รายงานการวิจัย

เร่ือง

การใชแบบฝกทักษะวิชาศิลปะ เรื่องวงดนตรไีทย ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 5

โดย

อาจารยนันทินี นักดนตรี

กลุมสาระการเรียนรูศิลปะ โรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

ปการศึกษา 2558

รายงานการวิจัย

เร่ือง

การใชแบบฝกทักษะวิชาศิลปะ เรื่องวงดนตรไีทย ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 5

โดย

อาจารยนันทินี นักดนตรี

กลุมสาระการเรียนรูศิลปะ โรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

ปการศึกษา 2558

สารบัญ

หนา บทคัดยอ ………………………………………………………………………………………………………… (2)

สารบัญตาราง ………………………………………………………………………………………………………… (3) บทท่ี 1 บทนํา ……………………………………………………………………………………………… 1

ความเปนมาและความสําคัญของปญหา ....................................................... 1 วัตถุประสงคของการวิจัย .............................................................................. 2 ขอบเขตของการวิจัย .................................................................................... 2 ตัวแปรท่ีทําการศึกษา ................................................................................... 3 นิยามศัพทเฉพาะ .......................................................................................... 3 ประโยชนท่ีคาดวาจะไดรับ ........................................................................... 3

บทท่ี 2 เอกสารและงานวิจัยท่ีเกี่ยวของ .................................................................. 4 ความหมายของดนตรีและวงดนตรีไทย ........................................................ 4 หลักสูตรท่ีเก่ียวของกับสาระดนตรี ............................................................... 5 งานวิจัยท่ีเก่ียวของ ....................................................................................... 6

บทท่ี 3 วิธีดําเนินการวิจัย ....................................................................................... 8 ประชากรและกลุมตัวอยาง ........................................................................... 8 เครื่องมือท่ีใชในการวิจัย ............................................................................... 8 การเก็บรวบรวมขอมูล .................................................................................. 8 การวิเคราะหขอมูล ....................................................................................... 9

บทท่ี 4 ผลการวิเคราะหขอมูล ................................................................................. 10 บทท่ี 5 สรุป อภิปรายผล และขอเสนอแนะ ............................................................ 15

สรุปผลการวิจัย ............................................................................................. 16 อภิปรายผล ................................................................................................... 16 ขอเสนอแนะ ................................................................................................. 16

บรรณานุกรม ………………………………………………………………………………………………………… 17 ภาคผนวก ………………………………………………………………………………………………………… 18

บทคัดยอ ชื่อการวิจัย: การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใชชุดกิจกรรมการเรียนรูเรื่อง

เครื่องดนตรีไทยในวงปพาทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 5 ผูเสนองานวิจัย: นางสาวนันทินี นักดนตรี กลุมสาระฯ: ศิลปะ สถานท่ีวิจัย: โรงเรียนสาธิตมหาวิทยัลยราชภัฏสวนสุนันทา ปท่ีทําการวิจัย: 2558

การงานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงคเพ่ือ 1) เพ่ือพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรูเรื่องเครื่องดนตรีไทยในวงปพาทย สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 5 ใหมีประสิทธิภาพ 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 5 กอนและหลังการจัดการเรียนรูโดยใชชุดกิจกรรมการเรียนรู เรื่องเครื่องดนตรีไทยในวงปพาทยและ 3) ศึกษาความพึงพอใจตอชุดกิจกรรมการเรียนรูเรื่อง เครื่องดนตรีไทยในวงปพาทย สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 5 กลุมตัวอยางเปนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 5 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาภาคเรียนท่ี 2 ปการศึกษา 2558 จํานวน 1 หองเรียน มีนักเรียนจํานวน 38 คน ซ่ึงไดมาจากการสุมแบบกลุม(Cluster Random Sampling) เครื่องมือท่ีใชในการวิจัยครั้งนี้ ไดแก ชุดกิจกรรมการเรียนรู เรื่อง เครื่องดนตรีไทยใน วงปพาทยแผนการจัดการเรียนรู แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบวัดความพึงพอใจ ของนักเรียนท่ีมีตอชุดกิจกรรมการเรียนรูเรื่อง เครื่องดนตรีไทยในวงปพาทย สถิติท่ีใชในการวิเคราะหขอมูล ไดแก รอยละ คาเฉลี่ย สวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบคาที

ผลการศึกษาพบวา 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู เรื่อง เครื่องดนตรีไทยในวงปพาทย สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 5 มีประสิทธิภาพ 86.19 /81.90 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนท่ีเรียนดวยชุดกิจกรรมการเรียนรู เรื่อง เครื่องดนตรีไทยในวงปพาทย สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 5 หลังเรียนสูงกวากอนเรียน อยางมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 และ 3) ความพึงพอใจของนักเรียนท่ีมีตอชุดกิจกรรมการเรียนรู เรื่อง เครื่องดนตรีไทยในวงปพาทย อยูในระดับมากท่ีสุด

(2)

สารบัญตาราง

ตาราง หนา 1. การเปรียบเทียบคะแนนการทดสอบวงดนตรีไทย ………………………………….. 10 2. เปรียบเทียบผลตางการเรียนเปนรายบุคคล ………………………………………….. 12

(3)

บทที่ 1 บทนํา

ความเปนมาและความสําคัญของปญหา การเรียนรูแนวใหมของระบบการศึกษาไทย ไดจัดใหเด็กทุกคนมีโอกาสท่ีไดเรียนวิชาดนตรี เพราะดนตรี เปนหุนสวนของชีวิต ดนตรี เปนเครื่องมือท่ีจะเปลี่ยนแปลงบรรยากาศของการศึกษา ดนตรีจะสงเสริมใหเด็กไทยมีความเฉลียวฉลาด การพัฒนาการเรียนรูของเด็กจําเปนตองกระตุนใหสมองสามารถเรียนรูไดตลอดชีวิต การเรียนรูจากสิ่งรอบๆตัวโดยผานทางประสาทสัมผัสและอวัยวะตางๆของรางกาย จะทําใหเด็กๆตื่นเตน สนุกสนานไปกับธรรมชาติ การสัมผัสสิ่งแวดลอมรับรูความรูสึกรอบตัว ท่ีแปลกใหม จะทําใหจิตสํานึกของเด็กไดรับการพัฒนาอยางรวดเร็ว ซ่ึงจะเปนพ้ืนฐานสําคัญของการพัฒนาสติปญญาและความสามารถในการเรียนรูสิ่งตางๆของเด็กเม่ือเติบโตข้ึน นอกจากนี้แลว ดนตรียังเปนสวนหนึ่งของวัฒนธรรม เปนคุณสมบัติของความเจริญงอกงาม ความเปนระเบียบแลว ความกลมเกลียว ความกาวหนาของชาติและศีลธรรมอันดี เด็กไทยจะตองเรียนรูดนตรีเพ่ือใหรูและเขาใจคุณคาวัฒนธรรมอันเปนเอกลักษณของชาติอีกประการหนึ่ง(พิชัย ตุงประโคน ,2550)

พระราชบัญญัติการศึกษาแหงชาติ พุทธศักราช 2542 มาตรา 30 กลาวไววา ใหสถานศึกษาพัฒนากระบวนการเรียนการสอนท่ีมีประสิทธิภาพ รวมท้ังการสงเสริมใหผูสอนสามารถวิจัยเพ่ือพัฒนาการเรียนรูท่ีเหมาะสมกับผูเรียนในแตละระดับการศึกษา (กระทรวงศึกษาธิการ, 2546: 14)

ดนตรีไทยเปนอีกแขนงหนึ่งของ สาระความรูท่ีบรรจุไวในหลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2544 ซ่ึงเปนการจัดการศึกษาในภาพรวม 12 ป ไดแก ระดับประถมศึกษา และ ระดับมัธยมศึกษา การเรียนการสอนดนตรีจะอยูในกลุมสาระการเรียนรูศิลปะ ซ่ึงมีการวัดมาตรฐานการเรียนรูเปนชวงชั้น ๆ ละ 3 ป ท้ังหมด 4 ชวงชั้นคือ ชวงชั้นท่ี 1 ชั้นประถมศึกษาปท่ี 1 -3 ชวงชั้นท่ี 2 ชั้นประถมศึกษาปท่ี 4 – 6 ชวงชั้นท่ี 3 ชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 1 – 3 ชวงชั้นท่ี 4 ชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 4 – 6

การจัดหลักสูตรดนตรีมี 2 ลักษณะคือ จัดสาระการเรียนรูพ้ืนฐานตามหลักสูตรสําหรับผูเรียนทุกคน และ การจัดสาระการเรียนรูเพ่ิมเติมสําหรับผูเรียนท่ีมีความสามารถพิเศษทางดานดนตรี โดยสวนสาระการเรียนรูเพ่ิมเติมทางดานดนตรี สถานศึกษาสามารถกําหนดไดตามความเหมาะสมโดยจัดทําสาระท่ีหลากหลาย สอดคลองกับรายวิชาในภาคบังคับ เปนไปตามความถนัด ความสนใจ ความตองการ ความพรอมในทุก ๆ ดานของผูเรียนเละมีความตอเนื่องตลอดการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน เชน การปฏิบัติเครื่องดนตรีไทย การปฏิบัติเครื่องดนตรีสากล การขับรองเพลงไทย การขับรองเพลงสากล ดนตรีพ้ืนบาน เปนตน ซ่ึงกิจกรรมดังกลาวท่ีผูสอนจัดข้ึนนั้นจะตองมุงไปสูมาตรฐานการเรียนรูตามหลักสูตรใน 2 ประเด็น คือ (กระทรวงศึกษาธิการ,2551: 25, 60 – 61)

1. เขาใจและแสดงออกทางดนตรีอยางสรางสรรค วิเคราะห วิพากษ วิจารณคุณคาดนตรี ถายทอดความรูสึก ความคิดตอดนตรีอยางอิสระ ชื่นชม และ ประยุกตใชในชีวิตประจําวัน 2. เขาใจความสัมพันธระหวางดนตรี ประวัติศาสตร และ วัฒนธรรม เห็นคุณคาของดนตรี เปนมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปญญาทองถ่ิน ภูมิปญญา ไทยและสากล จากหลักสูตรดังกลาวจะเห็นไดวา คุณคาของดนตรี ไดมีการพัฒนาอยางตอเนื่อง ซ่ึงสอดคลองกับการดําเนินชีวิตประจําวันของมนุษย โดยในปจจุบันดนตรีนั้นถือไดวาเปนสวนหนึ่งของ

วิถีชีวิตคนไทย โดยอาจจะใชเพ่ือผอนคลาย เพ่ือความสนุกสนาน หรือ เพ่ือเขาสังคม แตในปจจุบันพบวามีนักเรียนมีความสนใจตอดนตรีแตกตางกัน หลักสูตรการสอนดนตรีไทย เปนสิ่งท่ีกระทรวงศึกษาธิการกําหนดใหมีในการสอนของ โรงเรียนแตละโรงเรียนโดยเนนใหเด็กเขาใจทฤษฎีดนตรีไทยและสามารถปฏิบัติไดจริง การเรียนการสอนดนตรีไทย สามารถจะเอ้ือประโยชนไปสูการเรียนการสอนวิชาอ่ืนได เพราะเด็กนักเรียนท่ีมีความสามารถในการเลนดนตรี จะตองมีความอดทน มีความเพียร ใชสติปญญาดานการจํา มีความกระตือรือรนท่ีจะแสวงหาสิ่งใหมๆอยูเสมอ ซ่ึงจะเปนนิสัยของนักดนตรีไทยทุกคน จึงเห็นไดวาการเรียนดนตรีไทยมีประโยชนท้ังดานการพัฒนาตนเอง (สุขุม เทียนสุข, 2546)

สาระการเรียนรูดนตรีไทยเปนสาระหนึ่งท่ีนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 5 จําเปนตองเรียนตามท่ีหลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐานกําหนด โดยนักเรียนจะตองมีความรูความ-เขาใจและสามารถรองเพลง เลนดนตรีในรูปแบบตางๆ แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเสียงดนตรี แสดงความรูสึกท่ีมีตอดนตรีในเชิงสุนทรียะ เขาใจความสัมพันธระหวางดนตรีกับประเพณีวัฒนธรรม และเหตุการณในประวัติศาสตร (กระทรวงศึกษาธิการ, 2551: 2)

ดังนั้น เพ่ือใหมีการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนอยางเปนระบบและมีประสิทธิภาพ

และในฐานะอาจารยผูสอนสาระการเรียนรูศิลปะ (ดนตรีไทย) ระดับช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 5 จึงมีความสนใจท่ีจะจัดทําการวิจัยในช้ันเรียน การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใชชุดกิจกรรม

การเรียนรู เรื่องวงดนตรีไทยในโอกาสตางๆ ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 5 ท่ีไดรับการสอนโดยใชแบบฝกทักษะ เพ่ือจะนําผลการวิจัยมาใชเปนแนวทางการพัฒนาการจัดการเรียนรูตอไป วัตถุประสงคของการวิจัย 1. เพ่ือพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู เรื่อง เครื่องดนตรีไทยในวงปพาทย สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 5 ใหมีประสิทธิภาพ 2. เพ่ือเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 5 กอนและหลังการจัดการเรียนรูโดยใชชุดกิจกรรมการเรียนรู เรื่อง เครื่องดนตรีไทยในวงปพาทย 3. เพ่ือศึกษาความพึงพอใจตอชุดกิจกรรมการเรียนรู เรื่อง เครื่องดนตรีไทยในวงปพาทย สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 5

ขอบเขตของการวิจัย ประชากรและกลุมตัวอยาง ประชากรท่ีใชในการวิจัยไดแก นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 5 ท่ีศึกษาอยูโรงเรียนสาธิต

มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ในภาคเรียนท่ี 2 ปการศึกษา 2558 มีนักเรียนจํานวน คน กลุมตัวอยางท่ีใชในการวิจัยในการเก็บรวบรวมขอมูล คือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 5

จํานวน 38 คน การทดสอบแบงออกเปน 2 ชวง

ชวงท่ี 1 ทดสอบความรูกอนการเรียนแบบฝกทักษะเรื่องวงดนตรีไทย ชวงท่ี 2 ทดสอบความรูหลังจากสอนโดยแบบฝกทักษะเรื่องวงดนตรีไทยเปนเวลา 2 สัปดาห

ตัวแปรท่ีทําการศึกษา ผูวิจัยไดกําหนดตัวแปรท่ีจะทําการศึกษา จากการศึกษาเอกสารและงานวิจัยท่ีเก่ียวของ โดยมีรายละเอียดดังนี้

ตัวแปรอิสระ ไดแก แบบฝกทักษะประกอบดวย เอกสารเรื่องวงดนตรีไทย ใบงาน และแบบทดสอบ

1.4.2.2 ตัวแปรตาม ไดแก พัฒนาแบบฝกทักษะทางการเรียน โดยมีกรอบแนวคิดการวิจัย ดังนี้

นิยามศัพทเฉพาะ แบบฝกทักษะ หมายถึง ชุดหรือเครื่องมือแบบฝกทักษะ เรื่องวงดนตรีไทยซ่ึงผูวิจัยสรางข้ึนอยูในรูปแบบฝกหัดท่ีเนนองคประกอบในการฝกทักษะความจําและแยกประเภทของวงดนตรีไทย

เอกสารประกอบการสอน หมายถึง เอกสารท่ีใชประกอบการบรรยายในวิชาศิลปะ เรื่อง วงดนตรีไทย

แบบทดสอบ หมายถึง แบบทดสอบท่ีผูวิจัยสรางข้ึนใชทดสอบความสามารถของผูเรียนในการจดจําและแยกประเภทของวงดนตรีไทย หลังจากสอนจบเนื้อหาท้ังหมดแลว มีลักษณะเปนแบบทดสอบปรนัยจํานวน 40 ขอ นักเรียน หมายถึง นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 1/5 ภาคเรียนท่ี 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัย-ราชภัฏสวนสุนันทา

ประโยชนท่ีคาดวาจะไดรับ 1. นักเรียนท่ีเรียนโดยใชแบบฝกทักษะเรื่องวงดนตรีไทย จะมีความสามารถในการจดจําและแยกหลังการเรียนสูงกวากอนการเรียน 2. ใชเปนแนวทางในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอน สาระการเรียนรูศิลปะ ใหกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 1

วิธีคํานวณหาประสิทธิภาพ ในการหาประสิทธิภาพของชุดการสอนโดยใชเกณฑ E1/E2 เปนวิธีการท่ีสามารถชี้วัดประสิทธิภาพของชุดการเรียนการสอน ไดท้ังภาพรวมในลักษณะกวาง และวัดสวนยอยเปนรายจุดประสงคทําใหไดผลการวัดท่ีชัดเจน นําขอมูลท่ีไดมาเปนเครื่องตัดสินใจไดโดยไมตองใชวิธีการอ่ืน

ตวัแปรอิสระ

แบบฝึกทกัษะ ประกอบด้วย

1. เอกสาร เร่ือง วงดนตรีไทย

2. ใบงาน

3. แบบทดสอบ

ตวัแปรตาม

พฒันาแบบฝึกทกัษะทางการเรียน

มาประกอบ ใหเกิดการซํ้าซอนอีกเกณฑท่ีใชคือ E1/E2 อาจเทากับ 80/80 หรือ 90/90 หรืออ่ืนๆอีกก็ได แตถากําหนดเกณฑไวต่ําเกินไปอาจทําใหผูใชบทเรียนไมเชื่อถือคุณภาพของบท เรียน การหาคา E1 และ E2 มีวิธีการคํานวณหาคารอยละ โดยใชสูตรตอไปนี้

E1 = (∑X/N) X 100 A

โดย E1 คือประสิทธิภาพของกระบวนการท่ีจัดไวในชุดการสอนคิดเปนรอยละจากการทําแบบ ฝกหัดและหรือประกอบดวยกิจกรรมการเรียนระหวางเรียน

∑X คือ คะแนนจากการทําแบบฝกหัดและหรือการประกอบกิจกรรมการเรียน ระหวางเรียน A คือ คะแนนเต็มของแบบฝกหัดและหรือกิจกรรมการเรียน N คือ จํานวนผูเรียน

E2 = (∑F/N)X 100 B

โดยท่ี E2 คือ ประสิทธิภาพของผลลัพธ (พฤติกรรมท่ีเปลี่ยนในตัวผูเรียนหลังการเรียนดวยชุดการเรียนการสอน) คิดเปนอัตราสวนจากการทําแบบทดสอบหลังเรียนและหรือประกอบกิจกรรมหลังเรียน ∑F คือ คะแนนรวมของผูเรียนจากการทําแบบทดสอบหลังเรียนและหรือการประกอบกิจกรรมหลังเรียน B คือ คะแนนเต็มของการสอบหลังเรียนและหรือกิจกรรมหลังเรียน N คือ จํานวนผูเรียน

บทท่ี 2 วรรณกรรมที่เกี่ยวของ

การศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาศิลปะ เรื่อง เครื่องดนตรีไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 1 ท่ีไดรับการสอนโดยใชแบบฝกทักษะ แบบบรรยาย ผูวิจัยไดทําการศึกษาวรรณกรรมท่ีเก่ียวของ ดังตอไปนี้

1. ความหมายของดนตรีและวงดนตรีไทย 2. หลักสูตรท่ีเก่ียวของกับสาระดนตรี 3. งานวิจัยท่ีเก่ียวของ

ความหมายของดนตรีและวงดนตรีไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานพ.ศ. 2542 (2546 : 26 ) ใหความหมายดนตรี หมายถึง เครื่องบรรเลงท่ีมีเสียงดัง ทําใหรูสึกเพลิดเพลินหรือเกิดอารมณรัก โศก และรื่นเริงไดตามทํานองเพลง

วงดนตรีไทย คือ ดนตรีไทยมักเลนเปนวงดนตรี มีการแบงตามประเภทของการบรรเลงท่ีเปนระเบียบมาแตโบราณกาลจนถึงปจจุบันเปน 3 ประเภท คือ

วงปพาทย ประกอบดวยเครื่องตีเปนสําคัญ เชน ฆอง กลอง และมีเครื่องเปาเปนประธานไดแก ป นอกจากนั้นเปนเครื่อง วงปพาทยยังแบงไปไดอีกคือ วงปพาทยชาตรี,วงปพาทยไมแข็ง,วงปพาทยเครื่องหา,วงปพาทยเครื่องคู,วงปพาทยเครื่องใหญ,วงปพาทยไมนวม,วงปพาทยมอญ,วงปพาทยนางหงส

วงเครื่องสาย ไดแก เครื่องดนตรี ท่ีประกอบดวยเครื่องดนตรีท่ีมีสายเปนประธาน มีเครื่องเปา และเครื่องตี เปนสวนประกอบ ไดแก ซอดวง ซออู จะเข เปนตน ปจจุบันวงเครื่องสายมี 4 แบบ คือ วงเครื่องสายเครื่องเดี่ยว,วงเครื่องสายเครื่องคู,วงเครื่องสายผสม,วงเครื่องสายปชวา

วงมโหรี ในสมัยโบราณเปนคําเรียกการบรรเลงโดยท่ัวไป เชน "มโหรีเครื่องสาย" "มโหรีปพาทย" ในปจจุบัน มโหรี ใชเปนชื่อเรียกเฉพาะวงบรรเลงอยางหนึ่งอยางใดท่ีมีเครื่อง ดีด สี ตี เปา มาบรรเลงรวมกันหมด ฉะนั้นวงมโหรีก็คือวงเครื่องสาย และวงปพาทย ผสมกัน วงมโหรีแบงเปน วงมโหรีเครื่องสี่,วงมโหรีเครื่องหก,วงมโหรีเครื่องเดี่ยว หรือ มโหรีเครื่องเล็ก,วงมโหรีเครื่องคู หลักสูตรท่ีเกี่ยวของกับสาระดนตรี

หลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน (กรมวิชาการ, 2551 : ) ไดกําหนดสาระและมาตรฐานการเรียนรูเพ่ือเปนเกณฑในการกําหนดคุณภาพของผูเรียนเม่ือเรียนจบการศึกษาข้ันพ้ืนฐานในกลุมสาระการเรียนรูศิลปะ ไววา

สาระท่ี 2 : ดนตรี มาตรฐานการเรียนรู ศ 2.1 เขาใจและแสดงออกทางดนตรีอยางสรางสรรค วิเคราะห

วิพากษวิจารณคุณคาดนตรี ถายทอดความรูสึก ความคิดตอดนตรีอยางอิสระ ชื่นชม และประยุกตใช ในชีวิตประจําวัน

มาตรฐานการเรียนรู ศ 2.2 เขาใจความสัมพันธระหวางดนตรี ประวัติศาสตร และวัฒนธรรม เห็นคุณคาของดนตรีท่ี เปนมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปญญาทองถ่ิน ภูมิปญญาไทยและสากล

หลักสูตรสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน กลุมสาระการเรียนรูศิลปะ (โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, 2551 ) ไดกลาวถึงคําอธิบายรายวิชาศิลปะ ของระดับชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 1 รหัสวิชา ศ 21102 ไวดังนี้

คําอธิบายรายวิชา องคประกอบของดนตรี อิทธิพลของดนตรี เครื่องหมายและสัญลักษณทางดนตรี เสียงรองและเสียงของเครื่องดนตรี การรองและบรรเลงเครื่องดนตรีประกอบการรอง การใชและการบํารุงรักษาเครื่องดนตรี วงดนตรีพ้ืนเมือง วงดนตรีไทย วงดนตรีสากล ถายทอดอารมณของบทเพลง การนําเสนอบทเพลงตามความสนใจ และประเมินคุณภาพของบทเพลง

โดยใชกระบวนการอาน เขียน จดจํา การวิเคราะห จําแนก การขับรอง การบรรเลง การแสดงความคิดเห็น วิจารณ การบํารุงรักษา เพ่ือใหเกิดทักษะทางดนตรี

เพ่ือนําประสบการณดานความรู ความเขาใจ ความคิดสรางสรรค การแสดงความคิดเห็นและทักษะปฏิบัติทางดนตรี ไปใชในการเรียนรูและรวมท้ังเห็นคุณคางานดนตรี มีรับผิดชอบ มีวินัย ใฝเรียนใฝรู และมุงม่ันในการทํางาน นอกจากนี้ในหลักสูตรสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน กลุมสาระการเรียนรูศิลปะ ยังไดกลาวถึงตัวชี้วัดในรายวิชานี้ไว 11 ขอ ไดแก

1. อาน เขียน รองโนตไทย และโนตสากล 2. เปรียบเทียบเสียงรองและเสียงของเครื่องดนตรีท่ีมาจากวัฒนธรรมท่ีแตกตางกัน 3. รองเพลงและใชเครื่องดนตรีบรรเลงประกอบการรองเพลงดวยบทเพลงท่ีหลากหลาย

รูปแบบ 4. จัดประเภทของวงดนตรีไทยและวงดนตรีท่ีมาจากวัฒนธรรมตาง ๆ 5. แสดงความคิดเห็นท่ีมีตออารมณของบทเพลงท่ีมีความเร็วของจังหวะและความดัง - เบา

แตกตางกัน 6. เปรียบเทียบอารมณ ความรูสึกในการ ฟงดนตรีแตละประเภท 7. นําเสนอตัวอยางเพลงท่ีตนเองชื่นชอบและอภิปรายลักษณะเดนท่ีทํางานนั้นนาชื่นชม 8. ใชเกณฑสําหรับประเมินคุณภาพงานดนตรีหรือเพลงท่ีฟง 9. ใชและบํารุงรักษาเครื่องดนตรีอยางระมัดระวังและรับผิดชอบ 10. อธิบายบทบาทความสัมพันธและอิทธิพลของดนตรีท่ีมีตอสังคมไทย 11. ระบุความหลากหลายขององคประกอบดนตรีในวัฒนธรรมตางกัน

งานวิจัยท่ีเกี่ยวของ นายเฉลิมพล เถียรสายออ (2553) ไดศึกษาเก่ียวกับการพัฒนาชุดการเรียนการสอนวิชา

ศิลปะ(ดนตรี) เรื่องเครื่องดนตรีไทยสําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 2 เครื่องมือท่ีใชในการศึกษาคนควา คือ ชุดการเรียนการสอนวิชาศิลปะ (ดนตรี) เรื่อง เครื่องดนตรีไทย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนท่ีมีตอการเรียนโดยใชชุดการเรียนการสอน พบวา1) ชุดการเรียนการสอนวิชาศิลปะ (ดนตรี) เรื่อง เครื่องดนตรีไทยสําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 2 ท่ีผูศึกษาคนควาพัฒนาข้ึนมีประสิทธิภาพ 86.94/87.08 ซ่ึงสูงกวาเกณฑมาตรฐานท่ีตั้งไวคือ 80 2) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 2 ท่ีเรียนโดยใชชุดการเรียนการสอนมีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนหลังเรียนสูงกวากอนเรียนอยางมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ .01 3) ชุด

การเรียนการสอนวิชาศิลปะ (ดนตรี) เรื่อง เครื่องดนตรีไทย สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 2 มีคาดัชนีประสิทธิผลเทากับ 0.8786 คือนักเรียนมีความรูเพ่ิมข้ึน หลังเรียนโดยใชชุดการเรียนการสอน รอยละ 87.86

เกสรี อติชาติธานินทร (2552 ) ไดศึกษาเก่ียวกับการพัฒนาและผลการใชเอกสารประกอบการสอน วิชาดนตรี เรื่องเครื่องดนตรีพ้ืนบานสี่ภาคของไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปท่ี 4 โดยการคัดเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือท่ีใชคือ เอกสารประกอบการสอน วิชาดนตรี เรื่องเครื่องดนตรีพ้ืนบานสี่ภาคของไทย ผลการพัฒนาพบวา เอกสารประกอบการสอน วิชาดนตรี เรื่องเครื่องดนตรีพ้ืนบานสี่ภาคของไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปท่ี 4 ท่ีผูศึกษาสรางข้ึนมีคาดัชนีประสิทธิผลคิดเปน รอยละ 70.16 คาประสิทธิภาพ 84.46/85.00 ซ่ึงสูงกวาเกณฑท่ีตั้งไว นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกวากอนเรียน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียนสูงกวาเกณฑท่ีตั้งไวอยางมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ .01

กาญจนา เชิดเมืองปก (2553) ไดศึกษาเก่ียวกับการใชและการพัฒนาการเรียนการสอนโดยใชเอกสารประกอบการเรียน กลุมสาระการเรียนรูวิชา ศิลปะ (สาระดนตรี) ชุดเรียนรูดนตรีไทย สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 1 เครื่องมือท่ีใชในการวิจัยไดแก 1) เอกสารประกอบการเรียนและแผนการจัดการเรียนรูชุดเรียนรูดนตรีไทย 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจํานวน 20 ขอ 3) แบบทดสอบวัดความพึงพอใจของนักเรียนท่ีเรียนเอกสารประอบการเรียนมีลักษณะเปนแบบมาตราสวนประมาณคา (Rating scale) 5 ระดับ จํานวน 15 ขอ สถิติท่ีใชในการวิเคราะหขอมูลสถิติท่ีใช คือ รอยละ คาเฉลี่ย สวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาสรุปไดดังนี้ 1) เอกสารประกอบการเรียนและแผนการจัดการเรียนรูชุดเรียนรูดนตรีไทยมีประสิทธิภาพเทากับ 83.84/83.20 ซ่ึงสูงกวาเกณฑท่ีตั้งไวคือ 80/80 2)นักเรียนท่ีเรียนดวยเอกสารประอบการเรียนกลุมสาระการเรียนรูวิชา ศิลปะ (สาระดนตรี) ชุดเรียนรูดนตรีไทย สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 1 ท้ัง 5 เรื่อง มีคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนเพ่ิมข้ึนจากกอนเรียน อยางมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ 0.5 3) นักเรียนท่ีเรียนดวยเอกสารประอบการเรียนกลุมสาระการเรียนรูวิชา ศิลปะ (สาระดนตรี) ชุดเรียนรูดนตรีไทย สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 1 ท้ัง 5 เรื่อง มีความพึงพอใจโดยรวมอยูในระดับมาก (4.46)

ภาคม บํารุงสุข (2550) ไดศึกษาเก่ียวกับ การพัฒนาชุดการเรียนการสอนบนเว็บ วิชา 385223 ประวัติดนตรีไทยเครื่องมือท่ีใชในการวิจัยไดแก(1) ชุดการเรียนการสอนบนเว็บ วิชา 385223 ประวัติดนตรีไทย และ (2) แบบทดสอบกอนเรียน และแบบทดสอบหลังเรียน การวิเคราะหขอมูลเพ่ือหาประสิทธิภาพของบทเรียนใช สูตร E 1 /E 2 และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์กอนและหลังใชt-test ผลการวิจัยพบวา 1) ชุดการเรียนการสอนบนเว็บ วิชา 385223 ประวัติดนตรีไทย สาขาวิชาดนตรีไทย ภาควิชาศิลปนิเทศ คณะมนุษยศาสตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร มีคาประสิทธิภาพของบทเรียนเปน 85.5/86.44 ซ่ึงเปนไปตามเกณฑมาตรฐาน 85/85 และ 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกวาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกอนเรียนอยางมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ 0.05

บทที่ 3 วิธีดําเนินการวิจัย

การวิจัยเรื่องนี้ เปนการวิจัยเพ่ือใชแบบฝกทักษะวิชาศิลปะ เรื่องวงดนตรีไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 1 ท่ีไดรับการสอนโดยใชแบบฝกทักษะ กับการสอนแบบบรรยาย โดยมีวิธีดําเนินการวิจัย ดังรายละเอียดตอไปนี้ 1. ประชากรและกลุมตัวอยาง 2. เครื่องมือท่ีใชในการเก็บรวบรวมขอมูล 3. วิธีการเก็บรวบรวมขอมูล 4. สถิติท่ีใชในการวิเคราะหขอมูล

ประชากรและกลุมตัวอยาง ประชากรและกลุมตัวอยาง ประชากรท่ีใชในการวิจัยครั้งนี้ เปนนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 1 โรงเรียนสาธิต

มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ในภาคเรียนท่ี 2 ปการศึกษา 2554 จํานวน 38 คน กลุมตัวอยางในการเก็บรวบรวมขอมูล คือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 1 จํานวน 38

คน การทดสอบแบงออกเปน 2 ชวง

ชวงท่ี 1 ทดสอบความรูกอนการเรียนแบบฝกทักษะเรื่องเครื่องดนตรีไทย ชวงท่ี 2 ทดสอบความรูหลังจากสอนโดยแบบฝกทักษะเรื่องเครื่องดนตรีไทยเปนเวลา 2 สัปดาห

เครื่องมือท่ีใชในการเก็บรวบรวมขอมูล เครื่องมือท่ีใชในการวิจัยครั้งนี้ประกอบดวย 1. แบบฝกทักษะวิชาศิลปะ เรื่องเครื่องดนตรีไทยนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปท่ี1 ซ่ึง

ประกอบดวยเอกสารเรื่องวงดนตรีไทย ใบงาน และแบบทดสอบ

วิธีการเก็บรวบรวมขอมูล

ผูวิจัยดําเนินการเก็บรวบรวมขอมูลดวยตนเอง โดยมีข้ันตอน ดังนี้ 1. ผูวิจัยเก็บรวบรวมขอมูลกับนักเรียนในชวงสัปดาหท่ี 2 ของ เดือนมกราคม 2555 โดยนําแบบทดสอบวัดความรูเดิมไปทดสอบความรูพ้ืนฐานกอนเรียนของนักเรียน 2. ใหนักเรียนเรียนเนื้อหาโดยใชแบบฝกทักษะท่ีสรางข้ึน โดยผูวิจัยเปนผูสอนและแนะนํานักเรียนเก่ียวกับแบบฝกทักษะ 3. เม่ือเรียนจบแลวผูวิจัยไดนําแบบทดสอบมาวัดผลการเรียนของนักเรียน 5. นําคะแนนท่ีไดจากการทดสอบมาวิเคราะหเพ่ือหาผลการเรียนรูทางการเรียนของแบบฝกทักษะ การเก็บรวบรวมขอมูล ผูวิจัยใชวิธีการใหคะแนนแบบ 0 และ 1 โดยขอใดตอบถูกจะได 1 คะแนน ขอใดตอบผิดหรือไมตอบให 0 คะแนน

สถิติท่ีใชในการวิเคราะหขอมูล วิเคราะหขอมูลจากตารางมาตราสวนประมาณคา ท่ีไดจากการทดสอบนักเรียนโดยใชสถิติคาเฉลี่ยรอยละ

บทที่ 4 ผลการวิจัย

จากการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาศิลปะ (ดนตรีไทย) เรื่องการใชแบบฝกทักษะวิชาศิลปะ เรื่อง วงดนตรีไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 1 พบวา นักเรียนขาดความรูความเขาใจในวงดนตรีไทย ทําใหผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนต่ํา จึงนําแบบฝกทักษะเรื่องวงดนตรีไทยมาใชในการจัดการเรียนการสอน พบวานักเรียนสามารถจดจําและจําแนกประเภทวงดนตรีไทย และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนเพ่ิมข้ึนดังตาราง

ตารางท่ี 1 การเปรียบเทียบคะแนนการทดสอบวงดนตรีไทย

เลขท่ี

ชื่อ - สกุล

กอนเรียน หลังเรียน จ ด จํ า แ ล ะ จํ า น กประเภทวงดนตรีไทย

รวม จ ด จํ า แ ล ะ จํ า น กประเภทวงดนตรีไทย

รวม

1 ด.ช.กันตณัฐ ผลประเสริฐ 5 5 9 9 2 ด.ช.กันตภณ ทรงอาวุธ 3 3 7 7 3 ด.ช.กิตติชัย ฉันททราวงศ 0 0 5 5 4 ด.ช.จิตติพงษ ศรีจําปา 3.5 3.5 8 8 5 ด.ช.ชนะพัฒน เทียมสุวรรณ 5 5 9 9 6 ด.ช.ชยุตพล คําหลอด 0 0 5 5 7 ด.ช.ชานน วิสิฐสัมธาพงศ 0 0 5 5 8 ด.ช.ฐิติพัฒน หวังวณิชพันธุ 3.5 3.5 8 8 9 ด.ช.ฐิติพันธ บุญทวีสมบูรณ 3.5 3.5 8 8 10 ด.ช.ณัฐนันท ลี้รัตนา 3 3 7 7 11 ด.ช.ธนวินท อาษานอก 2.5 2.5 6 6 12 ด.ช.ธัญพิสิษฐ มากวัฒนสุข 4 4 8 8 13 ด.ช.ปยวัฒน อินทนนท 3.5 3.5 8 8 14 ด.ช.ภาณุ แกงศิริ 0 0 5 5 15 ด.ช.ภิญโญ รัศมีจันทร 5 5 9 9 16 ด.ช.ภูมินันท บุญช ู 3 3 7 7 17 ด.ช.ภูวเดช วิมลวัฒนา 3.5 3.5 8 8 18 ด.ช.รัชชานนท สถาวร 0 0 5 5 19 ด.ช.สายน้ํา รักธรรม 5 5 9 9 20 ด.ช.สิทธา มุงจิตรธรรมม่ัน 5 5 9 9

เลขท่ี

ชื่อ - สกุล

กอนเรียน หลังเรียน จ ด จํ า แ ล ะ จํ า น กประเภทวงดนตรีไทย

รวม จ ด จํ า แ ล ะ จํ า น กประเภทวงดนตรีไทย

รวม

21 ด.ช.สิทธิพันธ ผองแผว 5 5 9 9 22 ด.ช.สิรภพ ทองอยู 2.5 2.5 7 7 23 ด.ช.สุวภัทร วิมล 0 0 5 5 24 ด.ญ.กชกร สงนอก 4.5 4.5 10 10 25 ด.ญ.จิตรณดา เงินทอง 2.5 2.5 7 7 26 ด.ญ.ธีรดา ค้ิวเท่ียง 4.5 4.5 9 9 27 ด.ญ.นรีสา ปาจิณพยัคฆ 4.5 4.5 9 9 28 ด.ญ.นัฐริกา เพ่ิมทอง 2.5 2.5 7 7 29 ด.ญ.เบญจา มุลเสนา 3.5 3.5 8 8 30 ด.ญ.ปานวาด ทรัพยละออ 3.5 3.5 8 8 31 ด.ญ.ปยะฉัตร จิรฉวีวรรณ 4.5 4.5 10 10 32 ด.ญ.พิชชากร ลวกิตติไชยยันต 4 4 9 9 33 ด.ญ.พิมพวรางค พวงบุรี 4.5 4.5 10 10 34 ด.ญ.มณีพรรณ สหพงศ 2.5 2.5 7 7 35 ด.ญ.รัชดาภรณ บุนนาค 3 3 8 8 36 ด.ญ.วริศรา สาครบุตร 2.5 2.5 7 7 37 ด.ญ.ศิริกัลยา กบขุนทด 2.5 2.5 7 7 38 ด.ญ.สาโรชา สังขบุญลือ 4 4 9 9

เฉลี่ย 3.11 เฉลี่ย 7.65

จากตารางท่ี 1 ผลการเปรียบเทียบคะแนนการทดสอบการใชแบบฝกทักษะ พบวาการใชการใชแบบฝกทักษะวิชาศิลปะ เรื่อง วงดนตรีไทย นักเรียนท่ีสามารถทําแบบทดสอบผานได โดยคะแนนเฉลี่ยของการทดสอบหลังเรียนแบบฝกทักษะ (คะแนนเฉลี่ย = 7.65) สูงกวาคะแนนเฉลี่ยของการทดสอบกอนเรียนแบบฝกทักษะ (คะแนนเฉลี่ย = 3.11) ดังแสดงในตาราง

ตารางท่ี 2 เปรียบเทียบผลตางการเรียนเปนรายบุคคล

เลขท่ี ชื่อ - สกุล กอนเรียน หลังเรียน เปรียบเทียบผ ล ต า ง ก า รเรียนรู

จ ด จํ า แ ล ะ จํ า น กประเภทวงดนตรีไทย

จ ด จํ า แ ล ะ จํ า น กประเภทวงดนตรีไทย

100% 100% 100% 1 ด.ช.กันตณัฐ ผลประเสริฐ 50 90 40 2 ด.ช.กันตภณ ทรงอาวุธ 30 70 40 3 ด.ช.กิตติชัย ฉันททราวงศ 0 50 50 4 ด.ช.จิตติพงษ ศรีจําปา 35 80 45 5 ด.ช.ชนะพัฒน เทียมสุวรรณ 50 90 40 6 ด.ช.ชยุตพล คําหลอด 0 50 50 7 ด.ช.ชานน วิสิฐสัมธาพงศ 0 50 50 8 ด.ช.ฐิติพัฒน หวังวณิชพันธุ 35 80 45 9 ด.ช.ฐิติพันธ บุญทวีสมบูรณ 35 80 45 10 ด.ช.ณัฐนันท ลี้รัตนา 30 70 40 11 ด.ช.ธนวินท อาษานอก 25 60 35 12 ด.ช.ธัญพิสิษฐ มากวัฒนสุข 40 80 40 13 ด.ช.ปยวัฒน อินทนนท 35 80 45 14 ด.ช.ภาณุ แกงศิริ 0 50 50 15 ด.ช.ภิญโญ รัศมีจันทร 50 90 40 16 ด.ช.ภูมินันท บุญช ู 30 70 40 17 ด.ช.ภูวเดช วิมลวัฒนา 35 80 45 18 ด.ช.รัชชานนท สถาวร 0 50 50 19 ด.ช.สายน้ํา รักธรรม 50 90 40 20 ด.ช.สิทธา มุงจิตรธรรมม่ัน 50 90 40 21 ด.ช.สิทธิพันธ ผองแผว 50 90 40 22 ด.ช.สิรภพ ทองอยู 25 70 45 23 ด.ช.สุวภัทร วิมล 0 50 50 24 ด.ญ.กชกร สงนอก 45 100 55 25 ด.ญ.จิตรณดา เงินทอง 25 70 45 26 ด.ญ.ธีรดา ค้ิวเท่ียง 45 90 45 27 ด.ญ.นรีสา ปาจิณพยัคฆ 45 90 45 28 ด.ญ.นัฐริกา เพ่ิมทอง 25 70 45 29 ด.ญ.เบญจา มุลเสนา 35 80 45 30 ด.ญ.ปานวาด ทรัพยละออ 35 80 45

เลขท่ี ชื่อ - สกุล กอนเรียน หลังเรียน เปรียบเทียบผ ล ต า ง ก า รเรียนรู

จ ด จํ า แ ล ะ จํ า น กประเภทวงดนตรีไทย

จ ด จํ า แ ล ะ จํ า น กประเภทวงดนตรีไทย

100% 100% 100% 31 ด.ญ.ปยะฉัตร จิรฉวีวรรณ 45 100 55 32 ด.ญ.พิชชากร ลวกิตติไชยยันต 40 90 50 33 ด.ญ.พิมพวรางค พวงบุรี 45 100 55 34 ด.ญ.มณีพรรณ สหพงศ 25 70 45 35 ด.ญ.รัชดาภรณ บุนนาค 30 80 50 36 ด.ญ.วริศรา สาครบุตร 25 70 45 37 ด.ญ.ศิริกัลยา กบขุนทด 25 70 45 38 ด.ญ.สาโรชา สังขบุญลือ 40 90 50

เทียบคา 10 คะแนน เทากับ 100 % เกณฑเปรียบเทียบผลการเรียน

ผลการเรียนท่ีเพ่ิมข้ึน 10 – 29 % ระดับ พอใช ผลการเรียนท่ีเพ่ิมข้ึน 30 – 49 % ระดับ ปานกลาง ผลการเรียนท่ีเพ่ิมข้ึนตั้งแต 50% -ข้ึนไป ระดับ ดี

จากตารางท่ี 2 เปรียบเทียบผลตางการเรียนเปนรายบุคคลพบวานักเรียนจํานวน 35 คนมี

ผลการเรียนระดับ ปานกลาง นักเรียนจํานวน 3 คน มีผลการเรียนระดับ ดี

บทท่ี 5 สรุป อภิปรายผล และขอเสนอแนะ

การศึกษาการวิจัยในชั้นเรียน เรื่องการใชแบบฝกทักษะวิชาศิลปะ เรื่องวงดนตรีไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 1 ปการศึกษา 2554 จํานวน 38 คน ในครั้งนี้มีวัตถุประสงคในการแกปญหาของนักเรียนดังนี้ ผูวิจัยไดสรุปผลการวิจัย อภิปรายผลและไดใหขอเสนอแนะตาง ๆ ดังรายละเอียดตอไปนี้

วัตถุประสงคของการวิจัย 1. เพ่ือการพัฒนาแบบฝกทักษะวิชาศิลปะเรื่องวงดนตรีไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี

1 ปการศึกษา 2554 จํานวน 38 คน

ประชากรและกลุมตัวอยาง ประชากรและกลุมตัวอยาง ประชากรท่ีใชในการวิจัยครั้งนี้ เปนนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 1 โรงเรียนสาธิต

มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ในภาคเรียนท่ี 2 ปการศึกษา 2554 จํานวน 38 คน กลุมตัวอยางในการเก็บรวบรวมขอมูล คือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 1 จํานวน 38

คน การทดสอบแบงออกเปน 2 ชวง

ชวงท่ี 1 ทดสอบความรูกอนการเรียนแบบฝกทักษะเรื่องวงดนตรีไทย ชวงท่ี 2 ทดสอบความรูหลังจากสอนโดยแบบฝกทักษะเรื่องวงดนตรีไทยเปนเวลา 2 สัปดาห

เครื่องมือท่ีใชในการเก็บรวบรวมขอมูล

เครื่องมือท่ีใชในการวิจัยครั้งนี้ประกอบดวย 1. แบบฝกทักษะวิชาศิลปะ เรื่องวงดนตรีไทยนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปท่ี1 ซ่ึง

ประกอบดวยเอกสารเรื่องวงดนตรีไทย ใบงาน และแบบทดสอบ

วิเคราะหขอมูล ผูวิจัยดําเนินการเก็บรวบรวมขอมูลดวยตนเองในเดือนมกราคม 2555 และนํามาวิเคราะห

ขอมูล

สรุปผลการวิจัย

จากการวิเคราะหการใชแบบฝกทักษะพบขอสรุปท่ีเปนไปตามวัตถุประสงคของการวิจัย คือ แบบฝกทักษะวิชาศิลปะ เรื่อง วงดนตรีไทย นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปท่ี1 ผูวิจัยขออภิปรายผลได ดังนี้

1. นักเรียนท่ีไดรับการสอนโดยใชแบบฝกทักษะนักเรียนสามารถจดจําและจําแนกประเภทวงดนตรีไทยโดยมีคะแนนสูงกวากอนการเรียนแบบฝกทักษะ เรื่อง วงดนตรีไทย

อภิปรายผล จากการวิเคราะหการใชแบบฝกทักษะวิชาศิลปะ เรื่องวงดนตรีไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 1 ปการศึกษา 2554 จํานวน 38 คน ผูวิจัยขออภิปรายผลได ดังนี้

นักเรียนท่ีไดรับการสอนโดยใชแบบฝกทักษะเรื่อง วงดนตรีไทย เปนเวลา 2 สัปดาหนั้นนักเรียนสามารถจดจําและจําแนกประเภทวงดนตรีไทยไดมากข้ึนกอนการเรียนแบบฝกทักษะ โดยสามารถวัดความแตกตางของผลการเรียนจากตารางท่ี 1 ดังนี้ ผลการเปรียบเทียบคะแนนการทดสอบการใชแบบฝกทักษะ พบวาการใชการใชแบบฝกทักษะวิชาศิลปะ เรื่อง วงดนตรีไทย นักเรียนท่ีสามารถทําแบบทดสอบผานได โดยคะแนนเฉลี่ยของการทดสอบหลังเรียนแบบฝกทักษะ (คะแนนเฉลี่ย = 7.67) สูงกวาคะแนนเฉลี่ยของการทดสอบกอนเรียนแบบฝกทักษะ (คะแนนเฉลี่ย = 3.11) และสามารถคิดเปนเปอรเซ็นตผลการเรียนเปนรายบุคคลจากตารางท่ี 2 ดังนี้ เปรียบเทียบผลตางการเรียนเปนรายบุคคลพบวานักเรียนจํานวน 35 คนมีผลการเรียนระดับ ปานกลาง นักเรียนจํานวน 3 คน มีผลการเรียนระดับ ดี

จากผลจากการศึกษาคนควาครั้งนี้พบวา แบบฝกทักษะวิชาศิลปะ เรื่องวงดนตรีไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 1 ท่ีผูศึกษาไดจัดทําข้ึน สงผลตอการเรียนรูมากข้ึน นักเรียนสามารถจดจําและจําแนกประเภทวงดนตรีไทย เพราะฉะนั้นแบบฝกทักษะเรื่องวงดนตรีไทยจึงเหมาะสมท่ีจะนําไปใชในการจัดกิจกรรมการเรียนรูใหกับนักเรียน

ขอเสนอแนะ - ขอเสนอแนะในการศึกษาคนควาตอไป 1. ควรจัดการเรียนการสอนท่ีเพ่ิมใบความรูในเรื่องอ่ืนๆ นอกเหนือจากหนังสือเรียนและควร

ทําแบบทดสอบกอนการเรียนทุกครั้งเพ่ือวัดประเมินผลการเรียนนักเรียนวามีความรูในเรื่องนั้นๆ หรือไม

2. ควรจัดการเรียนการสอนแบบฝกทักษะกับนักเรียนในชั้นอ่ืนๆ เพ่ือใหเกิดความรูความเขาใจในเรื่องของดนตรีไทยท่ีเปนมรดกทางวัฒนธรรมใหเพ่ิมพูนข้ึน

บรรณานุกรม

บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ, กรมวิชาการ. 2544. หลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐานพุทธศักราช 2544. กรุงเทพฯ : โรงพิมพองคการรับสงสินคาและพัสดุภัณฑ. กระทรวงศึกษาธิการ, กรมวิชาการ. 2551. หลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐานพุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพองคการรับสงสินคาและพัสดุภัณฑ. เกสรี อติชาติธานินทร. พัฒนาและผลการใชเอกสารประกอบการสอน วิชาดนตรี เรื่อง – เครื่องดนตรีพ้ืนบานส่ีภาคของไทย สําหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปท่ี 4. (ออนไลน). เขาถึงไดจาก : http://www.vcharkarn.com/vcafe/180883 (วันท่ีคนขอมูล : 10 มีนาคม 2554). พิชัย ตุงประโคน. (2550). การเรียนการสอนดนตรี (ออนไลน). เขาถึงไดจาก : http://gotoknow.org/profile/pichai_23 (วันท่ีคนขอมูล : 10 มีนาคม 2554). วิบูลย ลี้สวุรรณ. พจนานุกรม หัตถกรรม เครื่องมือเครื่องใชพ้ืนบาน. กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ , 2546 สารานุกรมไทยสําหรับเยาวชน เลมท่ี 1. ( 2539 ). กรุงเทพฯ : รัษฎากรพิพัฒน พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถานพ.ศ. 2542. - - กรุงเทพฯ : นานมีบุคสพับลิเคชั่น , 2546. โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา. (2549). หลักสูตรสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงเรียนสาธิตมหาวทิยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา. ภาคม บํารุงสุข. การพัฒนาชุดการเรียนการสอนบนเว็บ วิชา 385223 ประวัติดนตรีไทย. (ออนไลน). เขาถึงไดจาก : http://www.hum.ku.ac.th/research/data/hum49-16.pdf (วันท่ีคนขอมูล : 17 มีนาคม 2554). นายเฉลิมพล เถียรสายออ. การพัฒนาชุดการเรียนการสอนวิชาศิลปะ(ดนตรี)เรื่องเครื่อง- ดนตรีไทย สําหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 2. (ออนไลน). เขาถึงไดจาก : http://fws.cc/bantramoong/index.php?topic=213.0 (วันท่ีคนขอมูล : 10 มีนาคม 2554). กาญจนา เชิดเมืองปก. (2553). การใชและการพัฒนาการเรียนการสอนโดยใชเอกสาร ประกอบการเรียน กลุมสาระการเรียนรูวิชา ศิลปะ (สาระดนตรี) ชุดเรียนรูดนตรี ไทย หรับนกัเรียนช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 1. (ออนไลน). เขาถึงไดจาก : http://www.thaistudy.info/tagl. (วันท่ีคนขอมูล : 10 มีนาคม 2554).