2
Pitfall of ACLS Basic life support C - อย่าคลําpulse < 5 วินาที หรือ >10 วินาที ถ้าเกิน 10 วินาที แล้วไม่แน่ใจให้ CPR ก่อน - ไม่ต้องรอ cardiac board ให้ CPR ได้ทันที - CPR > 100 ครั้งต่อนาที และลึกมากกว่า2นิ้ว หัวหน้าทีมต้องดูแลให้ลูกทีมทําถูกตลอดการ CPR A - อย่าลืมเปิด airway ดู secretion / FB ก่อนช่วยหายใจทุกครั้ง - ผู ้ป่วยได้รับบาดเจ็บต้อง protect C-spine และเปิดairway แบบ jaw thrust B - ventilation ต้องให้เห็น chest rising - หลังเปลี่ยนไปใสET tube ให้เปลี่ยน rate ventilation D - ทาเจลก่อน Defib. - เวลาเคลียร์ Pt. ให้มองรอบ ด้วย - อย่าทาบ paddle นานเกินไป จะรบกวนCPR ให้ชาร์ตข้างนอกอก แล้วค่อยshock - Torsade ต้อง Defib. แล้วค่อยให้ MgSO 4 - Torsade ห้ามให้ amiodalone เพราะจะทําให้ QT prolong และ torsade เป็นมากขึ้น # หมายเหตุ : หากทีมทํา CPR หรือ Ventilation ไม่เหมาะสม อาจทําให้ Head สอบตกได้ Advance life support A - เวลาใส่ tube ห้าม interrupt CPR B - หลังใส่ advance airway อย่าลืมต่อ EtCO 2 C - ยาที่ให้ผ่าน ET tube อาจไม่มีประสิทธิภาพ เมื่อเปิด IV ได้ก็ต้องให้ทาง IV อีก ทันที D - Differential ให้แก้ไขสาเหตุ arrest ขณะ CPR ตามความเหมาะสม เช่น Pt trauma arrest จาก hypovolumic shock ต้อง load IV 2000ml free flow - หากไม่เข้าใจประวัติให้ซักเพิ่มได้เสมอระหว่าง CPR

Piffall of ACLS

Embed Size (px)

DESCRIPTION

Piffall of ACLS

Citation preview

Pitfall of ACLS

Basic life support

C - อย่าคลําpulse < 5 วินาที หรือ >10 วินาที ถ้าเกิน 10 วินาที แล้วไมแ่นใ่จให้ CPR ก่อน

- ไมต้่องรอ cardiac board ให้ CPR ได้ทนัที

- CPR > 100 ครัง้ตอ่นาที และลกึมากกว่า2นิว้ หวัหน้าทีมต้องดแูลให้ลกูทีมทําถกูตลอดการ CPR

A - อย่าลืมเปิด airway ด ูsecretion / FB ก่อนชว่ยหายใจทกุครัง้

- ผู้ ป่วยได้รับบาดเจ็บต้อง protect C-spine และเปิดairway แบบ jaw thrust

B - ventilation ต้องให้เห็น chest rising

- หลงัเปล่ียนไปใส่ ET tube ให้เปล่ียน rate ventilation

D - ทาเจลก่อน Defib.

- เวลาเคลียร์ Pt. ให้มองรอบ ๆ ด้วย

- อย่าทาบ paddle นานเกินไป จะรบกวนCPR ให้ชาร์ตข้างนอกอก แล้วคอ่ยshock

- Torsade ต้อง Defib. แล้วคอ่ยให้ MgSO4

- Torsade ห้ามให้ amiodalone เพราะจะทําให้ QT prolong และ torsade เป็นมากขึน้

# หมายเหต ุ: หากทีมทํา CPR หรือ Ventilation ไมเ่หมาะสม อาจทําให้Head สอบตกได้

Advance life support

A - เวลาใส ่tube ห้าม interrupt CPR

B - หลงัใส ่advance airway อยา่ลืมตอ่ EtCO2

C - ยาท่ีให้ผ่าน ET tube อาจไมมี่ประสิทธิภาพ เม่ือเปิด IV ได้ก็ต้องให้ทาง IV อีก ทนัที

D - Differential ให้แก้ไขสาเหตaุrrest ขณะ CPR ตามความเหมาะสม เชน่

Pt trauma arrest จาก hypovolumic shock ต้อง load IV 2000ml free flow

- หากไมเ่ข้าใจประวตัใิห้ซกัเพิ่มได้เสมอระหวา่ง CPR

Post arrest care

- เม่ือมีชีพจร ต้องกลบัมาประเมิน airway & breathing ใหม ่โดยการดวู่าผู้ ป่วยหายใจหรือไม ่SpO2 เป็น

เทา่ไหร่และอย่าลืมวดั BP

- อย่าลืมทํา EKG 12 leads

- หา cause เสมอ

Tachycardia

- ต้อง approach ตาม A B C

- อย่าลืมถาม sign of unstable (ต้องถามทัง้หมด)

- อาการซมึหลงัCPR ไมน่บัเป็น acute alter รวมทัง้ประเมิน chest pain ไมไ่ด้ ต้องดBูPและCRTเป็นหลกั

- ถ้าคนไข้มีชีพจรแล้วเปล่ียนเป็นไมมี่ชีพจร ต้องเร่ิมประเมินใหม ่คือ ประเมิน response ก่อนคลํา pulse

- หลงัจาก synchronized แล้วกลายเป็น shockable rhythm ต้อง Defib ทนัที ห้ามรอ 2 นาที

- Tachy stable ต้องทํา EKG 12 leads

- ถ้า PR ไมถึ่ง 150 bpm หรือเป็น sinus tachycardia อยา่เข้า tachyardia algorithm ให้หาสาเหตดุ ู

Bradycardia

- หลงัติด pace ต้องคลําpulse(femoral) และประเมินวา่ Pt. stable หรือยงั

- ถ้าตดิ pace แล้วไม ่stable ให้เพิ่ม rate

- หลงัติด pace แล้วไมมี่ pulse ให้ปิด pace mode ก่อน CPR

- pad เหนียวท่ีใช้ตดิ pace สามารถใช้ shock ได้เลย แตต้่องปิดโหมด pacing แล้วเปิดโหมดปกติ

- Infranodal block เชน่ Morbitz II / 3rd AV block ไมค่วรให้ atropine ยกเว้นเป็นตวัแคบ