Upload
others
View
6
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ
www.facebook.com/buncha2509
ทความบบ
เบื้องหลังทรงกลดอัศจรรย์...
เหนือฟ้าเมืองไทย
ภาพที่ 1 : อาทิตย์ทรงกลดเหนือฟ้า จ.มหาสารคาม วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2556 เวลา 9:20 น.
ภาพโดย อาจารย์วรรณี ชัชวาลทิพากร
ช่วงฤดูฝนปีพ.ศ. 2556มีปรากฏการณ์อาทิตย์ทรงกลดแบบแปลกๆ เกิดขึ้นหลายครั้ง ในจำนวนนี้
มี2ครั้งที่น่าบันทึกไว้เป็นพิเศษเนื่องจากภาพถ่ายมีความสมบูรณ์และมีลักษณะใกล้เคียงกันพอสมควรได้แก่
อาทิตย์ทรงกลดซึ่งเกิดขึ้นที่ จ.มหาสารคาม เมื่อวันศุกร์ที่ 21มิถุนายนและที่ จ.สุโขทัย เมื่อวันอังคารที่ 2
กรกฎาคมพ.ศ.2556
ภาพที่ 2 : อาทิตย์ทรงกลดเหนือฟ้า จ.สุโขทัย วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม 2556 เวลา 10:04 น.
ภาพโดย คุณฐปนพัฒน์ ศรีปุงวิวัฒน์ (ชื่อใน facebook: Thapanapat Sripungwiwat)
ตุลาคม - ธันวาคม 2556
53
ภาพ A) อาทิตย์ทรงกลดเหนือมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ซ้าย : ภาพโดย ดร.สุรเวช สุธีธร ขวา : ภาพจำลองเหตุการณ์โดย ผู้เขียน
บันทึกเหตุการณ์เกี่ยวกับอาทิตย์ทรงกลด
ที่มหาสารคาม
ผมรับทราบกรณีทรงกลดที่มหาสารคามจากการที่ ดร.สุรเวช สุธีธร1 ได้ โพสต์ภาพจำนวนหนึ่ง
ไว้ ในกลุ่มชมรมคนรักมวลเมฆใน facebook (www.facebook.com/groups/CloudLoverClub)
โดยผมได้วิเคราะห์เส้นทรงกลดในภาพหนึ่งเอาไว้เบื้องต้น(ดูภาพA)
ตอ่มาไดท้ราบวา่ทา่นอาจารยว์รรณีชชัวาลทพิากรไดถ้า่ยภาพดว้ยเลนสต์าปลาซึง่บนัทกึเสน้ทรงกลด
รูปแบบต่างๆไว้ได้อย่างสมบูรณ์กว่าโดยดร.สุรเวชได้ประสานงานขอภาพดังกล่าวมาให้ผมจึงได้ติดต่อขอ
อนญุาตทา่นอาจารยว์รรณเีพื่อใชภ้าพดงักลา่วนี้ในการศกึษาทางวทิยาศาสตร์ซึง่ทา่นกย็นิดมีอบใหเ้พื่อประโยชน ์
สาธารณะ
ย้อนกลับไปเล่าถึงที่มาของภาพอาทิตย์ทรงกลดของอาจารย์วรรณีเล็กน้อย ดร.สุรเวช เล่าว่า
เหตุการณ์เกิดในช่วงเวลาที่มหาวิทยาลัยมหาสารคามจัดกิจกรรมการอบรมการถ่ายภาพในโครงการศิลปิน
แห่งชาติสัญจร ค่ายวัฒนธรรมเยาวชน รู้รักษ์แผ่นดินไทย ภูมิใจถิ่นกำเนิด ๒๕๕๖ ระหว่างวันที่ ๒๐-๒๑
มิถุนายน
1อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ตุลาคม - ธันวาคม 255654
ดร.สุรเวช เล่าให้ฟังว่า “ช่างเป็นความบังเอิญที่ลงตัวจริงๆ ครับ โชคดีที่อาจารย์ท่าน
[หมายถึง อาจารย์วรรณี ชัชวาลทิพากร] ก็ชอบถ่ายภาพอาทิตย์ทรงกลดด้วยเหมือนกัน ตอนแรกที่ผมเห็น
ตอนขับรถออกจากบ้านมาก็แวะจอดถ่ายรูปทรงกลดคู่กับตึกและตราโรจนากร (สัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย
มหาสารคาม)รปูนีเ้ลยไดร้บัรางวลัดว้ยทัง้องคป์ระกอบและจงัหวะพอมาถงึทีห่อ้งกเ็ลยบอกอาจารยแ์ละสมาชกิ
ในห้องว่าอาทิตย์กำลังทรงกลดก็พากันออกไปเก็บภาพเลยได้ภาพชุดนี้มาครับ”(ดูภาพB)
รูปภาพที่ได้รับรางวัลนี้มีภาพดวงอาทิตย์อยู่เหนืออาคาร โดยมีการทรงกลด3 เส้นปรากฏอยู่ ได้แก่
หนึ่ง-วงกลมล้อมดวงอาทิตย์เรียกว่าการทรงกลดแบบวงกลมขนาด22องศา(22-degreecircularhalo)
สอง - วงรีล้อมรอบวงกลม เรียกว่า การทรงกลดแบบเซอร์คัมสไครบด์ (circumscribed halo) และ
สาม-เสน้โคง้ลากผา่นดวงอาทติย์ซึง่เปน็สว่นหนึง่ของวงกลมขนาดใหญท่ีเ่รยีกวา่วงกลมพารฮ์ลีกิ(parhelic
circle)
ภาพ B) อาทิตย์ทรงกลดเหนืออาคารในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ภาพโดย สุรเวช สุธีธร
ตุลาคม - ธันวาคม 2556
55
เนื่องจากอาทิตย์ทรงกลดเกิดจากการที่แสงอาทิตย์หักเหหรือสะท้อนโดยผลึกน้ำแข็งในเมฆซีร์โร-
สเตรตัสเป็นหลัก(อาจมีบางส่วนที่เกิดจากผลึกน้ำแข็งในเมฆซีร์รัสแต่พบน้อยกว่า)ดังนั้นในการศึกษาจึงมัก
ใช้ โปรแกรมคอมพิวเตอร์สร้างแบบจำลองผลึก แล้วปรับค่าตัวแปรต่างๆ เพื่อให้ได้ภาพจำลองใกล้เคียงกับ
ภาพถา่ยจรงิตวัแปรสำคญัไดแ้ก่รปูรา่งของผลกึการเอยีงตวัของผลกึและปรมิาณสมัพทัธ์โปรแกรมที่ใชช้ื่อ
HaloPoint2.0เป็นฟรีแวร์เขียนโดยJukkaRuoskanenผู้เชี่ยวชาญปรากฏการณ์ทรงกลด
เนื่องจากการทรงกลดทัง้สองครัง้นีม้ลีกัษณะหลกัคลา้ยคลงึกนัผมจงึไดเ้ลอืกการทรงกลดทีม่หาสารคาม
ในการศึกษาโดยจะเทียบเคียงผลการจำลองที่ได้กับการทรงกลดทั้งสองแห่งไปพร้อมๆกัน
ในแบบจำลองได้ ใช้ผลึกน้ำแข็ง3กลุ่มดังนี้
(1)ผลึกน้ำแข็งรูปแท่ง(columnarcrystal)ซึ่งมีหน้าตัดเป็นรูป6เหลี่ยมด้านเท่า(ลองนึกถึงกล่อง
ช็อคโกแลตโคอาล่ามาร์ช)โดยผลึกเหล่านี้เอียงตัวอย่างสะเปะสะปะอยู่ในเมฆซีร์โรสเตรตัส(ปริมาณสัมพัทธ์
12%)
(2) ผลึกน้ำแข็งรูปแผ่น (plate crystal) ซึ่งมีผิวบนและล่างเป็นรูป 6 เหลี่ยมด้านเท่า และวางตัว
ในแนวนอนโดยประมาณ(ปริมาณสัมพัทธ์20%)
(3)ผลกึนำ้แขง็รปูแทง่(columnarcrystal)ซึง่มหีนา้ตดัเปน็รปู6เหลีย่มดา้นเทา่และวางตวัในแนวนอน
(ปริมาณสัมพัทธ์68%)
ภาพที่ 3 : พารามิเตอร์สำหรับแบบจำลองอาทิตย์ทรงกลดที่มหาสารคาม
ตุลาคม - ธันวาคม 255656
ในวันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2556 เวลา 9:20 น. ดวงอาทิตย์อยู่สูงจากขอบฟ้า 49.85 องศา
(คำนวณโดยโปรแกรมNOAASolarCalculatorบนอินเทอร์เน็ต)
การคำนวณเส้นการทรงกลดแบบต่างๆที่เกิดขึ้นจากผลึกทั้ง3กลุ่มได้ผลดังนี้
ผลึกกลุ่มที่(1)ซึ่งเป็นผลึกน้ำแข็งรูปแท่งเอียงตัวอย่างสะเปะสะปะทำให้เกิดเส้นวงกลมขนาด22
องศา(22-degreecircularhalo)ดังที่ปรากฏในภาพการทรงกลดที่มหาสารคามและสุโขทัย
ผลึกกลุ่มที่(2)ซึ่งเป็นผลึกน้ำแข็งรูปแผ่นทำให้เกิดการทรงกลดแบบซันด็อก(sundog)พาร์ฮีเลีย
120องศา(120-degreeparhelia)และวงกลมพาร์ฮีลิก(parheliccircle)
น่าสนใจว่า วงกลมพาร์ฮีลิกปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนทั้งในภาพที่มหาสารคามและภาพที่สุโขทัย
ในขณะที่ซันด็อกและพาร์ฮีเลีย120องศาปรากฏชัดเจนกว่าในภาพที่มหาสารคามโดยเห็นเป็นแนวสว่างบน
วงกลมพาร์ฮีลิก(วงกลมขนาดใหญ่ในภาพ)
ผลึกกลุ่มที่(3)ซึ่งเป็นผลึกน้ำแข็งรูปแท่งวางตัวในแนวนอนทำให้เกิดการทรงกลดหลายแบบได้แก่
การทรงกลดแบบเซอรค์มัสไครบด์(circumscribedhalo)เสน้โคง้เวเกเนอร์(Wegenerarc)วงกลมพารฮ์ลีกิ
(parheliccircle)และเส้นโค้งอินฟราแลตเทอรัล(infralateralarc)
ภาพที่ 4 : การคำนวณมุมเงยของดวงทิตย์ด้วยโปรแกรม NOAA Solar Calculator
ตุลาคม - ธันวาคม 2556
57
ตุลาคม - ธันวาคม 255658
มีข้อสังเกตที่น่าสนใจหลายอย่างเกี่ยวกับเส้นที่เกิดจากผลึกในกลุ่มนี้เช่น
หนึ่ง-วงกลมพาร์ฮีลิกตัดกับเส้นโค้งเวเกเนอร์ที่จุดสำคัญซึ่งเรียกว่าจุดแอนทีลิก(anthelicpoint)
สอง - เส้นทางเดินของแสงผ่านผลึกที่ทำให้เกิดการทรงกลดแบบเซอร์คัมสไครบด์และเส้นโค้ง
เวเกเนอร์มแีงม่มุแตกตา่งกนัเลก็นอ้ยซึง่คณุผูอ้า่นอาจลองเปรยีบเทยีบไดด้ว้ยตนเอง(ดใูนหวัขอ้เสน้ทางเดนิ
ของแสงผ่านผลึกที่ทำให้เกิดการทรงกลดแบบต่างๆ)
สาม-เส้นโค้งเวเกเนอร์ในภาพที่สุโขทัยดูชัดเจนกว่าเส้นเดียวกันนี้ในภาพที่มหาสารคาม
สี่-เสน้โคง้อนิฟราแลตเทอรลัปรากฏใหเ้หน็จางๆในภาพทีส่โุขทยั(มมุลา่งซา้ยและขวา)แตไ่มป่รากฏ
ให้เห็นในภาพที่มหาสารคาม
ภาพที่ 5A : ภาพจำลองอาทิตย์ทรงกลดแบบต่างๆ และชื่อเรียก มุมมองแบบเลนส์ตาปลา
(horizon คือ เส้นขอบฟ้า และ zenith คือ จุดยอดฟ้า)
ตุลาคม - ธันวาคม 2556
59
เส้นทางเดินของแสงผ่านผลึกที่ทำให้เกิดการทรงกลดแบบต่างๆ
ก่อนที่จะกล่าวถึงแผนภาพแสดงเส้นทางเดินของแสงผ่านผลึกที่ทำให้เกิดการทรงกลดรูปแบบต่างๆ
เราควรรู้จักรหัสตัวเลขที่ใช้เรียกหน้าของผลึกรูปแผ่นและผลึกรูปแท่งเสียก่อน(ภาพที่6)
ในการระบุเส้นทางเดินของแสง จะบอกลำดับเลขหน้าเรียงกันไป เช่น การทรงกลดแบบวงกลม
22องศามีเส้นทางเดินของแสง(raypath)5-7หมายความว่าแสงเข้าที่หน้าหมายเลข5หักเหเข้าไปในผลึก
แล้วเหออกจากหน้า7เป็นต้น
ภาพที่ 5B : ภาพจำลองมุมมองแบบ 3 มิติ แสดงทรงกลดเหนือฟ้ามหาสารคาม
(zenith คือ จุดยอดฟ้า และ horizon คือ เส้นขอบฟ้า)
ภาพที่ 6 รหัสตัวเลขที่ใช้เรียกหน้าของผลึกรูปแผ่นและรูปแท่ง
ตุลาคม - ธันวาคม 255660
การทรงกลดแบบวงกลมขนาด22องศา(22-degreecircularhalo)
วงกลม 22 องศา เกิดจากการหักเหของแสงผ่านผลึกน้ำแข็งรูปแท่งซ่ึงเอียงตัวอย่างสะเปะสะปะในเมฆ
ซันด็อก(sundog)
ซันด็อกเกิดแสงตกกระทบผิวข้างของผลึกรูปแผ่นแล้วหักเหเข้าไปในผลึกจากนั้นก็หักเหออกจากผิว
ข้างอีกผิวหนึ่ง
ภาพที่ 7 : แผนภาพแสดงการเกิดการทรงกลดแบบวงกลมขนาด 22 องศา (เส้นทางเดินของแสง 5-7)
ภาพที่ 8 : เส้นทางเดินของแสงผ่านผลึกน้ำแข็งที่ทำให้เกิดซันด็อก (เส้นทางเดินของแสง 3-5)
พาร์ฮีเลีย120องศา(120-degreeparhelia)
พารฮ์เีลยี120องศาเกดิจากแสงตกกระทบผวิบนแลว้หกัเหเขา้ไปในผลกึจากนัน้กส็ะทอ้นผวิขา้งหนา้หนึง่
สะท้อนผิวข้างอีกหน้าหนึ่งแล้วตกกระทบผิวล่างและหักเหออกไปจากผลึก
การทรงกลดแบบเซอร์คัมสไครบด์(circumscribedhalo)
การทรงกลดแบบเซอร์คัมสไครบด์ เกิดจากแสงตกระทบผิวข้างของผลึกรูปแท่งที่วางตัวในแนวนอน
จากนั้นหักเหเข้าไปในผลึกแล้วหักเหออกมาจากผิวข้างอีกหน้าหนึ่ง
ภาพที่ 9 : เส้นทางเดินของแสงผ่านผลึกน้ำแข็งที่ทำให้เกิดพาร์ฮีเลีย 120 องศา (เส้นทางเดินของแสง 1-5-6-2)
ภาพที่ 10 : เส้นทางเดินของแสงผ่านผลึกน้ำแข็งที่ทำให้เกิดการทรงกลดแบบเซอร์คัมสไครบด์ (เส้นทางเดินของแสง 5-3)
ตุลาคม - ธันวาคม 2556
61
ตุลาคม - ธันวาคม 255662
เส้นโค้งเวเกเนอร์(Wegenerarc)
เส้นโค้งเวเกเนอร์ เกิดจากแสงตกระทบผิวข้างของผลึกรูปแท่งที่วางตัวในแนวนอน จากนั้นหักเห
เข้าไปในผลึกสะท้อนผิวหน้าแล้วหักเหออกมาจากผิวข้าง
วงกลมพาร์ฮีลิก(parheliccircle)
วงกลมพาร์ฮีลิกเกิดจากทั้งผลึกน้ำแข็งรูปแผ่นและรูปแท่ง (โดยเส้นทับซ้อนกัน) แผนภาพที่ให้ไว้นี้
แสดงตัวอย่างเส้นทางของแสงที่เป็นไปได้บางแบบเท่านั้น (หมายความว่าเส้นทางเดินของแสงผ่านผลึกที่ทำ
ให้เกิดวงกลมพาร์ฮีลิกมีหลายแบบมากกว่าตัวอย่างที่ให้ไว้)
ภาพที่ 11 : เส้นทางเดินของแสงผ่านผลึกน้ำแข็งที่ทำให้เกิดเส้นโค้งเวเกเนอร์ (เส้นทางเดินของแสง 6-2-8)
ภาพที่ 12 : เส้นทางเดินของแสงผ่านผลึกน้ำแข็งที่ทำให้เกิดวงกลมพาร์ฮีลิก
(ภาพซ้าย : ผลึกรูปแผ่น เส้นทางเดินของแสง 1-3-2 ภาพขวา : ผลึกรูปแท่ง เส้นทางเดินของแสง 8-1-5)
รูปแบบอาทิตย์ทรงกลดตลอดเส้นทางการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์
เพื่อให้เห็นภาพรวมของการเกิดอาทิตย์ทรงกลดอันซับซ้อนในครั้งนี้ ผมได้จำลองเหตุการณ์โดย
สมมติว่าผลึกน้ำแข็งบนฟ้ามีลักษณะเหมือนที่ใช้ ในการจำลองการทรงกลดที่มหาสารคามโดยการปรับเปลี่ยน
ค่ามุมเงยของดวงอาทิตย์จาก0องศา(อยู่ที่ตำแหน่งขอบฟ้า)ไปจนถึง90องศา(อยู่ที่ตำแหน่งจุดยอดฟ้า)
และเพิ่มค่ามุมเงยทีละ5องศาผลปรากฏดังแสดงไว้ ในรูปภาพที่13(A)-13(S)
ตุลาคม - ธันวาคม 2556
63
ภาพที่13(A)มุมเงยของดวงอาทิตย์0องศา
ภาพที่13(B)มุมเงยของดวงอาทิตย์5องศา
ตุลาคม - ธันวาคม 255664
ภาพที่13(C)มุมเงยของดวงอาทิตย์10องศา
ภาพที่13(D)มุมเงยของดวงอาทิตย์15องศา
ตุลาคม - ธันวาคม 2556
65
ภาพที่13(E)มุมเงยของดวงอาทิตย์20องศา
ภาพที่13(F)มุมเงยของดวงอาทิตย์25องศา
ตุลาคม - ธันวาคม 255666
ภาพที่13(G)มุมเงยของดวงอาทิตย์30องศา
ภาพที่13(H)มุมเงยของดวงอาทิตย์35องศา
ตุลาคม - ธันวาคม 2556
67
ภาพที่13(I)มุมเงยของดวงอาทิตย์40องศา
ภาพที่13(J)มุมเงยของดวงอาทิตย์45องศา
ตุลาคม - ธันวาคม 255668
ภาพที่13(K)มุมเงยของดวงอาทิตย์50องศา
ภาพที่13(L)มุมเงยของดวงอาทิตย์55องศา
ตุลาคม - ธันวาคม 2556
69
ภาพที่13(M)มุมเงยของดวงอาทิตย์60องศา
ภาพที่13(N)มุมเงยของดวงอาทิตย์65องศา
ตุลาคม - ธันวาคม 255670
ภาพที่13(O)มุมเงยของดวงอาทิตย์70องศา
ภาพที่13(P)มุมเงยของดวงอาทิตย์75องศา
ตุลาคม - ธันวาคม 2556
71
ภาพที่13(Q)มุมเงยของดวงอาทิตย์80องศา
ภาพที่13(R)มุมเงยของดวงอาทิตย์85องศา
ตุลาคม - ธันวาคม 255672
ขุมทรัพย์ทางปัญญา
- ขอแนะนำเพจ ชายผูห้ลงรกัมวลเมฆ ใน facebook ที ่www.facebook.com/buncha2509.lovecloud ซึง่มภีาพและขอ้มลูอื่นๆ
ที่บทความนี้ไม่ได้กล่าวถึง
- โปรแกรม NOAA Solarc Calculator สามารถใช้งานได้ที่ http://www.esrl.noaa.gov/gmd/grad/solcalc/
- โปรแกรม HaloPoint 2.0 สามารถดาวน์โหลดได้ที่ http://www.saunalahti.fi/~jukkruos/halopoint2.html
สรุป
อาทติยท์รงกลดเปน็ความอศัจรรยข์องธรรมชาตทิีง่ดงามในเชงิศลิปะและมคีณุคา่สงูในเชงิวทิยาศาสตร์
อีกทั้งยังติดตาตรึงใจผู้ที่ได้พบเห็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการทรงกลดที่มีความซับซ้อนดังเช่นในบทความนี้
ภาพที่13(S)มุมเงยของดวงอาทิตย์90องศา