48
ครองเรือน-ครองรัก จักเลิศแท ดวยครองธรรม พระพรหมคุณาภรณ (. . ปยุตฺโต)

ครองเรือน ครองรัก - Thammapediaครองเร อน-ครองร ก จ กเล ศแท ด วยครองธรรม ∗ ขออ

  • Upload
    others

  • View
    2

  • Download
    0

Embed Size (px)

Citation preview

ครองเรือน-ครองรัก จักเลิศแท ดวยครองธรรม

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต)

ครองเรือน-ครองรัก จักเลิศแท ดวยครองธรรม© พระธรรมปฎก (ป. อ. ปยุตฺโต)ISBN 974-90104-7-7

พิมพครั้งที่ ๑ - ธันวาคม ๒๕๔๔ ๓,๐๐๐ เลม- มูลนิธิการศึกษาเพ่ือสันติภาพพระธรรมปฎก (ป. อ. ปยุตฺโต) ๓,๐๐๐ เลม

พิมพครั้งที่ ๙ - พฤษภาคม ๒๕๔๙ ๑,๐๐๐ เลม- ดร.นิเชต สุนทรพิทักษ พิมพเปนธรรมทาน

พิมพที่ บริษัท พิมพสวย จํากัด๕/๕ ถ.เทศบาลรังสฤษฎเหนือ แขวงลาดยาวเขตจตุจักร กรุงเทพฯ ๑๐๙๐๐

โทร. ๐ ๒๙๕๓–๙๖๐๐ โทรสาร ๐ ๒๙๕๓-๙๖๐๖

สารบัญ

อนุโมทนา................................................................ (๑)ครองเรอืน-ครองรกั จกัเลิศแท ดวยครองธรรม ...๑ความรักและศรัทธา กลั่นออกมาเปนพร .....................๒รักท่ีอยากหาความสุข กับรักท่ีอยากใหเขาเปนสุข........๔คูสมรส ตองพัฒนาความรัก ......................................๗ถึงจะแตงงานไป แตใจของพอแมคอยดูแลอยูใกลๆ .๑๐จะครองรกัไวได กต็องครองเรอืนใหดีดวย...................๑๔ความจรงิใจตอกนั เปนฐานทีม่ั่นของชวีติคูครอง ............๑๖ปรับตัวได ใหขอแตกตางเปนสวนเติมเต็ม ............... ๑๘เกิดเปนคนควรฝกตนเรื่อยไป .................................๒๒อยูรวมกันจะมีความหมายแท เม่ือเอาความเขมแข็งมาเพิ่มกําลังกัน ...................๒๓อดทนสามดาน จะผานพนอุปสรรคสูความสําเร็จ.....๒๕

รวมกําลังกันไดแลว ก็มาเพิ่มพูนแผขยายความสุขใหไพศาล...............๒๙คูครองเปนคูมิตร มาชวยกันพัฒนาชีวิตพัฒนาสังคม ......................๓๓รวมกันปลูกมงคลพฤกษ เพื่อชีวิตสมรสที่เปนสุขและมีคุณคา ....................๓๗พรแหงธรรม นําความรักสูการสรางสรรค .................๔๐

ครองเรือน-ครองรัก จักเลิศแท ดวยครองธรรม∗

ขออํานวยพร ในโอกาสมงคลของคุณทั้งสองวนันีถ้อืวาเปนวนัมงคล คอืเปนวนัดวีนั

งาม มบีรรยากาศแหงความสุข สดใส ราเริงเบิกบาน ท้ังเอิบอิ่ม ปลื้มใจในขณะนี้ และใหเกิดความหวังวาจะเจริญงอกงามตอไปขางหนา

∗ ธรรมกถา ของพระธรรมปฎก (ป. อ. ปยตฺุโต) ในการใหโอวาทอาํนวยพร แกคูสมรส คุณณิชยา สุขพานิช และคุณพสุ สุนทรพิทักษ เ ม่ือมานมัสการที่วัดญาณเวศกวัน ๑ สิงหาคม ๒๕๔๔

ความรักและศรัทธา กลั่นออกมาเปนพรท้ังนี้ มงคลนั้นก็เกิดจากการทํากุศล คือ

การทําความดีน่ันเอง ความดีน้ันมีท้ังทางกายทางวาจา ทางใจ แตท้ังหมดก็เริ่มท่ีใจ คือใจดีไดแกใจท่ีมีคุณธรรม ซ่ึงวันนี้มีหลายอยาง

คุณธรรมในที่น้ี เริ่มดวยมีความรัก ซ่ึงเห็นไดชัด เพราะการที่จะมาทําบุญ และรับพรพระที่หวังวาจะเปนมงคลนี้ ก็เกิดจากความรักของคุณพอคุณแม เปนสําคัญ คือคุณพอคุณแมปรารถนาจะใหคุณทั้งสอง มีความสุขความเจริญ จึงไดเตรียมการตางๆ รวมทั้งการที่จะใหไดรับพรจากพระสงฆดวย

เพราะฉะนั้น การมารับพรพระนี้จึงมิใชมาเลื่อนลอย แตมาดวยเหตุปจจัยสําคัญ คือเกิดจากกําลังของคุณธรรม เริ่มดวยความรัก

ความเมตตา ของคุณพอคุณแม ท่ีอยากใหท้ังสองคนมีความสุขความเจริญตอไป

นอกจากนั้นก็คือความมีศรัทธาในพระศาสนา ในพระรัตนตรัย รวมทั้งในหลักธรรมคําสอนของพระพุทธเจา การที่คณุพอคณุแมมีความรกัแลวจะใหมาหาพระ กเ็พราะมศีรทัธา

เพราะฉะนั้น ท้ังศรัทธาและความรักคือเมตตา จึงเปนคณุธรรมทีม่าหนุนกนั ซ่ึงออกผลเปนการมารบัพรจากพระสงฆ

ในการรบัพรนี ้ เมือ่มาดวยใจทีเ่ปนกศุล มีศรัทธาและเมตตาอยางนั้น จิตใจก็ช่ืนบานผองใส มีความสุข ตรงนี้แหละเปนจุดสําคัญเพราะจติใจท่ีผองใสเบกิบานเปนสขุนัน้ ท้ังเปนกศุลและเปนมงคลไปพรอมกัน จึงไดท้ังกุศลคือ

ความดี และมงคลคือสิ่งที่นํามาซึ่งความสุขความเจริญ

รักที่อยากหาความสุขกับรักที่อยากใหเขาเปนสุข

ความรักที่เรียกวาเมตตานี้เปนคุณธรรมสาํคญัมาก เริม่แรกพงึรูวาความรกัมคีวามหมายหลายอยาง

คําวา “ความรัก” น้ี ในภาษาไทยความหมายยังไมชัด จึงตองโยงไปหาหลักธรรม ถาวาตามหลักธรรม ความรักนี้แยกไดงายๆ เปน๒ อยาง

ความรักอยางหนึ่ง คือ การที่พอใจชอบอะไรแลว กอ็ยากไดสิง่นัน้มาทาํใหตวัเองเปนสขุ

ความรักอีกอยางหนึ่ง คือ ความอยากใหคนอื่นเปนสุข

เมือ่กีไ้ดพดูถงึวาคณุพอ คณุแม เปนปจจัยสําคัญของการมารับพรวันนี้ คือมาเพราะความรักในใจของทาน ความรักของคุณพอ คุณแม น้ีเขาในความหมายที่ ๒ คือความรักที่อยากใหผูอื่นเปนสุข ผูอื่นในที่น้ีก็คือ ลูกนั่นเอง

ความรักที่อยากใหลูกเปนสุขนี้ เปนเหตุปจจัยซึ่งทําใหตองหาทางทําใหลูกเปนสุขใหได เพราะอยากใหเขาเปนสุขก็ตองพยายามทําใหเขาเปนสุข อยางนอยก็นึกถึงอนาคตวาอยากใหลกูมชีีวติทีเ่จรญิกาวหนาตอไป เมือ่เรานบัถอืพระพุทธศาสนา คือนับถือพระรัตนตรัย ก็ตองมารับพรพระ ซ่ึงจะทําใหทานเกิดความรูสึกวามคีวามสบายใจมัน่ใจในความหวงันัน้มากยิง่ขึน้

เพราะฉะนั้น ความสุขจึงเปนสิ่งที่เนื่องดวยความรัก พอมีความรักอยากใหผูอื่นเปนสุขและทําใหเขาเปนสุขได หรือไดทําในสิ่งที่จะทําใหเขาเปนสุขหรือหวังวาจะเปนสุขแลว ตัวเองก็เปนสุขดวย

ความรักอีกอยางหนึ่ง คือความรักที่ชอบใจอยากไดเขามาทําใหตนเปนสุข ซ่ึงจะมีความสุขเกิดขึ้นตอเมื่อไดผูน้ันสิ่งนั้นมาแลวทําใหตัวเปนสุข

ความรักสองอยางนี้ เปนเรื่องสําคัญ ความแตกตางขอใหญอยูท่ีวา ความรักที่เปนคุณธรรมคือความรักแบบที่อยากใหเขาเปนสุข

คูสมรส ตองพัฒนาความรักคนที่แตงงานคงตองยอมรับความจริงวา

ตนเองมีความรักทั้ง ๒ ประเภท ตางกันแตจะมีอยางไหนมาก

ความสุขก็เปลี่ยนไปตามประเภทของความรัก คือมีความรักแบบไหนก็มีความสุขไปตามนั้น

ถามีความรักแบบอยากไดเขามาทําใหตนเปนสุข ก็จะสุขตอเมื่อเขามาทําใหตนเปนสุข แตจะไมคอยคํานึงถึงเขาวาจะเปนสุขหรือไม ตางกับความรักที่อยากใหเขาเปนสุข ซ่ึงจะสุขตอเมื่อเขาเปนสุข

ขอท่ีตางกันมีหลายอยาง แตขอแตกตางท่ีสําคัญก็คือ ความสุขประเภทที่เกิดจากความรักที่อยากไดเขามาทําใหตนเปนสุขนี้ เปนความ

สุขขางเดียว ซ่ึงไมแนวาอีกฝายหนึ่งจะเปนสุขหรือไม และถาไมไดตามความตองการก็อาจจะขัดใจ เมื่อขัดใจก็เกิดปญหา ถาไมเปนไปตามความตองการของตัวก็กลายเปนวาตัวเองเปนทุกข แลวก็ทําใหเกิดความขัดแยง เลยทุกขดวยกันทั้งสองฝาย

ดวยเหตุน้ี ชีวิตของผูท่ีแตงงานจึงเปนชีวิตที่ตองกาวไปในธรรมดวย คือจะตองกาวไปสูการพัฒนาชีวิตจิตใจ

ขอใหมองดูคุณพอคุณแมซ่ึงมีความรักประเภทอยากใหผูอื่นเปนสุข ถาคูครองมีความรักอยางคุณพอคุณแมท่ีอยากใหลูกเปนสุข เมื่อคนหนึ่งเปนสุข อีกคนหนึ่งก็เปนสุขดวย ก็จะมีความสุขรวมกันทั้งสองฝาย

จึงถือเปนหลักในทางพระศาสนาวา ความรักที่เรียกวาเมตตาคือความรักที่อยากใหอีกฝายหนึ่งเปนสุขนั้น เปนคุณธรรมที่ตองทําใหมีข้ึน และเปนปจจัยสําคัญที่จะประสานชีวิตใหมีความสุขยั่งยืนมั่นคง

จําเปนตองย้ําเรื่องคุณธรรมคือ เมตตาเพราะวาเมตตานี้ท้ังที่เราไดยินกันอยูเสมอ แตเรากม็กัไมชัดในความหมายวาคอือะไร ซ่ึงทีจ่ริงกต็วันีเ้อง คอืความอยากใหคนอืน่เปนสขุนีแ่หละเรียกวาเมตตา ถาเมื่อไรเราอยากใหคนอื่นเปนสุข น้ันคือเมตตาเกิดขึ้นแลว

เปนธรรมดาวา เมือ่เราอยากใหเขาเปนสขุ เราก็ตองพยายามทําใหเขาเปนสุข และเราจะเปนสุขก็ตอเมื่อเขาเปนสุข จึงเปนการแนนอนวาความรักประเภทนี้จะทําใหเกิดความ

๑๐

สัมพันธโยงใยที่ยึดเหนี่ยวจิตใจกัน เพราะวาความสุขอยางนี้เปนสุขดวยกันและอาศัยกัน

เหมือนอยางคุณพอคุณแมท่ีฝากความสุขไวกับลูก เมื่อเห็นลูกมีความสุข คุณแมก็มีความสุข คุณพอก็มีความสุข แตถาลูกยังไมสุขคุณพอคุณแมก็เปนหวงเปนกังวล บางทีก็เปนทุกขไปเลย เพราะฉะนั้นอยางนอยก็ใหทานมีความหวังวาลูกจะเปนสุข พอมีความหวังทานก็อิ่มใจสบายใจ

ถึงจะแตงงานไปแตใจของพอแมคอยดูแลอยูใกลๆ

เมื่อมองใหถูกตอง การแตงงานคราวนี้จึงมีความหมายมาก ไมใชเปนเรื่องของความรัก

๑๑

เฉพาะคูบาวสาวเทานั้น แตเปนความรักที่โยงไปหาคุณพอคุณแมดวย

ตอนนี้คุณพอคุณแมก็เทากับวามีความสุขไปขั้นหนึ่ง คือมั่นใจในลูกทั้งสองวาการแตงงานเริ่มตนและดําเนินมาดวยดีแลว แตอีกขั้นหนึ่งความสุขของทานฝากไวกับอนาคตวา ถาลูกดําเนินชีวิตไปดีมีความเจริญมั่นคง อันนั้นคือความสุขที่แทของทาน

เพราะฉะนั้น ลูกจึงตองพยายามใหทานไดยินขาวดีเรื่อยไป ท่ีจะทําใหทานเกิดความมั่นใจ ไมเกิดความหนักใจ ยิ่งลูกไปอยูตางประเทศไกลๆ ก็เหมือนมีเสียงเตือนใจที่คอยบอกวาคุณพอคุณแมอยูเมืองไทยนึกถึงอยูตลอดเวลา เพราะวาพอแมรักลูก จึงฝากความสุขทุกข ฝาก

๑๒

ใจไวกับลูก เพราะฉะนั้นถามีขาวดีพอแมก็มีความสุข อิ่มใจสบายใจ

จึงควรตั้งหลักไววา จะพยายามใหคุณพอคุณแมไดยินแตขาวดี การที่จะใหคุณพอคุณแมไดยินขาวดี ก็คือตั้งใจศึกษาเลาเรียนทําหนาที่การงาน และดําเนินชีวิตในทางที่ดีงามถูกตอง โดยเฉพาะทั้งสองคนมีความสามัคคีประพฤติดีตอกัน เมื่อไดยินขาวอยางนี้คราวใด คุณพอคุณแมก็มีความสุขทุกทีไป แลวก็มองไปขางหนาโดยมีความหวังในความสุขน้ันยิ่งขึ้น

การที่จะใหความสุขมารวมกันหมดทุกฝายอยางนี้ ท้ังสองคูบาวสาวเองจะตองพัฒนาความรักคือเมตตานี้ข้ึนมาระหวางกัน แลวความสุขนี้ก็จะโยงไปถึงคุณพอคุณแมเอง

๑๓

ถาทั้งสองฝายมีความรักแบบที่วาอยากใหอีกฝายหนึ่งเปนสุข ฐานที่มั่นคงก็จะเกิดขึ้นตางก็พยายามที่จะทําใหอีกฝายหนึ่งมีความสุข แลวชีวิตคูก็จะมีความสุขอยางแนนอน

การปฏิบัติเชนนี้เปนเรื่องของคุณธรรม เพราะฉะนั้นในทางพระศาสนาจึงไดสั่งสอนแนะนําหลักการครองเรือนไว

วันนี้อาตมภาพจึงจะขอยกธรรมะสักชุดหนึ่งขึ้นมาเปนตัวอยาง แมวาธรรมะสําหรับคูสมรสจะมีหลายชุด แตชุดหนึ่งที่เราพูดกันบอยและเห็นวางายดี นาจะทบทวนกันไว ก็คือหลักท่ีเรียกวา "ฆราวาสธรรม”

๑๔

จะครองรกัไวได กต็องครองเรอืนใหดดีวยฆราวาสธรรม แปลวา หลักธรรมสําหรับ

การครองเรือน หรือหลักธรรมสําหรับฆราวาสน่ันเอง ตรงไปตรงมา ฆราวาสธรรม ก็คือธรรมสําหรับฆราวาส

ท่ีจริง ฆราวาสในที่น้ีไมไดหมายถึงบุคคลแตแปลวาการครองเรือน ธรรมะสําหรับการครองเรือน และไมใชเฉพาะคูครอง ชาวบานทุกคนตองใชท้ังนั้น โดยเฉพาะก็เริ่มจากผูท่ีมามีชีวิตรวมกัน ซ่ึงทานแสดงไว ๔ ขอ คือ

๑. สัจจะ แปลวา ความจริง ทําไมพระพุทธเจาจึงเริ่มดวยความจริงกอน เดี๋ยวตองมาดูกัน

๒. ทมะ แปลตามตัววาการฝก การฝกหมายถึงการทําใหเกิดความเจริญ

๑๕

กาวหนาหรือการพัฒนานั่น เอง เพราะคนเราจะมีความเจริญกาวหนาไดจะตองมีการฝก

๓. ขันติ แปลวา ความอดทน ซ่ึงแสดงถงึความเขมแขง็ ความอดทนทีแ่สดงออกในทางรูปธรรม ก็คือ ความทนทาน หรือแข็งแรงทนทานนั่นเอง

๔. จาคะ แปลวา ความเสียสละ เรื่องความสุขที่ไดพูดไปก็มาลงที่น่ีดวย คือความสามารถสละความสุขของตนเพื่อผูอื่น สําหรับคูครองก็หมายถึงสามารถสละความสุขของตนเพื่อคูครองได ซ่ึงเมื่อพูดดวยภาษาทางบวกก็เรียกวามีนํ้าใจนั่นเอง การที่เราสละความสุขของเราเพื่อผูอื่นได

๑๖

ก็คือเรามีนํ้าใจ พอพูดวามีนํ้าใจ ก็จะทําใหรูสึกหนักแนน และมีความรูสึกในทางที่ดีงามยิ่งขึ้น

ธรรม ๔ ขอน้ีน่ีแหละเปนหลักสําคัญ แมแตยังไมมีธรรมขออื่นเลย มีเพียง ๔ ขอน้ี ก็พอท่ีจะทําใหชีวิตคูครองดํารงอยูไดดวยดี

ทีน้ีกม็าดธูรรม ๔ ขอน้ันในความหมายสัน้ๆ

ความจรงิใจตอกนั เปนฐานทีม่ัน่ของชวีติคูครองขอท่ี ๑ สจัจะ แปลวาความจริง เริม่จาก

จริงใจ เชนรกัจรงิคนเรานี้ ในความสัมพันธระหวางกันจะ

ตองมีความจริงเปนขอท่ี ๑ และจริงใจนี่สําคัญท่ีสุด ถาขาดความจริงใจก็คือเตรียมหลอกลวงเทานัน้เอง และถาขาดสจัจะคอืความจรงิใจแลว

๑๗

ทุกอยางจะงอนแงนไปหมด เพราะฉะนั้นความจริงใจนี้ทานจึงถือเปนรากฐาน ตองมีไวกอน

เมื่อเริ่มตนดวยความจริงใจแลวก็กลายเปนความซื่อสัตย ซ่ึงทําใหเกิดความหนักแนนมั่นคง

เมื่อมีความจริงใจแลวตอมาก็ออกทางวาจา คือพูดจริง แลวก็ออกทางการกระทํา คือพูดไปแลวหรือสัญญาไปแลวก็ทําตามนั้น ไมใชปลอยเรื่อยเปอยละเลยไมเอาใจใส

เมื่อมีความจริง ก็ถือวามีรากฐานที่เขมแข็งมั่นคง อะไรๆ ท่ีตั้งอยูบนรากฐานที่มั่นคงก็มั่นใจไดวาจะดํารงอยูไดดวยดีและยั่งยืน

แตถาขาดความจริงเสียแลว ทุกอยางก็คลอนแคลนหมด แลวตอไปก็มแีตความงอนแงนหวาดระแวงและวาเหว

๑๘

เพราะฉะนั้นขอท่ี ๑ คือสัจจะ จึงเปนรากฐานที่ตองใหมีเปนอันดับแรก

ปรับตัวได ใหขอแตกตางเปนสวนเติมเต็มตอไปขอท่ี ๒ ทมะ แปลวาการฝก เปน

ธรรมสําคัญตามหลักที่ทางพระถือวา มนุษยเปนสัตวพิเศษที่ฝกได พัฒนาได ศึกษาได เรียนรูได และจะประเสริฐดวยการฝก

มนุษยท่ีฝกแลวจึงจะประเสริฐ ยิ่งฝกมากก็ยิ่งประเสริฐมาก จนกระทั่งเมื่อฝกดีเยี่ยม ก็จะประเสริฐจนกระทั่งเทวดาพระพรหมหันมากราบไหวมนุษย

ตอนแรกมนุษยพากันไปไหวเทวดา ไหวพระพรหม แตทางพุทธศาสนาบอกวามนุษยเราตองฝกตัวเอง ถามนุษยฝกศึกษาดีแลว

๑๙

เทวดาและพระพรหมกลับมากราบเรา ดวยความดีของเราเอง

เราไมไดยกตัวหรอก แตหมายความวาเทพพรหมเหลานัน้เหน็ความด ี คอืคณุธรรมและปญญาของเราแลว ก็เคารพนับถือ โดยเฉพาะปญญาความรู-คิด-เขาใจน้ีมนุษยตองฝกขึ้นมา

การฝกเริ่มตนดวยการปรับตัว เพราะเหตุวาคนที่มาอยูรวมกันนี้ ยอมเปนธรรมดาที่จะมีพื้นฐานนิสัยใจคอตางๆ ไมเหมือนกัน

แมแตตัวเราเองคนเดียวนี้ก็ยังเปลี่ยนแปลงตางกันไปได บางทีแคชวงเวลาเดี๋ยวหนึ่งก็เปลี่ยนไป เราก็แปลกหรือขัดใจตัวเองได ยิ่งมาอยูสองคนขึ้นไป อาการกิริยาวาจาตางๆ ก็อาจจะมีแปลกหูแปลกตากันไดเปนธรรมดา ทานจึงสอนธรรมขอ ทมะ น้ีไว

๒๐

ทมะในความหมายแงน้ีเปนบทพิสูจนความสามารถในการฝกตนขั้นตน คือการปรับตัวได โดยเฉพาะการปรับตัวเขาหากัน ไมใหความแตกตางเปนความขัดแยง แตจะใหดีตองใหความแตกตางเปนสวนเติมเต็ม

ความแตกตางมีความหมายสองแบบ ความแตกตางนั้น ถาใชไมเปนก็เปนความขัดแยง แตถาปฏิบัติถูกตอง ความแตกตางก็จะชวยใหเติมเต็ม เพราะวาคนเรานี้ไมมีใครสมบูรณสักคน เมื่อสองคนมีขอแตกตางแตนํามาเสริมกัน ก็กลายเปนดีและทําใหสมบูรณ

เพราะฉะนั้น ความแตกตางถารูจักใชจึงกลายเปนดี เชน คนหนึ่งพูดนอย อีกคนหนึ่งพูดมาก เอามาปรับเขาดวยกันก็เลยพูดพอดี ถาทั้ง

๒๑

สองคนพดูนอยดวยกนักไ็ดเทาเดมิ จึงเอาความแตกตางมาปรับใหพอดี

รวมความวาปรับตัวเขาหากัน ไมใหขอแตกตางกลายเปนความขัดแยง อีกทั้งเปนการพิสูจนตัวเองดวยวาเรามีความสามารถในการฝกตัวพัฒนาตัวแคไหน

สรุปวา น่ีเปนเรื่องของการฝกตนขั้นที่ ๑คือ ปรับตัว ตั้งแตปรับตัวเขาหากัน แลวก็ปรับตัวเขากับสิ่งแวดลอม ปรับตัวเขากับคุณพอคุณแมของทั้งสองฝาย ปรับตัวเขากับญาติมิตรท้ังหลาย ปรับตัวเขากับการงาน ฯลฯ ตองปรับตัวมากมาย คนไหนปรับตัวไดเกง ก็มีเคาของความสาํเรจ็ในชวีติมาก เพราะฉะนัน้จงึใชการปรบัตัวนี้เปนหลักขั้นตนในการพิสูจนความสามารถ

๒๒

เกิดเปนคนควรฝกตนเรื่อยไปตอจากปรับตัวก็ปรับปรุงตน ซ่ึงเปนการ

ทําใหดีข้ึนไดอยางไมมีท่ีสิ้นสุด ปรับปรุงพัฒนากันเรื่อยไป ท้ังหมดนี้อยูในขอ ทมะ ซ่ึงแปลวาการฝก

อน่ึง ทมะ การฝกนี้ มักแปลกันวาขมใจซ่ึงเปนความหมายเพียงสวนนิดเดียวของ ทมะคือเวลาจะปรับตัวปรับใจหรือฝกตัวเองนั้น มักจะตองมีการบังคับใจตัวเอง หรือในเวลาเจออารมณท่ีมากระตุนยั่วเยา เราตองขมใจไวระงับใจได ก็เลยไปเนนกันตรงที่วาขมใจ บางทีก็เลยแปล ทมะ วาขมใจ

ความจริงการขมใจเปนสวนนิดเดียวของทมะ แทจริงนั้นทมะก็คือการฝกนั่นเอง ซ่ึงหมายถึงการที่จะเจริญพัฒนาตอไปไดอยาง

๒๓

กวางขวางมากมายไมมีท่ีสิ้นสุด ตามคติของพระพุทธศาสนาซึ่งใหหลักไววา ทนฺโต เสฏโมนุสฺเสสุ แปลวา ในหมูมนุษย ผูท่ีฝกแลวประเสริฐสุด

อยูรวมกันจะมีความหมายแทเมื่อเอาความเขมแข็งมาเพิ่มกําลังกัน

ตอไปขอท่ี ๓ คือ ขันติ ความอดทนแสดงถงึความแขง็แรงและทนทาน เหมอืนอยางเรากอสรางอะไร จะใชวัสดุเชนไม ก็ตองหาไมท่ีแข็งแรงและทนทาน ทนแดด ทนฝน เปนตน

วาถึงในทางนามธรรม เมื่อคนเราดําเนินชีวิตไปนี้ แนนอนวาสิ่งทั้งหลายรอบตัวเรามันไมไดเปนไปตามใจเรา เราจะตองพบเห็นเจอะเจอสิ่งที่เราจะตองเขาไปเผชิญ ผจญ ตลอดจน

๒๔

ตองฟนฝาไป อยางนอยก็ตองเจอสิ่งกระทบกระทั่งตางๆ

ในภาวะและสถานการณเหลานี้ เราตองมีความเขมแข็ง โดยมีจิตใจที่อดทน ซ่ึงถาเทียบกับทางรูปธรรม ก็เปนความแข็งแรงทนทานแตในทางจิตใจก็คือความเขมแข็งอดทน ซ่ึงจะทําใหพาชีวิตผานพนอุปสรรคขวากหนามไปได

แกนของความอดทนก็คือความเขมแข็ง ถาคนสองคนมีกําลังมีความเขมแข็งมาคนละหนึ่ง พอมาอยูดวยกัน ก็ไดกําลังความแข็งแรงเขมแข็งเพิ่มอีกหนึ่งเปนสอง แตถาความแข็งแรงมาลบกันก็เหลือศูนย เพราะฉะนั้นจึงตองใหเปนบวก คือมาเสริมกัน

คนที่แตงงานถือวาไดกําไร เพราะไดกําลังเสริมข้ึนมามาก พอแมก็เพิ่มอีกสองทาน

๒๕

พี่นองก็เพิ่มอีกสี่หาคน ญาติมิตรก็เพิ่มอีกเยอะแยะไปหมด คนที่แตงงานจึงไดกําไรมากมีกําลังเพิ่ม เพราะฉะนั้นจะตองรูจักใชกําลังที่เพิ่มข้ึนมานั้นใหเปนประโยชน

ทีน้ีเราก็นํากําลังรวมกันของเรานั้นมาใชในการที่จะทําใหชีวิตของเราเดินไปขางหนา ใหมาเปนกําลังที่เสริมกัน อยาใหมาเปนกําลังที่บ่ันทอนกัน

อดทนสามดานจะผานพนอุปสรรคสูความสําเร็จ

ในการอยูรวมกันนั้น ความเขมแข็งอดทนจะแสดงออกมาในชีวิตประจําวัน ตามที่ทานแยกไวเปน ๓ ดาน

๒๖

ดานที่ ๑ คือ อดทนตอความลําบากตรากตรํา ธรรมดาความลําบากตรากตรํานี้จะเนนไปในแงการประกอบอาชีพการงาน รวมท้ังการศึกษาเลาเรียน ซ่ึงตองใชความอดทนบอยๆเชน บางทีมีเหตุจําเปนใหตองอยูดึกบาง ตองฝาแดดฝาฝนบาง เพราะดินฟาอากาศไมเขาขางใคร แตเราจะตองสู หรือแมแตตัวงานนั้นเองที่ยากก็ตองตรากตรํา

น้ีคือดานที่ ๑ ความเขมแข็ง อดทนตอความลําบากตรากตรําได ไมทอถอย ไมออนแอไมระยอ น่ีเปนคุณสมบัติสําคัญ พระพุทธเจาตั้งแตยังเปนพระโพธิสัตว ถาไมมีขันติน้ี จะไมมีทางสําเร็จโพธิญาณ เพราะฉะนั้นจะตองมีขันติดานที่ ๑ อดทนตอความลําบากตรากตรําได

๒๗

ดานที่ ๒ คือ อดทนตอทุกขเวทนา เปนธรรมดาของชีวิตมนุษย บางทีเราก็เจ็บปวดเมื่อยลา แมแตน่ังอยูท่ีน่ีเดี๋ยวก็อาจจะเมื่อยลาข้ึนมา หรือบางคราวเราก็เจ็บไข

คนที่มีความอดทนจะไมโวยวาย ไมงอแงแตจะอยูในเหตุผล และทําตามเหตุผล เมื่อมีโรคมีภัยเจ็บไขก็รักษาไปตามเหตุผล ไมใชปลอยไว ถาปลอยไวก็ไมใชอดทน แตทานเรียกวาประมาท ซ่ึงก็เสียอีก คืออดทนในทางจิตใจท่ีสูได แตตองทําการแกไขไปตามเหตุผลใหถูกตอง ขอน้ีเรียกวาอดทนตอทุกขเวทนา

ดานที ่๓ คอื อดทนตอสิง่กระทบกระทัง่ใจขอน้ีตรงกับท่ีโบราณพูดวา “ลิ้นกับฟนก็ยังกระทบกันได” กลาวคือ เมื่อคนมาอยูรวมกันแมไมเจตนา กม็ทีางทีอ่าจจะพดูไปโดยพลัง้

๒๘

เผลอ แลวกไ็ปกระทบกระเทอืนจติใจอกีฝายหนึง่ หรอืกิริยาอาการบางอยางที่แสดงออกไปแมไมไดตั้งใจ ก็กระทบกระเทือนกันได ซ่ึงเราควรใชเปนเครื่องทดสอบตัวเอง เปนเคร่ืองพิสูจนความอดทน ไมวูวาม ไมเอาอารมณ แตใชปญญา

เมื่อใชปญญาก็กลับไปขอ ๒ คือ ทมะการฝกตน ซ่ึงเปนเรือ่งของการรูจักคดิพจิารณาคือแทนที่วาถูกอารมณกระทบกระทั่งแลวจะวูวาม เราก็ไมหมุนไปตามอารมณ แตเราเอาเหตุผล โดยหันมาใชขอ ๒ ทมะ มาปรับมาฝกมาแก จึงไดขอ ๒ กับขอ ๓ มาประสานกัน

รวมความวาขอ ๓ เปนเรื่องที่วาจะชวยใหเรามคีวามเขมแขง็ ยนืหยดั ฝาฟนสิง่กดีขวางตางๆ ไปได

๒๙

รวมกําลังกันไดแลวก็มาเพิ่มพูนแผขยายความสุขใหไพศาล

ตอไปขอ ๔ จาคะ แปลวา ความเสียสละแตเวลาแปลอยางนี้ทําใหเกิดความรูสึกเหมือนกับวาจะตองฝนใจ คือท้ังๆ ท่ีไมอยากให แตเราตองจําใจสละอะไรอยางนี้

คนทีฝ่กดแีลว จะไมรูสกึฝนใจ เพราะมีคณุธรรม เหมอืนอยางคุณพอคุณแมท่ีมาทํามาใหแกลูกนั้น การสละก็ไมเปนสละ การใหไมเปนการฝนใจ ตัวแปรนั้นก็คือความรักนี่เอง

ความรัก ก็คือความปรารถนาดีมีนํ้าใจอยากใหอีกฝายหนึ่งเปนสุข เหมือนคุณพอคุณแมใหของแกลกูกไ็มตองฝนใจอะไร แลวกไ็มตองเปนทุกข แตใหแลวกลับเปนสุขดวย เพราะวา

๓๐

รักอยากใหลูกเปนสุข พอใหแลวลูกเปนสุขตัวเองก็สมใจ แลวตัวเองก็เปนสุข

คูครองก็เชนเดียวกัน ถามีความรักจริง มีเมตตา มคีวามรกัปรารถนาด ีอยากใหเขาเปนสขุก็จะทําเพื่อเขาได ใจก็คิดแตวาจะทําอยางไรใหเขาเปนสุข อันนี้แหละคือสิ่งที่เรียกวา “นํ้าใจ”

นํ้าใจนี้จะเปนสิ่งที่ประสานใหมีความระลึกถึงกัน ทางพระเรียกวาเปนธรรมเครื่องใหระลึกถึงกัน ทําใหจดจําอยูในใจ และเปนความซาบซึ้ง ซ่ึงเปนสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจใหมีความสามัคคีกันลึกซึ้งแนนแฟน

เพราะฉะนั้น ขอสุดทายนี้จึงมาเสริมธรรมขอแรก คือสัจจะที่เปนฐานใหมั่นคงยิ่งขึ้นโดยเปนตัวยึดเหนี่ยวใหแนนเหนียวมั่นคง เพราะฉะนั้นขอสุดทายนี้จึงสําคัญ ทานจึงเนน

๓๑

วาตองใหมีความรักประเภทเมตตา อยางที่ย้ําวาคือความรักที่อยากใหเขาเปนสุข

เมื่ออยากใหเขาเปนสุข ก็ทําเพื่อเขาไดโดยที่เราไมรูสึกเปนทุกข และเราก็ไมรูสึกวาจะตองฝนใจ แตถาเมื่อไรไมมีจาคะนี้ก็จะฝนใจทันที และจะเอาแตใจตัวเอง คือเรียกรองวาตองมาทําใหฉัน ถาไมทําใหฉันก็ขัดใจกัน ทําใหมีแตความขัดแยง

แตพอคิดวาทําอยางไรจะใหเขาเปนสุข คราวนี้แหละจะมีแตเรื่องดีท้ังนั้น จะคิดขึ้นมาก็มีแตวา เอ ทําอยางไรนะจะใหเขาเปนสุขไดเหมือนอยางคุณพอคุณแมคิดถึงลูกวาจะทําอยางไรใหลูกเปนสุข ซ่ึงดีท้ัง ๒ ฝาย ตัวเราก็มีความสุขเมื่อเห็นเขาเปนสุข สุขดวยกัน

๓๒

เพราะฉะนั้น จาคะจึงเปนธรรมะขอสําคัญที่ทานเอามาปดทาย วาใหมีนํ้าใจตอกันใจกวาง ไมคับแคบ เปดใจตอกัน ยอมสละความสุขของตนเพื่ออีกฝายหนึ่งได

ถามีนํ้าใจ สละความสุขใหแกกันไดอยางน้ีแลว ไมวาจะเผชิญชีวิตอยางไรก็ไปดวยกันไดอีกฝายหนึ่งมีความลําบากเดือดรอน ตั้งแตเจ็บไข กม็าเฝาพยาบาลรกัษาโดยไมเหน็แกหลบัแกนอน และก็มีความสุขดวย เพราะมีนํ้าใจตอกัน

ตอจากนั้นก็ขยายน้ําใจน้ีออกไปสูคุณพอคุณแมท้ังสองฝาย สูญาติมิตร และตอไปก็สูเพื่อนมนุษยท่ัวไป มีอะไรที่เราจะชวยเพื่อนมนุษยใหมคีวามสขุหายทกุขยากได กช็วยเขาไป

พอเรามีกําลังมากขึ้น มีเงินมีทอง ก็ไปบําเพ็ญประโยชน ชวยใหเพื่อนมนุษยมีความ

๓๓

สุข ความสุขของเราก็ขยายกวางยิ่งขึ้น ยิ่งมีคุณธรรมคือความรักที่ถูกตองมากเทาไร ความสุขของเราก็ยิ่งขยายออกไปเทานั้น เพราะวาความรักในที่น้ีคือความอยากใหเขาเปนสุข เมื่อทําอะไรใหเขาเปนสุขไดเราก็เปนสุขดวย เพราะฉะนั้น คุณธรรมกับความสุขจึงไปดวยกัน ซ่ึงเปนจริยธรรมที่ถูกตอง อันจะไมตองฝนใจ

คูครองเปนคูมิตรมาชวยกันพัฒนาชีวิตพัฒนาสังคม

เปนอันวาครบ ๔ ขอแลว ไดหลักฆราวาสธรรมนี้ คูครองก็ตั้งครอบครัว ทําใหบานเรือน อบอุน รมเย็นเปนสุข มั่นคง และมีชีวิตชีวา ทวนหัวขออีกทีวา

๓๔

๑. สจัจะ ความจรงิ เปนรากฐานเหมือนกับตนไมมีรากแกวที่มั่นคงแข็งแรง

๒. ทมะ ฝกตน ตั้งแตปรับตัวจนถึงปรับปรุงตนเองพัฒนาชีวิตใหดีงามยิ่งขึ้น

๓. ขันติ อดทน ไดแกความเขมแข็งและทนทาน มีกําลังที่จะฟนฝาสิ่งยากลําบากไปดวยกัน

๔. จาคะ สละได คือใหความสุขของตัวแกอกีฝายหนึง่ได ดวยจติใจท่ีมีความรักอยากใหเขาเปนสุข ซ่ึงกลายเปนความมีนํ้าใจ

เมื่อได ๔ ขอน้ี ก็มั่นใจไดวาชีวิตคูครองจะมีความเจริญมั่นคง มีความสุข แลวก็สามารถแผความสุขนี้ออกไปใหกวางขวางยิ่ง

๓๕

ข้ึน เพราะชีวิตแตงงานที่ถูกตอง ก็คือการที่เรามาพัฒนาชีวิตของเราขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

เราเคยอยูคนเดียวเราพัฒนาชีวิตไดแคน้ี เมื่อเรามาอยูสองคนเราก็ควรจะพัฒนาไดมากยิง่ขึน้ โดยมาชวยกนั ใหคูครองเปนกลัยาณมติรแกกนั อยางพทุธภาษติทีแ่สดงสถานะของภรรยาตามหลกัพทุธศาสนาวา ภรยิา ปรมา สขา แปลวาภรรยาเปนยอดมิตร หรือภรรยาเปนยอดสหาย

การมีคูครอง เทากับวาเราไดเพื่อนที่มาอยูดวยกัน และมาเปนที่ปรึกษามาเสริมกําลังแกกัน จึงยิ่งพัฒนาชีวิตไดดียิ่งขึ้น

ในแง น้ี ชีวิตสมรสก็เลยกลายเปนเวทีปฏิบัติธรรม ตัวเองก็พัฒนาตนมากขึ้น แลวก็มีกําลังในการที่จะสรางสรรคทําความดีมากขึ้น

๓๖

กับท้ังมีกําลังที่จะชวยเหลือเพื่อนมนุษยเกื้อกูลแกโลกมากขึ้นดวย

เมื่อมีกําลังมากขึ้น คูครองจะแบงงานกันโดยคนหนึ่งทําดานหนึ่งๆ ก็ได หรือจะเสริมกันก็ได ในการที่จะทําความดีท่ีเปนจุดหมายเพื่อสังคมและประเทศชาติ แตไมวาจะทําอะไรก็ทําไดมากยิ่งขึ้น ขอเพียงใหตั้งจุดหมายไวใหดี

เมื่อปฏิบัติไดถูกตองแลว ชีวิตแตงงานก็เปนชีวิตแหงความดีงาม ท่ีจะไดเสริมประโยชนท้ังแกชีวิตตนเอง ชีวิตของครอบครัว วงศตระกูล ตั้งแตบิดามารดาเปนตนไป ตลอดจนสังคมประเทศชาติท้ังหมด

๓๗

รวมกันปลูกมงคลพฤกษเพื่อชีวิตสมรสที่เปนสุขและมีคุณคา

การเริ่มชีวิตแตงงานนี้ ขอใหเหมือนกับวาคูครองทั้งสองมารวมกันปลูกตนไมข้ึนตนหนึ่ง ซ่ึงเปนตนไมแหงวันวิวาห

ตนไมแหงชีวิตสมรสนี้ จะตองใหมีคุณสมบัติ ๔ อยางของตนไมท่ีดี คือ

๑. มีรากแกวที่แข็งแรงมั่นคง ซ่ึงจะชวยใหตนไมน้ันยืนตนอยูไดยืนนานมั่นคง อันไดแกสัจจะ

๒. มศีกัยภาพในการเจรญิเตบิโตงอกงาม สามารถแตกกิ่งกานสาขา มีดอกมีใบมีผลไดสะพรั่ง ขอน้ีไดแก ทมะ คือการพัฒนาตัวเองฝกตัวเองเรื่อยไป ไมวาจะเจออะไรก็มองในแงการฝก ใหชีวิตเปนสนามฝก เจอปญหาก็เอา

๓๘

มาเปนแบบฝกหัด ซ่ึงมีแตดีท้ังนั้น เพราะทําใหยิ่งเจริญงอกงามไปดวยกัน

๓. มีความแข็งแรงทนทาน ตนไมจะยืนตนดํารงอยูไดดี ตองแข็งแรงทนทานตอดินฟาอากาศ ทนตอพืชตางๆ ท่ีอยูขางๆ ซ่ึงมาแยงอาหาร หรือบางทีมีกาฝากและพวกแมลงตางๆมาชอนมาไช ตลอดจนบางทีมีลมแรงเปนมรสุมตองยืนตนผานพนภัยทุกอยางไปใหได น้ีคือขอขันติ ความเขมแข็งอดทน

๔. มีนํ้าเลี้ยงบริบูรณ ขอน้ีสําคัญ ถาขาดอาหารเสียอยางเดียวตนไมก็เฉาเหี่ยวแหง ถึงจะแข็งแรงอยางไรก็อยูไมไหว แตถามีนํ้าหลอเลี้ยงดีแลว ตนไมก็จะชุมฉ่ําสดชื่น ใบเขียวขจีงอกงาม มีดอกสวยนาดู มีผลดกดื่นไป

๓๙

ตอนนีแ้หละ ตนไมเองกด็มีคีวามสวยงามแลวกม็องดดูดีวย ใครมาเหน็กช่ื็นใจสดชืน่ไปดวย

เหมือนอยางตนไมท่ีงอกงาม มีใบเขียวขจีดอกสะพรั่ง ใครมาเห็นก็สบายใจ ชีวิตครอบครัวที่อยูดีมีความสุข ใครมาเห็นก็ช่ืนใจดวย

นอกจากนั้นเขายังไดอาศัย เหมือนตนไมท่ีใบดกเขียวขจี คนเดินทางมารอนๆ ก็เขาพักใตรมไมไดอาศัยรมเงามีความสุข แถมมีดอกใหช่ืนชมดวย ดอกก็สวยงาม หากเกิดหิวขึ้นมาก็มีผลใหรับประทานอิ่มอีก แสนจะดี

เพราะฉะนั้น ชีวิตสมรสจะดีถามีครบคุณสมบัติท้ัง ๔ และพอถึงขอ ๔ คราวนี้ก็มีความสุขทั้งในชีวิตคูครองเอง และแผความสุขไปใหแกคนใกลเคียง ญาติมิตร แลวก็แผความสุขไปใหแกเพื่อนมนุษยท้ังหลายทั่วไป

๔๐

ชีวิตสมรสที่มีคุณสมบัติครบ ๔ ประการมีกําลังดี มีความสามารถแผประโยชนสุขนั้นออกไป เหมือนกับตนไมท่ีมีคุณสมบัติครบ ๔ประการ ดังไดกลาวมา

พรแหงธรรม นําความรักสูการสรางสรรควนันีก้เ็หมอืนกบัวา คูววิาห ไดมาเริ่มปลูก

ตนไมแหงชีวิตสมรสขึ้นแลว ก็ขอใหตั้งใจชวยกันบํารุงรักษาตนไมตนนี้ใหเจริญงอกงาม ใหมีคุณสมบัติท้ัง ๔ ประการดังไดกลาวมา ซ่ึงก็คือการมีธรรม ท้ังสัจจะ ทมะ ขันติ และ จาคะ

พระสงฆขออวยชัยใหพรรวมกับคุณพอคุณแมท้ังสองฝายดวย เพราะวาความมีจิตเมตตา คือความรักของคุณพอคุณแมน่ีแหละ

๔๑

เปนพรอันประเสริฐ อยางที่โบราณเราบอกวาไปไหนๆ พระคุณของพอแมตามไปคุมครอง

ยกตวัอยางเชนวา เพราะความรกัของทานจึงทาํใหเรามจิีตใจรักทาน และนกึถงึทาน เวลาไปไหนนึกถึงคุณพอคุณแมข้ึนมาเมื่อใดก็ทําใหเรามกีาํลงัใจวา โอ คณุพอคณุแมรออยูนะ ทานรอเราอยู

ถาเราไปเรียนหรือไปทํางานตางแดนหางไกล ทานรออยูเมืองไทย กําลังรอฟงขาว ทานหวงเราอยู พอนึกถึงทานเราก็มีกําลังใจเรงศึกษาเลาเรียนเพื่อทานจะไดขาวดีๆ แลวทานจะไดมีความสุข น่ีก็คือเรามีความตั้งใจดีตอทาน อยากใหทานเปนสุข

ถาจะทําอะไรไมดี พอนึกถึงทานก็ยั้งใจวา โอ เดี๋ยวคุณพอคุณแมรูแลวทานจะเสียใจอยางนีเ้รยีกวาพระคณุของคณุพอคณุแมตามไป

๔๒

คุมครอง ท้ังยึดเหนี่ยวจิตใจและคุมครองโดยใหกําลังใจ เพราะฉะนั้นจึงขอใหตั้งใจอยางที่พูดเมื่อกี้ คืออยางนอยตั้งใจวา ขอใหคุณพอคุณแมไดยินแตขาวที่ดี เพียงแคน้ีก็เริ่มไดผลทันที

ทีน้ีระหวางที่เลาเรียนศึกษา ถาคิดถึงบานขึ้นมา พอคิดถึงก็ตองนึกวาตอนนี้คุณพอคุณแมกําลังรอความหวังจากเรา ถาเรานําความสําเร็จไปให ทานก็จะมีความสุข

พอคิดถึงอยางนี้ จิตใจแทนที่จะวาเหวหงอยเหงา ก็ไมวาเหวหงอยเหงา แตกลับจะกระตือรือรนขึ้นมา ทําใหมีกําลังเลาเรียนศึกษายิ่งขึ้น น่ีคือความรักที่ถูกตอง ซ่ึงเปนกําลังเสริมซ่ึงกันและกัน แลวก็เสริมความสุขยิ่งขึ้นดวย

วันนี้ การปลูกตนไมแหงชีวิตสมรสจึงมีความหมายขยายโยงไปถึงคุณพอคุณแม และ

๔๓

ญาติมิตรทั้งหมด ใหทุกคนเจริญงอกงามในความสุขและความดีไปดวยกัน

ขอรวมใจกบัคณุพอคณุแมท้ังสองฝาย และญาติมิตรทุกทาน ท่ีมีความรักความปรารถนาดีตอเจาสาว และเจาบาว ขออาราธนาคุณพระรัตนตรัยอวยชัยใหพร

รตนัตตยานุภาเวนะ รตนัตตยเตชะสาดวยเดชานุภาพคุณพระรัตนตรัย พรอมท้ังบุญกุศล โดยเฉพาะความรักความเมตตาของคุณพอคณุแม และคณุความดมีศีรทัธาในธรรมทีม่าชวยใหเรานาํเอาความรกัมาเปนเครือ่งสรางความเจรญิในความดงีาม ใหเปนไปในทางสรางสรรค

ขออานภุาพแหงกศุลความดตีางๆ เหลานี้มาเปนกําลังอภิบาลรักษาใหคูบาวสาว พรอมท้ังคณุพอคณุแม ญาตมิติรทัง้หลาย เจรญิงอก

๔๔

งามดวยจตุรพิธพรชัย มีกําลังกาย กําลังใจกาํลงัปญญา กาํลงัความสามคัค ีท่ีจะดาํเนนิชวีติกาวหนาไปในการศึกษาเลาเรียน และอาชีพการงาน ใหประสบความสาํเรจ็สมความมุงหมาย ยังประโยชนสุขใหเกิดขึ้นแกชีวิตตนครอบครัว วงศญาติ สังคม ประเทศชาติ และชาวโลกทั้งหมด มีความรมเย็น งอกงามในพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจา ตลอดกาลทุกเมื่อ เทอญ