แผนการจัดการเรียนรู้...การเร ยนร การส อสาร การแก ป ญหา การท างาน และอาช

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา

สาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

นายสหัส สุยา

รหัสนักศึกษา 54031390178

วิชาเอกคอมพิวเตอร์ศึกษา คณะครุศาสตร์

มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2

วิชาคอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรียนรูซ้อฟต์แวร์ ชั้นประถมศึกษาปีที 4 เวลา 4 ชั่วโมง

แผนที่ 2 เรื่อง ประเภทของซอฟต์แวร์ เวลา 1 ชั่วโมง

วันที่ใช้แผน ........./............../.................... ผู้ใช้แผน นายสหัส สุยา

1. มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ง 3.1 เข้าใจ เห็นคุณค่า และใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้นข้อมูล การเรียนรู้ การสื่อสาร การแก้ปัญหา การท างาน และอาชีพอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และมีคุณธรรม

2. ตัวช้ีวัด

ง 3.1 ป.4/4 ใช้ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์เพื่อการท างาน

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

1. นักเรียนอธิบายความหมายของซอฟต์แวร์ และหน้าที่หลักของซอฟต์แวร์ได ้(K) 2. นักเรียนจ าแนกประเภทของซอฟต์แวร์ได้ (P) 3. นักเรียนสนใจเรียนเรื่องประเภทของซอฟต์แวร์ (A)

4. สาระส าคัญ

ซอฟต์แวร์ (software) หมายถึง ชุดค าสั่งหรือโปรแกรมที่ใช้สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ท างาน สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ 1. ซอฟต์แวร์ส าหรับระบบ (System Software) คือซอฟต์แวร์ที่บริษัทผู้ผลิตสร้างขึ้นมาเพ่ือใช้จัดการกับระบบ หน้าที่การท างานของซอฟต์แวร์ระบบคือด าเนินงานพ้ืนฐานต่าง ๆ ของระบบคอมพิวเตอร์ และ 2. ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้กับงานด้านต่าง ๆ ตามความต้องการของผู้ใช้ ที่สามารถน ามาใช้ประโยชน์ได้โดยตรง

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์

มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการท างาน

6. สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายของซอฟต์แวร์ 2. ประเภทของซอฟต์แวร์ 3. หน้าที่หลักของซอฟต์แวร์ระบบ 4. หน้าที่หลักของซอฟต์แวร์ประยุกต์

7.การจัดกระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นน า 1. ครูให้นักเรียนยกตัวอย่างการใช้งานคอมพิวเตอร์ของนักเรียน จากนั้นครูถามนักเรียนว่า การใช้งานคอมพิวเตอร์ของนักเรียนจะต้องอาศัยซอฟต์แวร์ประเภทใด 2. ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า การใช้งานคอมพิวเตอร์ในการท างานต่างๆ จะต้องรู้จักเลือกใช้ซอฟต์แวร์ให้ถูกต้องและเหมาะสมกับประเภทของงาน

3. นักเรียนตอบค าถามกระตุ้นความคิด ขั้นสอน

1. ครูอธิบายเกี่ยวกับเรื่องความหมายของซอฟต์แวร์ ประเภทของซอฟต์แวร์ และหน้าที่หลักของซอฟต์แวร์แต่ละประเภทโดยใช้สื่อประกอบค าบรรยายเรื่อง ประเภทของซอฟต์แวร์จากโปรแกรม preszi

2. นักเรียนตั้งใจฟัง และจดบันทึกสรุปการบรรยาย 3. ครูให้นักเรียนอ่านข้อความที่ครูก าหนดให้จากสื่อ PowerPoint 4. ครูสุ่มนักเรียน 1 คน จ าแนกข้อความที่ครูก าหนดให้ 1 ข้อความ ระหว่างซอฟต์แวร์ระบบ

กับซอฟต์แวร์ประยุกต์ แล้วให้เพ่ือนในห้องเรียนช่วยกันตอบว่านักเรียนที่ครูสุ่มตอบถูกหรือไม่ และครูเฉลยค าตอบ

5. ครูให้นักเรียนทุกคนช่วยกันจ าแนกข้อความที่เหลือ และครูเฉลยค าตอบ 6. นักเรียนท าแบบฝึกหัดเรื่อง ประเภทของซอฟต์แวร์

ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายสรุปเรื่อง ข้อมูลและสารสนเทศ

8. สื่อ / แหล่งเรียนรู้ 1. สื่อประกอบค าบรรยายเรื่อง ประเภทของซอฟต์แวร์จากโปรแกรม preszi

2. ใบงานเรื่อง ประเภทของซอฟต์แวร์ 3. ใบความรู้เรื่อง ประเภทของซอฟต์แวร์ 4. คอมพิวเตอร์ 5. โปรเจคเตอร์ 6. หนังสือประกอบการเรียน เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ป.4

9. การวัดผล

จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือ แหล่งข้อมูล/ชิ้นงาน

1. นักเรียนอธิบายความหมายของซอฟต์แวร์ และหน้าที่หลักของซอฟต์แวร์ได้ (K)

- ตรวจแบบฝึกหัด

- แบบตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหัดที่นักเรียนปฏิบัติ

2. นักเรียนจ าแนกประเภทของซอฟต์แวร์รได้ (P)




3. นักเรียนสนใจเรียนเรื่องประเภทของซอฟต์แวร์ (A)

- สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม

- ผลการสังเกตจากแบบสังเกตพฤติกรรม

9.1 เกณฑ์การประเมินผล (รูบริกส์)

ประเด็น การประเมิน

ระดับคุณภาพ น้ าหนักคะแนน

(3) ดีมาก (4)

ดี (3)

ก าลังพัฒนา (2)

ต้องปรับปรุง (1)

1. นักเรียนอธิบายความหมายของซอฟต์แวร์ และหน้าที่หลักของซอฟต์แวร์ได้ (K)

-อธิบายความหมายของซอฟต์แวร์ และหน้าที่หลักของซอฟต์แวร์ได้อย่างถูกต้องทุกขั้นตอน

- อธิบายความหมายของซอฟต์แวร์ และหน้าที่หลักของซอฟต์แวร์ได้ถูกต้องเกือบทั้งหมด

อธิบายความหมายของซอฟต์แวร์ และหน้าที่หลักของซอฟต์แวร์ได้ถูกต้องบางส่วน

-อธิบายความหมายของซอฟต์แวร์ และหน้าที่หลักของซอฟต์แวร์ไมไ่ด้เลย

3

2. นักเรียนสามจ าแนกประเภทของซอฟต์แวร์ได้ (P)

-จ าแนกประเภทของซอฟต์แวร์ได้อย่างถูกต้องและคล่องแคล่ว

-จ าแนกประเภทของซอฟต์แวร์ได้อย่างถูกต้องแต่ไม่คล่องแคล่ว

- จ าแนกประเภทของซอฟต์แวร์ไม่ค่อยถูกต้องและไม่คล่องแคล่ว

-จ าแนกประเภทของซอฟต์แวร์ไม่ได้เลย

2

3. นักเรียนสนใจเรียนเรื่องประเภทของซอฟต์แวร์ (A)

- ส่งแบบฝึกหัดตรงเวลา สะอาดเรียบร้อย

- ส่งแบบฝึกหัดตรงเวลาแต่ไม่ค่อยเรียบร้อย

-ส่งแบบฝึกหัดไม่ตรงเวลา

-ไม่ส่งแบบฝึกหัด

1

9.2 เกณฑ์การตัดสิน - ประเมินพฤติกรรม : ผ่าน,ไม่ผ่าน - ประเมินผลงาน : 10 คะแนน = คะแนนคุณภาพ 4

9 คะแนน = คะแนนคุณภาพ 3

7-8 คะแนน = คะแนนคุณภาพ 2


ลงชื่อ…………..…………………ครูพ่ีเลี้ยง

( ) ............/............................ /................

10. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้

10.1 ผลที่เกิดขึ้นแก่ผู้เรียน (นักเรียนเกิดการเรียนรู้บรรลตุามจุดประสงค์มากน้อยเพียงใด)

10.2 ปัญหาที่พบจาการสอน

10.3 แนวทางแก้ไขปัญหา

ลงช่ือ ผู้สอน

( )

. / /

11. ความเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระ

ลงช่ือ หัวหน้ากลุ่มสาระ

( )

............/.................................../.........

ตรวจแล้ว น าไปใช้สอนได้

ควรปรับปรุง / เพิ่มเติม คือ

ลงช่ือ ลงช่ือ ( ) ( )

ต าแหน่ง รองผู้อ านวยการสถานศึกษา ต าแหน่ง ผู้อ านวยการสถานศึกษา

/ / / /


สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี








หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 สร้างงานเอกสารด้วยซอฟต์แวร์ (1) ชั้นประถมศึกษาปีที 5 เวลา 4 ชั่วโมง

แผนที่ 2 เรื่อง ประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด เวลา 1 ชั่วโมง





ง 3.1 ป.5/2 สร้างงานเอกสารเพื่อใช้ประโยชน์ในชีวิตประจ าวันด้วยความรับผิดชอบ


1. นักเรียนอธิบายประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดได้อย่างถูกต้อง (K) 2. นักเรียนเขียนประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดได้ (P) 3. นักเรียนเห็นประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด (A)


โปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดมีประโยชน์ในการท างานด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานประมวลค า การเรียนรู้ประโยชน์ของโปรแกรมจะท าให้เห็นคุณค่า และสามารถประยุกต์ใช้กับงานเอกสารต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม



6. สาระการเรียนรู้ 1. ประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด

7.การจัดกระบวนการจัดการเรียนรู้

ขั้นน า 1. ครูเล่ากรณีตัวอย่างจากสถานการณ์ให้นักเรียนฟัง ดังนี้

-ครูสั่งการบ้านนักเรียนคนหนึ่งให้ท าประวัติส่วนตัวนักเรียนมาส่งแต่ว่า นักเรียนคนนั้นไม่รู้จะใช้โปรแกรมอะไรในการท าประวัติส่วนตัว จึงเขียนประวัติส่วนตัวและวาดรูปตัวเองแทน ท าให้ไม่เรียบร้อยเท่าท่ีควร 2. ครูถามความเห็นนักเรียนว่า นักเรียนมีวิธีท าประวัติส่วนตัวอย่างไรให้มีความสวยงาม

เรียบร้อย และจะใช้โปรแกรมอะไรในการท าประวัติส่วนตัว 3. เชื่อมโยงเข้าสู่การเรียนโดยการแนะน าโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด

ขั้นสอน 1. ครูอธิบายเกี่ยวกับเรื่องประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด โดยใช้สื่อประกอบค า

บรรยายเรื่อง ประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดจากโปรแกรม preszi 2. นักเรียนตั้งใจฟัง และจดบันทึกสรุปการบรรยาย 3. นักเรียนแบ่งกลุ่มเพ่ือสรุปประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มน าเสนอประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดหน้าชั้นเรียน 5. นักเรียนท าแบบฝึกหัดเรื่อง ประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด

ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายสรุปเรื่อง ประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด

8. สื่อ / แหล่งเรียนรู้ 1. สื่อประกอบค าบรรยายเรื่อง ประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด จากโปรแกรม preszi

2. ใบงานเรื่อง ประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด 3. ใบความรู้เรื่อง ประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด

4. คอมพิวเตอร์ 5. โปรเจคเตอร์ 6. หนังสือประกอบการเรียน เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ป.4



1. นักเรียนอธิบายประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดได้อย่างถูกต้อง (K)



2. นักเรียนเขียนประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดได้ (P)



3. นักเรียนเห็นประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด (A)

- สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ผลการสังเกตจากแบบสังเกตพฤติกรรม


ประเด็น

การประเมิน


(3)

ดีมาก

(4)

ดี

(3)

ก าลังพัฒนา

(2)

ต้องปรับปรุง

(1)

1. นักเรียนอธิบายประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดได้อย่างถูกต้อง (K)

-อธิบายประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดได้อย่างถูกต้องทุกขั้นตอน

- อธิบายประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดได้ถูกต้องเกือบทั้งหมด

อธิบายประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดได้ถูกต้องบางส่วน

-อธิบายประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดไม่ได้เลย

3

2. นักเรียนเขียนประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดได้ (P)

-เขียนประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดได้อย่างถูกต้องและคล่องแคล่ว

-เขียนประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดได้อย่างถูกต้องแต่ไม่คล่องแคล่ว

- เขียนประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดไม่ค่อยถูกต้องและไม่คล่องแคล่ว

-เขียนประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดไม่ได้เลย

2

3. นักเรียนเห็นประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด (A)




-ไม่ส่งแบบฝึกหัด 1






( ) .............. /........................ /..................






( )

. / /



( )

............/.................................../.........





/ / / /










หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 โปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซล ชั้นประถมศึกษาปีที 6 เวลา 4 ชั่วโมง

แผนที่ 2 เรื่อง การใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซล เวลา 1 ชั่วโมง





ง 3.1 ป.6/4 น าเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เหมาะสมโดยเลือกใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์


1. นักเรียนอธิบายวิธีการใช้เครื่องมือในโปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซลได้ (K) 2. นักเรียนสร้างและตกแต่งตารางในโปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซลได้ (P) 3. นักเรียนสนใจการเรียนเรื่องการใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซล (A)


การใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซลจะต้องรู้วิ ธีการสร้างและตกแต่งตารางในโปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซลให้ถูกต้อง เหมาะสมกับข้อมูลที่ต้องการน าเสนอ



6. สาระการเรียนรู้ 1) การเพ่ิมข้อมูล 2) การสร้างสูตรอย่างง่าย 3) การใช้ผลรวมอัตโนมัติเพ่ือรวมข้อมูล

7. การจัดกระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นน า

1. ครูถามนักเรียนว่า ข้อมูลที่เก่ียวข้องกับตัวเลข หากน าเสนอข้อมูลด้วยการบรรยายกับการน าเสนอข้อมูลด้วยตาราง การน าเสนอข้อมูลแบบใดจะท าให้เข้าใจง่าย และเห็นภาพได้ชัดเจนมากกว่ากัน

2. ครูอธิบายการน าเสนอข้อมูลตัวเลขควรน าเสนอด้วยโปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซล จึงจะเหมาะสมและมีความน่าสนใจมากยิ่งข้ึน ขั้นสอน

1. ครูอธิบายเกี่ยวกับการใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซล โดยใช้สื่อประกอบการบรรยายจากโปรแกรม preszi

2. นักเรียนตั้งใจฟัง และจดบันทึกสรุปการบรรยาย 3. ครูสาธิตการสร้างตารางด้วยโปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซลพร้อมอธิบายในแต่ละขั้นตอน

ประกอบ ดังนี้ 1) การเพ่ิมข้อมูล 2) การสร้างสูตรอย่างง่าย 3) การใช้ผลรวมอัตโนมัติเพ่ือรวมข้อมูล

4. นักเรียนสังเกตการสาธิตของครูในแต่ละขั้นตอน หากนักเรียนสงสัย ให้สอบถามครู 5. นักเรียนปฏิบัติตามแบบที่ครูสาธิตในแต่ละข้ันตอน 6. นักเรียนท าแบบฝึกหัดเรื่องการใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซล

ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายสรุปเรื่อง การใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซล

8. สื่อ / แหล่งเรียนรู้ 1. สื่อประกอบค าบรรยายเรื่องการใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซลจากโปรแกรม preszi

2. ใบงานเรื่อง การใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซล 3. คอมพิวเตอร์ 4. โปรเจคเตอร์ 5. ใบความรู้เรื่อง การใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซล



1. นักเรียนอธิบายวิธีการใช้เครื่องมือในโปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซลได้ (K)



2. นักเรียนสร้างและตกแต่งตารางในโปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซลได้ (P)



3. นักเรียนสนใจเรียนเรื่องการใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซล (A)






(3)

ดีมาก

(4)

ดี

(3)


(2)


(1)

1. นักเรียนอธิบายวิธีการใช้เครื่องมือในโปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซลได้ (K)

-อธิบายวิธีการใช้เครื่องมือในโปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซลได้อย่างถูกต้องทั้งหมด

- อธิบายวิธีการใช้เครื่องมือในโปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซลได้ถูกต้องเกือบทั้งหมด

อธิบายวิธีการใช้เครื่องมือในโปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซลได้ถูกต้องบางส่วน

-อธิบายวิธีการใช้เครื่องมือในโปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซลไม่ได้เลย

3

2. นักเรียนสร้างและตกแต่งตารางในโปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซลได้ (P)

-สร้างและตกแต่งตารางในโปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซลได้อย่างถูกต้องและคล่องแคล่ว

-สร้างและตกแต่งตารางในโปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซลได้อย่างถูกต้องแต่ไม่คล่องแคล่ว

-สร้างและตกแต่งตารางในโปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซลไม่ค่อยถูกต้องและไม่คล่องแคล่ว

-สร้างและตกแต่งตารางในโปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซลไม่ได้เลย

2

3. นักเรียนสนใจการเรียนเรื่องการใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซล (A)










( ) .............. /........................ /..................






( )

. / /



( )

............/.................................../.........





/ / / /



ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1







หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การจัดการสารสนเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที 1 เวลา 4 ชั่วโมง

แผนที่ 1 เรื่อง ข้อมูลและสารสนเทศ เวลา 1 ชั่วโมง





ง 3.1 ม.1/3 ประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ


1. นักเรียนอธิบายความหมายของข้อมูล ความหมายสารสนเทศ และการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ได้ (K) 2. นักเรียนสามารถจ าแนกระหว่างข้อมูล และสารสนเทศได้ถูกต้อง (P) 3. นักเรียนสนใจการเรียนเรื่องข้อมูลและสารสนเทศ (A)


ข้อมูล คือ ข้อเท็จจริงข้อเท็จจริง หรือ เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆที่เป็นตัวเลข ข้อความ หรือรายละเอียดซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ภาพ เสียง วีดิโอ ของคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ที่เราสนใจ ฯลฯ สารสนเทศ คือ ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลด้วยวิธีการที่เหมาะสมและถูกต้อง เพ่ือให้ได้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ เช่น รายงานสรุปประจ าปี วิดีทัศน์น าเสนอสินค้า ค่าเฉลี่ยส่วนสูงของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นต้น



6. สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายของข้อมูล 2. ความหมายของสารสนเทศ 3. การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ

7.การจัดกระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นน า

1. ครูน าเข้าสู่บทเรียนโดยใช้ค าถามดังต่อไปนี้ -ข้อมูล คืออะไร? (แนวค าตอบ : ข้อมูล คือ ข้อเท็จจริงข้อเท็จจริง หรือ เหตุการณ์ท่ีเกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ) -สารสนเทศ คืออะไร? (แนวค าตอบ : สารสนเทศ คือ ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลด้วยวธิีการที่เหมาะสมและถูกต้อง )

2. ครูบอกความหมายของข้อมูล และสารสนเทศ เพ่ือเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียน

ขั้นสอน

1. ครูอธิบายเกี่ยวกับเรื่องความหมายของข้อมูล ความหมายของสารสนเทศ และการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ โดยใช้สื่อประกอบค าบรรยายเรื่อง ข้อมูลและสารสนเทศ จากโปรแกรม preszi

2. นักเรียนตั้งใจฟัง และจดบันทึกสรุปการบรรยาย 3. ครูให้นักเรียนอ่านข้อความที่ครูก าหนดให้จากสื่อ PowerPoint 4. ครูสุ่มนักเรียน 1 คน จ าแนกข้อความที่ครูก าหนดให้ 1 ข้อความ ระหว่างข้อมูลกับ

สารสนเทศ แล้วให้เพ่ือนในห้องเรียนช่วยกันตอบว่านักเรียนที่ครูสุ่มตอบถูกหรือไม่ และครูเฉลยค าตอบ

5. ครูให้นักเรียนทุกคนช่วยกันจ าแนกข้อความที่เหลือ และครูเฉลยค าตอบ 6. นักเรียนท าแบบฝึกหัดเรื่อง ข้อมูลและสารสนเทศ

ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายสรุปเรื่อง ข้อมูลและสารสนเทศ

8. สื่อ / แหล่งเรียนรู้ 1. สื่อประกอบค าบรรยายเรื่อง ข้อมูลและสารสนเทศ จากโปรแกรม preszi

2. หนังสือเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.1 3. ใบงานเรื่อง ข้อมูลและสารสนเทศ 4. คอมพิวเตอร์ 5. โปรเจคเตอร์



1. นักเรียนอธิบายความหมายของข้อมูล ความหมายสารสนเทศ และการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ได้ (K)




2. นักเรียนสามารถจ าแนกระหว่างข้อมูล สารสนเทศ และระบบสารสนเทศได้ถูกต้อง (P)



3. นักเรียนสนใจเรียนเรื่องข้อมูลและสารสนเทศ (A)

- สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม

- ผลการสังเกตจากแบบสังเกตพฤติกรรม





(3)

ดีมาก

(4)

ดี

(3)


(2)


(1)

1. นักเรียนอธิบายความหมายของข้อมูล ความหมายสารสนเทศ และการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ได้ (K)

-อธิบายความหมายของข้อมูล ความหมายสารสนเทศ และการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ได้อย่างถูกต้องทุกขั้นตอน

- อธิบายความหมายของข้อมูล ความหมายสารสนเทศ และการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ได้ถูกต้องเกือบทั้งหมด

อธิบายความหมายของข้อมูล ความหมายสารสนเทศ และการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ได้ถูกต้องบางส่วน

-อธิบายความหมายของข้อมูล ความหมายสารสนเทศ และการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ไม่ได้เลย

3

2. นักเรียนสามารถจ าแนกระหว่างข้อมูล สารสนเทศ และระบบสารสนเทศได้ถูกต้อง (P)

-จ าแนกระหว่างข้อมูล สารสนเทศ และระบบสารสนเทศได้อย่างถูกต้องและคล่องแคล่ว

-จ าแนกระหว่างข้อมูล สารสนเทศ และระบบสารสนเทศได้อย่างถูกต้องแต่ไม่คล่องแคล่ว

- จ าแนกระหว่างข้อมูล สารสนเทศ และระบบสารสนเทศได้ไม่ค่อยถูกต้องและไม่คล่องแคล่ว

-จ าแนกระหว่างข้อมูล สารสนเทศ และระบบสารสนเทศไม่ได้เลย

2

3. นักเรียนสนใจการเรียนเรื่องข้อมูลและสารสนเทศ (A)










( ) ............/.................................../.........






( )

. / /



( )

............/.................................../.........





/ / / /










หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลา 4 ชั่วโมง

แผนที่ 1 เรื่อง การรับส่งข้อมูลในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เวลา 1 ชั่วโมง





ง 3.1 ม.2/1 อธิบายหลักการเบื้องต้นของการสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์


1. นักเรียนอธิบายการรับส่งข้อมูลของเทคโนโลยีแต่ละประเภทได้ (K) 2. นักเรียนจ าแนกประเภทของเทคโนโลยีรับส่งข้อมูลได้ (P) 3. นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อเทคโนโลยีการรับส่งข้อมูล (A) 4. สาระส าคัญ

เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ จะต้องอาศัยการรับส่งข้อมูลแบบใช้สาย และแบบไร้สาย ซึ่งการรับส่งข้อมูลแต่ละประเภทนั้นมีส่วนช่วยอ านวยความสะดวกในชีวิตประจ าวันเป็นอย่างยิ่ง



6. สาระการเรียนรู้ 1. เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลแบบใช้สาย 2. เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลแบบไร้สาย


ขั้นน า 1. นักเรียนช่วยกันระดมพลังสมองหาค าตอบจากค าถามของครู เช่น - การใช้รีโมตคอนโทรลเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ เป็นการใช้เทคโนโลยีรับส่งข้อมูลแบบใด และใช้สื่อกลางในการน าสัญญาณชนิดใด

2. นักเรียนฟังครูชี้แจงให้ทราบว่า การใช้รีโมตคอนโทรลเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ เป็นการใช้เทคโนโลยีรับส่งข้อมูลแบบไร้สาย และใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นสื่อกลางในการน าสัญญาณอินฟาเรด (infrared) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลในเครือข่ายคอมพิวเตอร์

ขั้นสอน 1. นักเรียนฟังครูอธิบายว่า เทคโนโลยีในการรับส่งข้อมูลในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ มี 2

ประเภท คือ เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลแบบใช้สาย และเทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลแบบไร้สาย โดยนักเรียนดูหนังสือเรียนประกอบ

2. นักเรียน 2-3 คน ออกมาสรุปผลการเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียของการใช้เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลแบบใช้สายทั้ง 3 ชนิด ที่หน้าชั้นเรียน

3. นักเรียนฟังครูสรุปการเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียของการใช้เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลแบบใช้สาย

4. นักเรียน 2-3 คน ออกมาสรุปผลการเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียของการใช้เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลแบบไร้สาย ที่หน้าชั้นเรียน

5. นักเรียนฟังครูสรุปการเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียของการใช้เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลแบบไร้สาย

6. ให้นักเรียนท าใบงานเรื่อง เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูล เมื่อท าเสร็จแล้วให้น าส่งครูตรวจ ขั้นสรุป

1. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายสรุปเรื่อง เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูล

8. สื่อ / แหล่งเรียนรู้ 1. สื่อประกอบค าบรรยายเรื่องเทคโนโลยีการรับส่งข้อมูล จากโปรแกรม preszi

2. ใบงานเรื่อง เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูล 3. คอมพิวเตอร์ 4.โปรเจคเตอร์ 5. หนังสือประกอบการเรียน เทคโนโลยีสารสนเทศ ม. 2



1. นักเรียนอธิบายการรับส่งข้อมูลของเทคโนโลยีแต่ละประเภทได้ (K)



2. นักเรียนจ าแนกประเภทของเทคโนโลยีรับส่งข้อมูลได้ (P)



3. นักเรียนมีเจตคติท่ีดีต่อเทคโนโลยีการรับส่งข้อมูล (A)






(3)

ดีมาก

(4)

ดี

(3)


(2)


(1)

1. นักเรียนอธิบายการรับส่งข้อมูลของเทคโนโลยีแต่ละประเภทได้ (K)

-อธิบายการรับส่งข้อมูลของเทคโนโลยีแต่ละประเภทได้อย่างถูกต้องทุกข้ันตอน

- อธิบายการรับส่งข้อมูลของเทคโนโลยีแต่ละประเภทได้ถูกต้องเกือบทั้งหมด

อธิบายการรับส่งข้อมูลของเทคโนโลยีแต่ละประเภทได้ถูกต้องบางส่วน

-อธิบายการรับส่งข้อมูลของเทคโนโลยีแต่ละประเภทไม่ได้เลย

3

2. นักเรียนจ าแนกประเภทของเทคโนโลยีรับส่งข้อมูลได้ (P)

-จ าแนกประเภทของเทคโนโลยีรับส่งข้อมูลได้อย่างถูกต้องและคล่องแคล่ว

-จ าแนกประเภทของเทคโนโลยีรับส่งข้อมูลได้อย่างถูกต้องแต่ไม่คล่องแคล่ว

-จ าแนกประเภทของเทคโนโลยีรับส่งข้อมูลได้ไม่ค่อยถูกต้องและไม่คล่องแคล่ว

-จ าแนกประเภทของเทคโนโลยีรับส่งข้อมูลไม่ได้เลย

2

3. นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อเทคโนโลยีการรับส่งข้อมูล (A)










( ) .............. /........................ /..................






( )

. / /



( )

............/.................................../.........





/ / / /










หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการน าเสนองาน ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 เวลา 4 ชั่วโมง

แผนที่ 1 เรื่อง การน าเสนองาน เวลา 1 ชั่วโมง





ง 3.1 ม.3/3 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศน าเสนองานในรูปแบบที่เหมาะสมกับลักษณะงาน


1. นักเรียนอธิบายหลักการออกแบบสื่อส าหรับการน าเสนองานได้ (K) 2. นักเรียนเขียนเทคนิคการน าเสนอให้ประสบผลส าเร็จได้ (P)

3. นักเรียนมีเจตคติที่ดีในการเรียนเรื่อง การน าเสนองาน (A)


การน าเสนองานให้ประสบความส าเร็จ และน่าสนใจ จะต้องเลือกใช้สื่อให้เหมาะสมกับลักษณะงาน และใช้เทคนิคในการน าเสนองานเพื่อสื่อสารไปยังผู้ฟังได้อย่างมีประสิทธิภาพ



6. สาระการเรียนรู้ 1. หลักการออกแบบสื่อส าหรับการน าเสนองาน 2. เทคนิคการน าเสนองานให้ประสบผลส าเร็จ


ขั้นน า 1. ครูน าเข้าสู่บทเรียนโดยให้นักเรียนชมวิดีทัศน์กิจกรรมการน าเสนองานโดยใช้สื่อการ

น าเสนอในรูปแบบต่างๆ ขั้นสอน

1. ครูอธิบายเกี่ยวกับการน าเสนองาน โดยใช้สื่อประกอบการบรรยายจากโปรแกรม preszi 2. นักเรียนตั้งใจฟัง และจดบันทึกสรุปการบรรยาย 3. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มสรุปหลักการออกแบบสื่อและเทคนิคการน าเสนองาน 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มน าเสนอผลการสรุปหลักการออกแบบสื่อและเทคนิคการน าเสนองาน

หน้าชั้นเรียน 5. นักเรียนท าแบบฝึกหัดเรื่อง การน าเสนองาน

ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายสรุปเรื่อง การน าเสนองาน

8. สื่อ / แหล่งเรียนรู้ 1. สื่อประกอบค าบรรยายเรื่องการน าเสนองาน จากโปรแกรม preszi

2. ใบงานเรื่อง การน าเสนองาน 3. คอมพิวเตอร์ 4. โปรเจคเตอร์ 5. อินเทอร์เน็ต 6. หนังสือเรียน เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3



1. นักเรียนอธิบายหลักการออกแบบสื่ อส าหรับการน าเสนองานได้ (K)



2. นักเรียนเขียนเทคนิคการน าเสนอให้ประสบผลส าเร็จได้ (P)









(3)

ดีมาก

(4)

ดี

(3)


(2)


(1)

1. นักเรียนอธิบายหลักการออกแบบสื่อส าหรับการน าเสนองานได้ (K)

-อธิบายหลักการออกแบบสื่อส าหรับการน าเสนองานได้อย่างถูกต้องทุกขั้นตอน

- อธิบายหลักการออกแบบสื่อส าหรับการน าเสนองานได้ถูกต้องเกือบทั้งหมด

อธิบายหลักการออกแบบสื่อส าหรับการน าเสนองานได้ถูกต้องบางส่วน

-อธิบายหลักการออกแบบสื่อส าหรับการน าเสนองานไม่ได้เลย

3

2. นักเรียนเขียนเทคนิคการน าเสนอให้ประสบผลส าเร็จได้ (P)

-เขียนเทคนิคการน าเสนอให้ประสบผลส าเร็จได้อย่างถูกต้องและคล่องแคล่ว

-เขียนเทคนิคการน าเสนอให้ประสบผลส าเร็จได้อย่างถูกต้องแต่ไม่คล่องแคล่ว

- เขียนเทคนิคการน าเสนอให้ประสบผลส าเร็จไม่ค่อยถูกต้องและไม่คล่องแคล่ว

-เขียนเทคนิคการน าเสนอให้ประสบผลส าเร็จไม่ได้เลย

2






9.2 เกณฑ์การตัดสิน - ประเมินพฤติกรรม : ผ่าน, ไม่ผ่าน - ประเมินผลงาน : 10 คะแนน = คะแนนคุณภาพ 4





( ) .............. /........................ /..................






( )

. / /



( )

............/.................................../.........





/ / / /

Documents

แผนการจัดการเรียนรู้...การเร ยนร การส อสาร การแก ป ญหา การท างาน และอาช