Upload
others
View
4
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
11for Quality Vol.22 No.213
January-February 2016
Trendfor Quality
มาตรฐาน ISO 14001:2015 ฉบับมาตรฐาน
สากล (IS) ที่ประกาศใช้ในเดือน
กันยายน 2015 ที่ผ่านมา องค์การที่ประยุกต์ใช้มาตรฐาน ISO
14001:2004 ต้องเตรียมพร้อมในการปรับปรุงระบบเข้าสู่มาตรฐาน
14001:2015 โดยแนวทางในการปรบัเข้าสูม่าตรฐาน ISO 14001:2015
สามารถประยุกต์รายละเอียดของกิจกรรมการประยุกต์ใช้ข้อก�าหนด
ตามแนวทางมาตรฐาน ISO 9001:2015 หรอืการประยุกต์ใช้ระบบแบบ
องค์รวม (Integrated Management System) เน่ืองจากโครงสร้าง
ข้อก�าหนดมีการปรับเป็นแนวทางเดียวกัน โดยเปลี่ยนหลักการจาก
ระบบบริหารจัดการคุณภาพ เป็น ระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม
สามารถด�าเนินการได้ดังนี้
1. การประชุมระดมความคิดเห็นโดยผู้บริหาร และทีมงาน
ระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อพิจารณา ก�าหนด และบันทึก
รายละเอียดผลการระดมสมอง ดังนี้
➲การก�าหนดหลักการเหตุและผลในการน�าระบบบริหาร
จัดการสิ่งแวดล้อมมาปฏิบัติ ประโยชน์ที่ได้รับจากการท�าระบบการ
จัดการสิ่งแวดล้อม และปัจจัยสู่ความส�าเร็จ (success factor) โดย
อ้างอิงจากบทน�าของมาตรฐาน ISO 14001:2015
➲การวเิคราะห์ประเดน็ปัจจยัทัง้ภายในและภายนอก (inter-
nal and external issue) ที่มีผลต่อวัตถุประสงค์และผลลัพธ์ใน
การบรรลุผลด้านระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้จะ
รวมถึงเงื่อนไขทางด้านสิ่งแวดล้อมที่มีต่อองค์การ ได้แก่ ภูมิอากาศ
คุณภาพอากาศ คุณภาพน�า้ การใช้ทรัพยากร การปนเปื้อน เป็นต้น
ตัวอย่างเช่น บริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี โรงกลั่นน�้ามัน
โรงงานผลิตปูนซีเมนต์หรือโรงงานผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงที่มี
กระบวนการเผาไหม้และมีการปลดปล่อยไอเสียทางปล่อง ประเด็น
ลกัษณะปัญหาสิง่แวดล้อมทีม่นียัส�าคัญ คือ ด้านมลพษิทางอากาศ ซึง่
สามารถมีผลต่อวัตถุประสงค์ขององค์การหรือมีผลต่อประเด็นปัญหา
นายคุณภาพ
ISO 14001:2004ISO 14001:2015
การปรับระบบเข้าสู่มาตรฐาน
Vol.22 N
o.2
13 January-February 2016
12
Trend
สิ่งแวดล้อมขององค์การ ประเด็นปัจจัยที่มีผลต่อการควบคุมปัญหา
สิ่งแวดล้อมนี้ คือ ระบบการควบคุมและก�าจัดมลพิษทางอากาศ ซึ่งมี
เทคโนโลยีและระบบการควบคุมต่าง ๆ ที่เป็นปัจจัยส�าคัญและจ�าเป็น
ต้องน�ามาควบคุมตามระบบการควบคุมการปฏิบัติการ (operational
control) การควบคุมสภาวะระบบการเผาไหม้ รวมทั้งการพิจารณา
ปัจจัยด้านคุณภาพของเชื้อเพลิง เช่น สารก�ามะถัน หรือสารโลหะหนัก
ที่มีในเชื้อเพลิงที่เผาไหม้ เป็นต้น
ขณะที่โรงงานผลิตอาหาร เช่น การแปรรูปเนื้อสัตว์ โรงงาน
ช�าแหละเนื้อสัตว์ ลักษณะปัญหาด้านส่ิงแวดล้อมท่ีมีนัยส�าคัญ คือ
ปัญหามลพษิทางน�า้ เนือ่งจากเป็นอตุสาหกรรมทีม่กีารใช้น�า้มาก ดังนัน้
จึงต้องมีระบบการควบคุมระบบการบ�าบัดน�้าเสียที่มีประสิทธิผล และ
เพียงพอต่อปริมาณน�้าเสียที่เกิดขึ้นในระบบ
ส่วนประเดน็ปัจจยัภายนอก ได้แก่ ข้อก�าหนดทางด้านกฎหมาย
ภาครฐั ข้อก�าหนดของลกูค้า เช่น นโยบายการจดัซือ้สเีขยีวแบบ Green
Purchasing ข้อก�าหนดด้าน RoHs หรือ Reach หรือข้อก�าหนดตาม
แนวทาง Code of Conduct กฎหมายระหว่างประเทศด้านสิง่แวดล้อม
รวมถงึข้อก�าหนด NGO ทีอ่าจมมีมุมมองแนวคดิด้านระบบการจดัการ
สิ่งแวดล้อมที่มากกว่าการจัดการตามกฎหมาย เป็นต้น
ความเข้าใจความต้องการและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้
ส่วนเสีย เช่น โรงงานผลิตไฟฟ้า ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เก่ียวข้องด้าน
สิ่งแวดล้อม ได้แก่ ชุมชน องค์การหน่วยงานอิสระ (NGO) และภาค
สังคมที่อาจได้รับผลกระทบทางด้านส่ิงแวดล้อมจากการผลิตกระแส
ไฟฟ้า ความกังวลด้านผลกระทบด้านสุขภาพ พื้นที่การเกษตร การ
ประมง การท่องเที่ยว เป็นต้น โดยหากเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตเป็น
เชือ้เพลงิชนดิทีอ่าจก่อให้เกดิมลพษิ เช่น ถ่านหนิ ขยะ กจ็ะมคีวามเส่ียง
จากการร้องเรียนจากผู้มีส่วนได้เสียมากกว่าเชื้อเพลิงสะอาด ความ
คาดหวังของชุมชนสามารถรวมไปถึงกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ที่ทาง
องค์การจัดหาให้กับชุมชน เพื่อให้อยู่ร่วมกับชุมชนอย่างมีความสุข
การก�าหนดขอบข่ายของระบบบรหิารสิง่แวดล้อมตามข้อก�าหนด
4.3 ISO 9001:2015 เป็นการพจิารณาชีบ่้งประเดน็ด้านสภาพแวดล้อม
ภายในและภายนอกและข้อก�าหนดของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อน�าไป
ออกแบบระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมและการพิจารณาข้อก�าหนดที่
จ�าเป็นต้องประยุกต์ใช้ต่อไป โดยการก�าหนดขอบข่าย ควรพิจารณา
บรบิทขององค์การเพือ่สร้างคณุค่าและเป็นประโยชน์ต่อผูม้ส่ีวนได้ส่วน
เสยี ซึง่องค์การอาจจะก�าหนดขอบเขต การเลอืกประยกุต์ใช้ข้อก�าหนด
ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมทั้งหมดหรือเฉพาะส่วนขององค์การ
องค์การสามารถพิจารณาเลือกขอบเขตการควบคุมที่สามารถควบคุม
หรอืมีอทิธพิลเหนอืกจิกรรม ผลิตภัณฑ์ และบรกิาร การพจิารณาวัฏจกัร
ชวีติผลติภณัฑ์ โดยพจิารณาปัญหาด้านสิง่แวดล้อมทีม่นียัส�าคญั หรอื
ความสอดคล้องต่อกฎหมาย
2. การด�าเนินการประเมินความเสี่ยงและโอกาส ตาม
ข้อก�าหนด 6.1 โดยอาจใช้หลักเกณฑ์การพิจารณาด้าน
➲ประเดน็ปัญหาด้านสิง่แวดล้อม ผลกระทบด้านสิง่แวดล้อม
ในด้านลบ (aspect and impact) ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อองค์การ
ในการผลิตและส่งมอบผลิตภัณฑ์ตามข้อก�าหนด โดยการประเมิน
ปัญหาสิง่แวดล้อมให้พจิารณาตลอดกระบวนการวงจรชวีติผลติภณัฑ์
(product life cycle) ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ การพัฒนา การผลิต
การส่งมอบผลิตภัณฑ์
➲ความสอดคล้องกับข้อก�าหนดทางด้านกฎหมาย พันธ-
สญัญาด้านสิง่แวดล้อม เช่น ข้อก�าหนดด้านกฎหมายสิง่แวดล้อมทีอ่าจ
มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ ที่องค์การต้องผูกพันในการปฏิบัติตาม
➲ ข้อก�าหนดความต้องการและความคาดหวังของผูม้ส่ีวนได้
ส่วนเสีย ซึ่งมีผลต่อประสิทธิผลที่ได้จากระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม
เช่น การก�าหนดระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมตาม Supply Chain การ
เลอืกใช้วตัถดุบิทีไ่ม่มสีารโลหะหนกัตามมาตรฐาน RoHs และ Reach
ระบบการสรรหาวัตถุดิบที่ไม่ท�าลายสิ่งแวดล้อม เช่น กฎหมาย IUU
(illegal, unreported and unregulated fishing) เป็นต้น
ตัวอย่างของความเสี่ยงและโอกาสด้านการจัดการส่ิง-
แวดล้อม เช่น
➲ปัญหาความเข้าใจข้อก�าหนดหรือภาษาสื่อสารที่เป็น
อุปสรรคต่อคนงานที่อาจมีระดับความรู้ความสามารถน้อย ท�าให้การ
บริหารจัดการสิ่งแวดล้อมผิดพลาด
➲การเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศ ท�าให้เกิดน�้าท่วม มี
ผลกระทบต่อการสัญญาข้อตกลงขององค์การ
➲การขาดทรพัยากรทีเ่พยีงพอในการรกัษาความมปีระสทิธ-ิ
ผลของระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม
➲การมีเทคโนโลยีใหม่ การเงินที่เพียงพอในการลงทุน ซ่ึง
ท�าให้สามารถปรบัปรงุคุณภาพอากาศได้ เช่น ระบบการเผาไหม้ถ่านหนิ
ขยะ ที่ช่วยลดมลพิษอากาศ
➲สภาวะแล้ง ท�าให้เกดิการขาดแคลนน�า้ในการสเปรย์บ�าบัด
คณุภาพอากาศทีป่ล่อยออก โดยการดกัจบัฝุน่ละออง การบ�าบดัระบบ
Wet Scrubbers
➲สถานการณ์ฉกุเฉนิทีไ่ม่ได้วางแผนไว้หรอืเหตกุารณ์ทีไ่ม่ได้
คาดการณ์ไว้ก่อน ซึ่งจ�าเป็นต้องมีการจัดการเป็นกรณีพิเศษ เช่น
เพลิงไหม้ สารเคมีหกรั่วไหล สภาวะอากาศที่เลวร้ายโดยฉับพลัน
โดยองค์การจะต้องวิเคราะห์ลักษณะของการเกิดอันตราย
ประเภทและความรนุแรง และผลกระทบจากสภาวะฉกุเฉนิเหล่านี ้เพือ่
การจัดการความเสี่ยง โดยการจัดการความเสี่ยงตามมาตรฐานไม่ได้
ก�าหนดวธิกีารทีเ่ป็นทางการ โดยองค์การสามารถออกแบบวธิกีารชีบ่้ง
และประเมินความเสี่ยงได้
Vol.22 N
o.2
13 January-February 2016
13
Trend
3. การวางแผนเพ่ือให้บรรลุวัตถุประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อม
องค์การต้องมีการก�าหนดการวางแผนงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์
ด้านสิง่แวดล้อมท่ีระดบักลยุทธ์ ระดบัเทคนคิ หรอืระดบัปฏบิตักิาร โดย
การด�าเนินการทั้งหมดให้สนับสนุนต่อกลยุทธ์องค์การ การก�าหนดตัว
ชี้วัดเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพในด้านที่เกี่ยวข้องกับนโยบายสิ่ง-
แวดล้อม มกีารเฝ้าตดิตามและมกีารสือ่สาร และการจดัท�าแผนปฏบิติั
การเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อม โดยแนวทางตาม
ข้อก�าหนด 6.2.2
ตวัอย่างของวตัถปุระสงค์คณุภาพ:การควบคมุค่า BOD COD
กระบวนการบ�าบัดน�้าเสียให้เป็นไปตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมก�าหนด
ตลอดกระบวนการผลิต
ใคร กิจกรรมอะไร ทรัพยากรที่ต้องการ ระยะเวลา การประเมินผล
ฝ่ายวิศวกรรม การควบคุมระบบการบ�าบัดน�้าเสีย ● ผู้ควบคุมมลพิษน�้า● อุปกรณ์เครื่องเติมอากาศ● เครื่องมือวิเคราะห์คุณภาพน�้า● สารเคมีที่ใช้ในกระบวนการ
บ�าบัด
ตลอดระยะเวลาที่มีกระบวนการผลิต
● การเฝ้าติดตามวัดผลคุณภาพน�้า pH BOD COD Online
● การจัดส่งห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ภายนอก
ผู้รับผิดชอบ หัวข้อสื่อสาร เมื่อใด สื่อสารกับใคร วิธีการ
ฝ่ายบุคคล ความเข้าใจด้านระบบการจัดการ สิ่งแวดล้อมภายในบริษัทฯ
● ปฐมนิเทศอย่างน้อยเดือนละครั้ง● เสียงตามสายอย่างน้อยสัปดาห์
ละครั้ง
พนักงาน ● การใช้เสียงตามสาย● การจัดอบรมปฐมนิเทศ● การติดบอร์ดประชาสัมพันธ์
4. การจัดท�าแผนการสือ่สารภายในและภายนอก องค์การต้องมกีารก�าหนดแผนการสือ่สาร โดยก�าหนดรายละเอยีดตามข้อก�าหนด 7.4
ตัวอย่าง: แผนการสื่อสารภายนอก
ผู้รับผิดชอบ หัวข้อสื่อสาร เมื่อใด สื่อสารกับใคร วิธีการ
ฝ่ายสิ่งแวดล้อม ● ผลการเฝ้าติดตามตรวจวัด● การรายงานผลปริมาณการส่ง ของเสียบ�าบัด
● การจัดส่งรายงานตามวาระที่กฎหมายกำหนด
● หน่วยงานราชการ● กรมโรงงาน
● การสื่อสารผ่านระบบ Internet ของกรมโรงงาน
● การจัดเตรียมข้อมูลผลการตรวจวัด ณ โรงงานให้พร้อม
ฝ่ายธุรการ ● ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ของบริษัท
● เมื่อมีการนัดหมายผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ารับฟัง และเข้าเยี่ยมชมกิจการ
● ชุมชน● สื่อมวลชน● ผู้แทนองค์การ
อิสระ● Supplier● Customer
● การรับฟังการน�าเสนอโครงการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัท
ตัวอย่าง:การจัดท�าแผนการสื่อสารภายใน
5. การก�าหนดการวางแผนและควบคมุการปฏบิตักิารองค์การ
ควรมวีธิกีารในการวางแผนและควบคมุการจดัการด้านสิง่แวดล้อม โดย
ขึน้กบัลกัษณะของกระบวนการ ความเส่ียงและโอกาส ประเดน็ปัญหา
ด้านสิ่งแวดล้อมที่มีนัยส�าคัญ และการสอดคล้องกับกฎหมาย เพื่อให้
ได้ผลการควบคุมสิ่งแวดล้อมเป็นไปตามที่มุ ่งหวังและการควบคุม
กระบวนการจัดการสิ่งแวดล้อมมีประสิทธิผล โดยวิธีต่าง ๆ ดังนี้
➲การออกแบบกระบวนการเพื่อป้องกันความผิดพลาดและ
บรรลผุลตามทีต้่องการ เช่น การออกแบบระบบบ�าบดัน�า้เสยีทีส่ามารถ
รองรับปริมาณน�้าและโหลดคุณภาพน�้าให้ชัดเจน
Vol.22 N
o.2
13 January-February 2016
14
Trend
➲การใช้เทคโนโลยีในการควบคุมกระบวนการระบบการ
จัดการสิ่งแวดล้อม เช่น เทคโนโลยีการบ�าบัดน�้าเสีย การบ�าบัดมลพิษ
ทางอากาศ หรือการออกแบบระบบการเผาไหม้ที่ป้องกันมลพิษ
➲การใช้บุคลากรท่ีมีความสามารถในการควบคุมระบบการ
จัดการสิ่งแวดล้อม
➲การควบคมุกระบวนการตามวธิกีารทีก่�าหนด ทีถ่กูต้อง และ
ก�าหนดวธีิการเฝ้าตดิตามและตรวจวดักระบวนการ เพือ่ป้องกนัการเกดิ
ของเสีย (waste) ในกระบวนการผลิต
➲การก�าหนดและการอ้างองิเอกสารข้อมลูในการปฏบิติังาน
ตามที่จ�าเป็นในการควบคุมกระบวนการ
6. การทบทวนโดยฝ่ายบรหิาร ส่ิงทีอ่งค์การต้องมกีารทบทวน
ในการทบทวนโดยฝ่ายบริหาร คือ การทบทวนการเปลี่ยนแปลงด้าน
➲ประเด็นภายในและภายนอกทีม่ส่ีวนเกีย่วข้องกบัระบบการ
จัดการสิ่งแวดล้อม
➲ความต้องการและความคาดหวังขององค์การที่มีส่วนได้
ส่วนเสีย
➲ประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีนัยส�าคัญ
➲ความเสี่ยงและโอกาส
โดยสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ ได้แก่ การเปลี่ยน-
แปลงภายในองค์การ เช่น การมีลูกค้ารายใหม่ที่มีข้อก�าหนดในเรื่อง
ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น ผู้ขายรายใหม่ที่ต้องประเมิน
ความสามารถในด้านการจัดการส่ิงแวดล้อม หรือกรณีที่ภาครัฐมีการ
เปลี่ยนแปลงกฎหมายใหม่ รวมถึงกรณีที่องค์การมีการปรับเปลี่ยน
กระบวนการผลติใหม่ มผีลติภณัฑ์ใหม่เกดิขึน้ หรอืการขยายก�าลงัการ
ผลิต ซึ่งท�าให้มีการใช้ทรัพยากร เช่น น�้า ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และก่อให้เกิด
ปรมิาณมลพษิ เช่น น�า้เสยี การเผาไหม้และปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก
เพิม่ขึน้ ซึง่การเปลีย่นแปลงเหล่านี ้อาจเป็นสาเหตุทีท่�าให้ผลการด�าเนนิ
งานตามวัตถุประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อมไม่บรรลุผลได้
ผลจากการทบทวน ต้องน�าไปสู่การปรับปรุงระบบให้มีประ-
สิทธิผลที่เพิ่มขึ้น เช่น การทบทวนความพร้อมและเพียงพอของ
ทรัพยากร การตัดสินใจของผู้บริหารในการปรับปรุงระบบการจัดการ
สิ่งแวดล้อม