ระบบตรวจสอบซอฟตแ์วร์ที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย กรณีศึกษา บริษัท วีนัสเทคโนโลยี่ จ ากัด

Software Installed Monitoring System Case Study: Venus Technology Co., Ltd.

อนุรักษ์ ชูสาย

สารนิพนธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา วิศวกรรมเครือข่าย

และความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ คณะวิทยาการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ปีการศึกษา 2560

ระบบตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย กรณีศึกษา บริษัท วีนัสเทคโนโลยี่ จ ากัด

Software Installed Monitoring System Case Study: Venus Technology Co., Ltd.

อนุรักษ์ ชูสาย

สารนิพนธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา วิศวกรรมเครือข่ายและความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ

คณะวิทยาการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร

ปีการศึกษา 2560

I

หัวข้อ ระบบตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย Software Installed Monitoring ชื่อนักศึกษา อนุรักษ์ ชูสาย รหัสนักศึกษา 5917660006 หลักสูตร วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมเครือข่าย ปีการศึกษา 2560 อาจารย์ท่ีปรึกษา ผศ.ดร. รุ่งโรจน์ โชคงามวงศ์

บทคัดย่อ โครงงานนี้เป็นการจัดท าระบบตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่อยู่ภายในเครือข่ายโดเมน (ลูกข่าย) ของบริษัท วีนัสเทคโนโลยี่ จ ากัด ด้วย WMI หรือ Windows Management Instrumentation โดยจัดเก็บเป็นฐานข้อมูล ระบบตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่จัดท าขึ้นนี้ สามารถตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งอยู่บนเครือข่าย โดยสามารถแสดงรายชื่อซอฟต์แวร์ บริษัทผู้ผลิต หรือแม้แต่วันที่ติดตั้งซอฟต์แวร์ได้ อีกทั้งยังสามารถแจ้งเตือนรายชื่อซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต ระบบตรวจสอบซอฟต์แวร์นี้จะช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถตรวจสอบรายชื่อและจัดการซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น และลดข้อผิดพลาดในการตรวจสอบที่อันอาจเกิดจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบไม่ถี่ถ้วน หรือข้อจ ากัดทางด้านพ้ืนที่หวงห้ามท าให้เจ้าหน้าที่ ที่ด าเนินการไม่สามารถเข้าถึงได้ รวมถึงออกรายงานสรุปจ านวนซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย เพ่ือให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบและสรุปยอดซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งลงไปได้ เนื่องจากซอฟต์แวร์บางตัวมีราคาแพง และซื้อมาในจ านวนที่จ ากัด ซึ่งบางครั้งเจ้าหน้าที่อาจไม่ได้ตรวจสอบและท าการติดตั้งซ้ า เกินกว่าจ านวนลิขสิทธิ์ที่ซื้อมา ท าให้อาจเกิดปัญหาเมื่อมีการตรวจสอบโปรแกรมลิขสิทธิ์

II

กิตติกรรมประกาศ การศึกษาค้นคว้าในการท าโครงงานนี้ได้รับความส าเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ได้รับความช่วยเหลือค าปรึกษาจากคณาจารย์ และบุคคลหลายๆท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผศ.ดร. รุ่งโรจน์ โชคงามวงศ์ ที่ได้กรุณาให้โอกาส และค าปรึกษาในการจัดท า ขอขอบคุณเพ่ือนๆ พ่ีๆ น้องๆ ทุกท่านที่ได้สละเวลาในการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ ให้กับผู้จัดท า การค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ จากเว็บไซต์ภายในประเทศและต่างประเทศ

ผู้จัดท าขอขอบพระคุณบุคคลาเหล่านั้น ที่ได้ถ่ายทอดความรู้ต่างๆ อันทรงคุณ ท าให้โครงงานนี้ส าเร็จลุล่วง สุดท้ายนี้ขอขอบพระคุณอันยิ่งใหญ่ของบิดาและมารดาของข้าพเจ้า ที่ได้ให้ก าลังใจมาโดยตลอด

อนุรักษ์ ชูสาย

มิถุนายน พ.ศ. 2560

III

สารบัญ บทคัดย่อ I กิตติกรรมประกาศ II สารบัญ III สารบัญตาราง V สารบัญรูป VI บทที่ 1 บทน า 1

1.1 ความเป็นมาของโครงงาน 1 1.2 ระบบหรือวิธีการที่น าเสนอ 2 1.3 วัตถุประสงค์ของโครงงาน 2 1.4 ขอบเขตของโครงงาน 3 1.5 แผนการด าเนินงาน 5

บทที่ 2 พ้ืนฐานและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง 7 2.1 Windows Management Instrumentation 7 2.2 Microsoft SQL Server 9 2.3 ASP.NET 11 2.4 Crystal Report 2013 12

บทที่ 3 การด าเนินการ 13 3.1 กล่าวน า 13 3.2 แนวทางการออกแบบระบบ 13 3.3 องค์ประกอบของระบบ 14 3.4 การท างานของระบบ 15 3.5 Data Flow Diagram (DFD) 16 3.6 Dara Dictionary of Data FlowDiagram 21 3.7 Process Specification 26 3.8 Entity Relationship Diagram 37 3.9 Mapping Entity – Relationship Diagram 38 3.10 Database schema 39

บทที่ 4 ผลการด าเนินงาน 45 4.1 กล่าวน า 45 4.2 ขอบเขตการท างานของระบบ 45 4.3 ขั้นตอนการท างานของโปรแกรม 46 4.4 ผลการทดสอบระบบ 57 4.5 สรุปผลการทดลอง 57

IV

สารบัญ (ต่อ)

บทที่ 5 สรุปผลการด าเนินงาน 58 5.1 สรุปผลการด าเนินงาน 58 5.2 ปัญหาและอุปสรรค 58 5.3 แนวทางการแก้ไขปัญหา 59 5.4 แนวทางการพัฒนาต่อ 59

เอกสารอ้างอิง 60 ภาคผนวก ก

ก.1 การติดตั้ง Microsoft SQL Server 62

V

สารบัญตาราง

หน้า ตารางที ่1.5.1 การด าเนินงานโครงงาน 1........................................................................................... 5 ตารางที ่1.5.2 การด าเนินงานโครงงาน 2........................................................................................... 6 ตารางที่ 3.1 แสดงรายละเอียดข้อมูลของผู้ใช้งานระบบ................................................................... 39 ตารางที ่3.2 แสดงรายละเอียดของซอฟต์แวร์.................................................................................. 39 ตารางที่ 3.3 รายละเอียดข้อมูลของแผนก........................................................................................ 40 ตารางที่ 3.4 รายละเอียดข้อมูลของซอฟต์แวร์ที่แผนกใช้งานได้....................................................... 40 ตารางที่ 3.5 รายละเอียดข้อมูลของระบบ........................................................................................ 41 ตารางที่ 3.6 รายละเอียดข้อมูลของเครื่องลูกข่าย............................................................................ 42 ตารางที่ 3.7 รายละเอียดข้อมูลของเครื่องลูกข่าย............................................................................ 43 ตารางที่ 3.8 รายละเอียดข้อมูลของซอฟต์แวร์ที่แผนกใช้งานได้...................................................... 43 ตารางที่ 3.9 รายละเอียดข้อมูลการดึงข้อมูล................................................................................... 44 ตารางที่ 4.1 ตารางการทดสอบระบบ.............................................................................................. 57

VI

สารบัญรูป

หน้า รูปที่ 2.1 สถาปัตยกรรมของ WMI...................................................................................................... 8 รูปที่ 2.2 การเชื่อมต่อระหว่างวินโดว์แอพพลิเคชั่นกับฐานข้อมูล..................................................... 10 รูปที่ 2.3 องค์ประกอบของ .NET Framework............................................................................... 11 รูปที่ 3.1 องค์ประกอบของระบบตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย.......... 14 รูปที่ 3.2 DFD Level 0 แสดงภาพรวมการท างานของระบบ.......................................................... 16 รูปที่ 3.3 DFD Level 1 รายละเอียดการท างานของระบบ............................................................. 17 รูปที่ 3.4 DFD Level 2 Process 1.0 จัดการผู้ใช้งานระบบ.......................................................... 18 รูปที่ 3.5 DFD Level 2 Process 2.0 จัดการซอฟต์แวร์................................................................ 18 รูปที่ 3.6 DFD Level 2 Process 3.0 จัดการแผนก....................................................................... 19 รูปที่ 3.7 DFD Level 2 Process 4.0 จัดการข้อมูลระบบ............................................................. 19 รูปที่ 3.8 DFD Level 2 Process 5.0 จัดการและตรวจสอบซอฟต์แวร์เครื่องลูกข่าย.................... 20 รูปที่ 3.9 DFD Level 2 Process 6.0 ออกรายงาน........................................................................ 21 รูปที่ 3.10 แผนภาพความสัมพันธ์ของตาราง................................................................................... 37 รูปที่ 4.1 หน้าต่างล็อกอินเข้าระบบ................................................................................................. 46 รูปที่ 4.2 หน้าต่างล็อกอินเมื่อเข้าสู่ระบบไม่ส าเร็จ........................................................................... 46 รูปที่ 4.3 หน้าต่างหลักของระบบ...................................................................................................... 47 รูปที่ 4.4 เมนู Main.......................................................................................................................... 48 รูปที่ 4.5 เมนู Settings..................................................................................................................... 49 รูปที่ 4.6 หน้าต่าง Scan Single IP.................................................................................................. 50 รูปที่ 4.7 หน้าต่าง Scan Range IP.................................................................................................. 50 รูปที่ 4.8 หน้าต่าง Re-Scan............................................................................................................. 51 รูปที่ 4.9 หน้าต่าง Reports.............................................................................................................. 51 รูปที่ 4.10 ประเภทรายงาน.............................................................................................................. 52 รูปที่ 4.11 รายงานผลการสแกนล่าสุด Windows และ Office....................................................... 52 รูปที่ 4.12 รายงานผลการสแกนเน็ตเวิร์ค แสดงโปรแกรม Blacklist............................................... 53 รูปที่ 4.13 หน้าต่าง Department ................................................................................................... 54 รูปที่ 4.14 หน้าต่าง Software......................................................................................................... 54 รูปที่ 4.15 หน้าต่าง Exception....................................................................................................... 55 รูปที่ 4.16 หน้าต่าง User................................................................................................................. 55 รูปที่ 4.17 หน้าต่าง Network for Scan......................................................................................... 56 รูปที่ ก.1 รูปตัวติดตั้งโปรแกรม Microsoft SQL Server................................................................ 63 รูปที่ ก.2 หน้าต่างแสดงรายการติดตั้ง.............................................................................................. 63 รูปที่ ก.3 หน้าต่างแสดงความพร้อมของการติดตั้ง........................................................................... 64 รูปที่ ก.4 หน้าต่างเลือกใช้ฟรีเวอร์ชั่นหรือแบบมี product key...................................................... 64 รูปที่ ก.5 หน้าต่างแสดงผลการตรวจสอบ........................................................................................ 65

VII

สารบัญรูป (ต่อ)

หนา้ รูปที่ ก.6 หน้าต่างยอมรับข้อตกลง.................................................................................................... 65 รูปที่ ก.7 หน้าต่างแสดงผลการตรวจสอบ......................................................................................... 66 รูปที่ ก.8 หน้าต่างเลือกฟีเจอร์.......................................................................................................... 66 รูปที่ ก.9 หน้าต่างรายการของฟีเจอร์ที่จะติดตั้ง............................................................................... 67 รูปที่ ก.10 หน้าต่างแสดงผลการตรวจสอบ....................................................................................... 68 รูปที่ ก.11 หน้าต่างตั้งชื่อ Named Instance............................................................ ...................... 69 รูปที่ ก.12 หน้าจอแสดงทรัพยากรที่ตัวติดตั้งต้องใช้......................................................................... 69 รูปที่ ก.13 หน้าต่างส าหรับคอนฟิกค่า.............................................................................................. 70 รูปที่ ก.14 หน้าต่างส าหรับเลือกรูปแบบการเก็บอักขระในระบบ..................................................... 70 รูปที่ ก.15 หน้าต่างส าหรับก าหนดการล๊อกอินเข้าระบบ.................................................................. 71 รูปที่ ก.16 หน้าต่างส าหรับเพ่ิมชื่อผู้ใช้.............................................................................................. 71 รูปที่ ก.17 หน้าต่างก าหนดค่าเซอร์วิช.............................................................................................. 72 รูปที่ ก.18 หน้าต่างส่ง Error ไปยังไมโครซอฟต.์.............................................................................. 72 รูปที่ ก.19 หน้าต่างแสดงผลการตรวจสอบ....................................................................................... 73 รูปที่ ก.20 หน้าต่างเตรียมก่อนการติดตั้ง.......................................................................................... 73 รูปที่ ก.21 หน้าต่างแสดงผลการติดตั้งส าเร็จ.................................................................................... 74

1

บทที่ 1 บทน า 1.1 ความเป็นมาของโครงงาน บริษัท วีนัสเทคโนโลยี่ จ ากัด ได้ด าเนินการก่อตั้งเมื่อปี 2537 เริ่มด าเนินการธุรกิจในด้านความงาม การแพทย์ เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันได้ท าการขยายธุรกิจออกไปอย่างกว้างขวางเช่น กลุ่มพลังงาน กลุ่มขนส่ง พลังงานทดแทน เป็นต้น โดยประกอบด้วยกลุ่มบริษัทในเครือ จ านวน 30 บริษัท(จ านวนบริษัท อาจมีการเพิ่มลด แล้วแต่กรณี) เนื่องด้วยจากการเติบโตทางธุรกิจ ที่มีความหลากหลาย และมีอัตราการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จึงได้น าเอาเทคโนโลยีสารสนเทศ เข้ามาใช้ภายในองค์กรมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบสนับสนุนการท างานต่างๆ ระบบการเชื่อมโยงสาขา และรวมไปถึง Infrastructure หลัก ที่คอยให้บริการแก่บุคลากรและกลุ่มบริษัทในเครือ เพ่ือให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ การท างานของเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่ายของกลุ่มบริษัทในเครือ จะท างานอยู่บนซอฟต์แวร์ ต่างๆเช่น ระบบปฏิบัติการและแอพพลิเคชั่นเฉพาะทางต่างๆ เช่น Microsoft Windows, Microsoft Office เป็นต้น ดังนั้นเพื่อให้องค์กรสามารถด าเนินการได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ จึงจ าเป็นที่จะต้องมีการจัดซื้อซอฟต์แวร์ให้เพียงพอต่อการใช้งานของกลุ่มบริษัทในเครือ และจะต้องมีระบบการตรวจสอบ ซอฟต์แวร์และไลน์เซ้นของที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่ายแต่ละเครื่อง ว่าติดตั้งถูกต้องตามนโยบายหรือมีการติดตั้งซอฟต์แวร์ต้องห้ามอยู่หรือไม่ รวมไปถึงนับจ านวนซอฟต์แวร์ที่ถูกติดตั้งไปแล้ว ว่าไม่เกินจ านวนของไลน์เซ้นทีซ่ื้อมา เพ่ือป้องกันการติดตั้งซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ หรือติดตั้งเกินจ านวนไลน์เซ้น ที่ซื้อมา ซึ่งจะเกิดผลเสียกับทางบริษัท ในปัจจุบันบริษัท วีนัสเทคโนโลยี่ จ ากัด ก าลังด าเนินการขยายธุรกิจเป็น บริษัทมหาชนจ ากัด ภายในปี พ.ศ. 2561 การตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ใช้งานของกลุ่มบริษัทในเครือ จึงมีความส าคัญและจ าเป็นต้องมี ซึ่งเป็นข้อก าหนดของส านักงานคณะกรรมการก ากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) เพ่ือให้องค์กรสามารถด าเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความต่อเนื่องและปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อเหตุการณ์ต่างๆที่อาจเกิดความเสียหายจากซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ จนไม่สามารถด าเนินการทางธุรกิจได้ ซึ่งจะท าให้องค์กรขาดความน่าเชื่อและความเสียหายต่อรายได้

2

จากที่ได้กล่าวมาในข้างต้น สรุปปัญหาที่มีอยู่ได้ดังนี้ 1.1.1 ปัจจุบัน ทางบริษัทได้ใช้โปรแกรมส าเร็จรูป ในการค้นหาซอฟต์แวร์ที่ถูกติดตั้งลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย แต่ก็มีค่าใช้จ่ายในการต่ออายุเป็นรายปี ซึ่งทางบริษัทต้องการลดรายจ่ายในส่วนนี้ 1.1.2 โปรแกรมส าเร็จรูปที่ใช้อยู่ จะมีการค้นหาเพ่ือครั้งเดียว ไม่มีระบบจัดเก็บประวัติการติดตั้ง ซอฟต์แวร์ก่อนหน้า 1.1.3 ไม่มีระบบการออกรายงาน ท าให้ไม่สามารถเปรียบเทียบหรือวิเคราะห์ข้อมูลการติดตั้ง ซอฟต์แวร์ก่อนหน้าได้ 1.1.4 ไม่สามารถรับรู้ได้ หากมีการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ละเมดิลิขสิทธิ์ หรือติดตั้งเกินจ านวนไลน์เซ้น ที่มีท าให้ไม่ผ่านมาตรฐานของส านักงานคณะกรรมการก ากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.)

1.2 ระบบหรือวิธีการที่น าเสนอ ระบบตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย ที่สามารถเก็บประวัติการตรวจสอบได้ โดยน าเสนอในรูปแบบของวินโดว์แพพลิเคชั่น โดยข้อมูลต่าง ๆ สามารถแสดงในรูปแบบของรายงาน เพ่ือให้สามารถน าเสนอผู้บริหาร เพ่ือใช้ในการตัดสินใจในการจัดหาซอฟต์แวร์ เพ่ือใช้งานหรือใช้ทดแทนได้อย่างเหมาะสม และรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต 1.3 วัตถุประสงค์ของโครงงาน

1.3.1 เพื่อตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย 1.3.2 เพ่ือเป็นการเฝ้าระวัง การติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ 1.3.3 เพ่ือเป็นการเฝ้าระวัง การติดตั้งซอฟต์แวร์เกินจ านวนของไลน์เซ้นที่มีอยู่ 1.3.4 เพ่ือจัดเก็บสถิติการใช้งานซอฟต์แวร์ต่างๆ เพ่ือใช้ในการวิเคราะห์การจัดหา ซอฟต์แวร์ทดแทนตามนโยบายขององค์กร 1.3.5 เพ่ือให้องค์กร บรรลุเป้าหมายในการขยายธุรกิจ เป็น บริษัทมหาชนจ ากัด ตามข้อก าหนดของส านักงานคณะกรรมการก ากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) 1.3.6 เพ่ือลดขั้นตอนการท างานที่ใช้เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน และเพ่ือลดความผิดพลาดจากการด าเนินการของเจ้าหน้าที่

3

1.4 ขอบเขตของโครงงาน

1.4.1 เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาและความสามารถของระบบ 1) เครื่องแม่ข่าย : ติดตั้ง MS Windows Server 2008R2 Standard และติดตั้งองค์ประกอบอ่ืนๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นเครื่องแม่ข่ายหลักในการให้บริการและเรียกใช้งานของระบบ

(1) MS SQL Server 20082 Standard (Free Edition) (2) MS Visual Studio Community 2017 (C#.Net) (3) Crystal Report 2013

2) เครื่องลูกข่าย: เครื่องที่ถูกท าการตรวจสอบ (Monitoring) (1) Agent: Windows Management Instrumentation (WMI)

3) Feature & Function (1) แสดงรายชื่อโปรแกรมที่ติดตั้งอยู่บนเครื่องลูกข่าย เช่น Microsoft Windows, Microsoft Office เ ป็ น ต้ น ป ริ ม า ณ ข อ ง ข้ อ มู ล ( Log Transaction) จัดเก็บตามค่าเรียลไทม์ท่ีมีการก าหนดไว้ (2) แสดง Product Key ของโปรแกรมที่ติดตั้งอยู่บนเครื่อง Client เช่น Microsoft Windows, Microsoft Office เป็นต้น (3) เก็บผลการสแกนลงดาต้าเบสทุกครั้ง (4) แจ้งเตือนเมื่อมโีปรแกรมท่ีไม่อยู่ในข้อก าหนดของนโยบาย (5) ส่วนการท างานในการก าหนดค่าพ้ืนฐานต่างๆ ของระบบ

ก าหนดค่ารูปแบบการเชื่อมต่อ ก าหนดค่าการเชื่อมต่อเครื่องปลายทาง ผ่านทางวินโดว์

แอพพลิเคชั่น เพ่ือก าหนดค่าเครื่องปลายทาง การส่งค าสั่งค ว บ คุ ม ก า ร ท า ง า น Windows Management Instrumentation (WMI)

ก าหนดค่ามาตรฐาน ในการแจ้งเตือน ก าหนดค่ ารายละเ อียดเครื่ องปลายทาง ผ่ านทาง

Windows Management Instrumentation (WMI)

4

4) Report (1) รายงานผลการสแกนล่าสุด Windows และ Office (2) รายงานผลการสแกนเน็ตเวิร์ค แสดงโปรแกรม Blacklist

1.4.2 สโคบการท าโครงงาน

1) โครงงาน 1 (1) เสนอหัวข้อโครงงาน (2) ศึกษาทฤษฎีที่เก่ียวข้องและความต้องการของระบบ (3) วิเคราะห์ออกแบบระบบงานและพัฒนาซอฟต์แวร์ตามความต้องการของระบบ

ส ารวจและจัดเก็บข้อมูลปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับระบบงาน ออกแบบระบบฐานข้อมูล ออกแบบหน้าจอ ออกแบบฟังก์ชั่นการติดต่อสื่อสาร และส่วนสนับสนุน

ระบบการท างาน จัดท าเอกสารการออกแบบระบบ น าเสนอเอกสารออกแบบระบบต่อองค์กร ปรับปรุงแก้ไขเอกสารการออกแบบระบบ

(4) น าเสนอโครงงาน 1 ต่อคณะกรรมการ น าเสนอเอกสารการออบแบบระบบ ในรูปแบบตัวต้นแบบ

Feature & Function ของระบบงาน รูปแบบของรายงานต่าง ๆ

(5) เตรียมความพร้อมเครื่องมือในการพัฒนา (6) ศึกษาเครื่องมือที่เก่ียวข้องในการพัฒนา

2) โครงงาน 2 (1) พัฒนาระบบตามเอกสารออกแบบระบบ (SRS) (2) ทดสอบการท างานและแก้ไขข้อผิดพลาด (ถ้ามี) (3) น าเสนอ โครงงาน 2 น าเสนอในรูปแบบการใช้งานผ่าน Virtual Machine

5

1.5 แผนการด าเนินงาน

ตารางที ่1.5.1 การด าเนินงานโครงงาน 1

แผนการท างานแต่ละสัปดาห์ สิงหาคม กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4

1.เสนอหัวข้อโครงงาน

2. ศึกษาทฤษฎีที่เกี่ยวข้องและความต้องการของระบบ

3. วิเคราะห์ออกแบบระบบงานและพัฒนาซอฟต์แวร์ตามความต้องการของระบบ

3.1 ส ารวจและจัดเก็บข้อมูลปัจจุบันที่เก่ียวข้องกับระบบงาน

3.2 ออกแบบระบบฐานข้อมูล

3.3 ออกแบบหน้าจอ

3.4 อ อ ก แ บ บ ฟั ง ก์ ชั่ น ก า รติดต่อสื่อสาร และส่วนสนับสนุนระบบการท างาน

3.5 จัดท าเอกสารการออกแบบระบบ

3.6 น าเสนอเอกสารออกแบบระบบต่อองค์กร

3.7 ป รั บปรุ ง แก้ ไ ข เ อกสารกา รออกแบบระบบ

6

ตารางที ่1.5.2 การด าเนินงานโครงงาน 2

แผนการท างานแต่ละสัปดาห์ มกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4

1.เตรียมความพร้อม เครื่องมือในการพัฒนา

2.ศึกษาเครื่องมือที่ เกี่ยวข้องในการพัฒนา

3.พั ฒ น า ร ะบ บ ต า ม เ อ ก ส า ร ก า รออกแบบระบบ

4.ทดสอบและแก้ไขข้อผิดพลาด

5.น าเสนอ โครงงาน 2 น าเสนอในรูปแบบการใช้งานจริง โดยน าเสนอผ่าน Virtual Machine

4 น าเสนอโครงงาน 1 น าเสนอเอกสารการออบแบบระบบ ในรูปแบบตัวต้นแบบ -Feature & Function ข อ งระบบงาน -รูปแบบของรายงานต่าง ๆ

7

บทที่ 2 พื้นฐานและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง

ในบทนี้จะกล่าวถึงพ้ืนฐานและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาระบบตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย ซึ่งจะกล่าวถึงเทคโนโลยีที่ส าคัญ ๆ ที่ใช้ในการพัฒนาดังนี้

2.1 Windows Management Instrumentation 2.2 ระบบฐานข้อมูล Microsoft SQL Server 2.3 .NET 2.4 Crystal Report

2.1 Windows Management Instrumentation

Windows Management Instrumentation หรือ WMI [1] ถูกพัฒนาโดยไมโครซอฟท์ที่ซึ่งเป็นการน า Web-Based Enterprise Management (WBEM) เข้ามาใช้ โดยเป็นแนวความคิดที่จะริเริ่มการพัฒนาเทคโนโลยีมาตราฐาน ที่ใช้ส าหรับเข้าถึงข้อมูลการจัดการสภาพแวดล้อมภายในองค์กรผ่านทางระบบเครือข่าย โดย WMI นั้นจะใช้มาตราฐาน Common Information Model (CIM) เพ่ือใช้ในการแสดงข้อมูลและดึงข้อมูลของระบบ, แอพพลิเคชั่น, อุปกรณ์ และส่วนประกอบอ่ืน ๆ โดย CIM นั้นถูกพัฒนาและดูแลโดยหน่วยงาน Distributed Management Task Force (DMTF)

WMI ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพ่ือใช้งานในระบบปฏิบัติการวินโดว์ส อาทิเช่น Windows Me, Windows 2000, Windows XP, Windows Server 2003, Windows Vista, Windows 7, Windows Server 2008, Windows 8, Windows Server 2012 และ Windows 10

2.1.1 WMI Architecture [2] WMI ได้จัดเตรียมรูปแบบการติดต่อส าหรับแอพพลิเคชั่นหรือสคริปต์ใด ๆ ก็ตามส าหรับ

เข้าถึงและจัดการข้อมูลผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ หรือระบบเครือข่ายขององค์กร ทั้งจากภายในพ้ืนที่ (Local) และภายนอกพ้ืน หรือระยะไกล (Remote) ผ่านทาง WMI Classes หรือ WMI provider

การเข้าถึงข้อมูล WMI นั้นจะต้องใช้ชุดค าสั่ง WMI Query Language (WQL) [3] ซึ่งเป็นชุดค าสั่งย่อยของ SQL (Structured Query Language) ที่ใช้ส าหรับเรียกข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ออกมาแสดงผล โดยการเข้าถึง Object ของ WMI ผ่านทาง WQL นั้น สามารถเข้าถึงได้จาก Cmdlet บน PowerShell ที่ใช้ชื่อว่า Get-WMI Object หรือจากเครื่องอ่ืน (Remote Computer) ภายในเครือข่ายได้ ซึ่งใช้การอ้างอิงผ่าน Computer Name หรือ IP Address

8

รูปที่ 2.1 สถาปัตยกรรมของ WMI

สถาปัตยกรรมของ WMI ประกอบด้วยองค์ประกอบ 3 ส่วนดัง รูปที่ 2.1 คือ

1) WMI Provider คือ COM Object ที่ท าหน้าที่ตรวจสอบและเข้าถึง ข้อมูลการท างานของ Managed Object ส าหรับ WMI ที่ซึ่ง WMI Provider จะจัดการการท างานของ Managed Object ที่เก่ียวกับองค์ประกอบทั้งทางด้าน Logical และ Physical ของคอมพิวเตอร์ อาทิเช่น ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk Drive), เน็ตเวิร์คการ์ด (Network Adapter), ระบบฐานข้อมูล (Database System), ระบบปฏิบัติการ (Operating System), การประมวลผล (Process) หรือแม้แต่ เซอร์วิส (Service) เป็นต้น, WMI Provider เปรียบเสมือนผู้ที่ท าหน้าที่ดึงข้อมูลและจัดการข้อมูลจาก Managed Object และจัดการข้อความหรือค าสั่งจาก WMI เพ่ือส่งไปยัง Managed Object โดยที่ WMI Provider ประกอบด้วยไฟล์ DLL และไฟล์ Managed Object Format (MOF) ที่ซึ่งท าหน้าที่จัดรูปแบบของข้อมูลให้เหมาะสม

9

2) WMI Infrastructure คือองค์ประกอบของระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์วินโดว์ส หรือรู้จักในชื่อของ WMI Service (winmgmt) โดย WMI Infrastructure จะประกอบไปด้วย 2 องค์ประกอบคือ WMI Core และ WMI Repository, หน้าที่ของ WMI Infrastructure คือจะท าหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่าง WMI Provider และ Management Application โดยมี WMI Repository ท าหน้าที่เก็บข้อมูลที่เกี่ยวกับ Object ที่อยู่ภายใน Repository เช่น Class ที่ถูกก าหนดโดย WMI Provider อาทิเช่น Win32_OperatingSystem หรือ Win32_Product เป็นต้น

3) WMI Consumers คื อ แ อพพลิ เ ค ชั่ น ห รื อ ส ค ริ ป ต์ ที่ ติ ด ต่ อ กั บ WMI

Infrastructure โดยตัวแอพพลิเคชั่นหรือสคริปต์สามารถค้นหาข้อมูล (Query), แจกแจงข้อมูล (Enumerate Data) หรือ ด าเนิน Provider Method โดยการเรียกใช้งาน COM API หรือ Scripting API ของ WMI ได้โดยที่ผู้ ใช้งานไม่จ าเป็นต้องยุ่งเก่ียวกับ WMI Provider เลย

2.1.2 การทดสอบและใช้งาน WMI การทดสอบสามารถใช้งานได้หลากหลายแอพพลิเคชั่น เช่น WBEMTEST หรือ WMIExplorer

โดยจ าเป็นที่จะต้องก าหนด Namespaces ให้ถูกต้อง เช่น \\127.0.0.1\\root\\cimv2 หรือ \\ComputerName\\root\\cimv2 โดยสามารถก าหนดเป็น IP Address หรือชื่อคอมพิวเตอร์ได้ จากนั้นให้ระบุ Class ที่ต้องการเ พ่ือท าการดึงข้อมูลผ่ านทาง WMI ด้วย WQL เช่น Class Win32_SystemBIOS หรือ Win32_Product เป็นต้น 2.2 Microsoft SQL Server

Microsoft SQL Server [4] เป็นแพลตฟอร์มดาต้าเบสครบวงจร ที่มีระบบบริหารข้อมูลระดับเอนเตอร์ไพรซ์ พร้อมทั้งยังมี เครื่องมือระบบธุรกิจอัจฉริยะ หรือที่ เรียกว่า business intelligence -BI SQL Server คือ ระบบจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database Management System หรือ RDBMS) และในตัวดาต้าเบสของ SQL Server จะช่วยให้การจัดเก็บข้อมูลรีเลชันแนล และข้อมูลที่มีโครงสร้างมีความปลอดภัยและมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมทั้งช่วยให้สร้างและบริหารแอพพลิเคชันข้อมูลประสิทธิภาพสูงและพร้อมที่จะให้บริการตลอดเวลา

ระบบฐานข้อมูลคือโครงสร้างสารสนเทศ ที่ประกอบด้วยรายละเอียดของข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันที่จะน ามาใช้ในระบบต่าง ๆ ร่วมกัน ซึ่งผู้ใช้สามารถจัดการกับข้อมูลได้ในลักษณะต่าง ๆ ทั้งการเพ่ิม การแก้ไข การลบ ตลอดจนการเรียกดูข้อมูล ในระบบตรวจสอบซอฟต์แวร์ภายในองค์กรด้วย WMI จึงเลือกใช้ระบบฐานข้อมูลเข้ามาบริหารจัดการข้อมูล โดยระบบฐานข้อมูลจะมีระบบจัดการฐานข้อมูลท าหน้าที่เชื่อมต่อกับฐานข้อมูล เพ่ือตอบสนองต่อข้อมูลที่ร้องข้อจากวินโดว์แอพพลิเคชั่น ดังรูปที่ 2.2

10

รูปที่ 2.2 การเชื่อมต่อระหว่างวินโดว์แอพพลิเคชั่นกับฐานข้อมูล ฐานข้อมูล (Database) [5] หมายถึง การจัดรวบรวมข้อมูล หรือข้อนิเทศของเรื่องหรือข้อมูลต่าง ๆ ไว้ในรูปแบบที่สามารถน ามาใช้ได้ทันทีเมื่อต้องการ ซึ่งในการเรียก ข้อมูลที่ได้บันทึกไว้นั้นอาจเรียกเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งมาใช้ประโยชน์เป็นครั้งคราวได้ ระบบจัดการฐานข้อมูล (Database Management System : DBMS) [6] เป็นโปรแกรมที่ท าหน้าที่ เป็นตัวกลางในการติดต่อระหว่างผู้ ใช้กับฐานข้อมูล เพ่ือจัดการและควบคุมความความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลต่าง ๆ ภายในฐานข้อมูล ระบบจัดการฐานข้อมูลที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน เช่น ออราเคิล (Oracle), ไมโครซอฟท์ ซีควลเซิร์ฟเวอร์ (Microsoft SQL Server), ไมโครซอฟท์ แอคเซส (Microsoft Access), เอสคิวไลท์ (SQLite), มายเอสคิวแอล (MySQL) ภาษา SQL (Standard Query Language) [7] คือ ภาษาหนึ่งที่นิยมใช้ในการเขียนโปรแกรม เพ่ือเชื่อมต่อและจัดการกับฐานข้อมูลโดยเฉพาะ เป็นภาษาที่เป็นระบบเปิด และมีมาตรฐานอยู่บนระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ หมายถึง สามารถใช้ค าสั่ง SQL กับฐานข้อมูลชนิดใด ๆ ก็ได้ และจะได้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน บนระบบฐานข้อมูลที่แตกต่าง ท าให้สามารถเลือกใช้ฐานข้อมูลชนิดใดก็ได้โดยไม่ยึดติดกับฐานข้อมูลใดฐานข้อมูลหนึ่ง ภาษา SQL จะมีค าสั่งหลัก ๆ อยู่ 2 ประเภท คือ

2.2.1 DDL - Data Definition Language ใช้ในการจัดการโครงสร้างของ table, view และ index ได้แก่ ค าสั่ง create, alter เป็นต้น 2.2.2 DML - Data Manipulation Language ใช้ในการปรับปรุงข้อมูลภายในตารางเช่น select, insert, update, delete

11

2.3 ASP.NET แอ็พพลิเคชัน Windows Forms เป็นแอ็พพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วยเหตุการณ์ เมื่อผู้ใช้กระท าเหตุการบางอย่าง ที่เหตุการณ์นั้นรองรับกับ Microsoft's .NET Framework เช่น กรอกข้อมูลลงในกล่องข้อความหรือคลิกปุ่ม ไม่เหมือนโปรแกรมแบทช์ส่วนใหญ่ ที่เพียงแค่รอให้ผู้ใช้ท าอะไรบางอย่าง

วินโดว์ฟอร์มมีการเข้าถึงการควบคุมทั่วไปของอินเทอร์เฟซส าหรับผู้ใช้วินโดว์แบบดั้งเดิม โดยการตัด Windows API ที่มีอยู่ในโค้ดที่ได้รับการจัดการ ด้วยความช่วยเหลือของ Windows Forms .NET Framework

รูปที่ 2.3 องค์ประกอบของ .NET Framework

12

2.3.1 Programming Languages ภาษาที่ใช้ในการพัฒนาเช่น Visual C#, Visual Basic, Visual C++, Visual J# หรือภาษาอ่ืน ๆ ที่รองรับ .NET Framework

2.3.2 NET Class Library คือ Class หลาย ๆ Class ที่อยู่รวมกันเป็น Class Library เช่น Windows from Classes, ASP.NET Classes โ ด ย ส า ม า ร ถ เ รี ย ก Class ไ ด้ ผ่ า น ท า ง Namespace ข อ ง Class เ ช่ น System.Windows.Forms, System.Management, System.Data.SqlClient เป็นต้น

2.3.3 Common Language Runtime CLR เป็นองค์ประกอบที่ส าคัญที่สุดส าหรับเทคโนโลยี .NET ท าหน้าที่ในการจัดการ Object เช่น เรียกใช้งาน จัดสรรหน่วยความจ า จัดเก็บลงหน่วยความจ า เป็นต้น และยังท าหน้าที่ให้ภาษาที่เขียนขึ้นบน .NET นั้นสามารถท างานร่วมกันได้ และสร้างภาษากลางที่ระบบสามารถน าไปประมวลผลได้ เมื่อถูกคอมไพล์ เรียกภาษานี้ว่า Intermediate language (IL) CLR มีส่วนของคอมไพเลอร์ทั้งที่เป็นแบบปกติ คือคอมไพล์ก่อนที่จะน าโปรแกรมไปใช้ และแบบ Just-In-Time คือคอมไพล์เมื่อจะใช้โปรแกรมนั้น ๆ 2.4 Crystal Report 2013 เป็นแอพพลิแคชั่นที่ถูกรวมมาแล้วใน Microsoft Visual Studio ใช้ส าหรับเป็นเครื่องมือแสดงรายงานของข้อมูลที่ดึงออกมาจากฐานข้อมูล และสามารถจัดเรียงข้อมูล เพ่ือน าเสนอได้ในหลายรูปแบบ เช่น การจัดกลุ่มข้อมูล, หรือการแสดงข้อมูลในรูปแบบกราฟ เป็นต้น

13

บทที่ 3 การด าเนินการ 3.1 กล่าวน า ในบทนี้จะกล่าวถึงข้ันตอนการออกแบบการท างานของระบบ และกระบวนการท างานในส่วนต่างๆ รวมทั้งโครงสร้างของฐานข้อมูลบน Microsoft SQL Server 3.2 แนวทางการออกแบบระบบ ศึกษาและรวบรวมข้อมูล รวมถึงศึกษาความเป็นไปได้ของการพัฒนาระบบตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย โดยแบ่งหัวข้อไว้ดังนี้

3.1.1 ศึกษาโครงสร้างและการท างานของ Windows Management Instrumentation 3.1.2 ศึกษารายละเอียดของคลาสของ WMI ที่น่าสนใจ ที่ซึ่งสามารถน ามาใช้งานในระบบได้ 3.1.3 ศึกษารูปแบบและชุดค าสั่งของ WMI ที่ใช้ในการพัฒนา 3.1.4 ศึกษาระบบการท างานของ Microsoft SQl Server 3.1.5 ศึกษาภาษา SQL อาทิเช่น Select, Insert, Update หรือ Delete 3.1.6 ศึกษาการพัฒนาวินโดว์แอพพลิเคชั่นด้วยภาษา C# 3.1.7 ศึกษาการเขียนโปแกรมบน Microsoft Visual Studio ด้วย ASP.NET

14

3.3 องค์ประกอบของระบบ องค์ประกอบของระบบตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย จะถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลักๆ ดังรูปที่ 3.1

รูปที่ 3.1 องค์ประกอบของระบบตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย

3.1.1 ผู้ดูแลระบบ หมายถึง เจ้าหน้าที่ผู้ดูแล ที่ท าหน้าที่ในการตรวจสอบและดูแลข้อมูลในระบบผ่านวินโดว์แอพพลิเคชั่น, ผู้เกี่ยวข้อง คือ เจ้าหน้าที่ท่ีมีชื่ออยู่ใน “ตารางผู้ใช้งานระบบ” แต่ไม่ได้ล๊อคอินเข้าใช้งานในขณะที่โปรแกรมท างาน เช่น ก าลังปฏิบัติหน้าที่อ่ืนอยู่ 3.1.2 วินโดว์สแอพพลิเคชั่น คือ โปรแกรมที่พัฒนาขึ้นมาเพ่ือใช้ในการจัดการและตรวจสอบซอฟต์แวร์ในองค์กรผ่านระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 3.1.3 ระบบฐานข้อมูล คือ ที่เก็บข้อมูลต่างๆ ที่เก่ียวข้องกับการท างานของระบบ 3.1.4 เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วยคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการวินโดว์ส อาทิเช่น Windows Server 2008 R2, Windows 7 หรือ Windows 10 ที่อยู่ในระบบเครือข่าย

15

3.4 การท างานของระบบ การท างานของระบบตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย จะแบ่งกระบวนการออกเป็น 2 ส่วน โดยที่ส่วนที่หนึ่ง จะเป็นกระบวนการที่ผู้ดูแลระบบเป็นผู้ด าเนินการ และส่วนที่สอง เป็นกระบวนการที่ด าเนินการโดยระบบ

3.4.1 กระบวนการท างานของผู้ดูแลระบบ

1) ผู้ดูแลเข้าสู่ระบบตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย 2) ผู้ดูแลค้นหาเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านทางหน้าจอของวินโดว์สแอพพลิเคชั่นด้วยวิธีการ Ping และเพ่ิมเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตรวจพบลงฐานข้อมูล 3) ผู้ดูแลระบบเพ่ิมซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ติดตั้งลงบนคอมพิวเตร์ในเครือข่ายลงฐานข้อมูล 4) ผู้ดูแลระบบตั้งคาบเวลาที่ระบบตรวจสอบใช้ในกระบวนการตรวจสอบและเวลาที่ใช้ในกระบวนการแจ้งเตือน

3.4.2 กระบวนการท างานของระบบ 1) ระบบตรวจสอบเวลาที่ผู้ดูแลตั้งไว้ 2) เมื่อถึงเวลาที่ตั้งไว้ ระบบจะตรวจสอบเครือข่ายตาม IP Address ของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ผู้ดูแลระบบได้เพ่ิมไว้ 3) ระบบจะดึงรายการซอฟต์แวร์ที่ได้ติดตั้งของ IP นั้น ๆ ขึ้นมา 4) ระบบจะเปรียบเทียบรายชื่อซอฟต์แวร์ที่ได้ดึงขึ้นมากับรายชื่อซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ติดตั้ง 5) ระบบจะบันทึกข้อมูลของซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ติดตั้งที่ตรวจพบลงฐานข้อมูล 6) ระบบจะแจ้งเตือนรายชื่อซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ติดตั้งตามเวลาที่ได้ตั้งไว้

16

3.5 Data Flow Diagram (DFD)

รูปที่ 3.2 DFD Level 0 แสดงภาพรวมการท างานของระบบ

จากรูปที่ 3.2 DFD Level 0 จะแสดงให้เห็นภาพรวมของระบบตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย โดยจะมีการแสดงความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น โดยผู้ดูแลระบบจะจัดการกับข้อมูลของผู้ใช้งาน, ข้อมูลระบบ และข้อมูลของเครื่องลูกข่าย ให้กับระบบตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย และจะท าหน้าที่รับข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบและแจ้งเตือนพร้อม ๆ กับผู้ใช้งาน หลังจากวิเคราะห์ DFD Level 0 แล้ว จึงวิเคราะห์ DFD Level 1 ต่อไป เพ่ือให้ทราบถึงรายละเอียดของระบบที่ชัดเจนมากยิ่งข้ึน

17

รูปที่ 3.3 DFD Level 1 รายละเอียดการท างานของระบบ

18

จากรูปที่ 3.3 DFD Level 1 จะแสดงให้เห็นรายละเอียดการท างานของระบบตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยแบ่งเป็นกระบวนการต่าง ๆ ดังนี้ 3.5.1 Process 1.0 จัดการผู้ใช้งานระบบ 3.5.2 Process 2.0 จัดการแผนก 3.5.3 Process 3.0 จัดการซอฟต์แวร์ 3.5.4 Process 4.0 จัดการข้อมูลระบบ 3.5.5 Process 5.0 จัดการและตรวจสอบซอฟต์แวร์เครื่องลูกข่าย 3.5.6 Process 6.0 ออกรายงาน ในแต่ละกระบวนการ (Process) ยังมีรายละเอียดของกระบวนการต่าง ๆ ที่อยู่ภายในกระบวนการนั้น ๆ อยู่อีก ซึ่งจะถูกอธิบายอยู่ใน DFD Level 2 โดนมีรายละเอียด ดังนี้

รูปที่ 3.4 DFD Level 2 Process 1.0 จัดการผู้ใช้งานระบบ

รูปที่ 3.5 DFD Level 2 Process 2.0 จัดการซอฟต์แวร์

19

รูปที่ 3.6 DFD Level 2 Process 3.0 จัดการแผนก

รูปที่ 3.7 DFD Level 2 Process 4.0 จัดการข้อมูลระบบ

20

รูปที่ 3.8 DFD Level 2 Process 5.0 จัดการและตรวจสอบซอฟต์แวร์เครื่องลูกข่าย

21

รูปที่ 3.9 DFD Level 2 Process 6.0 ออกรายงาน

3.6 Dara Dictionary of Data FlowDiagram

3.6.1 Data Dictionary of Data Flow Diagram Level 2 1) Process 1.0 จัดการผู้ใช้งานระบบ

ข้อมูลผู้ใช้งาน = usrID + UsrNam + UsrPwd + usrName + usrMail + usrLevel + usrLastLogin เพ่ิมข้อมูลผู้ใช้งาน = usrID + UsrNam + UsrPwd + UsrName + usrMail + usrLevel + usrLastLogin แก้ไขข้อมูลผู้ใช้งาน = UsrNam + UsrPwd + UsrName+ usrMail+ usrLevel ลบข้อมูลผู้ใช้งาน = usrID

2) Process 2.0 จัดการซอฟท์แวร์ ข้อมูลซอฟต์แวร์ = swID + swName + swDesc + swPriority เพ่ิมข้อมูลซอฟต์แวร์ = swID + swName + swDesc + swPriority แก้ไขข้อมูลซอฟต์แวร์ = swName + swDesc + swPriority ลบข้อมลูซอฟต์แวร์ = swID

22

3) Process 3.0 จัดการแผนก ข้อมูลแผนก = deptID + deptName + deptDesc เพ่ิมข้อมูลแผนก = deptID + deptName + deptDesc แก้ไขข้อมูลแผนก = deptName + deptDesc ลบข้อมูลแผนก = deptID เพ่ิมข้อมูลซอฟต์แวร์ในแผนก = deptDTID + deptID + swID + swName แก้ไขข้อมูลซอฟต์แวร์ในแผนก = deptID + swID + swName ลบข้อข้อมูลซอฟต์แวร์ในแผนก = deptDTID

4) Process 4.0 จัดการข้อมูลระบบ ข้อมูลระบบ = sysID + sysTimeScan + sysTimeAlert + sysLine+sysLineToken+sysLineTemplate+ sysMailHost +sysMailPort + sysMailFrom + sysMailPwd + sysMailTo + sysMailCC + sysMailTemplate + sysDomainUsr + sysDomainPwd + sysDomainAut + sysSQLSvr + sysSQLDB + sysSQLUsr + sysSQLPwd แก้ไขข้อมูลระบบ = sysID + sysTimeScan + sysTimeAlert + sysLine+sysLineToken+sysLineTemplate+ sysMailHost +sysMailPort +sysMailFrom + sysMailPwd + sysMailTo + sysMailCC + sysMailTemplate + sysDomainUsr + sysDomainPwd + sysDomainAut + sysSQLSvr + sysSQLDB + sysSQLUsr + sysSQLPwd ลบข้อมูลระบบ = sysID

23

5) Process 5.0 จัดการและตรวจสอบซอฟต์แวร์เครื่องลูกข่าย ข้อมูลเครื่องลูกข่าย = comID + comIP + comName + comBrand + comModel + comSN + comOS + comMAC + comDesc1 + comDesc2 +comDesc3 +comLastUpdate+ deptID + comStatus เพ่ิมข้อมูลเครื่องลูกข่าย = comID + comIP + comName + comBrand + comModel + comSN + comOS + comMAC + comDesc1 + comDesc2 +comDesc3 +comLastUpdate+ deptID + comStatus แก้ไขข้อมูลเครื่องลูกข่าย = comID + comIP + comName + comBrand + comModel + comSN + comOS + comMAC + comDesc1 + comDesc2 +comDesc3 +comLastUpdate+ deptID + comStatus ลบข้อมูลเครื่องลูกข่าย = comID ข้อมูลแผนก = deptID + deptName + deptDesc ข้อมูลซอฟต์แวร์ = swID + swName + swDesc + swPriority ซอฟต์แวร์ที่แผนกใช้งานได ้ = deptDTID + deptID + swID + swName ข้อมูลระบบ = sysTimeScan ข้อมูลการตรวจสอบ = xHeader + xMsg ข้อมูลการตรวจสอบซอฟต์แวร์ = tranID +tswID +tswName +tswVersion + tswVendor + tswInstallDate +tswIdenNo + tswDesc + tranLastScan + tcomID + tswPriority + tswAllowDesc ข้อมูลการแจ้งเตือน = alertID + alertName + alertComID + alertPriority + alertDate ข้อมูลการดึงข้อมูล = logID +logName +logDetail +logPriority+ logDesc + logDate

24

6) Process 6.0 ออกรายงาน ข้อมูลผู้ใช้งาน = usrID + UsrNam + UsrPwd + usrName +

usrMail + usrLevel + usrLastLogin ข้อมูลแผนก = deptID + deptName + deptDesc ข้อมูลซอฟต์แวร์ = swID + swName + swDesc + swPriority + deptID ข้อมูลระบบ = sysID + sysTimeScan + sysTimeAlert + sysLine+sysLineToken+sysLineTemplate+ sysMail + sysMailSvr + sysMailPort + sysMailFrom + sysMailPwd + sysMailTo + sysMailCC + sysMailTemplate + sysDomainUsr + sysDomainPwd + sysDomainAut + sysSQLSvr + sysSQLDB + sysSQLUsr + sysSQLPwd ข้อมูลเครื่องลูกข่าย = comID + comIP + comName + comBrand + comModel + comSN + comOS + comMAC + comDesc1 + comDesc2 +comDesc3+comLastUpdate + comDeptID + comStatus ข้อมูลการตรวจสอบซอฟต์แวร์ = tranID + tswID +tswName +tswVersion + tswVendor + tswInstallDate +tswIdenNo + tswDesc + tranLastScan + tcomID + tswPriority + tswAllowDesc} ข้อมูลการแจ้งเตือน = alertID + alertName + alertComID + alertPriority + alertDate ข้อมูลการดึงข้อมูล = logID +logName +logDetail +logPriority+ logDesc + logDate

25

3.6.2 Data Dictionary of Data Store D1: tbUsr = usrID + UsrNam + UsrPwd + usrName + usrMail + usrLevel + usrLastLogin D2: tbswList = swID + swName + swDesc + swPriority D3: tbDept = deptID + deptName + deptDesc D9: tbDeptDT = deptDTID + deptID + swID + swName D4: tbSystem = sysID + sysTimeScan + sysTimeAlert + sysLine + sysLineToken + sysLineTemplate + sysMailHost + sysMailPort + sysMailFrom + sysMailPwd + sysMailTo + sysMailCC + sysMailTemplate + sysDomainUsr + sysDomainPwd + sysDomainAut D5: tbCom = comID + comIP + comName + comBrand + comModel + comSN + comOS + comMAC + comDesc1 + comDesc2 + comDesc3 + comLastUpdate + comDeptID + comStatus D6: tbTran = tranID + tswID + tswName + tswVersion + tswVendor + tswInstallDate + tswIdenNo + tswDesc + tranLastScan + tcomID + tswPriority + tswAllowDesc + swPriority D7: tbAlert = alertID + alertName + alertComID + alertPriority + alertDate D8: tbLog = logID + logName + logDetail + logPriority + logDesc + logDate

26

3.7 Process Specification Process Number : 1.1 Process Name : เพ่ิมผู้ใช้งานระบบ Description : ค้นหาข้อมูล ว่ามีอยู่ก่อนแล้วหรือไม่ เพ่ือเพ่ิมข้อมูล Input Data Flow : “ข้อมูลผู้ใช้งานระบบใหม่” จากผู้ดูแลระบบ Output Data Flow : เพ่ิม “ข้อมูลผู้ใช้งานระบบ” ลง Data Store: D1 Type of Process : Online Batch Manual Process Logic : begin input “ข้อมูลผู้ใช้งานระบบใหม่” if “UsrNam” not in “D1” then Connect to Database Service insert “ข้อมูลผู้ใช้งานระบบใหม่” else Show Message “Can’t insert!, data is exists.” end if end

27

Process Number : 1.2 Process Name : แก้ไขผู้ใช้งานระบบ Description : ค้นหาข้อมูลผู้ใช้งานระบบ เพ่ือแก้ไข Input Data Flow : “ข้อมูลผู้ใช้งานระบบ” จาก Data Store: D1 Output Data Flow : แก้ไข “ข้อมูลผู้ใช้งานระบบ” ลง Data Store: D1 Type of Process : Online Batch Manual Process Logic : begin search “ข้อมูลผู้ใช้งาน” edit “ข้อมูลผู้ใช้งาน” if Confirm Message “Update” = true then Connect to Database Service update “ข้อมูลผู้ใช้งาน” end if end Process Number : 1.3 Process Name : ลบผู้ใช้งานระบบ Description : ค้นหาข้อมูลผู้ใช้งานระบบ เพ่ือลบ Input Data Flow : “ข้อมูลผู้ใช้งาน” จาก Data Store: D1 Output Data Flow : ลบ “ข้อมูลผู้ใช้งาน” ใน Data Store: D1 Type of Process : Online Batch Manual Process Logic : begin search “ข้อมูลผู้ใช้งานระบบ” if “UsrNam” is exists in “D1” then Connect to Database Service delete “ข้อมูลผู้ใช้งานระบบ” else Show Message “Can’t delete!, data is referenced.” end if end

28

Process Number : 2.1 Process Name : เพ่ิมข้อมูลซอฟต์แวร์ Description : ค้นหาข้อมูล ว่ามีอยู่ก่อนแล้วหรือไม่ เพ่ือเพ่ิมข้อมูล Input Data Flow : “ข้อมูลซอฟต์แวร์” จากผู้ดูแลระบบ Output Data Flow : เพ่ิม “ข้อมูลซอฟต์แวร์” ใน Data Store: D2 Type of Process : Online Batch Manual Process Logic : begin input “ข้อมูลซอฟต์แวร์” if “swName” not in “D2” then Connect to Database Service insert “ข้อมูลซอฟต์แวร์” else Show Message “Can’t insert!, data is exists.” end if end Process Number : 2.2 Process Name : แก้ไขข้อมูลซอฟต์แวร์ Description : ค้นหาข้อมูล ว่ามีอยู่ก่อนแล้วหรือไม่ เพ่ือแก้ไข Input Data Flow : “ข้อมูลซอฟต์แวร์” จากผู้ดูแลระบบ Output Data Flow : แก้ไข “ข้อมูลซอฟต์แวร์” ลง Data Store: D2 Type of Process : Online Batch Manual Process Logic : begin search “ข้อมูลซอฟต์แวร์” edit “ข้อมูลซอฟต์แวร์” if Confirm Message “Update” = true then Connect to Database Service update “ข้อมูลซอฟต์แวร์” end if end

29

Process Number : 2.3 Process Name : ลบข้อมูลซอฟต์แวร์ Description : ค้นหาข้อมูล ว่ามีอยู่ก่อนแล้วหรือไม่ เพ่ือลบ Input Data Flow : “ข้อมูลซอฟต์แวร์” จากผู้ดูแลระบบ Output Data Flow : ลบ “ข้อมูลซอฟต์แวร์” ใน Data Store: D2 Type of Process : Online Batch Manual Process Logic : begin search “ข้อมูลซอฟต์แวร์” if “swName” is exists = false then Connect to Database Service delete “ข้อมูลซอฟต์แวร์” else Show Message “Can’t delete!, data is referenced.” end if end Process Number : 3.1 Process Name : เพ่ิมแผนก Description : ค้นหาข้อมูล ว่ามีอยู่ก่อนแล้วหรือไม่ เพ่ือเพ่ิมข้อมูล Input Data Flow : “ข้อมูลแผนกใหม่” จากผู้ดูแลระบบ Output Data Flow : เพ่ิม “ข้อมูลแผนกใหม่” ลง Data Store: D3 Type of Process : Online Batch Manual Process Logic : begin input “ข้อมูลแผนกใหม่” if “deptName” not in “D3” then Connect to Database Service insert “ข้อมูลแผนกใหม่” else Show Message “Can’t insert!, data is exists.” end if end

30

Process Number : 3.2 Process Name : แก้ไขแผนก Description : ค้นหาข้อมูล ว่ามีอยู่ก่อนแล้วหรือไม่ เพ่ือแก้ไข Input Data Flow : “ข้อมูลแผนก” จากผู้ดูแลระบบ Output Data Flow : แก้ไข “ข้อมูลแผนก” ลง Data Store: D3 Type of Process : Online Batch Manual Process Logic : begin search “ข้อมูลแผนก” edit “ข้อมูลแผนก” if Confirm Message “Update” = true then Connect to Database Service update “ข้อมูลแผนก” end if end Process Number : 3.3 Process Name : ลบแผนก Description : ค้นหาข้อมูล ว่ามีอยู่ก่อนแล้วหรือไม่ เพ่ือลบ Input Data Flow : “ข้อมูลแผนก” จากผู้ดูแลระบบ Output Data Flow : ลบ “ข้อมูลแผนก” ใน Data Store: D3 Type of Process : Online Batch Manual Process Logic : begin search “ข้อมูลแผนก” if “deptName” is exists = false then Connect to Database Service delete “ข้อมูลแผนก” else Show Message “Can’t delete!, data is referenced.” end if end

31

Process Number : 4.1 Process Name : เพ่ิมข้อมูลระบบ Description : ค้นหาข้อมูล ว่ามีอยู่ก่อนแล้วหรือไม่ เพ่ือเพ่ิมข้อมูล Input Data Flow : “ข้อมูลระบบ” จากผู้ดูแลระบบ Output Data Flow : เพ่ิม “ข้อมูลระบบ” ใน Data Store: D4 Type of Process : Online Batch Manual Process Logic : begin input “ข้อมูลระบบ” if “sysTimeAlert” not in “D4” then Connect to Database Service insert “ข้อมูลระบบ” else Show Message “Can’t insert!, data is exists.” end if end Process Number : 4.2 Process Name : แก้ไขข้อมูลระบบ Description : ค้นหาข้อมูล ว่ามีอยู่ก่อนแล้วหรือไม่ เพ่ือแก้ไข Input Data Flow : “ข้อมูลระบบ” จากผู้ดูแลระบบ Output Data Flow : แก้ไข “ข้อมูลระบบ” ลง Data Store: D4 Type of Process : Online Batch Manual Process Logic : begin search “ข้อมูลระบบ” edit “ข้อมูลระบบ” if Confirm Message “Update” = true then Connect to Database Service update “ข้อมูลระบบ” end if end

32

Process Number : 4.3 Process Name : ลบข้อมูลระบบ Description : ค้นหาข้อมูล ว่ามีอยู่ก่อนแล้วหรือไม่ เพ่ือลบ Input Data Flow : “ข้อมูลระบบ” จากผู้ดูแลระบบ Output Data Flow : ลบ “ข้อมูลระบบ” ใน Data Store: D4 Type of Process : Online Batch Manual Process Logic : begin search “ข้อมูลระบบ” if “sysTimeAlert” is exists = false then Connect to Database Service delete “ข้อมูลระบบ” else Show Message “Can’t delete!, data is referenced.” end if end Process Number : 5.1 Process Name : เพ่ิมข้อมูลเครื่องลูกข่าย Description : ค้นหาข้อมูล ว่ามีอยู่ก่อนแล้วหรือไม่ เพ่ือเพ่ิมข้อมูล Input Data Flow : “ข้อมูลเครื่องลูกข่าย” จากผู้ดูแลระบบ Output Data Flow : เพ่ิม “ข้อมูลเครื่องลูกข่าย” ใน Data Store: D5 Type of Process : Online Batch Manual Process Logic : begin input “ข้อมูลเครื่องลูกข่าย” if “comIP” not in “D5” then Connect to Database Service insert “ข้อมูลเครื่องลูกข่าย” else Show Message “Can’t insert!, data is exists.” end if end

33

Process Number : 5.2 Process Name : แก้ไขข้อมูลเครื่องลูกข่าย Description : ค้นหาข้อมูล ว่ามีอยู่ก่อนแล้วหรือไม่ เพ่ือแก้ไข Input Data Flow : “ข้อมูลเครื่องลูกข่าย” จากผู้ดูแลระบบ Output Data Flow : แก้ไข “ข้อมูลเครื่องลูกข่าย” ลง Data Store: D5 Type of Process : Online Batch Manual Process Logic : begin search “ข้อมูลเครื่องลูกข่าย” edit “ข้อมูลเครื่องลูกข่าย” if Confirm Message “Update” = true then Connect to Database Service update “ข้อมูลเครื่องลูกข่าย” end if end Process Number : 5.3 Process Name : ลบข้อมูลเครื่องลูกข่าย Description : ค้นหาข้อมูล ว่ามีอยู่ก่อนแล้วหรือไม่ เพ่ือลบ Input Data Flow : “ข้อมูลเครื่องลูกข่าย” จากผู้ดูแลระบบ Output Data Flow : ลบ “ข้อมูลเครื่องลูกข่าย” ใน Data Store: D5 Type of Process : Online Batch Manual Process Logic : begin search “ข้อมูลเครื่องลูกข่าย” if “comIP” is exists = false then Connect to Database Service delete “ข้อมูลเครื่องลูกข่าย” else Show Message “Can’t delete!, data is referenced.” end if end

34

Process Number : 5.4 Process Name : ดึงข้อมูล Description : ดึงข้อมูล เพ่ือใช้เป็นค่าตั้งต้นในการตรวจสอบเครื่องลูกข่าย Input Data Flow : ช่วง “ข้อมูล” ที่ต้องการตรวจสอบ Output Data Flow : “ข้อมูล” จาก Data Store: D2, D3, D4, D5 Type of Process : Online Batch Manual Process Logic : begin while if current time > sysTimeScan do while “ข้อมูลเครื่องลูกข่าย” รายการซอฟต์แวร์ที่ร้องขอ = WMI Service Get(“Product”) from “comIP” end do Connect Database Service insert “Automatic Scan Alarm” ลงใน Data Store: D8 if sysLine == 1 Connect Line Notify Service Sent “ข้อมูลแจ้งเตือน”to Line Notify end If if sysMail == 1 Connect Email Service Sent “ข้อมูลแจ้งเตือน” To Email end If end If end while end

35

Process Number : 5.5 Process Name : ตรวจสอบเครื่องลูกข่าย Description : ตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องลูกข่าย Input Data Flow : ช่วง “ข้อมูล” ที่ต้องการตรวจสอบ Output Data Flow : ข้อมูลของซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งอยู่บนเครื่องลูกข่าย Type of Process : Online Batch Manual Process Logic : begin if รายการซอฟต์แวร์ที่ตรวจพบ is not null then Connect Database Service do while “ข้อมูลการตรวจสอบ” if “ชื่อซอฟต์แวร์ที่ตรวจพบ” = “ชื่อซอฟต์แวร์ต้องห้าม” then insert “ข้อมูลการตรวจสอบ” ลงใน Data Store: D7 if sysLine == 1 Connect Line Notify Service Sent “ข้อมูลแจ้งเตือน”to Line Notify end If if sysMail == 1 Connect Email Service Sent “ข้อมูลแจ้งเตือน” To Email end If else insert “ข้อมูลการตรวจสอบ” ลงใน Data Store: D6 end if end do end if end

36

Process Number : 6.0 Process Name : ออกรายงาน Description : แสดงรายงานการตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องลูกข่าย Input Data Flow : ช่วง “ข้อมูลที่ต้องการเรียกดู” Output Data Flow : ความสัมพันธ์ของ “ข้อมูล” จาก Data Store: D2, D3, D4, D5, D6, D7, D8 Type of Process : Online Batch Manual Process Logic : begin input “ข้อมูลที่ต้องการเรียกดู” if “ข้อมูลที่ต้องการเรียกดู” is exists = true then Connect to Database Service Show “รายงาน” end if end

37

3.8 Entity Relationship Diagram

รูปที่ 3.10 แผนภาพความสัมพันธ์ของตาราง

38

3.9 Mapping Entity – Relationship Diagram tbUsr = usrID + UsrNam + UsrPwd + usrName + usrMail + usrLevel + usrLastLogin tbswList = swID + swName + swDesc + swPriority tbDept = deptID + deptName + deptDesc tbDeptDT = deptDTID + deptID + swID + swName tbSystem = sysID + sysTimeScan + sysTimeAlert + sysLine + sysLineToken + sysLineTemplate + sysMailHost + sysMailPort + sysMailFrom + sysMailPwd + sysMailTo + sysMailCC + sysMailTemplate + sysDomainUsr + sysDomainPwd + sysDomainAut tbCom = comID + comIP + comName + comBrand + comModel + comSN + comOS + comMAC + comDesc1 + comDesc2 + comDesc3 + comLastUpdate + comDeptID + comStatus tbTran = tranID + tswID + tswName + tswVersion + tswVendor + tswInstallDate + tswIdenNo + tswDesc + tranLastScan + tcomID + tswPriority + tswAllowDesc + swPriority tbAlert = alertID + alertName + alertComID + alertPriority + alertDate tbLog = logID + logName + logDetail + logPriority + logDesc + logDate

39

3.10 Database schema รายละเอียดของโครงสร้างฐานข้อมูลที่ใช้ส าหรับระบบตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย จะประกอบไปด้วยตารางต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ ตารางแสดงรายละเอียดข้อมูลของผู้ใช้งานระบบ เช่น ล าดับของข้อมูล , ชื่อผู้ใช้งานระบบ, รหัสผ่าน, ชื่อ-นามสกุลจริงของผู้ใช้, อีเมล, ระดับของผู้ใช้ และเวลาที่เข้าใช้งานครั้งล่าสุด ตามตารางท่ี 3.1

ตารางท่ี 3.1 แสดงรายละเอียดข้อมูลของผู้ใช้งานระบบ tbUsr

Field Name Type Detail Comment usrID int ล าดับของข้อมูล PK usrNam nvarchar(20) ชื่อผู้ใช้งานระบบ usrPwd nvarchar(20) รหัสผ่าน usrName nvarchar(255) ชื่อ-นามสกุลจริงของผู้ใช้ usrMail nvarchar(255) อีเมล usrLevel int ระดับของผู้ใช้ usrLastLogin datetime เวลาที่เข้าใช้งานครั้งล่าสุด

ตารางแสดงรายละอียดข้อมูลของซอฟต์แวร์ เช่น ล าดับของข้อมูล, ชื่อซอฟต์แวร์, หมายเหตุ และล าดับความส าคัญ ตามตารางท่ี 3.2

ตารางท่ี 3.2 แสดงรายละเอียดของซอฟต์แวร์ tbSwList

Field Name Type Detail Comment swID int ล าดับของข้อมูล PK swName nvarchar(255) ชื่อซอฟต์แวร์ swDes nvarchar(255) หมายเหตุ swPriority int ล าดับความส าคัญ

40

ตารางแสดงรายละเอียดข้อมูลของแผนก เช่น ล าดับของข้อมูล, ชื่อแผนก และหมายเหตุ ตามตารางท่ี 3.3

ตารางท่ี 3.3 รายละเอียดข้อมูลของแผนก tbDept

Field Name Type Detail Comment deptID int ล าดับของข้อมูล PK deptName nvarchar(255) ชื่อแผนก deptDes nvarchar(255) หมายเหตุ

ตารางแสดงรายละเอียดข้อมูลของซอฟต์แวร์ที่แผนกใช้งานได้ เช่น ล าดับของข้อมูล, หมายเลขของแผนก, หมายเลขของซอฟต์แวร์ และชื่อซอฟต์แวร์ ตามตารางท่ี 3.4

ตารางท่ี 3.4 รายละเอียดข้อมูลของซอฟต์แวร์ที่แผนกใช้งานได้ tbDeptDT

Field Name Type Detail Comment deptDTID int ล าดับของข้อมูล PK deptID int หมายเลขของแผนก FK swID int หมายเลขของซอฟต์แวร์ FK swName nvarchar(255) ชื่อซอฟต์แวร์

41

ตารางแสดงรายละเอียดข้อมูลของระบบ เช่น ล าดับของข้อมูล, เวลาที่เริ่มตรวจสอบ, เวลาที่เริ่มแจ้งเตือน, ชื่อผู้ใช้ของโปรแกรมไลน์, โทเคนของโปรแกรมไลน์, เทมเพลสของไลน์, เครื่องแม่ข่ายของอีเมล, พอทของอีเมล, อีเมลของผู้ส่ง, รหัสของอีเมลผู้ส่ง, อีเมลของผู้รับ, อีเมลของผู้เกี่ยวข้อง, เทมเพลสของอีเมล, ชื่อผู้ใช้งานโดเมน, รหัสของผู้ใช้งานโดเมน, ไอพีของเครื่องโดเมน, ไอพีของเครื่องดาต้าเบส, ชื่อดาต้าเบส, ชื่อผู้ใช้ของดาต้าเบส และรหัสดาต้าเบส ตามตารางท่ี 3.5

ตารางท่ี 3.5 รายละเอียดข้อมูลของระบบ tbSystem

Field Name Type Detail Comment sysID int ล าดับของข้อมูล PK sysTimeScan datetime เวลาที่เริ่มตรวจสอบ sysTimeAlert datetime เวลาที่เริ่มแจ้งเตือน sysLine nvarchar(60) ชื่อผู้ใช้ของโปรแกรมไลน์ sysLineToken nvarchar(255) โทเคนของโปรแกรมไลน์ sysLineTemplate nvarchar(255) เทมเพลสของไลน์ sysMailHost nvarchar(255) เครื่องแม่ข่ายของอีเมล sysMailPort int พอทของอีเมล sysMailFrom nvarchar(255) อีเมลของผู้ส่ง sysMailPwd nvarchar(20) รหัสของอีเมลผู้ส่ง sysMailTo nvarchar(255) อีเมลของผู้รับ sysMailCC nvarchar(255) อีเมลของผู้เกี่ยวข้อง sysMailTemplate nvarchar(255) เทมเพลสของอีเมล sysDomainUsr nvarchar(20) ชื่อผู้ใช้งานโดเมน sysDomainPwd nvarchar(20) รหัสของผู้ใช้งานโดเมน sysDomainAut nvarchar(100) ไอพีของเครื่องโดเมน sysSQlSvr nvarchar(100) ไอพีของเครื่องดาต้าเบส sysSQlDB nvarchar(100) ชื่อดาต้าเบส sysSQlUsr nvarchar(20) ชื่อผู้ใช้ของดาต้าเบส sysSQlPwd nvarchar(20) รหัสดาต้าเบส

42

ตารางแสดงรายละเอียดข้อมูลของเครื่องลูกข่าย เช่น ล าดับของข้อมูล, ไอพีของเครื่องลูกข่าย, ชื่อของเครื่องลูกข่าย, ยี่ห้อของเครื่องลูกข่าย, รุ่นของเครื่องลูกข่าย, ซีเรียลของเครื่องลูกข่าย, ระบบปฏิบัติการ, แอ็ดเดรสของเครื่องลูกข่าย, รายละเอียดเพิ่มเติม 1, รายละเอียดเพิ่มเติม 2, รายละเอียดเพิ่มเติม 3, วันที่อัพเดตล่าสุด, รหัสของแผนก และสถานะเครื่องลูกข่าย ตามตารางท่ี 3.6

ตารางท่ี 3.6 รายละเอียดข้อมูลของเครื่องลูกข่าย TbCom

Field Name Type Detail Comment comID int ล าดับของข้อมูล PK comIP nvarchar(20) ไอพีของเครื่องลูกข่าย comName nvarchar(20) ชื่อของเครื่องลูกข่าย comBrand nvarchar(20) ยี่ห้อของเครื่องลูกข่าย comModel nvarchar(20) รุ่นของเครื่องลูกข่าย comSN nvarchar(20) ซีเรียลของเครื่องลูกข่าย comOS nvarchar(20) ระบบปฏิบัติการ comMAC nvarchar(20) แอ็ดเดรสของเครื่องลูกข่าย comDesc1 nvarchar(255) รายละเอียดเพิ่มเติม 1 comDesc2 nvarchar(255) รายละเอียดเพิ่มเติม 2 comDesc3 nvarchar(255) รายละเอียดเพิ่มเติม 3 comLastUpdate datetime วันที่อัพเดตล่าสุด deptID int รหัสของแผนก FK comStatus int สถานะเครื่องลูกข่าย

43

ตารางแสดงรายละเอียดข้อมูลของเครื่องลูกข่าย เช่น ล าดับของข้อมูล, รหัสของซอฟต์แวร์, ชื่อซอฟต์แวร์, เวอร์ชั่นของซอฟต์แวร์, ชื่อผู้จ าหน่าย, วันที่ติดตั้ง, รหัสยืนยันการติดตั้ง, รายละเอียดเพิ่ม, วันที่ตรวจสอบล่าสุด, รหัสเครื่องลูกข่าย และรหัสเครื่องลูกข่าย ตามตารางท่ี 3.7

ตารางท่ี 3.7 รายละเอียดข้อมูลของเครื่องลูกข่าย tbTran

Field Name Type Detail Comment tranID int ล าดับของข้อมูล PK tswID int รหัสของซอฟต์แวร์ FK swName nvarchar(255) ชื่อซอฟต์แวร์ tswVersion nvarchar(100) เวอร์ชั่นของซอฟต์แวร์ tswVendor nvarchar(255) ชื่อผู้จ าหน่าย tswInstallDate datetime วันที่ติดตั้ง tswIdenNo nvarchar(100) รหัสยืนยันการติดตั้ง tswDesc nvarchar(255) รายละเอียดเพิ่ม tswLastScan datetime วันที่ตรวจสอบล่าสุด tcomID int รหัสเครื่องลูกข่าย FK swPriority int ล าดับความส าคัญ

ตารางแสดงรายละเอียดข้อมูลการแจ้งเตือน เช่น ล าดับของข้อมูล, หัวข้อการแจ้งเตือน, รหัสเครื่องลูกข่าย, ล าดับความส าคัญ และวันที่แจ้งเตือน ตามตารางท่ี 3.8

ตารางท่ี 3.8 รายละเอียดข้อมูลของซอฟต์แวร์ที่แผนกใช้งานได้ TbAlert

Field Name Type Detail Comment alertID int ล าดับของข้อมูล PK alertName nvarchar(255) หัวข้อการแจ้งเตือน alertComID int รหัสเครื่องลูกข่าย FK alertPriority int ล าดับความส าคัญ alertDate datetime วันที่แจ้งเตือน

44

ตารางแสดงรายละเอียดข้อมูลการดึงข้อมูล เช่น ล าดับของข้อมูล, หัวข้อการเก็บล็อก, รายละเอียดการเก็บล็อก, ระดับความส าคัญ, รายละเอียดเพิ่มเติม และเวลาที่บันทึก ตามตารางท่ี 3.9

ตารางท่ี 3.9 รายละเอียดข้อมูลการดึงข้อมูล TbLog

Field Name Type Detail Comment logID int ล าดับของข้อมูล logName nvarchar(100) หัวข้อการเก็บล็อก logDetail nvarchar(MAX) รายละเอียดการเก็บล็อก logPriority int ระดับความส าคัญ logDesc nvarchar(255) รายละเอียดเพิ่มเติม logDate datetime เวลาที่บันทึก

45

บทที่ 4 ผลการด าเนินงาน

4.1 กล่าวน า การทดลองการท างานของบบตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย ท าโดยเชื่อมต่อระบบ เข้ากับระบบเน็ตเวิร์คคอมพิวเตอร์ในรูปแบบโดเมนคอนโทรลเลอร์ของบริษัท ซึ่งได้ใช้เครื่องมือในการทดสอบดังนี้

4.1.1 เครื่องมือพัฒนาโปรแกรม Microsoft Visual Studio Community 2017 4.1.2 ระบบฐานข้อมูล Microsoft SQL Server 2008R2 4.1.3 Crystal Report

4.2 ขอบเขตการท างานของระบบ

ระบบตรวจสอบซอฟต์แวร์ในองค์กรด้วย WMI ที่ได้พัฒนาขึ้นมานั้นมีความสามารถในการท างานต่าง ๆ อาทิเช่น

4.2.1 แสกนตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์บนเครือข่าย (ลูกข่าย) โดยกระบวนการ Ping ไปยังหมายเลข IP Address ตามช่วงที่ก าหนด 4.2.2 แสกนตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์บนเครือข่ายตามฐานข้อมูลของ IP Address ที่มี ตามช่วงเวลาที่ก าหนด 4.2.3 แสดงรายละเอียดข้อมูลของคอมพิวเตอร์ภายในโดเมนอาทิ เช่น ชื่อเครื่อง ระบบปฏิบัติการ หรือยี่ห้อ ฯลฯ 4.2.4 แสดงรายละเอียดข้อมูลของซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งอยู่ บนเครื่องคอมพิวเตอร์ภายในโดเมน 4.2.5 แสดงรายละเอียดข้อมูลของซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ติดตั้งอยู่ 4.2.6 แจ้งเตือนรายการซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ติดตั้งผ่านทางอีเมล

46

4.3 ขั้นตอนการท างานของโปรแกรม เมื่อเริ่มต้นการใช้งานระบบเป็นครั้งแรก ผู้ใช้จะพบกับหน้าต่างล็อกอินเพ่ือเข้าสู่ระบบ ดังรูปที่ 4.1 ผู้ใช้งานจะต้องป้อนชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านเพ่ือเข้าสู่ระบบ โดยระบบจะตรวจสอบข้อมูลชื่อผู้ใช้งานกับฐานข้อมูล Microsoft SQL Server ถ้าชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านถูกต้อง ผู้ใช้จะสามารถเข้าสู่ระบบได้ อีกท้ังกระบวนการเข้าสู่ระบบ ยังมีการแจ้งเตือนการเข้าใช้งานไปยังผู้ดูแลระบบอีกด้วย

รูปที่ 4.1 หน้าต่างล็อกอินเข้าระบบ

แต่ถ้าหากผู้ใช้งานกรอกชื่อผู้ใช้งานหรือรหัสผ่านไม่ถูกต้อง ผู้ใช้งานจะไม่สามารถเข้าใช้งานระบบได้ ดังรูปที่ 4.2

รูปที่ 4.2 หน้าต่างล็อกอินเมื่อเข้าสู่ระบบไม่ส าเร็จ

47

ในหน้าจอหลักของระบบ จะมีลิงค์ เพ่ือไปยังส่วนอื่น ๆ ของระบบ ประกอบไปด้วย 4.3.1 เมนู Main ใช้ส าหรับการท างานหลัก ๆ ของระบบ 4.3.2 เมนู Settings ใช้ส าหรับก าหนดค่าท่ีจะใช้งานในระบบ 4.3.3 เมนู Logout ใช้ส าหรับล๊อกเอ้าออกจากระบบ

และในหน้าหลักยังแสดงข้อมูลอ่ืน ๆ อีกเช่น วันที่ท าการสแกนล่าสุดม จ านวนของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ในฐานข้อมูลของระบบ , จ านวนซอฟต์แวร์ที่ห้ามติดตั้ง , รายละเอียดของไอพีแอดเดรสของเครื่องที่ถูกสแกน ระบบปฏิบัติการที่ติดตั้ง และรายการของซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งในเครื่อง ดังรูปที่ 4.3

รูปที่ 4.3 หน้าต่างหลักของระบบ

48

เมนู Main จะประกอบไปด้วยลิงค์เพ่ือไปยังหน้าต่างดังต่อไปนี้ หน้าต่าง Main ใช้ส าหรับแสดงหน้าต่างหลัก หน้าต่าง Scan Single IP ใช้ส าหรับสแกนครั้งละ 1 ไอพีแอดเดรส หน้าต่าง Scan Range IP ใช้ส าหรับสแกนไอพีแอดเดรสแบบช่วง หน้าต่าง Re-Scan ใช้ส าหรับสแกนไอพีแอดเดรส ตามท่ีได้ก าหนดไว้แล้ว หน้าต่าง Reports ใช้ส าหรับแสดงรายงาน ดังรูปที่ 4.4

รูปที่ 4.4 เมนู Main

49

เมนู Settings จะประกอบไปด้วยลิงค์เพ่ือไปยังหน้าต่างดังต่อไปนี้ หน้าต่าง Department ใช้ส าหรับก าหนดแผนก หน้าต่าง Software ใช้ส าหรับก าหนดซอฟต์แวร์ที่ห้ามติดตั้ง หน้าต่าง Exception ใช้ส าหรับยกเว้นไอพีแอดเดรส ให้ติดตั้งซอฟต์ว์ได้ หน้าต่าง User ใช้ส าหรับก าหนดผู้เข้าใช้งานระบบ หน้าต่าง Network for Scan ใช้ส าหรับก าหนดช่วงของไอพีแอดเดรส ดังรูปที่ 4.5

รูปที่ 4.5 เมนู Settings

50

หน้าต่าง Scan Single IP ใช้ส าหรับสแกนครั้งละ 1 ไอพีแอดเดรส ดังรูปที่ 4.6

รูปที่ 4.6 หน้าต่าง Scan Single IP

หน้าต่าง Scan Range IP ใช้ส าหรับสแกนไอพีแอดเดรสแบบช่วง ดังรูปที่ 4.7

รูปที่ 4.7 หน้าต่าง Scan Range IP

51

หน้าต่าง Re-Scan ใช้ส าหรับสแกนไอพีแอดเดรส ตามที่ได้ก าหนดไว้แล้ว ดังรูปที่ 4.8

รูปที่ 4.8 หน้าต่าง Re-Scan

หน้าต่าง Reports ใช้ส าหรับแสดงรายงาน ดังรูปที่ 4.9

รูปที่ 4.9 หน้าต่าง Reports

52

ณ ปัจจุบันที่รายงานให้เลือก 2 ประเภทคือ รายงานผลการสแกนล่าสุด Windows และ Office รายงานผลการสแกนเน็ตเวิร์ค แสดงโปรแกรม Blacklist ดังรูปที่ 4.10

รูปที่ 4.10 ประเภทรายงาน

รายงานผลการสแกนล่าสุด Windows และ Office ดังรูปที่ 4.11

รูปที่ 4.11 รายงานผลการสแกนล่าสุด Windows และ Office

53

รายงานผลการสแกนเน็ตเวิร์ค แสดงโปรแกรม Blacklist ดังรูปที่ 4.12

รูปที่ 4.12 รายงานผลการสแกนเน็ตเวิร์ค แสดงโปรแกรม Blacklist

54

หน้าต่าง Department ใช้ส าหรับก าหนดแผนก ดังรูปที่ 4.13

รูปที่ 4.13 หน้าต่าง Department

หน้าต่าง Software ใช้ส าหรบัก าหนดซอฟต์แวร์ที่ห้ามติดตั้ง ดังรูปที่ 4.14

รูปที่ 4.14 หน้าต่าง Software

55

หน้าต่าง Exception ใช้ส าหรบัยกเว้นไอพีแอดเดรส ให้ติดตั้งซอฟต์ว์ได้ ดังรูปที่ 4.15

รูปที่ 4.15 หน้าต่าง Exception

หน้าต่าง User ใช้ส าหรับก าหนดผู้เข้าใช้งานระบบ ดังรูปที่ 4.16

รูปที่ 4.16 หน้าต่าง User

56

หน้าต่าง Network for Scan ใช้ส าหรับก าหนดช่วงของไอพีแอดเดรส ดังรูปที่ 4.17

รูปที่ 4.17 หน้าต่าง Network for Scan

57

4.4 ผลการทดสอบระบบ จากการทดสอบใช้งานระบบตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่ายนั้น ระบบสามารถท างานได้ทุกระบบตามท่ีออกแบบไว้ โดยมีตารางการทดสอบระบบตามตารางที่ 4.1

รายการทดสอบ ผลการทดสอบ การเข้าสู่ระบบ ผู้ใช้สามารถเข้าใช้งานระบบได้ การค้นหาเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถค้นหาเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ การดึงข้อมูลเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถดึงข้อมูลได้ผ่านทาง WMI การตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต สามารถตรวจสอบได ้การแจ้งเตือน สามารถแจ้งเตือนได ้

4.5 สรุปผลการทดลอง จากการทดลองท างานของระบบตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย ตัวระบบตรวจสอบสามารถท างานได้ตามจุดประสงค์และแผนงานที่วางไว้ โดยตัวระบบสามารถดึงข้อมูลของเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านระบบเครือข่าย (ลูกข่าย) ได้ตามที่ได้ก าหนดไว้ และยังสามารถติดต่อกับเซอร์วิสภายนอกเพ่ือใช้ส าหรับการแจ้งเตือนได้ อาทิเช่น อีเมล ได้ตามท่ีก าหนดไว้ ท าให้ช่วยลดระยะเวลาที่ใช้ในกระบวนการตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับอนุญาตบนเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ ซึ่งส่งผลท าให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้วางไว้

58

บทที่ 5 สรุปผลการด าเนินงาน

5.1 สรุปผลการด าเนินงาน จากการศึกษาการท างานของ WMI และการพัฒนาระบบตรวจสอบซอฟต์แวร์ในองค์กร เพ่ือเก็บข้อมูลของเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านระบบเครือข่าย นั้นสามารถท างานได้ตามวัตถุประสงค์และแผนงานที่ได้วางไว้ โดยสามารถดึงรายละเอียดของเครื่องคอมพิวเตอร์นั้น ๆ ออกมาได้อาทิเช่น ชื่อคอมพิวเตอร์, ยี่ห้อ, รุ่น หรือแม้แต่รายชื่อซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งอยู่บนเครื่อง อีกทั้งยังมีความสามารถในการเปรียบเทียบชื่อซอฟต์แวร์ที่ตรวจพบ กับรายชื่อซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ติดตั้งได้อีกด้วย พร้อมทั้งมีระบบแจ้งเตือนการตรวจพบรายชื่อซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต ที่ซึ่งสามารถตั้งเวลาที่ต้องการให้แจ้งเตือนได้ ในการตรวจสอบซอฟต์แวร์นั้นสามารถก าหนดช่วงเวลาให้ระบบตรวจสอบได้ ซึ่งท าให้ลดปัญหาและระยะเวลาในการท างานและตรวจสอบลงได้ 5.2 ปัญหาและอุปสรรค

5.2.1 การดึงข้อมูลผ่าน WMI นั้นจ าเป็นที่จะต้องใช้สิทธิ์ Administrator และคอมพิวเตอร์ที่ต้องการนั้นจ าเป็นที่จะต้องเชื่อมต่ออยู่กับโดเมนคอนโทรลเลอร์เท่านั้น 5.2.2 ข้อมูลบางอย่างของคอมพิวเตอร์ไม่สามารถดึงออกมาได้ 5.2.3 การดึงรายชื่อซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์นั้น ใช้เวลานานท าให้การท างานของโปรแกรมไม่ไหลลื่น และตอบสนองไม่ทันต่อความต้องการในการใช้งาน 5.2.4 ระหว่างที่มีการดึงข้อมูลนั้น ไม่สามารถแสดงผลได้แบบ Real-time ต้องรอจนได้ก้อนข้อมูลมาทั้งหมดก่อน จึงจะสามารถแสดงผลลัพธ์ และท างานในกระบวนการต่อไปได ้5.2.5 การเปรียบเทียบซอฟต์แวร์ที่ตรวจพบกับรายการที่ซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต ยังมีความสามารถในการเปรียบเทียบที่ไม่ยืดหยุ่นและดีพอ 5.2.6 เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนา คือ Microsoft Visual Studio Community 2017 ซึ่งเป็นตัวฟรี มีข้อจ ากัด เช่น ไม่มี Crystal Report ติดมาให้ ท าให้ต้องท าการดาวน์โหลด Crystal Report for .Net มาติดตั้งเพ่ิมเติมเอง ซึ่งหลังการติดตั้ง บางเครื่องจะเกิดปัญหาไม่มีสามารถใช้งาน Controls ชื่อ Reporting ได ้5.2.7 ข้อจ ากัดของค าสั่งและฟังก์ชั่นใน Microsoft Visual Studio Community 2017 ที่ไม่สามารถใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการทุกเวอร์ชั่น 5.2.8 โครงสร้างของเครื่องคอมพิวเตอร์หรือระบบปฏิบัติการของเครื่องเป้าหมาย ไม่รองรับชุดค าสั่งของ WMI

59

5.3 แนวทางการแก้ไขปัญหา 5.3.1 ทดลองใช้ Service ตัวอ่ืน ๆ เข้าช่วยในการดึงค่าต่าง ๆ ที่ไม่สามารถดึงด้วยได้ WMI 5.3.2 ศึกษาและจัดหาเทคโนโลยีอ่ืน ๆ เพ่ือน ามาช่วยในการแสดงผลให้ท างานแบบ Real-time ได ้5.3.3 ศึกษาและหากระบวนการเปรียบเทียบข้อมูลที่มีประสิทธิภาพกว่าปัจจุบัน 5.3.4 แยกเคสของชุดค าสั่งให้รองรับกับแต่ละระบบปฏิบัติการ เพราะบางระบบปฏิบัติการไม่รองบางชุดค าสั่ง ท าให้เกิดข้อผิดพลาด และโปรแกรมหยุดท างาน 5.3.5 ดึงข้อมูลเฉพาะที่จ าเป็น เพราะบางเครื่องไม่มีค่าที่ต้องการดึง ท าให้เกิดข้อผิดพลาด และโปรแกรมหยุดท างาน

5.4 แนวทางการพัฒนาต่อ

5.4.1 เพิ่มความสามารถของระบบการสืบค้นให้มีประสิทธิภาพกว่าปัจจุบัน 5.4.2 เพ่ิมระบบถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับอนุญาตโดยอัตโนมัติ 5.4.3 แยกเคสของชุดค าสั่งให้รองรับกับแต่ละระบบปฏิบัติการ 5.4.4 ปรับชุดค าสั่งส าหรับดึงข้อมูล ให้รองรับกับเครื่องคอมพิวเตอร์ให้มากที่สุด

60

เอกสารอ้างอิง [1] C# MessageBox สืบค้นวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 https://www.dotnetperls.com/messagebox-show [2] Generate a List of Installed Programs in Windows สืบค้นวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 https://helpdeskgeek.com/how-to/generate-a-list-of-installed-programs-in-windows/ [3] ExecuteNonQuery: Insert Update and Delete สืบค้นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 https://www.aspsnippets.com/Articles/ExecuteNonQuery-Insert-Update-and-Delete-examples-in-C-and-VBNet.aspx [4] WMI providers supported in Windows 10 สืบค้นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 https://docs.microsoft.com/en-us/windows/client-management/mdm/wmi-providers-supported-in-windows [5] Connecting to WMI Remotely with C# สืบค้นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 https://msdn.microsoft.com/en-us/library/mt703458(v=vs.85).aspx [6] Win32_Product class สืบค้นวันที่ 5 มีนาคม 2561 https://msdn.microsoft.com/en-us/library/aa394378(v=vs.85).aspx [7] How to Fix “The RPC Server is Unavailable” สืบค้นวันที่ 5 มีนาคม 2561 https://msdn.microsoft.com/en-us/library/aa394378(v=vs.85).aspx [8] ManagementScope Class สืบค้นวันที่ 26 มีนาคม 2561 https://msdn.microsoft.com/en-us/library/system.management.managementscope(v=vs.110).aspx [9] Howto: Get a List of Installed Software on Domain สืบค้นวันที่ 27 มีนาคม 2561 https://www.action1.com/kb/list_of_installed_software_on_remote_computer.html

61

[10] Securing a Remote WMI Connection สืบค้นวันที่ 21 เมษายน 2561 https://msdn.microsoft.com/en-us/library/windows/desktop/aa393266(v=vs.85).aspx [11] ManagementObjectCollection.Count Property สืบค้นวันที่ 21 เมษายน 2561 https://msdn.microsoft.com/en-us/library/system.management.managementobjectcollection.count(v=vs.110).aspx [12] Enable the (Hidden) Administrator Account สืบค้นวันที่ 30 เมษายน 2561 https://www.howtogeek.com/howto/windows-vista/enable-the-hidden-administrator-account-on-windows-vista/ [13] Download SAP Crystal Reports, developer version สืบค้นวันที่ 30 เมษายน 2561 http://www.crystalreports.com/crvs/confirm/

62

ภาคผนวก ก การติดตั้ง Microsoft SQL Server

63

การติดตั้ง Microsoft SQL Server 1. รันตัวติดตั้งของโปรแกรม Microsoft SQL Server 2008R2

รูปที่ ก.1 รูปตัวติดตั้งโปรแกรม Microsoft SQL Server

2. เลือกหัวข้อ Installation และเลือก New SQL Server stand-alone installation or add features to an existing installation. เพ่ือติดตั้ง SQL Server

รูปที่ ก.2 หน้าต่างแสดงรายการติดตั้ง

64

3. ระบบจะตรวจสอบความพร้อมของระบบ ถ้าไม่พบข้อผิดพลาดให้กด OK เพ่ือไปต่อ

รูปที่ ก.3 หน้าต่างแสดงความพร้อมของการติดตั้ง

4. เลือกว่าจะใช้งานแบบฟรีหรือแบบต้องใช้ product key

รูปที่ ก.4 หน้าต่างเลือกใช้ฟรีเวอร์ชั่นหรือแบบมี product key

65

5. โปรแกรมจะตรวจสอบความพร้อมเบื้องต้น และแสดงผลให้ทราบ

รูปที่ ก.5 หน้าต่างแสดงผลการตรวจสอบ

6. เลือกยอมรับข้อตกลง เพ่ือด าเนินการติดตั้งต่อไป

รูปที่ ก.6 หน้าต่างยอมรับข้อตกลง

66

7. โปรแกรมจะตรวจสอบอีกครั้ง และแสดงผลให้ทราบ

รูปที่ ก.7 หน้าต่างแสดงผลการตรวจสอบ

8. เลือกฟีเจอร์ที่จะติดตั้ง

รูปที่ ก.8 หน้าต่างเลือกฟีเจอร์

67

9. โปรแกรมจะแสดงรายการของฟีเจอร์ที่จะติดตั้ง

รูปที่ ก.9 หน้าต่างรายการของฟีเจอร์ที่จะติดตั้ง

68

10 . โปรแกรมจะตรวจสอบการรองรับการติดตั้งฟีเจอร์ แล้วแสดงผลการตรวจสอบ

รูปที่ ก.10 หน้าต่างแสดงผลการตรวจสอบ

69

11. ตั้งชื่อ Instance

รูปที่ ก.11 หน้าต่างตั้งชื่อ Named Instance

12. หน้าจอแสดงทรัพยากรที่ตัวติดตั้งต้องใช้

รูปที่ ก.12 หน้าจอแสดงทรัพยากรที่ตัวติดตั้งต้องใช้

70

13. หน้าต่างส าหรับคอนฟิกค่า

รูปที่ ก.13 หน้าต่างส าหรับคอนฟิกค่า

14. หน้าต่างส าหรับเลือกรูปแบบการเก็บอักขระในระบบ ให้เลือกเป็น Thai_CI_AI

รูปที่ ก.14 หน้าต่างส าหรับเลือกรูปแบบการเก็บอักขระในระบบ

71

15. หน้าต่างส าหรับก าหนดการล๊อกอินเข้าระบบ

รูปที่ ก.15 หน้าต่างส าหรับก าหนดการล๊อกอินเข้าระบบ

16. หน้าต่างส าหรับเพ่ิมชื่อผู้ใช้ ให้เพ่ิมผู้ใช้ปัจจุบันเข้าไป

รูปที่ ก.16 หน้าต่างส าหรับเพ่ิมชื่อผู้ใช้

72

17. หน้าต่างก าหนดค่าเซอร์วิช ที่จะติดตั้ง

รูปที่ ก.17 หน้าต่างก าหนดค่าเซอร์วิช

18. โปรแกรมจะถามว่า ถ้ามีข้อผิดพลาดจะให้ส่งไปยังไมโครซอฟต์หรือไม่, กด Next

รูปที่ ก.18 หน้าต่างส่ง Error ไปยังไมโครซอฟต์

73

19. โปรแกรมจะตรวจสอบ แสดงแสดงผลอีกรอบ

รูปที่ ก.19 หน้าต่างแสดงผลการตรวจสอบ

20. หน้าต่างเตรียมก่อนการติดตั้ง

รูปที่ ก.20 หน้าต่างเตรียมก่อนการติดตั้ง

74

21. หน้าต่างแสดงผลการติดตั้งส าเร็จ

รูปที่ ก.21 หน้าต่างแสดงผลการติดตั้งส าเร็จ