8
แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ (allergic rhinitis) แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ แแแแแแแแแแแแแแแแแ แแแแแแแแแแแแ Pediatric Asthma/Allergy 1998 แแแแแแแแแแแ 15 แแแแแแแ 2542 แแแแแแแแแแแแแแ แแแแแแแแแแแแแ แแแแแแแแแแแแแ แแแแแแแแแแแแแแแแแแ แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ แแแแ แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ แแแแแ แแแแแแแ แแแแแแแแแแ แแแแแแ 38 แแแแ แแแแแ แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ แแแแแแแแแ แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ I แแแแแแแแแแแแแ แแแแแแแแแแ (Rhinitis) แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ แแแแแแแแแแแ แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ 2 แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ แแแ แแแแแแแ, แแแ, แแแแแแแแแแ, แแแแแแแแแแ แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ (Allergic Rhinitis) แแแแแแแแแแแ แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ 1 (IgE-mediated hypersensitivity reaction type I) แแแแแแแแแแแแแแแแ แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ (skin test) แแแแแแแแแแแแแแแแแแแ specific IgE แแ serum Classification แแแ allergic rhinitis 1. Seasonal allergic rhinitis แแแแแแแแแแแ แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ แแแ แแแแแ แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ แแแแ แแแแแแ (pollens) แแแแแแแแแแแแแแแแแแแ 2. Perennial allergic rhinitis แแแแแแแแแแแ แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ แแแแแแแแแแ แแแแ แแแแแแ แแแแแแแ แแแแแแแแแ แแแแแแ แแแ แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ perennial allergic rhinitis แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ (seasonal exacerbation) แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ II แแแแแแแแแแแ 1. แแแแแแแแแแแแแ 1

Allergic rhinitis

Embed Size (px)

Citation preview

Page 1: Allergic rhinitis

แนวทางการประเมิ นและร�กษาโรคจมิ�กอั�กเสบจากภู�มิ แพ้�ในเด็�กส�าหร�บประเทศไทย

เน#$อังจากโรคจมิ�กอั�กเสบจากภู�มิ แพ้� (allergic rhinitis) เป%นโรคท&$พ้บได็�บ'อัยมิากในว�ย เด็�ก การด็�แลร�กษาโรคน&(อัย'างถู�กต้�อังและเหมิาะสมิจ+งเป%นส $งส�าค�ญ จากการประชุ.มิ Pediatric

Asthma/Allergy 1998 เมิ#$อัว�นท&$ 15 พ้ฤษภูาคมิ 2542 ซึ่+$งจ�ด็ขึ้+(นโด็ย คณะ แพ้ทยศาสต้ร3ศ ร ราชุพ้ยาบาล ท&$โรงแรมิสยามิซึ่ ต้&( ได็�มิ&การประชุ.มิหาร#อัก�นระหว'างแพ้ทย3 ท�(งก.มิารแพ้ทย3และแพ้ทย3

ทางโสต้ นาส ก ลาร งซึ่3 ท�$วประเทศ จ�านวน 38 ท'าน เพ้#$อัร'างแนวทางส�าหร�บการประเมิ นและร�กษาโรคจมิ�ก อั�กเสบจากภู�มิ แพ้�ในเด็�กส�าหร�บประเทศไทย โด็ยท&$ผลขึ้อังการประชุ.มิพ้อัจะสร.ปได็�ด็�งต้'อัไปน&(

I ค�าจ�าก�ด็ความิ จมิ�กอั�กเสบ (Rhinitis) เป%นโรคท&$เก ด็เน#$อังจากมิ&การอั�กเสบขึ้อังเย#$อับ.จมิ�ก ซึ่+$งแสด็งอัอักโด็ย

มิ&อัาการต้�(งแต้'2 อัย'างขึ้+(นไปขึ้อังอัาการด็�งต้'อัไปน&( ค�นจมิ�ก, จามิ, น�(ามิ�กไหล, และค�ด็จมิ�ก จมิ�กอั�กเสบจากภู�มิ แพ้� (Allergic Rhinitis) เป%นโรคจมิ�กอั�กเสบจากปฏิ ก ร ยาภู�มิ แพ้�

ชุน ด็ท&$ 1 (IgE-mediated hypersensitivity reaction type I) ซึ่+$งทด็สอับได็�ด็�วยการท�าการทด็สอับภู�มิ แพ้�ทางผ วหน�ง (skin test) หร#อัจากการต้รวจระด็�บ

specific IgE ใน serumClassification ขึ้อังallergic rhinitis

1. Seasonal allergic rhinitis เป%นโรคจมิ�กอั�กเสบจากภู�มิ แพ้�ท&$มิ&อัาการเก ด็ขึ้+(น ในชุ'วงใด็ชุ'วงหน+$งขึ้อังป6 โด็ยเฉพ้าะ หร#อัเป%นเพ้&ยงบางฤด็�กาล สารก'อัภู�มิ แพ้�มิ�กเป%นพ้วกละอัอังเกสร

ขึ้อังหญ�า ต้�นไมิ� (pollens) หร#อัสปอัร3ขึ้อังเชุ#(อัรา2. Perennial allergic rhinitis เป%นโรคจมิ�กอั�กเสบจากภู�มิ แพ้�ซึ่+$งมิ&อัาการได็�

ต้ลอัด็ป6 สารก'อัภู�มิ แพ้�มิ�กเป%นส $งท&$อัย�'ในบ�าน เชุ'น ไรฝุ่.9น ขึ้นส�ต้ว3 แมิลงต้'างๆ ในบ�าน ฯลฯ

ในประเทศไทยผ��ป9วยส'วนใหญ'มิ�กเป%น perennial allergic rhinitis แต้'อัาจมิ& อัาการก�าเร บขึ้+(นมิาเป%นระยะๆ (seasonal exacerbation) เมิ#$อัสารก'อัภู�มิ แพ้�ในอัากาศมิ&

ปร มิาณมิากขึ้+(น

II การว น จฉ�ย1. การซึ่�กประว�ต้

1.1 ประว�ต้ อัาการทางจมิ�ก ได็�แก' อัาการค�น, จามิ, น�(ามิ�กใส, ค�ด็จมิ�ก, โด็ยถูามิในแง'ขึ้อัง

onset, duration, time of year, frequency, precipitating factors ต้'างๆ เป%นต้�น

1.2 ประว�ต้ ขึ้อังโรคภู�มิ แพ้�ท&$แสด็งอัาการท&$ส'วนอั#$น เชุ'น อัาการค�นต้า, ค�นหร#อัระคายเค#อังคอั, ไอั, อัาการขึ้อังโรคผ#$นค�นท&$ผ วหน�ง (atopic dermatis) และ อัาการขึ้อังโรคหอับห#ด็

1.3 ประว�ต้ โรคภู�มิ แพ้�ในครอับคร�ว เชุ'น โรค allergic rhinitis, atopic dermatitis และasthma

1.4 ถูามิถู+งส $งแวด็ล�อัมิท&$อัาจเป%นป<จจ�ยท&$ท�าให�เก ด็โรคภู�มิ แพ้� (enviromental factors) เชุ'น ท&$อัย�'อัาศ�ย, อัาชุ&พ้ขึ้อังคนในครอับคร�ว, โรงงานในบร เวณรอับบ�าน, มิลภูาวะทางอัากาศ

1

Page 2: Allergic rhinitis

2. การต้รวจร'างกาย

2.1 การต้รวจร'างกายทาง ห� คอั จมิ�ก

การต้รวจจมิ�กโด็ยว ธี& anterior rhinoscopy จะพ้บล�กษณะต้'อัไปน&( ค#อัมิ&

watery discharge, เย#$อับ.ในจมิ�กบวมิและมิ&ส&ซึ่&ด็ หร#อัอัอักเป%นส&มิ'วง

การต้รวจหาล�กษณะอั#$นๆ ท&$เป%นล�กษณะท&$พ้บในผ��ป9วยโรคจมิ�กอั�กเสบจากภู�มิ แพ้� เชุ'น allergic rhinitis ค#อัมิ&ส&ด็�าคล�(าใต้�ขึ้อับต้า, allergic nasal lines เป%นต้�น

การต้รวจในชุ'อังคอั อัาจพ้บมิ& granular pharynx, postnasal drip และต้รวจหาส $งท&$สน�บสน.นว'าผ��ป9วยหายใจทางปากเป%นประจ�า เชุ'น open bite,

gummy smile, high arch palate, long face เป%นต้�น การต้รวจห� เพ้#$อัด็�ว'ามิ&ล�กษณะขึ้อัง eustachian tube dysfunction,

otitis media with effusion หร#อัห�น�(าหนวกหร#อัไมิ'?2.2 การต้รวจร'างกายท�$วไป

ต้รวจผ วหน�ง ด็�ล�กษณะขึ้อังatopic dermatitis ต้รวจปอัด็ ว'าผ��ป9วยมิ&โรคหอับห#ด็ร'วมิด็�วยหร#อัไมิ'

3. การทด็สอับภู�มิ แพ้�ทางผ วหน�ง (skin test)เป%นว ธี&ท&$เป%นท&$ยอัมิร�บก�นท�$วไปว'าจ�าเป%นและค'อันขึ้�างแมิ'นย�าส�าหร�บการต้รวจโรคภู�มิ แพ้�ท&$เก ด็จากปฏิ ก ร ยา

ภู�มิ แพ้�ชุน ด็ท&$ 1 แต้'จะต้�อังท�าในสถูานท&$ๆ มิ&แพ้ทย3ควบค.มิ และมิ& adrenaline อัย�'พ้ร�อัมิท&$จะใชุ�ได็�ใน กรณ&ท&$ผ��ป9วยเก ด็ปฏิ ก ร ยาแพ้�ชุน ด็ร.นแรง (anaphylaxis)

การทด็สอับภู�มิ แพ้�ในเด็�ก ใชุ�ว ธี&สะก ด็ (skin prick test = SPT)) เป%นส'วนใหญ' การ

ท�า intradermal test จะใชุ�ในกรณ&ท&$สงส�ยมิากๆ และท�า skin prick test แล�วให�ผล ลบเท'าน�(น การทด็สอับจะต้�อังมิ&น�(ายาท&$เป%น negative control ค#อัสารท&$เป%นต้�วท�าละลาย

(diluent) ขึ้อังสารก'อัภู�มิ แพ้� และมิ&positive control ค#อัhistamine สารสะก ด็ก'อัภู�มิ แพ้�ท&$ใชุ�ทด็สอับ ควรเล#อักชุน ด็ท&$พ้บบ'อัย เชุ'น สารสะก�ด็จาก

ต้�วไรฝุ่.9นบ�าน

ละอัอังเกสร (pollen) ขึ้อังหญ�า, ว�ชุพ้#ชุ และต้�นไมิ�ชุน ด็ท&$พ้บในบร เวณน�(น แมิลงต้'างๆ ภูายในบ�าน เชุ'น แมิลงสาบ ฯลฯ เชุ#(อัราท&$พ้บบ'อัยในท�อังถู $นน�(นๆ

ขึ้นและร�งแคขึ้อังส�ต้ว3เล&(ยงในบ�าน เชุ'น แมิว, ส.น�ขึ้ ฯลฯ

อัาหารท&$พ้บมิ&ผ��แพ้�บ'อัยบางชุน ด็ เชุ'น นมิว�ว, ไขึ้', ถู�$ว, อัาหารทะเล เป%นต้�น

การทด็สอับภู�มิ แพ้�ในเด็�กอัาย.น�อัยกว'า 2 ป6 ไมิ'ควรท�า เพ้ราะอัาจจะให�ผลไมิ'แน'นอัน การแปลผลการ

ทด็สอับโด็ยว ธี&สะก ด็ ใชุ�การว�ด็ขึ้นาด็ขึ้อัง wheal และ flare ท&$เก ด็ขึ้+(นภูายใน 15-20 นาท&หล�งการ ทด็สอับ ผลบวกค#อัการท&$ wheal มิ&ขึ้นาด็โต้กว'าหร#อัเท'าก�บ 3 mm เก ด็ขึ้+(น พ้ร�อัมิท�(งมิ& flare

และ/ หร#อั อัาการค�น

4. การต้รวจอั#$นๆ ท&$อัาจใชุ�ชุ'วยในการว น จฉ�ย เล#อักท�าต้ามิความิเหมิาะสมิ ได็�แก'

2

Page 3: Allergic rhinitis

Serum specific IgE Nasal cytology โด็ยว ธี& smear หร#อั scraping เพ้#$อัด็�

basophils,mast cells, eosinophils และ neutrophils

Nasal airway assessment โด็ยใชุ� peak flow, rhinomanometry, acoustic rhinometry

5. การต้รวจทางร�งส&ท&$ควรท�าในเด็�กท&$เป%นโรคจมิ�กอั�กเสบจากภู�มิ แพ้�1. Paranasal sinus X-ray2. X-ray ขึ้อัง lateral skull เพ้#$อัต้รวจด็�ไซึ่น�ส ขึ้นาด็ขึ้อังต้'อัมิ adenoid และ

เพ้#$อัประเมิ นขึ้นาด็ขึ้อังทางเด็ นอัากาศในทางเด็ นระบบหายใจส'วนบน

III การจ�ด็ล�าด็�บความิร.นแรงขึ้อังโรคจมิ�กอั�กเสบเน#$อังจากเด็�กไมิ'สามิารถูบ�นท+กความิร.นแรงขึ้อังอัาการลงในแผ'นบ�นท+กอัาการได็�ด็�วยต้นเอังอัย'างผ��ป9วย ผ��ใหญ' การให�ผ��ปกครอังบ�นท+กให�แทนก�อัาจไมิ'ต้รงก�บความิเป%นจร ง การจ�ด็ล�าด็�บความิร.นแรงขึ้อังโรคภู�มิ แพ้�ใน

เด็�ก จ+งต้�อังใชุ�การซึ่�กถูามิจากพ้'อัแมิ' ร'วมิไปก�บความิเห�นขึ้อังแพ้ทย3ท&$ได็�จากการต้รวจร'างกายเด็�ก และผลการ ต้รวจพ้ เศษอั#$นๆ เชุ'น การทด็สอับภู�มิ แพ้�ทางผ วหน�ง แล�วน�ามิาสร.ปรวมิก�นจ�ด็แบ'งเป%นล�าด็�บความิร.นแรงขึ้อังโรค

ด็�งต้'อัไปน&(

- Mild = มิ&อัาการน�อัย ไมิ'ร� �ส+กร�าคาญ ไมิ'เป%นบ'อัย เชุ'น1-2 ว�นต้'อัส�ปด็าห3- Moderate = มิ&อัาการพ้อัประมิาณ ร� �ส+กร�าคาญ แต้'ไมิ'รบกวนต้'อัการท�าก จกรรมิประจ�าว�น

ขึ้อัง

เด็�ก แต้'เป%นบ'อัยขึ้+(น เชุ'น3 ว�นขึ้+(นไปใน1 ส�ปด็าห3- Severe = มิ&อัาการมิาก เป%นท.กว�น รบกวนต้'อัก จกรรมิประจ�าว�นขึ้อังเด็�ก หร#อัมิ&ภูาวะแทรก

ซึ่�อัน เชุ'น ไซึ่น�สอั�กเสบ, หอับห#ด็, ห�ชุ�(นกลางอั�กเสบ เป%นต้�น

IV การร�กษาเด็�กท&$เป%นโรคจมิ�กอั�กเสบจากภู�มิ แพ้�1. การด็�แลส.ขึ้ภูาพ้ท�$วไป (general measures)

พ้�กผ'อันให�เพ้&ยงพ้อั อัอักก�าล�งกายสมิ�$าเสมิอั ร�บประทานอัาหารให�ครบหมิ�' ให�ความิร� �เร#$อังโรคภู�มิ แพ้�

2. ก�าจ�ด็และหล&กเล&$ยงสารก'อัภู�มิ แพ้�ท.กชุน ด็ถู�าเป%นไปได็� หร#อัอัย'างน�อัยควรขึ้จ�ด็สารแพ้�ท&$ผ��ป9วยต้รวจ แล�วพ้บว'าแพ้� โด็ยการต้รวจทางผ วหน�ง

3. การร�กษาโด็ยการใชุ�ยา แบ'งเป%น3 กล.'มิ ต้ามิความิร.นแรงขึ้อังโรคท&$ได็�แบ'งมิาแล�วขึ้�างต้�น

3.1 Mild degree ให� first generation antihistamine เป%นคร�(งคราวเฉพ้าะเวลาท&$มิ&

อัาการ หร#อัอัาจให� second/third generation antihistamine ในเด็�กท&$ไปโรงเร&ยน

ถู�ามิ&อัาการค�ด็จมิ�กท&$จ�าเป%นต้�อังใชุ�ยา decongestant ชุน ด็ก น เชุ'น พ้วก

pseudoephedrine ในเด็�กให�ใชุ�ขึ้นาด็ต้�$าๆ เชุ'น 1-1.5

3

Page 4: Allergic rhinitis

mg/kg/dose และอัย'าให�ใกล�เวลานอัน เพ้ราะเด็�กอัาจมิ& irritability และไมิ'ยอัมินอันได็�

3.2 Moderate degree ให� antihistamine decongestant เชุ'นเด็&ยวก�บกล.'มิแรก แต้'อัาจ

ต้�อังพ้ จารณาให�ชุน ด็ long-acting และให�แบบ regular basis ยาพ้'นจมิ�ก ใชุ�ในกรณ&ท&$เด็�กก นยาแล�วไมิ'ได็�ผล หร#อัไมิ'สามิารถูหย.ด็ยาก นได็� อัาจต้�อังใชุ�ยาพ้'นจมิ�ก

ชุน ด็ท&$เป%นantiallergic drug ซึ่+$งมิ&2 ชุน ด็ ได็�แก'

1. Sodium cromoglycate 2% solution จ�ด็ว'าเป%น ยาท&$ปลอัด็ภู�ยมิาก แมิ�จะใชุ�เป%นเวลานาน ก�ไมิ'พ้บมิ&ผลขึ้�างเค&ยงท&$ไมิ'พ้+งประสงค3ท&$อัาจเป%นอั�นต้ราย แต้'

กว'าจะได็�ผลมิ�กต้�อังใชุ�ต้'อัเน#$อังเป%นเวลานาน ในกรณ&ท&$เด็�กมิ&อัาการค�ด็จมิ�กมิากจ+งต้�อังเร $มิใชุ�ชุน ด็ท&$

ผสมิก�บ decongestant ก'อันประมิาณ 2 ส�ปด็าห3 เพ้#$อัให�จมิ�กโล'ง แล�วเปล&$ยนเป%นชุน ด็

ท&$ไมิ'มิ& decongestant ผสมิอัย�' ขึ้�อัเส&ยอั&กประการหน+$งค#อั ต้�อังใชุ�บ'อัยคร�(ง ค#อัอัาจจะถู+ง

ว�นละ4-6 คร�(ง2. Topical corticosteroid มิ&ให�เล#อักหลายชุน ด็ และจ�ด็ว'าเป%นยาท&$

ชุ'วยลด็การบวมิขึ้อังเย#$อับ.จมิ�กได็�ด็&ท&$ส.ด็ แต้'มิ&ขึ้�อัต้�อังระว�ง 2 ประการค#อั หากมิ&การต้ ด็เชุ#(อัขึ้อังจมิ�ก และไซึ่น�สอั�กเสบร'วมิด็�วย ต้�อังร�กษาด็�วยยาต้�านจ.ลชุ&พ้จนกว'าหนอังในจมิ�กจะหมิด็ไป จ+งจะใชุ�

topical corticosteroid ได็�ผล และในเด็�กอัาย.ต้�$ากว'า 6 ป6 ควรใชุ�ด็�วยความิ ระมิ�ด็ระว�ง และใชุ�ในขึ้นาด็น�อัยท&$ส.ด็ท&$สามิารถูจะควบค.มิอัาการได็� เพ้#$อัป>อังก�นผลเส&ยท&$อัาจเก ด็จากยา

โด็ยท�$วไป ไมิ'ควรใชุ�ยาในกล.'มิน&(ต้'อัเน#$อังก�นเก น2 ส�ปด็าห3

ยาพ้'นจมิ�กท�(ง 2 ชุน ด็น&(อัอักฤทธี ?ชุ�า ในระยะแรกหากผ��ป9วยมิ&อัาการมิาก อัาจต้�อังให�ร'วมิก�บยา

antihistamine และ decongestant ชุน ด็ก นประมิาณ 3-7 ว�น และยา

ท�(ง2 ชุน ด็น&(อัาจใชุ�แบบคร�(งคราว (prn) ได็� แต้'ให�ผลไมิ'ด็&เท'าก�บใชุ�สมิ�$าเสมิอั

ยาพ้'นจมิ�กชุน ด็ท&$เป%น antihistamine เร $มิมิ&จ�าหน'ายบ�างแล�ว และอัาจเล#อักใชุ�แทนชุน ด็ก นได็�

การให�น�(าเกล#อั (normol saline) พ้'นจมิ�ก ในบางโอักาสท&$จมิ�กแห�งหร#อัได็�ร�บฝุ่.9นคว�น มิาก อัาจใชุ�น�(าเกล#อัล�างหร#อัพ้'นจมิ�กได็�

3.3 Severe degree แบ'งเป%น2 กล.'มิ1. กล.'มิท&$ไมิ'มิ&แหรกซึ่�อัน

ให�การร�กษาเชุ'นเด็&ยวก�บกล.'มิmoderate degree ถู�าไมิ'ได็�ผลภูายใน 2 ส�ปด็าห3 ควรส'งต้'อัให�ผ��เชุ&$ยวชุาญด็�านโรคภู�มิ แพ้�ร'วมิว น จฉ�ยและร�กษา

2. กล.'มิท&$มิ&โรคแทรกซึ่�อัน เชุ'น ไซึ่น�สอั�กเสบ, ห�ชุ�(นกลางอั�กเสบ, หอับห#ด็, ต้'อัมิ adenoid โต้ ควรปร+กษาผ��เชุ&$ยวชุาญร'วมิให�การร�กษา หร#อัท�าผ'าต้�ด็

3. การให�การร�กษาโด็ยการฉ&ด็ว�คซึ่&น (allergen immunotherapy) ควรต้�อัง ให�การร�กษาโด็ยผ��เชุ&$ยวชุาญเท'าน�(น ขึ้�อับ'งชุ&(ในการให�การร�กษาโด็ยว ธี&น&( ค#อั

1. หล&กเล&$ยงสารท&$แพ้�ไมิ'ได็�2. มิ&อัาการร.นแรงและใชุ�ยาด็�งท&$กล'าวมิาแล�วท�(งหมิด็แล�วไมิ'ได็�ผลหร#อัไมิ'สามิารถูหย.ด็ยาได็�

เอักสารอั�างอั ง

4

Page 5: Allergic rhinitis

1. International Rhinitis Management Working Group. International consensus report in the diagnosis and management of rhinitis. Allergy 1994;49 (suppl 19):5-34.

2. Kaplan AP. Basic allergy: immunoglobulin E synthesis, inflammation and therapy. Allergy 1995;50 (suppl 25):5-24.

3. Naclerio RM, Jones AS, Rowe-Jones JM, Fokkens WJ, Meltzer EO. The management of perennial rhinitis. Allergy 1997;52 (suppl 36):5-40.

5

Page 6: Allergic rhinitis

คณะท�างาน

ศ.พ้ญ. ฉว&วรรณ บ.นนาค ประธีาน

ผศ.พ้ญ. ก ต้ ร�ต้น3 อั�งกานนท3 เลขึ้าน.การ

รศ.พ้ญ. นวลอันงค3 ว ศ ษฏิส.นทร นพ้. ธีาด็า ชุ นส.ทธี ประชุา

รศ.นพ้. พ้&รพ้�นธี3 เจร ญชุาศร& นพ้. ธี&ระ เหล'าส.รส.นทร

นพ้. รณชุ�ย ว ร ยะทว&ก.ล นพ้. ธี&ระศ�กด็ ? บร ส.ทธี บ�ณฑิ ต้

พ้อั.นพ้. ภูาน.ว ชุญ3 พ้. 'มิห ร�ญ นพ้. บรรล#อั ไอัยะรา

ผศ.นพ้. ครรชุ ต้เทพ้ ต้�$นเผ'าพ้งศ3 รศ.นพ้. บ.ญชุ� ก.ลประด็ ษฐารมิณ3

ผศ.พ้ญ. ล�ด็ด็า โชุชุ�ยพ้าณ ชุย3นนท3 นพ้. ประพ้�นธี3 ภู�มิ ร�ต้นร�กษ3

ผศ.นพ้. พ้ ชุ�ย พ้�วเพ้ $มิพ้�ลศ ร นพ้. ปราโมิทย3 ส.ขึ้ว ชุ�ย

นอั.นพ้. มิาน ต้ย3 ศ�ต้ร�ล&( พ้ญ. เปรมิฤด็& พ้งษ3ชุ�ยก.ล

รศ.พ้ญ. ส.ปราณ& ฟู�อัน�นต้3 พ้ญ. ผ.สด็& ธีรรมิาน.ว�ต้ร3

รศ.นพ้. สงวนศ�กด็ ? ธีนาว ร�ต้นาน จ พ้ญ. พ้น ด็า ด็.ส ต้านนท3

นพ้. โกว ทย3 พ้ฤกษาน.ศ�กด็ ? พ้ญ. พ้น ด็า อัมิรประเสร ฐส.ขึ้

พ้ญ. กชุกร ส ร ประเสร ฐ นพ้. พ้ ชุ�ย อัมิรประเสร ฐส.ขึ้

พ้ท.นพ้. กร&ฑิา มิ'วงทอัง พ้ญ. มิ.กด็า หว�งว&รวงศ3

นพ้. เกร กยศ ชุลายนเด็ชุ พ้ญ. ย.พ้าพ้ น จ.ลโมิกขึ้3

พ้ญ. ชุล ด็า เลาหพ้�นธี3 นพ้. ระว& เนต้ต้ก.ล

นพ้. ชุาต้ ชุ�ย อัต้ ชุาต้ พ้ญ. ร�กอัร'ามิ ปCฎกานนท3

พ้ญ. ฐ ต้ วรรณ ส มิะเสถู&ยร พ้อั.พ้ญ. ร�ต้นาภูรณ3 เฟูE$ อังทอัง

นพ้. ด็.ส ต้ สถูาวร พ้ญ. ล�กขึ้ณา เผ'าวน ชุ

บรรณาธี การ รศ.นพ้. ปก ต้ ว ชุยานนท3

ต้&พ้ มิพ้3ใน วารสารก.มิารเวชุศาสต้ร31999;38(3):230-4.

6