ระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2557 ถึง 31 ตุลาคม 2558

แบบฟอร์มรายงานสรุปการขบัเคลื่อนและเร่งรัดการด าเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (รอบ 12 ก.ย. 57 - 31 ต.ค. 58) ส านักงาน ก.พ.ร. 1

แบบฟอร์มรายงานสรุปการขับเคลื่อนและเร่งรัดการด าเนินงานตามนโยบายรัฐบาล

(รอบ 12 ก.ย. 57 - 31 ต.ค. 58)

ส านักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ส านักงาน ก.พ.ร.)

นโยบายรัฐบาล เร่ือง/ประเด็น/มติ/ข้อสั่งการ ผลการด าเนินงาน ปัญหา/ข้อขัดข้อง ข้อเสนอแนะ ผลการเบิกจ่ายงบประมาณ

(ถ้ามี)

นโยบายที่ 2 การรักษาความมั่นคงของรัฐและการต่างประเทศ 2.4 เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับนานาประเทศบนหลักการที่ว่า นโยบายการต่างประเทศเป็นส่วนประกอบส าคัญของนโยบายองค์รวมทั้งหมดในการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ว่าในด้านการเมือง เศรษฐกิจ หรือสังคม โดยจะน ากลไกทางการทูตแบบบูรณาการมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนท้ังทางตรงและทางอ้อม เช่น การคุ้ ม ค รอ งดู แ ล ค น ไท ย แ ล ะผลประโยชน์ของคนไทยในต่างแ ด น ก ารแ ล ก เป ลี่ ย น ท า งการศึกษา วัฒนธรรม การค้าการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ แล ะการ เปิ ด โลกทั ศน์ ให้ มีลักษณะสากล เป็นต้น

โครงการส่งเสริมธรรมาภิบาลภาครัฐเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

ด าเนินการตามแผนงานกิจกรรมภายใต้โครงการส่งเสริมธรรมาภิบาลภาครัฐเข้าสู่ประชาคมอาเซียนประจ าปี 2558 ดังนี ้

ก า ร จั ด ป ร ะ ชุ ม น า น า ช า ติ (ASEAN International Symposium 2015) เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ (Knowledge Sharing) โดยจัดการประชุมร่วมกับหน่วยงานทางวิชาการระดับสากล Korea Research Institute, the University of New South Wales, Sydney Australia (KRI) แ ล ะ Centre for International Development, Korea Development Institute, Korea (KDI) ธนาคารโลก (World Bank) และเครือข่ายธรรมาภิบาลของประเทศสมาชิกอาเซียน (Governance ASEAN Network) ระหว่างวันท่ี 21 - 22 พ.ค. 58 ณ โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ

จัดท าร่างการศึกษาเชิงลึกด้านการส่งเสริมธรรมาภิบาลของประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียน

การจัดประชุมสัมมนากลุ่มย่อยประเทศสมาชิกอาเซียนผ่านระบบวีดีทัศน์ทางไกล (Video

- - 2,608,200 บาท



(ถ้ามี)

Conference) 3 ค รั้ ง กั บ 3 ป ร ะ เท ศ คื อ ส า ธ า รณ รั ฐ ป ร ะ ช า ธิ ป ไต ย ป ระ ช าช น ล า ว ราชอาณาจักรกัมพูชา และสาธารณรัฐฟิลิปินส์

การจัดกิจกรรม ASEAN Exchange Study Tour ในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน 2 ประเทศ คือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐฟิลิปินส์ โดยมีแผนจะด าเนินการจัดในอีก 2 ประเทศคือสาธารณรัฐอินโดนีเซีย และสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า

นโยบายท่ี 10 การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที ่มีธรรมาภิบาล 10.1 ปรับปรุงระบบราชการในด้ านองค์ กรหรือหน่ วยงานภาครัฐทั้ งในระดับประเทศ ภูมิภาค และท้องถิ่น ทบทวนการจัดโครงสร้างหน่วยงานภาครัฐที่มีอ านาจหน้าที่ซ้ าซ้อนหรือลักลั่นกันหรือมีเส้นทางการปฏิบัติงานที่ยืดยาว ปรับปรุงวิธีปฏิบัติราชการให้ทันสมัยโดยน าเทคโนโลยีมาใช้ แก้ไขกฎระเบียบให้ โปร่ งใส ชั ด เจน สามารถบริ การประชาชนได้ อย่ างมี

โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต

งบประมาณ 2,400,000 บาท - ด าเนินการศึกษาวิเคราะห์ปัญหา อุปสรรค ของ ศปท. ในเบื้องต้นซี่งเป็นการสัมภาษณ์ เชิงลึกกับหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตระดับกระทรวง/ส่วนราชการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี และส่วนราชการที่ไม่สังกัดกระทรวง/ทบวง/กรมหรือผู้แทน รวมทั้งผู้ปฏิบัติงานในศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต จ านวน 9 แห่ง ได้แก่ กระทรวงคมนาคม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวง ศึกษาธิการ ส านักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ส านักงบประมาณ ส านักงาน ก.พ. กระทรวง มหาดไทย ส านักงานต ารวจแห่งชาติ และผู้แทนกรมบัญชีกลาง ซึ่งเป็นหน่วยงานโดยตรงที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบด าเนินการเกี่ยวกับการก าหนดนโยบายและมาตรฐานการจัดซื้อจัดจ้าง

- - 480,000 บาท



(ถ้ามี)

ประสิทธิภาพ ตลอดจนจัดระบบอั ต ร าก าลั งแ ล ะ ป รั บ ป รุ งค่าตอบแทนบุคลากรภาครัฐให้เหมาะสมและเป็ นธรรม ยึ ดหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี การบริหารจัดการภาครัฐแบบใหม่การตอบสนองความต้องการของประชาชนในฐานะที่เป็นศูนย์กลาง และการอ านวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการเพื่อสร้ างความเช่ือมั่ น วางใจ ในร ะ บ บ ร าชก า ร ล ด ต้ น ทุ นด าเนินการของภาคธุรกิจ เพิ่มศั กยภาพ ในการแข่ งขันกั บนานาประเทศและการรักษาบุคลากรภาครัฐที่มีประสิทธิภาพไว้ ในระบบราชการ โดยจะด าเนินการตั้งแต่ระยะเฉพาะหน้าไปตามล าดับความจ าเป็น และตามที่ กฎหมาย เอื้ อ ให้สามารถด าเนินการได้

ภาครัฐ ซึ่งเป็นประเด็นส าคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการทุจริตของภาครัฐ โดยได้ด าเนินการในช่วงระหว่างวันท่ี 20-27 ก.ค. 58 และได้น าผลการศึกษาแนวทางการด าเนินงานของ ศปท. เปรียบเทียบกับแนวทางการยกระดับประสิทธิภาพขององค์กรด้านการต่อต้านการทุจริต กรณีศึกษาจากต่างประเทศ (ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศไต้หวัน (สาธารณรัฐประชาชนจีน) ประเทศเกาหลีใต้ และเขตบริหารพิ เศษฮ่ องกงแห่ งส าธารณ รั ฐป ระชาชนจี น ) ประกอบการประชุมสัมมนา เรื่อง “แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการด าเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต” ซึ่งได้จัดขึ้นในวันที่ 10 ส.ค. 58 โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ ศปท. ท้ัง 35 แห่ง และภาคส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง - หารือกับหน่วยงานภาครัฐที่เป็นหน่วยงานกลางที่เป็นผู้ก าหนดนโยบายที่ เกี่ยวข้องกับต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ เช่น ส านักงาน ป.ป.ช. ส านักงาน ป.ป.ท. ส านักงาน ก.พ.ร. ผู้ทรงคุณวุฒิ และภาคเอกชนที่มีบทบาทส าคัญในการสนับสนุนการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อเก็บข้อมูลเชิ งลึ กเกี่ ยวกับมุมมองในภาพรวม เพื่ อให้ การประมวลผลการศึกษาฯ มีความเข้มข้นครอบคลุมผู้เกี่ยวข้องกว้างขวางขึ้น และท าให้ผลงานที่จะใช้เป็นแนวทางในการอบรมความรู้แก่ข้าราชการของ ศปท. ที่จะน าไปสู่การปฏิบัติมีทิศทางที่ดีส าหรับอนาคต



(ถ้ามี)

- จัดการอบรมให้ความรู้/ถ่ายทอดประสบการณ์เพื่อเพิ่มศักยภาพของผู้ปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต (ศปท.) ระหว่าง วันที่ 29 - 30 ต.ค. 58 ณ โรงแรม The Zign Hotel พัทยา จ.ชลบุรี โดยมีกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย หัวหน้า ศปท. และผู้ปฏิบัติงานของ ศปท. จ านวน 35 แห่ง รวมทั้งผู้แทนหน่วยงานที่มีภารกิจในการต่อต้านการทุจริตทั้ งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ ส านักงาน ป.ป.ช. ส านักงาน ป.ป.ท. และ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) โดยได้รับเกียรติจาก 4 เลขาธิการองค์กรหลักในการขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (เลขาธิการ ก.พ .ร. นายชู เกี ยรติ รั ตนชัยชาญ เลขาธิการ ป.ป.ช. นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ท. นายประยงค์ ปรียาจิตต์ และเลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปช่ัน (ประเทศไทย) ดร.มานะ นิมิตรมงคล) ในการบรรยายพิเศษในหัวข้อต่างๆ ท่ีเป็นทิศทางและแนวทางอันเป็นประโยชน์ต่อการและเสริมสร้างความเข้มแข็งของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต (ศปท.) ดังนี ้ 1. บทบาทของส านั กงาน ก.พ.ร. ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต โดย เลขาธิการ ก.พ.ร. 2. ยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปช่ันของประเทศ : แนวโน้มและปัจจัยความเสี่ยงที่ภาครัฐควรเฝ้าระวัง โดย เลขาธิการ



(ถ้ามี)

ป.ป.ช. 3. การสร้างความยั่งยืนในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปช่ันในภาครัฐ : บทบาทของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต (ศปท.) โดย เลขาธิการ ป.ป.ท. 4. แนวทางการผนึกก าลังระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปช่ัน ยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปช่ันของประเทศ โดย เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปช่ัน (ประเทศไทย) - ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดท ารายงานผลการศึกษาวิเคราะห์ปัญหา อุปสรรค การด าเนินการตามภารกิจของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต และข้อเสนอการปรับปรุงประสิทธิภาพของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต ฉบับสมบูรณ์ พร้อมทั้งจัดท ารายงานสรุปผลการจัดอบรม/ถ่ายทอดประสบการณ์เพื่อเพิ่มศักยภาพของผู้ปฏิบัติงานของ ศปท.ซึ่งคาดว่าจะส าเร็จสมบูรณ์ภายในเดือนธันวาคม 2558

นโยบายท่ี 10 การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที ่มีธรรมาภิบาล 10.1 ปรับปรุงระบบราชการในด้ านองค์ กรหรือหน่ วยงาน

โครงการพัฒนาระบบบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจั งหวัดแบบบูรณาการ

งบประมาณ 9,934,600 บาท 1. ฝ่ายเลขานุการ ก.น.จ. ได้น าเรียนรองนายก รัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) และรัฐมนตรีประจ าส านักนายกรัฐมนตรี (หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล) เพื่อพิจารณาก าหนดรายช่ือผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกินห้าคนเป็น

- - 3,332,865 บาท



(ถ้ามี)

ภาครัฐทั้ งในระดับประเทศ ภูมิภาค และท้องถิ่นฯ

อนุกรรมการ เพื่อน ารายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิดังกล่าวมาจัดท าเป็นค าสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการทั้ง 2 คณะ และน าเสนอนายกรัฐมนตรีในฐานะประธาน ก.น.จ. พิจารณาลงนามเรียบร้อยแล้ว 2. จัดประชุมทีมบูรณาการกลาง ประกอบด้วย ส านักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ส านักงบประมาณ กระทรวง มหาดไทย และส านักงาน ก.พ.ร. เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 57 เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับ 1) นโยบาย หลักเกณฑ์และวิธีการทบทวนแผนพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัด (พ.ศ. 2557 - 2560) 2) หลักเกณฑ์และวิธีการจัดท าแผนปฏิบัติราชการประจ าปีของจังหวัด/กลุ่มจังหวัด ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 3) ปฏิ ทิ นการจั ดท าแผนปฏิ บั ติ ราชการประจ าปีของจังหวัด/กลุ่มจังหวัด ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 4) หลักเกณฑ์และแนวทางการก าหนดกรอบการจัดสรรงบประมาณของจังหวัด/กลุ่มจังหวัด ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 5) ค าขอเปลี่ยนแปลงโครงการและการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายของจังหวัด/กลุ่มจังหวัด ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 และก่อนปีงบประมาณ พ.ศ. 2557



(ถ้ามี)

3. จัดประชุมทีมบูรณาการกลางประกอบด้วย ส านักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ส านักงบประมาณ กระทรวง มหาดไทย และส านักงาน ก.พ.ร. เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 57 เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการท างานในการพิจารณา กลั่นกรองแผนพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัด พ.ศ. 2557-2560 (ฉบับทบทวน) 4. จัดประชุมหารือร่วมกับทีมบูรณาการกลางเกี่ยวกับแนวในการบูรณาการแผนงานด้านพลังงานกับแผนพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัด ในวันที่ 6 ม.ค. 58 5. จัดประชุมร่วมกับทีมบูรณาการกลางเพื่อหารือเกี่ยวกับการเตรียมการลงพื้นที่ในการพิจารณาแผน พัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัดและแผนปฏิบัติราชการประจ าปีของจังหวัด/กลุ่มจังหวัด ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ในวันที่ 8 ม.ค. 58 6. จัดประชุมร่วมกับทีมบู รณาการกลางเพื่ อพิจารณาแผนปฏิบัติราชการประจ าปีของจังหวัด/กลุ่มจังหวัด ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ในวันท่ี 16 และ 19 ม.ค. 58 7. ลงพื้นที่เพื่อจัดประชุมเกี่ยวกับการให้ค าแนะน าและพิจารณาเกี่ยวกับการจัดท าแผนพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัด และแผนปฏิบัติราชการประจ าปีของจังหวัด/กลุ่มจังหวัด ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ระหว่างวันที่ 22 ม.ค. – 2 ก.พ. 58 ในพื้นที่ 4 ภาค - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (จังหวัดขอนแก่น)



(ถ้ามี)

ระหว่างวันที่ 22-23 ม.ค. 58 - ภาคใต้ (จังหวัดสงขลา) ระหว่างวันที่ 25-26 ม.ค. 58 - ภาคกลางและภาคตะวันออก (กรุงเทพฯ) วันที่ 27 ม.ค. 58 - ภาคเหนือ (จังหวัดเชียงใหม่) ระหว่างวันที่ 1-2 ก.พ. 58 8. ลงพื้นที่ติดตามผลการด าเนินโครงการของกลุ่มจังหวัดฯ ตามแผนปฏิบัติราชการประจ าปีงบประมาณ พ.ศ.2557 กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน 1 ครั้งที่ 1 (จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, จังหวัดสระบุรี) วันที่ 10 มี .ค. 58 ณ คลองงามเขต ต าบลธนู อ าเภออุทั ย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และคลองหนองแซง-ห้วยขมิ้น อ าเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี 9. ด าเนินจัดประชุมเพื่ อจัดเก็บข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการทบทวนบทบาทภารกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพ้ืนที่และการบริหารเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษกับการบริหารงานท้องที่และท้องถิ่น เพื่อน าข้อมูลไปศึกษาพัฒนารูปแบบการบริหารงานและการบูรณาการเชิงพื้นที่ระหว่างราชการบริหารส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด ระหว่างวันที่ 12-13 ก.พ. 58 10. ด าเนินการจัดประชุมเพื่อจัดเก็บข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการทบทวนบทบาทภารกิจของกระทรวง



(ถ้ามี)

เกษตรและสหกรณ์ ในพ้ืนท่ีจังหวัดขอนแก่นท้องถิ่นเพื่อน าข้อมูลไปศึกษาพัฒนารูปแบบการบริหารงานและการบูรณาการเชิงพื้นที่ระหว่างราชการบริหารส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น ระหว่างวันท่ี 23-24 มี.ค. 58 11. ด าเนินการจัดประชุมสัมมนาการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการบริหารงานและการบูรณาการเชิงพื้นที่ระหว่างราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 2-3 เม.ย. 58 12. ด าเนินการจัดประชุมสัมมนาการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการบริหารงานและการบูรณาการเชิงพื้นที่ระหว่างราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น ในพ้ืนท่ีจังหวัดสงขลา ระหว่างวันท่ี 17-20 พ.ค. 58 13. ด าเนินการจัดประชุมสัมมนาการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการบริหารงานและการบูรณาการเชิงพื้นที่ระหว่างราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ระหว่างวันที่ 20-22 พ.ค. 58 14. ด าเนินการจัดประชุมเพื่อจัดเก็บข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการทบทวนบทบาทภารกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในพื้นที่จังหวัดน่าน เพื่อน าข้อมูลไปศึกษาพัฒนารูปแบบการบริหารงานและการบูรณาการเชิงพื้นที่ระหว่างราชการบริหารส่วนกลาง ส่วน



(ถ้ามี)

ภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น ระหว่างวันที่ 4-5 มิ.ย. 58 15. ด าเนินการจัดประชุมเพื่อจัดเก็บข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการทบทวนบทบาทภารกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในพ้ืนที่จังหวัดเชียงราย เพื่อน าข้อมูลไปศึกษาพัฒนารูปแบบการบริหารงานและการบูรณาการเชิงพื้นที่ระหว่างราชการบรหิารส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น วันที่ 10-12 มิ.ย. 58 16. ด าเนินการจัดประชุมเพื่อจัดเก็บข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการทบทวนบทบาทภารกิจของกระทรวงสาธารณสุข ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อน าข้อมูลไปศึกษาพัฒนารูปแบบการบริหารงานและการบูรณาการเชิงพื้นที่ระหว่างราชการบริหารส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น ระหว่างวันที่ 17-19 มิ.ย. 58 17. ลงพื้นท่ีเพื่อจัดประชุมและติดตามประเมินผลตามแผนปฏิบัติราชการประจ าปี พ.ศ. 2557 และ พ.ศ.2558 ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ในพื้นที่ 4 ภาค - ภาคเหนือ (จังหวัดเชียงราย และพะเยา) ระหว่างวันที่ 1-3 ก.ค. 58 - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (จังหวัดร้อยเอ็ด สุรินทร์ และยโสธร) ระหว่างวันที่ 6-8 ก.ค. 58 - ภาคกลางและภาคตะวันออก (จั งหวัดฉะเชิ งเทรา สมุ ทรปราการ ชลบุ รี ระยอง และกาญจนบุรี) ระหว่างวันที่ 27-29 ก.ค. 58 - ภาคใต้ (จังหวัดระนอง ชุมพร) ระหว่างวันที่ 2-4 ส.ค. 58)



(ถ้ามี)

18. ด าเนิ นการจั ดประชุมเพื่ อหารือร่ วมกั บส านักงานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการศึกษาเพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารงานและการบูรณาการเชิงพื้นที่ระหว่างราชการบริหารส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ 4 ภาค - ภาคเหนือ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ระหว่างวันที่ 3-5 ส.ค. 58 - ภาคใต้ กลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน ระหว่างวันที่ 17-19 ส.ค. 58 - ภาคกลางและภาคตะวันออก ระหว่างวันท่ี 26-28 ส.ค. 58 - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 14-16 ก.ย. 58 19. ด าเนินการจัดประชุมสัมมนาเพื่อเสริมสร้างขีดสมรรถนะของหัวหน้าส่วนราชการในภูมิภาคเพื่อจัดท าแผนพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจั งหวัดและแผนปฏิบัติราชการของจังหวัด/กลุ่มจังหวัด ในพื้นที่ 4 ภาค - ภาคเหนือ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ระหว่างวันที่ 17-19 ส.ค. 58 - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 31 ส.ค. -1 ก.ย. 58 - ภาคใต้ กลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน ระหว่างวันที่ 7-9 ก.ย. 58 - ภาคกลางและภาคตะวันออก ระหว่างวันท่ี 10-11 ก.ย. 58



(ถ้ามี)

20. จัดประชุมร่วมกับทีมบูรณาการกลาง เมื่อวันจันทร์ที่ 26 ต.ค. 58 เพื่อพิจารณา - แนวทางการพิจารณา กลั่นกรองแผนพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัด (พ.ศ.2557-2560) ฉบับทบทวนใหม่ (รอบปี พ.ศ.2560) และแผนปฏิบัติ ราชการประจ าปีของจังหวัด/กลุ่มจังหวัด ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ.2560 และปฏิทินการท างานของทีมบูรณาการกลาง - การตั้ งกล ไกคณ ะท างานภาย ในอนุกรรมการฯด้านแผนและด้านงบประมาณเพื่อพิจารณากลั่นกรองโครงการของกระทรวง กรม ตามแผนพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัด และแผนปฏิบัติราชการประจ าปีของจังหวัด/กลุ่มจังหวัดประจ าปีงบประมาณ พ.ศ.2560 - การปรับปรุงประกาศ ก.น.จ. เรื่อง การก าหนดหลักเกณฑ์ และวิธีปฏิบั ติ ในการบริหารงบประมาณจังหวัดและงบประมาณกลุ่มจังหวัด (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 11 ต.ค. 2554 - แนวทางการด าเนินการตามหนังสือส านักงบประมาณ ด่วนท่ีสุด ที่ นร 0704/ว102 ลงวันท่ี 2 ก.ย. 58 เรื่อง การบริหารงบประมาณตามมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ข้อ 3.6

โค ร งก า รก า รป ระ ชุ ม ค ณ ะ 1. จัดประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายการบริหารงาน - - 14,350 บาท



(ถ้ามี)

อ นุ ก ร รม ก ารน โย บ าย ก า รบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดเกี่ ยวกับการพัฒนาระบบการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ

จังหวัดและกลุ่มจังหวัดเกี่ยวกับการพัฒนาระบบการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ ในวันที ่28 พ.ย. 57 เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับ 1) นโยบายหลั กเกณ ฑ์ และวิ ธี การทบทวนแผนพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัด (พ.ศ. 2557 - 2560) 2) หลักเกณฑ์และวิธีการจัดท าแผนปฏิบัติราชการประจ าปีของจังหวัด/กลุ่มจังหวัดและปฏิทินการจัดท าแผนปฏิบัติราชการประจ าปีของจังหวัด/กลุ่มจังหวัดประจ าปีงบประมาณพ.ศ. 2559 3) หลักเกณฑ์และแนวทางการก าหนดกรอบการจัดสรรงบประมาณจังหวัด/กลุ่มจังหวัดประจ าปีงบประมาณพ.ศ. 2559 2. จัดประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดเกี่ยวกับการพัฒนาระบบการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ ในวันที่ 19 มิ.ย. 58 เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับ 1) หลักเกณฑ์และวิธีการจัดท าแผนปฏิบัติราชการประจ าปีของจังหวัด/กลุ่มจังหวัด ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 2) หลักเกณฑ์และแนวทางการก าหนดกรอบการจัดสรรงบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 3) การปรับปรุงองค์ประกอบและอ านาจหน้าที่ของ อ.ก.น.จ. ด้านแผนและด้านงบประมาณ 4) การปรับปรุงการก าหนดหลักเกณฑ์และวิธี

13,700 บาท



(ถ้ามี)

ปฏิบัติ ในการบริหารงบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัด

โค ร งก า รก า รป ระ ชุ ม ค ณ ะ อ นุ ก ร รม ก ารน โย บ าย ก า รบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการด้านแผนและด้านงบประมาณ

1. จัดประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการด้านแผนและด้านงบประมาณ ในวันที่ 3 ธ.ค. 57 เพื่อพิจารณาเกี่ ยวกั บการขอเปลี่ ยนแปลงโครงการและโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายแปละการขอใช้งบประมาณเหลือจ่ายของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด 2. จัดประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการด้านแผนและด้านงบประมาณ ในวันที่ 9 ก.พ. 58 เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับ 1) การพิจารณากลั่นกรองและให้ความเห็นชอบแผนพัฒนาจังหวัด และแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด (พ.ศ.2557-2560) ฉบับทบทวน 2) การพิจารณากลั่นกรองและให้ความเห็นชอบแผนปฏิ บั ติ ราชการประจ าปี ของจั งหวัด และแผนปฏิบัติราชการประจ าปีของกลุ่มจังหวัด และค าของบประมาณของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 3) รายงานผลการตรวจติดตามและประเมินผลการด าเนินการตามแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ครั้งที่ 1 ของผู้ตรวจราชการส านักนายกรัฐมนตรี และผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย

- - 21,875 บาท

21,610 บาท



(ถ้ามี)

3. จัดประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการด้านแผนและด้านงบประมาณ ในวันที่ 12 มี.ค. 58 เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการขอโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดประจ าปีงบประมาณ พ.ศ.2558 4. จัดประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการด้านแผนและด้านงบประมาณ ในวันท่ี 28 เม.ย. 58 เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการขอโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดและการขอให้งบประมาณเหลือจ่ายของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด 5. จัดประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการด้านแผนและด้านงบประมาณ ในวันที่ 24 มิ.ย. 58 เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับ 1) การขอเปลี่ ยนแปลงโครงการและการโอนเปลี่ ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายและการขอใช้งบประมาณเหลือจ่ายของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด 2) การปรับปรุงองค์ประกอบและอ านาจหน้าที่ของคณะอนุกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (อ.ก.น.จ.) ด้านแผนและด้านงบประมาณ 6. จัดประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการด้านแผนและ

16,650 บาท

21,700 บาท

21,155 บาท

22,450 บาท



(ถ้ามี)

ด้านงบประมาณ ในวันพฤหัสบดีที่ 24 ก.ย. 58 เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการขอโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด และการขอใช้งบประมาณเหลือจ่ายของจังหวัดและกลุ่ มจังหวัด ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ.2558

โค ร งก า รก า รป ระ ชุ ม ค ณ ะ กรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจั งหวัดแบบบูรณาการ

1. จัดประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัด และกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ ครั้งที่ 1/2558 ในวันที่ 7 ม.ค. 58 เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับ 1) นโยบายหลั ก เกณ ฑ์ และวิ ธี การทบทวนแผนพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัด (พ.ศ. 2557 – 2560) หลักเกณฑ์และวิธีการจัดท าแผนปฏิบัติ ราชการประจ าปีของจังหวัด/กลุ่มจังหวัดและปฏิทินการจัดท าแผนปฏิบัติราชการประจ าปีของจังหวัด/กลุ่มจังหวัดประจ าปีงบประมาณพ.ศ. 2559 2) หลักเกณฑ์และแนวทางการก าหนดกรอบการจัดสรรงบประมาณจังหวัด/กลุ่มจังหวัดประจ าปีงบประมาณพ.ศ. 2559 2. จัดประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ ครั้งที่ 2/2558 ในวันที่ 23 ก.พ. 58 เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับ 1) การพิจารณากลั่นกรองและให้ความเห็นชอบแผนพัฒนาจังหวัดและแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด (พ.ศ.2557-2560) ฉบับทบทวน 2) การพิจารณากลั่นกรองให้ ให้ความเห็นชอบ

- - 174,248 บาท

170,338 บาท



(ถ้ามี)

แผนปฏิ บั ติ ราชการประจ าปี ของจั งหวัด และแผนปฏิบัติราชการประจ าปีของกลุ่มจังหวัด และค าของบประมาณของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 3) รายงานผลการตรวจติดตามและประเมินผลการด าเนินการตามแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ครั้งที่ 1 ของผู้ตรวจราชการส านักนายกรัฐมนตรี และผู้ตรวจราจการกระทรวงมหาดไทย 3. จัดประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดเกี่ยวกับการพัฒนาระบบการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ ครั้งที่ 3/2558 ในวันที่ 24 ก.ค. 58 เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับ 1) หลักเกณฑ์และวิธีการจัดท าแผนปฏิบัติราชการประจ าปีของจังหวัด/กลุ่มจังหวัดและหลักเกณฑ์และแนวทางการก าหนดกรอบการจัดสรรงบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัดประจ าปีงบประมาณ พ.ศ.2560 2) การปรับปรุงองค์ประกอบและอ านาจหน้าที่ของคณะอนุกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (อ.ก.น.จ. ด้านแผนและด้านงบประมาณ)

197,420 บาท

นโยบายท่ี 10 การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที ่มีธรรมาภิบาล 10.1 ปรับปรุงระบบราชการใน

โครงการขับเคลื่อนการบริหารราชการแบบเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง

งบประมาณ 3,400,000 บาท ส านักงาน ก.พ.ร. ด าเนินโครงการขับเคลื่อนการบริหารราชการแบบเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง มาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 โดยในปีงบประมาณ

- - 1,457,280 บาท



(ถ้ามี)

ด้ านองค์ กรหรือหน่ วยงานภาครัฐทั้ งในระดับประเทศ ภูมิภาค และท้องถิ่นฯ

พ.ศ.2558 ได้ด าเนินโครงการฯ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างวัฒนธรรมท างานของข้าราชการ ที่ให้ความส าคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหารราชการ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสบการณ์จริงให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืนยิ่งขึ้น 2) ส่งเสริมและสนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐกับภาคส่วนอ่ืนให้เกิดความร่วมมือหรือความเป็นภาคีหุ้นส่วนร่วมกันในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยมีการด าเนินการ ดังนี ้ - ส านักงาน ก.พ.ร. ได้พัฒนาหลักเกณฑ์และแนวทางการพิจารณารางวัลความเป็นเลิศด้านการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม ประจ าปี พ .ศ. 2558 ซึ่งได้น าข้อมูลที่ได้จากการระดมความคิดเห็น (Focus Group) มาประกอบการวิเคราะห์และจัดท ากรอบแนวทางการพิจารณารางวัลความเป็นเลิศด้านการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม ดังกล่าว โดยเสนอ อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการพัฒนาและส่งเสริมการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม ในการประชุม ครั้งที่ 5/2557 วันท่ี 26 พ.ย. 57 และ ครั้ งที่ 1/2558 วันที่ 16 ม.ค. 58 รวมทั้ งได้ด าเนินการได้ปรับข้อเสนอรายละเอียดการด าเนินโครงการและประมาณการค่าใช้จ่ายของโครงการติดตามประเมินผลเพื่อมอบรางวัลความเป็นเลิศด้านการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม ประจ าปี พ.ศ. 2558 ให้สอดคล้องกับการปฏิบัติงานยิ่งขึ้น โดยได้



(ถ้ามี)

ก าหนดขอบเขตการด าเนินงานและประมาณการค่าใช้จ่ายในการติดตามประเมินผลและตัดสินการได้รับรางวัล “ความเป็นเลิศด้านการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม ซึ่งได้รับอนุมัติด าเนินโครงการฯ โดยมอบหมายให้สถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี เป็นผู้ด าเนินการแล้ว - ส านักงาน ก.พ.ร. ได้มีหนังสือเชิญชวนส่วนราชการและจังหวัดเสนอผลงานการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารราชการ โดยเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 2 มี.ค. – 10 เม.ย. 58 - การจัดประชุมช้ีแจงเพื่ อสร้างความเข้ าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และแนวทางการพิจารณารางวัลฯ ให้แก่จังหวัด ในวันที่ 2 มี.ค. 58 ผ่านระบบวิดีทัศน์ทางไกลของกระทรวงมหาดไทย - การประชุมสัมมนาเพื่ อสร้างความเข้ าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และแนวทางการพิจารณารางวัลฯ ให้กับส่วนราชการ ในวัน 3 มี.ค. 58 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนช่ัน กรุงเทพฯ - การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการสมัครขอรับรางวัลฯ ในวันที่ 19 – 20 มี.ค 58 ณ ส านักงาน ก.พ.ร. - จัดท าแนวทางการตรวจประเมินตามหลักเกณฑ์และแนวทางการพิจารณารางวัลความเป็นเลิศด้านการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม ประจ าปี พ.ศ. 2558 พร้อมรายละเอียดและค าอธิบายตัวช้ีวัดส าหรับใช้เป็น



(ถ้ามี)

แนวทางการประเมินการด าเนินการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารราชการของส่วนราชการ และจังหวัด ประจ าปี พ.ศ. 2558 - แต่งตั้งคณะท างานตรวจประเมินรางวัลฯ ตามค าสั่งที่ 1/2558 ลงวันที่ 26 มี.ค. 58 เรื่อง แต่งตั้งคณะท างานตรวจประเมินรางวัลรางวัลความเป็นเลิศด้านการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม ประจ าปี พ.ศ. 2558 เพื่อรับผิดชอบในการติดตามและประเมินผลการด าเนินการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารราชการและสรุปคะแนนและผลการจัดระดับรางวัลในเบื้องต้น ของส่วนราชการระดับกรม/เทียบเท่า และจังหวัด ที่เสนอผลงานการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมฯ เพื่อขอรับรางวัล “ความเป็นเลิศด้านการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม” ประจ าปี พ.ศ. 2558 - การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเตรียมความพร้อมส าหรับผู้ตรวจประเมินผลการด าเนินการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารราชการ ของส่วนราชการและจังหวัด ที่เสนอผลงานฯ เพื่อขอรับรางวัลฯ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 58 ณ โรงแรมรอยัล ปริ้นเซส หลานหลวง กรุงเทพฯ - จัดท าสรุปผลการสมัครรับรางวัลฯ ประจ าปี พ.ศ. 2558 ซึ่งมีส่วนราชการระดับกรม/เทียบเท่า และจังหวัด ที่ส่งผลการด าเนินการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารราชการ เพื่อขอรับ



(ถ้ามี)

รางวัลความเป็นเลิศด้านการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม ประจ าปี พ.ศ. 2558 จ านวน 35 หน่วยงาน ประกอบด้วย ส่วนราชการ จ านวน 29 ส่วนราชการ และจังหวัด จ านวน 6 จังหวัด โดยเสนอขอรับรางวัลฯ ใน 3 ประเภทรางวัล รวม 42 รางวัล ได้แก่ รางวัลกระบวนการมีส่วนร่วมในการบริหารราชการ จ านวน 6 รางวัล, รางวัลพัฒนาการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม จ านวน 25 รางวัล และรางวัลขยายผลการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม จ านวน 11 รางวัล - ส านักงาน ก.พ.ร. ได้มีการด าเนินงานเกี่ยวกับการประเมินผลการด าเนินการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในขั้นตอนที่ 1 (การประเมินจากใบสมัครและเอกสารประกอบ) โดยมีการประชุมคณะท างานตรวจประเมินรางวัลฯ ครั้งที่ 1/2558 เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 58 เพื่อพิจารณาและสรุปผลการด าเนินการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อขอรับรางวัล “ความเป็นเลิศด้านการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม” ประจ าปี พ.ศ. 2558 โดยที่มีหน่วยงานที่ผ่านการประเมินในขั้นตอนที่ 1 และจะได้รับการตรวจประเมินในขั้นตอนที่ 2 (การตรวจประเมินในพื้นที่จริง) จ านวน 26 หน่วยงาน แบ่งเป็น 29 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลกระบวนการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม 3 รางวัล, รางวัลพัฒนาการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม 18 รางวัล และรางวัลขยายผลการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม 8 รางวัล



(ถ้ามี)

- การลงตรวจประเมินพื้นที่การด าเนินการจริง (การประเมินขั้นตอนที่ 2) ของหน่วยงานที่ผ่านการประเมินจากใบสมัครและเอกสารประกอบ (การประเมินข้ันตอนท่ี 1) และคณะท างานตรวจประเมินรางวัลฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจประเมินเพื่อเป็นการสอบทานข้อมูลหรือข้อเท็จจริงตามผลการประเมินจากเอกสาร และเพื่อประเมินให้คะแนนผลการด าเนินงานที่แท้จริงประกอบการพิจารณารางวัลฯ ระหว่างวันที่ 8 มิ.ย. – 2 ก.ค. 58 - การประชุมคณะท างานตรวจประเมินรางวัลฯ ครั้งที่ 2/2558 เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 58 เพื่อพิจารณาสรุปผลการตรวจประเมินในพื้นที่จริง (การประเมินในขั้นตอนที่ 2) โดยมีหน่วยงานที่ผ่านการประเมิน อยู่ในเกณฑ์ได้รับรางวัลระดับดีเยี่ยม (คะแนนตั้งแต่ 90 คะแนนขึ้นไป) จ านวน 8 หน่วยงาน ระดับดี (คะแนนระวห่าง 80 - 89.99 คะแนน) จ านวน 11 หน่วยงาน และระดับชมเชย (คะแนนระหว่าง 70-79.99 คะแนน) จ านวน 3 หน่วยงาน รวมทั้งสิ้น 22 หน่วยงาน และไม่ผ่านการตรวจประเมิน 7 หน่วยงาน - การประชุม อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการพัฒนาและส่งเสริมการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม ครั้งที่ 3/2558 เมื่ อวันที่ 22 ก.ค. 58 ได้พิ จารณาและเห็นชอบผลการตรวจประเมินการด าเนินการของส่วนราชการระดับกรม/เทียบเท่า และจังหวัด (การประเมินในขั้นตอนที่ 1 และขั้นตอนที่ 2) และการจัดระดับ



(ถ้ามี)

รางวัลต่าง ๆ ของส่วนราชการและจังหวัด ตามที่คณะท างานตรวจประเมินรางวัลฯ เสนอและเห็นชอบให้มีการตรวจประเมินเพื่อยืนยันผลการด าเนินงานโดย อ.ก.พ.ร.ฯ (การประเมินในขั้นตอนที่ 3) ในหน่วยงานที่อยู่ ในเกณฑ์จะได้รับรางวัลระดับดีเยี่ยมจ านวน 8 หน่วยงาน ได้แก่ ส านักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, ส านักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ งแวดล้อม, กรมพัฒนาธุรกิจการค้ า, กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, กรมปศุสัตว์, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และกรมควบคุมโรค - การตรวจประเมินเพื่อยืนยันผลการด าเนินงาน (การประเมินในข้ันตอนที่ 3) โดย อ.ก.พ.ร.ฯ ประเมินยืนยันผลฯ ระหว่างวันที่ 2 – 25 ส.ค. 58 - การประชุม อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการพัฒนาและส่งเสริมการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม ครั้งที่ 4/2558 เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 58 ได้พิจารณาสรุปผลการได้รับรางวัล “ความเป็นเลิศด้านการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม” ประจ าปี พ.ศ.2558 โดยที่ประชุมมีมติให้หน่วยงานได้รับรางวัล จ านวน 18 หน่วยงาน (19 รางวัล) - การจัดงานมอบรางวัล “ความเป็นเลิศด้านการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม” ประจ าปี พ.ศ. 2558 จ านวน 19 รางวัล (18 หน่วยงาน) ในวันที่ 25 ก.ย. 58 ณ หอประชุมกองทัพเรือฯ พร้อมจัดท าเอกสารสรุป



(ถ้ามี)

บทเรียนที่ดีของการด าเนินการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารราชการ ประจ าปี พ.ศ. 2558 เพื่อสรุปผลการด าเนินงานการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ ามามี ส่ วนร่วมระดับความร่วมมื อ (Collaboration) ของหน่วยงานที่ได้รับการตัดสินให้ได้รับรางวัลในระดับดีเยี่ยม ส าหรับเป็นแนวปฏิบัติที่ดีและการเผยแพร่ รวมทั้งขยายผลการด าเนินการต่อไป - โครงการขับเคลื่อนการบริหารราชการแบบเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลางได้ด าเนินการตามขอบเขตและวิธีการด าเนินงานท่ีก าหนดไว้โดยบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการเรียบร้อยแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปผลการด าเนินโครงการ

นโยบายท่ี 10 การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที ่มีธรรมาภิบาล 10.1 ปรับปรุงระบบราชการในด้ านองค์ กรหรือหน่ วยงานภาครัฐทั้ งในระดับประเทศ ภูมิภาค และท้องถิ่นฯ

โครงการประเมินผลการปฏิบัติราชการของหน่วยงานของรัฐ ประกอบด้วย

1. การจัดท าค ารับรองการป ฏิ บั ติ ร า ช ก า ร แ ล ะ ก า รประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการจังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา

2. โครงการประเมินผลการปฏิบัติ งานตามค ารับรองการปฏิบัติงานขององค์การมหาชน

1. การจัดท าค ารับรองการปฏิบัติราชการและการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา โครงการปีงบประมาณ 2558 - การจัดท าค ารับรองการปฏิบัติราชการและการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ส่วนราชการจ านวน 18 กระทรวง 49 ส่วนราชการ จังหวัด 76 จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา 67 แห่ง ได้ลงนามค ารับรองการปฏิบัติราชการครบถ้วนแล้ว โครงการปีงบประมาณ 2559

- -



(ถ้ามี)

- การจัดท าค ารับรองการปฏิบัติราชการและการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบนัอุดมศึกษา ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 1. ก.พ.ร. ในการประชุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2558 ได้มีมติเห็นชอบกรอบแนวทางการจัดท าค ารับรองการปฏิบัติราชการ และการติดตามประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ จังหวัด สถาบันอุดมศึกษา และองค์การมหาชน ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ตามที่ส านักงาน ก.พ.ร. เสนอดังนี ้ กรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการของกระทรวง ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 1. มิติภายนอก (น้ าหนักร้อยละ 75) 1.1 การประเมินประสิทธิผล (น้ าหนักร้อยละ 65) ตัวช้ีวัดภารกิจหลักของกระทรวงตามแนวทางการขับเคลื่อนประเทศ /แผนยุทธศาสตร์กระทรวงและ ตัวช้ีวัดระหว่างกระทรวงที่มีเป้าหมายรว่มกัน (Joint KPIs) และ ตัวช้ีวัดร่วมระหว่างกระทรวงและจังหวัด (Function-Area KPIs) ตามนโยบายส าคัญของรัฐบาล 1.2 การประเมินคุณภาพ (น้ าหนักร้อยละ 10) ความพึงพอใจของผู้รับบริการ หมายเหตุ หากกระทรวงไม่มีตัวช้ีวัดนี้ให้น าน้ าหนักไปไว้ท่ีตัวช้ีวัดที่ 1 2. มิติภายใน (น้ าหนักร้อยละ 25) 2.1 การประเมินประสิทธิภาพ (น้ าหนักร้อยละ 15)



(ถ้ามี)

• การเบิกจ่ายงบประมาณ • การประหยัดพลังงาน • การประหยัดน้ า • การพัฒนาประสิทธิภาพระบบสารสนเทศภาครัฐ 2.2 การพัฒนาองค์การ (น้ าหนักร้อยละ 10) • การพัฒนาสมรรถนะองค์การ • ระดับคุณธรรมและความโปร่งใสการด าเนินงานของหน่วยงาน กรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการของจังหวัด ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 1. มิติภายนอก (น้ าหนักร้อยละ 80) 1.1 การประเมินประสิทธิผล (น้ าหนักร้อยละ 70) ตั ว ช้ี วัดยุท ธศาสตร์ของกลุ่ ม จั งหวัด /จั งหวัด ประกอบด้วย 1) ตัวช้ีวัดยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด 2) ตัวช้ีวัดยุทธศาสตร์จังหวัด 3) ตัวช้ีวัดร่วมระหว่างกระทรวงและจังหวัด (Function-Area KPIs) ตามนโยบายส าคัญของรัฐบาล 1.2 การประเมินคุณภาพ (น้ าหนักร้อยละ 10) ความพึงพอใจของผู้รับบริการ (งานบริการของศูนย์ด ารงธรรม และ/หรือ ศูนย์บริการร่วม) 2. มิติภายใน (น้ าหนักร้อยละ 20) 2.1 การประเมินประสิทธิภาพ (น้ าหนักร้อยละ



(ถ้ามี)

10) • การเบิกจ่ายงบประมาณ • การประหยัดพลังงาน • การประหยัดน้ า 2.2 การพัฒนาองค์การ (น้ าหนักร้อยละ 10) • การพัฒนาสมรรถนะองค์การ • ระดับคุณธรรมและความโปร่งใสการด าเนินงานของหน่วยงาน กรอบการประเมินผลการปฏิบั ติ ราชการของสถาบันอุดมศึกษา ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 1. มิติภายนอก (น้ าหนักร้อยละ 85) 1.1 การประเมินประสิทธิผล (น้ าหนักร้อยละ 85) ผลการประเมินคุณภาพการศึกษาภายใน ตามระบบ CHE QA Online / CUPT QA หรื อระบบอ่ืนท่ีสภามหาวิทยาลัยและ คปภ.รับรอง 2. มิติภายใน (น้ าหนักร้อยละ 15) 2.1 การประเมินประสิทธิภาพ (น้ าหนักร้อยละ 10) • การเบิกจ่ายงบประมาณ • การประหยัดพลังงาน • การประหยัดน้ า 2.2 การพัฒนาองค์การ (น้ าหนักร้อยละ 5) • ระดับคุณธรรมและความโปร่งใสการด าเนินงานของหน่วยงาน 2. ส านักงาน ก.พ.ร. ได้จัดให้มีการประชุมชี้แจงแนว



(ถ้ามี)

ทางการเจรจาข้อตกลงและประเมินผลการปฏิบัติราชการ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 แก่คณะกรรมการเจรจาข้อตกลงและประเมินผล ในวันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2558 ณ โรงแรม เดอะ แลนด์มาร์ค กรุงเทพมหานคร 3. ส านักงาน ก.พ.ร. จะเร่งรัดการด าเนินการจัดประชุมเจรจาข้อตกลงและประเมินผลรายส่วนราชการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2558 เป็นต้นไป

2. โครงการประเมินผลการปฏิบัติงานตามค ารับรองการปฏิบัติงานขององค์การมหาชน โครงการปีงบประมาณ 2558 งบประมาณ 4,581,200 บาท 1. ด าเนินการประเมินผลการปฏิบัติงานตามค ารับรองการปฏิบัติ งานขององค์การมหาชน ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ในเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2558 เสร็จสิ้นเรียบร้อย ขณะนี้อยู่ระหว่างรอน าเสนอผลการจัดกลุ่มและผลการปฏิบัติงานขององค์การมหาชน ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 - 2557 ต่อคณะรัฐมนตรี 2. ด าเนินการเจรจาความเหมาะสมของตัวช้ีวัด น้ าหนัก และค่าเป้าหมาย และจัดท าค ารับรอง การปฏิบัติงานขององค์การมหาชน ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 โดยจัดประชุมเจรจานอกรอบในเดือนพ.ย. 58 และประชุมเจรจาจริงในเดือน ธ.ค. 58

- -

1,960,833 บาท



(ถ้ามี)

นโยบายท่ี 10 การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที ่มีธรรมาภิบาล 10.1 ปรับปรุงระบบราชการ ในด้านองค์กรหรือหน่วยงานภาครัฐทั้ งในระดับประเทศ ภูมิภาค และท้องถิ่นฯ

ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 โครงการส่งเสริมและสนับสนุนการปรับบทบาทภารกิจ และโครงสร้าง หน่ วยงานของรัฐ ประกอบด้วย

1. โครงการปรับบทบาทภารกิจ หน่วยงานของรัฐ

2. โครงการเสริมสร้างและพัฒนาขีดสมรรถนะเครือข่ายการพัฒนาระบบราชการ

3. โครงการพัฒนาและส่งเสริม การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้

4. โครงการพัฒนาศักยภาพ ขององค์การมหาชนและหน่วยงาน ของรัฐรูปแบบอื่นที่มิใช่ส่วนราชการ

5. โครงการพัฒนีดสมรรถนะและรับรองมาตรฐานวิชาชีพที่ปรึกษาทางการบริหารในภาคราชการ

1. โครงการปรับบทบาทภารกิจหน่วยงานของรัฐ งบประมาณ 534,900 บาท แบ่งออกเป็น 1. การปรับบทบาทภารกิจหน่วยงานภาครัฐ ส านักงาน ก.พ.ร. ได้จัดท าโครงการการปรับบทบาทภารกิจหน่วยงานภาครัฐ เพื่อส่งเสริม ก ากับ ติดตาม ผลักดัน ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐมีการปรับปรุง ทบทวนบทบาทภารกิจ โครงสร้างและระบบบริหาร ให้มีความเหมาะสม มีประสิทธิภาพ รวมทั้งการด าเนินการตรวจเยี่ยมและติดตามประเมินผล การจัดและพัฒนาโครงสร้างระบบบริหารงานของหน่วยงานของรัฐ เพื่อพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพและขีดสมรรถนะ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้การสร้างความรู้ ความเข้าใจ และความร่วมมือในการท างานแบบกลไกเครือข่าย การให้ค าปรึกษา แนะน า ข้อเสนอแนะ และการแก้ไขปัญหาอุปสรรคร่วมกัน ระหว่างผู้รับผิดชอบงานหลักเกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ กับส านักงาน ก.พ.ร. ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยจัดกิจกรรม ดังนี้ 1) การประชุมเพื่อเสริมสร้างศักยภาพและขีดสมรรถนะในการทบทวนบทบาทภารกิจของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ - ได้มีการจัดประชุม เรื่อง แนวทางการก าหนดขอบเขต อ านาจหน้าที่ของราชการบริหารส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น ให้นักพัฒนาระบบ

- - 463,937.92 บาท



(ถ้ามี)

ราชการรับทราบและเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางดังกล่าว เพื่อใช้ประกอบการวิเคราะห์การปรับบทบาทภารกิจหน่วยงานภาครัฐ ในวันท่ี 23 ธ.ค. 57 ณ ส านักงาน ก.พ.ร. 2) การประชุมเพื่อส่งเสริม ก ากับ ติดตาม ผลักดันให้ส่วนราชการปรับปรุงบทบาทภารกิจ (ถ่ายโอน , NSW, SLA) ที่เหมาะสม สอดคล้องกับบทบาทภารกิจ โดยจัดประชุมกลุ่มย่อย และประชุมเชิงปฏิบัติการ - ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเสริมสร้างศักยภาพและขีดสมรรถนะในการทบทวนบทบาทภารกิจของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ เรื่อง “แนวทางการก าหนดขอบเขตอ านาจหน้าที่ ของราชการบริหารส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น” ในวันที่ 23 ธ.ค. 57 - ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การทบทวนบทบาทภารกิจของภาครัฐ ในวันที่ 7 ส.ค. 58 ณ ห้องประชุม 501-502 ส านักงาน ก.พ.ร.และวันท่ี 13 ส.ค. 58 ณ โรงแรมอมารีวอเตอร์เกทกรุงเทพ เพื่อจัดท าแนวทางการทบทวนบทบาทภารกิจของภาครัฐใน 3 ประเด็น 1) การทบทวนแนวคิดการจ าแนกบทบาท (Roles) ของภาครัฐ 4 ลักษณะ 2) การทบทวนแนวคิดการถ่ายโอนภารกิจภาครัฐ 3) การทบทวนบทบาทและแนวทางการ



(ถ้ามี)

บริหารราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ส าหรับในเรื่องของการปรับโครงสร้างหน่วยงานของรัฐ มีขั้นตอนที่ต้องด าเนินการ คือ เมื่อส่วนราชการส่งค าขอเข้ามา เจ้าหน้าที่ส านักงาน ก.พ.ร. จะวิเคราะห์แล้วน าเสนอ อ.ก.พ.ร.ฯ ด้านเศรษฐกิจ หรือด้านสังคมพิจารณา และน าเสนอ ก.พ.ร. เพื่อพิจารณาในเรื่องดังกล่าว ซึ่งได้มีการประชุม อ.ก.พ.ร.ฯ ด้านเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2557 เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 57 เพื่อพิจารณาเรื่องการปรับปรุงการจัดกลุ่มภารกิจของกระทรวงการคลัง แล้วมีมติไม่เห็นด้วยกับการปรับปรุงการจัดกลุ่มภารกิจใหม่ของกระทรวง การคลัง โดยเห็นควรให้จัดกลุ่มภารกิจของกระทรวง การคลัง แบ่งเป็น 3 กลุ่มภารกิจ ได้แก่ กลุ่มภารกิจด้านทรัพย์สิน กลุ่มภารกิจด้านรายได้ และกลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สินตามที่ก าหนดไว้เดิม ครม. ในการประชุมเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 57 มีมติเห็นชอบในหลักการกับร่าง พ.ร.บ.คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่าง พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... จัดตั้งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเปลี่ยนช่ือมาจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และน าเสนอ ก.พ.ร. เพื่อทราบในการประชุมวันที่ 29 ธ.ค. 57 พ.ร.บ. ปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ 3)



(ถ้ามี)

พ.ศ. 2558 เพื่อจัดตั้งส านักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้ า กระทรวงพาณิ ชย์ และ พ.ร.บ.ปรับปรุ ง กระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2558 เพื่อจัดตั้งกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ให้เป็นหน่วยงานระดับกรม ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว ส านักงาน ก.พ.ร.ได้จัดประชุมสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นข้อเสนอการเปลี่ยนแปลงการปรับบทบาทหน้าที ่ภารกิจ โครงสร้างและการเพิ่มประสิทธิภาพการด าเนินการของส่วนราชการ ในวันที่ 29-31 ม.ค. 58 ณ จ.ประจวบคีรีขันธ ์ กระทรวงคมนาคม 1. กรมการขนส่ งทางราง ได้ มี การประชุ มคณะกรรมการพัฒนาโครงสร้างระบบราชการของกระทรวงคมนาคม รวม 4 ครั้ง มีมิติ 1.1 ก าหนดบทบาทภารกิจ อ านาจหน้าที่ของกรมการขนส่งทางราง 1.2 แบ่ งส่ วนราชการภายในเป็น 6 กอง (ส านักงานเลขานุการกรม กองกฎหมายและจัดกรรมสิทธิ์ที่ ดิน กองพัฒนาโครงข่ ายและลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน กองมาตรฐานการประกอบกิจการ กองมาตรฐานความปลอดภัยและบูรณะบ ารุงทาง และกองแผนงาน) 1.3 ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ร.บ.



(ถ้ามี)

ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ รฟท. รฟม. 2. กรมการบินพลเรือน 2.1 ประชุมคณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างและอ านาจหน้าที่ขององค์กรด้านการบินพลเรือน (ค าสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 128/58) มีมติ - จัดตั้งส านักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยเป็นหน่วยงานอิสระ - ปรับบทบาทภารกิจ อ านาจหน้าที่ และเปลี่ยนช่ือกรมการบินพลเรือน เป็น กรมท่าอากาศยาน รวมทั้งแบ่งส่วนราชการภายในใหม่ - จัดตั้งส่วนราชการเทียบเท่ากอง ในส านักงานปลัดส านักนายกรัฐมนตรี 2 กอง ได้แก ่ 1) ส านักงานคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์รุนแรงของอากาศยาน 2) ส านักงานคณะกรรมการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานและเรือที่ประสบภัย การจัดโครงสร้างองค์กรด้านการบินพลเรือน ประชุมคณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างและอ านาจหน้าที่ขององค์กรด้านการบินพลเรือน (ค าสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 128/58) มีมติ 1) จัดตั้งส านักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยเป็นหน่วยงานอิสระ 2) ปรับบทบาทภารกิจ อ านาจหน้าที่ และเปลี่ยนช่ือกรมการบินพลเรือน เป็น กรมท่าอากาศยาน



(ถ้ามี)

รวมทั้งแบ่งส่วนราชการภายในใหม่ 3) จัดตั้งส่วนราชการเทียบเท่ากอง ในกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 2 กอง ได้แก ่ - กองสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์รุนแรงของอากาศยาน - กองค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานและเรือที่ประสบภัย 2. นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ ส านั กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณาร่างกฎหมายจัดตั้งส านักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยและกรมท่าอากาศยาน 3. ส านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เสนอร่างกฎหมายให้ นายกรั ฐมนตรีพิ จารณา มี ผลการด าเนินงาน ดังนี ้ ส านักงาน ก.พ.ร. เข้าร่วมประชุมที่ส านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) จ านวน 17 ครั้ง โดยมีร่างกฎหมายที่ด าเนินการแล้วเสร็จ ดังนี้ - ร่าง พ.ร.ก. การบินพลเรือนแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... - ร่าง พ.ร.ก. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. .... - ร่ าง พ.ร.ก. แก้ ไขเพิ่ มเติ ม พ.ร.บ. การเดินอากาศ พ.ศ. .... - ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ กรมท่าอากาศยาน พ.ศ. ....



(ถ้ามี)

4. ค าสั่ง คสช. ที่ 27/58 ลงวันที่ 11 ก.ย. 58 เรื่อง การแก้ไขปัญหาการก ากับดูแลและพัฒนาการบิน พลเรือนของประเทศไทย ให้จัดตั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน (ศบปพ.) โดยมีผู้บัญชาการทหารอากาศเป็นผู้บัญชาการศูนย์ฯ ส านั กงาน ก .พ .ร . ได้ เข้ าร่ วมประชุ มที่กองทัพอากาศในวันท่ี 14 และ 21 ก.ย. 58 เพื่อแก้ไขปัญหาแก้ไขข้อขัดข้องจากการตรวจสอบขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศและส านักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 1. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาขอจัดตั้งกรมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา 2. ส านักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอจัดตั้ งกองมาตรฐานและก ากับความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กรมการท่องเที่ยว ขอจัดตั้งสถาบันพัฒนาบุคลากร ด้านการท่องเที่ยว - อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการทบทวนและปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการด้านสังคม ในการประชุมครั้งที่ 8/2556 เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2556 ได้เห็นชอบให้จัดตั้งหน่วยงานดังกล่าว ยกเว้นกรมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา เห็นควรให้จัดตั้งเป็นกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ในส านักงานปลัดกระทรวงฯ



(ถ้ามี)

- อยู่ระหว่างรอเสนอ ก.พ.ร. เพื่อพิจารณา เนื่องจากรอค าขอในส่วนที่ขออุทธรณ์ให้ อ.ก.พ.ร.ฯ ท าการพิจารณาทบทวนใหม ่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาขอให้ อ.ก.พ.ร. พิจารณาทบทวนใหม่ 1) ส านักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอจัดตั้งส านักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ส านักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ ยวและกีฬา เพิ่มเติม จ านวน 45 จังหวัด จากที่ก าหนดไว้เดิม จ านวน 31 จังหวัด รวมเป็น 76 จังหวัด 2) กรมการท่องเที่ยว การขอจัดตั้งกองกิจการภาพยนตร์ต่างประเทศ กรมการท่องเที่ยว ผลการด าเนินงาน 1) อ.ก.พ.ร.ฯ ด้านสังคม ในการประชุมครั้งที่ 1/2558 เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 58 ได้พิจารณาแล้ว มีมติให้ส านักงาน ก.พ.ร. น าเรื่องเสนอ อ.ก.พ.ร. ฯ ด้านสังคมพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง และให้เชิญผู้แทนของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามาช้ีแจงข้อมูลในการประชุมครั้งต่อไป 2) อ.ก.พ.ร.ฯ ด้านสังคม ในการประชุมครั้งที่ 2/2558 เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 58 ได้ฟังการช้ีแจงของผู้แทนกระทรวงฯ เกี่ยวกับบทบาทภารกิจ ปริมาณงาน และคุณภาพงาน รวมทั้งเหตุผลความจ าเป็นในการขอจัดตั้งส่วนราชการที่ขอทบทวน 3) อ.ก.พ.ร. ฯ ด้านสังคม ในการประชุมครั้งที่



(ถ้ามี)

4/2558 เมื่อวันท่ี 9 ก.ย. 58 ผู้แทนกระทรวงฯ ได้มาช้ีแจงและให้ข้อมูลเกี่ยวกับส่วนราชการที่ขอทบทวนอีกครั้ง และที่ประชุมมีมติให้จัดตั้งส านักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด 76 จังหวัด และกองกิจการภาพยนตร์ต่างประเทศ 4) อยู่ระหว่างจัดท าบันทึกเพื่อเสนอ ก.พ.ร. พิจารณาต่อไป กระทรวงแรงงาน ก.พ.ร. ในการประชุมครั้งที่ 3/2556 เมื่อวันท่ี 16 พ.ค. 56 ได้พิจารณาแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาหน่วยงาน กระทรวงแรงงาน (พ.ศ. 2554 – 2556) แล้ว มีมติเห็นชอบให้จัดตั้งหน่วยงานระดับกองใหม่ จ านวน 18 ส่วนราชการ และให้น าค าขอจัดตั้งส่วนราชการ ที่ยังค้างการพิจารณา ในส่วนของส านักงานจัดหางาน กทม.พื้นที่ 1-10 ในกรมการจัดหางาน ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน (ช่ือจังหวัด) 77 แห่ง ในกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และส านักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กทม. พื้นที่ 1-10 ในกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ไปพิจารณาใน อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการทบทวนและปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการด้านเศรษฐกิจ สรุปค าขอของกระทรวงแรงงาน 1) กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ขอจัดตั้งส านักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กทม พื้นท่ี 1-10 2) กรมการจัดหางาน ขอจัดตั้งส านักงานจัดหางาน



(ถ้ามี)

กทม พื้นที่ 1-10 สถานะการด าเนินงาน - อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการทบทวนและปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการด้านสังคม ในการประชุม ครั้งที่ 8/2556 เมื่อวันที่ 11 กค. 56 ได้เห็นชอบให้จัดตั้งส านักงานจัดหางาน กทม. พื้นที่ 1-5 และส านักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กทม. พื้นที่ 1-5 - อยู่ ระหว่างรอเสนอ ก.พ.ร. เพื่ อพิ จารณา เนื่องจากรอค าขอในส่วนที่ขออุทธรณ์ให้ อ.ก.พ.ร.ฯ พิจารณาทบทวนใหม่ เร่ืองที่ขอให้ อ.ก.พ.ร. ฯ พิจารณาทบทวนใหม่ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ขอจัดตั้งสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด จ านวน 58 แห่ง สถานะการด าเนินงาน - อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการทบทวนและปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการด้านสังคม ในการประชุม ครั้งที่ 1/2558 เมื่อวันที่ 23 เม.ย.58 ได้พิจารณาแล้ว มีมติให้ส านักงาน ก.พ.ร. น าเรื่องเสนอ อ.ก.พ.ร.ฯ ด้านสังคม พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง และให้เชิญผู้แทนของกระทรวงแรงงานมาช้ีแจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบาทภารกิจ ปริมาณงาน และคุณภาพงาน รวมทั้งเหตุผลความจ าเป็นในการขอจัดตั้งในการประชุมครั้งต่อไป - ในการประชุม อ.ก.พ.ร.ฯ ด้านสังคม ครั้งที่ 2/2558 เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 58 ผู้แทนกระทรวงฯ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบาทภารกิจ ปริมาณงาน



(ถ้ามี)

และคุณภาพงาน รวมทั้งเหตุผลความจ าเป็นในการขอจัดตั้งและขอก าหนดพื้นที่จังหวัด (Re-Zoning) ใหม่โดยปรับลดเหลือ 35 แห่งเพื่อน าเสนอในการประชุมครั้งต่อไป - ในการประชุม อ.ก.พ.ร.ฯ ด้านสังคม ครั้งที่ 3/2558 เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 58 มีมติมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปหารือกับกรมพัฒนาฝึมือแรงงานอีกครั้งหนึ่งเพื่อจัดกลุ่มจังหวัดใหม่ให้เหมาะสม ตามความเห็นและข้อสังเกตของ อ.ก.พ.ร.ฯ - ในการประชุม อ.ก.พ.ร.ฯ ด้านสังคม ครั้งที่ 4/2558 เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 58 มีมติเห็นชอบให้จัดตั้งสถาบันพัฒนาฝึมือแรงงาน จ านวน 22 แห่ง รวมพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 3 จังหวัด (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) รวมทั้งสิ้น 25 แห่ง - อยู่ ระหว่างจัดท าบันทึกเพื่ อเสนอ ก.พ.ร. พิจารณาต่อไป กระทรวงการคลัง ขอปรับปรุงส่วนราชการภายในกรมบัญชีกลาง ดังนี้ 1) ขอจั ดตั้ งห น่ วย งาน ให ม่ 3 ห น่ วย งาน ประกอบด้วย 1.1 กองบริหารการเบิกจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง บ าเหน็จบ านาญ 1.2 กองคดี 1.3 กองสวัสดิการรักษาพยาบาล



(ถ้ามี)

2) ปรับปรุงงานและปรับเปลี่ยนช่ือจากส านักเป็นกอง 5 หน่วยงาน 3) ปรับเปลี่ยนช่ือจากส านักเป็นกอง 5 หน่วยงาน สถานะการด าเนินงาน - อ.ก.พ.ร.ฯ ด้านเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2558 วันท่ี 15 ก.ย. 58 มีมติ เห็นชอบตามค าขอที่กระทรวง การคลังเสนอ - อยู่ ระหว่างจัดท าบันทึกเพื่ อเสนอ ก.พ.ร. พิจารณาต่อไป การด าเนินการตาม พ.ร.บ. การอ านวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ผลผลิตหลัก คือ 1) คู่มือส าหรับประชาชน 2) ศูนย์บริการร่วม 3) ศูนย์รับค าขออนุญาต 4) การปฏิบัติของเจ้าหน้าท่ีในการรับค าขอ 1) คู่มือส าหรับประชาชน ต้องด าเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน นับจากประกาศใช้ โดยส านักงาน ก.พ.ร. ได้ด าเนินการ ดังนี ้ - จัดประชุมช้ีแจงให้กับส่ วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อด าเนินการจัดท าคู่มือส าหรับประชาชนซึ่งต้องมีหลักเกณฑ์ วิธีการเง่ือนไข ขั้นตอน ระยะเวลาที่ ใช้ รายการเอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ ตามที่ ก.พ.ร. ก าหนด ให้แล้วเสร็จทันตามระยะเวลาที่ กฎหมายก าหนด - ส านักงาน ก.พ.ร. ช่วยส่วนราชการน าร่อง 21



(ถ้ามี)

ส่วนราชการ ในการจัดท าคู่มือประชาชน โดยการจัดประชุมช้ีแจง จัดคลินิกให้ค าปรึกษา พัฒนาระบบไอทีสนับสนุนการด าเนินงานตาม พ.ร.บ.ฯ ตรวจสอบความถูกต้องของคู่มือก่อนการประกาศใช้จริง - เปิดคลินิกให้ค าปรึกษาในการจัดท าคู่มือส าหรับประชาชนตาม พ.ร.บ. การอ านวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ส าหรับส่วนราชการระดับกรมระหว่างวันที่ 20-27 เม.ย. 58 หน่ วยงานอิสระ องค์ การมหาชนและรัฐวิสาหกิจ ระหว่างวันท่ี 27-30 เม.ย. 58 ณ โรงแรมเดอะทวินทาวเวอร์ กรุงเทพฯ - เจ้าหน้าที่ส านักงาน ก.พ.ร. ตรวจความถูกต้องของคู่มือส าหรับประชาชนฯ ก่อนน าเสนอ ก.พ.ร. และประกาศใช้ต่อไป 2. การทบทวนภารกิจของส่วนราชการ ตามมาตรา 33 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ส านักงาน ก.พ.ร. ได้ด าเนินการ ดังนี ้ 1) เจ้ าหน้ าที่ ส านักงาน ก.พ.ร. ได้ด าเนินการวิเคราะห์ ก ากับ ติดตาม การปฏิบัติตามแผนการถ่ายโอนงานด้านการตรวจสอบและรับรองคุณภาพมาตรฐาน เพื่อให้การด าเนินการเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี 2) แต่งตั้ง อ.ก.พ.ร. เฉพาะกิจ เกี่ยวกับการถ่ายโอนภารกิจของส่วนราชการด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคม



(ถ้ามี)

เพื่อรับผิดชอบเรื่องการถ่ายโอนภารกิจและท าหน้าที่เป็นผู้ให้ค าปรึกษาและช่วยแก้ปัญหาให้กับส่วนราชการ 3) จัดการประชุม อ.ก.พ.ร. เฉพาะกิ จฯ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 รวม 9 ครั้ง ดังนี้ อ.ก.พ.ร.เฉพาะกิจฯ ด้านเศรษฐกิจ รวม 4 ครั้ง อ.ก.พ.ร. เฉพาะกิจฯ ด้านสังคม รวม 5 ครั้ง 4) ส านักงาน ก.พ.ร. ได้น ามติ อ.ก.พ.ร. เฉพาะกิจฯ ด้านเศรษฐกิจ เรื่อง การถ่ายโอนงานตรวจสอบรับรองมาตรฐานระบบการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) จากภาครัฐ เสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา) เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 57 และท่าน รมต. ได้มอบหมายให้ส่วนราชการที่ เกี่ยวข้องประชุมหารือวิธีการด าเนินการในเรื่องดังกล่าวให้บรรลุผลส าเร็จตามเป้าหมาย 5) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดประชุมหารือเกี่ยวกับการขับเคลื่อนงาน “การถ่ายโอนภารกิจด้านการตรวจรับรองสินค้าเกษตร” ไปสู่การปฏิบัติ เมื่อวันท่ี 21 ต.ค. 57 เพื่อรับทราบความก้าวหน้า ปัญหา อุปสรรคของการด าเนินงานรวมทั้งหาแนวทางการขับเคลื่อนงานดังกล่าว ทั้งในด้านการด าเนินการ และการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่เป็นอุปสรรคในการด าเนินงานให้สามารถท าการถ่ายโอนงานให้ส าเร็จได้โดยเร็วต่อไป 6) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดประชุมหารือระหว่างส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ที่



(ถ้ามี)

เกี่ยวข้องกับงานการถ่ายโอนภารกิจด้านการตรวจสอบและรับรองมาตรฐาน กับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย (สถาบันส่งเสริมคุณภาพเกษตรไทย) เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 57 7) งานสอบเทียบและตรวจสอบเครื่องมือและอุปกรณ์ ส าหรับใช้ ในการตรวจอากาศ ในกรมอุตุนิยมวิทยา อ.ก.พ.ร.ฯ ด้านเศรษฐกิจมีความเห็นว่าปริมาณงานค่อนข้างน้อย อาจไม่คุ้มค่ากับการลงทุนของภาคเอกชน ควรหารือร่วมกับสถาบันมาตรวิทยาแห่ งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ อี กครั้ งหนึ่ งส านักงาน ก.พ.ร. ได้หารือกับสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ เกี่ยวกับงานบริการสอบเทียบที่สถาบันฯ ให้บริการ และติดตามสถานะของการให้บริการสอบเทียบเครื่องมือของกรมอุตุนิยมวิทยาในปัจจุบัน และจะน าเสนอผลการหารือดังกล่าวเพื่อน าเสนอต่อ อ.ก.พ.ร.ฯ ด้านเศรษฐกิจต่อไป 8) การประชุม อ.ก.พ.ร. เฉพาะกิจฯ ด้านสังคม ครั้งที่ 1/2558 เมื่อวันท่ี 16 ก.ค. 58 ได้พิจารณาการด าเนินการถ่ายโอนงานของกลุ่มกระทรวงด้านสังคมระยะที่ 2 และระยะที่ 3 แล้วมีมติ เห็นชอบตามที่ส านักงาน ก.พ.ร. เสนอ ดังนี ้ 8.1 งานท่ีได้ด าเนินการถ่ายโอนแล้วเสร็จของระยะที่ 3 จ านวน 20 งาน (13 ส่วนราชการ) 8.2 งานที่ยั งคงอยู่ ระหว่างการด าเนินการ จ านวน 24 งาน (9 ส่วนราชการ) โดยมอบหมายให้ส านักงาน ก.พ.ร. เร่งรัดและติดตามการด าเนินการถ่าย



(ถ้ามี)

โอนของส่วนราชการให้แล้วเสร็จต่อไป 9) การประชุม อ.ก.พ.ร. เฉพาะกิจฯ ด้านเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2558 เมื่อวันท่ี 28 ส.ค. 58 ได้พิจารณาการด าเนิ นการถ่ ายโอนงานของกลุ่ มกระทรวงด้ านเศรษฐกิจที่ยังค้างการพิจารณา 18 งานใน 10 ส่วนราชการ แล้วมีมติเห็นชอบตามที่ส านักงาน ก.พ.ร. เสนอ ดังนี ้ 9.1) เห็นควรยกเลิกการถ่ ายโอนงานตามข้อเสนอของส่วนราชการ จ านวน 4 งาน 9.2) เห็นควรยืนยันให้ส่วนราชการด าเนินการถ่ายโอน และจัดท าแผนการด าเนินการถ่ายโอนงานเพื่อน าเสนอ อ.ก.พ.ร. เฉพาะกิจฯ ในการประชุมครั้งต่อไป จ านวน 4 งาน 9.3) เห็นควรยืนยันปรับเปลี่ยนไปเป็นองค์การมหาชน/องค์กรรูปแบบอื่น ตามมติ ก.พ.ร. และขอให้ส่วนราชการจัดท าแผนการด าเนินการที่มีการศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ตามข้อเสนอของส่วนราชการ เพื่อน าเสนอ อ.ก.พ.ร. เฉพาะกิจฯ ในการประชุมครั้งต่อไป จ านวน 4 งาน 9.4) เห็นชอบตามความเห็นของส านักงาน ก.พ.ร. โดยให้รอผลการพิจารณาการปรับปรุงโครงสร้างและอ านาจหน้าที่ขององค์กรด้านการบินพลเรือนที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายส านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาร่างกฎหมายจัดตั้ งหน่ วยงานดังกล่าวเป็นองค์กรอิสระ และมอบหมายให้อ.ก.พ.ร.



(ถ้ามี)

เฉพาะกิจฯ (นายไมตรี ศรีนราวัฒน์) และส านักงาน ก.พ.ร. ร่วมหารือกับกระทรวงคมนาคมในการปรับบทบาทภารกิจการบริหารท่าอากาศยาน รวมทั้งการก าหนดโครงสร้างที่ เหมาะสม เพื่ อรองรับภารกิจดังกล่าวและน ามาเสนอในการประชุมครั้งต่อไป ในกรมการบินพลเรือน กระทรวงคมนาคม จ านวน 6 งาน และได้พิจารณาการถ่ายโอนงานตรวจสอบรับรองมาตรฐาน GAP ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้วมีมติเห็นควรมอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ศึกษาเรื่องรูปแบบการจัดตั้งองค์การไม่แสวงหาผลก าไร (Non-Profit Organization) ขึ้นท าหน้าที่ เป็นหน่วยตรวจสอบและรับรองมาตรฐาน หรือเป็นหน่วยงานด้านการให้ค าปรึกษาและฝึกอบรม (Consult and Training) รวมทั้งจัดท าข้อเสนอในเรื่องดังกล่าวเพื่อเตรียมการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งนี้ เพื่อให้การถ่ายโอนงานตรวจสอบรับรองมาตรฐาน GAP ของกระทรวงฯ เกิดสัมฤทธ์ิผล และขอให้กระทรวงฯ น าผลการศึกษามาเสนอในการประชุมครั้งต่อไป

2. โครงการเสริมสร้างและพัฒนาขีดสมรรถนะเครือข่ายการพัฒนาระบบราชการ งบประมาณ 1,008,500 บาท จัดประชุมตามโครงการฯ 3 ครั้ง ดังนี ้ 2.1 ประชุมสัมมนา เรื่อง “แนวทางการจัดท าคู่มือ

- - 863,848 บาท



(ถ้ามี)

ประชาชนของหน่วยงานตัวอย่างตามพระราชบัญญัติการอ านวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558” เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 58 ณ โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน โดยเชิญหน่วยงานตั วอย่ างรวม 21 หน่ วยงาน (ส่ วนราชการ 17 หน่วยงาน องค์การมหาชน 2 หน่วยงาน องค์กรปกครองปกครองส่ วนท้ องถิ่ นรูปแบบพิ เศษ 1 หน่วยงาน และรัฐวิสาหกิจ 1 หน่วยงาน) มีผู้เข้าร่วมประชุมรวม190 คนเพื่อเตรียมความพร้อมในการด าเนินการตาม พ.ร.บ. ดังกล่าว โดยคัดเลือกหน่วยงานที่ มี ภารกิ จหลั กในการอนุ มั ติ อนุญาต รวม 21 หน่วยงาน มาจัดท าคู่มือส าหรับประชาชน เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับหน่วยงานอื่นๆ 2.2 ประชุม เรื่อง “การจัดคลินิกให้ค าปรึกษาในการจัดท าคู่ มื อส าหรับประชาชนของหน่วยงานตัวอย่าง” เมื่อวันที่ 23 – 25 ก.พ. 58 ณ โรงแรมเดอะ ทวิน ทาวเวอร์ โดยเชิญหน่ วยงานตั วอย่ าง 21 หน่วยงาน (ส่วนราชการ 17 หน่วยงาน องค์การมหาชน 1 หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1 หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ (กรุงเทพมหานคร) 1 หน่วยงาน และรัฐวิสาหกิจ 1 หน่วยงาน) เพื่อให้หน่วยงานตัวอย่างดังกล่าวสามารถจัดท าคู่มือส าหรับประชาชนได้อย่างถูกต้องและเกิดผลสัมฤทธิ์ตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการอ านวยความสะดวกฯ โดยการให้มีการจัดคลินิกให้



(ถ้ามี)

ค าปรึกษากับแต่ละหน่วยงาน 2.3 ประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การเตรียมความพร้อมในการจัดท าค ารับรองการปฏิบัติราชการระดับกระทรวงประจ าปีงบประมาณ พ.ศ.2559” เมื่อวันที่ 2-3 ก.ย. 58 ณ โรงแรมดุสิตธานี หั วหิน จ.เพชรบุรี โดยเชิญผู้แทนที่ท าหน้าที่ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการของส่วนราชการระดับกระทรวงและส่วนราชการระดับกรมที่เทียบเท่ากระทรวง รวม 160 คน จาก 49 หน่วยงานเข้าร่วม เพื่อพัฒนาสมรรถนะและสร้างความพร้อมในการจัดท าค ารับรองการปฏิบัติราชการ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2559

3. โครงการพัฒนาและส่งเสริมการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ งบประมาณ 832,100 บาท จัดประชุมตามโครงการฯ 2 ครั้ง ดังนี ้ 3.1 จัดประชุมสัมมนา เรื่อง การจัดโครงสร้างส่วนราชการที่มีประสิทธิภาพ เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 57 โดยเชิญหัวหน้ากลุ่มพัฒนาระบบบริหารและทีมงาน รวมทั้ งผู้ ที่ เกี่ ยวข้อง รวม 400 คน เข้ าร่วม เพื่ อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์ ด้านการจัดโครงสร้างส่วนราชการที่มีประสิทธิภาพ คุ้มค่า มีระบบการท างานที่ทันสมัย สนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบราชการที่โปร่งใส ตามหลักการบริหาร

- - 432,792 บาท



(ถ้ามี)

กิจการบ้านเมืองที่ดี และเตรียมความพร้อมในการปรับปรุงบทบาทภารกิจและโครงสร้างของส่วนราชการให้สอดคล้องเหมาะสมกับระบบและวิธีการท างานดังกล่าว โดยมีการเช่ือมโยงบูรณาการการท างานกับหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง และการยกระดับประสิทธิภาพการบริหารจัดการภาครัฐสมัยใหม่เพื่อส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรและหน่วยงานภาครัฐให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ ที่คิดริเริ่มเปลี่ยนแปลง ปรับตัวทันต่อสถานการณ์ พร้ อมทั้ งสร้ างเครือข่ ายแห่ งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 3.2 จัดประชุมสัมมนา เรื่อง แนวทางในการจัดท าคู่มือส าหรับประชาชนตามพระราชบัญญัติการอ านวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 58 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนช่ัน กรุงเทพมหานคร โดยเชิญผู้แทนจากรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หน่วยงานของรัฐรูปแบบอื่น สภาวิชาชีพ สถาบันภายใต้ มู ลนิ ธิ หน่วยงานอิสระภายใต้รัฐธรรมนูญ และหน่วยงานอิสระอื่นๆ ที่เป็นหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งหมด 150 หน่วยงาน และมีผู้เข้าร่วมการประชุม รวม 250 คนเข้าร่วมเพื่อให้หน่วยงานของรัฐได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์ เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ และหน่วยงานของรัฐที่มีการอนุมัติ อนุญาต มีการจัดท าคู่มือส าหรับประชาชนได้อย่างเหมาะสมถูกต้อง บุคลากรมีความพร้อมและสามารถเรียนรู้ คิดริเริ่ม



(ถ้ามี)

เปลี่ยนแปลง และปรับตัวทันต่อสถานการณ์ เกิดผลสัมฤทธิ์ตามเจตนารมณ์ของการขับเคลื่อนระบบราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

4. โครงการพัฒนาศักยภาพขององค์การมหาชนและหน่วยงานของรัฐรูปแบบอื่นที่มิใช่ส่วนราชการ งบประมาณ 566,200 บาท - จัดประชุมเพื่อพัฒนาระบบบริหารงานองค์การมหาชน (ระดั บประธานกรรมการ/กรรมการ/ผู้อ านวยการองค์การมหาชน) เรื่องข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิ รูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนู ยแห่ งราชอาณาจักรไทย (เรื่องการปฏิรูปองค์การมหาชน) เมื่อวันศุกร์ที่ 2 ต.ค. 58 และได้ประมวลสรุปผลการประชุมตอบไปยังส านักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว - อยู่ระหว่างเตรียมการศึกษาดูงานองค์การมหาชน ของคณะกรรมการเจรจาข้อตกลงและประเมินผลฯ/ส านักงาน ก.พ.ร. ซึ่งคาดว่าจะจัดในเดือน ม.ค. 59

- - 64,680 บาท

5. โครงการพัฒนาขีดสมรรถนะและรับรองมาตรฐานวิชาชีพที่ปรึกษาทางการบริหารในภาคราชการ งบประมาณ 2,200,000 บาท การพัฒนาขีดสมรรถนะและรับรองมาตรฐานวิชาชีพที่ปรึกษาทางการบริหารในภาคราชการมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ให้แก่กลุ่มพัฒนา

- - 2,200,000 บาท



(ถ้ามี)

ระบบบริหารของส่วนราชการต่างๆ และเครือข่ายการพัฒนาระบบราชการ ให้สามารถน าองค์ความรู้ด้านการพัฒนาระบบราชการและการจัดการภาครัฐแนวใหม่ไปประยุกต์ใช้ให้สอดรับกับบริบทการท างานและการบริหารราชการในแต่ละกระทรวงและกรมอย่างเหมาะสมและสามารถให้ค าปรึกษาแนะน าแก่ส่วนราชการของตนอย่างมืออาชีพและเป็นท่ียอมรับ เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบราชการให้ ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง เป็นการพัฒนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ดูงาน ศึกษา เปรีบเทียบระหว่างหน่วยงานภาครัฐของประเทศที่พัฒนาแล้ว และระหว่างหน่วยงานตัวอย่างภายในประเทศโดยจัดการฝึกอบรมตามหลักสูตรการเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพที่ปรึกษาด้านการบริหารส าหรับหน่ วยงานภาครั ฐระดั บพื้ นฐาน (Fundamental) โดยมี การจั ดท าโครงการ เสนอโครงการและออกหนังสือเพื่อรับสมัครผู้เข้ารับการฝึกอบรมตามข้อเสนอโครงการรวม 43 คน ระหว่างวันท่ี 1 – 18 พ.ค. 58 และจัดท าข้อตกลงสัญญากับสถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี (IGP) เพื่อจัดท าแผนการฝึกอบรมและเสนอหลักสูตรการฝึกอบรม ซึ่งมีเนื้อหาวิชา 132 ช่ัวโมง ประกอบด้วย 1) ความท้าทายต่อการพัฒนาส่วนราชการยุคโลกาภิวัตน์และประชาคมอาเซียน 2) การทบทวนปรับปรุงบทบาทภารกิ จและยุทธศาสตร์



(ถ้ามี)

3) ทักษะการเป็นที่ปรึกษาด้านการบริหาร 4) เครื่องมือทางการบริหารและการประยุกต์ใช้ในการพัฒนาระบบราชการ 5) การก าหนดยุทธศาสตร์ในการเปลี่ยนแปลง และแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาหน่วยงาน โดยด าเนินกิจกรรม ดังนี ้ (1) พัฒนาหลักสูตรการเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพท่ีปรึกษาด้านการบริหารส าหรับหน่วยงานภาครัฐระดับพื้นฐาน (Fundamental) ให้เหมาะสม ทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของประเทศเพื่อการพัฒนามาตรฐานการให้บริการของรัฐและส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยการจัดท าข้อตกลงการให้บริการและการปรับปรุงกระบวนงานด้านการให้บริการพัฒนาระบบการให้บริการผ่านระบบอิเล็คทรอนิกส์ในโครงการ Thailand Gateway และกฎหมายว่าด้วยการอนุมัติ เช่น พระราชบัญญัติการอ านวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 และการให้มีการจัดตั้งศูนย์บริการร่วมเพื่อรับค าร้องและศูนย์รับค าขออนุญาต ณ จุดเดียว ระหว่างวันที่ 18 พ.ค. – 18 มิ.ย. 58 (2) พัฒนาข้าราชการกลุ่มพัฒนาระบบบริหารของส่วนราชการต่างๆ และเจ้าหน้าที่ส านักงาน ก.พ.ร. จ านวน 43 คน ระหว่างวันที่ 25 มิ.ย. – 21 ส.ค. 58 โดยให้มีการศึกษาดูงานการค้าชายแดน การพัฒนา



(ถ้ามี)

ราชการบริหารส่วนท้องถิ่น การบริการประชาชน (3) ประเมินศักยภาพผู้เข้ารับการอบรมโดยประเมินผลจากรายงานส่วนบุคคลและการสัมภาษณ์จากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นที่ปรึกษาทางการบริหารที่ได้รับการรับรอง และผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้และประสบการณ์ในการเป็นที่ปรึกษาทางการบริหาร ในวันที่ 31 ส.ค. – 1 ก.ย. 58 โดยมีผู้ผ่านการประเมินครบทั้ง 43 คน และได้จัดพิธีมอบประกาศนียบัตรผู้ผ่านการอบรม เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 58

ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 โครงการส่งเสริมและสนับสนุนการปรับบทบาทภารกิจ และโค รงสร้ างหน่ วย งาน ของรั ฐประกอบด้วย

1. โครงการการปรับบทบาทภารกิจหน่วยงานภาครัฐ

2. โครงการพัฒนาศักยภาพขององค์การมหาชนและหน่วยงานของรัฐรูปแบบอื่นที่มิใช่ส่วนราชการ

3. โครงการเสริมสร้างพัฒนาขีดสมรรถนะเครือข่ายการพัฒนาระบบราชการและส่งเสริมการเป็นองค์ การแห่ งการเรี ยนรู้ ขอ ง ส่วนราชการ

1. โครงการการปรับบทบาทภารกิจหน่วยงานภาครัฐ งบประมาณ 595,900 บาท แบ่งออกเป็น 1. การปรับบทบาทภารกิจหน่วยงานภาครัฐ ส านักงาน ก.พ.ร. ได้จัดท าโครงการการปรับบทบาทภารกิจหน่วยงานภาครัฐ เป็นโครงการต่อเนื่องจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 เพื่อส่งเสริม ก ากับ ติดตาม ผลักดัน ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐมีการปรับปรุง ทบทวนบทบาทภารกิจ โครงสร้างและระบบบริหาร ให้มีความเหมาะสม มีประสิทธิภาพ รวมทั้งการด าเนินการตรวจเยี่ยมและติดตามประเมินผล การจัดและพัฒนาโครงสร้างระบบบริหารงานของหน่วยงานของรัฐ เพื่อพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพและขีดสมรรถนะ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การสร้างความรู้ ความเข้าใจ และความร่วมมือในการท างานแบบกลไกเครือข่าย การให้ค าปรึกษา แนะน า ข้อเสนอแนะ และการแก้ไข

-



(ถ้ามี)

4. โครงการถ่ายโอนภารกิจของส่วนราชการส าหรับกลุ่มกระทรวง ด้านเศรษฐกิจและสังคม

ปัญหาอุปสรรคร่วมกัน ระหว่างผู้รับผิดชอบงานหลักเกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ กับส านักงาน ก.พ.ร. ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยจัดกิจกรรม ตามโครงการ ดังนี ้ 1) การประชุม/การประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อก ากับ ติดตาม ส่งเสริมและผลักดันให้ส่วนราชการมีการปรับปรุงบทบาทภารกิจของส่วนราชการให้มีความเหมาะสม

1.1) การประชุมเพื่อวิเคราะห์ความเหมาะสมของบทบาทภารกิจ อ านาจหน้าที่และโครงสร้างของส่วนราชการในกลุ่มกระทรวงด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคม

1.2) การประชุมเชิงปฏิบั ติ การ เพื่ อก ากับ ติดตาม ส่งเสริมและผลักดันให้ส่วนราชการมีการปรับปรุงบทบาทภารกิจของส่วนราชการให้มีความเหมาะสม

1.3) การประชุมกับส่วนราชการและภาคเอกชน เพื่อรับฟังข้อคิดเห็น และเสนอแนะแนวทาง การถ่ายโอนภารกิจของส่วนราชการที่ยังค้างอยู่ให้แล้วเสร็จ 2) การเสริมสร้างศักยภาพและขีดสมรรถนะ ในการทบทวนบทบาทภารกิจของส่วนราชการ และหน่วยงานของรัฐ

ได้ด าเนินการขออนุมัติ โครงการและเงิน



(ถ้ามี)

งบประมาณเรียบร้อยแล้ว

การปรับบทบาทภารกิจหน่วยงานภาครัฐ กระทรวงคมนาคม การจัดต้ังกรมการขนส่งทางราง

กระทรวงคมนาคมน าส่งเอกสารประกอบการขอจัดตั้งกรมการขนส่งทางรางเพื่อเสนอส านักงาน ก.พ.ร. พิจารณา เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2558 โดยก าหนดให้กรมการขนส่งทางรางมีภารกิจด้านนโยบาย ด้านการก ากับดูแล (มาตรฐานความปลอดภัย มาตรฐานการให้บริการการขนส่งทางราง มาตรฐานการซ่อมบ ารุงทาง) และด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมจะจัดส่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแบ่งแยกทรัพย์สินของการรถไฟแห่งประเทศไทยเพื่อประกอบการพิจารณา การจัดโครงสร้างองค์กรด้านการบินพลเรือน

คณะรัฐมนตรีได้ประชุมเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2558 ลงมติ เห็นชอบในหลักการของร่างกฎหมาย จ านวน 4 ฉบับ รายละเอียดดังนี ้

1. พระราชก าหนดการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558

2. พ ร ะ ร า ช ก า ห น ด แ ก้ ไ ข เพิ่ ม เติ มพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 พ.ศ. 2558

3. พ ร ะ ร า ช ก า ห น ด แ ก้ ไ ข เพิ่ ม เติ ม



(ถ้ามี)

พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 พ.ศ. 2558

4. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมท่าอากาศยาน กระทรวงคมนาคม พ.ศ. ....

ซึ่งส านักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้น าพระราชก าหนด 3 ฉบับ ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2558 และกฎกระทรวงฯ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2558

สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ประชุมเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2558 ลงมติอนุมัติพระราชก าหนด 3 ฉบับดังกล่าวแล้ว

ส านั กงาน ก.พ.ร. ได้ เข้ าร่ วมประชุมที่ ศู นย์บัญชาการ แก้ไขปัญหาการบินพลเรือนกองทัพอากาศ จ านวน 5 ครั้ง เพื่อแก้ไขข้อขัดข้องจากการตรวจสอบขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศและส านักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา และได้เข้าร่วมประชุมที่กระทรวงคมนาคมเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2558 เพื่อด าเนินการจัดโครงสร้างภายในขององค์การด้านการบินพลเรือน กระทรวงแรงงาน

ก.พ.ร. ในการประชุมครั้งที่ 5/2558 เมื่อวันท่ี 7 ต.ค. 2558 มีมติเห็นชอบกับการปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาหน่วยงานกระทรวงแรงงาน (พ.ศ. 2554 – พ.ศ. 2556) ตามความเห็นของ อ.ก.พ.ร.



(ถ้ามี)

เกี่ยวกับการทบทวนและปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการด้านสังคม โดยมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต ไว้ในกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ และจัดตั้งหน่วยงานเพิ่มใหม่ จ านวน 23 ส่วนราชการ ดังนี ้

1) กรมการจัดหางาน - ส านักงานจัดหางานกรุงเทพมหานคร พื้นที่

1-5 โดยมี เง่ือนไขให้ส่วนราชการด าเนินการ

ก าหนดตัวช้ีวัดประสิทธิภาพการด าเนินงาน และเมื่อครบก าหนด 1 ปี ให้ด าเนินการติดตามประเมินผลส านักงานจัดหางานกรุงเทพมหานคร พื้ นที่ 1 -5 ดังกล่าว และน าเสนอ อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการทบทวนและปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการด้านสังคมพิจารณาตอ่ไป

2) กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน - ส านักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน

กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1-5 โดยมี เง่ือนไขให้ส่วนราชการด าเนินการ

ก าหนดตัวช้ีวัดประสิทธิภาพการด าเนินงาน และเมื่อครบก าหนด 1 ปี ให้ด าเนินการติดตามประเมินผลส านั ก งาน ส วั ส ดิ ก ารแ ล ะคุ้ ม ค รอ งแ รงงานกรุงเทพมหานคร พื้นท่ี 1-5 ดังกล่าว และน าเสนอ อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการทบทวนและปรับปรุงโครงสร้าง ส่วนราชการด้านสังคมพิจารณาต่อไป



(ถ้ามี)

3) กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน - สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 1-25 (โดยการ

ก าหนดพื้นที่จังหวัด (Re – zoning) สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค 1 – 12 ที่ก าหนดไว้เดิมเสียใหม่ และก าหนดให้จัดตั้งสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานเพิ่มใหม่จ านวน 13 แห่ง)

โดยมี เง่ือนไขให้ส่วนราชการด าเนินการติดตามประเมินผลการด าเนินการของสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 1 – 25 เมื่อครบก าหนดระยะเวลาการด าเนินงาน 3 ปี และให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานพิจารณาทบทวนบทบาทภารกิจด้านการพัฒนาฝีมือแรงงานและก าหนดโครงสร้างส่วนราชการให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศท่ีเปลี่ยนแปลงไปในขณะนั้นอีกครั้งหนึ่ง รวมทั้งน าเสนอ อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการทบทวนและปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการด้านสังคมพิจารณาต่อไป กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

ก.พ.ร. ในการประชุมครั้งที่ 5/2558 เมื่อวันท่ี 7 ต.ค. 2558 มีมติ เห็นชอบกับการทบทวนบทบาทภารกิจและการถ่ายโอนงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการแบ่งส่วนราชการในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาหน่วยงาน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (พ.ศ. 2554 - พ.ศ. 2556) โดยมีการจัดตั้งหน่วยงานเพิ่มใหม่ 4 กอง



(ถ้ามี)

และขยายหน่วยงาน จ านวน 45 จังหวัด ดังนี้ 1) ส านักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

(1) กองมาตรฐานและก ากับความปลอดภัยนักท่องเที่ยว (จัดตั้งใหม่)

(2) กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา (จัดตั้งใหม่)

(3) ส านักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด (ขยายหน่วยงานเพิ่ม จ านวน 45 จังหวัด จากเดิม จ านวน 31 จังหวัด รวมเป็น 76 จังหวัด)

2) กรมการท่องเที่ยว (1) กองกิ จการภาพยนตร์และวีดิ ทั ศน์

ต่างประเทศ (จัดตั้งใหม่) (2) กองพัฒนามาตรฐานบุคลากรด้านการ

ท่องเที่ยว (จัดตั้งใหม่) กระทรวงการคลัง

ก.พ.ร. ในการประชุมครั้งที่ 5/2558 เมื่อวันท่ี 7 ต.ค. 2558 มีมติเห็นชอบกับการปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการภายในกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ตามความเห็นของ อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการทบทวนและปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการด้านเศรษฐกิจ โดยมีมติ ดังนี ้

1) จัดตั้งหน่วยงานใหม่ จ านวน 3 กอง ได้แก่ - กองสวัสดิการรักษาพยาบาล - กองคดี - กองบริหารการเบิกจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง



(ถ้ามี)

บ าเหน็จบ านาญ 2) ปรับปรุงงานและเปลี่ยนช่ือหน่วยงานจาก

ส านักเป็นกอง จ านวน 4 กอง ได้แก่ - กองค่าตอบแทนและประโยชน์เกื้อกูล - กองกฎหมาย - กองละเมิดและแพ่ง - กองบริหารการรับ-จ่ายเงินภาครัฐ

3) เปลี่ ยนช่ือหน่วยงานจากส านักเป็นกอง จ านวน 5 กอง ได้แก่

- กองการเงินการคลังภาครัฐ - กองตรวจสอบภาครัฐ - กองระบบการคลังภาครัฐ - กองการพัสดุภาครัฐ - กองบัญชีภาครัฐ

นโยบายท่ี 10 การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที ่มีธรรมาภิบาล 10.2 ในระยะแรก กระจายอ า น า จ เพื่ อ ให้ ป ร ะ ช า ช นสามารถเข้าถึงบริหารสาธารณะได้โดยรวดเร็ว ประหยัด และสะดวก ทั้งจะวางมาตรการทางกฎหมาย ก าหนดผู้รับผิดชอบที่ชั ด เจน ขั้ น ตอน ที่ แ น่ น อน

โครงการบรูณาการงานบริการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ

โครงการบู รณ าการงานบริ การภาครั ฐให้ มีประสิทธิภาพ (Thailand Gateway) ประกอบไปด้วย 6 แผนงาน ดังนี้ 1) การจัดท าศูนย์กลางบริการข้อมูลประเทศไทย (Thailand Information Gateway) 2) การจัดท าศูนย์กลางบริการด้ านการลงทุน (Investment Gateway) 3) การจัดท าศูนย์กลางบริการด้านการท่องเที่ยว (Tourism Gateway) 4) การออกแบบศูนย์กลางบริการด้ านการค้ า

- - -



(ถ้ามี)

ระยะเวลาด าเนินการที่รวดเร็ว และระบบอุทธรณ์ที่เป็นธรรม โ ป ร ง ใ ส มิ ใ ห้ เ จ้ า ห น้ า ที่หลีกเลี่ยง ประวิงเวลา หรือใช้อ านาจโดยมิชอบ ก่อให้เกิดการทุจริต การสูญเสียโอกาสหรือส ร้ า ง ค ว า ม เ สี ย ห า ย แ ก่ประชาชนโดยเฉพาะนักลงทุน ในระยะเฉพาะหน้าจะเน้นการปรับปรุงหน่วยงานให้บริการด้านการท าธุรกิจ การลงทุน และด้านบริการสาธารณะในชีวิตประจ าวันเป็นส าคัญ

(Trade Gateway) 5) การออกแบบศูนย์ กลางบริการประชาชน (Citizen Gateway) 6) แผนงานสนับสนุน - การออกแบบสถาปัตยกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อยกระดับงานบริการ - การพัฒนาด้านมาตรฐานและความมั่นคงปลอดภัยทางเทคโนโลยีสารสนเทศ - การปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย - การบริหารการเปลี่ยนแปลง - การสื่อสารสร้างความเข้าใจ การด าเนินงาน 1) ส านักงาน ก.พ.ร. ได้เสนอเรื่องต่อฝ่ายความมั่นคงตามมติ คสช. เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 57 โดยฝ่าย ครม.ความมั่นคงมีมติ - เร่ งรั ดให้ หน่ วยงานที่ เกี่ ยวข้ องด าเนิ นโครงการบู รณาการงานบริการภาครัฐเพื่ อเพิ่ มประสิทธิภาพโดยเร่งด่วน - เพื่ อ ให้ การด าเนิ นการเป็ นไปอย่ างมีประสิทธิภาพ เกิดผลสัมฤทธิ์ และสามารถติดตามการด าเนินงานได้อย่างเป็นระบบ เห็นควรให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการ ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีส านักงาน ก.พ.ร. เป็นฝ่ายเลขานุการร่วมกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยให้มีการประชุมทุกเดือน ท้ังนี้ ระหว่างที่ยังไม่มีการ



(ถ้ามี)

แต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงโดย พล.ร.อ.อมรเทพ ณ บางช้าง จะรับเป็นประธานให้ก่อน 2) ส านั ก งาน ก .พ .ร . ได้ เสนอรายละ เอี ยดงบประมาณเงินกู้ SAL ต่อคณะกรรมการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ภาครัฐ ในการประชุมเมื่อวันท่ี 14 ต.ค. 57 ซึ่งคณะกรรมการฯ มีความเห็นให้ขอข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนของรายละเอียดและคุณสมบัติของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่จะใช้ด าเนินการ เนื่องจากรายละเอียดโครงการในปัจจุบันของส านักงาน ก.พ.ร. ยังไม่เพียงพอต่อการพิจารณากลั่นกรอง 3) ส า นั ก ง า น ก .พ .ร . เข้ า ร่ ว ม ป ร ะ ชุ มคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการอ านวยความสะดวกเพื่อให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องแก่คณะกรรมาธิการ 4) ก.พ.ร. มีมติเห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นชุดหนึ่ง โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นประธาน เมื่อวันท่ี 7 พ.ย. 57 เพื่อขับเคลื่อนการด าเนินโครงการบูรณาการงานบริการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ 5) ก.พ.ร. ในการประชุมเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 57 มีมติเห็นชอบร่างค าสั่งแต่งตั้ง อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการบริหารโครงการบูรณาการงานบริการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (มรว.ปรีดิยาธร เทวกุล) เป็นประธาน อ.ก.พ.ร. คณะดังกล่าว และให้เพิ่มปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นอนุกรรมการ



(ถ้ามี)

ด้ วย ทั้ งนี้ ให้ อ.ก.พ.ร. คณ ะนี้ รับไปพิ จารณ ารายละเอียดของโครงการอีกครั้งก่อนแล้วน าเสนอ ก.พ.ร. พิจารณาต่อไป 6) อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการบริหารโครงการบูรณาการงานบริการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพในการประชุมเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 58 มีมติ ดังนี ้ (1) ม อ บ ห ม า ย ให้ ส า นั ก ง า น รั ฐ บ า ลอิเล็กทรอนิกส์ (สรอ.) เป็นผู้รับผิดชอบการด าเนินโครงการลดส าเนากระดาษเพื่อบริการประชาชน (Smart Service) ซึ่งเป็นการด าเนินงานในระยะที่ 1 เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐได้โดยไม่ต้องใช้ส าเนาบัตรประชาชนและส าเนาทะเบียนบ้าน พร้อมทั้งมอบหมายให้อนุกรรมการฯ ซึ่งเป็นผู้แทนจากกระทรวงต่าง ๆ เสนอรายช่ือหน่วยงานในสังกัดที่มีความพร้อมส าหรับการด าเนินการดังกล่าวต่อ สรอ. และมอบหมายให้ส านักงาน ก.พ.ร. ประสานกับส านักงานต ารวจแห่งชาติ เพื่อเชิญชวนให้ เข้าร่วมโครงการด้วย ทั้งนี้ ให้ สรอ. รวบรวมรายช่ือหน่วยงานดังกล่าวและเสนอรายละเอียดแผนการด าเนินงานในการประชุมครั้งต่อไป (2) มอบหมายให้อนุกรรมการฯ เสนอแนวทางการด าเนินงานในระยะที่ 2 ในการประชุมครั้งต่อไป ดังนี ้ (2.1) มอบหมายให้นายสมภพ อมาตยกุล อนุกรรมการฯ น าเสนอแนวทางการบูรณาการระบบ



(ถ้ามี)

การมาตรฐานเพื่อส่งออกสินค้าเกษตรส าคัญ และสินค้าอาหารแปรรูป (2.2) มอบหมายผู้แทนสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย น าเสนองานบริการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการลงทุนสู่การผลิต (Investment) และการค้า (Trade) เพื่อวางแนวทางการด าเนินการในระยะต่อไป ทั้งนี้ หากอนุกรรมการฯ ท่านใดมีข้อเสนอการด าเนินงานอื่น ให้น าเสนอในการประชุมครั้งต่อไปด้วย (3) เห็ นชอบงบประมาณ เงินกู้ เพื่ อป รั บโครงสร้างทางเศรษฐกิจ (SAL) ที่จะใช้ด าเนินโครงการบูรณาการงานบริการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ จ านวน 1,090.70 ล้านบาท โดยให้ อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการบริหารโครงการบูรณาการงานบริการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพเป็นผู้อนุมัติแผนการด าเนินโครงการและรายละเอียดการใช้งบประมาณ โดยด าเนินการตามขั้นตอนของกระทรวงการคลังต่อไป ส าหรับท่ีมาของงบประมาณนั้น มอบหมายให้ส านักงาน ก.พ.ร. เสนอ ก.พ.ร. และคณะรัฐมนตรีตามล าดับ เพื่อทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 55 โดยขอยกเลิกงบประมาณโครงการตามแผนการส่งเสริมและพัฒนาธรรมาภิบาลในภาคราชการเพื่อการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีอย่างยั่งยืนในส่วนท่ียังไม่ได้ด าเนินการ จ านวน 110.00 ล้ านบาท เพื่ อน ามาใช้ร่วมกับงบประมาณส่วนที่ เหลือจากโครงการตามแผนการ



(ถ้ามี)

ส่งเสริมและพัฒนาธรรมาภิบาลในภาคราชการเพื่อการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีอย่างยั่งยืน จ านวน 791.63 ล้านบาท และเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ (SAL) ส่วนท่ียังไม่มีภาระผูกพันของส านักงาน ก.พ.ร. จ านวน 189.09 ล้านบาท 7) ก.พ.ร. ในการประชุมเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 58 มีมติรับทราบการพิ จารณาด าเนินการของ อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการบริหารโครงการบูรณาการงานบริการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ และให้ส านักงาน ก.พ.ร. น าเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับการขอใช้งบประมาณเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ (SAL) ตามความเห็นของ อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการบริหารโครงการบูรณาการงานบริการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ ต่อไป 8) อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการบริหารโครงการบูรณาการงานบริการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพได้พิจารณาแนวทางการด าเนินโครงการบูรณาการงานบริการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ ในการประชุมเมื่อวันท่ี 2 มี.ค. 58 มีมติ ดังนี้ (1) เห็นชอบแผนการด าเนินโครงการลดส าเนากระดาษเพื่อบริการประชาชนน าร่อง 7 กระทรวง (Smart Service) ของ สรอ. โดยให้เร่งประเมินความพร้อมของงานบริการที่จะด าเนินการเพื่อเริ่มด าเนินโครงการโดยเร็ว (2) เห็นชอบแนวทางการพัฒนาระบบศูนย์กลาง



(ถ้ามี)

สารสนเทศข้ อมู ลบริการภาครั ฐแบบเบ็ ดเสร็ จ ( Information One Stop Service) ที่ ส า นั ก ง า น ก.พ.ร. เสนอ โดยมอบหมายให้ส านักงาน ก.พ.ร. เป็นเจ้าภาพหลักในการด าเนินการร่วมกับ สรอ. และส านักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) (3) เห็นชอบแนวทางการพัฒนาระบบธุรกรรมออนไลน์ส าหรับการลงทุน (Investment One Stop Service) ที่ กระทรวงอุ ตสาหกรรมเสนอ โดยในระยะแรกให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นเจ้าภาพหลักในการพัฒนาระบบธุรกรรมออนไลน์ของการต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานและการขออนุญาตประกอบกิจการโรงงาน ส าหรับมาตรการเร่งด่วนให้กระทรวงอุ ตสาหกรรมจั ดท าระบบต้ นแบบ (Prototype) ของการต่ออายุ ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานและด าเนินการเช่ือมโยงข้อมูลระหว่างกรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมการปกครอง (งานทะเบี ยนราษฎร์ ) และกรมสรรพากร (งานข้อมูลการเสียภาษี) โดยให้ สรอ. สนับสนุนการเช่ือมโยงข้อมูลดังกล่าว (4) เห็นชอบแนวทางการบูรณาการระบบการมาตรฐานที่นายสมภพ อมาตยกุล อนุกรรมการ เสนอ โดยมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นเจ้าภาพหลักในการด าเนินการน าร่องในกระบวนการ น าเข้าปลาทูน่ามาผลิตเป็นทูน่ากระป๋องเพื่อการส่งออกและขายในประเทศ



(ถ้ามี)

(5) รับทราบรายละเอียดการด าเนินโครงการบูรณาการบริการอิเล็กทรอนิกส์จุดเดียวเบ็ดเสร็จ (Integrated One Stop Service for e-Excise) ข อ งกรมสรรพสามิต ที่ผู้แทนกระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ เป็นโครงการที่กรมสรรพสามิตด าเนินการอยู่แล้วโดยไม่ได้ของบประมาณสนับสนุน (6) เห็นชอบให้มีการพัฒนาระบบกลางของงานบริการภาครัฐออนไลน์ (Single Sign On) ซึ่งเป็นการด าเนินการในระยะต่อไปหลังจากเสร็จสิ้นการด าเนินโครงการลดส าเนากระดาษเพื่อบริการประชาชนน าร่อง 7 กระทรวง (Smart Service) ตามข้อ (1) โดยให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับ สรอ. ด าเนินการในส่วนงานบริการภาคธุรกิจเอกชน และกระทรวงมหาดไทยร่วมกับ สรอ. ด าเนินการในส่วนงานบริการประชาชน ทั้งนี้ ให้เจ้าภาพหลักในข้อ (2) – (4) น าเสนอรายละเอี ยดขอบเขตการด าเนิ นโครงการและงบประมาณ (TOR) ในการประชุมครั้งต่อไป 9) อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการบริหารโครงการบูรณาการงานบริการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพได้พิจารณารายละเอียดข้อเสนอโครงการพร้อมทั้งกรอบวงเงินงบประมาณที่หน่วยงานเจ้าภาพหลักเสนอมาในการประชุมครั้งที่ 3/2558 เมื่อวันท่ี 28 เม.ย. 58 แล้ว มีมติ ดังนี ้ (1) เห็ นชอบข้อเสนอโครงการในระยะแรกภายใต้โครงการบูรณาการงานบริการภาครัฐให้มี



(ถ้ามี)

ประสิ ทธิภาพ จ านวน 5 โครงการ รวมวงเงินงบประมาณ 382,450,000 บาท (2) มอบหมายให้ส านักงาน ก.พ.ร. ในฐานะฝ่ายเลขานุการเสนอโครงการตามข้อ (1) ต่อ ก.พ.ร. และคณะรัฐมนตรีตามล าดับ เพื่อขอใช้งบประมาณจากเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ (SAL) ภายในวงเงินงบประมาณ 382,450,000 บาท จากจ านวนเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ (SAL) ซึ่งจะขอใช้ด าเนินโครงการบูรณาการงานบริการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพทั้งสิ้น 1,090,700,000 บาท ทั้งนี้ หาก อ.ก.พ.ร.ฯ พิจารณาการด าเนินงานในระยะต่อไปแล้วเสร็จ จะเสนอขอใช้งบประมาณในส่วนที่เหลือต่อไป (3) เห็นควรให้ตั้งคณะท างานย่อย ประกอบ ด้วย ส านักงบประมาณ ส านักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ส านักงานบริหารหนี้ สาธารณะ ส านั กงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และส านักงาน ก.พ.ร. เพื่อท าหน้าที่กลั่นกรองงบประมาณโครงการตามข้อ 1) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินกู้ของกระทรวงการคลังและระเบียบของทางราชการที่เกี่ยวข้อง และมอบหมายให้ส านักงาน ก.พ.ร. น าเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจาณาอนุมัติโครงการต่อไป (4) มอบหมายให้ส านักงาน ก.พ.ร. พิจารณาวางรูปแบบและแนวทางการจั ดตั้ งหรือมอบหมายหน่วยงานก ากับด้านนโยบายและผลักดันขับเคลื่อน



(ถ้ามี)

Thailand National Single Window ใน ลั ก ษ ณ ะ Project Management Office (PMO) ที่มีอ านาจและหน้าที่ในการท างาน รวมถึงมีการท างานอย่างต่อเนื่อง ตามข้ อ เสนอแนะของผู้ ช่ วยรั ฐมนตรี ป ระจ ากระทรวงการคลัง (นางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร) 10) ก.พ.ร. ในการประชุมเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 58 มีมติเห็นชอบข้อเสนอโครงการในระยะแรกภายใต้โครงการบูรณาการงานบริการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ จ านวน 5 โครงการ รวมวงเงินงบประมาณ 382,450,000 บาท ตามมติ อ.ก.พ.ร.ฯ โดยให้ขอใช้งบประมาณจากเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ (SAL) ซึ่งจะขอใช้ด าเนินโครงการบูรณาการงานบริการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพทั้งสิ้น 1,090,700,000 บาท ท้ังนี้ ให้คณะท างานย่อยซึ่ง อ.ก.พ.ร.ฯ แต่งตั้ง ประกอบด้วย ส านักงบประมาณ ส านักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ส านักงานบริหารหนี้สาธารณะ ส านั กงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและ การสื่อสาร และส านักงาน ก.พ.ร. ด าเนินการกลั่นกรองงบประมาณโครงการให้เป็นไปตามเกณฑ์การใช้จ่ายเงินกู้ของกระทรวงการคลังและระเบียบของทางราชการที่เกี่ยวข้อง และมอบหมายให้ส านักงาน ก.พ.ร. น าเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติโครงการต่อไป 11) คณะท างานด้านการกลั่นกรองงบประมาณ



(ถ้ามี)

โครงการได้ประชุมเพื่อพิจารณากลั่นกรองงบประมาณไปแล้วทั้งสิ้นจ านวน 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 58 และ 23 ก.ย. 58 โดยมีมติให้หน่วยงานปรับแก้ไขข้อเสนอโครงการแล้วเสนอคณะท างานอีกครั้งภายในวันท่ี 30 ก.ย. 58 หลังจากนั้น จะสรุปผลเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

นโยบายท่ี 10 การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที ่มีธรรมาภิบาล 10.2 ในระยะแรก กระจายอ า น า จ เพื่ อ ให้ ป ร ะ ช า ช นสามารถเข้าถึงบริหารสาธารณะได้โดยรวดเร็วฯ

โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพง า น บ ริ ก า ร ภ า ค รั ฐ ต า มพระราชบัญญัติการอ านวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558

งบประมาณ 2,308,000 บาท ส านั กงาน ก.พ.ร. ได้ ส่ งเสริมและผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐอ านวยความสะดวกให้กับประชาชนได้ตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการอ านวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 โดยในช่วงที่ผ่านมามีการด าเนินการที่ส าคัญ ดังนี ้ 1. ศึกษางานบริการของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อน าข้อมูลไปใช้ในการให้ค าปรึกษาแก่หน่วยงานตามพระราชบัญญั ติการอ านวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 2. ให้ค าปรึกษาแก่หน่วยงานภาครัฐ โดยการจัดคลินิกให้ค าปรึกษาในระดับกระทรวง กรม รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน สถาบันอุดมศึกษา และหน่วยงานของรัฐรูปแบบอื่น ณ โรงแรมเดอะทวิน ทาวเวอร์ เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 58 – 12 พ.ค. 58 3. จัดประชุมช้ีแจงแก่จังหวัดต่าง ๆ ทราบถึงการจัดท า และการจัดส่งคู่มือส าหรับประชาชน โดยระบบ

- - 1,032,300 บาท



(ถ้ามี)

วีดิทัศน์ทางไกลผ่านเครือข่ายของกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 58 4. จัดท ารายงานความก้าวหน้าการด าเนินการตามพระราชบัญญั ติการอ านวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ที่คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้หน่วยงานของรัฐด าเนินการต่อคณะรัฐมนตรี กิจกรรมอยู่ระหว่างด าเนินการ การจัดประชุมระดมความคิดเห็นเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการให้บริการตามคู่ มื อส าหรับประชาชนของหน่วยงานภาครัฐ โดยร่วมกับภาคเอกชนและผู้ทรงคุณวุฒิ

นโยบายท่ี 10 การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที ่มีธรรมาภิบาล 10.3 ยกระดับสมรรถนะของหน่วยงานของรัฐให้มีประสิทธิภาพ สามารถให้บริการเชิงรุก ทั้งในรูปแบบการเพิ่มศูนย์รับเรื่องราวร้ อ งทุ กข์ จ ากป ระชาชน ในต่างจังหวัดโดยไม่ต้องเดินทางเข้ามายั งส่ วนกลาง ศูนย์บริการสาธารณ ะแบบครบวงจรที่ค รอ บ ค ลุ ม ก าร ให้ บ ริ ก า ร

โครงการปรับปรุงระบบบริการประชาชนในเชิงรุก

งบประมาณ 5,050,000 บาท มีการด าเนินการที่ส าคัญใน 3 เรื่อง คือ 1. การส่งเสริมและสนับสนุนให้หน่วยงานของรัฐพัฒนาคุณภาพการให้บริการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ในการประกอบธุรกิจตามรายงานผลการวิจัยเรื่อง Doing Business ของธนาคารโลก 2. การติดตามประเมินผลการด าเนินการพัฒนาคุณภาพการให้บริการของหน่วยงานของรัฐและจัดให้มีการมอบรางวัลแก่หน่วยงาน 3. การสนับสนุนให้หน่วยงานของรัฐเสนอผลงานบริการสมัครขอรับรางวัล United Nations Public Service Awards ขององค์การสหประชาชาติ

- - 2,272,500 บาท



(ถ้ามี)

หลากหลายซึ่ งจะจัดตั้ งตามที่ชุมชนต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางไปติดต่อขอรับบ ริ ก ารได้ โด ยสะดวก ก ารให้บริการถึงตัวบุคคลผ่านระบบศูนย์บริการร่ วม ณ จุดเดี ยว (One Stop Service) และระบบรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ที่สมบูรณ์แบบ พัฒนาหน่วยงานของรัฐให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้มีการสร้างนวัตกรรมในการท างานอย่างประหยัด มีประสิทธิภาพ และมีระบบบูรณาการ

โดยมีรายละเอียดการด าเนินการ ดังน้ี 1. การส่งเสริมส่วนราชการปรับปรุงบริการ ตามรายงานผลการวิจัย เรื่อง Doing Business ของธนาคารโลก ผลการด าเนินงาน 1.1 วันที่ 24 พ.ย. 57 จัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริการตามรายงานผลการวิ จั ย เรื่ อ งDoing Business ของธนาคารโลก โดยมีรองนายก รัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นประธานการประชุม เพื่อหารือแนวทางการพัฒนาบริการของรัฐให้ดีขึ้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบธุรกิจของประเทศไทย 1.2 จัดท ารายงานเสนอผลการจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลก (Doing Business 2015) และแนวทางการด าเนินการพัฒนาประสิทธิภาพการบริการของหน่วยงานภาครัฐเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบธุรกิจของประเทศไทยต่อคณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 57 เพื่อทราบและพิจารณา ซึ่งที่ประชุมมีมติ ดังนี ้ 1) รับทราบผลการจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิ จของธนาคารโลก (Doing Business 2015) และแนวทางการด าเนินการพัฒนาประสิทธิภาพการบริการของหน่วยงานภาครัฐเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบธุรกิจของประเทศไทย



(ถ้ามี)

2) เห็ นชอบให้ ส านั กงาน ก.พ.ร. และหน่ วยงานที่ เกี่ ยวข้ องด าเนิ นการต่ อไป ตามที่ส านักงาน ก.พ.ร. เสนอ ดังนี ้ 2.1) ให้ ห น่ ว ย งาน ที่ รั บ ผิ ด ช อ บด าเนินการตามข้อเสนอแนวทางการด าเนินการพัฒนาประสิทธิภาพ การบริการของหน่วยงานภาครัฐเพื่อเพิ่ มขีดความสามารถในการประกอบธุรกิจของประเทศไทยให้เป็นผลส าเร็จ 2.2) ให้ส านักงาน ก.พ.ร. พัฒนางานบริการภาครัฐในรูปแบบการให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service) ให้ครอบคลุมงานบริการและทั่วถึงมากยิ่งขึ้น โดยออกแบบระบบการบริการให้เหมาะสมกับลักษณะงานบริการ และกลุ่มเป้าหมายผู้รับบริการแต่ละกลุ่ม รวมทั้งน าระบบเทคโนโลยีสารสนเทศใช้ในการเช่ือมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน 2.3) ให้ ส านั กงาน ก.พ .ร. รายงานความก้าวหน้าในการด าเนินการของหน่วยงานต่าง ๆ ที่รับผิดชอบในการปรับปรุงบริการให้คณะรัฐมนตรีทราบ 2.4) ให้ ส านั ก งาน ก .พ .ร . ศึ กษ าแนวทางการพัฒนานวัตกรรมการบริการในรูปแบบใหม่ ๆ เพื่ อเพิ่ มประสิ ทธิภาพการบริการของหน่วยงานภาครัฐไทย 1.3 วันที่ 28 ม.ค. 58 จัดประชุมร่วมระหว่างหน่วยงานเจ้าภาพหลักที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงบริการตามรายงานผลการวิจัย Doing Business และ



(ถ้ามี)

ผู้ตอบแบบสอบถามของธนาคารโลก เพื่อช้ีแจงมติคณะรัฐมนตรีและสร้างความเข้าใจ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาประสิทธิภาพการบริการของหน่วยงานภาครัฐเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบธุรกิจของประเทศไทยและส่งผลให้ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้น 1.4 วันท่ี 9 มี.ค. 58 ทีมวิจัยของธนาคารโลก ณ วอชิงตัน ดีซี ได้มาร่วมประชุมกับส านักงาน ก.พ.ร. เพื่อแลกเปลี่ยนและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการส ารวจของธนาคารโลกที่เปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่ปี ค.ศ. 2015 ซึ่งส านักงาน ก.พ.ร. ต้องน ามาใช้ในการจัดท าข้อเสนอเพื่อปรับปรุงบริการของภาครัฐไทยให้ดีขึ้นต่อไป 1.5 วันที่ 1 -3 เม .ย . 58 ร่ วมกั บกระทรวงยุ ติ ธรรม สาธารณ รั ฐเกาหลี จั ดกิ จกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การปรับปรุงบริการด้านการบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง และด้านการคุ้มครองผู้ลงทุนระหว่างหน่วยงานภาครัฐไทยที่เกี่ ยวข้ อง ได้ แก่ ศาลยุ ติ ธรรม กรมบั งคั บคดี ส านั กงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ 1.6 กระทรวงยุติธรรม สาธารณรัฐเกาหลี จัดการป ร ะ ชุ ม 5 th International Conference on Enforcing Contracts of Thailand and Sri Lanka เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ ในการ



(ถ้ามี)

ปรับปรุ งด้ านการบั งคับให้ เป็นไปตามข้อตกลง ระหว่างประเทศสมาชิกกลุ่มเอเปค (APEC) โดยเชิญผู้แทนจากประเทศไทยเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ส านักงาน ก.พ.ร. กรมบังคับคดี และส านักงานศาลยุติธรรม ระหว่างวันที่ 5-8 พ.ค. 58 ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหล ี 1.7 รวบรวมข้อมูลผลการด าเนินการปรับปรุงบริการของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อให้ธนาคารโลกในการจั ดอั นดั บประเทศไทยในรายงาน Doing Business 2016 ในเดือนพฤษภาคม 2558 2. การสนับสนุนส่วนราชการส่งผลงานสมัครขอรับรางวัลบริการภาครัฐแห่งชาติ ประจ าปี พ.ศ. 2558 2.1 จัดท าเกณฑ์รางวัลบริการภาครัฐแห่งชาติ พ.ศ. 2558 เพื่อใช้ในการตรวจประเมินคุณภาพการให้บริการของหน่วยงานภาครัฐ 2.2 วันที่ 24 พ.ย. 58 ช้ีแจงแนวทางการสมัครขอรับรางวัลบริการภาครัฐแห่งชาติ ประจ าปี พ.ศ. 2558 ให้แก่ ส่วนราชการ 2.3 เปิดรับสมัครและเชิญชวนให้ส่วนราชการ ได้แก่ กรม จั งหวัด สถาบันอุดมศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ และองค์การมหาชน ส่งสมัครขอรับรางวัลบริการภาครัฐแห่งชาติ 2.4 ส่วนราชการ ส่งสมัครขอรับรางวัลบริการภาครัฐแห่งชาติ จ านวน 269 รางวัล จาก 84 หน่วยงาน



(ถ้ามี)

2.5 วันที่ 22 เม.ย. 58 อ.ก.พ.ร.เฉพาะกิจเกี่ยวกับการยกระดับคุณภาพมาตรฐานและลดขั้นตอนฯ ได้พิจารณาผลการประเมินรางวัลบริการภาครัฐแห่งชาติประจ าปี พ.ศ. 2558 รอบแรก โดยมีผลงานที่อยู่ในเกณฑ์ผ่านการประเมินรางวัล แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มผลงานที่อยู่ในเกณฑ์ได้รับรางวัล “ระดับดี/ดีเด่น” จ านวน 30 ผลงาน 2. กลุ่มผลงานที่อยู่ในเกณฑ์ได้รับรางวัล “ระดับดี” จ านวน 36 ผลงาน 3. กลุ่มผลงานที่ผ่านเง่ือนไขการพิจารณารางวัลพัฒนาคุณภาพการบริการอย่างต่อเนื่องจ านวน 15 ผลงาน 2.6 ต รวจ ป ระ เมิ น รอบ สองในพื้ นที่ ก ารปฏิบัติงานจริงของผลงานในกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 3 ระหว่างวันท่ี 11 พ.ค. – 30 มิ.ย. 58 2.7 ประกาศผลหน่วยงานของรัฐที่ได้รับรางวัลบริการภาครัฐแห่งชาติ ประจ าปี พ.ศ. 2558 เดือนกรกฎาคม 2558 สรุปผลงานที่ ได้รับรางวัลฯ มีจ านวนทั้งสิ้น 78 รางวัล 2.8 จัด งานพิ ธีมอบรางวัลบริการภาครั ฐแห่งชาติ ประจ าปี พ.ศ. 2558 วันที่ 25 ก.ย. 58 ณ หอประชุมกองทัพเรือ 2.9 รวบ รวมผลการพัฒ นาคุณ ภ าพการให้บริการของหน่วยงานที่ได้รับรางวัล ประจ าปี



(ถ้ามี)

พ.ศ. 2558 เพื่อจัดท าเป็น Best Practices เผยแพร่ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนาบริการ 3. การสนับสนุนให้หน่วยงานของรัฐเสนอผลงานบริการสมัครขอรับรางวัล United Nations Public Service Awards ขององค์การสหประชาชาติ 3.1 ให้ค าปรึกษาแนะน าในการเขียนผลงานส่งส มั ค ร ข อ รั บ ร า ง วั ล United Nations Public Service Awards 2015 ขององค์การสหประชาชาติ 3.2 องค์การสหประชาชาติ ประกาศผลการคัดเลือกผลงานท่ีผ่านเข้าสู่รอบแรกรางวัล UN Awards 2015 ปรากฎว่ามีผลงานของหน่วยงานภาครัฐไทยผ่านเข้าสู่รอบแรก จ านวน 24 ผลงาน จาก 25 ผลงาน 3.3 ออกหนังสือรับรอง (Letter of Reference) ให้หน่วยงานภาครัฐที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่รอบสองรางวัล UN Awards 2015 ในเดือน ม.ค. 58 3.4 องค์การสหประชาชาติประกาศผลรอบสอง มีหน่วยงานภาครัฐไทยผ่านการพิจารณา 6 ผลงาน จาก 24 ผลงาน 3.5 องค์การสหประชาชาติ ประกาศผลรางวัล United Nations Public Service Awards 2015 ในเดือนเม.ย. 58 ซึ่งหน่วยงานภาครัฐไทยได้รับรางวัล 2 หน่วยงาน ดังนี ้ • สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี



(ถ้ามี)

กรมการแพทย์ รางวัลชนะเลิศ (1st Place Winner) สาขา Promoting Whole-of-Government Approaches in the Information Age จ า ก ผ ล ง า น “Holistic School in Hospital Initiative (HSH)” • โรงพยาบาลขอนแก่น รางวัลรองชนะเลิศ (2nd Place Winner) สาขา Promoting gender-responsive delivery of public services จากผ ล ง า น “Fast-track Service for High-risk Pregnancies” 3.6 องค์การสหประชาชาติได้ก าหนดจัดงานพิธีมอบรางวัลและจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ภายใต้หั ว ข้ อ เรื่ อ ง “2 0 1 5 United Nations Public Service Forum Day and Awards : Innovating Public Service Delivery to Implement The Post-2015 Development Agenda” ระหว่ า งวันที่ 23 - 26 มิ.ย. 58 ณ เมืองเมเดยิน สาธารณรัฐโคลอมเบีย 3.7 จัดประชุมช้ีแจงแนวทางการสมัครขอรับรางวัล UN Awards 2016 ให้แก่หน่วยงานของรัฐ เมื่อวันท่ี 21 ส.ค. 58 3.8 จัดคลีนิกให้ค าปรึกษาเชิงลึกในการเขียนผลการเสนอขอรับรางวัล UN Awards 2016 เมื่อวันท่ี 7-8 ก.ย. 58



(ถ้ามี)

นโยบายท่ี 10 การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที ่มีธรรมาภิบาล 10.3 ยกระดับสมรรถนะของหน่วยงานของรัฐให้มีประสิทธิภาพ สามารถให้บริการเชิงรุกฯ

โครงการจดัตั้งศูนย์บริการร่วมในห้างสรรพสินค้า

งบประมาณ 2,200,000 บาท 1. ส านักงาน ก.พ.ร. ร่วมกับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จ ากัด (มหาชน) ขอใช้พื้นที่ในศูนย์การค้าของเครือเซ็นทรัล จัดตั้งศูนย์บริการร่วม โดยไม่คิดค่าเช่า 2. ส านักงาน ก.พ.ร. ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อน างานบริการมาให้บริการในห้างสรรพสินค้า ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ส านักงานประกันสังคม กรมการขนส่งทางบก กรมการจัดหางาน ส านักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ 3. วันที่ 29 ม .ค . 58 จัด ให้มี การลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการจัดตั้งศูนย์บริการร่วมในศูนย์การค้ากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก ท าเนียบรัฐบาล โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นประธาน 4. วันที่ 14 ก.พ. 58 จัดพิธีเปิดศูนย์บริการร่วมในห้างสรรพสินค้าแห่งแรก ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ ช้ัน 1 โซนจิวเวลรี่ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นประธาน 5. ด าเนินการขยายการจัดตั้งศูนย์บริการร่วมในห้างสรรพสินค้าไปในภูมิภาค โดยเปิดศูนย์บริร่วมในห้างสรรพสินค้าแห่งที่สอง ณ เซ็นทรัล เฟสติวัล ศาลายา ในวันที่ 3 ก.ย. 58 โดยมีรัฐมนตรีประจ าส านักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) เป็นประธานในพิธี

- - 660,000 บาท



(ถ้ามี)


โครงการพัฒนาระบบบรหิารจัดการของหน่วยงานภาครัฐให้มีขีดสมรรถนะสูง

โครงการฯ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 งบประมาณ 4,743,300 บาท ส านักงาน ก.พ.ร. ได้ส่งเสริมให้ส่วนราชการพัฒนาองค์การตามแนวทางการบริหารจัดการภาครัฐ (PMQA) มาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 โดยในช่วงที่ผ่านมามีการด าเนินการที่ส าคัญ ดังนี้ 1. การด าเนินการปรับปรุงเกณฑ์คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐระดับพื้นฐาน - การปรับปรุงเกณฑ์คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐระดับพื้นฐาน ฉบับที่ 2 ส าหรับใช้ในการตรวจประเมินรอบที่ 2 ในปี 2559 เป็นต้นไป โดย อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 58 ได้มีมติเห็นชอบเกณฑ์ฯ และได้จัดท าเล่มคู่มือเกณฑ์ฯ ให้แก่ส่วนราชการ พร้อมกับเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ส านักงาน ก.พ.ร. 2. การส่งเสริมหน่วยงานภาครัฐในการยกระดับการพัฒนาองค์การ - การสร้างความเข้มแข็งให้กับส่วนราชการ ผ่านท่ีปรึกษาการพัฒนาองค์การ ซึ่งเป็นผู้แทนของ ส่วนราชการที่มีศักยภาพในการถ่ายทอดความรู้เพื่อขยายผลต่อไป โดยการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับเกณฑ์คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐระดับ พื้นฐาน ฉบับที่ 2 และเทคนิคปรับปรุงองค์การ ในวันที่ 18-19 พ.ค. 58 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์

- การพัฒนาองค์การให้ป ระสบผลส า เร็ จต้ อ งอาศัยความร่วมมือจากทุกส่วนในองค์การผ่านกระบวนการส่งเสริมจากผู้น าอย่างจริงจังและต่อเนื่อง แต่โดยที่ส่วนราชการมีความถี่ของการเปลี่ยนแปลง ผู้รับผิดชอบสูง รวมถึงก าร เป ลี่ ย น แ ป ล ง ในระดั บ ผู้ บ ริ ห ารห ล ายหน่วยงาน มีผลให้การด า เนิ น การขาดความต่อเนื่อง หรืออาจถูกลดความส าคัญลงจนเป็นเหตุให้ การพัฒนาองค์การหยุดชะงัก หรือขับเคลื่อนไปอย่างล่าช้า

- สร้างความรู้ความเข้ าใจเกี่ ย วกับการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐอ ย่ า ง จ ริ ง จั ง แ ล ะต่อเนื่อง เพื่อให้ส่วนราชการตระหนักถึงความส าคัญ ในการด า เนิ น ก าร เพื่ อ ให้เกิดผลลัพธ์ของการพัฒ นาการบริห ารจัดการที่มุ่งสู่องค์การที่มีขีดสมรรถนะสูง สามารถตอบสนอง ความต้ องการของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการประชาสัมพันธ์ เ ผ ย แ พ ร่ ข้ อ มู ลข่าวสาร ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ เวทีสัมมนา หลักสูตรอบรมให้ความรู้ เป็นต้น นอกจากนี้ ควรมีก า ร ก า ห น ด ให้ มี

3,300,000 บาท



(ถ้ามี)

กรุงเทพฯ - การจัดประชุมช้ีแจงรายละเอียดเกณฑ์คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐระดับพื้นฐาน ฉบับที่ 2 ให้แก่ส่วนราชการ ในวันท่ี 25 พ.ค. 58 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ กรุงเทพฯ - การจัดประชุมช้ีแจงรายละเอียดเกณฑ์คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐระดับพื้นฐาน ฉบับท่ี 2 ให้แก่จังหวัด ในวันท่ี 16 มิ.ย. 58 ผ่านทาง VDO Conference - การจัดคลินิกให้ค าปรึกษาการพัฒนาองค์การตามเกณฑ์คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐระดับพื้นฐาน ฉบับที่ 1 ให้แก่ส่วนราชการที่ยังไม่ผ่านการรับรองคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ฉบับท่ี 1 ในวันท่ี 1 ก.ค. 58 ณ ส านักงาน ก.พ.ร. - การจัดคลินิกให้ค าปรึกษาการพัฒนาองค์การตามเกณฑ์คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐระดับพื้นฐาน ฉบับท่ี 2 ให้แก่ส่วนราชการที่ผ่านการรับรองคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ฉบับที่ 1 โดยจัดอบรมในรูปแบบคลินิกรายกระทรวงในระหว่างเดือน ก.ค.-ส.ค.58 ณ ส านักงาน ก.พ.ร. และส่วนราชการต่าง ๆ และระหว่างเดือน ส.ค.-ก.ย. ณ จังหวัดทั้ง 4 ภาค ณ โรงแรมเซ็นทรารา ศูนย์ราชการ กรุงเทพฯ รร.ดวงตะวัน จ.เชียงใหม่ โรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น และ รร.ลีการ์เด้นพลาซ่า จ.สงขลา

สิ่ ง จู ง ใ จ ส า ห รั บห น่ วย งาน ที่ ได้ รั บรางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐเพื่ อ เป็ น ขวัญ แล ะก า ลั ง ใ จ ส า ห รั บเ จ้ า ห น้ า ที่ รั ฐ ที่ปฏิบัติงานต่อไป



(ถ้ามี)

3. การตรวจประเมินรางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ - การส่ งเสริมหน่ วยงานภาครัฐในการยกระดับการพัฒนาองค์การ ส าหรับหน่วยงานที่ส มั ค รขอรับ รางวัลฯ โดยการการอบ รม เชิ งปฏิบัติการ เรื่อง “การพัฒนาองค์การสู่รางวัล และแนวทางการจัดท ารายงานผลการด าเนินการตามเกณฑ์รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ พ.ศ. 2558” ณ โรงแรม เดอะ ทวิน ทาวเวอร์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 15 – 16 ม.ค. 2558 ส าหรับส่วนราชการระดับกรม และวันที่ 26-27 ม.ค. 58 ส่วนราชการระดับจังหวัด - การจัดอบรมหลักสูตรผู้ตรวจประเมินรางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ในวันที่ 20-21 เม.ย. 58 ณ โรงแรมเดอะทวิน ทาวเวอร์ กทม. - การรับสมัครรางวัลคุณภาพการบริหารจัดการ ภาครัฐ ประจ าปี พ.ศ. 2558 มีหน่วยงานสมัครรางวัลฯ จ านวนทั้งสิ้น 88 หน่วยงาน 127 ผลงาน และมีหน่วยงานได้รับรางวัลฯ จ านวนทั้งสิ้น 12 หน่วยงาน 12 ผลงาน - ก า ร จั ด ท า Best Practices ข อ งหน่วยงานที่ได้รับรางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ประจ าปี 2558 เพื่อเผยแพร่แนวทางทางปฏิบั ติที่ เป็น เลิศให้ ส่ วนราชการต่ าง ๆ น าไป



(ถ้ามี)

ประยุกต์ใช้ต่อไป พร้อมทั้งเผยแพร่ข้อมูลเข้าระบบเว็บไซต์ส านักงาน ก .พ.ร. และเว็บไซต์รางวัล http://awards.opdc.go.th/index.php - การจัดงานพิธีมอบรางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ประจ าปี พ.ศ. 2558 ให้แก่ ส่วนราชการที่ได้รับรางวัล ในวันที่ 25 กันยายน 2558 ณ หอประชุมกองทัพเรือ กรุงเทพฯ - การจัดท ารายงานป้อนกลับแก่หน่วยงานที่สมัครรางวัล PMQA และผ่านการประเมินในแต่ละขั้นตอน ได้แก่ รอบท่ี 1 การคัดกรองเอกสารการสมัครเบื้องต้น รอบที่ 2 การตรวจประเมินรายงานผลการด าเนินการพัฒนาองค์การ (Application Report) และรอบที่ 3 การตรวจประเมินในพื้นที่ (Site Visit) พร้อมทั้งน าข้อมูลเข้าระบบเว็บไซต์รางวัล http://awards.opdc.go.th/index.php 4. การเสริมสร้างความแข้มแข็งให้กับเครือข่ายการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ - การจัดอบรม เรื่อง แนวทางการส่งเสริมรางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ร่วมกับเครือข่ายการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (มหาวิทยาลัยขอนแก่น) ในวันที่ 27 ก.พ. 58 - การสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่ายการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ โดยการจัดอบรมให้ความรู้ เกี่ยวกับแนวทางการให้ค าปรึกษาส่วนราชการในการพัฒนาองค์การตาม



(ถ้ามี)

แนวทางเกณฑ์คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐระดับพื้นฐาน ฉบับที่ 2 ในวันที่ 22 เม.ย.58 ณ โรงแรมเดอะทวิน ทาวเวอร์ กทม. 5. การตรวจรับรองคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐระดับพื้นฐาน ฉบับท่ี 1 - ตรวจประเมินเพื่อรับรองคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ระดับพื้นฐาน ฉบับที่ 1 ส่วนราชการระดับกรม 4 แห่ง ได้แก่ ศอ.บต. กรมการค้าต่างประเทศ สนง.คณะกรรมการสภาการศึกษา และกรมทรัพยากรธรณี - การจัดท ารายงานป้อนกลับแจ้งส่วนราชการทั้ง 4 แห่ง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาองค์การต่อไป

โครงการฯ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 งบประมาณ 4,743,300 บาท ส านักงาน ก.พ.ร. ได้จัดท าข้อเสนอโครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการของหน่วยงานภาครัฐใหม้ีสมรรถนะสูง โดยมีกิจกรรมในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ประกอบด้วย 1. การตรวจรับรองคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐระดับพื้นฐาน 2. การตรวจประเมินรางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ 3. การส่งเสริมหน่วยงานภาครัฐในการยกระดับ

- ก า ร เป ลี่ ย น แ ป ล งบุคลากรผู้รับผิดชอบในการท างานบ่อย โดยเฉพาะ ในส่วนภูมิภาค ท าให้ขาดความเข้าใจในเกณฑ์ PMQA และไม่สามารถด าเนินการได้อย่างถูกต้อง และไม่มีข้อมูลการด าเนินการที่ผ่านมา - ง บ ป ร ะ ม า ณ แ ล ะบุคลากรหรือผู้เช่ียวชาญมี

- เน้นการส่งเสริมให้ความรู้แก่บุคลากรที่เกี่ ย ว ข้ อ ง ก รณี ที่งบประมาณมีจ ากัดไม่เพี ยงพอต่ อการจั ดอบรม จะปรับเปลี่ยนม า ใ ช้ สื่ อ Social Network เช่น Interet เว็บไซต์ รวมถึ งการต อ บ ค า ถ า ม ใ ห้ค าปรึกษาผ่ านทาง

-



(ถ้ามี)

การพัฒนาองค์การ 4. การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่ายการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ

ไม่ เพี ย งพอต่ อการจั ดอบรมให้ความรู้และสร้างความเข้าใจแก่ส่วนราชการ ระดับกรมและจังหวัดทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง

Line และโทรศัพท ์- เน้นการส่งเสริมให้ค ว าม รู้ แ ล ะ ส ร้ า งเครื อข่ ายและหมอองค์กรให้ค าปรึกษาส่วนราชการ


โครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ ยนแปลงรุ่น ใหม่ รุ่นที่ 7 รุ่นที่ 8 และรุ่นท่ี 9

งบประมาณ 48,331,000 บาท ส านักงาน ก.พ.ร. ได้ด าเนินการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ รุ่นที่ 7 และรุ่นที่ 8 ซึ่งเป็นโครงการที่ด าเนินการต่อเนื่องจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 และได้เริ่มด าเนินการโครงการพัฒนานักบริห ารการเป ลี่ ยน แป ลงรุ่ น ให ม่ รุ่ นที่ 9 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 โดยมีผลการด าเนินงานดังนี ้ - นปร. รุ่นที่ 7 จ านวน 38 คน ซึ่งผ่านการพัฒนาในโครงการแล้ว ได้รับการโอนไปปฏิบัติราชการที่ส่วนราชการต่าง ๆ ที่มีความส าคัญเชิงยุทธศาสตร์ จ านวน 38 คน - นปร. รุ่นที่ 8 อยู่ระหว่างการปฏิบัติราชการด้ านการบริห ารจั ดการหน่ วยงานภ าครั ฐ ในต่างประเทศ - นปร. รุ่นที่ 9 จ านวน 38 คน อยู่ระหว่างการปฏิบัติราชการด้านการบริหารจัดการหน่วยงานภาครัฐส่วนภูมิภาค

- - 30,148,600 บาท



(ถ้ามี)


โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

งบประมาณ 2,706,030 บาท ส านักงาน ก.พ.ร. ได้ด าเนินโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2547 จนถึงปัจจุบัน ทั้งในระบบ e-learning และ m-learning ได้เผยแพร่ความรู้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายและไม่จ ากัดวุฒิการศึกษา และอายุของผู้เรียน พร้อมทั้งมอบใบประกาศนียบัตรให้ด้วย สามารถสมัครเข้าเรียนได้ทางเว็บไซต์http://www.opdcacademy.com ตลอด 24 ช่ัวโมง โดยมีเนื้อหาหลักสูตร ต่าง ๆ ดังนี้ 1) หลักสูตร 9 แผ่นดินของการปฏิรูประบบราชการ 2) mini MPM 3) mini MBA 4) การบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม 5) หลักสูตรพิเศษ ประกอบด้วย 5.1 หลักสูตรหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) ในระดับสากล 10 หลัก คือ หลักนิติธรรม ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล การตอบสนองการมีส่วนร่วม ความโปร่งโส การกระจายอ านาจ ความเสมอภาค ฉันทามติ และภาระรับผิดชอบ 5.2 เครื่องมือในการบริหารงานสู่องค์กรที่มีขีดสมรรถนะสูง 5.3 การจัดการความรู้ 5.4 การวัดผลแบบสมดุลและตัวช้ีวัดที่ส าคัญ 5.5 การบริหารการเปลี่ยนแปลง

ก า ร เข้ า ถึ ง โ ค ร ง ก า รส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของประชาชน ผู้ด้อยโอกาสบางกลุ่มที่ไม่มี Technological & Electronics Devices และความคุ้นเคยกับสื่ออิเล็กทรอนิกส์

ส านักงาน ก.พ.ร. ได้เพิ่ มช่องทางในการประชาสัมพันธ์ผ่านเครือข่ายต่าง ๆ และจัดท าแผนบ ริห ารค วาม เสี่ ย ง เพื่ อ ให้เข้าถึงกลุ่มประชาชนในทุกระดับต่อไป

1,894,221 บาท



(ถ้ามี)

5.6 การก าหนดตัวช้ีวัดระดับบุคคล 5.7 ความรับผิดชอบต่อสังคม 5.8 การตลาดส าหรับภาครัฐ 5.9 การบริหารงานภาครัฐในรูปแบบเครือข่าย ผลการด าเนินงาน 1. จัดท าเนื้อหาเกี่ยวกับการพัฒนาระบบบริหารจัดการองค์กร ซึ่งมีโครงร่างหลักสูตร “การสนับสนุนการท ายุทธศาสตร์ประเทศ” ประกอบไปด้วย 1.1 คุณลักษณะของยุทธศาสตร์ที่ดี 1.2 นโยบายของรัฐบาล 1.3 การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี 1.4 ค่านิยมหลักของผู้ปฏิบัติงาน 1.5 กรณีศึกษาการจัดท ายุทธศาสตร์และผลลัพธ์ 2. น าเสนอ ค าแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรีในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ซึ่งออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 3 ต.ค. 57 เพื่อคัดเลือกเนื้อหาสาระส าคัญมาน าเสนอในหลักสูตรในข้อ 1 3. จัดท ารายงานสถิติเกี่ยวกับผู้เรียน e-learning ของส านักงาน ก.พ.ร. ระหว่างปี พ.ศ. 2553-2558 4. ศึกษาและจัดเตรียมข้อมูลในการด าเนินการเผยแพร่ก ารพัฒ นาระบบราชการที่ มี ผลต่ อประชาชนโดยตรง 5. ประชุมเพื่อการวางแผนการท างานส าหรับ



(ถ้ามี)

งวดงานที่ 3 (วันท่ี 30 ก.ย. 58) 6. จัดงานเสวนา “ยุทธศาสตร์ประเทศไทยท าอย่างไรให้ได้ผล?” โดย ดร. นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อ านวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จ ากัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 58 ณ อาคารเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (Software Park Building) มีผู้ เข้าร่วม 50 ราย และเข้าชมผ่าน webcast ไม่จ ากัดจ านวน 7. วิเคราะห์เนื้อหาที่ได้รวบรวมไว้ก่อน โดยจัดท าให้เป็นเนื้อหาที่ผสมผสานหลักธรรมาภิบาลและยุทธศาสตร์ประเทศเพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการของภาครัฐแก่ประชาชน 8. ด าเนินการจัดท าฐานข้อมูลส ารองหลักสูตรต่ า ง ๆ ใน รู ป แบ บ Mirror Backup ไว้ ใน site server รวมทั้งระบบ offline 9. จัดท าและจัดส่ งใบประกาศนียบัตรแก่ผู้ส าเร็จการศึกษาในหลักสูตรที่มีใบประกาศนียบัตร สัปดาห์ละ 1 ครั้ง อย่างต่อเนื่อง 10. วิ เคราะห์ การให้ บริการทางด้ านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Daily Report) แก่ผู้ เรียนอย่างต่อเนื่อง 11. ให้บริการแก่ผู้รับบริการในด้านต่าง ๆ เช่น การตอบค าถามทาง webboard โทรศัพท์ e-mail เป็นต้น 12. การประกวดราคาอิ เล็ กทรอนิ กส์ เพื่ อด าเนินการจ้างเหมาจัดท าบันทึกสื่อวีดิทัศน์เพื่อ



(ถ้ามี)

เผยแพร่หลักสูตรธรรมาภิบาล 10 หลักและหลักธรรมาภิบาลในภาพรวม พร้อมดัชนีหัวข้อเนื้อหาตามโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (ครั้งที่ 2) โดยมีผู้ติดต่อขอรับเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ จ านวนรวมทั้งสิ้น 15 ราย มีผู้ยื่นเอกสารผ่านระบบจัดซื้อจัดจ้าง 1 ราย ซึ่งเป็นผู้ด าเนินการจ้างเหมาจัดท าสื่ อวีดิทั ศน์ดั งกล่ าว จ านวน 8,000 ชุด ประกอบไปด้วยบรรจุภัณฑ์ ปกพิมพ์ off-set 4 สี ขนาดแผ่น 12x12 ซม. ในราคา 158,360 บาท (งบประมาณ เหลือจ่ ายที่ ขอรับอนุมั ติ จ านวน 200,000 บาท) ก าหนดส่งมอบงานภายในวันที่ 30 ก.ย. 58 13. ที่ปรึกษาส่งมอบงานประจ างวดที่ 3 ได้แก่ 13.1 ราย งาน ก ารดู แ ล ฐาน ข้ อมู ล ขอ ง website ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย ร า ย ง า น Monitor ตรวจสอบการท างานของ website รายงานการตรวจสอบความผิดพลาดของฐานข้อมูล และรายงานการส ารองฐานข้อมูลการใช้งานประจ าวัน 13.2 รายงานผลการปรับปรุงหน้า website ให้ทันสมัยด้วยการปรับปรุงข้อมูล ข่าว สื่อเผยแพร่ที่เป็นวีดิโอ หนังสือแนะน าสัปดาห์ละ 1 ครั้ง 13.3 รายงานสรุปผลการให้บริการการเรียนการสอน ประกอบด้วยจ านวนผู้สมัคร ผู้เรียน ผู้จบ



(ถ้ามี)

ผู้ได้รับใบประกาศนียบัตร หลักสูตรการบริหารจัดการภาครัฐสมัยใหม่ หลักสูตรการบริหารจัดการธุรกิจแนวใหม่ หลักสูตรการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม และหลักสูตรพิเศษอื่น ๆ 13.4 รายงานการประเมินผลโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่มีการวิเคราะห์ปัญหาและอุปสรรคของการด าเนินงาน รวมทั้งข้อเสนอแนะในการด าเนินโครงการต่อไป 13.5 ชุดประชาสัมพันธ์โครงการเคลื่อนที่ ประกอบด้วย แผ่นประชาสัมพันธ์แบบม้วนเก็บในตัว (Roll up) ขนาดกว้าง 80 ซม. สูง 200 ซม . จ านวน 8 ชุด และแผ่นพับประชาสัมพันธ์ขนาด A4 พับ 3 ตอน พิมพ์ 4 สี หน้า-หลัง จ านวน 4,000 แผ่น 13.6 ใบประกาศนียบัตร ส าหรับผู้ส าเร็จการศึกษา ขนาด A4 จ านวน 500 ใบ และใบรองปกประกาศนียบัตร ส าหรับผู้ส าเร็จการศึกษา ขนาด A4 จ านวน 500 ใบ 13.7 สื่ออิ เล็กทรอนิกส์แบบไร้สาย (m-learning) ของหลักสูตร “การสนับสนุนการท ายุทธศาสตร์ประเทศ” ในมาตราฐาน SCROM 1.2 หรือสูงกว่า 13.8 รายงานการจัดท าสื่ออิเล็กทรอนิกส์แบบไร้สาย (m-learning) ของหลักสูตร “การสนับสนุนการท ายุทธศาสตร์ประเทศ” 14. มีจ านวนผู้เรียนและผู้สนใจทั้งข้าราชการ



(ถ้ามี)

พนักงานรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ได้น าไปใช้ในการบริหารจัดการเป็นจ านวนมาก ดังน้ี 14.1 มีจ านวนผู้ลงทะเบียนเรียนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 ถึงวันที่ 31 ต.ค. 58 รวมทั้งสิ้น 40,781 ราย 14.2 มีจ านวนผู้ส าเร็จการศึกษาในรายวิชาต่าง ๆ ท่ีเปิดสอนจ านวนทั้งสิ้น 95,401 ราย 14.3 มีจ านวนผู้ส าเร็จหลักสูตรการศึกษาในชุดวิชาของหลักสูตรที่มีใบประกาศนียบัตร จ านวนทั้งสิ้น 1,763 ราย (หลักสูตร 9 แผ่นดินของการปฏิรูประบบราชการ 105 ราย / mini MPM 474 ร า ย / mini MBA 1,005 ร า ย / Participatory Governance 179 ราย) 15. มีความร่วมมือในการพัฒนาบุคลากรร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ในหลายรูปแบบทั้งลงนามความร่วมมือและเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมอง Weblink พร้อมทั้งให้บริการและเผยแพร่ข้อมูล บทความ ข่าวภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผ่านสื่อเผยแพร่ที่ เป็นวิดี โอ และหนังสือแนะน าโดยปรับเปลี่ยนทุกสัปดาห์

นโยบายท่ี 10 การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที ่มีธรรมาภิบาล 10.3 ยกระดับสมรรถนะของ

โครงการพัฒนาประสิทธิภาพกระบวนงานบริการประชาชน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

งบประมาณ 2,500,000 บาท 1. วันที่ 31 ต.ค. 57 ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และแนวทางจากภาคเอกชนในการปรับปรุงบริการของหน่วยงาน

- - 2,500,000 บาท (จบโครงการแล้ว)



(ถ้ามี)

หน่วยงานของรัฐให้มีประสิทธิภาพ สามารถให้บริการเชิงรุกฯ

ภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติ อนุญาตในธุรกิจอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมยาง กลุ่มอุตสาหกรรมประมง กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน และกลุ่มการขออนุญาตประกอบการ โดยผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้ แ ท น จาก ธุ ร กิ จ ส ภ าห อก ารค้ า ไท ย ส ภ าอุตสาหกรรม 2. ขยายผลการด าเนินการ โดยก าหนดให้ส่วนราชการจ านวน 70 หน่วยงาน คัดเลือกงานบริการที่ส าคัญเพื่อน ามาจัดท าข้อตกลงระดับการให้บริการ (Service Level Agreement : SLA) 3. วันที่ 10 – 14 พ.ย. 57 ได้จัดให้ค าปรึกษาเชิงลึกแก่หน่วยงาน เพื่อให้สามารถปรับปรุงงานบริการให้ได้ตามมาตรฐานการจัดท าข้อตกลงระดับการให้บริการ (Service Level Agreement : SLA) 4. ก าหนดให้ส่วนราชการติดประกาศข้อตกลงระดับการให้บริการ ให้ประชาชนทราบ ณ จุดให้บริการภายในวันที่ 31 มี.ค 58 เพื่อให้ผู้รับบริการได้รับข้อมูลที่ชัดเจนในการติดต่อราชการ 5. ส ารวจความพึงพอใจของผู้รับบริการต่อกระบวนการให้บริการตามข้อตกลงระดับการให้บริการ

นโยบายท่ี 10 การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที ่มีธรรมาภิบาล

โครงการรณรงค์ปลุกจิตส านึกเสริมสร้างธรรมาภิบาลร่วมต้านทุจริต

งบประมาณ 14,545,900 บาท ส านักงาน ก.พ.ร. ได้ด าเนินโครงการรณรงค์ปลุกจิตส านึกเสริมสร้างธรรมาภิบาลร่วมต้านทุจริต โดย

- - 5,163,922 บาท



(ถ้ามี)

10.5 ใช้มาตรการทางกฎหมาย การปลูกฝังค่านิยม คุณธรรม จริยธรรม และจิตส านึกในการรักษาศักดิ์ ศรีของความเป็นข้าราชการและความซื่อสัตย์สุจริต ควบคู่กับการบริหารจัดการภาครัฐที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกระดับอย่างเคร่ งครัด ยกเลิกหรือแก้ ไขกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ ที่ไม่จ าเป็น สร้างภาระแก่ประชาชนเกินควร หรือเปิดช่อ งโอกาสการทุ จ ริ ต เช่ น ระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง การอนุญาต อนุมัติ และการขอรับบริการจากรัฐ ซึ่งมีขั้นตอนยืดยาว ใช้เวลานาน ซ้ าซ้อน และเสียค่าใช้จ่ายทั้งของภาครัฐและประชาชน

ก าหนดเนื้อหาหลักในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการอ านวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ซึ่งถือเป็นกฎหมายที่มีความส าคัญยิ่งต่อการป้องกันการทุจริต และเป็นเสมือนกฎหมายกลางที่จะก าหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาต การจัดให้มีช่องทางในการรับค าของ ณ จุดเดียว และให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการขออนุญาตกับประชาชน ซึ่งเป็นการอ านวยความสะดวกและลดภาระให้แก่ประชาชนในการขอรับบริการจากภาครัฐ ท าให้การปฏิบัติราชการมีความชัดเจน โปร่งใส ไม่คลุมเครือ เป็นการลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที ่ โดยได้ด าเนินการจัดกิจกรรมและสื่อสารสร้างความเข้าใจผ่านสื่อต่าง ๆ ในประเด็นที่ เกี่ยวข้องกับการด าเนินการตามพระราชบัญญัติการอ านวยความสะดวกฯ ดังกล่าว ประกอบด้วย 1. การจัดแถลงข่าวให้แก่สื่อมวลชน เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจแก่สื่อมวลชนที่จะต้องน าข้อมูลไปเผยแพร่แกป่ระชาชน โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นประธานในการแถลงข่าว มีสื่อมวลชนเข้าร่วมงานประมาณ 120 คน 2. การจัดประชุมสัมมนาเพื่อสร้างความเข้าใจแก่กลุ่มข้าราชการทั้งในส่วนกลางและท้องถิ่น ทั้ง 4 ภาค เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจในสาระส าคัญของ พ.ร.บ. และแนวทางการจัดท าคู่มือส าหรับประชาชน ให้แก่



(ถ้ามี)

ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน มหาวิทยาลัย และหน่วยงานของรัฐต่าง ๆ ให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจน และสามารถน าไปปฏิบัติ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างธรรมาภิบาลให้เกิดขึ้นในภาคราชการ 2.1 การประชุมสัมมนา ให้กับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน มหาวิทยาลัย และหน่วยงานของรัฐอื่นๆ ณ โรงแรมมิราเคิลแกรนด์คอนเวนช่ัน กรุงเทพฯ มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 1,200 คน 2.2 การจัดประชุมสัมมนาให้กับส่วนราชการในภูมิภาค 17 จังหวัดภาคเหนือ ณ โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 400 คน 2.3 การจัดประชุมสัมมนาให้กับส่วนราชการในภูมิภาค 14 จังหวัดภาคใต้ ณ โรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่า จ.สงขลา มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 300 คน 2.4 การจัดประชุมสัมมนาให้กับส่วนราชการในภูมิภาค 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด จ.ขอนแก่น มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 400 คน 2.5 การจัดประชุมสัมมนาให้กับส่วนราชการในภูมิภาค 25 จังหวัดภาคกลางและภาคตะวันออก ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์คอนเวนช่ัน กรุงเทพฯ มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 650 คน 3. การจัดนิทรรศการ เรื่อง พ.ร.บ.การอ านวยความสะดวกฯ ในงานแถลงผลการด าเนินงานของรัฐบาลรอบ 6 เดื อน โดยมี พ ล .อ .ป ระยุ ท ธ์ จั นท ร์ โอชา



(ถ้ามี)

นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ท าเนียบรัฐบาล 4. การจัดนิทรรศการเรื่อง พ.ร.บ.การอ านวยความสะดวกฯ งานประกาศเจตนารมณ์ “ต้านภัยทุจริต สร้างจิตส านึกไทยไม่โกง” ณ ตึกสันติไมตรี ท าเนียบรัฐบาล 5. ก า ร จั ด ง า น UN Public Service Awards คุณภาพการบริการภาครัฐไทยสู่ใจประชาชน เพื่อแสดงความยิ นดี แก่ หน่ วยงานที่ ได้ รับรางวั ล United Nations Public Service Awards (UNPSA) ประจ าปี 2558 โด ย มี พ ล เอ ก ป ร ะ ยุ ท ธ์ จั น ท ร์ โอ ช า นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ณ ท าเนียบรัฐบาล 6. การจัดงานการประกาศใช้พระราชบัญญัติการอ านวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ.2558 และการเปิดตัวคู่มือประชาชนและเว็บไซต์ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อติดต่อราชการ ณ บริเวณลานหน้าตึกบัญชาการ ท าเนียบรัฐบาล 7. การจัดงานเปิดศูนย์อ านวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ และงานแถลงข่าวร่วมกับภาคเอกชน ณ บริเวณช้ัน 1 อาคารส านักงาน ก.พ. (เดิม) 8. การจัดงานสัมมนาทางวิชาการประจ าปี 2558 ในหัวข้อ “การยกระดับราชการไทย...เตรียมพร้อมผลักดันยุทธศาสตร์ชาติอย่างยั่งยืนและพิธีมอบรางวัล ประจ าปี พ .ศ. 2558” ในวันที่ 25 ก.ย. 58 ณ



(ถ้ามี)

หอประชุมกองทัพเรือ โดยมีนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจ าส านักนายกรัฐมนตรีให้เกียรติเป็นประธาน และในช่วงเดือน ต.ค. 58 ที่ผ่านมาได้ด าเนินการดังต่อไปนี ้ - การเผยแพร่สปอตโทรทัศน์ เรื่อง “พ.ร.บ.การอ านวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการฯ ผ่านสื่อโทรทัศน์ช่องต่าง ๆ และการจัดท าข่าวจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ E-news letter จัดส่งให้กับกลุ่มเป้าหมายเครือข่ายสมาชิก ทาง Email - การจัดท าสรุปการติดตามและประเมินผลการประชาสัมพันธ์ โดยส ารวจความคิดเห็นกลุ่มเป้าหมายถึงการรับรู้และความพึงพอใจ เพื่อประเมินผลการรณรงค์ประชาสัมพันธ์น าไปสู่การวางแผนการรณรงค์ปลุกจิตส านึกในระยะต่อไป ทั้งนี้ ได้ด าเนินการตามขอบเขตและวิธีการด าเนินงานที่ก าหนดไว้โดยบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการเริ่มด าเนินการโครงการรณรงค์ปลุกจิตส านึกเสริมสร้างธรรมาภิบาลร่วมต้านทุจริตในปี 2559

นโยบายท่ี 10 การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที ่มีธรรมาภิบาล 10 .6 ป รับปรุ งและจัด ให้ มี

โค ร งก ารพั ฒ น าระ บ บ ก า รตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ

ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 งบประมาณ 2,282,100 บาท มีความก้าวหน้าของการด าเนินงานใน 4 เรื่อง ดังนี้ 1. แนวทางการตรวจสอบและประเมินผลภาค

- - 430,484 บาท



(ถ้ามี)

กฎหมายเพื่อครอบคลุมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ และการมีผลประโยชน์ทับซ้อนในภาครัฐ ทุกระดับ โดยถือว่าเรื่องนี้เป็นวาระส าคัญเร่งด่วนแห่งชาติ และเป็นเรื่องที่ต้องแทรกอยู่ในการปฏิรูปทุกด้าน ทั้งจะเร่งรัดการด าเนินการต่อผู้กระท าการทุจริตและประพฤติมิชอบทั้งในด้ านวินั ยและคดี รวมทั้ งให้ผู้ใช้บริการมีโอกาสประเมินระดับ ความน่าเช่ือถือของหน่วยงาน ของรั ฐและ เปิ ด เผยผลการประเมินต่อประชาชน ทั้งจะน ากรณี ศึกษาที่ เคยเป็นปัญหา เช่น การจัดซื้อจัดจ้าง การร่วมทุน การใช้จ่ายเงินภาครัฐ การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติโดยมิชอบ การใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ การมีผลประโยชน์ขัดแย้งหรือทับซ้อน ซึ่งได้มีค าวินิจฉัยขององค์กรต่าง ๆ เป็นบรรทัดฐานแล้วมาเป็นบทเรียนให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ

ราชการ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 เป็นการจัดท าแนวปฏิบัติในการตรวจสอบและประเมิ นผลภาคราชการ เพื่ อให้ คณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการคณะต่าง ๆ ได้ใช้เป็นแนวทางในการสอบทานผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการและจังหวัด ซึ่งขณะนี้ คณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ ได้พิจารณามีมติให้ความเห็นชอบกับแนวทางฯ ดังกล่าวแล้ว 2. การปรับปรุ งแนวทางการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ ส าหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 เป็นการปรับปรุงแนวปฏิบัติในการตรวจสอบและประเมิ นผลภาคราชการ เพื่ อให้ คณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการคณะต่าง ๆ ได้ใช้เป็นแนวทางในการติดตามตรวจสอบและประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการและจังหวัด ซึ่งขณะนี้ ที่ ประชุม อ.ค.ต.ป. เกี่ ยวกับการก าหนดแนวทางฯ ได้พิจารณาและมีมติให้ความเห็นชอบในหลักการและแนวคิดตามที่ฝ่ายเลขานุการเสนอ และมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการไปด าเนินการจัดท าแนวทางปฏิบัติในรายละเอียดที่ชัดเจนยิ่งขึ้นและที่ประชุม ค.ต.ป. ได้พิจารณาและมีมติให้ความเห็นชอบในกรอบหลักการ แนวคิด ก่อนจัดท ารายละเอียดการด าเนินงานแล้ว ทั้งนี้ ความก้าวหน้าของการปรับปรุงแนวทางฯ ดังกล่าว ได้มีการจัดสัมมนาการติดตาม



(ถ้ามี)

และประมวลเป็นกฎระเบียบหรือคู่มือในการปฏิบัติราชการ

ตรวจสอบและประเมินผลกรณีพิเศษ(หน่วยงานน าร่อง) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 โดยได้เลือกโครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ซึ่งเป็นโครงการตามนโยบายส าคัญเร่งด่วนของรัฐบาลเป็นตัวแบบน าร่องในการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลโครงการ และได้มีการจัดประชุมร่วมกับหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบเครื่องมือการประเมิ นผล เพื่ อขอรั บความคิ ด เห็ นและข้อเสนอแนะ ส าหรับแนวทางการสอบทานกรณีปกติ ตามแนวทางการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 เพื่อน าผลที่ได้จากการจัดประชุมมาปรับปรุงแนวทางการด าเนินงานในล าดับต่อไป 3. รายงานผลการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 และ พ.ศ. 2557 เป็นการจัดท ารายงานผลการปฏิบัติงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบ รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการตรวจสอบและประเมินผลต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี และส่งส าเนารายงานดังกล่าวให้ส่วนราชการที่ เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งขณะนี้ คณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ ได้พิจารณามีมติให้ความเห็นชอบกับรายงานผลการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 และ พ.ศ. 2557 แล้ว และเห็นควรให้ เสนอ



(ถ้ามี)

รายงานต่อคณะรัฐมนตรี พร้อมกับรายงานผลการประเมินตนเองของคณะกรรมการตรวจสอบและประเมิ นผลภาคราชการคณะต่ าง ๆ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 และ พ.ศ. 2557 ต่อไป ซึ่งขณะนี้ ได้ เสนอรายงานดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณา พร้อมทั้งน าเรียนนายกรัฐมนตรีทราบแล้ว โดยคณะรั ฐมนตรี ได้ มี มติ เมื่ อวันที่ 11 ส.ค. 58 รับทราบรายงานผลการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการและรายงานผลการประเมินตนเองของคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการคณะต่าง ๆ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 – พ.ศ. 2557 และเห็นชอบกับข้อเสนอแนะตามที่ส านักงาน ก.พ.ร. เสนอ ปัจจุบันฝ่ายเลขานุการ ค.ต.ป. ได้สั่งจ้างผลิตเล่มรายงานฯ และจัดท าหนังสือแจ้งเวียนรายงานฯ พร้อมทั้งมติคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ส่วนราชการและจังหวัดทราบและด าเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป 4. จัดท าโครงการบูรณาการข้อมูลการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการของหน่วยงานกลางที่อยู่ในก ากับของราชการฝ่ายบริหาร เพื่อศึกษาการบูรณาการข้อมูลการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการของหน่วยงานกลางฯ แสวงหากรอบแนวคิด แนวทาง และข้อเสนอแนะในการบูรณาการเครื่องมือและข้อมูลที่ใช้ในการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ ที่สามารถจะพัฒนาและยกระดับไปสู่การประเมินผลระยะต่อไป โดยขณะนี้ ได้ลงนามท าสัญญาจ้างที่



(ถ้ามี)

ปรึกษาโครงการแล้ว ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้สถาบันวิจัยและให้ค าปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นผู้ด าเนินโครงการ และอยู่ในช่วงของการด าเนินนงานโครงการในงวดที่ 1 คือการศึกษาวิเคราะห์เครื่องมือในการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการของหน่วยงานกลางที่อยู่ในก ากับของราชการฝ่ายบริหาร ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 งบประมาณ 3,316,400 บาท มีความก้าวหน้าของการด าเนินงานใน 1 เรื่อง ดังนี้ 1. รายงานผลการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ ระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 เป็นการจัดท ารายงานผลการปฏิบัติงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบ รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการตรวจสอบและประเมินผลฯ ในรอบระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างจัดท าร่างรายงานผลการตรวจสอบฯ เพื่อน าเสนอเข้าที่ประชุม อ.ค.ต.ป. เกี่ ยวกับการก าหนดแนวทางฯ พิจารณาต่อไป รวมทั้งได้ด าเนินการผลิตเอกสารข้อมูลโครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ส าหรับการสอบทานกรณีพิเศษ (หน่วยงานน าร่อง)ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 จัดส่งให้กับ อ.ค.ต.ป. กลุ่ มจั งหวัดทุกคณะ เพื่ อประกอบการตรวจสอบและประเมินผลตามที่ ค.ต.ป. มอบหมายด้วยแล้ว



(ถ้ามี)

ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี (14 ตุลาคม 2557) ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ติดตามการด าเนินการตามที่ คณ ะรั กษ าความส งบแห่ งชาติ ได้มีมติ เมื่ อวันที่ 29 กรกฎาคม 2557 ให้ส านักงาน ก.พ.ร. พิจารณาทบทวนความเหมาะสมในการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการที่ปัจจุบันให้บริษัทจากเอกชนเป็นผู้ประเมิน ซึ่งภาคเอกชนอาจขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการท างานของส่วนราชการ เพื่อให้ก า รป ระ เมิ น ผ ล ก ารป ฏิ บั ติราชการของส่วนราชการมีความเหมาะสมและสอคคล้องกับภารกิ จของแต่ ละหน่ วยงาน รวมทั้งพิจารณาแนวทางในการป รั บ ป รุ ง ภ า ร กิ จ แ ล ะ ก า รปฏิบัติงานของส านักงาน ก.พ.ร. ให้เป็นที่ยอมรับจากส่วนราชการมากยิ่งข้ึนด้วย

ส านักงาน ก.พ.ร. ได้มีหนังสือเรียนหัวหน้า คสช. เพื่อช้ีแจงเรื่องดังกล่าว สรุปสาระส าคัญ ดังนี้ 1. เดิ ม (ตั้ งแต่ ปี งบประ มาณ พ .ศ . 2547 ) ส านักงาน ก.พ.ร. ได้จัดจ้างบริษัททริส คอร์ปอเรชั่น เป็นที่ปรึกษาในการจัดท าค ารับรองการปฏิบัติราชการและการติดตามประเมินผล (ตัวช้ีวัด) ของส่วนราชการฯ เนื่องจากเป็นองค์กรที่มีประสบการณ์ในการวิเคราะห์ระบบติดตามและประเมินผลการด าเนินงานโดยอาศัยกระบวนการจดัอันดับเครดิตมาประยุกต์ใช้ให้กับองค์กรต่าง ๆ เช่น กระทรวงการ คลัง (การประเมินรัฐวิสาหกิจ) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ การเคหะแห่งประเทศไทย เป็นต้น ต่อมาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 จนถึงปัจจุบัน ส านักงาน ก.พ.ร. มิได้จัดจ้างบริษัททริสฯ หรือบริษัทภาคเอกชนอ่ืน ๆ อีกต่อไป 2. ปัจจุบันส านักงาน ก.พ.ร. ได้มอบหมายให้สถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ซึ่งเป็นหน่ วยบริการรูปแบบพิ เศษในก ากับของส านักงาน ก.พ.ร. มารับผิดชอบช่วยด าเนินการในการจัดท าตัวช้ีวัด โดยจ้างที่ปรึกษาเข้ามาเป็นผู้ช่วยในการด าเนินการของข้าราชการส านักงาน ก.พ.ร. เนื่องด้วยส านักงาน ก.พ.ร. มีอัตราก าลังเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในภารกิจที่เกี่ยวกับการจัดท าค ารับรองฯ เพียง 76 อัตรา ซึ่งกลุ่มเป้าหมานในการจัดท าค ารับรอง ประกอบด้วย ส่วนราชการ จังหวัด สถาบันอุดมศึกษา

- - -



(ถ้ามี)

และองค์การมหาชน รวม 326 หน่วยงาน) 3. ส านักงาน ก.พ.ร. ได้พัฒนาและปรับปรุงวิธีการในการจัดท าค ารับรองฯ และการติดตามและประเมินผล (ตัวช้ีวัด) ของส่วนราชการฯ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ได้ปรับปรุงใหม่ท้ังระบบ อาทิ - สร้างการมีส่วนร่วม โดยเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนร่วมจัดท าตัวช้ีวัดของแต่ละกระทรวง โดยจัดประชุม เชิ งปฏิ บั ติ การร่วมระหว่างกระทรวง คณ ะกรรมการผู้ทรงคุณ วุฒิ ของ ก.พ .ร. และ ภาคเอกชน และระหว่างเจ้าหน้าที่ส านักงาน ก.พ.ร. ส านักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ส านักงบประมาณ และที่ปรึกษา - เพิ่มบทบาทเจ้าหน้าที่ส านักงาน ก.พ.ร. ให้ชัดเจนในการเป็นผู้เชี่ยวชาญการจัดท าตัวช้ีวัดและระบบการติดตามประเมินผล น าข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่ อยกร่างตั ว ช้ี วัดของส่ วนราชการเสนอต่ อคณะกรรมการเจรจาข้อตกลงและประเมินผลส่วนราชการ ส่ วนที่ ปรึกษาท าหน้ าที่ จัดหาข้ อมู ล แนวทางปฏิบั ติที่ ดี ที่ สุ ด (Best Practices) เพื่ อสนับสนุนการท างานของเจ้าหน้าท่ีส านักงาน ก.พ.ร. - พัฒนากลไกการสนับสนุนของส่วนราชการ ได้แก่ การใช้ระบบการรายงานผลการปฏบิัติราชการตามค ารับรองฯ ทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-SAR) เพื่อลดภาระงาน ด้ าน เอกสาร การจั ดท าคู่ มื อการ



(ถ้ามี)

ประเมินผลการปฏบิัติราชการฯ รวมทั้งจัดประชุมให้ค าปรึกษาส าหรับตัวช้ีวัดภาคบังคับ ทั้งนี้ เมื่อทราบข้อสั่งการของหัวหน้า คสช. แล้ว ส านักงาน ก.พ.ร. ได้จัดประชุมช้ีแจงท าความเข้าใจกับข้าราชการของส านักงาน ก.พ.ร. รวมทั้งที่ปรึกษา เพื่อก าชับเกี่ยวกับแนวทางในการปฏิบัติงานที่เน้นการสร้างความเข้าใจและความร่วมมือกับส่วนราชการในการจัดท าค ารับรองและประเมินผลการปฏบิัติราชการต่อไป

ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี (6 มกราคม 2558) ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุเ เครืองาม) และส านักงาน ก.พ.ร. พิจารณาทบทวนความจ าเป็นในการมีอยู่ขององค์การมหาชนในปัจจุบัน โดยค านึงประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ที่สอดคล้องและเหมาะสมกับงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี (23 มิถุนายน 255) ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (6 ม.ค.58) ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) และส านักงาน ก.พ.ร.

- อ.ก.พ.ร. เฉพาะกิจเกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาองค์การมหาชนฯ ในการประชุมครั้งที่ 1/2558 เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 58 มีมติมอบหมายฝ่ายเลขานุการด าเนินการตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี เรื่อง การทบทวนความจ าเป็นในการมีอยู่ขององค์การมหาชนในปัจจุบัน โดยให้น าเสนอผลการวิเคราะห์องค์การมหาชนทั้ง 38 แห่ง ต่อ อ.ก.พ.ร.ฯ และ ก.พ.ร. พร้อมมาตรการรองรับกรณีที่มีการเสนอยุบเลิกองค์ การมหาชน - น าเสนอ อ.ก.พ.ร. เฉพาะกิจเกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาองค์การมหาชนฯ เมื่อวันที่ 30 มี .ค. 58 และวันพุธท่ี 8 เม.ย. 58 เรียบร้อยแล้ว (จ านวน 15 แห่ง) - น าเสนอ อ.ก.พ.ร.ฯ เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันท่ี 30 มี.ค. 58 วันที่ 8 เม.ย. 58 และวันที่ 11 มิ.ย. 58 - น าเสนอ ก.พ.ร. แล้ว เมื่อวันท่ี 6 พ.ค. 58 และ

- - -



(ถ้ามี)

พิจารณาทบทวนความจ าเป็นในการมีอยู่ขององค์การมหาชนที่มีอยู่ใ น ปั จ จุ บั น โ ด ย ค า นึ ง ถึ งประสิทธิภาพในการปฏิบิหน้าที่ที่สอดคล้ องและเหมาะสมกั บงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร นั้น ให้ รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เค รื อ งาม ) และห น่ วย งาน ที่เกี่ ย วข้ อ งพิ จ ารณ าแนวทางด าเนินการเกี่ยวกับองค์การมหาชนในอนาคต ว่าควรเป็นอย่างไรเพื่อรองรับการปฏิรูปที่จะมีขึ้นในระยะต่อไป เช่น การคงอยู่ ยกเลิก หรือปรับบทบาทของหน่วยงาน

วันที่ 6 ก.ค. 58 เรียบร้อยแล้ว - อยู่ระหว่างน าเสนอต่อคณะรัฐมนตรี

ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี (27 มกราคม 2558) ให้คณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบ บ บู รณ าการ (ส านั ก งาน ก.พ.ร.) และส านักงบประมาณร่วมกันพิจารณาความเป็นไปได้ในการก าหนดวงเงินการจั ดสรรงบประมาณให้แก่จังหวัดและกลุ่มจังหวัดให้มีความเหมาะสม และ

ส านักงาน ก.พ.ร. ในฐานะฝ่ายเลขานุการ ก.น.จ. ได้น าเสนอคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) ในการประชุม ครั้งที่ 3/2558 วันท่ี 24 ก.ค. 58 เกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการจัดท าแผนปฏิบัติราชการประจ าปีของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด และหลักเกณฑ์และแนวทางการก าหนดกรอบการจัดสรรงบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัดประจ าปีงบประมาณ พ.ศ.2560 ตามหลักเกณฑ์แนวทางและวิธีการที่ ก.น.จ. ก าหนด และสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล นโยบายคณะรักษาความ

- - -



(ถ้ามี)

ก าหนดมาตรการจู งใจในการเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามเวลาที่ก าหนด เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณของจังหวัดและกลุ่มจั งหวั ดส่ งผลต่ อการกระตุ้ นเศรษฐกิจในภาพรวม รวมทั้งให้จังหวัดและกลุ่มจั งหวัดจัดท ารายงานการใช้จ่ายงบประมาณที่แสดงให้เห็นถึงความคุ้มค่าด้วย

สงบแห่งชาติ (ค.ส.ช.) แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสั งคมแห่ งชาติ เป็นต้น ภายในกรอบวงเงินงบประมาณ 28,000 ล้านบาท เพื่อจัดสรรระหว่างงบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัดในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ในระดับพื้นที่ให้เกิดผลตามเป้าหมายที่ก าหนด

ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี (27 มกราคม 2558) ตามที่ รัฐบาลมีนโยบายเปิดศูนย์บริการร่วม ณ จุดเดียว (One Stop Service) และในหลายส่วนราชการได้ด าเนินการไปแล้ว นั้น เนื่ องจากปัจจุบันสถานที่ ของศูนย์บริการร่วมส่วนใหญ่ อยู่ในพื้นที่ส่วนราชการซึ่ งประชาชนอาจเดิ นทางไปรั บบริ การไม่สะดวก ดังนั้น เพื่อเป็นการอ านวยความสะดวกแก่ประชาชน จึงให้ทุ ก ส่ วน ราชก ารที่ มี ภ า รกิ จให้ บ ริ ก า รประชาชนร่ วมกั นพิจารณาเปิดศูนย์บริการสาธารณะ

- เปิ ดศู นย์ บริ การร่ วม ในห้ างสรรพสิ นค้ า (Government Service Point : G – Point) แห่งแรก ณ ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 58 - เปิ ดศู นย์ บริ การร่ วม ในห้ างสรรพสิ นค้ า (Government Service Point : G – Point) แห่งที่ 2 ณ ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล เฟสติวัล ศาลายา จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 58

- - -



(ถ้ามี)

แบบครบวงจรที่ครอบคลุมการให้บริการหลากหลายแก่ประชาชนในพื้ นที่ ที่ ประชาชนสามารถเดินทางได้สะดวก และสามารถใช้บริการหลังเวลาเลิกงาน หรือใน วั น ห ยุ ด ร าช ก า ร ได้ เ ช่ น ห้างสรรพสินค้า รวมทั้งให้มีการสร้างการรับรู้แก่ประชาชนด้วย

ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี (7 เมษายน 2558) ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (27 มกราคม 2558 ) ให้ ทุ กหน่ วยงานที่ เกี่ ยวข้ องกับการอ าน วยความสะดวกใน การพิจารณาอนุญาตของทางราชการ จัดท าคู่มือส าหรับประชาชน ตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการอ าน วยความสะดวกใน การพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 21 กรกฎาคม 2558 และขณะนี้รัฐบาลได้จัดตั้งศูนย์บริการด้านธุรกิจ (One Stop Service) ในประเทศต่างๆ เช่น การลงทุน

- การยกระดับศูนย์บริการร่วม ได้ประสานไปที่ศูนย์ประสานการบริการด้านการลงทุน (OSOS) เพื่อขอข้อมูลประกอบการด าเนินการ ซึ่ง ศูนย์ OSOS ได้ยกระดับการให้บริการเพิ่มงานให้ครอบคลุมและครบวงจรการลงทุนตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว และ BOI ได้รายงานคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบแล้ว ทั้งนี้ งานที่เพิ่มเติมจากเดิม คือ 1) การขอนุญาต/หนังสือการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 2)การยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี/แบบรายงานส าหรับกิจการ ITC และ IHC 3) การขอนุญาตประกอบ/ขอขยายกิจการโรงงาน 4) การขอใช้ที่ดินเพื่อประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรม 5) การขอใช้บริการไฟฟ้าและประปา - ได้ประสานขอข้อมูลจากกระทรวงพาณิ ชย์เกี่ยวกับงานศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ (OSEC) และศูนย์บริการร่วมของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อยกระดับให้ครบวงจร

- - -



(ถ้ามี)

การพาณิชย์ การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม นั้น ให้รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรี ดิ ยาธร เทวกุ ล ) ก ากั บ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดท าคู่มือตามมติดังกล่าว โดยจัดท าเป็นแผนภาพแสดงให้ เห็ นถึ งแนวทางการให้บริการของศูนย์บริการด้านธุรกิจ (One Stop Service) แต่ละประเภทและความเช่ือมโยงในการส่ งต่ องานบริ การของหน่วยงานต่างๆ ทั้งหมดที่ชัดเจน เพื่ อ ส ร้ างค วาม เข้ า ใจ ให้ แ ก่ห น่ วย งาน ที่ ให้ บ ริ ก ารแ ล ะประชาชนผู้มาขอให้บริการ

- อยู่ระหว่างการจัดท ารายละเอียดแนวทางการจัดตั้งศูนย์บริการร่วมตามพระราชบัญญัติการอ านวยความสะดวกฯ ซึ่งการยกระดับศูนย์บริการร่วมเฉพาะด้านเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการจดัตัง้ศูนยบ์ริการร่วม

ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี (7 พฤษภาคม 2558) ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ ( 27 ม ก ราค ม 2558 ) ให้ ทุ กหน่ วยงานที่ เกี่ ยวข้ องกับการอ าน วยความสะดวกใน การพิจารณาอนุญาตของทางราชการจัดท าคู่มือส าหรับประชาชนตามมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติการ

- เสนอหลักการการจัดตั้งศูนย์บริการร่วมตามพระราชบัญญัติการอ านวยความสะดวกฯ ต่อ ก.พ.ร. และคณะรัฐมนตรี - อยู่ระหว่างจัดท ารายละเอียดแนวทางการจัดตั้งศูนย์บริการร่วมตามพระราชบัญญัติฯ เพื่อเสนอความเห็นชอบต่อ อ.ก.พ.ร. และ ก.พ.ร. ก่อนแจ้งแนวทางการจัดตั้งให้ส่วนราชการต่าง ๆ เพื่อด าเนินการต่อไป

- - -



(ถ้ามี)

อ าน วยความสะดวกใน การพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ให้แล้วเสร็จ ภายในวั น ที่ 2 1 ก รก ฎ าค ม 2 558 ประกอบกับที่ผ่านมารัฐบาลได้จดัตั้งศูนย์บริการด้านธุรกิจ (One Stop Service) ในประเภทต่างๆ เช่น การค้า การลงทุน การพาณิชย์ การท่องเที่ยว การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแล้ว นั้น ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการอ านวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการด าเนินการให้เป็นไปตามที่ก าหนด และในส่วนของการให้บริการของศูนย์บริการด้านธุรกิจ (One Stop Service) และศู นย์ ด ารงธรรมจะต้องค านึงถึงการเชื่อมต่อการท างานระหว่างกัน รวมทั้ งกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่ออ านวยความสะดวกให้แก่ผู้มาติดต่อราชการด้วย

ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี (2 มิถุนายน 2558)

1) ส านักงาน ก.พ.ร. ได้รายงานข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับคณะกรรมการและกองทุนแล้ว เมื่อวันท่ี 18

- - -



(ถ้ามี)

ตามที่ระบบราชการในปัจจุบันมีกลไกในการขับเคลื่อนหลายส่วน เช่น ส่วนราชการและหน่วยงาน คณะกรรมการ และกองทุน ดังนั้น เพื่อให้ทุกหน่วยงานมีความเข้าใจบทบาทของกลไกต่างๆ ที่ถูกต้องตรงกัน จึงให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครื องาม) ร่วมกับส านักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ และส านักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน จัดท าข้อมูล โครงสร้างระบบราชการที่แสดงถึงความเช่ือมโยงระหว่างส่วนราชการ คณะกรรมการ และกองทุนต่างๆ พร้อมทั้งเสนอแนวทางในการปรับโครงสร้างระบบราชการ คณะกรรมการ และกองทุนต่าง ๆ โดยเสนอให้น ายกรั ฐมนตรีภ าย ใน เดื อนมิถุนายน 2558

มิ.ย. 58 2) รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ได้ประชุมร่วมกับส านักงาน ก.พ. และ ส านักงาน ก.พ.ร. เมื่ อวันที่ 8 ก.ค. 58 มี มติ ให้ ส านั กงาน ก.พ.ร. ด าเนินการจัดท าข้อมูลจ าแนกคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีตามโครงสร้างการแบ่งงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (5 ด้าน คือ ด้านความมั่นคง ด้านการต่างประเทศ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคมจิตวิทยา และด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม) และแนวทางการทบทวนความจ าเปน็ของคณะกรรมการที่แต่งตั้ งโดยมติคณะรัฐมนตรี และมอบหมายให้ ส านักงาน ก.พ. ส านักงาน ก.พ.ร. และทีมงานรองนายกรัฐมนตรีเชิญผู้แทนส่วนราชการหารือเกี่ยวกับการทบทวนความจ าเป็นของคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ได้ข้อสรุปและน าเรียนรองนายกรัฐมนตรีต่อไป 3) ส านักงาน ก.พ.ร. ซึ่งรับผิดชอบคณะกรรมการฯ จ านวน 2 ด้าน คือ ด้านการต่างประเทศและด้านเศรษฐกิจ (รวม 107 คณะ) ได้ เชิญส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือเกี่ยวกับการทบทวนฯ ดังกล่าวระหว่างวันที่ 28 - 29 ก.ค. และ 3 - 5 ส.ค. 58 และจะเร่งสรุปผลการหารือน าเรียนรองนายกรัฐมนตรีต่อไป

ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี (21 กรกฎาคม 2558)

- ได้ประสานไปยัง สลค. เพื่อขอความชัดเจนเกี่ยวกับข้อสั่ งการดังกล่าว ซึ่ งได้รับการแจ้งว่าที่

- - -



(ถ้ามี)

ตามที่ ได้ มี การประกาศใช้พระราชบัญญัติการอ านวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 21 ก.ค. 58 และมีการเปิดตั วคู่ มื อส าหรับประชาชนและเว็บไซต์ศูนย์รวมข้ อ มู ล เพื่ อ ติ ด ต่ อ ร า ช ก า ร (www.info.go.th) ในวันที่ 21 ก.ค. 58 นั้น ให้ส านักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเผยแพร่คู่มือดังกล่าวให้ทุกส่วนราชการ ศูนย์ด ารงธรรมและสถานเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศ และให้ทุกส่วนราชการก าชับให้เจ้าหน้าที่ศึกษาและด าเนิ นการให้ เป็ นไปตาม พ.ร.บ. และคู่มือดังกล่าวด้วย

นายกรัฐมนตรีสั่งการ เพื่อให้ หน่วยงานต่าง ๆ ได้รับทราบวิธีการใช้เว็บไซต์ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อติดต่อราชการ (www.info.go.th) และด าเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติและคู่มือดังกล่าวด้วย - อยู่ระหว่างจัดท าหนังสือเวียนเพื่ออธิบายวิธีการใช้งานเว็บไซต์ www.info.go.th และแนวทางการปฏิบัติตามคู่มือส าหรับประชาชนที่หน่วยงานต่าง ๆ ได้จัดท าข้ึน แจ้งไปยังหน่วยงานต่าง ๆ

มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2558 เห็นชอบแนวทางการประหยัดน้ าในหน่วยงานภาครัฐตามที่กรมท รั พ ย าก รน้ า ใน ฐ าน ะ ฝ่ า ยเล ข านุ ก า รค ณ ะ ก ร รม ก า รทรัพยากรน้ าแห่งชาติเสนอ

1) ส านักงาน ก.พ.ร. ได้หารือกับกรมทรัพยากรน้ า ในฐานะเจ้าภาพตัวช้ีวัด เพื่อร่วมจัดท าเกณฑ์การให้คะแนน ตัวช้ีวัดเรื่องการประหยัดน้ า ซึ่งมีเป้าหมายให้หน่วยงานภาครัฐลดปริมาณการใช้น้ าลงอย่างน้อย ร้อยละ 10 2) ส านักงาน ก.พ.ร. ได้ก าหนดเรื่องการประหยัดน้ าเป็นตัวช้ีวัดในกรอบค ารับรองการปฏิบัติราชการฯ ของ

- - -



(ถ้ามี)

สาระส าคัญ (เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับส านักงาน ก.พ.ร.) แนวทางการปฏิบัติ เพื่อการประหยัดน้ า ระยะสั้น เป็นแนวทางที่สามารถน าไปปฏิบัติได้ ง่ายในการประหยัดน้ าภายในหน่วยงานภาครัฐ ซึ่ งจะช่วยบรรเทาปัญหาวิกฤติการขาดแคลนน้ า รวมถึงสร้างความเสมอภาคระหว่างภาคส่วนต่างๆ ในการลดปริมาณการใช้น้ า เป็นการปลูกฝังค่านิยมร่วมกันในการใช้น้ าอย่างมีประสิทธิภาพและรู้คุณค่า รวมถึงช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการใช้น้ าอย่างไม่เหมาะสมได้อีกด้วย จึงควรก าหนดให้มีตัวช้ีวัด (Key Performance Index : KPI) “ระดับความส าเร็จของการด าเนินมาตรการประหยัดน้ า” เป็นหนึ่งในกรอบการประเมิ นผลการปฏิบัติราชการต่อไป โดย 1) ให้หน่วยงานภาครัฐด าเนินมาตรการประหยัดน้ า เพื่อช่วยบรรเทาวิกฤติการขาดแคลนน้ า รวมถึ งส ร้ างความ เสมอภาค

ส่วนราชการ จังหวัด สถาบันอุดมศึกษาและองค์การมหาชน ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 โดยมีน้ าหนักร้อยละ 5 3) ส านั กงาน ก.พ.ร. ได้ ช้ีแจงให้ ส่ วนราชการรับทราบแนวทางการประเมินผลตามตัวช้ีวัดเรื่องการประหยัดน้ าแล้ว เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 58 และจังหวัด เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 58



(ถ้ามี)

ระหว่างภาคส่วนต่างๆ ในการลดปริมาณการใช้น้ าลง 2)ให้ส านักงาน ก.พ.ร. ก าหนดให้ “ผลการประหยัดน้ า” เป็นตัววัดประสิทธิภาพของปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้บริการระดับสูงของทุกหน่ วยงาน รวมถึ งรัฐวิสาหกิจ องค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่ น หน่วยงานตุลาการ หน่ วยงานรัฐสภา และโรงเรียนในสั งกั ดส า นั ก ง า น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า รการศึกษาขั้นพื้ นฐาน โดยเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 3) ให้ส านักงาน ก.พ.ร.และกรมทรัพยากรน้ า ร่วมกันพิจารณาก าหนดเกณฑ์ที่จะใช้ส าหรับการประเมินผล 4)ให้ ก รมทรั พยากรน้ า เป็ นเจ้าภาพหลักในการติดตามและรายงานผลให้คณะรัฐมนตรีทราบ

มติคณะรัฐมนตรี (วันที่ 11 สิงหาคม 2558) ให้ ส า นั ก ง า น ก .พ .ร . เป็ นหน่วยงานหลักรับข้อเสนอแนะ

ส านักงาน ก.พ.ร. ได้ด าเนินการจัดประชุมหารือร่วมกับหน่ วยงานที่ เกี่ ยวข้ อง เช่น กระทรวงการคลั ง กระทรวงมหาดไทย ส านักงบประมาณ ส านักงานปลัดส านักนายกรัฐมนตรี ฯลฯ เพื่อพิจารณาข้อเสนอแนะ



(ถ้ามี)

ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ ติดตามรายงานเรื่องการปรับโครงสร้างอ านาจส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น ไปพิจารณาร่วมกับก ร ะ ท ร ว ง ก า ร ค ลั ง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อ ส า ร ส า นั ก งา น รั ฐ บ า ลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) กระทรวงศึกษาธิการ ส านักงานป ลั ด ส า นั ก น าย ก รั ฐ ม น ต รี ส านั ก งาน ก .พ . ส านั ก งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ส านักงบประมาณ ส านักงานต ารวจแห่งชาติ คณะกรรมการกระจายอ านาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจั งหวัดแบบบู รณ าการ และหน่ วยงานที่ เกี่ ยวข้อง และให้ส านักงาน ก.พ.ร. จัดท ารายงานผลการพิ จารณ าหรื อผลการด าเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวใ น ภ า พ ร ว ม เ พื่ อ เ ส น อคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน 30

เพื่อการปฏิรูปของสภาปฏิรูปแห่งชาติแล้ว เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 58 ขณะนี้ส านักงาน ก.พ.ร. อยู่ระหว่างการแจ้งเวียนหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบรายงานผลการประชุมหารือและให้ความเห็นเพิ่มเติมก่อนน าความเหน็ทั้งหมดมาประมวลเสนอคณะรัฐมตรีต่อไป



(ถ้ามี)

วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งค าสั่ง

Documents

ระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2557 ถึง 31 ตุลาคม 2558