องค์�ค์วามรู้จากการู้แลกเปล��ยนเรู้�ยนรู้เรู้��องเทค์น�ค์การู้ว�จ�ยเชิ�งค์�ณภาพ

**********************************************1.การู้ว�เค์รู้าะห์�เน� อห์า (Content Analysis)

ขั้��นตอนในการวิ�เคราะห์�เน��อห์า โดยทั่��วิไป มี�การด�าเน�นการด�งน�� ขั้��นตอนทั่�� 1 ก�าห์นดเกณฑ์�ค�ดเลื�อกเอกสาร เป#นการก�าห์นดให์$

ชั�ดเจนวิ'าผู้)$วิ�จ�ยค�ดเลื�อกเอกสารอะไร ประเภทั่ใด มีาทั่�าการวิ�เคราะห์� ขั้��นตอนทั่�� 2 วิางเค$าโครงการวิ�เคราะห์�เป#นการจ�ดระบบการจ�าแนกค�า

ห์ร�อขั้$อควิามีในเน��อห์าสาระ ขั้องเอกสารซึ่.�งผู้)$วิ�เคราะห์�ควิรจ�ดระบบการจ�าแนกให์$ชั�ดเจนวิ'าจะจ�าแนกโดยใชั$ค�าห์ร�อขั้$อควิามีใดบ$างระบบ การจ�าแนกทั่��ชั�ดเจนน��จะชั'วิยให์$ผู้)$วิ�เคราะห์�สามีารถทั่��จะน�าเน��อห์าใดมีาวิ�เคราะห์�แลืะจะต�ดเน��อห์าใดออกไป

ขั้��นตอนทั่�� 3 พิ�จารณาเง��อนไขั้แวิดลื$อมี (Context) ขั้องขั้$อมี)ลืเอกสารเป#นการพิ�จารณาเก��ยวิก�บลื�กษณะ ต'าง ๆ ขั้องขั้$อมี)ลืเอกสารทั่��จะน�ามีาวิ�เคราะห์�เพิ��อให์$การวิ�เคราะห์�ขั้$อมี)ลืเป#นไปอย'างถ)กต$อง มี�ควิามีครอบคลื3มีมีากทั่��ส3ด

ขั้��นตอนทั่�� 4 การวิ�เคราะห์�ขั้$อมี)ลื เป#นการน�บควิามีถ��ขั้องค�าห์ร�อขั้$อควิามีทั่��จ�าแนกไวิ$ภายใต$ระบบ การจ�าแนกทั่��ก�าห์นดไวิ$ห์ลื�งจากน��น ก4ทั่�าการวิ�เคราะห์�เชั��อมีโยง

2.การู้สนทนากล�#ม (Focus Group Discussion)

ขั้��นตอนด�าเน�นการสนทั่นากลื3'มี มี�ด�งน��

       1. ก�าห์นดป5ญห์าห์ร�อห์�วิขั้$อ รวิมีทั่��งค�าถามีแลืะวิ�ตถ3ประสงค�ขั้องการวิ�จ�ยให์$เห์มีาะสมี       2. ก�าห์นดกรอบการเลื�อกกลื3'มีต�วิอย'าง       3. ก�าห์นดทั่�มีงาน ประกอบด$วิย ผู้)$ด�าเน�นการสนทั่นา (Moderator) ผู้)$จดบ�นทั่.ก (Notetaker) แลืะผู้)$ชั'วิยทั่��วิไป (Assistant)

       4. สร$าง/ทั่ดสอบแนวิค�าถามี

       5. เลื�อกกลื3'มีต�วิอย'าง       6. จ�ดการสนทั่นากลื3'มี

3.การู้ส�มภาษณ�เชิ�งล%ก (Dept Interview)

ขั้� นตอนการู้ส�มภาษณ�เชิ�งล%ก

1. สรู้างบรู้รู้ยากาศ ท�กทาย (small talk)

2. ชิ� แจง แนะน*าต�ว/อธิ�บายว�ตถุ�ปรู้ะสงค์�การู้ว�จ�ย/แจงผู้ให์ขั้อมลทรู้าบว#าเขั้าม�ค์วามส*าค์�ญอย#างไรู้

3. ดำ*าเน�นการู้สนทนาตามปรู้ะเดำ2นว�จ�ย

4. แสดำงค์วามเขั้าใจเรู้��อง

5. สนทนาให์ไดำค์วามจรู้�ง

6. การู้ต� งค์*าถุามท��ผู้ตอบจะไม#ตอบในภาวะปกต�..ท� งน� ผู้เก2บขั้อมลตองเค์ารู้พต#อค์วามจรู้�งท��ถุกเป3ดำเผู้ยขั้% น

7. การู้ลดำรู้ะดำ�บอารู้มณ�ค์วามรู้ส%กห์ล�งพดำค์�ยแลว

8. ป3ดำการู้สนทนา ก#อนย�ต�การู้สนทนา ค์วรู้ย* าถุ%งการู้รู้�กษาค์วามล�บ และขั้ออน�ญาตต�ดำต#อกล�บมาในกรู้ณ�ตองการู้ขั้อมลเพ��มเต�ม

4. การู้การู้ว�จ�ยปฏิ�บ�ต�การู้อย#างม�ส#วนรู้#วมการวิ�จ�ยปฏิ�บ�ต�การอย'างมี�ส'วินร'วิมีสามีารถกระทั่�าได$โดยการเก4บร�กษาบ�นทั่.กส'วินบ3คคลืขั้องผู้)$ทั่��เขั้$ามีามี�ส'วินใน การร'วิมีบ�นทั่.กควิามีก$าวิห์น$าขั้องตนเอง แลืะสะทั่$อนควิามีค�ดขั้องตนเองเก��ยวิก�บการเร�ยนร) $ขั้องกลื3'มีทั่��ขั้นานก�นไปเก��ยวิ ก�บ (ก) การปฏิ�บ�ต�ตนเอง (วิ'าการปฏิ�บ�ต�ขั้องป5จเจกบ3คคลืแลืะกลื3'มีก�าลื�งพิ�ฒนาอย'างไร) แลืะ (ขั้) กระบวินการศึ.กษาการปฏิ�บ�ต� (โครงการวิ�จ�ยปฏิ�บ�ต�การด�าเน�นการอย'างไร) การวิ�จ�ยปฏิ�บ�ต�การอย'างมี�ส'วินร'วิมี

ต$องการผู้)$เขั้$ามีามี�ส'วินร'วิมีในการสร$างการ บ�นทั่.กเก��ยวิก�บการปร�บปร3งขั้องผู้)$เขั้$ามีามี�ส'วินร'วิมีในกลื3'มีด�งกลื'าวิ โดยบ�นทั่.ก

                        1)การเปลื��ยนแปลืงขั้องกลื3'มีผู้)$ทั่��มี�ส'วินร'วิมีเก��ยวิก�บก�จกรรมีแลืะการปฏิ�บ�ต�ต'างๆ

                        2)การเปลื��ยนแปลืงในภาษาแลืะวิาทั่กรรมีในกลื3'มีทั่��มี�ส'วินร'วิมีทั่��จะบรรยาย อธิ�บาย แลืะต�ดส�นการปฏิ�บ�ต�ขั้องกลื3'มีตนเอง

                        3)การเปลื��ยนแปลืงในควิามีส�มีพิ�นธิ�ทั่างส�งคมีแลืะร)ปแบบขั้องการจ�ดองค�กรทั่��แสดง ค3ณลื�กษณะแลืะบ�บบ�งค�บการปฏิ�บ�ต�ขั้องกลื3'มี

                        4)การพิ�ฒนาควิามีเชั��ยวิชัาญขั้องกลื3'มีผู้)$มี�ส'วินในการวิ�จ�ยเชั�งปฏิ�บ�ต�การทั่��ผู้)$มี� ส'วินร'วิมีเห์ลื'าน��ต$องสามีารถแสดงห์ลื�กฐานบรรยากาศึขั้องกลื3'มีทั่��ประชัาชันคาดห์วิ�ง แลืะให์$ห์ลื�กฐานสน�บสน3นการเร�ยกร$องต'อภายในกลื3'มี แลืะแสดงควิามีเคารพิส�าห์ร�บค3ณค'าขั้องห์ลื�กฐานทั่��รวิบรวิมีแลืะวิ�เคราะห์�อย'างเคร'งคร�ดอ�กทั่��งสามีารถแสดงแลืะอธิ�บายทั่�าให์$ผู้)$อ��นเชั��อถ�อได$