Web viewข้อ ข. Cl มีค่า IE 1 สูงสุด...

ขอ้สอบ LAS ชัน้ มธัยมศึกษาปีท่ี 5 ปีการศึกษา 2556

กลุ่มสาระการเรยีนรู ้ วทิยาศาสตร์

รายวชิา วทิยาศาสตร ์ มาตรฐาน/ตัวช ีว้ดัชว่งช ัน้ มาตรฐาน ว 3.1

โจทย์1.กำาหนดสญัลักษณ์นิวเคลียรต่์อไปน้ี A A B

B C C D D ขอ้ใดไมถ่กูต้อง

ก. A กับ B เป็นไอโซโทน แต่ไมเ่ป็นไอโซบาร์

ข. A กับ D ไมเ่ป็นไอโซโทน แต่ไมเ่ป็นไอโซบาร์

ค. C กับ C ไมเ่ป็นไอโซโทน แต่เป็นไอโซโทป

ง. B กับ C เป็นไอโซบาร ์ แต่ไมเ่ป็นไอโซโทน

ระดับการวดั (ของ Bloom ‘s Revised Taxonomy) ความจำา ความเขา้ใจ ประยุกต์ใช้ วเิคราะห์ ประเมนิค่า การ

สรา้งสรรค์

เฉลยขอ้ ง. ไมถ่กู B กับ C มจีำานวนโปรตอนไมเ่ท่ากันคือ 10 และ 11 แต่มจีำานวน

189

199

191

201

201

211

211

231

189

191

199

231

201

211

201

211

201

211

นิวตรอนเท่ากันคือ ต่างเท่ากับ 10 แสดงวา่ธาต ุB และ C เป็นไอโซโทนกัน ไมเ่ป็นไอโซบาร์

ขอ้สอบ LAS ชัน้ มธัยมศึกษาปีท่ี 5 ปีการศึกษา 2556

กลุ่มสาระการเรยีนรู ้ วทิยาศาสตร์

รายวชิา วทิยาศาสตร ์ มาตรฐาน/ตัวช ีว้ดัชว่งช ัน้ มาตรฐาน ว 3.1

โจทย ์2. ธาต ุA มเีลขมวล 39 และม ี1 เวเลนซอิ์เล็กตรอนที่ระดับ

พลังงานสงูสดุคือ n = 4 สญัลักษณ์นิวเคลียรข์อง A คือขอ้ใด

ก. A ข. A ค. A ง. A

ระดับการวดั (ของ Bloom ‘s Revised Taxonomy) ความจำา ความเขา้ใจ

ประยุกต์ใช้ วเิคราะห์ ประเมนิค่า การ

สรา้งสรรค์

เฉลยขอ้ ข. จากขอ้มูล ธาต ุA มกีารจดั 2, 8, 8, 1มจีำานวนอิเล็กตรอน = จำานวนโปรตอน = เลขอะตอม = 19

แต่เลขมวล = 39ฉะนัน้ สญัลักษณ์นิวเคลียรข์อง A คือ A

3920

391

394

3918

3919

ขอ้สอบ LAS ชัน้ มธัยมศึกษาปีท่ี 5 ปีการศึกษา 2556

กลุ่มสาระการเรยีนรู ้ วทิยาศาสตร์

รายวชิา วทิยาศาสตร ์ มาตรฐาน/ตัวช ีว้ดัชว่งช ัน้ มาตรฐาน ว 3.1

โจทย ์3. ธาตใุดมค่ีาพลังงานไอออไนเซชนัสงูสดุ

ก. Cr ข. Cl ค. I ง. Li

ระดับการวดั (ของ Bloom ‘s Revised Taxonomy) ความจำา ความเขา้ใจ

ประยุกต์ใช้ วเิคราะห์ ประเมนิค่า การ

สรา้งสรรค์

เฉลยขอ้ ข. Cl มค่ีา IE1 สงูสดุ เพราะมขีนาดอะตอมเล็ก เวเลนซ์อิเล็กตรอนอยูใ่กล้นิวเคลียส จงึถกูดึงดดูมาก ทำาใหอิ้เล็กตรอนหลดุยาก จงึต้องใชพ้ลังงานมากดึงอิเล็กตรอนหลดุออกได้

ขอ้สอบ LAS ชัน้ มธัยมศึกษาปีท่ี 5 ปีการศึกษา 2556

กลุ่มสาระการเรยีนรู ้ วทิยาศาสตร์

รายวชิา วทิยาศาสตร ์ มาตรฐาน/ตัวช ีว้ดัชว่งช ัน้ มาตรฐาน ว 3.1

โจทย ์

4. สารประกอบคลอไรด์ของ X มสีตูรเป็น XCl2 ขอ้ใดต่อไปน้ีถกูต้อง

ก. X เป็นโลหะ XCl2 ละลายนำ้า มสีมบติัเป็นเบส ข. X เป็นอโลหะ XO2 เป็นแก๊ส ไมล่ะลายนำ้าค. คลอไรด์ของ X เป็นสารประกอบไอออนิก สว่นออกไซด์ของ X

เป็นสารประกอบโคเวเลนต์ง. XCl2 เป็นสารประกอบโคเวเลนต์ โมเลกลุมรูีปรา่งเหมอืน H2O

ระดับการวดั (ของ Bloom ‘s Revised Taxonomy) ความจำา ความเขา้ใจ

ประยุกต์ใช้ วเิคราะห์ ประเมนิค่า

การสรา้งสรรค์

เฉลย ขอ้ ง. จากสตูร XCl2 X อาจจะเป็นธาตหุมู ่2A หรอื ธาตหุมู ่6A และถ้า X เป็นธาตหุมู ่6A XCl2 และ H2O จะมรูีปรา่งเป็นมุมงอเหมอืนกัน

ขอ้สอบ LAS ชัน้ มธัยมศึกษาปีท่ี 5 ปีการศึกษา 2556

กลุ่มสาระการเรยีนรู ้ วทิยาศาสตร์

รายวชิา วทิยาศาสตร ์ มาตรฐาน/ตัวช ีว้ดัชว่งช ัน้ มาตรฐาน ว 3.1

โจทย์5. ลำาดับจุดเดือดของสารจากตำ่าไปสงู คือขอ้ใด

ก. NH3, CH4, Ne, H2O, HFข. CH4, NH3, Ne, H2O, HFค. HF, Ne, CH4, NH3, H2Oง. Ne, CH4, NH3, HF, H2O

ระดับการวดั (ของ Bloom ‘s Revised Taxonomy) ความจำา ความเขา้ใจ

ประยุกต์ใช้ วเิคราะห์ ประเมนิค่า การ

สรา้งสรรค์

เฉลย ขอ้ ง. Ne, CH4 มแีรงยดึเหน่ียวระหวา่โมเลกลุเป็นแรงแวนเดอรว์าลส ์NH3, HF, H2O มแีรงยดึเหน่ียวระหวา่งโมเลกลุเป็นพนัธะไฮโดรเจนและแรงแวนเดอรว์าลสโ์ดยที่นำ้าเกิดพนัธะไฮโดรเจนมากแหง่ที่สดุ จงึเป็นผลทำาใหม้จุีดเดือดสงูสดุ

ขอ้สอบ LAS ชัน้ มธัยมศึกษาปีท่ี 5 ปีการศึกษา 2556

กลุ่มสาระการเรยีนรู ้ วทิยาศาสตร์

รายวชิา วทิยาศาสตร ์ มาตรฐาน/ตัวช ีว้ดัชว่งช ัน้ มาตรฐาน ว 3.2

โจทย์

1. ผลิตภัณฑ์ท่ีเกิดจากปฏิกิรยิาไฮโดรลิซสิ ไขมนัหรอืนำ้ามนัน่าจะเป็นสารใดต่อไปน้ี

1. 2.

3. 4.

ก. ขอ้ 1 และ 4 ข. ขอ้ 2 และ 4 ค. ขอ้ 3 และ 4 ง. ขอ้ 4 เท่านัน้

ระดับการวดั (ของ Bloom ‘s Revised Taxonomy) ความจำา ความเขา้ใจ

ประยุกต์ใช้ วเิคราะห์ ประเมนิค่า การ

สรา้งสรรค์

H+,

เฉลยขอ้ ค. ไขมนัหรอืนำ้ามนั + H2O กรดไขมนั + กลีเซอรอล

ขอ้สอบ LAS ชัน้ มธัยมศึกษาปีท่ี 5 ปีการศึกษา 2556

กลุ่มสาระการเรยีนรู ้ วทิยาศาสตร์

รายวชิา วทิยาศาสตร ์ มาตรฐาน/ตัวช ีว้ดัชว่งช ัน้ มาตรฐาน ว 3.2

โจทย์

2. ตารางน้ีแสดงผลการทดลองจากปฏิกิรยิา Na2S2O3 (aq) + 2HCl (aq) 2NaCl (aq) + S (s)

Tube

number

Volume of 0.01 M Na2S2O3 (cm3)

Volume of 1 M HCl (cm3)

Temperature of mixture

(°C)

Time for disapperence of cross (s)

1 50 5 30 802 50 5 35 603 50 5 40 464 50 5 45 37

จุดประสงค์ของการทดลองน้ีคืออะไรก. ศึกษาผลของอุณหภมูต่ิออัตราการเกิดปฏิกิรยิาเคมีข. ศึกษาผลของความเขม้ขน้ต่ออัตราการเกิดปฏิกิรยิาเคมีค. ศึกษาผลของตัวเรง่ปฏิกิรยิาต่ออัตราการเกิดปฏิกิรยิาเคมีง. ศึกษาผลของขนาดอนุภาคต่ออัตราการเกิดปฏิกิรยิาเคมี

ระดับการวดั (ของ Bloom ‘s Revised Taxonomy) ความจำา ความเขา้ใจ

ประยุกต์ใช้

วเิคราะห์ ประเมนิค่า การสรา้งสรรค์

ตอบ ขอ้ ก. เพราะมกีารเปล่ียนแปลงอุณหภมูแิละติดตามผลของการเปล่ียนอุณหภมูนัิน้

ขอ้สอบ LAS ชัน้ มธัยมศึกษาปีท่ี 5 ปีการศึกษา 2556

ขอ้สอบ LAS ชัน้ มธัยมศึกษาปีท่ี 5 ปีการศึกษา 2556

กลุ่มสาระการเรยีนรู ้ วทิยาศาสตร์

รายวชิา วทิยาศาสตร ์ มาตรฐาน/ตัวช ีว้ดัชว่งช ัน้ มาตรฐาน ว 3.2

โจทย์3. สำาหรบัผลิตภัณฑ์ท่ีได้จากการกลัน่ลำาดับสว่นนำ้ามนัปิโตรเลียม

เมื่อเรยีงลำาดับจุดเดือดจากตำ่าไปสงู ขอ้ใดถกูต้องก. แก๊สหงุต้ม นำ้ามนัเบนซนิ นำ้ามนัดีเซล นำ้ามนัก๊าดข. แก๊สหงุต้ม นำ้ามนัเบนซนิ นำ้ามนัก๊าด นำ้ามนัดีเซลค. แก๊สหงุต้ม นำ้ามนัก๊าด นำ้ามนัดีเซล นำ้ามนัเบนซนิ ง. นำ้ามนัดีเซล นำ้ามนัก๊าด นำ้ามนัเบนซนิ แก๊สหงุต้ม

ระดับการวดั (ของ Bloom ‘s Revised Taxonomy) ความจำา ความเขา้ใจ

ประยุกต์ใช้ วเิคราะห์ ประเมนิค่า การ

สรา้งสรรค์

เฉลย ขอ้ ข สว่นของไฮโดรคารบ์อนท่ีกลัน่ได้ จุดเดือดจากตำ่าไปสงูตามสถานะ

แก๊ส < ของเหลว < ของแขง็ เรยีงจากจุดเดือดตำ่าไปสงูแก๊สหงุต้ม < นำ้ามนัเบนซนิ < นำ้ามนัก๊าด < นำ้ามนัดีเซล <

นำ้ามนัหล่อล่ืน < จาระบ ี< พาราฟนี < นำ้ามนัเตา < ยางมะตอย

ขอ้สอบ LAS ชัน้ มธัยมศึกษาปีท่ี 5 ปีการศึกษา 2556

กลุ่มสาระการเรยีนรู ้ วทิยาศาสตร์

รายวชิา วทิยาศาสตร ์ มาตรฐาน/ตัวช ีว้ดัชว่งช ัน้ มาตรฐาน ว 3.2

โจทย์

4. สารที่แยกได้จากการกลัน่ลำาดับสว่นนำ้ามนัปิโตรเลียม มีคณุสมบติัดังน้ี

สมบติัและการใชง้านของสารประกอบ

A B C D

เป็นของเหลว

ใชท้ำาสารเคมี

ใชเ้ป็นเชื้อเพลิงรถยนต์

ใชเ้ป็นเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ไอพน่

ใชเ้ป็นเครื่องยนต์ดีเซล

การเรยีงลำาดับจำานวนคารบ์อนของสารจากน้อยไปหามากในขอ้ใดถกูก. A, B, C, Dข. B, C, D, Aค. C, A, B, Dง. D, C, B, A

ระดับการวดั (ของ Bloom ‘s Revised Taxonomy) ความจำา ความเขา้ใจ

ประยุกต์ใช้

วเิคราะห์ ประเมนิค่า การสรา้งสรรค์

เฉลยขอ้ ค. จากขอ้มูลผลการทดลอง จะได้วา่

สารประกอบไฮโดรคารบ์อน

จำานวนคารบ์อนอะตอม

ประโยชน์

C C5-C6 เชื้อเพลิงรถยนต์A C6-C10 ใชเ้ป็นเชื้อเพลิงเครื่องยนต์

และสารเคมีB C10-C14 ใชเ้ป็นเชื้อเพลิงเครื่องยนต์

ไอพน่D C14-C35 ใชเ้ป็นเครื่องยนต์ดีเซล

ขอ้สอบ LAS ชัน้ มธัยมศึกษาปีท่ี 5 ปีการศึกษา 2556

กลุ่มสาระการเรยีนรู ้ วทิยาศาสตร์

รายวชิา วทิยาศาสตร ์ มาตรฐาน/ตัวช ีว้ดัชว่งช ัน้ มาตรฐาน ว 3.2

โจทย์

5. PET เป็นพอลิเมอรท่ี์ใชใ้นการทำาขวดนำ้าดื่มพลาสติกชนิดใส ขอ้ความใดผิด

ก. PET เป็นชื่อยอ่มาจาก polyethyleneterephthalateข. PET เป็นโคพอลิเมอร์ค. PET จดัเป็นพลาสติกชนิดเทอรม์อพลาสติกง. เปลวไฟของ PET มสีเีหลืองสม้ มกีลิ่นหอม

ระดับการวดั (ของ Bloom ‘s Revised Taxonomy) ความจำา ความเขา้ใจ

ประยุกต์ใช้ วเิคราะห์ ประเมนิค่า การ

สรา้งสรรค์

เฉลยขอ้ ง

ขอ้สอบ LAS ชัน้ มธัยมศึกษาปีท่ี 5 ปีการศึกษา 2556

กลุ่มสาระการเรยีนรู ้ วทิยาศาสตร์

รายวชิา วทิยาศาสตร ์ มาตรฐาน/ตัวช ีว้ดัชว่งช ัน้ มาตรฐาน ว 3.2

โจทย์

6. ขอ้ความใดต่อไปน้ีผิด1. พอลิเอทิลีนเป็นเทอรม์อเซตท่ีโมเลกลุมกีารเชื่อมโยงเป็นรา่งแห

ไมส่ามารถนำามาหลอมใหมไ่ด้2. ภาชนะเมลามนีสามารถนำามารไีซเคิล หรอืหลอมใชใ้หมไ่ด้เพื่อลด

มลภาวะ3. พลาสติกท่ีมโีครงสรา้งโมเลกลุเป็นโซต่รง จะอ่อนตัว เมื่อได้รบั

ความรอ้นและแขง็ตัวเมื่อลดอุณหภมูลิง เรยีกวา่ เทอรม์อพลาสติก4. เทฟลอนท่ีใชเ้คลือบภาชนะหงุต้มนัน้เป็นเทอรม์อเซต เน่ืองจาก

ทนความรอ้นดีมาก และไมห่ลอมเหลวก. ขอ้ 1 และ 2 เท่านัน้ข. ขอ้ 1, 2 และ 4 เท่านัน้ค. ขอ้ 1, 3 และ 4 เท่านัน้ง. ขอ้ 1, 2, 3 และ 4

ระดับการวดั (ของ Bloom ‘s Revised Taxonomy) ความจำา ความเขา้ใจ

ประยุกต์ใช้ วเิคราะห์ ประเมนิค่า การ

สรา้งสรรค์

เฉลยขอ้ ก ขอ้ 1 ผิด เพราะพอลิเอทิลีนเป็นเทอรม์อพลาสติกท่ีมีโมเลกลุเป็นโซต่รงหรอืกิ่ง นำามาหลอมเหลวแล้วทิ้งไว ้แขง็ตัวใหมไ่ด้

ขอ้ 2 ผิด เพราะภาชนะเมลามนีเป็นเทอรม์อเซต หลอมไม่ได้ จงึไมส่ามารถนำามารไีซเคิลได้กลับมาใชใ้หมไ่ด้

ขอ้ 3 และ 4 ถกู เหตผุลชดัเจนอยูแ่ล้ว

ขอ้สอบ LAS ชัน้ มธัยมศึกษาปีท่ี 5 ปีการศึกษา 2556

กลุ่มสาระการเรยีนรู ้ วทิยาศาสตร์

รายวชิา วทิยาศาสตร ์ มาตรฐาน/ตัวช ีว้ดัชว่งช ัน้ มาตรฐาน ว 3.2

โจทย์

7. สารคู่ใดต่อไปน้ีเมื่อนำามาต้มกับสารละลายกรดแล้วไมเ่กิดปฏิกิรยิา

ก. เซลลโูลส ข. นำ้ามนัรำาขา้วค. ไกลโคเจน ง. ฟรกัโทส

ระดับการวดั (ของ Bloom ‘s Revised Taxonomy) ความจำา ความเขา้ใจ

ประยุกต์ใช้ วเิคราะห์ ประเมนิค่า การ

สรา้งสรรค์

เฉลยขอ้ ง. เซลลโูลส นำ้ามนัรำาขา้ว และไกลโคเจน เกิดไฮโดรลิซสิในนำ้าด้วยกรด โดยใชค้วามรอ้น เกิดปฏิกิรยิาได้ สว่นฟรกัโทสเป็นนำ้าตาลคารโ์บไฮเดรตโมเลกลุเล็ก ไมเ่กิดไฮโดรไลซสิด้วยกรด

ขอ้สอบ LAS ชัน้ มธัยมศึกษาปีท่ี 5 ปีการศึกษา 2556

กลุ่มสาระการเรยีนรู ้ วทิยาศาสตร์

รายวชิา วทิยาศาสตร ์ มาตรฐาน/ตัวช ีว้ดัชว่งช ัน้ มาตรฐาน ว 3.2

โจทย์8. พจิารณาขอ้ความต่อไปน้ี

1. นำ้ามนัและไขมนัมสีว่นประกอบของแอลกอฮอล์และคีโตน2. นำ้ามนัและไขมนัจดัเป็นสารประกอบเอสเทอร์3. นำ้ามนัเป็นของเหลวจงึเหมน็หนืได้ง่ายกวา่ไขมนัซึ่งเป็นของแขง็4. นำ้ามนัและไขมนัมสีตูรทัว่ไปเหมอืนกัน ต่างกันท่ีหมู ่R ถ้า R ทัง้ 3

หมูเ่ป็นชนิดเดียวกัน จะเป็นนำ้ามนัและ R ทัง้ 3 หมูต่่างชนิดกันจะเป็นไขมนั5. ปฏิกิรยิาของนำ้ามนัมะพรา้วกับโซเดียมไฮดรอกไซด์ เรยีกวา่ สะ

ปอนนิฟเิคชนั6. การกำาจดัสิง่สกปรกที่ไมล่ะลายนำ้าด้วยสบูห่รอืผงซกัฟอกนัน้เกิด

ขึ้นโดยด้านท่ีไมม่ขีัว้จะล้อมรอบสิง่สกปรกและด้านท่ีมขีัว้จะล้อมรอบด้วยโมเลกลุของนำ้า

ขอ้ใดถกูต้องก. ขอ้ 1, 3 และ 5 ข. ขอ้ 2, 4 และ 6ค. ขอ้ 2, 5 และ 6 ง. ขอ้ 3, 4 และ 6

ระดับการวดั (ของ Bloom ‘s Revised Taxonomy) ความจำา ความเขา้ใจ

ประยุกต์ใช้ วเิคราะห์ ประเมนิค่า การ

สรา้งสรรค์

เฉลยขอ้ ค. ขอ้ 1 ผิด เพราะนำ้ามนัและไขมนัมสีว่นประกอบกรดไขมนัและกลีเซอรอล

ขอ้ 3 ผิด เพราะการเหมน็หนืของนำ้ามนัและไขมนัขึ้นอยูก่ับองค์ประกอบและปรมิาณของกรดไขมนัไมอ่ิ่มตัว

ขอ้ 4 ผิด เพราะนำ้ามนัและไขมนัที่ประกอบด้วยกรดไขมนัอิ่มตัวมากกวา่กรดไขมนัไมอ่ิ่มตัวจะเป็นไขมนั แต่ถ้าน้อยกวา่จะเป็นนำ้ามนั

ขอ้ 2, 5 และ 6 ถกู

ขอ้สอบ LAS ชัน้ มธัยมศึกษาปีท่ี 5 ปีการศึกษา 2556

กลุ่มสาระการเรยีนรู ้ วทิยาศาสตร์

รายวชิา วทิยาศาสตร ์ มาตรฐาน/ตัวช ีว้ดัชว่งช ัน้ มาตรฐาน ว 3.2

โจทย์9. ขอ้ใดถกูต้องก. ไขมนัและนำ้ามนัเป็นสารประกอบอินทรยีป์ระเภทอีเทอรร์ะหวา่งกลี

เซอรอลกับกรดไขมนัข. โปรตีนเกิดจากการรวมตัวของกรดอะมโิน โดยมนีำ้าเป็นผลิตภัณฑ์

รว่ม และพนัธะที่เกิดขึ้นเรยีกวา่พนัธะเพปไทด์ค. เอนไซมส์ามารถลดพลังงานก่อกัมมนัต์ของปฏิกิรยิา โดยรวมตัว

กับสบัสเตรตได้เป็นสารประกอบพื้นฐาน แล้วจงึเกิดปฏิกิรยิาต่อไปได้เป็นผลิตภัณฑ์

ง. แป้งเกิดการรวมตัวของมอนอแซก็คาไรด์หลายๆโมเลกลุเรยีงกันเป็นแบบโซก่ิ่ง แต่สำาลีเกิดจากการรวมตัวของมอนอแซก็คาไรด์หลายๆโมเลกลุเรยีงกันเป็นแบบโซต่รง

ระดับการวดั (ของ Bloom ‘s Revised Taxonomy) ความจำา ความเขา้ใจ

ประยุกต์ใช้ วเิคราะห์ ประเมนิค่า การ

สรา้งสรรค์

เฉลยขอ้ ค. เพราะเอนไซมเ์ป็นตัวเรง่ปฏิกิรยิาทางชวีภาพ ชว่ยลงพลังงานก่อกัมมนัต์ (Ea) โดยรวมตัวกับสบัสเตรต เกิดสารประกอบพื้นฐาน แล้วเกิดปฏิกิรยิาเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ต่อไป