19
หนวยที่ 10 ชื่อเรื่อง การขึ้นรูปโลหะสภาพเย็น (Cold working of metal) หัวขอเรื่องยอย 10.1 การผลิตทอและการดึงลวด 10.2 การหมุนขึ้นรูปและการดันขึ้นรูป 10.3 การตอกหรือการตีขึ้นรูปเย็นและการอัดแบบหลอ 10.4 การทําเหรียญตราและการพิมพลายนูน 10.5 การย้ําหมุดและการย้ําหัว 10.6 การดัดเหล็กแผนและการรีดขึ้นรูป 10.7 การเขาตะเข็บและการขึ้นรูปดวยพลังสูง 10.8 การกระแทกขึ้นรูป จุดประสงคเชิงพฤติกรรม 1. อธิบายความหมายการขึ้นรูปโลหะสภาพเย็นได 2. อธิบายการผลิตทอและการดึงลวดได 3. อธิบายการหมุนขึ้นรูปและการดันขึ้นรูปได 4. อธิบายการตอกหรือการตีขึ้นรูปเย็นและการอัดแบบหลอได 5. อธิบาย การทําเหรียญตราและการพิมพลายนูนได 6. อธิบายการย้ําหมุดและการย้ําหัวได 7. อธิบายการดัดเหล็กแผนและการรีดขึ้นรูปได 8. อธิบายการเขาตะเข็บและการขึ้นรูปดวยพลังสูงได 9. อธิบายการกระแทกขึ้นรูปได

การขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น

Embed Size (px)

Citation preview

Page 1: การขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น

หนวยที่ 10

ชื่อเร่ือง การขึ้นรูปโลหะสภาพเย็น (Cold working of metal) หัวขอเร่ืองยอย 10.1 การผลิตทอและการดึงลวด 10.2 การหมุนขึ้นรูปและการดันขึ้นรูป 10.3 การตอกหรือการตีขึ้นรูปเย็นและการอัดแบบหลอ 10.4 การทําเหรียญตราและการพิมพลายนูน 10.5 การย้ําหมุดและการย้ําหัว 10.6 การดัดเหล็กแผนและการรีดขึ้นรูป 10.7 การเขาตะเข็บและการขึ้นรูปดวยพลังสูง 10.8 การกระแทกขึ้นรูป จุดประสงคเชิงพฤติกรรม

1. อธิบายความหมายการขึ้นรูปโลหะสภาพเย็นได 2. อธิบายการผลิตทอและการดึงลวดได 3. อธิบายการหมุนขึน้รูปและการดันขึ้นรูปได 4. อธิบายการตอกหรือการตีขึ้นรูปเย็นและการอัดแบบหลอได 5. อธิบาย การทําเหรียญตราและการพิมพลายนูนได 6. อธิบายการย้ําหมุดและการย้ําหัวได 7. อธิบายการดัดเหล็กแผนและการรีดขึ้นรูปได 8. อธิบายการเขาตะเข็บและการขึ้นรูปดวยพลังสูงได 9. อธิบายการกระแทกขึ้นรูปได

Page 2: การขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น

กิจกรรมหลัก 1. ครูนําเขาสูบทเรียน 2. นักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน 3. นักเรียนศึกษาเนื้อหาจากเอกสารประกอบการสอน - แบงกลุมนักเรียนกลุมละ 4-5 คน - ศึกษาเนื้อหาสาระการเรียน - อภิปรายหนาช้ันเรียน - ใบส่ังงานท่ี 7 - ครูสรุปเนื้อหาสาระการเรียนประจําหนวย 4. นักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน 5. ครูและนักเรียนตรวจแบบทดสอบ

175

Page 3: การขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น

การขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น (Cold working of metal)

การขึ้นรูปโลหะสภาพเย็น หมายถึง การขึ้นรูปโลหะท่ีอุณหภูมิปกติ ซ่ึงโลหะจะมีความแข็งแรงอยูในระดับปกติ จะตองใชกําลังในการกดขึ้นรูปสูง เพ่ือใหเกิดความเคนในเนื้อโลหะ จนเลยจุดยืดหยุน เปนการปองกันมิใหโลหะท่ีตองการขึ้นรูปไมกลับคืนสูสภาพเดิมเม่ือปลอย แรงกดแลว ขอดีของการขึ้นรูปโลหะสภาพเย็น 1) อายุของการใชงานของเครื่องมือและแมพิมพยาวนาน 2) ไมใชความรอน ลดตนทุน 3) ประหยัดวัสด ุ 4) ผิวงานท่ีไดเรียบ 5) ขนาดของช้ินงานเท่ียงตรง 6) ความแข็งแรงมากขึน้ ขอเสียของการขึ้นรูปโลหะสภาพเย็น 1) ตองใชแรงกดในการกระทํามาก 2) เครื่องจักรเครื่องมือตองมีขนาดใหญ 3) ความเหนียวลดลง การขึ้นรูปโลหะสภาพเยน็กระทําไดหลายวิธี ดังนี ้10.1 การผลิตทอ (Tube finishing) การผลิตทอ จะใหมีผิวงานเรียบขนาดเท่ียงตรงและมีความแข็งแรงดี จะตองทําทอท่ีผานการ รีดรอนมาแลวทําความสะอาดผิว ตอจากนั้นก็ทาทอดวยสารหลอล่ืนเพ่ือใหสะดวกและงายตอการขึ้นรูป การดึงเย็น ตามรูปภาพท่ี 10.1 เรียกวา การดึงบนโตะ (Draw bench) โดยมีขั้นตอนดังนี้

176

Page 4: การขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น

นําทอผานแมพิมพ (Die) ซ่ึงมีขนาดเทาโตนอกของทอท่ีตองการภายในทอจะมีแกนเหล็ก (Mandrel) เพ่ือควบคุมขนาดของรูทอใหมีขนาดเทากันตลอด และปลายอีกขางหนึ่งของทอจะถูกดึงดวยโซสามารถดึงทอใหมีความยาวไดประมาณ 30 เมตร และใชแรงดึงประมาณ 200-1,300 kn

รูปท่ี 10.1 เครื่องผลิตทอ

การดึงทอในสภาพเย็นจะตองใชแรงดึงสูงมาก จนกระท่ังทําใหโลหะเกิดความเคนขึ้นเกินจุดยืดหยุนตัว ซ่ึงจะทําใหเกิดการไหลผานรูของแมพิมพ ในการรีดแตละครั้งจะสามารถลดขนาดไดสูงสุดประมาณ 40% ถามีความจําเปนท่ีจะตองรีดหลายๆ ครั้ง จะตองทําการอบออนเสียกอน เพ่ืองายตอการดึงขึ้นรูป

รูปท่ี 10.2 การดึงทอสภาพเย็น

ปลายทอ

แมพิมพลดขนาดทอ

ตะขอ

ทอรอน

แมพิมพ

ลดขนาดทอ

ปลายทอท่ีใชจับดึง แกนอยูกับท่ี

177

ที่มา:ประเวศ,กรรมวิธีการผลิต,หนา 161

Page 5: การขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น

10.2 การดึงลวด (Wire drawing) การดึงลวด เปนกรรมวิธีการดึงขึ้นรูป โดยการนําเหล็กเสนมาดึงผานแมพิมพหลายๆ ชุด เพ่ือลดขนาดใหไดขนาดตามท่ีตองการ โดยมีขั้นตอนดังนี้นําเหล็กเสนมาทําความสะอาด โดยการจุมลงในน้ํากรดเพ่ือขจัดสะเก็ดและสนิมตางๆ แลวทาดวยน้ํามันกันสนิม เพ่ือใหผิวล่ืนงายตอการดึงขึ้นรูป จากนั้นนําเหล็กสะอาดผานแมพิมพซ่ึงแมพิมพสวนมากทําดวยโลหะคารไบดหรือเพชร แลวใชคีมจับปลายดึงผานแมพิมพแลวเก็บมวนเขาท่ีเปนขดไว เสร็จแลวสามารถนํามาดึงผานแมพิมพซํ้าอีกเพ่ือใหไดขนาดตามตองการ

รูปท่ี 10.3 แมพิมพดงึลวด

รูปท่ี 10.4 หลักการในการดึงลวดแบบตอเนื่อง

ลวดท่ีจะดึง ขนาดลวดท่ีได

ปลอก

แมพิมพคารไบด

178

แทงลวด

ลอดึงลวดสุดทาย ลอดึง

ลูกรอกควบคุมความเร็ว

แมพิมพ

ดึง

Page 6: การขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น

10.3 การหมุนขึ้นรูป ( Metal Spinning) เปนกรรมวิธีการขึ้นรูปโลหะแผนบางและแผนหนา โดยการกดเขาไปตามแมพิมพซ่ึงหมุนอยูตลอดเวลา เพ่ือใหรูปรางเหมือนกับแมพิมพท่ีตองการ ลักษณะวิธีเหมือนกับการปนเครื่องปนดินเผา ผิดกันตรงท่ีไมไดใชมือกระทําตอช้ินงาน แตจะใชลูกรีดเปนตัวดันรีดโลหะแผนใหขึ้นรูปตามแบบแมพิมพ ดังรูปท่ี 10.5

รูปท่ี 10.5 แผนภาพการหมุนขึ้นรูป

รูปท่ี 10.6 เครื่องหมุนขึ้นรูป

งานข้ันสุดทาย

ท่ียึดแผนวัสดุ หัวเครื่อง

แบบ

สลัก

แผนวัสดุ

มือจับมีด

ท่ีรองมีด

179

ที่มา:ประเวศ,กรรมวิธีการผลิต,หนา162

Page 7: การขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น

10.4 การดันขึ้นรูป (Stretch forming) เปนกรรมวิธีขึ้นรูปโลหะแผนขนาดใหญ เพ่ือใหไดขนาดและรูปรางโคงเหมือนๆกัน โดยใชแมพิมพขึ้นรูปดันขึ้นรูปดวยระบบไฮดรอลิก ซ่ึงแมพิมพอาจจะทําจากเหล็ก ไม หรือพลาสติกก็ได งานท่ีไดจะมีความบางลดลงจากเดิมเล็กนอย หรือ รูปรางช้ินงานอาจจะคืนตัวเล็กนอย ดังรูปท่ี 10.7

รูปท่ี 10.7 การดนัขึ้นรูป

หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือ การใชพ้ันช (แมพิมพตัวบน) กดลงบนช้ินงานซ่ึงวางอยูบนดายแมพิมพ ตัวลาง ก็จะไดช้ินงานตามแบบแมพิมพการขึ้นรูปแบบนี้เรียกวา การดันและดึงขึ้นรูปดังรูปท่ี 10.8

รูปท่ี 10.8 การดันและดึงขึ้นรูป

แมพิมพข้ึนรูป

แผนรอง

แมพิมพตัวบน

แผนกด

ปากจับ กระบอกไฮดรอลิก

แผนงานข้ึนรูป

แผนงานข้ึนรูป

180

ที่มา:ประเวศ,กรรมวิธีการผลิต,หนา163

แมพิมพตัวลาง

Page 8: การขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น

10.5 การตอกหรือการตีขึ้นรูปเย็น (Swaging of cold forging) เปนการขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น โดยการใชแรงอัดหรือแรงกระแทกเพ่ือดันใหโลหะ ไหลเขาแมพิมพตามทิศทางท่ีถูกอัดหรือกระแทก สําหรับการตอกโลหะขึ้นรูป จะใชกับช้ินงานท่ี มีขนาดไมใหญมากนัก เชน หมุดย้ํา ตะปู น็อต ช้ินงานท่ีไดจากกรรมวิธีนี้จะมีผิวมันเรียบและ ไดขนาดถูกตอง

รูปท่ี 10.9 ภาพแสดงการตอกขึ้นรูป

รูปท่ี 10.10 ตัวอยางงานท่ีไดจากการตอกขึ้นรูป

181

ลูกกลิ้ง

แมพิมพ

วัสดุ Dies closed แมพิมพปด

Page 9: การขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น

ตัวอยางเครื่องจักรสําหรับทําน็อต หัวหมุดย้ําหรือช้ินงานท่ีคลายกัน ลําดับขั้นตอนการทํา นําเสนลวดท่ีมีขนาดใหญโตกวาช้ินงานสําเร็จ ปอนเขาเครื่องแลวใชลูกกล้ิงดึงใหตรงพรอมท้ังตัดใหไดความยาวท่ีตองการ นําเขาชุดหัวแมพิมพเพ่ืออัดเขาเปนรูปตามตองการ ถาทําช้ินงานท่ีมีขนาดใหญๆ กอนทําจะตองใหความรอนกับช้ินงานท่ีสวนปลายกอนนําเขาเครื่อง

รูปท่ี 10.11 การอัดหัวสลัก

10.6 การอัดแบบหลอ (Hobbing) กรรมวิธีการผลิตแบบนี้เปนวิธีการทําแบบหลอตางๆ เชน แบบหลอพลาสติก (Mold plastic)หรือแบบหลอแมพิมพ (Die casting) สําหรับตะกั่ว อะลูมิเนียม สังกะสี ซ่ึงวิธีนี้แมพิมพตัวบนเรียกวา Hob และแมพิมพตัวลาง เรียกวา Cavity มีลักษณะรูปรางเหมือนกัน ขั้นตอนการผลิตนําแผนโลหะวางบนแมพิมพตัวลาง แลวกดแมพิมพตัวบนลงมาแผนโลหะดวยระบบไฮดรอลิกใชแรงอัดประมาณ 250-8,000 ตัน

การทําหัวโดยใชดาย

การทําหัวโดยใชดายและพ้ันช

การทําหัวโดยใชพ้ันช

การทําหัวโดยใชดายและพ้ันช

2. ชนิดของแมพิมพที่ใชตอกหัวสลัก 1. เคร่ืองตอกหัวสลัก

พ้ันช ดาย

182

สลักดัน

Page 10: การขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น

ขอดีของการอัดแบบหลอ ไดช้ินงานท่ีมีรูปรางขนาดเทากันตลอดตนทุนการผลิตต่ํา ผิวของช้ินงานเรียบ ซ่ึงไมจําเปนจะตองตกแตงดวยเครื่องจักรอีก

รูปท่ี 10.12 แมพิมพท่ีใชในการอัดแบบหลอ

10.7 การทําเหรียญตราและพิมพลายนูน (Coining and Embossing) การทําเหรียญตรา เปนวิธีการปมแผนโลหะใหเปนตัวนูน โดยมีแมพิมพ 2 ตัว คือ Punch และ Die ขั้นตอนการผลิตนําแทงโลหะวางบนแมพิมพ Die แลวใชแรงกดแมพิมพ Punch ลงมากดอัดช้ินงาน ช้ินโลหะจะถูกบังคับใหไหลเขาไปในสวนเวา สวนโคงหรือรองตื้นๆ สวนมากจะเปนประเภทโลหะออน เชน เหรียญเงิน หรือเหรยีญตราตางๆ

รูปท่ี 10.13 การทําเหรียญตรา

ชองวางหรือแมพิมพตัวลาง

แกนกด

แหวนปองกัน แผนรองกด

หัวตอกหรือแมพิมพตัวบน

แผนรอง

วัสดุ

วัสดุงานงาน

รูปเหรียญ ข้ึนรูปนูน

พ้ันช

183

ที่มา:ประเวศ,กรรมวิธีการผลิต,หนา165

Page 11: การขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น

การพิมพลายนูน เปนวิธีการขึ้นรูปลักษณะเกี่ยวกับการดึงขึ้นรูปหรือการดันขึ้นรูป เพ่ือใหโลหะเกิดการยืดเปนรูปรางตามแบบท่ีตองการ ใชแรงการดันขึ้นรูปนอยกวาการทําเหรียญตรา เชน เหรียญหอยคอ แผนปายช่ือ หรือลายสวยงามท่ีพิมพลงบนแผนโลหะบางตางๆ

รูปท่ี 10.14 การพิมพลายนูน 10.8 การย้ําหมุด (Riveting) กรรมวิธีนี้ใชสําหรับการยึดหรือตอช้ินงานใหติดกัน ขั้นตอนแรกจะตองเจาะรูท่ีช้ินงานท้ังสองช้ินกอน แลวนําหมุดย้ําใสรูเจาะจากนั้นก็อัดหรือตอกปลายของหมุดย้ําใหยุบเกิดเปนหัว

รูปท่ี 10.15 แสดงการย้ําหมุด

การพิมพลายนูนแบบหมุน(Rotary embossing)

ดาย งาน

พ้ันช

ย้ําหัวหมุด แมพิมพ

งานท่ีย้ําหมุด

184

ที่มา:ประเวศ,กรรมวิธีการผลิต,หนา165

Page 12: การขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น

10.9 การย้ําหัว (Staking) กรรมวิธีนี้ เปนการตอกหรือย้ําหัวของปลายของช้ินสวนใหบานออก ซ่ึงจะทําใหเกิดความแนนมากขึ้น เชน การตอกปลายเพลา ท่ีสวมกับรูเฟอง

รูปท่ี 10.16 การตอกปลายเพลา

10.10 การดัดเหล็กแผน (Plate bending) กรรมวิธีนี้เปนการขึ้นรูปโลหะแผน โดยเครื่องมวนซ่ึงมีลูกกล้ิงขนาดเทากัน 3 ลูก เปนตวับังคับ โดยท่ี 2 ลูกกล้ิงดานลางยึดอยูกับท่ี สวนลูกกล้ิงตัวบนจะเปนตัวบังคับกดแผนโลหะใหไดสวนโคงงอตามท่ีตองการ เครื่องแบบนี้สามารถดัดเหล็กแผนไดหนาถึง 30 มม.

รูปท่ี 10.17 การดัดเหล็กแผนขึน้รูป

แมพิมพ

เฟอง

ปลายเข็ม

เพลา

185

แผนเหล็ก

ลูกกลิ้งปรับ

ลูกกลิ้งคงท่ี

Page 13: การขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น

10.11 การรีดขึ้นรูป (Roll forming) กรรมวิธีนี้เปนการรีดขึ้นรูปโดยใชเครื่องรีดท่ีมีลูกกล้ิงหลายคูและหลายชุด ทําการรีดโลหะอยางตอเนื่องดวยความเร็วขอบ 18-90 เมตร/นาที จนไดช้ินงานสําเร็จ เชน ตัวซี ตัวแอล ทอ หรือรูปทรงตางๆ ตามรูปท่ี10.18 (1) เปนการแสดงการรีดขึ้นรูปทอ โดยการใชลูกกล้ิง5ชุดทําการรีดเพ่ือลดขนาดลงตามลําดับ หลังจากการรีดเปนรูปทอแลวจะวิ่งผานลูกกล้ิงอีกชุดหนึ่ง เพ่ือทําการเช่ือมรอยตอใหติดกันเปนการเช่ือมแบบความตานทาน

รูปท่ี 10.18 เครื่องรีดขึ้นรูปทอและขั้นตอนการขึ้นรูปตะขอ

ลูกกลิ้ง

186

ที่มา:ประเวศ,กรรมวิธีการผลิต,หนา 167

2.ข้ันตอนการข้ึนรูปตะขอ 1.การรีดข้ึนรูปทอ

Page 14: การขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น

10.12 การเขาตะเข็บ (Seaming) กรรมวิธีนี้เปนการผลิตรูปทรงกระบอกขนาดตางๆ เชน กระปอง ถัง หรือช้ินงานท่ีมีลักษณะ คลายๆกัน โดยการใชโลหะแผนขนาดบางๆ การตอจะใชตะเข็บในรูปแบบตางๆ ดังนี้

รูปท่ี 10.19 การเขาตะเข็บแบบตาง ๆ

วิธีการเขาตะเข็บยาว จะใชสําหรับรอยตอช้ินงานท่ีไมตองการยึดแนนมากนัก สวนวิธีการเขาตะเข็บผสม จะใหความแข็งแรงมากกวาแบบการเขาตะเข็บยาว และวิธีการเขาตะเข็บสองช้ัน จะใชตอช้ินงานท่ีเปนภาชนะแบบราบหรือแบบขอบส้ัน สําหรับการเขาตะเข็บสองช้ันอาจจะทําไดดวยมือหรือกึ่งอัตโนมัติหรืออัตโนมัติท้ังหมดก็ได

2. มวนขอบลง 1. เตรียม วิธีการเขาตะเข็บสองช้ันของฝากระปอง

2. พับขอบ 4.ตะเข็บใน

1. เตรียมขึ้นรูปขอบ

วิธีการเขาตะเข็บยาวของโลหะแผนทรงกระบอก

1. ขึ้นรูปทรง 3. ตะเข็บนอก

2. ตะเข็บสําเร็จ

3. ตะเข็บสําเร็จ

วิธีการเขาตะเข็บผสมของโลหะแผนทรงกระบอก

3. ตะเข็บสําเร็จ 2. มวนขอบลง 1. เตรียม

วิธีการเขาตะเข็บสองช้ันของฐานกระปอง

187

ที่มา:ธนรัตน,มณฑล,กรรมวิธีการผลิต,หนา166

Page 15: การขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น

10.13 การขึ้นรูปดวยพลังงานสูง (High –energy- rate forming ) กรรมวิธีนี้เปนการขึ้นรูปโลหะ โดยอาศัยแรงของพลังงานในการกระทํา งานท่ีไดจะมีความเท่ียงตรง ตนทุนการผลิตต่ํา ขนาดของแรงท่ีใชมีขนาดแตกตางกันไปตามลักษณะของงาน

ตารางที่ 10.1 ขนาดพลังงานที่ไดจากวิธีการตางๆ ลําดับที ่ วิธีการ ความเร็ว เมตร/นาท ี

1 การอัดดวยไฮดรอลิก (Hydraulic press) 1.80 2 การอัดดวยระบบเบรก (Brake press) 1.80 3 การอัดดวยระบบกลไก (Mechanical press) 1.80 – 4.40 4 การตอกอัดดวยคอน (drop hammer) 14.4 – 258.0 5 การเคล่ือนท่ีของแครเล่ือนดวยกาธ (gas-actuated ram) 120 – 4,900 6 การระเบิด (explosive) 540 – 13,800 7 ระบบแมเหล็ก (magnetic) 1,600 – 13,800 8 ระบบไฟฟาไฮดรอลิก (electro-Hydraulic) 1,600 – 13,800

การขึ้นรูปดวยพลังอัดขึ้นรูป (explosive forming) โดยอาศัยการระเบิดแลวทําใหพลังงานผานตัวกลางตางๆไปดันช้ินงานใหขึ้นรูปตามแมพิมพ

รูปท่ี 10.20 การขึ้นรูปดวยแรงดนัตางๆ

1. การข้ึนรูปดวยแรงอัดจากของเหลว 2. การข้ึนรูปดวยแรงอัดจากน้ํา

3. การข้ึนรูปดวยแรงดันจากแกส 4. การข้ึนรูปดวยคอนตีข้ึนรูป

ทอสุญญากาศ แมพิมพแยก

ลูกสูบ

ดาย

หัวเก็บประจ ุ

จุดขึ้นรูป

แรงระเบิด วัสดุงาน

188

ที่มา:ประเวศ,กรรมวิธีการผลิต,หนา 168

ที่มา:ประเวศ,กรรมวิธีการผลิต,หนา168

Page 16: การขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น

การขึ้นรูปโลหะดวยแมเหล็ก (Magnetic forming) เปนการขึ้นรูปโดยอาศัยพลังงานจากไฟฟา โดยการนําขดลวดไฟฟาพันรอบช้ินงานท่ีตองการขึ้นรูป แลวปลอยกระแสไฟฟาแรงคล่ือนสูงผานขดลวดจะทําใหเกิดสนามแมเหล็กสูง ช้ินงานบริเวณขดลวดและใกลเคียงก็จะเกดิการเปล่ียนแปลงตามแบบ

รูป10.21 การขึ้นรูปดวยแมเหล็กไฟฟา

10.14 การกระแทกขึ้นรูป (Impact extrusion) กรรมวิธีนี้เปนการขึ้นรูปโลหะออน เชน อลูมิเนียม ตะกั่ว สังกะสี ใหเปนทอตัน หรือทอกลวง เชน หลอดยาสีฟน ทอกลวงตางๆ วิธีการทําใชแมพิมพพ้ันช (Punch) กระแทกลงมายังแมพิมพดาย(Die) โลหะออนจะไหลทะลุแมพิมพดาย หรือไหลขึ้นเกาะแมพิมพพ้ันช จนเปนทอกลวงสําเร็จ ดังรูปท่ี 10.22

สวิตชกระแสไฟแรงสูง สวิตชอัดไฟฟา

ไฟฟาแรงสูง คาปาซิเตอร ลวด

งาน

1. วงจรข้ึนรูปดวยแมเหล็กไฟฟา

2. งานที่ไดจากการข้ึนรูปดวยแมเหล็กไฟฟาแมเหล็กไฟฟา

189

ที่มา:ประเวศ,กรรมวิธีการผลิต,หนา169

Page 17: การขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น

รูปท่ี 10.22 การกระแทกขึ้นรูป

วัสดุ

พั้นช

ทอข้ึนรูป ดาย

พั้นช ดาย

2. การกระแทกข้ึนรูปลาง

1. การกระแทกข้ึนรูปบน

วัสดุงาน

190

Page 18: การขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น

แบบทดสอบกอนเรียน-หลังเรียน ประจําหนวยที่ 10 เร่ือง การขึ้นรูปโลหะสภาพเย็น

ตอนที่ 1 จงทําเคร่ืองหมาย √ ลงในคําตอบที่ถูกที่สุดเพียงคําตอบเดียว 1. วัตถุประสงคของการขึ้นรูปโลหะสภาพเย็น คือขอใด ก. ผิวงานเรียบ – ขนาดเท่ียงตรง – ประหยัด ข. ผิวงานละเอียด – ความเหนียวลดลง – ตนทุนต่ํา ค. แข็งแรงดี – ขนาดเท่ียงตรง – ตนทุนสูง ง. แข็งแรงดี – ขนาดไมเท่ียงตรง – ตนทุนต่ํา 2. อุปกรณอะไรท่ีใชในการควบคุมขนาดของรูทอใหมีขนาดเทากันตลอด ก. เพลา ข. ลูกกล้ิง ค. แกนเหล็ก (Mandrel) ง. หัวเปาความรอน 3. แมพิมพท่ีใชสําหรับการดึงลวด ทํามาจากโลหะอะไร ก. เหล็กเหนียว ข. เหล็กหลอ ค. โลหะคารไบด ง. โลหะผสม 4. กรรมวิธีการขึ้นรูปโลหะสภาพเย็นในขอใดมีลักษณะวิธีทําเหมือนกับการปนเครื่องดินเผา ก. การหมุนขึ้นรูป ข. การดันขึ้นรูป ค. การตอกหรือการตีขึ้นรูปเย็น ง. การอัดแบบหลอ 5. แมพิมพท่ีทํามาจากไมหรือพลาสติกเหมาะกับการขึ้นรูปโลหะในขอใด ก. การหมุนขึ้นรูป ข. การดันขึ้นรูป ค. การตอกหรือการตีขึ้นรูปเย็น ง. การอัดแบบหลอ 6. กรรมวิธีการขึ้นรูปโลหะสภาพเย็นขอใดท่ีใหคุณภาพงานมีรูปรางขนาดเทากันตลอดผิวเรยีบ ตนทุนการผลิตต่ํา ก. การหมุนขึ้นรูป ข. การดันขึ้นรูป ค. การตอกหรือการตีขึ้นรูปเย็น ง. การอัดแบบหลอ 7. เหรียญหอยคอ แผนปายช่ือ ใชกรรมวิธีการขึ้นรูปโลหะสภาพเย็นในขอใด ก. การตอกหรือการตีขึ้นรูปเย็น ข. การอัดแบบหลอ ค. การพิมพลายนูน ง. การทําเหรียญตรา

195

Page 19: การขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น

8. การย้ําหมุดขั้นตอนแรกจะตองทําอะไรกอน ก. ทําความสะอาดผิวงาน ข. วางแบบ ค. ตอกนําศูนย ง. เจาะรูช้ินงาน 9. การดัดเหล็กแผนเปนกรรมวิธีการขึ้นรูปโลหะแผนโดยใชลูกกล้ิงขนาดเทากันกี่ลูก ก. ลูกกล้ิง 2 ลูก ข. ลูกกล้ิง 3 ลูก ค. ลูกกล้ิง 4 ลูก ง. ลูกกล้ิง 5 ลูก 10. เหล็กตัวซี เหล็กตัวแอล ทอ หรือรูปทรงตางๆ ใชกรรมวิธีการขึ้นรูปในขอใด ก. การหมุนขึ้นรูป ข. การดันขึ้นรูป ค. การรีดขึ้นรูป ง. การดัดเหล็กแผน ตอนที่ 2 จงตอบคําถามตอไปนี้โดยการอธิบายส้ันๆพอเขาใจ 1. การขึ้นรูปโลหะสภาพเย็น หมายถึง อะไร .................................................................................... 2. จงอธิบายขอดี – ขอเสีย ของการขึ้นรูปโลหะสภาพเย็นมาอยางละ 2 ขอ ..................................... ........................................................................................................................................................... 3. การดึงทอในสภาพเย็นจะตองใชแรงมากจนทําใหโลหะเกิดความเคนขึน้เกินจุดอะไร.................. ........................................................................................................................................................... 4. การดึงลวด โดยการนําเหล็กเสนมาทําความสะอาดแลวจุมลงในน้ํากรด เพ่ืออะไร....................... ............................................................................................................................................................ 5. จงยกตัวอยางงานท่ีทําดวยวิธีการหมุนขึ้นรูป ................................................................................ 6. กรรมวิธีการผลิตแบบการอัดแบบหลอ นิยมใชกันอยางกวางขวางสําหรับงาน ............................. ............................................................................................................................................................ 7. จงอธิบายการทําเหรียญตรา ........................................................................................................... ............................................................................................................................................................. 8. การย้ําหมุดคืออะไร ........................................................................................................................ 9. กรรมวิธีโดยการใชเครื่องรีดท่ีมีลูกกล้ิงหลายคูและหลายชุด ทําการรีดโลหะอยางตอเนื่องดวยความเร็วขอบ 18-90 เมตรตอนาที จนไดช้ินงานสําเร็จเรียกวากรรมวิธีอะไร ...................................... ............................................................................................................................................................. 10. การกระแทกขึ้นรูป (Impact extrusion) กรรมวิธีนี้เปนการขึ้นรูปโลหะประเภทใด .....................

……………………………………………………………………………………………………..

196