7
ชั้นมัธยมศึกษาปที่ ๓ กลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ผูเรียบเรียง ๑. ดร.สุพัชรินทร ปานอุทัย พย.บ. , วท.ม. , ปร.ด. ๒. นายยงค สันติภพ กศ.บ. , วท.ม. ผูตรวจ ๑. ผศ.อภิลักษณ เทียนทอง ศศ.บ. , วท.ม. ๒. นายไพรัช ปานอุทัย กศ.บ. , กศ.ม. ๓. นางจรรยา สันติภพ กศ.บ. บรรณาธิการ ๑. นายพงศธร รวมสุข ค.บ. , ศษ.ม. ๒. นายสุพจน นุยเจริญ ค.บ. , ศษ.ม. จัดพิมพจำหนายโดย บริษัท สำนักพิมพประสานมิตร (ปสม.) จำกัด ๕๔ ซอยพัฒนาการ ๔๔ ถนนพัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ ๑๐๒๕๐ โทร. ๐-๒๓๒๑-๓๔๓๔ (๑๐ คูสาย), ๐-๒๓๒๑-๐๓๗๕-๖ โทรสาร ๐-๒๓๒๑-๙๐๓๘

ชั้นมัธยมศึกษาป ที่ ๓ กลุ มสาระการเรียนรู สุขศึกษาและพล ...academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/... ·

  • Upload
    others

  • View
    8

  • Download
    0

Embed Size (px)

Citation preview

Page 1: ชั้นมัธยมศึกษาป ที่ ๓ กลุ มสาระการเรียนรู สุขศึกษาและพล ...academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/... ·

ชั้นมัธยมศึกษาปที่ ๓

กลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา

ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

ผูเรียบเรียง

๑. ดร.สุพัชรินทร ปานอุทัย พย.บ. , วท.ม. , ปร.ด.

๒. นายยงค สันติภพ กศ.บ. , วท.ม.

ผูตรวจ

๑. ผศ.อภิลักษณ เทียนทอง ศศ.บ. , วท.ม.

๒. นายไพรัช ปานอุทัย กศ.บ. , กศ.ม.

๓. นางจรรยา สันติภพ กศ.บ.

บรรณาธิการ

๑. นายพงศธร รวมสุข ค.บ. , ศษ.ม.

๒. นายสุพจน นุยเจริญ ค.บ. , ศษ.ม.

จัดพิมพจำหนายโดย

บริษัท สำนักพิมพประสานมิตร (ปสม.) จำกัด๕๔ ซอยพัฒนาการ ๔๔ ถนนพัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ ๑๐๒๕๐

โทร. ๐-๒๓๒๑-๓๔๓๔ (๑๐ คูสาย), ๐-๒๓๒๑-๐๓๗๕-๖ โทรสาร ๐-๒๓๒๑-๙๐๓๘

frontpara.indd 1 1/4/12 3:10:01 PM

Page 2: ชั้นมัธยมศึกษาป ที่ ๓ กลุ มสาระการเรียนรู สุขศึกษาและพล ...academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/... ·

ชั้นมัธยมศึกษาปที่ ๓

กลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา

ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

พิมพที่

บริษัท กรทอง การพิมพ จำกัด๙/๓ หมู ๒ ถ.บางน้ำเปรี้ยว-องครักษ ต.หมอนทอง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ๒๔๑๕๐

โทร. ๐-๓๘๕๘-๑๗๑๕-๗ โทรสาร ๐-๓๘๕๘-๑๗๑๙

พิมพครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๕๕

ISBN ๙๗๘–๙๗๔–๔๖๙–๐๖๐–๙

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ

ขอมูลทางบรรณานุกรมของหอสมุดแหงชาติ

สุพัชรินทร ปานอุทัย.

สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปที่ ๓._ _ กรุงเทพฯ :

ประสานมิตร, ๒๕๕๕

๒๕๖ หนา.

๑. สุขศึกษา _ _ การศึกษาและการสอน (มัธยมศึกษา).

๒. พลศึกษา _ _ การศึกษาและการสอน (มัธยมศึกษา). II.

ยงค สันติภพ, ผูแตงรวม. III. ชื่อเรื่อง.

๖๑๓.๐๗

frontpara.indd 2 1/4/12 3:10:02 PM

กลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช

2551 มีจุดมุงหมายสำคัญคือ สรางเสริมใหผูเรียนคิดอยางมีวิจารณญาณ พิจารณาปจจัยตางๆ ที่สงผล

ตอสุขภาพ รูจักปองกันและดูแลสุขภาพของตนเองอยางถูกวิธีลดภาวะที่เปนโทษตอสุขภาพ ทำใหมี

คุณภาพชีวิตที่ดีลดภาระสังคม มีทักษะชีวิตที่สมบรูณสมดุลและมีคุณภาพ สามารถนำความรูไปใชใน

ชีวิตประจำวันไดถูกตองเหมาะสมทั้งของตนเองและผูอื่น

หนังสือเรียนสาระการเรียนรูแกนกลางกลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษาชั้น

มัธยมศึกษาปที่ 3 จัดทำโดยการวิเคราะหมาตรฐานการเรียนรู ตัวชี้วัดชั้นปและสาระการเรียนรูแกน

กลาง แลวนำมาจัดทำเปนสารบัญเนื้อหาละเอียดและหาความสัมพันธกับตัวชี้วัดชั้นปและมาตรฐาน

การเรียนรูอีกครั้ง นอกจากนั้นเพื่อใหเหมาะสมกับสภาพจริงจึงไดพิจารณาสภาวการณทางการศึกษา

ของไทยปจจุบันประกอบ แลวกำหนดเปนรูปแบบหนังสือจัดสงใหผูเชี่ยวชาญดานหลักสูตรพิจารณาให

ความเห็นและปรับปรุงใหเหมาะสมจากนั้นจึงเรียบเรียงเนื้อหาตามสาระที่ปรับปรุงแลว

สำหรับกลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปที่ 3 นี้เปนสาระและ

กิจกรรมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและการดำเนินชีวิตอยางปลอดภัยในครอบครัวและชุมชน

การเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย กีฬาไทย กีฬาสากล กิจกรรมนันทนาการ และกิจกรรมสรางเสริม

สมรรถภาพทางกาย เพื่อใหผูเรียนออกกำลังกายไดอยางปลอดภัยตามถนัดและความสนใจอยางมี

ความสุข ไดพัฒนาการคิดและนำไปใชในชีวิตประจำวันไดจริง

สำนักพิมพประสานมิตรและผูเรียบเรียงหวังเปนอยางยิ่งวา หนังสือเรียนกลุมสาระการเรียนรู

สุขศึกษาและพลศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปที่ 3 นี้จะสามารถพัฒนาผูเรียนใหเปนไปตามเปาหมายของ

หลักสูตร มีสุขนิสัยที่ดี เห็นความสำคัญและดูแลสุขภาพของตนเองจนเปนนิสัยฝงแนนติดตัวไปจนเติบ

ใหญไดเปนอยางดี

คณะผูจัดทำ

frontpara.indd 3 1/4/12 3:10:03 PM

Page 3: ชั้นมัธยมศึกษาป ที่ ๓ กลุ มสาระการเรียนรู สุขศึกษาและพล ...academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/... ·

หนวยการเรียนรูที่ 1 การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย 1

เรื่องที่ 1 การเปลี่ยนแปลงในแตละวัย 2

เรื่องที่ 2 อิทธิพลของสังคมที่มีตอการเปลี่ยนแปลงของวัยรุน 10

เรื่องที่ 3 สื่อที่มีอิทธิพลตอการพัฒนาการของวัยรุน 14

หนวยการเรียนรูที่ 2 ชีวิตและครอบครัว 19

เรื่องที่ 1 อนามัยเจริญพันธุ 20

เรื่องที่ 2 ปจจัยที่มีผลกระทบตอการตั้งครรภ 29

เรื่องที่ 3 ความขัดแยงในครอบครัว 34

หนวยการเรียนรูที่ 3 การสรางเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการปองกันโรค 40

เรื่องที่ 1 อาหารในแตละวัย 41

เรื่องที่ 2 โรคติดตอ 60

เรื่องที่ 3 โรคไมติดตอ 73

เรื่องที่ 4 สุขภาพในชุมชน 95

เรื่องที่ 5 การวางแผนและจัดเวลาออกกำลังกาย พักผอน

และสรางเสริมสมรรถภาพทางกาย 102

เรื่องที่ 6 การทดสอบสมรรถภาพ 108

หนวยการเรียนรูที่ 4 ความปลอดภัยในชีวิต 129

เรื่องที่ 1 ปจจัยเสี่ยงหรือพฤติกรรมเสี่ยงตอสุขภาพ 130

เรื่องที่ 2 อิทธิพลของสื่อตอพฤติกรรมสุขภาพและความรุนแรง 136

เรื่องที่ 3 การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล 140

เรื่องที่ 4 วิธีการชวยฟนคืนชีพอยางถูกวิธี 145

หนวยการเรียนรูที่ 5 การเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย การเลนเกม กีฬาไทย

และกีฬาสากล 158

เรื่องที่ 1 กีฬาไทยและกีฬาสากล 159

เรื่องที่ 2 มารยาทในการเลนและการดูกีฬาดวยความมีน้ำใจเปนนักกีฬา 225

เรื่องที่ 3 การพัฒนาสุขภาพตนเองที่เกิดจากการออกกำลังกายและเลนกีฬา 229

เรื่องที่ 4 การจัดกิจกรรมนันทนาการแกผูอื่น 239

การประเมินคุณภาพผูเรียนเมื่อจบชั้น ม.3 249

บรรณานุกรม 251

frontpara.indd 4 1/4/12 3:10:04 PM

1. เปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงทางดานรางกาย จิตใจ

อารมณ สังคม และสติปญญาแตละชวงของขีวิต

(พ 1.1 ม. 3/1)

2. วิเคราะหอิทธิพลและความคาดหวังของสังคมตอการ

เปลี่ยนแปลงของวัยรุน (พ 1.1 ม. 3/2)

3. วิเคราะหสื่อโฆษณา ที่มีอิทธิพลตอการเจริญเติบโต

และพัฒนาการของวัยรุน (พ 1.1 ม. 3/3)

เรื่องที่ 1 การเปลี่ยนแปลงในแตละวัย

เรื่องที่ 2 อิทธิพลของสังคมที่มีตอการ

เปลี่ยนแปลงของวัยรุน

เรื่องที่ 3 สื่อที่มีอิทธิพลตอการพัฒนาการ

ของวัยรุน

(คุณลักษณะอันพึงประสงคขอ 1, 2, 3, 4, 5,

6, 7, 8)

1การเจริญเติบโตและพัฒนาการ

ของมนุษย

para1-3.indd 1 1/4/12 3:11:22 PM

Page 4: ชั้นมัธยมศึกษาป ที่ ๓ กลุ มสาระการเรียนรู สุขศึกษาและพล ...academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/... ·

2 สุขศึกษาและพลศึกษา มัธยมศึกษาปที่ 3

กิจกรรมรวมคิดรวมวางแผนการเรียนรู

ใหนักเรียนลองตั้งคำถามกับตนเองวา ในการเรียนรูเร� องนี้นักเรียนตองการได

ความรูเกี่ยวกับอะไรบาง ใหมากคำถามที่สุด แลวจดบันทึกไว

1 การเปลี่ยนแปลงในแตละวัย

ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงของตัวเรา มักมีคำกลาวถึงอยู 2 คำ คือ การเจริญเติบโตและ

พัฒนาการ คำทั้งสองคำนี้มีความหมายใกลเคียงกันมาก และจำเปนที่เราควรทราบเอาไวดังนี้

การเจริญเติบโตเปนการเปลี่ยนแปลงทางขนาดของอวัยวะตางๆ เชน มีขนาดของศีรษะ

ใหญขึ้น มีสวนสูงเพิ่มขึ้น มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น แขนขายาวขึ้น เปนตน

การพัฒนาการ เปนการเปลี่ยนแปลงหนาที่ของอวัยวะตางๆ ทำใหสามารถประกอบ

กิจกรรมและปรับตัวเขากับสิ่งแวดลอมไดดีขึ้น เชน พัฒนาการดานจิตใจ อารมณ สังคม

สติปญญา เปนตน

รางกาย จิตใจ

อารมณ สังคมและสติปญญามี

ความสัมพันธกันอยางไร

para1-3.indd 2 1/4/12 3:11:24 PM

3สุขศึกษาและพลศึกษา มัธยมศึกษาปที่ 3

การเปลี่ยนแปลงของวัยแรกเกิด – 1 ป

1. พัฒนาการทางดานการเคลื่อนไหว การเคลื่อนไหวของทารกจะเปนไปตามลำดับ

คือ พัฒนาการเพื่อที่จะคลาน ยืนและเดิน

วัยทารก

วัยกอนเรียน (1-6 ป)

2. พัฒนาการของประสาท ประสาท

สัมผัสของทารกจะเจริญไดเร็วกวาประสาทหู

ตา จมูก และลิ้น เชน การกอดหรือการอุม

เปนตน

3. พัฒนาการทางภาษา ภาษาแรก

เริ่มของทารกคือการรอง ตอมาเมื่ออายุได

3 – 4 เดือน จะเริ่มหัวเราะได หลังจากนั้น

ก็จะทำเสียงตางๆ ในลำคอจนกระทั่ง 6 เดือน

อาจออกเสียงเปนคำที่ไมมีความหมายได และ

จะเริ่มพูดสื่อความหมายไดในชวงอายุประมาณ

5-12 เดือน

4. พัฒนาการทางดานอารมณ พัฒนาการทางดานอารมณของเด็กจะแสดงออกโดย

การรองไห ยิ้ม หัวเราะ เชน รองไหเมื่อหิวหรือเจ็บปวย เปนตน

5. พัฒนาการทางดานสติปญญา เปนการพัฒนาที่ทารกแสดงออกทางการเคลื่อนไหว

ทางภาษา การปรับตัวและการมีความสัมพันธโตตอบกับบุคคลอื่น

เปนวัยที่ตอจากวัยทารก มีอายุตั้งแต 1-6 ป มีการเปลี่ยนแปลงดังนี้

1. ดานรางกาย เด็กในวัยนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาการในดานกระดูก กลามเนื้อ

และเอ็นที่แข็งแรงขึ้น ทำใหมีการเคลื่อนไหวของรางกายไดสมบูรณขึ้น

2. ดานอารมณ เด็กในวัยนี้อารมณเปลี่ยนแปลงงาย เพราะยังไมมีความสมดุลทาง

ดานจิตใจ อาจแสดงอารมณโกรธออกมาโดยไมมีเหตุผล สนใจในสิ่งตางๆ ระยะสั้นๆ

3. ดานสังคม เด็กวัยกอนเรียนจะชอบเลียนแบบผูใหญเมื่ออายุ 4 ป จะเริ่มเลน

เปนกลุมเพื่อน มักจะโกรธหรือขัดใจกับเพื่อนบอยๆ แตไมนานก็จะกลับมาเลนกันอีก

4. ดานสติปญญา เด็กจะเริ่มพูดคำสั้นๆ พยายามเลียนเสียงผูใหญ สนใจหนังสือ

ที่มีภาพเมื่ออายุ 2-3 ป จะพูดเปนประโยค เริ่มตอบคำถามสั้นๆ ไดบาง จนกระทั่งอายุ 5-6 ป

จะพูดเปนประโยคยาวๆ นับเลข เลาเหตุการณที่พบเห็นมาได สนใจรายการที่ตนเองชอบ

วัยทารก

para1-3.indd 3 1/4/12 3:11:25 PM

Page 5: ชั้นมัธยมศึกษาป ที่ ๓ กลุ มสาระการเรียนรู สุขศึกษาและพล ...academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/... ·

4 สุขศึกษาและพลศึกษา มัธยมศึกษาปที่ 3

เปนชวงเด็กวัยเรียน ซึ่งสวนใหญจะมีอายุอยูระหวาง 7-12 ป เปนวัยที่กำลังศึกษา

เลาเรียนอยูในโรงเรียนประถมศึกษา มีการเปลี่ยนแปลงดังนี้

วัยเรียน (7-12 ป)

1. การเปลี่ยนแปลงดานรางกาย วัยนี้

เปนวัยเชื่อมตอระหวางวัยเด็กกับวัยรุน สภาพ

รางกายของเด็กในวัยนี้จะเริ่มมีรูปรางสมบูรณ

มากขึ้น แขน ขาจะเริ่มยาวและดูผอมกวาเด็ก

วัยเรียน ศีรษะจะดูเล็กลงเมื่อเทียบกับลำตัว

ฟนแทจะเริ่มขึ้นแทนฟนน้ำนมและมีขนาด

ใหญขึ้น ระบบกลามเนื้อ กระดูก และระบบ

ประสาทดีขึ้น ทำใหเด็กมีการเคลื่อนไหวสวน

ตางๆ ของรางกายไดอยางมีประสิทธิภาพ

มากกวาวัยกอนเรียน แตยังชอบทำกิจกรรม

เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวรางกายเหมือนวัย

กอนเรียน

2. ดานจิตใจ อารมณ เด็กในวัยนี้เริ่มเปนตัวของตัวเอง มักแสดงออกดานการเอาแต

ใจตัวเอง มักชอบพูดคุยแตเรื่องของตนเองและครอบครัว มีความกลัวจากความทรงจำเกาๆ เชน

กลัวความมืด กลัวสังคมใหม เปนตน มีความอิจฉาริษยา มีความโกรธเมื่อถูกขัดใจ อยากรูอยาก

เห็น มีเรื่องสงสัยจากสิ่งรอบตัว และมักมีคำวาทำไม เพราะอะไร แตพอหลังอายุ 8 ป ขึ้นไปแลว

พฤติกรรมเหลานี้ก็จะลดลง เด็กจะเปลี่ยนความรูสึกจากการที่เห็นวาตัวเองเปนศูนยกลางไป

นึกถึงกลุมหรือสวนรวมแทน โดยจะเริ่มผอนปรนตามกลุมและพยายามจะทำใหผูอื่นพอใจ ไมตาม

ใจตัวเองเหมือนกอน และเริ่มรูจักระมัดระวังความรูสึกของผูอื่นที่มีตอตนเองและสามารถควบคุม

อารมณไดดีขึ้น

3. ดานสังคม วัยเรียนเปนวัยแหงการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เนื่องจากทุกคนจะตอง

ออกจากบานไปสูสังคมและสิ่งแวดลอมภายนอก เชน โรงเรียน ชุมชนตางๆ เปนตน การ

ปรับตัวตามสภาพแวดลอมใหม โดยเฉพาะการปรับตัวในบรรยากาศของโรงเรียน กลุมเพื่อน

รวมชั้น ทำใหเกิดการเรียนรูและไดรับประสบการณที่แปลกใหมหลายอยาง คุณครูและเพื่อนๆ

เริ่มมีความเกี่ยวของและมีอิทธิพลตอความรูสึกนึกคิด เชน ความรูสึกมีคุณคาในตัวเอง เด็กที่

ไดรับการยอมรับจากกลุมเพื่อนจะเติบโตเปนผูใหญที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง สามารถปรับตัว

เขากับสังคมไดดี ตรงกันขามกับเด็กที่ไมไดรับการยอมรับจะรูสึกไมมั่นใจในตัวเอง เกิดปมดอย

วัยเรียน

para1-3.indd 4 1/4/12 3:11:27 PM

5สุขศึกษาและพลศึกษา มัธยมศึกษาปที่ 3

วัยรุน (13-20 ป)

ปรับตัวเขากับสังคมไดยาก เปนตน ซึ่งมีอิทธิพลของเพื่อนจะมีผลตอบุคลิกภาพของเด็กมาก

4. ดานสติปญญา จะเรียนรูจากสิ่งใกลตัว รับรูคำศัพทเพิ่มขึ้น มีความสามารถในการ

คิดและแกปญหาได มีความเชื่อมั่นในตนเองรับผิดชอบ รูจักใชเหตุผล และมีความเขาใจสิ่ง

ตางๆ ไดเร็ว

การเปลี่ยนแปลงดานตางๆ ของวัยรุน ไดแก ดานรางกาย ดานจิตใจและอารมณ

ดานสังคมและดานสติปญญา ดังรายละเอียดดังนี้

1. ดานรางกาย

การเปลี่ยนแปลงดานรางกายของวัยรุน

จะดำเนินควบคูไปกับการเจริญเติบโต ซึ่งแสดง

ถึงความมีวุฒิภาวะทางเพศอยางสมบูรณทั้ง

เด็กหญิงและเด็กชาย ดังลักษณะตอไปนี้

วัยรุนหญิง ในระหวางอายุ 13-15 ป

รางกายของเด็กหญิงจะเจริญเติบโตขึ้นอยาง

รวดเร็วกวาวัยเด็ก โดยสวนสูงจะเพิ่มขึ้นอยาง

รวดเร็ว เตานมขยาย ตัวใหญขึ้น สะโพกเริ่ม

มีไขมันมากขึ้นทำใหสะโพกผาย เอวคอด เริ่มแสดงลักษณะหญิง มีขนขึ้นที่รักแรและหัวเหนา หลังอายุ 15 ป ไปแลวจะมีการเจริญ

เติบโตนอยลง โดยทั่วไปการเจริญเติบโตในเด็กหญิงจะเริ่มขึ้นและสิ้นสุดลงกอนเด็กชายประมาณ

1-2 ป ทั้งๆ ที่เด็กหญิงเคยตัวเล็กกวาเด็กชายมากอนเมื่อตอนอยูในวัยเรียนหรือวัยเด็ก

วัยรุนชาย เด็กจะเริ่มโตเร็วเมื่ออายุ 15 ป ไขมันที่มีในสวนตางๆของรางกายจะนอยลง

ขณะเดียวกันกลามเนื้อจะใหญขึ้นทำใหมีลักษณะคลายผูใหญ ขนตามมแขนขามีมากขึ้น เสียงหาว

บางคนเริ่มมีหนวดเครา ในระยะนี้เด็กชายจะมีสวนสูงทันเด็กหญิงและเริ่มรุดหนาเด็กหญิงทั้ง

น้ำหนักและสวนสูงเรื่อยไปจนกวาจะโตเต็มที่

2. ดานจิตใจและอารมณ

การเปลี่ยนแปลงดานจิตใจของวัยรุนที่สำคัญๆ ไดแก ตองการเปนตัวของตัวเอง ตองการ

อิสระ แตยังตองพึ่งพาผูอื่น ตองการชวยเหลือผูอื่นและมักมีความรับผิดชอบมากขึ้น อยางไรก็ดี

วัยรุนมักมีอารมณรุนแรง ชอบแสดงออกความรูสึกอยางเปดเผยและตรงเกินไป มักจะแสดง

วัยรุน

para1-3.indd 5 1/4/12 3:11:29 PM

Page 6: ชั้นมัธยมศึกษาป ที่ ๓ กลุ มสาระการเรียนรู สุขศึกษาและพล ...academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/... ·

6 สุขศึกษาและพลศึกษา มัธยมศึกษาปที่ 3

ความคิดเห็นที่ขัดแยงกับผูใหญ โดยที่ตนเองไมคิดวาเปนการทำผิดหรือไมดี ถาพอแมยอม

ใหวัยรุนแสดงความคิดเห็นหรือโตแยงในเรื่องกิจกรรมของครอบครัวไดบาง ก็จะชวยใหวัยรุน

ไดรูจักวิธีการดีขึ้นทีละนอย ถาไมเปดโอกาสดังกลาวใหวัยรุนก็จะเกิดความเครียด โดยเฉพาะ

กับการที่จะตองเผชิญปญหาใหมๆ รวมทั้งการโตแยงความคิดเห็นของผูใหญในเรื่องความสัมพันธ

กับเพศตรงขาม

3. ดานสังคม

การเปลี่ยนแปลงดานสังคมวัยรุนตองการความเปนอิสระและตองการเปนผูใหญ

สังคมของวัยนี้จึงขยายวงกวางออกไป ขณะเดียวกันก็เปนการเรียนรูไปดวยวา สังคมแบบไหน

เปนอยางไร ใหประโยชนและโทษเปนอยางไร การปฏิบัติตัวที่เห็นชัดไดแก

1. การคบเพื่อนทั้งเพศเดียวกันและเพศตรงขาม

2. การเที่ยวเตร จัดกิจกรรมและหาความรูเปนหมูขณะ

3. บูชาวีรบุรุษหรือวีรชนเพื่อการสรางแนวชีวิตในภายหนา และนับถือคนที่มี

ความสามารถ คนเกง คนสวยโดยจะใหความสนใจและชอบเลียนแบบ

4. การแตงกายเปนไปตามสมัยนิยม ซึ่งจะดีหรือไมดียังไมเขาใจ เพียงแตใหเหมือน

เพื่อนๆ หรือแปลกไปกวาคนอื่น

5. มารยาทและศีลธรรมจรรยา เชน การพูดจา การแสดงความเคารพ มารยาท

ในการเขาสังคม พยายามปฏิบัติใหเห็นเดนชัดขึ้น

4. ดานสติปญญา

การเปลี่ยนแปลงดานสติปญญาของวัยนี้กวางขวางขึ้น เชน จะมีความเขาใจในสัญลักษณ

และสิ่งที่เปนนามธรรมมากกวาวัยเด็ก มีเจตคติที่ดีตอบุคคลและสิ่งตางๆ สามารถใชความคิด

ของตนเองตัดสินใจไดอยางมีเหตุผล อีกทั้งสามารถแสดงสติปญญาในการอภิปรายหรือแสดง

ความคิดเห็นรวมกับผูอื่นได รูจักสังเกตความรูสึกที่คนอื่นมีตอตนไดมากขึ้นและเขาใจตนเอง

ไดเหมือนกับที่คนอื่นเขาใจ รวมทั้งยอมรับฟงเหตุผลของผูอื่น

para1-3.indd 6 1/4/12 3:11:29 PM

7สุขศึกษาและพลศึกษา มัธยมศึกษาปที่ 3

วัยผูใหญ (อายุตั้งแต 21 ถึง 60ป)

การพัฒนาการในวัยนี้เปนการพัฒนา

จากวัยรุนมาเปนผูใหญ มีการเปลี่ยนแปลง

อยางเห็นไดชัด วัยนี้มีการพัฒนาการทางดาน

สังคมมากกวาการพัฒนาการดานรางกาย

ลักษณะเฉพาะของการพัฒนาการในวัยผูใหญ

จะเริ่มคงที่และหยุดการพัฒนาเมื่อมีอายุมาก

ขึ้น ในวัยนี้มีการเปลี่ยนแปลงทางรางกาย และ

ความเสื่อมทางดานความสามารถโดยสามารถ

แบงชวงอายุไดเปน 2 ชวงดังนี้

1. วัยผูใหญตอนตน (20-40 ป)

หากถามวาชวงชีวิตวัยใดของมนุษยมีการพัฒนาสมบูรณสูงสุดกลาวไดวา ในวัยนี้เปน

วัยที่รางกายของมนุษยสมบูรณแข็งแรงมากที่สุด และอายุที่รางกายสมบูรณสุดขีดคือ อายุตั้งแต

20 – 25 ป ซึ่งบางคนเรียกคนอายุ 25 ปนี้วา “วัยเบญจเพส” วัยนี้เปนวัยที่เริ่มมีการ

เปลี่ยนแปลงทางสังคม โดยเปลี่ยนสังคมและสิ่งแวดลอมจากครอบครัวที่อาศัยอยูกับพอแม

แยกมาสรางครอบครัวของตนเองซึ่งเปนสังคมใหม ผูใหญในวัยนี้จะตองมีการปรับตัวในทุกดาน

วัยนี้เปนวัยทำงาน จิตใจมักมีความเครียดมากขึ้น เริ่มตนสรางครอบครัว ทุมเทใหกับการทำงาน

มากกวาวัยอื่นๆ มีวุฒิภาวะทางอารมณสูงขึ้นกวาวัยรุนมาก มีเหตุผลมากขึ้น ควบคุมอารมณ จิ

ตใจดีขึ้นกวาวัยที่ผานมาอยางมาก

2. วัยผูใหญกลางคน (41-60 ป)

วัยผูใหญตอนกลางนี้บางครั้งเรียกวา “วัยทอง” ทั้งนี้เพราะวัยนี้เปนวัยที่ผูใหญเริ่ม

ประสบความสำเร็จในชีวิต มีความพรอมทั้งทางดานครอบครัว หนาที่การงาน ทรัพยสินเงินทอง

การพัฒนาการทางดานรางกายเริ่มถดถอยลง สุขภาพรางกายเริ่มเสื่อมโทรม สายตาเริ่มมีปญหา

วัยผูใหญตอนตน

para1-3.indd 7 1/4/12 3:11:30 PM

Page 7: ชั้นมัธยมศึกษาป ที่ ๓ กลุ มสาระการเรียนรู สุขศึกษาและพล ...academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/... ·

8 สุขศึกษาและพลศึกษา มัธยมศึกษาปที่ 3

สวนใหญสายตายาวตองใชแวนในการอาน

หนังสือ และทำกิจกรรมอื่นๆ กลามเนื้อจะ

เปลี่ยนแปลงสภาพเปนไขมันสะสมบริเวณ

ตอนกลางของรางกายที่เรียกวา การลงพุง

อวน กระดูกเปราะ ดังนั้น ผูใหญในวัยนี้จึง

จำเปนอยางมากในการที่จะตองดูแลเอาใจใส

สุขภาพของตนเองใหมากขึ้น มิฉะนั้นแลว

รางกายซึ่งเริ่มเสื่อมโทรมลงจะเปนผลรายตอ

สุขภาพอยางมาก เชน เปนโรคหัวใจ หลอด

ตอนกลางของรางกายที่เรียกวา การลงพุง

อวน กระดูกเปราะ ดังนั้น ผูใหญในวัยนี้จึง

จำเปนอยางมากในการที่จะตองดูแลเอาใจใส

สุขภาพของตนเองใหมากขึ้น มิฉะนั้นแลว

รางกายซึ่งเริ่มเสื่อมโทรมลงจะเปนผลรายตอ

สุขภาพอยางมาก เชน เปนโรคหัวใจ หลอด

เลือดตีบตัน น้ำตาลในเลือดสูง โรคเบาหวาน เปนตน วัยนี้จะเริ่มมีสมรรถภาพทางเพศลดลง

ทั้งนี้เพราะฮอรโมนที่ควบคุมการเจริญเติบโตของตอมเพศในหญิงและชายเริ่มลดลงเรื่อยๆ

การเปลี่ยนแปลงทางดานจิตใจและอารมณ ผูใหญวัยกลางคนมักมีความกังวลใน

เรื่องการเปลี่ยนแปลงทางดานสุขภาพ หวงใยในหนาที่การงาน อารมณเริ่มแปรปรวน โดยเฉพาะ

หญิงในวัยนี้ประจำเดือนจะเริ่มหมดไป อารมณในวัยนี้จะมีลักษณะคลายกับวัยรุนอีกครั้งหนึ่ง

คือโกรธงายหายเร็ว

วัยสูงอายุหรือวัยชรา (อายุ 60 ปขึ้นไป)

การพัฒนาดานรางกาย

รางกายเริ่มออนแอลง เจ็บปวยไดงาย อัตราการเจริญเติบโตลดลงอยางมาก ความสูง

ไมเพิ่มขึ้น หลังเริ่มโกง บุคลิกภาพเสียไป กลามเนื้อเริ่มหยอนยาน อวัยวะสวนตางๆ เสื่อม

สมรรถภาพลง ประสาทหูและตาเสื่อมลงอยางมาก สายตายาวมากขึ้น หูอื้อ ผมหงอก

มากขึ้นจนขาวโพลน สมรรถภาพทางเพศลดลงจนหมดไป

การพัฒนาดานสติปญญา

สติปญญาเสื่อมลงอยางมากหลงลืม

เชื่องชาลงอยางเห็นไดชัดเริ่มมีความจำ

เลอะเลือนแตยังมีเหตุผลความสุขุมรอบคอบ

ยังมีอยางสมบูรณ

การพัฒนาดานจิตใจและอารมณ

วัยชราบางครั้งชอบบน จูจี้ จนทำให

ลูกหลานเกิดความรำคาญ ซึ่งเปนสาเหตุของ

วัยผูใหญตอนกลางคน

วัยชรา

para1-3.indd 8 1/4/12 3:11:31 PM

9สุขศึกษาและพลศึกษา มัธยมศึกษาปที่ 3

การเกิดความขัดแยงในครอบครัวหากลูกหลานไมมีความเขาใจในเรื่องนี้ วัยชราเปนวัยที่ตองการ

ความรักความเอาใจใสจากลูกหลาน มีความรูสึกวาตนเองไรประโยชนหากไมไดรับมอบหมาย

ใหรับผิดชอบสิ่งหนึ่งสิ่งใด วัยนี้จะมีความสุขที่ไดเห็นความเจริญกาวหนาของลูกหลาน

การพัฒนาดานสังคม

ในสังคมวัฒนธรรมไทยผูใหญในวัยนี้จะหันหนาเขาวัดเพราะมีความเชื่อวา ในชวงสุดทาย

ของชีวิตจะไดมีความสุขสงบอยูในรมเงาแหงพุทธศาสนา และไดขึ้นสวรรคหลังจากที่จากโลกนี้

ไปแลว

ตอบคำถามพัฒนาการคิดเกี่ยวกับเรื่อง การเปลี่ยนแปลงในแตละวัย

1. นักเรียนคิดวาผลตอการเจริญเติบโตของเด็กมีอะไรบาง

2. วัยกอนเรียนและวัยเรียนมีการพัฒนาดานใดบางที่แตกตางกัน

3. วัยรุนมีการพัฒนาการเปลี่ยนแปลงดานใดบาง

4. วัยผูใหญและวัยชรามีพัฒนาการดานใดที่แตกตางกัน

(สมรรถนะสำคัญขอ 1, 2, 3, 4)

para1-3.indd 9 1/4/12 3:11:32 PM