28
กีฬาและกรีฑานักเรียน โรงเรียนในเครือมูลนิธิฯ มงฟอร์ตฯ สาร 4 17 24 คนเก่ง MCP ค่ายลูกเสือกองร้อยลูกเสือพิเศษ www.mcp.ac.th โทร. 0-5325-2565 แฟกซ์ 0-5327-4640 จุลสารโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม ฉบับทีพฤศจิกายน - ธันวาคม ประจ�าปีการศึกษา 2557

มงฟอร์ตฯ สาร - mcpswis.mcp.ac.th file“Winners never quit and Quitters never win” Vice Lombardi (Vincent Thomas) เป็นผู้เล่นคนหนึ่งซึ่งโค้ชและบริหารทีมอเมริกันฟุตบอล

  • Upload
    others

  • View
    5

  • Download
    0

Embed Size (px)

Citation preview

กีฬาและกรีฑานักเรียน โรงเรียนในเครือมูลนิธิฯ

มงฟอร์ตฯ สาร

4 17 24

คนเก่ง MCP ค่ายลูกเสือกองร้อยลูกเสือพิเศษ

www.mcp.ac.th โทร. 0-5325-2565 แฟกซ์ 0-5327-4640จุลสารโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม

ฉบับที่พฤศจิกายน - ธันวาคม

ประจ�าปีการศึกษา 2557

คนเก่ง MCP 4

แนะน�ำภรำดำ ผู้ช่วยผู้อ�ำนวยกำร 6

มองโลกในมุมใหม่ 7

จิตตำรมณ์นักบุญหลุยส์ฯ 8

ท�ำดี ไม่ต้องรอ 8

MCP Events 18

MCP’s Toon 26

แนะน�ำครูใหม่ 27

ทักทายจากทีมงาน

วัตถุประสงค์

1. เพื่อเผยแพร่ข่าวสารและกิจกรรมที่ส�าคัญภายในโรงเรียนให้นักเรียนและผู้ปกครองได้รับทราบ

2. เพื่อเป็นสื่อกลางระหว่างโรงเรียนและผู้ปกครองในการสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกัน

3. เพื่อเปิดโอกาสให้ครู นักเรียน และผู้ปกครองได้แสดงผลงานของตนเองอันเป็นการสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น

ส า ร บั ญ C o n t e n t s

ที่ปรึกษา

ภราดาศุภนันท์ ขันธปรีชา

ครูศรีกุล ยอดชุมภู

มาสเตอร์มณี ครไชยศรี

มาสเตอร์วัฒนา แสงสินธุ์

ครูวิรัชดา เลิศรมยานันท์

มาสเตอร์ธันวา สุวรรณชื่น

มาสเตอร์ชินโชติ สุภารัตน์

บรรณาธิการ

ภราดาศุภนันท์ ขันธปรีชา

คณะผู้จัดท�า

มาสเตอร์อนุรักษ์ ศรีไม้

มาสเตอร์จุมพฏ สืบจ้อน

T.Chuchi G. Agustilo

ครูสมหญิง ฟูปัญญา

มาสเตอร์ภาคภูมิ สิงห์สา

ครูอรกนก เลิศธนาผล

ครูฉวีวรรณ ศรีอุทัย

ครูวิไลวรรณ เครือเทพ

ขอขอบคุณ

มาสเตอร์เสน่ห์ ค�าวินิจ

ประธานชมรมครูอาวุโส

ชมรมครูอาวุโส

กรรมการบริหารงานระดับชั้น

กลุ่มสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระ

งานอภิบาล

สวสัดี ผู้อ่านทุกท่านค่ะ มงฟอร์ตสารเล่ม 4 มาพร้อมกบัลมหนาวที่เริม่พดัเอือ่ย เพราะก�าลงัเข้าสู่ช่วงหน้าหนาวเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเป็นเดือนที่มีกิจกรรมส�าคัญที่น่าสนใจอาทิการแข่งขนักฬีาและกรฑีานกัเรยีนโรงเรยีนในเครือมูลนิธิเซนต์คาเบรยีลแห่งประเทศไทยและMontfort’sGotTalentSeason3ซึง่ทั้ง2กิจกรรมแสดงให้เห็นถึงศกัยภาพของนกัเรยีนโรงเรยีนมงฟอร์ตวิทยาลยั แผนกประถม ไว้เป็นอย่างดีทั้งการแข่งขนักรฑีา-กฬีา ที่นกัเรยีนของเราได้รบัรางวลัมาหลากหลายรายการการแข่งขนัMontfort’sGotTalentSeason3ที่ดึงความสามารถของผู ้เข้าแข่งขันแต่ละคนออกมาอย่างโดดเด่นทีมงานผู ้จัดท�าได้รวบรวมภาพแห่งความส�าเร็จและประทบัใจสาระน่ารู้จากกลุ่มสาระต่างๆไว้เหมือนเช่นเคยค่ะและสุดท้ายนี้อย่าลืมรกัษาสุขภาพกนัด้วยนะคะสวสัดคี่ะ

กีฬาและกรีฑานักเรียน โรงเรียนในเครือมูลนิธิฯ

มงฟอร์ตฯ สาร

4 17 24

คนเก่ง MCP ค่ายลูกเสือกองร้อยลูกเสือพิเศษ

www.mcp.ac.th โทร. 0-5325-2565 แฟกซ์ 0-5327-4640จุลสารโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม

ฉบับที่พฤศจิกายน - ธันวาคม

ประจ�าปีการศึกษา 2557

4

1724

H I G H L I G H T

คนเก่ง MCP

โรงเรียนในเครือมูลนิธิฯ

ค่ายลูกเสือกองร้อยลูกเสือพิเศษ

กีฬาและกรีฑานักเรียน

“Winners never quit and Quitters never win” Vice Lombardi (Vincent Thomas) เป็นผู้เล่นคนหนึ่งซึ่งโค้ชและบริหารทีมอเมริกันฟุตบอล

คว้าแชมป์ลคี ระดบัประเทศ 5 รายการภายใน 7 ปี ซึง่คล้ายคลงึกบัผูน้�าในประวตัศิาสตร์หลายๆ คนทีม่โีอกาสประสบความส�าเรจ็ และเมือ่หนัมามอง

คติพจน์ Labor Omnia Vincit ของโรงเรียนที่เหล่าภราดาได้รับการสืบทอดมาจากผู้ก่อตั้งที่ยึดมั่นในกางเขน “No Cross, what a cross?”

เมื่อมองอย่างผิวเผินก็แทบจะไม่เห็นความแตกต่างในการจุดพลังแห่งความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรคจนบรรลุความส�าเร็จ

แต่หากเรามองให้ลึกซึ้งก็จะพบว่าผลลัพย์ของแชมป์เปี้ยนและการรักษาแชมป์ กับผลลัพย์ของการสร้างความเจริญก้าวหน้าที่ยืนยาวให้สังคม

มีความแตกต่างกันอย่างมากที่คุณค่า ซึ่งต้องมาจากจิตวิญญาณส่วนลึกที่ไม่จ�ากัดเฉพาะทีมของตนเองและไม่สิ้นสุดแค่รายการแข่งขัน แต่เป็น

สิ่งที่ต้องท�าอย่างต่อเนื่องและไม่เห็นผลลัพย์ที่เป็นถ้วยรางวัลในทันที ดังนั้นรางวัลที่นักเรียนได้รับมากมายไม่ว่าทางวิชาการ ดนตรี กีฬา ฯลฯ

ล้วนแล้วแต่เป็นการฝึกฝนตนเองให้มีนิสัยของการมีจิตสมาธิมุ่งมั่นจนส�าเร็จและมีโอกาสชิมผลของความมุ่งมั่น โรงเรียนเป็นเพียงผู้สร้าง

สนามและเวทีและบริหารจัดการให้นักเรียนมีโอกาสฝึกปรืออย่างหลากหลายจนครบทุกมิติเสมือนการใช้ชีวิตจริงในสังคม จนถึงความอิ่มและพร้อม

ที่จะเสียสละเพื่อยกระดับของส่วนรวม

ภาคเรียนที่สองนี้เป็นอีกสนามทดสอบหนึ่งที่ให้โอกาสนักเรียนได้ฝึกความมุ่งมั่น อันเป็นที่รู ้กันดีว่ามีหลายๆ กิจกรรมของโรงเรียน

หนฤีดฝูนมาค่อนแน่นกนัอยู ่ ผนวกกบัวนัส�าคญัของชาตแิละเทศกาลของโลก ในขณะทีน่กัเรยีนยงัเหลอืการสอบทีส่�าคญัก่อนปิดภาคเรยีน จงึขอให้

ก�าลังใจนักเรียนและผู้ปกครองในการร่วมมือกับทางโรงเรียน มุ่งมั่นไปด้วยกันอย่างไม่ท้อถอย เพื่อให้นักเรียนได้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาตนเอง

ตามหลักสูตรที่สร้างขึ้นเพื่อศักยภาพแห่งอนาคตของผู้เรียนเองบนเวทีสากล

ขอพระเป็นเจ้าอวยพรและประทานพละก�าลังแก่ทุกท่าน

ดังนั้นรางวัลที่นักเรียนได้รับมากมาย ไม่ว่าทางวิชาการ ดนตรี กีฬา ฯลฯ ล้วนแล้ว

แต่เป็นการฝึกฝนตนเองให้มีนิสัยของการมีจิตสมาธิมุ่งมั่นจนส�าเร็จและมีโอกาสชิมผลของความมุ่งมั่น

สารจากผู้อ�านวยการโรงเรียนSchool Director’s Message

ภราดาศุภนันท์ ขันธปรีชา

ผู้อ�านวยการโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม

คนเก่ง : MCP

รายการวิง่ 8x50 เมตร รางวลัเหรยีญเงนิ

ด.ช.สุทธิพงศ์ ฟุ้งกลิ่นผกาทิพย์ ป.4/1

ด.ช.จิรายุ จุลละจารี ป.4/1

ด.ช.กันตพัฒน์ โปธายะ ป.4/5

ด.ช.จิรัฎฐ์ อัษชริอินทรย์ ป.4/5

ด.ช.เสฎฐวุฒิ ไชยมงคล ป.4/7

ด.ช.รณกร วงศ์ใจ ป.4/7

ด.ช.นัทชานนท์ อาวารักษ์ ป.4/7

ด.ช.ศักดิธัช เรืองสังข์ ป.4/8

ด.ช.ยศวริศ สายไฮค�า ป.4/8

ด.ช.ธวัชชัย ศิริปราชญ์ ป.5/7

รายการวิ่ง 4x100 เมต รางวัลเหรียญทอง

ด.ช.สุทธิพงศ์ ฟุ้งกลิ่นผกาทิพย์ ป.4/1

ด.ช.จิรัฎฐ์ อัษชริอินทรย์ ป.4/5

ด.ช.เสฎฐวุฒิ ไชยมงคล ป.4/7

ด.ช.นัทชานนท์ อาวารักษ์ ป.4/7

ด.ช.พีรพงศ์ วงศค�า ป.5/1

ด.ช.เปรม สิงห์โทราช ป.5/4

รายการวิง่ 60 เมตร รางวลัเหรยีญทองแดง ด.ช.เปรม สงิห์โทราช ป.5/4รายการวิง่ 80 เมตร รางวลัเหรยีญทอแดง ด.ช.ยศวรศิ สายไฮค�า ป.4/8รายการวิง่ 100 เมตร รางวลัเหรยีญเงนิ ด.ช.พรีพงศ์ วงศค�า ป.5/1

การแข่งขันฟุตบอล ช่วงชั้นที่ 2 ป.4-ป.6 ได้รับรางวัลเหรียญทองพร้อมถ้วยรางวัลชนะเลิศ ด.ช.เปรม สงิห์โทราช ป. 5/4 ด.ช.กรวชิญ์ โอศริพินัธุ ์ป. 5/7 ด.ช.บรุพล อ่อนไทย ป. 6/2 ด.ช.กมล เขตสกลุครีี

ป. 6/2 ด.ช.เยราม ีจะเหย่อ ป. 6/2 ด.ช.วรนิทร วชัรไพรงาม ป. 6/4 ด.ช.ศภุเชฏฐ์ องัศโุภไคย ป. 6/4 ด.ช.ชาญวชิญ์ ตาค�ามา

ป. 6/5 ด.ช.ชวศิ จนัภกัษานนท์ ป. 6/5 ด.ช.ธนกฤต จวินารมณ์ ป. 6/5 ด.ช.ชวภณ วงค์ใจ ป. 6/5 ด.ช.ภพูงิค์ โรจนสกลุพสิทุธิ ์ ป. 6/6

ด.ช.รชต มาภวิงศ์ ป. 6/6 ด.ช.ณฏัฐปัณณ์ สฤษดกิลุ ป.6/6 ด.ช.น�าทพั เดชาวชัร ป. 6/7 ด.ช.ภวตั สทุธปิระภา

ป. 6/7 ด.ช.ศภุเวช รตันสริ ิป. 6/7

4 Montfort College Primary Section

การแข่งขันกีฬานักเรียนโรงเรียนในเครือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 14 ณ โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา จังหวัดชลบุรี

การแข่งขันกรีฑารุ่นอายุ 10 ปี ชาย ได้รับรางวัลถ้วยรางวัลชนะเลิศคะแนนรวม

รายการวิ่ง 60 เมตร รางวัลเหรียญทองแดง ด.ญ.กรวรรณ หอมคล้าย ป.4/4รายการวิ่ง 80 เมตร รางวัลเหรียญเงิน ด.ญ.ภัทรธิดา เผ่าพันธุ์ ป.4/2รายการวิ่ง 100 เมตร รางวัลเหรียญทองแดง ด.ญ.รุจิรดา ช่างฝั้น ป.5/1

รายการวิ่ง 8x50 เมตร รางวัลเหรียญเงิน ด.ญ.วรันธร มนุษย์พันธุ์ ป.4/4 ด.ญ.ลลิตา ค�าอ่อน ป.4/4 ด.ญ.จิณณ์จุฑา ราชนวม ป.4/5 ด.ญ.ชาลิสา พิทาค�า ป.4/5 ด.ญ.เขมณัฏฐ์ วดีศิริศักดิ์ ป.5/4 ด.ญ.ทอฝัน อินเหลา ป.5/5 ด.ญ.สุนิษา ประดิษฐกุล ป.5/5 ด.ญ.ศกลรัตน์ ศรีสุทธะ ป.5/6 ด.ญ.นิศาชล ทองเดช ป.5/7รายการวิ่ง 4x100 เมตร รางวัลเหรียญทองแดง ด.ญ.ภัทรธิดา เผ่าพันธุ์ ป.4/2 ด.ญ.กรวรรณ หอมคล้าย ป.4/4 ด.ญ.รุจิรดา ช่างฝั้น ป.5/1 ด.ญ.เขมณัฏฐ์ วดีศิริศักดิ์ ป.5/4 ด.ญ.สุนิษา ประดิษฐกุล ป.5/5 ด.ญ.ศกลรัตน์ ศรีสุทธะ ป.5/6

การแข่งขันกรีฑารุ่นอายุ 10 ปี หญิง ได้คะแนนรวมเป็นอันดับ 2

รายการวิ่ง 60 เมตร รางวัลเหรียญเงิน ด.ญ.ณัฎฐิยากานต์ ยาศรี ป.6/8

รายการวิ่ง 80 เมตร รางวัลเหรียญเงิน ด.ญ.เจติยา ศรีเลา ป.6/3

รายการวิ่ง 4x100 เมตร รางวัลเหรียญทอง

ด.ญ.นัฐพร ทองสุข ป.5/7

ด.ญ.ศุภัคชญา ธานี ป.6/2

ด.ญ.ศภสิริ ยะสิน ป.6/4

ด.ญ.เตชินี เตชเถกิง ป.6/5

ด.ญ.เจติยา ศรีเลา ป.6/3

ด.ญ.อภิชญา ริทู ป.6/3

กรฑีารุน่อาย ุ12 ปี หญงิ คะแนนรวมเป็นอนัดบั 3 รุน่ 12 ปี ชาย คะแนนรวมเป็นอนัดบั 2

รายการวิ่ง 8x50 เมตร รางวัลเหรียญทอง

ด.ช.จิตภัค วงษ์พานิชย์ ป.6/1

ด.ช.ชัชวิชญ์ ทิพย์ฟั่น ป.6/5

ด.ช.กษิดิ์ยศ หาญไพโรจน์ ป.6/4

ด.ช.สุรศักดิ์ เรืองกิจขยัน ป.6/6

ด.ช.วศิน บุญญะเดช ป.6/3

ด.ช.ณฐชนนท์ ณ ตะกั่วทุ่ง ป.6/3

ด.ช.ศุภเวช รัตนสิริ ป.6/7

ด.ช.ชาญวิชญ์ ตาค�ามา ป.6/5

ด.ช.กรวิชญ์ โอศิริพันธุ์ ป.5/7

ด.ช.ธนกฤต จิวนารมณ์ ป.6/5

รายการวิ่ง 4x100 เมตรรางวัลเหรียญทอง

ด.ช.จิตภัค วงษ์พานิชย์ ป.6/1 ด.ช. ภราดร ทัดประดิษฐ์ ป.6/7

ด.ช.ณฐชนนท์ ณ ตะกั่วทุ่ง ป.6/3 ด.ช. นนทพันธุ์ ชนะดี ป.6/7

ด.ช.ภชร อริยะ ป.6/1 ด.ช. ชัชวิชญ์ ทิพย์ฟั่น ป.6/5

สังคมแห่งความสุข-ความทุกข์ อันเป็นสังคมปกติ วิสัย ของคนเรา “ย่อมมีความจิง” อยู่ในชีวิตและการงานอย่างมากมาย (ขอยกตัวอย่าง)

ตัวอย่างที่ 1 ชีวิตต้องเรียนรู้ น้อย-ใหญ่ ผิด-ถูก ควบคู่กันไป (ยกเว้นคนไม่ท�าอะไรเลย)

ตัวอย่างที่ 2 ชีวิตต้องเชื่อมั่นศรัทธาใน ความดี + ความชั่ว ซึ่งต้องอาศัยเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ด้วยตัวเอง ตามการกระท�านั้นๆ “เหล่านี้ คือความจริง” ที่เรา

มองผ่านไปวันๆ ตลอดชีวิตของเรา

แนะน�าภราดา ผู้ช่วยผู้อ�านวยการ

ภราดาประจักษ์ นันศรีทอง

2000-2005 : จบการศกึษาระดบัมธัยมศกึษา โรงเรยีนเซนต์โยเซฟ ท่าแร่

2007-2010 : จบการการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะศริสตศาสตร์

วิทยาลัยแสงธรรม

สาขาคริสตศาสตร์ศึกษา คณะสาระสนเทศศาสตร์ทั่วไป

มหาวิทยาลัยสุโขทัย ธรรมาธิราช

2011 : สอนภาษาอังกฤษที่ ACT โรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี

2012-2014 : เป็นโนวิส บ้านนวก สันทราย

2014 : มงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม

“ความจริง” ที่เรามองผ่าน “Truth” after we pass by

“หมายเลข 1 + 2” คือ รอยสัมผัสพื้น ที่เราเหยียบ สมมุติว่า “เป็นความดี” ของชีวิต และการงานที่เราท�า และก�าลังท�างานในอนาคต

“หมายเลข 3” คือ พื้นที่เราก้าวผ่านไม่ได้เหยียบ ทั้งอดีต-ปัจจุบัน หรือ อนาคตก็เป็นเยี่ยงนี้เช่นกัน

“ก้าวทีเ่หยยีบ” แม้จะเรยีนรูม้ากมายเพยีงไร-มเีกยีรตยิิง่ และทีน่่าคดิคอื “บางคน” อาจจะเสยีโอกาสชวิติ ไม่ก้าวเดนิ ให้ชวีติผ่านพ้นไปวนัๆ

ไม่เป็นคุณแก่ตัวเอง ครอบครัว หรือในการงาน และเมื่อรวมกับหมายเลข 3 ก็ยิ่งเสียดายโอกาส ชีวิต ไม่ใช่เพียงแค่เกิดมาเท่านั้น

ฉะนั้นจึงมีค�าพูดที่น่าคิดพิจารณา “ชิวิตนี้มีสิ่งที่ไม่รู้ ไม่เห็น” ยังมีอีกมากมาย เป็นการเตือนสติให้เรา สงบเสงี่ยม เจียมตัว

สุภาพน่ารัก ในการพูด การท�างาน หรือร่วมงานกับใครๆ “แต่ไม่ใช่” ไม่กล้าออกหน้า ไม่กล้าน�าใดๆ มัวแต่อายๆ (แบบนี้ก็ไม่พัฒนา

อะไรๆ) เป็นการเตือนสติในการก้าวย่างชีวิตของเรา แต่ละคนในโลกใบนี้ ในบ้านเมืองในที่ท�างาน หรือแม้แต่ในครอบครัวของเรา

ซึ่งมีทั้งก้าวที่แตกต่าง ก้าวที่ท�าๆ เหมือนกัน และพื้นที่ยังไม่ได้สัมผัส (หมายเลข 3) เราต้องให้เกียรติแก่กัน และเข้าใจกันอย่างถูกต้อง

ต่อกัน แบบนี้จึงจะเป็นคนนิสัยดั น่ารัก น่าคบค้าสมาคม เมื่อจากไปก็มีคนคิดถึงเสมอๆ และภูมิใจตนเองที่เป็นผู้มีนิสัยดีเช่นนี้ด้วยคนหนึ่ง

1 2

3

ภาพประกอบ

โดย ชมรมครูอาวุโส MC

6 Montfort College Primary Section

มงฟอร์ตฯโดย ม.เสน่ห์ ค�าวินิจ

ประธานชมรมครอูาวโุส

โรงเรียนที่เรารัก

“แม้การใส่ใจกับปัญหาจะเป็นสิ่งที่ส�าคัญก็จริง แต่เราก็ต้องรู้จักรักตนเอง ให้เกียรติ

ตนเอง รู้จักดูแลตัวเอง หาเวลาพักผ่อน ออกก�าลังกาย รวมถึงไม่ลืมจัดการกับเรื่องของ

เวลา รู้ว่าอะไรควรท�าก่อนท�าหลังและไม่ผัดวันประกันพรุ่ง”

ปลายฝนต้นหนาวฤดูกาลก�าลังจะเปลี่ยน ภาคเหนือโดยเฉพาะจังหวัด

เชียงใหม่และจังหวัดอื่นๆ ส่วนราชการและภาคเอกชนต่างจัดเตรียมการปลูก

ต้นกล้าดอกไม้และต้นไม้ เพื่อรับเทศกาลที่จะมีขึ้นในฤดูหนาว บริเวณภาค

เหนือโดยเฉพาะในที่สูง เช่น ที่ราบในหุบเขา ศูนย์เพาะช�ากล้าไม้และดอกไม้ที่

ชอบอากาศเย็นจะมีการเตรียมแผนปลูกในฤดูกาลนี้ โครงการหลวงหลายแห่ง

ที่มีอยู่ในภาคเหนือ ถือเป็นภารกิจหลักที่รอคอย เพราะบนภูเขาระดับความ

สูงจากระดับน�้าทะเลตั้งแต่ 1,000 เมตร ขึ้นไปอุณหภูมิอากาศจะเย็นลงเรื่อยๆ

จนบางปี เช่น บริเวณในโครงการหลวงดอยอ่างขาง อ�าเภอฝางจังหวัด

เชียงใหม่อุณหภูมิลดต�่าถึงติดลบก็มี คนก็จะนิยมไปท่องเที่ยวไปโต้ลมหนาว

และชื่นชมดอกไม้นานาพันธุ์กันเป็นจ�านวนมาก ถือเป็นการท่องเที่ยวและ

พักผ่อน ผมก็มีโอกาสไปเที่ยวด้วยเหมือนกันเกือบทุกปี ส่วนใหญ่ก็จะไป

กับศิษย์เก่ามงฟอร์ตวิทยาลัยรุ่น MC 19 ซึ่งจะมีโปรแกรมให้คุณครูผู้สูงวัย

ไปโต้ลมหนาวที่โน่นที่นี่ อยู่เป็นประจ�า ท�าให้ชีวิตสดชื่นรื่นรมย์อยู่เสมอ

(Relaxation To Inspire & Celebrate)

ฝนนี่ดีนะ นอกจากจะช่วยเรื่องเพาะปลูกแล้ว ฝนยังช่วยให้ความรู้สึก

โรแมนติก การคิดบวกที่ท�าให้เราได้รู้เพียงแค่เปลี่ยนวิธีคิด โลกของเราก็

สวยงามขึน้ในทนัใด ในแต่ละวนัเราจะต้องยิม้ให้แก่ตวัเองและต่อคนอืน่ๆ ด้วย

ในแต่ละวันเราจะต้องหาเวลาออกก�าลังกายให้ได้ เลือกการออกก�าลังกาย

ที่เหมาะกับตัวเองหรือตามความชอบอย่างน้อยใช้เวลาสัก 30 นาทีขึ้นไป

อย่ามีข้ออ้างกับตัวเองว่าไม่มีเวลา ทุกคนมีเวลาเท่ากันไม่ว่าคนต�าแหน่ง

หน้าที่การงานสูงหรือต�่า ร�่ารวยหรือยากจน โสดหรือแต่งงานแล้ว ถ้ารู้จัก

ในการแบ่งเวลาให้ได้ก็จะสามารถมีเวลาที่ก�าหนดได้ทั้งนั้น การออกก�าลัง

กายส�าหรับบางคนก็ก�าหนดเวลาได้ เช่น ตอนเช้าหรือตอนเย็นตามสะดวก

แต่ส�าหรับผู้ปกครองนักเรียนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ ไปที่นั่นที่นี่เพราะอาชีพ

ต้องท�าเช่นนั้น โดยเฉพาะท่านที่เป็นนักธุรกิจที่ต้องเดินทางไปค้าขาย

ไปตรวจงาน หรือดูงาน แถมการประชุมที่เคร่งเครียด อาจไม่สามารถจะ

ก�าหนดการออกก�าลังกายให้ตรงเวลาเหมือนคนอื่นทั่วไป เพราะตารางงาน

ที่ค่อนข้างยุ่งมาก ซึ่งท�าให้อยู่ไม่ซ�้าที่กันเลยในแต่ละวันหรือสัปดาห์ จะต้อง

เลือกที่พักหรือโรงแรมที่มีสถานที่ออกก�าลังกาย หรือมีถนนหน้าที่พักพอ

จะเดินหรือวิ่งในตอนเช้าหรือเย็นได้ พวกเราที่เป็นนักเรียนก็เช่นเดียวกัน

ถ้าเป็นคนรักสุขภาพต้องมีเป้าหมายชัดเจนในการออกก�าลังกาย ในวันหนึ่งๆ

เราจะมีโอกาสพบกับเพื่อนๆ กับผู้คนมากมายถ้าไม่ปิดกั้นตนเองจนเกินไป

เราควรได้รู้จักกับผู้คนเพิ่มเติมทุกวันเพียงแค่ส่งยิ้มให้ก็ไม่ยากเพราะไม่ได้

ลงทุนอะไรมากมาย ในสถานที่ท�างานหรือในโรงเรียน เราแต่ละคนก็มี

บทบาทต่างกัน เราคงไม่สามารถท�าสิ่งใดส�าเร็จด้วยตนเอ็งเพียงล�าพัง

ต้องมีหลายคน หลายความสามารถ หลายหน้าที่ แต่ทั้งหมดก็เพื่อจุด

ประสงค์เดียวกันคือการร่วมเรียนรู้สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งแน่นอนใน

โลกแห่งความเป็นจริงเส้นทางสู่ความส�าเร็จอาจไม่ราบรื่น บ้างอาจมีรั้วหนาม

ให้เราได้ลิ้มรสความยากล�าบาก บ้างอาจต้องล้มลงเพราะความเหนื่อยล้า

ของเส้นทางอันยาวไกล อย่างไรก็ตามเราควรมีทัศนะคติต่อความล้มเหลวว่า

“ไม่มีสิ่งไหนที่เป็นไปไม่ได้” (Nothing is Impossible) เพราะถ้าเราเชื่อว่า

ทุกปัญหาทุกอุปสรรคแก้ได้ เราเรียนคณิตศาสตร์กันมาทุกคน พื้นฐานของ

คณิตศาสตร์ที่มีหลักว่าโจทย์ทุกโจทย์แก้ได้ (ถ้าโจทย์ตั้งถูกต้อง) ปัญหาหรือ

อุปสรรคก็เหมือนมีเขื่อนมากั้นขวางหน้า เราต้องสมมุติตนเองเป็นเหมือนน�้า

เราก็ต้องพยายามหาหนทางอื่นเพื่อข้ามไป ต้องเชื่อว่าสามารถท�าได้

ซึ่งน�้าก็ท�าได้จริงๆ ไหลไปตามท่อ ตามทางที่วิศวกรท�าไว้ หรือไหลล้นบน

หลังเขื่อนไปเลยก็ย่อมได้ สิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้ แค่เปลี่ยนวิธีคิด ลองมองมุม

ใหม่จากกการเปลี่ยนมุมคิดนอกจากจะท�าให้อุปสรรคไม่ใช่ปัญหาแล้ว ถ้าเรา

กล้าที่จะเดินหน้าปัญหาก็ไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป แต่มันอาจเป็นเพียงบทเรียน

บทพิสูจน์ หรืออะไรบางอย่างที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันชีวิตให้อยู่ได้อย่างแข็งแรง

เราจะไม่สร้างภัยแก่ตนเองและจะไม่สร้างภัยไปสู่คนอื่น

แม้การใส่ใจกับปัญหาจะเป็นสิ่งที่ส�าคัญก็จริง แต่เราก็ต้องรู้จักรักตนเอง

ให้เกียรติตนเอง รู้จักดูแลตัวเอง หาเวลาพักผ่อน ออกก�าลังกาย รวมถึงไม่ลืม

จัดการกับเรื่องของเวลา รู้ว่าอะไรควรท�าก่อนท�าหลังและไม่ผัดวันประกันพรุ่ง

นี่คงเป็นข้อเท็จจริงที่ว่าปัญหาทุกปัญหาเริ่มแก้ที่ตัวเรา โดยมีสติรู้ในสิ่งที่ท�า

ทุกขณะพร้อมที่จะมองปัญหาบนพื้นฐานของความเป็นจริง เชื่อว่าเมื่อเวลา

ผ่านไปปัญหาที่เคยคิดว่าใหญ่และหนักหนาอาจกลายเป็นเพียงเศษเสี้ยว

ของธุลีที่เราเคยก้าวผ่านมันมาเท่านั้นเอง คนอินเดียที่นับถือศาสนาพราหมณ์

จึงเชื่อในเจ้าแม่กาลี ซึ่งหมายถึง กาลเวลาจะผลักไสให้มันคลี่คลายไปเอง

เพราะนั่นเป็นธรรมชาติของชีวิตมันต้องเป็นไปเช่นนั้น

มองโลกในมุมใหม่New World

ร�่ารวย-rich (n.) โรงแรม -hotel (n.) เขื่อน-dam (n.) เกียรต-ิhornor (n.)

Montfort College Primary Section 7

จิตตารมณ์นักบุญหลุยส์ฯ

ท�ำดี ไม่ต้องรอDO YOUR BEST NOW

ความอดทน-patience (n.) ความเสียสละ-sacrifice (n.)

ครูจุฑามาศ สุนทรพฤกษ์

โดยงานอภิบาล ฝ่ายกิจการนักเรียน

ในทุกๆ วัน เราสามารถท�าความดีได้ การท�าความดีไม่ใช่เรื่องยาก มีอยู่ทั่วไปในสังคม การท�าดีท�าให้จิตใจสงบ จิตใจแจ่มใส เมื่อจิตใจสงบทุกอย่างก็จะ

ดีเอง และความดีนั้นบางคนอาจไม่รู้ บางคนอาจไม่เห็น แต่เราก็สามารถรับรู้ได้ด้วยใจ แค่นั้นก็ท�าให้เราอิ่มใจแล้ว ความดีแม้เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็มีความ

สุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับ ดังนั้น การท�าความดีไม่ใช่เรื่องยากเกินไปส�าหรับทุกคน เมื่อทุกคนท�าแต่ความดี ทุกคนก็จะสงบ สังคมก็จะสงบสุข ทุกคนก็อยู่ร่วมกัน

ได้อย่างมีความสุข

จะขอยกตัวอย่างความดีที่นักเรียนสามารถท�าได้ และคิดว่าหลายๆ คนคงจะท�าอยู่แล้วนะคะ คือ

1. ท�าหน้าที่ทุกหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ไม่ว่าเราจะเป็นใคร ท�าอะไร อยู่ที่ไหน หน้าที่ของเราจะเปลี่ยนแปลงไปตามสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา ไม่มีใครมีหน้าที่

เดียวทุกเวลา ทุกสถานที่ เมื่อนักเรียนอยู่ที่บ้าน เราก็ท�าความดีโดยการท�าหน้าที่เป็นลูกที่ดี เชื่อฟังค�าสั่งสอนของคุณพ่อ คุณแม่ ช่วยท�างานตามความ

สามารถของตัวเอง เมื่ออยู่ที่โรงเรียนก็ท�าหน้าที่เป็นศิษย์ที่ดี ตั้งใจเรียนหนังสือ มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย เมื่ออยู่กับเพื่อนๆ ก็ท�าหน้าที่เป็น

เพื่อนที่ดี ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แบ่งปัน และให้ค�าปรึกษาเวลาที่เพื่อนมีปัญหา แค่นี้ก็ถือว่าเราได้ท�าความดีแล้ว

2. การใช้ค�าพูดที่สุภาพ ไม่พูดค�าหยาบ ซึ่งจะเห็นว่ามีนักเรียนหลายคนที่มักจะเผลอพูดค�าหยาบ หรือค�าพูดที่ไม่สุภาพเรียกเพื่อน หรือแทนตัวเองเวลา

คุยกัน เช่น กู มึง เป็นต้น เมื่อสอบถามแล้วก็จะอ้างว่าจ�ามาจากในโทรทัศน์บ้าง ได้ยินคนอื่นพูดมาบ้าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราสามารถแยะแยะได้ว่าเราควรจะท�า

หรือไม่ เพียงแค่เรามีสติ คิดก่อนที่จะพูดออกไป เวลาโกรธเพื่อน ทะเลาะกับเพื่อน ก็อย่าใช้อารมณ์ ต้องพยายามไม่โกรธ ไม่โมโหดีที่สุด เพราะเมื่อไรที่

มีความโกรธ มันจะบดบังปัญญาและค�าพูดที่ไม่ดี ก็จะหลั่งไหลออกมา เหมือนของเน่าเหม็น ให้นึกไว้เสมอว่า ถ้าเมื่อไรมีอารมณ์โกรธค�าพูดของเราจะเน่า

เหม็นส่งกลิ่นออกมาทันที เราจะได้มีสติยับยั้งอารมณ์โกรธลงได้ในระดับที่น่าพอใจ ท�าให้เราเป็นคนดีมากว่าเดิมได้

ตอน.. ท�าดีได้ ไม่ใช่เรื่องยาก

นักบุญหลุยส์ มารีย์ กรีญอง เดอ มงฟอร์ต

“วีรบุรุษผู้ทรงความดี” 153 ปีที่ผ่านไปหลังจากความตายของนักบุญหลุยส์ มารีย์ กรีญอง เดอ มงฟอร์ต (ท่านเสียชีวิต ในวันที่ 28 เมษายน

ค.ศ. 1716 รวมอายุได้ 43 ปี ) ในปี ค.ศ. 1869 พระสันตะปาปา ปิอุส ที่ 9 จึงได้ประกาศให้ท่านเป็น “วีรบุรุษผู้ทรงความดี”

ท่านได้ท�าความดีอะไรบ้าง ประมุขสุงสุดของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก จึงได้ประกาศให้ท่านเป็น “วีรบุรุษผู้ทรงความดี”

นั่นเพราะ เรื่องราวชีวิตของนักบุญหลุยส์ มารีย์ ได้รับการหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงอย่างต่อเนื่อง ในฐานะที่ท่านเป็นตัวอย่างชีวิต

ของผู้ที่มีความรัก ความศรัทธาในพระเจ้า ท�าความดีเพื่อผู้อื่น อุทิศตนอย่างเสียสละ ด้วยความเมตตา สุภาพอ่อนโยนและถ่อม

ตน มีความปรารถนาดีต่อคนเจ็บป่วย คนจน ผู้ตกทุกข์ได้ยาก เด็กและเยาวชน ท่านเป็นตัวอย่างในด้านความขยัน การเรียน

ความอดทน ความเพียรพยายาม ความเสียสละ โดยไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรคใดใดทั้งสิ้น

ในฐานะที่เราเป็นนักเรียนได้เรียนรู้ถึงชีวะประวัติและวิถีจิตของท่าน เราทราบว่าท่านท�าความดีกับทุกคน ทุกๆ วันๆ ละ

หลายๆ ครั้ง โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน นักเรียนสามารถเลียนแบบอย่างที่ดีของท่านได้ โดยการ ตั้งใจเล่าเรียน มีความเพียร

พยายาม ช่วยติวบทเรียนให้เพื่อน มีเมตตาต่อผู้อื่น สุภาพอ่อนโยนและถ่อมตน ไม่ทะเลาะวิวาท มีความเคารพพ่อแม่ และ

คุณครู พูดจามีสัมมาคารวะ มีความเสียสละ รู้จักช่วยเหลือพ่อแม่ท�างานบ้าน ปฏิบัติตนอยู่ในกฎระเบียบของโรงเรียน ทิ้งขยะ

ลงถัง ไม่ข้องแวะกับยาเสพติด ขณะเดียวกันก็ช่วยเพื่อนแนะน�าเพื่อนไปในทางที่ถูกต้อง ถ้านักเรียนสามารถท�าความความดี

ได้เช่นนี้ ก็จะท�าให้นักเรียนได้รับรู้ว่า เราสามารถท�าความดีได้ การท�าความดีไม่ใช่เรื่องยาก นักเรียนสามารถท�าความดีกับ

ทุกคน ทุกๆ วันๆ ละหลายๆ ครั้ง เหมือนกับนักบุญหลุยส์ มารีย์ ของเรา ท�าดีแล้ว ท�าให้จิตใจเราสงบ จิตใจแจ่มใส นักเรียน

สามารถรับรู้ได้ด้วยใจ ด้วยความปิติสุข แม้หลายครั้งเพื่อนๆ อาจจะไม่รู้ ไม่เห็นก็ตาม ความดีนั้นแม้ว่านักเรียนท�า จะเป็นเพียง

เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็มีความสุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับ

ดังนั้น นักเรียนอย่าท้อถอยในการท�าความดี ให้ดูแบบอย่าง นักบุญหลุยส์ มารีย์ของเรา กว่าท่านจะได้ประกาศให้เป็น

วีรบุรุษผู้ทรงความดีก็ผ่านไป 153 ปี หรือถ้านับจากเราปัจจุบันก็เป็นเวลา 298 ปี ความดีของท่านจึงปรากฏแก่คนทั้งโลก ความ

ดีของท่านไม่เคยสูญสลาย ค�าว่า “วีรบุรุษผู้ทรงความดี” ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน นักเรียนจะเห็นได้ว่าความดีนั้นเปรียบเหมือน

เป็นทรัพย์สมบัติเดียวที่เราจะน�าติดตัวไปตลอดชีวิต และไม่มีใครสามารถพรากไปจากเราได้ ฉะนั้นนักเรียนจงท�าแต่ความดี

สะสมแต่ความดีเพราะความดีท�าให้เราเชื่อมกับผู้อื่นและท�าให้โลกเชื่อมโยงกัน ความดีนั้นท�าให้เราสงบและท�าให้ผู้อื่นสงบ เมื่อ

นักเรียนทุกคนท�าแต่ความดี ทุกคนก็จะสงบ สังคมก็จะสงบ ทุกคนก็จะอยู่ร่วมกันทั้งในโรงเรียน บ้านและที่อื่นๆ ได้อย่างมีความ

สงบและมีสันติสุข

8 Montfort College Primary Section

Theyear2015isabigyearforASEANfortheenvisionedregionalCommunitywillfinallymaterialize.ButwhatwillanASEANCommunitylooklike? Withregardtopolitical-security,ASEANwillcontinuetobearules-basedCommunityespeciallywithanASEANCharterinplace.Themember-states,asisthecaserightnow,havepromisedtoworkmorecloselywithoneanotherinsolvingnon-traditionalsecurityissueslikemaritimepiracy,disastermanagement,transnationalcrimes,andthelike.However,whenitcomestotraditionalsecurityissues,member-statesmaybehesitanttodiscusssomeissuesespeciallywhenthesewillimpingeontheirsovereigntyandterritorialintegrity.ASEANmember-stateshighlyvalueapeculiarbrandofdiplomacy–theASEANWay;hence,anythingperceivedtoalterthestatusquomaynotbodewellforthebloc. ItisintheeconomicpillarwhereASEANcooperationhasbeenwidelytoutedtobesuccessful.TheMember-Statesfinditeasiertocooperatewithoneanothervis-à-visthetwootherpillars.Assuch,whentheAECcommencesin2015,itcanbeexpectedthattheeconomieswillaggressivelyopenupgiventhatbarrierstotrade–bothtariffandnon-tariffwillbeeliminated.EconomieswillbeliberalizedtoachievethegoalofASEANbecomingasinglemarketandproductionbase. Onthesocio-culturalfront,weshouldhopeforanASEANthatismoreintouchwithitspeople.InitiativetowardsgreaterpeopleengagementshouldhappenandweshouldhopethatthepeoplesofASEANwillhavevigorouscontactwithoneanother.Theroadtoachievingaregionalidentitymaybehardbutonlyininvestingheavilyonpeople-to-peopleinitiativeswillthisbecomeareality.ContinuouscontactwillhelpthepeoplesofASEANunderstandoneanotherandlearnthepeculiaritiesofeachandeveryone’sculture. ThecreationofanASEANCommunityin2015isdefinitelyonethingtolookforwardto.Integrationmayhavebirthpainsinthebeginningbutattheendoftheday,therearemanyopportunitiesthateachmember-statecantakeadvantageofthatwillbenefitthepeopleofASEAN.

-Rappler-http://www.rappler.com/world/specials/southeast-asia/asean-journey/47239-asean-community-2015-overview.Jeremy-ACAdminPilipinas

ASIAN UPDATE

Montfort College Primary Section 9

เรียนสังคมสู่รั้ว.. มหาวิทยาลัย

การตีความ-interpretation (n.) คะแนน -score (n.) หัวข้อ-title (n.)

สิ่งส�าคัญอีกประการหนึ่งที่นักเรียนยังคงเข ้าใจผิดเกี่ยวกับวิชา

สังคมศึกษาว่าเป็นวิชาที่เน้นใช้แต่ความจ�าก็ท�าได้นั้น นักเรียนก�าลังเข้าใจผิด

อย่างมาก เพราะในหัวข้อหลายหัวข้อของวิชาสังคมต้องใช้การวิเคราะห์และ

การตีความโจทย์ด้วย และตรงนี้จุดนี้เองที่ท�าให้คะแนนสอบวิชาสังคมในการ

เอนทรานซ์ที่ผ่านมาไม่มีคะแนนเต็ม 100 ปรากฏขึ้นมาเลย ไม่เหมือนกับวิชา

อื่นๆ บางวิชา เช่น วิชาคณิตศาสตร์ วิชาภาษาอังกฤษ หรือวิชาฟิสิกส์

เป็นต้น ส�าหรับวิชาสังคมที่กล่าวไปแล้วว่ามักมีการวิเคราะห์ เช่น หัวข้อเรื่อง

สังคมวิทยาของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เทอม 1 ที่มีเนื้อหาไม่มาก แต่ข้อสอบ

มักใช้การวิเคราะห์ให้เนื้อหาที่มีไม่มาก ท�าให้ดูยากมากขึ้น หรือวิชาเกี่ยว

กับเนื้อหาประวัติศาสตร์เวลาอ่านก็มักจะทราบแค่เหตุการณ์มากน้อยต่างกัน

ขึ้นอยู่กับว่านักเรียนอ่านจากเล่มไหน แต่นักเรียนก็จะไม่ทราบว่าสถานการณ์

ช่วงไหนมีความส�าคัญอย่างไร หรือส่งผลกระทบต่อเหตุการณ์อื่นๆ อย่างไร

ตรงจุดนี้หากนักเรียนมีการเรียนเพิ่มเติมก็จะท�าให้นักเรียนสามารถเข้าใจ

ในเหตุการณ์ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้นักเรียนก็จะทราบด้วยว่าเนื้อหา

ส่วนในข้อสอบชอบน�ามาเป็นข้อสอบและมักจะถามว่าอย่างไร หากนักเรียน

ทราบและสามารถเก็งแนวข้อสอบได้ ก็จะท�าให้ข้อสอบที่ออกบ่อยสามารถ

ท�าได้แน่นอน และถือว่าเป็นคะแนนส่วนใหญ่เลยทีเดียวที่นักเรียนสามารถ

เก็บคะแนนได้ง่ายๆ โดยสรุปแล้วการเรียนสังคมก็จะช่วยลดเวลาในการอ่าน

หนังสือและมีเทคนิคการอ่านการจ�าและตลอดจนการท�าข้อสอบให้ได้ถูกต้อง

แม่นย�ามากยิ่งขึ้น

ความส�าคัญอีกประการของวิชาสังคมที่ส�าคัญมากคือ เราสามารถท�า

คะแนนในการเรียนในโรงเรียนให้สูงได้มากยิ่งขึ้นซึ่งผลคะแนนในโรงเรียน มี

ผลอย่างยิ่งต่อระบบเข้ามหาวิทยาลัยแบบใหม่หรือแบบแอดมิดชั่นส์ ทั้งใน

ส่วนของ GPAX 10% จากโรงเรียน และคะแนนจากกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง 8

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ซึ่งแต่ละคณะอาจเลือกใช้คะแนนจากกลุ่มสาระแตกต่าง

กันออกไป อย่างไรก็ตาม คะแนนจากกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ถือว่าเป็นกลุ่ม

สาระการเรียนรู้หลัก ที่จะถูกใช้ในการการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยในระบบ

ใหม่ จะได้แก่ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา

ศาสนาและวัฒนธรรม และกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ จะเห็นได้ว่า

วิชาสังคมก็ถือว่าเป็นสาระการเรียนรู้หลักที่ส�าคัญซึ่งหากท�าคะแนนในวิชานี้

ได้คะแนนดี คะแนนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่จะถูกน�าไปใช้ก็จะดีไปด้วยอย่าง

แน่นอน และเพิ่มโอกาสในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในระบบแอดมิดชั่นส์ได้

มากยิ่งขึ้น ที่ส�าคัญคะแนนจากกลุ่มสาระการเรียนรู้จากโรงเรียนที่กล่าวมานั้น

คิดเป็น 20 % เลยทีเดียวซึ่งถือว่าสูงมาก นอกจากนี้การเรียนพิเศษวิชาสังคม

นอกจากจะช่วยนักเรียนที่เก่งให้สามารถท�าคะแนนวิชาสังคมทั้งในการสอบ

เข้ามหาวิทยาลยัและการสอบในโรงเรียนได้เพิ่มมากยิ่งขึน้แล้ว นักเรยีนทีเ่รยีน

อ่อนและไม่ทันเพื่อนๆ ในห้องก็จะเรียนเสริมหรือปูพื้นให้สามารถเรียนทัน

เพื่อนในห้องเรียนได้ หรือแม้กระทั่งนักเรียนที่จ�าสิ่งที่ครูสอนได้ดี แต่ไม่ชอบ

หรือไม่ถนัดในการอ่านจับใจความส�าคัญ มองเนื้อหาไม่ออกว่าตรงจุดไหน

ส�าคัญ หรือไม่ส�าคัญ รวมถึงนักเรียนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือทบทวนเอง แต่

ชอบฟังครูสอนหรืออธิบาย การเรียนพิเศษโดยเฉพาะวิชาสังคมที่ครูจะต้องใช้

การบรรยาย และการอธิบายเนื้อหาเป็นหลักในการสอนอยู่แล้ว จะสามารถแก้

ปัญหาของนักเรียนที่เกิดขึ้นได้ในกรณีต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นได้

เมื่อนักเรียนทราบถึงความส�าคัญต่อการเรียนสังคมศึกษาแล ้ว

ประเด็นส�าคัญที่จะช่วยให้การเรียนในโรงเรียนหรือการสอบคัดเลือกเข้าใน

มหาวิทยาลัยประสบความส�าเร็จ คือนักเรียนต้องทราบเนื้อหาและขอบข่าย

ของวิชาสังคมทั้งหมดในส่วนที่จัดการเรียนการสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษา

ตอนปลาย รวมถึงเทคนิคและวิธีการเรียนในเรื่องนั้นๆ เพราะวิชาสังคมศึกษา

ประกอบด้วยศาสตร์หลายศาสตร์ ทั้งในด้านสังคมวิทยา รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์

ภูมิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ซึ่งมีหลักและวิธีการเรียน เทคนิค

การจดจ�าที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงเนื้อหาส่วนส�าคัญๆ ที่ควรเน้นเป็น

พิเศษในการเรียนหัวข้อนั้นๆ และทราบถึงแนวการออกข้อสอบได้เป็นอย่างดี

ซึ่งมีประโยชน์ต่อการเตรียมตัวสอบเป็นอย่างมาก

หากพูดถึงวิชาสังคมศึกษาในการเรียนหรือการสอบ Admissions หลายคนอาจเข้าใจว่าอ่านหนังสือสอบอย่างเดียวก็ได้ แต่เราจะเสียเวลาอ่านโดยไม่มี

หลักการจ�าท�าไมให้เสียเวลา หากเรารู้เทคนิคดีๆ ก็เสียเวลาอ่านน้อยลง สามารถเอาเวลาไปอ่านในวิชาอื่นๆ ที่ไม่ถนัดดีกว่า นอกจากนี้วิชาสังคมเป็นวิชาที่

มีเนื้อหากว้างมากวิชาหนึ่ง ซึ่งการที่จะอ่านเองให้ครบได้ทุกเรื่องและครอบคลุมทั้งหมดนั้น ก็ถือเป็นการยากมาก เพราะหนังสือที่ใช้ เราไม่สามารถอ่านจาก

หนังสือเล่มเพียง 1 หรือ 2 เล่มได้ ยกตัวอย่างเช่น เนื้อหาประวัติศาสตร์ของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งค่อนข้างยากที่จะนักเรียนจะสามารถหาหนังสือที่เนื้อหา

ครอบคลุมได้เหมาะสมกับการใช้อ่านสอบ บางเล่มมีรายละเอียดบางเรื่องมากเกินไป บางเรื่องมีน้อยเกิน หรืออาจไม่มีในบางเรื่อง เป็นต้น

กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ฝ่ายวิชาการ เกร็ดความรู้ MCP

ที่มา : อาจารย์ นิติธร ปิลวาสน์ ศึกษานิเทศก์ http://taamkru.com/th

10 Montfort College Primary Section

เด็กนักเรียนเริ่มรู้จักตัวอักษร ก, ข, ... พร้อมกับตัวเลข 1, 2, 3 ... และเรียนรู้วิธีสะกดค�า พร้อมกับการนับเลข ตั้งแต่ชั้นอนุบาล แต่เมื่อเรียนจบป.6

ปรากฏว่ามีนักเรียนจ�านวนมากที่สามารถอ่านหนังสือได้โดยไม่ต้องสะกด แต่ไม่สามารถบวกเลขได้โดยไม่ต้องนับ การบวกเลขโดยไม่ต้องนับง่ายกว่าการอ่าน

ค�าศัพท์โดยไม่ต้องสะกด เพราะตัวเลขมีเพียง 10 ตัว (0-9) น�ามาจับคู่บวกกันได้ 10 x 10 = 100 คู่ (เลข 1 หลัก) แต่ตัวอักษร สระ และวรรณยุกต์มีถึง 44 ตัว

น�ามาผสมเป็นค�าศัพท์ต่างๆ ได้มากกว่า 100 ค�า ท�าไมเด็กสามารถท�าสิ่งที่ยากได้ดีกว่าท�าสิ่งที่ง่าย ? เป็นเพราะเด็กไม่สนใจเรียนคณิตศาสตร์ หรือเป็น

เพราะเราให้ความส�าคัญกับการเรียนภาษามากกว่าคณิตศาสตร์ เป็นไปได้หรือไม่ที่จะพัฒนาความสามารถของเด็กให้บวกเลขได้เร็วเหมือนอ่านหนังสือโดย

ไม่ต้องสะกด ?

เทคนิคการลบเลขเร็ว คนส่วนใหญ่ถนัดบวกเลขมากว่าลบเลข จึงหาผลบวกได้เร็วกว่าลบเลข ถ้าการบวกเลขเปรียบได้กับการเดินไปข้างหน้า การลบเลขเปรียบได้กับการเดิน

ถอยหลัง ซึ่งดูเหมือนฝืนธรรมชาติ คนส่วนใหญ่จึงถนัดเดินไปข้างหน้ามากกว่าเดินถอยหลัง

อย่างไรก็ดี ทักษะการค�านวณเป็นสิ่งที่สามารถสร้างขึ้นได้จากการฝึก มีวิธีพัฒนาทักษะการลบเลขให้เร็วเท่ากับการบวกเลข โดยใช้เทคนิคการลบเลขแบบ

“สามพี่น้อง” สามพี่น้องคือตัวเลข 3 จ�านวนที่เกาะกลุ่มกัน สามารถสลับกันเป็นตัวตั้ง ตัวลบ และผลลบ การจ�าตัวเลขเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 จ�านวน จะช่วยให้ลบ

เลขได้เร็วขึ้น

เทคนิคสามพี่น้องช่วยให้ลบเลขเร็วขึ้นได้อย่างไร ? คูณเลขเร็วโดยวิธีคูณสั้น

ทุกโรงเรียนเลือกวิธีคูณยาว ส�าหรับสอนคูณเลขตั้งแต่ 2 หลักขึ้นไป ดูเหมือนวิธีคูณยาวจะเป็นวิธีมาตรฐานที่ทุกคนใช้ในการคูณเลข นอกจากวิธีนี้แล้ว

มีวิธีอื่นอีกหรือไม่ ? มีวิธีใดหาผลคูณได้เร็วกว่า หรือง่ายกว่าวิธีนี้ไหม ? ความจริงวิธีที่โรงเรียนสอนเป็นเพียง 1 ในหลายวิธีที่ใช้ในการหาผลคูณ หนึ่งในหลาย

ทางเลือกคือ วิธีคูณสั้น ซึ่งเป็นวิธีที่ใกล้เคียงกับวิธีที่สอนในโรงเรียนแต่ให้ค�าตอบเร็วกว่า

คูณเลขเร็วโดยคูณซ้ายขวา

ปัญหาของการคูณเลขที่ตัวตั้งและตัวคูณมีหลายหลักคือมีตัวเลขที่ต้องทดจ�านวนมาก ท�าให้ค�านวณช้า และมีโอกาสท�าผิดได้มาก วิธีคูณซ้ายขวาช่วยลด

ตัวเลขให้น้อยลง โดยที่ค�าตอบยังถูกต้อง เมื่อใช้ร่วมกับวิธีคูณสั้นจะช่วยให้ได้ค�าตอบอย่างรวดเร็ว

คูณเลขเร็วโดยใช้เลขอ้างอิง

การคูณโดยใช้เลขอ้างอิงเป็นเทคนิคที่เหมาะกับการหาผลคูณของตัวเลขที่มีขนาดใหญ่ โดยน�าตัวตั้งและตัวคูณไปเปรียบเทียบกับเลขอ้างอิง

แล้วน�าเฉพาะส่วนที่สูงกว่าหรือต�่ากว่าเลขอ้างอิงไปค�านวณ จึงคูณง่าย ได้ผลคูณถูกต้องและรวดเร็ว

คูณเลขที่มีลักษณะพิเศษ

เลขบางตวัมลีกัษณะพเิศษทีช่่วยให้หาผลคณูได้ง่าย ถ้าคณุเข้าใจลกัษณะพเิศษนี ้คณุจะบอกผลคณูได้ทนัททีีเ่หน็โจทย์ท�าให้คนอืน่เข้าใจว่าคณุเป็นอจัฉรยิะ

เทคนิคหารเลขเร็ว

การตั้งหารยาวเป็นวิธีหาผลหารที่เข้าใจง่าย แต่ใช้เวลาค�านวณนาน เราจึงมักเก็บวิธีหารยาวไว้เป็นทางเลือกสุดท้าย ในการท�าโจทย์หารเลข เราจะเริ่มจาก

การเลือกเทคนิคที่เหมาะกับโจทย์ข้อนั้น ทางเลือกแรกคือเทคนิคที่ค�านวณง่าย ได้ค�าตอบเร็ว มีเทคนิคอะไรให้เลือกบ้าง ?

เทคนิคหารเลขโดยวิธีหารยาว และหารย่อย

ทุกคนคุ้นเคยกับการหาผลหารโดยวิธีตั้งหารยาว เพราะเป็นวิธีมาตรฐานที่สอนในโรงเรียนทุกแห่ง วิธีหารยาวมีจุดเด่นคือเข้าใจง่าย จุดอ่อนของวิธีนี้คือ

เสียเวลาค�านวณนาน เมื่อตัวหารมีขนาดใหญ่ วิธีหารย่อยแก้จุดอ่อนนี้โดยย่อยตัวหารขนาดใหญ่ให้เล็กลง จึงท�าให้ค�านวณง่าย ได้ค�าตอบเร็ว และลดความเสี่ยง

ในการค�านวณผิด

ที่มา: http://www.mathsmethod.com/speedup.php

เทคนิคการบวกเลขเร็ว

เกร็ดความรู้ MCP กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ฝ่ายวิชาการMontfort College Primary Section 11

โดย : ครูภัทราภรณ์ เผ่าเต็ม งานบริหารสระว่ายน�้า

ที่มา : google

กีฬาว ่ายน�้า S w i m m i n g

หากใครก็ตามที่ได้ติดตามมหกรรมกีฬาระดับชาติอย่างเอเชียนเกมส์ หรือโอลิมปิกเกมส์ อย่างเข้มข้น ย่อมต้องรู้กันดีว่า มีกีฬาอยู่ 2 ชนิด แม้ว่าจะไม่ได้

เป็นกีฬายอดนิยม เป็นกีฬาพื้นๆ ที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรมาก แต่กลับเป็นกีฬาที่มีการชิงเหรียญทองมากที่สุดเป็นอันดับ 1 และ 2 นั่นคือ... กรีฑา กับ ว่ายน�้า

และด้วยความที่กีฬา 2 ชนิดนี้ มีลักษณะการเล่นที่เกี่ยวข้องกับการด�ารงชีวิตของมนุษย์ หรือเรียกได้ว่า เป็นกิจกรรมยามปกติของมนุษย์ ท�าให้หลายคนอาจจะ

มีข้อสงสัยได้ว่า กิจกรรมปกติแบบนี้ น�ามาแข่งเป็นกีฬาได้อย่างไร จึงขอน�าเสนอเกี่ยวกับประวัติกีฬาว่ายน�้า (Swimming) กัน

ประวัติกีฬาว่ายน�้า

ประวัติกีฬาว่ายน�้า เริ่มมีการแข่งขันครั้งแรก พ.ศ. 2416 (ค.ศ. 1873)

ที่วูลิช บาร์ท ใกล้กับกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยกติกาการแข่งขัน

จะว่ายแบบใดก็ได้ ขอให้ถึงเส้นชัยเป็นพอ และหลังจากการแข่งขันครั้งนี้

จบลง ประชาชนก็สนใจกีฬาว่ายน�้ามากขึ้น จนถูกบรรจุในการแข่งขันโอลิมปิก

ครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2436 (ค.ศ. 1893) จวบจนทุกวันนี้

ส�าหรับกีฬาว่ายน�้าในประเทศไทย มีการจดทะเบียนสมาคมว่ายน�้า

สมัครเล่นแห่งประเทศไทย ต่อกรมต�ารวจเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2502 โดย

มี พล.ร.ท.สวัสดิ์ ภูติอนันต์ เป็นนายกสมาคมฯ คนแรก ก่อนที่จะเข้ามาเป็น

สมาชิกของสหพันธ์ว่ายน�้านานาชาติ ปี 2504

อย่างไรก็ตาม ปี 2548 สมาคมว่ายน�้าสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ก็ได้

เปลี่ยนชื่อเป็น สมาคมว่ายน�้าแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนกีฬาทางน�้า

หลายชนิดทั้งว่ายน�้า กระโดดน�้า โปโลน�้า และระบ�าใต้น�้า

ส่วนการแข่งขันกีฬาว่ายน�้าในปัจจุบัน มีการแข่งขันกันหลากหลาย

ประเภท แยกประเภทการแข่งขันจากท่าการว่าย ระยะทาง การว่ายคนเดียว

หรือการว่ายเป็นทีม (ว่ายผลัด) ด้วยเหตุนี้เอง จึงสามารถกระจายการชิง

เหรียญทองในการแข่งขันไปได้มาก อย่างโอลิมปิก 2012 ครั้งล่าสุด มีการชิง

เหรียญทองกันถึง 34 เหรียญกันเลยทีเดียว

ส�าหรับท่าการว่ายในการแข่งขันว่ายน�้า มีอยู่ 4 ท่าด้วยกัน ได้แก่

ท่าฟรีสไตล์ เป็นท่าว่ายอย่างไรก็ได้ ขอให้ต่างจากท่าผีเสื้อ ท่ากบ และ

ท่ากรรเชียง ซึ่งส่วนมากที่เห็นกันคือ การสาวมือว่ายสลับกันไปมาซ้ายขวา

ท่าผีเสื้อ เป็นการว่ายแบบคว�่าหน้า มือทั้งสองข้างจะต้องยกเหนือน�้า

พร้อมกัน

ท่ากบ เป็นท่าว่ายแบบคว�า่หน้า มอืทัง้สองข้างต้องพุง้ไปข้างหน้าพร้อมกนั

ส่วนข้อศอกอยู่ใต้ผิวน�้า พร้อมกับเตะเท้าไปด้านหลังด้วย ถือว่าเป็นท่าที่ว่าย

ได้ช้าที่สุด

ท่ากรรเชียง เป็นท่าว่ายแบบนอนหงาย มือสองข้างสลับกันสาวน�้า

เพื่อให้เคลื่อนตัวไปข้างหน้า

สระว่ายน�้าขนาดมาตรฐานกว้าง 25 เมตร ยาว 50 เมตร มีลู่ส�าหรับการ

ว่ายทั้งหมด 8 ลู่ แต่ละลู่กว้างประมาณ 7-9 ฟุต

กติกากีฬาว่ายน�้า จะก�าหนดเสียก่อนว่า การ แข่งขันแบบนี้จะว่ายด้วย

ท่าอะไร และมีระยะทางเท่าใด ซึ่งผู้เข้าแข่งขันก็จะต้องว่ายตามที่ก�าหนดไว้

ใครเข้าเส้นชัยได้เป็นคนแรกจะเป็นผู้ชนะ เช่น การแข่งขันฟรีสไตล์ 100 เมตร

ผู้เข้าแข่งขันจะต้องว่ายด้วยท่าฟรีสไตล์ ในระยะทาง 100 เมตร แต่ว่า ระยะ

ทางที่ยาวที่สุดของสระว่ายน�้า คือ 50 เมตร ฉะนั้น ผู้แข่งขันจึงต้องว่ายกลับ

ตัว 1 ครั้ง เป็นการว่ายไปกลับ 1 รอบ จึงจะได้ระยะทาง 100 เมตร

เรื่องการปล่อยตัวก่อนการว่าย กรรมการ จะเป่าเสียงนกหวีดยาว เพื่อให้

นักว่ายน�้าขึ้นบนแท่นกระโดด ต่อมาเมื่อกรรมการจะบอกว่า “เข้าที่” ผู้แข่งขัน

จึงก้าวไปยืนที่ปลายแท่นกระโดด รอกรรมการให้สัญญาณปล่อยตัวเป็นเสียง

ปืน ออด หรือนกหวีด จึงสามารถปล่อยตัวได้ อย่างไรก็ตาม การแข่งขันใน

ท่าว่ายกรรเชียงกับท่าผลัดผสม จะไม่ปล่อยตัวจากแท่น แต่จะปล่อยตัวจาก

สระว่ายน�้าแทน

ส�าหรับการว่ายผลัด ผู้แข่งขันกระโดดลงสระหลังจากที่เพื่อนร่วมทีม

จะว่ายแตะขอบสระไปแล้วเท่านั้น หากเพื่อนร่วมทีมยังไม่แตะขอบสระ แล้ว

กระโดดลงไป จะถูกปรับแพ้ทันที

ประโยชน์ของกีฬาว่ายน�้า ช่วยท�าให้สุขภาพแข็งแรง กล่าวคือ การว่าย

น�้าก็เปรียบเป็นการออกก�าลังกายอย่างหนึ่ง ท�าให้สุขภาพแข็งแรง มีโอกาส

เจ็บป่วยยากขึ้น ช่วยรักษาความปลอดภัยของชีวิต กล่าวคือ กีฬาว่ายน�้า

สามารถน�าไปใช้ในชีวิตประจ�าวันได้ด้วย เช่น ช่วยเหลือคนที่จมน�้า หรือช่วย

เหลือตัวเองในขณะที่ตกน�้า เป็นต้น

ท�าให้รู้สึกสดชื่น-คลายเครียด กล่าวคือ การว่ายน�้าเป็นกีฬาที่อยู่กับน�้า

ทั้งร่างกาย จะช่วยให้ร่างกายมีความสดชื่น ส่งผลให้คลายเครียดจากปัญหา

ต่างๆ ในชีวิตประจ�าวันได้

แม้ว่ากีฬาว่ายน�้าจะไม่ได้เป็นกีฬาแบบเผชิญหน้าเหมือนกีฬาชนิดอื่น

แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นก็คือ ความตื่นเต้นเร้าใจในการแข่งขัน ไม่แพ้กีฬา

ชนิดอื่นอย่างแน่นอน

กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา พลศึกษา ฝ่ายวิชาการ เกร็ดความรู้ MCP

กรีฑา-athletics (n.) ว่ายผลัด-Relays (n.) ท่าฟรีสไตล์-Freestyle (n.) ท่าผีเสื้อ-Butterfly (n.)

ท่ากบ-Backstroke (n.) ท่ากรรเชียง-Breaststroke (n.)

12 Montfort College Primary Section

โดย: มาสเตอร์นิรันดร ศรีวรกุล

งาน: กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์

แหล่งที่มา: http://th.wikipedia.org/wiki

ความแตกต่างของนักคณิตศาสตร์ กับนักวิทยาศาสตร์ อาจมองที่ ผลลัพธ์และเป้าหมายของการศึกษา จริงอยู่ที่นักคณิตศาสตร์โดยเฉพาะนักคณิตศาสตร์

ประยุกต์อาจท�างานเพื่ออธิบายสิ่งที่พบเห็นตามธรรมชาติ แต่แบบจ�าลองต่างๆ ที่คณิตศาสตร์โดยทั่วไปคิดขึ้น ไม่จ�าเป็นต้องน�าไปใช้ระบบที่มีอยู่จริงทาง

ธรรมชาติ แบบจ�าลองทางคณิตศาสตร์จ�านวนมากเป็นเพียงระบบในจินตนาการ สวยงามสอดคล้องด้วยเหตุและผล ซึ่งถือว่างานสมบูรณ์แล้ว ไม่มีใครสามารถ

บอกภายหลังว่าระบบนั้นผิดเพราะไม่ตรงกับการทดลอง ต่างจากแบบจ�าลองทางวิทยาศาสตร์แม้จะสวยงามสอดคล้องกันเป็นเหตุเป็นผลอย่างดี แต่ถ้าไม่

สามารถอธิบายผลการทดลองได้ แบบจ�าลองและทฤษฎีนั้นก็จะผิด ข้อนี้จัดว่าเป็นความแตกต่างที่ส�าคัญของงานทางคณิตศาสตร์กับวิทยาศาสตร์ ซึ่งหากดูจาก

ประวัติศาสตร์ อาจกล่าวได้ว่า ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์จะรอวันผิด เมื่อมีการทดลองที่ดีขึ้นทฤษฎีเก่าอธิบายไม่ได้มันจะก็ตกไป เหมือนกับทฤษฎีแรงโน้มถ่วง

ของนิวตัน ก็ถูกแทนที่ด้วยทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ซึ่งในอนาคตก็จะมีทฤษฎีอื่นที่ “ถูกกว่า” มาแทนที่ ในขณะที่ทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ เช่น เรขาคณิตของ

ยูคลิด เคยเป็นจริงอย่างไรเมื่อหลายพันปีที่แล้ว ก็ยังเป็นจริงอยู่อย่างนั้นในระบบทางตรรกศาสตร์นั้น

ค�าว่า “Scientist” นี้ วิลเลียม วีเวลล์ได้บัญญัติขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2376 ตามค�าขอของ ซามูเอล เทเลอร์ คอลริดจ์ (กวีและนักปรัชญาชาวอังกฤษ) ก่อนหน้า

นั้นค�าที่ใช้มีเพียง Natural Philosopher (ปราชญ์ทางธรรมชาติ) และ Man of Science เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม กลุ่มบุคคลที่เรียกกันว่า “นักวิทยาศาสตร์” ก็ยังประกอบไปด้วยนักทฤษฎี ซึ่งไม่เคยลงมือท�าการทดลองเลยก็มี และแม้แต่นักทดลองที่ท�า

ปฏิบัติการทดลองเพียงอย่างเดียว ก็มักจะน�าคณิตศาสตร์มาใช้บ่อยๆ เพื่ออนุมานหาบทสรุปของพวกเขา ในขณะเดียวกัน การพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์ก็อาจจะ

ใช้วิธีการยกตัวอย่าง หรือการสาธิต ซึ่งนับเป็นลักษณะร่วมอย่างหนึ่งของการทดลอง

ความแตกต่างของนักคณิตศาสตร์ กับนักวิทยาศาสตร์ อาจมองที่ ผลลัพธ์และเป้าหมายของการศึกษา จริงอยู่ที่นักคณิตศาสตร์โดยเฉพาะนักคณิตศาสตร์

ประยุกต์อาจท�างานเพื่ออธิบายสิ่งที่พบเห็นตามธรรมชาติ แต่แบบจ�าลองต่างๆ ที่คณิตศาสตร์โดยทั่วไปคิดขึ้น ไม่จ�าเป็นต้องน�าไปใช้ระบบที่มีอยู่จริงทาง

ธรรมชาติ แบบจ�าลองทางคณิตศาสตร์จ�านวนมากเป็นเพียงระบบในจินตนาการ

แบบจ�าลอง-Model (n.) ทฤษฎ ี-theory (n.) ตรรกศาสตร-์logic (n.) ที่มา http : //www.kroobannok.com/

แต่เดิมมา ได้จัดคณิตศาสตร์ไว้ในกลุ่มวิทยาศาสตร์ด้วย แต่ในสมัยปัจจุบัน ผู้คนเริ่มมีแนวโน้มที่จะคิดว่านักคณิตศาสตร์ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ เพราะ

การค้นพบทางคณิตศาสตร์โดยทั่วไปดูเหมือนจะมีขั้นตอนและวิธีการที่แตกต่างไปจากการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ และการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ใน

ความหมายที่คนส่วนใหญ่เข้าใจกันนั้น ไม่สามารถใช้สนับสนุนการพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์ได้ อย่างไรก็ตาม กลุ่มบุคคลที่เรียกกันว่า “นักวิทยาศาสตร์” ก็

ยังประกอบไปด้วยนักทฤษฎี ซึ่งไม่เคยลงมือท�าการทดลองเลยก็มี และแม้แต่นักทดลองที่ท�าปฏิบัติการทดลองเพียงอย่างเดียว ก็มักจะน�าคณิตศาสตร์มา

ใช้บ่อยๆ เพื่ออนุมานหาบทสรุปของพวกเขา ในขณะเดียวกัน การพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์ก็อาจจะใช้วิธีการยกตัวอย่าง หรือการสาธิตซึ่งนับเป็นลักษณะ

ร่วมอย่างหนึ่งของการทดลอง

นักวิทยาศาสตร์

นักคณิตศาสตร์

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ฝ่ายวิชาการเกร็ดความรู้ MCP Montfort College Primary Section 13

กิจกรรมท�าให้เด็กเกิดสมาธิมีอะไรบ้าง ? ส�าหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการฝึกให้เจ้าตัวเล็กมีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างแน่วแน่และตั้งใจ

เพื่อส่งผลให้การเรียนในอนาคต และการท�ากิจกรรมต่างๆ ให้ส�าเร็จลุล่วงไปด้วยดี ส�าหรับการเสริมสร้างสมาธิให้กับเด็กในเบื้องต้น คุณพ่อคุณแม่ควร

เริ่มต้นจากการฝึกฝนให้ลูกท�ากิจกรรมง่ายๆ ให้ลูกได้เรียนรู้วิธีแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร อาบน�้า-ทาแป้ง

หยิบของ หรือการติดกระดุมเสื้อผ้า แล้วค่อยๆ เพิ่มระดับความยากของกิจกรรม เช่น การท�างานบ้าน เพื่อเป็นการกระตุ้นพัฒนาการในเรื่องการ

ตัดสินใจ และช่วยให้เด็กรู้จักหน้าที่ของตนเอง จากนั้นจึงเตรียมฝึกสมาธิลูกๆ ด้วยกิจกรรรมต่างๆ ดังนี้

1. อ่านหนังสือน่ารู้ & นิทานแสนสนุก เพราะในขณะที่เด็กก�าลัง

อ่านหนังสือ หรือนิทาน จะเป็นการฝึกการออกเสียงพูด สะกดค�า ท�าให้

เด็กจดจ่ออยู่กับตัวหนังสือหรือตัวละคร รวมถึงการช่วยสร้างจินตนาการ

ตามเรื่องราวที่ได้อ่านอีกด้วย แต่ส�าหรับเด็กเล็กที่ยังอ่านหนังสือไม่ได้

หรืออ่านหนังสือยังไม่คล่อง คุณพ่อคุณแม่อาจเป็นคนเล่านิทานให้ฟัง

เพื่อช่วยฝึกการฟัง และออกเสียงก็ได้เช่นกัน

2. ฟัง-เล่นดนตรีดีต่อสมาธิ เพื่อเป็นการช่วยให้จิตใจของลูกสงบ

ลดความตึงเครียดก่อนเข้าเรียนและหลังเลิกเรียน อาจเปิดเพลงที่ท�านอง

เบาๆ สบายๆ เช่น เพลงคลาสสิก เพลงบรรเลง จะช่วยเสริมสร้างความ

จ�าและการเรียนรู้ของเด็กให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดีกว่าดูทีวี หรือ

เล่นเกมบนหน้าจอหลายเท่า

3. หามุมสงบส่วนตัวให้ลูก เพราะสาเหตุส่วนหนึ่งที่เด็กสมาธิสั้น

อันเนื่องมาจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวซึ่งมีเสียงอึกทึกคึกโครมอยู่ตลอด

เวลา ดังนั้นจึงควรจัดหามุมนั่งเล่น หรือพื้นที่ที่ค่อนข้างเงียบสงบให้ลูก

น้อยได้นั่งอ่านหนังสือ ท�าการบ้าน หรือทบทวนบทเรียนโดยเฉพาะ

4. เรียนรู้ศิลปะ เพราะศิลปะคือหนึ่งในกิจกรรมที่ช่วยท�าให้เกิดสมาธิ

และการฝึกทักษะการใช้มือและสายตาท�างานร่วมกันอย่างเป็นระบบ

ไม่ว่าจะเป็นการวาดภาพ ปั้นดินน�้ามัน หรือการพับกระดาษ และงาน

ฝีมือต่างๆ เพื่อให้ลูกได้ใช้ศิลปะในการฝึกสมาธิ สร้างความเพลิดเพลิน

ไปกับจินตนาการของตัวเอง ที่ส�าคัญคุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างงาน

ศิลปะไปพร้อมๆ กับลูกได้อีกด้วย

5. เล่นของเล่น หรือเกมที่ต้องใช้สมาธิ สิ่งส�าคัญคือการเลือกของ

เล่นที่ช่วยฝึกสมาธิให้เด็กมีความตั้งใจจดจ่อและมีพัฒนาการด้านสมอง

เช่น เกมจับคู่ ต่อจิ๊กซอว์ เลโก้ บล็อกไม้ หมากฮอส โดยการฝึกให้ลูก

เล่นของเล่นทีละอย่างจะช่วยให้ลูกมีสมาธิกับการเล่นได้นานขึ้น

6. ช่วยท�างานบ้าน โดยการร่างท�าตารางเวลาท�างานบ้านที่ลูกต้อง

รับผิดชอบ (แบบไม่เคร่งครัดมากจนเกินไป) เพื่อช่วยก�าหนดกิจวัตร

ประจ�าวันของลูก อาจเริ่มตั้งแต่การตื่นนอนจนถึงเข้านอน เช่น การรดน�้า

ต้นไม้ ซักถุงเท้า เก็บที่นอน เป็นต้น วิธีนี้จะช่วยสร้างการเรียนรู้จดจ�า

และท�าให้เด็กมีสมาธิท�าอะไรเป็นระบบระเบียบมากยิ่งขึ้น

7. ธรรมชาติสร้างสมาธิ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ใบไม้ ดอกไม้ที่อยู่ใน

สวนหลังบ้าน หรือแม้กระทั่งตามสวนสาธารณะ เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่

คณุพ่อคณุแม่สามารถเสรมิสร้างการเรยีนรูใ้ห้ลกูได้ตลอดเวลา อาจเริม่ต้น

จากเรียนรู้ขั้นตอนการปลูกต้นไม้ รดน�้า ใส่ปุ๋ย จวบจนกระทั่งรอจนถึง

วันที่ต้นไม้ผลิดอกออกผล เป็นการฝึกสมาธิในการเฝ้าสังเกต และการ

ติดตามการเจริญเติบโตของต้นไม้ในแต่ละวัน

8. ฝึกสมาธิเวลาว่าง จากสิ่งของใกล้ตัว อย่าง การอ่านหนังสือพิมพ์

สอนลูกปั่นจักรยานให้ตรงตามเส้น อ่านนิทานให้คุณพ่อคุณแม่ฟัง หรือ

การท่องบทสวดมนต์ก่อนนอน นอกจากจะช่วยให้ลูกสงบนิ่งมีจิตใจ

จดจ่อกับกิจกรรมที่ท�าแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจให้ลูกได้อีก

ด้วย

อย่างไรกต็าม นอกเหนอืจากคณุพ่อคณุแม่จะหาเวลาว่างพาลกูไปท�า

กจิกรรมเสรมิสมาธทิีเ่ราแนะน�ามาทัง้ 8 ข้อนีแ้ล้ว สิง่ส�าคญัอกีอย่างหนึง่

คือ การสนับสนุนและให้ความสนใจในสิ่งที่ลูกชอบอยู่เสมอ เพื่อเป็นการ

เปิดโอกาสให้ลูกพร้อมเรียนรู ้และมีความพยายามในการท�าสิ่งต่างๆ

อย่างเต็มที่

โดย : มาสเตอร์วิทยา ดวงจิต กลุ่มสาระศิลปะ

ที่มา : kapook.com

กิ จ ก ร ร ม ท� ำ ใ ห ้ เ กิ ด ส ม ำ ธิConcen t r a t i o n Ac t i v i t y

โดย กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ เกร็ดความรู้ MCP

จินตนาการ-imagination (n.) งานฝีมือ-handcrafts (n.) ของเล่น -toy (n.) โอกาส-opportunity (n.)

14 Montfort College Primary Section

ท�ำไงให้เก่งภำษำอังกฤษ10 สุดยอด

AEC เริ่มนับถอยหลังไปทุกวัน โดยโรงเรียนต่างๆ ให้ความส�าคัญกับการใช้ภาษามากขึ้นด้วย ส�าหรับคราวนี้ เรามาพัฒนาความสามารถทางภาษากันนะ

คะ ลองดูเทคนิคเหล่านี้ดูว่า ลองฝึกแล้วเก่งจริงรึเปล่า

1. เริ่มจากการฟังอะไรที่ง่ายๆ จะได้มีก�าลังใจไม่ท้อตั้งแต่แรก ทั้งนี้รวมทั้งที่เป็น Slow Speed เพราะในระยะแรกเราอาจจะไม่คุ้นเคยกับที่เป็น Normal

Speed ซึ่งการฝึกฟังช้าๆ จะท�าไรเราชินกับส�าเนียง และส�านวนพูด

2. ฟังเรื่องที่เราถูกใจ เพราะจะน�าไปสู่ความสุขใจ ใส่ใจ และเข้าใจ มากกว่าฟังเรื่องที่เราไม่ค่อยสนใจหรือต้องทนฟัง

3. ให้ฝึกฟังเรื่องที่จบภายในเวลาสั้นๆ ในระยะเริ่มต้น ถ้าฝึกฟังเรื่องที่ยาวเกินไปจะท�าให้สมองล้ารับไม่ไหว

4. ฟังพร้อมอ่าน หรืออ่านก่อนฟัง หรือฟังแล้วอ่าน จะฝึกแบบไหนก็ตามถนัด การอ่านจะช่วยผ่อนแรงในการสร้างความเข้าใจเรื่องที่ฟัง

5. ฟังพร้อมดูวีดิโอ การที่สามารถรับสารผ่าน 2 ประสาท คือ ทางหูและทางตา จะช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น ยิ่งถ้ามี subtitle ให้อ่านพร้อมกับชมภาพวีดิโอที่

เคลื่อนไหว ยิ่งช่วยให้เข้าใจยิ่งขึ้นไปอีก

6. ฝึกฟังน้อยๆ แต่ฟังบ่อยๆ ดีกว่าฝึกฟังนานๆ แต่ไม่บ่อย เพราะฉะนั้นการฝึกฟังวันละ 15 นาทีแต่ฟังทุกวันใน 1 สัปดาห์ ย่อมดีกว่าในสัปดาห์หนึ่งฟัง

นานถึง 2 ชั่วโมง แต่ฟังครั้งเดียว

7. ลองฟังโดยใช้หูฟัง จะได้ยินส�าเนียงชัดขึ้น ช่วยให้ง่ายในการฝึกออกเสียงตาม แต่อย่าเปิดเสียงดังเกินไปฟังนานๆ เดี๋ยวหูตึง

8. ฝึกฟังพร้อมพูดตาม การฝึกพูดตามจะช่วยสร้างความมั่นใจว่า เราฟังได้ถูกต้อง เพราะถ้าเราฟังได้ถูกต้องเราก็น่าจะพูดได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ การ

ฟังโดยมีภาระที่จะต้องพูดให้ได้ตามที่ฟังจะท�าให้เราใส่ใจในการฟังมากขึ้น ไม่ใช่ฟังสักแต่ว่าฟัง

9. ฟังอย่างตั้งใจ ถ้าเราจะอุทิศเวลาวันละ 20-30 นาทีเพื่อการฝึกฟังภาษาอังกฤษ ก็ต้องให้ทั้ง 1 ใจไปพร้อมกับ 2 หู ถ้าให้แต่หูไม่ให้ใจฝึกฟังเท่าไรๆ ก็

มักไม่ค่อยได้ผล

10. ฟังด้วยความสุข ถึงยังฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็ไม่ได้แปลว่าฟังไม่ได้เรื่อง แม้ในระยะแรกๆ อาจจะรู้สึกว่าท้อ แต่เรียนภาษาอังกฤษไม่มีทางลัด คนที่เอาแต่

มองหาทางลัดและไม่ค่อยตั้งใจเดินไปตามทางตรงที่มีให้เดิน จะเดินไปถึงปลายทางได้ช้ากว่าคนที่ตั้งใจเดินไปตรงๆ เสียอีก ลองท�ากันดูนะคะ ฝึกฝนเอาไว้

บ่อยๆ ไม่เสียหาย แถมเป็นประโยชน์แน่ๆ

หูตึง-deaf (adj.,v.) ท้อ-disheartened (adj.)

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ฝ่ายวิชาการเกร็ดความรู้ MCP

โดย : ครูศิริลักษณ์ ศิริวงศ์ กลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ

ที่มา : http://www.trueplookpanya.com/true/webboard_detail.php?postid=7556&pageNo=1

Montfort College Primary Section 15

ท�ำให้ลกูตั้งใจอ่ำนหนงัสอืสอบ

โดย งานแนะแนว ฝ่ายกิจการนักเรียน เกร็ดความรู้ MCP

1. เก็บอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกอย่างให้พ้นมือเด็ก

เด็กทุกคนจะขาดสมาธิในการทบทวนบทเรียนถ้ามีอุปกรณ์ที่ท�าให้

เขาติดต่อกับโลกภายนอกได้อยู่แค่เอื้อมวิธีที่ดีสุดคืออย่าให้มีอุปกรณ์

พวกนี้ระหว่างเรียน

2. เฟซบุ๊คคือศัตรูตัวร้ายในการเรียน

ถ้าจ�าเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ระหว่างเรียน พ่อแม่ต้องตกลงกับ

ลูกว่าห้ามเข้าเฟซบุ๊คเด็ดขาด เฟซบุ๊คเป็นตัวอันตรายที่ท�าให้เสียสมาธิ

ระหว่างเรียน

3. สร้างบรรยากาศที่เหมาะแก่การเรียน

ห้องเรียนที่สงบเงียบไม่มีเสียงรบกวนช่วยให้เด็กมีสมาธิในการ

ทบทวนความรู้ได้เต็มที่ พ่อแม่ควรเอาใจใส่ให้เด็กทุ่มเทความสนใจใน

วิชาที่ต้องทบทวนโดยไม่มีอะไรมารบกวน

4. ให้ความส�าคัญกับเรื่องที่จะต้องสอบ

การไถ่ถามเด็กเกี่ยวกับวิชาที่เรียนและหัวข้อส�าคัญที่น่าจะออก

ข้อสอบเป็นเหมือนการเตือนเด็กไปในตัว ว่าควรให้เวลาและเจาะลึกกับ

วิชาที่จะต้องสอบก่อน

5. อย่าเรียนกับเพื่อนสนิท

คนชอบคิดว่าถ้าได้เรียนกับเพื่อนสนิทจะท�าให้เรียนได้ดีกว่าเรียน

คนเดียว แต่จริงๆ แล้วเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง ยิ่งถ้าเรียนกับเพื่อน

ที่สนิทกันมากเท่าไหร่ ความตั้งใจและสมาธิจะน้อยลงเท่านั้น เพราะมัว

แต่คุยเล่นกัน จนลืมไปว่าก�าลังเรียนอยู่

6. จัดตารางการอ่านหนังสือให้เหมาะสม

ช่วยดูตารางการอ่านหนังสือของลูก อย่าให้ตรงกับเวลาที่ลูกต้อง

ไปท�ากิจกรรมอื่นๆ โดยเฉพาะกิจกรรมที่ลูกชอบเป็นพิเศษ เช่น เรียน

เต้นหรือว่ายน�้า เป็นต้น เพราะเด็กจะรู้สึกเหมือนถูกบังคับให้ต้องอ่าน

หนังสือวิชาที่แสนน่าเบื่อ แทนที่จะได้ไปท�ากิจกรรมโปรดของตัวเอง

และอาจท�าให้เด็กเกลียดวิชานั้นไปเลยก็ได้ ถ้าจะให้ดีพ่อแม่ควรฝึกลูก

ให้รู้จักใช้เวลาก่อนนอนทุกคืนทบทวนบทเรียนที่เรียนมาจนติดเป็นนิสัย

เป็นการสร้างวินัยการเรียนและไม่กระทบเวลาท�ากิจกรรมอื่นๆ ในตอน

กลางวันของลูก ท�าให้จัดตารางเวลาได้ง่ายขึ้น

7. งดของขบเคี้ยวระหว่างเรียน

เด็กชอบกินขนมเวลาเรียน พ่อแม่ควรให้ลูกกินแต่สิ่งที่มีประโยชน์

บ�ารงุร่างกายและสมองเดก็ในวยัเรยีนให้สมบรูณ์เตม็ที ่เช่น ชงชอ็กโกแลต

ร้อนให้ลูกดื่มเป็นการเพิ่มพลัง หรือผลไม้แทนที่จะเป็นพวกขนมขบเคี้ยว

ต่างๆ ที่ไม่ดีต่อสุขภาพ งดขนมกรุบกรอบเด็ดขาด

8. ตั้งใจเรียน

อะไรก็ตามที่ท�าให้เด็กไม่ตั้งใจเรียน อย่าเอามาไว้ใกล้ตัวเด็ก โดย

เฉพาะมือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทันสมัยต่างๆ

9. ครูไม่ใช่เสือ

เวลาพูดถึงครู เด็กๆ มักกลัวหรือไม่ก็ท�าเหมือนครูเป็นเสือสิงห์

ที่จ้องแต่จะขย�้าถ้าเด็ก เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่ต้องสอนลูกว่าครูคือที่พึ่ง

ของเด็กในด้านการเรียน ถ้าเด็กไม่เข้าใจหรือสงสัย ครูจะเป็นคนที่ให้ค�า

ตอบและอธิบายได้ดีที่สุดโดยเพาะเวลาใกล้สอบ

10. สอนลูกให้รู้จักจัดระเบียบตัวเอง

พ่อแม่มีส่วนส�าคัญมากที่จะสอนให้ลูกรู้วิธีจัดการกับหน้าที่ของตัว

เองในแต่ละวันอย่างเหมาะสม ดูว่าลูกใช้เวลาจัดระเบียบตัวเองทั้งเรื่อง

เรียนและเรื่องอื่นๆ ได้โดยที่ไม่อัดแน่นทุกอย่างภายในวันเดียวหรือสอง

สามวันก่อนสอบ ให้ลูกได้มีเวลาผ่อนคลาย เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่ต้อง

ฝึกลูกให้รู้วิธีจัดระเบียบตัวเอง ลูกจะได้ไม่เครียดและมีผลการเรียนดีสม

กับที่ตั้งใจไว้

10 เคล็ดลับ

โดย : ครูพีรรัตน์ วิริยะนราทิพย์ งานแนะแนว

ที่มา : http://th.theasianparent.com/

ศัตรู-enemy (n.) ของขบเคี้ยว-snacks (n.) ขย�้า -maul (v.) ระเบียบ-regularity (n.)

16 Montfort College Primary Section

MCP Events

งานกีฬา โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม น�านักเรียนเข้าร่วมแข่งขันกีฬาและกรีฑา

นักเรียน โรงเรียนในเครือมูลนิธิเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทยครั้งที่ 14 ปีการศึกษา 2557 ที่

โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 17-19 ตุลาคม 2557 สรุปผลการแข่งโรงเรียน

มงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม คว้า 4 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน 5 เหรียญทองแดง ได้รับรางวัล

ถ้วยชนะเลิศคะแนนรวม รุ่น อายุ 10 ปี และถ้วยชนะเลิศฟุตบอลชาย มาครอง

Montfort College Primary Section 17

MCP Events

“ซูเปอร์จิ๋วเจาะโลกพระคัมภีร์”

สมาคมพระคริสตธรรมไทยจัดการ

แข่งขัน “ซูเปอร์จิ๋วเจาะโลกพระคัมภีร์” ที่

โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม

เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2557 ณ Green

Dome

เข้าเงียบฟื้นฟูจิตใจนักเรียนคาทอลิก

งานอภิบาล ก�าหนดจัดเข้าเงียบฟื ้นฟูจิตใจ

นักเรียนคาทอลิก ประจ�าปีการศึกษา 2557 ขึ้น

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนคาทอลิกได้

ฟื ้นฟูจิตใจและตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของ

การเป็นคริสตชนที่ดี รู้จักรัก แบ่งปัน เสียสละ มี

จริยธรรม อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ใน

วันที่ 20 กันยายน 2557 น. ณ วัดน้อยพระเมตตา

กิจกรรมวันสันติภาพสากล โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม จังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมวัน

สันติภาพสากล ในช่วงเวลาเข้าแถวเคารพธงชาติตอนเช้า วันศุกร์ ที่ 19 กันยายน 2557 ในแต่ละระดับชั้น

โดยมีวัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในมหามงคล

เฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา 5 ธันวาคม 2557 เพื่อเป็นการสร้างกระแสให้ทุกคนตระหนักถึง

ความส�าคัญของสันติภาพและร่วมมือกันสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในครอบครัว สังคม ประเทศชาติ และ

โลก เพื่อร�าลึกและส่งแรงจิตอธิษฐานให้เกิดสันติภาพและความปรองดองในครอบครัว สังคม ประเทศ

ชาติ และโลก โดยผู้แทนครูอ่านสารสันติภาพ เนื่องในวันสันติภาพสากล 2 ฉบับ คือ สารจากเลขาธิการ

สหประชาชาติ และสารจากนายกรัฐมนตรี จากนั้นนักเรียนและคณะครู ร่วมสงบนิ่ง 1 นาที โดยเน้น

ความส�าคัญในหัวข้อ “สันติสุขและความมั่นคง คือ พื้นฐานส�าคัญส�าหรับความเจริญก้าวหน้าและการ

พัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน”

ตลาดนัดมือสอง กิจกรรมตลาดนัดขายของ

มือสองครั้งที่ 3/2557 ด�าเนินการจัดกิจกรรม โดย

คณะกรรมการนักเรียนปีการศึกษา 2557 วันทีั่

19 กันยายน 2557 เวลา 12.00-13.00 น. ณ เวที

หรรษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมกิจกรรมการ

ขายสินค้าให้กับนักเรียนกลุ่มที่สนใจ ชั้้นประถม

ศึกษาปีที่ 4-6 ได้ฝึกการซื้อและการขายสินค้า

ค�านึงถึงการน�าสินค้าที่เหลือใช้และมีคุณภาพดีมา

ก่อให้เกิดประโยชน์

นักเรียนดีเด่นในวันเยาวชนแห่งชาติ ปี 2557

โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม ขอแสดง

ความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับเกียรติบัตรนักเรียนดีเด่น

เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ ปี 2557 ชั้นประถมศึกษา

ปีที่ 1-3 เด็กชายธนกฤต แก้วจันทร์ ป.3/2 และชั้น

ประถมศึกษาปีที่ 4-6 เด็กชายธรรศธาดา ตันชัยสวัสดิ์

ป.5/1 เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2557 ณ โรงเรียนเรยีนา

เชลีวิทยาลัย

อัสสัมชัญระยอง ศึกษาดูงานโปรแกรม SWIS คณะศึกษาดูงานจากโรงเรียนอัสสัมชัญระยอง

น�าคณะครูและเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการ-การเงิน เข้าศึกษาดูงานในหัวข้อ การท�างานของระบบ SWIS และ

ระบบงานสารบรรณของโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย เเผนกประถม ในวันอังคารที่ 23 กันยายน 2557 ณ

ห้องประชุม 2 อาคารสามัคคีนฤมิต

18 Montfort College Primary Section

MCP Events

รับมอบรางวัลเยาวชนดีเด่นของเทศบาลนครเชียงใหม่ โรงเรียนมงฟอร์ต

วิทยาลัย แผนกประถม ขอแสดงความยินดีกับเด็กชายอัจฉริยะ ค�าจารึก

วงศกร ที่ได้รับเกียรติบัตรเยาวชนดีเด่นของเทศบาลนครเชียงใหม่ เนื่องใน

วันเยาวชนแห่งชาติ ประจ�าปีพุทธศักราช 2557 วันที่ 21 กันยายน 2557 เวลา

17.00-18.00 น. ณ เวทีการจัดงานลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์

ร่วมใจอุทิศภาวนา ภราดาศุภนันท์ ขันธปรีชา ผู้อ�านวยการ คณะครู

และนักเรียนคาทอลิก โรงเรียนมงฟอร์ฺตวิทยาลัย เเผนกประถม ร่วมใจ

อุทิศภาวนา แด่ดวงวิญญาณของภราดาราฟาแอล ภักดี ทุมมกานน เมื่อ

วันที่ 23 - 25 กันยายน 2557 ณ วัดน้อยพระเมตตา

ค�านับวันคล้ายวันเกิดพระสังฆราช เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2557

ภราดาศุภนันท์ ขันธปรีชา ผู้อ�านวยการ คณะผู้ร่วมบริหาร เเละ

งานอภิบาลโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย เเผนกประถม ร่วมค�านับพระ

สังฆราชฟรังซิสเซเวียร์ วีระ อาภรณ์รัตน์ ประมุขนายกสังฆมณฑล

เชียงใหม่กีฬานักเรียนจังหวัดเชียงใหม่ งานกีฬา ฝ่ายกิจการนักเรียน โรงเรียน

มงฟอร์ตวิทยาลัย เเผนกประถม ส่งนักเรียนเข้าร่วมเเข่งขัน กีฬาระหว่าง

โรงเรียนจังหวัดเชียงใหม่ประจ�าปี 2557 ประเภทกีฬาเทเบิลเทนนิส โดย

แข่งขันเมื่อวันเสาร์ที่ 13 กันยายน 2557 ณ โรงเรียนช่องฟ้าซินเซิงวานิชบ�ารุง

สรุปผลการเเข่งขัน รุ่น 10 ปี รองชนะเลิศอันดับ 1 (เหรียญเงิน)ชายคู่ ด.ช.พง

ศพัทธ์ เวชะวัชนะ ด.ช.เขมกร โพธิ์อ่าน รุ่น 12 ปี ชนะเลิศ (เหรียญทอง) ชาย

เดี่ยว ด.ช.ภูริ อุนจะน�า ชนะเลิศ (เหรียญทอง) ชายคู่ ด.ช.กวิศวร์ สันทราย

ด.ช.ภูริ อุนจะน�า รองชนะเลิศอันดับ 1 (เหรียญเงิน)หญิงเดี่ยว ด.ญ.พิชญ์สุดา

อรุณรัตน์ รองชนะเลิศอันดับ 1 (เหรียญเงิน)ชายเดี่ยว ด.ช.กวิศวร์ สันทราย

รองชนะเลิศอันดับ 2 (เหรียญทองแดง) หญิงเดี่ยว ด.ญ.ธนัชพร จิระราช

หญิงคู่ ด.ญ.ธนัชพร จิระราช ด.ญ.พิชญ์สุดา อรุณรัตน์ คู่ผสม ด.ญ.อติกานต์

กิ่งไทร ด.ญ.เบญญาภา สุขประเสริฐ

นักศึกษาจีน ขอบคุณและอ�าลาเพื่อสับเปลี่ยน นักศึกษามหาวิทยาลัยเฉิงตู จ�านวน 6

คน เข้าพบท่านผู้อ�านวยการเพื่อขอบคุณและอ�าลาก่อนกลับประเทศจีน ที่ห้องรับรองอาคาร

พิพิธภัณฑ์ ซึ่งสืบเนื่องจาก วันที่ 26 พฤษภาคม 2557 มหาวิทยาลันเฉิงตู ได้ส่งนักศึกษา

มาสอนภาษาจีน ให้กับทางโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย เเผนกประถม ตามที่ได้ลงนามความ

ร่วมมือ MOU ร่วมกัน โดยนักศึกษาจีนทั้งหมด ได้ท�าการสอนจนครบก�าหนดระยะเวลาที่ตั้ง

ไว้ และต้องเดินทางกลับประเทศ วันที่ 30 กันยายน 2557

Montfort College Primary Section 19

MCP Events

วางพวงมาลาถวายบังคมพระบาทสมเด็จ

พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

คณะผู ้รวมบริหารและครูโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย

แผนกประถม ร่วมพิธีบ�าเพ็ญกุศล และวางพวงมาลา

ถวายบังคมพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

เนื่องในวันพระปิยมหาราช วันที่ 23 ตุลาคม 2557 ณ

ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 สนามหน้าศาลา

กลางจังหวัดเชียงใหม่

การอบรมระบบ SWIS โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม จัดการอบรม

และปรับปรุงข้อมูลพื้นฐานส่วนบุคคล ในระบบ SWIS ให้แก่ ครู เเละบุคลากร

ทุกคน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ระบบฐานข้อมูลประวัติบุคลากรของโรงเรียนเป็นปัจจุบัน

และสามารถน�ามาใช้ในการบริหารจัดการโรงเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยการอบรม

จัดขึ้นในวันที่ 30 กันยายน - วันที่ 1 ตุลาคม 2557 ณ ห้องเรียนคอมพิวเตอร์ 1-3

อาคารเซนต์หลุยส์ มารีย์

ร่วมแสดงความยินดีแก่ครู ที่ได้รับทุน ภราดาศุภนันท์

ขันธปรีชา แสดงความยินดีแก่ครูเกศวดี แก้วศรี และ

ม.สราวุธ ดรงค์ดุษฎี ที่ได้รับทุนการศึกษามูลนิธิคณะ

เซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย ไปศึกษาหลักสูตรระยะสั้น

8 สัปดาห์ ณ The Language School เมือง Hyderabad

ประเทศอินเดีย ระหว่างวันที่ 10 ตุลาคม 2557 - วันที่ 7

ธันวาคม 2557

พิธีบูชาขอบพระคุณวันศุกร์ต้นเดือนตุลาคม งานอภิบาลและศาสนกิจ

ฝ่ายกิจการนักเรียน โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม ร่วมกับคณะ

ครูนักเรียนและบุคลากรที่เป็นคาทอลิก ร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ วันศุกร์ต้น

เดือนตุลาคม เพื่อให้คณะครูนักเรียนและบุคลากรคาทอลิกในโรงเรียน ได้รับ

ฟังพระวาจาพระเจ้า เเละรับศีลมหาสนิท ณ วัดน้อยพระเมตตา วันศุกร์ที่ 3

ตุลาคม 2557

การสัมมนาครูและบุคลากร โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย เเผนก

ประถม จัดการสัมมนาครูและบุคลากรทางการศึกษา (กลุ่มครูผู้สอน)

เมื่อวันที่ 16-17 ตุลาคม 2557 ณ โบทานิค รีสอร์ท เชียงใหม่

20 Montfort College Primary Section

MCP Events

ค่ายลูกเสือกองร้อยลูกเสือพิเศษ งานลูกเสือ ฝ่ายกิจการนักเรียน ได้น�าลูกเสือกองร้อยพิเศษ 2 เดินทางสู่ค่ายลูกเสือม่อนค�าออน

จังหวัดเชียงใหม่ โดยงานลูกเสือ ได้จัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือกองร้อยพิเศษ 2 ขึ้นระหว่างวันที่

3-7 ตุลาคม 2557 ณ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกเสือที่เข้ารับการฝึกอบรมมีความเป็นระเบียบวินัย

การควบคุมตนเอง ช่วยเหลือผู้อื่น รู้รับผิดชอบ และสามารถใช้ชีวิตชาวค่ายร่วมกับเพื่อนได้

Montfort College Primary Section 21

MCP Events

โครงการค่ายภาษาจีน ณ เมืองเฉิงตู ภราดาศุภนันท์ ขันธปรีชา ผู้อ�านวยการ ร่วมส่งนักเรียนโครงการ

ค่ายภาษาจีน ที่สนามบินเชียงใหม่ เพื่อเดินทางสู่ประเทศสาธารณรัฐ

ประชาชนจีน เมืองเฉิงตู ร่วมกิจกรรมค่ายภาษาจีนที่โรงเรียนจัดขึ้น

วัตถุประสงค์ของโครงการ เพื่อให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการได้มีโอกาสฝึก

ทักษะด้านภาษาจีนโดยตรงกับเจ้าของภาษาในประเทศจีนได้เรียนรู้ศิลปะ

วัฒนธรรมของชาวจีนโดยประสบการณ์ตรงเป็นระยะเวลา 10 วัน โดย

นักเรียนได้เข้าร่วมโครงการ ระหว่างวันที่ 7-15 ตุลาคม 2557

ร่วมฉลองวันคล้ายวันเกิดภราดาโจเซฟ อังเดร เกแก็ง

ภราดาหลุยส์สุรสิทธิ์ สุขชัย อธิการเจ้าคณะแขวงมูลนิธิคณะ

เซนต์คาเบรียล แห่งประเทศไทย และคณะภราดาร่วมฉลองวัน

คล้ายวันเกิด อายุครบ 93 ปี ของภราดาอังเดร เกแก็ง ภราดา

อาวุโสของโรงเรียนในวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2557 ณ บ้านพัก

ภราดา เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2557

Halloween งานบริหารโปรแกรมภาษาอังกฤษ ฝ่ายวิชาการ จัดกิจกรรมวัน

ฮาโลวีนขึ้น ในวันศุกร์ ที่ 31 ตุลาคม 2557 ที่โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนก

ประถม โดยนักเรียนและครูผู้สอน EP ทุกคน เดินไปตามห้องเรียน IEเคาะประตู

แล้วถามนักเรียนห้อง IE ว่า Trick or Treat แล้วนักเรียน EP ก็จะแจกขนม

และลูกอมให้แก่เพื่อนๆ ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียน

รู้วัฒนธรรมของชาวต่างชาติ และมีการสอดแทรกเนื้อหาเข้าไปในบทเรียนตาม

ความเหมาะสม

ฝ่ายกิจการนักเรียน จัดกิจกรรมสืบสานประเพณียี่เป็งมงฟอร์ต โดยให้

นักเรียนได้ร่วมประดิษย์กระทงใบตอง และตกเเต่งโคมยี่เป็ง โดยมี

วัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนได้ทราบถีงความเป็นมา และร่วมกันอนุรักษ์

ประเพณียี่เป็งที่ทรงคุณค่าแห่งล้านนาที่อยู่คู่กับชาวเชียงใหม่มายาวนาน

กิจกรรมสืบสานประเพณียี่เป็งมงฟอร์ต จัดระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม

-7 พฤศจิกายน 2557

สืบสานประเพณียี่เป็ง

22 Montfort College Primary Section

เกร็ดความรู้ MCP กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ฝ่ายวิชาการ โดยครูฉวีวรรณ ศรีอุทัย

ขอทาน-beggar (n.) วณิพก-performers (n.) อพยพ-migrate (v.) สืบทอด-inherit (v.)

ที่มา : ข้อมูลจาก ส�านักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุโขทัย

ครื้นเครงเพลงพื้นบ้าน

แม่เฒ่าเล่าขาน ต�านานเพลง ขับกล่อมบรรเลง เพลงขอทาน เศษเงินอาหาร ให้เจือจานผ่านพ้นคืนวัน อันหนาวเหน็บ

ตาแกบอด (ตาแกบอด) มองไม่เห็น (มองไม่เห็น) ร้องเพลงขอทาน ด้วยความจ�าเป็น ชีวิตล�าเค็ญ หนอยายส�าอาง……….

ยายส�าอาง ...เพลงขอทาน...บทเพลงเพื่อชีวิตของคาราบาว...หลายคนที่ได้ฟังคงเกิดสุนทรียะ...เกิดความจรรโลงใจ..ฟังแล้วท�าให้คิดถึงความ

เป็นจริงของวิถีประชาที่อยู่ร่วมกันในสังคมซึ่งมีผู้คนอยู่ร่วมกันทุกชนชั้น ศิลปะเกือบทุกแขนงมักได้รับถ่ายทอดออกมาจากศิลปินพื้นบ้านผู้น�าเอา

เรื่องราว และต�านานในท้องถิ่นออกมาน�าเสนอเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ตกทอดสู่ลูกหลาน ท�าให้เยาวชนมองเห็นถึงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษและ

รากเหง้าของตนเอง

เพลงขอทาน เป็นเพลงที่วณิพกใช้ร้องเล่นหากินมักร้องเป็นเรื่องจักรๆ วงศ์ๆ โดยปกติแล้วมักมีเครื่องดนตรีประกอบการร้อง ได้แก่ ฉิ่งและโทน

ผู้ร้องจะตระเวนร้องเรื่อยไปไม่ค่อยอยู่เป็นที่ ในอดีตเพลงขอทานจะพบเห็นได้โดยทั่วไป เนื่องจากมีการเคลื่อนย้ายอพยพคนในท้องถิ่นแถบภาค

กลางเข้าไปอาศัยอยู่ในจังหวัดสุโขทัยในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตอ�าเภอสวรรคโลกและได้น�าเอาวัฒนธรรมประเพณีต่างๆ ของภาคกลางเข้าไป

ใช้ในวิถีชีวิต เพลงขอทานหรือวณิพก เป็นเพลงพื้นบ้านชนิดหนึ่งมีมาตั้งแต่ครั้งโบราณ คงเนื่องมาจากการเล่านิทาน ให้คนฟังสมัยก่อนมีการรับจ้าง

เล่านิทาน วันใดไม่มีคนมาจ้างก็ต้องตระเวนไปเล่าในที่ต่างๆ เพื่อขอแลกเปลี่ยนเป็นเงิน หรือสิ่งของ

เพลงขอทาน มีท�านองเป็นเอกลักษณ์โดยเฉพาะ สมัยก่อนเวลามีงานวัด จะต้องมีการหาของไว้เข้าโรงครัว กรรมการวัดจะต้องออกไปเรี่ยไร

ข้าวสารอาหารแห้งเป็นประจ�า จึงต้องมีการร้องขอ ครั้นจะร้องธรรมดา ก็รู้สึกว่าไม่จูงใจคนท�าบุญ จึงแต่งเนื้อเพลง โดยยึดเอานิทานชาดกเป็นหลัก

ใส่ท�านอง มีลูกคู่ และเพิ่มเครื่องก�ากับจังหวะตามถนัด เมื่อได้สิ่งของมาก็เอาเข้าวัด ต่อมามีผู้เลียนแบบและยึดเป็นอาชีพไปเลยก็มี การขอแบบมี

เสียงเพลงหรือเสียงดนตรีแลกเปลี่ยน เรียกว่า “วณิพก “ แต่ถ้าไม่มีเสียงเพลงหรือเสียงดนตรีแลกเปลี่ยน เรียกว่า “ยาจก” หรือ “กระยาจก ”

เพลงขอทานนับวันจะสูญหายไปจากสังคมไทยเนื่องจากเป็นบทเพลงที่คนทั่วไปมองว่าเป็นเพลงของคนชั้นต�่า เป็นเพลงของพวกขอทาน

จึงไม่กล้าที่จะน�าเอาไปร้องเล่นกัน ประกอบกับวณิพกที่ร้องเพลงขอทานได้ค่อยๆ ล้มหายตายจากไปและไม่มีใครสืบทอดไว้

ผู้ร้องเพลงขอทาน นอกจากจะมีความสามารถในการขับร้องเพลงขอทานแล้วยังต้องมีความสามารถในการเล่นเครื่องดนตรีอีกทางหนึ่งด้วย

เพื่อช่วยท�าให้การร้องเพลงขอทานมีความโดดเด่นเกิดความประทับใจความสนุกสนานเพลิดเพลินแก่ผู้พบเห็นและเกิดความเมตตาสงสารมอบเงิน

ทอง ข้าวปลาอาหารสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ แก่ผู้ร้องเพลงขอทาน เครื่องดนตรีอื่นๆ ที่ใช้เล่นประกอบการร้องเพลงขอทาน เช่น กรับและซอ เป็นต้น

การเล่นเพลงขอทานในระยะต่อมามีผู้สนใจท�าการศึกษาและพัฒนาวิธีการเล่นเพลงขอทานจากการร้องเพื่อแลกกับสิ่งของไปเป็นการเล่นเพื่อ

การแสดงจึงมีการน�าเอาวงปี่พาทย์เข้าไปบรรเลงประกอบตามบทบาทเพื่อให้เกิดความสนุกสนานเพิ่มมากขึ้น และสามารถสร้างสรรค์บทร้องให้มี

สาระเรื่องราวต่างๆ เข้ากับเหตุการณ์ในปัจจุบัน

สถานที่ใช้แสดงเป็นสถานที่ใดก็ได้โดยให้มีพื้นที่ประมาณ 4x6 เมตร เพื่อใช้ส�าหรับตั้งเตียงหรือตั่งขนาดเล็กส�าหรับผู้ร้องเพลงขอทานและ

ส�าหรับตั้งวงดนตรีไทยที่มีคนนั่งได้ประมาณ 7-8 คน

โอกาสที่ใช้แสดง

1. ร้องเล่นเป็นการแสดงในงานเทศกาลต่างๆ

2. สาธิตเผยแพร่ตามสถานศึกษาและหน่วยงานต่างๆ

3. ร้องเล่นในการเผยแพร่ในเชิงวัฒนธรรมในโอกาสต่างๆ

“เพลงขอทาน”

Montfort College Primary Section 23

วิถีล้านนาตอน ประเพณียี่เป็ง

ประเพณี-tradition (n.) ต้นอ้อย-cane (n.) โคมไฟ-lantern (n.) การอนุรักษ์-conservation (n.) โคมลอย-balloon (n.)

ที่มา : http://www.iurban.in.th/news_event/yipeng/http://www.paiduaykan.com/76_province/north/chiangmai/yipang.html

ในภาษาค�าเมืองของทางเหนือ “ยี่” แปลว่า สอง และค�าว่า “เป็ง”

หมายถึง เพ็ญ หรือพระจันทร์เต็มดวง ดังนั้นจึง หมายถึงประเพณี พระจันทร์

เต็มดวงในเดือนสอง โดยในพงศาวดารโยนกและจามเทวี มีบันทึกว่าครั้งหนึ่ง

ได้เกิดอหิวาตกโรคขึ้นในแคว้นหริภุญไชย ท�าให้ชาวเมืองต้องอพยพไปอยู่

เมืองหงสาวดี นานถึง 6 ปี จึงจะเดินทางกลับมายังบ้านเมืองเดิมได้เมื่อเวลา

เวียนมาถึงวันที่จากบ้าน จากเมืองไปจึงได้มีการท�ากระถางใส่เครื่องสักการ

บูชา ธูปเทียนลอยตามน�้าเพื่อให้ไปถึงญาติพี่น้องที่ล่วงลับไป เรียกว่าการ

ลอยโขมด หรือลอยไฟ ในงานบุญยี่เป็ง ยังมีการเทศน์มหาชาติ ผู้คนจะออก

มาตกแต่งบ้านเรือน วัดวาอาราม และถนนหนทาง ด้วยต้นกล้วย อ้อย ทาง

มะพร้าว ดอกไม้ ตุงช่อประทีปและชักโคมยี่เป็งแบบต่างๆ ขึ้นเป็นพุทธบูชา

ยามค�่าคืน จะมีการจุดโคมลอยปล่อยขึ้นสู่ท้องฟ้า เพื่อบูชาพระเกตุแก้วจุฬา

มณีบนสรวงสรรค์ชั้นดาวดึงส์ จุดเด่นของงานนี้อยู่ที่การปล่อยโคมลอย ขึ้น

ไปในท้องฟ้าโดยเชื่อกันว่า เปลวไฟในโคมเป็นสัญลักษณ์ของความรู้และแสง

สว่างที่ได้รับจากโคมจะส่งผลให้ด�าเนินชีวิตไปในทางที่ถูกต้อง

ประเพณียี่เปงจะเริ่มตั้งแต่วันขึ้น 13 ค�่า ซึ่งถือว่าเป็น “วันดา” หรือวัน

จ่ายของเตรียมไปท�าบุญเลี้ยงพระที่วัด ครั้นถึงวันขึ้น 14 ค�่า พ่ออุ้ยแม่อุ้ย

และผู้มีศรัทธาก็จะพากันไปถือศีล ฟังธรรม และท�าบุญเลี้ยงพระ ที่วัดมีการ

ท�ากระทงขนาดใหญ่ตั้งไว้ที่ลานวัดในกระทงนั้น จะใส่ของกินของใช้ ใครจะ

เอาของมาร่วมสมทบด้วยก็ได้เพื่อเป็นทานแก่คนยากจน ครั้นถึงวันขึ้น 15 ค�่า

จึงน�ากระทงใหญ่ที่วัดและกระทงเล็กๆ ของส่วนตัวไปลอยในล�าน�้า ในงานบุญ

ยี่เป็งนอกจากจะมีการปฏิบัติธรรม ฟังเทศน์มหาชาติตามวัดวาอารามต่างๆ

แล้วยังมี การประดับตกแต่งวัด บ้านเรือน และถนนหนทางด้วย ต้นกล้วย ต้น

อ้อย ทางมะพร้าว ดอกไม้ ตุง ช่อประทีป และชักโคมยี่เป็ง แบบต่างๆ ขึ้นเป็น

ประเพณยีี่เป็งพุทธบูชา พอตกกลางคืนก็จะมีมหรสพและ การละเล่นมากมาย มีการแห่โคม

ทอง พร้อมกับมีการจุดถ้วย ประทีป (การจุดผางปะติ๊ด) เพื่อบูชาพระรัตนตรัย

การจุดบอกไฟ การจุดโคมไฟประดับตกแต่งตามวัดวาอาราม และการจุด

โคมลอยปล่อยขึ้นท้องฟ้าเพื่อบูชา พระเกตุแก้วจุฬามณีบนสรวงสวรรค์ชั้น

ดาวดึงส์ ความเชื่อ การปล่อยว่าวไฟหรือโคมลอยนี้ ชาวบ้านมักมีความเชื่อ

กันว่า เพื่อให้ว่าวได้น�าเอาเคราะห์ ร้ายภัยพิบัติต่างๆ ออกไปจากหมู่บ้าน

ดังนั้นว่าวหรือโคมลอยที่ปล่อยขึ้นไปถ้าไปตกในบ้านใครบ้านนั้น ต้องท�าพิธี

สะเดาะเคราะห์ เพื่อล้างเสนียด จัญไรทั้งปวงออกไป นอกจากนี้ ยังถือกันว่า

เป็นการท�าเพื่อบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และเพื่อความสนุกสนาน

สร้างความสามัคคีกันในหมู่บ้านอีกด้วย

ตามวัฒนธรรมของล้านนาจะแบ่งโคมไฟออกเป็น 4 แบบ คือ “โคมติ้ว”

หรือ โคมไฟเล็กที่ห้อยอยู่กับซีกไม้ไผ่ซึ่งผู้คนจะถือไปในขบวนแห่และ

น�าไปแขวนไว้ที่วัด แบบที่สองเรียก “โคมแขวน” ที่ใช้แขวนบูชาพระพุทธรูป

แบบด้วยกันเช่น รูปดาว รูปตะกร้า โดยปกติจะใช้แขวนตามวัดหรือตามหิ้ง

พระก็ได้แบบที่สามเรียก “โคมพัด” ท�าด้วยกระดาษสาเป็นรูปกรวยสองอัน

พันรองแกนเดียวกันด้านนอกจะไม่มีลวดลายอะไร ส่วนด้านในจะตัดแต่งเป็น

รูปทรงต่างๆ ในทางพุทธศาสนา เมื่อจุดโคมด้านใน แสงสว่างจะท�าให้เกิด

เงาบนกรวย ด้านนอกก็จะเคลื่อนไหวคล้ายตัวหนังตะลุงแบบสุดท้ายเรียก

“โคมลอย” เป็นโคมใหญ่มีรูปร่างคล้ายบอลลูน ตัวโครงท�าจากซีกไม้ไผ่หุ้ม

ด้วยกระดาษสา เมื่อจุดโคม ความร้อนจากเปลวไฟ จะท�าให้โคมลอยตัวขึ้น

การปล่อยโคมลอยนี้จะท�ากันที่วัดหรือตามบ้านคน โดยเชื่อกันว่าโชคร้าย

ทั้งหลายจะลอยไปกับโคม

ครูจุฑามาศ สุนทรพฤกษ์

24 Montfort College Primary Section

เกร็ดความรู้ MCP

กลอนแปด แต่งง่ายนิดเดียว หลังจากที่ได้ดูตัวอย่างกลอนแปดผ่านไปหลายฉบับแล้วนั้น มีหลายคนได้ลองแต่งกลอนแปดส่งมาให้ ผู้เขียนอ่าน ในฉบับนี้ผู้เขียนจึงได้คัด

เลือกเอาผลงานของนักเรียนที่แต่งกลอนแปดมาแบ่งปันให้ทุกท่านได้อ่านดูและผู้เขียนก็ยังรออ่านผลงานของทุกคนอยู่นะคะ

กว-ีpoet (n.) อนันต ์-infinite (adj.) ทวีป-continent (n.)

โดย ครูวิไลวรรณ เครือเทพ

วันนี้มีกวีน้อยแต่งกลอนมา ขันอาสาพากันขับขานไข

ครูรู้สึกปลาบปลื้มแช่มชื่นใจ ที่หวังไว้ได้เกิดผลให้ยลชม

ครูจะคอยเป็นพลังช่วยขับเคลื่อน เหล่านักเรียนได้ใกล้ชิดสนิทสนม

แต่งกลอนส่งกันมาต่างอารมณ์ ลองมาชมมาอ่านผลงานดู

ใครที่ยังลังเลอยู่ตอนนี้ มีพื้นที่ให้ฝึกเขียนและเรียนรู้

อย่ารอช้าลงมือท�าน�าส่งครู ผลงานหนูนั้นมีค่าน่าอ่านเอย

ครูปอนด์

ตัวฉันเป็นนักกีฬาของโรงเรียน ฉันพากเพียรขยันซ้อมอยู่ทุกวัน

ซ้อมเช้าเย็นอย่างหนักเพื่อตัวฉัน เหรียญรางวัลน�ามาให้โรงเรียน

ก�าลังใจได้มาจากพรรคพวก พลังบวกเพิ่มขึ้นหาไหนเหมือน

ประสบการณ์มาจากค�าติเตือน เหมือนบทเรียนที่เราต้องจ�าเอย

พระคุณครู

คุณครูคือผู้ให้ที่ใหญ่ยิ่ง ศิษย์ทั้งหลายรู้แจ้งจริงทุกสิ่งสรรค์

เป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์คุณอนันต์ ขอเทพไทเทวัญบันดาลดล

ได้ร่มเย็นเป็นสุขทุกทุกท่าน ได้พ้นโศกพ้นภัยพาลทุกแห่งหน

พบแต่สุขสวัสดีมีมงคล ศิษย์ทุกคนพร้อมยึดมั่นกตัญญู

ด.ญ.กมลลักษณ์ เทพวงค์ ป. ๖/๑ เลขที่ ๒๕

พอสิ้นฝนสู่หนาวมาแล้วหนอ เวลาพอเปลี่ยนผ่านสู่ขานไข

ลมหนาวมาฤดูฝนก็จากไป ไม่มีใครหยุดมันได้หรอกนา

ถึงหน้าหนาวคิดถึงเสื้อผ้าใหม่ เอามาใส่กันหนาวกันเถิดหนา

ใครมีมากหลากหลายโปรดเลือกมา ให้เพื่อนยาบนดอยเขาคอยเอย

ด.ญ.พรหมพลอย ศรีสวัสดิ์ ป. ๖/๗ เลขที่ ๒๑

ทวีป

ทวีปทั้งเจ็ดทวีปบนโลกนี้ นิวซีแลนด์อยู่ทวีปออสเตรเลีย

ส่วนประเทศไทยนั้นอยู่เอเชีย มอริเตเนียอยู่ที่แอฟริกา

แอนตาร์กติกาอยู่ขั้วโลกใต้ อเมริกาใต้มีกายอานา

อเมริกาเหนือนั้นมีแคนาดา โรมาเนียอยู่ที่ยุโรปเอย

ด.ญ.ณัฐวศา กล่อมแก้ว ป. ๖/๑ เลขที่ ๔

ด.ช.จิรวัฒน์ สนมวัฒนวงศ์ ป. ๕/๗ เลขที่ ๔๗ ด.ช.ชนะกันต์ แสงนวล ป. ๕/๗ เลขที่ ๑๗

ด.ญ.ตีรณา ปันทา ป. ๕/๗ เลขที่ ๒๐

หลังจากที่ได้อ่านผลงานของหลายคนไปนั้น คนอื่นที่แต่งไว้แล้วแต่ยังไม่ได้ส่งมาก็ทยอยส่งกันมาได้แล้วนะคะ ตรงนี้มีพื้นที่ให้ทุกคนได้แสดงความ

สามารถของตนเองอย่างเต็มเปี่ยมค่ะ

Montfort College Primary Section 25

MCP Cartoon

ครูสุญาณี วัฒนกุล (ครูแคท)ต�าแหน่งงาน พัฒนาบุคลากรการศึกษา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยาผลงานที่ภูมิใจได้รับรางวัลเหรียญทอง จากโครงการค่ายอนุรักษ์พลังงาน nane (ก๊าซชีวภาพ)เยาวชนอนุรักษ์ผืนป่า egco รุ่นที่ 26ตัวแทนนิสิตในการเข้าร ่วมให้ค�าปรึกษาด้านกฎหมายแก่ชาวบ้านในเขต อ.เชียงม่วน จ.พะเยา

ครูมาลินี มีครัว (ครูแอล)ต�าแหน่งงาน ครูประจ�าชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3/9การศึกษา คณะครุศาสตร์เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ผลงานที่ภูมิใจCertificated English Grammar, Norwalk Community College, USA

แนะน�าครูใหม่MCP Welcomes New Teachers

ครูสุวิรดา เสนาประยูร (ครูสาลี่)ต�าแหน่งงาน ครูผู้ช่วยสอน ประจ�าชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/1

การศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาการประถมศึกษาผลงานที่ภาคภูมิใจ

รางวัลชนะเลิศการแข่งขันเต้นแอโรบิกประเภททีม ระดับประเทศ ประจ�าปี 2549ผู้น�าเชียร์ลีดเดอร์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

Montfort College Primary Section 27