225
1 ธรรมกายหมายเลข ๑ เผยประวัติเหลําบรรดาลูกศิษย๑ผู๎ทรงฤทธิ์อภิญญาที่หาญกล๎าปราบมารของ “ หลวงพํอสดวัดปากน้ําภาษีเจริญ ” กับเรื่องราวอภินิหารสุดอัศจรรย๑ เรียบเรียงรจนาบูชาธรรมโดย....บรรพชา บุณยรัตพันธุ

ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

  • View
    228

  • Download
    3

Embed Size (px)

DESCRIPTION

เผยประวัติเหล่าบรรดาลูกศิษย์ทีีทรงฤทธิ์อภิญญาผู้หาญกล้าทำวิชาปราบมารของหลวงพ่อสดวัดปากน้ำฯ กับเรื่องราวอภินิหารสุดอัศจรรย์

Citation preview

Page 1: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

1

ธรรมกายหมายเลข ๑

เผยประวัติเหลําบรรดาลูกศิษย๑ผู๎ทรงฤทธิ์อภิญญาที่หาญกล๎าปราบมารของ

“ หลวงพํอสดวัดปากน้ําภาษีเจริญ ” กับเรื่องราวอภินิหารสุดอัศจรรย๑

เรียบเรียงรจนาบชูาธรรมโดย....บรรพชา บุณยรัตพันธุ๑

Page 2: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

2

องค๑พระผู๎ปราบมาร

Page 3: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

3

คํานํา ในแวดวง “ธรรมกาย “ นั้นมีเรื่องราวมากมายสารพันล๎วนแล๎วแตํสําคัญทั้งสิ้น เรียนรู๎เทําไรก็ไมํ

มีวันหมดครับไมํวําจะเป็นภาคทฤษฏีสูํวิถีปฏิบัติ ขึ้นชื่อวํา“วิชชาธรรมกาย ” แล๎วไมํมีอะไรงําย

ครับ พญามารเขาขวางนักขวางหนาไมํให๎เราบรรลุผลสําเร็จ หน๎าที่ของเขาคือการสอดละเอียดให๎

ลํมสลายอยูํร่ําไป และกระทําทุกวิถีทางให๎วิชชาธรรมกายนี้ดับสูญ รวมถึงการสกัดกั้นมรรคผล

นิพพาน , การทําให๎เราหลงผิดหรือหลงตัวเอง เขาจะกํากับทางเดินของเราอยูํเบื้องหลังโดยที่เราไมํ

รู๎ตัวเลย วิธีที่มารเขาทํานั้นก็คือการปิดรู๎บังญาณ , หลอกรู๎ลวงญาณ , พารู๎พาญาณแล๎วก็บังคับรู๎

บังคับญาณสุดท๎ายก็จูงร๎ูจูงญาณของเราไปตามความปรารถนาของเขา ให๎เรามีความรู๎ความเข๎าใจ

ที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง และหลุดออกไปจากธรรมภาคขาวได๎ในที่สุด บุคคลตํางๆ ที่ได๎

นํามาเสนอในหนังสือเลํมนี้หาเป็นเชํนนั้นไมํครับ เพราะทํานเป็นศิษย๑คนสําคัญชั้นหัวกะทิแถว

หน๎าของหลวงพํอสดวัดปากน้ําภาษีเจริญ ที่ทรงฤทธิ์อภิญญาเกํงกาจสามารถทําวิชาปราบมารได๎

เป็นขุนพลกล๎าแหํงกองทัพธรรม ที่รํวมเป็นรํวมตายเคียงบําเคียงไหลํไปกับทําน ประดุจเป็น

“ ธรรมกายหมายเลขหนึ่ง ” ผู๎เปี่ยมล๎นบารมีที่เราทํานทั้งหลาย นําจะศึกษาเรียนรู๎ปฏิปทาของ

ทํานกันไว๎เป็นแบบอยําง ในการก๎าวยํางสํูหนทางแหํงอารยะชน ผู๎พ๎นทุกข๑พบสุขที่แท๎จริง รวมถึง

ความลับที่ถูกปกปิดมานานจนหลวงพํอสดทํานนํามาเปิดเผย เหลําบรรดาคณะศิษย๑ได๎จดบันทึก

เรียบเรียงแล๎วนํามาเผยแพรํตํอ จนกลายมาเป็นมรดกธรรมอันล้ําคําตกทอดมาถึงอนุชนรุํนหลัง

จวบจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ พวกเรานับวําโชคดีมีวาสนาบารมีธรรมไมํน๎อยที่ได๎มาสัมผัสกับธรรมะ

ละเอียดลึกซึ้งที่ทรงคุณคํายิ่งนี้ ดังคําที่หลวงพํอทํานกลําวไว๎เป็นปริศนาวํา “ เกิดมาวําจะมาหา

แก๎ว พบแล๎วไมํกําจะเกิดมาทําอะไร ” ใชํครับจะเกิดมาทําอะไร ถ๎าไมํหาสาระแกํนสารใด ๆ ให๎กับ

ชีวิตตนเอง รวมถึงการสร๎างบารมีที่เรานี้อาจมองข๎ามไปได๎อยํางไมํนําเช่ือ บรรพชา บุณยรัตพันธุ๑

Page 4: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

4

องค์ปฐมบรมครูแห่งวชิชาธรรมกาย

Page 5: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

5

สารธรรมภายในเลํม

ธรรมกายสายประวัติศาสตร๑

-ธรรมกายในศิลาจารึก

-ราชโอรสรัชกาลที่ 4 ทรงนิพนธ๑เรื่อง “ ธรรมกาย ”

ธรรมกายในความหมายของหลวงพํอสดวัดปากน้ํา

หลวงพํอสดไมํเคยเลิกฝึกวิชชาธรรมกาย

ธรรมกายหมายเลข ๑ (ศิษย๑เอกคนสําคัญ )

- แมํชีอาจารย๑ปุก มุ๎ยประเสริฐ

- แมํชีอาจารย๑ญาณี ศิริโวหาร

- แมํชีอาจารย๑ฉลวย สมบัติสุข

- แมํชีอาจารย๑ถนอม อาสไวย๑

- แมํชีอาจารย๑ทองสุก สําแดงปั้น

- แมํชีอาจารย๑ละมัย ชูวงศ๑วุฒ ิ

- อาจารย๑ตรีธา เนียมขํา

- อาจารย๑การุณย๑ บุญมานุช

Page 6: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

6

หลวงพํอวัดปากน้ําภาษีเจิญ (พระมงคลเทพมุนี สด จันทสโร)

Page 7: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

7

หลวงพํอในความทรงจําของคณะศิษย๑

เรื่องแปลกมหัศจรรย๑สมัยหลวงพํอสดวัดปากน้ํา

เรื่องเดํนประเด็นลับ

- ธาตุธรรม 3 ฝ่าย (จากการบันทึกของพระครูวินัยธรหรือหลวงปู่ช้ัว โอภาโส )

- ปริศนาแหํงดวงแก๎ว

- องค๑ความรู๎เร่ือง “แก๎วกายสิทธิ์-แก๎วจักรพรรดิ”

- นัยสําคัญของจักรพรรดิ – กายสิทธิ,์ สิทธิและอํานาจ การแสวงหาสิทธิในทางธรรม

-ธรรมสากัจฉา ( การสนทนาในทางธรรม ) ที่นําสนใจ

- การเผยแพรํธรรมของหลวงพํอวัดปากน้ํา

- การเรียนวิชชาธรรมกายและการเผยแพรํธรรมของอาจารย๑การุณย๑

- ความรู๎วิชชาธรรมกายจากแมํชีถนอม อาสไวย๑

- ขี่หลังเสือ , กรรมฐานมาร , หลักอริยมรรค 8 , การทรงเจ๎าเข๎าผี , ทางอบาย 3 อยําง

เสนํห๑ยาแฝด , ความรู๎วิชชาธรรมกาย , การตรวจสอบญาณทัสสนะ , ถือศีล / กินเจ -ขํายรู ๎/

ขํายญาณ , การปราบมาร . ผลงานทางวิชชาธรรมกาย , เรื่องของกายธรรม , - คําช้ีแจงเรื่อง “

หลวงพํอวัดปากน้ําไมํได๎อยูํสวรรค๑ช้ันดุสิต ” , การเห็นที่ตรงกัน , อานาปานัสสติ / วิชชา

ธรรมกาย , เรื่องของแผํนฌาน , สิ่งที่ต๎องเรียนรู๎และจดจําไว๎

Page 8: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

8

อีกอิริยาบถหนึ่งของหลวงพ่อวัดปากน ้า

Page 9: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

9

ธรรมกายสายประวัติศาสตร์

ถ๎าเอํยถึงคําวํา “ วิชชาธรรมกาย ” แนํนอนครับผู๎คนทั้งหลายก็ต๎องนึกถึง

“ หลวงพํอสดวัดปากน้ํา ” กํอนเป็นอันดับแรก และเมื่อใดก็ตามที่มีการสนทนา

กันถึงหลวงพํอสดกับการบรรลุธรรมและอภินิหารของทําน ก็ต๎องหนีไมํพ๎นเรื่อง

ของวิชชาธรรมกาย ประดุจเป็นเรื่องเดียวกันที่แยกกันไมํออกครับ และจุดเริ่มต๎น

ของวิชชานี้ยกเว๎นองค๑พระสัมมาสัมพุทธเจ๎าที่เป็นเจ๎าของวิชชาแล๎วทุกคนตํางจับ

จ๎องมองมาที่หลวงพํอสดกันทั้งสิ้น ในฐานะเป็นผู๎ค๎นพบวิชชาธรรมกาย ที่สูญ

หายมานานนับพันปี แตํแท๎ท่ีจริงแล๎วชํวงรอยตํอ ตั้งแตํหลังพระพุทธองค๑ ดับ

ขันธปรินิพพานไปได๎ไมํนาน ( ประมาณ 500 ปี ) จนมาถึงหลวงพํอสดวัดปากน้ํา

นั้นก็มีหลักฐานจารึกไว๎ในที่ตําง ๆ อยูํเหมือนกันครับ โอกาสนี้เราจะมาสืบค๎น

รํอยรอยทางประวัติศาสตร๑ ถึงที่มาของวิชชาธรรมกายกันวําเป็นอยํางไรผมขอ

อนุญาตนําข๎อมูลของคุณ “สมถะ” (ผู๎เชี่ยวชาญวิชชาธรรมกายคนหนึ่ง) จากเว็บ

ไซด๑www.kyadham.org ที่ได๎เรียบเรียงเรื่องราวอันนี้ไว๎ได๎อยํางดีเยี่ยม ซึ่งมี

ใจความนําสนใจดังนี้ครับวํา “ เมื่อ 70ปี ที่แล๎ว ภายหลังที่หลวงพํอวัดปากน้ํา

ค๎นพบวิชชาธรรมกายแล๎วเริ่มเผยแพรํวิชชานี้สูํประชาชนก็ถูกวิพากษ๑วิจารณ๑ตําง

ๆ นานา บ๎างก็ติวําหลวงพํอวัดปากน้ํานึกเอง บ๎างก็วําทํานอวดอุตริมนุษยธรรม

บ๎างก็วําเป็นความเห็นท่ีงมงาย แม๎กระนั้นถึงจะถูกกลําวโจมตีอยํางหนักก็ตาม

สิ่งซึ่งนําประหลาดอยูํอยํางหนึ่ง ในการเทศนาของหลวงพํอวัดปากน้ําตลอดมาก็

Page 10: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

10

คือ ทํานไมํเคยเปลี่ยนจุดยืนท่ีวํา ธรรมกายนั้นมีจริงไมํใชํของใหมํหากแตํเป็น

ของดั้งเดิมของบรรพบุรุษชาวพุทธ หลวงพํอวัดปากน้ําได๎ค๎นพบวําการทําสมาธิ

ตามแนววิชชานี้ครั้งหนึ่ง เคยมีปรากฏอยูํในโลกนี้ แตํได๎สูญหายไปเมื่อพุทธ

ศาสนาอายุได๎ราว 500 ปี หลังจากนั้นก็ไมํเคยมีใครเข๎าถึงธรรมกายอีกเลย คํา

กลําวของทํานทําให๎พระอาจารย๑หลาย ๆ ทํานกลําวเพํงโทษหลวงพํอวัดปากน้ํา

ธรรมอะไรที่เป็นดวงได๎ ? ทําไมศีลเป็นดวงได๎ ? สมาธิเป็นดวงได๎ ? ปัญญาเป็น

ดวงได๎ ? ที่ไหนมีอยํางนั้นบ๎าง ธรรมะก็คือคําสอนของพระพุทธเจ๎าเทํานั้น แล๎ว

โจมตีหลวงพํอวัดปากน้ําในประเด็นตําง ๆ มากมาย การศึกษาธรรมะในเมืองไทย

เรายังแคบอยูํ พวกเราพากันเชื่อวําวําพระไตรปิฎกที่มีอยูํจํานวน 45 เลํม และก็

ถือวําธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ๎ามีอยูํเทํานี้ไมํมีนอกจากนี้ โดยที่เราไมํเคย

ไปศึกษาดูประวัติการสังคายนาพระไตรปิฎก กํอนที่จะมีมาถึงปัจจุบันนั้นในแตํ

ละครั้งละหนมีปัญหามากมาย แม๎คนภายนอกทั่วไป ก็ไมํอาจทราบวําการ

สังคายนาของไทยเราเองแตํละครั้งมีระเบียบท่ีรัดกุมหรือไม ํ แล๎วเราก็ไปยึดถือ

ตําราจนสุดโตํง พุทธศาสนาแตํละนิกายนั้นจะมีความเชื่อเหมือนกันอยูํอยํางหนึ่ง

คือ เชื่อวํานิกายของตนนั้นถูกต๎องที่สุด ธรรมในนิกายของตนนั้นประเสริฐท่ีสุด

เครํงครัดที่สุด ไมํมีนิกายใดดีกวําของตนอีกแล๎ว ขอย๎อนดูพระไตรปิฎกของเรา

สักนิดหนึ่งวําในพระไตรปิฎกของเรานั้นไมํมีตรงไหน ตอนไหน ตอนใด ตอน

หนึ่งเลยที่พระพุทธเจ๎าทรงบอกวํา คําสั่งสอนของพระองค๑นั้นมีอยูํเพียงเทํานี้

นอกจากนี้ไปแล๎วไมํมี พระองค๑ไมํเคยบอกเลยวําที่เทศน๑ครั้งนี้สําหรับคัมภีร๑ของ

Page 11: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

11

นิกายเถรวาทหมวดนั้นหมวดนี้ หรือของมหายานนิกายนั้นนิกายนี้ ชื่อสูตรนั้น

สูตรนี้ คําสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ๎านั้นพระองค๑ทํานให๎หลักไว๎มากมายแตํ

หลักสําคัญคือ “ มหาปเทส 4 ” กํอนที่จะเลําเรื่องวิชชาธรรมกายนั้นจะขอกลําวถึง

การแบํงนิกายกํอน การแบํงนิกายนั้นเป็นการที่พระ 2 กลุํม แบํงกันเองโดยถือเอา

เงื่อนไขวํา “ ข๎าเครํงกวําเอ็ง ” เชํน พระกลุํมหนึ่งอาจจะบอกวําโกนคิ้วดี โกนคิ้ว

ถูก อีกกลุํมวําไมํโกนคิ้วถึงจะถูก อีกกลุํมหนึ่งอาจจะบอกวําหํมผ๎าหมุนซ๎าย

ถูกต๎อง หํมผ๎าหมุนขวาไมํถูก หรือวําทะเลาะกันเรื่องสีของจีวรวําสีของจีวรอันนี้

ดีกวําอันนั้น อันนั้นเครํงกวําอันนี้ อันนั้นถูกอันนี้ไมํถูก การทะเลาะกันในเรื่อง

ของสิกขาบทเล็กน๎อยเหลํานี้แหละเป็นจุดเริ่มต๎นของการแบํงนิกาย แตํถ๎าคํานึงถึง

ประโยชน๑สํวนรวมก็จะไมํมีการแบํงแยก เมื่อใดท่ีพระภิกษุกลุํมหนึ่งบอกวําข๎า

เครํงกวําเอ็งแล๎วก็แยกไมํยอมลงโบสถ๑ ไมํยอมทําสังฆกรรมรํวมกันปรากฏอยําง

นั้นเรียกวํา การแบํงนิกาย ได๎พบวําพุทธศาสนาเกือบทุกนิกายบันทึกตรงกันวํา

หลังจากพุทธปรินิพพานแล๎ว 3 เดือน มีการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 1 ที่กรุง

ราชคฤห๑ หลังจากนั้นอีกประมาณ 100 ปี ซึ่งก็เป็นเพียงตัวเลขกะครําว ๆ มีการ

สังคายนาครั้งที่ 2 สําหรับเถรวาทเราก็มีการสังคายนาครั้งที่ 3 โดยมีพระเจ๎าอโศก

ทรงเป็นผู๎สนับสนุนในการทําสังคายนาที่กรุงเวสาลี เป็นที่นําประหลาดใจวําใน

พุทธศาสนานิกายอื่นนั้น ไมํมีเรื่องการทําสังคายนาครั้งที่3เลย แตํมีการทํา

สังคายนาอีกครั้งหนึ่งในแคว๎นแคชเมียร๑ซึ่งอยูํทางตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย

ผู๎สนับสนุนการทําสังคายนาครั้งนั้นก็คือพระเจ๎ากนิษกะ เมื่อประมาณ 2,000 กวํา

Page 12: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

12

ปีมาแล๎ว กํอนที่จะมีปรัชญามหายานเกิดขึ้น มีพุทธศาสนานิกายหนึ่งซึ่งเกําแกํ

มากปัจจุบันสูญหายไปแล๎ว พุทธศาสนานิกายนี้เรียกตัวเองวํา สรฺวาสติวาท

( สันสกฤต ) หรือ สพฺพตฺถิกวาท ( บาลี ) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งวําไวภาษิกซึ่งเป็น

นิกายยํอยของเถรวาท มีหลักฐานวําเป็นผู๎เขียนคัมภีร๑พระอภิธรรมปิฎกชุดแรก

ไว๎ ตามตํานานของสรฺวาสติวาทกลําวไว๎วําในการสังคายนาพระไตรปิฎกของพระ

เจ๎ากนิษกะที่แคชเมียร๑ ( อยูํในประเทศปากีสถาน ) นั้น พระภิกษุสงฆ๑จากนิกาย

ตําง ๆ หลายร๎อยรูปทั้งจากแคว๎นอินเดียตอนเหนือและตอนใต๎ได๎รํวมกันสังคายนา

พระไตรปิฎกในครั้งนี ้ โดยบันทึกเป็นภาษาสันสกฤต นําเสียดายวําตํอมา

พระไตรปิฎกที่เกิดขึ้นจากการสังคายนาครั้งนั้น สูญหายไปเกือบหมดมีเหลืออยูํ

บ๎างในภาษาจีน ซึ่งพระภิกษุชาวจีนที่เข๎ารํวมการสังคายนาครั้งนั้นได๎นํามาแปล

เป็นภาษาจีนอยูํมากมาย เมื่อประมาณ 60 ปีกํอนได๎มีการค๎นพบหลักฐานชิ้น

สําคัญที่ภูเขากิลกิตในประเทศปากีสถานเป็นภูเขาที่รกร๎าง บนเขามีสถูปเกําแกํที่

ชํารุดแตกออก ภายในสถูปมีคัมภีร๑เกําแกํอยูํหลายเลํม มีอยูํเลํมหนึ่งเป็นเลํมแรก

ของคัมภีร๑พระอภิธรรมปิฎกของสรฺวาสติวาทคัมภีร๑เลํมนี้ชื่อวํา ธรฺมสกนฺธะ ซึ่ง

บันทึกด๎วยภาษาสันสกฤต พระอภิธรรมในคัมภีร๑นี้ถึงแม๎วําจะไมํครบความแตํก็

สรุปได๎วํา คําวํา “ธรรมะ” ในสมัยนั้นมีลักษณะที่เหมือนกับการค๎นพบของหลวง

พํอวัดปากน้ําทุกประการคือ ธรรมะเป็นของที่เกือบจะเป็นเนื้อเป็นหนังเป็นกลุํม

ก๎อนที่จับต๎องได๎ ยิ่งกวํานั้นพวกไวภาษิกก็มีความเชื่อวํา ธรรฺมกาย นั้น คือพระ

พุทธองค๑ตัวจริง พระพุทธเจ๎าตัวจริงเป็นกายประกอบด๎วยธาตุอันบริสุทธิ์เป็น

Page 13: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

13

กลุํมก๎อนของธาตุอันบริสุทธิ์ รูปก็ดี เวทนาก็ดี สัญญา สังขาร และวิญญาณ

ของธรรมกายนั้น ประกอบขึ้นด๎วยธาตุอันบริสุทธิ์ ไมํมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งเจือปน

นอกจากนั้นก็ยังมีความเชื่ออีกวํา พระพุทธเจ๎ามีอยูํ 2 กาย อันที่หนึ่งคือรูปกาย

หรือกายเนื้ออยํางหนึ่ง อีกอันหนึ่งคือธรรมกายในพระไตรปิฎกของจีนก็มีการ

กลําวถึงธรรมกาย มีบางสํวนตรงกันกับพระสูตรของทิเบตสูตรหนึ่ง คือ

ตถาคตครฺภะสูตร มีความตอนหนึ่งวํา “ เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ๎าทรงตรวจดู

สัตว๑โลกด๎วยทิพยจักษุทรงเห็นวําสรรพสัตว๑ทั้งหลาย แม๎วําจะถูกครอบงําด๎วย

กิเลสราคะ โทสะ โมหะ แตํก็มีพุทธปัญญา พุทธจักขุ และพุทธกายนั่งขัดสมาธิ

บัลลังก๑มั่นคงภายใน เพราะเหตุนั้นสัตว๑ทั้งหลายแม๎จะมีกิเลสครอบงําอยูํยังต๎อง

เวียนวํายในคติตํางๆ สัตว๑ทั้งหลายเหลํานั้น ก็มีสาระแหํงความเป็นตถาคตอยูํ

บริสุทธิ์บริบูรณ๑ด๎วยคุณธรรมไมํแตกตํางไปจากเราตถาคตเลย เมื่อทรงทราบดังนี้

แล๎วพระตถาคตเจ๎า จึงประกาศธรรมะเพื่อกําจัดเสียซึ่งกิเลส และยังพุทธภาวะ

ภายในนั้นให๎ประจักษ๑ตํอสัตว๑ทั้งหลาย ” คําวํา ตถาคตครฺภะ เป็นคําซึ่งไมํมีใน

คัมภีร๑บาลีของเรา คําวํา “ ตถาคตะ ”ก็มาจากคําวํา ตถาคต หมายถึงพระ

สัมมาสัมพุทธเจ๎า สํวนคําวํา “ครฺภ” เป็นคําสันสกฤตในบาลีตรงกับคําวํา “ คภฺพ

” ซึ่งมีความหมายได๎วําเป็นครรภ๑ ครรภ๑มารดาก็ได๎ หรือแปลวําตัวอํอนที่อยูํใน

ครรภ๑ก็ได๎ ถ๎าแปลเป็นภาษาไทยให๎ถูกต๎องก็แปลวําหนํอเนื้อพุทธางกูร หรือเป็น

ภาษาอังกฤษเรียกวํา Buddha Nature หรือ Buddha Essense หรือ Buddha

Embryoทั้ง 3 ความหมายนั้นตรงกันกับของวิชชาธรรมกายแล๎วก็ยังมีความหมาย

Page 14: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

14

อธิบายขยายความตํอไปอีกวํา ตถาคตครฺภะ อีกนัยหนึ่งก็คือธรรมกายนั่นเอง

ยังมีคัมภีร๑ของมหายานอีกเลํมหนึ่งชื่อวําคัมภีร๑ศรีมาลาเทวี สีหนาทสูตร สูตรนี้

เป็นพระสูตรที่เกําแกํเชื่อกันวําเป็นของมหาสังฆิกะ มหาสังฆิกะนั้นเป็นสงฆ๑หมูํ

ใหญํในอินเดีย กํอนการเกิดขึ้นของปรัชญามหายาน ขอเรียนให๎ทราบอยํางหนึ่ง

วําประวัติพุทธศาสนาที่สอนกันในประเทศไทยที่บอกวํามหาสังฆิกะนั้น อีกนัย

หนึ่งก็คือมหายานนั่นเอง หรือระบุวํามหาสังฆิกะเป็นสาเหตุของการเกิดขึ้นของ

มหายาน ความจริงแล๎วไมํได๎เป็นเชํนนั้นเลย มหาสังฆิกะแปลวํา สงฆ๑หมูํใหญํ

ซึ่งหมายถึง สงฆ๑ทั่วไปในแคว๎นอินเดียตอนเหนือ สงฆ๑กลุํมนี้ไมํมีความเลื่อมใส

มหายานเลย มหายานไมํใชํนิกายใหมํเป็นเพียงปรัชญาหนึ่งท่ีได๎รับความเชื่อถือ

อยํางกว๎างขวางจนครอบคลุมพุทธศาสนานิกายตําง ๆ ทั่วประเทศอินเดียตอน

เหนือ ขณะที่ปรัชญามหายานทรงอิทธิพลมากขึ้นนี้คัมภีร๑ของมหาสังฆิกะก็ถูก

เปลี่ยน ถูกนําเข๎ามาอยูํในรํมไม๎ชายคาของมหายานในคัมภีร๑ศรีมาลาเทวี สีหนาท

สูตร เลํมนี้ก็เชํนเดียวกัน ในตอนหนึ่งมีใจความวํา “ บุคคลใดไมํมีความสงสัยวํา

ตถาคตเจ๎าได๎หลุดพ๎นจากกิเลสทั้งปวงแล๎วและธรรมกายนั้นยํอมไมํมีการเกิด,ไมํ

มีการแกํ,ไมํมีการเจ็บ,ไมํมีการตาย คงที่แนํนอนสงบตลอดกาลบริสุทธิ์บริบูรณ๑

ปราศจากกิเลสเครื่องเศร๎าหมองทั้งปวงถึงพร๎อมด๎วยพุทธคุณทั้งปวง จะนับจะ

ประมาณมิได๎ประหนึ่งเม็ดทรายในท๎องพระแมํคงคาฉะนั้น สมบูรณ๑ไปด๎วยวิมุตติ

ญาณทัสสนะแตํไมํปรากฏตํอสายตาของคนทั้งปวงธรรมกายของพระตถาคตเจ๎า

เมื่อยังไมํพ๎นจากกิเลสยํอมถูกกลําวถึงในนามของตถาคตครฺภะ ” อีกตอนหนึ่งใน

Page 15: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

15

คัมภีร๑เดียวกันนี้เองกลําววํา “ ธรรมกายนั้นยํอมเที่ยงแท๎แนํนอนที่สุด เป็นสุข

ล๎วน ๆ เป็นตัวตนคือ เป็นอัตตาที่แท๎จริงบริสุทธิ์ที่สุด ผู๎ใดได๎เห็นธรรมกายของ

ตถาคตในลักษณะนี้แล๎วยํอมถือวําเห็นถูก ” นี่ก็เป็นคําสอนในคัมภีร๑มหายานสํวน

หนึ่งซึ่งอธิบายเกี่ยวกับเรื่องธรรมกายไว๎อยํางมากมาย และเป็นคัมภีร๑สํวนหนึ่ง

หลวงพํอวัดปากน้ํากับลูกศิษย๑พระฝรั่ง

Page 16: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

16

ธรรมกาย “ ในศิลาจารึก ”

ที่กลําวไปแล๎วนั้นเป็นเรื่องราวของ “ ธรรมกาย” ในพุทธศาสนา พวกเราหลาย

คนคงจะสงสัยคล๎าย ๆ กันวํา ทําไมคําวํา “ ธรรมกาย” จึงเพิ่งมีปรากฏในประเทศ

ไทย หลวงพํอวัดปากน้ําค๎นพบวิชชาธรรมกายได๎อยํางไร บางทํานอาจจะคิดวํา

ธรรมกายเป็นเรื่องที่สอนเพี้ยนกันไปแล๎ว ทําไมสํานักของหลวงพํอวัดปากน้ําจึง

สอนวิธีทําสมาธิโดยการกําหนดนิมิตเป็นดวงแก๎ว และอธิบายวําธรรมะมีลักษณะ

เป็นดวงกลมใสรอบตัวอีกด๎วย ในการอธิบายคําวํา “ธรรมกาย”นั้น ทําไมถึงระบุ

เอาวําธรรมกายเป็นอัตตา ( ตัวตน ) ที่แท๎จริงสิ่งเหลํานี้ ถ๎าเราจะศึกษาค๎นคว๎า

จากพระไตรปิฎกบาลีอยํางเดียว หรือเอาอรรถกถาบาล ี มาเป็นเพียงหลักฐานนั้น

ข๎อความอาจจะยังไมํชัดเจนเทําใดนัก เพราะในการศึกษาธรรมภาคปริยัติของไทย

ที่มีมาแตํโบราณ ยังมีจุดบกพรํองอยูํบางประการ แล๎วจุดบกพรํองตําง ๆ ที่สะสม

กันจนเวลาผํานมาเป็นร๎อยๆปี ทําให๎เราทิ้งหลักฐานที่เกี่ยวกับธรรมกาย อันเป็น

หลักสําคัญของพระพุทธศาสนาไปเป็นอันมาก ที่ยังมีปรากฏอยูํในประเทศไทย

ตั้งแตํสมัยโบราณ มีหลักฐานจาก “หลักศิลาจารึกพระธรรมกาย” ซึ่งเป็นศิลา

จารึกเกําแกํ จารึกเมื่อปี พ.ศ. 2092 ขุดพบท่ีเจดีย๑วัดเสือ อ.เมืองจ.พิษณุโลก

ปัจจุบันอยูํในพิพิธภัณฑสถานแหํงชาติกทม. มีใจความวํา “สพฺพ๒ฺตญาณปวรสีสํ

นิพฺพานรมฺมณํ ปวรวิลสิตเกส จตูถชานาปวรลลาต วชฺชิรสมาปตฺติปวรอุ ”คํา

แปล “ พระพุทธลักษณะคือ พระธรรมกายมี พระเศียรอันประเสริฐคือ พระ

Page 17: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

17

สัพพัญ๒ุตญาณ มีพระเกศางามประเสริฐคือพระนิพพานอันเป็นอารมณ๑แหํงผล

สมาบัติ มีพระนลาฏอันประเสริฐ คือจตุถฌาน มีพระอุณาโลมอันประเสริฐ

ประกอบด๎วยพระรัศมีคือพระปัญญาในมหาวชิรสมาบัติ ” “ อิมํ ธมฺมกาย

พุทฺธลกฺขณํ โยคาวจรกุลปุตฺเตน ติกฺขญาเณน สพุพญ บุพุทฺธภาวํ ปตฺเถนฺเตน

ปุนปฺปุ่นํ อนุสฺสริพฺพํ ฯ ”คําแปล “ พระพุทธลักษณะคือ พระธรรมกายนี้อัน

โยคาวจรกุลบุตรผู๎มีญาณอันกล๎า เมื่อปรารถนาซึ่งภาวะแหํงตนเป็นสัพพัญ๒ู

พุทธเจ๎าพึงระลึกเนือง ๆ ฯ ” “ ธรรมกาย ” สมถกรรมฐานแบบโบราณของไทย

เราชาวพุทธยังโชคดีมีพระภิกษุรูปหนึ่งได๎มองเห็นการณ๑ไกล เกรงวําในอนาคต

คนทั้งหลายอาจจะไมํเข๎าใจวิธีการทําวิปัสสนากรรมฐานโบราณ ของคนไทยวํา

เป็นอยํางไรบ๎าง จึงรวบรวมนํามาพิมพ๑เป็นเลํมขึ้นชื่อหนังสือพระสมถวิปัสสนา

แบบโบราณ เมื่อพ.ศ. 2479 พระภิกษุรูปนั้นคือ พระมหาโชติ ปัญโญ( ใจ ยโสธร

รัตน๑ ) โดยมีพระเดชพระคุณพระพรหมมุนี เจ๎าอาวาสวัดบรมนิวาสเป็นผู๎ตรวจ

หนังสือนี้ ได๎รวบรวมเอกสารทําวิปัสสนากรรมฐานจากคัมภีร๑เกํา ๆ ซึ่งได๎มาจาก

แหลํงตําง ๆ เป็นหลักฐานที่แสดงวําการทําวิปัสสนากรรมฐานในประเทศไทยแตํ

โบราณมีลักษณะบางอยํางที่เป็นเอกลักษณ๑ประจําตัว ตํางจากการทําวิปัสสนา

กรรมฐานของพมําหรือของศรีลังกา ในหนังสือเลํมนี้มีคําอธิบายไว๎หลายตอนซึ่ง

สามารถพิสูจน๑ได๎วํา เรื่องธรรมกายนั้นไมํใชํเรื่องใหมํเลยมีอยูํในพุทธศาสนาใน

แผํนดินไทยนี้มานานพอสมควรแล๎วแม๎กระทั่งคําภาวนา “สัมมาอะระหัง” ซึ่ง

คัดมาจากคัมภีร๑สมัยสมเด็จพระอริยวงษญาณปริยัติวราสังฆราชาธิบดีศรีสมณุต

Page 18: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

18

มาปรินายก (สมเด็จพระสังฆราชไกํเถื่อน ) จะเห็นได๎วําคําภาวนา “สัมมาอะ

ระหัง” ที่ใช๎ในการภาวนานี้ไมํใชํคําที่หลวงพํอวัดปากน้ําคิดขึ้นเอง เชื่อได๎วําได๎

นําคําภาวนานี้มาจากคัมภีร๑โบราณ ในตําราเลํมนี้ยังได๎กลําวถึง การเจริญอานา

ปานัสสติมีความตอนหนึ่งวํา “ ภาวนา 1,2,3,4,5 ตั้งต๎นในจงอยปากเห็นลม

หายใจและภาวนา 1,2,3,4,5 ปรากฏฝอยเหมือนไฟหนึ่ง , ควันหม๎อหนึ่ง , เหมือน

นุํนหนึ่ง , แล๎วปรากฏเห็นดวงดาวดวงหนึ่ง , แล๎วปรากฏเห็นพระจันทร๑ซีกหนึ่ง

, แล๎วเห็นพระจันทร๑ทั้งดวง และภาวนาไปแล๎วเห็นปรากฏเป็นพระอาทิตย๑ซีก

หนึ่ง แล๎วปรากฏเห็นพระอาทิตย๑ทั้งดวง ” การเจริญอานาปานัสสติจากหนังสือ

สมถวิปัสสนากรรมฐานแบบโบราณของไทย อาจจะอธิบายการเห็นดวงแตกตําง

ไปสักนิดหนึ่งแตํก็สามารถยืนยันได๎วําการเห็นดวงมีจริง หรือแม๎แตํการเห็นกาย

ภายใน ในตําราเลํมนี้ก็มีเขียนไว๎ในหน๎า 328 มีความวํา “ ได๎สุขเหมือนนั่งใต๎

ต๎นไม๎ต๎องลมริ้ว ๆ สบายริ้ว ๆ มาเป็นที่พึ่งแกํข๎านี้เถิด ปรากฏเห็นรูปรํางตนเอง

ทรงเครื่องมงกุฎสร๎อยสังวาลชื่นชมยินดีสบาย” นี่เป็นลักษณะซึ่งเข๎าได๎กับของ

หลวงพํอวัดปากน้ําที่ได๎อธิบายการเข๎าถึงกายทิพย๑ไว๎อยํางชัดเจน ความตอนหนึ่ง

หน๎า 325 บรรทัดที่ 17 ได๎กลําวถึงผลเมื่อปฏิบัติลึกเข๎าไปอีกมีความวํา “ จึงตั้งจิต

พิจารณาดูธรรมกายในรูปกายด๎วยการดําเนินในโพชฌงค๑ทั้ง 7 ประการ จนจิตรู๎

แจ๎งแทงตลอดในรูปธรรมและนามธรรมได๎แล๎วจักมีตนเป็นที่พึ่ง จักมีธรรมเป็น

ที่พึ่ง ด๎วยประการฉะนี้ ” อีกตอนหนึ่งในหน๎า 384การตั้งฐานของลม ทําจิตให๎

เป็นสมาธินั้นตํารานี้ได๎บอกไว๎ถึง 9 ฐานด๎วยกัน ฐานที่ตั้งนั้นคล๎ายกับของหลวง

Page 19: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

19

พํอวัดปากน้ํามาก จุดท่ีใกล๎เคียงก็มีฐานที่เหนือสะดือ มีฐานที่ในคอ ปลายจมูก

ศีรษะ แม๎ในเรื่องนิมิตก็มีอรรถาธิบายไว๎ในหน๎า 395 วํา “ นิมิตนั้นจะเป็นวงกลม

ก็ตาม เป็นพระพุทธรูปก็ตาม เป็นอยํางเม็ดเพชรรัตน๑หรือดวงแก๎วก็ตาม ต๎อง

สังเกตกําหนดรักษาไว๎ใช๎ทําให๎มากเจริญให๎มาก ทําให๎ชํานาญจนสามารถบังคับ

นิมิตไว๎ในอํานาจได๎ จิตได๎เครื่องหมายได๎ที่พัก เลื่อนภูมิดีแล๎วอยําติดนิมิต ” นี่ก็

ตรงกับหลักของวิชชาธรรมกาย ความอีกตอนหนึ่งหน๎า 370 มีอยูํวํา “ พระ

โยคาวจรผู๎รู๎วํา ธรรมกายดํารงอยูํในหทัยประเทศแหํงสรรพภูติ ทําให๎หมุนดังวํา

หุํนยนต๑ ทํานจึงตั้งใจเจริญพระวิปัสสนาญาณเพื่อให๎ถึงธรรมกายเป็นที่พึ่งอัน

ยอดเยี่ยมโดยสิ้นเชิง ถึงสถานอันสงบระงับ ประเสริฐ เที่ยงแท๎ เพราะความ

อํานวยของธรรมกายนั้นเป็นอมตะ ” นี่ก็เป็นหลักฐานซึ่งพิสูจน๑ได๎วําความเชื่อใน

เรื่องการทําสมาธิตามแนววิชชาธรรมกายนั้น ไมํใชํเป็นของใหมํเลยสําหรับ

ประเทศไทย แตํเป็นมรดกตกทอดกันมาหลายชั่วอายุคน เนื่องด๎วยจากระบบ

การศึกษาของพระสงฆ๑นั้นเราได๎ละเลยคัมภีร๑โบราณนี้ไป ของที่เป็นมาแตํโบราณ

จึงกลายเป็นของใหมํสําหรับสายตาของคนหลาย ๆ คน ตามหลักวิชชาธรรมกาย

แล๎วถือวํานรกสวรรค๑นั้นมีจริง บุญบาปมีจริง พระนิพพานมีจริง ทําดีได๎ดี ทํา

ชั่วได๎ชั่ว ครูบาอาจารย๑มีคุณ บิดามารดามีคุณ ซึ่งเป็นความเชื่อถือที่ตกทอดกัน

มาในหมูํชาวพุทธ แตํสิ่งที่ตกทอดกันมานี้ไมํใชํวําเราจะมาถือกันอยํางงมงาย เรา

ควรจะมีเหตุผลในการศึกษาวิเคราะห๑วิจารณ๑กันไปวํา สิ่งนั้นทําให๎ผู๎ประพฤติ

ปฏิบัติได๎ค๎นพบหนทางการพ๎นทุกข๑ กําจัดกิเลสที่มีอยูํในตัวให๎ลดน๎อยลงได๎

Page 20: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

20

หรือไมํ และเข๎ากับหลักธรรมในพระไตรปิฎกหรือไมํ ควรจะมองในภาพกว๎าง

ด๎วยคือ ไมํใชํยึดติดเฉพาะนิกายหรือความเชื่อของตนเอง และรูปแบบการปฏิบัติ

ของตัวเองแล๎วก็บอกวําของตัวเองนั้นถูกหรือดีที่สุด จึงควรมองข๎อดีของคนอื่น

แล๎วก็นํามาใสํของตัวเอง ถ๎าทําอยํางนี้แล๎วสังคมศาสนาทั่วโลกก็จะเป็นไปด๎วย

ความสุขไมํใชํสังคมที่คอยมาจับผิดกันเอง ใสํร๎ายกันเอง อิจฉากันเอง มิฉะนั้น

หลักวิชชาตําง ๆ ก็จะเศร๎าหมอง ศาสนาของเราก็จะเป็นศาสนาซึ่งเต็มไปด๎วย

ความอึดอัดหาใชํเป็นศาสนาที่เจริญ เพื่อการปลํอยวางการพ๎นจากความทุกข๑ไมํ

หนังสือที่ใช๎ประกอบในการเรียบเรียง 1.ความรู๎เรื่องธรรมกาย 2.ตามรอย

ธรรมกายความคิดเห็น สมาธิวิชชาธรรมกายที่เป็นสมาธิเอกลักษณ๑ประจําชาติ

ไทยด๎วยภูมิปัญญาของคนไทย ค๎นพบเองและเป็นภูมิปัญญาของโลกด๎วย เพราะ

สมาธิวิชชาธรรมกาย บอกถึงกายในกายได๎ละเอียดมากที่สุดของแตํละสัตว๑และ

บอกถึงเวทนาจิตธรรมได๎ละเอียดมากกวําด๎วย ในแตํละกายของแตํละคนเทําที่

เคยมีมาตั้งแตํดึกดําบรรพ๑ตรงนี้พิสูจน๑ได๎ด๎วยตนเองวํา สมาธิวิชชาธรรมกายของ

หลวงพํอสดวัดปากน้ํา ถ๎าใครเข๎าถึงจริงและถูกต๎องด๎วยการหยุดในหยุดที่กลาง

กายฐานที่ 7 เหนือสะดือขึ้นมาสองนิ้วมือ จนเห็นจริงแล๎วยํอมบอกตรงกันหมด

วําสามารถเจริญอานาปานัสสติในกายทิพย๑และกายตําง ๆ ได๎ ไมํใชํแตํกายคน

เทํานั้น จากที่ทํานพุทธทาสปยุตโตบอกได๎แคํนั้นก็ได๎ตามแบบพระพุทธเจ๎าใน

พระไตรปิฎกและสามารถเจริญสติปัฏฐาน 4 ได๎ครบถ๎วนในกายละเอียดตําง ๆ ได๎

ตั้งแตํกายคนจนถึงธรรมกาย ถ๎าทําหยุดในหยุดให๎เป็นกํอนได๎แล๎ว ความจริงก็จะ

Page 21: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

21

ปรากฏประจักษ๑แจ๎งแกํใจ เพราะธรรมของพระพุทธเจ๎าเป็น อกาลิโก ไมํถูก

จํากัดด๎วยกาลเวลา และไมํต๎องอ๎างอิงประวัติสังคมนิกายมาบอก เพราะประวัติ

มันไมํละเอียดพอในเรื่องทางใน แตํความจริงทุกคนต๎องยอมรับวํา สมาธิวิชชา

ธรรมกายสามารถเจริญอานาปานัสสติและสติปัฏฐาน 4 ได๎ในกายละเอียดทุกกาย

รวมกายคนครบถ๎วนด๎วย ไมํต๎องสงสัยไมํมีใครมาแย๎งได๎ และตําราขอบเขต

สมาธิของหลวงพํอสดทํานบอกไว๎เทําใด ก็ไมํมีใครไปเถียงไปแก๎ได๎มีแตํยกยํอง

รักษาไว๎ให๎คูํกับพระไตรปิฎกเถรวาทของไทยและของนานาชาติได๎ เพื่อความ

สมบูรณ๑ที่สุดในเรื่องสมาธิและปัญญาไตรสิกขาแบบไร๎กาลเวลาต๎องรักษาด๎วยการ

ตรวจสอบผลสมาธิผํานการกระทําจริงได๎ด๎วย เพื่อไมํให๎ลืมเลือนในความเห็น

จริงภายหลังด๎วยอยํางตํอเนื่อง ตรงนี้ต๎องพยายามทําให๎เป็นหน๎าท่ีชาวพุทธเลย

ครับจะได๎ไมํแยํเร็วเกินไป ทํานพุทธทาสได๎รับการยกยํองจากยูเนสโกเพราะเรื่อง

การประยุกต๑ในหลักธรรมของโลกได๎อยํางลุํมลึก แตํไมํได๎หมายความวําเรื่องพ๎น

โลกทํานพุทธทาสเข๎าถึงได๎หมด นี่คือข๎อจํากัดของทํานพุทธทาสแนํนอน ดังนั้น

การใช๎คําสอนของทํานพุทธทาสอยํางปลอดภัยต๎องเป็นเรื่องธรรมของโลกเทํานั้น

ชาวพุทธอยําสับสนครับ และแนํนอนหลวงพํอสดทํานนําจะได๎รับการยกยํองจาก

ยูเนสโกบ๎างในเรื่องเป็นบรมครูแหํงสมาธิวิชชาธรรมกาย เพื่อสันติสุขของโลก

สมัยใหมํ และเป็นสมาธิที่ทรงพลังที่สุดของพระพุทธเจ๎าในยุคปัจจุบัน และทุก

สํานักสมาธิทั่วโลกสามารถเป็นฐานหนุนสมาธิวิชชาธรรมกาย ได๎อยํางเป็นสากล

Page 22: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

22

อีกด๎วย แตํสหประชาชาติยูเนสโกจะเข๎าใจเรื่องพระพุทธศาสนาแคํไหนนั้น ก็

ยากจะไปสาธยายได๎ครับ

นี่คือข๎อมูลสําคัญที่คุณ “สมถะ” (ผู๎เชี่ยวชาญวิชชาธรรมกาย) ได๎นํามา

ถํายทอดไว๎ได๎อยํางนําสนใจทีเดียวครับ อีกทั้งมีแงํคิดมุมมองที่มีประโยชน๑มาก

จึงขออนุญาตนํามาถํายทอดให๎คุณผู๎อํานได๎รับรู๎กันไว๎ ณ ที่นี้ สํวนเรื่องตํอไปนํา

ภาคภูมิใจที่สุดครับ สําหรับการนําเสนอเรื่องราวของหนํอเนื้อราชวงศ๑ ท่ีทรงสน

พระทัยในวิชชาธรรมกาย และได๎พระนิพนธ๑ไว๎เป็นหลักฐานที่สําคัญหน๎าหนึ่งใน

ประวัติศาสตร๑ เรามาติดตามเรื่องนี้กันตํอครับ

สาธุชนพากันใสํบาตรกับหลวงพํอวัดปากน้ําด๎วยความเลื่อมใสศรัทรายิ่ง

Page 23: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

23

ราชโอรสในรัชกาลท่ี๔ทรงพระนิพนธ๑เรื่อง“ธรรมกาย ”

ในสมัยรัชกาลที่ 4 เป็นยุคที่พระพุทธศาสนาเจริญรุํงเรืองเป็นอยํางมาก

พระองค๑ทรงให๎ตั้งนิกายธรรมยุติขึ้น เป็นการกระตุ๎นให๎คณะสงฆ๑ยุคนั้นมีความ

เครํงครัดในพระธรรมวินัยมากขึ้นและพระองค๑ก็ทําได๎สําเร็จสมพระราชประสงค๑

พระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยูํหัวรัชกาลที่ 4 ทรงมีพระราชโอรสพระองค๑หนึ่งมีพระ

นามวํา พระบรมวงศ๑เธอกรมหมื่นวิวิธวรรณปรีชา เมื่อทรงพระเยาว๑ได๎ศึกษา

ภาษาอังกฤษในห๎องเรียนเดียวกับกรมพระยาวชิรญาณวโรรส ในปีพ.ศ. 2416

พระเจ๎าบรมวงศ๑เธอกรมหมื่นวิวิธวรรณปรีชา ทรงผนวชเป็นสามเณร โดยมี

สมเด็จกรมพระยาปวเรศวชิรยาลงกรณ๑ เป็นพระอุปัชฌาย๑และมีสมเด็จ

พระสังฆราชองค๑ที่ 9 ( สา ปุสฺสเทว ) สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นผู๎ถวายศีลให๎ และใน

ปีพ.ศ 2423 พระองค๑ทรงผนวชเป็นพระภิกษุอีกเป็นเวลา 1 ปี จากข๎อความ

ข๎างต๎นจะพบวํา พระเจ๎าบรมวงศ๑เธอ กรมหมื่นวิวิธวรรณปรีชา ได๎ศึกษา

ความรู๎ทางพระพุทธศาสนา จากครูบาอาจารย๑ที่เป็นสมเด็จพระสังฆราชถึง 3

พระองค๑ ทํานได๎ทรงพระนิพนธ๑หนังสือที่มีชื่อวํา แกํนไตรภพ , เพ็ชรในหิน ,

วิธธัมโมทัย , มฤตยูกถา หรือ มรณานุสสร ซึ่งมีรายละเอียดที่นําศึกษาเกี่ยวกับ

เรื่องธรรมกายดังนี ้ ในเรื่องแกํนไตรภพ เป็นคําปุจฉาวิสัชนาเรื่องกายและใจ

พระองค๑ชอบในการแตํงบทประพันธ๑เป็นอันมาก ได๎ทรงประพันธ๑โคลงสุภาษิต

Page 24: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

24

แทรกแกํนไตรภพบทท่ี 54 – 55 , 64 โดยได๎เอํยอ๎างถึงคุณสมบัติของธรรมกายไว๎

ทรงตั้งชื่อวํา “ บทธรรมกายอาทิพุทธ ” ดังนี ้

54. อ๎าธรรมิสเรศวร๑เรื้อง ไตรรัตน๑

เป็นเอกเป็นตรีชัด เดชล๎น

รักษานิกรสัตว๑ เสพสุข สวัสดิ์แฮ

ที่พึ่งสูงสุดพ๎น ทั่วทั้งสงสาร

55. เป็นประธานแกํสัตว๑สิ้น ทั้งหลาย

ทุกชีพดุจภาคกาย หนึ่งแท๎

เป็นอยูํไมํตาย ตลอดนิต ยกาลนา

โดยเดชธรรมกายแล๎ โลกเลี้ยงนับถือ

64. เพิ่มพูนความเรียบร๎อย สามัคคี

ทั้งพิภพราตรี แหลํงหล๎า

ไมํมากไมํน๎อยมี สํวนเทํา กันนา

เพราะฤทธิ์ธรรมกายอ๎า เอกล้ําเลิศคุณ

Page 25: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

25

ในเรื่องเพ็ชรในหินกลําวถึงเรื่องสภาวะจิตที่จะไปนิพพานได๎ ผู๎ปฏิบัติจะต๎อง

อาศัยศรัทธาความเชื่อกํอน ถ๎าไมํเชื่อแล๎วก็ไมํมีทางที่จะถึงนฤพานได๎ แตํเมื่อทํา

จิตให๎เชื่อนฤพานมีจริง เมื่อประกอบสติวิริยะสมาธิและปัญญาตํอไปจนถึงวิมุติ

และวิมุติญาณทัสสนะเป็นที่สุด ได๎รู๎เห็นถึงพระนฤพานได๎สมตามปรารถนา

แสดงวําพระองค๑เชื่อวํา พระนิพพานมีจริงสามารถไปถึงได๎วิวิธธัมโมทัย เป็น

เรื่องที่กลําวถึงเรื่องของจิตเรื่องของกาย ซึ่งในเรื่อง วิวิธธัมโมทัยพระองค๑ได๎

กลําวถึงธรรมกายไว๎ชัดเจนมากดังนี้ พระเจ๎าบรมวงศ๑เธอ กรมหมื่นวิวิธวรรณ

ปรีชา ได๎กลําวถึงคําวําธรรมกายไว๎ ในหลายนัยในไตรพิธกายหน๎า 214 – 217

ความวํา “คนเรามีกาย 3 ชั้น คือ 1. สรีระกาย คือกายที่แลเห็นต๎องแกํ , ต๎องเจ็บ ,

ต๎องตาย 2. ทิพยกาย คือกายที่เป็นความรู๎สึกภายใน ผันแปรไปตามกุสลากุศล

ธรรม แตํไมํแกํไมํไข๎และไมํตาย 3. ธรรมกาย คือกายที่เที่ยงถาวรไมํเกิด, ไมํแกํ

, ไมํไข,๎ ไมํตาย เพราะเป็นชาติอมตะธรรม นอกจากนี้ทํานยังได๎กลําวถึงใน

ตรีพิธกายวําสัตว๑ทั้งหลายมีกาย 3 ชั้น ในหน๎า 236 – 237 ความวํา 1. รูปกาย

เป็นเปลือกชั้นนอก ( ยํอมเกิดและตาย ) 2. นามกาย เป็นเปลือกชั้นใน ( ยํอมผัน

แปร )

3. ธรรมกายเป็นแกํนไมํเกิดไมํตายไมํผันแปร ( เป็นอยูํตลอดกาลทุกเมื่อ ) หน๎า

236 – 242 มีใจความวํา “ ผู๎ใดรู๎เห็นแตํรูปกายก็เป็นแตํรูปกายเทํานั้น ผู๎ใดรู๎เห็น

ถึงนามกายก็อาจเป็นนามกายก็ได๎ แตํต๎องละทิ้งรูปกายเสียด๎วย ผู๎ใดรู๎เห็น

ธรรมกายผู๎นั้นก็อาจเป็นธรรมกายได๎ แตํต๎องละทิ้งกายอื่น ๆ เสียให๎หมดจึงจะ

Page 26: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

26

เป็นธรรมกายแท๎ เพราะธรรมกายเป็นธรรมชาติไมํรู๎จักตาย ” จากบทสรุป

ข๎างต๎นแสดงวํา พระองค๑เชื่อวําธรรมกายเป็นแกํน เป็นกายที่เที่ยงแท๎ เป็นอมตะ

4 มฤตยูกถาหรือ มรณานุสสรเป็นเรื่องที่กลําวถึงคนเราตายแล๎วไมํสูญอาจจะ

ไปสุขคติหรือทุคติก็ได๎ หน๎า 282 ความวํา “ เมื่อทิพกายพรากออกจากสรีระกาย

แล๎ว สรีระกายหรือกายเนื้อนั้นแม๎จะมีอวัยวะครบถ๎วนก็ไมํสามารถรู๎สึกและเห็น

หรือได๎ยิน หรือไหวเคลื่อนตัวเองได๎ จะมีอาการไมํผิดอันใดกับก๎อนดินหรือทํอน

ไม๎ อาการตายก็คือ ทิพยกายกับสรีระกายพรากจากกันนั่นเอง ” หน๎า 286 ความ

วํา “ ผู๎ที่ไปสูํโลกทิพย๑ใหมํจะรู๎สึกตนเป็นสุขสําราญใจยิ่งนัก เพราะจะได๎พบปะ

กับบุคคลที่คุ๎นเคยรักใครํกันมาแตํกํอน ” หน๎า 289 ความวํา “ ฝ่ายผู๎ที่อบรม

สันดานด๎วยบาปกรรมอันลามกนั้นเลําก็เทํากับเป็นสัตว๑นรกเสียแตํยังเป็นมนุษย๑

แล๎ว เมื่อสิ้นชีพละโลกนี้ไปก็จะเข๎าถึงนิรยโลกโดยตรงเชํนกัน”

คุณผู๎อํานได๎สัมผัสกับเรื่องนี้แล๎วมีความคิดเห็นเชํนใดกันบ๎างครับ มีผู๎รู๎หลาย

ทํานแสดงทัศนะความคิดเห็นคล๎าย ๆ กันดังนี้ครับวํา พระองค๑ทรงเชื่อเรื่องที่

มนุษย๑เราตายแล๎วไมํสูญ ถ๎ากายทิพย๑หลุดออกจากสรีระกาย ชีวิตก็ไมํสามารถ

ดํารงอยูํได ๎ นั่นหมายถึงมนุษย๑เราไมํใชํมีเพียงกายเดียวแตํมีกายภายในคือทิพย

กาย ซึ่งเรามองไมํเห็นด๎วยตาเปลํา และผู๎ตายสามารถไปสูํโลกทิพย๑หรือไปสูํ

ปรโลกได๎นั้น ขึ้นอยูํกับบุญบาปที่ทํามาสมัยเมื่อเป็นมนุษย๑ จากหลักฐานที่พระ

เจ๎าบรมวงศ๑เธอกรมหมื่นวิวิธวรรณปรีชาได๎กลําวชัดเจนในเรื่องธรรมกาย มีผู๎ตั้ง

Page 27: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

27

สมมุติฐานวําพระองค๑อาจจะได๎เรียนเรื่องธรรมกาย จากหนังสือพระปฐมสมโพธิ

ที่เรียบเรียงโดยสมเด็จพระสังฆราช( ปุสฺสเทว ) และรวบรวมโดยสมเด็จพระ

มหาสมณเจ๎ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส เพราะในหนังสือพระปฐมสมโพธิมีการ

กลําวถึงคําวําธรรมกาย หรือพระองค๑อาจจะลงมือปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิภาวนา

จนรู๎แจ๎งเห็นจริงวํา มีธรรมกายในตัวตนจึงได๎ประพันธ๑เขียนเรื่องเกี่ยวกับ

ธรรมกายออกมาคํอนข๎างชัดเจนเชํนนี้ครับ

Page 28: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

28

ธรรมกายในความหมายของหลวงพํอสดวัดปากน้ํา

ธรรมกายในความหมายของหลวงพํอสดวัดปากน้ํานั้นทํานได๎บอกเอาไว๎อยําง

นี้ครับวํา “ พระพุทธเจ๎าก็คือธรรมกาย หรือธรรมกายก็คือพระตถาคตเจ๎านั่นเอง”

แตํก็มีความหมายอีกหลายอยํางหรือหลายนัยซึ่งหลวงพํอวัดปากน้ําพูดถึงเทําที่

ค๎นพบมีดังนี้ครับ

ธรรมกายเป็นกายในกายที่สุดละเอียดของมนุษย๑หรือสัตว๑โลกทั้งหลายอัน

ประมวลความบริสุทธิ์ 3 ประการเข๎าไว๎คือ กายและหัวใจเป็นเนื้อหนังท่ีแท๎จริง

รวบยอดกลั่นออกมาจากพระวินัยปิฎกเป็นปฐมมรรค ดวงจิตเป็นเนื้อหนังท่ี

แท๎จริงรวบยอดกลั่นออกมาจากพระสุตตันตปิฎกเป็นมรรคจิต ดวงปัญญาเป็น

เนื้อหนังท่ีแท๎จริง รวบยอดกลั่นออกมาจากพระอภิธรรมหรือปรมัตถปิฎกเป็น

มรรคปัญญา ธรรมกาย.......เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ๎าเป็นต๎นตรัสรู๎หรือพระอรหันต๑

บรรลุถึง ดูจากข๎อความวําความอุบัติเป็น “ เดํน ” ขึ้นของ “ ธรรมกาย ” ในแตํละ

สัตว๑โลก เป็นเรื่องที่สัตว๑โลกมีได๎ด๎วยยากแตํก็มิใชํจะเหลือวิสัยที่สัตว๑โลกจะทําได๎

เพราะสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ๎าก็ดี พระปัจเจกพุทธเจ๎าก็ดี หรือพระอรหันต๑

ทั้งหลายก็ดี กํอนจะตรัสรู๎ได๎บรรลุพระอรหัตผล หรือพระสัมมาสัมโพธิญาณ

ด๎วย “ พระธรรมกาย ” นั้น การเกิดขึ้นดังกลําวเป็นการเกิดขึ้นของธรรมกาย

หลังจากการเกิดขึ้นของรูปกายดังกลําวคําวํา “ความอุบัติขึ้นของสมเด็จพระ

สัมมาสัมพุทธเจ๎า ด๎วยรูปกายอุบัติและธรรมกายอุบัติ ” พระนิพนธ๑ของสมเด็จ

Page 29: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

29

พระสังฆราชปุสฺสเทว ชําระโดยสมเด็จพระมหาสมณ-เจ๎ากรมพระยาวชิรญาณว

โรรสวํา “ แม๎พระองค๑พระตถาคตอังคีรสศักยมุนีโคดมสัมพุทธเจ๎านี้ ซึ่งมีความ

ปรากฏในโลกอันสัตว๑ได๎ด๎วยยากดังนี้พระองค๑ก็ได๎อุบัติขึ้นแล๎วในโลก ด๎วยรูปกาย

อุบัติและธรรมกายอุบัติทั้ง 2 ประการ พร๎อมด๎วยอัจฉริยะอัพภูตธรรมดา

ธรรมชาตินิยมโดยพุทธธรรมดานี้เป็นเอกสารหลักฐาน ซึ่งแสดงถึงความอุบัติขึ้น

ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ๎าในฐานะรูปกายอุบัติและธรรมกายอุบัติและ

เฉพาะ“ธรรมกาย” อุบัตินั้นก็คือเมื่อ“ ตรัสรู๎ ” พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ

ซึ่งครอบคลุมถึงความตรัสรู๎ในพระอริยสัจทั้ง 4 เชํนเดียวกับ พระอรหันต๑

ทั้งหลายอีกด๎วย ธรรมกายเป็นพระนามหนึ่งของพระตถาคตหรือพระพุทธเจ๎า

หลวงพํอวัดปากน้ําได๎อธิบายวํา ธรรมกายนี้ก็คือพระตถาคตเจ๎า และวํา

พระพุทธเจ๎าก็คือตัวธรรมกาย ถึงธรรมกายก็เหมือนถึงพระธรรมเจ๎า และเป็น

กายธรรมเรียกวํา พระพุทธเจ๎า อัคคัญญสูตรพระไตรปิฎกเลํมที่ 11 วําเราตถาคต

คือ ธรรมกาย ธมฺมกาโย อหํ อิติปิ พระตถาคตเจ๎าคือ ธรรมกาย ชื่อธรรมกาย

มีคํารับรองวํา “ดูกํอนวาเสฏฐโคตรทั้งหลายคําวํา ธรรมกาย เป็นตถาคตโดยแท๎

” นอกจากนั้นมีการอธิบายโดยได๎อ๎างถึงเรื่องวักกลิสูตร ดังที่กลําวในบทวําด๎วย

พระไตรปิฎกและขยายคําวํา “ ผู๎ใดเป็นธรรม ” หมายถึงธรรมที่ทําให๎เป็น

พระพุทธเจ๎าคือ “ ธรรมกาย ”

Page 30: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

30

ธรรมกาย เป็น “ อสังขตธาตุ อสังขตธรรม” อันผู๎มีปัญญาพึงปฏิบัติให๎เข๎าถึงพึง

รู๎เห็น และเป็นตามรอยบาทพระพุทธองค๑ ธรรมกายเป็นธรรมซึ่งแปลวํา “ ทรง ”

เมื่อเพํงตามอาการแล๎วก็มีทรงอยูํ 2 อยํางคือ ทรงอยูํอยํางนั้นไมํแปรผัน

เปลี่ยนแปลงเป็นอยํางอื่นซึ่งเรียกวํา อสังขตธรรม ธรรมที่ไมํมีปัจจัยปรุงแตํงหรือ

อมตะธรรม ธรรมที่ไมํตายอยํางหนึ่ง คําวํา “ ธรรมกาย” ในท่ีนี้เข๎าใจวําหมาย

เอาอสังขตธรรมหรือ อมตะธรรมที่เป็นสํวนโลกุตรธาตุหรือโลกุตรธรรมไมํใชํโล

กิยธาตุหรือโลกิยธรรม

ธรรมกาย หมายถึงสิ่งที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ๎า , พระปัจเจกพุทธเจ๎า ,

พระอรหันตขีณาสพทั้งหลายเป็นเพราะทํานเป็น “ ธรรมกาย ” ด๎วยกันทั้งนั้น

ธรรมกาย เป็นชื่อของกายหนึ่งในกาย 18 กาย คือคําสอนของหลวงพํอวัด

ปากน้ําได๎แบํงกายออกเป็น 18 กาย เมื่อพ๎นจากกายโลกิยะ ( 8 กายข๎างต๎น ) แล๎วก็

จะถึงกายธรรมหรือ “ ธรรมกาย ” เป็นกายที่ 9 – 10 ตั้งแตํกายที่ 9 – 10 ไปเป็น

กายโลกุตระซึ่งจะมีกายในกายตํอไปจนสุดละเอียด และในแตํละกายสุดหยาบสุด

ละเอียดนี้ยังเป็นที่ตั้งของธาตุธรรมเห็นจําคิดรู ๎ ขยายสํวนหยาบเจริญเติบโต

ออกมาเป็นกาย ใจ , จิต ,วิญญาณ ( กรณีกายโลกิยะ ) หรือ ญาณะ ( กรณีกาย

ธรรม ) ของแตํละกายที่ซ๎อนกันอยูํเป็นชั้น ๆ สุดกายหยาบและกายละเอียดนั้นเอง

ด๎วย และยังมีกายภาคผู๎เลี้ยง ( จักรพรรดิ ) , ภาคผู๎สอด ( วิชชาหรืออวิชชา

แล๎วแตํกรณีวําเป็นธาตุธรรมฝ่ายพระหรือฝ่ายมาร ) , ภาคผู๎สํง , ภาคผู๎สั่ง , ภาคผู๎

Page 31: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

31

บังคับ , ภาคผู๎ปกครอง ( ซึ่งมีทั้งภาคผู๎ปกครองยํอยของแตํละกาย) และรวมยํอย

หมดทั่วทุกกายของมนุษย๑หรือสัตว๑แตํละตัวตน และทั้งผู๎ปกครองใหญํประจําภพ

คือ ภาคกามภพ , รูปภพและอรูปภพ รวมใหญํหมดท้ังภพและจักรวาลตํอ ๆ ไป

จนสุดละเอียด แล๎วก็จะเป็นองค๑ต๎นธาตุต๎นธรรมใน “ อายตนนิพพานเป็น”

ธรรมกาย หมายถึง สัทธรรมแท๎ ๆ ดังประโยควํา “ นี่สํวนธรรมกาย ดวง

สัทธรรมที่เป็นธรรมกายนั่นแหละ ดวงนั้นแหละเป็นสัทธรรมแท๎ ๆ ”

ธรรมกาย หมายถึงกายที่คงที่ไมํเปลี่ยนแปลง ดูจากข๎อความวําความอุบัติโดย

ธรรมกายนั้นก็มิใชํการเกิดตามสายปฏิจจสมุปบาท ธรรมโดยมีอวิชชาเป็นมูลราก

ฝ่ายเกิดแตํประการใด แตํเป็นความอุบัติขึ้นด๎วยความบริสุทธิ์อันประมวลเข๎าไว๎

ดังที่ได๎กลําวแล๎วจึงมิใชํนามรูป มิใชํนิมิตอันเกิดแตํอวิชาหรือกิเลสตัณหาใด ๆ

แตํเป็น “ ธรรมกาย ” ที่บริสุทธิ์ หรือ “ พรหมกาย ” ที่ประเสริฐเป็นกายที่

ยั่งยืนของพระพุทธเจ๎า และพระอรหันต๑ทั้งหลาย ดังผู๎ปฏิบัติภาวนาตามแนว

วิชชาธรรมกายได๎เห็นปรากฏวําที่อยูํในอายตนนิพพานนับประมาณจํานวนองค๑

ไมํถ๎วนอยูํแล๎ว

ธรรมกาย เป็นชื่อวิชชาอยํางหนึ่งที่สําคัญโดยใช๎คําวํา “ วิชชาธรรมกาย ” ใน

หลาย ๆ แหํง เชํน วิธีการเจริญภาวนาตามแนววิชชาธรรมกายนั้นมีสติปัฏฐาน 4

อยูํในตัวพร๎อมเสร็จ แนวทางปฏิบัติภาวนาธรรมตามแนววิชชาธรรมกายรวมใจ

Page 32: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

32

หยุดในหยุดกลางของหยุดในหยุด ผํานกาย , เวทนา , จิต , และธรรม แล๎วทํา

นิโรธ

ธรรมกาย เป็นธาตุล๎วนธรรมล๎วนที่อยูํเหนือความปรุงแตํงด๎วยบาปอกุศล (

อกุศลาธัมมา ) และแม๎ด๎วยบุญกุศล ( กุศลาธัมมา ) ในระดับโลกียธรรม กลําวคือ

เป็นความดีสูงที่สุดจนเป็นธาตุธรรมที่บริสุทธิ์ทั้งองค๑ เป็นวิสุทธิขันธ๑ หรือ วิ

สุทธิสัตว๑แท๎ ๆ เป็นกายที่เท่ียงแท๎ยั่งยืน พระพุทธองค๑จึงได๎ทรงเรียกธรรมกาย

บ๎าง พรหมกายบ๎าง แทนคําวํา “ ตถาคต ” โดยนัยนี้ธรรมกายจึงไมํต๎องตกอยูํใน

อาณัติแหํงพระไตรลักษณ๑คือ ความเป็นอนิจจัง , ทุกขัง, และอนัตตา คําวําธาตุ

ล๎วนธรรมล๎วน หมายถึงธาตุที่มีตั้งอยูํแล๎วธรรมที่มีตั้งอยูํแล๎ว ในคําวํา จิตา

วสาธาตุ ธมฺมฏจิตตา ธาตุแบํงเป็นสังขตธาตุ , อสังขตธาตุ , ราคธาตุ , วิราค

ธาตุ สํวนธรรมก็คือ สังขตธรรม , อสังขตธรรม, ราคธรรม , วิราคธรรม

ซึ่งวิราคธาตุวิราคธรรมเป็นสิ่งที่ประเสริฐเลิศกวํา สังขตธาตุ สังขตธรรม

อสังขตธาต ุและอสังขตธรรม

ธรรมกาย คือสิ่งที่จะนําไปสูํพระนิพพาน ดูจากข๎อความวํา ธรรมกายนี้มี

ความสําคัญและรักษาชีวิตไว๎เป็นอยูํด๎วยดวงธรรมที่ทําให๎เป็นกายมนุษย๑ถ๎าไมํมีก็

ดับ หลวงพํอวัดปากน้ําทํานกลําววํา พระตถาคตเจ๎าไมํได๎สอนอยํางนั้นสอนให๎

เห็นธรรมกายเทํานั้นให๎เดินทางศีล สมาธิ , ปัญญา , วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ

Page 33: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

33

ธรรมกาย หมายถึงกายของนิพพาน ดังที่หลวงพํอวัดปากน้ําได๎กลําววํา “

นิพพานมีขันธ๑ของนิพพาน เข๎าถึงได๎ด๎วยกายพระอรหัตละเอียดเรียกวํา

ธรรมขันธ๑ หรือ ธรรมธาตุกาย ( ธรรมกาย ) ” ธรรมกาย เป็นปรมัตถธรรมที่

ไมํใชํนามรูป ดังที่พระมหาเสริมชัยกลําววํา ธรรมกาย ไมํมีนามรูปเพราะ

วิญญาณดับแล๎ว เป็นธรรมกายไมํใชํนามไมํใชํรูปเป็นปรมัตถธรรม จากนัยของ

ความหมายครอบคลุมตั้งแตํกายมนุษย๑ละเอียดถึงกายของนิพพานหมายถึงธรรม

ทั้งปวงก็ได๎ หมายถึงพระนามหนึ่งของพระพุทธเจ๎าก็ได๎ หมายถึงสังขตธรรม (

กายโลกีย๑ ) หรืออสังขตธรรม ( กายโลกุตระ ) เป็นต๎นธาตุต๎นธรรม ก็เป็นธาตุ

ล๎วนธรรมล๎วนก็ได๎ เป็นผู๎เข๎านิพพานได๎ เป็นวิชชาอยํางหนึ่งที่เรียกวํา วิชชา

ธรรมกายก็ได๎รวมถึงที่เรียกวําปรมัตถธรรมก็ได๎ และหลวงพํอสดทํานได๎กลําวคํา

สอนเอาไว๎ให๎พวกเราได๎คิดอีกด๎วยวํา “ ถ๎ามนุษย๑ได๎เห็นธรรมกาย มนุษย๑คนนั้น

ตื่นขึ้นแล๎ว...ไมํหลับแล๎ว ถ๎ามนุษย๑ใดยังไมํเห็นธรรมกายยังไมํเป็นธรรมกาย

มนุษย๑นั้นยังหลับอยูํ มารมันยังกดหลับอยูํยังไมํตื่นเลย บางทีตายเสียชาติหนึ่งยัง

ไมํตื่นเลยหลับเรื่อยไปเสียทีเดียว บางคนเห็นปรากฏตื่นทีเดียวมีธรรมกาย บาง

คนไมํเดียงสา มีธรรมกายใหญํโตมโหฬารเชํนนี้แล๎ว มาถึงรัตนะอันเลิศประเสริฐ

เชํนนี้แล๎วกลับไปวางเสียก็มี แปลกประหลาดนักลืมตาขึ้นแล๎วกลับไปตาบอดก็มี

อยํางนี้นําอัศจรรย๑นัก ”

Page 34: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

34

รูปหลํอทองคําหลวงพํอวัดปากน้ํา

Page 35: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

35

หลวงพํอสดไมํเคยเลิกฝึกวิชชาธรรมกาย

มีเสียงวิพากษ๑วิจารณ๑กันมากเกี่ยวกับกรณีที่วํา หลวงพํอสดวัดปากน้ําเลิก

ปฏิบัติวิชชาธรรมกาย แล๎วหันไปฝึกกรรมฐานแบบอื่นเพื่อเจริญวิปัสสนาญาณให๎

ปรากฏเป็นลําดับไป แตํคณะศิษย๑วงในท่ีอยูํใกล๎หลวงพํอ ตํางทราบกันดีครับวํา

เรื่องนี้ไมํมีทางเป็นไปได ๎ คนที่นําเรื่องนี้มากลําว หาสมภูมิแหํงความเป็นผู๎รู๎ที่

เข๎าถึงธรรมกายไม ํ ในลําดับตํอไปนี้ ผมมีความคิดเห็นของผู๎ใช๎นามปากกาวํา

“ นายมหา ” เอามาฝากคุณผู๎อํานให๎ได๎พิจารณากันครับ โดยมีเนื้อหาสาระดังนี้วํา

“ ในชํวงปีพ.ศ. 2490 – พ.ศ. 2497 ชื่อเสียงของหลวงพํอวัดปากน้ําซึ่งมิได๎มี

เปรียญธรรมชั้นใด แตํกลับมีผู๎คนศรัทธากราบไหว๎มากกวําพระมหาเถระรูปใด ๆ

ในประเทศไทย เวลานั้นคนที่อิจฉาทํานก็ออกมาโจมตีวําทํานสอนผิด ทั้งๆยังมี

ขําวลืออกุศลวําที่วัดมีแมํชีมากและไปทําวิชชากัน เขาก็ลือกันไปในทางเสียหาย

แม๎แตํพระสังฆราชในเวลานั้นถ๎าจําไมํผิดคือ กรมหลวงวชิรญาณวัดบวร ฯ ทําน

ได๎ขําวอกุศลนี้เชํนกันจึงได๎นิมนต๑ให๎พระอริยคุณาธาร ( เส็ง ปุณโส ) ซึ่งเป็นพระ

มหาเถระผู๎ใหญํลูกศิษย๑รุํนแรก ๆ ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งเชี่ยวชาญทั้ง

ปริยัติและปฏิบัติเป็นสปายไปสืบเรื่องหลวงพํอวัดปากน้ํา ตํอมาทํานก็ได๎ตระหนัก

ถึงบุญบารมีของหลวงพํอสดทํานวําเป็นนักสมาธิจริง ๆ มีความสนใจเฉพาะเรื่อง

ของการปฏิบัติธรรม จึงนําความไปกราบทูลพระสังฆราช ขําวอกุศลก็ดับไป

ตํอมาพระพิมลธรรม ( อาจ อาสภเถระ ) อธิบดีสงฆ๑วัดมหาธาตุซึ่งกําลังสนใจ

Page 36: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

36

เรื่องอภิธรรมใหมํท่ีได๎รับจากพระพมํา อีกทั้งทํานยังเป็นเจ๎าคณะพระนครคุมวัด

ปากน้ําด๎วย ทํานต๎องการให๎พระในสังกัดทําน สนใจเรียนอภิธรรมเพื่อให๎วิชา

อภิธรรมแพรํหลาย จึงไปกราบอาราธนาหลวงพํอวัดปากน้ําให๎มาฝึกวิชานี้ด๎วย

อันหลวงพํอวัดปากน้ําเป็นผู๎มีนิสัยใฝ่ศึกษามาแตํครั้งยังเยาว๑ และทํานก็เคยเรียน

สมาธิในทางอื่นมากํอนทั้ง “ พุทโธ ” และ “ สติปัฏฐาน ” ทํานก็ให๎ความนับถือ

เจ๎าคุณวัดมหาธาตุดี เคยไปเทศน๑ให๎วัดมหาธาตุตามที่ทํานเจ๎าคุณอาราธนาอยูํ

บํอยครั้งจึงรับที่จะเรียนวิชายุบหนอพองหนอ ทํานเจ๎าคุณอาสภะให๎ทํานเจ๎าคุณ

โชดกมาสอนวิชายุบหนอกับหลวงพํอ ทํานก็เรียนอยูํราว 2 สัปดาห๑ ภายหลังเมื่อ

เรียนแล๎วทํานก็ให๎ความนับถือวิชายุบหนอของวัดมหาธาตุเชํนกัน ทํานอาจารย๑

โชดกได๎ขอให๎หลวงพํอเขียนวิจารณ๑สิ่งที่ทํานได๎เรียน หลวงพํอก็เขียนจดหมาย

สั้น ๆ ดูเหมือนจะมีภาพหลวงพํอด๎วยวําวิชาที่เรียนตรงกับหลักสติปัฏฐานทุก

ประการ เรื่องก็มีเทํานี้แตํผมไมํเข๎าใจวําสํานักวัดมหาธาตุ ทั้งศิษยานุศิษย๑สายนี้

เขามีเจตนาอยํางไรแนํ จึงนําหนังสือที่หลวงพํอเขียนรับรองมาลงพิมพ๑ รวมทั้ง

ที่หน๎าวัดอัมพวันของหลวงพํอจรัลก็เอาภาพนี้มาติดไว๎ด๎วย ภาพนี้อํานดูอยํางไร

ก็ไมํสามารถแปลความได๎วํา หลวงพํอวัดปากน้ําได๎เลิกวิชชาธรรมกาย หรือ

แปลวํายุบหนอเหนือกวําวิชชาธรรมกาย ตามที่ฝ่ายผู๎เรียนวิชายุบหนอพองหนอ

พยายามจะกลําวอ๎างและบิดเบือนข๎อเท็จจริงอยํางนําเกลียด อันที่จริงพระพิมล

ธรรมทํานก็เป็นพระแท๎มีความเครํงครัดในพระธรรมวินัย แตํความเครํงครัด

นํามาซึ่งพระเดช การใช๎อํานาจตํอพระอริยะสงฆ๑อยํางหลวงพํอวัดปากน้ําทั้งที่

Page 37: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

37

พระพิมลธรรมเป็นเด็ก แตํได๎เปรียญธรรมก็เป็นเรื่องที่ไมํถูกไมํควร ความดีและ

ไมํดีของทํานก็เป็นกรรมที่สนองทํานเองในเวลาตํอมา วันที่ 21 เมษายน 2505

ทํานถูกใสํร๎ายและถูกจอมพลสฤษดิ์ฯ สั่งให๎จับกุมคุมขังและจับทํานสึกหาลาเพศ

แตํทํานไมํยอมเปลํงวาจาสึกทํานต๎องโทษทัณฑ๑จากทางการอยูํ 10 ปี ในท่ีสุด

ศาลฏีกาได๎มีคําพิพากษาให๎ทํานพ๎นผิด โดยในคดีนั้นปรากฏวํามีความอิจฉาริษยา

ในหมูํสงฆ๑และพระสังฆราชพระองค๑หนึ่งมีความเกี่ยวข๎องกับคดีนี้เชํนกัน ศาลได๎

กลําวในตอนหนึ่งวํา กรรมที่ทํานถูกใสํร๎ายก็ขอให๎เป็นอโหสิกรรมแกํกัน เมื่อพระ

พิมลธรรมพ๎นโทษแล๎วก็ได๎รับสมณศักดิ์คืน จนได๎เป็นสมเด็จพระพุฒาจารย๑

วัดมหาธาตุ อันที่จริงทํานนําจะได๎เป็นพระสังฆราช แตํแล๎วทํานก็ไมํได๎เป็น

ตําแหนํงพระสังฆราชมาตกแกํพระญาณสังวร โดยที่ทํานอาสภะเถระได๎ขอถอน

ตัวเพื่อเห็นแกํความสามัคคีแหํงสังฆมณฑล เมื่อใกล๎มรณภาพเลขาของทํานยัง

ต๎องคดีปาราชิกทําให๎ตํารวจมาค๎นกุฏิทําน แตํก็ไมํได๎พบอะไรที่ผิดปกติ แนํนอน

ชื่อของทํานก็มามีมลทินเพราะพระเลขาสมีเจี๊ยบแท๎ ๆ ตราบจนทํานมรณภาพไป

ตัวอยํางชีวิตของทํานเป็นตัวอยํางพระที่มีทั้งสุขและทุกข๑โคจรมา สําหรับหลวง

พํอจรัลก็เคยไปฝึกวิชชาธรรมกายกับหลวงพํอวัดปากน้ํา แตํไมํถูกอัธยาศัย จึง

เปลี่ยนมาฝึกยุบหนอพองหนอซึ่งทํานก็ได๎รับผลสําเร็จตามสํวนแหํงธรรม หลวง

พํอวัดปากน้ําเป็นผู๎มีเมตตาอัธยาศัยดีและใจกว๎างมาก ศิษย๑หลายคนได๎เปลี่ยนไป

เรียนกับครูทํานอื่นอาทิเชํน แมํชีกบิล วรมัยกบิลสิงห๑ ได๎ย๎ายไปเรียนวิชาที่วัด

โสมนัสแล๎วคิดวําตนเองบรรลุธรรมจึงมากราบเรียนแนะนําหลวงพํอ หลวงพํอ

Page 38: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

38

ฟังโดยสงบและกลําวสั้น ๆ วํา “เอ็งยังเห็นดวงธรรมในท๎องหรือเปลํา ” แมํชีบอก

วํา “ เห็น ” หลวงพํอก็พูดวํา “ เออดีแล๎ว ขอให๎เห็นดวงธรรมในท๎อง เอ็งจะไป

เรียนวิชาอะไรก็ชํางเถอะ” หลวงพํอฤาษีลิงดําและหลวงพํอจรัล 2 ทํานนี้ล๎วนเคย

เรียนวิชากับทํานมาแล๎วทั้งนั้น ภายหลังไปเรียนวิชาอื่นทํานก็ไมํวํากลําวใคร คุณ

เคยได๎ยินชื่อหลวงพํอบุดดา ถาวโร วัดศรีประจันต๑ จ.สิงห๑บุรีหรือไมํ ผู๎คน

ทั้งหลายลือกันวําหลวงปู่เป็นพระอรหันต๑แล๎ว เมื่อหลวงปู่มรณภาพคนเขาไปรื้อ

ยํามทําน มีพระอยูํองค๑หนึ่งคือ พระของขวัญวัดปากน้ํารุํน 1 ครับ

นี่คือข๎อคิดมุมมองของ “ คุณมหา ” ที่นําเสนอบทความท๎วงติงในความเป็น

จริงแหํงวิถีปฏิบัติของหลวงพํอ อํานแล๎วโดนใจผมเสียเหลือเกิน จึงขออนุญาต

นํามาเสนอให๎ได๎พิจารณากัน แตํถ๎าหากอยากจะรู๎วํา จริงเท็จแคํไหนแบบร๎อย

เปอร๑เซ็นต๑เต็มแล๎วลํะก็ คุณต๎องฝึกปฏิบัติให๎เข๎าถึงธรรมกายจนสามารถเดินวิชา

ได๎ จากนั้นก็พัฒนาผลการปฏิบัติให๎เจริญก๎าวหน๎ายิ่งๆขึ้นไป จนถึงขั้นทําวิชา

สะสางธาตุธรรมได๎ในท่ีสุด แล๎วสิ่งตํางๆที่เราสงสัยบรรดามีเหลํานี้ก็จะพลันมลาย

หายไปสิ้น ความรู๎แจ๎งจะบังเกิดขึ้นแกํใจของเราเอง โดยท่ีไมํต๎องมานั่งเถียงกันให๎

เมื่อยและที่สําคัญผู๎ที่บรรลุธรรมกายชั้นสูงนั้น เขาเข๎านิโรธไปถามพระบรม

ศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ๎าในอายตนนิพพาน จนสิ้นสงสัยกันหมดไปตั้งนานแล๎ว

ครับ ไมํมัวมาใสํใจกับเรื่องไร๎สาระแบบนี้ เอาเวลาไปปราบมารเสียยังจะเข๎าทํากวํา

กันเยอะครับ

Page 39: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

39

ภาพถํายหลวงพํอวัดปากนํ้าถํายรํวมกับคณะศิษย๑

Page 40: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

40

ธรรมกายหมายเลข 1(ศิษย๑เอกคนสําคัญ)

และแล๎วเราก็มาถึงเรื่องเอกในหนังสือเลํมนี้ คุณผู๎อํานเชื่อหรือไมํครับวํา กวําผม

จะรวบรวมเรื่องราวศิษย๑เอกของหลวงพํอวัดปากน้ําได๎ไมํใชํเรื่องงํายเลยครับ คือ

ผมมีความคิดมานานแล๎วที่จะทําเรื่องนี้เพื่อสะดวกในการศึกษาของอนุชนรุํนหลัง

ตํอไป คือสามารถหยิบหนังสือเลํมนี้ขึ้นมา แล๎วเปิดออกดูก็จะรู๎ที่มาที่ไปของแมํชี

อาจารย๑ยุคต๎น ๆ ที่ทําวิชาปราบมารกับหลวงพํอและเหตุการณ๑สําคัญตําง ๆ ได๎เลย

เป็นการสรุปรวม-รวบยอดอยํางเป็นทางการเสียที เพราะเรื่องราวของแตํละทําน

อยูํกระจัดกระจายไปคนละแหํง พอเอาเข๎าจริงแหลํงข๎อมูลที่เฝ้าเพียรพยายามหา

จนแล๎วจนรอดก็ได๎ไมํครบครับ ทีแรกมีเพื่อนๆสหายธรรมเห็นดีเห็นงามกับผม

วําจะอาสาชํวยกันค๎นหาข๎อมูลและชํวยกันเรียบเรียงจนกวําจะสําเร็จ พอเวลานั้น

มาถึงคํากลําวอ๎างวําไมํมีเวลาบ๎าง..กําลังยุํง ๆ อยูํบ๎าง ก็หลุดออกมาจากปากของผู๎

ที่ได๎เคยปวารณาวําอยากได๎บุญในจุดนี้ ผมให๎รู๎สึกแปลกใจเป็นยิ่งนัก เพราะแตํละ

คนนั้นเทําที่คบกันมานาน รู๎นิสัยกันดีไมํเคยมีพฤติกรรมเชํนนี้มากํอน ทําให๎ผม

ต๎องลุยคนเดียวแบบชนิดเหลียวซ๎ายแลขวาไมํเห็นหน๎าใครสักคน อดนึกในใจ

ไมํได๎วํา มารมันจับแยกยํอยแล๎วสอดละเอียดให๎ทุกคนไมํต๎องสนใจในเรื่องนี้ที่ทํา

อยูํก็เป็นได๎ ทําให๎ผมอดคิดที่จะโยงเหตุการณ๑ในสมัยหลวงพํอวัดปากน้ํายังมีชีวิต

อยูํไมํได๎ครับ คือลูกศิษย๑ชั้นหัวกะทิแถวหน๎าท่ีทรงฤทธิ์อภิญญามีวิชาเชี่ยวๆ ไมํ

เคยอยูํพร๎อมหน๎าพร๎อมตากันครบเลยสักครั้งเดียว ต๎องมีเหตุให๎แตํละทํานนั้นมี

Page 41: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

41

เรื่องต๎องออกไปทําข๎างนอกจนได๎ มารมันไมํยอมหรอกครับ ขืนให๎ผู๎ท่ีบรรลุธรรม

ชั้นสูงรวมจิตกันได๎และทําวิชารบไปพร๎อม ๆ กัน เขาก็แยํสิครับโดนดับกันพอดี

ดั่งที่หมออู๏ด กฤษณานุวัตร เคยถามหลวงพํอสดทํานวํา “ หลวงพํอครับ...เมื่อไร

งานปราบมารของหลวงพํอจะแล๎วเสร็จ? ” หลวงพํอตอบวํา “ มันจะเสร็จไปได๎

อยํางไร พวกธรรมกายไมํเคยอยูํพร๎อมกันเลย ” เหตุการณ๑ก็เป็นเชํนนี้มาโดย

ตลอดครับ คนโน๎นอยูํคนนี้ไมํอยูํ แม๎หลวงพํอจะตั้งกฎกติกาอยํางไร คณะทํา

วิชาก็ไมํอยูํพร๎อมหน๎ากันอยูํดีท่ีเป็นอยํางนี ้ เพราะมารเขาชักใยอยูํหลังฉากนั้นเอง

ยิ่งวาระสุดท๎ายของแมํทัพใหญํมาถึง หลวงพํอวัดปากน้ําทํานมรณภาพ เหลํา

ขุนพลกล๎าแมํทัพนายกองที่รองลงมาตํางก็แยกย๎ายกันไปคนละทิศคนละทาง มาร

สบชํองจับแยกยํอยระเบิดการรวมกลุํมเพื่อสร๎างบารมีได๎ไมํมีเหลือ แตํถึงอยําง

นั้นก็ตามเหลํา “ ธรรมกายหมายเลขหนึ่ง ” ของหลวงพํอก็ยังคงเป็นหนึ่งวันยังค่ํา

ไมํมีวันเปลี่ยนแปลง ทุกคนตํางทําหน๎าท่ีในการเผยแพรํวิชชาธรรมกายในสํวน

ของตนออกไปได๎อยํางกว๎างขวาง จนมีผู๎ที่สนใจเข๎ารับการปฏิบัติแล๎วบังเกิดผล

เป็นที่นําพอใจได๎อยํางนําอัศจรรย๑กันหลายทํานทีเดียว และเรื่องราวตํอไปนี้คุณ

ผู๎อํานจะได๎สัมผัสกับอริยบุคคลที่ฝึกฝนอบรมตนจนบรรลุธรรมกาย สุดท๎ายได๎มา

เป็นสํวนหนึ่งของกองทัพธรรม รํวมไปกับพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี

หรือหลวงพํอสดวัดปากน้ําของเราครับ

Page 42: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

42

แมํชีอาจารย๑ปุก มุ๎ยประเสริฐ

แมํชีอาจารย๑ปุก มุ๎ยประเสริฐ อายุ 100 ปี ได๎เข๎ารํวมทําวิชชาธรรมกายขั้นสูง

เคียงคูํกับหลวงพํอวัดปากน้ําเรื่อยมา จนได๎รับความไว๎วางใจจากทํานให๎เป็นครู

สอนและเป็นหัวหน๎าเวรคุมการทําวิชาเบื้องสูง ในโรงงานทําวิชาของวัดปากน้ํา

ครับ ในสมัยหลวงพํอมีชีวิตอยูํ แมํชีอาจารย๑ปุกเป็นผู๎บรรลุธรรมขั้นแกํกล๎าที่มี

สติมั่นคงสงบหนักแนํน มีญาณละเอียดอํอน และละเอียดยิ่งขึ้นในขั้นฝ่ายบุญ

ภาคปราบ อันหาศิษย๑อื่น ๆ มาทัดเทียมได๎ยากอีกทํานหนึ่ง แมํชีอาจารย๑ปุกทําน

เคยเลําเรื่องจักรพรรดิกายสิทธิ์ แกํเหลําศิษย๑ผู๎ใกล๎ชิดเอาไว๎ดังนี้ครับวํา “ ในปีพ.ศ.

2482 วัดปากน้ํานั้นเคยมีป่าช๎าในวัดตรงบริเวณตึกคณะเนกขัมม๑ในปัจจุบัน ซึ่ง

Page 43: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

43

ในสมัยนั้นวันดีคืนดีก็มีดวงสวําง ๆ ลอยขึ้นมาจากพื้นดิน บรรดาศิษย๑ของหลวง

พํอและแมํชีตําง ๆ ก็คอยแอบจ๎องเพื่อจะจับดวงแก๎วที่ลอยขึ้นมานั้นให๎ได๎ แตํก็ไมํ

สําเร็จเพราะมีพวกเทวดามาคอยขัดขวาง แตํหลวงพํอทํานประสงค๑ที่จะเอาแก๎ว

จักรพรรดิ ( บรมจักร ) ดวงนี้ขึ้นมาเพื่อนํามาชํวยทําวิชาชํวยเหลือวัดปากน้ํา ใน

การเลี้ยงพระสงฆ๑สามเณรแมํชีผู๎ปฏิบัติธรรม เพื่อสํงเสริมการปฏิบัติธรรมให๎

เจริญรุํงเรืองวัฒนาถาวรตํอไป หลวงพํอทํานจึงสั่งให๎แมํชีตําง ๆ ที่มีวิชาชั้นสูงนั่ง

เข๎าที่ทําวิชา เพื่ออัญเชิญแก๎วบรมจักรขึ้นมา โดยเอาเขํงครอบพื้นดินตรงบริเวณ

ที่บรมจักรอยูํและเอาผ๎าขาวคลุมเขํงไว๎ คณะแมํชีผู๎บรรลุธรรมกายทั้งหลาย ก็นั่ง

สมาธิเข๎าที่ทําวิชาล๎อมรอบเขํงนั้น ทําวิชาเพื่ออัญเชิญบรมจักรที่มีฤทธิ์มีอานุภาพ

ให๎แทรกแผํนดินขึ้นมา แตํในครั้งนั้นแมํชีอาจารย๑ปุกทํานบอกวําของหยาบไมํ

ขึ้นมาแตํบรมจักรได๎แผํรัศมีขึ้นมา จนจับผ๎าขาวออกแสงสวํางจ๎าทีเดียวตาม

สํานวนภาษาคนเกํา ๆ พูดวํา “ แสงสวํางจ๎าจนแสงเขียวเชียว ” คือ แสงสวํางจ๎า

เย็นตาเย็นใจมากนั่นเอง ดังนั้นเมื่อของหยาบไมํขึ้นมา มีขึ้นแตํของละเอียด

คณะศิษย๑จึงขุด เมื่อขุดพบแล๎วก็เอาผ๎าขาวหุ๎มหํอบรมจักรนั้น แล๎วพระภิกษุรูป

หนึ่งก็อุ๎มออกจากหลุมนํามาไว๎ที่วิหารขาว หลวงพํอวัดปากน้ําบอกวําต๎องทําวิชา

3 เดือนจึงจะเปิดผ๎าขาวได๎ และเอาดอกมะลิบูชาไว๎ แตํในระหวํางกลางพรรษามี

วันหนึ่งฝนตกหนักชนิดเรียกวําเหมือนฟ้ารั่วตกแทบแผํนดินจะถลํมทลาย ฟ้าก็

คํารามคํารน สะเทือนเลือนลั่น ฟ้าร๎องฟ้าผําเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทั้งฝนทั้งฟ้า

เหมือนดังจะถลํมทีเดียว เมื่อเหตุการณ๑สงบดีแล๎วปรากฏวําแก๎วบรมจักรก๎อน

Page 44: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

44

นั้นได๎อันตรธานหายไปท้ัง ๆ ที่หํอผ๎าขาวไว๎ ผ๎าก็ยังหํออยูํโดยไมํมีรอยแก๎แตํ

ประการใด เมื่อหลวงพํอทํานทราบและตรวจละเอียดดูก็พบวํา ประเทศชาติ

จะต๎องเข๎าสูํภาวะสงครามโลก ฝ่ายมารทําผังวิบัติสูํแผํนดินสุวรรณภูมิ และทํา

วิชาให๎ศาสนาพุทธเสื่อมถอยจนหมดไปจากแผํนดินสุวรรณภูมิ แก๎วบรมจักรอยูํ

บนแผํนดินไมํได๎ มารจะมาระเบิดให๎แตก แก๎วจึงแทรกแผํนดินหนีไปหลวงพํอ

บอกวํา “ ไมํต๎องตาม ให๎ทําวิชชาธรรมกายขั้นสูงกันไป ถึงเวลาแล๎วแก๎วบรมจักร

จะกลับมาเอง ” นอกจากนี้ยังมีแมํชีที่เป็นโยมอุปถัมภ๑วัด และเป็นอุปัฏฐาก

หลวงพํอได๎เลําวํา วันหนึ่งทํานมีธุระเดินผํานบริเวณใกล๎ ๆ วิหารขาว ( ปัจจุบัน

คือหอวิปัสสนา ) ขณะนั้นมีฝนตกจนน้ํานอง แมํชีทํานได๎เห็นดวงแก๎วกลมใส

ขนาดใหญํกลิ้งเลํนน้ําฝนอยูํ จึงได๎วิ่งตะครุบแตํไมํทัน แก๎วดวงนั้นกลิ้งเลื่อน

หายไปบริเวณใต๎วิหารขาว หลวงพํอได๎เอํยจากปากของทํานเองวํา “ ตําแหนํงนี้

ตํอไปจะเป็นศูนย๑จักรพรรดิและทําให๎วัดปากน้ําอุดมสมบูรณ๑เจริญรุํงเรืองยิ่ง ๆ

ขึ้นไป ” สงครามโลกครั้งที่ 2 (ปีพ.ศ. 2482 – พ.ศ. 2488 ) หลวงพํอทราบวํา บัดนี้

มารได๎สํงสายปกครองลงมาเกิดเป็นผู๎นําประเทศตําง ๆ อีกทั้งเทพเจ๎าสงครามก็ลง

มาจุติแล๎ว เห็นทีสงครามแหํงการทําลายร๎างเผําพันธุ๑เชื้อชาติต๎องอุบัติขึ้นเป็นแนํ

แท๎ ผู๎คนจะล๎มตายจากการเขํนฆําด๎วยอาวุธสงคราม ที่ร๎ายแรงเหนือสิ่งอื่นใดก็คือ

แผํนดินสุวรรณภูมินี้จะเดือดร๎อนไปทุกหยํอมหญ๎า พุทธจักรและอาณาจักรจะถูก

มารเข๎ายึดครองทําลายจนไมํมีเหลือ และในปีพ.ศ. 2477 ต๎นธาตุต๎นธรรมได๎

ขอให๎หลวงพํอทําวิชารบกับมารโดยการแยกพระแยกมารให๎ออกจากกันแล๎วเก็บ

Page 45: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

45

ภัยสงครามเสีย มารเอาบ๎านเมืองมาลํอ เอาความเจ็บความตายมาให๎ ต๎องปราบ

มารเหลํานี้ลงเสียให๎จงได๎มนุษย๑ถึงจะอยูํรํมเย็นเป็นสุข การรบกับภาคมารนี้ต๎อง

ทําอยํางจริงจังและตํอเนื่องตลอดเวลา ( 24 ชั่วโมง ) อยํางน๎อยเป็นเวลา 25 ปี จึง

จะชนะหมด หลวงพํอทํานจึงรับหน๎าท่ีเหลํานี้เพื่อประโยชน๑สุขแหํงประเทศชาติ

และพระนิพพานในการดํารงรักษาเพื่อสืบอายุศาสนจักร , อาณาจักร และพุทธ

จักรมรรคผลนิพพานในฝ่ายสัมมาทิฐิแตํสํวนเดียว หลวงพํอทํานเฝ้าตรึกตรองวํา

เมื่อรับแล๎วจะกระทําได๎หรือไมํ ขณะเดียวกันก็เผยแพรํวิชชาธรรมกายไปอยําง

กว๎างขวาง มีผู๎คนเข๎ามาปฏิบัติมากขึ้น ๆ สายธาตุธรรมที่มีหน๎าที่ก็เริ่มเข๎ามาอยูํ

ในสายการปกครองของหลวงพํอ โดยเฉพาะธาตุธรรมที่ต๎องมาทําวิชารบเพียง

ฝึกฝนก็ปฏิบัติได๎เป็นอัศจรรย๑ หลวงพํอทํานคิดวําเมื่อจะรับงานต๎นธาตุคําวําถอย

หลังกลับไมํเคยใช๎ ทํานเฝ้าเคี่ยวกรําหนํวยทําวิชานี้อยํางเครํงครัดชนิดไมํให๎ไป

ไหนเลยหรือปฏิบัติอยํางอื่นอยํางใด นอกจากการปฏิบัติวิชชาธรรมกายขั้นสูง

เพียงอยํางเดียว ใช๎เวลาทั้งหมด 8 ปี เมื่อพร๎อมที่จะทํางานพระเดชพระคุณทํานจึง

ตั้งโรงงานทําวิชาขึ้นที่วัดปากน้ํา ที่ต๎องใช๎คําวํา “ โรงงาน ” เพราะต๎องผลัดกัน

ทําวิชชาเป็นกะ ๆ กะละ 3 ชั่วโมง สํงงานตํอเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ไมํมีการหยุด

พัก จนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงในปีพ.ศ. 2488 การคํานวณวิชชาเมื่อ

วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2485 หลวงพํอให๎ประกอบวิชาคํานวณวํา วิชาที่ผําน

มาแล๎วเทําไรยังเหลืออยูํอีกเทําไรที่จะผลิตํอไปในอนาคต เมื่อคํานวณรู๎สํงกาย

มนุษย๑ถึงสุดละเอียด คํานวณแยกเป็นธาตุสํวนหนึ่งธรรมสํวนหนึ่ง แยกพิสดาร

Page 46: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

46

จนสุดละเอียดท่ีจะคํานวณถึง แล๎วเดินเหตุวําง , ดับ , ลับ , หาย , สูญ , สิ้นเชื้อไมํ

เหลือเศษ , ปราสาท , รสชาติ ,ไอ , แก๏ส , แก๏สกรด , รวมเป็น 13 ฐาน ในเหตุ 13

นี้ ก็เดิน , หลํอเลี้ยง , เป็นอยูํ , ปราสาท , รส , ชาด , ไอ , แก๏ส , แก๏สกรด รวมเป็น

8 ฐาน ใน 8 ฐานนี้ก็แยกเป็นธาตุสํวนหนึ่งธรรมสํวนหนึ่ง ระหวํางสํวนหนึ่ง ๆ

ต๎องด๎วยกาลเป็น 8 x 3 = 24 และใน 13 ฐานก็แยกเป็นธาตุสํวนหนึ่งธรรมสํวน

หนึ่งต๎องด๎วยกาลคือ 13 x 3 = 39 ใน 39 และ 24 ก็ให๎พิสดารไปทุกศูนย๑ , ทุกสํวน

, ทุกอายตนะ แยกธาตุสะอาด ฟอกธาตุสะอาดจนถึงหัวแก๏สเซฟทะเล , เหตุทะเล

เมื่อเปิดผังประเทศชาติพบผังวิบัติด๎วยภัยจากฟ้าคือ อาวุธลูกเหล็กปรมรณูให๎ทํา

วิชาซํอนธาตุซํอนธรรมคือ ซํอนประเทศชาติโดยการคํานวณธาตุน้ําไว๎ข๎างบน

ให๎ข๎าศึกเห็นเป็นทะเลแล๎วรองลงมาก็เป็นไฟ , ลม , วิญญาณ , อากาศ นี้เป็นชั้นที่

2 ซํอนอีกชั้นเอาอากาศไว๎ข๎างบน รองลงไปเป็นดิน , น้ํา , ไฟ , ลม , วิญญาณ

ซํอนอยํางนี้ประเทศของเรายกตรึงไว๎สุดละเอียดของเซฟพระนิพพาน ใครจะมา

ทําลายล๎างผลาญตําง ๆ มิได๎ ให๎ข๎าศึกมองเห็นทะเลไปหมดวิชานี้ทําเป็นพื้นไว๎

เสมอ เมื่อเกิดสงครามโลกเชํนนี้ หลวงพํอทํานจึงประจักษ๑ชัดถึงความสําคัญของ

ภาคผู๎เลี้ยงผู๎รักษา ที่มาชํวยเหลืองานวิชชาธรรมกาย ซึ่งในสมัยแรก ๆ หลวงพํอ

ทํานได๎เก็บเอาก๎อนหินกรวด , หินแมํน้ํา มาจํานวนมากใสํกระด๎งไว๎ในหอไตรที่อยูํ

กลางน้ําข๎างสถานที่ทําวิชา ธรรมกายด๎านทิศเหนือโบสถ๑ให๎บูชาด๎วยดอกมะลิ

หินกรวด , หินแมํน้ํา เหลํานี้เป็นตัวเรือนให๎องค๑กายสิทธิ์หรือจักรพรรดิอยูํอาศัย

หินเหลํานี้หากทําวิชากลั่นจนใสเป็นแก๎ว ทําให๎มีเดชานุภาพ และมีพลังอานุภาพ

Page 47: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

47

มาก ในการเจริญวิชาสะสางธาตุธรรม ( วิชารบหรือวิชาปราบมาร ) เป็นวิชา

สูงสุดยอดของวิชชาธรรมกายนั้น จําเป็นอยํางยิ่งต๎องอาศัยภาคผู๎เลี้ยงผู๎รักษา

ชํวยเป็นกําลังสําคัญ เพราะกายมนุษย๑นั้นต๎องมีการกิน , การถําย , การพักผํอน

นอนหลับ , เจ็บไข๎ได๎ป่วย , บาดเจ็บจากการทําวิชา คือพูดงําย ๆ วํา ยังมีโอกาส

เผลอได๎ สํวนจักรพรรดิในดวงแก๎วนั้นไมํมีการกิน, การถําย ฯลฯ แบบมนุษย๑

ดังนั้นผู๎เป็นวิปัสสนาจารย๑หรือ พระโยคาวจรผู๎ทําวิชาจะสามารถถํายทอดวิชา

ปราบมารได๎ ให๎จักรพรรดิในดวงแก๎วทําวิชาแทนกายมนุษย๑ได๎ดี ถ๎าระเบิดลงจะ

เลิกวิชชาธรรมกาย ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ประตูระบายน้ําอํางทอง ,

ประตูน้ําบางยาง , ประตูน้ําบางนกแขวก , คลองภาษีเจริญ ล๎วนแตํถูกระเบิดลง

หมดทุกแหํง ระยะนั้นทหารกรมแผนที่ได๎อพยพหลบภัยลูกระเบิดมาอยูํที่ตึกขาว

วัดปากน้ํากัน หลวงพํอวัดปากน้ําทํานพูดวํา “ ถ๎าวัดปากน้ําและประตูระบายน้ํา

ภาษีเจริญถูกระเบิดลง ทํานจะเลิกวิชชาธรรมกายทันที ” ปรากฏวําเครื่องบินมา

ทิ้งระเบิดประตูน้ําภาษีเจริญเหมือนกัน แตํแคล๎วคลาดพลาดไปลงที่ใกล๎เคียง

หลังจากนั้นหลวงพํอทํานได๎เข๎มงวดกวดขัน การปฏิบัติกิจภาวนาวิชชาธรรมกาย

มากยิ่งขึ้น แตํครั้งหลวงพํอทํานมีชีวิตอยูํได๎จัดเวรการเจริญวิชชาธรรมกายขั้น

สูงในโรงงานทําวิชารวม 6 กะ ๆ ละ 3 ชั่วโมง ติดตํอกันมา 30 กวําปี หลวงพํอ

ทํานคํานวณวิชาให๎ทุกกะ ศิษย๑ของหลวงพํอทํานสํวนใหญํเป็นอุบาสิกาแบํงกลุํม

ออกมาได๎ 6 ทีม โดยหลวงพํอรับเป็นภาระให๎ทุกอยํางไมํวําที่อยูํอาศัย , อาหาร

การกิน , เจ็บไข๎ได๎ป่วย , การเงินการทอง รวมทั้งเป็นอาจารย๑อํานวยการสอน

Page 48: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

48

ความรู๎วิชชาธรรมกายขั้นสูงติดขัดตรงไหนหลวงพํอสอนได๎หมด ในครั้งที่กรม

แผนที่ทหารซึ่งมีคุณหลวงสํารวจสําเร็จกิจเป็นหัวหน๎ามาพักที่วัดปากน้ํานั้น คุณ

หลวงได๎บันทึกไว๎วํา “ มีอยูํคืนหนึ่งเห็นแสงสวํางลอยมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต๎

ในตอนแรกคิดวําเป็นแสงจากเครื่องบินท่ีจะมาทิ้งระเบิด แตํไมํได๎ยินเสียงหวอพอ

รุํงเช๎าได๎นําเรื่องนี้เข๎ากราบเรียนหลวงพํอวัดปากน้ํา ทํานทราบเรื่องแล๎วก็เดินเข๎า

ไปในกุฏิไปหยิบเอาแก๎วกายสิทธิ์ดวงใสสะอาดดวงหนึ่งมาให๎ดูแล๎วกลําววํา “ นี่

แหละที่คุณหลวงเห็นลอยมาเมื่อคืน เขามาชํวยทําวิชา ” นับวําเป็นเรื่องที่แปลก

อัศจรรย๑จริง ๆ ” และหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงบ๎านเมืองเข๎าสูํภาวะ

ปกติ ความสงบสุขกลับคืนมาสูํอีกครั้ง ชํวงนี้เองที่หลวงพํอทํานดําริวําจะออก

ธุดงค๑ เพื่อค๎นหาดวงแก๎วมาเป็นตัวเรือนให๎เหลําจักรพรรดิที่มาชํวยทําวิชา ในปี

พ.ศ. 2490 หลวงพํอสดวัดปากน้ําทํานได๎ธุดงค๑ไปเพื่อหาแก๎วซึ่งมีมากในจังหวัด

ตําง ๆ ทางภาคเหนือ แก๎วที่ทํานหามีดังตํอไปนี้ 1. แก๎วใส เพื่อเป็นตัวเรือนให๎

จักรพรรดิที่ให๎ความอุดมสมบูรณ๑พูนสุข ( ได๎มา 3 ดวง จากทางวังสระประทุม

ปัจจุบันบรรจุอยูํในรูปปั้นหลวงพํอองค๑ยืนข๎างหีบทอง บนชั้นสองหอหลวงพํอ )

2. แก๎วชมพู เพื่อเป็นตัวเรือนให๎จักรพรรดิตรีภพฝ่ายปราบ ซึ่งเป็นจักรพรรดิที่

สามารถไปตามกายสิทธิ์จากภพทิพย๑ , พรหม , อรูปพรหม ไมํวําจะอยูํในมนุษย๑

โลกหรือไมํก็ตาม 3. แก๎วสีชา เพื่อเป็นตัวเรือนให๎จักรพรรดิต๎นปราบใหญํ ( วิชา

รบ ) 4. แก๎วโตน เพื่อเป็นตัวเรือนให๎กายสิทธิ์พระปัจเจกพุทธเจ๎าที่มาชํวยงาน

5. แก๎วก๎อ แก๎วมณีสีแดงเดชไกรกลบ เพื่อเป็นตัวเรือนให๎จักรพรรดิสุริยะประภา

Page 49: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

49

วิเศษคุณและจันทรประภา ทั้งนี้เพราะหลวงพํอตรวจดูแล๎วทราบตํอไปวํา

บ๎านเมืองประเทศตําง ๆ หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้แล๎วจะมีการเปลี่ยนแปลง

การปกครองเป็นระบอบคอมมิวนิสต๑ ( ประมาณ 1 ใน 3 ของโลกทีเดียว ) และ

ภัยจะคุกคามเข๎ามาถึงในประเทศไทยอยํางแนํนอน หลวงพํอวัดปากน้ําทํานจึง

พยายามคํานวณข๎ามยุคทมิฬเหลํานี้ออกให๎หมด อีกทั้งภายภาคหน๎าก็จะมี

สงครามโลกครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นมหันตภัยร๎ายแรงกวําสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2

จําเป็นต๎องเก็บภัยสงครามภัยพิบัติให๎หมดไปจากแผํนดิน แตํด๎วยกําลังหนํวยทํา

วิชามีน๎อยไมํถึงร๎อยคนต๎องใช๎ภาคละเอียดคือ ภาคผู๎เลี้ยงผู๎รักษามาชํวยทําวิชา

และประการสําคัญคือการคํานวณข๎ามยุคทมิฬเข๎ายุคถิ่นกาขาวไปสูํยุคชาวศิวิไลซ๑

นั้น จําเป็นอยํางยิ่งที่จะต๎องใช๎แก๎วมณ ี ซึ่งเป็นภาคผู๎เลี้ยงผู๎รักษาแหํงยุคชาว

ศิวิไลซ๑ที่แท๎จริง ดวงแก๎วมณีนี้พบในดินแดนขุนเขาทางภาคตะวันออกเฉียงใต๎

ของอินเดียซึ่งก็คือชมพูทวีปนั่นเอง ในครั้งพุทธกาลกรุงราชคฤห๑มีภูเขาล๎อมรอบ

5 ลูกคือ 1. เขาวิปุลคีรี มีดวงแก๎ววิเศษ 3 ดวงได๎แกํ 1. แก๎วมณีโชติ เป็นดวงแก๎ว

กลมขนาดใหญํ มีบริวารถึง 3,000 ดวง เป็นแก๎วคูํบารมีของพระเจ๎าจักรพรรดิ

สามารถเปลํงแสงสวํางไสวในยามค่ําคืน ทําให๎สวํางประดุจราวกลางวัน เพราะ

ในดวงแก๎วนั้นมีองค๑จักรพรรดิกายสิทธิ์ที่มีฤทธิ์มากดลบันดาลให๎เกิดขึ้น 2. แก๎ว

ไพฑูรย๑มีบริวาร 2,000 ดวง3. แก๎วมรกตเป็นแก๎วคูํบารมีของพระเจ๎าธรรมามิก

ราช มีบริวาร 1,000 ดวง 2. เขาเวภาระ 3. เขาตะโปวัน 4. เขารัตนคีรี มีดวง

Page 50: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

50

แก๎วซึ่งเป็นแมํกายสิทธิ์ที่สามารถใช๎ตามหารัตนชาติตําง ๆ ที่มีจักรพรรดิกายสิทธิ์

ให๎ปรากฏขึ้นในแผํนดินนี้ 5. เขาเสลาคีรี ( เขาคิชกูฏ )

ทั้งหมดคือเหตุผลที่หลวงพํอต๎องจารึกธุดงค๑ หาแก๎วที่จังหวัดทางภาคเหนือ

เรื่อยไป จนถึงอินเดียและธิเบต แมํชีอาจารย๑ปุก มุ๎ยประเสริฐ ทํานได๎เลําสรุป

บันทึกของทํานเกี่ยวกับหลวงพํอเอาไว๎ดังนี้ครับวํา

ปีพ.ศ. 2427 – หลวงพํอสดวัดปากน้ําเกิด ปีพ.ศ. 2449 – บวชปีพ.ศ. 2460 –

บรรลุธรรม ปีพ.ศ. 2461

– มาอยูํวัดปากน้ํา ปีพ.ศ. 2474 – ตั้งโรงงานทําวิชชาปราบมาร ปีพ.ศ. 2485 –

ควบคุมดูแลการทําวิชาอยูํ 17 ปี ทําวิชาไมํครบกําหนดที่ต๎นธาตุต๎นธรรมให๎มา 25

ปี ขาดไป 8 ปี เหตุนี้นี่เองที่ทําให๎หลวงพํอทํานไมํสามารถคํานวณข๎ามเข๎าสูํถิ่นยุค

กาขาวชาวศิวิไลซ๑ได๎ แตํเก็บภัยสงครามโลกครั้งที่ 3 และภัยคอมมิวนิสต๑ใน

ประเทศไทยได๎สําเร็จ

ปีพ.ศ. 2488 – ออกธุดงค๑สูํต๎นน้ํา

ปีพ.ศ. 2493 – สร๎างพระของขวัญรุํน 1

ปีพ.ศ. 2498 – ปลงอายุวําอีก 5 ปีข๎างหน๎าจะมรณภาพปีพ.ศ. 2499 – เริ่มอาพาธ

ปีพ.ศ. 2502 – มรณภาพเมื่อ 3 กุมภาพันธ๑

.................... ครบ 5 ปีตามคําทํานาย (สิริอายุได๎ 75 ปี ) ........................................

Page 51: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

51

แมํชีอาจารย๑ญาณี ศิริโวหาร

( อดีตประธานสถาบันแมํชีไทยในพระบรมราชินูปถัมภ๑ )

หากมีการจัดอันดับศิษย๑เอกของหลวงพํอสดวัดปากน้ําที่มีญาณทัสสนะแกํกล๎า

และบรรลุธรรมชั้นสูงแล๎ว หนึ่งในนั้นต๎องมีชื่อของแมํชีอาจารย๑ทํานนี้ครับท่ีมี

ประวัติไมํธรรมดาเลย แมํชีอาจารย๑ญาณี ศิริโวหารทํานเกิดที่ ต. โสธร อ. เมือง

จ. ฉะเชิงเทรา เมื่อวันอังคารที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2459 ปีมะโรง เป็นบุตรคนที่ 3

ของนายจ๎อยและนางเจียม ศิริโวหาร เมื่อเยาว๑วัยทํานได๎อยูํในความอุปการะของ

คุณยายบุญมี ซึ่งเป็นคหบดีของจังหวัดและตํอมาคุณยายทิพย๑ ผู๎บวชเป็นแมํชีอยูํ

ที่วัดปากน้ําได๎ขอทํานไปอุปการะตํอ ครั้นทํานอายุได๎ 20 ปีแล๎ว ก็ได๎ขออนุญาต

Page 52: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

52

แมํชีทิพย๑ผู๎มีอุปการคุณแกํทํานวํามีความประสงค๑จะบวชเป็นแมํชี แมํชีทิพย๑ก็

อนุโมทนาในกุศลจิตนั้น และได๎พาทํานไปกราบขออนุญาตกับพระเดชพระคุณ

หลวงพํอวัดปากน้ํา ทํานจึงได๎จัดการบวชให๎เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2477

ตํอมาได๎ขอให๎หลวงพํอสดทํานตั้งชื่อให๎ใหมํ หลังจากทํานได๎ตรวจดูธาตุธรรม

แล๎วก็ทราบวําแมํชีอาจารย๑ญาณีนี้ เป็นบุคคลที่มีญาณดีเยี่ยม จึงได๎ตั้งชื่อให๎ใหมํ

วํา “ ญาณี ” ที่ตรงบุคลิกอุปนิสัยใจคอของทํานเอง ทํานบวชด๎วยศรัทธาและได๎

ปฏิบัติตามโอวาทคําแนะนําของผู๎ใหญํและเคารพในการปกครองเป็นอยํางยิ่ง อีก

ทั้งตั้งใจปฏิบัติธรรมโดยเครํงครัดและขยันหมั่นเพียรไมํทอดธุระ ปฏิบัติตาม

คําสั่งสอนของหลวงพํอทุกประการ ด๎วยบุญบารมีเดิมในอดีตซึ่งเป็นปัจจัยสําคัญ

อีกประการหนึ่ง ที่ชํวยเกื้อกูลให๎แมํชีอาจารย๑ญาณีได๎บรรลุวิชชาธรรมกาย แล๎วก็

ได๎ใช๎ความเพียรพยายามปฏิบัติหนักขึ้นไมํท๎อถอย ยิ่งปฏิบัติยิ่งแจํมแจ๎งและได๎รับ

รสธรรมะซาบซึ้งในจิตใจ เมื่อบวชได๎ 5 พรรษา หลวงพํอเริ่มให๎เป็นครูสอน

ธรรมแกํแมํชี และผู๎มาปฏิบัติธรรมในวัดปากน้ําเป็นประจําตั้งแตํนั้นมา ใครมี

ทุกข๑ทางใจมาหาก็ชํวยบําบัดทุกข๑นั้นด๎วยการปฏิบัติธรรม ใครมีโรคภัยไข๎เจ็บก็

นั่งสมาธิรักษาโรคด๎วยวิชชาธรรมกาย นอกจากนี้ ( ทํานยังได๎รับคํายกยํองวําเกํง

มากจากแมํชีอาจารย๑รัมภา และแมํชีอาจารย๑ทวีพร )แมํชีอาจารย๑ญาณีนั้นทํานมี

พรสวรรค๑อยํางหนึ่งคือ สามารถค๎นคว๎าธรรมหาเหตุผลในวิชชาธรรมกายได๎อยําง

ละเอียดถี่ถ๎วน จนเป็นที่เชื่อถือและไว๎วางใจของหลวงพํอสดเป็นอยํางมากครับ

ในวัดปากน้ํานั้นจะมีสถานที่ซึ่งจัดไว๎ปฏิบัติธรรมอยํางจริงจังตลอด 24 ชั่วโมง

Page 53: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

53

ปฏิบัติติดตํอโดยมิให๎ขาดที่เรียกกันวําโรงงานทําวิชา ซึ่งบุคคลภายนอกที่ไมํเข๎าใจ

ฟังดูแล๎วพากันวิจารณ๑ไปในแงํตําง ๆ ดีบ๎างไมํดีบ๎าง แท๎จริงแล๎วก็คือเป็นสถานที่

ปฏิบัติกรรมฐานวิชชาธรรมกาย ตลอดวันตลอดคืนของผู๎บรรลุธรรมกายชั้นสูง

แล๎ว หลวงพํอได๎จัดตั้งโรงงานค๎นคว๎าวิปัสสนานี้ขึ้น และได๎นําลูกศิษย๑ชั้นหัวกะทิ

แถวหน๎าที่มีอภิญญาบรรลุธรรมชั้นสูงมารวมกลุํมกัน เพื่อค๎นเข๎าไปในธรรมะ

ปฏิบัติที่เป็นหลักวิชาของหลวงพํอ แล๎วทํานจะถามวําพบอะไรบ๎าง เรื่องนี้ก็

แล๎วแตํบุญบารมีหรือญาณทัสสนะของแตํละคน ใครได๎ญาณละเอียดก็ค๎นวิชา

ลึกซึ้งให๎หลวงพํอ ใครทําผิดทําถูก ใครหยาบใครละเอียดหลวงพํอรู๎ตลอด เพราะ

ทํานควบคุมดูแลการปฏิบัติอยูํตลอดเวลา แมํชีอาจารย๑ญาณีก็เป็นผู๎หนึ่งที่ได๎รับ

ความไว๎วางใจอยํางสูงจากหลวงพํอสดครับ โดยได๎รับมอบหมายให๎เป็นหัวหน๎า

เวรคุมการทําวิชาขั้นสูงภายในโรงงานทําวิชา ทํานได๎ชํวยเหลือรักษาทุกข๑ทางกาย

และใจแกํผู๎มาขอความอนุเคราะห๑ให๎หายหรือผํอนคลายลง อันเป็นบุญกุศลแกํทุก

ฝ่าย นอกจากนี้ทํานยังเป็นผู๎ที่มีความมานะพากเพียรสนใจศึกษาพระปริยัติธรรม

อีกด๎วย คือได๎เข๎าสอบหลักสูตรธรรมะศึกษาโดยการศึกษาด๎วยตนเอง ในสมัย

นั้นทั้งครูผู๎สอนและเวลาเพื่อการศึกษาอีกทั้งตําราก็หายากมากครับ ทํานจึงต๎อง

ใช๎เวลานานถึง 9 ปี จึงสอบได๎ธรรมศึกษาชั้นเอก อันเป็นชั้นสูงสุดด๎านธรรม

ศึกษา ซึ่งหากทุกอยํางอํานวยก็อาจสอบได๎ภายในเวลา 3 ปี ความเพียรพยายาม

ไมํยํอท๎อตํออุปสรรคของทํานนี้เป็นที่พอใจของหลวงพํอ ถึงขนาดยกทํานเป็น

ตัวอยํางชมให๎บรรดาแมํชีที่เรียนธรรมศึกษารุํนหลัง ๆ ฟังเสมอมา ทํานเป็นผู๎ที่มี

Page 54: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

54

คุณธรรมอันเป็นเครื่องอยูํของผู๎ใหญํโดยสมบูรณ๑เชํน มีพรหมวิหาร 4 และเว๎น

จากอคติ 4 ประการ พร๎อมทั้งเป็นนักปกครองที่มีความสามารถเป็นอยํางยิ่ง ดัง

จะเห็นได๎จากผู๎ที่เคยอยูํในอุปการะการดูแลของทํานเชํน อาจารย๑กัลยา สหชาติ

โกสีย๑ เป็นต๎น ที่ได๎ยกยํองและระลึกถึงคุณความดีของทํานอยูํมิรู๎ลืม ความใกล๎ชิด

, ความเอาใจใสํทั้งในด๎านความประพฤติ , การศึกษา และการอบรมเพื่อฝึกจิตที่

ทํานได๎ให๎ไว๎แกํผู๎อยูํในความปกครองของทําน สามารถเปลี่ยนอุปนิสัยที่ไมํถูกไมํ

ควรเชํนเป็นคนเจ๎าอารมณ๑ , หยิ่ง , ใจน๎อย , ท๎อถอย ให๎เปลี่ยนเป็นคนมีใจสุขุม

เยือกเย็น , องอาจ แตํรู๎จักอํอนน๎อมถํอมตนและอดทนมีมานะ ทําตนให๎เป็นที่พึ่ง

ของตนได๎ด๎วยความเป็นผู๎นํามีความคิดริเริ่มสร๎างสรรค๑ ด๎วยกําลังใจและแรงกาย

, ความจริงจังตํอหน๎าที่การงานของทํานเป็นผู๎ทรงคุณงาม ความดี เกียรติของ

ทํานนี้จึงปรากฏจนเป็นที่เคารพนับถือและรู๎จักของบุคคลทั่วไป ตลอดจนแรง

สนับสนุนท่ีแมํชีอาจารย๑ญาณีได๎รับนั้น ทํานก็สามารถตั้งสถาบันแมํชีไทยขึ้นเป็น

ผลสําเร็จในปีพ.ศ.2512 และในปีตํอมา ทํานก็ได๎รับเลือกให๎เป็นประธานของ

สถาบันแมํชีไทยติดตํอกันถึง 2 สมัย ทํานได๎ทุํมเทกําลังกายและกําลังใจปฏิบัติงาน

ให๎แกํสถาบันนั้นอยํางเต็มความสามารถตามปณิธานที่ตั้งไว๎ ตํอมาสุขภาพของ

ทํานทรุดโทรมลงตามอายุขัย ทํานได๎เข๎ารับการรักษาและผําตัดท่ีโรงพยาบาล

จุฬาลงกรณ๑ในกลางปีพ.ศ.2518สมเด็จพระนางเจ๎าฯ พระบรมราชินีนาถทรง

ทราบ ได๎ทรงพระกรุณาโปรดเกล๎า ฯ รับทํานเป็นคนไข๎ในพระบรมราชินูปถัมภ๑

จากนั้นทํานได๎กลับมาอยูํวัดปากน้ําอีกตามปกติ อาการป่วยนั้นมีแตํทรงกับทรุด

Page 55: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

55

ตํอมามีโรคเกี่ยวกับระบบประสาท จึงได๎เข๎ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพญาไท

จนถึงวาระสุดท๎ายเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2519 สมเด็จพระนางเจ๎า

พระบรมราชินีนาถได๎ทรงพระกรุณาโปรดเกล๎า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุ

เคราะห๑สวดอภิธรรมเป็นการสํวนพระองค๑และพระราชทานเพลิงศพแมํชีอาจารย๑

ญาณี นับวําเป็นพระมหากรุณาธิคุณล๎นเกล๎าล๎นกระหมํอมหาที่สุดมิได๎แกํขุนพล

กล๎าแหํงกองทัพธรรมนามวํา “ ญาณี ศิริโวหาร ” ผู๎จากไปแตํกายและยังคงความ

ดีตลอดจนผลงานไว๎ให๎อนุชนรุํนหลังได๎ชื่นชมกันโดยทั่วไปครับ สรุปข๎อมูลอีก

ครั้งนะครับ เทําที่ทราบมาแมํชีอาจารย๑ที่คุมวิชาซึ่งเป็นหัวหน๎าเวรในยุคนั้นมี 6

ทํานครับ ดูแลผลัดละ 4 ชั่วโมง ในการทําวิชาในโรงงานตลอด 24 ชั่วโมงไมํมี

หยุดพัก รายชื่อมีดังตํอไปนี้ครับ 1.แมํชีอาจารย๑ปุก มุ๎ยประเสริฐ 2.แมํชีอาจารย๑

ถนอม อาสไวย๑ 3. แมํชีอาจารย๑ญาณี ศิริโวหาร 4. แมํชีอาจารย๑ชั้น จอมทอง

5. คุณครูฉลวย สมบัติสุข 6. คุณครูตรีธา เนียมขํา หัวหน๎าเวรหลวงพํอทําน

ตั้งเงินเดือนให๎เดือนละ 300 บาท รองหัวหน๎าเวร 150 บาท ลูกเวร 70 บาท

หลวงพํอสดทํานเลี้ยงได๎หมดครับ ขึ้นชื่อวําแมํชีอาจารย๑ญาณีแล๎ว ในวัดปากน้ํา

แล๎วใคร ๆ ก็รู๎จักทําน ในชํวงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทํานเป็นผู๎หนึ่งที่ได๎รับ

มอบหมายให๎ทําวิชาป้องกันประเทศ และป้องกันลูกระเบิดไมํให๎ตกลงในบริเวณ

วัดปากน้ํากับประตูน้ําภาษีเจริญรํวมกันกับหลวงพํอสดครับ นี่คือธรรมกาย

หมายเลขหนึ่งที่เป็นหนึ่งอยูํในใจตลอดกาล

Page 56: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

56

แมํชีอาจารย๑ฉลวย สมบัติสุข

แมํทัพธรรมวิชชาธรรมกายที่สําคัญอีกทํานหนึ่งครับ ทํานเป็นผู๎เรียบเรียงคูํมือ

สมภารที่พิมพ๑ครั้งแรก ถวายสมเด็จพระสังฆราชเจ๎ากรมหลวงพระวชิรณาณวงศ๑

ครั้งที่ดํารงสมณศักดิ์ที่สมเด็จพระวชิรญาณวงศ๑เมื่อ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2492

แมํชีอาจารย๑ฉลวยเกิดเมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2466 ที่ อ.เมือง จ.เชียงใหมํ

ทํานเป็นธิดาของนายโฆษิตและนางเหรียญ สมบัติสุข ทํานได๎ธรรมกายมากํอนที่

จะมาบวชที่วัดปากน้ําครับ คือได๎เรียนวิชชาธรรมกายครั้งแรกกับพระอาจารย๑

สมจิต ซึ่งได๎สอนวิชชาธรรมกายที่วัดอุปคุต อ.เมือง จ.เชียงใหมํ ผู๎คนมาเรียน

Page 57: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

57

กันมากจนล๎นวิหารไปจนถึงด๎านหลังและได๎ขยายไปตามกุฏิพระเลยทีเดียวครับ

ตํอมามีหลายทํานปฏิบัติได๎ธรรมกายกันเป็นจํานวนมาก และอยากไปกราบหลวง

พํอสดท่ีวัดปากน้ําฯกัน ทํานและคณะจึงได๎มากราบหลวงพํอเพื่อปฏิบัติธรรมกับ

ทํานระยะหนึ่ง แล๎วกลับขึ้นไปเชียงใหมํ ตํอมาแมํชีอาจารย๑ทองสุก สําแดงปั้น

ได๎ขึ้นมาสอนที่เชียงใหมํตํอจากพระอาจารย๑สมจิต แมํชีอาจารย๑ฉลวยในเวลานั้น

อายุได๎ 17 ปี ทํานได๎มาบวชชีอยูํที่วัดปากน้ําเมื่อต๎นปีพ.ศ. 2484 จนถึงปีพ.ศ.

2501 รวมเป็นเวลา 17 ปี ขณะนั้นได๎บรรลุวิชชาธรรมกายขั้นสูงแล๎ว ทํานจึง

ได๎รับมอบหมายจากหลวงพํอวัดปากน้ํา ให๎เป็นหัวหน๎าเวรคุมการปฏิบัติวิชา ,

บอกวิชชารวมถึงการค๎นวิชาธรรมกายขั้นสูงในโรงงาน ( ผลัดละ 6 ชั่วโมง ) ทําน

เป็นคนดูแลในตอนกลางวัน สํวนแมํชีอาจารย๑ญาณี เป็นผู๎ดูแลตอนกลางคืน พอ

เดือนธันวาคมเกิดสงครามโลก หลวงพํอสั่งให๎ทําวิชาป้องกันประเทศจนสงคราม

เลิก ซึ่งถือวําประเทศไทยของเราไมํแพ๎ไมํชนะ ทํานได๎เลําให๎ฟังเอาไว๎เมื่อวันที่

20 ตุลาคม พ.ศ. 2547 วํา “ สภาพโรงงานทําวิชาในสมัยนั้นเป็นเรือนไม๎ล๎อมรั้ว

สังกะสี พระกับแมํชีนั่งอยูํคนละฝั่ง พระขึ้นทางฝั่งหอไตรพวกแมํชีขึ้นทางหน๎า

พระวิหาร ขึ้นคนละทางกัน ข๎างบนมีชํองเล็ก ๆ อยูํสูง เวลาหลวงพํอทํานพูด

เสียงจะผํานออกมาทางชํองนั้น ตอนแรกสถานที่มีจํากัด ที่นั่งที่นอนของแมํชีอยูํ

ในท่ีเดียวกัน ตอนหลังจึงแยกออกจากที่ทําภาวนาโดยเฉพาะ ใครหมดหน๎าที่ก็

ขึ้นไปพักผํอน ครั้งแรกการทําวิชามีเพียง 4 ชุด ตํอมาทําวิชาเพิ่มเป็น 6 ชุด ครั้ง

ละ 4 ชั่วโมง ในชํวงเวลาที่อยูํวัดปากน้ํานั้นได๎มีโอกาสกลับไปเยี่ยมบ๎านที่ จ.

Page 58: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

58

เชียงใหมํเป็นบางครั้งบางคราว ๆ ละ 1 – 2 อาทิตย๑ ” ทํานได๎เลําตํอไปวํา “

หลวงพํอวัดปากน้ําทํานจะเป็นผู๎คัดเลือกผู๎ที่ได๎วิชชาธรรมกายแล๎วให๎เข๎าไปอยูํใน

โรงงาน เพื่อทําวิชากับทํานด๎วยตัวของทํานเอง ” ดังนั้นเชื่อวําบุคคลที่ได๎รับ

มอบหมายให๎เป็นหัวหน๎าเวรบอกวิชา จึงเป็นผู๎ที่มีความเป็นเลิศในวิชชาธรรมกาย

ขั้นสูงจนเป็นที่ไว๎วางใจของหลวงพํอ ซึ่งมีความสามารถบอกวิชาได๎ถูกต๎องไมํ

ผิดพลาด ท่ีสําคัญต๎องเป็นผู๎ที่นําพาผู๎อื่นไปสูํวิชาในขั้นสูงขึ้นไปได๎เป็นลําดับ

แมํชีอาจารย๑ฉลวยทํานมีความคิดวําผู๎ใดที่ได๎ตั้งใจปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ๎น

หวังบรรลุมรรคผลนิพพานเฉพาะตนนั้น แคํฝึกปฏิบัติจนเดินวิชชา 18 กายได๎ก็

เพียงพอแล๎วครับ ไมํจําเป็นต๎องทราบวิชชาธรรมกายขั้นสูงที่ปฏิบัติกันในโรงงาน

เพราะนั่นมุํงชํวยเหลือสํวนรวมและเพื่อปราบมารเป็นสําคัญ สํวนสมุดบันทึก

วิชชาธรรมกายขั้นสูงที่ใช๎ปฏิบัติในโรงงานสมัยทํานนั้น กํอนกลับไปอยูํเชียงใหมํ

ได๎มอบให๎ทํานเจ๎าคุณพระราชพรหมเถระ( วีระ คณุตตโม ) เพราะเห็นวําเป็น

พระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและมีความตั้งใจ ที่จะบวชอุทิศชีวิตนี้เพื่พระพุทธ

ศาสนา แมํชีอาจารย๑ฉลวยทํานได๎กลับไปอยูํที่บ๎าน จ . เชียงใหมํ เป็นการถาวร

ตั้งแตํปีพ.ศ. 2502 และยังคงสอนวิชชาธรรมกายที่วัดชัยศรีภูมิ จ. เชียงใหมํ ใน

วันศุกร๑ – เสาร๑ – อาทิตย๑ ชํวงเวลาบํายโมง – 4 โมงเย็น แมํชีอาจารย๑รัมภา โพธิ์คํา

ฉาย ได๎บอกให๎ทราบเมื่อต๎นเดือนมกราคม พ.ศ. 2457 วํา “ คุณครูฉลวยทําน

สอนที่บ๎านด๎วย แม๎วําทํานจะมีอายุมากแล๎วแตํก็ยังลงมาทําบุญท่ีวัดปากน้ําอยูํ

เสมอ ๆ ”

Page 59: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

59

เรื่องเลําจากแมํชีอาจารย๑ฉลวย สมบัติสุข

“ หลวงพํอทํานบอกวําต๎องการชํวยคนให๎พ๎นทุกข๑ ทําได๎เทําไรก็เทํานั้น หลวงพํอ

วัดปากน้ํานี้จะวําใจดีก็ใจดี จะวําดุก็ดุ และทํานเป็นคนตรง ถ๎าเห็นวําเป็นอยํางนี้

ก็ต๎องเป็นอยํางนี้ ขนาดสมเด็จวัดโพธิ์เป็นหลานของทําน ทํานยังบอกวํา “ เฮ๎ย

...ของเรามันถูกอยูํแล๎ว แนํนอนอยูํแล๎ว จะไปกลัวอะไร ” อยํางเรื่องที่ทํานบอก

วําสมเด็จวัดโพธิ์จะได๎เป็นพระสังฆราช ไมํมีใครคาดคิดวําจะเป็นจริง ไมํนําเชื่อ

วําจะเป็นไปได๎ตามคําที่ทํานกลําว เพราะวําคนที่รอจะขึ้นเป็นพระสังฆราชมีอยูํ

อีกองค๑คือพระพิมลธรรมวัดมหาธาตุถ๎าพระสังฆราชองค๑เกําสิ้น พระวัดมหาธาตุ

ต๎องได๎ขึ้นเป็นกํอนอยํางแนํนอน แตํพอดีมีเรื่องเกิดขึ้นเสียกํอนก็เลยมาเป็นวัด

โพธิ์ หลวงพํอทํานจะพูดเฉพาะเรื่องที่จําเป็น ถึงเวลาจริง ๆ คาดไมํถึงวํา จะ

เป็นไปได๎ตามคําพยากรณ๑ที่ทํานได๎กลําวไว๎ทุกประการ สมัยที่หลวงพํอมาอยูํวัด

ปากน้ําใหมํ ๆ ทํานก็ได๎ทําตามความถูกต๎องไมํมีอะไรกับใคร แตํคนที่มาอยูํรุํน

กํอนที่เขาอยูํแถวนั้นก็มีบารมีเป็นที่นับถืออาจจะไมํชอบใจ เวลาหลวงพํอทําอะไร

ลงไปก็จะเป็นขําวโจมตีทํานเสมอ แตํยิ่งวําไมํดีแคํไหนก็ยิ่งดังแคํนั้น ของเรา

มันดีอยูํแล๎ว ไมํได๎ไปทําความเสียหายอะไร คล๎าย ๆ กับกลองยิ่งตีมันก็ยิ่งดัง

แทนที่คนเขาวําจะทําให๎เสื่อมเสียแตํกลับเป็นตรงกันข๎าม ทํานนําพาปฏิปทาของ

ทํานเข๎าสูํความเจริญได๎อยํางองอาจสงํางาม ” นี่คือเรื่องเลําจากประสบการณ๑ของ

แมํชีอาจารย๑ฉลวย สมบัติสุขครับ

Page 60: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

60

แมํชีอาจารย๑ถนอม อาสไวย๑

หนึ่งในขุนพลกล๎าแหํงวิชชาธรรมกายแถวหน๎าอีกทํานหนึ่งของ หลวงพํอสดวัด

ปากน้ําครับ ทํานได๎รับการยกยํองจากแมํชีอาจารย๑ฉลวย สมบัติสุข และแมํชี

อาจารย๑รัมภา โพธิ์คําฉายวําเป็นผู๎ที่ทําวิชาได๎เกํงกาจสามารถเป็นยิ่งนัก มีญาณทัส

สนะที่แมํนยําและคําวํา“เกํงมาก”ซึ่งเป็นคําชมจากนักรบในโรงงานทําวิชาด๎วยกัน

ได๎มอบเป็นของกํานัลแหํงขวัญและกําลังใจแกํแมํชีอาจารย๑ทํานนี้ ทํานเกิดเมื่อวัน

เสาร๑เดือน 11 ปีชวด พ.ศ. 2443 ที่ต. โพสะ อ.เมือง จ.อํางทอง เป็นธิดานายริ้ว –

นางทองคํา บรรยงค๑ และได๎สมรสกับหมื่นศรีสวัสด์ิ อาสไวย๑ ( คุณตาทบ ) ซึ่ง

Page 61: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

61

เป็นนายทหารองครักษ๑ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล๎าเจ๎าอยูํหัวรัชกาลที่ 6 มี

บุตรด๎วยกัน 7 คน ตระกูลของทํานมีชื่อเสียงในการทําผัดไทที่อรํอยมากๆครับ

ลูกหลานทํานผัดขาย ที่บ๎านริมฝั่งซ๎ายของแมํน้ําเจ๎าพระยาข๎างวัดท๎องคุง๎ จ.

อํางทอง คุณตาทบ ( หมื่นศรีสวัสดิ์ ) ได๎พาทํานมาฝึกปฏิบัติวิชชาธรรมกายกับ

หลวงพํอวัดปากน้ําและได๎บรรลุธรรมตั้งแตํปีแรกที่มาเลยครับ รวมเวลาถึง 15 ปี

พอคุณตาทบ ( หมื่นศรีสวัสดิ์ )ถึงแกํกรรมและลูก ๆก็ ตั้งตัวได๎แล๎ว แมํชีอาจารย๑

ถนอมทํานจึงได๎ย๎ายออกจากวังสระประทุม มาบวชชีอยูํที่วัดปากน้ําเมื่อปีพ.ศ.

2487 ( ขณะนั้นมีอายุประมาณ 45 ปี ) ด๎วยทํานได๎วิชชาธรรมกายขั้นสูงมากํอน

บวชชีถึง 15 ปี หลวงพํอจึงได๎มอบหมายให๎ทําน เป็นหัวหน๎าเวรปฏิบัติกรรมฐาน

ค๎นคว๎าวิชชาธรรมกายขั้นสูง และบอกวิชาธรรมกายให๎คณะธรรมกายในโรงงาน

ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทํานได๎รับมอบหมายให๎ทําวิชาธรรมกายเพื่อ

ชํวยเหลือประเทศทั้งยามปกติและยามสงครามเชํนเดียวกับทํานอื่นๆ ทํานได๎ชํวย

แก๎ทุกข๑ทางเศรษฐกิจ , ทุกข๑ทางกายและทุกข๑ทางใจให๎กับผู๎คนที่มาขอพึ่งบารมี

ของหลวงพํอสด แมํชีอาจารย๑ถนอมทํานได๎เคยเลําเรื่องรํางทรงพญามารที่ได๎บุก

ขึ้นมาบนศาลาวัดปากน้ํา เพื่อจะมายึดศาลาหลังนี้ไป หลวงพํอได๎สั่งให๎ทํานขึ้น

ไปบนศาลาเพื่อจัดการปราบพญามารตนนั้น ทํานก็ได๎ขึ้นไปนั่งบนศาลาดังกลําว

แล๎วทําวิชาเก็บฤทธิ์พญามารแบบตัวตํอตัวครับ เมื่อพญามารเจอคนจริงอยําง

ทํานเข๎าจึงต๎องยอมแพ๎ถอยกลับไป วีรกรรมครั้งนั้นของแมํชีอาจารย๑ถนอมได๎

รับคําชมอยํางมากจากหลวงพํอตํอหน๎าศิษย๑คนอื่น ๆ ( มีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่อง

Page 62: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

62

นี้ในหัวข๎อถัดไปซึ่งเลําโดย อาจารย๑การุณย๑ บุญมานุชครับ )บางครั้งหลวงพํอได๎

สํงทํานกับแมํชีอาจารย๑ทองสุกไปแก๎โรคให๎ผู๎ป่วยตามสถานที่ตําง ๆ เชํน

โรงพยาบาลบ๎าง หรือแม๎แตํตามบ๎านผู๎ป่วยบ๎าง มีเรื่องเลํากันมาวําครั้งหนึ่งทําน

ได๎รับรักษาผู๎ป่วยคนหนึ่งที่เป็นโรคประหลาด คือเดี๋ยวท๎องโตเหมือนคนท๎องจริง

ๆ และเดี๋ยวท๎องแฟบลงเหมือนคนคลอดลูกแล๎ว ทําให๎คนป่วยรู๎สึกทรมานมาก

แมํชีอาจารย๑ถนอมได๎ไปนั่งเข๎าที่แก๎โรคตํอหน๎าผู๎ป่วย แล๎วทําวิชาเก็บฤทธิ์วิชามาร

ในรํางของผู๎หญิงคนนั้น สักพักใหญํคนป่วยก็หายเป็นปกติ หลังจากหลวงพํอสด

มรณภาพ ทํานได๎ย๎ายไปเปิดสอนธรรมปฏิบัติที่ จ. อํางทอง นับวําเป็นศิษย๑

ธรรมกายคนแรกที่ได๎ไปตั้งสํานักปฏิบัติธรรมนอกวัดปากน้ํา โดยตั้งที่ข๎างวัด

ท๎องคุ๎ง ต. โพสะ อ.เมือง จ.อํางทอง บนที่ดินสํวนตัวของทําน แมํชีอาจารย๑ถนอม

อาสไวย๑ถึงแกํกรรมเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2528 สิริอายุได๎ 85 ปี ปัจจุบันแมํชี

อภิญญา นาคทรงแก๎ว ได๎เป็นหัวหน๎าสํานักปฏิบัติธรรมของแมํชีอาจารย๑ถนอม

แทน และได๎กํอสร๎างอาคารปฏิบัติธรรมใหมํแทนหลังเดิม แมํชีอภิญญาลูกศิษย๑

ทํานก็ยังแวะมาวัดปากน้ําเสมอ ได๎เลําให๎ฟังวํากํอนที่ทํานพุทธทาส จะมรณภาพ

ประมาณ 2 – 3 ปี ตัวของทํานแมํชีอาจารย๑ถนอมเองได๎ไปกราบนมัสการทําน

พุทธทาสที่สวนโมกข๑และได๎สนทนากัน ทํานพุทธทาสได๎กลําวชมปฏิปทาหลวง

พํอสดตํอหน๎าแมํชีอาจารย๑ถนอมวํา “ พระดีอยําหลวงพํอสดนั้นหายาก ”

Page 63: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

63

แมํชีอาจารย๑ถนอม อาสไวย๑ ได๎รับเลือกเป็นหัวหน๎าเวร

ทํานได๎รับการแตํงตั้งจากหลวงพํอสดวัดปากน้ําให๎เป็นหัวหน๎าเวร เรื่องของเรื่อง

มีอยูํวําวันหนึ่งหลวงพํอสดได๎เรียกประชุมหัวหน๎าเวรทํานอื่น ๆ แล๎วให๎ทําวิชชา

เข๎าธรรมกายไปถามพระพุทธเจ๎าในนิพพานนับอสงไขยพระองค๑ไมํถ๎วน จากนั้น

ให๎เอาคําตอบมาบอกหลวงพํอด๎วยวําใครสมควรจะได๎รับเลือกเป็นหัวหน๎าเวร แมํ

ชีอาจารย๑ปุกก็ตอบวํา “ให๎แมํชีถนอม” คุณครูฉลวยก็ตอบเชํนเดียวกัน อีกทั้งหัว

เวรคนอื่น ๆ ก็ลงความเห็นให๎แมํชีอาจารย๑ถนอมกันทั้งนั้น เมื่อมติเป็นเอกฉันท๑

เชํนนี้หลวงพํอสดทํานจึงแตํงตั้งแมํชีอาจารย๑ถนอม อาสไวย๑ เป็นหัวหน๎าเวรคน

ที่ 6 ตั้งแตํนั้นมา หากคุณผู๎อํานถามวํา คุณยายอาจารย๑อุบาสิกาจันทร๑ ขนนกยูง

ทํานอยูํในเหตุการณ๑ตอนนั้นไหม ขอตอบวํา อยูํครับ และเป็นผู๎ทําวิชชาอยูํใน

โรงงานมากํอนแมํชีถนอมหลายปีทีเดียว แตํทํานไมํได๎รับเลือกให๎เป็นหัวหน๎าเวร

ได๎เป็นแคํผู๎ชํวยเทํานั้นเองครับ แมํชีอาจารย๑ถนอม อาสไวย๑ ทํานเลําด๎วยความ

ภาคภูมิใจวํา “ หลวงพํอเป็นแบบอยํางที่ดีทุกเรื่อง ทําวัตรเย็นทําวัตรเช๎าและ

ให๎โอวาทพระเณร ทํานไมํเคยขาดแม๎แตํวันเดียว กํอนเข๎าอุโบสถต๎องปลงอาบัติ

ทุกครั้งแล๎วเทศน๑ หลวงพํอคุมวิชาพวกเรากวดขันจนพวกเรากระดิกตัวไมํได๎เลย

เอาจริงเอาจังตลอดเวลา ใครทําวิชาได๎ดีทํานก็ชมเชย หากใครตอบวิชาไมํได๎ จะ

ให๎แก๎ตัวถึง 3 ครั้ง แล๎วยังไมํได๎อีกทํานจะถามคนตํอไป ทํานเคยถามป้าปุกเรื่อง

ต๎นหว๎ารักษาชมพูทวีป ป้าปุกตอบไมํได๎ บังเอิญหลวงพํอมาถามฉัน ฉันก็ตอบ

Page 64: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

64

ทํานตามที่ฉันเห็น ฉันเห็นอยํางไรฉันก็พูดอยํางนั้น บังเอิญแท๎ ๆ ที่ตอบถูก ทําน

ชอบใจ พอพวกเรารู๎วําทํานบันเทิงอารมณ๑ศิษย๑ทั้งหลายมาขอเงินกันใหญํ หลวง

พํอเซ็นให๎ท้ังนั้น เอาลายเซ็นไปเบิกเงินจากไวยาวัจกรคือโยมประยูร สุนทารา

วันนั้นโยมประยูรจํายเงินไมํน๎อย หากตอบความรู๎วิชชาธรรมกายถูกแล๎ววันนั้น

ต๎องได๎เงินใช๎ หากตอบความรู๎ไมํได๎แล๎วหลวงพํออารมณ๑ไมํบันเทิงไมํพอใจใน

ความพากเพียรของลูกศิษย๑ ”

อาจารย๑การุณย๑บุญมานุชเอํยถึงเรื่องเลําของแมํชีอาจารย๑ถนอม

แมํชีอาจารย๑ถนอม อาสไวย๑ เลําให๎อาจารย๑การุณย๑ฟังวํา “ การทําวิชาใน

โรงงานทําวิชาของหลวงพํอทํากันเป็นเวร เวรนี้หน๎าท่ีใคร ,มีหัวหน๎าเวร , รอง

หัวหน๎าเวรและพลรบ ขณะที่กําลังทําวิชชาอยูํนั้นหลวงพํอทํานเดินแตํอยูํกันคน

ละห๎องของห๎องทําวิชา ( หลวงพํอทํานเรียกวําโรงงาน ) “วันนี้เวรของถนอม

หรือ ? ” “ แมํชีตอบ ” “ เจ๎าคํะ ” “ ข๎างหลังของถนอมนั้นเป็นใคร ? ” “ เป็น

หญิงอายุสัก 15 ปีเจ๎าคํะ ” “ ใครฝึกมา ? ” แมํชีถนอมตอบวํา “ ครูเป็นคนฝึกเจ๎า

คํะ ” “ ไมํใชํวิชาของเรา วิชาของเขาจะทันถนอมอยูํแล๎วรู๎ไหม ทําวิชารํวมกับ

พวกเราไมํได๎ เดี๋ยวพวกเราจะระส่ําระสํายกันหมดรู๎ไหม มารเขาปลอมแปลงเข๎า

มา ” รุํงขึ้นแมํชีก็ต๎องชํวยกันในทุกอยํางเพื่อให๎คุณหนูนั้นไปมีที่อยูํใหมํชํวยกันหา

เงินให๎ไป แตํคุณหนูนั้นก็ไมํรู๎ตัวเอง เพราะธรรมกายที่เธอเห็นนั้นไมํขาว เป็น

เพราะครูผู๎ฝึกไมํแก๎ให๎ดีเสียกํอนเห็นวําเธอเห็นธรรมก็สํงไปเดินวิชาในกุฏิทําวิชา

Page 65: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

65

เพื่อพวกเราจะได๎มีกําลังรบมากขึ้น เราคิดอยํางนั้นแตํเราคาดการณ๑ผิด ตาม

เรื่องจริงที่นํามาเลํานี้เพื่อเราจะได๎ใครํครวญพิจารณาวํา การทําวิชาขั้นสูงนั้นควร

ฝึกกับครูอาจารย๑จึงจะเกิดผลดี เพราะอาจารย๑จะได๎แก๎ไขตามความรู๎ทางวิชชา

ธรรมกาย เพื่อให๎ธาตุธรรมของเราสะอาดขึ้น หากไมํสะอาดแล๎วมารเขาได๎ชํอง

เอาเราเป็นฐานทัพทันทีโดยท่ีเราไมํรู๎ตัว ถามวําทํานอํานเนื้อความข๎างบนนี้แล๎ว

ทํานจะวําอยํางไร นี่ขนาดอยูํใกล๎ชิดครูอาจารย๑ยังมีพลาด อาจเป็นพระครู

อาจารย๑ทํานไมํได๎ตรวจสอบละเอียดเห็นวําเป็นวิชาก็รีบร๎อนนํามาฝึกวิชาชั้นสูง

เลย แปลวําเราต๎องหมั่นสํารวจตัวเองด๎วยไมํใชํพึ่งแตํครูอาจารย๑ยิ่งในยุคนี้ทําน

จะหาครูอาจารย๑ที่ละเอียดรอบคอบในการสอนความรู๎ได๎หรือไมํ ตัวทํานเองควร

ต๎องมีหลักในการพิจารณาความก๎าวหน๎าของวิชาพื้นฐานอันได๎แกํ วิชา 18 กาย

ด๎วย ผมได๎นําเสนอไว๎แล๎วบางสํวน ขอให๎ทํานนําข๎อมูลเหลํานี้ไปพิจารณาตนเอง

กํอนที่ทํานจะรีบร๎อนไปฝึกวิชาชั้นสูงเถิด สําหรับผู๎ที่จะฝึกสมาธิแบบธรรมกาย

ต๎องหาครูที่ดีท่ีไว๎ใจได๎ สํวนผมไปฝึกกับหลวงป๋า( อาจารย๑เสริมชัย สมัยที่ยัง

ไมํได๎บวช ) แล๎วสํงไปตํอวิชากับหลวงปู่ราชพรหมเถระ( ถึงเวลาต๎องได๎ตํอวิชชา )

ตํอมาก็ที่วัดหลวงพํอสดท่ีหลวงป๋าเป็นเจ๎าอาวาสถือวําโชคดี แล๎วคนอื่นลํะไมํได๎

โจมตีใครนะครับ แบบวําครูดีมีมากหลายแล๎ว จะรู๎ได๎อยํางไรวําใครคือครูที่ดี

ดังนั้นใครจะฝึกสมาธิแบบธรรมกายต๎องอยูํใกล๎ครูแล๎วครูต๎องดีด๎วย ( ผมฟังมา

ทั้ง 3 กลุํม แตํละกลุํมก็โจมตีกันในแบบข๎อปลีกยํอยซึ่งผมเห็นวําไมํใชํสาระสําคัญ

ทั้ง 3 กลุํมนําจะมาคุยกันได๎แล๎วโดยเฉพาะในกลุํมหลานศิษย๑ทั้งหลาย ) ซึ่งตรงนี้

Page 66: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

66

เป็นชํองทางของมารเหมือนกันที่ทําให๎เกิดการแตกแยกในหมูํศิษย๑ แสดงวํามาร

ทําวิชายํอยแยกได๎ผล ผมมานั่งแปลกใจวํา ทําไมกลุํมที่ฝึกสมาธิมาด๎วยกันเมื่อปี

พ.ศ. 2525 - พ.ศ.2527 หายไปไหนกันหมดนําแปลกใจจัง บางคนหายไปเลย แตํ

บางคนก็ยังมีโอกาสได๎เดินทางไปเยี่ยมไปพูดคุย ที่จริงเหลําบรรดาลูกศิษย๑ ,

หลานศิษย๑นําจะได๎พูดคุยกัน เพราะพวกเราก็ยังเป็นปุถุชนอยูํยังไมํบรรลุ ใคร

บ๎างจะไมํผิด ใครบ๎างจะไมํพลาดนําจะชํวย ๆ กันประคับประคองกันไป

เพราะฉะนั้นเวลานั่งสมาธิชํวยกันเก็บวิชายํอยแยกของมารด๎วยครับ พวกเราจะ

ได๎รวมกันติด มารทําวิชายํอยแยกสําเร็จในหมูํศิษย๑ที่ฝึกธรรมกาย (ทําให๎แตํละ

คนมีทิฐิคิดวําตัวเองแนํ ที่จริงนําจะรู๎วําแตํละคนเกํงคนละแบบ) ตํอมามันก็ทํา

วิชายํอยแยกซ้ําลงไปอีกทําให๎ประชาชนไมํมีความสามัคคีดั่งที่เราได๎เห็นจาก

เหตุการณ๑ในบ๎านเมืองอยูํในขณะนี้”

ความคิดเห็นเพิ่มเติมจากเรื่องนี ้

จริงอยํางที่อาจารย๑การุณย๑ทํานวําครับเราแตกแยกไมํสามัคคีกันเลยโดยเฉพาะ

บรรดาสํานักฝึกตําง ๆ หรือแม๎แตํในสํานักเดียวกันก็ตามทีก็แตกตํางทางความคิด

และแตกกลุํมกันไปมาก ทั้งนี้เพราะเราหลงโลกธรรมมากจนเกินไปอีกทั้งยังมีทิฐิ

มานะมองแตํข๎อผิดพลาดของกันและกัน ทุกคนก็มีขาดมีเกินกันได๎ครับ เราต๎อง

ยอมรับกันกํอนแตํการยอมรับไมํใชํเรื่องเสียหายหรือเสียหน๎า แตํเป็นการรู๎จัก

พิจารณาตนเองเพื่อแก๎ไขให๎ดีขึ้นตํางหาก ที่นี้การคุยกันในเรื่องวิชชาธรรมกาย

Page 67: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

67

ทํานผู๎รู๎อยํางเชํนคุณสมถะก็ยังกลําวเอาไว๎เลยครับวํา “ ให๎เอาความรู๎ออกหน๎า

อยําเอาความเชื่อออกหน๎า ” แคํเอาเกณฑ๑นี้วัดก็พอจับจุดได๎แล๎ววําใครมีพื้นฐาน

การเรียนรู๎มาอยํางไร เอาความรู๎ออกหน๎าก็คือต๎องรู๎หลักรู๎เกณฑ๑ , รู๎ความสําคัญ

ของวิชา , รู๎พื้นฐานให๎ชัดเจนแล๎วความรู๎ระดับอื่น ๆ ก็จะคุยได๎งํายขึ้น ถ๎าเรื่อง

พื้นฐานยังไมํประสีประสา เรื่องความรู๎ชั้นสูงควรงดเว๎นเพราะทํานจะไมํมีทางเข๎า

ใจความรู๎ระดับอื่นได๎เลย หากตราบใดท่ีพื้นฐานทํานไมํดีพอ นี่คือข๎อควรคิดอยํา

เอาความเชื่อออกหน๎าครับ บางทํานใช๎จินตนาการในการเรียนรู๎มากจนเกินไป คิด

มากกวําทํา คิดนําจนปฏิบัติเขวหรือคิดฟุ้งซํานจนจับพื้นฐานทางวิชาไมํได๎ ที่

สําคัญไมํเคยปฏิบัติมาอยํางตํอเนื่อง ไมํเคยเข๎าหาผู๎รู๎เพื่อรับการแก๎ไขผสมด๎วย

มานะทิฐิเข๎าไปอีกก็ยิ่งไปกันใหญํแก๎ไขอะไรไมํได๎ ความรู๎ที่ปนเป็นนั้นมักเกิดมา

จากความคิดที่ฟุ้งซําน การปนเป็นทางวิชชานั้นมีหลายรูปแบบ ถ๎าเราไมํแยก

ธาตุแยกธรรมให๎ออกเพราะจับหลักความรู๎ไมํได๎ บวกกับความคิดจินตนาการ

มากเกินไป ความฟุ้งซํานยํอมเกิด นั่นคือฐานชั้นดีให๎ธรรมภาคอื่นเข๎ามาปนเป็น

ในเห็นจําคิดรู๎ของเรา สุดท๎ายความรู๎ความคิดอยํางนั้นก็เข๎าหลักปนเป็น แล๎วเรา

จะแก๎ไขหรือแก๎ลํากลับลําตัวเองได๎อยํางไร ต๎องล๎มกระดานแล๎วเริ่มต๎นด๎วยการ

เรียนรู๎ใหมํทีละขั้น แก๎ไขทุกอยํางไปทีละเรื่อง และต๎องอยูํในการควบคุมดูแล

ของอาจารย๑ผู๎ทรงความรู๎จริง ๆ เรื่องยากก็คือไมํมีใครยอมทําเชํนนั้นเพราะเขา

ยํอมเห็นวําตนเองไมํมีอะไรผิด และเมื่อไมํเคยเพํงโทษตนเองได๎เลยก็แปลวําคน ๆ

นั้นจะพัฒนาตนเองได๎ยากยิ่ง เราต๎องยอมรับตนเองกํอนวํา เราทุกคนตํางเคยมี

Page 68: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

68

ข๎อดีและข๎อเสีย , ตํางเคยปฏิบัติถูกบ๎างพลาดบ๎างแตํเราต๎องใช๎ประสบการณ๑สอน

ตัวเราเองให๎ได๎ ยอมรับความจริงแล๎วแก๎ไขให๎ถูกทาง สําหรับการที่แตํละสํานัก

ไมํสามารถรวมตัวกันได๎นั้นมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย วิธีแก๎ไขก็คือสร๎างความ

เป็นหนึ่งเดียวโดยเห็นแกํความรู๎ทางวิชาที่ถูกต๎องเป็นหลัก คือเราต๎องยกความรู๎

หลักวิชานําหน๎ายอมรับกันที่ความรู๎ไมํใชํเรื่องอื่นในวิชชาธรรมกายผิดอะไรพอจะ

ผิดได๎ แตํวิชาความรู๎ผิดธาตุธรรมภาคขาวทํานไมํเอาด๎วย ดังนั้นเราควรหันหน๎า

เข๎าหากันแล๎วมาชํวยกันศึกษา และรักษาอีกทั้งพัฒนาความรู๎ทางวิชาให๎ถูกหลัก

ถูกเกณฑ๑.......การเห็นเป็นเหตุให๎เกิดการคิด การคิดเป็นเหตุให๎เกิดการเห็น คิดดีก็

เป็นทางเย็น คิดเป็นก็เย็นสบาย

ทางมรรคผลของธรรมภาคขาว

ผู๎ที่เข๎ามาเรียนวิชชาธรรมกายมีหลายคติแตกตํางกันออกไปครับ บ๎างก็

ศรัทธา , บ๎างก็มาเพราะปัญหาชีวิตต๎องการหาที่พึ่ง , บ๎างก็เข๎ามาเพื่อปรารถนาจะ

ได๎ฤทธิ์อภิญญา เรื่องของการหนีร๎อนมาพึ่งเย็นนั้นอยําได๎ดูเบาไปครับ ศิษย๑ของ

หลวงพํอวัดปากน้ําหลายทํานก็เข๎ามาสูํวัดด๎วยเหตุผลทางครอบครัวและการทํา

กินก็มี เชํนแมํชีอาจารย๑ทองสุก ทํานทํามาค๎าขายหลายอยํางก็ไมํประสบ

ความสําเร็จ มาหาหลวงพํอวัดปากน้ําทํานก็วํา “ เขาไมํได๎ให๎เอ็งมาเกิดเพื่อทํา

อยํางนั้น” สุดท๎ายแมํชีอาจารย๑ทองสุก ก็ต๎องมาอยูํกับหลวงพํอวัดปากน้ําเพื่อ

ชํวยงานการเผยแพรํวิชา และเป็นครูสอนภาวนาไปด๎วย สํวนแมํชีอาจารย๑ถนอม

Page 69: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

69

ก็เชํนกัน สามีของทํานเสียชีวิต ทํานขาดที่พึ่งจึงมาหาหลวงพํอ จนได๎เป็น

หัวหน๎าเวรทําวิชาในโรงงาน ไมํเว๎นแม๎แตํคุณยายอาจารย๑มหารัตนอุบาสิกาจันทร๑

ขนนกยูง ผู๎อยูํเบื้องหลังความสําเร็จของวัดพระธรรมกาย ที่มีแรงกระตุ๎นเตือน

ให๎ตามหาพํอเพื่อขออโหสิกรรม จึงเข๎ามาเรียนธรรมกายกับแมํชีอาจารย๑ทองสุก

ในท่ีสุดก็เข๎าทีมในโรงงานทําวิชา แตํละทํานล๎วนมีเหตุที่มาประหนึ่งเหมือนกับวํา

ธาตุธรรมทํานจัดสรรเส๎นทางเดินเอาไว๎ไมํผิด การเรียนวิชชาธรรมกายชั้นครู

เหลํานี้เป็นไปเพื่อการกําจัดทุกข๑ , กําจัดโรค , กําจัดภัย การเรียนของทํานจึง

เข๎มข๎น , ตรึงเครียด และต๎องใช๎วิชาสูงทั้งสิ้น คุณผู๎อํานอาจจะถามย๎อนกลับมาวํา

ที่วําวิชาสูง....สูงแคํไหน ก็ต๎องขอตอบวํา สูงขนาดแก๎โรคได๎ , เรียกลมเรียกฝน

ได๎ไปจนถึงกําจัดมารและดับมารได๎ในท่ีสุด สูงขนาดนั้นลูกศิษย๑ของหลวงพํอสด

ชั้นครูเหลํานี้ทําได๎ครับ เพราะหลวงพํอทํานกํากับกวดขันดูแลอยํางใกล๎ชิดทีเดียว

ไมํเกํงไมํได๎เพราะทํานไมํยอมต๎องเกํงต๎องทําได๎ทุกคน นี่คือการเรียนในยุคของ

หลวงพํอ เราจะพบวําศิษย๑ของหลวงพํอเกิดมาเพื่อสิ่งเหลํานี้ ไมํได๎มาเพื่อทํา

หน๎าท่ีอื่นใดเลยบารมีของทํานทั้งหลายมีพร๎อมในการทําวิชาตามที่หลวงพํอกํากับ

เพื่อปราบมารนั่นเอง ความผิดเพี้ยนจึงมีน๎อย ถ๎าหากมีเพี้ยนหรือผิดปกติอยําง

หนึ่งอยํางใดทางวิชา หลวงพํอทํานก็จะแก๎ไขให๎แบบนี้ก็รอดตัวไป นี่คือข๎อคิด

มุมมองที่อยากฝากเอาไว๎ครับ

Page 70: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

70

เหตุการณ๑สําคัญที่เกิดขึ้นแกํหลวงพํอสดวัดปากน้ํา

แมํชีอาจารย๑ถนอมได๎เลําเรื่องมารเข๎าทรงมาสู๎หลวงพํอถึงวัดให๎อาจารย๑การุณย๑

บุญมานุชฟัง ซึ่งมีเรื่องราวดังตํอไปนี้ “วันนั้นหลวงพํอขึ้นศาลาการเปรียญเพื่อ

เทศน๑ตามปกติของทําน ขณะที่นั่งอยูํบนธรรมาสน๑เพื่อจะเทศน๑ ปรากฏวํามีคน

จีนคณะหนึ่งเดินทางมาพบหลวงพํอ เขาเข๎าทรงมาแล๎วคนหัวหน๎าใสํหมวกเจ๏กก็

เดินเข๎ามาใกล๎ทํานแล๎วถามวํา “ จะให๎เขานั่งตรงไหน ” หลวงพํอตอบวํา “ เลือก

เอา ” เพียงเทํานั้นเองหัวหน๎าของเขาก็ขึ้นนั่งบนธรรมาสน๑เคียงข๎างหลวงพํอ

ทันที ทํานจึงได๎กระซิบกับไวยาวัจกร ( โยมประยูร สุนทารา ) วํา “ ให๎ไปตาม

พวกเราในโรงงานทําวิชามาทั้งหมด” วันนี้มารเขาขนกําลังมาสู๎กับเรา คณะทํา

วิชามาถึงศาลากันพร๎อมแล๎วได๎เห็นเหตุการณ๑วํา มารเขาขนกําลังมาสู๎หลวงพํอ

จึงทําวิชาสู๎กันทันที แตํพวกเราไมํได๎นั่งสมาธิเพียงแตํยืนเดินวิชา ทําให๎วิชาไมํ

ละเอียดพอ แมํชีอาจารย๑ถนอม อาสไวย๑ ได๎เลําไว๎วํา “ พอฉันเห็นคนท่ีเป็น

หัวหน๎านั่งประจันหน๎ากับหลวงพํอ ฉันก็จํารูปรํางของเขาได๎ จึงรีบนั่งหลับตา

เข๎าสมาธิทําวิชาทันที ละลายและระเบิดสถานเดียวเข๎านิพพานได๎ไมํฟังเสียง

อะไรอีกแล๎ว ข๎าจะละลายเจ๎าสถานเดียว” เวลาผํานไปครูํหนึ่งตัวหัวหน๎าที่นั่งบน

ธรรมาสน๑ชี้มือมาที่แมํชีอาจารย๑ถนอม อาสไวย๑ แล๎วพูดวํา “ ทั้งหมดนี้มีจริงอยูํ

คนเดียวคือ แมํชีคนนี้ ” เขากลําวจบก็พาพรรคพวกกลับไป แล๎วกลําวทิ้งท๎ายวํา

วันหลังจะมาสู๎ใหมํ เมื่อพวกมารได๎กลับไปแล๎วหลวงพํอสดวัดปากน้ําพูดกับคณะ

Page 71: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

71

ทําวิชาวํา “ วันนี้วิชาไมํละเอียดเพราะพวกเราลืมตาทําวิชา ไมํนั่งหลับตาไมํรู๎ที่

เป็นที่ตายกันหรืออยํางไร เดินวิชาอยํางนั้นเป็นการประมาทรู๎ไหม มารมันเอาวัด

ของเราไปทิ้งทะเลก็ได๎ ดีแตํวําหนอมชํวยไว๎ได๎ ถ๎าไมํได๎ หนอมวันนี้เราไมํรู๎วํา

จะเกิดเหตุร๎ายอะไรขึ้น ” แล๎วทํานก็กลําวตํอไปอีกวํา “ หนอม...เอ็งนํะคุ๎มข๎าวสุก

วัดแล๎ว ” ( หลวงพํอวัดปากน้ําเรียกแมํชีอาจารย๑ถนอมวํา “ หนอม ” คําเดียว

เฉย ๆ ) อาจารย๑การุณย๑ได๎นําเรื่องนี้มาถํายทอดตํอแกํลูกศิษย๑ของทํานและได๎

แสดงข๎อคิดเห็นเอาไว๎วํา “ เหตุการณ๑ครั้งนี้เราได๎ความรู๎สําคัญจากหลวงพํอที่

บอกวํามารมันมีอานุภาพถึงกับเอาวัดไปทิ้งทะเลได๎คือ มารมันทําอะไรก็ได๎ท้ังนั้น

อยํางพวกเราที่เป็นมนุษย๑ มารเขาทําให๎เราแกํ , เจ็บ , ตาย ก็ได๎ ทําให๎แตกแยกกัน

ก็ได๎ เชํน เกาหลี , เวียดนาม , เยอรมัน มารเขาทําให๎เป็น 2 ประเทศได๎ นิกาย

ของสงฆ๑มารเขาก็ทําให๎เป็น 2 นิกายได๎ สรุปแล๎วมารทําได๎ทั้งนั้น ”

ดับตัวละครที่หลวงพํอต๎องการ

การกลําวถึงเรื่องนี้จะพูดละเอียดไมํได๎ เพราะไมํกล๎าคงพูดได๎อยํางพอเข๎าใจ

โดยสังเขปเทํานั้น เรื่องก็มีอยูํวํา แมํชีถนอม อาสไวย๑ พูดให๎ฟังแตํครั้งข๎าพเจ๎า

เป็นศึกษาธิการ อ. ป่าโมกข๑ จ. อํางทอง พ.ศ. 2514 – 2523 ระหวํางนั้นเรียนวิชา

ธรรมกายกับทําน เพราะบ๎านของทํานเป็นสํานักวิปัสสนา อยูํข๎างวัดทองคุ๎ง อ.

เมือง จ. อํางทอง การไปราชการในจังหวัดรถประจําทางจะต๎องผํานหน๎าบ๎านแมํ

ชี ดังนั้นแมํชีกับข๎าพเจ๎าอยูํไมํไกลกัน รถยนต๑วิ่งผํานเพียง 5 นาทีก็ถึง แมํชีเลํา

Page 72: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

72

วําหลวงพํอลงมาเกิดคราวนี้มีวัตถุประสงค๑สําคัญอยํางเดียวคือมาจับตัวละครที่วํา

นี้ ถือวําเป็นตัวละครสําคัญของธรรมภาคมาร ทําวิชาเทําไรก็ยังไมํพบตัวละคร

ที่วํานี้สักที บัดนี้หลวงพํอของเราก็มรณภาพไปแล๎วนักรบชั้นหัวกะทิคือศิษย๑เอก

ของหลวงพํอก็แยกกันไปตํางคนตํางไปที่อยูํวัดปากน้ําจนวาระสุดท๎ายก็คือแมํ

ชีญาณี ศิริโวหารและแมํชีปุก มุ๎ยประเสริฐ แมํชีถนอมเลําวําตัวละครสําคัญที่

หลวงพํอต๎องการยังคงไมํพบตราบเทําทุกวันนี้ ข๎าพเจ๎าได๎แตํฟัง ฟังแล๎วก็ไมํเชื่อ

เมื่อไมํเชื่อแล๎วก็ไมํสนใจลืมเรื่องราวไปเลย เรื่องนี้รู๎กันในหมูํศิษย๑ธรรมกายระดับ

แกํกล๎าของหลวงพํอ เพราะทํานทําวิชาด๎วยกัน ทํานต๎องทราบตรงกัน แตํคน

ภายนอกไมํทราบยิ่งหางแถวอยํางข๎าพเจ๎ายิ่งไมํรู๎เอาทีเดียว ถึงแมํชีถนอมพูดเรา

ยังไมํเชื่อมันจะเป็นเพราะอะไรข๎าพเจ๎าไมํทราบ การทําวิชาของข๎าพเจ๎าเกิดมา

พบตัวละครสําคัญเข๎าให๎เป็นเหตุการณ๑จําได๎ติดตา(ไมํทราบวําไปบันทึกเหตุการณ๑

ไว๎ในเลํมใด ) อยูํบนนิพพานนั่นเองไมํได๎อยูํที่ไหนอยูํในวํางนั้น คํานวณให๎

ละเอียดเข๎าไป พอวํางหยาบขึ้นมาพบทันที เมื่อพบข๎าพเจ๎าไมํรีรอให๎เสียเวลาทํา

วิชาดับทันที เขาไมํสู๎ข๎าพเจ๎าและดับลงอยํางงํายดายไปถามหลวงพํอวํา “ ทําไม

เขาไมํสู๎ผม ” หลวงพํอตอบวํา “ สู๎ศึกษา ฯ ได๎อยํางไร เพราะศึกษา ฯ มีบารมี

มากกวําเขา ” ข๎าพเจ๎าดีใจวําตํอไปนี้เราหมดหน๎าท่ีแล๎วขอเที่ยวเลํนกับเพื่อนฝูง

บ๎าง ที่วําดีใจไมํได๎หมายความวําข๎าพเจ๎าไมํเกํงที่สามารถดับตัวละครสําคัญได๎ ดี

ใจเพราะเราจะเลิกทําวิชาปราบมารเพราะตรากตรํามานานแล๎ว ไมํได๎หลับไมํได๎

นอนมัวแตํเข๎านิโรธค๎นหามารไมํต๎องทําอะไรทั้งนั้น เอาแตํนั่งหลับตาสถานเดียว

Page 73: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

73

งานการไมํได๎ทํากับเขา ภรรยาเขาทําคนเดียวเราเอาแตํนั่งหลับตา ตํอไปนี้เรา

หมดหน๎าท่ีแล๎ว เราจะได๎สบายแล๎ว คิดอยํางนี้ ที่ไหนได๎ดีใจชั่วไกํกระพือปีกยัง

ไมํทันได๎เท่ียวเพียงแตํนอนพักผํอนเทํานั้น พอตื่นขึ้นมาพบมารรุํนใหมํอีกแล๎วก็

ต๎องทําวิชารบตํอไปอีก ตั้งแตํวันนั้นจนถึงวันนี้ยังไมํได๎หยุดเลยแม๎แตํวันเดียว

การที่หลวงพํอวัดปากน้ํามาเกิดคราวนี้ต๎องการพบตัวละครทํานนี้ ถือวําเป็นงาน

ใหญํของธาตุธรรมเป็นหัวใจของงาน แตํหลวงพํอมาองค๑เดียวหรือต๎องพูดวํามา

กันหมดนครทีเดียวเรียกวําเป็นทัพสหชาติโยธา ทุกคนมีหน๎าที่ , ทุกคนมีบทบาท

, ทุกคนมีงานทํา แตํเป็นงานทางวิชาธรรมกาย หลวงพํอมีลูกศิษย๑ทั่วโลกก็แปลวํา

คนทั้งโลกต๎องมายุํงกับงานของหลวงพํอ ทั้งหมดนี่คือข๎อมูลที่เราทํานปฏิเสธ

ไมํได๎ บัดนี้หลวงพํอกลับไปแล๎ว นักปราชญ๑สําคัญกลับเกือบหมดแล๎วทิ้งไว๎แตํ

ศิษย๑ปลายแถวคือข๎าพเจ๎า ให๎ข๎าพเจ๎ารบคนเดียว , ให๎ข๎าพเจ๎ารับผิดชอบคนเดียว ,

ให๎ข๎าพเจ๎าทํางานยาก ๆ ตลอดเวลาที่รบอยูํไมํเคยมีใครให๎กําลังใจ ไมํคิดก็ดีไป

อยําง ถ๎าคิดขึ้นมามันนําช้ําใจ นี่คือชะตาชีวิตของนายการุณย๑ บุญมานุช ขนาน

แท๎ด้ังเดิม ความน๎อยเนื้อต่ําใจอยํางนี้เกิดมีแกํข๎าพเจ๎าหลายครั้ง งานปราบมาร

เป็นงานใหญํเป็นงานสํวนรวมเป็นภาระแกํข๎าพเจ๎า ข๎าพเจ๎าพูดไมํออกบอกไมํได๎

จําต๎องก๎มหน๎าสู๎ตํอไป บางครั้งเกิดความท๎อแท๎เอามาก ๆ รู๎กันหมดทั่วธาตุทั่ว

ธรรม , ทิพย๑ , พรหม , อรูปพรหม , จักรพรรดิ , กายสิทธิ์ รู๎กันหมด แตํโลกนี้ไมํ

มีใครรู๎เลย , ไมํมีใครเห็นความสําคัญ , ไมํมีใครชํวย , ไมํมีใครอุปถัมภ๑ แตํมาคิดวํา

ความเป็นเอกราชของธาตุธรรมอยูํเหนือสิ่งอื่นใด ใครไมํรู๎แตํพระศาสดารู๎ ทิพย๑ ,

Page 74: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

74

พรหม , อรูปพรหม เขารู๎ ความน๎อยเนื้อต่ําใจก็หมดไป ดูแตํทํานเจ๎าคุณพระราช

สาครมุนี เจ๎าคณะจังหวัดสมุทรสาคร ทํานเป็นธรรมกาย ซึ่งเป็นพวกของเราแท๎

ๆ บอกวําไมํรู๎เรื่องของศึกษา ฯ มารู๎เอาตอนตายนี้เอง หากเพื่อนคนอื่นพูดอยํางนี้

บ๎างมารู๎เอาตอนตายขอโทษตํอศึกษา ฯ ด๎วยท่ีไมํได๎ชํวยงานอะไรของศึกษา ฯ

เลย ไมํรู๎เรื่องของศึกษา ฯ เลยจริง ๆ แล๎วเราจะวําอยํางไร ตามสะดวกเถิดทําน

เอ๐ยไมํได๎วําอะไร แตํวันนั้นจะต๎องได๎อายกันบ๎าง วันนั้นคงมีการเสียใจกันบ๎าง

กลับมาพูดเรื่องสําคัญสุดยอดกันดีกวํา ตัวละครที่ถูกดับไปนั้นถือวําหมดภารกิจ

ของหลวงพํอแล๎ว ถือวําเสร็จงานปราบมารของหลวงพํอแล๎ว เมื่อดับต๎นภาคมาร

กายมนุษย๑ได๎แล๎วต๎องถือวําจบเรื่อง เอาเข๎าจริงเรื่องยุติเพียงนั้นไมํได๎ เกินรู๎เกิน

ญาณทัสสนะของหลวงพํอ เกินความรู๎ของธาตุธรรมทํานแล๎ว อยําได๎ไปโกรธ

ทํานเลยมารยังมีอีกมากนัก แตํมันละเอียดเกินความรู๎ที่พระศาสดาจะบอกเราแล๎ว

หากเราเลิกทําวิชามันจะเอาธาตุธรรมที่เราไมํรู๎ไมํเห็นมาปกครอง เราจะหมด

หนทางแก๎ด๎วยประการทั้งปวง นี่คือเรื่องหนักใจ ได๎ถามหลวงพํอวํา “ หลวงพํอ

ครับ เทําที่รบมาเครื่องมือมารคือ ทุคติภูมิ เราก็จัดการไปแล๎ว ดวงบุญท่ีมารมา

ระเบิดเอาไปเราก็ตามมาแล๎ว ตัวละครสําคัญคือ ต๎นบาปกายมนุษย๑ เราก็ดับไป

เมื่อเร็ว ๆ นี้ งานปราบมารนํายุติ ” หลวงพํอทํานตอบอยํางนี้ครับ “ ศึกษา ฯ พูด

มานี้ถูกต๎องแล๎ว แตํเรายังไมํรู๎วําไอ๎ที่ละเอียด ๆ นั้น มันซํอนตัวอยูํที่ไหน

ขอบขํายมีเพียงไรเรายังไมํรู๎ ” หลวงพํอทํานวํามาอยํางนี้ เราก็รู๎ทันทีวําเราต๎อง

รบตํอยังหยุดไมํได๎ แตํหลวงพํอทํานยืนยันวํา “ ทุกเรื่องต๎องเสร็จในยุคของศึกษา

Page 75: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

75

ฯ ” หากเป็นจริงอยํางหลวงพํอวํา เราก็โชคดีร๎อยชั่งทีเดียว ทํานอยําเพิ่งดีใจ

นั้นเป็นความเห็นของหลวงพํอ ที่ทํานมีความเชื่ออยํางนั้น “ เออ ! ศึกษา ฯ ต๎อง

แก๎ศพของหลวงพํอให๎ฟื้นด๎วย ” เราได๎ยินคํานี้เราก็หน๎ามืดแล๎ว คือ หลวงพํอ

ทํานเหมาให๎เราหมดทุกเรื่อง แตํหลวงพํอทํานมีวิธีใช๎คน คือ ให๎ยาหอมเราอยูํ

เรื่อย การรบคราวหนึ่งต๎องเปิดดูบันทึกวําอยูํเลํมใด พอรบชนะธรรมกายของ

หลวงพํอยืนขึ้นประกาศก๎องทีเดียว “ เราเป็นหนี้ศึกษา ฯ กันทั้งหมด ” อีกคราว

หนึ่ง “ ที่เรารบชนะงวดนี้ได๎ จะให๎รางวัลเป็นเงินกี่ฟ้าครอบก็ไมํคุ๎ม ” หากทําน

สนใจโปรดไปดูบันทึก ข๎าพเจ๎าจดไว๎เป็นสมุดเบอร๑ 2 ถึงเลํมที่ 13 แล๎ว ยาหอม

ทั้งปวงข๎าพเจ๎าไมํสนใจทราบวําหลวงพํอทํานหลอกใช๎ ทํานให๎กําลังใจเราก็รบ

ตํอไป แตํมาคิดถึงคราวนั้นที่วํา “ เป็นหนี้ศึกษา ฯ กันทั้งหมด ” ข๎าพเจ๎าไมํ

สบายใจจึงเข๎าธรรมกายไปถามแมํชีถนอม อาสไวย๑ ( แมํชีตายไปแล๎ว ขณะนี้อยูํ

ชั้นดุสิต ) ถามแมํชีวําทําไมธาตุธรรมทํานวําอยํางนั้น แมํชีตอบวํา “ ก็ถูกละซี

เป็นหนี้บุญคุณแกํศึกษา ฯ กันทั้งนั้น รวมถึงฉันด๎วย ถ๎าศึกษา ฯ ดับมารรุํนนี้ไมํ

ลง ไมํรู๎มันจะอาละวาดไปแคํไหน ธาตุธรรมทํานทราบดีกวําเรา ” แมํชีพูดอยําง

นั้น หนี้ท่ีวํานี้ได๎แกํอะไร คนอื่นเราจะไมํวําอะไร แตํเกจิอาจารย๑ไมํรู๎จักข๎าพเจ๎า

วําข๎าพเจ๎าทํางานอะไร หากทํานถามข๎าพเจ๎ามีความคิดอยํางไร ข๎าพเจ๎าขอตอบ

วําเราทําวิชาถวายพระพุทธองค๑อยูํแล๎ว เราชํวยทิพย๑ , พรหม , อรูปพรหม อยูํ

แล๎ว จักรพรรดิ และกายสิทธิ์ เราชํวยอยูํแล๎ว มนุษยโลกเทํานั้นท่ีเขาไมํรู๎ เราไป

วําเขาก็ไมํถูก เพราะวิชาของเราไปถึงหมดทุกภพทุกจักรวาลไมํเว๎นเลย วิชา

Page 76: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

76

ปกครองทั่วไปไมํเว๎นใครถือวําอยูํในปกครองของเราทั้งนั้น ธาตุธรรมทํานตัดสิน

ข๎าพเจ๎าไมํได๎ตัดสิน อีกใจหนึ่งก็อยากให๎เกจิอาจารย๑พูดเหตุขัดข๎องให๎ฟัง งาน

ดับตัวละครสําคัญผํานไปแล๎ว แตํการบ๎านที่ข๎าพเจ๎าคิดไมํเลิกคืออะไร ตัวละคร

ทํานนี้ ข๎าพเจ๎าออกชื่อไมํได๎ ข๎าพเจ๎าไมํเชื่อแตํมันเป็นไปแล๎ว ดังนั้นใครที่มี

ลักษณะเดียวกันนี้จะทําอยํางไรกันตํอไป นี่คือการบ๎านที่เราคิดไมํตก ใครที่สร๎าง

บารมีคาบลูกคาบดอกอันตรายมาก เพราะจะต๎องถูกมารพลิกธาตุธรรมกลับไป

เป็นธรรมภาคมารแนํ ๆ แล๎วเราจะต๎องมาปราบกันอยูํอยํางนี้จะมีวันจบสิ้นหรือ

อาจารย๑ดัง ๆ ในประเทศของเรานี้ทําไมเรียนวิชาอยํางนั้น , ทําไมสอนกันอยําง

นั้น , ทําไมได๎เงินมาอยํางนั้น ถ๎ามารหนุนใครเขาผู๎นั้นรวยทันทีรวยอยําบอกใคร

ดังเดี๋ยวนี้โดํงเดี๋ยวนี้ มีศิษย๑มาสูํไมํขาดระยะทําอะไรขลังทั้งนั้น แตํกํอนเราไมํ

ทราบ มาทราบเอาในตอนที่เราทําวิชาปราบมารนี่เอง มารมันทําได๎สารพัดมันเกํง

ถึงขนาดนั้นทีเดียว ระยะนี้อาจารย๑ดัง ๆ ตายกันมาก พอตายไปแล๎วจะทราบเรื่อง

ทั้งหมด เรื่องตํางๆจะเปิดเผยกันหมด ทํานที่คาบลูกคาบดอกจะหนาวๆร๎อนๆ

ทํานที่เป็นสัมมาทิฏฐิสบายใจทุกสถาน กลําวถึงเกจิอาจารย๑ที่วิชาไมํเป็น

สัมมาทิฏฐิอยํางนี้ไมํมีปัญหา ตัดสินงําย ประเภทคาบลูกคาบดอกนั้นยากมาก

พระพุทธองค๑จะให๎ดวงบารมีหรือไมํ ถ๎าให๎ไปเดี๋ยวมารก็กลืนธาตุธรรม แล๎วเราก็

ต๎องมาปราบกันอยูํอยํางนี้ ยังจําได๎ไมํลืม วันที่ดับตัวละครสําคัญแมํชีถนอม อาส

ไวย๑ ทํานพูดวํา“ ศึกษาฯเราปราบพวกเดียวกันเสียแล๎ว ” ข๎าพเจ๎าจําไมํลืม นี่

แหละทํานทั้งหลาย จะเรียนวิชาก็ต๎องพิจารณา จะสร๎างบารมีก็ต๎องเรียนรู๎ มีเงิน

Page 77: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

77

แล๎วก็ทุํมเข๎าไป ทํานก็คิดวําทํานได๎บุญ แตํแล๎วเหตุการณ๑เป็นอยํางนี้ ทีเราขอ

แคํหมื่นบาทเพื่อนขัดข๎อง แตํอาจารย๑อยํางนั้นปรารภ เพื่อนทุํมให๎เป็นล๎าน เรื่อง

ดับตัวละครสําคัญขอจบแคํนี้กํอน............เลําเรื่องในอดีตของแมํชีอาจารย๑ถนอม

อาสไวย๑ ( โดยอาจารย๑การุณย๑ บุญมานุช )

ทํานอาจารย๑การุณย๑ได๎เอํยเลําถึงเรื่องราวของแมํชีอาจารย๑ถนอม อาสไวย๑ เอาไว๎

ในหนังสือปราบมารภาค 4 หน๎าท่ี 20 ซึ่งมีใจความตอนหนึ่งดังนี้ครับ “เรื่องมีอยูํ

วํามีคนมาขอให๎หลวงพํอชํวยแก๎ไขเรื่องอะไรจําไมํได๎แล๎ว หลวงพํอทํานก็สั่งให๎

แมํชีถนอม อาสไวย๑ ไปแก๎ไข แตํผู๎นําพาไมํเอาแมํชีถนอมกลับไปเอาพวกของตน

พอกลับมาหลวงพํอทํานก็ถามเหตุผล ปรากฏวําตอบหลวงพํอไมํได๎เลย หลวง

พํอก็นิ่งไมํวําอะไร หลวงพํอไมํกล๎าค๎านเพราะผู๎นําพาเป็นผู๎อุปการะวัด หลวงพํอ

เกิดความเกรงใจ นี่คือความหลังที่ข๎าพเจ๎านํามาเลําไมํทราบวําแมํชีถนอม อาส

ไวย๑ ทํานมีความรู๎ดีอะไรหลวงพํอทํานใช๎ตลอดเวลา เมื่อมีงานที่ต๎องใช๎วิชา

ธรรมกายแก๎ไข หลวงพํอจะเรียกแมํชีถนอมกํอนเสมอ ถ๎าแมํชีถนอมไมํอยูํหลวง

พํอจะไมํพอใจ บางครั้งทํานก็พูดเอาแรง ๆ จะให๎ดีต๎องให๎แมํชีญาณี ศิริโวหาร

ทํานเลําความหลัง บังเอิญแมํชีญาณี ศิริโวหาร ตายไปแล๎วเราก็เลยไมํได๎ฟังเรื่อง

ดี ๆ เทําที่ข๎าพเจ๎าฟังดูก็เป็นเรื่องของแมํชีถนอม อาสไวย๑ ทั้งนั้น สรุปวําแมํชี

ถนอมมีธุระไปไหนไมได๎เพราะหลวงพํอทํานเรียกใช๎ตลอดเวลา เมื่อมีแขกมาหา

หลวงพํอก็มักมีปัญหามาให๎หลวงพํอชํวย หลวงพํอรับทราบปัญหาก็จะเรียกแมํชี

Page 78: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

78

ถนอมแล๎วก็สั่งงาน “ หนอมชํวยตํออายุให๎เขาด๎วย ” “ หนอมแก๎โรคให๎คนนี้

หนํอย” “ หนอมชํวยตรวจดูให๎หนํอย คนนี้เขาตายไปแล๎ว ขณะนี้เขาอยูํที่ไหน ”

เป็นต๎น คนอื่นหลวงพํอทํานไมํคํอยเรียกใช๎ ข๎าพเจ๎าดวงดีท่ีเกิดมาพบแมํชีถนอม

อาสไวย๑ ทํานสอนวิชาให๎จนข๎าพเจ๎าแก๎โรคได๎ , ปราบมารได๎ , สอนได๎ , ทําได๎

สารพัด ความรู๎ที่เคยเรียนมาจากแมํชีทองสุก สําแดงปั้น ทํานสั่งแก๎ไขหมดรวม

ความวําความรู๎ของข๎าพเจ๎า ยกเครื่องใหมํหมดเลย เป็นอานิสงส๑ทันตาเห็น

ข๎าพเจ๎าแก๎โรคได๎มีคนมาให๎ข๎าพเจ๎าแก๎โรคจํานวนมาก บางคนเขานึกถึงบุญคุณ

เขาเอาเงินมาให๎ ข๎าพเจ๎านําเงินนั้นไปพัฒนาสํานักของทํานทั้งหมด สร๎างห๎องน้ํา

, ตํอครัว เป็นต๎น พอข๎าพเจ๎าย๎ายราชการการไปมาหาสูํไมํเป็นปกติแล๎วไปมาหาสูํ

กันยากขึ้นเพราะอยูํกันคนละจังหวัด สุดท๎ายแมํชีมาพักอยูํวัดปากน้ํา ข๎าพเจ๎าก็ไป

เป็นผู๎ชํวยศึกษาธิการที่ จ.จันทบุรี แมํชีป่วยและถึงแกํกรรมที่วัดปากน้ํา ทุกวันนี้

ข๎าพเจ๎าเสียใจท่ีอุปถัมภ๑ทํานได๎ไมํเต็มมือ เพราะความขาดแคลนของข๎าพเจ๎า

นั่นเอง แม๎วําทํานตายไปแล๎วแตํก็ยังดูแลวิชาของข๎าพเจ๎าอยูํ พรรคพวกของ

ข๎าพเจ๎าตายไปข๎าพเจ๎าก็เอาไปฝากทํานไว๎ทํานก็รับดูแลให๎ ทุกวันนี้คิดเสมอวําถ๎า

ไมํมีแมํชีถนอมเพียงคนเดียว งานปราบมารมีขึ้นไมํได๎ ความรู๎อยํางนี้ไมํมีใคร

บอกเราได๎ มีแตํแมํชีถนอม อาสไวย๑ เทํานั้น ที่จะตอบปัญหาให๎เราได๎เป็น

ธรรมกายเหมือนกันแตํไมํเหมือนกัน ฝีมืออยํางแมํชีถนอมเราจะไปหาที่ไหนถ๎า

แมํชีถนอมไมํอยูํ ทําไมหลวงพํอโกรธนัก ข๎าพเจ๎าจึงเข๎าใจความหมายของหลวง

Page 79: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

79

พํอ ทําไมหลวงพํอไมํเรียกใช๎เรา เราเองก็เป็นธรรมกายก็เพราะ ไมํถึงขั้น หลวง

พํอจึงไมํเรียกใช๎คือ ฝีมือของเราใช๎การไมํได๎ หลวงพํอทํานจึงไมํใช๎นั่นเอง ”

สํวนอีกเรื่องหนึ่งที่อาจารย๑การุณย๑ บุญมานุช ได๎พูดถึงแมํชีอาจารย๑ถนอม

อาสไวย๑ ซึ่งผมได๎ไปค๎นเจอในหน๎าที่ 68 ของหนังสือปราบมารภาค 4 ทํานได๎เลํา

เอาไว๎อยํางนี้ครับวํา “ ระลึกถึงแมํชีถนอม อาสไวย๑ แตํครั้งที่ทํานยังไมํตาย วัน

หนึ่งข๎าพเจ๎าไปพบทําน ทํานเลําให๎ฟังวําเมื่อคืนฝันเห็นหลวงพํอ ในความฝันนั้น

หลวงพํอพูดวํา “ อยากให๎แมํหนอมรวมพวกเราขึ้นมาใหมํ จะได๎รวมตัวกันทํา

วิชาสู๎มาร หากได๎ฉลวยมาคนหนึ่งคงจะได๎สนุกกันอีก ” แมํชีเลําวําพอตื่นขึ้นฉัน

ก็นึกถึงคุณฉลวยเขา ตั้งแตํหลวงพํอของงเราตายไปแล๎ว ตํางคนตํางไปตํางคน

ตํางอยูํไมํพบคุณฉลวยเลยอยากพบเขาเหลือเกิน เมื่อข๎าพเจ๎าได๎ยินดังนั้น ข๎าพเจ๎า

ขานรับทันที “ หากคุณฉลวยมาอยูํกับแมํครู ผมจะเป็นผู๎สร๎างกุฏิให๎ขอให๎มา

อยํางเดียว คําใช๎จํายทั้งปวงผมจะเป็นผู๎รับผิดชอบ ” เหตุการณ๑ผํานไปทําอยํางไร

ก็ไมํได๎ขําวคราวจากคุณฉลวย ไมํทราบวําคุณฉลวยอยูํที่ใดสืบถามเทําไรก็ไมํมี

ใครรู๎ มันเรื่องอะไรที่มารมันจะยอมให๎คนเกํงกับคนเกํงมาเจอกัน ถึงเราจะพบ

กันก็เป็นแบบเยี่ยมเยียนกันเทํานั้นประเด็นที่จะอยูํรํวมกันทําวิชานั้นเลิกคิดได๎ ถึง

อยํางไรมารมันก็ไมํยอม วิธีที่เขาทําก็คือสอดละเอียด สักวันหนึ่งเราอาจขัดใจ

ด๎วยเรื่องไม๎จิ้มฟันอันเดียวก็ได๎ ซึ่งมารเขาทําได๎ท้ังนั้นหากทํานได๎ทราบเรื่องราว

การปราบมารในยุคของหลวงพํอ ทํานจะสงสารหลวงพํอเป็นที่สุด ในระหวํางที่

Page 80: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

80

ทําวิชานั้นความไมํราบรื่นเกิดขึ้นเสมอ อุปสรรคซึ่งขัดขวางเกิดขึ้นเสมอ ปัญหา

ทั้งปวงเข๎ามาจนเราไมํมีเวลาคิดวิชา ที่เป็นเชํนนี้ก็เพราะภาคมารเขาชักใยอยูํ

เบื้องหลัง ”

แมํชีอาจารย๑ถนอม กลําวถึงเรื่องธาตุธรรม

แมํชีถนอม อาสไวย๑ กลําวแกํข๎าพเจ๎าตอนที่ทํานยังมีชีวิตอยูํทํานพูดวํา “

ศึกษา ฯ ฉันนี้ธาตุธรรมทํานเลี้ยง ผ๎าเมตรหนึ่งไมํเคยซื้อ ข๎าวสารลิตรหนึ่งไมํ

เคยซื้อ ทําวิชาไปวัน ๆ หนึ่งเทํานั้น จะคุ๎มข๎าวสุกหรือเปลํา หากตายไปจะ

อยํางไร ยังไมํรู๎มันเสียวสันหลัง ” นี่คือคํากลําวของแมํชี ความหมายของคํา

กลําวคืออยํางไร ทํานอยากทราบก็คือวําชุดธรรมกายที่ธาตุธรรมทํานสํงมาเกิด

จะต๎องทําวิชา ธาตุธรรมทํานเลี้ยงข๎าวไมํต๎องซื้อ , เสื้อผ๎าไมํต๎องซื้อมีคนนํามาให๎

กินให๎ใช๎ โดยธาตุธรรมทํานกํากับอยูํข๎างหลัง หากงานของเราไมํเข๎าเป้าธาตุ

ธรรมทํานลงโทษทั้งนั้น แตํแมํชีถนอมทํานมักน๎อยไมํร่ํารวยอะไร ทํานทําวิชา

ของทํานไปจนหมดอายุ ทํานตายเมื่อปีพ.ศ. 2528 ซึ่งตรงกับชํวงเวลาที่ข๎าพเจ๎า

ทําวิชาปราบมารแล๎ว พอแมํชีตายลงข๎าพเจ๎าเข๎าปกป้องทันที ไมํให๎มีการ

กระทบกระทั่งทําน ขอให๎เป็นสุขสถานเดียว เพราะทํานเป็นอาจารย๑ของข๎าพเจ๎า

เรื่องแคํนี้ชํวยทํานไมํได๎ก็อยําคบกันเลย โชคดีที่แมํชีตายกํอนข๎าพเจ๎า หาก

ข๎าพเจ๎าตายกํอนทําน ก็ไมํทราบวําเหตุการณ๑จะเป็นอยํางไรเหมือนกัน แตํความรู๎

ที่จะชํวยครูอาจารย๑ทํานต๎องเรียนมาก ๆ ยากที่จะทําและก็ทํายากด๎วย ( ในเรื่องนี้

Page 81: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

81

ขอให๎ทํานไปอํานปราบมารภาค 1 , ภาค 2 ทํานคงทราบ ) ตลอดเวลาที่ทําวิชา

ปราบมารตั้งแตํต๎นจวบจนปัจจุบันไมํมีใครชํวย ไมํมีใครอุปถัมภ๑ทํามาคนเดียว

อดทนทํามาด๎วยความจําใจ แตํมีความเพียรไปไถเงินเขามาพิมพ๑ตําราแจก แจก

ฟรีตลอดงานแจกฟรีทุกเรื่อง ไมํเคยได๎เงินตอบแทนด๎วยประการใด ๆ ทั้งสิ้น

ที่เป็นเชํนนี้ก็เพราะมารเขาขัดขวางทุกรูปแบบ เพราะเขากับเราต๎องรบกันเรา

ระเบิดเขา เขาก็ตัดสมบัติเรา เมื่อเราสู๎กับเขาแล๎วเราจะอ๎างปัญหาอะไรไมํได๎ต๎อง

สู๎สถานเดียว สู๎ได๎ก็สู๎ สู๎ไมํได๎ก็ต๎องสู๎ การเดินวิชานั้นทําได๎ยาก มารเขาปิดรู๎บัง

ญาณทัสสนะตลอดเวลา จะรู๎เห็นอะไรได๎แตํละอยํางต๎องเอาชีวิตเข๎าแลกทั้งนั้น

ต๎องชนะจึงจะรู๎จึงจะเห็นได๎ ไปได๎คติมาจากอุบาสิกาถนอม อาสไวย๑ สมัยที่

ข๎าพเจ๎าเป็นศึกษาธิการอําเภอหนุํม ๆ ตอนนั้นเรายังไมํเป็นวิชาทํานเลําให๎ฟังวํา “

สมัยที่ฉันทําวิชา หลวงพํอทํานตั้งเวร ๆ ละ3 ชั่วโมง คืนนั้นเป็นเวรของฉัน ฉัน

ออกเวรเมื่อเวลาตี 3 บอกวิชาเวรตํอไปแล๎ว ฉันก็กลับไปนอนพอจะล๎มตัวนอน

หลวงพํอใช๎ให๎คนมาตาม ฉันก็รีบไปหาหลวงพํอในยามดึกนั้น หลวงพํอถามวํา “

กํอนที่เอ็งจะไปนอนเอ็งบอกวิชาแกํหัวหน๎าเวรใหมํหรือเปลํา ” แมํชีตอบวํา “

บอกเจ๎าข๎า ” “ เอ็งบอกเขาไปอยํางไร เอ็งลองวําให๎หลวงพํอฟังเดี๋ยวนี้ ” ฉันก็เลํา

เรื่องของวิชาวําไปเห็นอะไรอยํางไร พอกลําวจบหลวงพํอทํานกลําวดังนี้ “ หน

อมมันก็บอกถูก รู๎ไหมวิชานี้ค๎นถึง 2,000 ปีทีเดียว กวําจะพบได๎จําวิชาเอาไปทํา

กัน ” เสร็จแล๎วหัวหน๎าเวรใหมํก็จําวิชาไปทําตามที่หลวงพํอสั่ง ตามที่กลําวมานี้

เราจะทราบวําความรู๎บางความรู๎กวําจะพบได๎ใช๎เวลาค๎นคว๎านานเพียงใด เมื่อ

Page 82: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

82

ได๎มาแล๎วทําไมไมํนําความรู๎มาเรียนกันมันค๎นคว๎างํายอยูํหรือ มันเห็นงํายอยูํหรือ

ข๎าพเจ๎าได๎คติมาจากุบาสิกาถนอม อาสไวย๑ จึงนําความรู๎วิชาปราบมารออก

เผยแพรํ แม๎จะไมํมีอะไรตอบแทนแตํก็ทําตามอุดมคติ , ทําตามอุดมการณ๑ , ทํา

ตามเหตุผล เพราะวิชาปราบมารมีความยากเหลือเกิน,ยากที่จะเป็น , ยากที่จะรู๎ ,

ยากที่จะทํา , ยากที่จะอธิบายไมํใชํความรู๎ธรรมดา ข๎าพเจ๎าพิมพ๑ตําราออกมาได๎

แปลวําข๎าพเจ๎าชนะไปขั้นหนึ่ง กวําจะพิมพ๑เสร็จแตํละเลํมมีปัญหาร๎อยแปด

สารพัดท่ีจะกลําวมารเขาไมํยอมทําเดียว แตํเราฝืนไว๎อดทนไว๎ ทํานผู๎รู๎จะคิด

อยํางไรจะวิจารณ๑อยํางไรไมํใชํเรื่องที่ข๎าพเจ๎าจะสนใจ หมดหน๎าที่ของข๎าพเจ๎า

แล๎ว บัดนี้ตําราอยํางนี้เกิดขึ้นแล๎วในโลก ทํานที่มีบารมีธรรมพบเข๎ายํอมเกิด

ความสนใจใฝ่รู๎ เพราะเป็นบารมีของทํานที่จะเรียนรู๎ สํวนทํานที่วิจารณ๑ก็ต๎องมา

ดูวําความรู๎ที่นํามากลําวนั้นเป็นความรู๎ระดับใด อยูํในหลักของนักปราชญ๑หรือ

เปลํา เราทําได๎หรือไมํ ทําได๎หรือเปลํา ความคิดของเราเป็นสัมมาทิฎฐิหรือเปลํา

นี่เป็นเรื่องความรู๎ชั้นสูง โปรดเข๎าใจวําเราปราบมารไมํควรไปเถียงแทนมาร อยํา

ให๎ความเห็นของเราเป็นมารโดยท่ีเกิดความเป็นหํวง จึงขอพูดไว๎หากทํานต๎องการ

รู๎ต๎องการเข๎าใจ ข๎าพเจ๎าก็ยินดีต๎อนรับจะอธิบายความรู๎ให๎ฟังตลอดปลอดโปรํง

ขอให๎ทํานต๎องการเรียนอยํางจริงจังก็แล๎วกัน เรื่องก็งํายเพราะบันทึกไว๎หมด ใคร

จะอธิบายอะไรเพียงแตํเปิดอํานบันทึกเราจะลําดับความได๎ทันที โปรดเข๎าใจวํา

ข๎าพเจ๎าไมํได๎ประโยชน๑ใด ๆ เลย มีแตํเสียประโยชน๑คือไปไถเงินเพื่อนฝูงมาพิมพ๑

เมื่อพิมพ๑เสร็จแล๎วก็แจกฟรีไมํต๎องการชื่อเสียง จะหวังเอาชื่อเอาเสียงไปทําอะไร

Page 83: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

83

เพราะเป็นฆราวาสใครเขาจะให๎คํานิยม คํานิยมไปอยูํกับพระสงฆ๑ พระสงฆ๑

ตํางหากที่สังคมให๎คํานิยม ฆราวาสอยํางข๎าพเจ๎าใครเขาจะเชื่อ ข๎าพเจ๎าไมํได๎

อาศัยศาสนา แตํข๎าพเจ๎าศึกษาเลําเรียนในศาสนาวําวิชาในศาสนายังมีอีกมากที่เรา

ยังเข๎าไมํถึง อะไรที่เราพบจะเข๎าถึงก็ควรนํามาเรียนรู๎กัน เรื่องก็มีเทํานี้ มีหลาย

ทํานเดินทางไปพบข๎าพเจ๎าบอกวําอํานตําราที่ข๎าพเจ๎าเขียนแล๎วเกิดศรัทธาอยาก

มาพบตัวจริง ครั้นพบกันแล๎วทํานก็ศึกษาเรียนรู๎วิชา ,ชีวิตของข๎าพเจ๎า มีบ๎าน

ชํองอยํางไร , มีหน๎าท่ีราชการอะไร , ทําไมจึงนําเงินมาพิมพ๑ตําราแจกฟรี ๆ ขอ

ทราบเบ้ืองหน๎าเบื้องหลัง , มีประวัติศึกษาธรรมกายมาอยํางไร , ทําไมจึงนํามา

เขียนตําราอยํางนี้ , มีประโยชน๑รายได๎อะไรหรือ , มีผลงานในการเขียนวิชา

ธรรมกายอะไรบ๎าง ขอพิสูจน๑ทั้งหมดเอาหนังสือไปวิเคราะห๑เจาะลึกทุกเลํมจะ

ถามอะไรก็ถามได๎สารพัด สุดท๎ายทํานให๎ความนับถือข๎าพเจ๎า ทํานจะนับถือ

หรือไมํนับถือไมํใชํหน๎าที่ท่ีข๎าพเจ๎าสนใจเลย เพราะข๎าพเจ๎าไมํได๎หวังอะไรจาก

ทํานไมํต๎องการอะไรทั้งนั้น แตํถ๎าทํานเห็นวําคนที่มีแนวคิดและมีความรู๎อยําง

นายการุณย๑ บุญมานุช ควรจะนําผลงานมาตีพิมพ๑เผยแพรํไปทั่วโลก หากทําน

คิดอยํางนั้นเรามาเป็นเพื่อนในธรรมกันได๎ หากทํานศึกษาข๎าเจ๎าตามที่กลําวนี้

ข๎าพเจ๎าพอใจมาก หากจะถามทํานวํา ทํานเรียนรู๎วิชาธรรมกายได๎แคํไหนแล๎ว

หลักสูตรคูํมือสมภารทํานเรียนแล๎วหรือยัง , หลักสูตรวิชชามรรคผลพิสดารทําน

เรียนหรือยัง , วิชาปราบมารทํานได๎อํานแล๎วหรือยัง ทํานจะตอบอยํางไร ยังไมํรู๎

เรื่องเลยยังไมํได๎ความอะไรทั้งนั้น ลืมไปวําเราใกล๎ตายแล๎วยังไมํได๎งานอะไรเลย

Page 84: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

84

เคยมาเป็นเจ๎าภาพพิมพ๑หนังสือเผยแพรํวิชาธรรมกายบ๎างหรือเปลํา เปลําทั้งนั้น

ลืมคําพูดของหลวงพํอเราแล๎วหรือหลวงพํอพูดวํา “ ไอ๎ทางโลกก็เหลว ไอ๎ทาง

ธรรมก็เหลก เหมือนแบกบอน เหลือแตํกิน นอน เที่ยว สามอันเทํานั้นเอย ”

ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นในสมัยท่ีหลวงพํออาพาธ แตํอาการไข๎ยังไมํรุนแรงเป็น

เหตุการณ๑ใกล๎ที่หลวงพํอจะมรณภาพแล๎วเรื่องมีอยูํวํา ในหมูํทํานที่ทําวิชาด๎วยกัน

คิดอยํางไรไมํทราบมีขําววํา หลวงพํอทํานให๎อุบาสิกาถนอม อาสไวย๑ พ๎นไปจา

กกหน๎าท่ีทําวิชา มีการพูดกันไปพูดกันมา ขําวนี้ทราบถึงแมํชีถนอม ในครั้งนั้น

เป็นที่ทราบกันทั่ววําแมํชีถนอม อาสไวย๑เป็นคนเกํงทําวิชาได๎เหตุได๎ผล เป็นที่ยก

ยํองกันทั่วไป แมํชีถนอมทํานเลําให๎ข๎าพเจ๎าฟังวํา “ ฉันก็อยากทราบวําขําวที่จะ

ให๎ฉันพ๎นหน๎าท่ีทําวิชาเป็นจริงหรือไมํและอยํางไร เพราะฉันก็มีบ๎านของฉันอยูํที่

จ. อํางทอง มีแตํคนมาถามเรื่องราวฉันคอยหาจังหวะอยูํ เมื่อไรจะได๎จังหวะเข๎า

ไปกราบหลวงพํอ จะได๎ถามเรื่องราวได๎ชัด แมํชีทํานเลําอยํางนั้น วันหนึ่งเป็น

จังหวะดีหลวงพํอกําลังฉันอาหาร ผู๎คนทั้งปวงคอยฟังอยูํเขาอยากฟังขําวจึงมา

กันมาก พอฉันไปถึงกราบหลวงพํอกํอนหลวงพํอเห็นฉันก็รับสั่งวํา เออ ! “หนอม

คอยหลวงพํอกํอนให๎หลวงพํอฉันของหวานกํอน แล๎วหลวงพํอก็ฉันของหวาน

แบบรีบฉันเพื่อจะได๎พูดกับฉัน พอหลวงพํอฉันอาหารเสร็จทํานก็พูดวํา “เออ !

หนอมมาก็ดีแล๎วหลวงพํอจะสั่งวิชา (แล๎วทํานก็สั่งวิชานั้นให๎ทําอยํางนั้นวิชานี้ให๎

ทําอยํางนี้ ) รีบไปทําวิชานะลูก,รีบทํานะลูกนะ” แล๎วแมํชีถนอมก็ก๎มกราบหลวง

Page 85: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

85

พํอ คนทั้งหลายก็พากันกลับ หลวงพํอไมํได๎รับสั่งให๎พ๎นจากการทําวิชาตามขําว

ที่ใคร ๆ เขาพูดกัน ไมํทราบเอาขําวนี้มาอยํางไร แมํชีจะกลับไปอยูํบ๎านสํวนตัวที่

จ . อํางทองก็กลับไมได๎เพราะหลวงพํอทํานสั่งให๎ทําวิชา มีแตํงานทําวิชาเพิ่มขึ้น

หลวงพํอสั่งเพิ่มขึ้นอีกใคร ๆ ก็ได๎ยินกันวําหลวงพํอสั่งอยํางไร หลวงพํอทํานมีรู๎มี

ญาณหยั่งรู๎ทันมารจะเอาคนเกํงพ๎นไปจากหมูํพวกทําวิชาได๎อยํางไร หลวงพํอ

ทํานทราบดี ตัวอยํางนี้เขาเรียกวํา มารทําแผนผังระเบิด เพื่อให๎คนเกํงพ๎นไปทีละ

คน เมื่อเราหมดคนเกํงแล๎วเราจะได๎ใครไปสู๎มาร คนสู๎ต๎องเกํงพอสมควร มีมาก

คนก็จริงอยูํ แตํไมํถึงขั้นเกํงอยํางนี้แพ๎เขาวันยังค่ํา คนทําวิชาชั้นสูง นอกจากจะ

มีความรู๎ดีแล๎วต๎องหนักแนํนต๎องมักน๎อยต๎องหูหนัก ก็เห็นแตํ หลวงพํอของเรา

เทํานั้นที่จะทําได๎ ตามที่เลํามานี้เป็นตัวอยํางที่เราต๎องใครํครวญและพิจารณาวํา

งานปราบมารนั้นทํายากต๎องประกอบด๎วยปัจจัยหลายอยําง เรามีแตํจะหาคนเกํง

มาชํวยแตํกลับจะเอาคนเกํงหนีไปจากเรา เราจะทํางานใหญํคืองานปราบมาร เรา

ต๎องหาธาตุธรรมนักรบเข๎าไว๎ในกองทัพ จะเสียอะไรไมํวําขอให๎ได๎ผู๎มีบุญนั้นเถิด

เพื่อจะได๎มาเป็นกําลังในงานปราบมารยิ่งเกํงกวําเรายิ่งดี ขอให๎เกํงกวําเราเถิด ,

ขอให๎เขาเข๎าถึงวิชามากกวําเราเถิด,ขอให๎เขาเป็นวิชามากกวําเราเถิด เราปรารถนา

ถึงเขาผู๎นั้นจะเสียอะไรเทําไรไมํวําเลยขอให๎เราได๎พบคนเกํง นี่คือความปรารถนา

ของหลวงพํอ ดังนั้นขอให๎เราเรียนเรื่องราวของหลวงพํอไว๎ให๎มาก เพื่อเป็นคติ

เตือนใจแกํเรา ที่ข๎าพเจ๎านํามาเลํานี้ก็เพื่อให๎เราได๎ยินได๎ฟังอะไรที่จะเป็นประโยชน๑

ตํอผู๎มีบารมีธรรม ไมํวําอะไรอยําเพิ่งดํวนตัดสินใจต๎องใครํครวญให๎ดีกํอน ”

Page 86: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

86

แมํชีถนอมพบกายต๎นหนุํมของหลวงพํอ

กายต๎นหนุํมของหลวงพํอคือกายมนุษย๑พิเศษที่หลวงพํอพิสดารไว ๎ โดยแมํชี

อาจารย๑ถนอมทํานเป็นผู๎ไปพบเข๎าทํานไปเห็นอยูํในวํางของนิพพานนั้น จึงนํา

เรื่องมารายงานตํอหลวงพํอวัดปากน้ํา พอแมํชีอาจารย๑ถนอมเลําจบลงหลวงพํอ

ทํานดีใจมากถึงกับกลําววาจาออกมาวํา “ เออ...กายนี้หลวงพํอตามหามา 10

พรรษาแล๎วไมํพบ ” แล๎วหลวงพํอก็เดินวิชาเข๎านิพพานอาราธนากายนี้มาซ๎อนไว๎

ในกายของทําน ตํอมาทํานอาจารย๑การุณย๑ บุญมานุช มารู๎เรื่องเข๎าจึงคุยกับทําน

ถามทํานวํา “ จะให๎เรียกพระองค๑วําอยํางไร เรียกต๎นหนุํมได๎ไหม ” ทรงรับสั่ง

วํา “ ได๎ ”เวลานี้กายนี้อยูํกับศพของหลวงพํอทําน แตํยังขึ้น ๆ ลง ๆ กับกายธรรม

ด๎วยเป็นกายพระสงฆ๑ อายุประมาณ 15 เทํานั้น ยังเป็นหนุํมรุํนกระทงทีเดียว นี่

แสดงให๎เห็นวําญาณทัสสนะของแมํชีอาจารย๑ถนอม อาสไวย๑ นั้นลุํมลึกและ

กว๎างไกล ทํานประสบความสําเร็จในการทําวิชาปราบมารและเป็นอีกหนึ่งแหํง

ขุนพลแก๎วของพระมงคลเทพมุนี หลวงพํอสดวัดปากน้ํา ที่ทํานยอมรับโดยดุษฎี

วําลูกศิษย๑ของทํานคนนี้ไมํธรรมดาเลยจริง ๆ และเรื่องสุดท๎ายผมขอเลําเองบ๎าง

ครับเกี่ยวกับธรรมกายหมายเลข 1 ทํานนี้ “ แมํชีอาจารย๑ถนอม อาสไวย๑ ” เรื่อง

ของเรื่องมีอยูํวําวันหนึ่งหลวงพํอสดวัดปากน้ํา ฯ ทํานได๎ถามอาจารย๑ฉลวย

สมบัติสุขวํา “ ฉลวยรู๎ไหมพระพุทธเจ๎ากับจักรพรรดิใครมีเดชานุภาพกวํากัน ”

อาจารย๑ฉลวยตอบวํา “พระพุทธเจ๎า” จากนั้นหลวงพํอก็หันมาถามแมํชีถนอม

Page 87: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

87

อาสไวย๑วํา “ แล๎วหนอมเลําเห็นวําอยํางไร ” แมํชีอาจารย๑ถนอมตอบวํา “

จักรพรรดิซีคํะ ” หลวงพํอได๎ยินดังนั้นก็ถามย้ําเข๎าไปอีกวํา “ เอ็งวําอยํางไรไหน

ตอบให๎ชัดซิ ” “ ก็จักรพรรดิซีคํะ เวลาพระองค๑จะทําอะไรก็ต๎องยกดวง

จักรพรรดิขึ้นอาราธนา ไมํทําอยํางนี้จักรพรรดิเขาไมํทํางานให๎ ”แมํชีอาจารย๑

ถนอมทํานได๎เรียนตอบหลวงพํอสดวัดปากน้ํา ฯ ไปอยํางนี้ เรื่องนี้แมํชีอาจารย๑

ถนอมเป็นผู๎เลําให๎อาจารย๑การุณย๑ บุญมานุชฟังโดยทํานกลําววํา “ นี่ศึกษา ฯ

บัดนี้หลวงพํอของเราตายไปหลายปีแล๎ว ยังไมํมีใครชี้ขาดวําคําตอบของใครผิด

คําตอบของใครถูก” พอแมํชีอาจารย๑ถนอมเลํามาถึงตรงนี้ทําให๎ อ. การุณย๑เข๎า

นิโรธไปถามกายธรรมของหลวงพํอวํา “ หลวงพํอครับทําไมจักรพรรดิบารมี

มากกวําพระพุทธเจ๎า ” หลวงพํอตอบวํา “ มากกวําซี เพราะจักรพรรดิต๎องดูแล

พระพุทธองค๑ ” จากเรื่องนี้นี่เองทําให๎ อ. การุณย๑ ถึงกับเขียนขยายความเอาไว๎ใน

หนังสือปราบมารภาค 3 หน๎า 60 โดยทํานได๎ขยายความเอาไว๎วํา “ จากคําตอบ

ของหลวงพํอที่ตอบแบบนี้เราทราบวํา พระสมณโคดมทรงมีบารมี 4 อสงไขย

กวํา ๆ แตํจักรพรรดิที่เราถอนถอยออกมาแตํละวัน ล๎วนบารมีมาก ๆ ทั้งนั้น หาก

100 อสงไขยเป็นเกณฑ๑ต๎นยํอยต๎อง 84,000 อสงไขยจึงเป็นต๎นแท๎หรือต๎นใหญํ

อยํางนี้มีพระนามวํา “ ภาค ” ตามที่กลําวนั้นคือต๎นใหญํหรือต๎นแท๎ท้ังนั้น เห็น

ไหม...มารเอาไปได๎ท้ังนั้นนําเหงื่อแตกไหมมีใครรู๎เห็นเรื่องนี้บ๎าง ” คุณผู๎อําน

ครับ จากรเรื่องนี้ทําให๎เราทราบความจริงอยูํเรื่องหนึ่งที่ไมํอาจปฏิเสธได๎ก็คือ

ญาณทัสสนะในการหยั่งรู๎เรื่องราวตําง ๆ ของศิษย๑เอกหลวงพํอสดวัดปากน้ํา ฯ

Page 88: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

88

คือแมํชีอาจารย๑ถนอม อาสไวย๑นั้นลุํมลึกและกว๎างไกล สามารถรับใช๎งานหลวง

พํอทํานได๎เป็นอยํางดี โดยเฉพาะเรื่องจักรพรรดิและพระพุทธเจ๎าทํานก็ตอบ

คําถามหลวงพํอได๎ถูกต๎องสมกับคํากลําวชื่นชมที่หลวงพํอสดวัดปากน้ํา ฯได๎ให๎ไว๎

ครั้งหนึ่งวํา “ หนอมเอ็งนํะคุ๎มข๎าวสุกของวัดแล๎ว” ที่นี้เรามาทําความรู๎จักเกี่ยวกับ

ประวัติของธรรมกายหมายเลข ๑ ซึ่งเป็นลูกศิษย๑ของหลวงพํอสดวัดปากน้ําระดับ

แถวหน๎าอีกทํานหนึ่งคือ

อุบาสิกาทองสุก สําแดงปั้น

ข๎อมูลนี้ได๎ถูกรวบรวมและเรียบเรียงไว๎ โดยคุณพัฒนะและคุณสุนีรัตน๑มีใจความ

ดังนี้ครับวําแมํชีอาจารย๑ทองสุก สําแดงปั้น ทํานคือวิปัสสนาจารย๑ที่มีชื่อเสียง

มากทํานหนึ่ง เกิดเมื่อวันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2443 ปีชวด ท่ีบ๎านสะพาน

Page 89: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

89

เหลือง เขตบางรัก กทม. เป็นบุตรคนที่ 3 ของนายรํมและนางวัน ทํานกําพร๎า

บิดามารดาตั้งแตํเด็กจึงได๎มาอยูํในความอุปการะของคุณลุงและคุณอา ทํานได๎

สมรสกับคุณหมอชื้น สําแดงปั้น ศัลยแพทย๑โรงพยาบาลจุฬา ฯ มีบุตรด๎วยกัน 2

คน ตํอมาไมํนานคุณหมอชื้นผู๎เป็นสามีก็มาถึงแกํกรรม ทํานได๎ประกอบอาชีพ

ค๎าขายเลี้ยงบุตรสืบมา พออายุได๎ 30 ปีเริ่มศึกษาสมถวิปัสสนาแนววิชชา

ธรรมกายที่วัดปากน้ําภาษีเจริญกับหลวงพํอสดท่ีสอนเอาไว๎วํา “ ไมํวําจะยืน ,

เดิน , นั่ง , นอนอยําให๎ใจคลอนได๎ ให๎หยุดนิ่งอยูํที่ศูนย๑กลางกายโดยบริกรรม

ภาวนาวํา “ สัมมาอะระหัง ” อยูํเสมอ ” วันหนึ่งขณะที่เดินไปซื้ออาหารที่ตลาด

ประตูน้ําใกล๎วัด ใจของทํานก็ตรึกนิ่งจรดที่ศูนย๑กลางกายตามคําสอนของหลวง

พํอระหวํางที่เดินอยูํนั้นทํานก็เห็นดวงธรรม ดวงใสสะอาดอยูํที่ศูนย๑กลางกาย

มองครั้งใดก็เห็นสวํางไปหมด ทํานจึงรีบกลับวัดมากราบเรียนหลวงพํอให๎ทราบ

ทํานได๎ธรรมกายตอนอายุ 35 ปี และมีศรัทธาออกบวชเป็นชีที่วัดปากน้ํานั้นเมื่อ

อายุได๎ 40 ปี เมื่อศึกษาจนความรู๎มั่นคงแล๎ว หลวงพํอวัดปากน้ําได๎สํงทําน

ออกไปเผยแพรํวิชชาธรรมกายในหลาย ๆ พื้นที่ และได๎ประสบผลสําเร็จทุก

ประการ แมํชีอาจารย๑ทองสุกมีวิธีการสอนที่ละเอียดลออโดยเน๎นและทบทวน

ธรรมที่สอนอยูํเสมอ ไมํเห็นแกํความเหนื่อยยาก ทํานได๎ทุํมเทแรงกายแรงใจให๎

ศิษย๑ที่เข๎ารับการปฏิบัติสามารถรู๎จําได๎เข๎าใจจริง จนมีประสบการณ๑ความสําเร็จ

สมกับที่หลวงพํอไว๎วางใจให๎เป็นครูสอน อีกอยํางหนึ่งการสอนของทํานนั้นโดด

เดํนมาก เมื่อถามก็ตอบได๎อยํางสิ้นสงสัยในปัญหาที่ถามมา ที่สําคัญทํานยัง

Page 90: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

90

สามารถแนะนําแก๎ไขข๎อขัดข๎องรวมถึงอุปสรรคตําง ๆ ให๎แกํศิษย๑ด๎วยความเมตตา

หลักการที่ทํานสอนมีอยูํวํา “ อยําเกร็งตัว...อยํากดลูกนัยน๑ตา กําหนดบริกรรม

นิมิตและบริกรรมภาวนาเรื่อยไป กําหนดใจไว๎ท่ีศูนย๑กลางกาย รู๎เพียงเทํานี้กํอน

ไมํต๎องร๎อนใจ ทําใจเฉย ๆ เรื่อยๆ ตัดความอยากรู๎อยากเห็นเร็วๆนั้นเสีย ตัดความ

กังวลยังไมํเห็นก็อยําเสียใจ ขอให๎ทําให๎ถูกต๎องและมีความเพียรเถิด ธรรมะเป็น

ของจริงถึงเวลาแล๎วเห็นเอง เมื่อเห็นแล๎วก็อยําดีใจจนเกินไป เพราะจะทําให๎นิมิต

นั้นหายได๎ ” นี่คือคําสอนของทําน ที่ขณะสอนทํานจะเรียงถ๎อยคําลําดับเหตุลําดับ

ผล จัดวางความยากงํายอยํางเหมาะสมกับศิษย๑ จนเข๎าถึงแกํน และการนําเรื่อง

เปรียบเทียบท่ีให๎ความกระจํางแจ๎งแกํเนื้อหา ดังเชํนคําสอนของทํานที่วํา “ ใจของ

เราเป็นของละเอียดไมํใชํของหยาบ ถึงแม๎ใจของเราจะไมํวอกแวกไปไหนตํอไหน

แล๎วก็ตาม แตํหากจะบังคับให๎หยุดทันทีก็ยังลําบาก เราต๎องใช๎วิธีตะลํอมใจทีละ

เล็กทีละน๎อย ใจเราก็จะยอมหยุดเอง อุปมาเหมือนเราจะจับไกํเข๎าเล๎า หากใช๎วิธี

วิ่งพรวดพราดเข๎าไปจับ ไกํจะหนีไปจับตัวไว๎ไมํได๎ แตํหากใช๎วิธีคํอย ๆ ตะลํอม

เข๎าหาไกํเรียกไกํเข๎ามา ไกํนั้นจะเชื่องยอมให๎เราจับได๎โดยงําย จึงเปรียบเหมือน

เราเมื่อเพํงแรงเกินไปใจก็จะไมํยอมหยุด ถ๎าหากคํอย ๆภาวนาประคับประคอง

นิมิตให๎เห็นบ๎าง..ไมํเห็นบ๎าง ในท่ีสุดใจนั้นก็จะเชื่องหยุดในท่ีตั้งของใจคือที่

ศูนย๑กลางกายนั่นเอง ” ทํานกับแมํชีอาจารย๑เธียร ธีรสวัสดิ์ ได๎จาริกเผยแพรํ

วิชชาธรรมกายตามบัญชาของหลวงพํอวัดปากน้ําในสถานที่หลาย ๆ แหํง แตํละ

แหํงก็อยูํสอนนานบ๎างไมํนานบ๎างเชํน วัดปากน้ําบางปะกง จ. ฉะเชิงเทรา , จ.

Page 91: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

91

ชลบุรี ( บ๎านบึง , พนัสนิคม ) , พนมสารคาม , ปราจีนบุรี , ทําเรือ , ทําประชุม ,

หาดยาง , ระแหง , นครปฐม , ราชบุรี , สิงห๑บุรี , นครสวรรค๑ , พิจิตร ( ตะพาน

หิน ) , พิษณุโลก , เชียงใหมํ เป็นต๎น ทํานจึงมีลูกศิษย๑ลูกหามากมายโดยเฉพาะที่

เข๎าถึงธรรมกายก็มีเป็นจํานวนนับพันคน แมํชีอาจารย๑ทองสุกนั้นมิได๎ละหน๎าที่

ในการเป็นพระอาจารย๑ของทํานที่ได๎รับมอบหมายมาจากหลวงพํอวัดปากน้ํา

จวบวาระสุดท๎ายของชีวิตและถึงแกํกรรมด๎วยอาการสงบเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ๑

พ.ศ. 2506 เวลา 19.35 น. ในท่ีพักวัดปากน้ําทํามกลางญาติมิตรและศิษยานุศิษย๑

ทั้งหลาย สิริรวมอายุยําง 63 ปี อยูํในเพศผู๎ทรงศีลประมาณ 23 ปี

ผมมีเรื่องสนุก ๆ ที่เป็นเรื่องจริงไมํได๎อิงนิยายของอุบาสิกาทองสุก มาฝากคุณ

ผู๎อํานด๎วยนะครับ เรื่องแรกคือ “ ทํองเมืองนรก เปิดบัญชีบุญ –บาป ” เรื่องนี้

เหลําบรรดาลูกศิษย๑ลูกหาของทํานตํางซาบซึ้งกันดี และได๎เลําขานสืบตํอกันมา

จากรุํนสูํรุํน เรื่องนี้ทํานได๎บันทึกเอาไว๎ดังนี้ครับวํา “ ตั้งแตํรู๎ขําวหลวงพํอวัด

ปากน้ําภาษีเจริญทํานได๎ไปเทศน๑โปรดสัตว๑นรกและรู๎ชํองทางที่จะไปแล๎วก็เริ่มทํา

สมาธิและฝึกหัดใช๎ “ ม๎าแก๎ว ”ให๎คลํองแคลํวอยูํทุกวัน รอโอกาสที่จะหนีหลวง

พํอไปนรกบ๎าง วันหนึ่งสบโอกาสเหมาะหลวงพํอไมํอยูํเพราะทํานถูกนิมนต๑เข๎า

กรุงเทพ ฯ เลยสั่งเพื่อนในห๎องฝึกหัดกรรมฐานวํา “ อยําให๎ใครมายุํงกับรํางของ

ฉันนะ ”แล๎วก็เข๎าที่ทํา สัมมาอะระหัง เดินฌานจนดิ่งเงียบสงบดีแล๎วจึงได๎

อธิษฐานขอไปเที่ยวเมืองนรก แล๎วก็ขึ้นขี่ม๎าแก๎วห๎อออกไปจากวัด พริบตาเดียว

Page 92: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

92

เทํานั้นถึงเมืองนรกนี้ไมํไกลเลย รูปรํางของเมืองมองเห็นกําแพงแตํไกล เป็น

กําแพงเกํา ๆ มีคนเฝ้าอยูํ แตํม๎าแก๎วห๎อเร็วเหลือเกิน พอคนอ๎าปากถามเทํานั้นยัง

ไมํทันตอบวํากระไร ม๎าแก๎วก็กระโดดพรึบไปแล๎ว ภายในกําแพงมองเห็น

บ๎านเรือน 2 – 3 หลัง แตํเป็นหลังใหญํ ๆ ในนั้นมีผู๎คนทั้งชายและหญิงรูปรําง

หน๎าตาเหมือนมนุษย๑เราดี ๆ นี่เอง แตํไมํมีเสื้อผ๎าสักชิ้นหนึ่งติดตัว เลยบํนกับม๎า

แก๎วดัง ๆ วํา “ พวกนี้บัดสีจริง ๆ ดูสิเดินแก๎ผ๎าลํอนจ๎อนไมํอับอายใครบ๎างเลย

แนํะ ! วําแล๎วยังหันมามองทําตาโตอยูํอีกไมํรู๎จักอายจริง ๆ เห็นไหมมันวิ่งมากัน

ใหญํแล๎ว ” ม๎าแก๎วร๎องวํา “ หนีเถอะ ๆ ” “ ไปหนีทําไม ” “ ประเดี๋ยวมันจะ

จับเราแก๎ผ๎าบ๎างนะแมํชีอาจารย๑ บอกไมํเชื่อหนีเถอะนํา ” ม๎าแก๎วร๎องเตือน

พอดีพวกในเมืองนรกก็วิ่งกรูกันเข๎ามาจวนจะถึง ตํางคนเข๎าล๎อมหน๎าล๎อมหลัง

อีก 4 – 5 คน เข๎าจับม๎าแก๎วไว๎ สํวนท่ีเหลืออีก 5 คน ฉุดกระชากลากแขนให๎ลง

จากหลังม๎า เราก็ไมํยอมลง พวกเขาก็พากันออกแรงอุ๎มให๎ลง นึกโมโหขึ้นมากะ

จะใช๎จักรแก๎วขว๎างมัน ๆ ก็จับมือเอาไว๎ ม๎าก็ดิ้นทั้งเตะทั้งโขกจึงสู๎พวกเมืองนรก

ไมํไหว เขาพากันฉุดลากผํานไปตามบ๎านเกํา ๆ โกโรโกโสเหมือนกระทํอมจวนจะ

พังหลายหลัง ก็แอบมองเข๎าไปในกระทํอมเหลํานั้นบางแหํงก็แลเห็นผู๎หญิง

เปลือยกายอยูํกับสุนัขตัวผู๎ บางแหํงก็แลเห็นคนผู๎ชายเปลือยกายอยูํกับสุนัขพันธุ๑

ใหญํตัวเมีย ในสภาพที่นอนอยูํในท่ีเดียวกันเหมือนสามีภรรยา และบางแหํงก็

แลเห็นคนอยูํกับหมู , ม๎า , แพะ , แกะ , โค , กระบือ มองเห็นแล๎วก็ให๎นึกแปลกใจ

และตกใจไปด๎วยจึงถามพวกนรกที่ฉุดไปวํา “ ทําไมพวกนั้นจึงอยูํกับหมาเหมือน

Page 93: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

93

เป็นครอบครัวเดียวกัน ” สัตว๑นรกตอบวํา “ มันชอบของมันอยํางนั้นก็ต๎อง

ตามใจมัน ” เลยถามตํอไปอีกวํา “ แล๎วนี่พวกแกจะจับกุมฉันไปไหน ” เขาตอบ

วํา “ นายสั่งให๎จับไปให๎นาย ” จึงออกอุบายวํา “ ไมํต๎องจับมือถือแขนดอก

ปลํอยเถอะฉันเดินไปเอง ฉันนึกออกแล๎วนายของพวกเธอชื่อ ยมบาล เป็นเพื่อน

สนิทกับหลวงพํอฉันเอง ฉันตั้งใจมาเยี่ยม..ปลํอยฉันเถอะ” พวกสัตว๑นรกยอม

ฟังแล๎วก็ปลํอยมือจึงได๎เดินตามไปตรงเรือนหลังใหญํทําทางโอํโถงกวําทุก ๆ แหํง

ที่ผํานมา มองเห็นทหารถือขวานเลํมใหญํเทําหมอนอิง ยืนทําทางขึงขังอยูํหน๎า 2

คน ข๎างในมีโต๏ะตัวใหญํมีคนนั่งอยูํ 3 คน คนกลางอายุประมาณ 50เศษ ๆ หวีผม

ตั้ง อ๎วนล่ํา ตัวใหญํโต ผิวดําเป็นประกาย หน๎าผากกว๎าง จมูกแบนใหญํไมํสวม

เสื้อ แตํนุํงผ๎าอยํางดี คนนั่งข๎างขวากําลังเปิดบัญชีเลํมใหญํได๎ยินเสียงบอกวันเกิด

วันตายของผู๎ที่ถูกจับมา เขาตะโกนบอกดัง ๆ พอได๎ยินแล๎วก็อยากรู๎เรื่องของพวก

นั้นจึงได๎กลําวไปวํา “ ยมบาลไมํวํางฉันจะนั่งข๎าง ๆ ศาลนี่แหละ ไว๎ทํานวํางแล๎ว

ฉันจึงจะเข๎าไปหา พวกแกไปทําอะไรกํอนก็ไปเถอะฉันไมํหนีหรอก เพราะฉัน

ไมํได๎ถูกจับเข๎ามา” พวกนั้นก็เชื่อจึงปลํอยมือ ก็เลยเข๎าไปนั่งแอบข๎างประตูเพื่อ

จะดูวําเหตุการณ๑ตํอไปจะเป็นอยํางไร สักครูํหนึ่งก็เห็นพวกทหารผีจับผู๎ชายคน

หนึ่งไปมัดมือด๎วยโซ.ํ..ที่คอก็มีโซํเส๎นใหญํสวมอยูํเขาถูกครึ่งลากครึ่งจูงเข๎ามาที่

หน๎าบัลลังก๑ เสมียนคนนั่งทางขวามือถามชื่อและวันเกิดแล๎วถามยมบาลวําใชํตัว

จริงไหม ยมบาลพยักหน๎า เสมียนที่นั่งทางซ๎ายมือก็ถามขึ้นวํา “ แกประพฤติตัว

เลวทรามมาก ขํมขืนผู๎หญิงใชํไหม ” นักโทษตอบวํา “ เปลํา ” ในทันใดนั้นเองก็มี

Page 94: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

94

ผู๎หญิงสาว 2 คน วิ่งมาจากห๎องทางด๎านหลัง มาชี้หน๎าผู๎ชายที่ถูกจับมาแล๎วร๎องวํา

“ แกโกหก.....ตํอหน๎ายมบาลแกยังกล๎าโกหกอีกหรือ ” แล๎วผู๎หญิงคนนั้นก็หันมา

ฟ้องยมบาลวํา “ ทํานเจ๎าคะไอ๎คนนี้แหละที่บังคับหนูกินยาเม็ดไป 4 – 5 เม็ด แล๎ว

บังคับหนูนอน อีกทั้งยังทําร๎ายหนูอีกเจ๎าคํะ ” แล๎วผู๎หญิงคนนั้นก็ร๎องไห๎รําพัน

วํา “โธํ...หนูอุตสําห๑ยอมลําบากมา ทนเป็นลูกจ๎างมันเพื่อจะเอาเงินไปให๎แมํซื้อยา

รักษาตัวมันยังทําหนูได๎ ” พอชายคนนั้นจะเถียงอีกเขาก็สะดุ๎งขึ้นจนสุดตัว

เหมือนถูกทําร๎ายจนร๎องโอ๏ยเสียงดังลั่น และในทันใดนั้นปากของเขาก็ฉีกออกไป

ลักษณะของแผลเหมือนถูกเสือตะปบ เลือดออกทํวมปากทันที เสียงเขาร๎อง

ครวญครางอยํางเจ็บปวดแล๎วกลําววํา “ ผมทําผิดไปแล๎วขอโทษด๎วย ๆ ” ยมบาล

ร๎องสั่งทันทีวํา “เอาไปเอามันไปปากแข็งนักทําผิดแล๎วยังไมํยอมรับ กลางวันให๎

เอาหอกแทงปากทะลุถึงท๎อง กลางคืนให๎นอนกับหมาป่า ” แล๎วยมบาลก็หันมา

พูดกับหญิงสาวอยํางมีเมตตาวํา “ เจ๎าเป็นคนดี มีความกตัญ๒ูตํอพํอแมํ แตํมี

กรรมเกํามาตามทัน จึงต๎องมาเสียชีวิตกํอนอายุขัย เราจะให๎เจ๎าไปพักที่ปราสาท

กํอน รอกําหนดท่ีจะจุติไปชั้นดาวดึงส๑ไปเถิดไปสูํท่ีเป็นสุข ” พอยมบาลให๎พร

เสร็จเทํานั้นแทบไมํนําเชื่อต๎องกระพริบตาดูใหมํอีกทีวําจะใชํผู๎หญิงคนนั้นหรือไมํ

เพราะรูปรํางหน๎าตาก็คล๎าย ๆ กันกับคนเกํา แตํทุกอยํางสวยขึ้นละเอียดขึ้น

เสื้อผ๎าหยาบ ๆ ที่ผู๎หญิงคนนั้นสวมมาแตํแรกก็กลับเป็นใหมํและสวยงามขึ้นหลาย

สิบเทํา แตํการตัดเย็บเป็นแบบเกําเทํานั้นเอง แลดูสวยงามขึ้นมาก แล๎วก็มีผู๎หญิง

สวย ๆ มาต๎อนรับเชื้อเชิญให๎ไปอยูํด๎วยกัน พอเขาไปกันแล๎วก็นึกในใจวํา ไปเป็น

Page 95: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

95

สุข ๆ เถอะแมํคุณ คนมีคนกตัญ๒ูเลี้ยงพํอแมํ รักษาพํอแมํ ตายแล๎วจะได๎ไปเกิด

เป็นนางฟ้า จะให๎เขาเขียนลงหนังสือด๎วย คนอื่น ๆ จะได๎รู๎เรื่องนี้โดยท่ัวกันจะได๎

ทําความดีตํอพํอแมํด๎วย สักประเดี๋ยวหนึ่งก็มีทหารของยมบาล 4 คน ฉุดกระชาก

ลากชายหนุํมหญิงสาวคูํหนึ่งเข๎ามา เสมียนก็บอกความผิดวํา คนทั้งสองนี้หนีพํอ

แมํไปทําความผิดด๎วยกัน พํอแมํวํากลําวก็เลยกินยาตายทั้งคูํ เสียงยมบาลถามวํา

“ ทําไมจึงกินยาฆําตัวตายพร๎อมกัน ” เขาตอบวํา “ เรารักกันมากครับ พํอแมํไมํ

ยอมเราจึงกินยาฆําตัวตายพร๎อมกันคิดวําจะได๎มาอยูํด๎วยกันในเมืองนี้ ” “ สัตว๑ผู๎

โงํเขลา” ยมบาลดุเสียงดังแล๎วกลําวตํอไปอีกวํา “ เจ๎าคิดวําเจ๎าทําความชั่วจะได๎มา

อยูํด๎วยกันอยํางสบายในเมืองเรา เจ๎าเป็นคนไมํมีความกตัญ๒ู ทําให๎พํอแมํทุกข๑

โศก บาปของเจ๎าไมํเสมอกันเจ๎าจะอยูํภูมิเดียวกันอยํางไรได๎ ” ยมบาลวําแล๎วก็

หันไปถามเสมียนวํา “ บาปของมันตํางกันอยํางไรบ๎าง ” เสมียนก๎มหน๎าลงอําน

ในสมุดเลํมใหญํแล๎วบอกวํา “ คนผู๎ชายนั้นขโมยเงินพํอแมํและสูบยาเสพติดด๎วย

ไมํเคยทําบุญทําทานเลย สํวนผู๎หญิงนั้นเวลาแมํวําก็ดําแมํและกระทืบเท๎า ไมํ

คํอยทําบุญ แมํเรียกให๎ลุกขึ้นหุงข๎าวใสํบาตรก็ไมํยอมทําให๎ แตํเคยชํวยคนแกํที่

เป็นลมโดยให๎ยาและพาสํงให๎หมอรักษาจนหาย ” ยมบาลสั่งเสียงดังวํา “ แยกมัน

ไปคนละขุม ” พวกทหารก็ตรงเข๎ากระชากมือออกจากกันแล๎วลากไปโดยเร็ว

เสียงคนทั้งสองร๎องเรียกหากันอยํางโหยหวน พอยมบาลลุกขึ้นจะกลับเข๎าข๎างใน

ก็สั่งทหารที่เฝ้าหน๎าศาลวํา “ ลูกศิษย๑หลวงพํอวัดปากน้ําภาษีเจริญมาแอบดูอยูํคน

หนึ่งจงอนุญาตให๎แกดู เพื่อจําไปบอกเลําแกํชาวมนุษย๑จะได๎ไมํกล๎าทําบาปหยาบ

Page 96: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

96

ช๎า นรกกี่ขุม ๆ ก็เต็มล๎นหมดแล๎ว เพราะคนใจบาปมากเหลือเกิน ” สั่งแล๎วก็เข๎า

ไป ทหารก็ให๎ผู๎หญิงคนหนึ่งทําทางจัดจ๎านเหมือนเป็นเจ๎าหน๎าท่ีในเมืองนรกมา

พาไปแล๎วบอกวํา “ ไปเที่ยวดูขุมตํางๆ กันเถิด” เราอยากดูอยูํแล๎วก็รีบลุกขึ้นตาม

เขาไปอยํางวํางําย เขาพาเดินมาถึงห๎องขังที่มีคนอยูํกับหมาจึงถามเขาวํา “ ทําไม

จึงเอาคนไปไว๎กับหมา ” เขาตอบวํา “ คนเหลํานี้มีโทษในเรื่องขืนใจหมา คือหมา

บางตัวก็มีจิตใจดี ซื่อตรงตํอสามีหรือภรรยาของมัน แตํคนต๎องการอยากจะได๎ลูก

ไว๎ขายก็บังคับหรือลํอให๎มันกินยาเพิ่มความกําหนัด แล๎วบังคับให๎มันผสมพันธุ๑

กับตัวอื่น ๆ ที่มันไมํรัก ทําให๎มันได๎รับความเจ็บปวด ครั้นเวลามันตายมันก็มา

ฟ้อง จึงต๎องจับขังไว๎กับหมา หมามันจะกัดทุกวันและทุกเวลาที่จะนอนหลับ ”

ฟังแล๎วก็ตกใจ มองไปก็แลเห็นคนที่ถูกจับขังอยูํกับหมานั้นต๎องเที่ยวหลบเขี้ยว

หมาอยูํอยํางวุํนวาย เพราะหมาตัวใหญํเกือบเทําลูกม๎าและดุร๎ายมาก มันจะกัด

ตามใบหน๎าและลําคอ เห็นแล๎วมีความกลัวจึงถามวํา “ หมาตัวนี้หรือที่ถูกขํมเหง

” ผู๎หญิงผู๎คุมตอบวํา “ ไมํใชํ...นี่เป็นหมาของยมบาลมีไว๎สําหรับลงโทษผู๎กระทํา

ผิด ไมํใชํหมาคูํเวรคูํกรรม ” ฟังแล๎วก็นึกในใจวํา “เมื่อเขาพามาถึงกรงขังเห็นคน

อยูํกับหมาบ๎าง , แพะบ๎าง สัตว๑ตํางๆ บ๎าง ถ๎าจะมีกรรมเพราะขืนใจมันก็เป็นอาชีพ

ที่ทุจริตเหมือนกัน แล๎วก็เดินตามเจ๎าหน๎าที่ตํอไป พอถึงทางเลี้ยวจะออกไปทาง

เกําก็ปะทะเข๎ากับคนกลุํมใหญํจนตกตลึง มองดูคนกลุํมนั้นเห็นหัวแตกก็มี , แขน

หัก , ขาหัก , อกทะลุ , ไม๎ปักอกก็มี อีกคนหนึ่งมีอะไรวงกลม ๆ ทับอยูํเห็น

กระแทกติดอยูํที่หน๎าอก เลือดโชกไปหมดท้ังตัว เสียงเจ๎าหน๎าที่ถามวํา “ อะไร

Page 97: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

97

กันทําไมจับมาพร๎อมกันมากมาย ” เสียงทหารผีตอบวํา “ มันไปเที่ยว

สํามะเลเทเมา รถคว่ําตายเลยจับมาเป็นหมูํใหญํ” เสียงผู๎คุมหญิงพูดวํา “ ดี

เหมือนกันไมํต๎องจับทีละคน ” เมื่อพวกทหารผีของยมบาลจับพวกรถคว่ํามา

มากมายแล๎วแตํละคนก็หัวแตก , แขนหัก , อกทะลุ ร๎องโอดโอยโวยวายจนเรา

รู๎สึกตกใจกลัว จึงบอกเจ๎าหน๎าที่ผู๎หญิงซึ่งยมบาลสั่งให๎พาเที่ยวดูสัตว๑นรกนั้นวํา “

แหม..นํากลัวจริง ๆ ตายเป็นหมูํ ๆ อยํางนี้เขามีบาปหนักอะไรบ๎าง ” เจ๎าหน๎าที่

ผู๎หญิงคนนั้นเขาก็ตอบวํา “ เดินเลี้ยวไปทางซ๎ายมือเดี๋ยวก็รู๎ เพราะเมืองนี้เป็น

วงกลมเดินอ๎อมไปประเดี๋ยวก็พบศาลตัดสินผู๎ที่ถูกจับมาใหมํเหมือนที่แมํชีเข๎ามา

” เจ๎าหน๎าที่พาเดินผํานไปหลายแหํง พอมาถึงหน๎าศาลก็หยุดมองไปในศาล แล

เห็นทุกสิ่งทุกอยํางเปลี่ยนแปลงไปหมด บัลลังก๑ก็สวยงามใหญํโตเป็นสงํา เสมียน

ซ๎ายขวาแตํงตัวเหมือนข๎าราชการนายทหารผู๎ใหญํ นั่งวางทําสงําหนวดโง๎ง ทหาร

รักษาประตูมีเป็นกองร๎อยล๎วนเข็มแข็งในมือถืออาวุธ ยมบาลแตํงตัวเหมือนพระ

เจ๎าแผํนดินสวยงามมากแลดูสงํานําเกรงขาม ทุกสิ่งทุกอยํางเปลี่ยนแปลงไปหมด

จึงถามเจ๎าหน๎าที่วํา “ นี่เป็นศาลใหมํหรือ ” เขาตอบวํา “ เป็นศาลเกํา แตํวันนี้สัตว๑

ผู๎ถูกจับมาใหมํคงจะเป็นเจ๎านายใหญํโตทางเมืองมนุษย๑ ยมบาลจึงเนรมิตทุกสิ่ง

ทุกอยํางในศาลให๎ดูนําสะพรึงกลัว ใหญํโตเต็มไปด๎วยอํานาจราชศักดิ์และเกียรติ

ศักดิ์ เพื่อให๎ผู๎ถูกจับมาจะได๎เกรงขาม ยมบาลทํานแปลงกายเพื่อให๎เข๎ากับ

ธรรมชาติก็ได๎ ให๎แปลกประหลาดพิสดารก็ได๎ ถ๎าจับคนใจร๎ายดุดันเป็นจอมโจร

มาทํานก็แปลงกายทําหน๎าตาเป็นคนดุร๎ายเหมือนยักษ๑วางอํานาจตวาดและกระทืบ

Page 98: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

98

บาทดังสนั่นหวั่นไหวให๎ดูนํากลัวยิ่งกวําจอมโจรนั้น ๆ หลายพันเทํา ” ทั้งนี้เพื่อ

เป็นการปราบพยศสัตว๑ตําง ๆ เสียแตํแรก มนุษย๑ทุกคนเมื่อไปสูํเมืองยมบาลแล๎ว

แม๎จะเคยใหญํโตมาแคํไหนก็ตาม ยมบาลหรือเจ๎าหน๎าที่ในเมืองนั้นก็เรียกวํา “

สัตว๑นรก ” ทั้งนั้น และการลงโทษก็ไมํเห็นแกํหน๎ากันถึงเป็นญาติกันมากํอนก็ไมํ

ผํอนผัน ทุกคนต๎องได๎รับโทษไปตามกรรมที่ได๎ทํามาเมื่อครั้งที่ยังเป็นมนุษย๑ ”

ฟังเจ๎าหน๎าที่เขาอธิบายแล๎วจึงวํา “ เธอจะไปไหนก็ไปเถิด ฉันจะดูยมบาลทําน

ตัดสินพวกรถคว่ํากํอนถึงจะกลับ ” แล๎วก็คํอย ๆ เดินกลับไปนั่งที่เกํา สักครูํหนึ่ง

ก็เลยเห็นยมทูตพาพวกที่ตายเพราะรถคว่ําเข๎ามาเป็นแถว เสมียนซ๎ายขวาก็เปิด

บัญชีถามชื่อและสถานที่อยูํ เพื่อตรวจสอบดูวําจะใชํตัวคนที่หมดอายุขัยจริง

หรือไมํ คนแรกมีไม๎กลม ๆ ดูตั้งนานจึงรู๎วําเป็นพวงมาลัยอัดแนํนติดกับหน๎าอก

เลือดหยดมาเป็นทาง ยมบาลสอบถามได๎วํา เขาเป็นคนมียศใหญํในเมืองมนุษย๑

ขับรถสํวนตัวพาเพื่อน ๆ ไปหานางโลม และกินเหล๎าเมาจึงขับรถชนคนอื่น ตัว

เขาเองถูกพวงมาลัยกระแทกเข๎ากับอกจึงตาย เสมียนเปิดบัญชีแล๎วกลําววํา “

อาชีพของเขารับราชการ ก็ไมํสุจริตมีการโกงกินกับพํอค๎า คือค๎าอาวุธ

ประหัตประหาร แอบขายปืนเถื่อนทําให๎ผู๎ร๎ายชุกชุม ตัวเขาเองเคยสั่งลูกน๎องให๎

แอบฆําคนแล๎วยังไมํได๎รับโทษทางเมืองมนุษย๑เลย ” ยมบาลทรงพิโรธตวาดวํา

“เจ๎าสัตว๑ผู๎มัวเมา เจ๎ากระทําความผิดอยํางมากมาย เจ๎าจะแก๎ตัววําอยํางไร ข๎า

เห็นเจ๎าอ๎าปากอยูํตลอด ” ชายคนนั้นตอบวํา “ ผมไมํได๎ทําผิด ถ๎าทําผิดจริงศาล

ทางเมืองมนุษย๑เขาก็ตัดสินลงโทษไปแล๎ว ” เสมียนตอบวํา “ แกต๎องมีความผิด

Page 99: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

99

แนํ เพราะผู๎ตรวจสอบความประพฤติของมนุษย๑มารายงานทุกครั้ง ” แตํชายผู๎นั้น

ก็ยังปฏิเสธอยูํนั่นเอง เสมียนจึงสั่งให๎เจ๎าหน๎าที่อีกพวกหนึ่งไปตามโจทก๑มา คราว

นี้มีคนมากลุํมใหญํและมีผู๎หญิงชี้หน๎าวํา ชายผู๎นั้นลํอลวงมาวําจะให๎ทํางานมี

เงินเดือนใช๎ ผลสุดท๎ายก็ทําลายความบริสุทธิ์ แคํนี้ยังไมํพอยังสั่งลูกน๎องให๎นําตัว

ไปขายตํอที่ซํองเพื่อหาเงินตํอไป อีกคนหนึ่งเป็นผู๎หญิงสวยมากเข๎ามายืนยันวํา

ชายผู๎นั้นหลอกลวงวํา จะเอาไปให๎เจ๎านายแตํแล๎วก็ทําลายเสียกํอนจะนําไปสํงให๎

ได๎รับความทารุณจนต๎องกินยาตาย พวกผู๎ชายก็มายืนยันวํา ชายคนนี้มีการค๎า

ของผิดกฎหมายและแอบฆําเขาเพื่อเป็นการปิดปาก เมื่อมีโจทก๑มายืนยันมากมาย

แบบนี้ ชายคนนั้นก็เถียงไมํออก ยมบาลจึงให๎ไปลงขุมซึ่งมีไฟนรกไหม๎อยูํตลอด

วันตลอดคืน ”

คุณผู๎อํานครับยังมีคําสอนของอุบาสิกาทองสุก สําแดงปั้น อีกเรื่องหนึ่งครับที่

นับวําทรงคุณคําและนําสนใจเป็นอยํางมากคือเรื่อง“ ตาบอดคลําช๎าง ” เรามารํวม

เรียนรู๎คําสอนของทํานไปด๎วยกันนะครับ เรื่องตาบอดคลําช๎างนี้ทํานได๎กลําวสอน

เอาไว๎วํา ” เรื่องนี้อยากให๎นําไปพิจารณาจนถึงขั้นเป็นมหาพิจารณาวําจงอยําทํา

ตนเป็นตาบอดคลําช๎าง เราต๎องฝึกปฏิบัติถึงขั้นดูกามภพ , รูปภพให๎ชัดเจนจนได๎

เรามองดูได๎ชัดดีแล๎วเราก็หัดพูดกับพระพุทธเจ๎าให๎คลํองแคลํวเชียว แรก ๆ ก็ยัง

จะพูดกับพระองค๑ทํานได๎ไมํคํอยถนัดนักเหมือนเด็กไร๎เดียงสารู๎เรื่องบ๎างไมํรู๎เรื่อง

บ๎าง หัดอยูํอยํางนั้นทุกวันและเดินฌานสมาบัติให๎ได๎ตลอด เมื่อเข๎านิโรธได๎แล๎ว

Page 100: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

100

เราก็หัดพูดกับพระพุทธองค๑ทุกวันจนกวําเราจะรู๎เรื่อง หูทิพย๑ของเราก็จะได๎ยิน

ถนัดชัดเจนยิ่งขึ้น ให๎ใช๎การหยุดตรึกนิโรธ หยุดนิ่งให๎หนักเข๎าขึ้นบนพระ

นิพพานไปหัดทําวิชาบนนั้น ฝึกสนทนากับพระพุทธเจ๎าจนคลํองแล๎วก็ลองหัด

ไปพูดกับผีกับเปรตดูบ๎าง ฝึกพูดให๎รู๎เรื่องรู๎ภาษาของเขาให๎หมด ไมํเว๎นแม๎กระทั่ง

กับมดกับปลวกหรือแม๎แตํนกที่บินอยูํในอากาศ เราต๎องหัดให๎รู๎จักภาษาสัตว๑ให๎ได๎

โดยการตรัสรู๎ สมมุติวําเราไปเจอสัตว๑สักฝูงหนึ่ง สัตว๑ตัวนั้นมีบารมีเทําใดถึง

มาเกิดใช๎กรรมอยํางนี้เป็นโพธิสัตว๑หรือไมํใชํโพธิสัตว๑ จะเป็นเทพบุตรเทพยาดา

ชั้นไหนลงมาใช๎ชาติให๎เรารู๎ ตรัสรู๎ , ผุดในรู๎ , บอกให๎เรารู๎เรื่องหมด หรือเราจะ

เจอคนสัก 100 คน เดินมาต๎องใช๎วิชาดูออกวํา คนนั้นเมื่อตายไปแล๎วจะต๎องไปตก

นรกอยูํชั้นไหน หรือไปอยูํสวรรค๑ชั้นไหนให๎รู๎ให๎หมดเชียว เพื่อเราจะได๎ดูได๎งําย

ต๎องใช๎การดูด๎วยญาณนั่ง , นอน , ยืน , เดิน, ตรึกไว๎ทุกอิริยาบถ คนบาปนํะจะมี

หํวงคอติดอยูํที่กายเนื้อ คนบาปมากทําความชั่วมามากหํวงมันก็ติด แตํตาเนื้อ

มองไมํเห็นเขาเรียกลักษณะนี้วํา “ ตาบอดคลําช๎าง ” มันไมํเห็นนะ แตํมันอยูํใน

โลกมันโตเต็มเมือง มันมาเกิดในโลกมันก็โตเต็มเมือง มันทําความชั่วครั้งหนึ่งก็

เทํากับมันลงโทษมันเอง ทุกคนเหมือนกันหมดไมํวําใครทั้งนั้น เราไมํรู๎หรอกวํา

ความชั่วของเรามีมากน๎อยเทําใด แตํวําไอ๎หํวงคอมันมีติดอยูํในตัวเรา เราเห็นมัน

ลาง ๆ เราก็รู๎แล๎ววําอ๎ายคนนั้นทําความชั่วมามาก หํวงคอมันใหญํนักมันเป็นเหล็ก

เครื่องหมายมันมีอยูํอยํางนี้ ไอ๎พวกนี้จะตายตอนเวทนามันเกิด เวลาเขามาเก็บ

วิญญาณจะใช๎วิธีฉุดกระชากลากเอาไปไมํปราณีปราศัย คนท่ีมาเด็ดเอาวิญญาณ

Page 101: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

101

นั้นเขาจะเฆี่ยนตีไปตลอดทาง เรื่องนี้เราต๎องดูต๎องให๎เห็นชัดเจนเลยสําหรับพวก

บาปที่ได๎รับกรรม สํวนพวกบุญลํะเป็นอยํางไร พวกนี้จะมีราชรถมารับจาก

วิมานของเขาเองมาลอยคอยทําอยูํ คนพูดนี่ ( หมายถึงแมํชีอาจารย๑ทองสุก ) ได๎

ตรวจสอบเสร็จเป็นอยํางดีแล๎วถึงกล๎าพูดอยํางเต็มปากวํา เวลาเจ๎าของได๎ละจาก

โลกมนุษย๑ไปแล๎วราชรถก็จะมาคอยรับอยํางแนํนอน แม๎เวลาตายไปจิตออกจาก

รํางแตํของหยาบที่เป็นผ๎าจะหลุดจะลุํยอยํางไรก็ชํางมันก็ไมํเกี่ยวกัน ราชรถเขา

สวยงามก็นั่งไปจนเทียบวิมานของตัวจึงก๎าวลงจากรถ แล๎วขึ้นไปเหยียบท่ีวิมาน

นั้นทันที แตํเนื่องจากวํายังติดนิสัยในความเป็นมนุษย๑อยูํจิตยังไมํขาดจากโลกมัน

ยังเกาะอยูํในโลก ( เกาะผัว , เกาะเมีย , เกาะพํอ-เกาะแมํ , เกาะสมบัติ , เกาะลูก ,

เกาะหลาน ) อยูํ ทุกคนจะเป็นเหมือนกันหมด ไอ๎จิตนี้ตัวดีมันชอบเกาะทําให๎นึก

ถึงบุญบ๎าง , บาปบ๎างไปตามหน๎าท่ีของมัน จุดนี้นี่เองในชํวงที่นั่งราชรถอยูํจึงไมํ

รู๎วําเขาจะพาไปไหน และวิมานที่เห็นเป็นของใคร แตํที่แท๎เป็นของตัว วิมานนี้

สวยนักมีหน๎ามุข 4 ทิศเหมือนกันหมด อาณาเขตสวรรค๑นั้นก็กว๎างขวางพออยูํ

ถ๎าบุญมากก็มีบริวารแหํล๎อมรอบมาก มีเครื่องดนตรีดีด , สี , ตี , เป่า ครบครัน

ถ๎าใครมีบุญมากสมบัติและบริวารก็มาก มีเครื่องประดับประดาวิมานได๎สวยงาม

ปราณีตวิจิตรพิสดาร มนุษย๑ชั้นเลิศแคํไหนก็ตาม หากไปเปรียบเทียบกับชาว

สวรรค๑ชั้นต่ําสุด ก็ยังหํางไกลกันมากเทียบกันไมํได๎ ชาวสวรรค๑ดีกวํามนุษย๑

มากมายกํายกองนัก ผู๎ที่ตายจากโลกไปแล๎วและเพิ่งมาอุบัติขึ้นในเทวโลกใหมํ ๆ

จิตมันยังไมํคุ๎นยังไมํขาดจากจุดท่ีจากมา แตํวําบุญที่ทําไว๎ไมํวําจะเป็นสิ่งของ

Page 102: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

102

เครื่องใช๎อะไรก็ตามที่เป็นของหยาบ ถ๎าหากทําประณีตมันก็ขึ้นไปประณีตอยูํบน

สวรรค๑ด๎วย หากมีลูกหลานทําบุญอุทิศสํวนกุศลไปให๎ก็รับรู๎ได๎และอนุโมทนาอวย

พรกลับมาให๎เชํนกัน เพราะได๎รับสํวนบุญเร็วที่สุด สํวนลูกหลานไมํรู๎หรอกเป็น

ตาบอดคลําช๎างไปเสียแล๎ว พอครบ 7 วัน ก็ลืมเรื่องราวทางโลกจนสิ้นจิตตัดขาด

กับเรื่องราวหนกํอน บันเทิงอยูํในโลกทิพย๑สถานเดียว จิตลืมโลกขาดจากโลกไป

หมดสิ้น แตํบางที่จิตก็ตวัดนึกขึ้นได๎วําลูกหลานทําบุญอุทิศมาให๎เขาก็ให๎ศีลให๎พร

กลับมา แตํพวกเปรตอสูรกายนี่สิเห็นลูกหลานทําบุญก็เฮโลพากันมารอรับสํวน

กุศลจนล๎นวัดไปหมดด๎วยความหิวโหย มารวมกลุํมกันชะเง๎อคอยลูกหลานพี่น๎อง

วงศ๑ตระกูลของตนวําจะกรวดน้ําอุทิศให๎บ๎างหรือไมํหากเปรตอสูรกายตนใดได๎รับ

สํวนกุศลนั้นมันก็ดีอกดีใจทีเดียวท่ีได๎กินอิ่มสํวนพวกไหนที่ไมํได๎มันก็บํนโวยวาย

แถมสาปแชํงลูกหลานสํงไปอีก เพราะโกรธแค๎นที่ไมํทําบุญให๎มัน เดินกลับไปด๎วย

ความหิวโหยทุกข๑ทรมานตามเดิม เวลามีงานที่วัดหรือตอนพระสวดมนต๑ต๎องเดิน

วิชาตรวจสอบให๎หมด ให๎รู๎ความเป็นไปของพวกปีศาจพวกเปรตเหลํานี้อยําง

ละเอียด แม๎แตํเรื่องใสํบาตรทําบุญตอนเช๎าหรือใครเขาสวดมนต๑ไหว๎พระแล๎วเป็น

อยํางไรก็ต๎องไปดูไปรู๎ไปเห็นให๎ชัดแจ๎งวําได๎บุญแคํไหน หากถึงธรรมกายแล๎วจะ

เห็นเลยวําในงานวัดเจ๎าพวกผีเปรตทั้งหลายมันก็มากันนะ ยืนชะเง๎อรอบศาลา

เชียว บางตัวก็ขึ้นไปดูในงานบ๎าง คนมองไมํเห็นก็เดินไปเหยียบโดนมือโดนเท๎า

ของมันเข๎า มันก็ดุเอา แตํเราไมํรู๎เทํานั้นเอง แตํแปลกตรงที่วํามันก็เจ็บเป็น

เหมือนกัน เพราะเราเป็นไอ๎บอดคลําช๎างมันมองไมํเห็น พอพระทํานสวดมนต๑

Page 103: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

103

เสร็จ มันก็รับอนุโมทนาพร๎อมกันเชียว ชํวงพระทํานวางตาลปัตรมันก็ไป

เหมือนกันมันไปดูละคร เดินเที่ยวงานรํวมกันกับคน นี่ผู๎พูด ( หมายถึงแมํชี

อาจารย๑ทองสุก) ได๎สอบได๎ดูมันมาเหมือนกัน อยากจะเลําตํอวําพอพระคว๎า

ตาลปัตรจะสวดมนต๑มันก็ชวนกันอีกแล๎วมันบอกวํา มาเถอะพระจะสวดมนต๑แล๎ว

เราจะได๎รับสํวนกุศลกัน สักพักก็มาออกันอยูํเพื่อหวังจะได๎กุศลผลบุญจากตรง

จุดนี้ สํวนพวกเปรตหรือปีศาจในพื้นมนุษย๑แตํละตัวล๎วนอดอยากเหลือเกิน หมา

เนําตายลอยน้ํามามันก็ลากเอามากิน อะไรตายที่ไหนมันเอามากินทั้งนั้น แล๎วมัน

ยังเคยเรียกผู๎พูดไปกินหมาเนํากับมันด๎วยมันเห็นเรานะเสลดน้ําลาย , ขี้หมู ,ขี้

หมา ไอ๎พวกเปรตที่พื้นมนุษย๑นี่เก็บกินเกลี้ยง มันลามกนักดูแล๎วนําทุเรศแตํก็อด

สงสารมันไมํได๎ เราต๎องพิจารณาและหัดสังเกตดูสัตว๑จําพวกนี้ อีกทั้งพินิจ

วิเคราะห๑ถึงได๎บอกย้ําอยูํเสมอวําแม๎จะนั่ง , นอน , ยืน , เดิน ให๎คอยตรึกธรรมะ

ตลอดแล๎วจะได๎เห็นสิ่งละเอียดทั้งด๎านดีและร๎ายได๎อยํางชัดเจน”

เรื่องเกี่ยวกับแมํชีอาจารย๑ทองสุก สําแดงปั้น ในอีกข๎อมูลหนึ่งที่ค๎นเจอคือเรื่อง

“ คุณยายทองสุกจับขโมย ”จากหนังสือกัลยาณมิตรปีที่ 11 ฉบับท่ี 139 กรกฎาคม

ปี 2540 โดยผู๎ใช๎นามวํา ทันต๑จิตต๑ เป็นผู๎รจนาไว๎มีเนื้อหาท่ีนําสนใจดังนี้ครับวํา

“อภิญญาเป็นความรู๎พิเศษของผู๎มีสมาธิ และเป็นความรู๎ยิ่งอันไร๎ขอบเขตที่มีอยูํ

จริงในพระพุทธศาสนา คุณยายทองสุก สําแดงปั้น วีระสตรีเอกยอดนักเผยแผํ

ของพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี ( หลวงพํอวัดปากน้ําภาษีเจริญ ) เป็น

Page 104: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

104

หนึ่งในศิษย๑จํานวนมากที่ทรงอภิญญา มีความแตกฉานในวิชชาธรรมกาย วิชชา

อันบริสุทธิ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ๎า คุณยายทองสุกได๎ใช๎อภิญญาจิต ชํวยเพื่อน

มนุษย๑มากมาย บางคราวก็ต๎องผสมผสานกับปฏิภาณเฉพาะตัวประกอบเข๎าไป

ด๎วยดังเรื่องตํอไปนี.้... จักรยานหาย ย๎อนอดีตไปเกือบ 40 ปี มีตํารวจยศหมูํนาย

หนึ่งมาหาคุณยายทองสุก วันที่มาหาคุณยายนั้นทํานแตํงตัวสบาย ๆ ไมํได๎ใสํชุด

ตํารวจมา แล๎วก็ปรับทุกข๑กับคุณยายวํา “ คุณยายครับตอนนี้ผมมีเรื่องกลุ๎มใจอยูํ

เรื่องหนึ่งคือ จักรยานที่ผมใช๎อยูํทุกวันนี ้ มีคนขโมยไปเลยไมํมีรถขี่ไปทํางาน

อยากจะรบกวนคุณยายชํวยนั่งเข๎าที่ดูสิวําคนที่ขโมยรถไปนั้นหน๎าตาเป็นอยํางไร

ทําไมกล๎ามาล๎วงคองูเหํา ” คุณยายทองสุกฟังตํารวจทํานนี้อยํางตั้งใจแล๎วคิดใน

ใจวํา “ เอ...ถ๎าเราบอกไปตรง ๆ เจ๎าคนร๎ายก็ต๎องติดคุก แล๎วเราจะบาปไหมหนอ ”

คิดแล๎วยังไมํตกลงใจจึงพูดกับตํารวจทํานนั้นวํา “ ตอนนี้ยังไมํวํางแล๎วจะดูให๎

ตอนดึก ๆ พรุํงนี้คํอยมาฟังผลก็แล๎วกัน ” แล๎วเขาก็ลากลับไป ตรวจขโมยคืน

นั้นคุณยายทองสุกนั่งสมาธิตามปกติ เมื่อหลวงพํอวัดปากน้ํา “ สั่งงาน ” และทํา

สําเร็จเรียบร๎อยแล๎วมีเวลาเหลืออีกจึงนั่งสมาธิตํอไป เพื่อชํวยตรวจดูวําใครขโมย

รถจักรยานไป ( สมัยกํอนไมํได๎เรียกคุณยายแตํเรียกวํา คุณแมํบ๎านบ๎าง , แมํ

อาจารย๑บ๎าง ) คุณยายทองสุกตรวจไปราว ๆ 1 ชั่วโมง จึงได๎เห็นหน๎าตาของขโมย

เห็นครั้งแรกก็ตกใจเพราะเจ๎าขโมยมีหน๎าตาเหมือนกับชายเจ๎าของรถ คุณยายก็

ไมํเอาเริ่มต๎นนั่งใหมํ เพราะคิดวําจิตไมํนิ่งพอ ( การฝึกให๎ดูอยํางนี้ได๎ต๎องฝึกแล๎ว

ฝึกอีกต๎องใกล๎ชิดครูบาอาจารย๑เป็นอยํางมากเทํานั้นจึงจะทําได๎ถูกต๎องไมํผิดเพี้ยน

Page 105: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

105

) คุณยายลองทําใหมํ ๆ ก็เห็นเหมือนเดิมเป็นอยํางนี้ 3 ครั้ง จึงมั่นใจแล๎วบํน

ออกมาวํา “ ชะ ๆ ตัวมันเป็นขโมยเอง แล๎วยังทําสะเออะหน๎ามาลองดูอีก...ดีลํะ

พรุํงนี้มาเถอะฉันจะตอกหน๎าให๎หงายกลับไปเลย ”วันรุํงขึ้นก็มีคนมาจริง ๆ ชาย

คนนั้นพอไหว๎คุณยายทองสุกแล๎วจึงถามวํา “ พี่หมูํให๎ผมมาถามวํา คนร๎าย

หน๎าตาเป็นยังครับ ” คุณยายทองสุกหันหน๎าไปเจอคนร๎ายในนิมิต ก็ชี้นิ้วออกไป

พร๎อม ๆ กับพูดวํา “ หน๎าเหมือนแกอยํางนี้แหละ แกอยํามาลองดีนะ ” ชายคน

นั้นทําทําตกใจแล๎วนั่งยอง ๆ ยกมือพนมพลางพูดวํา “ คุณยายอยําฆําผม... อยําฆํา

ผม ” คุณยายทองสุกพูดสวนออกไปวํา “ ฉันไปฆําอะไรแก ” ชายที่นั่งยอง ๆ คน

นั้นตอบวํา “ ก็คุณยายมาวําผมเป็นขโมยนี่ครับ ” “ ก็อยากมาหน๎าเหมือนกัน

ทําไมลํะ ” คุณยายตอบ “ หน๎าเหมือนขโมยแล๎วต๎องเป็นขโมยหรือครับ ” ชายผู๎

นั้นยังตํอปากตํอคําไมํหยุด “ ก็ต๎องเป็นนะสิดูตั้ง 3 หน หน๎ามันก็เหมือนกันอยําง

นี้นี่แหละ ” ชายผู๎นั้นพนมมือไหว๎อีกครั้งพลางพูดเสียงอํอย ๆ วํา “ ถ๎าพี่หมูํเขา

มา คุณยายอยําบอกวําคนร๎ายหน๎าตาเหมือนผมนะครับ ” คุณยายทองสุกหยุด

มองอยํางสงสัยแล๎วพูดวํา “ อ๎าวไมํใชํแกหรอกหรือที่มาหาฉันเมื่อวานนํะ ” “

ไมํใชํครับ คนที่มาเมื่อวานนี้เป็นพี่ชายผม เขาเป็นตํารวจหน๎าตาเหมือนกันครับ

คุณยายอยําไปบอกเขานะครับ ” “ แล๎วเราเอาจักรยานเขาไปใชํไหม ” เขารับคํอย

ๆ วํา “ใชํครับ ” “ เราเป็นน๎องเขาใชํไหมลํะ ” “ ใชํครับ ”เจ๎าขโมยพูดเบา ๆ “

ใชํแล๎วเอาของเขาไปทําไมลํะ ” “ มันจําเป็นครับ โธํคุณยาย ๆ ไมํรู๎ ” “ ถ๎า

จําเป็นจริงทําไมไมํขอเขาลํะ ” “ ขอก็ไมํให๎ครับ พี่เขาขี้เหนียวจะตายไป คุณยาย

Page 106: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

106

กรุณาชํวยผมเถอะครับอยําบอกพี่หมูํวํา ผมเอารถเขาไปขาย ผมจําเป็นจริง ๆ

ครับ โธํ.....นึกวําสงสารผมเถอะ ผมไหว๎ลํะ ” “ จําเป็นยังไงถึงจะต๎องขโมย ” “

โธํคุณยายครับ เมียผมออกลูกครับ ” “ หา...เมียออกลูกเหรอ แล๎วออกหรือยังลํะ

” “ ออกแล๎วครับ เงินจะให๎หมอตําแยก็ไมํมีจะซื้อของใช๎ก็ไมํมีเลยสักแดงเดียว ”

“โถ....แกเลยต๎องขโมยงั้นเหรอ”“ครับไมํขโมยก็ไมํมีเงินให๎หมอไมํมีเงินซื้อยาขับ

เลือด”

ชํวยขโมย

คุณยายทองสุกนั่งงงกําลังคิดวําจะทําอยํางไรดีกับเหตุการณ๑นี้ พอดีก็มีเสียงคน

เดินมาคุณยายจึงชะโงกหน๎าไปนอกหน๎าตําง จึงเห็นตํารวจคนเมื่อวานกําลังเดิน

มา แตํวันนี้เขาแตํงชุดตํารวจมา คุณยายทองสุกรีบบอกขโมยวํา “ พี่ชายแกมา แก

นั่งเฉย ๆ นํะ ” พอพูดเสร็จตํารวจคนนั้นก็เข๎ามาพอดี เขาถอดหมวกออกแล๎วยก

มือไหว๎คุณยาย เมื่อเห็นน๎องชายอยูํจึงถามน๎องชายวํา “ แกมาทําไม ” น๎องชายก็

อึ้งอยูํ คุณยายทองสุกจึงรีบตอบแทนวํา “ เขากําลังเลําให๎ฟังวําเมียกําลังออกลูก ”

คุณยายตอบเลี่ยง ๆ พอคุณยายตอบเสร็จ คนร๎ายดูหน๎าตาคํอยมีเลือดขึ้นมา

หนํอยแล๎วสักครูํเจ๎าขโมยจึงลากลับไป

ติดตามเรื่องรถหาย

ตํารวจก็ถามเรื่องที่ฝากไว๎เมื่อวาน “ คุณยายนั่งสมาธิแล๎วเห็นคนร๎ายหน๎าตา

เป็นยังไงครับ ” “ ฉันบอกไมํได๎หรอกเดี๋ยวเขาถูกจับไปติดคุก ฉันจะพลอยบาป

Page 107: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

107

ไปด๎วย ” คุณยายทองสุกตอบทําทางจริงจัง “ คนใกล๎หรือคนไกลครับ ” คุณยาย

นิ่งไมํตอบ “ คนดําหรือคนขาวครับ ” คุณยายนิ่งเชํนเคย “ รถจักรยานนี้ผมจะ

ได๎คืนไหมครับ ” เขาถามอีก “ ถ๎าอโหสิกรรมก็อาจจะได๎คืน ” “ เมื่อไหรํครับ ”

“ เห็นจะราว ๆ 3 เดือน แตํต๎องอโหสิกรรมกํอน ” “ อโหสิกรรมต๎องทํายังไงครับ

” คุณยายทองสุกชี้มือไปที่โต๏ะหมูํบูชา “ ก็จุดธูปเทียนไหว๎พระแล๎วกลําวดัง ๆ

วําข๎าพเจ๎าขออโหสิกรรมให๎แกํผู๎ขโมยรถจักรยานของข๎าพเจ๎า ข๎าพเจ๎ายกโทษให๎

แล๎วขอให๎หลวงพํอ ( วัดปากน้ํา ) ชํวยให๎ข๎าพเจ๎าได๎รถคืนเร็ว ๆ ด๎วย ” เจ๎าของ

รถทําตามทุกอยําง คุณยายทองสุกจึงบอกวํา “ เอออยํางนี้ได๎คืนแนํคงได๎ราว ๆ

เดือนเดียวแหละ อ๎อ...ชํวงนี้ถ๎ามีญาติพี่น๎องมาขอยืมเงินบ๎าง ก็เอื้อเฟื้อบ๎างนะจะ

ได๎บุญ ” ตํารวจทํานนั้นรับคําอยํางวํางําย สักครูํก็ลาไปโรงพัก พอพี่ชายไปแล๎ว

น๎องชายก็เข๎ามากราบคุณยายทองสุกแล๎วพูดวํา“ขอบคุณคุณยายเหลือเกินผมจะ

พยายามเอารถไปคืนพี่หมูํในเร็วๆนี้”

ได๎จักรยานคืน

ประมาณ 10 วันตํอมาเจ๎าของรถก็มาหาคุณยายทองสุก มีดอกไม๎ธูปเทียนและ

ลูกเงาะอีก 1 ถุง ติดมือมาด๎วย “ คุณยายครับผมได๎รถคืนแล๎ว จริงอยํางคุณยาย

วําเชียวครับ พอเงินเดือนผมออกไอ๎น๎องชายผมคนที่เมียออกลูกนั่นแหละครับก็

มาอ๎อนวอนขอยืมเงิน 150 บาท ผมวําจะไมํให๎แล๎วเชียว พอดีนึกได๎วําคุณยาย

สอนให๎เอื้อเฟื้อตํอญาติบ๎างผมก็เลยให๎มันยืมไป รุํงขึ้นอีก 2 วัน รถจักรยานของ

Page 108: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

108

ผมก็มาตั้งอยูํที่เกํา แปลกจริง ๆ ครับขอบพระคุณ คุณยายมากครับ”คุณยายทอง

สุกทําทําเขินไมํรู๎จะพูดอะไรดี

นี่คือเรื่องราวในห๎วงหนึ่งของแมํชีอาจารย๑ทองสุก สําแดงปั้น ที่แสดงให๎เห็น

เป็นที่ประจักษ๑ในด๎านของความมีเมตตา และใช๎อภิญญาจิตชํวยเหลือตรวจสอบ

ข๎อเท็จจริงที่เกิดขึ้นของผู๎ยากไร๎ที่มาขอความชํวยเหลือได๎เป็นอยํางดีผมจึงขอ

รํวมเป็นสํวนหนึ่งในการถํายทอดเรื่องนี้ตํออีกครั้งหนึ่งครับ และขอเสริม

เกร็ดความรู๎เล็ก ๆ น๎อย ๆ เกี่ยวกับเรื่องพระบรมสารีริกธาตุที่เสด็จมาโปรดทําน

หลายครั้ง และแก๎วกายสิทธิ์ที่เสด็จมาอยูํด๎วยซึ่งมีลักษณะยาวรีคล๎ายไขํเตํามีสี

คล๎ายหยกเขียวอํอนจาง ๆ ตํอมาทํานได๎มอบให๎แมํชีอาจารย๑เธียร ธีระสวัสดิ์ไว๎

ติดตัว เพื่อเป็นกําลังใจในการปฏิบัติและเผยแพรํวิชชาธรรมกาย บางทํานอาจจะ

สงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่นําเสนอแตํถ๎าทํานปฏิบัติธรรมเข๎าถึงธรรมกายแล๎วทํานจะ

รู๎ และเข๎าใจอยํางแจํมแจ๎งด๎วยตัวของทํานเองครับ

แมํชีอาจารย๑ละมัย ชูวงศ๑วุฒ ิ

ศิษย๑เอกคนสําคัญคนหนึ่งของหลวงพํอสดวัดปากน้ํา ที่ได๎มาบวชชีหลังแมํชี

อาจารย๑ปุก มุ๎ยประเสริฐ เล็กน๎อย แตํวํามากํอนแมํชีอาจารย๑ญาณี ศิริโวหาร

( จากคําบอกเลําของแมํชีอาจารย๑รัมภา โพธิ์คําฉาย เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.

2547 ) ทํานมีความศรัทธาในตัวหลวงพํอวัดปากน้ํามาก จึงขออนุญาตสามีเพื่อ

Page 109: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

109

บวชชี สามีทํานก็ยินดีอนุญาตจึงได๎มาบวชที่วัดปากน้ําเมื่อปีพ.ศ. 2476 แล๎วได๎

บรรลุธรรมกายในเวลาตํอมา ทํานเป็นแมํทัพธรรม 1 ใน 6 ที่ได๎รับมองหมาย

จากหลวงพํอให๎เป็นหัวหน๎าเวรคุมการปฏิบัติวิชชาธรรมกายค๎นวิชาขั้นสูง สอน

วิชชาธรรมกายแกํแมํชีและผู๎มาปฏิบัติธรรมในวัดปากน้ํา , ชํวยแก๎ทุกข๑ทางใจ ,

ชํวยแก๎โรคด๎วยวิชชาธรรมกาย ในระหวํางสงครามโลกครั้งที่ 2 ทํานเป็นผู๎หนึ่งที่

ได๎รับมอบหมายจากหลวงพํอให๎ทําวิชาชํวยเหลือป้องกันประเทศ และป้องกัน

ไมํให๎ลูกระเบิดตกในเขตวัดปากน้ําและประตูน้ําภาษีเจริญ เหมือนกับแมํชีอื่น ๆ ที่

อยูํวัดปากน้ํา ทํานเป็นศิษย๑ 1 ใน 5 ทํานที่ได๎รับเกียรติให๎ทําพิธีบรรจุกายสิทธิ์

ของหลวงพํอ 3 ดวง ขนาดเส๎นผําศูนย๑กลางประมาณ 3 นิ้ว ไว๎ในศูนย๑กลางกาย

ของรูปหลํอเหมือนหลวงพํอยืนเต็มองค๑ ที่ประดิษฐานหน๎าหีบศพหลวงพํอบน

หอสังเวชนีย๑มงคลเทพนิรมิตเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2502 หลังจากหลวง

พํอทํานมรณภาพไปแล๎ว 90 วัน ศิษย๑ของหลวงพํอที่ได๎รํวมกันบรรจุดวงแก๎ว

กายสิทธิ์ครั้งนั้นมี 5 ทํานครับคือ 1. นายประยูร สุนทารา 2. นางเชื้อ ปุรณเสวี

3. แมํชีอาจารย๑ละมัย ชูวงศ๑วุฒิ 4. น.ส.ประยูร นาคบุญเที่ยง 5. อาจารย๑

ตรีธา เนียมขํา หลังจากหลวงพํอมรณภาพแมํชีอาจารย๑ละมัยก็ได๎ลาจากศีลชี

ออกไปพักอยูํกับหลานที่บางบัวทอง จ. นนทบุรี ระหวํางที่อยูํกับหลานทํานก็ยัง

ทําหน๎าที่ชํวยแก๎ทุกข๑ทางใจ และแก๎โรคด๎วยวิชชาธรรมกายแกํผู๎ที่ได๎ไปให๎ทําน

ชํวยเหลือด๎วยความเมตตา ตํอมาทํานได๎ถึงแกํกรรมเมื่อหลายปีที่แล๎วครับ

Page 110: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

110

อาจารย๑ตรีธา เนียมขํา

( นายกสมาคมศิษย๑หลวงพํอวัดปากน้ําม.ส.จ. )

ประวัติโดยยํออาจารย๑ตรีธา เนียมขํา ทํานเป็นบุตรของนายดวง – นางพุํม

เนียมขํา ภูมิลําเนาอยูํบ๎านเลขที่ 30 หมูํท่ี 3ต. บางบํออ. บางบํอ จ. สมุทรปราการ

เกิดเมื่อวันเสาร๑ ขึ้น 14 เดือน 5 ค่ํา ปีขาล ตรงกับวันท่ี27มีนาคมพ.ศ.2469

การศึกษา จบการศึกษามัธยมปีที่ 3 และเปรียญธรรมเอก นอกจากนี้ทํานยั ง

ได๎รับปริญญาพุทธศาสตร๑ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาวิชาสังคมสงเคราะห๑

ศาสตร๑จากมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ๑ราชวิทยาลัย

Page 111: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

111

สถานภาพ ได๎เข๎ามาอยูํวัดปากน้ําเมื่ออายุได๎ 13 ปี ( ปีพ.ศ. 2482 ) ภายใต๎บารมี

ธรรมของหลวงพํอ พออายุได๎ 14 ปีก็บวชเป็นแมํชีเพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมและ

บําเพ็ญภาวนาตามแนววิชชาธรรมกาย จนสามารถรับใช๎สนองงานที่ทํานได๎รับ

มอบหมายได๎ ทํานได๎ลาศีลจากแมํชีเมื่อปีพ.ศ. 2494 ในขณะนั้นมีอายุได๎ 26 ปี

แตํก็ยังอยูํปฏิบัติธรรมรับใช๎หลวงพํอตลอดมา

ผลงาน ได๎ชํวยแบํงเบาภาระของทํานเจ๎าคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย๑ เจ๎า

อาวาสวัดปากน้ําองค๑ปัจจุบัน ในการดําเนินงานตามโครงการตําง ๆ ที่หลวงพํอ

สดได๎วางไว๎ อีกทั้งยังเป็นผู๎ริเริ่มดําเนินการในด๎านการศึกษา , การปฏิบัติธรรม ,

การกํอสร๎างเสนาสนะและถาวรวัตถ ุ รวมถึงด๎านอาหารบิณฑบาตตลอดจน

ควบคุมการปฏิบัติธรรมภายในโรงงานทําวิชา นอกจากนี้ทํานยังมีผลงานในด๎าน

ตํางๆพอสรุปได๎ดังนี้ครับ

1. ได๎เป็นเจ๎าภาพและประธานเอกในการถวายผ๎าพระกฐินพระราชทานวัดปากน้ํา

ตั้งแตํปีพ.ศ. 2504 จนถึงปัจจุบัน

2. เป็นนายกสมาคมศิษย๑หลวงพํอวัดปากน้ํา ม.ส.จ. เมื่อปีพ.ศ.2520จนถึงปัจจุบัน

3.กํอสร๎างหอเจริญวิปัสสนาและกํอสร๎างและบรรจุพระผงธรรมขันธ๑ รวมถึงพระ

รุํน 5 จําวน 2 ล๎านองค๑ ณ หอเจริญวิปัสสนา

4 . สอนภาวนาในวันเสาร๑–อาทิตย๑และวันหยุดราชการ ณ หอเจริญวิปัสสนา

Page 112: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

112

5. ไถํชีวิตโคกระบือและนําไปมอบให๎กรมปศุสัตว๑ เพื่อแจกจํายให๎แกํเกษตรกรผู๎

ยากไร๎ ในการยกระดับความเป็นอยูํให๎ดีขึ้นตามโครงการธนาคารโคกระบือตาม

พระราชดําริในพระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยูํหัว ตั้งแตํปีพ.ศ. 2524 – 2551 เป็น

เวลา 28 ปี จํานวน 101 ครั้ง ได๎ไถํชีวิตโคกระบือไปแล๎ว 28,855 ตัว

6.หลํอพระพุทธรูปและรูปเหมือนหลวงพํอวัดปากน้ําถวายไปยังวัดและองค๑กร

ตําง ๆ ทั้งในและตํางประเทศ เป็นพระพุทธรูป 1,002 องค๑ พระอัครสาวก 34 คูํ ,

พระอรหัตสาวก 7 องค๑ , เจ๎าแมํกวนอิมนั่งขนาด 69 นิ้ว 1 องค๑ , รูปเหมือนหลวง

พํอวัดปากน้ําขนาดเทําองค๑จริง 196 องค๑

7.สร๎างพระของขวัญรุํน 6 จํานวน 3,370,660 องค๑ และได๎มอบถวายให๎ทางวัดนํา

ออกมามอบเป็นของขวัญให๎แกํผู๎ที่บริจาคทรัพย๑รํวมสร๎างพระไตรปิฎกหินอํอน

8.สร๎างพระของขวัญรุํน 7 จํานวน 5,640,000 องค๑

และมอบถวายให๎ทางวัดปากน้ํานําออกมามอบให๎แกํผู๎ที่บริจาคทรัพย๑รํวมสร๎าง

หอสมุดแหํงพระพุทธศาสนา ณ พุทธมณฑลพระพุทธศาสนา

9.สร๎างพระพุทธรูปทองคําสัมฤทธิ์ปางธรรมกาย หน๎าตักกว๎าง 9 เมตร 9

เซนติเมตร สูง 14 เมตร 39 เซนติเมตรประดิษฐานอยูํ ณ วัดพุทธาธิวาส อ. เบตง

จ. ยะลา โดยได๎มอบหมายให๎นายประยูร – นางเกศินี พณิชยานนท๑ เป็น

ผู๎ดําเนินการสร๎าง และมีพระนามวํา “ พระพุทธธรรมกายมงคลปยูรเกศานนท๑

สุพพิธาน ”

Page 113: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

113

10. สร๎างอาคารเรียน 3 ชั้น 18 ห๎อง พร๎อมเขื่อนและรั้วยาว 100 เมตร มอบ

ให๎โรงเรียนวัดบางบํอ ต.บางบํอ จ.สมุทรปราการ เมื่อปีพ.ศ. 2541 พร๎อมโต๏ะ ,

เก๎าอี้นักเรียน-ครู และอุปกรณ๑การสอน , ถมที่ปลูกหญ๎าสนามโรงเรียนอีก 3 ไรํ

ครึ่ง รวมเป็นเงิน 10.8 ล๎านบาท

11. ตั้งโรงทานสร๎างศาสนสมบัติและสาธารณกุศลอื่น ๆ อีกเป็นจํานวนมาก

เกี่ยวกับปาฏิหาริย๑หลวงพํอวัดปากน้ําที่อาจารย๑ตรีธา เนียมขํา ทํานประสบมา

โดยตรงในสํวนของทําน หากจะตั้งชื่อแล๎วก็นําจะเป็นวํา “ มะรืนนี้พํอเอ็งจะมา”

ทํานได๎เลําให๎ฟังเอาไว๎อยํางนี้ครับวํา “ เมื่อข๎าพเจ๎า ( คุณครูตรีธา เนียมขํา )

ตอนอายุประมาณ 15 – 16 ปี เกิดคิดถึงบ๎านและคิดถึงพํอแมํพี่น๎องมาก เลยขอ

อนุญาตหลวงพํอขอกลับไปเยี่ยมบ๎าน แตํหลวงพํอทํานไมํให๎ไป ทํานบอกวํา “

มะรืนนี้พํอเอ็งจะมา ” ข๎าพเจ๎าไมํแนํใจคิดวําหลวงพํอทํานต๎องหลอกข๎าพเจ๎าแนํ

ๆ จึงย๎อนถามทํานเพื่อความแนํใจวํา “ พํอได๎บอกหลวงพํอไว๎หรือเจ๎าคะวําพํอจะ

มามะรืนนี้ ” หลวงพํอทํานตอบวํา “ พํอเอ็งไมํได๎บอกหรอก แตํเอ็งคอยดูซีนํา

มะรืนนี้พํอเอ็งต๎องมา ” ตอนนั้นด๎วยความเป็นเด็กยังไมํมีความคิด ข๎าพเจ๎าก็คิด

วําถ๎ามะรืนนี้พํอไมํมาจะต๎องตํอวําหลวงพํอเสียหนํอย แตํพอวันนั้นมาถึงพํอของ

ข๎าพเจ๎าก็เยี่ยมจริง ๆ ข๎าพเจ๎ารีบถามพํอวํา “ พํอได๎บอกหลวงพํอไว๎หรือเปลําวํา

พํอจะมาในวันนี้ ” พํอของข๎าพเจ๎าตอบวํา “ เปลํา ”

Page 114: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

114

เรื่องเลําจากประสบการณ๑ของอาจารย๑ตรีธา เนียมขํา

กิตติศัพท๑เรื่องหลวงพํอสดวัดปากน้ําภาษีเจริญ ในสมัยนั้นสามารถรักษา

คนป่วยด๎วยโรคร๎ายที่สังคมรังเกียจให๎หายได๎แพรํกระจายไปอยํางรวดเร็ว ทําให๎

ต๎องเดินทางมาวัดปากน้ําหวังขอพึ่งบารมีของหลวงพํอ เพื่อรักษาโรคให๎มารดา

หายเป็นปกตินั้น ถ๎าเราเจ็บไข๎ได๎ป่วยก็จะไปหาแพทย๑ผู๎เชี่ยวชาญโรคนั้น แตํ

หลวงพํอทํานเป็นแพทย๑ผู๎เชี่ยวชาญการรักษาทุกโรค ถ๎าจะนําเรื่องความทุกข๑

ความเดือดร๎อนของคนที่มาหาหลวงพํอมาเรียงลําดับเนื้อเรื่องกันแล๎วก็จะได๎

ตั้งแตํเกิดจนตายเลยทีเดียว เชํน ถ๎าเป็นผู๎ที่กําลังจะแตํงงานกันก็มักจะมาขอให๎

หลวงพํอชํวยตรวจดูให๎วําผู๎ที่ตนจะแตํงงานด๎วยนั้นเป็นอยํางไร จะอยูํด๎วยกันยืน

ยาวมีความสุขความเจริญหรือไมํ ? , บางคูํที่แตํงงานกันไปแล๎วและยังไมํมีบุตรก็

มักจะมาขอบุตรกับหลวงพํอให๎ทํานชํวยใช๎วิชชาธรรมกายเลือกสรรวิญญาณดี ๆ

มาจุติ บางคนมีลูกหลานแล๎วเลี้ยงยากแถมขี้โรคอีกก็มายกให๎เป็นลูกหลวงพํอ

หรือถ๎าลูกหลานวํายาก , ดื้อ , ซน , ไมํฉลาดในการศึกษาเลําเรียนก็มาขอบารมี

หลวงพํอ , เมื่อลูกหลานจะเข๎าสอบไมํวําจะสอบในวิชาที่เลําเรียนหรือสอบแขํงขัน

เข๎าทํางานก็มาขอให๎หลวงพํอทํานชํวย, เมื่อมีปัญหาในการประกอบอาชีพการงาน

ก็มาปรับทุกข๑กับหลวงพํอ , พวกที่เป็นเกษตรกรถ๎าประสบภาวะฝนแล๎งก็มา

ขอให๎หลวงพํอชํวยทําให๎ฝนตก หลวงพํอทํานก็สั่งพวกที่บรรลุธรรมกายให๎ชํวย

เกณฑ๑ฝนให๎ตกในพื้นที่ ๆ เขาต๎องการ สํวนเกษตรกรบางพวกที่เจอฝนตกหนัก

Page 115: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

115

น้ําทํวม ทําให๎พืชผักผลไม๎เสียหายก็มากราบกรานหลวงพํอ ขอให๎ทํานชํวยบําบัด

ทุกข๑ให๎ ทํานก็สั่งพวกที่ได๎ธรรมกายให๎ชํวยกันเก็บฝนเสีย , บางคนจะจัดการงาน

ใดที่บ๎านในหน๎าฝนกลัวฝนตกก็มาขอให๎หลวงพํอชํวยอยําให๎ฝนตก ทํานก็ชํวยทุก

คนไปจนกิตติศัพท๑ลือเลื่องไปทั่ววํา หลวงพํอสดวัดปากน้ํารักษาโรคได๎ , ขอฝน

ได๎ , เก็บฝนได๎ แม๎ปัจจุบันนี้ทํานมรณภาพไปแล๎วก็ยังมีคนเป็นจํานวนมากมาขอ

พึ่งบารมีของทํานในเรื่องตําง ๆ ทุกเรื่องเหมือนสมัยที่ทํานยังมีชีวิตอยูํ บางคนก็

มิใชํขอธรรมดาแตํยังบนบานศาลกลําวด๎วย ในสมัยหลวงพํอทํานยังอยูํนั้นคน

ที่มาขอพึ่งบารมีให๎ชํวยมิใชํจะให๎ชํวยแตํเฉพาะคนเป็นก็หาไมํ แม๎ญาติพี่น๎องของ

คนที่ตายไปแล๎วก็ยังมาขอให๎ชํวยตรวจดูให๎วําวิญญาณไปอยูํที่ไหน สุขทุกข๑

อยํางไรจะทําบุญอะไรไปให๎จึงจะเหมาะจะควร มีลูกศิษย๑ของหลวงพํอมากมาย

หลายคนที่ได๎สั่งลูกหลานของตนไว๎วํา ถ๎าตนสิ้นชีวิตลงแล๎วให๎นําศพมาตั้งสวด

พระอภิธรรมที่วัดปากน้ําทั้ง ๆ ที่วัดปากน้ําไมํมีศาลาตั้งศพและไมํมีเมรุเผาศพ มี

แตํศาลาการเปรียญหลังเกํา ๆ เป็นศาลาเอนกประสงค๑สําหรับใช๎เป็นที่ฉัน

ภัตตาหารของพระภิกษุสามเณร สํวนกลางคืนเป็นที่พักของแมํชี และเป็นที่ตั้ง

ศพด๎วย คืนใดท่ีมีการสวด พระอภิธรรมหลวงพํอทํานจะสั่งให๎ผู๎ที่ได๎ธรรมกาย

ออกไปรํวมฟังสวดด๎วยอยํางน๎อย 3 คน เพื่อนั่งเจริญภาวนาเชิญชวนวิญญาณ

ของผู๎ตายมารับสํวนบุญกุศล ไมํวําวิญญาณนั้นไปสิงสถิตอยูํ ณ ที่ใดก็ตามจะอยูํ

ในสวรรค๑หรือไปเป็นเปรตอสุรกาย , สัตว๑นรก , สัตว๑เดรัจฉาน จะเชิญวิญญาณ

กํอนอาราธนาศีล หลวงพํอทํานจะให๎จัดอาสนะปูเตรียมไว๎ให๎วิญญาณของผู๎ตาย

Page 116: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

116

นั่งหลังจากที่พระสงฆ๑สวดอภิธรรม , สวดสังคหะหรือสวดพระมาลัยเสร็จจบที่ 1

หลังจากนั้นจะถามพวกที่ได๎ธรรมกายวํา “ วิญญาณของผู๎ตายมาหรือเปลํา ”

พวกที่ได๎ธรรมกายทั้ง 3 คน จะต๎องรู๎เห็นและตอบตรงกัน ถ๎าตอบไมํตรงก็จะให๎

นั่งตรวจดูใหมํ ทํานต๎องการให๎วิญญาณของผู๎ตายได๎มาสมาทานศีลและฟังสวด

พระอภิธรรมด๎วย เมื่อพระสงฆ๑สวดจบแตํละจบหลวงพํอจะถามย้ําทุกครั้ง ใน

สมัยที่ข๎าพเจ๎ายังเป็นแมํชีเล็ก ๆ เคยถูกถามโดยใช๎ให๎ไปทําหน๎าท่ีเชํนนี้หลายครั้ง

ทุกครั้งที่หลวงพํอถาม ข๎าพเจ๎าจะรู๎สึกกระดากอายไมํอยากตอบให๎ใครได๎ยิน

เพราะตอนนั้นยังเด็กมากเกรงวําตอบไปแล๎วจะไมํมีใครเชื่อ แตํเมื่อทํานใช๎ก็

จําเป็นต๎องทํา เนื่องด๎วยกลัวหลวงพํอ ข๎าพเจ๎าจึงไมํอยากให๎มีใครตายเพราะ

ไมํอยากออกไปนั่งเชิญวิญญาณ หลวงพํอวัดปากน้ําทํานชี้แจงวําการรักษาโรค

นั้นถ๎าได๎ประกอบกันทั้ง 2 ฝ่ายคือ ฝ่ายผู๎รักษาโรคและผู๎ป่วยมีความเชื่อมั่น

ตรงกัน มีกระแสจิตเชื่อมถึงกัน เปรียบเสมือนเครื่องรับวิทยุและเครื่องสํงต๎องมี

เคลื่อนตรงกันจึงจะมีหวังหายมาก วันหนึ่ง ๆ มีผู๎มารักษาโรคกับหลวงพํอวัด

ปากน้ําเป็นจํานวนมาก เพราะหลวงพํอทํานรักษาโรคทุกชนิดท้ังโรคมะเร็ง , วัณ

โรค , อัมพาต , โรคประสาท เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง หลวงพํอ

ต๎องรักษาคนที่เป็นโรคประสาทนับร๎อย ๆ คน เพราะความตรึงเครียด , ความ

ทุกข๑ยากเดือดร๎อน จากภัยสงคราม บางคนก็นอนไมํหลับคิดมาก ใจคอหงุดหงิด

แตํบางคนก็มีอาการหนักไร๎สติสัมปชัญญะ สําหรับคนที่อาการหนักหลวงพํอทําน

จะสั่งญาติพี่น๎องให๎กลับไปและมอบคนป่วยไว๎กับทําน ญาติพี่น๎องไมํต๎องเป็นหํวง

Page 117: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

117

หลวงพํอจะสั่งให๎กรอก “ ยาผงบาดจิต ” ซึ่งทํานสั่งให๎ลูกศิษย๑ผสมเตรียมไว๎และ

แก๎ด๎วยวิชชาธรรมกายไมํนานคนป่วยก็หาย ญาติพี่น๎องพากลับบ๎านได๎ ยาผงบาต

จิตนี้คณะศิษย๑ของหลวงพํอในปัจจุบันยังคงผสมตามตําราของทํานไว๎แจกแกํคน

ทั่วไปอยูํ เป็นยาที่รักษาได๎หลายโรค ไมํเพียงแตํโรคประสาทเทํานั้น คนที่ผอม

แห๎งแรงน๎อยรับประทานอาหารไมํได๎ นอนไมํหลับ ใจคอหงุดหงิดคิดมาก ก็

รับประทานได๎ ทํานผู๎สนใจสามารถติดตํอขอได๎ท่ีวัดปากน้ําภาษีเจริญ ในยุคนั้น

หลวงพํอวัดปากน้ําทํานให๎ตั้งตู๎รับใบอาการของโรคไว๎ที่หน๎ากุฎิของทํานการเขียน

ใบอาการโรคต๎องแจ๎งชื่อ – สกุล , ที่อยูํ , วัน , เดือน , ปีเกิด และอาการโรคที่

ปรากฏอยํางละเอียด การสํงใบอาการโรคมี 4 เวลาคือ เช๎า กลางวัน บําย เย็น

หลวงพํอทํานจะสั่งให๎คนมาไขตู๎ตามเวลานั้น แล๎วนําใบอาการโรคแจกจํายแกํพวก

ที่ได๎วิชชาธรรมกายเพื่อแก๎โรค ถ๎าผู๎เป็นลูกมาสํงใบอาการโรคของพํอแมํ หลวง

พํอทํานมักจะถามวําอยากให๎พํอแมํหายป่วยหรือไมํ ถ๎าอยากให๎พํอแมํหายป่วยก็

ทําสมาธิเข๎า ถ๎าได๎สมาธิก็จะได๎ชํวยแก๎โรคภัยไข๎เจ็บของพํอแมํได๎ ข๎าพเจ๎าได๎

ประสบเรื่องนี้ด๎วยตัวเองคือ ในสมัยท่ีข๎าพเจ๎ามีอายุได๎ประมาณ 13 ปีนั้น มีผู๎

แนะนําให๎แมํซึ่งป่วยหนักมานานถึง 12 ปีแล๎ว ให๎มารักษากับหลวงพํอ แมํของ

ข๎าพเจ๎านั้นป่วยด๎วยโรคซึ่งหมอไมํทราบสาเหตุ ผอมแห๎ง รับประทานอาหาร

ไมํได๎ พยายามหาหมอรักษามานานนับ 10 ปี อาการก็ไมํดีขึ้น มีแตํทรงกับทรุด

ไมํวําใครจะแนะนําหมอดี ๆ ที่ไหนพํอของข๎าพเจ๎าเป็นต๎องพามารักษาทุกหนทุก

แหํง ตํอมามีผู๎แนะนําให๎มารักษากับหลวงพํอ พํอก็จึงได๎นําแมํของข๎าพเจ๎าลงเรือ

Page 118: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

118

และนําข๎าพเจ๎ามาด๎วยเพื่อให๎มาอยูํปรนนิบัติแมํ ก็ได๎มาจอดเรือที่หน๎าวัดแล๎วขึ้น

ไปขอบารมีให๎หลวงพํอชํวยรักษาโรค สํวนแมํของข๎าพเจ๎ายังคงนอนพักอยูํในเรือ

สํวนตัวข๎าพเจ๎าเองมีหน๎าท่ีเขียนใบอาการโรคสํงให๎แกํหลวงพํอเป็นประจํา ทํานก็

ถามวํา “ เอ็งอยากให๎แมํหายไหม ” ตอนนั้นข๎าพเจ๎านึกในใจวําหลวงพํอก็ถามมา

ได๎ ใครจะไมํอยากให๎แมํหาย ถ๎าหลวงพํอจะสั่งให๎ทําอะไรก็จะทําทุกอยําง ขอให๎

แมํหายป่วยเป็นทําทั้งนั้น หลวงพํอบอกตํอไปวํา “ ถ๎าอยากให๎แมํหายเอ็งก็ต๎อง

ขึ้นมานั่งภาวนา ถ๎านั่งได๎ก็จะได๎ชํวยแก๎โรคให๎แมํ แมํเอ็งจะได๎มีอายุยืนยาวตํอไป

” ตั้งแตํบัดนั้นข๎าพเจ๎าได๎ตั้งใจวําจะต๎องนั่งภาวนาให๎ได๎ เพื่อจะได๎ชํวยแก๎โรคให๎

แมํได๎ เพราะการเขียนใบอาการโรคสํงทุกวันก็เหมือนกับยืมจมูกคนอื่นหายใจ

ไฉนจะคลํองเหมือนจมูกของเราเอง วันแรกที่ข๎าพเจ๎ามาฝึกนั่งภาวนา ก็ได๎ซื้อ

ดอกไม๎ธูปเทียนข๎าวตอกมาจากแมํชี 1 ถาด ข๎าพเจ๎ากะนั่งให๎ได๎กึ่งกลางศาลาพอดี

โดยกะศูนย๑กลางจากธรรมาสน๑ไปยังประตูด๎านทิศตะวันออก แล๎วกะด๎วยสายตา

จากอาสนสงฆ๑ไปยังศาลาด๎านใต๎(ธรรมาสน๑นี้ยังคงอยูํชั้นบนของศาลาการเปรียญ

สด ) แล๎วคอยจ๎องวําเมื่อไรหลวงพํอจะมา วันนั้นทํานเดินขึ้นมาทางด๎านหลังของ

ศาลาทางทิศตะวันตก ข๎าพเจ๎าก็เห็นรํางหลวงพํอ ที่กําลังขึ้นมานั้นสวํางไสว

สวยงามไปหมดท้ังรําง สีจีวรก็เหลืองอรํามสุกใส ตามปกติก็จะเห็นทํานหํมจีวร

สีเหลืองธรรมดาแตํผิวพรรณของทํานนั้นขาวผํองมีราศีสวยงามจับตาอยูํแล๎ว แตํ

วันนั้นเห็นทํานมีรัศมีสวํางไสวจับตามากเป็นพิเศษ กวําที่เคยเห็นมาก็เลยมอง

ทํานตลอดเวลาไมํให๎คลาดสายตาเลย จนทํานขึ้นมานั่งบนอาสนสงฆ๑ กราบ

Page 119: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

119

พระพุทธรูปเสร็จแล๎วก็กลําวทักทายปราศรัย ถามไถํเรื่องการปฏิบัติธรรมของ

บรรดาลูกศิษย๑ที่มาศึกษากับทํานเป็นประจํา ตํอจากนั้นทํานจึงนํากราบพระ สวด

มนต๑แล๎วอธิบายวิธีการนั่งภาวนา เมื่อถึงเวลาเลิกนั่งทํานก็นํากราบพระพร๎อมกัน

พอเสร็จแล๎วก็ได๎เรียกผู๎ที่นั่งภาวนาบางคนเข๎าไปถามวําได๎รู๎เห็นอะไรบ๎าง และ

แล๎วทํานก็ชี้มาที่ข๎าพเจ๎าทํานเรียกวํา “ ไอ๎เล็กมานี่ ” ข๎าพเจ๎าได๎คลานเข๎าไปหา

ทําน แล๎วทํานก็พูดตํอไปวํา “ เอ็งเห็นแล๎วใชํไหม ” ข๎าพเจ๎าให๎รู๎สึกแปลกใจ ตกใจ

และประหลาดใจ พร๎อมกันวําทําไมทํานจึงทราบ หลวงพํอทํานพูดตํอไปอีกวํา “

เอ็งได๎แล๎ว แมํเอ็งจะได๎ไมํตายแล๎ว เอ็งไปตํอวิชากับเขา ” ทํานจัดการให๎ข๎าพเจ๎า

ไปตํอวิชาในขั้นสูงจนได๎ธรรมกายกับแมํชีบุญชํวย หลังจากนั้นแมํชีบุญชํวยก็ถึง

แกํกรรม และข๎าพเจ๎าได๎เรียนตํอวิชากับแมํชีอาจารย๑ญาณี ศิริโวหาร ในท่ีสุดแมํ

ของข๎าพเจ๎าซึ่งป่วยหนักมานานถึง 12 ปี ไมํมีแพทย๑คนใดสามารถรักษาให๎หายได๎

แตํมารักษากับหลวงพํอเพียงแคํ 13 เดือนก็หายป่วยอยํางนําอัศจรรย๑ มีรํางกาย

แข็งแรงเป็นปกติ โดยมิต๎องรับประทานยาใด ๆ เลย ก็สามารถประกอบกิจการตําง

ๆ ได๎เหมือนสมัยที่ยังมิได๎ป่วยและมีอายุยืนยาวนาน อีก 24 ปีจึงงถึงแกํกรรม

สําหรับตัวข๎าพเจ๎านั้น เรื่องความเพียรก็ไมํมีมากเทําใดเพราะตอนนั้นยังเป็นเด็ก

ยังไมํคํอยรู๎เรื่องเกี่ยวกับธรรมะ และเป็นเด็กมาจากบ๎านนอกด๎วย แตํก็มีความ

ตั้งใจอยากจะได๎อยากจะเป็นอยากจะเห็น เพราะอยากให๎แมํหายป่วย จึงได๎

พยายามตั้งใจปฏิบัติตามที่หลวงพํอทํานสอน เมื่อได๎ธรรมกายแล๎วจึงทราบวําการ

ที่เห็นหลวงพํองดงามสวํางไสวไปทั้งองค๑นั้นเป็นเพราะอายตนะที่ดึงดูดใจเปิดรับ

Page 120: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

120

แล๎ว จิตของคนทุกคนจะต๎องมีอายตนะประจํา ตามีอายตนะสําหรับดึงดูดรูป ,

หูมีอายตนะสําหรับดึงดูดเสียง , จมูกมีอายตนะสําหรับดึงดูดกลิ่น , ลิ้นมีอายตนะ

สําหรับดึงดูดรส , กายมีอายตนะสําหรับดึงดูดสัมผัส , ใจมีอายตนะสําหรับดึงดูด

ธรรมารมณ๑ ถ๎าจะเปรียบเทียบแล๎วก็เหมือนดอกบัวท่ีรอสัมผัสแสงอาทิตย๑ พร๎อม

ที่จะบานรับอรุณทันที ดังนั้นพอสิ้นคําสอนของหลวงพํอข๎าพเจ๎าจึงเห็นดวงแก๎ว

กลมใสปรากฏขึ้นที่ฐานที่ 7 กลางดวงธรรม ที่ทําให๎เป็นกายมนุษย๑ทันที เพราะ

เวลานั้นจิตมีศรัทธาเต็มที่ ตํอมาก็ได๎ใช๎วิชชาธรรมกายชํวยแก๎โรคของแมํให๎หาย

ป่วยได๎ เป็นที่นําสังเกตวําลูกหลานคนป่วยซึ่งได๎ธรรมกายจะมีความสามารถใน

การรักษาโรคได๎เป็นพิเศษดังนี้ เพราะจิตมุํงมั่นไปทางเดียวจึงมีพลังมากเสมือน

สายน้ําที่ไหลพุํงไปทิศทางเดียว ยํอมมีกําลังแรงกวําน้ําที่แตกแยกเป็นลําธารสาย

เล็กสายน๎อยฉันนั้น” ในหนังสือ “ ตรีธาเลําเรื่องหลวงพํอวัดปากน้ํา ” ซึ่งมีพัน

เอกหญิงทัศนศรี ไตรยคุณ เป็นผู๎บันทึกและเรียบเรียงสํวนพระศรีศาสนวงศ๑ ( สุ

ชาติ ธมมตโน ป.ธ. 9 ) เป็นผู๎ตรวจทานภาษาบาลีนั้น มีเรื่องเลําที่นําสนใจ

เกี่ยวกับการหยั่งรู๎เหตุการณ๑ในอนาคตของหลวงพํอวัดปากน้ํา ขอน๎อมอัญเชิญมา

ถํายทอดตํอดังนี้ครับ

บอกเวลามรณภาพ

กํอนที่พระเดชพระคุณหลวงพํอของเราทํานจะมรณภาพประมาณ 5 ปี ทํานได๎

เรียกประชุมคณะศิษย๑ทั้งในและนอกวัดเป็นกรณีพิเศษท่ีศาลาการเปรียญ เพื่อแจ๎ง

Page 121: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

121

ให๎ทุกคนทราบวําทํานจะถึงกาลมรณภาพในอีก 5 ปีข๎างหน๎านี้ กิจการใดท่ีทํานได๎

ดําเนินไว๎แล๎วขอให๎ชํวยกันทํากิจการนั้น ๆ อยําทอดทิ้ง ขอให๎ทําไปเถิดไมํตกต่ํามี

แตํความเจริญยิ่งขึ้น และทํานยังได๎แถลงโครงการพัฒนาวัดปากน้ําให๎คณะศิษย๑

ชํวยกันดําเนินการตํอไปให๎สําเร็จและทํานบอกวําตํอไปวัดปากน้ําจะเจริญรุํงเรือง

ใหญํโต แม๎วําทํานจะมรณภาพไปแล๎วก็ตาม แตํก็มีโอกาสชํวยวัดได๎มากกวําตอน

มีชีวิตอยูํ มีศิษย๑หลายคนได๎อาราธนาขอไมํให๎ทํานมรณภาพ ทํานตอบวํา

“ ไมํได๎ อีก 5 ปี ทํานจะไมํอยูํแนํ ๆ แล๎ว ” คณะศิษย๑รุํนเกําจึงซาบซึ้งดีวําหลวง

พํอทํานมีความหํวงใยและผูกพันตํอวัดปากน้ํา ,ตํอวิชชาธรรมกาย และศิษยานุ

ศิษย๑ทุกคน ทั้งในปัจจุบันและอนาคตมากเพียงใด มิฉะนั้นแล๎วหลวงพํอทํานคง

ไมํเอํยปากฝากฝังโครงการของทํานในเรื่องการสอนและเผยแพรํวิชชาธรรมกาย ,

เรื่องการเลี้ยงพระ, การศึกษาพระปริยัติธรรม และการกํอสร๎างปฏิสังขรณ๑

เสนาสนะตําง ๆ โดยเฉพาะอยํางยิ่งเรื่องการเผยแพรํวิชชาธรรมกาย ซึ่งทํานเห็น

เป็นเรื่องสําคัญและเป็นประโยชน๑ยิ่งกวําเรื่องอื่นใด ทํานที่เคยมาวัดปากน้ําเมื่อ

หลายปีกํอนจะทราบดีวํา วัดปากน้ําในอดีตจนถึงปัจจุบันนั้นมีความแตกตํางกัน

มากจนเกือบไมํเหลือสภาพเดิมเลย ที่เป็นดังนี้เพราะบรรดาคณะศิษย๑ทั้งหลายใน

พระเดชพระคุณหลวงพํอได๎ปฏิบัติตามโครงการตามเจตนารมณ๑ของหลวงพํอ

ทํานจนหมดแทบทุกโครงการแล๎ว

Page 122: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

122

พยากรณ๑เจ๎าอาวาสวัดปากน้ําในอนาคต

นอกจากจะพยากรณ๑วําสมเด็จป๋าจะได๎เป็นใหญํในหมูํสงฆ๑คือ เป็นสมเด็จ

พระสังฆราชในอนาคตแล๎ว หลวงพํอทํานยังได๎พยากรณ๑ทํานเจ๎าประคุณสมเด็จ

พระมหารัชมังคลาจารย๑ เจ๎าอาวาสวัดปากน้ําองค๑ปัจจุบันในสมัยที่ทํานเป็น

สามเณรวํา “องค๑นี้แหละจะได๎เป็นเจ๎าอาวาสวัดปากน้ําองค๑ตํอไป ” ในปีพ.ศ.

2493 หลวงพํอได๎พาทํานเจ๎าประคุณสมเด็จ ฯ ครั้งยังเป็นพระมหาชํวง วรปุญ

โญ ป.ธ. 7 ไปฝากเรียนป.ธ. 8 และป.ธ. 9 กับเจ๎าประคุณสมเด็จพระอริยวงศาคต

ญาณสมเด็จพระสังฆราช ( ปลด กิตฺติโสภโณ มหาเถระ ) วัดเบญจมบพิตร ครั้ง

ดํารงสมณศักดิ์ท่ีสมเด็จพระวันรัต สมเด็จพระสังฆราชทรงเคยเลําประทาน

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย๑วัดสามพระยา ครั้งดํารงสมณศักดิ์ท่ีพระธรรม

ปัญญาบดีวํา “ ทํานวัดปากน้ํานํามาฝากบอกวํา จะเอาไว๎แทนตัว เมื่อเรียนจบ

แล๎วก็จะขอนํากลับไปวัดปากน้ํา” ในสมัยนั้นพระภิกษุสามเณร ที่จะเข๎ารับ

การศึกษาพระปริยัติธรรมที่สํานักวัดเบญจมบพิตรจะต๎องได๎รับการคัดเลือกอยําง

มาก มิใชํวําจะเข๎าศึกษาได๎ทุกรูป สมเด็จพระสังฆราช ( ปลด กิตฺติโณ ) ทํานทรง

คัดเลือกเอง ทรงพิจารณาทํวงทีกิริยาบุคลิกภาพ ถ๎าไมํดีพอไมํเป็นที่ถูกพระทัย

ทําน ๆ ก็ไมํทรงรับไว๎ แตํรายนี้ทํานเจ๎าคุณธรรมปัญญาบดีรูปนี้มีบุคลิกภาพเป็น

ที่ต๎องพระทัยทําน ประกอบกับความศรัทธาเลื่อมใสในหลวงพํอสดด๎วย สมเด็จ

พระสังฆราชทํานจึงทรงรับไว๎ด๎วยความยินดี หลังจากที่ทํานเจ๎าคุณธรรมปัญญา

Page 123: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

123

บดีสําเร็จการศึกษาประโยค 9 แล๎ว ได๎ดํารงตําแหนํงเลขานุการในพระองค๑ทําน

อยูํระยะหนึ่งแล๎วจึงกลับมาชํวยหลวงพํอพัฒนาวัดปากน้ํา โดยดํารงตําแหนํง

อาจารย๑ใหญํโรงเรียนพระปริยัติธรรมเมื่อปีพ.ศ. 2498 และได๎รับพระราชทาน

สมณศักดิ์เป็นพระศรีวิสุทธิโมลี ตํอมาทางคณะศิษย๑เห็นวํากุฏิของหลวงพํอสด

นั้นเกําทรุดโทรมมาก อยากให๎หลวงพํอทํานมีท่ีอยูํที่สะดวกสบายจึงได๎รํวมทุน

กันสร๎างตึกถวายทําน คือตึกมงคลจันทสร ระหวํางกําลังดําเนินการกํอสร๎างอยูํ

นั้นทํานมักจะออกมานั่งดูอยูํเสมอ ๆ เมื่อมีผู๎ถามทํานถึงตึกหลังนี้ทํานมักจะบอก

วํา “ ตึกหลังนี้สร๎างให๎ชํวงเขาอยูํ ” และปัจจุบันนี้ตึกมงคลจันทสรเป็นกุฏิของ

ทํานเจ๎าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย๑ เจ๎าอาวาสวัดปากน้ําองค๑ปัจจุบัน

ตรงตามคําพยากรณ๑ของหลวงพํอสดมิผิดเพี้ยน และในปีพ.ศ. 2508 คําพยากรณ๑

ของหลวงพํอก็เป็นความจริง พระราชเวทีซึ่งได๎เลื่อนสมณศักดิ์มาจากพระราชา

คณะชั้นสามัญที่พระศรีวิสุทธิโมล ี ได๎ตําแหนํงเจ๎าอาวาสวัดปากน้ําและเจ๎าคณะ

ภาค 3(ปัจจุบันนี้เป็นเจ๎าคณะภาค 7 )แทนสมเด็จพระวันรัตวัดพระเชตุพน ฯ ซึ่ง

รักษาการเจ๎าอาวาสอยูํตั้งแตํหลวงพํอมรณภาพเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ๑ พ.ศ. 2502

รถยนต๑จะเข๎าถึงวัด

สมัยที่หลวงพํอยังอยูํนั้นยังไมํมีถนนตัดผํานเข๎าถึงวัด ผู๎ที่จะมาวัดปากน้ํานั้น

จะต๎องมาทางเรือหรือเดินเท๎า ถนนในวัดจึงเป็นเพียงทางแคบ ๆ แตํหลวงพํอทําน

ได๎สั่งให๎ตัดถนนผํานคณะเนกขัมม๑ มีความกว๎างขนาดรถยนต๑แลํนได๎ ในสมัย

Page 124: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

124

นั้นถนนสายนี้จึงเป็นถนนที่ใหญํที่สุดในวัด ทําให๎ผู๎คนพากันประหลาดใจวํา

ทําไมทํานจึงให๎ตัดถนนใหญํโตเชํนนั้น แล๎วทํานก็ตอบไปวํา “ ตํอไปรถยนต๑จะ

เข๎าถึงวัด ” มีหลายคนที่ไมํเชื่อคําพูดของหลวงพํอ บางคนถึงกับพูดวําอีกร๎อยปี

รถยนต๑ก็ยังเข๎าไมํถึงวัด แตํแล๎วหลังจากที่หลวงพํอมรณภาพไปเพียงแคํ 2 ปี

รถยนต๑ก็แลํนเข๎ามาจอดถึงในวัดได๎ตามที่หลวงพํอได๎พยากรณ๑ไปกํอนแล๎ว

อาจารย๑การุณย๑ บุญมานุช

ในบรรดาศิษย๑เอกของหลวงพํอสดวัดปากน้ํา ถ๎าไมํเอํยนามของมหาบุรุษทํานนี้

เห็นทีจะไมํได๎ครับ เพราะทํานได๎ทําวิชาปราบมารมารํวม 20 ปี ปัจจุบันปีพ.ศ.

2553 ทํานก็ยังทําวิชาปราบมารอยูํ มีลูกศิษย๑ลูกหามากมายที่เรียกกันวํา “ กองทัพ

Page 125: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

125

วิทยากร ” ที่สอนให๎ผู๎ที่เข๎ารับการปฏิบัติได๎เข๎าถึงธรรมได๎อยํางนําอัศจรรย๑ ทําน

ได๎จัดทําตําราวิชชาธรรมกายเอาไว๎ครบทุกหลักสูตร โดยเฉพาะวิชชาธรรมกาย

ชั้นสูง คือ หนังสือปราบมารเลํม 1 – 6 ที่ทํานถึงกับกลําวคํานี้ออกมาเลยวํา “ ตํารา

อยํางนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก ความรู๎อยํางนี้ไมํเคยปรากฏที่ใดมากํอน มาร

เขาขัดขวางไมํให๎ข๎าพเจ๎าเปิดเผย แตํข๎าพเจ๎าจะเปิดเผยเพื่อชาวโลกจะได๎รู๎ของ

จริงกันเสียที ” ใครอยากจะทราบวําทํานปราบมารอยํางไรก็ไปหาอํานเพิ่มเติมได๎

ในจุดนี้ครับ ( ที่ติดตํอมีอยูํท๎ายเลํมครับ ) เพราะมีเนื้อหาสาระเรื่องราวที่เป็นเรื่อง

ละเอียดมากมายนําสนใจเป็นอยํางยิ่ง ผลงานในการสร๎างบารมีที่ยอดเยี่ยมตลอด

มาในชีวิตของทํานโดยเฉพาะเรื่องปราบมารนั้น ถึงขนาดหลวงพํอวัดปากน้ําอด

ที่จะออกปากชมทํานไมํได๎วํา “ ศึกษาฯนี้มันผิดตํารา เกํงกวําครูบาอาจารย๑

( หลวงพํอวัดปากน้ําเรียกอาจารย๑การุณย๑วําศึกษา ) ” หรืออีกคําพูดหนึ่งที่วํา

“ศึกษาฯ ระวังอยําให๎แพ๎ ถ๎าศึกษาฯ ชนะก็ชนะกันหมด ถ๎าศึกษาฯ แพ๎ก็แพ๎กัน

หมด ความหวังของหลวงพํออยูํที่ศึกษาฯ คนเดียว ” และคําพยากรณ๑ของหลวง

พํอสดท่ีทํานให๎ไว๎กับทํานอาจารย๑การุณย๑ก็คือ “ ทุกเรื่องต๎องสําเร็จในยุคของ

ศึกษาฯ ” และธาตุธรรมยังทรงชมเชยอาจารย๑การุณย๑ถึงกับทรงรับสั่งวํา “ ใน

ที่สุดก็ได๎พึ่งศึกษา ฯ คนนี้เป็นผู๎ดับทุกข๑ให๎ในทุกเรื่อง ” รวมถึงต๎นใหญํท่ีทรง

ตรัสชมอาจารย๑การุณย๑เชํนกันวํา “ศึกษา ฯ คนนี้ใช๎ได”๎ นับวําไมํธรรมดาครับ

เรามารับรู๎เรื่องราวของทํานกันสักนิดหนึ่งนะครับเอาแบบยํอ ๆ ถึงที่มาที่ไปของ

ทํานผู๎ปราบมารที่เป็นหนึ่งเดียวในยุคนี้ อาจารย๑การุณย๑ บุญมานุชครับ โดยทําน

Page 126: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

126

ได๎เลําประวัติการสร๎างบารมีของทํานดังนี้ครับวํา “ ปีพ.ศ. 2496 ผมเรียนจบชั้น

มัธยมศึกษาปีที่ 6 และได๎มาเรียนวิชาครูที่กรุงเทพ ฯ คือเรียนวิชาครู ปป. ที่

โรงเรียนฝึกหัดครูพระนคร วังจันทร๑เกษม เรียน 3 ปี จึงได๎วุฒิ ปป. เรียนจบเมื่อ

ปีพ.ศ. 2499 ก็ได๎บรรจุเป็นครูโรงเรียนโยธินบูรณะในปีพ.ศ. 2499 ในขณะนั้น

นั่นเอง ระหวํางศึกษาวิชาครู 3 ปี เป็นโอกาสดีที่ได๎ไปฝึกวิชชาธรรมกายที่วัด

ปากน้ําได๎บํอย แตํทําไมํเป็นและยังไมํเห็นธรรมกาย พอโรงเรียนปิดเทอมผม

ไมํได๎กลับบ๎าน ได๎ไปอาศัยอยูํกับพระมหาประเสริฐท่ีวัดปากน้ํา ( เป็นคนบ๎าน

เดียวกัน ) กลางวันไปทําความเพียรอยูํในโบสถ๑ ตอนเย็นไปฝึกกับแมํชีอาจารย๑

ญาณี ศิริโวหาร บ๎านพักของทํานอยูํข๎างศาลาทําบุญหลังเกํา เวลา 6 โมงเย็น

– 1 ทุํม ทํานสอนวิชาเบื้องต๎นให๎โดยมีแมํชีและฆราวาสไปฝึกกันหลายคน

ชํวงเวลานี้ผมกับหลวงพี่สายบัวไปรับการฝึกด๎วย ( ตอนนี้ไมํทราบวําหลวงพี่

สายบัวได๎ลาสิกขาแล๎วทํานไปอยูํที่ไหน ) ทําอยูํอยํางนี้ระหวํางปิดภาคเรียนอยูํ

ถึง 3 ปีก็ยังไมํเห็นธรรม มีอยูํวันนึ่งเป็นเวลาบํายได๎ไปทําความเพียรอยูํในอุโบสถ

นั่งทําภาวนาจนเกิดความเมื่อยล๎าจึงได๎เปลี่ยนอิริยาบถเป็นนอนภาวนาบ๎าง เผลอ

แล๎วก็หลับไปพอตื่นขึ้นมาเห็นพระประธานในโบสถ๑ยิ้มให๎ ยังจําเหตุการณ๑ได๎ติด

ตามาจนถึงวันนี้ สรุปแล๎วชํวงเวลา 3 ปีที่เรียนวิชาครูในกรุงเทพ ฯ นั้น พากเพียร

เทําไร ๆ ก็ยังไมํเห็นธรรมอยูํดี การฝึกภาวนาระยะเวลาที่รับราชการในกรุงเทพ

ฯ เป็นเวลา 10 ปี คือผมรับราชการเป็นครูโรงเรียนโยธินบูรณะตั้งแตํปีพ.ศ. 2499

– 2500 และปีพ.ศ. 2501 – 2509 เป็นครูโรงเรียนวัดบวรนิเวศ ชํวงเวลานี้ได๎ไป

Page 127: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

127

ศึกษาวิชชาธรรมกายที่วัดปากน้ําตลอดก็ได๎มาฝึกวิชากับแมํชีอาจารย๑ญาณี ศิริ

โวหาร แล๎วก็ได๎มารู๎จักกับแมํชีอาจารย๑ทองสุก สําแดงปั้น รู๎จักกับทําน เจ๎าคุณ

ภาวนาโกศลเถระตั้งแตํครั้งที่ทํานยังไมํได๎สมณศักดิ์ เดิมทํานเจ๎าคุณภาวนา ฯ

( พระอาจารย๑วีระ ) อยูํศาลาแมํแม๎นบนลานอุโบสถ ตํอมาทํานได๎มาอยูํที่กุฏิ

โรงงานคือ ตึกที่ทํานประจําอยูํทุกวันนี้ เมื่อรู๎จักกับแมํชีอาจารย๑ทองสุกก็เรียนกับ

ทํานมาโดยตลอด จวบจนทํานได๎ถึงแกํกรรมเมื่อปีพ.ศ. 2506 สํวนอาจารย๑

ไชยบูลย๑ ธัมมชโย เพิ่งเข๎าวัดตอนตั้งศพแมํชีอาจารย๑ทองสุกนี้เอง ขอกลําวถึง

ทํานแมํชีอาจารย๑ทองสุกวํา ทํานเป็นอาจารย๑ของผมซึ่งได๎อบรมสั่งสอนผมเป็น

เวลายาวนาน เพื่อนคูํหูของทํานคือ อุบาสิกาลูกจันทร๑ ขนนกยูง ทํานอยูํรํวมกัน

ที่บ๎านพักข๎างศาลาทําบุญ ครั้งนั้นบ๎านหลังนี้ผมและลูกศิษย๑คนอื่น ๆ ได๎ไปฝึก

วิชากับทําน แมํชีอาจารย๑ทองสุกมีหน๎าท่ีเผยแพรํ สํวนอุบาสิกาลูกจันทร๑ทําวิชา

อยูํในโรงงาน แมํชีอาจารย๑ทองสุกทํานมีวาทศิลป์ , ลักษณะทําทางดีมากใครเห็น

เป็นต๎องชอบ , เชื่อมั่นในความรู๎ทางธรรมเป็นอยํางสูง , มีลูกศิษย๑มาก สํวน

อุบาสิกาลูกจันทร๑ไมํได๎ทําหน๎าที่เผยแพรํ แตํทําวิชาอยูํในโรงงานจึงไมํคํอยจะรู๎จัก

ใคร เมื่อทํานได๎ถึงแกํกรรมลง อุบาสิกาลูกจันทร๑ก็ว๎าเหวํพอสมควร ผมได๎ทํา

หน๎าท่ีประสานงานอยูํระยะหนึ่ง และได๎สร๎างบ๎านหลังใหมํให๎ทํานได๎ทําภาวนา

จากนั้นผมก็ไปรับราชการตํางจังหวัด เปลี่ยนตําแหนํงหน๎าที่ทางราชการจากครู

เป็นศึกษาธิการอําเภอตั้งแตํปีพ.ศ. 2509 ผมไมํได๎ติดตํอกับอุบาสิกาลูกจันทร๑อีก

เลย สํวนแมํชีอาจารย๑ญาณี ศิริโวหาร เมื่อสมัยผมเป็นนักเรียนฝึกหัดครูได๎รับ

Page 128: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

128

การฝึกวิชาเบื้องต๎นจากทําน และเมื่อผมรับราชการเป็นครูอยูํในกรุงเทพ ฯ อยูํ 10

ปีนั้นเคยติดตํอกับทําน วิชาของทํานสูงมากใครติดขัดอะไร ทํานจะเป็นผู๎ชี้ขาด

หลวงพํอมอบหมายให๎เป็นหัวหน๎าเวรทําวิชาปราบมาร นอกจากจะเกํงทางวิชชา

ธรรมกายแล๎วทํานยังได๎นักธรรมเอกและเครํงครัดสิกขาบทอีกด๎วย เวลาบอกวิชา

ทํานเป็นผู๎ที่ละเอียดในการใช๎ถ๎อยคําภาษาในการถํายทอดเป็นยิ่งนัก สําหรับ

อาจารย๑ฉลวย สมบัติสุข ก็เป็นผู๎เชี่ยวชาญวิชชาธรรมกาย และทําหน๎าที่หัวหน๎า

เวร ในสมัยหลวงพํอยังมีชีวิตอยูํทํานไมํได๎อยูํในเพศอุบาสิกา มีบุคลิกลักษณะ

งดงาม พูดไพเราะ ผมเคยไปขอร๎องให๎ทํานแก๎โรคและให๎ชํวยทําวิชชาอื่นด๎วย มี

กิตติศัพท๑เลําลือวําเกํงมาก อุบาสิกาถนอม อาสไวย๑เคยเลําให๎ฟังวํา “ คุณฉลวยมี

บุญฤทธิ์มากทําให๎ฟ้าร๎องได๎ , ทําให๎นาฬิกาหยุดเดินก็ได๎ เรื่องการบอกวิชาแล๎ว

ยอมรับวําบอกได๎ละเอียดลออดีนัก ” ไมํได๎พบทํานมานานแล๎ว ทราบวํากลับไป

อยูํเชียงใหมํ เมื่อครั้งผมเป็นศึกษาธิการอําเภออยูํอํางทอง เคยมีวัดทางเชียงใหมํ

เชิญให๎ไปสอนแตํแล๎วก็ไมํได๎ไป นึกอยูํในใจวําถ๎าได๎ไปจะไปเยี่ยมคุณฉลวย ทราบ

วําทํานประกอบอาชีพสํวนตัว สํวนทํานเจ๎าคุณภาวนาโกศลเถระ ( พระมหาเจียก

) เมื่อปีพ.ศ. 2502 หลวงพํอมรณภาพ ผมและน๎องชายบวชเณรถวายหลวงพํอ 7

วัน บวชเสร็จแล๎วไมํรู๎จะไปอยูํกุฏิไหน เพราะวัดปากน้ํามีพระเณรมากเหลือเกิน

แมํชีทองสุกบอกวําให๎อธิษฐานใจวํา หลวงพํอรักพระรูปใดมากขอให๎รูปนั้นชวน

ไปอยูํด๎วย ได๎ผลทันตาเห็น ทํานเจ๎าคุณ ฯ ชวนไปพักอยูํกุฏิตึกเหลือง ทํา

หน๎าท่ีเป็นพระพี่เลี้ยงจึงได๎รู๎จักกับทํานมาตั้งแตํครั้งนั้น แมํชีทองสุกเลําวํา ทําน

Page 129: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

129

เจ๎าคุณ ฯ เป็นธรรมกายตั้งแตํเป็นสามเณรน๎อย เกํงในทางแก๎โรคและเกํงอยํางอื่น

หลายอยําง เลําลือกันวํา ใครขัดข๎องทางวิชชาธรรมกายต๎องไปถามทําน เมื่อชี้

ขาดแล๎วเป็นอันยุติ ทํานเป็นผู๎ที่พูดน๎อยใครวําอะไรทํานมักจะคล๎อยตาม เป็น

การเอาใจเพื่อน เมื่อหลวงพํออาพาธหลวงพํอมอบหมายให๎ทํานเจ๎าคุณ ฯ

ประสิทธิ์ประสาทพระของขวัญแทน เสียใจที่อายุสั้นเหลือเกิน ความรู๎วิชชา

ธรรมกายอยูํกับทํานมากทีเดียว ชํวงเวลาที่ผมบวชเณรพักอยูํกับทําน ตอนนั้น

ทํานยังไมํได๎เป็นเจ๎าคุณ ฯ และอีกทํานหนึ่งคือ เจ๎าคุณภาวนาโกศลเถระ ( พระ

อาจารย๑วีระ ) รู๎จักกับทํานมานานแล๎วตั้งแตํครั้งผมบวชเณรถวายหลวงพํอเมื่อปี

พ.ศ. 2502 ได๎ไปฝึกภาวนาอยูํกับทํานที่กุฏิศาลาแมํแม๎นบนลานอุโบสถ และ

เมื่อทํานมาอยูํที่กุฏิโรงงาน ผมได๎มาอาศัยฝึกวิชาอยูํกับทํานอีก ค๎างอยูํกับทําน

ด๎วย จึงได๎ยินได๎ฟังวําโรงงานเขาทําวิชาอะไรกัน ถึงฟังตอนนั้นก็ไมํรู๎อะไรกับ

เขา มารู๎เรื่องเอาตอนที่ทําวิชาปราบมารด๎วยตนเอง ทํานเจ๎าคุณภาวนา ฯ หรือที่

เราเรียกวําเจ๎าคุณวีระนี้สนใจการเรียนวิชชาธรรมกายมากที่สุด เหตุที่บวชก็เพื่อ

ศึกษาวิชชาธรรมกายเป็นสําคัญ กํอนบวชทํานทํางานกับฝรั่ง ฐานะทางการเงินดี

มาก ตํอมาได๎เป็นธรรมกายมาจากหลวงพํอ เกิดความศรัทธาอยากศึกษาจึงสละ

ทางโลกทั้งหมด ถือบวชและศึกษาวิชชาธรรมกายเรื่อยมาก ศึกษาอยํางผู๎รู๎เรียน

เป็นประโยชน๑ตํอพระศาสนา ตํอมาทางการสงฆ๑เลื่อนทํานเป็นเจ๎าคุณ นํา

อนุโมทนาจริง ๆ ทางวัดได๎ตั้งให๎ทํานเป็นอาจารย๑ใหญํฝ่ายวิปัสสนา ถูกใจผม

เหลือเกินตําราวําด๎วยวิชชาธรรมกายที่ได๎จัดพิมพ๑เผยแพรํไปนั้นนับวําประเสริฐ

Page 130: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

130

เลิศล๎น ไมํวําจะเป็นเนื้อหาวิชาหรือภาษาหนังสือเรียบร๎อยดีเหลือเกิน ผมนับถือ

ทํานเป็นอาจารย๑และถ๎าผมไมํได๎ตําราที่ทํานเจ๎าคุณ ฯ พิมพ๑เผยแพรํไว๎ผมก็คงทํา

วิชาปราบมารไมํได๎ เรื่องของตํารายํอมมีความละเอียดดีกวําการจําจากการบอก

เลําแนํ ๆ การเผยแพรํวิชชาธรรมกายของผมหากพระเถระผู๎ใหญํทําได๎ผมมักจะ

พามาคารวะทํานเจ๎าคุณ ฯ เสมอ อยํางน๎อยทํานก็ดีใจเพราะเป็นการมาพบ

อาจารย๑ใหญํ การเผยแพรํในสายตาของผมไมํเป็นที่รังเกียจของทํานเจ๎าคุณ ฯ เลย

เพราะผมยกยํองวําทํานเป็นพระอาจารย๑ แตํการที่ผมทําวิชาปราบมารได๎นั้นเป็น

การคิดค๎นคว๎าของผม เป็นความก๎าวหน๎าทางวิชชาธรรมกายของผม อยํางนี้ทําน

เจ๎าคุณ ฯ ดีใจแนํ ๆ วิชชาธรรมกายเกิดแกํผู๎มีใจบริสุทธิ์ ผมไมํมีนอกไมํมีในกับ

ใคร จึงเข๎าถึงวิชชาได๎จนถึงขั้นปราบมาร

อาจารย๑การุณย๑ บุญมานุช กับการสร๎างบารมีที่สําคัญ

“ หลวงปู่ต๎องการสร๎างบารมีเป็นพุทธภูมิ ถ๎าหลวงปู่ตายไปหลวงปู่จะรีบมา

เกิดเพื่อสร๎างบารมีเพิ่มเติม เพราะยังมีศาสนาอยูํ ไอ๎ครูคอยดูหลวงปู่ด๎วยนะ ”

คําวําไอ๎ครูหมายถึงผู๎เขียน ทํานเรียกผมวําไอ๎ครู เพราะตอนนั้นผมเป็นครู

โรงเรียน ฟังแล๎วก็ไมํได๎ใสํใจผมไมํรู๎เรื่องอะไรทั้งนั้น ยิ่งใช๎คําวําพุทธภูมิ ยิ่งไมํรู๎

กันใหญํฟังไปอยํางนั้นเอง เหตุการณ๑ผํานมาหลายปีจนถึงปีที่ผมทําวิชาปราบมาร

เรื่องราวที่หลวงปู่ชั้ว โอภาโส พูดไว๎ดังก๎องแกํใจผม ผมนึกถึงหลวงปู่อีกครั้ง

หนึ่งระลึกถึงความหลังครั้งผมเป็นครูหนุํม ๆ เหตุใดหลวงปู่จึงบอกให๎เราดูแล

Page 131: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

131

ทําน หลวงปู่ต๎องเป็นธรรมกายระดับแกํกล๎า จึงกล๎ากลําววาจาเชํนนั้นแกํผม

แปลวํารู๎การณ๑ข๎างหน๎า การทําวิชาปราบมารวิชาถึงกันหมดไมํวําท่ีใด ๆ วิชาเรา

ไปถึงทั้งนั้นไมํวําใครอยูํที่ไหน เราต๎องไปพบได๎ท้ังหมด หลวงปู่ฉลาดมากเป็น

ภาระที่เราต๎องดูแลทํานตลอดไป เพราะทํานได๎ขอร๎องไว๎ตั้งแตํครั้งอยูํในโลก ไมํ

มีใครปรารภแกํเราอยํางนี้ แม๎แตํแมํชีถนอม อาสไวย๑อาจารย๑ของผมก็ยังไมํ

ปรารภอยํางนี้ และไมํเคยมีใครปรารภแกํผมทั้งนั้น มีหลวงปู่ชั้วปรารถนาไว๎รูป

เดียวเทํานั้นเป็นภาระที่เราต๎องดูแลทํานตลอดไป เพราะทํานได๎บอกแกํเราไว๎แล๎ว

สํวนเหตุการณ๑กํอนทําวิชาปราบมารของผมไปอีกแนวหนึ่ง ไมํมีมารมาตกลง

อะไร ไมํเหมือนเหตุการณ๑ของหลวงพํอกํอนจะรู๎ตัววําปราบมาร เกิดความร๎อน

รนใจ ใจคอดหงุดหงิด อยากเลิกเรียนวิชชาธรรมกายและประกาศปิดสํานักเรียน

หยุดสอนชั่วคราว เพราะความไมํสบายใจ คนที่เคยมาเรียนกับผมเขาก็หยุดไป

วันหนึ่งมาคิดวํา การบอกปิดสํานักนั้นไมํชอบด๎วยเหตุผล ผู๎คนที่เขามาเรียน

ล๎วนแตํเป็นกําลังในการเผยแพรํวิชชาธรรมกาย ชํวยหาเงินพิมพ๑หนังสือและเป็น

อุปการะเรื่องอื่น ๆ เมื่อเราปิดสํานักแล๎วเขาจะไปเรียนที่ไหน จึงเปิดสํานักใหมํคน

ก็มาเรียนตามเดิม การทําวิชาคราวนี้แปลกกวําทุกคราว เรื่องที่เราไมํเคยเห็นเราก็

ได๎เห็นวิชาที่เราไมํรู๎ก็รู๎วันนี้ โดยเฉพาะรู๎เรื่องการปราบมารวําเป็นอยํางไรมา

อยํางไรแตํก็ไมํได๎ตัดสินใจ เพราะยังโต๎แย๎งกันอยูํ ผมปฏิเสธเสียงแข็งเสนอวําผู๎

ปราบมารควรเป็นแมํชีถนอม อาสไวย๑ อาจารย๑ของผมขณะนั้นยังมีชีวิตอยูํ แตํ

แยกกันอยูํผมไปเป็นผู๎ชํวยศึกษาธิการจังหวัดจันทบุรี แมํชีอยูํที่จ.อํางทอง และ

Page 132: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

132

เสนอผู๎อื่นอีกหลายทําน ธาตุธรรมไมํทรงฟังผมเลยจะรวบหัวรวบท๎ายเอาแตํผม

สถานเดียว ผมได๎แตํน้ําตาไหลเสียใจเป็นกําลัง เพราะเราไมํรู๎อะไรกับเขา เป็นวิชา

แบบงู ๆ ปลา ๆ เป็นนักปฏิบัติสมัครเลํนไมํใชํผู๎ทรงศีล มีกิเลสร๎อยแปดไมํเห็นมี

อะไรดีสักอยําง ฐานะความเป็นอยูํและอะไรทั้งหลายไมํได๎เรื่องทั้งนั้น จะกราบ

เรียนเทําไรธาตุธรรมไมํทรงรับฟัง ผมไมํรับคําเพียงแตํลองเดินวิชาดูกํอน นับแตํ

วันเข๎าพรรษาปีพ.ศ. 2527 ติดตํอมาจนบัดนี้การทําวิชาปราบมารไมํได๎หยุดเลย

ผมจึงมีความเห็นวําการทําวิชาปราบมารควรทําให๎เป็นหลาย ๆ คน จึงได๎เขียน

หนังสือเลํมนี้ขึ้น เรื่องกําหนดเวลาทําวิชาปราบมาร ตามที่หลวงปู่เลําบอกวําทํา

25 ปีจะชนะแท๎จริง แล๎วหลวงพํอทําวิชารบมากกวํา 30 ปี จนกระทั่งหลวงพํอ

มรณภาพ งานปราบมารจึงยังค๎างอยูํ การฝึกภาวนาระยะที่ทํางานอยูํตํางจังหวัด

เมื่อปีพ.ศ.2509 ผมเปลี่ยนตําแหนํงหน๎าที่ราชการจากครูเป็นศึกษาธิการอําเภอทํา

ใหมํ จ.จันทบุรี ( เมื่อปีพ.ศ. 2509 – พ.ศ. 2514 ) ฝึกฝนวิชาเฉพาะตนเป็นวิชา

เบื้องต๎นชั้นสัมมาอะระหัง เพียงตั้งดวงปฐมมรรคแบบเห็น ๆ หาย ๆ เห็น

ธรรมกายบ๎างไมํเห็นบ๎าง แตํญาณทัสสนะมีบ๎างแล๎วถูกบ๎างผิดบ๎าง พอถึงปีพ.ศ.

2514 ชีวิตราชการของผมก็ย๎ายไปเป็นศึกษาธิการอําเภอป่าโมก จ.อํางทอง ไป

พบอุบาสิกาถนอม อาสไวย๑ ศิษย๑เอกของหลวงพํอตั้งสํานักวิปัสสนาอยูํข๎าง

วัดท๎องคุ๎ง อ.เมือง จ.อํางทอง เมื่อไปติดตํอราชการที่จังหวัด รถยนต๑จะผํานหน๎า

บ๎านของทําน ผมเห็นป้ายชื่อสํานักจึงเข๎าไปดูพบแมํชีถนอมทันที นึกในใจวํา

เหตุใดชีวิตของผมจะต๎องย๎ายมาคลุกคลีกับเรื่องธรรมกายเข๎าอีก ไมํนึกวําจะมา

Page 133: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

133

พบแมํชีผู๎เชี่ยวชาญวิชชาธรรมกายอยํางแมํชีถนอม แตํก็มาพบกันโดยไมํคาดคิด

เมื่อพบทําน ๆ ถามวําเคยเรียนวิชชาธรรมกายมาอยํางไร ผมเรียนไปวําได๎เรียน

เรื่องฌานมา ทํานบอกวําไมํได๎ต๎องตั้งดวงปฐมมรรคกํอนทํานวําของทํานอยําง

นั้น ผมทําตามสถานเดียวก็คือทําวิชา 18 กายนั่นเอง จากนั้นก็เรียนเรื่อย ๆ เรียน

ไปเทําไรพยายามโน๎ตวิชาไว๎ ผมเรียนตั้งแตํปีพ.ศ. 2514 – พ.ศ. 2523 จึงย๎ายไป

เป็นผู๎ชํวยศึกษาธิการจังหวัดปทุมธานีอยูํ 6 เดือน , ย๎ายไปเป็นผู๎ชํวยศึกษา ฯ

จังหวัดสมุทรสาคร ชํวงนั้นได๎เผยแพรํวิชชาธรรมกายที่วัดเจษฎาราม อันเป็น

วัดของทํานเจ๎าคุณราชสาครมุนีเจ๎าคณะจังหวัด เป็นเจ๎าอาวาส เมื่อทํานเจ๎าคุณ

ราชสาครมุนีเป็นธรรมกายแล๎วทํานได๎เผยแพรํตํอ ในขณะเดียวกันนั้นผมก็ไมํได๎

ไปมาหาสูํกับแมํชีถนอมอีกเลย เมื่อหํางครูบาอาจารย๑ก็ลองมาอํานตําราที่ทํานเจ๎า

คุณภาวนาโกศลเถระได๎พิมพ๑เผยแพรํ แตํไหนแตํไรมาไมํเคยอํานตําราเกรงวําจะ

รู๎ตามตํารา เรื่องของการฝึกใจกับตํารามันควรอํานให๎น๎อยแตํฝึกให๎มากถือคติ

อยํางนี้จึงไมํอํานตํารามาแตํไหนแตํไร ครูเขาสอนอยํางไรก็ทําอยํางนั้น สอนแคํ

ไหนก็ทําแคํนั้น การเผยแพรํของผมเป็นเรื่องปฏิบัติล๎วนๆอ๎างตําราแตํน๎อย ครั้น

มาอํานตําราของทํานเจ๎าคุณภาวนา ฯ เข๎า มีความเข๎าใจโดยตลอด กํอนนี้เรียน

จากครูอาจารย๑แบบมุขปาฐะคือ แบบปากตํอปาก บัดนี้ไมํมีครูอาจารย๑ก็เลยลอง

อํานตําราดูก็รู๎เรื่องและรู๎อยํางดี สามารถแยกเรื่องและหาประเด็นสําคัญได๎ พอดี

ผมย๎ายไปเป็นผู๎ชํวยศึกษาธิการจังหวัดจันทบุรีเมื่อปีพ.ศ. 2525 ทําให๎เจ๎าคุณเจ๎า

คณะจังหวัดสมุทรสาครว๎าเหวํ เพราะทํานต๎องเผยแพรํแตํผู๎เดียวตั้งแตํปีพ.ศ.

Page 134: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

134

2525 จนบัดนี้ ผมทําราชการอยูํที่จ.จันทบุรีตลอด อยูํจันทบุรีเผยแพรํด๎วยการ

เขียนตําราก็กะวําจะยุติแคํนี้ เห็นวําสมควรแกํอัตภาพแล๎วแตํเรื่องราวกลับยาว

ความไปอีกถึงปีพ.ศ. 2527 ได๎ทําวิชาปราบมารมาจนถึงทุกวันนี้ เรื่องเกี่ยวกับ

แมํชีถนอม อาสไวย๑ ที่ผมจะได๎กลําวถึงไว๎บ๎างเป็นที่เลําลือกันวํา เป็น

ผู๎เชี่ยวชาญในเรื่องวิชชาธรรมกาย ใคร ๆ ก็พูดกันอยํางนี้เคยทําวิชาในโรงงาน

ตั้งแตํครั้งหลวงพํอมีชีวิตอยูํ ครั้นหลวงพํอมรณภาพแล๎วได๎ออกจากวัดไปอยูํ

บ๎านสํวนตัว แตํยังรักษาการเป็นอุบาสิกาอยูํใช๎บ๎านของทํานเป็นสํานักสอน ทําน

ได๎เลําอะไร ๆ ให๎ผมฟังหลายเรื่อง มีอยูํเรื่องหนึ่งทํานเลําให๎ฟังวํา เมื่อครั้งเป็น

หัวหน๎าเวรทําวิชาในโรงงานนั้น หลวงพํอได๎กําชับแมํชีวําไมํให๎ปิดวิชาใคร

สั่งไว๎อยํางนี้ปีละ 1 ครั้ง รวม 3 ครั้ง ตั้งแตํออกจากวัดปากน้ําไปอยูํบ๎านสํวนตัว

ไมํเห็นใครมาเรียนจริงจังเห็นก็มีแตํศึกษา ฯ คนนี้ แมํชีถนอมพูดอยํางนี้ ผมฟัง

ไปอยํางนั้นไมํได๎คิดอะไร ความคิดที่วําจะทําวิชาปราบมารนั้นไมํได๎อยูํในสมอง

เลย แม๎แตํคิดยังไมํเคย พูดถึงความรู๎ของแมํชีผู๎นี้ ทํานเป็นผู๎รู๎เห็นจริง , เข๎าใจ

วิชาจริง , เข๎าถึงจริง อยํางผมเรียกวําไมํจริง ไมํวําจะพูดวิชาอะไรมักพูดถึงหลัก

กํอนแล๎วจึงจะแจกแจงปลีกยํอย โดยเฉพาะเรื่องเครื่องทํานเข๎าใจเป็นอันดี แก๎

โรคเกํงมาก พูดอยํางเราก็วําการไปอยูํบ๎านนอกมีแตํจะอดตายใครเขาจะให๎กินให๎

ใช๎ บ๎านนอกมีแตํความขัดสนสารพัด แตํแมํชีถนอมอยูํได๎ มีคนเอาปิ่นโตไป

ถวายทุกวัน ถามดูได๎ความวําที่เอาปิ่นโตมาให๎เพราะแมํชีชํวยแก๎โรคให๎ หากแมํชี

ทําความศักดิ์สิทธิ์อะไรไมํได๎ใครเขาจะให๎กินให๎ใช๎ ผมมีประสบการณ๑พบผู๎ทรง

Page 135: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

135

วิชชาธรรกมายมามาก ยอมรับวําแมํชีถนอมยอดเยี่ยม ผมเป็นวิชาก็เพราะแมํชี

คนนี้ ชี้เหตุชี้ผลทางวิชาจนผมเองแก๎โรคได๎ ใครบนแก๎โรคผมรับทันทีและได๎

กัลปนาผลโดยสร๎างห๎องน้ําและขยายครัวให๎ทํานมาแล๎ว พูดอยํางเราก็คือจะได๎

อะไรมาแตํละอยํางต๎องแสดงวิชา ไมํใชํชํวยกันโฆษณาพอให๎พ๎นตัวไปวัน ๆ หนึ่ง

พูดมาถึงเรื่องนี้ผมรู๎สึกเสียวมาจนบัดนี้ ผมเป็นฆราวาสแตํไปถวายความรู๎แกํ

พระสงฆ๑ มันนําอันตรายจริง ๆ แตํผมก็ไปสอนมาเจ็ดคุ๎งน้ําแล๎ว แมํชีชอบใจมาก

การปราบมารแดนพุทธภูมิ ( ประเทศอินเดีย )

อาจารย๑การุณย๑ บุญมานุช ทํานได๎เลําถึงประสบการณ๑ในการปราบมารในตําง

แดนของทํานไว๎ในหนังสือปราบมารภาค 1 ( วิชาธรรมกายชั้นสูง ) มีใจความตอน

หนึ่งวํา “ไมํมีเหตุจะไปประเทศอินเดียแม๎แตํคิดก็ไมํเคย ในการทําวิชาปราบมาร

นั้นมีอยูํวันหนึ่งหลวงพํอวัดปากน้ําสั่งวํา “ศึกษาฯต๎องไปปราบมารในอินเดีย”

พูดลอย ๆ ออกมาไมํได๎ใสํใจ เพราะการทําวิชาปราบมารเราเชื่ออะไรไมํได๎ท้ังนั้น

มารเขาหลอกเราสารพัด เขาสอดละเอียดเรา เราสอดละเอียดไปจึงเชื่ออะไรได๎

ยาก มาทูลถามพระองค๑ ( พระสมณโคดม ) ทรงรับสั่งคล๎าย ๆ กันแตํแล๎วก็ไมํได๎

ใสํใจแล๎วก็ลืมเหตุการณ๑นั้น อีกประมาณ 2 เดือนตํอมา พระครูพิศิษฐปัญญาคุณ

เจ๎าอาวาสวัดใหมํเมืองจันทร๑ ( รองเจ๎าคณะจังหวัดจันทบุรี ) บอกวํารัฐบาลอินเดีย

มีหนังสือเชิญให๎ไปรับต๎นพระศรีมหาโพธิ์ที่ประเทศอินเดีย ด๎วยรัฐบาลอินเดีย

รํวมฉลองพระชนมพรรษาครบ 5 รอบของพระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยูํหัว จึงได๎

Page 136: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

136

จัดต๎น พระศรีมหาโพธิ์จํานวนหนึ่งมอบแกํรัฐบาลไทย ผู๎ไปรับต๎นพระศรีมหา

โพธิ์นามของรัฐบาลไทยคือ รองอธิบดีกรมศาสนา ( คุณแจ๎ง สุขเกื้อ ) ในการนี้

ได๎มีหนังสือเชิญรองเจ๎าคณะจังหวัดจันทบุรีด๎วย รองเจ๎าคณะจังหวัด ฯ ได๎ชวน

ผมให๎รํวมคณะไปอินเดียด๎วยกัน ผมปฏิเสธด๎วยความขัดข๎องแตํได๎ปรารภไปวํา

“ ถ๎าไปอินเดียก็ต๎องไปปราบมาร ” จะไปเที่ยวเลํนได๎อยํางไร พูดเป็นทีเลํนทีจริง

ไปอยํางนั้น ตํอมาคุณวิชัย สมิทธิกรกุล ( คหบดีจันทบุรี ) ได๎ชวนผมไปคุยกับ

รองเจ๎าคณะ ฯ อันเป็นปกติประจําคือทานน้ําชาและคุยกัน เพราะวัดใหมํเมือง

จันท๑เป็นวัดท่ีผมเผยแพรํวิชชาธรรมกาย จึงมีเรื่องคุยกันตลอดมา สําหรับคราว

นี้รองเจ๎าคณะฯ ได๎เอํยปากชวนอีกครั้ง ผมก็ปฏิเสธเชํนคราวกํอน แตํรองฯ

สําทับมาวํา อาจารย๑ใหญํฝ่ายวิปัสสนาต๎องไป แล๎วคุณวิชัย สมิทธิกรกุล ก็

ตัดสินใจไปวํา “ ผู๎ชํวยศึกษา ฯ ต๎องไป จะจัดการเรื่องคําใช๎จํายให๎” ดังนั้นผมไป

อินเดียด๎วยอุปการะของคุณวิชัย จึงหวนรําลึกถึงคําที่หลวงพํอวัดปากน้ําเคยสั่ง

อีกครั้งหนึ่ง เป็นจริงอยํางหลวงพํอทํานวํา เดินทางเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน

2530กลับเมื่อวันที2่1พฤศจิกายน2530

จุดหมายที่ทําวิชาปราบมาร

1. คันธกุฏี คือ กุฏิพระพุทธเจ๎าบนเขาคิชฌกูฏ

2. สถานที่ตรัสรู๎

3. สถานที่แสดงธรรมจักร

Page 137: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

137

4. สถานที่แสดงโอวาทปาฏิโมกข๑

5.สถานที่ปรินิพพาน-สถานที่ประชุมเพลิง

6.สถานที่ประสูติ

ภารกิจของสงฆ๑ที่สังเวชนียสถาน

เมื่อถึงสังเวชนียสถานพระสงฆ๑และคณะจะสวดมนต๑และทําวัตรและเวียนเทียน

จากนั้นทําสมาธิแบบตํางคนตํางทําเมื่อพอสมควรแกํเวลาผู๎นําทัศนะศึกษาจะชวน

ขึ้นรถเพื่อเดินทางตํอไป ภาระกิจในรถยนต๑ก็คือ ฟังผู๎นําเที่ยวอธิบาย บางตอน

สวดอิติปิโสด๎วย เกี่ยวกับตัวผมพอถึงจุดหมายคือสังเวชนียสถานไมํได๎เวียนเทียน

ไมํได๎สวดมนต๑ทําวัตร รีบเข๎าวิชชาธรรมกายทําวิชารบทันที รีบทําอยํางเร็วช๎า

ไมํได๎ เพราะคณะเขาจะไปทัศนะศึกษาที่อื่นตํอไป จุดรบที่ยากที่สุดคือ สถานที่

ตรัสรู๎และคันธกุฏีบนเขาคิชฌกูฎเดินวิชาไมํตลอดต๎องมาตั้งต๎นใหมํ วิชาวกวน

มารเขาออกสู๎เต็มที่ จุดท่ีทําวิชาสะดวกคือ สถานที่แสดงธรรมจักรและสถานที่

ประสูติ สําหรับสถานที่แสดงธรรมจักรนั้นอารมณ๑แจํมใสได๎เหตุได๎ผล มีเวลาทูล

ถามพระองค๑ ทูลถามวํา ใคร ๆ มาไหว๎สังเวชนียสถานพระองค๑ให๎บารมีเขา

อยํางไร ไมํทันตอบคําถามทรงเลํนงานผมกํอน ไมํบังคับก็ไมํมาใชํไหม กราบทูล

ไปวํา ไมํมีเงิน รับสั่งตํอไปวํา พระองค๑เข๎าบังคับคุณวิชัยให๎เขาออกคําเครื่องบิน

ให๎ พูดถึงบารมีทรงบอกวํา ให๎ทุกคนแม๎แตํเด็กน๎อยที่แมํอุ๎มมาก็ได๎ด๎วย ไมํวําจะ

เป็นชนชาติใด ถ๎ามาสังเวชนียสถานแล๎วเป็นต๎องได๎บารมีทุกคน เมื่อผู๎คนเขามา

Page 138: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

138

สังเวชนียสถานนั้น พระองค๑เสด็จลงมาจากพระนิพพานหรือเปลํา สํวนใหญํไมํ

มา เพราะมารเขาขวางกั้น ได๎แตํตํอญาณทัสสะมาดูแล๎วให๎บารมีเขา มีใครมาทํา

วิชาปราบมารถวายบ๎าง ทรงตอบวําไมํมี มีแตํศึกษา ฯ นี่แหละที่มาทําให๎ อีกจุด

หนึ่งคือสถานที่ประสูติอารมณ๑ของผมแจํมใส ได๎กราบทูลออกความเห็นไปวํา

หลักประสูติปักไมํถูก ทรงสวนมาวํา ที่ถูกนั้นคืออยํางไร จะต๎องเลื่อนเสาเข๎าไป

ใกล๎ศาลาศิริมหามายาอีก 1 วา ทรงตอบกลับไปวํา ก็แถว ๆ นี้แหละ ขอเลํา

เพียงแคํนี้ ผมไมํได๎สนุกกับเขา พอไปถึงอินเดียถูกมารปราบกํอนถํายท๎องหลาย

ครั้ง ไข๎ขึ้น ทานอะไรไมํได๎ตั้งแตํ 2 ทุํมถึงตี 5 นอนซมแตํไมํหลับ ทําวิชาตลอด

ชนะเมื่อตอนตี 5 ดีแตํวําภรรยาจัดหายาเตรียมไปให๎อาศัยยาท่ีเตรียมไปชํวยได๎

มาก เพื่อนเขามาคุยกันแตํเราสนุกด๎วยไมํได๎ ทําปราบมารก็อยํางนี้ เดี๋ยวดีเดี๋ยว

ร๎าย สถานที่ตรัสรู๎นี้ร๎ายนักผํานจุดนี้ไปได๎ ไปเจอสถานที่ประสูติอีก รถยนต๑

ไฟดับจําต๎องวิ่งมามืด ๆ อยํางนั้น จากหลักประสูติมายังโรงแรมที่พักเป็น

ระยะทาง 100 กวํากิโลเมตร เมื่อคับขันเชํนนี้ต๎องทําวิชาตลอด ใกล๎จะถึงโรงแรม

ที่พักรถยนต๑คันของเราเกือบชนเกวียนวัว หํางกันเพียงฝ่ามือเดียวเทํานั้น พ๎น

จากเกวียนมาได๎แล๎ว รถยนต๑ของเราเขาสูํความสวําง รองเจ๎าคณะจังหวัดจันทบุรี

คงลืมตัวลุกขึ้นหยิบไมโครโฟนขึ้นพูดวํา “ ผู๎ชํวยศึกษา ฯ ชนะมารแล๎ว กํอนมา

อินเดียผู๎ชํวย ฯ บอกวําจะมาปราบมาร ” ทํานเจ๎าคุณกิตติวุฑโฒ และทํานเจ๎า

คณะจังหวัดนครราชสีมารํวมไปกับขบวนรถคันของผมด๎วย และรวมทั้งเพื่อน

สหธรรมมิกอีกมากมาย ได๎ยินประกาศของรองเจ๎าคณะจังหวัดจันทบุรีกันทั่ว

Page 139: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

139

ครั้นรถยนต๑ของเราเข๎าสูํความสวํางแล๎วพวกเราตํางโลํงใจ ที่รอดตายมาด๎วยกัน

ผู๎จัดการบริษัทเอ็นซีทัวร๑ กลําวในรถทัศนะศึกษาวํา จัดนําเที่ยวอินเดียเป็นเวลา

กวํา 14 ปี ไมํมีครั้งใดและไมํมีเที่ยวไหนที่เกิดอุปสรรคมากมายเหมือนเที่ยวนี้

ผมได๎ยินแตํก็นึกในใจ อุปสรรคมีเพราะมารเขามาสู๎กับผม ถ๎าผมไมํทําวิชาปราบ

มารอุปสรรคก็ไมํมี รถทัศนะศึกษาของเรามีอุปสรรคทุกวันเชํน ยางแตก และ

อะไรตําง ๆ ทุกวัน พลอยที่เราจะเร็วขึ้นกลับเป็นช๎า ไมํมีวันใดราบรื่นได๎เลย นี่

คือมารเขาทําให๎เป็นไป เมื่อทําวิชาปราบมารครบจุดสําคัญในแดนพุทธภูมิแล๎ว

ตํอไปพระพุทธศาสนาจะเจริญขึ้นอีก

ความรู๎สึกสํวนตัวตํอการปราบมารในแดนพุทธภูม ิ

กํอนเดินทางกลับมีชํวงเวลาหนึ่งเกิดความโปรํงใสทางอารมณ๑ ความคิดหนึ่ง

เกิดขึ้นแกํใจ เรานี้เกิดมาไมํพบ พระพุทธองค๑เป็นกรรมอยํางหนึ่งของเรา พบ

แตํคําสอนและสังเวชนียสถานของพระองค๑ เคราะห๑ดีอยูํอยํางหนึ่งที่ได๎พบหลวง

พํอวัดปากน้ํา หลวงพํอทํานสอนจนเป็นวิชชาธรรมกาย ธรรมกายคือตถาคต

และตถาคตคือธรรมกาย การเข๎าถึงธรรมกายเป็นการเข๎าถึงพระพุทธองค๑แล๎ว

บัดนี้ได๎ทําภารกิจสําคัญลํวงไปแล๎วคือ ปราบมารในแดนของพระองค๑ การไปมา

แสนยากแทบเอาชีวิตไปทิ้ง เครื่องบินขึ้นลงแตํละครั้งใจหายปิดทองพระพุทธรูป

ปางปรินิพพานที่กุสินาราอธิษฐานวําปิดแทนภรรยาและลูก ปิดแทนญาติทุกคน

และปิดแทนเพื่อนสหธรรมมิกทุกคน ถือวําผมเป็นผู๎แทนท้ังหมด เกิดปีติและ

Page 140: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

140

ปลื้มใจขอให๎กระผมและคุณวิชัย ปราศจากซึ่งอาบัติทั้งปวงเถิด แล๎วหันไปดู

คุณวิชัยเห็นเขาถํายวีดีโอ ถํายเอาไว๎ ๆ ต๎องการรวบรวมภาพมาดูกันที่เมืองไทย

วิชาปราบมารในอินเดียยังไมํเสร็จเพียงนั้น นับแตํวันนั้นมางานทําวิชาปราบ

มารในอินเดีย ยังทําสืบตํอมาจนถึงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2530 ( บันทึกสํวนตัว

เลํม 11 หน๎า 7 ) หากจะทราบรายละเอียดเปิดอํานบันทึกก็พอจะนึกได๎ ”

เรื่องเลําที่สําคัญของทํานอาจารย๑การุณย๑

งานพิจารณาทุคติภูมิ เป็นผลงานตั้งแตํปราบมารภาค 1 วันนี้จะเลําให๎ฟังบ๎าง

แตํเปิดเผยมากไมํได๎เอาเพียงแคํพอลําดับความได๎ดังนี้ ทุคติภูมิก็คือภูมิแหํงทุคติ

คือภูมิหรือภพที่ให๎ความทุกข๑สถานเดียว หาความสุขสักนิดไมํได๎เลย ที่มาของ

เรื่องก็คือเวลาบูชาข๎าพระ จําคําของแมํชีทองสุก สําแดงปั้น ไว๎ทํานเคยเลําวํา

ทํานชอบไปเที่ยวนรก เรื่องนี้ระลึกจําขึ้นได๎ใคร ๆ ก็นึกได๎แตํไมํมีปัญญาไป

พิจารณา เพราะเราไมํมีความรู๎ได๎แตํฟังคําของแมํชีไว๎เทํานั้นเรื่องการระลึกถึงผู๎มี

อุปการคุณเป็นเหตุสําคัญ ใครจะอยํางไรข๎าพเจ๎าไมํทราบแตํข๎าพเจ๎าระลึกถึงผู๎มี

พระคุณอยํางเนือง ๆ ระลึกถึงเพื่อนที่ให๎ข๎าพเจ๎าดูเลขคณิต เพราะทําเลขไมํได๎ครู

เขาจะตีเพื่อนเขาให๎ดูทุกข๎อเรารอดจากการถูกต ี เพื่อนคนนั้นตายไปเสียแล๎ว

ระลึกถึงเพื่อนสาวเธอสวยเราชอบไปจุ๎นจ๎านตํอเธอ บัดนี้เธอตายไปแล๎ว ระลึก

ถึงผู๎มีอุปการคุณที่ชํวยให๎เราอยูํรอดมาถึงวันนี้มันคิดไปเองโดยเราไมํตั้งใจ เมื่อ

Page 141: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

141

เราบูชาข๎าวพระเสร็จก็ลองไปทํองนรก , อเวจี , โลกันต๑ แตํแรกมองไมํเห็นเมื่อไมํ

เห็นก็ไมํเจออะไรเพียรทําอยูํอยํางนั้นเป็นเดือนและเป็นปี ภูมิเหลํานั้นมีชื่อเป็น

บาลีเราจําไมํได๎ แตํหลวงพํอทํานจําได๎หมด ตํอมาญาณทัสสนะดีขึ้นพอที่จะเห็น

อะไรบ๎างเพียรตามหาคนของเรา ไปพบในขุมตําง ๆ สํวนใหญํอยูํขุมตื้น ๆ ก็นํา

กายเขามาอยูํสวรรค๑ชั้น 1 สอนให๎ทําภาวนา อีก 2 วันไปดูใหมํ เพื่อนตกไปที่เดิม

อีกแล๎วเราก็ชํวยขึ้นมาอีกกวําจะสําเร็จแตํละรายดูวํา มันเหนื่อยอํอนและยากเย็น

ไมํอยากทําแตํอดนึกถึงเขาเหลํานั้นไมํได๎ กาลตํอมาเราเกํงขึ้นแก๎กายของเขาให๎

เสียกํอนแล๎วบังคับให๎ทําภาวนาคราวนี้งํายขึ้น นําอาหารไปจํายเขาได๎กิน เราต๎อง

คุมจนกวําเขาจะอิ่มไปอิ่มหนึ่งแล๎วเราก็กลับไปทูลถามต๎นใหญํวําภูมิทุคตินั้นมีมา

อยํางไร ชํวงที่ไปทูลถามต๎นใหญํนั้นปราบมารได๎มากแล๎วถึงขั้นชํานาญแตํยังไมํรู๎

เรื่องนรก , อเวจี , โลกันต๑ เรารู๎เรื่องเพียงงู ๆ ปลา ๆ เทํานั้นแตํการชํวยผู๎มีอุปการ

คุณจําได๎วําทําได๎มากแล๎วโดยพระมหาเถรอุปคุตมาชํวยด๎วย จําได๎วําทูลถาม

พระองค๑วํา “ แตํครั้งพระองค๑ไปตรัสรู๎เป็นสัพพัญ๒ูในโลกนั้นเรื่องทุคติภูมิมีอยูํ

อยํางไร ” ทรงตอบวํา “ เห็นมีอยูํอยํางนั้น ” ทูลถามตํอไปวํา “ มีใครไปแตะต๎อง

บ๎างไหม” ทรงตอบวํา “ ไมํมี เห็นหลวงพํอทํานคิดอยูํแตํไมํทันทําอะไรก็

มรณภาพเสียกํอนจะมาถามทําไมมันเรื่องของศึกษา ฯ ” วําแล๎วเชียวเราถามอะไร

เป็นโดนกระนาบทุกทีเลย ไปถามวิชาก็ทรงตอบวําไปคิดเอง ทําอะไรไมํสําเร็จจะ

ทรงกริ้วและไลํเบี้ยเราทันทีเป็นเวรกรรมของข๎าพเจ๎าแท๎ ๆ มารับใช๎ทางธรรมก็ถูก

ธาตุธรรมบังคับ เพราะทรงถือวําเป็นผู๎สั่งให๎เรามาเกิดพูดอยํางนักเลงก็วําทรง

Page 142: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

142

เป็นลูกพี่เราอยํามาดื้อตํอฉันหนํอยเลย ขืนดื้อเดี๋ยวเจอดี จําได๎วําเมื่อวันแรกที่สั่ง

ให๎ทําวิชาปราบมาร ข๎าพเจ๎าปฏิเสธ แม๎หลวงพํอมาสั่งเองข๎าพเจ๎าก็ไมํรับคํา

เหตุการณ๑มาถึงครูอาจารย๑ของข๎าพเจ๎ามากันหมด เราดีใจวําครูของเราต๎องมา

ชํวยเรา เพราะเราวิชาอํอนทํานต๎องมาชํวยคัดค๎าน เพราะทํานก็รู๎วําเราไมํเป็น

วิชาเราเรียนเพียงสมัครเลํนเทํานั้นท่ีไหนได๎เราคาดการณ๑ผิด ครูของข๎าพเจ๎าที่

ตายไปแล๎วทํานมาชํวยธาตุธรรมสนับสนุนไมํได๎มาค๎าน เราเคืองและเสียใจ

ร๎องไห๎ในนิโรธ เพียงเทํานั้นต๎นใหญํเสด็จมาตอนนั้นเรายังไมํรู๎วําต๎นใหญํสั่งเรา

มาเกิดเรายังไมํรู๎อะไรทั้งนั้นทรงรับสั่งรุนแรงมาก “ เมื่อธาตุธรรมอยูํไมํได๎ศึกษา

ฯ ก็อยูํไมํได๎เหมือนกันเงียบกันหมดเหตุการณ๑ไมํดีเสียแล๎ว เพราะเราคนเดียว

หรือนี่ข๎าพเจ๎าได๎แตํเสียใจและร๎องไห๎ เพราะเรารู๎อยูํแกํใจวํามีใครชนะมารบ๎าง

ไมํมี และยังไมํมีใครชนะมารเลย ข๎าพเจ๎าเกํงแคํไหนถึงได๎มารับอาสาธาตุธรรม

ปราบมาร นี่คือเหตุผลของข๎าพเจ๎าไมํใชํเราดื้อ ต๎นใหญํองค๑นี้แหละสําคัญที่สุด

ทรงเป็นผู๎ปกครองใหญํ เลําเรื่องนรกตํอไปดีกวํา เรื่องของต๎นใหญํยังมีอีก

มากมายเกี่ยวข๎องตอนใดจะเลําให๎ฟัง ความคิดที่เราจะไปแตะต๎องภูมิเหลํานั้นเรา

ไมํเคยคิดเพราะเกินปัญญาเสียแล๎ว ที่ไปทูลถามธาตุธรรมก็เป็นเรื่องที่เราอยากรู๎

เทํานั้น เหตุการณ๑ผํานมาเป็นปี วันหนึ่งเกิดระลึกรู๎ขึ้นมาอยํางไรไมํทราบ ภูมิ

เหลํานั้นเป็นเครื่องมือมารเป็นที่คุมขังพวกเรา ทําไมจะต๎องให๎มารมาปกครองเรา

เมื่อเราประพฤติผิดศีลผิดธรรม ทําไมพวกสัมมาทิฏฐิไมํลงโทษกันเองไปให๎มาร

มันเกี่ยวข๎องกับเราทําไม ภูมิเหลํานั้นหากเราไปสูํจะด๎วยเหตุใดโอกาสเกิดแทบไมํ

Page 143: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

143

มีเลย เขาจึงพูดกันวําแผํนดินยังพูดไมํได๎ตราบใดเราก็ยังมาเกิดไมํได๎ตราบนั้น ทํา

ให๎สัตว๑โลกเนิ่นช๎ามรรคผลนิพพาน การชํวยสมาชิกในภูมินั้นข๎าพเจ๎าทํามาตลอด

ไมํเลิกกิจการนี้ เป็นเดือนเป็นปีโชคดีที่ไมํมีใครขัดขวางไมํทราบเป็นเพราะอะไร

แม๎จนบัดนี้ก็ยังไมํทราบเหตุผล เหตุใดจึงไมํมีใครขัดขวางข๎าพเจ๎า วันอะไรจํา

ไมํได๎เสียแล๎วต๎องเปิดอํานบันทึกวําอยูํเลํมใด วันนั้นมันกล๎าขึ้นมาอยํางไรไมํทราบ

เราตั้งเครื่องเข๎าเอาเครื่องของเรานี้แหละ แลบลั่นเข๎าไป มันดับงํายดายยัง

ประหลาดใจจวบจนทุกวันนี้ จับตัวละครผู๎ปกครองเครื่องมาดับให๎หมด เมื่อ

ผู๎ปกครองเครื่องถูกดับเครื่องของภพทํางานไมํมีประสิทธิภาพ เรื่องมีเทํานี้เอง

มันยากตรงเรื่องของสมาชิกที่อยูํในภพนั้นวําเราจะทําอยํางไรตํอไปปัญหาอยูํตรง

นี้ ต๎นใหญํและหลวงพํอทรงดีพระทัยมากรับสั่งวํา “ ศึกษา ฯ คนนี้ใช๎ได๎ ”

พระพุทธองค๑ทรงบอกวําเรียนผูกแล๎วต๎องเรียนแก ๎ เหตุการณ๑ความวุํนวายนั้นอยูํ

ในความทรงจําของข๎าพเจ๎าจําไมํลืม พอเสร็จงานแล๎วเราเหนื่อยพักนิโรธเสียทีได๎

ให๎ลูกสาวคือ ลูกกล๎วย ( น.ส. วิลาวัลย๑ บุญมานุช ขณะนี้เป็นนักศึกษาปีที่ 4

มหาวิทยาลัยมหิดล สาขาพยาบาล ) ปีนั้นเธอยังเป็นเด็กเล็ก ให๎ไปเฝ้าพระพุทธ

องค๑ และให๎ไปหาแมํชีถนอม ( ตอนนั้นแมํชีถนอมตายแล๎ว ) เพื่อถามเรื่องราว

ลูกกล๎วยกลับมาบอกวําไปหาพระพุทธองค๑แล๎วทรงรับสั่งให๎พํอรีบแก๎ไขเรียนผูก

แล๎วต๎องเรียนแก๎ให๎ไปดูแลเดี๋ยวนี้ และแมํชีถนอมก็บอกแกํลูกกล๎วยไปวํา ให๎พํอ

รีบไปแก๎ไขเพราะมันวุํนวายมากแล๎ว ที่วําวุํนวายก็คือเรื่องสมาชิกในภพนรก ,

Page 144: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

144

สมาชิกในภพอเวจีและสมาชิกในภพโลกันต๑จะเอาเขาเหลํานั้นไปไว๎ที่ไหนและจะ

ทําอยํางไรตํอไป จัดระบบปกครองกันอยํางไรตํอไป ข๎าพเจ๎าไปดูเหตุการณ๑ก็ยุติ

วําเอาเขาทั้งหมดเหลํานี้ไปไว๎ตีนเขาพระสุเมรุทั้งหมด สมาชิกนรกมอบให๎สวรรค๑

ดูแล , สมาชิกอเวจีมอบให๎พรหมดูแล และสมาชิกโลกันต๑มอบให๎อรูปพรหมดูแล

จากนั้นเขาก็ทําโทษลงทัณฑ๑กันตามโทษานุโทษ แตํวําพวกเราลงโทษกันเองไมํใชํ

ให๎มารมันมาปกครองอยํางที่เคยเป็นมาแล๎ว

จากนี้ไปพวกเราตายไปแล๎วไปรายงานตัวที่ไหนนับแตํวันนั้นจวบจนวันนี้ข๎าพเจ๎า

ไมํได๎ไปดูแลอีกเลยเพราะไมํวํางนั่นเอง แตํกํอนนี้เมื่อพวกเราตายเราจะต๎องไป

พบยมบาลเขามีหน๎าที่มาไตํสวนผู๎ตาย เมื่อทํานอยูํในมนุษย๑โลกนั้นทํานสร๎างกุศล

ผลบุญอะไรบ๎าง ทํานสร๎างบาปกรรมอันใดบ๎าง แล๎วเขาก็ตัดสินแล๎วเขาก็โยนเรา

ลงในนรก , บางทํานไปอเวจี , บางทํานไปถึงโลกันต๑ นั่นเป็นเรื่องของมารเขา

ใครทําดีพระปกครอง ใครทําผิดคําสอนของพระ มารเขาปกครองวิธีปกครองก็

คือนําไปลงนรกนั่นเอง บัดนี้ไมํมีอยํางนั้นแล๎วทํานต๎องไปพบพนักงานของภาค

สัมมาทิฏฐิ เขาก็ตัดสินเขาก็ลงโทษคือพวกเราลงโทษกันเอง เขาอาจถามทํานวํา

รู๎จัก “ นายการุณย๑ บุญมานุช หรือไมํ ” ทํานตอบวํา “ ไมํรู๎จัก” ประมาทมากที่

ไมํรู๎จักผู๎ปฏิวัติควรเพิ่มโทษ หากตอบวํา “ รู๎จัก” เขาคงถามตํอไปวํา “ ได๎ชํวย

อุปการะหรือชํวยกิจการของนายการุณย๑ บุญมานุช บ๎างหรือไมํ ” หากตอบวํา

ไมํเคยแปลวํา งดเว๎นสิ่งไมํควรเว๎นเขาจะพิจารณาอยํางไรข๎าพเจ๎าไมํทราบ สุดแตํ

Page 145: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

145

เขาเถิดข๎าพเจ๎าไมํรู๎ด๎วยแล๎ว แตํทํานที่ชํวยกิจการของข๎าพเจ๎าเขารู๎กันทั้งนั้น

ทํานอาจโชคดี และข๎าพเจ๎าเชื่อวําทํานโชคดีแนํนอน โชคดีสถานเดียวสํวนรายที่

ข๎าพเจ๎าต๎องยุํงด๎วยเกี่ยวกับการมรณภาพของทํานเจ๎าคุณพระราชสาครมุนี เจ๎า

คณะจังหวัดสมุทรสาคร ข๎าพเจ๎าต๎องยุํงด๎วย เพราะทํานชํวยข๎าพเจ๎าเผยแพรํวิชา

ธรรมกายตลอด เวลาที่พระเดชพระคุณมีชีวิตอยูํในโลก กลําวถึงทํานทั้งหลายที่

ชํวยอาจารย๑อื่นเผยแพรํวิชาธรรมกาย ก็ขอให๎อาจารย๑ทํานนั้นพิจารณา อยําให๎

ข๎าพเจ๎าไปยุํงด๎วยเลย เพราะไมํรู๎จักกันเลยและข๎าพเจ๎าไมํทราบวําทํานตายเมื่อไร

ด๎วย จะให๎ข๎าพเจ๎ารับผิดชอบนั้นก็ยากที่จะกลําว ทางที่ดีควรรู๎จักกันตอนกํอน

ตาย ข๎าพเจ๎าจะได๎จําทํานได๎ไมํวําทํานจะไปทําความดีที่ไหนข๎าพเจ๎าชํวยทั้งนั้น

ไมํจําเป็นต๎องเจาะจงแกํข๎าพเจ๎า ศาสนาของพระพุทธองค๑อยูํที่ใดการเผยแพรํ

วิชาธรรมกายมีที่ไหน ข๎าพเจ๎าอนุโมทนาทั้งนั้น ข๎าพเจ๎าชํวยทั้งนั้นไมํเว๎นแม๎แตํ

คนเดียว แตํขอกลําวไว๎สักคําเถิดเรื่องการชํวยคนตายให๎ไปสูํสุคติภูมินั้นมันไมํ

งําย มันยากและยากมากด๎วย ข๎าพเจ๎ากลําวคํานี้ออกมาได๎ข๎าพเจ๎าสบายใจมาก

จะได๎ไมํตํอวําตํอขานเมื่อตายไปแล๎ว ขอจบผลงานพิจารณาทุคติภูมิไว๎แคํนี้ อยํา

ให๎มากไปกวํานี้เลยถ๎ากลําวถึงเพียงนี้ก็วํามากแล๎ว นี่คือผลงานปราบมาร กลําวไว๎

ในหนังสือปราบมาร 1 ซึ่งพิมพ๑แจกจํายไปนานแล๎วโปรดค๎นหาอํานกันเถิด

พิจารณาสวรรค๑ชั้น 5 และชั้น 6 ผลงานนี้ได๎กลําวไว๎แล๎วในหนังสือปราบมาร

ภาค 1 แตํยังไมํได๎อธิบายวันนี้จะอธิบายอีกที เมื่อเสร็จงานทุคติภูมิก็มาพบวําเหตุ

Page 146: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

146

ใดสมัยกํอนพมํากับไทยรบรากันอยูํเรื่อย ทราบขึ้นมาอยํางไรไมํทราบได๎ก็ทราบ

วําแอบแฝงตัวมาพักอยูํสวรรค๑ชั้น 5 และชั้น 6 นี่เอง จะวํามารก็ไมํใชํจะวําพระก็

ไมํเชิงขืนเอาไว๎จะสร๎างปัญหาหนหลัง....จึงทําวิชาดับทั้งหมด ยังจําเหตุการณ๑ได๎

บ๎างคราวนั้นลูกกล๎วยยังเล็กอยูํให๎เข๎าธรรมกาย ไปถามหลวงพํอวําเมื่อคืนนี้มี

เหตุการณ๑อะไร หลวงพํอตอบแกํลูกวํา “ เมื่อคืนนี้พํอเขาดับเทวดา ” ลูกก็มา

รายงานอยํางที่หลวงพํอทํานวํา แปลวําถูกต๎อง ต๎องตรวจสอบความถูกต๎องทุก

คราวไป ลูกสาวของข๎าพเจ๎าสันทัดเรื่องญาณทัสสนะ กํอนที่อุบาสิกาถนอม อาส

ไวย๑ จะวายชนม๑ได๎พาไปให๎แมํชีตรวจสอบ แมํชียืนยันวํามีญาณทัสสนะเทียมแมํ

ชีทีเดียว ตอนนั้นเธอยังเล็กตอนนี้โตเป็นสาวแล๎วปีหน๎าก็เรียนจบปริญญา และ

จะทําราชการปีหน๎านี้ ญาณทัสสนะอยํางลูกกล๎วยนี้เราสอนมาตั้งแตํหนุํมจนแกํก็

เพิ่งพบเธอคนนี้ แตํอยํางอื่นไมํเป็นเลยไมํเอาใจใสํ , ไมํเรียน , จะเรียนก็ต๎องจ๎าง

ครั้งเป็นเด็กอยํางไรโตเป็นสาวแล๎วก็อยํางนั้นทุกครั้งต๎องมีรางวัล ไปฟ้องหลวง

พํอหลายครั้งแล๎วขอให๎เรียนเสียทีเถิด เธอก็ยังไมํเอาใจใสํอยูํดี เข๎าธรรมกายไป

ฟังประชุมจะนําเรื่องราวมาบอกอยํางละเอียด แม๎พระพุทธองค๑ทรงนินทาเรา ยัง

นําเรื่องมาบอกเราได๎ เข๎าธรรมกายไปนิพพานไปถามต๎นใหญํ , ต๎นนิพพานเป็น

อยํางนี้เธอชํานาญอยํางอื่นไมํรู๎เรื่องทําไมํได๎ เพราะไมํเรียนเธอเกิดมาไมํพบหลวง

พํอไมํเคยเห็นหลวงพํอ แตํเวลาจะสอบโทรทางไกลมาบอกให๎เราบอกหลวงพํอ

ด๎วยทุกปี งานปราบมารที่เป็นไปได๎เธอมีสํวนอยูํมากในเรื่องสืบรู๎สืบญาณทัสสนะ

หากไมํมีเธอเราไมํรู๎จะทําอยํางไรเหมือนกัน เพราะการวินิจฉัยบางเรื่องต๎องให๎ได๎

Page 147: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

147

ความแนํชัดจากธาตุธรรมกํอนเสมอไป เราทําตามลําพังคนเดียวไมํได๎จะมาฟังรู๎

ฟังญาณทัสสนะของเราคนเดียวไมํได๎ เวลาคํานวณบารมีเธอเอาด๎วย ไมํได๎ก็ไป

โวยวายธาตุธรรม หนูต๎องได๎ด๎วยถึงหนูไมํได๎ทําวิชา แตํพํอก็มาใช๎หนูให๎หนูมา

หาพระองค๑ ให๎หนูถามเรื่องราวจากพระองค๑แล๎วไปบอกพํอ ถ๎าหนูไมํได๎บารมี

ด๎วยวันหลังหนูจะไมํชํวยพํอบูชาข๎าวพระ หลวงพํอจะได๎อด เออ..หลวงพํอจะ

ให๎ ดูมันเถียงหลวงพํอ มันจะเอาชนะหลวงพํอให๎ได๎ ไอ๎พํอกับไอ๎ลูกมันพอกัน ก็

มันพํอลูกกันนํามาเลําได๎หมด วันหนึ่งจําไมํได๎แล๎วไมํทราบวําปีไหนเราคํารามไป

วํา กล๎วยเข๎าธรรมกายไปหาหลวงพํอ เธอไมํได๎ทําวิชานานแล๎วอารมณ๑ฟุ้งหมด

เราวําไปอยํางนั้น ทําไมวันนั้นชํางดีใจหาย เธอเข๎าธรรมกายไปหาหลวงพํอ

กลับมารายงานวํา พํอใช๎ให๎มากราบหลวงพํอ เออ.... เอ็งมาก็ดีแล๎ว หนูไมํรู๎หรือ

พํอเขาจะแก๎ให๎ศพหลวงพํอฟื้น ทําทําจะฟื้นหลายหนแล๎ว มันขบเหลี่ยมอะไรอยูํ

ไมํรู๎ แล๎วหนูก็ไปหาต๎นใหญํทูลตํอต๎นใหญํวํา”แอบหลวงพํอมาไมํให๎หลวงพํอรู๎

จะมาถามพระองค๑วําเรื่องของพํอที่แก๎ศพหลวงพํอนั้น เป็นไปได๎อยํางไรมันฝืน

ธรรมชาติ” “หนูรู๎ไหม.....หลวงพํอทํานมีความรู๎ทางธรรมมีทางเป็นไปได๎ ถ๎าเรา

ไปทําแกํคนที่ไมํมีความรู๎อยํางนั้น อยําไปทําเลยมันฝืนธรรมชาติอยํางที่หนูวํา”

แล๎วเธอก็นําเรื่องมาเลําตามที่บรรยายมานี้ เราอยําเชื่อเป็นอันขาดเราต๎องเข๎า

ธรรมกายไปถามพระองค๑ทันทีวํา ทรงรับสั่งไปกับลูกอยํางนั้นใชํหรือไมํ หาก

ยืนยันเราจึงฟัง ความรู๎เด็กอยําเชื่อมารมันหลอกได๎ไมํวําใครเราต๎องคุม จะให๎เขา

ทําอะไรเราต๎องคุม ขนาดเราคุมมารมันยังหลอกได๎ เด็กเป็นธรรมกายงํายร๎อยทั้ง

Page 148: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

148

ร๎อยแตํเราต๎องคุม เพราะเด็กไมํมีเรื่องคิดมากเหมือนผู๎ใหญํ อารมณ๑เด็กดัดงําย

กวําผู๎ใหญํ แตํเด็กไมํรู๎คําวิชาเหมือนไกํได๎พลอย ดังนั้นการสอนเด็กต๎องใช๎ความ

พยายามมาก ต๎องเลี้ยงต๎อยจากเด็กจนกระทั่งเป็นผู๎ใหญํ ธรรมจึงจะทรงตัวไมํ

หายไมํเลือน บางคนไปสอนวิชาสูงแกํเด็กเป็นเรื่องไมํสมควรอยํางยิ่ง อยํางมาก

แคํ 18 กาย ให๎ทําอนุโลมปฏิโลมไปแคํนั้นพอแล๎ว อยําได๎ไปเชื่อรู๎เชื่อญาณเด็ก

เพราะมารมันพาไปได๎ กลับมาพูดเรื่องดับเทวดาชั้น 5 ชั้น 6 กันตํอ เพราะเรื่อง

มันโยงกัน ถามวําเชื่อมโยงกันอยํางไร เอาไว๎พูดกันตอนที่ดับตัวละครสําคัญของ

หลวงพํอต๎องประสงค๑จะดีกวํา สาระสําคัญก็คือวําใครก็ตามที่บารมีคาบลูกคาบ

ดอกจะเป็นมารก็ไมํใชํจะเป็นพระก็ไมํเชิง เป็นปัญหาใหญํอีกปัญหาหนึ่ง ขอจบ

เรื่องพิจารณาสวรรค๑ชั้น 5 ชั้น 6 แคํนี้

ข๎อสังเกตของผู๎จะเรืองนามวิชาธรรมกาย (ในทัศนะของอาจารย๑การุณย๑)

ข๎าพเจ๎าได๎รู๎จักผู๎เรืองนามวิชชาธรรมกายมากมาย มีข๎อสังเกตวําบัณฑิตเหลํานั้น

มักมีประวัติเคยทําวิชชาธรรมกายแก๎ปัญหาให๎ประจักษ๑มาแล๎วในหมูํนักทําวิชชา

ธรรมกายด๎วยกัน บํงบอกวําทํานผู๎นั้นตํอไปภายหน๎าจะต๎องมีอะไรพิเศษ อยําง

แมํชีถนอม อาสไวย๑ ทําวิชาได๎ขลังหลายเรื่อง เราเห็นเข๎าต๎องยอมรับใน

ความสามารถ โดยเฉพาะการแก๎โรคทํานเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ ความรู๎ในเรื่อง

ปราบมารเลําให๎ผมฟังไมํรู๎จบ ไมํใชํข๎าพเจ๎าอยากฟัง ทํานเลําของทํานเอง จะไมํ

ฟังดูจะเสียมารยาท ฟังไปอยํางนั้นยิ่งฟังยิ่งไมํรู๎เรื่อง ครั้งนั้นข๎าพเจ๎าไมํเป็นวิชา

Page 149: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

149

เราไมํรู๎อะไรกับเขาทั้งนั้น ฟังไปจะได๎ประโยชน๑อะไร แถมยังเลําเรื่องพิลึกกึกกือ

ให๎ฟังเสียด๎วย ล๎วนแตํเป็นเรื่องรบกับมารทั้งนั้น เราถามอะไรทํานตอบได๎ท้ังนั้น

ล๎วนแตํเป็นหลักวิชาเป็นเหตุเป็นผล เราเป็นข๎าราชการ ฉะนั้นเรื่องเหตุผลเรา

สันทัด จึงถกกันด๎วยความรู๎ทางเหตุผล ปรากฏวําทํานไมํจนแต๎มเราเลย เราเสียอีก

เป็นฝ่ายจนแต๎ม มาทราบเรื่องที่แมํชีเลําถึงการปราบมารทีหลังวํา ธาตุธรรมทําน

บังคับให๎แมํชีเลําเป็นการถํายทอดงาน เพราะตํอไปข๎าพเจ๎าจะเป็นผู๎ปราบมาร

จําต๎องรับทราบอะไรไว๎บ๎างเป็นพื้นฐาน ครั้นข๎าพเจ๎าทําวิชาปราบมารเข๎าจริง

กลับไมํเดินวิชาอยํางที่แมํชีถนอมสอน ทําไมจึงเป็นเชํนนั้นก็ไมํทราบ เมื่อเดินวิชา

รบไปนาน ๆเข๎า แนววิชาเกิดมาตรงกับวิธีทําพระของขวัญของหลวงพํอ มา

ตรงกันได๎อยํางไรก็ตอบไมํได๎อีกเชํนกัน บัดนี้แมํชีวายชนม๑ไปแล๎ว แตํก็ยัง

ชํวยงานปราบมารที่ข๎าพเจ๎าทําอยูํ ไมํชอบใจอยูํก็ตอนที่ทํานตายไปนี่เอง ติดขัด

เวลาทําวิชาไปถามไถํอะไร ทํานก็บอกมาให๎เราคิดเอง ดวงชะตาของข๎าพเจ๎า

มักจะขัดใจกับอาจารย๑ตอนที่ทํานตายไปแล๎วนั้น เราทําวิชาปราบมารต๎องใช๎

ความรู๎สูงทํา ๆ ไปเกิดติดขัดเข๎านิโรธไปถามทําน ทํานก็โยนมาให๎เราคิดเองแทบ

ทั้งนั้น เราโกรธวําตอนมีชีวิตอยูํในโลกทํานสอนได๎สอนดี เมื่อไมํได๎ความรู๎จําต๎อง

ใช๎วิชาเกํา จนกวําจะได๎วิชาใหมํโดยอัตโนมัติ เมื่อมารรุํนนั้นดับไปทํานก็มาบอก

วําศึกษาฯ ยังไมํได๎คํานวณบริวารให๎ฉัน ข๎าพเจ๎าแก๎ลําให๎บ๎างคือทําเป็นไมํได๎ยิน

อีกกี่เดือนก็ไมํทําให๎ อาจารย๑ของเราเกํงกวําเราบารมีก็มากกวําเรา เวลาธาตุธรรม

รับสั่งขอความเห็นมักจะรวมกันชี้ความเห็นมาแตํที่ข๎าพเจ๎า ทีเวลางานชี้มาที่เรา

Page 150: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

150

อ๎างความเป็นครูอาจารย๑กันใช๎กันได๎ขอร๎องกันได๎ คราวนี้เป็นจังหวะของเราบ๎าง

แล๎วก็คือเราไมํทําบริวารให๎อาจารย๑ของเรา เพราะเราก็โกรธอาจารย๑ของเราเป็น

เหมือนกัน แตํแล๎วเราก็เคืองอาจารย๑ของเราไมํนานก็ทําวิชาคํานวณบริวารให๎ทําน

ตามที่ทํานร๎องขอเราไว๎ ข๎าพเจ๎าทําให๎ท้ังนั้น ที่มีความดีตํอข๎าพเจ๎าครั้งเป็นมนุษย๑

อยูํในโลกข๎าพเจ๎าไมํลืมใครเลย ทําให๎ทํานทั้งนั้น แตํวําทํายากไมํใชํของงําย ใช๎วิชา

สูงใช๎บารมีสูงจะกลําววิชาไว๎ให๎ฟังไมํได๎เพราะเป็นของยาก พูดได๎แตํวําจะทํา

อะไรให๎ใคร ต๎องดูบารมีของเราและดูบารมีของเขาประกอบกัน บารมีของเรา

สําคัญที่สุด บารมีของเขาสําคัญเป็นรอง หากฝ่ายที่เราจะให๎ไมํมีความดีอะไร ทั้งที่

เราอยากจะทําให๎ใจจะขาดเราทําอะไรไมํได๎ท้ังนั้น เพราะนิโรธไมํเกิด ตรัสรู๎ก็ไมํ

เกิด ไมํรู๎จะทําอยํางไรเหมือนพายเรืออยูํในอําง ข๎อเท็จจริงเป็นอยํางนี้ สํวนครู

อาจารย๑ของข๎าพเจ๎าทุกทําน ข๎าพเจ๎าทําให๎สารพัด เพราะข๎าพเจ๎ามีบารมีปราบ

มาร ทีมารเรายังดับได๎เรื่องแคํนี้ถ๎าทําถวายทํานไมํได๎นับวําแยํมาก อาจารย๑ของเรา

ทํานก็ฉลาดทํานรู๎วําเราทําได๎ทํานจึงขอร๎องมา ทํานผู๎ศึกษาอาจข๎องใจวําทําไม

ทํานจึงไมํทําของทํานเอง เพราะทํานก็เป็นเอกในวิชชาธรรมกายเหมือนกัน อันนี้

นําพูดกันข๎อแรกเมื่อกายมนุษย๑ดับฤทธิ์ของเราหมดลงทันที ถึงหลงเหลืออยูํบ๎างก็

เล็กน๎อยยํอมทําอะไรยาก ข๎อสองบารมีธรรมของทํานก็มากมายอยูํแล๎ว บริวาร

ของทํานได๎อยูํแล๎วตามขีดขั้นแหํงบารมีของทําน บริวารก็ดี, วิมารก็ดี , มีรองรับ

เราไว๎สําหรับผู๎เป็นวิชชาธรรมกายอยูํแล๎วคือมีรองรับไว๎แล๎วตามธรรมชาติ หาก

เราพอแคํนั้นเรื่องก็ยุติแคํนั้น ข๎าพเจ๎าไมํต๎องไปยุํงกับทําน แตํแมํชีเห็นวําทํานเป็น

Page 151: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

151

อาจารย๑ของผู๎ทําวิชาปราบมารมันต๎องให๎อะไรภูมิฐานขึ้น คราวนี้เราต๎องทําให๎

ทําน เพราะเกินขีดความสามารถของทํานแล๎วตามที่บรรยายมานี้ เป็นเรื่องเกร็ด

เล็ก ๆ น๎อย ๆ พูดกันแตํวิชาการดูจะเบื่อ ขอสรุปวําทํานที่จะเรืองนามในทางวิชชา

ธรรมกายนั้น จะต๎องมีประวัติแสดงถึงบุญญาภินิหารมาให๎ประจักษ๑ จําต๎องมี

เรื่องเลําขานเกือบทุกทําน จบเรื่องแมํชีถนอม อาสไวย๑ ขอขึ้นแมํชีทองสุข

สําแดงปั้นบ๎าง แมํชีทองสุข สําแดงปั้นเป็นอาจารย๑ของผม เห็นธรรมในอิริยาบถ

เดิน เป็นนักพูดมีวาทศิลป์คูํหูของทํานคือแมํชีลูกจันทร๑ ขนนกยูง ผมติดสอยห๎อย

ตามทํานมาตลอดคุยนําฟังพิลึก ผมติดทํานเป็นแตงเมทีเดียวทํานมีหลานอยูํกับ

ทําน 2 คน คนหนึ่งเป็นหญิงชื่อหมู คนหนึ่งเป็นชายชื่อกาง เดี๋ยวนี้ไมํทราบวําคุณ

หมูและคุณกางเป็นหนุํมเป็นสาวไปแคํไหนแล๎วไมํพบนานแล๎ว แมํชีอาจารย๑ทอง

สุขมีความสามารถทําให๎ผมเรียนภาวนาได๎ แคํนี้ผมก็นับถือ 100 ครั้งแล๎ว

พยายามทุกสถานจะให๎ผมเห็นธรรม จนแล๎วจนรอดผมก็ไมํเห็น สอนเทําไรก็รับ

ฝึกเทําไรก็เชื่อ แตํก็ไมํเห็นกับเขา คนมาเรียนทีหลังผม เขาเห็นธรรมกันหมด

เหลือแตํผมเทํานั้นที่ไมํได๎เรื่องจริง ๆ อภินิหารของทํานก็คือดุดําวําใครถึงขนาด

ฟ้าร๎องเอาทีเดียว พูดอะไร ๆ ใครก็เชื่อ คงจะโดยเหตุนี้ หลวงพํอจึงมอบหมายให๎

ทําหน๎าที่เผยแพรํมีลูกศิษย๑ลูกหามากมีบุคลิกลักษณะนําเกรงขาม ทําไมทํานเกิด

มาเป็นผู๎หญิงก็ไมํรู๎ ผมถามก็เพราะความเจ๎าชู๎ของเรานั่นเองจึงเกิดมาเป็นสตรี

ทํานวําอยํางนั้น ทํานเลําให๎ฟังวําวันหนึ่งเกิดอยากลองของขึ้นมา เหตุใดจึงเป็น

หญิงจะลองทําหญิงให๎เป็นชาย ทํานเลําวําพยายามเดินเครื่องจะให๎เป็นชายทําอยูํ

Page 152: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

152

6 เดือน โดยวิชชาธรรมกายของทําน ปรากฏวําเพศหญิงเปลี่ยนเป็นเพศชาย ทํา

วิชาได๎ผลตอนกลางคืนขณะที่เพศเป็นชายนั้นอยากสูบบุหรี่ อยากแสดงอะไร ๆ

เหมือนชาย แตํมาคิดวํา ทํองมนต๑ไมํได๎ สวดมนต๑ไมํเป็น หากความเหลํานี้รู๎ถึง

หลวงพํอ ก็จะต๎องเชิญนายแพทย๑มาพิสูจน๑ และจะต๎องให๎บวชเป็นพระสงฆ๑

เรื่องราวจะไปกันใหญํ ตัดความยุํงยากทั้งหลาย คือเดินวิชาใหมํคือเดินเครื่องถอย

หลัง ประเดี๋ยวเดียวเทํานั้น เพศชายก็กลับเป็นเพศหญิงตามเดิม ตั้งแตํบัดนั้นมา

แมํชีทองสุขสูบบุหรี่มาจากเหตุการณ๑เปลี่ยนเพศตามวิชชาธรรมกายของทําน

นั่นเอง ปลายชีวิตของทําน ทํานป่วยเป็นโรคอะไรก็ไมํทราบข๎าพเจ๎าไปมาหาสูํ

ทํานทุกวัน เสียใจท่ีตัวเองตอนนั้นฐานะทางการเงินไมํดี ทําราชการเป็นครูเล็ก ๆ

อยูํ แตํได๎ดูแลทํานตามสมควร ข๎อที่เราควรพูดกันก็คือทํานมีอภินิหารคือตาย 3

ครั้ง ครั้งแรกกับครั้งที่ 2 เป็นการตายเลํน ๆ พอข๎าพเจ๎ามาถึงทํานก็เลําความ

ข๎าพเจ๎าก็รับทราบ แตํอีกครั้งหนึ่งทํานตายจริงๆ แม๎จะตายยังแสดงฤทธิ์ผมกลัว

ทํานเหลือเกิน ศิษย๑ของหลวงพํอวัดปากน้ําทุกทําน ล๎วนแตํมีบุญญาภินิหารกัน

ทั้งนั้น ข๎าพเจ๎าไมํอาจและมิบังอาจแตํไหนแตํไรมาแล๎ว หากเรามีธุระหน๎าท่ีไมํ

เป็นไร ครั้นหมดธุระแล๎ว ต๎องถวายบังคมลาทันทีบอกได๎คําเดียววํา กลัวรู๎สึก

อยํางนี้มาแตํไหนแตํไร หลวงพํอทํานลงมาค๎นวิชาปราบมาร ศิษย๑ของหลวงพํอ

ไมํวําใครมีบารมีระดับฮํองเต๎ทั้งนั้น ไมํควรที่เราจะไปยุํงหากเราไมํทําประโยชน๑

งานปราบมารเป็นงานช๎างเป็นงานใหญํ ระดมสรรพกําลังทุกสถาน ไมํใชํของทํา

งํายทํายากนัก ต๎องเกี่ยวข๎องด๎วยอะไรมากมาย ขอเลําเรื่องแมํชีทองสุขตํออีกนิด

Page 153: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

153

หนึ่ง เมื่อแมํชีทองสุขวายชนม๑ลง คนที่เสียใจมากคงได๎แกํแมํชีลูกจันทร๑ ขน

นกยูงเพราะทํานอยูํด๎วยกันและทุกข๑ยากกันมานาน คนที่เสียใจรองลงมาคงได๎แกํ

ข๎าพเจ๎าเป็นแนํแท๎ รวมท้ังศิษย๑คนอื่น ๆ อีกมากมายซึ่งข๎าพเจ๎าพอจะเดาใจได๎

จากนั้นก็เป็นเรื่องการบําเพ็ญกุศล ขอสรุปวําแมํชีทองสุข สําแดงปั้นมีอะไร

หลายอยํางบํงชี้วํา ทํานจะต๎องจําเริญตํอไปในวิชชาธรรมกาย เป็นอันจบ

ภาคพื้นดินระหวํางข๎าพเจ๎ากับแมํชีอาจารย๑ทองสุข ทํานผู๎ศึกษายังอยากทราบวํา

ภาคสวรรค๑ไมํกลําวบ๎างหรือ กลําวถึงแมํชีถนอม อาสไวย๑เทํานั้นหรือ เรื่องเกร็ด

คือเรื่องเบาสมอง ระหวํางข๎าพเจ๎ากับแมํชีทองสุขไมํมีเอาเสียเลย ไมํทราบจะกลําว

อยํางไร แมํชีทํานทราบวําข๎าพเจ๎าทําวิชาปราบมาร เรื่องราวของข๎าพเจ๎าทําน

ทราบดี ทํานมีสํวนรู๎เห็นงานที่ข๎าพเจ๎าทํา รู๎ความยากความลําบากที่ข๎าพเจ๎า

ประจันอยูํในเรื่องการปราบมาร ได๎แตํเอาใจชํวย เรื่องกัลปนาผลแกํอาจารย๑ของ

ข๎าพเจ๎าจัดอยํางไร ทํานอยากทราบกันทั้งนั้น ขึ้นชื่อวําครูอาจารย๑ของข๎าพเจ๎า

ข๎าพเจ๎าจัดให๎ท้ังหมดไมํเว๎นใครเลย แตํวําการได๎รับนั้นมีกฎเกณฑ๑อยูํ ไมํใชํทําได๎

ตามอําเภอใจหากทํานอยากทราบอยากเรียนรู๎ ต๎องทําวิชาปราบมารหากไมํทําวิชา

ปราบมารเราจะได๎บารมีมาจากไหน บารมีอยํางอื่นทําอะไรไมํได๎มาก ทํานอยาก

สงเคราะห๑พรรคพวกของทํานเมื่อเขาวายชนม๑ ทํานมีสิทธิ์คิดแตํวําทํานทําไมํได๎

ถามวําทํานจะใช๎บารมีอะไรทําให๎เขา ตอบวําบวชพระสร๎างพระเผยแพรํธรรมฟัง

ดูเข๎าที แตํพอเดินวิชาแล๎วทําอะไรไมํได๎ทั้งนั้น บารมีที่ทํานอ๎างไมํพอกัน มีเงิน

ล๎านเดียวจะให๎ได๎งานร๎อยล๎านยํอมเป็นไปไมํได๎ แตํวําทํานมีสิทธิ์อุทิศกุศลมีสิทธิ์

Page 154: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

154

ทําอะไรให๎ไป อนุโมทนาไปเรามีสิทธิ์ทํา แตํวําจะให๎ได๎อยํางที่ข๎าพเจ๎ากลําวนั้น

ยํอมไมํได๎ ข๎าพเจ๎าเลําเรื่องของอุบาสิกาถนอม อาสไวย๑ และอุบาสิกาทองสุข

สําแดงปั้น ได๎ยาวหนํอย เป็นเพราะทํานทั้งสองเป็นอาจารย๑ของข๎าพเจ๎า ได๎รู๎ได๎

เห็นกันมาก จึงมีเรื่องเลํากันมาก และเมื่อเขียนเสร็จพิมพ๑เป็นเลํมแล๎ว จะต๎องเข๎า

ธรรมกายไปให๎ ทํานอํานที่ชั้นดุสิตด๎วย เพราะทํานทั้งสองวายชนม๑ไปแล๎ว ทําน

คงอยากทราบวําข๎าพเจ๎าเลําถึงทํานอยํางไรบ๎าง คงได๎หัวเราะกันลั่นวิมานเป็นแนํ

แท๎ เกจิอาจารย๑เอตทัคคะทางวิชาธรรมกายอีกรูปหนึ่งที่ข๎าพเจ๎าเคารพมาก คือ

อาจารย๑เจ๎าคุณภาวนาโกศลเถร (อาจารย๑วีระ อาจารย๑ใหญํฝ่ายวิปัสสนาวัดปากน้ํา

ปัจจุบัน) ข๎าพเจ๎ามีสํวนรู๎เห็นอยูํบ๎าง ตั้งแตํครั้งเป็นหนุํม เคยไปอาศัยกุฏิของทําน

พักเพื่อเรียนวิชชาธรรมกาย ทํานสอนวิชชาธรรมกายเบื้องต๎นให๎ด๎วย พระเดช

พระคุณบําเพ็ญข๎าพเจ๎าก็บําเพ็ญด๎วย เห็นพระเดชพระคุณค๎นทั้งด๎านปฏิบัติและ

ค๎นพระไตรปิฎกควบคูํกันไป ถามถึงวิชาความรู๎ธรรมกายทํานมักพูดหลักเกณฑ๑

ออกมากํอน ไมํพูดตามที่เขาวํา ไมํวําจะเรื่องอะไรทํานมักยึดหลักกํอนเสมอ แล๎ว

ตามด๎วยบาลีเป็นการอ๎างที่มาที่ไป ป้องกันการโต๎แย๎ง เมื่อยกบาลีขึ้นวําแล๎วเป็น

อันยุติ แปลกใจท่ีวําทํานไมํได๎เรียนบาลีแตํอ๎างบาลีได๎ถูกต๎อง แมํชีถนอม อาสไวย๑

เลําถึงทํานเจ๎าคุณภาวนาฯ วํา ทํานเจ๎าคุณฯเป็นชวเลข แมํชีพูดวิชชาธรรมกาย

ยาว ๆ แตํทํานเจ๎าคุณฯ ขีดกระดาษนิดเดียวก็จําได๎หมด ครั้งที่ทํานเจ๎าคุณฯ เป็น

วิชาใหมํ ๆ คงจะนึกสนุกขึ้นมาอยํางไรไมํทราบ จะไปขุดหาดวงแก๎วกายสิทธิ์ มาร

เลํนงานทําน ทํานจึงเจ็บป่วย แมํชีถนอม อาสไวย๑ต๎องมาแก๎โรคให๎ เป็นวิชาใหมํๆ

Page 155: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

155

จะซุกซนและสนุกอยํางนั้นไมํได๎ แมํชีถนอมเลําไปหัวเราะไป แมํชีถนอมเลําไว๎

ข๎าพเจ๎าจึงรวมเรื่องไว๎ นักปราชญ๑สําคัญมักจะมีเรื่องตลก ๆ เชํนนี้แทบทั้งนั้น

ศิษย๑ของหลวงพํอผู๎คงแกํเรียนทั้งหลาย ถึงคราวที่ทํานเจ๎าคุณ ฯ จะรวบรวมวิชชา

ธรรมกาย ทํานเหลํานั้นมักจะมาเลําความรู๎ให๎ทํานเจ๎าคุณฯฟัง ทํานเจ๎าคุณฯ

สามารถรวบรวมความรู๎วิชชาธรรมกายถึงขั้นบริบูรณ๑ทีเดียวบัดนี้วิชชาธรรมกาย

รวบรวมเป็นเลํมได๎อยํางอัศจรรย๑ ข๎าพเจ๎านึกถึงเรื่องนี้ทีไร เป็นต๎องขอบคุณทําน

เจ๎าคุณฯ ร๎อยครั้ง การรวบรวมวิชชาธรรมกายได๎เป็นชิ้นเป็นอันอยํางนี้ ก็คืองม

เข็มในมหาสมุทรดี ๆ นี่เอง ศิษย๑ของหลวงพํออีกทํานหนึ่ง เป็นผู๎คงแกํเรียน

วิชชาธรรมกายมาแตํไหนแตํไร บัดนี้ทํานเสียชีวิตแล๎ว จะเป็นด๎วยเหตุผลกลใดไมํ

ทราบ กับข๎าพเจ๎านี้หลบกันไปหลีกกันมา ทั้งที่รู๎จักทํานมานานแตํไมํเคยธรรม

สากัจฉาความรู๎ทางธรรมกายกันเลย ทํานผู๎นี้คือคุณตรีธา เนียมขํา ข๎าพเจ๎ารู๎จัก

ศิษย๑ของหลวงพํอที่เชี่ยวชาญวิชชาธรรมกายเกือบทั้งหมด แตํเหตุใดเราไมํเคย

เสวนาวิชชาธรรมกายกับทํานเลย ตั้งแตํสมัยหลวงพํอมีชีวิตอยูํ จนกระทั่งหลวง

พํอมรณภาพ และสืบมาจนบัดนี้ ผลงานแตํละอยํางของทําน ล๎วนแตํเกินกําลังที่

เราจะไขวํคว๎า เป็นศูนย๑รวมของศิษย๑หลวงพํอตามที่บรรยายมานี้ แสดงให๎เห็นวํา

ผู๎ที่จะเรืองนามในวิชาธรรมกายนั้น ยํอมมีอะไรบํงบอกให๎เป็นที่สะดุดตามาตั้งแตํ

ต๎นเสมอ สรุปแล๎ว เทวดาให๎พวกเรามารํวมกันพัฒนาวิชชาธรรมกายนั่นเอง

Page 156: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

156

รายนามครูอาจารย๑ที่เคยให๎ความรู๎แกํ อ. การุณย๑ บุญมานุช

1. แมํชีอาจารย๑ญาณี ศิริโวหาร

2. คุณฉลวย สมบัติสุข

3. แมํชีอาจารย๑ทองสุก สําแดงปั้น

4.ทํานเจ๎าคุณภาวนาโกศลเถระ (พระอาจารย๑วีระอาจารย๑ใหญํฝ่ายวิปัสสนาวัด

ปากน้ําปัจจุบัน)

5.หลวงปู่ชั้ว โอภาโส

6. แมํชีอาจารย๑ถนอม อาสไวย๑

สรุปข๎อมูลของอุบาสิกาซึ่งเป็นธรรมกายหมายเลข1(ศิษย๑เอกของหลวงพํอ

วัดปากน้ํา)อุบาสิกาที่หลวงพํอสดวัดปากน้ําภาษีเจริญแตํงตั้งให๎เป็นหัวหน๎าเวรมี

6 ทํานคือ

อุบาสิกาปุก มุ๎ยประเสริฐ ( มาอยูํวัดพ.ศ. 2464 )

อุบาสิกาละมัย ชูวงศ๑วุฒิ ( พ.ศ. 2476 ลาสิกขากลับบ๎านแถวบางบัวทอง )

อุบาสิกาญาณี ศิริโวหาร ( พ.ศ. 2477 )

อุบาสิกาตรีธา เนียมขํา ( พ.ศ. 2482 )

อุบาสิกาฉลวย สมบัติสุข ( พ.ศ. 2484 ลาสิกขากลับไปอยูํบ๎านที่ จ.เชียงใหมํ )

Page 157: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

157

อุบาสิกาถนอม อาสไวย๑ ( พ.ศ. 2487 ทํานย๎ายไปอยูํ อ. อํางทอง )

ขอกราบคราวะขอบคุณสําหรับข๎อมูลนี้ ที่คุณยายอาจารย๑อุบาสิการัมภา โพธิ์คํา

ฉาย ทํานได๎ทําไว๎ครับ

หลวงพํอในความทรงจําของคณะศิษย๑

ความรู๎สึกดีๆที่ประทับใจมิรู๎ลืมของเหลําบรรดาคณะศิษย๑ของหลวงพํอวัด

ปากน้ํา ที่ไมํได๎ถูกลบเลือนหายไปพร๎อมกาลเวลา แตํหากวํายังตราตรึงอยูํใน

ความทรงจําของแตํละทํานตลอดไป และได๎เลําขานสืบตํอมากลายเป็นตํานานที่

ล้ําคําที่ทุกทํานมีตํอองค๑ปฐมบรมครูแหํงวิชชาธรรมกาย “หลวงพํอสดวัดปากน้ํา

องค๑นี้ครับ

เรื่องที่ 1. . ลุงประคอง ทับจ๎อย

วิชชาของหลวงพํอวัดปากน้ํานี่ทํานดีจริง ถ๎าไมํเชํนนั้นวัดปากน้ํา

คงเหลือแตํดุ๎นฟืนแล๎ว เพราะตามหลักจริง ๆ นั้นวัดปากน้ําเป็นจุดท่ีระเบิดลง

แนํนอนแตํก็รอดไปได๎ ดูอยํางที่ประตูน้ําบางนกแขวก , ประตูน้ําอํางทอง , ประตู

บางยาง นั่นประไรไมํมีอะไรเหลือ แตํที่ประตูน้ําภาษีเจริญไมํเป็นอะไรเลย ไป

ถามดูได๎วัดวาอารามในแถบนี้โดนถลํมไมํเหลือซาก ตอนนั้นหลวงพํอสดทํานอยูํ

ในโบสถ๑ไมํยอมไปไหนนั่งทําวิชชาปัดลูกระเบิดของทํานอยํางเดียว ประชาชนเริ่ม

ทยอยกันมาหลบอยูํที่วัดปากน้ํา เพราะมั่นใจวํายังไงก็ปลอดภัยที่สุด อีกทั้ง

Page 158: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

158

เชื่อมั่นวําบารมีของหลวงพํอสดวัดปากน้ํานี ้ จะคุ๎มครองผองภัยอันเกิดจาก

สงครามได๎เป็นอยํางด ี ” สํวนอีกเรื่องหนึ่งที่อยูํในความทรงจําของลุงประคอง

ทับจ๎อย มิเคยลืมก็คือเรื่องนี้ครับ เรามาฟังคุณลุงทํานเลําถึงหลวงพํอวัดปากน้ํา

กันตํอนะครับวําเป็นอยํางไรทํานได๎เลําเอาไว๎อยํางนี้ครับวํา “หลวงพํอวัดปากน้ํา

ทํานไมํดุหรอก แตํผิดวินัยผิดระเบียบไมํได๎ สมัยหลวงพํอมีพระ 500 กวําองค๑

ใครมาทิศเหนือทิศใต๎หรือมาจากที่ใดทํานรับเอาไว๎หมด ถ๎าพระมาขออยูํด๎วยทําน

จะถามประเด็นแรกวํา “ เราเรียนเราศึกษานะ ห๎ามหยิบอัฐนะ ” แล๎วคํอยถามวํา

อยูํกับใคร , มีที่อยูํหรือยัง , จีวรมีไหม , มุ๎งเสื่อมีไหม ถ๎าไมํมีทํานก็เรียก “ ยูร มา

จัดของให๎พระหนํอย ” ลุงประยูรเป็นอุปัฏฐากทําน ดูแลเรื่องการเงินการทองทุก

อยํางในวัด หลวงพํอทํานไมํจับเงิน และพระเณรของหลวงพํอต๎องแตํงตัว

เรียบร๎อย หํมเหมือนกันหมด เณรหํมลดไหลํ หํมดอง พระหํมคลุม พระที่อยูํ

วัดต๎องปฏิบัติตามและไมํต๎องบิณฑบาต ทํานเลี้ยงเองหมดเลี้ยงมาโดยตลอด พอ

หลวงพํอสร๎างโรงเรียนเป็นตึกเอนกประสงค๑ 3 ชั้น พระเณรก็สงสัยกันวําสร๎าง

ให๎ใครกันนี่เพราะสมัยนั้นถือวําเป็นตึกที่ทันสมัยท่ีสุด แถวนี้ไมํมีใครสร๎างเลย

หลวงพํอทํานสร๎างพระของขวัญมอบให๎สําหรับผู๎สร๎างโรงเรียนองค๑ละ 25 บาท

ถ๎าใสํกรอบเงินก็ 30 บาท และต๎องมารับด๎วยตนเอง รับแทนกันไมํได๎ถึงแม๎จะทํา

มากกวํา 25 บาทก็ตาม หลวงพํอสดทํานเป็นพระที่ไมํคํอยคุยแตํถ๎าหากกลําว

อะไรออกไปเหมือนเป็นการพูดลํวงหน๎าเป็นสิบ ๆ ปี อยํางเชํน สายบางนา ทําน

บอกวํา ตํอไปจะเป็นสายใหญํสายนี้จะไปจังหวัดตราดและจังหวัดชลบุรีได๎ ทําน

Page 159: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

159

ทํานายไว๎เป็นสิบ ๆ ปีทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นยังเป็นสวนเป็นทุํงนาอยูํเลย เห็นหมูํบ๎าน

ไกลลิบ ๆ อีกเรื่องหนึ่งตอนสงครามโลกชํวงนั้นมีมดแดงกัดกัน แปลกมันกัดตาย

เป็นกองเป็นเขํงเลยก็ไปบอกหลวงพํอวํา หลวงพํอมดมันกัดกันตายเต็มถนนไป

หมด หลวงพํอทํานก็บอก “ อือ..อีก 7 วันสงครามจะเลิก ” หลวงพํอพูดก็เลิกจริง

ๆ อีก 7 วันสงครามเลิกเลยทํานไมํพูดอะไรมากพูดน๎อย พูดแคํคําสองคําก็เข๎า

โรงงานเลย ”

เรื่องที่ 2. ลุงสมจิตร ฉ่ํารัศม ี

วิชชาธรรมกายนี้เป็นของจริงไมํใชํของเลํน หลวงพํอบอกวํา “ หยุดนั่น

แหละเป็นตัวสําเร็จ ” เราเคยคิดวํา “ เอ..หลวงพํอเรานี่เกํงนี่หวํา ทํานมีดีแตํทําน

ไมํอวด ” เวลาทํานสอนเราก็นั่งฟัง “ มึงไมํต๎องพูดกูรู๎ ” หลวงพํอพูดให๎เราได๎

ยิน แหม ! หลวงพํอผมไมํได๎วําอะไรหลวงพํอสักหนํอย จิตใจเรานับถือทําน

ศรัทธาทําน ศรัทธาเกิดขึ้นบารมีเราก็แกํขึ้น คนเราถ๎าไมํมีศรัทธาบารมีไมํมี

หรอก ความนับถือความเลื่อมใสต๎องประกอบด๎วยการปฏิบัติจริงนึกถึงพระพุทธ

, พระธรรม , พระสงฆ๑ หลวงพํอวัดปากน้ําให๎เชื่อเหตุเชื่อผล อยําไปเชื่อเพราะคํา

โกหกวําเขาคนโน๎นเกํงคนนี้เกํง ต๎องไปดูวําเขาเกํงยังไง ธรรมะนั้นมี 3 อยํางคือ

กุศลาธรรมา , อกุศสลาธรรมา , อัพยากตาธรรมา บางทีเราเคืองเขาน๎อยอก

น๎อยใจนี่เป็นอกุศล บางทีอยูํเฉย ๆ ก็คิดอยากจุทําบุญนี่ใจเป็นกุศล บางครั้งก็

รู๎สึกเฉย ๆ เรื่องนี้พญามารเขาไมํให๎เรารู๎หรอกรู๎แล๎วตายหลวงพํอบอกวํา “ ชํางมัน

Page 160: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

160

เถอะเกิดมาทั้งที ถ๎าไมํดีก็อยูํไมํได๎ เกิดมาหาแก๎วเจอแล๎วไมํกําจะเกิดมาทําไม ”

ทํานสอนให๎เราเข๎าใจตัวเองรู๎จักตัวเอง คนเราไมํเข๎าใจตัวของตัวเองแล๎วยังใช๎

ไมํได๎ ก็เหมือนกับคนเราถ๎าไมํรู๎วําเราคือใคร มายังไงที่เป็นตัวตนอยูํนี้มาทําไม

ทํานบอกวํา ตัวเรามีธาตุทั้ง 4 คือ ดิน , น้ํา ,ลม , ไฟ ธาตุทั้ง 4 มาประชุมรวมกัน

เกิดมาเป็นตัวเป็นตน เผาแล๎วก็จะเป็นเถ๎าธุลีไมํใชํตัวของเรา แตํตัวจริงของเรา

นั้นมีอยูํข๎างใน ตัวเรามี 18 กาย คือกายฝัน , กายละเอียด , เรียงกันไป กายข๎าง

นอกก็ตายไปแตํกายข๎างในไมํตาย พูดแล๎วก็เหมือนโกหกถ๎าไปเห็นแล๎วมันจึงจะ

คุยกันได๎ สมมุติวําเราฝันตัวฝันนั่นแหละสําคัญ เราต๎องรู๎แจ๎งเห็นจริงในตัวเราวํา

เรามีอะไรในตัวเรา เราไมํเชื่อตัวเราแล๎วเราจะไปเชื่อใคร แกล๎งเขาก็ได๎แกล๎ง

ตัวเองก็ได๎ ตัวเราเองทั้งนั้น สรุปความแล๎วมันมีเหตุมีผลเกิดกับตัวเรา หลวง

พํอวัดปากน้ําจะบอกให๎ภาวนาเรื่อย ๆ ไป สัมมาอะระหัง ๆ ๆ แล๎วก็จะไปตกบํอ

ของใจ บํอกว๎าง ๆ กว๎างมากเลย จิตตกอยูํในตัวเรา ๆ คํอย ๆ สวําง ๆ ไปเรื่อย ๆ

เห็นทุกดวงและเห็นในสิ่งที่เราไมํเคยเห็นเขาบอกวําอันนี้ไมํจริงนะ ถ๎าไมํทําแล๎ว

จะไปรู๎ได๎อยํางไรมันต๎องทําถึงจะรู ๎

เรื่องที่ 3. ป้าจินดา โอสถ

วิชชาธรรมกายเป็นวิชชาที่สูงเป็นศาสตร๑อันหนึ่งเป็นศาสตร๑ของธรรมะ

ไมํใชํศาสตร๑สายดํา ถ๎าเป็นศาสตร๑สายดําต๎องเป็นเรื่องเสนํห๑เลํห๑กลแตํนี้ไมํใชํ

เป็นธรรมะใช๎ธรรมะล๎วน ๆ คนที่นั่งสมาธินั้นไมํต๎องทําอะไร หลวงพํอไมํชอบให๎

Page 161: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

161

ทําอะไร ทํานบอกวําทําแล๎วหยาบสมาธิไมํนิ่งแนํน นั่งไปก็ได๎ยินแตํเสียงหลวงพํอ

สั่งวิชชา หลวงพํอทํานจําชื่อแมํนทุกคน เวร 1 , เวร 2 , เวร 3 แมํชีรุํน 1 มีเยอะ

มากคือ รุํนตอนสงครามโลก หลวงพํอทํานจะจัดเวรดีมาก คือรุํนที่เป็นผู๎ใหญํ

ทํานก็ให๎อยูํเวรดึกเพราะวําเด็ก ๆ ต๎องเรียนหนังสือ เรียนหนังสือกันเยอะเพราะ

เขาเอามาทิ้งเป็นลูกกําพร๎า หลวงพํอทํานจึงเป็นทั้งพํอทั้งแมํ ภารกิจทํานจะเยอะ

มากแทบไมํได๎พักผํอน ทํานเป็นคนมีบุญ เป็นต๎นธาตุต๎นธรรมในกลุํมพระ ทําน

เดินนําพระเป็นร๎อย ๆ องค๑ เป็นเหมือนพระโพธิสัตว๑องค๑หนึ่ง ทํานเป็นคนผิวขาว

เกลี้ยงเกลาผํองใส ทํานไมํเคยพูดติดขัดเลย หาต๎นธาตุต๎นแบบอยํางหลวงพํอไมํ

มีอีกแล๎ว แตํกํอนก็มีคนมาโจมตีหลวงพํอ แตํสิ่งที่โจมตีนั้นไมํจริงนะมีเรื่อง

เกี่ยวกับสถานที่ข๎างเคียง หลวงพํอทํานก็ให๎แก๎ในเหตุแก๎ให๎เป็นดีจะนึกให๎หลวง

พํอไปทําร๎ายใครนะไมํมีหรอก ทํานไมํเคยไปทําร๎ายใคร ที่จะบอกให๎ทําร๎ายมันให๎

เซฟมันไปไมํมีหรอกมีแตํให๎มันดีขึ้น

เรื่องที่ 4. แมํชีทวีพร เลี๊ยบประเสริฐ

เรื่องของการทําวิชชานั้นหลวงพํอให๎ทําวิชชาแก๎เภทภัยของประเทศและรักษา

โรค มีคนมาขอให๎หลวงพํอเรียกฝนก็มีเป็นคนทํานาแถว ๆ จ.สุพรรณบุรี ให๎ทํา

นาทําสวนทําไรํกันได๎ แล๎วฝนก็ตกจริง ๆ จะชํวยกันในโรงงานมีอะไรก็ชํวยกัน

ในห๎องนั้นห๎ามนําเอาอาหารเข๎าไปกิน เวลามีแขกมาห๎ามพาแขกเข๎าไปในโรงงาน

ทําวิชชา คนป่วยที่จะให๎รักษาต๎องเขียนชื่อ – สกุล , ที่อยูํ , เป็นโรคอะไร แล๎วสํง

Page 162: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

162

ให๎หลวงพํอ ทํานก็จะให๎แมํชีแก๎อีกครั้งหนึ่ง บางคนใช๎เวลานานเหมือนกันกวํา

จะหาย และเมื่อเวลากลับบ๎านแล๎วต๎องปฏิบัติธรรมและถือศีลด๎วยกํอนนอนต๎อง

นั่งธรรมะ 10 – 20 นาที อยํางโรคภัยไข๎เจ็บอาการบํงบอกวําจะตายในระยะ

เทํานั้นเทํานี้ พอหลวงพํอสํงคนไปรักษาคนนั้นก็ไมํตาย วิธีรักษาก็ไมํต๎องกินยา

ใช๎องค๑พระธรรมกายกลั่นธาตุธรรมให๎ใสสะอาด อันนี้ต๎องทําเรื่อย ๆ ต๎องไป

รักษาคนถึงโรงพยาบาลก็มีอยูํตามห๎องพิเศษ หมอรักษาทางนอก เรารักษาทาง

ใน หลวงพํอทํานสํงไปหมอพบเห็นแมํชีนั่งอยูํข๎างเตียงคนป่วยเขาก็รู๎แล๎วก็หลบ

ให๎ เวลานั่งสมาธินั้นต๎องมีความสุขไมํให๎มีกิเลสตัณหา บางทีหลวงพํอก็สั่งให๎ไป

นรก – สวรรค๑ ทํานสั่งให๎ไปตามคนมา เขาจะเอาไปนรกต๎องให๎ตามกลับมา รู๎วํา

ต๎องตายตอนนี้แตํอยําเพิ่งให๎เอาไปเอาไว๎สร๎างกุศล ทํานจะสํงคนไปสอนธรรมะ

ข๎างนอกด๎วย ตอนนั้นจะมีแมํชีทองสุก สํวนตัวฉันหลวงพํอก็ให๎ไปสอนธรรม 5

– 6 วันก็กลับ ทํานให๎ไปสอนที่ จ. ฉะเชิงเทา สํวนมากจะไปตามวัน ตั้งแตํหลวง

พํอทํานมรณภาพไปก็ไมํได๎ออกไปสอนธรรมะที่ใดอีกเลย

เรื่องที่ 5 . แมํชีพราหมณ๑ ช๎างเขียว

หลวงพํอเป็นคนจริงจังทําอะไรทําจริง พูดเรื่องอะไรก็ตามรับรองได๎เลยไมํมี

คลาดเคลื่อนเลย คําพูดทํานเป็นวาจาที่ศักดิ์สิทธิ์ ทํานก็ไมํดุแตํไมํรู๎ทําไมถึงกลัว

ทําน ทํานรู๎หมดแหละวําลูก ๆ ทํานเป็นยังไงเวลาเทศน๑ ใครสักคนกําลังคิดอะไร

อยูํทํานก็เทศน๑แทงใจเลยคนนั้นก็จะรู๎ด๎วยตัวเอง เรากลัวก็กลัวแตํก็รักหลวงพํอ

Page 163: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

163

ทํานให๎ชํางปั้นรูปหลํอของทํานเก็บไว๎ก็จะเดินไปให๎ชํางดูตัวทุกวัน เพราะรู๎วําจะ

เริ่มป่วย ภายในบรรจุของศักดิ์สิทธิ์มากมาย ฉันจําได๎ตอนนั้นหลวงพํออายุราว ๆ

70 ปี ผิวพรรณขาวสวยงามมาก ดูผํองใสมาก นําเลื่อมใสศรัทธามาก ยิ่งตอน

หลวงพํอหํมจีวรใหมํจะดูหลวงพํอสวํางทีเดียว เวลาทํานเทศน๑ถ๎าวันไหนมีพระ

ลงมาน๎อยทํานจะบอกวํา วันนี้พระแพ๎แมํชีแล๎วทํานก็จะไมํเทศน๑ด๎วย พระก็

จะต๎องรีบวิ่งไปตามพระมา ตามมาจนเต็มโบสถ๑ วันหลังพระก็เข็ดเวลาเทศน๑ถ๎า

มีคนตะบันหมากทํานก็จะหยุดเทศน๑ รอให๎ตะบันหมากเสร็จกํอน นํากลัวไหมละ

คนกําลังเทศน๑อยูํดี ๆ ก็หยุดเทศน๑ไปเฉย ๆ วันพฤหัสบดีทํานจะลงมาสอนธรรมะ

ถ๎าใครสํงเสียงดังรบกวนก็พูดออกไปเลยวํา เดี๋ยวหูหนวกนะรบกวนคนกําลัง

ปฏิบัติ เวลาจะมีผู๎ใหญํมาวัดปากน้ําทํานจะเดินมาตรวจวัด เดินไปตามทางมอง

ไปทางโน๎นทีทางนี้ที ทุกคนก็รีบเก็บเสื้อผ๎าให๎เรียบร๎อย รู๎เลยวําจะมีผู๎หลักผู๎ใหญํ

มาหา ทํานเป็นคนประหยัดละเอียดถี่ถ๎วน เดินไปตามถนนถ๎าเจอเศษไม๎เป็น

ทํอนก็จะเก็บเอามา แล๎วบอกวําเอาไว๎ทําฟืนได๎ พวกผ๎าขี้ริ้วมันขาดแล๎วก็อยําเอา

ไปทิ้งปะมันจําเป็นอะไรมันรั่วขึ้นมาเอาน้ํามันยางโปะมันก็กันได๎ ชั่วระยะไมํให๎

ทิ้ง แล๎วที่ล๎างชามอยําไปเทพรวด ๆ คํอย ๆ รินเอาน้ําออก แล๎วไอ๎ที่ก๎น ๆ ไปให๎

หมูให๎หมามันกินได๎ ทํานสอนละเอียดเลย สอนบํอย ๆ สอนมาก ๆ เข๎าก็คํอย ๆ

ซึมเข๎าไป สมัยนี้ไมํมีใครทําหน๎าที่สอนเหมือนหลวงพํอวัดปากน้ําเลย

Page 164: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

164

เรื่องเดํนประเด็นลับ

หลวงปู่ชั้ว โอภาโส

ธาตุธรรม 3 ฝ่าย จากการบันทึกของพระครูวินัยธร ( หลวงปู่ชั้ว โอภาโส )

ทํานได๎เลําถึงประสบการณ๑ในการปฏิบัติภาวนาตามแนววิชชาธรรมกายของทําน

เอาไว๎วํา “ การการที่พระหํมผ๎าม๎วนขวาม๎วนซ๎ายนี้เป็นของลึกลับอยูํ ข๎าพเจ๎า

เที่ยวสืบถามดูนักตํอนักแล๎ววํา ข๎างไหนถูกข๎างในผิดกันแนํไมํมีใครบอกได๎เลย

แม๎กระทั่งเปรียญ 9 ประโยค เพียงแตํบอกวําให๎ทําเหมือน ๆ กัน ข๎าพเจ๎าก็นึกวํา

แบบหลับตาคลําทางกันอยํางนี้จะไปได๎เรื่องราวอะไรกัน จนเข๎าไปเรียนวิปัสสนา

Page 165: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

165

กับหลวงพํอสดวัดปากน้ําภาษีเจริญที่ จ. ธนบุรี ( ในสมัยนั้น ) อยูํหลายปีกวําจะรู๎

เรื่อง ออกมาบ๎านนอกแล๎วก็เข๎าไปในกรุง แตํก็เข๎า ๆ ออก ๆ อยูํอยํางนี้ถึง 16 ปี

จึงรู๎เรื่องวําหํมผ๎าม๎วนขวาม๎วนซ๎ายเป็นอยํางไร คือ มีพระพุทธเจ๎าอยูํ 3 ภาคที่ไมํ

ถูกกันเป็นข๎าศึกกันจริง ๆ เข๎ากันไมํได๎อยํางเด็ดขาด เพราะผิดธาตุผิดธรรมกัน

พระพุทธเจ๎าทั้ง 3 ภาคนี้ ได๎แกํ ขาวภาคหนึ่ง , ดําภาคหนึ่ง , ไมํดําไมํขาวภาคหนึ่ง

ภาคขาวนั้นคือกุสลาธัมมาพระพุทธเจ๎าภาคนี้พระกายขาวใสเหมือนแก๎วขาว เกตุ

แหลมเป็นดอกบัวตูม ให๎สุขแกํสัตว๑แตํฝ่ายเดียวไมํมีให๎ทุกข๑เลย อีกภาคหนึ่งอกุ

สลาธัมมา พระพุทธเจ๎าภาคนี้พระกายดําใสเหมือนแก๎วดําหรือนิลเกตุแหลมเป็น

ดอกบัวตูม ให๎ทุกข๑แกํสัตว๑ฝ่ายเดียวไมํให๎สุขเลยเหมือนกัน อีกภาคหนึ่งอัพยาก

ตาธัมมา พระพุทธเจ๎าภาคนี้พระกายไมํขาวไมํดําใสเป็นสีกลาง ใสเหมือนแก๎วสี

ตะกั่วตัด จะวําขาวก็อมดํา จะวําดําก็อมขาว เกตุแหลมเป็นดอกบัวตูมเหมือนกัน

ให๎ไมํสุขไมํทุกข๑แกํสัตว๑ สําหรับต๎นธาตุต๎นธรรมของภาคขาวสายของพระสมณ

โคดมมีฤทธิ์มากกวําภาคขาว ต๎องคอยชํวยภาคขาวอยูํเหมือนกัน ให๎สุขแกํสัตว๑

เหมือนภาคขาว ภาคนี้พระกายสีเหลืองเหมือนแก๎วสีเหลือง หํมผ๎าคาดรัดประคด

หรือบางทีหํมบังเฉวียงคือ หํมจีบพาดบําเอาชายข๎างหนึ่งขึ้นเหน็บชนบําซ๎าย มี

พระรัศมีท้ัง 6 ประการด๎วยกันทั้งนั้น พระรัศมีต๎นธาตุต๎นธรรมกับของภาคขาว

นิ่มตานวลตาเหมือนกัน แตํพระรัศมีภาคดํานั้นบาดตาเคืองตา พระรัศมีภาค

กลางไมํบาดตาเคืองตาไมํนิ่มตานวลตาแล๎วก็เข๎ากันไมํได๎ พระพุทธเจ๎าภาคขาว ,

กลาง , ดํา ทั้ง 3 ภาคนี้คอยประมูลฤทธิ์กันอยูํเสมอ แยํงกันปกครองธาตุธรรม

Page 166: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

166

ภาคขาวก็คอยสอดสุขให๎แกํสัตว๑โลก , ภาคกลางกับภาคดําคอยกีดกันไว๎ , ภาคดํา

ก็คอยจะสอดทุกข๑ให๎แกํสัตว๑โลก ภาคขาวกับภาคกลางก็คอยกันไว๎ ถ๎าภาคกลาง

จะสอดไมํสุขไมํทุกข๑ให๎แกํสัตว๑โลกภาคขาวกับภาคดําก็คอยกันไว๎เหมือนกันไมํให๎

ความสะดวกแกํกันได๎ ไมํงั้นเสียอํานาจกัน ภาคขาวเห็นวําทําดีให๎สุขแกํสัตว๑จึง

จะถูกสํวนภาคดําเห็นวําทําชั่วให๎ทุกข๑แกํสัตว๑จึงจะถูก และภาคกลางเห็นวําทําไมํ

ดีไมํชั่วให๎ไมํสุขไมํทุกข๑แกํสัตว๑จึงจะถูก ” จากนั้นหลวงปู่ชั้วทํานได๎กลําวถึง

ลักษณะของการครองผ๎าจีวรของพระพุทธเจ๎า และต๎นธาตุต๎นธรรมทั้ง 3 ภาค คือ

ทั้งภาคขาว , ภาคกลาง และภาคดําวําครองผ๎าจีวรตํางกันอยํางไร ตามที่ทํานเห็น

ด๎วยตาพระธรรมกายและรู๎ด๎วยญาณของพระธรรมกายของทําน นอกจากนี้เรื่อง

การครองผ๎าจีวรนี้ยังมีกลําวไว๎ในสํวนอื่น ๆ อีก แตํมิได๎นํามาลงพิมพ๑ไว๎ ทั้งนี้ก็

เพื่อให๎ทํานผู๎ปฏิบัติธรรมที่ได๎ถึงธรรมกายแล๎วตรวจดูให๎รู๎เห็นด๎วยตนเอง หลวง

ปู่ชั้วก็กลําวตํอไปอีกวํา “ ต๎นธาตุต๎นธรรมนี้ มีทั้ง 3 ภาค ซึ่งตํางก็คอยสอด

ละเอียดชํวยภาคของตัวในการปกครองธาตุธรรมของสัตว๑ให๎เป็นไปตามปิฎกของ

ตัว และตํางก็ประมูลฤทธิ์เพื่อแยํงกันปกครองธาตุธรรมอยูํตลอดเวลา แตํ

พระพุทธเจ๎าทํานก็ยังแยํงกันแล๎วมนุษย๑ล๎วนแตํมีธาตุธรรมปนเป็นอยูํทั้งนั้นทําไม

จะไมํแยํงกัน เข๎ากันไมํได๎เหมือนเชือกสามเกลียวบิดขวาเสียเกลียวหนึ่ง บิดซ๎าย

เสียเกลียวหนึ่ง ไมํบิดอีกเกลียวหนึ่ง ฟั่นเข๎าก็ไมํกินเกลียวกัน เพราะบิดคนละ

ทาง แล๎วตํางก็เอาพระไตรปิฎกบังคับกาย , วาจา , ใจของสัตว๑ เอาพระวินัยปิฎก

ก็วินัยปิฎกด๎วยกัน บังคับกายและสัตว๑ไว๎สําหรับทํา, เอาพระสุตตันตปิฎกก็

Page 167: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

167

สุตตันตปิฎกด๎วยกัน บังคับวาจาสัตว๑ไว๎สําหรับพูด , เอาพระปรมัตถปิฎกก็

ปรมัตถปิฎกด๎วยกันบังคับใจสัตว๑ไว๎สําหรับคิด แล๎วก็คอยแยํงกันสอดญาณเข๎าไป

ในไส๎ญาณสุดละเอียดของตัว บังคับสัตว๑เอาตามอํานาจพระไตรปิฎกของตัว ถ๎า

ภาคขาวสอดเข๎าไส๎ญาณสุดละเอียดของตัวได๎ก็บังคับกาย , วาจา , ใจของสัตว๑จะ

ทําจะพูดจะคิดก็ล๎วนแตํดีเป็นบุญเป็นกุศลไปทั้งนั้น , ถ๎าภาคดําสอดเข๎าไปในไส๎

ญาณสุดละเอียดของตัวได๎ก็บังคับกาย , วาจา , ใจของสัตว๑จะทําจะพูดจะคิดก็

ล๎วนแตํชั่วเป็นบาปอกุศลไปทั้งนั้น , ถ๎าภาคกลางสอดเข๎าไปในไส๎ญาณสุดละเอียด

ของตัวได๎ก็บังคับกาย , วาจา , ใจของสัตว๑จะทําจะพูดจะคิดก็เป็นแตํกลาง ๆ ไมํ

บุญไมํบาปไปทั้งนั้น สุดแท๎แตํวาภาคใดเข๎าไปใสไส๎ญาณสุดละเอียดได๎ ภาคอื่นก็

เข๎าไมํได๎ เปรียบเสมือนตอไม๎ท่ีนั่งได๎คนเดียว ถ๎าขึ้นนั่งได๎เสียคนหนึ่งแล๎วคนอื่น

ก็ขึ้นไปนั่งไมํได๎ แล๎วก็แยํงกันปกครองธาตุธรรมตลอดหมดท้ังนิพพาน , ภพสาม

, โลกันต๑ ไมํมีที่วํางดิน , ฟ้า และอากาศล๎วนแตํอยูํในปกครองของทั้ง 3 ภาคนี้

เทํานั้น ภาคขาวคอยเปิด , ภาคดําคอยปิด , ภาคกลางไมํเปิดไมํปิด , ภาคขาวคอย

เปิด เห็นจําคิดรู๎ของสัตว๑ให๎เห็นวํานิพพานมี , ภาคดําคอยปิดเห็นจําคิดรู๎ของ

สัตว๑ให๎เห็นวํานิพพานสูญ , ภาคกลางก็ให๎สัตว๑เห็นวํานิพพานไมํมีไมํสูญ

หนทางของภาคขาวล๎วนแตํดีเป็นสุขทั้งนั้นก็เปิดให๎สัตว๑เห็นจะได๎สร๎างแตํความดี

ไปแตํในทางสุข , หนทางของภาคดําล๎วนแตํชั่วเป็นทุกข๑ทั้งนั้นก็ต๎องปิดไมํให๎

สัตว๑เห็น จะได๎สร๎างแตํความชั่วไปแตํในทางทุกข๑ , สํวนภาคกลางไมํดีไมํชั่วก็ไมํ

ปิดไมํเปิดให๎สัตว๑เห็นจะได๎ทําไมํดีไมํชั่วไปในทางไมํสุขไมํทุกข๑ ทั้ง 3 ทางนี้

Page 168: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

168

ตรงกันข๎ามทุกอยํางาจึงลงรอยกันไมํได๎เสียเลย ที่โลกเดือดร๎อนอยูํทุกวันนี้เดี๋ยว

สุขเดี๋ยวทุกข๑เดี๋ยวไมํสุขไมํทุกข๑ก็เพราะฤทธิ์ทั้ง 3 ภาคนี้แหละ ประมูลฤทธิ์ไมํแพ๎

กันแยํงกันปกครองธาตุธรรมปกครองกันตลอดทั้งนิพพาน , ภพสาม , โลกันต๑

ไมํผิดอะไรกันกับมนุษย๑และสัตว๑ที่แยํงเขตแยํงแดนกันปกครอง แตํพระพุทธเจ๎า

ปกครองขั้นละเอียด เทวดา , มนุษย๑ , สัตว๑ ปกครองกันแตํที่หยาบ แตํก็ปกครอง

อยูํในปกครองของพระพุทธเจ๎าทั้ง 3 ภาคนี้ทั้งนั้น ถ๎าประเทศใดบ๎านใดเมืองใด

หมูํใดตําบลใดภาคขาวปกครองได๎มากกวํา ภาคอื่นก็บังคับเห็นจําคิดรู๎ของมนุษย๑

และสัตว๑ในท่ีนั้นให๎ทําแตํความดีกันทั้งนั้น เมตตากรุณาแกํกันให๎ความสุขแกํกัน

ไมํเบียดเบียนกัน ให๎แตํความสุขสบายแกํกันทั้งนั้น ภาคขาวก็เก็บเหตุที่มนุษย๑

และสัตว๑โลกทําดีนั้นไว๎แล๎วก็สํงผลลงมาให๎ก็ล๎วนแตํดีทั้งนั้นเป็นต๎นวํา ให๎ฟ้าฝน

ตกต๎องตามฤดูกาล ข๎าวปลาอาหารก็ให๎บริบูรณ๑ไมํฝืดเคืองผู๎คนพลเมืองก็ล๎วนแตํ

สุขสบาย เมื่อตายแล๎วก็สํงผลให๎ไปเกิดในสุขสมบัติเป็นเทวบุตรเทวธิดาอินทร๑

พรหมบรมจักรพรรดิตรา ถ๎าจุติจากนั้นมา ถ๎าจะเกิดเป็นมนุษย๑ก็สํงผลให๎เป็น

คนบริสุทธิ์ชั้นสูงเชํน นายกรัฐมนตรี , เศรษฐี , ท๎าวพระยามหากษัตริย๑ ถ๎าเกิด

เป็นพํอค๎าชาวนาก็เป็นคนที่มีทรัพย๑สินสมบัติศฤงคารบริวารล๎วนแตํเป็นสุขสบาย

ทั้งนั้น ถ๎าประเทศใดบ๎านใดเมืองใดหมูํใดตําบลใดถูกภาคดําปกครองได๎มากกวํา

ภาคอื่นก็บังคับเห็นจําคิดรู๎ของมนุษย๑และสัตว๑ในที่นั้นให๎ทําแตํความชั่วทุกอยําง

เป็นต๎นวํา ฆําสัตว๑ , ลักทรัพย๑ , ทําผิดกาม , โกหก , กินเหล๎า , ให๎เกลียดชังกัน ,

ให๎อิจฉาริษยา , เบียดเบียนกัน , ฉก , ลัก , ปล๎นสะดม , ชกตํอย , เตะตี , รบราฆํา

Page 169: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

169

ฟันกันทําแตํทุกข๑ให๎กันทั้งนั้น ภาคดําก็เก็บเหตุชั่ว ๆ ที่มนุษย๑และสัตว๑ทําไว๎แล๎วก็

สํงลงมาเป็นผลชั่วทั้งนั้นเชํนให๎ฟ้าฝนแห๎งแล๎ง , ข๎าวยากหมากแพง , อดอยาก ,

ลําบาก , เจ็บไข๎ , ล๎มตาย เมื่อตายแล๎วก็เอาไปลงโทษในนรก 456 ขุม ทนทุกข๑

เวทนาแสนสาหัสร๎องไห๎ครวญครางไมํมีขาดเสียงมีแตํทุกข๑ล๎วน ๆ พ๎นจากนั้นให๎

เป็นเปรตอดอยากข๎าวน้ําอยูํเป็นนิจ แล๎วให๎มาเป็นอสุรกาย และให๎มาเป็นสัตว๑

เดรัจฉาน ถ๎าให๎มาเกิดเป็นมนุษย๑ก็ให๎เป็นคนเลวทรามต่ําช๎า ยากจนอนาถาไร๎

ทรัพย๑อับปัญญาใจบาปหยาบช๎าเอาดีไมํได๎ล๎วนแตํทุกข๑ทั้งนั้น ถ๎าประเทศใดบ๎าน

ใดเมืองใดหมูํใดตําบลใด ภาคกลางแยํงเข๎าปกครองได๎มากกวําภาคอื่นก็บังคับเห็น

จําคิดรู๎ของมนุษย๑และสัตว๑ในที่นั้นให๎ทําแตํกลาง ๆ ไมํดีไมํชั่วที่ไมํเป็นบุญเป็น

บาป ภาคกลางก็เก็บเหตุที่ไมํดีไมํชั่วที่มนุษย๑และสัตว๑ทําไว๎นั้นแล๎วก็สํงผลลงมา

ให๎เป็นแตํกลาง ๆ ไมํดีไมํชั่ว แตํวําทํานผู๎ใดได๎อํานหรือได๎ฟังหนังสือเรื่องนี้แล๎วก็

อยําเพิ่งเชื่อกํอน เพราะไมํใชํโฆษณาชวนเชื่อหรอกข๎าพเจ๎าก็ไมํอยากให๎ทํานเชื่อ

ข๎าพเจ๎าเหมือนกัน ให๎ทํานเชื่อตัวของทํานเองดีกวํา ทํานต๎องทําให๎มีให๎เป็นให๎

เห็นขึ้นเองแล๎ว นั่นแหละจึงคํอยเชื่อ ถ๎าทํานจะทําให๎มีให๎เป็นให๎เห็นนั้นต๎องทํา

ตามสติปัฏฐานทั้ง 4 ดังที่ข๎าพเจ๎าจะบอกตํอไปดังนี้ แตํวําอยําเอาคาถาบาลีมาใสํ

ด๎วยเลย เพราะข๎าพเจ๎าไมํได๎เรียนพระปริยัติเรื่องอรรถแปลแก๎ไข ข๎าพเจ๎าโงํจริง

ๆ ตั้งแตํบวชเรียนก็เรียนทําแตํภาวนาทางวิปัสสนาเทํานั้น อาจารย๑ทํานสอนแตํ

ทางภาวนาจึงไมํรู๎ทางพระปริยัติ พูดกันแตํภาษาไทยล๎วน ๆ ดีกวําฟังก็งํายด๎วย

ถ๎าผู๎ใดจะทําทางวิปัสสนาให๎ตั้งกายให๎ตรงทําสติไว๎เฉพาะหน๎าไมํให๎เผลอ เท๎าขวา

Page 170: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

170

ทับเท๎าซ๎าย มือขวาทับมือซ๎ายอยําให๎เกยกันมาก แตํพอหัวแมํมือซ๎ายกับนิ้วชี้ขวา

จรดกันแล๎วหลับตาภาวนาวํา “ สัมมาอะระหัง ” หลับตาแล๎วมันมีกลเม็ดอยูํอยําง

หนึ่งคือ เหลือบตาขึ้นข๎างบนเหมือนอยํางไปข๎างหลัง กลับมองลงไปในกลางตัว

ตามหลอดลมหายใจ เพราะมันเป็นรูกลวงลงไป ตั้งแตํเพดานจนถึงสะดือ สุด

ลมหายใจท่ีอยูํเพียงสะดือตรงนั้นเรียกวํา “ ที่สิบ ” เหนือสะดือขึ้นมา 2 นิ้วมือ

เรียกวํา “ ที่ศูนย๑ ” เป็นที่ตั้งสติ เอาเห็นจําคิดรู๎ทั้ง 4 นี้ลงไปหยุดนิ่งอยูํที่นั่น

เพราะที่ตรงนั้นมีดวงธรรมประจําอยูํทุกคน ธรรมดวงนี้สําหรับทําให๎เกิดเป็น

กายมนุษย๑ใสบริสุทธิ์เทําฟองไขํแดงของไกํ สวํางเหมือนแสงไฟให๎ลงไปนิ่งนึกอยูํ

ตรงนั้นอยําไปทางไหน ดินถลํมฟ้าทลายคอขาดบาดตายก็อยําตกใจให๎นิ่งแนํนอยูํ

เหนือสะดือ 2 นิ้วมือนั้นให๎ได๎ ซ๎ายขวาหน๎าหลังไมํไปลํางบนไมํไป นิ่งอยูํ

กึ่งกลางกายข๎างในข๎างนอกอยําออกไป ถ๎าออกข๎างนอกถึงธรรมเกิดขึ้นสวํางได๎ก็

เป็น “ วิปัสสนูปกิเลสไมํใชํวิปัสสนา ” วิปัสสนูปกิเลสนี้เป็นของภาคดําไมํใชํของ

ภาคขาว เมื่อกายสงบดีแล๎วหรือเกิดตัวเบาขึ้นนั่นเป็น กายานุปัสสนาสติปัฎฐาน

, เมื่อเกิดความสุขกายขึ้นเป็นเวทนานุปัสสนาสติปัฎฐาน , ถ๎าเกิดแสงสวํางขึ้น

ที่เหนือสะดือ 2 นิ้วมือจะเล็กหรือจะใหญํก็ตามประมาณสักเทําดวงดาวหรือไขํ

แดงของไกํเป็น อุคคหนิมิต ขึ้นอยํางนั้นแล๎วรักษาไว๎นี่เรียกวํา ปฐมมรรค , ถ๎า

ใสอยํางกระจกสํองหน๎าอยํางนั้นหละเป็น ธัมมานุปัสสนาสติปัฎฐาน ถ๎าขยาย

เป็นปฏิภาคออกไปใหญํเทําดวงจันทร๑ดวงอาทิตย๑ได๎ก็จะเห็นกายในกายผุดขึ้นใน

กลางดวงนั้น เหมือนอยํางกายมนุษย๑เราไมํผิดเพี้ยนเรียกวํา กายมนุษย๑ละเอียด

Page 171: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

171

( ในกลางกายมนุษย๑ละเอียดมีกายทิพย๑ ) กายนี้สําหรับไปเกิดมาเกิด กายนี้ถ๎า

หลุดจากกายมนุษย๑หยาบ ( กายเนื้อ ) เมื่อไรก็ตายเมื่อนั้น แตํต๎องพูดถึงกายนี้ให๎

รู๎เรื่องกันเสียกํอนเพราะเป็นกายไปเกิดมาเกิดเป็นกายสมุทัย กายนี้เมื่อมาเกิดเข๎า

ครรภ๑บิดามารดานั้นสูงถึง 8 ศอก มาเข๎าครรภ๑บิดากํอน ถ๎าจะเป็นหญิงก็เข๎าทาง

ชํองจมูกซ๎าย ถ๎าจะเป็นชายก็เข๎าทางชํองจมูกขวาเข๎าไปอยูํเหนือศูนย๑สะดือ 2 นิ้ว

มือของบิดากํอน แล๎วมารดาจึงตั้งครรภ๑ทีหลัง ตั้งครรภ๑ด๎วยกันทั้ง 2 คน จึงรัก

บุตรด๎วยกันทั้งคูํ บิดามารดารํวมประเวณีกันเข๎า ถ๎ายังไมํตกสูญก็ยังไมํเกิด ถ๎า

ตกสูญเมื่อไรก็เกิดเมื่อนั้นที่เรียกวําตกสูญ นั้นคือบิดามารทั้งสองสนุกเพลิดเพลิน

กัน มันนิ่งแนํนดึงดูดเหมือนเหล็กตาปูตอกเพลิดเพลินจนตากลับด๎วยกันทั้งสอง

ข๎าง นั่นแหละมันตกสูญหละ คืออายตนะในมดลูกของมารดามันดึงดูดเอากาย 8

ศอกออกจากชํองจมูกของบิดาเข๎าไปในชํองจมูกของมารดา เข๎าไปติดอยูํในแอํง

มดลูก แล๎วก็น้ําเลี้ยงหัวใจของบิดามารดา ข๎างพํอนิดหนึ่งข๎างแมํนิดหนึ่งประสม

กันเข๎าประมารเทําเมล็ดโพธิ์เมล็ดไทร แล๎วกาย 8 ศอกนั้นก็เข๎าไปอยูํในนั้นได๎

เหมือนอยํางพระพุทธเจ๎าไปเดินจงกรมในเมล็ดพันธุ๑ผักกาดได๎ กายพระพุทธเจ๎า

ก็ไมํเล็กลงไป เมล็ดพันธุ๑ผักกาดก็ไมํใหญํขึ้น วิธีนั้นทีเดียวหรืออีกนัยหนึ่งเชํน

กระจกวงเดือนเล็กเทําแวํนตา สํองภูเขาใหญํๆเข๎าไปอยูํในนั้นได๎ ภูเขาก็ไมํเล็กลง

ไป กระจกก็ไมํใหญํขึ้น แตํอยูํในกระจกนั้นได๎ วิธีเดียวกับที่เรามาเกิดในครรภ๑บิดา

มารดา เมื่อสายเลือดของบิดามารดาเข๎มแข็งเป็นก๎อนเข๎า ก็แตกออกเป็นปัญจ

สาขาห๎าแหํงเป็นกายมนุษย๑ขึ้น เป็นศีรษะเป็นมือทั้งสอง เท๎าทั้งสอง กายสัมภเวสี

Page 172: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

172

ที่มาเกิดนั้นก็เล็งลงเทํากายมนุษย๑ ตาตรงกัน , หูตรงกัน , จมูก , ปาก , แขน , ขา

ตรงกันหมด เชื่อมติดเป็นกายเดียวกันกับกายมนุษย๑ ( กายเนื้อ ) แล๎วก็เจริญใหญํ

ขึ้นมาจนคลอดออกจากครรภ๑มารดาอยํางนี้เรียกวํา กายมาเกิด วิธีเกิดเมื่อเวลา

ใกล๎จะตายนั้นธาตุธรรมก็ดึงดูดเอากายมนุษย๑กับกายมนุษย๑ละเอียด ( ซึ่งมีกาย

ทิพย๑ซ๎อนอยูํ ) ให๎หลุดจากกัน คนไข๎กายมนุษย๑ก็บิดตัวสะดุ๎งหรือสยิ้วหน๎า พอ

กายหลุดจากกันกายทิพย๑ก็ตกสูญอยูํที่เหนือสะดือ 2 นิ้วมือของกายมนุษย๑เทําไขํ

แดงของไกํ แล๎วเกิดขึ้นเป็นกายสูง 8 ศอกเดินออกจากชํองจมูกเที่ยวหาที่เกิด

ตํอไป ทิ้งกายมนุษย๑ไว๎ให๎เนําไป ถ๎าผู๎ใดเข๎าถึงธรรมแล๎วจะเห็นได๎อยํางชัดเจน ผู๎

ที่ไมํรู๎เรื่องก็เดาเอาวําวิญญาณไปเกิด วิญญาณอยํางเดียวไปเกิดไมํได๎ต๎องไปเกิด

ทั้งกายจึงจะได๎ เพราะกายเราทุกกายที่ซ๎อนกันอยูํนั้น กายหนึ่ง ๆ ต๎องมีหัวใจ

สําหรับจําในหัวใจต๎องมีดวงจิตเทําดวงตาดํา ลอยอยูํในน้ําเลี้ยงหัวใจสําหรับคิด

วิญญาณซ๎อนอยูํในดวงจิตเทําแววตาดําหรือหัวไม๎ขีดไฟสําหรับรู๎เหมือนกันหมด

ทุกกาย เมื่อรู๎เรื่องกายซ๎อนกันแล๎วก็ฟังงํายเข๎า เมื่อรู๎เรื่องกายทิพย๑นี้แล๎วก็จะได๎

ดําเนินตํอไป กายในกายนับตั้งแตํกายมนุษย๑หยาบหรือกายเนื้อก็มีกายมนุษย๑

ละเอียด , กายทิพย๑หยาบ , กายทิพย๑ละเอียด ซึ่งเป็นกายที่ 4 นับจากายมนุษย๑ถึง

กายนี้แล๎วก็จะสามารถทํากรรมฐานได๎ 30 ที่ตั้ง ตั้งแตํกสิณ 10 , อสุภะ 10 และ

อนุสสติ 10 ตาของกายนี้ ( นับแตํตาของกายมนุษย๑ละเอียดเป็นต๎นไป ) เป็น

ทิพยจักษุสามารถเห็นสวรรค๑ , นรก , เปรต , อสุรกาย แล๎วเอากายทิพย๑นี้แหละไป

นรก , สวรรค๑ , เปรต , อสุรกาย ได๎ทุกแหํงไปพูดจาปราศรัยกันกับพวกเหลํานั้น

Page 173: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

173

ได๎ ถามถึงบุรพกรรมทุกข๑สุขกันได๎ท้ังนั้น แตํวํายังไมํเห็นพรหมโลกเพราะ

ละเอียดกวําสวรรค๑มาก ดวงธรรมในกายทิพย๑นี้เรียกวํา ทุติยมรรค พอขยาย

ออกเป็นปฏิภาคใหญํเทําดวงจันทร๑ดวงอาทิตย๑ก็จะเห็นกายที่ 5 ขึ้นอีก ผุดขึ้นที่

กลางดวงทุติยมรรคเรียกวํา กายรูปพรหมหยาบ และในกลางกายรูปพรหมหยาบ

ก็มีกายรูปพรหมละเอียดเป็นกายที่ 6 กายนี้สวยงามประดับประดาด๎วยอาภรณ๑ยิ่ง

กวําเทวดา ( กายทิพย๑ ) กายนี้ทํากรรมฐานได๎ 4 ที่ตั้งคือ รูปฌาน 4 ดวงตาของ

กายนี้เป็นปัญญาจักษุสามารถเห็นพรหมโลกทั้ง 16 ชั้นได๎ ไปไตํถามทุกข๑สุขกับ

รูปพรหมท้ัง 16 ชั้นได๎ แตํวํายังไมํเห็นอรูปพรหม 4 ชั้น เพราะละเอียดกวํารูป

พรหมมากต๎องเอาเห็นจําคิดรู๎เข๎าไปหยุดนิ่งอยูํเหนือสะดือ 2 นิ้วมือในกลางรูป

พรหมที่ 6 นี้อีก ดวงธรรมในกายนี้เรียกวําตติยมรรค พอขยายเป็นปฎิภาคใหญํ

ออกไปเทําดวงจันทร๑หรือดวงอาทิตย๑ก็จะเห็นกายอรูปพรหมหยาบ ในกลางกาย

อรูปพรหมหยาบก็จะเห็นกายอรูปพรหมละเอียดเป็นกายที่ 8 กายรูปพรหมนี้

สวยงามยิ่งขึ้นไปอีก และสามารถทํากรรมฐานได๎ 6 ที่ตั้ง คือ อรูปฌาน 4 และอา

หาเรปฏิกูลสัญญากับจตุธาตุววัตถานะรวมเป็น 40 กรรมฐานด๎วยกัน ดวงตาของ

กายนี้เป็น สมันตจักษุ สามารถเห็นอรูปพรหม 4 ชั้น แล๎วเอากายนี้ไปอรูปพรหม

4 ชั้นได๎ ไปไตํถามทุกข๑สุขกันได๎ แตํยังไมํเห็นนิพพานต๎องเข๎าไปนิ่งอยูํเหนือ

ศูนย๑สะดือ 2 นิ้วมือในกลางกายอรูปพรหมละเอียด ซึ่งเป็นกายที่ 8 นี้อีก ดวง

ธรรมในกายนี้เรียกวํา จตุตถมรรค พอขยายเป็นปฏิภาคใหญํเทําดวงจันทร๑ดวง

อาทิตย๑ก็จะเห็นกายอีกกายหนึ่งเป็นกายที่ 9 กายนี้เรียกวํา “ ธรรมกาย ” เหมือน

Page 174: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

174

พระพุทธรูป เกตุแหลมเหมือนดอกบัวตูมสวยงามใสเหมือนแก๎ว ดวงตาของกาย

นี้เรียกวํา พุทธจักษุ เห็นนิพพานแล๎วเอากายนี้แหละไปนิพพานได๎ พระพุทธเจ๎า

อยูํทีไหนก็เห็นหมดท้ังขาว , กลาง , ดํา ไปพบปะเห็นทั้งนั้น เรื่องหํมผ๎าม๎วนขวา

ม๎วนซ๎ายจะไปรู๎เรื่องได๎หมด ถ๎าทํานใดผู๎ใดทําได๎ถึงพระธรรมกายนี้แล๎วจึงคํอย

เชื่อ หรือจะไมํเชื่อก็ตามใจทํานเถอะ เพราะคนเรามีอยูํ 3 พวก คือ ขาวพวกหนึ่ง

, ดําพวกหนึ่ง ,กลางพวกหนึ่ง ถ๎าพวกขาวก็เชื่อถ๎าพวกดําก็ไมํเชื่อถ๎าพวกกลาง ๆ

ก็เฉย ๆ ถ๎าอยากจะรู๎วําเป็นพวกขาว , กลางหรือดําก็สังเกตดูเอา ถ๎าซื่อตรงเป็น

นักปราชญ๑ฉลาดใจบุญก็ให๎รู๎วําเป็นเครื่องหมายของภาคขาว ถ๎าคดโกงเกํงกาจ

ฉลาดใจพาลก็ให๎รู๎วําเป็นเครื่องหมายของภาคดํา ถ๎าไมํตรงไมํโกง นั่นก็เป็น

เครื่องหมายของภาคกลาง ธรรมกายนี้ก็มีหยาบละเอียดกวํากันเข๎าไปตามลําดับ

กายธรรมกายแรกซึ่งเป็นกายที่ 9 นั้นเรียกวําธรรมกายโคตรภูหยาบ , ในธรรมกาย

โคตรภูหยาบก็มีธรรมกายโคตรภูละเอียด , ในกายโคตรภูละเอียดก็มีกายพระ

โสดาปัตติมรรค , ในกายพระโสดาปัตติมรรคก็มีกายพระโสดาปัตติผล , ในกาย

พระโสดาปัตติผลก็มีกายพระสกิทาคามิรรค , ในกายพระสกิทาคามิมรรคก็มีกาย

สกิทาคามิผล , ในกายพระสกิทาคามิผลก็มีกายพระอนาคามิมรรค , ในกายพระ

อนาคามิมรรคก็มีกายพระอนาคามิผล , ในกายพระอนาคามิผลก็มีกายพระ

อรหัตมรรค , ในกายพระอรหัตมรรคก็มีกายพระอรหัตผลเป็น 18 กาย ด๎วยกัน

กายตั้งแตํกายมนุษย๑ , กายทิพย๑ , กายรูปพรหม , กายอรูปพรหมท้ังหยาบท้ัง

ละเอียดหมดท้ัง 8 กายนี้ เป็นกายปัญจขันธ๑ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไมํใชํ

Page 175: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

175

ตัวตนบุคคลเราเขา ไมํใชํตัวเรา , ไมํใชํของเรา แตํกายทั้ง 10 นับตั้งแตํกายธรรม

โคตรภูขึ้นไปจนถึงธรรมกายพระโสดา , ธรรมกายพระสกิทาคา , ธรรมกายพระ

อนาคา , ธรรมกายพระอรหัตทั้งหยาบท้ังละเอียดนี้เป็นกายธรรมขันธ๑ เป็นนิจ

จัง เป็นสุขัง เป็นอัตตา นิจจังเป็นของเที่ยงสุขังเป็นสุข อัตตาเป็นตัวของเรา

เป็นกายของเราแท๎ไมํยักเยื้องแปรผัน กายปัญจขันธ๑เป็นกายโลกีย๑ กายธรรมขันธ๑

เป็นกายโลกุตระ กายปัญจขันธ๑สําหรับทําภูมิสมถะคือกรรมฐาน40กายโลกุตระ

สําหรับภูมิวิปัสสนาไมํมีที่สิ้นสุด สมถกรรมฐาน 40 - แตํนี้ตํอไปจะกลําวถึง

กรรมฐาน 40 กํอน ซึ่งจะใช๎แตํเฉพาะกายโลกีย๑ทั้ง 8 คือ กายมนุษย๑ , กายมนุษย๑

ละเอียด , กายทิพย๑ , กายทิพย๑ละเอียด , กายรูปพรหม , กายรูปพรหมละเอียด ,

กายอรูปพรหม , กายอรูปพรหมละเอียด ถ๎าจะทํากรรมฐาน 40 ต๎องสับกายซ๎อน

กายเสียกํอนจึงจะทําได๎คลํองแคลํว คือ ให๎ถอยกลับออกมาจากกายที่ 8 ออกมา

จากกายที่ 7 , แล๎วก็ออกมากายที่ 6 , แล๎วก็ออกมากายที่ 5 , แล๎วก็ออกมากายที่ 1 ,

แล๎วกลับเข๎ากายที่ 1 , ที่ 2 , ที่ 3 ถึงกายที่ 8 , แล๎วก็กลับออกมาจากกายที่ 8 ,

ออกมากายที่ 1 ให๎ฝึกสับกายซ๎อนกายอยํางนี้สัก 7 เที่ยวหรือให๎มากกวํา 7 เที่ยวก็

ได๎ ให๎เป็นวสีและก็ให๎กายมันใสนั่นเอง ให๎ใสเป็นแก๎วทุกกาย เมื่อกายใสดีแล๎วให๎

เข๎าตั้งกสิณในดวงทุติยมรรคของกายทิพย๑ พอดวงทุติยมรรคใสและใหญํเทําดวง

จันทร๑ดวงอาทิตย๑ นึกบริกรรมวํา ปฐวีกสิณัง ดินก็เกิดขึ้นในดวงนั้นเป็นปฐวี

กสิณ ใสเหมือนแก๎ว พอจิตละเอียดนิ่งแนํนเลยดินลงไป น้ําก็ผุดขึ้นเป็นอาโป

กสิณในกลางดวงดินนั้น ดินก็เพิกหายไป เมื่อจิตละเอียดเลยน้ําลงไป ลมก็ผุด

Page 176: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

176

ขึ้นเป็นวาโยกสิณในกลางดวงอาโปกสิณนั้น อาโปกสิณก็เพิกหายไป ผุดขึ้นแล๎วก็

เพิกหายไปเป็นลําดับคือ ที่ 4 ก็เตโชกสิณ , ที่ 5 ก็นิลกสิณ ( สีเขียว ) , ที่ 6 ปิตก

สิณ ( สีเหลือง ) , ที่ 7 โลหิตกสิณ ( สีแดง ) , ที่ 8 โอทาตกสิณ ( สีขาว ) , ที่ 9

อาโลกกสิณ ( แสงสวําง ) , ที่ 10 อากาสกสิณ ( วํางเปลํา ) พอจิตละเอียดเลยกสิณ

ลงไปหนักเข๎า กสิณก็เพิกหายไปทีนี้อสุภะ 10 ก็เกิดขึ้น คือกายเรานั้นเองเกิดขึ้น

เป็นศพที่ 1 เป็นศพที่ขึ้นพอง , ที่ 2 เป็นศพที่ขึ้นสีเขียว , ที่ 3 เป็นศพที่ขึ้นอืดเต็ม

ไปด๎วยน้ําหนองไหล , ที่ 4 เป็นศพที่ขาดปริ , ที่ 5 เป็นศพที่ฝูงสัตว๑กัดกิน , ที่ 6

เป็นศพที่หลุดจากกัน , ที่ 7 เป็นศพที่ขาดหลุดกระจัดกระจาย , ที่ 8 เป็นศพที่เต็ม

ไปด๎วยเลือด , ที่ 9 เป็นศพที่เต็มไปด๎วยหมูํหนอน , ที่ 10 เป็นศพที่เหลือแตํรําง

กระดูก เมื่อจิตละเอียดนิ่งแนํนเลยอสุภะลงไป อสุภะก็เพิกหายไป อนุสสติ 10 ก็

เกิดขึ้น พอจิตละเอียดเข๎าถึงพุทธานุสสติคุณพระพุทธเจ๎าก็เกิดขึ้น พอจิต

เข๎าถึงธัมมานุสสติคุณพระธรรมก็เกิดขึ้น พอจิตเข๎าถึงสังฆานุสสติ คุณพระสงฆ๑

ก็เกิดขึ้น แล๎วก็เกิดขึ้นตามลําดับไป , ที่ 4 ระลึกถึงคุณของศีล คุณศีลก็เกิดขึ้น , ที่

5 ระลึกถึงคุณทาน คุณทานก็เกิดขึ้น , ที่ 6 ระลึกถึงคุณที่ทําให๎เกิดเป็นเทวดา คุณ

ที่ทําให๎เป็นเทวดาก็เกิดขึ้น , ที่ 7 ระลึกถึงกาย คุณที่ทําให๎ระลึกถึงกายก็เกิดขึ้น

, ที่ 8 ระลึกถึงลมหายใจเข๎าออก คุณที่ทําให๎ระลึกถึงลมหายใจเข๎าออกก็เกิดขึ้น ,

ที่ 9 ระลึกถึงความตาย คุณที่ทําให๎ระลึกถึงความตายก็เกิดขึ้น , ที่ 10 ระลึกถึงคุณ

พระนิพพาน คุณที่ทําให๎ระลึกถึงความดับทุกข๑ก็เกิดขึ้น กายทิพย๑นี้ทําได๎ 30

ที่ตั้งดั่งนี้แล พอจิตละเอียดนิ่งแนํนเลยอนุสสติ 10 ลงไป เข๎าถึงเมตตาพรหม

Page 177: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

177

วิหาร พอจิตคิดรักใครํในสัตว๑ทั่วไป ( ปรารถนาจะให๎สัตว๑ทั่วไปมีความสุข )

ปฐมฌานก็เกิดขึ้นในกลางกายทิพย๑ พร๎อมกับรูปพรหมนั่งอยูํบนดวงฌาน

ประกอบด๎วยวิตก , วิจาร , ปีติ , สุข ,

เอกัคคตารมณ๑ ดวงฌานนั้นกว๎าง 2 วา หนา 1 คืบ กลมเหมือนดวงจันทร๑ใส

เหมือนกระจกสํองหน๎า พอจิตนิ่งแนํนละเอียดหนักเข๎าถึงกรุณา , พรหมวิหาร

อยากให๎สัตว๑พ๎นทุกข๑ ทุติยฌานดวงที่ 2 ก็ผุดขึ้นในกลางดวงปฐมฌาน ปฐมฌาน

ก็เพิกหายไป วิตก , วิจารก็หายไปด๎วย เหลืออยูํแตํปีติสุข เอกัคคตารมณ๑ พอจิต

ละเอียดนิ่งแนํนหนักเข๎าไปถึงมุทิตาพรหมวิหาร ความพลอยดีใจเมื่อผู๎อื่นได๎ดี

ตติยฌานก็ผุดขึ้นในกลางดวงทุติยฌาน ทุติยฌานก็เพิกหายไป ปีติก็ละหายไป

ด๎วย พอจิตละเอียดนิ่งแนํนเข๎าไปถึงอุเบกขาพรหมวิหาร ไมํดีใจ , ไมํเสียใจเมื่อ

ผู๎อื่นได๎ทุกข๑ จตุตถฌาน ฌานที่ 4 ก็ผุดขึ้นมากลางดวงฌานที่ 3 ฌานที่ 3 ก็เพิก

หายไป สุขก็หายติดไปด๎วยเหลืออยูํแตํ เอกัคคตารมณ๑ กับอุเบกขาที่ผุดขึ้นมา

กับฌานท่ี 4 กายรูปพรหมนี้ทําได๎อีก 4 ที่ตั้ง รวมเป็น 34 กรรมฐาน พอจิต

ละเอียดนิ่งแนํนหนักเข๎า เลยรูปฌานทั้ง 4 เข๎าไป กายอรูปพรหมก็ผุดขึ้นใน

ดวงตติมรรคในกลางกายรูปพรหม อรูปพรหมนั่งอยูํบนอากาศ ( อากาสานัญ

จายตนะ ) เห็นอากาศมีอยูํเต็มวํางกว๎าง 2 วา หนา 1 คืบ กลมเหมือนดวงจันทร๑

ถ๎าวัดกลมรอบตัวก็ 6 วา ถึงรูปฌาน 4 วัดกลมรอบตัวก็ 6 วาเหมือนกัน พอจิต

ละเอียดเลยอากาศหนักเข๎าไปก็คิดวําอากาศนี้ยังหยาบนัก วิญญาณัญจายตนะก็

ผุดขึ้นในกลางดวงอากาศเป็นอรูปฌานที่ 2 กว๎าง 2 วา หนา 1 คืบเหมือนกัน

Page 178: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

178

อากาศนั้นก็เพิกหายไป พอจิตละเอียดนิ่งแนํนหนักเข๎าเลยวิญญาณัญจายตนะเข๎า

ไปก็คิดวําวิญญาณนี้ยังหยาบนัก อากิญจัญญายตนะคือ ความวํางเปลําไมํมีอะไร

ที่ละเอียดหนักยิ่งขึ้นไปอีกก็ผุดขึ้นในกลางดวงวิญญาณัญจายตนะ เป็นอรูปฌาน

ที่ 3 วิญญาณัญจายตนะก็เพิกหายไปตรงอรูปฌานที่ 3 นี้ที่พระพุทธเจ๎าไปติดอยูํที่

สํานักของอาฬารดาบสต๎องไปเรียนตํอที่สํานักของอุทกดาบส อุทกบาดสก็บอก

ให๎ทําจิตให๎ละเอียดให๎ยิ่งขึ้นจนได๎เนวสัญญานาสัญญายตนฌาน เกิดขึ้นอีกเป็น

กรรมฐาน 38 ที่ตั้ง ที่ 39 อาหาเรปฏิกูลสัญญาเห็นอาหารที่เขาบริโภคอาหารนั้น

เป็นของละเอียดนักซึมซาบอยูํในข๎าวในน้ําเหมือนเค็มซึมอยูํในเกลือ หวานซึมอยูํ

ในน้ําตาล หลํอเลี้ยงรํางกายเราอยูํทั่วเบ้ืองบนถึงปลายผม เบื้องต่ําถึงปลายเท๎า

ข๎าวน้ํานั้นก็กลั่นเป็นมูตรคูถไป , ที่ 40 จตุธาตุววัตถานะ เห็นธาตุหลํอเลี้ยงอาหาร

และรํางกายเราเบื้องบนถึงปลายผม เบื้องต่ําถึงปลายเท๎า ขนเส๎นหนึ่ง ผมเส๎น

หนึ่งยาวไปแคํไหน ธาตุก็รักษาไปตลอดแคํนั้นเป็น 40 กรรมฐานด๎วยกันเรียกวํา

สมถะภูมิ แตํข๎างในกายเราจึงจะเอา ถ๎าเกิดข๎างนอกเป็นทัศนูปกิเลสใช๎ไมํได๎ เมื่อ

พระพุทธเจ๎าทําจบหมดแล๎วก็รู๎ชัดวําไมํใชํหนทางตรัสรู๎ เพราะพระองค๑ยังทําไมํ

ถึงพระธรรมกาย เวลานั้นพระองค๑ทําได๎เพียงกายมนุษย๑ละเอียด , ทิพย๑ , รูป

พรหมและอรูปพรหมเทํานั้น ก็รู๎แนํไมํใชํหนทางตรัสรู๎พระสัมมาสัมโพธิญาณ

จึงต๎องเสด็จไปบําเพ็ญโดยลําดังพระองค๑เองอยูํถึง 6 ปี ที่พระองค๑ทําโดย

ยากลําบากนั้นก็เพราะพระพุทธเจ๎าภาคกลางและภาคดํานั้นคอยเป็นมารขัดขวาง

อยูํ ไมํใชํแตํจะขัดขวางพอดีพอร๎าย ขัดขวางกันอยํางฉกาจฉกรรจ๑ ถ๎าไมํมี

Page 179: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

179

พระพุทธเจ๎าภาคอื่นคอยขัดขวางแล๎วพระองค๑ก็ทําได๎โดยงําย แล๎วก็ไมํรู๎เรื่องด๎วย

วํามีมารคอยขัดขวาง ตํอเมื่อได๎สําเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณแล๎วจึงรู๎เรื่องมาร

พระองค๑บําเพ็ญบารมีอยูํช๎านานถึงกับต๎องอดอาหารและกลั้นหายใจ เพราะมาร

คอยขัดขวางไว๎ แตํอาศัยท่ีพระองค๑มีความเพียรกล๎ากับทรงพระปัญญา รู๎จัก

เปลี่ยนแปลงหนทางปฏิบัติภายหลังกลับฉันจังหันให๎พระวรกายมีกําลังจนกระทั่ง

ได๎ฉันข๎าวมธุปายาสของนางสุชาดา แล๎วเอาถาดทองลงลอยในแมํน้ําเนรัญชรา

ทรงอธิษฐานทดลองดูพระบารมีของพระองค๑วํา จะสําเร็จพระโพธิญาณหรือไมํ

ถ๎าพระองค๑จะได๎สําเร็จแกํพระโพธิญาณ ก็ขอให๎ถาดทองลอยทวนกระแสน้ํานี้ขึ้น

ไป ถ๎าไมํสําเร็จแกํพระโพธิญาณก็ขอให๎ถาดทองลอยตามน้ํา พอทรงอธิษฐานก็

วางถาดทองลงในแมํน้ําเนรัญชรา ถาดทองก็ลอยทวนน้ําขึ้นไปไกลได๎ 20 วา ของ

พระองค๑แล๎วจมลง พระองค๑เห็นประจักษ๑จึงแนํพระทัยวําจะได๎ตรัสรู๎พระสัมมา

สัมโพธิญาณ ครั้นเวลาเย็นได๎ทรงรับหญ๎าคา 8 กํามือจากพราหมณ๑ที่ชื่อ โสตถิย

พราหมณ๑ที่น๎อมนํามาถวาย แล๎วทรงเอาไปราดลงที่โคนไม๎ศรีมหาโพธิ์ที่จะตรัสรู๎

ก็ทรงอธิษฐานทดลองดูอีกวํา ถ๎าจะได๎ตรัสรู๎เป็นพระพุทธเจ๎าแนํแล๎วก็ขอให๎เกิด

เป็นบัลลังก๑แก๎วขึ้นเหมือนอยํางคําอธิษฐาน พอสิ้นคําอธิษฐานแล๎วก็เกิดเป็น

บัลลังก๑แก๎วสูง 14 ศอกเหมือนคําอธิษฐาน เมื่อพระองค๑เห็นประจักษ๑ดังนั้นก็

หมดความสงสัยก็เสด็จขึ้นนั่งบัลลังก๑ตั้งพระทัยวําถึงเลือดเนื้อและดวงใจจะเหือด

แห๎งหรือกระดูกจะกองอยูํที่นี่ก็ตามเถิด ถ๎าพระโพธิญาณไมํบังเกิด เป็นไมํลุก

จากบัลลังก๑นี้เป็นอันขาด ที่พระองค๑จะปักพระทัยหมายมั่นปลํอยชีวิตลงได๎ก็

Page 180: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

180

เพราะเห็นความอธิษฐานของพระองค๑ปรากฏขึ้นแนํแท๎วํา จะได๎ตรัสรู๎แนํโดยไมํ

ต๎องสงสัย เหตุวําพระองค๑มั่นพระทัยแนํแล๎วก็หลับพระเนตรเข๎ากายในกายตั้งแตํ

กายมนุษย๑ , กายทิพย๑ , กายรูปพรหม , กายอรูปพรหม สับกายซ๎อนกายจนใสเป็น

แก๎วดีแล๎วหมดทุกกาย แล๎วเข๎าไปนิ่งอยูํในกลางดวงจตุตถมรรคของกลางกาย

อรูปพรหม ตอนเมื่อธรรมกายจะเกิดเป็นพระพุทธเจ๎าขึ้นนั้น มารลุกพรึบทีเดียว

พร๎อมกันหมดท้ังพระยามารและเสนมาร พระพุทธเจ๎าภาคมารขัดขวางกันอยําง

ฉกาจฉกรรจ๑ตอนนี้เป็นตอนสําคัญที่พระอาจารย๑บางทํานตัดออกเสียหมด เพราะ

ทํานไมํรู๎เรื่องกายวํามีกันอยํางไร ทํานก็คิดเอากายมนุษย๑ของสิทธัตถราชกุมารที่

นั่งอยูํโคนไม๎ศรีมหาโพธิ์ ไมํพอกับช๎างของพระยามารซึ่งสูงตั้ง 150 โยชน๑ ทําน

ก็เลยตัดเรื่องมารประจญออกหมด หาวําพระอรรถกถาจารย๑ แตํกํอนยกยํอง

พระพุทธเจ๎าเกินความเป็นจริงไป เห็นวําพระพุทธเจ๎าก็คนอยํางเราไมํมีอภินิหาร

วิเศษอะไร ทํานก็คิดเป็นปุคคลาธิษฐานธัมมาธิษฐานอะไรของทํานไป หาวําลูก

สาวพระยามาร 3 คนนั้นเป็นจิตของพระองค๑คิดขึ้นตํางหาก เมื่อนางตัณหาเข๎ามา

ประเล๎าประโลมนั้นหาวําเป็นจิตของพระองค๑ ที่คิดอยากจะกลับเข๎าไปครอบครอง

เมืองเมื่อนางราคะเข๎ามาประเล๎าประโลมนัน้ ก็หาวําจิตของพระองค๑หวนคิดถึง

พิมพา , ราหุล เมื่อนางอรดีเข๎ามาประเล๎าประโลมนั้นก็หาวําจิตของพระองค๑คิด

อยากจะเป็นอยํางนั้นอยํางนี้ เมื่อพระองค๑ได๎ขับไลํนางทั้ง 3 คนนี้ให๎ไปแล๎วก็วํา

เทํากับพระองค๑เลิกคิด เมื่อนางทั้ง 3 กลับไปกันแล๎วพระยามารก็ยกกองทัพเข๎ามา

ก็วําเทํากับจิตของพระองค๑เกิดฟุ้งซํานด๎วยนิวรณ๑ 5 ประการของทําน ก็เข๎าที....

Page 181: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

181

นําให๎คิดแบบนั้นเหมือนกันสําหรับคนท่ีไมํรู๎เรื่องกายในกายก็ต๎องคิดไปอยํางนั้น

เพราะช๎างคิริเมขลมหาคชสารนั้นสูงถึง 150 โยชน๑ และต๎นโพธิ์ที่พระองค๑นั่งสูง

เพียง 120 ศอก เป็นเส๎นหนึ่งกับ 10 วาเทํานั้นจึงไมํพอกัน ข๎าพเจ๎า ( พระครู

วินัยธร หลวงปู่ชั้ว โอภาโส ) จึงลองยํนสเกลดูยํนโยชน๑ลงเป็นเซนติเมตรเขียน

รูปช๎างสูง 150 เซนติเมตร เฉพาะเล็บช๎างวัดได๎ 5 เซนติเมตร แล๎วช๎าง คิริเมขลสูง

ถึง 150 โยชน๑ขยายเล็บออกไปได๎ 5 โยชน๑ เมื่อพระยามารขี่แล๎วไสช๎างเข๎ามาจะชิง

บัลลังก๑นั้นถ๎าพระองค๑แลด๎วยมังสะจักษุ ( ตากายมนุษย๑ ) ของพระองค๑แล๎ว อยํา

วําแตํเห็นหน๎าพระยามารหรือหน๎าช๎างเลย เพียงแตํครึ่งเล็บช๎างก็มองไมํเห็นแล๎ว

เพราะตากายมนุษย๑แลเห็นเพียงโยชน๑เดียวเทํานั้น เล็บช๎างตั้ง 5 โยชน๑แล๎วเป็น

ของทิพย๑ด๎วยจะไปแลเห็นได๎อยํางไร ความจริงไมํเป็นอยํางนั้นพระองค๑ไมํได๎แล

เห็นด๎วยตากายมนุษย๑ พระองค๑เห็นด๎วยตากายอรูปพรหมเป็นสมันตจักษุ เลย

ทิพยจักษุเลยปัญญาจักษุเข๎าไป จวนถึงพุทธจักษุเป็นอจิณไตยอยูํแล๎ว อยําวําแตํ

ช๎างคิริเมขลตัวเดียวเลย ถึงแม๎จะซ๎อนกันขึ้นไปอีกสักกี่ตัวก็ยังต่ํากวําบัลลังก๑ที่

พระองค๑นั่งเสียอีก เพราะพระยามารและเสนามารที่เข๎ามาประจญนั้น ล๎วนแตํ

เป็นกายทิพย๑กันทั้งนั้น พระพุทธเจ๎าปะทะด๎วยกายอรูปพรหมเป็นอจิณไตยกวํา ,

ละเอียดกวํา , สูงกวําพวกกายทิพย๑ก็สู๎ไมํได๎ ถึงพระพุทธเจ๎าภาคดําจะขัดขวาง

อยํางไร พระพุทธเจ๎าภาคขาวต๎นธาตุต๎นธรรมของพระพุทธเจ๎าก็คอยปะทะไว๎

เหมือนกันของมีตัวจริงทั้งนั้นเชํนพระยามาร , เสนามาร , ลูกสาวพระยามารก็

ล๎วนมีตัวตนอยูํทั้งนั้นแตํเป็นกายทิพย๑ ตามนุษย๑เรามองไมํเห็นต๎องทําให๎ถึง

Page 182: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

182

ทิพยจักษุ , ปัญญาจักษุ หรือสมันตจักษุจึงจะแลเห็น เพราะเป็นของละเอียดยิ่ง

กวํากายพระพุทธเจ๎า ( ธรรมกาย ) ด๎วยแล๎ว ต๎องมองด๎วยพุทธจักษุจึงจะเห็น ท่ี

อาจารย๑บางทํานแตํงกันขึ้นใหมํ ๆ ประมาณ 40 ปี ตั้งแตํปีพ.ศ. 2460 มานี้ ได๎

ตัดอภินิหารปาฏิหาริย๑ของพระพุทธเจ๎าออกหมดนั้น เพราะไมํรู๎เรื่องกายในกาย

นั่นเอง จึงได๎ตัดบารมีอภินิหารออกหมด ทําเอาแบบแผนของจริงเลอะเลือนไป

ไมํใชํน๎อย ความจริงที่พระอรรถกถาจารย๑กลําวไว๎นั้นก็ยังไมํละเอียดเทําความ

เป็นจริงเสียอีก ทํานยํอ ๆ ไว๎เทํานั้น ถึงข๎าพเจ๎าผู๎เขียนนี้ก็ต๎องยํอไว๎เหมือนกันจะ

เขียนให๎ละเอียดเต็มที่ก็ไมํไหว เรื่องของทํานละเอียด ท่ีนี้จะกลําวเมื่อพระยา

มารพํายแพ๎ไปแล๎ว กายธรรมกายก็เกิดขึ้นในดวงจตุตถมรรคในกลางกายอรูป

พรหม ( กายที่ 8 )ของพระสิทธัตถะราชกุมาร กายนี้เหมือนพระพุทธรูปเกตุ

แหลมเป็นดอกบัวตูมใสเป็นแก๎ว กายนี้เป็นกายที่ 9 ของพระสิทธัตถะราชกุมาร

กายนี้แลเป็นกายพระพุทธเจ๎า พอเข๎าถึงกายนี้เรียกวํา โคตรภูญาณ ระลึกชาติหน

หลังได๎แล๎วเข๎ากายไปร๎อยกายพันกายก็ระลึกชาติได๎ร๎อยชาติพันชาติ เข๎าไปได๎

หมื่นกายแสนกายก็ระลึกชาติได๎หมื่นชาติแสนชาติ จนนับกายไมํถ๎วนก็ระลึกชาติ

ได๎นับไมํถ๎วนเหมือนกัน พระพุทธเจ๎าอยูํที่ไหนก็ไปพบปะกันหมดไปพูดจา

ปราศรัยกันได๎หมดท้ังภาคขาว , ภาคกลาง , ภาคดํา เมื่อเข๎าถึงกายธรรมกายโคตร

ภูนี้แล๎วก็พิจารณาเห็นอริยสัจทั้ง 4 เห็นกายมนุษย๑เป็นทุกข๑ด๎วยเกิด , แกํ เจ็บ ,

ตาย , เห็นกายทิพย๑เป็นสมุทัยเที่ยวหาท่ีเกิดไมํสิ้นสุด , เห็นกายรูปพรหมกับกาย

อรูปพรหมเป็นนิโรธเพื่อดับทุกข๑ , เห็นธรรมกายเป็นมรรคเพื่อหลีกออกจากทุกข๑

Page 183: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

183

แล๎วก็เดินสมาบัติพิจารณาอริยสัจทั้ง 4 ที่เรียกวํา “ สมาบัติ ” นั้นก็คือรูปฌาน ,

อรูปฌานนั่นเอง แตํเดินคนละกาย รูปฌาน , อรูปฌานนั้นเดินด๎วยกายรูปพรหม

และกายอรูปพรหมซึ่งเป็นกายโลกีย๑จึงเรียกวํา ฌานโลกีย๑ แตํรูปสมาบัติ , อรูป

สมาบัตินั้นเดินด๎วยกายธรรมกายเป็น โลกุตตระจึงเรียกวําฌานโลกุตตระ แล๎วเอา

กายธรรมกายโคตรภูเดินสมาบัติดูทุกข๑ , สมุทัย , นิโรธ , มรรค เรื่อยไปจน

ธรรมกายตกสูญแล๎วเกิดธรรมกายขึ้นใหมํใสละเอียดกวําเกํา ( นี้เป็นนิโรธเพื่อ

ดับเหตุแหํงทุกข๑หยาบ ) เมื่อถึงธรรมกายแล๎วจึงเป็นนิโรธเพื่อดับเหตุแหํงทุกข๑

ละเอียดจริง ๆ ที่เรียกวํา “ ตกสูญ ” นั้นคือเดินสมาบัติหนักเข๎าจนธรรมกายนั้น

ใสแล๎วดับลงมาเป็นดวงกลมใสขนาดเทําฟองไขํแดงของไกํอยูํที่เหนือสะดือ 2 นิ้ว

มือ อยํางนี้เรียกวําตกสูญ แล๎วก็เกิดขึ้นเป็นธรรมกายใสสะอาด , ดีกวําเกํา แล๎วก็

เดินสมาบัติให๎ตกสูญ แล๎วเกิดขึ้นใหมํจนเข๎าถึงกายพระโสดาปัตติมรรค แล๎วเอา

กายพระโสดาปัตติมรรคเดินสมาบัติพิจารณาอริยสัจทั้ง 4 ให๎ตกสูญแล๎วเกิดขึ้น

ใหมํจนเข๎าถึงพระโสดาปัตติผล เป็นพระอริยบุคคลชั้นที่หนึ่ง เห็นอริยสัจทั้ง 4

ละเอียดชัดเจนยิ่งกวําปุถุชนหรือโคตรภูบุคคล ( เป็นกิจ 4 ) แล๎วเอาธรรมกายพระ

โสดาปัตติผลเดินสมาบัติดู ทุกข๑ , สมุทัย , นิโรธ , มรรค จนตกสูญแล๎วเกิดขึ้น

ใหมํจนเข๎าถึงกายพระสกิทาคามิมรรค แล๎วเอาธรรมกายพระสกิทาคามิมรรคเดิน

สมาบัติดูทุกข๑ , สมุทัย , นิโรธ , มรรค จนตกสูญแล๎วเกิดขึ้นใหมํจนเข๎าถึงกาย

พระสกิทาคามิผล เป็นพระอริยบุคคลชั้นที่ 2 เห็นอริยสัจทั้ง 4 ละเอียดชัดเจนยิ่ง

กวําพระโสดาบัน ( รวมเป็นกิจ 8 ) แล๎วเอากายพระสกิทาคามิผลเดินสมาบัติดู

Page 184: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

184

ทุกข๑ , สมุทัย , นิโรธ , มรรคจนตกสูญแล๎วเกิดขึ้นใหมํจนเข๎าถึงธรรมกายพระ

อนาคามิมรรค แล๎วเอาธรรมกายพระอนาคามิมรรคเดินสมาบัติดูทุกข๑ , สมุทัย ,

นิโรธ , มรรค ตกสูญแล๎วเกิดขึ้นใหมํจนเข๎าถึงธรรมกายพระอนาคามิผลเป็นพระ

อริยบุคคลชั้นที่ 3 เห็นอริยสัจทั้ง 4 ละเอียดชัดเจนยิ่งกวําพระสกิทาคามี ( รวม

เป็นกิจ 12 ) แล๎วเอาธรรมกาย พระอนาคามิผลเดินสมาบัติดูทุกข๑ , สมุทัย ,

นิโรธ , มรรค ตกสูญเกิดขึ้นใหมํจนเข๎าถึงธรรมกายพระอรหัตมรรค แล๎วเอา

ธรรมกายพระอรหัตมรรคเดินสมาบัติดูทุกข๑ , สมุทัย , นิโรธ , มรรค ตกสูญ

เกิดขึ้นใหมํจนเข๎าถึงธรรมกายพระอรหัตผลเป็นพระอริยบุคคลชั้นที่ 4 เห็น

อริยสัจทั้ง 4 ละเอียดชัดเจนกวําพระอนาคามี ( รวมเป็นกิจ 16 ) เรียกวําโสฬสกิจ

อยูํจบพรหมจรรย๑ไมํต๎องทํากิจอีกตํอไป พอเข๎าถึงธรรมกายพระอรหัตก็รู๎ชัดวํา

พระองค๑เป็น พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ๎าโดยไมํต๎องสงสัย ทั้ง 18 กายนี้เป็น

กายโลกีย๑เสีย 8 กาย ตั้งแตํกายมนุษย๑ , ทิพย๑ , รูปพรหม และกายอรูปพรหมท้ัง

หยาบทั้งละเอียด ท้ัง 8 กายนี้ถึงจะเข๎าฌานด๎วยกายไหนก็เป็นฌานโลกีย๑ทั้งสิ้น

กายธรรมกายตั้งแตํโคตรภ ู เข๎าไปจนถึงธรรมกายพระอรหัตแล๎วธรรมกายใน

ธรรมกายพระอรหัตเข๎าไปอีกเป็นกายเถา , กายชุด , กายชั้น , กายตอน , กายภาค ,

กายพืด ,กายพืดในกายพืด จนนับอสงไขยไมํถ๎วน นี้ล๎วนแตํเป็นกายโลกุตระ

ทั้งนั้น จะเข๎าฌานด๎วยกายไหนก็เป็นฌานโลกุตระทั้งนั้น ถ๎าจะเข๎านิพพานก็เข๎า

ด๎วยกายโลกุตระทิ้งกายโลกีย๑ไว๎ในภพสาม ถึงกายโลกีย๑ก็ต๎องทิ้งกันเป็นชั้น ๆ ไป

เหมือนกันเชํนจะไปเกิดในสวรรค๑ , นรก , เปรต, อสุรกายก็ต๎องถอดกายมนุษย๑

Page 185: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

185

ละเอียด ( ซึ่งมีกายทิพย๑ซ๎อนอยูํ ) ไปเกิด ( ถ๎ากําลังแสวงหาท่ีเกิดก็เรียกวํา กาย

สัมภเวสี , ถ๎าหากที่เกิดได๎แล๎วเรียกวํา กายทิพย๑ ) ทิ้งกายมนุษย๑หยาบไว๎ในโลก

มนุษย๑ สํวนใจ , จิต , วิญญาณของมนุษย๑ก็ดับอยูํกับกายมนุษย๑นั้นแล ถ๎าได๎รูป

ฌานจะไปเกิดในพรหมโลก ก็ต๎องถอดเอากายรูปพรหมไปเกิดทิ้งกายทิพย๑ไว๎ในเท

วโลก สํวนใจ , จิต , วิญญาณของกายทิพย๑ก็ดับอยูํกับกายทิพย๑นั้นแหละ ถ๎าได๎

อรูปฌานจะต๎องไปเกิดในอรูปภพก็ต๎องถอดเอากายอรูปพรหมไปเกิดท้ิงกายรูป

พรหมไว๎ในพรหมโลก สํวนใจ , จิต , วิญญาณของรูปพรหมก็ดับอยูํกับกายรูป

พรหมนั้นแหละ ถ๎าจะลงมาเกิดในมนุษย๑อีกก็ต๎องเข๎าซ๎อนในกายรูปพรหม แล๎ว

เข๎าซ๎อนในกายทิพย๑ แล๎วเข๎าซ๎อนในกายมนุษย๑ ( ละเอียด – หยาบ ) ในครรภ๑

มารดาตามเดิม ถ๎าจะเกิดเป็นสัตว๑เดรัจฉานมันเป็นกายสัตว๑อยูํแตํข๎างนอก กาย

ข๎างในของมันก็มีกายมนุษย๑ , กายทิพย๑ , กายรูปพรหม , กายอรูปพรหม , กาย

ธรรมเหมือนมนุษย๑เราเหมือนกัน ถ๎าใครทําวิปัสสนาเข๎าถึงธรรมกายแล๎วไปถาม

บุรพกรรมของสัตว๑เหลํานั้นดูได๎วําทําบุรพกรรมอยํางไรจึงได๎เกิดเป็นสัตว๑ กาย

ในของมันจะบอกให๎ฟังอยํางละเอียดลออไมํวําสัตว๑ชนิดใดบอกได๎หมดทุกตัว

เพราะกายทิพย๑ , กายรูปพรหม , กายอรูปพรหม นั้นไมํมีแกํ ,ไมํมีเจ็บ มีแตํเกิด

เทํานั้น มันก็จําชาติหนหลังได๎ สํวนกายมนุษย๑และสัตว๑เดรัจฉานมันมีทั้งเกิด,ทั้ง

แกํ,ทั้งเจ็บ,ทั้งตายมันก็จําชาติหนหลังไมํได๎”

Page 186: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

186

ยังมีอีกเรื่องหนึ่งครับที่สําคัญทีเดียวเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ๎าทั้ง 3

ภาค ตํางเอาพระไตรปิฎกของตัวเข๎าบังคับสัตว๑ได๎แกํ มนุษย๑ , ทิพย๑ ,รูปพรหม ,

อรูปพรหม อยํางไร วิธีทําวิชชาสํารอกธาตุธรรมดําให๎หลุดจากการหํอหุ๎มธาตุ

ธรรมขาวอยํางไร วิธีการตรวจดูภพและทวีปตําง ๆ ในจักรวาล ซึ่งมีรายละเอียด

อยูํในหนังสือ วิชชามรรคผลพิสดารเลํมที่ 2 ของพระเดชพระคุณหลวงพํอวัด

ปากน้ํา ( พระมงคลเทพมุนี ) ฉบับพิมพ๑ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2519 แล๎ว สําหรับทํานที่ถึง

ธรรมกายและได๎ฝึกเจริญภาวนามาถึงขั้นนี้ (พิจารณาอริยสัจ 4 ) แล๎ว จะไปขอ

หนังสือ วิชชามรรคผลพิสดาร เลํมที่ 1 , เลํมที่ 2 และหนังสือยุทธศาสตร๑และ

ยุทธวิธีการสะสางธาตุธรรม ( อาสวักขยญาณขั้นสูง ) ได๎ท่ีพระเดชพระคุณพระ

ภาวนาโกศลเถระรองเจ๎าอาวาสวัดปากน้ําภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ซึ่งทํานเป็น พระ

อาจารย๑ใหญํฝ่ายวิปัสสนาธุระวัดปากน้ํา ฯ ซึ่งพระเดชพระคุณทํานจะได๎

พิจารณาให๎เป็นรายบุคคลตามควรแกํภูมิธรรมที่ปฏิบัติได ๎ โดยไมํคิดมูลคําแตํ

ประการใดท้ังสิ้น สํวนบันทึกสุดท๎ายของหลวงปู่ชั้ว โอภาโสนั้นยังไมํมีพิมพ๑ขึ้น

ไว๎ในที่ใดครับ ผมขออนุญาตนํามาเผยแพรํตํอเพื่อให๎ทํานคุณผู๎อํานได๎ศึกษากัน

ดังตํอไปนี้ “ นิพพาน , ภพสาม , โลกันต๑ มีอยูํในกายมนุษย๑ กายทั้งหมดทุกภพมี

ขันธ๑ 5 ทั้งนั้น แม๎ชั้นอรูปพรหมก็มีขันธ๑ 5 เหมือนกัน ตํางแตํขันธ๑ 5 ของชั้นนี้

ละเอียดยิ่งนัก สํวนนรกก็ดี สัตว๑โลกันต๑ก็ดี ล๎วนแตํมีขันธ๑ 5 ทั้งนั้น แม๎ พระ

นิพพานก็มีขันธ๑5แตํวําขันธ๑5ของพระนิพพานนั้นทํานเรียกตํางออกไปอยํางนี้คือ

1.ขันธโลกในกายพระนิพพานนั้นเรียกวํา“ธรรมขันธ๑”แทนขันธ๑5

Page 187: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

187

2.สัตวโลกในกายพระนิพพานนั้นทํานเรียกวํา“อริยสัจ”แทนเรียกวําสัตว๑โลก

3.อากาศโลกในกายพระนิพพานนั้นทํานเรียกวํา “ ธรรมธาตุ ” แทนอากาศธาตุ

คือ ธาตุ 6 นั่นเอง เป็นอากาศธาตุ แตํละเอียดสุขุมเย็นสนิทยิ่งนัก นิพพานใน

ศูนย๑กําเนิดกลางกายมนุษย๑เข๎าไปเรียกวํา “ นิพพานเป็น ” หรือ “สอุปาทิเสสนิ

พพาน ” อยูํในกายมนุษย๑ สํวนนิพพานที่อยูํข๎างบนเหนือภพสามขึ้นไป 3 เทํา

ของภพสามนั้นเป็นที่เสด็จอยูํของพระพุทธเจ๎า , พระปัจเจกพุทธเจ๎า และพระ

อรหันต๑ขีณาสพทั้งหลายที่นิพพานไปแล๎วนั้นทํานเรียกวํา “ อายตนนิพพาน ”

หรือ “ อนุปาทิเสสนิพพาน ” เป็นนิพพานที่มีศูนย๑ตรงกันกับศูนย๑นิพพานเป็น

หรือที่เรียกวํา “ สอุปาทิเสสนิพพาน ” ที่อยูํในกายมนุษย๑ เมื่อธาตุธรรมเดินฌาน

สมาบัติตกสูญนิพพานเป็นแล๎วก็เป็นอันเข๎าสูํศูนย๑อายตนนิพพานด๎วย อายตน

นิพพานเบื้องบนนั้นก็ดึงดูดธาตุธรรมขึ้นไปสูํอายตนนิพพาน ไมํผิดอะไรกับกาย

ทิพย๑เมื่อจะตั้งปฏิสนธิในครรภ๑มารดา ถ๎าตกสูญแล๎วศูนย๑กําเนิดเดิม ซึ่งตั้งอยูํ

ขั้วมดลูกของมารดาก็ดึงดูดกายทิพย๑เข๎าไปตั้งอยูํกลางกําเนิดมดลูก ฉะนั้นก็

เหมือนกับอนุปาทิเสสนิพพาน ที่อยูํเหนือขอบภพสามขึ้นไป 3 เทํานั้น ดึงดูดส

อุปาทิเสสนิพพานที่อยูํในกายมนุษย๑ขึ้นไป ติดอยูํในอายตนนิพพานเพราะมี

อายตนะเดียวกัน สอุปาทิเสสนิพพานก็มีอายตนะ , อนุปาทิเสสนิพพานก็มี

อายตนะ เมื่อธาตุธรรมเดินสมาบัติตกสูญตรงกันเข๎า ก็ดึงดูดเข๎าไปติดกันเหมือน

อายตนะในตากับอายตนะในรูป เมื่อตกสูญตรงกันเข๎าก็ดึงดูดเข๎าไปหากัน ฉะนั้น

แตํสํวนนิพพานที่ทํานกลําวไว๎ในพระบาลีนั้น ทําไมเหมือนกับปิด ๆ บัง ๆ อมอํา

Page 188: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

188

อยูํชอบกล ข๎าพเจ๎า ( พระครูวินัยธร หลวงปู่ชั้ว ) ได๎คัดลอกมาจากคําแปลแตํ

ไมํได๎เขียนตัวบาลีไว๎ด๎วย เพราะข๎าพเจ๎าแปลไมํเป็นจึงเอาแตํคําแปลมาลงไว๎

เทํานั้นทํานกลําวไว๎ 3 ข๎อ คือ กลําววํา “ ภิกษุท้ังหลาย ! อายตนะนั้นมีอยูํ , ที่ดิน ,

น้ํา , ลม , ไฟ ไมํมีแล , อากาสานัญจายตนะ วิญญาณัญจายตนะ , อากิญจัญญายต

นะ , เนวสัญญานาสัญญายตนะ ก็มิใชํ , โลกนี้ก็มิใชํ , โลกอื่นก็มิใชํ , ดวงจันทร๑

ดวงอาทิตย๑ทั้ง 2 ก็มิใชํ , อนึ่งภิกษุทั้งหลาย ! เราไมํกลําวเลยซึ่งอายตนะนั้นวําเป็น

การมา เป็นการไป เป็นการตั้งอยูํ เป็นการจุติ เป็นการเกิด อายตนะนั้นหาที่ตั้ง

มิได๎มิได๎เป็นไป หาอารมณ๑มิได๎นั่นแลคือที่สุดแหํงทุกข๑” นี่จะเอาความอยํางไร

ทํานไมํได๎เอาของในนิพพานมากลําวเลย ในนิพพานมีกลําวแตํอายตนะเทํานั้น

ทํานกลําวก็ไมํผิดเพราะดิน น้ํา ลม ไฟ ไมํมีในนิพพาน , อากาสานัญจายตนะ ,

วิญญาณัญจายตนะ , อากิญจัญญายตนะ , เนวสัญญานาสัญญายตนะ ก็ไมํมีใน

นิพพาน มีอยูํแตํในอรูปภพเทํานั้น , โลกนี้ , โลกอื่นก็ไมํมีในนิพพานมีอยูํแตํใน

มนุษย๑โลก , เทวโลก , พรหมโลก , มารโลก , ดวงจันทร๑ดวงอาทิตย๑ ทั้ง 2 ก็ไมํมีใน

นิพพาน มีอยูํแตํสําหรับโลกมนุษย๑เทํานั้น ของที่กลําวไว๎นี้ไมํมีในนิพพานเลย

แล๎วใครจะรู๎วํานิพพานอยูํไหนนั้นได๎กลําววํา “ ธรรมนี้เป็นสภาพลึกเห็นได๎ยาก

ตรัสรู๎ได๎ยาก เป็นธรรมสงบ ประณีต คิดเดาไมํได๎ ละเอียดเป็นวิสัยที่บัณฑิตพึง

รู๎ ” นี่ก็เทียบ ๆ นิพพานไปแล๎ว แตํถ๎าคนไมํรู๎เรื่องในนิพพานก็เอาความไมํได๎เลย

นั้นได๎กลําววํา “ ธรรมชาตินั้นสงบแล๎ว , ธรรมชาตินั้นประณีต ธรรมชาติใดเลํา

เป็นที่สงบแหํงสังขารทั้งปวง เป็นที่สละคืนอุปธิทั้งปวง เป็นที่สิ้นตัณหา , เป็นที่

Page 189: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

189

สิ้นราคะ , เป็นที่ดับ คือนิพพาน ” นี่ทํานกลําวแคํเพียงธรรมชาติในนิพพาน

เทํานั้น แตํตําแหนํงที่อยูํของนิพพานทํานไมํกลําววําอยูํที่ไหนจึงเอาความได๎ยาก

ครั้นจะวําให๎มากไปข๎าพเจ๎าก็กลัววํา เป็นการตูํพระพุทธวัจนะ เพราะเป็นของใน

บาลี ข๎าพเจ๎าก็กลัวบาปอยูํเหมือนกัน แตํสํวนในนิพพานอยํางที่พวกเรามี

ธรรมกายไปพบไปเห็นมานั้น ล๎วนแตํสมบัติวิเศษเป็นแก๎วทั้งนั้น กาย

พระพุทธเจ๎าเองก็ใสเป็นแก๎ว แล๎วสิ่งอื่น ๆ ก็ล๎วนแก๎ววิเศษทั้งนั้นเชํน แก๎วจุล

จักรพรรดิ , แก๎วมหาจักรพรรดิ , แก๎วบรมจักรพรรดิที่มนุษย๑ผู๎มีบุญวาสนา

ได๎มาใช๎กันนั้นก็ต๎องสํงมาจากนิพพาน หรือ แก๎วทิพยจุลจักรพรรดิ , แก๎วทิพยม

หาจักรพรรดิ , แก๎วทิพยบรมจักรพรรดิที่พวกเทวดา , พรหม , ที่มีบุญวาสนา

ยิ่งใหญํใช๎กันก็ล๎วนแตํสํงมาจากนิพพานทั้งนั้นยังมีแก๎วพุทธจุลจักรพรรดิ , แก๎ว

พุทธมหาจักรพรรดิ , แก๎วพุทธบรมจักรพรรดิ ที่ใช๎กันอยูํในนิพพานนั้นแตํละ

อยําง ๆ มีมากมายนับอสงไขยไมํถ๎วน ล๎วนแตํเป็นแก๎วกายสิทธิ์วิเศษท้ังนั้น

ทําไมทํานจึงไมํกลําวไว๎ในบาลี แตํวําเมื่อพระพุทธเจ๎ายังทรงพระชนม๑อยูํนั้นคง

จะตรัสเทศนาไว๎หมดทุกอยําง แตํในคัมภีร๑เกํา ๆ มีกลําวอยูํบ๎างเชํนที่วํา “เป็น

พระอรหัตตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหาน เข๎าถึงเมืองแก๎วกลําวแล๎วคือนิพพาน”

เดี๋ยวนี้ไมํคํอยมีกลําวถึงนิพพานหมดเข๎าไป เสื่อมเข๎าไปอยํางที่เห็น ๆ เดี๋ยวนี้พระ

ศาสนาก็ลํวงเลยมา 2 พันกวําปีแล๎ว นํากลัวพระพุทธวัจนะ จะคลาดเคลื่อน และ

ตกหลํนจนไมํมีใครรู๎เรื่องนิพพานเสียเลย ลงเห็นวํานิพพานไมํมีแล๎ว ภาคดําเขา

ก็คอยสอดญาณละเอียดเข๎าในเห็นจําคิดรู๎ของพวกอรรถกถาจารย๑ ให๎แตํงแก๎พระ

Page 190: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

190

พุทธวัจนะ ให๎เลอะเลือนคลาดเคลื่อนอยูํเสมอ เพราะนิพพานเป็นจุดสําคัญ

พระพุทธเจ๎าพระอรหันต๑จึงปรารถนามุํงหมายนัก ภาคดําเข๎าก็หวงแหนปิดบัง

อยํางสุดฤทธิ์ เพราะวําถ๎าสัตว๑ยังเวียนวํายอยูํในภพสามตราบใดภาคดําเขาก็ต๎ม

เลํนอยํางสนุก ถ๎าถึงนิพพานเสียแล๎วมันก็ไมํกลัวกัน ฉะนั้นเขาจึงขัดขวางจนสุด

ฤทธิ์แล๎วในนิพพานนั้นเป็นที่สุโขมโหฬาร จนไมํมีสํวนเปรียบยังพวกจักรพรรดิ

ที่คอยดูแลปฏิบัติพระพุทธเจ๎าอยูํในนิพพานนั้น ก็ล๎วนแตํกายใสเป็นแก๎วทั้งนั้น

และไมํใชํแตํจะดูแลในนิพพานเทํานั้น ถึงแม๎ในภพสามเรานี้พวกจักรพรรดิและ

พระพุทธเจ๎าก็ต๎องคอยดูแลสํงเสียอยูํไมํขาดเหมือนกัน ที่สํงความบริบูรณ๑มา

หลํอเลี้ยงหมูํสัตว๑ของพระพุทธเจ๎าในนิพพาน นั้นยิ่งกวําบิดามารดาที่มีตํอบุตร

ธรรมดาบิดามารดานั้นถึงบุตรจะชั่วร๎ายไมํรู๎จักบุญคุณอยํางไร ก็ยังรักอยูํเสมอ

แตํพระพุทธเจ๎าทรงคุณยิ่งกวํานั้นความกรุณาตํอสัตว๑ไมํเลือกหน๎าถึงสาวกในพระ

ศาสนาจะชั่วช๎าไมํรู๎จักพระคุณเหมือนอยํางพระเทวทัตก็ด ี ก็ยังกรุณาตํอเสมอ

ฉะนั้นพระคุณพระพุทธเจ๎าจึงมีมากสุดจะพรรณนา ที่ทํานกลําวไว๎ในคัมภีร๑เกํา ๆ

วําเปรียบเหมือนบุรุษที่มีฤทธิ์เนรมิตศีรษะได๎พันศีรษะ ๆ ละร๎อยปาก มีปากละ

ร๎อยลิ้น แล๎จะพรรณนาคุณพระพุทธเจ๎าอยูํจนตลอดกัลป์ก็ยังไมํสิ้นสุดพระคุณ

ของพระพุทธเจ๎า แตํภาคดําตรงกันข๎าม นั่นมีพระเดชถึงบุรุษผู๎มีพันศีรษะ ๆ ละ

ร๎อยปาก ปากละร๎อยลิ้นจะพรรณนาพระเดชมารไปตลอดกัลป์ก็ไมํสิ้นสุดโทษ

ของเขาได๎เหมือนกัน พระพุทธเจ๎าภาคดํานี้ล๎วนแตํเป็นพญามัจจุราชทุกองค๑ มี

แตํจะให๎ทุกข๑โทษแกํสัตว๑ฝ่ายเดียว ทุกข๑ของสัตว๑ที่มีร๎อยแปดประการนั้นเป็น

Page 191: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

191

ธรรมของภาคดําฝ่ายเดียว ฉะนั้นถึงจะพรรณนาโทษของเขาสักกี่กัลป์ก็ไมํสิ้นสุด

การที่พระพุทธเจ๎าภาคขาวสํงความบริบูรณ๑มาหลํอเลี้ยงหมูํสัตว๑หรือพระเณรใน

ศาสนานั้นให๎สังเกตดูวัดใดวันหนึ่ง ถ๎าพระเณรปฏิบัติเครํงครัดตํอธรรมวินัย วัด

นั้นต๎องบริบูรณ๑ด๎วยลาภสักการะ ชื่อเสียงโดํงดังตัวอยํางเชํนวัดปากน้ําภาษีเจริญ

เป็นต๎น หลวงพํอวัดปากน้ําพระมงคลเทพมุนี ทํานเอาแตํธรรมวินัยอยํางเดียว

อยํางอื่นผิดธรรมวินัยทํานไมํเอา สํวนตัวทํานเองสิกขาบท 227 ไมํมีขาดตก

บกพรํอง แล๎วยังไมํประมาท แสดงอาบัติทุกเช๎ามืดเป็นนิตย๑แล๎วแนะนําสั่งสอน

ภิกษุสามเณรให๎ประพฤติปฏิบัติชอบทุกวันไมํมีเว๎นเลย จึงบริบูรณ๑ไมํขาดแคลน

พระเป็นร๎อย ๆ สามเณรเป็นร๎อย ๆ อุบาสกอุบาสิกาเป็นร๎อยก็ไมํอดอยาก แตํ

บางครั้งก็มีบกพรํองบ๎างเป็นที่พระเณรตํางวัดไปอาศัยอยูํ นิสัยหยาบติดไปจาก

วัดเดิม ประพฤติบกพรํองเป็นธรรมของฝ่ายดํา ฝ่ายดําเขาสํงชั่วมาขัดขวางได๎

บ๎างแตํก็ขัดขวางไมํได๎มากนัก เพราะพระเณรที่เครํงครัดก็มีมากเหมือนกันจึง

ขัดขวางไมํถนัด ถ๎าพระเณรทําตามหลวงพํอสอนทุกองค๑แล๎วอยําวําแตํวัดปากน้ํา

วัดเดียวเลย ถึงวัดอื่นสักกี่สิบวัดก็เลี้ยงได๎จริง ๆ พระพุทธเจ๎าภาคดํานํะฤทธิ์เดช

ไมํใชํพอดีพอร๎ายล๎วนแตํเป็นมัจจุราชที่ผลาญชีวิตสัตว๑ทั้งนั้น แล๎วปิดบังอําพราง

เรื่องของตัวนักไมํอยากให๎ใครรู๎เรื่องของเขาทีเดียว ดูแตํมนุษย๑ท่ีทําชั่วไมํอยากให๎

ใครรู๎เรื่องเหมือนกันเพราะเรื่องมันชั่ว พระพุทธเจ๎าภาคดําก็ต๎องปิดเรื่องชั่วของ

ตัวเหมือนกัน แล๎วจะหาใครต๎านทานฤทธิ์มันยากนักไมํมีกลัวไมํมีเกรงผู๎ใดเลย

พระพุทธเจ๎าภาคขาวที่ดับขันธ๑ปรินิพพานไปเหมือนอยํางพระสมณโคดมแล๎วสัก

Page 192: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

192

กี่โกฏิกี่ล๎านหรือสักกี่อสงไขยก็สู๎ไมํได๎เลยสักองค๑เดียว เพราะพุทธเจ๎าภาคขาวที่

ดับขันธ๑ถอดเอาธรรมกายเข๎านิพพานไปนั้น เหมือนอยํางกุ๎งหรือปูที่ลอกคราบ

ก๎ามและกระดองอํอน ๆ อยํางนั้นจะไปทําอะไรใครได๎ ไมํเหมือนพระพุทธเจ๎าชั้น

กํอน ๆ ที่เข๎านิพพานทั้งกายมนุษย๑เป็น ๆ ไปนั้น แตํอยํางนั้นก็ยังเต็มรับเต็มสู๎

เหมือนอยํางพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ๎าของเรานั้น ทํานก็คิดจะเข๎านิพพาน

ทั้งเป็น ๆ เหมือนกัน แตํสู๎เขาไมํได๎ก็ต๎องดับขันธ๑นิพพาน เมื่อพระองค๑สําเร็จ

พระสัมมาสัมโพธิญาณใหมํ ๆ เสด็จไปประทับท่ีใต๎ควงไม๎อชปาลนิโครธ พญา

มารนิมนต๑จะให๎นิพพานเสียทีเดียว พระองค๑ได๎ตรัสแกํมารวํา ถ๎าบริษัททั้ง 4 คือ

ภิกษุ , ภิกษุณี , อุบาสก , อุบาสิกา ยังไมํบริสุทธิ์แพรํหลายดีแล๎วจะยังไมํนิพพาน

มารได๎ฟังดังนั้นก็หลีกไป ในพระบาลีกลําวไว๎แตํเพียงแคํนี้ เมื่อพญามารหลีกไป

แล๎วพระพุทธเจ๎าภาคมารก็มาเอง ตอนนี้ทํานทั้งหลายอยําเพิ่งเชื่อ เพราะพระ

บาลีไมํกลําวไว๎เป็นแตํผู๎ที่มีธรรมกายไปพบปะเข๎า ทํานต๎องทําให๎มีให๎เป็นอยํางที่

บอกหนทางไว๎ข๎างต๎นนั้น เมื่อเห็นแล๎วไปดูเอาเองแล๎วจะเชื่อหรือไมํเชื่อก็ตามใจ

ทํานเถอะ เมื่อพระพุทธเจ๎าภาคมารมานั้นพระกายดําเป็นนิลใสเป็นแก๎วโผลํขึ้น

ตรงหน๎าพระสมณโคดมแล๎วถามวํา “ เมื่อทํานยังไมํเข๎านิพพานแล๎วทํานจะรบกับ

เราหรือจะโปรดสัตว๑ ? ” พระพุทธเจ๎าเพิ่งจะได๎สําเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณ

ใหมํ ๆ ยังไมํทันจะรู๎เรื่องราวอะไรนักก็ต๎องเข๎านิโรธสมาบัติไป 7 วัน ขึ้นไปทูล

ถามพระพุทธเจ๎าที่ในนิพพานแกํ ๆ ขึ้นไป จนถึงพระพุทธเจ๎าที่เข๎านิพพานทั้ง

กายมนุษย๑วําเราจะรบดีหรือจะโปรดสัตว๑ดี พระพุทธเจ๎าในนิพพานแกํ ๆ นั้นก็

Page 193: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

193

บอกวํา “ โปรดสัตว๑เถิด จะรบนั้นสู๎เขาไมํได๎ เพราะบารมีทํานน๎อยกวําเขา ”

แล๎วก็ให๎นัยมาวําให๎ตั้งกติกากับเขาข๎อเดียว พระพุทธเจ๎า ( พระสมณโคดม ) ก็

ออกจากนิโรธสมาบัติแล๎วก็บอกวํา “ เราจะโปรดสัตว๑ ” ภาคดําเขาก็ตั้งกติกาให๎ 4

ข๎อคือข๎อ1.ทํานอยําไปแตะต๎องโครงการของเขาที่เขาทําให๎ทุกข๑แกํสัตว๑ไว๎แล๎วอยํา

ไปพูด ข๎อ2. ทํานต๎องห๎ามสาวกอยําให๎แผลงฤทธิ์เดชจนไปแตะต๎องโครงการของ

เขา ข๎อ3. ทํานจะเทศนาโปรดสัตว๑ต๎องเทศนาโทษวําเป็น“ กรรม ” ของสัตว๑อยํา

โทษวําเขา “ พระพุทธเจ๎าภาคดํา ” เป็นผู๎กระทํา ข๎อ 4. เมื่ออายุทํานครบ 80 ปี

ทํานต๎องนิพพาน ถ๎ารับกติกาได๎อยํางนี้ก็จะไมํรุกรานกัน พระพุทธเจ๎าภาคขาว

( พระสมณโคดม ) ก็ตั้งกติกาไว๎ข๎อเดียววํา “ศาสนาของเราไมํมีกําหนด มรรคผล

ยังมีอยูํตราบใดศาสนาก็ตั้งอยูํตราบนั้น ” ( นี้ตรงกับพระมหาสมณเจ๎า ฯ ค๎น

ที่มาของศักราชไมํพบจึงบอกแตํลํวงเทํานั้น ) เมื่อปฏิญาณวําจะไมํรุกรานกันแล๎ว

พระพุทธเจ๎าพระสมณโคดมก็เที่ยวโปรดสัตว๑ไป ครั้งพระศาสนาแพรํหลายมี

พระสาวกมากเข๎า ภาคดําก็เลํนลูกไม๎สอดละเอียดเข๎าในเห็นจําคิดรู๎ของพระสาวก

ให๎ทําชั่วขึ้นอยํางเชํนวํา พระสุทินให๎เสพเมถุนธรรมขึ้น , พระธนิยะทํา

อทินนาทาน , พระที่แมํน้ําวัดคุมุทาทํามนุสสวิคคหะบ๎าง , อวดอุตริมนุสธรรม

บ๎าง เป็นให๎ทําปาราชิก 4 แล๎วก็สอดละเอียดเข๎าให๎ทําสังฆาทิเสส 13 , อนิตย 2 ,

นิสสัคคิยปาจิตตีย๑ 30 , ปาจิตตีย๑ 92 , ปาฏิเทสนีย 4 , เสขิยวัตร 75 , อธิกรณสมถะ

7 , จนหมด 227 สิกขาบท พระพุทธเจ๎าก็ต๎องตามบทบัญญัติสิกขาบทจนหมด

สิ้น ศาสนาใดถ๎าพระพุทธเจ๎าบัญญัติสิกขาบทมากการได๎มรรคผลก็น๎อย ถ๎า

Page 194: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

194

สิกขาบทบัญญัติน๎อยมรรคผลก็ได๎กันมาก ในศาสนาพระสมณโคดมนี้ภาคดําเขา

สอดละเอียดเข๎ามาให๎บัญญัติสิกขาบท จนพระสาวกพลิกตัวแทบจะไมํไหวแล๎ว

เขาก็ตั้งกฎของเขาขึ้น ผู๎ที่ประพฤติดีไมํเป็นอาบัติเป็นสาวกของพระสมณโคดม

ผู๎ที่ประพฤติชั่วเป็นอาบัติเป็นสาวกของเขาหมดเมื่อเขาเอาเข๎าอยํางนี้พระพุทธเจ๎า

ก็ต๎องนิ่ง ครั้นจะพูดเรื่องเขาเข๎าก็จะเสียสัจ ที่ตั้งกติกาตํอกันไว๎วําจะไมํพูดเรื่อง

ของเขา ธรรมดาพระพุทธเจ๎าฝ่ายขาว เมื่อตรัสสิ่งใดไปแล๎วก็จะไมํคืนคายสัจ

วาจา ครั้งจะตํอวําเขาคือภาคดําเขาก็วําความไมํซื่อสัตย๑คดโกงเป็นธรรมของเขา

ซึ่งเขาก็จะต๎องปฏิบัติตามธรรมดําของเขาครั้นจะปะทะกันขึ้นก็จะไมํมีเวลาโปรด

สัตว๑ เพราะจะต๎องนิ่งอยูํแตํในนิโรธสมาบัติไมํมีเวลาออก แล๎วกําปั้นก็เล็กกวําเขา

เพราะบารมีของพระองค๑ก็เพียง 4 อสงไขยแสนมหากัปเทํานั้น ของเขาตั้งร๎อย

อสงไขยพันอสงไขยถึงจะปะทะกันขึ้นก็สู๎เขาไมํได๎ กําลังบารมีของเขามากกวํา ก็

เหมือนกับไทยเรากับประเทศนอกสมัยราชาธิปไตยเขตแดนก็มาก แตํกําปั้นเล็ก

กวําเขาก็ต๎องปลํอยให๎เป็นเขตแดนของผู๎อื่น จะสร๎างปืนขึ้นสักกระบอกเขาก็ถาม

เอาวํา “ จะรบกับฉันหรือ ? ” จะสร๎างเรือขึ้นสักลําเขาก็ถามวํา “ จะสร๎างไว๎รบกับ

ฉันหรือ ? ” ไทยก็ต๎องทนเอา เพราะกําปั้นเล็กกวําเขานําเจ็บใจน๎อยไปเมื่อไหรํ

พระพุทธเจ๎าสมณโคดมกับภาคดําก็แบบนั้น ถ๎าใครไปรู๎เรื่องจริงของเขาเข๎าแล๎ว

นําสงสารนัก ภาคดําเขาจะกลั่นแกล๎งอยํางไรก็ต๎องทนเอาแตํพอโปรดสัตว๑ให๎

หลุดพ๎นไปได๎เทํานั้น แม๎แตํพูดวํามารชนะพระเขายังไมํชอบต๎องพูดวําพระชนะ

มาร เขาจึงจะทําการลงโทษสัตว๑ได๎สะดวก พระพุทธเจ๎าสมณโคดมก็ต๎องทนเอา

Page 195: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

195

ตํอเมื่อพระชนมายุยําง 80 ปีก็เริ่มให๎โอกาสแกํพระอานนท๑ ( เพราะคิดวําจะเข๎า

นิพพานทั้งเป็นเหมือนกัน ) วําตถาคตนั้นถ๎าอาศัยเจริญอิทธิบาททั้ง 4 แล๎วจะให๎

มีอายุยืนถึงกัปหรือกวํากัปก็ได๎ แตํเพียรให๎นิมิตโอกาสแกํพระอานนท๑อยูํถึง 16

ตําบล ๆ ละ 3 ครั้ง จะให๎พระอานนท๑ทูลอาราธนาให๎ดํารงชีวิตอยูํอีกตํอไป ภาค

ดําเขาก็คอยดลใจพระอานนท๑ไมํให๎นึกขึ้นได๎ พอครบ 16 ครั้งเทําโสฬสกิจก็หมด

โอกาสที่จะให๎โอกาสตํอไป พระยามารก็เข๎ามาเตือนให๎นิพพานตามสัญญา นั่นถ๎า

พระอานนท๑ทูลอาราธนาไว๎ได๎ภาคมารก็หมดโอกาส ที่นี้พระองค๑จะได๎เดิน

สมาบัติเชื่อมพระกายหมดทุกกายจนนับอสงไขยไมํถ๎วนให๎ติดกันเป็นกายเดียว

ใสเป็นแก๎วเข๎านิพพานทั้งเป็นได๎แล๎วจะไปกลัวอะไร แตํต๎องดับขันธ๑นิพพาน

อยํางนั้น ถ๎าเข๎านิพพานได๎ท้ังเป็นก็เลิศเทํานั้น ”

สรุปความรู๎ของหลวงปู่ชั้ว โอภาโส

ความรู๎ที่พระพุทธเจ๎าจะพึงตรัสรู๎ได๎มากน๎อยเพียงใดนั้นยํอมเป็นไปตามหลักสูตร

ที่มารบัญญัติคือ รู๎ได๎แตํความรู๎ภาคโปรดสัตว๑ สํวนความรู๎ภาคปราบอันเป็น

ความรู๎สําคัญมารไมํอาจอนุญาตให๎รู๎ได๎ เสียใจด๎วยที่ให๎รู๎เห็นความรู๎อยํางนั้น

ไมํได๎มารเขาวําอยํางนั้นพอพระพุทธเจ๎าทํางานตั้งศาสนา คือสอนมนุษย๑โลกมาร

ก็เข๎ามาก๎าวกํายให๎เกิดความแตกแยกเชํน สาวกของพระพุทธองค๑ประพฤติมิชอบ

ประการตําง ๆ พระพุทธองค๑ก็ต๎องบัญญัติวินัยห๎าม ซึ่งวินัยนั้นบัญญัติไว๎มาก

จนพระสงฆ๑แทบกระดิกตัวไมํได๎ ไมํวําอะไรห๎ามไปหมด นั้นคือมารหาเหตุสกัด

Page 196: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

196

มรรคผลนิพพานตลอดเวลา หากพระสงฆ๑พลาดพลั้งทางวินัย มารก็อ๎างวําเป็น

สาวกของมารแล๎วดวงบารมีก็หลุดมือไปเป็นของมาร สํงผลให๎มรรคผลนิพพาน

เนิ่นช๎าไปอีก ต๎องไปตั้งต๎นสร๎างบารมีกันใหมํไมํรู๎จบ พระพุทธเจ๎าของเราตั้งแตํ

อดีต สู๎มารไมํได๎ด๎วยมีบารมีน๎อยกวํามารทั้งนั้น

นี่คือเรื่องเดํนประเด็นลับท่ีหลวงปู่ชั้ว โอภาโส ผู๎เป็นศิษย๑ท่ีใกล๎ชิดพระ

เดชพระคุณหลวงพํอวัดปากน้ํา( พระมงคลเทพมุนี ) ตามประวัติกลําววําทํานเป็น

พระสุปฏิปันโนองค๑หนึ่งซึ่งปรารถนาพุทธภูมิด๎วยครับ ในระหวํางที่ยังมีชีวิตอยูํ

ทํานได๎เป็นกําลังสําคัญ ในการเผยแพรํธรรมปฏิบัติตามแนววิชชาธรรมกาย

โดยเฉพาะเรื่องธรรมสามฝ่ายที่เราทํานทั้งหลายได๎อํานจบไปเมื่อสักครูํนี้ก็มีผลทํา

ให๎พวกเราตาสวํางใจกระจํางแจ๎งลบความมืดบอดแหํงปัญญาที่พญามารเขาปิดบัง

เรามาตลอดได๎ในระดับหนึ่งครับ สํวนเรื่องตํอไปเรามาไขปริศนาเรื่องของดวง

แก๎วกายสิทธิ์-จักรพรรดิกันตํอครับ

ปริศนาแหํงดวงแก๎ว

ความลับและความสําคัญยิ่งของดวงแก๎วกายสิทธิ์ – จักรพรรดิ ดวงแก๎วกลมใส

บริสุทธิ์ท่ีเจียระไนจากหินแก๎วบริสุทธิ์ที่มีขนาดใหญํเส๎นผําศูนย๑กลางเกิน 3 นิ้ว

ขึ้นไปนั้นมีคุณคําตํอการทําวิชชาธรรมกายขั้นสูงอยํางสําคัญยิ่งครับ เพราะดวง

แก๎วขนาดใหญํเกิน 3 นิ้วนี้จึงจะมีกําลังฤทธิ์แรงชํวยในการเดินวิชชาธรรมกายได๎

Page 197: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

197

เร็วมีพลังขึ้นและดวงแก๎วใสขนาดใหญํท่ีใสบริสุทธิ์นี้เมื่อนํามาเดินวิชชาธรรมกาย

ขั้นสูงแล๎วจะมีอานุภาพยิ่งนักพอแยกออกได๎เป็นข๎อ ๆ ดังนี้ครับ

1.ชํวยในการเชื่อมสายสมบัติ และบันดาลให๎เกิดสมบัติตําง ๆ อีกทั้งใช๎ในการ

คํานวณผังอุดมสมบูรณ๑พูนสุขเชํนในสมัยหลวงพํอวัดปากน้ํา ในสมัยนั้นมีพระ,

เณร, แมํชี , ศิษย๑วัดรวมนับเป็นพันชีวิต หลวงพํอต๎องรับภาระเลี้ยงดูตั้งโรงครัว

เลี้ยง ซึ่งทํานก็ได๎อาศัยดวงแก๎วกลมใสขนาดใหญํเส๎นผําศูนย๑กลาง 3 นิ้ว 3 ดวง

มาเจริญวิชชาชํวยเชื่อมสายสมบัติ จนวัดปากน้ําเจริญรุํงเรืองอุดมสมบูรณ๑จนถึง

ปัจจุบันนี้

2. ในการเจริญวิชชาสะสางธาตุธรรม ( วิชารบ หรือวิชชาปราบมาร ) เป็น

วิชชาสูงสุดยอดของวิชชาธรรมกายนั้น จําเป็นอยํางยิ่งต๎องอาศัยดวงแก๎วขนาด

ใหญํชํวยเป็นกําลังสําคัญครับ เพราะกายมนุษย๑นั้นต๎องมีการกิน , การถําย , การ

พักผํอนนอนหลับ พูดงําย ๆ วํายังมีโอกาสเผลอได๎ สํวนจักรพรรดิในดวงแก๎วนั้น

ไมํมีการกิน , การถํายแบบมนุษย๑ ดังนั้นผู๎เป็นวิปัสสนาจารย๑หรือพระโยคาวจร

ผู๎ทําวิชชาจึงสามารถถํายทอดวิชชาปราบมารให๎จักรพรรดิในดวงแก๎ว ทําวิชชา

แทนกายมนุษย๑ได๎ดี เป็นคุณประโยชน๑ตํอการทําวิชชาขั้นสูงสุดในวิชชาธรรมกาย

และในยุคหลวงพํอวัดปากน้ํานั้น ทํานสั่งให๎บรรดาศิษย๑ผู๎เชี่ยวชาญในการทําวิชชา

ธรรมกาย ให๎นําดวงแก๎วกายสิทธิ์ จักรพรรดินํามาถือไว๎ในมือขณะทําวิชชา

หลวงพํอทํานบอกวําจะชํวยให๎การทําวิชชาเร็วและแรงขึ้นและนอกจากนี้ดวงแก๎ว

Page 198: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

198

หินใสขนาดใหญํ ถ๎าหากได๎นํามาเจริญวิชชาธรรมกาย อยํางชํานาญแล๎วองค๑

จักรพรรดิในดวงแก๎วหรือองค๑กายสิทธิ์ในดวงแก๎วนั้นสามารถจดจําวิชชาที่กาย

มนุษย๑ได๎ท้ังหมดอีกด๎วยครับ คุณคําและความสําคัญของดวงแก๎วหินใสในวิชชา

ธรรมกายนั้นมีอีกมาก และไมํอาจนํามาเปิดเผยชี้แจงให๎คุณผู๎อํานทุกทํานทราบ

ได๎ในขณะนี้ครับ นอกจากวําคุณได๎ลงมือปฏิบัติธรรมจนบรรลุธรรมกาย และได๎

ศึกษาการทําวิชชาตามแนววิชชาที่หลวงพํอวัดปากน้ําแนะนําไว๎ ก็จะทราบและรู๎

ซึ้งในคุณคําของดวงแก๎วหินใสวํามีความสําคัญยิ่งเพียงใด โดยเฉพาะในการทํา

วิชชาปราบมาร และการทําวิชชาเข๎าไปยึดสิทธิอํานาจในธาตุธรรม เป็นเรื่อง

สําคัญมากทีเดียวครับ ซึ่งต๎องอาศัยหินใสบริสุทธิ์ชํวยขณะทําวิชชา คือวิชาปราบ

มารซึ่งมารเกรงกลัวเป็นที่สุด เพราะถ๎ากายมนุษย๑ธาตุธรรมสายขาวใส ได๎บรรลุ

ธรรมกายและทําวิชชาขั้นสูงสะสางธาตุธรรม วิชชารบ ( ปราบมาร ) โดยถือดวง

แก๎วหินขาวใสบริสุทธิ์ขนาดเกินผลส๎มเข๎าไว๎ในมือ แล๎วเจริญวิชชาธรรมกาย จะ

เกิดประสิทธิภาพฤทธิ์เดชในสํวนหยาบสํวนละเอียด สํงผลให๎วิชชาธรรมกายฝ่าย

พระหรือฝ่ายบุญภาคปราบมีอานุภาพมากเฉียบขาด ทําวิชชาประกอบกันจะ

เกิดพลานุภาพ , ฤทธิ์ , สิทธิ์ , อํานาจ , เฉียบขาดสามารถขจัดอวิชชา ปราบมาร

ได๎ผลดีสุดจะประมาณ และบรรดาจักรพรรดิฝ่ายปราบบนพระนิพพานก็ซ๎อน

กายลงมาชํวยทําวิชชาในดวงแก๎วหินขาวใสนั้นด๎วย จึงเกิดผลดีตํอการเจริญวิชชา

ธรรมกายเบื้องสูงสุดจนมิอาจประมาณได๎เลยทีเดียว ฝ่ายมารจะระเบิดวิชชาฝ่าย

เราไมํแตก บรรพบุรุษของไทยรู๎จักแก๎วกายสิทธิ์มานานแล๎วครับ ตั้งแตํโบราณ

Page 199: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

199

กาลมีบุคคลทํานหนึ่งเป็นบุคคลเกําแกํสมัยหลวงพํอวัดปากน้ําได๎ปฏิบัติธรรมจน

ได๎ธรรมะคือ คุณแฉล๎ม อุศุภรัตน๑ ทํานก็ได๎แก๎วกายสิทธิ์รูปรํางคล๎ายไขํนกเป็น

แก๎วสีน้ําผึ้งสวยงามมาก ปาฏิหาริย๑มาปรากฏที่บูชาเอง และมีอุบาสิกาคหปตานี

ที่อุปถัมภ๑อุปัฏฐากหลวงพํอวัดปากน้ําแตํต๎นจนหลวงพํอมรณภาพไป อุบาสิกา

ทํานนี้ก็ได๎ปฏิบัติธรรมวิชชาธรรมกายมากับหลวงพํออยํางเชี่ยวชาญ ทํานได๎

ทราบเรื่องเกี่ยวกับแก๎วกายสิทธิ์โดยเลําให๎ฟังวํา“ สมัยนั้นมีศิษย๑หลวงพํอทําน

หนึ่งชื่อ พระสิงห๑ทอง ได๎ปฏิบัติวิชชาธรรมกายสามารถนั่งเจริญวิชชาธรรมกาย

เข๎านิโรธได๎วันละหลายชั่วโมง ปรากฏวําทํานเห็นในเหตุด๎วยญาณทัสสนะของ

ธรรมกายวํา ทุกวันขณะทํานนั่งเข๎าสมาธิจะมีแก๎วกายสิทธิ์ลอยวนรอบตัว จน

พอถึงวันที่ 7 จึงตกลงมาใกล๎ตัวทํานมีลักษณะขาวใสเหมือนน้ําค๎างมีลักษณะรี

ป้อมสั้นคล๎ายไขํเตําน้ําจืดขาวใสมาก ทํานจึงเก็บรักษาและตํอมาจึงได๎ให๎โยม

อุปัฏฐากข๎างวัดปากน้ําไป ปัจจุบันก็ยังมีหลักฐานอยูํ ยังมีอุบาสิกาทองสุก

สําแดงปั้นอีกทํานหนึ่งที่เชี่ยวชาญการปฏิบัติธรรมวิชชาธรรมกาย นั่งสมาธิเข๎าที่

จนมีพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมาโปรดหลายครั้ง และมีแก๎วกายสิทธิ์เสด็จมาอยูํ

ด๎วย มีลักษณะยาวรีคล๎ายไขํเตํามีสีคล๎ายหยกเขียวอํอนจาง ๆ ซึ่งตํอมาทําน

อุบาสิกาทองสุกได๎มอบให๎อุบาสิกาเธียร ธีระสวัสดิ์ไว๎ติดตัวชํวยเหลือเป็นกําลังใน

การปฏิบัติและเผยแพรํวิชชาธรรมกาย คุณผู๎อํานบางคนอาจสงสัยเรื่องที่ผม

นําเสนออยูํนี ้ แตํถ๎าได๎ปฏิบัติธรรมเข๎าถึงธรรมกายแล๎วจะรู๎และเข๎าใจแจํมแจ๎ง

ชนิดทั้งรู๎และเห็นด๎วยตนเอง มิใชํแตํเฉพาะที่วัดปากน้ําเทํานั้นครับที่พบแก๎ว

Page 200: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

200

กายสิทธิ์ แม๎ในอดีตสมัยหลวงพํอทวด ซึ่งเป็นพระปฏิบัติสมัยอยุธยา ตามประวัติ

กลําววําในสมัยที่หลวงพํอทวดเกิดใหมํ ๆ นั้นได๎มีงูคาบดวงแก๎วกายสิทธิ์มาให๎

นับเป็นเรื่องแปลกมากครับ หรืออาจกลําวได๎วําแก๎วกายสิทธิ์นี้ เป็นของคูํบุญ

บารมีที่มาอุปการะชํวยเหลือคุ๎มครอง แกํผู๎มีบุญญาธิการทางธรรมปฏิบัติ

โดยเฉพาะก็คงไมํผิดครับ ดวงแก๎วกายสิทธิ์จักรพรรดิคูํบารมีหลวงปู่ทวดเดิมมี

ลักษณะกลมแบบมะนาว ตํอมาถูกคนบ๎าลักขโมยไป และเอาหินทุบจนแหวํง

ลักษณะคล๎ายไขํนกกระทา ดวงแก๎วมีลักษณะเป็นหินแท๎ธรรมชาติคือ ในเนื้อแก๎

วจะมีลายหิน , รอยหินมีคราบสีเหลืองแกํปะปนอยูํในหิน แก๎วบํงบอกอายุความ

เกําแกํของหิน นอกจากนี้ยังมีหลักฐานยืนยันจากประวัติพระธุดงค๑ที่ทํานจาริก

ไปในป่าเข๎าพื่อปฏิบัติธรรม มีบางทํานปักกลดในป่าบริเวณตีนเขา พอตกดึกก็แล

เห็นมีแสงสวํางพุํงขึ้นบนยอดเขา พอรุํงเช๎าจึงขึ้นไปดูพบมีหินแก๎วกายสิทธิ์สีตําง

ๆ ตํอมา ทํานก็ใช๎ลูกศิษย๑ให๎ไปนําแก๎วกายสิทธิ์เหลํานั้นมาบรรจุไว๎ที่ถ้ํากระบอก

จ. สระบุรี ที่มีชื่อเสียงในการรักษาผู๎ติดยาเสพติดจนได๎รับรางวัลแมกไซไซ มี

สามเณรองค๑หนึ่งปฏิบัติกรรมฐานจาริกธุดงค๑ปักกลดท่ีป่าเขาใน จ. แพรํ มีคืน

หนึ่งขณะที่เข๎าที่เจริญภาวนาเสร็จแล๎ว ทํานลืมตาออกจากสมาธิก็ได๎เห็นมีแสง

นวลสวํางออกมาจากพื้นดินตรงเขานั้น ทํานจึงเข๎าไปดูพบวํามีดวงแก๎วกายสิทธิ์

ขาวใส ภายในมีสีเขียวคล๎ายตะไครํน้ําอยูํในนั้นด๎วย และมีพระนักปฏิบัติธรรม

สายอีสานชื่อ พระอาจารย๑พุฒ รตนญาโน แหํงวัดป่าเขาสวนกวาง จ. ขอนแกํน

ทํานได๎ตอบสัมภาษณ๑แกํนักขําววารสารฉบับหนึ่งท่ีมาถามทํานขณะทํานมา ณ

Page 201: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

201

วัดบวรนิเวศน๑วิหาร กรุงเทพ ฯ ถึงเรื่องแก๎วกายสิทธิ์ที่พรอาจารย๑พุฒ เดินธุดงค๑

กรรมฐานไปที่ภูเขาลูกหนึ่ง คืนหนึ่งขณะที่ทํานกําลังทําความเพียรเดินจงกรมไป

มาตรงบริเวณที่พัก ทํานสังเกตเห็นแสงสวํางเรืองสุกใสลอยวนไปวนมาเหนือ

ศีรษะ ทํานเลยเงยหน๎าขึ้นมองลูกแก๎วนี้ลอยวนไปวนมาเหมือนมีชีวิต ครั้งแรกที่

ทํานเห็นก็อดคิดไปตําง ๆ นานาไมํได๎ เพราะคิดวําสิ่งนั้นคือของวิเศษชนิดหนึ่ง

แตํในท่ีสุดทํานก็สํารวมใจไมํสนใจภายนอก มุํงเดินจงกรมปฏิบัติความเพียรตํอ

จนได๎เวลาก็เข๎าในกลดนั่งสมาธิภาวนาจนรุํงเช๎า ทํานยังคงปักกลดท่ีนั่นตํอเพราะ

สงบดีเหมาะแกํการภาวนามาก วันที่ 2 ตอนกลางคืนทํานก็ปฏิบัติสวดมนต๑แล๎ว

มานั่งสมาธิภาวนา พอตกดึกก็เดินจงกรมประมาณ 3 ทุํมเศษ ๆ ลูกแก๎วก็ลอย

ปรากฏให๎เห็นอีก คราวนี้ลอยต่ํากวําทุกคราวคือเรี่ย ๆ ศีรษะพอดี ทํานพระ

อาจารย๑พุฒก็ไมํได๎ให๎ความสนใจมากนัก จะลอยวนเวียนอยํางไรก็ชําง ทํานเดิน

จงกรมรักษาสติอยํางเดียว คืนตํอ ๆ มาก็ปรากฏเชํนนี้ทุกคืน และจนคืนหนึ่งดวง

แก๎วลอยต่ําลงมากแล๎วยังวนเวียนช๎า ๆ รอบ ๆ ตัวทํานอีกด๎วย แสงสีเรือง ๆ นั้นทํา

ให๎ทํานหยุดพิจารณาแล๎วยื่นมือไปหยิบดวงแก๎ววิเศษนั้น ทํานบอกวํามันงํายดาย

มาก พอทํานจับดวงแก๎วไว๎แสงเรือง ๆ สวําง ๆ นั้นก็คํอย ๆ มืดดับไปจนหมด

เหลือแตํสภาพเป็นดวงแก๎ว ( สีขุํนขาวนวลไมํถึงกับใสแจ๐วนัก ) ทํานพิจารณา

ทราบวํา เจ๎าของหมายถึงผู๎รักษาแก๎วนั้นหรือแก๎วกายสิทธิ์นั้นคงจะให๎ทําน ทําน

จึงเก็บไว๎ ตํอมาทํานได๎ถวายพระอาจารย๑แนน ซึ่งเป็นพระธุดงค๑อีกองค๑หนึ่งไป

( นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นทุกประการ คุณผู๎อํานสามารถเรียนถามได๎โดยตรงจาก

Page 202: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

202

รพระอาจารย๑พุฒ วัดเขาสวนกวางได๎ทุกเวลาครับ ) เรื่องเกี่ยวกับแก๎วเสด็จคือ

ตั้งแตํสมัยโบราณคนเฒําคนแกํจะเลําให๎ฟังวําตามป่าเขายามดึกสงัดวันเพ็ญ 15

ค่ํา มักมีแก๎วสุกใสสวํางดวงกลมลอยขึ้นจากภูเขาลูกนี้ไปลงเขาลูกนั้น พอใกล๎

สวํางก็ลอยกลับลงมาที่เขาลูกเดิม แก๎วบางดวงก็เล็กใหญํมีรัศมีสีแสงอํอนไมํ

เทํากัน บางดวงมีบริวารแวดล๎อมระยิบระยับไปหมด เรื่องทํานองนี้มีผู๎พบเห็น

มาแตํโบราณจนถึงปัจจุบัน ทําให๎เป็นที่สนใจสงสัยของบรรพบุรุษ ซึ่งสมัยนั้น

คนสงสัยในใจกันมานาน และสมัยโบราณปกครองด๎วยระบบเจ๎าขุนมูลนาย

ดังนั้นเมื่อเจ๎าเมืองที่เมืองเป็นป่าเขาได๎พบเห็นปรากฏการณ๑นี้ ด๎วยความสงสัย

มานานที่เห็นดวงแก๎วสวํางลอยขึ้นจากยอดเขา หรือสํวนใดสํวนหนึ่งของภูเขา

แล๎วลอยไปยังเขาอีกลูกหนึ่ง พอใกล๎สวํางก็ลอยกลับท่ีเดิมเป็นเชํนนี้นานเข๎าด๎วย

ความอยากรู๎และอาศัยมีอํานาจสั่งการไพรํฟ้าหรือบริวารทอดลองขุดดูตรงบริเวณ

ที่แสงลอยหายตกวูบไป เมื่อขุดดูก็ได๎พบแทํงแก๎วผลึกบ๎าง , ก๎อนแก๎วผลึกบ๎าง ,

เป็นหิวขาวใสบริสุทธิ์บ๎าง , ขาวขุํน ๆ ใส ๆ บ๎าง จึงนํามาทําเป็นเครื่องประดับ

ยอดเจดีย๑เชํนทําเจียระไนเป็นรูปดอกบัว รูปดวงแก๎วกลมไว๎บนฉัตรทองคํายอด

พระธาตุเจดีย๑ตําง ๆ เชํน เจดีย๑หริภุญชัย จ. ลําพูน , พระธาตุดอยสุเทพ จ.

เชียงใหมํ พระธาตุตําง ๆ ทั่วภาคเหนือ , พระธาตุนครศรีธรรมราชก็มีดวงแก๎ว

กลมใสจํานวนมากรปะดับบนฉัตรรอบยอดเจดีย๑ และวันดีคืนดีก็จะมีปาฏิหาริย๑

เป็นดวงแสงสวํางลอยจากยอดเจดีย๑นั้นไปหาเจดีย๑นี้ เชื่อกันวําแก๎วเสด็จไปมาหา

สูํกับแก๎วด๎วยกันในถิ่นอื่น ๆ หรือไปเยี่ยมกัน และนอกจากนี้คนยุคโบราณยังนํา

Page 203: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

203

หินแก๎วกายสิทธิ์เหลํานี้มาเจียระไน ทําเป็นพระพุทธรูปบรรจุไว๎ในเจดีย๑ท่ีเชียง

แสน , เชียงใหมํ , อ. ฮอด , จ. เชียงราย , ลําพูน , ลําปาง , นําน , แพรํ , อุตรดิตถ๑ ,

พิษณุโลก , อยุธยา ฯลฯ แสดงวํามีผู๎รู๎จักแก๎วกายสิทธิ์มาแตํโบราณกาลนับพันปี ๆ

ปีแล๎วครับ จากหลักฐานที่ขุดค๎นพบจากกรุเจดีย๑ตําง ๆ ในภาคเหนือนั้น ก็ล๎วนพบ

ดวงแก๎วกายสิทธิ์บ๎าง พระหินแก๎วกายสิทธิ์บ๎างและกายสิทธิ์รูปตําง ๆ ดัง ปรากฎ

หลักฐานในพิพิธภัณฑ๑แหํงชาติในกรุงเทพ ฯ และตํางจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะ

พบวําตามกรุเจดีย๑ วัดร๎างที่ขุดพบนี้มีพระแก๎วกายสิทธิ์ , ช๎างแก๎ว , กวางแก๎ว ,

ผอบแก๎วใสํพระบรมสารีริกธาตุ และมีดวงแก๎วกลมอีกด๎วยเชํน ที่พบจากเมือง

ฮอด จ.เชียงใหมํ , เชียงแสน , เชียงของ , เชียงคํา และ อ. เถิน จ. ลําปาง แสดง

วําบรรพบุรุษของไทยได๎รู๎จักแก๎วกายสิทธิ์มานานแล๎วครับตั้งแตํครั้งโบราณกาล

เลยทีเดียว

องค๑ความรู๎เรื่อง“แก๎วกายสิทธิ์–แก๎วจักรพรรดิ”

แก๎วกายสิทธิ์ – แก๎วจักรพรรดิ ( ทรัพย๑ 2 อยําง ) หลวงพํอวัดปากน้ําเคยอธิบาย

ไว๎วํา “ ทรัพย๑อันหมายถึง เครื่องปลื้มใจในโลกนี้แบํงออกเป็น 2 อยําง คือ

สวิญญาณกทรัพย๑ คือ ทรัพย๑ที่มีวิญญาณหรือทรัพย๑เป็น

อวิญญาณกทรัพย๑ คือ ทรัพย๑ที่ไมํมีวิญญาณหรือทรัพย๑ตาย

สวิญญาณกทรัพย๑คือทรัพย๑เป็นนั้นเป็นทรัพย๑ที่สําคัญยอดยิ่งคนที่ไมํเข๎าใจจะ

หลงหาสะสมแตํอวิญญาณกทรัพย๑คือทรัพย๑ตาย ทรัพย๑เป็นไมํหา ถ๎าคนมีปัญญา

Page 204: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

204

จะไมํหาทรัพย๑ตาย ทรัพย๑เป็นที่สําคัญที่สุดคือตัวเราเอง ถ๎าเราทําตัวของเราให๎ดี

มีวิชาความรู๎ความสามารถจะเป็นที่พึงประสงค๑ของคนทุกคน ใครเห็นก็อยากได๎

ไปอยูํด๎วย อยากจะได๎เป็นพรรคเป็นพวกด๎วย ถ๎าเป็นหญิงก็ต๎องมีวิชาความรู๎

ของหญิง มีความสามารถรักษาตัวดี หญิงบางคนมีรูปสวยไมํมีใครเทียมทัน จน

เป็นที่เลื่องลือขนาดพระเจ๎าแผํนดินยังต๎องให๎เสนาอํามาตย๑ไปรับมาอภิเษกเป็น

มเหสีเรียกวําสวิญญาณกทรัพย๑เกิดขึ้นในตัวเอง คนที่เขาจะรับผู๎ใดไปรํวมสกุล

รํวมวงศ๑วานเขา จึงต๎องดูให๎รอบคอบ พิจารณาให๎ละเอียดเพราะกลัวจะไปเจอคน

ชั่วเข๎า คนที่มีลักษณะชั่วจึงไมํเป็นที่พึงปรารถนาของผู๎ใดเพราะกลัวจะไปทําให๎

ลูกหลานที่เกิดมาสืบลักษณะชั่วอีก เขาจะแสวงหาที่สวยกันทั้งนั้น ยิ่งสวยงาม

จนไมํมีท่ีติยิ่งเป็นที่นิยมชมชอบ ได๎ชื่อวําเป็นสวิญญาณกทรัพย๑แท๎ ๆสํวนอ

วิญญาณกทรัพย๑ คือทรัพย๑ตายเป็นเครื่องใช๎สอยของสวิญญาณกทรัพย๑ คือ มนุษย๑

นั่นเอง ทรัพย๑ที่มนุษย๑ใช๎สอยไมํวําจะเป็นเงินทอง เรือกสวนไรํนา ตึกรามบ๎าน

ชํอง ล๎วนเป็นอวิญญาณกทรัพย๑ทั้งสิ้น สํวนพวกสิ่งที่มีชีวิตตําง ๆ ที่เป็นบริวาร

ของมนุษย๑เชํน วัว , ควาย , ช๎าง , ม๎า , เป็ด , ไกํ ,สุกร ข๎าทาสบริวารเหลํานี้ล๎วน

เป็นสวิญญาณกทรัพย๑ แตํเป็นสวิญญาณกทรัพย๑จริง ๆ ก็คือตัวของตัวเอง การที่

จะเป็นสวิญญาณกทรัพย๑ชั้นดีหรือชั้นเลวนั้นขึ้นอยูํกับการทําตัวของเราเอง ถ๎า

รู๎จักทําตัวให๎เป็นประโยชน๑แกํผู๎อื่นรู๎จักสร๎างตัวสร๎างหลักฐานรู๎จักปรับปรุงแก๎ไข

ตัวเอง ไมํปลํอยชีวิตไปตามยถากรรมเรียกวํา รู๎จักสร๎างสวิญญาณกทรัพย๑ ทรัพย๑

ที่ดีเกิดขึ้นในตัวเอง ถ๎าทําตัวไมํเป็นเรื่องเป็นราว เกียจคร๎านเหลวไหลจัดเป็น

Page 205: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

205

สมบัติเลวคือเป็นสวิญญาณกทรัพย๑อยํางเลว ในสากลโลกนี้เขาต๎องการแตํสิ่งที่ดี

ไมํวําจะเป็นสวิญญาณกทรัพย๑หรือ อวิญญาณกทรัพย๑ ทุกคนเขาต๎องการแตํสิ่งดี

เยี่ยม ทรัพย๑ในโลกนี้ต๎องคัดชนิดเนื้อเยี่ยมตั้งแตํเนื้อเงิน , เนื้อทอง , เนื้อเพชร ,

เนื้อแก๎ว ต๎องคัดกันอยํางละเอียด ถึงแก๎วสารพัดนึก แก๎วกายสิทธิ์สิ่งที่จัดเป็น

สวิญญาณกทรัพย๑รัตนะ 7 ประการมี ช๎างแก๎ว , ม๎าแก๎ว , ขุนคลังแก๎ว , ขุนพลแก๎ว

, นางแก๎ว , จักรแก๎ว , แก๎วมณี อันเป็นสมบัติของพระเจ๎าจักรพรรดิพระเจ๎า

จักรพรรดิมี 3 ประเภทคือ 1. บรมจักร ( จักรพรรดิอยํางสูง ) 2. มหาจักร

( จักรพรรดิอยํางกลาง ) 3. จุลจักร ( จักรพรรดิอยํางต่ํา ) สมบัติเหลํานี้เมื่อ

เกิดขึ้นในโลกแล๎วชํวยทําให๎โลก เป็นสุขจัดเป็นสวิญญาณกทรัพย๑แท๎จริง

ตามปกตินั้นเมื่อโลกได๎รับความทุกข๑ความเดือดร๎อนไมํมีความสงบสุข

พระพุทธเจ๎าจะอุบัติมาเป็นที่พึงของมนุษย๑โลก ถ๎ายุคนั้นไมํมีพระพุทธเจ๎าเป็นที่

พึงจะมีพระปัจเจกพุทธเจ๎าแทน หากยุคนั้นวํางทั้งพระพุทธเจ๎าและพระปัจเจก

พุทธเจ๎า พระเจ๎าจักรพรรดิจะมาเกิดพร๎อมรัตนะ 7 ประการ เพื่อเป็นที่พึงแกํ

มนุษย๑บรรเทาความทุกข๑ยากเดือดร๎อน ปราบมารพวกมิจฉาทิฐิให๎เบาบางลงทํา

ให๎มวลมนุษย๑ได๎รับความสงบสุขขึ้น สวิญญาณกทรัพย๑ 7 ประการนี้ลึกซึ้งยิ่งนัก

ดูเหมือนเป็นของตายแตํความจริงแล๎วเป็นของเป็น เหาะเหิรเดินอากาศไปได๎มา

ได๎ในโลกมนุษย๑นี้และ โลกอื่น ๆ ล๎วนแล๎วแตํมีสวิญญาณกทรัพย๑เหลํานี้ไว๎ใช๎สอย

ทั้งนั้น จัดเป็นรัตนะอันประณีตในสวรรค๑ทั้ง 6 ชั้น คือ จาตุมหาราช , ดาวดึงส๑ ,

ยามา , ดุสิต , นิมมานนรดี และ ปรนิมมิตวสวัตตี ทุกชั้นล๎วนมีแก๎วมณีทั้ง

Page 206: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

206

สวิญญาณกทรัพย๑และอวิญญาณทรัพย๑ทั้งสิ้น แก๎วมณีที่เป็นอวิญญาณกทรัพย๑

คือ ทรัพย๑ตายได๎แกํ เครื่องประดับตกแตํงวิมานแทํนท่ีนั่งที่นอน ล๎วนแตํสวย

สดงดงามประณีตเป็นของมีคําที่เป็นสวิญญาณกทรัพย๑หรือทรัพย๑เป็นได๎แกํรัตนะ

7 ประการดังที่ได๎กลําวมาแล๎ว ทําให๎มีแตํความสุขกายสุขใจไมํมีความทุกข๑

นอกจากสวรรค๑ทั้ง 6 ชั้นแล๎วในชั้นพรหมท้ัง 11 ชั้น คือ พรหมปาริสัชชาภูมิ ,

พรหมปุโรหิตาภูมิ , มหาพรหมมาภูมิ , ปริตตภาภูมิ , อัปปมานาภูมิ , อาภัสราภูมิ

, ปริตตสุภาภูมิ , อัปปมานะสุภาภูมิ , สุภกิณหาภูมิ , เวหัปผลาภูมิ , อสัญญีสัตตา

ภูมิ ก็ใช๎รัตนะ 7 ประการนี้เชํนกัน แตํรัตนะ 7 ประการนี้ทั้งที่เป็นสวิญญาณก

รัตนะและอวิญญาณกรัตนะ ก็หาเลิศประเสริฐไปกวําพระพุทธเจ๎าไมํ พุทธ

รัตนะเป็นรัตนสูงสุด การที่เราได๎ธรรมกายคือ การเข๎าถึงพุทธรัตนะ, ธรรม

รัตนะ , สังฆรัตนะ เรียกวําตัวพระรัตนตรัยหรือแก๎ววิเศษสุด 3 ประการนั่นเอง

รัตนะแปลวําแก๎ว ในท่ีนี้หมายถึงเอาแก๎วอยํางประเสริฐเชํนแก๎วมณีโชติถึงนับถือ

กันวําเป็นแก๎วมีคุณวิเศษสูงสุด ใครมีไว๎ยํอมชื่นชมโสมนัสอิ่มอกอิ่มใจยิ่งกวํา

ทรัพย๑สินอยํางอื่นทั้งหมดในโลก แก๎วรัตนะตรัยนี้เหมือนกันผู๎ใดเข๎าถึงก็ยํอมอิ่ม

ใจเชํนเดียวกันดังมีพระบาลีรับรองมาในรัตนะสูตรดังนี้ “ ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ

วา หุรัง วา สัคเคสุ วายัง ระตะนัง ปะณีตัง นะโม สะมัง อัตถิ ตะถาคะ

เตนะ อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สังเจนะสุวัติถิโหตุ ฯ ” รัตนะ

อันใดมีคําอันเป็นเครื่องปลื้มใจในโลกนี ้ หรือโลกอื่นก็ด ี แก๎วล้ําคําอันใดท่ี

ละเอียดอํอนในสวรรค๑ก็ดี สิ่งเหลํานี้จะประณีตเสมอด๎วยพุทธรัตนะนั้นไมํมีเลย ”

Page 207: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

207

นี้แลเป็นความกายสิทธิ์ของดวงแก๎วในพระพุทธเจ๎า ด๎วยเดชะวาจานี้ขอความสุข

สวัสดีจงบังเกิดขึ้น พุทธรัตนะนี้มีสัณฐานเหมือนพระปฏิมากรเกตุดอกบัวตูม

ขาวใสเป็นแก๎วมีรัศมีขาวใสประดุจเพชรน้ําดีไมํมีที่ติ ดวงธรรมที่มีลักษณะกลม

ใสบริสุทธิ์ใสสวํางดุจแก๎วมณีโชติ ที่ศูนย๑กลางกายพุทธรัตนะนั้นคือธรรมรัตนะ ,

พุทธรัตนะนั้นคือธรรมกาย , ธรรมรัตนะคือดวงธรรม สํวนธรรมกายละเอียดที่

อยูํกลางดวงธรรมนั้นคือสังฆรัตนะ เป็นแก๎วใสสวําง แก๎วทั้ง 3 องค๑รวมเรียกวํา

พระรัตนตรัย แก๎ววิเศษ 3 ประการนี้ใครได๎เข๎าถึงเป็นเจ๎าของจะมีแตํความสุข

อันใดเปรียบไมํได๎เลย เป็นของวิเศษสุดในโลกเป็นสุดยอดของมนุษย๑ทุกคนที่

พยายามหาหนทางเข๎าถึงพระรัตตรัยนี ้ นัยสําคัญของจักรพรรดิ–กายสิทธิ์

จักรพรรดิกายสิทธิ์คืออะไร มีความสําคัญตํอการเจริญวิชชาธรรมกายอยํางไร ?

เรามาศึกษาเรียนรู๎ไปพร๎อม ๆ กันนะครับ

จุลจักรพร๎อมทั้งบริวารมีหน๎าที่เลี้ยงรักษากายมนุษย๑ที่มีบารมีอยํางต่ํา

มหาจักรพร๎อมทั้งบริวารมีหน๎าที่เลี้ยงรักษากายมนุษย๑ที่มีบารมีชั้นกลาง

บรมจักรพร๎อมทั้งบริวารมีหน๎าที่เลี้ยงรักษากายมนุษย๑ที่มีบารมีชั้นสูง

มนุษย๑คนหนึ่ง ๆ มีจักรพรรดิทั้ง 3 พร๎อมทั้งบริวารชุดหนึ่ง ๆ เป็นผู๎เลี้ยงและ

อาจผลัดเปลี่ยนกันรักษา ไปตามวาระเป็นต๎นวําคราวใด จุลจักรกับบริวารเลี้ยง

รักษาก็มีทรัพย๑สมบัติและความสุขน๎อย คราวใดมหาจักรกับบริวารเลี้ยงรักษาก็มี

ทรัพย๑สมบัติและความสุขปานกลาง คราวใดบรมจักรกับบริวารเลี้ยงรักษาก็มี

Page 208: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

208

สมบัติและความสุขบริบูรณ๑ทุกประการ ไมํเลี้ยงรักษาแตํเฉพาะกายมนุษย๑เทํานั้น

สิ่งไมํมีวิญญาณก็สมบูรณ๑เหมือนกัน ถึงแม๎สมัยยุคของโลกก็เลี้ยงทั่วไปเป็น

สาธารณะเหมือนกัน ถ๎ายุคใดสมัยใดจุลจักรกับบริวารเลี้ยงรักษาโลกก็มีความสุข

น๎อย สมบัติและอาชีพตําง ๆ ก็อัตคัดกันดารไมํสมบูรณ๑ ถ๎ายุคใดสมัยใดมหาจักร

กับบริวารเลี้ยงรักษา โลกก็มีความสุข เป็นมัชณิมาทรัพย๑สมบัติ และเครื่องกิน

เครื่องใช๎ก็พอปานกลางไมํฟุ่มเฟือยนักและไมํกันดารนักพอปานกลาง ถ๎ายุคใด

บรมจักรกับบริวารเลี้ยงรักษาโลกก็บริบูรณ๑ไปด๎วยความสุขทุกประการ ทรัพย๑

สมบัติวิญญาณกทรัพย๑และอวิญญาณกทรัพย๑ก็หาได๎งําย มั่งคั่งสมบูรณ๑ไปตาม ๆ

กัน ไมํเบียดเบียนกัน จักรทั้ง 3 กับบริวารที่กลําวมานี้เฉพาะกายมนุษย๑ สํวนกาย

อื่น ๆ ก็มีจักรทั้ง 3 กับบริวารเลี้ยงรักษามีประจําสําหรับทุกกายไป ตลอดจนกาย

สุดหยาบสุดละเอียดเทํากันเหมือนกัน ถ๎าเลี้ยงกายไหนรูปพรรณสัณฐานรํางกาย

ก็เหมือนกายนั้น เชํนจักรเลี้ยงกายมนุษย๑และกายทิพย๑เลี้ยงกายปฐมวิญญาณ

หยาบเลี้ยงกายปฐมวิญญาณละเอียดเลี้ยงกายธรรมเป็นต๎น ก็มีรูปพรรณสัณฐาน

เหมือนกับกายนั้น ๆ แตํทวําดีกวําใสกวํากายนั้น ๆ สํวนรูปรํางเหมือนกับกายที่

เลี้ยงนั้นตลอดจนกายสุดหยาบสุดละเอียด จักรทั้ง 3 นั้น เหตุใดจึงเรียกนามวํา

จักร คือ กายสิทธิ์มีตัวอยูํในดวงแก๎ว ดวงแก๎วนั้นเป็นบ๎านเรือนสําหรับอยูํอาศัย

ของเขาเหมือนมนุษย๑อาศัยอยูํบ๎านเรือน ภายในดวงแก๎วนั้นมีรัตนะ 7 คือแก๎ว 7

ประการดังตํอไปนี้คือ จักรแก๎ว1 , ช๎างแก๎ว 1 , ม๎าแก๎ว 1 , ดวงแก๎วมณี 1 , นางแก๎ว

1 , คฤหบดี ( ขุนขลัง ) แก๎ว 1 , ขุนพลแก๎ว 1 , ในแก๎ว 7 ประการนี้ จักรแก๎วเป็น

Page 209: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

209

ใหญํเป็นประธานในแก๎ว 7 ประการทั้งหลายเหลํานั้นในแก๎ว 7 ประการเป็นตัว

อํานาจมีสิทธิให๎สําเร็จ ดุจดังมหาอํามาตย๑ผู๎ใหญํเป็นผู๎สําเร็จราชการทั้งปวง

เพราะเหตุนี้ครับจักรทั้ง 3 นั้นจึงได๎นามวํา “ จักร ” ความแตกตํางกันของจักรทั้ง

3 นั้นคือ จุลจักรเป็นดวงแก๎วกลมใสสะอาดบริสุทธิ์ประณีตมีฤทธิ์อํานาจและ

บริวารน๎อยกวําแก๎วมหาจักร มหาจักรเป็นดวงแก๎วกลมใสสะอาดบริสุทธิ์ประณีต

กวําจุลจักรมีฤทธิ์อํานาจบริวารมากกวําจุลจักร บรมจักรเป็นดวงแก๎วกลมใสขาว

สะอาดบริสุทธิ์ประณีตกวําแก๎วมหาจักรมีฤทธิ์อํานาจ และบริวารมากกวําจุลจักร

และมหาจักร กายหนึ่ง ๆ ก็มีจุลจักร , มหาจักร , บรมจักร พร๎อมทั้งบริวารเป็นผู๎

เลี้ยงมีประจําไปเชํนนี้ทุกกาย กายละพวก ๆ จนสุดหยาบสุดละเอียด ผู๎เลี้ยงก็มีไป

จนสุดหยาบสุดละเอียดของกายผู๎เลี้ยงเหมือนกันขนาดของจักรทั้ง 3 กับแก๎ว

บริวารคือแก๎วจุลจักร และบริวารขนาดตั้งแตํเล็กเทําแววตาดําขึ้นไปจนถึงโตเทํา

ผลมะตูมหรือผลมะขวิด แก๎วมหาจักรและบริวารขนาดผลตาลขึ้นไปจนถึงผล

มะพร๎าวแห๎ง แก๎วบรมจักรและบริวารขนาดตั้งแตํเทําบาตรขึ้นไปจนถึงโตเทํา

ตะแกรงหรือเทํากระด๎ง พวกผู๎เลี้ยงหรือที่เรียกวําพวกกายสิทธิ์นี้ก็มีธาตุตายธรรม

ตายครับเป็นต๎นวํา ภพเป็นที่อยูํเหมือนกับพวกมนุษย๑เชํนเดียวกัน ธาตุเป็นธรรม

เป็นก็มีเหมือนกายมนุษย๑คือ มีกาย , ใจ , จิต , วิญญาณ รวมเป็น 4 อันเป็นทึ่ตั้ง

ของเห็นจําคิดรู๎ มีธาตุคือ ธาตุเห็น , ธาตุจํา , ธาตุคิด , ธาตุรู๎ รวมเป็น 4 และมีด

วงคือ ดวงเห็น , ดวงจํา , ดวงคิด , ดวงรู๎ อีก 4 รวมเป็นธาตุ 12 , ธรรม 12 ( ที่

กลําวมานี้ปรากฏอยูํในหนังสือวิชชามรรคผลพิสดารเลํม 2 ของหลวงพํอวัด

Page 210: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

210

ปากน้ํา ซึ่งเป็นตําราวิชชาธรรมกายชั้นสูง ) และยังมีกลําวถึงเรื่องแก๎วกายสิทธิ์

ในหนังสือมรรคผลพิสดารวิชชาธรรมกายชั้นสูง เลํม 1 ของหลวงพํอมงคลเทพ

มุนี ( หลวงพํอวัดปากน้ํา ) หน๎า 56 ลําดับที่ 33 ที่ได๎กลําวเอาไว๎ดังนี้วํา “นิพพาน

ปรุงแตํงขึ้นด๎วยธาตุธรรม แก๎วกายสิทธิ์ใสสวํางไปด๎วยแก๎วกายสิทธิ์พื้นและ

อากาศเบ้ืองบนและข๎างขวา ซ๎าย ภายในนิพพานนั้นสําเร็จไปด๎วยแก๎วกายสิทธิ์

ทั้งนั้น นิพพานมีลักษณะสัณฐานกลมดังลูกกระสุน ( หรือดวงแก๎ว ) รอบนอก

ก๎อนกลมนั้นเป็นอากาศระหวํางสะอาดและละเอียดบริสุทธิ์ ก๎อนกลมนั้นลอยอยูํ

กับอากาศ มีอากาศท่ีละเอียดสะอาดรองรับอยูํ ภายในก๎อนกลมนั้นเป็นเมือง

นิพพานเป็นที่เสด็จอยูํของพระพุทธเจ๎า และพระอรหันตขีณาสพทั้งหลายที่มี

มากกวําเม็ดทรายในท๎องมหาสมุทรทั้ง 4 พื้นวํางและอากาศเป็นพื้นเบื้องบนและ

อากาศท่ีเป็นพื้นข๎างขวา ข๎างซ๎าย ภายในก๎อนกลมนั้นสําเร็จไปด๎วยแก๎วกายสิทธิ์

ทั้งนั้นครับ มีพระพุทธเจ๎านั่งเป็นแถวเรียงกันไปสุดสายตาจะนับจะประมาณ

มิได๎ มีขนาดองศ๑เทํา ๆ กัน เกตุดอกบัวตูมเป็นแก๎วขาวใส หน๎าตักกว๎าง 20 วา

สูง 20 วา เทํากันที่เป็นพระพุทธเจ๎า เนื้อแก๎วก็ใสสะอาด เนื้อแก๎วละเอียดก็มีน้ําดี

เป็นเพชรชั้นที่หนึ่ง มีแก๎วอํอนกวํากันเป็นชั้น ๆ ที่เป็นพระสาวกและพระสาวิกา

เนื้อแก๎วก็ใสละเอียดลงมากกวําพระพุทธเจ๎าเป็นเพชรน้ําที่รอง ๆ กันมา และมีแกํ

อํอนกวํากันเป็นชั้น ๆ ตามบารมีหรือตามธาตุอํอนธาตุแกํกวํากัน สํวนการดูภพ

สามคือ อรูปพรหมนั้นเป็นรูปอยูํภายในดวงแก๎ว หน๎าตักกวํา 1 คืบ สูง 1 ศอก นั่ง

อยูํภายในดวงแก๎วกลม ๆ หุ๎มหํออยูํ ตั้งเป็นแถวเป็นแนวเรียงรายไปสุดหูสุดตาเต็ม

Page 211: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

211

ไปหมด ภพทั้ง 3 คือ อรูปพรหม , รูปพรหม , กามภพ มีอรูปพรหมเป็นสุดเบื้อง

บน มีอเวจีนรกเป็นที่สุดเบื้องลํางของภพทั้ง 3 อรูปพรหมนั้นตั้งลอยอยูํบน

อากาศปรุงแตํงขึ้นด๎วยธาตุธรรมเป็นแก๎วกายสิทธิ์เหมือนกัน แตํหยาบกวําชั้น

นิพพานลงมาตามชั้นพื้นเบื้องลําง และอากาศเบ้ืองลําง เบื้องขวา เบื้องซ๎ายของ

อรูปพรหมนั้นสําเร็จด๎วยแก๎วกายสิทธิ์แตํหยาบกวําชั้นนิพพานมาก อรูปพรหม

ทั้ง 3 ชั้นต่ําลงมากเชํนเดียวกัน แตํหยาบลงมาเป็นชั้น ๆ ทุกที ตลอดลงมาถึงชั้น

รูปพรหม 16 ชั้นไปจนถึงสวรรค๑ 6 ชั้น และชั้นมนุษย๑ฯลฯ

ในหนังสือมรรคผลพิสดาร เลํม 1 หน๎า 62 ของหลวงพํอวัดปากน้ํายังได๎กลําวไว๎

อีกวํา “ สํวนของกายสิทธิ์นั้นเหมือนเปลือกหุ๎มอยูํชั้นนอกของศูนย๑สิ่งนั้น ๆ คือ

ในศูนย๑ของศูนย๑ภพของศูนย๑นิพพานในศูนย๑ของภพ 3 ในศูนย๑ของโลกันต๑ ใน

ศูนย๑ของกายนั้นนี่ดูสํวนของกายสิทธิ์ แตํคงมีคูํกันไปทุกอยําง สํวนนอกเป็น

ของมนุษย๑ สํวนในซ๎อนอยูํข๎างในเป็นของกายสิทธิ์ เชํนภพนอกเป็นภพของ

มนุษย๑ ภพที่ซ๎อนอยูํชั้นในเป็นภพของกายสิทธิ์ มีเปลือกสํวนหนึ่ง มีเนื้อสํวน

หนึ่งห๎ุมซ๎อนกันอยูํมีคูํกันไปเชํนนี้ ทุกสิ่งทุกอยํางคูํกันตลอดไปจนสุดหยาบสุด

ละเอียด เหมือนของกายมนุษย๑มีสิ่งไรไปมากเทําใดของกายสิทธิ์ซึ่งเรียกวําผู๎เลี้ยง

มนุษย๑ก็มีไปเทําจํานวนของมนุษย๑คูํกันไปเทํานั้นเหมือนกัน เพราะกายสิทธิ์เลี้ยง

รักษาที่กายสิทธิ์นั้นคือได๎แกํจักรแก๎ว 3 พวกจุลจักร มีฤทธิ์และมีอํานาจเดชา

ศักดานุภาพอยํางต่ํา มีแก๎วกายสิทธิ์เป็นบริวารอเนกอนันตัง เป็นคนรับใช๎สอย

ของแก๎วมหาจักรและบรมจักร ซึ่งมีอํานาจเหนือขึ้นไปมีหน๎าที่ดูแลเลี้ยงและ

Page 212: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

212

รักษามนุษย๑ให๎สมบัติเกิด และให๎ความสุขเจริญแกํหมูํมนุษย๑ ป้องกันสรรพสัตว๑

อันตรายตําง ๆ บันดาลให๎อาหารเครื่องบริโภคและเครื่องอุปโภคเครื่องใช๎สอยตําง

ๆให๎บังเกิดขึ้นเป็นความสุขแกํหมูํมนุษย๑ และคอยพิทักษ๑ป้องกันรักษาทรัพย๑สิน

ของหมูํมนุษย๑ไมํให๎เป็นอันตรายมหาจักร มีฤทธิ์อํานาจมีเดชานุภาพมากกวํา สูง

กวําจุลจักร มีแก๎วกายสิทธิ์ชั้นนี้เป็นบริวารอเนกอนันตัง อปริมาณัง เหลือที่จะ

นับจะประมาณได๎ มีอํานาจเหนือจุลจักร แตํเป็นผู๎รับใช๎สอยของแก๎วบรมจักร

และมีอํานาจใช๎สอยแก๎วจุลจักร พร๎อมทั้งบริวารของแก๎วจุลจักร เป็นผู๎มีหน๎าท่ี

เลี้ยงและรักษาดูแลให๎สมบัติและความสุขความเจริญพร๎อมอาหารเครื่องอุปโภค

บริโภค และเครื่องใช๎สอยเครื่องอุปกรณ๑ตําง ๆ นานาแกํมนุษย๑ ป้องกันภัย

อันตรายโรคภัยไข๎เจ็บตําง ๆ นานาน ไมํให๎เบียดเบียนแกํหมูํมนุษย๑ คอยพิทักษ๑

รักษาแกํหมูํมนุษย๑และทรัพย๑สมบัติของหมูํมนุษย๑ไมํให๎เป็นอันตรายเชํนเดียวกัน

กับแก๎วจุลจักร แตํวําทําหน๎าที่ประณีตกวําละเอียดกวําสูงกวําดียิ่งขึ้นไปกวํา

ประเสริฐกวําแก๎วจุลจักรบรมจักร มีพระบรมเดชาศักดานุภาพและมีฤทธิ์มีอํานาจ

ใหญํยิ่งสูงสุดกวําจุลจักรและมหาจักร มีแก๎วกายสิทธิ์ชั้นบรมจักรนี้เป็นบริวาร

อเนกอนันตัง ปริมาณัง เหลือที่จะนับจะประมาณได๎ มีอํานาจเป็นผู๎บังคับบัญชา

ใช๎สอยจุลจักร มหาจักรพร๎อมทั้งบริวารจุลจักร มหาจักรด๎วย เป็นผู๎มีหน๎าที่

เลี้ยงและรักษาดูแลให๎สมบัติและความสุขความเจริญ พร๎อมด๎วยอาหารเครื่อง

อุปโภคบริโภค เครื่องใช๎สอยเครื่องอุปกรณ๑ความสุขตําง ๆ นานา ไมํให๎

เบียดเบียนหมูํมนุษย๑ คอยพิทักษ๑รักษาดูแลหมูํมนุษย๑ และทรัพย๑สมบัติของ

Page 213: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

213

มนุษย๑ไมํให๎เป็นอันตรายคอยให๎ความสุขป้องกันความทุกข๑ตําง ๆ ของมนุษย๑

เชํนเดียวกันกับแก๎วจุลจักรและมหาจักร แตํทวําทําหน๎าท่ีประณีตกวํา , อุดมกวํา ,

สูงสุดกวํา , ละเอียดกวํา , เลิศประเสริฐกวํา , ยิ่งใหญํกวํา แก๎วจุลจักรและแก๎ว

มหาจักรทั้ง 2 ประการนั้น จักรทั้ง 3 ประการนี้เป็นผู๎มีหน๎าที่เลี้ยงและคอยรักษา

มนุษย๑เฉพาะภพหนึ่ง ๆ ถ๎ามนุษย๑ก็จักรทั้ง 3 นี้เลี้ยงดูด๎วยสมบัติมนุษย๑ ถ๎ากาย

ทิพย๑ , กายปฐมวิญญาณหยาบ – ละเอียดก็มีจักรกายละ 3 จักรรักษาเลี้ยงด๎วย

สมบัติละเอียดอันเป็นสํวนสมบัติทิพย๑ สรุปความวํากายสุดหยาบสุดละเอียดของ

กายทุก ๆ กายมีจักรรักษาอยูํกายละ 3 จักรเหมือนกันหมด แก๎ว 3 ประการนี้เป็นผู๎

เลี้ยงรักษาด๎วยสมบัติหยาบละเอียด ตามขั้นของกายทั่วไปทุกกายไมํเว๎นเลย

เรียกวํา สมบัติมนุษย๑และสมบัติทิพย๑ก็คือแก๎ว 3 ประการนี้เองเป็นผู๎ให๎สมบัติ

สํวนสมบัตินิพพานนั้นก็มีแก๎วกายสิทธิ์อยํางละเอียดเป็นผู๎แตํงสมบัติในนิพพาน

อีกเหมือนกันคือ แก๎วจุลพุทธจักร , แก๎วมหาพุทธจักร , แก๎วบรมพุทธจักร จักร

ทั้ง 3 ประการนี้เป็นผู๎แตํงสมบัติอันประณีตในสํวนนิพพานให๎พระพุทธเจ๎าและ

พระอรหันขีณาสพทั้งหลายให๎เป็นอยูํด๎วยบรมสุข แหํงทิพยโอชารสาหารอัน

ประณีตสุขุมที่ ซึมซาบเอิบอาบปนอยูํในไส๎ และเป็นบรมสุขอันสุขุมประณีตอยูํ

ด๎วยคุณสมบัติในนิพพานซึมซาบเอิบอาบปนเป็นอยูํในพระองค๑ละเอียดสุขุมยิ่ง

นัก เป็นบรมสุขแสนสุขชั่วนิรันดร ไมํมีกาลไมํมีระหวําง เพราะพุทธจักรแก๎ว

ทั้ง 3 ประการนี้เป็นผู๎แตํงสมบัติในนิพพานให๎ท้ังนั้นครับ

Page 214: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

214

จักรทั้ง 15 ประการ เหลํานี้คือ

จุลจักร สําหรับกาย 4 กาย คือ มนุษย๑ , ทิพย๑ , ปฐมวิญญาณหยาบ , ปฐม

วิญญาณละเอียด

มหาจักร สําหรับกาย 4 กาย คือ มนุษย๑ , ทิพย๑ , ปฐมวิญญาณหยาบ , ปฐม

วิญญาณละเอียด

บรมจักร สําหรับกาย 4 กาย คือ มนุษย๑ , ทิพย๑ , ปฐมวิญญาณหยาบ , ปฐม

วิญญาณละเอียด รวมเป็น 12 จักรด๎วยกันกับอีก 3 พุทธจักร คือ จุลพุทธจักร

สําหรับพระนิพพาน , มหาพุทธจักร สําหรับพระนิพพาน , บรมพุทธจักร

สําหรับพระนิพพาน รวมเป็น 15 จักร ภพหนึ่งก็มีจักร 15 ประการนี้ และใน

หนังสือมรรคผลพิสดารเลํมที่ 1 หน๎า 53 ได๎กลําวไว๎ในลําดับที่ 30 วําสมบัติ 3

ประการคือ มนุษย๑สมบัติ , สวรรค๑สมบัติ , นิพพานสมบัติ สมบัติ 3 ประการนี้

เป็นสิ่งที่ใคร ๆก็อยากได๎ยิ่งนัก เพราะอํานวยความสุขให๎สมใจหวังทุกอยําง

ฉะนั้นมนุษย๑เราทําบุญกุศลตําง ๆ จึงได๎ตั้งปณิธานความปรารถนากันนักวําขอให๎

ได๎สมบัติ 3 ประการนี้ คือสมบัติมนุษย๑ , สมบัติสวรรค๑ , สมบัตินิพพาน

สมบัติมนุษย๑คืออะไร ? ก็คือ 1. แก๎วจุลจักร , 2. แก๎วมหาจักร , 3. แก๎วบรมจักร

สมบัติสวรรค๑คืออะไร ? ก็คือ 1. แก๎วจุลทิพย๑จักร , 2. แก๎วมหาทิพย๑จักร , 3. แก๎ว

บรมทิพย๑จักร

Page 215: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

215

สมบัตินิพพานคืออะไร ? ก็คือ 1. แก๎วจุลพุทธจักร , 2. แก๎วมหาพุทธจักร , 3. แก๎ว

บรมพุทธจักร

สมบัติทั้ง 3 ประการนี้แหละเป็นยอดสมบัติทั้งปวง ในหนังสือคูํมือสมภาร

ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพํอ วัดปากน้ํา สั่งให๎เรียบเรียงขึ้นเป็นคูํมือแกํผู๎ปฏิบัติ

ธรรมวิชชาธรรมกายได๎กลําวไว๎ในลําดับที่ 14 วํา “ ดูกายสิทธิ์ในดวงแก๎ว ” ให๎เด

วงแก๎วที่ถืออยูํในมือนั้นเข๎าไปไว๎ในสุดละเอียด ( ศูนย๑กลางกาย ) หยุดนิ่งอยูํใน

กลางดวงแก๎ว ขยายให๎ดวงแก๎วนั้นโตขึ้นก็จะแลเห็นกายที่อยูํในดวงแก๎วนั้นได๎

ถนัด เมื่อต๎องการจะรู๎ด๎วยเรื่องอะไรก็ถามได๎จากกายที่อยูํในนั้นได๎กายนี้เองที่

เรียกวํา“กายสิทธิ์”

กายสิทธิ์มีคุณคําหรือความสําคัญตํอวิชชาธรรมกายอยํางไร

คําตอบก็คือมีคุณคํามีคุณประโยชน๑มหาศาล นับแตํเริ่มปฏิบัติธรรมโดยใช๎ดวง

แก๎วกายสิทธิ์กลมใสมาเป็นนิมิตเจริญภาวนาจนได๎บรรลุธรรมถึงธรรมกาย และ

เมื่อถึงธรรมกายแล๎วก็ต๎องเจริญวิชชาธรรมกายขั้นสูง ๆ และใช๎กายสิทธิ์รํวมทํา

วิชชาขั้นสูงดังจะยกตัวอยํางดังตํอไปนี้ ( จากหนังสือมรรคผลพิสดารเลํม 2 ของ

หลวงพํอวัดปากน้ําภาษีเจริญ )

สิทธิและอํานาจ

สิทธิและอํานาจทั้ง 2 อยํางนี้ตํางกัน สิทธิหมายถึงได๎สิทธิในสิ่งนั้น ๆ บริบูรณ๑

เต็มที่ เชํน ได๎สิทธิเป็นกษัตริย๑ได๎สิทธิเป็นจักรพรรดิ ได๎สิทธิเป็นพํอบ๎านแมํเรือน

Page 216: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

216

เป็นผู๎มีสิทธิในเรือกสวนไรํนาของตน มีสิทธิปกครองสิทธิ์ขาดแตํไร๎อํานาจของ

ตนก็มีสิทธิไปแคํนั้น วิธีแสวงหาสิทธิทางโลกต๎องใช๎วิธีตําง ๆ นานา ตลอดจนถึง

เบียดเบียนรบราฆําฟันกันเป็นพวก ๆ ใช๎ศาตราวุธยุทโธปกรณ๑ตําง ๆ เข๎า

ประหัตประหารกัน เพื่อแยํงสิทธิกันนั่นเอง เพราะชาติใดพวกใดได๎สิทธิขยาย

เขตออกไปมากแคํไหน อํานาจการปกครองขยายสํวนไปแคํนั้นตามสิทธิ

การแสวงหาสิทธิในทางธรรม

ไมํใช๎อาวุธยุทโธปกรณ๑ประหัตประหารกันเชํนนั้น ใช๎สมาธิจิตหรือจิตตานุภาพที่

หยุดนิ่งจนละเอียดไมํมีท่ีสิ้นสุดท่ีเรียกวํา “ อนัตตญาโน ” นับเป็นเครื่องหาสิทธิ

ของเขามาคือ เอากายทั้งหมดทุกกายตลอดวงศ๑สายขาว , วงศ๑สายกลาง , วงศ๑สาย

ดํา ทั้ง เถา,ชุด,ชั้น,ตอน,ภาค,พืดมาซ๎อนสับทับทวีเข๎าในกายมนุษย๑กลั่นให๎ใส

สะอาดดีแล๎วเอาจุลจักรกับพวกบริวารพร๎อมด๎วยสมบัติรัตนะ 7 ประการและ

มหาจักรกับพวกบริวารพร๎อมด๎วยสมบัติรัตนะ 7 ประการของทุก ๆ กายตลอด

วงศ๑สายขาว , สายกลาง ทั้งกายเถา,ชุด,ชั้น,ตอน,ภาคพืดลงมาซ๎อนในรัตนะ 7

ประการนั้น ทั้ง 7 อยําง หรือเฉพาะอยํางเดียวก็ได๎ คือ เมื่อเอารัตนะอยํางหนึ่ง

อีก 6 อยํางก็รวมในจักรแก๎วหมดนั้นทุกอยําง หรือจะไมํรวมเฉพาะอยําง ให๎คง

อยูํในสัตตรัตนะอยูํครบท้ัง 7 ก็ได๎ สุดแท๎แตํจะต๎องการ แล๎วกลั่นให๎ใสสะอาด

ทั้ง 7 แล๎วเอามือขวาของกายมนุษย๑ถือจักรมือซ๎ายถือดวงแก๎ว สํวนรัตนะอีก 5

อยํางนั้นเอาเข๎าในกายมนุษย๑กลั่นให๎กายใสเป็นแก๎ว นี้เป็นการยืนพื้นไว๎มูลเดิม

Page 217: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

217

แล๎วพิสดารรัตนะ 7 ออกไปตามแตํต๎องการจะใช๎ เมื่อกายมนุษย๑นี้ มือขวาถือจักร

แก๎ว มือซ๎ายถือดวงแก๎วมณีโชติและแก๎วอีก 5 นั้น กลั่นเข๎ากายมนุษย๑จนใสสะอาด

บริสุทธิ์ดีแล๎วจึงเดินเครื่องเขาไปในหัวใจ เครื่องของสิทธิ ร๎อยไส๎ หัวใจ เครื่อง

สิทธิเข๎าไปเป็นลําดับ ๆ ไมํถอยหลังกลับ ละเอียดเข๎าไปแกํเข๎าไปทุกที เข๎าไปใน

หัวใจเครื่องของทะเลสิทธิของเหตุทะเลในเหตุทะเลสิทธิ ละเอียดหนักเข๎าไปไมํ

ถอยหลังกลับ แกํเข๎าไปเทําไรละเอียดเข๎าไปเทําไร ร๎อยไส๎เครื่องสิทธิเข๎าไปได๎

เทําไรก็ชื่อวําได๎ธาตุธรรมเป็นสิทธิเทํานั้น และได๎อํานาจปกครองบังคับธาตุธรรม

ได๎แคํนั้นเหมือนพระมหากษัตริย๑รบได๎อาณาเขตออกไปเทําไรก็ได๎อํานาจปกครอง

เทํานั้น ทําไปเชํนนี้เป็นลําดับ ๆ จนกวําจะยึดสิทธิในธาตุธรรมได๎ท้ังหมด ถ๎า

ยึดสิทธิธาตุธรรมได๎ท้ังหมดแล๎วก็เอาแก๎วบรมพุทธจักรสูงสุดมาใช๎ได๎ เมื่อใช๎

บรมพุทธจักรสูงสุดได๎แล๎ว ก็มีอํานาจบังคับให๎เกิดบุญศักดิ์สิทธิ์และบังคับบาป

ศักดิ์สิทธิ์ได๎สมใจนึก เพราะฉะนั้นวิชาการสะสางธาตุธรรมนี้ พระเดชพระคุณ

พระมงคลเทพมุนีก็อุตสําห๑เพียรพยายามยิ่งนักทุกคืนวันเป็นเวลา 11 ปีเศษ เพื่อ

จะยึดสิทธิมาสร๎างความสุขให๎แกํสัตว๑โลกทั่วไป ตลอดทั้งแสนโกฏิจักรวาลอนันต

จักรวาลทั้งสิ้นโดยไมํถอยหลังกลับ พระพุทธเจ๎า, พระปัจเจกพุทธเจ๎า , พระ

อรหันตขีนาสพทั้งหลายสร๎างบารมีองค๑ละมาก ๆ นับด๎วยอสงไขยก็เพื่อจะยึด

สิทธินี้เอง เพราะสิทธิเป็นตัวสําเร็จสิทธิทางโลกยึดได๎ด๎วยกําลังศาสตราวุธ สํวน

สิทธิทางธรรมยึดได๎ด๎วยบารมีเทํานั้น นอกจากบารมีแล๎วยึดไมํได๎ บารมีนั้นมี

30 ประการคือ ทานบารมี , ศีลบารมี , เนกขัมบารมี , ปัญญาบารมี , วิริยะบารมี ,

Page 218: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

218

ขันติบารมี , สัจจะบารมี , อธิษฐานบารมี , เมตตาบารมี และอุเบกขาบารมี รวม

เป็น 10 เมื่อบารมีแกํกล๎าขึ้นเต็มสํวนก็จะกลั่นตัวเองเป็นอุปบารมีอีก10 และเมื่อ

อุปบารมีแกํกล๎าขึ้นเต็มสํวนก็จะกลั่นตัวเองเป็น ปรมัตถบารมีอีก 10 รวมเป็น

30 ประการ รัศมีนั้นก็มาจากบารมี 30 นั่นเอง แตํกลั่นเป็นแสงสวํางรุํงโรจน๑โชติ

ชํวงขึ้นเป็นรัศมีสวําง กําลังคือความแรงและความแกํกล๎าของบารมี 30 นั้นแรง

กล๎าขึ้น ฤทธิ์คือสําเร็จผลของบารมี 30 นั้น คือ ตัวยึดสิทธินั่นเอง ทั้งบารมี , รัศมี

, กําลัง , ฤทธิ์ เหลํานี้พระพุทธเจ๎า ,พระปัจเจกพุทธเจ๎า , พระอรหันตขีณาสพเจ๎า

ทั้งหลาย ตลอดจนถึงพระอริยะสาวก และปุถุชนทั้งสิ้นได๎กํอสร๎างบําเพ็ญมานับ

ชาติไมํถ๎วน เป้าหมายแหํงจุดประสงค๑นี้ก็เพื่อจะเป็นกําลังให๎มากจนกวําจะพอการ

ยึดสิทธิได๎สําเร็จผลนั่นเอง เหมือนชาวโลกตระเตรียมกําลังพลรบบ๎าง , อาหาร

บ๎าง , ศาสตราวุธบ๎างเพื่อรบเอาดินแดนเป็นสิทธิของพวกตนจนสําเร็จผลนั้นเอง

ฯลฯ ” ความรู๎ที่มีอยูํในตําราของหลวงพํอวัดปากน้ํานั้น พอเอามาให๎อํานเราก็ยัง

ไมํเข๎าใจแจํมแจ๎งหรอกครับ สําหรับเรื่องจักรพรรดิกายสิทธิ์นี้เข๎าใจงํายที่สุดแล๎ว

นะครับ เราเองอํานแล๎วก็มีคําถามสงสัยผุดขึ้นในใจมากมาย มีอีกวิธีหนึ่ง

ครับที่ดับวิจิกิจฉาของพวกเราได๎ก็คือ ฝึกให๎เป็นธรรมกาย แล๎วไปตรวจดูกายสิทธิ์

เอาเอง แคํนี้เราก็จะทราบวําทํานเป็นอยํางไร รูปรํางหน๎าตาแบบไหนมีหน๎าท่ีและ

ระดับชั้นตําง ๆ กันอยํางไรบ๎าง ไมํยากเกินความพยายามแหํงความเพียรของเรา

ครับ ถ๎าเป็นวิชชาแล๎วคุณผู๎อํานเชื่อหรือไมํวํา เราสามารถตรวจกายสิทธิ์ได๎งําย

กวําการทําวิชชาเสียอีกนะครับ

Page 219: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

219

ผมขออนุโมทนาบุญกับทํานอาจารย๑การุณย๑ บุญมานุชและคุณสมถะด๎วยนะครับ

ที่ให๎คําตอบอันทรงคุณคํายิ่งนี้แกํผู๎ที่มีปัญหาค๎างคาใจ บางทีก็ไมํรู๎จะไปถามใครที่

ไหนได๎ครับ เพราะสํวนใหญํยังไมํเข๎าถึงธรรมกัน ความรู๎แจ๎งในเรื่องที่เป็น

ความลับอันสลับซับซ๎อนซํอนเงื่อนงําตําง ๆ นั้นก็ยังคงเป็นปริศนาอยูํอยํางนั้น

หากไมํมีผู๎รู๎แจ๎งเห็นจริงมาไขปริศนาให๎ และโอกาสนี้ ผมก็ขออนุญาตนําคําตอบ

ของทั้งสองทํานมาเผยแพรํตํอไว๎ในหนังสือเลํมนี้ด๎วยนะครับ ขอขอบพระคุณมา

ณ ที่นี้เป็นอยํางสูงครับ และที่สําคัญเหนือสิ่งอื่นใดที่ผมจะลืมเสียมิได๎ก็คือขอก

ราบนมัสการมาด๎วยความเคารพศรัทธาอยํางแรงกล๎าตํอ พระผู๎ทรงญาณมหาปู

ชนียาจารย๑ผู๎เชี่ยวชาญวิชชาธรรมกายองค๑นี้ พระมงคลเทพมุนี หรือหลวงพํอสด

วัดปากน้ําภาษีเจริญครับองค๑ปฐมบรมครูวิชชาธรรมกายของพวกเราทุกคน และ

ขอกราบคารวะขอบคุณทํานอาจารย๑การุณย๑ บุญมานุชและคุณสมถะ เป็นอยํางสูง

อีกครั้ง ที่ผมได๎อ๎างอิงความรู๎,ประสบการณ๑และเรื่องราวในแงํมุมเชิงวิเคราะห๑ของ

ทําน เพื่อเอามาประกอบรวมกันเป็นข๎อมูลแหํงเนื้อหาสาระที่สําคัญของหนังสือ

เลํมนี้ สุดท๎ายขอกราบน๎อมสักการะครูบาอาจารย๑ทุกทํานที่ได๎ลํวงลับไปแล๎ว ที่

ได๎ฝากเรื่องราวและปฏิปทาการปฏิบัติธรรมให๎อนุชนรุํนหลังไก๎เอาเป็นเยี่ยงอยําง

และเจริญรอยตาม ทํานทั้งหลายสมภูมิแล๎วกับคําวํา“ธรรมกายหมายเลขหนึ่ง”

นักรบกล๎าแหํงกองทัพธรรมที่นํารํองทําวิชาปราบมาร จนธาตุธรรมดําสะเทือน

เลือนลั่นมาแล๎วครับ สําหรับเวลานี้โลกของเราเหลือเพียงทํานเดียวที่ทําวิชาปราบ

มารได๎ และกําลังทําอยูํโดยไมํมีวันหยุดเลยแม๎แตํวันเดียว มีผลงานมากมายสุดที่

Page 220: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

220

จะกลําวได๎หมดในหนังสือเลํมนี้ครับ คือทํานอาจารย๑การุณย๑ บุญมานุช เชิญ

ทํานผู๎มีวาสนาบารมีธรรมทั้งหลาย ปรึกษาวิชาความรู๎และฝึกปฏิบัติธรรมกับทําน

พร๎อมทีมวิทยากร(วิปัสสนาจารย๑)ของทํานได๎ตามที่อยูํนี้ครับ

อาจารย๑การุณย๑ บุญมานุช ที่อยูํ 1 / 31 ถนนพระยาตรัง อ. เมือง จ. จันทบุรี

โทร. 039 – 313730 และคณะวิทยากร ( วิปัสสนาจารย๑ ) สังกัดชมรมจริยธรรม

โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล๎า จ . สมุทรสงคราม ซึ่งได๎รับการฝึกอบรม

โดย อ. การุณย๑ บุญมานุช ตามรายนามดังนี้ ( ข๎อมูลปีพ.ศ. 2550 )

1. คุณชูชัย ศรีสุชินวงศ๑ : 42 ถ.จักรพงษ๑ แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กทม.

10200 โทร. 02 – 282 - 8661

2. นพ. นิพนธ๑ หลงประดิษฐ๑ ( พ.บ. วว. โสต นาสิก ลาริงซ๑วิทยา ) : 57/16 ซ.

ทรงสะอาด ถ. วิภาวดีรังสิต ลาดยาว จตุจักร กทม. 10900 โทร. 08-1812-9142

E-mail : [email protected]

3. นพ.ชํานาญ หลํอเมืองทอง : กลุํมงานวิสัญญีวิทยา รพ.อุตรดิตถ๑ โทร. 055 –

411064-1309 E-mail : [email protected]

4. ดร. มนัส โกมลฑา : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน อ.เมือง จ.

นครราชสีมา30000 โทร. 08-6052-1709 E –mail:komoltha๔๒๙๙@gmail.com

Page 221: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

221

5. ดร.บริญญา จันทร๑ดา : 6/4 ซ.วิศวเสนานิคม ถ.เพชรเกษม ต.หน๎าเมือง อ.

เมือง จ. ราชบุรี 70000 โทร. 08-7162-0648

6. อ.กรณ๑ไพบูรณ๑ / อ. พิมพ๑วรัชญ๑ ธนบรมัตถ๑ : 40 / 27 หมูํ 2 ซ.ศิริเขตแยก 2

เพชรเกษม 116 แขวงหนองค๎างพลู เขตหนองแขม กทม. 10160 โทร. 0-2420-

5132 , 08-1256-0798 E-mail: [email protected]

7. คุณธรรศ ธนบรมัตถ๑ : 40/27 หมูํ 2 ซ. ศิริเขตแยก 2 เพชรเกษม 116 แขวง

หนองค๎างพลู เขตหนองแขม กทม. 10160 โทร. 0-2420-5132 , 08-9488-1788

E-mail: [email protected]

8. คุณเจษฏา สุนันท๑ชัย : โทร. 08-3911-3999 E-mail: [email protected]

9.คุณประวัติ สุธีจารุวัฒน : 338/22 หมูํบ๎านกลางเมือง ซ.ลาดพร๎าว 80 ถ.

ลาดพร๎าว กทม. 10310 โทร. 02-530-2743 โทร.( ที่ทํางาน ) 02-586-5159 ,08-

1945-1324 E-mail : [email protected]

10.คุณสุชาติ สิริรักษาศักดิ์ : โทร. 08-1634-0699 E-mail:[email protected]

11. คุณอํานาจ สวํางศรี : 978/131 ซ. 18 หมูํบ๎านมัณฑนา 2 รังสิต ต.

ประชาธิปปัตย๑ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 12130 โทร. 0-2974-3020 , 08-6388-8511

E-mail:[email protected]

Page 222: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

222

“ เหตุผลที่จะต๎องฝึกวิทยากรไว๎เป็นจํานวนมาก เนื่องจากมีการเสื่อมถอยในวิชา

ธรรมกายขอให๎ทํานพบข๎าพเจ๎ากํอน ขอให๎ทํานพบการสอนเบื้องต๎นจากคณะ

ของข๎าพเจ๎ากํอน พิสูจน๑วิธีการของข๎าพเจ๎ากํอน วิชาธรรมกายเรียนยาก ต๎อง

เข๎าใจวิธีเฉพาะของวิชา เป็นธรรมกายเหมือนกันแตํไมํเหมือนกัน ฟังข๎าพเจ๎า

กํอนอยําเพิ่งถอดใจไมํสู๎ ทํานพบแตํของหลอกมาตลอด ข๎าพเจ๎าปราบมารมา

นานปีได๎รู๎เห็นอะไรมามากแล๎ว นี่คือเจตนาดีของข๎าพเจ๎า ”

อ. การุณย๑ บุญมานุช

หลวงพํอสดกาํลงัแสดงพระธรรมเทศนา หลวงพํอสดกาํลงัสนทนากบัญาตโิยม

Page 223: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

223

พระผู๎เป็นที่พึ่งและเนื้อนาบุญอันประเสริฐ หลวงพอํสดกําลังแจกพระของขวัญ

ภาพถํายครูสอนธรรมกายที่หลวงพํอวัดปากน้ํา แตํงตั้ง เมื่อป ี2497

Page 224: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

224

ดวงกายสิทธิ์ ( ต๎นปราบ )

ดวงแก๎วกายสิทธิ์นี้เป็นที่อยูํของ “ ต๎นปราบ ” แมํทัพปราบมารพร๎อมด๎วย

จักรพรรดิสําคัญคือ “ ตรีภพ ” และ “ หยกชมพู ” และจักรพรรดิทั้งปวงนับ

อสงไขยไมํถ๎วนและเมื่อทํานมีปัญหาใดเกิดขึ้นโปรดตั้งใจบนตํอ “ ต๎นปราบ” แล๎ว

ทํานจะพ๎นภัย

Page 225: ธรรมกายหมายเลข หนึ่ง

225

หากอยากอ่านเนื อหาทั งหมดที่ม ี

สามารถสั่งซื อเพื่อเพิ่มเติมอรรถรส

ในการดื่มด่้าธรรมกายหมายเลขหนึ่งของคุณได้ที ่

สํานักพิมพ๑หลักศิลา เลขที่ 123/13 ซอยคันธมาศ 5หมูํ 5 ต.บ๎านเกาะ

อ.เมือง จ.อุตรดิตถ๑ 53000 โทร. 084-5050607 , 087-1959317

หรือที ่E-mail: [email protected] ,

[email protected] , [email protected] ,

[email protected]

ชื่อบัญชีนายบรรพชา บุณยรัตพันธุ๑

ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนศรีอุตรา ประเภทออมทรัพย๑

บัญชีเลขที ่297-0-00803-3

หรือที ่

ธนาคารกรุงเทพ สาขาอุตรดิตถ๑ ประเภทสะสมทรัพย๑

บัญชีเลขที่ 293-4-46663-8