Upload
others
View
6
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
PccCr
1. วัฒนธรรมทางด้านการศึกษา
การศึกษาทางพุทธศาสนาให้แก่คนฝักใฝ่ธรรม เป็นการศึกษาให้แก่ผู้ที่มีปัญญาและต้องการพัฒนาปัญญาและจิตใจ โดยมีพระสงฆ์ท าหน้าที่ “ ครูบาอาจารย์ “
การศึกษาในวิชาชีพ เป็นการเรียนตามกฎธรรมชาติ เรียนจากพ่อแม่ เรียนจากชุมชนที่ตัวอยู่ใกล้
2. วัฒนธรรมทางด้านตัวอักษรไทย
จากการศึกษาของ นันทนา ด่านวัฒน์ ทางด้านอักษรวิทยาพบว่าอักษรต้นตระกูลของอักษรพ่อขุนรามค าแหง คืออักษรหราหมี อักษรคฤนห ์อักษรขอมหวัด
ต่อมาในสมัยพระมหาธรรมราชาลิไทยไดป้รากฏรูปอักษรไทยแบบใหม่ขึ้นอักษรพบใหม่นี้เรียกว่าอักษรพระเจ้าลิไทย
3. วัฒนธรรมทางด้านวรรณกรรม
วรรณกรรมสมัยสุโขทัยจะมีลักษณะเกี่ยวกับศาสนาหรือปรัชญา
1.ศิลาจารึก รวมคุณค่าทางภาษา ความรู้ด้านกฎหมาย การปกครอง วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และศิลปกรรม
2.ไตรภูมิพระร่วง วรรณกรรมปรัชญาชิ้นแรกของไทย พระมหาธรรมราชาลิไทยทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นสอนจริยธรรมคือ สอนให้คนรู้จักความดีความชั่ว
3.สุภาษิตพระร่วง มีจุดประสงค์ที่สั่งสอนคน
4.ต ารับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ จุดประสงค์การแต่งเพื่อตักเตือนข้าราชการให้มีกริยามารยาทที่เหมาะสมกับศักดิ์ศรีของตนเองและเพื่อเชิดชูเกียรติยศของพระมหากษัตริย์
4.วัฒนธรรมการแต่งกาย การแต่งกายของผู้หญิง : ไว้ผมยาว เกล้ามวย มีเกี้ยวหรือพวงมาลัยสวมรอบมวย มวยนั้นมีทั้งเกล้าอยู่กลางกระหม่อมและที่ท้ายทอย มีปิ่นปัก สวมเสื้อแขนยาวตัวคับ นุ่งผ้าถุง ห่มผ้าสไบเฉียง ผัดหน้า วาดคิ้ว สวมแหวน เจ้านายฝ่ายในมีกรองคอ พาหุรัด และทองพระกรทรงมงกุฎยอดแหลมหรือกรอบพักตร์
การแต่งกายของผู้ชาย :ไว้ผมยาว มุ่นมวยไว้ที่กลางกระหม่อมก็มี ไว้ที่ท้ายทอยก็มี สวมเสื้อผ้าผ่าอกแขนยาว และสวมกางเกงขายาวแบบชุดคนเมือง ทหารสวมเสื้อแขนสั้น ถ้าพระยาห้อยผ้าไว้ที่บ่า มีผ้าคาดพุงหรือเข็มขัด ชายบางคนนุ่งกางเกงขาสั้น เจ้านายนุ่งผ้าโจงกระเบนคาดเข็มขัด และมีผ้าประดับทับโจงกระเบนห้อยลงมา 2 ข้าง ผ้าน้ีจีบตามแนวเส้นนอน เวลาออกศึกนุ่งกางเกงขายาว มีผ้าโจงกระเบนทับอย่างเครื่องแต่งการละคร หมวกที่ผู้ชายใส่มีมงกุฎยอดแหลม หมวกทรงประพาสและหมวกรูปคล้ายฝาชี เอารูปใส่แทน
• การแต่งกายของผู้หญิง สมัยสุโขทัย
5.วัฒนธรรมทางด้านดนตรีและการฟ้อนร า ในหลักศิลาจาริกที่ 1 และ8 แสดงให้เห็นถึงการน าเคร่ืองดนตรีและ
การฟ้อนร า การเล่นสนุกสนานของชาวสุโขทัย โดยแยกพิจารณา 2 ประการคือ
1.เครื่องดนตรี ประกอบด้วยเครื่องดนตรีต่าง ๆ ดังนี้ คือ สังข์ แตร บัณเฑาะว์ มโหระทึก ปี่ฉไนแก้ว ปี่สรไน กลองชนะ ฆ้อง กลอง ตะโพน ฉิ่ง กลับ ระฆัง กังสดาล ซอ2.การร้องและการขับ แต่ท านองร้องและท านองขับไม่ชัดเจน มีเพลงที่น่าจะเป็นเพลงสมัยสุโขทัย คือ เพลงเทพทองหรือเพลงสุโขทัย ใช้ร้องว่าแก้กันระหว่างผู้หญิงผู้ชาย พระทองกับ เพลงนางนาค
6. วัฒนธรรมทางด้านประติมากรรมและจิตรกรรม
ประติมากรรมในสมัยสุโขทัยส่วนใหญ่ เปน็การสร้างพระพุทธรูป ซึ่งนิยมสร้างพระพุทธรูปปั้นและหล่อด้วยสัมฤทธิ์ การสร้างพระพุทธรูปเป็นแบบลอยตัวและภาพนนูสูงติดฝาผนัง นอกจากนั้นพระพุทธรูปแล้วยังมีการหล่อเทวรูปสัมฤทธิ์ เช่นเทวรูปพระนารายณ์ เทวรูปพระอิศวร เทวรูปพระหริหระ เป็นต้น
จิตรกรรมที่พบในสมัยสุโขทัยทั้งภาพลายเส้นและลายเขียนฝุ่น ภาพลายเส้นในสมัยสุโขทัย โดยเฉพาะภาพจ าหลักลายเส้นลงเส้นในแผ่นหินชนวนวัดศรีชุม เมืองสุโขทัยเป็นภาพชาดกเป็นภาพที่อิทธิพลของศิลปะศรีลังกา
7.วัฒนธรรมด้านสถาปัตยกรรม
สถาปัตยกรรมสุโขทัยได้รับอิทธิพลโดยรอบ และได้น ามาดัดแปลงตามความพอใจจนเกิดเป็นแบบของตัวเอง แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบดังนี้
7.1 สถาปตัยกรรมรปูทรงอาคาร
7.1.1 สถาปัตยกรรมรูปทรงอาคาร ได้แก ่อาคารโอ่โถงหรืออาคารที่มีผนัง มีหลังคาซ้อนเป็นชั้น ๆ ผังอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทางด้านหน้าต่อเป็นมุขที่ยืน มีบันไดขึ้นสองข้างทางมุข ตัวอย่าง เช่น วิหารที่วัดสวนแก้วอุทยานน้อย เมืองศรีสัชนาลัย เป็นต้น
7.1.2 อาคารที่ก่อด้วยแลงหรือรูปทรงอาคาร หลังคาใช้เรียงด้วยแลงซ้อนเหลี่ยมกันขึ้นไปจนถึงชั้นสูงสุดตัวอย่างเช่น วิหารวัดกุฏิราย เมืองศรีสัชนาลัย เป็นต้น
7.1.3 อาคารที่เป็นอาคารสี่เหลี่ยม มีหลังคาที่เป็นชั้นแหลมลดหลั่นกันไปถึงยอด หลงัคาเป็นชั้นประมาณ 3 ชั้น ที่เรียกว่า มณฑป แบ่งเป็นมณฑปที่มีผนังและมณฑปโถง ตัวอย่างเช่น มณฑปวดัศรีชุม เมืองสุโขทัย (มณฑปที่มีผนัง) และหอเทวลัยมหาเกษตรพิมาน เมืองสุโขทัย ( มณฑปโถง )
หอเทวลัยมหาเกษตรพิมาน เมืองสุโขทัย ( มณฑปโถง )
7.2 สถาปตัยกรรมรปูแบบสถูปหรือเจดีย์
เจดีย์ทรงกลมแบบลังกา เปน็แบบที่สร้างสมัยแรก เช่นที่วัดตะกวน วัดช้างล้อม วัดสระศรี เมืองสุโขทัย
เจดีย์ทรงกลมแบบลังกา เปน็แบบที่สร้างสมัยแรก เช่นที่วัดตะกวน วัดช้างล้อม วัดสระศรี เมืองสุโขทัย
วัดช้างล้อม เมืองสุโขทัย
วัดช้างล้อม เมืองสุโขทัย
7.2.2 เจดีย์ทรงดอกบัวตูม
เจดีย์ทรงดอกบัวตูม สามารถแยกได้เป็น 4 แบบย่อย ๆ คือ7.2.2.1 เจดียด์อกบัวตูมแบบวดัมหาธาตุ เมืองสุโขทัย เป็น
แบบเจดีย์ทรงดอกบัวแบบสุโขทัยแท้ ๆ ตั้งอยู่บนฐานเขียง ฐานบัวลูกแกว้ เหนือฐานบัวลูกแกว้เป็นแท่นแวน่ฟ้าย่อเหลี่ยม แท่นแว่นฟ้ารับเรือนธาตุ ต่อจากเรือนธาตุเป็นยอที่เป็นดอกบัวตูม
7.2.2.2 เจดีย์ทรงดอกบัวตูมแบบวัดซ่อนข้าว เมืองสุโขทัย เป็นแบบฐานแว่นฟ้าบัวลูกแก้วสองชั้นตั้งรับเรือนธาตุ7.2.2.3 เจดียท์รงดอกบัวตูมวัดอ้อม
รอบ นอกเมืองสุโขทัยด้านทิศเหนือปรกอบด้วยฐานเขียงบัว ฐานเขียง ฐานย่อเหลี่ยมรับเรือนธาตุ ตอนชั้นเรือนธาตุรับยอดบัวมีซุ้ม
วัดซ่อนข้าว เมืองสุโขทัย
พระเจดีย์ทรงดอกบัวตูม หรือ ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์
7.2.2.4 เจดียท์รงดอกบัวตมูแบบวัดสะพานหิน เมืองสุโขทัย และเจดยี์วัดยอดทองเมืองพิษณุโลก ประกอบด้วยฐานเขียงห้าชั้นตั้งรับฐานลูกบัวแก้ว ไม่ย่อมุมรับเรือนธาตุ ที่เรือนธาตุแต่ละด้านมีซุ้มจระน า ประดิษฐานพระพุทธรูปส่ีด้าน
วัดสะพานหิน
PccCr
ศิลปกรรมสมัยสุโขทัย จิตรกรรม
ภาพสลักลายเส้นบนหินชนวนในอุโมงค์วัดศรีชุมเรื่องราวของภาพเป็นเรื่องชาดกต่าง ๆ สันนิษฐานว่าได้รับอิทธิพลจากศิลปะลังกา สมัยโปลนารุวะ (พระพุทธศตวรรษที่ 17-18)
จิตรกรรมฝาผนังในพระเจดีย์ วดัเจ็ดแถว อ าเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ลักษณะภาพเขียนสีเอกรงค์ เขียนเปน็พระพุทธรูปปางมารวิชัย ปางสมาธิ มีเทวดาประกอบ (ลักษณะเทวดาเป็นแบบอิทธิพลของศิลปะลังกา)
ภาพสลักลายเส้นบนพระพุทธบาทโลหะ (ส าริด) ประมาณปลายพุทธศตวรรษที่ 19 (จากวัดเสด็จ อ าเภอเมือง จังหวัดก าแพงเพชร) ลักษณะภาพสลักลายเส้นบนพระพุทธบาทโลหะ มีรูปอดีตพระพุทธเจ้าก าลังลีลาอยูบ่นของรอยพระพุทธบาท ที่เบื้องล่างด้ายซา้ยของรอยพระพุทธบาท มีภาพโลกบาลยืนถือพระขรรค์
ก. หมวดใหญ่ซึ่งมีอยู่ทั่วไปเป็นศิลปะสุโขทัยโดยเฉพาะ คือพระพักตร์รูปไข่ พระขนงโก่ง เป็นต้น
ข. หมวดก าแพงเพชร พบแต่ในท้องที่เมืองก าแพงเพชร คือพระพุทธรูปมีพระนลาฎกว้าง พระหนุเสี้ยม
2. ประติมากรรม
ค. พระพุทธชินราช ลักษณะพระพักตร์ค่อนข้างกลม พระวรกายค่อนข้างอ้วน นิ้วพระหัตถ์ทั้งส่ีมีปลายเสมอกัน เช่น พระพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก
ง. หมวดวัดตะกวน หรือหมวดเบ็ดเตล็ด เป็นหมวดที่มลีักษณะแบบเชียงแสนเข้ามาผสมอยู่มาก เช่นวัดพระพราย เป็นต้น
3 .สถาปัตยกรรม
พระปรางค์ได้รับอิทธิพลจากลพบุรี แต่มีลักษณะพิเศษเป็นของตัวเอง โดยแก้รูปทรงให้ชลูดพระปรางค์ท่ีส าคัญ เช่น พระปรางค์วัดศรีสวาย พระปรางค์วัดพระพรายหลวง พระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เป็นต้น
ข. พระเจดีย์
1. พระเจดีย์ทรงพุม่ข้าวบิณฑ์หรือเจดีย์ดอกบัวตูม ลักษณะมียอดต้ังอยู่บนเรือนธาตุสี่เหลี่ยมย่อมุมไมย้ี่สิบ สูงสง่างาม เช่นเจดีย์วัดมหาธาตุ เป็นตน้
พระเจดีย์สมัยสุโขทัย มีแบบใหญ่ 3 แบบ คือ
2. เจดีย์ทรงลังกา เชื่อว่าได้รับอิทธิพลมาจากลังกา เช่นเจดีย์ช้างล้อม ที่ศรีสัชนาลัย เจดีย์ยอดเข้าสุวรรณคิรี เป็นต้น ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงกลมหรือระฆัง
3. เจดีย์แบบศรีวิชัย เป็นเจดีย์ที่ได้รับอิทธิพลจากศรีวิชัย ลักษณะเป็นเจดีย์หลายยอดประกอบด้วยฐานสูงสี่เหลี่ยม มีเรือนธาตุเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ด้านข้างท าเปน็ซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปท้ัง 4 ทิศ
4. เครื่องสังคโลก
เครื่องสังคโลก เครื่องเคลือบดินเผา ในสมัยสุโขทัยท าเป็นถว้ย ชาม ไห และภาชนะต่าง ๆ มรีูปทรงหลาย ๆ แบบ เคลือบด้วยน้ ายาเคลือบสีขาว สีน้ าตาล สีเขียวไข่กา และท าเป็นเครื่องประเภทประติมากรรมรูปแบบต่าง ๆ ใช้ประดับตกแต่ง เช่น ท าเปน็สิงค์ นาค เป็นต้น
จัดท าโดย
• นายณัฐพงษ์ แก้วสาย เลขที่9
• นายวัชรพล สุนทร เลขที่ 15
• นางสาวนิชา วงศ์วัน เลขที่ 19
• นางสาวหทยัรตัน์ ชุ่มเชื้อ เลขที่ 22
• นางสาวอังสุดา ดวงใจ เลขที่ 23» ชั้น ม.6/1
แหล่งอ้างอิง
• http://writer.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=443806&chapter=18
• http://www.thaigoodview.com/node/47005
• http://panyo034.multiply.com/journal/item/4/4
• http://www.kr.ac.th/ebook/sunthon/b3.htm