77
44 1. F 1 และ F 2 เปนขนาดของแรงสองแรงที่กระทําตอกลองมวล 10 กิโลกรัม ทําใหกลองเคลื่อนที่ดวยอัตราเรง a บนพื้นราบที่ไมมี แรงเสียดทานโดยมีขนาดและทิศทางของแรง F 1 , F 2 และ a กํากับดังรูปจงหาวารูปใดถูกตอง 1. 2. 3. 4. 2. ลูกบาสเก็บบอลถูกชูทออกไปดวยความเร็ว 10 เมตร/วินาที ในทิศ 60 o กับพื้นดิน ที่จุดสูงสุดของการเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล ลูกบาสมีขนาดความเร็วกี่เมตรตอวินาที 1. 5 2. 53 3. 0 4. 10 3. ผูกลูกกอลฟมวล 100 กรัมเขากับปลายเชือกแลวแกวงเชือกใหลูกกอลฟเคลื่อนที่เปนวงกลมในแนวดิ่งรัศมี 40 cm ถาตําแหนง ที่ผานจุดสูงสุดนั้น เชือกมีแรงตึงเปนศูนย จงหาวาขณะที่ลูกกอลฟผานจุดตํ่าสุดนั้น เชือกมีแรงตึงเทากับกี่นิวตัน 1. 3 2. 4 3. 5 4. 6 4. โดยการใชลอและเพลา เราสามารถยกวัตถุมวล 40 กิโลกรัมโดยใชแรง 50 นิวตัน กระทําที่ขอบของลอ รัศมีของลอและเพลา มีคาเทากับ 96 และ 6 เซนติเมตรตามลําดับ จงหาประสิทธิภาพของเครื่องกลนี1. 40% 2. 50 % 3. 78 % 4. 80 % 5. ตําแหนงซึ่งหางจากแหลงกําเนิดเสียง เปนระยะ 3 เมตร มีระดับความเขมเสียง 120 เดซิเบล ถาแหลงกําเนิดเสียงมีกําลังเสียง คงทีแลวตําแหนงที่มีระดับความเขมเสียงเปน 100 เดซิเบล จะอยูหางจากแหลงกําเนิดเสียงดังกลาวเปนระยะกี่เมตร 1. 0.3 2. 7.5 3. 10 4. 30 6. วางวัตถุไวหนากระจกเปนระยะ 30 เซนติเมตร ทําใหเกิดภาพหัวตั้งขนาดใหญกวาวัตถุ 2 เทา ขอใดกลาวถึงชนิดและความยาว โฟกัสของกระจกไดถูกตอง 1. กระจกเวา มีความยาวโฟกัส เทากับ 20 เซนติเมตร 2. กระจกเวา มีความยาวโฟกัส เทากับ 60 เซนติเมตร 3. กระจกนูน มีความยาวโฟกัส เทากับ 20 เซนติเมตร 4. กระจกนูน มีความยาวโฟกัส เทากับ 60 เซนติเมตร 7. ใหจุดประจุ A มีประจุบวก 2q และจุดประจุ B มีประจุบวก q วางหางกัน 1 เมตร จงหาตําแหนงที่มีสนามไฟฟาเปนศูนยเทียบ กับตําแหนงจุดประจุ A 1. หางจากจุดประจุ A ไปทางจุดประจุ B อยู 1 เมตร 2 2. หางจากจุดประจุ A ไปทางจุดประจุ B อยู 2 เมตร 3. หางจากจุดประจุ A ไปทางจุดประจุ B อยู 2 + 2 เมตร 4. หางจากจุดประจุ A ไปทางจุดประจุ B อยู 2 -2 เมตร 8. รถยนต 2 คัน A และ B มีพลังงานจลนเทากัน มีโมเมนตัมเปน P A และ P B ถารถยนต A มีมวล เปน 2 เทาของรถยนต B ความ สัมพันธระหวางโมเมนตัมของรถยนตทั้งสองคันจะเปนขอใด 1. P B = 2 P A 2. P A = 2 P B 3. P B = 2P A 4. P A = 2P B แบบทดสอบวิทยาศาสตร (PAT2 - ฟสิกส) ชุดที่ 1 จํานวน 25 ขอ 10 kg F 1 = 20N F 2 = 40N a = 2 m/s 2 10 kg F 1 = 20N F 2 = 40N a = 2 m/s 2 10 kg F 1 = 10N F 2 = 20N a = 3 m/s 2 10 kg F 1 = 10N F 2 = 20N a = 3 m/s 2

ฟิสิกส์

Embed Size (px)

Citation preview

Page 1: ฟิสิกส์

44

1. F1 และ F

2 เปนขนาดของแรงสองแรงที่กระทําตอกลองมวล 10 กิโลกรัม ทําใหกลองเคลื่อนที่ดวยอัตราเรง a บนพื้นราบที่ไมมี

แรงเสียดทานโดยมีขนาดและทิศทางของแรง F1, F

2และ a กํากับดังรูปจงหาวารูปใดถูกตอง

1. 2.

3. 4.

2. ลูกบาสเก็บบอลถูกชูทออกไปดวยความเร็ว 10 เมตร/วินาที ในทิศ 60o กับพื้นดิน ที่จุดสูงสุดของการเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล ลูกบาสมีขนาดความเร็วกี่เมตรตอวินาที 1. 5 2. 5√3 3. 0 4. 10

3. ผูกลูกกอลฟมวล 100 กรัมเขากับปลายเชือกแลวแกวงเชือกใหลูกกอลฟเคลื่อนที่เปนวงกลมในแนวดิ่งรัศมี 40 cm ถาตําแหนง ที่ผานจุดสูงสุดนั้น เชือกมีแรงตึงเปนศูนย จงหาวาขณะที่ลูกกอลฟผานจุดตํ่าสุดนั้น เชือกมีแรงตึงเทากับกี่นิวตัน 1. 3 2. 4 3. 5 4. 6

4. โดยการใชลอและเพลา เราสามารถยกวัตถุมวล 40 กิโลกรัมโดยใชแรง 50 นิวตัน กระทําที่ขอบของลอ รัศมีของลอและเพลา มีคาเทากับ 96 และ 6 เซนติเมตรตามลําดับ จงหาประสิทธิภาพของเครื่องกลนี้ 1. 40% 2. 50 % 3. 78 % 4. 80 %

5. ตําแหนงซึ่งหางจากแหลงกําเนิดเสียง เปนระยะ 3 เมตร มีระดับความเขมเสียง 120 เดซิเบล ถาแหลงกําเนิดเสียงมีกําลังเสียงคงที่ แลวตําแหนงที่มีระดับความเขมเสียงเปน 100 เดซิเบล จะอยูหางจากแหลงกําเนิดเสียงดังกลาวเปนระยะกี่เมตร 1. 0.3 2. 7.5 3. 10 4. 30

6. วางวัตถุไวหนากระจกเปนระยะ 30 เซนติเมตร ทําใหเกิดภาพหัวตั้งขนาดใหญกวาวัตถุ 2 เทา ขอใดกลาวถึงชนิดและความยาว โฟกัสของกระจกไดถูกตอง 1. กระจกเวา มีความยาวโฟกัส เทากับ 20 เซนติเมตร 2. กระจกเวา มีความยาวโฟกัส เทากับ 60 เซนติเมตร 3. กระจกนูน มีความยาวโฟกัส เทากับ 20 เซนติเมตร 4. กระจกนูน มีความยาวโฟกัส เทากับ 60 เซนติเมตร

7. ใหจุดประจุ A มีประจุบวก 2q และจุดประจุ B มีประจุบวก q วางหางกัน 1 เมตร จงหาตําแหนงที่มีสนามไฟฟาเปนศูนยเทียบ กับตําแหนงจุดประจุ A 1. หางจากจุดประจุ A ไปทางจุดประจุ B อยู 1 เมตร √2 2. หางจากจุดประจุ A ไปทางจุดประจุ B อยู 2 เมตร 3. หางจากจุดประจุ A ไปทางจุดประจุ B อยู 2 + √2 เมตร 4. หางจากจุดประจุ A ไปทางจุดประจุ B อยู 2 -√2 เมตร

8. รถยนต 2 คัน A และ B มีพลังงานจลนเทากัน มีโมเมนตัมเปน PA และ P

B ถารถยนต A มีมวล เปน 2 เทาของรถยนต B ความ

สัมพันธระหวางโมเมนตัมของรถยนตทั้งสองคันจะเปนขอใด 1. P

B = √2 P

A 2. P

A = √2 P

B

3. PB = 2P

A4. P

A = 2P

B

แบบทดสอบวิทยาศาสตร� (PAT2 - ฟ�สิกส�)ชุดที่ 1 จํานวน 25 ข�อ

10 kgF

1 = 20N F

2 = 40N

a = 2 m/s2

10 kgF

1 = 20N F

2 = 40N

a = 2 m/s2

10 kgF

1 = 10N F

2 = 20N

a = 3 m/s2

10 kgF

1 = 10N F

2 = 20N

a = 3 m/s2

Page 2: ฟิสิกส์

45

9. วัตถุมวล 10 กโิลกรัม เคลื่อนที่ไปทางขวาตามพื้นโตะซึ่งไรความเสียดทานดวยอัตราเร็ว 50 เมตร/วินาที วัตถุนี้ชนกันแนวตรง กับวัตถุอีกชิ้นหนึ่งซึ่งกําลังเคลื่อนที่มาทางซายดวยอัตราเร็ว 30 เมตร/วินาทีถาหลังจากการชนวัตถุทั้งสองติดไปดวยกันและ เคลื่อนที่ไปทางขวาดวยอัตราเร็ว20 เมตร/วินาที วัตถุกอนที่สองมีมวลเทากับ 1. 12 kg 2. 8 kg 3. 6 kg 4. 4 kg

10. นักเรียนกลุมหนึ่งทําการทดลองหาความยาวโฟกัสของกระจกเวาอันหนึ่งพบวา เมื่อวางวัตถุหางจากกระจกเปนระยะทาง 20 เซนติเมตร จะไดภาพจริงมีความสูงเปน 3 เทาของวัตถุ อยากทราบวาถาวางวัตถุหางจากกระจก 10 เซนติเมตร ภาพที่จะได เปนเชนไร 1. ภาพจริงสูงกวาวัตถุ 2. ภาพเสมือน สูงเทาวัตถุ 3. ภาพจริง สูงเปน 3 เทาของวัตถุ 4. ภาพเสมือน สูงเปน 3 เทาของวัตถุ

11. สี่เหลี่ยมจัตุรัส มีเสนทแยงมุมยาว 0.2 เมตรวางประจุ 5 x 10-6 คูลอมบ, 3 x 10-6 คูลอมบ, -4 x 10-6 คูลอมบ และ -2 x 10-6 คูลอมบ ที่มุมทั้งสี่ของรูปสี่เหลี่ยมนี้จงหาความตางศักยที่จุดศูนยกลางของสี่เหลี่ยมจัตุรัสในหนวยของโวลต 1. 18 x 104 2. 2 x 104 3. 14 x 104 4. 9 x 104

12. ตัวตานทาน 60 โอหม และ 90โอหม ตอกันแบบขนาน แลวตอเขากับแหลงจายไฟฟากระแสตรงขนาด 120 โวลต ใหหาคาความ ตานทานของวงจรในหนวยโอหมและกระแสที่ไหลผานความตานทาน 60 โอหมในหนวยแอมแปรตามลําดับ 1. 36 และ 1.3 2. 36 และ 2.0 3. 120 และ 2.0 4. 120 และ 3.3

13. ถาความเร็วของคลื่นนํ้าเทากับ 6.0 เมตรตอวินาที ขณะที่สันคลื่นที่หนึ่งและที่สี่หางกัน 7.2 เมตร คลื่นนี้มีความถี่เทาใด 1. 0.8 Hz 2. 2.5 Hz 3. 3.3 Hz 4. 4.3 Hz

14. เสียงรบกวนบนถนนวัดระดับความเขมเสียงได 90 เดซิเบล แตภายในรถยนตที่ปดมิดชิด ระดับความเขมเสียงลดเหลือ 70 เดซิเบล ถามวาความเขมเสียงภายในรถยนตเปนกี่เปอรเซ็นต ของความเขมเสียงนอกรถยนต 1. 77% 2. 70% 3. 20% 4. 1%

15. เมื่อนําวัตถุไปวางหนาเลนสเปนระยะ 20 เซนติเมตร พบวาเกิดภาพเสมือนซึ่งมีขนาดลดลงเหลือ 1 เทาของขนาดวัตถุ ถามวา ภาพกับวัตถุอยูหางกันเทาใด 5 1. 16 cm 2. 24 cm 3. 80 cm 4. 120 cm

16. ฟงกชันงานของโลหะโซเดียมเทากับ 2.0 อิเล็กตรอนโวลต ถาแสงความยาวคลื่น 300 นาโนเมตร ตกกระทบผิวโซเดียม โฟโตอิเล็กตรอนที่เกิดขึ้นจะมีพลังงานจลนสูงสุดกี่อิเล็กตรอนโวลต 1. 1.2 eV 2. 2.1 eV 3. 4.2 eV 4. 6.1 eV

17. สารกัมมันตภาพรังสีเรเดยีม -226 สลายตัวใหอนุภาคแอลฟาและแกมมาโดยมีครึ่งชีวิต 1,620 ป ถาเริ่มตนเรเดียมมีอยู 200 ไมโครกรัม ถามวาเมื่อเวลาผานไป 4,860 ป จะเหลือเรเดียม -226 นี้อยูกี่ไมโครกรัม 1. 67 μg 2. 50 μg 3. 25 μg 4. 20 μg

18. ลวดโลหะมีพื้นที่หนาตัด 1 ตารางมิลลิเมตร ความยาว 80 เซนติเมตร มีมอดูลัสของยังเทากับ 9 x 1010 นิวตัน/ตารางเมตร ถาใชลวดนี้รับนํ้าหนัก 45 นิวตัน ลวดจะยืดออกกี่มิลลิเมตร 1. 0.04 mm 2. 0.4 mm 3. 4 mm 4. 40 mm

19. ระดับเสียงจากการทํางานของเครื่องจักร 5 เครื่อง มีคาเปน 100 เดซิเบล ถาเดินเครื่องจักรเพียง 1 เครื่องระดับเสียงใหมจะ เปนเทาใด 1. 93 dB 2. 83 dB 3. 60 dB 4. 20 dB

20. เมื่อฉายแสงความถี่หนึ่งลงบนผิวโลหะที่มีคาฟงกชันงาน 1.0 อิเล็กตรอนโวลต ไดพลังงานจลนสูงสุดของอิเล็กตรอนเปน 2.0 อิเล็กตรอนโวลต ถาใชแสงความถี่ใหมเปน 1.5 เทาของความถี่เดิม คาพลังงานจลนสูงสุดของอิเล็กตรอนเปนเทาใด 1. 2.5 eV 2. 3.0 eV 3. 3.5 eV 4. 4.0 eV

Page 3: ฟิสิกส์

46

21. รถ A เคลื่อนที่ดวยความเร็ว 40 เมตรตอวินาที ตามรถ B ซึ่งเคลื่อนที่ดวยความเร็ว 20 เมตรตอวินาที ตอนแรกรถทั้งสองคัน อยูหางกัน 100 เมตร รถ B จะตองมีความเรงเทาใด จึงจะทําใหรถทั้งสองมีความเร็วเทากันในขณะที่รถ A แซงรถ B พอดี 1. 0.25 m/s2 2. 0.5 m/s2

3. 1.0 m/s2 4. 2.0 m/s2

22. รถบรรทุกวิ่งดวยความเร็ว U สามารถเบรกใหรถหยุดได ในระยะทาง S ถารถคันนั้นวิ่งดวยความเร็ว 0.8U และเบรกดวยแรง เทาเดิม รถบรรทุกคันนั้นจะหยุดได ในระยะทางกี่เทาของระยะทางในครั้งแรก 1. 0.24 เทา 2. 0.36 เทา 3. 0.64 เทา 4. 0.84 เทา

23. โฟตอนตัวหนึ่งตกกระทบผิวแพลทินัมซึ่งมีคาฟงกชันงาน 5.6 eV ทําใหอิเล็กตรอนหลุดจากผิวออกมาดวยพลังงานจลนสูงสุด 1.2 eV ถาเราให โฟตอนตัวเดียวกันนี้ ไปตกกระทบผิวเงินซึ่งมีคาฟงกชันงาน 4.7 eV จะตองใชความตางศักยกี่โวลต เพื่อที่จะ ทําใหอิเล็กตรอนที่หลุดจากผิวหยุด 1. 2.1 V 2. 4.4 V 3. 6.8 V 4. 11.5 V

24. ลวดทองแดงเสนหนึ่งยาว 4 เมตร มีพื้นที่ภาคตัดขวาง 1 x 10-8 ตารางเมตร มีคามอดูลัสของยังเปน 1.1 x 1011 นิวตันตอ ตารางเมตร จะตองออกแรงดึงเทาใด จึงจะทําใหลวดเสนนี้ยืดออกอีก 1 มิลลิเมตร 1. 0.2 N 2. 0.3 N 3. 0.4 N 4. 0.5 N

25. การใชแวนขยายอานหนังสือพิมพ ควรใหแวนขยายหางจากหนังสือพิมพเทาใด 1. เปนระยะทางเทากับความยาวโฟกัส 2. เปนระยะทางนอยกวาความยาวโฟกัส 3. เปนระยะทางเทากับสองเทาของความยาวโฟกัส 4. เปนระยะระหวางความยาวโฟกัสและสองเทาของความยาวโฟกัส

Page 4: ฟิสิกส์

47

1. ชุดตัวเลขที่ไดจากการวัดความหนาของหนังสือ 5 เลม ในหนวยเซนติเมตรเปนดังนี้ 2.5, 4.0, 1.95, 2 และ 4.768 คาเฉลี่ยของความหนาของหนังสือมีเลขนัยสําคัญกี่ตัว 1. 1 2. 2 3. 3 4. 4

2. แรงขนาดหนึ่งเมื่อกระทําตอวัตถุซึ่งมีมวล m1 ทําใหวัตถุนี้มีความเรง 8.0 เมตร/วินาที2 เมื่อแรงขนาดเดียวกันนี้กระทําตอวัตถุ

มวล m2ทําให m

2เคลื่อนที่จากจุดหยุดนิ่งได 48 เมตร ในเวลากี่วินาที ถา m

2 =

m1

3 1. 2 2. 3 3. 4 4. 5

3. กลองมวล 2 kg วางซอนอยูบนกลองมวล 8 kg ซึ่งทั้งหมดวางอยูบนพื้นไรความเสียดทาน ถาสัมประสิทธิ์ความเสียดทานสถิต และสัมประสิทธิ์ความเสียดทานจลนระหวางกลองทั้งสองมีคาเทากับ 0.4 และ 0.2 ตามลําดับ ตองออกแรงผลักกลอง 8 kg ใน ทิศทางขนานกับพื้นอยางนอยกี่นิวตัน จึงจะทําใหกลองมวล 2 kg เริ่มไถลไปบนกลองมวล 8 kg ได 1. 10 N 2. 20 N 3. 30 N 4. 40 N

4. นําเชือกเบาและเหนียวมากเสนหนึ่งยาว 50 เซนติเมตร ผูกลูกตุมมวล 2 กิโลกรัม ที่ปลายขางหนึ่ง ถาจับปลายเชือกอีกขางหนึ่ง แกวงใหลูกตุมเคลื่อนที่เปนวงกลมในระนาบดิ่งดวยอัตราเร็วคงตัว 4 เมตรตอวินาที แรงดึงในเสนเชือกมีคาตํ่าสุดกี่นิวตัน (กําหนด g = 10 m/s2) 1. 44 N 2. 46 N 3. 48 N 4. 50 N

5. ชาย 2 คน มวล 50 กิโลกรัม และ 100 กโิลกรัม ยืนอยูบนลานนํ้าแข็งราบและลื่น จับปลายเชือกเบายาว 12 เมตร คนละดาน เมื่อชายมวล 100 กิโลกรัม ดึงเชือกเขาหาตัวเองเขาจะเลื่อนไปชนกัน ณ ตําแหนงที่หางจากตําแหนงเดิมของเขาเปนระยะกี่ เมตร 1. 3 2. 4 3. 5 4. 6

6. วางวัตถุอันหนึ่งไวหนากระจกเวาที่ความยาวโฟกัส 4.0 เซนติเมตร โดยอยูหางจากกระจกเวา 2.0 เซนติเมตร ถาวัตถุนี้มีความ สูง 1 เซนติเมตร ภาพที่เกิดขึ้นเปนภาพชนิดใดและมีความสูงเทาใด 1. ภาพจริงสูง 1 cm 2. ภาพเสมือนสูง 1 cm 3. ภาพจริงสูง 2 cm 4. ภาพเสมือนสูง 2 cm

7. เรือลําหนึ่งเคลื่อนที่เขาหาหนาผาชันดวยความเร็วคงตัว 20 เมตรตอวินาที เมื่ออยูหางจากหนาผาระยะหนึ่งกัปตันเปดหวูด 1 ครั้ง และไดยินเสียงสะทอนกลับของเสียงหวูดเมื่อเวลาผานไป 4 วินาที ขณะที่เปดหวูด เรืออยูหางจากหนาผากี่เมตร กําหนดให อัตราเร็วเสียงในอากาศเทากับ 340 เมตรตอวินาที 1. 360 2. 540 3. 680 4. 720

8. กระบอกสูบบรรจุแกส 2 โมล เมื่อลดอุณหภูมิลง 20 องศาเซลเซียส แกสจะคายความรอน 300 จูล กระบอกสูบใหงานกี่จูล 1. 135 J 2. 199 J 3. 349 J 4. 458 J

9. เคลื่อนประจุ -1 ไมโครคูลอมบ จากจุด A ไปตามเสนทาง A → B → C → D ในสนามไฟฟาสมํ่าเสมอขนาด 10 โวลตตอเมตร งานในการเคลื่อนประจุตลอดเสน ทาง และความตางศักยระหวางจุด B กับจุด D มีคาเทาใด ตามลําดับ 1. - 0.4 ไมโครจูล และ 300 มิลลิโวลต 2. - 0.4 ไมโครจูล และ 400 มิลลิโวลต 3. 0.6 ไมโครจูล และ 300 มิลลิโวลต 4. 0.6 ไมโครจูล และ 400 มิลลิโวลต

แบบทดสอบวิทยาศาสตร� (PAT2 - ฟ�สิกส�)ชุดที่ 2 จํานวน 15 ข�อ

3 เซนติเมตร

4 เซนติเมตร

3 เซนติเมตร

θ

E

B C

A D

Page 5: ฟิสิกส์

48

10. ตอแบตเตอรี่ 9 โวลต ความตานทานภายใน 1 โอหม เขากับมอเตอรที่มีความตานทาน 3 โอหม เมื่อมอเตอรหมุนมีกระแสไฟฟา 2 แอมแปร ไหลในวงจร แรงเคลื่อนไฟฟาตานกลับของมอเตอรนี้เปนกี่โวลต 1. 1 2. 2 3. 4 4. 6

11. วางลวดตัวนํายาว 20 เซนติเมตร บนรางตัวนํายาวมากที่มีความตานทาน นอยมากและตอกับตัวตานทาน 2 โอหม โดยรางตัวนําวางหางกัน 10 เซนติเมตร ดังรูป ถาเสนลวดนี้มีมวล 100 กรัมมีกระแสไหลคงที่ 0.3 แอมแปร จงหาความเรงของลวดเสนนี้ กําหนดใหสนามแมเหล็กมีความเขม 2 เทสลา 1. 0.4 m/s2 2. 0.6 m/s2

3. 0.8 m/s2 4. 1.0 m/s2

12. ทันทีที่สับสวิตซ S ที่เชื่อมกับลวดตัวนํา A ขอใดถูกตอง

1. ขั้ว a เปนขั้วใต 2. ขดลวด B มีกระแสไฟฟาไหลจาก X → R → Y 3. จะเกิดกระแสไฟฟาเหนี่ยวนําในขดลวด B โดยไหลผานตัวตานทาน R อยางตอเนื่อง 4. ขอ 1. และขอ 2. ถูก

13. นักเรียนคนหนึ่งทําการทดลองการแทรกสอดของยัง โดยใชชองแคบคูที่มี ระยะหางชองเปน 0.26 มิลลิเมตร ระยะหางระหวางชองแคบคูกับฉากเปน 2.0 เมตร วัดระยะหางของแถบสวางจากแนวกลางบนฉากไดผลดังรูป จง หาความยาวคลื่นของแสงที่ใช 1. 600 nm 2. 650 nm 3. 700 nm 4. 750 nm

14. แขวนทรงกลมมวล m ที่มีประจุไฟฟา +q ดวยเชือกเบาไวระหวางแผนตัวนําขนานขนาดใหญที่วางในแนวตั้งและอยูหางกัน d ถาตองการใหแนวเชือกที่แขวนทรงกลมเบนทํามุม 37 องศากับแนวดิ่ง จะตองใหความตางศักยระหวางแผนตัวนําขนานขนาด เทาใด

1. 3 mgd 2. 3 mgd 3. 3 qd 4. 3 qd 2 q 4 q 2 mg 4 mq √3

15. ให โฟตอนตกระทบโลหะชนิดหนึ่ง ทําใหเกิดอิเล็กตรอนที่มีความยาวคลื่นเดอบรอยล 0.4 นาโนเมตร ถาโลหะชนิดนี้มีฟงกชัน งาน 7 อิเล็กตรอนโวลต จงหาความถี่ของโฟตอน กําหนดให h = 4 x 10-15 eVs และมวลอิเล็กตรอนเทากับ 0.5 MeV/c2

1. 2 x 1015 Hz 2. 3 x 1015 Hz 3. 4 x 1015 Hz 4. 5 x 1015 Hz

10 cm

X X X X X X X

X X X X X X X

X X X X X X X

ลวดตัวนํา

da b

s

A

ë ë

c

RB

X Yëë

4.0 cm

แถบสวาง (สวนที่แรเงา)

แถบมืด

Page 6: ฟิสิกส์

49

SMART PLANNING

Page 7: ฟิสิกส์

50

Page 8: ฟิสิกส์

51

Page 9: ฟิสิกส์

52

Page 10: ฟิสิกส์

53

Page 11: ฟิสิกส์

54

Page 12: ฟิสิกส์

55

Page 13: ฟิสิกส์

56

Page 14: ฟิสิกส์

57

Page 15: ฟิสิกส์

58

Page 16: ฟิสิกส์

59

Page 17: ฟิสิกส์

60

Page 18: ฟิสิกส์

61

Page 19: ฟิสิกส์

62

Page 20: ฟิสิกส์

63

Page 21: ฟิสิกส์

64

Page 22: ฟิสิกส์

65

Page 23: ฟิสิกส์

66

Page 24: ฟิสิกส์

67

Page 25: ฟิสิกส์

68

Page 26: ฟิสิกส์

69

Page 27: ฟิสิกส์

70

Page 28: ฟิสิกส์

71

Page 29: ฟิสิกส์

72

Page 30: ฟิสิกส์

73

Page 31: ฟิสิกส์

74

Page 32: ฟิสิกส์

75

Page 33: ฟิสิกส์

76

Page 34: ฟิสิกส์

77

Page 35: ฟิสิกส์

78

Page 36: ฟิสิกส์

79

Page 37: ฟิสิกส์

80

Page 38: ฟิสิกส์

81

Page 39: ฟิสิกส์

82

Page 40: ฟิสิกส์

83

Page 41: ฟิสิกส์

84

Page 42: ฟิสิกส์

85

Page 43: ฟิสิกส์

86

Page 44: ฟิสิกส์

87

Page 45: ฟิสิกส์

88

Page 46: ฟิสิกส์

89

Page 47: ฟิสิกส์

90

Page 48: ฟิสิกส์

91

Page 49: ฟิสิกส์

92

Page 50: ฟิสิกส์

93

Page 51: ฟิสิกส์

94

Page 52: ฟิสิกส์

95

Page 53: ฟิสิกส์

96

Page 54: ฟิสิกส์

97

Page 55: ฟิสิกส์

98

Page 56: ฟิสิกส์

99

Page 57: ฟิสิกส์

100

Page 58: ฟิสิกส์

101

Page 59: ฟิสิกส์

102

Page 60: ฟิสิกส์

103

Page 61: ฟิสิกส์

104

Page 62: ฟิสิกส์

105

Page 63: ฟิสิกส์

106

1. 1

1. m/s

-1

Page 64: ฟิสิกส์

107

Page 65: ฟิสิกส์

108

Page 66: ฟิสิกส์

109

1. T2 L

GLr

2 LT

LG

r

GT4 L

2

2 3r

4GT L

2

2 3

r

1 1 1,1 , , = , , , 1

1

1

1

1

2πL

2πL

Page 67: ฟิสิกส์

110

1.

Page 68: ฟิสิกส์

111

Page 69: ฟิสิกส์

112

PV nRT= T V P

mc TQ = DD Q U W= +D D D TD

กระบอกสูบบรรจุแกสอุดมคติ 2 โมล ถาใหความรอนแกกระบอกสูบ 2 กิโลจูล โดยที่อุณหภูมิภายในกระบอกสูบคงที่จะไดงานจากกระบอกสูบกี่จูล

Page 70: ฟิสิกส์

113

1

1. T TT1 2

1

-

T TT1 2

2

-

TT T

1

1 2+

TT T

2

1 2+

1.

g2h

2g H h-_ i

2 H h h-^ h

4h H h-

Page 71: ฟิสิกส์

114

P

1. A B, C D" "

A B, B C" "

B C, A D" "

B D, A D" "

Page 72: ฟิสิกส์

115

1

1

Page 73: ฟิสิกส์

116

Page 74: ฟิสิกส์

117

Page 75: ฟิสิกส์

118

a b

a b

30 E 75 N 90 E 75 N 90 E 45 N, ,c c c c c c 30 E 45 Nc c

1. W X Y" "

W Y Z" "

W Z Y" "

W Z X" "

Page 76: ฟิสิกส์

119

Page 77: ฟิสิกส์

120

บันทึกท�ายเล�ม