“หุๆ มันคือดัชนี 3 ท่า อันลือชื่อ เป็นวิชาประจำตระกูลของฉัน ดัชนีนี้ได้

รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษยุคหินใหม่ สืบต่อกันมาเป็นทอดๆ ไม่ต้องถามชื่อของ

ซูเปอร์ปู่ทวดปรมาจารย์คนแรกนะ เพราะฉันจำชื่อไม่ได้ มันนานเกินไป ฮ่าๆ” ^0^

ฉางฟงพูดแล้วหัวเราะออกมา เทพกระบี่เวรตะไลถึงกับกุมขมับ *-*

“อ๊าก!…ไอ้บ้าฉางฟง บอกดีๆ สิวะ” -*- เทพกระบี่เวรตะไลร้องโวยวายอย่าง

สติแตกทันทีเมื่อฉางฟงเล่าออกทะเล

ฉางฟงเห็นอาการเทพกระบี่เวรตะไลแล้วก็หัวเราะออกมา “โอเค…เลิกพูดเล่น

แล้ว…ดู!…เดี๋ยวจะโชว์รอบเดียว 3 ท่ารวด” ^0 ^

ฉางฟงพูดจบก็หันไปมองมักกี้ในปกครองที่กำลังเดินตามมา พร้อมกับยกนิ้ว

โป้งขึ้นโชว์ เหล่ามักกี้ต่างยิ้มและพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียงกัน

“ตามด้วยสเตปที่สอง” ^ ^

ฉางฟงพูดจบก็ยกสองนิ้วขึ้นชู โดยใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้เป็นสัญญาณ เหล่ามักกี้

เห็นต่างก็พากันยกนิ้วโป้งขึ้นทันที

“สุดท้าย…ท่าไม้ตายลับ ส่งจูบกระชากวิญญาณ” ^.^

ฉางฟงพูดจบก็ยกนิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลางชี้ไปยังเทพกระบี่เวรตะไล เหล่า

มักกี้ต่างหันไปส่งจูบพร้อมกับยิ้มหวานให้เขาอีกครั้ง

“เง่ะ...นายสอนพวกเธอได้ยังไง”

เทพกระบี่เวรตะไลถามขึ้นอย่างสงสัย ฉางฟงอมยิ้ม

บทที่ 1 ทุ่งอสรพิษ

� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

“ขอเพียงเราแสดงท่าทางซ้ำๆ กันบางท่าให้พวกเธอดูหลายๆ ครั้ง พวกเธอก็จะ

สามารถทำตามได้เอง นายรู้หรือเปล่า กว่าคนเก่งเทพอย่างฉันจะหัดให้พวกเธอทำตาม

รหัสมือได้ ฉันก็ต้องเสียน้ำลายไปหลายลิตรเลยนะโว้ย”

ฉางฟงกล่าวด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

“ถ้านายใช้วิธีนี้สอนพวกเธอ ก็แสดงว่าพวกเธอไม่รู้ความหมายของท่าที่ทำน่ะสิ

แบบนี้ขอเพียงนายยกนิ้ว ไม่ว่ากรณีไหน พวกเธอก็ยังคงทำตามรหัสนิ้วของนายเหมือน

เดิม”

เทพกระบี่เวรตะไลพูดขึ้น

“ถูกต้องที่ซู้ด…เพราะอย่างงี้ไง ฉันถึงบอกนายว่า พวกเธอสื่อสารกับฉันได้ใน

ระดับหนึ่งเท่านั้น” ฉางฟงตอบแล้วหัวเราะเบาๆ

“นายก็ทำไปได้นะฉางฟง จะสอนทั้งทีก็สอนพวกเธอซ้ายหันหรือขวาหันไม่ดี

กว่าหรือ”

เทพกระบี่เวรตะไลพูดขึ้น

ฉางฟงทำปากเบ้

“นายท่าจะประสาท พูดไม่คิดนี่หว่า ฉันสอนพวกเธอในขณะเดินนะเฟ้ย เกิดทำ

แบบที่นายพูด ชาตินี้คงเดินไม่ถึงปลายทางกันพอดี”

เทพกระบี่เวรตะไลลูบศีรษะแล้วยิ้มแห้งๆ

“เออว่ะ!…ฉันลืมไป”

“นี่! พวกนายจะเดินชมวิวไปถึงไหน…รีบเดินกันหน่อยสิ อีกไม่ถึง 1 กิโลเมตร

จะเริ่มเข้าสู่เขตอันตรายทุ่งอสรพิษแล้วนะ”

แดนซึ่งทำหน้าที่นำทางตะโกนกลับมาทางด้านหลัง พร้อมกับยืนรอให้ทุกคน

เดินเข้าไปสมทบ

“เร่งกันจริง!” ฉางฟงบ่นอุบ แต่ก็เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น ไม่นานทุกคนก็เดินเข้ามา

รวมกลุ่มกันอีกครั้ง แดนจึงกล่าวขึ้นว่า

“ต่อจากนี้ไป ทุกคนต้องระวังตัวให้มาก ถ้าพลาดพลั้งหรือเผลอ มีสิทธิ์แบนติด

ดินตายอย่างอนาถ”

นักดาบคลั่งรักยมปรายตามองกลุ่มมักกะลีผล สักพักจึงกล่าวว่า

“ฉางฟง เรื่องมักกะลีผลนายจะทำยังไง เส้นทางด้านหน้าค่อนข้างอันตราย ถ้า

� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ �

ให้ไปด้วยฉันเกรงว่าพวกเธออาจจะไม่…เอ่อ! นายคงรู้นะว่าฉันหมายความว่าอย่างไร”

ฉางฟงพยักหน้ายิ้มๆ

“ตามตำนาน มักกะลีผลมีอายุแค่ 7 วัน ไม่ว่าจะตายตอนนี้หรือตายอีก 7 วัน

ข้างหน้าก็มีค่าเท่ากันไม่ใช่หรือรักจัง ฉันไม่คิดมากหรอก”

“อืม…ถ้านายเข้าใจก็ดีแล้ว” นักดาบคลั่งรักยมตอบเสียงเรียบ

ตึง! ตึง! เสียงล้มของวัตถุขนาดใหญ่บางอย่างดังสนั่นหวั่นไหว

นักดาบคลั่งรักยมหันไปมองเทพกระบี่เวรตะไลพร้อมกับแสดงสีหน้าเป็นกังวล

แดนรู้ที่มาของเสียงอยู่แล้วจึงหัวเราะออกมา

“ไม่ต้องกังวลหรอก พวกมันกำลังต่อสู้กันอยู่ แต่ว่าพวกนายไม่ต้องสนใจมาก

เพราะอีกไม่นานพวกนายก็จะชินกับเสียงเหล่านี้ไปเอง อิๆๆ”

นักดาบคลั่งรักยมยิ้มแห้งๆ แล้วถอนหายใจยาว ส่วนป๋าฉางไม่ได้สนใจบท

สนทนาของกลุ่มชายหนุ่มเลย เพราะมัวแต่สนใจท่าทางแปลกๆ ที่มักกี้สุดเลิฟของเขา

กำลังแสดงออกมา

‘แปลกดีวุ้ย อยู่ๆ พวกนี้ก็สนทนากันใหญ่’ ฉางฟงคิดในใจพร้อมกับเกาศีรษะ

ไปด้วย เพื่อนรักข้างตัวเขาเห็นท่าทางแปลกๆ ก็อดไม่ได้ที่จะถาม

“ฉางฟง มีอะไรหรือ” เทพกระบี่เวรตะไลเอ่ยปากถามฉางฟงที่กำลังขมวดคิ้ว

ชนกัน

“เอ่อ!…ไม่มีอะไรหรอกไลจัง เดินทางกันต่อเถอะ”

ฉางฟงยังไม่กล้าบอก เพราะเขาคิดว่า ถึงจะอธิบายอาการแปลกประหลาดที่เกิด

ขึ้นในหมู่มักกี้ให้เทพกระบี่เวรตะไลฟัง อีกฝ่ายก็คงช่วยเหลืออะไรไม่ได้อยู่ดี

เมื่อแดนเห็นว่าทุกคนพร้อมแล้วจึงสั่งออกเดินทางอีกครั้ง เสียงต่อสู้ยังคงดัง

สนั่นหวั่นไหว และชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนต่างก็สัมผัสได้ว่า แผ่นดินที่พวกเขากำลัง

เดินอยู่มีอาการสั่นไหวทุกครั้ง เมื่อสัตว์อสูรร่างใหญ่ยักษ์ล้มลงฟาดพื้น

“ใกล้ถึงสนามต่อสู้ของพวกมันแล้ว เดินให้ระวังที่สุดด้วย”

แดนหันหน้ามาเตือนเพื่อนๆ ก่อนจะพาทุกคนมุดผ่านพุ่มไม้หนาทึบพุ่มหนึ่ง

เข้าไป

ทุกคนใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ทุ่งราบกว้างใหญ่ก็ปรากฏต่อสายตาพวกเขา แต่ดู

เหมือนว่าทุกคนจะไม่ดีใจเลยที่ได้เห็นทุ่งหญ้านี้

� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

“โอ้!…แม่เจ้า” เทพกระบี่เวรตะไลอุทานก่อนเพื่อน

“โอ!…ทั้งใหญ่…ทั้งยาว…ทั้งอวบ…ทั้งดำ…ครบวงจร เพอร์เฟกต์มาก” ฉางฟง

พูดลอยๆ ขณะจ้องมองภาพด้านหน้าตาค้าง

“เกือบ 100 ตัวได้มั้งเนี่ย”

นักดาบคลั่งรักยมพูดขึ้นขณะจ้องตาเขม็งไปยังงูยักษ์หลายเผ่าพันธุ์นับร้อยตัวที่

กำลังตะลุมบอนหมู่กันอยู่ พวกมันแต่ละตัวต่างก็มีความยาวไม่ต่ำกว่า 200 เมตร

น้ำหนักเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 50 ตันต่อตัว

“ฉันขอถามความเห็นว่าพวกนายจะใช้วิธีไหนผ่านไปดี”

แดนเอ่ยปากถามขึ้นพร้อมกับทำหน้าเซ็งๆ ออกมา และในขณะที่ทุกคนกำลัง

คิดหาทางออกอยู่นั้น อยู่ๆ มักกะลีผลทั้งหมดก็พากันอ้าปากกู่ร้องด้วยสำเนียงแปลก

ประหลาดขึ้น ทุกคนในกลุ่มต่างตกใจ โดยเฉพาะอินดี้ที่คุมฝูงมักกี้มากกว่าคนอื่นถึงกับ

หน้าซีดเผือด

“อ๊าก!…แหกปากร้องออกมาแบบนี้ก็ตายหมู่สิ” แดนโวยวายขึ้นทันที

ทุกคนต่างกระโดดถอยออกห่างกลุ่มมักกะลีผลกันหมด ยกเว้นฉางฟงที่ยังยืน

สังเกตกลุ่มมักกี้ของเขาอยู่เช่นเดิม

“นี่ทุกคน ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าพวกเธอกำลังร้องเพลงนะ”

ฉางฟงพูดขึ้น ทำให้ทุกคนที่กำลังจะวิ่งเข้าไปหลบในพุ่มไม้หนาหยุดกึก แล้วหัน

กลับมามองฉางฟงเป็นตาเดียว

“นายยังจะมีอารมณ์เล่นอีกหรือ ถ้าช้าโดนงูยักษ์พวกนั้นถล่มเละแน่”

เทพกระบี่เวรตะไลรีบพูดพร้อมกับชี้ไปยังสัตว์อสูรงูยักษ์หลายตัวที่พากันยกหัว

ชูคอขึ้นสูง เมื่อพวกมันได้ยินเสียงแปลกๆ

ฉางฟงมองไปยังสัตว์อสูรงูยักษ์สลับกับกลุ่มมักกี้ของเขาหลายรอบ

“นายอย่าเพิ่งตื่นเต้นไปสิไลจัง ฉันว่าที่กลุ่มมักกี้ร้องเพลงต้องมีสาเหตุนะ”

ฉางฟงตอบเสียงราบเรียบ

“สาเหตุกับผีนายสิ ถ้านายช้าโดนงูยักษ์พวกนั้นเขมือบแน่” เทพกระบี่เวรตะไล

โวยวายต่อ ไม่สนความเห็นของฉางฟง

“ฉันพูดจริงนะไลจัง นายสังเกตงูยักษ์พวกนั้นสิ พวกมันไม่เคลื่อนที่ไปไหนเลย

เอาแต่หยุดฟังอยู่นิ่งๆ กับที่ คล้ายกับว่า…บทเพลงนี้สามารถสะกดความดุร้ายของพวก

� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ �

มันได้”

ฉางฟงพูดพร้อมกับชี้ไปยังสัตว์อสูรงูยักษ์ที่พากันเลิกตะลุมบอน หันมาชูคอนิ่ง

ฟังราวกับซื้อตั๋วเข้ามาฟังคอนเสิร์ต

“จริงด้วย พวกมันไม่ขยับเขยื้อนตัวเลย” แดนพูดขึ้น

ทุกคนต่างเดินกลับมายืนมองสนามประลองกำลังของงูยักษ์อีกครั้ง ไม่นาน

ทุกคนก็พบว่างูยักษ์หลายตัวเริ่มจะเข้าสู่นิทรา ด้วยการพาดหัวไปบนลำตัวของมันเอง

หลังจากขดตัวเป็นก้อนกลมๆ

“ฉันว่านี่แหละคือวิธีที่จะผ่านด่านนี้ไปได้โดยที่พวกเราไม่ต้องเหนื่อย” ฉางฟง

พูดพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

“งั้นจะช้าอยู่ทำไม รีบออกเดินทางต่อไปกันเถอะ” แดนพูดจบก็เดินนำลงไปยัง

สนามต่อสู้ของสัตว์อสูรงูยักษ์เป็นคนแรก โดยมีฉางฟงและทุกคนเดินตามไปติดๆ ส่วน

กลุ่มมักกี้ยังคงร้องเพลงประสานเสียงเพื่อล่องูยักษ์ไม่ให้แผลงฤทธิ์ขึ้นมา

“เยี่ยมจริงๆ ฉันไม่คิดเลยว่าจะมีวิธีนี้ซ่อนอยู่ด้วย” แดนพูดขึ้นขณะเดินผ่าน

งูยักษ์ความสูง 4 เมตรเศษตัวหนึ่ง

“แดน นายพูดจริงหรือที่ว่าพวกเธอเป็นปีศาจ” นักดาบคลั่งรักยมกระซิบถาม

เบาๆ

“1,000 เปอร์เซ็นต์ ฉันสู้กับพวกเธอมาแล้ว”

แดนตอบคำถามนักดาบคลั่งรักยมทันควันด้วยความมั่นใจ

“แต่จากที่ฉันสังเกตพฤติกรรมของพวกเธอมาตลอดก็ไม่พบอะไรที่จะบ่งบอก

ได้ว่า พวกเธอจะกลายเป็นปีศาจกระหายเลือดเลยนะ” นักดาบคลั่งรักยมกล่าวขึ้น

“เรื่องนี้…ฉันเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน แต่ก็ยังมีความหวังอยู่ลึกๆ ในใจว่า ฉางฟง

จะเป็นคนไขความลับและแก้ปัญหานี้ได้” แดนพูดขึ้นยิ้มๆ

“เฮ้อ!…ขอให้ไขความลับได้จริงๆ เถอะ ไม่เช่นนั้นเกิดพวกเธอทุกคนกลายร่าง

เป็นปีศาจกระหายเลือดอย่างที่นายพูดไว้จริงๆ พวกเราวิ่งกันป่าแตกแน่”

นักดาบคลั่งรักยมพูดแล้วถอนหายใจยาว

“การเดินทางมากับพวกนายครั้งนี้ ฉันได้รับประโยชน์อย่างมาก ปัญหาที่ฉันแก้

ไม่ตกมานาน ฉางฟงกลับจับพลัดจับผลูแก้ได้อย่างง่ายดาย หมอนี่มันดวงดีโคตรๆ

เลย เอิ๊กๆ”

10 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

แดนพูดแล้วหัวเราะเบาๆ

“ความโชคดีเป็นแค่องค์ประกอบเพียงส่วนหนึ่งของฉางฟงเท่านั้น แต่ถ้านาย

เดินทางไปกับฉางฟงนานๆ นายจะรู้ว่าฉางฟงฉลาดและเจ้าเล่ห์กว่าที่นายคิดมาก

ปัญหาโลกแตกที่ฉันกับไลจังแก้ไม่ตก ฉางฟงมักจะแก้ได้เสมอ ในอนาคต ถ้านายคิดจะ

เป็นศัตรูกับหมอนี่ ฉันคงต้องขอแสดงความเสียใจกับความพ่ายแพ้ของนายไว้ล่วงหน้า

ได้เลย” นักดาบคลั่งรักยมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

แดนจ้องหน้าเขา “นายมั่นใจว่าฉันสู้ฉางฟงไม่ได้จริงๆ หรือ รักจัง”

“อืม!…ถ้าวันใดนายเลือกอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเขา นายจะได้พบกับศัตรูที่น่ากลัว

ที่สุด ไม่ว่าจะทางด้านฝีมือ มันสมอง และที่สำคัญคือดวง ซึ่งนายเองก็คงไม่อาจปฏิเสธ

ได้ หึๆ”

นักดาบคลั่งรักยมกล่าวจบก็หัวเราะเสียงเบา แดนนิ่งคิดสักพักจึงกล่าวว่า

“ถึงแม้ฉางฟงจะโชคดีหรือเก่งขนาดไหน แต่เขาเพียงคนเดียวก็คงไม่อาจจะสู้

คนหมู่มากได้ไม่ใช่หรือ”

นักดาบคลั่งรักยมสบตาแดน

“แม้ฉันจะไม่เข้าใจว่านายหมายถึงอะไร แต่ฉันคิดว่าฉางฟงไม่ได้ยืนอยู่ลำพัง

คนเดียวนะ ฉางฟงยังมีฉันกับไลจังยืนอยู่ข้างๆ ด้วย”

“ฮ่าๆ จริงสินะ ยังมีพวกนายอยู่นี่…เฮ้อ! เกิดเป็นฉางฟงนี่มันดีจริงๆ ว่ะ ดวงดี

ไปทุกอย่าง แม้แต่ในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดยังมีนารีอุปถัมภ์อีก เหอะๆ”

แดนพูดจบก็หันไปมองฉางฟงที่กำลังเดินคุยอยู่กับเทพกระบี่เวรตะไลอย่าง

สบายอารมณ์ สีหน้าท่าทางของฉางฟงที่แดนเห็นไม่มีริ้วรอยความกังวลกับอุปสรรคที่จะ

เกิดขึ้นในหนทางข้างหน้าแม้แต่น้อย แดนเหลือบตามองผ่านฉางฟงไปยังเนฟที่เดินคุย

อยู่กับอินดี้คล้ายกับคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

‘ภูตเลือดขัตติยะปะทะกับเลือดขุนพลอันดับหนึ่งจะเป็นอย่างไรนะ น่าลุ้น

จริงๆ’

แดนคิดในใจ ก่อนจะละสายตาไปมองเส้นทางด้านหน้าอีกครั้ง

เมืองหยางชุน

หลังจากปิงปิงเดินทางหลายวัน เธอก็มาถึงเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งนักสู้จน

10 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ 11

ได้ ดูเหมือนปิงปิงจะไม่เหนื่อยนัก เพราะเธออาศัยขี่สัตว์เลี้ยงทั้งสองตลอดการเดินทาง

“เมืองนี้ไม่ค่อยจะเปลี่ยนไปเลย” ปิงปิงพูดขณะยกมือขึ้นลูบหัวสัตว์อสูรของ

เธอ นาม ไรก้าเบาๆ

“สงครามกลางเมืองไม่ได้ทำให้ที่นี่เปลี่ยนแปลงไปเลย ผู้เล่นทุกคนยังคงท้าสู้

กันกลางถนนเช่นเดิม” ปิงปิงพูดขณะก้มหัวหลบลูกธนูที่พุ่งมาทางเธอ

“เฮ้อ! รีบเผ่นไปหาที่พักก่อนดีกว่า ขืนอยู่กลางถนนแถวนี้ คงได้เจอลูกหลง

แน่” ปิงปิงตบหัวไรก้าเบาๆ ก่อนจะเดินเลี้ยวเข้าตรอกที่ผู้เล่นไม่พลุกพล่านไปอย่าง

รวดเร็ว

ถัดจากตำแหน่งที่ปิงปิงเดินอยู่ไม่ไกล ชิงผิงกับมะม่วงกำลังเดินหลงทาง เพราะ

แผนที่เมืองที่ได้มาจากหอกสายฟ้าจิวอี้ทำให้พวกเธอสับสน

“โห!…อะไรเนี่ย ตรงนี้แผนที่ระบุว่าร้านขายเสื้อผ้าชัดๆ แต่ทำไมกลายเป็นร้าน

ขายอาหารสัตว์ไปได้” ชิงผิงบ่นอุบเมื่อพบว่าแผนที่ที่หอกสายฟ้าจิวอี้ให้มาห่วยสุดๆ

“อิๆ เขาก็บอกแล้วว่าเป็นแผนที่เก่าเก็บ ดังนั้นร้านเสื้อผ้าจะย้ายหนีไปอยู่โซน

อื่นก็ไม่เห็นแปลกเลย” มะม่วงพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

“เอ๋!…ชิงผิง ฉันว่าผู้หญิงคนนั้นหน้าคุ้นๆ นะ” มะม่วงพูดขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาว

คนหนึ่งเดินอยู่กับสัตว์อสูร ห่างจากพวกเธอประมาณ 100 เมตร

“ใคร!...คนไหนหรือ” ชิงผิงถามขึ้นอย่างสนใจ

“ผู้เล่นหญิงคนนั้นไง…อ้าว! เข้าไปในโรงแรมแล้ว” มะม่วงพูดขณะที่ชิงผิงยัง

มองไม่เห็นผู้เล่นหญิงที่มะม่วงกล่าวถึงเลย

“เพื่อนเธอหรือ มะม่วง” ชิงผิงถามขึ้น

มะม่วงส่ายหน้า นิ่งคิดสักพักจึงกล่าวว่า

“เอ่อ…ฉันอาจจะจำผิดคนก็ได้ ไม่มีอะไรหรอก” มะม่วงตัดบทไป เพราะเธอเอง

ก็ไม่แน่ใจว่าหญิงสาวคนเมื่อกี้เป็นคนเดียวกับที่เธอเคยเห็นหรือเปล่า

“อืม…ถ้างั้นเราก็รีบไปหาร้านขายเสื้อผ้ากันเถอะ”

ชิงผิงพูดจบ ทั้งสองก็เลิกใช้แผนที่ห่วยๆ ของหอกสายฟ้าจิวอี้ หันไปถามผู้เล่น

ที่อยู่บริเวณนั้นแทน และทั้งสองก็ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องกว่าเยอะเลย

12 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

การเดินทางผ่านทุ่งอสรพิษเป็นไปโดยเรียบร้อย เสียงเพลงกล่อมงูยักษ ์

ดูเหมือนจะทรงฤทธานุภาพมากทีเดียว เหล่ามักกี้ทั้งหลายต่างร้องเพลงโดยไม่รู้จัก

เหน็ดเหนื่อย ถ้าถามทุกคนในกลุ่มเวลานี้ว่า เพลงภาษาผลไม้ของพวกเธอไพเราะไหม

ทุกคนในกลุ่มจะต้องตอบเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าไพเราะมาก และห้ามหยุดร้องเพลงนี้

โดยเด็ดขาด

“นี่ฉางฟง ไม่ปล่อยเลิฟกับเรดออกมาสูดอากาศบ้างหรือ” เทพกระบี่เวรตะไลที่

เดินอยู่ข้างฉางฟงเอ่ยปากถามขึ้น

ฉางฟงที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการชมสวนสัตว์เปิดงูยักษ์จึงหันกลับมามอง

เทพกระบี่เวรตะไล

“ไม่ละ…พวกมันตัวยังเล็ก โดนโจมตีได้ง่าย ฉันไม่อยากจะสูญเสียพวกมันไป

ขอเก็บพวกมันไว้ในแหวนดีกว่า”

“แล้วฟิงเกอร์ล่ะ...ไม่เอาออกมาโชว์แดนบ้างหรือ” เทพกระบี่เวรตะไลถามยิ้มๆ

“ฟิงเกอร์ยิ่งไม่สมควรออกมาใหญ่เลย อีกอย่างเจ้าฟิงเกอร์มันก็คงไม่อยาก

ออกมานักหรอก นายอย่าลืมสิ ฟิงเกอร์ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของฉัน ถ้ามันพลาดโดนโจมตี

ตายก็จบเห่ ไม่มีโอกาสฟื้นนะ”

ฉางฟงอธิบายให้เทพกระบี่เวรตะไลฟัง

“แล้วเรื่องนายเป็นผู้ใช้ภูตล่ะ นายจะบอกให้แดนรู้หรือเปล่า”

“ฉันไม่จำเป็นต้องบอก เพราะแดนรู้อยู่แล้ว”

“หา!…แดนรู้ได้ไง”

“เพราะว่าแดนเองก็เป็นผู้ใช้ภูตเหมือนกัน”

“หา!…ว่าไงนะ” เทพกระบี่เวรตะไลร้องเสียงหลง สีหน้ามึนงงสลับอึ้งๆ หลัง

จากที่เขาปรับอารมณ์ได้จึงถามขึ้นว่า

“นายรู้ได้ยังไงว่าแดนเป็นผู้ใช้ภูต ฉางฟง!”

“เห็นมากับสองตา สัมผัสมากับมือ คำตอบนี้ชัดเจนปะ”

“เง่ะ…จับเลยหรือ ตอนไหนอ้ะ” เทพกระบี่เวรตะไลถามพร้อมกับทำหน้างง

ฉางฟงหัวเราะ ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เทพกระบี่เวรตะไลฟัง

“แสดงว่าภูตของแดนคือภูตตระกูลแคระหรือ”

“อืม…แต่เธอก็มีความสามารถในการสร้างเกราะป้องกันตัวเป็นเลิศมาก”

12 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ 13

ฉางฟงตอบ

เทพกระบี่เวรตะไลนิ่งคิดสักพักจึงกล่าวว่า “จากที่นายเล่ามา แดนจะรู้เพียงว่า

เนฟเป็นภูตสินะ”

“น่าจะเป็นเช่นนั้น แต่ถ้านาเนียออกมาปรากฏโฉมให้พวกนายได้เห็นเมื่อไหร่

เรื่องอินดี้เป็นภูตก็คงไม่พ้นสายตาของเธอเช่นกัน” ฉางฟงตอบพร้อมกับฉีกยิ้มที ่

มุมปาก

“นายไม่กลัวแดนน้อยใจหาว่านายปิดบังเรื่องนี้หรือ”

ฉางฟงหัวเราะ

“นายเบบี๋เกินไปแล้วไลจัง ทำไมฉันต้องกลัวหมอนั่นน้อยใจด้วย ตามหลัก

ความเป็นจริง ฉันไม่ได้ปกปิดอะไรเขานะ เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้ถามฉันเองต่างหาก แล้ว

เรื่องอะไรฉันต้องเอาความลับของตัวเองไปบอกเขาด้วย จริงไหม” เมื่อฟังจบ เทพกระบี่

เวรตะไลก็ถึงกับส่ายหน้า

“นายนี่มันจอมเก็บความลับจริงๆ ฉางฟง”

“แน่นอนอยู่แล้ว ไม่มีนักสู้คนไหนหรอกที่จะยอมตีแผ่ไพ่เด็ดในมือให้คนอื่นรู้

ง่ายๆ หรือนายจะว่าฉันพูดไม่จริง ไลจัง”

ฉางฟงพูดจบก็หัวเราะอีกครั้ง ส่วนเทพกระบี่เวรตะไลถอนหายใจเพราะเหนื่อย

กับความเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการของฉางฟง

30 นาทีต่อมา ทุกคนในกลุ่มต่างก็เดินผ่านทุ่งอสรพิษไปได้ โดยไม่มีผู้ใดได้

รับบาดเจ็บ เมื่อถึงปลายทางของทุ่งอสรพิษอีกฝั่ง มักกี้ของฉางฟง เนฟ และอินดี้ก็เลิก

ร้องเพลงราวกับถูกตั้งโปรแกรมไว้

“พวกเราจะไปทางไหนกันต่อแดน มีตั้งสามเส้นทางให้เลือก” นักดาบคลั่งรักยม

หันไปถามแดนที่ยังไม่กล้าเลือกเส้นทางที่จะนำทุกคนไปผจญภัยต่อ

“ไม่รู้ว่ะ ฉันเองก็ไม่เคยมาถึงจุดนี้เหมือนกัน” แดนตอบเสียงเรียบ

“เพื่อนนายคนนั้นเขาไม่ได้บอกนายหรือว่าให้เลือกเส้นทางไหนหลังจากผ่านทุ่ง

อสรพิษมาแล้ว” นักดาบคลั่งรักยมถามขึ้นอย่างสงสัย

“เขาเพียงแต่บอกว่า เขาหนีตายมาจากทุ่งอสรพิษ และมีงูยักษ์ไล่หลังเขามา

หลายตัว ทำให้เขาจำเส้นทางบริเวณนี้ไม่ได้” แดนพูดขึ้นอย่างจนปัญญา

14 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

“นี่มัวยืนทำไรกันอยู่ รีบไปสิ จะได้ถึงจุดหมายเร็วๆ” ฉางฟงซึ่งเดินตามหลัง

ทั้งสองมากล่าวขึ้น

“พวกฉันตัดสินใจยังไม่ได้ว่าจะเลือกไปเส้นทางไหนดี” นักดาบคลั่งรักยมตอบ

คำถามฉางฟงแทนแดน

“เง่ะ…พวกนายจะไปคิดอะไรให้ปวดหัว อยากไปเส้นทางไหนก็ไปเลย…โห!...

ขนาดเลือกเส้นทางยังคิดมากขนาดนี้ แล้วเมื่อไหร่พวกเราจะไปถึงเป้าหมายสักที”

ฉางฟงพูดอย่างเซ็งๆ

นักดาบคลั่งรักยมหันไปมองแดนก่อนจะพากันหัวเราะเสียงดัง คล้ายกับว่าพวก

เขาคิดอะไรออกแล้ว

“ขอบใจว่ะฉางฟงที่ชี้ทางสว่างให้พวกฉัน ไปกันเถอะแดน เลือกมันเส้นทางสาย

กลางนี่แหละ รับรองตรัสรู้แน่” นักดาบคลั่งรักยมพูด

“เฮ้อ! เดี๋ยวสิรักจัง นายจะไปบวชกับแดนหรือถึงอยากตรัสรู้…ฉันไม่ได้ชี้ทาง

สว่างให้พวกนายไปบวชนะ”

ฉางฟงตีหน้าเศร้า ยื่นมือไปตบไหล่สองหนุ่มแล้วกล่าวต่อไปว่า

“โธ่…ไม่น่าเลยเพื่อนรัก นึกไม่ถึงว่าพวกนายจะเห็นเส้นทางธรรมเพราะเล่นเกม

สุดท้ายตัดช่องน้อยแต่พอตัวเลือกเส้นทางสายกลางหนีไปบวชซะงั้น…แงๆ แต่เอาเถอะ

เพื่อไม่ให้มิตรภาพของพวกเราเสียไปโดยใช่เหตุ ฉันจะยอมเสียสละความสุขส่วนตัว

รับอาสาดูแลแฟนๆ ของพวกนายให้เอง ไม่ต้องเป็นห่วงไปนะเพื่อนรัก พวกนายไปบวช

อย่างสบายใจเถอะ ขอเพียงทิ้งเบอร์โทร. ชื่อ และที่อยู่ไว้ ฉันจะจัดการให้ดีที่สุด”

“อ๊าก…ไม่ให้โว้ย” สองหนุ่มตะโกนขึ้นพร้อมกันทันทีหลังจากฉางฟงพูดจบ

ประโยค

“เง่ะ…น้ำใจเพื่อน ไม่รับหรือ หวังดีนะเนี่ย” ฉางฟงพูดพร้อมกับตีหน้าเศร้าต่อ

สองหนุ่มถึงกับอึ้ง ไม่เข้าใจเลยว่าตอนนี้ฉางฟงกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน

“ฉันไม่ได้จะไปบวชนะโว้ย คิดไปถึงไหนวะ ฉันบอกว่าจะเลือกเส้นทาง

ตรงกลางเฉยๆ”

“เง่ะ…ก็ไม่บอกให้มันชัดๆ พูดกำกวมอยู่ได้ วัยรุ่นเซ็ง! อย่างนี้ฉันเสียนะเนี่ย

รู้ไหม...โด่…อุตส่าห์รับปากดูแลแฟนพวกนายให้ คนอย่างฉันไม่ค่อยรับปากดูแลแฟน

ให้ใครง่ายๆ นะโว้ยจะบอกให้” ฉางฟงพูดพร้อมกับแกล้งทำหน้าเซ็งๆ

14 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ 15

“โห นายเทพจริงๆ ยังไหลไปได้เรื่อยๆ อีก” แดนพูดขึ้นอย่างทึ่งๆ

“นี่! พวกนายจะคุยกันอีกนานไหม พวกงูยักษ์กำลังจะตื่นขึ้นมานะโว้ย”

เทพกระบี่เวรตะไลที่กำลังยืนคุยอยู่กับเนฟชักรำคาญจึงโวยวายเสียงดัง

“ใช่ๆ รักจังกับแดนอ้ะมัวแต่ยืนโอ้เอ้อยู่ได้ นี่ฉันก็อุตส่าห์มาเตือนพวกเขาแล้ว

นะไลจัง เอ่อ…พวกนายรีบนำทางได้แล้ว เดี๋ยวไลจังก็บ่นอีกหรอก..ชิ่วๆ”

ฉางฟงรีบพูดเสียงดัง ทำเอาสองหนุ่มถึงกับอึ้งไปอีกครั้ง

‘โห!…มันกลับตัว 360 องศาเลย เทพสุดๆ แหลได้ขั้นเทพมาก’

สองหนุ่มคิดในใจ ก่อนจะตัดสินใจเลือกเส้นทางตรงกลางในการผจญภัยต่อไป

ฉางฟงยังคงเดินตามหลังพวกเขาพร้อมกับหัวเราะอยู่ห่างๆ

“นี่รักจัง” แดนเอ่ยปากขึ้น

“หือ…มีอะไรหรือ”

“ฉันเชื่อแล้วว่ะ ฉางฟงมันน่ากลัวจริงๆ แค่คารมมันก็ทำให้ฉันหัวปั่นไปเลย”

นักดาบคลั่งรักยมได้ยินแดนพูดออกมาแบบนี้ก็กลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่

“ที่นายสัมผัสเป็นเพียงแค่น้ำจิ้ม...ของจริงแสบกว่านี้เยอะ ฮ่าๆ”

แดนพยักหน้าพร้อมกับทำหน้าเหนื่อยๆ

ทั้งสองเดินนำไปได้ไม่นาน เสียงกระพือปีกบนท้องฟ้าก็ทำให้ทุกคนตกใจ

“เง่ะ! นั่นตัวอะไรหว่า” เทพกระบี่เวรตะไลถามขึ้นเมื่อเห็นว่าสัตว์อสูรที่กำลังบิน

ตรงมายังพวกเขาแต่ละตัวมีหัวและร่างกายคล้ายกับจระเข้ แต่มีปีกขนาดใหญ่คล้าย

ค้างคาวอยู่ด้านหลัง

‘สัตว์อสูรจระเข้บินระดับราชา ธาตุลม B+ ระดับ 55 เตรียมจู่โจม’

‘สัตว์อสูรจระเข้บินระดับราชา ธาตุลม B+ ระดับ 58 เตรียมจู่โจม’

‘สัตว์อสูรจระเข้บินระดับราชา ธาตุลม B+ ระดับ 54 เตรียมจู่โจม’

‘สัตว์อสูรจระเข้บินระดับราชา ธาตุลม B+ ระดับ 55 เตรียมจู่โจม’

“ยุ่งละสิ พวกมันบินได้แบบนี้ พวกเราตกเป็นฝ่ายตั้งรับแน่” แดนพูดขึ้นอย่าง

เป็นกังวล

“ทุกคนอย่าเพิ่งตื่นเต้น ไลจังกับรักจังใช้ท่ากระบี่ใจกระจ่างและเจษแห่งดาบเร็ว

เข้า สอยพวกมันลงมาก่อน พอพวกมันตกถึงพื้นเมื่อไหร่ พวกฉันเล่นต่อเอง” ฉางฟง

ตะโกนบอก

1� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

นักดาบคลั่งรักยมกับเทพกระบี่เวรตะไลต่างรีบใช้ท่าทักษะสุดยอดของตัวเอง

อย่างรวดเร็ว

สัตว์อสูรจระเข้บินที่มีร่างกายขนาดใหญ่เท่ากับรถบรรทุก 10 ล้อ ทั้งสี่ตัว ต่าง

ลดเพดานบินต่ำลงมาอย่างรวดเร็ว พวกมันทุกตัวไม่กลัวเกรงฤทธานุภาพกระบี่

สุญญากาศและดาบบินของนักดาบคลั่งรักยมเลยแม้แต่นิดเดียว

“บัดซบ…พวกมันคิดจะโจมตีฝูงมักกี้สุดที่รักของฉัน” ฉางฟงโวยวายขึ้นเมื่อ

เห็นสัตว์อสูรจระเข้บินตัวหนึ่งกำลังพุ่งเข้ามาโจมตีมักกี้ของเขา จากนั้นก็ดึงหอกมาร

น้อยในกระเป๋ามิติออกมาอย่างรวดเร็ว

“โจมตี!”

บึม! บึม! บึม! เทพกระบี่เวรตะไลร้องลั่น พริบตากระบี่สุญญากาศทั้งห้าเล่มก็

จุดระเบิดประจุพุ่งเข้าโจมตีสัตว์อสูรจระเข้บินตัวหนึ่งที่กำลังโผบินลงสู่เบื้องล่าง เพื่อ

โจมตีกลุ่มมักกี้สุดที่รักของฉางฟง

“กรร!”

สัตว์อสูรจระเข้บินคำรามก้องเมื่อเห็นกระบี่สุญญากาศทั้งห้าเล่มกำลังพุ่งมาทาง

มัน ปากขนาดใหญ่ของมันอ้าขึ้น ก่อนมันจะพ่นบอลลมหลายลูกออกมาปะทะกับกระบี่

สุญญากาศของเทพกระบี่เวรตะไล

บึม! บึม! เสียงระเบิดที่เกิดจากอานุภาพอาวุธทั้งสองปะทะกันดังสนั่นบน

ท้องฟ้า กระบี่สุญญากาศของเทพกระบี่เวรตะไลแม้จะยังคงสภาพประจุพลังงานอยู่ได้

แต่ความเร็วในการโจมตีกลับตกวูบ

“ชิ…บัดซบจริงๆ”

เทพกระบี่เวรตะไลพูดจบก็บังคับกระบี่สุญญากาศให้ลอยตีโค้งอ้อมหนีสัตว์

อสูรจระเข้บิน ที่หยุดกระพือปีกเพื่อตั้งรับการโจมตีจากกระบี่ของเขา

“เฮ้ย! รักจัง ช่วยฉันจัดการอีกตัวที มันกำลังจะโจมตีมักกี้สุดหวงของช้าน”

ฉางฟงโวยวายพร้อมกับกระโดดโลดเต้นชี้ไปยังสัตว์อสูรจระเข้บินอีกตัวที่กำลัง

พุ่งลงมาโจมตีกลุ่มมักกี้ของเขาทางด้านซ้าย

“ทำลาย!” นักดาบคลั่งรักยมร้องลั่น แล้วดาบสามเล่มที่วิ่งวนอยู่เหนือศีรษะเขา

ก็พุ่งควงสว่านเข้าจู่โจมสัตว์อสูรจระเข้บินตัวนั้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน

“เย้!…ตัวแกทะลุพรุนแน่” ฉางฟงร้องลั่นอย่างดีใจ แต่แล้วเหตุการณ์ที่ฉางฟง

1� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ 1�

และทุกคนคาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น เมื่อสัตว์อสูรจระเข้บินตัวนั้นกลับพลิกตัว สะบัดหางฟาด

ใส่ดาบทั้งสามเล่มของนักดาบคลั่งรักยมสุดแรง

เปรี้ยง! เปรี้ยง! เสียงปะทะดังสนั่น ดาบสามเล่มของนักดาบคลั่งรักยมพลาด

เป้า พุ่งเบี่ยงออกนอกเส้นทางทันที นักดาบคลั่งรักยมถึงกับสบถออกมา

“กรร! กรร! กรร!” สัตว์อสูรจระเข้บินระดับราชาพากันร้องคำรามกึกก้องไปทั่ว

ท้องฟ้า พวกมันทั้งสี่ตัวต่างโผบินขึ้นสูงไปหลายสิบเมตร โดยที่ฉางฟงและเพื่อนๆ ไม่รู้

ว่าพวกมันกำลังคิดจะทำอะไรแน่

แต่แล้วในชั่วพริบตา พวกมันต่างก็พลิกตัวกลางอากาศ พุ่งทะยานลงมาเตรียม

โจมตีกลุ่มฉางฟงอย่างพร้อมเพรียงกัน

“อ๊าก! ต้องทำอะไรสักอย่าง ถ้าไม่ทำอะไร มักกี้ของฉันตายแน่ ON CARD!”

“ARMOR OF DEVIL CARD”

“ADD WING OF DEVIL CARD”

ออร่าสองสีทอแสงสว่างแผ่กระจายออกมาจากตัวฉางฟง ทันทีที่แสงออร่ารอบ

ตัวจางลง ฉางฟงก็คลี่ปีกแห่งจอมมารออกกว้าง และหุบเข้ามาชี้ออกไปด้านหน้า

“พันปักษา” ฉางฟงตะโกนก้องเสียงดัง และใช้จิตสื่อสารภายในใจไปด้วย เพื่อ

เชื่อมต่อคำสั่งไปยังปีกแห่งจอมมาร

สิ้นเสียงร้อง ขนนกเหล็กสีเขียวเข้มก็พุ่งเป็นสายเข้าจู่โจมสัตว์อสูรจระเข้บิน

1 ใน 4 ที่กำลังเคลื่อนร่างใหญ่ยักษ์เข้าโจมตีกลุ่มมักกี้สุดที่รักของเขาทันที

ทางด้านนักดาบคลั่งรักยมกับเทพกระบี่เวรตะไล ทั้งสองต่างก็ทุ่มเทใช้ท่า

กระบี่ใจกระจ่าง กับเจษแห่งดาบเข้าโจมตีสัตว์อสูรจระเข้บินระดับราชาอีกสองตัวสุด

กำลัง

“ทักษะพิเศษกระบี่ใจกระจ่าง” แดนเรียกใช้ทักษะของตัวเองบ้าง

เทพกระบี่เวรตะไลเหลือบมามองเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปควบคุมกระบี่

มวลอากาศเช่นเดิม

แดนบีบอัดอากาศรอบตัวสร้างเป็นกระบี่มวลอากาศขึ้นมาสองเล่ม พุ่งเข้าโจมตี

สัตว์อสูรจระเข้บินตัวที่เหลืออยู่อย่างรวดเร็ว

“กรร!”

1� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

สัตว์อสูรจระเข้บินที่เผชิญหน้ากับฉางฟงคำรามเสียงดังกึกก้อง มันหยุดอยู่

กลางอากาศ ตวัดหางฟาดเข้าใส่ขนนกเหล็กที่พุ่งเข้ามาจู่โจมมัน เสียงตัดอากาศของขน

นกเหล็กดังสะท้านไปทั่วบริเวณ

ฟิ้วๆ ฟิ้วๆ ฟ้าวๆ เปรี้ยง! หางของสัตว์อสูรจระเข้บินระดับราชาฟาดโดนขนนก

เหล็กอย่างรุนแรง ทำให้ขนนกเหล็กที่เกาะกลุ่มกันเข้าโจมตีกระจายไปทั่วบริเวณ กลุ่ม

ของฉางฟงต่างกระโดดหลบกันจ้าละหวั่น

“เฮ้ย! ฉางฟง ระวังหน่อยสิโว้ย”

เทพกระบี่เวรตะไลร้องลั่นขณะเอียงตัวหลบขนนกเหล็กที่กำลังตีโค้งพุ่งอ้อม

กลับเข้าสู่ปีกของฉางฟงดังเดิม

“ชิ! พันปักษาใช้ไม่ได้ก็กินหอกมารน้อยของฉันไป”

ฉางฟงหมุนตัวแล้วทิ้งน้ำหนักลงไปที่ปลายเท้าทั้งสอง ก่อนจะขว้างหอกมาร

น้อยขึ้นไปยังสัตว์อสูรจระเข้บินสุดแรง หอกสีดำหลุดออกจากมือของฉางฟงก็พุ่งเป็น

เส้นตรงไปยังสัตว์อสูรจระเข้บินตัวเดิมอย่างรวดเร็ว

เคล้ง!

เสียงปะทะดังสนั่น เมื่อสัตว์อสูรจระเข้บินสะบัดหางเข้าปะทะอีกครั้ง แรงปะทะ

ทำให้หอกมารน้อยพุ่งแฉลบผ่านคอมันไปอย่างฉิวเฉียด

“กรร!”

เมื่อสัตว์อสูรจระเข้บินปัดป้องหอกมารน้อยของฉางฟงได้ก็กู่ร้องคำรามอย่าง

กึกก้องราวกับว่ามันเป็นผู้ชนะในการต่อสู้ยกนี้

“นายประมาทฉันเกินไปแล้วเจ้าจระเข้บิน มารน้อยกลับมา” ฉางฟงตะโกนสั่ง

หอกมารน้อยที่กระเด็นไปในอากาศก็หมุนควงพุ่งกลับลงมาอย่างรวดเร็ว ฉางฟงรีบ

เคลื่อนตัวหาตำแหน่ง โดยให้เงาสัตว์อสูรจระเข้บินทับบนร่างเขาพอดี เพื่อกำหนด

ทิศทางหอกมารน้อยที่กำลังพุ่งกลับลงมาจากท้องฟ้า

ฉึก! “กรร!” หอกมารน้อยแทงทะลุปีกของมันจนเลือดพุ่งกระฉูดเป็นทางยาว

หมับ! ฉางฟงคว้าด้ามหอกอย่างแม่นยำ

“ทุกคนโจมตีปีกของมัน จุดอ่อนของมันอยู่ที่ปีก”

เสียงตะโกนบอกของฉางฟงทำให้เพื่อนๆ ที่กำลังจับคู่ต่อสู้อยู่กับสัตว์อสูร

จระเข้บินต่างก็รีบปรับเปลี่ยนกลวิธีต่อสู้ หันไปเน้นโจมตีที่ปีกซึ่งคล้ายกับค้างคาว

1� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ 1�

ของมัน

โครม! ร่างอันใหญ่โตตกลงมายังพื้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ฝุ่นดินฟุ้งกระจายขึ้น

สูงหลายเมตร

“เนฟ อินดี้ จัดการเก็บเจ้าจระเข้ยักษ์เดี๋ยวนี้เลย”

สิ้นเสียงร้องของฉางฟง เนฟกับอินดี้ต่างก็พากันพุ่งเข้าโจมตีสัตว์อสูรจระเข้บิน

ระดับราชาอย่างรวดเร็ว เนฟควง WING BAT ด้วยความเร็วสูง แล้วเหวี่ยง WING

BAT ไปที่ขาข้างหนึ่งของสัตว์อสูรจระเข้บินสุดแรง

แก๊ง! เสียงปะทะดังสนั่นหวั่นไหว WING BAT ไม่สามารถเจาะหนังที่แข็งแกร่ง

ของมันเข้าไปได้ ด้านอินดี้ที่ฟันดาบลงไปยังลำตัวของมันก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน

“ฉางฟง หนังมันหนา เจาะไม่เข้า”

เนฟตะโกนบอกเมื่อสัตว์อสูรจระเข้บินเริ่มออกฤทธิ์ ฟาดหางและอ้าปากไล่กัด

เนฟกับอินดี้ แต่ยังไม่ทันที่ฉางฟงจะตอบ สัตว์อสูรจระเข้บินก็ร่วงหล่นลงมาอีกตัวเมื่อ

นักดาบคลั่งรักยมสามารถสอยมันลงมาจากท้องฟ้าได้สำเร็จ

“อินดี้แยกไปคุ้มครองกลุ่มมักกี้ไว้ อย่าให้มันบุกเข้าไปโจมตีกลุ่มมักกี้ได้” เนฟ

ตะโกนบอกเสียงดัง

“หาทางโจมตีท้องของมัน เนฟ ท้องของมันคือจุดอ่อนที่ศัสตราวุธทุกชนิด

สามารถแทงทะลุเข้าไปได้”

ฉางฟงตะโกนบอกในขณะที่เขาเรียกใช้ทักษะพิเศษพันปักษาเข้าโจมตีสัตว์อสูร

จระเข้บิน คู่ต่อสู้ที่กำลังโผบินบนท้องฟ้าอีกครั้ง

“เง่ะ…นายจะให้ฉันพลิกตัวมันขึ้นมายังไงฉางฟง ตัวมันหนักนะ”

เนฟตะโกนตอบกลับมาขณะกระโดดหลบหางสัตว์อสูรจระเข้บินที่เหวี่ยงโจมตี

ไปมาเป็นพัลวัน

โครม! สัตว์อสูรจระเข้บินอีกตัวหล่นลงมาบนพื้นเสียงดังสนั่น หลังจากโดน

แดนกับนักดาบคลั่งรักยมรุมโจมตีจนปีกทั้งสองข้างขาดวิ่นไม่มีชิ้นดี

“รักจัง / แดน เตรียมตัวรับการโจมตี พวกมันกำลังมาอีกฝูงหนึ่งแล้ว อยู่ไกลๆ

โน่น”

เทพกระบี่เวรตะไลที่กำลังช่วยฉางฟงสู้กับสัตว์อสูรจระเข้บินตะโกนบอก พร้อม

กับชีไ้ปยงัทศิทางทีส่ตัวอ์สรูจระเขบ้นิฝงูใหญก่ำลงัมุง่หนา้มายงัตำแหนง่ทีพ่วกเขาตอ่สูก้นั

20 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

“ตายแน่…มาอีกฝูงแล้ว” ฉางฟงอุทานออกมา

“พวกเรารีบจัดการพวกที่อยู่บนพื้นก่อนดีกว่า ไม่เช่นนั้นถ้าฝูงใหม่มาถึง พวก

เราอาจจะต้องรับศึกสองด้าน”

นักดาบคลั่งรักยมพูดจบก็รีบพุ่งเข้าโจมตีสัตว์อสูรจระเข้บินอีกตัวหนึ่งซึ่งกำลัง

มุ่งเข้าไปโจมตีกลุ่มมักกี้ ขณะที่อินดี้กำลังพยายามปกป้องพวกเธอจากสัตว์อสูรจระเข้

บินอีกตัวอยู่

ผัวะ! ผัวะ! หมัดของแดนกับนักดาบคลั่งรักยมกระแทกถูกสัตว์อสูรจระเข้บิน

แทบจะพร้อมเพรียงกัน มันขยับเพียงเล็กน้อย หนังที่หนาและแข็งทำให้มันแทบไม่ได้

รับบาดเจ็บเลย

ฟ้าว! สัตว์อสูรจระเข้บินสะบัดหางแหวกอากาศฟาดมายังพวกเขาทั้งสองอย่าง

รวดเร็ว แดนกับนักดาบคลั่งรักยมต่างกระโดดลอยตัวขึ้นสูง

“ชิ!…คงต้องเล่นอาวุธหนักแล้ว”

นักดาบคลั่งรักยมดึงดาบเพลิงโลกันตร์ออกมาจากกระเป๋ามิติ เร่งพลังขึ้นจนถึง

ระดับสูงสุด ออร่าสีแดงเพลิงแผ่ขยายออกไปรอบตัวเขาอย่างรุนแรง และด้วย

สัญชาตญาณระวังเฉพาะตัว แดนรีบถอยออกห่างนักดาบคลั่งรักยมทันทีเมื่อร่างกาย

สัมผัสถึงออร่าอันร้อนแรง

“ดาบเพลิงโลกันตร์ ยอดเยี่ยมสมคำเล่าลือ” แดนจ้องมองนักดาบคลั่งรักยม

อย่างตื่นเต้น

“ทักษะพิเศษพายุดาบ”

นักดาบคลั่งรักยมไม่มีเวลาเล่นสนุกมากนัก เขาจึงเลือกใช้ท่าดาบเบสิกที่สุด

เพราะต้องการความรวดเร็วในการโจมตี

ดาบเพลิงโลกันตร์พุ่งทะยานออกไปเข้าหาเป้าหมายอย่างรวดเร็ว

เมื่อสัตว์อสูรจระเข้บินเห็นนักดาบคลั่งรักยมใช้ดาบโจมตีลำตัวมันก็รีบสะบัด

หางเข้าปะทะดาบเพลิงโลกันตร์ของนักดาบคลั่งรักยมไว้

ตูม! เสียงปะทะกันดังสนั่นหวั่นไหว ด้วยท่าดาบพิเศษ + ดาบเพลิงโลกันตร์

ทำให้พลังทำลายล้างน่ากลัวยิ่ง หางสัตว์อสูรจระเข้บินถึงกับขาดกระจุยไปในพริบตา

แดนที่กำลังเข้าไปช่วยอินดี้อดไม่ได้ที่จะเหลือบตาไปมองการโจมตีของนักดาบ

คลั่งรักยม

20 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ 21

“ถ้าพวกเราได้ประลองยุทธ์กัน ผลมันจะเป็นอย่างไรนะ” แดนพูดเสียงเบาก่อน

จะตวัดกระบี่เข้าโจมตีสัตว์อสูรจระเข้บินที่กำลังรุกไล่อินดี้อย่างเอาเป็นเอาตาย

“กรร!”

เสียงร้องคำรามด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นเมื่อปลายหางของสัตว์อสูรจระเข้บิน

ขาดออกจากร่างด้วยน้ำมือของนักดาบคลั่งรักยม เลือดพุ่งกระฉูดออกมาเนืองนองเต็ม

พื้น นักดาบคลั่งรักยมสลับเท้าเคลื่อนตัวถอยออกห่างจากสัตว์อสูรหลายก้าวใหญ่ ก่อน

ที่เขาจะจดดาบขึ้นเสมออก

“ท่าดาบประกายฟ้า”

พริบตาที่นักดาบคลั่งรักยมเรียกใช้ท่าดาบนี้ ออร่าสีส้มก็แผ่ออกมาจากตัวเขา

เมื่อรวมกับออร่าสีแดงเพลิงเดิมก็ทำให้สีของออร่าเข้มขึ้นไปอีกระดับ ดาบเพลิงโลกันตร์

ส่องแสงสว่างเจิดจ้า นักดาบคลั่งรักยมรีบจ้วงแทงดาบไปยังด้านหน้าสุดแรง ตัวดาบที่

สะสมพลังงานก่อเกิดเป็นรังสีดาบยืดขยายออกไป แล้วดาบก็พุ่งทะยานเข้าโจมตีสัตว์

อสูรจระเข้บินหางพิการทันที

บึม! เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว รังสีดาบพุ่งเข้ากระแทกลำตัวของสัตว์อสูร

จระเข้บินสุดแรง หนังที่หนาของสัตว์อสูรถูกรังสีดาบแทงทะลุเข้าไปจนเป็นแผลฉกรรจ์

ขนาดใหญ่ เลือดสดๆ พุ่งกระฉูดทะลักออกมาเนืองนองเต็มพื้น สัตว์อสูรจระเข้บิน

พลิกตัวแล้วบิดไปมาด้วยความเจ็บปวด

ในขณะที่คู่ของนักดาบคลั่งรักยมต่อสู้กันอย่างดุเดือด เนฟเองก็พยายาม

หลอกล่อรบกวนจนสัตว์อสูรจระเข้บินโมโห ยอมออกไปต่อสู้กับเขาตัวต่อตัว เนฟ

เหวี่ยง WING BAT ในมือเข้าโจมตีสัตว์อสูรจระเข้บินไปหลายสิบรอบ ในที่สุดก็สร้าง

แผลบนร่างกายของมันได้บ้าง

“กรร!”

สัตว์อสูรจระเข้บินคำรามอย่างบ้าคลั่ง ดูเหมือนมันจะหงุดหงิดมากที่ไม่สามารถ

ตามความเร็วของเนฟได้ทัน จากที่เคยสะบัดหางฟาดใส่เนฟ มันก็หันมาโจมตีโดยการ

ไล่กัดเป็นหลัก เนฟเองก็พยายามโจมตีมันอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้มันมีโอกาสใช้บอล

ลมเป็นอาวุธโจมตีเขา

เนฟคว้าระเบิดเพลิงที่เอวสองลูก ถอดสลัก แล้วโยนระเบิดเข้าไปในปากของมัน

เมื่อเห็นสัตว์อสูรจระเข้บินอ้าปากเตรียมพุ่งเข้าโจมตีเขา

บึม! บึม! เสียงระเบิดเพลิงทำงานดังสนั่น ประกายไฟแลบออกมาจากปากของ

สัตว์อสูรจระเข้บินสองครั้งซ้อน สัตว์อสูรจระเข้บินสะบัดหัวไปมาหลายครั้ง ระเบิดเพลิง

สองลูกเมื่อครู่ไม่สามารถทำให้มันได้รับบาดเจ็บจนหยุดการโจมตีเนฟได้เลย เพียง

ชั่วครู่มันก็บุกเข้าโจมตีเนฟต่ออย่างบ้าเลือดเช่นเดิม

“กรี๊ด!” เสียงกรีดร้องของกลุ่มมักกี้ทำให้ทุกคนตกใจรีบหันไปมอง

บึม! เสียงระเบิดดังกึกก้อง มักกี้ที่จับกลุ่มรวมตัวกันอยู่เกือบ 100 คน กระเด็น

ไปคนละทิศละทาง

บทที่ 2 ความโกรธ

ปากกาแดงดำ 23

“มักกี้ของฉัน!” ฉางฟงตะโกนขึ้นอย่างโหยหวนทันทีเมื่อเห็นมักกี้สุดที่รักหลาย

นางนอนตายกองอยู่บนพื้น

“ฉางฟง อยู่ไม่ได้แล้ว! พวกเราต้องหนีไปก่อน พวกมันมากันเพียบเลย”

เทพกระบี่เวรตะไลตะโกนบอกเมื่อเห็นฝูงสัตว์อสูรจระเข้บินเกือบสิบตัวพากัน

บินตรงลงมาเตรียมโจมตีพวกเขา

เสียงคอมพิวเตอร์ในหัวของทุกคนรายงานสถานะสัตว์อสูรเตรียมจู่โจมถี่ยิบ

สัตว์อสูรจระเข้บินระดับราชาเกือบ 10 ตัว ได้จังหวะ พากันอ้าปากกว้างพ่นบอลลมออก

มาเกือบจะพร้อมเพรียงกัน

ฟ้าว! ฟ้าว! ฟ้าว! บอลลมหลายสิบลูกพุ่งลงมาจากท้องฟ้า ทุกคนตาเหลือก

แล้วรีบกระโจนออกจากพื้นที่เป้าหมายการโจมตีกันเป็นแถว

ฉางฟงถึงกับหน้าซีดเผือดเมื่อพบว่าบอลลมส่วนใหญ่มีทิศทางพุ่งเข้าโจมตีกลุ่ม

มักกี้สุดรักของเขา

“ม่าย!” ฉางฟงร้องเสียงหลงอีกครั้ง

“กรี๊ด! กรี๊ด! กรี๊ด!” เสียงกรีดร้องจากกลุ่มมักกี้ดังสนั่น พวกเธอวิ่งหนีไม่เป็น

จึงเอาแต่เกาะกลุ่มกันแน่นอยู่ที่เดิม

บึม! บึม! บึม!…บึม! เสียงระเบิดอย่างรุนแรงดังต่อเนื่อง

ฉางฟงเบิกตาค้าง ตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้านหน้า

“ฉางฟงระวัง!” เทพกระบี่เวรตะไลร้องเตือนฉางฟงดังลั่น แต่ดูเหมือนว่า

ฉางฟงจะไม่ได้ยิน เพราะเขามัวแต่ยืนตะลึงจ้องมองดูซากศพฝูงมักกี้อยู่

“ชิ…บ้าจริง มาเหม่ออะไรตอนนี้วะ”

เทพกระบี่เวรตะไลสบถก่อนจะรีบกระโดดเข้าไปผลักฉางฟงให้พ้นบอลลมซึ่ง

กำลังพุ่งมาที่เขาลูกหนึ่ง

ตูม! ตูม! ตูม! สิ้นเสียงระเบิด เศษดินเศษหญ้าก็กระเด็นขึ้นมาจากพื้นกระจาย

ไปทั่วบริเวณ พื้นดินบริเวณที่โดนระเบิดก็กลายเป็นหลุมขนาดใหญ่กว้างหลายเมตร

“โธ่!…ไม่น่าเลยฝูงมักกี้ของฉัน” อินดี้กล่าวเสียงต่ำหลังจากลุกขึ้นมาจากพื้น

“อินดี้อย่าเหม่อ สัตว์อสูรกำลังจะโจมตีเธอ” เนฟตะโกนบอกเสียงดัง ทำให้

อินดี้ได้สติ หลบหางของสัตว์อสูรจระเข้บินได้อย่างฉิวเฉียด

“อีกละ! พวกแกอยากตายกันนักใช่ไหมถึงชอบมากวนอารมณ์ฉันให้เดือด”

24 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

ฉางฟงลุกขึ้นยืน กล่าวเสียงเย็นเฉียบ

เทพกระบี่เวรตะไลที่กำลังจะเดินเข้าไปหาก็ต้องชะงัก เพราะเขาเริ่มรู้สึกว่า ถ้า

เดินเข้าไปใกล้ตอนนี้อาจเจ็บตัวฟรีโดยไม่จำเป็น

“ไลจัง ฉางฟง ถอยออกมาเร็วเข้า แถวนั้นอันตรายมาก” นักดาบคลั่งรักยมร้อง

บอกเสียงดัง

เทพกระบี่เวรตะไลยิ้มแห้งๆ ชี้ไปยังฉางฟงที่กำลังยืนหันหลังให้ทุกคน

ฉางฟงโยนยาเพิ่มพลังเข้าไปในปากโดยที่ไม่มีใครได้เห็น ชั่วพริบตารังสีอำมหิต

ก็แผ่ออกจากร่างกายของเขาราวกับเขื่อนแตก เทพกระบี่เวรตะไลที่ยืนอยู่ไม่ไกลจาก

ฉางฟงถึงกับสะดุ้ง

“อ๊าก!”

ฉางฟงกู่ร้องเสียงแหลมเล็ก ร่างกายเขาทอประกายเจิดจ้าสว่างไสว เมื่อระดับ

พลังพื้นฐาน 96 ไหลเวียนไปทั่วร่างกาย

“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย” แดนที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากนักดาบคลั่งรักยมร้องถามขึ้นอย่าง

ไม่มีปี่มีขลุ่ย

“พลังที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวของฉางฟงน่ะสิ”

“หา ว่าไงนะ” แดนอุทานอย่างตกใจอีกครั้ง

บึม! เสียงระเบิดพลังออกจากร่างกายของฉางฟงดังสนั่นหวั่นไหว เทพกระบี่เวร-

ตะไลถึงกับกระเด็นถอยหลังไปหลายก้าวใหญ่เมื่อโดนแรงอัดกระแทกเข้าไปโดยไม่รู้ตัว

กว่าเขาจะทรงตัวได้ ทุกคนในกลุ่มต่างก็พากันจ้องมองฉางฟงตาไม่กะพริบ

เมื่อกลุ่มควันรอบตัวฉางฟงจางหายไป ทุกคนก็ได้เห็นออร่าสีทองเหลืองอร่าม

แผ่กระจายออกมารอบตัวเขา แดนถึงกับเบิกตาค้างเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้ากลับ

มีผมสีทอง แทนที่จะเป็นสีดำ รังสีอำมหิตที่แผ่พุ่งออกมาจากร่างกายฉางฟงทำให้แดน

ถึงกับหัวใจเต้นแรง

ฉางฟงสยายปีกจอมมารที่กลายเป็นสีเขียวมรกตออกกว้าง เมื่อหอกมารน้อยใน

มือเขาได้รับพลังระดับ 96 ก็แปรเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปจากเดิม คมหอกยืดขยายขนาด

ออกไปอีกหลายนิ้ว เช่นเดียวกับด้ามหอกที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย

ครืน! ครืน! ครืน! ขนนกเหล็กบนตัวฉางฟงกระทบกันเสียงดังรัว สัตว์อสูร

จระเข้บินที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าก็เริ่มบินตีโค้งโผลงมาเตรียมโจมตีฉางฟง

24 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ 25

ฟ้าว!…ฟ้าว!…ฟ้าว! บอลพลังลม 3 ลูกถูกส่งลงมาทักทายฉางฟงก่อน

“ฉางฟงระวัง!” แดนร้องเตือน แต่ฉางฟงกลับไม่สนใจเสียงร้องของแดนเลย

พริบตาที่บอลลมกำลังจะสัมผัสตัวเขา ปีกแห่งจอมมารทั้งสองข้างก็หุบโค้งเข้ามาตั้ง

การ์ดปกป้องฉางฟงเอาไว้

บมึ! บมึ! บมึ! เสยีงระเบดิดงัตดิๆ กนั 3 ครัง้ แรงปะทะเปน็เหตใุหเ้ทา้ของฉางฟง

จมลึกลงไปในพื้นดินถึง 2 นิ้วครึ่ง

“กรี๊ด!”

เสียงกรีดร้องของมักกี้ทำให้ฉางฟงหันขวับกลับไปมอง เมื่อสามหนุ่มได้เห็น

สีหน้าของฉางฟงต่างก็ตกใจ รีบถอยหลังกรูด ดวงตาสีแดงสดของฉางฟงและดวงตาบน

เสื้อเกราะทำให้ทุกคนที่จ้องมองหนาวยะเยือกไปถึงสันหลัง รังสีอำมหิตดำมืดแผ่ขยาย

ความเข้มข้นขึ้นไปอีกระดับ หลังจากฉางฟงเห็นสัตว์อสูรจระเข้บินตัวหนึ่งกำลังพุ่งเข้า

โจมตีกลุ่มมักกี้ของเขา

“พระเจ้า!…เกิดอะไรขึ้นเนี่ย” แดนอุทาน จ้องมองฉางฟงตาค้าง

“นี่คือร่างจุติเทพที่เล่าลือ” นักดาบคลั่งรักยมพูดเสียงเรียบ

“เป็นไปไม่ได้ ตามตำนานร่างจุติเทพจะต้องคงอยู่เป็นรูปลักษณ์สีทองเหมือน

เดิมตลอดเวลา แต่ฉางฟงไม่ใช่…” แดนพูดขณะเช็ดเหงื่อบนใบหน้า เขาสาบานได้เลยว่า

ตั้งแต่เล่นเกมมา ยังไม่เคยพบใครมีรังสีอำมหิตรุนแรงขนาดนี้มาก่อน

หลังจากฉางฟงเห็นสัตว์อสูรจระเข้บินระดับราชาเคลื่อนตัวเข้าใกล้กลุ่มมักกี้

ก็ขว้างหอกมารน้อยในมือออกไปอย่างรวดเร็ว

ฉึก! หอกมารน้อยปักลึกเข้าไปในลำตัวของสัตว์อสูรจระเข้บินจนเกือบทะลุออก

ไปอีกด้าน สัตว์อสูรจระเข้บินสะดุ้งสุดตัว กู่ร้องคำรามด้วยความเจ็บปวด

“มารน้อยกลับมา”

ทันทีที่ฉางฟงร้องเรียก หอกมารน้อยที่จมลึกเข้าไปในตัวสัตว์อสูรจระเข้บินก็พุ่ง

ย้อนกลับออกมาจากร่างกายสัตว์อสูรจระเข้บินอย่างรวดเร็ว

“กรร!”

สัตว์อสูรจระเข้บินร้องคำรามด้วยความเจ็บปวด มันพลิกตัวหมุนกลิ้งไปกับพื้น

หลายตลบ

“กรร! กรร!” เสียงร้องคำรามดังก้องกังวานลงมาจากท้องฟ้า

2� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

เมื่อฉางฟงได้รับหอกมารน้อยคืนสู่มือก็หุบปีกแห่งจอมมารให้ชี้ขึ้นไปด้านบน

พร้อมกับตะโกนเสียงดัง

“พันปักษา”

สิ้นเสียงตะโกน ขนนกเหล็กบนปีกก็พุ่งทะยานสาดกระจายตรงเข้าไปยังฝูงสัตว์

อสูรจระเข้บินที่กำลังโผบินลงมาสู่เบื้องล่าง

ฟิ้ว!…ฟิ้ว!…ฟิ้ว!…ฟิ้ว! เสียงขนนกเหล็กพุ่งตัดอากาศดังหวีดหวิว สัตว์อสูร

จระเข้บินสามตัวที่บินอยู่หน้าฝูงรีบพ่นบอลลมเข้าปะทะเอาไว้ก่อน

ฟ้าว!…ฟ้าว!…ฟ้าว!

บึม!…บึม!…บึม! เสียงระเบิดดังกึกก้องกลางอากาศ ขนนกเหล็กของฉางฟง

สามารถเจาะฝ่าบอลลมเข้าไปได้โดยไม่แตกกลุ่มเช่นครั้งก่อนที่เขาโจมตี

สัตว์อสูรจระเข้บินที่อยู่ด้านหน้าฝูงทั้งสามตัวเหมือนจะรู้ถึงภัยอันตรายที่จะเกิด

ขึ้น พวกมันต่างพากันหยุด สะบัดหางเข้าต่อกรกับขนนกเหล็กที่กำลังพุ่งตรงเข้ามา

เปรี้ยง! “กรร!” เสียงปะทะกันกลางอากาศดังสนั่น หางของสัตว์อสูรจระเข้บิน

ไม่สามารถต้านทานพลังการโจมตีของขนนกเหล็กที่แฝงออร่าสีทองของฉางฟงได้

เหมือนกับบอลพลังลม หางของพวกมันทั้งสามตัวถูกความคมของขนนกเหล็กเฉือน

ตัดขาดวิ่นจนเป็นแผลเหวอะหวะน่าสยดสยอง

“กรร!…กรร!”

สัตว์อสูรจระเข้บินร้องด้วยความเจ็บปวด ขนนกเหล็กยังคงพุ่งทะยานตรงเข้า

โจมตีพวกมันอย่างต่อเนื่อง

ฟิ้ว!…ฟิ้ว!...ฟิ้ว!…ฉึกๆ…ฉึกๆ…ฉึกๆ ขนนกเหล็กแฝงออร่าสีทองของฉางฟง

พุ่งเข้าโจมตีปีกของสัตว์อสูร 4 ใน 9 อย่างรุนแรง เป็นเหตุให้ปีกขนาดใหญ่คล้าย

ค้างคาวของพวกมันพรุนทะลุไปทั้งปีก ร่างอันใหญ่โตของพวกมันทั้งสี่ตัวเมื่อไม่มีปีก

คอยพยุงน้ำหนักตัวก็ร่วงหล่นลงมายังพื้นดินเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว

โครม!…โครม!…โครม!…โครม! เศษดินและเศษฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ

เมื่อสัตว์อสูรขนาดใหญ่บินตกลงมา

“ทุกคน! รีบแยกกันไปจัดการพวกมันเร็วเข้า” เทพกระบี่เวรตะไลร้องบอก

นักดาบคลั่งรักยมกับแดนที่มัวแต่ยืนมองฉางฟงเรียกสติกลับมาได้ทัน แล้วทั้ง

สองก็รีบแยกย้ายกันเข้าโจมตีสัตว์อสูรจระเข้บินเหล่านั้น

2� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ 2�

เนฟกับอินดี้ไม่ได้ตื่นเต้นตกใจกับร่างประหลาดของฉางฟงมากนัก ทั้งสองเพียง

แค่ปรายตามองฉางฟงสักพักก็หันกลับไปโจมตีสัตว์อสูรจระเข้บินซึ่งกำลังไล่ฆ่ากลุ่ม

มักกี้ที่รอดชีวิตต่อ

ฉับ! “กรร!” หลังจากใช้ความพยายามเหวี่ยง WING BAT เข้าโจมตีที่ขาหน้า

ด้านซ้ายจุดเดิมซ้ำๆ กันอยู่พักใหญ่ เนฟก็สามารถตัดขาของสัตว์อสูรจระเข้บินออกมา

ได้สำเร็จ

สัตว์อสูรจระเข้บินสะบัดตัวดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด มันพยายามใช้ขาที่

เหลืออยู่วิ่งตามไล่ล่าเนฟอย่างอาฆาตแค้น

อินดี้ซึ่งรอจังหวะอยู่แล้วสบโอกาสที่สัตว์อสูรจระเข้บินเคลื่อนไหวช้าลงรีบรุก

เข้าโจมตีขาหลังของมันบ้าง โดยฟันดาบระดับ 5 ลงไปบนแผลเดิมชนิดนับจำนวนครั้ง

ไม่ทัน

“กรร!”

เสียงร้องคำรามหลุดออกมาจากปากสัตว์อสูรจระเข้บิน มันสะบัดหางฟาดอินดี้

คืนบ้าง ภูตสาวมัวแต่โจมตีเพลิน กว่าจะเคลื่อนตัวหนีก็สายไปเสียแล้ว

ผัวะ! “โอ๊ย!” อินดี้ร้องลั่นเมื่อโดนปลายหางสัตว์อสูรจระเข้บินฟาดเข้าเต็มแผ่น

หลังจนตัวเธอกระเด็นไปกระแทกกับลำตัวสัตว์อสูรจระเข้บินอย่างแรง

โครม! “โอ๊ย!” อินดี้ร้องลั่นอีกครั้งก่อนที่ตัวเธอจะรูดลงไปกองกับพื้นดิน เนฟ

ซึ่งอยู่ห่างจากอินดี้ไม่ไกลเห็นท่าไม่ดีจึงตัดสินใจเข้ามากระชากคอเสื้ออินดี้ แล้วเหวี่ยง

เธอออกไปจากเขตอันตราย

โครม! อินดี้ฟาดกับพื้นอย่างแรงแล้วยังกลิ้งไปอีกหลายตลบ เนฟไม่มีเวลา

สนใจอินดี้ หลังจากช่วยเหลือภูตสาวสำเร็จ เขาก็รีบตวัด WING BAT ฟันลงไปบนแผล

ฉีกขาดของสัตว์อสูรจระเข้บินที่อินดี้ได้เปิดทางทิ้งไว้

หลังจากขนนกเหล็กบินตีโค้งอ้อมกลับคืนสู่ปีก ฉางฟงก็รีบพุ่งตรงเข้าไปขวาง

หน้าสัตว์อสูรจระเข้บินตัวหนึ่งที่กำลังพุ่งเข้าโจมตีกลุ่มมักกี้ ซึ่งเกาะกลุ่มกันแน่นด้วย

ความหวาดกลัว

“กรร!”

สัตว์อสูรจระเข้บินขู่คำราม ก่อนจะอ้าปากพุ่งเข้าโจมตีฉางฟงที่ยืนอยู่ด้านหน้า

2� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

ห่างจากมันไม่ไกลนัก ฉางฟงไม่ได้เกรงกลัวมันเลยแม้แต่น้อย เขายิ้มเหี้ยม หวดเท้า

ซ้ายสวนกลับไปทันที

ผัวะ! เสียงปะทะดังสนั่น ปากล่างของสัตว์อสูรจระเข้บินที่โดนเท้าฉางฟงเตะ

กระเด็นขึ้นไปกระแทกกับปากบนอย่างแรง เลือดพุ่งกระฉูดออกมาจากมุมปากทั้งสอง

ข้างของมัน

เมื่อสัตว์อสูรจระเข้บินก้มหัวต่ำลง ฉางฟงก็ถือโอกาสสปริงข้อเท้าลอยตัวขึ้นสูง

เกือบ 6 เมตร ก่อนจะสะบัดหอกมารน้อยฟาดลงบนศีรษะมันสุดแรง

โพละ! เสียงดังคล้ายกับกะโหลกศีรษะแตก

โครม! หัวของสัตว์อสูรจระเข้บินฟาดลงบนพื้นอย่างแรง ฉางฟงไม่รอช้า

พลิกตัวกลางอากาศ แล้วลอยตัวลงมาเหยียบหัวสัตว์อสูรจระเข้บินพลางยกหอกมาร

น้อยขึ้นสูง ชั่วพริบตาก็จ้วงแทงหอกลงไปบนหัวของสัตว์อสูรจระเข้บินสุดแรง

สวบ!

กะโหลกที่แข็งมากของสัตว์อสูรไม่อาจทนรับการโจมตีด้วยระดับพลังที่ 96 ได้

หอกมารน้อยจึงทะลุทะลวงเข้าไปในกะโหลกมันได้อย่างง่ายดาย ฉางฟงยิ้มเหี้ยมอย่าง

ถูกใจ แต่เมื่อเขาบังเอิญเหลือบไปเห็นบอลลมที่กำลังพุ่งตรงลงมาจากท้องฟ้าไปยังกลุ่ม

มักกี้ก็ร้องดังลั่น

“ม่าย!”

“กรี๊ดๆ” บึม!…บึม!…บึม! เสียงกรีดร้องเงียบลงทันทีเมื่อเสียงระเบิดดังขึ้น

“อ๊าก!…พวกแกตาย!” ฉางฟงอารมณ์เดือดขึ้นมาอีกครั้ง รังสีอำมหิตทะลักมา

จากร่างกายฉางฟงเต็มระดับ 96 เพื่อนๆ ที่อยู่ใกล้ๆ ต่างตกใจ ถอยห่างกันหมด

เพราะทนความอึดอัดไม่ไหว

“บ้าจริง!…ฉางฟงมันระดับไหนกันวะเนี่ย”

เทพกระบี่เวรตะไลบ่นขณะดีดตัวออกห่างจากสัตว์อสูรจระเข้บินตัวหนึ่งที่เขา

โจมตีมันจนบาดเจ็บสาหัส ขยับไปไหนไม่ได้แล้ว

แดนเป็นคนแรกที่ถอยออกมายืนดูห่างๆ เขาจ้องมองฉางฟงหน้าซีดเผือด

“รังสีอำมหิตรุนแรงขนาดนี้ เกิน 85 ไปแล้วแน่เลย” แดนพูดขึ้น

“ฉันว่ารีบเผ่นไปยืนดูไกลๆ ก่อนดีกว่านะ ฉางฟงมันโมโหฟิวส์ขาดแบบนี้เป็น

เรื่องใหญ่แน่” นักดาบคลั่งรักยมพูดจบก็รีบถอยหนีห่างจากฉางฟงไปเป็นคนแรก

2� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ 2�

“ทุกคน! มาช่วยมักกี้ที่รอดก่อน”

อินดี้ซึ่งไม่ได้บาดเจ็บมากนักตะโกนขึ้นเมื่อพบว่ามีมักกี้ 5 นางรอดชีวิตจาก

การโจมตีอันโหดร้ายของสัตว์อสูรจระเข้บิน

นักดาบคลั่งรักยม เทพกระบี่เวรตะไล และแดนได้ยินเสียงเรียกจึงรีบเข้าไปอุ้ม

มักกี้ที่รอดชีวิตพาหนีออกไปจากบริเวณนั้น

“พวกแกตาย!”

“FIRE BALL CARD”

ฉางฟงเรียกใช้การ์ดบอลเพลิง 2 ครั้งซ้อน ชั่วพริบตาบอลเพลิงขนาดใหญ่ก็ผุด

ขึ้นมาจากกลางฝ่ามือทั้งสองข้างของเขา

“ATTACK”

สิ้นคำสั่งโจมตี บอลเพลิงก็พุ่งเข้าทำลายสัตว์อสูรจระเข้บินสองตัวที่ได้รับบาด

เจ็บเคลื่อนไหวไม่ได้อย่างรวดเร็ว

บึม! บึม! เสียงระเบิดดังกึกก้องกัมปนาท สัตว์อสูรจระเข้บินถึงกับกระเด็นพลิก

หงายท้อง มีควันพวยพุ่งออกมาจากร่างกายของมันทั้งสองมากมาย

ฉางฟงเลิกสนใจสัตว์อสูรจระเข้บินที่ดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้น เขาเรียกบอลเพลิง

ออกมาเพิ่ม ก่อนจะขว้างไปทั่วบริเวณโดยไม่เลือกตำแหน่ง

“ตูว่าแล้ว!…นี่ถ้าพวกเราออกมาช้ากว่านี้อีกนิด โดนเผากันหมดกลุ่มแน่”

เทพกระบี่เวรตะไลพูดขึ้นหลังจากหนีมาไกลจากที่เกิดเหตุเกือบ 80 เมตร

แดนมองฉางฟงอย่างทึ่งๆ เขาพูดอะไรไม่ออกจริงๆ ในสมองของเขาตอนนี้

วุ่นวายไปหมด ข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับฉางฟงผุดขึ้นมาไม่หยุดหย่อน

“เนฟ อีกนานไหม ฉางฟงมันถึงจะหยุดบ้า” นักดาบคลั่งรักยมเอ่ยปากถามขึ้น

“ฆ่าสัตว์อสูรหมดเมื่อไหร่ ก็คงหายบ้าเอง”

เนฟตอบส่งๆ ไป ทั้งๆ ที่เขาเองก็รู้ว่าอีกไม่เกิน 5 นาที ฉางฟงก็จะน็อกไปตาม

ระเบียบ

“อ๊าก!”

ฉางฟงตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ตาสีแดงสดทอประกายสว่างไสวมองดูน่ากลัวยิ่งนัก

เปลวเพลิงที่เกิดจากบอลเพลิงลุกไหม้ลามไปทั่วบริเวณอย่างรวดเร็ว ทำให้รอบร่างกาย

ของฉางฟงเต็มไปด้วยเปลวไฟ สัตว์อสูรจระเข้บินระดับราชาที่นอนอยู่บนพื้นถึงแม้จะ

30 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

ยังไม่ตาย แต่พวกมันก็ยังคงดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดเมื่อโดนไฟจากบอลเพลิง

แผดเผาซ้ำ

“กรร!…กรร!”

เสียงร้องคำรามดังลงมาจากบนท้องฟ้า บอลลม 5 ลูก ที่ออกมาจากปากสัตว์

อสูรจระเข้บินพุ่งเข้าจู่โจมฉางฟงอย่างรวดเร็ว

“ฉางฟงระวัง!” นักดาบคลั่งรักยมตะโกนบอก แต่ฉางฟงไม่ได้สนใจเสียงร้อง

เตือนของนักดาบคลั่งรักยมเลย เขายังคงยืนหยัดอยู่ที่เดิม ไม่เคลื่อนไหวไปไหน มีเพียง

ปีกแห่งจอมมารทั้งสองข้างที่เคลื่อนไหวโค้งอ้อมมาปกป้องร่างกายของฉางฟงไว้

บึม!…บึม!…บึม!…บึม!…บึม! เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ฝุ่นควันฟุ้งกระจาย

ออกไปรอบตัวฉางฟง กลุ่มเพื่อนๆ ที่ยืนดูอยู่ต่างจ้องมองเขาด้วยหัวใจระทึก

“จะเดี้ยงไหมเนี่ย ยืนรับตรงๆ เลย” เทพกระบี่เวรตะไลเอ่ยปากขึ้นลอยๆ

“คงไม่เป็นไรมากหรอก นายอย่าลืมสิ ฉางฟงใส่ชุดเกราะแห่งจอมมารอยู่”

“ถึงฉางฟงจะสวมใส่เกราะแห่งจอมมารก็เถอะ เขาก็ไม่ควรประมาทยืนรับบอล

ลมของสัตว์อสูรระดับราชาตรงๆ เช่นนี้นะรักจัง”

เทพกระบี่เวรตะไลแย้งขณะจ้องมองเข้าไปในกลุ่มควันที่ปกคลุมรอบร่างกาย

ของฉางฟง

แดนยังคงอยู่ในอารมณ์ทึ่งอึ้งกับสิ่งที่ได้เห็น

‘ระดับพลังสูงส่งอะไรเช่นนี้’

แดนคิดในใจ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่กลุ่มควันรอบตัวของฉางฟงจางหายไป ทุก

คนต่างสังเกตเห็นว่ารอบๆ ตำแหน่งที่ฉางฟงยืนอยู่ จากที่เคยเป็นพื้นราบเรียบกลับ

กลายเป็นหลุมลึกเกือบ 1 ฟุต

ฉางฟงกระพือปีกพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว สัตว์อสูรจระเข้บินดู

จะตกใจมากเมื่อเห็นว่าศัตรูกลับสามารถบินขึ้นมาหามันได้ พวกมันต่างบินแตกกระเจิง

ออกไปคนละทาง

“จะหนีไปไหน…ตาย!”

ฉางฟงกล่าวเสียงเย็น ขว้างหอกมารน้อยไปยังสัตว์อสูรจระเข้บินตัวหนึ่งที่กำลัง

บินฉีกออกไปทางด้านขวา

“สวบ!”

30 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ 31

คมหอกแทงลึกเข้าไปบริเวณกลางลำตัวของมัน สัตว์อสูรจระเข้บินร้องโหยหวน

จากที่เคยบินอย่างคล่องแคล่วก็กลับบินเอียงไปเอียงมา พร้อมกับลดระดับเพดานบิน

ลงต่ำไปเรื่อยๆ

“กลับมามารน้อย”

ฉางฟงตะโกนขณะกระพือปีกบินไล่ตามจี้ติดสัตว์อสูรจระเข้บินอีกสองตัวที่

พยายามบินตีโค้งหนีการไล่ล่าของเขา

“หมับ!”

หอกมารน้อยพุ่งเข้าสู่มือฉางฟงอย่างแม่นยำอีกครั้ง ฉางฟงควงหอกมารน้อย

เป็นวงกลม เพื่อเพิ่มระดับกำลังการโจมตี เมื่อสบโอกาสที่เขาเคลื่อนเข้าใกล้สัตว์อสูร

จระเข้บิน ฉางฟงก็ฟาดหอกมารน้อยลงบนตัวมันเต็มกำลัง

ผัวะ! “กรร!”

ด้วยพละกำลังฟาดเต็มพิกัดระดับ 96 สัตว์อสูรจระเข้บินเสียหลัก หมุนควง

สว่าน ตกลงไปบนพื้นดินทันที

โครม! สัตว์อสูรจระเข้บินตกลงมากระแทกพื้นดังสนั่นหวั่นไหว เศษฝุ่นและดิน

บนพื้นฟุ้งกระจายขึ้นมาในอากาศหลายสิบเมตร ฉางฟงหันกลับไปมองสัตว์อสูรอีกตัวที่

กำลังบินโฉบลงมาเบื้องล่าง เพื่อพุ่งเข้าโจมตีกลุ่มของนักดาบคลั่งรักยม

“ตาย!” ฉางฟงกล่าวจบก็ขว้างหอกมารน้อยในมือตรงไปยังสัตว์อสูรจระเข้บิน

ตัวนั้นอย่างรวดเร็ว

ฉึก! แม่นเหมือนจับวาง หอกมารน้อยฝังลึกลงไปบนแผ่นหลังของมันเกือบครึ่ง

ด้าม สัตว์อสูรจระเข้บินสะดุ้งเฮือก และกู่ร้องด้วยความเจ็บปวด ทันทีที่ฉางฟงตามมา

ถึง เขาก็ยกเท้าซ้ายขึ้นสูง และหวดลงไปยังปลายด้ามหอกสุดแรงเกิด

เปรี้ยง! ส้นเท้าฉางฟงฟาดโดนด้ามหอกเสียงดังสนั่น และเมื่อได้รับแรงส่ง

มหาศาล หอกก็พุ่งทะลวงเข้าไปใต้ท้องด้านหน้าของสัตว์อสูรจระเข้บิน

“กรร!”

สัตว์อสูรจระเข้บินกู่ร้องด้วยน้ำเสียงโหยหวนอีกครั้ง และแทบจะเป็นการ

ประสานเสียงกับกลุ่มนักดาบคลั่งรักยมที่ยืนมองอยู่ด้านล่าง

“เฮ้ย!…หลบหอกเร็วเข้าพวกเรา”

สิ้นเสียงนักดาบคลั่งรักยม ทุกคนต่างกระโดดพุ่งกระจายไปคนละทาง

32 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

ตูม! หอกมารน้อยเสียบลงไปบนพื้นกลางวงที่ทุกคนยืนอยู่ก่อนหน้านี้เสียงดัง

สนั่นหวั่นไหว หอกมารน้อยจมลึกลงไปเกือบสุดด้าม ทุกคนต่างกลืนน้ำลายดังเอื๊อกเมื่อ

คิดว่าถ้าพวกเขาคนใดคนหนึ่งเกิดเผลอยกอาวุธของตัวเองขึ้นต้านรับไว้ พวกเขาจะได้

รับบาดเจ็บขนาดไหน

โครม! สัตว์อสูรอีกตัวตกลงมาจากท้องฟ้า ทำให้ทุกคนได้สติหันกลับไปมอง

ฉางฟงอีกครั้ง

“อ๊าก”

เสียงร้องของฉางฟงดังสะท้านไปทั่วท้องฟ้า ออร่าสีทองกับรังสีอำมหิตแผ่พุ่ง

สะกดทุกคนจนหายใจไม่ออก สัตว์อสูรจระเข้บินที่ยังมีสภาพแข็งแรงอีกสองตัว เมื่อได้

รับแรงกดดันจากรังสีอำมหิตมากๆ ก็พากันบินหนีไป

“จะหนีไปไหน! มารน้อยกลับมา” ฉางฟงร้องลั่น ทันทีที่หอกมารน้อยพุ่งกลับสู่

มือ เขาก็กระพือปีก รีบบินไล่ตามสัตว์อสูรทั้งสองตัวไปอย่างรวดเร็ว

“เฮ้ย! ฉางฟง อย่าตามพวกมันไปสิ” นักดาบคลั่งรักยมตะโกนบอก

“ทุกคนอยู่ที่นี่นะ เดี๋ยวฉันจะตามฉางฟงไปเอง” เนฟไม่รอช้า รีบลอยขึ้นไปบน

ยอดไม้อย่างรวดเร็ว

“ฉันไปด้วย เนฟ” อินดี้ตะโกนบอก เนฟหันกลับมาส่ายหน้า

“เธอยังต้องดูแลพวกมักกี้ อยู่ที่นี่แหละ เรื่องฉางฟงเดี๋ยวฉันจัดการเอง” เนฟ

กล่าวจบก็มุ่งตามฉางฟงไปทันที

“โห! ดูฉางฟงมันทำสิ จะฆ่าสัตว์อสูรทั้งทีก็ไม่ยอมฆ่ามันให้ตาย ทิ้งให้พวกเรา

ลำบากอีกแล้ว” เทพกระบี่เวรตะไลบ่นอุบขึ้นมาหลังจากเนฟจากไปแล้ว

“ใช่ ฉางฟงมันบ้าสุดยอดจริงๆ แทนที่จะฆ่าสัตว์อสูรพวกนี้ให้ตายไปดีๆ มัน

กลับทำให้พวกมันบาดเจ็บสาหัส แล้วเผ่นหนีไปเล่นงานตัวอื่นเฉยเลย”

นักดาบคลั่งรักยมกล่าวขึ้นอย่างเซ็งๆ เมื่อคิดได้ว่าตัวเองจะต้องฝ่าทะเลเพลิง

เพื่อไปสังหารสัตว์อสูรจระเข้บินด้านใน

“บ่นไปก็เท่านั้นแหละ รีบจัดการให้เสร็จๆ ดีกว่าทุกคน”

เทพกระบี่เวรตะไลตัดบท หลังจากนั้น เขา นักดาบคลั่งรักยม และแดนต่างก็พา

กันบุกเข้าไปในทะเลเพลิงอีกครั้ง เพื่อจัดการสัตว์อสูรจระเข้บินที่ยังไม่ตายและกำลัง

คลานหนีเปลวเพลิงที่ลุกไหม้อยู่รอบตัวพวกมัน

32 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ 33

เมืองจงหนาน

ขณะที่ฉางฟงกำลังสู้อยู่กับสัตว์อสูรจระเข้บิน แก้ว หญิงสาวปริศนาที่ฉางฟง

รู้จักนั่งเล่นอยู่บนชั้นสองในร้านอาหารราคาสูงลิบลิ่วอย่างเดียวดาย โดยมีแมวอยู่บนตัก

แต่สีหน้าของหญิงสาวดูจะพึงพอใจมากที่ได้อยู่เพียงลำพังกับสัตว์เลี้ยงของเธอ

ตึง! ตึง!

เสียงฝีเท้าคนวิ่งอย่างรีบเร่งขึ้นมาบนชั้นสองทำให้แก้วที่กำลังนั่งทอดอารมณ์ชม

สวนซากุระสวยด้านล่างต้องปรายตาหันกลับไปมองตามเสียง

“ท่านรองครับ มีข่าวด่วนครับ” สมาชิกกิลด์ GODSEVEN คนหนึ่งที่วิ่งกระหืด

กระหอบขึ้นมากล่าวขึ้น

“มีอะไรหรือ” แก้วถามเสียงเรียบ

“สายสืบของเราที่ซุ่มอยู่ทุกเส้นทางสืบพบว่ามีกลุ่มชาวยุทธ์น่าสงสัยหลายสิบ

คนกำลังมุ่งหน้าออกไปจากเมืองจงหนานครับ”

“กลุ่มชาวยุทธ์หรือ…ฉันก็นั่งอยู่แถวนี้ตั้งแต่เช้า ส่วนใหญ่ก็เห็นแต่ชาวยุทธ์

เดินทางสัญจรไปมาเป็นปกติ ไม่เห็นมีอะไรผิดสังเกตเลย” แก้วตอบตามความจริงที่เธอ

ได้เห็นมา

“เหตุที่ท่านรองสังเกตไม่พบ เพราะว่าพวกมันน่าจะนัดรวมตัวกันนอกเมือง

พวกเราถึงจับสังเกตพวกมันไม่ได้ ล่าสุดที่สายได้รายงานมา พวกมันจับกลุ่มเล็กๆ ออก

เดินทางโดยทิ้งระยะห่างกันเป็นช่วงๆ”

“พวกนั้นกำลังเดินทางมุ่งหน้าไปไหนหรือ” แก้วถามขึ้นอย่างสงสัย

“ถ้าคำนวณจากทิศทาง ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะมีเป้าหมายที่เมืองหูกวงและ

เดินทางต่อไปยังโซหยงครับ”

“โซหยงหรือ”

“ครับ…ไม่ผิดพลาดแน่ครับ เพราะเมืองโซหยงคือเมืองที่ผู้บัญชาการซางอี้สั่งให้

สมาชิกส่วนหนึ่งเคลื่อนกำลังพลไปแล้วครับ”

“หมายความว่า พวกเขากำลังเดินทางไปรวมกลุ่มกับกิลด์ในเมืองโซหยง เพื่อ

โจมตีพวกเราสินะ”

“เกรงว่าจะเป็นเช่นนั้นครับ ท่านรอง”

“พวกเขาเป็นคนของกิลด์ไหนหรือ” แก้วถามต่อ

34 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

“ไม่ใช่กิลด์ แต่เป็นคนของสมาคมเปาเปียวครับ”

“หือ!…สมาคมเปาเปียว? ”

“ใช่ครับ เมื่อพวกเราได้ตรวจสอบในทางลับจึงพบว่า สมาชิกสมาคมเปาเปียว

ในเมืองจงหนานหายตัวไปจำนวนหนึ่ง”

“สมาคมเปาเปียว ตามประวัติไม่ได้มีความเชื่อมโยงกับเมืองโซหยงเลยสักนิด

แล้วพวกมันจะไปช่วยพวกนั้นทำไมกันนะ” แก้วถามขึ้น ก่อนที่จะนิ่งคิดเป็นเวลานาน

“ต้องการให้พวกผมนำคนไปสกัดขัดขวางหรือลอบโจมตีพวกมันไหมครับ”

“ไม่ต้องหรอก พวกเรายังไม่รู้แน่ชัดว่าพวกมันจะไปไหนกันแน่ ถ้าเราเปิดศึกกับ

สมาคมเปาเปียวตอนนี้ แผนที่ซางอี้วางไว้คงพังทลายไม่มีชิ้นดี”

“หมายความว่า ท่านรองจะปล่อยพวกมันไปหรือครับ”

“อืม…เอาเป็นว่า ผู้เล่นกลุ่มนี้ฉันจะเป็นคนติดตามความเคลื่อนไหวของพวกมัน

เอง” แก้วพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“เมื่อท่านรองตัดสินใจจะตามงานนี้เอง ผมก็คงต้องขอตัวไปทำงานอื่นก่อนนะ

ครับ” สมาชิกกิลด์ GODSEVEN พูดจบก็รีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

แก้วก้มหน้าลงมองซาร่า กล่าวเสียงเบาหวิวว่า “ไปกันเถอะซาร่า งานนี้อาจมี

อะไรสนุกๆ ให้พวกเราทำก็ได้นะ”

แก้วอมยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเหินออกจากร้านอาหารชั้นสอง ลอยไปตามหลังคา

โรงเตี๊ยมอย่างรวดเร็ว โดยจุดมุ่งหมายปลายทางของหญิงสาวคือกลุ่มของเสี่ยวหลงเปา

นั่นเอง

หลังจากที่เนฟไล่ตามฉางฟงไปไม่กี่ร้อยเมตร เขาก็พบว่าฉางฟงได้ใช้หอก

มารน้อยไล่แทงสัตว์อสูรจระเข้บินทั้งสองตัวจนตกลงมาบนพื้นดิน

โครม! โครม! สัตว์อสูรร่างใหญ่ยักษ์ตกลงสู่พื้นดินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวสอง

ครั้งติดกัน

“ตาย!”

ฉางฟงตะโกนดังลั่น เขาโผบินไต่ระดับความสูงขึ้นไปอีกหลายสิบเมตร หลังจาก

นั้นจึงกลับตัว ชี้ปลายหอกมารน้อยลงต่ำ ก่อนจะพุ่งลงมาจากท้องฟ้าด้วยความเร็วสูง

เขากางปีกแห่งจอมมารออกเล็กน้อย ทำให้ร่างของเขาหมุนควงสว่านด้วยความเร็วสูง

34 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ 35

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฉางฟงแหวกอากาศราวกับจรวดขีปนาวุธตกลงจากท้องฟ้า โดยมี

เป้าหมายที่สัตว์อสูรจระเข้บินเคราะห์ร้ายที่อยู่ด้านล่าง

บึม! เสียงปะทะกึกก้องกัมปนาท ฉางฟงควงสว่านเจาะเข้าไปบริเวณกลางหลัง

สัตว์อสูรจระเข้บิน พลันชิ้นส่วนอวัยวะของสัตว์อสูรตัวนี้ก็กระจายไปทั่วบริเวณ กลิ่น

คาวเลือดเหม็นคลุ้ง เนฟซึ่งเพิ่งตามมาถึงต้องรีบใช้มือปิดจมูกไว้

“ฉางฟง!”

เนฟตะโกนเรียก แต่เขาไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากฉางฟง

เมื่อสัตว์อสูรจระเข้บินอีกตัวที่ได้รับบาดเจ็บมีกำลังเพียงพอ มันก็รีบคลานหนี

ไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว

เนฟไม่สนใจมัน เขากวาดตาสำรวจไปทั่วบริเวณเพื่อมองหาฉางฟง แต่นอกจาก

ซากศพขนาดใหญ่ เขาก็ไม่เห็นร่างของมนุษย์เลย

“ฉางฟง!…นายอยู่ที่ไหน”

เนฟตะโกนถามอยู่หลายครั้ง แต่เขาก็ยังคงไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมาเช่นเคย

“คงต้องลองมองจากที่สูง น่าจะพบเบาะแสของฉางฟงบ้าง” เนฟพูดจบก็ไต่ขึ้น

ไปบนต้นไม้ เพียง 10 วินาที เนฟก็มายืนอยู่เหนือยอดไม้ เขากวาดสายตามองลงไป

เบื้องล่างอีกครั้ง

“โห!…โดนเจาะเข้ากลางหลัง ตายได้สยองจริงๆ” เนฟพูดเบาๆ กับตัวเอง ก่อน

ที่ภูตหนุ่มจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“หรือว่า!…” เนฟพูดค้างไว้ และชั่วพริบตาเขาก็ลงมาจากต้นไม้ สลับเท้าท่า

พิสดาร ร่อนขึ้นกลางอากาศไปเหยียบซากศพสัตว์อสูรจระเข้บิน ซึ่งโดนเจาะแผ่นหลัง

จนเป็นรูเหวอะหวะขนาดใหญ่ เนฟเดินตรงเข้าไปใกล้รูนั้นทันที

“เฮ้ย! ฉางฟง” เนฟอุทานอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าฉางฟงอยู่ในซากสัตว์อสูร และ

จมลึกลงไปเกือบทั้งร่าง เหลือเพียงข้อเท้าข้างละ 1 คืบเท่านั้น

“แย่ละสิ ดันหมดสติท่านี้ เกิดหายใจไม่ออกนานๆ ตายก่อนจะฟื้นพอดี”

เนฟรีบกระโจนร่างลงไปในหลุมของซากสัตว์อสูรจระเข้บินขนาดใหญ่ และดึงขา

ฉางฟงขึ้นมาสุดแรง

“เง่ะ!…ติดหนึบ ดึงไม่ขึ้น”

เนฟไม่รอช้า เขารีบใช้ด้าม WING BAT ขุดดินรอบตัวฉางฟงออกทันที เนฟใช้

3� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

เวลาเกือบ 5 นาที จึงสามารถดึงตัวฉางฟงที่เต็มไปด้วยเศษดินขึ้นมาได้

“เฮ้อ! นึกว่าจะไม่ทันเสียแล้ว เกิดฉางฟงตายขึ้นมา ยายภูตพวกนั้นเล่นงานเรา

หนักแน่”

เนฟพูดจบก็ยกฉางฟงขึ้นแบกบนบ่า พร้อมกับสปริงข้อเท้าลอยตัวออกจาก

ซากศพสัตว์อสูรอย่างรวดเร็ว เนฟไม่ได้พาฉางฟงเดินทางกลับไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ

เลย เพราะเขาจำเป็นต้องทำให้ฉางฟงฟื้นคืนสติขึ้นมาก่อน เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเล่า

เรื่องราวต่างๆ ให้ทุกคนฟัง

บริเวณทะเลเพลิงที่ฉางฟงได้สร้างปัญหาก่อนที่จะชิ่งหนีไป ไฟที่เคยลุกโชน

เริ่มดับลงบางส่วนแล้ว เหล่าสัตว์อสูรจระเข้บินถูกนักดาบคลั่งรักยม เทพกระบี่เวรตะไล

และแดนสังหารสิ้น ส่วนอินดี้นั่งเหม่อมองกลุ่มมักกี้ที่เหลือรอดเพียง 5 นางอย่าง

เศร้าสร้อย

“นี่…ใครก็ได้ในกลุ่มเราช่วยไปปลอบใจอินดี้หน่อยสิ”

นักดาบคลั่งรักยมพูดขึ้นขณะนั่งคุยอยู่กับสองหนุ่มเพื่อฆ่าเวลาระหว่างรอ

ฉางฟงกลับมา

“ฉันไม่มีศิลปะด้านการพูดจาปลอบคนว่ะ” แดนรีบออกตัวแต่เนิ่นๆ

นักดาบคลั่งรักยมหันไปมองเทพกระบี่เวรตะไลคล้ายกับจะบอกว่านายคือความ

หวังสุดท้าย

“ชิ…เรื่องง่ายๆ ฉันมันมือโปร...ระดับตำนานด้านนี้อยู่แล้ว”

เทพกระบี่เวรตะไลแกล้งคุยโว แล้วก็ลุกขึ้นเดินไปนั่งข้างอินดี้ สักพักจึงกล่าวว่า

“อินดี้ ฉันว่าเหลือรอดมาแค่นี้ก็บุญแล้ว…มักกี้ที่เธอมีอยู่ตายๆ ไปบ้างก็ดีนะ

จะได้ลดภาระของเธอลงไง อินดี้ไม่ดีใจหรือ พวกฉันออกจะดีใจเห็นปะ”

นักดาบคลั่งรักยมกับแดนแทบจะหัวทิ่มเมื่อได้ฟังคำปลอบประโลมของเทพ

กระบี่เวรตะไล

“เง่ะ…มันไปปลอบหรือไปยั่วโมโหวะนั่น”

สองหนุ่มรีบหันหน้าหนีทันทีเมื่อเทพกระบี่เวรตะไลชี้มาทางพวกเขา

เมื่ออินดี้ได้ยินเทพกระบี่เวรตะไลพูดอย่างนั้นก็มองเทพกระบี่เวรตะไลด้วย

สายตาไม่พอใจทันที

3� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ 3�

“นายพูดแบบนี้จะหาเรื่องกันใช่ไหม”

“หาเรื่องตรงไหน! ฉันปลอบใจเธอต่างหาก” เทพกระบี่เวรตะไลพูดหน้าตาย

“ปลอบใจ?” อินดี้ทวนคำพร้อมกับทำหน้าเบื่อโลก

“เอางี้ดีกว่า ถ้าอยากได้เพิ่ม เดี๋ยวพวกฉันจะพาเธอย้อนกลับไปสอยมักกะลีผล

มาทดแทนของเดิมอีกสัก 100 คนดีไหม”

เทพกระบี่เวรตะไลแกล้งพูดดังๆ จนสองหนุ่มที่หันหน้าหนีไปทางอื่นตาเหลือก

โพลง รีบหันกลับมาจ้องมองทั้งสองทันที

“ตายละ!…ไลจังพูดอย่างงี้ก็ต้องฝ่าดงงูอีกเที่ยวน่ะสิ” นักดาบคลั่งรักยมเอ่ย

ปากเสียงเบา แดนพยักหน้าแล้วยิ้มแห้งๆ โดยไม่ได้กล่าวอะไรต่อ

“ไม่ละ ฉันไม่อยากเสียเวลาเดินทาง” อินดี้พูดขึ้นหลังจากนิ่งคิดอยู่นาน

นักดาบคลั่งรักยมกับแดนถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่ออินดี้ปฏิเสธความ

หวังดีของเทพกระบี่เวรตะไล

“รอดแล้วพวกเรา”

แดนเอ่ยปากขึ้นอย่างดีใจ และยื่นมือออกไปแตะกับมือนักดาบคลั่งรักยมที่ยื่น

ออกมารออยู่แล้ว สีหน้าของทั้งสองดูสดใสขึ้นเป็นกอง

“นายไปคุยกับเพื่อนนายเถอะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก ไลจัง”

“ไม่เป็นอะไรจริงๆ หรือ แต่ฉันเห็นเธอทำหน้าเศร้าอยู่นะอินดี้”

ภูตสาวถอนหายใจ “ฉันไม่ได้เสียใจเรื่องกลุ่มมักกี้มากนักหรอก แต่ฉันกำลัง

เป็นห่วงฉางฟงมากกว่า ฉันกลัวว่าสองคนนั้นจะหาทางกลับมาเจอพวกเราไม่ได้”

เทพกระบี่เวรตะไลหัวเราะเบาๆ

“เธอไม่ต้องห่วง พวกเขาฉลาดพอที่จะไม่หลงทางหรอก อีกอย่าง พวกเรามีพลุ

ไว้จุดบอกตำแหน่ง ต่อให้พระอาทิตย์ตกดิน พวกเขาก็สามารถตามหาพวกเราพบ

จนได้”

อินดี้หันไปมองเทพกระบี่เวรตะไลแล้วกล่าวว่า “อีกไม่กี่ชั่วโมงตะวันจะตกดิน

แล้ว พวกนายจะตั้งเต็นท์พักค้างแรมที่ไหนหรือ”

“แถวนี้น่าจะเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด ฉางฟงกับเนฟจะได้หาพวกเราพบ

ง่ายขึ้นด้วย”

เทพกระบี่เวรตะไลตอบยิ้มๆ ก่อนจะขอตัว ลุกขึ้นเดินกลับมาหานักดาบคลั่ง

3� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

รักยมกับแดนที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากอินดี้มากนัก

“หุๆ เป็นไง ฝีมือปลอบโยนของฉัน เยี่ยมยอดปะ”

เทพกระบี่เวรตะไลเดินมาถึงปุ๊บก็คุยโวทันที

“เยี่ยมมากเลยไลจัง แต่ถ้าเมื่อกี้อินดี้ตอบรับว่าจะกลับไปหามักกะลีผลมาเพิ่ม

จริงๆ นายจะทำไง” แดนถามขึ้นแล้วอมยิ้ม

“หุๆๆ สำหรับฉัน ไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะฉันจะตอบว่า แดนกับรักจังจะทำ

หน้าที่พาเธอกลับไปเอง ส่วนฉันจะรอฉางฟงที่นี่ ฮ่าๆ”

เทพกระบี่เวรตะไลแกล้งพูดติดตลก แต่ดูเหมือนสองหนุ่มจะไม่ขำเลยสักนิด

“โห!...โยนขี้ให้พวกฉันชัดๆ เลย” นักดาบคลั่งรักยมโวยวาย

“ฮ่าๆ ฉันแค่หยอกเล่น ยังไงพวกเราก็ไม่ได้ไปแล้วจะไปคิดมากทำไม ว่าแต่

พวกเราจะตั้งเต็นท์แถวไหนกันดี” เทพกระบี่เวรตะไลถามขึ้น

นักดาบคลั่งรักยมมองหน้าแดน ก่อนจะชี้ไปยังลานกว้างภายในป่าซึ่งพอจะตั้ง

เต็นท์ได้หลายหลัง

“อืม…แถวนั้นเหมาะทีเดียว แต่สำหรับฉันคงไม่จำเป็น เพราะฉันจะต้องออฟ

ไลน์โดยอัตโนมัติในเวลาเที่ยงคืนของวันนี้” แดนกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“เง่ะ!…ถึงไม่ได้อยู่นอนก็ต้องไปช่วยกันกางเต็นท์ ห้ามแล้งน้ำใจนะโว้ย”

เทพกระบี่เวรตะไลดักคอ แดนถึงกับหัวเราะออกมา

“โอเค…เดี๋ยวฉันจะไปช่วยกางเต็นท์ก็ได้ ฮ่าๆ”

ทั้งสามนั่งสนทนากันอีกพักใหญ่ ก่อนจะชวนกันไปตั้งเต็นท์ตามตำแหน่งที่

หมายตาเอาไว้

ห่างจากเมืองจงหนานราว 70 กิโลเมตร แก้วขี่ซาร่าวิ่งผ่านป่าหนาทึบไม่ถึง

2 ชั่วโมงก็ตามกลุ่มของเสี่ยวหลงเปาทัน

“ซาร่า คืนร่างเดิมด้วย” หญิงสาวพูดเบาๆ พริบตาแมวตัวใหญ่ก็หดเล็กลงตาม

คำสั่ง แก้วอุ้มซาร่าขึ้นมากอดไว้ในอ้อมอกอย่างรักใคร่ สักพักก็เหินขึ้นสู่ปลายยอดไม้

ด้วยท่วงท่าพลิ้วไหวและแผ่วเบา

“พวกเขาเดินทางด้วยการแบ่งกลุ่มจริงๆ ด้วยซาร่า” แก้วพูดเสียงเรียบ

3� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ 3�

‘เราจะสืบข่าวอย่างไรดีนะ ถึงจะรู้ว่าพวกเขากำลังคิดจะไปโซหยงจริงหรือเปล่า’

แก้วคิดในใจ และไม่นานเธอก็คิดอะไรดีๆ ออก

“พวกเขาไม่รู้จักเรานี่นา เข้าไปถามตรงๆ ดีกว่า”

แก้วพูดจบก็เหินลงสู่พื้นเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว แล้วเดินออกมาจากป่า ตรงไป

ยังกลุ่มคนที่เดินอยู่ไม่ไกลจากเธอมากนักด้วยท่าทางสบายๆ

เมื่อกลุ่มชายหนุ่มเห็นแก้ว ทุกคนต่างก็ตะลึงกับความสวยจนเผลอหยุดเดินไป

ชั่วขณะ แก้วหัวเราะด้วยท่าทางน่ารัก เดินตรงเข้าไปหากลุ่มผู้เล่นชายหนุ่มกลุ่มนั้นทันที

“พี่ชายจะไปไหนกันหรือคะ” แก้วเอ่ยปากถามเสียงใส

ชายหนุ่มทุกคนในกลุ่มยังคงมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างเคลิบเคลิ้มหลงใหล

“พวกเราจะเดินทางไปเมือง…อุ๊บ”

ขณะที่ผู้เล่นชายคนหนึ่งกำลังจะหลุดปาก เพื่อนชายที่อยู่ด้านข้างก็รีบเอามือ

ปิดปากเขาไว้แน่น

‘น่าเสียดายจัง อีกนิดเดียวแท้ๆ ชื่อเมืองก็จะหลุดออกมาแล้ว คิกๆ’ แก้วคิด

ในใจก่อนกล่าวว่า

“มีความลับต้องเก็บไว้สินะคะ ถึงบอกไม่ได้”

แก้วพูดตรงๆ เป็นการโยนหินถามทาง ทำให้กลุ่มชายหนุ่มหน้าถอดสี อ้ำอึ้งกัน

ไปพักใหญ่ ชายหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่มก็กล่าวว่า

“ต้องขออภัยจริงๆ ที่ไม่สามารถบอกได้ พวกเราสมาคมเปาเปียว เวลาเดินทาง

ไปค้าขายยังเมืองอื่น เส้นทางและเมืองที่จะไปต้องเป็นความลับ ห้ามบอกให้คนนอกรู้

เด็ดขาด เพราะมันเป็นกฎของสมาคมเราน่ะครับ”

“คิกๆ ถ้าลำบากใจก็ไม่ต้องบอกก็ได้ค่ะ” แก้วยังพูดเสียงหวาน พร้อมกับ

หัวเราะเสียงใสเช่นเดิม

“แล้วเธอล่ะ มาทำอะไรแถวนี้คนเดียว” ผู้เล่นคนหนึ่งเอ่ยปากถามคืนบ้าง

“เรามาเที่ยวป่าน่ะ อีกสักพักก็คงจะกลับเข้าเมืองแล้วค่ะ” แก้วตอบพลางลูบหัว

ซาร่าเบาๆ

“เสียดายจัง โชคร้ายพวกเราติดธุระค้าขายที่เมืองอื่น ไม่เช่นนั้นเธอก็คงมีเพื่อน

เดินทางกลับเข้าเมืองจงหนานแล้ว” ผู้เล่นอีกคนพูดขึ้นอย่างเสียดายสุดๆ

“ไวโ้อกาสหนา้กไ็ดค้ะ่พีช่ายทกุทา่น ขอใหพ้วกพี่ๆ เดนิทางโดยสวสัดภิาพนะคะ”

40 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

แก้วพูดพร้อมกับโบกมือให้ชายหนุ่มกลุ่มนี้ และในขณะเดินทางต่อ ทุกคนอด

ไม่ได้ที่จะหันกลับมามองแก้วที่ส่งยิ้มหวานพิมพ์ใจให้

ดูเหมือนทุกคนจะเสียดายมากที่ไม่ได้ทำความรู้จักกับสาวสวยตรงหน้าให้มาก

กว่านี้ แต่ด้วยเรื่องงานที่ได้รับมอบหมายทำให้พวกเขาจำใจต้องเดินทางต่อไป

“เฮ้อ…ไม่ได้อะไรเลย แบบนี้คงต้องดักรอถามกลุ่มใหม่” แก้วพูดจบก็เดิน

เข้าไปพักผ่อนข้างทาง เพื่อรอคอยกลุ่มผู้เล่นอีกหลายกลุ่มที่กำลังเดินทางมา

40 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

ทะเลแดง

เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง ฉางฟงยังคงนอนสลบ ไม่มีทีท่าจะฟื้นขึ้นมาเลย เนฟเห็น

ว่าพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน เขาจึงแบกฉางฟงเหินไต่ขึ้นไปนั่งอยู่บนต้นไม้สูง เพื่อ

ป้องกันสัตว์ร้ายแอบจู่โจมในตอนกลางคืน

“ฟิงเกอร์ นายอยู่หรือเปล่า...ออกมาคุยเป็นเพื่อนกันหน่อยสิวะ”

เนฟตะโกนถามอยู่หลายสิบครั้ง

“อยู่โว้ย แต่อย่าร้องดังสิ ฉันยิ่งปอดๆ อยู่ด้วย” ฟิงเกอร์พูดจบก็กระโจนออก

มาจากกระเป๋ามิติของฉางฟง

“อ้าว!...ทุกคนไปไหนกันหมด” ฟิงเกอร์ถามขึ้นทันทีเมื่อมองไปรอบตัวแล้วไม่

เห็นใคร นอกจากเนฟกับฉางฟงสองคน

“พวกเขากำลังต่อสู้อยู่กับสัตว์อสูรอีกกลุ่มน่ะ ฉันต้องรอให้ฉางฟงฟื้นคืนสติขึ้น

มาก่อน จึงจะเดินทางกลับไปรวมกลุ่มกับทุกคนได้” เนฟตอบเสียงเรียบ

ฟิงเกอร์มองดูสภาพของฉางฟงแล้วจึงถามขึ้นว่า

“ฉางฟงไปทำอะไรมาเนี่ย ถึงมีสภาพโทรมขนาดนี้ หวังว่าฉางฟงคงไม่ได้ใช้ยา

หรอกนะ” เนฟหัวเราะ

“แหม! นายนี่มันเดาแม่นจริงๆ ฟิงเกอร์ พอดีระหว่างการต่อสู้ที่ดุเดือด ฉางฟง

ใช้ยาเพิ่มพลัง เพราะเลือดขึ้นหน้าเมื่อเห็นฝูงสัตว์อสูรจระเข้บินโจมตีกลุ่มมักกะลีผล

ของเขาจนตายเกือบหมด”

“หือ…มักกะลีผลหรือ” ฟิงเกอร์ทวนคำ หน้าตาตื่น

บทที่ 3 ป่าลวงตา

42 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

“ท่าทางนายดูเป็นกังวล กลุ่มมักกะลีผลพวกนั้นมีปัญหาอะไรหรือเปล่า” เนฟ

ถามขึ้นเมื่อสังเกตเห็นท่าทางไม่สบายใจของฟิงเกอร์

“มีสิ พวกนายคงไม่รู้ว่ามักกะลีผลพวกนั้นเวลากลางวันจะเป็นเหมือนนางฟ้าที่

เปราะบาง น่าทะนุถนอม แถมว่านอนสอนง่าย แต่เวลากลางคืน พวกเธอคือสุดยอดของ

ปีศาจกระหายเลือด”

“หา!...ว่าไงนะ” เนฟร้องลั่น

“อธิบายให้ละเอียดหน่อยสิฟิงเกอร์” เนฟถามต่อด้วยน้ำเสียงตื่นตกใจ

“หมายความว่า ถ้าถึงเวลา 6 โมงเย็นเมื่อไหร่ พวกเธอจะกลายร่างเป็นปีศาจ

กระหายเลือดฆ่าไม่ตาย ร่างกายทุกส่วนของพวกเธอจะกลายเป็นอมตะ” ฟิงเกอร์พูด

พร้อมกับทำสีหน้าหวาดกลัวออกมา

“อมตะหรือ! แบบนี้ก็ซวยกันหมดน่ะสิ มีทางแก้หรือเปล่าฟิงเกอร์” เนฟถาม

เร็วจี๋

ฟิงเกอร์พยักหน้า

“รากของต้นมักกะลีผลสามารถช่วยได้ หลังจากที่พวกเธอออกจากฝัก พวก

นายจะต้องให้เธอกินรากของต้นมักกะลีผลเสียก่อน อาการของปีศาจกระหายเลือดจึง

จะไม่เกิดขึ้น และชีวิตของพวกเธอซึ่งปกติจะอยู่ได้ถึง 7 วันก็จะลดลงเหลือเพียง 1 วัน

เท่านั้น”

“นอกจากรากต้นมักกะลีผล ไม่มีวิธีอื่นอีกหรือ”

“มีเหมือนกัน แต่ฉันไม่รู้ว่ามันเรียกวิธีแก้หรือเปล่า” ฟิงเกอร์ตอบ

เนฟตากระจ่าง มีความหวังขึ้นมาทันที หลังจากพลาดหวังเรื่องรากมักกะลีผล

ไปแล้ว

“บอกออกมาฟิงเกอร์ อย่ามัวอมพะนำ” เนฟเร่งให้ฟิงเกอร์พูดออกมา

ฟิงเกอร์ถอนหายใจ

“ปกติ นอกจากสัตว์อสูรประเภทงูแล้ว สัตว์อสูรชนิดอื่นเมื่อเห็นมักกะลีผล

มันจะเข้าโจมตีทันที เพราะพวกมันรู้พิษสงความร้ายกาจของปีศาจกระหายเลือดพวกนี้

ดี”

“หา!...มิน่าล่ะ พวกสัตว์อสูรจระเข้บินถึงเลือกที่จะโจมตีกลุ่มมักกะลีผลเป็น

หลัก” เนฟร้องออกมา

42 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ 43

“วิธีแก้ที่สองก็คือ ต้องฆ่าพวกเธอก่อนจะกลายร่างเป็นปีศาจ หรือไม่ก็ต้อง

ปล่อยให้สัตว์อสูรเหล่านั้นฆ่าพวกเธอทิ้งตั้งแต่เนิ่นๆ”

ฟิงเกอร์พูดจบ เนฟก็ถึงกับหน้าซีดเผือด เพราะเขาคิดว่าโอกาสที่ทุกคนจะ

ตัดสินใจฆ่ากลุ่มมักกะลีผลที่หน้าตาน่ารักมีน้อยมาก

“งานนี้ดูท่าทุกคนจะซวย ฉันคงต้องรีบกลับไปบอกทุกคนเดี๋ยวนี้” เนฟพูดจบก็

แบกฉางฟงขึ้นบ่าทันที

“ไปกันเถอะ ฟิงเกอร์” เนฟกล่าวจบก็กระโจนลงไปยังพื้นดินเบื้องล่าง ก่อนจะ

รีบวิ่งมุ่งหน้ากลับไปยังตำแหน่งที่เขากับฉางฟงจากมา

“ฟิงเกอร์ นายช่วยจำเส้นทางแถวนี้ด้วยนะ ถ้าฉางฟงฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ เขาคง

ต้องกลับมาหาหอกมารน้อยที่หายไปแน่” เนฟกล่าวขึ้น

ฟิงเกอร์เหลือบตามองไปทั่วบริเวณป่าหนาทึบ สักพักจึงกล่าวว่า

“ฉันคงไม่จำเป็นจะต้องจดจำให้เมื่อยหรอกเนฟ เพราะนายคงไม่มีวันออกจาก

ป่าลวงตานี้ไปได้”

“หา!...ว่าไงนะ” เนฟร้องลั่น ชะงักกึกอยู่กับที่

“นายวิ่งให้ตายยังไงก็ออกจากป่านี้ไม่ได้หรอก รอให้ฉางฟงฟื้นขึ้นมาก่อนดีกว่า”

ฟิงเกอร์ย้ำ

“มันเกี่ยวอะไรกับฉางฟง” เนฟหันไปถามฟิงเกอร์ที่เกาะอยู่บนบ่าเขา

“การออกจากป่าลวงตานี้มีทางออกเพียงทางเดียว นั่นคือต้องใช้ทางอากาศ และ

คนที่บินได้นอกจากฉันก็มีแต่ฉางฟงเท่านั้น” ฟิงเกอร์พูดเสียงเรียบ

“ถ้างั้นนายบินนำไปสิ ฉันจะวิ่งตามนายเองฟิงเกอร์” เนฟพูดขึ้น

ฟิงเกอร์ส่ายหน้า

“นายจะมองเห็นฉันหรือเนฟ เพราะอย่างน้อยๆ ฉันจะต้องบินให้สูงจากพื้นดิน

ประมาณ 100 เมตร เชียวนะ จึงจะพ้นวิถีภาพลวงตาของป่า”

“เง่ะ…สูงขนาดนั้นใครจะมองเห็น เฮ้อ…นอกจากจะรอให้ฉางฟงฟื้น คงไม่มีทาง

อื่นสินะ”

เนฟพูดเสียงอ่อยแล้วถอนหายใจยาวเมื่อไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ แล้ว

ตัดสินใจเดินทางย้อนกลับไปยังตำแหน่งเดิม

44 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

ใต้ร่มไม้นอกเมืองจงหนาน หลังจากแก้วหลอกถามผู้เล่นสมาคมเปาเปียวอยู่

พักใหญ่ ในที่สุดเธอก็รู้จนได้ว่าสมาชิกสมาคมเปาเปียวกำลังจะเดินทางไปเมืองโซหยง

“เป็นไปตามที่สายสืบได้ข่าวมาจริงๆ”

แก้วพูดจบก็เหินขึ้นสู่ยอดไม้สูง เตรียมตัวใช้วิชาตัวเบากลับสู่เมืองจงหนาน แต่

แล้วเธอก็เห็นกลุ่มผู้เล่นน่าสนใจกลุ่มหนึ่งกำลังเดินใกล้เข้ามา

“ผู้หญิงคนนั้น…เสี่ยวหลงเปาจากสมาคมเปาเปียวสินะ” แก้วพึมพำพลางจ้อง

มองหญิงสาวที่กำลังเดินตรงมาทางด้านนี้ตาไม่กะพริบ กลุ่มของเสี่ยวหลงเปาที่ประกอบ

ไปด้วยโคงะ ลมศูนย์ และไอซ์ เดินตรงเข้ามายังตำแหน่งที่แก้วเคยยืนก่อนหน้านี้

อย่างช้าๆ

ดเูหมอืนไอซจ์ะตาดกีวา่คนอืน่ เธอเหน็แกว้ยนือยูบ่นยอดไม ้จงึสะกดิเสีย่วหลง-

เปาพร้อมบุ้ยใบ้ให้มองตาม

“วรยุทธ์สูงส่งมาก” ไอซ์กล่าวเสียงเนิบ

เสี่ยวหลงเปาเงยหน้าขึ้นมองแก้วทันทีหลังจากไอซ์พูดจบ เมื่อสายตาทั้งสองคน

ประสานกัน ต่างคนก็ต่างมองสำรวจฝ่ายตรงข้ามอย่างสนใจ

“เมืองจงหนานมีคนสวยขนาดนี้ด้วยหรือเนี่ย” ลมศูนย์เอ่ยปากขึ้นเมื่อเขากับ

โคงะเงยหน้ามองตามเสี่ยวหลงเปา

“ไม่ใช่สวยอย่างเดียวนะ วรยุทธ์ของเธอพวกเราก็ทาบไม่ติดด้วย” โคงะพูดต่อ

ขณะตายังคงจ้องมองแก้วตลอดเวลา

“เธอมองเสี่ยวหลงเปาอยู่นะ” ลมศูนย์พูดขึ้นเมื่อเห็นสายตาของหญิงสาวแปลก

หน้าที่ให้ความสนใจเสี่ยวหลงเปาเพียงคนเดียว

กลุ่มของเสี่ยวหลงเปาเดินต่อไปอีกไม่กี่วินาทีก็มายืนอยู่ตรงต้นไม้ที่หญิงสาว

แปลกหน้าปีนขึ้นไป

วูบ! แก้วร่อนลงมายังพื้นเบื้องล่างอย่างแผ่วเบา

“สวัสดีค่ะ พี่สาวคงชื่อเสี่ยวหลงเปาสินะ พี่สาวสวยสมคำเล่าลือจริงๆ ด้วย”

แก้วพูดด้วยน้ำเสียงหวานใส

เสี่ยวหลงเปามองสำรวจหญิงตรงหน้าสักพักจึงกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “น้อง

สาวเองก็มีใบหน้างดงาม ในยุทธภพนี้คงมีน้อยคนนักที่จะมีรูปลักษณ์โดดเด่นเช่น

น้องสาว”

44 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ 45

แก้วไล่มองไปทีละคน ก่อนจะเบนสายตากลับมามองเสี่ยวหลงเปาอีกครั้ง

“ดูท่าทางพี่สาวรีบร้อน คงมีงานสำคัญต้องรีบไปทำใช่ไหมคะ” แก้วถามด้วย

น้ำเสียงน่าฟังเช่นเคย

“สมาคมเราค้าขาย ดังนั้นการเดินทางที่รีบร้อนจึงเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว”

เสี่ยวหลงเปาตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่ตาของเธอกลับเป็นประกาย คล้าย

ค้นหาอะไรบางอย่างในดวงตาคู่สวยของหญิงสาวตรงหน้า

“พี่สาว พวกเรามีวาสนาได้พบกัน น้องสาวคนนี้อยากจะขอถามปัญหาที่ไม่

เข้าใจสักนิดได้หรือไม่คะ” แก้วถามขึ้น ขณะเดียวกันมือของหญิงสาวก็ลูบหัวของซาร่า

อย่างแผ่วเบา

ตาของเสี่ยวหลงเปาเป็นประกายวูบหนึ่งก่อนเธอจะกล่าวว่า

“ถ้าใช้เวลาไม่นานก็คงไม่มีปัญหา”

“ขอบคุณพี่สาวแสนสวยที่ยอมตอบคำถาม”

“ว่ามาสิ ถ้าพี่สาวคนนี้ตอบได้จะตอบเต็มความสามารถ”

แก้วหัวเราะเบาๆ

“สมมุติว่า ในชีวิตจริง บ้านหลังหนึ่งเกิดไฟไหม้ และบังเอิญพี่สาวเดินผ่านมา

พบ ไม่ทราบพี่สาวจะยอมช่วยเจ้าของบ้านไหม”

เสี่ยวหลงเปานิ่งคิดสักพักจึงตอบว่า

“ต้องดูก่อนว่าเจ้าของบ้านต้องการให้ช่วยหรือไม่ ถ้าพวกเขาต้องการความช่วย

เหลือจริงๆ อย่างไรเสีย ถ้าพี่สาวไม่ลำบากจนเกินไปก็คงจะช่วยพวกเขาเต็มที่”

“เป็นคำตอบที่น่าฟังมากค่ะพี่สาว ดังนั้นขอรบกวนถามพี่สาวต่อไปว่า เมื่อ

เจ้าของบ้านขอร้องจนพี่สาวต้องไปช่วยดับไฟ แต่พี่สาวกลับพบอุปสรรคว่า แหล่งน้ำอยู่

ไกล แถมยังมีถังน้ำเพียงไม่กี่ใบ พี่สาวยังคิดว่าจะช่วยพวกเขาดับไฟอีกหรือ”

เสี่ยวหลงเปาจ้องมองหญิงสาวตรงหน้า นิ่งคิดสักพักจึงกล่าวว่า

“จะดับไฟทันหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถ้าไฟลุกไหม้เพียงน้อยนิด ต่อให้น้ำ

อยู่ไกลกว่าเดิมอีกหลายสิบเมตร พี่สาวก็จะพยายามไปตักน้ำมาช่วยดับไฟให้พวกเขา”

แก้วเงยหน้าขึ้นสบตากับเสี่ยวหลงเปาแล้วกล่าวต่อไปว่า

“พี่สาวคงทนไม่ได้สินะ แม้จะรู้ดีว่าไฟที่กำลังไหม้บ้านอยู่อาจจะทำให้คานหรือ

หลังคาของบ้านถล่มลงมาทับพี่สาว”

4� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

เสี่ยวหลงเปาอมยิ้ม ตอบว่า

“ถูกแล้วจ้ะน้องสาว บางทีการดับไฟไหม้ครั้งนี้อาจไม่ได้ยากเย็นอะไรมากมาย

ดังนั้นเรื่องหลังคาบ้านหรือคานจะถล่มลงมาทับพี่สาวคนนี้ไหม คงยากจะมีใครคำนวณ

ได้”

แก้วเอามือปิดปากหัวเราะเบาๆ

“พี่สาวทั้งสวยทั้งฉลาด มิน่าถึงมีชื่อเสียงโด่งดังก้องยุทธภพ น้องสาวคนนี้หมด

คำถามแล้ว ขอให้พี่สาวเดินทางไปค้าขายต่างเมืองโดยสวัสดิภาพ น้องสาวคนนี้ติดธุระ

สำคัญบางอย่าง คงต้องขอตัวเดินทางกลับเข้าเมืองจงหนานก่อน” แก้วกล่าวเสียงหวาน

ใสเช่นเคย

เสี่ยวหลงเปายิ้มที่มุมปาก

“ขอให้น้องสาวเดินทางเข้าเมืองโดยสวัสดิภาพเช่นกัน โอกาสหน้าถ้าเจอกันใน

เมืองจงหนาน พี่สาวคนนี้จะขอเลี้ยงอาหารสักมื้อ”

“ชะตาเราผูกพันกัน ดูท่าทางพี่สาวคงจะได้เสียเงินในเร็ววันนี้นะคะ” แก้วพูด

พร้อมกับยิ้มเล็กน้อย ทำให้เธอดูน่ารักยิ่งขึ้น

“ไว้ค่อยพบกันใหม่น้องสาวคนสวย” เสี่ยวหลงเปาพูด

“เช่นกันค่ะพี่สาวคนสวย”

แก้วพูดจบก็เหินขึ้นสู่ยอดไม้ ไม่นานเธอก็ทะยานหายไปจากบริเวณนั้นอย่าง

รวดเร็ว ลมศูนย์ซึ่งยืนฟังอยู่นานแต่ไม่เข้าใจบทสนทนาของสองสาวจึงถามขึ้นว่า

“เสี่ยวหลงเปากับเธอคนนั้นคุยอะไรกันหรือ ทำไมฉันไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย”

เสี่ยวหลงเปาหันไปมองทุกคนก่อนกล่าวว่า

“เป็นเหตุการณ์สมมุติ ไม่ต้องไปสนใจหรอก ทุกคนรู้แต่เพียงว่า เวลานี้กิลด์

GODSEVEN รู้ความเคลื่อนไหวของพวกเราแล้วก็พอ”

“หา!…ว่าไงนะ” โคงะกับลมศูนย์อุทานพร้อมกัน

“เป๋าเปา อย่าบอกนะว่าคนเมื่อกี้คือผู้เล่นของกิลด์ GODSEVEN” โคงะถาม

“ถูกต้อง! หญิงสาวคนนี้เป็นผู้เล่นในกิลด์ GODSEVEN อย่างแน่นอน และ

ตำแหน่งของเธออาจจะเป็นผู้เล่นระดับสูงของกิลด์เสียด้วย เพราะดูจากวรยุทธ์ของเธอ

แล้ว ฉันมั่นใจได้เลยว่า ในหมู่ของพวกเรา 4 คน ไม่มีใครสู้เธอได้สักคน”

พอเสี่ยวหลงเปาพูดจบประโยค ทุกคนในกลุ่มต่างนิ่งเงียบ ตกอยู่ในภวังค์ไป

4� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ 4�

ชั่วขณะ

“รีบเดินทางต่อกันเถอะ พวกเราเสียเวลาที่นี่มานานหลายนาทีแล้ว”

เสี่ยวหลงเปาตัดบท หลังจากนั้นทั้งสี่ก็ออกเดินทางต่อทันที แม้ทุกคนในกลุ่มจะ

ไม่พูดอะไรกันอีก แต่ทุกคนต่างรู้ว่าสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้คงหนักหนา

สาหัสพอสมควรทีเดียว

ทะเลแดง

เวลาล่วงเลยไปจนถึง 17.50 น. ทุกคนในกลุ่มก็กางเต็นท์จนเสร็จเรียบร้อย

ไฟกองใหญ่หลายกองถูกก่อขึ้นรอบๆ บริเวณเต็นท์ เพื่อป้องกันสัตว์อสูรที่จะมา

ก่อกวนเวลาค่ำคืน

“เจ้าบ้าฉางฟงมันไปเถลไถลแถวไหนวะ ป่านนี้ยังไม่กลับมาอีก” เทพกระบี่

เวรตะไลบ่น

“นายโทรศัพท์ไปหาฉางฟงหรือยัง” นักดาบคลั่งรักยมถามขึ้น

“ติดต่อฉางฟงไม่ได้น่ะสิ เพราะก่อนหน้าที่จะลุยผ่านฝูงงูยักษ์ ฉันเห็น

ฉางฟงมันปิดระบบสื่อสาร มันให้เหตุผลว่า เสียงโทรศัพท์อาจทำให้งูตื่นขึ้นมา” เทพ

กระบี่เวรตะไลพูดขึ้นอย่างเซ็งๆ

“เฮ้อ!…ฉันว่าอย่าเพิ่งคิดอะไรมากเลย ไปนั่งเล่นรอบกองไฟกันดีกว่า อีก 1

ชั่วโมงหลังจากพระอาทิตย์ตกดิน พวกเราค่อยจุดพลุบอกตำแหน่งให้ฉางฟงกับเนฟรู้”

นักดาบคลั่งรักยมพูดจบ ทั้งสองก็ลุกขึ้นเดินไปสมทบกับอินดี้ แดน และกลุ่ม

มักกะลีผลที่นั่งเล่นกันอยู่รอบกองไฟ

“วันนี้บรรยากาศเงียบสงบดีนะ เหมาะสำหรับพักผ่อนนอนนับดาวจริงๆ” เทพ

กระบี่เวรตะไลเอ่ยปากกล่าวขึ้นเมื่อเดินมาถึงบริเวณรอบกองไฟ แดนซึ่งนั่งทอดอารมณ์

อยู่ก่อนหันมายิ้มให้เทพกระบี่เวรตะไลแล้วกล่าวว่า

“ไลจัง นายเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า คลื่นลมจะสงบก่อนพายุหนักจะเข้าหรือ

เปล่า”

“เง่ะ…อย่าพูดเป็นลางสิวะแดน” เทพกระบี่เวรตะไลบ่นอุบ

“ฮ่าๆ นายเชื่อคำพูดพวกนี้ด้วยหรือ สำหรับฉันแม้ได้ฟังมาบ้าง แต่ฉันไม่เชื่อ

เลยสักนิด คติที่ฉันเชื่อมีอยู่ว่า คลื่นลมสงบ นอนหลับสบายหายห่วง อิๆ” แดนพูดแล้ว

4� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

หัวเราะ

เทพกระบี่เวรตะไลกับนักดาบคลั่งรักยมมองแดนแล้วส่ายหน้ากับความขี้เล่น

ของเขา ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งพักบนท่อนไม้บริเวณนั้น

“อีก 5 นาทีจะ 6 โมง ฉันว่าหาอะไรกินกันเถอะ” นักดาบคลั่งรักยมพูดพร้อม

กับหยิบอาหารกระป๋องหลายชนิดออกมาจากกระเป๋ามิติ

“อาหารพวกนี้ กลุ่มมักกี้จะกินได้ไหมนะ” เทพกระบี่เวรตะไลพูดขึ้นลอยๆ

ทุกคนต่างมองหน้ากัน

“อินดี้ ลองเอาไปให้พวกเธอทดลองชิมสักกระป๋องสิ” นักดาบคลั่งรักยมโยน

อาหารกระป๋องให้อินดี้

ภูตสาวพยักหน้า เปิดฝาอาหารกระป๋องแล้วยื่นให้กลุ่มมักกี้ที่เหลือรอดเพียง

5 นาง

อินดี้พยายามใช้ภาษาใบ้สื่อสารกับพวกเธอ แต่จนแล้วจนรอดพวกเธอก็ไม่ยอม

กิน เอาแต่ส่ายหน้าและอมยิ้มอย่างเดียว

“พวกเธอไม่กินอ้ะ ทำไงดี” อินดี้หันมาพูดกับทุกคนในกลุ่ม

“ถ้าไม่กินข้าวจะอยู่กันยังไง แบบนี้ไม่ตายก่อน 7 วันหรือ” เทพกระบี่เวรตะไล

ถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ

“พวกเธอเป็นผลไม้ อาจจะกินแนวมังสวิรัติก็ได้ อิๆ” แดนพูดติดตลก

ทุกคนในกลุ่มต่างหัวเราะออกมา แต่ยังไม่ทันที่ทุกคนจะได้พูดอะไรกันต่อ

เสียงกรีดร้องก็ดังออกมาจากปากมักกี้ทั้งหมด

“กรี๊ดๆ…กรี๊ดๆ…กรี๊ดๆ”

“เฮ้!…เกิดอะไรขึ้นอีกวะเนี่ย” เทพกระบี่เวรตะไลโวยวาย ทุกคนต่างตกใจ

หันไปมองกลุ่มมักกี้กันหมด

‘ตายละ!…อย่าบอกนะว่า…พวกเธอจะกลายร่าง’ แดนถึงกับหน้าซีดเผือด

จ้องมองมักกะลีผลตรงหน้าด้วยหัวใจเต้นระทึก

“พวกเธอเป็นอะไรไป” อินดี้ถามขึ้นขณะขยับเข้าไปหามักกะลีผลที่อยู่ใกล้เธอ

ที่สุด

“กรี๊ดๆ…กรี๊ดๆ…กรี๊ดๆ”

เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาอีกครั้ง กลุ่มมักกะลีผลต่างสะบัดหน้าขึ้นจ้องมองท้องฟ้า

4� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ 4�

แดนเห็นเขี้ยวที่งอกออกมาจากมุมปากพวกเธอแล้วก็ใจหายวาบ

“ไม่ได้การแล้ว” แดนกล่าวจบก็ชักกระบี่ข้างตัวออกมา และขว้างกระบี่ใส่

มักกะลีผลนางหนึ่งอย่างรวดเร็ว

ฉึก!

กระบี่จมลึกเข้าไปในหน้าอกเธอพอดี ทุกคนต่างตกตะลึง ไม่คิดว่าอยู่ๆ แดน

จะขว้างกระบี่ใส่กลุ่มมักกะลีผล

“กรี๊ด!”

โครม! มักกะลีผลร้องสั้นๆ ก่อนจะล้มหงายหลังฟาดพื้น สิ้นใจตาย

“แดน นายทำอะไร?” อินดี้หันมาถามหน้าซีดเผือด

“ฉันไม่มีเวลาอธิบาย พวกเราจะต้องสังหารพวกเธอก่อนจะกลายร่างเดี๋ยวนี้”

แดนรีบดึงกระบี่อีกเล่มออกมาจากกระเป๋ามิติ แต่ดูเหมือนว่ามันจะสายไปเสียแล้ว

เมื่อเริ่มมีเกล็ดสีเขียวเข้มขึ้นตามร่างกายของมักกะลีผล ทุกคนต่างตกใจ รีบถอยหลัง

กรูด

“ไม่ทันกาลแล้ว ทุกคนรีบถอยออกห่างจากพวกเธอเร็วเข้า” แดนตะโกนบอก

ทุกคนรีบขยับถอยออกห่างไปอีกหลายเมตร

ตูม!…ตูม!…ตูม!…ตูม! ร่างของมักกี้ระเบิดเสียงดัง ออร่าสีดำแผ่ขยายเข้า

ปกคลุมร่างเธอไว้

“หุๆ พวกเราเตรียมกลับบ้านได้แล้ว” แดนพูดด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ

“หมายความว่าไง กลับบ้าน” เทพกระบี่เวรตะไลถามขึ้นอย่างงงๆ

แดนปรายตามองทุกคน “เอาไว้เห็นกับตา สัมผัสกับตัวเองดีกว่า”

แดนพูดจบ เสียงคอมพิวเตอร์ในหัวทุกคนก็ดังขึ้นทันที

‘ปีศาจกระหายเลือดระดับราชา ธาตุดิน B+ ระดับ 50 เตรียมจู่โจม’

‘ปีศาจกระหายเลือดระดับราชา ธาตุดิน B+ ระดับ 50 เตรียมจู่โจม’

‘ปีศาจกระหายเลือดระดับราชา ธาตุดิน B+ ระดับ 50 เตรียมจู่โจม’

‘ปีศาจกระหายเลือดระดับราชา ธาตุดิน B+ ระดับ 50 เตรียมจู่โจม’

สิ้นเสียงคอมพิวเตอร์ในหัว ทุกคนต่างก็ชักอาวุธออกมาแทบจะพร้อมเพรียงกัน

ปีศาจกระหายเลือดหน้าตาน่าเกลียด จ้องมองมายังทุกคนพร้อมกับเตรียมตัวโจมตี

ตาสีแดงก่ำ เล็บสีดำอันแหลมคม ใบหน้าที่เหี่ยวย่น และฟันที่งอกยาวออกมาบริเวณมุม

50 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

ปากทำให้ทุกคนที่ไม่เคยเห็นตกใจ

“หุๆ มี 4 ตัว เลือกไปจัดการคนละตัวเลยนะ แล้วพวกนายจะต้อง

อึ้ง…ทึ่ง…และเสียวซ่านสุดๆ เมื่อได้สู้กับพวกมัน…เอ่อ…ฉันขอบอกอีกอย่าง ถ้าพวก

นายเบื่อสู้กับพวกมันเมื่อไหร่ ก็รีบใช้แผ่นยันต์กลับเมืองเลยนะ ไม่ต้องรอคนอื่น” แดน

พูดจบก็พุ่งเข้าไปหลอกล่อปีศาจตัวหนึ่งให้ตามเขาไป

ถึงแม้ทุกคนจะไม่เข้าใจในสิ่งที่แดนพูด แต่พวกเขาก็หลอกล่อปีศาจกระหาย

เลือดไปประกบสู้เป็นคู่ๆ

แดนวิ่งล่อปีศาจกระหายเลือดออกมาที่มุมหนึ่งของกองไฟ ดึงกระบี่ออกจาก

ฝักเตรียมบุกโจมตีเต็มกำลัง

“ฉันไม่เชื่อหรอกว่าแกจะไม่มีจุดอ่อน และเป็นอมตะ” แดนสะบัดกระบี่ไปยัง

ร่างเป้าหมายอย่างรวดเร็ว

ปีศาจกระหายเลือดแสยะยิ้มเหี้ยม ฟาดกรงเล็บเข้าต่อต้านทันที

“ชิ! จะใช้กรงเล็บเล่นงานฉันหรือ” ชั่วพริบตากระบี่ในมือของแดนที่แทงตรง

กลับเปลี่ยนทิศทางเป็นตวัดเฉียงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ฉับ! “กี๊ซ” คมดาบเฉือนข้อมือปีศาจกระหายเลือดขาดสะบั้น มันร้องลั่นและ

กระโดดถอยออกห่างพร้อมกับสะบัดมือไปมาด้วยความเจ็บปวด แดนเหลือบตามองไป

ยังมือที่ตกอยู่ที่พื้นด้วยสายตารังเกียจยิ่ง

“กี๊ซ!” ปีศาจกระหายเลือดร้องเสียงดัง ชั่วเวลาไม่กี่วินาที มือที่ตกอยู่บนพื้นก็

เริ่มขยับเคลื่อนไหว พุ่งกลับเข้าไปหาข้อมือของปีศาจกระหายเลือดราวกับมีแม่เหล็ก

ดึงดูด

“วันนี้ฉันจะลองสับแกเป็นชิ้นๆ ดูซิ ฉันอยากรู้เหมือนกัน แกจะยังคงฟื้นคืนชีพ

ได้อีกไหม” แดนคำรามเสียงเหี้ยม ก่อนจะพุ่งกระบี่เข้าโจมตีปีศาจกระหายเลือดอีกครั้ง

ด้านเทพกระบี่เวรตะไล หลังจากใช้ท่ากระบี่อันรวดเร็วบุกโจมตีปีศาจกระหาย

เลือดจนมันได้แผลฉกรรจ์เหวอะหวะทั่วตัว เลือดสดๆ ไหลทะลักออกจากแผลบริเวณ

ท้องของมัน ทำให้ลำไส้ไหลทะลักออกมากองบนพื้นดิน

“ไม่เห็นจะเก่งตรงไหนเลย…แทงไม่กี่ทีก็เละซะแล้ว” เทพกระบี่เวรตะไลพูดขึ้น

50 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ 51

พร้อมกับเก็บกระบี่เข้าฝัก แล้วมองปีศาจกระหายเลือดเพื่อดูวาระสุดท้ายของมัน

อีกครั้ง

“หา!…มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย”

เทพกระบี่เวรตะไลอุทานเสียงหลงเมื่อเห็นลำไส้ที่ไหลออกมากองอยู่บนพื้นก่อน

หน้านี้ เริ่มเคลื่อนที่ไหลกลับเข้าไปภายในช่องท้องของมันเช่นเดิม บาดแผลที่เคยสาหัส

กลับจางหายไป ไม่เห็นแม้แต่ริ้วรอย

“ไม่จริง! เป็นไปได้ไง”

เทพกระบี่เวรตะไลเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ เพราะตั้งแต่เล่นเกมมา เขายัง

ไม่เคยพบเห็นปีศาจชนิดไหนในเกมยุทธภพทำได้แบบนี้มาก่อน

“กี๊ซ!”

ปีศาจกระหายเลือดส่งเสียงขู่คำรามครั้งหนึ่ง ก่อนจะดีดตัวพุ่งเข้าหาเทพกระบี่

เวรตะไล เขารีบยกกระบี่ขึ้นตั้งรับไว้เมื่อเห็นกรงเล็บสีดำเหวี่ยงเข้ามายังร่างของเขา

เช้ง!…แก๊งๆ…แก๊งๆ กรงเล็บปะทะกับกระบี่ดังถี่ยิบ เทพกระบี่เวรตะไลไม่

สามารถตั้งรับด้วยกระบี่เพียงเล่มเดียวได้ เขาจึงจำเป็นต้องยกฝักกระบี่ในมืออีกข้างขึ้น

ตั้งรับกรงเล็บสีดำที่เหวี่ยงเข้ามาอย่างหนักหน่วง

ผัวะ!

ปีศาจกระหายเลือดถูกเตะเข้าที่ช่วงขาเสียงดังสนั่น จนมันเสียหลักล้มฟาดลง

กับพื้น

โครม! เมื่อเทพกระบี่เวรตะไลเห็นปีศาจกระหายเลือดเสียหลักล้มลงนอนหงาย

อยู่บนพื้น เขาก็รีบหมุนกระบี่ให้ตั้งฉากกับพื้น ก่อนจะแทงปลายกระบี่ลงไปบนตัวมันไม่

ยั้ง เลือดสีแดงพุ่งกระฉูดออกมาตามแผลที่เทพกระบี่เวรตะไลได้ฝากไว้เกือบสิบแผล

เมื่อปีศาจกระหายเลือดตั้งหลักได้มันก็วาดกรงเล็บใส่ขาขวาของเทพกระบี่

เวรตะไลที่กำลังแทงกระบี่ลงบนตัวของมันแผลแล้วแผลเล่า

ผัวะ!

ปีศาจกระหายเลือดฟาดกรงเล็บโดนช่วงขาของเทพกระบี่เวรตะไลจังๆ หลายที

จนเขาเสียหลัก เอียงวูบไปทางด้านซ้ายเล็กน้อย เทพกระบี่เวรตะไลไม่ประมาท ตัดสินใจ

สปริงข้อเท้าดีดตัวถอยออกมาจากโซนอันตรายก่อน

“กี๊ซ!”

52 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

ปีศาจกระหายเลือดพยายามลุกขึ้นยืน เทพกระบี่เวรตะไลไม่ได้สนใจรอยแดง

ที่เกิดจากกรงเล็บบริเวณขาของเขาเลยสักนิด เพราะตอนนี้เขากำลังตะลึงกับเลือด

บนพื้นที่กำลังไหลมารวมกัน และสุดท้ายก็หายเข้าไปในร่างกายปีศาจกระหายเลือด

หน้าตาเฉย

“เง่ะ!…แบบนี้จะฆ่ามันยังไงเนี่ย”

เทพกระบี่เวรตะไลมองปีศาจตรงหน้าอย่างอึ้งๆ เวลานี้สมองของเขาขาวโพลน

ไปหมด ไม่รู้จะหาวิธีไหนมาจัดการกับปีศาจกระหายเลือดตัวนี้ดี

ถัดออกไปจากตำแหน่งที่เทพกระบี่เวรตะไลอยู่ไม่ไกล ร่างนักดาบคลั่งรักยม

กำลังแผ่รังสีออร่าสีเพลิงออกไปรอบตัว ทำให้ปีศาจกระหายเลือดไม่กล้าที่จะบุกเข้ามา

จู่โจมเขา

“ปีศาจบ้าอะไรวะ ฟันยังไงก็ไม่ตาย” นักดาบคลั่งรักยมบ่นอุบขณะจ้องตากับ

มันเพื่อหาจังหวะจู่โจม

“เอาวะ! ลองสับมันเป็นชิ้นๆ ดูซิ”

นักดาบคลั่งรักยมพูดจบก็เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงเข้าประชิดตัวปีศาจ

กระหายเลือด พริบตาที่มันเงื้อกรงเล็บจะฟาดใส่เขา นักดาบคลั่งรักยมก็เหวี่ยงดาบ

เพลิงโลกันตร์ด้วยความเร็วฟันใส่ช่วงคอของปีศาจกระหายเลือดเต็มแรง

ฉับ! ตุ้บ! คมดาบเพลิงโลกันตร์ตัดเข้าที่คอของปีศาจกระหายเลือดอย่าง

แม่นยำ หัวของมันขาดกระเด็นกลิ้งไปกับพื้นหลายตลบ นักดาบคลั่งรักยมไม่ได้หยุดแค่

นั้น เขาหมุนตัวตวัดดาบฟันเข้าที่แขนของมันอีกข้าง

ฉับ! ตุ้บ! แขนข้างนั้นหล่นกระแทกพื้นเสียงดัง เลือดสีแดงเข้มกระฉูดออกมา

มากมาย

“ชิ!…ลองชิมดาบนี้ดู ถ้ายังฟื้นได้อีกก็ให้มันรู้ไป”

นักดาบคลั่งรักยมยกดาบเพลิงโลกันตร์ขึ้นสูง เร่งพลังเข้าสู่ตัวดาบจนออร่า

สีแดงเพลิงที่แผ่กระจายอยู่รอบตัวเขาสีเข้มขึ้น เปลวความร้อนจากนักดาบคลั่งรักยม

ทำให้เกิดไฟลุกไหม้พื้นหญ้าบริเวณนั้นเป็นหย่อมๆ

“ตาย!”

นักดาบคลั่งรักยมตะโกนลั่นแล้วฟันดาบลงบนร่างของปีศาจกระหายเลือดสุด

52 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ 53

แรง

ฉับ! ร่างปีศาจกระหายเลือดถูกผ่าออกเป็นสองซีกทันที เลือดกระฉูดไปทั่ว

บริเวณ

นักดาบคลั่งรักยมยิ้มเหี้ยม และสปริงข้อเท้าถอยหลังออกมายืนดูห่างๆ

“เอาสิ!...ฉันทำถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าแกยังฟื้นขึ้นมาได้อีก ฉันก็ไม่รู้จะฆ่าแก

อย่างไรแล้ว” นักดาบคลั่งรักยมพูดขณะจ้องมองดูความเปลี่ยนแปลงของซากศพปีศาจ

กระหายเลือดนิ่ง

ป่าลวงตา หลังจากฉางฟงหลับไปนานถึงสองชั่วโมงกว่า เขาก็ฟื้นคืนสติขึ้นมา

เนฟรีบกุลีกุจอพยุงฉางฟงลุกขึ้นนั่ง แล้วส่งน้ำยาเลือดกับน้ำยาเพิ่มพลังให้ฉางฟง

“ขอบใจมากเนฟ” ฉางฟงกล่าวจบก็ยกน้ำยาทั้งสองขวดขึ้นดื่มทันที

“ฉางฟง ตอนนี้นายบินไหวหรือเปล่า” เนฟถามขึ้นอย่างรีบร้อน

ฉางฟงมองภูตหนุ่มด้วยสายตาประหลาดใจ

“คงต้องรออีกสักพัก มีอะไรเกิดขึ้นช่วงที่ฉันหลับไปหรือ” ฉางฟงถามเสียง

เครียดด้วยมีลางสังหรณ์บางอย่าง

เนฟมองไปทางฟิงเกอร์ที่นั่งอยู่บนขวดน้ำยาเพิ่มพลังใช้แล้ว สักพักจึงตัดสินใจ

กล่าวว่า

“มักกี้ของพวกเรากำลังมีปัญหา”

“หา!...ว่าอะไรนะ” ฉางฟงร้องออกมา

เนฟจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟัง และเมื่อได้ฟังข่าวจากเนฟ สีหน้าของ

ฉางฟงก็แปรเปลี่ยนไปมาตลอดเวลา

“หมายความว่าหลัง 6 โมงเย็น มักกี้ของฉันจะกลายเป็นปีศาจร้ายหรือ” ฉางฟง

ถามอย่างร้อนรน

เมื่อเนฟเล่าจบ ฟิงเกอร์ที่นั่งอยู่บนขวดน้ำยาจึงกล่าวว่า “ใช่…แถมเวลานี้ก็หมด

ทางแก้ไขแล้วด้วย”

ฉางฟงนิ่งคิดสักพักจึงกล่าวขึ้นว่า

“เนฟ ช่วงเวลาที่ฉันสลบน่าจะมีเวลาเหลืออยู่บ้าง ทำไมนายถึงไม่กลับไปเตือน

พวกเขาล่ะ ฉันลองคำนวณดูจากตำแหน่งที่ฉันและนายจากมา คิดว่ามันคงอยู่ไม่ไกล

54 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

จากบริเวณนี้เท่าไหร่”

“ถูก!...ถ้ามันไม่มีอุปสรรคมาขวางไว้นะ” เนฟพูดเสียงเรียบ

“หมายความว่ายังไง?” ฉางฟงถามขึ้นพร้อมกับทำหน้างง ไม่เข้าใจคำว่า

อุปสรรคที่เนฟกล่าวถึง

“หมายความว่า ตำแหน่งปัจจุบันของพวกเราอยู่ห่างจากตำแหน่งที่เราจากมา

เพียง 2 กิโลเมตร แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เวลาหรือระยะทาง มันอยู่ที่ว่าพวกเราทุกคนกำลัง

หลงอยู่ในป่าลวงตาต่างหาก ไม่ว่านายจะเลือกใช้เส้นทางไหนวิ่งออกจากป่า ผลสุดท้าย

พวกเราก็จะวิ่งย้อนกลับมายังตำแหน่งเดิมเสมอ” เนฟตอบเสียงดังฟังชัด

ฉางฟงหน้าซีดเผือด

“แตน่ายไมต่อ้งหว่งหรอก เมือ่นายฟืน้ขึน้มา พวกเรากอ็อกจากปา่นีไ้ด”้ ฟงิเกอร์

กล่าวขึ้นพร้อมกับอมยิ้ม

ฉางฟงมองฟิงเกอร์ สองตาเบิกโพลง แล้วชี้ที่ใบหน้าของตัวเอง คล้ายกับสงสัย

ว่ามันเกี่ยวอะไรกับฉัน

เนฟหัวเราะเบาๆ “ฟิงเกอร์บอกว่าการที่จะออกจากป่าลวงตานี้ไปได้ต้องไปทาง

อากาศเท่านั้น และตอนนี้นายฟื้นขึ้นมาแล้ว ฉันจึงอยากถามนายว่า นายบินไหวไหม”

ฉางฟงพยักหน้าอย่างเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดทันที

“เมื่อรู้ทางออกจากป่าลวงตาแล้ว พวกเราก็รีบเดินทางกลับกันเถอะ อย่างน้อย

อาจจะช่วยเหลือเพื่อนๆ ได้” ฉางฟงพูดขณะใช้สองมือดันพื้นเพื่อลุกขึ้นยืน

“พักอีกหน่อยไม่ดีกว่าหรือฉางฟง” ฟิงเกอร์กระโดดขึ้นบนไหล่เนฟแล้วถาม

อย่างเป็นห่วง

“เราจะเสียเวลาอยู่ที่นี่ไม่ได้ ถ้าเราชักช้าอาจไม่ทันกาล”

ฉางฟงกล่าวจบก็รีบสั่งเปิดระบบการ์ด รวมถึงเรียกใช้การ์ดแห่งจอมมารทั้งสอง

ใบ พริบตาที่ออร่าสีแดงและเขียวส่องสว่าง ชุดเกราะแห่งจอมมารก็ปรากฏบนร่างกาย

ของฉางฟงอีกครั้ง ฉางฟงทดลองกระพือปีกเบาๆ หลายครั้ง เพื่อทดสอบกำลัง ผลที่ได้

รับแม้จะรู้สึกเหนื่อย แต่ฉางฟงก็มั่นใจว่าเขาสามารถบินไปหาทุกคนได้อย่างสบาย

“ฉางฟง นายพูดว่าไม่ทันกาล นายมีวิธีจัดการกับปีศาจพวกนั้นแล้วหรือ”

ฟิงเกอร์เอ่ยปากถาม ฉางฟงพยักหน้า

“อืม!...ตามที่นายเล่ามา ถ้าจะจัดการกับปีศาจอมตะพวกนั้นง่ายเหมือนพลิก

54 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ 55

ฝ่ามือ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าพวกมันเก่งไหม ถ้าไม่เก่งก็จะจัดการมันได้ง่ายขึ้น”

ฉางฟงตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

“นายจะทำอย่างไร” เนฟซึ่งยืนงงอยู่นานเอ่ยปากถามขึ้นบ้าง ฉางฟงฉีกยิ้ม

ดวงตาทอประกายเจ้าเล่ห์ขณะกล่าวขึ้นว่า

“ถึงเวลาพวกนายก็จะรู้เอง ออกเดินทางกันเถอะ”

ฉางฟงพูดจบ ปีกทั้งสองข้างของเขาก็เริ่มขยับ และตัวเขาก็ลอยขึ้นจากพื้นดิน

ฉางฟงยื่นมือซ้ายไปให้เนฟจับไว้ เพื่อที่เขาจะได้พาเนฟลอยขึ้นไปในอากาศด้วย

“โอเค…ฉันพร้อมแล้ว”

เนฟพูดจบ ฉางฟงก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าทันที เมื่อบินสูงขึ้น แสงสว่างจากกองไฟรอบ

เต็นท์ก็ทำให้ฉางฟงพบเป้าหมายได้ง่ายดาย โดยไม่ต้องเสียเวลาค้นหาให้เหนื่อย

บริเวณเต็นท์ที่พัก อินดี้พุ่งเข้าโจมตีปีศาจกระหายเลือดหลายครั้ง แต่ระดับ

ของเธอต่ำกว่ามัน 2 ระดับ เธอจึงค่อนข้างจะเสียเปรียบอีกฝ่าย

แก๊งๆ…แก๊งๆ เสียงปะทะระหว่างกรงเล็บกับดาบดังสนั่นไปทั่วบริเวณ กรงเล็บ

สีดำอันแหลมคมเหวี่ยงเข้าโจมตีตามตำแหน่งต่างๆ ของร่างกายอินดี้อย่างต่อเนื่อง

ทุกครั้งที่พลาดพลั้ง อินดี้จะได้รับบาดแผลเป็นทางยาว ผิดกับปีศาจกระหายเลือด

เมื่อมันได้รับบาดเจ็บ แผลของมันจะสมานเข้าหากันเองอย่างรวดเร็ว

หลังจากอินดี้พบว่า การที่เธอเลือกปะทะอย่างแตกหักกับปีศาจด้านหน้าตรงๆ

ไม่ได้ทำให้เธอได้เปรียบเลย แต่กลับทำให้เธอเสียเปรียบทุกครั้งที่ปะทะกัน ภูตสาวจึง

จำใจเปลี่ยนยุทธวิธีต่อสู้จากการปะทะแตกหักเป็นลอบโจมตีแทน

ฉึก! ดาบของอินดี้เสียบลงกลางแผ่นหลัง และทะลุออกมาทางด้านหน้าของ

ปีศาจกระหายเลือด เลือดของมันพุ่งกระฉูดออกมาอาบทั่วพื้น ปีศาจกระหายเลือด

สะดุ้งเล็กน้อย แล้วสะบัดมือขวาเหวี่ยงกรงเล็บกลับหลังใส่อินดี้

ผัวะ! อินดี้ยกเท้าขวาขึ้นเตะสกัดกรงเล็บของมันไว้ เมื่อเท้าขวาสัมผัสพื้น อินดี้

ก็ยกเท้าซ้ายขึ้นถีบโครมเข้าที่กลางหลังมันอย่างแรง

ผัวะ! ปีศาจกระหายเลือดถลาล้มคะมำไปด้านหน้า ทำให้ดาบของอินดี้หลุดออก

จากหลังของมัน เลือดพุ่งกระฉูดออกมาอีกรอบ อินดี้มองกองเลือดที่กำลังรวมตัวกัน

ก่อนวิ่งย้อนกลับเข้าไปในร่างของปีศาจกระหายเลือดอย่างงงๆ

5� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

หา่งจากตำแหนง่ทีอ่นิดีต้อ่สูอ้ยูไ่มไ่กล แดนกำลงัใชก้ระบีฟ่นัปศีาจกระหายเลอืด

ออกเป็นชิ้นๆ เพื่อพิสูจน์ว่ามันจะคืนชีพได้ไหม

“เอาสิ ฉันอยากรู้เหมือนกันว่าเละแบบนี้จะยังฟื้นได้ไหม”

แดนพูดยังไม่ทันขาดคำ เหงื่อเม็ดโตก็ไหลออกมาเต็มใบหน้า เขาเบิกตาโพลง

เมื่อเห็นชิ้นส่วนต่างๆ ของปีศาจกระหายเลือดกำลังขยับเข้ามารวมตัวกัน ราวกับว่าทุก

ส่วนของมันมีชีวิต

“บา้จรงิ!…เฮอ้…ฆา่มนัไมต่ายแบบนี ้ไดก้ลบับา้นกอ่นเวลาอนัควรอกีรอบแนเ่รา”

แดนบ่นอุบ สีหน้าของเขาบ่งบอกได้ว่าเซ็งกับปีศาจตรงหน้าขนาดไหน

“ย้าก!”

เสียงกู่ร้องดังลั่นบริเวณเต็นท์ที่พัก นักดาบคลั่งรักยมเสียบดาบเพลิงโลกันตร์

เข้าไปยังแขนที่ขาดของปีศาจกระหายเลือด เขาเร่งเร้าพลังออร่าเข้าสู่ตัวดาบ จนแขนของ

พวกมันลุกโชนไปด้วยเปลวไฟ

“เมื่อแกฆ่าไม่ตาย ฉันก็จะใช้ออร่าเพลิงโลกันตร์ย่างแกให้สุกไปเลย อยากรู้จะ

ทนทรหดไปได้สักกี่น้ำ” นักดาบคลั่งรักยมพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน

ฟู่!…เพี้ยะๆ ไฟโลกันตร์เผาผลาญเนื้อแขนปีศาจจนไหม้เกรียม ส่งกลิ่นเหม็น

โชยไปทั่วบริเวณ แดนที่กำลังยืนมองการคืนสภาพของปีศาจกระหายเลือดถึงกับต้อง

เอามือปิดจมูกไว้

“โห!…น้ำมันที่แขนของมันเยอะจริงๆ…รองไปขายทำน้ำมันพรายเหมือนใน

นิยายได้เปล่าหว่า” นักดาบคลั่งรักยมพูดขึ้นก่อนจะตัดสินใจสลัดท่อนแขนปีศาจที่

เสียบอยู่บนปลายดาบจนกระเด็นกลิ้งไปกับพื้น นักดาบคลั่งรักยมยังคงยืนจ้องมอง

ปีศาจกระหายเลือดด้วยใจลุ้นระทึกว่า แขนของปีศาจที่เขาใช้ออร่าเผาจนเกรียมจะฟื้น

คืนสภาพเดิมได้ไหม

“ทำมาย…ฆ่ายากฆ่าเย็นแบบนี้วะ”

เสียงตะโกนของเทพกระบี่เวรตะไลทำให้เพื่อนๆ ทุกคนในกลุ่มหันไปมอง

“โอ!…นี่ขนาดฉันพยายามเตะชิ้นส่วนของพวกแกไปคนละทาง พวกแกยัง

สามารถหาทางคืนสภาพเดิมได้อีกหรือ”

5� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ 5�

เทพกระบี่เวรตะไลเอามือทั้งสองข้างกุมศีรษะไว้ และในชั่วพริบตานี่เอง เสียง

คอมพิวเตอร์ในหัวของทุกคนก็ดังขึ้นว่า

‘ปีศาจกระหายเลือดระดับราชา ธาตุดิน B+ ปฏิบัติตามกฎพื้นฐาน สามารถอยู่

ครบตามกำหนดเวลา 1 ชั่วโมง ระดับจึงเลื่อนขึ้นเป็น 53’

สิ้นเสียงในหัว เทพกระบี่เวรตะไล นักดาบคลั่งรักยม และอินดี้ถึงกับอึ้ง

“เง่ะ!…อัปเดตระดับของตัวเองได้เฉยเลย” นักดาบคลั่งรักยมอุทานขึ้นมา แต่

สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่แขนไหม้ไฟข้างนั้นอย่างทึ่งๆ เมื่อเขาพบว่ามันกำลัง

กลับคืนสู่สภาพเดิม ไม่มีทีท่าว่ามันจะชำรุดเสียหายจากการถูกไฟเผาเลยสักนิด

“โห!…แม่เจ้า…กว่าจะถึง 6 โมงเช้าวันพรุ่งนี้ ระดับของพวกมันจะอยู่ที่ 86 เราจะ

เอาอะไรไปสู้กับมันเนี่ย” เทพกระบี่เวรตะไลพูดออกมาเบาๆ แล้วเหลือบตาไปมองแดน

ที่ยืนยิ้มแห้งๆ อยู่กับที่

“ฉันก็บอกพวกนายแล้วไง เบื่อสู้กับพวกมันเมื่อไหร่ก็ค่อยเผ่นกลับบ้านกัน”

แดนพูดจบก็ลุยเข้าไปสู้กับปีศาจกระหายเลือดที่กำลังบุกโจมตีเขาอย่างหักโหมต่อ

ส่วนอินดี้ เมื่อเห็นว่าปีศาจเลื่อนระดับขึ้นไปอีก 3 ระดับ เธอก็เลิกโจมตีมัน หันไปวิ่งหนี

อย่างเดียว

“ยิปปี้!…ยู้ฮู…ทุกคนเป็นอะไรมากไหม”

ฉางฟงตะโกนลงมาจากบนท้องฟ้า จนเทพกระบี่เวรตะไลกับนักดาบคลั่งรักยม

สะดุ้งโหยง และต่างเงยหน้าขึ้นมองหาต้นเสียง

“ฉางฟง มาจัดการมักกี้ของนายเลย”

เทพกระบี่เวรตะไลตะโกนขึ้นไปบนท้องฟ้าเมื่อเห็นฉางฟงกับเนฟกำลังใกล้จะ

ถึงตำแหน่งที่เขายืนอยู่

ตุบ! ทันทีที่เท้าของเนฟสัมผัสพื้น เขาก็รีบตรงไปช่วยเหลืออินดี้ที่กำลังวิ่งหนี

ปีศาจกระหายเลือดไปรอบๆ เต็นท์ที่พัก

ตุบ! เท้าฉางฟงสัมผัสพื้นอย่างแผ่วเบา เขาหุบปีกทั้งสองข้าง ก่อนจะเดินตรง

เข้าไปหาเทพกระบี่เวรตะไลที่กำลังยืนมองปีศาจกระหายเลือดคืนร่างจนเสร็จสมบูรณ์

“โห!…สู้กันตั้งนาน พวกนายยังจัดการปีศาจกระจอกพวกนี้ไม่ได้อีกหรือ ฮ่าๆ”

ฉางฟงพูดแล้วหัวเราะเสียงดัง

“กระจอก?” เทพกระบี่เวรตะไลกับนักดาบคลั่งรักยมอุทานเสียงดังพร้อมกัน

5� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

“นายเป็นไข้จนเพ้อหรือเปล่า ฉางฟง” นักดาบคลั่งรักยมถามขณะหาจุดตายใน

ตัวปีศาจกระหายเลือดอีกครั้ง

“หุๆ คนอย่างฉันถ้าไม่แน่จริงไม่คุยโวหรอกโว้ย” ฉางฟงคุยโวทันทีเมื่อมี

โอกาส

“นายรู้วิธีฆ่ามันจริงๆ หรือฉางฟง” เทพกระบี่เวรตะไลถามขึ้นพร้อมถอยออก

ห่างจากฉางฟงเมื่อเห็นว่าปีศาจกระหายเลือดคืนร่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว

“จะฆ่าพวกมันให้ตายเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าจะทำให้พวกมันไม่มาเล่นงานเรา

ง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือ” ฉางฟงตอบยิ้มๆ

“ไม่ต้องลีลาฉางฟง บอกมาได้แล้ว” นักดาบคลั่งรักยมที่กำลังสู้อยู่กับปีศาจ

กระหายเลือดร้องโวยวาย

“ก็ได้!…อันดับแรก พวกนายตัดเอาเฉพาะลำตัวของพวกมันมาให้ฉันก่อนสิ”

ฉางฟงพูดขึ้น นักดาบคลั่งรักยมมองฉางฟงแล้วหัวเราะ

“นายจะเอาลำตัวของพวกมันไปทิ้งไกลๆ ใช่ปะ แผนนี้ไม่มีประโยชน์หรอก

เพราะพวกมันจะต้องหาทางกลับมาเล่นงานพวกเราในคืนนี้แน่นอน…เอ่อ…ฉันลืมบอก

นายไปอย่างว่าปีศาจพวกนี้ระดับจะขึ้น 3 ขั้น ทุกๆ 1 ชั่วโมง ถ้าพวกมันมีชีวิตไปถึงตีห้า

เมื่อไหร่...หึๆ…ตัวใครตัวมันโว้ย”

“ฮ่าๆ ไม่สนโว้ย…เอาเป็นว่าฉันมีป่าเด็ดๆ ไว้คอยต้อนรับพวกมัน หุๆๆ พวก

นายไม่ต้องคิดอะไรมาก เพียงแต่ทำตามที่ฉันบอกเบบี้ทั้งหลาย” ฉางฟงพูดแล้วหัวเราะ

ออกมา

“หยุดหัวเราะน่าเกลียดแบบนี้ได้แล้ว รับไปฉางฟง” นักดาบคลั่งรักยมพูดจบก็

หวดเท้าขวาเตะใส่ลำตัวของปีศาจกระหายเลือดเต็มแรง

ผัวะ! ลำตัวซึ่งไร้หัวและแขนขาของปีศาจกระหายเลือดกระเด็นไปยังตำแหน่งที่

ฉางฟงอยู่อย่างรวดเร็ว

ตุบๆ ตุบๆ ร่างอันไร้ศีรษะและแขนขาของปีศาจกระหายเลือดกลิ้งมาอยู่ตรง

หน้าฉางฟง เขารีบใช้เท้าเหยียบยอดอกมันไว้ เพื่อไม่ให้มันกระดุกกระดิกไปไหน

“โห…รักจัง นายตัดได้เรียบมาก แบบนี้อนาคตพ่อค้าขายหมูชัวร์ อิๆๆ”

ฉางฟงพูดจบก็หยิบกระสอบออกมาจากกระเป๋ามิติ นักดาบคลั่งรักยมยืนมองดู

ฉางฟงอย่างสนใจ เมื่อเห็นฉางฟงยกร่างที่ไร้หัวและแขนขายัดลงไปในกระสอบ

5� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ 5�

“ฉางฟงรับไป!” เทพกระบี่เวรตะไลพูดจบ ร่างอันไร้หัวและแขนขาอีกร่างก็ถูก

เตะส่งมาให้ฉางฟง

“ขอบใจเพื่อนฝูง”

ฉางฟงตอบรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับก้มลงยกร่างอันไร้หัวและแขนขา

ของปีศาจยัดลงไปในกระสอบอีกร่าง

“ฉางฟงเอาอีกร่างไหม” แดนที่กำลังสะบัดกระบี่ตัดแขนปีศาจกระหายเลือด

ตะโกนถาม

“ออร์เดอร์เต็มแล้วว่ะ ไว้รอบใหม่นะเพื่อนฝูง”

ฉางฟงตอบยิ้มๆ ก่อนจะกระพือปีกเหินขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว

“ฉางฟงมันจะบินไปไหนหว่า” เทพกระบี่เวรตะไลที่กำลังยืนมองฉางฟงถามขึ้น

“ฮ่าๆ ตลกจริงๆ ไลจัง นายดูชิ้นส่วนของพวกมันที่เหลือสิ”

นักดาบคลั่งรักยมหัวเราะออกมาพร้อมกับชี้ไปยังชิ้นส่วนต่างๆ ของปีศาจที่

กระจัดกระจายอยู่บนพื้น เชื่อมต่อกันไม่ได้

“หุๆ ลำตัวของมันเป็นแกนกลางในการเชื่อมต่อนี่เอง ถ้าขาดแกนกลางไปสัก

ชิ้น ปีศาจกระหายเลือดก็ไม่น่ากลัวอะไรเลย” เทพกระบี่เวรตะไลพูดขึ้นขณะที่ตายังคง

จับจ้องเศษชิ้นส่วนเหล่านั้นอยู่ตลอดเวลา

“ดูจากสภาพของมัน น่าจะหมดฤทธิ์เดชแล้วนะไลจัง” นักดาบคลั่งรักยมกล่าว

ขึ้นเมื่อเห็นว่าชิ้นส่วนเหล่านั้นหยุดการเคลื่อนไหว

“พวกเรายังประมาทไม่ได้หรอกรักจัง ฉันคิดว่าตอนนี้ที่ชิ้นส่วนต่างๆ ยังไม่

เคลื่อนไหว น่าจะเกิดจากสาเหตุที่พวกมันยังคงไม่สามารถติดต่อกับชิ้นส่วนหลักได้”

“หมายความว่าอย่างไรหรือไลจัง” นักดาบคลั่งรักยมถามขึ้นอย่างงงๆ

เทพกระบี่เวรตะไลยกเท้าเตะชิ้นส่วนแขนของปีศาจข้างหนึ่งที่อยู่ตรงหน้าเขา

เข้าไปในกองไฟ

“ตอนนี้ลำตัวของมันอยู่ในกระสอบกลางอากาศ มันจึงยังติดต่อกับชิ้นส่วน

ต่างๆ ไม่ได้ไง แต่ถ้าชิ้นส่วนหลักของมันตกถึงพื้นดินเมื่อไหร่ พวกมันคงจะเคลื่อนที่

ไปหาลำตัวของมันโดยอัตโนมัติ”

เทพกระบี่เวรตะไลพูดจบประโยค แขนของปีศาจก็ดีดตัวออกมาจากกองไฟ

กลิ้งไปกับพื้นหญ้า ไม่นานไฟที่ลุกไหม้ก็ดับมอดลง

�0 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

“มันเป็นอมตะระดับเทพเลย ขนาดโยนเข้าไปในกองไฟมันยังคืนสภาพเดิมได้

น่ากลัวจริงๆ”

เทพกระบี่เวรตะไลพูดยังไม่ทันจบ ทุกชิ้นส่วนของปีศาจก็เริ่มเคลื่อนไหว และ

ทิศทางที่พวกมันมุ่งไปก็คือตำแหน่งเดียวกันกับที่ฉางฟงบินหายไปนั่นเอง

“เฮ้ย!…รักจัง ดูสิ พวกมันกำลังมุ่งหน้าไปหาชิ้นส่วนหลักตามที่ฉันได้คาดการณ์

ไว้เลย” เทพกระบี่เวรตะไลกล่าวเสียงดัง

“เง่ะ… ถ้ามันรวมร่างกันได้เมื่อไหร่ พวกมันก็กลับมาเล่นงานพวกเราอีกน่ะสิ”

นักดาบคลั่งรักยมกล่าวด้วยสีหน้าเซ็งๆ

“เรื่องนี้ฉันไม่รู้ เพราะไม่เข้าใจเช่นกันว่า ฉางฟงมีไม้เด็ดอะไรซ่อนอยู่” เทพ

กระบี่เวรตะไลกล่าวขึ้นแล้วยิ้มที่มุมปาก

“ย้าก!”

เสียงกู่ร้องของเนฟดังลั่น WING BAT ถูกเหวี่ยงเข้าใส่ปีศาจกระหายเลือดจน

มองไม่ทัน

แก๊งๆ…แก๊งๆ เสียงปะทะกันระหว่างกรงเล็บสีดำ กับ WING BAT ดังติดต่อ

กันไปเป็นช่วงๆ ปีศาจกระหายเลือดได้เปรียบด้านพละกำลังที่สูงกว่า 5 ระดับ ส่วนเนฟ

ได้เปรียบด้านอาวุธที่ยาวกว่า เมื่อหักลบความได้เปรียบเสียเปรียบของทั้งสองฝ่ายปีศาจ

กระหายเลือดก็ยังคงเป็นต่อ เพราะมีร่างกายที่เป็นอมตะ ไม่มีวันตาย

“สู้ๆ เนฟ ฉันขอตัวไปพักเหนื่อยก่อนนะ สู้มานานแล้ว” อินดี้ที่ยืนถือดาบอยู ่

ไม่ไกลจากบริเวณสนามต่อสู้ของเนฟกับปีศาจกระหายเลือดพูดขึ้น

“โห!…อินดี้ นี่เธอจะทิ้งให้ฉันลุยเดี่ยวหรือ” เนฟโวยวายขณะก้มหัวหลบกรง

เล็บที่เหวี่ยงเข้ามายังศีรษะของเขา

“ฉันสู้มันไม่ได้อ้ะ นายก็ช่วยจัดการหน่อยนะเนฟ” ภูตสาวไม่รอเสียงตอบรับ

จากเนฟ เธอรีบเดินกลับไปนั่งรอบกองไฟ และทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ชิ!...โยนภาระให้ฉันเฉยเลย วันหลังฉันไม่ช่วยดีกว่า” เนฟบ่นอุบพร้อมกับ

ถอยหลังเมื่อปีศาจกระหายเลือดรุกหนักขึ้น

ฟ้าว!…เสียงวัตถุแหวกอากาศดังมาจากด้านข้าง

แก๊งๆ เนฟยกด้าม WING BAT ขึ้นตั้งรับไว้ได้ แต่แรงปะทะที่หนักหน่วงก็

�0 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ �1

ทำให้ภูตหนุ่มเสียหลักกระเด็นออกห่างจากตำแหน่งปะทะหลายเมตร เขาวิ่งวนไปรอบๆ

ปีศาจกระหายเลือด เพื่อไม่ให้มันจับทิศทางที่เขาจะบุกได้

ฟิ้วๆ…ฟิ้วๆ…ฟิ้วๆ เนฟควง WING BAT เหนือศีรษะเพิ่มระดับความรุนแรง

ก่อนจะเหวี่ยง WING BAT เข้าโจมตีที่ขาด้านหนึ่งของปีศาจกระหายเลือดที่กำลังรุกคืบ

เข้าหาเขา

ฉับ! เลือดพุ่งกระฉูดออกมาจากขาปีศาจทันที เมื่อคม WING BAT เฉือนที่ขา

ของปีศาจกระหายเลือด แต่แทนที่มันจะหยุดการบุก มันกลับโถมร่างฟาดกรงเล็บรุกเข้า

มาหาเนฟ

แก๊งๆ…แก๊งๆ เนฟรีบลดด้าม WING BAT ที่ควงอยู่เหนือศีรษะลงมาตั้งรับไว้

แต่อาวุธชิ้นเดียวก็ไม่อาจตั้งรับกรงเล็บที่เหวี่ยงมาจากทั้งสองมือของปีศาจกระหาย

เลือดได้

ฉับ! “อ๊าก!” เนฟร้องลั่น เลือดพุ่งกระฉูดออกจากบาดแผล เนฟเห็นจวนตัวเขา

จึงต้องดีดเท้าซ้ายถีบเข้าที่หน้าอกของปีศาจกระหายเลือดอย่างแรง

ผัวะ! ได้ผล มันโดนเนฟถีบเข้าเต็มยอดอก เสียหลักล้มลงกระแทกพื้นอย่าง

รุนแรง

โครม! เนฟรีบฉกฉวยจังหวะนี้เคลื่อนเข้าประชิดมันพร้อมกับตวัด WING

BAT ฟันลงไปยังร่างของปีศาจกระหายเลือด

ฉับ!…ฉับ! บาดแผลบริเวณหน้าอกถูกเปิดออกกว้าง เลือดพุ่งกระฉูดออกมา

อย่างมากมาย แต่ชั่วเวลาไม่กี่วินาทีแผลฉกรรจ์ที่หน้าอกของมันกลับจางหายไปอย่างไร้

ร่องรอย

“ชิ!... แบบนี้จะแยกชิ้นส่วนมันได้ยังไง” เนฟบ่นอุบ

“ฉันช่วยแยกชิ้นส่วนมันให้เอง เนฟ” นักดาบคลั่งรักยมเสนอพร้อมกับเข้า

ประชิดตัวปีศาจกระหายเลือดอย่างรวดเร็ว ดาบเพลิงโลกันตร์ทอประกายเจิดจ้าเช่น

เดียวกับออร่าสีแดงเพลิงรอบตัวของนักดาบคลั่งรักยม

ฉับ!…ฉับ!…ฉับ! นักดาบคลั่งรักยมฟันดาบลงบนร่างปีศาจกระหายเลือดติดๆ

กันหลายดาบ ไม่นานนักคมดาบก็สร้างบาดแผลฉกรรจ์ไปทั่วตัวของมัน ยิ่งไปกว่านั้น

เพลิงออร่าที่แผ่กระจายออกมารอบๆ ตัวนักดาบคลั่งรักยมก็ทำให้ปีศาจกระหายเลือด

ไม่สามารถโจมตีนักดาบคลั่งรักยมได้ถนัด

�2 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

วูบ! เมื่อไม่สามารถโจมตีนักดาบคลั่งรักยมได้ ปีศาจกระหายเลือดก็ดีดตัวกลิ้ง

ถอยหลังออกห่าง และชั่วพริบตาที่ตั้งหลักได้มันก็ฉวยโอกาสจังหวะที่นักดาบคลั่งรักยม

ยังไม่ทันได้ตั้งตัว สปริงข้อเท้ากระโดดพุ่งกรงเล็บเข้าโจมตีเขาอีกครั้ง

“กี๊ซ!”

เสียงขู่คำรามดังกึกก้อง กรงเล็บสีดำทั้งจากมือซ้ายและขวาฟาดเข้ามายัง

นักดาบคลั่งรักยมพร้อมกัน นักดาบคลั่งรักยมคาดไม่ถึงว่าปีศาจกระหายเลือดจะโจมตี

เร็วเช่นนี้ ด้วยความฉุกละหุกเขาจึงได้แต่ยกท่อนแขนทั้งสองข้างขึ้นตั้งการ์ดรับไว้ก่อน

ผัวะ! ผัวะ! กรงเล็บปีศาจฟาดเข้าที่แขนนักดาบคลั่งรักยมเสียงดังสนั่น เขาเซ

ถอยหลังเล็กน้อย พริบตาที่ตั้งหลักได้เขาก็เตะเท้าซ้ายออกไปด้านหน้าสุดแรง

ผัวะ! ปีศาจกระหายเลือดยกท่อนแขนขึ้นป้องกันตัวเองเช่นกัน แต่ด้วยระดับที่

แตกต่างกันมากทำให้มันกระเด็นกลิ้งไปกับพื้นหลายตลบ

นักดาบคลั่งรักยมเหลือบตามองท่อนแขนของตัวเองเพื่อเช็กอาการบาดเจ็บ

เมื่อพบว่าเป็นแค่แผลถลอก เลือดไหลซึมออกมาเพียงเล็กน้อยเขาก็เบาใจ

“ถึงเวลาจบเกมแล้ว”

นักดาบคลั่งรักยมกล่าวจบก็ตวัดดาบเพลิงโลกันตร์ใส่ปีศาจกระหายเลือด

อีกครั้งอย่างรวดเร็วและรุนแรง ไม่ถึงนาทีแขนทั้งสองข้างของปีศาจก็ขาดกระเด็นออก

มาจากลำตัวของมัน แรงปะทะที่เกิดขึ้นทำให้ปีศาจกระหายเลือดเซถอยหลังไปเล็กน้อย

นักดาบคลั่งรักยมไม่ยอมให้โอกาสดีๆ ผ่านไป เขารีบรุกคืบเข้าประชิดตัวปีศาจ

กระหายเลือด ทันทีที่มันเปิดช่องว่างที่คอ นักดาบคลั่งรักยมก็รีบสะบัดดาบฟันลงไปยัง

ตำแหน่งนั้นสุดแรง

ฉับ! ด้วยระดับพื้นฐาน 75 และสภาพร่างกายของปีศาจที่อ่อนแรงลง ทำให้

ศีรษะของมันขาดกระเด็นออกจากร่างกายทันที

ตึง! ร่างไร้หัวของปีศาจกระหายเลือดล้มฟาดลงกับพื้นดังสนั่น นักดาบคลั่ง

รักยมรีบยกเท้าขวาขึ้นเหยียบบนร่างปีศาจกระหายเลือดไว้ เพื่อไม่ให้มันขยับหนีไปไหน

“ลาขาดละนะอีหนูปีศาจ”

นักดาบคลั่งรักยมพูดประชดแล้วก็ยกดาบเพลิงโลกันตร์ขึ้นชูเหนือศีรษะ ก่อน

จะกระหน่ำฟันดาบลงบนขาทั้งสองข้างของปีศาจไม่ยั้ง

ฉับ! ฉับ! ฉับ! ขาทั้งสองข้างของปีศาจขาดกระเด็นออกจากร่างเมื่อโดนนักดาบ

�2 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ �3

คลั่งรักยมกระหน่ำฟันไปข้างละหลายสิบดาบ

“รักจัง! ส่งร่างของมันมาเร็วเข้า”

ฉางฟงซึ่งมาถึงสนามต่อสู้ได้สักพักตะโกนขึ้นเมื่อเห็นว่านักดาบคลั่งรักยมแยก

ชิ้นส่วนร่างกายของปีศาจกระหายเลือดสำเร็จแล้ว

“โอเค… รับไปฉางฟง” นักดาบคลั่งรักยมกล่าวจบก็ยกเท้าขวาหวดเตะเต็มแรง

ไปยังร่างของปีศาจกระหายเลือด

ผัวะ! “ขอบใจมากรักจัง” ฉางฟงร้องขอบคุณกวนๆ ขณะกางปากกระสอบออก

กว้าง

สวบ! แม่นยำเหมือนจับวาง ร่างของปีศาจหล่นลงไปในกระสอบพอดี

“หุๆ ไปส่งสินค้าก่อนนะทุกคน”

ฉางฟงอมยิ้ม รีบกระพือปีกทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว หลังจากทุก

คนมองส่งฉางฟงออกเดินทางเสร็จสิ้น พวกเขาก็เดินกลับมารวมกลุ่มกันที่ข้างกองไฟ

เช่นเดิม

“เนฟ นายรู้หรือเปล่าว่าฉางฟงจะนำร่างปีศาจกระหายเลือดไปทิ้งที่ไหน” เทพ

กระบี่เวรตะไลถามสิ่งที่ค้างคาใจ

“รู้สิ เป็นเพราะสาเหตุนี้แหละที่ทำให้พวกฉันมาถึงที่นี่ช้า” เนฟตอบเสียงเรียบ

“มาถึงที่นี่ช้า หมายความว่าอย่างไร” นักดาบคลั่งรักยมถามพลางขมวดคิ้ว

“พวกฉันหลงทางเข้าไปในป่าที่มีชื่อว่าป่าลวงตา”

“ป่าลวงตา!” สามหนุ่มอุทานขึ้นพร้อมกัน

“ยังไม่เกตอ้ะ อธิบายให้มันชัดเจนกว่านี้ก่อนสิเนฟ” เทพกระบี่เวรตะไลกล่าว

ขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย

เนฟหัวเราะ “ป่าลวงตาก็คือป่ามายา หรือป่าวงกตที่น้อยคนนักจะหาทางออก

พบ ภายในป่าไม่ว่าเราจะเดินไปทิศทางไหนล้วนกลับมายังตำแหน่งเดิมทุกครั้ง” แดนซึ่ง

นั่งฟังอยู่ทำหน้าครุ่นคิด สักพักจึงถามขึ้นว่า

“ถ้ามันหาทางออกยากขนาดนั้น พวกนายออกมาได้ยังไง”

เนฟหัวเราะอีกครั้ง “พวกนายก็เห็นคำตอบอยู่กับตาอยู่แล้วว่าพวกฉันออกมา

ได้อย่างไร”

“บินหรือ” นักดาบคลั่งรักยมถาม

�4 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

“ถูกต้อง โชคดีที่ฉางฟงมีปีก เขาสามารถบินเหนือพื้นดินได้สูงกว่า 100 เมตร

ทำให้พ้นรัศมีภาพลวงตาของป่ามาได้” เนฟพูดจบ เทพกระบี่เวรตะไลก็อุทานขึ้นทันที

เมื่อเขาผูกเรื่องได้สำเร็จ

“เยี่ยมไปเลย ถ้าฉางฟงเอาร่างของปีศาจกระหายเลือดไปทิ้งที่นั่น โอกาสที่พวก

มันจะหาทางกลับออกมาข้างนอกก็แทบเป็นศูนย์ เพราะพวกมันบินไม่ได้”

“อืม…เป็นแผนที่เยี่ยมยอดมากจริงๆ อย่างที่เทพกระบี่เวรตะไลบอก ต่อให้

พวกมันมีระดับสูงขึ้นแค่ไหนก็เปล่าประโยชน์” แดนแสดงความเห็นบ้าง

จ๊อกๆ จ๊อกๆ ท้องของอินดี้ที่นั่งอยู่ไม่ไกลร้องขึ้น ทำให้กลุ่มหนุ่มๆ ที่กำลังคุย

กันอย่างออกรสออกชาติหัวเราะออกมา เมื่อคิดได้ว่ายังไม่มีใครได้กินอาหารเลยสักคน

“ขอโทษนะที่ขัดจังหวะการคุยของพวกนาย ท้องฉันประท้วงขออาหารแล้วอ้ะ”

อินดี้พูดขึ้นพร้อมกับยิ้มแห้งๆ

เทพกระบี่เวรตะไลกับนักดาบคลั่งรักยมจึงช่วยกันจัดพื้นที่รอบกองไฟ ก่อนจะ

นำอาหารกระป๋องออกมาวางด้านนอก เตรียมรับประทานพร้อมกันอีกครั้ง

�4 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

หลังจากฉางฟงโยนกระสอบที่บรรจุร่างปีศาจกระหายเลือดลงบนพื้นดินในป่า

ลวงตา เขาก็กลับคิดขึ้นมาได้ว่าหอกมารน้อยหายไป

“ตายละสิ!…หอกมารน้อยไปไหนหว่า” ฉางฟงอุทานขึ้น

“สงสัยคงหายไปขณะที่เราสู้กับสัตว์อสูรจระเข้บินในป่าลวงตาแน่ๆ”

ฉางฟงตัดสินใจบินย้อนกลับไปยังตำแหน่งสุดท้ายก่อนจะสลบทันที โดยใช้

ทิศทางและระยะห่างจากกองไฟที่เพื่อนๆ ของเขาจุดขึ้นเป็นเกณฑ์คำนวณหาตำแหน่ง

แรกที่เขาบินขึ้นไปบนท้องฟ้า

ฉางฟงมั่นใจว่าถึงแม้ตำแหน่งที่คำนวณได้จะไม่ตรงกับความเป็นจริงเท่าไร แต่

เขาก็คิดว่าความคลาดเคลื่อนผิดพลาดคงไม่เกิน 50 เมตร รอบจุดศูนย์กลางที่คำนวณได้

ซึ่งระยะผิดพลาดเพียงแค่นี้ไม่เป็นปัญหาเลย สำหรับการค้นหาหอกมารน้อย

3 นาทีต่อมา ฉางฟงก็มาหยุดยืนเหนือป่าที่เขาคิดว่าเป็นตำแหน่งที่เคยสู้กับ

สัตว์อสูร วันนี้ฉางฟงโชคร้าย เพราะเป็นวันพระจันทร์อับแสงหรือคืนเดือนดับ ทำให้

ภายในป่ามีแต่ความมืดมิด ยากจะมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ ถ้าไม่ใช้คบเพลิงช่วย

“เอาวะ! ไม่เห็นก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเรา กลับมาเดี๋ยวนี้มารน้อย”

ฉางฟงแหกปากร้องดังลั่น ชั่วพริบตาฉางฟงก็รู้สึกว่ามีวัตถุประหลาดกำลังพุ่ง

ตรงมายังตำแหน่งที่เขาบินทรงตัวอยู่เหนือป่าลวงตา

“หมับ!” ฉางฟงยกมือขวาขึ้นคว้าวัตถุนั้นได้อย่างแม่นยำ

‘โห!…นายท่านใจร้าย ทิ้งให้ผมอยู่คนเดียวในพื้นดินตั้งนาน’ มารน้อยส่งกระแส

บทที่ 4 สมบัติจอมมาร

�� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

จิตมาประท้วงฉางฟงทันทีเมื่อมันสัมผัสจิตของฉางฟงได้

‘ฮ่าๆ ขอโทษทีมารน้อย ฉันรีบไปหน่อยเลยลืมนาย’ ฉางฟงตอบกลับไปโดยการ

สื่อสารทางจิตเช่นกัน

‘ง่ะ!…วันหลังอย่าลืมผมอีกนะครับ’ มารน้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ

‘โอเค ไม่ลืมหรอก พวกเรากลับไปรวมกลุ่มกับทุกคนกันเถอะ’ ฉางฟงตัดบท

เพราะขี้เกียจฟังมารน้อยงอแง

‘นายท่าน ผมมีข่าวดีมาบอก’

‘ข่าวดีหมายความว่าอย่างไรมารน้อย อธิบายให้ชัดเจนกว่านี้หน่อยสิ’ ฉางฟง

โต้ตอบกลับไปโดยใช้กระแสจิตเช่นเดิม

‘ผมได้กลิ่นอาวุธมารชิ้นต่อไปแถวนี้ครับ’

‘หา! อาวุธมารหรือ มันอยู่ที่ไหนมารน้อย’ ฉางฟงถามขึ้นอย่างสนใจ

‘มันอยู่ห่างจากที่นี่ไปไม่ไกลมากนักครับ นายท่าน’

‘หุๆ ไปทดลองเสี่ยงดวงดูดีกว่า เผื่อจะได้ของเล่นอะไรติดไม้ติดมือกลับมาด้วย

มารน้อยบอกมาสิ ไอมารอยู่ทางทิศไหน’

หลังจากฉางฟงพูดจบ มารน้อยก็รีบนำทางให้ฉางฟงไล่ตามไอมารไปอย่าง

รวดเร็ว

บริเวณเต็นท์ที่พัก ทุกคนกำลังกินอาหารกระป๋องอย่างเอร็ดอร่อย ขณะที่แดน

จ้องมองจิ้งหรีดที่เนฟเอาออกมานอนแช่น้ำในถ้วยอย่างแปลกใจ

“เนฟ นายเลี้ยงจิ้งหรีดเป็นเพื่อนหรือ” แดนถามขึ้น ทำให้ทุกคนในกลุ่มต่างหัน

ไปมองเนฟเพื่อรอฟังคำตอบที่ภูตหนุ่มจะตอบออกมา

“ฟิงเกอร์ไม่ได้เป็นสัตว์เลี้ยง แต่ฟิงเกอร์เป็นเพื่อนของฉางฟง”

เนฟตอบเสียงขรึมขณะเขมือบอาหารในจานจนเกือบหมด โดยไม่ได้เงยหน้าขึ้น

มองหรือสบตากับแดน เขายังคงทำตัวเป็นปกติเช่นเคย

“ฮ่าๆ ฉางฟงมีนิสัยประหลาดดีแท้ เลี้ยงอะไรไม่เลี้ยง ดันเลี้ยงจิ้งหรีด”

“ฟิงเกอร์ไม่ได้เป็นสัตว์เลี้ยง” เนฟยังคงกล่าวย้ำคำเดิมอีกครั้ง

แดนถอนหายใจ “โอเค…ไม่ได้เป็นสัตว์เลี้ยง แต่เป็นเพื่อน”

แดนย้ำคำสุดท้ายเพราะเขาขี้เกียจเถียงกับเนฟแล้ว

�� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ ��

“ฟิงเกอร์จะกินอะไรก็บอกนะ เดี๋ยวฉันจะตักให้ ถ้านายไม่กินอาหารตอนนี้ นาย

คงต้องรอกินพร้อมกับฉางฟงโน่น” เนฟหันมาพูดกับฟิงเกอร์ที่นอนแช่น้ำในถ้วยอย่าง

สบายอารมณ์

“เฮ้ย!…ภูตของฉางฟงนี่มันประสาทหรือเปล่าวะ คุยกับจิ้งหรีดก็ได้ด้วย” แดน

หันไปกระซิบกระซาบกับเทพกระบี่เวรตะไลที่นั่งอยู่ข้างเขา

“หุๆ มีบางอย่างที่นายยังไม่รู้แดน ไว้นายสังเกตไปเรื่อยๆ จะพบคำตอบเอง”

เทพกระบี่เวรตะไลพูดขึ้นเป็นปริศนาพร้อมกับอมยิ้ม

“เง่ะ!…พวกนายพูดอะไรกัน ฉันยิ่งฟังยิ่งงง”

แดนส่ายหน้าแล้วหันไปกินอาหารต่อ แต่ตาก็ยังคงสังเกตพฤติกรรมของจิ้งหรีด

เป็นระยะ

หลังจากฟิงเกอร์อาบน้ำเสร็จแล้วก็ส่งสัญญาณให้เนฟที่ยังกินไม่อิ่ม

“แกนี่มันเรื่องมากจริงๆ ฟิงเกอร์ อินดี้เอาผ้าขนหนูให้เจ้าฟิงเกอร์หน่อยสิ” เนฟ

บ่นอุบ ก่อนจะหันไปพูดกับอินดี้

แดนถึงกับอึ้ง พูดอะไรไม่ออกเมื่อเห็นเนฟยื่นผ้าขนหนูไซซ์เล็กพิเศษให้จิ้งหรีดที่

อยู่ในถ้วย

“อ๊าก!…ตูจะบ้าตาย จิ้งหรีดใช้ผ้าขนหนู” แดนอุทานขึ้นเมื่อเห็นฟิงเกอร์ยื่นขา

ออกไปรับผ้าขนหนูมาเช็ดตามร่างกายเท่าที่ขาของมันจะอำนวยความสะดวกได้

“เฮ้ย! ไม่ต้องทำหน้าตื่นตกใจขนาดนั้นไอ้หนูแดน ยินดีที่รู้จักโว้ย ความจริงฉัน

เองก็ไม่อยากแสดงตัวให้คนอื่นรู้จักนักหรอก แต่ฉันเห็นแก่นายที่เป็นเพื่อนของไลจังกับ

รักจัง ฉันจะคุยกับนายบ้างก็ได้” พอฟิงเกอร์พูดจบประโยค แดนก็ถึงกับอ้าปากค้าง

เพล้ง! ถ้วยอาหารที่อยู่ในมือแดนตกลงพื้นดินแตกกระจายทันที

“เงะ่…จิง้หรดีพดูได”้ แดนขยีต้าซำ้ๆ หลายครัง้ เพือ่ใหแ้นใ่จวา่เขาไมไ่ดต้าฝาดไป

“นายไม่ได้ตาฝาดหรอกแดน ฟิงเกอร์พูดได้จริงๆ” เทพกระบี่เวรตะไลเอ่ยปาก

ขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนหนุ่มกำลังจะสติแตก

“เป็นไปได้ไง ในคู่มือเล่นเกมฉันไม่เคยเห็นบรรทัดไหนมีข้อความเขียนไว้ว่า มี

สัตว์อสูรพูดได้ในเกม” แดนกล่าวขึ้นอย่างตื่นเต้น

“แล้วในคู่มือเล่นเกมของนายมีบรรทัดไหนเขียนไว้ว่า ไม่มีสัตว์อสูรพูดได้หรือ

เปล่า” ฟิงเกอร์ย้อนถามกลับไป ทำให้แดนอึ้ง พูดอะไรไม่ออก

�� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

“ฉันขอตัวไปทานอาหารก่อนนะแดน สงสัยอะไรสอบถามเนฟได้เต็มที่” ฟิงเกอร์

พูดจบก็กระโดดไปนั่งบนตักของอินดี้ เพื่อรอให้ภูตสาวหั่นเนื้อให้มัน

“เหอะๆ จิง้หรดีกนิเนือ้ไดด้ว้ย แปลกวุย้” แดนสา่ยศรีษะไปมาอยา่งประหลาดใจ

“แค่กินเนื้อถือเป็นเรื่องเด็กๆ ของฟิงเกอร์ นายเคยเห็นจิ้งหรีดกินไวน์ไหม นั่น

แหละของแปลก” เทพกระบี่เวรตะไลถามขึ้นดื้อๆ

แดนเบิกตาค้าง หันไปจ้องมองฟิงเกอร์ที่กำลังกินอาหารอยู่ตาไม่กะพริบ

ขณะที่แดนกำลังตื่นตะลึงกับฟิงเกอร์ ฉางฟงก็กำลังเดินทางไปหาสมบัติแห่ง

จอมมารที่มารน้อยสัมผัสไอของมันได้

“ไหนว่าอยู่ใกล้ๆ ไงมารน้อย นี่ฉันออกแรงบินมาได้เกือบ 10 กิโลเมตรแล้วนะ”

ฉางฟงเอ่ยปากถามมารน้อยหลังจากเขาคลายผนึกให้มัน

มารน้อยซึ่งนั่งอยู่บนฝ่ามือฉางฟงยิ้มแห้งๆ “ตำแหน่งไออยู่ด้านหน้านี้เองครับ

นายท่าน”

ฉางฟงก้มลงมองมารน้อยอย่างเซ็งๆ

“ถ้าจะต้องเดินทางไปไกลกว่านี้ ฉันคงต้องกลับไปปรึกษาเพื่อนๆ ก่อนนะมาร

น้อย” ยังไม่ทันที่ฉางฟงจะพูดอะไรต่อ มารน้อยก็พูดแทรกขึ้นว่า

“ถึงแล้วครับนายท่าน ไอมารที่ผมสัมผัสได้มันอยู่ด้านล่างนี่เอง”

“หือ ด้านล่างหรือ” ฉางฟงพูดจบก็ขยับปีกลดเพดานบินลงต่ำอย่างรวดเร็ว

ตุบ! เมื่อเท้าของฉางฟงสัมผัสพื้น เขาก็รีบกวาดตามองไปรอบๆ ตัวอย่าง

ระมัดระวัง

“รอบตัวฉันมืดจนมองไม่เห็นอะไรเลย แบบนี้คงต้องใช้คบเพลิงเข้าช่วย” ฉางฟง

สั่งปิดระบบการ์ดเพื่อประหยัดค่าพลังงานการใช้การ์ด ไม่ให้เสียไปโดยไร้ประโยชน์ เขา

ค้นหาคบเพลิงในกระเป๋ามิติได้สักพักก็หยิบมันออกมาวางบนพื้นหลายอัน

“เอาคบเพลิงออกมาทำไมเยอะแยะครับนายท่าน” มารน้อยเอ่ยปากถาม

ฉางฟงฉีกยิ้ม

“งานนี้เราต้องมีคนช่วย แค่นายกับฉันคงไม่ไหวหรอกมารน้อย หุๆ ปลดผนึก

ซินเวีย ปลดผนึกซามีน ปลดผนึกซีเรีย ”

สิ้นคำสั่งปลดผนึกภูต แสงสว่างก็พุ่งวาบออกมาจากหัวแหวนของฉางฟง เมื่อ

�� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ ��

แสงจางหายไป ภูตทั้งสามก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าฉางฟง

“ทุกคน มาหยิบคบเพลิงไปคนละอัน” ฉางฟงออกคำสั่งทันทีเมื่อเห็นภูตสาว

ทั้งสามปรากฏออกมา

“เรียกออกมาทำไมฉางฟง ภูตจะหลับจะนอนมาขัดขวางความสุขอยู่ได้” ซินเวีย

โวยวายขึ้น

“อย่างอแงสิซินเวีย ช่วยกันทำมาหากินหน่อย” ฉางฟงพูดขณะจุดไฟที่คบเพลิง

ของแต่ละคน

“ฉางฟงจะพาพวกเราไปไหนหรือคะ” ซีเรียเอ่ยปากถามบ้าง

“ไปหาสมบัติแห่งจอมมารชิ้นต่อไปน่ะสิ ซีเรีย”

มารน้อยพูดแทนฉางฟงจบก็กระโดดขึ้นไปนั่งบนไหล่ซามีน

“หือ...สมบัติแห่งจอมมารอยู่แถวนี้หรือมารน้อย” ซามีนถามย้ำ

มารน้อยยืดอกพยักหน้าอย่างภาคภูมิใจ

“ถูกต้องครับ สถานที่แห่งนั้น มีผมคนเดียวที่รู้จัก”

“มารน้อยอย่ามัวแต่คุยได้ไหม รีบนำทางไปได้แล้ว” ฉางฟงตัดบทเมื่อเห็นว่ามาร

น้อยกำลังจะคุยโม้

มารน้อยหันมายิ้มแห้งๆ ให้ฉางฟง ก่อนจะกระโดดลงจากไหล่ซามีน วิ่งนำหน้า

ไปอย่างรวดเร็ว มันพาทุกคนลัดเลาะไปตามช่องเขาที่มีเส้นทางคดเคี้ยวไปมา จนฉางฟง

และทุกคนมึนงงไปหมด

“อีกไกลไหมมารน้อย” ซามีนถามขึ้นเมื่อเห็นว่าทุกคนเดินเข้าไปในซอกเขาเกือบ

5 นาทีแล้ว

“อีกนิดเดียว อยู่ด้านหน้านี่เอง” มารน้อยตอบกลับมา

ฉางฟงทำตาลอยๆ “เฮ้อ!…ไม่ใช่อีกนิดเดียว 10 กิโลเมตร เหมือนตอนแรกนะ

โว้ย มารน้อย”

ฉางฟงพ่นลมหายใจออกจากปาก เพราะไม่ไว้วางใจคำว่าอีกนิดเดียวของมัน ใน

ขณะคิดอะไรเพลินๆ เสียงตะโกนของมารน้อยก็ทำให้ฉางฟงสะดุ้ง

“ถึงแล้ว!”

มารน้อยตะโกนบอกพร้อมกับกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ ทุกคนต่างยกคบเพลิง

ขึ้นสูงเพื่อให้แสงสว่างสาดส่องไปทั่วบริเวณ แต่สิ่งที่ทุกคนพบเห็นกลับมีแต่ความว่าง

�0 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

เปล่า นอกจากผนังช่องเขาทั้งสองด้านที่อยู่ห่างกันประมาณ 4 เมตร บริเวณนี้ก็ไม่มีสิ่ง

ปลูกสร้างพิสดารอะไรอยู่เลย

“มารน้อย อย่าล้อเล่นสิวะ ไม่เห็นมีอะไรเลย” ฉางฟงพูดขึ้นอย่างหัวเสีย

“มีสิครับนายท่าน ผมสัมผัสได้ถึงไออาวุธแห่งจอมมาร” มารน้อยเถียงทันควัน

ซีเรียดูจะมีความละเอียดรอบคอบกว่าคนอื่น ภูตสาวค่อยๆ ใช้มือลูบไปตาม

ผนังช่องเขาด้านหนึ่งคล้ายกับกำลังหาอะไรบางอย่าง

“หาอะไรหรือซีเรีย” ฉางฟงถามขึ้นอย่างสงสัยเมื่อเห็นภูตสาวใช้มือลูบเศษดิน

ออกจากผนังช่องเขาทางด้านหนึ่ง

“หาประตูลับค่ะ อาจมีประตูกลซ่อนอยู่บริเวณนี้” ซีเรียตอบเสียงหวานใส

“หือ จริงหรือ งั้นทุกคนช่วยกันหาประตูลับจากผนังช่องเขาทั้งสองด้านเร็วเข้า”

ฉางฟงรีบเดินเข้าไปชิดผนังช่องเขาด้านหนึ่ง และเริ่มทำตามอย่างที่ภูตสาวซีเรีย

ทำบ้าง เวลาผ่านไปเกือบ 10 นาที ทุกคนก็ยังไม่พบวี่แววหรือเบาะแสประตูลับเลย

“มารน้อยโกหกหรือเปล่า พวกฉันหาจนทั่วแล้วนะ ไม่เห็นมีอะไร” ซินเวียพูดขึ้น

อย่างหงุดหงิด

“ฉันไม่ได้โกหกนะ ไอมันอยู่บริเวณนี้จริงๆ เพียงแต่ฉันไม่รู้ว่าเป็นที่ไหน”

มารน้อยพูดขึ้นอย่างมั่นใจ

“อยู่ที่นี่ แล้วมันที่ไหนล่ะมารน้อย ฉันลูบจนได้เลือดแล้วนะเนี่ย” ฉางฟงบ่นอุบ

หลังจากโดนคมหินที่ผนังช่องเขาบาดมือจนเลือดไหลโชก

“ฉางฟงได้รับบาดเจ็บ เดี๋ยวซามีนช่วยพันแผลให้นะคะ”

“หา!” ฉางฟงอุทานเมื่อคิดถึงเหตุการณ์เก่าๆ ที่เมืองฝึกหัด

“ฉางฟงไม่อยากให้ซามีนรักษาให้หรือคะ”

ภูตสาวซามีนเริ่มน้ำตาซึมเมื่อเห็นฉางฟงเผลอเอามือซ่อนไว้ด้านหลัง คล้ายกับ

ไม่อยากให้เธอเป็นคนรักษา

“ไม่นะซามีน!” ซินเวียร้องลั่นช่องเขา

‘เง่ะ!...อย่าร้องไห้นะซามีน เดี๋ยวได้ซวยกันหมด’ ฉางฟงคิดในใจ หน้าซีดเป็น

ไก่ต้ม

“ม่าย…นายท่าน มารน้อยยังไม่อยากปลิวหายไป” มารน้อยร้องโวยวาย วิ่งไปหา

ก้อนหินเล็กๆ บริเวณนั้นยึดเกาะไว้

�0 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ �1

“ซามนี!…ใจเยน็ๆ อยา่รอ้งไหน้ะ ฉางฟงเตม็ใจใหซ้ามนีชว่ยรกัษาจรงิๆ” ฉางฟง

พูดจบก็พบว่าสายลมที่พัดอยู่รอบตัวเริ่มถูกดูดเข้ามารวมกันที่ร่างของซามีนทีละน้อย

“สายไปแล้วฉางฟง เวลานี้ฉันว่าหาที่หลบภัยก่อนดีกว่า” ซินเวียรีบพูดขึ้นขณะ

จ้องมองซามีนที่กำลังสะอึกสะอื้น

“จะหนไีปไหนกไ็มพ่น้หรอก ทีค่บัแคบแบบนี ้ตายแน่ๆ ชวัร”์ มารนอ้ยครำ่ครวญ

โดยลืมไปว่าตัวมันเองหนีไปหลบในกระเป๋ามิติของฉางฟงก็สิ้นเรื่อง

ฉางฟงไม่รู้จะทำอย่างไรจึงตะโกนเสียงดังขึ้นว่า

“ซามีน ฉางฟงจะร้องเพลงและเต้นให้ดูนะ นี่อุตส่าห์เตรียมไว้แสดงโชว์ให้ซามีน

ได้ดูโดยเฉพาะเลย”

คำพูดของฉางฟงได้ผล ซามีนซึ่งน้ำตาคลอเบ้าเงยหน้าขึ้นมองฉางฟง

‘อ๊าก…ได้ผล ซามีนหันมามองแล้ว ลุย!’ ฉางฟงคิดในใจก่อนจะเริ่มร้องเพลง

เชียร์รับน้องใหม่ที่พอจำได้

“ไก่ย่างถูกเผา ไก่ย่างถูกเผา มันจะถูกไม้เสียบ มันจะถูกไม้เสียบ เสียบตูดซ้าย

เอ้า... เสียบตูดขวา เอ้า...ร้อนจริงๆ ร้อนจริงๆ ร้อนจริงๆ ไก่ย่างถูกเผา ไก่ย่างถูกเผา

มันจะถูกไม้เสียบ มันจะถูกไม้เสียบ เสียบตูดซ้าย เอ้า...เสียบตูดขวา เอ้า...ร้อนจริงๆ

ร้อนจริงๆ ร้อนจริงๆ” ฉางฟงใส่แอกติง สะบัดก้นเต็มที่ขณะเต้น

ภูตสาวทั้งสามและมารน้อยต่างพากันอึ้ง จ้องมองฉางฟงแล้วอ้าปากค้าง

“คิกๆ ฉางฟงเต้นท่าอะไรคะ ตลกจังเลย”

ซามีนหัวเราะขำ ทั้งๆ ที่น้ำตายังคงเปื้อนอยู่เต็มใบหน้า เมื่อฉางฟงเห็นว่าลมที่

พัดรอบกายเริ่มจะเบาบางลงเรื่อยๆ ก็ยิ่งเต้นแร้งเต้นกามากยิ่งขึ้น

ซนิเวยีกบัซเีรยีทนกลัน้หวัเราะไมไ่หว ทัง้สองตา่งระเบดิเสยีงหวัเราะออกมาดงัลัน่

“โธ่!…นายท่านของมารน้อยไปซะแล้ว บ้าติงต๊องกู่ไม่กลับ มาดจอมมารผู้ยิ่งใหญ่

หมดกันก็คราวนี้ละวะ” มารน้อยพูดน้ำเสียงรันทดขณะจ้องมองฉางฟงตาไม่กะพริบ

“เย้!...จบแล้ว เป็นไงท่าเต้น สนุกกันปะ”

“สนุกค่ะ สอนซามีนเต้นด้วยนะคะ ท่าเต้นน่ารักดี ซามีนอยากเต้นเป็นค่ะ”

“ได้สิซามีน ไว้ว่างๆ ฉางฟงจะสอนท่าเต้นนี้ให้ เวลานี้ซามีนมาทำแผลให้

ฉางฟงก่อนดีกว่า เห็นไหมเลือดไหลออกมาเต็มมือฉางฟงเลย” ฉางฟงกล่าวเสียงเนิบ

“ค่ะฉางฟง” ซามีนตอบอย่างดีใจ

�2 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

ภูตสาวรีบกุลีกุจอนำชุดปฐมพยาบาลไปทำแผลให้ฉางฟงอย่างรวดเร็ว

‘เฮ้อ!…รอดแล้วตู ไม่คิดเลยว่าเพลงเชียร์มหา’ ลัยช่วงรับน้องใหม่ที่ร้องส่งๆ ไป

จะช่วยให้เรารอดตายในวันนี้ได้’

ฉางฟงคิดในใจพร้อมกับก้าวเดินเข้าไปนั่งพิงผนังช่องเขาด้านหนึ่ง เพื่อให้ซามีน

ทำแผลได้ถนัด

“ฉางฟงอยู่เฉยๆ นะคะ ซามีนจะทำแผลให้ค่ะ”

ซามีนกล่าวจบก็เริ่มปฏิบัติการสร้างเดอะมัมมี่รีเทิร์นบนแขนของฉางฟงอีกครั้ง

ฉางฟงได้แต่ลุ้นว่า ผ้าพันแผลที่ซามีนกำลังพันจะไต่ขึ้นมาถึงคอหอยของเขาหรือเปล่า

แค่นั้นเอง

เวลาผ่านไปเกือบ 5 นาที หลังจากซีเรียสำรวจผนังช่องเขาบริเวณนั้นจน

ละเอียดยิบ ภูตสาวก็กล่าวขึ้นลอยๆ ว่า

“ถ้าประตูลับที่มารน้อยสัมผัสไอมารได้ไม่ได้อยู่บนผนังช่องเขา ประตูลับนี้ควร

จะอยู่ที่ไหนกันนะ” ฉางฟงเหม่อมองไปรอบๆ ตัว

“บริเวณนี้เป็นพื้นที่จำกัด ถ้าไม่อยู่บนผนังช่องเขา ประตูลับนี้มันจะลอยอยู่ใน

อากาศหรือ…หือ…เดี๋ยวสิ….หรือว่า ฮ่าๆ เรานี่โง่ไปได้”

ฉางฟงระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันทีเมื่อเขาพอจะเดาออกว่าประตูลับน่าจะอยู่

ที่ไหน

“นายรู้แล้วหรือว่าประตูลับอยู่ที่ไหน ฉางฟง” ซินเวียที่ยืนอยู่ข้างซีเรียถามข้ึน

“อมื! ถา้ฉนัเดาไมผ่ดิ ประตลูบันา่จะอยูบ่นพืน้ดนิ บรเิวณทีพ่วกเราทกุคนยนือยู”่

“พื้นดิน! ต้องใช่แน่เลยค่ะฉางฟง”

ซีเรียสนับสนุนความคิดฉางฟงอีกเสียง ภูตสาวไม่ต้องรอให้ฉางฟงสั่ง เธอรีบนั่ง

ลงสำรวจพื้นดินแถวนั้นทันที

“เจอแล้วค่ะฉางฟง”

ซีเรียกล่าวขึ้นอย่างดีใจเมื่อพบร่องรอยบนพื้นดินซึ่งอยู่ห่างจากตำแหน่งที่ฉางฟง

นั่งอยู่เพียง 2 เมตรเท่านั้น

“ประตูลับบนพื้นดิน ดูเหมือนจะมีขนาดใหญ่เหมือนกันนะคะ ซินเวียมาช่วย

�2 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ �3

ซีเรียทำความสะอาดพื้นดินบริเวณนี้หน่อยสิจ๊ะ”

ซีเรียหันไปกล่าวกับซินเวียที่กำลังยืนมองลวดลายโบราณซึ่งสลักอยู่บนพื้น

มารน้อยเองก็รีบวิ่งเข้ามาดูอย่างตื่นเต้นเช่นกัน

10 นาทีผ่านไป ฉางฟงก็ได้รับอิสระ แม้มือข้างหนึ่งจะหายเข้าไปอยู่ในเฝือก

ที่ซามีนบรรจงพันขึ้นเกือบ 500 รอบก็ตาม

“เสร็จแล้วค่ะ ฉางฟงลองขยับแขนดูนะคะ” ซามีนกล่าวด้วยน้ำเสียงน่ารัก

“จ้ะซามีน” ฉางฟงแกล้งยกมือที่มีผ้าพันแผลขึ้นแกว่งไปมาเล็กน้อยพอเป็นพิธี

“เป็นไงบ้างคะ” ภูตสาวลุ้นคำตอบจากฉางฟงไม่น้อย

“อืม!...เคลื่อนไหวสะดวกมากเลย ขอบใจมากจ้ะซามีน” ฉางฟงตอบด้วยใบหน้า

ยิ้มแย้มแจ่มใส

‘อ๊าก…หนักอิ๊บอ๋ายเอย…ไหล่จะหลุดไหมเนี่ยเวลาเดิน’ ฉางฟงคิดในใจอย่าง

เศร้าสร้อย

ภูตสาวของฉางฟงใช้เวลาอยู่พักใหญ่ ในที่สุดพวกเธอก็ทำความสะอาดประตู

ห้องลับจนมองเห็นลวดลายจารึกโบราณบนแท่นประตูลับได้อย่างชัดเจน

ฉางฟงปรายตามองประตูลับ พบว่ามันมีขนาดใหญ่ประมาณ 2 คูณ 3 เมตร

ทีเดียว ลักษณะของประตูนั้นแบนราบเรียบติดไปกับพื้นดิน ถ้าผู้เล่นที่มาค้นหาประตูลับ

นี้ไม่สังเกตดีๆ จะไม่รู้เลยว่าพื้นดินที่พวกเขาเหยียบอยู่คือประตูทางเข้าห้องลับ ฉางฟง

มองดูลวดลายและอักษรจารึกโบราณที่อยู่บนบานประตูสักพักจึงกล่าวขึ้นว่า

“ข้อความพวกนี้มีใครในกลุ่มของพวกเราแปลออกไหม”

ซีเรียฉีกยิ้ม “ข้อความนี้เป็นอักษรเผ่ามารซึ่งจารึกไว้ว่า”

“หลุมเล็กๆ บริเวณกึ่งกลางประตูลับด้านบนคือรูกุญแจ ปริศนาข้อความด้าน

ล่างคือลูกกุญแจ”

“เง่ะ!...มีปัญหามาให้แก้อีกแล้ว จะเปิดประตูให้ดีๆ โดยไม่ต้องแก้ไม่ได้หรือ”

ฉางฟงบ่นอุบทันทีเมื่อซีเรียกล่าวจบประโยค

“ข้อความในลูกกุญแจกล่าวว่าอย่างไรซีเรีย” ซินเวียถามขึ้น

“ข้อความมีอยู่ว่า

“เปรียบดังน้ำ คล้ายคลึงกับน้ำ

�4 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

“เปรียบดังพลัง เกื้อหนุนชีพจร

“เปรียบดังชีวิต ค้ำจุนร่างกาย

“นี่คือข้อความที่เป็นกุญแจสำหรับเปิดประตูลับบานนี้ค่ะ”

ซีเรียกล่าวแล้วอมยิ้ม ส่วนฉางฟงหลังจากฟังข้อความจบก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก

สีหน้าสลดไปถนัด เพราะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากเปิดประตู

“เฮ้อ!…ถามให้มันชัดเจนกว่านี้ก็ไม่ได ้ ทุกคนมีใครรู้คำตอบหรือเปล่า” ซินเวีย

ถามขึ้นเพราะขี้เกียจคิด

“ไม่ยากค่ะ ฉางฟงเองก็คงจะรู้คำตอบแล้ว คิกๆ” ซีเรียพูดพร้อมกับหัวเราะ

เบาๆ เพราะเธอเองก็เข้าใจสิ่งที่ฉางฟงกำลังคิดเช่นกัน

“ฉางฟงบอกมาเลย คำตอบมันคืออะไร มัวแต่อมพะนำอยู่ได้” ซินเวียคาดคั้น

“ถ้าเธออยากรู้นักก็ชักดาบออกมาสิซินเวีย” ฉางฟงพูดด้วยน้ำเสียงเซ็งโคตร

“ชักดาบ!…ก็ได้”

เช้ง! ซินเวียชักดาบของเธอออกมาถือไว้ ก่อนจะหันกลับไปมองฉางฟง คล้าย

เร่งรัดว่าจะให้เธอทำอะไรต่อไปอีก

“เดินเข้ามาใกล้ๆ ฉันด้วย” ฉางฟงเอ่ยปากเสียงเรียบ

ซินเวียงงเล็กน้อย แต่ภูตสาวก็ยอมเดินตรงเข้าไปหาฉางฟงแต่โดยดี โดยไม่โต้

แย้งอะไรให้มากความ

เมื่อซินเวียเดินมาถึงระยะที่ฉางฟงต้องการ เขาก็ตวัดมือไปที่ดาบอย่างรวดเร็ว

ฉับ! “อูย เสียวโว้ย” ฉางฟงร้องเบาๆ เลือดพุ่งกระฉูดออกมาจากบาดแผลบน

ฝ่ามือของเขาทันที

“เง่ะ…ฉางฟง นายจะบ้าหรือ เอามือมาปัดคมดาบแรงๆ แบบนี้ได้ไง” ซินเวียร้อง

โวยวายขึ้นเมื่อเห็นเลือดไหลทะลักออกมาจากฝ่ามือของฉางฟง

“นี่แหละคือกุญแจเปิดประตูบานนี้ ซินเวีย”

ฉางฟงกล่าวจบก็ยื่นมือที่ได้รับบาดเจ็บไปเหนือหลุมกุญแจ เลือดภายในร่างกาย

ของเขาไหลผ่านฝ่ามือของเขาลงไปในหลุมไม่นานก็เต็ม

เพื่อความไม่ประมาท ฉางฟงตัดสินใจขยับถอยออกห่างจากประตูหลายเมตร

ซามีนรอจังหวะอยู่แล้ว เธอรีบถือชุดปฐมพยาบาลเดินเข้าไปดูบาดแผลที่ข้อมือของ

ฉางฟงด้วยความเป็นห่วง

�4 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ �5

‘เฮ้อ!…อีกข้างแล้วสิเรา…อยากร้องไห้จังเลย’ ฉางฟงคิดในใจ

“ฉางฟง ดูที่ประตูสิ” อยู่ๆ ซินเวียก็ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น

ฉางฟงหันไปมองประตูลับก็พบว่า เลือดที่อยู่ในหลุมกุญแจเริ่มไหลซึมหายไป

ทีละน้อย

ครืนๆ…ครืนๆ…ครืนๆ เสียงเคลื่อนตัวใต้พื้นดินทำให้ทุกคนต่างสะดุ้งตกใจ

“ทุกคน! ถอยออกห่างจากประตูลับเร็วเข้า” ฉางฟงตะโกนบอก

ทุกคนรีบถอยหลังไปติดกับผนังช่องเขาด้านตรงข้ามกับประตูลับ

ครืนๆ…ครืนๆ…ครืนๆ เสียงเคลื่อนตัวของแผ่นหินยังดังอย่างต่อเนื่อง และชั่ว

พริบตาประตูลับก็ยุบลงไปยังพื้นดินเบื้องล่าง ทำให้หน้าดินบริเวณนั้นกลายเป็นหลุม

ขนาดใหญ่

ตึง! เสียงกระแทกอย่างรุนแรงดังขึ้นมาจากหลุม แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นใต้

พื้นดินก่อนหน้านี้หายไปจนหมดสิ้น

“มารน้อย นายลงไปสำรวจด้านล่างหน่อยสิ” ฉางฟงออกคำสั่ง

“ครับ! นายท่าน”

มารน้อยพูดจบก็พุ่งลงไปสำรวจภายในหลุมตามคำสั่งของฉางฟงอย่างรวดเร็ว

ส่วนซินเวียเมื่อเห็นประตูลับเปิดได้ก็รีบเดินตรงเข้ามานั่งลงข้างๆ ฉางฟง แต่ดูเหมือนว่า

ฉางฟงจะอ่านเกมออกจึงกล่าวขึ้นว่า

“จะออดอ้อนเอาอะไรหรือซินเวีย” ภูตสาวเอื้อมมือทั้งสองข้างเข้ามากอดแขน

ฉางฟงไว้ กล่าวเสียงอ่อนเสียงหวานว่า

“ด้านล่างของประตูลับคงมีแต่หีบสมบัติแน่เลย ฉางฟง ถ้านายเจอหีบสมบัติจริง

พวกเราหารกันคนละครึ่งอย่างยุติธรรมนา”

ฉางฟงปรายตาไปมองซินเวียแล้วหัวเราะ

“ให้มันเจอสมบัติจริงๆ ก่อนเถอะ ค่อยตกลงแบ่งสมบัติกันก็ไม่สายนะ ซินเวีย”

“ไม่เอาอ้ะ ตกลงกันตอนนี้ดีกว่า” ซินเวียยังกอดแขนออดอ้อนฉางฟงอย่าง

ต่อเนื่อง

“เฮ้อ! โอเค ฉันตกลงแบ่งให้เธอครึ่งหนึ่งก็ได้”

ฉางฟงขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืดจึงยอมรับปากไป ขณะที่ซินเวียตาเป็น

ประกายขึ้นมาทันที เธอยื่นริมฝีปากไปแตะที่แก้มฉางฟงเบาๆ ก่อนจะวิ่งจู๊ดไปนั่งรอมาร

�� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

น้อยที่ปากหลุมประตูลับอย่างกระวนกระวาย

“ฮ่าๆ สมเป็นซินเวียจริงๆ”

ฉางฟงพูดจบประโยค ซามีนก็เอ่ยปากขึ้นพอดี

“เสร็จแล้วค่ะฉางฟง”

‘อ๊าก…หนักกว่าอีกข้างด้วย งานนี้ถ้ามีสัตว์อสูรโผล่ออกมาจากห้องลับด้านล่าง

ตูตายแน่ๆ’

ฉางฟงคิดในใจ สีหน้าสลดลงเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าชีวิตของตัวเองกำลังแขวนอยู่

บนเส้นด้ายที่เปราะบางและแสนจะขาดง่าย โชคดีซามีนยังมีน้ำใจเหลือนิ้วก้อยให้ดูต่าง

หน้าตั้ง 1 นิ้ว

“เป็นไงบ้างคะฉางฟง เบาสบายหรือเปล่าคะ”

ซามีนถามอย่างเป็นห่วงฉางฟงจริงๆ

“โคตรเบาเลย ซามีนทำแผลได้ยอดเยี่ยมมาก แต่ฉางฟงขอให้ซามีนช่วยพยุง

ฉางฟงลุกขึ้นยืนหน่อยได้ไหม พอดีมือของฉางฟงหายเข้าไปในเฝือก...เอ่อ…ไม่ใช่สิ

ผ้าพันแผลเกือบหมด ทำให้ลุกขึ้นยืนลำบาก”

ภูตสาวพยักหน้าแล้วช่วยพยุงฉางฟงลุกขึ้นยืน

“ฉางฟง มารน้อยขึ้นมาจากห้องด้านล่างแล้ว” ซินเวียกล่าวด้วยน้ำเสียงยินดี

ฉางฟงไม่รอช้า รีบเดินตรงไปยังปากหลุมที่ยุบลงไปยังพื้นเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว

“มารน้อย ด้านล่างเป็นอย่างไรบ้าง” ฉางฟงเอ่ยปากถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นมารน้อย

ยืนรออยู่ปากหลุม

มารน้อยเงยหน้าขึ้นมองฉางฟงแล้วยิ้มเล็กน้อย “ไม่มีอะไรเลยครับนายท่าน

นอกจากประตูกลอีก 1 บาน”

“เง่ะ!…ประตูกลอีกแล้วหรือ” ฉางฟงร้องเสียงหลง สีหน้าบ่งบอกว่าเบื่อหน่าย

มาก เพราะจะต้องมานั่งแก้ไขปัญหาอีกแล้ว

“อย่าทำหน้าเบื่อหน่ายสิครับนายท่าน ของดีย่อมต้องมีอุปสรรคมากั้นขวางเป็น

ธรรมดา แต่ผมเชื่อมั่นว่าด้วยสติปัญญาของนายท่านที่เก่งกาจทั้งบุ๋นและบู๊เหนือใคร

ปัญหาพวกนี้เป็นเพียงเศษฝุ่นธุลีที่ปลิวมาเกาะตามร่างกายของนายท่านเท่านั้น”

มารน้อยรีบกล่าวประจบยกยอปอปั้น เพราะกลัวฉางฟงขี้เกียจหาสมบัติแห่งจอม

มารแล้วตัดสินใจกลับที่พัก

�� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ ��

“หุๆ เก่งกาจที่สุดในเกมหรือมารน้อย ฮ่าๆ ยออีกทีสิ อารมณ์กำลังได้เลย”

ฉางฟงพูดแล้วหัวเราะ

“เจ้านายคือสุดยอดแห่งจอมมารที่เก่งกาจที่สุดของทุกยุคทุกสมัย ไม่มีจอมมาร

รุ่นไหนจะเพอร์เฟกต์เท่ากับเจ้านายอีกแล้ว”

มารน้อยยกยอปอปั้นต่อไป แต่มันก็แอบปาดเหงื่อเล็กน้อย เพราะไม่รู้จะสรรหา

คำกล่าวใดมายกยอปอปั้นเจ้านายต่อ

“ฮ่าๆ อารมณ์ดีขึ้นมามากแล้ว พอๆ เลิกยอได้แล้วมารน้อย เดี๋ยวฉันจะลอยหนี

ไปซะก่อน หุๆ ลุยกันต่อเลยเถอะ” ฉางฟงพูดอย่างอารมณ์ดี

ภูตสาวซินเวียซึ่งตั้งท่ารอไฟเขียวอยู่แล้วจึงรีบพูดขึ้นว่า “ฉางฟง ฉันขอลงไป

ก่อนนะ”

ซินเวียไม่รอคำตอบ รีบถือคบเพลิงกระโดดลงไปในหลุมที่มีความลึกเพียงระดับ

อกของเธอ แล้วยื่นคบเพลิงไปข้างหน้า จึงเห็นว่ามีบันไดทอดยาวลงไปยังห้องใต้ดิน

ด้านล่าง

หลังจากฉางฟงและทุกคนทยอยกันลงมาในหลุม ซินเวียก็ถือคบเพลิงเดินนำลง

ไปยังห้องด้านล่างอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางฉางฟงรู้สึกว่า แม้ทางเดินบริเวณนี้จะมีความ

คับแคบ แต่อากาศภายในกลับถ่ายเทได้สะดวกอย่างเหลือเชื่อ

“พวกเราต้องเดินลงไปลึกไหม มารน้อย” ฉางฟงถามขึ้น

“ไม่ครับนายท่าน ห้องโถงอยู่ด้านหน้านี่เองครับ”

มารน้อยกล่าวจบไม่นาน ทุกคนก็เดินทะลุมาถึงห้องโถงชั้นใต้ดิน ซึ่งมีขนาดใหญ่

พอสมควร ฉางฟงทอดสายตามองไปทั่วบริเวณแต่กลับไม่พบวัตถุใดตั้งอยู่เลย ส่วน

ซินเวียหัวเสียกว่าทุกคน เพราะไม่เจอหีบสมบัติดังที่คาดหวังไว้

“ประตูลับอีกห้องอยู่ทางด้านหน้าครับ นายท่าน” มารน้อยชี้ไปยังประตูหินขนาด

ใหญ่ที่ปิดแน่นสนิทอยู่ต่อหน้าทุกคน

ซีเรียกับซามีนยกคบไฟขึ้นสูงจึงพบว่ามีอักษรเผ่ามารจารึกอยู่บนบานประตู

เช่นกัน

“เฮ้อ!…มีอักษรมารจารึกไว้อีกแล้ว นี่ถ้าฉันไม่มีซีเรียหรือมารน้อย จะได้มา

เหยียบที่นี่ไหมนะ” ฉางฟงกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

“ถ้าไม่มีผมนำทางก็ยากจะมีคนเข้ามาเหยียบที่นี่ได้ครับ นายท่าน” มารน้อยคุย

�� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

โวด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจยิ่ง

ฉางฟงไม่อยากเสียเวลาฟังมารน้อยคุยน้ำท่วมทุ่งจึงหันไปกล่าวกับภูตสาวที่ยืน

อยู่ด้านข้างว่า “ซีเรีย แปลข้อความให้ฉันหน่อยสิ”

“ค่ะฉางฟง”

ภูตสาวยกคบเพลิงในมือขึ้นสูง เพื่อจะได้เห็นตัวอักษรบนบานประตูอย่างชัดเจน

และเมื่ออ่านข้อความบรรทัดแรกจบ เธอก็หันกลับไปแปลข้อความให้ฉางฟงฟังทันที

“ประตูลับนี้ถูกสร้างขึ้นมาภายหลังสงครามเทพกับมารสิ้นสุด เราสาวกแห่งจอม

มารผู้ใกล้จะสิ้นชีพได้นำสิ่งวิเศษแห่งเผ่าพันธุ์มารมาเก็บไว้ในที่แห่งนี้ ตามคำสั่งของท่าน

จอมมาร เรากับท่านจอมมารคาดหวังว่าต่อไปภายภาคหน้าจะมีผู้สืบทอดที่มีความเก่ง

กาจ เฉลียวฉลาดสามารถไขปริศนา นำอาวุธชิ้นนี้ออกสู่โลกภายนอก สร้างชื่อเสียงให้ขจร

ไกลได้อีกครั้ง”

ซีเรียหยุดหายใจแล้วหันกลับไปอ่านประโยคที่สอง สักพักจึงกล่าวขึ้นว่า

“แม่กุญแจเปิดประตูลับอยู่บนพื้นหน้าประตู”

พอซีเรียอ่านจบประโยค ทุกคนก็ก้มลงมองพื้นหน้าประตูห้องลับ ฉางฟงเห็น

แม่กุญแจแล้วถึงกับสะดุ้งโหยง กล่าวอย่างเซ็งโคตรว่า

“โอ้โห!…แม่เจ้าโว้ย ทำไมหลุมแม่กุญแจมันเยอะแยะขนาดนี้ หวังว่าคงไม่ตั้ง

เงื่อนไขสูบเลือดจนฉันแห้งตายหรอกนะ”

ซีเรียปิดปากหัวเราะเบาๆ ก่อนจะกล่าวต่อไปว่า

“แบ่งหลุมได้ออกเป็น 4 กลุ่ม แต่ละกลุ่มจะมีหลุมทั้งหมด 10 หลุม โดยมีเลข

กำกับแต่ละหลุมตั้งแต่ 0 จนถึง 9”

1 2 3 1 2 3 1 2 3 1 2 3

4 5 6 4 5 6 4 5 6 4 5 6

7 8 9 7 8 9 7 8 9 7 8 9

0 0 0 0

กลุ่มที่ 4 กลุ่มที่ 3 กลุ่มที่ 2 กลุ่มที่ 1

�� ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ ��

ฉางฟงก้มหน้าลงมองหลุมตามที่ซีเรียอธิบาย ทำให้เขาสบายใจขึ้นมาได้บ้างว่า

งานนี้เขาคงไม่ต้องถ่ายเลือดลงหลุมให้ครบทุกหลุม ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกจากปาก

ก่อนจะหันไปตั้งใจฟังซีเรียอธิบายต่อ

“เลือดที่จะถ่ายลงไปในหลุมนั้น แต่ละกลุ่มจะถ่ายเลือดลงไปในหลุมได้เพียงเลข

หมายเดียวเท่านั้น โอกาสมีเพียง 3 ครั้ง ถ้าไม่สามารถหารหัสพบ หลุมกุญแจจะถูก

ปิดตายเป็นเวลา 10 ปี”

ซีเรียกล่าวจบก็หยุดพูดไปสักพัก เพื่อให้ทุกคนทำความเข้าใจกับเนื้อหา เมื่อเห็น

ว่าทุกคนพอจะเข้าใจโจทย์ส่วนนี้แล้ว ภูตสาวจึงกล่าวต่อไปว่า

“ปริศนารหัสกุญแจจะต้องค้นหาผลลัพธ์จากกฎของเส้นตรงที่มีการคิดคำนวณ

หรือจารึกมาตั้งแต่หลายหมื่นปีที่แล้ว คำตอบที่คำนวณได้คือลูกกุญแจ”

“โห!…โหดร้ายไปหรือเปล่าเนี่ย โจทย์มีแต่เส้นตรงกับเลขอีกไม่กี่ตัว” ซินเวีย

โวยวายขึ้นทันทีเมื่อซีเรียกล่าวจบประโยค

“ซามีนเองก็ไม่เก่งคำนวณ คงจะช่วยอะไรฉางฟงไม่ได้นะคะ” ซามีนพูดขึ้นหลัง

จากมองโจทย์บนบานประตู

มารน้อยมองหน้าทุกคน ก่อนจะเดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าฉางฟง “โจทย์

กระจอกแค่นี้ สำหรับนายท่านง่ายมากใช่ไหมครับ”

ฉางฟงมองมารน้อย ยิ้มกว้างแล้วตอบหน้าตาย “อืม!...คงไม่ยากเกินไปหรอก”

เหล่าภูตหันมามองฉางฟงกันหมด

+

10

5

�0 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

“สุดยอด!…เห็นปะทุกคน นายท่านสุดยอดแค่ไหน ในโลกนี้ไม่มีคำตอบไหนที่

นายท่านหาไม่พบ” มารน้อยรีบเยินยอทำคะแนนทิ้งห่างเทพน้อยซึ่งยังอยู่ในโล่

“คำตอบที่ได้คือรหัสเลขอะไร ฉางฟง” ซินเวียเอ่ยปากถามขึ้นอย่างตื่นเต้น

ฉางฟงโปรยยิ้มให้ทุกคนก่อนจะกล่าวว่า “คำตอบยังไม่รู้อ้ะ”

“อ้าว!…ไหนนายบอกว่ารู้คำตอบไง” ซินเวียโวยวายขึ้นมาอีกครั้ง

“ฉันบอกเธอว่ารู้คำตอบที่ไหนกัน ฉันเพียงแต่บอกว่าคงไม่ยากเกินไป แต่พวก

เธอกลับเอาคำพูดของฉันไปคิดเอาเองต่างหาก” ฉางฟงอธิบายขณะที่สายตาอันคมกริบ

ของเขายังคงจ้องมองเส้นตรงที่ปรากฏบนประตูลับตลอดเวลา

ซีเรียเหลือบตาคู่สวยมองโจทย์คำถามสักพักจึงถามว่า “ฉางฟงมีแนวทางแก้ไข

โจทย์ปัญหาข้อนี้ไหมคะ”

“มีสิ! เส้นตรงเหล่านี้ไม่ได้เขียนขึ้นมาเล่นๆ มันไม่ใช่เล่ห์กลหรือศาสตร์ลวงตา

แต่มันคือหลักความเป็นจริงของคณิตศาสตร์ ซึ่งแปลความหมายออกมาในรูปของเส้น

ตรงอย่างมีศาสตร์และศิลป์ ตัวเลขเกี่ยวเนื่องกับเส้นตรง และเส้นตรงสัมพันธ์กับการ

คำนวณ ผลลัพธ์ที่ได้คือหลักพื้นฐานแห่งคณิตศาสตร์”

ฉางฟงตอบขณะผูกโยงโจทย์ด้านหน้าเข้าสู่โจทย์ทางคณิตศาสตร์ทั่วไป

บรเิวณเตน็ทท์ีพ่กั กลุม่เพือ่นๆ ยกเวน้ภตูของฉางฟงเริม่ออกอาการกระวนกระวาย

เมื่อเห็นฉางฟงหายตัวไปนานจนผิดสังเกต เทพกระบี่เวรตะไลพยายามติดต่อทาง

โทรศัพท์หลายครั้ง แต่ฉางฟงยังคงปิดระบบโทรศัพท์ไว้

“ฉางฟงมันหายหัวไปไหนนะ ใช้เวลาบินเที่ยวบ้าอะไรวะเป็นชั่วโมง” เทพกระบี่

เวรตะไลบ่นอุบ

“ป่าแถวนี้มีอันตรายรอบด้าน ถ้าเราไม่ออกตามหาเดี๋ยวนี้ ฉางฟงอาจมีอันตราย

ก็ได้นะ”

แดนพูดขึ้นบ้าง

“ฉันว่าอย่าเพิ่งใจร้อนเลย บางทีมันอาจไม่ได้เลวร้ายอะไรก็ได้ ฉางฟงอาจติดธุระ

บางอย่าง จึงใช้เวลามากกว่าปกติ” นักดาบคลั่งรักยมแสดงความเห็น แล้วจิบน้ำในแก้ว

“พวกนายไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก ฉันเป็นภูตของฉางฟง ถ้าเขาเจอสัตว์อสูรฉัน

ก็ต้องรับรู้ด้วยเหมือนกัน ฉันยืนยันได้เลยว่าตั้งแต่ฉางฟงบินหายไป ในหัวของฉันไม่

�0 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ �1

ได้ยินเสียงอะไรเลย” เนฟเอ่ยปากขึ้นเพื่อลดความเป็นห่วงของเพื่อนๆ

“อืม!...จริงสินะ ฉันลืมคิดไปว่าเนฟเป็นภูตของฉางฟงนี่หว่า”

แดนพูดแล้วหัวเราะออกมา เมื่อทุกคนเบาใจขึ้นในระดับหนึ่ง นักดาบคลั่งรักยม

จึงชวนทุกคนคุยเรื่องอื่นแทนเรื่องฉางฟง

“เออ!...แดน หลังจากคืนนี้ ถ้านายเข้ามาเล่นเกมอีกครั้ง นายจะไปเที่ยวต่อเมือง

ไหนหรือ”

แดนหัวเราะ “ฉันคิดว่าจะลองเดินทางลงไปยังภาคใต้ของทวีปใหญ่”

“นายหมายถึงเมืองโซหยงกับเสียนสงสินะ” นักดาบคลั่งรักยมกล่าวขึ้นทันที

“อืม!...ความจริงฉันมีเป้าหมายที่เมืองเสียนสง คิดไว้ว่าจะใช้เวลาสัก 2 เดือน

ในการเดินทาง” แดนตอบยิ้มๆ

“เฮ้อ!...ถ้านายจะเดินทางไปเที่ยวไกลขนาดนั้น พวกเราคงเจอกันยากขึ้น” เทพ

กระบี่เวรตะไลเดาล่วงหน้า

“ฮ่าๆ แล้วหลังออกจากทะเลแดง พวกนายมีโปรแกรมไปเที่ยวไหนหรือเปล่า”

แดนถามขึ้นบ้าง

“เรื่องนี้พวกฉันไม่รู้ว่ะ ตอนนี้ชะตาถูกผูกไว้กับเจ้าฉางฟง ถ้ามันคิดจะไปที่ไหน

พวกฉันก็คงจะตามมันไปที่นั่นแหละ” เทพกระบี่เวรตะไลตอบโดยไม่ได้คิดอะไรมาก

“เออ!…ฉันลืมถามพวกนายไป ฉางฟงได้อาชีพสายทวนหรือ”

นักดาบคลั่งรักยมมองหน้าเทพกระบี่เวรตะไล สักพักจึงกล่าวว่า “ไม่ใช่หรอก

ฉางฟงเพิ่งใช้ทวนได้ไม่กี่วันนี้เอง”

“อ้าว!…แล้วฉางฟงได้อาชีพอะไร” แดนถามขึ้นอย่างสงสัย

เทพกระบี่เวรตะไลหัวเราะแล้วกล่าวเสียงดังว่า “ถ้าฉันจะบอกว่าฉางฟงยังไม่ได้

อาชีพ นายจะเชื่อไหม”

“เง่ะ!…ระดับสูงขนาดนี้ดันไม่มีอาชีพซะงั้น มิน่าล่ะฉางฟงถึงคุมรังสีอำมหิตไม่ได้

เพราะไม่มีสกิลล์เสริมตบะนี่เอง แต่แปลกจริงๆ ฉางฟงมันรอดตายจากการเลื่อนระดับ

ขึ้นมาได้ไงเนี่ย” แดนพูดอย่างอึ้งๆ

“ฮ่าๆ เรื่องนี้ไม่รู้สิ ถ้าอยากรู้ต้องไปถามฉางฟงเอาเอง” เทพกระบี่เวรตะไลตอบ

“เออ!...มีอีกเรื่องที่ฉันข้องใจ พวกนายไปเรียนวิชาตัวเบามาจากไหนหรือ ใคร

เป็นอาจารย์สอนวิชานี้ให้พวกนาย ฉันขอสมัครเป็นศิษย์ของเขาด้วยได้ปะ”

�2 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ

เทพกระบี่เวรตะไลชะงักกึก สบตากับนักดาบคลั่งรักยมเพื่อนรัก ก่อนที่ทั้งสอง

จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอีกครั้ง

“พวกนายหัวเราะทำไม ฉันพูดเรื่องจริงนะ ฉันอยากจะเรียนการใช้วิชาตัวเบากับ

เขา” แดนย้ำอีกครั้ง

เทพกระบี่เวรตะไลตาเป็นประกาย “ใครเป็นคนบอกนายเรื่องวิชาตัวเบาของพวก

ฉัน”

แดนยิ้ม สายตาเต็มไปด้วยความหวัง

“ฉางฟงเป็นคนบอกว่าพวกนายฝึกวิชาตัวเบามาจากยอดฝีมือผู้สูงส่งคนหนึ่ง

ฉางฟงไม่สามารถเอ่ยนามของเขาได้ด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่ฉางฟงก็บอกไว้ว่า ถ้าฉัน

อยากรู้จริงๆ ก็ให้มาถามเอากับพวกนาย ซึ่งเป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิสายตรงของเขาเพียงกลุ่ม

เดียวเท่านั้น”

เทพกระบี่เวรตะไลกับนักดาบคลั่งรักยมมองหน้ากัน ทั้งสองพยายามกลั้น

หัวเราะเต็มที่ แดนยังพยายามเซ้าซี้ถามพวกเขาอยู่อีกเกือบ 1 นาที เทพกระบี่เวรตะไล

จึงกล่าวว่า

“เรื่องนี้ก็พูดยากเหมือนกัน ถ้านายได้ยินชื่อเขา นายอาจช็อก กินไม่ได้นอนไม่

หลับไปหลายวัน เพื่อไม่ให้สุขภาพจิตนายเสีย ฉันก็คงจะบอกชื่อเขาไปไม่ได้เหมือนกัน”

เทพกระบี่เวรตะไลกล่าวเลี่ยงไป เพราะฉางฟงเคยกำชับไว้แล้วว่าวิธีก้าวขาที่

เขาคิดค้นขึ้นต้องปิดเป็นความลับสุดยอด

“หือ!...เขาเป็นใครถึงจะสามารถทำให้สุขภาพจิตฉันเสียได้ บอกมาเถอะไลจัง

ฉันยอมสุขภาพจิตเสีย” แดนเซ้าซี้ สีหน้าและแววตาอยากรู้เต็มที่

นักดาบคลั่งรักยมสบตากับเทพกระบี่เวรตะไล สักพักจึงกล่าวว่า “เอาเป็นว่าฉัน

จะบอกใบ้ชื่ออาจารย์ของฉันให้นายรู้นิดหน่อยก็ได้ ชื่อเขามีสองพยางค์ เอ่อ…จะบอก

อะไรต่อดีหว่า” นักดาบคลั่งรักยมกล่าวจบก็นิ่งเงียบไปคล้ายคิดไม่ออกว่าจะบอกแดน

ต่อยังไงดี

แดนทำปากเบ้ จ้องมองนักดาบคลั่งรักยมตาโต “โห!…คำใบ้ของนายมันช่วย

อะไรฉันได้มากเลยรักจัง ถ้าจะบอกใบ้แค่เนี้ย อย่าบอกดีกว่า”

“โอเค…คิดได้แล้ว ชื่อของเขาถ้านำมาแยกจากกัน หนึ่งในสองพยางค์อาจจะมี

ความหมายแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า ซ่อน” นักดาบคลั่งรักยมกล่าวขึ้น

�2 ยุทธภพออนไลน์ ภาค ป่วนทวีปใหญ่ ตอน สมบัติจอมมาร อาวุธลูกคร่ึง และเกล็ดศิลาผลึกธาตุ ปากกาแดงดำ �3

“เง่ะ มันจะไม่กว้างไปหน่อยหรือ” แดนประท้วง

“ไม่กว้างหรอก ขอเพียงนายทราบคำแปล ฉันคิดว่านายก็คงจะพอเดาออกว่าเป็น

ใคร” นักดาบคลั่งรักยมพูดพลางยิ้ม

“หา!...แค่คำแปลคำเดียวมันจะทำให้ฉันรู้ได้ไงว่าใครเป็นอาจารย์ของพวกนาย”

แดนโวยวาย

“เอาเถอะ ถ้านายหาคำแปลได้เมื่อไหร่ และนายยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เมื่อพวกเรา

เจอหน้ากันอีกครั้ง ฉันจะบอกนายเอง”

เทพกระบี่เวรตะไลพอจะรู้มุกของนักดาบคลั่งรักยม จึงตั้งเงื่อนไขขึ้นมา เพื่อยืด

เวลาให้ฉางฟงเป็นคนมาตัดสินใจว่าจะสอนแดนดีหรือไม่

“พวกนาย 3 คนนี่ก็ประหลาดจริงๆ เล่นอะไรก็ไม่รู้ แต่เอาเถอะ ฉันตกลงจะหา

คำแปลตามเงื่อนไขของนาย” แดนพูดขึ้นอย่างเซ็งๆ ก่อนจะกินอาหารต่อไป โดยที่

นักดาบคลั่งรักยมกับเทพกระบี่เวรตะไลพยายามกลั้นหัวเราะ