิธีการเรียนรูของนักเรียน รวมทั้งกิจกรรมทั้งในหองเรียนและ นอกหองเรียนตองการแบบใดบาง - การมอบหมายชิ้นงาน และการวัดประเมินผลตามสภาพจริง นักเรียนตองการลักษณะใด มีปริมาณเทาใด และมีจุดเนนอะไรเปนสําคัญ

ครูใหขอเสนอแนะเพิ่มเติม และจดบันทึกความตองการของนักเรียนเพื่อนําไปวางแผน การจัดการเรียนรูตอไป

ขั้นสรุป 6.5 นักเรียนรวมกันแสดงความรูสึกคาดหวังในการจัดกิจกรรมการเรียนรูและใหขอเสนอแนะปจจัยสําคัญในการพัฒนาโรงเรียนใหเปน “โรงเรียนปลอดบุหร่ี” โดยครูชวยเสริมแรงใหกําลังใจและใหขอเสนอแนะเพิ่มเติม 7. วิธีการจัดการเรียนรู การจัดการเรียนรูแบบมีสวนรวม (Participatory Learning) 8. การบูรณาการ บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูศิลปะ (ในการวาดภาพและตกแตงการดสีรูปหัวใจ) 9. สื่อ/แหลงการเรียนรู 9.1 ใบงานที่ 1 กิจกรรมเรื่อง “จับคูรูใจเพื่อน” 9.2 ใบงานที่ 2 แบบสํารวจ “ลีลาการเรียนรู” ของนักเรียน

9.3 ใบงานที่ 3 กิจกรรม เร่ือง “ภาพอะไรเอย” 9.4 ส่ือการเรียนรูเร่ือง “บุหร่ี” เชน หนังสือ เอกสาร โปสเตอร สติ๊กเกอร เปนตน

9.5 หองสมุด 9.6 ศูนยการเรียนรูกลุมสาระสุขศึกษาและพลศึกษา/ศูนยรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี 9.7 เว็บไซต http://www.ashthailand.or.th http://www.smokefreezone.or.th 10. การวัดและประเมินผล 10.1 วิธีการวัด 1) สํารวจ “ลีลาการเรียนรู” ของนักเรียน 2) ประเมินกระบวนการเรียนรู 10.2 เคร่ืองมือวัด 1) แบบสํารวจ “ลีลาการเรียนรู” ของนักเรียน 2) แบบประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ”

Page 21: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

12

10.3 เกณฑการวัด - เกณฑการผานรอยละ 50 ของคะแนนเต็ม - เปนการวัดและประเมินผลเพื่อการวิเคราะหผูเรียนนําไปสูการปรับปรุงพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู และวางแผนการจัดการเรียนรูที่สอดคลองกับคุณลักษณะของผูเรียน และเปนสวนหนึ่งของคะแนน “จิตพิสัย” 11. กิจกรรมเสนอแนะ 11.1 ครูสามารถวิเคราะหผูเรียนโดยใหผูเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน (Pre - test) ในแผนนี้แลวทําแบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) เมื่อจบการเรียนในแผนสุดทาย หรือมีการทดสอบกอนและหลังเรียนในแตละแผนที่เนนเนื้อหาหรือความรูก็ได 11.2 เมื่อครูจัดกระบวนการเรียนรูในแผนพิเศษเรื่อง “การปฐมนิเทศและการวิเคราะหผูเรียน” แลว ครูมีภารกิจที่ตองปฏิบัติ 2 ประการคือ 1) นําขอมูลที่ไดรับมาปรับปรุงพัฒนาหนวยการเรียนรูและแผนการจัดการเรียนทั้ง 4 หนวยใหสอดคลองกับความตองการของผูเรียน 2) นําผลการวิเคราะหผู เรียนมาวางแผนการพัฒนาผู เรียนเปนรายกลุมและรายบุคคล โดยอาจคนควา วิจัยส่ือนวัตกรรมมาชวยพัฒนาผูเรียนตามมาตราที่ 30 ของพระราชบัญญัติการศึกษาแหงชาติ พ.ศ.2542 ตอไป

ลงชื่อ........................................................................

(......................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

Page 22: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

13

บันทึกหลังสอน

1. ผลการจัดการเรียนรู ...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

2. ปญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3. วิธีการแกปญหา ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ........................................................................

(......................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

ความคิดเห็นของผูบงัคับบัญชา .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ลงชื่อ........................................................................ (.......................................................................) ตําแหนง.................................................................... ผูบังคับบัญชา

Page 23: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

14

ใบงานที่ 1 กิจกรรมเรื่อง “จับคูรูใจเพื่อน”

จุดประสงคการเรียนรู

แนะนําประวัติและคุณลักษณะของเพื่อน เพื่อการปรับตัวในการเรียนรูรวมกันไดอยางมีความสุข (ทักษะกระบวนการ – เจตคติ) คําชี้แจง 1. นักเรียนจับคูกันเพื่อทําความรูจักกันในระยะเวลาอันสั้น โดยผลัดกันสัมภาษณประวัติยอ เชน ช่ือจริง ช่ือเลน วันเกิด ครอบครัว วิชาที่ถนัดและไมถนัด และคติประจําใจ เปนตน พรอมทั้งบอกความรูสึกหรือประสบการณที่มีตอ “บุหร่ี” แลวใชปากกาวาดภาพการตูนหรือสัญลักษณของเพื่อน และบันทึกสิ่งที่สัมภาษณลงใน “การดรูปหัวใจ” (ใชเวลาไมเกิน 10 นาที) 2. ครูสุมนักเรียนประมาณ 2-3 คูออกมาผลัดกันแนะนําหรือเลาเรื่องเกี่ยวกับตัวเพื่อน หลังจากนั้นนักเรียนชวยกันนําการดรูปหัวใจของสมาชิกทุกคน มาจัดเรียงบนปายหนาหองใหเปนรูปหัวใจดวงใหญดวงเดยีวกัน 3. นักเรียนรวมกันสรุปคุณคาของกิจกรรม “จับคูรูใจเพื่อน” และความหมายของรูปหัวใจที่นักเรียนรวมกันสรางสรรค

Page 24: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

15

เฉลยใบงานที่ 1 กิจกรรมเรื่อง “จับคูรูใจเพื่อน”

จุดประสงคการเรียนรู

แนะนําประวัติและคุณลักษณะของเพื่อน เพื่อการปรับตัวในการเรียนรูรวมกันไดอยางมีความสุข (ทักษะกระบวนการ - เจตคติ) คําชี้แจง 1. นักเรียนจับคูกันเพื่อทําความรูจักกันในระยะเวลาอันสั้น โดยผลัดกันสัมภาษณประวัติยอ เชน ช่ือจริง ช่ือเลน วันเกิดครอบครัว วิชาที่ถนัดและไมถนัด และคติประจําใจ เปนตน พรอมทั้งบอกความรูสึกหรือประสบการณที่มีตอ “บุหร่ี” แลวใชปากกาวาดภาพการตูนหรือสัญลักษณของเพื่อน และบันทึกสิ่งที่สัมภาษณลงใน “การดรูปหัวใจ” (ใชเวลาไมเกิน 10 นาที) 2. ครูสุมนักเรียนประมาณ 2-3 คูออกมาผลัดกันแนะนําหรือเลาเรื่องเกี่ยวกับตัวเพื่อน หลังจากนั้นนักเรียนชวยกันนําการดรูปหัวใจของสมาชิกทุกคน มาจัดเรียงบนปายหนาหองใหเปนรูปหัวใจดวงใหญดวงเดียวกัน 3. นักเรียนรวมกันสรุปคุณคาของกิจกรรม “จับคูรูใจเพื่อน” และความหมายของรูปหัวใจที่นักเรียนรวมกันสรางสรรค

ตัวอยางการดรูปหัวใจ สุวิทย รักดี “แวน”

*เกิด : วันพุธที่ 1 ม.ค. 2524 * ชอบเรียนวิทย *พี่เบิ้มของนองชาย 1 และ เพราะชอบคิดคน นองสาว 1 * ไมชอบเรียนอังกฤษ * คติประจําใจ เ เพราะขี้เกียจทองศัพท “ฝนใหไกล แลว

ไปใหถึง ” * คิดอยางไรกับ “บุหร่ี” “บุหร่ีคือมารชีวิต ไมใชมิตร

ยามเหงา”

งามตา นารกั “ตุกตา” *เกิด : วันศุกรที่ 3 ธ.ค. 2524 * ถนัดเรียนภาษาเพราะกลาพูดกับฝร่ัง(อังกฤษ) *เปนลูกเดียว * คติพจน “หากยังไมไดทําในสิ่งที่รัก จงรักในสิ่งที่ทํา” * ไมถนัดคณิต เพราะคิดแลวหนักสมอง * คิดอยางไรกับ “บุหร่ี” โชคดีที่ในบานไมมีใครสูบบุหร่ี อยากชวยรณรงคใหโรงเรียนปลอดบุหร่ี

Page 25: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

16

ชื่อ-สกุล.......................................................................ชั้น.........................เลขที่........................

คําชี้แจง แบบสํารวจนี้มีจุดมุงหมายเพื่อชวยใหผูเรียนและผูสอนมีความเขาใจวิธีการเรียนรูของผูเรียนแตละคน ใหกาเครื่องหมาย ลงในกระดาษคําตอบทีต่รงกับวิธีการเรียนของตนเอง

ท่ี รายการ ใช ไมใช 1 การไดเปนผูนําการอภิปรายหรือไดจัดใหมีการอภิปรายจะทําใหฉันเขาใจและเรียนรู

ดานตางๆ ไดดีขึ้น

2 ฉันเรียนรูเร่ืองราวขอมูลตางๆ โดยการอาน การฟง การสังเกต หรือการอภิปรายในหองเรียน

3 ฉันเรียนรูไดมาจากการไปฝกในสถานประกอบการ 4 ฉันเรียนรูไดเร็วขึ้นในเรื่องที่มีสมมติฐานและทุกอยางเปนไปตามสมมติฐานที่วางไว 5 ฉันชอบเขารวมทํางานกับกลุมและชุมนุมตางๆ ที่นาสนใจ เชนกลุมรณรงคตอตาน

ยาเสพติด

6 ฉันจดบันทึกการบรรยายหรือการอภิปรายในชั้นเรียนแลวอานทบทวนรายละเอียดหลายครั้งกอนทดสอบ

7 ขณะที่ฉันฟงการบรรยาย ฉันจะสรางภาพในใจเพื่อประกอบความเขาใจและชวยใหฉันจําเรื่องนั้นๆ ได

8 ฉันจะมีทักษะในการทํางานมากขึ้น ถาฉันลงมือทําจริง เชน การชวยซอมแซมหรือประกอบชิ้นสวนตางๆ

9 ฉันชอบที่จะเรียนรูจากการจัดอภิปรายในหองเรียนกับเพื่อนๆ 10 จากสื่อและกิจกรรมตางๆ เชน กราฟ แผนภูมิ แผนภาพ สถานการณจําลอง และชวย

ใหฉันสามารถสรุปขอความรูไดดี

11 ฉันสามารถเกิดการเรียนรูจากสถานการณจริง 12 ฉันชอบที่จะเรียนรูจากการจัดนิทรรศการ 13 ฉันจะสามารถเกิดการเรียนรูจากการทดลอง 14 ถาเรื่องที่เรียนที่มีลักษณะเนนกฎ หรือองคประกอบจะทําใหฉันเกิดการเรียนรูไดเร็วกวาปกติ 15 ถาฉันไดรวมแสดงละคร บทบาทสมมติ สถานการณจําลอง ฉันจะมีความสุข และ

เกิดการเรียนรูไดเร็วกวาการเปนผูดูอยางเดียว

ใบงานที่ 2 แบบสํารวจ “ลีลาการเรียนรู” ของนกัเรียน

Page 26: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

17

ท่ี รายการ ใช ไมใช 16 ฉันชอบที่จะเรียนรูจากการอานหนังสือพิมพ หรือวารสารมากกวาการฟงคําบรรยาย

จากคนเพียงคนเดียว

17 การปฏิบัติงานใดๆ ถาหากมีหลักการกําหนดไวชัดเจน จะทําใหฉันทํางานนั้นไดรวดเร็วกวาปกติ

18 ฉันชอบที่จะเรียนรูจากการไปทัศนศึกษา 19 ถามีหลักการหรือแนวคิดกําหนดไวแลวจะทําใหฉันสามารถตัดสินใจเลือกไดเร็วกวา

เร่ืองทั่วๆ ไป

20 ฉันจะสามารถเกิดการเรียนรูไดดีขึ้นถาไดศึกษาจากแหลงขอมูลจริง 21 ฉันจะเขาใจคําชี้แจงประกอบงานมอบหมายหรือขอทดสอบมากขึ้น หากเขียนคํา

ช้ีแจงนั้นบนกระดานหรือเขียนกํากับบนใบงาน มากกวาการฟงคําอธิบายของผูสอน

22 ในขอสันนิษฐานทุกชนิดถามีหลักการ แนวคิด กําหนดไว จะทําใหสามารถสรุปไดอยางรวดเร็ว

23 ฉันชอบที่จะเรียนรูจากการเขากลุม การเขารวมกิจกรรมชุมนุม 24 ฉันจะสามารถเกิดการเรียนรูจากการมีกรณีศึกษา 25 ฉันจะเกิดการเรียนรูเร่ืองใหมๆไดโดยการอาน หรือทําเรื่องนั้นๆหลายครั้ง 26 ฉันจะทําเรื่องราวตางๆไดดีถาเรื่องนั้นเปนทฤษฎีหรือแนวคิด 27 ฉันจะเรียนรูไดดีขึ้นเมื่อฉันมีสวนรวมในเกม หรือรวมแสดงในสถานการณจําลอง

หรือทําบทบาทสมมติ

28 ฉันจะสามารถเกิดการเรียนรูไดดีถาเปนผูแสวงหาความรูนั้นดวยตนเอง 29 เมื่อเกิดปญหาข้ึนทุกครั้ง ฉันจะนําหลักธรรมของศาสนา มาใชเปนแนวทางแกไข

ปญหาเสมอ

30 ทุกครั้งที่ฉันอานหนังสือพิมพ วารสาร หรือหนังสืออ่ืนๆ จะทําใหฉันเกิดการเรียนรูเร่ืองใหมๆ เสมอ

31 ฉันจะมีความรูสึกรวม และจดจําเรื่องตางๆไดมากถาฉันมีประสบการณตรง 32 กอนที่จะสรุปหรือแสดงความคิดเห็นในเรื่องใด ๆ ฉันจะตองศึกษาขอมูลในเรื่อง นั้นๆ

อยางละเอียดกอน

Page 27: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

18

การคิดคะแนนและแปลความหมาย

คําชี้แจง คะแนนมีอยู 2 ระดับ ขึ้นอยูกับการกาเครื่องหมาย ในแตละขอ คือ ใช = 1 คะแนน ไมใช = 0 คะแนน นักเรียนแตละคนตรวจสอบเครื่องหมายที่กาในแตละขอ แลวรวมคะแนนลักษณะการเรียนรูแตละแบบ หากผูเรียนมีคะแนนลักษณะการเรียนรูแบบใดสูง แสดงวาผูเรียนมีทักษะและยุทธวิธีการเรียนรูตามแบบนั้นๆ และคะแนนสูงรองลงมา แสดงวาผูเรียนมียุทธวิธีการเรียนรูในแบบนั้นรองลงมา โดยเฉพาะอยางยิ่งเมื่อคะแนนที่ไดใกลเคียงกัน สรุปผลการวิเคราะหผูเรียนของ ...................................................... ช้ัน ...............................เลขที่ .............

นักวิเคราะห นักทฤษฎ ี นักกิจกรรม นักปฏิบตั ิขอท่ี คะแนน ขอท่ี คะแนน ขอท่ี คะแนน ขอท่ี คะแนน

2 4 1 3 6 7 5 8 10 14 9 11 16 17 12 13 21 19 15 20 25 22 18 24 30 26 23 28 32 29 27 31 รวม รวม รวม รวม

อันดับ 1 ..................................................... อันดับ 2 ............................................................. อันดับ 3 ..................................................... อันดับ 4 ............................................................. สรุปผล ขาพเจามีวิธีการเรียนรูแบบ O นักวิเคราะห O นักทฤษฎ ี O นักกิจกรรม O นักปฏบิัต ิ ** ที่มา : หนวยศกึษานเิทศก กรมสามัญศึกษา. แนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนตามแนวทางปฏิรูปการศึกษา. กรุงเทพฯ : โรงพิมพการศาสนา, 2544.

Page 28: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

19

ใบงานที่ 3 กิจกรรมเรื่อง “ภาพอะไรเอย”

จุดประสงคการเรียนรู

วิเคราะห วิจารณหนวยการเรียนรู พรอมทั้งกําหนดสาระและกิจกรรมที่ตองการเรียนรูเพิ่มเติมได (ความรู - ทักษะกระบวนการ) คําชี้แจง 1. นักเรียนรวมกันพิจารณารูปภาพการตูนประกอบหนวยการเรียนรูหลักสูตร “โรงเรียนปลอดบุหร่ี” จํานวน 4 หนวย แลวชวยกันวิจารณภาพวา แตละภาพตองการสื่อความหมายเกี่ยวกับเรื่องอะไรบาง โดยตั้งชื่อหนวยและระบุสาระ ในแตละหนวยใหสัมพันธ กับภาพดวย 2. ครูเฉลยชื่อหนวยและสาระที่กําหนดไวในแตละหนวย 3. นักเรียนรวมกันวิจารณ และเสนอแนะสาระและกิจกรรมที่ตองการเรียนรูเพิ่มเติม หนวยท่ี 1 ชื่อหนวย......................................................................................................................... เร่ือง/กิจกรรมท่ีเรียน .................................................. ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... หนวยท่ี 2 ชื่อหนวย ......................................................................................................................... เร่ือง/กิจกรรมท่ีเรียน .................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ......................................................................................

Page 29: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

20

หนวยท่ี 3 ชื่อหนวย ......................................................................................................................... เร่ือง/กิจกรรมท่ีเรียน ......................................................................... ......................................................................... . ......................................................................... ......................................................................... ......................................................................... . ......................................................................... หนวยท่ี 4 ชื่อหนวย ......................................................................................................................... เร่ือง/กิจกรรมท่ีเรียน ......................................................................... ......................................................................... . ......................................................................... ......................................................................... ......................................................................... .........................................................................

Page 30: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

21

เฉลยใบงานที่ 3 กิจกรรมเรื่อง “ภาพอะไรเอย”

จุดประสงคการเรียนรู

วิเคราะห วิจารณหนวยการเรียนรู พรอมทั้งกําหนดสาระและกิจกรรมที่ตองการเรียนรูเพิ่มเติมได (ความรู - ทักษะกระบวนการ) คําชี้แจง 1. นักเรียนรวมกันพิจารณารูปภาพการตูนประกอบหนวยการเรียนรูหลักสูตร “โรงเรียนปลอดบุหร่ี” จํานวน 4 หนวย แลวชวยกันวิจารณภาพวา แตละภาพตองการสื่อความหมายเกี่ยวกับเรื่องอะไรบาง โดยตั้งชื่อหนวยและระบุสาระ ในแตละหนวยใหสัมพันธ กับภาพดวย 2. ครูเฉลยชื่อหนวยและสาระที่กําหนดไวในแตละหนวย 3. นักเรียนรวมกันวิจารณ และเสนอแนะสาระกิจกรรมที่ตองการเรียนรูเพิ่มเติม หนวยท่ี 1 ชื่อหนวย รูจักบุหร่ีไวปองกันภยัวันขางหนา เร่ือง/กิจกรรมท่ีเรียน - ประวัติความเปนมาของบหุร่ี - สารพิษของบุหร่ี - ผลกระทบตอสุขภาพ - สาเหตุที่ทําใหติดบุหร่ี ......................................................................................

หนวยท่ี 2 ชื่อหนวย บุหร่ีมผีลกระทบ เปนจุดจบของชวีิต เร่ือง/กิจกรรมท่ีเรียน - ผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอพฤติกรรม - ผลกระทบตอผูหญิงที่สูบบุหร่ี - ผลกระทบตอครอบครัว เศรษฐกิจ และสังคม .....................................................................................

Page 31: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

22

หนวยท่ี 3 ชื่อหนวย กฎหมายคุมครอง เราตองรูทัน ดับควันบุหร่ี เร่ือง/กิจกรรมท่ีเรียน - กฎหมายเกีย่วกับบหุร่ี - การรูเทาทันกลยุทธของบุหร่ี - บุหร่ีมือสอง ......................................................................................

หนวยท่ี 4 ชื่อหนวย ใชกลยทุธช้ันเซียน ชวยโรงเรียนใหปลอดบุหร่ี เร่ือง/กิจกรรมท่ีเรียน - การคบเพื่อน - วิธีการเลิกบหุร่ี - กิจกรรมรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีในโรงเรียน ....................................................................................

Page 32: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

23

หนวยการเรียนรูที่ 1 เร่ือง “รูจักบุหรี่ไว ปองกันภัยวนัขางหนา”

Page 33: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

25

กลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยีนปลอดบุหร่ี (สาระการเรียนรูเพิ่มเติม) ชวงชั้นที่ 3 (ม.1-ม.3)

หนวยการเรียนรูท่ี 1 เร่ือง “รูจักบุหรี่ไว ปองกันภัยวันขางหนา” แผนการจัดการเรียนรูท่ี 1 เร่ือง “บุหรี่ตัวราย มาจากไหน” เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู

มาตรฐานหลัก พ 4.1 เห็นคุณคาและมีทักษะในการสรางเสริมสุขภาพ การดํารงสุขภาพ การปองกันโรค และการสรางเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ

มาตรฐานชวงชั้น ขอ 1 2. ผลการเรียนรูท่ีคาดหวัง รู เขาใจประวัติ ความเปนมาของบุหร่ีและตระหนักถึงปญหาการสูบบุหร่ีในประเทศไทย 3. จุดประสงคการเรียนรู บอกประวัติความเปนมาของบุหร่ีและการสูบบุหร่ีในประเทศไทยได (ความรู ทักษะกระบวนการ) 4. สาระการเรียนรู ประวัติความเปนมาของบุหร่ีและการสูบบุหร่ีในประเทศไทย 5. สาระสําคัญ

การสูบบุหร่ีเกิดจากชาวอินเดยีนแดงซึ่งเปนชนพื้นเมืองในทวีปอเมริกา ไดใชยาสูบเปนพวกแรกโดยปลูกยาสูบเพื่อใชเปนยาและนํามาสูบในพิธีกรรมตางๆ โดยการคนพบของ คริสโตเฟอร โคลัมบัส เมื่อ พ.ศ. 2035 ตอมามีการปลูกในบราซิล โปรตุเกส สเปน ฝร่ังเศส อังกฤษ และ 200 ปตอมา การทําไรยาสูบเชิงพาณิชยจึงเกิดขึ้นอยางแพรหลายทั่วโลก สําหรับประเทศไทยมีการใชยาสูบตั้งแตสมัยอยุธยา เมื่อ พ.ศ. 2230 และตอมาในสมัยรัตนโกสินทรมีการผลิตบุหร่ีขายโดยบริษัทของชาวอังกฤษ ตอมารัฐบาลไดจัดตั้งโรงงานยาสูบและซื้อกิจการจากบริษัทกวางฮก บริษัทฮอฟฟน และบริษัทบริติช อเมริกันโทแบคโค มาดําเนินการเองแลวรวมกิจการภายใตช่ือวา โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง มาจนถึงปจจุบัน

Page 34: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

26

6. กระบวนการเรียนรู

ขั้นนํา 6.1 นักเรียนรวมกันนําบุหร่ี 1 มวน มาแกะไสออกใหเห็นสวนประกอบของบุหร่ีทั้งหมด และรวมกันวิเคราะหวิจารณในประเด็นตอไปนี้ - สวนประกอบของบุหร่ีที่นักเรียนเห็นมีอะไรบาง - เหตุใดผลิตภัณฑบุหร่ีจึงมีการผลิตอยางหลากหลายเพิ่มชนิดมากขึ้นในปจจุบัน - ควรลดหรือเพิ่มปริมาณการผลิตบุหร่ีเพราะเหตุใด

โดยครูใหขอเสนอแนะเพิ่มเติม ขั้นสอน 6.2 แบงนักเรียนเปนกลุม ๆ ละประมาณ 5 คน รวมกันศึกษาประวัติความเปนมาของบุหร่ีและสถิติเกี่ยวกับการสูบบุหร่ีจาก ใบความรูท่ี 1 เร่ือง “บุหรี่ตัวราย มาจากไหน” และศกึษาคนควาเพิม่เติมจากสื่อการเรียนรูอ่ืน ๆ 6.3 นักเรียนแตละกลุมปฏิบัติ ใบงานที่ 1 เร่ือง “เลาความเปนมาของบุหรี่จากภาพการตูน” โดยรวมกันสรุปความเปนมาของบุหร่ี ในแตละตอนใหถูกตอง 6.4 นักเรียนรวมกันนําผลงานจากใบงานที่ 1 จัดแสดงบนปายนิเทศ ครูสังเกตกระบวนการเรียนรู และใหขอเสนอแนะเพิ่มเติม ขั้นสรุป 6.5 นักเรียนรวมกันสรุปประวัติความเปนมาของบุหร่ีและเสนอแนวทางลดปญหาการสูบบุหร่ีในประเทศไทย 7. วิธีการจัดการเรียนรู การจัดการเรียนรูที่เนนการคิดเชิงวิเคราะห (Analytical Thinking) 8. การบูรณาการ 8.1 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูศิลปะ (ภาพการตูนประกอบใบความรูที่ 1) 8.2 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูภาษาไทย (การเขียนขอความหรือคําขวัญประดับตกแตงปายนิเทศ) 9. สื่อ/แหลงการเรียนรู 9.1 ใบความรูที่ 1 เร่ือง “บุหร่ีตัวราย มาจากไหน” 9.2 ใบงานที่ 1 เร่ือง “เลาความเปนมาของบุหร่ีจากภาพการตูน” 9.3 เว็บไซต http://www.ashthailand.or.th http://www.smokefreezone.or.th

Page 35: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

27

10. การวัดและประเมินผล 10.1 วิธีการวัด 1) ประเมินการปฏิบัติใบงานที่ 1 2) ประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ” 10.2 เครื่องมือวัด 1) แบบประเมินการปฏิบัติใบงานที่ 1 พรอมเฉลย 2) แบบประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ”

10.3 เกณฑการวัด - เกณฑการผานรอยละ 50 ของคะแนนเต็ม - การใหคะแนนแบบกําหนดเกณฑ (Rubric) ใชวิธีการจัดลําดับคุณภาพ (Rating Scale)

สามารถประเมินพฤติกรรมหรือผลงานไดตามสภาพจริง 11. กิจกรรมเสนอแนะ ครูอาจเปดโอกาสใหผูเรียนมีสวนรวมในการเปนคณะกรรมการศูนยการเรียนรูกลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษาหรือศูนยรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี สามารถศึกษาคนควา รวบรวมขอมูลและที่นาสนใจเกี่ยวกับบุหร่ีจัดทําเปนปายนิเทศ เผยแพรขอมูลที่ทันสมัยอยูตลอดเวลา

ลงชื่อ........................................................................ (.......................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

Page 36: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

28

บันทึกหลังสอน

1. ผลการจัดการเรียนรู ...........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

2. ปญหาและอุปสรรค ........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3. วิธีการแกปญหา ........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ความคิดเห็นของผูบริหารสถานศึกษา/ผูท่ีไดรับมอบหมาย ....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

ลงชื่อ........................................................................ (.......................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

ลงชื่อ........................................................................ (.......................................................................) ตําแหนง................................................................... ผูอํานวยการสถานศึกษา

Page 37: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

29

จุดประสงคการเรียนรู บอกประวัติความเปนมาของบุหร่ีและการสูบบุหร่ีในประเทศไทยได (ความรู)

ชาวอินเดียนแดงซ่ึงเปนชนพื้นเมืองในทวีปอเมริกา ไดเร่ิมตนใชยาสูบเปนพวกแรกโดยปลูกยาสูบเพื่อใชเปนยาและนํามาสูบในพิธีกรรมตาง ๆ ใน พ.ศ. 2035 เมื่อคริสโตเฟอร โคลัมบัส (Christopher Columbus) เดินเรือไปขึ้นฝงที่ซันซัลวาดอร ในหมูเกาะเวสตอินดีสนั้น ไดเห็นชาวพื้นเมืองนําเอาใบไมชนิดหนึ่งมามวนและจุดไฟตอนปลายแลวดูดควัน

1. ชาวอินเดียแดง ทวีปอเมริกา พ.ศ. 2035

ตอมา พ.ศ. 2091 มีการปลูกยาสูบในบราซิลซ่ึงเปนอาณานิคมของโปรตุเกสในทวปีอเมริกาใต เพื่อเปนสินคาสงออก เปนผลใหยาสูบแพรหลายเขาไปในประเทศโปรตุเกสและสเปนตามลําดับ ตอมาใน พ.ศ. 2103 นายฌอง นิโกต (Jean Nicot) เอกอัครราชทูตฝร่ังเศสประจําประเทศโปรตุเกส ไดสงเมล็ดยาสูบมายังราชสํานักฝร่ังเศส ช่ือของนายนิโกตจึงเปนทีม่าของชื่อสารนิโคตนิ (Nicotin) ที่รูจักในปจจุบันใน พ.ศ. 2107 เซอรจอหน ฮอคกินส (Sir John Hawkins) ไดนํายาสบูเขาไปในประเทศอังกฤษ และใน พ.ศ. 2155 นายจอหน รอลฟ (John Rolfe) ชาวอังกฤษประสบผลสําเร็จในการปลูกยาสูบเชิงพาณชิยเปนคร้ังแรก และ 7 ปตอมา ก็ไดสงออกผลผลิตไปยังประเทศอาณานิคมเปนจํานวนมหาศาล อีก 200 ปตอมาการทําไรยาสบูเชิงพาณิชยจงึเกิดขึ้นอยางแพรหลายทัว่โลก

ใบความรูที่ 1 เรื่อง “บุหรี่ตัวราย มาจากไหน”

3. จอหน รอลฟ ชาวอังกฤษปลูกยาสูบเชิงพาณิชย

พ.ศ. 2155

ตนกําเนิดของบุหรี่

2. ฌอง นิโกต สงเมล็ดยาสูบไป ฝรั่งเศส : ท่ีมาของ "นิโคติน”

Page 38: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

30

5. ชาวอังกฤษตั้งบริษัท บุหรีใ่นไทยพ.ศ. 2460

ในประเทศไทยมีการใชยาสูบตั้งแตสมัยอยุธยาแลว โดยมีหลักฐานจากจดหมายเหตุของ

เมอรซิเออร เดอลาลูแบร (Monsieur De La Loube’re) อัครราชทูตฝร่ังเศสที่เดินทางมาเมืองไทย สมัยสมเด็จพระนารายณมหาราช เม่ือ พ.ศ. 2230 ไดเขียนเลาเรื่องประเทศสยามวา คนไทยชอบใชยาสูบอยางฉุนท้ังผูชายและผูหญิง โดยไดยาสูบมาจากเมืองมะนิลาในหมูเกาะฟลิปปนส จากประเทศจีน และที่ปลูกในประเทศเอง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกลาเจาอยูหัว พระวรวงศเธอพระองค เจาสิงหนาทราชดํารงคฤทธิ์ไดทรงประดิษฐบุหร่ีกนปานขึ้น เพื่อสูบควันและอมยากับหมากพรอมกัน

คร้ันถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว มีการผลิตบุหร่ีขึ้นโดยบริษัทที่มี ชาวอังกฤษเปนเจาของ ไดเปดดําเนินการเปนบริษัทแรกใน พ.ศ. 2460 การผลิตบุหร่ีในระยะแรกจะมวนดวยมือ ตอมาในรัชสมัยพระสมเด็จพระมงกุฎเกลาเจาอยูหัว มีการนําเครื่องจักรเขามาจากประเทศเยอรมนี และทําการผลิตบุหร่ีออกมาจําหนายหลายยี่หอ การสูบบุหร่ีจึงแพรหลายมากขึ้น จนกระทั่งใน พ.ศ. 2482 รัฐบาลไดจัดตั้งโรงงานยาสูบขึ้น โดยซ้ือกิจการมาจากหางหุนสวนบูรพายาสูบ จํากัด (สะพานเหลือง) ถนนพระราม 4 กรุงเทพฯ และดําเนินกิจการอุตสาหกรรมยาสูบภายใตการควบคุมของกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง หลังจากนั้นรัฐบาลไดซ้ือกิจการของบริษัทกวางฮก บริษัทฮอฟฟน และบริษัทบริติช อเมริกันโทแบคโค เพิ่มขึ้น แลวรวมกิจการภายใตช่ือวา “โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง”มาจนถึงปจจุบัน

ที่มา : ศ.เกียรติคุณ นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ, ผศ.กรองจิต วาทีสาธกกิจ. “สารานุกรมไทยสําหรับเด็กและเยาวชน โดยพระราชประสงคในพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว เลม 28”, 2547. หนา 161-162.

6. ต้ังโรงงานยาสูบ พ.ศ. 2482

การสูบบหุรี่ในประเทศไทย

4. สมัยสมเด็จพระนารายณมหาราช คนไทยไดยาสูบมาจากฟลิปปนส จีน และปลูกเอง (พ.ศ.2230)

Page 39: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

31

จุดประสงคการเรียนรู

บอกประวัติความเปนมาของบุหร่ีและการสูบบุหร่ีในประเทศไทยได (ความรู)

คําชี้แจง เมื่อนักเรียนศกึษาใบความรูที่ 1 เร่ือง “บุหร่ีตัวราย มาจากไหน” แลวใหนําความรูทีไ่ดมาเขียนบรรยายภาพขางลางนี้ จํานวน 6 ภาพ ใหไดใจความทีถู่กตองพอเปนสังเขป

1. ชาวอินเดียแดง ทวีปอเมริกา (พ.ศ.2035)

2. ฌอง นิโกต สงเมล็ดยาสูบไปฝรั่งเศส

3. จอหน รอลฟ ชาวอังกฤษปลูกยาสูบเชิงพาณิชย (พ.ศ.2155)

คําบรรยายภาพที่ 1 ..............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

คําบรรยายภาพที่ 2 ..............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

คําบรรยายภาพที่ 3 ..............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

ใบงานที่ 1 เร่ือง “เลาความเปนมาของบุหรี่ จากภาพการตูน”

Page 40: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

32

5. ชาวอังกฤษตั้งบริษัท บุหรีใ่นไทย (พ.ศ. 2460)

4. สมัยสมเด็จพระนารายณมหาราช คนไทย ไดยาสูบมาจากฟลิปปนส จีน และปลูกเอง (พ.ศ. 2230)

6. ต้ังโรงงานยาสูบ (พ.ศ. 2482)

คําบรรยายภาพที่ 4 ..............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

คําบรรยายภาพที่ 5 ..............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

คําบรรยายภาพที่ 6 ..............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

Page 41: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

33

กลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยีนปลอดบุหร่ี (สาระการเรียนรูเพิ่มเติม) ชวงชั้นที่ 3 (ม.1-ม.3)

หนวยการเรียนรูท่ี 1 เร่ือง “รูจักบุหรี่ไว ปองกันภัยวันขางหนา” แผนการจัดการเรียนรูท่ี 2 เร่ือง “สารใดวาแรงฤทธิ์ ไมเทาสารพิษในบุหรี่” เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู

มาตรฐานหลัก พ 4.1 เห็นคุณคาและมีทักษะในการสรางเสริมสุขภาพ การดํารงสุขภาพ การปองกันโรค และการสรางเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ

มาตรฐานชวงชั้น ขอ 1-2

2. ผลการเรียนรูท่ีคาดหวัง รู เขาใจ และมีทักษะกระบวนการในการทดลองหาสารพิษในควันบุหร่ี จนเกิดความตระหนักในพิษภัยของบุหร่ีที่มีตอชีวิตมนุษย

3. จุดประสงคการเรียนรู 3.1 อธิบายสวนประกอบของสารพิษในควันบุหร่ี และผลกระทบที่เกิดกับรางกายและชีวิตมนุษยได (ความรู) 3.2 ปฏิบัติการทดลอง “ผลการเผาไหมของบุหร่ี” จนสามารถพิสูจนไดวามีสารพิษอยูในควันบุหร่ีจริง (ความรู - ทักษะกระบวนการ) 3.3 เขียนคําขวัญสรางความตระหนักในพิษภัยของบุหร่ีได (ความรู-ทักษะกระบวนการ-เจตคติ)

4. สาระการเรียนรู 4.1 สวนประกอบของสารพิษในควันบุหร่ีและผลกระทบที่เกิดกับรางกายและชีวิตมนุษย 4.2 การทดลอง “ผลการเผาไหมของบุหร่ี” 4.3 การถายทอดความรู ความเขาใจ และความตระหนักในพิษภัยของบุหร่ี

5. สาระสําคัญ บุหร่ีเมื่อเกิดการเผาไหมจะทําใหเกิดสารเคมีมากกวา 4,000 ชนิด สารหลายรอยชนิดมีผลตอการทํางานของอวัยวะตางๆ ในรางกาย และมีสาร 60 ชนิดที่เปนสารกอมะเร็ง

Page 42: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

34

6. กระบวนการเรียนรู ชั่วโมงที่ 1

ขั้นนํา 6.1 นักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียนจํานวน 10 ขอ 6.2 นักเรียนรวมกันอานสื่อคําขวัญประกอบรูปภาพ ความวา “ชีวิตจะสั้น เพราะควันบุหรี่” แลวรวมกันวิจารณคําขวัญทั้งในดานวรรณศิลปหรือความไพเราะในการใชภาษาและในดานความหมาย 6.3 ครูใหขอเสนอแนะเพิ่มเติมวา การที่คนติดบุหร่ีมีอายุส้ันนั้นเปนเพราะในควันบุหร่ีมีสารพิษที่มีผลกระทบตอรางกายเปนอันมาก ดังนั้นเราจึงจําเปนตองศึกษาคนควาวามีสารพิษอะไรบางเพื่อจะไดเกิดความตระหนักและปองกันหรือหลีกเลี่ยงไดถูกวิธี ขั้นสอน 6.4 แบงนักเรียนเปนกลุมๆละประมาณ 5-7 คน รวมกันศึกษาใบความรูท่ี 1 เร่ือง “สารพิษในบุหรี่” พรอมศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติมจากสื่อและแหลงเรียนรูอ่ืน ๆ และปฏิบัติตาม ใบงานที่ 1 เร่ือง “สารพิษในควันบุหรี่มีจริงหรือไม” ดังนี้ กิจกรรมท่ี 1 กิจกรรมระดมความคิดเห็นเรื่อง “สารพิษในบุหร่ี” โดยสรุปประเด็นจากใบความรู ดังนี้

- มีสารพิษอะไรบางในบุหร่ี - สารพิษเหลานี้มีลักษณะอยางไรและมีผลกระทบตอรางกายอยางไร ครูให คําปรึกษา เสริมแรงใหกําลังใจ และประเมินกระบวนการกลุม

6.5 กิจกรรมที่ 2 กิจกรรมการทดลอง “ผลการเผาไหมของบุหร่ี” นักเรียนแตละกลุมรวมกันทําการทดลองเรื่อง “ผลการเผาไหมของบุหร่ี” เพื่อพิสูจนวาสารพิษในควันบุหร่ีมีจริงหรือไม โดยปฏิบัติตามขั้นตอนของใบงาน ครูสังเกตกระบวนการกลุม ใหคําปรึกษาและเสริมแรงใหกําลังใจ 6.6 นักเรียนแตละกลุมบันทึกกระบวนการทดลองและผลการทดลองพรอมทั้งนํามาวิเคราะหวิจารณและสรุปสารเคมี ซ่ึง เปนสารพิษที่ เกิดจากการเผาไหมของบุหร่ีไดแก นิโคติน ทาร คารบอนมอนอกไซด ไนโตรเจนไดออกไซด กาซไฮโดรเจนไซยาไนด แอมโมเนีย และไซยาไนด โดยศึกษาจากใบความรูและสื่อการเรียนรูเพิ่มเติมและใหนักเรียนทุกคนจดบันทึกลงในสมุด ขั้นสรุป 6.7 กิจกรรมที่ 3 ใหนักเรียนชวยกันสรุปบทเรียนวาสารพิษในควันบุหร่ีมีอะไรบาง มีผลกระทบตอรางกายอยางไร และรวมกันเขียนคําขวัญสรางความตระหนักในพิษภัยของบุหร่ีเผยแพรภายในโรงเรียน ครูสรุปใหขอเสนอแนะเพิ่มเติมและใหนักเรียนทําแบบทดสอบจํานวน 10 ขอ และประเมินผลการเรียนรู

Page 43: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

35

7. วิธีการจัดการเรียนรู 7.1 การจัดการเรียนรูแบบ CIPPA Model

C = Construction = สรางองคความรู I = Interaction = สรางปฏิสัมพันธกับผูอ่ืนและสิ่งแวดลอม

P = Participation = มีสวนรวมในการเรียน P = Process Learning = การเรียนรูอยางมีกระบวนการ A = Application = นําไปใชในชีวติจริง

8. การบูรณาการ 8.1 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูภาษาไทย (การอานและวิจารณคําขวัญ “ชีวิตจะสั้น เพราะควันบุหร่ี”) 8.2 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร (การทดลองวิทยาศาสตรเร่ือง “ผลการเผาไหมของบุหร่ี”) 9. สื่อ/แหลงการเรียนรู 9.1 แบบทดสอบกอนเรียนและหลังเรียน

9.2 คําขวัญประกอบรูปภาพ 9.3 ใบความรูที่ 1 เร่ือง “สารพิษในบุหร่ี” 9.4 ใบงานที่ 1 เร่ือง “สารพิษในบุหร่ีมีจริงหรือไม” 9.5 วัสดุอุปกรณการทดลองเรื่อง “ผลการเผาไหมของบุหร่ี” 9.6 วัสดุอุปกรณในการเขียนคําขวัญเผยแพร 9.7 สมุดบันทึกของนักเรียน

10. การวัดและประเมินผล 10.1 วิธีการวัด 1) การทดสอบกอนเรียน/หลังเรียน 2) ประเมินกระบวนการปฏิบัติงานกลุม 3) ประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ” 10.2 เครื่องมือการวัด

1) แบบทดสอบกอนเรียน/หลังเรียน 2) แบบประเมินกระบวนการปฏิบัติงานกลุม 3) แบบประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ”

Page 44: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

36

11. กิจกรรมเสนอแนะ 11.1 การทดลองเรื่อง “ผลการเผาไหมของบุหร่ี” ครูอาจเปดโอกาสใหนักเรียนเลือกใชและดัดแปลงวัสดุอุปกรณไดอยางอิสระ แตกระบวนการและการทดลองตองเปนไปตามจุดประสงคที่กําหนดไว 11.2 ควรมีการเผยแพรผลการทดลองดังกลาวใหนักเรียนทั่วไปในโรงเรียนไดทราบและเกิดความตระหนักในสารพิษของบุหร่ีรวมกัน

ลงชื่อ........................................................................ (................................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

Page 45: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

37

บันทึกหลังสอน

1. ผลการจัดการเรียนรู ....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

2. ปญหาและอุปสรรค .................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3. วิธีการแกปญหา ....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

ความคิดเห็นของผูบริหารสถานศึกษา/ผูท่ีไดรับมอบหมาย ...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

ลงชื่อ........................................................................ (.......................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

ลงชื่อ........................................................................ (.......................................................................) ตําแหนง................................................................... (ผูอํานวยการสถานศึกษา)

Page 46: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

38

จุดประสงคการเรียนรู อธิบายสวนประกอบของสารพิษในควันบหุร่ี และผลกระทบที่เกดิกับรางกาย และชีวิตมนุษยได (ความรู)

คําชี้แจง จงเลือกคําตอบที่ถูกตองที่สุดเพียงขอเดียว 1. สารพิษใดในบุหร่ีที่เปนสารเสพติดและทําใหเกิดโรคหัวใจ ก. ทาร ข. นิโคติน ค. แอมโมเนีย ง. ไนโตรเจนไดออกไซด 2. สารพิษใดในบุหร่ีที่มีฤทธิ์กัดเนื้อเยื่อบุผิวหลอดลมและถงุลมปอดจนทําใหเปนโรคถุงลมปอด

โปงพอง ก. ทาร ข. นิโคติน ค. แอมโมเนีย ง. ไนโตรเจนไดออกไซด 3. สารพิษใดในบุหร่ีที่มีลักษณะเปนยางเหลวสีน้ําตาลจะรวมตัวกับฝุนละอองที่สูดเขาไปทําให เกิดอาการไอและกอใหเกดิมะเร็งปอด ก. ทาร ข. นิโคติน ค. แอมโมเนีย ง. ไนโตรเจนไดออกไซด 4. สารพิษใดในบุหร่ีที่ใชปรุงแตงรสชาติทําใหแสบตา แสบจมูก และหลอดลมอักเสบ ก. ทาร ข. นิโคติน ค. แอมโมเนีย ง. ไนโตรเจนไดออกไซด 5. สารพิษใดในบุหร่ีที่ใชเปนยาเบื่อหน ู ก. ไซยาไนด ข. ฟอรมารลดีไฮด ค. คารบอนมอนอกไซด ง. ไฮโดรเจนไดออกไซด

6. สารพิษใดในบุหร่ีที่ใชในการดองศพ ก. ไซยาไนด ข. ฟอรมารลดีไฮด

ค. คารบอนมอนอกไซด ง. ไฮโดรเจนไดออกไซด

แบบทดสอบ (กอนเรียน – หลังเรียน) เรื่อง “สารพิษในบหุรี”่

Page 47: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

39

7. สารพิษใดในบุหร่ีที่เปนกาซชนิดเดยีวกบัที่พนออกมาจากทอไอเสียรถยนต เมื่อเขาสูรางกาย จะไปขัดขวางการลําเลียงออกซิเจนทําใหผูสูบบุหร่ีไดรับออกซิเจนนอยลง หวัใจเตนเร็ว และ ทํางานหนกัขึ้น

ก. ไซยาไนด ข. ฟอรมารลดีไฮด ค. คารบอนมอนอกไซด ง. ไฮโดรเจนไดออกไซด

8. สารพิษใดในบุหร่ีที่เปนกาซพิษใชในสงครามเมื่อสูดดมเขาไปจะทาํใหเกิดอาการไอ มีเสมหะ และเปนโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง

ก. ไซยาไนด ข. ฟอรมารลดีไฮด ค. คารบอนมอนอกไซด ง. ไฮโดรเจนไดออกไซด

9. จากการทดลอง “ผลการเผาไหมของบุหร่ี” จะพบวาสําลีที่ใชอุดกนบุหร่ีแทนกนกรองจะมี สารพิษเกาะอยูสารพิษนัน้มีลักษณะเปนสีใด ก. สีเทาหรือสีดํา ข. สีมวงหรือสีน้ําเงินเขม ค. สีแดงหรือสีเลือดหม ู ง. สีเหลืองหรือสีน้ําตาลเขม 10. ในบรรดาสารพิษของบุหร่ีสารชนิดใดที่เขาสูสมองไดเร็วที่สุดภายใน 7 วินาที และมีฤทธิ์กด

ระบบประสาททําใหเลิกสูบบุหร่ียาก ก. ทาร ข. นิโคติน ค. คารบอนมอนอกไซด ง. ไฮโดรเจนไดออกไซด

เฉลยแบบทดสอบ เร่ือง “สารพิษในบหุร่ี” 1.ข 2.ง 3.ก 4.ค 5.ก 6.ข 7.ค 8.ข 9.ง 10.ง

Page 48: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

40

รายวิชาโรงเรียนปลอดบุหรี่ ชวงชั้นที่ 3 (ม.1-ม.3)

สื่อการเรียนรูคําขวัญประกอบรูปภาพ

Page 49: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

41

จุดประสงคการเรียนรู 1. อธิบายสวนประกอบของสารพิษในควันบุหร่ี และผลกระทบที่เกิดกับรางกายและชวีติมนษุยได (ความรู- เจตคติ) 2. ปฏิบัติการทดลอง “ผลการเผาไหมของบุหร่ี” จนสามารถพิสูจนไดวามสีารพิษอยูในควันบุหร่ีจริง (ความรู- ทักษะกระบวนการ- เจตคติ) 3. เขียนคําขวญัสรางความตระหนกัในพิษภัยของบุหร่ีได (ความรู- ทักษะกระบวนการ- เจตคติ)

ในบุหรี่มีสารพิษอะไรบาง

ในบุหร่ี 1 มวน เมื่อเกิดการเผาไหม จะทาํใหเกิดสารเคมี มากกวา 4,000 ชนิด สารหลายรอยชนิดมีผลตอการทํางานของอวัยวะตางๆ ในรางกาย และมีกวา 60 ชนิด ที่เปนสารกอมะเร็ง สารพิษท่ีสําคญัในควันบุหรีน่อกจากสารกอมะเร็ง คือ

1. นิโคตนิ (Nicotine) เปนสารที่มีลักษณะคลายน้าํมันไมมสีี เปนสารทีท่ําใหเกิดการเสพติดและทําใหเกิดโรคหัวใจ นิโคตินสวนใหญจะไปจับอยูที่ปอด และบางสวนถูกดูดซึมเขากระแสเลือด 2. ทาร (Tar) ประกอบดวยสารหลายชนิด เปนละอองเหลวเหนียว สีน้ําตาลคลายน้ํามันดิน รอยละ 50 ของทารจะจับอยูที่ปอด ทําใหเยื่อบุหลอดลมไมสามารถเคลื่อนไหวไดตามปกติ 3. คารบอนมอนอกไซด (Carbon monoxide) ซ่ึงเปนกาซชนิดเดียวกับที่พนออกจากทอไอเสียรถยนต กาซนี้จะขัดขวางการลําเลียงออกซิเจนของเม็ดเลือดแดงทําใหผูสูบบุหร่ีไดรับออกซิเจนนอยลงไมต่ํากวารอยละ 10-15 หัวใจตองเตนเร็วขึ้นและทํางานมากขึ้น 4. ไฮโดรเจนไดออกไซด (Hydrogen dioxide) เปนกาซพิษที่ใชในสงคราม กอใหเกิดอาการไอ มีเสมหะหลอดลมอักเสบเรื้อรัง 5. ไนโตรเจนไดออกไซด (Nitrogen dioxide) เปนสาเหตุของโรคถุงลมปอดโปงพอง เพราะไปทําลายเยื่อบุหลอดลมอักสวนปลายและถุงลม 6. แอมโมเนีย (Ammonia) ใชในการปรุงแตงรสชาติและชวยใหนิโคตินดูดซึมเขาสูสมองและประสาทเร็วขึ้น มีฤทธิ์ระคายเคืองเนื้อเยื่อ ทําใหแสบตา แสบจมูก หลอดลมอักเสบ 7. ไซยาไนด (Cyanide) ซ่ึงปกติเปนยาเบือ่หน ู ก็พบในบุหร่ีดวยเชนกนั 8. ฟอรมารลดีไฮด เปนสารที่ใชในการดองศพ

ใบความรูที่ 1 เร่ือง “สารพิษในบุหรี่”

Page 50: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

42

การสูบบุหรี่เปนวิธีการที่ทําใหสมองไดรับสารเสพติด (นิโคติน) เร็วท่ีสุด

คือภายใน 7 วินาทีเทานั้น ซ่ึงเร็วกวาการฉดีเฮโรอีนเขาเสนเลือดเสียอีก

การสูบบุหรี่ 1 ซอง จะทําใหชีวิตของผูสบูบุหรี่สั้นลงประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที

หรือสูบบุหรี่ 1 มวน ทําใหชีวิตสั้นลงไป 7 นาที

Page 51: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

43

จุดประสงคการเรียนรู

1. อธิบายสวนประกอบของสารพิษในควนับุหร่ี และผลกระทบ ที่เกิดกับรางกายและชวีิตมนษุยได (ความรู - เจตคติ) 2. ปฏิบัติการทดลอง “ผลการเผาไหมของบุหร่ี” จนสามารถพิสูจน ไดวามีสารพิษอยูในควันบหุร่ีจริง (ความรู-ทักษะกระบวนการ- เจตคต)ิ 3. เขียนคําขวญัสรางความตระหนกัในพิษภัยของบุหร่ีได (ความรู -ทักษะกระบวนการ - เจตคติ)

คําชี้แจง ใบงานนี้มกีิจกรรมที่นกัเรียนตองปฏิบัติอยู 3 กิจกรรม ไดแก 1. กิจกรรมการระดมความคดิเห็นเรื่อง “สารพิษในบหุร่ี” 2. กิจกรรมการทดลอง “ผลการเผาไหมของบุหร่ี” 3. กิจกรรมการการเขียนคําขวัญสรางความตระหนกัในพษิภยัของบุหร่ี ซ่ึงมีรายละเอียดดังนี ้

ใบงานที่ 1 เร่ือง “สารพิษในบุหรี่มีจริงหรือไม”

1. กิจกรรมการระดมความคิดเห็นเรื่อง “สารพิษในบุหรี”่

Page 52: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

44

แนวปฏิบตั ิ1. แบงนักเรียนเปนกลุมๆ ละประมาณ 5-7 คน รวมกันศึกษาใบความรูที่ 1 เร่ือง “สารพิษในบุหร่ี” พรอมทั้งศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติมจากสื่อและแหลงเรียนรูอ่ืนๆ และนํามาวิเคราะหวิจารณ

ภายในกลุมสรุปเปนประเด็นตอไปนี้ - มีสารพิษอะไรบางในบุหร่ี - สารพิษเหลานี้มีลักษณะอยางไร และมีผลกระทบตอรางกายอยางไร

แนวปฏิบตั ิ

ใหนกัเรียนแตละกลุมรวมกนัทดลอง “ผลการเผาไหมของบุหร่ี” ดังนี ้(1) อุปกรณ 1. ขวดพลาสตกิน้ําอัดลมขนาด 2 ลิตร 2. สําลี 2 กอน

3. แกวพรอมน้ําสะอาด 2 ใบ 4. กระดาษสะอาดสีขาว 1 แผน 5. บุหร่ีและไมขีด 6. หนากากอนามัย (ผาปดจมกู) (2) กระบวนการทดลอง 1. นําขวดพลาสติกน้ําอัดลมที่แหงและสะอาดลอกเอาฉลากออก 2. เจาะรูที่ฝาจกุน้ําอัดลมใหพอดีกับขนาดบุหร่ี พรอมสวมหนากากปดจมูก 3. ตัดกนกรองบุหร่ีทิ้ง และเสียบบุหร่ีเขากบัฝาจุกอยางระมัดระวัง

4. นํากอนสําลีมาหุมกนบหุร่ีดานในฝาจุกและนําฝาจุกปดปากขวดใหแนน 5. จุดบุหร่ีขณะที่กําลังบีบขวดแลวปลอยมือเพื่อใหเกิดการเผาไหม 6. คลายฝาจุกเล็กนอยพรอมกับบีบขวดเพือ่ไลอากาศออก 7. ปดฝาจุกใหแนนและปลอยมือสังเกตการเปลี่ยนแปลง 8. ทําขอ 6 และขอ 7 ซํ้าจนกวาบุหร่ีจะเผาไหมหมด 9. สังเกตกอนสําลีในขวดจะมีสีคลํ้า เพราะไดรับควันบหุร่ี 10. เปดฝาจุกเทน้ําสะอาดลงในขวดที่ทดลอง ปดฝาแลวเขยาขวด 11. เทน้ําในขวดใสแกว จะพบวาน้ําในแกวมีสีคลํ้าและสกปรก เนื่องจากไดรับสารพิษ

จากควนับุหร่ี 12. นํามาเปรียบเทียบกับแกวที่บรรจุน้ําสะอาด จะเห็นความแตกตางของน้ําในแกว 2 ใบนี้

ไดอยางชัดเจน

2. กิจกรรมการทดลอง “ผลการเผาไหมของบุหรี”่

นิโคติน

ทาร

ไนโตรเจนไดออกไซด

ไฮโดรเจนไซยาไนด

คารบอนมอนอกไซด

กัมมันตรังสี

ธาตุตางๆ

Page 53: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

45

(3) บันทึกกระบวนการและสรุปผลการทดลอง

ใหแตละกลุมบันทึกกระบวนการและสรุปผลการทดลอง พรอมทั้งนํามาวิเคราะหวิจารณ สรุปสารเคมีซ่ึงเปนสารพิษที่เกิดจากการเผาไหมของบุหร่ีและมีผลกระทบตอรางกายอยางไรบาง โดยศึกษาจากใบความรูเพิ่มเติมและใหนักเรียนจดบันทึกลงในสมุดเปนรายบุคคล

ใหนักเรียนรวมกันสรุปบทเรียน และเขียนคําขวัญสรางความตระหนักในพิษภัยของบุหร่ี

เผยแพรภายในโรงเรียน

3. กิจกรรมการเขียนคําขวัญสรางความตระหนักในพิษภัยของบุหรี”่

(คําขวัญสรางความตระหนักในพิษภัยของบุหรี่)

Page 54: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

46

กลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยีนปลอดบุหร่ี (สาระการเรียนรูเพิ่มเติม) ชวงชั้นที่ 3 (ม.1-ม.3)

หนวยการเรียนรูท่ี 1 เร่ือง “รูจักบุหรี่ไว ปองกันภัยวันขางหนา” แผนการจัดการเรียนรูท่ี 3 เร่ือง “สุขภาพเริ่มทรุด เม่ือจุดบุหรี่” เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู

มาตรฐานหลัก พ 4.1 เห็นคุณคาและมีทักษะในการสรางเสริมสุขภาพ การดํารงสุขภาพ การปองกันโรค และการสรางเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ

มาตรฐานชวงชั้น ขอ 1-2 2. ผลการเรียนรูท่ีคาดหวัง รู เขาใจ และตระหนกัในพิษภัยและอนัตรายของบหุร่ีที่มีตอสุขภาพของตนเอง และบุคคลขางเคยีง

3. จุดประสงคการเรียนรู 3.1 คิดวิเคราะหผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสุขภาพ บุคลิกภาพ และทัศนคติของสังคมที่มีตอผูสูบบุหร่ีได (ความรู) 3.2 บอกประโยชนและคุณคาของการปองกันตนเองและบุคคลขางเคียงใหรอดพนจากพิษภัยของบุหร่ีได (เจตคติ)

4. สาระการเรียนรู 4.1 ผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสุขภาพ 4.2 การปองกนัตนเองและบคุคลใกลชิดใหรอดพนจากพิษภยัของบุหร่ี

4.3 ประโยชนและคุณคาของการชวยเหลือผูอ่ืนใหรอดพนจากพิษภัยของบุหร่ี

5. สาระสําคัญ ควันบุหร่ีมีสารพิษจํานวนมากที่เปนอันตรายตอสุขภาพของตัวผูสูบเองและบุคคลที่อยู

ใกลเคียง สามารถจําแนกเปนผลที่เกิดขึ้นในระยะสั้น ผลที่เกิดขึ้นในระยะยาว และผลกระทบของการสูบบุหร่ีตอสุขภาพของบุคคลขางเคียง

Page 55: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

47

6. กระบวนการเรียนรู

ขั้นนํา 6.1 นักเรียนทาํแบบทดสอบกอนเรียนจํานวน 10 ขอ 6.2 ทบทวนความรูเกี่ยวกับสารพิษที่มีอยูในควันบุหร่ี จากแผนการจัดการเรียนรูที่ 2 โดยใหนักเรียนเลนเกม “คนหาสารพิษ” จากนั้นซักถามนักเรียนดังนี้

- ในควันบุหร่ีมีสารพิษดังที่เราทราบแลว นักเรียนคิดวาผูที่สูบบุหร่ีจะไดรับสารพิษนั้นหรือไม - เมื่อไดรับสารพิษดังกลาวจะมีผลตอรางกายอยางไร

ครูใหขอเสนอแนะเพิ่มเติมวา สารพิษของบุหร่ีมีผลเสียหายรายแรงตอรางกายของคนเราอยางมหาศาลเกินกวาที่เราจะคาดคิด เราจึงควรรวมกันศกึษาและหาวิธีการปองกันสารพิษของบุหร่ีดังกลาว ขั้นสอน

6.3 แบงนกัเรยีนออกเปนกลุม ๆ ละประมาณ 5 – 7 คน ใหแตละกลุมรวมกันเขียนโทษของบุหร่ีที่มีตอผูที่สูบบุหร่ีในระยะสั้นทั้งทางดานบุคลิกภาพและสุขภาพ ลงในใบงานที ่1 เร่ือง “ชีวิตเริ่มวุน หากวัยรุนสูบบุหรี่” พรอมทั้งระบายสีภาพคนใหสวยงาม

6.4 แจกสื่อแผนภาพโปสเตอรเร่ือง “รางกายของคนสบูบุหร่ี” ใหนกัเรียนแตละกลุมศึกษาโทษของบุหร่ีที่มีตอผูที่สูบบุหร่ีในระยะยาว

6.5 นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นเกีย่วกับผลกระทบของควันบหุร่ีที่มีตอบุคคลขางเคียงโดยใชการตั้งคําถาม ดังนี้ - ถานักเรียนไมไดสูบบุหร่ีแตอยูในครอบครัวที่มีคนสูบบุหร่ีนักเรียนคิดวานักเรียนจะไดรับผลกระทบอยางไรบาง ขั้นสรุป 6.6 นักเรียนรวมกันสรุปผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอตนเองและบุคคลขางเคียง พรอมทั้งบอกประโยชนและคุณคาของการปองกันตนเองและบุคคลขางเคียงใหรอดพนจากพิษภัยของบุหร่ี ครูใหขอเสนอแนะเพิ่มเติมและนักเรียนจดบันทกึลงในสมุด เสร็จแลวใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน 10 ขอ

7. วิธีการจัดการเรียนรู 7.1 การเรียนรูที่เนนทักษะกระบวนการคิด 7.2 การเรียนรูโดยใชกระบวนการกลุม 8. การบูรณาการ

8.1 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร (เกมคนหาสารพิษ) 8.2 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูศิลปะ (ระบายสภีาพคนในใบงานที่ 1)

Page 56: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

48

9. สื่อ/แหลงการเรียนรู 9.1 แบบทดสอบกอนเรียนและหลังเรียน 9.2 เกม “คนหาสารพิษ” 9.3 ใบงานที่ 1 เร่ือง “ชีวิตเริม่วุน หากวยัรุนสูบบุหร่ี” 9.4 ส่ือภาพโปสเตอรเร่ือง “รางกายของคนสูบบุหร่ี” 9.5 สมุดบันทึก 9.6 เว็บไซต http://www.ashthailand.or.th http://www.smokefreezone.or.th 10. การวัดและประเมินผล 10.1 วิธีการวัด 1) การทดสอบกอนเรียน/หลังเรียน 2) ประเมินผลงานใบงานที่ 1 และใบงานที่ 2 3) ประเมินกระบวนการเรียนรู “หวัใจนกัปราชญ” 10.2 เครื่องมือวัด 1) แบบทดสอบกอนเรียน/หลังเรียน 2) แบบประเมินผลงานใบงานที่ 1 และใบงานที่ 2 3) แบบประเมินกระบวนการเรยีนรู “หัวใจนักปราชญ” 10.3 เกณฑการวัด ทุกกิจกรรม ถือเกณฑการผานรอยละ 50 11. กิจกรรมเสนอแนะ นอกเหนือจากการจัดกระบวนการเรียนรูในแผนนี้แลว หากพบวานักเรียนหองใดมีลีลาการเรียนรูดานเปนนักกิจกรรมและนักปฏิบัติเปนสวนใหญ ครูอาจประยุกตการจัดกิจกรรมการเรียนรูใหเหมาะสมกับนักเรียน โดยใหนักเรียนรวมกันแสดงบทบาทสมมติในหัวขอเร่ือง “ชีวิตเริ่มวุน หากวัยรุนสูบบุหร่ี”

ลงชื่อ........................................................................ (................................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

Page 57: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

49

บันทึกหลังสอน

1. ผลการจัดการเรียนรู ....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

2. ปญหาและอุปสรรค .................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3.วิธีการแกปญหา .................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ความคิดเห็นของผูบริหารสถานศึกษา/ผูท่ีไดรับมอบหมาย .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................

ลงชื่อ........................................................................ (................................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

ลงชื่อ........................................................................ (......................................................................) ตําแหนง...................................................................

ผูอํานวยการสถานศึกษา

Page 58: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

50

จุดประสงคการเรียนรู 1. คิดวิเคราะหผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสุขภาพ บุคลิกภาพ และทัศนคติของสังคมที่ มีตอผูสูบบุหร่ีได (ความรู) 2. บอกผลกระทบของบหุร่ีที่มีตอสุขภาพของบคุคลขางเคียง และบอกวิธีการปองกัน ได (ทกัษะกระบวนการ) คําชี้แจง แบบทดสอบนี้มีจํานวน 10 ขอ คะแนนเต็ม 10 คะแนน ใหนักเรยีนเลือกขอที่ถูกตองที่สุด เพยีงขอเดียว 1. สารพิษจากควันบุหร่ีที่ทําใหนิ้วเหลืองและเล็บเสียคือสารพิษชนิดใด ก. ทาร ข. นิโคติน ค แอมโมเนีย ง. ไนโตรเจนไดออกไซด 2. อาการไอเปนเลือด น้ําหนกัลด ปวดกระดูกซี่โครง ไหปลาราหรือสะบัก บวมบริเวณหนา แขน และ อก กลืนอาหารลําบาก ไมสามารถกลั้นปสสาวะและอุจจาระได อาจเปนอาการ ของผูปวยที่เปนโรคอะไร ก. วณัโรค ข. มะเร็งปอด ค. โรคถุงลมปอดโปงพอง ง. โรคหัวใจทีเ่กิดจากโรคปอด 3. โรคใดตอไปนี้ไมไดมีสาเหตุมาจากการสูบบุหร่ี ก. โรคหัวใจ ข. หลอดลมอักเสบ ค. มะเร็งตอมลูกหมาก ง. มะเร็งปากมดลูก 4. สารนิโคตนิในบุหร่ีกอใหเกิดโรคใด ก. โรคหัวใจ ข. มะเร็งปอด ค. มะเร็งในชองปาก ง. โรคถุงลมปอดโปงพอง 5. เหตุใดหญิงตั้งครรภที่สูบบุหร่ีจึงมีโอกาสแทงลูกมากกวาหญิงตั้งครรภที่ไมสูบบุหร่ี ก. เพราะทารกในครรภไดรับออกซิเจนจากมารดามากเกนิไป

ข. เพราะทารกในครรภไดรับกาซคารบอนมอนอกไซดจากมารดา ค. เพราะทารกในครรภไดรับสารอาหารจากผานทางรกไมเพียงพอ

ง. เพราะทารกในครรภไดรับเลือดและออกซิเจนไมเพยีงพอจากมารดา 6. การเกิดคราบเกาะภายในหลอดเลือดจนทาํใหหลอดเลือดเล็กลงและเกดิการตีบตันของเสนเลือด ทําใหเลือดไปเลี้ยงสวนตางๆของรางกายไดนอยลง เปนสาเหตุใหเกดิโรคอะไร

ก. โรคหลอดเลือดอักเสบ ข. โรคความดันโลหิตต่ํา ค. โรคเสนเลือดหัวใจตีบ ง. โรคไขมันอุดตันในเสนเลอืด

แบบทดสอบกอนเรียนและหลังเรยีน เร่ือง “ผลกระทบของบุหรี่ที่มีตอสุขภาพและบุคลิกภาพ”

Page 59: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

51

7. โรคถุงลมปอดโปงพองเกดิจากการไดรับสารพิษใดในบุหร่ี ก. นิโคตินและแอมโมเนยี ข. ไนโตรเจนไดออกไซดและทาร ค. คารบอนมอนอกไซดและนิโคติน ง. แอมโมเนียและไฮโดรเจนไซยาไนด 8. เหตุใดการสูบบุหร่ีจึงกอใหเกิดโรคถุงลมปอดโปงพอง ก. เพราะสารพิษในบหุร่ีทําใหถุงลมในปอดเพิ่มจํานวนและขนาดมากขึ้น ข. เพราะสารพิษในบหุร่ีทําใหถุงลมในปอดแตกจนทําใหเลือดออกในปอด ค. เพราะสารพิษในบหุร่ีทําใหถุงลมในปอดฉกีขาดและรวมตัวกันมีขนาดใหญขึ้น ง. เพราะสารพษิในบหุร่ีทําใหถุงลมในปอดหยดุการฟอกเลือดทําใหหอบและเหนื่อยงาย 9. สารนิโคตินในบุหร่ีเมื่อสูบเขาไปแลวสงผลตอระบบประสาทอยางไร ก. กระตุนประสาทในระยะแรกแลวกดประสาทในเวลาตอมา ข. กดประสาทในระยะแรกแลวกระตุนประสาทในเวลาตอมา ค. กระตุนประสาทในระยะแรกแลวกลอมประสาทในเวลาตอมา ง. กลอมประสาทในระยะแรกแลวกระตุนประสาทในเวลาตอมา 10. อาการเขียวคลํ้าบริเวณรมิฝปากของผูสูบบุหร่ีเกิดจากสาเหตุใด ก. เพราะเสนเลือดฝอยในรางกายขยายตวัทําใหริมฝปากมีสีคลํ้าลง ข. เพราะเสนเลือดฝอยบริเวณริมฝปากขยายตัวจึงเหน็สีคลํ้ามากขึ้น ค. เพราะเสนเลือดฝอยในรางกายหดตวัทําใหริมฝปากมสีีคลํ้าลง ง. เพราะเสนเลือดฝอยในรางกายหดตวัทําใหเลือดไหลเวียนไมสะดวก

เฉลยแบบทดสอบ เร่ือง “ผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสุขภาพและบุคลิกภาพ” 1. ก. 6. ค. 2. ข. 7. ข. 3. ค. 8. ค. 4. ก. 9. ก. 5. ง 10. ค.

Page 60: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

52

อุปกรณ 1. กระเปาผนังที่สรางจากแผนฟวเจอรบอรดหรือวัสดอ่ืุนตามความเหมาะสม มชีองสําหรับเสียบบัตรคํา โดยที่กระเปาผนังดังกลาวมีภาพเกีย่วกบัผลจากสารพิษในบหุร่ีติดอยูที่ดานหนาเพือ่ดึงดูดความสนใจ ดงัภาพ (อาจเปนภาพฟนเหลือง หรือภาพปากดํา เล็บเหลือง ฯลฯ)

เกม “คนหาสารพิษ”

Page 61: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

53

2. บัตรคําชื่อของสารพิษในควันบุหร่ี กติกาการเลน 1. นักเรียนควรมีความรูเกี่ยวกับเรื่องสารพิษที่พบในบหุร่ีมาบางแลว 2. นํากระเปาผนังวางในรองของกระดานเพื่อใหนกัเรียนทั้งชั้นไดเห็นพรอมกัน

3. นําบัตรคําจาํนวนมากที่สรางขึ้นเปนภาพบุหร่ีที่มีช่ือสารเคมีชนิดตาง ๆ วางบนโตะครูหรือ บนพื้นหนาชั้นเรียน 4. ใหนกัเรียนแขงกันเลือกบตัรคําที่เปนชื่อของสารพิษที่พบในบหุร่ีเทานั้นที่สามารถจะนํามา เสียบในกระเปาผนังได

5. ใหเวลา 3 นาที จากนัน้กดกริ่งหมดเวลา 6. ครูนําบัตรคําออกมาจากกระเปาผนังทลีะคําแลวซักถามนักเรียนวาเปนสารพิษที่พบในบุหร่ี หรือไม แลวรวมกนัสรุปเพิ่มเติม

Page 62: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

54

จุดประสงคการเรียนรู คิดวิเคราะหผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสุขภาพ บุคลิกภาพ และทัศนคติของ สังคมที่มีตอผูสูบบุหร่ีได (ความรู) คําชี้แจง ใหนักเรียนรวมกันพิจารณาวาหากวัยรุนชาย และหญิงติดบุหร่ี จะมีผลกระทบตอบุคลิกภาพ

และสุขภาพอยางไรบาง โดยเติมขอความลงในชองสี่เหล่ียมใหถูกตองสมบูรณพรอมทั้งโยงเสนบอกตําแหนง และรวมกันสรุปภาพลักษณของวัยรุน ชาย – หญิง ที่สูบบุหร่ี ในสายตาของนักเรียน และสังคมรอบขาง เสร็จแลวระบายสีใหสวยงาม คะแนนเต็ม 10 คะแนน (การเติมขอความ 7 คะแนน การระบายสี 3 คะแนน)

ใบงานที่ 1 เร่ือง “ชีวิตเริ่มวุน หากวัยรุนสูบบุหรี่”

สรุป : ภาพลักษณของวัยรุนชาย – หญิง ที่สูบบุหรี่ในสายตานักเรียน วัยรุนชาย ……………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………. วัยรุนหญิง .…………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………….

Page 63: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

55

จุดประสงคการเรียนรู คิดวิเคราะหผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสุขภาพ บุคลิกภาพ และภาพลักษณของ วัยรุนที่สูบบุหร่ีได (ความรู-ทักษะกระบวนการ) คําชี้แจง ใหนักเรียนรวมกันพิจารณาวาบุหร่ีมีผลกระทบตอสุขภาพและบุคลิกภาพอยางไร โดยจัดทาํผัง

ความคิด (Mind Mapping) ใหสัมพันธกับรูปภาพ และเติมขอความลงในกรอบขางลาง เพื่อสรุปภาพลักษณของวัยรุนชายและหญิงที่สูบบุหร่ี ในสายตาของนักเรียนและสังคมรอบขาง

แบบประเมินผลงานใบงานที่ 1 เร่ือง “ชีวิตเริ่มวุน หากวัยรุนสูบบุหรี่”

แนวคําตอบ

หัวเหม็น แกเร็ว

ปากเหม็น

ฟนเหลือง

นิ้วเหลือง

ตัวเหม็น ปากดํา

สรุป : ภาพลักษณของวัยรุนชาย – หญิง ที่สูบบุหร่ีในสายตานักเรียนและสังคมรอบขาง วัยรุน ชาย = ไมนาไววางใจมีโอกาสติดยาเสพติดชนิดอื่นเพิ่มขึ้น ไมเปนผูนําที่ดี หาแฟนยาก ไมมีใครอยากคบดวย วัยรุน หญิง = เปนที่ติฉินนนิทา มีโอกาสติดยาเสพตดิชนดิอื่นเพิ่มขึ้น และอาจมีพฤติกรรมที่เสื่อมเสียช่ือเสียง ของวงศตระกลู ไมมีใครอยากไดเปนสะใภ หรือเปนแมของลูก เพราะจะสรางความอบัอายขายหนา และเปนแบบอยางที่ไมด ี

Page 64: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

56

กลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยีนปลอดบุหร่ี (สาระการเรียนรูเพิ่มเติม) ชวงชั้นที่ 3 (ม.1-ม.3)

หนวยการเรียนรูท่ี 1 เร่ือง “รูจักบุหรี่ไว ปองกันภัยวันขางหนา ” แผนการจัดการเรียนรูท่ี 4 เร่ือง “ออนแอทุกเม่ือ ความเชื่อท่ีผิด จึงตดิบุหรี่” เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู

มาตรฐานหลัก พ 5.1 ปองกันและหลีกเลี่ยงปจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงตอสุขภาพ อุบัติเหตุ การใชยา สารเสพติด และความรุนแรง มาตรฐานชวงชั้น ขอ 1 2. ผลการเรียนรูท่ีคาดหวัง รู เขาใจ และตระหนักถึงสาเหตุ ปจจัย และความเชื่อของการสูบบุหร่ีที่มีอิทธิพลตอพฤติกรรมการสูบบุหร่ี 3. จุดประสงคการเรียนรู 3.1 คิดวิเคราะหสาเหตุของการสูบบุหร่ีได (ความรู) 3.2 จําแนกระหวางความจริงกับความเชื่อของการสูบบุหร่ีได (ความรู- เจตคติ) 3.3 สํารวจและวิเคราะหพฤติกรรมการสูบบุหร่ีของคนในชุมชนได (ทักษะกระบวนการ) 4. สาระการเรียนรู 4.1 สาเหตุของการสูบบุหร่ี 4.2 ความจริงและความเชื่อของการสูบบุหร่ี 4.3 การสํารวจและวิเคราะหพฤติกรรมการสูบบุหร่ีของคนในชุมชน 5. สาระสําคัญ

การสูบบุหร่ีมีสาเหตุมาจากปญหาสังคม จากการวิเคราะหผลสํารวจพฤติกรรมการสูบบุหร่ีของประชากรของสํานักงานสถิติแหงชาติ พ.ศ. 2547 พบวา ผูที่สูบบุหร่ีสวนใหญมีระดับการศึกษาต่ําทําใหไมมีความรูเร่ืองพิษภัยของการสูบบุหร่ี มีจิตใจที่ออนไหวและมีความเชื่อที่ผิดๆ ในเรื่องของการสูบบุหร่ี นอกจากนี้ยังมีสาเหตุมาจากการมีพอแม พี่นองหรือเพื่อนฝูงที่สูบบุหร่ี ความอบอุนในครอบครัว การกําพราพอหรือแม การมีผลการเรียนออน การตั้งใจจะสูบเมื่อมีอายุมากขึ้น ลวนเปนปจจัยสําคัญทั้งสิ้น 6. กระบวนการเรียนรู

ขั้นนํา 6.1 นักเรียนรวมกันพิจารณาสื่อภาพวาดจินตนาการเรื่อง “บุหร่ีกับชีวิต” ซ่ึงเปนภาพเมรุเผาศพคนตายที่มีภาพปลองควันไฟ ซ่ึงผูวาดจินตนาการเปนรูปมวนบุหร่ีถูกจุดปลอยควันพิษพวยพุงขึ้นสู

Page 65: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

57

ทองฟาจํานวน 5 มวน เบื้องลางเปนภาพไฟบรรลัยกัลปกําลังเผาผลาญหัวกะโหลกอยางบาคลั่ง และรวมกันวิเคราะหวิจารณในประเด็นตอไปนี้ - นักเรียนสังเกตเห็นอะไรในภาพบาง - ภาพวาดนี้ส่ือความหมายที่เกี่ยวของกับบุหร่ีอยางไรบาง - ช่ือภาพที่วา “บุหร่ีกับชีวิต” มีความเหมาะสมหรือไม เพราะเหตุใด - ในเมื่อบุหร่ีเปนตัวรายที่ทําลายชีวิตผูคนทั่วโลกปละ 5 ลานคน แตเหตุใดยังมีผูสูบบุหร่ีอยูเปนจํานวนมาก ครูใหขอเสนอแนะเพิ่มเติมและชักชวนใหนักเรียนรวมกันคนหาสาเหตุและความเชื่อของการสูบบุหร่ีในลําดับตอไปนี้ ขั้นสอน 6.2 แบงกลุมผูเรียนกลุมละประมาณ 5-7 คน ใหแตละกลุมรวมกันปฏิบัติใบงานที่ 1 เร่ือง “สาเหตุของการสูบบุหรี่” และใหทุกกลุมสงตัวแทนมารวมกันจัดทําแผนภาพความคิด (Mind Mapping) เพื่อสรุป “สาเหตุของการสูบบุหร่ี” ลงในกระดาษแผนใหญและใหนักเรียนทุกคนบันทึกลงในสมุด ครูสังเกตกระบวนการเรียนรูและใหขอเสนอแนะเพิ่มเติม 6.3 นักเรียนแตละกลุมรวมกันวิเคราะหขอมูลจากใบงานที่ 2 เร่ือง “การวิเคราะหระหวางความจริงกับ ความเชื่อ” แลวสงตัวแทนออกมานําเสนอและอธิบายเหตุผลประกอบพรอมทั้งจดบันทึกขอมูลบนกระดานดํา 6.4 นําขอมูลของทุกกลุมมาสรุปผลการวิเคราะหเปนภาพรวม ขอมูลใดมีความคิดเห็นไมตรงกันจะนํามาสู การอภิปราย

ขอควรระวัง ในกรณีที่เสียงสวนใหญเห็นดวยกับ “ความเชื่อที่ไมถูกตอง” เชน เห็นดวยกับขอความที่วา การสูบบุหร่ีเปนความเทมีเสนหของวัยรุน ครูควรชวนนักเรียนสนทนาและใชวิจารณญาณรวมกันเพื่อเปลี่ยนแปลง ความเชื่อที่ไมเหมาะสมของนักเรียน

6.5 นักเรียนแตละกลุมรับเอกสารแบบสัมภาษณพฤติกรรมการสูบบุหร่ีของคนในชุมชน และแบบวัดระดับการติดสารนิโคติน เพื่อนําไปสํารวจพฤติกรรมการสูบบุหร่ีของบุคคลในชุมชน โดยวางแผนแบงพื้นที่สํารวจและหนาที่รับผิดชอบ 6.6 ครูใหคําปรึกษาและขอเสนอแนะในการไปสํารวจขอมูลในชุมชน ดานการเตรียมการ การสื่อสาร มารยาทที่ดี และความปลอดภัย 6.7 ทุกกลุมจัดทาํรายงานผลการสํารวจพฤติกรรมการสูบบุหร่ีของคนในชุมชน สงครูในสัปดาหตอไป

ขั้นสรุป 6.8 นักเรียนและครูรวมกันสรุปสาเหตุของการสูบบุหร่ี

Page 66: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

58

7. วิธีการจัดการเรียนรู 7.1 กระบวนการคิดอยางมีวิจารณญาณ (Critical Thinking) 7.2 การเรียนรูแบบประสบการณ (Experiential Learning) 8. การบูรณาการ 8.1 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูศิลปะ (ภาพวาดจินตนาการเรื่อง “บุหร่ีกับชีวิต”)

8.2 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (การสํารวจพฤติกรรมการสูบบุหร่ีของคนในชุมชน)

8.3 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูคณิตศาสตร (การสํารวจ สรุปขอมูล และหาคารอยละ) 9. สื่อ/แหลงการเรียนรู 9.1 ส่ือภาพวาดจินตนาการเรื่อง “บุหร่ีกับชีวิต” 9.2 กระดาษแผนใหญ ปากกาเมจิก และอุปกรณในการจัดทําแผนภาพความคิด 9.3 ใบงานที่ 1 เร่ือง “สาเหตุของการสูบบุหร่ี” 9.4 ใบงานที่ 2 เร่ือง “การวิเคราะหระหวางความจริงกับความเชื่อ”

9.5 แบบสัมภาษณพฤติกรรมการสูบบุหร่ีของคนในชุมชน 9.6 แบบวัดระดับการติดสารนิโคติน

9.7 ตารางสรุปแบบสํารวจพฤติกรรมการสูบบุหร่ีในโรงเรียน 9.8 สมุดบันทึกของนักเรียน 9.9 ศูนยการเรียนรูกลุมสาระสุขศึกษาและพลศกึษา/ศูนยรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีของโรงเรียน 9.10 เว็บไซต http:// www.ashthailand.or.th http:// www.smokefreezone.or.th 9.11 แหลงการเรียนรูในชุมชน 10. การวัดและประเมินผล 10.1 วิธีการวัด

1) ประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ” 2) ประเมินผลงาน (ใบงาน)

3) ประเมินกระบวนการปฏิบัติงานกลุม 10.2 เครื่องมือวัด 1) แบบประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ”

2) แบบประเมินผลงาน (ใบงาน) 3) แบบประเมินกระบวนการปฏิบัติงานกลุม 10.3 เกณฑการวัด ทุกกิจกรรม ถือเกณฑการผานรอยละ 50

Page 67: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

59

11. กิจกรรมเสนอแนะ 11.1 “การวิเคราะหระหวางความจริงกับความเชื่อ” เร่ืองการสูบบุหร่ี สามารถระดมความคิดเห็นใหนักเรียนกําหนดหัวขอหรือขอมูลเพิ่มเติมไดโดยครูเปนผูใหคําปรึกษา 11.2 ควรสงเสริมใหผูปกครองและผูนําชุมชนมีสวนรวมกิจกรรม และประเมินผูเรียนตามสภาพจริงในการออกไปสํารวจพฤติกรรมการสูบบุหร่ีของคนในชุมชนดวย

ลงชื่อ........................................................................ (........................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

Page 68: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

60

บันทึกหลังสอน

1. ผลการจัดการเรียนรู .................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 2. ปญหาและอุปสรรค .................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3.วิธีการแกปญหา ....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

ความคิดเห็นของผูบริหารสถานศึกษา/ผูท่ีไดรับมอบหมาย .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................

ลงชื่อ........................................................................ (........................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

ลงชื่อ........................................................................ (........................................................................) ตําแหนง................................................................... ผูอํานวยการสถานศึกษา

Page 69: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

61

สื่อการเรียนรู ภาพวาดจินตนาการเรื่อง “บุหรี่กับชีวิต”

Page 70: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

62

จุดประสงคการเรียนรู คิดวิเคราะหสาเหตุของการสูบบุหร่ีได (ความรู) คําชี้แจง แบงกลุมนักเรียนกลุมละประมาณ 5-7 คน ใหแตละกลุมรวมกันปฏิบัติใบงานที่ 1

เร่ือง “สาเหตุของการสูบบุหร่ี” ลงในกระดาษ A4 และสงตัวแทนกลุมมารวมกันจัดทําแผนภาพความคิด (Mind Mapping) เพื่อสรุปลงในกระดาษแผนใหญ

ใบงานที่ 1 เร่ือง “สาเหตุของการสูบบุหรี่”

Page 71: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

63

จุดประสงคการเรียนรู คิดวิเคราะหสาเหตขุองการสูบบุหร่ีได (ความรู) คําชี้แจง แบงกลุมนักเรียนกลุมละประมาณ 5-7 คน ใหแตละกลุมรวมกันปฏิบัติใบงานที่ 1

เร่ือง “สาเหตุของการสูบบุหร่ี” ลงในกระดาษ A4 และสงตัวแทนกลุมมารวมกันจัดทําแผนภาพความคิด (Mind Mapping) เพื่อสรุปลงในกระดาษการดแผนใหญ

แบบเฉลยใบงานที่ 1 เร่ือง “สาเหตุของการสูบบุหรี่”

แนวการตอบ

ครอบครัว

สภาพแวดลอม ตนเอง

เพื่อน

สาเหตุของการสูบบุหรี ่

- ความอยากรูอยากลอง - ความเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับการสูบบุหรี่ เชน คิดวาเท หรือทําใหสมองปลอดโปรง คลายเครียด

- การที่มีบุคคลในบานสูบบุหรี่จนมองวาเปนเรื่องปกต ิ

- การเลียนแบบพฤติกรรมของคน ในครอบครัว

- การสูบเพื่อเขาสังคม - อิทธิพลของการโฆษณาชวนเชื่อ - การอยูในชุมชนที่มองการสูบบุหรี่เปนเรื่องปกติ

- การทําตามเพื่อน - การถูกเพื่อนชักชวน - การทําเพื่อใหกลุมเพื่อนยอมรับหรือทําเพื่อเขากลุม

Page 72: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

64

จุดประสงค จําแนกระหวางความจริงกับความเชื่อของการสูบบุหร่ีได (ความรู-เจตคติ) คําชี้แจง ใหนักเรียนคิดวิเคราะหขอมูลเหลานี้วาขอความในขอใดเปนความจริง ขอความในขอใดเปน

ความเชื่อ โดยใหนักเรียนใสเครื่องหมาย ลงในชองที่นักเรียนเลือกพรอมทั้งเขียนเหตุผลประกอบ

ท่ี ขอความ ความจริง ความเชื่อ เหตุผล 1 การสูบบุหรี่ทําใหคลายเครียด และสมองปลอดโปรงข้ึน 2 การสูบบุหรี่เปนความเทและเปนเสนหของวยัรุน 3 การสูบบุหรี่ดูทําใหเปนผูใหญข้ึน และเปนผูชายที่สมบูรณแบบ 4 การสูบบุหรี่เปนสัญลักษณของการเปนผูนํา 5 การสูบบุหรี่ชวยดึงดูดความสนใจของเพศตรงขาม 6 การสูบบุหรี่ชวยควบคุมน้ําหนักตัว 7 การสูบบุหรี่ทําใหใบหนาแกกอนวัย 8 การสูบบุหรี่ยิ่งสูบมากโอกาสที่จะเกิดตอกระจกยิ่งมาก 9 การสูบบุหรี่เปนสาเหตุสําคัญของการเกิดมะเร็งท่ีลิ้นและในปาก 10 การสูบบุหรี่ทําใหฟนผุ มีกลิ่นปาก และเปนโรคเหงอืก 11 การสูบบุหรี่จะทําใหนิ้วเหลือง และทําใหเล็บเสีย 12 ผูท่ีสูบบุหรี่มีโอกาสเกิดโรคแผลในกระเพาะอาหารมากกวาผู

ไมสูบบุหรี่

13 การสูบบุหรี่จนติดทําใหแกเร็วข้ึนประมาณ 10 ป 14 ผูชายสูบบุหรี่จะมีโอกาสเกิดสมรรถภาพทางเพศเสื่อม 15 ผูหญิงสูบบุหรี่จะทําใหเกิดมะเร็งปากมดลูกได

ใบงานที่ 2 เร่ือง “การวิเคราะหระหวางความจริงกับความเชื่อ”

Page 73: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

65

จุดประสงค จําแนกระหวางความจริงกับความเชื่อของการสูบบุหร่ีได (ความรู-เจตคติ) คําชี้แจง ใหนักเรียนคิดวิเคราะหขอมูลเหลานี้วาขอความในขอใดเปนความจริง ขอความในขอใดเปน

ความเชื่อ โดยใหนักเรียนใสเครื่องหมาย ลงในชองที่นักเรียนเลือกพรอมทั้งเขียนเหตุผลประกอบ

ท่ี ขอความ ความจริง ความเช่ือ เหตุผล 1 การสูบบุหรี่ทําใหคลายเครียด และสมองปลอด

โปรงขึ้น การเลนดนตรี กีฬาคลายเครียดไดดีกวา

2 การสูบบุหรี่เปนความเทและเปนเสนหของวัยรุน การสูบบุหรี่เปนที่รังเกียจของสังคม 3 การสูบบุหรี่ดูทําใหเปนผูใหญขึ้น และเปนผูชายที่

สมบูรณแบบ การมีสุขภาพแข็งแรงสมวัย ทําใหเติบโต

เปนผูใหญที่สมบูรณ 4 การสูบบุหรี่เปนสัญลักษณของการเปนผูนํา ผูนําตองกลาคิดกลาแสดงออกในทางที่ดี 5 การสูบบุหรี่ชวยดึงดูดความสนใจของเพศตรงขาม การเลนดนตรี กีฬาก็ดึงดูดความสนใจได 6 การสูบบุหรี่ชวยควบคุมน้ําหนักตัว ตองควบคุมอาหารและออกกําลังกาย 7 การสูบบุหรี่ทําใหใบหนาแกกอนวัย ลดการไหลเวียนโลหิตไปยังผิวหนัง 8 การสูบบุหรี่ยิ่งสูบมากโอกาสที่จะเกิดตอกระจกยิ่ง

มาก มีโอกาสเปนมากกวาคนปกติ

9 การสูบบุหรี่เปนสาเหตุสําคัญของการเกิดมะเร็งที่ล้ินและในปาก

สารพิษในบุหรี่กระตุนให เซลลทํางานผิดปกติ

10 การสูบบุหรี่ทําใหฟนผุ มีกลิ่นปาก และเปนโรคเหงือก

เกิดจากสารพิษตกคางและเสี่ยงเปนมะเร็ง

11 การสูบบุหรี่จะทําใหนิ้วเหลือง และทําใหเล็บเสีย เกิดจากสารทารที่อยูในบุหรี่ 12 ผูที่สูบบุหรี่มีโอกาสเกิดโรคแผลในกระเพาะ

อาหารมากกวาผูไมสูบบุหรี่ เพราะสารพิษในบุหรี่สามารถดูดซึมเขาทาง

เนื้อเยื่อทําใหเกิดการระคายเคือง 13 การสูบบุหรี่จนติดทําใหแกเร็วขึ้นประมาณ 10 ป ลดการไหลเวียนโลหิตไปยังผิวหนัง

14 ผูชายสูบบุหรี่จะมีโอกาสเกิดสมรรถภาพทางเพศเสื่อม

เพราะรูเสนประสาทและเสนเลือดตีบ

15 ผูหญิงสูบบุหรี่จะทําใหเกิดมะเร็งปากมดลูกได สารพิษกระตุนใหเกิดเซลลผิดปกติ

แบบเฉลย ใบงานที่ 2 เร่ือง “การวิเคราะหระหวางความจริงกับความเชื่อ”

แนวการตอบ

Page 74: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

66

แบบสํารวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของคนในชุมชน โครงการโรงเรียนปลอดบุหรี่ โรงเรียน............................................................

--------------------------------------------------------------- คําชี้แจง

ดวยโรงเรียน…………………………………….. ไดจัดทําโครงการ “โรงเรียนปลอดบุหร่ี” โดยมีวัตถุประสงค เพื่อสรางคานิยมไมสูบบุหร่ีใหกับนักเรียน และพัฒนากิจกรรมการรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีในโรงเรียน รวมทั้งใหนักเรียนไดมีบทบาทในการรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี ซ่ึงจะทําใหเกิดนโยบายปลอดบุหร่ีขึ้นในโรงเรียนและขยายผลไปสูชุมชนปลอดบุหร่ีในอนาคต ดังนั้นเพื่อใหโครงการนี้สําเร็จผลดวยดีและเปนประโยชนทางการศึกษา จึงใครขอความอนุเคราะหตอบแบบสํารวจพฤติกรรมการสูบบุหร่ีนี้ โดยขอมูลทั้งหมดผูดําเนินการจะเก็บไวเปนความลับ

ตอนที่ 1 ขอมูลสวนบุคคล

1.1 เพศ ชาย หญิง

1.2 อายุ..............ป

1.3 สถานภาพ โสด สมรส หมาย/หยาราง/แยกกันอยู

1.4 อาชีพ รับราชการ รับจาง เกษตรกร การประมง รัฐวิสาหกจิ ประกอบอาชีพอิสระ

อ่ืนๆ (โปรดระบุ) ............................................

ตอนที่ 2 พฤติกรรมและความคดิเห็นเกี่ยวกับการสูบบุหรี่

2.1 ทานเคยสบูบุหร่ีคร้ังแรกเมื่ออาย.ุ..............ป สูบเพราะ..........................................................

2.2 ระยะเวลาที่สูบบุหร่ี ต่ํากวา 2 ป เวลา 2-5 ป เวลา 6-10 ป เวลา 11-20 ป เวลา 20 ปขึ้นไป

2.3 ปจจุบันนีท้านสูบบุหร่ีประมาณวันละกี่มวน 1 มวน 2-5 มวน 6-10 มวน 11-20 มวน มากกวา 20 มวน

2.4 สถานที่ ที่ใชในการสูบบุหร่ี (ตอบไดมากกวา 1 ขอ) สถานบันเทิง สถานที่ที่จัดไวเฉพาะคนสูบบุหร่ี หองน้ํา สถานที่สาธารณะทั่วไป รานอาหาร

Page 75: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

67

หองนอน หองทํางาน รถยนตสวนตวั อ่ืนๆ (โปรดระบุ) .....................................................................................

2.5 ทานมีความคิดเห็นอยางไรตอการสูบบุหร่ี การสูบบุหร่ีเปนเรื่องปกต ิ การสูบบุหร่ีเปนสิ่งเสพติดทําลายสุขภาพ 2.6 สาเหตุที่ทานยังคงสูบบุหร่ีอยู (ตอบไดมากกวา 1 ขอ)

เพื่อเขาสังคม ตามเพื่อน ตกงาน/ไมมีอะไรทํา ลดความเครียด ลดความอวน ประชดชวีติ คนในครอบครัวสูบ แกเหงา เปนแฟชัน่ สูบเมื่อดื่มสุรา ตัวผูสูบมปีญหา ครอบครัวมีปญหา ตองการโชว เลียนแบบดารา ตองการทาํรายตัวเอง รูสึกมั่นใจในตนเองมากขึ้น อ่ืนๆ (โปรดระบุ) .......................................................

2.7 ทานมีความคิดที่จะเลกิสูบบุหร่ีหรือไม เคยคดิ ไมเคยคิด 2.8 สาเหตุที่อยากจะเลิกสบูบุหร่ี (ตอบไดมากกวา 1 ขอ)

สุขภาพไมดี อยากลดคาใชจาย คนขางเคียงขอรองใหเลิก ผลกระทบในการทํางาน รูสึกวาสังคมรังเกียจ อ่ืนๆ (โปรดระบุ) ...................................................................................................

2.9 อะไรเปนสาเหตุที่ทานเลิกบุหร่ีได (กรณีที่เลิกได) มีความตั้งใจจริง แยกจากเพื่อนที่สูบบุหร่ี คนขางเคียงใหกําลังใจ

หมอบังคบัใหเลิก รูสึกสุขภาพดีขึ้นหลังเลิกบุหร่ี อ่ืนๆ (โปรดระบุ) …………………………………………………...........................

2.10 อะไรเปนสาเหตุที่ทานเลิกบุหร่ีไมได (กรณีที่เลิกไมได) อยูในสังคมที่สูบ/เพื่อนสูบ ไมอยากจะเลิก/ไมคิดจะเลิก คนในครอบครัวสูบ จําหนายเอง จิตใจไมเขมแข็งพอ ไมมีความตั้งใจจริง

----------------------------------------------------------------------------

ถาคุณคิดจะเลิกบุหรี่ ขอขอมูลไดที่ศูนยรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีในโรงเรียนหรือมูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี 36/2 ซอยประดิพัทธ 10 ถนนประดิพัทธ เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0-2278-1828 หรือ 1600

Page 76: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

68

อยากรูไหม... คุณติดบุหรี่แคไหน

วิธีงาย ๆ ที่จะชวยใหคนที่สูบบุหร่ีรูจักตัวเองมากขึ้น อยากใหคุณลองประเมินตัวเอง และคิดหาทางเลิกบุหร่ีกอนที่จะสายเกินแก ดวยวิธีทดสอบวาคุณติดนิโคตินระดับไหน

1. โดยปกติคณุสูบบุหรี่ก่ีมวนตอวัน

10 มวนหรือนอยกวา (0 คะแนน) 11-20 มวน (1 คะแนน) 21-30 มวน (2 คะแนน) 31 มวนขึน้ไป (3 คะแนน)

2. หลังตื่นนอนตอนเชาคุณสูบบุหรี่มวนแรกเมื่อไหร ภายใน 5 นาทีหลังตื่นนอน (3 คะแนน) 6-30 นาทีหลังตื่นนอน (2 คะแนน) 31-60 นาทีหลังตื่นนอน (1 คะแนน) มากกวา 60 นาที หลังตืน่นอน (0 คะแนน)

3. คุณสูบบุหรีจั่ดในชั่วโมงแรกหลังตื่นนอน (หมายถงึ สบูมากกวาในชวงอื่นของวัน) ใช (1 คะแนน) ไมใช (0 คะแนน)

4. สูบบุหรี่มวนไหนที่คุณไมอยากเลิกมากท่ีสุด มวนแรกในตอนเชา (1 คะแนน) มวนอืน่ๆ (0 คะแนน)

5. คุณรูสึกลําบากหรือยุงยากไหมที่ตองอยูในเขต "ปลอดบุหรี่" เชน โรงภาพยนตร รถเมล รานอาหาร รูสึกลําบาก (1 คะแนน) ไมรูสึกลําบาก (0 คะแนน)

6. คุณยังตองสูบบุหรี่ แมจะเจ็บปวยนอนพักตลอดในโรงพยาบาล ใช (1 คะแนน) ไมใช (0 คะแนน)

Page 77: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

69

คะแนนที่ไดรับและการอานผล นับคะแนน โดยตรวจสอบคําตอบ และรวมคะแนน ซ่ึงคะแนนจะอยูตอในชวง 0 – 10 คะแนน ซ่ึงสามารถอานผลดังคําอธิบายตอไปนี ้คะแนนของคุณเทากับ 0-3 ไมนับวาคุณติดสารนิโคติน คุณสามารถเลิกสูบบุหร่ีไดดวยตนเอง หากคุณเคยลมเหลวจากการพยายามเลิกดวยตนเอง คุณอาจลองใชพฤติกรรมบําบัดบางอยางชวยเสริม คะแนนของคุณเทากับ 4-5 คุณติดนิโคตินในระดับปานกลาง คุณสามารถเลิกสูบบุหร่ีไดดวยตนเอง หากคุณเคยลมเหลวจาก การพยายามเลิกดวยตนเอง คุณอาจลองใชพฤติกรรมบําบัดบางอยางชวยเสริม คะแนนของคุณเทากับ 6-7 คุณติดนิโคตินระดับปานกลาง และมีแนวโนมอยางมากในการพัฒนาไปเปนการติดนิโคตินในระดับสูง การเลิกสูบบุหร่ีเสียตั้งแตวันนี้จะทําไดงายกวาการที่คุณยังสูบตอไป และจะมีแผนเลิกในอนาคต หากคุณเคยลมเหลวจากการพยายามเลิกบุหร่ีดวยตนเองหรือรวมกับการใชพฤติกรรมบําบัดเสริม หรือวิธีอ่ืนๆ เชน การฝงเข็มหรือการสะกดจิต มาแลว คุณควรอยางยิ่งที่จะไปพบแพทยเพื่อรับคําปรึกษาเพื่อการเลิกสูบบุหร่ี คะแนนของคุณเทากับ 8-9 คุณติดสารนิโคตินระดับสูงมาก คุณควรใสใจและใหความสําคัญกับสุขภาพของคุณ และเอาจริงเอาจังในการเลิกบุหร่ีเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น สําหรับคุณการเลิกบุหร่ีดวยตนเอง หรือการใชแคเพียงกําลังใจอยางเดียวอาจไมเพียงพอในการรักษา หากคุณเคยลมเหลวจากการพยายามเลิกบุหร่ีดวยตนเองหรือรวมกับการใชพฤติกรรมบําบัดเสริม หรือวิธีอ่ืนๆ รวมทั้งการใชแผนแปะนิโคตินหรือหมากฝรั่งนิโคตินมาแลว กรณีนี้ทานควรพบแพทยเพื่อรับคําปรึกษาเพื่อการเลิกบุหร่ี คะแนนของคุณเทากับ 10 คุณติดนิโคตินในระดับที่สูงสุด คุณควรใสใจและใหความสําคัญกับสุขภาพของคุณ และเอาจริงเอาจังในการเลิกบุหร่ีเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น สําหรับคุณการเลิกบุหร่ีดวยตนเอง หรือการใชแคเพียงกําลังใจอยางเดียวอาจไมเพียงพอ หากคุณเคยลมเหลวจากการพยายามเลิกบุหร่ีดวยตนเองหรือรวมกับการใชพฤติกรรมบําบัดเสริม หรือวิธีอ่ืนๆ รวมทั้งการใชแผนแปะนิโคตินมาแลว กรณีนี้ทานควรพบแพทยเพื่อรับคําปรึกษาเพื่อการเลิกบุหร่ี ***หากคุณตองการคําปรึกษาในการเลิกสูบบุหร่ี โทร. 1600 ตั้งแตวันจันทร-ศุกร 09.00-17.30 น.***

Page 78: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

70

จุดประสงคการเรียนรู สํารวจและวิเคราะหพฤติกรรมการสูบบุหร่ีของคนในชุมชนได (ทักษะ กระบวนการ) พื้นที่สํารวจอยูในเขตหมูบาน/ชุมชน......................................................................................................... แขวง/ตําบล.............................................................เขต/อําเภอ................................................................... จังหวดั .............................................................................

ตารางที่ 1 แสดงจํานวนกลุมตัวอยางที่ตอบแบบสํารวจ

ชาย หญิง รวม

จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ กลุมตัวอยางทีต่อบแบบสํารวจ

100 ตารางที่ 2 แสดงอายุของกลุมตัวอยาง

ชาย หญิง รวม ท่ี อายุ

จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ 1 อายุ 10 –15 ป 2 อายุ 16 –20 ป 3 อายุ 21 –30 ป 4 อายุ 31 – 40 ป 5 อายุ 41 ปขึ้นไป

ตารางที่ 3 แสดงสถานภาพการสมรสของกลุมตัวอยาง

ชาย หญิง รวม ท่ี สถานภาพการสมรส

จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ 1 โสด 2 สมรส 3 หมาย/หยาราง/แยกกันอยู

ตารางสรุปแบบสํารวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของคนในชุมชน

Page 79: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

71

ตารางที่ 4 แสดงอาชีพของกลุมตัวอยาง

ชาย หญิง รวม ท่ี อาชีพ

จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ 1 รับราชการ 2 รับจาง 3 เกษตรกร 4 ประมง 5 รัฐวิสาหกจิ 6 ประกอบอาชพีอิสระ 7 อ่ืนๆ

ตารางที่ 5 อายุในการสูบบุหร่ีคร้ังแรกของกลุมตัวอยาง

ชาย หญิง รวม ท่ี อายุในการสูบบุหรี่คร้ังแรก

จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ 1 อายุ 10 –15 ป 2 อายุ 16 – 20 ป 3 อายุ 21 –30 ป 4 อายุ 31-40 ป 5 อายุ 40 ป ขึ้นไป

ตารางที่ 6 ระยะเวลาในการสบูบุหร่ีของกลุมตัวอยาง

ชาย หญิง รวม ที่

จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ 1 เวลา < 2 ป 2 เวลา 2-5 ป 3 เวลา 6-10 ป 4 เวลา 11 -20 ป 5 เวลา 20 ปขึ้นไป

Page 80: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

72

ตารางที่ 7 เฉลี่ยการสูบบุหร่ีตอวันของกลุมตัวอยาง

ชาย หญิง รวม ท่ี เฉล่ียการสูบบหุรี่ตอวัน

จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ 1 จํานวน 1 มวน/วัน 2 จํานวน 2-5 มวน/วัน 3 จํานวน 6-10 มวน/วัน 4 จํานวน 11-20 มวน/วัน 5 จํานวน 21 มวนขึ้นไป

ตารางที่ 8 ความคิดเห็นตอการสูบบุหร่ีของกลุมตัวอยาง

ชาย หญิง รวม ท่ี ความคิดเห็นตอการสูบบุหรี่

จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ 1 การสูบบุหร่ีเปนเรื่องปกต ิ 2 การสูบบุหร่ีเปนสิ่งเสพติด

ทําลายสุขภาพ

ตารางที่ 9 สาเหตุที่ทําใหสูบบุหร่ี (ตอบไดมากกวา 1 ขอ)

ชาย หญิง รวม ท่ี สาเหตุทําใหคนสูบบุหรี่

จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ 1 อยากลอง 2 เพื่อเขาสังคม 3 ตามเพื่อน 4 ตกงาน/ไมมีอะไรจะทํา 5 ลดความเครียด 6 ตองการลดความอวน 7 ประชดชีวิต 8 คนในครอบครัวสูบ 9 แกเหงา 10 รูสึกมั่นใจตนเองมากขึ้น 11 สูบเมื่อดื่มสุรา 12 ตองการโชว

Page 81: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

73

ตารางที่ 9 สาเหตุที่ทําใหสูบบุหร่ี (ตอบไดมากกวา 1 ขอ) (ตอ)

ชาย หญิง รวม ท่ี สาเหตุทําใหคนสูบบุหรี่

จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ

13 เลียนแบบดารา/แฟชั่น 14 ตองการทํารายตัวเอง 15 ครอบครัวมีปญหา 16 ตัวคนสูบมีปญหา 17 เลียนแบบคนในครอบครัว

ตารางที่ 10 สถานที่ ที่ใชในการสูบบุหร่ี (ตอบไดมากกวา1 ขอ)

ชาย หญิง รวม ท่ี สถานที่ ท่ีใชในการสูบบุหรี่

จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ 1 สถานบันเทิง 2 สถานที่ท่ีจัดไวเฉพาะคนสูบบุหรี ่ 3 หองน้ํา 4 สถานที่สาธารณะทัว่ไป 5 รานอาหาร 6 หองนอน 7 หองทํางาน 8 รถยนตสวนตวั

ตารางที่ 11 ความคิดจะเลิกสูบบุหร่ี

ชาย หญิง รวม ท่ี ความคิดจะเลิกสูบบุหรี่

จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ 1 เคยคิด 2 ไมเคยคิด

Page 82: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

74

ตารางที่ 12 สาเหตุที่อยากจะเลิกสูบบุหร่ี (ตอบไดมากกวา 1 ขอ)

ชาย หญิง รวม ท่ี สาเหตุท่ีอยากจะเลิกสูบบุหรี่

จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ 1 สุขภาพไมด ี 2 อยากลดคาใชจาย 3 คนขางเคียงขอรองใหเลิก 4 มีผลกระทบในการทํางาน 5 รูสึกวาสังคมรังเกียจ 6 อ่ืนๆ

ตารางที่ 13 อะไรเปนสาเหตุที่ทานเลิกบหุร่ีได

ชาย หญิง รวม ท่ี อะไรเปนสาเหตุท่ีทานเลิกบุหรี่ได

จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ 1 มีความตั้งใจจริง 2 แยกจากเพื่อนที่สูบบุหร่ี 3 คนขางเคียงใหกําลังใจ 4 หมอบังคับใหเลิก 5 รูสึกสุขภาพดขีึ้นหลังเลิกบหุร่ี 6 อ่ืนๆ

ตารางที่ 14 อะไรเปนสาเหตุที่ทานเลิกบหุร่ีไมได

ชาย หญิง รวม ท่ี

อะไรเปนสาเหตุท่ีทานเลิกบุหรี่ไมได จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ

1 อยูในสังคมทีสู่บ/เพื่อนสูบ 2 ไมอยากจะเลกิ/ไมคิดจะเลิก 3 คนในครอบครัวสูบ 4 จําหนายเอง 5 จิตใจไมเขมแข็งพอ 6 ไมมีความตั้งใจจริง

Page 83: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

75

หนวยการเรียนรูท่ี 2 เรื่อง “บุหรี่มีผลกระทบ เปนจุดจบของชีวิต”

Page 84: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

77

กลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยีนปลอดบุหร่ี (สาระการเรียนรูเพิ่มเติม) ชวงชั้นที่ 3 (ม.1-ม.3)

หนวยการเรียนรูท่ี 2 เร่ือง “บุหรี่มีผลกระทบ เปนจุดจบของชีวิต” แผนการจัดการเรียนรูท่ี 5 เร่ือง “ดับบุหรีก่อนเสี่ยง หลีกเล่ียงหายนะ” เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู มาตรฐานหลัก พ 5.1 ปองกันและหลีกเลี่ยงปจจัยเสี่ยงตอสุขภาพ อุบัติเหตุ การใชยา สารเสพติด และความรุนแรง มาตรฐานชวงชั้น ขอ 3 ใหกลวิธีตางๆ ในการปองกันและหลีกเลี่ยงปจจัยเสี่ยงตอสุขภาพ 2. ผลการเรียนรูท่ีคาดหวัง รู เขาใจ และตระหนักในผลกระทบของการสูบบุหร่ีที่มีตอพฤติกรรมเสี่ยงดานอื่นๆ 3. จุดประสงคการเรียนรู 3.1 บอกผลกระทบของการสูบบุหร่ีที่มีตอพฤติกรรมเสี่ยงดานอื่นๆ ได (ความรู) 3.2 ใชทักษะกระบวนการคิดปองกัน และแกปญหาผลกระทบของการสูบบุหร่ีที่มีตอพฤติกรรมเสี่ยงดานอื่นๆ ได (ทักษะกระบวนการ) 3.3 บอกประโยชนและคุณคาในการปองกันและแกปญหาผลกระทบของการสูบบุหร่ีที่มีตอพฤติกรรมเสี่ยงดานอื่นๆ ได (เจตคติ) 4. สาระการเรียนรู 4.1 ผลกระทบของการสูบบุหร่ีที่มีตอพฤติกรรมเสี่ยงดานอื่นๆ 4.2 การปองกันและแกปญหาผลกระทบของการสูบบุหร่ีที่มีตอพฤติกรรมเสี่ยงดานอื่นๆ 4.3 ประโยชนและคุณคาในการปองกันและแกปญหาผลกระทบของการสูบบุหร่ีที่มีตอพฤติกรรมเสี่ยงดานอื่นๆ 5. สาระสําคัญ บุหร่ีเปนสิ่งเสพติดที่หาซื้อไดงาย มีราคาถูกเยาวชนที่สูบบุหร่ีมีโอกาสสูงที่จะนําไปสูส่ิงเสพติดชนิดอื่นไดงาย จากผลการวิจัยพบวัยรุนที่ติดฝนและกัญชารอยละ 75 และติดสุรารอยละ 62 เร่ิมตนมาจากการสูบบุหร่ี นอกจากนี้วัยรุนที่สูบบุหร่ียังมีแนวโนมที่จะไมเชื่อฟงผูใหญ มีความรูสึกวาตนเองต่ําตอย และมักไปเกี่ยวของกับพฤติกรรมเสี่ยงดานอื่นๆ เชน หนีเรียน เที่ยวกลางคืน มีเพศสัมพันธกอนวัยอันควร และเลนการพนัน เปนตน จึงจําเปนตองสรางความตระหนักหาวิธีการปองกันและแกไขผลกระทบของการสูบบุหร่ีที่มีตอพฤติกรรมเสี่ยงดานอื่นๆ เพื่อเปนการตัดไฟแตตนลม

Page 85: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

78

6. กระบวนการจัดการเรียนรู

ขั้นนํา 6.1 นักเรียนรวมกันฟงเพลง “หนุมนอย” ของปู พงษสิทธิ์ คําภีร ที่สะทอนเรื่องราวของนักเรียนอาชีวะซึ่งเปนเด็กดีแตตองเสียชีวิตเพราเหตุจากปญหานักเรียนอาชีวะยกพวกตีกัน โดยใหนักเรียนรวมกันรองเพลงและปรบมือตามไปดวย 6.2 นักเรียนรวมกันแสดงความรูสึกและความคิดเห็นจากบทเพลง “หนุมนอย” - ฟงเพลงแลวรูสึกอยางไร ไพเราะหรือไม และใหคติตอเยาวชนอยางไร - ชีวิตของเด็กและเยาวชนที่ตองเสี่ยงภัยยังมีพฤติกรรมเสี่ยงอะไรอีกบางนอกจากปญหาการทะเลาะวิวาทกันแลว ใหนักเรียนยกตัวอยาง ขั้นสอน 6.3 นักเรียนจับคูกันปฏิบัติตามใบงานที่ 1 เร่ือง “พฤติกรรมเสี่ยงภัยท่ีนาตกใจของวัยรุน” โดยพิจารณารูปภาพที่ส่ือใหเห็นถึงพฤติกรรมเสี่ยงที่ไมเหมาะสมของเด็กและเยาวชนในลักษณะตางๆ เชน หนีเรียน เที่ยวกลางคืน มั่วสุมสิ่งเสพติด มีพฤติกรรมทางเพศที่ไมเหมาะสม และเลนการพนัน เปนตน แลวชวยกันคิดวิเคราะหในประเด็นตอไปนี้ - พฤติกรรมเสี่ยงที่ไมเหมาะสมมีอะไรบาง - พฤติกรรมเหลานี้มีผลเสียหายตอเด็กและเยาวชนอยางไรทั้งในปจจุบันและอนาคต - มีสาเหตุมาจากอะไรบาง และการสูบบุหร่ีมีสวนเกี่ยวของกับพฤติกรรมเส่ียงมากนอยเพียงใด เสร็จแลวรวมกันระบายสีรูปภาพใหสวยงาม 6.4 นักเรียนทั้งหองรวมกันวิเคราะหวิจารณปญหา “พฤติกรรมเสี่ยงที่นาตกใจของวัยรุน” และรวมกันหาทางออกในการปองกันและแกปญหาในเรื่องนี้ ครูเสริมแรงใหกําลังใจและใหขอเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับขอมูลจากผลการวิจัยเร่ืองผลการกระทบของการสูบบุหร่ีที่มีตอพฤติกรรมเสี่ยงของวัยรุนแลวใหนักเรียนจดบันทึกลงบนสมุด 6.5 แบงนักเรียนเปนกลุมๆ ละประมาณ 5- 7 คนแตละกลุมรวมกันปฏิบัติตามใบงานที่ 2 เร่ือง “แตงเติมเร่ืองราว กาวสูนักคิด” โดยรวมกันพิจารณาเรื่องราวจากรูปภาพการตูนแลวใชกระบวนการคิดวิเคราะห คิดสังเคราะห คิดวิจารณญาณ และคิดสรางสรรค ตอเติมเรื่องราวรูปภาพและคําพูดของตัวละครตามความคิดและจินตนาการอยางอิสระ 6.6 นักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนมานําเสนอผลงาน นักเรียนทุกคนรวมกันวิพากษวิจารณใหขอเสนอแนะคัดเลือกผลงานที่มีความคิดในเชิงสรางสรรคดีที่สุด แลวรวมกันใหขอเสนอแนะวิธีการปองกันและแกปญหาผลกระทบของการสูบบุหร่ีที่มีตอพฤติกรรมเสี่ยงดานอื่นๆ ของวัยรุน ครูเสริมแรงใหกําลังใจและใหขอเสนอแนะเพิ่มเติม

Page 86: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

79

ขั้นสรุป 6.7 นักเรียนรวมกันอภิปรายถึงประโยชนและคุณคาในการปองกันและแกปญหาผลกระทบของการสูบบุหร่ี ครูใหขอเสนอแนะเพิ่มเติม เสร็จแลวนักเรียนบันทึกลงในสมุด 7. วิธีการจัดการเรียนรู 7.1 การเรียนรูที่เนนทักษะกระบวนการคิด 7.2 การเรียนที่เนนปญหาเปนฐาน (Problem Based Instruction) 8. การบูรณาการ 8.1 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูศิลปะ (การรองเพลง การวาดภาพจินตนาการ) 8.2 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (การเรียนรูเพื่อแกปญหาเยาวชน และสังคม) 9. สื่อ/แหลงการเรียนรู 9.1 ส่ือแถบบันทึกเสียงเพลง และเนื้อรองเพลง “หนุมนอย” 9.2 ใบงานที่ 1 เร่ือง “พฤติกรรมเสี่ยงภัยที่นาตกใจของวัยรุน” 9.3 ใบงานที่ 2 เร่ือง “แตงเติมเรื่องราว กาวสูนักคิด” 9.4 วัสดุอุปกรณการวาดภาพจินตนาการ 9.5 สมุดบันทึก 9.6 ศูนยการเรียนรูกลุมสาระสุขศึกษาและพลศึกษา/ศูนยรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีในโรงเรียน 10. การวัดและประเมินผล 10.1 วิธีการวัด 1) ประเมินผลงานใบงานที่ 1 และใบงานที่ 2 2) ประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ” 10.2 เครื่องมือวัด 1) แบบประเมินผลงานใบงานที่ 1 และใบงานที่ 2 2) แบบประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ” 10.3 เกณฑการวัด ทุกกิจกรรมถือเกณฑการผานรอยละ 50 11. กิจกรรมเสนอแนะ 11.1 ครูสามารถสงเสริมใหนักเรียนคนควาหาขอมูลและสถิติจากผลงานวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติกรรมการสูบบุหร่ีของวัยรุนและผลกระทบที่มีตอพฤติกรรมเสี่ยงดานอื่นๆ เพื่อเปนการยืนยันขอมูลและสรางความตระหนักแกนักเรียนยิ่งขึ้น 11.2 ครูอาจจัดกิจกรรมสงเสริมใหนักเรียนมีพฤติกรรมที่ดีทั้งทางดานการเรียนและ ความประพฤติ พรอมทั้งการยกยองเชิดชูเกียรติ

ลงชื่อ........................................................................ (.....................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

Page 87: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

80

บันทึกหลังสอน

1. ผลการจัดการเรียนรู ....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

2. ปญหาและอุปสรรค .................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3. วิธีการแกปญหา ....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

ความคิดเห็นของผูบริหารสถานศึกษา/ผูท่ีไดรับมอบหมาย ...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

ลงชื่อ........................................................................ (.....................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

ลงชื่อ........................................................................ (.....................................................................) ตําแหนง................................................................... ผูอํานวยการสถานศึกษา

Page 88: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

81

หนุมนอย ศิลปน : ปู พงษสิทธิ์ คัมภีร

เขาเดินเขาออกในซอยทกุวนั เพื่อนฝูงทุกคนตางรักใครเขา ทุกๆ วันตอนเชา แตงตัวไปเรียนไมเคยจะเกจะขาด พอแมภูมใิจ มีลูกผูชาย เอาการเอางาน เอาเรียน ก็ชีวิตนีด้ั่งไมใกลฝง หวังพึ่งพาลูกชายคนเดียว โอ..โอ......เจาเด็กหนุมของพอ โอ..โอ......เจาเด็กหนุมของแม ตกเยน็เลิกเรียนกลับบานตามเคย หอยโหนรถเมลอยางเกา คิดถึงกับขาว บนจานใบเกามีพอกับแมลอมวง แตแลวทนัใด โลกมืดดับไปมีสัตวรายมองดูคลายวาเปนคน ทํารายรางกาย รุมตีจนตาย แลวสลายรางหายในหมูคน โอ..โอ......เจาเด็กหนุมของพอ โอ..โอ......เจาเด็กหนุมของแม * พอแมรูขาวรายรํ่ารองแทบวางวายกลิ้งเกลือกลงกับกองเลือดของลูก ลูกฉันทําอะไร เขายงัไมควรตาย หนุมนอยผูมีอนาคตไกล แคสีเสื้อไมเหมือนคําสอนแตปางไหน นี่สีใคร นั่นสีมึง นี่สีกู ความหวังพังทลายแตนีจ้ะอยูอยางไร เพราะหวัใจเพียงตวัเดยีวแหลกสลาย โอ.....โอ.....โอะ................โอ โอ.....โอ.....โอะ.................โอ ( ซํ้า * ) ตั้งแตบัดนีไ้มมีอีกแลว เด็กหนุมคนดีประจําซอย พอแมกห็าย ครอบครัวสลาย ไมสายทุกคนก็ลืม โอ.....โอ.....โอะ................โอ โอ.....โอ.....โอะ.................โอ โอ.....โอ.....โอะ................โอ โอ.....โอ.....โอะ.................โอ

สื่อการเรียนรู เนื้อรองเพลง

Page 89: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

82

1. ช่ือ-สกุล ..................................................... ช้ัน ................... เลขที่ .............. 2. ช่ือ-สกุล ..................................................... ช้ัน ................... เลขที่ .............

จุดประสงคการเรียนรู บอกผลกระทบของการสูบบุหร่ีที่มีตอพฤติกรรมเสี่ยงดานอืน่ๆ ได (ความรู)

คะแนนที่ได

คะแนนเต็ม 20

ใบงานที่ 1 เร่ือง “พฤติกรรมเสี่ยงภัยที่นาตกใจของวัยรุน”

ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพที่ 3

ภาพที่ 4 ภาพที่ 5

ภาพที่ 6 ภาพที่ 7

Page 90: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

83

คําชี้แจง ใหนกัเรียนจบัคูกันพิจารณาภาพในใบงานแลวชวยกันคิดวิเคราะห และเขียนลงในตารางขางลางนี้ใหถูกตองสมบูรณ เสร็จแลวชวยกันระบายสีรูปภาพใหประณีตสวยงาม

ภาพที ่ พฤติกรรมเสี่ยง ผลกระทบ/ผลเสีย สาเหตุ

1

2

3

4

5

6

7

เกณฑการใหคะแนน 1. เติมขอความถูกตองสมบูรณ จํานวน 7 ขอๆละ 2 คะแนน รวม 14 คะแนน 2. สรุปผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสุขภาพ 2 คะแนน 3. ระบายสีรูปภาพ 4 คะแนน รวม 20 คะแนน

สรุปผลกระทบของบุหรี่ท่ีมีตอพฤติกรรมเสี่ยงของวัยรุน ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

Page 91: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

84

1. ช่ือ-สกุล ........................................................................... ช้ัน ........................ เลขที่ .................... 2. ช่ือ-สกุล ........................................................................... ช้ัน ........................ เลขที่ ....................

จุดประสงคการเรียนรู บอกผลกระทบของการสูบบุหร่ีที่มีตอพฤติกรรมเสี่ยงดานอืน่ๆ ได (ความรู)

แบบเฉลย ใบงานที่ 1 เร่ือง “พฤติกรรมเสี่ยงภัยที่นาตกใจของวัยรุน”

ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพที่ 3

ภาพที่ 4 ภาพที่ 5

ภาพที่ 6 ภาพที่ 7

Page 92: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

85

คําชี้แจง ใหนกัเรียนจบัคูกันพิจารณาภาพในใบงานแลวชวยกันคิดวิเคราะห และเขียนลงในตารางขางลางนี้ใหถูกตองสมบูรณ เสร็จแลวชวยกันระบายสีรูปภาพใหประณีตสวยงาม

ภาพที ่ พฤติกรรมเสี่ยง ผลกระทบ/ผลเสีย สาเหตุ

1 ส่ิงเสพติด กัญชา เฮโรอีน ยาบา

เสียสุขภาพ การเรียนตกต่ํา เสียอนาคต

เร่ิมจากการสบูบุหร่ี คบเพือ่นไมด ี จิตใจออนไหว ครอบครัวมีปญหา

2

สุรา เบียร ขาดสติ การเรียนตกต่ํา เสียสุขภาพ เสียอนาคต ทะเลาะวิวาท เกิดอุบัติเหต ุ

เร่ิมตนจากการสูบบุหร่ี คบเพื่อนไมดี อยากลองเขาสังคม

3

นักเรียนตีกัน ทรัพยสินเสียหาย บาดเจ็บ เสียชีวิต เสยีอนาคต พอแมเสียใจ

ปญหาสวนตวั กลุมใจ บางคนสูบบุหร่ีมากอน คบเพื่อนไมดี รักเพื่อนในทางทีผิ่ด หมิ่นศักดิศ์รี ปญหาชูสาว

4

มีเพศสัมพันธกอนวยัอันควร เสียการเรียน เสียช่ือเสียง เสียอนาคต เกดิปญหาสังคม พอแมเสียใจ ติดโรคทางเพศสัมพันธ

คบเพื่อนไมด ี จิตใจออนไหว การติดตอผานอินเทอรเน็ต ครอบครัวมีปญหา

5

หนีเรียน การเรียนตกต่ํา เสียอนาคต พอแมเสียใจ

เรียนออน คบเพื่อนไมดี ไมมีอุปกรณการเรียน

6 เลนการพนัน เสียเงิน เสียการเรียน เสียอนาคต ผิดกฎหมาย

คบเพื่อนไมดี อยูในสิ่งแวดลอมที่ไมดี ความโลภ อยากลอง

7

เที่ยวกลางคืน เสียการเรียน เสียเงิน ติดโรคทางเพศสัมพันธ เสียอนาคต ไมปลอดภัย

เร่ิมตนจากการสูบบุหร่ี คบเพื่อนไมดี อยากลอง

สรุปผลกระทบของบุหรี่ท่ีมีตอพฤติกรรมเสี่ยงของวัยรุน บุหร่ีเปนสิ่งเสพติดที่หาซื้องาย มีราคาถูก เยาวชนที่สูบบุหร่ีมีโอกาสสูงที่จะนําไปสูส่ิงเสพติด

ชนิดอื่นและพฤติกรรมเส่ียงดานอื่นไดมาก ดวยสาเหตุจากการคบเพื่อน ความอยากลอง จิตใจที่ออนไหว รวมทั้งสภาพแวดลอม สังคมรอบตัวก็มีสวนสําคัญที่เปนตัวผลักดันใหเยาวชนหลงผิดไปได

Page 93: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

86

จุดประสงคการเรียนรู ใชทักษะกระบวนการคิดปองกัน และแกปญหาผลกระทบของการสูบบุหร่ีที่มี ตอพฤติกรรมเสี่ยงดานอื่นๆ ได (ทักษะกระบวนการ) คําชี้แจง แบงนักเรยีนเปนกลุมๆ ละประมาณ 5 คน รวมกนัพิจารณาเรื่องราวจากภาพการตูนทั้ง 3 ภาพ เสร็จแลวใหนกัเรียนรวมกนัใชทักษะกระบวนการคิดแตงเรื่องราวพรอมทั้งวาดภาพและเขียน คําพูดของตัวละครลงในกรอบสี่เหล่ียมที่กําหนดใหตามความคิดและจนิตนาการอยางอสิระ พรอมทั้งระบายสใีหสวยงาม

ใบงานที่ 2 เร่ือง “แตงเติมเร่ืองราว กาวสูนักคิด”

ทางสองแพรงของเด็กชาย เอ

เย็นวันหนึ่งเด็กชายเอ กลับจากโรงเรียนเดินผานกลุมเด็กวัยรุนกําลังมั่วสุมสูบบุหร่ี กัญชา และสุรากันอยางเพลิดเพลิน ในจํานวนนั้นมีเด็กชายบีเพื่อนเกาที่ถูกไลออกจากโรงเรียนรวมอยูดวย แตเด็กชายเอพยายามเดินเลี่ยงหลบไป

Page 94: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

87

ในที่สุดเด็กชายเอก็ถูกชักจูงเขามาอยูในกลุมวัยรุนกลุมนี้จนได และเริ่มสูบบุหร่ีอยางจริงจังมากขึ้น

วันตอมาเด็กชายเอเดินผานเด็กกลุมนี้อีก แตคราวนี้หนีไมพน เด็กชายบีเขามาทักทายและสงบุหร่ีใหเด็กชายเอลองสูบดู

Page 95: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

88

เหตุการณตอไปจะเปนอยางไร ขอใหนักเรียนชวยกนัวาดภาพแตงเรื่องราวใหสมบูรณในกรอบที่กําหนดใหขางบนนีต้ามความคิดและจินตนาการอยางอิสระ

?

Page 96: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

89

ช่ือ-สกุล ............................................................ ช้ัน ................... เลขที่ ...............

คําบรรยายภาพ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................

“แตงเติมเร่ืองราว กาวสูนักคิด”

คะแนนที่ได

คะแนนเต็ม 10

Page 97: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

90

กลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยีนปลอดบุหร่ี (สาระการเรียนรูเพิ่มเติม) ชวงชั้นที่3 (ม.1-ม.3)

หนวยการเรียนรูท่ี 2 เร่ือง “บุหรี่มีผลกระทบ เปนจุดจบของชีวิต” แผนการจัดการเรียนรูท่ี 6 เร่ือง “ผูหญิงสบูบุหรี่ มะเร็งก็มา ราศีก็เสื่อม” เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู

มาตรฐานหลัก พ 4.1 เห็นคุณคาและมีทักษะในการสรางเสริมสุขภาพ การดํารงสุขภาพ การปองกันโรค และการสรางเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ

มาตรฐานชวงชั้น ขอ 2-3 มาตรฐานหลกั พ 5.1 ปองกันและหลีกเลี่ยงปจจัยเสีย่ง พฤติกรรมเสี่ยงตอสุขภาพ อุบัติเหตุ

การใชยา สารเสพติด และความรุนแรง มาตรฐานชวงชั้น ขอ 1

2. ผลการเรียนรูท่ีคาดหวัง รู เขาใจ ตระหนักถึงผลกระทบ และมีกระบวนการปองกันหรือปฏิเสธการสูบบุหร่ีของผูหญิง

3. จุดประสงคการเรียนรู 3.1 วิเคราะหผลกระทบในการสูบบุหร่ีของผูหญิงได (ความรู) 3.2 เขียนคําขวัญรณรงคปองกันและแกปญหาการสูบบุหร่ีของผูหญิงได (ทักษะกระบวนการ)

3.3 บอกคุณคาของการรณรงคปองกันและแกปญหาการสูบบุหร่ีของผูหญิงได (เจตคติ) 4. สาระการเรียนรู 4.1 ผลกระทบของการสูบบุหร่ีในผูหญิง 4.2 กระบวนการรณรงคปองกันและแกปญหาการสูบบุหร่ีของผูหญิง 4.3 คุณคาของการรณรงคปองกันและแกปญหาการสูบบุหร่ีของผูหญิง 5. สาระสําคัญ

ผูหญิงที่สูบบุหร่ีจะทําเกิดโรคและรางกายทรุดโทรมมากกวาผูหญิงที่ไมสูบบุหร่ี เพราะในควันบุหร่ีมีสารพิษตาง ๆ มากมายซึ่งทําใหเกิดอันตรายตอรางกาย เชน ลดการไหลเวียนของเลือด ทําใหเกิดผิวแหงกรานและทําใหเกิดรอยเหี่ยวยนไดงาย และควันบุหร่ีเปนสาเหตุสําคัญใหเกิดมะเร็ง สวนหญิงที่ตั้งครรภจะมีโอกาสเกิดโรคแทรกซอนในระหวางตั้งครรภได ทําใหแทงหรือคลอดกอนกําหนด ทารกมีน้ําหนักตัวนอย และอาจมีสมองพิการอีกดวย นอกจากนี้วัฒนธรรมไทยยังไมยอมรับ ผูหญิงไทยที่สูบบุหร่ี และจะเปนตัวอยางที่ไมดีตอบุตรหลาน แตในปจจุบันการสูบบุหร่ีของผูหญิงไทย มีแนวโนมสูงขึ้นอยางนาตกใจ และเปนเปาหมายที่สําคัญของบริษัทบุหร่ี ดังนั้นการรณรงคเพื่อการไม

Page 98: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

91

สูบบุหร่ีของผูหญิงโดยการใหความรูและความตระหนักในพิษภัยของบุหร่ีจึงเปนประโยชนอยางยิ่งในการพัฒนาสุขภาพอนามัยของครอบครัวและสังคมไทยตลอดไป 6. กระบวนการเรียนรู ขั้นนํา 6.1 ใหนักเรียนดูส่ือรูปภาพผูหญิงวัยรุนที่มีสุขภาพแข็งแรงรูปรางหนาตาดี มีความนารัก และ ราเริงแจมใสตามวัย พรอมทั้งรวมกันวิจารณแสดงความรูสึกที่มีตอภาพนี้ แลวใหนักเรียนใชความคิดจินตนาการตอไปวาหากบุคคลในภาพสูบบุหร่ีจนติดจะทําใหเกิดการเปลี่ยนแปลงตอสุขภาพและบุคลิกภาพของผูหญิงคนนี้อยางไรบาง ขั้นสอน 6.2 แบงนักเรยีนเปนกลุมๆ ละ 5 คน เพื่อศึกษาใบความรูท่ี 1 เร่ือง “บุหรี่กับผูหญิง” พรอมทั้งศึกษาขอมูลเพิม่เติมจากสื่อและแหลงการเรียนรูอ่ืนๆ และนํามาวิเคราะหภายในกลุม

6.3 นักเรียนแตละกลุมรวมกันปฏิบัติตามใบงานที่ 1 เร่ือง “บุหรี่…ควันรายทําลายผูหญิง” โดยรวมกันแสดงความคิดเห็นถึงผลกระทบจากการสูบบุหร่ีของผูหญิงและสรุปสาระสําคัญเปนแผนภาพความคิดรวบยอด (Concept Mapping) บนกระดาษการดแผนใหญใหครอบคลุมประเด็นตอไปนี้

- วัยรุนหญิงสูบบุหร่ี เพื่อนดีๆ หมางเมิน - ผูหญิงที่สูบบุหร่ีมีแตโรครุมเรา - ผูหญิงตั้งครรภกับการสูบบุหร่ี - แมสูบบุหร่ีผลกระทบตอลูกนอย

เสร็จแลวชวยกันเขียนคําขวัญรณรงคปองกันและแกปญหาการสูบบุหร่ีของผูหญิง 6.4 นักเรียนแตละกลุมนําผลงานแผนภาพความคิดพรอมคําขวัญติดแสดงที่ปายนิเทศ และ

รวมกันวิเคราะหวิจารณ ครูประเมินผลงานและใหขอเสนอแนะในการนําสื่อไปเผยแพรในโรงเรียนและชุมชนตอไป ขั้นสรุป

6.5 นักเรียนและครูรวมกันสรุปแนวทางการรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีของผูหญิงรวมทั้งประโยชนและคุณคาที่ไดรับ ครูประเมินผลงานและใหคําแนะนําเพิ่มเติมในการชวยกันรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีของผูหญิงในโอกาสตอไป 7. วิธีการจัดการเรียนรู

7.1 การเรียนรูที่เนนทักษะกระบวนการคิด 7.2 การเรียนรูที่ใชกระบวนการกลุม

8. การบูรณาการ บูรณาการเรื่องกับกลุมสาระการเรียนรูศิลปะ (การวาดภาพ ออกแบบโปสเตอรและแตงเพลง)

Page 99: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

92

9. สื่อ/แหลงการเรียนรู 9.1 ส่ือผูหญิงวัยรุน 9.2 ใบความรูที่ 1 เร่ือง “บุหร่ีกับผูหญิง” 9.3 ใบงานที่ 1 เร่ือง “บุหร่ี…ควันรายทําลายผูหญิง”

9.4 อุปกรณการจัดทําแผนภาพความคิดและเขียนคําขวัญ 9.5 หองสมุด 9.6 ศูนยการเรียนรูกลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา/ศูนยรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี

ในโรงเรียน

9.7 เว็บไซต http://www.ashthailand.or.th

http://www.smokefreezone.or.th 10. การวัดและประเมินผล 10.1 วิธีการวัด

1) ประเมินกระบวนการปฏิบัติงานกลุม 2) ประเมินผลงานใบงานที่ 1 และใบงานที่ 2 3) ประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ”

10.2 เครื่องมือวัด 1) แบบประเมินกระบวนการปฏิบัติงานกลุม 2) แบบประเมินผลงานใบงานที่ 1 และใบงานที่ 2 3) แบบประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ”

10.3 เกณฑการวัด ทุกกิจกรรม ถือเกณฑการผานรอยละ 50

11. กิจกรรมเสนอแนะ

11.1 ในการปฏิบัติตามใบงานที่ 2 เร่ือง “ส่ือสรางสรรค ดับควันบุหร่ีของผูหญิง” ซ่ึงเปนการปฏิบัติงานในระยะเวลาอันสั้น ผลงานยังไมสมบูรณแบบ ครูอาจเปดโอกาสใหนักเรียนนําผลงานมาพัฒนาตอยอดนอกเวลาใหสมบูรณและมีคุณภาพยิ่งขึ้นเพื่อเตรียมการรณรงค เพื่อการไมสูบบุหร่ีในแผนตอๆ ไป 11.2 สงเสริมใหนักเรียนสํารวจสภาวะการสูบบุหร่ีของนักเรียนชายและนักเรียนหญิงในโรงเรียน เพื่อนํามาวางแผนการรณรงคตอไป

ลงชื่อ........................................................................ (.......................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

Page 100: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

93

บันทึกหลังสอน

1. ผลการจัดการเรียนรู ....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

2. ปญหาและอุปสรรค .................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3. วิธีการแกปญหา .................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ความคิดเห็นของผูบริหารสถานศึกษา/ผูท่ีไดรับมอบหมาย ..........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

ลงชื่อ........................................................................ (.......................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

ลงชื่อ........................................................................ (.......................................................................) ตําแหนง................................................................... ผูอํานวยการสถานศึกษา

Page 101: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

94

สื่อการเรียนรู รูปภาพผูหญิงวัยรุน

วัยสดใสแบบนี้ จะเปนเชนไร หากกลายเปนคนขีย้า

Page 102: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

95

ใบความรูที่ 1 “บุหรี่กับผูหญิง”

จุดประสงคการเรียนรู วิเคราะหผลกระทบในการสูบบุหร่ีของผูหญิงได (ความรู)

• วัยรุนสูบบุหรี่ เพ่ือนดีๆ หมางเมนิ นอกจากการสูบบุหร่ีของผูหญิงที่อยูในวัยรุนจะมีผลกระทบตอสุขภาพและบุคลิกภาพ ทําให

ขาดความสดชื่นแจมใส ดูแกกวาวัยแลว ยังเปนที่รังเกียจของเพื่อน ๆ และเพศตรงขามอีกดวย เพราะวัฒนธรรมไทยไมยอมรับใหผูหญิงสูบบุหร่ี เนื่องจากการสูบบุหร่ี เปนกิริยาอาการที่ไมสมควร ทําใหเปนที่ติฉินนินทาของชาวบาน และเกิดภาพลักษณที่ไมดี ทําใหสังคมมองในแงรายวาอาจมีพฤติกรรมที่ไมเหมาะสมอื่น ๆ และทําใหบุคคลที่รัก เชน บิดามารดารูสึกเสียใจและอับอายขายหนา

• ผูหญิงสูบบุหรี่มีแตโรครุมเรา ผูหญิงสูบบุหร่ี อวัยวะทั้งภายนอกและภายในจะแกกอนวัยกวาคนที่ไมสูบบุหร่ีเฉลี่ยเปนเวลา 10 ป ผูหญิงที่สูบบุหร่ีมีความเสี่ยงที่จะเปนมะเร็งปอดมากกวาผูที่ไมสูบบุหร่ี 10 เทา ผูหญิงที่สูบบุหร่ีจะมีโอกาสเปนโรคหัวใจและหลอดเลือดมากขึ้น โดยพบวาผูหญิงที่สูบบุหร่ีจะเกิดอาการหัวใจลมเหลวมากกวาผูหญิงที่ไมสูบบุหร่ี 2-6 เทา และมีอัตราเสี่ยงตอการเกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลันเพิ่มขึ้น 20 เทา และความเสี่ยงนี้จะทวีตามจํานวนบุหร่ีที่สูบตอวัน ผูหญิงที่สูบบุหร่ีจะมีอัตราเสี่ยงตอการเกิดมะเร็งปากมดลูกสูงกวาผูหญิงทั่วไปถึง 4 เทา เพราะการสูบบุหร่ีทําใหภูมิตานทานของรางกายลดลงมีผลใหเกิดการติดเชื้อไดงาย ซ่ึงทําใหมีโอกาสเปนมะเร็งได ผูหญิงสูบบุหร่ีมีโอกาสเปนมะเร็งเตานมมากกวาผูที่ไมสูบบุหร่ีหรือผูที่เลิกสูบบุหร่ีแลวถึงรอยละ 25 เพราะการสูบบุหร่ีทําใหระดับฮอรโมนเอสโตรเจน ซ่ึงมีหนาที่ในการปองกันการเกิดมะเร็งเตานม

บุหรี่กับผูหญิง

Page 103: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

96

ลดลง และผูหญิงที่สูบบุหร่ีจะมีโอกาสเสี่ยงเปนโรคกล้ันปสสาวะไมอยูเพิ่มขึ้นมากกวาผูหญิงทั่วไปเปน 2 เทา เพราะนิโคตินไปทําลายกลามเนื้อที่ควบคุมการทํางานของกระเพาะปสสาวะ

• ผูหญิงตั้งครรภกับการสูบบุหรี่

ผูหญิงสูบบุหร่ีจะมีโอกาสตั้งครรภชากวาผูไมสูบถึง 3 เทา และผูหญิงที่สูบบุหร่ีหรือไดรับควันบุหร่ีในระหวางตั้งครรภมีโอกาสเสี่ยงตอการแทงสูงถึงรอยละ 100

ทั้งนี้เพราะการสูบบุหร่ีมีผลทําใหเกิดความผิดปกติดานการเจริญพันธุของผูหญิงอยางมาก ผูหญิงที่สูบบุหร่ีเปนประจําจะมีรอบเดือนมาไมปกติมากกวาผูที่ไมสูบบุหร่ี มีโอกาสตั้งครรภไดยากกวาผูหญิงทั่วไปถึง 3 เทา และเมื่อมีอายุสูงขึ้นทําใหกระดูกเชิงกรานหักงายเมื่อหกลม

นอกจากนี้จะมีโอกาสเปนโรคแทรกซอนระหวางตั้งครรภและคลอดบุตรได ไดแก อาการครรภเปนพิษ ความดันโลหิตสูง เลือดออกมาก คลอดลําบาก มีแนวโนมที่จะคลอดกอนกําหนดมากกวารอยละ 50 ทําใหทารกมีโอกาสตายตั้งแตอยูในครรภเพิ่มขึ้น 1.6 เทา ผลิตน้ํานมไดนอยกวาปกติ และสารนิโคตินในเลือดสามารถถายทอดไปสูทารกโดยผานทางน้ํานมได หัวใจจะเตนเร็วพรอมกับระดับวิตามินซีในรางกายจะลดลง กาซคารบอนมอนอกไซดในเลือดจะสูงขึ้นและถามีแนวโนมที่จะเปนโรคหัวใจอยูแลวก็อาจทําใหเกิดอาการของโรคกําเริบขึ้นได

• แมสูบบุหรี่มีผลกระทบตอลูกนอย

การสูบบุหร่ีของแมระหวางตั้งครรภเปนสาเหตุสําคัญทําใหทารกที่คลอดออกมาเปนเด็กพิการทางปญญาหรือปญญาออน ทารกมีน้ําหนักแรกคลอดต่ํากวาทารกปกติประมาณ 170-200 กรัม ความยาวรอบศีรษะและชวงไหลอาจสั้นกวาทารกปกติ จากการศึกษาของศูนยควบคุมและปองกันโรครวมกับมหาวิทยาลัยเอ็มโมรี พบวา การสูบบุหร่ีระหวางตั้งครรภ ทําใหเสี่ยงที่จะมีบุตรปญญาออนสูงขึ้นรอยละ 50 ความเสี่ยงนี้จะทวีขึ้นจนถึงรอยละ 85 ในกรณีที่สูบบุหร่ีวันละ 1 ซองหรือมากกวานั้น ที่เปนเชนนี้เพราะนิโคตินจากการสูบบุหร่ีทําใหเสนเลือดบริเวณรกหดตัวและกาซคารบอนมอนอกไซดทําใหเสนเลือดที่ไปเลี้ยงทารกมีออกซิเจนนอยลง ผลก็คือทารกในครรภจะไดรับทั้งเลือดและออกซิเจนนอยกวาปกติทําใหทารกตัวเล็กกวาปกติ และจะมีทารกจํานวนหนึ่งมีโครงสรางของสมองไมสมบูรณ ซ่ึงจะมีผลตอระบบความคิดที่บกพรอง ออนแอ มีโอกาสเปนโรคเร้ือรังสูงขึ้น จากการติดตามเด็กที่เกิดจากแมซ่ึงขณะตั้งครรภสูบบุหร่ีมากกวา 10 มวนตอวัน พบวา เมื่อเด็กอายุได 7-11 ป จะเตี้ยกวาเด็กที่เกิดจากแมที่ไมสูบบุหร่ี ความสามารถในการอานหรือคิดคํานวณชากวาปกติ 3-5 เดือน และเด็กกลุมนี้จะมีระดับไอคิวลดลง 4 จุด ซ่ึงแมวาจะดูเปนเรื่องเล็กนอย แตระดับไอคิวที่ลดลงนี้เทียบเทาไดกับเด็กที่ไดรับผลกระทบในระดับกลางจากพิษของสารตะกั่วอันมีผลตอระดับไอคิวหรือพัฒนาการทางสมองของเด็ก ซ่ึงจะสงผลกระทบตอเด็กในระยะยาวอยางแนนอน

Page 104: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

97

จุดประสงคการเรียนรู 1. วิเคราะหผลกระทบในการสูบบุหร่ีของผูหญิงได (ความรู)

2. เขียนคําขวัญรณรงคปองกันและแกปญหาการสูบบุหร่ีของผูหญิงได (ทักษะกระบวนการ)

คําชี้แจง 1. แบงนักเรียนเปนกลุมๆ ละ 5 คน เพื่อศึกษาใบความรูที่ 1 เร่ือง “บุหร่ีกับผูหญิง” พรอมทั้ง ศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติมจากสื่อและแหลงการเรียนรูอ่ืน ๆ เพื่อนํามาวิเคราะหภายในกลุม 2. นักเรียนแตละกลุมรวมกันวิเคราะหวิจารณและสรุปใหครอบคลุมในประเด็นตอไปนี้ โดย เขียนเปนแผนภาพความคิด (Mind Mapping)

- วัยรุนหญิงสูบบุหร่ี เพื่อนดีๆ หมางเมิน - ผูหญิงที่สูบบุหร่ีมีแตโรครุมเรา - ผูหญิงตั้งครรภกับการสูบบุหร่ี - แมสูบบุหร่ีมีผลกระทบตอลูกนอย

3. เขียนคําขวัญรณรงคปองกันและแกปญหาการสูบบุหร่ีของผูหญิง

กลุมที่ ....................... ช่ือกลุม ............................................................................. ช้ัน ...............................

ใบงานที่ 1 “บุหรี่...ควันราย ทําลายผูหญิง”

คําขวัญ : ………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………..

Page 105: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

98

จุดประสงคการเรียนรู 1. วิเคราะหผลกระทบในการสูบบุหรี่ของผูหญิงได (ความรู)

2. เขียนคําขวัญรณรงคปองกันและแกปญหาการสูบบุหรี่ของผูหญิงได (ทักษะกระบวนการ)

คําชี้แจง 1. แบงนักเรียนเปนกลุมๆ ละ 5 คน เพื่อศึกษาใบความรูที่ 1 เรื่อง “บุหรี่กับผูหญิง” พรอมทั้งศึกษาคนควาขอมลูเพิ่มเติมจากสื่อและแหลงการเรียนรูอื่น ๆ เพื่อนํามาวิเคราะหภายในกลุม 2. นักเรียนแตละกลุมรวมกันวิเคราะหวิจารณและสรุปใหครอบคลุมในประเด็นตอไปนี้โดย เขียนเปนแผนภาพความคิด (Mind Mapping) - วัยรุนหญิงสูบบุหรี่ เพื่อน ดี ๆ หมางเมิน - ผูหญิงที่สูบบุหรี่มีแตโรครุมเรา - ผูหญิงตั้งครรภกับการสูบบุหรี่ - แมสูบบุหรี่มีผลกระทบตอลูกนอย 3. เขียนคําขวัญรณรงคปองกันและแกปญหาการสูบบุหรี่ของผูหญิง

เฉลยใบงานที่ 1 “บุหรี่... ควันราย ทําลายผูหญิง”

คําขวัญ “บุหร่ีพิษราย ทําลายความสวย จนหรือรวย ก็ตองมวยมรณา”

- แทงลูก - โรคแทรกซอน - เปนโรคกระดูกผุ - ต้ังครรภยากกวาผูไมสูบ 3 เทา

- ตายในครรภ - น้ําหนักนอย - เปนโรคเรื้อรัง - คลอดกอนกําหนด - พัฒนาการชา สมองพิการ

แนวคําตอบ - ขาดความสดชื่น แจมใส ดูแกกวาวัย - เปนที่รังเกียจของเพื่อน ๆ และเพศตรงขาม - เปนที่ติฉินนินทา - เปนภาพลักษณที่ไมดี - ทําใหบุคคลที่เรารัก เชน พอแมเสียใจและอับอาย

ผูหญิงที่สูบบุหร่ี มีแตโรครุมเรา

บุหรี.่..ควันราย ทําลายผูหญิง

วัยรุนหญิงสูบบุหร่ี เพื่อนดี ๆ หมางเมิน

แมสูบบุหร่ีมีผลกระทบตอลูกนอย

ผูหญิงตั้งครรภกับการสูบบุหร่ี

- เปนโรคหัวใจ - แกกอนวัย 10 ป - เปนมะเร็งเตานม - เปนมะเร็งปอดมากกวาผูไมสูบ 10 เทา - เปนมะเร็งปากมดลูกมากกวาผูไมสูบ 4 เทา

Page 106: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

99

กลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยีนปลอดบุหร่ี (สาระการเรียนรูเพิ่มเติม) ชวงชั้นที่ 3 (ม.1-ม.3)

หนวยการเรียนรูท่ี 2 เร่ือง “บุหรี่มีผลกระทบ เปนจุดจบของชีวิต” แผนการจัดการเรียนรูท่ี 7 เร่ือง “บานปลอดบุหรี่ ทุกชีวีมีความสุข” เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู มาตรฐานหลัก พ 4.1 เห็นคุณคาและมีทักษะในการสรางเสริมสุขภาพ การดํารงสุขภาพ การปองกันโรค และการสรางเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ

มาตรฐานชวงชั้น ขอ 1และ 3 2. ผลการเรียนรูท่ีคาดหวัง รู เขาใจ ตระหนักถึงพิษภัยของบุหร่ี ที่มีผลกระทบตอครอบครัว และมีแนวทางปองกันผลกระทบของบุหร่ีที่จะเกิดกับครอบครัวได 3. จุดประสงคการเรียนรู 3.1 วิเคราะหผลกระทบของการสูบบหุร่ีที่มีตอครอบครัวได (ความรู) 3.2 ศึกษาวิเคราะหและกําหนดแนวทางการพัฒนาบานใหปลอดจากบุหร่ีได (ทักษะกระบวนการ) 3.3 อธิบายผลดีของการที่บานปลอดบุหร่ีได (เจตคติ) 4. สาระการเรียนรู 4.1 ผลกระทบของการสูบบุหร่ีที่มีตอครอบครัว 4.2 แนวทางการพัฒนาบานใหปลอดจากบุหร่ี 4.3 ผลดีของการที่บานปลอดบุหร่ี 5. สาระสําคัญ ครอบครัวเปนสถาบันแรกของสังคมที่มีสวนรวมสําคัญตอการสรางและพัฒนากําลังคนใหมีคุณภาพไปสูการพัฒนาสังคม และประเทศชาติ หากมีผูสูบบุหร่ีในครอบครัวก็จะสงผลกระทบตอคุณภาพชีวิตของคนในครอบครัว และเปนตัวอยางไมดีตอเด็กและเยาวชน ดังนั้น การชวยกันทําใหครอบครัวปลอดบุหร่ีจึงเปนการสรางความสุข ความปลอดภัยของทุกคนและยังสงผลไปสูการพัฒนาสังคม และประเทศชาตินั่นเอง 6. กระบวนการเรียนรู

ขั้นนํา 6.1 นักเรียนรวมกันฟงเพลง “บานของเรา” พรอมทั้งรองตามและปรบมือเขาจังหวะ แลวรวมกันแสดงความรูสึก และความคิดเห็นดังนี้

Page 107: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

100

- ฟงเพลงนี้แลวรูสึกอยางไร และเพลงไดส่ือความหมายวาอยางไรบาง - นักเรียนคิดวาบานที่มีความสุขทั้งกายและใจนั้น มีองคประกอบสําคัญอะไรบาง - หากในบานของเรามีผูสูบบุหร่ีจะมีผลกระทบตอความสุขทางกายและใจของคนในบานอยางไรบาง ครูใหขอเสนอแนะเพิ่มเติม และนํานักเรียนทบทวนความรู เดิมเรื่อง สารพิษในบุหร่ีกับผลกระทบที่มีตอสุขภาพ

ขั้นสอน 6.2 ครูตั้งคําถามวา “มีใครบางที่มีสมาชิกในบานสูบบุหรี่” เมื่อนักเรียนยกมือ เชิญนักเรียนออกมาหนาชั้นและตั้งคําถามเพื่อถามนักเรียน ดังนี้ 1. บุคคลที่สูบบุหร่ีในครอบครัวของนักเรียนมีใครบาง 2. ปริมาณบุหร่ีที่เห็นบุคคลในครอบครัวสูบตอวัน 3. ลักษณะการสูบบุหร่ีในบานของบุคคลในครอบครัว ในบาน/นอกบาน 4. ลักษณะกิจกรรม/การกระทําที่บุคคลในครอบครัวมักจะทําขณะสูบบุหร่ี 5. ชวงเวลาที่บุคคลในครอบครัวสูบบุหร่ี 6. พฤติกรรมของนักเรียนเมื่อเห็นบุคคลในครอบครัวสูบบุหร่ี 7. เคยรูสึกไมสบายตอการสูบบุหร่ีของบุคคลในครอบครัวหรือไมแสดงออกอยางไร 8. คาดวาบุคคลในครอบครัวรับรูวา “บุหร่ีมีโทษหรอืพิษภัย” หรือไม 9. เคยหวาดกลัววาบุคคลในครอบครัวจะไดรับอันตรายจากบุหร่ี หรือไม 10. ระบุโอกาสที่นักเรียนจะตัดสินใจสูบบุหร่ีในอนาคต 11. นักเรียนเคยขอรองใหสมาชิกในครอบครัวที่สูบบุหร่ี เลิกสูบบุหร่ีหรือไม มีปญหา อุปสรรคอะไรที่ไมสามารถทําใหบานปลอดบุหร่ีได ครูถามคําถามครั้งละ 1 คําถาม และใหนักเรียนตอบทีละคน ในขณะที่นักเรียนตอบเพื่อนที่เปนผูฟงจดบันทึกในรูปแบบแผนภาพความคิด (Mind Mapping) นักเรียนรับแจกเอกสารแผนพับเรื่อง “เหตุผลที่คุณควรเลิกบุหร่ีเพื่อคนที่คุณรัก” เพื่อนําไปมอบใหบุคคลในบานของนักเรียนที่สูบบุหร่ี 6.3 แบงนักเรียนเปนกลุมๆ ละ 5-7 คน รวมกันปฏิบัติใบงานที่ 1 เร่ือง “ผลกระทบของการสูบบุหรี่ ท่ีมีตอครอบครัว” โดยระดมสมองถึงผลกระทบที่สมาชิกในครอบครัวไดรับจากการที่มีสมาชิก ในครอบครัวสูบบุหร่ี เสร็จแลวบันทึกลงในใบงาน ตัวแทนกลุมออกมารายงานและอภิปรายซักถาม 6.4 ครูตั้งคําถามวา “มีใครบางที่มีสมาชิกในบานเคยสูบบุหร่ีและสามารถเลิกบุหร่ีไดสําเร็จ” เมื่อนักเรียนยกมอื เชิญนักเรียนออกมาหนาชั้น และตั้งคําถามเพื่อถามนักเรียนดังนี้ 1. บุคคลในบานที่เคยสูบบุหร่ีและสามารถเลิกบุหร่ีไดสําเร็จคือใคร 2. อะไรเปนแรงบันดาลใจใหเขาเลิกสูบบุหร่ี 3. เลิกสูบบุหร่ีมานานเทาไหร

Page 108: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

101

4. วิธีการที่ใชในการเลิกสูบบุหร่ี 5. มีปญหาอุปสรรคหรือไมขณะใชความพยายามในการเลิกสูบบุหร่ี 6. ส่ิงดีๆ ที่เกิดขึ้นหลังเลิกสูบบุหร่ี 7. นักเรียนรูสึกอยางไรที่บุคคลในบานเลิกสูบบุหร่ีได ครูถามคําถามครั้งละ 1 คําถาม ใหนักเรียนตอบทีละคน ในขณะที่นักเรียนตอบเพื่อนที่เปนผูฟงจดบันทึกในรูปแบบ Mind Mapping 6.5 นักเรียนปฏิบัติใบงานที่ 2 เร่ือง “ทําอยางไรบานจึงจะปลอดบุหรี่” แตละกลุมแขงขันกันคิดหาวิธีการที่ทําใหบานปลอดบุหร่ี แลวบันทึกลงในใบงาน และเลือกวิธีที่ดีที่สุดกลุมละ 1 วิธี ออกมานําเสนอ โดยนักเรียนรวมกันอภิปรายซักถามถึงขอดี ขอเสียของแตละวิธีและลงมติเลือกวิธีที่ดีที่สุด มอบรางวัลแกกลุมที่ชนะเลิศ

ขั้นสรุป 6.6 ครูและนักเรียนรวมกันสรุปถึงผลดีของการที่บานปลอดบุหร่ี และใหกําลังใจนักเรียนที่มี

สมาชิกในบานสูบบุหร่ี เสนอแนะใหทดลองนําวิธีที่เหมาะสมไปใช หลังจากนั้นใหครูแจกแผนพับ“บานปลอดบุหร่ี” แกนักเรียนทุกคน 7. วิธีการจัดการเรียนรู 7.1 การเรียนรูที่เนนทักษะกระบวนการคิด 7.2 การเรียนรูที่ใชกระบวนการกลุม 8. การบูรณาการ 8.1 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูศิลปะ (ฟงเพลง รองเพลง และวิจารณเพลง “บานเรา” การวาดภาพการตูนประกอบคําขวัญ) 8.2 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ความสัมพันธและ การแกปญหาในครอบครัว) 9. สื่อ/แหลงการเรียนรู 9.1 แถบบันทึกเสียงและเนื้อรองเพลง “บานของเรา” 9.2 ส่ือเอกสาร “บานปลอดบุหร่ี” (Smoke Free Home) 9.3 ส่ือเอกสาร “ทําอยางไรจะเลิกบุหร่ีไดสําเร็จ” 9.4 ใบงานที่ 1 เร่ือง “ผลกระทบของการสูบบุหร่ีที่มีตอครอบครัว” 9.5 ใบงานที่ 2 เร่ือง “ทําอยางไรบานจึงจะปลอดบุหร่ี” 9.6 แบบสํารวจความคดิเหน็ของนักเรียนตอบุคคลในครอบครัวที่สูบบุหร่ี 10. การวัดและประเมินผล 10.1 วิธีการวัด 1) การประเมินกระบวนการปฏิบัติงานกลุม 2) การประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ” 10.2 เครื่องมือวัด

Page 109: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

102

1) แบบประเมินกระบวนการปฏิบัติงานกลุม 2) แบบประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ” 11. กิจกรรมเสนอแนะ 11.1 ครูอาจจัดกระบวนการเรียนรูใหนักเรียนชวยกันคิดหาวิธีการหรือคําพูดในเชิงสรางสรรค ที่นักเรียนจะนําไปใชกับพอแมหรือคนในครอบครัวที่สูบบุหร่ีเพื่อรวมกันทําให “บานปลอดบุหร่ี” และสงเสริมใหนักเรียนนําไปใชจริง 11.2 ใหนักเรียนที่มีบุคคลในบานสูบบุหร่ีกรอกแบบสํารวจความคิดเห็นของนักเรียนตอผูปกครองที่สูบบุหร่ี เพื่อสรุปรายงานผูปกครองและหนวยงานที่เกี่ยวของทราบตอไป

ลงชื่อ........................................................................ (.....................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

Page 110: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

103

บันทึกหลังสอน

1. ผลการจัดการเรียนรู ....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

2. ปญหาและอุปสรรค .................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3.วิธีการแกปญหา .................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ความคิดเห็นของผูบริหารสถานศึกษา/ผูท่ีไดรับมอบหมาย ...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

ลงชื่อ........................................................................ (.....................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

ลงชื่อ........................................................................ (.....................................................................) ตําแหนง................................................................... ผูอํานวยการสถานศึกษา

Page 111: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

104

เนื้อเพลง “บานของเรา” คํารอง-ทํานอง เนรัญชรา

บานคือวิมานของเรา เราซื้อเราเชา เราปลูกของเราตามใจ ยอมเปนสถานทิพยวิมานพอหาได เปนที่เกดิที่ตาย ที่เราสรางไวคอยทา

บานคือวิมานของคน ถึงแมนยากจนกต็องดิ้นรนอยาจนปญญา หาบานสักหลังที่พอประทังวิญญา เพื่อสนทิในนิทรา ใหตื่นมามองโลกชื่นใจ บานฉันมีเพลงฝนใหฟง มีเสียงระฆังจากกังสดาลพลิ้วไป

มีสวนไมดอกผลิบานกานชอใบ มีความรัก มีน้าํใจ มีใหอภยั มีกรุณา

บานคือวิมานของเรา ยามพบความเศรารีบกลับบานเราจะเปรมปรีดา เพราะบานมีรัก น้ําใจ อภยั กรุณาคอยเราอยูทุกเวลา ในชายคาเขตบานของเรา

สื่อการเรียนรู เนื้อรองเพลง “บานของเรา”

Page 112: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

105

สื่อการเรียนรู เอกสาร “บานปลอดบุหรี่”

Page 113: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

106

จุดประสงคการเรียนรู วิเคราะหผลกระทบของการสูบบุหร่ีที่มีตอครอบครัวได (ความรู) คําชี้แจง แบงนักเรียนออกเปนกลุมๆ ละประมาณ 5-7 คน รวมกันระดมความคิดเห็นถึงผลกระทบที่ สมาชิกในครอบครัวไดรับจากการที่สมาชิกในครอบครัวสูบบุหร่ี โดยบันทึกผลการระดม ความคิดเปนแผนภาพความคิด (Mind Mapping) อยางอิสระ เสร็จแลวสงตัวแทนกลุมออกมา รายงานและอภิปรายซักถาม

ใบงานที่ 1 เร่ือง “ผลกระทบของการสูบบุหรี่ที่มีตอครอบครัว”

Page 114: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

107

จุดประสงคการเรียนรู 1. วิเคราะหผลกระทบของการสูบบุหร่ีที่มีตอครอบครัวได (ความรู) คําชี้แจง แบงนักเรยีนเปนกลุมๆ ละประมาณ 5 คน รวมกนัศึกษาสื่อเอกสาร “บานปลอดบุหร่ี” (Smoke Free Home) และสื่อจากแหลงอื่นๆ มารวมกันวเิคราะหและสังเคราะหเปนแผนภาพ ความคิด (Mind Mapping) เร่ือง “ผลกระทบของการสูบบุหร่ีที่มีตอครอบครัว” บนกระดาษ การดแผนใหญ และใชความคิดสรางสรรคตกแตงและระบายสีแผนภาพใหประณตีสวยงาม

แบบเฉลยใบงานที่ 1 เร่ือง “ผลกระทบของการสูบบุหรี่ที่มีตอครอบครัว”

มีผลกระทบตอเดก็ในครรภหลายดาน และมีโอกาสทําใหเด็กพิการได

คนในครอบครัวไดรับอันตรายจากควันบหุรี่

ครอบครัวเสียคาใชจายโดยเปลาประโยชน

ทําใหสุขภาพจิตของคนในครอบครัวเสือ่ม

ทําใหสูญเสียบุคคลในครอบครัว

ทําใหมีมลพิษในบาน

คนในครอบครัวสุขภาพเสื่อมลง

ผลกระทบของการสูบบุหร่ีท่ีมีตอ

เปนแบบอยางท่ีไมดีตอลูกหลาน

แนวคําตอบ

Page 115: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

108

จุดประสงคการเรียนรู ศึกษาวเิคราะหและกําหนดแนวทางการพฒันาบานใหปลอดบุหร่ีได (ทักษะ กระบวนการ) คําชี้แจง ใหนักเรียนนําปญหาสภาวะการสูบบุหร่ีในครอบครัวมารวมกันระดมความคิดเห็นหาวิธี ปองกันและแกปญหาผลกระทบของการสูบบุหร่ีในครอบครัว ในหัวขอ “ทําอยางไรบานจึง จะปลอดบุหรี่”

กลุมที่ ..................... ซ่ึงกลุม ....................................................................... ช้ัน ....................................... 1. ………………………………………………………………………………………………………… 2. ………………………………………………………………………………………………………… 3. ………………………………………………………………………………………………………… 4. ………………………………………………………………………………………………………… 5. ………………………………………………………………………………………………………… 6. …………………………………………………………………………………………………………

ใบงานที่ 2 เร่ือง “ทําอยางไร บานจึงจะปลอดบุหรี่”

ทําอยางไรบานจึงจะปลอดบุหรี ่

***หมายเหต ุ เกณฑการใหคะแนนใชแบบประเมินกระบวนการปฏิบัติงานกลุม

Page 116: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

109

จุดประสงคการเรียนรู 1. ศึกษาวเิคราะหและกําหนดแนวทางการพัฒนาบานใหปลอดจากบุหร่ีได (ทักษะกระบวนการ)

2. บอกประโยชนและคณุคาของการมีสวนรวมทําให “บานปลอดบุหร่ี” ได (เจตคติ)

คําชี้แจง ใหนักเรียนนําปญหาสภาวะการสูบบุหร่ีในครอบครัวมารวมกันระดมความคิดเห็นหาวิธี ปองกันและแกปญหาผลกระทบของการสูบบุหร่ีในครอบครัว ในหัวขอ “ทําอยางไรบานจึง จะปลอดบุหรี่”

1. ไมอนุญาตใหทุกคนสูบบุหร่ีในบานรวมทั้งแขกที่มาเยี่ยมบานโดยขอรองอยางสุภาพ และ ติดสัญลักษณหรือขอความ “บานปลอดบุหร่ี” เพื่อย้ําใหทุกคนรับรู 2. พยายามย้ําถึงเหตุผลวาทําไมถึงตองกําหนดใหบานปลอดบุหร่ี โดยเนนเหตุผลดานสุขภาพมากกวาที่จะลงโทษผูที่ฝาฝนสูบบุหร่ีในบาน 3. หากมีใครคิดหรืออยากสูบบุหร่ีในบานใหหาอยางอื่นรับประทานหรือชวนทํากิจกรรมสนุกสนานแทนการสูบบุหร่ี 4. ไมอนุญาตใหใครก็ตาม เชน คนรับใช แมบาน พี่เล้ียงเด็ก หรือชางซอมตางๆ สูบบุหร่ีในบานโดยเฉพาะหากมีเด็กเล็กๆอยูดวยตองหามสูบบุหร่ีโดยเด็ดขาด 5. นอกจากใหบานเปนเขตปลอดบุหร่ี แลวหากมีรถยนตควรรวมกันทําใหรถเปนเขตปลอดบุหร่ีดวย เพราะรถเปนสถานที่คับแคบหากมีการสูบบุหร่ีทุกคนก็จะไดรับควัน และกลิ่นบุหร่ีก็จะติดอยูในรถเปนเวลานาน 6. ถาหากคนในบานอยากเลิกบุหร่ี ขอใหเปนกําลังใจใหเลิกบุหร่ีไดสําเร็จ และแนะนําแหลงใหคําปรึกษาเพื่อเลิกบุหร่ีหรือโทร 1600 Quit line สายนี้ปลอดบุหรี่

แบบเฉลยใบงานที่ 2 เร่ือง “ทําอยางไร บานจึงจะปลอดบุหรี่”

แนวคําตอบ ทําอยางไรบานจึงจะปลอดบุหรี่

Page 117: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

110

แบบสํารวจ ความคิดเห็นของนักเรียนตอบุคคลในครอบครัวท่ีสูบบุหรี ่

โรงเรียน ................................................................

คําชี้แจง การสํารวจ ความคิดเห็นของนักเรียนตอบุคคลในครอบครัวที่สูบบุหร่ี เปนแนวทางที่นําไปสู การรณรงคแกไขปญหาผลกระทบของบุหร่ีตอครอบครัวตอไป จึงใครขอความรวมมือจาก นักเรียนในการตอบแบบสํารวจตามความจริงที่นักเรียนพบเห็น

ตอนที่ 1 ขอมูลท่ัวไป 1. เพศ เพศชาย เพศหญิง 2. ระดับชั้น ม.1 ม.2 ม.3 ม.4 ม.5 ม.6 3. บุคคลท่ีสูบบุหรี่ในครอบครัว บิดา มารดา พี่/นอง ระบ ุ................ ญาติ ระบุ .............. คนงานในบาน.................. 4. ปริมาณบุหร่ีที่เห็นบุคคลในครอบครัวสูบตอวัน 1-2 มวนตอวัน 3-5 มวนตอวัน 6-10 มวนตอวัน 11-15 มวนตอวัน 16-20 มวนตอวัน 21-25 มวนตอวัน 1-2 ซองตอวัน มากกวา 2 ซองตอวัน 5. ลักษณะการสูบบุหรี่ในบานของบคุคลในครอบครัว สูบบุหร่ีในบาน ออกไปสูบนอกตัวบาน สูบบุหร่ีนอกร้ัวบาน 6. ลักษณะกิจกรรม/การกระทําท่ีบุคคลในครอบครัวมักจะสูบบุหรี่ สูบเวลานัง่ดูทีวีดวยกัน สูบเวลานัง่กินขาวดวยกนั สูบในหองนอนเมื่อนกัเรียนอยูดวย สูบเวลาพานักเรียนไปเที่ยว สูบเวลาทีด่ื่มสุรา สูบเมื่อนั่งในรถกับนักเรียน อ่ืนๆ ระบุ ................................................ 7. ชวงเวลาที่บคุคลในครอบครัวมักสูบบุหรี่ ตื่นนอนตอนเชา หลังอาหาร เวลาวาง เวลาที่เครยีด เวลาที่ดื่มสุรา อ่ืนๆ ระบุ .................................. 8. พฤติกรรมของนักเรียนเมื่อเห็นบุคคลในครอบครัวสบูบุหรี่ เดินหน ี บอกใหดบัหรืออยาสูบบุหร่ี ฟองมารดาหรือผูใหญ อ่ืนๆ ระบุ ..................................

Page 118: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

111

ตอนที่ 2 ความคิดเห็นตอการที่บุคคลในบานสูบบุหรี่ 1. ความคิดเหน็ตอการสูบบหุรี่ของบุคคลในครอบครัว เท ไมเท ไมแนใจ อ่ืนๆ ระบุ ........................... 2. ทานเคยรูสึกไมสบาย เพราะการสูบบุหรี่ของบุคคลในครอบครัวหรือไม เคยเปนประจํา เคยเปนบางครั้ง ไมเคยเลย 3. ทานคาดวาบุคคลในครอบครัว รับรูวา “บุหรี่มีโทษหรือพิษภัย” รูวามีโทษหรือพิษภยั ไมมีโทษหรือพิษภยั ไมแนใจ/ไมทราบ ถาตอบวารู ระบุโทษหรือพิษภัยของบุหรี่ ........................................................ 4. ทานเคยหวาดกลัววาบุคคลในครอบครัวจะไดรับอันตรายจากบุหรี่ กลัววาจะไมสบาย กลัววาจะพิการ กลัววาจะเสยีชีวิต อ่ืนๆ ระบุ .................................................................................................... 5. ระบุความรูสกึท่ีบุคคลในครอบครัวสูบบุหรี่ ชอบ ไมชอบ ไมแนใจ ระบุเหตุผลท่ีไมชอบ............................................................................................ 6. ระบุโอกาสที่ทานจะตัดสนิใจสูบบุหรี่ในอนาคต สูบ ไมสูบ ไมแนใจ ระบุเหตุผล............................................................................................................ 7. ระบุความตองการที่จะใหบุคคลในครอบครัวเลิกสูบบุหรี่ อยากใหเลิกบุหร่ี ไมอยากใหเลิก ไมแนใจ 8. ระบุความกลาท่ีจะทําสิ่งตางๆ เพื่อใหบุคคลในครอบครวัลดหรือเลิกสูบบุหรี่ เอาปาย “หามสูบบุหร่ีไปติดในบาน” เอาหนังสอืวิธีเลิกสูบบุหร่ีใหอาน ขอรอง/แนะนํา/ชักชวนใหเลิกสูบบุหร่ี ชักชวนใหเขารับการบาํบัดเพื่อเลิกสบูบุหร่ี อ่ืนๆ ระบุ ....................................................................................................... 9. ความรูสึกท่ีอยากจะบอกบุคคลในครอบครัวเร่ืองการเลิกบุหรี่ ........................ .............................................................................................................................. 10. ทานตองการ เอกสาร โปสเตอร สติกเกอร รณรงคเลิกบุหรี่เพื่อนําไปติดท่ีบานหรือไม ตองการ ไมตองการ

Page 119: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

112

กลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยีนปลอดบุหร่ี (สาระการเรียนรูเพิ่มเติม) ชวงชั้นที่ 3 (ม.1- ม.3)

หนวยการเรียนรูท่ี 2 เร่ือง “บุหรี่มีผลกระทบ เปนจุดจบของชีวิต” แผนการจัดการเรียนรูท่ี 8 เร่ือง “ยิ่งสูบยิง่จน มืดมนทัง้ชีวิต” เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู มาตรฐานหลัก พ 4.1 เห็นคุณคาและมีทักษะในการสรางเสริมสุขภาพ การดํารงสุขภาพ การปองกันโรคและการสรางเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ มาตรฐานชวงชั้น ขอ 3 มาตรฐานหลัก พ 5.1 ปองกันและหลีกเลี่ยงปจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงตอสุขภาพ อุบัติเหตุ การใชยาสารเสพติด และความรุนแรง มาตรฐานชวงชั้น ขอ 1 – 3 2. ผลการเรียนรูท่ีคาดหวัง รู เขาใจ และตระหนักในผลกระทบของการสูบบุหร่ีที่มีตอเศรษฐกิจ 3. จุดประสงคการเรียนรู 3.1 วิเคราะหผลกระทบที่มีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ีได (ความรู) 3.2 ใชกระบวนการศึกษาวิเคราะหผลกระทบที่มีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ีของคนในชุมชนได (ทักษะกระบวนการ) 3.3 บอกประโยชนและคุณคาทางเศรษฐกิจเมื่อเลิกสูบบุหร่ีได (เจตคติ) 4. สาระการเรียนรู 4.1 ผลกระทบที่มีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ี 4.2 การศึกษาวิเคราะหผลกระทบที่มีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ีของคนในชุมชน 4.3 ประโยชนและคุณคาทางเศรษฐกิจจากการเลิกสูบบุหร่ี 5. สาระสําคัญ บุหร่ีเปนภัยเงียบที่นอกจากจะคุกคามสุขภาพและชีวิตของผูสูบแลวยังมีผลกระทบตอความสูญเสียทางเศรษฐกิจระดับบุคคล ระดับชาติ และระดับโลกอีกดวย ซ่ึงเปนทั้งความสูญเสียที่สามารถคํานวณไดและไมสามารถคํานวณได แตก็สงผลเสียอยางมหาศาลตอสภาวะทางเศรษฐกิจ ชีวิตความเปนอยู และความเจริญมั่นคงของสังคม ดังนั้นวิ ธีการเดียวที่จะชวยบรรเทาความเสียหายดังกลาวไดก็คือ การรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีนั่นเอง

Page 120: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

113

6. กระบวนการเรียนรู

ขั้นนํา 6.1 นักเรียนรวมกันพิจารณาสื่อโปสเตอร “หมดมวน หมดตัว” และ “สินเชื่อเพื่อฌาปนกิจ” พรอมทั้งรวมกันแสดงความรูสึกและวิจารณความหมายของโปสเตอรตามความเขาใจของนักเรียน ครูใหขอเสนอแนะเพิ่มเติมและเชื่อมโยงมาถึงการเรียนรูผลกระทบจากการสูบบุหร่ีที่มีตอเศรษฐกิจ ดังคํากลาวที่วา “ยิ่งสูบยิ่งจน” ซ่ึงคนสวนใหญมักมองไมเห็นความสําคัญ

ขั้นสอน 6.2 แบงนักเรียนออกเปน 6 กลุม แตละกลุมจับสลากเลือกกิจกรรมระดมความคิดเห็น กลุมละ 1 ใบงานจากจํานวน 6 กิจกรรม ดังนี้ ใบงานที่ 1 เร่ือง “ยิ่งสูบยิ่งจน จะทุกขทนไปทําไม” ใบงานที่ 2 เร่ือง “คิดเลขงาย ๆ กับความเสียหายจากบุหร่ี ใบงานที่ 3 เร่ือง “ขึ้นภาษีบุหร่ีชวยใหเด็กดีไมเสียคน” ใบงานที่ 4 เร่ือง “การสูบบุหร่ีของคนกรุง เร่ืองยุงที่ตองรีบแก” ใบงานที่ 5 เร่ือง “คาบุหร่ีของพอ หนูขอเปนคาอาหาร” ใบงานที่ 6 กรณีศึกษา เร่ือง “สตีฟ ยอดนักรณรงค” 6.3 ในแตละกิจกรรมจะมีใบความรู และใบงานใหนักเรียนรวมกันระดมความคิดเห็นเปนกระบวนการกลุมในการวิเคราะหผลกระทบตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ี และวิธีการปองกันและแกปญหา ครูสังเกตกระบวนการเรียนรู และใหคําปรึกษาแตละกลุม 6.4 ใหตัวแทนกลุมนําเสนอผลงาน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรูซ่ึงกันและกัน พรอมนําผลงานติดแสดงบนปายนิเทศ 6.5 ครูนํานักเรียนสรุปผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ี ซ่ึงเปนผลกระทบที่สามารถคํานวณความสูญเสียได และไมสามารถคํานวณได พรอมทั้งใหนักเรียนแตละกลุมรับเอกสารแบบสัมภาษณเพื่อศึกษาวิเคราะหผลกระทบที่มีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ีของคนในชุมชน เพื่อนําไปวางแผนสัมภาษณเก็บขอมูลจากผูที่สูบบุหร่ีในชุมชนใกลบาน

ขั้นสรุป 6.6 นักเรียนรวมกันสรุปและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชนและคุณคาของเศรษฐกิจ หากสามารถลดอัตราการสูบบุหร่ีไดตามเปาหมาย และจดบันทึกลงในสมุด 7. วิธีการจัดการเรียนรู 7.1 การเรียนรูที่เนนทักษะกระบวนการคิด 7.2 การเรียนรูที่ใชกระบวนการกลุม

Page 121: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

114

8. การบูรณาการ 8.1 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพและเทคโนโลยี (ขอมูลทางเศรษฐกิจ การสรุปเสนอขอมูลดวยคอมพิวเตอร) 8.2 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูคณิตศาสตร (คิดเลขงายๆ กับความเสียหายทางเศรษฐกิจ) 8.3 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (การสํารวจและศึกษาวิเคราะหผลกระทบที่มีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ีของคนชุมชน) 9. สื่อ/แหลงการเรียนรู 9.1 ส่ือโปสเตอร “หมดมวนหมดตัว” และ “สินเชื่อเพื่อฌาปนกิจ” 9.2 ใบงานกิจกรรมกลุม จํานวน 6 ใบงาน 9.3 แบบสํารวจและศึกษาวิเคราะหผลกระทบที่มีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ีของคนในชุมชน 9.4 กระปุกออมสินของมูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี 10. การวัดและประเมินผล 10.1 วิธีการวัด 1) ประเมินผลการแบงกลุมระดมความคิดเห็น 2) การประเมินกระบวนการปฏิบัติงานกลุม 3) การประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ” 10.2 เครื่องมือวัด 1) แบบประเมินผลการแบงกลุมระดมความคิดเห็น 2) แบบเมินกระบวนการปฏิบัติงานกลุม 3) แบบประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ” 10.3 เกณฑการวัด ทุกกิจกรรม ถือเกณฑการผานรอยละ 50 11. กิจกรรมเสนอแนะ 11.1 การใหนักเรียนออกไปสํารวจผลกระทบที่มีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ีของคนในชุมชน หากเวลาไมพอ อาจใชนอกเวลาเรียนและครูควรระมัดระวังในความปลอดภัยของนักเรียนเปนพิเศษ ครูควรเดินทางไปดวย และติดตอประสานงานกับผูนําชุมชนทุกครั้ง 11.2 ผลการสํารวจและวิเคราะหขอมูล สามารถนําเสนอหนวยงานสาธารณสุขในชุมชน และใชในการวางแผนรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีในชุมชนในโอกาสตอไป

ลงชื่อ........................................................................ (......................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

Page 122: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

115

บันทึกหลังสอน

1. ผลการจัดการเรียนรู ...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

2. ปญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3. วิธีการแกปญหา ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ความคิดเห็นของผูบริหารสถานศึกษา/ผูท่ีไดรับมอบหมาย .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................

ลงชื่อ........................................................................ (......................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

ลงชื่อ........................................................................ (......................................................................) ตําแหนง................................................................... ผูอํานวยการสถานศึกษา

Page 123: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

116

สื่อการเรียนรู สื่อโปสเตอร “หมดมวน หมดตัว”

Page 124: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

117

จุดประสงคการเรียนรู

1. วิเคราะหผลกระทบที่มีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ีได (ความรู) 2. ใชกระบวนการศึกษาวิเคราะหผลกระทบที่มีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ีของคนในชุมชนได (ทักษะกระบวนการ) 3. บอกประโยชนและคุณคาทางเศรษฐกิจเมื่อเลิกสูบบุหร่ีได (เจตคติ)

คําชี้แจง ใหนักเรียนรวมกันอานขอมูลความรู เร่ือง “ยิ่งสูบยิ่งจน จะทุกขทนไปทําไม” และระดม ความคิดเห็นในกลุม เพื่อตอบคําถามตอนทายของขอมูลความรูนี้

“ยิ่งสูบยิง่จน จะทุกขทนไปทําไม”

ผูมีรายไดตอเดือนไมเกิน 2,500 บาท มีอัตราการสูบบุหร่ีเปนประจําสูงสุดรอยละ 40.1

ขณะที่ผูที่มีรายไดมากกวา 10,000 บาทตอเดือน สูบบุหร่ีเพียงรอยละ 9.4 เทานั้น

การสูบบหุรี่ จําแนกตามรายไดตอเดอืน

รายไดตอเดือน (บาท) รอยละของการสูบบุหรี่ ไมเกิน 2,500 40.1 2,501-5,000 20.9 5,001-10,000 19.6 ตั้งแต 10,001 9.4

ใบงานที่ 1 เร่ือง “ย่ิงสูบยิ่งจน จะทุกขทนไปทําไม”

Page 125: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

118

ในอดีตผูสูบบุหร่ีมักเปนคนที่มีฐานะดีมากกวาคนจน เพราะบุหร่ีจัดเปนสินคาฟุมเฟอยไมใชส่ิงจําเปนในการดํารงชีพ ตั้งแตในระยะ 20 - 30 ป ที่ผานมา พบวาคนที่มีฐานะดีกลับเลิกสูบบุหร่ีมากขึ้น ในขณะที่ผูมีรายไดนอยยงัคงสูบบุหร่ีตอไป ตัวอยางเชน ประเทศอังกฤษพบวา คนที่มีการศึกษาสูง สูบบุหร่ีนอยมาก คือ เพศชายสูบบุหร่ีรอยละ 12 เพศหญิงสูบบุหร่ีรอยละ 10 ในขณะที่ผูที่มีรายไดนอยและมีการศึกษาต่ํานอยที่เปนเพศชายสูบบุหร่ีรอยละ 40 เพศหญิงสูบบุหร่ีรอยละ 50 นอกจากนี้ยังพบวา อัตราการสูบบุหร่ีของประชาชนในประเทศกําลังพัฒนาก็มีอัตราการ สูบบุหร่ีเพิ่มขึ้นอยางรวดเร็วจากจํานวน 5.7 ลานมวน ที่มีการสูบบุหร่ีทั่วโลกตอป พบวา รอยละ 75 เปนผูสูบบุหร่ีในประเทศกําลังพัฒนา ทั้งนี้เพราะการเปดเสรีทางการคาทําใหบริษัทบุหร่ียักษใหญจากอเมริกาและอังกฤษสามารถเขาไปขายในประเทศกําลังพัฒนาได รัฐบาลของประเทศกําลังพัฒนาขาดมาตรการในการควบคุมการบริโภคยาสูบ โดยเฉพาะ การหามการโฆษณาและการสงเสริมการขาย รวมถึงการขาดการใหขอมูลความรูในเรื่องอันตรายจาก การสูบบุหร่ีแกประชาชน ประชาชนในประเทศกําลังพัฒนาสวนใหญมีการศึกษาต่ําทําใหขาดความรู ความเขาใจ และความตระหนกัถึงอันตรายจากการสูบบุหร่ีที่มีตอสุขภาพ จากเหตุผลดังกลาวทําใหประชาชนในประเทศกําลังพัฒนาสูบบุหรี่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุมผูมีรายไดนอย ตัวอยางเชน ในประเทศมาเลเซีย พบวา ครอบครัวที่มีรายได 2,000 ริงกิต (ประมาณ 20,000 บาท) หรือต่าํกวานี ้มีอัตราการสูบบุหร่ีสูงกวาครอบครัวที่มีรายไดสูงกวา

Page 126: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

119

1. สรุปประเดน็สาระสําคัญ จํานวน 3 ขอ แนวคําตอบ

1.1 ผูมีรายไดตอเดือนไมเกิน 2,500 บาท มีอัตราการสูบบุหร่ีเปนประจําสูงสุดคือ รอยละ 40.1 ขณะที่ผูที่รายไดมากกวา 10,000 บาทตอเดือน สูบบุหร่ีเพียงรอยละ 19.4 เทานั้น

1.2 ในอดีตผูสูบบุหร่ีมักเปนคนมีฐานะดี แตในปจจุบันคนจนกลับสูบบุหร่ีมากกวาคนรวย 1.3 การเปดเสรีทางการคา ทําใหบริษัทบุหร่ียักษใหญในอเมริกา และอังกฤษ สามารถเขาไป

คาขายในประเทศที่กําลังพัฒนาได 2. เหตุใดอัตราการสูบบุหรี่ของประเทศที่กําลังพัฒนา จึงเพิ่มขึ้นอยางรวดเร็ว แนวคําตอบ เปนเพราะรัฐบาลของประเทศที่กําลังพัฒนาขาดมาตรการในการควบคุมการบริโภคยาสูบ โดยเฉพาะการหามการโฆษณาและสงเสริมการขาย 3. เหตุใดคนจนจึงสูบบุหรี่มากกวาคนรวย แนวคําตอบ เนื่องจากคนจนสวนมากมีการศึกษาต่ํา จึงขาดความรูความเขาใจและตระหนักถึงอันตรายจากการสูบบุหร่ีที่มีตอสุขภาพ

แบบเฉลยใบงานที่ 1 เร่ือง “ย่ิงสูบยิ่งจน จะทุกขทนไปทําไม”

คําถามชวนคดิ

Page 127: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

120

จุดประสงคการเรียนรู 1. วิเคราะหผลกระทบที่มีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ีได (ความรู)

2. ใชกระบวนการศึกษาวิเคราะหผลกระทบที่มีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ี ของคนในชุมชนได (ทักษะกระบวนการ)

3. บอกประโยชนและคุณคาทางเศรษฐกิจเมื่อเลิกสูบบุหร่ีได (เจตคติ) คําชี้แจง ใหนักเรียนรวมกันอานขอมูลความรู เร่ือง “คิดเลขงายๆ กับความเสียหายจากบุหร่ี” และระดม

ความคิดเห็นในกลุม เพื่อตอบคําถามตอนทายของขอมูลองคความรูนี้

“คิดเลขงายๆ กับความเสียหายจากบุหรี่” จากการวิเคราะหพบวา ในทุกๆ 1,000 ตัน ของยาสูบที่ผลิต

ออกมา จะทํารายไดหรือผลกําไรสุทธิใหผูผลิต 65 ลานบาท แตทําใหมีผูเสียชีวิต 650 คน ซ่ึงคน 650 คนนี้ตองเสียคารักษาพยาบาลใน การรักษาโรคกอนที่จะเสียชีวิตประมาณ 140 ลานบาท และยังมีคาใชจายและความสูญเสียทางออมของบุคคลนี้อีกประมาณ 275 ลานบาท เมื่อบวกกับรายไดที่คนเหลานี้ควรไดรับหาไมเสียชีวิตกอนวัยอันควรอีก 330 ลานบาท จึงรวมเปนความสูญเสียทั้งสิ้น 745 ลานบาท

- ดังนั้น ความสูญเสียจากยาสูบเพียง 1,000 ตัน จึงมากกวารายรับถึง 745 – 65 = 680 ลานบาท - ขณะนี้ทั่วโลกผลิตยาสูบปละ 7,300,000 ตัน จึงคิดเปนความสูญเสียทางเศรษฐกิจของโลก ปละประมาณ 5 ลานลานบาท ธนาคารโลกไดสรุปวาการลงทุนปองกันไมใหคนติดบุหร่ีเปนการลงทุนที่คุมคาที่สุดในการลด

คาใชจายดานการรักษาโรคภัยไขเจ็บของประชาชน ตัวอยางเชน - ในประเทศกําลังพัฒนาที่มีรายไดตอหัวตอป 50,000 บาท การลงทุนเพื่อรณรงคปละ 500-

1,000 บาทตอคนตอป เพื่อไมใหประชาชนสูบบุหร่ีหรือเลิกสูบบุหร่ีขณะที่ยังไมปวยและมี อายุยืนขึ้น

- ในขณะที่คาใชจายในการรักษามะเร็งปอดซึ่งสามารถยืดชีวิตผูปวยไดประมาณรอยละ 10 เทานั้นจะตองเสียเงินในการยืดชีวิตตอคนตอป เทากับ 450,000 บาท

จากการสูญเสียทางเศรษฐกิจนี้ ทําใหธนาคารโลกงดการใหเงินกูกับประเทศที่ขอกูไปลงทุนในเร่ืองยาสูบทุกชนิด ไมวาจะเปนการเพาะปลูก การสงออกหรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวของ

ใบงานที่ 2 เร่ือง “คิดเลขงายๆ กบัความเสียหายจากบุหรี่”

Page 128: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

121

1. สรุปประเด็นสาระสําคัญ จํานวน 3 ขอ 1.1..................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................1.2................................................................................................................................................................ .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 1.3..................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... 2. การวิเคราะหความเสียหายจากการสูบบุหร่ีใชขอมูลใดมารวมกันบาง ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... 3. เหตุใดธนาคารโลกจึงสรุปวา “การลงทุนปองกันไมใหคนติดบหุร่ีเปนการลงทุนที่คุมคาที่สุด” ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................

คําถามชวนคดิ

กลุมที่ ........... ช่ือกลุม ....................................................................................... ช้ัน ..........................

Page 129: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

122

1. สรุปประเดน็สาระสําคัญ จํานวน 3 ขอ แนวคําตอบ 1.1 การสูบบุหร่ีมีผลกระทบดานคารักษาพยาบาล และคาความสูญเสียทางออม เมื่อทรัพยากรบุคคลถูกทําลาย นับเปนมูลคามหาศาล ดังนั้นการลงทุนปองกันไมใหคนติดบุหร่ีจึงเปนการลงทุนที่คุมคาที่สุด 1.2 ขณะนี้ทั้งโลกผลิตยาสูบปละ 7,300,000 ตัน คิดเปนความสูญเสียทางเศรษฐกิจของโลก ปละ 5 ลานลานบาท 1.3 ธนาคารโลกงดการใหเงินกูกับประเทศที่ขอกูไปลงทุนในเรื่องของยาสูบทุกชนิด 2. การวิเคราะหความเสียหายจากการสูบบหุรี่ใชขอมูลใดมารวมกันบาง แนวคําตอบ ประกอบดวยขอมูลดานคารักษาพยาบาล และคาใชจายจากการสูญเสียทางออม เชน คาเสียโอกาสและรายไดในการทํางาน คาผลกระทบของควันบุหร่ีที่มีตอบุคคลใกลเคียง และคาจัดงานศพเมื่อถึงแกกรรม เปนตน 3. เหตุใดธนาคารโลกจึงสรุปวา “การลงทุนปองกันไมใหคนติดบุหรี่เปนการลงทุนท่ีคุมคาท่ีสุด” แนวคําตอบ เพราะเปนการลงทุนรณรงคปองกันที่เสียคาใชจายนอย แตไดผลในการลดความเสียหายจากอันตรายของบุหร่ีคิดเปนมูลคามหาศาล

แบบเฉลยใบงานที่ 2 เร่ือง “คิดเลขงายๆ กบัความเสียหายของบุหรี่”

คําถามชวนคดิ

กลุมที่ ....................ช่ือกลุม ............................................................................... ช้ัน ..............................

Page 130: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

123

จุดประสงคการเรียนรู

1. วิเคราะหผลกระทบที่มีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ีได (ความรู) 2. ใชกระบวนการศึกษาวิเคราะหผลกระทบที่มีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ีของคนในชุมชนได

(ทักษะกระบวนการ) 3. บอกประโยชนและคุณคาทางเศรษฐกิจเมื่อเลิกสูบบุหร่ีได (เจตคติ)

คําชี้แจง ใหนักเรียนรวมกันอานขอมูลความรู เร่ือง “ขึ้นภาษีบุหร่ี ชวยใหเด็กดีไมเสียคน” และระดมความคิดเห็นในกลุม เพื่อตอบคําถามตอนทายของขอมูลองคความรูนี้

“ข้ึนภาษีบุหรี่ ชวยใหเด็กดีไมเสียคน”

ขอเสนอแนะในการปองกันเด็กไทยไมใหสูบบุหรี่ รัฐบาลตองแสดงความจริงจังในการที่จะปองกันที่จะไมใหเด็กไทยติดบุหร่ีเพิ่มขึ้นดวย โดยขึ้นภาษีบุหร่ี เพื่อทําใหราคาบุหร่ีแพงขึ้น อันจะมีผลตอการปองกันเด็กและเยาวชนจากการซื้อบุหร่ี ที่สําคัญรัฐบาลไดมีการขึ้นภาษีมา 3 ปแลว ทําใหราคาต่ํากวาที่ควรจะเปน เพราะถารัฐบาลไทย ดําเนินนโยบายขึ้นภาษีตามอัตราคาครองชีพที่เปลี่ยนแปลง ก็จะทําให

- ขายบุหร่ีไดเทาเดิมหรือนอยลง ขึ้นกับจํานวนอัตราภาษทีี่ขึ้น - รัฐบาลมีรายไดจากภาษเีพิม่ขึ้นอยางมาก - เยาวชนตดิบหุร่ีนอยลง - จํานวนผูปวยนอยลง - คารักษาพยาบาลนอยลง

ใบงานที่ 3 เร่ือง “ข้ึนภาษีบุหรี่ ชวยใหเด็กดีไมเสียคน”

Page 131: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

124

ขอบคุณคณะรัฐมนตรีที่ข้ึนภาษีบุหรี่ ในที่สุดคณะรัฐมนตรีก็มีมติใหกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลังปรับขึ้นอัตราภาษียาสูบ

จากปจจุบันที่จัดเก็บในอัตรารอยละ 75 เพิ่มขึ้นเปนรอยละ 79 เกือบเต็มเพดานตามที่กฎหมายยาสูบกําหนดไวสูงสุด คือรอยละ 80

การขึ้นภาษีบุหร่ีนี้ เปนมาตรการสําคัญมาตรการหนึ่งในการควบคุมการบริโภคยาสูบที่ธนาคารโลกไดเสนอไว เพราะผลกระทบที่สําคัญที่เกิดขึ้นคือ ราคาบุหร่ีจะแพงขึ้น ซ่ึงเปนปจจัยที่ปองกันเยาวชนใหเขามาสูบบุหร่ีนอยลง เนื่องจากยังไมมีรายไดจึงมีกําลังซื้อต่ํา ซ่ึงสอดคลองกับผลสรุปงานวิจัยเร่ือง “การวิเคราะหเศรษฐกิจของการสูบบุหร่ี” โดย รศ.ดร.อิศรา ศานติศาสน คณะเศรษฐศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ซ่ึงระบุวา คนไทยใชเงินเกือบรอยละ 3 จากรายไดทั้งหมดไปกับการสูบบุหร่ี การตอบสนองของอุปสงคบุหร่ีหรือความตองการตอการเปลี่ยนแปลงราคาในประเทศไทยคลายกันกับประเทศที่มีรายไดปานกลางอื่นๆ คือ การเพิ่มราคาที่แทจริงเพิ่มขึ้นรอยละ 1 จะทําใหการบริโภคลดลงประมาณรอยละ 0.4 และจะเกิดผลกระทบลดการสูบบุหร่ีมากที่สุดในกลุมประชากรที่มีรายไดนอย

ทั้งนี้มีการประมาณการวา การขึ้นภาษีนี้จะมีผลตอราคาบุหร่ีขายปลีก โดยบุหร่ีไทยที่มีกนกรองราคาจะเพิ่มขึ้น 5 - 6 บาท สวนบุหร่ีตางประเทศจะมีราคาเพิ่มขึ้น 6 - 8 บาท ตัวเลขที่นาคิดจากผลการวิจัย

ถาราคาบุหร่ีขึ้นซองละ 1 บาท จะมีผูสูบบุหร่ีตัดสินใจเลิกสูบบุหร่ีรอยละ 21.2 หรือเทากับ 1ใน5 ถาราคาบุหร่ีขึ้นซองละ 3 บาท จะมีผูสูบบุหร่ีตัดสินใจเลิกสูบบุหร่ีรอยละ 32.4 หรือเทากับ 1 ใน 3 ถาราคาบุหร่ีขึ้นซองละ 5 บาท จะมีผูสูบบุหร่ีตัดสินใจเลิกสูบบุหร่ีรอยละ 44.5 หรือเทากับ 1 ใน 2 ***ที่มา : สํานักวิจัยเอแบคโพลล ผลสํารวจภาคสนาม เร่ือง การประเมินคาใชจายในการสูบบุหร่ี: กรณีศึกษา ผูสูบบุหร่ีที่มีอายุ 11 ป ขึ้นไปใน เขต 13 จังหวัดทั่วประเทศ

Page 132: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

125

1. สรุปประเด็นสาระสําคัญจํานวน 3 ขอ 1.1..................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................1.2..................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 1.3..................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 2. การขึ้นภาษีบุหร่ี มีผลดีตอเยาวชนอยางไรบาง ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3. ประมาณการวา จากการประกาศขึ้นภาษีบุหร่ีของคณะรัฐมนตรีคร้ังนี้ จะมีผูสูบบุหร่ีตัดสินใจเลิกบุหร่ีไมต่ํากวารอยละ 44.5 นักเรียนเชื่อหรือไม เพราะเหตุใด ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

คําถามชวนคดิ

Page 133: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

126

1. สรุปประเดน็สาระสําคัญ จํานวน 3 ขอ แนวคําตอบ 1.1 การที่รัฐบาลขึ้นภาษีบุหร่ี จะมีผลดีคือ การขายบุหร่ีจะมีอัตราที่ลดลง เนื่องจากมีราคาแพงขึ้น แตรัฐบาลที่รายไดจากการเก็บภาษีเพิ่มขึ้น เยาวชนติดบุหร่ีนอยลงเพราะไมมีเงินซื้อ จํานวนผูปวยลดลงและคารักษาพยาบาลก็นอยลงเปนเงาตามตัว 1.2 ในปจจุบันนี้ กรมสรรพสามิตไดปรับอัตราภาษียาสูบเปนรอยละ 79 เกือบเต็มเพดานตามที่กฎหมายกําหนดไวสูงสุดไมเกินรอยละ 80 1.3 เยาวชนและผูมีรายไดนอยจะไดรับผลกระทบจากการขึ้นภาษีบหุร่ี 2. การขึ้นภาษบีุหรี่มีผลดีตอเยาวชนอยางไร แนวคําตอบ ชวยใหเยาวชนติดบุหร่ีนอยลง เพราะไมมีเงินซื้อ ซ่ึงจะชวยรักษาสุขภาพทางกาย ทางจิตใจ และทางสติปญญา ใหมีความสมบูรณ เปนการหลีกเลี่ยงตอพฤติกรรมเสี่ยง ทําใหมีอนาคตที่สดใสเปนพลังที่เขมแข็งของครอบครัว สังคม และประเทศชาติตลอดไป 3. ประมาณวาจากการประกาศขึ้นภาษีบหุรี่ของคณะรฐัมนตรีคร้ังนี ้ จะมีผูสูบบุหรี่ติดสินใจเลิกบุหรี่ไมต่ํากวารอยละ 44.5 นักเรียน เชื่อหรือไม เพราะเหตุใด แนวคําตอบ เชื่อตามขอมูลที่ไปสํารวจมา แตเชื่อวาเปนความคิดของคนกลุมหนึ่งที่ตั้งใจจะเลิกสูบบุหร่ี แตตองอาศัยปจจัยอ่ืนๆ ชวยกระตุนดวย เชน จิตใจที่เขมแข็งและแนวแน การเลิกบุหร่ีเพื่อบุคคลอันเปนที่รักและวิธีการเลิกบุหร่ีที่ถูกตองเหมาะสม เปนตน

คําถามชวนคดิ

กลุมที่ ....................ช่ือกลุม ............................................................................... ช้ัน ..............................

แบบเฉลยใบงานที่ 3 เร่ือง “ข้ึนภาษีบุหรี่ ชวยใหเด็กดีไมเสียคน”

Page 134: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

127

จุดประสงคการเรียนรู 1. วิเคราะหผลกระทบที่มีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ีได (ความรู) 2. ใชกระบวนการศึกษาวิเคราะหผลกระทบที่มีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ี ของคนในชุมชนได (ทักษะกระบวนการ) 3. บอกประโยชนและคุณคาทางเศรษฐกิจเมื่อเลิกสูบบุหร่ีได (เจตคติ) คําชี้แจง ใหนักเรียนรวมกันอานขอมูลความรู เร่ือง “การสูบบุหร่ีของคนกรุง เร่ืองยุงที่ตองแก” และ

ระดมความคิดเห็นในกลุม เพื่อตอบคําถามตอนทายของขอมูลองคความรูนี้

“การสูบบุหรี่ของคนกรุง เร่ืองยุงที่ตองแก”

บริษัท ศูนยวิจัยกสิกรไทย จํากัด สํารวจ “พฤติกรรมการสูบบุหร่ีของคนกรุงเทพฯ” จากกลุม

ตัวอยาง 1,271 คน ระหวางวันที่ 2-16 พฤษภาคม พ.ศ.2546 พบประเด็นสําคัญคือ คาใชจายเฉลี่ยดานบุหรี่ของคนกรุงเทพฯ รอยละ 15.07 ของรายไดทั้งหมดในแตละเดือน โดยเฉล่ียคนกรุงเทพฯ ท่ีตอบแบบสอบถามมีคาใชจายในการสูบบุหรี่ 150 บาทตอเดือน ซ่ึงเมื่อคํานวณแลวจะพบวา ในป พ.ศ.2546 ตลาดบุหรี่ในกรุงเทพฯ มีมูลคาประมาณ 500 ลานบาท และถาเปรียบเทียบในชวง 2 ทศวรรษที่ผานมาพบวาแมจะมีการรณรงคในเรื่องการสูบบุหร่ีอยางตอเนื่อง แตคาใชจายเฉลี่ยตอคนในการซื้อผลิตภัณฑยาสูบยังมีแนวโนมเพิ่มขึ้นอยางตอเนื่อง กลุมอายุท่ีนาเปนหวงคือ กลุมวัยรุน อายุ 13-19 ป ซ่ึงมีคาใชจายดานบุหรี่ถึงรอยละ 20.3 สวนกลุมเด็กอายุนอยกวา 13 ป มีคาใชจายดานบุหรี่รอยละ 15 นอกจากนี้ ถากลุมเด็กท่ีตอบแบบสอบถามมีเงินเดือนหรือรายไดเพิ่มขึ้นรอยละ 22.2 จะนําไปซ้ือบุหรี่เพิ่มขึ้น

ใบงานที่ 4 เร่ือง “การสูบบุหรี่ของคนกรุง เร่ืองยุงที่ตองแก”

Page 135: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

128

ปจจัยที่เปนแรงกระตุนใหเกิดความอยากสูบบุหร่ี คนกรุงเทพฯ ระบุวา ปจจัย 5 อันดับแรกที่กระตุนใหเกิดความอยากสูบบุหร่ี คือ 1)ความเครียด 2)การดื่มสุรา 3)โมโห/หงุดหงิด 4)การเท่ียวกลางคืน และ 5)การดูภาพยนตรท่ีมีการสูบบุหรี่

สวนปจจัยที่จะทําใหการรณรงคไมสูบบุหร่ีมีประสิทธิภาพ 5 อันดับแรก คือ 1)ทําใหกฎหมายเขตปลอดบุหรี่มีผลบังคับเขมงวดมากขึ้น 2)กําหนดใหบุหรี่เปนสิ่งเสพติด 3)เผยแพรผลเสียของ การสูบบุหรี่ 4)กําหนดเขตปลอดบุหรี่เพิ่มขึ้น 5)ปลูกฝงคานิยมท่ีดีแกเยาวชนในสถาบันการศึกษา

อยางไรก็ตามคนกรุงเทพฯ ที่ตอบแบบสอบถามระบุวา กฎหมายการหามสูบบุหร่ีในที่สาธารณะที่กําหนดนั้นไมมีผลตอผูที่สูบบุหร่ี เนื่องจากผูตอบแบบสอบถามเห็นวาผูที่สูบบุหร่ีสามารถปรับตัวไดถึงรอยละ 45.8 และอีกรอยละ 35.1 เห็นวาเกิดจากความไมเขมงวดของเจาหนาที่ กําลังเจาหนาที่ตรวจจับไมเพียงพอ และบทลงโทษไมหนัก

นอกจากนี้ส่ิงที่ตองแกไขอยางตอเนื่องจากผลของการหามสูบบุหร่ีในที่สาธารณะสําหรับผูที่ยังไมสามารถเลิกสูบบุหร่ีได ซ่ึงคนกลุมนี้จะหันไปสูบบุหร่ีที่บานมากขึ้น อันเปนตัวอยางที่ไมดีสําหรับเด็กและเยาวชนซึ่งในอนาคตจะมีโอกาสเปนผูที่สูบบุหร่ีมากขึ้นดวย การเปล่ียนแปลงพฤติกรรมการสูบบุหรี่เม่ือมีการขึ้นราคาบุหรี่ คนกรุงเทพฯ รอยละ 53.7 เลิกสูบบุหรี่และสูบบุหรี่นอยลง สวนอีกรอยละ 46.3 ไมเปลี่ยนแปลงโดยที่บางคนยังสูบยี่หอเดิม และบางคนหันไปสูบบุหรี่ที่มีราคาถูกลง ขอมูลจาก http://www.ashthailand.or.th/th/content_image/informationcenter/78.doc

Page 136: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

129

1. สรุปประเด็นสาระสําคัญ จํานวน 3 ขอ 1.1..................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................1.2..................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................1.3..................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 2. ผูสูบบุหร่ีในกลุมอายุใดที่มีคาใชจายดานบุหร่ีสูงที่สุด และหากไมสามารถรณรงคใหคนกลุมนี้ลด การสูบบุหร่ีลงไดจะเกิดผลเสียหายอยางไร เพราะเหตุใด ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3. นักเรียนคิดวาวิธีลดแรงกระตุนที่ทําใหเกิดความอยากสูบบุหร่ี คืออะไรบาง ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

คําถามชวนคดิ

กลุมที่ ....................ช่ือกลุม ............................................................................... ช้ัน ..............................

Page 137: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

130

1. สรุปประเด็นสาระสําคัญ จํานวน 3 ขอ แนวคําตอบ 1.1 จากการสํารวจของบริษัท ศูนยวิจัยกสิกรไทย จํากัด พบวาตลาดบุหร่ีในกรุงเทพฯ ในป พ.ศ.2546 มีมูลคาประมาณ 500 ลานบาท และมีแนวโนมเพิ่มสูงขึ้นในปตอไป 1.2 ปจจัยที่เปนแรงกระตุนใหคนกรุงเทพฯอยากสูบบุหร่ี 5 อันดับแรก คือ 1)ความเครียด 2)การดื่มสุรา 3)โมโห หงุดหงิด 4)การเที่ยวกลางคืน และ 5)การดูภาพยนตรที่มีการสูบบุหร่ี 1.3 กฎหมายการหามสูบบุหร่ีในที่สาธารณะไมมีผลตอการเลิกสูบบุหร่ีได เพราะผูที่สูบบุหร่ีสามารถปรับตัวไดถึงรอยละ 45.8 และอีกรอยละ 35.1 เห็นวาเจาหนาที่ไมเขมงวด มีคําสั่งใน การตรวจจับไมเพียงพอและลงโทษไมหนัก 2. ผูสูบบุหรี่ในกลุมอายุใด ท่ีมีคาใชจายดานบุหรี่สูงท่ีสดุ และหากไมสามารถรณรงคใหคนกลุมนี้ลดการสูบบหุรี่ลงได จะเกิดผลเสียหายอยางไร เพราะเหตุใด แนวคําตอบ กลุมวัยรุนอายุ 13-19 ป มีคาใชจายดานบุหร่ีถึงรอยละ 20.3 ของรายไดในแตละเดือน ซ่ึงเปนกลุมที่มีรายจายสูงสุด และหากไมสามารถรณรงคใหคนกลุมนี้ลดการสูบบุหร่ีลงได จะเกิดผลเสียตอการพัฒนาประเทศทั้งในปจจุบันและอนาคตอยางมหาศาล เพราะเยาวชนเหลานี้จะเปนพลังสําคัญของชาติบานเมืองในอนาคต 3. นักเรียนคิดวาวิธีลดแรงกระตุนท่ีทําใหเกิดความอยากสูบบุหรี่คืออะไรบาง แนวคําตอบ การหลีกเลี่ยงความเครียดดวยการเลนกีฬา ออกกําลังกาย เลนดนตรี ทํางานศิลปะหรืองานอดิเรกที่ใจรัก ไมดื่มสุรา หลีกเลี่ยงความหงุดหงิด โมโหงาย ดวยการมองโลกในแงดีและมีเมตตา ไมเที่ยวกลางคืน แหลงมั่วสุมตางๆ และเลือกชมภาพยนตรที่ไมมีการสูบบุหร่ีควรเปนเรื่องสนุกสนาน เบาสมองหรือแนวอนุรักษธรรมชาติ

แบบเฉลยใบงานที่ 4 เร่ือง “การสูบบุหรี่ของคนกรุง เร่ืองยุงที่ตองแก”

คําถามชวนคดิ

กลุมที่ ....................ช่ือกลุม ............................................................................... ช้ัน ..............................

Page 138: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

131

จุดประสงคการเรียนรู

1. วิเคราะหผลกระทบที่มีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ีได (ความรู) 2. ใชกระบวนการศึกษาวิเคราะหผลกระทบที่มีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ีของคนในชุมชนได

(ทักษะกระบวนการ) 3. บอกประโยชนและคุณคาทางเศรษฐกิจเมื่อเลิกสูบบุหร่ีได (เจตคติ) คําชี้แจง ใหนักเรียนรวมกันอานขอมูลความรู เร่ือง “คาบุหร่ีของพอ หนูขอเปนคาอาหาร” และระดม

ความคิดเห็นในกลุม เพื่อตอบคําถามตอนทายของขอมูลองคความรูนี้

“คาบุหรี่ของพอ หนูขอเปนคาอาหาร”

การสูบบุหร่ีของคนที่มีรายไดนอยนั้น นอกจากจะเปนการบั่นทอนสุขภาพของตัวเองใหออนแอ

ลงทุกวันแลว คาใชจายที่เกิดจากการสูบบุหร่ียังเบียดบังคาใชจายอื่นๆ ที่จําเปนของครอบครัวของผูสูบบุหร่ี โดยที่ผูสูบบุหร่ีไมรูตัวและยิ่งผลักดันใหครอบครัวยากจนยิ่งขึ้น ซ่ึงนับเปนเรื่องที่มีความเสียหายมาก

เพราะเปนการนําเงินนําไปซ้ือบุหรี่ แทนท่ีจะซื้ออาหาร ที่มีประโยชนสําหรับบริโภค โดยเฉพาะในประเทศที่กําลังพัฒนาหลายประเทศ มีอัตราสวนของคาใชจายในบานที่ถูกใชไปเพื่อซ้ือบุหร่ีสูงมากเชน ในประเทศบัลแกเรีย ครอบครัวมีรายไดต่ําและมีคนสูบบุหร่ีอยางนอย 1 คน จะใชจายเงินรอยละ 10.4 ของรายไดทั้งหมดไปเพื่อซ้ือบุหร่ีซ่ึงเปนการเบียดบังคาใชจายที่จําเปน เชน คาอาหาร เปนตน

ใบงานที่ 5 เร่ือง “คาบุหรี่ของพอ หนูขอเปนคาอาหาร”

Page 139: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

132

จากการศึกษาในประเทศอินเดีย พบวา การสูบบุหร่ีมีความสัมพันธกับภาวะการขาดอาหารรุนแรงและสุขภาพเด็ก ตัวอยางจากประเทศบังคลาเทศ พบวาถา 2 ใน 3 ของเงินถูกนําไปซื้ออาหารแทนบุหร่ีจะสามารถชวยใหคนมากกวา 10 ลานคน พนจากภาวะขาดอาหารได

ในประเทศลาว พบวา เงินจํานวน 10,000 - 15,000 กีบ หรือประมาณ 40-60 บาท ที่ตองจายไปเพื่อซ้ือบุหร่ีมารลโบโร 1 ซอง สามารถนําไปซื้ออาหารเพื่อครอบครัวได โดยซ้ือเนื้อเพื่อใชเปนอาหารได 1 กิโลกรัม หรือซ้ือขาวเหนียวได 6 กิโลกรัม หรือซ้ือปลา 1.3 กิโลกรัม และเงินคาบุหร่ี 1 ซองนี้ สามารถซื้อแอปเปลกินไดถึง 2 กิโลกรัม

ในประเทศเวียดนาม จากการสํารวจในป พ.ศ.2538 พบวา ใน 1 ปผูสูบบุหร่ี 1 คน ใชจายเงินเพื่อซ้ือบุหร่ีเฉลี่ยมากกวา 2,500 บาท ซ่ึงเงินจํานวนนี้สามารถซื้อขาวสารไดถึง 169 กิโลกรัม ซ่ึงมากพอสําหรับเลี้ยงชีวิตคนหนึ่งคนไดตลอดทั้งป และในป พ.ศ.2541 พบวา คาใชจายของผูสูบบุหร่ีในประเทศมากพอที่จะซื้อขาวสารเพื่อเล้ียงชีวิตคนเวียดนามไดถึง 10.6 ลานคนเปนเวลา 1 ป

สําหรับประเทศไทย คาบุหร่ีกรองทิพย 1 ซอง ราคา 35 บาท มากกวาราคากวยเตี๋ยว 1 ชาม ซ่ึงมีราคา 25 บาท ดังนั้นหากผูสูบบุหร่ีวันละ 2 ซองสําหรับคนในเมือง เงินจํานวนนี้สามารถซื้ออาหารไดถึง 3 มื้อ แตคนในชนบทที่ทําอาหารกินเองจะมีรายจายเพื่อซ้ืออาหารต่ํากวานี้มาก เงินจํานวนนี้จึงมากพอที่จะนําไปใชประโยชนไดมากขึ้น

ดวยเหตุนี้จึงมีเสียงเรียกรองจากลูกถึงพอ เปนคําพูดกินใจวา “คาบุหรี่ของพอ หนูขอเปนคาอาหาร”

Page 140: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

133

1. สรุปประเด็นสาระสําคัญ จํานวน 3 ขอ 1.1..................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................1.2................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 1.3..................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 2. ในบรรดาประเทศที่กําลังพัฒนา และประเทศที่ประสบปญหาการขาดแคลนอาหารดังที่กลาวมานี้ ประเทศใดที่ประสบภาวะขาดอาหารมากที่สุด เพราะเหตุใด ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... 3. จากคําพูดทีว่า “คาบุหรี่ของพอ หนูขอเปนคาอาหาร” นั้น นักเรียนคิดวา อาหารที่ควรซื้อรับประทานควรมีคุณลักษณะอยางไร ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................

คําถามชวนคดิ

กลุมที่ ....................ช่ือกลุม ............................................................................... ช้ัน ..............................

Page 141: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

134

1. สรุปประเดน็สาระสําคัญ จํานวน 3 ขอ แนวคําตอบ 1.1 การสูบบุหร่ีของคนที่มีรายไดนอย จะมีผลกระทบตอคาใชจายอื่นที่มีความจําเปนตอครอบครัว เชน คาอาหาร เปนตน 1.2 ในประเทศบังคลาเทศ พบวาถา 2 ใน 3 ของเงินถูกนําไปซื้ออาหารแทนบุหร่ี ก็จะสามารถชวยชาวบังคลาเทศมากกวา 10 ลานคน ใหพนจากภาวะขาดอาหารได 1.3 การเปรียบเทียบคาบุหร่ีกับคาอาหารและผลไมที่เปนประโยชนตอรางกาย อาจชวยใหผูสูบบุหร่ีฉุกคิดไดบางวา ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนคาบุหร่ีเปนคาอาหารไดแลว 2. ในบรรดาประเทศที่กําลังพัฒนา และประเทศที่ประสบปญหาการขาดแคลนอาหารดังท่ีกลาวมานี้ ประเทศใดที่ประสบภาวะขาดอาหารมากที่สุด เพราะเหตุใด แนวคําตอบ ประเทศบังคลาเทศตกอยูในภาวะขาดอาหารมากที่สุด เหตุเพราะความยากจน และชาว บังคลาเทศเสียคาใชจายไปกับการสูบบุหร่ีเปนจํานวนมาก 3. จากคําพูดท่ีวา “คาบุหรี่ของพอ หนูขอเปนคาอาหาร” นั้น นักเรียนคิดวา อาหารที่ควรซ้ือรับประทานควรมีคุณลักษณะอยางไร แนวคําตอบ อาหารที่ควรซื้อรับประทานควรเลือกอาหารที่เปนประโยชนตอรางกาย และเปนอาหารที่ครบ 5 หมู

แบบเฉลยใบงานที่ 5 เร่ือง “คาบุหรี่ของพอ หนูขอเปนคาอาหาร”

คําถามชวนคดิ

กลุมที่ ....................ช่ือกลุม ............................................................................... ช้ัน ..............................

Page 142: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

135

จุดประสงคการเรียนรู

1. วิเคราะหผลกระทบที่มีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ีได (ความรู) 2. ใชกระบวนการศึกษาวิเคราะหผลกระทบที่มีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ีของคนในชุมชนได

(ทักษะกระบวนการ) 3. บอกประโยชนและคุณคาทางเศรษฐกิจเมื่อเลิกสูบบุหร่ีได (เจตคติ) คําชี้แจง ใหนกัเรียนอานกรณีศกึษา เร่ือง “สตีฟ ยอดนักรณรงค”

สตีฟ ยอดนักรณรงค

ถา เทียบกับสตีฟ วูด เวิรด แลวผมตองชิดซายในเรื่องรณรงคไม สูบบุห ร่ี สตีฟเปน ชาวออสเตรเลียที่เขาเลาใหผมฟงวาที่เมืองเมลเบิรน รัฐวิคตอเรีย เขาหามสูบหร่ีในรถแท็กซี่รวมทั้งคนขับรถแท็กซี่เองก็หามสูบในรถดวย ไมวาจะมีผูโดยสารหรือไมก็ตาม กฎหมายนี้ผลักดันโดย ส.ส. คนหนึ่งที่ไมไดสนใจเรื่องรณรงคไมสูบบุหร่ี แตเขาตองการสงเสริมการทองเที่ยวเขาจึงผลักกฎหมายที่กําหนดใหแท็กซี่ของรัฐวิคตอเรียเปนปจจัยหนึ่งที่จะดึงดูดใหผูคนมาเที่ยวรัฐของเขา โดยกฎหมายกําหนดวารถแท็กซี่ตองอยูในสภาพดี สะอาด คนขับตองสุภาพ แตงตัวเรียบรอยและหามสูบบุหร่ี ในรถไมวาในเวลาใด เพราะการสูบบุหร่ีในรถจะทําใหมีกล่ินเหม็นบุหร่ีคางอยู ผูฝาฝนมีโทษปรับ 200 เหรียญออสเตรเลียหรือประมาณ 6,000 บาท ผมกําลังขอสําเนากฎหมายนี้ของเขาเพื่อจะสงใหเจาหนาที่กระทรวงการทองเที ่ยวของเราพิจารณา เพราะสภาพรถแท็กซี ่ของเรายังตองปรับปรุงอีกมาก โดยเฉพาะเรื่องเหม็นกลิ่นบุหร่ี

แมจะมีกฎหมายหามสูบบุหร่ีในรถแท็กซี่มานานแลวก็ตาม สตีฟเลาวา ทุกครั้งที่เขาขึ้นรถแท็กซี่ ที่เมลเบิรน เขาจะเลือกนั่งคันที่คนขับยืนสูบบุหร่ีอยูนอกรถ ในขณะที่เพื่อนเขาจะเลือกนั่งคันที่เขาเห็น

ใบงานที่ 6 กรณีศึกษาเรื่อง “สตีฟ ยอดนักรณรงค”

Page 143: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

136

คนขับไมไดสูบบุหร่ี ทีแรกผมฟงแลวก็งง แตสตีฟบอกวาเขาจะใชทุกโอกาสเกลี้ยกลอมใหทุกคนรวมทั้งคนขับแท็กซี่ที่ยังสูบบุหร่ีใหเลิกสูบ อยางนี้ผมยอมแพ คร้ังหนึ่งเขานั่งแท็กซี่จากสนามบินเขาเมือง พอรถเร่ิมออกเขาก็ชวนคนขับแท็กซี่คุย สตีฟพูดวา “เม่ือก้ีเห็นสูบบุหรี่อยู ไมกลัวเปนมะเร็งปอดตามคําเตือนท่ีพิมพอยูบนซองหรือ” คนขับแท็กซี่ บอกวา “สาเหตุของมะเร็งมีมากมาย” สตีฟรุกตอวา “อาวแลวโรคหัวใจละ” คนขับบอกวา “คนไมสูบบุหรี่ก็เปนหัวใจวายเยอะแยะ” สตีฟเลยคิดวาถาพูดเรื่องพิษภัยของบุหร่ีกับพอคนนี้ทาจะไมสําเร็จ ฟงสําเนียงคนขับพอจะรูวาไมใชคนพื้นเมืองจึงถามวา “เดิมอยูท่ีไหน” คนขับบอกวา “ผมมาจากอิตาลีสิบกวาปแลว” สตีฟถามวา “เคยกลับไปเยี่ยมพี่นองท่ีโรมหรือเปลา” คนขับตอบวา “อาชีพขับแท็กซ่ีไมมีปญญาที่จะซื้อตั๋วเคร่ืองบินไปโรมหรอก” สตีฟรุกตอวา “คุณสูบบุหรี่วันละกี่มวน” คนขับตอบวา “สูบวันละซอง” สตีฟไดที่เลยเสนอวา “ถาคุณหยุดสูบบุหรี่ คุณจะกลับโรมไดปละคร้ัง เพราะบุหรี่มารลโบโรซองละ 10 เหรียญ ปหนึ่งคุณก็จะเหลือเงินเกือบสี่พันเหรียญ (1 เหรียญออสเตรเลียเทากับ 28 บาทและคาเคร่ืองบินไปกลับเมลเบิรน-โรมเทากับ 2,000 เหรียญ) พอท่ีจะซื้อตั๋วเคร่ืองบินไปกลับโรมหรือถาคุณไมสูบสองป คุณจะมีเงินพอที่จะพาเมียไปโรมไดดวย” คนขับแท็กซี่หันมามองสตีฟและวา “เอะ นาสนใจ ผมไมเคยคิดเรื่องนี้มากอน ความคิดของคุณเขาทา เมียก็พยายามที่จะใหผมเลิกอยูแลว” หลายปตอมา มีคนขับคนหนึ่งวิ่งมาหาสตีฟถามวา “จําผมไดไหม ท่ีคุณเคยแนะนําใหผมเลิกสูบบุหรี่เพื่อจะไดไปโรม ผมเลิกไดแลว” สตีฟถามวา “แลวคุณไดกลับอิตาลีหรือเปลา” คนขับแท็กซี่ตอบวา “ไมไดไปอิตาลี แตเอาเงินคาบุหรี่ไปผอนรถ ตอนนี้ผมมีรถยนตเปนของตนเองแลว ลูกเมียดีใจดวย ขอบคุณสตีฟ” คนขับแท็กซี่ในกรุงเทพฯ ถาสูบกรองทิพยวันละซองหากเลิกสูบบุหร่ีหนึ่งปจะประหยัดเงินได 12,775 บาท อาจจะเทากับรายไดหนึ่งถึงสองเดือนของการขับแท็กซี่ ซ่ึงพอที่จะไปเที่ยวสิงคโปรหรือฮองกงไดทีเดียว

สําหรับผมแลวถามีอารมณก็จะทําแบบสตีฟแตสวนใหญผมเพียงแตพูดวา “รถคุณดีจังไมเหม็นกล่ินบุหร่ีเลย”

Page 144: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

137

1. สรุปประเด็นสาระสําคัญ จํานวน 3 ขอ 1.1..................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................1.2................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 1.3................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 2. กฎหมายในประเทศออสเตรเลียที่เกี่ยวกับการหามสูบบุหร่ีที่นาสนใจเปนอยางไร โดยมีจุดประสงคสําคัญในเรื่องใด ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... 3. นักเรียนมีความคิดเห็นอยางไร ในความเปนยอดนักรณรงคของสตีฟ และกลุมของนักเรียนมีแนวคิด ที่จะรวมกันรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีกับใคร และอยางไร ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................

คําถามชวนคดิ

กลุมที่ ....................ช่ือกลุม ............................................................................... ช้ัน ..............................

Page 145: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

138

1. สรุปประเดน็สาระสําคัญ จํานวน 3 ขอ แนวคําตอบ 1.1 เมืองเมลเบริ์น รัฐวิคตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย มีกฎหมายหามสูบบุหร่ีในรถแท็กซี่ ทั้งคนขับรถและผูโดยสาร หากฝาฝนจะมีโทษปรับประมาณ 6,000 บาท 1.2 สตีฟ วูดเวริ์ด เปนชาวออสเตรเลีย เปนยอดนักรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีกับคนขับรถแท็กซี่ โดยใชวิธีพูดคุยใหแนวคิดถึงประโยชนของการเลิกสูบบุหร่ีที่เกี่ยวของกับเศรษฐกิจและความมั่นคงของชีวิต 1.3 คนขับรถแท็กซี่ในกรุงเทพฯ ที่สูบบุหร่ีกรองทิพยวันละ 1 ซอง สามารถเก็บเงินไปเที่ยวสิงคโปรหรือฮองกงไดปละ 1 คร้ัง หากในปนั้นเขาเลิกสูบบุหร่ีมาตั้งแตตนป 2. ในบรรดาประเทศที่กําลังพัฒนา และประเทศที่ประสบปญหาการขาดแคลนอาหารดังท่ีกลาวมานี้ ประเทศใดที่ประสบภาวะขาดอาหารมากที่สุด เพราะเหตุใด แนวคําตอบ กฎหมายหามสูบบุหร่ีในประเทศศออสเตรเลีย ประกาศใชที่เมืองเมลเบริ์น รัฐวิคตอเรีย หามสูบบุหร่ีในรถแท็กซี่ทั้งคนขับรถและผูโดยสาร หากฝาฝนจะมีโทษปรับ 6,000 บาท ซ่ึงกฎหมายนี้ผลักดัน โดย ส.ส.คนหนึ่ง ที่มีจุดประสงค เพื่อดึงดูดใหนักทองเที่ยวมาเที่ยวรัฐของเขา ดวยบริการรถแท็กซี่ในสภาพดี สะดวก ปลอดภัย คนขับสุภาพ แตงกายเรียบรอยและไมสูบบุหร่ีในรถ 3. นักเรียนมีความคิดเห็นอยางไร ในความเปนยอดนักรณรงคของสตฟี และกลุมของนักเรียนมีแนวคิดท่ีจะรวมกันรณรงคเพื่อการไมสูบบุหรี่กับใคร และอยางไร แนวคําตอบ สตีฟ เปนยอดนักรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีดวยวิธีการพุงเปาไปที่คนขับรถแท็กซี่ที่ยืนสูบบุหร่ี

อยูนอกรถ ซ่ึงเปนกลุมเปาหมายที่แทจริง และประสบความสําเร็จอยางงดงาม สําหรับกลุมของขาพเจาสนใจที่จะรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีภายในหองเรียนและในโรงเรียน โดยใชวิธีขยายผลจากกลุมเล็กๆ ที่ประสบความสําเร็จไปสูนักเรียนกลุมใหญของโรงเรียนเพื่อพัฒนาโรงเรียนใหเปน “โรงเรียนปลอดบุหร่ี” อยางแทจริง

คําถามชวนคดิ

กลุมที่ ....................ช่ือกลุม ............................................................................... ช้ัน ..............................

แบบเฉลยใบงานที่ 6 กรณีศึกษาเรื่อง “สตีฟ ยอดนักรณรงค”

Page 146: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

139

แบบสัมภาษณเพื่อศึกษาวิเคราะหผลกระทบท่ีมีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหรี่ของคนในชุมชน สถานที่ ...………………………………..………………………………………….………………. ผูสัมภาษณ ………………………………………….…… วันที่สัมภาษณ ………………………… ตอนที่ 1 ขอมูลท่ัวไป

1. เพศ ( ) ชาย ( ) หญิง 2. อายุ ……….. ป 3. ระดับการศกึษา ( ) ต่ํากวา ป.4 ( ) ป.4 ( ) ป.6 ( ) มัธยมศึกษาตอนตน ( ) มัธยมศึกษาตอนปลาย หรือประกาศนียบัตร ( ) ปริญญาตรี ( ) ปริญญาโทหรือสูงกวา 4. อาชีพ ( ) ไมไดทํางาน/แมบาน ( ) นักเรียน นกัศึกษา ( ) รับราชการ ( ) ลูกจางบริษัทเอกชน ( ) ทํางานอิสระ ( ) ธุรกิจสวนตัว คุณมีรายไดนอกเหนือจากการทํางานหรือไม ( ) ไมมี ( ) มี กรุณาระบุ …………… บาท/เดือน …………….. บาท/วัน 5. จํานวนสมาชิกภายในครวัเรือน ………………… คน ประกอบดวย

ผูใหญ (อายุ 18 ปขึ้นไป) ……….. คน ชาย ………. คน หญิง ………. คน เด็ก (อายุ 18 ปขึ้นไป) ……….. คน ชาย ………. คน หญิง ………. คน รวม ….…../……..เปนผูสูบบุหร่ี ชาย ………. คน หญิง ………. คน

6. รายไดของครัวเรือนประมาณ ………………. บาท/เดือน 7. คุณมีโรคประจําตัวหรือไม ( ) ไมมี ( ) มี กรุณาระบุ ………………………...… หากมีโรคประจําตัว มีคาใชจายในการดแูลรักษาโรคเหลานั้นหรือไม ( ) ไมมี ( ) มี กรุณาระบุ …………..…… บาท/เดอืน

Page 147: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

140

ตอนที่ 2 ขอมูลการสูบบุหรี่ 8. คุณเริ่มสูบบุหร่ีเมื่ออายุ …………. ป 9. เหตุที่สูบบุหร่ี กรุณาระบุ ………………………………………………………..……….. 10. คุณไดบหุร่ีมวนแรกมาอยางไร

( ) ซ้ือ ( ) เพื่อน ( ) ผูปกครอง ( ) ญาติคนอื่นๆ ( ) ขโมยมาจาก………………..

11. จํานวนบุหร่ีที่สูบในชวง 3 เดือนแรก ……………… มวน/วัน 12. แหลงที่มาของรายจายของการสูบบุหร่ีในชวง 3 เดือนแรกของการสูบ ( ) ซ้ือดวยตวัคุณเองทั้งหมด ( ) สวนใหญซ้ือดวยตวัคุณเอง ( ) สวนใหญผูอ่ืนซื้อให ( ) ผูอ่ืนซื้อใหทั้งหมด 13. บุหร่ีชนิดใดที่คุณสูบเปนครั้งแรก

( ) บุหร่ีไทย ( ) บุหร่ีนําเขาที่ถูกกฎหมาย ( ) บุหร่ีนําเขาที่ผิดกฎหมาย 14. คุณยังคงสบูบุหร่ีชนิดเดยีวกับที่คุณสูบเปนครั้งแรกหรือไม ( ) ไมใช เพราะ …………………………………………...…. ( ) ใช เพราะ ……………………………………………… 15. ตามปกตแิลวขณะนี้คณุสูบบุหร่ี ……………….. มวน/วัน 16. ปจจุบันคณุไดบหุร่ีมาจาก ( ) การซื้อ ………….. มวน/วัน คิดเปนมลูคา ……………. บาท/วัน ( ) เพื่อน ………….. มวน/วัน ( ) ผูปกครอง ………….. มวน/วัน 17. ในกรณีทีซ้ื่อดวยตนเอง คุณเหน็ภาพและคําเตือนบนซองบุหร่ีหรือไม ( ) ไม ( ) ใช กรุณาระบุภาพและคําเตือนที่คุณจําไดดีที่สุด………………………………………….. 18. คุณมียี่หอบุหร่ีที่คุณสูบเปนประจําหรือไม ( ) ไมมี ( ) มี โปรดระบุ ………………………………………….. 19. บุหร่ีสวนใหญที่คุณสูบเปน ( ) บุหร่ีไทย ( ) บุหร่ีนําเขาที่ถูกกฎหมาย ( ) บุหร่ีนําเขาที่ผิดกฎหมาย 20. โดยปกตแิลวคุณซื้อบุหร่ีจากที่ใด ( ) แผงขายบุหร่ี ( ) รานสะดวกซื้อ/รานขายของชํา ( ) หางสรรพสินคา ( ) อ่ืนๆ …………………………………………..

Page 148: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

141

21. คุณเคยเลิกสูบบุหร่ีหรือไม ( ) ไมเคย ( ) เคย ประมาณ …………เดือน และกลับมาสูบอีกครั้งเพราะ …………………………….… ในเวลานี้ คุณคิดวาคุณตองการที่จะเลิกบหุร่ีหรือไม ( ) ไมคิด เพราะ ………………………………………….. ( ) คิดเพราะ ………………………………………….. 22. ราคาบุหร่ีที่คุณสูบเปนประจําคือ …………… บาท / ซอง 23. คุณคิดวาอะไรอยูเบื้องหลังนโยบายของรัฐในการขึ้นราคาบุหร่ี ( ) เพื่อเพิ่มรายไดจากภาษีใหมากขึ้น ( ) เพื่อลดจํานวนผูสูบบุหร่ี ( ) เพื่อเพิ่มกาํไรของบริษัทบุหร่ี ( ) คาใชจายในการผลิตสูงขึ้น ( ) อ่ืน ๆ โปรดระบุ ……………………………….. 24. คุณทราบหรือไมวามีการเพิม่ภาษีสรรพสามิตครั้งลาสุดเมื่อใด ( ) ไมทราบ เพราะ ………………………………………….. ( ) ทราบ เพราะ ………………………………………….. 25. การเพิ่มภาษีสรรพสามิตที่ผานมาครั้งลาสุดเปนสิ่งที่ดีหรือไม ( ) ไมดี เพราะ ………………………………………….. ( ) ดี เพราะ ……………………………….………….. 26. ภายหลังการเพิ่มภาษีสรรพสามิตในครั้งนัน้ พฤติกรรมการสูบบุหร่ีของคุณไดรับผลกระทบอยางไร ( ) ลดการสูบบุหร่ีลงประมาณ …………… มวน/วัน ( ) สูบบุหร่ีในปริมาณที่เทากับที่เคยสูบในชวงกอนขึ้นราคาภาษ ี ( ) เพิ่มการสูบบุหร่ีประมาณ …………… มวน/วัน 27. รัฐควรใชรายไดจากภาษีบหุร่ีอยางไร ( ) รักษาผูปวยที่เปนโรคอันเนื่องมาจากการสูบบุหร่ี ( ) รณรงคตอตานการสูบบุหร่ี ( ) พัฒนาประเทศ ( ) ใชสําหรับกิจกรรมทางการศึกษา ( ) ใชสําหรับกิจกรรมสุขภาพของสาธารณะ 28. ถาราคาบุหร่ีเพิ่มขึ้นอีกรอยละ 10 จะสงผลกระทบตอการสูบบุหร่ีของคุณอยางไร ( ) ลดการสูบบุหร่ีลงประมาณ …………… มวน/วัน ( ) เพิ่มการสูบบุหร่ีประมาณ …………… มวน/วัน ( ) สูบบุหร่ีในปริมาณที่เทากับที่เคยสูบในชวงกอนขึ้นราคาภาษ ี ( ) เลิกสูบบุหร่ี

Page 149: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

142

29. ถาราคาบุหร่ีเพิ่มขึ้นอีกรอยละ10 คุณจะเปลี่ยนไปบริโภคบุหร่ีชนิดอืน่หรือไม ( ) ไมเปลี่ยน (ตอบขอ 31) ( ) เปลี่ยน หากตอบวา เปลี่ยน คุณจะเปลี่ยนไปเปน ( ) บุหร่ีไทย กรุณาระบยุี่หอ ……………………………………………….. ( ) บุหร่ีนําเขาที่ถูกกฎหมาย กรุณาระบุยีห่อ ……………………………….. ( ) บุหร่ีนําเขาที่ผิดกฎหมาย กรุณาระบุยีห่อ ……………………………….. ( ) อ่ืนๆ กรุณาระบยุี่หอ …………………………………..……………….. สําหรับผูสัมภาษณ 1. ขอดูซองบุหร่ีของคุณหนอยไดไหม ( ) ไมได (จบการสัมภาษณ) ( ) ได 2. ชนิดของบหุร่ี ( ) บุหร่ีไทย (จบการสัมภาษณ) ( ) บุหร่ีนําเขา กรุณาระบยุี่หอ……………………… 3. มีภาพและคําเตือนที่ฉลากหรือไม ( ) ไมมี (จบการสัมภาษณ) ( ) มี หากมี กรุณาระบุภาษาของคําเตือนนั้น ( ) ภาษาไทย ระบุ ……………………………..………………………….. ( ) ภาษาอังกฤษ ระบุ ………………………………..…………………….. ( ) ภาษาอื่นๆ ระบุ ………………………………………………………....

Page 150: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

143

กลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยีนปลอดบุหร่ี (สาระการเรียนรูเพิ่มเติม) ชวงชั้นที่ 3 (ม.1- ม.3)

หนวยการเรียนรูท่ี 2 เร่ือง “บุหรี่มีผลกระทบ เปนจุดจบของชีวิต” แผนการจัดการเรียนรูท่ี 9 เร่ือง “บุหรี่คือมารราย ทําลายสังคม บมเพาะอาชญากร” เวลา 2 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู มาตรฐานหลัก พ 4.1 เห็นคุณคาและมีทักษะในการสรางเสริมสุขภาพ การดํารงสุขภาพ การปองกันโรค และการสรางเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ มาตรฐานชวงชั้น ขอ 3 มาตรฐานหลัก พ 5.1 ปองกันและหลีกเลี่ยงปจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงตอสุขภาพ อุบัติเหตุ การใชยา สารเสพติด และความรุนแรง มาตรฐานชวงชั้น ขอ 3 2. ผลการเรียนรูท่ีคาดหวัง รู เขาใจ และตระหนักในพิษภัยของบุหร่ี ใชกระบวนการปองกันและแกไขปญหา ผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสังคม 3. จุดประสงคการเรียนรู 3.1 อธิบายถึงพิษภัยและผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสังคมได (ความรู) 3.2 คิดวิเคราะหและเสนอแนวทางปองกันและแกไขปญหาผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสังคมได (ทักษะกระบวนการ) 3.3 อธิบายความรูสึกในการมีสวนรวมปองกันและแกไขปญหาของบุหร่ีที่มีตอสังคม (เจตคติ) 4. สาระการเรียนรู 4.1 พิษภยัและผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสังคม 4.2 แนวทางการปองกันและแกไขปญหาผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสังคม 4.3 การมีสวนรวมในการปองกันและแกไขปญหาผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสังคม 5. สาระสําคัญ บุหร่ีเปนภัยอันตรายสรางความเสียหายสําหรับผูสูบและผูใกลชิด สงผลกระทบเปนวงกวางไปสูปญหาสังคมเปนจุดเริ่มตนของแหลงมั่วสุม ปญหาอบายมุขและอาชญากรรมในสังคม ซ่ึงเปนปญหาที่ จะสงผลกระทบตอชีวิตความเปนอยู ความเจริญและสันติสุขของคนในสังคม ดังนั้นการสรางความรู ความเขาใจ ความตระหนักและรวมมือกันปองกันแกไขจึงเปนแนวทางที่จะชวยบรรเทาปญหาของบุหร่ีที่มีตอสังคมใหคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นได

Page 151: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

144

6. กระบวนการเรียนรู ชั่วโมงที่ 1

ขั้นนํา 6.1 ครูชวนนักเรียนรวมกันสนทนาวา “นักเรียนมีความคิดเห็นอยางไรกับสถานการณการเพิ่มจํานวนผูสูบบุหร่ีในปจจุบัน ซ่ึงสวนใหญเปนเด็กวัยรุน และจะสงผลเสียหายตอสังคมสวนรวมอยางไร” ครูใหขอเสนอแนะเพิ่มเติมถึงปญหาของบุหร่ี ซ่ึงจะเปนจุดเริ่มตนของการกอใหเกิดปญหาสังคมชุมชนแออัด ไดแก ปญหาแหลงมั่วสุมยาเสพติด อบายมุข และอาชญากรรม เราจึงตองรูเทาทันปญหา และหาวิธีการปองกันแกไขรวมกัน

ขั้นสอน 6.2 นักเรียนจับคูกันทําใบงานที่ 1 เร่ือง “ผลกระทบของบุหรี่ท่ีมีตอสังคม” โดยรวมคิดรวมทําเปนแผนภาพความคิด Mind Mapping และวาดภาพประดับตกแตงใหสวยงาม 6.3 นักเรียนทุกคูรวมกันเสนอความคิดเห็น เพื่อสรุปเปนความคิดรวบยอดของนักเรียนทั้งหองแลวทุกคนจดบันทึกลงในสมุด ครูใหขอเสนอแนะเติมเต็มสาระสําคัญที่ยังขาดอยูใหสมบูรณยิ่งขึ้น 6.4 แบงนักเรียนออกเปนกลุมๆ ละประมาณ 5-7 คน รวมกันอานกรณีศึกษาขาวรองเรียน “จากคนเปนพอ” และรวมกันวางแผนการดําเนินงานจัดทําใบงานที่ 2 เร่ือง “ระดมสมองประลองปญญาแกปญหาชุมชน” โดยมอบหมายใหสมาชิกนํากรณีศึกษาปรึกษาหารือกับบุคคลในครอบครัวหรือชุมชนใกลบาน ในประเด็นตอไปนี้ (1) เพราะเหตุใดหมูบาน “ธราวัลย” จึงมีวัยรุนสูบบุหร่ีกันมาก (2) สภาพสังคมในหมูบาน “ธราวัลย” จะเปนอยางไรหากวัยรุนพากันมั่วสุมสูบบุหร่ี (3) สภาพชุมชนในสังคมใกลบานของนักเรียนที่มีสภาพคลายคลึงกับหมูบานธราวัลย มีที่ใดบาง และมีลักษณะเปนอยางไร (4) นักเรียนจะมีวิธีการปองกันตนเองและครอบครัว ตลอดจนเสนอแนะตอสวนรวมอยางไร เพื่อรณรงคปองกันและแกปญหาการสูบบุหร่ีในหมูบานและชุมชน

ชั่วโมงที่ 2 6.5 นักเรียนทุกกลุมนําผลการปรึกษาหารือกับบุคคลในครอบครัวหรือชุมชนใกลบาน มาเปนขอมูลในการศึกษาวิเคราะหเปนภาพรวมของกลุม และสงตัวแทนออกมานําเสนอผลงาน 6.6 นักเรียนรวมกันอภิปราย และวิเคราะหปญหาผลกระทบของบุหรี่ท่ีมีตอหมูบาน และชุมชนท่ีนักเรียนอาศัยอยู โดยรวมกันจัดลําดับความสําคัญของปญหา และวิเคราะหลงในตาราง ดังนี้

Page 152: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

145

ตารางวิเคราะหปญหาและแนวทางการปองกันและแกปญหาผลกระทบของการสูบบุหรี่ท่ีมีตอชุมชน

ลําดับของปญหา

ชื่อหมูบาน/ชมุชน สภาพปญหา การปองกันตนเองและครอบครัว

สังเกตและบันทึก

***หมายเหตุ ประเมินผลตามแบบประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ” ครูสังเกตกระบวนการเรียนรู เสริมแรงใหกําลังใจในการรวมมือปองกันและแกไขปญหา สังคม เสร็จแลวใหนักเรียนจดบันทึกลงในสมุด

ขั้นสรุป 6.7 ตัวแทนทุกกลุมรวมกันเขียนจดหมายเปนหนังสือเวียนพรอมตาราง “ชุมชนรวมใจ ปองกันภัยบุหร่ี” ในนามของกลุมเยาวชนรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีไปถึงผูปกครองของนักเรียนที่อยูในหมูบานชุมชนและหนวยงานที่เกี่ยวของ เพื่อรวมมือกันปองกันดูแลบุตรหลานใหปลอดจากบุหร่ีและสิ่งเสพติดตลอดไป 6.8 นักเรียนรวมกันแสดงความรูสึกในการมีสวนรวมปองกันและแกไขปญหาของบุหร่ีที่มีตอสังคม พรอมทั้งจดบันทึกลงในสมุด ครูประเมินผลการเรียนรู ยกยองชมเชยและใหกําลังใจนักเรียนในการรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีตอไป 7. วิธีการจัดการเรียนรู 7.1 การเรียนรูที่ใชกระบวนการกลุม 7.2 การเรียนรูดวยประสบการณจริง

Page 153: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

146

8. การบูรณาการ 8.1 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูศิลปะ (วาดภาพตกแตงแผนภาพความคิด) 8.2 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม (การศึกษาวิเคราะหปญหาสังคม) 8.3 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูภาษาไทย (การเขียนจดหมายเปนหนังสือเวียนถึงผูปกครองนักเรียน) 9. สื่อ/แหลงการเรียนรู 9.1 ใบงานที่ 1 เร่ือง “ผลกระทบสังคมจากการสูบบุหร่ี” 9.2 กรณีศึกษาขาวรองเรียนจาก “คนเปนพอ” 9.3 ใบงานที่ 2 เร่ือง “ระดมสมองประลองปญญา แกปญหาชุมชน” 9.4 จดหมายหรือหนังสือเวียนถึงผูปกครองนักเรียน 9.5 สมุดบันทึก 9.6 ศูนยรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีของโรงเรียน พรอมเว็บไซตของศูนย หรือของโรงเรียน 10. การวัดและประเมินผล 10.1 วิธีการวัด 1) ประเมินผลงานใบงานที่ 1 2) ประเมนิกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ” 3) ประเมนิกระบวนการปฏิบัติงานกลุม 10.2 เครื่องมือวัด 1) แบบประเมินผลงานใบงานที่ 1 2) แบบประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนกัปราชญ” 3) แบบเมินกระบวนการปฏิบัติงานกลุม 10.3 เกณฑการวัด ทุกกิจกรรม ถือเกณฑการผานรอยละ 50 11. กิจกรรมเสนอแนะ 11.1 สนับสนุนใหนักเรียนรวมกัน จัดตั้งศูนยรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีในโรงเรียน และ มีเว็บไซดเปนของตนเอง โดยมีครูเปนที่ปรึกษา และอํานวยความสะดวก

ลงชื่อ........................................................................ (..................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

Page 154: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

147

บันทึกหลังสอน

1. ผลการจัดการเรียนรู ...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

2. ปญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3. วิธีการแกปญหา ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ความคิดเห็นของผูบริหารสถานศึกษา/ผูท่ีไดรับมอบหมาย .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................

ลงชื่อ........................................................................ (..................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

ลงชื่อ........................................................................ (..................................................................) ตําแหนง................................................................... ผูอํานวยการสถานศึกษา

Page 155: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

148

จุดประสงคการเรียนรู 1. อธิบายถึงพิษภัยและผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสังคมได (ความรู)

2. คิดวิเคราะหและเสนอแนวทางปองกันและแกไขปญหา ผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสังคมได (ทักษะกระบวนการ)

3. อธิบายความรูสึกในการมีสวนรวมปองกันและแกไขปญหาของบุหร่ีที่มีตอสังคม (เจตคติ) คําชี้แจง 1. ใหนักเรียนจับคูกันคิดวิเคราะหถึง “ผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสังคม” โดยเขียนเปนแผนภาพ

ความคิด (Mind Mapping) ใหไดจํานวนมากที่สุด เสร็จแลววาดภาพตกแตงใหมีความสวยงาม 2. นักเรียนทุกคูรวมกันเสนอความคิดเห็น เพื่อสรุปเปนความคิดรวบยอดของนักเรียนทั้งหอง และทุกคนจดบันทึกลงในสมุด

ใบงานที่ 1 เร่ือง “ผลกระทบของบุหรี่ที่มีตอสังคม”

1. ช่ือ-สกุล.........................................................................................ช้ัน....................เลขที่....................... 2. ช่ือ-สกุล.........................................................................................ช้ัน....................เลขที่.......................

ผลกระทบของบุหรี ่ท่ีมีตอสังคม

Page 156: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

149

จุดประสงคการเรียนรู 1. อธิบายถึงพิษภัยและผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสังคมได (ความรู)

2. คิดวิเคราะหและเสนอแนวทางปองกันและแกไขปญหา ผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสังคมได (ทักษะกระบวนการ)

3. อธิบายความรูสึกในการมีสวนรวมปองกันและแกไขปญหาของบุหร่ีที่มีตอสังคม (เจตคติ) คําชี้แจง 1. ใหนักเรียนจับคูกันคิดวิเคราะหถึง “ผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสังคม” โดยเขียนเปนแผนภาพ ความคิด (Mind Mapping) ใหไดจํานวนมากที่สุด เสร็จแลววาดภาพตกแตงใหมีความสวยงาม 2. นักเรียนทุกคูรวมกันเสนอความคิดเห็น เพื่อสรุปเปนความคิดรวบยอดของนักเรียนทั้งหอง และทุกคนจดบันทึกลงในสมุด

แบบเฉลยใบงานที่ 1 เร่ือง “ผลกระทบของบุหรี่ที่มีตอสังคม”

แนวคําตอบ

1. ช่ือ-สกุล.........................................................................................ช้ัน....................เลขที่................. 2. ช่ือ-สกุล.........................................................................................ช้ัน....................เลขที่.................

เสียภาพลักษณ ที่ดีของประเทศ

ครอบครัวแตกแยก

ประชาชนเสียบุคลิกภาพ

อากาศเปนพิษ

เกิดแหลงมั่วสุมของเยาวชนซึ่งเปนปจจัยเสีย่งใหติดสารเสพติด

บานเมืองสกปรก

เสียคาใชจายในการดูแลเด็กกําพราที่พอแมเสียชีวิตจากพิษภัยของ

บุคคลในสังคม สุขภาพเสื่อมโทรมลง

ขาดทรัพยากรบุคคล ที่จะมาพัฒนาประเทศ

เยาวชนเสยีการเรียน

Page 157: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

150

ภายใน “หมูบานธราวัลย” ซ่ึงประกอบดวยรานคาที่จําหนายสินคามากมายหนึ่งในสินคานั้นมีส่ิงหนึ่งที่เด็กวัยรุนหลายคนมีความตองการที่จะเขาไปสัมผัสและอยากทดลองเมื่อไดรับการชักจูงจากเพื่อนๆ นั่นคือ บุหร่ีนั่นเอง มีการซื้อขายใหกับเด็กวัยรุนที่มีอายุไมถึง 18 ป โดยไมเกรงกลัวตอกฎหมายบานเมืองทั้งที่พอแมหลายๆ ครอบครัวไดพยายามแจงตํารวจอยูตลอดเวลา แตก็ไมไดรับความสนใจที่จะแกปญหานี้อยางจริงจังเพียงแคจับแลวปรับจนผูปกครองเกิดความเอือมระอา ทําใหเด็กวัยรุนในหมูบานตกเปนทาสของบุหร่ีและกําลังจะลุกลามเปนแหลงมั่วสุมอบายมุขและสิ่งเสพติดอื่นๆ ตามมา

ผมในฐานะคนเปนพอขอความกรุณาใหหนังสือพิมพชวยเปนสื่อในการบอกตอไปยังผูใหญที่มีอํานาจเพื่อมาชวยกันแกปญหานี้กับหมูบานผมดวย กอนที่หมูบานนี้จะกลายเปนหมูบานเยาวชนติดบุหร่ี และจะนําไปสูแหลงมั่วสุมอบายมุขและสิ่งเสพติดอื่นๆ ตอไป ซ่ึงเมื่อถึงเวลานั้นผมคงสูญเสียลูกชายของผมไปแลวอยางแนนอน

ขอแสดงความนับถือ

พอของลูก **ที่มา : เอกสารอางอิงของมูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี

กรณีศึกษา ขาวรองเรียน “จากคนเปนพอ”

Page 158: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

151

จุดประสงคการเรียนรู 1. อธิบายถึงพิษภัยและผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสังคมได (ความรู) 2. คิดวิเคราะหและเสนอแนวทางปองกันและแกไขปญหาผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสังคมได (ทักษะกระบวนการ - เจตคติ) คําชี้แจง 1. แบงนักเรียนเปนกลุมๆ ละประมาณ 5-7 คนรวมกันอานกรณีศึกษาขาวรองเรียน “จากคน

เปนพอ” แลวนําไปปรึกษาหารือรวมกับบุคคลในครอบครัวหรือชุมชนใกลบานในประเด็นตอไปนี้

1) เพราะเหตุใดหมูบาน “ธราวัลย” จึงมีวัยรุนสูบบุหร่ีกันมาก 2) สภาพสังคมในหมูบาน “ธราวัลย” จะเปนอยางไรหากวัยรุนพากันมั่วสุมสูบบุหร่ี 3) สภาพสังคมในชุมชนใกลบานชของนักเรียนที่มีสภาพคลายคลึงกับหมูบาน “ธราวัลย” มีที่ใดบางและมีลักษณะเปนอยางไร 4) นักเรียนจะมีวิธีการปองกันตนเองและคนในครอบครัวตลอดจนเสนอแนะตอสวนรวมอยางไรเพื่อรณรงคปองกันและแกปญหาการสูบบุหร่ีในหมูบานและชุมชน 2. นําเสนอผลการปรึกษาหารือมาเปนขอมูลในการศึกษาวิเคราะหเปนภาพรวมของกลุม และสงตัวแทนออกมานําเสนอผลงาน ตารางวิเคราะหปญหาและแนวทางการปองกันและแกปญหาผลกระทบของการสูบบุหรี่ท่ีมีตอชุมชน

ลําดับของปญหา

ชื่อหมูบาน/ชุมชน สภาพปญหา การปองกันตนเองและ

ครอบครัว

ขอเสนอแนะตอสวนรวมในการปองกัน

และแกปญหา

ใบงานที่ 2 เร่ือง “ระดมสมอง ประลองปญญา แกปญหาชุมชน”

Page 159: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

152

จุดประสงคการเรียนรู 1. อธิบายถึงพิษภยัและผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสังคมได (ความรู) 2. คิดวิเคราะหและเสนอแนวทางปองกันและแกไขปญหา ผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสังคมได (ทักษะกระบวนการ) คําชี้แจง แบงนักเรียนเปกลุมๆ ละประมาณ 7-9 คนรวมกันอานกรณีศึกษาขาวรองเรียน “จากคนเปนพอ”

แลวนําไปปรึกษาหารือรวมกับบุคคลในครอบครัวหรือชุมชนใกลบานในประเด็นตอไปนี้

1) เพราะเหตุใดหมูบาน “ธราวัลย” จึงมีวัยรุนสูบบุหร่ีกันมาก ตอบ เพราะวัยรุนตองการเขาไปสัมผัสและอยากทดลองและมีการซื้อขายใหกับเด็กวัยรุนที่มีอายุ

ไมถึง 18 ป โดยไมเกรงกลัวตอกฎหมายบานเมือง และหนวยงานที่รับผิดชอบก็ไมสนใจที่จะแกปญหานี้อยางจริงจัง

2) สภาพสังคมในหมูบาน “ธราวัลย” จะเปนอยางไรหากวัยรุนพากันมั่วสุมสูบบุหร่ี ตอบ เปนสภาพสังคมที่ไรระเบียบไมปฏิบัติตามกฎหมาย วัยรุนมีการมั่วสุมมากขึ้นจนอาจ

กลายเปนแหลงอบายมุขและมั่วสุมยาเสพติดชนิดอื่นๆ ติดตามมา 3) สภาพสังคมในชุมชนใกลบานของนักเรียนที่มีสภาพคลายคลึงกับหมูบาน “ธราวัลย” มีที่ใดบางและมีลักษณะเปนอยางไร ตอบ ตามสภาพที่เปนจริงในหมูบานหรือชุมชนที่นักเรียนอาศัยอยู 4) นักเรียนจะมีวิธีการปองกันตนเองและคนในครอบครัวตลอดจนเสนอแนะตอสวนรวมอยางไรเพื่อรณรงคปองกันและแกปญาการสูบบุหร่ีในหมูบานและชุมชน

ตอบ การดูแลปองกันตนเองและคนในครอบครัวดวยการหลีกเลี่ยงเสนทางผานแหลงมั่วสุมของวัยรุน ไมคบเพื่อนเลวเปนมิตรหรืออาจชวยชักจูงเพื่อนใหกลับตัวกลับใจ มีวิธีการพูดปฏิเสธที่มีความสุภาพนุมนวลแตหนักแนนจริงจัง และหากิจกรรมในเชิงสรางสรรคทําในยามวาง เชน เลนดนตรี กีฬา งานศิลปะ อานหนังสือ เปนตน

การเสนอแนะตอสวนรวม เสนอแนะใหคณะกรรมการชุมชนจัดกิจกรรมสงเสริมเยาวชนใหรวมกิจกรรมดนตรี กีฬา คายศิลปะ ฯลฯ แจงเจาหนาที่ตํารวจหรือเจาหนาที่จากกระทรวงสาธารณสุขมาดําเนินการจับกุมในกรณีที่มีการโฆษณาบุหร่ี ณ จุดขายหรือขายบุหร่ีใหแกเยาวชนอายุต่ํากวา 18 ปทั้งทางตรงและทางออม

**หมายเหตุ การใหคะแนนใชหลักเกณฑตามแบบประเมินกระบวนการปฏิบัติงานกลุม

แบบเฉลยใบงานที่ 2 เร่ือง “ระดมสมอง ประลองปญญา แกปญหาชุมชน”

แนวคําตอบ

Page 160: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

153

หนวยการเรียนรูท่ี 3 เรื่อง “กฎหมายคุมครอง เราตองรูทัน ดบัควันบุหรี”่

Page 161: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

155

กลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยีนปลอดบุหร่ี (สาระการเรยีนรูเพิ่มเติม) ชวงชั้นที่ 3 (ม.1- ม.3) หนวยการเรียนรูท่ี 3 เร่ือง “กฎหมายคุมครอง เราตองรูทัน ดับควันบหุรี่ ”

แผนการจัดการเรียนรูท่ี 10 เร่ือง “รูกฎหมายควบคุมบุหรี่ พลเมืองดีตองชวยระวังภยั” เวลา 1 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู

มาตรฐานหลัก พ 5.1 ปองกันและหลีกเลี่ยงปจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงตอสุขภาพ อุบัติเหตุ การใชยา สารเสพติด และความรุนแรง มาตรฐานชวงชั้น ขอ 2 และ 5 2. ผลการเรียนรูท่ีคาดหวัง รู เขาใจในสาระสําคัญของพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑยาสูบ พ.ศ.2535 จนเกิดความตระหนักและนํามาใชในการรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี 3. จุดประสงคการเรียนรู 3.1 บอกสาระสําคัญของพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑยาสูบ พ.ศ.2535 และกฎหมายที่เกี่ยวของได (ความรู) 3.2 นําสาระสําคัญของของพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑยาสูบ พ.ศ. 2535 และกฎหมายที่เกี่ยวของไปใชในการรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีได (ทักษะกระบวนการ) 3.3 บอกประโยชนและคุณคาของการรูและเขาใจในกฎหมายที่เกี่ยวของกับบุหร่ีได (เจตคติ) 4. สาระการเรียนรู 4.1 สาระสําคัญของพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑยาสูบ พ.ศ. 2535 4.2 ประกาศของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑยาสูบ พ.ศ. 2535 เชน - ขอความบนซองบุหร่ี - แนวทางปฏิบัติบังคับใชกฎหมาย 4.3 การใชกฎหมายชวยสนับสนุนการรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี

4.4 ประโยชนและคุณคาของการรูและเขาใจกฎหมายที่เกี่ยวของกับบุหร่ี

Page 162: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

156

5. สาระสําคัญ พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑยาสูบ พ.ศ.2535 เปนกฎหมายสําคัญที่ตราขึ้นเพื่อควบคุมผลิตภัณฑยาสูบหรือบุหร่ีดานการผลิต การนําเขา การจําหนาย การแจกจาย การแจกแถม การแลกเปลี่ยน การโฆษณา ใหเปนไปตามที่กฎหมายกําหนด โดยมีพนักงานเจาหนาที่เปนผูมีอํานาจตรวจสอบ และดําเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้โดยมีวัตถุประสงคเพื่อควบคุมมิใหผลิตภัณฑยาสูบมี การจําหนาย โฆษณา และสงเสริมการขายกันอยางแพรหลาย ซ่ึงเปนอันตรายตอผูบริโภค โดยเฉพาะอยางยิ่งตอเด็กและเยาวชนที่มีอายุไมถึง 18 ปบริบูรณ แตอยางไรก็ตามการบังคับใชกฎหมายเกี่ยวกับบุหร่ียังไมมีประสิทธิภาพเทาที่ควร ทั้งนี้เกิดจากการไมรูกฎหมาย ขาดความตระหนักและจิตสํานึกใน การปฏิบัติตามกฎหมายของผูที่เกี่ยวของ จึงสมควรเผยแพรความรูความเขาใจกฎหมายเกี่ยวกับบุหร่ีแกเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป เพื่อเปนแนวทางในการคุมครองผูบริโภค การปฏิบัติตามกฎหมายและการรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีที่มีความเขมแข็งตอไป 6. กระบวนการเรียนรู

ขั้นนํา 6.1 นักเรียนรวมกันดูส่ือรูปภาพการประทวงรานคาบุหร่ีที่กระทําผิดกฎหมายและปายขอบคุณรานคาที่ไมโชวบุหร่ีใหเห็นของกลุมเยาวชนนักรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี แลวรวมกันแสดง ความคิดเห็นในประเด็นตอไปนี้ - เยาวชนนักรณรงคในภาพนี้รวมกลุมกันทําอะไร นักเรียนดูแลวมีความรูสึกอยางไร เห็นดวยหรือไมอยางไร - เหตุใดรานคาบางแหงที่จําหนายบุหร่ีจึงไมพยายามที่จะปฏบิัติตามกฎหมาย ครูใหขอเสนอแนะเพิ่มเติมถึงกฎหมายที่เกี่ยวของกับบุหร่ี ไดแก พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑยาสูบ พ.ศ. 2535 และประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เชน ขอความบนซองบุหร่ี แนวทางการบังคับใชกฎหมาย เปนตน ซ่ึงเปนกฎหมายสําคัญที่เราจะไดเรียนรูสาระสําคัญของกฎหมายกันตอไป ขั้นสอน 6.2 นักเรียนแตละคนทดลองทําแบบทดสอบ จํานวน 15 ขอ เร่ือง “คุณรูกฎหมายบุหร่ีแคไหน” 6.3 ครูนํานักเรียนรวมกันเฉลยแบบทดสอบและวิเคราะหวิจารณคําตอบ เพื่อเรียนรูกฎหมาย “พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑยาสูบ พ.ศ. 2535” รวมกัน 6.4 แบงนักเรียนออกเปนกลุมๆ ละ 5-7 คน รวมกันศึกษาใบความรูท่ี 1 บทความเรื่อง “หามตั้งซองบุหรี่อีกหนึ่งสงครามบุหรี่และสุขภาพ” 6.5 นักเรียนทุกกลุมรวมกัน “วิเคราะหบทความและคิดตามอยางใชปญญา” ตามใบงานที่ 1 ในประเด็นตอไปนี้

Page 163: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

157

- บทความนี้ไดสรุปวา “ผูรายตัวจริง” เปนใคร เหตุใดจึงพยายามยับยั้งมาตรการ “หามตั้งซองบุหร่ี” ของกระทรวงสาธารณสุข - การที่โรงงานยาสูบรวมวิ่งเตนคัดคานมาตรการนี้ดวย นักเรียนคิดวาเปนการกระทําที่ถูกตองเหมาะสมหรือไม เพราะเหตุใด - นักเรียนทราบหรือไมวา ผลสุดทายเรื่องนี้จบลงอยางไร และนักเรียนคาดการณอนาคตไวอยางไร โปรดใหขอเสนอแนะ 6.6 สุมนักเรียน 2-3 กลุม ออกมาเสนอผลงานการวิเคราะหบทความ โดยครูรวมสรุปและใหขอเสนอแนะเพิ่มเติม ขั้นสรุป 6.7 นักเรียนรวมกันสรุปประโยชนและคุณคาของการมีความรูความเขาใจในกฎหมายที่เกี่ยวของกับบุหร่ีแลวจดบันทึกลงในสมุด ครูประเมินผลการเรียนรูและใหขอเสนอแนะเพื่อเติม 7. การจัดกระบวนการเรียนรู 7.1 การเรียนรูที่เนนทักษะการคิด 7.2 การเรียนรูโดยใชกระบวนการกลุม 8. การบูรณาการ 8.1 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (กฎหมายเกี่ยวกับบุหร่ี และการบังคับใช) 8.2 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูภาษาไทยและศิลปะ (การเขียนคําขวัญและภาพประกอบ) 9. สื่อ/แหลงการเรียนรู 9.1 แบบทดสอบกอนเรียนและหลังเรียน 9.2 ส่ือรูปภาพการถือปายประทวงรานคาบุหร่ี 9.3 พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑยาสูบ พ.ศ. 2535 9.4 แบบทดสอบ เร่ือง “คุณรูกฎหมายบุหร่ีแคไหน” 9.5 ใบความรูที่ 1 บทความเรื่อง “หามตั้งซองบุหร่ี อีกหนึ่งสงครามบุหร่ีและสุขภาพ” 9.6 ใบงานที่ 1 เร่ือง “วิเคราะหบทความ และคิดตามอยางใชปญญา” 9.7 สมุดบันทึก 9.8 ศูนยการเรียนรูกลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา/ ศูนยรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีของโรงเรียน

9.9 เว็บไซต http:// www.ashthailand.or.th http:// www.smokefreezone.or.th

Page 164: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

158

10. การวัดและประเมินผล 10.1 วิธีการวัด 1) การทดสอบกอนเรียนและหลังเรียน 2) การประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ” 3) การประเมินผลกระบวนการปฏิบัติงานกลุม 10.2 เครื่องมือวัด 1) การทดสอบกอนเรียนและหลังเรียน 2) การประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ” 3) การประเมินผลกระบวนการปฏิบัติงานกลุม

10.3 เกณฑการวัด เกณฑการผานรอยละ 50 ของคะแนนเต็ม

11. กิจกรรมเสนอแนะ 11.1 ครูควรสนับสนุนใหนักเรียนปฏิบัติงานกลุมทั้งในเวลาเรียนและนอกเวลาเรียน เพื่อขยายเวลาใหนักเรียนปฏิบัติงานไดอยางมีคุณภาพและยังสงเสริมใหผูปกครองและชุมชนมีสวนรวมอีกดวย

ลงชื่อ........................................................................ (..................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

Page 165: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

159

บันทึกหลังสอน

1. ผลการจัดการเรียนรู ...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

2. ปญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3. วิธีการแกปญหา ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ความคิดเห็นของผูบงัคับบัญชา .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................

ลงชื่อ........................................................................ (..................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

ลงชื่อ........................................................................ (..................................................................) ตําแหนง................................................................... ผูอํานวยการสถานศึกษา

Page 166: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

160

สื่อการเรียนรู เร่ือง “การถือปายประทวงรานคาบุหรี่”

Page 167: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

161

คําชี้แจง ใหทาํเครื่องหมาย ลงในชองคําวา “ใช” หรือ “ไมใช” ขอท่ี รายการเนื้อหา ใช ไมใช

1 หามขายบุหรี่ใหแกผูท่ีมีอายุเกิน 18 ปบริบูรณ 2 การท่ีมีผูนําบุหรี่ไปแจกใหนักเรียนหรือผูใดก็ไดไปทดลองสูบถือวาผิดกฎหมาย 3 บริษัทบุหรี่สามารถใหรางวัลลูกคาดวยการพาไปชมการแขงขันฟุตบอลโลก เพราะเปน

การสงเสริมกีฬา

4 หามโฆษณาสินคาอื่นที่ใชช่ือและเครื่องหมายเหมือนกับยี่หอบุหรี่ 5 ในโทรทัศน หนังสือพิมพ หรือวารสาร สามารถทําการโฆษณาบุหรี่ไดอยางเสรี 6 รานคาไมสามารถตั้งซองบุหรี่ ณ จุดขายอยางเปดเผยใหเห็นได แตสามารถเขียนปาย

ขอความ “ท่ีนี่มีบุหรี่ขาย” ติดหนารานได

7 หามผูใดขายบุหรี่โดยใชเครื่องขายอัตโนมัติ 8 ผูท่ีนําบุหรี่เขามาขายในประเทศไทยสามารถนําเขามาไดอยางเสรี โดยไมตองแจงหนวย

ราชการ

9 ขอความคําเตือนที่เขียนบนซองบุหรี่สามารถเขียนไดตามความตองการของบริษัทผูผลิตบุหรี่

10 ผูท่ีฝาฝนกฎหมายในการจําหนายขาย แลกเปลี่ยน และใหบุหรี่ ตองระวางโทษปรับ ไมเกินสองพันบาท หรือท้ังจําท้ังปรับ

11 ผูท่ีผลิตบุหรี่ถาไมแสดงขอความบนฉลากตองระวางโทษปรับไมเกินสองแสนบาท 12 เจาหนาท่ีตํารวจสามารถจับกุมผูท่ีฝาฝนกฎหมายควบคุมบุหรี่ไดทันทีท่ีพบวามีผูกระทําผิด

กฎหมาย

13 ผูนําบุหรี่เขามาในประเทศไทยตองแจงท่ีสํานักงานตรวจคนเขาเมือง 14 พนักงานเจาหนาท่ีไมสามารถยึดบุหรี่ท่ีตองสงสัยไปตรวจสอบได เพราะเปนทรัพยสินของ

ผูขาย

15 ผูมีอํานาจแตงตั้งเจาหนาท่ีตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑยาสูบ พ.ศ.2535 คือรัฐมนตรีวาการกระทรวงสาธารณสุข

ผลการทดสอบคะแนนที่ได เทากับ

แบบทดสอบ เร่ือง “คุณรูกฎหมายบุหรี่แคไหน”

ช่ือ ....................................นามสกุล ...............................................ช้ัน ....................เลขที่ .................

Page 168: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

162

เฉลยแบบทดสอบ เรื่อง “คุณรูกฎหมายบุหรี่แคไหน” 1. ไมใช 6. ไมใช 11. ใช 2. ใช 7. ใช 12. ใช 3. ไมใช 8. ไมใช 13. ไมใช 4. ใช 9. ไมใช 14. ไมใช 5. ไมใช 10. ใช 15. ไมใช

Page 169: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

163

จุดประสงคการเรียนรู 1. บอกสาระสําคัญของพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑยาสูบ พ.ศ. 2535

และ กฎหมายที่เกี่ยวของได (ความรู) 2. นําสาระสําคัญของของพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑยาสูบ พ.ศ. 2535

และกฎหมายที่เกี่ยวของไปใชในการรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีได (ทักษะ กระบวนการ)

ขอมูลจากวารสารเพื่อคนรุนใหมไมสบูบุหรี่ “Smart”

ใบความรูที่ 1 บทความ เร่ือง “หามตั้งซองบุหรี่ อีกหนึ่งสงครามบุหรี่และสุขภาพ”

Page 170: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

164

จุดประสงคการเรียนรู 1. บอกสาระสําคัญของพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑยาสูบ พ.ศ.2535และ

กฎหมายที่เกี่ยวของได (ความรู) 2. นําสาระสําคัญของของพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑยาสูบ พ.ศ.2535

และกฎหมายที่เกี่ยวของไปใชในการรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีได (ทักษะระบวนการ) คําชี้แจง นักเรียนทกุกลุมรวมกันวิเคราะหบทความและคิดตามอยางใชปญญาตามใบงานที่ 1 ในประเด็นตอไปนี้

1. บทความนี้ไดสรุปวา “ผูรายตัวจริง” เปนใคร เหตุใดจึงพยายามยับยั้งมาตรการ “หามตั้งซองบุหร่ี” ของกระทรวงสาธารณสุข

2. การที่โรงงานยาสูบรวมวิ่งเตนคัดคานมาตรการนี้ดวย นักเรียนคิดวาเปนการกระทําที่ถูกตอง เหมาะสมหรือไม เพราะเหตุใด

3. นักเรียนทราบหรือไมวา ผลสุดทายเรื่องนี้จบลงอยางไร และนักเรียนคาดการณอนาคตไวอยางไร โปรดใหขอเสนอแนะ

ใบงานที่ 1 เร่ือง “วิเคราะหบทความและคิดตามอยางใชปญญา”

หมายเหตุ : ใชเกณฑการประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนกัปราชญ” และการประเมินกระบวนการ ปฏิบัติงานกลุม

Page 171: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

165

จุดประสงคการเรียนรู 1. บอกสาระสําคัญของพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑยาสูบ พ.ศ.2535 และกฎหมายที่เกี่ยวของได (ความรู)

2. นําสาระสําคัญของของพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑยาสูบ พ.ศ.2535 และกฎหมายที่เกี่ยวของไปใชในการรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีได (ทักษะระบวนการ)

1. ผูรายตัวจริง คือ “บริษัทบุหร่ีขามชาติ” โดยมีโรงงานยาสูบไทยเปนผูชวย ไดพยายามวิ่งเตนยับยั้งมาตรการ “หามตั้งซองบุหร่ี” ของกระทรวงสาธารณสุข เพราะเกรงวามาตรการหามโฆษณาบุหร่ี ณ จุดขาย จะเปนแบบอยางลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ อาจทําใหมีผลกระทบตอยอดขาย 2. การที่โรงงานยาสูบรวมวิ่งเตนคัดคานมาตรการนี้ดวย นับวาไมเหมาะสมอยางยิ่ง เพราะการหามตั้งซองบุหร่ี ณ จุดขาย จะทําใหสินคาบุหร่ีจากโรงงานยาสูบอยูในสถานะไดเปรียบบุหร่ีตางชาติ เพราะสินคาเปนที่รูจักของผูสูบบุหร่ีสวนใหญ ในขณะที่บุหร่ีตางชาติยี่หอใหมแทบจะเขามาทําตลาดไมไดเลยเพราะไมมีชองทางสื่อถึงลูกคา โรงงานยาสูบสมควรที่จะปกปองชีวิตของคนไทยมากกวา การปกปองผลประโยชนของบริษัท 3. ผลสุดทายเร่ืองนี้จบลงตรงที่ทุกฝายจะตองปฏิบัติตามกฎหมายในการหามตั้งซองบุหร่ี ณ จุดขาย และหากศึกษาประวัติศาสตรการรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีของโลก และของทุกประเทศ จะทําใหทราบวา ยังไมเคยพบวา ผูที่ไปยืนอยูขางธุรกิจบุหร่ี จะรอดพนจากการถูกตําหนิ และมีขอเสนอแนะวา ควรจะรณรงค ประชาสัมพันธ ในเรื่องนี้อยางกวางขวาง และบังคับใชมาตรการนี้อยางเขมแข็งและจริงจังตลอดไป

แบบเฉลยใบงานที่ 1 เร่ือง “วิเคราะหบทความและติดตามอยางใชปญญา”

แนวคําตอบ

Page 172: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

166

กลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษาโรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยีนปลอดบุหร่ี (สาระการเรียนรูเพิ่มเติม) ชวงชั้นที่ 3 (ม.1 - ม.3) หนวยการเรียนรูท่ี 3 เร่ือง “กฎหมายคุมครอง เราตองรูทัน ดับควันบหุรี่”

แผนการจัดการเรียนรูท่ี 11 เร่ือง “สังคมจะไรควัน หากรูเทาทันบริษัทบุหรี่” เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู มาตรฐานหลัก พ 5.1 ปองกันและหลีกเลี่ยงปจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงตอสุขภาพ อุบัติเหตุ การใชยา สารเสพติด และความรุนแรง

มาตรฐานชวงชั้น ขอ 3-5 2. ผลการเรียนรูท่ีคาดหวัง รูเทาทันกลยุทธของบริษัทบุหร่ีจากการศึกษาวิเคราะห และใชการคิดอยางมีวิจารณญาณใน การดูแลปองกันตนเองและผูอ่ืนมิใหตกเปนเหยื่อของบริษัทบุหร่ี 3. จุดประสงคการเรียนรู 3.1 อธิบายวิธีการใชกลยุทธในการโฆษณาและสงเสริมการขายของบริษัทบุหร่ีได (ความรู) 3.2 เผยแพรขอมูลกลยุทธของบริษัทบุหร่ีใหผูอ่ืนทราบดวยรูปแบบและวิธีการที่นาสนใจได (ความรู - ทักษะกระบวนการ) 3.3 อธิบายความรูสึก ประโยชน และคุณคาของการรูเทาทันกลยุทธของบริษัทบุหร่ีได (เจตคติ) 4. สาระการเรียนรู กลยุทธในการโฆษณาและการสงเสริมการขายของบริษัทบุหร่ี 5 กลยุทธ ดังนี้ 1. กลยุทธ : การโฆษณา ณ จดุขาย 2. กลยุทธ : การสรางภาพลักษณไมขายบุหร่ีแกเดก็ 3. กลยุทธ : การใหการสนับสนุนหรือเปนผูอุปถัมภกิจกรรมตางๆ 4. กลยุทธ : การสรางสินคาโดยใชช่ือเดียวกับบุหร่ี 5. กลยุทธ : การนําเสนอผลิตภัณฑบุหร่ีรสออน 5. สาระสําคัญ บุหร่ีเปนสารเสพติดชนิดหนึ่งที่ใหโทษแกผูสูบและผูไมสูบทั้งทางรางกาย จิตใจ อารมณ และสังคมตลอดจนกอใหเกิดความสูญเสียดานทรพัยสินและชีวิต เยาวชนทั่วโลกเปนกลุมเปาหมายที่สําคัญของบริษัทบุหร่ีทําใหบริษัทบุหร่ีสรางกลยุทธมากมายเพื่อจูงใจหรือสรางคานิยมในการสูบบุหร่ีใหแกเยาวชน ทั้งนี้เพื่อเพิ่มยอดขายในการนํามาซึ่งผลกําไรมหาศาล เยาวชนจึงควรรูเทาทันกลยุทธของบริษัทบุหร่ี

Page 173: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

167

6. กระบวนการเรียนรู

ขั้นนํา 6.1 ชวนนักเรียนสนทนาทบทวนความรู เดิม เกี่ยวกับกฎหมายควบคุมการบริโภคยาสูบ

โดยเฉพาะสาระสําคัญที่หามการโฆษณาบุหร่ีทุกรูปแบบ 6.2 ถามนักเรียนในประเด็นตาง ๆ ตอไปนี้ - จะเกิดอะไรขึ้นกับบริษัทบุหร่ีถาผูติดบุหร่ีทั่วโลกที่มีอายุ 40 ปขึ้นไปทยอยกันปวยและ

เสียชีวิต - ถานักเรียนเปนเจาของบริษัทบุหร่ีจะดําเนินการอยางไร - นักเรียนคิดวาใครคือกลุมเปาหมายที่สําคัญของบริษัทบุหร่ี - บริษัทบุหร่ีขามชาติจะสรางยอดขายในประเทศที่มีกฎหมายหามโฆษณาบุหร่ี

เชน ประเทศไทยไดอยางไรบาง ขั้นสอน 6.3 ครูช้ีแจงวา ประเทศไทยมีกฎหมายหามโฆษณาบุหร่ีทุกรูปแบบ ดังนั้นบริษัทบุหร่ี

จึงพยายามเพิ่มยอดขายบุหร่ี ดวยการคิดกลยุทธตางๆ เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายหามโฆษณาบุหร่ี ไดแก กลยุทธ : การโฆษณา ณ จุดขาย กลยุทธ : การสรางภาพลักษณไมขายบุหร่ีแกเด็ก กลยุทธ : การใหการสนับสนุนหรือเปนผูอุปถัมภกิจกรรมตางๆ กลยุทธ : การสรางสินคาโดยใชช่ือเดียวกับบุหร่ี กลยุทธ : การนําเสนอผลิตภัณฑบุหร่ีรสออน ครูนําเสนอขอมูลกลยุทธตางๆ ของบริษัทบุหร่ีโดยอาจใชส่ือเพาเวอรพอยตหรือแผนปายนิเทศ

รูปภาพ ของจริงประกอบการนําเสนอ 6.4 นักเรียนแบงกลุมๆ ละ 5-7 คน แตละกลุมจับสลากเลือกใบงานและปฏิบัติตามคําชี้แจงของ

ใบงานที่ไดรับโดยเนนการรวมกันคิดวิเคราะหและคิดอยางมีวิจารณญาณเพื่อใหรูเทาทันกลยุทธของบริษัทบุหร่ี ดังนี้

กลุมที่ 1 ศกึษาใบความรูและปฏิบัติตามใบงานที่ 1 เร่ือง “รูเทาทันกลยทุธ : การโฆษณา ณ จุดขาย” กลุมที่ 2 ศึกษาใบความรูและปฏิบัติตามใบงานที่ 2 เร่ือง “รูเทาทันกลยุทธ : การสราง

ภาพลักษณไมขายบุหรี่แกเด็ก” กลุมที่ 3 ศึกษาใบความรูและปฏิบัติตามใบงานที่ 3 เร่ือง “รู เทาทันกลยุทธ : การให

การสนับสนุน หรือเปนผูอุปถัมภกิจกรรมตางๆ” กลุมที่ 4 ศึกษาใบความรูและปฏิบัติตามใบงานที่ 4 เร่ือง “รูเทาทันกลยุทธ : การสรางสินคา

ยี่หอเดียวกับบุหรี่”

Page 174: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

168

กลุมที่ 5 ศึกษาใบความรูและปฏิบัติตามใบงานที่ 5 เร่ือง “รูเทาทันกลยุทธ : การนําเสนอผลิตภัณฑบุหรี่รสออน”

6.5 นักเรียนแตละกลุมนําเสนอผลงานหนาชั้นเรียนดวยส่ืออุปกรณและวิธีการเชิงสรางสรรค เชน การนําเสนอขอมูลประกอบคําขวัญ ภาพวาด บทเพลง บทบาทสมมติ ละครสรางสรรค เปนตน

6.6 นักเรียนรวมกันสนทนาในประเด็นตางๆ ดังนี้ - กลยุทธบริษัทบุหร่ีที่แตละกลุมนําเสนอมีอะไรบาง และกลยุทธใดที่คิดวาเยาวชนคนอื่น

ไมรูวาเปนกลยุทธของบริษัทบุหร่ี - พฤติกรรมใดบางที่แสดงวาเยาวชนไมรูและตกเปนเหยื่อของบริษัทบุหร่ี - ถานักเรียนตกเปนเหยื่อของบริษัทบุหร่ีจะเกิดผลอะไรตามมาบาง - นักเรียนเคยพบเห็นหรือรับรูขอมูลกลยุทธบริษัทบุหร่ีนอกเหนือจากที่เพื่อนนําเสนอ

หรือไม มีอะไรบาง ครูใหขอเสนอแนะเพิ่มเติม

ขั้นสรุป 6.7 นักเรียนชวยกันสรุปบทเรียนโดยการแสดงความคิดเห็นและจดบันทึกลงในสมุดในประเด็น

ตางๆ ไดแก - ความรูใหมที่นักเรียนไดเรียนรูจากกิจกรรมนี้คืออะไร - มีประโยชนและคุณคาตอนักเรียนอยางไร - นักเรียนจะมีสวนรวมในการเผยแพรขอมูลกลยุทธของบริษัทบุหร่ีใหแกเยาวชนคนอื่น

อยางไรบาง ครูประเมินผลการเรียนรูและใหขอเสนอแนะเพิ่มเติมในการเผยแพรกลยุทธของบริษัทบุหร่ีตอสาธารณะในโอกาสตอไป 7. วิธีการจัดการเรียนรู 7.1 กระบวนการคิดอยางมีวิจารณญาณ 8. การบูรณาการ 8.1 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (กฎหมายเกี่ยวกับบุหร่ี) 8.2 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพและเทคโนโลยี (ธุรกิจ : กลยุทธทางการตลาดของบริษัทบุหร่ี และคอมพิวเตอร : การนําเสนอผลงานโดยใชส่ือ)

8.3 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูภาษาไทยและศิลปะ (การนําเสนอผลงานและสื่อประกอบ เชน คําขวัญ ภาพวาด บทเพลง บทบาทสมมติ ละครสรางสรรค เปนตน)

Page 175: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

169

9. สื่อ/แหลงการเรียนรู 9.1 ใบความรูที่ 1-5 เร่ือง “กลยุทธ...ของบริษัทบุหร่ี และใบความรูสําหรับครู” 9.2 ใบงานที่ 1-5 เร่ือง “การรูเทาทันกลยุทธ...ของบริษัทบุหร่ี” 9.3 แผนปายนิเทศ 9.4 รูปภาพ 9.5 ส่ือของจริง เชน เสื้อคาเมล หนากากมือถือมารลโบโร เปนตน 9.6 คอมพิวเตอรและอุปกรณส่ือเพาเวอรพอยต 9.7 วัสดุอุปกรณการนําเสนอผลงาน 9.8 สมุดบันทึก 9.9 หองสมุดโรงเรียน 9.10 ศูนยการเรียนรูกลุมสาระสุขศึกษาและพลศึกษา/ศูนยรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี 9.11 เว็บไซต http:// www.ashthailand.or.th http:// www.smokefreezone.or.th 10. การวัดและประเมินผล 10.1 วิธีการวัด

1) ประเมินกระบวนการปฏิบัติงานกลุม 2) ประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ” 10.2 เครื่องมือวัด 1) แบบประเมินกระบวนการปฏิบัติงานกลุม 2) แบบประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ” 10.3 เกณฑการวัด ทุกกิจกรรม ถือเกณฑการผานรอยละ 50

11. กิจกรรมเสนอแนะ 11.1 กระบวนการเรียนรูในแผนนี้เปนการเสริมสรางความรูเทาทันบริษัทบุหร่ีที่เขมแข็งแกนักเรียนกอนที่จะจัดกิจกรรมรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีในโรงเรียนและชุมชนตอไป ดังนั้นจึงควรมุงเนนความรูความเขาใจและทัศนคติที่ถูกตองของนักเรียนนักรณรงคเสียกอน 11.2 ควรสงเสริมใหนักเรียนแตละกลุมนําเสนอผลงานเชิงสรางสรรคในรูปแบบตางๆ อยางอิสระเพื่อเปนการฝกฝนกอนนําไปใชรณรงคนอกหองเรียนตอไป

ลงชื่อ........................................................................ (..................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

Page 176: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

170

บันทึกหลังสอน

1. ผลการจัดการเรียนรู ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 2. ปญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3. วิธีการแกปญหา ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ความคิดเห็นของผูบริหารสถานศึกษา/ผูท่ีไดรับมอบหมาย .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................

ลงชื่อ........................................................................ (..................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

ลงชื่อ........................................................................ (..................................................................) ตําแหนง................................................................... ผูอํานวยการสถานศึกษา

Page 177: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

171

จุดประสงคการเรียนรู

1. อธิบายวิธีการใชกลยุทธในการโฆษณาและสงเสริมการขายของบริษัทบุหร่ีได (ความรู) 2. เผยแพรขอมูลกลยุทธของบริษัทบุหร่ีใหผูอ่ืนทราบดวยรูปแบบและวิธีการที่นาสนใจได

(ความรู-ทักษะกระบวนการ)

กลยุทธ : การโฆษณาบุหรี่ ณ จุดขาย กลยุทธการโฆษณาบุหร่ี ณ จุดขายหรือการโฆษณาบริ เวณรานขายบุหร่ี เปนกลยุทธ

ทางการตลาดประการหนึ่งของบริษัทบุหร่ี ซ่ึงเปนการผิดกฎหมายไทยในมาตรา 8 ของพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑย าสูบ พ .ศ . 2 5 3 5 ที่ ระบุ ว า “ห ามมิ ให ผู ใดโฆษณาผลิตภัณฑย าสูบในสิ่ งพิมพ ทางวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศนหรือส่ืออ่ืนใดที่ใชเปนการโฆษณาได”

การโฆษณาบหุร่ี ณ จุดขาย ไดแก การจัดวางสื่อตางๆ ใหอยู ณ จุดขาย เชน ปาย ธงราว สติ๊กเกอร ตู หรือช้ันวางสินคาที่ผลิตขึ้นมาเฉพาะสินคาชนิดนั้น เปนตน ในประเทศไทยมีการโฆษณาบุหร่ี ณ จุดขายในรูปแบบตางๆ กัน บุหร่ีตางประเทศที่มีการโฆษณา ณ จุดขายมากที่สุดคือ ยี่หอมารลโบโร

ใบความรูที่ 1 เร่ือง “กลยุทธ : การโฆษณาบุหรี่ ณ จุดขาย”

ตัวอยางการโฆษณาบุหรี่ ณ จุดขาย

**ที่มา : เอกสารอางอิงของมูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหรี่

Page 178: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

172

ใบงานที่ 1 เร่ือง “การรูเทาทันกลยุทธ : การโฆษณาบุหรี่ ณ จุดขาย”

จุดประสงคการเรียนรู

1. อธิบายวิธีการใชกลยุทธในการโฆษณาและสงเสริมการขายของบริษัทบุหร่ีได (ความรู) 2. เผยแพรขอมูลกลยุทธของบริษัทบุหร่ีใหผูอ่ืนทราบดวยรูปแบบและวิธีการที่นาสนใจได

(ความรู-ทักษะกระบวนการ)

คําชี้แจง 1. สมาชิกกลุมที่ 1 ศึกษาขอมูลจากใบความรูที่ 1 ใหเขาใจและรวมกันตอบคําถาม

2. นักเรียน ดูภาพปริศนา แลวรวมกันวิเคราะหวิจารณ และตอบคําถาม

ตอบคําถามภาพปริศนา

ที่นี่มีบุหรี่จําหนาย

Page 179: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

173

กลุมท่ี ......... ชื่อกลุม ................................................................................................. ชั้น ..................... 1. นักเรียนเหน็อะไรในภาพนี้บาง เห็นแลวมีความรูสึกอยางไร ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... 2. ภาพนี้ส่ือความหมายเกีย่วกับกลยุทธการโฆษณา ณ จุดขายอยางไร จงอธิบาย ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... 3. นักเรียนเคยเห็นการโฆษณาบุหร่ี ณ จุดขายที่ใดบางโปรดชวยกันระบุอยางนอย 3 แหง ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... 4. นักเรียนคิดวาจะมีผลกระทบอะไรเกดิขึ้นบางถาไมดําเนินการใดๆ กบัการโฆษณาบุหร่ี ณ จดุขาย ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... 5. บอกขอเสนอของนักเรียนในการเผยแพรขอมูลกลยุทธ : การโฆษณาบุหร่ี ณ จดุขาย ใหผูอ่ืนรับรู ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... 6. นักเรียนมีสวนรวมในการดูแลรักษากฎหมายเกี่ยวกับการโฆษณาบหุร่ี ณ จดุขายอยางไร ..................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................

Page 180: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

174

เฉลยใบงานที่ 1 เร่ือง “การรูเทาทันกลยุทธ : การโฆษณาบุหรี่ ณ จุดขาย”

จุดประสงคการเรียนรู

1. อธิบายวิธีการใชกลยุทธในการโฆษณาและสงเสริมการขายของบริษัทบุหร่ีได (ความรู) 2. เผยแพรขอมูลกลยุทธของบริษัทบุหร่ีใหผูอ่ืนทราบดวยรูปแบบและวิธีการที่นาสนใจได

(ความรู - ทักษะกระบวนการ)

คําชี้แจง 1. สมาชิกกลุมที่ 1 ศึกษาขอมูลจากใบความรูที่ 1 ใหเขาใจและรวมกันตอบคําถาม

2. นักเรียน ดูภาพปริศนา แลวรวมกันวิเคราะหวิจารณ และตอบคําถาม

ที่นี่มีบุหรี่จําหนาย

ตอบคําถามภาพปริศนา

Page 181: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

175

กลุมท่ี ......... ชื่อกลุม ................................................................................................. ชั้น ..................... 1. นักเรียนเห็นอะไรในภาพนี้บาง เห็นแลวมีความรูสึกอยางไร

ตอบ เห็นภาพเด็กวัยรุนยืนยิ้มอยูที่หนาแผงขายบุหร่ี ซ่ึงมีบุหร่ีวางขายและมีขอความโฆษณาวา “ที่นี่มีบุหร่ีจําหนาย” คนขายยิ้มอยางมีเลศนัย และปรากฏเปนเงาปศาจอยูเบื้องหลัง มีความรูสึกวา คนขายไมมีความจริงใจตอเด็กและเยาวชน 2. ภาพนี้สื่อความหมายเกี่ยวกับกลยุทธการโฆษณา ณ จุดขายอยางไร จงอธิบาย

ตอบ กลยุทธการโฆษณา ณ จุดขาย ในภาพนี้เปนการวางขายและเขียนขอความโฆษณาอยางโจงแจงซึ่งผิดกฎหมายไทยในมาตรา 8 ของ พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑยาสูบ พ.ศ.2535 ที่ระบุวา “หามมิใหผูใดโฆษณาผลิตภัณฑยาสูบในสิ่งพิมพ ทางวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศนหรือส่ืออ่ืนใดที่ใชใน การโฆษณาได” 3. นักเรียนเคยเห็นการโฆษณาบุหรี่ ณ จุดขายที่ใดบางโปรดชวยกันระบุอยางนอย 3 แหง

ตอบ เคยเห็น ดังนี้ 1) รานคาปลีก 2) รานสะดวกซื้อ เชน มินิมารท เปนตน 4. นักเรียนคิดวาจะมีผลกระทบอะไรเกิดขึ้นบางถาไมดาํเนินการใดๆ กับการโฆษณาบุหรี่ ณ จุดขาย

ตอบ เปนการยั่วยุหรือกระตุนใหเด็กวัยรุนอยากลองและผูที่ติดบุหร่ีอยูแลวอยากสูบมากขึ้น นอกจากนี้ยัง ทําใหบุหร่ีหาซื้อไดงาย และสะดวกยิ่งขึ้น 5. บอกขอเสนอของนักเรียนในการเผยแพรขอมูล กลยุทธ : การโฆษณาบุหรี่ ณ จุดขาย ใหผูอ่ืนรับรู

ตอบ 1. เขียนบทความลงในวารสารของโรงเรียน หรือหนังสือพิมพ 2. เขียนโปสเตอรหรือคําขวัญเผยแพร 3. จัดกลุมเสวนา 6. นักเรียนมีสวนรวมในการดูแลรักษากฎหมายเกี่ยวกับการโฆษณาบุหรี่ ณ จุดขายอยางไร

ตอบ 1. ชวยทวงติงผูที่ละเมิดกฎหมาย โดยใชเหตุผลและคําพูดที่สุภาพ 2. แนะนําเพื่อนนักเรียนมิใหหลงผิดไปกับคําโฆษณาชวนเชื่อ

แนวคําตอบ

Page 182: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

176

จุดประสงคการเรียนรู

1. อธิบายวิธีการใชกลยุทธในการโฆษณาและสงเสริมการขายของบริษัทบุหร่ีได (ความรู) 2. เผยแพรขอมูลกลยุทธของบริษัทบุหร่ีใหผูอ่ืนทราบดวยรูปแบบและวิธีการที่นาสนใจได

(ความรู - ทักษะกระบวนการ) กลยุทธ : การสรางภาพลักษณไมขายบุหรี่แกเด็ก

กลยุทธการสรางภาพลักษณไมขายบุหร่ีแกเด็กเปนอีกกลยุทธหนึ่งของบริษัทบุหร่ีที่พยายามจัดกิจกรรมหรือโครงการเพื่อใหเกิดภาพลักษณที่ดี และความรูสึกที่ดีตอบริษัทบุหร่ีซ่ึงจะเกิดผลระยะยาวตอผูบริโภคและนําไปสูการตัดสินใจซื้อสินคาของบริษัท

ตัวอยาง เชน บริษัทฟลิปมอริส (ไทยแลนด) ลิมิเต็ด ไดจัดทําโครงการสิบแปดบวก โดยการจัดทําแผนพับ “สิบแปดบวก ไมถึงสิบแปดไมขาย” เพื่อใชในการประชาสัมพันธความรวมมือของบริษัทในการปฏิบัติตามกฎหมายหามขายบุหร่ีกับเด็กอายุต่ํากวา 18 ปของไทย โดยรานขายบุหร่ีจะติดแผนพับไวที่หนาราน ที่ตูขายบุหร่ี และแจกใหประชาชนทั่วไป โครงการนี้ไมไดสงผลตอพฤติกรรมการขายบุหร่ีแกวัยรุนของรานขายบุหร่ีแตอยางใด และการสํารวจพฤติกรรมการสูบบุหร่ีของเยาวชนไทย พ.ศ.2540 พบวาเด็กอายุ 15 ป รอยละ 96.7 สามารถซื้อบุหร่ีที่รานไดและผูขายรอยละ 86.0 ขายบุหร่ีใหแกเด็กเหลานี้ทันที

ใบความรูที่ 2 เร่ือง “กลยุทธ : การสรางภาพลักษณไมขายบุหรี่แกเด็ก”

ตัวอยางแผนพับและสติ๊กเกอรไมขายบุหรีแ่กเยาวชนอายตุ่ํากวา 18 ปของบริษัทบุหรี ่

**ที่มา : เอกสารอางอิงของมูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหรี่

Page 183: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

177

จุดประสงคการเรียนรู 1. อธิบายวิธีการใชกลยุทธในการโฆษณาและสงเสริมการขายของบริษัทบุหร่ีได (ความรู) 2. เผยแพรขอมูลกลยุทธของบริษัทบุหร่ีใหผูอ่ืนทราบดวยรูปแบบและวิธีการที่นาสนใจได

(ความรู-ทักษะกระบวนการ)

คําชี้แจง 1. สมาชิกกลุมที่ 2 ศึกษาขอมูลจากใบความรูที่ 2 ใหเขาใจและรวมกันตอบคําถาม

2. นักเรียนดูภาพปริศนา

ใบงานที่ 2 เร่ือง “การรูเทาทันกลยุทธ : การสรางภาพลักษณไมขายบุหรี่แกเด็ก”

ตอบคําถามภาพปริศนา

Page 184: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

178

กลุมท่ี ......... ชื่อกลุม ................................................................................................. ชั้น ..................... 1. นักเรียนเหน็อะไรในภาพนี้บาง เห็นแลวมีความรูสึกอยางไร ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... 2. ภาพนี้ส่ือความหมายเกีย่วกับกลยุทธการสรางภาพลักษณไมขายบหุร่ีแกเดก็อยางไรจงอธิบาย .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3. นักเรียนคิดวา “กลยุทธ : การสรางภาพลักษณไมขายบุหร่ีแกเด็ก” เปนกลยุทธที่แสดงถึงความหวงใยเยาวชนอยางแทจริงหรือไม อยางไร จงอธบิาย .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 4. นักเรียนคิดวา “กลยุทธ : การสรางภาพลักษณไมขายบุหร่ีแกเด็ก” มีสวนในการกระตุนใหเด็กอยาก สูบบุหร่ีเมื่อโตเปนผูใหญหรือไม อยางไร จงอธิบาย .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 5. นักเรียนมีวิธีการใดบางในการเผยแพรขอมูล “กลยุทธ : การสรางภาพลักษณไมขายบุหร่ีแกเด็ก” ใหผูอ่ืนรับรูอยางทั่วถึง .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 6. นักเรียนคิดวาจะมีผลกระทบอะไรเกดิขึ้นบางถาเยาวชนรูไมเทาทันกลยุทธนี้ ..........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

Page 185: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

179

จุดประสงคการเรียนรู 1. อธิบายวิธีการใชกลยุทธในการโฆษณาและสงเสริมการขายของบริษัทบุหร่ีได (ความรู) 2. เผยแพรขอมูลกลยุทธของบริษัทบุหร่ีใหผูอ่ืนทราบดวยรูปแบบและวิธีการที่นาสนใจได

(ความรู - ทักษะกระบวนการ)

คําชี้แจง 1. สมาชิกกลุมที่ 2 ศึกษาขอมูลจากใบความรูที่ 2 ใหเขาใจและรวมกันตอบคําถาม

2. นักเรียนดูภาพปริศนา

เฉลยใบงานที่ 2 เร่ือง “การรูเทาทันกลยุทธ : การสรางภาพลักษณไมขายบุหรี่แกเด็ก”

ตอบคําถามภาพปริศนา

Page 186: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

180

กลุมท่ี ......... ชื่อกลุม ................................................................................................. ชั้น ..................... 1. นักเรียนเห็นอะไรในภาพนี้บาง เห็นแลวมีความรูสึกอยางไร

ตอบ เห็นภาพการตูนบุหร่ี คือ ปาย “18+” กําลังรดน้ําตนไม (เด็ก) ในกระถาง มีเด็กที่โตที่สุดในกระถางสุดทายสูบบุหร่ีที่แขวนปาย “อายุ 18 ป สูบได ...” เห็นแลวมีความรูสึกวานักเขียนการตูนเขาใจสื่อความหมายของภาพไดดีจริงๆ 2. ภาพนี้สื่อความหมายเกี่ยวกับกลยุทธการสรางภาพลักษณไมขายบุหรี่แกเด็กอยางไร จงอธิบาย

ตอบ ภาพนี้แสดงใหเห็นวา บริษัทบุหร่ีจัดทํา “โครงการสิบแปดบวก” เพื่อสงสัญญาณใหเด็กวัยรุน เมื่ออายุครบ 18 ป ก็สามารถสูบบุหร่ีได 3. นักเรียนคิดวา “กลยุทธ : การสรางภาพลักษณไมขายบุหรี่แกเด็ก” เปนกลยุทธท่ีแสดงถึงความหวงใยเยาวชนอยางแทจริงหรือไม อยางไร จงอธิบาย

ตอบ เปนกลยุทธที่มิไดแสดงถึงความหวงใยตอเด็กและเยาวชนแตอยางใด หากหวงใยจริงตองโฆษณาวา “ไมวาคนวัยใด ก็ไมควรสูบบุหร่ี” 4. นักเรียนคิดวา “กลยุทธ : การสรางภาพลักษณไมขายบุหรี่แกเด็ก” มีสวนในการกระตุนใหเด็กอยาก สูบบุหรี่เม่ือโตเปนผูใหญหรือไม อยางไร อธิบาย

ตอบ วัยรุนเปนวัยอยากลอง อยากรูอยากเห็น การหามก็เสมือนยิ่งหามก็ยิ่งยุ และเมื่อเด็กอายุ 18 ปแลวก็จะสูบบุหร่ีทันทีอยางเปดเผย เพื่อแสดงวา “ฉันโตแลวนะ” 5. นักเรียนมีวิธีการใดบางในการเผยแพรขอมูล “กลยุทธ : การสรางภาพลักษณไมขายบุหรี่แกเด็ก” ใหผูอ่ืนรับรูอยางทั่วถึง

ตอบ 1. ออกแบบโลโกใหมวา “กอน 18 หรือหลัง 18 ก็หายนะเทากัน” 2.จัดทําเว็บไซตเผยแพร 6. นักเรียนคิดวาจะมีผลกระทบอะไรเกิดขึ้นบางถาเยาวชนรูไมเทาทันกลยุทธนี้

ตอบ เด็กเยาวชนคิดวาบริษัทบุหร่ีหวงใยจริงๆ จึงอาจเกิดความศรัทธาเลื่อมใส และรอคอยที่ จะสูบบุหร่ี เมื่อเวลาและโอกาสมาถึง

แนวคําตอบ

Page 187: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

181

จุดประสงคการเรียนรู 1. อธิบายวิธีการใชกลยุทธในการโฆษณาและสงเสริมการขายของบริษัทบุหร่ีได (ความรู) 2. เผยแพรขอมูลกลยุทธของบริษัทบุหร่ีใหผูอ่ืนทราบดวยรูปแบบและวิธีการที่นาสนใจได

(ความรู - ทักษะกระบวนการ) กลยุทธ : การใหการสนับสนุนหรือเปนผูอุปถัมภกิจกรรมตางๆ

กลยุทธการใหทุนอุปถัมภรายการหรือ กิจกรรมตางๆ เปนวิธีใหมทางการตลาด ซ่ึงมุงที่กลุมเปาหมายในชวงที่อยูวางๆ หรือพักผอนจะไดอยูในสภาวะรับสื่อไดงายกวา

สําหรับประเทศไทย บริษัทบุหร่ีตางประเทศไดใชการจัดกิจกรรมดานศิลปะและดนตรีเปนชองทางในการโฆษณาเพื่อเผยแพรช่ือเสียงของบริษัทใหเปนที่รูจักมากขึ้น ตัวอยางเชน บริษัทฟลิปมอริส ผูผลิตบุหร่ียี่หอมารลโบโร เมื่อบริษัทปรับแผนการตลาดไปสนับสนุนการจัดกิจกรรมทางศิลปะพบวา การประกวดครั้งแรก ประเทศไทยไดรางวัลชนะเลิศในระดับอาเซียนสรางความตื่นตัวใหกับคนในวงการศิลปะมีผลใหผูส่ือขาวทําขาวมากขึ้น และนําไปสูการยอมรับบรษิัทบุหร่ีมากขึ้น

นอกจากนี้การอนุญาตใหบริษัทบุหร่ีเปนผูอุปถัมภกีฬาก็ใหผลเชนเดียวกับการโฆษณา โดยสามารถเขาถึงตลาดวัยรุนไดอยางมีประสิทธิภาพกลาวคือ การสูบบุหร่ีถูกเชื่อมโยงเขาสูกิจกรรมและภาพลักษณของการสงเสริมสุขภาพและการถายทอดกีฬาไปทั่วโลก ทําใหบริษัทบุหร่ีสามารถหลีกเลี่ยงกฎหมายหามบริษัทบุหร่ีเปนผูอุปถัมภกีฬาในบางประเทศได

ใบความรูที่ 3 เร่ือง “กลยุทธ : การใหการสนับสนุนหรือเปนผูอุปถัมภกิจกรรมตางๆ”

ตัวอยางกิจกรรมทางสังคมในประเทศไทยที่บริษัทบุหรี่ขามชาติใหการสนับสนุน

**ที่มา : เอกสารอางอิงของมูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหรี่

Page 188: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

182

ใบงานที่ 3 เร่ือง “การรูเทาทันกลยุทธ : การใหการสนับสนุนหรือเปนผูอุปถัมภกิจกรรมตางๆ”

จุดประสงคการเรียนรู

1. อธิบายวิธีการใชกลยุทธในการโฆษณาและสงเสริมการขายของบริษัทบุหร่ีได (ความรู) 2. เผยแพรขอมูลกลยุทธของบริษัทบุหร่ีใหผูอ่ืนทราบดวยรูปแบบและวิธีการที่นาสนใจได

(ความรู-ทักษะกระบวนการ) คําชี้แจง 1. สมาชิกกลุมที่ 3 ศึกษาขอมูลจากใบความรูที่ 3 ใหเขาใจและรวมกันตอบคําถาม

2. นักเรียนดูภาพปริศนา

ตอบคําถามภาพปริศนา

Page 189: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

183

กลุมท่ี ......... ชื่อกลุม ................................................................................................. ชั้น ..................... 1. นักเรียนเหน็อะไรในภาพนี้บาง เห็นแลวมีความรูสึกอยางไร .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 2. ภาพนี้ส่ือความหมายเกี่ยวกับกลยุทธ “การใหการสนับสนุน หรือเปนผูอุปถัมภกิจกรรมตางๆ” อยางไร จงอธิบาย .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3. นักเรียนคิดวา “กลยุทธ : การใหการสนับสนุนหรือเปนผูอุปถัมภกิจกรรมตางๆ” เปนกลยุทธที่เคลือบแฝง หรือไม เพราะเหตุใด .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 4. นักเรียนคิดวา “กลยุทธ : การใหการสนับสนุนหรือเปนผูอุปถัมภกิจกรรมตางๆ” เปนการสรางภาพลักษณที่ดีใหแกบริษัทบุหร่ีอยางไร .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 5. นักเรียนมีขอเสนอแนะใดบางในการเผยแพรขอมูล “กลยุทธ : การใหการสนับสนนุหรือเปนผูอุปถัมภกิจกรรมตางๆ” ใหผูอ่ืนรับรูอยางทั่วถึง .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 6. นักเรียนคิดวาจะมีผลกระทบอะไรเกดิขึ้นบางถาประชาชนรูไมเทาทนักลยุทธนี ้..........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

Page 190: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

184

เฉลยใบงานที่ 3 เร่ือง “การรูเทาทันกลยุทธ : การใหการสนับสนุนหรือเปนผูอุปถัมภกิจกรรมตางๆ”

จุดประสงคการเรียนรู

1. อธิบายวิธีการใชกลยุทธในการโฆษณาและสงเสริมการขายของบริษัทบุหร่ีได (ความรู) 2. เผยแพรขอมูลกลยุทธของบริษัทบุหร่ีใหผูอ่ืนทราบดวยรูปแบบและวิธีการที่นาสนใจได

(ความรู-ทักษะกระบวนการ) คําชี้แจง 1. สมาชิกกลุมที่ 3 ศึกษาขอมูลจากใบความรูที่ 3 ใหเขาใจและรวมกันตอบคําถาม

2. นักเรียนดูภาพปริศนา

ตอบคําถามภาพปริศนา

Page 191: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

185

กลุมท่ี ......... ชื่อกลุม ................................................................................................. ชั้น ..................... 1. นักเรียนเห็นอะไรในภาพนี้บาง เห็นแลวมีความรูสึกอยางไร ตอบ ภาพเด็กผูชายกําลังรับมอบเงินทุนสนับสนุนการทํากิจกรรมจากผูใหญที่ถือมีดดวยมือซายซอนไวขางหลัง ขณะที่เด็กผูหญิงเหลือบไปเห็นแลวแสดงอาการตกใจ เห็นแลว รูสึกวาภาพนี้ไดสะทอนใหเห็นถึงธาตุแทของบริษัทบุหร่ีไดอยางชัดเจน 2. ภาพนี้สื่อความหมายเกี่ยวกับกลยุทธ “การใหการสนับสนุน หรือเปนผูอุปถัมภกิจกรรมตางๆ” อยางไร จงอธิบาย ตอบ ส่ือใหเห็นวาบริษัทบุหร่ีที่ใหการอุปถัมภกิจกรรมศิลปะ ดนตรี กีฬา ฯลฯ แกเยาวชนนั้น เปนแผนการโฆษณาประชาสัมพันธ เพื่อใหเห็นวาบุหร่ีถูกเชื่อมโยงเขากับกิจกรรมดีๆ ทําใหภาพลักษณของบุหร่ีดูดีไปดวย แตที่แทจริงแลวไดแอบซอนมีดดาบหรืออันตรายไวเบื้องหลัง ดังภาพ 3. นักเรียนคิดวา “กลยุทธ : การใหการสนับสนุนหรือเปนผูอุปถัมภกิจกรรมตางๆ” เปนกลยุทธท่ีเคลือบแฝง หรือไม เพราะเหตุใด ตอบ เคลือบแฝงแนนอน เพราะตองการใหบริษัทบุหร่ีมีช่ือติดตลาดจนเด็กวัยรุนและคนทั่วไปเกิดความไววางใจ 4. นักเรียนคิดวา “กลยุทธ : การใหการสนับสนุนหรือเปนผูอุปถัมภกิจกรรมตางๆ” เปนการสรางภาพลักษณท่ีดีใหแกบริษัทบุหรี่อยางไร ตอบ เปนภาพลักษณที่ใหการสนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชนในระดับชาติ หรือระดับโลก จนประชาชนเกิดความรูสึกคุนเคย โดยไมตองโฆษณาโดยตรง 5. นักเรียนมีขอเสนอแนะใดบางในการเผยแพรขอมูล “กลยุทธ : การใหการสนับสนนุหรือเปนผูอุปถัมภกิจกรรมตางๆ” ใหผูอ่ืนรับรูอยางทั่วถึง ตอบ 1. ติดแจงใหโรงเรียนและหนวยงานทราบ 2. จัดตั้งกลุมเยาวชนรูเทาทันกลยุทธบริษัทบุหร่ี 6. นักเรียนคิดวาจะมีผลกระทบอะไรเกิดขึ้นบางถาประชาชนรูไมเทาทันกลยุทธนี้ ตอบ ประชาชนก็จะหลงเชื่อวา บริษัทบุหร่ีเปนองคกรที่ไดรับการยอมรับในทุกวงการ และเปนเสมือนองคกรสาธารณกุศล แตแทจริงไดแอบแฝงผลประโยชนไวมากมาย

แนวคําตอบ

Page 192: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

186

จุดประสงคการเรียนรู 1. อธิบายวิธีการใชกลยุทธในการโฆษณาและสงเสริมการขายของบริษัทบุหร่ีได (ความรู) 2. เผยแพรขอมูลกลยุทธของบริษัทบุหร่ีใหผูอ่ืนทราบดวยรูปแบบและวิธีการที่นาสนใจได

(ความรู-ทักษะกระบวนการ)

กลยุทธ : การสรางสินคายี่หอเดียวกับบุหรี่ บริษัทบุหร่ีตางๆ ไดพยายามโฆษณาแฝง เพื่อใหลูกคารูจกัและจดจํายี่หอบุหร่ีนั้นได เชน - การขายสินคาอื่นที่มีช่ือและโลโกเดียวกันกับยี่หอบุหร่ี เชน เสื้อผายี่หอคาเมล (Camel

Trophy) จะแสดงถึงบุคคลที่รักธรรมชาติชอบทองเที่ยวผจญภัย ดังนั้นบุคคลที่ใสเสื้อผาคาเมลก็จะเปนการประชาสัมพันธใหบุคคลทั่วไปรูสึกคุนเคยกับยี่หอบุหร่ีดวย

- สนับสนุนใหมีการเผยแพรโลโกยี่หอบุหร่ีดวยการปลอยใหมีการจําหนายสินคาอื่นๆ ที่นําโลโกบุหร่ีมาใช เชน พวงกุญแจ หนากากมือถือ ฯลฯ ทั้งที่เปนการละเมิดลิขสิทธิ์

- การแจกของชํารวยที่มีโลโกยี่หอบุหร่ีใหแกรานขายสินคาในรูปแบบตางๆ กัน เชน นาฬิกา ไฟแช็ก ปฏิทิน ฯลฯ

กลยุทธ : การสรางสินคายี่หอเดียวกับบุหร่ีและจัดกิจกรรมสงเสริมการขายดวยการแจกแถมเปนที่นิยมอยางมาก และมีผลในการทําตลาดคอนขางสูงในกลุมวัยรุนเพราะสิ่งของที่มียี่หอบุหร่ีเหลานี้ทําใหผูสวมใสกลายเปนแผนปายโฆษณาเคลื่อนท่ีโดยไมผิดกฎหมาย

ใบความรูที่ 4 “กลยุทธ : การสรางสินคายี่หอเดียวกับบุหรี่”

**ที่มา : เอกสารอางอิงของมูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหรี่

ตัวอยางสินคาอ่ืนท่ีมีชื่อและโลโกเดียวกันกับยี่หอบุหรี่

Page 193: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

187

ใบงานที่ 4 เร่ือง “การรูเทาทันกลยุทธ : การสรางสินคายี่หอเดียวกับบุหรี่”

จุดประสงคการเรียนรู

1. อธิบายวิธีการใชกลยุทธในการโฆษณาและสงเสริมการขายของบริษัทบุหร่ีได (ความรู) 2. เผยแพรขอมูลกลยุทธของบริษัทบุหร่ีใหผูอ่ืนทราบดวยรูปแบบและวิธีการที่นาสนใจได (ความรู-ทักษะกระบวนการ)

คําชี้แจง 1. สมาชิกกลุมที่ 4 ศึกษาขอมูลจากใบความรูที่ 4 ใหเขาใจและรวมกันตอบคําถาม 2. นักเรียนดูภาพปริศนา

ตอบคําถามภาพปริศนา

Page 194: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

188

กลุมท่ี ......... ชื่อกลุม ................................................................................................. ชั้น ..................... 1. นักเรียนเหน็อะไรในภาพนี้บาง เห็นแลวมีความรูสึกอยางไร .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 2. ภาพนี้ส่ือความหมายเกีย่วกับ “กลยุทธ : การสรางสินคายี่หอเดียวกับบุหร่ี” อยางไร จงอธิบาย .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3. นักเรียนคิดวา “กลยุทธ : การสรางสินคายี่หอเดียวกับบุหร่ี” เปนกลยุทธที่ชวยใหบุคคลจดจํายีห่อบุหร่ีและมผีลตอการเพิ่มยอดขายหรือไม อยางไร .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 4. นักเรยีนคิดวา “กลยุทธ : การสรางสินคายี่หอเดียวกับบุหร่ี” มีสวนในการกระตุนใหเดก็อยากสูบบุหร่ีเมื่อโตเปนผูใหญหรือไม อยางไร .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 5. นักเรียนมีวธีิการใดบางในการเผยแพรขอมูล “กลยุทธ : การสรางสินคายี่หอเดียวกับบุหร่ี” ใหผูอ่ืนรับรูอยางทั่วถึง .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 6. นักเรียนคิดวาจะมีผลกระทบอะไรเกดิขึ้นบางถาเยาวชนรูไมเทาทันกลยุทธนี ้ ..........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

Page 195: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

189

เฉลยใบงานที่ 4 เร่ือง “การรูเทาทันกลยุทธ : การสรางสินคายี่หอเดียวกับบุหรี่”

จุดประสงคการเรียนรู

1. อธิบายวิธีการใชกลยุทธในการโฆษณาและสงเสริมการขายของบริษัทบุหร่ีได (ความรู) 2. เผยแพรขอมูลกลยุทธของบริษัทบุหร่ีใหผูอ่ืนทราบดวยรูปแบบและวิธีการที่นาสนใจได

(ความรู-ทักษะกระบวนการ)

คําชี้แจง 1. สมาชิกกลุมที่ 4 ศึกษาขอมูลจากใบความรูที่ 4 ใหเขาใจและรวมกันตอบคําถาม 2. นักเรียนดูภาพปริศนา

ตอบคําถามภาพปริศนา

Page 196: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

190

กลุมท่ี ......... ชื่อกลุม ................................................................................................. ชั้น ..................... 1. นักเรียนเห็นอะไรในภาพนี้บาง เห็นแลว มีความรูสึกอยางไร ตอบ เห็นภาพเด็กใสเสื้อยี่หอเดียวกับบุหร่ียี่หอหนึ่ง โดยมีปศาจจองฟนดวยมีดขออยูดานหลัง 2. ภาพนี้สื่อความหมายเกี่ยวกับ “กลยุทธ : การสรางสินคายี่หอเดียวกับบุหรี่” อยางไร จงอธิบาย

ตอบ เปนภาพที่ส่ือความหมายวา เด็กที่สวมยี่หอเดียวกบับุหร่ี ตองกลายเปนเครื่องมือใหบริษัทโฆษณาบุหร่ีของตนโดยไมรูตัว โดยมีปศาจซึ่งเสมือนเปนบริษัทบุหร่ีจองทําลายอยูเบื้องหลัง 3. นักเรียนคิดวา “กลยุทธ : การสรางสินคายี่หอเดียวกับบุหรี่” เปนกลยุทธท่ีชวยใหบุคคลจดจํายี่หอบุหรี่และมีผลตอการเพิ่มยอดขายหรือไม อยางไร ตอบ การใชสินคายี่หอเดียวกับบุหร่ีอยางสม่ําเสมอเปนเวลาอันยาวนาน ทําใหเราจดจําและคุนเคยกับบุหร่ียี่หอนั้นโดยไมรูตัว หากเปนคนที่มีจิตใจออนไหวและขาดการใชสติปญญากลั่นกรองอาจทําใหหันมาทดลองใชบุหร่ียี่หอดังกลาวได ดังนั้นจึงมีสวนที่ทําใหยอดขายบุหร่ีเพิ่มขึ้น 4. นักเรียนคิดวา “กลยุทธ : การสรางสินคายี่หอเดียวกับบุหรี่” มีสวนในการกระตุนใหเด็กอยากสูบบุหรี่เม่ือโตเปนผูใหญหรือไม อยางไร ตอบ ความคุนเคยกับยี่หอบุหร่ีชนิดใดชนิดหนึ่งอยูตลอดเวลา อาจทําใหเลือกสูบบุหร่ียี่หอที่คุนเคยเมื่อโตเปนผูใหญได 5. นักเรียนมีวิธีการใดบางในการเผยแพรขอมูล “กลยุทธ : การสรางสินคายี่หอเดียวกับบุหรี่” ใหผูอ่ืนรับรูอยางทั่วถึง ตอบ เผยแพรภาพการตูนนี้และเขียนคําบรรยายใหผูอ่ืนทราบ 6. นักเรียนคิดวาจะมีผลกระทบอะไรเกิดขึ้นบางถาเยาวชนรูไมเทาทันกลยุทธนี้ ตอบ เยาวชนมักชอบสรางจุดเดน เพื่อเรียกรองความสนใจ ดังนั้น จึงมักใชหรือสวมใสสินคายี่หอดังๆ เชน ยี่หอของบุหร่ี เปนตน จึงทําใหยี่หอของบุหร่ีเผยแพรไปสูกลุมของเยาวชนอยางรวดเร็วและกวางขวาง

แนวคําตอบ

Page 197: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

191

จุดประสงคการเรียนรู

1. อธิบายวิธีการใชกลยุทธในการโฆษณาและสงเสริมการขายของบริษัทบุหร่ีได (ความรู) 2. เผยแพรขอมูลกลยุทธของบริษัทบุหร่ีใหผูอ่ืนทราบดวยรูปแบบและวิธีการที่นาสนใจได (ความรู-ทักษะกระบวนการ)

กลยุทธ : การนําเสนอผลิตภณัฑบุหรี่รสออน บุหร่ีรสออนหรือที่เรียกกันวา Light หรือ Mild หรือ Utralight Cigarette เปนผลิตภัณฑที่บริษัท

บุหร่ีใชจุดออนเรื่องความกังวลในเรื่องสูบบุหร่ีเปนอันตรายตอสุขภาพของคนทั่วโลกมาเปนจุดขาย และทําใหคนที่สูบบุหร่ีหันมาสูบ “บุหร่ีรสออน” มากขึ้น บุหร่ีเหลานี้มักจะมีขอความภาษาอังกฤษอยูที่หนาซองวา “Mild หรือ Ultralight” และมักจะมีสีสันของซองเปนสีออนๆ เขียนคําโฆษณาไวขางกลองวาเปนบุหร่ีที่มีปริมาณสารนิโคตินและทารต่ําซึ่งลวงใหผูบริโภคเขาใจผิดคิดวามีอันตรายนอย

ขอเท็จจริง : บุหร่ีรสออนไมไดมีอันตรายลดลงเพราะผูสูบจะตองสูดควันบุหร่ีใหลึกกวาและนานกวา เพื่อใหไดระดับนิโคตินเทากับที่เคยไดรับเมื่อสูบบุหร่ีธรรมดา กลยุทธนี้สรางความเสียหายตอการสาธารณสุขทั่วโลก เพราะทําใหเด็กเขามาเปนนักสูบหนาใหมงายขึ้น ผูหญิงก็เปนลูกคาของบุหร่ีชนิดนี้มากขึ้นและมีนักสูบหนาใหมเพิ่มขึ้นทุกป

ใบความรูที่ 5 เร่ือง “กลยุทธ : การนําเสนอผลิตภัณฑบุหรี่รสออน”

ตัวอยางบุหรี่รสออนของบริษัทบหุรี่ตางประเทศ

**ที่มา : เอกสารอางอิงของมูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหรี ่

Page 198: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

192

ใบงานที่ 5 เร่ือง “การรูเทาทันกลยุทธ : การนําเสนอผลิตภัณฑบุหรี่รสออน”

จุดประสงคการเรียนรู

1. อธิบายวิธีการใชกลยุทธในการโฆษณาและสงเสริมการขายของบริษัทบุหร่ีได (ความรู) 2. เผยแพรขอมูลกลยุทธของบริษัทบุหร่ีใหผูอ่ืนทราบดวยรูปแบบและวิธีการที่นาสนใจได (ความรู-ทักษะกระบวนการ)

คําชี้แจง 1. สมาชิกกลุมที่ 5 ศึกษาขอมูลจากใบความรูที่ 5 ใหเขาใจและรวมกันตอบคําถาม

2. นักเรียนดูภาพปริศนา

ตอบคําถามภาพปริศนา

Page 199: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

193

กลุมท่ี ......... ชื่อกลุม ................................................................................................. ชั้น ..................... 1. นักเรียนเห็นอะไรในภาพนี้บาง เห็นแลว มีความรูสึกอยางไร .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 2. ภาพนี้ส่ือความหมายเกี่ยวกับ “กลยุทธ : การนําเสนอผลิตภัณฑบุหร่ีรสออน” อยางไร จงอธิบาย .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3. นักเรียนคิดวา “กลยุทธ : การนําเสนอผลิตภัณฑบุหร่ีรสออน” เปนกลยุทธที่ชักจูงบุคคลใหสูบบุหร่ีและมีผลตอการเพิ่มยอดขายหรือไม อยางไร .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 4. นักเรียนคิดวา “กลยุทธ : การนําเสนอผลิตภัณฑบุหร่ีรสออน” มีสวนในการกระตุนใหเด็กอยากสูบบุหร่ีหรือไม อยางไร .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 5. นักเรียนมีวธีิการใดบาง ในการเผยแพรขอมูล “กลยุทธ : การนําเสนอผลิตภัณฑบหุร่ีรสออน” ใหผูอ่ืนรับรูอยางทั่วถึง .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 6. นักเรียนคิดวาจะมีผลกระทบอะไรเกดิขึ้นบางถาเยาวชนรูไมเทาทันกลยุทธนี้ ..........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

Page 200: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

194

เฉลยใบงานที่ 5 เร่ือง “การรูเทาทันกลยุทธ : การนําเสนอผลิตภัณฑบุหรี่รสออน”

จุดประสงคการเรียนรู

1. อธิบายวิธีการใชกลยุทธในการโฆษณาและสงเสริมการขายของบริษัทบุหร่ีได (ความรู) 2. เผยแพรขอมูลกลยุทธของบริษัทบุหร่ีใหผูอ่ืนทราบดวยรูปแบบและวิธีการที่นาสนใจได

(ความรู-ทักษะกระบวนการ)

คําชี้แจง 1. สมาชิกกลุมที่ 5 ศึกษาขอมูลจากใบความรูที่ 5 ใหเขาใจและรวมกันตอบคําถาม

2. นักเรียนดูภาพปริศนา

ตอบคําถามภาพปริศนา

Page 201: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

195

กลุมท่ี ......... ชื่อกลุม ................................................................................................. ชั้น ..................... 1. นักเรียนเห็นอะไรในภาพนี้บาง เห็นแลว มีความรูสึกอยางไร ตอบ เห็นภาพปศาจบุหร่ี แขวนคอเด็กซึ่งเปนวิญญาณที่ถือซองบุหร่ีรสออน แลวพาลากจูงไปดวยอํานาจที่เหนือกวา 2. ภาพนี้สื่อความหมายเกี่ยวกับ “กลยุทธ : การนําเสนอผลิตภัณฑบุหรี่รสออน” อยางไร จงอธิบาย ตอบ ส่ือความหมายวา แมบริษัทบุหร่ีจะผลิตบุหร่ีรสออน แตอันตรายของบุหร่ีก็มิไดลดนอยลงแตอยางใด และประชาชนยังคงตกอยูภายใตอํานาจของบุหร่ีตอไป 3. นักเรียนคิดวา “กลยุทธ : การนําเสนอผลิตภัณฑบุหรี่รสออน” เปนกลยุทธท่ีชักจูงบุคคลใหสูบบุหรี่และมีผลตอการเพิ่มยอดขายหรือไม อยางไร ตอบ นับเปนกลยุทธที่มักใชไดผลกับนักสูบบุหร่ีมือใหมที่เปนเด็กและผูหญิง เพราะคิดวาบุหร่ีที่มีรสออนพิษภัยจะนอยลง แตในความจริงแลวผูสูบบุหร่ีรสออนจะตองสูดควันบุหร่ีใหลึกกวาและนานกวาเดิม ดังนั้นนักสูบมือใหมที่ไมรูเทาทันจึงมีสวนเพิ่มยอดขายบุหร่ีไปโดยไมรูตัว 4. นักเรียนคิดวา “กลยุทธ : การนําเสนอผลิตภัณฑบุหรี่รสออน” มีสวนในการกระตุนใหเด็กอยาก สูบบุหรี่หรือไม อยางไร ตอบ มีสวนอยางมาก เพราะคิดวามีรสชาติแปลกใหมนาสูบ และอันตรายนอยกวา 5. นักเรียนมีวิธีการใดบาง ในการเผยแพรขอมูล “กลยุทธ : การนําเสนอผลิตภัณฑบุหรี่รสออน” ใหผูอ่ืนรับรูอยางทั่วถึง ตอบ 1. จัดทําโปสเตอรพรอมคําขวัญ 2. จัดบรรยายหรืออภิปรายใหเด็กเยาวชน และผูหญิงไดรับรู 6. นักเรียนคิดวาจะมีผลกระทบอะไรเกิดขึ้นบางถาเยาวชนรูไมเทาทันกลยุทธนี้ ตอบ ผลกระทบก็คือ เยาวชนจะทดลองสูบบุหร่ีรสออน และทําใหติดบุหร่ีจนถอนตัวไมขึ้น ในที่สุด ซ่ึงเปนการทําลายสุขภาพ ชีวิต และอนาคตของเยาวชนอยางนาเสียดาย

แนวคําตอบ

Page 202: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

196

กลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยีนปลอดบุหร่ี (สาระการเรียนรูเพิ่มเติม) ชวงชั้นที่ 3 (ม.1- ม.3) หนวยการเรียนรูท่ี 3 เร่ือง “กฎหมายคุมครอง เราตองรูทัน ดับควันบหุรี่”

แผนการจัดการเรียนรูท่ี12 เร่ือง “จะปลอดบุหรี่มือสอง ตองชวยคุมครองอยางทั่วถงึ” เวลา 2 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู มาตรฐานหลัก พ 5.1 ปองกันและหลีกเลี่ยงปจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงตอสุขภาพ อุบัติเหตุ การใชยา สารเสพติด และความรุนแรง

มาตรฐานชวงชั้น ขอ 2 และ 5 2. ผลการเรียนรูท่ีคาดหวัง รูจักสถานที่สาธารณะที่เปนเขตปลอดบุหร่ี และมีวิธีการปกปองคุมครองสุขภาพของตนเองและผูอ่ืนใหปลอดจากควันบุหร่ีอยางสรางสรรค 3. จุดประสงคการเรียนรู 3.1 บอกสถานที่ที่เปนเขตปลอดบุหร่ี (ความรู) 3.2 แสดงกระบวนการและวิธีการปกปองคุมครองสุขภาพของตนเองและผูอ่ืนใหปลอดจากควันบุหร่ีอยางสรางสรรค (ทักษะกระบวนการ) 3.3 บอกความรูสึกประโยชนและคุณคาของการปกปองคุมครองสุขภาพของตนเอง และผูอ่ืนใหปลอดจากควันบุหร่ีอยางสรางสรรค (เจตคติ) 4. สาระการเรียนรู 4.1 สถานที่สาธารณะที่เปนเขตปลอดบุหร่ี 4.2 วิธีการปกปองคุมครองตนเองและผูอ่ืนใหปลอดจากควันบุหร่ี 5. สาระสําคัญ

พระราชบัญญัติคุมครองสุขภาพของผูไมสูบบุหร่ี พ.ศ. 2535 เปนพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติ บางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล เพื่อคุมครองสุขภาพของผูไมสูบบุหร่ี โดยกระทรวงสาธารณสุขไดจัดทําประกาศกระทรวงสาธารณสุข เพื่อกําหนดสถานที่สาธารณะที่เปนเขตปลอดบุหร่ี ดังนั้นการเรียนรูวาสถานที่สาธารณะใดบางเปนเขตปลอดบุหร่ี และการแสดงวิธีการปกปองสุขภาพผูไมสูบบุหร่ีจะทําใหนักเรียนสามารถดูแลตนเองและผูอ่ืนใหไมไดรับควันพิษจากบุหร่ีได 6. กระบวนการเรียนรู ชั่วโมงที่ 1

ขั้นนํา 6.1 นักเรียนรวมกันนําสื่อประชาสัมพันธรณรงค เพื่อการไปสูบบุหร่ี เร่ือง “คุณมาทํารายฉันทําไม” มารวมกันวิพากษวิจารณ ในประเด็นตอไปนี้ - ดูส่ือประชาสัมพันธนี้แลวมีความรูสึกอยางไร

Page 203: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

197

- ตัวละครในเรื่องนี้ใครเปนเหยื่อของบุหร่ีมือสอง เพราะเหตุใด - จะมีวิธีการปองกันมิใหผูที่ไมสูบบุหร่ีตองตกเปนเหยื่อบุหร่ีมือสองไดโดยวิธีใดบาง ครูใหขอเสนอแนะเพิ่มเติมและอธิบายเพิ่มเติมวา รัฐบาลไดออกพระราชบัญญัติคุมครองสุขภาพของผูไมสูบบุหร่ี พ.ศ. 2535 และประกาศกระทรวงสาธารณสุขหลายฉบับโดยมีการปรับปรุงพัฒนากฎหมายใหเหมาะสมและทันสมัย มีสาระสําคัญเพื่อกําหนดสถานที่สาธารณะใหเปนเขตปลอดบุหร่ี ซ่ึงเราจะไดเรียนรูกันในวันนี้

ขั้นสอน 6.2 แบงนักเรียนออกเปน 5 กลุม เพื่อใหแตละกลุมปฏิบัติตามใบงานที่ 1 เร่ือง “เกมตอจ๊ิกซอ

ใหครบ จะพบเขตปลอดบุหรี่” โดยแขงขันกันเลนเกมตอจิ๊กซอเพื่อคนหาเขตปลอดบุหร่ีในสถานที่สาธารณะตามกฎหมายทั้ง 45 แหง

6.3 นักเรียนรวมกันสรุปสถานที่สาธารณะที่เปนเขตปลอดบุหร่ี จํานวน 45 แหง พรอมรวมกันแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมดังนี้

- สถานที่สาธารณะใดบางที่นักเรียนเพิ่งทราบวาเปนเขตปลอดบุหร่ี - การเรียนรูวาสถานที่ใดบางเปนเขตปลอดบุหร่ีมีประโยชนตอนักเรียนอยางไรบาง - นักเรียนคิดวาสถานที่สาธารณะใดอีกบาง ที่ควรกําหนดใหเปนเขตปลอดบุหร่ีเพิ่มเติม ครูใหขอเสนอแนะเพิ่มเติมถึงการมีสวนรวมของคนทุกคนในการชวยกันปกปองคุมครองผูที่

ไมสูบบุหร่ีใหปลอดภัยจากควันบุหร่ี 6.4 มอบหมายการบานใหนักเรียนแตละคนปฏิบัติตาม ใบงานที่ 2 เร่ือง “การสํารวจสถานการณ

จริง ในเขตปลอดบุหรี่” โดยใชเวลาสํารวจประมาณ 1 สัปดาห ชั่วโมงที่ 2 6.5 นักเรียนนํารายงานผลการสํารวจ “สถานการณจริงในเขตปลอดบุหร่ี” จากใบงานที่ 2

มาเสนอครูนํานักเรียนรวมกันสนทนาและสรุปผลการสํารวจในภาพรวม ดังนี้ - นักเรียนพบเห็นผูสูบบุหร่ีในสถานที่ที่เปนเขตปลอดบุหร่ีที่ใดบาง - สภาพการณของผูสูบบุหร่ีและปฏิกิริยาของคนรอบขางเปนอยางไร - สภาพการณของนักเรียนเมื่อไดรับควันบุหร่ี และปฏิกิริยาของนักเรียนเปนอยางไร 6.6 แบงนักเรียนเปนกลุมๆ ละประมาณ 5-7 คน แตละกลุมปฏิบัติตาม ใบงานที่ 3 เร่ือง “วิธีการ

ปกปองคุมครองสุขภาพของผูไมสูบบุหรี่อยางสรางสรรค” และเขียนคําตอบลงในกระดาษการดสีหรือฟลิปชารต โดยแบงหนาที่ปฏิบัติ ดังนี้

5 กลุมแรก รายงานสถานการณที่ 1- 3 5 กลุมหลัง รายงานสถานการณที่ 4 - 6

6.7 นักเรียนทุกกลุมรวมกันรายงานสถานการณและวิธีการปกปองคุมครองสุขภาพของผูไมสูบบุหร่ีอยางสรางสรรค โดยการแสดงบทบาทสมมติ และรวมกันวิเคราะหวิจารณในประเด็นตอไปนี้

Page 204: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

198

- วิธีการในแตละสถานการณมีผลตอการหยุดยั้งควนับหุร่ีมากนอยเพยีงใด - วิเคราะหและพัฒนาวิธีการที่มีประสิทธิภาพและสรางสรรค - วิธีการปกปองคุมครองผูไมสูบบุหร่ีอยางสรางสรรคกอใหเกิดผลดีอยางไร

- นักเรยีนจะมีสวนรวมในการสงเสริม การบังคับใชกฎหมายคุมครองสุขภาพของ ผูไมสูบบุหร่ีอยางไร

ครูใหขอแนะนําเพิ่มเติม นักเรียนจดบันทึกลงในสมุด ขั้นสรุป 6.8 นักเรียนทุกคนรวมกันสรุปผลการเรียนรู และบอกความรูสึก ประโยชนและคุณคา

ของการปกปองคุมครองสุขภาพของตนเองและผูอ่ืนใหปลอดจากควันบุหร่ีอยางสรางสรรค ครูประเมินผลการเรียนรู ใหขอเสนอแนะเพิ่มเติมและนักเรียนจดบันทึกลงในสมุด

7. วิธีการจัดการเรียนรู 7.1 กระบวนการคิดอยางมีวิจารณญาณ (Critical Thinking) 7.2 การเรียนรูแบบประสบการณ (Experiential Learning) 8. การบูรณาการ 8.1 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูศิลปะ (เพลงชุดเด็กรุนใหม...ไมสูบบุหร่ี และการแสดงบทบาทสมมติ) 8.2 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (กฎหมายคุมครองสุขภาพของผูไมสูบบุหร่ี การสํารวจสถานการณจริงในเขตปลอดบุหร่ีและจิตสํานึกสาธารณะใน การปกปองคุมครองสุขภาพของผูไมสูบบุหร่ี) 9. สื่อ/แหลงการเรียนรู 9.1 พระราชบัญญัติคุมครองสุขภาพของผูไมสูบบุหร่ี พ.ศ. 2535 9.2 โปสเตอร “ที่ไหนบางตองปลอดบุหร่ีตามกฎหมาย” 9.3 ใบงานที่ 1 เร่ือง “เกมตอจิ๊กซอใหครบ จะพบเขตปลอดบุหร่ี” 9.4 ใบงานที่ 2 เร่ือง “การสํารวจสถานการณจริงในเขตปลอดบุหร่ี” 9.5 ใบงานที่ 3 เร่ือง “วิธีการปกปองคุมครองสขุภาพของผูไมสูบบุหร่ีอยางสรางสรรค” 9.6 กระดาษการดสี พรอมอุปกรณเครื่องเขียน 9.7 สมุดบันทึกของนักเรียน 9.8 ศูนยการเรียนรูกลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา/ศูนยรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี 9.9 เว็บไซต http:// www.ashthailand.or.th http:// www.smokefreezone.or.th

Page 205: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

199

10. การวัดและประเมินผล 10.1 วิธีการวัด

1) การประเมินกระบวนการปฏิบัติงานกลุม 2) การประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ” 10.2 เครื่องมือวัด 1) แบบประเมินกระบวนการปฏิบัติงานกลุม 2) แบบประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ” 10.3 เกณฑการวัด ทุกกิจกรรมถือเกณฑการผานรอยละ 50

11. กิจกรรมเสนอแนะ 11.1 ครูควรสงเสริมใหนักเรียนจัดทําปายนิเทศแนะนําสถานที่สาธารณะที่เปนเขตปลอดบุหร่ี เพื่อเผยแพรความรูแกนักเรียนทั่วไป 11.2 สงเสริมใหนักเรียนนําวิธีการปกปองคุมครองสุขภาพของผูไมสูบบุหร่ีอยางสรางสรรคไปใชในสถานการณจริงที่อยูใกลตัว เชน ในโรงเรียนและที่บาน เปนตน แลวนํามาวิเคราะหผล

ลงชื่อ........................................................................ (......................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

Page 206: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

200

บันทึกหลังสอน 1. ผลการจัดการเรียนรู

.........................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................... 2. ปญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3. วิธีการแกปญหา ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ความคิดเห็นของผูบริหารสถานศึกษา/ผูท่ีไดรับมอบหมาย ...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

ลงชื่อ........................................................................ (......................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

ลงชื่อ........................................................................ (......................................................................) ตําแหนง................................................................... ผูอํานวยการสถานศึกษา

Page 207: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

201

สื่อการเรียนรู พระราชบัญญัติคุมครองสุขภาพของผูไมสูบบุหรี่ พ.ศ.2535

และประกาศกระทรวงสาธารณสขุ

Page 208: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

202

สื่อการเรียนรู โปสเตอร “ที่ไหนบางตองปลอดบุหรี่ตามกฎหมาย”

Page 209: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

203

ใบงานที่ 1 เร่ือง “เกมตอจิ๊กซอใหครบ จะพบเขตปลอดบุหรี่”

จุดประสงคการเรียนรู 1. บอกสถานที่ ที่เปนเขตปลอดบุหร่ีตามกฎหมายไดอยางถูกตอง (ความรู)

2. ระบุโทษผูสูบบุหร่ี และสถานประกอบการที่ฝาฝนกฎหมาย พรอมเสนอแนะมาตรการ ปองกันแกไขได (ความรู ทักษะกระบวนการ และเจตคติ)

คําชี้แจง ใหนักเรียนศึกษาสื่อการเรียนรูโปสเตอร “ที่ไหนบางตองปลอดบุหร่ีตามกฎหมาย” ตามกระทรวงสาธารณสุข แลวนําความรูเร่ืองสถานที่สาธารณะที่เปนเขตปลอดบุหร่ีมาเลนเกม “ตอจิ๊กซอใหครบ จะพบเขตปลอดบุหร่ี” 1. อุปกรณการเลนเกม 1.1 บัตรสัญลักษณเขตปลอดบุหร่ี จํานวน 45 บัตร (45 สถานที่) จํานวน 5 ชุด

(จํานวนชุดเทากับจํานวนกลุมของนักเรียน) 1.2 กรอบเฟรมสําหรับตอจิ๊กซอของนักเรยีน จํานวน 5 กรอบ 1.3 กระดาษกาวสําหรับติดดานหลังบัตรสัญลักษณ 1.4 โปสเตอร “ที่ไหนบางตองปลอดบุหร่ีตามกฎหมาย” จํานวน 1 แผน 2. วิธีการเลนเกม 2.1 แบงนักเรยีนออกเปน 5 กลุม 2.2 แจกบัตรสัญลักษณเขตปลอดบุหร่ี และกรอบเฟรมสาํหรับตอจิ๊กซอ กลุมละ 1 ชุด 2.3 นักเรียนแตละกลุมชวยกันนําบัตรสัญลักษณเขตปลอดบุหร่ีมาตอจิ๊กซอลงบนกรอบ

เฟรมใหเต็มพื้นที่ และถูกตอง สอดคลองกับโปสเตอร โดยใชเวลาเพียงกลุมละไมเกิน 5 นาที

2.4 แตละกลุมนําเฟรมจิ๊กซอที่ตอเสร็จแลว มาตดิแสดงบนกระดานดํา และนําโปสเตอรมาติดเปรียบเทยีบ

2.5 ครูนํานักเรียนรวมกันตรวจสอบใหคะแนนแตละกลุมคะแนนเต็ม 50 คะแนน ตอจิ๊กซอ ไดถูกตองทั้ง 45 แหง ได 45 คะแนน และคะแนนกระบวนการกลุม 5 คะแนน โดยมีโปสเตอรเปนแบบเฉลย

2.6 นักเรียนรวมกันสรุปสถานที่สาธารณะที่เปนเขตปลอดบุหร่ี ทั้ง 45 แหง

Page 210: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

204

เกม “ตอจิ๊กซอใหครบ จะพบเขตปลอดบุหรี”่ กลุมที่ ........................ ช่ือกลุม ......................................................................................ช้ัน ......................

1. สถานที่สาธารณะที่เปนเขตปลอดบุหรี่ท้ังหมด

1 2 3 4 5 6 7

8 9 10 11 12 13 14

15 16 17 18 19 20 21

22 23 24 25

2. สถานที่สาธารณะที่ตองปลอดบุหรี่เฉพาะบริเวณท่ีมีระบบปรับอากาศ

26 27 28 29 30 31 32 3. สถานที่ ท่ีเปนเขตปลอดบุหรี่ท้ังหมด (ยกเวนบริเวณหองพัก

สวนตัว หรือหองทํางานสวนตัวของผูปฏิบัติงาน และบริเวณที่จัดไว เปน “เขตสูบบุหรี”่ เปนการเฉพาะ)

32 33 34 35 36 37 38

39 40 41 42 43 44 45

สรุปคะแนน

45

Page 211: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

205

จุดประสงคการเรียนรู 1. บอกชื่อสถานที่สาธารณะที่เปนเขตปลอดบุหร่ี (ความรู) 2. แสดงกระบวนการและวิธีการปกปองคุมครองสุขภาพของตนเองและผูอ่ืนใหปลอดจากควัน บุหร่ีอยางสรางสรรค (ทักษะกระบวนการ) 3. บอกความรูสึกและประโยชนคุณคาของการปกปองคุมครองสุขภาพของตนเอง และผูอ่ืนให ปลอดจากควันบุหร่ีอยางสรางสรรค (เจตคติ) คําชี้แจง 1. ใหสังเกตสถานการณที่มีผูสูบบุหร่ีในสถานที่สาธารณะที่เปนเขตปลอดบุหร่ี แลวบันทึกขอมูล

ดังนี้

สถานที่ปลอดบุหรี่ กิริยาทาทางการแสดงออกของ

ผูท่ีสูบบุหรี่

ปฏิกิริยาของคนรอบขาง

1. 2. 3.

ใบงานที่ 2 เร่ือง “การสํารวจสถานการณจริงในเขตปลอดบุหรี่”

ปฏิบัติงาน นอกเวลา เปน การบาน

Page 212: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

206

2. ระบุสถานการณใน 1 สัปดาห ที่นกัเรียนไดรับควนัพษิจากบหุร่ี

สถานที่ท่ีไดรับควันบุหรี ่ผลกระทบท่ีเกิดขึ้นกับนักเรียน

เม่ือไดรับควันบุหรี่ ปฏิกิริยาของนักเรียน

1. 2. 3.

หองพักครู

Page 213: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

207

ใบงานที่ 3 เร่ือง “วิธีการปกปองคุมครองสุขภาพของผูไมสูบบุหรี่อยางสรางสรรค”

ปฏิบัติงาน นอกเวลา เปน การบาน

จุดประสงคการเรียนรู

1. บอกชื่อสถานที่สาธารณะที่เปนเขตปลอดบุหร่ี (ความรู) 2. แสดงกระบวนการและวิธีการปกปองคุมครองสุขภาพของตนเองและผูอ่ืนใหปลอดจากควัน บุหร่ีอยางสรางสรรค (ทักษะกระบวนการ)

3. บอกความรูสึกและประโยชนคุณคาของการปกปองคุมครองสุขภาพของตนเอง และผูอ่ืนใหปลอดจากควันบุหร่ีอยางสรางสรรค (เจตคติ)

คําชี้แจง 1.นักเรียนแตละกลุมพิจารณาสถานการณตัวอยางที่มีผูสูบบุหร่ีในเขตปลอดบุหร่ี แลวชวยกันคิดวิธีการปกปองคุมครองสุขภาพของผูไมสูบบุหร่ีอยางสรางสรรค ในแตละสถานการณ

2. เขียนตอบลงในใบงาน และกระดาษการดสี 3. สงตัวแทนนําเสนอหนาชั้นเรียน โดยแสดงบทบาทสมมติประกอบการนําเสนอ

สถานการณท่ี 1 : ในโรงเรียน

นักเรียนนําสมุดแบบฝกหัดไปสงครูและอยากสอบถามขอสงสัยบางประการเกี่ยวกับแบบฝกหัดนั้น แตพบวามีครูคนหนึ่งนั่งสูบบุหร่ีอยูที่โตะทํางานใกลๆ กัน นักเรียนเหม็นควันบุหร่ี นักเรียนจะทําอยางไรเพื่อปกปองสุขภาพของตนเองอยางสรางสรรค

หองพักครู

Page 214: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

208

สถานการณท่ี 2 : ในบาน นักเรียนและนอง นั่งดูทีวีในบานหลังจากรับประทานอาหารเย็น ตอมาคุณพอมารวมดูทีวีและ

สูบบุหร่ีดวย นองมักขยี้ตาและไอ นักเรียนจะทําอยางไรเพื่อปกปองสุขภาพของตนเองและนองอยางสรางสรรค

สถานการณท่ี 3 : ในสวนสาธารณะ

นักเรียนและเพื่อนกําลังเดินเลนอยูในสวนสาธารณะปรากฏวามีคนสูบบุหร่ีเดินเลนอยูขางหนานักเรียนตองการอากาศบริสุทธิ์ในบริเวณนั้น นักเรียนจะทําอยางไร เพื่อปกปองสุขภาพของตนเองและผูอื่นอยางสรางสรรค สถานการณท่ี 4 : ในรานอาหาร

นักเรียนรวมงานเลี้ยงฉลองการรับปริญญาของญาติ ในรานอาหารที่มีเครื่องปรับอากาศแลวพบวาโตะขางเคียงมีผูสูบบุหร่ี นักเรียนรูสึกอึดอัดเมื่อไดรับควันบุหร่ี นักเรียนจะทําอยางไรเพื่อปกปองสุขภาพของตนเองและผูอ่ืนอยางสรางสรรค

Page 215: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

209

สถานการณท่ี 5 : บนรถโดยสารสาธารณะ

นักเรียนและเพื่อนเดินทางกลับเขากรุงเทพฯ โดยรถโดยสารสาธารณะมีผูสูบบุหร่ีในรถ ทําใหเพื่อนของนักเรียนรูสึกปวดศีรษะและอยากอาเจียน นักเรียนจะทําอยางไรเพื่อปกปองสุขภาพของตนเองและผูอ่ืนอยางสรางสรรค

สถานการณท่ี 6 : ในหางสรรพสินคา (หองสุขา)

นักเรียนกับเพื่อนไปซื้อของที่หางสรรพสินคาแหงหนึ่งและแวะเขาหองสุขาพบวา มีบุคคลหนึ่งกําลังสูบบุหร่ีอยูในหองสุขา นักเรียนจะทําอยางไรเพื่อปกปองสุขภาพของตนเองและผู อ่ืนอยางสรางสรรค

Page 216: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

210

บันทึกชวยจาํ

...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

Page 217: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

211

หนวยการเรียนรูท่ี 4 เรื่อง “ใชกลยุทธช้ันเซียน ชวยโรงเรียนใหปลอดบุหรี”่

Page 218: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

213

กลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยีนปลอดบุหร่ี (สาระการเรียนรูเพิ่มเติม) ชวงชั้นที่ 3 (ม.1- ม.3) หนวยการเรียนรูท่ี 4 เร่ือง “ใชกลยุทธชั้นเซียน ชวยโรงเรียนใหปลอดบุหรี่”

แผนการจัดการเรียนรูท่ี 13 เร่ือง “คบเพื่อนดี ปลอดบุหรี่ตลอดชีวิต” เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู

มาตรฐานหลัก พ 2.1 เขาใจและเห็นคุณคาของชีวิต ครอบครัว เพศศึกษา และมีทักษะในการดําเนินชีวิต มาตรฐานชวงชั้น ขอ 2

2. ผลการเรียนรูท่ีคาดหวัง รูเขาใจในคุณคาของความเปนเพื่อน เลือกคบเพื่อนที่ดี และนําเพื่อนไปในทางสรางสรรคได 3. จุดประสงคการเรียนรู 3.1 อธิบายเปรียบเทียบลักษณะของมิตรแทกับมิตรเทียมได (ความรู)

3.2 วิเคราะหวิธีการคบเพื่อนและการปฏิบัติตอเพื่อนดวยวิธีการที่สรางสรรคและเปนประโยชนได (ทักษะกระบวนการ)

3.3 บอกคุณคาของความเปนเพื่อนในการรวมพลังสรางสรรคโรงเรียนและสังคมได (เจตคติ) 4. สาระการเรียนรู 4.1 มิตรแท และมิตรเทียม 4.2 กิจกรรมในทางสรางสรรค 4.3 คุณคาของการคบเพื่อนคนดีเปนมิตร 5. สาระสําคัญ

วัยรุนเปนวัยที่รางกายและจิตใจกําลังเปลี่ยนแปลงและเจริญเติบโตอยางรวดเร็ว และเปนชวงที่ชีวิตที่ใหความสําคัญของคําวา “เพื่อน” มากที่สุด แตในโลกนี้มีทั้งเพื่อนดีหรือเพื่อนแทและเพื่อนที่ไมดีหรือเพื่อนเทียมควบคูกัน ขึ้นอยูที่วาเราจะรูจักคบเพื่อนแบบใด หากคบเพื่อนดีก็จะนําพาชีวิตของเราไปในทางที่ดีงามและเจริญกาวหนา และหากคบเพื่อนที่ไมดีก็จะนําพาชีวิตของเราไปสูความชั่วรายมีแตความหายนะ มีผลงานวิจัยพบวา เด็กวัยรุนมักจะติดบุหร่ีหรือส่ิงเสพติดอื่นๆ มาจากเพื่อนและ มีแนวโนมวาการสูบบุหร่ีของวัยรุนมีอัตราที่เพิ่มขึ้นสูงกวาคนในวัยอ่ืน ดังนั้นจึงควรเลือกคบเพื่อนดีเปนมิตร และรวมกิจกรรมในทางสรางสรรคก็จะชวยใหมีชีวิตที่ปลอดบุหร่ี และมีอนาคตที่สดใสอยางแนนอน 6. กระบวนการเรียนรู

ขั้นนํา 6.1 นักเรียนรวมกันดูส่ือภาพวาด เร่ือง “มือเพื่อน” และชวยกันวิพากษวิจารณภาพ

- นักเรียนเห็นอะไรในภาพนี้บาง - ภาพนี้ส่ือความหมายวาอยางไรและนักเรียนรูสึกอยางไรตอภาพนี้

Page 219: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

214

6.2 แบงนักเรียนออกเปนกลุมๆ ละประมาณ 5 - 7 คนรวมกันศึกษา ใบความรูท่ี 1 เร่ือง “มิตรแท - มิตรเทียม” แลวปฏิบัติตาม ใบงานที่ 1 เร่ือง “คบเพื่อนแบบใด จึงหางไกลบุหรี่” ซ่ึงมีกิจกรรมและระดมความคิดเห็นในประเด็นตอไปนี้

(1) เกมจับคูระหวางมิตรแทและมิตรเทียม 8 ประเภทกับสื่อการตูน 8 ภาพใหมีความหมาย ที่ตรงกัน

(2) อธิบายลักษณะของมิตรแทและมิตรเทียมในสภาพสังคมปจจุบันและตามประสบการณ ของนักเรียน

(3) นักเรียนคิดวา ควรจะเลือกคบเพื่อนแบบใดจึงไมนําพาไปสูความเสื่อม เชน สูบบุหร่ี เปนตน พรอมอธิบายวิธีคบเพื่อนและการรักษาสัมพนัธภาพที่ดีไว

(4) นักเรียนจะมีวิธีปฏิบัติตอเพื่อนที่ไมดีอยางไร จึงจะเปนวิธีการที่สรางสรรคและเปนประโยชนตอ ทุกฝาย

6.3 สุมกลุมนักเรียนออกมานําเสนอผลการระดมความคิดเห็นประมาณ 2 กลุม โดยครูใหขอเสนอแนะเพิ่มเติมและนักเรียนจดบันทึกลงในสมุด

ขั้นสรุป 6.4 นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นถึงประโยชนและคุณคาของความเปนเพื่อนในการรวม

พลังสรางสรรคโรงเรียนและสังคม 7. วิธีการจัดการเรียนรู 7.1 การเรียนรูที่เนนทักษะกระบวนการคิด 7.2 การเรียนรูที่ใชกระบวนการกลุม 8. การบูรณาการ 8.1 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (มิตรแท – มิตรเทียม) 9. สื่อ/แหลงการเรียนรู 9.1 ส่ือภาพวาด เร่ือง “มือเพื่อน” 9.2 ใบความรูที่ 1 เร่ือง “มิตรแท – มิตรเทียม” 9.3 ใบงานที่ 1 เร่ือง “คบเพื่อนแบบใด จึงหางไกลบุหร่ี” 9.4 ศูนยการเรียนรูกลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา/ศูนยรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี

9.5 เว็บไซต http:// www.ashthailand.or.th http:// www.smokefreezone.or.th 10. การวัดและประเมินผล 10.1 วิธีการวัด

1) ประเมินแบงกลุมระดมความคิดเห็น 2) ประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ”

Page 220: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

215

10.2 เครื่องมือวัด 1) แบบประเมินแบงกลุมระดมความคิดเห็น 2) แบบประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนกัปราชญ” 10.3 เกณฑการวัด ทุกกิจกรรมถือเกณฑการผานรอยละ 50

11. กิจกรรมเสนอแนะ 11.1 ควรสงเสริมใหนักเรียนให “คุณคาแหงความเปนเพื่อน” ปฏิบัติกิจกรรมรวมกันในลักษณะกัลยาณมิตร โดยเปลี่ยนมิตรเทียมใหเปนมิตรแท ครูติดตามพัฒนาการของนักเรียนและใหคะแนน จิตพิสัยหรือประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค 11.2 การปฏิบัติใบงานที่ 2 เร่ือง “ชวนเพื่อนทําความดี เพื่อโรงเรียนปลอดบุหร่ี” เปนการระดมความคิดเห็นดวยแผนภูมิ “กางปลา” ซ่ึงจะเปนรากฐานใหนักเรียนแตละกลุมจัดกิจกรรมรณรงค ไมสูบบุหร่ีตอไป

ลงชื่อ........................................................................ (.....................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

Page 221: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

216

บันทึกหลังสอน 1. ผลการจัดการเรียนรู ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 2. ปญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3. วิธีการแกปญหา ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ความคิดเห็นของผูบริหารสถานศึกษา/ผูท่ีไดรับมอบหมาย .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................

ลงชื่อ........................................................................ (.....................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

ลงชื่อ........................................................................ (.....................................................................) ตําแหนง................................................................... ผูอํานวยการสถานศึกษา

Page 222: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

217

ภาพวาดสีโปสเตอร เร่ือง “มือเพื่อน” ผลงานของ นางสาวอุทัยทิพย สังขวิศิษฐ ช้ัน ม.6

โรงเรียนรัตนโกสินทรสมโภชน บางขุนเทียน

ประเด็นคําถาม 1. นักเรียนเหน็อะไรในภาพนี้บาง 2. ภาพนี้ส่ือความหมายวาอยางไร และนักเรียนรูสึกอยางไรตอภาพนี ้3. นักเรียนควรคบเพื่อนแบบไหน เพราะเหตุใด

สื่อการเรียนรูสื่อภาพวาด เร่ือง “มือเพ่ือน”

Page 223: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

218

จุดประสงคการเรียนรู 1. อธิบายเปรียบเทียบลักษณะของมิตรแทกับมิตรเทียมได (ความรู) 2. รวมกลุมกับเพื่อนปฏิบัติกิจกรรมในทางสรางสรรคได (ทักษะกระบวนการ) 3. บอกคุณคาของความเปนเพื่อนในการรวมพลังสรางสรรคโรงเรียนและสังคมได (เจตคติ)

มิตรแท – มิตรเทียม พระพุทธเจาทรงเห็นความสําคัญของการคบเพื่อนวา เปนตนเหตุของ “ความสําเร็จ” หรือ “ความลมเหลว” ในชีวิตได จึงทรงสั่งสอนไวในธรรมะเรื่อง สุหทมิตร ดังนี้ มิตรแท มี 4 ประเภทไดแก 1. มิตรอุปการะ - เมื่อเพื่อนประมาท ชวยรักษาเพื่อน - เมื่อเพื่อนประมาท ชวยรักษาทรัพยสินของเพื่อน - เมื่อมีภัย เปนที่พึ่งพํานักได - เมื่อมีกิจจําเปน ชวยออกทรัพยใหเกินกวาที่ออกปาก 2. มิตรรวมสุขรวมทุกข - บอกความลับแกเพื่อน - ปดความลับของเพื่อน - เมื่อมีภัยอันตรายไมละทิ้ง - แมชีวิตก็สละใหได 3. มิตรแนะประโยชน - จะทําชั่วเสียหาย คอยหามปรามไว - คอยแนะนําใหตั้งอยูในความดี - ใหไดฟงไดรูส่ิงที่ไมเคยไดรูไดฟง - บอกทางสุข ทางสวรรคให 4. มิตรมีน้ําใจ มีความรักใครเอ็นดู - เมื่อเพื่อนมีทุกข พลอยทุกขไมสบายใจดวย - เมื่อเพื่อนมีสุข พลอยมีสุขแชมชื่นยินดีดวย - เมื่อเขาติเตียนเพื่อน ชวยยับยั้งแกให - เมื่อเขาสรรเสริญเพื่อน ชวยพูดเสริมสนับสนุน

ใบความรูที่ 1 เร่ือง “มิตรแท – มิตรเทียม”

Page 224: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

219

มิตรเทียม มี 4 ประเภทไดแก 1. คนปอกลอก - คือคนที่เอาของเพื่อนไปฝายเดียว - คือเอาแตไดฝายเดียว เห็นแกตัว เห็นแกได - ยอมเสียนอย โดยหวังจะเอาใหมาก - เมื่อตัวมีภัยจึงจะมาชวยทํากิจกรรมของเพื่อน - คบเพื่อนเพราะเห็นแกประโยชนสวนตน - อิจฉาเพื่อน แทงขางหลัง - อยูดวยแลวอึดอัดไมสบายใจ 2. คนดีแตพูด - ดีแตยกสิ่งของที่หมดแลวมาปราศรัย - ดีแตอางของที่ยังไมมีมาปราศรัย - สงเคราะหเพื่อนดวยส่ิงที่หาประโยชนมิได

- เมื่อเพื่อนมีกิจตองการความชวยเหลืออางแตเหตุขัดของ แตจะขอความชวยเหลือฝายเดียว ไมรูจักชวยเหลือตอบแทน

- ปากโปง ชอบใสความคนอื่น 3. คนหัวประจบ - เพื่อนจะทําความชั่วก็เออออดวย - เพื่อนจะทําความดีก็เออออดวย - ตอหนาสรรเสริญ ลับหลังนินทา 4. คนชวนฉิบหาย - คอยเปนเพื่อนดื่มน้ําเมา - คอยเปนเพื่อนเที่ยวกลางคืน - คอยเปนเพื่อนดูการเลน - คอยเปนเพื่อนเลนการพนัน - ชักจูงใหทําแตส่ิงเลวๆ

**ท่ีมา อาทร จันทรวิมล. 108 วิธี มอบน้ําใจใหแกกัน. กรุงเทพฯ : วัฒนาพานิช, 2544, 88 หนา

Page 225: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

220

จุดประสงคการเรียนรู 1. อธิบายเปรียบเทียบลักษณะของมิตรแทกับมิตรเทียมได (ความรู) 2. รวมกลุมกับเพื่อนปฏิบัติกิจกรรมในทางสรางสรรคได (ทักษะกระบวนการ) 3. บอกคุณคาของความเปนเพื่อนในการรวมพลังสรางสรรคโรงเรียนและสังคมได (เจตคติ) คําชี้แจง เมื่อนักเรียนศึกษาใบความรูที่ 1 เร่ือง “มิตรแท – มิตรเทียม” แลวเร่ิมตนทํากิจกรรม และระดม

ความคิดเห็น ดังนี้ 1. เกมจับคู “มิตรแท – มิตรเทียม” ลากเสนเชื่อมโยงบตัรคํา มติรแท-มิตรเทยีม 8 ประเภทกับรูปภาพการตนูที่มคีวามหมายถกูตองตรงกนั

มิตรแท 4 ประเภท

ใบงานที่ 1 เร่ือง “คบเพื่อนแบบใด จึงหางไกลบุหรี่”

1. มิตรอุปการะ

2. มิตรรวมทุกขรวมสขุ

3. มิตรแนะนําประโยชน

4. มิตรมีน้ําใจ มีความรักใครเอ็นดู

Page 226: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

221

มิตรเทียม 4 ประเภท

1. คนปอกลอก

2. คนดีแตพูด

3. คนหัวประจบ

4. คนชวนฉบิหาย

Page 227: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

222

1. เกมจับคู “มิตรแท – มิตรเทียม”

ลากเสนเชื่อมโยงบัตรคํา มิตรแท-มิตรเทียม 8 ประเภทกับรูปภาพการตูนที่มีความหมายถูกตองตรงกัน มิตรแท 4 ประเภท

แบบเฉลย ใบงานที่ 1 เร่ือง “คบเพื่อนแบบใด จึงหางไกลบุหรี่”

1. มิตรอุปการะ

2. มิตรรวมทุกขรวมสขุ

3. มิตรแนะนําประโยชน

4. มิตรมีน้ําใจมีความรักใครเอ็นดู

Page 228: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

223

มิตรเทียม 4 ประเภท

1. คนปอกลอก

2. คนดีแตพูด

3. คนหัวประจบ

4. คนชวนฉบิหาย

Page 229: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

224

2. อธิบายลักษณะของมิตรแท และมิตรเทยีม ในสภาพสงัคมปจจุบัน และตามประสบการณของนกัเรียน

มิตรแท มิตรเทียม

1. มิตรอุปการะ 1. คนปอกลอก ..................................................................... .................................................................... ..................................................................... .................................................................... ..................................................................... .................................................................... ..................................................................... .................................................................... ..................................................................... .................................................................... 2. มิตรรวมทุกขรวมสุข 2. คนดีแตพูด ..................................................................... .................................................................... ..................................................................... .................................................................... ..................................................................... .................................................................... ..................................................................... .................................................................... ..................................................................... .................................................................... 3. มิตรแนะประโยชน 3. คนหัวประจบ ..................................................................... .................................................................... ..................................................................... .................................................................... ..................................................................... .................................................................... ..................................................................... .................................................................... ..................................................................... .................................................................... 4. มิตรมีน้ําใจ มีความรักใครเอ็นดู 4. คนชวนฉิบหาย ..................................................................... .................................................................... ..................................................................... .................................................................... ..................................................................... .................................................................... ..................................................................... .................................................................... ..................................................................... ....................................................................

Page 230: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

225

3. นักเรียนคิดวาควรจะเลือกคบเพื่อนแบบใดจึงจะไมนําพาไปสูความเสื่อม เชน สูบบุหร่ี เปนตน พรอมอธิบายวิธีการคบเพื่อนและการรักษาสัมพันธภาพกับเพื่อนไว

เพื่อนท่ีควรคบ 1.......................................................................................................................................... 2.......................................................................................................................................... 3.......................................................................................................................................... 4.......................................................................................................................................... วิธีการคบเพื่อน 1.......................................................................................................................................... 2.......................................................................................................................................... 3.......................................................................................................................................... 4.......................................................................................................................................... การรักษาสัมพนัธภาพกับเพือ่นไว 1.......................................................................................................................................... 2.......................................................................................................................................... 3.......................................................................................................................................... 4..........................................................................................................................................

4. นักเรียนจะมีวิธีปฏิบัติตอเพื่อนที่ไมดีอยางไร จึงจะเปนวิธีการท่ีสรางสรรค และเปนประโยชน ตอทุกฝาย 1.......................................................................................................................................... 2.......................................................................................................................................... 3.......................................................................................................................................... 4..........................................................................................................................................

Page 231: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

226

กลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยีนปลอดบุหร่ี (สาระการเรียนรูเพิ่มเติม) ชวงชั้นที่ 3 (ม.1- ม.3) หนวยการเรียนรูท่ี 4 เร่ือง “ใชกลยุทธชั้นเซียน ชวยโรงเรียนใหปลอดบุหรี่”

แผนการจัดการเรียนรูท่ี 14 เร่ือง “เลิกสูบบุหรี่อยางไร จึงชนะใจอยางยั่งยนื” เวลา 2 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู มาตรฐานหลัก พ 4.1 เห็นคุณคาและมีทักษะในการสรางเสริมสุขภาพ การดํารงสุขภาพ การปองกันโรค และการสรางเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ มาตรฐานชวงชั้น ขอ 1- 3

มาตรฐานหลัก พ 5.1 ปองกันและหลีกเลี่ยงปจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงตอสุขภาพ อุบัติเหต ุการใชยา สารเสพติด และความรุนแรง

มาตรฐานชวงชั้น ขอ 2, 3 และ 6 2. ผลการเรียนรูท่ีคาดหวัง

รูและเขาใจวิธีการเลิกสบูบุหร่ี สามารถนําไปใชกับตนเองและชวยเหลือผูอ่ืนในการเลิกสูบบุหร่ีได 3. จุดประสงคการเรียนรู

3.1 บอกประโยชนของการเลิกสูบบุหร่ีได (ความรู - เจตคติ) 3.2 ใชทักษะกระบวนการกลุมวิเคราะหปญหาอุปสรรคในการเลิกสูบบุหร่ีได (ทักษะ

กระบวนการ) 3.3 ใชทักษะกระบวนการสํารวจและวิเคราะหตัวกระตุนที่ทําใหอยากสูบบุหร่ีได (ทักษะ

กระบวนการ) 3.4 บอกเทคนิคและวิธีการเลิกสูบบุหร่ีได (ความรู - ทักษะกระบวนการ)

4. สาระการเรียนรู 4.1 ประโยชนของการเลิกสูบบุหร่ี 4.2 ปญหาและอุปสรรคในการเลิกสูบบุหร่ี 4.2 ตัวกระตุนที่มีอิทธิพลใหคนติดบุหร่ี 4.3 เทคนิคและวิธีการเลิกสูบบุหร่ี

5. สาระสําคัญ การติดบุหร่ีเปนกลไกที่ซับซอนของจิตใจ พฤติกรรม และความเคยชิน โดยมีนิโคตินเปน

ตัวกระตุนสารสื่อประสาทในสมอง ทําใหผูสูบรูสึกเปนสุข คลายเครียด ทําใหเสพติดและตองสูบบุหร่ีเพื่อใหไดนิโคตินอยูเร่ือยๆ ส่ิงสําคัญที่สุดในการเลิกสูบบุหร่ีคือ จะตองมีความตั้งใจจริงที่จะเลิก แกไข

Page 232: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

227

พฤติกรรมความเคยชินที่ทําใหอยากสูบบุหร่ี หลีกเล่ียงตัวกระตุน เอาชนะอุปสรรคตางๆ ดวยกําลังใจที่เขมแข็งโดยอาศัยความเขาใจและแรงสนับสนุนจากครอบครัว เพื่อน และบุคคลที่ใกลชิด 6. กระบวนการเรียนรู ชั่วโมงที่ 1

ขั้นนํา 6.1 ครูตั้งคําถามชวน คิดวา “ถาคนคนหนึ่งสามารถเลิกสูบบุหร่ีได เขาจะไดอะไรจากการเลิก สูบบุหร่ี” นักเรียนแขงขันกันคิดถึงประโยชนจากการเลิกสูบบุหร่ีบันทึกลงในกระดาษใหมากที่สุด ในเวลา 2 นาที ใหนักเรียนที่คิดไดมากที่สุดออกมาอานคําตอบ ครูกลาวคําชมเชย มอบรางวัล และใหนักเรียนบอกคําตอบเพิ่มเติมที่ไมซํ้ากับที่เพื่อนอาน ขั้นสอน 6.2 ครูตั้งคําถามตอไปวา การเลิกสูบบุหร่ีเปนสิ่งที่ทาทาย มีคนจํานวนมากที่เลิกสูบบุหร่ี ไมสําเร็จ ตองกลับมาสูบอีก แบงนักเรียนเปนกลุมๆ ละ 5 - 7 คน แลกเปลี่ยนประสบการณถึงปญหาอุปสรรคที่ทําใหคนที่ตองการเลิกสูบบุหร่ีไมสามารถเลิกสูบบุหร่ีไดสําเร็จ บันทึกลงในใบงานที่ 1 เร่ือง “ปญหาอุปสรรคในการเลิกสูบบุหรี่” ตัวแทนกลุมออกมารายงานหนาชั้น 6 .3 ครูอธิบาย ถึงกลไกและองคประกอบของการติดบุห ร่ี โดยแจก ใบความรู ท่ี 1 เร่ือง “องคประกอบของการติดบุหรี่” และใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหวิจารณเปรียบเทียบกับคําตอบ ของนักเรียนในใบงานที่ 1 6.4 ครูอธิบายวา การที่จะเลิกสูบบุหร่ีส่ิงสําคัญที่สุดคือ การหยุดกระบวนการที่ทําใหเกิดอาการอยากสูบบุหร่ีมีวิธีงายๆ ที่จะตองทําคือ

1. รูจัก/คนหาตัวกระตุนที่ทําใหอยากสูบบุหร่ี 2. หลีกเลี่ยงการเผชิญกับตัวกระตุนนั้น 3. รูจักวิธีการจัดการกับตัวกระตุน

6.5 ครูใหการบานโดยใหนักเรียนแตละคนไปสัมภาษณคนที่สูบบุหร่ีจํานวน 10 คน ซ่ึงมีอายุระหวาง 12 - 19 ป โดยใชใบงานที่ 2 เร่ือง “ตัวกระตุนภายนอก” และ ใบงานที่ 3 เร่ือง “ตัวกระตุนภายใน” นํามาสรุปเปนผลงานกลุมในการเรียนครั้งตอไป

ชั่วโมงที่ 2 6.6 นักเรียนรวมกลุมสมาชิก 5 - 7 คน นําผลการสํารวจผูสูบบุหร่ีมาประมวลผลเรื่อง ตัวกระตุน

ภายนอก และตัวกระตุนภายในที่มีอิทธิพลทําใหคนที่พยายามเลิกสูบบุหร่ีตองหันกลับมาสูบอีก ตัวแทนกลุมออกมารายงานหนาชั้น นักเรียนรวมกันอภิปรายเรื่องอิทธิพลของตัวกระตุนเหลานี้ ทําอยางไรเราจึงจะเอาชนะและหลีกเลี่ยงตัวกระตุนเหลานี้ได โดยครูใหขอเสนอแนะเพิ่มเติม

Page 233: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

228

6.7 นักเรียนรวมกลุมศึกษาใบความรูท่ี 2 เร่ือง “วิธีการเลิกสูบบุหรี่ดวยตนเอง” และปฏิบัติตามใบงานที่ 4 เร่ือง “ทําอยางไรจึงจะเลิกสูบบุหรี่ได” โดยรวมกันคิดวิเคราะห ตอบปญหาในประเด็นตอไปนี้

- วิธีการจัดการเอาชนะตัวกระตุน - เลือกวิธีการหยุดความคิดเสพติด เพื่อพิชิตบุหร่ี - บอกวิธีการปฏิเสธเมื่อมีผูยื่นบุหร่ีให 6.8 ตัวแทนกลุมรายงานหนาชั้น อภิปรายซักถามโดยครูใหขอเสนอแนะเพิ่มเติม ขั้นสรุป 6.9 ครูและนักเรียนรวมกันสรุปบทเรียนในประเด็นตางๆ ดังนี้ - อะไรเปนปจจัยสําคัญที่ทําใหเลิกสูบบุหร่ีได - เราจะมีสวนสําคัญในการชวยใหคนใกลชิดเลิกสูบบุหร่ีไดอยางไร

7. วิธีการจัดการเรียนรู 7.1 การเรียนรูที่เนนทักษะกระบวนการคิด 7.2 การเรียนรูโดยใชกระบวนการกลุม 7.3 การสํารวจขอมูลภาคสนาม

8. การบูรณาการ 8.1 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูศิลปะ (การตูน “เกมซอนบุหร่ี”) 8.2 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูกลุมสาระวิทยาศาสตร (องคประกอบของการติดบุหร่ี)

9. สื่อ/แหลงการเรียนรู 9.1 ส่ือภาพการตูน “เกมซอนบุหร่ี”

9.2 ใบงานที่ 1 เร่ือง “ปญหาอุปสรรคในการเลิกสูบบุหร่ี” 9.3 ใบความรูที่ 1 เร่ือง “องคประกอบของการติดบุหร่ี” 9.4 ใบงานที่ 2 เร่ือง “ตัวกระตุนภายนอก” 9.5 ใบงานที่ 3 เร่ือง “ตัวกระตุนภายใน” 9.6 ใบความรูที่ 2 เร่ือง “วิธีการเลิกสูบบุหร่ีดวยตนเอง” 9.7 ใบงานที่ 4 เร่ือง “ทําอยางไรจึงจะเลิกสูบบุหร่ีได” 9.8 ศูนยการเรียนรูกลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา/ศูนยรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี 9.9 แหลงสํารวจขอมูลภาคสนามในชุมชน 9.10 เว็บไซต http:// www.ashthailand.or.th

http:// www.smokefreezone.or.th

Page 234: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

229

10. การวัดและประเมินผล

10.1 วิธีการวัด 1) ประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ” 2) ประเมินการแบงกลุมระดมความคิด 10.2 เครื่องมือวัด 1) แบบประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ” 2) แบบประเมินการแบงกลุมระดมความคิด 10.3 เกณฑการวัด ทุกกิจกรรม ถือเกณฑการผานรอยละ 50

11. กิจกรรมเสนอแนะ จัดกิจกรรมบําบัด (Matrix) กลุมยอยสําหรับนักเรียนที่สมัครใจเลิกสูบบุหร่ีสัปดาหละ 1 คร้ังๆ

ละ 1 ช่ัวโมง เพื่อฝกเทคนิคการควบคุมตนเอง ใหกําลังใจ และติดตามพฤติกรรมการเลิกสูบบุหร่ีโดยนําเอาครอบครัวเขามามีสวนรวมในการชวยเหลือนักเรียน

ลงชื่อ........................................................................ (.....................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

Page 235: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

230

บันทึกหลังสอน 1. ผลการจัดการเรียนรู

.........................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................... 2. ปญหาและอุปสรรค .................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3. วิธีการแกปญหา ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ความคิดเห็นของผูบริหารสถานศึกษา/ผูท่ีไดรับมอบหมาย ...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

ลงชื่อ........................................................................ (...................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

ลงชื่อ........................................................................ (....................................................................) ตําแหนง................................................................... ผูอํานวยการสถานศึกษา

Page 236: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

231

จุดประสงคการเรียนรู ใชทักษะกระบวนการกลุมวิเคราะหปญหาอปุสรรคในการเลิกสูบบุหร่ีได (ทักษะกระบวนการ) คําชี้แจง แบงนักเรียนเปนกลุมๆ ละ 5 - 7 คน รวมกันแสดงความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนประสบการณที่

พบเห็นถึงปญหาอุปสรรคในการเลิกสูบบุหร่ี แลวบันทึกผลลงในแผนภาพความคิดบนพื้นที่วางขางลางนี้

ใบงานที่ 1 เร่ือง “ปญหาอุปสรรคในการเลิกสูบบุหรี่”

กลุมที่..........................................................................

สมาชิกกลุม 1. ...................................................................................... เลขที่ ............................... 2. ...................................................................................... เลขที่ ............................... 3. ...................................................................................... เลขที่ ................................ 4. ...................................................................................... เลขที่ ................................ 5. ...................................................................................... เลขที่ ................................ 6. ...................................................................................... เลขที่ ................................ 7. ...................................................................................... เลขที่ ................................

Page 237: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

232

จุดประสงคการเรียนรู ใชทักษะกระบวนการกลุมวิเคราะหปญหาอปุสรรคในการเลิกสูบบุหร่ีได (ทักษะกระบวนการ)

การติดบุหรี่เกิดจากองคประกอบ 3 ประการ คือ 1. สารเคมีในรางกาย โดยพบวา นิโคตินซึ่งเปนสารกระตุนจะออกฤทธิ์ตอเซลสมองชวยใหสมองหลั่งสารเคมีชนิดหนึ่งที่ทําใหรูสึกสบาย ปลอดโปรง หากหยุดสูบจะทําใหการทํางานของสมองเหนื่อยลาลง ผูสูบจะเกิดความตองการสูบอีกเพื่อใหรางกายสดชื่นขึ้นและจะตองเพิ่มขนาดมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อใหไดความรูสึกสดชื่นเหมือนกับที่เคยรูสึก 2. นิสัยความเคยชิน เ ราจะพบวาคนสวนใหญจะเคยชินกับสิ่งที่เคยทํา เชน คนติดบุหร่ีมักจะหยิบบุหร่ีมาสูบในเวลาเดิมๆ ที่เคยสูบหรือเมื่อพบเพื่อนที่สูบก็จะตองหยิบขึ้นมาสูบ 3. อารมณ/ปญหาทางจิตใจ เราจะพบวาปญหาอารมณและจิตใจ มีสวนสําคัญใหคนอยากสูบบุหร่ี

ใบความรูที่ 1 เร่ือง “องคประกอบของการติดบุหรี่”

นิสัย ความเคยชิน

สารเคมีในรางกาย อารมณ / ปญหาทางจิตใจ องคประกอบของการติดบุหรี ่

Page 238: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

233

จุดประสงคการเรียนรู ใชทักษะกระบวนการสํารวจและวิเคราะหตัวกระตุนที่ทําใหอยากสูบบุหร่ีได

(ทักษะกระบวนการ)

คําชี้แจง ตัวกระตุนภายนอก คือ ภาวะสิ่งแวดลอมท่ีอยูรอบตัวบุคคลซ่ึงมีอิทธิพลในการกระตุน

ความอยากสูบบุหรี่ไดแก คน สถานที่ สิ่งของ เหตุการณ หรือสถานการณตางๆ ใหนักเรียนไปสํารวจผูที่สูบบุหร่ี หรือเคยสูบบุหร่ี จํานวน 10 คนวาตัวกระตุนภายนอกใด มีผลตอผูสูบบุหร่ีมากที่สุด โดยใสเคร่ืองหมาย ลงไปในชองท่ีตองการ และสรุปผลรวบรวมสงครู

ตัวกระตุนภายนอกตอไปนี้มีผลตอคุณหรือผูสูบบุหรี่เพียงใด

ตัวกระตุนภายนอก มากที่สุด มาก ปานกลาง นอย ไมมีผล

1. อยูบานคนเดียว 2. อยูบานกับเพื่อน 3. ที่บานเพื่อน 4. งานเลี้ยงสังสรรค 5. เชียรกฬีา 6. ดื่มเครื่องดืม่ที่มีแอลกอฮอล 7. ดูภาพยนตร 8. อยูที่ผับ / เธค 9. ชมคอนเสิรต 10. อยูที่สวนสาธารณะ 11. มีนัดกับเพือ่นตางเพศ 12. เห็นปายขอความ “ขายบหุร่ี” 13. ไดกล่ินบหุร่ี 14. เห็นคนสูบบุหร่ี 15. หองน้ําโรงเรียน 16. เห็นภาพบหุร่ี 17. เห็นอุปกรณที่ใชในการสูบบุหร่ี 18. การไดรวมกลุมกับเพื่อนที่สูบบุหร่ี 19. เห็นภาพคนสูบบุหร่ีในภาพยนตร ละครและสื่อตาง ๆ

20. อ่ืนๆระบุ……………………

ใบงานที่ 2 เร่ือง “ตัวกระตุนภายนอก หลอกใหหลวมตัว”

Page 239: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

234

แบบสรุปผลการสํารวจตัวกระตุนภายนอก

ผูสํารวจ……………………………………………………………….………. ช้ัน……………….. วันที…่………………………………..……………..

ชื่อ - สกุล ผูรับการสํารวจ

อาย ุตัวกระตุน

ภายนอกอันดับ 1 (3 คะแนน)

ตัวกระตุนภายนอกอันดับ 2

(2 คะแนน)

ตัวกระตุนภายนอกอันดับ 3

(1 คะแนน) หมายเหตุ

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 สรุปตัวกระตุนภายนอกที่ไดคะแนนสูงสุด 3 อันดับคอื 1………………………………………………………………………….. 2………………………………………………………………………….. 3………………………………………………………………………….. จากการสัมภาษณของสมาชกิกลุม สรุปตัวกระตุนภายนอกที่ไดคะแนนสูงสุด 3 อันดับคอื 1………………………………………………………………………….. 2………………………………………………………………………….. 3…………………………………………………………………………..

“หลีกเลี่ยงแรงกระตุน วยัรุนปลอดบุหรี”่

Page 240: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

235

จุดประสงคการเรียนรู ใชทักษะกระบวนการสํารวจและวิเคราะหตัวกระตุนที่ทําใหอยากสูบบุหร่ีได (ทักษะกระบวนการ)

คําชี้แจง ตัวกระตุนภายใน คือ ภาวะตางๆ ทางจิตใจ ซ่ึงกระตุนทําใหเกิดความอยากสูบบุหรี่ ใหนักเรียน

ไปสํารวจผูที่สูบบุหร่ี หรือเคยสูบบุหร่ีจํานวน 10 คน วาตัวกระตุนภายในใด มีผลตอผูสูบมากที่สุดโดยใสเคร่ืองหมาย ลงไปในชองท่ีตองการ และสรุปผลรวบรวมสงครู

ตัวกระตุนภายใน ตอไปนี้มีผลตอคุณเพียงใด

ตัวกระตุนภายใน มากที่สุด มาก ปานกลาง นอย ไมมีผล

1. ความสุข/สนุก 2. อารมณใคร 3. ถูกทอดทิ้ง/โดดเดีย่ว 4. เครียด 5. โกรธ 6. คับของใจ/รูสึกถูกกดดนั/ถูกบีบคั้น 7. อกหัก 8. วาเหว/เหงา 9. อยาก/เคยชนิกับการสูบบหุร่ี 10. เศรา 11. อยากลอง 12. อยากผอนคลาย 13. อยากเอาชนะ/อยากประชดประชัน

14. อยากเดน/อยากใหคนสนใจ 15. ตื่นเตน/ประหมา 16. ขาดความเชื่อมั่น/อารมณไมมั่นคง 17. ความเบื่อ 18. นอยใจ/เสยีใจ 19. อ่ืน ๆ ระบุ ……………………..

ใบงานที่ 3 เร่ือง “ตัวกระตุนภายใน อยูที่ใจของเรา”

Page 241: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

236

แบบสรุปผลการสํารวจตัวกระตุนภายใน ผูสํารวจ……………………………………………ช้ัน………

วันที…่……………………………..………………..

ชื่อ - สกุล ผูรับการสํารวจ

อาย ุตัวกระตุน

ภายในอันดับ 1 (3 คะแนน)

ตัวกระตุนภายในอันดับ 2

(2 คะแนน)

ตัวกระตุนภายในอันดับ 3

(1 คะแนน) หมายเหตุ

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10

สรุปตัวกระตุนภายในทีไ่ดคะแนนสูงสุด 3 อันดับคือ 1………………………………………………………………………….. 2………………………………………………………………………….. 3…………………………………………………………………………..

จากการรวบรวมขอมูลของสมาชิกทั้งกลุม สรุปตัวกระตุนภายในทีไ่ดคะแนนสูงสุด 3 อันดับคือ 1………………………………………………………………………….. 2………………………………………………………………………….. 3…………………………………………………………………………..

“กระตุนอยางไร ก็แพใจของเรา”

ปฏิบัติงาน นอกสถานที่ เปนการบาน

Page 242: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

237

จุดประสงคการเรียนรู บอกเทคนิคและวิธีการเลิกสูบบุหร่ีได (ความรู - ทักษะกระบวนการ) วิธีการเลิกสูบบุหรี่ดวยตนเอง 1. ปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจําวันใหมงดดื่มกาแฟ/สุราชั่วคราว งดอาหารรสจัด หลีกเลี่ยงการอยูในสถานที่ที่ทําใหคุณอยากสูบบุหร่ี 2. รูจักตัวกระตุนที่ทําใหอยากสูบบุหร่ี หลีกเลี่ยงที่จะเผชิญกับตัวกระตุนเหลานั้น 3. หาบุคคลที่เปนคูสัญญาที่จะใหกําลังใจคุณในการเลิกสูบบุหร่ี 4. ใหรางวัลตนเองในชวงเวลาที่เลิกสูบบุหร่ีได 1 สัปดาห 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน 1 ป 5. เทคนิคการหยุดความคิดเสพติด เพื่อพิชิตบุหร่ี เมื่อคุณรูสึกอยากสูบบุหร่ี ตองรีบหยุดความคิดภายใน 60 วินาที โดยเลือกวิธีการตอไปนี้

1. ฝกสมาธิใหอยูที่ลมหายใจเขาออก 2. สรางจินตนาการเพื่อหาสิ่งยึดเหนี่ยว เชน นึกถึงหนาคนที่รูสึกผูกพัน 3. หาหนังสติ๊กรัดบริเวณขอมือ ดีดหนังสติ๊กเมื่อรูสึกอยากสูบบุหร่ี 4. ลางหนา/อาบน้ํา/นอนแชในน้ําอุนหรือน้ําเย็น 5. ออกไปเดินเลนขางนอก/ออกกําลังกาย/เลนกีฬา/หากิจกรรมที่ชอบทํา 6. โทรศัพทหาคนที่รูใจ/หาเพื่อนคุย/ระบายความรูสึกกับคนที่ไวใจ 7. ดื่มน้ํามากๆ 8. คุย/แลกเปลี่ยนประสบการณกับคนที่เลิกสูบบุหร่ีได

ใบความรูที่ 2 เร่ือง “วิธีการเลิกสูบบุหรี่ดวยตนเอง”

Page 243: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

238

6. วิธีปฏิเสธการสูบบุหร่ี การปฏิเสธเปนสิทธิสวนบุคคล เมื่อคุณตระหนักวาถูกชวนใหกระทําในสิ่งที่คาดวาจะเกิดผลเสียหรือผลกระทบในดานลบตามมา

1) อยาเกรงใจถามีใครยื่นบุหร่ีใหแลวไมรับคุณมีสิทธิ์ปฏิเสธ 2) ปฏิเสธอยางจริงจังทั้งทาทาง คําพูด และน้ําเสียงเพื่อแสดงความตั้งใจอยางชัดเจนที่

จะขอปฏิเสธ ถามีใครคะยั้นคะยอใหยืนยันความตั้งใจจริง “ผมเลิกสูบบุหร่ีแลวครับ” 3) ใชความรูสึกเปนขออางประกอบเหตุผล เพราะการใชเหตุผลอยางเดียวมักถูกโตแยง

ดวยเหตุผลอ่ืน การอางความรูสึกทําใหโตแยงไดยากขึ้น 4) การขอความเห็นชอบแสดงความขอบคุณเมื่อผูชวนยอมรับเปนการรักษาน้ําใจของผูชวน 5) เมื่อถูกเซาซี้หรือสบประมาทไมควรหวั่นไหวไปกับคําพูดเหลานั้น เพราะจะทําใหขาด

สมาธิในการหาทางออก ควรปฏิเสธซ้ํา บอกลาหาทางเลี่ยงไปกอนที่จะใจออนกลับมาสูบ

Page 244: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

239

จุดประสงคการเรียนรู บอกเทคนิคและวิธีการเลิกสูบบุหร่ีได (ความรู-ทักษะกระบวนการ) คําชี้แจง สมาชิกรวมกันอภิปราย ระดมความคิด และศึกษาใบความรูท่ี 2 เร่ือง “วิธีการเลิกสูบบุหรี่ดวย

ตนเอง” แลวตอบคําถามตอไปนี้

1. วิธีการจัดการกับตนเองเมือ่อยากสูบบุหรี่

2. เทคนิคการหยุดความคดิเสพติด เพื่อพชิิตบุหรี ่

3. วิธีการปฏิเสธเมื่อมีผูยื่นบุหรี่ให 3.1 วิธีการ ............................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ 3.2 คําพูดปฏิเสธ .................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................

ใบงานที่ 4 เร่ือง “ทําอยางไรจึงจะเลิกสูบบุหรี่ได”

Page 245: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

240

กลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยีนปลอดบุหร่ี (สาระการเรียนรูเพิ่มเติม) ชวงชั้นที่ 3 (ม.1- ม.3) หนวยการเรียนรูท่ี 4 เร่ือง “ใชกลยุทธชั้นเซียน ชวยโรงเรียนใหปลอดบุหรี่”

แผนการจัดการเรียนรูท่ี 15 เร่ือง “ประสานพลังใจ ใชปญญา พาโรงเรียนปลอดบุหรี่” เวลา 2 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู มาตรฐานหลัก พ 2.1 เขาใจและเหน็คุณคาของชีวิต ครอบครัว เพศศกึษา และมีทักษะในการดําเนินชวีิตรักษาสัมพันธภาพกับผูอ่ืน มาตรฐานชวงชั้น ขอ 2 มาตรฐานหลัก พ 4.1 เห็นคณุคาและมีทกัษะในการสรางเสริมสุขภาพ การดํารงสุขภาพ การปองกันโรค และการสรางเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ มาตรฐานชวงชั้น ขอ 1 - 5

มาตรฐานหลัก พ 5.1 ปองกันและหลีกเลี่ยงปจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงตอสุขภาพ อุบัติเหตุ การใชยา สารเสพติด และความรุนแรง

มาตรฐานชวงชั้น ขอ 2 - 6 2. ผลการเรียนรูท่ีคาดหวัง

รู เขาใจ และมีทักษะกระบวนการในการจัดกิจกรรมรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีในโรงเรยีนไดอยางมีประสิทธิภาพดวยความมุงมั่นและความภาคภูมิใจ 3. จุดประสงคการเรียนรู

3.1 อธิบายองคความรูเร่ืองบุหร่ีในการจัดกิจกรรมรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีไดอยางถูกตองและชัดเจน (ความรู)

3.2 ใชทักษะกระบวนการจัดกิจกรรมโครงงานรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีไดบรรลุตามจุดประสงคของโครงงาน (ทักษะกระบวนการ)

3.3 ใชทักษะกระบวนการสํารวจและวิเคราะหตัวกระตุนที่ทําใหอยากสูบบุหร่ีได (ทักษะกระบวนการ)

3.4 อธิบายและสื่อความรูสึกภาคภูมิใจในการเปนนักรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีของโรงเรียนได (เจตคติ) 4. สาระการเรียนรู

4.1 องคความรูเร่ืองบุหร่ีในการจัดกิจกรรมรณรงค 4.2 การดําเนินโครงการรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี 4.2 ความภาคภูมิใจของเยาวชนนักรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี

Page 246: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

241

5. สาระสําคัญ เยาวชนนักรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีในโรงเรียน จะตองมีความพรอมที่จะจัดกิจกรรม

เพื่อสวนรวมทั้งทางดานความรูที่ถูกตองชัดเจนเกี่ยวกับบุหร่ี ทักษะกระบวนการในการจัดกิจกรรมโครงงาน โดยใชกระบวนการ P-D-C-A อยางครบวงจร และมีเจตคติหรือจิตสํานึกสาธารณะที่ จะปกปองคุมครองสุขภาพของผูที่สูบบุหร่ีและผูที่ไมสูบบุหร่ี คุณสมบัติทั้ง 3 ดานนี้ จะเปนปจจัยสําคัญในการจัดกิจกรรมรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีใหประสบความสําเร็จและนําไปสู “โรงเรียนปลอดบุหร่ี” ไดดวยความภาคภูมิใจ 6. กระบวนการเรียนรู ชั่วโมงที่ 1

ขั้นนํา 6.1 นักเรียนรวมกันฟงเพลง “เล็กนอย...มหาศาล” ของมูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี โดยฝกรองตามและปรบมือเขาจังหวะ เสร็จแลวครูชวนนักเรียนรวมกันสนทนาในประเด็นตอไปนี้ - ฟงเพลงนี้แลวรูสึกอยางไรและมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรบาง - คําวา “เล็กนอย...มหาศาล” หมายความวาอยางไร - เด็กที่ไมสูบบุหร่ีอาจไดรับควันบุหร่ีมือสองจากคนที่สูบก็จะเปนอันตรายเชนเดียวกัน ดังนั้นเด็กรุนใหมที่แทจริงควรจะทําอะไรบางเพื่อปกปองคุมครองตนเองและผูอ่ืนที่ไมสูบบุหร่ีใหปลอดจากควันบุหร่ี ครูใหขอเสนอแนะเพิ่มเติมและสรางแรงจูงใจใหนักเรียนเปนเด็กรุนใหมที่มีคุณคาตอโรงเรียนและสังคม โดยเตรียมตัวฝกฝนเปน “เยาวชนนักรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี” ตั้งแตวันนี้ ซ่ึงมีเปาหมายสําคัญคือ การพัฒนาโรงเรียนใหเปน “โรงเรียนปลอดบุหร่ี” อยางแทจริง 6.2 นักเรียนที่เปน “เยาวชนนักรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี” ทุกกลุมรวมกันศึกษาใบความรูท่ี 1 เร่ือง “กระบวนการ P–D–C–A กับการดําเนินโครงงาน” และรวมกันเขียน โครงงาน “กิจกรรมรณรงคเพื่อการไมสูบบุหรี่” โดยมีกิจกรรมหลัก 2 ดาน คือ 1)ดานการปองกัน 2)ดานการแกปญหา และใหแตละกลุมคิดคนกิจกรรมและสื่อนวัตกรรมตามความถนัดเพิ่มเติมอยางอิสระและใชกระบวนการ P–D–C–A เปนแนวทางการดําเนินงาน 6.3 สงตัวแทนกลุมนําเสนอโครงงานกลุมละ 10 นาที 6.4 นักเรียนและครูรวมกันเสนอแนะเพื่อใหเกิดความสมบูรณ 6.5 ทุกกลุมนําโครงงานไปปรับปรุงแกไขและเสนอครูเพื่อพิจารณาอนุมัติ 6.6 ทุกกลุมพิจารณาคัดเลือกสื่อการเรียนรูจากมูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี และจากแหลงเรียนรูอ่ืน และสรางสื่อการเรียนรูใหม (นวัตกรรม)

Page 247: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

242

ชั่วโมงที่ 2 6.7 นักเรียนแตละกลุมจัดกิจกรรมรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี ทั้งในเวลาเรียนและนอกเวลาเรียน

(ตามแผนปฏิบัติการ) ตัวอยางเชน กิจกรรมดานการปองกัน กิจกรรมนันทนาการ การเผยแพรความรู เร่ืองพิษภัยของบุหร่ี การจัดคายเยาวชน กิจกรรมเสียงตามสาย กิจกรรมประกวดหองเรียนปลอดบุหร่ี กิจกรรมชวยเพื่อนใหเลิกสูบบุหร่ี เปนตน 6.8 ทุกกลุมมีการประเมินโครงงานของตนเองในระหวางปฏิบัติ เพื่อนําขอบกพรองมาปรับปรุงพัฒนาใหดีขึ้น ครูสังเกตและติดตามประเมินผลกระบวนการการดําเนินงานทุกระยะ พรอมใหคําปรึกษาและเสริมแรงใหกําลังใจ ขั้นสรุป 6.9 จัดประชุมสัมมนา “เยาวชนนักรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี” เพื่อสรุปประเมินผลโครงการและใหขอเสนอแนะตอทางโรงเรียน 6.10 นักเรียนทุกคนเขียนความรูสึกในใจและความภาคภูมิใจในการเปนเยาวชนคนรุนใหมที่มีคุณคาในการเปนนักรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี 7. วิธีการจัดการเรียนรู

7.1 การเรียนรูแบบโครงงาน 7.2 การเรียนรูแบบ CIPPA MODEL

8. การบูรณาการ 8.1 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูที่เกี่ยวของ (ตามลักษณะกิจกรรมและสื่อการเรียนรูที่ใช)

8.2 บูรณาการกับมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานดานผูเรียนของสํานักรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องคกรมหาชน) หรือ “สมศ.” ทั้ง 8 มาตรฐาน (การประเมินภายนอกกรอบ 2) 9. สื่อ/แหลงการเรียนรู 9.1 ส่ือแผนซีดีบทเพลง “เล็กนอย...มหาศาล” 9.2 ส่ือทุกชนิดของมูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี 9.3 ส่ือนวัตกรรมจากแหลงการเรียนรูอ่ืนๆ และสรางสรรคขึ้นเอง 9.4 ใบความรูที่ 1 เร่ือง “กระบวนการงานการจัดกิจกรรม P-D-C-A กับการดําเนินโครงงาน” 9.5 ใบงานที่ 1 เร่ือง “แบบนําเสนอเคาโครงของโครงงาน” 9.6 ใบงานที่ 2 เร่ือง “ทําโครงงานอยางไร สุขใจไดคุณคา” 9.7 วัสดุอุปกรณการดาํเนินกิจกรรม

9.8 ศูนยการเรียนรูกลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา/ศูนยรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี 9.9 เว็บไซต http:// www.ashthailand.or.th

http:// www.smokefreezone.or.th

Page 248: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

243

10. การวัดและประเมินผล

10.1 วิธีการวัด 1) ประเมินการแบงกลุมระดมความคิดเห็น 2) ประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ” 3) ประเมินกระบวนการปฏิบัติงานกลุม 4) ประเมินตนเอง (หลังจากงานสําเร็จ) 5) ประเมินโครงงาน (โดยครูผูสอน) 10.2 เครื่องมือวัด 1) แบบประเมินการแบงกลุมระดมความคิดเห็น 2) แบบประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ” 3) แบบประเมินกระบวนการปฏิบัติงานกลุม 10.3 เกณฑการวัด ทุกกิจกรรม ถือเกณฑการผานรอยละ 50

11. กิจกรรมเสนอแนะ 11.1 แผนการจัดการเรียนรูที่ 15 เร่ือง “ประสานพลังใจใชปญญา พาโรงเรียนปลอดบุหร่ี”

เวลาเรียน 2 ช่ัวโมงนี้ มีความยืดหยุนทั้งรูปแบบกิจกรรม กระบวนการเรียนรูและระยะเวลา เพราะเปนแผนโครงงานที่ใหอิสระนักเรียนในการคิดคน และดําเนินงานดวยตนเองภายใตคําปรึกษาของครู ดังนั้นครูผูสอนจึงควรชวยประสานงานกับทางโรงเรียน และหนวยงานที่เกี่ยวของ ในการจัดกิจกรรมรณรงคนอกเวลารวมกับนักเรียนในระดับชั้นอื่นๆ โดยมีแผนการดําเนินงานที่ชัดเจน

11.2 โรงเรียนควรสนับสนุนใหครูในกลุมสาระการเรียนรูอ่ืนๆ และครูกิจกรรมมีโอกาสนําแผนการจัดการเรียนรูรายวิชาโรงเรียนปลอดบุหร่ีไปประยุกตใชในการจัดกิจกรรมบูรณาการและกิจกรรมพัฒนาผูเรียนไดตามความเหมาะสม

ลงชื่อ........................................................................ (..................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

Page 249: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

244

บันทึกหลังสอน 1. ผลการจัดการเรียนรู ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 2. ปญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3. วิธีการแกปญหา ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ความคิดเห็นของผูบริหารสถานศึกษา/ผูท่ีไดรับมอบหมาย .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................

ลงชื่อ........................................................................ (..................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

ลงชื่อ........................................................................ (..................................................................) ตําแหนง................................................................... ผูอํานวยการสถานศึกษา

Page 250: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

245

ศิลปน : นิติพงษ ปญญาวงษ (*) เคยใชไหมละ เปนบางคราวใชไหมละ บางเวลาอารมณมันก็แอบพาใจนายไป มองอะไรก็ไมเห็น ฟุงซานเลยใชไหมละ เหมือนติดในเขาวงกตไมมีทางออกฉันเขาใจ (**) ยาใชไหมละ เหลาบุหร่ีใชไหมละ คิดวามันจะดี ก็แคลองหนอยคงไมเปนไร แตรูไหมเธอรูไหม คิดบางไหมเธอคิดไหม ลองกันคนละหนอยประเทศชาติตองพังทลาย (***) JUST SAY NO (JUST SAY NO) JUST SAY NO (JUST SAY NO) JUST SAY NO (JUST SAY NO) JUST SAY NO พูด : เหลาบุหร่ีมันไมดีเธอรูไหม ไอยาเสพติดมนัมีแตโทษเธอจําเอาไว เจอที่ไหนออกหางมันใหไกล ถาทําไดอยางนี้ประเทศชาตคิงรอดตาย ซํ้า (*, **, ***)

ลิขสิทธิ์โดย มูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี โทร. 0-2278-1828

สื่อการเรียนรู เนื้อรองเพลง “เล็กนอย...มหาศาล”

Page 251: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

246

จุดประสงคการเรียนรู

1.ใชทักษะกระบวนการจัดกิจกรรมโครงงานรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีไดบรรลุตามจุดประสงค ของโครงงาน (ทักษะกระบวนการ)

2. อธิบายและสือ่ความรูสึกภาคภูมใิจในการเปนนกัรณรงคเพื่อการไมสูบบหุร่ีของโรงเรียนได (เจตคติ)

กระบวนการ P-D-C-A กับการดําเนินโครงงาน

กระบวนการ P-D-C-A หมายถึง ขั้นตอนการปฏิบัติงานอยางครบวงจรหรือที่เรียกวา วงจรเดมมิ่ง (Demming) ซ่ึงเปนการทํางานเปนทีมที่ครอบคลุมตั้งแตการวางแผนงานรวมกัน ทํางานรวมกัน ตรวจสอบ-ประเมินรวมกัน และปรับปรุงพัฒนารวมกัน สามารถนํามาใชในการดําเนินโครงงานใหบรรลุตามเปาหมายไดดังนี้

ใบความรูที่ 1 เร่ือง “กระบวนการ P-D-C-A กับการดําเนินโครงงาน”

ขอคิดสําคัญ : การทํางานที่ดีจะตองมีกระบวนการหรือข้ันตอนที่เปนระบบครบวงจร โดยการใหสมาชิกทุกคนมีสวนรวมและใชวิธีการในเชิงบวกเสมอ เชน การคิดดี พูดดี ทําดี และประสานงานที่ดี เปนตน

D = Do ทํางานรวมกัน

(ดําเนินงานตามแผน ประสานงาน แกปญหา)

C = Check ตรวจสอบ-ประเมินรวมกัน

(ทบทวน ประเมินตนเอง รับฟง ยอมรับขอบกพรอง)

P = Plan วางแผนรวมกนั

(รวบรวมขอมูล เตรียมเครื่องมือ วัสดอุุปกรณ)

A = Action ปรับปรุง-พัฒนารวมกัน

(นําผลการประเมินมาปรับปรุง พัฒนา สรุป และเสนอแนะ)

Page 252: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

247

จุดประสงคการเรียนรู ใชทักษะกระบวนการจัดกิจกรรมโครงงานรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีไดบรรลุ

ตามวัตถุประสงคของโครงงาน (ทักษะกระบวนการ) 1. ชื่อโครงงาน ..................................................................................................................................................................... 2. ความสําคัญ/เหตุผลและความจําเปนของโครงงาน .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3. วัตถุประสงค .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................4. สมมติฐาน .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................

ใบงานที่ 1 เร่ือง แบบนําเสนอเคาโครงของโครงงาน

ช่ือกลุม ................................................... ช้ัน ................. รายวิชา/กจิกรรม ......................................... ภาคเรียนที่ ................................................. ปการศึกษา ........................................................................

Page 253: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

248

5. ขอบขายของการศึกษา/ปฏิบัติกิจกรรม .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... 6. วิธีการดําเนินการ .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................7. ระยะเวลาการดําเนินการ ..................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 8. วิธีเก็บรวบรวมขอมูล และวิเคราะหขอมูล .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 9. ประโยชนท่ีคาดวาจะไดรับ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... 10. แหลงขอมูลในการศึกษาคนควา ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... 11.วิธีการนําเสนอขอมูล/ผลการปฏิบัติกิจกรรม ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................

Page 254: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

249

12. ผูเสนอโครงการ ช่ือกลุม .......................................................................................................................................... 1. ช่ือ-สกุล .............................................................เลขที่ ........... ตําแหนง................................... 2. ช่ือ-สกุล .............................................................เลขที่ ........... ตําแหนง................................... 3. ช่ือ-สกุล .............................................................เลขที่ ........... ตําแหนง................................... 4. ช่ือ-สกุล .............................................................เลขที่ ........... ตําแหนง................................... 5. ช่ือ-สกุล .............................................................เลขที่ ........... ตําแหนง................................... 6. ช่ือ-สกุล .............................................................เลขที่ ........... ตําแหนง................................... 7. ช่ือ-สกุล .............................................................เลขที่ ........... ตําแหนง................................... 8. ช่ือ-สกุล .............................................................เลขที่ ........... ตําแหนง................................... 9. ช่ือ-สกุล .............................................................เลขที่ ........... ตําแหนง................................... 13. ผลการพิจารณาของครูท่ีปรึกษา 13.1 หัวขอโครงการ ..................................................................................... 13.2 เคาโครงของโครงงาน .......................................................................... สรุป อนุมัติ ไมอนุมัติ

ลงชื่อ........................................................................ (..................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูที่ปรึกษา

Page 255: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

250

จุดประสงคการเรียนรู ดําเนินโครงงานรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี จนบรรลุวัตถุประสงค และเปาหมายได

(ทักษะกระบวนการ)

คําชี้แจง เมื่อนักเรียนทําใบงานที่ 1 จนไดแนวทางการปองกัน และแกไขปญหาการสูบบุหร่ีในโรงเรียนแลวจึงจัดทําโครงงาน พรอมทั้งสรุปผลการปฏิบัติงาน โดยเติมขอความลงในชองวาง ดวยความรอบครอบ ถูกตองและเหมาะสม

ช่ือโครงงาน ............................................................................................................................................. กลุมที่ .................... ช่ือกลุม ......................................................................................... ช้ัน .................... วัตถุประสงค ............................................................................................................................................. ...................................................................................................................................................................

ลําดับที่ รายการปฏบิัต ิ ผลการปฏบิัตขิองกลุม

กระบวนการ P– D –C– A 1.1 การวางแผน (P = Plan)

การวางแผนและเตรียมการอะไรบาง ............................................................................................... ...............................................................................................

1.

1.2 ทําตามแผน (D = Do) เราไดทําตามแผนอยางไรบาง ทําอะไร ใครรับผิดชอบ 1. ......................................................................../............... 2. ......................................................................../............... 3. ......................................................................../............... 4. ......................................................................../............... 5. ......................................................................../...............

ใบงานที่ 2 เร่ือง “ทําโครงงานอยางไร สุขใจ ไดคุณคา”

Page 256: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

251

ลําดับที่ รายการปฏบิัต ิ ผลการปฏบิัตขิองกลุม

1.3 ตรวจสอบ/ประเมินผล (C = Check)

ตรวจสอบการทํางานดวยวิธีใด ................................................ .................................................................................................. ผลเปนอยางไร ......................................................................... ..................................................................................................

1. 1.4 ปรับปรงุพัฒนา (A = Action)

มีการปรับปรุงพัฒนางานอะไรบาง 1. ........................................................................................ .................................................................................................. 2. ........................................................................................ ..................................................................................................

3..........................................................................................................................................................................................

2. การทํางานเปนทีม

2.1 ทุกคนมีหนาที่ตามความถนัด และสนใจอยางไร.................................................................................................................................................................................................... 2.2 มีการประสานงานในทมีเปนอยางดีอยางไร............................................................................................... .................................................................................................. 2.3 มีความเปนประชาธิปไตยอยางไรบาง.................................................................................................. ..................................................................................................

3. คุณภาพของผลงาน

3.1 เนื้อหาสาระสมบูรณ ถูกตองตรงประเด็นและบรรลุจุดประสงคอยางไร .................................................................. ................................................................................................. 3.2 มีความคิดริเร่ิมสรางสรรคที่แปลกใหมอยางไร.................................................................................................................................................................................................... 3.3 ใชภาษาไดถูกตองอยางไร………………………………. .................................................................................................. 3.4 ผลงานมีความประณีต สวยงามอยางไร……………....... ................................................................................................

Page 257: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

252

ลําดับที่ รายการปฏบิัต ิ ผลการปฏบิัตขิองกลุม

4. ประโยชนและการนําไปใช

4.1 นําเสนอผลงานอยางสรางสรรค ชัดเจน และครอบคลุมประเด็นอยางไร ..................................................................... 4.2 ผลงานมีประโยชนตอบุคคลในกลุมอยางไร...................... .................................................................................................. มีประโยชนตอสวนรวมอยางไร .............................................. .................................................................................................. 4.3 ไดเผยแพรผลงานในหองเรียนอยางไร .................................................................................................. นอกหองเรยีนอยางไร .................................................................................................. ลงชื่อ ..................................................... (....................................................) ผูรายงาน

Page 258: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

253

ภาคผนวก

Page 259: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

254

รายวิชา...............................................ช้ัน..........หนวยการเรียนรูที่.........เร่ือง.......................................................... แผนการจัดการเรียนรูที่....................เร่ือง................................................................เวลา...............................ช่ัวโมง

รายการประเมิน

1.การกําหนดจุดประสงคและการใชขอมูลประกอบ

2.บรรยากาศการระดมความคิดเห็น

3.การสรุปประเด็น 4.การนําเสนอผลงาน รวม

ชื่อกลุม

5 5 5 5 20

ขอเสนอแนะเพิ่มเติม ...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

ลงชื่อ................................................................... (.....................................................................) ผูประเมิน

วันที่.......... เดอืน ........................... พ.ศ. .............

แบบประเมินการแบงกลุมระดมความคิดเห็น

Page 260: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

255

เกณฑการใหคะแนนการแบงกลุมระดมความคิดเห็น ใชวิธีจัดลําดับคุณภาพ (Rating Scale) ของ

การระดมความคิดเห็นเปนเกณฑการประเมินที่มีความเปนมาตรฐานเรียกวา รูบริค (Rubric) คะแนนเต็ม 20 คะแนน สามารถพิจารณาจากรายการประเมิน ดังนี้

เกณฑการใหคะแนนตามลําดับคุณภาพ รายการประเมนิ 5 4 3 2 1.การกําหนดจุดประสงคและการใชขอมูลประกอบ

- กําหนจุดประสงคไดชัดเจน เขาใจตรงกัน - ศึกษาขอมูลรอบดาน มีแหลงอางอิงเช่ือถือไดครอบคลุมประเด็น

- กําหนดและวิเคราะหจุดประสงคไดชัดเจน เขาใจตรงกัน

- ศึกษาขอมูลประกอบ ครอบคลุมประเด็นสวนใหญ

- กําหนดจุดประสงคไดชัดเจน - ศึกษาขอมูลประกอบ ครอบคลุมในบางประเด็น

- กําหนดจุดประสงคไดไมชัดเจนหรือขาดการกําหนดจุดประสงค - ศึกษาขอมูลประกอบนอย

2. บรรยากาศ การระดมความคิดเห็น

- มีบรรยากาศประชาธิปไตยดีมาก - แสดงความคิดเห็นไดตรงประเด็น มีเหตุผลและทั่วถึงทุกคน เคารพความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ควบคุมอารมณไดดี และมีมารยาทในการประชุม

- มีบรรยากาศประชาธิปไตยดี - แสดงความคิดเห็นไดตรงประเด็น มีเหตุผลและทั่วถึงเกือบทุกคน รับฟงความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ควบคุมอารมณไดดี และมีมารยาทในการประชุม

- มีบรรยากาศประชาธิปไตยพอใช - แสดงความคิดเห็นไดตรงประเด็น มีเหตุผลแตยังไมทั่วถึง รับฟงความคิดเห็นซึ่งกันและกัน

- มีบรรยากาศประชาธิปไตยนอย - แสดงความคิดเห็นเปนสวนนอย ขาดเหตุผล รับฟงความคิดเห็นซึ่งกันและกัน บางแตเปนสวนนอย

3.การสรุปประเด็น

- มีกระบวนการระดมความคิดเห็นเปนขั้นตอนไดชัดเจนทุกประเด็น - มีขอสรุปที่บรรลุตามจุดประสงคไดชัดเจนดวยความเขาใจที่ตรงกัน และมีการสรุปผลเปนลายลักษณอักษรไดถูกตอง เขาใจงาย และเปนระเบียบ

- มีกระบวนการระดมความคิดเห็นเปนขั้นตอนไดชัดเจน - มีขอสรุปที่บรรลุตามจุดประสงค และมีการสรุปผลเปนลายลักษณอักษรไดถูกตอง

- มีกระบวนการระดมความคิดเห็นเปนขั้นตอนไดชัดเจน - มีขอสรุปที่บรรลุตามจุดประสงค และมีการสรุปผลเปนลายลักษณอักษรไดถูกตองแตยังไมครอบคลุม

- มีกระบวนการระดมความคิดเห็นเปนขั้นตอนไดไมชัดเจน - มีขอสรุปที่บรรลุตามจุดประสงคในบางประเด็น ไมมีการสรุปเปนลายลักษณอักษร

เกณฑการใหคะแนนการแบงกลุมระดมความคิดเห็น

Page 261: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

256

เกณฑการใหคะแนนตามลําดับคุณภาพ รายการประเมนิ 5 4 3 2

4.การนําเสนอผลงาน

- มีการเตรียมตัวและใชสื่ออุปกรณไดดีมาก - เสนอผลงานเปนขั้นตอนไดตรงประเด็น ตรงเวลา ถูกตอง ชัดเจน เขาใจงาย - มีวิธีการนําเสนออยางสรางสรรคและแปลกใหม ใชภาษาไดถูกตอง และมีวัฒนธรรมอันดี

- มีการเตรียมตัวและใชสื่ออุปกรณไดดี -เสนอผลงานเปนขั้นตอนไดตรงประเด็น ถูกตอง - มีวิธีการนําเสนออยางสรางสรรคและใชภาษาไดถูกตอง

- มีการเตรียมตัวและใชสื่ออุปกรณไดพอใช - เสนอผลงานไดตรงประเด็น ถูกตอง - มีวิธีการนําเสนอแบบปกติธรรมดาและใชภาษาไดถูกตอง

- มีการเตรียมตัวและใชสื่ออุปกรณไดนอย ยังตองปรับปรุง - เสนอผลงานไดไมครบทุกประเด็น - มีวิธีการนําเสนอแบบธรรมดาและใชภาษายังไมคอยถูกตอง

Page 262: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

257

รายวิชา .................................. ระดับชั้น ............... หนวยการเรียนรูท่ี ........ ชื่อหนวย ......................... แผนการจดัการเรียนรูท่ี ............ เร่ือง ...................................... เวลา ...................... ชั่วโมง ..................

คะแนน เลขท่ี ชื่อ – สกุล สุ (ฟง)

5 คะแนน

จิ (คิด)

5 คะแนน

ปุ (ถาม)

5 คะแนน

ลิ (เขียน)

5 คะแนน

รวม

20 คะแนน

ลงชื่อ .................................................... (..............................................................)

ผูประเมิน วันที่ ...... เดือน ................... พ.ศ. ..........

แบบประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ”

Page 263: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

258

เกณฑการใหคะแนนกระบวนการเรียนรูที่ใชหลัก “หัวใจนักปราชญ” ไดแก สุ จิ ปุ ลิ

คะแนนเต็ม 20 คะแนน สามารถพิจารณาจากรายการประเมิน ดังนี้

เกณฑการใหคะแนนตามลําดับคุณภาพ รายการประเมิน

5 4 3 1-2

1.สุ ( สุตมยปญญา = ฟง)

ต้ังใจฟง มองครูนักเรียนพูด สาธิตหรือนําเสนอสื่ออยางสม่ําเสมอ ตอเนื่องและมีสมาธิสูงมาก

ต้ังใจฟง มองครูนักเรียนพูด สาธิตหรือเสนอสื่อเปนสวนใหญ และมีสมาธิสูง

ต้ังใจฟง มองครูนักเรียนพูด สาธิตหรือเสนอสื่อเปนสวนใหญ และพูดคุยกับเพื่อนเล็กนอย

ไมต้ังใจฟงหรือ มองครู พูด สาธิตหรือนําเสนอสื่อเล็กนอย พูดคุยและเลนกับเพื่อนเปนสวนมาก

2. จิ

(จินตมยปญญา = คิด)

แสดงความสนใจกระตือรือรนในการคิด ตอบคําถามหรือนําเสนอผลงานอยางสม่ําเสมอและตอเนื่อง

แสดงความสนใจกระตือรือรนในการคิด ตอบคําถามหรือนําเสนอผลงานเปนสวนใหญ

แสดงความสนใจในการคิด ตอบคําถามหรือนําเสนอผลงานเปนบางครั้ง

ไมคอยสนใจใน การคิด ตอบคําถามหรือเสนอผลงาน

3. ปุ

(ปุจฉา = ถาม)

กลาคิด กลาถามอยางมีสาระเฉียบคม ตรงกับเนื้อหา เปนประโยชนตอสวนรวมและมีมารยาทที่ดี

กลาคิด กลาถามอยางมีสาระตรงกับเนื้อหา เปนประโยชน และมีมารยาท

กลาคิด กลาถามอยางมีสาระตรงกับเนื้อหา และมีมารยาท

ไมสนใจเรียน ไมถาม และขาดมารยาท

4. ลิ

(ลิขิต = เขียน)

ต้ังใจจดบันทึกความรูทุกครั้งอยางเปนระเบียบเรียบรอย ไดใจความครบถวนและบันทึกความคิดเห็นสวนตัวดวย

ต้ังใจจดบันทึกความรูทุกครั้งอยางเปนระเบียบเรียบรอย และไดใจความครบถวน

ต้ังใจจดบันทึกความรูเปนสวนใหญและไดใจความตามที่บันทึก

ไมต้ังใจจดบันทึกความรูหรือไมมีสมุดและอุปกรณการเรียน

เกณฑการใหคะแนนกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ”

Page 264: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

259

รายวิชา............................................ช้ัน..............หนวยการเรียนรูที่.........เร่ือง............................................. แผนการจัดการเรียนรูที่....................เร่ือง...................................................................เวลา....................ช่ัวโมง

รายการประเมิน

1. กระบวนการปฏิบัติงาน

2. การทํางาน เปนทีม

3. คุณภาพของผลงาน

4. ประโยชนและการนําไปใช

รวม ชื่อกลุม

5 5 5 5 20

ขอเสนอแนะเพิ่มเติม ....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

ลงชื่อ...................................................................

(......................................................................) ผูประเมิน วันที่.......... เดอืน ........................... พ.ศ. .............

แบบประเมินกระบวนการปฏิบัติงานกลุม

Page 265: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

260

เกณฑการใหคะแนนการแบงกลุมระดมความคิดเห็น ใชวิธีจัดลําดับคุณภาพ (Rating Scale) ของ

การระดมความคิดเห็นเปนเกณฑการประเมินที่มีความเปนมาตรฐานเรียกวา รูบริค (Rubric) คะแนนเต็ม 20 คะแนน สามารถพิจารณาจากการรายการประเมิน ดังนี้

เกณฑการใหคะแนนตามลําดับคุณภาพ

รายการประเมนิ 5 4 3 1-2 1. กระบวนการปฏิบัติงาน

- ใชกระบวนการไดครบวงจร 4 ขั้นตอน - วางแผน (P = Plan) - ทําตามแผน (D = Do) – ตรวจสอบ/ประเมิน (C – Check) – ปรับปรุงพัฒนา (A = Action) มีคุณภาพ

- ใชกระบวนการไดครบวงจร 4 ขั้นตอน มีคุณภาพดี

- ใชกระบวนการไดครบวงจร 4 ขั้นตอน มีคุณภาพพอใช

- ใชกระบวนการไดครบวงจร 4 ขั้นตอน ยังตองปรับปรุง

2 . ก า ร ทํ า ง า น เปนทีม

- ทุกคนมีหนาที่ตามความถนัดตามความพึงพอใจ - มีการประสานงานกันเปนอยางดี - มีความเปนประชาธิปไตย ทกุคนรวมแสดงความคดิเห็น รับฟงความคิดเหน็สามัคคแีละมีน้ําใจตอกัน

- ทุกคนมีหนาที่ตามความถนัด - มีการประสานงานกันเปนอยางดี - มีความเปนประชาธิปไตย ทุกคนรวมแสดงความคิดเห็นและมีความสามัคคี

- ทุกคนมีหนาที่ - มีการประสานงานกันที่ชัดเจน - มีความเปนประชาธิปไตย ทุกคนรวมแสดงความคิดเห็นกันเปนสวนใหญ

- แบงหนาที่ยังไมเทาเทียมกัน -ขาดการประสานงานกันที่ชัดเจน - มีความเปนประชาธิปไตยนอย ไมคอยรวมแสดงความคิดเห็น

3 . คุณภาพของผลงาน

- เนื้อหาสาระสมบูรณ ถูกตองตรงประเด็น และบรรลุวัตถุประสงค - มีความคิดริเริ่มสรางสรรคทีแ่ปลกไมซ้ําแบบใคร - ใชภาษาถูกตอง - ผลงานประณีตสวยงาม

- เนื้อหาสาระคอนขางสมบรูณ ตรงประเด็น และบรรลุวัตถุประสงค - มีความคิดริเริ่มสรางสรรค - ใชภาษาถูกตอง - ผลงานเรียบรอยสวยงาม

- เนื้อหาสาระยังขาดความสมบรูณ บางสวน สวนใหญบรรลุจุดประสงค - ขาดความคิดริเริ่มสรางสรรคใหมๆ - ใชภาษาถูกตอง - ผลงานเรียบรอย

- เนื้อหาสาระยังขาดความสมบรูณ สวนใหญไมบรรลุจุดประสงค - ขาดความคิดริเริ่มสรางสรรคใหมๆ - ใชภาษายังไมถูกตอง - ผลงานขาดความเรียบรอย

เกณฑการใหคะแนนกระบวนการปฏบิัติงานกลุม

Page 266: หลัูกสตร · หล กสตร“โรงเร ยนปลอดบ หร ” ฉบ บ ก จกรรมการเร ยนร ม งส การรณรงค

261

เกณฑการใหคะแนนตามลําดับคุณภาพ รายการประเมนิ 5 4 3 2

4. ประโยชนและการนําไปใช

- นําเสนอผลงานอยางสรางสรรคชัดเจนและครอบคลุมทุกประเด็น - ผลงานมีประโยชนในบทเรียนชีวิตประจําวันและสวนรวม - เผยแพรผลงานทั้งในหองเรียนและนอกหองเรียน

- นําเสนอผลงานชัดเจนและครอบคลุมทุกประเด็น - ผลงานมีประโยชนในบทเรียน - เผยแพรผลงานในหองเรียน

- นําเสนอผลงานชัดเจนและครอบคลุมทุกประเด็นเปนสวนใหญ - ผลงานมีประโยชนในบทเรียน

- นําเสนอผลงานยงัไมชัดเจนและครอบคลุมประเด็น - ผลงานมีประโยชนในบทเรียนนอย