28
รรรรรรรรรรรรรร Research Design รร.(รรรรร)ร.ร.รรรร รรรร รร ร.ร. M.P.H.

9 รูปแบบการวิจัย

Embed Size (px)

Citation preview

Page 1: 9 รูปแบบการวิจัย

รู�ปแบบการูวิจั�ย Research Design

ผศ.(พิเศษ)น.พิ.นภดล สุ�ชาติพิ.บ . M.P.H.

Page 2: 9 รูปแบบการวิจัย

การูวิจั�ย เป�นการูค้�นค้วิ�า อย�างเป�นรูะบบ มี#เหติ�มี#ผล เพิ%&อ

ผลติค้วิามีรู� �ใหมี� ซึ่)&งค้วิามีรู� �ใหมี� อาจัเป�นค้วิามีรู� � ใหมี� เชงทฤษฏี# หรู%อการูปรูะย�กติ-ปฏีบ�ติก.ได� แติ�

ติ�องอย��บนรูากฐาน ของค้วิามีถู�กติ�อง โดยติ�อง พิยายามี หล#กเล#&ยง ค้วิามีแปรูปรูวิน และอค้ติ

ติ�าง ๆ ท#&อาจัจัะเกดข)5น โดยใช�รู�ปแบบการูวิจั�ย วิธี#การูวิจั�ย และสุถูติท#&เหมีาะสุมี

Page 3: 9 รูปแบบการวิจัย

ข�5นติอนกรูะบวินการูทางวิทยาศาสุติรู-การูก7าหนดป8ญหา

การูติ�5งสุมีมีติฐาน

รูวิบรูวิมีข�อมี�ลและพิสุ�จัน-สุมีมีติฐาน

ข�อสุรู�ปจัากการูศ)กษา

รู�บรูองสุมีมีติฐานได�สุมีมีติฐานใหมี�

สุอดค้ล�องก�บสุมีมีติฐานท#&ติ� 5งไวิ�ไมี�สุอดค้ล�องก�บสุมีมีติฐานท#&ติ� 5งไวิ�

Page 4: 9 รูปแบบการวิจัย

โลกค้วิามีจัรูง โลกสุมีมีติ

ก7าหนดป8ญหา

พิสุ�จัน-สุมีมีติฐาน

ผลท#&ได�จัากการูวิจั�ย การูวิเค้รูาะห-ข�อมี�ล

การูแปลผล

ข�อสุรู�ป

การูติ�5งสุมีมีติฐาน

Page 5: 9 รูปแบบการวิจัย

เกณฑ์-พิจัารูณาวิ�าเรู%&องใดเป�นงานวิจั�ย1. ค้วิามีสุมีบ�รูณ-ของกรูะบวินการู2. ค้วิามีล)กซึ่)5งของการูค้�นค้วิ�า3. ได�ค้วิามีรู� �ใหมี�4. ค้วิามีถู�กติ�องและค้วิามีเช%&อถู%อได�

Page 6: 9 รูปแบบการวิจัย

การูวิจั�ย 2 แบบ การูวิจั�ยเชงค้�ณภาพิ การูวิจั�ยเชงปรูมีาณ

Page 7: 9 รูปแบบการวิจัย

การูวิจั�ยเชงค้�ณภาพิ การูวิจั�ยเชงค้�ณภาพิ (เชงค้�ณล�กษณะ) เค้รู%&องมี%อค้%อน�กวิจั�ย ถูามีเฉพิาะค้นท#&รู� �เรู%&องด# การูสุ�งเกติ (Observation)

Participant Observation Non-Participant Observation

Focus Group, in-depth Interview , Life history collection

Page 8: 9 รูปแบบการวิจัย

การูวิจั�ยเชงค้�ณภาพิ1. Observation

- Structured Observation- Unstructured Observation

2. สุ�มีภาษณ-ทางล)ก (In-depth Interview) ค้7าถูามีปลายเป=ด (Open ended questions)

3. การูสุนทนากล��มี (Focus group) ผ��ให�ข�อมี�ลเป�นผ�� มี#ค้วิามีรู� � (Key Informants) มี#น�กวิจั�ย ผ��จัด

บ�นท)ก ใช�เทปบ�นท)ก ถูอดเทปสุรู�ปวิเค้รูาะห-ข�อมี�ล4. การูศ)กษาเฉพิาะรูาย (Case study, Life

history collection)

Page 9: 9 รูปแบบการวิจัย

การูวิจั�ยเชงปรูมีาณ ติ�องมี#กล��มีติ�วิอย�างจั7านวินท#&ก7าหนด มี#เค้รู%&อง

มี%อ เช�น แบบสุอบถูามี ใช�หล�กวิชาสุถูติวิเค้รูาะห- จั7าแนกติามีวิธี#การู

วิจั�ย แบ�งเป�น Observational Study และ Experimental study

Page 10: 9 รูปแบบการวิจัย

ติ�วิแปรูอสุรูะ ติ�วิแปรูติามี

ติ�วิแปรูอสุรูะ(Independent

Variables)

ติ�วิแปรูติามี(Dependent Variables)

เป�นติ�นเหติ�เป�นป8จัจั�ยเสุ#&ยงเป�นติ�วิก7าหนดมี#อทธีพิล

Page 11: 9 รูปแบบการวิจัย

ติ�วิแปรูอสุรูะ ติ�วิแปรูติามี โดยท#&ติ�วิแปรูอสุรูะ เป�นติ�วิแปรูท#&อาจัเป�นติ�น

เหติ� หรู%อป8จัจั�ยเสุ#&ยง (Risk Factor) หรู%อเป�น ติ�วิท#&ก7าหนด (Determines) หรู%อเป�นติ�วิท#&มี#

อทธีพิล (Influences) ติ�อติ�วิแปรูติามี(Andrew Fisher, John Laing, John Stoeckel, 1984)

Page 12: 9 รูปแบบการวิจัย

ติ�วิแปรูอสุรูะ ติ�วิแปรูติามี เช�น ถู�าติ�วิแปรูอสุรูะ ค้%อการูสุ�บบ�หรู#& ติ�วิแปรู

ติามี ค้%อโรูค้มีะเรู.งปอด ถู�าติ�วิแปรูอสุรูะ ค้%อรูะด�บการูศ)กษา ติ�วิแปรูติามี

ค้%อรูะด�บรูายได� หรู%อรูะด�บติ7าแหน�งหน�าท#& ถู�าติ�วิแปรูอสุรูะ ค้%อรูะด�บรูายได� ติ�วิแปรูติามี

ค้%อรูะด�บการูมี#ค้�ณภาพิช#วิติ และการูมี#สุ�ขภาพิ อนามี�ยด# เป�นติ�น

Page 13: 9 รูปแบบการวิจัย

กล��มีค้วิบค้�มี กล��มีค้วิบค้�มี (Control Group) หรู%อ กล��มี

เปรู#ยบเท#ยบ (Comparison Group) อาย� เพิศ เช%5อชาติ อาช#พิ ค้ล�ายๆก�น จั7านวินกล��มีค้วิบค้�มีเท�าๆก�น หรู%ออาจัเป�น 2

เท�าของกล��มีทดลอง

Page 14: 9 รูปแบบการวิจัย

รู�ปแบบการูวิจั�ย การูวิจั�ยโดยการูสุ�งเกติ (Observation

Research) การูวิจั�ยโดยการูทดลอง (Experimental

Research)

Risk Factor เกดข)5นเองติามีธีรูรูมีชาติหรู%อวิ�า ผ��ทดลองเป�นผ��ก7าหนดให�ติ�วิอย�างได�รู�บ Risk

Factor

Page 15: 9 รูปแบบการวิจัย

จั7าแนกรู�ปแบบการูวิจั�ย จั7าแนกติามีเป>าหมีาย จั7าแนกติามีล�กษณะสุ&งท#&ศ)กษา จั7าแนกติามีเวิลา จั7าแนกติามีวิธี#ด7าเนนงานวิจั�ย

Page 16: 9 รูปแบบการวิจัย

จั7าแนกติามีเป>าหมีาย การูวิจั�ยพิ%5นฐาน (Basic Research) การูวิจั�ยปรูะย�กติ- (Applied Research)

Page 17: 9 รูปแบบการวิจัย

จั7าแนกติามีล�กษณะสุ&งท#&ศ)กษา วิจั�ยเอกสุารู (Documentary Research) วิจั�ยทางห�องปฏีบ�ติการู (Laboratory Research) วิจั�ยในสุ�ติวิ-ทดลอง (Animal Research) วิจั�ยทางค้ลนก (Clinical Research) วิจั�ยช�มีชน (Community Research) วิจั�ยปฏีบ�ติการู (Operational Research) วิจั�ยรูะบบบรูการูสุาธีารูณสุ�ข (Health Service

Research)

Page 18: 9 รูปแบบการวิจัย

จั7าแนกติามีเวิลา การูวิจั�ยย�อนหล�ง (Retrospective) การูวิจั�ยไปข�างหน�า (Prospective)

Page 19: 9 รูปแบบการวิจัย

จั7าแนกติามีวิธี#ด7าเนนงานวิจั�ย การูวิจั�ยโดยการูสุ�งเกติ (Observation

Research) วิจั�ยเชงพิรูรูณนา (Descriptive

Research) วิจั�ยเชงวิเค้รูาะห- (Analytical Research)

การูวิจั�ยเชงทดลอง (Experimental Research)

Page 20: 9 รูปแบบการวิจัย

การูวิจั�ยเชงทดลอง(Experimental Research)

ผ��วิจั�ยก7าหนด Exposure

การูวิจั�ยโดยการูสุ�งเกติ(Observational Research)

การูวิจั�ยเชงพิรูรูณนา(Descriptive Study)

การูวิจั�ยเชงวิเค้รูาะห-(Analytic Study)

ณ จั�ดเวิลาใดเวิลาหน)&ง(Cross-sectional)

ชนดไปข�างหน�า(Cohort or Prospective)

ชนดย�อนหล�ง(Case control or Retrospective)

มี#กล��มีเปรู#ยบเท#ยบ

ไมี�มี#กล��มีเปรู#ยบเท#ยบ

Longitudinal(Incidence)

Cross-sectional (Prevalence)

Exposure เกดติามีธีรูรูมีชาติ

Page 21: 9 รูปแบบการวิจัย

Descriptive Study

Cross-sectional study ศ)กษาค้วิามีช�ก(Prevalence)

Longitudinal study ศ)กษาอ�บ�ติการูณ-(Incidence)

Page 22: 9 รูปแบบการวิจัย

Analytic Study

Cohort or prospective Case Control or retrospective study Cross-sectional พิบเหติ�และผลได�พิรู�อมีๆ

ก�น

Page 23: 9 รูปแบบการวิจัย

เล%อกรู�ปแบบการูวิจั�ย ปรูะเมีนขนาดของป8ญหา ใช�การูวิจั�ยเชงพิรูรูณนา ศ)กษาธีรูรูมีชาติของโรูค้ ใช�การูวิจั�ยเชงพิรูรูณนา ค้�นหาสุาเหติ�ป8จัจั�ยเสุ#&ยงของโรูค้ เช�น พิสุ�จัน-สุมีมีติฐาน

ค้วิามีสุ�มีพิ�นธี-บ�หรู#&ก�บมีะเรู.งปอด การูวิจั�ยเชงวิเค้รูาะห-หรู%อการูวิจั�ยเชงทดลอง

การูวิจั�ยเชงทดลองให�ผลวิจั�ยเช%&อถู%อได�มีากท#&สุ�ด เพิรูาะ ออกแบบให�หล#กเล#&ยง Bias ท#&อาจัเกดข)5นได� แติ�มี#

ป8ญหาด�านจัรูยธีรูรูมีได� ปรูะเมีนผลรูะบบบรูการู ใช�การูวิจั�ยเชงทดลอง

Page 24: 9 รูปแบบการวิจัย

การูวิจั�ยแบบไปข�างหน�าCohort หรู%อ Prospective study

ข�อด# ไมี�มี#ป8ญหาจัรูยธีรูรูรูมีเพิรูาะ

เป�นการูสุ�งเกติติามี ธีรูรูมีชาติ

มี#อค้ติน�อยกวิ�าเพิรูาะก7าหนด กฎเกณฑ์-การูค้�ดเล%อกเข�าได�

(Eligibility) หา Incidence ของโรูค้ได�

ข�อเสุ#ย ใช� เงน ค้น เวิลา มีากกวิ�า ถู�าโรูค้น�5นพิบน�อยหรู%อติ�อง

ใช�เวิลานานกวิ�าจัะเกดโรูค้ก.ติ�องติดติามีนานมีาก

ไมี�สุามีารูถูค้วิบค้�มีป8จัจั�ยกวินให�กรูะจัายเท�าก�น

Page 25: 9 รูปแบบการวิจัย

การูวิจั�ยแบบไปข�างหล�งCase-Control หรู%อ Retrospective study

ข�อด# เหมีาะสุ7าหรู�บศ)กษาโรูค้ท#&

มี#อ�บ�ติการูณ-ติ7&า ปรูะหย�ด ง�ายและ

รูวิดเรู.วิ วิ�ดป8จัจั�ยเสุ#&ยงได�หลาย

อย�าง ไมี�มี#ป8ญหาด�าน

จัรูยธีรูรูมี

ข�อเสุ#ย เล%อกกล��มีค้วิบค้�มีได�

ยาก Recall Bias ซึ่�กย�อน

หล�งไปนานจั)งจั7าไมี�ได� Exposure

Suspicion Bias ผ��สุ�มีผ�สุสุ#&งค้�กค้ามีจัะถู�กซึ่�กถูามีมีากกวิ�า

Page 26: 9 รูปแบบการวิจัย

Experimental Study

Researcher assign exposure status to population

Population Random

New Treatment

Control orStandard Treatment

SuccessFail

SuccessFail

Page 27: 9 รูปแบบการวิจัย

Phase 1 ปรูะมีาณ 10 ค้น พิสุ�จัน-วิ�าปลอดภ�ย Phase 2 ปรูะมีาณ 50 ค้น เรู%&องขนาดยาและ

พิสุ�จัน-วิ�าได�ผล Phase 3 Standard RCT Safety &

Efficacy Phase 4 Post-marketing surveillance

Page 28: 9 รูปแบบการวิจัย

Experimental study

Quasi Experimental study No randomization