Upload
watdang
View
8.210
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
180
แผนการจัดการเรียนรูท่ี 10
กลุมสาระการเรียนรู กิจกรรมพัฒนาผูเรียน ( ลูกเสือ ) สาระ การรูจักดูแลตนเอง ช้ันประถมศึกษาปท่ี 5 หนวยการเรียนรูท่ี 1 การกางเต็นทและการเก็บเต็นท เวลา 1 ช่ัวโมง ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1.สาระสําคัญ
การเด ินทางไกลและไปอยูคายพักแรม จาํเปนตองมีเต็นท (กระโจม) สําหรับกางนอน ลูกเสือตองรูจักการกางและการเก็บเต็นทนอนของตนเอง
2. จุดประสงคการเรียนรู 1. อธิบายวิธีกางเต็นทเก็บเต็นทได 2. แสดงวิธีกางเต็นทเก็บเต็นทได 3. รวมฝกปฏิบัติกางเต็นทเก็บเต็นท และการสาธิตอยูคายพักแรม 4. รวมกิจกรรมดวยความสนใจและกระตือรือรน
3. สาระการเรียนรู การกางเต็นทในการอยูคายพกัแรมและการเก็บเต็นท
- เต็นทชนดิตาง ๆ - การดัดแปลงวัสดุเพื่อทําเปนท่ีพักช่ัวคราว - การจัดการคาย
4. กิจกรรมการเรียนรู
4.1 พิธีเปดประชุมกอง ( ชักธงชาติ สวดมนต สงบนิ่ง ตรวจผม แยก ) 10 นาที 4.2 เพลงคนมีปญญา 5 นาที 4.3 กิจกรรมการเรียนการสอน ( การบรรยาย , การสาธิต )
4.3.1 แจงจุดประสงคการเรียนรู 4.3.2 ผูกํากับอธิบายและสาธิตการกางเต็นทชนิดตาง ๆ 4.3.3 ลูกเสือจับฉลากกิจกรรมการเรียนรู แลวออกไปศึกษาใบความรู และฝกปฏิบัติ กิจกรรมโดยมีรองผูกํากบัดูแลชวยเหลือ หมูละ 10 นาที 4.3.3.1 กลุมท่ี 1 เต็นทชนิดตาง ๆ 4.3.3.2 กลุมท่ี 2 การดัดแปลงวัสดุเพื่อทําเปนท่ีพักช่ัวคราว 4.3.3.3 กลุมท่ี 3 การจัดการคาย 4.3.4 ใหลูกเสือแตละหมูศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม จากบทเรียนสําเร็จรูป
181
4.3.5 ลูกเสือนําผลงานจากการปฏิบัติกจิกรรมเสนอตอท่ีประชุมกองหมูละ 5 นาที 4.3.6 ลูกเสือชวยกันสรุปโดยมีผูกํากบัคอยชวยเหลือแนะนําเพิ่มเติม 4.4 ผูกํากับเลาเร่ืองส้ันท่ีเปนคติ เร่ือง กบกับหน ู 5 นาที 4.5 พิธีปดประชุมกอง ( นัดหมาย ตรวจเคร่ืองแตงกาย ชักธงลง เลิก ) 10 นาที 5. วัสดุอุปกรณ ส่ือ และแหลงเรียนรู
5.1 ใบงานเร่ืองเต็นทชนิดตาง ๆ 5.2 ใบความรูเร่ืองเต็นทชนดิตาง ๆ 5.3 ใบงานเร่ืองการดัดแปลงวัสดุเพื่อทําเปนท่ีพักช่ัวคราว 5.4 ใบความรูเร่ืองการดัดแปลงวัสดุเพื่อทําเปนท่ีพักช่ัวคราว 5.5 ใบความรูเร่ือง การจัดการคาย 5.6 ใบความรูเร่ือง การจัดการคาย 5.7 บทเรียนสําเร็จรูป การอยูคายพกัแรมและการเก็บเต็นท 5.8 แผนภูมิเพลง 5.9 เร่ืองส้ัน 5.10 เต็นท 5.11 แบบทดสอบกอนเรียน
6.การวัดผลและประเมินผล 6.1 ส่ิงท่ีวัด
6.1.1 ความรูความเขาใจในการกางเต็นทในการอยูคายพกัแรมและการเก็บเต็นท 6.1.2 การอยูคายพักแรม
6.2 วิธีการวัด 6.2.1 ปฏิบัติจริง 6.2.2 ตรวจผลงาน
6.3 เคร่ืองมือวัด 6.3.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการรวมกิจกรรมกลุม
6.4 เกณฑการประเมิน 6.4.1 ประเมินคาเปนระดับคุณภาพ ไดคะแนนระดับ 10 - 12 หมายถึง ดี (ผาน) ไดคะแนนระดับ 7 – 9 หมายถึง พอใช (ผาน) ไดคะแนนระดับ 4 - 6 หมายถึง ควรปรับปรุง (ไมผาน)
182
7.ขอเสนอแนะ ........................................................................................................................................................ ...................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... 8.ความเห็นผูบริหาร � ความสอดคลองของแผนการจัดการเรียนรูกับกําหนดการสอน � ความสอดคลองของสาระการเรียนรูกับจดุประสงคการเรียนรู � กิจกรรมการเรียนการสอนสอดคลองกับจุดประสงคการเรียนรู � ความเหมาะสมของการวัดผลประเมินผล � อ่ืนๆ ระบุ � ใชสอนได � ควรปรับปรุงกอนใชสอน ลงช่ือ................................................... ( นายอมร สดศรี ) ตําแหนง ผูอํานวยการโรงเรียนวดัแดง วันท่ี...............เดือน........................พ.ศ. ...............
183
บันทึกหลังสอน
1. ผลการสอน
1.1 ดานพุทธิพิสัย ( K ) .........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
1.2 ดานทักษะพิสัย ( P )
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................... 1.3 ดานจิตพสัิย ( A )
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................... 2. ปญหา/ อุปสรรค ......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3. ขอเสนอแนะ / แนวทางแกไข .........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
ลงช่ือ........................................ผูสอน ( นางวรรดี พลูสวัสดิ์ )
ตําแหนง ครู โรงเรียนวัดแดง วันท่ี...........เดือน................................พ.ศ................
184
เพลงคนมีปญญา
คนมีปญญาสรางบานไวบนศิลา (ซ้ํา 3 ครั้ง) เมี่อมีลมพายุพัดมา เมื่อฝนตกหนักและนํ้าก็ไหลเชี่ยว (3 ครั้ง) บานของเขาก็ยังคงอยู คนโงสรางบานของเขาไวบนหาดทราย (ซ้ํา) เมื่อมีลมพายุพัดมา เมื่อฝนตกหนักและนํ้าก็ไหลเชี่ยว (3 ครั้ง) บานของเขาก็พังลงทะเล
(ที่มา : วาที่รอยโทสันต ยุวยุทธ ,2543 : 123)
185
ใบงานที่ 1 กลุมที่ 1
เรื่อง เต็นทชนิดตาง ๆ จุดประสงคการเรียนรู
1. อธิบายวิธีกางเต็นทชนิดตางๆ และเก็บเต็นทได 2. แสดงวิธีกางเต็นทและเกบ็เต็นทชนิดตาง ๆได 3. รวมฝกปฏิบัติกางเต็นทเก็บเต็นท และการสาธิตอยูคายพักแรม 4. รวมกิจกรรมดวยความสนใจและกระตือรือรน
วัสดุอุปกรณ 1. ใบความรู 2. เต็นท 3. บทเรียนสําเร็จรูปการกางเต็นทและการอยูคายพกัแรม
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. ลูกเสือศึกษาใบความรูเต็นทชนิดตาง ๆได 2. รวมกันปฏิบัติกิจกรรมกางเต็นทและเกบ็เต็นทชนิดตาง ๆได 3. ตัวแทนออกมาสรุปหนาท่ีประชุมกอง 4. ผูกํากับสรุปและแนะนําเพิ่มเติม
เอกสารอางอิง
อํานาจ ชางเรียน และคณะ ลูกเสือ – เนตรนารี ช้ันประถมศึกษาปท่ี 5 สมบูรณแบบ
แหลงศึกษาคนควาเพ่ิมเติม
1. หองลูกเสือ 2. หองสมุด 3. บทเรียนสําเร็จรูป การอยูคายพักแรมและการเก็บเต็นท
186
ใบความรูที่ 1 กลุมที่ 1
เรื่อง เต็นทชนิดตาง ๆ จุดประสงคการเรียนรู
1. อธิบายวิธีกางเต็นทชนิดตางๆ และเก็บเต็นทได 2. แสดงวิธีกางเต็นทและเกบ็เต็นทชนิดตาง ๆได 3. รวมฝกปฏิบัติกางเต็นทเก็บเต็นท และการสาธิตอยูคายพักแรม 4. รวมกิจกรรมดวยความสนใจและกระตือรือรน
เนื้อหา การกางเต็นทและการเก็บเต็นท
เต็นท หมายถึงท่ีพักอาศัย ซ่ึงสามารถเคล่ือนยายไปตามสถานท่ีตาง ๆ ไดโดยมากเต็นทจะทําดวยผาใบหรือไนลอน ชนิดตาง ๆ ของเต็นท การเดินทางไกลและไปอยูคายพักแรม จําเปนตองมีเต็นท ( กระโจม ) สําหรับกางนอน เต็นทมีหลายชนิด มีท้ังเต็นทสําหรับนอนคนเดียว นอนสองคน หรือนอนหลายคน ซ่ึงมีช่ือเรียกแตกตางกันไป เต็นทนําไปใชในคายพักแรม แบงเปนชนิดตาง ๆ ดังนี้ 1. เต็นทอํานวยการ เปนเต็นทท่ีมีขนาดใหญ บรรจุคนไดหลายคน ซ่ึงจะใชเปนท่ีประชุมของนายหมูหรือผูกํากับ 2. เต็นทหมู เปนเต็นทท่ีใชสําหรับลูกเสือ พักรวมกันได 1 หมู 3. เต็นทบุคคล เปนเต็นทขนาดเล็กสําหรับพักไดเพียง 2 คน
อุปกรณและสวนประกอบของเต็นท
ในการใชเต็นทในการอยูคายพักแรม จะใชเต็นท 5 ชาย ซ่ึงเหมาะสําหรับลูกเสือ จํานวน 2 คน ซ่ึงเต็นท 5 ชาย จะใชเนื้อท่ีในการกางไมมากและวิธีกางไมยุงยาก สวนประกอบของเต็นท 5 ชาย มีดังนี้ 1. ผาเต็นท 2 ผืน 2. เสาเต็นท 2 ชุด ( 2 เสา ) ชุดละ 3 ทอน ( 3 ทอนตอกันเปน 1 ชุด ) 3. สมอบก 10 ตัว ( หัว 1 ตัว ทาย 1 ตัว ชายดานลางดานละ 3 ตัวประตูหนา 1 ตัวและหลัง1ตัว )
187
4. เชือกยึดสมอบก 10 เสน ( เชือกยาวใชร้ังหัวทายเต็นท 2 เสน เชือกส้ันใชยึดชายเต็นท 6 เสน และประตูหนาหลัง 2 เสน )
วิธีกางเต็นท 5 ชาย
ในการกางเต็นท 5 ชายมีข้ันตอนในการปฏิบัติและตองชวยกันกางเต็นท ดังนี้ 1. นําผาใบ 2 ผืน มาติดกระดุมเขาดวยกัน โดยใชดานท่ีติดกระดุมเปนสวนของหลังคาเต็นท รูตาไกท่ีซอนกันและอยูถัดจากกระดุม จะเปนท่ียึดเสาท้ัง 2 เสาสวนดานท่ีมีรูตาไกดานละ 3 รูจะเปนชายดานลาง 2. นําเสาชุดท่ี 1 มาเสียบท่ีรูหลังคาเต็นทและใหมีคนจับเสาไว 1 คน 3. คนท่ี 2 จะเปนผูผูกเต็นทโดยใชเชือกยาว 1 เสน ยึดจากหัวเสาไปยังสมอบกดานหนาโดยผูกดวยเงื่อนตะกรุดเบ็ดบนหัวเสาและใชเง่ือนกระหวัดไมหรือผูกร้ังกับสมอแลวใชเชือกส้ัน 2 เสน ยึดชายเต็นทเขากับสมอบก โดยใชผูกดวยเง่ือนปมตาไก ใหเต็นทกางออกเปนรูปหนาจั่ว 4. ใหคนท่ี 2 ตอเสาท่ี 2 เสียบเขากับรูหลังคาเต็นทอีกดานหนึ่งแลวจับเสาไว ใหคนท่ี 1 ปลอยมือจากเสาที่ 1 แลวนําเชือกยาวเสนท่ี 2 มายึดหัวเสาตนท่ี 2 ดวยเงื่อนตะกรุดเบ็ดและลากไปยึดกับสมอบกดวยเง่ือนกระหวัดไมหรือผูกร้ัง 5. ใหคนท่ี 2 ปลอยมือจากเสาท่ี 2 มาชวยกันยึดชายเต็นทท่ีเหลือใหเขากับสมอบก แลวปรับความดิ่งของเต็นทใหเรียบรอย 1 2 3 4
ขั้นตอนการกางเต็นท 5 ชาย ( ที่มา : หนังสือลูกเสือ เนตรนารี ป.5 มปป: 22 )
188
การรื้อเต็นท 5 ชาย เม่ือประสงคจะร้ือเต็นทหลังจากส้ินสุดการพักแรม จะมีข้ันตอนในการปฏิบัติดังนี้ 1. แกเชือกท่ีร้ังเสาหัวทายกับสมอบกออก เต็นทก็จะลมลง 2. ถอดเสาเต็นทออกเปน 6 ทอน แลวเอามารวมกันไว 3. ถอนสมอบกท้ัง 10 ตัว ออกไปรวมกันไวกับเสาเต็นท 4. เก็บเชือกและแกเชือกตาง ๆ ใหเรียบรอยแลวนําไปรวมไวกับสมอบก 5. แกะกระดุมเต็นทออก เพื่อใหเต็นทแยกออกเปน 2 ผืน 6. ทําความสะอาดอุปกรณทุกช้ิน และเก็บผับผาเต็นทใหเรียบรอย 7. นําผาเต็นทและอุปกรณไปเก็บไวในท่ีเดียวกัน การพับเก็บเต็นท 5 ชาย
เม่ือเก็บเต็นท โดยการแกะเชือกและร้ือถอนเสาเต็นท รวมท้ังถอนสมอบกเรียบรอยแลว ลูกเสือจะตองดําเนินการเก็บเต็นท โดยการพับใหเรียบรอย ข้ันตอนดังตอไปนี้ 1. คล่ีผาเต็นทออก 2. พับปลายแหลมเขามาท้ัง 2 ขาง 3. นําเสา 3 ทอน สมอบก 5 ตัว เชือกท้ัง 4 เสน เชือกยาว 1 เสน ไปวางไวบนผา 4. พับชายผามาทับอุปกรณท่ีวางไว 5. พับผาดานขางเขามาท้ัง 2 ขางดานละ 1 ใน 3 6. มวนผาสวนท่ีเหลือใหแนน ถาจะใหดูเรียบรอยควรมวนท้ัง 2 ดานเขาหากัน
ขั้นตอนการพับเต็นท 5 ชาย
( ที่มา : หนังสือประกอบกิจกรรมพัฒนาผูเรียน ชุดวิชาชาวคาย 2546 : 7 )
189
เต็นทสําเร็จรูป
ในปจจุบัน เต็นท 5 ชาย ไมนิยมนํามาใชในการเขาคายพกัแรมของลูกเสือ แตนิยมนาํเอาเต็นทแบบสําเร็จรูปมาใช เพราะสะดวกในการจดัเก็บ และงายในการนํามาใชงาน
( ท่ีมา : http://www.campinginter.com/)
190
ตัวอยางวิธีการกางเต็นทแบบงายๆ ท่ีจะทําใหรูสึกวาการกางเต็นทไมใชเร่ืองยาก ตัวอยางท่ีมาแสดงจะเปนการกางเต็นทโดม ถาเปนแบบอ่ืนๆ ก็สามารถนํามาประยกุตใชได
1. นําเต็นทและอุปกรณตางๆ ออกมาจากถุง ตรวจสอบวาอุปกรณครบถวน
( ที่มา :http://www.mrbackpacker.com/gear/gear_7.html)
2. เร่ิมดวยการติดต้ังโครงเต็นท โดยเอาบริเวณปลายของโครงเสียบกับตรงมุมเต็นท ซ่ึงจะมีชองสําหรับเสียบโครงเต็นทอยู หลังจากนัน้ใหนําขอเกีย่วบริเวณตัวเต็นท นํามาเกีย่วกับตัวโครง ถึงข้ันตอนนี้เต็นทของคุณจะข้ึนเปนรูปไดแลว สําหรับบางรุนอาจจะตองมีการเอาตัวโครงมาสอดกับตัวเต็นทใหทะลุไปอีกดานหนึ่งแลวงอโครงโดยใหปลายท้ังสองขางเสียบเขาไปในชองท่ีมุมเต็นท
( ที่มา :http://www.mrbackpacker.com/gear/gear_7.html)
3.หลังจากต้ังโครงแลวก็จะไดเต็นท ท่ีพรอมจะกางฟลายชีทได
191
( ที่มา :http://www.mrbackpacker.com/gear/gear_7.html)
4. ติดต้ังเสาสําหรับฟลายชีท โดยนําเสามาพาดกลางเต็นทและผูกตัวเสาฟลายชีทกบับริเวณกลางเต็นทท่ีเสาโครงเต็นทสองดานตัดกัน
( ที่มา :http://www.mrbackpacker.com/gear/gear_7.html)
5. ติดต้ังฟลายชีทโดยนําขอเกี่ยวของฟลายชีทเกี่ยวกับบริเวณมุมเต็นทท้ัง 2 ดาน แลวนําฟลายชีทมาพาดเสากลาง
( ที่มา :http://www.mrbackpacker.com/gear/gear_7.html)
6. ติดต้ังฟลายชีทอีกดาน เม่ือเสร็จเรียบรอยก็จะไดเต็นทท่ีเสร็จสมบูรณ
192
เอกสารอางอิง
กองการลูกเสือ,กระทรวงศึกษาธิการ. คูมือนักเดนิทางไกล ลูกเสือสามัญรุนใหญ.
http://www.campinginter.com/ http://www.mrbackpacker.com/gear/gear_7.html)
แหลงศึกษาคนควาเพ่ิมเติม
1. หองลูกเสือ 2. หองสมุด 3. บทเรียนสําเร็จรูป การอยูคายพักแรมและการเก็บเต็นท
193
การกางเต็นทการรื้อเต็นทและการพับเต็นทขนาดใหญสําหรบัหมูลกูเสือ หรือเต็นทสําเร็จรูป
เต็นทขนาดใหญท่ีใชสําหรับลูกเสือท้ังหมู จะมีขนาดใหญและมีน้ําหนักมากกวา เต็นท 5 ชาย แตถึงอยางไรก็สามารถพาไปไดสะดวก ซ่ึงในการกางเต็นทชนิดนี้จะตองมีบริเวณกวางพอท่ีจะกางเต็นทได สําหรับวิธีกางเต็นทชนิดนี้ก็ไมยุงยากนักเพียงใชลูกเสือ 2 คน ก็สามารถกางเต็นทได สวนประกอบของเต็นทขนาดใหญ 1. ผาเต็นท 1 ชุด 2. เสาเต็นท 2 ชุด แตละชุดมี 3 ทอน นํามาตอเปนเสา 1 เสา 3. สมอบก 12 ตัว ใชสําหรับยึดพื้น 4 ตัว ยึดชายหลังคา 6 ตัว หัว 1 ตัว และทาย 1 ตัว
4. เชือกสําหรับยึดสมอ 8 เสน ทุกเสนมัดติดกับแผนเหล็กสําหรับปรับความตึง หยอน ของเชือกโดยเชือก 6 เสน โดยยึดชายหลังคาและเชือกยาวอีก 2 เสน ใชร้ังหัว ทายเต็นท
วิธีการกางเต็นทขนาดใหญ
1. ยึดพื้นของเต็นทท้ัง 4 มุม ดวยสมอบก 4 ตัว 2. นําเสาชุดท่ี 1 มาเสียบท่ีรูหลังคาเต็นท ใหคนท่ี 1 จับไว 3. ใหคนท่ี 2 ใชเชือกยาว 1 เสน ยึดจากหัวเสาไปยังสมอบกดานหนา โดยผูกดวยเงื่อนตะกรุดเบ็ดหรือกระหวัดไมแลวใชเชือก 2 เสนยึดชายเต็นทกับสมอบกใหเต็นทกางออกเปนรูปหนาจั่ว 4. คนท่ี 2 เดินออมไปอีกดานหน่ึงตอเสาท่ี 2 เสียบเขากับรูหลังคาเต็นทอีกดานหน่ึงแลวจับเสา ไว คนท่ี 1 นําเชือกนําเชือกยาวเสนท่ี 2 มาผูกยึดกับเสาท่ี 2 ไปยังสมอบกดานหลัง 5. คนท่ี 1 และ 2 ชวยกันใชเชือกยึดชายหลังคาเต็นทจุดท่ีเหลือเขากับสมอบกแลวปรับความตึง หยอนของเต็นทใหเรียบรอย
การกางเต็นทขนาดใหญ
( ที่มา : หนังสือประกอบกิจกรรมพัฒนาผูเรียน ชุดวิชาชาวคาย 2546 : 8 )
194
การรื้อเต็นทขนาดใหญ
การร้ือเต็นทขนาดใหญมีข้ันตอนในการดําเนินการ ดังนี้ 1. แกเชือกท่ีร้ือเสาเต็นทหัวทายกับสมอบกออก เต็นทก็จะลมลง 2. ถอดเสาเต็นทออกเปน 6 ทอน แลวเอามารวมกัน 3. ถอดสมอบกท้ัง 12 ตัว ไปรวมกันไวกับเสาเต็นท 4. เก็บเชือกและแผนปรับความตึง ซ่ึงประกอบดวยเชือกส้ัน 6 เสน และยาว 2 เสน แผนปรับความตึง 8 อัน 5. ทําความสะอาดเต็นทแลวนําไปเก็บ การพับเต็นทขนาดใหญ
1. คล่ีเต็นทใหพื้นเต็นทกางออก จัดหลังคาเต็นทใหเรียบรอย 2. พับชายดานขางเต็นทเขามา โดยพับเปน 4 ชาย 3. พับคร่ึงความยาว 4. พับสวนท่ีเหลือใหไดขนาดพอเหมาะท่ีจะนําไปใสถุงเต็นท 5. บรรจุอุปกรณลงในถุงเล็กแลวนําไปใสถุงใหญอีกคร้ังหนึ่ง
195
ใบงานที่ 2 กลุมที่ 2
เรื่อง การดัดแปลงวัสดุเพื่อทําเปนท่ีพักช่ัวคราว จุดประสงคการเรียนรู
1. อธิบายวิธีดดัแปลงวัสดุเพือ่ทําเปนท่ีพักช่ัวคราวได 2. ดัดแปลงวสัดุเพื่อทําเปนท่ีพักช่ัวคราวได 3. รวมกิจกรรมดวยความสนใจและกระตือรือรน
วัสดุอุปกรณ 1. ใบความรู 2. ผา 3. ซังขาว ใบไม ใบหญา 4. เชือก 5. บทเรียนสําเร็จรูปการกางเต็นทและการอยูคายพกัแรม
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. ลูกเสือศึกษาใบความรูเกี่ยวกับการดัดแปลงวัสดุเพื่อทําเปนท่ีพักช่ัวคราว 2. รวมกันปฏิบัติกิจกรรมการดัดแปลงวัสดุเพื่อทําเปนท่ีพักช่ัวคราว 3. ตัวแทนออกมาสรุปหนาท่ีประชุมกอง 4. ผูกํากับสรุปและแนะนําเพิ่มเติม
เอกสารอางอิง
กองการลูกเสือ,กระทรวงศึกษาธิการ. คูมือนักเดนิทางไกล ลูกเสือสามัญรุนใหญ.
แหลงศึกษาคนควาเพ่ิมเติม
1. หองลูกเสือ 2. หองสมุด 3. บทเรียนสําเร็จรูป การอยูคายพักแรมและการเก็บเต็นท
196
ใบความรูที่ 2 กลุมที่ 2
เรื่อง การดัดแปลงวัสดุเพื่อทําเปนท่ีพักช่ัวคราว จุดประสงคการเรียนรู
1. อธิบายวิธีดดัแปลงวัสดุเพือ่ทําเปนท่ีพักช่ัวคราวได 2. ดัดแปลงวสัดุเพื่อทําเปนท่ีพักช่ัวคราวได 3. รวมกิจกรรมดวยความสนใจและกระตือรือรน
เนื้อหา การดัดแปลงวัสดุทําเปนท่ีพักชั่วคราว
1. นําผาหมหรือผาขาวมาใชดัดแปลงเปนหลังคาท่ีพัก โดยใชไมพลองหรือกิ่งไมเปนสวนประกอบ 2. นําซังขาว ใบไม ใบหญา มาทําเปนหลังคาเพิงพักกนัแดดและกันลม โดยใชไมพลอง กิ่งไม เชือก มาเปนสวนประกอบทําเปนรูปเพิงพัก 3. บริเวณท่ีอยูระหวางตนไมลอมรอบ เชน กลุมตนไมไผท่ีมี ทิศทางเขาออกเฉพาะ สามารถปดกวาด ตกแตงดดัแปลงเปนท่ีพักได 4. บริเวณเพิงพักหรือถํ้าท่ีอากาศถายเทสะดวก ดัดแปลงเปนท่ีพักกันแดด กันลม กนัฝน และใชเปนท่ีพกัแรมได เอกสารอางอิง
กองการลูกเสือ,กระทรวงศึกษาธิการ. คูมือนักเดนิทางไกล ลูกเสือสามัญรุนใหญ.
แหลงศึกษาคนควาเพ่ิมเติม
1. หองลูกเสือ 2. หองสมุด 3. บทเรียนสําเร็จรูป การอยูคายพักแรมและการเก็บเต็นท
197
ใบงานที่ 3 กลุมที่ 3
เรื่อง การจัดการคาย จุดประสงคการเรียนรู
1. อธิบายถึงหลักการเลือกท่ีต้ังคายพักแรมได 2. เลือกท่ีต้ังคายพักแรมไดเหมาะสมตามลักษณะภูมิประเทศ 2. รวมกิจกรรมดวยความสนใจ
วัสดุอุปกรณ 1. ใบความรู 2. บทเรียนสําเร็จรูปการกางเต็นทและการอยูคายพกัแรม
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. ลูกเสือศึกษาใบความรูเกี่ยวกับการเลือกท่ีต้ังคายพกัแรมตามลักษณะภูมิประเทศ 2. รวมกันปฏิบัติกิจกรรมการเลือกท่ีต้ังคายพักแรม 3. ตัวแทนออกมาสรุปหนาท่ีประชุมกอง 4. ผูกํากับสรุปและแนะนําเพิ่มเติม
เอกสารอางอิง
กองการลูกเสือ,กระทรวงศึกษาธิการ. คูมือนักเดนิทางไกล ลูกเสือสามัญรุนใหญ.
http://www.trueplookpanya.com
แหลงศึกษาคนควาเพ่ิมเติม
1. หองลูกเสือ 2. หองสมุด 3. บทเรียนสําเร็จรูป การอยูคายพักแรมและการเก็บเต็นท
198
ใบความรูที่ 3 กลุมที่ 3
เรื่อง การจัดการคาย จุดประสงคการเรียนรู
1. อธิบายถึงหลักการเลือกท่ีต้ังคายพักแรมได 2. เลือกท่ีต้ังคายพักแรมไดเหมาะสมตามลักษณะภูมิประเทศ 2. รวมกิจกรรมดวยความสนใจ
เนื้อหา การจัดคายพักแรม
กอนต้ังคายพกัแรม ควรมีการศึกษาลักษณะพ้ืนท่ีภูมิประเทศใหดีเสียกอน โดยพิจารณาความเหมาะสมจากส่ิงตอไปนี้
1. ควรอยูบนท่ีสูงหรือเชิงเขาเวลาฝนตกมีทางระบายน้าํออกอยางรวดเร็วทําใหไมมีน้ําขังในบริเวณคาย หรือมิฉะนั้นควรต้ังคายบริเวณท่ีเนื้อดนิเปนดินปนทราย เพื่อใหน้ําซึมลงใตพื้นดินไดรวดเร็วข้ึน
2. ไมควรอยูใกลสถานท่ีท่ีมีคนพลุกพลาน เชน สถานท่ีตากอากาศ 3. ไมควรตั้งอยูใกลถนนหรือทางรถไฟ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุไดงาย 4. ไมควรตั้งเต็นทอยูใกลตนไมใหญ เพราะเม่ือเกิดลมพายุตนไมอาจหักโคนลงมาทําใหเกิด
อันตรายได 5. สถานท่ีต้ังคาย ควรมีน้ําดื่มน้ําใชอยางเพียงพอ แตไมควรอยูใกลแมน้ํา ลําคลอง หนอง
บึง อาจเกิดอุบัติเหตุได 6. สถานท่ีต้ังคาย ไมควรอยูไกลจากตลาดมากนัก ท้ังนี้เพื่อความสะดวกในการไปซ้ือกับขาว
และไมควรอยูไกลจากสถานีอนามัยหรือสถานพยาบาลมากนัก เพื่อวาเม่ือเกิดการเจ็บปวย หรือเกิดอุบัติเหตุรายแรง จะไดชวยเหลือไดทันทวงที
7. ควรอยูในสถานท่ีปลอดภัยจากสถานท่ีเส่ียงอันตราย ไดแก สถานท่ีท่ีมีสถิติการเกิดอาชญากรรมสูง เปนแหลงอาศัยของสัตวราย
199
เอกสารอางอิง
กองการลูกเสือ,กระทรวงศึกษาธิการ. คูมือนักเดนิทางไกล ลูกเสือสามัญรุนใหญ.
http://www.trueplookpanya.com
แหลงศึกษาคนควาเพ่ิมเติม
1. หองลูกเสือ 2. หองสมุด 3. บทเรียนสําเร็จรูป การอยูคายพักแรมและการเก็บเต็นท
200
เรื่องสั้น เรื่องกบกับหนู
หนูแกตัวหนึ่งเดินทางรอนแรมมาจนถึงลําธารท่ีชายปา หนูตองการขามไปยังฝงตรงขามจึงเขา
ไปหาเจากบตัวนอยท่ีริมธารแลวเอยขอใหกบชวยพาไปยังลําธารตรงกันขาม กบนอยมองหนูแลวปฏิเสธอยางสุภาพวา “โธ ฉันตัวเล็กนิดเดียวแลวจะพาทานขามไปไดอยางไรกันจะ” หนูไมยอมกลับอางวาตนเปนสัตวอาวุโสกวา ถากบไมชวยตนก็จะไปปาวประกาศใหสรรพสัตวท้ังหลายรูถึงความใจดําของกบ เม่ือถูกขูเชนนั้น กบจึงตองจําใจยอมใหหนูเอาเทาผูกกับเทาของตนแลวพาขามลําธารไป แตพอวายน้ําไปไดแคคร่ึงทางเทานั้นกบก็หมดแรง กอนท่ีท้ังคูจะจมนํ้าตาย เหยี่ยวตัวหนึ่งก็โฉบลงมาจิกเอาท้ังกบและหนูไปกิน
นิทานเร่ืองนี้สอนใหรูวา การคิดเอาประโยชนจากผูอ่ืนท่ีไมสามารถใหไดยอมมีแตจะเสียหายท้ังหมด
( ท่ีมา : สน่ัน เกตุชาติ. แผนการสอนกิจกรรมลูกเสือสามัญ ชั้นประถมศึกษาปท่ี 5, 2531)
201
แบบสังเกตและตรวจหมูลูกเสือ หมูลูกเสือ ...........................................
สาระการเรียนรูเรื่อง................................................................................................
ลําดับท่ี
รายการ
ระดับ 3
ระดับ 2
ระดับ 1
หมายเหตุ
1. การตรวจอุปกรณการเรียน 2. ความรวมมือในกิจกรรม เพลง / เกม 3. วิชาการ 4. การตรวจเคร่ืองแตงกาย
เกณฑการประเมิน 1. การสังเกตการตรวจอุปกรณ - อุปกรณครบทุกอยาง ระดับ 3 คะแนน ดีมาก - อุปกรณเกินคร่ึงหนึ่งของหมู ระดับ 2 คะแนน ดี พอใช - อุปกรณไมถึงคร่ึงของหมู ระดับ 1 คะแนน ปรับปรุง 2. ความรวมมือในกิจกรรม เพลง / เกม - ใหความรวมมือทุกคนและกระตือรือรน ระดับ 3 คะแนน ดีมาก - ใหความรวมมือแตบางคนไมคอยใหความสนใจ ระดับ 2 คะแนน ด ี พอใช - ใหความรวมมือคร่ึงหนึ่งและขาดความตั้งใจ ระดับ 1 คะแนน ปรับปรุง 3. วิชาการ - สรุปใจความเร่ืองท่ีเรียนครบถวน ระดับ 3 คะแนน ดีมาก - สรุปใจความแตขาดความสมบูรณเล็กนอย ระดับ 2 คะแนน ดี พอใช - สรุปใจความแตขาดความสมบูรณของเร่ือง ระดับ 1 คะแนน ปรับปรุง 4. การตรวจเคร่ืองแตงกาย - แตงกายเรียบรอยทุกคน ระดับ 3 คะแนน ดีมาก - แตงกายเรียบรอยคร่ึงหนึ่ง ระดับ 2 คะแนน ดี พอใช - แตงกายเรียบรอยไมถึงคร่ึงของหมู ระดับ 1 คะแนน ปรับปรุง
202
แบบประเมนิคุณลักษณะอันพึงประสงค
ชื่อ .............................................................หมู............................................. ลําดับท่ี
รายการ ดีมาก 5
ดี 4
ปานกลาง 3
พอใช 2
ปรับปรุง1
1. ความซ่ือสัตย 2. ความกลาหาญ 3. ความอดทน 4. ความมีระเบียบวินยั 5. ความเช่ือม่ันในตนเอง
เกณฑการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ระดับ ดีมาก 5 คะแนน ปฏิบัติตนสม่ําเสมอจนเปนนสัิย ระดับ ดี 4 คะแนน ปฏิบัติตนดี แตมีบางคร้ังตองมีผูแนะนาํ ระดับ ปานกลาง 3 คะแนน ปฏิบัติบางคร้ังดวยตนเองและในขณะท่ี ควบคุมและมีผูแนะนํา ระดับ พอใช 2 คะแนน ปฏิบัติดวยตนเองนอยคร้ัง ระดับ ปรับปรุง 1 คะแนน ไมปฏิบัติ
203
แบบประเมนิผลการปฏิบัติกิจกรรม เกณฑการประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม
กางเต็นทและเก็บเต็นท ไดถูกตองและรวดเร็ว 3 เต็นท ได 5 คะแนน ดีมาก กางเต็นทและเก็บเต็นท ไดถูกตองและรวดเร็ว 2 เต็นท ได 4 คะแนน ดี กางเต็นทและเก็บเต็นท ไดถูกตองและรวดเร็ว 1 เต็นท ได 3 คะแนน ปานกลาง กางเต็นทและเก็บเต็นท ไดถูกตองแตชา 1 เต็นท ได 2 คะแนน พอใช
กางเต็นทและเก็บเต็นท ไมถูกตอง 1 เต็นท ได 1 คะแนน ปรับปรุง ตองไดระดับปานกลางขึ้นไปจึงจะถือวาผาน
เต็นทชนิดตาง ๆ ผลการประเมิน
ท่ี
ชื่อ สกุล 5 4 3 2 1 ผาน ไมผาน
( ลงช่ือ ).......................................ผูประเมิน
( นางวรรดี พูลสวัสดิ์ )
204
แบบประเมนิผลการปฏิบัติกิจกรรม เกณฑการประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม
นําวัสดุมาดดัแปลงประยุกตไดม่ันคงเหมาะสมกับงาน ได 5 คะแนน ดีมาก นําวัสดุมาดดัแปลงประยุกตไดม่ันคงไมเหมาะสมกับงาน ได 4 คะแนน ดี นําวสัดุมาดัดแปลงประยุกตไดไมม่ันคงเหมาะสมกับงาน ได 3 คะแนน ปานกลาง ไมไดดดัแปลงวัสดุมาประยกุตใช ม่ันคง เหมาะสมกับงาน ได 2 คะแนน พอใช
ไมไดดดัแปลงวัสดุมาประยกุตใช ม่ันคงไม เหมาะสมกบังาน ได 1 คะแนน ปรับปรุง ตองไดระดับปานกลางขึ้นไปจึงจะถือวาผาน
การดัดแปลงวสัดุเพื่อ ทําเปนท่ีพักช่ัวคราว
ผลการประเมิน
ท่ี
ชื่อ สกุล 5 4 3 2 1 ผาน ไมผาน
( ลงช่ือ ).......................................ผูประเมิน
( นางวรรดี พูลสวัสดิ์ )
205
แบบประเมนิผลการปฏิบัติกิจกรรม เกณฑการประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม
การจัดการคาย ไดถูกตองและรวดเร็ว 5 ขอ ได 5 คะแนน ดีมาก การจัดการคาย ไดถูกตองและรวดเร็ว 5 ขอ ได 4 คะแนน ดี การจัดการคาย ไดถูกตองและรวดเร็ว 5 ขอ ได 3 คะแนน ปานกลาง การจัดการคาย ไดถูกตองและรวดเร็ว 5 ขอ ได 2 คะแนน พอใช
การจัดการคาย ไดถูกตองและรวดเร็ว 5 ขอ ได 1 คะแนน ปรับปรุง ตองไดระดับปานกลางขึ้นไปจึงจะถือวาผาน
การจัดการคาย ผลการประเมิน
ท่ี
ชื่อ สกุล 5 4 3 2 1 ผาน ไมผาน
( ลงช่ือ ).......................................ผูประเมิน
( นางวรรดี พูลสวัสดิ์ )