10
MAGAZINE ฉบับที่ 2 ปีท่ 1 วันที่ 15 มกราคม 2557 วารสารสวนสัตว์เชียงใหม่

CHIANG MAI ZOO VARIETY MAGAZINE | JANUARY 2014

Embed Size (px)

DESCRIPTION

 

Citation preview

MAGAZINE

ฉบับที่ 2 ปีที่ 1 วันที่ 15 มกราคม 2557วารสารสวนสัตว์เชียงใหม ่

บรรณาธิการ พบกันเป็นฉบับที่ 2 แล้วนะคะ ฉบับนี้ตรงกับเทศกาลวันเด็กแห่งชาติ สวนสัตว์เชียงใหม่เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ได้

รับความนิยมที่เด็กๆจะร้องขอให้คุณพ่อ คุณแม่พามาเที่ยว เพราะนอกจากน้องๆ จะได้ความสนุกสนานกับกิจกรรมต่างๆ,

เพลิดเพลินไปกับธรรมชาตินานาสัตว์ป่าหลากหลายชนิดแล้ว น้องจะได้ฝึกจิดใจให้มีความอ่อนโยนรักธรรมชาติ เด็กๆของเราก็

จะเติบใหญ่เป็นกำาลังสำาคัญที่จะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมต่อไปในอนาคต เป็นการพาเด็กๆ ท่องเที่ยวอย่างมีคุณค่าจริงๆ

ทำาไมต้องมีวันเด็กแห่งชาติ แล้ววันเด็กแห่งชาติมีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ บรรณาธิการลองตั้งคำาถามง่ายๆ แบบเด็กๆ ดูบ้าง

แล้วก็ลองสืบค้นประวัติความเป็นมาของงานวันเด็กแห่งชาติมาฝากท่านผู้อ่านเป็นความรู้รอบตัว

งาน วันเด็กแห่งชาติ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2498 ในสมัยนั้นได้กำาหนดให้จัดในวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม

ตามคำาเชิญชวนของ นายวี.เอ็ม. กุลกานี ผู้แทนองค์การสหพันธ์เพื่อสวัสดิภาพเด็กระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ โดยมี

วัตถุประสงค์ให้ประชาชนเห็นความสำาคัญและความต้องการของเด็ก และเพื่อกระตุ้นให้เด็กตระหนักถึงบทบาทอันสำาคัญของ

ตนในประเทศ รัฐบาลในขณะนั้นโดยการนำาของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้จัดให้มีคณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ โดย

ทำาหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และเอกชน กำาหนดให้มีการฉลองวันเด็กแห่งชาติทั้งใน

ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อให้เด็กทั่วประเทศทั้งในระบบโรงเรียนและ นอกระบบโรงเรียน ได้รู้ถึงความสำาคัญของตน เกี่ยว

กับสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบ ระเบียบวินัย ที่มีต่อตนเองและสังคม มีความยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข งานวันเด็กแห่งชาติ ได้จัดขึ้นทุกปี นับตั้งแต่นั้น

เป็นต้นมา จนถึงปี พ.ศ. 2507 ไม่สามารถจัดงานวันเด็กได้ทัน จึงได้เริ่มจัดอีกครั้งในปี พ.ศ. 2508 โดยเปลี่ยนเป็นวันเสาร์ที่

2 ของเดือนมกราคม เนื่องจากเห็นว่าเป็นช่วงหมดฤดูฝนและเป็นวันหยุดราชการ และได้จัดต่อเนื่องทุกปีจนถึงทุกวันนี้ และ

เป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติสืบมา ที่แต่ละปีนายกรัฐมนตรีจะมอบคำาขวัญให้เป็นคติเตือนใจให้กับเด็กเป็นประจำาทุกปี คำาขวัญวัน

เด็กแห่งชาติประจำาปี 2557 คือ “กตัญญู รู้หน้าที่ เป็นเด็กดี มีวินัย สร้างไทย ให้

มั่นคง”

บรรณาธิการขอให้เด็กๆมีความสุขกับกิจกรรมต่างๆ ในวันเด็ก และมี

ความสุขกับทุกๆวันตลอดปี 2557 นี้นะคะ

กรรณิการ์ จันทรังษี

ทีมงานบรรณาธิการ

ที่มา: http://scoop.mthai.com/specialdays/1424.html

2

4

สารบัญ

ธรรมชาตินานาสัตว์

ทำาไมต้องเรียก ชะมดเช็ด 4

สรรหามาเล่า

ความหมายของระบบนิเวศ กับ นิเวศวิทยา 5

ของดีในสวนสัตว์เชียงใหม่

ยลโฉม “ค่างห้าสี”

มหัศจรรย์สัตว์หายาก-สวยที่สุดในโลก 6

เรื่องเด่น เดือนนี้

งานวันเด็ก 7

สัตว์ป่าฮาเฮ

HOW TO BE A PANDA 8

ชุมนุมนักเขียน

นักเขียนฉบับนี้ 9

3

ธรรมชาตินานาสัตว์ | ทำ ไมต้องเรียก ชะมดเช็ด

มีหลายคนครับที่ยังไม่รู้จักชะมดเช็ด ซึ่งผมมักจะได้ยินคำาพูดอยู่บ่อยๆว่า “สัตว์ที่มีชื่อว่า ชะมดเช็ด มีด้วยเหรอ,

มันเป็นอย่างไร, หน้าตาเป็นแบบไหน, มันกินอะไรเป็นอาหาร, มีความสำาคัญอย่างไร ฯลฯ” ไม่แปลกใจเลยครับที่หลายๆ

คนไม่รู้จัก เช่นเดียวกับตัวผม ซึ่งเมื่อก่อนผมก็ไม่เคยรู้จักเลยว่าชะมดเช็ดเป็นอย่างไร จนกระทั่งผมได้มีโอกาสเข้ามาทำางาน

เกี่ยวกับ การศึกษาวิจัย ชีววิทยาและการเพาะขยายพันธุ์ชะมดเช็ด จึงทำาให้ผมต้องทำาความรู้จักกับชะมดเช็ด และวันนี้ผม

ก็จะมาแนะนำาให้ท่านรู้จักชะมดเช็ดเช่นเดียวกับตัวผมที่ได้ทำาความรู้จักมาแล้ว

ชะมดเช็ด เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ขนสีนำา้ตาลจาง มีลายสีดำาอยู่บนหลัง 5 ลาย ลายยาวจากคอถึงโคนหาง ส่วน

ปลายหางเป็นสีขาวเสมอ ไม่มีขนแผงหรือขนตั้งชันที่คอหรือหลัง หน้าผากแคบเหมือนหน้าหนู ขาค่อนข้างสั้น มีขนาด

ความยาวลำาตัวและหัว 54-63 เซนติเมตร ความยาวหาง 30-43 เซนติเมตร นำา้หนัก 2-4 กิโลกรัม

ชะมดเช็ดมีต่อมกลิ่น (Perineal gland) ซึ่งตำาแหน่ง

ของต่อมกลิ่นจะปรากฏอยู่ใกล้บริเวณทวารหนักหรืออวัยวะ

สืบพันธุ์ มีหน้าที่ขับนำา้มันและของเหลวมีกลิ่นฉุน มีลักษณะ

เฉพาะตัว ถือว่าเป็นจุดเด่นของชะมดเช็ด โดยธรรมชาติชะมด

เช็ดจะเช็ดของเหลวนี้กับตอไม้หรือกิ่งไม้ เพื่อประกาศอาณาเขต

ครอบครองของชะมดแต่ละตัว โดยจะเช็ดสารที่ทำาให้เกิดกลิ่น

นี้ไว้กับกิ่งไม้ใบไม้ในพื้นที่อาณาเขตครอบครองเพื่อให้ตัวอื่นๆ

ได้รับรู้และใช้ประโยชน์ในการติดต่อสื่อสารและป้องกันตัว โดย

เฉพาะการสื่อสารกันระหว่างตัวผู้และตัวเมียในช่วงระยะเวลาที่

พร้อมผสมพันธุ์ ด้วยเหตุนี้จึงเรียกชื่อสัตว์ชนิดนี้ว่า “ชะมดเช็ด”

และด้วยความโดดเด่นของกลิ่นนี่เอง ทำาให้มนุษย์รู้จักที่จะใช้กลิ่นหอมจากชะมดมานานแล้ว ในสมัยกษัตริย์ Solomon

เมื่อ 1,000 ปีคริสตกาล ก็ได้มีการบันทึกถึงการนำาเอาต่อมกลิ่นหรือนำา้มันและของเหลวที่ปลดปล่อยออกมาจากต่อมกลิ่น

มาใช้เป็นส่วนประกอบของยาแผนโบราณและนำา้หอม คนไทยเองก็เช่นเดียวกันรู้จักการใช้ประโยชน์จากกลิ่นชะมดมาแต่

โบราณแล้ว

ชะมดเช็ดจัดเป็นสัตว์กินเนื้อ ออกหากินหรือล่าเหยื่อในเวลากลางคืน กินสัตว์เล็กๆ เป็นอาหาร ได้แก่ สัตว์ปีกที่

อาศัยอยู่ตามแหล่งนั้นๆ เช่น นก เป็ด ไก่ นอกจากนี้ยังมีหนู งู จิ้งเหลน กิ้งก่า ปลา ตลอดจนผลไม้ต่างๆ รากไม้บางชนิด

และซากสัตว์เป็นอาหาร (Lekagul and McNeely, 1977) ชะมดเช็ดเป็นสัตว์ผู้ล่าขนาดเล็ก เป็นสัตว์ที่ควบคุมปริมาณ

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ครึ่งบกครึ่งนำา้ แมลง และสัตว์ขนาดเล็กอื่นๆ ช่วยให้มีความสมดุลของ

ประชากรสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ ชะมดเช็ดสามารถแพร่กระจายพันธุ์พืช จากการกินผลไม้และถ่ายมูล ซึ่งมูลของชะมดเช็ด

ยังเพิ่มสารอาหารให้กับระบบนิเวศได้อีกด้วย

ธีรพงศ์ ณะกาศ

นักวิทยาศาสตร์สวนสัตว์ 3

ฝ่ายอนุรักษ์ วิจัยและสุขภาพสัตว์

4

4

สรรหามาเล่า| ความหมายของระบบนิเวศ กับ นิเวศวิทยา

5

บ่อยครั้งที่เรามักจะเข้าใจผิดกับการใช้ศัพท์บางคำา ครั้งนี้จะขอยกตัวอย่างคำาว่า ระบบนิเวศ กับ นิเวศวิทยา หลายๆ

ครั้งที่ผู้เขียนได้อ่านบทความ เอกสารการเรียนการสอนหรือหนังสือสารคดีด้านธรรมชาติและสัตว์ป่า ผู้เขียนได้สังเกตเห็นว่า

หนังสือเหล่านี้ได้ใช้คำาว่า ระบบนิเวศวิทยา ความจริงแล้วคำาว่า ระบบนิเวศวิทยา นั้นไม่มีครับเป็นความเข้าใจผิดครับ จะมีก็แต่

คำาว่า ระบบนิเวศ กับ นิเวศวิทยา เท่านั้นครับ เราต้องมาทำาความเข้าใจกันใหม่ จะเอาคำาสองคำานี้มารวมกันไม่ได้ เพราะคนละ

ความหมายครับ ครั้งนี้เพื่อความเข้าใจผู้เขียนจะขออธิบายความหมายของคำาทั้งสองคำานี้โดยคร่าวๆนะครับคำาแรกที่จะกล่าวถึงก็

คือคำาว่า ระบบนิเวศ

ระบบนิเวศ เป็นโครงสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ กับบริเวณแวดล้อมที่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ดำารงชีวิตอยู่

ระบบนิเวศหนึ่ง ๆ นั้นประกอบด้วยบริเวณที่สิ่งมีชีวิตดำารงอยู่และกลุ่มประชากรที่มีชีวิตอยู่ในบริเวณดังกล่าวพืชและโดยเฉพาะ

สัตว์ต่างๆก็ต้องการบริเวณที่อยู่อาศัยที่มีขนาดอย่างน้อยที่สุดที่เหมาะสม ทั้งนี้เพื่อว่าการมีชีวิตอยู่รอดตลอดไประบบนิเวศทุก ๆ

ระบบจะมีโครงสร้างที่กำาหนดโดยชนิดของสิ่งมีชีวิตเฉพาะอย่าง ที่อยู่ในระบบนั้น ๆ โครงสร้างประกอบด้วยจำานวนและชนิดของ

สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ เหล่านี้ และการกระจายตัวของมันถึงแม้ว่าระบบนิเวศบนโลกจะมีความหลากหลายแต่มีโครงสร้างที่คล้ายคลึง

กันครับพอทราบความหมายระบบนิเวศบ้างแล้ว คราวนี้เรามาทราบถึงความหมายของคำาว่า นิเวศวิทยา กันบ้างครับ

นิเวศวิทยา คือการศึกษาธรรมชาติ โดยเฉพาะเป็นการศึกษาถึงโครงสร้าง และความเป็นอยู่ของธรรมชาติ กล่าวคือ

โครงสร้างของธรรมชาติในที่นี้หมายถึงการกระจาย และจำานวนสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งถูกกำาหนดโดยสิ่งแวดล้อม

สำาหรับความเป็นอยู่ของธรรมชาตินั้น คือความเป็นอยู่ของบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ซึ่งมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน

ตามธรรมชาติ เช่นการแก่งแย่งแข่งขัน การพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน การตกเป็นเหยื่อ และผู้ล่าเหยื่อ

และการถ่ายทอดพลังงาน หรือ เป็นการศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิต และปัจจัยสภาพแวดล้อม

ทั้งหลายทั้งทางกายภาพและชีวภาพ ซึ่งควบคุมความเป็นอยู่ของบรรดาสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น ในทางกลับกัน

สิ่งมีชีวิตทั้งหลายก็จะมีส่วนควบคุมสิ่งแวดล้อมด้วย และนี่ก็คือความหมายของคำาว่า ระบบนิเวศ

กับ นิเวศวิทยา สำาหรับบางท่านที่ยังไม่ทราบ หรือยังใช้คำาว่า ระบบนิเวศวิทยา

เข้าใจดีแล้วนะครับ เปลี่ยนมาใช้ให้ถูกต้องจะได้ไม่อายใคร

ไม่สับสนทั้งผู้ฟังและผู้อ่านครับ

เรียบเรียงโดย นายถิรายุ ชูเชาวน์

นักวิทยาศาสตร์สวนสัตว์

ของดีในสวนสัตว์เชียงใหม่ | ยลโฉม “ค่างห้าสี” มหัศจรรย์สัตว์หายาก-สวยที่สุดใน

ข่าวดี...สำาหรับผู้นิยมชมชอบสัตว์ป่า

และสัตว์สวยงามของโลก ค่างห้าสี จำานวน 3

ตัว เดินทางมาให้ได้ยลโฉมกันถึงที่นี่...ที่สวนสัตว์

เชียงใหม่

เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2552

สวนสัตว์ดุสิต ได้สร้างความฮือฮาให้แก่นัก

อนุรักษ์ผู้ชื่นชอบสัตว์ป่าหายากและมีสีสัน

สวยงามอีกครั้ง หลังจากที่แม่ค่างห้าสี ซึ่งถือเป็น

1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของสวนสัตว์ดุสิต ได้ให้

กำาเนิดลูกน้อย จำานวน 1 ตัว ถือเป็นสมาชิกใหม่

ของสัตว์ป่าหายากและใกล้สูญพันธุ์ในขณะนี้

ค่างห้าสี มีชื่อสามัญว่า douc langur จัดเป็นค่างที่มีความสวยงามที่สุดในโลก มีถิ่นอาศัยในป่าดงดิบชื้นแถบอินโดจีน

เท่านั้น พบมากอยู่ทางตอนกลางของประเทศเวียดนาม ตามรอบตะเข็บติดกับชายแดนประเทศ ส.ป.ป.ลาว และบริเวณรอยต่อ

ของ 3 ประเทศ คือ เวียดนาม กัมพูชา และ ลาว แต่ไม่พบในแหล่งธรรมชาติของประเทศไทย ถือเป็นสัตว์ป่าหายาก ใกล้สูญ

พันธุ์ ที่องค์การอนุรักษ์สัตว์ป่าโลก (ไอยูซีเอ็น) จัดให้อยู่ในประเภทบัญชีแดง ห้ามซื้อขาย เป็นค่างที่มีความสวยงามที่สุดในโลก

โดยทั้งตัวมี 5 สี คือ ลำาตัวมีสีเทา หน้าผากสีเทาดำาออกแดง หนวดเครา หางและก้นมีสีขาว ใบหน้าสีเหลือง และขาสีนำา้ตาลแดง

มักพบอาศัยอยู่เป็นกลุ่มมีทั้งตัวผู้และตัวเมียรวมกันประมาณ 4-15 ตัว ตัวผู้จะมีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย ตัวผู้จะหนักประมาณ 11

กิโลกรัม ตัวเมียหนัก 8 กิโลกรัม ตัวผู้มีขนสีขาวตรงสะโพกส่วนตัวเมียไม่มี ลูกของค่างห้าสีจะมีสีนำา้ตาลทอง นิสัยที่น่ารักของ

ค่างห้าสีตัวที่โตแล้ว คือมักจะหาอาหารหรือช่วยกันเลี้ยงค่างที่อ่อนวัยกว่า และหากลูกของค่างห้าสีเกิดมีแม่ตาย ตัวผู้ที่เปรียบดั่ง

สามีจะทำาหน้าที่เลี้ยงดูลูกแทน

ค่างห้าสีเป็นสัตว์ที่เลือกกินมาก มีอาหารที่โปรดปรานคือ ใบไม้อ่อน ยอดไม้ และผลไม้ที่ไม่สุกมาก นอกจากนี้ยังกิน

ดอกไม้ เมล็ด หน่อ รวมทั้งแมลงบางชนิด และจากความพิถีพิถันในการเลือกอาหารพอสมควร จึงมักจะตรวจสอบอย่างละเอียด

ด้วยการ คัดทิ้ง เช่น หากเป็นใบไม้แก่ หรือผลไม้สุกเกินไป ค่างห้าสีมักจะคัดทิ้งทันที พฤติกรรมที่โดดเด่นของค้างห้าสี คือการ

กระโดดได้ไกลถึง 6 เมตร และใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตอยู่บนต้นไม้ จะลงบนพื้นดินเมื่อมีความจำาเป็นเท่านั้น และสื่อสารกันโดยใช้

หน้าตา ท่าทาง และเสียง

เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ช่วงเดือนสิงหาคม-ธันวาคม ค่างทั้งตัวผู้และตัวเมียจะ

ส่ายหัวไปมา โดยตัวเมียจะเลือกตัวผู้ด้วยการจ้องตาเพื่อส่งสัญญาณเป็นเวลานาน

จนกว่าตัวผู้จะเข้าหา รอบการเป็นสัดของค่างห้าสีจะมีระยะเวลา 1 เดือน เหมือน

ลิงทั่วไปและตั้งท้องนานประมาณ 175-210 วัน โดยจะมีลูกได้เพียงครั้งละ 1 ตัว

ต่อการตั้งท้อง 1 ครั้ง ตัวเมียทุกตัวในฝูงที่ท้องจะออกลูกภายในเดือนเดียวกัน และ

จะช่วยกันเลี้ยงดูแลลูก

ปัจจุบันมีรายงานว่าประชากรของค่างห้าสีในธรรมชาติเหลืออยู่น้อยมาก

จนใกล้จะสูญพันธุ์ เนื่องจากการบุกรุกทำาลายป่าดงดิบ และถูกคุกคามไล่ล่านำามา

เป็นสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสงครามเวียดนาม ทำาให้ค่างห้าสีมีปริมาณลดลง จึงทำาให้

องค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่าโลกจัดให้ค่างห้าสีอยู่ในบัญชีสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ดังกล่าว

เรียบเรียงโดย จิณณาพัต ชูเชาวน์

ฝ่ายอนุรักษ์ วิจัยและสุขภาพสัตว์

6

สนุกสุดหรรษา พาเพลิน “วันเด็ก 57” กับสวนสัตว์เชียงใหม่

ทุกๆ ปี เริ่มต้นรับศักราชใหม่ วันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคม ถือเป็นวัน

สำาคัญอีกวันหนึ่งของเยาวชน นั่นก็คือ “วันเด็กแห่งชาติ” ซึ่งบรรดาผู้ปกครองต่างก็

วางแผนจะพาลูกๆ ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ที่มีการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ไม่ว่าจะ

เป็นสนามบิน ห้างสรรพสินค้า ค่ายทหาร หน่วย

งานราชการต่างๆ และอีกแห่งหนึ่งที่ขาดมิได้เป็น

สถานที่ที่เด็กๆ ชื่นชอบมากที่สุด ก็คือ สวนสัตว์นั่นเอง

ในปีนี้ วันเด็กแห่งชาติประจำาปี 2557 ระหว่างวันที่ 11-12 มกราคม 2557 เพื่อ

เป็นการสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ สวนสัตว์เชียงใหม่ได้จับมือกับหน่วยงานภาครัฐและ

เอกชน โดยเปิดโอกาสให้น้องๆ หนูๆ ได้มาร่วมแสดงออกถึงความสามารถทางความคิด

สร้างสรรค์ พร้อมรับสาระน่ารู้ทั้งทางด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่า

นานาชนิด และในปีนี้ที่พิเศษสุดๆ ทางองค์การสวนสัตว์ฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำาคัญของเยาชนไทยเป็นอย่างยิ่ง จึงได้มอบของ

ขวัญวันเด็กให้แก่เยาวชนไทยทุกคน โดยให้เข้าชมสวนสัตว์ฟรี!!! ทุกแห่งในประเทศไทย

ทั้งนี้เด็กทุกคนสามารถร่วมงานวันเด็กแห่งชาติภายใต้แนวคิด “สุดสนุกสุดหรรษาและมีความสุข” ได้ฟรี!!!ที่สวนสัตว์

เชียงใหม่ทั้ง 2 วัน เพื่อสนองคำาขวัญวันเด็กประจำาปี “กตัญญู รู้หน้าที่ เป็นเด็กดี มีวินัย สร้างไทย ให้มั่นคง”

ส่วนกิจกรรมภาคบันเทิง ด้านเวทีใหญ่ด้านหน้าส่วนจัดแสดงแอฟริกา เด็กๆ จะได้รับของขวัญและของรางวัลมากมาย

จากพี่ๆ ที่ใจดี ได้ร่วมสนุกกับเกมส์ต่างๆ และการต้อนรับอย่างอบอุ่นท่ามกลางเหล่าแมสคอร์ทสุดแซ่บนับสิบตัว ร่วมกิจกรรม

การให้อาหารสัตว์ ถ่ายภาพกับสัตว์ป่าน่ารักอย่างใกล้ชิด ชมการแสดงความสามารถของสัตว์แสนรู้แมวนำา้แสนซนได้อีกด้วย

บรรยากาศโดยรอบสัตว์เชียงใหม่ ก็มีผู้คนเดินทางพาบุตรหลานมาเที่ยวกันอย่างคับคั่ง โดยเด็กและผู้ปกครองได้เดินดู

เหล่าขบวนสัตว์แสนน่ารักของสวนสัตว์เชียงใหม่ ซึ่งจุดที่มีคนพลุกพล่านที่สุดจุดหนึ่งในสวนสัตว์เชียงใหม่ก็ยังเป็นส่วนจัดแสดง

หมีแพนด้า เพื่อเยี่ยมชมซุปเปอร์สตาร์สุดฮิตของเมืองไทย เด็กๆเข้าไปสัมผัสกับอากาศหนาวเย็นถึงลบ 7 องศาในเชียงใหม่ ซู

สโนว์โดม อีกทั้งยังได้ชมมหัศจรรย์เชียงใหม่ ซู อควาเรียมอีกด้วย ซึ่งแต่ละที่ได้รับความสนใจจากเด็กๆ เป็นอย่างมาก เต็มไป

ด้วยความสนุกสนาน และเกิดความประทับใจกันทั่วหน้าเลยทีเดียว

พลาดไม่ได้!! อีกครั้งกับวันเด็กแห่งชาติปีหน้า เตรียมพบกับ

ความสนุกสนาน และอลังการสุดๆ ที่สวนสัตว์เชียงใหม่

เรื่องโดย : ไพรรินทร์ ยานะ

นักประชาสัมพันธ์ 5

ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและประชาสัมพันธ์

เรื่องเด่น เดือนนี้ | “งานวันเด็ก”

7

ที่มาภาพ http://imgace.com/pic/tag/how-to-be-a-panda-cartoon/

ที่มาภาพ www.9gag.com/gag/3501512

ที่มาภาพ http://www.dek-d.com/board/view/1559489/

8

สัตว์ป่าฮาเฮ | HOW TO BE A PANDA

4

ชุมนุมนักเขียน | นักเขียนฉบับนี้

9

ออกแบบวารสาร

นายภูดิศ เนตาสิทธิ์ | เจ้าหน้าที่สิทธิประโยชน์ ( สารสนเทศ-ไอที )

สรรหามาเล่า : ความหมายของระบบนิเวศ กับ นิเวศวิทยา

นายถิรายุ ชูเชาวน์ | นักวิทยาศาสตร์สวนสัตว์

บรรณาธิการ

สพญ.กรรณิการ์ จันทรังษี | หัวหน้างานอนุรักษ์

ธรรมชาตินานาสัตว์ : ทำาไมต้องเรียก ชะมดเช็ด

นายธีรพงศ์ ณะกาศ | นักวิทยาศาสตร์สวนสัตว์

ของดีในสวนสัตว์เชียงใหม่ : ยลโฉม “ค่างห้าสี” มหัศจรรย์สัตว์หายาก - สวยที่สุดในโลก

จิณณาพัต ชูเชาวน ์| ฝ่ายอนุรักษ์ วิจัยและสุขภาพสัตว์

เรื่องเด่น เดือนนี้ : งานวันเด็ก

นางสาวไพรรินทร์ ยานะ | นักประชาสัมพันธ์ 5

4www.chiangmaizoo.com

MAGAZINE

ภาพอัลตราซาวด์ (Ultrasound) แม่แพนด้า หลินฮุ่ย | 9 มกราคม 2557