36
ภาพโดย เคท ดาวน สรางจากการทํางานจริง ของหนวยวิจัยการฟนฟูปา ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม ปลูกใหเปนปา กับหลินและทราย

ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

Embed Size (px)

DESCRIPTION

การ์ตูนส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับการฟื้นฟูป่าสำหรับเด็ก เขียนโดย เคท ดาวน์ นักเขียนอิสระ เนื้อหาส่วนใหญ่อ้างอิงจากหนังสือ "ปลูกให้เป็นป่า" ของหน่วยวิจัยการฟื้นฟูป่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

Citation preview

Page 1: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

ภาพโดย เคท ดาวนสรางจากการทํางานจริงของหนวยวิจัยการฟนฟูปาภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตรมหาวิทยาลัยเชียงใหม

ปลูกใหเปนปากับหลินและทราย

Page 2: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

เก่ียวกับผูเขียนเกี่ยวกับผูเขียน เคท ดาวน เปนนักเขียนอิสระท่ีอาศยัและทํางานอยูในกรุงลอนดอน เธอเปนผูที่วาดการตูนฉบับนี้ใหกับทางหนวยวิจัยการฟนฟูปา มหาวิทยาลัยเชียงใหมในขณะท่ีเธอเขารวมโครงการ Art Relief International ในชวงตนป พ.ศ. 2556 เธอไดอานบันทึกประชมุ ระดมความคิดรวมกันระหวางหนวยงานท้ังสองคือหนวยวิจัยการฟนฟูปา มหาวิทยาลัยเชียงใหมและ Art Relief International และในการระดมความคิดครั้งนั้นไดมีการเสนอเรื่องการทําการตูนที่สงเสริมการฟนฟูปาสาํหรับเด็กซึง่เคท ก็ตดัสนิใจทีจ่ะทําการตนูฉบบันี้ขึน้ เพราะการฟนฟูปาเปนสิง่ท่ีเธอรักและการตนูฉบบันีก็้เปนสิ่งท่ีเธอสามารถทําไดเพ่ือชวยเหลืองานของหนวยวิจัยการฟนฟูปา ในการทํางานรวมกับเด็กไดเปนอยางดี

เน้ือหาสวนใหญของการตนูฉบบันีอ้างองิจากหนังสอื“ปลูกใหเปนปา” ของหนวยวิจัยการฟนฟูปา มหาวิทยาลัยเชยีงใหม และไดรบัขอมลูเพ่ิมเตมิจากเจาหนาท่ีของหนวยวิจัยทุกทานท่ีไดชวยเหลือในดานขอมูลและสถานท่ีฟนฟูที่นาํมาใชเปนแหลงอางอิงในหนังสอืเลมนี้

[email protected]

Page 3: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

1

ปูจะเจอเราท่ีไหน?

ไปอีกหนอย ทางน้ีแหละ

รีบหนอยดีไหม เร่ิมรอนแลว

หรอ ความผิดใครหละ?

ก็ฉันหิวอะ

แตเธอกินเปนชั่วโมงเลยนะ

หรือเธอมีอะไรใหกิน

ดูนั่น! ปูอยูนั่นหลิน! ทราย! ปู!!

Page 4: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

2

ก็ทรายมัวแตกินอยูคะ

ปูคิดวาพวกเธอจะมาถึงเร็วกวานี้นะ ปูกําลังจะพาพวกเราไปดูปาใชไหมครับ?

ใช! เดินไกลหนอยนะหลินอยากใหมันใกลกวานี้

เดินแตในรมไดไหมครับ

สมัยท่ีปูเปนเด็ก ยงัมตีนไมเยอะกวานีอ้กี

มากกวาครึ่งเหรอครับ

ประเทศไทยถูกปกคลุมดวยผนืปาแบบน้ีมพีชืและสัตวท่ีหลากหลายแตกตางกันแตตอนนีม้นัหายไปกวาครึง่หนึง่แลว

Page 5: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

3

ปาจํานวน 2 ใน 3 ของประเทศไทยหายไปต้ังแตป 1961

ปาสวนใหญถูกทําลายเม่ือไมนานมานีเ้อง

มันก็ไมเลวนะ ป 1961

มันนานมาแลวปูแกกวานั้นอีก

สมัยกอนเวลาถาจะตัดไมแตละครั้งเขาตัดเพียงเล็กนอยตามความจําเปน

เชน เอาไปทําฟารม หรือทําเคร่ืองมือเครื่องใช

มันจะตองใชเวลานานมากเลยนะกวาจะตัดตนไมดวยขวานนั่น

แตดวยการเจริญเติบโตของประชากรเทคโนโลยีสมัยใหมก็ทําใหเราสามารถตัดตนไมไดทีละมากๆ

ใชเวลาแคแปบเดียว

การตัดตนไม ทําลายปา กลายเปนปญหาระดับชาติ

Page 6: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

4

แตถาพวกเราจําเปนตองเอามาทําฟารมมันก็ไมไดเลวรายใชไหมครับ?

แนนอน! ไมเลย ทําไมละครับ

แตเราก็ควรจะพยายาม รักษาปาเอาไวดวย

เชน เพ่ือนักลาท่ีกําจัดศัตรูพืช ท่ีทําลายผลผลิตของเรา

เพ่ืออาหารท่ีหลากหลาย เชน เห็ด หนอไม และนํา้ผึง้

ผมชอบนํ้าผึ้งครับ

วาว !!

นอกจากน้ีก็ยังมีสัตวอีกมากท่ีตองการอาศัยอยูในปาใหญ

ปาเองก็ตองการสัตวและนกท่ีจะชวยหวานเมล็ดพืชเพ่ือตนไมจะไดเติบใหญ

เม่ือสมัยปูยังเด็ก เราเคยมีชางดวย

Page 7: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

5

ตนไมมีหนาท่ีสําคัญอื่นๆ คือ รากไมจะชวยพยุงดินและนํ้า เม่ือเวลาฝนตกซ่ึงชวยปองกันการถลมและนํ้าทวม

ผมรูแลวครับ ตนไมก็จะกักเก็บน้ําไวใชในเดือนท่ีฝนไมตก

ดังนั้นถาปราศจากตนไม...

เราก็จะประสบภัยแลง ในชวงหนาแลง

และเกิดนํ้าทวมเวลาท่ีฝนตก เฮอ !!

Page 8: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

6

ไมมีใครคิดถึงปญหาเหลานี้ จนกระทั่งสายไป มันนากลัวมาก

แลวเราสามารถทําอะไรไดบางคะ?

แลวพวกเราคิดวาจะทําอะไรไดบางหละ?

เราควรหยุดตัดตนไม เพ่ือปาจะไดกลับมาเติบใหญอีกครั้งคะ

แตถาปราศจากสัตวและนก

ใช..เมล็ดพันธุก็จะไมถูกหวานนะสิ

แตเราสามารถปลูกตนไมทดแทนได

แตจําเอาไว...

ปาไมถูกสรางข้ึนมาจากพรรณไมหลายสายพันธุท่ี

เจริญเติบโตและทํางานรวมกันท่ีเรียกวา...

"ความหลากหลายทางชีวภาพ"

แตเราจะสามารถทําส่ิงทดแทนท่ีมากมายแบบน้ันไดยังไง

หมดหวังแลว

ไมหมดหวังหรอก เราแคตองรูวาเราควรเริ่มจากตรงไหนเทาน้ันเอง

Page 9: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

7

ดูสิ! นี่ก็เปนอีกดานหนึ่งของปาท่ีโดนตัดไปแลว

ตอไมพวกนั้นก็ตายไปดวย

นาเศราจัง

มันไมไดตายท้ังหมดหรอก ดูนี่สิ!

มันยังมีชีวิตอยูใช! มันกําลังแตกใบออกมาอีกครั้ง

เธอเห็นไหม ปาตองการท่ีจะเติบโตเสมอ

ดูนี่สิ! ตนออนงอกออกมาแลว

วาว! ดีจังเลย

ผมจะชวยกําจัดวัชพืชครับเม่ือเราชวยใหปาไม กลับมาเติบโตอีกครัง้ พวกเราเรียกวา "การฟนฟดูวยการชวยธรรมชาต ิANR"

Page 10: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

8

เราจะตองหาท่ีท่ีเหมาะสมท่ีสุด

เราควรทาํแบบน้ันท่ีไหนก็ตาม

ท่ีเราสามารถทําได

ดานนีใ้กลกับปา ดังนัน้นกและสตัวจะชวยหวานเมล็ดพืชใหกับเราได

หรือสรางท่ีเกาะใหนก

และกลองคางคาว

แลวหนสูามารถปลูกตนไม ดวยตวัเองไดหรอืเปลาคะ

แนนอน! ไดสิ แลวปูจะสอนวาทํายงัไง

เราสามารถใชทอนไมเพ่ือทําหลุมเพ่ือแสดงวาไดกําจัดวัชพืชตรงนีแ้ลว

เม่ือเมล็ดพืชถูดหยอดไปเราก็กลบหลุมดวยดนิ

เรามาถูกทางแลว

Page 11: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

9

แลวมีอะไรอีกไหมคะ? ท่ีเราทําได

การปลูกปาไงละเปนส่ิงท่ีสําคญัมากในการฟนฟปูาเลยนะ

แลวนั่นพวกเขากําลังทําอะไรกันอยูคะ?

พวกเขากําลังเก็บรวบรวมเมล็ดจากตนไม

เธอเห็นหรอืเปลา?เราไมสามารถฟนฟไูดทุกอยางแตถาเราเร่ิมตน จากตนไมนัน่

คอื การเร่ิมตนท่ีดีท่ีสุด

แลวตนไมเหลานัน้แหละจะมาสรางกลไกการทํางานเพ่ือการฟนฟปูาไม ดังนัน้เราเรียกพวก

นัน้วา "พรรณไมโครงสราง"

Page 12: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

10

แลวพรรณไมโครงสรางเปนยังไงคะ?

เร่ิมตนเลยนะ พรรณไมโครงสรางจะตองขึน้และเติบโตไดในพืน้ท่ีเส่ือมโทรม

จะตองโตใหเร็ว มกีารแพกระจายของใบออนอยางหนาแนน เปนรมเงาของวัชพชื ตองมดีอกและผลในระยะเวลาทีไ่มนาน

เพ่ือจะไดดึงดดู สัตวและนกมากระจายเมล็ดพืช

Page 13: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

11

ถาตนไมถึงเวลาท่ีจะเก็บเก่ียวไดเราจะเก็บเมล็ดมันมา

อะ... เมล็ดท่ีเก็บมาได

ขอบคุณคะ

มันเหมือนผลไมเลย ไมใชละ!! เมล็ดจะอยูขางในผลนะ

ดูสิ! ผลมีต้ังหลายชนิดแนะ หลายแบบเลย

เราจะปลูกตนไมใชไหมครบั?

ใช! แตเรายงัไมเอามันลงดนิเมล็ดเหลานัน้จะตองเอาไปเพาะกอน

จะพาพวกเราไปไหนคะ?

ท่ีท่ีเราจะสามารถดูแลตนไมได

Page 14: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

12

เรือนเพาะชํา

ท่ีนีเ่ราจะเอาเมล็ดมาเพาะท่ีนีก่อนแลวก็ดูแลจนกวาจะเติบโตเปนตนกลา

หลิน ทราย คนนี่ชื่อ พี่มะลิ

พวกเธออยากจะเขาไปในเรือนเพาะชาํไหม?

ไปคะ

ผมขอกินขาวกอน ไดไหมครบั?

Page 15: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

13

เราเพาะเมล็ดเหลานี้ในถาด ตนไมในถาดน้ี มนัเริม่โตแลวนะ

พอตนกลาเหลานีเ้ร่ิมโตพอ ก็จะเอาไปใสถุงดาํ พวกเธออยากลองไหม

เราใชดินชนิดไหนในการปลูกครับ?

อะ.. นี่จะ

เราใชดินในปาผสมกับเปลือกถ่ัวและแกลบ

ผมชอบถ่ัว

ทราย..เธออยาไปกินดินนะ

ผมชอบท้ังแกลบและขุยมะพราว

เราสามารถใชแกลบหรอืขุยมะพราวก็ได

Page 16: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

14

ใสดินท่ีผสมเขาไปในถุง

หลังจากน้ันเราก็กระแทกถุงลงพืน้ อยาทํามันแรงนะ

อยาทําแบบน้ัน

หลังจากน้ันกเ็ติมเขาไปอีกรอบ ทํารไูวใสตนไม

ถูกตองจะ

ตองทําใหแนใจนะวามีพืน้ท่ีพอสําหรับรากตนไม

ระวงันะมนัชดิเกินไป

อุบส

เอาตนกลาออกมาโดยใชชอนตกัออก

เบาๆ

เอามันปลูกอีกครั้ง

ตองระมัดระวังชวงเวลานี้

ดีมากเลยไมแนนหรอืหลวมเกินไป ตนกลาถูกวางไวดี

เย่ียมมาก!

ขอทําอีกไดไหมคะ

Page 17: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

15

ไปปลูกตนไมมา เปนไงบาง?

พวกเราทําได ดีมากเลยครับ

ตอนนี้เราก็ตองรดนํ้าและใหปุยตนกลาเหลาน้ี

อี๋!!พวกเราตองปกปองตนกลาเหลานี้ จากโรคและแมลงท่ีจะมารบกวน

และพวกเราก็ตองคอยกาํจัดวัชพืชท่ีมนัจะทาํใหตนไมดีๆของเราตาย

และแนนอนเราก็ตองระมัดระวังสัตวตางๆดวยอีกไมนานเราก็จะไดตนกลาไวสําหรับปลูก

Page 18: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

16

แลวเม่ือไหรเราถึงจะเอาตนไมเหลานัน้มาปลกูไดคะ?

ชาวบานตองทํางานรวมกับภาครัฐในพืน้ท่ีของกรมปาไม

ท้ังปเลย เหรอคะ?

ผมขอกินขนมระหวางรอไดไหมครับ?

การขออนุญาตใิชพืน้ท่ี เราตองวางแผนลวงหนาอยางนอย 1 ป

จรงิๆแลวมนัเปนโครงการทีใ่หญและสําคญั เพราะพืน้ท่ีปาสําคญัมาก

เราตองวางแผนทุกอยางกอน

ไปคะ/ครับ

เราไปดูพืน้ท่ีท่ีเรากําลังจะเอาไวปลกูปากันไหม?

Page 19: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

17

ตรงนี้เปนพื้นท่ีท่ีดีมาก พวกเขากําลังเก็บขอมูลบันทึกตําแหนงดวย GPS

พืน้ท่ีท่ีเหมาะสมกับการปลูกปาเปนอยางไรคบั?

จรงิๆแลวมนัควรจะใกลกับปาธรรมชาติเวลาท่ีตนไมโต มนัจะไดอยูดวยกนั

มนัจะทาํใหปาดูกวางใหญ

ดังนั้นเราจึงมองหาพ้ืนท่ีท่ีมีนํ้าดวย

เราคยุกนัแลวเก่ียวกบัความสัมพนัธระหวางตนไมและนํา้

ปูพูดเสมอวาตนไมชวยปองกันการกัดเซาะได

ใชแลว! เพราะฉะนัน้เราตองไปหาพ้ืนท่ีท่ีเส่ียงจะมกีารกัดเซาะของดิน

Page 20: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

18

ผมสนใจท่ีจะปลูกปาแลวครับ

เราจะเร่ิมปลูกไดเม่ือไหรคะ?

เราเกือบพรอมแลว

เราตองเตรียมตัวใหพรอม

แตตองกําจัดวัชพืชกอน จากน้ันก็ทําเคร่ืองหมายปกไวท่ีตนไม

จากน้ันกห็าอาสาสมัคร ตองแนใจวาพวกเขา มอีปุกรณปลกูและรถขนยายตนกลา

และนําตนกลาออกมาจากเรือนเพาะชํา

ตองขับรถดวยความระมัดระวัง

Page 21: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

19

เธอ 2 คน พรอมท่ีจะไปปลูกตนไมแลวใชไหม?

ใชครบั! ผมขอเก็บหมวกใบน้ีไวไดไหมครบั

พวกเราตองไปกับทีมท่ีตองไปปลูกทางดานนูน

พวกเขาวัดพ้ืนท่ีท่ีเราจะขุดดินเรียบรอยแลว

ดูนั่นสิ! นั่นไงพี่มะลิ

สวัสดี!

ตัดถุงแลวเราก็วาง ตนไมลงไปในหลุม

แนใจ เขาไมเปนไรหรอก

ปูแนใจแลวเหรอคะ?ท่ีจะปลอยใหทรายถือมดีไวในมอื

Page 22: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

20

ตอนนี้เราใสปุย เปนอาหารใหแกตนไม

เราสามารถเอามากินไดไหมครับ?

กระดาษแข็งวงกลมมีไวทําอะไรคะ?

เคาเรียกวา Mulch Mat ไวคลมุปองกันวชัพืชท่ีอยูรอบๆตนกลาไมใหวชัพืชเจริญเติบโต

3,000ตนตอเฮกแตร

เราปลูกตนกลาท้ังหมดเทาไหรคะ?

ฟงดูแลวมันเยอะมาก

มันแค 500 ตนตอไรเอง

เราปลูกกลาไมแลวตนไมก็จะบังไมใหวัชพืชข้ึน

พอตนไมโตมันก็จะกลายเปนปา

Page 23: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

21

ของผมปลูกไดอยางยอดเย่ียมมาก

พวกเขากําลังทําอะไรกันคะ

ตรวจดูความเรียบรอยของตนไมจะ พวกเราจะตองทําอะไรบางคะ?

พวกเราจะตองดูแลตนไม จนกวามันจะโต

พวกเราจะตองใสปุยเรือ่ยๆ ในชวงฤดูฝน 2 ปแรก

และจะตองคอยมากาํจัดวัชพืชในชวงฤดูฝนของ 3 ปแรก

ระหวางนัน้พวกเราจะตองคอยมาวดัตนไมวาโตเทาไหร และจะตองจดบันทึกดวย

พวกเราจะตองจับตาดูนกและสัตวท้ังหลายดวยนะ

Page 24: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

22

ปูๆ รอกอน นั่นอะไรครับ?

เกิดอะไรขึ้น?

โอ.. ไม

ดูนั่นสิ ไฟไหม

ไมตองกังวลหรอก มันไกลจากท่ีนี่

นั่นแหละคือปญหา

แตมันก็จะลามเขามาเร่ือยๆนะ

แลวตนไมท่ีเราปลูกหละ?

แตเรามีข้ันตอนในการปองกันรกัษาปาของเรา โดยเริม่จากพวกเรามีทีมเฝาระวงั

ถามีอะไรเกิดข้ึนจะมาแจงใหพวกเราทราบ

ถาไฟมาชาเปนวงแคบ เราก็สามารถดับโดยใชอปุกรณดับไฟแบบงายๆ

ถาไฟไหมเปนวงกวาง เราสามารถโทรแจงไปท่ีหนวยดบัเพลิงใหชวยเราได

โอววว

Page 25: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

23

แนวปองกันไฟ?

พวกเราสามารถท่ีจะปองกันท่ีดินตรงนี้ไดดวยแนวปองกันไฟ

คืออะไรคะ?

เด๋ียวปูจะพาไปดู

พวกเราตัดวชัพชืเปนแนวยาวๆ 2 แนวและเผาตรงกลางการทําอยางนีก็้เหมือนทําแนวกันไฟกอนท่ีไฟปามันจะลามมาถึง

และจะปองกันท่ีดินตรงนี้จากไฟท่ีลามมาได ไมตองกังวลมากนักหรอก

โลงอกไปที

Page 26: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

24

เราแสดงความเคารพตอส่ิงศักด์ิสิทธ์ิ และขอบคุณเจาปาเจาเขาหลังจากฤดูท่ีไมมกีารเผาปาหรือไฟปา

ในท่ีสุดเราก็ไดกินอาหารนะคะ

พวกเราทุกคนทํางานดวยกันจึงมารวมฉลองดวยกัน

เม่ือไหรตนไมจะกลายเปนปา เร็วๆนี้ใชไหม?

มันใชเวลานาน ตนไมตองใชเวลาหลายสิบป กวาจะโต

ใช แตมนัจะโตเรว็ไดก็ตองดแูลอยางพิเศษฉนัคดิวาเราจะเห็นผลลพัธในเร็วๆนีแ้นนอน

Page 27: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

25

สัตวท้ังหลายไมวาจะเปนนกหรอืสัตวอืน่ๆรวมถงึพรรณไมตางๆ

จะกลับคนืสูปา

ปาจะเปนจดุเร่ิมตนของกระบวนการฟนฟปูา

ฉันจะรอ ถึงแมนาน

ฉันก็จะรอ

Page 28: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

26

สวนผมอยากตั้งชมรมดูนกครับ

พวกเธอจะทําอะไรหลังจากน้ี

หนอูยากเรียนรูความแตกตางของตนไม และวธิกีารเจริญเติบโตของมันคะ

ส่ิงท่ีสําคญัคอืตองมัน่ใจวาทุกคนไดเรียนรูเก่ียวกบัปาเหมือนท่ีพวกเธอ 2 คนไดเรียนรูนะ

แลวพวกคุณละ จะทําอะไร?

Page 29: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

27

ทมี FORRU-CMU เปนทีมของนักนิเวศวิทยาและนักศึกษาที่ทําวิจัยของคณะวิทยาศาสตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม ซึง่ไดรวมกันพัฒนาวิธีการฟนฟูระบบนิเวศปาเขตรอนเพ่ือการอนรุกัษความหลากหลายของส่ิงมชีวิีตและปกปองสิง่แวดลอมตามธรรมชาต ิภายในหนวยวิจยัเรามีทีมเผยแพรการศึกษาท่ีสามารถจัดโครงการฝกอบรมใหกับองคกรตางๆ หรอืผูทีส่นใจไดอยางเหมาะสม หนวยวิจัยของเราน้ันมีผลงานวิจัยหลากหลายเชนงานวิจัยพรรณไมทองถ่ินท่ีใชในการฟนฟูระบบนเิวศ การดูแลตนกลาในเรือนเพาะชํารวมไปถึงการทําการทดลองภาคสนามเพ่ือทดสอบประสทิธิภาพในการฟนฟูปาของพืชแตละชนิด ทดลองวัดการฟนฟูของปาดวยการเฝาสงัเกตความหลากหลายของส่ิงมชีวิีตรวมถึงการสะสมตัวของกาซคารบอนในพืน้ท่ีฟนฟูFORRU-CMU นัน้ไดทาํงานรวมกับคนทองถ่ินเพ่ือท่ีจะทําการฟนฟูปาไดอยางเหมาะสมกับความตองการของชมุชนทองถ่ินมากทีส่ดุ ซึง่ถาหากชาวบานไดรบัการสนับสนนุวิธีในการฟนฟูปาไดอยางเหมาะสมต้ังแตแรกเร่ิมกจ็ะทําใหชาวบานรูสกึถึงความมีสวนรวมในการฟนฟูปาและสามารถลดการทําลายปาในอนาคตไดอกีดวย

ทมีงานของเราไดจดัต้ังทีมฟนฟูปาข้ึนในหลายๆ ทองทีเ่ชนท่ีจงัหวัดกาญจนบุรแีละจงัหวัดกระบ่ี สวนในตางประเทศน้ันเราไดทาํงานรวมกับองคกรทองถ่ินท่ีเก่ียวของกับการฟนฟูปาเชน ลาว จนี ฟลปิปนส อนิโดนีเซยี และกัมพชูา เปนตน เพ่ือพัฒนาวิธีทีเ่หมาะสมกับสภาวะแวดลอมที่แตกตางกันไปในแตละพ้ืนท่ีและเหมาะสมกับสังคมและการเมืองของภายในประเทศน้ันๆ เรายังทํางานรวมกับกลุมตางๆ โรงเรียน กลุมอนรุกัษสากล หนวยงานรัฐบาลและภาค

เอกชนดวย

FORRU-CMU ไดรบัการสนับสนุนสถานท่ีตัง้สาํนักงาน การเดินทางและเงินสนับสนุนบางสวน จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม แตเงินทุนสวนใหญทีเ่ราใชมกัเปนงบประมาณจากงานวิจยั

และเงินบรจิาคเทาน้ัน

หนวยวจัิยการฟนฟูปามหาวทิยาลยัเชยีงใหม(FORRU-CMU)

Page 30: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

28

ตวัละครท่ีมใีนหนังสอืการตนูฉบบันีส้รางจากชีวิตจรงิของชาวบานท่ีอาศยัอยูทีห่มูบานมงแมสาใหม หางจากตัวเมืองไปทางดานทิศเหนือของตัวเมืองประมาณ 30 กม.และเปนสถานทีท่ี ่FORRU-CMU ไดทาํการทดลองการฟนฟูปาตามวิธีทีไ่ดพัฒนาอยางเหมาะสมกับทองทีน่ี้หมูบานมงแมสาใหมเปนหมูบานมงท่ีมขีนาดใหญทีส่ดุของประเทศไทย มบีานประมาณ 190 หลงัคาเรือนและประชากรมากกวา 1800 คน หมูบานน้ีเดิมตัง้อยูสงูจากระดับนํา้ทะเลประมาณ 1300 เมตรแตในภายหลังไดยายหมูบานลงมาเพราะการตัดไมทาํลายปาของชาวบานทําใหแหลงน้ําของหมูบานน้ันหมดลง เหตุการณตองยายหมูบานในคร้ังน้ันทําใหชาวบานตระหนักถึงความสมัพนัธระหวางการทําลายปาลายปาและการขาดแคลนแหลงน้ําในธรรมชาติ

ในป พ.ศ.2524 พ้ืนท่ีทัง้หมดของหมูบานแหงน้ีถูกประกาศใหเปนสวนหน่ึงของอทุยานแหงชาตดิอยสเุทพ-ปยุ ซึง่ทําใหชาวบานท้ังหมดกลายเปนผูบกุรุกปาอทุยานแหงชาตใินทนัที และเพ่ือท่ีชาวบานจะสามารถใชพ้ืนท่ีนีเ้พ่ือการอาศัยอยูตอไปได ชาวบานก็จาํเปนตองแสดงใหกรมอทุยานแหงชาติเห็นวาพวกชาวบานเองสามารถท่ีจะอนุรกัษปาแหงน้ีไวได จงึไดมกีารจัดตัง้ชมรมอนรุกัษสิง่แวดลอมแหงบานแมสาใหมขึน้และขอความรวมมอืคนในหมูบานใหฟนฟูไรทีถู่กทิง้รางใหกลับมาเปนปาดังเดิม

ในขณะน้ัน FORRU-CMU ก็ไดเขาพบกับสวนของอุทยานเพ่ือทีจ่ะหาพ้ืนท่ีทีเ่หมาะสมที่สุดในการทดลองวิธีการฟนฟูปาดวยวิธีพรรณไมโครงสราง ซึ่งกรมอุทยานแหงชาติไดแนะนํา พ้ืนท่ีปาตนน้ําเหนือหมูบานแมสาใหมและชาวบานได ตกลงที่จะรวมมือในการทดสอบครั้งนี้เพ่ือ ที่จะไดเรียนรูกระบวนการฟนฟูปาท่ี

เหมาะสมมากข้ึน การรวมมือกันครัง้น้ีทาํให FORRU-CMU ไดรบัความรูภูมปิญญาทองถ่ินเพ่ิมเติมมากมายและไดมีโอกาสทดสอบผลของการวิจัยและไดแรงงานทองถ่ินเพ่ือชวยใน

การปลูกปาและการเก็บขอมูลดวย

บานแมสาใหม

Page 31: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

29

FORRU-CMU ไดใหงบประมาณหมูบานในการจัดตัง้เรือนเพาะชําชมุชนและไดฝกอบรมคนในหมูบานบางสวนถึงวิธีการดูแลตนกลาท่ีเหมาะสม ทางหนวยวิจยัยังไดจางครอบครวัหน่ึงในหมูบานเพ่ือทีจ่ะเก็บเมลด็และเพาะเมล็ดไมดวย เรือนเพาะชําชมุชนแหงน้ีมศีกัยภาพในการผลิตตนกลาปละ 25,000 ตน ซึง่สวนใหญแลวตนกลาท่ีเพาะท่ีนีไ่ดนาํไปปลกูในพ้ืนท่ีปาตนน้ําเหนือหมูบานในชวงกลางเดือนมถุินายนของทุกปตัง้แตป พ.ศ.2539 เปนตนมา

คณะกรรมการหมูบานไดตกลงรวมกันที่จะทําการปองกันไฟดวยการสรางแนวกันไฟในชวงกลางเดือนมกราคมของทุกปรวมถึงการต้ังกลุมเผาระวังไฟจนถึงฝนแรกในชวงเดือนเมษายน ชาวบานจะทําพิธีบวงสรวงกอนฤดูแลงทุกปเพ่ือขอพรใหไมเกิดไฟปาข้ึนซึง่ทาง FORRU-CMU ไดสนบัสนนุท้ังคาแรงในการทําแนวกันไฟและคาอาหารสําหรับยามเฝาระวังไฟ นอกจากนั้นแลวทางหนวยวิจัยยังจางชาวบานใหชวยดูแลตนกลาดวยการกําจัดวัชพืชและใสปุยใหตนกลาดวยซ่ึงการจางงานรวมกับการทํางานแบบอาสาสมัครของชาวบานท้ังสองอยางน้ีจะชวยใหชาวบานเกิดความรูสกึตองการอนรุกัษปาข้ึนและเพ่ิมความรูสกึตองการสนับสนนุการทาํงานในการฟนฟูปาอยางคอยเปนคอยไป

ในปจจบุนัน้ีปาตนน้ําของชาวบานแมสาใหมทีเ่มือ่กอนเปนพ้ืนท่ีโลงท่ีไดกลายมาเปนพ้ืนท่ีฟนฟูปาราว 17 ปทีแ่ลวก็กลายเปนแหลงตนน้ําสาํคัญใหกับหมูบาน แหลงผลติภัณฑจากปาและชาวบานก็มชีือ่เสยีงในแงของชมุชนทีส่ามารถอนรุกัษสิง่แวดลอมไดอยางดีเย่ียมในพืน้ท่ีอทุยานแหงชาติดวย

Page 32: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

30

งานวิจยัท้ังหมดจะไมมคีวามหมายหากขอมลูและความรูที่ไดมาจากการวิจัยท้ังหมดตองจบลงแคการตีพิมพในวารสารหรือปลอยใหฝุนจบัอยูในหองสมดุ ดงัน้ันทีมงานของเราจึงไดทาํโครงการบริการการศึกษาเพ่ือใหทกุคนท่ีเก่ียวของกับการฟนฟูปาสามารถเขาถึงขอมลูและความรูของงานวิจยัเราได และหนังสอืการตนูฉบบันีก็้เปนสวนหน่ึงของงานบริการดานการศึกษาน่ันเอง

บรกิารการศึกษาสาํหรับโรงเรียน ทมีงานวิจยัของ FORRU-CMU ไดสรางโครงการอบรมใหกับโรงเรียนท้ังของไทยและตางชาติ ในบางครัง้ทีมงานของเราไดไปจดัโครงการใหตามโรงเรียนแตสวนใหญแลวจะเปนการรับนกัเรียนเขามาอบรมทีเ่รือนเพาะชาํของหนวยวิจยับนดอยสุเทพหรือพ้ืนท่ีทดลองการฟนฟูปา กิจกรรมในเรอืนเพาะชําไดแกการเรียนรูเก่ียวกับผลและเมลด็ การเตรียมเมลด็กอนการเพาะ การยายกลาและเรียนรูวิธีการดูแลตนกลาในเรือนเพาะชําใกลกับวดัพระธาตุดอยสุเทพ รวมถึงมกีารเดินเสนทางศึกษาธรรมชาติในบรเิวณใกลเคียงเพ่ือศกึษาเก่ียวกับระบบนิเวศของปาและเย่ียมสนตนไมทีใ่หญทีส่ดุบนดอยสุเทพ งานบริการการศึกษาของเราสามารถรองรับไดทกุกลุมอายทุัง้ภาษาไทยและอังกฤษ

บรกิารดานการศึกษาสาํหรับผูเชีย่วชาญ ทมีหนวยวิจยัของเรายังสามารถจดัการอบรม1 ถึง 5 วันใหกับเจาหนาท่ี หนวยงาน NGO องคกรระหวางชาต ิ รวมถึงนักศึกษาจากตางประเทศ ในโครงการอบรมมาตรฐานของหนวยวิจยัแบบ 3 วันน้ันจะมวัีนหน่ึงท่ีเรียนแนวคิด ทฤษฎีและการคัดเลือกพันธุพืชโครงสรางท้ังหมดในหองเรียน วนัท่ีสองเดนิทางไปท่ีบานแมสาใหมเพ่ือพูดคุยรวมกับชาวบานและศึกษาในพ้ืนท่ีการฟนฟูปาในแง

ของการเลือกพ้ืนที่หรือการสังเกตการฟนตัวของความหลากหลายในระบบนิเวศ ทมีงานดานการศึกษาของ FORRU-CMU สามารถปรับเปลี่ยนโครงการอบรมใหเหมาะสมกับความตองการของแตละองคกร และถาหากทานสนใจเขารวมโครงการอบรมกรุณาติดตอ [email protected]

งานบริการดานการศึกษา

Page 33: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

31

“แนวทางปฏิบตัใินการฟนฟู

ปาเขตรอน”

โดย สตีเฟน เอลเลียต

เดวิด เบลคสลีย และเคท

ฮารดวิค

จากโรงพิมพ KEW

ใหคํานิยมโดย

เจาชายแหงเวลส

ทมีงานวิจยัของเราไดตพิีมพหนังสอืฉบบัลาสดุ “การฟนฟูปาเขตรอน” ซึง่รวบรวมขอมลูทัง้หมดไวทัง้ดานศิลปะและวิทยาศาสตรการฟนฟูปา หนังสอืฉบบันีจ้ะอธิบายการฟนฟูพ้ืนท่ีเส่ือมโทรมอยางเปนข้ันตอนชัดเจนซึ่งอางอิงมาจากแนวคิดและวิธีที่พัฒนาข้ึนจากหนวยวิจยัการฟนฟูปา มหาวิทยาลัยเชียงใหมตัง้แตป พ.ศ.2537 เปนตนมา ครอบคลมุเน้ือหาท้ังหมดของการฟนฟูปาต้ังแตการเลือกพ้ืนท่ีการฟนฟู การดําเนินการรวมกับชมุชน การปลูกตนกลา กระบวนการเฝาสงัเกตรวมถงึอธบิายวิธีการทําการวิจยัเพ่ือพฒันาวิธีการฟนฟูปาและปรบัใหเหมะสมกบัระบบนเิวศ เศรษฐกจิและสงัคมของแตละพ้ืนท่ีดวย

หนังสือเลมนี้จะเปนประโยชนอยางย่ิงสําหรับผูที่สนใจทําการฟนฟูพ้ืนท่ีปาเขตรอนตัง้แตระดับผูปฏบิตังิาน นกัวิจยั นกัเรียน ผูออกกฎหมายและผูสนใจทีจ่ะทําเร่ืองการปลกูปาเพ่ือดดูซบักาซคารบอน ทานสามารถส่ังหนังสอืเลมนีผ้านทางเวบไซทของ KEW ที ่www.kewbooks.com/asps/ShowDetails.asp?id=1035 หรอือานในรูปแบบออนไลนผานทางเวบไซทของหนวยวิจยัการฟนฟูปาของเรา www.forru.org/en/content.php?mid=78

Page 34: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

32

สํานักงานของหนวยวิจัยการฟนฟูปาตัง้อยูในอาคารหอพรรณไมในภาควิชาชวีวิทยา คณะวิทยาศาสตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม

ขอมูลการตดิตอหนวยวจัิยการฟนฟูปามหาวทิยาลยัเชยีงใหม

ท่ีอยูสาํหรบัไปรษณยี ดร.สตเีฟน เอลเลียต หนวยวิจยัการฟนฟูปา ภาควิชาชวีวิทยา คณะวิทยาศาสตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม ถ.หวยแกว เมอืงเชยีงใหม ประเทศไทย 50200

อีเมล [email protected] (สาํหรับขอมลูเพ่ิมเตมิภาษาองักฤษ) [email protected] (สาํหรับขอมลูเพ่ิมเตมิภาษาไทย) [email protected] (สาํหรับบรกิารดานการศึกษา)

ทานสามารถหาขอมูลเพิ่มเติมไดจากเวบไซทของหนวยวจัิยท่ีwww.forru.org

ตดิตามขาวสารตางๆ ไดท่ีwww.facebook.com/forestrestorationresearchun

วดิโีอตางๆ ของหนวยวจัิยท่ีwww.youtube.com/user/FORRUCMU

Page 35: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

เปาหมายของ Art Relief International คอืตองการกระตุนใหเกิดการต่ืนตวัและสรางปจจยัในการเปล่ียนแปลงทางสังคมดวยวิธีทีส่รางสรรค ซึง่ทีม ARI ไดมกิีจกรรมทีส่รางบรรยากาศของการยอมรับ เปดใจและบาํบดัท้ังเปนกลุมและเฉพาะตัวบคุคลซึง่ไมไดจาํกัดแคเพียงทางการถายทอดออกมาเปนช้ินงานศิลปะเทาน้ัน แตยังสามารถนําไปประยุกตใชในการรับมอืกับปญหาท่ีพบไดในชวิีตประจําวันอกีดวย

ทมี ARI ใชศลิปะทุกแขนงไมวาจะเปนการวาดภาพระบายสีจนกระท่ังการแสดงและการเตนรําดวยซ่ึงเปนการสงเสริมใหทุกคนคนหาวิธีของตัวเองในการฟนฟูสภาพจติใจ รางกายและจิตวิญญาณของตนเอง

งานกิจกรรมตางๆ ของ ARI ตัง้แตการวางแผนจนถึงกระบวนการนําไปใชจรงิ ดาํเนินการดวยอาสาสมัครทีม่ี

จติอาสาทีเ่ดินทางมาจากท่ัวทุกมมุโลกทีไ่ดมาอาศยัและทํางานท่ีจงัหวัดเชยีงใหมในประเทศไทยแหงน้ี

เชญิชมบลอ็กของเราท่ี art-relief.blogspot.comเพ่ือตดิตามขาวสารกิจกรรมตางๆ และแรงบันดาลใจ

เพ่ือนาํไปสูการสรางสรรค หรอืทางเฟซบุคท่ี www.facebook.com/artreliefinternational

สําหรับขอมูลเพ่ิมเติมและรายละเอียดในการเขามาเปนสวนหน่ึงของทีมงานอาสาสมคัรของเรา

Page 36: ปลูกให้เป็นป่ากับหลินและทราย (Grow a forest )

จากผูสนับสนนุการจัดพมิพหนังสอื

ในเวลาท่ีแสงแดดของชวงกลางวันแผดเผาลงมาที่เรา ทุกคนคงอยากไปน่ังหลบแดดใตตนไมและผอนคลายอารมณเพ่ือหนจีากอากาศท่ีรอนจดั ตนไมสามารถใหรมเงากับเราไดและสีสนัของใบไมทีต่ดักับสนีํา้เงินเขมของทองฟาก็ดสูวยงาม ตนไมมีความสําคัญอยางมากกับเราไมเพียงแตเปนรมเงาใหเราเทาน้ันยังสามารถเปนเช้ือเพลิงใหเราหุงหาอาหาร เปนเคร่ืองมอืเครือ่งใชภายในบาน และยังสามารถชวยยึดเกาะดินเพ่ือไมใหถลมลงมาเวลาฝนตกหนักไดอกีดวย ประโยชนของตนไมอีกดานหน่ึงไดแกการผลิตกาซออกซเิจนเพ่ือตอลมหายใจใหกับมวลมนษุยและสัตวตางๆ ดดูซบักาซคารบอนไดออกไซดที่นักวิทยาศาสตรสวนใหญเชื่อวาเปนสาเหตุหลักท่ีทําใหเกิดการเปล่ียนแปลงสภาพอากาศโลกหรือทีเ่รียกกันวาโลกรอนนัน่เอง ในชวงชวิีตของผมนัน้ มนษุยเราไดทาํลายตนไมจาํนวนมหาศาลและทําใหปาไมสามารถดูดซับกาซคารบอนไดออกไซดที่เราปลอยออกมาไดทันดังนั้นเราควรจะตองพยายามฟนฟูปาท่ีมนษุยเราไดทาํลายลงไปเพ่ือใหปาไมสามารถท่ีจะทําหนาท่ีไดอยางสมบรูณ แตการปลูกตนไมอยางเดียวอาจไมเพียงพอเพราะวาปาประกอบไปดวยสิง่มชีวิีตหลายชนิด ไมวาจะเปนตนไม พืชตางๆ แมลง เช้ือรา หรือแมแตนก ทัง้หมดนี้มคีวามสมัพนัธตอกันซึง่เราเรียกความสัมพันธนีว้าความหลากหลายทางชีวภาพ ยกตวัอยางเชนสตัวไดบรโิภคเมล็ดของตนพืชเปนอาหารและนําเมล็ดไมไปทิง้ลงท่ีหางไกลจากตนแมเปนการตอบแทน ดร.สตเีฟน เอลเลียตและทีมงานหนวยวิจยัการฟนฟูปา มหาวิทยาลัยเชียงใหม ไดคดิคนและหาวิธีทีจ่ะฟนฟูปาอยางมปีระสทิธิภาพและย่ังยืนไมวาจะเปนดานความหลากหลายทางชีวภาพหรือสตัวตางๆ ทีเ่ปนสวนประกอบหน่ึงของปา และจากการทาํงานน้ี เคท ดาวน อาสาสมัครแหงองคกร “ Art Relief International ” ไดถายทอดงานช้ินน้ีออกมาในรปูแบบการตนู ซึง่อธิบายหลักการฟนฟูปาใหกลับเปนปาตามเดิมไดอยางนาสนใจและสวยงามซึง่ผมมคีวามยินดเีปนอยางย่ิงทีเ่ปนผูสนบัสนนุการจัดพิมพหนังสอืการตนูฉบับนี้ ผมหวังเปนอยางย่ิงวาผูอานทุกทานจะไดรับความสนุกสนานและเกิดแรงบนัดาลใจใหทกุคนเห็นคณุคาของปาไมและเขาใจถงึหลกัการในการฟนฟูปาเพ่ือทกุคนจะไดมโีอกาสน่ังหลบรอนอยูใตตนไมและสูดเอากาศบริสทุธ์ิทีต่นไมผลติใหกับเรา