Upload
kek-yourjustone
View
1.986
Download
1
Embed Size (px)
DESCRIPTION
ภาษาซี
Citation preview
LOGO
การเขี�ยนคำาสั่� งคำวบคำ�ม แบบม�ทางเลื�อก
การเขี�ยนคำาสั่� งคำวบคำ�ม แบบม�ทางเลื�อก
คำาสั่� งจั�ดเก�บขี�อม�ลืลืงหน�วยคำวามจัา
คำาสั่� งจั�ดเก�บขี�อม�ลืลืงหน�วยคำวามจัา การเขี�ยนคำาสั่� งกาหนดลั�กษณะการจั�ดการ
ขี�อมู�ลั ให�หน�วยคำวามูจัาซึ่� งมู�ด�วยก�น 2 ประเภท คำ�อ ประเภทตั�วแปร แลัะคำ�าคำงท� สั่าหร�บบทน�&มู�ราย
ลัะเอ�ยดท� สั่าคำ�ญท� ตั�องทราบ เพื่� อนาไปเขี�ยนคำาสั่� งกาหนดคำ*ณสั่มูบ�ตั+หน�วยคำวามูจัาได�ถู�กตั�อง มู�
ประสั่+ทธิ์+.ภาพื่มูากขี�&น น� นคำ�อกฎเกณฑ์1การกาหนดชื่� อ หน�วยคำวามูจัา ชื่น+ดขี�อมู�ลัพื่�&นฐานท�&งหมูดในภาษาซึ่�
การเขี�ยนคำาสั่� งกาหนดคำ�าคำงท� อ�กร�ปแบบหน� ง
กฎเกณ์%การกาหนดชื่� อ
กฎเกณ์%การกาหนดชื่� อ ชื่� อ (ldentifier) หมูายถู�ง ชื่� อหน�วยคำวามูจัาประเภทตั�วแปร ชื่� อหน�วยคำวามู
จัาประเภทตั�วแปรคำ�าคำงท� หร�อ ชื่� อในสั่�วนใดๆ ขีองโปรแกรมูท� ผู้��สั่ร�าง โปรแกรมูเป7นผู้��กาหนดด�วยตันเอง มู�กฎเกณ1ด�งน�&
1. อ�กขีระแรกตั�องเป7นอ�กษร หร�อเคำร� องหมูายขี�ดลั�าง ( _ ) ตั�วถู�ดไปเป7น อ�กษร หร�อตั�วเลัขี หร�อ เคำร� องหมูายขี�ดลั�าง ( _ ) ก8ได�
2. ภาษาซึ่�มู�คำวามูแตักตั�างขีองชื่� อท� กาหนดคำ�อ ชื่� อท�ใชื่�อ�กษรตั�วพื่+มูพื่1ใหย9 หร�อตั�วพื่+มูเลั8ก จัะจัดเก8บขี�อมู�ลัในหน�วยคำวามูจัาตัาแหน�งตั�างก�น
3. ห�ามูใชื่�อ�กขีระพื่+เศษ เชื่�น $ @ แลัะห�ามูมู�ชื่�องว�างระหว�างอ�กขีระโดยเด8ดขีาด
4.คำวรตั�&งชื่� อให�สั่� อคำวามูหมูายสั่อดคำลั�องก�บงาน 5. ตั�องไมู�ซึ่&าก�บคำาสั่งวนขีองภาษาซึ่� (Reserved Word)
ชื่น'ดขี�อม�ลืชื่น'ดขี�อม�ลื ภาษาซึ่�มู�ชื่น+ดขี�อมู�ลัพื่�&นฐานให�เลั�อกใชื่�งาน 3 กลั*�มูหลั*กคำ�อ อ�กขีระ ตั�วเลัขีจัานวนเตั8มู วเลัขีทศน+ยมูผู้��สั่ร�างงาน
โปรแกรมูคำวร เลั�อกใชื่�ชื่น+ดขี�อมู�ลั ท� มู�ขีอบเขีตัเหมูาะสั่มูก�บขี�อมู�ลัจัร+งใน
ระบบงาน เพื่� อใชื่�หน�วยคำวามูจัาได�อย�างมู�ประสั่+ทธิ์+ภาพื่ เพื่ราะขี�อมู�ลัท� มู�
ขีอบเขีตัมูากตั�องใชื่�เน�&อท� คำวามูจัากเชื่�นก�น
ชื่น+ดขี�อมู�ลั ขีอบเขีตัขีองขี�อมู�ลั
การเก8บขี�อมู�ลั
Char - 128 ถู�ง127
เก8บแบบอ�กขีระ
Unsigned char
0 ถู�ง 255 เก8บแบบอ�กขีระ ไมู�คำ+ดเคำร� องหมูาย
Int -32768 ถู�ง32767
เก8บแบบจัานวนเตั8มู
Unsigned int
0 ถู�ง65535
เก8บแบบจัานวนเตั8มู ไมู�คำ+ดเคำร� องหมูาย
Short -128 ถู�ง127
เก8บแบบจัานวนเตั8มูแบบสั่� น
Unsigned short
0 ถู�ง255 เก8บแบบจัานวนเตั8มู แบบสั่� น ไมู�คำ+ด
เคำร� องหมูายLong -
2147483648 ถู�ง
2147483649
เก8บแบบจัานวนเตั8มูแบบยาว
Unsigned long
0 ถู�ง42949
67296
เก8บแบบจัานวนเตั8มู แบบยาว ไมู�คำ+ด
เคำร� องหมูายFloat 3.4 x
10-38 ถู�ง
34 x 1038
เก8บตั�วเลัขีแบบทศน+ยมู ตั�วเลัขีหลั�งจั*ด 6 หลั�ก
Double 34. x 10-308
ถู�ง34. x 10
308
เก8บตั�วเลัขีแบบทศน+ยมู ตั�วเลัขีหลั�งจั*ด 12
หลั�กLong double
3.4 x 10-4032 ถู�ง34. x 104032
เก8บตั�วเลัขีแบบทศน+ยมูตั�วเลัขีหลั�งจั*ด 24 หลั�ก
อธิ'บาย หากตั�องการใชื่�ขี�อมู�ลัแบบขี�อคำวามู ตั�องใชื่�ขี�อมู�ลัประเภทตั�วแปรชื่*ด เชื่�นchar a[20] ;
คำาสั่� งกาหนดขี�อม�ลืแบคำ�าคำงท�
คำาสั่� งกาหนดขี�อมู�ลัแบคำ�าคำงท� คำาสั่� งกาหนดลั�กษณะขี�อมู�ลัให�เป7นคำ�าคำงท� มู� 3 ลั�กษณะ คำ�อ1.3.1 แบบท� 1 ไมู�ตั�องกาหนดชื่� อหน�วยคำวามูจัารองร�บขี�อมู�ลัตั�วอย�างคำาสั่� ง พื่+มูพื่1คำ�าคำงท� โดยไมู�ผู้�านการใชื่�หน�วยคำวามูจัาprintf ( “ 2 x 2 = %d \ n “ , 4) ;printf ( “ c => %c%c \ n “ , ‘c’) ; อธิ์+บาย เลัขี 4 ก�บ ‘c’ คำ�อขี�อมู�ลัแบบคำ�าคำงท� ไมู�ตั�องจั�ดเก8บใน
หน�วยคำวามูจัา
แบบท� 2 เขี�ยนบร+เวณสั่�วนห�ว ในโคำรงสั่ร�างภาษาซึ่�
ร�ปแบบ #define macro_name data ; อธิ'บาย macro_name คำ�อชื่� อขีองแมูโคำร ตั�องใชื่�
อ�กษรตั�วพื่+มูพื่1ใหญ� data คำ�อขี�อมู�ลัท� กาหนดเป7นคำ�าคำงท� ตั�วอย�างคำาสั่� ง กาหนดคำ�าคำงท� ชื่� อ MAX เพื่� อเก8บ
คำ�า 10 #define MAX 10 ;
แบบท� 3 เขี�ยนบร+เวณสั่�วนฟั>งก1ชื่� นหลั�ก main () ร�ปแบบ const variable = data ; อธิ์+บาย variable คำ�อชื่� อขีองตั�วแปร Data คำ�อขี�อมู�ลัท� กาหนดเป7นคำ�าคำงท� ตั�วอย�างคำาสั่� ง กาหนดคำ�าคำงท� พื่ร�อมูให�จั�ดเก8บขี�อมู�ลั Const pi 3.14 ; Const ans = ‘n’ ; Const words = “ computer “ ;
การเขี�ยนน'พจัน%เชื่'งตัรรกะ การเขี�ยนน+พื่จัน1คำณ+ตัศาสั่ตัร1 ตั�องใชื่�ตั�วดาเน+นดาร
คำณ+ตัศาสั่ตัร1 เขี�ยนคำาสั่� งคำวบคำ*มูการประมูาณผู้ลัขี�อมู�ลั สั่าหร�บการเขี�ยนประโยคำคำาสั่� งคำวบคำ*มูแบบมู�ทางเลั�อก
ตั�องกาหนดเง� อนไขีการทางาน ให�ระบบว+เคำราะห1ขี�อมู�ลั เพื่� อตั�ดสั่+นใจัเลั+อกทางประมูวลัผู้ลัได�อ�ตัโนมู�ตั+ ทางใดทาง
หน� งน�&น จั�งตั�องเขี�ยนน+พื่จัน1เชื่+งตัรรกะ โดยใชื่�ตั�วดาเน+น การคำวามูสั่�มูพื่�นธิ์1 แลัะตั�วดาเน+นงานทางตัรรกะ
การเขี�ยนน'พจัน%เชื่'งตัรรกะ
ตั�วดาเน'นการทางคำณ์'ตัศาสั่ตัร% ภาษาซึ่�มู�สั่�ญลั�กษณ1 ด�งน�& เคำร� องหมาย คำวามหมาย ตั�วอย�าง + บวก 3+2 การบวกเลัขี 3 บวกก�บ 2 ได�ผู้ลัลั�พื่ธิ์1คำ�อ 5 - ลับ 3 - 2 การลับเลัขี 3 ลับก�บ 2 ได�ผู้ลัลั�พื่ธิ์1คำ�อ 1 * คำ�ณ 2*3 การคำ�ณเลัขี 3 บวกก�บ 2 ได�ผู้ลัลั�พื่ธิ์1คำ�อ 6 / หาร 15/2 การหาร 15 หารก�บ 2 ได�ผู้ลัลั�พื่ธิ์1คำ�อ 7 % หารเอาเศษ 15%2 การหารเอาเศษ 15 หารก�บ 2 ได�
ผู้ลัลั�พื่ธิ์1คำ�อ 1
ตั�วดาเน'นการคำวามสั่�มพ�นธิ%
ใชื่�เขี�ยนประโยคำคำาสั่� งแบบมู�เง� อนไขี 1 ประโยคำ ใชื่�สั่�ญลั�กษณ1ตั�ว ดาเน+นการ ด�งน�&
ตั�วดาเน'นการคำวามสั่�มพ�นธิ%หร�อการเปร�ยบเท�ยบ สั่�ญลื�กษณ์% การดาเน'นการ ตั�วอย�าง < น�อยกว�า 2<3 ผู้ลัลั�พื่ธิ์1 จัร+ง(1) > มูากกว�า 2>3 ผู้ลัลั�พื่ธิ์1 เท8จั(false)(0) <= น�อยกว�าหร�อเท�าก�บ 2<= 3 ผู้ลัลั�พื่ธิ์1 จัร+ง(true) >= มูากกว�าหร�อเท�าก�บ 2>= 3 ผู้ลัลั�พื่ธิ์1 เท8จั(false) == เท�าก�บ 4==4 ผู้ลัลั�พื่ธิ์1 จัร+ง(true) != ไมู�เท�าก�บ 2!= 2 ผู้ลัลั�พื่ธิ์1 เท8จั(false)
ตั�วดาเน'นการเชื่'งตัรรกะ เป7นสั่�ญลั�กษณ1ใชื่�เชื่� อมูประโยคำคำาสั่� งแบบมู�เง� อนไขี 2 ประโยคำขี�&นไป
การสั่ร*ปคำ�าคำวามูจัร+งท� ได� ให�ศ�กษาจัากตัารางคำวามูจัร+ง ใชื่�สั่�ญลั�กษณ1ตั�วดาเน+น การ ด�งน�&
ตัรรกะ คำ�อการคำ+ดเชื่+งเหตั*ผู้ลัท� มู�คำ�าคำวามูจัร+งคำ�าใดคำ�าหน� งคำ�อ จัร+ง (true : 1) หร�อเท8จั (false : 0 )
ตั�วดาเน'นการตัรรกะ (logical operators) สั่�ญลั�กษณ1 การดาเน+นการ ตั�วอย�าง && แลัะ(AND) (2<3)&&(3>1) ผู้ลัลั�พื่ธิ์1 จัร+ง || หร�อ(OR) (2>3)||(4<1) ผู้ลัลั�พื่ธิ์1 เท8จั(false) ! ไมู�(NOT) !(2> 3) ผู้ลัลั�พื่ธิ์1 จัร+ง(true) อธิ์+บาย การสั่ร*ปคำ�าคำวามูจัร+งขีอง 2 ประโยคำเง� อนไขีน�& ให�ศ�กษาว+ธิ์�สั่ร*ปคำ�าคำวามู
จัร+งจัากตัารางตั�ายลั�าง โดยท� x คำ�อประโยคำเง� อนไขีท� 1 แลัะ Y คำ�อประโยคำเง� อนไขีท� 2
ตั�วอย�างคำาสั่� ง การเขี�ยนน'พจัน%ทาง ตัรรกะ
ตั�วอย�างคำาสั่� ง การเขี�ยนน+พื่จัน1ทางตัรรกะ ( a > 0 ) && (a < 10)หาก a มู�คำ�า 10 ได�คำ�าคำวามูจัร+งอย�างไรอธิ'บาย ขี�&นตัอนคำวามูคำ+ดว+เคำราะห1ประโยคำท� 1 ( a > 0 ) มู�คำ�า T ว+เคำราะห1ประโยคำท� 2 (a < 10) มู�คำ�า F สั่ร*ปประโยคำ 1 ก�บประโยคำ 2 คำ�อ T && Fจัากตัารางคำ�าคำวามูจัร+ง T && F ได� F
คำาสั่� งคำวบคำ�มแบบม�ทางเลื�อก ลื�กษณ์ะif
คำาสั่� งคำวบคำ�มแบบม�ทางเลื�อก ลื�กษณ์ะ ifการเขี�ยนคำาสั่� งคำวบคำ*มูการทางานลั�กษณะให�ระบบตั�ดสั่+นใจั
เลั�อกการทางานคำาสั่� ง หร�อกลั*�มูคำาสั่� งใดได�อย�างอ�ตัโนมู�ตั+ น� น ภาษาซึ่�มู�คำาสั่� งใชื่�ในงานด�านน�&คำ�อ คำาสั่� ง if แลัะมู�แนวทาง
การเขี�ยนคำาสั่� งคำวบคำ*มูงาน 3 ลั�กษณะคำ�อ ทางเลั�อกแบบ if ทางเลั�อกแบบ if-else แลัะทางเลั�อกแบบ if-else if-else
กรณ์�ใชื่�ประโยคำคำาสั่� งแบบ if
ประสั่'ทธิ'ภาพขีองคำาสั่� ง : คำวบคำ*มูการทางานแบบมู�ทางเลั�อก ลั�กษณะ หากประโยคำเง� อนไขีตัรรกะได�ขี�อสั่ร*ปคำ�าคำวามูจัร+ง ให�
ไปทางานตัามูคำาสั่� ง (กลั*�มูคำาสั่� ง) ตั�อจัากเง� อนไขี แลั�วไป ตัาแหน�งบรรท�ดคำาสั่� งชื่*ดตั�อไป แตั�หากเง� อนไขีเป7นเท8จัไมู�ตั�อง
ทาคำาสั่� งใดให�ไปทางานท� ตัาแหน�งคำาสั่� งชื่*ดตั�อไป
ร�ปแบบ 1 กรณ�หลั�งเง� อนไขี if มู� 1 คำาสั่� งIf (เง� อนไขี)
คำาสั่� ง ; (กรณ�เง� อนไขีเป7นจัร+ง)คำาสั่� งชื่*ดตั�อไป ; (กรณ�เง� อนไขีเป7นเท8จั)
ร�ปแบบ 2 กรณ�หลั�งเง� อนไขี if มู�มูากกว�า 1 คำาสั่� ง
If (เง� อนไขี){
กลั*�มูคำาสั่� ง ; (กรณ�เง� อนไขีเป7นจัร+ง)} ; คำาสั่� งชื่*ดตั�อไป ; (กรณ�เง� อนไขีเป7นเท8จั)
ร�ปแบบการเขี�ยนคำาสั่� งแลืะแนวทาง ผั�งงานแบบ if
แนวทางการใชื่�คำาสั่� ง if แบบ 2 ทางเลื�อก ทางเลื�อกลืะ 1 คำาสั่� ง
ว�ตัถุ�ประสั่งคำ% จังเขี�ยนงานเพื่� อป?อนตั�วเลัขี 2 จัานวน แลั�วตัรวจัสั่อบเง� อนไขี ด�งน�& หากตั�วคำ�ณไมู�ใชื่� 0 ให�นาตั�วเลัขี 2 จัานวนคำ�ณก�น นอกเหน�อจัากนน�&ไมู�ตั�องประมูวลัผู้ลัสั่มูการใด ให�ไปตัาแหน�งคำาสั่� งถู�ดไป 3.1.3 แนวทางการใชื่�คำาสั่� ง if แบบ 2 ทางเลั�อกลัะมูากกว�า 1 คำาสั่� ง ว�ตัถุ�ประสั่งคำ% จังเขี�ยนงานเพื่� อป?อนตั�วเลัขี 2 จัานวน แลั�วเลั�อกทางประมูวลัผู้ลัตัามู
เง� อนไขีด�งน�& * หากเง� อนไขีเป7นจัร+ง คำ�อ Y> 0 ให�ระบบทางานกลั*�มูคำาสั่� ง z = x /y ; printf ( “ \ n * Result = % .2f “ ,z ) ; แลัะ printf (“\n Good bye….. \n”) ; หากเง� อนไขีเป7นเท8จั คำ�อ y <= 0 ไมู�ตั�องประมูวลัผู้ลัสั่มูการใด ให�ระบบทางานคำาสั่� ง printf (“\n Good bye….. \n”) ;
17
ประสั่+ทธิ์+ภาพื่ขีองคำาสั่� ง : ใชื่�กรณ�คำวบคำ*มูการทางานในลั�กษณะ หากประโยคำเง� อนไขีตัรรกะได�ขี�อสั่ร*ปคำ�าคำวามูจัร+งเป7นจัร+ง ให�ทางานตัามูคำาสั่� ง (กลั*�มูคำาสั่� ง) ชื่*ดท� 1 แลั�วไปท� คำาสั่� งชื่*ดตั�อไป แตั�หากเง� อนไขีตัรรกะเป7นเท8จั ให�ทางานตัามูคำาสั่� ง (กลั*�มูคำาสั่� ง) ชื่*ดท� 2 แลั�วไปทางานท� ตัาแหน�งคำาสั่� งชื่*ดตั�อไป
กรณ์�ใชื่�ประโยคำคำาสั่� งแบบ if – else
ร�ปแบบขีองคำาสั่� งif..else if..else
เราสั่ามารถุใชื่�คำาสั่� ง if ท� ม�หลืายเง� อนไขีได� ด�งน�3
if (logical expression 1) {statements 1
} else if (logical expression 2) {
statements 2
} else {
statements 3
}
ชื่�ดคำาสั่� งท� 3
เท�จั
เท�จั
น'พจัน%ตัรรกศาสั่ตัร%
ท� 1
จัร'ง
ชื่�ดคำาสั่� งท� 2
ชื่�ดคำาสั่� งท� 1
จัร'ง
น'พจัน%ตัรรกศาสั่ตัร%
ท� 2
Flowchart ขีองคำาสั่� งif..else if..else
ตั�วอย�างโปรแกรมท� ใชื่�คำาสั่� งif..else if..else
public class SampleIfElseIf { public static void main(String args[]) {
int x = Integer.parseInt(args[0]); if (x == 1) { System.out.println("Value is one"); } else if (x == 2) { System.out.println("Value is two"); } else { System.out.println("Other than 1 or 2"); }}
}
ร�ปแบบขีองคำาสั่� งswitch
ม�ร�ปแบบการใชื่�คำาสั่� ง ด�งน�3 switch (expression) {
case value 1:statements 1
break;
case value 2:statements 2
break;
: :
case value N:statements N
break;
default: statements N+1;
}
ตั�วแปร จัร'ง ชื่�ดคำาสั่� ง
ท� 1= คำ�าท� 1
ชื่�ดคำาสั่� งท� 1N+
= คำ�า default
จัร'ง
ชื่�ดคำาสั่� งท� 2
= คำ�าท� 2
จัร'ง
ชื่�ดคำาสั่� งท� N
= คำ�าท� N
จัร'ง
:
Flowchart แสั่ดงลืาด�บการ ทางานขีองคำาสั่� ง switch
คำาสั่� ง switch น+พื่จัน1ตั�องมู�ชื่น+ดขี�อมู�ลัเป7น char, byte, short
หร�อ int เท�าน�&น ชื่น+ดขี�อมู�ลัขีองน+พื่จัน1แลัะคำ�าท� 1 ถู�ง N ตั�องเป7น
ชื่น+ดเด�ยวก�น ถู�าคำ�าขีองน+พื่จัน1ตัรงก�บคำ�าใด จัะทาชื่*ดคำาสั่� งขีองคำ�า
น�&น ถู�าคำ�าขีองน+พื่จัน1ไมู�ตัรงก�บคำ�าใดเลัย จัะทาชื่*ดคำาสั่� ง
ขีอง defaultdefault จัะมู�หร�อไมู�มู�ก8ได�
ตั�วอย�างโปรแกรมท� ใชื่�คำา สั่� ง switch
public class SampleSwitch { public static void main(String args[]) {
int x = Integer.parseInt(args[0]);switch(x) { case 1: System.out.println("Value is one");
break; case 2: System.out.println("Value is two");
break; default: System.out.println("Other than 1 or 2");}
} }
public class SampleSwitch { public static void main(String args[]) {
int x = Integer.parseInt(args[0]);switch(x) { case 1: System.out.println("Value is one");
break; case 2: System.out.println("Value is two");
break; default: System.out.println("Other than 1 or 2");}
} }
ตั�วอย�างโปรแกรมท� ใชื่�คำาสั่� งswitch
char grade = 'B';
switch (grade)
{
case 'A':
System.out.println("Average");
break;
case 'B':
System.out.println("Boring");
break;
case 'C':
System.out.println("Cool!");
break;
case 'D':
System.out.println("Delight");
break;
default:
System.out.println("Fabulous");
}
char grade = 'B';
switch (grade)
{
case 'A':
System.out.println("Average");
break;
case 'B':
System.out.println("Boring");
break;
case 'C':
System.out.println("Cool!");
break;
case 'D':
System.out.println("Delight");
break;
default:
System.out.println("Fabulous");
}
สั่ร�ปเน�3อหา การสั่ร�างโปรแกรมูระบบงานลั�กษณะมู�ทางเลั�อกประมูวลัผู้ลั มู�จั*ดประสั่งคำ1คำวบคำ*มูให�ระบบสั่ามูารถู
ทางานว+เคำราะห1เลั�อกทางประมูวลัผู้ลัทางใดทางหน� งโดย อ�ตัโนมู�ตั+ เพื่� อให�คำลั�ายก�บระบบการ ประมูวลัผู้ลัขีองสั่มูองมูน*ษย1ในเร� องการตั�ดสั่+นใจั ภาษาคำอมูพื่+วเตัอร1จั�งใชื่�ประโยชื่น1จัาก
ประสั่+ทธิ์+ภาพื่การทางานขีองคำอมูพื่+วเตัอร1ท� เหน�อกว�าเคำร� องคำานวณชื่น+ดอ� น ตัรงท� ประมูวลัผู้ลั เปร�ยบเท�ยบแบบตัรรกะทางคำณ+ตัศาสั่ตัร1ได� ท�&งน�&ระบบว+เคำราะห1เปร�ยบเท�ยบขีองคำอมูพื่+วเตัอร1
กาหนดว�า หากตัรรกะเป7นจัร+งจัะให�คำ�า 1 แตั�หากตัรรกะเป7นเท8จัจัะให�คำ�า 0 สั่าหร�บภาษาซึ่�มู�คำาสั่� งให� เลั�อกใชื่�คำวบคำ*มูการทางานแบบมู�ทางเลั�อก 2 ร�ปแบบ คำ�อ คำาสั่� ง if แลัะคำาสั่� ง switch
การเขี�ยนคำาสั่� งคำวบคำ*มูแบบมู�ทางเลั�อก ผู้��สั่ร�างงานโปรแกรมูระบบงานจัาเป7นตั�องมู�คำวามูร� �คำวามูเขี�าใจัในเร� องขีองร�ปแบบแลัะประสั่+ทธิ์+ภาพื่การทางานขีองสั่�ญลั�กษณ1ท� ใชื่�ในการเขี�ยน
ประโยคำคำาสั่� งแบบน+พื่จัน1ตัรรกะ การสั่ร*ปคำ�าคำวามูจัร+งขีองน+พื่จัน1ตัรรกะ ซึ่� งใชื่�หลั�กการเด�ยวก�นก�บ ตัรรกศาสั่ตัร1ว+ธิ์�เขี�ยนน+พื่จัน1ตัรรกะ กฎเกณ1ไวยากรณ1การเขี�ยนคำาสั่� งคำวบคำ*มูมู�ทางเลั�อก แลัะ
ประสั่+ทธิ์+ภาพื่การทางานขีองคำาสั่� ง ประโยคำคำาสั่� งแบบ if จัะใชื่�ก�บงานกรณ�ประโยคำน+พื่จัน1ตัรรกะเป7นเง� อนไขีซึ่�อนมูากกว�า 1
ประโยคำ แลัะตั�องใชื่�สั่�ญลั�กษณ1เชื่� อมูประโยคำเง� อนไขี เชื่�น พื่น�กงานเป7นเพื่ศชื่ายแลัะสั่ถูานะภาพื่โสั่ด ไมู�มู�ขี�อจัาก�ดในประโยคำคำาสั่� ง switch จัะใชื่�ในกรณ�ทางเลั�อกการทางานหลัายทางเลั�อก แตั�คำวรเป7น
ประโยคำเง� อนไขีเด�ยว ไมู�ใชื่�ประโยคำน+พื่จัน1ตัรรกะท� เป7นเง� อนไขีซึ่�อน แลัะขี�อมู�ลัท� นามูาเปร�ยบเท�ยบเพื่� อให�ระบบตั�ดสั่+นใจัน�&นตั�องเป7นตั�วเลัขีจัานวนเตั8มูหร�ออ�กขีระ