7

ปฏิวัติ 2475 และรัฐธรรรมนูญ

Embed Size (px)

DESCRIPTION

ปฏิวัติ 2475 และรัฐธรรมนูญ (เล่มเล็ก) โดย ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ เอกสารประกอบงานสัมมนา 24 มิถุนายน 2455 "100 ปีกบฏประชาธิปไตย ร.ศ.130 และ 80 ปี ปฏิวัติประชาธิปไตย 2475"

Citation preview

Page 1: ปฏิวัติ 2475 และรัฐธรรรมนูญ
Page 2: ปฏิวัติ 2475 และรัฐธรรรมนูญ

ธำ�รงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต ์1

การปฏิวัติ 2475 คือการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำาคัญอันเป็น

สว่นหนึง่ของบรบิทโลกในกระแสประชาธปิไตย และกระแสพลงัลทัธชิาตนิยิม

ที่บังเกิดขึ้นทั้งในประเทศที่เกิดใหม่หรือเพิ่งได้รับเอกราชจากเจ้าอาณานิคม

ตะวนัตก โดยเฉพาะอยา่งยิง่หลงัสงครามโลกครัง้ที ่1 (พ.ศ. 2457-2461 กลาง

สมัยรัชกาลที่ 6) และในประเทศที่ปกครองในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์

อย่างยาวนาน ซึ่งขณะนั้น สยามยังเป็นประเทศเอกราชประเทศเดียวในโลก

ที่ยังไม่มีรัฐธรรมนูญ

รัฐธรรมนูญในช่วงเวลานั้น มีความหมายที่ซ้อนทับกับคำาว่า

“ประชาธปิไตย” นัน่คอื “อำานาจสงูสดุของประเทศนัน้เปน็ของราษฎรทัง้หลาย”

ทีก่อ่เกดิกระบวนการทางการเมอืงเพือ่แสดงถงึอำานาจของประชาชน เชน่ การ

เลอืกตัง้และสภาผูแ้ทนราษฎร นอกจากนี ้รฐัธรรมนญูไมเ่พยีงเปน็สญัลกัษณ์

ของความเจริญ “ศิวิไลซ์” ของประเทศเท่านั้น ทว่ายังเป็นหลักหมายของการ

ประกันสิทธิเสมอภาค และเสรีภาพของประชาชนอีกด้วย

โดยทั่วไป ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ทั่วโลกได้ค่อยๆ ถูก

เปลี่ยนเป็นการปกครองระบอบประชาธิปไตยในรูปใดรูปหนึ่ง คือแบบ

ประธานาธิบดี เช่น สหรัฐอเมริกาและจีน หรือแบบจักรพรรดิ/สุลต่าน/

พระราชาธิบดี/กษัตริย์ ใต้รัฐธรรมนูญ เช่น อังกฤษและญี่ปุ่น ขณะที่

ปฏิวัติ 2475 และรัฐธรรมนูญธำารงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์

เอกสารประกอบการเสวนา 100 ปี กบฏประชาธิปไตย ร.ศ. 130-

80 ปี ปฏิวัติประชาธิปไตย พ.ศ. 2475

SIAMESE-THAI POLITICS: FROM the 1912 COUP TO the 1932

REVOLUTION 24 มิถุนายน 2555

พิมพ์ครั้งที่ 1 : มิถุนายน 2555

ออกแบบปกและรูปเล่ม : DREAM CATCHER GRAPHIC CO., LTD.

Tel. 0 2455 3932, 0 2455 3995

จัดพิมพ์โดย มูลนิธิโครงการตำาราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์

The Foundation for The Promotion fo Social Science and Humanities Textbooks Project

413/38ถนนอรุณอมรินทร์เขตบางกอกน้อยกรุงเทพฯ10700โทร./โทรสาร024338713

413/38Arun-amarinRoad,Bangkoknoi,Bangkok,Siam10700Tel./Fax.024338713

http://www.textbooksproject.com|http://www.textbooksproject.org

http://www.facebook.com/textbooksproject

Page 3: ปฏิวัติ 2475 และรัฐธรรรมนูญ

2 ปฏิวัติ 2475 และรัฐธรรมนูญ ธำ�รงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต ์3

กำาจัดอำานาจของขุนนางในกรุงและท้องถิ่นออกไป แล้วสร้างระเบียบราชการ

จากศูนย์กลางแผ่ออกไปทั่วประเทศ อันเรียกความสำาเร็จนี้ว่า การปฏิรูปการ

ปกครองแผ่นดิน ปี 2435 อันเป็นจุดเริ่มของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์

แต่ Council of State หรือ “ที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน” นี้ ก็หมดบทบาท

เมื่อรัชกาลที่ 5 บรรลุความสำาเร็จในการรวมศูนย์อำานาจทางการเมือง และไม่

ต่างจากดุสิตธานี “เมืองตุ๊กตา” บนเนื้อที่ 2 ไร่ครึ่งของรัชกาลที่ 6 ที่มุ่งเน้น

สื่อสาระต่อข้าราชการว่า ถ้าหากอยากได้ประชาธิปไตยก็ต้องอบรมบ่มเพาะ

ศึกษาเล่าเรียนเสียก่อน ประชาธิปไตยจึงถูกทำาให้กลายเป็นเพียงแบบฝึกหัด

ทางการศึกษาของประชาราษฎร แทนการเข้าร่วมของประชาชนที่สามารถมี

อำานาจจัดสรรสิ่งที่มีค่าของสังคม ว่าใคร ได้อะไร เมื่อไหร่ และอย่างไร

ส่วนกระแสประชาธิปไตยในภาคประชาราษฎร คือการเกิดแนวคิด

ว่าประชาราษฎรทุกคนเป็นเจ้าของประเทศชาติเจ้าของแผ่นดินนี้ร่วมกัน

การมีรัฐธรรมนูญ มีสภา มีการเลือกตั้งผู้แทน และรวมถึงการเลือกตั้ง

ฝ่ายบริหารหรือรัฐบาลนั้น เป็นสิ่งสำาคัญของระบอบการเมืองใหม่ที่ประเทศ

ชาติต้องมี แทนการปกครองที่ไม่ศิวิไลซ์ของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์

อนัเปน็การปกครองโดยคนคนเดยีวและเครอืขา่ย กรณขีอง “เทยีนวรรณ” ใน

สมัยรัชกาลที่ 5 ที่เสนอเรื่องการมีสภาผู้แทน ให้มีการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร

และให้เลือกตั้งฝ่ายบริหาร และกรณีคณะทหารหนุ่ม “กบฏ ร.ศ. 130” (ปี

2454) ทีพ่รอ้มตอ่การปฏวิตัเิปลีย่นระบอบการปกครองใหเ้ปน็ประชาธปิไตย

เมือ่ตน้สมยัรชักาลที ่6 หรอืกอ่นหนา้การปฏวิตั ิ2475 ถงึ 21 ป ีเปน็สองกรณี

สำาคัญที่แสดงให้เห็นว่า การปฏิวัติ 2475 โดยคณะราษฎรนั้น ไม่ได้เป็นสิ่งที่

ปรากฏขึ้นอย่างทันทีทันใด แต่เป็นการเกิดขึ้นบนพลังกระแสประชาธิปไตย

และพลังลัทธิชาตินิยมที่เพิ่มพูนมากขึ้นในภาคประชาราษฎร และย่อมเป็น

เครื่องแสดงให้เห็นด้วยว่า ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่ซึ่งเป็นระบอบ

นำาเข้ามาจากตะวันตกด้วยเช่นกันอันเพิ่งมีระยะเวลาในสยามเพียง 40 ปีนั้น

กไ็มอ่าจทีจ่ะปรบัเปลีย่นเชงิสถาบนัเพือ่ตอบรบักระแสประชาธปิไตยและความ

เป็นสมัยใหม่ได้นั่นเอง แม้ว่าจะได้มีความพยายามในบางส่วนบ้างแล้วก็ตาม

การปฏิวัติ 2475 ที่เชื่อกันโดยทั่วไปว่าเป็นการเปลี่ยนระบอบทางการ

เมืองที่ “ไร้การนองเลือด” แต่ในข้อเท็จจริงแล้วหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เพราะ

การต่อสู้ช่วงชิงเพื่อพิทักษ์อำานาจทางการเมืองของกลุ่มผู้ปกครอง “ระบอบ

ประเทศอีกส่วนหนึ่งได้เปลี่ยนการปกครองไปเป็นคอมมิวนิสต์ ซึ่งทั้งหมด

ถกูผนวกเขา้เปน็สว่นหนึง่ของสหภาพโซเวยีต ดว้ยเหตนุี ้สยามกอ่นการปฏวิตั ิ

2475 จึงเป็นสยามที่อยู่บนทางสองแพร่งของระบอบการเมือง คือ การรักษา

ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่เพิ่งถูกสร้างในสยามอันเป็นประดิษฐกรรม

ทางการเมืองของโลกตะวันตก กับการเปลี่ยนเป็นระบอบรัฐธรรมนูญหรือ

ประชาธิปไตยในรูปแบบใดแบบหนึ่งนั่นเอง ขณะที่กระแสลัทธิคอมมิวนิสต์

มีอิทธิพลน้อยมากยิ่งในสยามประเทศ

คณะเจา้ นบัแตย่คุสมยัพระจอมเกลา้ฯ รชักาลที ่4 เปน็ตน้มา กลา่วได้

อยา่งหนกัแนน่วา่ ผูป้กครองสยามรบัรูด้ถีงึระบอบประชาธปิไตยและกระแส

ประชาธปิไตยของโลกในขณะนัน้ โดยเฉพาะอยา่งยิง่พระมงกฎุเกลา้ฯ รชักาล

ที ่6 และพระปกเกลา้ฯ รชักาลที ่7 ซึง่ตา่งกเ็ปน็นกัเรยีนนอกทีอ่งักฤษเปน็เวลา

ราวทศวรรษนัน้ ยอ่มไดเ้รยีนรูอ้ยา่งดถีงึความผนัผวนปรวนแปรของสถาบนั

กษัตริย์อังกฤษในการรักษาสถานภาพของตนเองภายใต้รัฐธรรมนูญ ด้วย

บริบทโลกนี้ ในแต่ละรัชสมัยจึงมีการกล่าวถึงรัฐธรรมนูญ แต่ในทางปฏิบัติ

แล้ว ก็จะเป็นเพียงแนวคิดในลักษณะ “ร่างเค้าโครงเบื้องต้น” ซึ่งในยุคสมัย

รัชกาลที่ 7 สิ่งเหล่านี้ต่างเขียนเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาที่ไม่ได้ประสงค์

จะสื่อสารกับประชาชนคนไทยภายในประเทศสยามขณะนั้นอย่างแน่นอน

แต่เกมประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ เป็นเกมที่สมบูรณาญาสิทธิราชย์

ต้องเล่น ต้องปรับตัว แต่จะเล่นและปรับตัวอย่างไรนั้นเป็นรายละเอียดที่

คณะเจ้าต้องวิพากษ์ถกเถียงขัดแย้งกันเองอย่างมากมาย เพราะเมื่อกล่าวถึง

รฐัธรรมนญู กต็อ้งสมัพนัธก์บัประเดน็การเลอืกตัง้และการมสีภาผูแ้ทนราษฎร

ซึ่งหากมีการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร ก็หมายความว่ายอมให้ประชาชนเป็น

เจ้าของประเทศชาติร่วมด้วย ซึ่งในข้อเท็จจริงทางทฤษฎีอำานาจทางการเมือง

เรือ่งการเลอืกตัง้และสภาผูแ้ทนราษฎรเปน็เรือ่งยากทีส่มบรูณาญาสทิธริาชย์

จะสามารถคิดและพัฒนาไปถึงได้

ทว่าในอีกด้านหนึ่งของพัฒนาการทางการเมืองการปกครองสยาม

คณะเจ้าสามารถนำารูปแบบและการดำาเนินงานของสถาบันทางการเมือง

ตะวันตก เช่น Council of State หรือสภาแห่งรัฐ (ชื่อไทยคือ “ที่ปรึกษา

ราชการแผน่ดนิ”) มาชว่ยทำาหนา้ทีร่า่งกฎหมายบงัคบัใชเ้ปน็พระราชบญัญตัใิน

สมยัรชักาลที ่5 เพือ่กระชบัและรวมอำานาจทีศ่นูยก์ลางทีอ่งคพ์ระมหากษตัรยิ ์

Page 4: ปฏิวัติ 2475 และรัฐธรรรมนูญ

4 ปฏิวัติ 2475 และรัฐธรรมนูญ ธำ�รงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต ์5

ปฏิวัติ 2475 โดยการสร้างรัฐธรรมนูญที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อปี 2482

และประกาศให้วันที่ 24 มิถุนายน ของทุกปี เป็น “วันชาติ” และมีวันหยุด

ราชการ 3 วัน คือวันที่ 23-24-25 มิถุนายน และมีกิจกรรมต่างๆ โดยภาครัฐ

แต่ในปี 2497 วันชาตินี้ก็ถูกลดให้เหลือเพียง 1 วัน และวันชาติ 24 มิถุนายน

นีก้ถ็กูยกเลกิในป ี2503 สมยัรฐับาลเผดจ็การทหารจอมพล สฤษดิ ์ธนะรชัต์

และปีเดียวกันนี้ก็สถาปนาวันที่ 5 ธันวาคม “วันเฉลิมพระชนมพรรษา”

ให้เป็น “วันสำาคัญของชาติ”3

กรณีวันรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม4 (จากปี 2475 เรียกว่า “วันฉลอง

รัฐธรรมนูญ” ปี 2480 รัฐบาลประกาศให้เป็น “วันรัฐธรรมนูญ”) ซึ่งเป็นวัน

หยุดแห่งชาติ 3 วัน คือวันที่ 10-11-12 ธันวาคมของทุกปี ก็ถูกลดทอน

ให้เหลือวันหยุดแห่งชาติเพียง 1 วันในปี 2491 แต่ในวาระโอกาสนี้ นายก

รัฐมนตรีต้องออกมาปราศรัยต่อประชาชนในวันสำาคัญนี้ทุกปี กระทั่งเมื่อ

จอมพล ถนอม กิตติขจร ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่ 9 ธันวาคม 2506 ใน

บริบทการอสัญกรรมของจอมพล สฤษดิ์ จอมพล ถนอมจึงข้ามบทบาทผู้นำา

ประเทศที่ต้องกล่าวปราศรัยในวันรัฐธรรมนูญในปี 2506 และตั้งแต่นั้นมา

วันรัฐธรรมนูญก็ไม่มีกิจกรรมใดๆ จากภาครัฐบาลอีกเลย กลายเป็นวันหยุด

สำาคัญของชาติที่ไม่สำาคัญของรัฐบาลไทย และพัฒนาต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน

ที่วันสำาคัญของชาตินี้ ยังถูกจดจำาเรียกชื่อที่แตกต่างกันไปอีก ดังปรากฏใน

ปฏทินิประจำาปทีีม่ทีัง้ระบวุา่ 10 ธนัวาคม คอื “วนัรฐัธรรมนญู” และ “วนัพระ

ราชทานรัฐธรรมนูญ”

กรณีวันชาติและวันรัฐธรรมนูญ เป็นตัวอย่างรูปธรรมที่สะท้อนให้

เหน็ถงึการตอ่สูผ้นัแปรทางการเมอืงของระบอบใหมก่บัระบอบเกา่นบัแตก่าร

ปฏิวัติ 2475 มาถึงปัจจุบันได้อย่างชัดเจนที่สุด

เก่า” ภายใต้ “ระบอบใหม่” มีขึ้นตลอดเวลา ทั้งในรูปแบบการต่อสู้ในเกม

การจัดทำารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ฉบับ 10 ธันวาคม 2475 ตามมาด้วยการ

รฐัประหารครัง้แรกโดยพระราชกฤษฎกีาของพระยามโนปกรณน์ติธิาดา นายก

รัฐมนตรี เมื่อ 1 เมษายน 2476 กลายเป็นรัฐบาลพระยามโนฯ ที่มีอำานาจ

เผด็จการ 81 วัน และเริ่มใช้ “คอมมิวนิสต์” มาเป็นเครื่องมือทางการเมืองใน

การกำาจดัผูน้ำาฝา่ยตรงกนัขา้มคอืผูน้ำาสายพลเรอืนในคณะราษฎร แตก่ย็ตุลิง

ด้วยการรัฐประหารกลับของฝ่ายคณะราษฎร “กลุ่มหนุ่ม” เมื่อ 20 มิถุนายน

2476 เพื่อฟื้นรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตยที่เพิ่งเกิดบนแผ่นดินนี้ยังไม่

ถึงหนึ่งปี แต่ในอีก 3 เดือนต่อมาก็ถูกตีโต้ด้วยการใช้กำาลังทหารของฝ่าย

ระบอบเก่าในนาม “คณะกู้บ้านกู้เมือง” เมื่อเดือนตุลาคม 2476 เพื่อพิทักษ์

เพิ่มพูนอำานาจและบทบาทของ “พระมหากษัตริย์” ในระบอบใหม่ ทว่าจบ

ลงด้วยการปะทะกันด้วยกำาลังทหารของสองฝ่าย ในเหตุการณ์ที่เรียกกันว่า

“กบฏบวรเดช” และตามดว้ยการตอ่รองทางการเมอืงเรือ่งการสละราชสมบตัทิี่

สิน้สดุลงเมือ่เดอืนมนีาคม 2477 ซึง่สาระสำาคญัของการตอ่สูจ้ากฝา่ยระบอบ

เกา่ทีช่ดัเจนทีส่ดุคอืเรือ่งการแตง่ตัง้สมาชกิสภาประเภทที ่2 ทีม่สีมาชกิจำานวน

ครึง่หนึง่ของสภาผูแ้ทนราษฎร (อกีครึง่มาจากการเลอืกตัง้) นัน้ใหเ้ปน็พระราช

อำานาจของพระมหากษตัรยิ ์ไมใ่ชอ่ำานาจของคณะราษฎร อนัหมายถงึการตอ่สู้

ของฝ่ายระบอบเก่าเพื่อเปลี่ยนรูปทางการเมืองจากระบอบ “พระมหากษัตริย์

‘ใต้’ รัฐธรรมนูญประชาธิปไตย” ของการปฏิวัติ 2475 ให้กลายเป็นระบอบ

“ราชาธิปไตย ‘ตาม’ รัฐธรรมนูญ” หรือ “ราชาธิปไตย ‘ที่มี’ รัฐธรรมนูญ”

นั่นเอง1

การต่อสู้ระหว่างระบอบใหม่กับระบอบเก่า หรือระหว่างระบอบ

“พระมหากษัตริย์ ‘ใต้’ รัฐธรรมนูญประชาธิปไตย” กับระบอบ “ราชาธิปไตย

‘ตาม’ รัฐธรรมนูญ” หรือ “ราชาธิปไตย ‘ที่มี’ รัฐธรรมนูญ” นั่นยังคงดำาเนิน

ตอ่เนือ่งเรือ่ยมาในหนา้ประวตัศิาสตรก์ารเมอืงไทย โดยมคีณะทหารและการ

รัฐประหารในอีกหลายครั้งนับแต่การรัฐประหารปี 2490 เป็นต้นมา เป็นตัว

กระทำาที่สำาคัญที่ทำาให้สาระเดิมของการปฏิวัติ 2475 แปรเปลี่ยนไป2 เรื่อง

ที่สัมพันธ์กับการปฏิวัติ 2475 และคณะราษฎรนั้นเลือนรางและสาบสูญ

ดังตัวอย่างจากวันชาติและวันรัฐธรรมนูญ

กรณวีนัชาต ิ24 มถินุายน แมค้ณะราษฎรจะประกาศชยัชนะของการ

Page 5: ปฏิวัติ 2475 และรัฐธรรรมนูญ

6 ปฏิวัติ 2475 และรัฐธรรมนูญ

เชิงอรรถ

1 รายละเอียดของการต่อสู้ใน 1 ปีแรกหลังการปฏิวัติ 2475 นี้ ดูได้ในงานของผู้เขียน ซึ่งเป็นบทที่ 3-4-5 ต่อจากบทที่ 1-2 ในที่นี้ ในหนังสือ 2475 และ 1 ปีหลังการปฏิวัติ (กรุงเทพฯ : สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมูลนิธิโครงการตำาราสงัคมศาสตรแ์ละมนษุยศาสตร,์ 2544). หรอืใน ชาญวทิย ์เกษตรศริ ิและธำารงศกัดิ ์เพชรเลศิอนนัต.์ ปฏวิตั ิ2475 (กรงุเทพฯ : มลูนธิโิครงการตำาราสงัคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, 2547), (พิมพ์ครั้งที่ 2, 2552).

2 ธำารงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์, “ข้ออ้าง” การปฏิวัติ-รัฐประหาร-กบฏ ในการเมืองไทยปัจจุบัน : บทวิเคราะห์และเอกสาร (กรุงเทพฯ : มูลนิธิโครงการตำาราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, 2550), ดูบทวิเคราะห์ หน้า 12-44.

3 ดูการแปรเปลี่ยนสาระของเรื่อง 24 มิถุนายน และการปฏิวัติ 2475 นี้ในงานของ ประจักษ์ ก้องกีรติ, “24 มิถุนาในขบวนการ 14 ตุลา : การเมืองและอำานาจของประวัติศาสตร์,” ใน ชาญวิทย์ เกษตรศิริ บ.ก., สู่ทศวรรษที่ 7 ปฏิวัติ 2475 / สถาปนา มธก. 2477 : ธรรมศาสตร์และการเมืองเรื่องพื้นที่ (กรุงเทพฯ : มูลนิธิโครงการตำาราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, 2548), หน้า 115-178.

4 ธำารงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์, “10 ธันวาคม วันพระราชทานรัฐธรรมนูญ หรือ วันรัฐธรรมนูญ?” ใน ชาญวิทย์ เกษตรศิริ บ.ก., สู่ทศวรรษที่ 7 ปฏิวัติ 2475/ สถาปนา มธก. 2477 : ธรรมศาสตร์และการเมืองเรื่องพื้นที่, เพิ่งอ้าง, หน้า 89-113.

Page 6: ปฏิวัติ 2475 และรัฐธรรรมนูญ

8 ปฏิวัติ 2475 และรัฐธรรมนูญ ธำ�รงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต ์9

เลขอนุญาต ที่ ต. ๖/๒๕๑๙

เลขที่คำาขอ ที่ ๖/๒๕๑๙

ใบอนุญาตจัดตั้งสมาคมหรือองค์การ

ตามที่ นายป๋วย อึ๊งภากรณ์

ได้ขออนุญาตจัดตั้ง มูลนิธิโครงการตำาราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑. ส่งเสริมการจัดทำาตำาราภาษาไทยในแขนงสังคมศาสตร์และ

มนุษยศาสตร์

ทั้งระดับมหาวิิทยาลัย และก่อนมหาวิทยาลัย

๒. เผยแพร่ตำาราของมูลนิธิในหมู่ผู้สอนวิชาสังคมศาสตร์และ

มนุษยศาสตร์

ทั่วราชอาณาจักร

๓. ส่งเสริมการเรียบเรียงงานวิจัย และตำาราชั้นสูง และรวบรวมเอกสาร

ทางวิชาการออกตีพิมพ์

๔. ส่งเสริมกิจกรรมทางวิชาการด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์

๕. ไม่ทำาการค้ากำาไร และไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง

และมีที่ตั้งสำานักงานแห่งใหญ่ ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร นั้น

กรมการศาสนาได้พิจารณาแล้ว อนุญาตให้ดำาเนินการจัดตั้งได้ และขอให้ปฏิบัติตาม

คำาสั่งและข้อบังคับของกรมการศาสนา โดยเคร่งครัด

อนุญาต ณ วันที่ ๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๑๙

(นายวัชระ เอี่ยมโชติ)

อธิบดีกรมการศาสนา

รายนามคณะกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการตำาราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์

นางเพ็ชรี สุมิตร ประธานและผู้จัดการ

นายเกริกเกียรติ พิพัฒน์เสรีธรรม รองประธาน

นายธเนศ อาภรณ์สุวรรณ รองประธาน

นายรังสรรค์ ธนะพรพันธุ์ กรรมการ

นายวิทยา สุจริตธนารักษ์ กรรมการ

นางสาวศรีประภา เพชรมีศรี กรรมการ

นายวีระ สมบูรณ์ กรรมการ

นายประจักษ์ ก้องกีรติ กรรมการ

นายพิภพ อุดร กรรมการ

นางสาวอุบลรัตน์ ศิริยุวศักดิ์ กรรมการ

นายพนัส ทัศนียานนท์ กรรมการ

นายบดินทร์ อัศวาณิชย์ กรรมการ

นางสาวศุภลักษณ์ เลิศแก้วศรี กรรมการและเหรัญญิก

นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ กรรมการและเลขานุการ

นายธำารงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

นายทรงยศ แววหงษ์ กรรมการและผู้จัดการทั่วไป

(ก่อตั้งปี พ.ศ. 2509 โดยนายป๋วย อึ๊งภากรณ์ ฯลฯ)

Page 7: ปฏิวัติ 2475 และรัฐธรรรมนูญ

100 ปี กบฏประชาธิปไตย ร.ศ. 130 - 80 ปี ปฏิวัติประชาธิปไตย พ.ศ. 2475SIAMESE-THAI POLITICS: FROM the 1912 COUP TO the 1932 REVOLUTIONอาทิตย์24มิถุนายน2555Sunday24June20129.00-18.00ณหอประชุมศรีบูรพาธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์พระนคร

SriburaphaAuditorium,ThammasatUniversity,Bangkok

09.00-09.30 ลงทะเบียน(ชมวีซีดีเพลง24มิถุนา)

09.30-10.00 กล่าวต้อนรับและเปิดงานโดย

ศาสตราจารย์ดร.สมคิดเลิศไพฑูรย์อธิการบดีมธ.

10.00-10.30 ปาฐกถานำาโดยเกษียรเตชะพีระ

10.30-12.00 อภิปราย“100 ปี กบฏประชาธิปไตย ร.ศ. 130”

ธเนศอาภรณ์สุวรรณ

สุธาชัยยิ้มประเสริฐ

ณัฐพลใจจริง

เพ็ญพิสุทธิ์อินทรภิรมย์

ฉลองสุนทราวาณิชย์ ดำ�เนินร�ยก�ร

12.00-13.00 ลำานำากวีกบฏ-ปฏิวัติอาหารกลางวันตามอัธยาศัย(ชมวีซีดี)

13.00-15.30 อภิปราย“80 ปี ปฏิวัติประชาธิปไตย พ.ศ. 2475”

ปวินชัชวาลพงศ์พันธ์

สุดสงวนสุธีสร

ธำารงศักดิ์เพชรเลิศอนันต์

อุบลรัตน์ศิริยุวศักดิ์

อภิชาตสถิตนิรามัย

มรกตเจวจินดาไมยเออร์ ดำ�เนินร�ยก�ร

15.30-16.30 ถาม-ตอบ ปัญหาข้ามศตวรรษ

ปราบเลาหะโรจนพันธ์(ถาม)

เวียงรัฐเนติโพธิ์(ถาม)

นิธิเอียวศรีวงศ์(ตอบ)

ชาญวิทย์เกษตรศิริ(ตอบ)

อัครพงษ์ค่ำาคูณ ดำ�เนินร�ยก�ร

16.30-17.00 ปัจฉิมกถา โดย วีระ ธีรภัทรานนท์

พิธีกร-สมฤทธิ์ลือชัย

หมายเหตุจัดโดย หอจดหมายเหตุธรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ร่วมกับ

มูลนิธิโครงการตำาราสังคมศาสตร์ฯ,วิทยาลัยนานาชาติปรีดีพนมยงค์

และสมาคมจดหมายเหตุสยาม