Upload
others
View
6
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
หัวขอการสอน
บทที่ 4 งานและพลังงานงานกำลังพลังงานพลังงานจลนพลังงานศักยโนมถวงพลังงานศักยยืดหยุนกฎการอนุรักษพลังงาน
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
4.3 พลังงาน (Energy)
พลังงาน คืออะไร ?
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
พลังงาน (Energy)
พลังงาน (Energy) คือ ปริมาณที่เกิดขึ้นกับวัตถุ เมื่อมีแรงมากระทำตอวัตถุแลวเกิดงานขึ้น
หรือ งานคือสิ่งที่ทำใหวัตถุเกิดการเปลี่ยนแปลงพลังงานจลนนั่นเอง
W = Ek2 − Ek1W = ∆Ek
พลังงาน เปนปริมาณสเกลาร มีหนวยเปนจูล (J)
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
พลังงาน (Energy)
พลังงาน (Energy) คือ ปริมาณที่เกิดขึ้นกับวัตถุ เมื่อมีแรงมากระทำตอวัตถุแลวเกิดงานขึ้นหรือ งานคือสิ่งที่ทำใหวัตถุเกิดการเปลี่ยนแปลงพลังงานจลนนั่นเอง
W = Ek2 − Ek1W = ∆Ek
พลังงาน เปนปริมาณสเกลาร มีหนวยเปนจูล (J)
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
พลังงาน (Energy)
พลังงาน (Energy) คือ ปริมาณที่เกิดขึ้นกับวัตถุ เมื่อมีแรงมากระทำตอวัตถุแลวเกิดงานขึ้นหรือ งานคือสิ่งที่ทำใหวัตถุเกิดการเปลี่ยนแปลงพลังงานจลนนั่นเอง
W = Ek2 − Ek1
W = ∆Ek
พลังงาน เปนปริมาณสเกลาร มีหนวยเปนจูล (J)
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
พลังงาน (Energy)
พลังงาน (Energy) คือ ปริมาณที่เกิดขึ้นกับวัตถุ เมื่อมีแรงมากระทำตอวัตถุแลวเกิดงานขึ้นหรือ งานคือสิ่งที่ทำใหวัตถุเกิดการเปลี่ยนแปลงพลังงานจลนนั่นเอง
W = Ek2 − Ek1W = ∆Ek
พลังงาน เปนปริมาณสเกลาร มีหนวยเปนจูล (J)
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
พลังงาน (Energy)
พลังงาน (Energy) คือ ปริมาณที่เกิดขึ้นกับวัตถุ เมื่อมีแรงมากระทำตอวัตถุแลวเกิดงานขึ้นหรือ งานคือสิ่งที่ทำใหวัตถุเกิดการเปลี่ยนแปลงพลังงานจลนนั่นเอง
W = Ek2 − Ek1W = ∆Ek
พลังงาน เปนปริมาณสเกลาร มีหนวยเปนจูล (J)
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
หัวขอการสอน
บทที่ 4 งานและพลังงานงานกำลังพลังงานพลังงานจลนพลังงานศักยโนมถวงพลังงานศักยยืดหยุนกฎการอนุรักษพลังงาน
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
4.4 พลังงานจลน (Kinetic Energy)
พลังงานจลน คืออะไร ?
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
พลังงานจลน (Kinetic Energy)
พลังงานจลน (Ek) คือ พลังงานที่เกิดจากวัตถุถูกแรงกระทำแลวทำใหเกิดการเคลื่อนที่
พลังงานจลน เปนปริมาณสเกลาร มีหนวยเปนจูล (J)
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
พลังงานจลน (Kinetic Energy)
พลังงานจลน (Ek) คือ พลังงานที่เกิดจากวัตถุถูกแรงกระทำแลวทำใหเกิดการเคลื่อนที่
พลังงานจลน เปนปริมาณสเกลาร มีหนวยเปนจูล (J)
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
จากนิยามของพลังงาน W = ∆Ek
จะได W = Ek2 − Ek1และจาก W =
∫ F⃗ · r⃗
Ek2 − Ek1 =∫
F⃗ · r⃗
=
∫F dr
และจาก F = ma = m(vdvdr ) จะได
Ek2 − Ek1 =∫
m(vdvdr )dr
=
∫mv dv
= m∫
v dv
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
จากนิยามของพลังงาน W = ∆Ekจะได W = Ek2 − Ek1
และจาก W =∫ F⃗ · r⃗
Ek2 − Ek1 =∫
F⃗ · r⃗
=
∫F dr
และจาก F = ma = m(vdvdr ) จะได
Ek2 − Ek1 =∫
m(vdvdr )dr
=
∫mv dv
= m∫
v dv
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
จากนิยามของพลังงาน W = ∆Ekจะได W = Ek2 − Ek1และจาก W =
∫ F⃗ · r⃗Ek2 − Ek1 =
∫F⃗ · r⃗
=
∫F dr
และจาก F = ma = m(vdvdr ) จะได
Ek2 − Ek1 =∫
m(vdvdr )dr
=
∫mv dv
= m∫
v dv
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
จากนิยามของพลังงาน W = ∆Ekจะได W = Ek2 − Ek1และจาก W =
∫ F⃗ · r⃗Ek2 − Ek1 =
∫F⃗ · r⃗
=
∫F dr
และจาก F = ma = m(vdvdr ) จะได
Ek2 − Ek1 =∫
m(vdvdr )dr
=
∫mv dv
= m∫
v dv
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
จากนิยามของพลังงาน W = ∆Ekจะได W = Ek2 − Ek1และจาก W =
∫ F⃗ · r⃗Ek2 − Ek1 =
∫F⃗ · r⃗
=
∫F dr
และจาก F = ma = m(vdvdr ) จะได
Ek2 − Ek1 =∫
m(vdvdr )dr
=
∫mv dv
= m∫
v dv
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
จากนิยามของพลังงาน W = ∆Ekจะได W = Ek2 − Ek1และจาก W =
∫ F⃗ · r⃗Ek2 − Ek1 =
∫F⃗ · r⃗
=
∫F dr
และจาก F = ma = m(vdvdr ) จะได
Ek2 − Ek1 =∫
m(vdvdr )dr
=
∫mv dv
= m∫
v dv
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
จากนิยามของพลังงาน W = ∆Ekจะได W = Ek2 − Ek1และจาก W =
∫ F⃗ · r⃗Ek2 − Ek1 =
∫F⃗ · r⃗
=
∫F dr
และจาก F = ma = m(vdvdr ) จะได
Ek2 − Ek1 =∫
m(vdvdr )dr
=
∫mv dv
= m∫
v dv
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
จากนิยามของพลังงาน W = ∆Ekจะได W = Ek2 − Ek1และจาก W =
∫ F⃗ · r⃗Ek2 − Ek1 =
∫F⃗ · r⃗
=
∫F dr
และจาก F = ma = m(vdvdr ) จะได
Ek2 − Ek1 =∫
m(vdvdr )dr
=
∫mv dv
= m∫
v dv
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตความเร็ว ตั้งแตความเร็วตน (u) จนถึงความเร็วปลาย (v) จะได
Ek2 − Ek1 = m∫ v=v
v=uv dv
= m(v22)∣∣∣v=vv=u
=1
2mv2 − 1
2mu2
นั่นคือ
Ek1 = 1
2mu2
Ek2 = 1
2mv2
Ek = 1
2mv2
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตความเร็ว ตั้งแตความเร็วตน (u) จนถึงความเร็วปลาย (v) จะได
Ek2 − Ek1 = m∫ v=v
v=uv dv
= m(v22)∣∣∣v=vv=u
=1
2mv2 − 1
2mu2
นั่นคือ
Ek1 = 1
2mu2
Ek2 = 1
2mv2
Ek = 1
2mv2
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตความเร็ว ตั้งแตความเร็วตน (u) จนถึงความเร็วปลาย (v) จะได
Ek2 − Ek1 = m∫ v=v
v=uv dv
= m(v22)∣∣∣v=vv=u
=1
2mv2 − 1
2mu2
นั่นคือ
Ek1 = 1
2mu2
Ek2 = 1
2mv2
Ek = 1
2mv2
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตความเร็ว ตั้งแตความเร็วตน (u) จนถึงความเร็วปลาย (v) จะได
Ek2 − Ek1 = m∫ v=v
v=uv dv
= m(v22)∣∣∣v=vv=u
=1
2mv2 − 1
2mu2
นั่นคือ
Ek1 = 1
2mu2
Ek2 = 1
2mv2
Ek = 1
2mv2
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตความเร็ว ตั้งแตความเร็วตน (u) จนถึงความเร็วปลาย (v) จะได
Ek2 − Ek1 = m∫ v=v
v=uv dv
= m(v22)∣∣∣v=vv=u
=1
2mv2 − 1
2mu2
นั่นคือ
Ek1 = 1
2mu2
Ek2 = 1
2mv2
Ek = 1
2mv2
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตความเร็ว ตั้งแตความเร็วตน (u) จนถึงความเร็วปลาย (v) จะได
Ek2 − Ek1 = m∫ v=v
v=uv dv
= m(v22)∣∣∣v=vv=u
=1
2mv2 − 1
2mu2
นั่นคือ
Ek1 = 1
2mu2
Ek2 = 1
2mv2
Ek = 1
2mv2
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตความเร็ว ตั้งแตความเร็วตน (u) จนถึงความเร็วปลาย (v) จะได
Ek2 − Ek1 = m∫ v=v
v=uv dv
= m(v22)∣∣∣v=vv=u
=1
2mv2 − 1
2mu2
นั่นคือ
Ek1 = 1
2mu2
Ek2 = 1
2mv2
Ek = 1
2mv2
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตความเร็ว ตั้งแตความเร็วตน (u) จนถึงความเร็วปลาย (v) จะได
Ek2 − Ek1 = m∫ v=v
v=uv dv
= m(v22)∣∣∣v=vv=u
=1
2mv2 − 1
2mu2
นั่นคือ
Ek1 = 1
2mu2
Ek2 = 1
2mv2
Ek = 1
2mv2
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตความเร็ว ตั้งแตความเร็วตน (u) จนถึงความเร็วปลาย (v) จะได
Ek2 − Ek1 = m∫ v=v
v=uv dv
= m(v22)∣∣∣v=vv=u
=1
2mv2 − 1
2mu2
นั่นคือ
Ek1 = 1
2mu2
Ek2 = 1
2mv2
Ek = 1
2mv2
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
หัวขอการสอน
บทที่ 4 งานและพลังงานงานกำลังพลังงานพลังงานจลนพลังงานศักยโนมถวงพลังงานศักยยืดหยุนกฎการอนุรักษพลังงาน
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
4.5 พลังงานศักยโนมถวง(Gravitational Potential Energy)
พลังงานศักยโนมถวง คืออะไร ?
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
พลังงานศักยโนมถวง (Gravitational Potential Energy)
พลังงานศักยโนมถวง (Ep) คือ พลังงานที่เกิดจากแรงดึงดูดของโลก
พลังงานศักยโนมถวง เปนปริมาณสเกลาร มีหนวยเปนจูล (J)
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
พลังงานศักยโนมถวง (Gravitational Potential Energy)
พลังงานศักยโนมถวง (Ep) คือ พลังงานที่เกิดจากแรงดึงดูดของโลก
พลังงานศักยโนมถวง เปนปริมาณสเกลาร มีหนวยเปนจูล (J)
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
จากนิยามของพลังงาน W = ∆E
หากพิจารณาพลังงานศักยโนมถวง จะได W = Ep2 − Ep1และจาก W =
∫ F⃗ · r⃗
Ep2 − Ep1 =∫
F⃗ · r⃗
=
∫F dr
เนื่องจากแรงโนมถวงคือ F = mg จะได
Ep2 − Ep1 =∫
mgdr
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
จากนิยามของพลังงาน W = ∆Eหากพิจารณาพลังงานศักยโนมถวง จะได W = Ep2 − Ep1
และจาก W =∫ F⃗ · r⃗
Ep2 − Ep1 =∫
F⃗ · r⃗
=
∫F dr
เนื่องจากแรงโนมถวงคือ F = mg จะได
Ep2 − Ep1 =∫
mgdr
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
จากนิยามของพลังงาน W = ∆Eหากพิจารณาพลังงานศักยโนมถวง จะได W = Ep2 − Ep1และจาก W =
∫ F⃗ · r⃗
Ep2 − Ep1 =∫
F⃗ · r⃗
=
∫F dr
เนื่องจากแรงโนมถวงคือ F = mg จะได
Ep2 − Ep1 =∫
mgdr
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
จากนิยามของพลังงาน W = ∆Eหากพิจารณาพลังงานศักยโนมถวง จะได W = Ep2 − Ep1และจาก W =
∫ F⃗ · r⃗
Ep2 − Ep1 =∫
F⃗ · r⃗
=
∫F dr
เนื่องจากแรงโนมถวงคือ F = mg จะได
Ep2 − Ep1 =∫
mgdr
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
จากนิยามของพลังงาน W = ∆Eหากพิจารณาพลังงานศักยโนมถวง จะได W = Ep2 − Ep1และจาก W =
∫ F⃗ · r⃗
Ep2 − Ep1 =∫
F⃗ · r⃗
=
∫F dr
เนื่องจากแรงโนมถวงคือ F = mg จะได
Ep2 − Ep1 =∫
mgdr
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
จากนิยามของพลังงาน W = ∆Eหากพิจารณาพลังงานศักยโนมถวง จะได W = Ep2 − Ep1และจาก W =
∫ F⃗ · r⃗
Ep2 − Ep1 =∫
F⃗ · r⃗
=
∫F dr
เนื่องจากแรงโนมถวงคือ F = mg จะได
Ep2 − Ep1 =∫
mgdr
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตการกระจัด (r) ตั้งแตเมื่อวัตถุอยูตำแหนง r = h1
จนถึงความสูงใด ๆ r = h2 จะได
Ep2 − Ep1 =∫ r=h2
r=h1mg dr
= mgr∣∣∣r=h2r=h1
= mgh2 −mgh1
นั่นคือ
Ep1 = mgh1
Ep2 = mgh2
Ep = mgh
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตการกระจัด (r) ตั้งแตเมื่อวัตถุอยูตำแหนง r = h1
จนถึงความสูงใด ๆ r = h2 จะได
Ep2 − Ep1 =∫ r=h2
r=h1mg dr
= mgr∣∣∣r=h2r=h1
= mgh2 −mgh1
นั่นคือ
Ep1 = mgh1
Ep2 = mgh2
Ep = mgh
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตการกระจัด (r) ตั้งแตเมื่อวัตถุอยูตำแหนง r = h1
จนถึงความสูงใด ๆ r = h2 จะได
Ep2 − Ep1 =∫ r=h2
r=h1mg dr
= mgr∣∣∣r=h2r=h1
= mgh2 −mgh1
นั่นคือ
Ep1 = mgh1
Ep2 = mgh2
Ep = mgh
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตการกระจัด (r) ตั้งแตเมื่อวัตถุอยูตำแหนง r = h1
จนถึงความสูงใด ๆ r = h2 จะได
Ep2 − Ep1 =∫ r=h2
r=h1mg dr
= mgr∣∣∣r=h2r=h1
= mgh2 −mgh1
นั่นคือ
Ep1 = mgh1
Ep2 = mgh2
Ep = mgh
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตการกระจัด (r) ตั้งแตเมื่อวัตถุอยูตำแหนง r = h1
จนถึงความสูงใด ๆ r = h2 จะได
Ep2 − Ep1 =∫ r=h2
r=h1mg dr
= mgr∣∣∣r=h2r=h1
= mgh2 −mgh1
นั่นคือ
Ep1 = mgh1
Ep2 = mgh2
Ep = mgh
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตการกระจัด (r) ตั้งแตเมื่อวัตถุอยูตำแหนง r = h1
จนถึงความสูงใด ๆ r = h2 จะได
Ep2 − Ep1 =∫ r=h2
r=h1mg dr
= mgr∣∣∣r=h2r=h1
= mgh2 −mgh1
นั่นคือ
Ep1 = mgh1
Ep2 = mgh2
Ep = mgh
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตการกระจัด (r) ตั้งแตเมื่อวัตถุอยูตำแหนง r = h1
จนถึงความสูงใด ๆ r = h2 จะได
Ep2 − Ep1 =∫ r=h2
r=h1mg dr
= mgr∣∣∣r=h2r=h1
= mgh2 −mgh1
นั่นคือ
Ep1 = mgh1
Ep2 = mgh2
Ep = mgh
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตการกระจัด (r) ตั้งแตเมื่อวัตถุอยูตำแหนง r = h1
จนถึงความสูงใด ๆ r = h2 จะได
Ep2 − Ep1 =∫ r=h2
r=h1mg dr
= mgr∣∣∣r=h2r=h1
= mgh2 −mgh1
นั่นคือ
Ep1 = mgh1
Ep2 = mgh2
Ep = mgh
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตการกระจัด (r) ตั้งแตเมื่อวัตถุอยูตำแหนง r = h1
จนถึงความสูงใด ๆ r = h2 จะได
Ep2 − Ep1 =∫ r=h2
r=h1mg dr
= mgr∣∣∣r=h2r=h1
= mgh2 −mgh1
นั่นคือ
Ep1 = mgh1
Ep2 = mgh2
Ep = mgh
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
หัวขอการสอน
บทที่ 4 งานและพลังงานงานกำลังพลังงานพลังงานจลนพลังงานศักยโนมถวงพลังงานศักยยืดหยุนกฎการอนุรักษพลังงาน
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
4.6 พลังงานศักยยืดหยุน(Elastic Potential Energy)
พลังงานศักยยืดหยุน คืออะไร ?
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
พลังงานศักยยืดหยุน (Elastic Potential Energy)
พลังงานศักยยืดหยุน (Eps) คือ พลังงานที่เกิดแรงดึงจากสปริงหรือวัตถุที่มีความยืดหยุน
พลังงานศักยยืดหยุน เปนปริมาณสเกลาร มีหนวยเปนจูล (J)
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
พลังงานศักยยืดหยุน (Elastic Potential Energy)
พลังงานศักยยืดหยุน (Eps) คือ พลังงานที่เกิดแรงดึงจากสปริงหรือวัตถุที่มีความยืดหยุน
พลังงานศักยยืดหยุน เปนปริมาณสเกลาร มีหนวยเปนจูล (J)
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
จากนิยามของพลังงาน W = ∆E
หากพิจารณาพลังงานศักยยืดหยุน จะได W = Eps2 − Eps1และจาก W =
∫ F⃗ · r⃗
Eps2 − Eps1 =∫
F⃗ · r⃗
=
∫F dr
เนื่องจากแรงดึงจากสปริงคือ F = kx จะไดEps2 − Eps1 =
∫kxdr
หากพิจาณาในระบบ 1 มิติ จะได dr = dxEps2 − Eps1 =
∫kxdx
= k∫
xdx
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
จากนิยามของพลังงาน W = ∆Eหากพิจารณาพลังงานศักยยืดหยุน จะได W = Eps2 − Eps1
และจาก W =∫ F⃗ · r⃗
Eps2 − Eps1 =∫
F⃗ · r⃗
=
∫F dr
เนื่องจากแรงดึงจากสปริงคือ F = kx จะไดEps2 − Eps1 =
∫kxdr
หากพิจาณาในระบบ 1 มิติ จะได dr = dxEps2 − Eps1 =
∫kxdx
= k∫
xdx
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
จากนิยามของพลังงาน W = ∆Eหากพิจารณาพลังงานศักยยืดหยุน จะได W = Eps2 − Eps1และจาก W =
∫ F⃗ · r⃗Eps2 − Eps1 =
∫F⃗ · r⃗
=
∫F dr
เนื่องจากแรงดึงจากสปริงคือ F = kx จะไดEps2 − Eps1 =
∫kxdr
หากพิจาณาในระบบ 1 มิติ จะได dr = dxEps2 − Eps1 =
∫kxdx
= k∫
xdx
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
จากนิยามของพลังงาน W = ∆Eหากพิจารณาพลังงานศักยยืดหยุน จะได W = Eps2 − Eps1และจาก W =
∫ F⃗ · r⃗Eps2 − Eps1 =
∫F⃗ · r⃗
=
∫F dr
เนื่องจากแรงดึงจากสปริงคือ F = kx จะไดEps2 − Eps1 =
∫kxdr
หากพิจาณาในระบบ 1 มิติ จะได dr = dxEps2 − Eps1 =
∫kxdx
= k∫
xdx
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
จากนิยามของพลังงาน W = ∆Eหากพิจารณาพลังงานศักยยืดหยุน จะได W = Eps2 − Eps1และจาก W =
∫ F⃗ · r⃗Eps2 − Eps1 =
∫F⃗ · r⃗
=
∫F dr
เนื่องจากแรงดึงจากสปริงคือ F = kx จะได
Eps2 − Eps1 =∫
kxdrหากพิจาณาในระบบ 1 มิติ จะได dr = dx
Eps2 − Eps1 =∫
kxdx
= k∫
xdx
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
จากนิยามของพลังงาน W = ∆Eหากพิจารณาพลังงานศักยยืดหยุน จะได W = Eps2 − Eps1และจาก W =
∫ F⃗ · r⃗Eps2 − Eps1 =
∫F⃗ · r⃗
=
∫F dr
เนื่องจากแรงดึงจากสปริงคือ F = kx จะไดEps2 − Eps1 =
∫kxdr
หากพิจาณาในระบบ 1 มิติ จะได dr = dxEps2 − Eps1 =
∫kxdx
= k∫
xdx
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
จากนิยามของพลังงาน W = ∆Eหากพิจารณาพลังงานศักยยืดหยุน จะได W = Eps2 − Eps1และจาก W =
∫ F⃗ · r⃗Eps2 − Eps1 =
∫F⃗ · r⃗
=
∫F dr
เนื่องจากแรงดึงจากสปริงคือ F = kx จะไดEps2 − Eps1 =
∫kxdr
หากพิจาณาในระบบ 1 มิติ จะได dr = dx
Eps2 − Eps1 =∫
kxdx
= k∫
xdx
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
จากนิยามของพลังงาน W = ∆Eหากพิจารณาพลังงานศักยยืดหยุน จะได W = Eps2 − Eps1และจาก W =
∫ F⃗ · r⃗Eps2 − Eps1 =
∫F⃗ · r⃗
=
∫F dr
เนื่องจากแรงดึงจากสปริงคือ F = kx จะไดEps2 − Eps1 =
∫kxdr
หากพิจาณาในระบบ 1 มิติ จะได dr = dxEps2 − Eps1 =
∫kxdx
= k∫
xdx
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
จากนิยามของพลังงาน W = ∆Eหากพิจารณาพลังงานศักยยืดหยุน จะได W = Eps2 − Eps1และจาก W =
∫ F⃗ · r⃗Eps2 − Eps1 =
∫F⃗ · r⃗
=
∫F dr
เนื่องจากแรงดึงจากสปริงคือ F = kx จะไดEps2 − Eps1 =
∫kxdr
หากพิจาณาในระบบ 1 มิติ จะได dr = dxEps2 − Eps1 =
∫kxdx
= k∫
xdx
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตตำแหนง (x) ตั้งแตเมื่อวัตถุอยูตำแหนง x = x1 จนถึงตำแหนงใด ๆ x = x2 จะได
Eps2 − Eps1 = k∫ x=x2
x=x1x dx
= k (x22)∣∣∣x=x2x=x1
=1
2kx22 − 1
2kx21
นั่นคือ
Eps1 = 1
2kx21
Eps2 = 1
2kx22
Eps = 1
2kx2
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตตำแหนง (x) ตั้งแตเมื่อวัตถุอยูตำแหนง x = x1 จนถึงตำแหนงใด ๆ x = x2 จะได
Eps2 − Eps1 = k∫ x=x2
x=x1x dx
= k (x22)∣∣∣x=x2x=x1
=1
2kx22 − 1
2kx21
นั่นคือ
Eps1 = 1
2kx21
Eps2 = 1
2kx22
Eps = 1
2kx2
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตตำแหนง (x) ตั้งแตเมื่อวัตถุอยูตำแหนง x = x1 จนถึงตำแหนงใด ๆ x = x2 จะได
Eps2 − Eps1 = k∫ x=x2
x=x1x dx
= k (x22)∣∣∣x=x2x=x1
=1
2kx22 − 1
2kx21
นั่นคือ
Eps1 = 1
2kx21
Eps2 = 1
2kx22
Eps = 1
2kx2
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตตำแหนง (x) ตั้งแตเมื่อวัตถุอยูตำแหนง x = x1 จนถึงตำแหนงใด ๆ x = x2 จะได
Eps2 − Eps1 = k∫ x=x2
x=x1x dx
= k (x22)∣∣∣x=x2x=x1
=1
2kx22 − 1
2kx21
นั่นคือ
Eps1 = 1
2kx21
Eps2 = 1
2kx22
Eps = 1
2kx2
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตตำแหนง (x) ตั้งแตเมื่อวัตถุอยูตำแหนง x = x1 จนถึงตำแหนงใด ๆ x = x2 จะได
Eps2 − Eps1 = k∫ x=x2
x=x1x dx
= k (x22)∣∣∣x=x2x=x1
=1
2kx22 − 1
2kx21
นั่นคือ
Eps1 = 1
2kx21
Eps2 = 1
2kx22
Eps = 1
2kx2
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตตำแหนง (x) ตั้งแตเมื่อวัตถุอยูตำแหนง x = x1 จนถึงตำแหนงใด ๆ x = x2 จะได
Eps2 − Eps1 = k∫ x=x2
x=x1x dx
= k (x22)∣∣∣x=x2x=x1
=1
2kx22 − 1
2kx21
นั่นคือ
Eps1 = 1
2kx21
Eps2 = 1
2kx22
Eps = 1
2kx2
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตตำแหนง (x) ตั้งแตเมื่อวัตถุอยูตำแหนง x = x1 จนถึงตำแหนงใด ๆ x = x2 จะได
Eps2 − Eps1 = k∫ x=x2
x=x1x dx
= k (x22)∣∣∣x=x2x=x1
=1
2kx22 − 1
2kx21
นั่นคือ
Eps1 = 1
2kx21
Eps2 = 1
2kx22
Eps = 1
2kx2
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตตำแหนง (x) ตั้งแตเมื่อวัตถุอยูตำแหนง x = x1 จนถึงตำแหนงใด ๆ x = x2 จะได
Eps2 − Eps1 = k∫ x=x2
x=x1x dx
= k (x22)∣∣∣x=x2x=x1
=1
2kx22 − 1
2kx21
นั่นคือ
Eps1 = 1
2kx21
Eps2 = 1
2kx22
Eps = 1
2kx2
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้
ทำการอินทิเกรตตำแหนง (x) ตั้งแตเมื่อวัตถุอยูตำแหนง x = x1 จนถึงตำแหนงใด ๆ x = x2 จะได
Eps2 − Eps1 = k∫ x=x2
x=x1x dx
= k (x22)∣∣∣x=x2x=x1
=1
2kx22 − 1
2kx21
นั่นคือ
Eps1 = 1
2kx21
Eps2 = 1
2kx22
Eps = 1
2kx2
อ.ดร. กติตคิุณ พระกระจ่าง
สาขาวชิาฟิสกิส์ประยุกต์
คณะวทิยาศาสตร์ มหาวทิยาลัยแม่โจ้