English communication handbook

Preview:

DESCRIPTION

 

Citation preview

forCommunication

ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร

Toomphittayanusorn SchoolSecondary Educational Service Area O�ce 28

(Sisaket-Yasothon)

Content

Page

เพลง If you’re happy and you know it

Dialogue 1 : Introduce friend

Dialogue 2 : Your English is very Well

Dialogue 3 : Asking for Places

Greeting and Farewell (การทักทายและอำาลา )

Saying Thank you (การขอบคุณ )

Saying goodbye and blessing ( การกล่าวคำาอำาลาและคำาอวยพร )

1

2

4

6

8

11

14

คณะที่ปรึกษาฝ่ายบริหาร

1. ดร. ภูมิภัทร มาลี ผู้อำานวยการโรงเรียนตูมพิทยานุสรณ์

2. นายคงศักดิ์ มูลดับ รองผู้อำานวยการโรงเรียนตูมพิทยานุสรณ์

คณะผู้จัดท�า

1. นางสาวสุวิมล ภางาม ประธานกรรมการ

2. นางสาวพัชรินทร์ อสิพงษ์ กรรมการ

3. นายทนงค์ รักษาศิริ กรรมการ

4. นางสาวปวีณา กระสังข์ กรรมการและเลขานุการ

English for CommunicationToomphittayanusorn School

1

If you’re happy and you know it

If you’re happy and you know it, clap your hands ( clap clap )

If you’re happy and you know it, clap your hands ( clap clap )

If you’re happy and you know it, and you really want to show it

If you’re happy and you know it, clap your hands ( clap clap )

If you’re happy and you know it, stamp your feet ( stamp stamp)

If you’re happy and you know it, stamp your feet ( stamp stamp)

If you’re happy and you know it, and you really want to show it

If you’re happy and you know it, stamp your feet ( stamp stamp)

If you’re happy and you know it, shout “Hurray!” ( hoo-ray!)

If you’re happy and you know it, shout “Hurray!” ( hoo-ray!)

If you’re happy and you know it, and you really want to show it

If you’re happy and you know it, shout “Hurray!” ( hoo-ray!)

If you’re happy and you know it, do all three (clap, stamp, hoo-ray)

If you’re happy and you know it, do all three (clap, stamp, hoo-ray)

If you’re happy and you know it, and you really want to show it

If you’re happy and you know it, do all three (clap, stamp, hoo-ray)

คำาศัพท์Clap your hands. (แคลป – ยัวร์ – แฮนส์) ปรบมือ

Stamp your feet. (แสตมป์ – ยัวร์ – ฟีท) กระทืบเท้า

Shout “Hurray!” (เช้าท์ – “ฮอร์เรย์”) (hoo-ray!) (ฮูเรย์) ตะโกน “เฮอเร้” (ฮูเร้)

English for Communication Toomphittayanusorn School

2Dialogue 1 : Introduce friend

Michael : Robert, this is my friend, Mrs. Smith.

(ไมเคิล : โรเบิร์ต – ดิส – อิส – มาย – เฟรนด์, มิสสิส – สมิธ)

ไมเคิล : โรเบิร์ตนี่เพื่อนของฉัน คุณนายสมิธ

Robert : Hi, Nice to meet you.

(โรเบิร์ต : ไฮ - ไนซ์ - ทู – มีท – ยู)

โรเบิร์ต : สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ

Mrs. Smith : Nice to meet you too.

(มิสสิส สมิธ : ไนซ์ – ทู – มีท – ยู – ทู)

คุณนายสมิธ : ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ

Robert : Mrs. Smith, what do you do for work?

(โรเบิร์ต : มิสสิส สมิธ – วอท – ดู – ยู – ดู – ฟอร์ – เวิร์ค?)

โรเบิร์ต : คุณนายสมิธ คุณทำางานอะไรครับ

Mrs. Smith : I’m a doctor.

(มิสสิส สมิธ : ไอ – แอม – อะ – ดอคเทอร์)

มิสสิส สมิธ : ฉันเป็นหมอค่ะ

Robert : Oh, where do you work?

(โรเบิร์ต : โอ – แวร์ – ดู – ยู – เวิร์ค?)

โรเบิร์ต : โอ้โฮ คุณทำางานที่ไหนหรอครับ

Mrs. Smith : New York University hospital in New York City, what do you do?(มิสสิส สมิธ : นิว – ยอร์ค – ยูนิเวอร์ซิตี้ – ฮอสปิทอล – อิน – นิว – ยอร์ค – ซิตี้, วอท – ดู – ยู – ดู ?)

มิสสิส สมิธ : โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนิวยอร์กที่เมืองนิวยอร์กค่ะ แล้วคุณล่ะค่ะ ทำางานอะไร

English for CommunicationToomphittayanusorn School

3Robert : I’m a teacher.

(โรเบิร์ต : ไอ – แอม – อะ – ทีชเชอร์)

โรเบิร์ต : ผมเป็นครูครับ

Mrs. Smith : what do you teach?

(มิสสิส สมิธ : วอท – ดู – ยู – ทีช?)

คุณนายสมิธ : คุณสอนวิชาอะไรค่ะ

Robert : I teach English.

(โรเบิร์ต : ไอ – ทีช – อิงลิช)

โรเบิร์ต : ผมสอนภาษาอังกฤษครับ

Mrs. Smith : Where is it?

(มิสสิส สมิธ : แวร์ - อีส - อิท?)

คุณนายสมิธ : ที่ไหนหรอค่ะ

Robert : At a high school in New Jersey.

(โรเบิร์ต : แอท – อะ – ไฮ – สคูล – อิน – นิว – เจอร์ซี)

โรเบิร์ต : โรงเรียนมัธยมที่เจอร์ซี่ครับ

Mrs. Smith : That’s nice. How old are you?

(มิสสิส สมิธ : แดทส์ – ไนซ์ – ฮาว – โอล – อาร์ – ยู?)

คุณนายสมิธ : ดีนี่ค่ะ แล้วคุณอายุเท่าไหร่ค่ะ

Robert : I’m 32.

(โรเบิร์ต : ไอ – แอม – เธอร์ตี้- ทู)

โรเบิร์ต : ผมอายุ 32 ครับ

English for Communication Toomphittayanusorn School

4Dialogue 2 : Your English is very well

Carol : Brian, can you speak English?

(แครอล : ไบร อัน – แคน – ยู – สปีค – อิงลิช?)

แครอล : ไบร อัน คุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหมค่ะ

Brian : Yes, I can.

(ไบรอัน : เยส-ไอ-แคน)

ไบรอัน : ครับ ผมพูดได้ครับ

Carol : where did you learn?

(แครอล : แวร์ – ดิด – ยู –เลิร์น?)

แครอล : คุณเรียนมาจากที่ไหนค่ะ

Brian : I learned in college.

(ไบรอัน : ไอ – เลิร์นด์ – อิน – คอลเลจ)

ไบรอัน : ผมเรียนมาจากวิทยาลัยครับ

Carol : Your english is very well.

(แครอล : ยัวร์ – อิงลิช – อิส – เวริ – เวล)

แครอล: คุณพูดภาษาอังกฤษได้ดีมากๆ

Brian : Thank you.

(ไบรอัน : แต้ง – กิว)

ไบรอัน : ขอบคุณครับ

Carol : How long have you been in the U.S.A.?

(แครอล : ฮาว – ลอง – แฮฟ – ยู – บีน – อิน – เดอะ – ยู – เอส – เอ?)

แครอล : คุณมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกานานแค่ไหนแล้วค่ะ

English for CommunicationToomphittayanusorn School

5Brian : 3 weeks.

(ไบรอัน : ธรี – วีคส์)

ไบรอัน : 3 สัปห์ดาครับ

Carol : Is your wife with you?

(แครอล : อิส – ยัวร์ – ไวฟ์ – วิธ – ยู?)

แครอล : ภรรยาของคุณมากับคุณด้วยไหมค่ะ

Brian : Yes, she just got here yesterday.

(ไบรอัน : เยส – ชี – จัส – กอททึ – เฮียร์ – เยสเทอร์เดย์)

ไบรอัน : ใช่ครับ เธอเพิ่งมาถึงเมื่อวานนี้ครับ

Carol : Have you been to California before?

(แครอล : แฮฟ – ยู – บีน – ทู – แคลิฟอร์เนีย – บีฟอร์?)

แครอล : คุณเคยไปแคลิฟอร์เนียมาก่อนหรือเปล่าค่ะ

Brian : No, I’ve never been there.

(ไบรอัน : โน – ไอฝ์ – เนเวอร์ – บีน – แดร์)

ไบรอัน : ไม่ครับ ผมไม่เคยไปที่นั่น

Carol : Have you ever been to Las Vegas?

(แครอล : แฮฟ – ยู – เอเวอร์ – บีน – ทู – ลาส – เวกัส?)

แครอล : แล้วคุณเคยไปลาสเวกัสหรือเปล่าค่ะ

Brian : Yes, I went there once on a business trip.

(ไบรอัน : เยส – ไอ – เว้นท์ – แดร์ – วันซ์ – ออน – อะ –บิสเน็ส – ทริป)

ไบรอัน : ครับ ผมเคยไปที่นั่นครั้งหนึ่งเรื่องงาน

English for Communication Toomphittayanusorn School

6Dialogue 3 : Asking for Places

Paul : Excuse me, I’m looking for the Holiday Inn hotel, do you know where is it?

(พอล : เอ็กคิวส์ มี – ไอ – แอม – ลุคคิง – ฟอร์ – เดอะ – ฮอลิเดย์ – อินน – โฮเทล – ดู – ยู – โนว

– แวร์ – อิส – อิท?)

พอล : ขอโทษครับ ผมกำาลังหาโรงแรมฮอลิเดย์อินอยู่ครับ คุณพอจะรู้ไหมครับว่ามันอยู่ที่ไหน

Nancy : Sure, It’s down this street on the left.

(แนนซี่ : ชัวร์ – อิทส – ดาวน์ – ดิส – สตรีท – ออน – เดอะ – เล็ฟท์)

แนนซี่ : แน่นอนค่ะ มันไปทางถนนเส้นนี้ อยู่ซ้ายมือ

Paul : Is it far from here?

(พอล : อิส – อิท – ฟาร์ – ฟรอม – เฮียร์?)

พอล : มันไกลจากที่นี่ไหม

Nancy : No, it’s not far.

(แนนซี่ : โน – อิทส – นอท – ฟาร์)

แนนซี่ : ไม่ มันไม่ไกลจากที่นี่เลย

Paul : how far is it?

(พอล : ฮาว- ฟาร์ – อิส – อิท?)

พอล : มันไกลขนาดไหน

Nancy : About a mile and a half.

(แนนซี่ : อะเบาท์ – อะ – ไมล์ – แอน – อะ – ฮาล์ฟ)

แนนซี่ : ประมาณหนึ่งไมล์ครึ่ง

Paul : how long does it take to get there?

(พอล : ฮาว – ลอง – ดาส – อิท – เทค – ทู – เก็ท – แดร์?)

พอล : แล้วมันใช้เวลาเดินทางไปที่นั่น นานไหม

English for CommunicationToomphittayanusorn School

7Nancy : 5 minutes or so.

(แนนซี่ : ไฟว์ – มินิทส์ – ออร์ – โซ)

แนนซี่ : ประมาณ 5 นาทีน่าจะได้

Paul : Is it close to the subway station?

(พอล : อิส – อิท – โคลส – ทู – เดอะ – ซับเวย์ – สเตชัน?)

พอล : แล้วมันใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดินไหม

Nancy : Yes, it’s very close. The subway station is next to the hotel. You can walk

there.

(แนนซี่ : เยส- อิทส – เวริ – โคลส – เดอะ - ซับเวย์ – สเตชัน –อิส – เน็กท์ – ทู – เดอะ – โฮเท็ล

– ยู – แคน – วอล์ค – แดร์)

แนนซี่ : ใช่ค่ะ มันใกล้มาก สถานีรถไฟใต้ดินอยู่ถัดจากโรงแรมคุณสามารถเดินไปที่นั่นได้

Paul : Thanks a lot.

(พอล : แตงส์ – อะ – ลอท)

พอล : ขอบคุณมากครับ

Nancy : You’re welcome.

(แนนซี่ : ยัวร์ – เวลคัม)

แนนซี่ : ไม่เป็นไรค่ะ

English for Communication Toomphittayanusorn School

8Greeting and Farewell

(การทักทายและอ�าลา)

สถานการณ์และส�านวนการใช้

What would you say in these situations?

You meet John for the first time. You say…………………………

(ยู – มีท – จอห์น – ฟอร์ – เดอะ – เฟิร์ส – ทาม – ยู – เซย์...........................)

คุณพบจอห์นเป็นครั้งแรกคุณต้องทักทายและแนะนำาตัวเองว่า

-Good morning/ Good afternoon/ Good evening/ Hello. (กึด – มอร์นิง/ กึด –

อาฟเตอร์นูน/ กึด – อีฟนิ่ง/ เฮ็ลโล.-My name is ……………………..(name)……………………….. ( มาย – เนม – อิส......ชื่อ......)

-I’m………………(name)…………………… (ไอ – แอม........ชื่อ..........)

Charlotte meets Sally in the street. They are friends.(ชาร์ลอท – มีทส์ – แซลลี่ – อิน – เดอะ – สตรีท – เดย์ – อาร์ - เฟรนส์)

ชาร์ลอทเจอแซลลี่ที่ถนน เขาเป็นเพื่อนกันต้องทักทายกันแบบเป็นกันเองว่า

Hello, Sally. How are you?(เฮ็ลโล – แซลลี่ – ฮาว – อาร์ – ยู?)

สวัสดีแซลลี่ เป็นอย่างไรบ้าง/ สบายดีไหม

At 9 a.m., your English teacher comes into the class room. All students say

to her/ him.(แอท – ไนน์ – เอ – เอ็ม – ยัวร์ – อิงลิช – ทีชเชอร์ – คัมส์ – อินทู – เดอะ – คลาสรูม – ออล

– สติวเดนทส์ – เซย์ – ทู – เฮอร์ / ฮิม.)

เวลา 9 นาฬิกา เมื่อครูภาษาอังกฤษเข้ามาในชั้นเรียน นักเรียนต้องกล่าวทักทายครูว่าGood morning teacher.

(กึด – มอร์นิ่ง – ทีชเชอร์)

สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ คุณครู

การกล่าวทักทายในสถานการณ์ที่เป็นกันเอง เราอาจทักทายโดยเรียกชื่อแรกของบุคคลนั้น เช่น Bil,

Jack, Amy กรณีที่ค่อนข้างเป็นทางการ เราเรียกชื่อบุคคลได้โดยใช้คำานำาหน้าชื่อ แล้วตามด้วย

นามสกุล เช่น Dr. Black, Mr. Brown, Mrs. Lewis, Miss Hill.

English for CommunicationToomphittayanusorn School

9การทักทายตามปกติ

แบบเป็นทางการ แบบเป็นกันเอง

Good morning Hello

Good afternoon Hi

Good evening

¾ Good morning

Good morning (อรุณสวัสดิ์) เป็นคำาใช้ทักทายในตอนเช้าพนักงานตามร้านค้าต่างๆมักทักทายลูกค้า

เช่นนี้

คำาว่า Good morning! เป็นทางการมากกว่าคำาว่า Hello! และพูดให้สั้นลงว่า Morning! ก็ได้

¾ Good evening!คำาว่า Good evening! (สวัสดีตอนเย็น) ใช้เพื่อกล่าวทักทายในตอนเย็น

¾ Hello!Hello ( สวัสดี ) เป็นคำาทักทายที่นิยมใช้ที่สุด ใช้ได้ทั้งในสถานการณ์ทางการและไม่เป็นทางการ

¾ Hi! หรือ Hi there! ในบทสนทนาที่ไม่เป็นทางการ คำาว่า Hi! ( หวัดดี, ว่าไง ) ใช้แทนคำาว่า Hello! ได้ คนรุ่นใหม่มัก

ทักทายกัน เช่นนี้ และคำาว่า Hi! ตามด้วยคำาว่า there ได้เช่นกัน

การทักทายในโอกาสพิเศษ Merry Christmas. ( แมรี่ – คริสต์ – มาส ) สุขสันต์วันคริสต์มาส

Happy New Year. ( แฮปปี้ – นิว – เยียร์) สวัสดีปีใหม่, สุขสันต์วันปีใหม่

Happy Birthday. (แฮปปี้ – เบิร์ธ – เดย์ ) สุขสันต์วันเกิด

สบายดีหรือเปล่า

แบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ แบบไม่เป็นทางการ

How are you? How are things?

(ฮาว – อาร์ – ยู?) (ฮาว – อาร์ – ติงส์?)

How’s life treating you? How’s life?

(ฮาวส์ – ไลฟ์ – ทรีททิง – ยู?) (ฮาวส์ –ไลฟ์?)

English for Communication Toomphittayanusorn School

10 แบบไม่เป็นทางการ

How’s it going?

(ฮาวส์ – อิท – โกอิง?)

Are you OK?

(อาร์ – ยู – โอเค?)

Long time no see. How have you

been?

(ลอง – ไทม์ – โน – ซี – ฮาว – แฮฟ–

ยู –บีน?)

การตอบรับ

แบบเป็นทางการ แบบไม่เป็นทางการ

Fine, Thanks. (ไฟน์ – แต้งส์) Good (กึด) ดี

Fine, Thank you. (ไฟน์ – แต้ง – กิ้ว ) สบายดี OK. ( โอเค) สบายดี

Very well, Thanks. ( เวริ – เวล – แต้งส์) All right. (ออล – ไรท์)

I’m fine, thank you. (แอม – ไฟน์ – แตง – กิว) So so. (โซ-โซ) งั้นๆ

สบายดี ขอบคุณ

Not so bad/ Not too bad. (นอท – โซ แบด/ นอท – ทู – แบด)

ก็ไม่เลว / ก็ยังงั้นๆแหละ

การจับมือ เมื่อพบกันครั้งแรกกับบุคคลอย่างเป็นทางการ ตามธรรมเนียมเจ้าของภาษา จะจับมือกัน

พร้อมกับกล่าวคำาว่า How do you do? ( ฮาว – ดู – ยู – ดู?)

เป็นคำาพูดที่เป็นทางการมาก ไม่ค่อยใช้กันในกลุ่มหนุ่มสาวรุ่นปัจจุบัน ทั้งนี้จะใช้เมื่อพบปะ

กันครั้งแรกและเป็นการจับมือกันเมื่อฝ่ายหนึ่งกล่าวว่า How do you do? ( ฮาว – ดู – ยู – ดู?) อีก

ฝ่ายจะกล่าว How do you do? ( ฮาว – ดู – ยู – ดู?) และอาจพูดต่อว่า

Pleased to meet you. ( พลีสด์ – ทู – มีท – ยู )

Nice to meet you. (ไนซ์ – ทู – มีท – ยู ) ยินดีที่รู้จักคุณ

Glad to meet you. (แกลด – ทู – มีท ยู )

Saying Thank You

English for CommunicationToomphittayanusorn School

11(การขอบคุณ)

สถานการณ์และส�านวนการใช้

You offer your teacher to carry a bag for her. Your teacher says…………(ยู – ออฟเฟอร์ – ยัวร์ – ทีชเชอร์ – ทู – แครี่ – อะ – แบกจ์ - ฟอร์ – เฮอร์. ยัวร์ – ทีชเชอร์ – เซส์...)

คุณอาสาที่จะช่วยคุณครูถือกระเป๋า. คุณครูจะพูดว่า......

You : Teacher, can I help you to carry your bag?

(ยู : ทีชเชอร์ – แคน –ไอ – เฮลพ์ – ยู – ทู –แครรี่ – ยัวร์ – แบก?)

คุณ : คุณครูครับ/ ค่ะ ให้ผม/หนู ช่วยถือกระเป๋าไหม ครับ / ค่ะ

Teacher : Thank you for your help.

(ทีชเชอร์ : แตง – กิว – ฟอร์ – ยัวร์ – เฮลพ์)

ครู : ขอบใจนะ

Your friend invite you to have a dinner and you agree with it, you would say :

(ยัวร์ – เฟรนด์ – อินไวท์ – ยู – ทู – แฮฟ – อะ – ดินเนอร์ – แอนด์ – ยู – อะกรี – วิธ – อิท, ยู

– วูด – เซย์)

เพื่อนของคุณเชิญคุณไปรับประทานอาหารเย็นที่บ้านและคุณตกลงจะไป คุณจะพูดว่า

Lilly : Can you have a dinner with my family tonight?

(ลิลลี่ : แคน – ยู – แฮฟ – อะ – ดินเนอร์ – วิธ – มาย – แฟมิลี่ – ทูไนท์?)

คุณจะไปรับประทานอาหารเย็นกับครอบครัวของฉันได้ไหม

Malee : Sure, I will be there.

(มาลี : ชัวร์, ไอ – วิล – บี – แด)

มาลี : แน่นอนฉันจะไป

You go to friend’s house for dinner. You need to thank the host. You say……..

(ยู – โก – ทู – เฟรนส์ – เฮาส์ – ฟอร์ – ดินเนอร์. ยู – นีด – ทู – แตง – เดอะ – โฮสท์. ยู –

เซย์.........)

คุณไปรับประทานอาหารเย็นที่บ้านเพื่อน คุณจะกล่าวขอบคุณเจ้าของบ้านว่า

English for Communication Toomphittayanusorn School

12Lilly : How do you like our food?

(ลิลลี่ : ฮาว – ดู – ยู – ไลค์ – อาวเออร์ – ฟูด?)

ลิลลี่ : อาหารเป็นอย่างไรบ้าง

Malee : It’s delicious. Thank you very much for inviting me. It’s such a great time to

have a dinner with you.

(มาลี : อิทส – ดิลิเชียส. แตง – กิว – เวริ – มัช – ฟอร์ – อินไวทิง – มี. อิทส์ – สัช – อะ – เกรท

– ไทม์ – ทู – แฮฟ – อะ – ดินเนอร์ – วิธ – ยู.)

มาลี : อร่อยมากๆ ขอบคุณนะที่ชวนฉันมากินข้าวที่บ้าน การได้รับประทานอาหารเย็นกับคุณนับเป็น

ช่วงเวลาที่ดีมากๆ

การยื่นมือให้ความช่วยเหลือ

-Let me + V. 1 ………………………………….

Let me give you a lift home. ( เล็ท – มี – กิฟ – ยู – อะ – ลิฟท์ – โฮม) (ให้ผมรับคุณกลับ

บ้านนะ)

Let me offer you a seat. (เล็ท – มี – ออฟเฟอร์ – ยู – อะ – ซีท) (เชิญคุณนั่ง ครับ)

Let me lend you my dictionary. (เล็ท – มี – เลนด์ – ยู – มาย – ดิคเชินนารี)( ยืมพจนานุกรม

ของฉันไหมค่ะ)

-I’ll + V.1 ……………………………………

I’ll help you. ( ไอ – เอิล – เฮลพ์ – ยู) (ผม / ดิฉันจะช่วยคุณนะ)

I’ll pay for the taxi. ( ไอ – เอิล – เพย์ – ฟอร์ – เดอะ – แท็กซิ) (ผม / ดิฉันจ่ายค่าแท็กซี่ให้นะ)

I’ll get you a ticket. ( ไอ – เอิล –เก็ท – ยู – อะ – ทิกเคท) (ผม / ดิฉันซื้อตั๋วให้คุณนะ)

-I’ll do ………………………………………..

I’ll do the cleaning room. ( ไอ – เอิล – ดู – เดอะ – คลีนนิง – รูม)

(ฉันจะทำาความสะอาดห้องให้นะ)

I’ll do the dishes. ( ไอ – เอิล – ดู – เดอะ – ดิชเชส )

(ฉันล้างจานให้นะ)

I’ll do the laundry. ( ไอ – เอิล – ดู – เดอะ – ลอน – ดรี ) (ฉันซักผ้าให้นะ)

English for CommunicationToomphittayanusorn School

13 - Can I lend you…………………………..?

- Can I lend you some money? ( แคน – ไอ – เลนด์ – ยู – ซัม – มันนี)

(ฉันให้คุณยืมเงินเอาไหม)

- Can I lend you a computer? ( แคน –ไอ – เลนด์ – ยู – อะ – คอมพิวเทอร์)

(ฉันให้คุณยืมคอมพิวเตอร์เอาไหม

- Can I lend you a tennis racquet? ( แคน – ไอ – เลนด์ – ยู – อะ – เทนนิส – แรคคิท)

(ฉันให้คุณยืมไม้เทนนิสเอาไหม)

-How can I help you? ( ฮาว – แคน –ไอ – เฮลพ์ – ยู? )

-Can / May I help you? ( แคน / เมย์ – ไอ – เฮลพ์ – ยู?)

-Is there anything I can do for you? มีอะไรให้ช่วยไหม

(อิส – แด – เอนิติง – ไอ – แคน – ดู – ฟอร์ – ยู?)

การขอความช่วยเหลือ

-Could / Can you……………………….?

-Could you give me a lift home. ( คูด – ยู – กิฟ – มี – อะ – ลิฟท์ – โฮม)

(คุณช่วยรับผมกลับบ้านหน่อยได้ไหม)

-Could you give me a hand? (คูด-ยู-กิฟ-มี-อะ-แฮนด์) (คุณช่วยดิฉันหน่อยได้ไหม)

-Could you do me a favor? (คูด-ยู-ดู-มี-อะ-เฟเวอร์) (คุณช่วยผมหน่อยได้ไหม)

-Could you tell me the time? (คูด-ยู-เทล-มี-เดอะ-ไทม์) (คุณช่วยบอกเวลาหน่อยได้ไหม)

กล่าวขอบคุณ การตอบรับขอบคุณ “ไม่เป็นไร”

Thanks. (แตงส์) That’s okay. ( แดทส์ – โอเคย์)

Thank you very much/ so much. That’s all right. (แดทส์ - ออล – ไรท์)

(แต๊ง-กิว – เวริ – มัช / โซ – มัช) Not at all. (นอท – แอท – ออล)

Many thanks. ( เม – นิ – แตงส์) You’re welcome. ( ยัวร์ – เวลคัม)

I’m very grateful (to you). Don’t mention it. ( ดอนท์ – เมนเชิน – อิท)

(ไอ – แอม – เวริ – เกรทฟูล (ทู – ยู ) Think nothing of it.

(ติงค์ – นอธธิง- ออฟ – อิท)

English for Communication Toomphittayanusorn School

14กล่าวขอบคุณ การตอบรับขอบคุณ “ไม่เป็นไร”

That’s (very) kind of you. It’s nothing. (อิทส – นอธติง)

(แดทส์ – (เวริ) – ไคด์ – ออฟ – ยู) Pleasure.( เพลช – เชอร์)

It’s really (very) kind of you.

(อิทส์ – เรียลลี (เวริ) – ไคด์ – ออฟ – ยู)

How (very) kind of you! ( ฮาว (เวริ) ไคด์ – ออฟ – ยู)

Thank you! ( แตง – กิว) เราพูด Thank you! เพื่อขอบคุณผู้ที่มอบหรือทำาบางสิ่งให้เรา

Thank you very much. (แตง- กิว – เวริ – มัช ) (ขอบคุณมาก) เป็นคำาขอบคุณที่มีความ

หมาย เน้นหนัก มากกว่า Thank you.

Thanks. (แตงส์) (ขอบใจ) ใช้เพื่อขอบคุณในโอกาสเป็นกันเอง เพราะเป็นคำาที่เป็นทางการน้อยกว่า

คำาว่า Thank you.

Thanks very much. (แตงส์ – เวริ – มัช ) หรือ Thanks a lot. ( แตงส์ – อะ – ลอท)

Thanks a lot. มีความหมายเน้นหนักมากกว่า Thank you.

Saying Goodbye and Blessing

(การกล่าวค�าอ�าลาและค�าอวยพร)

สถานการณ์การกล่าวและส�านวนการใช้

-You talk on the phone to your friend. At the end you say…..

(ยู – ทอล์ค – ออน – เดอะ – โฟน – ทู – ยัวร์ – เฟรนด์. แอท – ดิ – เอนด์ – ยู – เซย์

คุณยุติการสนทนากับเพื่อนทางโทรศัพท์ คุณพูดว่า

“Bye. See you later.”

( บาย. ซี – ยู – เล – เทอะ)

ลาก่อนนะ แล้วพบกันใหม่

-Your friend is going to the party. You say……

(ยัวร์ – เฟรนด์ – อิส – โกอิง – ทู – เดอะ – พาร์ที. ยู – เซย์...)

เพื่อนคุณจะไปงานเลี้ยง คุณพูดว่า

“Have fun.”

(แฮฟ – ฟัน)

ขอให้สนุกนะ

English for CommunicationToomphittayanusorn School

15-Your friend is going to take a test. You say…..

(ยัวร์ – เฟรนด์ – อิส – โกอิง – ทู – เทค – อะ – เทสท์. ยู – เซย์....)

เพื่อนคุณจะไปสอบ คุณพูดว่า

“Good luck”

(กึด – ลัคค์)

โชคดีนะ

-Tom tells you that he has to go now. You say…..

(ทอม – เทลส์ – ยู – แดท – ฮี – แฮส –ทู – โก – นาว. ยู เซย์.....)

ทอมบอกคุณว่าต้องไปแล้ว คุณจะพูดว่า

“Don’t let me keep you”

(ดอนท์ – เลท – มี – คีพ – ยู )

อย่าให้ฉันรั้งคุณไว้เลย

1. คำาที่ใช้ในการกล่าวคำาอำาลาทั่วไป

-Goodbye. / Bye. ( กึด – บาย / บาย) ลาก่อน

-Good night. (กึด – ไนท์) ราตรีสวัสดิ์

-So long. ( โซ – ลอง) พบกันใหม่นะ

-See you later. (ซี – ยู – เล – เทอะ) พบกันใหม่นะ

-See you soon. ( ซี – ยู – ซูน) พบกันใหม่นะ

-Take care (เทค – แคร์) ดูแลตัวเองนะ

-Good luck (กึด –ลัคค์) โชคดี

2. การกล่าวคำาอำาลาในโอกาสต่างๆมักจะเป็นคำาอวยพร

2.1 โอกาสไปพักผ่อนวันหยุด

-Have a good / nice time. (แฮฟ – อะ – กึด / ไนซ์ – ไทม์) ขอให้สนุกนะ

- Have a good / nice vacation. (แฮฟ – อะ – กึด / ไนซ์ – เวเคเชิน) ขอให้สนุกนะ

-Have fun. (แฮฟ – ฟัน) ขอให้สนุกนะ

-Enjoy yourself. (เอ็นจอย - ยัวร์เซลฟ์) ขอให้สนุกนะ

English for Communication Toomphittayanusorn School

16

2.2 โอกาสยุติการสนทนา

- I must go. (ไอ – มัส – โก) ฉันต้องไปแล้วนะ

- I have to leave now. ( ไอ – แฮฟ – ทู – ลีฟ – นาว) ฉันต้องไปแล้วนะ

- It’s time to say goodbye. (อิทส – ไทม์ – ทู – เซย์ – กึดบาย) ถึงเวลาที่ต้องลา

การตอบรับอย่างสุภาพ

- Don’t let me keep you. (ดอนท์ – เลท – มี – คีพ – ยู) อย่าให้ฉันรั้งคุณไว้เลย

- Go ahead (โก – อะเฮด) เชิญเลย

2.3 การกล่าวลาผู้มาใช้บริการ

- Thank you and please come again. (แตง – กิว – แอน – พลีส – คัม – อะเกน)

ขอบคุณค่ะ / ครับ โอกาสหน้าเชิญใหม่ค่ะ / ครับ

English for CommunicationToomphittayanusorn School

17

forCommunication

ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร

Toomphittayanusorn SchoolSecondary Educational Service Area O�ce 28

(Sisaket-Yasothon)