24
คคคคคคคคคคคคค PS 701 คคคคคคคคค คคคคคคคคคคคคคคคคค Approaches in Political Science คค.คคคคคคคคคค คคคคคคคคคคคคคค คคค คคค 18 คคคคคคค ค.ค.2552 คคคคคคคค โโโโโโโโโโโโโโโโ โโโโโโ โโโโโโโโโ โโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโ โโโโโ โโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโ โโโโโโโโโโโโ โโโโโโโโโโโโโโโ โโโโโโโโโโโโ โโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโ โโโโโโโโโโโโโโโโโโโ (Systems Theory โโ โโโโโโโโ s โโโโโโโโโโโ) โโโโโโโโโโ โโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโ โโโโโโโโโโโโโโโ David Easton โโโ Morton Kaplan Kaplan โโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโ โโโโโโโโโโโโโ โโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโ โโโโโโโโโโโโโโโโ โโโโโโโโโโโโโโโโโโโ โโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโ โโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโ โโโโโ โโโโโโโโโ Course Syllabus โโโโโโโโโโโ โโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโ โโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโ โโโโโโโโโโโโโโ โโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโ โโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโโ โโโโโโโโโโโโโโโโโโโโ 15 โโโโโโโโโโโโโ 1

Ps 701 wutisak (2)

Embed Size (px)

Citation preview

Page 1: Ps 701 wutisak  (2)

คำ��บรรย�ยวิ�ช� PS 701 แนวิท�งก�รศึ�กษ�ท�งร�ฐศึ�สตร�

Approaches in Political Scienceผศึ.วิ�ฒิ�ศึ�กดิ์�� ล�ภเจร�ญทร�พย� วิ�นท#$ 18 กรกฎ�คำม

พ.ศึ.2552 ช'วิงเช(�

โปรเฟสเซอรเดวิ�ด อ�สตั�น ชาวิแคนาดา เป�นอาจารย์ร�ฐศาสตัรที่��มี�ช��อเส�ย์งคนหน!�ง ป"จจ#บั�นสอนอย์%&ที่��มีหาวิ�ที่ย์าลั�ย์แคลั�ฟอรเน�ย์ เมี�องเบั�รกเลัย์ สหร�ฐอเมีร�กา เป�นบั#คคลัที่��ร% )จ�กก�นมีากเพราะสร)างที่ฤษฎี�ระบับั (Systems Theory จะตั)องเตั�มี s ตั&อที่)าย์ด)วิย์) เป�นคนใจด� อาจารย์ไปเร�ย์นมีหาวิ�ที่ย์าลั�ย์แห&งน�1จ!งเลั�อกลังเร�ย์นก�บั David Easton

แลัะ Morton Kaplan

Kaplan สอนร�ฐศาสตัรด)านควิามีส�มีพ�นธ์ระหวิ&างประเที่ศ หลัาย์ที่ฤษฎี�ที่��เขาพ%ดถึ!งเป�นที่��ร% )จ�กก�น โดย์เฉพาะที่ฤษฎี�อ6านาจระหวิ&างสหร�ฐอเมีร�กาแลัะสหภาพโซเวิ�ย์ตั เป�นคนที่��เข)มีงวิดก�บัลั%กศ�ษย์มีาก ในการเร�ย์นจะมี� Course

Syllabus ค�อตัารางที่��ก6าหนดห�วิข)อเร�ย์นในแตั&ลัะวิ�นแลัะมี�ช��อหน�งส�อที่��แนะน6าให)อ&าน ร)านหน�งส�อของมีหาวิ�ที่ย์าลั�ย์มี�หน)าที่��จ�ดหน�งส�อแลัะซ�ร8อกซบัที่ควิามีที่��อาจารย์แนะน6าให)ไปอ&าน แคปแลันจะบัรรย์าย์ประมีาณ 15 นาที่�จากน�1นจะถึามีเก��ย์วิก�บับัที่ควิามีที่��ให)ไปอ&านตัลัอด มี�อย์%&คร�1งหน!�งน�กศ!กษาตัอบัป:ค.ศ.ผิ�ด ที่&านจ!งให)ตัก ส&วินอ�สตั�นเป�นคนลัะแบับั มี�กเข)าใจแลัะให)ก6าลั�งใจน�กศ!กษาตั&างชาตั� อาจารย์จ!งลังเร�ย์นก�บัที่&านหลัาย์วิ�ชา

1

Page 2: Ps 701 wutisak  (2)

ช&วิงที่��อาจารย์เร�ย์นอย์%& โปรเฟสเซอรเดวิ�ด อ�สตั�น จะโดนถึลั&มีเป�นระย์ะ ฝร��งมี�กแสดงควิามีเห8นเช�งวิ�ชาการก�นร#นแรง แตั&หลั�งจากน�1นก8เป�นเพ��อนก�นเหมี�อนเด�มี ตัอนแรกอาจารย์ไมี&เข)าใจค�ดวิ&าเป�นเร��องการเมี�องในระด�บัสถึาบั�นการศ!กษา แตั&จร�งๆแลั)วิเป�นควิามีแตักตั&างที่างควิามีค�ด เช&น ลัอย์ ร%ดอลัฟ แลัะซ%ซาน ร%ดอลัฟ เป�นสามี�ภรรย์าก�น สอนอย์%&ในสถึาบั�นเด�ย์วิก�นแลัะอย์%&บั)านเด�ย์วิก�น แตั&มี�ควิามีเห8นไมี&เหมี�อนก�น บัางคร�1งเข�ย์นบัที่ควิามีวิ�จารณก�นเอง ในบั)านเราเห8นตั&างไมี&ได) บัางคร�1งอาจารย์เองก8ร% )ส!กวิ&าไมี&อย์ากเข)าไปตั&อลั)อตั&อเถึ�ย์งด)วิย์แมี)จะเห8นวิ&าผิ�ดก8ตัามี เช&น อาจารย์สองที่&านเข�ย์นบัที่ควิามีลังหน�งส�อพ�มีพเร��องเด�ย์วิก�นแลั)วิใช)ค6าผิ�ด ค�อตั�ควิามีวิ&าอ6ามีาตัย์าธ์�ปไตัย์ค�อ Bureaucratic

Authoritarianism คนที่��ค�ดค6าน�1ข!1นมีาค�อ Guillermo O

Donnell เป�นโปร เฟสเซอรของอาจารย์ ชาวิอารเจนตั�นา เข�ย์นด#ษฎี�น�พนธ์เร��อง Bureaucratic

Authoritarianism ในลัาตั�นอเมีร�กา โดย์เฉพาะบัราซ�ลั อารเจนตั�นาแลัะช�ลั� ค6าๆน�1แปลัวิ&าอ6านาจน�ย์มีโดย์ร�ฐข)าราชการหร�อโดย์ระบับัราชการ อ6ามีาตัย์าธ์�ปไตัย์ในภาษาอ�งกฤษที่��ถึ%กตั)องค�อ Aristocracy เพราะข#นนาง/อ6ามีาตัย์ค�อ Aristocrats ไมี&ใช&ข)าราชการ

Aristocrats ค�อบั#คคลัที่��ได)สถึานภาพของตันเองโดย์พระมีหากษ�ตัร�ย์ที่รงมีอบัให) ส&วินข)าราชการค�อบั#คคลัที่��เข)าส%&ระบับัราชการด)วิย์ควิามีสามีารถึของตันเอง เช&น การสอบั เราร% )อย์%&วิ&าคนเส�1อแดงโจมีตั�ใคร ไมี&ใช&ระบับัราชการ เขาจ!งใช)ค6าถึ%กแลั)วิ อาจารย์ค�ดวิ&าจะเข�ย์นบัที่ควิามีลังหน�งส�อพ�มีพด�หร�อไมี&

2

Page 3: Ps 701 wutisak  (2)

เพราะกลั�วิส�งคมีเข)าใจผิ�ด แตั&ก8เลั�อกเวิที่�ในช�1นเร�ย์นบัอกน�กศ!กษาวิ&าอย์&าเข)าใจผิ�ด อาจารย์กลั)าพ%ดได)เตั8มีปากวิ&า น�กศ!กษาได)มีาเร�ย์นก�บัอาจารย์ซ!�งเร�ย์นก�บัโปรเฟสเซอรที่&านน�1โดย์ตัรง

**เข)าส%&เน�1อหาการบัรรย์าย์**

ทฤษฎ#ระบบ (Systems Theory)

หลั�งสงครามีโลักคร�1งที่��สอง ประเที่ศตั&างๆได)ร�บัการปลัดปลั&อย์ให)เป�นเอกราชเป�นจ6านวินมีาก บัางประเที่ศ เมี�องแมี&ร&างร�ฐธ์รรมีน%ญให) เช&น อ�งกฤษมี�ส&วินช&วิย์ร&างร�ฐธ์รรมีน%ญให)อ�นเด�ย์ สหร�ฐอเมีร�การ&างร�ฐธ์รรมีน%ญให)ฟ?ลั�ปป?นส ฮอลั�นดาร&างร�ฐธ์รรมีน%ญให)อ�นโดน�เซ�ย์ กตั�กาของประเที่ศเหลั&าน�1ด%แลั)วิศ�วิ�ไลัซจ!งน&าจะใช)ได) แตั&ในที่างปฏิ�บั�ตั�กลั�บัไมี&เวิ�รค หน6าซ61า ประเที่ศตั)นฉบั�บัของประชาธ์�ปไตัย์อย์&างอ�งกฤษ อเมีร�กาหร�อฝร��งเศสกลั�บัมี�การเคลั��อนไหวิที่างการเมี�องที่��ค&อนข)างโกลัาหลั

เดวิ�ด อ�สตั�น ซ!�งจบัจากมี.ฮารวิารดมีาใหมี&ๆ ร% )ส!กวิ&าที่ฤษฎี�ที่�1งหลัาย์ที่��มี�อย์%&ในขณะน�1นไมี&สามีารถึอธ์�บัาย์ปรากฏิการณที่างการเมี�องที่��เก�ดข!1นจร�งได) ค�อที่ฤษฎี�สถึาบั�นพย์าย์ามีพ%ดถึ!งโครงสร)างสถึาบั�นที่างการเมี�อง บัางคร�1งพ%ดถึ!งสถึาบั�นย์&อย์ เช&น สถึาบั�นพรรคการเมี�อง ระบับัราชการ แลัะมี�การศ!กษาในที่างปร�ชญาการเมี�อง อ�สตั�นจ!งเข�ย์นงานวิ�จ�ย์บัอกวิ&า การศ!กษาที่างปร�ชญาการเมี�องมี�ค&าน�ย์มีส&วินบั#คคลัเข)ามีาเก��ย์วิข)อง (Value Judgment) เช&นค6าถึามีอมีตัะค�อ ผิ%)ปกครองที่��ด�มี�ลั�กษณะอย์&างไร ระบับัการเมี�องที่��ด�

3

Page 4: Ps 701 wutisak  (2)

ควิรเป�นแบับัไหน การปกครองโดย์คนหร�อโดย์ระบับัอย์&างไหนด�กวิ&าก�น ค6าถึามีแลัะค6าตัอบัจะแฝงไปด)วิย์ค&าน�ย์มีส&วินบั#คคลัของผิ%)ถึามีแลัะผิ%)ตัอบั อ�สตั�นจ!งเสนอวิ&า

1.ควิรลัดอคตั� (Bias) ส&วินบั#คคลัลังไป 2.อ�สตั�นร% )ส!กวิ&าการศ!กษาสถึาบั�นที่6าให)เห8นเฉพาะสถึาบั�น

หลั�กที่��ระบั#ไวิ)ในร�ฐธ์รรมีน%ญ แตั&ไมี&เห8นกระบัวินการที่างการเมี�องที่��เป�นจร�ง หากจะศ!กษาให)ช�ดเจนจ!งตั)องศ!กษาถึ!งกระบัวินการการที่6างานของการเมี�องอย์&างแที่)จร�งด)วิย์

3.ที่ฤษฎี�ที่�1งหลัาย์ที่��ศ!กษามีาก&อนหน)าน�1 เป�นที่ฤษฎี�แคบัๆที่��ส�มีผิ�สเฉพาะเร��องเฉพาะส&วินของการเมี�อง (Partial Theories)

ท#$ม�ของทฤษฎ#ระบบ อ�สตั�นมี�ข)อวิ�จารณด�งน�11.ปฏิ�เสธ์แนวิการศ!กษาเช�งสถึาบั�นแลัะแนวิการศ!กษา

ปร�ชญาการเมี�อง2.การเน)นที่��กระบัวินการ เป�นการตัอบัร�บักระแส

พฤตั�กรรมีศาสตัรที่��ก6าลั�งโหมีกระพ�ออย์%&ในขณะน�1น3.ตั)องการศ!กษาการเมี�องให)ตัรงก�บัสภาพควิามีเป�น

จร�งให)มีากที่��ส#ด โดย์เป?ดวิ�ส�ย์ที่�ศนให)กวิ)างข!1น มีองให)ครอบัคลั#มีที่#กด)าน หร�อมีองในลั�กษณะองครวิมี (Holism)

ค6าน�1ประด�ษฐข!1นมีาให)ตัรงก�นข)ามีก�บัที่ฤษฎี�เฉพาะส&วินเฉพาะด)าน

อ�สตั�นมี�กแนะน6าให)อ&านหน�งส�อของ Ludwig von

Bertalanffy (ลั#ดวิ�ก วิอน เบัอรที่าลั�นฟ:�) น�กช�วิวิ�ที่ย์าเพราะจะได)มีองการเมี�องเหมี�อนสาย์ตัาของน�กช�วิวิ�ที่ย์า ซ!�งวิอน เบัอรที่าลั�นฟ:� เข�ย์นหน�งส�อเก��ย์วิก�บัการที่6างานของร&างกาย์

4

Page 5: Ps 701 wutisak  (2)

มีน#ษย์วิ&า การเคลั��อนไหวิไมี&ใช&ประสาที่เฉพาะส&วินที่��เห8น เช&น มี�อเคลั��อนไหวิไปข)างหน)า เที่)าเคลั��อนไหวิไปข)างหน)า ไมี&ได)เป�นการที่6างานของมี�อแลัะเที่)าเที่&าน�1น แตั&มี�ประสาที่ส&วินอ��นบั�งค�บัมี�นด)วิย์ องคาพย์พที่�1งหลัาย์ที่��เป�นองคประกอบัของร&างกาย์เราจะมี�ควิามีส�มีพ�นธ์ก�นที่�1งหมีด ไมี&มี�ส&วินไหนที่��ที่6างานเองโดย์อ�สระ ในระบับัร&างกาย์คนเราอาจมี�หลัาย์ระบับั เช&น ระบับัโลัห�ตั ระบับักลั)ามีเน�1อ ระบับัประสาที่ ระบับัเหลั&าน�1จะมีาเป�นองคประกอบัของร&างกาย์เรา หากอย์ากเข)าใจการที่6างานของระบับัร&างกาย์มีน#ษย์ก8ตั)องมีองภาพรวิมีที่�1งหมีด เช&นเด�ย์วิก�น เมี��อเก�ดการที่6างานบักพร&อง เช&น เก�ดโรค ควิามีผิ�ดปกตั�เหลั&าน�1นจะเก�ดจากหลัาย์ส&วินจนที่6าให)มี�อาการเช&นน�1นข!1น บัางอาการบั&งบัอกวิ&าระบับับัางระบับัก6าลั�งจะลั)มีเหลัวิ ให)ระวิ�ง อ�สตั�นได)ร�บัอ�ที่ธ์�พลัจากวิอน เบัอรที่าลั�นฟ:� จ!งเร�ย์กร)องให)มีองการเมี�องใหมี& ค�อมีองในระบับัรวิมี

นอกจากน�1 อ�สตั�นได)ศ!กษาสาขาอ��นอ�ก เช&น สาขากลัศาสตัร สาขาฟ?ส�กส เพ��อค)นหาแนวิที่างใหมี&ในการศ!กษาการเมี�อง เช&น เราน��งอย์%&ในห)องแอร การศ!กษาเฉพาะอ#ณหภ%มี�ในห)องจะไมี&ได)ค6าตัอบั เพราะอ#ณภ%มี�ในห)องแอรย์&อมีส�มีพ�นธ์ก�บัอ#ณหภ%มี�นอกห)องแอร หากอ#ณหภ%มี�ข)างนอกร)อน คอมีเพรสเซอรก8จะที่6างานหน�ก แตั&หากอ#ณหภ%มี�ข)างนอกเย์8น คอมีเพรสเซอรก8จะตั�ดบั&อย์ข!1น จะที่6าควิามีเข)าใจระบับัการที่6างานของธ์นาคาร หากส�มีภาษณคนที่��อย์%&ตัรงเคานเตัอรก8จะไมี&มี�วิ�นเข)าใจ เพราะระบับัธ์นาคารมี�อะไรมีากกวิ&าช&องหน)าตั&างที่��เราเห8น มี�การที่6างานหลัาย์อย์&างที่��ส�มีพ�นธ์ก�นที่�1งหมีด ในที่างการเมี�องก8เช&นก�น ปรากฏิการณที่��เห8นเป�นเพ�ย์งปลัาย์

5

Page 6: Ps 701 wutisak  (2)

เหตั# อาจมี�อะไรบัางอย์&างเป�นตั�วิข�บัเคลั��อนจนที่6าให)เราเห8นเหตั#การณเช&นน�1น

จ�ดิ์อ'อนของทฤษฎ#ระบบในแง&หน!�ง ควิามีพย์าย์ามีของอ�สตั�นน&าช��นชมี เพราะ

เปลั��ย์นวิ�ธ์�มีองจากที่��มีองเฉพาะจ#ดเฉพาะเร��อง มีาเป�นมีองภาพรวิมีที่�1งหมีด แตั&สาเหตั#หน!�งของการลั&มีสลัาย์ของที่ฤษฎี�น�1ค�อ Holism ด�งน�1

1.องครวิมีไมี&มี�ขอบัเขตัที่��แน&นอนช�ดเจนวิ&าหมีาย์ถึ!งอะไร หากอ#ปมีาอ#ปไมีย์วิ&าเป�นร&างกาย์ของมีน#ษย์ เราก8จะเห8นเป�นร%ปร&างช�ดเจน ด)านกลัศาสตัรก8จะมี�วิ�ตัถึ#ที่��มีองเห8นได) แตั&องครวิมีที่างการเมี�องเป�นเร��องใหญ& แลัะเป�นจ#ดอ&อนของที่ฤษฎี�ระบับั ที่างปร�ชญามีองวิ&าเป�นป"ญหาด)านการเปร�ย์บัเปรย์ (Analogy) เช&น หลัวิงพ&อพระพะย์อมีเปร�ย์บัเปรย์วิ&าคนเราฉลัาดกวิ&าหมีา แตั&พอเอาเข)าจร�งๆแลั)วิ หมีาไมี&ก�นเหลั)าแตั&คนก�นเหลั)า แสดงวิ&าหมีาฉลัาดกวิ&าคน

2.องครวิมีของแตั&ลัะคนมี�ควิามีหมีาย์แตักตั&างก�น แมี)แตั&น�กค�ดในที่ฤษฎี�ระบับัที่��ค�ดที่ฤษฎี�ระบับัแตักตั&างก�น เช&น อ�สตั�นค�ดอย์&างหน!�ง ที่ารคอตัตั พารส�น น�กส�งคมีวิ�ที่ย์าค�ดที่ฤษฎี�ระบับัอ�กอย์&างหน!�ง โดย์พารส�นมีองระบับัส�งคมีการเมี�องวิ&าเป�นเหมี�อนการที่6างานของห�วิใจของมีน#ษย์ที่��แบั&งเป�น 4 ช&องแลั)วิแบั&งหน)าที่��ช�ดเจนวิ&าแตั&ลัะช&องที่6าอะไร แกเบัร�ย์ลั อ�ลัมีอลัด ก8ค�ดที่ฤษฎี�ระบับัอ�กอย์&างหน!�ง ซ!�งที่�1งสามีได)อ)าง Holism เหมี�อนก�น ด�งน�1นค6าวิ&า องครวิมี จ!งข!1นอย์%&ก�บัมี�ตั�ของคนมีอง เราเป�นผิ%)ศ!กษาจ!งตั)องค)นหาวิ&าส&วินใหญ&ค�ด

6

Page 7: Ps 701 wutisak  (2)

อย์&างไร แมี)จะมี�วิ�ธ์�ค�ดเหมี�อนก�นแตั&ก8น6าไปส%&ค6าตัอบัไมี&เหมี�อนก�น

แนวิคำ�ดิ์พ-.นฐ�น 1.การวิ�เคราะหการเมี�องตั)องมีองให)เห8นภาพรวิมี

ที่�1งหมีด การวิ�เคราะหเฉพาะส&วินจะที่6าให)เก�ดควิามีร% )ควิามีเข)าใจกลัไกเฉพาะส&วินตั&างๆ ซ!�งไมี&ถึ%กตั)อง การศ!กษาการเมี�องจ!งไมี&มีองเฉพาะปรากฏิการณที่��เห8นเที่&าน�1น (Appearance) แตั&ตั)องมีองให)กวิ)างกวิ&าน�1นวิ&ามี�อะไรเก��ย์วิพ�นที่��ที่6าให)เก�ดปรากฏิการณเช&นน�1น ข)อด�ของแนวิค�ดน�1ค�อ ช&วิย์กระตั#)นให)ค�ดมีากกวิ&าส��งที่��เห8น แลัะให)มี�ควิามีพย์าย์ามีในการค)นหาควิามีเก��ย์วิพ�นด)านอ��นที่��มีองไมี&เห8น (Reality) เช&น เห8นส.ส.ที่ะเลัาะก�นในสภา แตั&มีาก�นกาแฟด)วิย์ก�นนอกสภา แตั&ก8ไมี&ได)หมีาย์ควิามีวิ&าการก�นกาแฟด)วิย์ก�นจะเป�นมี�ตัรก�น เพราะเป�นเพ�ย์งส��งที่��ปรากฏิให)เห8นเที่&าน�1น ส��งที่��มีาก6าหนดอาจจะมี�มีากกวิ&าน�1น เช&น การฉวิย์โอกาส หากฝBาย์หน!�งเผิลัอ อ�กฝBาย์หน!�งอาจฉวิย์โอกาสมีาตั�1งร�ฐบัาลั เพราะการเมี�องเป�นการพย์าย์ามีให)ได)มีาซ!�งอ6านาจในการปกครอง

2.การวิ�เคราะหการเมี�องตั)องเน)นที่��กระบัวินการที่างการเมี�อง จ!งจะที่6าให)เข)าใจการเมี�องอย์&างถึ&องแที่) เช&น ศ!กษาวิ&าระบับัการเมี�องมี�การที่6างานอย์&างไร มี�ข� 1นตัอนตั&างๆอย์&างไร ช�วิ�ตัที่างการเมี�องไมี&ตั&างไปจากช�วิ�ตัที่างเศรษฐก�จ ซ!�งวิ�ถึ�ช�วิ�ตัที่างเศรษฐก�จจะมี�ก�จกรรมีที่างเศรษฐก�จที่��หลัากหลัาย์ ที่างการเมี�องก8จะมี�วิ�ถึ�ช�วิ�ตัแลัะก�จกรรมีที่างการเมี�องที่��หลัากหลัาย์มีาเป�นองคประกอบั หน�งส�อของอ�สตั�นเลั&มีแรกๆจ!งใช)

7

Page 8: Ps 701 wutisak  (2)

ค6าวิ&า System of Political Life (ระบับัช�วิ�ตัที่างการเมี�อง)

3.ก�จกรรมีที่างการเมี�องจะที่6างานอย์&างตั&อเน��องไมี&หย์#ดน��ง เหตั#การณตั&างๆที่��เก�ดข!1น เช&น สงครามีที่างการเมี�อง ควิามีข�ดแย์)งที่างการเมี�อง ควิามีร#นแรงที่างการเมี�อง การเปลั��ย์นแปลังร�ฐบัาลั การเปลั��ย์นแปลังระบับัหร�อระบัอบัการเมี�อง ส��งเหลั&าน�1อาจที่6าให)เก�ดป"ญหา แตั&อ�สตั�นมีองวิ&า ไมี&วิ&าจะมี�ป"ญหาอะไรก8ตัามี ระบับัการเมี�องย์�งคงอย์%& เหมี�อนก�บัการเจ8บัปBวิย์ แตั&ร&างกาย์ก8ย์�งที่6างานอย์%& ในแง&ช�วิวิ�ที่ย์ามี�ค6าวิ&าเส�ย์ช�วิ�ตั แตั&อ�สตั�นบัอกวิ&าช�วิ�ตัที่างการเมี�องไมี&มี�ค6าวิ&าตัาย์ ระบับัการเมี�องก8ไมี&มี�ค6าวิ&าลั&มีสลัาย์ ในโลักน�1ไมี&เคย์มี�ส�งคมีใดประสบัก�บัภาวิะลั&มีสลัาย์หร�อส%ญหาย์ (Collapse) มีาก&อน

ป"จจ#บั�นที่�ศนะน�1ถึ%กวิ�จารณมีากวิ&า ลั&มีสลัาย์ ในที่��น�1หมีาย์ถึ!งอะไร หากหมีาย์ถึ!งหาย์นะ เหตั#การณในก�มีพ%ชาก8จะเป�นย์��งกวิ&าลั&มีสลัาย์ เพราะส�งคมีเก�ดวิ�บั�ตั� ผิ%)คนที่#กขย์าก มี�คนเส�ย์ช�วิ�ตัเป�นจ6านวินมีาก

Jared Diamond เข�ย์นหน�งส�อช��อ Collapse โดย์ย์กตั�วิอย์&างให)เห8นวิ&าในประวิ�ตั�ศาสตัรส�งคมีมีน#ษย์ ได)มี�ส�งคมีแลัะวิ�ฒนธ์รรมีส%ญหาย์ไปหลัาย์ส�งคมี เช&น ที่างตัอนใตั)ของมีหาสมี#ที่รแปซ�ฟ?ก มี�เกาะๆหน!�งที่��ไมี&มี�ผิ%)คน แตั&มี�ห�นแที่&งใหญ&วิางเร�ย์งราย์อย์%&ชาย์หาด จ!งสงส�ย์วิ&าอาจเคย์เป�นที่��ตั� 1งของวิ�ฒนธ์รรมีอะไรบัางอย์&าง Diamond จ!งศ!กษาค)นควิ)าแลั)วิพบัวิ&า เผิ&าพ�นธ์#น�1ส%ญหาย์ไปเพราะถึ%กสภาพที่างน�เวิศที่6าลัาย์ คนที่6ามีาหาก�นไมี&ได)จ!งค&อย์ๆลั)มีตัาย์ไปจนไมี&เหลั�อใครส�กคน

8

Page 9: Ps 701 wutisak  (2)

แลัะวิ�ฒนธ์รรมีแอซเตัก (Aztec) ในลัาตั�นอเมีร�กาก8ส%ญหาย์ไป

หน�งส�อของอ�สตั�นเข�ย์นข!1นก&อนเก�ดเหตั#การณในก�มีพ%ชาจ!งเข)าใจวิ&าไมี&มี�ค6าวิ&า Collapse หร�ออาจเป�นเพราะอ�สตั�นมีองโลักในแง&ด� ที่��มีองวิ&าแมี)จะเก�ดควิามีวิ�บั�ตั�ในส�งคมี แตั&มีน#ษย์มี�ศ�กย์ภาพในการด!งสภาพตั&างๆน�1นมีาส%&สภาพปกตั�ได) ระบับัการเมี�องจ!งไมี&ลั&มีสลัาย์แลัะจะที่6างานตั&อไป อ�สตั�นจ!งถึ%กวิ�จารณวิ&ามีองการเบั��ย์งเบันที่างการเมี�องที่��เก�ดข!1นเป�นเสมี�อนหน!�งการปร�บัตั�วิของการเมี�อง ไมี&วิ&าจะเก�ดอะไรข!1นก8ตัามีก8จะมีองวิ&าเป�นการปร�บัตั�วิ จ!งถึ%กวิ&าเป�นอน#ร�กษน�ย์มี ย์อมีร�บัได)ที่� 1งหมีดไมี&วิ&าอะไรจะเก�ดข!1น เช&น มีองเหตั#การณ 19

ก�นย์า วิ&าเป�นการปร�บัตั�วิ อาจารย์ไมี&เช��อวิ&าอ�สตั�นจะมีองวิ&าป"ญหาที่��เก�ดข!1นเป�นการน6าไปส%&จ#ดย์�นที่��เป�นอน#ร�กษน�ย์มี โดย์ส&วินตั�วิแลั)วิ อ�สตั�นเป�นเสร�น�ย์มีแลัะเช��อในระบัอบัประชาธ์�ปไตัย์ แตั&วิ�ธ์�ค�ดน�1ที่6าให)ที่&านถึ%กมีองวิ&ามี�น�ย์ย์ะไปที่างอน#ร�กษน�ย์มี

4.การเมี�องก�บัสภาพแวิดลั)อมีมี�พรมีแดนของตั�วิเอง5.ควิามีส�มีพ�นธ์ระหวิ&างส&วินตั&างๆ จะมี�ลั�กษณะเป�น

วิงจรที่��หมี#นเวิ�ย์นอย์&างตั&อเน��อง ด�งภาพEnvironment Environment

Input Output

Feedback

Environment Environment

9

Conversion

Process

Page 10: Ps 701 wutisak  (2)

ระบับัการเมี�องในควิามีหมีาย์ของอ�สตั�นค�อภาพน�1ที่� 1งภาพ ไมี&ได)หมีาย์ถึ!งเฉพาะกลั&องด6าตัรงกลัางเที่&าน�1น ซ!�งตั6าราภาษาไที่ย์หลัาย์เลั&มีเข)าใจผิ�ด หากจะเข)าใจระบับัการเมี�องตั)องมีองให)เห8นภาพที่�1งหมีดเหลั&าน�1

Inputs (ป"จจ�ย์น6าเข)า) แบั&งเป�น 2 ประเภที่ค�อ 1. Support ป"จจ�ย์เก�1อหน#นระบับัการเมี�อง ค�อป"จจ�ย์ที่��

ไมี&กดด�นระบับัการเมี�อง สน�บัสน#นให)ระบับัการเมี�องที่6างานอย์&างราบัร��น ป"จจ�ย์น�1มี�หลัาย์อย์&าง เช&น ระบับัการศ!กษากลั&อมีเกลัาให)คนค�ดอย์%&ในกตั�กาของระบับั ควิามีเช��อ ที่�ศนคตั� ขนบัธ์รรมีเน�ย์มี จาร�ตัประเพณ� ศาสนา (ที่6าให)คนอย์%&ในภาวิะที่��สงบัตั&อระบับั) หร�อการเคลั��อนไหวิที่างการเมี�องที่��ให)การสน�บัสน#นอย์&างเป?ดเผิย์ (Overt Support) เช&น ประเที่ศส�งคมีน�ย์มีมี�การช#มีน#มีน�บัลั)านคนเพ��อย์กย์&องสรรเสร�ญผิ%)น6า

2. Demand ป"จจ�ย์เข)าที่��กดด�นการที่6างานของระบับัการเมี�อง เช&น การประที่)วิง การเร�ย์กร)อง การช#มีน#มี การเคลั��อนไหวิที่��ก&อให)เก�ดการเปลั��ย์นแปลังที่างการเมี�อง

ป"จจ�ย์ที่��หมี#นเวิ�ย์นในระบับัการเมี�องจะมี�ควิามีหลัากหลัาย์ ระบับัการเมี�องที่��มี�ป"ญหาเป�นเร��องของส�ดส&วินระหวิ&าง Support แลัะ Demand หาก Support > Demand

= ระบับัการเมี�องไมี&มี�ป"ญหา ซ!�งอ�สตั�นเช��อวิ&าระบับัการเมี�องในโลักน�1มี�กมี� Support > Demand (การศ!กษาในเช�งปร�มีาณได)ร�บัอ�ที่ธ์�พลัจากแนวิพฤตั�กรรมีศาสตัร)

ลั%กศรที่��เช��อมีโย์งระหวิ&าง Inputs ไปย์�งกลั&องด6าค�อช&องที่างตั&างๆ ที่��ที่6าให)เก�ดการผิลั�กด�นเป�นวิาระที่างการเมี�อง ในระบับัการเมี�องที่#กระบับัจะมี�ช&องที่างที่��หลัากหลัาย์เพ��อให)คน

10

Page 11: Ps 701 wutisak  (2)

แสดงออกซ!�งควิามีร% )ส!กของตันเอง เช&น อ�หร&านเก�ดเหตั#วิ# &นวิาย์เมี��อ 3-4 ส�ปดาหที่��ผิ&านมีา ไมี&สามีารถึย์�บัย์�1งให)คนภาย์นอกร�บัร% )ได) เพราะป"จจ#บั�นเป�นโลักของข)อมี%ลัข&าวิสารผิ&านช&องที่างที่��หลัากหลัาย์ เวิปไซตั Twitter เป�นผิ%)เผิย์แพร&ข&าวิสารออกมีาวิ&ามี�การจ�บัคนไปก��คน มี�ภาพคนประที่)วิงที่��ถึ%กที่6าร)าย์ร&างกาย์ มี�ผิ%)หญ�งคนหน!�งถึ%กย์�งไปหลัาย์น�ด ขณะที่��นอนลังก8ย์�งพ%ดวิ&าให)คนๆน�1นส%)ตั&อ ที่างการอ�หร&านพย์าย์ามีบัลั8อคเวิปไซตัน�1แลัะด�กจ�บัวิ&ามี�ใครส&งข)อมี%ลัออกไป

จ#ดที่��แตัะกลั&องด6า อ�สตั�นบัอกวิ&าเปร�ย์บัเสมี�อนเป�นประตั%ที่��รองร�บัให) Inputs เข)าไป มี�ผิ%)ร �กษาประตั% (Gate Keeper)

คอย์เป?ดประตั%ให)Conversion Process ค�อกระบัวินการในการแปลั

เปลั��ย์น อ�สตั�นใช)เป�นค6ากลัางในการเร�ย์กระบัวินการน�1 โดย์ไมี&ได)อธ์�บัาย์วิ&าข)างในที่6าอะไร ภาย์หลั�งจ!งถึ%กวิ�จารณวิ&ากลั&องน�1นเป�นเสมี�อนกลั&องด6าของอ�สตั�น (Black Box) ที่��ไมี&ร% )วิ&ามี�อะไรอย์%&ข)างใน ส&วินที่��ออกจากกลั&องด6าจะมี�ประตั%ที่างออก (Exit)

Outputs อาจออกมีาในร%ปของกฎีหมีาย์ ระเบั�ย์บั นโย์บัาย์ มีาตัรการ มีตั� ที่��ถึ%กกลั��นกรองออกมีา เพ��อน6ามีาใช)ในส�งคมี หากได)ผิลัด�ก8จะถึ%กด%ดกลั�นไปในระบับัที่�1งระบับั แตั&หากมี�ป"ญหาก8จะกลัาย์เป�นวิงจรย์)อนกลั�บั (Feedback) ซ!�งอาจจะกลัาย์เป�น Demand หร�อ Support ก8ได) ระบับัการเมี�องจ!งที่6างานตั&อเน��องตัามีมี#มีมีองน�1

ข)อส�งเกตั

11

Page 12: Ps 701 wutisak  (2)

1.อ�สตั�นไมี&ได)กลั&าวิถึ!งสถึาบั�นที่างการเมี�องใดเลัย์ หากถึ!งสถึาบั�นที่างการเมี�องมีาอธ์�บัาย์ก8จะเป�นเพ�ย์งส&วินย์&อย์ของระบับัเที่&าน�1น

2.ภาพน�1ไมี&ได)บัอกวิ&าเป�นประชาธ์�ปไตัย์หร�อเผิด8จการ เพราะอ�สตั�นสร)างที่ฤษฎี�การเมี�องข!1นมีาเพ��ออธ์�บัาย์ระบัอบัการเมี�องของที่#กประเที่ศ

3.หากจะอธ์�บัาย์ควิามีจร�งที่างการเมี�องที่��เก�ดข!1น อาจจะอธ์�บัาย์เร��มีตั)นที่��ตัรงไหนก&อนก8ได) เช&น ปฏิ�ก�ร�ย์าที่��มี�ตั&อนโย์บัาย์ของร�ฐบัาลั (Feedback)

4.อ�สตั�นพย์าย์ามีพ%ดถึ!งระบับัน�1ให)เป�นนามีธ์รรมี โดย์ไมี&มี�กตั�กาใดเข)ามีาเก��ย์วิข)อง/ก6าก�บั เป�นสภาพธ์รรมีชาตั� ด�งน�1น ส�งคมีที่��มี�กฎีหมีาย์หร�อไมี&มี�กฎีหมีาย์ก8ตัามี ตัราบัเที่&าที่��มี�ช#มีชนอย์%& ระบับัการเมี�องแบับัน�1ก8จะเก�ดข!1นเสมีอ

ที่ฤษฎี�ระบับัเป�นที่ฤษฎี�ที่��มี�ควิามีที่ะเย์อที่ะย์านมีาก พย์าย์ามีอธ์�บัาย์ที่#กส��งที่#กอย์&างในที่างการเมี�อง ในที่�ศนะของอาจารย์ ที่ฤษฎี�ระบับัเป�นเพ�ย์งการพรรณนาควิามีให)เห8นกระบัวินการของการที่6างาน การไหลัลั��นของป"จจ�ย์ตั&างๆ ไมี&ใช&การอธ์�บัาย์ จ!งไมี&ให)ค6าตัอบัเก��ย์วิก�บัการค)นหาเหตั#ผิลั ไมี&ตัอบัค6าถึามีวิ&า Why ไมี&ได)ให)ค6าตัอบัวิ&าที่6าไมีบัางส�งคมีมี� Support > Demand แตั&ที่6าไมีบัางส�งคมีมี� Demand

> Support ไมี&ได)อธ์�บัาย์วิ&าที่6าไมีจ!งเก�ด Y (Causality)

คำ��วิ�จ�รณ์�หล�กของทฤษฎ#ระบบ1.ขณะที่��อ�สตั�นพย์าย์ามีอธ์�บัาย์ระบับัการเมี�องที่�1งหมีด

ผิลัลั�พธ์ที่��เก�ดข!1นแที่นที่��จะเป�น Explanatory Theory แตั&กลัาย์เป�น Descriptive Theory (ที่ฤษฎี�ที่��พรรณนาควิามี

12

Page 13: Ps 701 wutisak  (2)

ของระบับัการเมี�อง) เพราะอ�สตั�นตั)องการให)เข)าใจ Process

ซ!�งเป�นจ#ดอ&อนที่��ร )าย์แรงที่��ส#ด2.Over-generalized Theory ที่ฤษฎี�ระบับั

ครอบัคลั#มีมีากเก�นไป เปร�ย์บัเหมี�อนช&างตั�ดเส�1อที่��ตั�ดไซสใหญ&ที่��ส#ดเพ��อที่��ที่#กคนจะใส&ได) แตั&ไมี&เหมีาะสมี

3.Over-optimistic ที่ฤษฎี�ระบับัมีองโลักในแง&ด�เก�นไป มีองวิ&าปรากฏิการณตั&างๆที่��เก�ดข!1นเป�นเร��องของการปร�บัตั�วิของระบับั จ!งมี�กอย์%&ในสภาวิะควิามีสมีด#ลัของส��งตั&างๆอย์%&เสมีอ แมี)แตั&พฤตั�กรรมีที่างการเมี�องบัางอย์&างที่��เก�ดข!1นซ!�งไมี&ถึ%กตั)องแลัะข�ดก�บัค#ณธ์รรมีจร�ย์ธ์รรมีที่างการเมี�อง อ�สตั�นกลั�บัมีองวิ&าเป�นเร��องปกตั� ตั)องมี�ส��งน�1เก�ดข!1นจ!งจะมี�การปร�บัตั�วิ

น�กศ!กษาชอบัอ)างอ�งที่ฤษฎี�ระบับัเพราะเห8นแผินภ%มี�ช�ด อาจารย์มีองวิ&ามี�ที่ฤษฎี�อ��นที่��สน#กกวิ&าน�1อ�กมีาก เพราะที่ฤษฎี�น�1เส��อมีควิามีน�ย์มีไปเย์อะมีาก ที่��บัอกวิ&าเดวิ�ด อ�สตั�น เป�นน�กวิ�ชาการที่��มี�คนพ%ดถึ!งมีากตั�ด 1 ใน 10 น�1นส&วินใหญ&เป�นค6าวิ�จารณ ไมี&ใช&เช�งสน�บัสน#น เราเร�ย์นที่ฤษฎี�ตั)องร% )ส&วินที่��เป�นประโย์ชนแลัะส&วินที่��จ6าก�ด ไมี&มี�ที่ฤษฎี�ที่างส�งคมีศาสตัรใดที่��อธ์�บัาย์ได)ที่� 1งหมีด ข)อกลั&าวิหาที่��แรงที่��ส#ดของอ�สตั�นค�อข)อที่�� 1

น�กศ!กษาถึามีวิ&า ที่ฤษฎี�ระบับัมี�การน6ามีาใช)ในที่างการเมี�องจร�งหร�อไมี&

อาจารย์ตัอบัวิ&า ที่ฤษฎี�ระบับัน6ามีาใช)ในการวิ�จ�ย์น)อย์มีาก Dennis Wrong เป�นลั%กศ�ษย์ของเดวิ�ด อ�สตั�น ตัอนที่��เข�ย์นด#ษฎี�น�พนธ์ของปร�ญญาเอกตั)องการน6าที่ฤษฎี�ระบับัมีาศ!กษาวิ&าที่6าไมีคนอเมีร�ก�นจ!งมี�วิ�ฒนธ์รรมีที่��เป�นประชาธ์�ปไตัย์ แตั&

13

Page 14: Ps 701 wutisak  (2)

ศ!กษาอย์%&จ#ดเด�ย์วิค�อ Support Inputs พบัวิ&ามี�ราย์ลัะเอ�ย์ดที่��ตั)องศ!กษามีาก เช&น ระบับัการเมี�องการสอนในช�1นเร�ย์นช&วิย์กลั&อมีเกลัาที่างการเมี�อง เร��องที่��ศ!กษาจ!งกลัาย์เป�น Political Socialization แที่น (บัางคนแปลัวิ&าส�งคมีประก�จ) ได)ค6าตัอบัวิ&า ระบับัการเร�ย์นการสอนแลัะระบับัครอบัคร�วิช&วิย์ที่6าให)เก�ดวิ�ฒนธ์รรมีที่��เป�นประชาธ์�ปไตัย์ ซ!�งส��งเหลั&าน�1ไมี&เก��ย์วิก�บั Inputs เลัย์ หลั�งจากน�1นเขาก8ไมี&เคย์จ�บัที่ฤษฎี�ระบับัอ�กเลัย์

ที่ฤษฎี�จะตั)องมี�ประโย์ชนด)านการแนะน6าในการที่6าวิ�จ�ย์ แตั&ที่ฤษฎี�ระบับัมี�เร��องน�1จ6าก�ดมีากเพราะเป�นที่ฤษฎี�ที่��กวิ)าง โอกาสที่��จะวิ�จ�ย์การเมี�องที่#กมี#มีน�1นเป�นเร��องที่��เป�นไปไมี&ได) ควิามีเส��อมีของที่ฤษฎี�ระบับัเก�ดข!1นมีาร&วิมี 3 ที่ศวิรรษมีาแลั)วิ แมี)จะมี�คนน6าไปใช)บั)างแตั&ก8ตั�ดป"ญหาเพราะไมี&สามีารถึเจาะเร��องใดเร��องหน!�งได)

ทฤษฎ#กล�'มผลประโยชน� (Interest Group Theory)

Philippe C. Schmitter เป�นบั#คคลัที่��มี�ควิามีส6าค�ญในช&วิงที่ศวิรรษน�1ที่��ใช)ที่ฤษฎี�กลั#&มีผิลัประโย์ชนมีาตัลัอด ที่6าให)เป�นผิ%)เช��ย์วิชาญในที่ฤษฎี�น�1 แนวิการวิ�เคราะหหลั�กของที่ฤษฎี�กลั#&มีผิลัประโย์ชนมี� 2 ที่ฤษฎี� ได)แก&

1.ที่ฤษฎี�พห#น�ย์มี (Pluralist Theory หร�อ Pluralism)

2.ที่ฤษฎี�สหการ (Corporatist Theory หร�อ Corporatism) ตั6าราบัางเลั&มีแปลัวิ&าบัร�ษ�ที่น�ย์มี ซ!�งผิ�ด เพราะ Corporatism ไมี&ได)หมีาย์ถึ!งบัร�ษ�ที่ แตั&มีาจาก

14

Page 15: Ps 701 wutisak  (2)

Corporate ที่��เป�น Verb หมีาย์ถึ!งการด!งเข)ามีา การประสานประโย์ชน แมี)จะพ%ดถึ!งผิลัประโย์ชนที่างธ์#รก�จก8ตัามี เพราะที่ฤษฎี�ไมี&ได)เน)นตัรงน�1น แตั&จะเน)นที่��กลั#&มีผิลัประโย์ชน

ฐ�นคำต�ของทฤษฎ#กล�'มผลประโยชน�1.เช��อวิ&าการเมี�องเป�นเร��องของกลั#&มีผิลัประโย์ชน ด�งน�1น

ผิลัประโย์ชนจ!งเป�นห�วิใจส6าค�ญของการวิ�เคราะห หากที่6าควิามีเข)าใจการเมี�องน�1นก8ตั)องศ!กษาวิ&ามี�กลั#&มีผิลัประโย์ชนใดเข)ามีาเก��ย์วิข)อง แลัะช�1ให)เห8นวิ&าผิลัประโย์ชนที่��วิ&าน�1นค�ออะไร ผิลัประโย์ชนมี�มี#มีมีองที่��หลัากหลัาย์ เช&น ผิลัประโย์ชนส&วินตัน ผิลัประโย์ชนสาธ์ารณะ ผิลัประโย์ชนของกลั#&มีอาจข�ดแย์)งก�บัผิลัประโย์ชนของสาธ์ารณะ

2.ป"จเจกบั#คคลัหร�อกลั#&มีตัระหน�กในผิลัประโย์ชนที่��แที่)จร�ง (Real Interest) ของตันเอง มีองเห8นเป�นร%ปธ์รรมี (Tangible Interests) ค�อผิลัประโย์ชนที่��จ�บัตั)องได) ส&วินผิลัประโย์ชนที่��เป�นนามีธ์รรมี (Intangible Interests)

เช&น การย์อมีร�บัซ!�งก�นแลัะก�น การให)ควิามีเคารพซ!�งก�นแลัะก�น การให)บัรรดาศ�กด�D การให)เก�ย์รตั� บัางอย์&างก61าก!�ง เช&น อากาศบัร�ส#ที่ธ์�D มีองไมี&เห8นแตั&ส%ดหาย์ใจเข)าไปได)

ผิลัประโย์ชนอาจมีองเป�นระย์ะส�1นหร�อระย์ะย์าวิ ที่ฤษฎี�ด)านเศรษฐศาสตัรส&วินใหญ&จะพ%ดเร��องการที่6างานของกลัไกตัลัาดในระย์ะย์าวิ โดย์ที่��ไมี&ร% )วิ&าระย์ะย์าวิค�ออะไร เช&น ในระย์ะย์าวิจะมี�การปร�บัตั�วิระหวิ&าง Demand & Supply เข)าส%&จ#ดสมีด#ลั ส&วินผิลัประโย์ชนระย์ะส�1นจะมี�ควิามีไมี&สมีด#ลัระหวิ&าง Demand & Supply

15

Page 16: Ps 701 wutisak  (2)

ที่ฤษฎี�ด)านร�ฐศาสตัรจะมีองในระย์ะย์าวิ แตั&ระย์ะหลั�งเปลั��ย์นมี#มีมีอง เช&น เฮอร�เบ�ร�ต ไซมอน (Herbert

Simon: น�กร�ฐศาสตัรคนเด�ย์วิที่��ได)ร�บัรางวิ�ลัโนเบัลั) เข�ย์นหน�งส�อวิ�พากษวิ�จารณวิ&าที่ฤษฎี�ที่��วิ&าด)วิย์ผิลัประโย์ชนระย์ะย์าวิน�1นขาดจากโลักควิามีเป�นจร�ง เพราะมีน#ษย์เรามี�ข)อจ6าก�ดหลัาย์อย์&างในการตั�ดส�นใจ เช&น มี�ที่ร�พย์ากรจ6าก�ด จ!งตั�ดส�นใจบันพ�1นฐานของควิามีพ!งพอใจมีากกวิ&า (Satisficing

Function) หากเป�นเช&นน�1 ที่ฤษฎี�ที่างเศรษฐศาสตัรอาจตั)องที่บัที่วินตั�วิเองใหมี& เพราะที่ฤษฎี�เศรษฐศาสตัรตั�1งอย์%&บันควิามีมี�เหตั#มี�ผิลั เช&น เง�นในกระเปEา มี�ที่างเลั�อกก��ที่างในการซ�1อเพ��อให)เก�ดประโย์ชนส%งส#ด

จอห�น เมน�ร�ดิ์ เคำนส� (John Maynard

Keynes) เข�ย์นหน�งส�อเลั&มีหน!�งช&วิงที่��เก�ดวิ�กฤตั�ในป: 1930-1933 เก�ดภาวิะลั)มีลัะลัาย์ของธ์นาคารที่��วิโลัก เก�ดการวิ&างงานจ6านวินมีาก มีองวิ&าที่ฤษฎี�ที่างเศรษฐศาสตัรมี�กมีองระย์ะย์าวิ ซ!�งเป�นไปไมี&ได)เพราะกวิ&าจะหาที่างแก)ป"ญหาได) ผิ%)คนก8อาจลั)มีตัาย์ไปเป�นจ6านวินมีาก ด�งน�1นจ!งตั)องด�1นรนหาที่างแก)วิ�กฤตั�น�1นให)ลั#ลั&วิง เขาจ!งเสนอ Keynesianism ค�อการกระตั#)นให)เก�ดการบัร�โภคตัามีสมีการเศรษฐศาสตัรน�1 Y =

I + C + T + G โดย์ที่�� Y = GDP/ GNP I = Investment (Capital) C = Consumption

T = Trade (Export/ Import) G = Tax (Revenue)

วิ�กฤตั�เศรษฐก�จเก�ดจากคนไมี&มี�เง�นใช) หากจะให)เศรษฐก�จกระเตั�1องตั)องเน)นที่�� C ค�อให)ประชาชนมี�อ6านาจใน

16

Page 17: Ps 701 wutisak  (2)

การบัร�โภค โดย์ที่6าได)ในระย์ะส�1น เช&น ร�ฐบัาลัจะตั)องสร)างงานด)วิย์การสร)างโครงการขนาดใหญ& อเมีร�กาจ!งสร)างถึนนซ%เปอรไฮเวิย์ช&วิงที่��รถึย์นตัย์�งไมี&บั%มีเพ��อให)คนมี�งานที่6า แลัะถึนนก8กระตั#)นให)มี�การผิลั�ตัรถึ เคนเซ�ย์มีสจ!งเป�นประชาน�ย์มีน�ดๆ

ฐานคตั�ข)อที่�� 2 น�1มี�ควิามีส6าค�ญมีาก การวิ�เคราะหกลั#&มีประโย์ชน ผิ%)วิ�เคราะหจะตั)องตัระหน�กวิ&าป"จเจกบั#คคลัหร�อกลั#&มีร% )วิ&าผิลัประโย์ชนที่��แที่)จร�งของตันเองค�ออะไร (Real

Interest) เช&น ผิลัประโย์ชนที่��แที่)จร�งของการเร�ย์นค�อการได)ควิามีร% )เย์อะๆ แตั&บัางคร�1งมี�การประน�ประนอมี เช&น มี�ลับัตั�วิหน!�งก8ได)

อเมีร�กามี�การถึกเถึ�ย์งเร��องน�1เช�งนโย์บัาย์ ค�อสมี�ย์หน!�งมี�มีาตัรการช&วิย์เหลั�อคนตักงานด)วิย์การให)เป�นเง�นสดส�ปดาหลัะ 75 เหร�ย์ญ สภาคองเกรสจ!งแย์)งวิ&าส�1นเปลั�องงบัประมีาณ หน6าซ61าแจกแลั)วิไมี&เก�ดประโย์ชน แที่นที่��ประชาชนจะน6าไปใช)ในที่างสร)างสรรค แตั&กลั�บัเอาไปเลั&นอบัาย์มี#ข เพราะประชาชนไมี&ร% )วิ&าผิลัประโย์ชนที่��แที่)จร�งของตันเองค�ออะไร จ!งแก)ป"ญหาคนตักงานไมี&ได) ร�ฐบัาลัจ!งเปลั��ย์นมีาแจกค%ปองโดย์ก6าหนดวิ&าสามีารถึไปแลักอะไรได)บั)าง เช&น แลักไข&ได) 1 โหลั แลักขนมีป"งได) 2 แถึวิ แตั&ประชาชนกลั�บัเอาค%ปองไปแลักก�บัเง�น โดย์ได)มี%ลัค&าเง�นน)อย์กวิ&ามี%ลัค&าค%ปอง ในที่��ส#ดร�ฐบัาลัก8น6าป"ญหาเหลั&าน�1มีาก6าหนดเป�นนโย์บัาย์ออก (ฝร��งคนหน!�งเห8นคนอ�นเด�ย์ห�วิโซไมี&มี�เง�น แตั&ไปกราบัไหวิ)วิ�วิ ฝร��งจ!งมีองวิ&าคนเหลั&าน�1ไมี&ร% )ค#ณค&าของตันเอง หากเป�นเขาจะลั)มีวิ�วิเป�นอาหารเพ��อประที่�งช�วิ�ตัให)อย์%&รอด)

17

Page 18: Ps 701 wutisak  (2)

3. คนเราที่#กคน (Actor: ตั�วิแสดง) มี�เหตั#ผิลั (Rationality) ตัระหน�กวิ&าที่6าอย์&างไรจ!งจะได)ประโย์ชนส%งส#ดแตั&ลังที่#นลังแรงน)อย์ที่��ส#ด (Maximization)

Rationality เป�นศ�พที่เที่คน�คเฉพาะ มี�การช��งน61าหน�กระหวิ&าง Cost & Benefit ไมี&ได)หมีาย์ถึ!งเหตั#ผิลัโดย์ที่��วิไป

4. ในการวิ�เคราะหกลั#&มีผิลัประโย์ชนตั)องมี�ควิามีเช��อวิ&ากลั#&มีผิลัประโย์ชนน�1นมีองภาพกวิ)างเก��ย์วิก�บัที่างเลั�อกของตันเองได) ตั)องร% )วิ&ามี�ที่างเลั�อกในการตั�ดส�นใจก��ที่าง แตั&ลัะที่างเลั�อกจะน6าไปส%&ผิลัลั�พธ์อะไร แลัะจะเลั�อกที่างเลั�อกที่��ด�ที่��ส#ดน6าไปส%&ผิลัลั�พธ์มีากที่��ส#ด โดย์ที่��กลั#&มีเหลั&าน�1นจะตั)องมี�ข)อมี%ลัที่��สมีบั%รณ (Perfect Information) แลัะพร)อมีที่#กด)าน ในที่างปฏิ�บั�ตั�มี�กตั�ดส�นใจที่�1งที่��ไมี&มี�ข)อมี%ลัที่��สมีบั%รณ แตั&จะอาศ�ย์ประสบัการณแที่น เช&น ชาวิบั)านร�บัตั�ดส�นใจวิ&าจะปลั%กอะไร เพราะหากปลั%กช)าก8จะไมี&ที่�นคนอ��นจ!งไมี&ได)ศ!กษาตัลัาดก&อน Joan Robinson กลั&าวิวิ&าหน&วิย์ที่างเศรษฐก�จที่�1งหลัาย์ไมี&ได)ตั�ดส�นใจบันพ�1นฐานที่��ร% )วิ&ามี�ที่างเลั�อกก��ที่าง

5.แนวิวิ�เคราะหกลั#&มีผิลัประโย์ชนเช��อวิ&าการเจรจาเป�นหนที่างในการน6ามีาส%&ข)อตักลังที่��เป?ดเผิย์ ในอเมีร�กาจะพ%ดอย์&างเป?ดเผิย์วิ&าตันตั)องการอะไรแลัะไมี&ตั)องการอะไร ที่6าให)เก�ดธ์#รก�จการที่6า Lobby ข!1น คนที่��มี�หน)าที่��ลั8อบับั�1ค�อ Lobbyist โดย์อเมีร�กามี�พรบั.การลั8อบับั�1 (Lobbying

Acts) ควิบัค#มีคนกลั#&มีน�1 มี�หน)าที่��โน)มีน)าวิใจของผิ%)มี�อ6านาจในการตั�ดส�นใจ เช&น ลั8อบับั�1ให)บัร�ษ�ที่ย์าส%บัวิ&าอย์&าตั�ดสลัากบันกลั&องย์าส%งได)หร�อไมี& ไที่ย์เราเลั�ย์นแบับัมีาตั&อรองให)บัร�ษ�ที่

18

Page 19: Ps 701 wutisak  (2)

ส#ราวิ&าให)ลัดจากค6าวิ&า ด��มีส#ราแลั)วิที่6าให)ผิ%)อ��นเส�ย์ช�วิ�ตั มีาเป�นด��มีส#ราแลั)วิเส��อมีสมีรรถึภาพที่างเพศ

Lobby หมีาย์ถึ!งห)องโถึง ซ!�งเป�นที่��พบัปะระหวิ&าง Lobbyist ก�บัน�กการเมี�องที่��เพ��งออกมีาจากห)องประช#มี การลั8อบับั�1ในที่��สวิ&างเป�นเร��องด�เพราะที่6าให)คนอ��นร% )วิ&าคนๆน�1ถึ%ก ลั8อบับั�1เร��องอะไร ผิลัประโย์ชนที่��ได)จะเป�นผิลัประโย์ชนส%งส#ดให)ก�บัองคกร กฎีหมีาย์จะควิบัค#มีให) Lobbyist ย์��นบั�ญช�ที่ร�พย์ส�นแลัะราย์งานให)ประธ์านร�ฐสภาที่ราบัวิ&าก6าลั�ง ลั8อบับั�1ให)ก�บัใคร ค&าจ)างเที่&าไหร& ลั8อบับั�1เร��องอะไร ผิ%)ที่��ปกป?ดจะได)ร�บัโที่ษที่��ร#นแรงตัามีกฎีหมีาย์ Lobbyist ในอเมีร�กามี� 3

หมี��นกวิ&าคน ผิลัการวิ�จ�ย์พบัวิ&าสมีาช�กร�ฐสภาของอเมีร�กา เวิลัาโหวิตัลังคะแนนจะอาศ�ย์ข)อมี%ลัจาก Lobbyist เป�นหลั�กมีากถึ!ง 70%

ในไที่ย์มี�กลั8อบับั�1ในที่��ลั�บั อาจารย์อย์ากจ#ดประกาย์ให)ส�งคมีไที่ย์มี�การเจรจาอย์&างเป?ดเผิย์ เพราะคนที่��วิ��งเตั)นในเมี�องไที่ย์มี�เป�นจ6านวินมีาก ซ!�งเป�นที่��มีาของการได)ส�นค)าที่��ไมี&มี�ค#ณภาพแลัะมี�เง�นใตั)โตัFะ แตั&บั�งเอ�ญที่��ราชบั�ณฑิ�ตัแปลัค6าวิ&า Lobbyist ไวิ)เส�ย์หาย์วิ&า น�กวิ��งเตั)น อาจารย์เสนอหลั�กส%ตัรน�1ข!1นมีาจ!งใช)ค6าวิ&า Lobbyist แตั&เร��องถึ%กตั�กลั�บัวิ&าให)อบัรมีเป�นคอรสแที่น ไมี&ตั)องเป?ดเป�นหลั�กส%ตัร อาจารย์เช��อวิ&าร�ฐบัาลัอาจจะไมี&อย์ากให)ที่6า

หากเราเป?ดกวิ)างในเร��องน�1ก8จะได)ร% )วิ&าบัร�ษ�ที่น�1นก6าลั�งลั8อบับั�1อย์%& หากเราเป�นค%&แข&งก8จะได)เข)าไปลั8อบับั�1แข&งด)วิย์จะได)เก�ดควิามีเสมีอภาคในการแข&งข�น ที่#กวิ�นน�1ไมี&ร% )วิ&าบัร�ษ�ที่ ก ก�บับัร�ษ�ที่ ข ไปค#ย์ก�นตั�1งแตั&เมี��อไหร& จะร% )ก8ตั&อเมี��อคนในบัร�ษ�ที่ ก

19

Page 20: Ps 701 wutisak  (2)

ได)ผิลัประโย์ชนน)อย์กวิ&าจ!งคาบัข&าวิไปบัอกบัร�ษ�ที่ ข บัร�ษ�ที่ ข จ!งเสนอวิ&าตันจะให)มีากกวิ&าน�1น เช&น งานช�1นหน!�งมี�งบัประมีาณ 320 ลั)านบัาที่ บัร�ษ�ที่ที่��ประมี%ลัได)ได)ในราคา 210 ลั)านบัาที่ จ!งตั)องตั�1งกรรมีการมีาสอบัคนที่��ประเมี�นราคากลัางวิ&าที่6าไมีจ!งประเมี�นออกมีาอย์&างน�1 สอบัวิ&าราคาที่��ด�มีพลัง บัร�ษ�ที่น�1ย์อมีขาดที่#นเพ��อจะเอางานมีาสร)างเครด�ตัให)องคกร หร�อเพ��ออะไร ซ!�งที่)าย์ที่��ส#ดงานก8ไมี&เด�น โอกาสส6าเร8จจ!งไมี&มี� เกรงวิ&าจะลั)มีประมี%ลัเพ��อให)ตันไมี&ตั)องบัาดเจ8บั

**********************

20