29
หหหหหหหหหหห หหหหหหหหหหหหห หหหหหหหหห หหหหหหหห

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2

Embed Size (px)

Citation preview

หน่�วยการเรยน่ร��ที่� 2

การแก�ปั�ญหาด้�วย

กระบวน่การเที่คโน่โลยสารสน่เที่ศ

กระบวน่การเเก�ปั�ญหา โด้ยปักติ�มน่�ษย!มกระบวน่ใน่การแก�ปั�ญหา ซึ่$�งปัระกอบด้�วย 4 ขั้()น่ติอน่

ค*อ 1)  การว�เคราะห!และก,าหน่ด้รายละเอยด้ขั้องปั�ญหา  (State

The Problem) ขั้��นตอนน��เป็นขั้��นตอนแรกสุ�ดก�อนที่��จะลงมื�อแก�ป็�ญหา

แต�ผู้ �แก�ป็�ญหามื�กจะมืองขั้�ามืไป็จ�ดป็ระสุงค์#ขั้องขั้��นตอนน�� ค์�อการที่%าค์วามืเขั้�าใจก�บป็�ญหาเพื่��อแยกให�ออกว�าขั้�อมื ลที่��ก%าหนดมืาในป็�ญหาหร�อเง��อนไขั้

ขั้องป็�ญหาค์�ออะไร อ�กที่��งว+ธี�การที่��ใช้�ป็ระมืวลผู้ลกล�าวโดยสุร�ป็มื�องค์#ป็ระกอบในการว+เค์ราะห#ด�งน��

         การระบ�ขั้�อมื ลเขั้�าได�แก� การพื่+จารณาขั้�อมื ลและเง��อนไขั้ที่��ก%าหนดมืาในป็�ญหา 

         การระบ�ขั้�อมื ลออก ได�แก� การพื่+จารณาเป็1าหมืายหร�อสุ+�งที่��ต�องหาค์%าตอบ

         การก%าหนดว+ธี�ป็ระมืวลผู้ลได�แก� การพื่+จารณาขั้��นตอนว+ธี�การได�มืาซึ่3�งค์%าตอบหร�อขั้�อมื ลออก  

2) การเล*อกเคร*�องม*อและออกแบบขั้()น่ติอน่ว�ธีใน่การแก�ปั�ญหา (Tools And Algorithm Development)      ขั้��นตอนน��เป็นขั้��นตอนขั้องการวางแผู้นในการแก�ป็�ญหาอย�างละเอ�ยดถี่��ถี่�วน                หล�งจากที่��เราที่%าค์วามืเขั้�าใจก�บป็�ญหา พื่+จารณาเง��อนไขั้และขั้�อมื ลที่��มื�อย �และสุ+�งที่��ต�องการหาในการแก�ป็�ญหาอย�างละเอ�ยดถี่��ถี่�วนหล�งจากที่��เราที่%าค์วามืเขั้�าใจก�บป็�ญหา พื่+จารณาเง��อนไขั้และขั้�อมื ลที่��มื�อย �และสุ+�งที่��ต�องการหาในขั้��นตอนที่�� 1แล�วเราสุามืารถี่ค์าดค์ะเนว+ธี�การที่��จะใช้�ในการแก�ป็�ญหาขั้��นตอนน��จ%าเป็นต�องอาศั�ยป็ระสุบการณ#ขั้องผู้ �แก�ป็�ญหาเป็นหล�กหากผู้ �แก�ป็�ญหาเค์ยพื่บก�บป็�ญหาที่%านองน��มืาแล�วก6สุามืารถี่ด%าเน+นการตามืแนวที่างที่��เค์ยป็ฏิ+บ�ต+มืา

3) การด้,าเน่�น่การแก�ปั�ญหา (Implementation) หล�งจากที่��ออกแบบขั้��นตอนว+ธี�เร�ยบร�อยแล�ว                   ขั้� �นตอนน��เป็นขั้��นตอนที่��ต�องลงมื�อแก�ป็�ญหาโดยใช้�เค์ร��องมื�อที่��เล�อกไว�                 การแก�ป็�ญหาด�งกล�าวใช้�ค์อมืพื่+วเตอร#เขั้�ามืาช้�วยงาน ขั้��นตอนน��ก6เป็นการใช้�โป็รแกรมืสุ%าเร6จหร�อใช้�ภาษาค์อมืพื่+วเตอร#เขั้�ยนโป็รแกรมืแก� ป็�ญหาขั้��นตอนน��ต�องอาศั�ยค์วามืร �เก��ยวก�บเค์ร��องมื�อที่��เล�อกใช้�ซึ่3�งผู้ �แก�ป็�ญหาต�องศั3กษาให�เขั้�าใจและเช้��ยวช้าญ ในขั้ณะด%าเน+นการหากพื่บแนวที่างที่��ด�กว�าที่��ออกแบบไว� ก6สุามืารถี่ป็ร�บเป็ล��ยนได�

4) การติรวจสอบและปัร(บปัร�ง (Refinement)               หล�งจากที่��ลงมื�อแก�ป็�ญหาแล�วต�องตรวจสุอบให�แน�ใจว�า                 ว+ธี�การน��ให�ผู้ลล�พื่ธี#ที่��ถี่ กต�องโดยผู้ �แก�ป็�ญหาต�องตรวจสุอบว�าขั้� �นตอนว+ธี�ที่��สุร�างขั้3�นสุอดค์ล�องก�บรายละเอ�ยดขั้องป็�ญหา ซึ่3�งได�แก� ขั้�อมื ลเขั้�าและขั้�อมื ลออกเพื่��อให�มื��นใจว�าสุามืารถี่รองร�บขั้�อมื ลเขั้�าได�ที่�กกรณ�อย�างถี่ กต�องสุมืบ รณ# ในขั้ณะเด�ยวก�นก6ต�องป็ร�บป็ร�งว+ธี�การเพื่��อให�การแก�ป็�ญหาน��ได�ผู้ลล�พื่ธี#ที่��ด�ที่��สุ�ด                          ขั้� �นตอนที่��ง 4 ขั้��นตอนด�งกล�าวขั้�างต�น เป็นเสุมื�อนขั้��นบ�นได (Stair) ที่��ที่%าให�มืน�ษย#ป็ระสุบค์วามืสุ%าเร6จในการแก�ป็�ญหาต�างๆได� รวมืที่��งการเขั้�ยนหร�อพื่�ฒนาโป็รแกรมืค์อมืพื่+วเตอร#เพื่��อแก�ป็�ญหา ก6ต�องใช้�กระบวนการตามืขั้��นตอนที่��ง4 น��เช้�นก�น

ใน่การว�เคราะห!งาน่ มแน่วที่างหลายร�ปัแบบซึ่$�งมขั้()น่ติอน่และว�ธีการที่�คล�ายๆก(น่ โด้ยร�ปัแบบหน่$�งที่�ผู้��ว�เคราะห!น่�ยมใช้�แก�ปั�ญหาม 5 ขั้()น่ติอน่ ด้(งน่)

1.ส��งที่�ติ�องการ เป็นการบอกเก��ยวก�บงานที่��ต�องการใช้�ค์อมืพื่+วเตอร#ที่%าการป็ระมืวลผู้ลและแสุดงร ป็แบบผู้ลล�พื่ธี#ออกมืาให�ผู้ �ใช้�ในล�กษณะใด ต�องการให�การแสุดงผู้ลล�พื่ธี#มื�การแสุดงผู้ลก��ร ป็แบบ2.ร�ปัแบบผู้ลล(พธี!

เป็นการว+เค์ราะห#ถี่3งการแสุดงผู้ลขั้องเค์ร��องค์อมืพื่+วเตอร#

การว�เคราะห!และก,าหน่ด้รายละเอยด้

ขั้องปั�ญหา

3.ขั้�อม�ลน่,าเขั้�า เมื��อผู้ �ว+เค์ราะห#ได�ออกแบบร ป็แบบขั้องรายงาน ไมื�ว�าจะเป็นการแสุดงผู้ลที่างจอแสุดงผู้ล การพื่+มืพื่#รายงานออกที่างเค์ร��องพื่+มืพื่# หร�อการแสุดงผู้ลงานแสุดงผู้ลผู้�านที่างล%าโพื่งต�างๆ เสุร6จสุ+�นแล�วสุ+�งที่��ต�องพื่+จารณาต�อก6ค์�อ ขั้�อมื ลที่��ใช้�ในการน%าเขั้�า ว�าต�องการใช้�ขั้�อมื ลน%าเขั้�าอะไรบ�าง และล�กษณะขั้องขั้�อมื ลที่��น%าเขั้�าน��นสุ�มืพื่�นธี#ก�บล�กษณะขั้องขั้�อมื ลที่��ต�องการแสุดงผู้ลหร�อไมื�

4.ติ(วแปัลที่�ติ�องใช้� เป็นการวางแผู้นเพื่��อก%าหนดต�วแป็รสุ%าหร�บใช้�แที่นขั้�อมื ลน%าเขั้�าแต�ละต�วและการก%าหนดต�วแป็ลเพื่��อใช้�เก6บขั้�อมื ลที่��เก+ดจากการป็ระมืวลผู้ลขั้องขั้�อมื ลน%าเขั้�า

5.ว�ธีการปัระมวลผู้ล เป็นการว+เค์ราะห#ว+ธี�ด%าเน+นการหล�งจากได�สุ+�งที่��ต�องการ ร ป็แบบผู้ลล�พื่ธี#ขั้�อมื ลน%าเขั้�า จนถี่3งต�วแป็รที่��ใช้�มืาแล�ว ซึ่3�งขั้��นตอนน��จะว+เค์ราะห#ค์วามืเป็นไป็ได�ที่��จะต�องให�ได�ผู้ลล�พื่ธี#ขั้องการแก�ไขั้ป็�ญหาตามืต�องการ

การเล*อกเคร*�องม*อและออกแบบ

ขั้()น่ติอน่ว�ธีใน่การแก�ปั�ญหา ผู้(งงาน่

ปัระเภที่ขั้องผู้(งงาน่ โด้ยที่(�วไปัผู้(งงาน่คอมพ�วเติอร!แบ�งเปั5น่ 2 ปัระเภที่ใหญ�

1.1 ฝั�งงาน่ระบบ (System Flowchart)                      

 เป็นผู้�งงานที่��แสุดงถี่3งขั้��นตอนการที่างานภายในระบบหน3�ง ๆ เพื่��อให�เห6นโค์รงสุร�างโดยภาพื่รวมืขั้องระบบ ซึ่3�งจะแสุดงถี่3งค์วามืเก��ยวขั้�องขั้องสุ�วนที่��สุาค์�ญต�างๆ ในระบบน��น เช้�น เอกสุารขั้�อมื ลเบ��องต�น สุ��อบ�นที่3กขั้�อมื ลที่��ใช้� ขั้�อมื ลจะสุ�งผู้�านไป็ย�งหน�วยงานใด มื�ก+จกรรมืป็ระมืวลผู้ลขั้�อมื ลอะไรในหน�วยงานน��น แล�วจะสุ�งต�อไป็หน�วยงานใด เป็นต�น ด�งน��นผู้�งงานระบบอาจเก��ยวขั้�องก�บขั้�อมื ล สุ��อหร�อแหล�งบ�นที่3กขั้�อมื ล ว�สุด�ป็กรณ# ค์น หร�อฝ่=ายงานที่��เก��ยวขั้�อง ซึ่3�งแต�ละจ�ดจะป็ระกอบไป็ด�วย การนาขั้�อมื ลเขั้�า ว+ธี�

การป็ระมืวลผู้ล และการแสุดงผู้ลล�พื่ธี# (Input – Process - Output) 

ภาพแสด้งติ(วอย�างผู้(งงาน่ระบบ

1.2 ผู้(งงาน่โปัรแกรม (Program Flowchart) หร*อเรยกส()น่ๆ ว�า ผู้(งงาน่

ผู้�งงานป็ระเภที่น��แสุดงถี่3งขั้��นตอนขั้องค์าสุ��งที่��ใช้�ในโป็รแกรมื ผู้�งงานน��อาจสุร�างจากผู้�งงานระบบโดยผู้ �เขั้�ยนผู้�งงานจะด3งเอาแต�ละจ�ด ที่��เก��ยวขั้�องก�บการที่างานขั้องเค์ร��องค์อมืพื่+วเตอร#ที่��ป็รากฏิในผู้�งงานระบบมืาเขั้�ยน เพื่��อให�ที่ราบว�าถี่�าจะใช้�ค์อมืพื่+วเตอร#ที่างานค์วรที่��จะมื�ขั้� �นตอนค์าสุ��งอย�างไร เพื่��อให�ได�ผู้ลล�พื่ธี#ตามืที่��ต�องการ และจะได�นามืาเขั้�ยนโป็รแกรมืค์อมืพื่+วเตอร#ต�อไป็

            ด�งน��นการเขั้�ยนผู้�งงานก6จะมื�ป็ระโยช้น# เหมืาะสุาหร�บผู้ �บร+หาร ผู้ �ว+เค์ราะห#ระบบ ผู้ �เขั้�ยนโป็รแกรมื และบ�ค์ค์ลอ��นที่��ต�องการศั3กษา ที่าให�ที่ราบถี่3งค์วามืสุ�มืพื่�นธี#ขั้องระบบต��งแต�เร+�มืต�น ว�ามื�การป็ฏิ+บ�ต+แต�ละขั้��นตอนอย�างไร ใช้�ว+ธี�การอะไรบ�าง สุ�ดที่�ายจะได�ผู้ลล�พื่ธี#อะไรบ�าง เมื��อเขั้�าใจระบบงานหร�อสุ+�งที่��กาล�งศั3กษาก6จะช้�วยให�สุามืารถี่ป็ฏิ+บ�ต+งานและแก�ป็�ญหาได�อย�างมื�ป็ระสุ+ที่ธี+ภาพื่มืากย+�งขั้3�น ด�งภาพื่

ภาพแสด้งติ(วอย�างการก,าหน่ด้จ�ด้เร��มติ�น่และส�)น่ส�ด้ขั้องการเขั้ยน่ผู้(งงาน่

ปัระโยช้น่!ขั้องผู้(งงาน่    ผู้�งงานเป็นเค์ร��องมื�อที่��ช้�วยให�การศั3กษาลาด�บขั้��นตอนขั้องโป็รแกรมืง�ายขั้3�น จ3งน+ยมืเขั้�ยนผู้�งงานป็ระกอบการเขั้�ยนโป็รแกรมื ด�วยเหต�ผู้ลด�งน��                1. ค์นสุ�วนใหญ�สุามืารถี่เร�ยนร �และเขั้�าใจผู้�งงานได�ง�าย เพื่ราะผู้�งงานไมื�ขั้3�นอย �ก�บภาษาค์อมืพื่+วเตอร#ภาษาใดภาษาหน3�ง เป็นเค์ร��องมื�อที่��ใช้�ในการสุ��อสุารได�ที่�กภาษา                 2. ผู้�งงานเป็นการสุ��อค์วามืหมืายด�วยภาพื่ ช้�วยลาด�บขั้��นตอนการที่างานขั้องโป็รแกรมืให�ง�ายและสุะดวกต�อการที่าค์วามืเขั้�าใจ สุามืารถี่นาไป็เขั้�ยนโป็รแกรมืได�โดยไมื�สุ�บสุน ซึ่3�งถี่�าหากใช้�ขั้�อค์วามืหร�อค์าพื่ ดอาจจะสุ��อค์วามืหมืายผู้+ดไป็ได�              3. ในงานโป็รแกรมืที่��ไมื�สุล�บซึ่�บซึ่�อน ช้�วยในการตรวจสุอบค์วามืถี่ กต�องขั้องลาด�บขั้��นตอน และแก�ไขั้โป็รแกรมืได�ง�าย เมื��อเก+ดขั้�อผู้+ดพื่ลาด               4. ช้�วยให�ผู้ �อ��นสุามืารถี่ศั3กษาการที่างานขั้องโป็รแกรมืได�อย�างง�าย สุะดวก และรวดเร6วมืากขั้3�น             5. การบ%าร�งร�กษาโป็รแกรมืหร�อการเป็ล��ยนแป็ลงแก�ไขั้โป็รแกรมืในภายหล�ง ให�มื�ป็ระสุ+ที่ธี+ภาพื่ ถี่�าพื่+จารณาจากผู้�งงานจะช้�วยให�สุามืารถี่ที่บที่วนงานในโป็รแกรมืก�อนป็ร�บป็ร�ง แก�ไขั้ได�สุะดวกและง�ายขั้3�น

ขั้�อจ,าก(ด้ขั้องการเขั้ยน่ผู้(งงาน่         น�กเขั้�ยนโป็รแกรมืบางค์นไมื�น+ยมืการเขั้�ยนผู้�งงานก�อนที่��จะเขั้�ยนโป็รแกรมื เพื่ราะเสุ�ยเวลา ในการเขั้�ยนเป็นร ป็ภาพื่หร�อสุ�ญล�กษณ#ต�างๆ นอกจากน��ย�งมื�เหต�ผู้ลอ��นๆ ได�แก�                 1. ผู้�งงานเป็นการสุ��อค์วามืหมืายระหว�างบ�ค์ค์ลต�อบ�ค์ค์ลมืากกว�าที่��จะสุ��อค์วามืหมืายบ�ค์ค์ลก�บเค์ร��องค์อมืพื่+วเตอร# เพื่ราะผู้�งงานไมื�ขั้3�นอย �ก�บภาษาค์อมืพื่+วเตอร# ภาษาใดภาษาหน3�ง ที่าให�เค์ร��องค์อมืพื่+วเตอร#ไมื�สุามืารถี่ร�บร �และเขั้�าใจว�าผู้�งงานต�องการอะไร                2. ผู้�งงานไมื�สุามืารถี่แที่นล�กษณะค์าสุ��งขั้องภาษาค์อมืพื่+วเตอร#บางค์าสุ��งได�อย�างช้�ดเจน                 3. กรณ�ที่��งานมื�ขั้นาดใหญ� ผู้�งงานจะมื�ขั้นาดใหญ�ด�วย ถี่�ามื�การเป็ล��ยนแป็ลงแก�ไขั้จะที่าได�ยาก ค์วรเขั้�ยนแยกเป็นสุ�วน ๆ แล�วค์�อยสุร�างจ�ดเช้��อมืโยงในแต�ละสุ�วน         4. การเขั้�ยนผู้�งงานอาจเป็นการสุ+�นเป็ล�องกระดาษและอ�ป็กรณ#อ��นๆ ป็ระกอบการเขั้�ยนภาพื่ ที่��ง ๆ ที่��การอธี+บายงานหร�อการเขั้�ยนโป็รแกรมืจะใช้�เน��อที่��เพื่�ยง      3 - 4 บรรที่�ดเที่�าน��น

ส(ญล(กษณ์!ที่�ใช้�ใน่การเขั้ยน่ผู้(งงาน่

การเขั้�ยนผู้�งงาน เป็นการเขั้�ยนแผู้นภาพื่เพื่��อแสุดงขั้��นตอนการที่%างาน โดยน%าภาพื่สุ�ญล�กษณ#ต�าง ๆ มืาเร�ยงต�อก�น สุ�ญล�กษณ#ที่��น+ยมืใช้�ในการเขั้�ยนผู้�งงานน��น หน�วยงานที่��ช้��อว�า American National Standards Institute (ANSI) และ International Standard Organization (ISO) ได�ร�วมืก�นก%าหนดสุ�ญล�กษณ#มืาตรฐานเพื่��อใช้�ในการเขั้�ยนผู้�งงานด�งแสุดงในตาราง

ติ(วอย�างส(ญล(กษณ์!

หล(กเกณ์ฑ์!ใน่การเขั้ยน่แผู้น่ผู้(ง1. การก,าหน่ด้จ�ด้เร��มติ�น่และส�)น่ส�ด้โปัรแกรม 

  โดยการเร+�มืต�นผู้�งงานจะใช้�ค์าว�า Start และการสุ+�นสุ�ดจะใช้�ค์าว�า Stop ซึ่3�งขั้�อค์วามืด�งกล�าวจะอย �ในสุ�ญล�กษณ# ด�งภาพื่

2. การก,าหน่ด้ค�าเร��มติ�น่และการค,าน่วณ์       ในการเขั้�ยนผู้�งงานโป็รแกรมื จะมื�การก%าหนดค์�าเร+�มืต�น หร�อ การก%าหนดค์�าค์งที่�� ให�ก�บขั้�อมื ล รวมืถี่3งจะมื�การค์%านวณขั้�อมื ลในร ป็ขั้องสุ ตรสุมืการค์ณ+ตศัาสุตร# ซึ่3�งขั้��นตอนเหล�าน��จะเขั้�ยนขั้�อค์วามืภายในสุ�ญล�กษณ#กรอบสุ��เหล��ยมืผู้�นผู้�า ด�งภาพื่

3. การร(บขั้�อม�ลน่,าขั้�า เป็นการร�บขั้�อมื ลเขั้�าสุ �โป็รแกรมื หร�อขั้�อมื ลที่��ต�องป็1อนให�ค์อมืพื่+วเตอร#นาไป็ใช้�ในการค์านวณ หร�อป็ระมืวลผู้ลขั้�อมื ล หากไมื�ระบ�ว�าจะร�บเขั้�าที่างอ�ป็กรณ#ใด จะเขั้�ยนขั้�อค์วามืร�บค์�า หร�อ Read ขั้�อมื ล ภายในสุ�ญล�กษณ#สุ��เหล��ยมืด�านขั้นาน ด�งภาพื่ ภาพแสด้งการร(บขั้�อม�ล a , b เขั้�าส��โปัรแกรมโด้ยไม�ระบ�อ�ปักรณ์!น่าเขั้�า

ภาพแสด้งการร(บขั้�อม�ล a , b เขั้�าส��โปัรแกรมที่างคย!บอร!ด้

4. การแสด้งผู้ลขั้�อม�ล    เป็นการนาขั้�อมื ลที่��ได�จากการกาหนดค์�า หร�อ การค์านวณ หร�อการป็ระมืวลผู้ลใดใด มืาแสุดงผู้ลออกที่างอ�ป็กรณ#ที่��กาหนด จะเขั้�ยนขั้�อค์วามืแสุดงผู้ล หร�อ Print ภายในสุ�ญล�กษณ# ด�งภาพื่ภาพแสด้งการแสด้งผู้ลขั้�อม�ล x , y โด้ยไม�ระบ�อ�ปักรณ์!แสด้งผู้ล 

ภาพการแสด้งผู้ลขั้�อม�ล x , y ออกที่างจอภาพ                                             ภาพการแสด้งผู้ลขั้�อม�ล x , y ออกที่างเคร*�องพ�มพ!

5. การติรวจสอบเง*�อน่ไขั้   เป็นการเป็ร�ยบเที่�ยบเพื่��อตรวจสุอบเง��อนไขั้ ซึ่3�งจะได�ผู้ลล�พื่ธี#จากการตรวจสุอบเป็นตรรกะ จร+งหร�อเที่6จอย�างใดอย�างหน3�งเที่�าน��น โดยจะเขั้�ยนขั้�อค์วามืเง��อนไขั้ที่��ต�องการเป็ร�ยบเที่�ยบภายในสุ�ญล�กษณ#สุ��เหล��ยมืขั้นมืเป็?ยกป็ น ด�งภาพื่

ภาพแสด้งการเปัรยบเที่ยบเพ*�อติรวจสอบขั้�อม�ล G มค�ามากกว�า 100 ใช้�หร*อไม� ถ้�าหากมากกว�าจร�งให�แสด้งขั้�อความ “Over” ถ้�าหากเที่:จ ให�

แสด้งขั้�อความ “Ok”

6. จ�ด้ติ�อและการเช้*�อมโยงผู้(งงาน่  ในการเขั้�ยนผู้�งงานอาจมื�ลาด�บการที่างานหลายขั้��นตอน ต�องใช้�กระดาษมืากกว�า 1 แผู้�น หร�อมื�จ�ดต�อหลายจ�ดในหน�าเด�ยวก�นจ3งจาเป็นต�องใช้�สุ�ญล�กษณ#เช้��อมืโยงผู้�งงานด�งกล�าวเพื่��ออ�างอ+งจ�ดเช้��อมืต�อน��นไป็ย�งต%าแหน�งที่��มื�ช้��อหร�ออ�กษรเด�ยวก�น ด�งภาพื่

ภาพแสด้งจ�ด้ติ�อ A เช้*�อมโยงผู้(งงาน่ใน่หน่�าเด้ยวก(น่

 

ภาพแสด้งจ�ด้ติ�อ A เช้*�อมโยงผู้(งงาน่ที่�อย��คน่ละหน่�า

7.เส�น่แสด้งที่�ศที่าง     เป็นสุ�ญล�กษณ#แสุดงที่+ศัที่างการที่%างานขั้อง Flowchart

8.การอธี�บายผู้(งงาน่  เป็นสุ�ญล�กษณ#แสุดงการอธี+บายผู้�งงาน เพื่+�มืเต+มืหร�อเป็นการหมืายเหต� (Comment)

แผู้น่ภาพการออกแบบโครงสร�าง เน��องจากผู้�งงานเป็นการถี่�ายที่อดค์วามืค์+ดในการแก�ป็�ญหาโดยใช้�สุารสุนเที่ศัที่��มื�มืานานแล�วจ3งที่%าให�สุ�ญล�กษณ#ที่��ใช้�ในการเขั้�ยนผู้�งงานร ป็แบบขั้องผู้�งงานไมื�สุามืารถี่สุนองตอบต�อขั้��นตอนขั้องการแก�ป็�ญหาด�วยภาษาค์อมืพื่+วเตอร#ที่��พื่�ฒนาในป็�จจ�บ�น เพื่��อให�การสุ��อสุารถี่�ายที่อดค์วามืค์+ด ขั้��นตอนการแก�ป็�ญหาน��นเขั้�าก�นได�ก�บภาษาค์อมืพื่+วเตอร#ในป็�จจ�บ�น จ3งมื�การพื่�ฒนาแผู้นภาพื่ใหมื� ซึ่3�งแผู้นภาพื่แบบน��เร�ยกว�า ด�เอสุด� (DSD : design structure diagram)

รห(สจ,าลองและพด้แอล (PDL)

การอธี+บายจ%าลองและพื่�ด�แอล จะต�องใช้�ภาษาที่��สุามืารถี่สุ��อสุารเขั้�าใจได�ง�ายและสุ��นกะที่�ดร�ดสุ��อค์วามืหมืายได�ที่�ที่��อ�าน

ติ(วอย�างการเขั้ยน่รห(สเที่ยม Pseudo Code

            Algorithm Problem_1

            Variables : mLoop, Sum, testScore, average

            Begin

                    Input mLoop

                Sum = 0

                   For I = 1 to mLoop

                         Input testScore

                         Sum = Sum + testScore

                   Next

                   

สมาช้�กใน่กล��ม นายณ�ฐพื่งศั# ก�อเย6น ช้��น มื.5/2 เลขั้ที่�� 4 นายรณกร สุ%าเน�ยงแจ�มื ช้��น มื.5/2 เลขั้ที่�� 8 นายอน�นต# บ�ตรแดง ช้��น มื.5/2 เลขั้ที่�� 9 นางสุาวสุ+ร+วรรณ ค์%าเตจ@ะ ช้��น มื.5/2 เลขั้ที่�� 20 นางสุาวดาร�ณ� โพื่ธี+Aด�วง ช้��น มื.5/2 เลขั้ที่�� 26 นางสุาวเบญจร�ตน# ศัรอารา ช้��น มื.5/2 เลขั้ที่�� 31 นางสุาวกนกวรรณ ล�ดดาก�ล ช้��น มื.5/2 เลขั้ที่�� 33 นางสุาวสุโรช้า บ�ญช้�วย ช้��น มื.5/2 เลขั้ที่�� 35 นางสุาวเพื่6ญพื่+ช้ช้า เที่�ยนช้�ย ช้��น มื.5/2 เลขั้ที่�� 37

http://dutch35698.blogspot.com/