ROPYLENE UMBER ROPYLENE XIDE UMBEReiadoc.onep.go.th/eialibrary/3transport/52/E59P(ESB)C11... · 2009-10-21 · รายงานการวิเคราะห ผลกระทบส

รายงานการวิเคราะหผลกระทบสิ่งแวดลอม - รายงานฉบับยอ 5-1 โครงการถมทะเล และกอสรางทาเทยีบเรือและคลังเกบ็วัตถุดิบและผลิตภัณฑปโตรเคมี กันยายน 2552

5 การประเมินอนัตรายรายแรง

5.1 คุณสมบัตขิองผลิตภัณฑ

5.1.1 โพรไพลีน (PROPYLENE (UN NUMBER=1077))

เปนกาซ ไมมีสี มีกล่ินเบาบาง จุดเดือดเทากับ -47.7 oC ความหนาแนนไอ (อากาศ=1) เทากับ 1.5 ไมละลายน้ํา จัดเปนสารไวไฟสูง และสามารถเกิดการระเบิดไดหากมีการผสมกับอากาศ อุณหภูมิที่สามารถติดไฟไดเองเทากับ 455 oC บรรจุในถังทรงกลม (sphere tank) ขนาดเสนผาศูนยกลางถังเทากับ 26 เมตร บรรจุประมาณ 7,822 ลูกบาศกเมตร จํานวน 2 ถัง ดําเนินการ

ขนสงผานทางทอที่มีขนาดเสนผาศูนยกลาง 8 นิ้ว และ 12 นิ้ว ดังแสดงในตารางที่ 5.1-1 และตาราง

ที่ 5.1-2

5.1.2 โพรไพลีนออกไซด (PROPYLENE OXIDE (UN NUMBER=1280))

เปนของเหลว ไมมีสี มีกล่ินคลายเบนซิน จุดเดือด 34.2 oC ความหนาแนนไอ (อากาศ=1) เทากับ 2.0 ความสามารถในการละลายน้ํา (กรัม/100 มล.) : 41 ที่ 20oC จัดเปนสารไวไฟ และมีความเปนพิษ คา Relative density (น้ํา = 1) 0.8304 อุณหภูมิที่สามารถติดไฟไดเอง >200 oC จํานวน 3 ถัง โดยความจุประมาณ 6,024 ลูกบาศกเมตร จํานวน 2 ถัง ความสูงของถังเทากับ 16 เมตร และขนาดเสนผาศูนยกลาง 24 เมตร สวนอีก 1 ถัง ความจุ 18,072 ลูกบาศกเมตร ความสูงของถังเทากับ 22 เมตร ตามลําดับ ขนาดเสนผาศูนยกลาง 36 เมตร ตามลําดับ เก็บในถังที่ออกแบบตามมาตรฐาน API 650 ดําเนินการขนสงผานทางทอที่มีขนาดเสนผาศูนยกลาง 3 นิ้ว 6

นิ้ว และ 14 นิ้ว ดังแสดงในตารางที่ 5.1-1 และตารางที่ 5.1-2

การประเมินอันตรายรายแรง เตตราเทค อิงค และ ยูเออี

5-2 รายงานการวิเคราะหผลกระทบสิ่งแวดลอม - รายงานฉบับยอ โครงการถมทะเล และกอสรางทาเทยีบเรือและคลังเกบ็วัตถุดิบและผลิตภัณฑปโตรเคมี

กันยายน 2552

ตารางที่ 5.1-1 ลักษณะทอขนถายผลิตภัณฑ

No. Chemical Pipe diameter (inch)

Flow (m3/hr)

Temp inside pipe ( oC )

Presure (bar) Pipe Location

1 Propylene oxide 6 800 max 20o C 0 Jetty to storage tank

2 Propylene oxide 14 800 max 20o C 6 Jetty to storage tank

3 Propylene oxide 3 100 max 20o C 0 Storage tank to TTT Storage facility

4 Propylene oxide 6 84.4 ambient 8 from/ to TPO Plant AIE site

5 Propylene oxide 6 100 max 20o C 8 to TTT Storage facility

6 Propylene 12 300 ambient 10-25 Jetty to storage tank

7 Propylene 8 108.7 ambient 10-25 from MOC/ROC grid

8 Propylene 8 108.7 ambient 10-25 Plant in AIE Site

เตตราเทค อิงค และ ยูเออี การประเมินอันตรายรายแรง


ตารางที่ 5.1-2 ลักษณะถังเก็บวตัถุดิบและผลิตภัณฑของโครงการ

No. Material

Volume

Type

Diameter Height No. Storage Condition

(ton) (m3) (m) (m) Pressure (barg) Temp (oC)

1 Propylene 3700 7,822 Sphere 26 - 2 7-16.1 Ambient

2 Propylene

Oxide 5000 6,024 Vertical double

containment 24 16 2 Low pressure <20oC

3 Propylene

Oxide 15,000 18,072 Vertical double

containment 36 22 1 Low pressure <20oC


5-4 รายงานการวิเคราะหผลกระทบสิ่งแวดลอม - รายงานฉบับยอ โครงการถมทะเล และกอสรางทาเทยีบเรือและคลังเกบ็วัตถุดิบและผลิตภัณฑปโตรเคมี กันยายน 2552

5.2 โอกาสการเกิดอุบัติภัย

5.2.1 การร่ัวไหลของ PROPYLENE

การขนสง Propylene ของโครงการจะขนสงผานระบบทอขนาดเสนผาศูนยกลาง 12 นิ้ว จะมีโอกาสเกิดรูรั่วขนาด 1 นิ้ว มากที่สุดคือ 3x10-7 ครั้งตอปตอฟุต และ ทอขนาดเสนผาศูนยกลาง 8 นิ้ว จะมีโอกาสเกิดรูรั่วขนาด 1 นิ้ว มากที่สุดคือ 3x10-7 ครั้งตอปตอฟุต และการรั่วไหลจากถังกักเก็บที่อุณหภูมิ 23oC จะมีโอกาสเกิดรูรั่วขนาด 1 นิ้ว มากที่สุด คือ 1x10-4 ครั้งตอป (ดังตารางที่ 5.2-1) และเมื่อรั่วไหลจะอยูในรูปกาซจึงพิจารณาจากแผนภูมิของกาซติดไฟ เพ่ือคํานวณหาโอกาสการเกิดในแตละเหตุการณ โดยพิจารณากรณีรั่วไหลทันที และกรณีรั่วไหลแบบตอเนื่อง (รูปที่ 5.2-1)

5.2.2 การร่ัวไหลของ PROPYLENE OXIDE

การขนสง Propylene Oxide ของโครงการจะขนสงผานระบบทอขนาดเสนผาศูนยกลาง 3 นิ้ว จะมีโอกาสเกิดรูรั่วขนาด 1/4 นิ้ว มากที่สุดคือ 9x10-7 ครั้งตอปตอฟุต (ใชคาของทอขนาด 4 นิ้ว) ทอขนาดเสนผาศูนยกลาง 6 นิ้ว จะมีโอกาสเกิดรูรั่วขนาด 1 นิ้ว มากที่สุดคือ 4x10-7 ครั้งตอปตอฟุต ทอขนาดเสนผาศูนยกลาง 14 นิ้ว จะมีโอกาสเกิดรูรั่วขนาด 1 นิ้ว มากที่สุด คือ 2x10-7 (ใชคาของทอขนาด 16 นิ้ว) และการรั่วไหลจากถังกักเก็บที่อุณหภูมิ 23oC จะมีโอกาสเกิดรูรั่วขนาด 1 นิ้ว

มากที่สุด คือ 1x10-4 ครั้งตอป (ดังตารางที่ 5.2-1) และเมื่อรั่วไหลจะอยูในรูปของเหลวจึงพิจารณาจากแผนภูมิของเหลวติดไฟ เพ่ือคํานวณหาโอกาสการเกิดในแตละเหตุการณ โดยพิจารณากรณี

รั่วไหลทันที และกรณีรั่วไหลแบบตอเนื่อง (รูปที่ 5.2-2)



ตารางที่ 5.2-1 สถิติความถี่การเกิดความลมเหลวของอุปกรณตาง ๆ

ประเภทอุปกรณ ความถี่ในการรั่วไหล (ตอปตามขนาดรูร่ัว)

¼ นิ้ว 1 นิ้ว 4 นิ้ว แตกหัก

Centrifugal Pump, single seal 6x10-2 5x10-4 1x10-4 Centrifugal Pump, double seal 6x10-3 5x10-4 1x10-4 Column 8x10-5 2x10-4 2x10-5 6x10-6 Compressor, Centrifugal 1x10-3 1x10-4 Compressor, Reciprocating 6x10-3 6x10-4 Filter 9x10-4 1x10-4 5x10-5 1x10-5 Fin/Fan Cooler 2x10-3 3x10-4 5x10-8 2x10-8 Heat Exchange, Shell 4x10-5 1x10-4 1x10-5 6x10-6 Heat Exchange, Tube Side 4x10-5 1x10-4 1x10-5 6x10-6 Piping, 0.75 in. diameter, per ft 1x10-5 3x10-7 Piping, 1 in. diameter, per ft 5x10-6 5x10-7 Piping, 2 in. diameter, per ft 3x10-6 6x10-7 Piping, 4 in. diameter, per ft 9x10-7 6x10-7 7x10-8

Piping, 6 in. diameter, per ft 4x10-7 4x10-7 8x10-8

Piping, 8 in. diameter, per ft 3x10-7 3x10-7 8x10-8 2x10-8

Piping, 10 in. diameter, per ft 2x10-7 3x10-7 8x10-8 2x10-8 Piping, 12 in. diameter, per ft 1x10-7 3x10-7 3x10-8 2x10-8

Piping, 16 in. diameter, per ft 1x10-7 2x10-7 2x10-8 2x10-8

Piping, >16 in. diameter, per ft 6x10-8 2x10-7 2x10-8 1x10-8 Pressure Vessels 4x10-5 1x10-4 1x10-5 6x10-6 Reactor 1x10-4 3x10-4 3x10-5 2x10-5 Reciprocating Pumps 0.7 0.01 0.001 0.001 Atmospheric Storage Tank 4x10-5 1x10-4 1x10-5 2x10-5

ท่ีมา : API Publication 581 First Edition, May 2000



Instantaneous-Type Release

การรั่วไหลจาก Ignition (0.2) Fireball (0.6x10-7) ทอขนาด 8 น้ิว

(3x10-7) No Ignition (0.8) Safe Dispersion (2.4x10-7)



การรั่วไหลจาก Ignition (0.2) Fireball (0.2x10-4) ถังกักเก็บ (1x10-4) No Ignition (0.8) Safe Dispersion (0.8x10-4)

Continuous-Type Release

(0.1) Fireball (0.3x10-7) การรั่วไหลจาก Ignition (0.2) ทอขนาด 8 น้ิว (0.1) Jet Fire (0.3x10-7)


(0.1) Fireball (0.3x10-7)

การรั่วไหลจาก Ignition (0.2) ทอขนาด 12 น้ิว (0.1) Jet Fire (0.3x10-7)


(0.1) Fireball (0.1x10-4)

การรั่วไหลจาก Ignition (0.2) ถังกักเก็บ (0.1) Jet Fire (0.1x10-4) (1x10-4)

No Ignition (0.8) Safe Dispersion (0.8x10-4)

ที่มา: API, API Publication 581, first edition, May 2000.

รูปที่ 5.2-1 แผนภาพตนไมแสดงเหตุการณเมื่อมีการรัว่ไหลของ Propylene



Instantaneous-Type Release







การรั่วไหลจาก Ignition (0.1) Fireball (0.1x10-4) ถังกักเก็บ (1x10-4) No Ignition (0.9) Safe Dispersion (0.9x10-4)

รูปที่ 5.2-2 แผนภาพตนไมแสดงเหตุการณเมื่อมีการรัว่ไหลของ Propylene Oxide



Continuous-Type Release

(0.05) Flash Fire (4.5x10-8)

การรั่วไหลจาก Ignition (0.1) ทอขนาด 3 น้ิว (0.05) Jet Fire (4.5x10-8)


(0.05) Flash Fire (5x10-6) การรั่วไหลจาก Ignition (0.1) ถังกักเก็บ (0.05) Jet Fire (5x10-6) (1x10-4)

No Ignition (0.9) Safe Dispersion (9.0x10-5)

ที่มา: API, API Publication 581, first edition, May 2000.

รูปที่ 5.2-2 (ตอ) แผนภาพตนไมแสดงเหตุการณเมื่อมีการรัว่ไหลของ Propylene Oxide

(0.05) Flash Fire (0.2x10-7) การรั่วไหลจาก Ignition (0.1) ทอขนาด 6 น้ิว (0.05) Jet Fire (0.2x10-7)


(0.05) Flash Fire (0.1x10-7) การรั่วไหลจาก Ignition (0.1) ทอขนาด 14 น้ิว (0.05) Jet Fire (0.1x10-7)




5.3 การประเมินอันตรายรายแรง

ในการประเมินอันตรายรายแรงของผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยการสมมุติเหตุการณที่มีโอกาสเกิดขึ้น ดังนี้

5.3.1 การติดไฟ (FIRE)

จากคุณสมบัติของสารเคมีที่ทําการขนสง และกักเก็บของโครงการ ไดแก propylene และ Propylene Oxide ดังที่กลาวไวขางตน มีโอกาสที่จะเกิดการติดไฟที่มีผลตอส่ิงมีชีวิตและทรัพยสินในกรณีเลวรายที่สุด (Worst case) ในบริเวณใกลเคียง ไดแก การเกิดการติดไฟแบบ Fireball ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นนอยมากในบริเวณที่โลงที่มีการถายเทอากาศไดดี และการเกิดการติดไฟแบบ Vertical Jet Fire ที่โอกาสเกิดขึ้นในกรณีของการขนสงสารไวไฟที่อยูในสถานะกาซที่ความดันสูงผานทางทอ ดังนั้นในการศึกษาการติดไฟของโครงการจะพิจารณาการติดไฟของสารผลิตภัณฑในรูปแบบ Fireball ในกรณีการขนถายและเก็บกักสาร Propylene และศึกษาการติดไฟแบบ Vertical Jet Fire ในกรณีการขนถายสาร Propylene ผานทางทอที่มีความดัน โดยใชแบบจําลอง BREEZE HAZ ซึ่งเปนแบบจําลองทางดานการประเมินอันตรายรายแรงที่ไดรับการพัฒนามาจาก US.EPA

การคํานวณการรั่ วไหลของท้ังทอขนสงผลิตภัณฑ และถังกักเก็บสารผลิตภัณฑ จะใช แบบจําลอง BREEZE HAZ ในการคาดการณอัตราการรั่วไหลท่ีเกิดขึ้นจากทอขนถาย และถังกัก

เก็บสารผลิตภัณฑ ซึ่งสรุปไดดังตารางที่ 5.3-1และตารางที่ 5.3-2



ตารางที่ 5.3-1 อัตราการรัว่ไหลของทอขนถายสารผลิตภัณฑทีข่นาดรูรั่วไหลระดับตาง ๆ

ลําดับที่ สารผลิตภัณฑ เสนผาศูนยกลาง

ทอ (นิ้ว)

อุณหภูมิภายในทอ

(OC )

ความดันในทอ (bar)

pipe location

อัตราการรั่วไหล (กก./วินาที) ปริมาณที่รั่วไหล 5 นาที (กก.)

ขนาดรูรั่วไหล (นิ้ว) ขนาดรูรั่วไหล (นิ้ว)

1/4 1 4 แตกหัก 1/4 1 4 แตกหัก

1 Propylene oxide 6 max 20 oC 0 Jetty to storage tank 0.0000278 0.0004 0.007 0.016 0.008 0.133 2.135 4.800

2 Propylene oxide 14 max 20 oC 6 Jetty to storage tank 0.00406 0.0041 0.0041 0.0041 1.219 1.219 1.219 1.219

3 Propylene oxide 3 max 20 oC 0 Storage tank to TTT

Storage facility 0.0000197 0.0003 - 0.003 0.006 0.094 - 0.849

4 Propylene oxide 6 ambient 8 from/ to TPO Plant AIE site 0.001237 0.0041 0.004 0.004 0.371 1.219 1.219 1.219

5 Propylene oxide 6 max 20 oC 8 to TTT Storage facility 0.001287 0.0041 0.004 0.004 0.386 1.219 1.219 1.219

6 Propylene 12 ambient 10-25 Jetty to storage tank 0.01147 0.1835 2.936 26.428 3.441 55.056 880.920 7928.448

7 Propylene 8 ambient 10-25 from MOC/ROC grid 0.002975 0.0476 0.762 3.047 0.893 14.282 228.507 914.031

8 Propylene 8 ambient 10-25 Plant in AIE Site 0.002975 0.0476 0.762 3.047 0.893 14.282 228.507 914.031



ตารางที่ 5.3-2 อัตราการรัว่ไหลของถังเก็บวัตถดุิบและผลิตภัณฑที่ขนาดรรูัว่ไหลระดับตาง ๆ

ลําดับที่

สารผลิตภัณฑ

ปริมาณบรรจุ

ประเภทถัง

เสนผาศูนยกลางถัง

ความสูงถัง

จํานวนถัง

สภาพการกักเก็บ อัตราการรั่วไหล (ตัน/วินาที) ปริมาณที่รั่วไหล 5 นาที (ตัน)

(ตัน) (ลบ.ม.) (เมตร) (เมตร) ความดัน อุณหภูมิ ขนาดรูรั่วไหล (นิ้ว) ขนาดรูรั่วไหล (นิ้ว)

1/4 1 4 แตกหัก 1/4 1 4 แตกหัก 1 Propylene 3700 7,822 Sphere 26 - 2 7-16.1 Ambient 0.00090 0.0144 0.2305 3.6872 0.2701 4.3209 69.135 1106.2 2 Propylene

Oxide 5000 6,024 Vertical double

containment 24 16 2 Low

pressure <20oC

0.000003 0.000043 0.00069 0.01105 0.00081 0.0129 0.2071 3.3135 3 Propylene

Oxide 15,000 18,072 Vertical double

containment 36 22 1 Low

pressure <20oC

0.000003 0.000043 0.0007 0.01105 0.00081 0.0129 0.2071 3.3135



5.3.2 การแพรกระจายของสารพิษในบรรยากาศ

ในการศึกษาการแพรกระจายของสารเคมีที่เปนพิษในบรรยากาศจะใชแบบจําลอง AFTOX (Air Force Toxic Chemical Dispersion) โดยมีปจจัยที่เกี่ยวของ ไดแก สภาพอุตุนิยมวิทยา สภาพความคงตัวของบรรยากาศ และสามารถใชไดกับกาซที่มีคุณสมบัติที่มีความหนาแนนกวาอากาศ เมื่อมีการรั่วไหลออกมาจะมีแนวโนมแพรกระจายอยูบริเวณระดับพ้ืนผิวดิน ซึ่งเมื่อพิจารณาคุณสมบัติของสารเคมีที่กักเก็บของโครงการ พบวา สารเคมีที่เมื่อมีโอกาสเกิดการรั่วไหลแลวจะทําใหเกิดความเปนพิษ ไดแก Propylene Oxide

5.4 ผลการศึกษา

5.4.1 กรณีเกิดการติดไฟ

พิจารณาพลังงานความรอนในชวง 4.0-37.5 กิโลวัตตตอตารางเมตร (kW/m2) มาคํานวณเพื่อหาระยะทางการแผรังสีความรอน เพ่ือเปรียบเทียบกับเกณฑที่กําหนดถึงผลกระทบตออุปกรณและ

บุคคลในระดับตางกัน (ดังแสดงในตารางที่ 5.4-1) โดยผลการคํานวณที่แสดงระดับผลกระทบที่เกิดจากความรอน 4 ระดับ คือ 37.5, 25.0, 12.5 และ 4.0 kW/m2 ซึ่งมีกรณีศึกษา 3 พ้ืนที่ คือ ทอขนถายบริเวณทาเทียบเรือ ทอขนถายบริเวณหนาโรงงาน และบริเวณคลังเก็บผลิตภัณฑ

ตารางที่ 5.4-1 ผลกระทบทีเ่กิดจากเพลิงไหมที่ระดับพลังงานความรอนตาง ๆ พลังงานความรอน ชนิดและขนาดของผลกระทบ

(Kw/m2) ผลกระทบตออุปกรณ ผลกระทบตอคน 37.5 ทําลายอปุกรณในกระบวนการผลิต จํานวน 100% เสียชีวิตหากอยูในพื้นที่เปนระยะเวลา 1 นาท ี

จํานวน 1 % เสียชีวิตหากอยูในพื้นที่เปนระยะเวลา 10 วินาที

25.0 ทําใหเกิดไฟไหมโครงสรางไมโดยไมมีเปลวไฟ จํานวน 100% เสียชีวิตหากอยูในพื้นที่เปนระยะเวลา 1 นาที และบาดเจ็บสาหัสภายใน 10 วินาที

12.5 ทําใหเกิดไฟไหมโครงสรางไมดวย เปลวไฟ และหลอมพลาสติกได

จํานวน 1% เสียชีวิตหากอยูในพื้นที่เปนระยะเวลา 1 นาที และผิวหนังไหมภายใน 10 วินาที

4.0 - รูสึกแสบผิวหนังถาอยูนานกวา 20 วินาที แต ไมทําใหพอง

1.6 - ทําใหเกิดความผิดปกติของรางกาย ถาไดรับในระยะเวลานาน


รายงานการวิเคราะหผลกระทบสิ่งแวดลอม – รายงานฉบับยอ 5-13 โครงการถมทะเล และกอสรางทาเทยีบเรือและคลังเกบ็วัตถุดิบและผลิตภัณฑปโตรเคมี กันยายน 2552

5.4.1.1 บริเวณจุดเชื่อมตอทอบริเวณทาเทียบเรือ

เมื่อพิจารณากรณีเฉพาะกรณีที่ทอขนาดใหญที่สุดของโครงการเกิดรูรั่วและติดไฟ โดยในกรณีจุดเชื่อมตอบริเวณทาเทียบเรือ

กรณีขนถาย Propylene

พิจารณาทอขนาด 12 นิ้ว เกิดการรั่วไหล ซึ่งพิจารณาการเกิดการติดไฟได 2 ชนิด รัศมีการแผความรอนและพ้ืนที่ที่ไดรับผลกระทบ แสดงดัง ตารางที่ 5.4-2

ตารางที่ 5.4-2 พื้นที่ทีไ่ดรับผลกระทบจากการเกิดไฟไหมแบบ JET Fire และ Fireball บริเวณจุดเชือ่มตอทอขนถาย Propylene ที่ทาเทียบเรือ (ทอขนาด 12 น้ิว)

กรณีศึกษา การติดไฟแบบ JET Fire การติดไฟแบบ Fireball

รัศมีการแผ ความรอน (เมตร)

ลักษณะพื้นที่ที่ ไดรับผลกระทบ


ลักษณะพื้นที่ที่ไดรับ ผลกระทบ

1. ขนาดรูร่ัว 1/4 น้ิว ระดับพลังงาน 37.5 kW/m2 ระดับพลังงาน 25.0 kW/m2 ระดับพลังงาน 12.5 kW/m2 ระดับพลังงาน 4.0 kW/m2

2.54 3.25 4.8 8.61

ทาเทียบเรือ ทาเทียบเรือ ทาเทียบเรือ ทาเทียบเรือ

13.99 17.13 24.22 42.82

ทาเทียบเรือ ทาเทียบเรือและทะเล ทาเทียบเรือและทะเล ทาเทียบเรือและทะเล

2. ขนาดรูร่ัว 1 น้ิว ระดับพลังงาน 37.5 kW/m2 ระดับพลังงาน 25.0 kW/m2 ระดับพลังงาน 12.5 kW/m2 ระดับพลังงาน 4.0 kW/m2

3.25 4.34 6.7

12.36

ทาเทียบเรือ ทาเทียบเรือ ทาเทียบเรือ ทาเทียบเรือ

35.4 43.36 61.32 108.4

ทาเทียบเรือและทะเล ทาเทียบเรือและทะเล ทาเทียบเรือและทะเล ทาเทียบเรือและทะเล


- 8.73 19.0 38.22

ทาเทียบเรือ

ทาเทียบเรือและทะเล ทาเทียบเรือและทะเล

89.22 109.77 155.23 274.42


4. ทอแตกหัก ระดับพลังงาน 37.5 kW/m2 ระดับพลังงาน 25.0 kW/m2 ระดับพลังงาน 12.5 kW/m2 ระดับพลังงาน 4.0 kW/m2

- -

41.74 92.17


187.11 229.16 324.09 572.91




กรณีขนถาย Propylene oxide

พิจารณาทอขนาด 14 นิ้ว เกิดการรั่วไหลและติดไฟแบบ Fireball รัศมีการแผความรอนและพ้ืนที่ที่ไดรับผลกระทบ แสดงตารางที่ 5.4-3

ตารางที่ 5.4-3 พื้นที่ทีไ่ดรับผลกระทบจากการเกิดไฟไหมแบบ Fireball บริเวณจุดเชื่อมตอทอขนถาย Propylene oxide บรเิวณทาเทยีบเรือ (ขนาด 14 น้ิว)

กรณีศึกษา รัศมีการแผความรอน (เมตร) ลักษณะพื้นที่ที่ไดรับผลกระทบ 1. ขนาดรูร่ัว 1/4 น้ิว ระดับพลังงาน 37.5 kW/m2 ระดับพลังงาน 25.0 kW/m2 ระดับพลังงาน 12.5 kW/m2 ระดับพลังงาน 4.0 kW/m2

9.88 12.1 17.11 30.25

ทาเทียบเรือ ทาเทียบเรือ



9.88 12.1 17.11 30.25



3. ขนาดรูร่ัว 4 น้ิว ระดับพลังงาน 37.5 kW/m2

ระดับพลังงาน 25.0 kW/m2



9.88 12.1 17.11 30.25




9.88 12.1 17.11 30.25





5.4.1.2 บริเวณหนาโรงงาน

เมื่อพิจารณากรณีเฉพาะกรณีที่ทอขนาดใหญที่สุดของโครงการเกิดรูรั่วและติดไฟ โดยในกรณีจุดเชื่อมตอบริเวณหนาโรงงาน

กรณีขนถาย Propylene

พิจารณากรณีที่ทอขนาด 8 นิ้ว เกิดการรั่วไหลและติดไฟ 2 ชนิด รัศมีการแผความรอนและพ้ืนที่ที่ไดรับผลกระทบ แสดงดังตารางที่ 5.4-4

ตารางที่ 5.4-4 พื้นที่ทีไ่ดรับผลกระทบจากการเกิดไฟไหมแบบ JET Fire และ Fireball บริเวณจุดเชือ่มตอทอขนถาย Propylene บริเวณหนาโรงงาน (ทอขนาด 8 น้ิว)

กรณีศึกษา การติดไฟแบบ JET Fire การติดไฟแบบ Fireball


ลักษณะพื้นที่ที่ ไดรับผลกระทบ




1.80 2.24 3.20 5.63

พื้นที่โครงการ พื้นที่โครงการ พื้นที่โครงการ พื้นที่โครงการ

8.90 10.90 15.14 27.25

พื้นที่โครงการ พื้นที่โครงการ พื้นที่โครงการ

พื้นที่โครงการและนิคมฯ 2. ขนาดรูร่ัว 1 น้ิว ระดับพลังงาน 37.5 kW/m2 ระดับพลังงาน 25.0 kW/m2 ระดับพลังงาน 12.5 kW/m2 ระดับพลังงาน 4.0 kW/m2

2.30 2.91 4.25 7.56


22.53 27.59 39.02 68.98

พื้นที่โครงการและนิคมฯ พื้นที่โครงการและนิคมฯพื้นที่โครงการและนิคมฯพื้นที่โครงการและนิคมฯ


-* 6.80 12.12 23.84

พื้นที่โครงการ พื้นที่โครงการ

พื้นที่โครงการและนิคมฯ

57.03 69.85 98.78 174.62

พื้นที่โครงการและนิคมฯ พื้นที่โครงการและนิคมฯ พื้นที่โครงการและนิคมฯ พื้นที่โครงการและนิคมฯ


-* -*

25.32 52.59

พื้นที่โครงการและนิคมฯ พื้นที่โครงการและนิคมฯ

90.74 111.13 157.17 227.83


หมายเหตุ: * หมายถึง ที่ระดับความสูงจากพื้น 1.5 เมตร ไมเกิดระดับพลังงานความรอนดังกลาว



กรณีขนถาย Propylene oxide

ทอขนาด 6 นิ้ว (ไปยังบริษัท ไทยแทงคเทอรมินัล จํากัด)

พิจารณาจากทอขนาด 6 นิ้ว เกิดการรั่วไหลและติดไฟแบบ Fireball รัศมีการแผความรอนและพ้ืนที่ที่ไดรับผลกระทบ แสดงดังตารางที่ 5.4-5

ตารางที่ 5.4-5 พื้นที่ทีไ่ดรับผลกระทบจากการเกิดไฟไหมแบบ Fireball บริเวณจุดเชื่อมตอทอขนถาย Propylene oxide บรเิวณหนาโรงงาน (ทอขนาด 6 น้ิว ไปยังบริษทั ไทยแทงคเทอรมินัล จํากัด)

กรณีศึกษา รัศมีการแผความรอน (เมตร) ลักษณะพื้นที่ที่ไดรับผลกระทบ 1. ขนาดรูร่ัว 1/4 น้ิว ระดับพลังงาน 37.5 kW/m2 ระดับพลังงาน 25.0 kW/m2 ระดับพลังงาน 12.5 kW/m2 ระดับพลังงาน 4.0 kW/m2

5.46 6.69 9.46 16.73



8.03 9.83 13.91 24.59






8.03 9.83 13.91 24.59



8.03 9.83 13.91 24.59




5.4.1.3 บริเวณถังกักเก็บผลิตภัณฑ

กรณีกักเก็บ Propylene

พิจารณาการเกิดการติดไฟได 2 ชนิด รัศมีการแผความรอนและพ้ืนที่ที่ไดรับผลกระทบ แสดงดังตารางที่ 5.4-6

ตารางที่ 5.4-6 พื้นที่ทีไ่ดรับผลกระทบจากการเกิดไฟไหมแบบ Fireball บรเิวณถังกกัเก็บ Propylene

กรณีศึกษา การติดไฟแบบ Fireball

รัศมีการแผความรอน (เมตร)



58.38 71.5

101.11 178.74

พื้นที่โครงการ พื้นที่โครงการและนิคมฯ พื้นที่โครงการและนิคมฯ พื้นที่โครงการและนิคมฯ


147.78 180.99 255.96 452.49






374.11 458.19 647.98 1145.48



947.07 1159.92 1640.37 2899.79




กรณีกักเก็บ Propylene oxide (ถังขนาด 5,000 ตัน และ 15,000 ตัน)

พิจารณาการเกิดการติดไฟแบบ Fireball รัศมีการแผความรอนและพ้ืนที่ที่ไดรับผลกระทบตารางที่ 5.4-7

ตารางที่ 5.4-7 พื้นที่ทีไ่ดรับผลกระทบจากการเกิดไฟไหมแบบ Fireball บรเิวณถังกกัเก็บ Propylene oxide

กรณีศึกษา รัศมีการแผความรอน (เมตร) ลักษณะพื้นที่ที่ไดรับผลกระทบ


6.77 8.30 11.73 20.74



17.15 21.0 29.7 52.5

พื้นที่โครงการ พื้นที่โครงการ พื้นที่โครงการ

พื้นที่โครงการและนิคมฯ 3. ขนาดรูร่ัว 4 น้ิว ระดับพลังงาน 37.5 kW/m2




43.41 53.17 75.19 132.91


4. ทอแตกหัก ระดับพลังงาน 37.5 kW/m2




109.34 134.59 190.34 336.47


จากขอมูลการประเมินการรั่วไหลของถังกักเก็บผลิตภัณฑ สรุปไดวาสารผลิตภัณฑของโครงการ ไดแก Propylene และ Propylene Oxide เมื่อเกิดการรั่วไหลและเกิดการติดไฟขึ้น จะเกิดการติดไฟแบบ Fireball เชนเดียวกับการประเมินกรณีทอขนถายรั่วไหล กรณีการรั่วไหลและติดไฟของ Propylene จะเกิดการติดไฟแบบ Fireball และ Jet Fire สวน Propylene Oxide จะมีการติดไฟแบบ Fireball ซึ่งการรั่วไหลที่มีโอกาสเกิดขึ้นไดสูงสุด คือ ขนาดรูรั่ว 1/4 นิ้ว สําหรับทอขนาดเสนผาศูนยกลาง 3 นิ้ว และสําหรับทอขนาดเสนผาศูนยกลาง 6 นิ้ว 8 นิ้ว 12 นิ้ว และ 14 นิ้ว จะมีโอกาสเกิดการรั่วไหลสูงสุดที่ขนาดรูรั่ว 1 นิ้ว

เมื่อพิจารณาในกรณีเลวรายที่สุด (Worst Case) ที่ขนาดรูรั่ว 1 นิ้ว ของถังกักเก็บ ระดับพลังงาน 37.5 kW/m2 จะทําลายอุปกรณในขบวนการผลิต หรือภายใน 1 นาที จะทําใหคนเสียชีวิต 100% ซึ่งสารแตละตัวมีอํานาจในการแผรังสีความรอนไดในระยะตางๆ กัน โดยพบวา Propylene เมื่อเกิดการ



รั่วไหล 5 นาที และติดไฟแบบ Fireball แลว จะแผรังสีความรอนไดไกลที่สุดที่ระยะประมาณ 147.78 เมตร และ Propylene Oxide 17.15 เมตร, แตอยางไรก็ตามรัศมีการแผความรอนของสารชนิดดังกลาว จะครอบคลุมเฉพาะภายในพื้นที่โครงการ สําหรับกรณีการรั่วไหลแบบ Jet Fire ของทอขนถาย Propylene ที่ขนาดรูรั่วและระดับพลังงานเดียวกัน พบวา สามารถแผรัศมีความรอนไดเพียง 7.56 เมตร ซึ่งครอบคลุมเฉพาะพื้นที่ของโครงการ

5.4.2 กรณีเกิดการแพรกระจายของสารพิษในบรรยากาศ

ในการพิจารณาการแพรกระจายของสารพิษจะพิจารณาเฉพาะการรั่วไหลของ Propylene Oxide กรณีที่มีการฟุงกระจายสูบรรยากาศประเมินดวยแบบจําลอง AFTOX (Air Force Toxic Chemical Dispersion Model) โดยมีปจจัยที่เกี่ยวของ ไดแก สภาพอุตุนิยมวิทยา และสภาพคงตัวของบรรยากาศ

การแพรกระจายของสารพิษในอากาศ จะพิจารณาจากการรั่วไหลของทอขนถายบริเวณทาเทียบเรือ ทอขนถายบริเวณบริเวณหนาโรงงาน และบริเวณคลังเก็บผลิตภัณฑ ภายใตเง่ือนไขสภาพอากาศจากขอมูลอุตุนิยมวิทยาของสถานีตรวจวัดสัตหีบ คาบ 30 ป (พ.ศ.2514-2543) โดยพิจารณากรณีเลวรายที่สุด ที่ความเร็วลมเฉล่ียต่ําสุดเทากับ 1.85 เมตร/วินาที อุณหภูมิบรรยากาศเฉลี่ยทั้งป 27.9 องศาเซลเซียส และปริมาณเมฆในทองฟา รอยละ 70 โดยพิจารณาการรั่วไหลในระยะเวลา 5 นาที เนื่องจากในแผนฉุกเฉินระบุใหมีการหยุดการรั่วไหลภายในระยะเวลา 5 นาที

5.4.2.1 การรั่วไหลของทอ PROPYLENE OXIDE บริเวณทาเทียบเรือ

(ทอขนาด 14 นิ้ว)

เมื่อมีการรั่วไหลจากทอขนถาย Propylene oxide บริเวณทาเทียบเรือ ที่รูรั่วขนาด 1 นิ้ว จะมีความเขมขนของ Propylene oxide ในบรรยากาศที่ระดับความเขมขน TWA (Time Weighted Average) ซึ่งกําหนดคาความเขมขนเฉล่ียเทากับ 2 ppm โดยพิจารณาที่ 8 ชั่วโมง ของการทํางานในแตละวัน และ 40 ชั่วโมง ใน 1 สัปดาห ซึ่งพนักงานที่ทํางานอยูจะไดรับสารนั้นๆ ตลอด โดยไมไดรับผลกระทบตอสุขภาพ โดยมีระยะทางที่ระดับความเขมขนดังกลาวเทากับ 309 เมตร ครอบคลุมพ้ืนที่โครงการและนิคมฯ โดยมีรายละเอียดดังแสดงในตารางที่ 5.4-8



ตารางที่ 5.4-8 ความเขมขนของ Propylene oxide ในบรรยากาศ เฉล่ีย 5 นาที เมื่อเกิดการรัว่ไหลบรเิวณทาเทียบเรือ (ทอขนาด 14 น้ิว)

ความเขมขน (mg/m3) เฉลี่ย 5 นาที

ระยะทาง (เมตร) ขนาดรูร่ัวไหลในเวลา 5 นาที (น้ิว)

0.25 1 4 16 (แตกหัก) TWA=2 ppm 309 309 309 309

หมายเหตุ : TWA หมายถึง Time Weighted Average เปนคาความเขมขนของสารที่คิดเปนคาเฉลีย่ตามเวลา โดยพิจารณาที่ 8 ชั่วโมง ของการทาํงานในแตละวัน และ 40 ชั่วโมง ใน 1 สัปดาห ซ่ึงพนักงานที่ทํางานอยูจะไดรับสารนั้น ๆ ตลอด โดยไมไดรับผลกระทบตอสุขภาพ

5.4.2.2 การรั่วไหลของทอ PROPYLENE OXIDE บริเวณหนาโรงงาน

ทอขนาด 6 นิ้ว (ไปยังบริษัท ไทยแทงคเทอรมินัล จํากัด)

เมื่อมีการรั่วไหลจากทอขนถาย Propylene oxide บริเวณหนาโรงงานซึ่งเปนทอที่มีความดันสูง ที่รูรั่วขนาด 1 นิ้ว จะมีความเขมขนของ Propylene oxide ในบรรยากาศที่ระดับความเขมขน TWA (Time Weighted Average) ซึ่งกําหนดคาความเขมขนเฉล่ียเทากับ 2 ppm โดยพิจารณาที่ 8 ชั่วโมง ของการทํางานในแตละวัน และ 40 ชั่วโมง ใน 1 สัปดาห ซึ่งพนักงานที่ทํางานอยูจะไดรับสารนั้นๆ ตลอด โดยไมไดรับผลกระทบตอสุขภาพ โดยมีระยะทางที่ระดับความเขมขนดังกลาวเทากับ 374

เมตร ครอบคลุมพ้ืนที่โครงการและนิคมฯ โดยมีรายละเอียดดังแสดงในตารางที่ 5.4-9

ตารางที่ 5.4-9 ความเขมขนของ Propylene oxide ในบรรยากาศ เฉล่ีย 5 นาที เมื่อเกิดการรัว่ไหลบรเิวณหนาโรงงาน (ทอขนาด 6 น้ิว ไปยัง บริษทั ไทยแทงคเทอรมินัล จํากัด)

ความเขมขน (mg/m3) เฉลี่ย 5 นาที

ระยะทาง (เมตร) ขนาดรูร่ัวไหลในเวลา 5 นาที (น้ิว)

0.25 1 4 16 (แตกหัก) TWA=2 ppm 192 374 374 374

หมายเหตุ : TWA หมายถึง Time Weighted Average เปนคาความเขมขนของสารที่คิดเปนคาเฉลีย่ตามเวลา โดยพิจารณาที่ 8 ชั่วโมง ของการทาํงานในแตละวัน และ 40 ชั่วโมง ใน 1 สัปดาห ซ่ึงพนักงานที่ทํางานอยูจะไดรับสารนั้น ๆ ตลอด โดยไมไดรับผลกระทบตอสุขภาพ

5.5 การประเมินอันตรายรายแรงที่ทําใหเกิดผลกระทบตอเนื่อง (DOMINO EFFECT)

ในการประเมินการเกิดเหตุการณไฟไหมแบบ Domino Effect ของทอขนถายและถังบรรจุสารเคมีที่มีคุณสมบัติไวไฟ เปนการศึกษาคาดการณขอบเขตความรุนแรงในกรณีการเกิดอุบัติเหตุของการเกิดการรั่วไหลและติดไฟของทอขนถายและถังบรรจุสารไวไฟจากจุดใดจุดหนึ่งแลวเกิดพลังงานความรอนในระดับที่สามารถทําใหถังเก็บกักสารไวไฟอื่นๆ ที่อยูในบริเวณใกลเคียงเกิดการรั่วไหลและติดไฟเกิดขึ้นตามมาเปนเหตุการณลูกโซ (Chain of Accidents) และสามารถทําใหเกิดเหตุการณไฟไหมกับถังเก็บสารไวไฟอื่นๆ ซ้ําๆ กันตามมา เชนเดียวกับการลมของตัว Domino



จากการศึกษาเรื่อง “Evaluation of Accidents with Domino Effect in LPG storage areas” ของ J.R.B. Alencar, R.A.P. Barbosa และ M.B. de Souza Jr. ไดทําการศึกษาผลกระทบจากการเกิดการติดไฟของถังเก็บกักโพรไพลีน โดยใชสมการแบบจําลองการติดไฟของสารเคมี และศึกษากรณีการเกิด

Domino Effect ของถังโพรไพลีน ที่อยูบริเวณใกลเคียง โดยพิจารณารัศมีระดับพลังงานความรอนที่ 37.5 kw/m2 (Fire radiation) ซึ่งเปนระดับพลังงานความรอนที่สามารถทําใหเกิดการทําลายอุปกรณในการผลิตหรือถังบรรจุสารไวไฟที่อยูใกลเคียง (แผนภาพแสดงลําดับเหตุการณของการเกิด Domino

Effect แสดงในรูปที่ 5.5-1)

รูปที่ 5.5-1 แผนผังแสดงลําดับเหตุการณของการเกิด Domino Effect

5.5.1 กรณีเกิดรูร่ัวท่ีถังเก็บวัตถุดิบและผลิตภัณฑ

ในการศึกษารัศมีระดับพลังงานความรอนในกรณีถังเก็บวัตถุดิบและผลิตภัณฑเกิดรูรั่วขนาด 1 นิ้ว ซึ่งเปนขนาดรูรั่วไหลที่มีโอกาสเกิดขึ้นมากที่สุด และติดไฟแบบ Fireball (ซึ่งเปนกรณีการติดไฟที่รุนแรงที่สุด) ของถังเก็บโพรไพลีนออกไซดและโพรไพลีน ซึ่งเมื่อพิจารณาการรั่วไหลของถังเก็บสารโพรไพ ลีนออกไซดจะเห็นไดวา กรณีเกิดการรั่วไหลและติดไฟของถังเก็บกักโพรไพลีนออกไซด จะมีรัศมีของระดับพลังงานความรอนที่สามารถทําลายอุปกรณในการผลิตหรือถังเก็บกักไพรไพลีนออกไซดขางเคียง

(ระดับพลังงานความรอนที่ 37.5 kw/m2) ซึ่งมีโอกาสเกิดการติดไฟแบบ Domino Effect ได แต

ครอบคลุมเฉพาะพื้นที่โครงการเทานั้น (รูปที่ 5.5-2)

สวนกรณีเกิดการติดไฟแบบ Fireball ของถังโพรไพลีน (พ้ืนที่ 7 ไร) รัศมีระดับพลังงานความรอนที่ 37.5 kw/m2 จะครอบคลุมพ้ืนที่ทั้งหมดของโครงการและพื้นที่ดานตะวันออกเฉียงเหนือของ บริษัท ไทยแทงคเทอรมินัล จํากัด (รูปที่ 5.5-2) อยางไรก็ตามโอกาสของความถี่ในการเกิดรูรั่วที่นํามาพิจารณาซึ่งเปนกรณีที่มีโอกาสเกิดมากที่สุดนั้นมีความถี่ของโอกาสในการเกิด 1x10-4 ครั้ง/ป



รูปที่ 5.5-2 รัศมกีารแผความรอนกรณีทีถ่ังเกบ็วัตถุดิบและผลิตภัณฑ เกิดรูรัว่ 1 น้ิว ที่ระดับพลังงาน 37.5 kW/m2

ถังโพรไพลีนออกไซด

บริษัท ไทยแทงคเทอรมินัล จํากัด



5.5.2 กรณีเกิดรูร่ัวของทอบริเวณทาเทียบเรือ

รัศมีความรอนจากการรั่วไหลจากทอขนาดรูรั่ว 1 นิ้ว ของทั้งสารโพรไพลีนออกไซดและโพรไพลีนจะแผกระจายเฉพาะในพื้นที่ทาเทียบเรือและทะเลในอาวทาเรือมาบตาพุดเทานั้น

เมื่ อ พิจารณาการออกแบบถั ง เก็บสารป โตร เคมี และการออกแบบระบบสูบถ ายสาร ปโตรเคมีที่เปนไปตามขอกําหนดและมาตรฐานทั้งภายในและตางประเทศนั้นนาจะทําใหโอกาสการเกิดผลกระทบดานอุบัติเหตุและการรั่วไหลเกิดขึ้นในระดับต่ํา รวมถึงมาตรการดานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของโครงการ และแผนฉุกเฉินในกรณีที่เกิดอันตรายรายแรง จึงทําใหสามารถตอบสนองเหตุฉุกเฉินตาง ๆ ที่เกิดขึ้นไดอยางทันทวงทีและทําใหผลกระทบอยูในระดับที่ยอมรับได นอกจากนี้ในกรณีที่มีผูเสียหาย (บุคคลที่ 3) ไดรับผลกระทบอันเนื่องมาจากการดําเนินงานโครงการ โครงการไดทําประกันภัยสําหรับบุคคลที่ 3 ไวเพ่ือชดเชยใหกับผูเสียหายแตละกรณี

5.6 มาตรฐานการออกแบบโครงการฯ และแนวทางในการรองรับเหตุฉุกเฉิน

5.6.1 การออกแบบถังเก็บสารปโตรเคม ี

ถังเก็บสารปโตรเคมีของโครงการไดออกแบบตามมาตรฐานสากลของ API และ ASME ตลอดจนโครงการไดมีการออกแบบระยะหางระหวางถังและคันกั้นสารปโตรเคมีและปริมาณโฟมสํารอง ตามขอกําหนดของกรมธุรกิจพลังงาน และมาตรฐานสากลตางๆ รายละเอียดแสดงในบทที่ 2 ของรายงานฉบับหลัก สรุปไดดังนี้

ลักษณะคันกั้นของคลังเก็บสารปโตรเคม ี(BUND WALL)

การออกแบบและกอสรางคันกั้นของถังเก็บสารปโตรเคมี (Bund Wall) ของโครงการ ไดยึดถือแนวทางใหเปนไปตามขอกําหนดของกรมธุรกิจพลังงานและมาตรฐาน IP Part 9, IP Part 3 และ API 2510

การออกแบบระยะหางระหวางถังและระยะระหวางถังกับเขตที่ดิน

แมวาสารปโตรเคมีที่เก็บกักของโครงการ ไดแก Propylene Oxide และ Propylene มิไดจัดเปนเชื้อเพลิงก็ตาม การออกแบบก็ยังอางอิงกฎหมายของกรมธุรกิจพลังงาน ฉบับ พ.ศ.2474 และ พ.ศ.2542 (ฉบับราง) IP Part 9 IP Part 3 และ NFPA-30

ระบบโฟมสํารองในการระงับเหตุอัคคีภัย

เมื่อพิจารณากฎหมายการเก็บกักโฟมสํารองของกรมธุรกิจพลังงาน การคํานวณปริมาณโฟมสํารองจะตองคํานวณจาก

• ปริมาณสารละลายโฟมที่ตองใชกับถังเก็บน้ํามันเชื้อเพลิงขนาดใหญบนดินใหคํานวณจากชนิดของถังและชนิดของน้ํามันเชื้อเพลิง

• ปริมาณสารละลายโฟมที่ตองเติมเต็มทอโฟม โดยการคํานวณจากขนาดและความยาวรวมของทอโฟม



• ปริมาณสารละลายโฟมที่ใชสําหรับฉีดเสริมเฉพาะจุดตองมีอัตราการฉีดสารละลายโฟมไมนอยกวา 180 ลิตร/นาที

โดยปริมาณโฟมสํารองที่ตองการทั้งหมดภายหลังกอสรางถัง Propylene Oxide และ Propylene เทากับ 12.57 ลูกบาศกเมตร ดังนั้นทางโครงการไดออกแบบใหมีปริมาณโฟมสํารองรวม 17 ลูกบาศกเมตร (บริเวณคลังเก็บสารโพรไพลีนออกไซด จํานวน 14 ลูกบาศกเมตร และบริเวณทาเทียบเรือ จํานวน 3 ลูกบาศกเมตร) ซึ่งสอดคลองกับกฎหมายที่กําหนด

นอกจากนี้บริษัท ระยอง เทอรมินัล จํากัด ยังเปนบริษัทในเครือของกลุมธุรกิจ SCG Chemicalsเชนเดียวกับบริษัท ระยอง โอเลฟนส จํากัด (ROC) และบริษัท ไทยโพลีเอทธิลีน จํากัด (TPE) ซึ่งบริษัททั้ง 2 แหง ไดเปนสมาชิกของกลุม E-MAG (กลุมความชวยเหลือในภาวะเหตุฉุกเฉิน: E-MAG) กลุม E-MAG นี้ เกิดจาก ความรวมมือระหวางโรงกลั่นน้ํามันบางสวนและโรงงานปโตรเคมีในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งประกอบดวยสมาชิก 9 บริษัท คือ บริษัท ระยองโอเลฟนส จํากัด (ROC), บริษัท ไทยโพลีเอทธิลีน จํากัด (TPE), บริษัท พีทีที เคมิคอล จํากัด (มหาชน) (PTT Chem I-1), บริษัท พีทีที เคมิคอล จํากัด (มหาชน) (PTT Chem I-4) บริษัท พีทีที อโรเมติกส แอนด รีไฟนนิ่ง จํากัด (PTT AR), บริษัท อัลลายแอนซ รีไฟนนิ่ง จํากัด (ARC), บริษัท วีนิไทย จํากัด (มหาชน) (VNT), บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) (โรงแยกกาซ) (PTT) และบริษัท ไบเออรไทย จํากัด (BTC) โดยมีวัตถุประสงคเพ่ือชวยเหลือ ซึ่งกันและกันในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เพ่ือใหการดําเนินการควบคุมเหตุฉุกเฉินเปนไปอยางรวดเร็วและลดผลกระทบตอชุมชนและส่ิงแวดลอมใหนอยที่สุด ซึ่งบริษัทตางๆ ในกลุม E-MAG นี้จะสามารถสนับสนุนโฟมสํารองเพิ่มเติมกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินของโครงการได ทั้งนี้กลุม E-MAG มีปริมาณโฟมสํารองทั้งหมดรวม 86,752 ลิตร และมีรถโฟมสํารองรวม 10 คัน

กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นทางบริษัท ระยอง เทอรมินัล จํากัด สามารถรองขอความชวยเหลือจากบริษัทในกลุมธุรกิจ SCG Chemicals ไดทันที

5.6.2 การออกแบบระบบสบูถายและลําเลยีงสารปโตรเคมี

การสูบถายสารปโตรเคมีใชวิธีการสูบถายผานทอลําเลียง (Pipeline) โดยการสูบถายระหวางเรือบรรทุกกับถังเก็บกักภายในคลังเก็บสารปโตรเคมี จะใช Loading Arm ที่มีระบบ Interlock ในการปดวาลวสามารถหยุดการสูบถายไดทันทีภายใน 15 วินาที ในกรณีที่มีเหตุการณฉุกเฉิน โดยไมมีการรั่วไหลของผลิตภัณฑลงสูทะเล

โครงการจะติดตั้ง Loading Arm จํานวน 2 ชุด เพ่ือสูบถายสารโพรไพลีนและโพรไพลีนออกไซดสวนการสูบถายสารปโตรเคมีภายในคลังกับโรงงานอุตสาหกรรมปโตรเคมีตาง ๆ ในพ้ืนที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดจะใชระบบทอลําเลียง ซึ่งภายใตโครงการกอสรางทาเทียบเรือและคลังเก็บกักวัตถุดิบและผลิตภัณฑนั้น อุปกรณควบคุมการสูบถายจะประกอบดวย

• ระบบควบคุมหลัก ประกอบดวย ปมที่ใชในการสูบถายสารปโตรเคมีออกจากถังสงไปยัง Downstream ของระบบ และมีระบบอัตโนมัติในการหยุดสูบถายทันทีภายใน 2-3 วินาที เมื่อมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น



• แผงสวิทซควบคุม ประกอบดวย สวิทซควบคุมตาง ๆ ที่สามารถควบคุมบริเวณหนางานได และมีสัญญาณเตือนภัยเมื่อเกิดภาวะการณทํางานที่ไมปลอดภัย

• เครื่องวัดอัตราการไหลของสารปโตรเคมีทั้งสถานะของเหลวและกาซ

• อุปกรณตรวจสอบปริมาณสารปโตรเคมีในถังเก็บ

5.6.3 ระบบควบคมุและสั่งการอัตโนมัติ ในกรณีที่พื้นที่โครงการแยกเปน 2 พื้นที่

เนื่องจากพื้นที่โครงการแบงเปน 2 สวน ไดแก พ้ืนที่ 33 ไร ซึ่งเปนที่ต้ังถังโพรไพลีนออกไซด และพ้ืนที่ 7 ไร ซึ่งเปนที่ต้ังถังโพรไพลีน นั้น โครงการไดออกแบบระบบควบคุมและส่ังการอัตโนมัติเพ่ือควบคุมการทํางานในกรณีที่พ้ืนที่ 7 ไร นั้นไมมีเจาหนาที่ประจําเดินระบบ ดังนี้

(1) ติดตั้งกลองวงจรปดเพ่ือคอยดูกิจกรรมตางๆที่เกิดขึ้นในระหวางการใชงานถังไพรไพลีน หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะสามารถเห็นและดําเนินการปองกัน แกไข บรรเทาไดทันทวงที

(2) ติดตั้งอุปกรณอัตโนมัติบนถังสําหรับการใชงาน โดยใหเชื่อมตอกับระบบการสั่งการจากศูนยกลาง (Distributed Control System, DCS) ดังนี้

• ระบบวัดระดับของของเหลวในถัง กรณีที่ความสูงถึงระดับที่ต้ังคาเตือนเอาไว จะทําการปดวาวลเติมสารเขาถัง เพ่ือปองกันการเติมสารจนลนถัง

• ระบบวัดความดันของของเหลวในถัง กรณีที่เกิดความดันในถังสูงถึงคาที่กําหนดไว จะทําการปดวาวลเติมสารเขาถัง เพ่ือหยุดการเพิ่มความดันในถัง หากความดันยังคงสูงอยางตอเนื่องจะปลดปลอยความดันโดยใหออกทางวาลวพิเศษที่ต้ังคาความดันจากสปริงของวาลวเพ่ือไปเผาที่หอเผา เพ่ือปองกันถังรั่วเนื่องจากความดันสูง

• ติดตั้งระบบตรวจสอบการรั่วไหลของกาซ ใหครอบคลุมทุกทิศทางลม หากรั่วไหลถึงคาที่กําหนดไวจะสงสัญญาณเตือนไปยังอาคารควบคุมกลาง เพ่ือตรวจสอบหาสาเหตุและดําเนินการเพื่อหยุด หรือบรรเทาการรั่วไหล

• อุปกรณอัตโนมัติตางๆ จะถูกติดตั้งบนถังเก็บผลิตภัณฑในทั้งสองพื้นที่ของ บริษัท ระยอง

เทอรมินัล จํากัด คือ พ้ืนที่ 7 ไร บริเวณที่ติดกับสํานักงานทาเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด และพ้ืนที่ถมทะเลใหม 33 ไร ที่ติดกับบริษัท ไทยแทงคเทอรมินัล จํากัด

5.6.4 อาชีวอนามัยและความปลอดภัยของโครงการ

การจัดองคการบริหารความปลอดภัยของโครงการ

บริษัท ระยอง เทอรมินัล จํากัด ไดกําหนดนโยบายทางดานอาชีวอนามัยและความปลอดภัย เพ่ือเปนแนวทางในการดําเนินงานดานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของโครงการใหเปนไปอยางมี



ประสิทธิภาพ โดยมีรายละเอียดของรูปแบบการบริหารงาน ในลักษณะของคณะกรรมการความปลอดภัย ซึ่งแบงเปน 3 คณะ ไดแก

• คณะกรรมการความปลอดภัยดานปฏิบัติการและสิ่งแวดลอม

• คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอมในการทํางาน

• คณะกรรมการความปลอดภัยผูรับเหมา

แนวทางในการปฏิบัติดานความปลอดภัยในการขนถายสารปโตรเคมี

แนวทางในการปฏิบัติดานความปลอดภัยในการขนถายสารปโตรเคมี ใชเพ่ือแนะนําและเปนแนวทางปองกันอันตรายท่ีจะเกิดขึ้นกับเรือ และกับทาเทียบเรือ โดยจะมี Check List เปนแนวทางในการตรวจสอบความปลอดภัยทั้งบนเรือและบนทาเทียบเรือ ซึ่งผูที่ตรวจจะเปนพนักงานระดับหัวหนางานขึ้นไป ทําการตรวจรวมกับเจาหนาที่ความปลอดภัย

ระบบปองกันและระงับอัคคีภัย

โครงการจะออกแบบและติดตั้งระบบปองกันและระงับอัคคีภัยตามมาตรฐาน NFPA 11 13 15 และ 16

แผนการปองกันและระงับอัคคีภัย

โครงการไดจัดทําแผนการปองกันและระงับอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นทั้งในกรณีที่เกิดไฟไหมบนเรือ ไฟไหมบนทาเทียบเรือ และบริเวณสวนอื่น ๆ ของโครงการ

5.6.5 แผนฉุกเฉิน

5.6.5.1 วัตถุประสงค

แผนฉุกเฉินนี้จัดทําขึ้นเพ่ือใชเปนแนวทางปฏิบัติของพนักงานและผูรับเหมา ในการควบคุมภาวะฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งนี้เพ่ือลดความสูญเสียตอชีวิต ทรัพยสิน และผลกระทบตอส่ิงแวดลอมและใชเปนแนวปฏิบัติใหสอดคลองกับ Interface Agreement ระหวางกลุมธุรกิจ เอสซีจี เคมิคอลส ซึ่งเปนกําลังสนับสนุนหลักในการควบคุมภาวะฉุกเฉินของบริษัท ระยอง เทอรมินัล จํากัด (RTC) ที่เกี่ยวของกับการรักษาความปลอดภัย

5.6.5.2 นิยามและคํายอ

• ภาวะฉุกเฉิน หมายถึง ภาวะอันตรายหรือผิดปกติที่เกิดขึ้นโดยไมมีการเตือนภัยลวงหนา ซึ่งอาจจะทําใหเกิดการบาดเจ็บ ลมตาย ตอชีวิต ทรัพยสินเสียหายและสงผลกระทบตอส่ิงแวดลอมได โดยรวมถึง กาซรั่ว สารเคมีรั่ว ของเสียอันตรายรั่วไหล ไฟไหม ระเบิด รวมถึงภัยคุกคาม เหตุการณที่มีผลตอการรักษาความปลอดภัย เชน การกอวินาศกรรม การขูวางระเบิด การปลนยึดทรัพยสินของทาเรือ การยุงเกี่ยวกับสินคา อุปกรณตาง ๆ ของทาเรือ การโจมตีดวยอาวุธตาง ๆ การลักลอบน้ําส่ิงผิดกฎหมายขึ้นสูเรือ หรือพบวัตถุตองสงสัย



• ภาวะฉุกเฉิน ระดับ 1 หมายถึง ภาวะฉุกเฉินที่เกิดขึ้นและสามารถควบคุมใหไดภายในเวลา

30 นาที โดยกําลังพลและอุปกรณภายในของ RTC รวมกับทีมงานของกลุม ธุรกิจ เอสซีจ ีเคมิคอลส

• ภาวะฉุกเฉิน ระดับที่ 2 หมายถึง ภาวะฉุกเฉินที่เกิดขึ้นและสามารถควบคุมไดในเวลา 1

ชั่วโมง แตมากกวา 30 นาท ีโดยความชวยเหลือจากบริษัท ที่มีขอตกลงรวมกับกลุมธุรกิจ เอสซีจ ีเคมิคอลส

• ภาวะฉุกเฉิน ระดับที่ 3 หมายถึง ภาวะฉุกเฉินที่ไมสามารถควบคุมไดใน 1 ชั่วโมง และจําเปนตองขอความชวยเหลือจากหนวยงานราชการและบริษัทอื่น ๆ ตาม Rayong Emergency Plan เพ่ือควบคุมและระงับเหตุการณดังกลาว

5.6.5.3 วิธีปฏิบัติงาน (โดยยอ)

• ผูประสบเหตุจะตองแจงสถานที่เกิดเหตุ จุดที่เกิดเหตุ สาเหตุ ความรุนแรงของเหตุการณ ชื่อผูแจงเหตุ หนวยงาน และท่ีอยูที่ติดตอกลับไดตอผูจัดการพื้นที่ (Facility Manager) โดยหามผูประสบเหตุเขาทําการควบคุมเหตุฉุกเฉินนั้นกอนขอความชวยเหลือและแจงเหตุเสมอ

• ผูจัดการพื้นที่ทําการตรวจสอบและประเมินสถานการถาจําเปนใหกดสสัญญาณ Plant Emergency Alarm เพ่ือแจงเหตุผิดปรกติ และประกาศภาวะฉุกเฉินระดับที่ 1 พรอมทั้งติดตอกับ กรรมการผูจัดการบริษัทฯ พนักงานในพื้นที่ และศูนยบัญชาการในการระงับเหตุของธุรกิจในเครือ เอสซีจี เคมิคอลส

• หัวหนาทีมที่ไดรับมอบหมายกดสัญญาณ Plant Emergency Alarm ในปอง CCR ตามที่ผูจัดการพื้นที่เปนผูส่ังการ เสียงสัญญาณเตือนภัยจะดังขั้นที่โรงงานที่เกิดเหตุฉุกเฉิน เปนเวลา 60 วินาที พรอมทั้งแจงให Emergency center ทราบ

• บุคคลอื่นที่ไมไดสังกัดหนวยงานผลิต ไดแก บุคคลภายนอกหนวยงานผลิต ที่ขอเขามาทํางานในบริษัท ไดแก พนักงานหนวยงานอื่น ๆ เชน ซอมบํารุง ผูรับเหมา เจาหนาที่ที่เกี่ยวของกับการทําธุรกรรมบนเรือ ฯลฯ เมื่อไดรับแจงเหตุแลวใหดําเนินการดังนี้

o หยุดงานที่ทําทั้งหมด เก็บเอกสาร ปดเครื่องใชไฟฟาและรีบไปรวมพลที่จุดรวมพล ทั้งนี้ Work Permit ในเขตกระบวนการผลิตทั้งหมดถือวาถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ

o ทํา Head Count โดย Security Guard แลวรอคําส่ังจากผูบังคับบัญชาส่ังการสูงสุดตอไป



o ทําการอพยพจากพื้นที่ กรณีไดรับคําส่ังจากผูบังคับบัญชาส่ังการสูงสุดและกรณีอยูใตลมใหเตรียมใสอุปกรณปองกันตามความเหมาะสมกอนทําการอพยพออกจากพื้นที่

o หลังจากยกเลิกภาวะฉุกเฉิน สามารถกลับไปทํางานเดิมได หรือขอ Work Permit เพ่ือเขามาทํางานในเขตกระบวนการผลิตไดใหม

o แจง Chief Officer ของเรือใหหยุดการขนถายเมื่อไดรับการแจงเหตุที่ระบุไวในเอกสาร Safety Requirement & Receipt for Jetty Regulation

• หลังจากประกาศภาวะฉุก เฉินแล ว องคกรควบคุมภาวะ ฉุก เฉิน (Emergency Organization) ซึ่งเปนทีมงานที่ทําหนาที่ตอบโตภาวะฉุกเฉิน โดยกําหนดตําแหนงและหนาที่ความรับผิดชอบของแตละตําแหนงครอบคลุมถึงภาวะฉุกเฉินทั้งในและนอกเวลาทําการ บุคคลสํารองในตําแหนงตาง ๆ ในกรณีที่ไมสามารถเรียกบุคคลหลักได ทั้งนี้องคกรควบคุมภาวะฉุกเฉินสามารถปรับเปล่ียนไดตามระดับของภาวะฉุกเฉิน และใหสอดคลองกับองคกรควบคุมภาวะฉุกเฉินของจังหวัด โดยมีโครงสรางองคกรควบคุมภาวะฉุกเฉินของ RTC ดังนี้

• การขอใหบริการ ความชวยเหลือในภาวะฉุกเฉิน ความชวยเหลือในภาวะฉุกเฉิน และรวมถึงสถานการณภัยคุกคามที่มีผลตอการรักษาความปลอดภัยทาเรือ ไดแก ทีมควบคุมภาวะฉุกเฉิน รถพยาบาล โรงพยาบาล สํานักงานการนิคมฯ ตํารวจพ้ืนที่ สํานักงานการขนสงทางน้ํา ฯลฯ การบริการแตละชนิดจะมีต้ังแต 2 แหลงขึ้นไป โดยมีการใหลําดับความสําคัญในการเรียกใช ตามรายการบริการความชวยเหลือของหนวยงานภายนอกที่คัดเลือกหนวยงานที่มีความสามารถในการตอบโตภาวะฉุกเฉิน และยินดีเขารวมฝกซอมกับทางโรงงาน หากมีการรองขอ โดยหนวยงานความปลอดภัยและส่ิงแวดลอมมีหนาที่ Update รายการดังกลาวอยางนอยปละครั้ง

• เมื่อสามารถระงับเหตุไดแลวผูบังคับบัญชาสูงสุด โดยการปรึกษากับ พนักงานปฏิบัติการและพนักงานที่ไดรับมอบหมายใหจัดหาอุปกรณและกําลังพลเสริมนั้นส่ังการใหผูจัดการประจําพ้ืนที่ให All Clear Alarm โดยสัญญาณนี้จะถูกสงจากโรงงานที่เกิดเหตุฉุกเฉินกอนและจะถูกถายทอดไปยังจดุตาง ๆ ผานทางเสียงตามสายและระบบ SMS

• ในกรณีที่ไมสามารถระงับเหตุได ผูบังคับบัญชาส่ังการสูงสุด โดยการปรึกษากับพนักงานปฏิบัติการและพนักงานที่ไดรับมอบหมายใหจัดหาอุปกรณและกําลังพลเสริมนั้นส่ังการใหผูจัดการประจําพ้ืนที่ใหสัญญาณอพยพ โดยประกาศผานทางเสียงตามสาย SMS เพ่ือแจงขอมูลของสารเคมี ทิศทางลม ความเร็วลม

• จากนั้นใหผูประสบเหตุทํารายงานการเกิดอุบัติเหตุ ตามการรายงานอุบัติเหตุ



ผูอํานวยการเหตุฉุกเฉิน RAYONGEmergency Director PROVINCE

(ED) EMERGENCY PLAN(Managing Director)

ผูบญัชาการเหตุฉุกเฉินEMERGENCY MANAGER

(ON CALL)

ผูควบคุมเหตุฉุกเฉิน ผูประสานงานเหตุฉุกเฉินON‐SCENE COMMANCERS (OC) Mutual Aid Commander (MC)(Senior person in the affected) Public & Government Liasion Security Leader/Replaced by

On‐Call

Process Internal Assistance External Isolation Leader Leaders (Emg Level 2) Assistance Leaders

(Emg Level 2)

รูปที่ 5.6-1 โครงสรางองคกรควบคุมภาวะฉุกเฉนิของโครงการ

Documents

ROPYLENE UMBER ROPYLENE XIDE UMBEReiadoc.onep.go.th/eialibrary/3transport/52/E59P(ESB)C11... · 2009-10-21 · รายงานการวิเคราะห ผลกระทบส