3
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 7/63 / พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที15 – 21 มกราคม พ.ศ.2563 ออกประกาศวันพุธที15 มกราคม พ.ศ.2563 การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 15-16 ม.ค.63 ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกใน ตอนเช้า บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้าค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่้าสุด 5-14 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส้าหรับภาคใต้ยังคงมีฝนน้อย ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 ม.ค.63 ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ส้าหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศ หนาวถึงหนาวจัดและมีน้าค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่้าสุด 3-12 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและ ปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น ส้าหรับภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้า คะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร คาเตือน ในช่วงวันที่ 1516 ม.ค. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาบางพื้นที่ เกษตรกรควรเพิ่ม ความระมัดระวังขณะสัญจรผ่านบริเวณที่หมอกไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 ม.ค. ชาวเรือและชาวประมงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ คาแนะนาสาหรับการเกษตร ภาค พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์ เหนือ ในช่วงวันที่ 15-16 ม.ค.63 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่้าสุด 12-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิ สูงสุด 29-36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้าค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่้าสุด 5-14 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 ม.ค.63 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่้าสุด 11-20 องศา เซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้าค้างแข็งบางพื้นทีอุณหภูมิต่้าสุด 3-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 % - อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้ง ควรเพิ่มความระมัดระวังในขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย ส้าหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้าควรดูแล ปริมาณน้าให้เหมะสมกับจ้านวนสัตว์น้า หากปริมาณน้ามีน้อยจะท้าให้สัตว์น้าอยู่อย่างแออัด ส่งผลให้สัตว์น้าอ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย ตะวันออก เฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 15-16 ม.ค.63 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่้าสุด 17-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่้าสุด 11-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 ม.ค.63 อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่้าสุด 15-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่้าสุด 9-14 องศา เซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % - ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง และมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งควรเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการ ระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราน้าค้างในพืชตระกูลแตง และโรคใบไหม้ในมะเขือเทศ เป็นต้น ส้าหรับ เกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชรอบใหม่ ควรเลือกปลูกพืชที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้าน้อย กลาง ในช่วงวันที่ 15-16 ม.ค.63 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต้าสุด 22-24 องศา เซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 ม.ค.63 อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง เล็กน้อย โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่้าสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา เซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % - อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจ้าพวกปากดูด เช่น เพลี้ย จักจั่นมะม่วง เป็นต้น นอกจากนี้เกษตรควรหลีกเลี่ยงการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพราะควันไฟจะท้าใหบดบังการมองเห็น จนอาจเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และยังท้าให้เกิดมลพิษในอากาศ PT

7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 15 21 มกราคม พ.ศ · ระหว่างวันที่ 8-14 มกราคม 2562

  • Upload
    others

  • View
    10

  • Download
    0

Embed Size (px)

Citation preview

Page 1: 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 15 21 มกราคม พ.ศ · ระหว่างวันที่ 8-14 มกราคม 2562

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกจิและสังคม

ฉบับที่ 7/63

/

พยากร ณ์อากาศ เพื่ อการ เกษตร 7 วั นข้ า งหน้ า

ระหว่างวันที่ 15 – 21 มกราคม พ.ศ.2563

ออกประกาศวันพุธที ่15 มกราคม พ.ศ.2563

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 15-16 ม.ค.63 ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้้าค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่้าสุด 5-14 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส้าหรับภาคใต้ยังคงมีฝนน้อย ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 ม.ค.63 ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ส้าหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้้าค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่้าสุด 3-12 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น ส้าหรับภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลืน่สูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟา้คะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ค าเตือน ในช่วงวันที่ 15–16 ม.ค. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีหมอกในตอนเชา้กับมีหมอกหนาบางพืน้ที่ เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังขณะสัญจรผา่นบริเวณที่หมอกไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 ม.ค. ชาวเรือและชาวประมงบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

ค าแนะน าส าหรับการเกษตร ภาค พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบตอ่พืช/สัตว ์เหนือ ในช่วงวันที่ 15-16 ม.ค.63 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่้าสุด 12-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิ

สูงสุด 29-36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้้าค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่้าสุด 5-14 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 ม.ค.63 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่้าสุด 11-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้้าค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่้าสุด 3-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 % - อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งควรเพิ่มความระมัดระวังในขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย ส้าหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้้าควรดูแลปริมาณน้้าให้เหมะสมกับจ้านวนสัตว์น้้า หากปริมาณน้้ามีน้อยจะท้าให้สัตว์น้้าอยู่อย่างแออัด ส่งผลให้สัตว์น้้าอ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย

ตะวันออก เฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 15-16 ม.ค.63 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่้าสุด 17-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่้าสุด 11-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 ม.ค.63 อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่้าสุด 15-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่้าสุด 9-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % - ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง และมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งควรเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราน้้าค้างในพืชตระกูลแตง และโรคใบไหม้ในมะเขือเทศ เป็นต้น ส้าหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชรอบใหม่ ควรเลือกปลูกพืชที่มีอายุการเก็บเก่ียวสั้นและใช้น้้าน้อย

กลาง ในช่วงวันที่ 15-16 ม.ค.63 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่้าสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 ม.ค.63 อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่้าสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % - อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจ้าพวกปากดูด เช่น เพลี้ยจักจั่นมะม่วง เป็นต้น นอกจากนี้เกษตรควรหลีกเลี่ยงการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพราะควันไฟจะท้าให้บดบังการมองเห็น จนอาจเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และยังท้าให้เกิดมลพิษในอากาศ

PT

Page 2: 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 15 21 มกราคม พ.ศ · ระหว่างวันที่ 8-14 มกราคม 2562

2

ตะวันออก ในช่วงวันที่ 15-17 ม.ค.63 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่้าสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 18-21 ม.ค.63 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่้าสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่้ากว่า 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % - จากสภาพอากาศที่มีแดดจัดในตอนกลางวัน ท้าให้ปริมาณการระเหยของน้้าบริเวณผิวดินมีมาก เกษตรกรควรน้าเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาคลุมบริเวณแปลงปลูกหรือบริเวณโคนต้นพืช เพื่อชะลอการระเหยของน้้า และยังเป็นการรักษาอุณหภูมิดิน รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจ้าพวกปากดูดในพืชไร่ ไม้ผลไว้ด้วย

ใต ้ ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 15–16 ม.ค.63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 17–21 ม.ค.63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่้าสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่้าสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่้ากว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 % - ทางตอนบนของภาค อากาศร้อนและแห้งในตอนกลางวัน เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจ้าพวกเพลี้ยและไรในไม้ผล ส่วนทางตอนล่างของภาค มีฝนตกและหยุดสลับกัน เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจ้าพวกหนอนในพืชไร่ และไม้ผลไว้ด้วย นอกจากนี้ควรกักเก็บน้้าเอาไว้ เพื่อจะได้มีน้้าใช้ทางการเกษตรในช่วงแล้ง

ลักษณะอากาศในช่วง 7 วันที่ผ่านมา

ระหว่างวันที่ 8-14 มกราคม 2562 บริเวณประเทศไทยไม่มีรายงายงานฝนหนักมาก ส้าหรับบริเวณจังหวัดที่มี ฝนตกหนัก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ระยอง และนครศรีธรรมราช

ส าหรับบริเวณที่มีฝนตกหนักที่สุดตามภาคต่างๆ และกรุงเทพมหานคร มีดังนี้ ภาคตะวันออก 38.3 มม. ที ่ กกษ.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.ระยอง เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ภาคใต้ 36.0 มม. ที ่ อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 11 ม.ค. กรุงเทพมหานคร 50.5 มม. ที ่ รร.วัดพระยาปลา เขตหนองจอก เมื่อวันท่ี 12 ม.ค.

ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ไม่มีรายงานฝนตกหนัก ส าหรับบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ าที่สุดตามภาคต่างๆ และกรุงเทพมหานคร มีดังนี้

ภาคเหนือ 9.7 º ซ. ที ่ อ.อุ้มผาง จ.ตาก เมื่อวันที่ 13 ม.ค. (2.4 º ซ. ที ่ กิ่วแม่ปาน ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 10 ม.ค.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15.5 º ซ. ที ่ กกษ.นครพนม อ.เมือง จ.นครพนม เมื่อวันที่ 13 ม.ค. (9.5 º ซ. ที ่ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง อ.ภูกระดึง จ.เลย เมื่อวันที่ 10,11 ม.ค. ภาคกลาง 17.3 º ซ. ที ่ อ.ทองผาภูม ิ จ.กาญจนบุร ี เมื่อวันท่ี 12 ม.ค. ภาคตะวันออก 20.0 º ซ. ที ่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุร ี เมื่อวันท่ี 9 ม.ค. ภาคใต้ 19.5 º ซ. ที ่ กกษ.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบครีีขันธ ์ เมื่อวันท่ี 8 ม.ค. กรุงเทพมหานคร 23.2 º ซ. ที ่ ท่าอากาศยานกรุงเทพ เขตดอนเมือง เมื่อวันท่ี 13 ม.ค.

หมายเหต ุเกณฑ์ปริมาณฝน ฝนเล็กน้อย ฝนปานกลาง ฝนหนกั ฝนหนักมาก ปริมาณฝนที่วัดได้ (มม.) 0.1-10.0 10.1-35.0 35.1- 90.0 > 90.0 เกณฑ์อากาศหนาว อากาศเย็น อากาศหนาว อากาศหนาวจัด อุณหภูมิอากาศ(องศาเซลเซียส) 16.0-22.9 8.0-15.9 ต่้ากกว่า 8.0 สอต. หมายถึง สถานีอุตุนยิมวิทยา, กกษ. หมายถึง กลุ่มงานอากาศเกษตร

ส่วนอุตุนิยมวทิยาเกษตร กองพฒันาอุตนุิยมวิทยา

Page 3: 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 15 21 มกราคม พ.ศ · ระหว่างวันที่ 8-14 มกราคม 2562

งด/หลีกเลี่ยงเผาเศษวัสดุเหลือใช้

ระวัง โรคพืชที่เกิดจากเช้ือราดูแลสุขภาพ

- อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า

- อากาศหนาวเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า

28-36 °ซ.11-22 °ซ. 65-75

31-34 °ซ.15-23 °ซ.

60-7032-35 °ซ.21-24 °ซ. 60-70

31-35 °ซ.20-24 °ซ.

60-70

32-35 °ซ.22-26 °ซ. 65-75

30-34 °ซ.20-24 °ซ.

70-80

15-16 ม.ค. : ร้อยละ 1017-21 ม.ค. : ร้อยละ 20-40

15-21 ม.ค. : ร้อยละ 10-20

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้าระหว่างวันที่ 15-21 มกราคม 2563

ฉบับที่ 7/63

- ตอนบน : อากาศร้อนและแห้งในตอนกลางวัน

ส่วนอุตุนิยมวิทยาเกษตร02-399-2387 ; 02-366-9336อุณหภูมิ ความช้ืนสัมพัทธ์ฝน คลื่นลม

ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ภาคกลางและภาคตะวันออก

ระมัดระวัง : ขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา

ระวัง! ศัตรูพืชจ าพวกปากดูด (เพลี้ย/ไร)

ภาคใต้

1 เมตร

1 เมตร

1 เมตร

1-2 เมตร

กักเก็บน้ า/วางแผนการใช้

- ตอนล่าง : ฝนตกและหยุดสลับกับ

ระวัง! ศัตรูพืชจ าพวกหนอน

ระวัง! ศัตรูพืชจ าพวกเพลี้ยและไรในไม้ผล

18-21 ม.ค. : ร้อยละ 10

17-21 ม.ค. : ร้อยละ 10