78
จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม พระพรหมคุณาภรณ (. . ปยุตฺโต)

จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

Embed Size (px)

DESCRIPTION

http://www.watnyanaves.net/uploads/File/books/pdf/ethics_for_the_young_generation.pdf

Citation preview

Page 1: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหมพระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต)

Page 2: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม∗

ขออํานวยพร ทานประธานในที่ประชุม ทานอาจารยผูทรงคุณวุฒิและทานผูใฝธรรมทุกทาน

วันนี้ นับวาเปนศุภวรดิถี คือ วันดี วันงามของชาวคณะครุศาสตร แหงจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ท่ีไดหมุนเวียนมาครบรอบวันสถาปนาหรือวันกอตั้งคณะอีกครั้งหนึ่ง และทางคณะยังไดจัดกิจกรรมที่แสดงถึงความรําลึกคุณของทานคณบดีทานแรกที่เปนผูบริหารกิจการของคณะมาแตเริ่มตน นับวาเปนสิริมงคลทั้ง ๒ ประการ ประการแรกก็เปนสิริมงคลโดยสมมติ คือเปนไปตามกําหนดกาลเวลาที่เราตั้งขึ้นมาวาเปนวันสําคัญ ประการที่สอง เปนสิริมงคลที่เกิดจากการกระทําความดีของทานทั้งหลายนั่นเอง คือการแสดงกตัญู-กตเวทิตาธรรม ตอทานผูท่ีไดเคยมีคุณความดีอันไดกระทําไวกอนแลว ∗ ปาฐกถาประจาํป ศาสตราจารยทานผูหญงิพูนทรพัย นพวงศ ณ อยุธยา ครัง้ที ่๑แสดงที่คณะครุศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย วันที่ ๑๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๒๘ พิมพครั้งแรกโดยคณะครุศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ในช่ือวา“คุณธรรมและจริยธรรมสําหรับเด็กและเยาวชนรุนใหม” พ.ศ. ๒๕๒๘

Page 3: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๒

เพราะฉะนัน้ อาตมภาพขออนโุมทนาในกศุลกรรมนี้ดวย ซ่ึงการอนโุมทนานีก้แ็ยกไดเปน ๓ ดาน คอื

ประการที ่ ๑ ถือวาเปนการปฏิบัติตามหลักมงคล๓๘ ประการ ขอท่ี ๓ คือหลักที่วาการบูชาบุคคลที่ควรบูชาเปนอุดมมงคล

ประการที่ ๒ เปนการถือเอาโอกาสหรือเหตุการณสําคัญมาใชในทางที่มีประโยชน ในการจัดกิจกรรมที่เปนไปในทางสรางสรรค เกิดคุณคาทางสติปญญา และ

ประการที่ ๓ การกระทําเชนนี้เปนการสรางแบบอยางที่ดีไวใหเปนประโยชนเกื้อกูลแกคนรุนหลัง อยางที่ทางพระทานชอบใชคําวา แกปจฉิมาชนตา

วนันีท้างผูจัดการประชมุไดกาํหนดหวัขอใหอาตมภาพพูดเรื่อง “คุณธรรมและจริยธรรมสําหรับเด็กและเยาวชนรุนใหม”หัวขอน้ีเหมือนกับบอกวา คุณธรรมหรือจริยธรรมที่มีอยูแลวไมดีหรือไมเหมาะสม ก็เลยจะตองหามาใหม คลายๆ วาจะบอกอยางนี้ หรือเพลาลงมาหนอยอาจจะบอกวา จริยธรรมสวนที่ใชอยู คือไมใชจริยธรรมอยางกวางๆ ท้ังหมด แตจริย-ธรรมสวนที่เราเลือกเอามาใชนํามาปฏิบัติกันอยู อาจจะมีขอบกพรองไมเหมาะสม ควรจะมาเลือกกันใหม หรืออยางนอย

Page 4: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๓

ก็เปนการเชิญชวนใหมาพิจารณาทบทวนกันวา จริยธรรมที่ใชท่ีสอนกันอยูเปนอยางไร ดีหรือไมดี เหมาะหรือไมเหมาะจะเอาอยางไรกันตอไป

การพิจารณาเกี่ยวกับสิ่งที่ผานมานั้นเปนเรื่องมองอดีต ในการมองอดีตนี้ เราอาจจะเห็นวามีอะไรที่ไมเหมาะสม มีขอบกพรองเปนตน ซ่ึงจะทําใหเราตองมีทาที่ตออดีตอยางใดอยางหนึ่ง ในที่น้ีจึงควรจะกลาวถึงทาทีของจิตใจตอเรื่องอดีตไว

การที่เราพบเห็นขอบกพรองของอดีตนี้ มิใชหมายความวาเรามองหาขอบกพรองของอดีต เพื่อเอามาดาวาคนรุนกอน แตการที่เราทําอยางนี้ก็เพราะเปนวิสัยของคนที่ไมประมาท คือ ตามปกติคนที่ไมประมาทนั้น ยอมคอยสํารวจตรวจตราตัวเองวาตนมีอะไรบกพรอง มีจุดออนอะไรบางแลวก็พยายามแกไขปรับปรุงทําใหเกิดความดีงามเต็มเปยม สมบูรณ ถาทําดวยความรูสึกอยางนี้ แมเราจะติวาอดีตมีความบกพรองอะไรบาง ก็ไมมีปญหา ไมมีความเสียหายและทาทีอีกอยางหนึ่งก็คือ

การมองอดีตที่บกพรองนั้น โดยถือวาเปนเรื่องของเราเอง วัฒนธรรมที่เคยมีความผิดพลาดบกพรองเกิดขึ้นบาง

Page 5: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๔

มีคนเกาบางคนบางสมัยทําเสียหายไวบางนั้น เปนเนื้อเปนหนังอยูในตัวของเราเอง ไมใชคนอื่นพวกอื่น การมองอดีตไมใชเรื่องของการที่จะไปดาวาใครๆ ท่ีไหน แตเปนการพิจารณาทบทวนเรื่องภายในของตัวเราเอง การพิจารณาสํารวจตนเองน้ันเปนสิ่งที่ดี มีแตจะทําใหเกิดความเจริญกาวหนา ถาตั้งทัศนคติอยางนี้ไวแลวก็ไมนาจะมีปญหา มีแตจะกอใหเกิดผลในทางที่ดี

นอกจากนั้น เรื่องเกี่ยวกับอดีตนั้นก็เปนของเกาตามธรรมดาของเกาก็เกิดจากการสั่งสม คือ มีประสบการณความสามารถ ความรู สติปญญาของคนเกาๆ ถายทอดสืบตอกันมามากมาย เปนเหมือนคลังมรดก ซ่ึงผูฉลาดจะสามารถสืบคนเลือกสรรนํามาใชประโยชนได แตในเวลาเดียวกัน ในความเกานั้นเอง เมื่อลวงกาลผานเวลามานานๆเขา ก็ยอมจะมีความเลอะเลือนเคลื่อนคลาดไปบาง

เพราะฉะนั้นอีกดานหนึ่งก็คือ เราจะตองมีการตรวจตราชําระสะสางกันบางเปนบางคราว ท้ังนี้ก็เพื่อท่ีจะใหไดของเกาที่บริสุทธิ์บริบูรณ เมื่อมองในแงน้ี การที่จะมาพูดถึงความบกพรองอะไรตออะไรของอดีตนั้น ก็ไมใชวาเราพูดถึงอดีตในทางที่ไมดี แตเราพูดเพื่อเราจะไดของเกาที่เรียบ

Page 6: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๕

รอยสมบูรณ ถูกตองบริสุทธิ์ น้ีก็เปนแงคิดที่จะตองนํามาใชในโอกาสนี้ดวย

อน่ึง การที่อาตมภาพมาพูดในวันนี้น้ัน ก็มิใชวาจะมาเสนอรูปสําเร็จของจริยธรรมและคุณธรรมสําหรับคนรุนใหม แตเปนเพียงวาจะมาเสนอความคิดเห็น ในแนวทางที่เราจะไดชวยกันพิจารณาเพื่อหาจริยธรรมที่เหมาะสมตอไป

คือวาหนาที่ในการที่จะวางจริยธรรมนั้นเปนของรวมกนั ไมใชเปนเรือ่งของบคุคลผูหนึง่ผูเดยีว และทีอ่าตมภาพจะพูดถึงจริยธรรมหรือคุณธรรมสําหรับเด็กและเยาวชนรุนใหมน้ี ก็ไมใชเปนการพูดถึงคุณธรรมหรือจริยธรรมสําหรับผูท่ีจะเปนเด็กและเยาวชนรุนตอๆไปเทานั้น แตเปนการพูดถึงเยาวชนรุนใหมน้ันในฐานะเปนคนที่จะรับผิดชอบสังคมตอไป พูดอยางงายๆ ก็คือ จะพูดถึงจริยธรรมของคนยุคตอไปท้ังหมดทีเดียว ซ่ึงเด็กที่จะเจริญเติบโตตอไปนี้จะเปนผูรับผิดชอบ และเอาเยาวชนรุนใหมน้ีมาเปนจุดเริ่มตนของจริยธรรมท่ีเราพูดวาของคนรุนใหมน้ัน

เมื่อจะพูดกันถึงจริยธรรมใหม ไมวาเราจะเลือกหรือจะกําหนดวางก็ตาม ถาจะทําใหดี เราก็ตองรูวาที่เปนมาและที่เปนอยูน้ันเปนอยางไร เราควรกาวไปสูสภาพใดและมี

Page 7: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๖

ทางเปนไปไดหรือไม ท่ีวามีทางเปนไปไดหรือไมน้ัน ก็คือวาเรามีพื้นฐานที่จะกาวไปสูสภาพที่เราตองการหรือไม

จริยธรรมนั้นถือวาเปนกระบวนการทางเหตุปจจัยอยางหนึ่ง ท่ีวาเปนกระบวนการทางเหตุปจจัยก็คือวา มันมีองคประกอบที่เขามาเกี่ยวของหลายอยาง ซ่ึงเขามาพัวพันเชนเดียวกับในเรื่องวัฒนธรรม เปนตน ถาหากวาเราจะใชจริยธรรมแบบใหมหรือจะสรางคุณธรรมชุดใหมข้ึน กอนจะทําอยางนั้นได เราจะตองเขาใจกระบวนการแหงเหตุปจจัยทางจริยธรรมดวย ไมใชนึกขึ้นมาวาเราอยากจะใหคนของเรามีจริยธรรมนั้นๆ แลวเราก็จะเอามาสอนมาบอกมามอบใหอยางนี้เปนไปไมได มันจะกลายเปนของเลื่อนลอย อาจจะตอไมติด เมื่อตอไมติด มันก็ไมไดผล เพราะมันเปนกระบวนการตอเนื่อง เกิดจากการสั่งสมกันขึ้นมา เราจะแกไขหรือตอเติมหรือจะเปลี่ยนแปลงอะไร ก็ตองทําที่ในกระบวนการนั้นเสริมตอออกไปจากกระบวนการนั้น เชน เราจะรับจริยธรรมใหมเขามา เราเห็นวาจริยธรรมที่มีอยูภายนอกหรือภายในสังคมอื่นดี กอนจะรับเขามาได เราจะตองศึกษาจริยธรรมของเราเอง คือพื้นฐานที่เปนมาวาเปนอยางไร แลวปรับใหเขากัน เพื่อท่ีจะรับได ถาหากวาไมปรับใหเขากัน มันก็รับไม

Page 8: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๗

ติด และอาจจะเกิดการบิดเบือน สิ่งที่รับเขามานั้นอาจจะแปรรูปกลายเปนอยางอื่นไป และมีความหมายอยางใหมเกิดข้ึน ซ่ึงแทนที่จะเปนคุณมันก็อาจจะกลายเปนโทษได

ยกตัวอยางเชน การรับระบบเขงขันเขามา ทีน้ีพื้นฐานของเราเปนอยางไร พรอมจะรับระบบแขงขันหรือไมระบบแขงขันนั้นมีจุดมุงหมายในทางที่ดีอยูบางเหมือนกันวา ตองการใหคนไดฝกฝนปรับปรุงตน เรงรัดทํางานทําการเพื่อสรางความเจริญกาวหนา แตพื้นฐานอะไรที่จะตองมีอยูซ่ึงสอดคลองกัน เพื่อจะใหระบบแขงขันเกิดผลเชนนั้นได เรามีอยูหรือไม ขอน้ีเราจะตองพิจารณา เชนวานิสัยในการทํางานมีอยูหรือไม ถาหากนิสัยพื้นฐานนั้นไมมี เรารับระบบน้ันเขามาแลว แตเรามีตัวปจจัยอื่นเปนพื้นฐานอยู เชน มีนิสัยชอบความโกเก ชอบความฟุงเฟอ ระบบแขงขันที่รับเขามานั้น มันอาจจะมาสนองความตองการดานความโกหรูหราฟุงเฟอ ก็เลยออกผลไปอีกอยางหนึ่ง

ระบบแขงขันที่เขามาในเมืองไทย ก็จึงอาจจะมีผลในทางสังคม ในทางจริยธรรม ในทางวัฒนธรรม ไมเหมือนกับในประเทศเดิมท่ีเปนที่มาของระบบ เพราะพื้นฐานที่เปนปจจัยหนุนไมเหมือนกัน

Page 9: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๘

ฉะนั้นเราจึงตองดูตัวปจจัยภายในของเราดวยวา มีอะไรที่เปนพื้นฐานรับเอาสิ่งนั้น หรือจริยธรรมแบบนั้นเขามาเปนตน อันนี้ก็เปนเพียงตัวอยาง ซ่ึงถามีโอกาสก็จะไดคุยกันตอไป

ขอยอนกลับมาสูเรื่องที่จะพูดเมื่อกี้ เกี่ยวกับจริย-ธรรมเกาของเรา กอนที่จะพูดถึงจริยธรรมใหมท่ีตองการ เราจะตองเขาใจกระบวนการทางจริยธรรมของเรา ตามสภาพที่มีอยูกอนทั้งสภาพที่เปนมาแลว และสภาพที่กําลังเปนอยูจริยธรรมของไทยที่เปนมานั้น เราตองยอมรับเหมือนกันวามันมีแงท่ียังบกพรองยอหยอนอยู ท่ีวาบกพรองยอหยอนนั้นมันอาจจะเกิดจากเหตุปจจัยหลายประการ

ประการที่หนึ่งก็คือ การเนนแงหนึ่งแงเดียว เชนคุณธรรมบางอยางมีความหมายกวางขวางลึกซึ้ง แตเมื่อเวลาผานไป สังคมอาจจะเนนหนักไปดานใดดานหนึ่งเฉพาะแงของคุณธรรมนั้น และความหมายของคุณธรรมนั้นก็จะแคบลงไป เมื่อแคบลงก็คือไมถูกตอง ไมสมบูรณ น้ีเปนเหตุหนึ่ง

ประการที่สอง นอกจากแคบลงแลว บางทีก็เคลื่อนคลาดดวย เพราะการถายทอดผิดพลาดก็ดี การพบปะการ

Page 10: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๙

เผชิญสถานการณใหมๆ และการปฏิบัติตอสถานการณน้ันๆก็ดี การมีผูนําที่ตีความผิดพลาดหรือบิดเบือนเพื่อผลประโยชนสวนตัว ทําใหเกิดความเขาใจเขวไปก็ดี อะไรทํานองนี้ ก็ทําใหเกิดความเคลื่อนคลาดไปได

อาตมภาพขอยกตัวอยางคําศัพทท่ีเราใชกันอยู มาใหพิจารณาความหมายที่เราเขาใจกันในปจจุบัน เปนเครื่องยืนยันหรือเปนหลักฐาน ท่ีแสดงถึงการที่คําศัพทเหลานั้นไดมีความหมายคับแคบลงไป หรือวาไดเกิดความคลาดเคลื่อนเหลานั้นขึ้น เชน อยางคําวา วาสนา บารมี สังเวช ภาวนาอารมณ บริกรรม ทรมาน เปนตน คําเหลานี้ในภาษาไทยเราไดเขาใจความหมายเคลื่อนคลาดไปจากเดิม หรืออยางนอยก็แคบลงไปหมดแลว

วาสนา เราเขาใจวาอะไร เราพูดวาคนนั้นคนนี้มีวาสนาดี เจริญกาวหนา ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตย-สถานก็บอกไปตามความเขาใจของคนไทย หรือตามความหมายที่เราใชกันอยูในภาษาไทยวา เปนกุศลที่ทําใหไดประสบลาภยศ แตความหมายเดิมคืออะไร

วาสนา ตามความหมายเดิมในภาษาบาลีหรือในทางธรรม หมายถึงลักษณะนิสัยหรือพฤติกรรมที่ไดสะสมมา

Page 11: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๑๐

ตลอดเวลายาวนาน จะดีก็ตาม ช่ัวก็ตาม อยางพระอรหันตก็มีการตองละวาสนาดวย แตความหมายปจจุบันนี้หางไปกันไกล

บารมี ในภาษาไทยเขาใจอยางไร เราอาจจะมองในแงอิทธิพล หรือผลท่ีเกิดจากความดีท่ีไดทําไว เปนทํานองอิทธิพลที่จะชวยใหเกิดผลสําเร็จตามปรารถนา แตในภาษาของพระนั้น ทานหมายถึงคุณธรรมที่บําเพ็ญอยางยิ่งยวดเพื่อบรรลุจุดหมายอันสูงสง และเปนตัวเหตุ คือ ทางธรรมะเนนที่ตัวเหตุ แตในภาษาไทยนั้นเรามองจับท่ีตัวผล

ตอไปคําวา สังเวช คําวาสังเวชในภาษาไทยเขาใจอยางไร โดยมากมองเปนวาความสลดหดหูใจ เมื่อประสบอารมณท่ีควรแกการหดหู แตในภาษาพระตามความหมายเดิม สังเวช หมายถึงการเกิดจิตสํานึกเราเตือนใจ ใหหยุดเลิกจากความหลงระเริง ประมาทมัวเมา คิดหันมากระทําความดีงาม อันนี้ความหมายก็หางไปไกล

ภาวนา เราท่ีมีความหมายเคลื่อนคลาดเปนการบน เปนการทองพึมพําคําสวดอะไรทํานองนั้น แตในภาษาทางธรรมของเดิมหมายถึงการฝกอบรม เชน ฝกอบรมกายฝกอบรมวาจา ฝกอบรมจิต ฝกอบรมปญญา

Page 12: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๑๑

คําวา บริกรรม ก็กลายมาเปนการทองบน แตในภาษาพระเดิม มีความหมายเปนเรื่องของการตระเตรียมหรือการกระทําเบื้องตน เชน ในการกอสราง การปราบพื้นใหเรียบ ทานเรียกวาเปนบริกรรม ในการเจริญกรรมฐาน การกระทําเบื้องตน การกําหนดใจนึกถึงสิ่งที่ใชเปนอารมณสําหรับผูกจิต ทานเรียกวา เปนบริกรรม

ทรมาน ในความหมายปจจุบันเรารูสึกวา หมายถึงทําใหลําบากหรือไดรับทุกขท่ีทนไดยาก ประสบสิ่งที่บีบคั้นมาก แตในภาษาพระ ทรมานหมายถึงการฝกหรือกลับใจคนใหเขามาสูทางที่ถูกตอง

น้ีเปนตัวอยางซึ่งคําศัพทตางๆ ฟองตัวเองวา ไดมีความเลือนลาง คับแคบ ไขวเขว และเคลื่อนคลาดเกิดขึ้นแลว แมแตคําวา ความประพฤติ และคําวาจริยธรรม เราก็เขาใจและใชกันในความหมายที่แคบลงกวาความหมายที่แทจริง

“ความประพฤติ” มาจากคําสันสกฤต ซ่ึงตรงกับบาลีวา ปวุตฺติ หรือ วุตฺติ หมายถึงความเปนไปของชีวิต การดําเนินชีวิต การดํารงตน ตลอดจนการหาเลี้ยงชีพ แตในภาษาไทยปจจุบัน เราใชกันในความหมายวาการแสดงออก

Page 13: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๑๒

หรือการกระทําของบุคคล ในระดับท่ีมองเห็นกันที่ปรากฏแกผูอื่น ในลักษณะที่เกี่ยวกับศีลธรรม หรือมีผลกระทบตอสังคม ซ่ึงก็นับวายังเฉียดๆ เวียนๆ อยูใกลๆ กับความหมายเดิม

แตท่ีสับสนมากขึ้นก็คือ เมื่อเราเอาคําวา ประพฤติในความหมายอยางที่เราใชกันในภาษาไทยนั้น ไปทําเปนคําแปลของคําวา “จริยะ” “จริยา” “จรรยา” และ “จริยธรรม”และเอาคําวา จริยธรรมมาเปนศัพทบัญญัติสําหรับแปลคําวา “ethics” ของฝรั่ง จริยะ จริยาและจริยธรรมก็เลยมีความหมายแคบลง เทาๆ กับคําวาศีลธรรม หรือบางทีเลยใชเปนคําแทนของคําวาศีลธรรมไปเสียเลย

เพราะคําวา ethics ก็ดี ความประพฤติอยางที่ใชในภาษาไทยก็ดี เปนเรื่องในระดับท่ีทางพระเรียกวา “ศีล” ท้ังสิ้น แตคําวา จริยะ จริยา ตลอดจนจริยธรรม มีความหมายกวางขวางกวานั้น คือ หมายถึงการดําเนินชีวิต ความเปนอยูการยังชีวิตใหเปนไป การครองชีพ การใชชีวิต การเคลื่อนไหวของชีวิตทุกแงทุกดานทุกระดับ ท้ังทางกาย ทางวาจาทางใจ ท้ังดานสวนตัว ดานสังคม ดานอารมณ ดานจิต ดานปญญา

Page 14: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๑๓

“จริย” มาจาก จร ซ่ึงในพระไตรปฎกทานแสดงความหมายไวดวยการบอกไวพจน คือ คําที่รูปรางตางกันแตความหมายเหมือนกัน ไดแก วิหร (อยู เปนอยู เชนในคําวา วิหาร พรหมวิหาร) อริย (เปนไป ดําเนินไป เชน ในคําวาอิริยาบถ) วตฺต (เปนไป หมุนไป หมุนเวียน ประพฤติ เชนในคําวา ปวัตตนะ ปวัติ) บาล (หลอเลี้ยง รักษา ดูแล คุมครองเชนในคําวา ธรรมบาล รัฐบาล) ยป และยาป (ใหเปนไปหลอเลี้ยง เชน ในคําวา ยาปนมัตต) (ดู ขุททกนิกาย มหานิทเทส ๒๙/๕๘/๕๙

เปนตน)

การดําเนินชีวิตหรือเปนอยู ท้ังระดับศีลท่ีเราเรียกกันวา ศีลธรรม ท้ังระดับจิตใจ คุณธรรมภายในหรือคุณภาพจิต สมรรถภาพจิต และสุขภาพจิตที่มีสมาธิเปนแกนกลางและทั้งระดับปญญา ความคิดเหตุผล ความรูเทาทันความจริง ทานเรียกวา จริยะ ท้ังสิ้น

ถาเปนการดําเนินชีวิตหรือครองชีวิตอยางถูกตอง ทําใหมนุษยเปนอิสระ มีจิตใจไรทุกขอยางแทจริง ทานเรียกวาเปนพรหมจริยะ แปลวา การครองชีวิตอยางประเสริฐ หรือชีวิตประเสริฐ คือจริยะอยางประเสริฐ จริยธรรมที่จะพูดตอไป ขอทําความเขาใจกันกอนวา จะใชในความหมายที่กวาง

Page 15: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๑๔

อยางนี้ แมแตการปฏิบัติกรรมฐาน เจริญสมาธิ บําเพ็ญสมถะ เจริญวิปสสนา ก็รวมอยูในจริยธรรม ตามความหมายเดิมแทของหลักการที่วามานี้

ตอไปนี้ อาตมภาพจะขอตั้งขอสังเกตเกี่ยวกับ หัวขอจริยธรรม สักสองเรื่องที่ถือวามีความสําคัญมาก และในปจจุบันก็มีความเคลื่อนคลาด ซ่ึงมองเห็นวาจําเปนจะตองทําใหชัดเจนขึ้นมา ถาหากวาเราตองการจริยธรรมที่เหมาะสมสําหรับสังคมปจจุบัน หรือตองการใหคนรุนใหมน้ีเติบโตข้ึนเปนผูรับผิดชอบสังคมอยางไดผลดี ขอยกตัวอยางคําพูดประโยคหนึ่งวา “เออ อุตสาหมานะเลาเรียนเขาเถิดนะ ตอไปจะไดเปนเจาคนนายคน” คํานี้มีความหมายที่แสดงอะไรบางในทางจริยธรรมที่ผานมาในสังคมไทย

คําที่อาตมภาพตองการใหสังเกตในที่น้ีก็คือคําวา “มานะ” คําวามานะนี้เปนภาษาไทยปจจุบันเขาใจวาอยางไรบางทีเราใชพูดควบคูกับคําวาพยายาม เปนมานะพยายามคือคนทั่วไปเขาใจคําวามานะ ในความหมายที่เปนไวพจนคือเปนคําที่มีความหมายอยางเดียวกับคําวาพยายาม เพราะฉะนั้นในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานปจจุบันนี้ จึงใหความหมายหนึ่งไวดวยวา มานะแปลวาพยายาม แตถา

Page 16: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๑๕

เรามองในทางธรรมแลว มานะไมไดมีความหมายอยางนี้เลยเปนการแนนอน

มานะนั้นเปนกิเลสสําคัญอยางหนึ่ง เปนกิเลสที่พระอรหันตจึงจะละไดหมด แตเปนกิเลสที่มีความสําคัญมากในชีวิตของปุถุชน เปนตัวครอบงําบงการการดําเนินชีวิตของคนไมนอยทีเดียว มานะนี้แปลวาความถือตัว ความสําคัญตนวา สูง เดน ต่ําตอย ดอย หรือเทาเทียมผูอื่น ความรูสึกเทียบเขาเทียบเรา หรือความอยากเดนอยากใหญโตเหนือผูอื่น น้ีคือมานะที่แทจริง

ทีน้ี ปญหาเกิดขึ้นวา คําวามานะนี้ไดกลายความหมายมาเปนพยายามไดอยางไร น้ีเปนเรื่องที่นาศึกษา ถาตอบคําถามนี้ได ก็อาจจะเขาใจความเปนมาของจริยธรรมในสังคมไทยดวย เรานาจะลองใชการสันนิษฐาน แตตอนนี้จะพักไวกอน

อีกเรื่องหนึ่ง คือ คนที่มีศีลธรรม โดยเฉาะคนที่ไดช่ือวาเปนนักปฏิบัติธรรม หรือบางทีก็เรียกวาเปนชาวพุทธท่ัวๆ ไป มักจะกลัวหรือเกลียดคําวา “อยาก” รูสึกไมสบายใจท่ีจะมีความอยาก หรือพูดวาอยาก รังเกียจคําวาอยาก อาจจะถึงกับตองแสดงตนวาเปนคนไมอยากไดอยากดี ไมอยาก

Page 17: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๑๖

ไมเอาอะไรตางๆ คือ พยายามแสดงตนวาเปนคนไมมีความอยาก จะไดเปนผูท่ีช่ือวาเจริญกาวหนาในธรรม มีกิเลสนอยเรื่องนี้เปนปญหาและมีความเคลื่อนคลาดมาก จะตองนํามาทําความเขาใจกัน กอนที่จะกาวไปสูจริยธรรมปลีกยอยอื่นๆถือวาเปนเรื่องหลักสําคัญมากอยางหนึ่ง

ทีน้ี ขอพูดเรื่องมานะกอน ทําไมมานะที่แปลวาความถือตัว ความอยากเดนอยากยิ่งใหญ จึงไดกลายมาเปนศัพทท่ีมีความหมายวาเพียรพยายาม ขอสันนิษฐานอันหนึ่งก็คือวา คนไทยเราไดเคยใชมานะนี้เปนแรงกระตุนหรือเราใหคนทําความเพียรพยายาม เพียรพยายามเพื่อจะสรางความเจริญกาวหนาในชีวิต ในการศึกษาเลาเรียนทําการงานเปนตน เพื่อยกฐานะในสังคม ใชกันไปใชกันมา ในที่สุดตัวมานะเองกลายความหมายเปนความพยายามไป แตวาเคามันยังเหลืออยู อยางในประโยคที่วาเมื่อกี้วา “จงมานะอุตสาหะเลาเรียนไปเถิด ตอไปจะไดเปนเจาคนนายคน” เคาความหมายอยูในทอนปลายที่บอกวา จะไดเปนเจาคนนายคน น้ีคือความหมายของมานะที่แทจริง แสดงวาเปนไปไดท่ีเราไดใชมานะที่เปนกิเลสอันนี้ เปนเครื่องปลุกเราคนในการทําความดีงาม ในการสรางสรรคความเจริญกาวหนา

Page 18: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๑๗

แมในปจจุบันนี้ เราก็ยังรูสึกกันวาคนไทยมีความถือในเรื่องตัวตนสูง คือ ความโก ความเดน ความอวดกันหรือวาการมีหนามีตายังเปนเรื่องสําคัญในสังคมไทย รูสึกวาคนไทยก็รูตัวอยูมาก เชน เวลาไปอยูตางประเทศนั้น คนไทยชอบพูดถึงลักษณะขอน้ีมาก คลายๆ กับวาไปเทียบกับสังคมอื่นแลว ลักษณะอันนี้ของตนมันเดนขึ้นมา

ทีน้ีปจจุบันเราเกิดจําเปนจะตองใชคําพูดที่แสดงถึงความหมายนี้ แตคําวามานะเราก็เอาไปใชในความหมายอื่นเสียแลว มานะกลายเปนความเพียรพยายามไปเสียแลวเราจะพูดอยางไรดี ก็ปรากฏวาเราไปเอาคําอีกคําหนึ่งในภาษาพระมาใช คือคําวา “อัตตา” คือไมรูจะพูดวายังไงจึงจะเปนการแสดงวา มีการถือตัวตนมาก อยากเดน อยากใหญโตอะไร ก็เลยตองใชคําวา มีอัตตา เชนบอกวา คนนี้มีอัตตาแรง หรืออยาพะเนาพะนออัตตากันนัก อัตตาคนนั้นใหญอะไรอยางนี้ เปนตน น้ีก็เปนเรื่องของความเคลื่อนคลาด ซ่ึงเมื่อวากันใหถูกตองจริงๆ

ตามหลักการแลว การใชคําวา อัตตา ในกรณีน้ีผิดถาขอยืมศัพทฝายตะวันตกมาอธิบายในกรณีน้ี จะเห็นชัดขึ้นคืออัตตานั้นเปนคําศัพททางอภิปรัชญา หรือทาง

Page 19: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๑๘

metaphysic สวนคําคูกันในทาง จริยธรรม หรือฝาย ethicsก็คือมานะ เพราะฉะนั้น คําที่ถูกตองสําหรับเรื่องนี้ก็คือมานะน่ันเอง เพราะการถือตัว การเอาตัวเปนสําคัญเรื่องของคําวามานะ สวนอัตตานั้นสงวนไวใหใชในเรื่องอภิปรัชญา

แตทีน้ีในเมื่อในสังคมของเรา ความหมายของมานะเคลื่อนคลาดไปมากแลว มันก็เลยยากที่จะพูด เพราะเมื่อพูดวา มานะ คนก็เขาใจเปนอยางอื่น เปนเพียรพยายามไปเสีย อยางไรก็ตาม เมื่อเราจะมาสรางจริยธรรมกันใหม ก็จะตองพูดกันใหเขาใจชัดเจน ความจริงไมตองมาสรางจริยธรรมใหมหรอก ควรจะพูดวามาสะสางหรือขัดเกลาจริยธรรมน้ีใหถูกตอง

วากันตามความหมายที่แทจริง มานะนี้เราเห็นวามีผลเสียมาก ประการที่หนึ่ง การที่คนไทยเอาตัวตนเปนสําคัญถือตัวทําใหคนทํางานเลือกงาน โดยเอาความสูงเดน ความจะไดเปนใหญเปนโตเปนเกณฑในการตัดสิน แทนที่จะเอาความถนัดความสามารถ หรือความสุจริตเปนเครื่องตัดสินหมายความวา คนที่เลือกทํางานนี้ ท้ังที่มีงานที่เขามีความถนัด ความสามารถและเปนงานที่สุจริต แตเขาถือเปนงานต่ํา ก็ไมยอมทํา คอยรอจะทํางานที่ถือกันวาสูง มีหนามีตา

Page 20: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๑๙

อันนี้ก็ถือวาเปนความเสียหายอยางหนึ่ง ทําใหเกิดความสิ้นเปลืองสูญเปลาในทางทรัพยากร และขัดขวางการพัฒนาประเทศไปดวย

อีกประการหนึ่ง วากันวาคนไทยทํางานเปนคณะหรือทํางานรวมกลุมเปนทีมกันไมได อันนี้ก็มีเรื่องพูดกันเสมอ โดยเฉพาะคนที่ไปในตางประเทศ ก็พูดถึงคนไทยวามีปญหาที่ทํางานรวมกันยาก ไมสําเร็จ อันนี้ก็เพราะคนเหลาน้ันมีมานะสูง หรือเรียกอีกอยางหนึ่งตามที่นิยมพูดกันผิดๆวามีอัตตาแรง ตางคนตางอยากเดน อยากใหญ ไมยอมกันลงกันไมได เลยรวมกันไมติด ผลเสียในแงน้ีมีกวางไกล อยางท่ีชอบพูดกันวา คนไทยนั้นยามบานเมืองสงบดี ก็แตกแยกชิงดีชิงเดนกัน ตางคนตางอยู ตอเมื่อใดมีภัยมาถึงตัว จึงจะรวมพลังทํางานรวมกันได

ประการตอไป คือ ในการรับวัฒนธรรมจากตางประเทศ เมื่อจะรับวัฒนธรรมอื่นเขามา เราก็มักเลือกรับเอาแตสวนที่รูสึกโก ทําอยางฝรั่งเฉพาะที่คนเขาเจอแลวรูสึกวาโก หรือวาชอบซื้อหาของใชเมืองนอกทันสมัยมาอวดโกกันแตไมไดเพงมองในแงท่ีจะนํามาสรางสรรคประโยชนใหมๆ

Page 21: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๒๐

หรือมาเสริมการทํางานของเรามากเทาไร อันนี้ก็เปนโทษอีกอยางหนึ่งของมานะ

ขอตอไป ในเมื่อมีการใชคําวาเสรีภาพมากขึ้นเสรีภาพเกิดมาสนองมานะเขา มันก็ไมเกิดความเจริญกาวหนาที่จะแกปญหาในทางสังคมได ถึงแมวาเสรีภาพจะเปนองคประกอบของประชาธิปไตย แตถาเราไมไดสรางปจจัยพื้นฐาน ท่ีจะรับเอาเสรีภาพมาใชในทางที่ถูกตอง และมีเจาตวัมานะนีค้อยออกโรงอยู ผลกจ็ะออกไปในรปูท่ีวา เอาเสรภีาพมาเปนเครื่องแสดงตัวในทางที่ยิ่งใหญ ในการที่จะครอบงําคนอื่น ในการที่จะไมยอมรับคนอื่น หมายความวาใหฉันแสดงออก ใหฉันพูด ใหฉันวาได แตใครจะมาวากระทบฉันไมได กลายเปนอยางนี้ไป เสรีภาพก็มีความหมายไมถูกตองมีความหมายคับแคบ เพราะไมเขาใจวาเสรีภาพคืออะไร มีเพื่ออะไร และไมมีปจจัยตัวหนุนที่ถูกตองมารับกัน แตกลับมีปจจัยในฝายอกุศลมารับแทน ก็เกิดโทษมากกวาคุณ แตเรื่องนี้สัมพันธกับเรื่องนิสัยนักศึกษา นิสัยฝกฝนพัฒนาตนที่จะวาตอไปดวย จึงจะเอาไปพูดตอนนั้นอีกครั้งหนึ่ง

ผลเสียขอตอไปของมานะ คือไมวาจะทําอะไร จะจัดกิจกรรมอะไร ก็มุงไปที่ความมีหนามีตาไดเดนไดดัง อยาง

Page 22: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๒๑

ท่ีวาหมดเทาไรไมวา ขอใหไดช่ือเสียง เพราะฉะนั้น เมื่อจัดงานอะไรก็จะคอยภูมิใจรอใหมีคนชมวา งานนี้หรูหรามโหฬารที่สุด (คือสิ้นเปลืองหรือพินาศมากที่สุด) ลักษณะเชนนี้ นอกจากกอใหเกิดความฟุมเฟอยฟุงเฟอ ความสิ้นเปลืองสูญเปลาเปนอันมากแลว ยังทําใหมองขามสิ่งที่เปนเนื้อหาสาระ หรือแกนสารหรือความหมายที่แทจริงของกิจกรรม หรือของงานของการกระทํานั้นไปเสียดวย แทนที่จะทบทวนถามสํารวจตัววา ในการทํากิจกรรมนี้หรืองานนี้ เราไดทําความมุงหมายของตัวงานนั้นไดสําเร็จผลเปนอยางดีหรือไม และมีความภูมิใจในการเขาถึงสาระหรือทําความมุงหมายนั้นใหสําเร็จ ก็มัวมาภาคภูมิใจกับภาพความยิ่งใหญโกเดน ท่ีกลายเปนความวางเปลาไปแลวหมดสิ้น

มานะยังมีผลในทางรายอีกมากมาย จะพูดถึงผลที่เดนในลักษณะนิสัยของคนไทยจํานวนไมนอยเทาที่เปนมา (หรือเฉพาะเทาที่เปนอยู?) อีกอยางหนึ่ง คือ ความชอบอวดโก อวดกลา อวดแสดงเดน เห็นเปนการเกง ท่ีไมตองทําตามกฎตามระเบียบ สามารถฝาฝนละเมิดกฎระเบียบได ทํานองวาเปนคนยิ่งใหญอยูเหนือกฎ ตลอดจนชอบมีอภิสิทธิ์ ซ่ึงเปนลักษณะความประพฤติประเภทเดียวกัน มานะที่แสดงออก

Page 23: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๒๒

ในลักษณะนิสัยและบุคลิกภาพเชนนี้ นอกจากเปนอุปสรรคอยางยิ่งตอการสรางระเบียบวินัยแลว ยังกลบทับความคิดสรางสรรคพัฒนาตนเองและสวนรวม ใหเลือนลางจมหายไปดวย

อาตมภาพไดพูดเรื่องมานะนี้มาเสียยาว ซ่ึงสภาพตามที่วามานั้น ในสังคมไทยเราก็มองเห็นกันอยูเขาใจไมยากทีน้ีลองมาวิเคราะหกันในแงของหลักการ การใชมานะเปนเครื่องกระตุนเราใหทําความดีหรือสรางสรรคความเจริญกาวหนาในชีวิตนี้ ก็เปนสิ่งที่เปนไดจริง ตรงตามหลักความจริงของกระบวนการแหงเหตุปจจัย

กระบวนการแหงเหตุปจจัยวาไวอยางไร มีหลักบอกไววา อกุศลธรรมเปนปจจัยแกกุศลธรรมได กุศลธรรมเปนปจจัยแกอกุศลธรรมได กุศลธรรมเปนปจจัยแกกุศลธรรมได อกุศลธรรมเปนปจจัยแกอกุศลธรรมได ในกรณีน้ีเราจับเฉพาะขอแรก อกุศลธรรมเปนปจจัยแกกุศลธรรม

มานะนี้เปนอกุศลธรรม เปนสิ่งที่ไมดี แตเราสามารถนํามาใชเปนตัวเรา เพื่อทําใหเกิดการทําความดีความงามได น้ีเปนหลักความจริงตามหลักธรรม อภิธรรมไดวาไวมากในเรื่องนี้ เรื่องอกุศลเปนปจจัยแกกุศล กุศลเปน

Page 24: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๒๓

ปจจัยแกอกุศล ทานวาไวท้ังนั้น มานะแมจะเปนอกุศล แตเมื่อเราเอามาใชในทางที่ดี มันก็มีประโยชนไดเหมือนกัน

อยางไรก็ตาม การใชสิ่งที่เปนอกุศลมาสรางสิ่งที่ดีงาม ท่ีเปนกุศลนี้ มันเสี่ยงตอผลขางเคียงที่เปนอันตราย ผลขางเคียงก็คืออยางที่วาไวเมื่อกี้ เราอาจจะสรางความเจริญกาวหนา ความรุงเรืองงอกงามในชีวิต ทําความดี ความขยันหมั่นเพียรไดสําเร็จ เด็กขยันเลาเรียนศึกษาจริง จบการศึกษาจริง แตผลขางเคียงตอมาเปนอยางไร พอจบแลวแกไมทํางานที่ถนัดที่สามารถ แตเลือกจะเอาความใหญโตอยางที่วาเมื่อกี้

ถาเรานําระบบการแขงขันเขามาใช ระบบแขงขันนี้ครอบงําสังคมปจจุบันมากในวงกวางขวาง โดยเฉพาะสังคมท่ีเดินตามวัฒนธรรมจากตะวันตก เมื่อเรานําระบบเขงขันมาใช เกิดวาระบบแขงขันนี้มาสนองเจาตัวมานะที่เปนปจจัยซอนอยู มันก็ออกผลมาในรูปท่ีไมพึงปรารถนา แทนที่วาจะทําใหมีความขยัน สรางการงาน ทํางานสรางสรรคใหมากขึ้นกลับเอาระบบแขงขันมาใชในทางที่อวดโก ยิ่งใหญ อวดความฟุงเฟอหรูหราฟุมเฟอย แขงกันแสดง แขงกันเสพ ไมใชแขงกันสรางสรรค หรือเอาความยิ่งใหญมาแสวงหาผล

Page 25: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๒๔

ประโยชนครอบงําผูอื่น ก็กลายเปนวา การที่จะฝกฝนปรับปรุงตน สรางสรรคทํางานนั้น เปนเพียงเงื่อนไขจําเปนที่หลีกเลี่ยงไมได จําใจทํา อาจจะทําบางเล็กนอยเปนสวนประกอบไป สวนหลักก็กลายเปนการสนองมานะที่วาเมื่อกี้ ถาไมสนองมานะ ก็สนองตัณหา

ระบบแขงขันโดยตัวของมันเอง ก็จัดวามีสวนที่เปนอกุศลอยู เปนอกุศลในแงท่ีวา การคิดริเริ่มไมเปนไปในทางที่จะชวยเหลือเกื้อกูล ไมเปนไปเพื่อสนับสนุนจิตที่ประกอบดวยเมตตากรุณา แตโนมเอียงไปในทางที่จะทําใหเกิดการเบียดเบียนกันไดงาย ในเมื่อตัวมันเองคอนขางเปนอกุศล แตในเวลานํามาใชอยางที่กลาวไวเมื่อกี้วา ถาหากมีพื้นฐานในทางสรางสรรค เชนปจจัยตัวที่วามีนิสัยของการฝกฝนตน มีนิสัยในการทํางานอยูแลว ก็อาจจะกลับเปนเงื่อนไขที่ทําใหเกิดการขยันทําการงาน

แตในทางตรงขาม ถาหากวาตัณหามานะมีกําลังมาก มันก็จะออกในรูปเมื่อกี้ คือถาออกในรูปท่ีสนองมานะ ก็กลายเปนมุงอวดโก ตองการเปนใหญ ขมพวกกันเอง หรือถาสนองตัณหาขึ้นมา ก็จะออกไปในรูปของการแยงชิงผล

Page 26: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๒๕

ประโยชน ความฟุมเฟอย การแสวงหาสิ่งบํารุงบําเรอ ความฟุงเฟอคอรัปช่ัน

คําถามก็คือ อะไรเปนตัวเดนในขณะนี้ คือวา เรามีปจจัยอะไรเปนพื้นฐานอยูในตัวที่จะมารับเอาเจาระบบแขงขันนี้เขามามีนิสัยทํางาน หรือมีตัณหามานะ อีกประการหนึ่งระบบแขงขันที่วามีสวนโนมเอียงที่เปนอกุศลอยูมาก เมื่อนํามาใชแลวก็ยอมจะทําใหเกิดผลขางเคียงตามมาอีกดวย คือในทางรายนอกจากจะสนองตัณหามานะแลว โดยตัวของมันเอง ก็มีผลทางจิตใจทําใหเกิดความคับแคน กระวนกระวายอยางที่ เปนอยูในสังคมตะวันตกหรือในสังคมที่ เรียกวาพัฒนาแลวในปจจุบัน แลวเมื่อไมรูจักวิธีควบคุม หรือผสมเขากับพิษของตัณหาและมานะ ก็จะสงมลพิษในทางการพัฒนาเอง คือการทําเกินพอดี ท่ีทําใหเกิดผลเสียขึ้นในสภาพแวดลอม เชน pollution เปนตน เพราะไมสามารถควบคุมตนเอง มุงแตวาทําอยางไรจึงจะไดผลแกตนมากที่สุด ตอนนี้ก็ขอพักเรื่องมานะไวทีหนึ่งกอน

หันกลับมาขอท่ีสอง เรื่องความอยาก ทําไมเราจึงมีทาทีตอความอยากในหมูผูปฏิบัติธรรม ท่ีจะพยายามเปนผูไมอยากไดอยากดี ไมเอาอะไร ไมมีความอยาก น่ีก็เกิดจาก

Page 27: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๒๖

ความเลือนลาง เคลื่อนคลาดในความเขาใจธรรมะ คือไมรูจักแยกวา ตามความจริงนั้นความอยากมี ๒ อยาง คือ ความอยากที่ชอบธรรมกับความอยากที่ไมชอบธรรม หรือจะเรียกวาความอยากที่เปนกุศลกับความอยากที่เปนอกุศล ซ่ึงทางธรรมะมีศัพทเฉพาะ แตเรามักเขาใจอยางเดียวกันวาความอยากนี้เปนตัณหา ฉะนั้นเราก็เลยพยายามเลี่ยงวาฉันเปนคนไมมีตัณหา หรือลดตัณหาแลว ละตัณหาแลว หมดตัณหาแลว พยายามแสดงวาฉันเปนคนไมมีความอยาก โดยลืมไปวาความอยากที่ดีก็มี แลวก็เลยลืมศัพทคํานี้ไป หรือไมลืมแตวาไมมอง ไมเอามาใช มองขามไปเสีย ความอยากอีกอันหนึ่งที่เปนกุศล คือ ฉันทะ ซ่ึงเปนคูกัน เมื่อมองตัณหาแลวตองมองฉันทะคูกันไปเสมอ แลวก็รูจักพิจารณาวาจะใชอันไหน ถาจะใชตัณหาก็อาจจะเอามาเราในการสรางสรรคความเจริญไดบาง โดยใชเปนอุบาย คือ เปนการใชอกุศลมาเรากุศล ซ่ึงมีผลขางเคียงในทางรายดวย

ทีน้ีถาจะใชใหถูกตองจริงๆ ก็ตองสรางฉันทะขึ้นมาฉันทะคือความอยาก ความตองการที่จะทําใหดี ความอยากในทางสรางสรรค ความอยากที่จะรูใหเทาถึงความจริง น่ีคือฉันทะ ซ่ึงประกอบดวยปญญาที่รูคิดรูพิจารณาวา อะไรดี

Page 28: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๒๗

อะไรถูกตอง แตก็เปนความอยากอยางหนึ่งเหมือนกันอาตมภาพอยากจะใชคําสั้นๆ วา ตัณหาคือความอยากเสพสวนฉันทะคือความอยากสราง มีความอยากเสพกับอยากสรางเปนของคูกัน

ในทางธรรมนั้นถือวา ฉันทะเปนองคประกอบที่จําเปน เปนรากเหงา เปนตนตอที่ทําใหเกิดความเจริญกาวหนาในคุณความดีตอไป ถาไมมีฉันทะก็ปฏิบัติดีไดยาก จะทําความดีสรางสรรคอะไรไปไมได ฉะนั้นจะตองสรางฉันทะขึ้นมา ขอสําคัญก็คือจะตองแยกใหถูกระหวางฉันทะกับตัณหาเมื่อเขาใจใหถูกตองแลว ก็จะแกปญหาของคนไดท้ัง ๒ประเภท

คนพวกหนึ่งคือนักปฏิบัติธรรม ก็จะไดรูวามีความอยากที่ชอบธรรม แลวก็จะไดไมมีความเกอเขินหรือละอายหรือรังเกียจที่จะพูดถึงความอยาก แตรูวาอยากอยางไหนขอไหน และอีกพวกหนึ่งก็คือ

พวกที่ทํางานรับผิดชอบในการพัฒนา ผูท่ีทํางานพัฒนา เมื่อไปเห็นวา ในทางธรรมะหรือในทางศาสนาไมสนับสนุนความอยาก ไปๆ มาๆ ก็เลยเห็นวาธรรมะหรือศาสนาขัดถวงการพัฒนา แลวก็เลยโมเมบอกวาในการ

Page 29: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๒๘

พัฒนาจะตองเราความอยาก ก็คือตองเราตัณหาใหมากขึ้นใหคนอยากไดโนนไดน่ี จะไดทํางาน แลวก็จะเกิดการพัฒนาพวกนี้ก็ไมรูจักฉันทะเหมือนกัน แยกไมเปนเหมือนกัน วาอยากอยางไหนดี อยากอยางไหนไมดี พอเราใหอยากในทางตัณหา คนก็อยากไดโนนไดน่ี แตไมอยากทํางาน เมื่อไมอยากทํางานแตอยากได ก็หาวิธีใหไดโดยทางลัด ตอมาก็ปรากฏวา มีการกูหนี้ยืมสินมาก มีการลักขโมยมาก การทําทุจริต ยาเสพติด ความฟุงเฟอตางๆ แตการทํางานไมเปนล่ําเปนสัน ผลตามมาก็คือ ถอยจากการพัฒนา แลวก็เพิ่มปญหามากขึ้น

การเขาใจถูกตองเกี่ยวกับความอยากนี้จะเปนประโยชนตอคนทั้ง ๒ พวก โดยเฉพาะผูท่ีรับผิดชอบในการพัฒนาสังคม ถาไมเขาใจใหถูกตอง เราจะมีการผิดพลาดซ้ําเปนครั้งที่สอง ถายอมรับท่ีพูดเมื่อกี้น้ีวา ในอดีตเราเคยใชมานะเปนตัวเรา ใหบุคคลสรางสรรคความกาวหนาในชีวิตใหทําความดีงามตางๆ และมาในปจจุบันนี้ เราจะมาเราตัณหาใหเปนตัวปจจัยในการสรางสรรคความเจริญในสังคม เราจะเปลี่ยนความผิดพลาดจากอันที่หนึ่งคือมานะ มาสูอันท่ีสองคือตัณหา ก็คือพลาดทั้งคู พลาดซ้ําอีก ฉะนั้น จะตอง

Page 30: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๒๙

เลือกใหดี และอันนี้คือการรับผิดชอบตอเยาวชนรุนใหมดวยวาจะเอาอยางไรกัน

พอพูดถึงตัณหากับมานะ ก็เขาสูหลักธรรมที่สําคัญอีกชุดหนึ่ง ตัณหากับมานะเปนกิเลสตัวใหญในชุด ๓ท่ีทานกลาวถึงบอยๆ แตเรามักมองขามไป ชุดนี้มีตัณหามานะ และทิฐิ คนเราโดยมากรูจักแตชุดโลภะ โทสะ โมหะ ท่ีจริงโลภะ โทสะ โมหะนั้น เรียกวาเปนอกุศลมูล เปนกิเลสสําคัญ แตเปนตนตอ เปนรากเหงาของความชั่วราย สวนกิเลสที่เปนตัวบงการบทบาทกํากับการแสดงในชีวิตของคนสวนมาก เปนชุดหลังนี้คือตัณหา มานะ และทิฐิ

๑. ตัณหา คือ ความอยากไดสิ่งบํารุงบําเรอปรนเปรอตนอยางที่วาอยากเสพเมื่อกี้

๒. มานะ คือ ความสําคัญตัวเปนนั้นเปนนี้วา ดวยเดน สูงต่ํา เทาเทียมตางๆ เทียบเขาเทียบเรา

๓. ทิฐิ คือ ความยึดติดในความคิดเห็น ในทฤษฎีถือเอาความคิดเห็นเปนความจริง

สามอยางนี้แสดงออกเปนอะไรบาง ตัณหานั้นคูกับผลประโยชน มานะออกในรูปของอํานาจ ทิฐิแสดงออก

Page 31: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๓๐

เปนความคลั่งในลัทธินิยม อุดมการณ สามตัวนี้กํากับการแสดงของคนทั่วไป

ปญหาของมนุษยตั้งแตปญหาของบุคคลไปจนถึงปญหาสงครามโลก มักจะหนีไมพนกิเลส ๓ ตัวนี้เปนเหตุเปนตัวบงการ คือ ถาไมเปนเพราะตัณหาแยงชิงผลประโยชนกัน ก็มานะเรื่องของอํานาจ หรือไมอีกอันก็เรื่องของทิฐิความยึดติดในลัทธินิยม อุดมการณ แมแตความคลั่งในศาสนาก็อยูในทิฐิน้ี ฉะนั้น กิเลส ๓ ตัวนี้สําคัญมาก คอยกํากับการแสดงของมนุษย

ทีน้ี ในทางจริยธรรมที่ผานมา ตัณหากับมานะคงจะไดมีบทบาท สําคัญในสังคมไทย อาจจะเปนอยางนั้นสวนทิฐิอาจจะเบาหรืออยางไรไมทราบ ตองชวยกันวิเคราะหอีกทีหนึ่ง แตในบางสังคมทิฐิ ความคลั่งศาสนา ลัทธินิยมอุดมการณ เปนตัวกํากับการแสดงที่สําคัญและรุนแรงมากในทางพระเรียกกิเลสชุดนี้วา ปปญจธรรม แปลวา สิ่งที่เปนเหตุใหเกิดความเยิ่นเยอ ยืดเยื้อ พิสดาร วิตถารตางๆ พฤติกรรมของมนุษยท่ีไมสามารถเขาถึงความจริงที่มันงายๆ ตกลงอะไรกันไมได ก็เพราะเรื่องตัณหา มานะ ทิฐิ น้ีเปนตัวสําคัญที่ครอบงําอยู ถาจะแปลใหเขากับภาษาไทยงายๆ

Page 32: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๓๑

ปปญจธรรมก็แปลวา กิเลสตัวปนหรือกิเลสตัวปนเรื่อง ท้ังปนและปนเรื่อง มันปนหัวปนจิตใจคนใหเรื่องมาก ยืดยาวยุงเหยิง วุนวาย สลับซับซอนจนกลายเปนปญหานุงนัง ยากที่จะแกไขได

เมื่อพูดถึงกิเลสชุดนี้แลว ก็มาพิจารณากันดูวา ถาเราไมเห็นดวยหรือเห็นวามันมีขอเสีย ในการที่จะใชกิเลสเปนเครื่องเราในการสรางสรรคความเจริญ แลวเราจะเอาอะไรมาแทน

ข้ันที่ ๑ ก็คือ ถาเรายังไมเอาตัวกุศลธรรมเขามาใชเราจะยังใชกิเลสตอไปกอน ก็อาจจะกระทําได แตจะตองดัดแปลงหรือเปลี่ยนแปลงการใชกิเลสเสียใหม เชนแตกอนนี้มานะเราใชในระดับบุคคลมาก โดยกระตุนปลุกเราใหแตละคนมุงมั่นวาจะตองสรางสรรคความเจริญในชีวิตใหแกตน ใหตองการความยิ่งใหญ มีอํานาจ เปนเจาเปนนาย เชนเราบอกวา “โนน ดูซิคนนั้นเขาแคน้ันเขายังทําได เธอเปนถึงขั้นนี้ทําไมจะทําไมได” น้ีก็ใชมานะเราแลว หรือบอกวา “โนนเขาเปนคนธรรมดา เขาไมรวยอะไร เขายังบริจาคไดเทานี้ คุณเปนเศรษฐี ทําไมจะบริจาคมากกวาเขาไมได” น่ีก็ใชมานะเรา น้ีเปนการใชมานะเราในระดับบุคคล ถาจะเปลี่ยนมาเรา

Page 33: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๓๒

ในระดับของสังคมหรือชุมชน ก็ยายเปาของความยิ่งใหญจากตัวตนของแตละคน มาเปนตัวตนรวมกันของคนทั้งชุมชนหรือท้ังชาติ คือ แทนที่จะปลุกเราใหทําการเพื่อความยิ่งใหญของตนเองของแตละคน ก็ปลุกเราใหสรางสรรคทําการเพื่อความยิ่งใหญ เพื่อความมีอํานาจของชาติของตน

ตัวอยางการเราในระดับสังคม เชน จะใหประเทศพัฒนา ใหคนทุกคนตั้งใจที่จะทํางานเพื่อประเทศชองตน ก็เราวาชาติของเราจะตองยิ่งใหญเปนที่หนึ่งในโลก อยางนี้เปนตน ดูเหมือนวาบางประเทศ อยางเชนญี่ปุน ก็เปนตัวอยางหนึ่งที่ใชมานะในรูปน้ีในระดับสังคมอยางไดผล การที่จะทําอยางนี้ไดสําเร็จ จะตองใหมีจิตสํานึกที่คิดนึกเล็งเปาอยูตลอดเวลาวา ประเทศของเราจะตองเปนหนึ่ง จะทําอะไรก็เพื่อใหประเทศของเราเปนที่หนึ่ง เราจะตองทําการทุกอยางเพื่อเปาหมายอันนี้ แตวิธีน้ีก็อยางที่วามาแลว จะมีผลขางเคียงในทางไมดีมากมาย เชน ตอไปก็อาจจะทําใหเกิดการครอบงําประเทศอื่น เกิดการขัดแยง การแขงอํานาจกันตลอดจนอาจจะเกิดสงครามโลกตอไปก็ได หรือเอาอยางงายๆ ในความหมายที่ไมสูเปนอกุศล ก็คือการใชมานะอยางออน และแปรมาในทางดีงาม เปนการนับถือตนเอง ซ่ึงใน

Page 34: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๓๓

ทางสวนรวมหรือในระดับสังคมก็จะออกมาในรูปของการสรางความภูมิใจในความเปนชาติของตน เชนเราตองพยายามใหคนของเรานี้ ไมวาจะไปตางถิ่นตางแดนที่ไหน ก็มีความมั่นใจภูมิใจและเต็มใจท่ีจะประกาศตนวา ฉันเปนคนไทย ถาหากวาพูดอันนี้ออกมาไดแลว ก็มีทางที่จะชวยพัฒนาประเทศของตน แตถาไมมีความภูมิใจอันนี้แลว การที่จะพัฒนาก็คงจะยาก

เพราะประการที่หนึ่ง คนที่ขาดความมั่นใจในตนเอง ไมมีความภูมิใจในตนเอง ก็คลายทหารขาดฐาน ขาดที่มั่น ไมมีจุดหลักที่จะเร่ิมการกระทําของตน และไมมีท่ียันใหมีกําลังเขมแข็ง ท่ีจะทํางานใหรุดหนาไปหรือตานทานอะไรได

ประการที่สอง เขาขาดความรูสึกมีสวนรวมในสังคมของตน ใจมีความรูสึกปฏิเสธการที่จะมีสวนรวมดวยจึงยากที่จะเกิดความรูสึกในการที่จะทําอะไรเพื่อสังคมของตนนั้น คือตองมีใจผูกพันอยูดวย จึงจะเกิดความรูสึกวาจะทําเพื่อใคร หรือจะทําใหแกใคร

และประการที่สาม เขามีความรูสึกดอยอยูในใจและยอมรับความดอยนั้นถึงขนาดที่วาไมอยากเกี่ยวของ

Page 35: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๓๔

ความรูสึกนี้มีแตจะทําใหออนแรงหมดกําลัง จึงไมชวยใหเกิดการสรางสรรคพัฒนาขึ้นได

ตอไปก็ถึงคําถามที่วา จะเอาธรรมที่เปนกุศลขอใดมาแทนที่เจาตัวกิเลสที่กอปญหาทางจริยธรรมนั้น

ขอ ๑ ก็คือ ตัณหา ในเรื่องตัณหานั้น ธรรมที่จะเอามาแทนก็ชัดอยูแลว เพราะเมื่อกี้น้ีไดพูดถึงธรรมที่เปนคูกับตัณหา ก็คือ ฉันทะ สิ่งที่เราจะตองปฏิบัติในเรื่องตัณหานั้นไมใชเพียงแคจะเลิกจะละตัณหา แตเราจะตองเอาฉันทะมาเปนตัวแทนเพื่อเขาแทนที่ตัณหาตางหาก คือ ประเด็นไมใชอยูท่ีวาอยากหรือไมอยาก แตอยูท่ีวาอยากอยางไรจึงจะถูกตอง อยากอยางไรจึงจะเปนไปเพื่อความดีงาม เพื่อความเจริญกาวหนา

ความอยากที่ไมถูกตอง ไมชอบธรรม เปนอกุศลเรียกวา ตัณหา ไดแกอยากได อยากเอา เฉพาะอยางยิ่งอยากไดรูป เสียง กลิ่น รส สิ่งสัมผัสกาย ท่ีช่ืนชอบ มาบํารุงบําเรอปรนเปรอตน อยากไดผลประโยชนตางๆ เรียกงายๆวาอยากเสพ

ความอยากที่ถูกตอง ชอบธรรม เปนกุศล เรียกวาฉันทะ ไดแกอยากทําใหดีงาม อยากเขาถึงความดีงามความ

Page 36: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๓๕

จริง เชน อยากใหคนทั้งหลายมีสุขภาพดีแข็งแรง หนาตาสดช่ืนเบิกบานผองใสเปนสุข อยากใหสถานที่สะอาดเรียบรอยเปนระเบียบ อยากใหนักเรียนมีความรูสึกดีประพฤติดี มีหลักสูตรมีแบบเรียนที่ใชสอนไดผลดี อยากใหบานเมืองสงบเรียบรอย อุดมสมบูรณ ไมมีคนยากไร ไมมีอาชญากรรม อยากใหคนทั้งหลายไดรูสึกเขาใจสิ่งที่ดีงามมีคุณคาอันนี้ๆ อยากใหชนรุนหลังไดรับประโยชนอยางนี้ๆ ดวย เฉพาะอยางยิ่งอยากใหงานที่ทําอยูสําเร็จผล อยางดีท่ีสุด สมบูรณท่ีสุดเรียกงายๆ วา อยากสรางสรรค หรืออยากสราง

สําหรับปุถุชน เปนไปไมไดท่ีจะไมใหมีตัณหา ขอสําคัญก็คือ อยาใหมีตัณหาอยางเดียว ไมมีฉันทะเลย หรือมีตัณหาเปนกําลังหลัก มีฉันทะเพียงเปนสวนประกอบคอยเสริมสรางบางนิดหนอย ถาเปนอยางนี้ก็นับวาอันตรายมากแตถามีฉันทะเปนหลักใหฉันทะมีกําลังมากกวาเปนตัวยืนโรง มีตัณหาเปนเพียงตัวประกอบแอบๆ อิงๆ อยู เหมือนเพื่อนที่คอยเกาะกินบาง ชวยงานบางอยางบาง ถาไดอยางนี้ ก็นับวาใชไดแลว โลกก็นับวาปลอดภัยพอสมควร และมีหวังเจริญกาวหนาไปไดดี

Page 37: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๓๖

ถาเราตัณหาใหตัณหาเกิดขึ้นบอยๆ เสมอๆ ก็จะกลายเปนนิสัยแบบตัณหา เรียกอยางภาษาปจจุบันวา นิสัยนักเสพ แตถาเราฉันทะใหเกิดขึ้นบอยๆ เสมอๆ ก็กลายเปนนิสัยแบบฉันทะ เรียกวาอยางภาษาทันสมัยวานิสัยนักสรางสรรค เราจะตองสรางนิสัยนักสรางสรรค หรือนิสัยนักสรางไมใชสรางนิสัยนักเสพ

ถาสังคมของเราเต็มไปดวยนักเสพ ตัณหาเขามาครอบงําสังคม มันจะเกิดปญหาอยางที่เปนอยูน้ีเรื่อยไป และมากขึ้นทุกที เพราะฉะนั้นเราจะตองหมุนกลับเขามาสูการสรางนิสัยนักสราง คือ ปลูกฉันทะขึ้นมาใหได แลวมันก็จะไปเขาคูชวยเสริมกันกับธรรมที่จะเขามาแทนที่มานะ

ขอ ๒ คือ มานะ จะเอาอะไรเขามาแทนมานะ หลักธรรมสําคัญขอหนึ่งที่จะใชแกมานะไดก็คือ ทมะ ทมะแปลวาการฝกฝนปรับปรุงตน มานะมันทําใหถือตัวสําคัญตนวายิ่งใหญแลว ก็เอาทมะมาดัดมากําราบมาฝกตนนั้นเสีย ถาพูดสั้นๆ ก็วา จะตองสรางนิสัยฝกฝนพัฒนาตนใหเกิดขึ้น

คําวา ทมะ น้ีหลายคนไมคุนเคย จะใหเขาใจคําวาทมะไดดี ก็ตองเอาคําที่มีความหมายเหมือนกันหรือคลายกันมาชวยมาเทียบเคียง ขอใหเขาใจงายๆ วา ทมะก็คือ

Page 38: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๓๗

สิกขา ท่ีเราใชวาศึกษา ทมะก็คือภาวนา ภาวนาก็คือการพัฒนา การอบรมฝกฝนทําใหเจริญขึ้น ทมะก็คือการฝกใหคลายใหละเลิกสิ่งชั่วรายสิ่งเสียหายเปนโทษ แลวเติมสิ่งที่ดีงามเขามาแทน และฝกใหเจริญงอกงามใหชํานาญช่ําชองในสิ่งที่ดีงามนั้นยิ่งๆ ข้ึนไปจนถึงที่สุด

การสรางทมะก็คือการสรางจิตสํานึกในการฝกฝนพัฒนาตน ซ่ึงเรียกวาไดวาเปนการสรางนิสัยของนักศึกษาเปนที่นาสังเกตวา ในเมื่อเราถือการศึกษาเปนสําคัญ และใหคนเปนนักศึกษานั้น เราทําใหคนหรือเยาวชนมีลักษณะจิตใจหรือมีนิสัยของนักศึกษาดวยหรือไม และเราจะเอาอะไรเปนนิสัยนักศึกษา นิสัยนักศึกษามีลักษณะอยางไร

ในทัศนะของอาตมภาพที่มองจากทางธรรม นิสัยนักศึกษาก็คือหลักธรรมขอทมะนี้ กลาวคือ การมีจิตสํานึกในการที่จะฝกฝนพัฒนาตนเองอยูเสมอ จิตใจที่มุงฝกฝนพัฒนาตนมีลักษณะอยางไร ลักษณะที่เดนอยางหนึ่งก็คือ การมองอะไรๆ เปนการเรียนรูหมด หมายความวาเมื่อเขาไดพบเห็นมีประสบการณอะไรเขาจะมองในแงท่ีจะเลือกเอามาใชเอามาทําใหเปนประโยชน คือ จะคอยถามตัวเองวา ประสบการณน้ันๆ จะนํามาใชใหเปนประโยชนในการแกไขปรับปรุง

Page 39: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๓๘

ตัวของเขาเองอยางไร หรือวาจะนํามาใชใหเปนประโยชนแกสังคม ในการชวยเหลือกัน ในการแกไขปญหาไดอยางไรประสบการณน้ีเปนเรื่องที่คนตองพบอยูเสมอเปนธรรมดา

แตตามปกติคนเรามีทาทีตอประสบการณตางๆ อยางไร ถาไมมีนิสัยนักศึกษา เราก็จะมีนิสัยของปุถุชน นิสัยปุถุชนเปนอยางไร ก็คือการรับกระทบในรูปของความชอบใจไมชอบใจ เมื่อคนเราพบเห็นอะไรเริ่มแรกทีเดียว เขาก็จะมองในแงท่ีวาชอบหรือไมชอบ แลวตอจากนั้นก็จะมีการปรุงแตงไปตามความชอบใจหรือไมชอบใจนั้น อันนี้เปนเรื่องธรรมดาแตพอเปลี่ยนมาเปนนิสัยนักศึกษา เขาเปลี่ยนใหม กลายเปนมองวาประสบการณน้ีเราจะนํามาใชประโยชนอะไรไดบาง และไมคํานึงถึงวาประสบการณน้ีนาชอบใจหรือไม

เพราะวาสิ่งทั้งหลายไมวาดีหรือรายลวนมีคุณไดท้ังนั้น ถารูจักนํามาเลือกใชใหเปนประโยชน ฉะนั้น สําหรับผูเปนนักศึกษาแลวก็จะไมเห็นอะไรที่ไมมีประโยชน และในแงของจิตใจ เมื่อไมมองในแงชอบหรือชัง ก็ไมมีการรับความกระทบกระแทก จิตใจปลอดโปรงผองใสตลอดเวลา ก็เลยไมมีปญหา เพราะไมมีตัณหาที่เปนตัวคอยแสหาความกระทบและมานะก็ไมมีดวย เพราะมานะมันเปนตัวตรงขามของ

Page 40: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๓๙

นิสัยนักศึกษาเลยก็วาได เมื่อไมรับกระทบกระแทก ก็ไมทําใหเกิดการขัดแยง ปญหาตอไปก็ไมเกิด ฉะนั้นเราจะรับประสบการณในลักษณะที่วา อันนี้ก็นํามาใชประโยชนไดเขาวาไมดีมาฉันก็นํามาใชประโยชนได เขาดามาฉันก็นํามาใชประโยชนได ฉะนั้น นิสัยนักศึกษาเมื่อเกิดขึ้นแลว ก็มีแตคุณฝายเดียว

ปญหาอยูท่ีวาเราไดสรางนิสัยนักศึกษากันขึ้นมาบางหรือไม อันนี้คือตัวพื้นฐานที่สําคัญ พอมีนิสัยนักศึกษามา ความถอมตน ความอะไรตออะไรที่ดีๆ ก็เกิดตามมามานะก็หายไปเอง ฉะนั้น อยาใชมานะเปนตัวเราใหคนศึกษาเลาเรียน เรามาสรางนิสัยนักศึกษากันดีกวา นิสัยนักศึกษานี้เมื่อประกอบดวยฉันทะแลว ก็จะอํานวยคุณประโยชนใหมากทีเดียว แลวเราก็อาจจะไมจําเปนตองใชระบบแขงขัน หรือถาระบบแขงขันเขามา เราก็สามารถแปรมาใชในทางที่เปนคุณประโยชน ในเมื่อเราสามารถสรางคุณธรรมขอน้ีข้ึนมาแทน

เมื่อพูดถึงเรื่องมานะกับนิสัยนักศึกษา ก็ขอแทรกเสริมอะไรสักนิดหนอย คือ คนไทยนั้นแมจะมีลักษณะนิสัยหรือบุคลิกภาพหนักเดนในทางมานะก็ตาม แตโบราณก็มีวิธีปฏิบัติในการแกดีเหมือนกัน เชนอยางพิธีไหวครูน้ี ก็อาจมอง

Page 41: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๔๐

ไดวาเปนวิธีการถอนมานะ และสรางจิตสํานึกของนิสัยนักศึกษาเขาใสแทน คือเปนทํานองวา คนไทยนั้นมีมานะมากมานะนี้ทําใหไมยอมลงใหแกใคร และจะเปนอุปสรรคกีดกั้นในการศึกษาเลาเรียน ทําใหไมรับความรูและไมรับการฝกฝนแลวการเลาเรียนก็จะไดผลนอยหรือไมไดผลเลย

พิธีไหวครูเปนการแสดงความยอมรับตอผูท่ีจะเปนครูบอกใหรู แสดงใหเห็นและเตรียมใจแจงแกตนเองวาเราละวางมานะลงทั้งหมด ตอจากนี้ไปเราจะไมมีมานะในเรื่องการเลาเรียนศึกษานี้เลย เราละวางมานะหมดแลว จะมีแตจิตใจของนักศึกษาหรือนิสัยของนักศึกษาอยางเดียว จะตั้งใจรับรูเรียนรูประสบการณตางๆ แตในแงท่ีจะเลือกเอามาใชใหเปนประโยชน ใหเกิดคุณคาอยางเดียว จะไมรับเขามาในลักษณะที่เปนการกระทบกระแทกบีบคั้นตัวตนของเราเลย

เพราะฉะนั้น ในพิธีไหวครูน้ัน เราจะทําอาการเคารพนอบนอม หรือการกระทําอะไรก็ตามที่ดีงามเหมาะสมไดทุกอยาง ท่ีเปนการแสดงออกเปนการเสริมชวยการลดละสละมานะของเรา ถาเขาใจความหมายอยางนี้แลว พิธีไหวครูก็จะเกิดมีคุณคาตอการศึกษาอยางถูกตอง องคประกอบอื่นๆ แมแตเสรีภาพก็จะกลายเปนเครื่องมือหรือเปนปจจัย

Page 42: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๔๑

ชวยเสริมการศึกษา ทําใหเกิดความคลองตัวในการแสวงหาความรู เพราะยิ่งออนนอมถอมตน ไรความถือตัวถือตน เสรีภาพก็ยิ่งไดโอกาสในการที่จะแสวงหาความรู เขาถึงความจริงไดดียิ่งขึ้น แตถาไมเขาใจความหมายของการไหวครูอยางที่กลาวมา การไหวครูก็อาจจะกลายไปเปนพิธีแขงมานะ ระหวางบุคคล ๒ พวก คือ ฝายครูกับฝายศิษย กลายเปนพิธีกดมานะของศิษยใหยอมแกมานะของครู แมแตเสรีภาพก็จะถูกเขาใจและถูกนํามาใชเปนเครื่องเสริมการแขงมานะกัน หรือเปนทางแสดงออกของมานะวา ฉันมีสิทธิแสดงออกวาฉันก็เทาเทียมกับทานแลว หรืออะไรๆ ทํานองนี้เสรีภาพแทนที่จะมีคุณคาในทางสงเสริมสิ่งดีงาม เชน การศึกษาเลาเรียน ก็กลับกลายเปนโทษ เปนทางแสดงออกของมานะ และกลบทับทําลายนิสัยนักศึกษาใหหมดคุณคาไป

ขอท่ี ๓ คือ ทิฐิ ขอน้ีแตเดิมไมไดคิดจะพูดถึงการแก เพราะเห็นวา กิเลสที่เปนตัวเดนในสังคมไทยที่เปนมาก็คือ ตัณหากับมานะ จึงพูดเนนแตสองขอน้ัน แตบางทานขอทราบ จึงเอามาเพิ่มเติมเขาไวดวย วาที่จริง ทิฐิก็เปนกิเลสที่นาสนใจมากเหมือนกัน ในบางสังคมนั้นเห็นไดชัดมากวาเทาท่ีเปนมา ปญหาตางๆ เกิดจากความคลั่งไคลในลัทธินิยม

Page 43: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๔๒

ความเชื่อถือไมยอมกันทางศาสนา และความขัดแยงในทางอุดมการณ เปนปญหาที่รุนแรง และยืดเยื้อร้ือรังมาก แมในสังคมไทยเอง ปจจุบันนี้ แนวโนมในทางใหความสําคัญแกลัทธินิยมอุดมการณตางๆ ก็มีมากขึ้น มีการเนนการย้ําเกี่ยวกับความยึดถือในลัทธินิยมและอุดมการณตางๆ มากขึ้น มีทางเปนไปไดไมนอยวา ตอไปปญหาที่เกิดจากความขัดแยงทางลัทธินิยมอุดมการณ หรือเรียกงายๆ วาปญหาที่เกิดจากทิฐิน้ีจะมีมากขึ้น

หลักธรรมที่เปนตัวแทนและเปนตัวแกของทิฐิ ก็คือทาทีแบบที่ทานเรียกวา สัจจานุรักข สัจจานุรักขหรือสัจจานุรักษ และสัตยานุรักษ) แปลวา การอนุรักษสัจจะ คือคุมครองสัจธรรมหรือรักษาความจริง หมายความวาคุมครองรักษาสัจธรรม ไมใชคุมครองรักษาความคิดเห็นของตนเองไมใชวาฉันจะปกปองความคิดเห็นหรือลัทธิทฤษฎีของฉันไวใหได ความจริงหรือสัจธรรมจะเปนอยาไรก็ชาง

คนจํานวนมากทีเดียว ตอนแรกก็พยามยามแสวงหาความจริงดีอยู แตตอมาพอไปชอบใจทฤษฎีอันใดอันหนึ่งเขา ก็ยึดติดในทฤษฎีน้ัน คราวนี้ก็กลายเปนเหมือนวาทฤษฎีน้ันจะเปนสิ่งสําคัญยิ่งไปกวาสัจธรรมที่ตนแสวงหาเสียอีก

Page 44: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๔๓

ใครจะพูดอะไรเพื่อใหไดฟงไดพิจารณาความจริงเพื่อเขาถึงสัจธรรมยิ่งๆ ข้ึนไป ก็ไมเอาแลว ตั้งหนาตั้งตาจะปกปองทฤษฎีท่ียึดไวน้ันทาเดียว กลายเปนวา ความจริงตองเปนอยางที่ฉันเห็น ไมใชโลงออกมาวา ฉันเห็นตรงตามความจริงคนที่เปนสัจจานุรักษจะมีใจมุงตอสัจจะ ใฝตอสัจธรรม มุงหมายคุมครองรักษาความจริง พรอมท่ีจะสละความคิดเห็นความยึดถือของตน เมื่อพิจารณาเห็นชัดวาตนเห็นผิดถือผิดและไมผูกขาดสัจธรรมนั้น ทาทีท่ีสําคัญก็คือ

หนึ่ง การไมถือความคิดเห็นหรือทฤษฎีของตนเปนความจริง อยางที่บอกวา ความจริงตองเปนอยางที่ฉันเห็นหรือตองเปนไปตามทฤษฎีของฉัน แตพูดไดวา ออ ฉันเห็นตรงตามความจริง หรือวาความคิดเห็นของฉันตรงกับความเปนจริง

สอง ไมผูกขาดสัจธรรม หรือไมผูกขาดความจริงวาอยางนี้เทานั้นจริง อยางอื่นเท็จท้ังสิ้น ผลคือ

หนึ่ง จะไมยึดติดในความคิดเห็นมในลัทธินิยมอุดมการณตลอดจนศาสนาอยางรุนแรง ถึงขนาดที่จะตองขัดแยงรบราฆาฟนกันเปนสงคราม จะมีขัดแยงกันก็เพียงดวยการถกเถียงโดยเหตุผล

Page 45: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๔๔

สอง จะไมเอาความคิดเห็น ทฤษฎี ลัทธินิยม อุดมการณ ตลอดจนศาสนาที่ตนยึดถืออยู ไปเปนเครื่องครองงําบีบบังคับคนอื่นใหยึดถือตาม แตจะทําเพียงพูดจาอธิบายใหเขาเขาใจและเห็นตามโดยเหตุผล ดวยความรักสัจธรรม และดวยความรักเพื่อนมนุษย อยางใหเขาเขาถึงสัจธรรมนั้นดวยปญญาและประสบการณของตน ทาทีสัจจานุรักษน้ีจะสําเร็จไดก็ดวยมีโยนิโสมนสิการ คือ การทําในใจโดยแยบคาย หรือการพิจารณาโดยตลอดสาย เปนเครื่องสนับสนุน

เทาที่อาตมภาพไดกลาวมาทั้งหมดนี้ คิดวาอยากจะสรุปเขาสูหลักการที่สําคัญๆ บางอยาง กลาวคือ ธรรมะที่อาตมภาพนํามาใชเปนพื้นฐานในการพูดเรื่องที่ผานมาทั้งหมด เชน เรื่องตัณหา มานะ เปนตนนั้น ก็มีเปนหลักการตางๆ ซ่ึงขอนํามาสรุปแสดงไวสัก ๕-๖-๗ ขอ

ขอท่ีหนึ่ง ของเรื่องที่พูดไปแลว คือ ท่ีบอกวาสังคมมีการสะสมทางจริยธรรม จะถือวาจริยธรรมเปนเรื่องที่ตัดตอนลอยๆ ไปไมได อยานึกวาเราจะสรางจริยธรรมใหม แลวเราก็เอาจริยธรรมที่เราชอบใจเลือกมา แลวก็มาใสมามอบใหน้ันเปนไปไมได จริยธรรมของสังคมหรือแมแตของบุคคลหนึ่งๆ เปนกระบวนการที่ตอเนื่อง เราไมสามารถสรางคนให

Page 46: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๔๕

มีจริยธรรมอยางใหมข้ึนมาไดอยางลอยๆ เพราะคนเราไมพนจากพื้นฐานเทาที่มีอยู ซ่ึงสะสมมา ฉะนั้น พื้นฐานเกานี้เราจะตองเขาใจ ถาเราจะสรางจริยธรรมใหม เราตองแกไขปรับพื้นฐานนั้น ใหรับกับของใหมไดอยางเหมาะสมหรืออยางพอดี ดังที่ยกตัวอยางเชนการรับระบบแขงขันเขามา เปนตน พื้นฐานของเราคืออะไร ท่ีจะเปนปจจัยรับและเปนตัวสนองตอ

ตอไปขอท่ีสอง วิธีปลูกฝงพัฒนาจริยธรรม อันนี้เกี่ยวกับการมองจริยธรรม การมองจริยธรรมนั้นมี ๒ แบบคือ การมองแบบเปนแตละชิ้นๆ ตางหากกัน เหมือนรายการสินคาหรือบัญชีของ กับการมองแบบเชื่อมโยงสัมพันธกันทั้งหมด จากการมอง ๒ แบบนี้ การฝกฝนพัฒนาจริยธรรมก็ตางกันไปดวย

วิธีฝกฝนพัฒนาแบบที่หนึ่ง ก็คือ เรากําหนดจริยธรรมขึ้นมาเปนขอๆ เชน ความมีระเบียบวินัย ความรับผิดชอบ ความกตัญูกตเวที ความมีสติรอบคอบ วามาเปนขอๆ คราวนี้ใหฝกขอน้ีๆ แลวก็กําหนดวิธีฝกของแตละขอข้ึนมา น้ีอยางหนึ่ง

วิธีฝกอีกอยางหนึ่งก็คือ ถือวาธรรมะทั้งหมดเปนองคประกอบดานตางๆ ของเรื่องเดียวกัน ในกระบวนการ

Page 47: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๔๖

เดียวกัน คือ กระบวนการพัฒนาคน ถาอยูในกระบวนการอันเดียวกันแลว การฝกก็ไมใชเปนแบบที่มาสรางจริยธรรมทีละขอ แตเปนการที่จะตองหาองคธรรมแกน หรือตัวแกนหลักขึ้นมาอันหนึ่ง เมื่อจับแกนหลักขึ้นมาไดแลว ก็กําหนดวาอะไรบางที่เปนคุณสมบัติอื่น หรือจริยธรรมขออื่นที่เราตองการแลวคอยตะลอมใหคุณธรรมเหลานั้นเกิดขึ้นมาดวย ในกระบวนการพัฒนาองคธรรมหรือจริยธรรมแกนนั้น แลวจริยธรรมที่ตองการก็จะเกิดพวงมาดวยกัน

อาตมภาพเห็นวา การปลูกฝงพัฒนาจริยธรรมที่ถูกตองแทจริงนั้น ตองทําตามวิธีท่ี ๒ คือ ถือวาหลักธรรมและจริยธรรมนั้นสัมพันธกันทั้งหมด เปนดานตางๆ ของกระบวนการเดียวกัน คือ กระบวนการพัฒนาคนนี้ เพราะฉะนั้น ตามที่อาตมภาพไดพูดมานี้ จึงไมตองพูดแยกออกไปวา เด็กและเยาวชนรุนใหมควรมีจริยธรรมขอน้ัน ควรมีคุณธรรมขอน้ี มีหนึ่ง มีสอง มีสาม มีสี่ อาตมภาพไมเห็นวาเปนเรื่องสําคัญ แตจะตองจับตัวแกนใหได เมื่อจับตัวแกนหลักไดแลว สรางอันนั้นแหละขึ้นมาเปนตัวหลัก โดยมีเปาวาจะใหมีอะไรๆ บาง ตอจากนั้นจริยธรรมอื่นก็จะเกิดขึ้นตามมา

Page 48: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๔๗

ดังนั้น ถาเราสรางฉันทะขึ้นมาได สรางนิสัยนักสรางสรรค สรางลักษณะจิตใจของนักทํางานขึ้นมาแลว คุณสมบัติท่ีพึงปรารถนาอื่นๆ หรือคุณธรรมอื่น เชน อยางความมีวินัยก็จะเกิดขึ้น คือ เมื่อเปนนักทํางานแลว ความมีวินัยก็พรอมท่ีจะเกิดขึ้น แตไมจําเปนที่จะตองเกิดขึ้น คือ จะตองมีผูท่ีชวยคอยตะลอมคอยชวยคุมแนวทางดวยเหมือนกัน ขอย้ําวามันพรอมท่ีจะเกิดขึ้น เชน ความอดทน ความสูงานความรับผิดชอบ การควบคุมตัวเองได ความประณีต สุขุมความสามารถรวมงานกับผูอื่น การไมฟุงเฟอมัวเมา เหลานี้มันพรอมท่ีจะตามมา เปนอันวาเราเอาคุณธรรมอันหนึ่งเปนหลัก แลวอันอื่นก็สรางโดยเปนพวงหอยตามมา

ตอไปเปนขอท่ี ๓ ซ่ึงเนื่องมาจากขอท่ี ๒ น่ันเองคือ การมองธรรมะ หรือองคธรรมหรือคุณธรรมหรือจริยธรรมตางๆ วา เปนอุปกรณ หรือวิถีทางที่นําไปสูจุดหมาย ไมใชเปนตัวจุดหมาย ผูท่ีฝกฝนพัฒนาจริยธรรมแบบเปนขอๆ มักจะมองตัวจริยธรรมนั้นเปนเปาหมาย หรือเปนหลักที่สําเร็จในตัว แลวก็พยายามฝกใหคนมีจริยธรรมแบบเปนขอๆ มักจะมองตัวจริยธรรมนั้นเปนเปาหมาย หรือเปนหลักที่สําเร็จในตัว แลวก็พยายามฝกใหคนมีจริยธรรมขอน้ันๆ

Page 49: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๔๘

แตในการพัฒนาแบบที่เปนกระบวนการนี้ไมถือแบบน้ัน ในหลักพุทธศาสนาเองก็บอกวา ธรรมทั้งหมดเปนเหมือนแพสําหรับนําไปสูจุดหมาย และถาเราแยกแยะออกไปอีก องคธรรมตางๆ ก็เปนเหมือนสวนประกอบทั้งหมดที่มารวมกันเขาเปนตัวแพ ในเมื่อมันเปนสวนหนึ่งของกระบวนการมันเปนอุปกรณท่ีเราจะนํามาใชประโยชน เราอาจวางเปาหมายของการฝกไว ซ่ึงไมใชตัวธรรมะเอง แตในการฝกเพื่อใหบรรลุเปาหมายนั้น เราประสงคจะใหเขามีธรรมะเหลาน้ีๆ แลวคอยคุมดูวาเขาไดพัฒนาธรรมะเหลานี้ข้ึนมาเปนอุปกรณ เปนเครื่องมือในการที่เขาจะบรรลุเปาหมายนั้นหรือไม ในการฝกฝนพัฒนาแบบนี้ แปลวาเราจะตองตั้งเปาหมายข้ึนมา แลวพัฒนาคนขึ้นไปสูเปาหมายนั้น พรอมกันนั้นก็ใหรูวาในกระบวนการพัฒนานี้จะใหเขามีคุณธรรมอะไรขึ้นมาบาง แลวอุปกรณท่ีเปนธรรมหรือธรรมที่เปนอุปกรณเหลานั้นก็จะเกิดขึ้นมา เพื่อชวยกันทําใหเขาบรรลุเปาหมายที่ตั้งไว

ตอไปเปนขอท่ี ๔ คือ จริยธรรมที่พึงระวัง ไดแกจริยธรรมที่เอียงสุดไปดานเดียว เปนธรรมชาติของคนอยางหนึ่งที่จะเอียงสุด สมัยหนึ่งเอียงสุดไปดานวัตถุ อีกสมัยหนึ่งเอียงสุดไปทางจิต อยางนี้เปนตน เปนมาตั้งแตกอนพุทธกาลแลว

Page 50: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๔๙

ตอนที่พระพุทธเจาประสูติ ก็มีท้ังพวกที่เอียงสุดไปทางวัตถุและพวกที่เอียงสุดไปทางจิต แลวพระพุทธเจาก็มาสอนมัชฌิมาปฏิปทา คือ การดําเนินสายกลาง

การเอียงสุดที่จะพูดในที่น้ี ก็คือการเอียงสุดดานลบและดานบวก ในวงการธรรมะไมนอยไดเนนดานลบ เชนเนนเรื่องการลด การละ การสละ การขม การเวน และการปลีกตัวออกไป เปนกันมากเหมือนกัน เพราะไปเขาใจเรื่องตัณหาอยางที่วา ก็เลยตองละความอยาก ตองขมความอยาก ใหหมดความอยาก เลิกความอยาก ตลอดจนไมมีความอยากจริยธรรมที่เราควรเนนคือจะตองมีแงบวกดวย ถาหากในสวนอดีตเราไดเนนแงลบมามาก ตอไปเราจะตองเนนแงบวกใหมากดวย อยางเชนฉันทะก็ตองเอาเขามา ตองเนนความอยากที่ชอบธรรม แตจะเนนที่แงบวกอยางเดียวก็ไมไดเพราะวาตัวอกุศลที่เปนเชื้อเมื่อมีอยู ถาไมละมันเสีย ตอไปมันก็กําเริบทําพิษข้ึนมาอีก ฉะนั้น จึงตองมีพรอม มีท้ังจริยธรรมดานบวกและดานลบ สังเกตวาสังคมไทยอยางนอยเทาท่ีมองเหน็กนัอยูน้ี เนนจรยิธรรมดานลบมาก สวนฝายตะวนัตกก็เนนดานบวกมาก เราควรจะทําใหสมดุล มีท้ังดานบวกและดานลบพอดีๆ

Page 51: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๕๐

แมถึงความหมายของธรรมะแตละขอก็เหมือนกัน ก็ตองมองใหครบทั้งดานลบและบวก ยกตัวอยางงายๆ เชนทมะ ทมะเราแปลวาอยางไร เรามักจะแปลวาความขมใจความขมใจน้ีเปนความหมายนัยลบ คือ ขมระงับไมใหทําอยางนั้นอยางนี้ ใหงดเวนจากสิ่งนั้นสิ่งนี้ แตเปนความหมายท่ีไมสมบูรณ ทมะนั้นตัวจริงแปลวาการฝก การฝกนั้นก็มีแนวมาจากการฝกสัตว การฝกสัตวเขาทํา ๒ ข้ัน

ข้ันที่หนึ่งเปนขั้นลบ ไดแกการปราบพยศ ขมใหหายพยศ หายดื้อ ชําระลางนิสัยปาใหหมดไป

ตอไปขั้นที่ ๒ ดานบวก คือฝกใหทําอะไรไดดีพิเศษเชน เลนละครได ใชงานก็ได

เปนอันวาทมะดานลบก็คือระงับ ปราบสิ่งที่เสียหายเปนภัย และดานบวก คือฝกปรือใหทําอะไรไดอยางดียิ่งๆ ข้ึนไป จนประเสริฐสุดวิเศษ เชนฝกคนจนเปนพระพุทธเจา คนที่ฝกแลวทานยกยองเปน ทันโต เสฏโฐ มนุสเสสุ ผูท่ีฝกแลวเปนบุคคลที่ประเสริฐสุดในหมูมนุษยท้ังหลาย หรือประเสริฐยิ่งกวาแมกระทั่งเทวดามารพรหม

ธรรมะที่เปนคูคลายๆ บวกลบ อยางเชนสันโดษ เราก็มีปญหา เพราะไมไดสังคายนาความเขาใจกันในเรื่อง

Page 52: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๕๑

สันโดษ ก็เลยไปสันโดษในเรื่องที่ไมควรสันโดษ และไมสันโดษในสิ่งที่ควรสันโดษ ในเรื่องนี้ไมตองเถียงกันวาสันโดษดีหรือไมดี สันโดษมีท้ังคุณและโทษ และไมสันโดษก็มีท้ังคุณและโทษเชนเดียวกัน ถาคนไหนสันโดษในความดีแลวก็ยากที่จะพัฒนา ยากที่จะสรางความเจริญกาวหนาพระพุทธเจาตรัสวา พระองคท่ีไดตรัสรูน้ี อสันตุฏฐิตา กุสเลสุธัมเมสุ ขอหนึ่งเพราะไมสันโดษในกุศลธรรมทั้งหลาย ฉะนั้นจะตองไมสันโดษในการสรางสรรคสิ่งดีงาม

สวนสันโดษเลา จะสันโดษในอะไร ตอบวาสันโดษในการแสวงหาสิ่งบํารุงบําเรอในความฟุงเฟอฟุมเฟอย น้ีคือเรื่องที่ตองสันโดษ พอสันโดษดานหนึ่งมันก็จะชวยสนับสนุนความไมสันโดษอีกดานหนึ่ง เพราะเมื่อเราสันโดษในการแสวงหาสิ่งบํารุงบําเรอปรนเปรอตนเองแลว เราก็สามารถนําเอาพลังงานที่สงวนไวมาใชในการที่จะไมสันโดษในการสรางสรรคสิ่งที่ดีงาม ฉะนั้นจึงตองเนนเกี่ยวกับความไมสันโดษในกุศลธรรมนี้ดวย ซ่ึงเปนคุณธรรมสําคัญอันหนึ่งที่พระพุทธเจาตรัสไวบอยๆ เหมือนกัน แตเราอาจจะมองขามไป ก็เลยถือวาความไมสันโดษเปนอกุศลเสียอยางเดียว จึงจําเปน

Page 53: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๕๒

ตองมีเงื่อนไขหรือมีคําจํากัดใหชัด วาไมสันโดษในอะไร หรือสันโดษในอะไร ไมใชสันโดษลอยๆ

อีกตัวอยางหนึ่ง คือ เรื่องความประหยัด ความประหยัดก็มีแงท่ีจะตองพิจารณา ในภาษาไทยใหความหมายไดหลายอยาง การประหยัดหมายถึงการใชอยางมัธยัสถ หรือการใชอยางระมัดระวัง ไมใหสิ้นเปลือง อาจจะมุงหมายวา เพื่อตัวเองจะไดมีเก็บไวมากๆ แตความหมายทางธรรม คือ การใชสิ่งของสิ่งหนึ่ง หรือใชอะไรก็ตามใหเปนประโยชนมากที่สุด โดยไมจํากัดวาจะเพื่อตนเองหรือเพื่อใครๆ มีเรื่องวาทางวังของพระเจาอุเทนมีความเลื่อมใสศรัทธาในพระอานนทมาก และไดนิมนตทานเขาไปในวัง แตองคพระเจาอุเทนยังไมเลื่อมใส ยังไมรูจักพระพุทธศาสนาชาววังไดถวายจีวรแกพระอานนทมากมาย พระเจาอุเทนทรงสังเกตเห็น รูสึกไมพอพระทัยเลย พระนี้จะเอาไปทําอะไร รับของไปมากมาย พระองคอดรนทนไมไหวก็ถามพระอานนทวา ทําไมรับของไปมากมาย จะเอาไปใชอะไร พระอานนทก็แจกแจงวิธีปฏิบัติของทานในจีวร ๕๐๐ ผืนนั้นวา จะไปแจกพระที่มีจีวรเกาที่ควรจะเปลี่ยนแลว และจีวรเกานั้นละจะเอาไปทําอะไร พระอานนทก็แจกแจงวาเอาไปทําโนนทํานี่ จน

Page 54: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๕๓

เลยจากผาขี้ร้ิวก็ยังใชประโยชนไดจนผาไมเหลืออีกเลย คือมีของสิ่งหนึ่งก็ใชใหไดประโยชนมากที่สุดทั้งสวนตนและสังคม น่ันคือประหยัด มีความหมายทั้งดานลบที่วา ใชอยางใหสิ้นเปลืองสูญเปลานอยที่สุด และดานบวกคือใหของนอยท่ีสุดเปนประโยชนไดมากที่สุด ขอผานจริยธรรมเอียงสุดดานลบกับดานบวกไป

คราวนี้เอียงสุดอีกดานหนึ่ง คือ เรื่องทฤษฎีกับปฏิบัติหรือปริยัติกับปฏิบัติ ในการอบรมจริยธรรม บางทีก็มีการเอียงสุดในเรื่องนี้ คือ บางสมัยก็เอียงสุดในดานทฤษฎีหรือปริยัติ คือ เอาแตเรียนในหองใหทองใหจํา ตอมาอีกสมัยหนึ่งเห็นวาการเรียนทฤษฎีไมไดทําใหเกิดจริยธรรมที่แทจริง ก็หันไปกลาววาจริยธรรมนี้จะตองเกิดขึ้นโดยการปฏิบัติ ฉะนั้นตองเนนที่การปฏิบัติ แลวบางทีก็เลยติเตียนทฤษฎีหรือปริยัติวาไมมีประโยชน ก็เปนสุดทางอีกขางหนึ่ง ในทางที่ถูกตองน้ันมันสําคัญดวยกัน ๒ อยาง ท้ังปริยัติและปฏิบัติ

ถาเรียนแตทฤษฎีไมมีปฏิบัติมันก็ไมเกิดผลอะไรเลย ก็คือไมไดใชน่ันเอง เรียกวา มีความรูอยูในตําราหรืออะไรทํานองนี้ ในทางตรงขาม ถาปฏิบัติอยางเดียว ดีไมดีก็อาจจะเหมือนฝกสัตวเลี้ยงหรือสัตวใชงาน เมื่อฝกมันก็ทําอยางที่ฝก

Page 55: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๕๔

ก็เทานั้นเอง แตคนเปนมนุษย เปนสัตวท่ีรูจักคิดพิจารณา จะตองมีการสั่งสอนแนะนํา การที่จะใหเขาเขาใจความหมายของจริยธรรมแตละอยางๆ น้ัน พรอมท้ังเหตุผลท่ีจะตองนําไปประพฤติ ตลอดจนแงดีแงเสีย ใหเขารูจักนําไปใชปรับปรุงตัวเอง เลือกสรรใชใหเหมาะสมกับตน รวมท้ังการที่เขาจะตองรูจักรับผิดชอบในทางจริยธรรมตอไปไดดวย ซ่ึงทั้งนี้ก็ตองมีการใหในทางความคิด ทางสติปญญา ใหความรูความเขาใจในทางทฤษฎี ตลอดจนจะตองใหเด็กไดรับประโยชนจากมรดกทางจริยธรรม ท่ีสะสมกันมาทั้งในดานวัฒนธรรมและความรูทางตํารา ท่ีจะเปนพื้นใหเขาคิดงอกเงยออกไปซ่ึงไมควรจะทิ้งใหเปลาประโยชนไปดวย เพราะฉะนั้นจริยธรรมหรือการฝกฝนพัฒนาจริยธรรมนั้น ก็ควรจะมีท้ัง ๒ ดานคือ ท้ังทฤษฎีและปฏิบัติ

ตอไปก็คือคุณธรรมที่แฝงอยูในนิสัยนักศึกษาหรือนิสัยพัฒนาตน ในนิสัยพัฒนาตนนั้น คุณธรรมตัวสําคัญก็คือปญญา ดังไดกลาวแลววา คนที่มีนิสัยนักศึกษามุงพัฒนาตนน้ัน เมื่อมีประสบการณอยางใดอยางหนึ่ง เขาก็มองในแงท่ีวา จะเลือกหาจับเอาอะไรมาใชใหเปนประโยชนไดอยางไร

Page 56: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๕๕

การที่จะทําอยางนี้ไดก็ตองมีปญญา คือ ใชปญญาที่จะแยกแยะเลือกเฟน

ยกตัวอยางเชนวา เราไปประเทศที่เจริญหรือเห็นภาพในประเทศที่เจริญมีความหรูหรา ก็เปนธรรมดาที่เราจะตองตื่นเตน เมื่อเกิดความตื่นเตนแลวก็มักจะรูสึกวา ถาทําอยางนั้นไดตัวเราก็คงจะโกดี แลวก็คิดปรุงแตงไป อยากจะทําอยางนั้นอยางนี้ หรือคิดวาถาเราทําอยางนั้นก็จะเอามาอวดพวกตัวเองได ในกรณีเชนนี้ ถามีมานะเปนพื้นฐานอยูแลว ความรูสึกนึกคิดอยางนี้ก็เลยเจริญพอกพูน ประสบการณน้ันก็กลายเปนเครื่องสนองมานะไป แตถามีนิสัยนักศึกษา นิสัยพัฒนาตน มีปญญาที่จะแยกแยะเลือกเฟน ก็จะมีสติยั้งคิดขึ้นมา เมื่อมีสติยั้งคิดแลว ก็จะพิจารณาตามทางของเหตุผล ก็จะพิจารณาแมแตประเทศที่เห็นวาเจริญนั้นอยางเชน เห็นอเมริกาเจริญ ก็พิจารณาวาอเมริกามีจุดดีอะไรบาง และที่ดีน้ันดีดวยอะไร ทําไมจึงดีอยางนั้น ทําไมจึงเจริญอยางนี้ แลวก็ตองถามตอไปอีกวา นอกจากจุดดีแลวอเมริกามีจุดดอยที่ไหนบาง อะไรจะนําอเมริกาไปสูความเสื่อมในวันขางหนา น่ีเปนขอท่ีควรพิจารณา และความเสื่อมน้ีก็แฝงอยูในอเมริกาปจจุบันนี่เอง ซ่ึงถาประเทศอเมริกาไม

Page 57: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๕๖

ระวัง มันก็จะนําประเทศอเมริกาไปสูความเสื่อมอยางแนนอน หรือประเทศญี่ปุน ประเทศอะไรๆ ก็เหมือนกัน

เมื่อคนของเรามอง ก็ควรหัดมองสิ่งเหลานี้ดวยทาทีอยางที่กลาวมา ไมใชเพียงวามองเห็นสิ่งนั้นเขามีก็อยากจะมีตามเขาบางเทานั้น แตพอมองแลวตองคิดวิเคราะหเลย ถาทําไดอยางนี้ละก็ดี หมายความวาเราจะตองวิเคราะหอเมริกา ขอน้ีเปนสิ่งที่แนนอน เพราะอเมริกาเปนตัวอยางที่เราตาม หรือถาจะตามญี่ปุนก็ตองวิเคราะหญี่ปุน ท่ีจริงประเทศพวกนี้เขาไมคอยประมาท เขาก็คอยสํารวจตัวเขาเองเหมือนกันวามีจุดดีจุดดอยอะไร อะไรจะนําเขาไปสูความเสื่อม แตเราไมจําเปนตองรอฟงจากเขา เราควรตรวจสอบเขาเลย เพราะในประเทศที่เรียกวาเจริญนั้น ปจจุบันก็ยอมมีท้ังเหตุท่ีทําใหเจริญและเหตุท่ีจะทําใหเสื่อมปนๆ อยูดวยกัน

ถาเราไมรูจักคิดวิเคราะห ก็อาจจะไปหยิบเอาสวนที่จะเปนเหตุใหเกิดความเสื่อมมา ไมไดสวนที่จะทําใหเจริญซ่ึงมักจะพบไดมากในภาคที่เปนอดีต เราวิเคราะหวาประเทศอเมริกานี้ อะไรหนอทําใหเขามาเจริญอยูในปจจุบัน แลวตอไปน้ีอาจจะเสื่อมในดานไหนบาง อะไรที่เปนตัวที่จะทําใหเกิดความเสื่อมน้ันๆ ทาทีตอการรับการมองสิ่งตางๆ จากภาย

Page 58: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๕๗

นอก ควรจะเปนไปในลักษณะนี้ การใชปญญาดวยทาทีหรือในลักษณะเชนนี้ ทานเรียกวา โยนิโสมนสิการ ถาไมใชปญญาอยางนี้ก็จะตกเปนทาสของตัณหาและมานะตอไปอยางแนนอน พอไปเห็นอะไรเขา ตัณหาอยากก็ฟุงเฟอบําเรอตน อยากไดอยากมีอยางนั้นๆ มานะมาก็อยากโกอยากเดนอวดใหญอวดโตไปเลย ไมไดอะไรที่เปนสาระที่จะเปนผลดีข้ึนมา

ปญญาในแงท่ีเปนโยนิโสมนสิการ ซ่ึงอยูในนิสัยนักศึกษา หรือนิสัยพัฒนาตนนี้ ตองถือวาเปนหลักสําคัญในจริยธรรมสําหรับการเผชิญและการรับวัฒนธรรมจากภายนอก ซ่ึงเปนเรื่องที่คนรุนใหมเกี่ยวของอยูอยางมาก เราจะรับอะไรหรือไมรับอะไร ก็จะตองทําดวยปญญาที่พิจารณาแยกแยะเลือกเฟนทั้งสิ้น จะทําตามที่กิเลสจูงไปยอมไมมีผลดีเลย ตัวอยางที่เดนก็คือเรื่องมานะอีกนั่นแหละ จะใชมานะในการรับวัฒนธรรมฝรั่งก็ไมดี จะใชมานะในการไมรับวัฒนธรรมฝรั่งก็ไมถูกตอง เชน ในการรับภาษาอังกฤษเขามาใช

ภาษาอังกฤษนั้นเปนภาษาที่อุดมสมบูรณมีคําศัพทใชมากมาย เพราะเปนภาษาที่เจริญเติบโตข้ึนดวยการรับเอาภาษาอื่นๆ เขาไปเปนสวนประกอบ มีท้ังภาษาตะวันออก

Page 59: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๕๘

และภาษาตะวันตกดวยกัน มีท้ังภาษาโบราณและภาษาสมัยใหม สามารถสรรหาศัพทมาเลือกใชใหตรงกับความหมายที่ตองการไดอยางดี ในการที่คนไทยเราจะรับเอาภาษาอังกฤษนั้น ถาใชมานะในการรับ ก็จะเลือกเอามาใชแตถอยคําที่จะทําใหโกเกอวดกันเทานั้น จะไมไดสิ่งที่เปนเนื้อหาสาระ แตถาใชมานะในการไมรับ ก็จะกลายเปนถือดีวานี่เปนภาษาฝรั่ง ภาษาตางชาติ เปนวัฒนธรรมภายนอก ไมใชของไทย ฉันจะไมยอมใช เมื่อไมยอมรับเอาเขามาก็กลายเปนสูญเสียประโยชนท่ีพึงได แตถาใชโยนิโสมนสิการ ท้ังในการที่จะรับและไมรับ ก็จะทําใหสามารถเลือกเอาสิ่งที่ดีมีประโยชนเปนสาระเขามาเสริมภาษาของตน ทําใหภาษาไทยอุดมสมบูรณข้ึน เชนเดียวกับท่ีภาษาอังกฤษไดรับประโยชนเชนนี้จากภาษาอื่นๆ

ข อ ต อ ไ ปคื อ คุณธ ร รมที่ เ ป นหลั ก สําคัญขอ งประชาธิปไตย ไดแก ธรรมาธิปไตย ตามหลักธรรม อธิปไตยมี ๓ อยางคือ

๑. อัตตาธิปไตย ถือตนเปนใหญ คือจะทําอะไรๆ ก็เอาตนเองเปนประมาณ ทําไปตามความคิดเห็นของตนคํานึงถึงแตฐานะ เกียรติ ศักดิ์ศรี และผลประโยชนของตน

Page 60: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๕๙

เอง ถาอยูในขอบเขตของการเคารพตน ก็ทําใหเวนชั่ว ทําดีหรือเรงทําความดีได ไมเสีย แตถาเลยขอบเขตนั้นไปก็มีผลเสียไดมาก

๒. โลกาธิปไตย ถือโลกเปนใหญ คือจะทําอะไรๆ ก็เอาความนิยมหรือเสียงนินทาสรรเสริญของคนทั่วไปเปนประมาณ ถาอยูในขอบเขตของการเคารพเสียงมหาชน ก็ทําใหเวนชั่ว ทําดี ทําประโยชนได ไมเสีย แตถากลายเปนวาจะทําอะไรๆ ก็มุงจะเอาใจหมูชน หาความนิยม หรือมัวกลัวเสียงกลาววา ไมกลาทําสิ่งถูกตองดีงาม ก็กลายเปนเสีย

๓. ธรรมาธิปไตย ถือธรรมเปนใหญ คือจะทําอะไรก็ยึดหลักการ ความจริง ความถูกตอง ความดีงาม เหตุผลเปนประมาณ กระทําการดวยปรารภสิ่งที่ไดศึกษาตรวจสอบตามขอเท็จจริง และความคิดเห็นที่รับฟงอยางกวางขวางแจงชัด และพิจารณาอยางดีท่ีสุด เต็มขีดแหงสติปญญาจะมองเห็นได ดวยความบริสุทธิ์ใจ วาเปนไปโดยชอบธรรม และเพื่อความดีงาม หรืออยางงายๆ ข้ันตนๆ คือการทําดวยเคารพหลักการ กฎ ระเบียบ กติกา ท่ีเปนไปเพื่อความถูกตองดีงามและประโยชนสุขที่แทจริงของปวงชน

Page 61: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๖๐

ถายอมรับวา เทาที่ผานมาสังคมไทยมีลักษณะเดนดานมานะ ก็เทากับยอมรับดวยวา คนไทยไดใชอัตตาธิปไตยมาก อัตตาธิปไตยมีผลดีไดบาง แตมีผลเสียไดมาก และไมปลอดภัย อาจจะเลยขอบเขตไปไดงาย โดยเฉพาะสําหรับระบบประชาธิไตยยิ่งไมเหมาะสมกันเลย จึงจะตองย้ํา ตองเนนกันในการที่จะสรางสังคมของคนรุนใหมใหตั้งมั่นในธรรมาธิปไตย ซ่ึงเปนคุณธรรมที่ตองการตามคติของพระพทุธศาสนา และเปนหลกัทีจํ่าเปนสาํหรบัระบบประชาธปิไตย

กลาวกันวา วัฒนธรรมตะวันตกมีลักษณะหนุน(self-maximization) คือขยายตัวตนหรือเพิ่มพูนพลังของตัวตนออกไปจนถึงที่สุด แตฝร่ังมีพื้นฐานนิสัยสรางสรรค หรือมีนิสัยนักทํางานเปนพื้นฐานอยูแลว การขยายพลังตัวตนจึงเบงออกในรูปของการหนุน achievement desire หรือความใฝสัมฤทธิ์ใหเขมแข็งยิ่งขึ้น ถาเราเอาหลักขยายพลังตัวตนหรือ self-maximization มาใชในสังคมไทย ในขณะที่เราเดนดานมานะ และขาดนิสัยสรางสรรค นิสัยนักทํางาน การขยายพลังตัวตนก็นาจะกลายเปนตัวที่มาสนองมานะใหแรง ลึกหนักแนนยิ่งขึ้น ก็จะไมเกิดผลดีตามท่ีตองการ แตคงจะเกิดผลเสียมากกวา นอกจากนั้นในสังคมที่นําในดานระบบ

Page 62: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๖๑

ประชาธิปไตย จะปรากฏวาเขาไดประสบความสําเร็จเปนอันมากในการปฏิบัติตามหลักธรรมาธิปไตย เพราะฉะนั้นไมวาจะพิจารณาในแงใดๆ ก็จะเห็นวา จะตองเนนหลักธรรมาธิป-ไตยใหเปนแกนของการพัฒนาสังคมไทยอยางจริงจัง

ขอตอไป ขอพูดรวมๆ วา สังคมไทยเรานี้ในปจจุบันมีปญหามากมายที่จะตองแกไข ในเมื่อเปนสังคมที่มีปญหาจะตองแกไข เราก็จะตองมีจริยธรรมเพื่อใชในการแกไขปญหาเหลานั้น จริยธรรมประเภทใดจะชวยในการแกปญหาสังคมของเราไดดี เด็กและเยาวชนรุนใหมก็คือผูรับผิดชอบในการแกปญหาเหลานี้ เราจะตองเตรียมใหเขาเปนผูพรอมท่ีจะแกไขปญหาดวยการสรางใหเขามีจริยธรรมประเภทนั้น จริยธรรมที่ตองการนั้นมีลักษณะอยางหนึ่ง คือ เปนจริยธรรมที่ทําใหคนเขมแข็งในการสรางสรรค ซ่ึงก็จะสําเร็จไดดวยนิสัยนักศึกษานิสัยนักพัฒนาตน และดวยคุณธรรมฝายบวกที่จะตองเนนใหมากขึ้น ไมใชเอาแคคุณธรรมฝายลบที่พูดมา แตคูท่ีจะมาทําใหเขว ก็คือ ความเกงกลาในทางอวดโก ในการแสดงความฟุงเฟอมัวเมา ซ่ึงมันอาจจะดูคลายกัน ดูเหมือนเปนความเขมแข็ง แตท่ีจริงคือความออนแอที่ผิดพลาด

Page 63: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๖๒

ฉะนัน้เราตองการใหเขมแขง็ในการสรางสรรค ไมใชใหเขมแขง็เกงกลาในการแสดงความอวดโก แสดงความฟุงเฟอมัวเมา

ลักษณะอีกดานหนึ่งของจริยธรรมที่เราตองการก็คือ ไมใชจริยธรรมที่ทําใหคนยนระยอทอถอย อาการอยางหนึ่งของความยนระยอทอถอย ก็คือ การรอคอยความชวยเหลือหวังพึ่งการดลบันดาลจากภายนอก

ในสังคมปจจุบันนี้ นาหวงเหมือนกันวาลักษณะเชนน้ีจะมีมาก และถาหากวาผูใหญในปจจุบันมีสภาพนี้ เราจะพูดอยางไรวา เด็กเดินตามหลังผูใหญหมาไมกัด ก็คงตองถูกกัดแนๆ คือผูใหญเดี๋ยวนี้เดินไมถูก เดินไปในทางที่จะใหสุนัขกัด ถาพวกเรามีจริยธรรมในทางยนระยอทอถอย ไมสู ไมสราง ไมเปนนักทํา คอยแตหวังพึ่งปจจัยภายนอกมาชวยแกปญหา แกทุกข รอคอยความชวยเหลือ แกปญหาดวยสุราการพนัน หวังพึ่งเทวดา การดลบันดาล การบวงสรวงตางๆสภาพเชนนี้เปนจริยธรรมแบบยนระยอทอถอย เปนสิ่งที่จะทําใหแกปญหาไดยาก

พุทธศาสนานั้นสอนใหเชื่อกรรม เชื่อกรรมคือเชื่อการกระทําวาผลที่ตองการจะสําเร็จไดดวยการกระทํา ใหมีความมั่นใจในการทําดี ถาเรามั่นใจในการทําความดี มันก็สงเสริม

Page 64: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๖๓

ฉันทะ ซ่ึงเปนตัวการที่จะนําไปสูความสําเร็จ ในยุคสมัยนี้ประเทศเราตองรับความชวยเหลือมาก ซ่ึงก็เสี่ยงตอการสรางนิสัยรอความชวยเหลือ ฉะนั้น ถาไมระวังใหดี คนรุนใหมของเราก็จะมีความออน ความดอยทางจริยธรรม ในดานที่มีลักษณะคอยรอความชวยเหลือน้ี

ทีน้ีทําอยางไรเราจะแกได เราสามารถพูดไดวาสําหรับผูท่ีสามารถชวยเหลือผูอื่น ก็ตองมีจริยธรรมที่จะไปชวยเหลือเขา แตสําหรับผูท่ีถูกชวยเหลือ ก็ตองมีจริยธรรมวา ไมวาใครจะชวยหรือไมชวยฉันก็ตาม ฉันก็ตองทําของฉันอยางสุดฤทธิ์ สุดสติปญญา หรือสุดความสามารถ ถาทําไดอยางนี ้ถงึแมวาจะยงัเปนผูรับความชวยเหลอื กจ็ะยงัสามารถรักษาจริยธรรมที่มีลักษณะเขมแข็งในการสรางสรรคเอาไวได จริยธรรมอยางนี้เกิดขึ้นไดก็ดวยอาศัยแนวทางที่อาตมภาพไดพูดมาแลว น้ีเปนขอเสนอ

ในตอนนี้ก็มีเรื่องเขามาเกี่ยวของอีกอยางหนึ่ง คือเรื่องความงมงายที่เกี่ยวของกับความเชื่อและการปฏิบัติ เรามักจะพูดถึงความงมงายในลักษณะ หรือรูปของความเชื่อเชนวาเชื่อไสยศาสตร เชื่อผีสางเทวดา เปนตน แตเรามองขามไปอยางหนึ่ง คือ การปฏิบัติท่ีงมงาย

Page 65: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๖๔

พระพุทธศาสนาเนนการปฏิบัติท่ีงมงายวาจะตองรีบแกไข ยิง่กวาความเชือ่ท่ีงมงาย การปฏบัิตท่ีิงมงายเปนอยางไรการปฏิบัติท่ีงมงาย ก็คือการปฏิบัติท่ีหวังพึ่งปจจัยภายนอกการหวังพึ่งสิ่งดลบันดาลตางๆ ตามปกติความเชื่อท่ีงมงายจะนําไปสูการปฏิบัติท่ีงมงาย แตถาเราสามารถตัดทอน ถึงเขาจะยังเชื่องมงาย ก็ปลอยไวกอน เพราะเรื่องความเชื่อน้ีแกยาก แคอยาใหปฏิบัติงมงายก็พอ ไมเปนไร ผลในทางจริยธรรมไมถึงกับเสีย เพราะวาความเชื่อน้ีจะแกไขไดตองถึงขั้นปญญาทีเดียว เราเอาแคข้ันศีลและสมาธิพออยูไดกอน สวนข้ันปญญานั้นยากอยู เราจะไปเนนใหรอไปแกความเชื่อน้ีไมไหว จะแกไดจริงก็ตองถึงขั้นตรัสรู ปญหาเบื้องตนและรีบดวนกวาคือ ทําอยางไรจะแกใหเลิกการปฏิบัติท่ีงมงาย

พระพุทธเจาเนนเรื่องการปฏิบัติท่ีงมงายมาก เพราะคนที่เชื่องมงายนั้นมีในพุทธกาลแลว เขาเชื่อโนนเชื่อน้ีหวังพึ่งการดลบันดาลออนวอนบวงสรวงตางๆมากมาย พระพุทธเจาไมตัดที่ความเชื่อ ไมเสียเวลาไปเถียงกับเขา แตไปตัดที่การปฏิบัติท่ีงมงาย ทรงหาทางใหเขาเลิกปฏิบัติตัวในทางที่จะรอคอยการชวยเหลือดลบันดาล ใหเพียรพยายามทําดวย

Page 66: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๖๕

ตนเอง ความเชื่อน้ันปลอยไวกอนได แลวคอยแกไป เพราะเปนของลึกซึ้งกวา

เราจะเห็นไดชัดเชนเรื่องเทวดา คนจํานวนมากไมสามารถแยกไดระหวางความเชื่อเทวดาในพุทธศาสนากับเทพเจาในศาสนาพราหมณ ซ่ึงที่จริงนั้นตางกันมาก พระพุทธเจาตัดตรงนี้ คือ ใหเลิกการปฏิบัติท่ีงมงายเสีย ทานจะเชื่อตอไปหรือไมก็ไมวา แตตอไปเมื่อกาวหนาในทางธรรมมากขึ้น ก็จะคอยเห็นความจริงเห็นถูกตองรูถูกตองเอง

การปฏิบัติท่ีงมงายเปนเรื่องสําคัญมาก แมแตความเชื่อไมงมงาย แตการปฏิบัติงมงายก็เสีย ปจจุบันคนจํานวนมากในสังคมของเราไมเปนนักสรางสรรค ไมเพียรพยายามดวยตนเอง เพราะมีลักษณะนิสัยรอคอยการดลบันดาลจากปจจัยภายนอก เชน รอคอยความชวยเหลือจากวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ฝากชีวิตฝากความหวังไวกับวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ไมสามารถชวยตัวเองไดถาปราศจากสิ่งเหลาน้ัน น้ีก็เปนการปฏิบัติท่ีงมงายเหมือนกัน ไมใชเฉพาะคนที่พึ่งเทวดาไสยศาสตรเทานั้นที่งมงาย คนที่หวังพึ่งวิทยาศาสตรและเทคโนโลยีก็ตองถือวางมงายเหมือนกัน

Page 67: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๖๖

เพราะฉะนั้น เราสามารถพูดใหมในปจจุบันวา ใหระวังความงมงายในวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี เพราะวาเปนความงมงายที่กําลังเกิดขึ้นแพรหลายและจะมีผลเสียตอสังคมมาก นิสัยสรางสรรคนิสัยพัฒนาตน เปนนักทํานักสรางน่ันแหละ จะมาแกการปฏิบัติท่ีงมงาย หรือความงมงายในการปฏิบัติน้ีได เราควรเอาวิทยาศาสตรและเทคโนโลยีมาใชใหเปนประโยชนไดอยางรูเทาทันคุณโทษ ทางดีทางเสีย และดวยความระมัดระวังรอบคอบ แตไมจําเปนตองรอคอย ฝากความหวังไวในวิทยาศาสตรและเทคโนโลยีน้ัน

อีกอยางหนึ่ง ทําไมเราจะสรางสิ่งเหลานั้นดวยตนเองไมได ตองรอคอยใหคนอื่นเขาทํามาให จึงตองพูดใหตระหนักในเรื่องการปฏิบัติท่ีงมงายไวดวย ไมใหมัวมองแตจะรังเกียจจะหลีกหนีความเชื่อท่ีงมงาย แลวไมรูตัววาตนเองกําลังถูกความงมงายอีกดานหนึ่งครอบงําอยูอยางเต็มท่ี

ขอตอไปที่พันกันอยูกับเรื่องที่พูดมาแลวก็คือ เรื่องการเสพติด การเสพติดมี ๒ อยาง คือ การเสพติดทางวัตถุและการเสพติดทางใจ เรามักพูดกันมากเฉพาะดานการเสพติดทางวัตถุ แตการเสพติดทางจิตใจก็เสียเหมือนกัน และในทางพระพุทธศาสนาก็สอนใหระวัง เพราะเมื่อพนจากการ

Page 68: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๖๗

เสพติดทางวัตถุแลวก็อาจจะมาเสพติดทางจิตใจไดในการปฏิบัติธรรมแทบทุกขั้นตอนจะมีสิ่งมายั่วเยา

ใหเกิดความติดไดท้ังนั้น เชนวา ไดฌาน ก็อาจจะติดในฌานไดวิปสสนาก็อาจจะติดในความสุขของวิปสสนา ท่ีพระพุทธเจาตรัสวาเปนวิปสสนูปกิเลส และตรัสใหแกไขเสีย มิฉะนั้นจะไมมีทางบรรลุมรรคผล ไมมีทางกําจัดกิเลสไดหมดสิ้น ในสังคมปจจุบันโดยทั่วไป เฉพาะอยางยิ่งในสังคมที่พัฒนาแลวจะมีชวงตอนหนึ่งที่คนทั้งหลายจํานวนมากเกิดความเบื่อหนายตอสิ่งปรนเปรอหรือความเจริญหรูหราทางวัตถุ เมื่อเบื่อหนายทางวัตถุ เขาก็จะไขวควาหันมาสนใจทางจิต ครั้นพอไดอะไรที่สนองความตองการทางจิต เขาก็พรอมท่ีจะเสพติดไดทันที ถาไมมีความเขาใจเรื่องนี้เปนพื้นฐานไว คนสมัยใหมปจจุบันจํานวนมาก ขาดความรูทางดานจิตมากอน พอเบื่อวัตถุหันมาพบอะไรดีๆทางจิต ก็เลยพากันติด เขาลักษณะเสพติดทางจิตไปเลย

ในสังคมฝรั่งปจจุบันนี้ อาตมภาพมองวา พวกหนึ่งมีการเสพติดทางจิตใจมาก จริงอยู การเสพติดทางจิตนั้นอาจจะมีผลเสียรุนแรงนอยกวาความเสพติดทางวัตถุ และมองเห็นไมชัดเจน เพราะผูท่ีเสพติดทางจิตอาจจะไมไปรุกราน ไม

Page 69: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๖๘

ไปรังแกทํารายคนอื่น ศีลหาที่เปนระดับสามัญนั้น อาจจะมองไมเห็นวาเขาละเมิด แตอาจจะมีผลเสียในวงกวางที่ประณีตลึกซึ้ง ซ่ึงอาจจะมีผลกระทบตอสังคมอยางมากทีเดียว เพราะจิตนั้นมองไมเห็นก็จริง แตจิตเปนผูนํากิจกรรมอยางอื่นๆทั้งหมด และผลเสียที่ละเอียดออน ก็อาจรายกวาผลเสียที่รุนแรงชัดเจนไดเหมือนกัน เชน การติดลักษณะนิสัยแบบเฉื่อยชา ติดในความสุขของสมาธิจนเกียจคราน เปนตน

ในทางธรรมทานเตือนไวทุกขั้นตอน น่ีคือความรูทางปริยัติ ท่ีมาชวยการปฏิบัติ ผูปฏิบัติน้ันบางทีเมื่อเจอสิ่งที่ดีแลวก็หลง ปริยัติบอกวา สมาธิน้ีเปนปจจัยใหเกิดความสุขแตก็อาจทําใหเกิดความเกียจคราน ทานจึงใหระวังโดยคอยปรับอินทรียท้ังหลายใหสม่ําเสมอพอเหมาะพอดี (อินทรียมี๕ คือ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปญญา) สมาธิเขาคูหนุนกับความเกียจคราน ผูปฏิบัติจะตองคอยประคองวิริยะคือความเพียรไวใหดี มิฉะนั้นอาจจะตกไปในหลุมแหงความเกียจคราน คือ โกสัชชะเสีย

ปจจุบันนี้ ความสนใจในทางจิตและความฝกใฝในสมาธิมีมากขึ้น ซ่ึงเปนเพียงปฏิกิริยาตอความอืดเฟอ และเบื่อหนายตอความเจริญทางวัตถุบาง เปนการชิมลองและ

Page 70: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๖๙

ตามกันรวมทั้งตามฝรั่งอยางแฟชั่นบาง เปนผลจากปญญาที่รูเทาทันโลกและชีวิตมากขึ้นบาง

เยาวชนรุนใหมจะตองพบกับสภาพเชนนี้ และอาจจะตองพบมากขึ้น เขาควรจะไดรับการเตรียมตัวใหพรอม ท่ีจะปฏิบัติตอเรื่องนี้ใหถูกตองดวย เพื่อใหการปฏิบัติน้ันเปนคุณท้ังแกตนเองและสังคม ใหเขาเจริญงอกงามกาวไปอยางดีอยางนอยก็มิใชเปนการพนจากการเสพติดทางวัตถุ เพียงเพื่อไปหมกมุนกับการเสพติดทางจิตตอไป

อน่ึง ควรจะพูดถึงสภาพจิตของเด็กและเยาวชนรุนใหมเปนที่สังเกตไวดวย สําหรับการพิจารณาในทางจริยธรรมตอไป สภาพแวดลอมและสภาพความเปนอยูในสังคมปจจุบัน ไดเปลี่ยนแปลงไปจากสมัยกอนเปนอยางมาก และความเปลี่ยนแปลงนี้ก็มีอิทธิพลและมีผลกระทบตอสภาพจิตของคนรุนใหมเปนอยางมากดวย

การคมนาคมที่สะดวกรวดเร็ว สื่อมวลชนที่กวางทั่วถึงและฉับไว เรื่องราวและเหตุการณตางๆที่เกิดขึ้นอยางมากมายและเปลี่ยนแปลงอยางไมหยุดยั้ง วิทยาศาสตรและเทคโนโลยีท่ีกาวหนาไปอยางนาตื่นเตน วิทยาการที่เพิ่มพูนขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งประดิษฐและผลิตภัณฑใหมๆที่เรา

Page 71: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๗๐

ใจและทาทายความสนใจ ซ่ึงเกิดขึ้นอยางไมหยุดหยอน ท้ังประสบการณ ท้ังขอความรู และสิ่งเสพมากมาย ประดังเขามา โหมซ้ําดวยวิธีโฆษณาและระบบแขงขัน ทําใหเด็กและเยาวชนสมัยปจจุบันตองไดรับประสบการณตางๆ ท่ีหลากหลาย เขามาทางอินทรียตางๆ ในปริมาณท่ีมากมายและโดยอัตราความเร็วที่สูงยิ่ง ตางจากเด็กและเยาวชนรุนกอนเปนอยางมาก แถมดวยกําลังแรงและความเรารอนของวัยที่รุนหนุมสาว สภาพเชนนี้มีท้ังผลดีและผลเสีย แลวแตเงื่อนไขคือถาเด็กและเยาวชนที่เปนผูรับหรือผูเสพประสบการณน้ัน มีความพรอมสามารถจัดการกับประสบการณท่ีเขามาไดดี เขาก็จะเปนมนุษยท่ีไดพัฒนาศักยภาพอยางดีเยี่ยม

แตเด็กสวนใหญหาไดมีความพรอมหรือมีความสามารถเชนนั้นไม วัฒนธรรมเทาที่เปนมา ไมสามารถเตรียมตัวเขาใหอยูในสภาพจิตและสภาพชีวิตที่พรอมเชนนั้น ผลจึงปรากฏวา เด็กและเยาวชนรุนใหมตกอยูในสภาพจิตที่อาจเรียกวามีเรื่องคางใจมาก

เรื่องคางใจหรือประสบการณคางจิต หรืออารมณคั่งคางนี้ก็คือ สิ่งที่เขายังตอบสนองไมเพียงพอ ซ่ึงแยกไดเปน ๒ประเภท คือ สิ่งที่เขาพอใจรับเขาไว แตยังเสพไมพอ เสพไม

Page 72: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๗๑

อิ่ม เสพไมทัน ไหลเขามาๆ ชอบก็เก็บเขาไว ยังเสพไมเสร็จคั่งคางอยูพวกหนึ่ง กับสิ่งที่ยังคิดไมตก ตัดสินไมไดยังปลงใจลงอยางใดอยางหนึ่งไมได คางคาอยูอีกพวกหนึ่ง

การมีประสบการณเรื่องราวหรืออารมณคางใจ ซ่ึงยังตอบสนองไมเพียงพอ คั่งคางและคางคาอยูมากๆ เชนนี้จะสงผลตอไปอีก ทําใหเด็กและเยาวชนรุนใหมน้ันเปนคนมีจิตใจท่ีมีลักษณะกระวนกระวายมาก โดยมีอาการขางเคียงตางๆ เชน ความกระทบกระทั่งหวั่นไหวงาย ความรําคาญฉุนเฉียวงาย ความใจเปราะเสาะ ตลอดจนความผิดหวัง ความรูสึกแปลกแยก ความบีบคั้นใจและความทุกขแบบตางๆสภาพจิตเชนนี้ทําใหงายตอการที่จะหันไปหาทางดําเนินชีวิตแบบเอียงสุดอยางใดอยางหนึ่ง คือ เอียงสุดทางวัตถุ หรือเอียงสุดทางจิต

พวกหนึ่งก็รานรนหาเสพวัตถุอยางกระหายหิว หมกมุนมัวเมาในความสุขทางเนื้อหนัง ครั้นถูกปะทะ สิ่งปรนเปรอกลายเปนพิษหรืออืดเฟอ เกิดความเบื่อหนายหรือรูสึกบีบคั้น

สวนหนึ่งก็หันหลังชิงชังประณามวัตถุ แลนเขาหาสภาพเอียงสุดทางจิต สมาทานลัทธิฤๅษีชีไพร การทรมาน

Page 73: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๗๒

ชีวิตในลักษณะใดลักษณะหนึ่งอยางที่เดิมเรียกวาตบะ เครงเครียดศีลวัตรเกินประมาณ หรือไมก็เฉื่อยชาหยุดนิ่งหมกมุนมุงปรนเปรอจิตดวยความสุขทางใน ปลีกตัวไมยุงเกี่ยวกับใครๆ

ดวยเหตุน้ี เด็กและเยาวชนรุนใหมจึงมีความจําเปนมากขึ้นเปนพิเศษ ท่ีจะไดรับการตระเตรียมตัวดวยจริยธรรมชนิดที่จะทําใหเขาพรอมท่ีจะเผชิญและปฏิบัติตอสภาพเชนที่กลาวนั้นอยางถูกตอง มีหลักใจที่จะชวยใหจัดการกับสถานการณใหมๆ แปลกๆ อยางไดผลดี

พูดอยางกวางๆ สังคมตอๆ ไป โดยเฉพาะก็คือเด็กและเยาวชนรุนใหมน้ี จะตองประสบความผันผวนเปลี่ยนแปลง และปรากฏการณตางๆ ท่ีเปนสภาพปญหาใหมเพิ่มข้ึนเรื่อยๆ และสิ่งตางๆ ท่ีกําลังเกิดขึ้นในสังคมปจจุบันนี้เยาวชนคนรุนใหมก็กําลังไดรับกําลังไดพบกับสิ่งเหลานั้น ทําอยางไรจะใหเขาปฏิบัติตอสิ่งเหลานั้นไดถูกตอง วาตามที่อาตมภาพไดพูดไปแลว ก็คือ จะตองสรางองคธรรมแกนขึ้นมาอยางหนึ่ง และอาตมภาพก็ไดนําองคธรรมแกนมาเสนออยางที่กลาวมาแลว ตัวสําคัญคือ ฉันทะ กับเรื่อง ทมะ อันไดแกการสรางจิตสํานึกในการฝกฝนพัฒนาตน หรือสรางนิสัย

Page 74: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๗๓

นักศึกษาขึ้น และมีหลักการในการปลูกฝงพัฒนาจริยธรรมแยกเปนขอๆ ดังไดกลาวมา

บัดนี้ก็ไดพูดมาเปนเวลาพอสมควร แตกอนจะจบ ก็อยากพูดอะไรสักอยางหนึ่งเกี่ยวกับความรับผิดชอบของผูใหญไวดวยวา การที่เด็กและเยาวชนจะพัฒนาในทางจริยธรรมไปไดดีน้ัน ก็ควรจะไดอาศัยกัลยาณมิตรคอยชวยเหลือหรือประคับประคองดวย กัลยาณมิตรที่สําคัญที่สุดสําหรับเด็กและเยาวชน ก็ควรจะไดแกผูใหญท้ังหลายนั่นเอง แตปญหาของเราในปจจุบันก็คือ ผูใหญของเราเปนกัลยาณมิตรของเด็กและเยาวชนกันอยูหรือไม อยางที่พูดเมื่อกี้น้ีวา เปนผูใหญชนิดที่เด็กตามหลังแลวสุนัขไมกัด เปนอยางนั้นหรือไมการที่จะตอบปญหานี้ได ก็จะตองพิจารณาวาผูใหญของเรากําลังเดินกันอยูอยางไร

ตามสภาพที่เปนอยูน้ี ทุกคนก็คงยอมรับวา เมื่อมองอยางกวางๆ สังคมไทยเรามีความนิยมในวัฒนธรรมของตะวันตกมาก พูดอยางงายๆ วา ตามหลังสังคมฝรั่ง สังคมไทยที่ตามฝรั่งนั้นก็มีท้ังเด็กและผูใหญ และวาตามความรับผิดชอบ ก็ผูใหญน่ันแหละเปนผูนําเด็ก เมื่อพูดตามน้ีก็ตองวาผูใหญตามฝรั่ง และเด็กก็ตามหลังผูใหญท่ีตามหลังฝรั่งอีกที

Page 75: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๗๔

หนึ่ง ถาการตามหลังฝรั่งเปนสิ่งที่ไมดี ก็เทากับลงขอสรุปวาผูใหญของเราเปนผูใหญท่ีเด็กตามหลังแลวจะตองถูกสุนัขกัด กลายเปนตองพูดใหมวา ตามหลังผูใหญจะถูกสุนัขกัด

สังคมอเมริกันที่เราวาเขาฟุงเฟอ และพวกเราก็ฟุงเฟอตามเขานั้น ปจจุบันนี้ อาตมภาพวาสังคมไทยนี้มีอะไรที่นําสังคมอเมริกันในดานการฟุงเฟอหลายอยาง รวมท้ังในเรื่องความเสื่อมโทรมทางจริยธรรมดวย อยางเรื่องสถานเริงรมยอบายมุขตางๆ น้ี ก็นาจะกาวหนาไปหนักมากแลว ซ่ึงบางทีอเมริกาอาจจะเดินสวนทางกับเราเขาบางดวยซ้ํา ขอเลาขาวที่เปนเกร็ดความรูทางจริยธรรมสักเรื่องหนึ่ง ในประเทศอเมริกนั้น เดิมมีอยู ๓๔ รัฐ ท่ีมีกฎหมายหามขายสุราแกคนอายุต่ํากวา ๒๑ ป แลวเร็วๆ น้ี ก็มีขาวใหมอีกวาอีก ๔ รัฐ ไดลงมติตาม ๓๔ รัฐน้ัน ก็หมายความวารัฐท่ีหามขายสุราแกคนอายุต่ํากวา ๒๑ ป มีจํานวนเพิ่มข้ึนเปน ๓๘รัฐ จึงเปนไปในทางที่วา อเมริกาเกิดมีความกาวหนาทางจริยธรรมขึ้น อยางนอยก็ในขอท่ีเกี่ยวกับเรื่องสุรานี้ ประเทศไทยเมื่อจะตามอเมริกาก็ควรตามในแงน้ีดวย แตขาวทางเมืองไทย ไดยินแตวามีโรงงานผลิตสุรามากขึ้น แทนที่จะลดลง น่ีก็เปนตัวอยางเบ็ดเตล็ดเรื่องหนึ่ง จะถือวาเอามาพูดใหขําๆก็

Page 76: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๗๕

ได แตสาระที่ตองการก็คือ เรื่องการตามอเมริกันนี้ ก็เปนเรื่องท่ีนาศึกษา วาเราตามกันอยางไร แตไมใชเรื่องที่จะพูดในที่น้ีโดยตรง เพียงแตตั้งเปนขอสังเกต หรือขอเปนไปตางๆ ไวสําหรับพิจารณา คือ เราอาจจะตามฝรั่งในเรื่องที่ไมควรตามและไมตามในเรื่องที่ควรตาม ในเรื่องที่ไมควรตาม บางทีเราก็ตามเกงจนกลายเปนล้ําหนาเลยฝรั่งไป สวนในเรื่องที่ควรตามบางทีก็ตามเหมือนกัน แตตามอยางผิวเผิน ไมเขาถึงสาระที่แทจริง ยิ่งกวานั้นบางทีเลือกเอาสวนที่ไมดีของเขามาตาม โดยเอามาผสมกับสวนไมดีท่ีเลือกเก็บจากตัวเอง หรือเอาสวนที่ดีของเขามาใชในทางที่ไมดีก็มี

สวนเรื่องเด็กกับผูใหญ ในเมื่อตามฝรั่งดวยกัน ตอนแรกก็ตองถือไวกอนวาเด็กเปนไปตามที่ผูใหญนํา เด็กตามไมดีก็เพราะผูใหญตามไมดี ผูใหญอาจจะเถียงวา ในการตามฝร่ังนั้น เด็กกับผูใหญตางคนตางตามในเรื่องที่ตัวชอบ หรือบางทีเรื่องที่เสียนั้นก็เพราะเด็กไมตามในเรื่องที่ผูใหญตาม แตกลับไปตามในเรื่องที่ผูใหญไมตามหรือผูใหญไมสนใจเลยดวยซ้ํา คือเด็กถูกสุนัขกัดเพราะไปเดินเอาเอง ไปตามคนแปลกหนาเองไมตามผูใหญ ถึงอยางนั้น ผูใหญก็ไมพนถูกตําหนิวา ทําตัวอยางไร เด็กของตนเองจึงไมเลื่อมใส ไมยอม

Page 77: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

จริยธรรมสําหรับคนรุนใหม๗๖

รับเอาผูใหญของตนเปนผูนํา ไมยอมตามผูใหญของตน กลับไปเลื่อมใสนับถือคนขางนอก เอาใจออกหาง ไปเดินตามคนพวกอื่น สวนทางฝายของเด็กและเยาวชนก็มีขอสังเกตวาไดนิยมชมชอบรับเอาความคิดและรูปแบบของเสรีภาพตามวัฒนธรรมฝรั่ง แลวบอกวาจะเปนตัวของตัวเอง จึงใชเสรีภาพนั้นในการที่จะไมตามผูใหญ แตพรอมกันนั้น ก็หันไปใชเสรีภาพตามวัฒนธรรมฝรั่ง จนเห็นไดวาไมมีความเปนตัวของตัวเองตามเหตุผล ท่ีจะแสดงถึงความมีอิสรภาพ ดูๆ ก็มีอะไรๆ ขัดแยงกันในตัวเองซอนๆ กันอยูหลายอยาง

เปนอันวาที่พูดมาตอนนี้ ก็เพื่อเปนการติงทางฝายผูใหญบาง วาเราจะตองเอาใจใสจริยธรรมของผูใหญดวยเหมือนกันและใหผูใหญตระหนักถึงความรับผิดชอบ ในการท่ีจะตองรวมมือ ชวยสนับสนุนจริยธรรมของเด็กเยาวชนคนรุนใหมน้ันดวย โดยทาํตวัเปนกลัยาณมติรของเดก็และเยาวชนเหลานั้น

อยางไรก็ตาม ถึงแมสมมติวาผูใหญรุนนี้จะกลายเปนคนที่หมดหวังสําหรับเด็กและเยาวชน จะหวังพึ่งเปนกัลยาณมิตรไมไดจริงๆ เสียแลว แตถาเด็กและเยาวชนรุนตอ

Page 78: จริยธรรม สำหรับคนรุ่นใหม่

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๗๗

ไปมีจริยธรรมตามแนวทางที่ไดกลาวมา เด็กและเยาวชนเหลานั้นก็จะพึ่งตัวเองได จะรูจักเดินทางไดดวยดี ไมเปนไร

บัดนี้ เปนเวลาอันสมควรแลว อาตมภาพขออนุโมทนาทานอาจารย ทานผูทรงคุณวุฒิ ทานผูใฝธรรมทุกทานที่ไดมารวมฟงในที่ประชุมน้ี และในวันอันเปนสิริมงคลคือ วันสถาปนาคณะครุศาสตรแหงจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยอาตมภาพขอตั้งกัลยาณจิตรวมอวยชัยใหพร โดยอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยอภิบาลใหทานทั้งหลาย มีฉันทะในการปฏิบัติหนาที่การงาน มีพลังกาย พลังใจ ในการที่จะดําเนินการฝกฝนพัฒนาทางจริยธรรมแกเด็กและเยาวชนรุนใหม เพื่อนําไปสูการพัฒนาประเทศชาติ ในทางที่ถูกตองตามความหมายอยางแทจริง ใหเกิดผลเปนความดีงามและประโยชนสุข อันยั่งยืนตลอดไปชั่วกาลนาน