15
หนวยที่ 13 ชื่อเรื่อง งานพลาสติก (Plastic work) หัวขอเรื่องยอย 13.1 ความหมายของพลาสติก 13.2 ประเภทของพลาสติก 13.3 ยางสังเคราะห 13.4 วิธีการผลิตงานพลาสติก จุดประสงคเชิงพฤติกรรม 1. อธิบายความหมายของพลาสติกได 2. อธิบายประเภทของพลาสติกได 3. อธิบายยางสังเคราะหได 4. อธิบายการผลิตงานพลาสติกดวยวิธีตางๆได 5. นักเรียนเขาเรียนตรงเวลาไดทุกครั้ง กิจกรรมหลัก 1. ครูนําเขาสูบทเรียน 2. นักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน 3. นักเรียนศึกษาเนื้อหาจากเอกสารประกอบการสอน - แบงกลุมนักเรียนกลุมละ4-5 คน - ศึกษาเนื้อหาสาระการเรียน - อภิปรายหนาชั้นเรียน - ดู วีซีดี ขบวนการฉีดพลาสติก - ครูสรุปเนื้อหาสาระการเรียนประจําหนวย 4. นักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน 5. ครูและนักเรียนตรวจแบบทดสอบ

งานพลาสติก

Embed Size (px)

Citation preview

Page 1: งานพลาสติก

หนวยที่ 13

ชื่อเร่ือง งานพลาสติก (Plastic work) หัวขอเร่ืองยอย

13.1 ความหมายของพลาสติก 13.2 ประเภทของพลาสติก 13.3 ยางสังเคราะห 13.4 วิธีการผลิตงานพลาสติก จุดประสงคเชิงพฤติกรรม 1. อธิบายความหมายของพลาสติกได

2. อธิบายประเภทของพลาสติกได 3. อธิบายยางสังเคราะหได

4. อธิบายการผลิตงานพลาสติกดวยวิธีตางๆได 5. นักเรียนเขาเรียนตรงเวลาไดทุกครั้ง กิจกรรมหลัก

1. ครูนําเขาสูบทเรียน 2. นักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน 3. นักเรียนศึกษาเนื้อหาจากเอกสารประกอบการสอน - แบงกลุมนักเรียนกลุมละ4-5 คน - ศึกษาเนื้อหาสาระการเรียน - อภิปรายหนาช้ันเรียน - ดู วีซีดี ขบวนการฉีดพลาสติก - ครูสรุปเนื้อหาสาระการเรียนประจําหนวย 4. นักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน 5. ครูและนักเรียนตรวจแบบทดสอบ

Page 2: งานพลาสติก

งานพลาสติก (Plastic work)

พลาสติก หมายถึง วัสดุท่ีประกอบดวยสารโมเลกุลหลายอยาง ซ่ึงใหความรอนแลวสามารถ ขึ้นรูปรางตางๆได โดยอาศัยโมลดการหลอ (Mold) หรือการอัดขึ้นรูป พลาสติกมีองคประกอบ ท่ีอยูตามธรรมชาต ิ เชน น้ํามันดิบ กาชธรรมชาต ิ ผลิตผลการเกษตร หรือไดจากการสังเคราะหสารประกอบไฮโดรคารบอนซ่ึงประกอบดวยธาตุสําคัญ คือ คารบอน ไฮโดรเจน ออกซิเจน ครอรีน เปนตน พลาสติกมีคุณสมบัติพิเศษหลายอยาง เชน แข็ง ออน เบา ทนกรด ทนความรอน ทนสารเคมี เปนตน ปจจบัุนจึงนิยมนําพลาสติกมาใชทดแทนวัสดอ่ืุนจํานวนมากท้ังในชีวิตประจําวันและในอุตสาหกรรม

รูปท่ี 13.1 ตัวอยางงานพลาสติก

13.1 ประเภทของพลาสติก สามารถแบงออกได 2 ประเภท คือ 1) เทอรโมเซตติง (Thermosetting) หรือพลาสติกคงรูป เปนพลาสติกท่ีขึ้นรูปไดโดยการ ใหความรอน เม่ือเปนช้ินงานแลวไมสามารถนํากลับมาหลอมทําใหมได มีคุณสมบัต ิ ทนการกัดกรอนตอสารเคมี ทนความรอนไดสูง มีความแข็ง ตัวอยางพลาสติกชนิดนี้ เชน ยูเรเทน (Urethane) อามิโน (Amino) อีพอกช่ี (Epoxy) ฟโนลิก (Phenolic) โพลีเอสเตอร (Polyester) เปนตน 2) เทอรโมพลาสติก (Thermoplastic) หรือพลาสติกเปล่ียนรูป เปนจําพวกพลาสติกออนเม่ือทําเปนช้ินงานแลวสามารถนํากลับมาหลอมใหมไดไมมีท่ีส้ินสุด จะแข็งตัวในอุณหภูมิปกติ

222

ที่มา:www.baankaew-plastic.com/

Page 3: งานพลาสติก

ตัวอยางพลาสติกนี้ เชน โปลีอาไมด (Polyamides) เซลลูโลสหรือเซลลูลอยด (Cellulose-or celluloid) อะคริลิก (Acrylics) พี.วี.เอ (P.V.A.) เอ.บี.เอส. (A.B.S.) เปนตน 13.2 ยางสังเคราะห (Synthetic rubber) เนื่องจากยางตามธรรมชาติมีนอยไมเพียงพอกับงานอุตสาหกรรม จึงจําเปนจะตองคิดคนยางสังเคราะห เพ่ือนํามาทดแทนยางธรรมชาติ เชน 1) ยางซิลิโคน เปนยางสังเคราะหท่ีผลิตจาก ซิลิโคน ออกซิเจน ไฮโดรเจนและคารบอน มีคุณสมบัติทนตอน้ํามัน แสงแดด สารละลายกรด และทนตออุณหภูมิท่ีเปล่ียนแปลงได เชน ทําประเก็น และเปนวัสดุปองกันความรอน 2) ยางจีอารเอส (GR-S) เปนยางสังเคราะหท่ีผลิตจากสวนผสมของ Butadiene และStyrene และบางครั้งก็ผสมยางธรรมชาต ิ เชน ยางรถยนต 3) ยางไทลโคล (Thiokol) เปนสารอินทรียโพลีซัลไฟดและสารท่ีตานทานตอน้ํามัน และ สีตางๆ มีคุณสมบัติทนทานตอแกสโซลีน น้ํามัน แสงอาทิตย เชน ทอยาง สนรองเทา พ้ืนรองเทา ผาท่ีเปนฉนวน 4) ยางบูทีลหรือไอโซบูไทลีน โดโพลีเมอร (Butyl, isobutylene copolymer) มีคุณสมบัติคลายกับยางธรรมชาติ มีความแข็งแรง ทนทานตอการเสียดสีและแกสซึมผานไดนอย เชน ยางในรถยนต สายพานลําเลียง และนวม เปนตน 5) ยางยูเรเทน (Urethane) ใชทําเบาะท่ีขึ้นรูปจากงานกดขึ้นรูป ลูกกล้ิงยาง ยางแข็ง 6) ยางโพลีอาคริเลท (Polyacrylate) ใชทําปะเก็นรถยนต ทอยางน้ํามัน 7) ยางบูนาเอนหรือยางไนตริล (Buna N or nitrile rubber) ทนทานตอน้ํามัน ใชทําผลิตภัณฑปะเก็น แผนไดอะแฟรม 13.3 วิธีการผลิตงานพลาสติก (Method of processing) กรรมวิธีการผลิตพลาสติกมีหลายวิธีดวยกัน เริ่มแรกจะตองเตรียมวัตถุดิบพลาสติกเสียกอนอาจจะเปนในลักษณะ เม็ด ผง หรือของเหลวก็ได จากนั้นก็ผสมวัตถุดิบตางๆเพ่ือใหไดคุณสมบัต ิท่ีตองการ เชน สารหลอล่ืน แมสี สารผสมดวยเครื่องผสมวัตถุดิบ ตอจากนั้นนําเขาเครื่องฉีด เครื่องอัด หรือแมพิมพ ก็จะไดช้ินงานพลาสติกตามท่ีตองการ ตัวอยางวิธีการผลิตดังนี ้

223

Page 4: งานพลาสติก

รูปท่ี 13.2 เครื่องฉีดพลาสตกิ

1) งานอัด (Compressing molding) วิธีการผลิตงานอัด คือ นําเม็ดพลาสติกใสลงไปในแมพิมพตัวลาง (mold cavity) แลวใหความรอนกับแมพิมพตัวลางดวยกระแสไฟฟา หรือไอน้ํารอน จากนั้นกดแมพิมพตัวบน (mold plunger) ลงมากดแมพิมพตัวลาง เสร็จแลวปลอยใหพลาสติกเย็นตัว โดยการปลอยน้ําเย็นไหลผานแมพิมพตัวลาง เพ่ือใหพลาสติกแข็งตัวจากนั้นยกแมพิมพตัวบนขึ้นแลวใชแทงดัน ดันช้ินงานออกมาจากแมพิมพตัวลาง

รูปท่ี 13.3 การอัดขึ้นรูปพลาสติก

แมพิมพบน

แมพิมพลาง

แมพิมพลาง

พลาสติกในแมพิมพ

สลักนําทาง

แมพิมพบน จังหวะแมพิมพเปด

จังหวะแมพิมพปด

224

ผงพลาสติก หัวฉีด

แมพิมพ

แผงควบคุม

ที่มา:http://www.plaztek.org/03x.html

Page 5: งานพลาสติก

2) งานอัดสง (Transfer molding) กรรมวิธีการผลิตแบบนี้ คือ นําเม็ดพลาสติกมาใสลงในชองอยูเหนือแมพิมพ จากนั้นใหความรอนกับเม็ดพลาสติกจนออนตัวแลวใชแทงอัด อัดพลาสติกลงในแมพิมพตัวลางแลวทําใหพลาสติกแข็งตัว กรรมวิธีแบบนี้จะไดช้ินงานท่ีมีความปราณีต แตมีขอเสียส้ินเปลืองพลาสติกท่ีหมดไปกับรูเทและทางไหลของพลาสติก

รูปท่ี 13.4 การแสดงการทํางานแบบอัดสง

3) งานอัดฉีดพลาสติกเปล่ียนรูป (Injection molding of thermoplastic) กรรมวิธีการผลิต แบบนี้ คือ นําเม็ดพลาสติกใสลงในเครื่อง จากนั้นก็ใหความรอนกับเม็ดพลาสติกดวยขดลวดไฟฟา จนเม็ดพลาสติกเปนของเหลวแลวใชแรงดันดันพลาสติกเหลวเขาแมพิมพ เสร็จแลวทําใหแมพิมพเย็นลงเพ่ือใหพลาสติกแข็งตัวจากนั้นก็ใชแทงดัน ดันช้ินงานออกจากแมพิมพ งานท่ีไดจากกรรมวิธีนี้ เชน ช้ินสวนตูเย็น ช้ินสวนเครื่องบิน ช้ินสวนทีวี ช้ินสวนเครื่องซักผา เปนตน จากภาพ13.5 (1) นําเม็ดพลาสติกประเภทเปล่ียนรูปได ใสลงไปในเครื่องฉีด กระบอกฉีดตอนปลายจะมีอุปกรณใหความรอนติดตั้งอยูเพ่ือใหพลาสติกหลอมเหลว จากนั้นลูกสูบจะถูกดันดวยระบบไฮดรอลิกอัดพลาสติกเหลวเขาไปในแมพิมพ จนกระท้ังพลาสติกเหลวเต็มแมพิมพแลวก็ใหความเย็นกับแมพิมพเพ่ือท่ีช้ินงานจะแข็งตัว โดยการใชน้ําเย็นไหลผานแมพิมพ จากนั้นเปดแมพิมพออกแทงดันก็จะดันช้ินงานออกมา วงจรการทํางานก็จะเหมือนกันตอเนื่องไป จนไดจํานวนช้ินงานท่ีตองการ

พลาสติกในแมพิมพ สารใหความรอน

แมพิมพลาง

จังหวะแมพิมพปด

จังหวะเลื่อนกดงาน

แทงอัด

225

Page 6: งานพลาสติก

รูปท่ี 13.5 งานอัดฉีดพลาสติกเปล่ียนรูป

4) งานอัดฉีดพลาสติกคงรูป (Injection molding of thermosetting) กรรมวิธีแบบนี้จะใชกับพลาสติกคงรูปหรือพลาสติกแข็ง ซ่ึงจะใชแรงอัดมากกวาพลาสติกแบบเปล่ียนรูปหรือพลาสติกออน ขั้นตอนการผลิตคือนําพลาสติกใสลงถังรับพลาสติกและตกลงสูกระบอกฉีด โดยรอบกระบอกฉีดจะมีชุดใหความรอนติดตั้งอยูจนพลาสติกหลอมเหลว จากนั้นเกลียวท่ีใชอัดพลาสติกเหลวเริ่มหมุนและอัดพลาสติกเหลวเขาแมพิมพจนเต็ม ปลอยใหช้ินงานเย็นโดยการใชน้ําเย็นไหลผานแมพิมพ จากนั้นเปดแมพิมพช้ินงานหลุดออกมาจากแมพิมพ ซ่ึงวงจรการทํางานของเครื่องอัดฉีดพลาสติกจะเปนแบบนี้อยางตอเนื่องไปจนไดช้ินงานตามท่ีตองการ ดังรูป 13.6

พลาสติกผสม

หัวแยก รูเขา

1. แผนภาพงานอัดฉีด

2. งานฉีดตะกรา

พลาสติกพรอมจะเปลี่ยนรูป

หัวใหความรอน

ชองหลอเย็น

งานหลอ แมพิมพ

226

ที่มา:ประเวศ, กรรมวิธีการผลิต,หนา 177

Page 7: งานพลาสติก

รูปท่ี 13.6 งานอัดฉีดพลาสติกดวยเกลียว 5) งานอัดรีด (Extruding) กรรมวิธีแบบนี้เหมาะกับพลาสติกแบบเปล่ียนรูปหรือพลาสติกออนไดดี ขั้นตอนการผลิตคือ นําเม็ดพลาสติกลงในถังของเครื่องอัดแลวไหลผานมาท่ีกระบอกฉีด ท่ีกระบอกฉีดมีชุดใหความรอนจนพลาสติกเหลว แลวกระบอกฉีดแบบเกลียวจะหมุนและอัดฉีดพลาสติกเหลวเขาในแมพิมพจนเต็มแลวปลอยใหช้ินงานเย็น โดยการพนไอน้ําหรืออากาศเย็นไปยังช้ินงาน เชน ทอ เฟอง แทงกลม สายเบรก เปนตน

รูปท่ี 13.7 งานอัดรีด

แมพิมพ

ถังปอน แกน

การเปลี่ยน

กระบอก

ถังบรรจุ

ช้ินงานสําเร็จ

3. อัดเขาสําเร็จ ในถังปอน

พลาสติกเหลว 1. หลอมเหลว

2. อัดเขาแมพิมพ

ปลอกใหความรอน งานอัดรีด

ถังบรรจุ

สกรูอัด

227

ที่มา:ประเวศ, กรรมวิธีการผลิต,หนา178

Page 8: งานพลาสติก

6) การอัดเคลือบผิว (Extrusion coating) เปนกรรมวิธีเพ่ือเคลือบพลาสติกเหลวบนผิวกระดาษ ผา หรือแผนโลหะ โดยการใชแมพิมพแบนท่ีปลายกระบอกฉีดของเครื่องอัดรีด ทําใหพลาสติกท่ีรีดออกมาแบนเคลือบบนผิวโลหะและผานลูกกล้ิงตางๆ เพ่ืออัดใหแนนและเรียบกับวัสดุงาน

รูปท่ี 13.8 การเคลือบพลาสติก 7) งานแมพิมพหมุน (Rotational molding) กรรมวิธีแบบนี้จะใชเม็ดพลาสติกเปล่ียนรูปใสลงไปในแมพิมพ ซ่ึงจะมีอยูท่ีแกนท้ัง 2 ขางของเครื่อง พรอมกับใหความรอนขณะท่ีหมุนและจะหมุนใน 2 ทิศทาง จึงทําใหพลาสติกท่ีหลอมละลายกระจายเกาะตามขอบขางในของแมพิมพ ฉะนั้นช้ินงานท่ีไดจึงกลวง เชน ช้ินงานกลวง ของเลนเด็ก เปนตน

รูปท่ี 13.9 แมพิมพหมุนสองแกน

ลอยางกด

มวนเก็บ

วัสดุเคลือบแลว

ดายปอนพลาสติก

วัสดุไมเคลือบ

ลอขับสัมผัส

ลอแตง ลอน้ําหลอเย็น

แกนท่ี 2

แกนท่ี 1

แมพิมพ

แกนท่ี 2

แกนท่ี 1

228

Page 9: งานพลาสติก

8) งานเปาขึ้นรูป (Blow molding) เปนกรรมวิธีท่ีใชในการผลิตบรรจุภัณฑท่ีมีลักษณะกลม การขึ้นรูปโดยการเปาดวยอากาศอัดท่ีทอเปา ของพลาสติกภายในแมพิมพกลวงสองฝาประกบ จึงทําใหสายทอพอกโตเต็มชองวางในโพรงแมพิมพ จะไดผลิตภัณฑเสร็จสมบูรณ

รูปท่ี 13.10 การเปาขึ้นรูปขวด

วิธีนี้จะใชกับพลาสติกประเภทเปล่ียนรูปหรือพลาสติกออน เชน ขวดพลาสติก กระปอง ทอความรอนในรถยนต ถังบรรจุสารละลาย เปนตน 9) การขึน้รูปแผนฟลมและแผนพลาสติกบาง (Film and sheet forming) กรรมวิธีการขึน้รูปแผนฟลมและแผนพลาสติกบางสามารถทําการผลิตไดหลายวิธี เชน การอัดรีด (extruding) การรีด (calendering) การเปา (blowing) การหลอ (casting) การท่ีจะเลือกใชวิธีแบบไหนผลิตช้ินงานนั้น ก็ขึ้นอยูกับชนิดของพลาสติกเปล่ียนรูป - การอัดรีด (Extruding) เปนวิธีการผลิตพลาสติกแผนจากโพลีสไทลีน โพลีเอไทลีน หรือ โพลีโพรไพลีน ขั้นตอนการทําคือ นําพลาสติกท่ีเตรียมไวปอนลงถังจากนั้นใหความรอนประมาณ 315 C ํ จนพลาสติกหลอมละลาย จากนั้นก็อัดเขาแมพิมพดวยสกรูใชแรงดันประมาณ 2,000-4,000 ปอนดตอตารางนิ้ว ความหนาของแผนพลาสติกถูกควบคุมดวยแทงปรับ เม่ืออัดรีดออกมาแลวจะตองผานน้ําหรือน้ํามันหลอเย็นผานลูกกล้ิงโครเมียม เพ่ือใหช้ินงานมีผิวเรียบมัน

รูปท่ี 13.11 การอัดรีดขึ้นรูปพลาสติกแผนดวยแมพิมพ

แทงปรับ

เกลียว

ตัด

ลูกกลิ้งประคอง

ปอนพลาสติก ปลายแมพิมพ

ชุดขับ

ลูกกลิ้งผิวมัน

229

ที่มา:ธนรัตน,มณฑล,กรรมวิธีการผลิต,หนา114

Page 10: งานพลาสติก

- การรีด ( Calendering) เปนวิธีการขึ้นรูปพลาสติกแผนบาง ในระหวางลอรีดวัตถุดิบ ท่ีตองใชเปนพลาสติกเปล่ียนรูปหรือพลาสติกออน ใหความรอนกอนนําปอนเขาเครื่อง ความหนาของแผนพลาสติกถูกควบคมุดวยแรงบีบระหวางลูกรีดและความเร็วท่ีใช

รูปท่ี 13.12 การรีดขึ้นรูปพลาสติกแผนดวยลูกกล้ิง

- การเปา (Blowing) เปนวิธีการผลิตฟลม ขั้นตอนแรกพลาสติกจะถูกดึงขึ้นรูปเปนหลอดในแนวตั้งผาน Die Ring แลวใชลมเปาเขาไปภายในหลอดเพ่ือใหหลอดขยายตัวมีขนาดใหญขึ้น หลอดท่ีถูกเปาจะถูกทําใหเย็นตัวลงในแนวตั้ง และทําใหเปนแผนแบนดวยลูกรีดขับ กรรมวิธีนี ้ จะใชสําหรับผลิตฟลมบางๆ ซ่ึงใชกับอุตสาหกรรมหอบรรจุเทานั้น

รูปท่ี13.13 แผนภาพแสดงการเปาพลาสติกแผน

พลาสติกผสม

นําไปดึง/ทําใหผิวละเอียด/ ทําใหเย็น/และมวนเก็บ

230

เม็ดพลาสติก

เม็ดพลาสติก หัวดายรูปวงแหวน

เครื่องอัดรีด หัวดายรูปวงแหวน

เครื่องอัดรีด

ฟลม

ฟลม

http://www.uniqueplastic.com/tprocess.html

Page 11: งานพลาสติก

- การหลอ (Casting) เปนวิธีขึ้นรูปพลาสติกแผน โดยการละลายพลาสติกใหอยูในรูปของเหลวแลวนําไปเทลงบนสายพานท่ีเคล่ือนท่ีอยางตอเนื่อง

รูปท่ี13.14 แผนภาพแสดงการหลอพลาสติกแผน

10) การขึ้นรูปดวยความรอน (Thermoforming) เปนกรรมวิธีการขึ้นรูปแผนพลาสติกเปล่ียนรูปหรือพลาสติกออน โดยการใหความรอนกับแผนพลาสติกแลวอัดขึ้นรูปในแมพิมพอาจจะใชวิธีดูดอากาศออกใหเปนสุญญากาศ หรือใชแรงอัดจากอากาศ แมพิมพอาจจะทําดวยพลาสติก โลหะ ไม หรือพลาสเตอรก็ได เชน ไฟทายรถยนต ช้ินสวนทีว ี โครงตูพลาสติกภายในตูเย็น กระเปาเดินทาง เปนตน

รูปท่ี 13.15 การขึ้นรูปดวยความรอน

งาน

แมพิมพตัวผู แคลมปยึด

แหวนจับยึด

สุญญากาศ ที่ที่ขึ้นรูปแลว

แรงอัดอากาศ

1. การข้ึนรูปอยางอิสระโดยใชสุญญากาศ

แมพิมพตัวเมีย

2. การข้ึนรูปตามแมพิมพดวยสุญญากาศ

3. การข้ึนรูปดวยแรงอัดอากาศ

231

ที่มา:ประเวศ, กรรมวิธีการผลิต,หนา182

Page 12: งานพลาสติก

11) งานพลาสติกเสริมกําลัง (Reinforced plastic) กรรมวิธีแบบนี้เปนการเสริมใหพลาสติก มีความทนทาน แข็งแรงมากขึ้น มีขั้นตอนการทําดงันี้ นําพลาสติกสวนมากจะใชพลาสติกคงรูป หรือพลาสติกแข็งมาขึ้นรูปดวยวิธีการตาง ๆพรอมกับใยแกว หรือใยสังเคราะห ผาฝาย เอสเมสตอส เม่ือขึ้นรูปเสร็จแลวพลาสติกประเภทนี้จะมีความเคนความแข็งแรงสูง และมีวิธีการทําหลายวิธี เชน (1) วิธีฉดี (Spray guns) กรรมวิธีแบบนี้มีขั้นตอนการทําดังนี้ นําใยแกวมาตัดเปนช้ินเล็กๆ แลวใชหัวฉีดพนผานไปยังแมพิมพในเวลาเดียวกันใชหัวฉดีพลาสติกพนเรซินทับลงไปเปนช้ันๆ แลวแตความหนาท่ีตองการ เชน เรือ ถังขนาดใหญ เปนตน

รูปท่ี 13.16 วิธีฉีดพลาสติกเสริมใยแกว (2) วิธีแมพิมพเปด (Open-mold process) กรรมวิธีแบบนี้มีขั้นตอนการทําดังนี้ นําเรซิน หรือพลาสติกเหลวทาลงบนแมพิมพสลับดวยใยแกวเปนช้ันๆ จนไดความหนาท่ีตองการ ซ่ึงในขณะท่ีทาเรซินอาจจะใชแรงอัดอากาศหรือแรงจากสุญญากาศชวยเพ่ือใหเรซินติดแมพิมพไดดียิ่งขึ้นก็ได เชน ช้ินสวนรถยนต เครื่องบิน เรือ ถังขนาดใหญ

รูปท่ี 13.17 การผลิตเสริมกําลังแบบแมพิมพเปด

เรชิน ใยแกว เรชิน

งาน

ปม

บรรยากาศ

ปมแรงอัด

ถุงสุญญากาศ

1. แมพิมพที่ใชถุงสุญญากาศ ถังอัดอากาศ

แรงอัดช้ัน

2. แมพิมพใชถุงอัดอากาศ

สุญญากาศ

232

ที่มา:ประเวศ, กรรมวิธีการผลิต,หนา183

Page 13: งานพลาสติก

(3) วิธีมวนขึ้นรูป (Filament winding) กรรมวิธีแบบนี้มีขั้นตอนการทําดังนี ้ โดยการนําเสนใยแกว เสนใยผาฝาย เสนใยเอสเมสตอส หมุนผานลงไปในถังเรซิน หรือ พลาสติกเหลว แลวมวนบนแมแบบท่ีเปนแทงไม หรือแทงเหล็กก็ไดจะไดช้ินงานท่ีเปน ทอ กลอง กระบอกอาวุธ ท่ีมีคุณสมบัติแข็งแรงมาก

รูปท่ี 13.18 การมวนขึ้นรูปพลาสติกเสริมกําลัง

12) วิธีเคลือบพลาสติกบนวัสดุ (Laminated plastic) กรรมวิธีแบบนี้มีขั้นตอนทําดังนี้ นําวัสดุท่ีตองการเคลือบผิว เชน ผา กระดาษ ไม เอสเสตอส ผานไปยังถังเรซินหรือพลาสติกเหลว ซ่ึงพลาสติกท่ีนิยมใชเชน ซิลิโคน ฟโนลิก เมลามีน และอีพ็อกซ่ี แลวจุมหรือหมุนผานลูกกล้ิง เพ่ือรีดหรืออัดใหไดความหนาท่ีตองการแลวนําเขาไปในเตาอบอีกครั้ง

รูปท่ี 13.19 ขั้นตอนการเคลือบพลาสติก

ถังเรชิน

ใยแกว

งาน

เตาแหง ตัด ลูกกลิ้งบีบ

ถังเรชิน

วัสดุท่ีตองการเคลือบ นําไปกดอัด

ที่มา:ประเวศ, กรรมวิธีการผลิต,หนา184

233

Page 14: งานพลาสติก

แบบทดสอบกอนเรียน-หลังเรียน ประจําหนวยที่ 13 เร่ือง งานพลาสติก

ตอนที่ 1 จงทําเคร่ืองหมาย √ ลงในคําตอบที่ถูกที่สุดเพียงคําตอบเดียว 1. ขอใดไมใชแหลงกําเนิดของพลาสติก ก. สินแร ข. ยาง ค. กาซธรรมชาต ิ ง. ถานหิน 2. ขอใดไมใชยางสังเคราะห ก. ยางซิลิโคน ข. ยางพารา ค. ยางจีอารเอส ง. ยางไทลโคล 3. ยางสังเคราะหในขอใดท่ีนิยมใชทํายางรถยนต ก. ยางซิลิโคน ข. ยางไทลโคล ค. ยางบูทีล ง. ยางจีอารเอส 4. อุปกรณท่ีใชในการผลิตงานพลาสติกท่ีสําคัญคือ ก. แมพิมพ ข. พ้ันช (Punch) ค. ดาย (Die) ง. หัวฉีด 5. วิธีการผลิตงานพลาสติกอะไรคือความสําคญัลําดับแรก ๆ ก. น้ําหลอเย็น ข. ความรอน ค. แรงกดอัด ง. สารประกอบ 6. กรรมวิธีการผลิตพลาสติกแบบงานอัดสงมีขอเสียอะไร ก. ส้ินเปลืองพลาสติก ข. ตนทุนสูง ค. ใชเวลาในการผลิตนาน ง. ใชความรอนสูง 7. ช้ินสวนตูเย็น ช้ินสวนทีวี ช้ินสวนเครื่องซักผา ผลิตมาจากกรรมวิธี ขอใด ก. งานอัด ข. งานอัดสง ค. งานอัดฉีดพลาสติกเปล่ียนรูป ง. งานอัดฉีดพลาสติกคงรูป 8. กรรมวิธีการเคลือบพลาสติกบนช้ินงานจะตองผานเครื่องมือในขอใด ก. ลูกกล้ิงรีด ข. แปรงทา ค. แมพิมพ ง. พน

235

Page 15: งานพลาสติก

9. กรรมวิธีการผลิตพลาสติกวิธีไหนท่ีแมพิมพสามารถใชวัสดุทําไดหลายอยาง เชน พลาสติก โลหะ ไม หรือ พลาสเตอร ก. งานอัดฉีดพลาสติกคงรูป ข. งานอัดฉีดพลาสติกเปล่ียนรูป ค. งานแมพิมพหมุน ง. การขึ้นรูปดวยความรอน 10. งานพลาสติกเสริมกําลังใหประโยชนอยางไรกับช้ินงาน ก. มีความทนตอการกัดกรอน ข. มีความทนทาน แข็งแรง ค. มีการแตกหักไดยาก ง. มีการยืดหยุนมากขึ้น ตอนที่ 2 จงตอบคําถามตอไปนี้โดยการอธิบายส้ันๆพอเขาใจ 1. จงอธิบายถึงความสําคัญของพลาสติกกับชีวิตประจําวัน .............................................................. ............................................................................................................................................................ 2. พลาสติกหมายถึงอะไร .................................................................................................................. 3. พลาสติกแบงออกได 2 ประเภท คือ ............................................................................................... 4. พลาสติกประเภทใดเม่ือเปนช้ินงานแลวไมสามารถนํากลับมาหลอมทําใหมได ........................... ............................................................................................................................................................ 5. พลาสติกประเภทใดเม่ือเปนช้ินงานแลวสามารถนํากลับมาหลอมทําใหมไดไมมีท่ีส้ินสุด............ ............................................................................................................................................................ 6. ผลิตภัณฑของเด็กเลน หรือช้ินงานกลวง จะใชกรรมวิธีใดทํา ........................................................ 7. ขวดพลาสติก กระปอง ถังบรรจุสารละลาย จะใชกรรมวิธีใดทํา .................................................... 8. กรรมวิธีการขึ้นรูปแผนฟลมและแผนพลาสติกบาง สามารถทําการผลิตไดหลายวิธีจงบอกมา 2 วิธี………………………………………………………………………………………………….. 9. กระบอกอาวุธ ทอ กลอง ซ่ึงมีคุณสมบัติแข็งแรง จะใชกรรมวิธีใดทํา ............................................ 10. วิธีเคลือบพลาสติกบนวัสดุ เชน ผา กระดาษ ไม พลาสติก ท่ีนิยมใชคือ ....................................... .............................................................................................................................................................

236