167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร...

Preview:

Citation preview

163. สิง่ใดที่เป็นสาเหตทุี่ทำาใหป้ระสทิธภิาพของหมอ้แปลงไมถึ่ง 100% 1.การเกิดกระแสไหลวน2.ขดลวดทติุยภมูมิคีวามต้านทาน3.อุปกรณ์ไฟฟา้ที่ใชก้ับหมอ้แปลงมปีระสทิธภิาพน้อยคำาตอบที่ถกูต้องคือ

ก. ขอ้1 และ 2ข. ขอ้1 และ 3ค. ขอ้ 1ง. ขอ้ 2 และ 3

เฉลย ขอ้ ก. แนวคิด การเกิดกระแสไหลวนในแกนเหล็ก (eddy current) และการมคีวามต้านทานในขดลวด ทำาให้

เกิดความรอ้น (เป็นพลังงานที่สญูเสยีไป) ประสทิธภิาพจงึไมถึ่ง100%

164. เมื่อนำาปลัก๊ของหมอ้แปลงโวลต์ตำ่า ซึ่งต่อกับวงจรไฟฟา้ต่อกับแหล่งกำาเนิดไฟฟา้กระแสตรงซึ่งมแีรงเคล่ืน

ไฟฟา้220 โวลต์ เกิดอะไรขึ้นกับขดลวดทตุิยภมูิ

ก.ไมม่กีระแสไฟฟา้ข. ได้ไฟฟา้กระแสตรงความต่างศักย์0-12 โวลต์ค. ได้ไฟฟา้กระแสสลับความต่างศักย์0-12 โวลต์ง. ได้ไฟฟา้กระแสสลับความต่างศักย์220 โวลต์

เฉลยขอ้ ก.แนวคิด ไฟฟา้กระแสตรงD.C ทำาให้ ฟลักซแ์มเ่หล็กคงที่ จงึไมเ่กิดการเปล่ียนแปลงฟลักซแ์มเ่หล็ก (และไมม่ีกระแสไฟฟา้เหน่ียวนำาในขดทตุิยภมู)ิ

165. พลังงานไฟฟา้ที่เสยีไปในหมอ้แปลง เนื่องจาก

ก.กระแสไหลวนในแกนแมเ่หล็กข.ความรอ้นที่เกิดในขดลวดปฐมภมูิค.ความรอ้นที่เกิดในขดลวดทตุิยภมูิง. ทัง้ ก. ข. และ ค.

เฉลยขอ้ ง.แนวคิด เกิด Eddy Current จงึเกิดความรอ้นในขดลวดทัง้สอง

166. นักเรยีนต้องการซื้อหมอ้แปลง ควรพจิารณาขอ้ใด

1.ความต่างศักยท์ี่ใชใ้นขดลวดปฐมภมูิ2.ความต่างศักยท์ี่ได้ในขดลวดทติุยภมูิ3.กำาลังไฟฟา้

ก. ขอ้2 และ3ข. ขอ้1, 2 และ 3ค. ขอ้1 และ 2ง. ขอ้ 3

เฉลยขอ้ ข.แนวคิด ต้องทราบวา่ จะใชไ้ฟฟา้กี่โวลต์, ต้องการใหอ้อกมา กี่โวลต์ กำาลังสงูสดุ ที่หมอ้แปลงไฟฟา้ทนได้

167. การเปล่ียนแปลงสนามแมเ่หล็กในขอ้ใดจะทำาใหเ้กิดแรงเคล่ือนไฟฟา้ เหน่ียวนำาในขดลวดมากที่สดุ ถ้าลวดทกุขดเมื่อเริม่ต้นมฟีลักซ์

แมเ่หล็กผ่านอยา่งตัง้ฉาก

ก. สนามแมเ่หล็กเพิม่ขึ้นในทิศเดิมในอัตรา5 เทสลาต่อ 1 มลิลิวนิาที

ข. สนามแมเ่หล็กเพิม่ขึ้นตัง้ฉากกับสนามเดิมในอัตรา 4.5 เทสลาต่อ

ค.. สนามแมเ่หล็กลดลงจากเติมในอัตรา 4 เทสลาต่อ1 มลิลิวนิาที ง. สนามแมเ่หล็กเดิมขนาด 3 เทสลาเปล่ียนทิศเป็นตรงขา้มขนาดเท่าเดิมในเวลา 1 มลิลิวนิาที

เฉลยขอ้ ง.แนวคิด

ขอ้ ( ง ) มี d มากที่สดุ ( เปล่ียนแปลงมากที่สดุ และค่า หา

จาก B.A )

168. ขอ้ใดมผีลต่อแรงเคล่ือนไฟฟา้เหนี่ยวนำาที่เกิดในขดลวด 1. จำานวนรอบของขดลวด

2. สนามแมเ่หล็กที่เปล่ียนไปในขดลวด

3. ขัว้ของแมเ่หล็กที่พุง่เขา้ขดลวด ขอ้ที่ถกู คือ

ก. ขอ้ 1, 2 และ 3 ข. ขอ้1 และ2 ค. ขอ้1 และ 3 ง. ขอ้ 3

เฉลยขอ้ ก. แนวคิด E=N

จะมากน้อย ขึ้นกับ N, ขึ้นกับ ขึ้นกับขัว้แมเ่หล็กท่ีพุง่เขา้มา เพราะมผีลต่อทิศทางของการไหลของไฟฟา้เหน่ียวนำา

169. ขอ้ใดไมถ่กูต้อง ก. หมอ้แปลงไฟฟา้มแีกนทำาด้วยโลหะแผ่นบาง ๆ ซอ้นกัน เพื่อประสทิธภิาพในการถ่ายทอดพลังงาน

.ב ในการใชง้านหมอ้แปลงไฟฟา้ ขดลวดปฐมภมูขิองหมอ้แปลงต้องต่ออยูก่ับไฟฟา้กระแสสลับ

ค. สำาหรบัหมอ้แปลง ชนิดแปลงขึ้น กระแสที่ออกจากขดทตุิยภมูจิะมากกวา่กระแสที่ไหลเขา้ ขดปฐมภมูิ ง. อัตราเรว็ของการหมุนของมอเตอรก์ระแสตรงขึ้นอยูก่ับกระแสในขดลวด

เฉลยขอ้ ค.แนวคิด หมอ้แปลงขึ้น จะเพิม่ ทำาให้ ลดลง

= ดัง้นัน้ จะน้อยกวา่

170. ขอ้ใดเป็นสญัลักษณ์ของหมอ้แปลงไฟฟา้

เฉลยขอ้ ง.

171. ในการทดลองเรื่องหมอ้แปลงไฟฟา้เพื่อตรวจสอบแรงเคล่ือนไฟฟา้เหนี่ยวนำา อาจสรุปผลได้ตามขอ้ใด

1)สนามแมเ่หล็กที่เปล่ียนแปลงทำาใหเ้กิดแรงเคล่ือนไฟฟา้เหนี่ยวนำาได้2)กระแสไฟตรงไมก่่อใหเ้กิดแรงเคล่ือนไฟฟา้เหน่ียวนำาจากหมอ้แปลง, ถ้ากระแสสมำ่าเสมอ3)หมอ้แปลงไฟฟา้ใชไ้ด้เฉพาะไฟฟา้กระแสสลับหรอืกระแสที่ไมส่มำ่าเสมอ4)แรงเคล่ือนไฟฟา้เหนี่ยวนำาเป็นสดัสว่นโดยตรงกับจำานวนรอบของขดลวด

ขอ้สรุป คือ

ก. ขอ้ 1 , 2 และ 3 ข. ขอ้ 1 และ 3 ค. ขอ้ 2 และ 4 ง. ขอ้ 4 จ. ขอ้ 1, 2, 3, 4

เฉลยขอ้ จ

จากรูป เป็นหมอ้แปลงไฟฟา้ชนิดแปลงลงโดยแปลงจาก 400 โวลต์ ลงมาเป็น

200 โวลต์ A , B , C , D เป็นเครื่องใชไ้ฟฟา้ชนิด 1000 วตัต์

200 โวลต์ ทกุเครื่อง

จากขอ้มูลใชต้อบคำาตามขอ้ 172 - 175

172. จงหาวา่ถ้ากระแสไหลในขดลวดขดที่ 1 = 20 แอมแปร์ ในขดลวดที่ 2 จะมกีระแสไฟฟา้ไหลกี่ แอมแปร์ ก. 10 แอมแปร์ ข. 20 แอมแปร์ ค. 30 แอมแปร์ ง. 40 แอมแปร์

เฉลยขอ้ ข.แนวคิด A, B, C, D ตัวละ 1000 วตัต์ ใชก้ำาลังไฟฟา้รวม 4000 วตัต์ P = I V 4000 = I ( 200 ) = 20 แอมแปร์

173. ถ้าเปิดสวติซข์องเครื่องพรอ้มกัน จงหากระแสไฟฟา้ที่ไหลในขดลวดขดที่ 1 ก. 5 แอมแปร์ ข. 8 แอมแปร์ ค. 10 แอมแปร์ ง. 15 แอมแปร์ เฉลยขอ้ ค. แนวคิด กำาลังไฟฟา้ = ยอ่มเท่ากัน = ( 400 ) = 20 x 200 = 10 แอมแปร์

174. ถ้าขดลวดขดที่ 1 มจีำานวน 400 รอบ จงหาจำานวนรอบของขดลวดขอที่ 2 ก. 8000 รอบ ข. 4000 รอบ ค. 2000 รอบ

ง. 1000 รอบ

เฉลยขอ้ ค.

แนวคิด =

=

= 2000 รอบ

175. ถ้าขณะเวลาหน่ึงวดัแรงเคล่ือนไฟฟา้ในขดลวดที่ 2 ได้ 150 โวลต์ จงหาวา่แรงเคล่ือนไฟฟา้

ในขดที่ 1 เป็นเท่าใด ก. 300 โวลต์ ข. 400 โวลต์ ค. 500 โวลต์ ง. 550 โวลต์

เฉลยขอ้ ก.

แนวคิด =

=

= 300 โวลต์

176. จงหากระแสไฟฟา้ผ่านเครื่องใชไ้ฟฟา้หนึ่งซึ่งมคีวามต้านทาน 25 โอหม์ และขณะใชง้าน ต้องใชก้ับ หมอ้แปลงไฟฟา้ ซึ่งมจีำานวนของของขดลวดปฐมภมูิ และทติุยภมูเิป็น 440 รอบ และ 24 รอบ ตาม

ลำาดับ โดยความต้านทานของขดลวดทตุิยภมูเิป็น 5 โอหม์ ( ควรใชก้ับไฟฟา้บา้น ) เฉลย แนวคิด ถาม

=

=

= 12 โวลต์ แอมแปร์

177. จงหาอัตราสว่นของพลังงานความถ่ีที่สญูเสยีไปในรูปของความรอ้นภายในสายไฟกับพลังงานไฟฟา้ ที่โรงไฟฟา้จา่ยทัง้หมด เมื่อโรงไฟฟา้สง่กำาลังไฟฟา้ได ้ 1 เมกะวตัต ์ ด้วยความต่างศักย ์ 10,000 โวลต์ผ่านสายไฟยาว 1 กิโลเมตร มคีวามต้านทาน 5 โอหม์

เฉลย

แนวคิด P = I V คิดที่ลวด = I ( 10,000 ) ท่ีลวด = I = 100 แอมแปร์ = (

) (5) = 5 x วตัต์

=

= 1 : 20

178.

จากรูปเป็นหมอ้แปลงแบบสมบูรณ์ เมื่อขดลวดปฐมภมูจิา่ยกำาลังไฟฟา้สงูสดุ ขดลวดทตุิยภมูจิะสามารถ

ต่อเขา้ กับเครื่องใชไ้ฟฟา้ได้ 3 ชนิดดังรูป ถ้าเครื่องใชแ้ต่ละชนิดกำาลังใชก้ลังไฟฟา้สงูสดุที่เครื่องใชแ้ต่ละจะใชไ้ด้อยู่ ขณะน ี้ กระแสไฟฟา้ในขดลวดปฐมภมูแิละทติุยภมู ิ ตามลำาดับในหน่วยแอมแปร ์ คือขอ้ใด

ก. 16 , 24 ข. 2 , 4 ค. 4 , 8 ง. 8 , 16

เฉลยขอ้ ง. แนวคิด P = 1600 = 1600 = X 100 = 8 แอมแปร ์ = 16 แอมแปร์

179. ถ้าต่อแบตเตอรี่ E = 2 โวลต์เขา้ด้านปฐมภมูขิอง หมอ้แปลงไฟฟา้ โดยมคีวามต้านทาน R = 2 โอหม์ ต่ออยูท่างด้านทติุยภมูิ ดังแสดงตามรูป ถ้าอัตราการพนัขดลวด : = 1 : 2

จงหาค่ากำาลังไฟฟา้ท่ีสญูเสยีไปในตัวความต้านทาน R วา่มค่ีาเท่าไร ก. 32 วตัต์ ข. 8 วตัต์ ค. 4 วตัต์ ง. ไมม่ี

ขอ้ใดถกู

เฉลยขอ้ ง. แนวคิด ไฟกระแสตรง I คงที่. B คงที่ จงึไมเ่กิดไฟฟา้ในขดลวดที่ 2

180. หมอ้แปลงไฟฟา้มปีระสทิธภิาพ 100 % ขดปฐมภมูมิจีำานวน 100 รอบต่อไวก้ับไฟกระแสสลับที่มี แรงเคล่ือนไฟฟา้ 200 โวลต์ ขดทติุยภมูมิจีำานวน 200 รอบ และต่อไวก้ับเคล่ือนใชไ้ฟฟา้ซึ่งขณะน้ีใหก้ำาลัง

สงูสดุ 400 วตัต์ ถ้าขดลวดทติุยภมูไิมม่คีวามต้านทาน เครื่องใชไ้ฟฟา้น้ีจะมคีวามต้านทานกี่โอหม์

ก . 400 ข. 300 ค. 200 ง. 100

เฉลยขอ้ ก.

แนวคิด

400

=

โวลต์ R =

จากรูป เป็นกราฟระหวา่งกระแสในขดลวดปฐมภมูิ กับกระแสในขดลวดทตุิยภมูิ ของหมอ้แปลงแบบสมบูรณ์

จงตอบคำาถามขอ้ 181 - 182181. ถ้าขดลวดปฐมภมูิ 500 รอบ ขดลวดทตุิยภมูมิกีี่รอบ

ก. 50 รอบ ข. 100 รอบ ค. 500 รอบ

ง. 150 รอบ

เฉลย ขอ้ ก.

แนวคิด slope =

= N2 = 50 รอบ

182. ขณะที่ I1 = 1 แอมแปร์ ขดลวดทติุยภมูติ่อกับความต้านทาน 1 โอหม์ จงหาแรงเคล่ือนไฟฟา้ของขดลวดปฐมภมูิ

ก. 10 โวลต์ ข. 50 โวลต์ ค. 100 โวลต์ ง. 120 โวลต์

เฉลยขอ้ ค. แนวคิด

( จากกราฟเมื่อ

จะได้ ) โวลต์

183. จากรูปที่ กำาหนดให้ ถ้าความต่างศักยข์องขดลวดเป็น สดัสว่น

โดยตรงกับจำานวนรอบ แสดงขดลวดขดลวด ที่สองจะเกิดความต่างศักยเ์ท่าใด

ก. 0 โวลต์ ข. 10 โวลต์ ค. 20 โวลต์ ง. 40 โวลต์ เฉลยขอ้ ค.

แนวคิด

โวลต์

184. จากขอ้ 183 ถ้าประสทิธภิาพของหมอ้แปลงในรูปหาได้จากอัตราสว่นระหวา่งกำาลังไฟฟา้ออกมากับกำาลัง ไฟฟา้ที่ป้อนเขา้ไปในหมอ้แปลง และขดลวดขดแรกมกีระแสไฟฟา้ผ่าน 0.5 แอมแปร์ แสดงวา่หมอ้แปลงมี

ประสทิธภิาพเท่าใด * ในการใชง้านจรงิๆก. 20 % ข. 50% ค. 25 % ง. 75 %

เฉลยขอ้ ข.แนวคิด P ด้านซา้ย = P ด้านขวา ( ถ้าไมม่กีารศูนยเ์สยีพลังงานวตัต์จะเท่ากัน ) = ขดลวด + ความต้านทาน ใชง้านเพยีงครึง่เดียวทำางาน 50 %

185. หมอ้แปลงขึ้นจาก 20 โวลต์ เป็น 200 โวลต์ มปีระสทิธภิาพ 75% จงหาวา่จะมกีระแส ไฟฟา้ในขด ลวดปฐมภมูเิท่าใด เมื่อต่อปลายด้านทติุยภมูกิับปลายหลอดไฟ 200 โวลต์ 60 วตัต์

ก. 0.3 แอมแปร์ ข.0.4 แอมแปร์ ค. 3.0 แอมแปร์ ง. 4.0 แอมแปร์

เฉลยขอ้ ง.

แนวคิด %

แอมแปร์

186. จากรูป เป็นหมอ้แปลงแบบสมบูรณ์ ฟวิสท์นกระแสได้

สงูสดุ 5 แอมแปร์ จะนำาอุปกรณ์ไฟฟา้อะไรบา้งมาต่อระหวา่งปลาย

AB ได้ โดยฟวิสไ์มข่าด

1. หลอดไฟ 100 V 100 W 10 หลอดรต่อขนานกัน

2. เตารดีไฟฟา้ 100 V 1,500 W3. เตรารดีไฟฟา้ 200 V 1,500 W

ก. ขอ้1 เท่านัน้ ข. ขอ้1,3 ค. ขอ้ 2,3 ง. ขอ้ 1,2,3

เฉลยขอ้ ข. แนวคิด ฟวิสท์นได้ I = 5 แอมแปร์

เต็มที่ = IV = 5 x 200 = 1000 วตัต์

ขอ้ 1. ถกู P รวม = 100 x 10 = 1000 วตัต์

ขอ้ 2. ผิด P = 1500 วตัต์ ขอ้ 3. ถกู P ใชก้ับ 100 V, วตัต์ลดลงเป็น ของเดิม

P = = 375 วตัต์

187. จำานวนขดลวดปฐมภมูขิองหมอ้แปลงมี 550 รอบ ทติุยภมูิ 30 รอบ กระแสที่ผ่านความต้านทาน 3 โอหม์

(ดังรูป) มกีี่แอมแปร์ ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4

เฉลยขอ้ ง. แนวคิด ต่อขนานกัน, โวลต์เท่ากัน ไมบ่อก r, V = E = 12 โวลต์

โวลต์ V = IR12 = I (3) I = 4 แอมแปร์

13.26 การสง่กำาลังไฟฟา้ การสง่พลังงานไฟฟา้นัน้ต้องคำานึงความประหยดั และความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำาคัญ การสง่

พลังงานไฟฟา้เพื่อไปใชใ้นที่ไกล ๆ นิยมสง่ในลักษณะไฟฟา้กระแสสลับ A.C เพราะวา่กำาลังไฟฟา้ไมต่กมากทัง้ยงั สามารถปรบัใหแ้รงเคล่ือนไฟฟา้สงูหรอืตำ่าตามที่ต้องการได้ ถ้าใชไ้ฟฟา้กระแสตรงแล้ว เราจะปรบัใหส้งูหรอืตำ่าตาม

ต้องการได้ยาก อยา่งเชน่เขื่อนใหญ่ ๆ ที่จา่ยกระแสไฟออกมา จะต้องพยายามสง่ใหก้ระแสน้อย ๆ โดยใหค้วามต่าง

ศักยส์งู ๆ แต่เมื่อกระแสคณูกับความต่างศักยแ์ล้วยอ่มเท่ากับกำาลังไฟฟา้เป็นวตัต์ที่โรงไฟฟา้ในเขื่อนผลิตได้ ถ้าหาก เราสง่ด้วยกระแสมาก ๆ แล้วลวดตัวนำาที่ใชอ้าจจะทนรอ้นไมไ่ด้ต้องใชล้วดท่ีใหญ่ขึ้น ซึ่งทำาใหส้ิน้เปลืองมากขึ้น

ดังนัน้ จงึสง่ด้วยกระแสน้อย ๆ และความต่างศักยส์งู ๆ ดีกวา่, ความต่างศักยท์ี่สงู ๆ เราสามารถ ปรบัใหค้ำ่าลงมาได้อยา่งสะดวกสบายเมื่อต้องการใช้ โดยใชห้มอ้แปลงไฟ

การสง่กำาลังไฟฟา้ในระบบ 3 เฟส

หลักการ ใหข้ัว้แมเ่หล็กหมุนผ่านขดลวดอารเ์มเจอร์ ซึ่งลวดอารเ์มเจอรม์ี 3 ขด วธินัีน้ทำาใหเ้กิด ความสะดวกสบายใหก้ารสรา้งและซอ่ม ที่สำาคัญคือวธิน้ีีสามารถป้องกันการเกิดประกายไฟฟา้ระหวา่งปลายกับแหวนเมื่อ

ใหข้ดลวดหมุน เพราะกำาลังไฟฟา้ที่สง่มกีำาลังสงู และต้องสง่ออกด้วยแรงเคล่ือนไฟฟา้ที่สงู

ขดลวดอารเ์มเจอรม์ี 3 ขดแต่ละขดทำามุม 1200 ต่อกัน ต่อวงจรรว่มเป็นรูปเดลต้า

( สามเหล่ียม ) หรอือาจจะต่อกันเป็นรูปตัว Y ก็ได้ เมื่อสนามแมเ่หล็กหมุน 1 รอบ จะเกิดความต่างศักย์ 3 ครัง้ในชว่งหา่งกัน 1200 กระแสไฟฟา้จะออก 3 สาย ความต่างศักยร์ะหวา่งสายแต่ละคู่มค่ีาเท่ากัน

การพนัลวดทัง้ 2 แบบ ค่า

188. จากรูปน้ีแสดง.א ความต่างศักยข์องกระแสตรง

.ב ความต่างศักยข์องกระแสสลับ

.ג แสดงการไหลของกระแส

.ד แสดงความต่างศักยน์ของเฟส

.ה แสดงเรื่องกระแสสลับ

เฉลยขอ้ ง.

189. จากรูปขอ้ 188 ก. แสดงเรื่องเฟสของกระแสตรงทัง้หมด ข. แสดงไฟฟา้กระแสสลับ 1 เฟส ค. แสดงไฟฟา้กระแสสลับ 2 เฟส ง. แสดงไฟฟา้กระแสสลับ 3 เฟส

จ. แสดงการไหลของกระแสสลับและกระแสตรง เฉลยขอ้ ง.

190. จากรูปขอ้ 188 ตามหลักวชิาการทางไฟฟา้ หมายความวา่ในจำานวนสายไฟฟา้ตามกราฟ

.א มกีระแสไหลไปเสน้หน่ึง ไหลกลับเสน้หน่ึงและมสีายดินเสน้หน่ึง

.ב มกีระแสไหลไป 2 เสน้ ไหลกลับเสน้หน่ึง

.ג มกีระแสไหลเพยีงเสน้เดียว เสน้อ่ืนๆ มศัีกยเ์ป็นศูนย์

.ד สามารถจบัเป็นคู่ ๆ เพื่อจา่ยกระแสไฟฟา้ได้ทัง้ 3 คู่.ה สามารถจบัเป็นคู่ ๆ เพื่อจา่ยกระแสไฟฟา้ได้ทัง้ 2 คู่

เฉลยขอ้ ง. แนวคิด ถ้าจบัสาย Iine สองเสน้จะได้380 โวลต์191.สายไฟฟา้สายคู่ที่การไฟฟา้จา่ยเขา้บา้นเรอืนจดัอยูใ่นจำาพวก

ก. ไฟฟา้ 1 เฟส ข. ไฟฟา้ 2 เฟส ค. ไฟฟา้ 3 เฟส ง. ไฟฟา้ 4 เฟส จ. ไมม่คีำาตอบที่ถกู เฉลยขอ้ ก.

192. จงบอกขอ้ดีของการผลิตและการสง่ไฟฟา้3 เฟสเฉลย

แนวคิด 1. การผลิตไฟฟา้ 3 เฟส จะได้กระแสออกมา 3 ชุด จงึใชห้มอ้แปลงไฟฟา้ได้ 3 ชุด การแปลง ไฟฟา้จงึสะดวกขึ้น เพราะไมต้่องใชห้มอ้แปลงขนานใหญ่มากเกินไป

2. การผลิตไฟฟา้ 3 เฟส สามารถสง่ไฟฟา้ได้3 ชุด จงึไมจ่ำาเป็นต้องดับไฟฟา้ พรอ้มกัน ทัง้หมดจงึสะดวกในการใชก้ระแสไฟฟา้

3. สามารถใชก้ับมอเตอรเ์หนี่ยวนำา โดยใชไ้ฟฟา้ที่เดียวทัง้ 3 เฟส ซึ่งเป็นมอเตอรท์ี่ดี, ประสทิธภิาพสงูมาก

193. - ปกติจะกำาหนดเฟส 0 ซึ่งจุดตัดแกน

- ดังนัน้ คล่ืนต้องวิง่ไปทางซา้ย(ทางแกน-X)

เครื่องกำาเนิดไฟฟา้ 3 เฟส มแีมเ่หล็กหมุนตามเขม็ดังรูป ถ้ากราฟขา้งบนเป็นศักยไ์ฟฟา้กับเวลา ที่ขด

ลวดชุดที่ 1 ถามวา่ขดลวดชุดที่ 2 จะมกีราฟของกระแสไฟฟา้ I2 กับเวลา เป็นอยา่งไร

เฉลยขอ้ ง. แนวคิด จากภาพขา้งบนสดุ ( ขวามอื ) จะเหน็วา่ ถ้าคล่ืนไปทางซา้ย ต้องวิง่จากเฟส

240 ไปอีก 120 จะ ได้ภาพเฟส 0 อีกครัง้หน่ึง

( จงึตอบรูป ง. มใีนแบบเรยีน ) จากภาพบนสดุ ( ซา้ยมอื ) จะเหน็วา่

ขดลวดที่ ( 2 ) จะเกิดไฟฟา้หลังขด ( 1 ) , 120

194. ถ้าหมุนแท่งแมเ่หล็กของเครื่องกำาเนิดไฟฟา้ 3 เฟส ครบ1 รอบ จะมกีระแสไฟฟา้ออกจากขดลวด ทัง้ สามชุด ซึ่งวสามารถเขยีนกราฟระหวา่งความต่างศักยก์ับเวลาของขดลวดแต่ละชุดได้ดังรูปใด

คำาตอบขอ้ที่ถกู คือ

ก. ขอ้1 , 2 ข. ขอ้3 เท่านัน้ ค. ขอ้ 3 เท่านัน้ ง. ขอ้4 เท่านัน้

เฉลยขอ้ ก.

13.27 การต่อไดโอดในวงจร

ไฟฟา้AC DC ครึง่คล่ืน

ไฟฟา้AC DC เต็มคล่ืน

ไฟฟา้ AC DC เต็มคล่ืน , และใช้ condenser ปรบัใหค้ล่ืนเรยีบลง เรยีกกวา่ วงจรกรองกระแส

หลักการจำา บรดิจไ์ดโอด ( 4 ตัว) 1. Diode ทกุตัว มลีกูศร เซไปทางเดียวกันเชน่รูป 2. รูป 3. ลกูศร เซไป

ทางขวาทกุตัว

2. ปลายลกุศรกระแสออกไปเขา้เครื่องใชไ้ฟฟา้ เชน่ เทป ( ก้นลกูศร ไฟฟา้ จากเทป วิง่มา

เขา้จุดนี้)3. ตอนกลางต่อกับกระแสไฟฟา้สลับ

195. จากรูป กราฟแสดงความสมัพนัธร์ะหวา่ง VCD กับเวลาเป็นดังขอ้ใด

เฉลยขอ้ ก. แนวคิด ไฟฟา้กระแสสลับ AC และมี diode 1 ตัว จะตัดไฟฟา้ครึง่หน่ึง ( เพราะกระแสไปได้ กลับไม่

ได้)

196. กระแสสลับต่อเขา้กับจุด A และ B ถ้าต้องการใหไ้ด้ไฟกระแสตรงไหลเครื่องใช้ R วงจรใดถกู

ก. 1 และ 2 ข. 3 และ 4 ค. 2 และ 4 ง. 1 และ 4

เฉลยขอ้ ค . แนวคิด หลักของ Bridge Diode

(1) ลกูศรทัง้สีข่อง Diode เบนไปทางเดียวกัน (2) ปลายลกูศร กระแสออก ไปสูค่วามต้านทานที่จะใช้

(3)กระแสจากความต้านทานอีกด้านหน่ึงไปสูก่้นลกูศร (4) ตอนกลางต่อกับกระแสไฟฟา้ A.C.

197. วงจรเปล่ียนกระแสไฟฟา้สลับเป็นกระแสไฟฟา้ตรงแบบเต็มคล่ืนคือวงจร

เฉลยขอ้ ค.

198.วงจรใดเป็นวงจรกรองกระแส

เฉลยขอ้ ง. แนวคิด วงจรกรองกระแสจะมี condenser ด้วย

199. กระแสสลับผ่านเขา้ทาง P และ Q เป็นกระแสตรงเต็มคล่ืนออกทาง X และ Y รูปใดถกูต้อง

เฉลยขอ้ ค.

200. เมื่อป้อนสญัญาณความต่างศักย์ V1 ที่ขึ้นกับเวลา t ในลักษณะดังรูป(t) ครอ่มระหวา่งจุด A กับจุด B ของวงจรในรูป (2) อยากทราบวา่ลักษณะของสญัญาณความต่างศักย์ V2 ที่ครอ่มไดโอดในอุดมคติระหวา่งจุด A เทียบกับจุด C ที่เวลาใดๆ ควรมรีูปรา่งอยา่งไร

201. ถ้าสญัญาณเขา้ของวงจรแปลงกระแสไฟฟา้ เป็นดังรูป สญัญาณออกเป็นขอ้ใด

เฉลยขอ้ ก. เหตผุล ไดโอด 4 ตัว จะทำาใหเ้กิดไฟฟา้ กระแสตรงเต็มคล่ืน จงึปรบักราฟใต้แกนขึ้นเหนือแกนทัง้หมด

โจทยฝึ์กประสบการณ์ บทที่ 131. ขอ้ใดแสดงเสน้แรงแมเ่หล็กที่ถกู

2. จงพจิารณาเลือกดวูา่สนามแมเ่หล็กรูปใดที่ถกูต้อง, x คือบรเิวณที่เป็นจุดสะเทิน เมื่อเปรยีบเทียบกับสนามแมเ่หล็กโลก

3.ไมม่ี

4. ลวดยาวมากมปีระจุลบกระจายสมำ่าเสมอตลอดเสน้ถกูดึงไปทาง ซา้ยด้วยความเรง่ ขอ้ใดถกูต้อง

ก. เกิดกระแสไฟฟา้เหน่ียวนำาขึ้นไปในวงแหวน มทีิศทวนเขม็ นาฬิกา ข. เกิดกระแสไฟฟา้เหน่ียวนำาขึ้นในวงแหวน มทีิศตามเขม็ นาฬิกา ค. เกิดกระแสเหน่ียวนำาขึ้นเพยีงชัว่คราว มทีิศตามเขม็นาฬิกา

ง. ไมเ่กิดกระแสไฟฟา้เหน่ียวนำาบนวงแหวนเลย จ. ไมม่ขีอ้ถกู

5. ฟลักซแ์มเ่หล็ก คือ

ก.จำานวนเสน้แรงแมเ่หล็กต่อหน่วยพื้นที่ท่ีเสน้แมเ่หล็กตัง้ได้ฉาก.ב แนวของแรงลัพธท์ี่แท่งแมเ่หล็กกระทำาต่อเขม็ทิศ

.ג บรเิวณใกล้กับขัว้แมเ่หล็ก

.ד บรเิวณเสน้แรงแมเ่หล็ก

6. เสน้แรงแมเ่หล็กแต่ละเสน้แสดงอะไร ก. ความยาวของแท่งแมเ่หล็ก ข.ขนาดของแรงที่กระทำาต่อเขม็ทิศเล็กๆ ค. ทิศของแรงที่กระทำาต่อขัว้เหนือของเขม็ทิศ ง.ขนาดของสนามแมเ่หล็ก จ.ทิศของแรงบนตัวนำาที่มกีระแสไฟฟา้

7. เมื่อเคล่ือนแมเ่หล็กNS เขา้หาขดลวดอยา่งลวดเรว็ จะเกิดผลดังน้ี

1.สนามแมเ่หล็กในขด ลวดAB จะมทีิศพุง่จากA มาB

2.ความเขม้สนามแม่ เหล็กเปล่ียนแปลงทกุ ๆ ขณะ

3. กระแสจะไหลจาก

D มาA ( เมื่อดทูี่ G ) 4. งานในการผลักให้

แท่งแมเ่หล็กเขา้มากลายเป็นงานของ งานของกระแส ในวงจร คำาตอบคือ

ก. 1, 2, 3 และ4 ข. 1 และ3 ค. 2 และ4 ง. 1, 2 และ4 จ. 1, 3 และ4

8. กัลวานอมเิตอร์ ซึ่งต่อไวก้ับขดลวด ( ดังรูป ) เขม็จะเบนไปเมื่อใดบา้ง

1. เมื่อพุง่ขัว้เหนือของแท่งแมเ่หล็กเขา้หาขดลวด2. เมื่อพุง่ขัว้ใต้เขา้หาขดลวด3. เมื่อแท่งแมเ่หล็กอยูก่ลางขดลวด4. เมื่อแกวง่แมเ่หล็กเหนือขดลวด

คำาตอบที่ถกูคือ

ก. 1 เท่านัน้ ข. 1, 2 และ4 ค. 1 และ2 ง. 2 และ3 จ. 1, 2, 3 และ4

9. ลวดตัวนำา 2 เสน้วางหา่งกันเล็กน้อยแล้วปล่อยกระแสไฟฟา้เขา้ไปในขดลวดทัง้สองเสน้ ครัง้แรกให้ กระแสไหลตามกัน ครัง้หลังใหก้ระแสไหลสวนทางกัน ขอ้ความต่อไปน้ีขอ้ใดถกูต้อง

.א เกิดแรงดดูและแรงผลักขึ้นกับลวดทัง้สองตามลำาดับ

.ב เกิดแรงผลักและแรงดดูขึ้นกับลวดทัง้สองตามลำาดับ

.ג ไมเ่กิดแรงดดูหรอืแรงผลักใดๆ ทัง้สิน้

.ד ไมแ่น่นอนอาจเกิดแรงดดูหรอืผลักก็ได้ทัง้น้ีขึ้นอยูก่ัทิศของสนามแมเ่หล็กเป็นสำาคัญ

.ה ลวดทัง้สองเสน้จะแกวง่ไปแกวง่มาพรอ้ม ๆ กัน

10. เมื่อผ่านกระแสไฟฟา้เขา้ไปในขดลวดโซลินอยด์ จงพจิารณาขอ้ความต่อไปน้ี

( 1 ) ขดลวดโซลินอยด์จะประพฤติเสมอืนเป็นแมเ่หล็กแท่งหนึ่ง โดยมคีวามเขม้สนามแมเ่หล็กภายใน ขดลวดถือวา่สมำ่าเสมอ( 2 ) สนามแมเ่หล็กภายในโซลินอยด์มลัีกษณะเหมอืนสนามแมเ่หล็กแท่งตรง สว่นภายในโซลินอยด์ มเีสน้แรงแมข่นานกับแกนโซลินอยด์( 3 ) เมื่อเราเอาแท่งแมเ่หล็กใสเ่ขา้ไปสกัครูแ่ล้วดึงออก แท่งแมเ่หล็กนัน้จะกลายเป็นแท่งแมเ่หล็กชัว่ คราว( 4 ) ถ้าเราใชม้อืซา้ยกำารอบขดลวดโซลินอยด์ ใหนิ้้วทัง้สีท่ี่ไมใ่ชนิ่้วหวัแมม่อืวนไปทางทิศที่กระแสไหล แล้วน้ิวหวัแมม่อืจะชีไ้ปทางปลายที่แสดงอำานาจแมเ่หล็กเป็นขัว้ใต้( 5 ) ขดลวดโซลินอยด์จะมแีรงผลักเล็กน้อยระหวา่งลวดแต่ละเสน้คำาตอบที่ถกูต้องคือ

ก. ขอ้1, 2, 3 ข. ขอ้ 1, 2, 3, 4ค. ขอ้1, 2, 4 ง. ขอ้ 1, 2, 4, 5

จ.คำาตอบเป็นแบบอ่ืน

11. เมื่อผ่านกระแสไฟฟา้เขา้ไปในขดลวดโซลินอยด์ จงพจิารณาขอ้ความต่อไปน้ี

1) ขดลวดโซลินอยด์จะประพฤติเสมอืนเป็นแมเ่หล็กแท่งหนึ่ง โดยมคีวามเขม้สนามแมเ่หล็กภายในขดลวดถือวา่สมำ่าเสมอ

2) สนามแมเ่หล็กภายในโซลินอยด์มลัีกษณะเหมอืนสนามของแมเ่หล็กแท่งตรง สว่นภายในโซลินอยด์มเีสน้แรงแมเ่หล็กขนานกับแกนโซลินอยด์

3) เมื่อเราเอาแท่งเหล็กใสเ่ขา้ไปสกัครูแ่ล้วดึงออก แท่งเหล็กนัน้จะกลายเป็นแมเ่หล็กชัว่คราว

4) ถ้าเราใชม้อืซา้ยกำารอบขดลวดโซลินอยด์ ใหนิ้้วทัง้สีท่ี่ไมใ่ชนิ้้วหวัแมม่อืวนไปทางทิศที่กระแสไหลแล้วน้ิวหวัแมม่อืจะชีไ้ปทางปลายที่แสดงอำานาจแมเ่หล็กเป็นขัว้ได้

5)ขดลวดโซลินอยด์จะมแีรงผลักกันเล็กน้อยระหวา่งลวดแต่ละเสน้ คำาตอบที่ถกูต้อง คือ

ก. ขอ้1, 2, 3 ข. ขอ้1, 2, 3, 4ค. ขอ้1,2, 3, 5 ง. ขอ้1, 2, 4, 5

12. จากการทดลองให้ อนุภาค 6 ชนิด เคล่ือนที่ผ่าน

เครื่องวดัความเรว็ก่อนเขา้สูส่นามแมเ่หล็กได้ผล-

การทดลองดังรูป จงพจิารณาต่อไปน้ี

1. ขนานของประจุต่อมวลจากน้อยไปมาก 3 ; 4 ; 1 ; 2 ;6 ; 5 2. อนุภาคที่มปีระจุไฟฟา้บวก คือ4;5;6 3. เมื่อเพิม่ขนาดแมเ่หล็ก ระยะที่วิง่ในสนามแมเ่หล็กจะสัน้ลงโดยอัตราเรว็คงเดิม

ก.1, 2, 3 ถกู ข. 1, 2 เท่านัน้ถกู ค. 1, 3 เท่านัน้ถกู ง. 2, 3 เท่านัน้ถกู

13. สมมติวา่มอิีเลคตรอนเคล่ือนที่ไปในหลอดสญูญากาศในทิศตัง้ฉากกับสนามแมเ่หล็ก ขอ้ความต่อไปน้ี ขอ้ใดผิด1) อิเล็กตรอนจะมกีารเคล่ือนท่ีเป็นวงกลม2)ความเรว็เชงิเสน้ของการเคล่ือนที่ก่อนและหลังการเคล่ือนที่เป็นวงกลมจะไมม่กีารเปล่ียนแปลง3)แรงกระทำาต่ออิเล็กตรอนจะมทีิศเขา้สูศู่นยก์ลาง4) เราสามารถใชก้ฎมอืขวาของเฟลมมงิหาทิศทางการเคล่ือนที่ได้5)V = Ber/mขอ้ความที่ผิดความจรงิคือ

ก. ขอ้1, 2, 3 ข. ขอ้2, 3, 4

ค. ขอ้3, 4, 5 ง. ขอ้4 และ5 เท่านัน้จ. ขอ้2 และ4 เท่านัน้

15.

จากรูป เมื่อผ่านกระแสจำานวนน้อยเขา้ไปในขดลวดโซลินอยด์ X แล้วเพิม่กระแสขึ้นอยา่งสมำ่าเสมอโดย เปล่ียนขา้ความต้านทาน R ได้ กระแสสงูสดุค่าหน่ึง แล้วยกสวทิซอ์อก กัลวานอมเิตอร์ G จะอ่านค่าได้สงูสดุเมื่อใด

ก. เมื่อเริม่ต้นผ่านกระแสจำานวนน้อย ๆ เขา้ไป ข. ลดความเขม้ของสนามไฟฟา้ ค. เมื่อกระแสมคี่าสงูสดุ ง. เมื่อยกสวทิซ์S ออก

16. เมื่อเคล่ือนลวดตัวนำาด้วยความเรว็ V ตัดเสน้แรงแมเ่หล็กในสนามแมเ่หล็ก B ใน ทิศตัง้ฉากกับสนามแม่ เหล็กทิศของกระแสเหน่ียวนำาในลวดรูปใดถกูต้อง

17. แท่งแมเ่หล็กไฟฟา้มกัใชก้ระแสตรง ถ้าใชก้ระแสสลับแล้วจะ

ก. ไมแ่สดงอำานาจแมเ่หล็ก ข. จะดดูเหล็กได้อยา่งเดียว ค. จะผลักเหล็กได้อยา่งเดียว ง. จะดดูขัว้เหนือของเขม็ทิศตลอดเวลา

18. เหล็กอ่อนรูปเกือกมา้ มสีายไฟฟา้พนัไวดั้งในรูป เมื่อสบัสวทิซ์ S ลงใหก้ระแสไฟฟา้ผ่าน จะเกิดขัว้แมเ่หล็กอยา่งไร

.א A เป็นขัว้ใต้B เป็นขัว้เหนือ.ב ทัง้A และB เป็นขัว้เหนือ

.ג ทัง้A และB เป็นขัว้ใต้.ד A เป็นขัว้เหนือB เป็นขัว้ใต้.ה ทัง้A และB ไมเ่ป็นแมเ่หล็ก เพราะพนัลวดกลับ

กัน

19. อนุภาคm และประจุ+q ถกูเรง่ใหเ้คล่ือนที่จากหยุดนิ่งในแนวราบด้วยสนามไฟฟา้สมำ่า

เสมอE เป็นระยะทาง แล้วผ่านเขา้บรเิวณที่

มสีนามแมเ่หล็กสมำ่าเสมอB ในทิศตัง้ฉากกับทิศของสนามอนุภาคจะไปตกที่ระยะหา่ง

จากจุดที่เขา้ไปในสนามแมเ่หล็กเป็นระยะ d ดังรูป จงหามวลของอนุภาคน้ี

( ไมต้่องคิดแรงโน้มถ่วงของโลก ) ก. ข. ค.

ง.

20. จากรูป ประจุบวกเคล่ือนท่ีเขาไปในสนามแมเ่หล็กโดยทำามุม กับสนามแมเ่หล็กลักษณะการของประจุบวกน้ีจะเป็นอยา่งไร

.א เคล่ือนท่ีเป็นวงกลมที่มรีศัมคีงที่

.ב เคล่ือนท่ีเป็นวงกลมในขณะเดียวกันก็เคล่ือนท่ีไปทางขวาด้วยความเรว็คงที่

.ג เคล่ือนท่ีเป็นวงกลมในขณะเดียวกันก็เคล่ือนท่ีไปทางขวาด้วยความเรว็คงที่

ง. เคล่ือนท่ีเป็นวงกลมที่รศัมโีตขึ้นเรื่อย ๆ

21. ตะปูเหล็ก2 ตัว ตอกติดกับปลายของแมเ่หล็กอันเดียวกันซึ่งแท่งแมเ่หล็กน้ีมคีวามแรงมาก จงพจิารณาวา่เมื่อปลายอีกด้านของตะปูเคล่ือนที่ได้โดยอิสระมนัจะอยูดั่งรูปใด

22.การหาทิศของแรงที่กระทำาบนลวดตัวนำาที่มกีระแสไฟฟา้ผ่านในทิศทางที่ตัง้ฉากกับสนามแมเ่หล็กรูปใดผิด

23. ตามรูป มขีดลวดโซลินอยด์พนัรอบแท่งแมเ่หล็กอ่อน

ตำาแหน่ง A เป็นจุดกึ่งกลางระหวา่งปลายโซลินอยด์ ทัง้สอง ถ้าเอาเขม็ทิศ

ไปวางที่ตำาแหน่ง A เขม็ทิศจะเบน อยา่งไร.א ไมเ่บนจากแนวเดิม

.ב เบนไปทางขวามอื

.ג เบนไปทางซา้ยมอื

.ד เบนไปทางทิศตรงกันขา้ม

24. สญัลักษ์X แทนตำาแหน่งท่ีเป็นจุดสะเทิน จงพจิารณาวา่รูปในขอ้ใดที่แสดงตำาแหน่งของจุดสะเทินได้ถกูต้อง

(ไมต้่องคำานึงถึงสนามแมเ่หล็กโลก).א II เท่านัน้ ข. II และ IIIค. I และ II ง. ทัง้ I , II , IIIจ. I และ III

25. เมื่อมขีดลวดของไดนาโม (ขดลวดอเมเจอร)์ หมุนอยูร่ะหวา่งสนามแมเ่หล็ก ตำาแหน่งของขดลวดในขอ้ใดที่จะทำาใหเ้กิดแรงเคล่ือนที่ไฟฟา้มากที่สดุ

26. แท่งตัวนำา AB แตะกับรางโลหะCA และ DB ดังรูป

เครื่องมอือยูใ่นสนามแมเ่หล็กขนาด 0.5 เทสลา ถ้า

ตัวนำาAB เคล่ือนไปทางซา้ยด้วยความเรว็ 2 เมตร/ วนิาที แรงเคล่ือนไฟฟา้ที่เกิดในตัวนำาAB มคี่า

ก. 1 โวลต์ ข. 2 โวลต์ ค. 3 โวลต์ ง. 4 โวลต์

จ. 5 โวลต์

27. อิเล็กตรอนตัวหนึ่ง วิง่เขา้สูส่นามแมเ่หล็กด้วยความเรว็ 106 เมตร/ วนิาที ซึ่งวดัรศัมคีวามโค้งได้0.1 เมตร

จงคำานวณหาความเขม้สนามแมเ่หล็ก จงหาอัตราเรว็ที่อิเล็กตรอนใชใ้นการโคจร

ก. 5.58 x 10-5 เทสลา , 105 เรเดียน/ วนิาที ข. 5.68 x10-5 เทสลา, 106 เรเดียน/วนิาที ค. 5.68x10-5 เทสลา , 107 เรเดียน/ วนิาที ง. 5.58x10-5 เทสลา , 102 เรเดียน/วนิาที

28. ขดลวดรูปสีเ่หล่ียมผืนผ้ามี 8 รอบ พื้นที่หน้าตัด 60 ตารางเซนติเมตร หมุนในสนามแมเ่หล็กซึ่งมค่ีา 2 x 10-4 เทสลาในลักษณะดังรูป ด้วยความเรว็เชงิมุม เรเดียน / วนิาที จงหาวา่ เมื่อระนาบขดลวดอยูใ่นแนวขนาน

กับสนามแมเ่หล็กต่อมาหมุนไปจากเดิม 1/ 4 วนิาที โมเมนต์คู่ควบที่เกิดในขณะน้ีเป็นเท่าใด ถ้ากระแสท่ีผ่านเป็น 6 แอมแปร์

.א 4.1 10-4 นิวตัน - เมตร.ב 4.1 x 10-5 นิวตัน - เมตร.ג 6.2 x 10-4 นิวตัน - เมตร.ד 6.2 x 10-5 นิวตัน -เมตร

29. ประจุไฟฟา้ลบ 2.0 x 10-16 คลูอมบ์ มมีวล8.0 x 10-25 กิโลกรมั เคล่ือนที่ตัง้ฉากกับแมเ่หล็ก

ด้วยความเรว็105 เมตร/ วนิาที จากจุด P มาถึงQ เป็นโค้งครึง่วงกลมประจุใชเ้วลาเคล่ือนที่จาก P มาQ ใช้เวลากี่วนิาที ก. 1.57 x10-6 ข. 1.57 x10-4

ค. 2.14 x10-4 ง. 2.14 x10-5

จ. 3.14 x10-3

30. ท่อโลหะมวล 1 ก. ก. ยาว1.0 เมตร วางอยูบ่นพื้นเอียงทำามุม 300 กับแนวระดับมสีนามแมเ่หล็กพุง่ ขึ้นในแนวดิ่ง 2 เทสลา ส. ป. ส. ความเสยีดทานระหวา่งโลหะกับพื้นเอียง = 0.3 จงหาวา่กระแสไฟฟา้และ

ทิศทางที่ทำาใหแ้ท่งโลหะเริม่เคล่ือนที่ขึ้น

.א 5.3 แอมแปร์ จาก A ไปB.ב 5.3 แอมแปร์ จาก B ไปA.ג 3.5 แอมแปร์ จาก A ไปB.ד 3.5 แอมแปร์ จาก B ไปA

31. อิเล็กตรอนมอัีตราเรว็ V0 = 6.0 x 106 เมตร/ วนิาที ถกูยงิเป็นมุม = 450 ในสนามไฟฟา้

E = 2.0 x103 นิวตัน/คลูอมบต์ามรูปผลที่เกิดขึ้นคือ.א อิเล็กตรอนชนแผ่นบน

.ב อิเล็กตรอนชนแผ่นล่าง

.ג อิเล็กตรอนไมซ่นทัง้สองแผ่น ง. อิเล็กตรอนวิง่เป็นเสน้ตรง

จ. ถกูทัง้ ก. และ ง.

32. กำาหนดใหฟ้วิสจ์ะขาดทันทีถ้ากระแสไฟฟา้ไหลผ่านมคี่าสงูกวา่ 3 แอมแปร์ อยากทราบวา่จำานวนรอบสงูสดุของ

ขดลวดทติุยภมูมจิะเป็นเท่าใด ถ้านำาเอาเตาไฟฟา้ซึ่งมคีวามต้านทาน 41.25 โอหม์ มาต่อเขา้ระหวา่งปลาย A และB โดยที่ฟวิสย์งัไมข่าดและทำาใหเ้ตาไฟฟา้รอ้นที่สดุ ก. 625 รอบ ข. 731 รอบ ค. 825 รอบ ง. 936 รอบ

33. ในการทดลองเกี่ยวกับเครื่องชัง่กระแส ( Current Balance ) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ทำาใหส้ามารถ

วดัแรงระหวา่งเสน้ลวดที่มกีระแสไฟฟา้ เมื่อใชก้ระแส I ผ่านทัง้ลวดที่หอ้ยแขวนและลวดที่ขดเป็นสีเ่หล่ียมหลายรอบ

โดยการต่อแบบบอนุกรมจดัใหค้วามยวาของลวดที่ขนานกันควงที่และหา่งกันเป็นระยะ d แรงระหวา่งเสน้ลวดขนานจากผลการทดลองควรจะเป็นปฏิภาคกับสิง่ใด

ก. I / d2 ข. I /d ค. I2 /d ง. I2

/ d

34.แผ่นโลหะโค้งขนานกันดังรูปมศูีนยก์ลางรวมกันที่จุด o มสีนามไฟฟา้E ระหวา่งแผ่นท่ีจุดหา่งจากจุดศูนยก์ลาง เท่ากับR และมชีีเ้ขา้หากันกับ o อยากทราบวา่อุภาคที่มปีระจุบวก q ต้องวิง่ด้วยพลังจลน์เท่าไร จงึจะผ่าน S1 และ

S2 ได้พอดีตามแนวประ

ก. 2qER ข. ค. qER ง. Q2E2R

35. ตามรูป ลวด 2 ยาว60 ซม. แขวนด้วยลวดสปรงิยดืหยุน่ในสนามแมเ่หล็กไฟฟา้ จาก ถ้ากระแสไฟฟา้

I1= 10 แอมแปร์ กระแสไฟฟา้สวนทางกัน, ลวดหา่งกัน 0.02 เมตร จงหาววา่ลวด 2 ต้องหนักเท่าใด จงึจะหาพอดีทำาใหค้วามตึงในสปรงิยดืหยุน่หมดไปพอดี

.א 1.2 x 10-4 นิวตัน

.ב 1.3 x 10-4 นิวตัน

.ג 1.4 x 10-4 นิวตัน

.ד 1.5 x 10-4 นิวตัน

36. ตัวนำารูปทรงกระบอกอันหน่ึงมคีวามสงูเท่ากับ h วางอยูใ่นสนามแมเ่หล็กซึ่งมคีวามเขม้ท่ากับ และสนาม น้ีชีส้นาม กับแกนของทรงกระบอก ที่ผิวของทรงกระบอกนี้มกีระแสไฟฟา้สมำ่าเสมอ ไหลวนรอบแกนของทรงกระบอกดัง

รูป จงหาค่าของความดันที่ผิวทรงกระบอกอันเน่ืองมาจากกระแสนี้ในสนามแมเ่หล็ก

ก. ข. ค. ง. 37. ขดปฐมภมูแิละขดทตุิยภมูขิองหมอ้แปลงมลีวดพนัไว้ 500 รอบ และ 2500 รอบ ถ้าขดปฐมภมูต่ิอกับไฟ

110 โวลต์ ความต่างศักยท์ี่ปลายสองขา้งของขดทติุยภมูจิะเป็นเท่าใด และถ้าขดทตุิยภมูต่ิอกับไฟ 110 โวลต์ ปลายสองขา้ง ของขดปฐมภมูิ จะมคีวามต่างศักดากี่โวลต์

ก. 20 โวลต์ ข. 21 โวลต์ ค. 22 โวลต์ ง. 23 โวลต์

38. พจิารณาวงจรหมอ้แปลงไฟฟา้ที่จุดไสห้ลอดรงัสเีอกซ์

กระแสไฟฟา้ที่ไหลผ่านไสห้ลอดรงัสเีอกซม์ค่ีาเท่าใด ก. 0.44 แอมแปร์ ข. 1.44 แอมแปร์ ค. 0.46 แอมแปร์ ง. 0.49 แอมแปร์

39. ขดลวดรูปสีเ่หล่ียมผืนผ้าซึ่งมจีำานวนรอบ 10 รอบ และมพีื้นที่ 100 ตารางเซนติเมตร ถกูหมุนในสนาม

แมเ่หล็กซึ่งมค่ีา 10-3 เทสลา โดยแกนหมุนอยูใ่นแนวตัง้ฉากกับสนามและอัตราเรว็เชงิมุม 2 เรเดียน/ วนิาที จง

หาวา่ที่เวลา วนิาที หลังจากที่ระนาบขดลวดอยูใ่นแนวขนานกับสนามจะมโีมเมนต์ที่เกิดจากแรงของสนามแมเ่หล็ก

กระทำา ต่อขดลวดมคี่าเท่าใด ถ้ากระแสที่ไหลผ่านมค่ีา 1 แอมแปร์ ก. 4 x 10-5 นิวตัน - เมตร ข. 5 x 10-5 นิวตัน - เมตร ค. 6 x 10-6 นิวตัน - เมตร ง. 2 x 10-6 นิวตัน - เมตร

40. ลวดอลมูเินียม A3 วางอยูบ่นปลายตัวนำาซึ่งต่อเป็นวงจรแบตเตอรี่ 2 โวลต์ และความต้านทาน 3 โอหม์ ดังรูป ถ้า AB อยูใ่นสนามแมเ่หล็กมทีิศตัง้ฉากกับมมีวลค่า0.24 เทสลา สนามแมเ่หล็กจะทำาใหเ้กิดแรง

กระทำาต่อลวดกี่นิวตัน ก. 5 x 10-3 ข. 8 x 10-3 ค. 8 x 10-2 ง. 3.6 x10-2

จ. 3.6

41. หมอ้แปลงลงจากความต่างศักย์ 220 โวลต์ เป็น 12 โวลต์ ถ้าหมอ้แปลงน้ีมปีระสทิธภิาพ 90% กระแสในขดลวดปฐมภมูมิค่ีาเท่าใดเมื่อขดลวดทตุิยภมูติ่อกับหลอด 12V 33W สองหลอดซึ่งต่อขนานกัน

ก. 0 A . ข. . ค. A. ง. A .

42. ลวดAB ยาว50 ซม. มวล10 กรมั แขวนหอ้ยไวด้้วยลวดสปรงิที่ปลายแท่งโลหะ C และD ใน สนามแมท่ี่มค่ีา0.04 เทสลา แท่งโลหะC และ D ต่อเป็นวงจรกับรโีอสตัทR และแบตเตอรี่6 โวลต์ ดังรูป

เมื่อจดัค่าR เป็น 10 โอหม์ ปรากฏวา่แรงดึงในลวดสปรงิที่ยดืลวด AB เป็นศูนย์ จงหาความต้านทานภายในของแบตเตอรี่

ก. 0.15 โอหม์ ข. 0.25 โอหม์ ค. 2.0 โอหม์ ง. 2.1 โอหม์

43. อิเล็กตรอน1 อนุภาควิง่เป็นวงกลมรศัมี1.2 ซม. ตัง้ฉากกับสนามแมเ่หล็กด้วยอัตราเรว็ 106 เมตร / วนิาที ภายในวงโคจรของอิเล็กตรอนจะมฟีลักซแ์มเ่หล็กเท่าใดในหน่วยวเีบอร์

ก. 1.26 ข. 2.07 ค. 1.84 ง. 2.14

44. ขดลวดตัวนำารูป จตัรุสั ยาวด้านละ2.0 ซม. มจีำานวนรอบทัง้หมด 300 รอบ มกีระแสไฟฟา้ไหล

ผ่าน 10 มลิิแอมแปร์ ขดลวดนี้อยูใ่นสนามแมภ่ายนอกมค่าคงที่ 5 x 10-2 เทสลา ระนาบของขดลวดทำามุมกับ ทิศของสนามแมเ่หล็กภายนอก ในขณะที่ขดลวดน้ีหมุนอยูใ่นสนามแมเ่หล็ก จงหาขนาดของโมเมนต์ของแรงคู่ควบ

สงูสดุที่เกิดขึ้น

ก. 4 x 10-5 นิวตัน - เมตร ข.10-5 นิวตัน - เมตร ค. 6 x10-5 นิวตัน - เมตร ง. 7 x 10-5 นิวตัน - เมตร

45. ลวดมวลm ลอยน่ิงได้ จงหาค่าความต้านทานรวมในวงจร ก. ข. ค. ง.

46. อิเล็กตรอนที่มคีวามเรว็ 107 เมตร / วนิาที ในทิศตัง้ฉากกับสนามแมเ่หล็กขนาด 10-4 เทสลา จะมแีรง กระทำาเท่าใดใน หน่วยนิวตัน ถ้าสนามแมเ่หล็กนัน้สมำ่าเสมออิเลคตรอนจะวิง่โค้งด้วยรศัมคีวามโค้งเท่าใด

ก. 0.56 เมตร ข. 0.57 เมตร ค. 1.00 เมตร ง. 1.56 เมตร

47. จากรูปขดลวดสีเ่หล่ียมจตัรุสัมขีนาด 20 x 20 ตารางเซนติเมตร สนามแมเ่หล็กขนาด 0.025 เว เบอร ์ / ตารางเมตร อยูใ่นแนวเดียวกับแกน x และมทีิศ OX ระนาบของขดลวดวางตัง้อยูใ่นสนามแมเ่หล็กดัง

รูป ฟลักซแ์มเ่หล็กที่ผ่านขดลวดมคี่าเท่าใดในหน่วยเวเบอรก์ำาหนดให ้ sin 55o = 0.819 , cos 55o = 0.574

ก. 5.7 x 10-4 เวเบอร์ ข. 5.7 x10-5 เวเบอร์

ค. 5.9 x 10-4 เวเบอร์ ง. 5.9 x 10-5 เวเบอร์

48. ลวดเสน้หนึ่งถกูขดไวด้ังรูปและมกีระแส I ไหลผ่าน เมื่อวางลวดเสน้นี้ในสนามแมเ่หล็กเหน่ียวนำาB ที่สมำ่าเสมอ( ที่เหน็เป็นจุดคือ มทีิศพุง่ออกและตัง้ฉากกับระนาบของกระดาษ ) แรงแมเ่หล็กที่กระทำาต่อโครงลวดนี้มีค่าเท่าใด

ก. 1.2 ข. 2.2 ค. 3.2 ง. 4.2

49. อิเล็กตรอนถกูเรง่ด้วยความต่างศักย์ V โวลต์ ใหเ้คล่ือนที่เขา้ไปในสนามแมเ่หล็ก B เทสลา แล้วเคล่ือนที่

เป็นวงกลม รศัมี R เมตร จงหาค่า ของอิเล็กตรอน

ก. ข. ค. ง.

50. แอโนคของหลอดวทิยุมศัีกดาเป็นบวก 320 โวลต์ เทียบกับแคโทด อิเลคตรอนที่หลดุออกจากแคโทดจะวิง่

ถึงแอโนดคายพลังงานจลน์เท่าใดในหน่วยจูล ความเรว็ของอิเล็กตรอนที่ถึงแอโนดนัน้เป็นเท่าใดในหน่วย เมตร / วนิาที.א 5.1 x 10-17 จูล, 1.0 x 106 เมตร / วนิาที , ข. 5.1 x 10-17 จูล,

1.1 x 107 เมตร / วนิาที ค. 5.1 x 10-16 จูล , 1.0 x 106 เมตร / วนิาที, ง. 5.1 x 10-16

จูล, 1.1 x 107 เมตร / วนิาที

เฉลยโจทยฝึ์กประสบการณ์ บทที่ 13 1. ค 2. ก 3. ข 4. ข 5. ง 6. ค 7. ก 8. ข 9. ก

10. ข. 11. ข 12. ค 13. จ 14. ง 15. ง. 16. ก 17. ข 18. ง 19. ค 20. ข

21. ค 22. จ 23. ก 24. ข 25. ก 26. ก 27. ค 28. ข 29. ก 30. ข 31. ก 32. ค 33.

ง 34. ข 35. ก 36. ค

37. ค 38. ก 39. ข 40. ข 41. ข 42. ค 43. ง 44. ค 45.ค 46. ข 47. ก 48. ค 49. ง 50. ข.

Recommended