14
ดด.ดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดด ดดดดดดดด 3 คคคคคค ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ด.ด. 2554 ดดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดด 3.5 ดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดด 2 ดดดดดดดดดด ดดดดดดดด 8.5 ดดดดดดดดดดดด ดดด ดดด 2.9 ดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดด 2.5 ดดดดดดดดดดดด ดดดดดดด 1.1 ดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดด (ด)ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดดดด (ด)ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดด(ด)ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดด ดดดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด (ด)ดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดด(ด)ดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดด คคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค

 · Web viewดร.พงษ ศ กด ว ทว สช ต ก ล๒ พ ณท พย ธ ต โรจนะว ฒน ๒ และสำเร ง ปานอ ท ย3 คำนำ

  • Upload
    others

  • View
    4

  • Download
    0

Embed Size (px)

Citation preview

Page 1:  · Web viewดร.พงษ ศ กด ว ทว สช ต ก ล๒ พ ณท พย ธ ต โรจนะว ฒน ๒ และสำเร ง ปานอ ท ย3 คำนำ

ดร.พงษ์ศักดิ์ วทิวสัชุติกลุ๒ พณิทิพย ์ธติิโรจนะวฒัน์๒ และสำ�เรงิ ป�นอุทัย 3

คำ�นำ�มห�อุทกภัยที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยในปี พ.ศ. 2554 ได้สร�้งคว�มเสยีห�ยใหก้ับ

ชวีติและทรพัยส์นิของประช�ชนคิดเป็นมูลค่�ทัง้สิน้ 3.5 แสนล้�นบ�ท แบง่ออกเป็นภ�คอุตส�หกรรม 2 แสนล้�นบ�ท ภ�คเกษตร 8.5 หมื่นล้�นบ�ท ก�รค้� 2.9 หมื่นล้�นบ�ท ก�รท่องเที่ยว 2.5 หมื่นล้�นบ�ท และอ่ืน 1.1 หมื่นล้�นบ�ท เหตกุ�รณ์ดังกล่�วนี้ในมุมมองของนักวทิย�ศ�สตรจ์ดัก�รพื้นที่ลุ่มนำ้�คิดว�่เป็นผลม�จ�ก (๑)ก�รกระทำ�รว่มกันระหว่�งปร�กฏก�รณ์ล�นิญ่� และก�รเปลี่ยนแปลงสภ�วะอ�ก�ศโลก โดยม ี(๒)ก�รใชป้ระโยชน์ที่ดินที่ไมเ่หม�ะสมกับศักยภ�พของพื้นที่ โดยเฉพ�ะอย�่งยิง่ก�รทำ�ก�รเกษตรบรเิวณต้นนำ้�ลำ�ธ�รเป็นตัวสนับสนุนคว�มรุนแรงของเหตกุ�รณ์ดังกล่�ว และ(๓)ก�รบรหิ�รจดัก�รมวลนำ้�ท่ีผิดพล�ด

รฐับ�ลได้กำ�หนดแนวท�งเพื่อแก้ไขปัญห�ดังกล่�ว ในลักษณะของแผนบูรณก�รระหว�่งพื้นท่ีต้นนำ้� พื้นท่ีกล�งนำ้� และพื้นท่ีท้�ยนำ้� ทัง้ท่ีเป็นม�ตรก�รระยะสัน้คือง�นด้�นวศิวกรรม และก�รกำ�หนดก�รใชป้ระโยชน์ท่ีดินท่ีสอดคล้องกับศักยภ�พของพื้นท่ี ซึ่งเป็นม�ตรก�รระยะย�ว ดังนัน้เพื่อใหก้�รแก้ปัญห�ดังกล่�วเป็นไปอย่�งมปีระสทิธภิ�พ โดยเฉพ�ะอย�่งยิง่กับพื้นที่ต ้นนำ้�ลำ�ธ�ร เอกส�รวชิ�ก�รฉบบันี้จงึถกูจดัท ำ�ข ึ้นเพ ื่อ (๑)วเิคร�ะหก์�รทำ�ง�นต�มหน้�ที่ในก�รใหบ้รกิ�รของป่�ต้นนำ้� และก�รเปลี่ยนแปลงเมื่อป่�ต้นนำ้�ถกูทำ�ล�ย และ(๒)นำ�เสนอก�รประยุกต์ใชโ้ครงสร�้งของป่�ต้นนำ้� เพื่อลดคว�มเสยีห�ยท่ีเกิดขึ้น

ป่�ต้นนำ�ของประเทศไทย

ป่�ต้นนำ้� หม�ยถึง ป่�ธรรมช�ติที่ปร�กฏอยูบ่รเิวณพื้นที่ต้นนำ้�ลำ�ธ�ร ซึ่งโดยทัว่ไปเป็นพื้นที่ที่อยูส่งูจ�กระดับนำ้�ทะเล ๗๐๐ เมตรขึ้นไป และ/หรอื เป็นพ ื้นท ี่ท ี่ม คี ว �ม ล� ด ช นั ม � ก ก ว �่ ๓ ๕ เปอรเ์ซน็ต์ และ/หรอื เป็นพื้นท่ีที่อยูใ่นชัน้

ค ณุ ภ � พ ล ุ่ม น ำ้� (watershed classification) ช ัน้ท ี่ ๑ และ ๒ ต�มมติคณะรฐัมนตร ี จ�กก�รสำ�รวจด้วยเทคโนโลยที ี่ท ันสมยัของสว่นประเมนิทรพัย�กรต ้นน ำ้� ส ำ�น ักอน ุร กัษ ์และจดัก�รต้นนำ้� พบว�่ประเทศไทยมพีื้นที่ต้นนำ้�ทัง้สิน้รอ้ยละ ๒๖.๓๘ ของพื้นที่ทัง้

Page 2:  · Web viewดร.พงษ ศ กด ว ทว สช ต ก ล๒ พ ณท พย ธ ต โรจนะว ฒน ๒ และสำเร ง ปานอ ท ย3 คำนำ

ประเทศ ภ�คเหนือมพีื้นท่ีต้นนำ้�ม�กท่ีสดุรอ้ยละ ๔๘.๓๑ ของพื้นที่ภ�ค รองลงม�ได้แก่ ภ�คใต้ ภ�คกล�ง-ตะวนัตก ภ�คตะวนัออก และภ�คตะวนัออกเฉียงเหนือ รอ้ยละ ๓๒.๒๓, ๒๒.๑๖, ๑๑.๑๙ และ ๑๐.๖๒ ของพื้นท่ีแต่ละภ�คต�มลำ�ดับ

ส ำ�หร บัชน ิดของป ่� ไมท้ ี่ม กัจะปร�กฏใหเ้หน็อย ูบ่ร เิวณพ ื้นท ี่ต ้นน ำ้� ได้แก่ ป่�ดิบเข� ป่�ดิบชื้น ป่�ดิบแล้ง ป่�เบญจพรรณ และป่�เต็งรงั สว่นป่�สนเข�นัน้ สว่นใหญ่มกัจะพบเป็นพื้นที่ขน�ดเล็กที่กระจ�ยตัวอยูเ่ฉพ�ะบรเิวณสนัเข�แ ล ะ ไ ห ล ่เ ข � ท ี่ม ชี ัน้ ด ิน ต ื้น เ ท ่� น ัน้

Berglund (1969) อธบิ�ยว�่ ในมุมมองด้�นวนวฒันวทิย� (silviculture) ปัจจยัที่เป็นตัวกำ�หนดชนิดของป่�ต้นนำ้�ประกอบไปด้วย (๑)สภ�พอ�ก�ศ ได้แก ่อ ุณ ห ภ มู ิ แ ล ะ ป ร มิ � ณ น ำ้� ฝ น (๒)ลักษณะภมูปิระเทศ (๓)ชนิดดิน (๔)ป ัจจยั ไฟป ่� (๕)ป ัจจยัก ิจกรรมมนุษย ์ และ (๖)ระยะเวล�ของก�รพฒัน�ตัว ทัง้นี้ พงษ์ศักดิ์ วทิวสัชุติกลุ และคณะ (๒๕๕๔) ได้จดัทำ�เป็นเง่ือนไขในก�รปร�กฏตัวของป่�ต้นนำ้�ชนิดต่�ง ๆ ในแต่ละสภ�พพื้นที่เอ�ไวดั้งนี้

1 เอกส�รประกอบก�รประชุมสมัมน� เรื่อง วถิีป่�ไม ้“ (ไทย) สูภ้ัยธรรมช�ติ ณ หอ้งประชุม”สง่�สรรพศร ีตึกคณะวนศ�สตร ์๖๐ ปี

คณะวนศ�สตร ์มห�วทิย�ลัยเกษตรศ�สตร ์ วนัศุกรท่ี์ ๙ มนี�คม ๒๕๕๕2 นักวชิ�ก�รป่�ไมช้ำ�น�ญก�รพเิศษ สว่นวจิยัต้นนำ้� สำ�นักอนุรกัษ์และจดัก�รต้นนำ้� กรม

อุทย�นแหง่ช�ติ สตัวป่์� และพนัธุพ์ชื 3 นักวชิ�ก�รป่�ไมช้ำ�น�ญก�ร สว่นวจิยัต้นนำ้� สำ�นักอนุรกัษ์และจดัก�รต้นนำ้� กรมอุทย�น

แหง่ช�ติ สตัวป์่� และพนัธุพ์ชื

ดินลึก

ป่�ดิบเข�

ปริม�ณนำ้�ฝน

ฝนตกม�ก ฝนตกน้อย

พ้ืนท่ีสูง พ้ืนท่ีตำ่� ดินลึก ดินต้ืน

ดินต้ืน ดินเหนียว ดินทร�ย ไม่มีไฟป่� มีไฟป่�

ป่�สนเข� ป่�ดิบช้ืน ป่�ดิบแล้ง ป่�เบญจพรรณแล้ง

ป่�เบญจพรรณช้ืน ป่�เต็งรัง

จะนำ�วถีิป่�ไมไ้ทยไปสูภั้ยธรรมช�ติกันอย�่งไร? -

2-

Page 3:  · Web viewดร.พงษ ศ กด ว ทว สช ต ก ล๒ พ ณท พย ธ ต โรจนะว ฒน ๒ และสำเร ง ปานอ ท ย3 คำนำ

รูปท่ี ๑ ปัจจยัท่ีทำ�ใหเ้กิดป่�ต้นนำ้�ชนิดต่�ง ๆ ในประเทศไทย

หน้�ท่ีของป่�ต้นนำ�

ป ่� ต ้น น ำ้� เ ป ็น ก ล ไ ก ต ัว ห น ึ่ง (structure) ของระบบน ิเ วศต ้นน ำ้� โดยถกูจดัใหไ้ปอยูใ่นสว่นของปัจจยัที่ทำ�หน้�ที่เชื่อมโยงปัจจยัผันแปรภ�ยนอก อันได้แก่ น ำ้�ฝน และพลังง�นจ�กรงัสีดวงอ�ท ิตย ์ก ับป ัจจยัคงท ี่ภ �ยในท ี่ประกอบไปด้วย ลักษณะภมูปิระเทศ และชน ิดก ับคว �มล ึกของช ัน้ด ิน เม ื่อพจิ�รณ�เฉพ�ะในสว่นของระบบก�รหม ุน เว ยีนน ำ้� ป ่�ต ้นน ำ้� จ ะ ท ำ�ห น ้�ท ี ่(function) ในก�รแบง่นำ้�ฝนที่ตกลงม�แต่ละครัง้ใหเ้ป็นนำ้�ผิวดิน และนำ้�ใต้ผิวดิน ต่อจ�กนัน้ปัจจยัภมูปิระเทศจะทำ�หน้�ที่รบัชว่งต่อจ�กปัจจยัป่�ต้นนำ้�ในก�รควบคมุก�รไหลของนำ้�ผิวดิน ในขณะเดียวกันปัจจยัชนิดดินและคว�มลึกของช ัน้ด ินจะท ำ�หน้�ท ี่รบัชว่งต่อจ�กปัจจยัป่�ต้นนำ้�ในก�รควบคมุก�รเคลื่อนตัวของนำ้�ใต้ผิวดิน ทัง้นำ้�ผิวดินและนำ้�ใต้ผิวดินจะไหลและเคลื่อนตัวม�รวมกันเป็นนำ้�ท่�ที่ไหลในลำ�ธ�ร ซึ่งเป็นบรกิ�ร (service) อันหนึ่งที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษยข์องระบบนิเวศต้นนำ้�

ก�รเก็บกักนำ�ฝน

ผลของก�รวเิคร�ะหต์ัวอย�่งดินในป่�ชนิดต่�ง ๆ ที่สว่นวจิยัต้นนำ้�ดำ�เนินก�รเก็บจ�กท้องที่ต่�ง ๆ จำ�นวนม�กกว�่ ๒๐๐ ตัวอย่�ง ทัว่ประเทศม�ประมวลเข้�ด้วยกัน ท ำ�ใหท้ร�บว�่ป่�ไมท้ ี่ม ีล ักษณะชุม่ช ื้นสงู ไปจนถ ึง ป ่�ไมท้ ี่ม ีลักษณะแหง้แล้ง คือ ป่�ดิบเข� ป่�ดิบชื้น ป่�ดิบแล้ง ป่�เบญจพรรณ และป่�เต็งรงัของประเทศไทย มคี่�เฉลี่ยคว�มลึกของชัน้ดินเท่�กับ ๘๒ เซนติเมตร และมคี่�เฉลี่ยคว�มพรุนของดิน หรอื ปรมิ�ณช อ่ ง ว �่ ง ภ � ย ใ น ด ิน เ ท ่� ก ับ ๔ ๙ .๖ ๑ เปอรเ์ซน็ต์ สง่ผลทำ�ใหค้่�เฉลี่ยคว�มส�ม�รถในก�รเก็บกักนำ้�ฝนได้สงูสดุมคี่�เท่�กับ ๖๘๗.๘๔ ลบ.ม./ไร ่

ก�รให้นำ�ท่�ให้กับลำ�ธ�ร

จ�กก�รเก็บวดัขอ้มูลปรมิ�ณนำ้�ฝน และปรมิ�ณนำ้�ท ่�อย�่งต่อเนื่อง ของพื้นท่ีต้นนำ้�ป่�ธรรมช�ติที่ประกอบไปด้วย ป่�ดิบเข� ป่�ดิบชื้น ป่�ดิบแล้ง ป่�เบญจพรรณ และป่�เต็งรงั ในท้องที่ต่�ง ๆ ของจงัหวดัเชยีงใหม ่น่�น สกลนคร นครร�ชสมี� ระยอง นครศรธีรรมร�ช และสงขล� ของสว่นวจิยัต้นนำ้� ส ำ�นักอนุรกัษ์และจดัก�รต้นนำ้� กรมอุทย�นแหง่ช�ติ สตัวป์่� และพนัธุพ์ชื ผลก�รวเิคร�ะหข์อ้มูลพบว�่ ป่�ต้นนำ้�ทัว่ไปจะให้

จะนำ�วถีิป่�ไมไ้ทยไปสูภั้ยธรรมช�ติกันอย�่งไร? -

3-

Page 4:  · Web viewดร.พงษ ศ กด ว ทว สช ต ก ล๒ พ ณท พย ธ ต โรจนะว ฒน ๒ และสำเร ง ปานอ ท ย3 คำนำ

นำ้�ท่�ไหลในลำ�ธ�รเฉลี่ย ๔๖๔.๑ มม./ป ี (อยูใ่นชว่งระหว่�ง ๑๐๗.๔ มม./ปี ของป่�เต็งรงั ถึง ๘๙๗.๑ มม./ปี ของป่�ดิบเข�) หรอืรอ้ยละ ๒๔.๔๖ ของฝนท่ีตกลง

ม�ทัง้หมดในแต่ละปี ซ ึ่งมคี่�โดยเฉลี่ยประม�ณ ๑,๘๙๖.๙ มม. ดังร�ยละเอียดในรูปท่ี ๒.

นำ้� ฝน นำ้� ท่ �เม.ย. 131.6 17.4พ.ค. 198.1 26.8มิ.ย. 183.3 21.6ก.ค. 239.2 30.2ส.ค. 278.0 53.2ก.ย. 299.3 60.1ต.ค. 191.6 73.1พ.ย. 142.6 59.1ธ.ค. 91.0 53.3ม.ค. 40.4 31.0ก.พ. 39.8 19.3มี.ค. 61.9 19.0

รวม 1896.9 464.1%นำ้� ท่ � 24.46

เดือนป่�ต้นนำ้�

ค่�เฉล่ียท่ัวประ เทศ

0

50

100

150

200

250

300

350

ѯє ѕ ё з єѧѕ д з ѝ з д ѕ шз ё ѕ ыз є з д ё єѨз

ьѸѼѥѐььѸѼѥъҕѥ

รูปท่ี ๒. ค่�เฉล่ียร�ยเดือนปรมิ�ณนำ้�ฝน และนำ้�ท่�ของป่�ต้นนำ้�ของประเทศไทย

ป่�ต้นนำ�ในปัจจุบนั

ผ ล จ � ก ก � ร แ ป ล ข อ้ ม ูล จ � กภ�พถ่�ยด�วเทียมในปี พ.ศ.2551 ของสว่นประเมนิทรพัย�กรต้นน ำ้� ส ำ�น ักอนุรกัษ์และจดัก�รต้นนำ้� กรมอุทย�นแหง่ช�ติ สตัวป์่� และพนัธุพ์ชื พบว่�ประเทศไทยมพีื้นที่ป่�ไมเ้หลืออยู่บนพื้นที่ต ้นนำ้�โดยเฉลี่ยเพยีงรอ้ยละ ๘๗.๖๗ โดยที่ภ�คใต้มพีื้นที่ป่�ไมบ้นพื้นที่ต้นนำ้�น้อยที่สดุรอ้ยละ ๗๗.๗๓ รองลงม�เป็นภ�คตะวนัออกเฉียงเหนือ ภ�คเหนือ ภ�คกล�ง-ภ�คตะวนัตก และภ�คตะวนัออก รอ้ยละ ๘๓.๐๓, ๙๐.๓๕, ๙๑.๘๓ และ ๙๓.๘๒ ต�มลำ�ดับ

เกิดอะไรขึนเมื่อป่�ต้นนำ�ห�ยไป

เม ื่อพื้นที่ป ่�ต้นนำ้�ถกูเปลี่ยนไปเป ็นพื้นท ี่ท ำ�ก�รเกษตร และ/หรอื ใช ้ประโยชน์ที่ดินรูปแบบอื่น ๆ โครงสร�้งของระบบนิเวศต้นนำ้�จะเปลี่ยนไป สง่ผลท ำ�ใหก้�รท ำ�ง�นต�มหน ้�ท ี่ในก�รให ้บ ร กิ � ร ข อ ง ร ะ บ บ น ิเ ว ศ ต ้น น ำ้�เปลี่ยนแปลงต�มไปด้วย ก�รลดลงของจำ�นวนชัน้เรอืนยอดและคว�มแน่นทึบในก�รปกคลมุผ ิวด ิน เม ื่อป ่�ต ้นน ำ้�ถ กูเปลี่ยนไปเป ็นพชืเกษตร ท ำ�ใหน้ ำ้�ฝนตกลงสูพ่ื้นดินเรว็ขึ้นและแรงม�กขึ้น ผิวดินจงึถกูอัดแน่น คว�มพรุนหรอืชอ่ง

จะนำ�วถีิป่�ไมไ้ทยไปสูภั้ยธรรมช�ติกันอย�่งไร? -

4-

Page 5:  · Web viewดร.พงษ ศ กด ว ทว สช ต ก ล๒ พ ณท พย ธ ต โรจนะว ฒน ๒ และสำเร ง ปานอ ท ย3 คำนำ

ว�่งภ�ยในชัน้ดินทัง้หมดลดลงรอ้ยละ ๓.๘๒ โดยเฉลี่ย คว�มส�ม�รถในก�รดดูซบันำ้�ฝนของผิวดินจะลดลงโดยเฉล่ียรอ้ยละ ๔๘.๓๖ นำ้�ฝนที่ตกต�มม�ภ�ยหลังจงึกล�ยเป็นนำ้�ไหลบ�่หน้�ผิวดินแทนก�รซมึลงไปในดิน และกัดเซ�ะเอ�ผิวหน้�ดินที่อุดมไปด้วยธ�ตอุ�ห�รชนิดต่�ง ๆ ออกไปจ�กพื้นที่ จ�กก�รศึกษ�ของสว่นวจิยัต้นนำ้�พบว�่ ก�รทำ�ล�ยป่�ต้นนำ้�ทำ�ใหเ้กิดก�รกัดชะพงัทล�ยดินเพิม่ม�กขึ้นโดยเฉลี่ย ๑๐.๐๒ เท่�ของป่�ธรรมช�ติ

ในขณะเดียวกัน จะทำ�ใหเ้กิดก�รเปลี่ยนแปลงสดัสว่นระหว่�งนำ้�ฝนที่ซมึลงไปในดิน กับ นำ้�ฝนที่แปรสภ�พไปเป็นนำ้�ไหลบ�่หน้�ผิวดิน สง่ผลทำ�ใหส้ดัสว่นของนำ้�ที่เป็นองค์ประกอบของนำ้�ท่�ที่ไหลในลำ�ธ�รเกิดก�รเปลี่ยนแปลงต�มไปด้วย จ�กก�รจำ�ลองเหตกุ�รณ์ก�รไหลของนำ้�ท่�ในลำ�ธ�ร หลังก�รเปล่ียนแปลงป่�ดิบแล้งไปเป็นสวนย�งพ�ร�บนพื้นที่ล�ดชนัที่จงัหวดัระยอง พบว่� ปรมิ�ณน ำ้� ท ่� จ ะ ไ ห ล เ พ ิม่ ม � ก ข ึ้น ร อ้ ย ล ะ ๒๒.๔๔-๑๖.๑๗=๖.๒๗ ของฝนที่ตกลงม�ทัง้หมด และไหลแรงขึ้นรอ้ยละ ๕๔.๐๗

แต่ชว่งระยะเวล�ในก�รไหลของนำ้�ท่�กลับลดลงจ�ก ๑๑ เดือนเหลือเพยีง ๘ เดือนเท่�นัน้ (พงษ์ศักดิ์ วทิวสัชุติกลุ และพณิทิพย ์ธติิโรจนะวฒัน์. ๒๕๕๒) ผลกระทบดังที่ได้กล่�วม�แล้วข�้งต้นนี ้เป็นส�เหตสุำ�คัญที่ก่อใหเ้กิดเหตกุ�รณ์นำ้�บ�่ไหลหล�กและอุทกภัยในชว่งฤดฝูน กับปัญห�ก�รข�ดแคลนนำ้�ใชใ้นชว่งฤดูแล้ง

ถ้�ต้นนำ�มปี่�ไมท้ี่สมบูรณ์จะมผีลต่อมห�อุทกภัยหรอืไม ่?

จ � ก ก � ร น ำ� ข อ้ ม ูล ข อ ง ก ร มอุตนุิยมวทิย� และกรมชลประท�น ม�ประย ุกต ์ใชก้ ับวธิกี �รของ SCS-CN methodology เพื่อจำ�ลองเหตกุ�รณ์ก�รเกิดนำ้�ท่�ไหลในลำ�ธ�ร พบว�่ฝนที่ตกลงเหนือพื้นที่ภ�คเหนือและภ�คกล�งตัง้แต่เดือนมกร�คมถึงเดือนตลุ�คม พ.ศ.๒๕๕๔ มมี�กกว�่ปีปกติ (ค่�เฉลี่ยป ีพ.ศ.๒๕๑๔-๒๕๔๓) รอ้ยละ ๔๒.44 และ ๒ 5.67 ต � ม ล ำ� ด ับ (Anonymous, 2011) ส ง่ ผ ล ท ำ� ใ ห เ้ ก ิด ก � รเปลี่ยนแปลงมวลของน ำ้�ท ่�ท ี่ไหลในแมน่ำ้�ลำ�ธ�รดังต่อไปนี้

ภ�คเหนือ (ลุ่มนำ้�หลักปิง วงั ยม และน่�น) มมีวลนำ้�เพิม่ม�กขึ้น ๑๐,๗๖๙.๙๒ ล้�น ลบ.ม. เพิม่ขึ้นจ�กมวลนำ้�ปกติ คือ ๒๓,๓๕๕ ล้�น ลบ.ม. หรอืประม�ณรอ้ยละ ๔๖.๑๑ สว่นภ�คกล�ง (ลุ่มนำ้�หลักเจ�้พระย� สะแกกรงั ท่�จนี และป่�สกั) จะมมีวลนำ้�เพิม่ม�กขึ้น ๓,๙๐๗.๗๘ ล้�น ลบ.ม. เพิม่ขึ้นจ�กมวลนำ้�ปกติ คือ ๘,๒๖๐.๒๕ ล้�น ลบ.ม. หรอืประม�ณรอ้ยละ ๔๗.๓๑ ดังแสดงในรูปท่ี ๓. จะนำ�วถีิป่�ไมไ้ทยไปสูภั้ยธรรมช�ติกันอย�่งไร? -

5-

Page 6:  · Web viewดร.พงษ ศ กด ว ทว สช ต ก ล๒ พ ณท พย ธ ต โรจนะว ฒน ๒ และสำเร ง ปานอ ท ย3 คำนำ

1

0

5000

10000

15000

20000

25000

30000

35000

40000

Á¤.¥. ¡ . � . ¤·.¥. � . � . . � . � .¥. � . � . ¡ .¥. � . � . ¤. � . � .¡. ¤̧. � .

Q2554

Q ·� � �

0

5000

10000

15000

20000

25000

30000

35000

40000

Á¤.¥. ¡ . � . ¤·.¥. � . � . . � . � .¥. � . � . ¡ .¥. � .� . ¤. � . � .¡ . ¤̧.� .

Q nµ¸� �Q2554

¤ª̈ � Îʵ£µÁ®º°� �� ¦·¤µ� � Îʵ� nµ¨oµ¨� � ¤

¤ª̈ � Îʵ£µ µ̈� � �� ¦·¤µ� � Îʵ� nµ¨oµ¨� � ¤

รูปท่ี ๓. เปรยีบเทียบมวลนำ้�จ�กลุ่มนำ้�หลักภ�คเหนือ และลุ่มนำ้�หลักภ�คกล�งระหว�่งปี ๒๕๕๔ กับปีปกติ

อย�่งไรก็ต�ม เมื่อจำ�ลองเหตกุ�รณ์ให้พ ื้นท ี่ต ้นน ำ้�มปี ่�ต ้นน ำ้�ปกคลมุอย�่งสมบ ูรณ ์เต ็มพ ื้นท ี่ และพ ื้นท ี่ท ำ�ก�รเกษตรบรเิวณพื้นที่ท้�ยนำ้�มลีักษณะเป็นเกษตรทฤษฎีใหมแ่ทน เพื่อใหพ้ื้นที่มขีดีคว�มส�ม�รถในก�รดดูซบันำ้�ฝนม�กขึ้น (Sahunalu, 1970; คณ�จ�รยภ์�ควชิ�ปฐพวีทิย�, ๒๕๑๕) ผลปร�กฏว�่ลุ่มนำ้�หลักภ�คเหนือส�ม�รถลดมวลนำ้�ได้ถึง 7,838.95 ล้�น ลบ.ม. ในขณะเดียวกันพื้นที่ลุ่มนำ้�หลักภ�คกล�งชว่ยลดมวลนำ้�ได้ถึง 2,314.63 ล้�น ลบ.ม. ร ว ม เ ป ็น ม ว ล น ำ้� ท ี่ถ กู ล ด ไ ป ท ัง้ ส ิน้ 10,153.58 ล้�น ลบ.ม. หรอืประม�ณร อ้ ย ล ะ 20.99 ข อ ง ม ว ล น ำ้� ห ล � กทัง้หมด

ผลก�รศึกษ�ดังกล่�วได ้ถกูน ำ�ม�สร�้งเป็นแนวคิดขึ้นม�ว�่ ถ้�ทำ�ให้พื้นที่เกษตรทัง้หมดมโีครงสร�้งเหนือผิวดินใกล้เคียงกับป่�ธรรมช�ติ เชน่ เกษตร

๔ ชัน้ หรอื ป่�กินได้ (ดังตัวอยูท่ี่แสดงในรูปที่ ๔.) แล้ว น ำ้�ฝนที่ตกลงม�สว่นใหญ่ก็จะไหลซมึลงไปในดินแทนก�รแปรสภ�พไปเป็นนำ้�ไหลบ�่หน้�ผิวดิน (พงษ์ศักดิ์ วทิวสัชุติกลุและทรงธรรม สขุสว่�ง ,2530) และสง่ผลทำ�ใหม้วลนำ้�ที่ไหลในลำ�ธ�รลดลงทัง้ปรมิ�ณและคว�มรุนแรงใ น ก � ร ไ ห ล ไ ด ้ ด ้ว ย เ ห ต ผุ ล ท ี่ว ่� (๑)คว�มแน่นทึบของเรอืนยอดทัง้ในแนวตัง้และแนวระน�บ จะชว่ยลดแรงตกกระทบของเมด็ฝนและยดืระยะเวล�ในก�รตกลงพื้นดินใหม้�กขึ้น (๒)ซ�กพชืที่เก ิดจ�กก�รรว่งหล่นของต้นไมห้ล�กหล�ยชนิด เมื่อสล�ยตัวเป็นอินทรยีวตัถุและคลกุเคล้�กับดินผิว จะชว่ยเพิม่คว�มพรุนและคว�มส�ม�รถในก�รดดูซบันำ้�ฝนใหม้�กขึ้น และ(๓)ระบบร�กที่หยัง่ลึกลงไปในช ัน้ด ินหล�ยระด ับของต้นไม ้ขน�ดใหญ่และเล็ก ชว่ยสง่เสรมิใหน้ำ้�ฝน

จะนำ�วถีิป่�ไมไ้ทยไปสูภั้ยธรรมช�ติกันอย�่งไร? -

6-

Page 7:  · Web viewดร.พงษ ศ กด ว ทว สช ต ก ล๒ พ ณท พย ธ ต โรจนะว ฒน ๒ และสำเร ง ปานอ ท ย3 คำนำ

ที่ซมึลงม�จ�กผิวดินเคลื่อนตัวลงสูส่ว่นลึกของชัน้ดินเพิม่ม�กขึ้นได้

จะทำ�แนวคิดดังกล่�วให้เป็นจรงิได้อย�่งไร ?

เกษตร ๔ ชัน้ และ/หรอื ป่�กินได ้(multilayer cropping system หรอื home garden) เป็นก�รนำ�เอ�พชืเศรษฐกิจทัง้ที่เป็นไมย้นืต้น และพชืล้มลกุชนิดต่�ง ๆ ม�ปลกูคละกันไปม�จนก ร ะ ท ัง่ ม โี ค ร ง ส ร �้ ง เ ห น ือ ผ ิว ด ินคล้�ยคลึงป ่�ธรรมช�ติ ท ัง้น ี้เพ ื่อให ้โครงสร�้งดังกล่�วชว่ยรกัษ�และฟื้ นฟูสภ�พแวดล้อมของพื้นที่ โดยเฉพ�ะอย�่งย ิง่ระบบก�รดดูซบัน ำ้�ฝน และระบ�ยนำ้�ท่�ลงสูล่ำ�ธ�รใหก้ับพื้นที่ท้�ยนำ้� ในขณะเดียวกันก�รปลกูพชืหล�ยชนิดบนพ ื้นท ี่เ ด ียวก ัน จ ะก ่อ ให เ้ ก ิด เป ็น

ผลผลิตท�งก�รเกษตรหล�กหล�ยชนิดต่อเนื่องกันตลอดทัง้ปี

ก�รคัดเลือกชนิดพนัธุแ์ละสดัสว่นของพชืเศรษฐกิจที่จะน ำ�ม�ปลกูผสมผส�นกันใหเ้ป็นป่�กินได้ จะอยูบ่นพื้นฐ�นของขอ้มูลที่เกิดขึ้นจ�กก�รศึกษ�วจิยัในร ูป แ บ บ ข อ ง ง � น ว จิ ยั เ พ ื่อ ท ้อ ง ถ ิ่น (community based research) ท ี่มปีระช�ชนในท้องที่เข ้�ม�รว่มทำ�ก�รศึกษ�และวจิยัทกุข ัน้ตอน โดยมขี ัน้ตอนท่ีประกอบไปด้วย

ขัน้ตอนที่ (๑)ก�รศึกษ�ขอ้มูลพื้นฐ�นของพชืเศรษฐกิจแต่ละชนิดท่ีปลกูในลักษณะเชงิเดี่ยว ได้แก่ (๑.๑)ลักษณะท � ง อ ุท ก ว ทิ ย � ป ร ะ ก อ บ ด ้ว ย (๑.๑.๑)ปรมิ�ณนำ้�พชืยดึ (๑.๑.๒)อัตร�ก�รซมึนำ้�ผ่�นผิวดิน (๑.๑.๓)คว�มเรว็ในก�รเคล่ือนตัวของนำ้�ในชัน้ดิน

(๑ .๑ .๔)ก�รสญูเสยีด ินและน ำ้�จ�กกระบวนก�รก ัดชะพงัทล �ยของด ิน และ(๑.๒)ก�รวเิคร�ะหก์�รลงทนุกับผลตอบแทนที่ได้รบัจ�กก�รปลกูและดแูลรกัษ�พชืเศรษฐกิจแต่ละชนิด

จะนำ�วถีิป่�ไมไ้ทยไปสูภั้ยธรรมช�ติกันอย�่งไร? -

7-

Page 8:  · Web viewดร.พงษ ศ กด ว ทว สช ต ก ล๒ พ ณท พย ธ ต โรจนะว ฒน ๒ และสำเร ง ปานอ ท ย3 คำนำ

รูปท่ี ๔. ก�รปลกูผสมผส�นกันของพชืเศรษฐกิจชนิดต่�ง ๆ เป็นป่�กินได้เพื่อใชฟ้ื้ นฟูต้นนำ้�ลำ�ธ�ร

ขัน้ตอนที่ (๒)เป็นก�รคัดเลือกรูปแ บ บ ข อ ง ป ่� ก ิน ไ ด ้ โ ด ย ใ ช ้ linear programming ซึ่งเป็นก�รนำ�วธิกี�รท�งคณิตศ�สตรท์ี่เรยีกว่�ก�รวจิยัขัน้ด ำ� เ น ิน ก � ร ห ร อื operation research เป ็นเคร ื่องมอื เพ ื่อห�สดัสว่นของจำ�นวนพชืเศรษฐกิจที่เป็นไม้ชัน้บน (X1) จำ�นวนไมช้ัน้รอง (X2) และจำ�นวนไมพ้ื้นล่�ง (X3) ที่จะนำ�ม�ผสมผส�นกันเป็นป่�กินได้ แล้วก่อใหเ้กิดเป็นร�ยได้สงูสดุ (Zmax) ภ�ยใต้ขดีจำ�กัดต่�ง ๆ ทัง้ท�งสิง่แวดล้อมและสงัคม โดยมสีมก�รเป้�หม�ยดังต่อไปน้ี คือ

Zmax = a X1 + b X2 + c X3 …(1)

เมื่อ a, b และ c เป็นร�ค�ของผลผลิตพชืเศรษฐกิจแต่ละชนิด อย�่งไรก็ต�ม

ในก�รปลกูพชืใหไ้ด้เป้�หม�ยดังกล่�ว ยอ่มมขีอ้จำ�กัดในด้�นต่�ง ๆ อ�ทิ (1)แรงง�น สมมุติว�่ครอบครวัหนึ่ง ๆ จะมจีำ�นวนแรงง�นจำ�กัดเพยีงครอบครวัละ 5.8 คน โดยเฉล่ีย (2)ก�รใชน้ำ้� หรอืก�รสญูเสยีนำ้�ออกจ�กพื้นท่ีโดยกระบวนก�รค�ยระเหยนำ้� หรอื evapotranspiration ต้องมคี่�ใกล้เคียงกับป่�ธรรมช�ติ คือประม�ณ 50 % ของฝนท่ีตกลงม�ทัง้หมดตลอดทัง้ปี และ (3)ป่�กินได้ ต้องไมก่่อใหเ้กิดก�รสญูเสยีดินและนำ้�จ�กกระบวนก�รกัดชะพงัทล�ยของดิน หรอื soil erosion ม�กไปกว�่ท่ีเกิดขึ้นในป่�ธรรมช�ติทัว่ไป คือเฉล่ียประม�ณ 65 ตัน/ตร.กม./ปี ทำ�ใหรู้ปแบบของอสมก�รขอ้จำ�กัดหรอื constraint equation จะมรูีปลักษณะดังต่อไปนี้ คือ

จะนำ�วถีิป่�ไมไ้ทยไปสูภั้ยธรรมช�ติกันอย�่งไร? -

8-

Page 9:  · Web viewดร.พงษ ศ กด ว ทว สช ต ก ล๒ พ ณท พย ธ ต โรจนะว ฒน ๒ และสำเร ง ปานอ ท ย3 คำนำ

d1 X1 + d2 X2 + d3 X3 5.8…(2)

e1 X1 + e2 X2 + e3 X3 50…(3)

f1 X1 + f2 X2 + f3 X3 65…(4)

เมื่อ d, e และ f เป็นค่�สมัประสทิธิข์องก�รใชแ้รงง�น ก�รใชน้ำ้� และก�รสญูเสยีดินและนำ้�ของพชืเศรษฐกิจแต่ละชนิด ท่ีเป็นขอ้มูลที่ได้จ�กก�รศึกษ�วจิยัจ�กขัน้ตอนท่ี (๑) ทัง้สิน้ (พงษ์ศักดิ์ วทิวสัชุติกลุ, 254 ๕)

ข ัน้ ต อ น ท ี่ (๓ ) ห ร อื ข ัน้ ต อ นสดุท้�ย เป็นก�รนำ�รูปแบบของป่�กิน

ได้ที่ผ่�นก�รคัดเลือกจำ�นวน ๓ ถึง ๕ รูปแบบ ม�สร �้ง เป ็นแปลงส�ธติ โดยประช�ชนที่เข�้รว่มโครงก�ร ดำ�เนินก�รเก็บวดัขอ้มูลในลักษณะเดียวกันกับขัน้ตอนท ี่ (๑) เพ ื่อต ิดต�มผลของก�รลงทนุและผลตอบแทนที่ได้รบั ควบคู่ไปกับติดต�มผลของก�รพฒัน�ก�รทำ�ง�นต�มหน้�ที่ของระบบนิเวศของพื้นที่ภ�ยหลังก�รสร�้งป่�กินได้แต่ละรูปแบบ นำ�ขอ้มูลทัง้สองกลับม�ตัดสนิใจอีกคร ัง้เพ ื่อค ัดเล ือกร ูปแบบที่เหม�ะสมที่สดุสำ�หรบัชว่งเวล�นัน้ ๆ

บทสรุป

ถึงแมว้ �่ประเทศไทยจะมพี ื้นท ี่ต้นนำ้�ลำ�ธ�รม�กถึง ๑ ใน ๔ สว่นของพื้นที่ทัง้ประเทศ แต่พื้นที่ดังกล่�วก็ยงัคงถกูบุกรุกและใชป้ระโยชน์อย่�งต่อเนื่องจ�กอดีตที่ผ่�นม� ก�รทำ�ล�ยป่�ไมบ้นพื้นที่ต้นนำ้�เป็นก�รเปลี่ยนแปลงโครงสร�้งของระบบนิเวศต้นนำ้� สง่ผลท ำ�ใหก้�รท ำ�ง�นต�มหน ้�ท ี่ในก�รให ้บรกิ�รที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษยม์กี�รเปลี่ยนแปลงต�มไปด้วย กล่�วคือทำ�ให้คว�มส�ม�รถในก�รดดูซบันำ้�ฝนลดลง เพิม่นำ้�ไหลบ�่หน้�ผิวดิน เพิม่ก�รกัดชะพงัทล�ยของดิน เพ ิม่น ำ้�ท ่�ท ี่ไหลในลำ�ธ�รทัง้ปรมิ�ณและคว�มรุนแรงในก�ร

ไหล แต่ชว่งระยะเวล�ในก�รไหลของนำ้�ท่�กลับลดลง

ในก�รแก้ไขปัญห� รฐับ�ลต้องระบุลงไปว่�พื้นที่สว่นใดของต้นนำ้�ที่ไม่ส�ม�รถใหป้ระช�ชนเข�้ไปใชป้ระโยชน์ได้ โดยมเีหตผุลและขอ้มูลประกอบ และพื้นที่ต้นนำ้�สว่นใดบ�้งที่ส�ม�รถผ่อนปรนใหป้ระช�ชนเข�้ไปใชป้ระโยชน์ได้ชว่งระยะเวล�หนึ่ง สำ�หรบัในพื้นที่ผ่อนปรนต ้องก ำ�หนดใหช้ ดั เจนลงไปว ่�จ ะ ใช ้ประโยชน์พื้นที่ด้วยรูปแบบใด เชน่ ก�รสร�้งป่�กินได้ แต่ก�รอยูร่ว่มกันของพชืเศรษฐกิจ โดยเฉพ�ะอย�่งยิง่ก�รซอ้นทับกันในแนวตัง้ จะมผีลทำ�ใหก้�รให้ผลผลิตของพชืเศรษฐกิจเหล่�นี้ลดลง

จะนำ�วถีิป่�ไมไ้ทยไปสูภั้ยธรรมช�ติกันอย�่งไร? -

9-

Page 10:  · Web viewดร.พงษ ศ กด ว ทว สช ต ก ล๒ พ ณท พย ธ ต โรจนะว ฒน ๒ และสำเร ง ปานอ ท ย3 คำนำ

ท ำ� ใ ห ช้ ุม ช น ต ้น น ำ้� ม รี � ย ไ ด ้ล ด ล ง อย�่งไรก็ต�ม ปัญห�ดังกล่�วนี้ส�ม�รถแก ้ไ ข ไ ด ้ด ้วย ก �ร น ำ�ม� ตร ก �ร ข อ ง Payment for Ecological Services หรอื PES ม�ประยุกต์ใชไ้ด ้ซึ่งจะต้องมกี�รศึกษ�วจิยักันต่อไป

เอกส�รอ้�งอิง

คณ�จ�รยภ์�ควชิ�ปฐพวีทิย�. 2515. ปฐพวีทิย�เบื้องต้น. ภ�ควชิ�ปฐพวีทิย� คณะเกษตรศ�สตร์มห�วทิย�ลัยเกษตรศ�สตร.์

พงษ์ศักดิ์ วทิวสัชุติกลุ. 2545. แนวท�งก�รจดัก�รลุ่มนำ้�โดยชุมชน. เอกส�รเผยแพรท่ี่ 10/2545 สถ�นีวจิยัลุ่มนำ้�หว้ยหนิด�ด. กลุ่มลุ่มนำ้� สว่นวจิยัและพฒัน�สิง่แวดล้อมป่�ไม ้สำ�นักวชิ�ก�รป่�ไม ้กรมป่�ไม.้ 15 หน้�.

พงษ์ศักดิ์ วทิวสัชุติกลุ และทรงธรรม สขุสว�่ง. 2530. ก�รระบ�ยนำ้�ในระบบพชืผสมท่ีตะพงใน ระยอง. บนัทึกวจิยัเล่มที่ 54. สถ�นีวจิยัเพื่อรกัษ�ต้นนำ้�หว้ยหนิด�ด. ฝ่�ยวจิยั กองอนุรกัษ์ต้นนำ้� กรมป่�ไม.้

พงษ์ศักดิ์ วทิวสัชุติกลุ และพณิทิพย ์ธติิโรจนะวฒัน์. ๒๕๕๒. ทำ�ไมจงึไม่ควรปลกูย�งพ�ร�บนพื้นท่ีต้นนำ้�

เอกส�รเผยแพรท่ี่ ๓/๒๕๕๒ สว่นวจิยัต้นนำ้� สำ�นักอนุรกัษ์และจดัก�รต้นนำ้� กรมอุทย�นแหง่ช�ติ สตัวป์่� และพนัธุพ์ชื. ๙ หน้�

พงษ์ศักดิ์ วทิวสัชุติกลุ สำ�เรงิ ป�นอุทัย และบุญม� ดีแสง. ๒๕๕๔. แบบจำ�ลองนำ้�ท่�ป่�ต้นนำ้�. บนัทึกวจิยัเล่มท่ี ๔/๒๕๕๔. สว่นวจิยัต้นนำ้� สำ�นักอนุรกัษ์และจดัก�รต้นนำ้� กรมอุทย�นแหง่ช�ติ สตัว์ป่� และพนัธุพ์ชื. ๑๓ หน้�

Anonymous. 2011. Rainfall and Severe Flooding over Thailand in 2011. Climatological Center, Meteorological Development Bureau, Thai Meteorological Department. 3 P.

Berglund, J.V. 1969. SILVICS. Silviculture Department, Stage University College of Forestry at Syracuse. 287 P.

Sahunalu, P. 1970. The Estimation of Site Quality of Mixed Deciduous Forest with Teak at Mae Huad, Lampang as Determined by Organic matter and Nitrogen Content of Soils. For. Res. Bull. No 11, Faculty

จะนำ�วถีิป่�ไมไ้ทยไปสูภั้ยธรรมช�ติกันอย�่งไร? -

10-

Page 11:  · Web viewดร.พงษ ศ กด ว ทว สช ต ก ล๒ พ ณท พย ธ ต โรจนะว ฒน ๒ และสำเร ง ปานอ ท ย3 คำนำ

of Forestry, Kasetsart university. 18 P.

จะนำ�วถีิป่�ไมไ้ทยไปสูภั้ยธรรมช�ติกันอย�่งไร? -

11-

Page 12:  · Web viewดร.พงษ ศ กด ว ทว สช ต ก ล๒ พ ณท พย ธ ต โรจนะว ฒน ๒ และสำเร ง ปานอ ท ย3 คำนำ

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑