CHAPTER 6

Decision Making

ความยุ่��งยุ่ากของการตั�ดสิ�นใจในปั�จจ�บั�น การใช้�หลั�กเกณฑ์ หลัายุ่อยุ่�าง (multiple criteria)

สิ�!งที่#!ไม�ม#ตั�วตัน (intangibles)

ความไม�แน�นอนแลัะความก'ากวม (uncertainty and ambiguity)

ผลักระที่บัในระยุ่ะยุ่าว (long-term effect) การใช้�สิหว�ที่ยุ่าการ (interdisciplinary input)

การตั�ดสิ�นใจแบับัรวมกลั��ม (pooled decision making)

ค�าน�ยุ่มของผ)�ที่'าการตั�ดสิ�นใจ (decision maker’s value)

ความหมายุ่ ตั�ดสิ�นใจ (decision) หมายุ่ถึ+งการเลั,อกระหว�างที่างเลั,อกตั�างๆ ที่#!

ม#อยุ่)�

การตั�ดสิ�นใจ (decision making) หมายุ่ถึ+งกระบัวนการจ'าแนกแยุ่กแยุ่ะเพื่,!อก'าหนดตั�วปั�ญหาแลัะการแก�ปั�ญหา ตัลัอดจนการแสิวงหา

ปัระโยุ่ช้น จากโอกาสิ

กระบัวนการตัอบัสินองตั�อโอกาสิแลัะอ�ปัสิรรคที่#!เผช้�ญอยุ่)� โดยุ่การว�เคราะห ที่างเลั,อกแลัะที่'าการลังความเห1นหร,อตั�ดสิ�นใจเก#!ยุ่วก�บัเปั2า

หมายุ่ที่#!เจาะจงแลัะแนวที่างปัฏิ�บั�ตั�ขององค การ

การก'าหนดตั�วปั�ญหา โอกาสิแลัะการแก�ไขเที่�าที่#!เปั4นไปัได�

ความหมายุ่ ปั�ญหา (problem) เก�ดข+5นเม,!อเง,!อนไขในสิถึานการณ ที่#!เก�ดข+5นจร�งม#ความแตักตั�างจากสิถึานการณ ที่#!ตั�องการเปั4นอยุ่�างมาก

การแก�ปั�ญหา (problem solving) จ+งเปั4นกระบัวนการในการก'าหนดการตัอบัสินองหร,อการปัฏิ�บั�ตั�ที่#!เหมาะสิมจ'าเปั4นตั�อการ

บัรรเที่าปั�ญหา

ด�ลัยุ่พื่�น�จ (judgment) ค,อกระบัวนการร�บัร)�หร,อค�ดในม�มมองของกระบัวนการตั�ดสิ�นใจ

ปัระเภที่ของปั�ญหา ปั�ญหาว�กฤตั (crisis problems)

ปั�ญหาไม�ว�กฤตั (non-crisis problems)

ปั�ญหาที่#!เปั4นโอกาสิ (opportunity problems)

ปั�ญหาว�กฤตั ปั�ญหาว�กฤตั (crisis problems) ค,อปั�ญหาที่#!เก�ดข+5นอยุ่�างไม�

คาดหว�ง ซึ่+!งอาจน'าไปัสิ)�ภ�ยุ่พื่�บั�ตั� ถึ�าไม�ได�ร�บัการแก�ไขอยุ่�างที่�นการณ แลัะเหมาะสิม

ลั�กษณะของปั�ญหาว�กฤตั ม#ความก'ากวมมาก จนไม�ที่ราบัสิาเหตั�แลัะผลักระที่บั

เปั4นเหตั�การณ ที่#!เก�ดข+5นไม�บั�อยุ่คร�5งแลัะผ�ดปักตั� แตั�เปั4นภ�ยุ่ค�กคามตั�อความอยุ่)�รอดขององค การ

เปั4นเหตั�การณ ที่#!ม#เวลัาไม�มากน�กในการตัอบัสินอง

เปั4นเหตั�การณ ที่#!สิมาช้�กองค การตัระหนกใจ

เปั4นสิถึานการณ ที่#!ยุ่ากลั'าบัากตั�อการตั�ดสิ�นใจเพื่ราะผลัลั�พื่ธ์ อาจเปั4นสิ�!งที่#!ด#หร,อเลัวร�ายุ่ก1ได�

ปั�ญหาไม�ว�กฤตั ปั�ญหาไม�ว�กฤตั (noncrisis problems) เปั4นปัระเด1นปั�ญหาที่#!ตั�องที่'าการตั�ดสิ�นใจแก�ปั�ญหาให�หมดไปั แตั�สิถึานการณ การแก�ปั�ญหาไม�ม#ความจ'าเปั4นอ�นเร�งด�วนที่#!จะตั�องเร�งร#บัที่'าการตั�ดสิ�นใจ

เหม,อนก�บัปั�ญหาว�กฤตั

ปั�ญหาที่#!เปั4นโอกาสิ ปั�ญหาที่#!เปั4นโอกาสิ (opportunity problems) ค,อ

สิถึานการณ ที่#!เอ,5ออ'านวยุ่ตั�อองค การแลัะองค การม#โอกาสิในระด�บัสิ)งที่#!จะได�ร�บัปัระโยุ่ช้น จากสิถึานการณ น#5 ถึ�าที่'าการตั�ดสิ�นใจอยุ่�างเหมาะ

สิม

เง,!อนไขการตั�ดสิ�นใจ เง,!อนไขที่#!แน�นอน (certainty conditions)

เง,!อนไขที่#!เสิ#!ยุ่ง (risk conditions)

เง,!อนไขที่#!ไม�แน�นอน (uncertainty conditions)

เง,!อนไขที่#!ก'ากวม (ambiguity conditions)

Certainty Conditions สิถึานการณ ที่#!ผ)�ที่'าการตั�ดสิ�นใจม#สิารสินเที่ศที่�5งหมดที่#!จ'าเปั4นตั�อ

การตั�ดสิ�นใจอยุ่�างเพื่#ยุ่งพื่อ ด�งน�5นจ+งเปั4นสิถึานการณ ที่#!เก�ดข+5นเม,!อผ)�ที่'าการตั�ดสิ�นใจที่ราบัอยุ่�างแน�นอนว�าอะไรจะเก�ดข+5นแลัะสิามารถึที่#!จะ

ค'านวณผลัลั�พื่ธ์ ในแตั�ลัะที่างเลั,อกที่#!เก�ดข+5นจร�งได�

Risk Conditions สิถึานการณ ที่#!ผ)�ที่'าการตั�ดสิ�นใจสิามารถึคาดคะเนความเปั4นไปัได�

ของผลัจากที่างเลั,อกตั�างๆ ที่#!จะเก�ดข+5น

ด�งน�5นจ+งเปั4นสิถึานการณ ที่#!ผ)�ที่'าการตั�ดสิ�นใจม#ความเข�าใจในปั�ญหาแลัะที่างเลั,อกตั�างๆ แตั�ไม�สิามารถึที่ราบัอยุ่�างแน�นอนว�าเหตั�การณ จะเก�ดข+5นจร�งในที่างเลั,อกใด ที่�5งน#5เพื่ราะเหตั�การณ ที่#!จะเก�ดข+5นจร�งใน

แตั�ลัะที่างเลั,อกเปั4นเร,!องของความน�าจะเปั4น

Risk Conditions ความน�าจะเปั4น (probability) ค,อร�อยุ่ลัะของจ'านวนคร�5ง ซึ่+!ง

ผลัที่#!คาดว�าจะได�ร�บัจะเก�ดข+5น ถึ�าบั�คคลัหน+!งๆ ที่'าการตั�ดสิ�นใจเร,!องน�5นๆ ในจ'านวนคร�5งที่#!มากพื่อ

Uncertainty Conditions สิถึานการณ ที่#!ผ)�ที่'าการตั�ดสิ�นใจม#เปั2าหมายุ่ที่#!ช้�ดเจน แตั�ม#

สิารสินเที่ศเพื่#ยุ่งเลั1กน�อยุ่เก#!ยุ่วก�บัแนวที่างปัฏิ�บั�ตั�ให�ปัระสิบัความสิ'าเร1จ

Ambiguity Conditions สิถึานการณ ที่#!เปั2าหมายุ่ยุ่�งไม�ม#ความช้�ดเจน ด�งน�5นที่างเลั,อกที่#!จะ

บัรรลั�เปั2าหมายุ่ยุ่�งแปัรเปัลั#!ยุ่นไปัมา

ปัระเภที่การตั�ดสิ�นใจ การตั�ดสิ�นใจแบับัม#ช้�ดค'าสิ�!งหร,อโปัรแกรม (programmed decision making)

การตั�ดสิ�นใจแบับัไม�ม#ช้�ดค'าสิ�!งหร,อไม�ม#โปัรแกรม (nonprogrammed decision making)

เปรี�ยบเที�ยบการีตั�ดสิ�นใจแบบมี�ชุ�ดคำ�าสิ��งและแบบไมี�มี�ชุ�ดคำ�าสิ��ง

ความร)�สิ+กน+กค�ดแลัะสิร�างสิรรค

เปัลั#!ยุ่นแปัลังอยุ่�างรวดเร1วแลัะม#ว�ว�ฒนาการ

หลั�กการหร,อด�ลัยุ่พื่�น�จ

ไม�ม#โครงสิร�างแลัะก'ากวม

ม#ลั�กษณะเฉพื่าะแปัลักใหม�แลัะไม�สิามารถึคาดคะเนได�

การตั�ดสิ�นใจแบับัไม�ม#โปัรแกรม

การว�เคราะห เช้�งปัร�มาณแลัะงบัปัระมาณ

โดยุ่ที่�!วไปัไม�เปัลั#!ยุ่นแปัลัง

กฎระเบั#ยุ่บัแลัะการค'านวณ

สิามารถึคาดการณ ได�แลัะม#ความช้�ดเจน

งานปัระจ'าที่�!วไปัแลัะสิามารถึจ�ดที่'าในร)ปัแบับัโปัรแกรมได�

การตั�ดสิ�นใจแบับัม#โปัรแกรม

เที่คน�คในการตั�ดสิ�นใจ

ธ์รรมช้าตั�สิถึานการณ

กลัยุ่�ที่ธ์ การตั�ดสิ�นใจ

ธ์รรมช้าตั�การตั�ดสิ�นใจ

การจ'าแนกปัระเภที่

รายุ่การ

ผ)�จ�ดการระด�บัสิ)ง

ระด�บัการจ�ดการ

ผ)�จ�ดการระด�บัตั�น

ไม�ม#โครงสิร�าง

ม#โครงสิร�าง

ลั�กษณะปั�ญหา

การตั�ดสิ�นใจแบับัม#โปัรแกรม

การตั�ดสิ�นใจแบับัไม�ม#โปัรแกรม

โคำรีงสิรี างป!ญหาปรีะเภทีการีตั�ดสิ�นใจและรีะด�บการีจ�ดการี

ล�กษณะการีตั�ดสิ�นใจทีางการีจ�ดการี

ขาดโครงสิร�าง

ความก'ากวม ความข�ดแยุ่�ง

เสิ#!ยุ่งแลัะไม�แน�นอน

การตั�ดสิ�นใจที่างการจ�ดการ

ระด�บัการตั�ดสิ�นใจ การตั�ดสิ�นใจเช้�งกลัยุ่�ที่ธ์ (strategic decisions)

การตั�ดสิ�นใจเช้�งกลัว�ธ์# (tactical decisions)

การตั�ดสิ�นใจเช้�งปัฏิ�บั�ตั�การ (operational decisions)

แบับัจ'าลัองการตั�ดสิ�นใจ แบับัจ'าลัองการตั�ดสิ�นใจแบับัด�5งเด�ม (Classical model of

decision making)

แบับัจ'าลัองการตั�ดสิ�นใจที่างการบัร�หาร (Administrative

model of decision making)

แบับัจ'าลัองการตั�ดสิ�นใจแบับัด�5งเด�ม แบับัจ'าลัองการตั�ดสิ�นใจแบับัด�5งเด�ม (Classical model of

decision making) อยุ่)�ภายุ่ใตั�สิมมตั�ฐานที่#!ว�า ผ)�จ�ดการด'าเน�นการตั�ดสิ�นใจภายุ่ใตั�ว�ตัถึ�ปัระสิงค แลัะเปั4นไปัอยุ่�างม#เหตั�ผลัแลัะการ

ตั�ดสิ�นใจน�5นจะตั�องร�กษาผลัปัระโยุ่ช้น สิ)งสิ�ดขององค การ

ผ)�จ�ดการตั�องม#ข�อม)ลัที่#!ถึ)กตั�องสิมบั)รณ แลัะม#ข�อม)ลัที่�5งหมดที่#!เก#!ยุ่วข�องก�บัสิถึานการณ

ผ)�ตั�ดสิ�นใจด'าเน�นการตั�ดสิ�นใจภายุ่ใตั�ว�ตัถึ�ปัระสิงค ที่#!ช้�ดเจนแลัะม#รายุ่การที่างเลั,อกตั�างๆ อยุ่�างกว�างขวาง

ผ)�จ�ดการจะตั�องที่'าการตั�ดสิ�นใจอยุ่�างม#เหตั�ผลั เปั4นระบับัแลัะม#ตัรรกะในการปัระเม�นแตั�ลัะที่างเลั,อกแลัะพื่�จารณาถึ+งความน�าจะเปั4นในด�านตั�างๆ

ผ)�จ�ดการจะด'าเน�นงานเพื่,!อผลัปัระโยุ่ช้น สิ)งสิ�ดขององค การ

แบับัจ'าลัองการตั�ดสิ�นใจแบับัด�5งเด�ม

แบับัจ'าลัองการตั�ดสิ�นใจที่างการบัร�หาร James March แลัะ Herbert A. Simon ได�พื่�ฒนาแบับั

จ'าลัองการตั�ดสิ�นใจที่างการบัร�หารข+5นเพื่,!ออธ์�บัายุ่ว�ธ์#การตั�ดสิ�นใจตัามความเปั4นจร�งในสิถึานการณ ที่#!ยุ่��งยุ่าก เช้�น การตั�ดสิ�นใจแบับัไม�ม#ช้�ดค'าสิ�!ง ความไม�แน�นอนแลัะความก'ากวม ซึ่+!งการตั�ดสิ�นใจที่างการจ�ดการจ'านวนมากไม�สิามารถึใช้�ช้�ดค'าสิ�!ง ด�งน�5นจ+งที่'าให�ผ)�จ�ดการไม�

สิามารถึตั�ดสิ�นใจได�อยุ่�างม#เหตั�ผลั แม�จะตั�องการแบับัน�5นก1ตัาม

แบับัจ'าลัองการตั�ดสิ�นใจที่างการบัร�หาร ข�อจ'าก�ดของความม#เหตั�ผลั (bounded rationality)

ข�อม)ลัไม�สิมบั)รณ (incomplete information ) ความพื่อใจ (satisfying)

กระบัวนการตั�ดสิ�นใจอยุ่�างม#เหตั�ผลั ในความเปั4นจร�งคนม�กไม�ได�ที่'าการตั�ดสิ�นใจอยุ่�างม#เหตั�ผลัได�อยุ่�าง

สิมบั)รณ โดยุ่เฉพื่าะอยุ่�างยุ่�!งในที่างการจ�ดการ เน,!องจาก• อนาคตัเปั4นเร,!องที่#!เก#!ยุ่วข�องก�บัความไม�แน�นอน

• เปั4นเร,!องยุ่ากที่#!จะที่'าการสิร�างที่างเลั,อกได�ที่�5งหมดครบัที่�กที่างเลั,อก โดยุ่เฉพื่าะในการตั�ดสิ�นใจเพื่,!อที่'าสิ�!งใดสิ�!งหน+!งที่#!ไม�เคยุ่ที่'ามา

ก�อน นอกเหน,อจากน�5นไม�ใช้�ที่�กที่างเลั,อกจะสิามารถึที่'าการว�เคราะห ได�

ขั้�(นตัอนในกรีะบวนการีตั�ดสิ�นใจการก'าหนดปั�ญหา

การสิร�างที่างเลั,อกในการแก�ปั�ญหา

การปัระเม�นที่างเลั,อก

การเลั,อกหร,อตั�ดสิ�นใจ

การน'าผลัการตั�ดสิ�นใจไปัปัฏิ�บั�ตั�

การเร#ยุ่นร)�จากข�อม)ลัปั2อนกลั�บั

การีก�าหนดป!ญหา ข�5นตัอนการตัรวจสิอบั (Scanning Stage)

ข�5นตัอนการจ'าแนก (Categorization Stage)

ข�5นตัอนการว�น�จฉ�ยุ่ (Diagnosis Stage)

การีสิรี างทีางเล+อกในความเปั4นจร�งในการที่#!จะบัรรลั�เปั2าหมายุ่หน+!งๆ จะม#

ที่างเลั,อกตั�างๆ หลัายุ่ที่างเลั,อก ด�งน�5นว�ธ์#การที่#!จะที่'าให�การตั�ดสิ�นใจเปั4นไปัอยุ่�างม#ปัระสิ�ที่ธ์�ผลัมากข+5น ผ)�จ�ดการ

ควรสิร�างที่างเลั,อกให�มากข+5นเที่�าที่#!เปั4นไปัได�

การีปรีะเมี�นทีางเล+อก กฎหมายุ่ (Legality)

จร�ยุ่ธ์รรม (Ethicalness)

ความเปั4นไปัได� (Feasibility)

ค�ณภาพื่ (Quality)

เศรษฐก�จ (Economics)

การถึอยุ่กลั�บั (Reversibility)

การีเล+อกทีางเล+อก ผ)�จ�ดการสิามารถึใช้�ว�ธ์#การพื่,5นฐาน 3 ว�ธ์#ด�วยุ่ก�น ในการ

เลั,อกที่างเลั,อกจากที่างเลั,อกตั�างๆ ปัระสิบัการณ (experience)

การที่ดลัอง (experimentation) การว�จ�ยุ่แลัะการว�เคราะห (research and

analysis)

การีน�าผลการีตั�ดสิ�นใจไปปฏิ�บ�ตั� ในการน'าที่างเลั,อกไปัปัฏิ�บั�ตั�เพื่,!อให�เก�ดผลัตัามที่#!คาด

หว�งไว�อยุ่�างจร�งจ�ง ปัระเด1นที่#!เปั4นก�ญแจสิ'าค�ญในการน'าสิ�!งที่#!ตั�ดสิ�นใจไปัปัฏิ�บั�ตั� ได�แก�

กลั��มบั�คคลัที่#!ได�ร�บัผลักระที่บัจากการตั�ดสิ�นใจ การวางแผนที่#!เหมาะสิมแลัะการจ�ดสิรรที่ร�พื่ยุ่ากรที่#!

จ'าเปั4นตั�อการด'าเน�นงาน

การีเรี�ยนรี. จากขั้ อมี.ลป/อนกล�บ

ที่�5งน#5เพื่,!อให�ที่ราบัว�าสิ�!งที่#!ตั�ดสิ�นใจแลัะปัฏิ�บั�ตั�ไปัน�5นม#ข�อผ�ดพื่ลัาดในสิ�วนของการเลั,อกที่างเลั,อกหร,อในสิ�วนของการปัฏิ�บั�ตั� หร,อม#ความเหมาะสิมด#อยุ่)�แลั�ว

ว�ธี�การีตั�ดสิ�นใจขั้องบ�คำคำล ความแตักตั�างระหว�างบั�คคลัเก#!ยุ่วก�บัปัระเด1นที่#!บั�คคลัร�บั

ร)�ปั�ญหาแลัะที่'าการตั�ดสิ�นใจ

ว�ธี�การีตั�ดสิ�นใจขั้องบ�คำคำล Way of Thinking

Tolerance for Ambiguity

ว�ธี�การีตั�ดสิ�นใจขั้องบ�คำคำล

Directive Style

Analytical Style

Conceptual Style

เหตั�ผลั

Behavioral Style

ความร)�สิ+กน+กค�ด

อดที่นตั�อความก'ากวม

สิ)ง

ตั'!า

การีมี�สิ�วนรี�วมีในการีตั�ดสิ�นใจ จากการศ+กษาการม#สิ�วนร�วมของพื่น�กงานในการ

ตั�ดสิ�นใจของ Victor H.Vroom, Philip

Yetton แลัะ Arthur G.Jago ได�สิร�างแบับัจ'าลัอง ที่#!เร#ยุ่กว�า Vroom-Yetton-Jago Model

การีมี�สิ�วนรี�วมีในการีตั�ดสิ�นใจค�ณภาพื่การ ตั�ดสิ�นใจ (Decision Quality)

การยุ่อมร�บัการตั�ดสิ�นใจ (Decision Acceptance)

การพื่�ฒนาของพื่น�กงาน (Employee Development)

เง,!อนไขของเวลัา (Concern for Time)

ข�อได�เปัร#ยุ่บั 1 ) กลั��มสิามารถึเปั4นที่#!รวบัรวมของความร)�

แลัะข�อเที่1จจร�งได�มากกว�า 2) ม�มมองของกลั��มกว�างกว�าแลัะพื่�ฒนา

ที่างเลั,อกได�อยุ่�างหลัากหลัายุ่มากกว�า 3) บั�คคลัที่#!เข�ามาม#สิ�วนร�วมในการตั�ดสิ�นใจ

โดยุ่กลั��มจะพื่+งพื่อใจ 4) กระบัวนการตั�ดสิ�นใจโดยุ่กลั��มที่'าให�การตั�ด

ตั�อสิ,!อสิารเปั4นไปัอยุ่�างม#ปัระสิ�ที่ธ์�ผลัมากกว�า 5) สิมาช้�กพื่�ฒนาความร)�แลัะที่�กษะเพื่,!อใช้�ใน

อนาคตั

ข�อเสิ#ยุ่เปัร#ยุ่บั 1) กลั��มโน�มเอ#ยุ่งที่#!จะที่'างานช้�าแลัะใช้�เวลัาใน

การตั�ดสิ�นใจมากกว�า 2) การที่#!หาข�อสิร�ปัไม�ได�ที่'าให�การตั�ดสิ�นใจลั�าช้�า

แลัะอาจก�อให�เก�ดความข�ดแยุ่�งตัามมา 3) กลั��มบัางที่#กลั��มถึ)กครอบัง'าโดยุ่บั�คคลัใดบั�คคลั

หน+!งหร,อคนกลั��มเลั1กๆ 4) การตั�ดสิ�นใจโดยุ่กลั��มบั�อยุ่คร�5งใช้�การปัระน#

ปัระนอมซึ่+!งอาจที่'าให�ผลังานไม�ม#ความเหมาะสิม 5) การค�ดคลั�อยุ่ตัามกลั��มอาจเปั4นเหตั�ให�สิมาช้�ก

ยุ่+ดถึ,อข�อตักลังที่#!ที่'าก�นไว�มากเก�นไปั

การีตั�ดสิ�นใจโดยกล��มี

การีจ�ดการีตั�ดสิ�นใจโดยกล��มีว�ธ์#การน'ากลั��มที่#!เหมาะสิม

การสิร�างความข�ดแยุ่�งในที่างสิร�างสิรรค

การสิน�บัสิน�นความสิร�างสิรรค โดยุ่กลั��ม

การีสิรี างคำวามีขั้�ดแย งในทีางสิรี างสิรีรีคำ1

Devil’s Advocacy

Dialectic

การีสิน�บสิน�นคำวามีสิรี างสิรีรีคำ1โดยกล��มี

การระดม สิมอง (Brainstorming)

เที่คน�คกลั��มแตั�เพื่#ยุ่งในนาม (Nominal Group Technique)

เที่คน�คของเดลัฟีA (Delphi Technique)

BRAINSTORMING

การไม�ว�พื่ากษ ว�จารณ ความค�ดเห1นของผ)�อ,!น ในขณะเสินอที่างเลั,อกการแลักเปัลั#!ยุ่นความค�ดเห1นอยุ่�างอ�อนน�อมถึ�อมตันการเสินอข�อเสินอแนะแลัะสิน�บัสิน�นข�อเสินอแนะให�มากที่#!สิ�ดเที่�าที่#!เปั4นไปัได�การเช้,!อมโยุ่งแลัะปัร�บัปัร�งความค�ดตั�างๆ ที่#!ถึ)กเสินอข+5นมา

NOMINAL GROUPสิมาช้�กกลั��มแตั�ลัะคนเข#ยุ่นความค�ดในการแก�ไขปั�ญหาไว�ก�บัตั�วเองความค�ดตั�างๆ ได�น'าไปัเสินอเพื่,!อให�คนอ,!นๆ ได�เห1นกลั��มแสิดงความค�ดเห1นตั�อความค�ดที่�5งหมดในเวลัาเด#ยุ่วก�นสิมาช้�กแตั�ลัะคนลังคะแนนลั�บั ในแตั�ลัะข�อเสินอใช้�ข�อเสินอที่#!คะแนนสิ)งสิ�ด

DELPHI TECHNIQUEก'าหนดปั�ญหาข+5น

การน'าข�อค�ดเห1นของผ)�เช้#!ยุ่วช้าญแตั�ลัะรายุ่มาเสินอเพื่,!อแก�ไขปั�ญหาโดยุ่ไม�ระบั�ช้,!อ

ความค�ดเห1นถึ)กน'ามาว�เคราะห กลั�!นกรองแลัะเสินอให�ผ)�เช้#!ยุ่วช้าญอ,!นพื่�จารณาใหม�

ใช้�กระบัวนการน#5ตั�อไปัเร,!อยุ่ๆ จนได�ข�อเสินอที่#!เห1นพื่�องตั�องก�น

คำวามีจรี�งขั้องการีตั�ดสิ�นใจขั้ององคำ1การี

ไม�ม#ข�อม)ลัที่#!สิมบั)รณ เพื่#ยุ่งพื่อเก#!ยุ่วก�บัที่างเลั,อกแลัะผลัลั�พื่ธ์

ปั�ญหาที่#!เผช้�ญอยุ่)�ม#ความซึ่�บัซึ่�อนคนโดยุ่ที่�!วไปัไม�สิามารถึปัระมวลัข�อม)ลัได�ที่�5งหมด

ไม�ม#เวลัาพื่อที่#!จะปัระมวลัข�อม)ลัที่#!เก#!ยุ่วข�องได�ที่�5งหมดคนในองค การม#เปั2าหมายุ่ที่#!ข�ดแยุ่�งก�น

แบบจ�าลองการีตั�ดสิ�นใจขั้ององคำ1การี

Incremental Model Coalitional Model

Garbage Can Model

Incremental Modelผ)�จ�ดการเลั,อกแนวที่างเลั,อกปัฏิ�บั�ตั�แตักตั�างจากที่#!เคยุ่

ใช้�ในอด#ตัเพื่#ยุ่งเลั1กน�อยุ่หร,อการเพื่�!มข+5นเลั1กน�อยุ่ ด�งน�5นจ+งที่'าให�ความผ�ดพื่ลัาดในการตั�ดสิ�นใจลัดลัง

Coalitional Model

แบับัจ'าลัองการตั�ดสิ�นใจแบับัน#5เก�ดข+5นเม,!อกลั��มตั�างๆ ที่#!ม#ความช้อบัแตักตั�างก�นใช้�อ'านาจแลัะการตั�อรองเพื่,!อ

ก'าหนดการตั�ดสิ�นใจขององค การ

Garbage Can Model

องค การจะเร�!มการตั�ดสิ�นใจจากด�านว�ธ์#การแก�ปั�ญหา (solution side) แที่นที่#!จะเปั4นด�านปั�ญหา

(problem side)

หร,อกลั�าวอ#กน�ยุ่หน+!งผ)�ตั�ดสิ�นใจอาจเสินอว�ธ์#แก�ปั�ญหาเพื่,!อไปัสิ)�ปั�ญหาที่#!ยุ่�งไม�เก�ดข+5น โดยุ่ก'าหนดปั�ญหาที่#!ตันสิามารถึ

แก�ได�ด�วยุ่ว�ธ์#แก�ปั�ญหาที่#!ม#อยุ่)�เร#ยุ่บัร�อยุ่แลั�ว

THE END