หนังสือไขปริศนาปัญหาฝาแฝดเล่มนี้จัดทำาขึ้นมาเพื่อให้

ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของฝาแฝด เริ่มจากปัจจัยต่างๆใน

การให้กำาเนิดลูกแฝด คำานิยาม หรือแม้กระทั่งปัจจัยภายในสังคม

สภาพแวดล้อมการเลี้ยงดูเด็กแฝด ที่มีการเลี้ยงดูที่แตกต่างจากคน

ธรรมดาอย่างไร

เนื้อหาในหนังสือจะประกอบไปด้วยการยกตัวอย่างของ

ฝาแฝดที่มีอยู่จริงบนโลกเช่นแฝดอินจันของไทยอีกทั้งเนื้อหาส่วน

มากในหนังสือนั้นล้วนมากจากประสบการณ์จริงของผู้เขียนเองที่

พร้อมจะมาบอกเล่าเรื่องราว และไขข้อสงสัยในใจของผู้อ่านทุกคน

ที่ว่าฝาแฝดคิดเหมือนกันทุกอย่างจริงรึเปล่าทำาไมแฝดถึงตัวติดกัน

แล้วฝาแฝดที่ถูกเลี้ยงดูมาให้ทำาทุกอย่างพร้อมเพรียงกันนั้น เป็น

ปัญหาแก่สังคมอย่างมาร่วมหาคำาตอบได้จากหนังสือเล่มนี้

ภาวลีเศรษฐานุพนธ์

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

ภาควิชามีเดีนอาตส์

ฝาแฝด,แฝด 2

-ประเภทของฝาแฝด,แฝด 5

-ปัจจัยที่ทำาให้เกิดฝาแฝด,แฝด 15

-รู้ได้อย่างไร..เมื่อตั้งครรภ์ฝาแฝด,แฝด19

-ความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ฝาแฝด,แฝด 21

-ความหมายของฝาแฝด,แฝด 23

แนะนำาประวัติผู้เขียน 27

11

2

คำานิยามฝาแฝดแฝด

คือ

ตามธรรมชาติแล้วมนุษย์จะสามารถให้

กำาเนิดเด็กได้เพียงครั้งละคนเท่านั้น แต่เด็ก

ที่เกิดมาจากครรภ์มารดาเดียวกันและเกิด

ในเวลาใกล้เคียงกันเราเรียกเด็กประเภทนี้

ว่า “เด็กแฝด”หรือ “เด็กฝาแฝด” โดยที่เด็ก

แฝดหรือเด็กฝาแฝดมีลักษณะ2แบบ

2

33

44

4 5

ฝาแฝดเพศเดียวกัน

ฝาแฝดเพศเดียวกันหรือแฝดแท้(Identicaltwins)

เป็นครรภ์ฝาแฝดที่เกิดจากการปฎิสนธิจากไข่ใบเดียวกับ

อสุจิ 2 ตัว เซลล์จะแบ่่่งออกเป็น 2 เซลล์ กลายเป็นเด็ก 2

คนโดยส่วนมากฝาแฝดแบบนี้จะมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกัน

เพศเดียวกันและมีลักษณะทางพันธุกรรมต่างๆที่เหมือน

กัน แต่ทว่าการแบ่งตัวของไข่อาจจะเกิดในระยะเวลาท่ีแตก

ต่างกันออกไป นั่นเป็นเพราะเราไม่สามารถจะรับรู้ได้เลยว่า

เด็กจะเกิดการแบ่งตัวกันตอนไหนเวลาใด ยกตัวอย่างของ

ฝาแฝดชื่อก้องโลกคู่นึงนามว่าแฝดอิน-จันอินกับจันเป็น

ฝาแฝดที่ลักษณะของร่างกายที่ติดกัน โดยส่วนหน้าอกติด

กันใช้สะดือเดียวกันเพราะเกิดการแบ่งตัวภายหลังในขณะ

ที่ตัวเด็กถูกสร้าง จึงมีสภาพร่างกายที่ติดกัน ความจริงแล้ว

แฝดอินจันจะต้องเกิดมาเป็นคนๆเดียวกันโดยส่วนมากเด็ก

ที่เกิดมาในช่วงเวลานี้ จะมีลักษณะเช่น หัวติดกัน ท้องติด

กันเป็นต้น

6

7

8

SiameseTwinsแฝดสยาม

9

10

อิน-จัน

คงไม่มีใครในที่นี้ที่ไม่รู้ฝาแฝดชื่อก้องโลกนามว่า

อินจันตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้วนั้นว่าแฝดอินจันเกิด

จากการไม่แบ่งตัวของเซลล์ จึงทำาให้ร่างกายของอินกับ

จันนั้นติดกัน อินกับจัน เป็นเด็กฝาแฝดติดกันคู่แรกของ

โลกที่มีอายุยืนยาวที่สุดถึง 62 ปี และพวกเขายังได้รับ

การบันทึกลงในกินเนสส์บุ๊กอีกด้วย แต่ก่อนฝรั่งไม่เคย

พบเห็นเด็กฝาแฝดที่มีร่างกายติดกันแต่พอมาพบเด็ก

แฝดชาวไทยชื่ออินกับจันจึงได้ตั้งชื่อเรียกให้ว่า

Siamese Twin หรือ แฝดสยามหรือแฝดไทยที่คนเรา

รู้จักกันนั่นเอง

10

ทั่ วโลกมองแฝดอินกับจันเสมือนเป็นบุคคลที่แปลก

ประหลาดเพราะแฝดสยามที่มีหน้าอกติดกันโดยส่วนใหญ่

มักจะเสียชีวิตหรือมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานนัก ผู้คนจึงให้ความ

สนใจกันเป็นอย่างมาก นอกจากเรื่องที่สามารถรอดชีวิต

มาได้แล้วนั้นก็ยังสามารถทำากิจกรรมต่างๆมากมายเยี่ยง

คนสามัญชนธรรมดาได้อีกด้วย พวกเขาสามารถมีภรรยา

ได้แบบคนปกติและไปไหนมาไหนด้วยกันทั้งสองคน แม้

กระทั่งคนใดคนหนึ่งจะหลับนอนกับภรรยาก็จะมีอีกคนหนึ่ง

ติดไปด้วยเสมอ โดยที่ทั้งสองต่างมีความรู้สึกนึกคิดเป็น

คนละคนและมีอุปนิสัยที่แตกต่างกัน โดยแฝดคนน้องนาม

ว่า จัน เป็นคนที่มีอารมณ์ร้อน หุนหัน พลันแล่น และชอบ

การดื่มสุราจนเมามาย ในขณะที่แฝดพี่ นามว่า อิน กลับมี

นิสัยที่ตรงกันข้ามคือใจเย็นสุขุมรอบคอบและไม่ชอบการ

ดื่มสุรา

11

อิน จัน

12

13

ฝาแฝดคนละเพศ

ฝาแฝดคนละเพศหรือแฝดเทียม ฝาแฝดต่างไข่

หรือฝาแฝดคนละฝาจะมีหน้าตาไม่เหมือนกัน ซึ่งอาจจะ

เป็นคนละเพศหรือเพศเดียวกันก็ได้ ฝาแฝดลักษณะนี้จะ

เกิดจากที่แม่มีไข่ตกมากกว่า 1 ใบ และไข่มีความสมบูรณ์

มากกว่า 1 ใบ ตัวอสุจิจึงเข้าไปปฏิสนธิตามจำานวนไข่ที่

สมบูรณ์ได้ซึ่งจะเกิดขึ้นประมาณ2ใน3ของการตั้งครรภ์

ฝาแฝด ฝาแฝดชนิดนี้จึงมีความคล้ายพี่น้องมากกว่าความ

เหมือนของฝาแฝด เพราะไข่คนละใบ อสุจิคนละตัว เช่น

หญิงตูนีเซีย ที่คลอดเด็กฝาแฝด 12 คน นับว่าหาได้ยาก

มากที่จะมีเด็กคลอดออกมาถึง 12 คน และอยู่รอดจนเป็น

เด็กทารก โดยฝาแฝดชนิดนี้เป็น ฝาแฝดที่แยกกันตั้งแต่

ตอนเป็นไข่แล้ว ซึ่งอาจเป็นคนละเพศหรือเพศเดียวกันก็ได้

จึงไม่ทำาให้มีความเสี่ยงเหมือนแบบแรก และมีหลายปัจจัย

เป็นเหตุทำาให้เกิดฝาแฝดต่างไข่

14

15

ปัจจัยในการเกิดฝาแฝด

เนื่องจากคนเรามีลูกได้ทีละ1คนเท่านั้นแต่การ

เกิดฝาแฝดเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ไม่ได้เกิดขึ้น

บ่อยนัก การเกิดฝาแฝดเพศเดียวกันหรือฝาแฝดแท้ จะมี

อุบัติการณ์เท่ากันทุกเชื้อชาติคือ1คู่ /250คนไม่เหมือน

กับการเกิดฝาแฝดคนละเพศที่มีหลายปัจจัยคือ

1

กรรมพันธุ์ถ้าเครือญาติของแม่ที่มีฝาแฝด

จะมีโอกาสได้ลูกฝาแฝดมากกว่าเครือญาติของพ่อที่มีลูก

ฝาแฝด อย่างเช่น เคยมีคุณหมอทำาคลอดคุณแม่รายหนึ่ง

ตัวคุณแม่เป็นแฝด ลูกเขาก็แฝด และยายของหลานแฝดก็

เป็นแฝดซึ่งมันเป็นเรื่องของกรรมพันธุ์

2

เชื้อชาต ิเช่นในฝรั่งผิวขาวชาวยุโรปจะเกิด

ฝาแฝด1คู่ต่อหญิงตั้งครรภ์100คนส่วนหญิงนิโกรจะเกิด

1คู่ต่อหญิงตั้งครรภ์80คน

16

3

อายุและจำานวนครั้ง เรื่องอายุของผู้หญิง

และจำานวนครั้งก็มีส่วนสำาคัญอย่างมาก โดยส่วนใหญ่ผู้

หญิงที่มีิอายุและมีจำานวนครั้งการตั้งครรภ์มาก จะมีโอกาส

เกิดการตกไข่ได้มากกว่าผู้หญิงที่ยังอายุน้อย การเกิด

ฝาแฝดต่างไข่เลยมีโอกาสมากขึ้น

4

น้ำาหนักหญิงที่มีน้ำาหนักตัวมากและมีความ

สมบูรณ์กว่าจะมีโอกาสตั้งครรภ์แฝดมากกว่าหญิงที่มีรูป

ร่างผอมบาง เพราะความสมบูรณ์ของร่างกายในการตั้ง

ครรภ์เป็นเรื่องที่สำาคัญมาก

5

สารกระตุ้น การได้รับสารหรือยากระตุ้นให้

ตกไข่มากกว่า 1 ใบ ซึ่งอยู่ในกลุ่มยาฮอร์โมน เช่น ยาคุม

กำาเนิดการกินยาคุมกำาเนิดเป็นเวลานานประมาณ3ปีขึ้น

ไป เพราะยาคุมจะมีฤทธิ์ไปกดต่อมฮอร์โมนใต้สมองไม่ให้

ไข่ตก แต่ถ้าเราเกิดอยากมีลูกและหยุดคุมขึ้นมาฮอร์โมนที่

ถูกกดไว้มันจะเป็นอิสระทำาให้ตกไข่ทีละหลายๆใบจึงเกิด

โอกาสเป็นเด็กแฝดได้มากกว่าคนปกติ

17

6

การทำาเด็กหลอดแก้วเป็นการปฏิสนธินอก

ร่างกายหรือที่เรียกกันทั่วไปว่า“เด็กหลอดแก้ว”เป็นการนำา

ไข่และเชื้ออสุจิมาผสมรวมกันในหลอดแก้วทดลองให้มีการ

ปฏิสนธิกันในห้องปฏิบัติการซึ่งจำาลองสภาพแวดล้อมและ

อุณหภูมิ ที่คล้ายร่างกายมนุษย์ ภายหลังจากการเกิดการ

ปฏิสนธิแล้วไข่ที่ถูกผสมจะเจริญเติบโตและแบ่งตัวเป็นตัว

อ่อน เมื่อตัวอ่อนเจริญเติบโตได้ 3-5วันจากนั้นจะทำาการ

ย้ายตัวอ่อนใส่กลับเข้าไปในโพรงมดลูกของผู้หญิงซึ่งเรา

สามารถกำาหนดได้ว่า ต้องการให้เด็กเป็นเพศไหน หรือเด็ก

อาจจะเกิดเป็นฝาแฝดก็เป็นได้ แต่ในเมื่อไม่ได้ปฏิสนธิเอง

ตามธรรมชาติจึงทำาให้มีความเสี่ยงต่ออัตราความสำาเร็จที่มี

มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วย

เมื่อรู้ถึงปัจจัยหลายๆอย่างที่ทำาให้เกิดฝาแฝดคนละ

เพศหรือฝาแฝดเทียมแล้วทำาอย่างไรเราถึงจะรู้ได้ว่า เราตั้ง

ครรภ์ลูกฝาแฝดหรือไม่.......

18

19

เมื่อตั้งครรภ์ฝาแฝดอาการของครรภ์ฝาแฝด

จะแตกต่างจากการตั้งครรภ์ปกติ เพราะจะมีอาการแพ้ท้อง

อย่างมาก มีความรู้สึกว่ากินเท่าไรก็ยังรู้สึกไม่เพียงพอ สัก

พักนึงจะเริ่มรู้สึกว่าท้องจะมีขนาดใหญ่กว่าปกติ เช่นท้อง 3

เดือนกลับเท่าท้อง5 เดือนลูกจะมีอาการของการดิ้นซ้าย

ทีขวาทีอยู่ตลอดเวลาซึ่งเป็นตัวบ่งชี้แต่ส่วนมากการอัลตรา

ซาวนด์จะให้ผลที่แม่นยำาที่สุด แต่แค่อายุครรภ์ประมาณ 6

สัปดาห์ ก็จะเห็นอย่างเด่นชัดแล้วว่ามีเด็ก 2คนแต่การตั้ง

ครรภ์เด็กแฝดจะทำาให้่มีความเสี่ยงกว่าครรภ์ธรรมดาทั่วไป

อย่างเช่น

ขอยกตัวอย่างในกรณีของแม่ของผู้เขียนเอง

ที่ได้ตั้งครรภ์ลูกแฝด แต่ไม่ทราบว่ามีครรภ์ฝาแฝดเพราะใน

สมัยก่อนนั้นยังไม่สามารถที่จะตรวจชัดเจนได้ว่า เป็นเด็ก

แฝดหรือไม่ คงเป็นเพราะท่านไม่ทราบมาก่อนว่าตั้งครรภ์

ลูกแฝดท่านจึงไม่มีอาการแพ้ท้องมาก ความรู้สึกเหมือน

ท้องธรรมดาท้องเล็กเหมือนคนท้องปกติ ท่านมารู้เอาก็ตอน

ที่นอนอยู่บนเตียงเพื่อทำาคลอดซะแล้ว ในกรณีแบบนี้ ถ้า

หากไม่ได้ดูแลครรภ์อย่างดีอาจจะเสี่ยงต่อเด็กในท้องได้

แล้วความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ฝาแฝดเป็นอย่างไร...........

20

21

1

มีโอกาสแท้งและคลอดก่อนกำาหนดสูงกว่า

ครรภ์ปกติ เนื่องจากมีระยะการตั้งครรภ์ไม่ถึง 38 สัปดาห์

และเด็กจะมีโอกาสที่จะตายในครรภ์หรือระหว่างคลอดสูง

2

เด็กอาจมีน้ำาหนักน้อยกว่า2,500กรัม

3

มีความผิดปกติแต่กำาเนิดสูงกว่าครรภ์ปกติ

เพราะถ้าเป็นแฝดแท้จะเกิดจากการปฏิสนธิภายในไข่1ใบ

ทำาให้มีโอกาสที่จะเกิดการแบ่งตัวที่ผิดพลาด

4

หญิงตั้งครรภ์เกิดอาการแทรกซ้อนขณะตั้ง

ครรภ์ เช่น ครรภ์เป็นพิษ โลหิตจาง รกเกาะต่่ำา รกลอกตัว

ก่อนกำาหนด เด็กอยู่ในท่าที่ผิดปกติ โพรงมดลูกใหญ่มากๆ

เป็นต้น และอาจจะเกิดอาการแทรกซ้อนขณะคลอดได้อีก

ด้วย เช่น มดลูกบีบตัวไม่ดี สายสะดือย้อย ซึ่งในบางราย

อาจจะเกิดอาการแทรกซ้อนหลังคลอด เช่น ตกเลือด และ

การติดเชื้อฯ

22

23

ในภาษาไทยก็มีบทความที่แบ่งแยกคำาว่า “ฝาแฝด” และ

“แฝด” ออกจากกันโดย ศาสตาจารย์ ดร. หม่อมหลวง ตุ้ย

ชุมสายจากหนังสือจิตวิทยาพาเพลินให้คำาอธิบายคำาว่า

“ฝาแฝด”และ“แฝด”ไว้ว่า

24

“ฝาแฝด”

มาจากคำาว่า “ฝา” และ “แฝด” โดย

มาจากภาชนะที่เราใช้ในชีวิตประจำาวัน เช่น ฝาหม้อคู่กับ

หม้อ ฝาปิดโอ่งคู่กับโอ่ง คนโบราณจึงนำาคำาว่า “ฝา” ไว้นำา

หน้าคำาว่า “แฝด” จึงเกิดเป็นคำาว่า “ฝาแฝด” ซึ่งหมายถึง

เด็กที่เกิดจากครรภ์มารดาเดียวกัน ในเวลาไล่เลี่ยกันเป็น

ของคู่กันที่มาด้วยกันแต่สามารถแยกออกจากกันได้

“แฝด”

มาจากคำาที่ชาวบ้านใช้เรียกผลไม้

ที่ติดกัน เช่น ชมพู่แฝดมะปรางแฝดกล้วยแฝดที่มี 2ผล

ติดกันแยกออกจากกันไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราจึงเรียกเด็กที่

เกิดมามีอวัยวะติดกัน เช่น แฝดอินกับจันดังที่ยกกล่าวไว้

ข้างต้นว่า“เด็กแฝด”ซึ่งหมายถึงเด็กที่เกิดจากครรภ์มารดา

เดียวกันในเวลาไล่เลี่ยกันแต่มีร่างกายติดกัน

25

26

มะยงชิดแฝด

27

แนะนำ�ประวัติผู้เขียน 28

รูปร่างลักษณะเหมือนกันแววตาที่คล้ายคลึงกันความสูงที่ไล่เลี่ยกัน

29

แต่คนหนึ่งกลับขี้อายอีกคนกลับกล้าหาญ

30

สาเหตุของความแตกต่างนี้คืออะไรเมื่อทั้งสองมาจากสิ่งแวดล้อม

31

การเลี้ยงดูและพันธุกรรมที่คล้ายคลึงกันอะไรเป็นตัวชี้กำาหนด

32

33

ในวันที่ตาของเราเปิดสู้โลกกว้าง เสียงของ

เด็กน้อยได้ดังลั่นไปทั่วห้องนั้น แต่ในขณะเดียวกันกับมี

เสียงสอดแทรกขึ้นมาอีกเสียงหนึ่ง นั่นทำาให้แม่ของผู้เขียน

รู้สึกตกใจมาก ว่าเกิดอะไรขึ้นทำาไม ถึงมีเสียงเด็กดังขึ้นมา

ด้วยกันถึง2คนและในวันนั้นเองที่แม่ของผู้เขียนได้รับรู้ว่า

ท่านได้ ให้กำาเนิดลูกที่เรียกว่า ฝาแฝด เด็กที่เนื้อตัวเปื้อน

เลือดทั้ง2คนถูกวางขนาบข้างเตียงนอนของแม่ที่เปียกไป

ด้วยเหงื่อ ในขณะที่พยาบาลกำาลังมุงดูเด็กแฝดคู่นั้น คุณ

พ่อจึงเดินไปถามว่า

“ นี่ลูกของใคร ลูกของผมรึเปล่� “

พยาบาลได้หันกลับมาตอบว่า “ ค่ะ ลูกของคุณเอง คุณได้

ลูก ฝ�แฝด ค่ะ ”

34

35

ฝาแฝดขาว-ดำา

เป็นสิ่งที่เราทั้งสองถูกเรียก

มาตั้งแต่เกิดคุณแม่ของผู้เขียนได้เล่าถึงที่มาของชื่อนี้ให้ฟัง

ว่าคุณหมอที่ทำาคลอดกับพยาบาลเป็นคนตั้งชื่อนี้ให้

ตอนแรกคุณแม่เองก็สงสัย แต่พอเห็นเราสองคนเท่านั้น

ท่านจึงเข้าใจเลยว่าทำาไม หมอจึงบอกว่าเราคือ แฝดขาว

ดำา เพราะด้วยความอ่อนแอของสภาพร่างกายในตอนนั้น

ของแฝดพี่ที่สุขภาพที่ไม่แข็งแรง ตัวของฉันซีดเผือกจน

น่าเป็นห่วง คุณหมอเลยให้ฉันเข้าตู้อบอยู่หลายวันเลยที

เดียวจนถึงทุกวันนี้คำาว่าแฝดขาวดำานั้นได้กลายเป็นเสมือน

ฉายาหรือชื่อเรียกของคู่เราไปแล้ว

แต่ที่จริงแล้วชื่อของเราคือ.....

36

2737

38

ต้นตาล ทุ กค รั้ ง ที่ ไ ด้

เล่าถึงที่มาของชื่อ ต้นตาล นั้น อดทำาให้ผู้เขียนอดขำาไม่ได้

คุณแม่ได้เล่าให้ฟังว่า ในตอนแรกที่ท่านคิดว่าท่านมีลูกคน

เดียวท่านได้คิดชื่อให้ลูกไว้ว่าต้นตาลเพราะคุณแม่ท่านมี

เพื่อนคนนึงที่ชื่อต้นตาลเหมือนกันและเพื่อนเค้าคนน้ีเป็น

คนที่เก่งและฉลาดมาก คุณแม่ท่านคิดว่าอยากให้เราโตมา

แล้วเป็นเหมือนเเพื่อนของเขา แต่ทว่าความจริงแล้วคุณแม่

กลับมีลูกแฝดท่านจึงได้ตัดชื่อแบ่งให้เราสองคน

พี่ต้นและน้องตาล

เป็นชื่อเรียกทีพวกเราใช้เรียกซึ่งกัน

และกันมาตั้งแต่จำาความได้มีบางคนเคยบอกกับเราว่ามัน

ฟังดูแปลกทำาไมต้องเรียกว่าพี่กับน้องแบบนี้ แต่ในความ

รู้สึกผู้เขียนกลับมองว่า มันทำาให้ดูใกล้ชิด สนิทใจและเป็น

กันเองมากกว่า จนถึงทุกวันนี้คนรอบๆตัวเรา ไม่ว่าจะเป็น

เพื่อนหรือแม้กระทั่งคนในครอบครัวต่างก็เรียกเราสองคน

พี่น้องว่าพี่ต้นกับน้องตาลตลอดเวลา

38

39

เนื่องจากมีหน้าตาที่เหมือนกันความสูงและลักษณะ

ภายนอกที่เหมือนกันตั้งแต่แรกเกิดพ่อกับแม่ของผู้เขียน

จึงให้แต่งตัวเหมือนกันทานอาหารเหมือนกันทำาทุกๆอย่าง

เหมือนกันด้วยกันมาโดยตลอดแต่ถ้าสังเกตุจากผู้ใกล้ชิด

จะบอกว่าเราทั้งสองมีโครงสร้างรูปหน้าที่ไม่เหมือนกันซึ่ง

ทำาให้พ่อแม่ของผู้เขียนแยกความแตกต่างออกว่าใครเป็น

ใครเนื่องจากมีข้อแตกต่างเพียงเล็กน้อยจึงทำาให้บางครั้ง

พ่อกับแม่ขานเรียกผิดคนไปบ้างซึ่งก็กลายเป็นเรื่องปกติ

ไปซะแล้ว

การที่เราอยู่ด้วยกันตลอดเหมือนเป็นกระจกของกัน

และกันผู้เขียนเคยมีความรู้สึกว่าเราขาดอีกคนหนึ่งไม่ได้

ถ้าเราต้องแยกจากกันเราจะอยู่กันอย่างไรใครจะเข้าใจ

เราใครจะมีความคิดเหมือนเราใครจะอยู่กับเราเพราะ

ในบางครั้งเราไม่จำาเป็นต้องพูดอะไรมากมายอีกคนก็จะ

สามารถรู้ได้ว่าเราต้องการอะไรหรือมีความคิดอะไรเรามัก

จะมีความคิดที่เหมือนกันในเกือบทุกๆเรื่องที่จะพูดซึ่งก็

เป็นความบังเอิญหรือมีสัมผัสแห่งความผูกพันธ์เป็นพิเศษผู้

เขียนเองก็ไม่สามารถอธิบายได้

39

40

41

โดยทฤษฎีเรื่อง“ความรู้สึกร่วม”ของฝาแฝด

ร่วมไข่มากมาย ผู้เขียนจะยกกล่าวเรื่องจริงเรื่องหน่ึงซึ่งมี

ผู้บันทึกไว้ว่า “มีฝาแฝดร่วมไข่หรือฝาแฝดคล้ายคู่หนึ่ง ซึ่ง

เป็นฝาแฝดประเภทเดียวกับผู้เขียน เกิดที่มลรัฐโอไฮโอ

สหรัฐอเมริกา เขาเกิดในตระกูลยากจน จึงมีผู้อุปการะรับ

ฝาแฝดแต่ละคน ไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ฝาแฝดร่วมไข่

คู่นี้ได้แยกกันไปอยู่คนละมลรัฐโดยที่ทั้ง2คนมีชื่อหน้าว่า

จิมเหมือนกันทั้งสองคนเรียนกฏหมายทั้งสองคนชอบวาด

แบบก่อสร้าง และทั้งสองคนยังชอบที่จะทำางานไม้เหมือน

กันอีกด้วย ไม่เท่านั้น ต่อมาครอบครัวของทั้งสองได้มีบุตร

ชายเหมือนกัน โดยพ่อและแม่ของ แต่ละครอบครัวตั้งชื่อ

บุตรชายของตนว่า เจมส์ อัลเลน เหมือนกัน ต่อมาฝาแฝด

จิมก็หย่ากับภรรยาทั้งสองคนแล้วสมรสใหม่อีกภรรยาใหม่

ทั้งสองคนก็มีชื่อเดียวกัน คือ ชื่อเบตตี้ นอกจากนี้ฝาแฝด

เจมส์ยังมีสุนัขอีกคนละตัว และน่าประหลาดใจ ที่ชื่อสุนัข

ของทั้งสองยังเหมือนกันอีกคือ โทนี่ และฝาแฝดเจมส์ทั้ง

สองต่างก็ชอบไปนอนตากอากาศที่หาดเมืองเซ็นท์ปีเตอร์ส

เบิร์ก มลรัฐฟลอริดาเหมือนๆกัน ซึ่งฝาแฝดเจมส์อาศัยอยู่

ไกลกันมากคือคนละมลรัฐและไม่รู้เห็นการใช้ชีวิตของ

42

43

ย้อนกลับมาที่เรื่องของผู้เขียน..

เมื่อโตขึ้นพร้อมที่จะเข้าโรงเรียน

โดยโรงเรียนส่วนใหญ่มักจะแยก ฝาแฝดออกจากกัน เนื่อง

มาจากไม่อยากให้ฝาแฝดอยู่ติดกันมากเกินไป จนไม่

สามารถเข้าสังคมกับผู้อื่นได้ ซึ่งอาจจะทำาให้เกิดปัญหา

การเข้าสังคมของฝาแฝดได้ โดยมีบทความด้านการแพทย์

เกี่ยวกับฝาแฝดของผศ.นพ.ชาญวิทย์พรนภดลกล่าวว่า

“ ว่าการดูแลด้านจิตใจของเด็กฝาแฝด มีความ

สำาคัญมากไม่แพ้การดูแลตนเองของแม่ในยาม

ตั้งครรภ์เลย ผมขอเริ่มจากจุดสังเกตที่คุณพ่อ

คุณแม่และคนส่วนใหญ่ที่ชอบ ปฏิบัติกับเด็กแฝด

คือ แต่งตัวเหมือนกัน ตั้งชื่อคล้องกัน เล่นด้วยกัน

ไปไหนไปด้วยกัน ฯลฯ ความเหมือนที่ใครๆ ชอบ

นั้น อาจทำาให้เด็กๆ เกิดปัญหาได้เหมือนกัน

เรามาเริ่มดูปัญหาของเด็กแฝดที่ใครๆ ไม่ค่อย

คิดถึงกันก่อน“

43

44

45

46

1

ด้านจิตใจ ปัญหาเด็กติดกันในด้านจิตใจนั้น

หากแฝดอยู่ติดกันมากเกินไปเล่นกันอยู่แค่เพียง2คนไป

ไหนกัน2คนเมื่อขาดคนใดคนหนึ่งไปก็จะรู้สึกเหงาเศร้า

2

การเข้าสังคม ขาดทักษะทางสังคมหรือมีทักษะ

การเข้าสังคมน้อยเนื่องจากเด็กจะเรียนรู้เฉพาะนิสัยคู่แฝด

ของตนเองรู้สึกว่าอยู่2คนได้จึงไม่เห็นความสำาคัญที่จะ

ต้องปรับตัวเข้ากับผู้อื่นๆไม่รู้ว่าจะเริ่มคุยกับเพื่อนอย่างไร

เมื่อต้องอยู่คนเดียวจะไม่สามารถเข้าใจและยอมรับอารมณ์

ของคนอื่นด้วย

3

การถูกเปรียบเทียบ ถ้าหากคนใดคนหนึ่งโดน

เปรียบเทียบอย่างคนพี่เรียนเก่งกว่าคนน้องเมื่อเกิดการ

เปรียบเทียบคนน้องก็จะรู้สึกมีปมด้อยอิจฉาโกรธเสียใจ

และขุ่นเคืองรู้สึกว่าถูกลำาเอียงมีความรู้สึกที่เป็นลบและ

เกิดความไม่มั่นใจในตัวเอง

4

ความรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเมื่อไม่ได้อยู่

ร่วมกันกับแฝดของตนตัวอย่างเช่นเวลาอยู่ด้วยกันจะมี

ความมั่นใจมากกว่าและเมื่ออยู่คู่กันจะได้รับความสนใจ

จากคนภายนอกมากกว่าเนื่องจากเป็นฝาแฝด

46

4747

48

อีกตัวอย่างหนึ่งที่ผู้เขียนอยาก

จะหยิบยกขึ้นมา คือ เรื่องของแฝดคู่หนึ่งที่มีปัญหาด้านการ

เข้าสังคม เนื่องจากอยู่ติดกันจนเกินไปคือเรื่องของฝาแฝด

ชาวอังกฤษคู่หนึ่งที่มีชื่อว่า เกรทต้าและเทรด้า แชปปลิน

อายุ37ปีทั้งคู่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้จึงทำาให้ทั้งคู่

ยังเป็นโสดในอายุ37ปีฝาแฝดทั้งสองรักที่จะแต่งตัวเหมือน

กันเดินก้าวเป็นจังหวะพร้อมๆกันเหมือนทหารเดินแถวและ

อาบน้ำาพร้อมกัน ถ้าหากมีเหตุผลที่ต้องจากกันก็ทั้งสองจะ

กรี๊ดร้องสะอึกสะอื้น โหยหวน พฤติกรรมเช่นนี้ทำาให้ผู้คน

มองว่าฝาแฝดคู่นี้มีปัญหาทางจิต

ซึ่งการที่ทั้งคู่มีพฤติกรรมเช่นนี้ี

เนื่องมาจากการเลี้ยงดูของครอบครัวเธอตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

พ่อแม่ของพวกเธอสอนให้พวกเธอแต่งตัวเหมือนกันหัดเดิน

ก้าวไปพร้อมๆกัน พูดเหมือนๆกันซึ่งในความเป็นจริงแล้ว

ตามวิถีของธรรมชาติได้กำาหนดให้ฝาแฝดนั้นคิด รู้สึก และ

ทำาอะไรเหมือนๆกันโดยไม่จำาเป็นต้องส่งเสริมพฤติกรรมการ

ใช้ชีวิตอีก ดังนั้นภาวะของฝาแฝดเองก็อาจจะเป็นสิ่งที่

ขัดขวางการเข้าสังคมและการวางตัวในสังคมได้

48

49

กลับมาที่เรื่องของผู้เขียน...

เท่าที่ผู้เขียนจำาความได้ โรงเรียนได้แยกฝาแฝดออกจาก

กันโดยให้ผู้เขียนและฝาแฝดของผู้เขียนอยู่คนละห้องแต่ใน

ด้วยการที่เราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก การที่จะแยกกันอยู่จึง

กลายเป็นเรื่องที่ยากมาก บางครั้งทำาให้ไม่อยากไปโรงเรียน

ไม่อยากไปเจอเพื่อน ไม่อยากเรียนหนังสือ เพราะไม่ได้เจอ

ฝาแฝดอีกคนหนึ่ง แต่เมื่อทุกอย่างเป็นเรื่องที่จำาเป็น เราทั้ง

สองจึงต้องทำาใจที่จะต้องแยกกันอยู่ ทำาให้สิ่งแวดล้อมของ

เราต่างกันมีเพื่อนกลุ่มที่ต่างกันการเลี้ยงดูก็เริ่มจะแตกต่าง

กัน เริ่มที่จะเรียนรู้การอยู่คนเดียวทำาให้มีความคิดเป็นตัว

ของตัวเองมากยิ่งขึ้นมีความคิดที่แตกต่างกันมากยิ่งขึ้นแต่

ในเมื่อเกิดมาเป็นฝาแฝด เราก็ยังคงมีความคิดบางอย่างที่

ยังเหมือนกันโดยที่บางที่ผู้เขียนเองก็ยังไม่รู้ตัว

49

50

51

กล่าวได้ว่าการอยู่คนเดียว

ของฝาแฝดเป็นเรื่องที่ยากมากสำาหรับฝาแฝดความจริงแล้ว

ฝาแฝดไม่ได้กลัวการอยู่คนเดียว หากแต่เป็นความกลัวที่

จะต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่นที่ไม่ใช่ฝาแฝดของตนเอง ความกลัว

ทำาให้ผู้เขียนเองก็ไม่กล้าที่จะพูดคุยกับผู้อื่นก่อน จึงทำาให้

ผู้เขียนเองกลายเป็นคนเงียบขรึมเมื่ออยู่กับผู้อื่น ซึ่งผู้เขียน

เองอาจจะมีอารมณ์ขันร่วมกับเพื่อนๆก็จริงอยู่ แต่ความเป็น

จริงผู้เขียนเองก็ไม่อาจที่จะรู้สึกสนิทใจเท่ากับการที่เราได้

หัวเราะกับคนที่รู้ใจเรามากที่สุดนั่น ก็คือฝาแฝดของผู้เขียน

นั่นเอง

แต่พอผู้เขียนเริ่มต้นที่จะอยู่

คนเดียวเอง กลับทำาให้เรามองเห็นความเป็นตัวของตัวเอง

ชัดเจนมากยิ่งขึ้นที่จริงแล้วผู้เขียนเองก็ชอบความสนุกสนาน

เรามีความสุขทุกครั้งที่ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ

ผู้อิื่น เพื่อนๆมักจะบอกกับผู้เขียนอยู่เสมอว่าผู้เขียนเป็นคน

เงียบๆ ดูสุขมและเยือกเย็น ซึ่งสิ่งที่เพื่อนๆบอกนั้นเป็นสิ่งที่ผู้

เขียนเองก็ไม่เคยรู้มาก่อน

52

อีกทั้งจะเป็นเรื่องที่ไม่แปลกเลยที่ฝาแฝดจะถูกเปรียบเทียบ

กันจากมุมมองของผู้อื่นเพราะเมื่อแต่ละคนเริ่มมีความเป็น

ตัวของตัวเองมากขึ้นแล้ว คนจะมองเห็นความแตกต่างของ

กันและกัน และจับเราทั้งสองมาเปรียบเทียบกัน ไม่ว่าจะ

เป็นเรื่องการศึกษา หรือลักษณะนิสัย ทำาไมน้องถึงเรียนเก่ง

และฉลาดกว่าเรา ทำาไมน้องถึงได้อารมณ์ร้อนในขณะที่เรา

ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ซึ่งสำาหรับฝาแฝดแล้วการถูกเปรียบเทียบ

เป็นเรื่องที่อ่อนไหวและอาจกระทบต่อจิตใจค่อนข้างมาก

สิ่งที่ผู้เขียนอยากจะฝาก

ผู้อ่านไว้่ว่า ไม่ว่าเราทั้งสองคนจะมีความเหมือนกันทั้ง

ภายในทางความรู้สึกหรือกายภาพทางภายนอกมาก

เพียงใดก็ตามแต่สุดท้ายแล้ว เราก็ต้องมีชีวิตที่เป็นตัว

ของเราเอง ถึงแม้คำาว่า ฝาแฝดและแฝด อาจจะหมาย

ถึงสิ่งที่ถูกสร้างมาให้ติดกันหรือเหมือนกันเท่านั้น แต่

พอเราถูกแยกออกจากกัน เราก็ต้องดิ้นรนกับการมี

ชีวิตอยู่ต่อไป....

53

54